Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มือแบบประเมินคุณ

รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มือแบบประเมินคุณ

Published by Ariyawit thaenchan, 2021-06-29 16:21:11

Description: รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มือแบบประเมินคุณ

Search

Read the Text Version

หน้า ๑๐ ๑๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๒ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๔๙ ง ราชกจิ จานเุ บกษา ส่วนท้องถ่ิน และกฎหมายว่าด้วยการกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครอง สว่ นท้องถิ่น ขอ้ ๓1 ให้สานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ติดตามและประเมินผลคุณภาพแผนพัฒนาหมู่บ้าน แผนชุมชน แผนพัฒนาตาบล แผนพัฒนาท้องถ่ิน และแผนพัฒนาอาเภอ เป็นประจาทุกปี เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการและปัญหาของประชาชนในพื้นท่ี บทเฉพาะกาล ขอ้ ๓2 ในวาระเร่ิมแรก ให้คณะกรรมการบริหารงานอาเภอ (กบอ.) ที่นายอาเภอ แต่ละอาเภอมีคาส่ังแต่งต้ังตามหนังสือกรมการปกครอง ด่วนท่ีสุด ท่ี มท ๐๓๐๕.๑/ว ๙๗๔๕ ลงวันท่ี ๑๘ เมษายน ๒๕๖๒ เรื่อง การจัดทาแผนพัฒนาอาเภอ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ฉบับทบทวนในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ปฏิบัติหน้าทค่ี ณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบบรู ณาการ (ก.บ.อ.) ตามระเบียบน้ีไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งต้ังคณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบบูรณาการ (ก.บ.อ.) ตามระเบยี บนี้ แตท่ ้ังนี้ ตอ้ งไมเ่ กินสามปนี ับแต่วนั ท่รี ะเบียบน้ใี ช้บงั คับ ประกาศ ณ วนั ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พลเอก อนพุ งษ์ เผ่าจนิ ดา รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย









รายงานชุดองค์ความรู้ คมู่ ือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวดั และกลุ่มจงั หวัด ภาคผนวก ข 1. หลักการเบ้ืองต้นเก่ียวกับการติดตามและประเมินผล (ท่ีมา: อ้างอิงข้อมูลจากผลงานทางวิชาการของ ดร. ภมู ิศกั ดิ์ ราศรี) การประเมินผลถือเป็นข้ันตอนที่สาคัญประการหนึ่งในกระบวนการบริหารงาน/โครงการ ซึ่งหลังจากได้ ผ่านกระบวนการวางแผน (Planning) การปฏิบัติตามแผน (Implementation) และการประเมินผล (Evaluation) ถอื เป็นเครอ่ื งมือทสี่ าคัญในการวดั ความสาเร็จของผลการดาเนนิ งาน ซ่ึงประกอบดว้ ย 2 สว่ น คือ 1) การตดิ ตามผล (Monitoring) เปน็ การตดิ ตามตรวจสอบความกา้ วหน้าในการดาเนินงานการจัดสรร ทรัพยากร (input) เป็นการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ทรัพยากรในโครงการ (input) กับผลผลิต (output) ของโครงการร่วมกับปจั จัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อการดาเนนิ งานการตดิ ตามผลเปน็ เคร่ืองมอื ในช่วง การปฏิบัติงานของโครงการเพ่ือให้เกิดความมั่นใจว่าการส่งมอบปัจจัยการผลิต กาหนดการทางาน การผลิตผล ผลติ และการดาเนินงานต่าง ๆ ได้ดาเนนิ การไปตามแผนท่วี างไว้ 2) การประเมินผล (Evaluation) เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance evaluation) เปน็ การศกึ ษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ไดจ้ ากการติดตามผลการปฏิบัติงาน เพอ่ื ประเมินความก้าวหนา้ ของโครงการ หรือแผนงานว่ามีการใช้ทรัพยากร/ปัจจัยต่าง ๆ อย่างไร มีการดาเนินงานเป็นไปตามแผน ตามขั้นตอน ตามกฎเกณฑ์ และตามเวลาที่กาหนดหรือไม่ ตลอดจนมีผลงานเป็นไปตามแผน วัตถุประสงค์ และเป้าหมาย หรือไม่ อาจเป็น การประเมินผลระหว่างการดาเนินงาน (On-going evaluation) เป็นการประเมินถึงผลผลิต (outputs) และผลลัพธ์ (outcomes) หรือ การประเมินผลภายหลังการดาเนินงาน (Ex-post evaluation) เปน็ การประเมนิ ถึงผลลัพธ์ (outcomes) และผลกระทบ (impacts) 1.1 วัตถปุ ระสงคแ์ ละจดุ มุง่ หมายการประเมินผลโครงการ มักจะมีคาถามอยู่ตลอดเวลาว่า ประเมินผลเพื่ออะไร หรือ ประเมินผลไปทาไม ปฏิบัติงานตาม โครงการแล้ว ไม่มีการประเมินผลไม่ได้หรือ ตอบได้เลยว่า การบริหารแนวใหม่หรือการบริหารในระบบเปิด (Open System) นั้นถือว่าการประเมินผลเป็นขั้นตอนท่ีสาคัญมากซ่ึงจุดมุ่งหมายของการประเมินผลโครงการมี ดงั น้ี 1) เพ่ือสนับสนุนหรือยกเลิก การประเมินผลจะเป็นเคร่ืองมือช่วยตัดสนิ ใจว่าควรจะยกเลิกโครงการ หรือสนับสนุนให้มีการขยายผลต่อไป โดยเฉพาะการมีโครงการใหม่ ๆ ยังมิได้จัดทาในรูปของโครงการทดลอง (Experimental) มีโอกาสจะผิดพลาดหรือล้มเหลวได้ง่าย ความล้มเหลวของโครงการจึงมิใช่ความล้มเหลวของ ผู้บริหารเสมอไป ดังนั้น ถ้าเราประเมินผลแล้วโครงการนั้น สาเร็จตามที่กาหนดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายไว้ ก็ควรดาเนนิ การต่อไป แตถ่ ้าประเมนิ ผลแลว้ โครงการน้ันมีปญั หาหรือมีผลกระทบเชิงลบมากกว่า เราก็ควรยกเลิกไป 2) เพ่ือทราบถึงความก้าวหน้าของการปฏบิ ัติงานตามโครงการ ว่าเป็นไปตามที่กาหนดวัตถุประสงค์ และเปา้ หมาย หรอื กฎเกณฑ์ หรือมาตรฐานท่ีกาหนดไวเ้ พียงใด ข-1

รายงานชดุ องค์ความรู้ คูม่ ือแบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุม่ จงั หวดั 3) เพ่ือปรับปรุงงาน ถ้าเรานาโครงการไปปฏิบัติแล้ว พบว่าบางโครงการไม่ได้เสียทั้งหมด แต่ก็ไม่ บรรลุวตั ถุประสงคท์ ่ีกาหนดไว้ทกุ ขอ้ เราควรนาโครงการนัน้ มาปรับปรงุ แกไ้ ขใหด้ ีขึ้น โดยพจิ ารณาว่าโครงการนน้ั บกพร่องในเรื่องใด เช่น ขาดความร่วมมือของประชาชน ขัดต่อค่านิยมของประชาชน ขาดการประชาสัมพันธ์ หรือสมรรถนะขององค์การท่ีรับผิดชอบต่า เม่ือเราทราบผลของการประเมินผล เราก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ตรง ประเดน็ 4) เพ่ือศึกษาทางเลือก (Alternative) โดยปกติในการนาโครงการไปปฏิบัติน้ัน ผู้บริหารโครงการ จะพยายามแสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุด จากทางเลือกอย่างน้อย 2 ทางเลือก ดังน้ันการประเมินผลจะ เป็น การเปรียบเทยี บทางเลอื ก กอ่ นทจี่ ะตัดสนิ ใจเลอื กทางเลอื กใดปฏบิ ตั ิ ทั้งนเ้ี พ่ือลดความเสี่ยงใหน้ อ้ ยลง 5) เพื่อขยายผล ในการนาโครงการไปปฏิบัติ ถ้าเราไม่มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเน่ือง อาจจะไม่ทราบถึงความสาเร็จของโครงการ แต่ถ้าเราประเมินผลโครงการเป็นระยะสม่าเสมอ ผลปรากฏว่า โครงการนั้น บรรลุผลสาเร็จตามที่กาหนดวัตถุประสงค์ เราก็ควรจะขยายผลโครงการน้ันต่อไป แต่การขยายผล น้ันมิได้หมายความว่าจะขยายไปได้ทุกพื้นที่ การขยายผลต้องคานึงถึงมิติของประชากร เวลา สถานที่ สถานการณ์ต่าง ๆ เช่น โครงการปลูกพืชเมืองหนาวจะประสบความสาเร็จดใี นพื้นที่ภาคเหนอื แต่ถ้าขยายผลไป ยังภมู ิภาคอืน่ อาจจะไม่ได้ผลดีเสมอไป เพราะต้องคานึงถึงลักษณะภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศ เช้ือชาติ ค่านิยม ฯลฯ ดังนั้นสิ่งที่ต้องคานึงถึงคือ สิ่งที่นาไปในพื้นที่หน่ึงอาจได้ผลดี แต่นาไปขยายผลในพ้ืนที่หน่ึงอาจไม่ได้ผล หรือ สิ่งท่เี คยทาไดผ้ ลดใี นชว่ งเวลาหนงึ่ อาจจะไมไ่ ด้ผลดีในอกี ช่วงเวลาหน่งึ 1.2 แบบจาลองการประเมนิ ผลตาม CIPP Model แบบจาลอง(Model) หมายถึง วิธีการส่ือสารทางความคิด ความเข้าใจ ตลอดจนจินตนาการที่มีต่อ ปรากฎการณ์หรือเร่ืองราวใด ๆ ให้ปรากฏโดยใช้การส่ือในลักษณะต่าง ๆ เช่น แผนภูมิ แผนผัง ระบบสมการ และรูปแบบอื่น เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย และสามารถนาเสนอเรื่องราวได้อย่างมีระบบ การประเมินผล โครงการนั้น มีแนวคดิ และโมเดลหลายอย่าง ณ ทีน่ ้ี ขอเสนอแนวคิดและโมเดลการประเมินแบบซปิ ป์ หรอื CIPP Model ของสตัฟเฟิลบีม (Danial . L. Stufflebeam) เพราะเป็นโมเดลท่ีได้รับการยอมรับกันท่ัวไปในปัจจุบัน แนวคิด การประเมินของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam’s CIPP Model) ในปี ค.ศ. 1971 สตัฟเฟิลบีม และคณะ ได้เขียนหนังสือทางการประเมินออกมาหนึ่งเล่ม ชื่อ “Educational Evaluation and decision Making” หนังสือเล่มนี้ ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เพราะให้แนวคิดและวิธีการทางการวัดและ ประเมินผล ได้อย่างน่าสนใจและทันสมัยด้วย นอกจากน้ัน สตัฟเฟิลบีมก็ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการประเมิน และรูปแบบของการประเมินอีกหลายเลม่ อย่างตอ่ เนื่อง จงึ กล่าวได้ว่า ท่านผูน้ ี้เป็นผ้มู บี ทบาทสาคัญในการพัฒนา ทฤษฎีการประเมิน จนเป็นที่ยอมรับกันท่ัวไปในปัจจุบัน เรียกว่า CIPP Model เป็นการประเมินที่เป็น กระบวนการต่อเน่ือง มีจุดเน้นท่ีสาคัญ คือ ใช้ควบคู่กับการบริหารโครงการ เพ่ือหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา วัตถุประสงค์การประเมิน คือ การให้สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ เน้นการแบ่งแยก บทบาทของการทางานระหว่าง ฝ่ายประเมินกับ ฝ่ายบริหารออกจากกันอย่างเด่นชัด กล่าวคือฝ่ายประเมิน มีหน้าที่ระบุ จัดหา และนาเสนอสารสนเทศให้กับฝ่ายบริหาร ส่วนฝ่ายบริหารมีหน้าท่ีเรียกหาข้อมูล และนาผล ข-2

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มอื แบบประเมินคุณภาพแผนจังหวัดและกลมุ่ จงั หวดั การประเมินท่ีได้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อดาเนินกิจกรรมใด ๆ ที่เก่ียวข้องแล้วแต่กรณี ทั้งนี้เพ่ือป้องกัน การมอี คตใิ นการประเมนิ จงึ ไดแ้ บง่ ประเด็นการประเมินผลออกเป็น 4 ประเภท คอื 1) การประเมินด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation : C) เป็นการประเมินให้ได้ ข้อมูลสาคญั เพื่อช่วยในการกาหนดวตั ถุประสงค์ของโครงการ ความเปน็ ไปได้ของโครงการ เปน็ การตรวจสอบว่า โครงการที่จะทาสนองปัญหาหรือความต้องการจาเป็นที่แท้จริงหรือไม่ วัตถุประสงค์ของโครงการชัดเจน เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายขององค์การ หรือ นโยบายหน่วยเหนือหรือไม่ เป็นโครงการท่ีมีความเป็นไปได้ ในแง่ของโอกาสที่จะได้รบั การสนับสนนุ จากองค์กรตา่ ง ๆ หรอื ไม่ เปน็ ตน้ การประเมินสภาวะแวดล้อมจะช่วยใน การตัดสินเกี่ยวกับเรื่อง โครงการควรจะทาในสภาพแวดล้อมใด ต้องการจะบรรลุเป้าหมายอะไร หรือต้องการ บรรลุวัตถปุ ระสงค์เฉพาะอะไร เป็นต้น 2) การประเมินปัจจัยเบื้องต้นหรือปัจจัยป้อน (Input Evaluation : I ) เป็นการประเมินเพื่อพิจารณา ถึง ความเป็นไปได้ของโครงการ ความเหมาะสม และความพอเพียงของทรัพยากรที่จะใช้ในการดาเนินโครงการ เช่น งบประมาณ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เวลา รวมท้ังเทคโนโลยีและแผนการดาเนินงาน เป็นต้น การประเมินผลแบบนี้จะทาโดยใช้ เอกสารหรืองานวิจัยที่มีผู้ทาไว้แล้ว หรือใช้วิธีการวิจัยนาร่อง เชิงทดลอง (Pilot Experimental Project) ตลอดจนอาจให้ผู้เช่ียวชาญ มาทางานให้ อย่างไรก็ตาม การประเมินผลน้ี จะต้องสารวจสิ่งท่ีมีอยู่เดิมก่อนว่ามีอะไรบ้าง และตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการใด ใช้แผนการดาเนินงานแบบไหน และตอ้ งใชท้ รพั ยากรจากภายนอก หรอื ไม่ 3) การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation : P ) เป็นการประเมินระหว่างการดาเนินงาน โครงการ เพ่ือหาข้อบกพร่องของการดาเนินโครงการ ที่จะใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนา แก้ไข ปรับปรุง ให้ การดาเนนิ การชว่ งต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึน้ และเปน็ การตรวจสอบกิจกรรม เวลา ทรพั ยากรท่ีใชใ้ นโครงการ ภาวะผู้นา การมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการ โดยมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน การประเมิน กระบวนการนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการค้นหาจุดเด่น หรือจุดแข็ง (Strengths) และจุดด้อย (Weakness) ของนโยบาย/แผนงาน/โครงการ มักจะไม่สามารถศึกษาได้ภายหลังจากสิ้นสุดโครงการแล้ว การประเมินกระบวนการจะมีบทบาทสาคัญในเรื่องการให้ข้อมูลย้อนกลับเป็นระยะ ๆ เพื่อการตรวจสอบ การดาเนินของโครงการโดยทัว่ ไป การประเมนิ กระบวนการมจี ดุ มุง่ หมาย คอื (1) เพ่ือการหาข้อบกพร่องของโครงการ ในระหว่างที่มีการปฏิบัติการ หรือการดาเนินงานตาม แผนน้นั (2) เพ่ือหาข้อมูลตา่ ง ๆ ท่ีจะนามาใชใ้ นการตัดสินใจเกยี่ วกบั การดาเนนิ งาน ของโครงการ (3) เพ่ือการเก็บข้อมลู ต่าง ๆ ท่ไี ดจ้ ากการดาเนนิ งานของโครงการ 4) การประเมินผลผลิต (Product Evaluation : P ) เปน็ การประเมนิ เพื่อเปรียบเทียบผลผลิตท่ีเกิด ขี้นกับวัตถุประสงค์ของโครงการ หรือความต้องการ/ เป้าหมายท่ีกาหนดไว้ รวมทั้งการพิจารณาในประเด็นของ การยุบ เลิก ขยาย หรือปรับเปล่ียนโครงการและการประเมินผล เรื่องผลกระทบ (Impact) และผลลัพธ์ (Outcomes ) ของนโยบาย / แผนงาน / โครงการ โดยอาศัยข้อมูลจากการประเมินสภาวะแวดล้อม ปัจจัย เบ้ืองต้นและกระบวนการร่วมด้วย จะเห็นได้ว่า การประเมินแบบ CIPP เป็นการประเมินท่ีครอบคลุม ข-3

รายงานชดุ องค์ความรู้ คมู่ อื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจังหวัดและกลุม่ จังหวดั องค์ประกอบของระบบทั้งหมด ซ่ึงผู้ประเมินจะต้องกาหนดวตั ถุประสงค์ของการประเมินท่ีครอบคลุมท้ัง 4 ด้าน กาหนดประเด็นของตัวแปรหรือตัวชีว้ ดั กาหนดแหล่งข้อมูลผู้ให้ข้อมูล กาหนดเคร่ืองมือการประเมิน วิธีการท่ีใช้ ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล กาหนดแนวทางการวิเคราะหข์ อ้ มลู และเกณฑก์ ารประเมินทีช่ ัดเจน 1.3 ช่วงเวลาของการประเมนิ ผลโครงการ เพ่ือจาแนกประเภทของการประเมินผลโครงการโดยละเอียดแล้ว สามารถจาแนกการประเมินผล โครงการเป็น 4 ระยะดงั ตอ่ ไปนี้ 1) การประเมินผลโครงการก่อนการดาเนินงาน (Pre-evaluation) เป็นการประเมินว่ามีความจาเป็นและ ความเป็นไปได้ในการกาหนดให้มีโครงการหรือแผนงานนั้น ๆ หรือไม่ บางคร้ัง เรียกการประเมินผลประเภทนี้ว่า การศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) หรือการประเมินความต้องการท่ีจาเป็น (Need Assessment) 2) การประเมินผลโครงการขณะดาเนินงาน (On-going Evaluation) เป็นการประเมินผลโครงการ เพอ่ื ตดิ ตามความกา้ วหน้าของการดาเนนิ งาน (Monitoring) และการใชท้ รพั ยากรต่าง ๆ 3) การประเมินผลโครงการเม่ือส้ินสุดการดาเนินงาน (Post-evaluation) เป็นการประเมินว่า ผลของ การดาเนินงานนน้ั เป็นไปตามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการท่วี างไวห้ รอื ไม่ 4) การประเมินผลกระทบจาการดาเนินโครงการ (Impact Evaluation) เป็นการประเมินผลโครงการ ภายหลังจากการสิ้นสุดการดาเนิน โครงการหรือแผนงาน โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือตรวจสอบผลการดาเนินงาน ท่เี กิดขน้ึ ซงึ่ อาจจะไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากการมโี ครงการหรอื ปัจจยั อืน่ ๆ นอกจากน้ี สตัฟเฟลิ บีม ได้นาเสนอประเภทของการตัดสินใจ ทีส่ อดคล้องกบั ประเดน็ ท่ีประเมินผล ดงั น้ี (1) การตัดสินใจเพื่อการวางแผน (Planning Decisions) เป็นการตัดสินใจท่ีใช้ข้อมูลจากการ ประเมินสภาพแวดลอ้ มท่ไี ด้นาไปใชใ้ นการกาหนดจดุ ประสงค์ของโครงการ ใหส้ อดคลอ้ งกับแผนการดาเนนิ งาน (2) การตัดสนิ ใจเพื่อกาหนดโครงสร้างของโครงการ (Structuring Decisions) เป็นการตดั สินใจที่ใช้ ข้อมูลจากปัจจัยนาเข้าที่ได้นาไปใช้ในการกาหนดโครงสร้างของแผนงาน และข้ันตอนของการดาเนินการของ โครงการ (3) การตัดสินใจเพ่ือนาโครงการไปปฏิบัติ (Implementation Decisions) เป็นการตัดสินใจท่ีใช้ ข้อมูลจากการประเมินกระบวนการ เพื่อพิจารณาควบคุมการดาเนินการให้เป็นไปตามแผน และปรับปรุงแก้ไข การดาเนนิ การใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากทสี่ ดุ (4) การตัดสินใจเพื่อทบทวนโครงการ (Recycling Decisions) เช่น การตัดสินใจเพื่อใช้ข้อมูลจาก การประเมินผลผลิต (Output ) ท่ีเกิดขึ้น เพ่ือพิจารณาการยุติ / ล้มเลิก หรือขยายโครงการท่ีจะนาไปใช้ใน โอกาสตอ่ ไป ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นการประเมินแบบ CIPP Model ท้ัง 4 ประการ และประเภทของการตัดสินใจ ดังกล่าวข้างต้น พอจะสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างประเภทของการประเมินกับการตัดสินใจ ดังตารางแสดง ความสัมพันธก์ ารตดั สินใจ และประเภทการประเมนิ แบบ CIPP Model ดังต่อไปนี้ ข-4

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มือแบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวดั และกลุ่มจังหวดั ประเภทการประเมนิ ประเภทการตดั สินใจ การประเมินสภาวะแวดล้อม การตดั สินใจเพ่ือการวางแผน (Context Evaluation) (Planning Decisions) การประเมนิ ปัจจัยเบ้อื งตน้ /ตัวป้อน(Input การตัดสินใจเพ่ือกาหนดโครงสร้าง Evaluation) (Structuring Decisions) การประเมินกระบวนการ การตดั สินใจเพ่ือนาโครงการไปปฏิบตั ิ (Process Evaluation) (Implementing Decisions) การประเมนิ ผลผลิต การตัดสนิ ใจเพื่อทบทวนโครงการ (Product Evaluation) (Recycling Decisions) Stufflebeam ได้เสนอแนวคิดในการสร้างแบบแผนการประเมินผล ซ่ึงสอดคล้องกับ CIPP Model ซึ่งอาจนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับการประเมนิ ผลในรูปแบบอื่น ๆ ได้ แบบแผนการประเมินผล มดี ังนี้ 1) การบรรยายจุดมุ่งหมาย และการกาหนดนโยบายในการปฏิบตั งิ าน ซงึ่ ประกอบด้วย (1) ขอบเขตความรบั ผดิ ชอบว่ามีขอบเขตระดับท้องถ่นิ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ (2) เวลาและแนวทางเลือก (3) ตัวแปรในการวัดและมาตรฐานท่ีใช้ในการตดั สนิ ใจ (4) นโยบายในการปฏิบตั ิงานของผู้ประเมินผล 2) การเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แหล่งข้อมูลท่ีจะเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีการ เคร่ืองมือ วิธีการส่มุ กลมุ่ ตวั อย่าง สภาพการณใ์ นการเกบ็ ขอ้ มลู 3) การวเิ คราะห์ข้อมูล 4) การรายงานผลหรือสรปุ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู 5) การบริหารการประเมินผล เพ่ือเตรียมแผนการดาเนินงานทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอนคือ กาหนดโครงร่าง กาหนดบุคลากรและทรัพยากร กาหนดวิธีการปฏิบัติ ประเมินผล ประสิทธิภาพของเคร่ืองมือ กาหนดวิธีการที่จะพัฒนาแบบแผนการประเมิน และการจัดหา งบประมาณที่ใช้ในการดาเนินงาน การประเมินผลตลอดโครงการ ข-5

รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจังหวดั และกลุม่ จังหวดั 2. นโยบาย หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารจัดทาแผนของจังหวัด กลุม่ จังหวัด และภาคประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบาย การบรหิ ารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวดั แบบบูรณาการ (ก.น.จ.) คร้งั ที่ 1/2564 เมือ่ วันท่ี 3 มีนาคม พ.ศ. 2564 นโยบาย หลกั เกณฑ์ และวิธีการจัดทาแผนของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561 - 2565 (ฉบบั ทบทวน) 1. นโยบาย ก.บ.ภ. ประกอบด้วย (1) ยึดยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทแผนปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายรัฐบาล รวมทัง้ แผนรายสาขา/ เฉพาะด้านต่าง ๆ ท่ีผา่ นความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และขอ้ สั่งการ ของนายกรฐั มนตรี (2) ให้ความสาคญั กับแผนพฒั นาภาค เพ่อื เป็นแผนชี้นาการพฒั นาในภาพรวมของพ้นื ท่ี (3) การจัดทาแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ให้ใช้กระบวนการประชาคมแบบมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน รวมท้ังให้มีการประสานแผนในระดับพื้นท่ี ผ่านกลไกการจัดทาแผนพัฒนาหมู่บ้าน แผนชุมชน แผนพัฒนาตาบล แผนพัฒนาท้องถ่ิน และแผนพัฒนาอาเภอ เพ่ือให้แผนมีความเช่ือมโยงสอดคล้องกันใน ทุกระดบั เป็นแผนเดียวกนั (One Plan) (4) มุ่งเน้นการทางานแบบเครือข่ายร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ (ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ สว่ นทอ้ งถ่ิน) ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมหรอื ประชารฐั และชุมชน เพอ่ื รว่ มกันวางยทุ ธศาสตร์การพฒั นาให้ เหมาะสมกับโอกาสและศกั ยภาพของภาค กล่มุ จงั หวัด และจังหวัด และ (5) การเสนอแผนพัฒนาภาคแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาจังหวัด ให้เสนอในช่วงปีแรกของ แผน 5 ปี สาหรับการทบทวนหรือปรับปรุงแผนพัฒนาภาค แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาจังหวัด ให้ดาเนินการเฉพาะเมื่อมีการเปล่ียนแปลงสถานการณ์อย่างมีนัยสาคัญท่ีมีผลต่อการบรรลุเป้าหมายของ การพฒั นาภาค กล่มุ จังหวดั และจงั หวดั โดยไมจ่ าเป็นต้องปรับปรงุ แผนทุกปี 2. หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารจดั ทาแผนพฒั นาจังหวัด และแผนพฒั นากลุ่มจงั หวัด ประกอบดว้ ย 2.1 กาหนดให้แผนพฒั นาจงั หวดั และแผนพฒั นากลุ่มจังหวัดมขี อบเขตดังน้ี (1) แผนพัฒนาจังหวัด เป็นแผนท่ีมีความครอบคลุมทุกมิติการพัฒนา มุ่งตอบสนองความต้องการและ แก้ไขปัญหาท่ีสาคัญของจังหวัดและขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาจังหวัดท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับชาติ นโยบายรฐั บาล และแผนพัฒนาภาค ตามศกั ยภาพและโอกาสของจังหวดั และ (2) แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด เป็นแผนท่ีเป็นการขับเคล่ือนประเด็น การพัฒนาที่สอดคล้องกับทิศทาง การพัฒนาภาค หรือความต้องการแก้ไขปัญหาท่ีเป็นประเด็นร่วมในพ้ืนที่ และต้องมีขอบเขตการดาเนินการหรอื ได้รับผลประโยชน์มากกว่า 1 จังหวดั ข-6

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คูม่ อื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจงั หวดั 2.2 แผนพฒั นาจังหวัด และแผนพัฒนากล่มุ จังหวัด มแี นวทางการดาเนินการทบทวน ดงั น้ี (1) จังหวัดและกลุ่มจังหวัดใดไม่ประสงค์ทบทวนหรือปรับปรุงแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนา กลุ่มจงั หวดั ใหจ้ ดั สง่ หนงั สือยืนยนั มายังฝา่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการบรู ณาการนโยบายพฒั นาภาคภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 (2) จังหวัดและกลุ่มจังหวัดใดท่ีเห็นว่ามีการเปล่ียนแปลงสถานการณ์ท่ีมีผลกระทบต่อการบรรลุ เป้าหมายของการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดดาเนินการทบทวนหรือปรับปรุง แผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด โดยจังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถจัดส่งแผนฯ ทั้งฉบับหรือ เฉพาะส่วนท่ีมีการเปลี่ยนแปลง และจัดส่งเอกสารมายังฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค ภายในวนั ที่ 15 กันยายน 2563 2.3 แผนพัฒนาจงั หวดั และกลุม่ จังหวดั มอี งคป์ ระกอบ ดังน้ี 1. ขอ้ มูลเพอื่ การพฒั นา ประกอบดว้ ย (1) ข้อมูลพื้นฐานทางกายภาพ อาทิ ท่ีตั้ง ขนาดพื้นที่ ลักษณะภูมิประเทศ การใช้ประโยชน์ท่ีดิน โครงสร้างพ้นื ฐานและข้อมูลสนบั สนุนอ่นื ๆ ที่มีผลต่อการพฒั นาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (2) ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ครอบคลุมข้อมูลที่สาคัญของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ได้แก่ ข้อมูลด้าน เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทัง้ เชิงปริมาณและเชงิ คุณภาพ เป็นข้อมูล ท่ีเป็นปัจจุบันและเป็นอนุกรมอย่างน้อย 3 ปี พร้อมกับวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงท่ีสาคัญของจังหวัดและ กลุ่มจังหวดั ที่แสดงให้เหน็ ศกั ยภาพหรือระดบั ความรุนแรงของปญั หา (3) ประเดน็ ปญั หาและความต้องการเชงิ พ้ืนที่ ซ่งึ ผา่ นกระบวนการมสี ่วนรว่ มของภาคีการพัฒนาใน จังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยการรวบรวมและจัดลาดับความสาคัญของปัญหาและความต้องการของประชาชน ในพื้นท่ี ผ่านกลไกการจัดทาและประสานแผนระดับต่าง ๆ ในพื้นที่ให้เช่ือมโยงสอดคล้องกันในทุกระดับเป็น แผนเดียวกัน (One Plan) ภายใต้ระเบียบกระทรวง มหาดไทยว่าด้วยการจัดทาแผนและประสานแผนพัฒนา พื้นท่ีในระดับอาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 ท้ังนี้การนาเสนอปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ให้จัดเรียงลาดบั ความสาคัญไมเ่ กนิ 10 อันดบั และระบกุ ลุ่มเปา้ หมายและพ้นื ท่ใี หช้ ัดเจน และ (4) ผลการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในช่วงท่ีผ่านมา ตามแนวทางการพัฒนา จังหวดั และกลุ่มจงั หวดั 2. ประเดน็ การพฒั นา ประกอบด้วย (1) บทวิเคราะห์ที่แสดงให้เหน็ ถึงโอกาส ศักยภาพ ปญั หา และอปุ สรรคของจังหวัดและกลมุ่ จังหวดั (2) เป้าหมายการพัฒนาจงั หวดั และกลุ่มจังหวัด (ระยะ 5 ปี) (3) ตัวชี้วัดความสาเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่สอดคล้องเช่ือมโยงกับ เป้าหมายการพัฒนาตลอดชว่ งระยะเวลาของแผน และ (4) ประเด็นการพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ท่ีสอดคล้องกับประเด็นการพัฒนาสาคัญ ระดับชาติ (Agenda) ทศิ ทางการพัฒนาภาครวมท้ังศักยภาพ โอกาส ปญั หา และความต้องการของพื้นที่ (Area) ข-7

รายงานชุดองคค์ วามรู้ ค่มู ือแบบประเมินคุณภาพแผนจังหวัดและกลมุ่ จงั หวดั สอดคล้องกับผลท่ีได้จากบทวิเคราะห์ และจัดลาดับความสาคัญของประเด็นการพัฒนา โดยแต่ละประเด็นการ พัฒนาต้องประกอบด้วย วัตถุประสงค์ เป้าหมายและตัวชีว้ ัด แนวทางการพัฒนา และแผนงานโครงการอย่างยอ่ (Project Brief) 2.4 จังหวัดและกลุ่มจังหวัดดาเนินการจัดประชุมปรึกษาหารือตามมาตรา 19 และมาตรา 27 วรรค 2 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 โดยมีแนวทาง ดงั นี้ 1. กรณีแผนพัฒนาจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนาร่างแผนพัฒนาจังหวัด (ฉบับทบทวน) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เข้ารับฟังความคิดเห็นในการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันกับบุคคลจาก ภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัด ตามมาตรา 19 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 และเมื่อได้ผลการรับฟังความคิดเห็นแล้วให้จังหวัดนาผลการประชุมและข้อคิดเห็น ของที่ประชุมเสนอคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) เพื่อปรับปรุงแผนพัฒนาจังหวัด ให้สมบรู ณต์ ่อไป 2. กรณีแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจงั หวัดที่เป็นหัวหน้ากล่มุ จังหวดั นาร่างแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัด (ฉบับทบทวน) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เข้ารับฟังความคิดเห็นในการประชุมปรึกษาหารือ ร่วมกันกับบุคคลจากภาคส่วนต่าง ๆ ในกลุ่มจังหวัดตามมาตรา 27 วรรค 2 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 และเมื่อได้ผลการรับฟังความคิดเห็นแล้ว ให้ นาผลการประชุมและข้อคิดเหน็ ของทป่ี ระชุมเสนอคณะกรรมการบรหิ ารงานกลุม่ จังหวดั แบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) เพ่อื ปรับปรุงแผนพฒั นากลุม่ จงั หวดั ให้สมบูรณ์ตอ่ ไป หลักเกณฑก์ ารจดั ทาแผนปฏิบัตริ าชการประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัดและกล่มุ จังหวัด 1. ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยแผน ดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และแนวทางการพัฒนาตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ทั้งน้ี โครงการตามแผนปฏิบัตริ าชการประจาปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะต้องสอดคล้องและเช่ือมโยงกับแผนงาน ทีก่ าหนดไวใ้ นแผนพัฒนาจงั หวัดและกลมุ่ จงั หวัด 2. โครงการท่ีดาเนินการโดยจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัดและ กลุม่ จังหวัด ซง่ึ จะเสนอเป็นคาของบประมาณของจังหวัดและกลมุ่ จังหวดั จะต้องมีลกั ษณะของโครงการ ดงั นี้ 2.1 โครงการต้องมีความสอดคล้องและเช่ือมโยงกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และ ก.บ.จ./ก.บ.ก. ต้องเสนอโครงการโดยมีการจัดลาดับความสาคัญของโครงการเพื่อเสนอ อ.ก.บ.ภ.ภาค พิจารณา แล้วเสนอ ก.น.จ. พิจารณากล่ันกรอง และเสนอ ก.บ.ภ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดย ก.บ.ภ. ก.น.จ. และ อ.ก.บ.ภ. ภาค จะให้ความสาคัญและพิจารณาเห็นชอบโครงการท่ีจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดทาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับชาติ นโยบายรัฐบาล ทิศทางการพัฒนาภาค ศักยภาพและปัญหา/ความต้องการของ ประชาชนในพ้ืนที่เป็นสาคัญ ข-8

รายงานชุดองค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวดั และกลุ่มจังหวดั 2.2 แผนงานโครงการต้องมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับห่วงโซ่คุณค่าของแผนพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาในจังหวัดและกลุ่มจังหวัดอย่างยั่งยืน หรือสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ และพฒั นาศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจงั หวัด 2.3 โครงการต้องมีความเหมาะสมและเป็นไปได้ท้ังด้านเทคนิค (วิธีการหรือรูปแบบที่ใช้ใน การดาเนินการ) ด้านกายภาพ (ความพร้อมของพื้นทดี่ าเนินงาน บุคลากร การบริหารความเสย่ี ง และการบริหาร จัดการ) ด้านงบประมาณ (ความสมเหตุสมผลของวงเงินกับประโยชน์ที่ได้จากการดาเนินโครงการ) ด้านระยะเวลาที่ดาเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ ในการดาเนินโครงการ ซง่ึ ก.บ.ภ. ก.น.จ. และ อ.ก.บ.ภ.ภาคจะพิจารณาและใหค้ วามเห็นชอบเฉพาะโครงการที่มี ความพร้อมในการดาเนนิ โครงการเท่าน้ัน 2.4 โครงการต้องมีความคุ้มค่า ผลลัพธ์ หรือประโยชน์ของโครงการท่ีคาดว่าจะได้รับทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สงั คม ความม่นั คง ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม อาทิ จานวนประชากร จานวนเกษตรกร พนื้ ที่ เพาะปลูก รายได้ ฯลฯ โดยเฉพาะในส่วนของผลประโยชนท์ ่กี ระทบตอ่ ประชาชนในพ้ืนท่ี 2.5 โครงการต้องมีรายละเอียดข้อมูลท่ีครบถ้วนตามแบบฟอร์มที่ ก.บ.ภ. กาหนด โดยกรณีที่เป็น โครงการก่อสร้างจะต้องระบุความพร้อมของพ้ืนท่ีดาเนินงานรวมท้ังรูปแบบรายการโดยสังเขป พร้อมด้วย เอกสารยนื ยันวา่ สามารถ ดาเนินโครงการไดท้ นั ทหี ลงั จากผ่านการพิจารณาของ ก.บ.ภ. 2.6 โครงการต้องมีรายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่ายท่ีสามารถพิจารณาความเหมาะสมของ คา่ ใชจ้ า่ ยได้ หากโครงการใดไมม่ ีรายละเอยี ดประมาณการค่าใชจ้ ่าย โครงการน้นั จะไม่ไดร้ บั การพิจารณา 2.7 โครงการทีเ่ ปน็ งบลงทุนและ/หรือครภุ ัณฑ์ ต้องแสดงถึงหนว่ ยงานที่พร้อมจะรบั ผิดชอบคา่ ใช้จ่าย ท่ีจะเกิดขึ้นในปีต่อไป รวมทั้งต้องมีร่างบันทึกข้อตกลงระหว่างจังหวัดและกลุ่มจังหวัดกับหน่วยงานดังกล่าว ในการขอต้ังงบประมาณ และการโอนสินทรัพย์ ที่เกิดจากการดาเนินโครงการต่อไป โดยมีการจัดทาบันทึก ข้อตกลงแนบมาพร้อมกับคาขอโครงการ หากไม่มีเอกสารบันทึกข้อตกลงแนบมาโครงการน้ันจะไม่ได้รับ การพิจารณา 2.8 จังหวัดและกลุ่มจังหวัด สามารถเสนอโครงการที่ต้องใช้ระยะเวลาในการดาเนินการมากกว่า หน่ึงปีได้ โดยต้องแสดงเหตุผลความจาเป็นท่ีต้องดาเนินการต่อเน่ืองมากกว่าหนึ่งปีว่าหากไม่ดาเนินการต่อเน่อื ง จะส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างไร และโครงการท่ีต้องใช้ระยะเวลาในการดาเนินการมากกว่า หนึ่งปี ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ก่อนท่ีจะเสนอคาขอโครงการ เช่น รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA) การศึกษา/ออกแบบสาหรับการจัดทาโครงการที่จะเกิดข้ึนในอนาคต เช่น เขียนแบบก่อสร้าง เป็นต้น เพอื่ ใหส้ ามารถดาเนินการไดภ้ ายในปงี บประมาณทีไ่ ดร้ ับอนุมตั ิงบประมาณ 2.9 โครงการท่ีต้องดาเนินการในพ้ืนท่ีท่ีต้องได้รับการอนุมัติ/อนุญาต ต้องได้รับการอนุมัติ/อนุญาต จากเจ้าของพ้ืนท่ี/หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ก่อนที่จะเสนอขอโครงการ เช่น โครงการท่ีจะต้องเข้าไปดาเนินการ ในพื้นที่อุทยาน ป่าไม้ เป็นต้น รวมถึงโครงการที่จะต้องประเมินผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือให้สามารถดาเนิน โครงการท่ีได้รับจัดสรรงบประมาณได้ภายในปีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ โดยยื่นเอกสาร/หลักฐานยืนยั น ข-9

รายงานชุดองค์ความรู้ คมู่ ือแบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวดั และกลมุ่ จังหวดั การได้รับการอนุมัติ/อนุญาตจากเจา้ ของพ้ืนท่ี/หน่วยงานเจ้าของพื้นท่ี และ/หรือเอกสารการประเมินผลกระทบ ต่อสิ่งแวดลอ้ ม มาพร้อมกับคาขอโครงการ 2.10 โครงการตอ้ งไมม่ ลี กั ษณะดงั น้ี (1) โครงการต้องไม่เปน็ การจัดซ้ือวัสดุ ครภุ ัณฑ์เพือ่ แจกจ่ายแก่ประชาชนโดยตรง ยกเว้นในกรณี ของครุภัณฑ์ที่จัดซื้อน้ัน เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายใต้โครงการที่สอดคล้องกับ แนวทางการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด สาหรับโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจะ สนับสนุนเฉพาะวัสดุประกอบการฝึกอบรม โดยต้องสอดคล้องกับความต้องการของ กลมุ่ เปา้ หมายและตอ้ งเปน็ โครงการท่มี คี วามยัง่ ยืน สามารถพึ่งพาตนเองไดใ้ นระยะยาว (2) โครงการต้องไม่เป็นการจัดซ้ือครุภัณฑ์เพื่อใช้งานตามภารกิจปกติของส่วนราชการ ยกเว้น ในกรณีของครุภัณฑ์ที่จัดซ้ือน้ัน เป็นส่วนหน่ึงของกิจกรรมภายใต้โครงการที่สอดคล้องกับ แนวทางการพัฒนาจงั หวัดและกลุม่ จังหวดั (3) โครงการต้องไม่เป็นค่าใช้จ่ายสาหรับการปรับปรุง ซ่อมแซม หรือก่อสร้างอาคารสถานที่ของ สว่ นราชการ (4) โครงการต้องไม่มีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวกับการศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน เว้นแต่ ฝึกอบรม ด้านอาชีพ ด้านความมั่นคง หรือเป็นประเด็นสาคัญของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด และ กลุ่มเป้าหมายต้องไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเดียวกับส่วนราชการอื่น รวมทั้งจะต้องแสดงเป้าหมายโดยรวมและขอบเขตการดาเนินงานระหว่างจังหวัด/ กลุ่มจงั หวดั กบั ส่วนราชการใหช้ ัดเจน (5) โครงการต้องไม่เป็นในลักษณะของกิจกรรมย่อย ควรมีการจัดกลุ่มเป็นโครงการเดียวกัน และหรือบรู ณาการกิจกรรม/โครงการทเ่ี ก่ยี วขอ้ งเขา้ ดว้ ยกนั เปน็ แผนงาน (6) โครงการต้องไม่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศ เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่มีข้อผูกพันใน เรื่องการเจรจาด้านการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว และการเสริมสร้างความสัมพันธ์กบั ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะต้องมีแผนการดาเนินงานท่ีสะท้อนถึงประโยชน์จากการไป ราชการต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม กรณีที่ไม่ได้มีข้อผูกพันกับต่างประเทศ จะต้องแสดง ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการดาเนินงาน กรณีเป็นการเดินทางเพ่ือไปเจรจาเกี่ยวกับการค้า การลงทุน หรือการเจรจาที่มีผลให้เกิดข้อผูกพันระหว่างกันจะต้องขอความเห็นเกี่ยวกับ ประเด็นที่จะไปเจรจาจากหน่วยงานหลักท่ีเกี่ยวข้องก่อนและจะต้องจัดทารายงานผล การดาเนินงานภายหลังจากการเดินทางไปต่างประเทศทุกกรณี ท้ังนี้ จะเสนอต่อ อ.ก.บ.ภ. ภาค ก.น.จ. และก.บ.ภ. เพ่ือรับทราบผลการดาเนินงานท่ีตอบสนองต่อแนวทางการพัฒนา จงั หวดั และกลมุ่ จงั หวัด รวมทั้งผลลพั ธ์ทเ่ี กดิ ข้ึนเป็นประโยชนก์ ับพน้ื ทจี่ ังหวัดและกลุม่ จังหวัด และจดั สง่ รายงานผลการดาเนินการดังกล่าวมายงั ฝ่ายเลขานุการ ก.บ.ภ. ภายใน 45 วนั หลัง การเดินทาง ข-10

รายงานชดุ องค์ความรู้ คูม่ ือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจงั หวดั (7) โครงการต้องไม่เป็นภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เว้นแต่มีเหตุผลความจาเป็น และเกินศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมท้ังให้มีหนังสือยืนยันจากองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ท้ังนี้ เฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ียังไม่ได้เป็นหน่วยรับ งบประมาณโดยตรง 3. สาหรับการจัดทาแบบสรุปแผนงานโครงการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่จังหวัด และกลุ่มจังหวัดขอรับการสนับสนุนจากกระทรวง/กรมเพ่ือดาเนินการให้สอดคล้องตามความต้องการของแผน จงั หวัดและกลมุ่ จังหวัด (แบบ จ.3 : กรณีจังหวดั / แบบ กจ.3 : กรณกี ลุ่มจงั หวดั ) ใหจ้ ังหวดั และกลุม่ จงั หวัดเสนอ แผนงานโครงการที่มีลาดับความสาคัญสูงและมีผลกระทบ (Impact) สูงต่อการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยให้เสนอแผนงานโครงการได้ไม่เกิน 10 โครงการ พร้อมท้ังจัดเรียงลาดับความสาคัญ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย เปน็ ผู้ประมวลรวบรวม และประสานแจ้งกระทรวงเพื่อรับไปพจิ ารณาบรรจุในแผนปฏิบัติการของกระทรวง/กรม ตอ่ ไป ทัง้ น้ี ให้จังหวดั และกลุ่มจงั หวัดจัดส่งแผนปฏิบัติราชการประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ใหท้ ีมบรู ณาการกลาง ภายในวันท่ี 30 กันยายน 2563 ข-11

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวดั และกลุ่มจงั หวดั ภาคผนวก ค 1. ตัวอย่างหัวข้อ และข้อมูลท่ีควรมีในการจัดทาแผนพัฒนาจังหวัด / กลุ่มจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการ ประจาปี จังหวดั และกล่มุ จงั หวัด แผนพฒั นาจังหวดั / กลุ่มจงั หวัด จากข้อมูลในวาระที่ 3.2 หัวข้อ แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561 – 2565 ฉบับทบทวน ของการประชุมของคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบาย การบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) เม่ือวันท่ี 3 มีนาคม พ.ศ. 2564 น้ัน ได้มีมติให้ นาขอ้ เสนอแนะในการจัดทาแผนพฒั นาฯ จงั หวดั และกลุ่มจังหวัดนาไปพจิ ารณา ประกอบการทบทวนการจัดทา แผนพฒั นาจงั หวดั และกลุ่มจังหวัดในระยะตอ่ ไปดว้ ย โดยมปี ระเดน็ สาคญั ดังนี้ (1) การจัดทาแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ในภาพรวมมีการนาเสนอข้อมูล ประกอบการวิเคราะห์ และกาหนดประเด็นการพัฒนาของจังหวัดท่ีสอดคล้องกับศักยภาพ โอกาส ปัญหา ของพื้นที่ รวมท้ัง เช่ือมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ ทิศทางการพัฒนาภาค และแผนพัฒนาระดับท้องถิ่น รวมทั้งการกาหนด แนวทางการพัฒนา และแผนงานโครงการ ท่ีสอดคล้องกันและนาไปสู่การขับเคล่ือนประเด็นการพัฒนา ให้บรรลุเป้าหมายการพฒั นา เป้าหมาย ตัวชีว้ ดั และวัตถปุ ระสงค์ของแต่ละประเด็นการพฒั นา (2) ควรนาเสนอข้อมูลการพัฒนาอย่างเป็นอนุกรม 3 ปีขึ้นไป และเป็นข้อมูลที่ทันสมัย สาหรับการวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บใหเ้ หน็ ศักยภาพและแนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงในแต่ละดา้ น เพ่อื นาไปสกู่ ารกาหนดเป้าหมาย และประเด็นการพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้มีความชัดเจนมากขึ้น และมีการเปรียบเทียบ ศักยภาพแต่ละด้านกับพนื้ ที่อ่นื (3) ควรจัดลาดับความสาคัญของปัญหาและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งระบุพ้ืนที่เป้าหมายและ กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อจัดทาแนวทางการพัฒนาและแผนงานโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ (4) การสรุปผลการดาเนินงานตามแผนพัฒนาในระยะท่ีผ่านมา ควรมีการเปรียบเทียบผลการดาเนินงานกับ เป้าหมายของประเด็นการพัฒนาท่ีกาหนดไว้ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยความสาเร็จ ปัญหาอุปสรรค เพ่ือเป็น ข้อมูล ในการดาเนนิ งานในระยะต่อไป (5) การวิเคราะห์ SWOT ควรกระชับ และเชื่อมโยงกับข้อมูลเพ่ือการพัฒนาและบทวิเคราะห์ เพ่ือให้ สามารถกาหนดประเด็นการพฒั นาทส่ี อดคล้องกบั ศักยภาพ โอกาส และปญั หาของพ้นื ท่ี ได้อย่างชดั เจน (6) ควรกาหนดตัวช้ีวัดสาคัญที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาและประเด็นการพัฒนาและมีการ กาหนดคา่ ฐาน หรอื Benchmark เพือ่ ใหส้ ามารถกาหนดค่าเปา้ หมายทเ่ี หมาะสมและมคี วามเปน็ ไปได้ ค-1

รายงานชุดองค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมินคุณภาพแผนจังหวดั และกลุม่ จังหวดั (7) ควรกาหนดประเด็นการพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพและปัญหาของพื้นท่ี การกาหนดตัวชี้วัด ควรเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนา สามารถวัดได้ท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยกาหนด ค่าฐาน และค่าเปา้ หมายการพัฒนาท่เี หมาะสม (8) การกาหนดแผนงานและโครงการแบบย่อ (Project Idea) ควรมีความเชื่อมโยง การพัฒนาในลักษณะ ห่วงโซค่ ุณคา่ (Value Chain) ในขณะเดียวกนั ในระเบียบวาระท่ี 3.5 หวั ขอ้ นโยบาย หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารจดั ทาแผนของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561 – 2565 (ฉบับทบทวน) ตามมติท่ีประชุมของคณะกรรมการบูรณาการนโยบาย พัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวดั และกล่มุ จังหวัดแบบบรู ณาการ (ก.น.จ.) เมอ่ื วันที่ 3 มนี าคม พ.ศ. 2564 พบวา่ มปี ระเดน็ ท่ตี อ้ งใหค้ วามสาคญั และควรบรรจใุ นแผนพฒั นาฯ ดังน้ี ข้อมลู เพื่อการพฒั นา (1) ข้อมูลพ้ืนฐานทางกายภาพ อาทิ ที่ตั้ง ขนาด พ้ืนที่ ลักษณะภูมิประเทศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงสร้างพ้นื ฐานและข้อมลู สนบั สนนุ อน่ื ๆ ท่ีมีผลต่อการพฒั นาจังหวดั และกลุ่มจงั หวัด (2) ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ครอบคลุมข้อมูลท่ีสาคัญของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ได้แก่ ข้อมูล ด้าน เศรษฐกิจ สังคมและความม่ันคง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท้ังเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเป็นอนุกรมอย่างน้อย 3 ปี พร้อมกับวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงที่สาคัญของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดท่ีแสดงให้เห็น ศักยภาพหรือระดับความรุนแรง ของปญั หา (3) ประเด็นปัญหาและความต้องการเชิง พื้นที่ ซ่ึงผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาใน จังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยการรวบรวมและจัดลาดับความสาคัญของปัญหาและความต้องการของ ประชาชน ในพื้นท่ี ผ่านกลไกการจัดทาและประสานแผนระดับตา่ ง ๆ ในพื้นท่ีให้เช่ือมโยงสอดคล้อง กันในทุกระดับเป็นแผนเดียวกัน (One Plan) ภายใต้ระเบียบกระทรวง มหาดไทยว่าด้วยการจัดทา แผนและประสานแผนพัฒนาพื้นท่ีในระดับอาเภอและ ตาบล พ.ศ. 2562 ท้ังนี้ การนาเสนอปัญหา และความต้องการของประชาชนในพื้นท่ี ให้จัดเรียงลาดับความสาคัญไม่เกิน 10 อันดับ และระบุ กลมุ่ เปา้ หมายและพ้นื ทใี่ หช้ ัดเจน (4) ผลการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ตามแนวทางการพัฒนา จังหวดั และกลมุ่ จังหวดั ประเดน็ การพฒั นา (1) บทวเิ คราะห์ทแ่ี สดงให้เหน็ ถึงโอกาส ศกั ยภาพ ปัญหา และอปุ สรรคของจงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั (2) เปา้ หมายการพฒั นาจังหวดั และกลุ่มจงั หวดั (ระยะ 5 ปี) ค-2

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวัดและกลุ่มจงั หวดั (3) ตัวชี้วัดความสาเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่สอดคล้องเช่ือมโยงกับ เป้าหมายการพัฒนาตลอดชว่ งระยะเวลาของแผน (4) ประเดน็ การพฒั นาของจงั หวัดและกลุ่มจังหวดั ที่สอดคลอ้ งกบั ประเดน็ การพฒั นาสาคญั ระดับชาติ (Agenda) ทิศทางการพัฒนาภาค รวมท้ัง ศักยภาพ โอกาส ปัญหา และความต้องการของพ้ืนท่ี (Area) สอดคล้องกับผลท่ีได้ จากบทวิเคราะห์ และจัดลาดับความสาคัญของประเด็นการพัฒนา โดยแต่ละประเด็น การพัฒนาต้องประกอบด้วย วัตถุประสงค์ เป้าหมายและตัวช้ีวัด แนวทาง การพฒั นาและแผนงานโครงการอย่างย่อ (Project Brief) ตวั อยา่ งหัวข้อของแผนพัฒนาจังหวัดท่คี วรมี1 1. ข้อมูลสภาพท่วั ไปของจงั หวดั / กลมุ่ จังหวัด 1.1 สภาพท่ัวไปของจงั หวัด / กลมุ่ จังหวัด 1.2 ขอ้ มลู การปกครอง/ประชากร 1.3 ขอ้ มลู เศรษฐกจิ 1.4 ลักษณะทางสังคม 1.5 โครงสร้างพ้ืนฐาน การใช้ประโยชน์ทดี่ ิน 1.6 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 2. สรุปผลการดาเนนิ การตามแผนพัฒนาจงั หวดั ท่ผี ่านมา 2.1 การจดั สรรงบประมาณตามแผนพัฒนา 2.2 การตดิ ตามผลการปฏบิ ตั ิราชการตามคารบั รองการปฏบิ ตั ิราชการ 3. การวิเคราะหป์ ัญหา ความตอ้ งการของพน้ื ท่ีและการวิเคราะหค์ วามเชื่อมโยงของนโยบาย และแผน ยทุ ธศาสตรท์ ่มี ีผลตอ่ การพฒั นาประเทศ กล่มุ จงั หวดั และจงั หวดั 3.1 ข้อมลู ปัญหา และความต้องการของแต่ละพืน้ ที่ 3.2 การจัดลาดับความสาคัญของปัญหา ความต้องการ และการวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาตาม ความตอ้ งการของพนื้ ที่ 3.3 การวิเคราะห์แนวโน้ม นโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศ กลุ่มจังหวัด และจังหวัด - แนวโน้มและความท้าทายสาคัญต่อทิศทางการพฒั นาประเทศไทยในอนาคต - นโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ที่มผี ลตอ่ การพัฒนาประเทศ กลุ่มจงั หวดั และจงั หวดั - สรุปประเดน็ สาคัญจากแนวโนม้ นโยบาย และแผนงานต่อการพัฒนากลมุ่ จังหวัด และจงั หวัด 1 เป็นเพยี งตัวอย่างเท่าน้นั ในการดาเนินงานจรงิ อาจมกี ารปรบั เปล่ียนหวั ข้อตามความเหมาะสม ค-3

รายงานชุดองค์ความรู้ คูม่ ือแบบประเมินคุณภาพแผนจังหวัดและกลมุ่ จงั หวดั 4. การวิเคราะห์ศักยภาพของจงั หวัด กลมุ่ จงั หวดั 4.1 ขอ้ มลู ตัวช้วี ัดการพฒั นาจังหวดั กลมุ่ จงั หวัด - เคร่ืองมือการวัดระดับการพัฒนาจงั หวัดและกลุ่มจงั หวัด (Province & Cluster Benchmarking) 4.2 ภาพรวมเศรษฐกิจจังหวัด กลุ่มจังหวัด 4.3 การวิเคราะห์ศกั ยภาพจงั หวดั กลุ่มจงั หวัดรายประเด็น - ศกั ยภาพดา้ นการเกษตร - ศักยภาพดา้ นการท่องเทยี่ ว - ศักยภาพด้านอตุ สาหกรรม - ศักยภาพด้านการค้า - ศกั ยภาพดา้ นสังคม - ศกั ยภาพด้านทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม - ศักยภาพดา้ นความมั่นคง 4.4 การวเิ คราะหจ์ ดุ แขง็ จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค (SWOT) จังหวัด กลมุ่ จังหวัด 4.5 การวเิ คราะห์และพัฒนาประเดน็ การพฒั นา โดยใช้กรอบแนวคิด TOWS Matrix 5. สรุปขอ้ มลู แผนพฒั นาจังหวัด กลุ่มจงั หวัด 5.1 วิสัยทัศน์ 5.2 ตาแหน่งทางยุทธศาสตร์ เป้าหมายการพฒั นา ตวั ชวี้ ดั และค่าเป้าหมาย 5.3 ประเดน็ การพัฒนา วตั ถุประสงค์ของประเดน็ การพฒั นา แนวทางการพัฒนา และตัวชี้วดั 5.4 แบบสรุปโครงการอย่างย่อ (กจ.1) แผนปฏบิ ตั ริ าชการประจาปี จงั หวัด / กลุม่ จังหวดั จากข้อมูลของหลักเกณฑ์การจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของ จังหวัด และกลุ่มจังหวัด ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และ คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2564 พบว่า มีประเด็นในสว่ นของรายละเอียดโครงการท่ีควรจะต้องดาเนนิ การสาคญั ดงั น้ี โครงการที่ดาเนินการโดยจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ซ่ึงจะเสนอเป็นคาของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จะต้องมีลักษณะของโครงการ ดงั น้ี (1) โครงการต้องมีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และ ก.บ.จ./ก.บ.ก. ต้องเสนอโครงการโดยมีการจัดลาดับความสาคัญของโครงการ เพื่อเสนอ อ.ก.บ.ภ. ภาค พิจารณา แล้วเสนอ ก.น.จ. พิจารณากล่ันกรอง และเสนอ ก.บ.ภ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดย ก.บ.ภ. ก.น.จ. และ อ.ก.บ.ภ.ภาค จะให้ความสาคัญและพิจารณาเห็นชอบโครงการท่ีจังหวัด ค-4

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คู่มือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวดั และกล่มุ จังหวดั และกลมุ่ จังหวัดจัดทาเพ่ือสนบั สนุนการขับเคล่ือน ยุทธศาสตรช์ าติ แผนระดับชาติ นโยบายรฐั บาล ทิศทางการพัฒนาภาค ศักยภาพและปัญหา/ความตอ้ งการของประชาชนในพืน้ ที่เปน็ สาคญั (2) แผนงานโครงการต้องมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับห่วงโซ่คุณค่าของแผนพัฒนาจังหวัด และ กลุ่มจงั หวัด เพ่อื แกไ้ ขปัญหาในจังหวดั และกลุ่มจังหวัดอยา่ งยั่งยนื หรอื สร้างคุณค่า ให้แกผ่ ลติ ภัณฑ์ และพฒั นาศักยภาพของจงั หวดั และกลุ่มจงั หวดั (3) โครงการต้องมีความเหมาะสมและเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิค (วิธีการหรือรูปแบบที่ใช้ในการ ดาเนินการ) ด้านกายภาพ (ความพร้อมของพื้นที่ดาเนินงาน บุคลากร การบริหารความ เส่ียง และการบริหาร จัดการ) ด้านงบประมาณ (ความสมเหตุสมผลของวงเงินกับประโยชนท์ ่ีได้จากการดาเนินโครงการ) ด้านระยะเวลาท่ีดาเนินการได้แล้วเสร็จภายใน ปีงบประมาณ รวมท้ังการวิเคราะห์ผลกระทบ เชงิ บวกและเชิงลบในการดาเนนิ โครงการ ซึง่ ก.บ.ภ. ก.น.จ. และ อ.ก.บ.ภ.ภาค จะพิจารณาและให้ ความเหน็ ชอบเฉพาะโครงการทีม่ ีความพร้อมในการดาเนินโครงการเทา่ นั้น (4) โครงการต้องมีความคุ้มค่า ผลลัพธ์ หรือประโยชน์ของโครงการที่คาดว่าจะไดร้ ับท้ังทางดา้ น เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ จานวนประชากร จานวนเกษตรกร พ้ืนท่เี พาะปลูก รายได้ ฯลฯ โดยเฉพาะในสว่ นของผลประโยชน์ท่ีกระทบตอ่ ประชาชนในพ้ืนที่ (5) โครงการต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ครบถ้วนตามแบบฟอร์มท่ี ก.บ.ภ. กาหนด โดยกรณีที่เป็น โครงการก่อสร้างจะต้องระบุความพร้อมของพ้ืนท่ีดาเนินงานรวมท้ังรูปแบบรายการ โดยสังเขป พรอ้ มด้วยเอกสารยนื ยนั วา่ สามารถดาเนนิ โครงการได้ทันทหี ลังจากผ่านการ พิจารณาของ ก.บ.ภ. (6) โครงการต้องมีรายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่ายท่ีสามารถพิจารณาความเหมาะสมของ ค่าใช้จ่ายได้ หากโครงการใดไมม่ รี ายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่าย โครงการน้นั จะไมไ่ ด้ รบั การพจิ ารณา (7) โครงการที่เป็นงบลงทุนและ/หรือครุภัณฑ์ ต้องแสดงถึงหน่วยงานท่ีพร้อมจะรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย ท่จี ะเกิดขน้ึ ในปีตอ่ ไป รวมทง้ั ต้องมรี า่ งบันทกึ ขอ้ ตกลงระหวา่ งจงั หวัดและกล่มุ จังหวดั กบั หน่วยงาน ดังกล่าว ในการขอต้ังงบประมาณ และการโอนสินทรัพย์ที่เกิดจากการดาเนินโครงการต่อไป โดยมี การจัดทาบันทึกข้อตกลงแนบมาพร้อมกับคาขอโครงการ หากไม่มีเอกสารบันทึกข้อตกลงแนบมา โครงการนั้นจะไมไ่ ด้รับการพจิ ารณา (8) จังหวัดและกลุ่มจังหวัด สามารถเสนอโครงการท่ีต้องใช้ระยะเวลาในการดาเนินการ มากกว่าหน่ึงปีได้ โดยต้องแสดงเหตุผลความจาเป็นท่ีต้องดาเนินการต่อเนื่องมากกว่าหน่ึง ปีว่าหากไม่ดาเนินการ ต่อเนื่องจะส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างไร และโครงการที่ต้องใช้ระยะเวลาในการ ดาเนินการมากกว่าหน่ึงปี ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ก่อนท่ีจะเสนอคาขอโครงการ เช่น รายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) การศึกษา/ออกแบบสาหรับการจัดทาโครงการท่ีจะเกิดข้ึน ค-5

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คูม่ ือแบบประเมินคุณภาพแผนจังหวัดและกลุ่มจังหวดั ในอนาคต เช่น เขียนแบบ ก่อสร้าง เป็นต้น เพื่อให้สามารถดาเนินการได้ภายในปีงบประมาณที่ได้รับ อนมุ ัติงบประมาณ (9) โครงการท่ีต้องดาเนนิ การในพนื้ ท่ีที่ต้องไดร้ ับการอนุมัติ/อนุญาต ต้องไดร้ บั การอนมุ ัต/ิ อนุญาตจาก เจ้าของพ้ืนที่/หน่วยงานเจ้าของพ้ืนท่ีก่อนท่ีจะเสนอขอโครงการ เช่น โครงการ ท่ีจะต้องเข้าไป ดาเนินการในพื้นท่ีอุทยาน ป่าไม้ เป็นต้น รวมถึงโครงการที่จะต้อง ประเมินผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อม เพ่ือให้สามารถดาเนินโครงการท่ีได้รับจัดสรร งบประมาณได้ภายในปีงบประมาณ ท่ีได้รับอนุมัติ โดยย่ืนเอกสาร/หลักฐานยืนยันการได้รับ การอนุมัติ/อนุญาตจากเจ้าของพ้ืนท่ี/ หน่วยงานเจ้าของพื้นท่ี และ/หรือเอกสารการ ประเมนิ ผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม มาพรอ้ มกบั คาขอ โครงการ ตัวอยา่ ง หัวข้อ ประเด็นของแผนปฏิบัตริ าชการจังหวดั / กล่มุ จงั หวัดท่ีควรมี จากข้อมูลแบบฟอร์มแผนปฏิบัติราชการประจาปี จังหวัด / กลุ่มจังหวัด พบว่าได้มีการระบุหัวข้อท่ี เหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายและหลักเกณฑ์ข้างต้นในการจัดทารายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการ ไวอ้ ย่แู ล้ว โดยมตี ัวอยา่ ง ดงั นี้ สรปุ โครงการตามแผนปฏบิ ตั ิราชการประจาปี พ.ศ. ….. ของจงั หวัด/กลุ่มจงั หวัด ประเด็นการพฒั นา แหลง่ งบประมาณ รวมท้ังส้ิน เอกชน จงั หวัด/ กระทรวง กรม อปท. กลุ่มจังหวดั โครงการ งบประมาณ โครงการ งบประมาณ โครงการ งบประมาณ โครงการ งบประมาณ โครงการ งบประมาณ (จานวน) (บาท) (จานวน) (บาท) (จานวน) (บาท) (จานวน) (บาท) (จานวน) (บาท) ประเด็นการพฒั นาท่ี 1 ประเดน็ การพฒั นาท่ี 2 ประเด็นการพฒั นาที่ 3 คา่ ใช้จ่ายในการ บรหิ ารงานจังหวดั / กลุ่มจังหวดั แบบบูรณาการ รวมทั้งส้นิ ค-6

รายงานชุดองค์ความรู้ คมู่ อื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจังหวัดและกลุ่มจงั หวดั โครงการตามแผนปฏิบัตริ าชการประจาปี พ.ศ. …. ของจังหวดั /กลมุ่ จงั หวดั ประเด็นการพัฒนา / ลาดับ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน กจิ กรรมย่อย ตัวชว้ี ดั หนว่ ย งบประมาณ โครงการตามแผนพัฒนาจงั หวดั / ความสาคญั ชาติ โครงการ ดาเนนิ งาน (บาท) กิจกรรมย่อยที่ 1) กลุ่มจงั หวัด กจิ กรรมย่อยที่ 2) ตชว. 1 ประเด็นการพฒั นาท่ี 1 กิจกรรมย่อยที่ 1) 1. โครงการของจงั หวัด/กลมุ่ จังหวดั กิจกรรมยอ่ ยท่ี 2) ตชว. 1 1.1 โครงการที่ 1 .......................... กิจกรรมย่อยท่ี 1) 1.1.1 กจิ กรรมหลกั ท่ี 1.1 ....... กิจกรรมย่อยที่ 2) กิจกรรมย่อยท่ี 1) 1.1.2 กจิ กรรมหลกั ท่ี 1.2 ....... กิจกรรมย่อยที่ 2) 1.2 โครงการท่ี 2 .......................... 1.2.1 กจิ กรรมหลกั ที่ 2.1 ....... 1.2.2 กจิ กรรมหลกั ที่ 2.2 ....... 2. โครงการของกระทรวง กรม (5) 2.1 โครงการของกระทรวง ........... 2.1.1 โครงการของกรม ......... 2.1.1 โครงการของกรม ......... 3. โครงการขององคก์ รปกครอง สว่ นท้องถิ่น 3.1 โครงการท่ี 1 ......................... 4. โครงการความรว่ มมอื กบั ภาคเอกชน (ถ้ามี) 4.1 โครงการท่ี 1 ........................ ประเด็นการพัฒนาที่ 2 ประเด็นการพัฒนาท่ี 3 คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารงานจังหวัด/ กลมุ่ จังหวัดแบบบูรณาการ รวมทั้งสน้ิ ค-7

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คมู่ อื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจังหวดั แบบฟอร์มข้อมลู พื้นฐานของโครงการ และแบบฟอร์มรายละเอียดจาแนกงบรายจา่ ย แบบฟอร์มข้อมูลพืน้ ฐานโครงการของจงั หวดั /กลุ่มจงั หวัด (ระดบั กิจกรรมย่อย)(1 ชดุ : 1 กิจกรรมหลัก) ลาดับความสาคญั ......... ชอ่ื โครงการ :……............…………......…………........….. กจิ กรรมหลัก........................................................... วงเงนิ ........................ บาท ยุทธศาสตรช์ าต.ิ ................................................................................................................ ประเด็นการพฒั นาของจงั หวดั /กลมุ่ จงั หวัด...................................................................... แผนงาน......................................................................................................................... หน่วยดาเนนิ การ : ……....….…….................................................................................…….. ผรู้ บั ผดิ ชอบ : …...….........……..........ตาแหน่ง : ……..………..สถานทีต่ ิดต่อ ..........................หมายเลขโทรศพั ท์ ............ (1) หลักการและเหตผุ ล (1.1) ทีม่ า : (ระบุ เช่น มติ ครม. นโยบายรัฐบาล ยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ แผนพัฒนาภาค แผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจงั หวดั ) ....................................................................................................................................................................... (1.2) สรปุ สาระสาคญั สภาพปัญหา / ความตอ้ งการ : ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ความเรง่ ด่วน : (ระบรุ ะดบั ความจาเปน็ เร่งดว่ น) : ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... (2) ข้อมลู ท่ัวไปของโครงการ (2.1) วัตถุประสงคข์ องโครงการ ....................................................................................................................................................................... (2.2) สถานภาพของโครงการ โครงการเดิม โครงการใหม่ (2.3) ประเภทของโครงการ  พฒั นา ดาเนนิ การปกติ (2.4) ระยะเวลาดาเนินโครงการ.....................ปี เร่ิมต้นปี............................. สน้ิ สดุ ปี........................... (2.5) สถานทดี่ าเนินโครงการ : (ระบพุ ้ืนทด่ี าเนนิ การ เช่น อาเภอ ตาบล หมบู่ า้ น เป็นตน้ ) ………………………… ....................................................................................................................................................................... (3) กลุม่ เปา้ หมาย และผู้มสี ่วนได้สว่ นเสีย (3.1) กล่มุ เปา้ หมาย :…………………………………………………………………………………………………………… (3.2) ผ้มู สี ่วนได้สว่ นเสีย :…………………………………………………………………………………………………… ค-8

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คูม่ ือแบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวัดและกลุม่ จงั หวดั (4) เป้าหมาย ผลลัพธ์ และผลกระทบโครงการ (4.1) เป้าหมายโครงการ ตวั ชว้ี ัด ......................................................................................................................................................................... (4.2) ผลผลติ ...................................................................................................................................................................... (4.3) ผลลพั ธ์ ...................................................................................................................................................................... แนวทางการประเมนิ ผลลัพธ์ (เครอื่ งมือ / วิธกี าร / ชว่ งเวลา) .................................................................................................................................................................................. (4.4) ผลกระทบ : เชงิ บวก :………………………………………………………………………………………………………………………………………………. เชงิ ลบ : ...…………………………………………………………………………………………………………………………………………….. (5) แนวทางการดาเนินงาน (แสดงรายละเอียดกิจกรรมที่จะทาภายใตโ้ ครงการทจี่ ังหวัด/กลมุ่ จังหวัด เสนอขอ และทาเครือ่ งหมาย ✓ลงในช่องระยะเวลาท่ี จะเร่มิ ดาเนินงานของแต่ละกจิ กรรมสาคัญดว้ ย) กิจกรรมยอ่ ย ระยะเวลาทจ่ี ะเรม่ิ ดาเนินการ 1 ต.ค.-ธ.ค. ม.ค. - มี.ค. เม.ย.-ม.ิ ย. ก.ค. - ก.ย. 2 3 4 5 (6) วธิ ีการดาเนนิ งาน  ดาเนินการเอง  จ้างเหมา (7) วงเงินของโครงการ จานวน....................บาท (ให้กรอกรายละเอียดขอ้ มลู ตามแบบฟอร์มรายละเอียดจาแนกตามงบรายจ่ายด้วย) (8) ความพร้อมของโครงการ (8.1) พื้นท่ดี าเนนิ โครงการ  ดาเนินการได้ทันที หมายถึง ได้ศึกษาความเหมาะสมและกาหนดพ้ืนท่ีดาเนินการหรือได้รับอนุญาตตาม กฎหมาย และสามารถดาเนนิ การได้ทันที (มเี อกสารหลกั ฐานประกอบ)  อยใู่ นระหวา่ งเตรียมการ หมายถงึ ไดศ้ ึกษาความเหมาะสมและกาหนดพนื้ ทด่ี าเนินการแลว้ แต่อยใู่ นระหวา่ ง จดั เตรยี มพ้นื ท่ี หรอื กาลังแก้ไขปัญหา / อุปสรรคต่างๆ หรอื เตรียมการขออนญุ าตตามกฎหมาย  อยใู่ นระหว่างศกึ ษาความเหมาะสม และคดั เลือกพ้นื ทด่ี าเนินการ ค-9

รายงานชดุ องค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมินคุณภาพแผนจังหวดั และกลุ่มจงั หวดั (8.2) แบบรปู รายการ/ แผนการปฏบิ ตั งิ าน  มี และสมบรู ณ์ (ให้ระบชุ ื่อหนว่ ยงานเจ้าของรูปแบบรายการท่ีใช)้ ...............................................................................  มีแตย่ งั ไม่สมบรู ณ์ (ใหร้ ะบชุ ่ือหนว่ ยงานเจา้ ของรูปแบบรายการทใี่ ช้) ...........................................................................  ไมม่ ี (8.3) ความพร้อมของบุคลากร เคร่ืองมอื และเทคนิคการดาเนนิ การ • บุคลากรมีประสบการณ์ ทง้ั หมด บางสว่ น ไม่มปี ระสบการณ์ • เครอื่ งมอื ดาเนินการ มีพร้อมดาเนนิ การไดท้ นั ที มีบางส่วนและตอ้ งจดั หาเพมิ่ เตมิ ไมม่ ี ตอ้ งจัดหาเพมิ่ เตมิ • เทคนิคในการบริหารจดั การ มปี ระสบการณ์สงู มปี ระสบการณป์ านกลาง ไม่มปี ระสบการณ์ (8.4) ผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม  ผ่านคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาตแิ ล้ว  อยู่ระหวา่ งการพจิ ารณาของคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาติ  คณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาตยิ งั ไม่พจิ ารณา (8.5) รายงานการศึกษาความเหมาะสม (FS)  ไม่ตอ้ งทารายงานการศึกษา  ต้องทารายงานการศึกษา (9) วิธีการบรหิ ารจัดการหรือการดูแลบารงุ รกั ษา เม่อื โครงการแลว้ เสรจ็ เพ่ือให้เกดิ ความย่ังยืนของโครงการ : .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... (10) ปัญหา อปุ สรรคและขอ้ จากดั : .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ค-10

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ ค่มู อื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวดั และกล่มุ จงั หวดั ตวั อย่างแบบประเมินความเหมาะสมและความตอ่ เนื่องของโครงการ แบบประเมินความเหมาะสมและความตอ่ เนอ่ื งของโครงการ โครงการ/กจิ กรรม ........................................... วนั ............ที.่ ..........เดอื น..........................พ.ศ. ณ ...................................................... โปรดทาเครอ่ื งหมาย/ในชอ่ งที่ตรงกับความคดิ เห็นและความพงึ พอใจของท่าน ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 1. ความเกีย่ วข้องกับโครงการ Ο เจา้ ของโครงการ Ο ผจู้ ดั การโครงการ Ο ผู้รว่ มขับเคล่ือนโครงการ Ο ผรู้ ับผลประโยชน์ Ο อ่นื ๆโปรดระบ.ุ ............................................................... 2. ระยะเวลาที่มีส่วนเกย่ี วข้องกับโครงการ Ο นอ้ ยกวา่ 1 เดือน Ο ตง้ั แต่ 1-3 เดือน Ο ตัง้ แต่ 3-6 เดือน Ο ตั้งแต่ 6-12 เดือน 3. ภาคส่วนท่ีทา่ นสังกัดอยู่ Ο หนว่ ยงานรฐั / รฐั วสิ าหกิจ จากสว่ นกลาง Ο หนว่ ยงานรฐั / รัฐวสิ าหกจิ ในพน้ื ท่ี Ο ภาคเอกชน Ο ภาคการศึกษา / วชิ าการ Ο ภาคประชาสงั คม / หนว่ ยงานอสิ ระ ตอนท่ี 2 แสดงความคิดเหน็ ท่ตี รงกับท่านมากทส่ี ดุ ระดับความคิดเห็น/ความพึงพอใจ มากที่สุด/ มาก/ ปานกลาง/ น้อย/ น้อยทีส่ ดุ / หัวข้อ พอใจ ไมพ่ อใจ คอ่ นขา้ เฉยๆ ไมค่ ่อยพอใจ (5) (1) พอใจ (3) (2) 1 โครงการ/กิจกรรม นี้ มกี ารดาเนนิ การสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ได้เป็นอย่างดี (4) 2 รูปแบบและวธิ กี ารในการดาเนนิ โครงการ / กิจกรรมมี ความเหมาะสมกับบริบทของพน้ื ที่ 3 การดาเนนิ โครงการ / กจิ กรรม มีความต่อเนื่อง 4 การดาเนนิ โครงการ / กิจกรรม มกี ารสร้างการมีส่วน ร่วมกับคนในพ้นื ที่ หรอื มกี ารดงึ ผู้ที่อยใู่ นพ้นื ทมี่ ารว่ มเปน็ สว่ นหน่ึงของโครงการไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ค-11

รายงานชดุ องค์ความรู้ ค่มู อื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจังหวัดและกล่มุ จังหวดั ระดับความคดิ เหน็ /ความพึงพอใจ มากท่ีสดุ / มาก/ ปานกลาง/ นอ้ ย/ น้อยท่ีสดุ / หัวขอ้ พอใจ ไมพ่ อใจ ค่อนข้า เฉยๆ ไม่คอ่ ยพอใจ (5) (1) พอใจ (3) (2) 5 มกี ารวางแผนหรือมีแนวทางที่จะให้คนในพ้นื ท่สี ามารถเข้า มารว่ มบรหิ ารจดั การ ทางใดทางหนง่ึ ได้ในอนาคต (4) 6 โครงการ / กจิ กรรมนีม้ ผี ลผลติ ท่เี ปน็ รปู ธรรม 7 โครงการ / กิจกรรมนม้ี ีสามารถสร้างผลประโยชนใ์ หก้ ับ ภาคสว่ นท่มี ีความเก่ยี วขอ้ งได้จริง 8 ผู้จดั การโครงการสามารถดาเนินการโครงการไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 9 โครงการ / กิจกรรมน้ี มีความคมุ้ คา่ เมื่อเทียบกับ งบประมาณทีม่ ีการลงทนุ ไป 10 โครงการ / กจิ กรรมน้ี มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถ ดาเนนิ การต่อไปได้ หากไดร้ ับการสนบั สนนุ จากหนว่ ยงาน รัฐ 11 โครงการ / กจิ กรรมนี้ มีศักยภาพเพยี งพอทจ่ี ะขยายผลตัว ไปสพู่ ืน้ ทีอ่ ่นื หรือมีการพัฒนาเช่ือมโยงกบั โครงการอ่นื ๆ 12 ท่านมคี วามพงึ พอใจโดยรวมในการเป็นส่วนหน่งึ ของ โครงการ / กจิ กรรมน้ี ตอนท่ี 3 ระบุปัญหาและข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรงุ การจัดกจิ กรรม/โครงการในคร้ังต่อไป ปญั หา ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงในครั้งต่อไป ตอนท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะในการขยายผล หรอื การเช่ือมโยงกับโครงการอน่ื ๆ ในอนาคต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 5 ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ค-12

รายงานชดุ องค์ความรู้ คมู่ อื แบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวัดและกลมุ่ จังหวดั 2. ประเด็นท่ีใช้ในการพิจารณาประเมินผลโครงการและตัวอย่าง (ท่ีมา: อ้างอิงจากแนวทางการประเมินผล โครงการ ของสานกั งานบรหิ ารหน้สี าธารณะ) ในการดาเนินงานต้ังแต่กระบวนการจัดทาแผน การขับเคลื่อนแผน ไปจนถึงการติดตามแผนน้ัน มีรายละเอียดที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับประเด็นในการพิจารณาในแต่ละชว่ งของการทางานยังมีความแตกต่าง กัน คณะที่ปรึกษาจะได้รวบรวมตัวอย่างประเด็นในการพิจารณาในแต่ละช่วงเวลาของการทางานและ ประเมินผลโครงการ เพือ่ เป็นอกี หน่ึงเครือ่ งมือให้ผจู้ ดั ทาแผน โครงการ และผปู้ ระเมินสามารถใช้อ้างอิงประกอบ เพิ่มเติม ซ่ึงสะท้อนประเด็นท่ีสาคัญ 5 ด้านประกอบด้วย 1) ความสอดคล้อง 2) ประสิทธิผล 3) ประสิทธิภาพ 4) ผลกระทบ และ 5) ความยั่งยืน อ้างอิงจากแนวทางการประเมินผลโครงการ ของสานักงาน บรหิ ารหนีส้ าธารณะ ดงั แผนภาพที่ 1 และตารางท่ี 1ตามลาดบั แผนภาพท่ี ค-1: แนวทางการประเมนิ ผลโครงการ ของสานกั งานบริหารหนส้ี าธารณะ ตารางที่ ค-1: ตัวอย่างประเด็นในการพิจารณาประเมินผลโครงการของสานักงานบริหารหนี้สาธารณะโดยแบ่ง ตามข้ันตอน การทางาน และมิติต่าง ๆ มติ ิการ ประเดน็ พจิ ารณาประกอบการดาเนนิ งาน พจิ ารณา กอ่ นเรม่ิ โครงการ ระหว่างดาเนินการ ดาเนนิ การแลว้ เสร็จ หลังดาเนินการแล้วเสร็จ ความ - โครงการสอดคลอ้ งกบั นโยบายการพฒั นาประเทศ/นโยบายรัฐบาล/แผน - โครงการสอดคล้องกับ สอดคลอ้ ง ยทุ ธศาสตรช์ าติหรือไม่ นโยบายการพฒั นา - โครงการสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมายหรือไม่ ประเทศ/นโยบาย - การกาหนดกลมุ่ เปา้ หมายมคี วามเหมาะสมหรอื ไม่ รฐั บาล/แผน ยทุ ธศาสตรช์ าตหิ รือไม่ ค-13

รายงานชดุ องค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวดั และกลมุ่ จังหวดั มิติการ ประเด็นพิจารณาประกอบการดาเนนิ งาน พิจารณา ก่อนเร่มิ โครงการ ระหว่างดาเนนิ การ ดาเนนิ การแล้วเสร็จ หลงั ดาเนินการแลว้ เสร็จ - โครงการสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของ กลุ่มเปา้ หมายหรอื ไม่ ประสทิ ธผิ ล - วตั ถปุ ระสงค์โครงการมี - เปรียบเทยี บการใช้ทรัพยากร คณุ ภาพของผลลัพธ์ และกจิ กรรมของ ความชดั เจนหรอื ไม่ โครงการทเ่ี กดิ ข้นึ จรงิ กบั แผนทีก่ าหนดไวส้ ามารถบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ - ตวั ชวี้ ดั โครงการถกู ตอ้ ง หรอื ไม่ ตามวัตถปุ ระสงคห์ รือไม่ - ผลลัพธ์ทีไ่ ด้จากโครงการเพียงพอที่จะบรรลุวัตถปุ ระสงค์หรือไม่ - โครงการสามารถบรรลุ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ หรือไม่ ประสทิ ธภิ าพ - ตัวชีว้ ดั สะท้อนผลลพั ธ์ - ระดับความสาเร็จของผลลัพธโ์ ครงการเทยี บกบั แผนการดาเนินโครงการ หรอื ไม่ - การใช้ทรัพยากรเชิงปรมิ าณและเชิงคณุ ภาพเปน็ ไปตามแผนท่กี าหนดไว้ - กลุ่มเป้าหมายของ หรอื ไม่ โครงการกบั ผลลัพธท์ ีต่ ง้ั - มีกิจกรรมเพยี งพอที่จะสรา้ งผลลพั ธ์หรอื ไม่ ไวเ้ หมาะสมหรือไม่ - ทรัพยากรมีประสิทธภิ าพ และประสิทธผิ ลเพยี ง พอทีจ่ ะทาใหเ้ กดิ กจิ กรรม หรอื ไม่ - การใช้ทรพั ยากรมคี วาม เหมาะสมกับชว่ งเวลาที่ กาหนดไวห้ รอื ไม่ ผลกระทบ - ตัวชวี้ ดั สะท้อนเป้าหมาย - กลุ่มเป้าหมายไดร้ บั ผลกระทบจากการดาเนนิ โดยรวมหรอื ไม่ โครงการหรือไม่ - สมมติฐานจาก - มปี จั จยั ดา้ นลบที่สง่ ผลใหเ้ ปา้ หมายโดยรวมของ วตั ถุประสงคข์ องโครงการ โครงการนไ้ี มส่ าเรจ็ หรอื ไม่ ถูกตอ้ งหรอื ไม่ - เกิดผลกระทบตอ่ เป้าหมายโดยรวมท่ี - มปี ัจจัยดา้ นลบทส่ี ่งผลให้ นอกเหนอื จากทีไ่ ดส้ ันนิษฐานไวห้ รอื ไม่ และง่าย เปา้ หมายโดยรวมของ ตอ่ การควบคุมหรือไม่โดยเฉพาะผลกระทบ โครงการนไ้ี มส่ าเรจ็ ทางด้านลบ หรือไม่ ความยงั่ ยนื - นโยบายมคี วามต่อเนื่องหลังจากทค่ี วามร่วมมือไดส้ ิ้นสดุ หรอื ไม่ - ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และกฎหมายมคี วามสอดคล้องกนั หรือไม่ - หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการมบี ุคลากรเพยี งพอและสามารถดาเนนิ กจิ กรรมต่อไปหลังจากท่ีความรว่ มมอื ได้ สิน้ สุดลงหรือไม่ ค-14

รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวัดและกลมุ่ จงั หวดั มติ ิการ ประเด็นพิจารณาประกอบการดาเนินงาน พจิ ารณา ก่อนเริ่มโครงการ ระหวา่ งดาเนินการ ดาเนินการแล้วเสร็จ หลงั ดาเนินการแล้วเสร็จ - โครงการได้รบั การจดั สรรงบประมาณอยา่ งต่อเนือ่ งหรือมีงบประมาณเพียงพอในการดาเนนิ โครงการใน อนาคตหรือไม่ - การบรหิ ารจดั การและการซ่อมบารุงดูแลรักษาอุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นโครงการมคี วามเหมาะสมหรือไม - โครงการมแี นวทางในการประชาสมั พันธใ์ นวงกว้างหรือไม่ อยา่ งไร - มีปจั จัยอ่นื ท่สี ง่ ผลให้โครงการถกู ยบั ย้งั หรอื ไม่ 3. สรุปสาระสาคัญเก่ียวกับประเดน็ พิจารณาในการประเมินผลโครงการ (1) สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ตัง้ ไวห้ รอื ไม่? (Objectives) (2) ดาเนนิ การได้ตามแผนงาน หรอื กิจกรรมหรือไม่? (Action Plan) (3) ใช้งบประมาณ หรอื ทรพั ยากรได้ตามท่วี างแผนหรือไม่? (Budget / Resource) (4) บรรลตุ ามผลผลติ หรือผลลพั ธ์หรอื ไม่? (Output / Outcomes) (5) จะมผี ลกระทบออกมาอย่างไร? (Impact) (6) จะมแี นวทางการเชือ่ มโยงไปยงั โครงการ หรือแผนงานอื่นหรือไม่? (7) จะตอ้ งมกี ารดาเนนิ งานอะไรทต่ี ่อเน่อื ง (มีการบริหารจดั การ) อะไรเพมิ่ เติมหรือไม่? (8) โอกาสในการหารายได้ หรือลดคา่ ใชจ้ า่ ย ค-15

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คมู่ ือแบบประเมนิ คุณภาพแผนจงั หวัดและกล่มุ จังหวดั ภาคผนวก ง 1. แนวทางและเครื่องมือในการประเมินผลของโครงการ โดยท่ัวไปแล้ว วิธีการท่ีง่ายท่ีสุดในการประเมินผลโครงการคือการเปรียบเทียบระหว่างข้อมูลก่อน (Pre-Test) และข้อมูลหลังการดาเนินโครงการ (Post-Test) เป็นหลัก โดยจะอาศัยการสอบถามหรือเก็บข้อมูลจาก กลุ่มประชากรเดียวกันท่ีได้รับประโยชน์จากโครงการโดยตรง เพ่ือประเมินถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการ โครงการ ทัง้ นี้การประเมินลักษณะน้ีนั้นจะต้องอยู่ภายใตส้ ถานการณห์ รือมีการควบคุมปัจจัยที่อาจสง่ ผลกระทบ ให้เป็นปกติ เพ่ือท่ีจะสามารถประเมินผลของโครงการได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด อาทิ การประเมินรายได้ ผลผลติ เปน็ ตน้ แผนภาพท่ี ง-1: แนวคิดการประเมินระหว่างข้อมลู ก่อนและหลังดาเนินการ กอ่ นดาเนนิ การ หลงั ดาเนินการ ผลต่าง B A C=A-B B = ขอ้ มลู ก่อนการดาเนินการโครงการ A = ขอ้ มลู หลังการดาเนนิ การโครงการ C = ผลตา่ งระหว่างข้อมลู ก่อนและหลังดาเนินการโครงการ นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถใช้การประเมินความคุ้มค่าของโครงการมาช่วยในการประเมินผลเพ่ิมเติมได้อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้แนวคิดของการประเมินเชิงเศรษฐศาสตร์ในการเปรียบเทียบระหว่างผลประโยชน์ ท่ีไดร้ ับ และตน้ ทุนท่เี กดิ ข้ึน เพื่อดูว่าการลงทนุ นั้นๆ จะมีความคุ้มค่ามากน้อยเพยี งใด โดยเฉพาะอย่างย่ิงแนวคิด การปรบั คา่ เงินให้เป็นมลู ค่าปัจจุบัน (Present Value) ซ่งึ เปน็ การการปรับคา่ เป็นกระบวนการวเิ คราะห์ซึ่งทาให้ การเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นตลอดอายุโครงการสามารถทาได้ เน่ืองจากช่วงเวลาของ การลงทุน และผลประโยชน์ท่ีเกิดข้ึนไม่ได้อยู่ช่วงเวลาเดียวกัน การนามูลค่าของต้นทุนและผลประโยชน์ในแต่ละปี มาบวกหรือลบกันเพ่ือดูว่าสุดท้ายแล้วผลประโยชน์มีมากกว่าต้นทุนหรือไม่ ไม่สามารถทาได้ เนื่องจากมูลค่า ท่ีแท้จริงของเงินจะต่างกัน เม่ือระยะเวลาต่างกัน หรือกล่าวได้ว่ามูลค่าของเงินในอดีตหรืออนาคตจะไม่เท่ากับ เงินในปัจจุบนั การเปรียบเทียบดังกล่าว จึงต้องทาการปรบั ค่าของต้นทุนและผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในปีที่ตา่ งกนั ให้เปน็ ค่าปใี ดปีหนงึ่ เหมอื นกันเสยี กอ่ น วิธีการท่ีจะทาให้ต้นทุนและผลประโยชน์ท่ีเกิดข้ึนในเวลาต่างๆ สามารถรวมเข้าด้วยกันและเปรียบเทียบ กันได้ คือ การปรับลดต้นทุนและผลประโยชนใ์ ห้เป็นมูลค่าปัจจุบัน (Present Value) คือตั้งอยู่บนฐานของเวลา เดียวกันในปัจจุบัน กระบวนการปรับลดนี้ เรียกว่า “การคิดลด” โดยใช้อัตราคิดลด (Discount rate) มาเป็น ตวั ช่วยในการคิดลด โดยสามารถคานวณหามลู ค่าปัจจุบันไดจ้ ากสตู รดังแผนภาพตอ่ ไปนี้ ง-1

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คูม่ ือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลมุ่ จังหวดั แผนภาพท่ี ง-2: สูตรการคานวณตน้ ทนุ และผลประโยชน์ให้เปน็ มลู ค่าปัจจบุ นั (Present Value) ทีม่ า: คมู่ อื การวิเคราะหด์ ้านเศรษฐศาสตรแ์ ละการเงนิ ทจี่ ดั ทาโดยกรมชลประทาน ซ่ึงเมื่อสามารถคานวณต้นทุนและผลประโยชน์ให้เป็นมูลค่าปัจจุบันได้แล้ว มักจะมีการกาหนด หลักเกณฑ์ในการประเมินหรือตัดสินใจการลงทุน ซ่ึงโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้เคร่ืองมือในการคานวณ และ วเิ คราะห์ ดงั น้ี (1) มูลคา่ ปจั จบุ นั สทุ ธิ (Net Present Value : NPV) มลู ค่าปัจจุบันสทุ ธิ (NPV) หมายถงึ มลู ค่าปัจจบุ นั ของผลตอบแทนสทุ ธทิ ี่ไดร้ บั จากโครงการ คานวณได้ จากสูตรต่อไปนี้ (แผนภาพ 3 ) แผนภาพที่ ง-3: สตู รการคานวณมูลคา่ ปจั จุบนั สทุ ธิ และเกณฑ์ในการพิจารณา ทม่ี า: คู่มือการวิเคราะหด์ า้ นเศรษฐศาสตรแ์ ละการเงิน ท่ีจัดทาโดยกรมชลประทาน ซึ่งภายใต้เครื่องมือนี้ เกณฑ์ในการตัดสินใจการลงทุนมักจะพิจารณาลงทุนเม่ือมูลค่าปัจจุบัน (NPV) มีค่า เท่ากับหรือมากกว่า 0 หรือมีค่าเป็นบวกจะแสดงว่าโครงการมีการลงทุนท่ีให้ผลคุ้มค่าเนื่องจาก NPV ส่วนท่ี เป็นบวกของโครงการเป็นผลตอบแทนของเจ้าของ ดังนั้นเมื่อลงทุนในโครงการท่ี NPV = 0 ส่วนของเจ้าของ จะไมเ่ พม่ิ ขน้ึ แตก่ ารท่ีธุรกจิ มีโครงการลงทุนเพ่ิมจะมผี ลใหข้ นาดของกิจการขยายตวั ขน้ึ ง-2

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คู่มือแบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวดั และกลุม่ จงั หวัด (2) อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (Benefit Cost Ratio : BC ratio) อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C ratio) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างมูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์ ต่อมลู ค่าปัจจบุ ันของตน้ ทนุ คานวณได้จากสตู รต่อไปนี้ (แผนภาพ 4) แผนภาพท่ี ง-4: สตู รคานวณอตั ราผลตอบแทนภายใน และเกณฑใ์ นการพิจารณา ท่มี า: คู่มอื การวเิ คราะหด์ ้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน ทจี่ ดั ทาโดยกรมชลประทาน ซึ่งภายใตเ้ ครอื่ งมือน้ี เกณฑ์ในการตัดสนิ ใจการลงทนุ จะลงทนุ เมื่อโครงการทีใ่ ห้ค่า B/C Ratio มีค่าเท่ากับ หรือมากกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าโครงการนั้น เมื่อลงทุนแล้วจะได้รับผลตอบแทนต่อทุนสูงกว่าเงินท่ีลงทุนไป ซง่ึ แสดงให้เหน็ ว่าโครงการมีความคุ้มคา่ ต่อการลงทนุ นัน่ เอง (3) อตั ราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return : IRR) อัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return : IRR) หมายถึงอัตราคิดลดสูงทส่ี ุดที่จะสามารถจ่าย ให้กับทรัพยากรต่าง ๆ ในการดาเนินโครงการ ซึ่งทาให้โครงการยังคงมีผลตอบแทนเท่ากับต้นทุนท้ังหมดพอดี (NPV = 0) คานวณได้จากสูตรต่อไปน้ี (แผนภาพ 5) แผนภาพท่ี ง-5: สูตรคานวณอตั ราผลตอบแทนภายใน และเกณฑ์ในการพจิ ารณา ทีม่ า: คมู่ ือการวเิ คราะห์ด้านเศรษฐศาสตรแ์ ละการเงนิ ทีจ่ ัดทาโดยกรมชลประทาน ซ่ึงภายใต้เคร่ืองมือน้ี เกณฑ์ในการตัดสินใจการลงทุนจะลงทุนเม่ืออัตราผลตอบแทนของโครงการ (IRR) มีค่าสูงกว่าต้นทุนของเงินทุนหรืออัตราดอกเบี้ยเงินทุน ก็ควรลงทุน แต่ถ้าอัตราอัตราผลตอบแทนของโครงการ (IRR) มคี ่าน้อยกวา่ ต้นทุนของเงนิ ทุนหรอื อตั ราดอกเบีย้ เงนิ ทุนกค็ วรปฏเิ สธการลงทนุ ในโครงการ ง-3

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คู่มือแบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวัดและกล่มุ จังหวัด 2. ตัวอยา่ งต่าง ๆ เก่ียวกับการประเมนิ ผล ตัวอยา่ ง 1 ตัวอย่างตัวชว้ี ัดในการประเมินผล คณะที่ปรึกษาได้รวบรวมตัวอย่างตัวช้ีวัดสาหรับการประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของโครงการใน รูปแบบและมติ ิตา่ ง ๆ จากขอ้ มูลของส่วนราชการหลายส่วน อาทิ ค่มู ือการกาหนดเปา้ หมาย ผลผลติ และตวั ช้ีวดั โครงการ โดยสานักงบประมาณ หลักเกณฑ์และแนวทางวิเคราะห์โครงการ โดยสานักงานสภาพั ฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานผลการศึกษาการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการดาเนินงานด้านรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ โดยสานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เคร่ืองมือการวัดระดับการพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด โดยสานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนคู่มือการประเมินผลลัพธ์ทางสังคมและผลตอบแทนทางสังคม จากการลงทุน โดยป่าสาละและสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นต้น ซง่ึ สามารถสรุปตวั อยา่ งของตวั ช้ีวดั ออกมาเปน็ ประเดน็ สาคัญได้ ดงั น้ี ตารางที่ ง-1: ตารางสรุปตัวอยา่ งตัวชี้วดั ทสี่ ามารถนามาใชใ้ นการประเมนิ ผลลัพธแ์ ละผลกระทบในมติ ติ า่ ง ๆ ประเดน็ ตวั อย่างตวั ชวี้ ัดในการประเมินผลลัพธแ์ ละผลกระทบ การสร้างรายได้ คา่ ครองชีพ ให้แก่ชุมชน ด้านเศรษฐกจิ ผลประโยชน์หรือผลผลติ - ร้อยละของชุมชนทม่ี รี ายไดจ้ ากการจา้ งแรงงานไมน่ อ้ ยกว่า xxx บาทต่อชมุ ชน ทเ่ี กดิ ขึ้นจากดาเนนิ โครงการ - สดั สว่ นการใช้จ่ายเงินทีไ่ ด้รับจากการรบั จ้างเปน็ แรงงานในโครงการของชมุ ชน การประเมินมลู ค่าในชุมชน - ปริมาณกระแสเงินหมนุ เวยี นในระบบเศรษฐกจิ ของชุมชน - ราคาส่วนเพิ่มทส่ี ามารถขายผลติ ภณั ฑท์ างการเกษตรได้จากการปรับรูปแบบสรู่ ะบบ อินทรยี ์ เมอื่ เทียบกบั ช่วงก่อนปรบั สรู่ ะบบอินทรยี ์ - มูลคา่ ทางเศรษฐกจิ ทค่ี าดว่าจะไดร้ ับหลงั การดาเนนิ การโครงการ ในช่วงระยะเวลาทีก่ าหนด - จานวนการจา้ งงานและรายได้ท่ีเกดิ ขน้ึ ของคนในชมุ ชนในชว่ งเวลาท่ีกาหนด - สดั ส่วนคนอายุ 60 ปีข้นึ ไป มอี าชีพและมรี ายได้ - สดั ส่วนคนอายุ 15 -59 ปี มอี าชีพและมรี ายได้ - อัตราสว่ นการออมเฉลย่ี ต่อรายไดเ้ ฉล่ียของครวั เรือน - จานวนวสิ าหกจิ ชมุ ชนและเครอื ข่ายวิสาหกจิ ชุมชนท่ไี ด้รบั อนมุ ตั กิ ารจดทะเบยี น - สัดส่วนหนี้สนิ เฉล่ยี ตอ่ รายไดเ้ ฉล่ียของครัวเรือนกลุ่มท่ียากจนท่สี ุด - ผลผลติ สนิ ค้าเกษตรสาคญั เฉลีย่ ตอ่ ไร่ (พืช) - รายได้เงินสดสุทธิทางการเกษตรตอ่ ครวั เรอื น - รปู แบบ/ลกั ษณะโครงการชมุ ชนทส่ี ามารถสรา้ งประโยชนต์ อ่ เน่อื ง เชน่ การสรา้ งรายได้ การแปรรปู ผลผลติ การเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลติ และลดความสญู เสียทางการเกษตร - จานวนผลผลติ หรอื สนิ คา้ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ โครงการต่อเน่อื ง - มลู ค่าของผลประโยชน์หรอื ผลผลติ ทีเ่ กดิ ข้ึนจากการดาเนนิ โครงการต่อเนอ่ื ง - สดั สว่ นของมลู คา่ ผลประโยชน์ทเ่ี กิดข้นึ เทียบกบั ปรมิ าณเงนิ ลงทุนโครงการของชุมชน - การประมาณการณอ์ ัตราการเพม่ิ ขึน้ มูลค่าท่ดี นิ /อสังหารมิ ทรพั ย์ในช่วงเวลาท่ีกาหนด - มลู ค่าเงนิ ลงทุนทค่ี าดว่าจะตอ้ งใชใ้ นการพฒั นาพื้นที่ ง-4

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มือแบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุม่ จังหวดั ประเดน็ ตวั อยา่ งตวั ช้วี ัดในการประเมินผลลัพธแ์ ละผลกระทบ การประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ - จานวนลกู ค้าทส่ี ามารถให้บรกิ ารได้เพิม่ ขึน้ เม่ือเทียบกบั ช่วงกอ่ นหน้า และผลประโยชนอ์ ื่นๆ - ระยะเวลาการให้บรกิ ารทีล่ ดลง เมอื่ เทยี บกบั ช่วงก่อนหน้า - ตน้ ทุนทส่ี ามารถลดลงได้ - ระยะเวลา / ขน้ั ตอนทลี่ ดลงในการดาเนนิ การ เมื่อเทียบกับช่วงกอ่ นหนา้ การลงทุน การค้า โครงสรา้ ง - อตั ราการขยายตวั ของผลิตภณั ฑม์ วลรวม / ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมต่อหัวประชากร พน้ื ฐาน - อตั ราการขยายตัวของการลงทนุ ภาคเอกชน - อตั ราการขยายตัวของการลงทุนภาครฐั - มูลคา่ การผลิตของ SMEs ต่อ GDP - อตั ราการเพิม่ ข้นึ ของมูลค่าการคา้ ระหวา่ งประเทศ (ร้อยละ) - สดั ส่วนตน้ ทนุ ขนส่งสินคา้ ตอ่ ผลิตภัณฑม์ วลรวมของจงั หวัด - สัดส่วนการขยายตวั ของการค้าระหว่างประเทศเพ่ือนบา้ น - สัดส่วนความพงึ พอใจในคณุ ภาพของโครงสร้างพน้ื ฐาน (ถนน / ราง / คลอง เป็นต้น) การทอ่ งเทีย่ ว - จานวนนกั ท่องเทีย่ วทเี่ พม่ิ ขนึ้ - รายไดจ้ ากการท่องเทย่ี วท่เี พม่ิ ขึ้น ดา้ นสังคม ความม่ังคง การมสี ่วนรว่ ม - รอ้ ยละของครวั เรอื นเกษตรท่ีมสี ่วนร่วมในกระบวนการดาเนนิ งานโครงการ - ระดับความคดิ เหน็ ต่อการมีสว่ นร่วมในการดาเนินงานโครงการของประชาชนในชมุ ชน การเข้าถึงระบบสาธารณปู โภค - สัดสว่ นครัวเรือน หรือประชากรทส่ี ามารถเขา้ ถงึ ระบบสาธารณูปโภคในพ้ืนทไ่ี ด้ - จานวนการร้องเรยี นดา้ นสาธารณปู โภคหลงั จากโครงการแลว้ เสรจ็ - สดั สว่ นครัวเรอื นทมี่ นี า้ ประปาใชใ้ นครวั เรือน การศึกษา - ระดับคะแนนเฉล่ยี O-NET - จานวนปกี ารศกึ ษาเฉล่ีย - อัตราการอ่านของประชากร (อายุ 6 ปีขึ้นไป) ความพงึ พอใจตอ่ การดาเนินงาน - ระดบั ความคิดเห็นตอ่ กระบวนการดาเนนิ งานโครงการในดา้ นการสร้างความร่วมมือของ ภาครฐั กบั ชุมชน และระหวา่ งประชาชนภายในชมุ ชน - ระดับความคดิ เหน็ ตอ่ ความสอดคล้องของโครงการกับสภาพปัญหาของชมุ ชน - ระดับความคิดเหน็ ต่อการเปลย่ี นแปลงคณุ ภาพชีวติ ของครวั เรือนเกษตรหลังมโี ครงการ - ระดบั ความพงึ พอใจของครวั เรอื นเกษตรในพนื้ ทีต่ อ่ การดาเนินงานโครงการ สาธารณสุข และการดแู ล - อัตราการเกิดมีชพี รักษาสุขภาพ สขุ ภาวะใน - ร้อยละของเด็กที่มีพฒั นาการสมวยั ภาพรวม - คะแนนเฉลย่ี สตปิ ัญญา (IQ) เดก็ นกั เรียนไทย - อัตราความสาเร็จในการรักษาผู้ป่วย ในระยะเวลาท่ีกาหนด - อัตราการลดลงของผู้ป่วยดว้ ย โรค… ในพ้นื ที่ ในระยะเวลาที่กาหนด - อตั ราเพ่มิ ของการเจ็บปว่ ยด้วย 5 โรคไม่เร้ือรังท่ีสาคญั (โรคหวั ใจ เบาหวาน หลอดเลอื ด สมอง ความดนั โลหติ สงู หรือมะเรง็ ) - สดั ส่วนคนสบู บหุ ร่ี / สดั ส่วนคนดมื่ สุรา ง-5

รายงานชดุ องค์ความรู้ ค่มู ือแบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวดั และกลุ่มจงั หวัด ประเด็น ตวั อยา่ งตวั ชว้ี ดั ในการประเมินผลลพั ธแ์ ละผลกระทบ - สดั ส่วนค่าใชจ้ า่ ยประเภทเวชภณั ฑ์และค่าตรวจรักษาพยาบาล ต่อคา่ ใชจ้ า่ ยทง้ั หมดของ ครัวเรือนเฉล่ียต่อเดือน - สดั ส่วนแพทยต์ ่อประชากร ความสงบและความปลอดภัย - ร้อยละของอัตราการเกดิ อาชญากรรม - สัดส่วนคดีความต่อจานวนประชากร (คดี/พนั คน) - ความรวดเร็วในการพิจารณาคดคี วาม - รอ้ ยละของหมู่บา้ นในพืน้ ที่ ท่ผี า่ นเกณฑห์ มบู่ า้ นปลอดภยั - จานวนคดียาเสพตดิ ด้านสง่ิ แวดล้อม การดูแลสิ่งแวดล้อม - เนือ้ ทีท่ มี่ ปี รบั สภาพรองรับการพฒั นาการเกษตรแบบยง่ั ยนื / เกษตรอินทรีย์ - ปริมาณยาฆา่ แมลงที่มีการใชใ้ นพ้นื ท่ี - โครงการเกย่ี วกับคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ มของชุมชนทีส่ ามารถสรา้ งประโยชน์ต่อเน่อื ง - เนอ้ื ทต่ี ้นไม้ทม่ี กี ารนาไปปลกู ในช่วงระยเวลารายงาน - เนอ้ื ท่ีทีม่ กี ารปลกู ป่าทดแทนในชว่ งระยะเวลารายงาน - ระยะทางหรอื พ้นื ท่ีของแหลง่ นา้ ท่มี ีการเขา้ ไปบริหารจดั การ - ผลการประเมินมลพิษในนา้ เม่ือเทียบกบั ช่วงก่อนดาเนินโครงการ - ระดับคณุ ภาพน้า (สดั สว่ นแหล่งนา้ ทม่ี คี ณุ ภาพท่ีอย่ใู นเกณฑด์ ี) - สัดสว่ นพนื้ ท่ีป่าไมต้ ่อพ้ืนที่จงั หวดั - ผลการตรวจวดั คณุ ภาพนา้ ผวิ ดนิ (WQI) การรกั ษาพลงั งาน - ค่าใชจ้ า่ ยท่ีลดลงจากการประหยดั พลงั งาน - คา่ ไฟตอ่ เดือนเฉลย่ี ที่ลดลง เมือ่ ปรบั ส่กู ารใชพ้ ลงั งานทดแทน - การใช้ปริมาณพลังงานท่ีลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง - ปรมิ าณการใช้น้ามันดเี ซล - ปรมิ าณการใช้พลงั งานทดแทน การจดั การของเสียและขยะ - ปริมาณการลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกทล่ี ดลงในระยะเวลาทร่ี ายงาน - ปริมาณขยะที่ลดลง - ปริมาณขยะท่สี ามารถนากลับมาใช้ประโยชนไ์ ด้ / สดั สว่ นขยะทนี่ ากลบั มาใช้ใหม่ - จานวนขอ้ รอ้ งเรียนด้านมลพิษในพน้ื ที่ ง-6

รายงานชุดองคค์ วามรู้ ค่มู ือแบบประเมินคณุ ภาพแผนจังหวัดและกลมุ่ จงั หวัด ตัวอยา่ ง 2 ตัวอยา่ งการประเมนิ ผลโครงการ 1) ตัวอย่างการประเมินเปรียบเทียบผลก่อน และหลงั ดาเนนิ โครงการ (Pre-Post Test) กรณีโครงการท่ีดาเนินการแล้วสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร หรือคนในชุมชนเพ่ิมข้ึน สามารถ ประเมินได้ผ่านการสอบถามรายได้ของเกษตรกรในชุมชน จากการขายสินค้าเกษตรในช่วงก่อน และหลังการ ดาเนินโครงการ ซึ่งจากตัวอย่างนี้สมมติว่ามีจานวนเกษตรกรท้ังสิ้น 10 ครัวเรือน ผู้ประเมินก็สามารถทาการ สอบถามข้อมลู ได้ ดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ตารางท่ี ง-2: ตวั อย่างการประเมนิ รายไดก้ ่อนและหลังการดาเนนิ โครงการ จานวนเกษตรกร (n) รายได้กอ่ นโครงการ (A) รายได้หลงั โครงการ (B) สว่ นตา่ ง (B-A = C) 1 1,087 1,892 805 2 1,043 1,788 745 3 968 1,883 915 4 1,245 1,235 (10) 5 1,338 1,298 (40) 6 1,279 1,801 522 7 1,072 967 (105) 8 1,114 1,648 534 9 1,355 1,632 277 10 1,329 1,732 403 รวม 11,830 15,876 4,046 จากตารางข้างต้นจะเห็นว่าโดยรวมแล้ว เกษตรกรมีรายได้หลังจากการดาเนินโครงการเพ่ิมข้ึนกว่า 4,046 บาท หรือกลา่ วคือเกษตรกรท่เี ขา้ รว่ มโครงการจะมีรายไดเ้ ฉล่ียทเ่ี พิ่มขน้ึ ประมาณ 405 บาทต่อรายนนั่ เอง ทงั้ น้ี หากผู้ประเมินสามารถนาข้อมลู งบประมาณท่ลี งทุนต่อรายมาพิจารณาร่วมกันกับข้อมูลข้างตน้ น้ี ก็สามารถ ช้ีให้เห็นได้ว่าโครงการดังกล่าวน้ันมีความคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด โดยโครงการนี้ จะถือว่ามีความคุ้มค่าก็ต่อเม่ือ รายได้ตอ่ หวั ที่เพิ่มขึ้นนี้ มีมลู คา่ สูงกวา่ คา่ ใชจ้ า่ ยต่อหวั ทจี่ ่ายไปนั่นเอง 2) ตัวอย่างการประเมินผลกระทบผ่านการใช้ตัวชี้วัด กรณีศึกษา: โครงการสร้างรายได้และ พัฒนาการเกษตรแก่ชมุ ชนเพอื่ บรรเทาปัญหาภัยแลง้ โดยสานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร1 โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพ่ือบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เป็นโครงการท่ีเน้น การช่วยเหลือเกษตรกในพ้ืนท่ีเกษตรกรรมท่ีแห้งแล้งซ้าซากให้มีรายได้ในช่วงฤดูแล้ง เมื่ อปี พ.ศ. 2558 โดยมีพน้ื ทีเ่ ป้าหมายจานวน 3,051 ตาบล ใน 58 จงั หวดั ซงึ่ หลังจากท่ดี าเนินการแล้ว มกี ารประเมนิ ผลโครงการ โดยการสุ่มตัวอย่างโครงการย่อยจานวน 100 โครงการข้ึนมา ซึ่งอาศัยการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณใน 1 หมายเหตุ: ตัวอย่างน้ี ต้องการนาเสนอเพื่อให้เห็นแนวทางในการพิจารณาถึงผลลัพธ์และผลกระทบท่ีได้จากโครงการเท่าน้ัน ไม่ได้ต้องการเน้นที่ รายละเอยี ดของโครงการ ทมี่ าของข้อมูล หรือความถูกต้องของการคานวณของขอ้ มลู ง-7

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจงั หวัด พื้นที่ และเก็บข้อมูลทางสถิติท่ีมีการเผยแพร่ต่าง ๆ โดยมีแนวทางตัวอย่างประเด็นและตัวช้ีวัดในการประเมิน ดงั นี้ ตารางที่ ง-3: ตัวอยา่ งประเด็นและตวั ชี้วัดในการประเมินผลของการดาเนนิ โครงการสร้างรายได้เกษตรกร ประเด็นการประเมินผล ตัวชี้วดั ผลได้โครงการ 1. การจ้างแรงงานในชุมชน - จานวนแรงงานในชุมชนท่ไี ด้รับการจ้างเป็นแรงงานในโครงการ - รายไดท้ ่ีไดร้ ับจากการรับจา้ ง 2. การพฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานทาง - จานวนโครงการของชุมชนทไี่ ดร้ ับการอนมุ ัติ และดาเนินการแลว้ เสรจ็ การเกษตรและเพิม่ ประสิทธภิ าพ การผลิตของชุมชน - ร้อยละของชุมชนทรี่ ายไดจ้ ากการจ้างแรงงานไม่น้อกว่า 200,000 บาทต่อชุมชน - ร้อยละของชมุ ชนที่เกิดกระแสเงินหมนุ เวยี นในระบบเศรษฐกจิ ชมุ ชนไมน่ ้อย ผลกระทบ ดา้ นเศรษฐกจิ กวา่ 800,000 บาทต่อชมุ ชน 1. การสร้างรายไดใ้ หแ้ กช่ ุมชน - จานวนผลผลติ หรือสินค้าทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ โครงการต่อเนอ่ื ง 2. กระแสเงนิ หมนุ เวยี นในชมุ ชน - มลู คา่ ของผลประโยชนห์ รอื ผลผลติ ทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนินโครงการตอ่ เน่อื ง - สัดส่วนของมลู คา่ ผลประโยชน์ทเ่ี กิดขนึ้ จากการดาเนนิ โครงการต่อเนอื่ ง 3. ผลประโยชน์ท่ีเกดิ ข้ึนจากการ ดาเนนิ โครงการตอ่ เน่อื ง - รอ้ ยละของครัวเรอื นเกษตรท่ีมสี ว่ นร่วมในกระบวนการดาเนินโครงการ - ระดบั ความคิดเห็นต่อความสอดคล้องของโครงการกับสภาพปญั หาของชุมชน ด้านสังคม - ระดับความคดิ เหน็ ตอ่ การเปลยี่ นแปลงคณุ ภาพชีวิตของครัวเรอื นเกษตรหลังมี 1. การมสี ่วนรว่ ม 2. ความคิดเหน็ ต่อการดาเนนิ งาน โครงการ - รปู แบบ/ลักษณะโครงการของชมุ ชนทสี่ ามารถสร้างประโยชนต์ อ่ เนอื่ ง เกย่ี วกับ ดา้ นสง่ิ แวดล้อม การดูแลรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม จากตวั อย่างประเดน็ และตวั ชว้ี ัดขา้ งต้น สานกั ประเมินผลโครงการ สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตรจึงได้ มีการเก็บข้อมูล เพือ่ มาประมวลและจดั ทาสรปุ ผลการประเมิน ดังนี้ ง-8

รายงานชดุ องค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจังหวดั และกลุม่ จังหวดั ตารางท่ี ง-4: ตวั อย่างผลการดาเนินงานจากการประเมินผลของโครงการ ประเดน็ / รายการ เป้าหมาย ผลการดาเนินงาน ร้อยละ ผลได้ - การจา้ งงาน 241.74 1) จานวนเกษตรกรผ้ใู ชแ้ รงงาน (ราย) 360,659 871,849 97.24 2) จานวนวันแรงงาน (Man-day) 5,409,880 5,260,676 108.25 3) จานวนครัวเรือนทไี่ ด้รบั ประโยชน์ 2,660,201 2,879,850 100.00 (ครวั เรือน) 6,596 6,596 99.50 ผลได้ - โครงสร้างพื้นฐาน 97.99 1) จานวนโครงการทไ่ี ดร้ ับการอนุมตั แิ ละ 3,043 3,028 ดาเนนิ การแล้วเสร็จ (โครงการ) 3,043 2,982 - การจัดการแหลง่ นา้ เพื่อการเกษตร - การผลติ ทางการเกษตร 82.19 มีความพึงพอใจมาก - ลดความสูญเสยี ผลผลติ 87.47 มีความพึงพอใจมาก ผลกระทบ - เศรษฐกิจ 1) จานวนชุมชนมีรายได้จากการจ้างงานไม่ 80% ได้รบั ประโยชน์ในการ นอ้ ยกว่า 200,000 บาทต่อชมุ ชน จัดการกบั สภาพแหลง่ น้า (ชุมชน) 25% ช่วยในเรอื่ งของการลดการ 2) จานวนชมุ ชนที่มกี ระแสเงนิ หมนุ เวียนใน ใชส้ ารเคมีในการผลติ การเกษตร ชุมชนไมน่ อ้ ยกวา่ 800,000 บาทต่อ 30% ชว่ ยในเรื่องของการปรับปรงุ ชุมชน (ชุมชน) สภาพดนิ ในบริเวณ ผลกระทบ – สงั คม 1) ความคดิ เห็นในเร่อื งของคุณภาพชวี ิต ครัวเรอื น 2) ความคิดเหน็ ในเรอ่ื งของการมีส่วนรว่ ม ของชุมชน ผลกระทบ - สง่ิ แวดล้อม 1) การประเมินตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ง-9

รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวดั และกลุม่ จงั หวัด 3) ตัวอย่างการประเมินความคุ้มค่าด้วยวิธีการ Cost-Benefit Analysis กรณีศึกษา : โครงการ ลงทนุ พฒั นารถไฟฟา้ สว่ นตอ่ ขยาย โดยสานักงานบริหารหน้สี าธารณะ2 โครงการลงทุนพัฒนารถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยเช่ือมกับเส้นทางรถไฟฟ้าเดิม โดยรัฐบาลเป็นผลู้ งทุนด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน และให้เอกชนร่วมลงทุนในงานระบบไฟฟ้า อาณัติสัณญาณ ขบวน รถไฟฟา้ และการใหบ้ ริการเดนิ รถไฟฟา้ โดยมรี ายละเอียดของการประเมนิ ดงั นี้ 3.1) การประมาณการรายได้โครงการ (1) คา่ โดยสารเรม่ิ ต้น 10 บาท +1.8 ต่อกโิ ลเมตร (ราคา ณ ปี 2544) และไม่มคี า่ เปลย่ี นเสน้ ทาง หน่วย: ล้านบาท ปที ่ี 1 ปีที่ 5 ปีท่ี 10 ปที ี่ 15 ปที ี่ 20 ปที ี่ 25 ปีที่ 30 ปที ี่ 35 ปที ่ี 40 รายได้ / วนั 10.84 12.68 14.54 18.32 21.84 25.57 29.79 37.50 46.89 จานวนวนั / ปี 330 330 330 330 330 330 330 330 330 รายได้ค่าโดยสารท่มี ี 3,578 4,183 5,798 6,045 7,202 8,437 9,837 12,375 15,425 การปรบั เพม่ิ ขึ้น 3.2) การประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการ (1) ชว่ งการก่อสร้าง (ระยะเวลา 6 ปี) ประกอบด้วย - ค่าเวนคนื ท่ีดิน วงเงนิ 5,899 ลา้ นบาท - คา่ จ้างที่ปรกึ ษา วงเงนิ 3,089 ลา้ นบาท - คา่ กอ่ สรา้ ง คา่ ระบบไฟฟ้า และขบวนรถไฟฟ้า วงเงิน 53,046 ลา้ นบาท - ค่าโสหุย้ วงงนิ 8,739 ลา้ นบาท - ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ วงเงนิ 4,541 ล้านบาท (2) ช่วงเปิดให้บริการ (ระยะเวลา 25 ปี) มีสมมติฐานว่าจะมีการลงทุนสาหรับการจัดซ้ือขบวน รถไฟฟ้า และปรบั เปลย่ี นอปุ กรณ์ วงเงิน 70,427 ลา้ นบาท 3.3) การวิเคราะหค์ วามเหมาะสมทางการเงนิ B/C Ratio Discount Rate Cost Benefit B/C Ratio หน่วย: ล้านบาท 40 ปี 3% 159,124 140,475 0.880 4% 136,513 100,345 0.794 NPV 5% 119,270 84,930 0.712 -19,149 -28,168 -34,280 2 หมายเหตุ: ตัวอย่างน้ี ต้องการนาเสนอเพ่ือให้เห็นแนวทางในการพิจารณาถึงความคุ้มค่าของโครงการเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเน้นที่รายละเอียดของ โครงการ ทมี่ าของข้อมูล หรอื ความถกู ตอ้ งของการคานวณของขอ้ มูล ง-10

รายงานชดุ องค์ความรู้ คมู่ ือแบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวดั และกลุ่มจังหวัด FIRR 25 ปี FIRR 30 ปี FIRR 35 ปี FIRR 40 ปี -1.11% 0.64% -0.04% 1.65% หากพิจารณาในเชิงความคุ้มค่าทางการเงินจากการลงทุนอย่างเดียว พบว่า โครงการมี B/C Ratio น้อยกว่า 1 ในทุกกรณี แสดงให้เห็นว่าโครงการไม่มีความคุ้มค่าทางการเงิน ทว่าเน่ืองจาก โครงการยังมี ความจาเป็นที่จะลงทุนเพื่อให้บริการด้านสาธารณะแก่ประชาชน จึงอาจต้องมีการพิจารณาในเชิงของมูลค่า ทางเศรษฐศาสตร์ รวมถงึ พจิ ารณารปู แบบหรอื สัดสว่ นการลงทุนอื่น ๆ อีกดว้ ย 3.4) การวเิ คราะห์ทางเศรษฐกจิ (1) ประมาณการมูลค่าตน้ ทุนทางเศรษฐกิจ - มูลคา่ การลงทนุ ในการก่อสรา้ งโครงสร้างพืน้ ฐานและตดิ ตัง้ ระบบรถไฟฟ้า - มลู ค่าการลงทนุ ในการดาเนนิ การเดนิ รถและบารุงรกั ษา (2) ประมาณการผลประโยชน์ทจี่ ะไดร้ ับ - มลู คา่ การประหยัดค่าใชจ้ า่ ยจากการใช้พาหนะ - มูลค่าโดยตรงด้านการประหยัดเวลาของผโู้ ดยสารรถไฟฟ้า - มลู คา่ โดยออ้ มดา้ นการประหยดั เวลาการเดนิ ทางของผ้สู ญั จรทางถนน - มูลค่าการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม B/C Ratio Discount Cost Benefit B/C Ratio NPV EIRR 30 ปี 6.83% 30 ปี Rate 8% 77,188 210,917 2.73 13,370 12% 62,001 103,666 1.67 41,565 หากพิจารณาในมุมของความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ พบว่า โครงการมี B/C Ratio มากกว่า 1 ในทุกกรณี รวมถึงมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงถึง 6.83% ดังนั้น โครงการจึงมีความเหมาะสม ท่ีจะลงทุน ง-11

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คมู่ ือแบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวดั และกล่มุ จงั หวดั 3. ตัวอย่าง แบบสารวจ/ประเมินความเหมาะสมและความตอ่ เน่ืองของโครงการ แบบประเมินความเหมาะสมและความตอ่ เนื่องของโครงการ โครงการ/กจิ กรรม ........................................... วัน............ท่ี...........เดือน..........................พ.ศ. ณ ...................................................... โปรดทาเครือ่ งหมาย/ในช่องท่ีตรงกบั ความคิดเห็นและความพึงพอใจของทา่ น ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 1. ความเกย่ี วข้องกับโครงการ Ο เจ้าของโครงการ Ο ผูจ้ ดั การโครงการ Ο ผ้รู ว่ มขบั เคลอ่ื นโครงการ Ο ผูร้ บั ผลประโยชน์ Ο อนื่ ๆโปรดระบุ................................................................ 2. ระยะเวลาทมี่ สี ว่ นเกย่ี วข้องกับโครงการ Ο นอ้ ยกวา่ 1 เดือน Ο ตง้ั แต่ 1-3 เดือน Ο ตง้ั แต่ 3-6 เดือน Ο ตง้ั แต่ 6-12 เดือน 3. ภาคส่วนทีท่ ่านสงั กัดอยู่ Ο หนว่ ยงานรัฐ / รฐั วสิ าหกจิ จากสว่ นกลาง Ο หนว่ ยงานรัฐ / รฐั วิสาหกิจ ในพนื้ ที่ Ο ภาคเอกชน Ο ภาคการศึกษา / วิชาการ Ο ภาคประชาสังคม / หน่วยงานอิสระ ตอนที่ 2 แสดงความคิดเหน็ ท่ีตรงกบั ทา่ นมากท่ีสุด หวั ขอ้ มาก ระดับความคิดเหน็ /ความพึงพอใจ น้อยทสี่ ดุ / ท่ีสุด/ มาก/ ปาน น้อย/ ไม่พอใจ 1 โครงการ/กิจกรรม น้ี มีการดาเนินการสอดคลอ้ ง พอใจ คอ่ นขา้ กลาง/ ไมค่ ่อย กบั วตั ถุประสงค์ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี (5) พอใจ เฉยๆ พอใจ (1) (4) (3) (2) 2 รปู แบบและวธิ ีการในการดาเนนิ โครงการ / กิจกรรมมคี วามเหมาะสมกบั บรบิ ทของพื้นที่ 3 การดาเนนิ โครงการ / กิจกรรม มคี วามต่อเน่อื ง ง-12

รายงานชุดองค์ความรู้ คูม่ อื แบบประเมินคุณภาพแผนจงั หวดั และกลุ่มจงั หวดั หวั ขอ้ มาก ระดับความคดิ เหน็ /ความพึงพอใจ น้อยทส่ี ุด/ ท่ีสดุ / มาก/ ปาน น้อย/ ไมพ่ อใจ 4 การดาเนินโครงการ / กิจกรรม มกี ารสร้างการมี พอใจ คอ่ นข้า กลาง/ ไมค่ ่อย ส่วนร่วมกับคนในพ้ืนท่ี หรือมีการดึงผทู้ ่อี ยใู่ นพน้ื ท่ี (5) พอใจ เฉยๆ พอใจ (1) มารว่ มเป็นส่วนหนง่ึ ของโครงการไดอ้ ย่างเหมาะสม (4) (3) (2) 5 มกี ารวางแผนหรือมีแนวทางท่ีจะใหค้ นในพน้ื ที่ สามารถเข้ามารว่ มบรหิ ารจดั การ ทางใดทางหนึ่ง ไดใ้ นอนาคต 6 โครงการ / กจิ กรรมน้ีมผี ลผลติ ทเ่ี ป็นรปู ธรรม 7 โครงการ / กิจกรรมน้มี ีสามารถสรา้ งผลประโยชน์ ให้กับภาคสว่ นทมี่ ีความเกย่ี วขอ้ งได้จรงิ 8 ผู้จดั การโครงการสามารถดาเนนิ การโครงการได้ อยา่ งเหมาะสม 9 โครงการ / กิจกรรมนี้ มคี วามคมุ้ ค่า เมอ่ื เทยี บกับ งบประมาณท่ีมีการลงทนุ ไป 10 โครงการ / กิจกรรมน้ี มีศกั ยภาพเพยี งพอทจ่ี ะ สามารถดาเนนิ การตอ่ ไปได้ หากไดร้ บั การ สนับสนนุ จากหนว่ ยงานรัฐ 11 โครงการ / กิจกรรมน้ี มศี ักยภาพเพยี งพอทจ่ี ะ ขยายผลตัวกิจกรรม หรือขยายผลไปสู่พน้ื ทีอ่ ่ืน 12 ท่านมีความพงึ พอใจโดยรวมในการเปน็ สว่ นหนึง่ ของโครงการ / กจิ กรรมน้ี ตอนที่ 3 ระบปุ ัญหาและข้อเสนอแนะเพ่อื ปรับปรุงการจดั กจิ กรรม/โครงการในคร้ังต่อไป ปัญหา ข้อเสนอแนะเพ่อื ปรับปรุงในครัง้ ตอ่ ไป ง-13

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ ค่มู อื แบบประเมนิ คุณภาพแผนจังหวัดและกลุ่มจังหวดั ตอนท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะในการขยายผล …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนท่ี 5 ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ง-14

รายงานชุดองคค์ วามรู้ คู่มอื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจังหวดั ภาคผนวก จ 1. สาระสาคัญเกย่ี วกบั ตัวช้วี ัด 1.1 เกณฑ์และตวั ชวี้ ดั ความสาเร็จ การประเมนิ ผลโครงการนั้นตอ้ งมเี กณฑ์และตวั ช้วี ัด (Indicator) ระดบั ความสาเร็จของโครงการให้ทราบ โดยทั่วไปแล้วเกณฑ์ ที่ใช้ในการประเมินผลโครงการ (วรเดช จันทรศร และไพโรจน์ ภัทรนรากุล. 2541 : 44 ) มีดงั น้ี 1) เกณฑ์ประสิทธิภาพ (Efficiency) มีตัวช้ีวัดเช่น สัดส่วนของผลผลิตต่อค่าใช้จ่าย ผลิตภาพ ต่อหนว่ ยเวลา ผลติ ภาพต่อกาลงั คน ระยะเวลาในการใหบ้ ริการต่อผู้บริการ 2) เกณฑ์ประสิทธิผล (Effectiveness) มีตัวช้ีวัดเช่น ระดับการบรรลุเป้าหมาย ระดับการบรรลุ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ระดบั การมสี ว่ นร่วม ระดับความเส่ียงของโครงกการ 3) เกณฑ์ความพอเพียง (Adequacy) ตัวชี้วัด เช่น ระดับความพอเพียงของทรัพยากร การขาด แคลนปจั จัยการผลิต และปัจจยั อื่น เป็นต้น 4) เกณฑ์ความพึงพอใจ (Satisfaction) ตัวชี้วัด เช่น ระดับความพึงพอใจของโครงการ และผู้มี สว่ นได้สว่ นเสยี ของโครงการ เปน็ ต้น 5) เกณฑ์ความเป็นธรรม (Equity) ตัวช้ีวัดคือ การให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาส ความเป็นธรรม ระหวา่ งเพศ ระหว่างกลุ่มอาชีพ ฯลฯ 6) เกณฑ์ความก้าวหน้า (Progress) ตัวช้ีวัด เช่น ผลผลิตเปรียบเทียบกับเป้าหมายรวมกิจกรรม ท่ีทาแลว้ เสรจ็ ทรัพยากร และเวลาท่ใี ชไ้ ป มีความเหมาะสมเพยี งใด เป็นตน้ 7) เกณฑ์ความย่ังยืน ( Sustainability ) ตัวช้ีวัด เช่น ความอยู่รอดของโครงการด้านเศรษฐกิจ สมรรถนะด้านสถาบนั ความเปน็ ไปไดใ้ นด้านการขยายผลของโครงการ 8) เกณฑ์ความเสียหายของโครงการ ( Externalities ) ตัวชี้วัด เช่น ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบดา้ นเศรษฐกิจ ผลกระทบด้านสังคมและวัฒนธรรม เป็นต้น สาหรับตัวช้ีวัด (Indicators) ความสาเร็จของโครงการน้ัน หมายถึง ตัวช้ีวัดท่ีแสดงหรือระบุประเด็น ที่ต้องการจะวัดหรือประเมิน หรือตัวแปรทางเศรษฐกิจและสังคม ท่ีต้องทาการศึกษา โดยจะมีการระบุลักษณะ ทค่ี ่อนข้างเปน็ รปู ธรรม ท้ังสว่ นทม่ี ลี ักษณะเชงิ ปริมาณ และลกั ษณะเชงิ คุณภาพ ตัวอย่าง การจาแนกประเภทของตัวช้ีวัดตามลักษณะของส่ิงท่ีได้รับการประเมินตามแบบจาลอง การประเมนิ ผลตาม CIPPOI Model คือ 1) ตวั ชีว้ ดั ด้านบรบิ ท ( Context ) : ตัวช้ีวดั สามารพจิ ารณาไดจ้ ากสงิ่ ต่าง ๆ ดังน้ี (1) สภาวะแวดล้อมของ ก่อนมีโครงการ (ปัญหาวิกฤต) (2) ความจาเปน็ หรอื ความต้องการขณะนน้ั และอนาคต (3) ความเข้าใจรว่ มกันของทกุ ฝ่ายที่เก่ยี วข้องกบั โครงการ จ-1

รายงานชดุ องคค์ วามรู้ คมู่ อื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจังหวัดและกลุ่มจงั หวดั 2) ตวั ชี้วัดดา้ นปัจจัยนาเขา้ ( Input ): ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาไดจ้ ากสง่ิ ตา่ ง ๆ ดังนี้ (1) ความชัดเจนของวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ (2) ความพรอ้ มของทรพั ยากร เชน่ งบประมาณ คน วสั ดอุ ปุ กรณ์ เวลาและกฎระเบยี บ เปน็ ต้น (3) ความเหมาะสมของข้นั ตอนระหวา่ งปญั หา สาเหตุของปญั หา และกจิ กรรม 3) ตวั ช้ีวัดด้านกระบวนการ ( Process ) : ตวั ช้วี ดั สามารถพจิ ารณาได้จากสงิ่ ต่าง ๆ ดังนี้ (1) การตรวจสอบกิจกรรม เวลา และทรัพยากรของโครงการ (2) ความยอมรบั ของประชาชนและหนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับโครงการในพ้ืนท่ี (3) การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน และหนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ งกับโครงการ (4) ภาวะผู้นาในโครงการ 4) ตวั ชว้ี ัดดา้ นผลผลติ (Product) : ตัวช้ีวัดสามารถพจิ ารณาได้จากสงิ่ ตา่ ง ๆ ดังนี้ (1) อตั ราการมีงานทาของประชาชนที่ยากจน (2) รายไดข้ องประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการ (3) ความพึงพอใจของประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการ 5) ตวั ชว้ี ัดดา้ นผลลพั ธ(์ Outcomes ): ตัวชวี้ ัดสามารถพจิ ารณาไดจ้ ากสิ่งต่าง ๆ ดังน้ี (1) คณุ ภาพชีวติ ของตนเอง และครอบครัวตามเกณฑม์ าตรฐาน (2) การไมอ่ พยพยา้ ยถนิ่ (3) การมสี ่วนร่วมในการพัฒนาชมุ ชน 6) ตวั ชี้วัดดา้ นผลกระทบ(Impact ):ตวั ชี้วดั สามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่าง ๆ ดงั น้ี (1) ผลกระทบทางบวก / เปน็ ผลทค่ี าดหวงั จากการมีโครงการ (2) ผลกระทบทางลบ / เปน็ ผลท่ไี ม่คาดหวังจากโครงการ เกณฑ์ และตัวชี้วัดดังกล่าวน้ี สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลโครงการได้ดี ซ่ึงจะ ครอบคลมุ มติ ดิ ้านเศรษฐกิจ สังคม ดา้ นบรหิ ารจัดการ ด้านทรัพยากร และด้านสงิ่ แวดล้อม เปน็ ต้น นอกจากน้ัน ยังสามารถวัดถึงความสาเร็จ และความล้มเหลวของโครงการพัฒนาต่าง ๆ ของรัฐได้ ซึ่งในทางปฏิบัตินัก ประเมินผล จะตอ้ งนาเกณฑ์ และตวั ช้ีวดั ดงั กล่าวมาปรบั ใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ และบริบทของโครงการดว้ ย 1.2 เคร่ืองชี้วดั การประเมินผล 1) การประเมินผลเป็นการเปรยี บเทียบระหว่างผลการปฏิบัติงานจริง (Actual results) กบั ผลที่คาดว่า จะได้รับ (Expected results) โดยช้ีให้เห็นว่าปฏิบัติงานจริงเกิดข้ึนตรงกับเป้าหมายท่ีกาหนดไว้หรือไม่ โดยท่วั ไปตัวช้วี ดั จะต้องมีองคป์ ระกอบสาคัญ 3 ประการ คอื 2) ตัวช้ีวัด อาจจะมีทั้งตัวช้ีวัดเชิงปริมาณหรือคุณภาพ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องสามารถให้ค่าหรือ บง่ บอกลกั ษณะทช่ี ดั เจนของส่ิงทีจ่ ะทาการวดั วา่ มีปรมิ าณหรือคุณลักษณะอย่างไร จ-2

รายงานชดุ องค์ความรู้ คู่มอื แบบประเมินคณุ ภาพแผนจงั หวัดและกล่มุ จังหวดั 3) การกาหนดเกณฑ์มาตรฐาน ในการประเมินเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงเคล่ือนไหวในตวั ชว้ี ดั นั้น ๆ ถึงแม้ตัวช้ีวัดจะมีความชัดเจนในการกาหนดค่าแต่ยังไม่สามารถนาไปวิเคราะห์หาข้อสรุปในการประเมินได้ จนกวา่ จะไดม้ กี ารเปรยี บเทียบ กับเกณฑ์มาตรฐานหรือเปา้ หมายการดาเนินงานทกี่ าหนดไว้ 4) เง่ือนไขด้านเวลาและสถานท่ี ในการประเมินค่าของตัวช้ีวัด นอกจากข้ึนอยู่กับเกณฑ์มาตรฐาน เพ่ือการเปรียบเทียบแล้ว ยังข้ึนอยู่กับเง่ือนไขทั้งในด้านเวลาและสถานท่ี กล่าวคือ ตัวช้ีวัดจะบ่งบอกสถานภาพ ของสง่ิ ทจ่ี ะวัดเฉพาะในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือในขอบเขต บริเวณสถานทหี่ รือพืน้ ที่ ท่ไี ดร้ ะบไุ วใ้ นการประเมิน หรอื ตรวจสอบเท่านั้น ตวั ชวี้ ัดผลงาน หมายถึง 1) วัตถุ สิ่งของ คุณลักษณะท่ีสามารถสังเกตเห็น วดั ได้ในเชงิ ปริมาณ 2) ผลงานหรือส่ิงท่ีเกิดข้ึนจากการนาเอาทรัพยากร (Input) มาใช้ในการดาเนินกิจกรรม (Process) KPI (Key Performance Indicator) หรือ OVI (Objectively Verifiable Indicator) หมายถึง สิ่งท่ี แสดงภาพให้เข้าใจถึงความสาเร็จซ่ึงสามารถตรวจสอบได้ สังเกตได้หรือสอบวัดได้ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง โดย อาจเปน็ ลกั ษณะเฉพาะ หรือภาพรวมก็ได้ในเชงิ ปริมาณ และ/หรือ คุณภาพท่ีจะสามารถอธิบายถึงความสาเร็จได้ ครบถ้วนบริบูรณ์ หรือ อย่างน้อยจะต้องอธิบายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ในรูปของข้อความ อัตราส่วน สัดส่วน รอ้ ยละ หรือความสมั พันธ์ระหว่างข้อมูลในลักษณะตา่ ง ๆ นอกจากนยี้ งั จะตอ้ งมลี ักษณะเปน็ หลกั ฐานท่ีมีรอ่ งรอย แสดงวา่ มกี ารดาเนนิ งานจรงิ และมิใชค่ วามคิดเห็น หรอื คาบอกกลา่ ว ตัวชี้วัดทางสังคม (Social Indicators) หมายถึง สิ่งที่แสดงออกเป็นตัวเลขที่ใช้วัดแง่มุมต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับแนวคิดทางสังคม ซึ่งเป็นเชิงนามธรรมให้เป็นตัวแปรเชิงรูปธรรมท่ีสามารถจัดได้ภายใต้ระบบ สารสนเทศ อนั หน่ึงอันเดียวกนั เพอ่ื ประกอบการตัดสินใจของผู้บรหิ าร 1.3 ค่าของตัวชวี้ ัด โดยท่ัวไปค่าของตัวช้ีวัดจะแสดงออกในรปู ของตัวเลข 1) จานวน (Number) คือ ตัวเลขท่ีแสดงถึงจานวนส่ิงของหน่ึง เช่น จานวนศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี ประจาตาบล จานวนสวนสาธารณะในกรุงเทพ และอ่ืน ๆ เป็นต้น 2) ร้อยละ (Percentage) คือ จานวนของเลขกลุ่มหน่ึง ซึ่งนามาเปรียบเทียบกับเลขอีกกลุ่มหนึ่ง โดยปรับใหเ้ ลขกลุ่มหลงั มคี ่าเทา่ กบั 100 เชน่ รายได้จากภาษีเป็นรอ้ ยละ 35 ของรายจา่ ยประจา เปน็ ต้น 3) อัตราส่วน (Ratio) คือ ข้อมูลท่ีแสดงความสัมพันธ์เปรียบเทียบระหว่างจานวนของเลขกลุ่มหนึ่ง กับจานวนของเลขอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันหรือเก่ียวข้องกัน เช่น อัตราส่วนของครูต่อนักเรียน เท่ากับ 1:25 เปน็ ต้น 4) สดั ส่วน (Proportion) คอื ข้อมลู ท่ีแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งจานวนของเลขกลุ่มหนงึ่ กบั จานวน ของเลขอีกกลุ่มหน่ึง โดยท่ีจานวนเลขในกลุ่มแรกน้ัน เป็นส่วนหนึ่งหรือรวมอยู่ในจานวนของเลขกลุ่มหนึ่งด้วย เชน่ เจ้าหนา้ ทก่ี ารเกษตรทมี่ ีความรู้ดา้ นเทคโนโลยกี ารเกษตร เท่ากบั 3 ใน 5 ของเจ้าหน้าท่ที ง้ั หมด เปน็ ตน้ จ-3

รายงานชดุ องค์ความรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจังหวดั 5) อัตรา (Rate) คือ อัตราส่วนระหว่างเลขจานวนหนึ่งกับเลขอีกจานวนหน่ึงภายในระยะเวลาหน่ึง เชน่ จานวนผู้เขา้ รับการบาบัดการติดยาเสพติดทุก 500 คน จะมีผู้เข้ารับการบาบัดซ้า 10 คน เป็นต้น 6) ค่าเฉลี่ย (Average Mean) คือ ตัวเลขหน่ึงซ่ึงเฉล่ียจากกลุ่มตัวเลขจานวนหน่ึงท่ีเป็นประเภท เดียวกัน (รวมคา่ ของจานวนตวั เลขกลุ่มตัวอยา่ งหนึง่ แล้วหารด้วยจานวนตัวอยา่ งนัน้ ทั้งหมด) 1.4 สรปุ รายละเอียดของ KPI (Key Performance Indicator) ทีค่ วรจะต้องมี (1) ชอื่ ตัวชี้วดั (Name of measure) (2) ความหมายของตัวช้ีวัด (Definition) (3) วตั ถุประสงคข์ องตวั ชวี้ ดั (Purpose) (4) สตู รในการคานวณ (Formula) (5) หนว่ ยท่วี ดั (Unit of measures) (6) ความถใ่ี นการเก็บข้อมูลและรายงาน (Frequency) (7) แหลง่ ของขอ้ มลู (Sources) (8) ใครเป็นผู้ตัง้ เปา้ (Target setting) (9) ใครเกบ็ ขอ้ มูลและวเิ คราะห์ (Who measures) (10) ใครเป็นเจ้าภาพ (Who is the owner: รบั ผดิ ชอบในการบรรลุเป้าหมายที่กาหนด) (11) ใครเป็นผ้สู นบั สนนุ (Who is the supporter) (12) ข้อมูลปฐี าน (Baseline) (13) เปา้ หมาย (Target) 2. ตัวอยา่ งการคานวณตามเกณฑ์ประเมนิ คุณภาพแผนจงั หวัด/กลุ่มจังหวัด 1) ตัวอยา่ งการคานวณความสามารถบรรลตุ ามตัวช้วี ัดเป้าหมายการพัฒนาของแผนพฒั นาฯ 2) ตวั อยา่ งการคานวณความสามารถบรรลุตามตวั ชว้ี ัดวตั ถุประสงค์ของประเด็นการพฒั นา จ-4

รายงานชุดองค์ความรู้ คู่มอื แบบประเมนิ คณุ ภาพแผนจงั หวัดและกลุ่มจังหวดั 1) ตวั อยา่ งการคานวณความสามารถบรรลุตามตวั ช้ีวัดเปา้ หมายการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ เป้าหมายการพฒั นา ตวั ชีว้ ดั คา่ เป้าหมาย ผลการปฏบิ ัตงิ าน คานวณเปน็ รอ้ ยละความสาเรจ็ เมอื่ ตามแผน ตามแผน เทียบกบั เปา้ หมายตามแผน (รอ้ ยละ) 4.00 1. การทอ่ งเท่ียว ธรุ กจิ การเกษตร 1.1 อตั ราการขยายตวั ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของกลมุ่ จงั หวัด (ร้อยละ) 400,000 2.74 68.50 การคา้ การลงทุน มีการเตบิ โตอยา่ ง 1.2 มลู ค่าผลติ ภัณฑม์ วลรวมของกลมุ่ จังหวดั (ล้านบาท) ตอ่ เนื่อง 1.3 อตั ราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑม์ วลรวมภาคบริการของกลุม่ จงั หวดั (GPP ภาคบรกิ าร 8 374,015 93.50 นอกเหนือจากบรกิ ารภาครฐั ) (ร้อยละ) 2. อัตลักษณ์วัฒนธรรมล้านนาและ 1.4 อัตราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรของกลุ่มจังหวัด (ร้อยละ) 6.47 80.88 ภมู ิปญั ญาทองถน่ิ ไดร้ บั การส่งเสรมิ 1.5 อัตราการขยายตวั ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภาคอตุ สาหกรรมของกลุ่มจังหวัด (ร้อยละ) เพื่อเพมิ่ คุณคา่ ทัง้ ทางเศรษฐกจิ และ 2.1 จานวนทีเ่ พมิ่ ขนึ้ ของผลติ ภณั ฑ์และบรกิ ารท่ีไดร้ ับการพัฒนาต่อยอดด้วยอตั ลกั ษณ์ทางวฒั นธรรม 3 2.29 76.33 สงั คม ล้านนา (ผลติ ภัณฑ์และบรกิ าร) 6 5.12 85.33 3. ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 2.2 มลู ค่าของสินคา้ และบริการทีเ่ ป็นอตั ลักษณ์ล้านนาและภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ทไี่ ด้รบั การสร้างสรรค์ 100 78 78 ส่งิ แวดล้อมไดร้ บั การอนุรกั ษ์ฟื้นฟู พฒั นาคณุ ภาพและเพม่ิ คณุ คา่ (บาท) อย่างมีส่วนร่วมเออื้ ตอ่ การพฒั นา 3.1 อตั ราการเพิม่ ข้ึนของพืน้ ทป่ี า่ ของกลุม่ จังหวดั (รอ้ ยละ) 250,000 180,000 72 อย่างยง่ั ยืน 3.2 สดั ส่วนของขยะมูลฝอยชมุ ชนที่ไดร้ ับการจัดการอยา่ งถูกต้อง(ร้อยละ) 80 72.96 91.20 3.3 ร้อยละทีเ่ พ่ิมข้นึ ของพน้ื ทแี่ หลง่ น้าทางธรรมชาติของกลุ่มจงั หวัดที่ไดร้ ับการพัฒนา (ร้อยละ) 100 73.72 73.72 ค่าเฉล่ยี ของผลรวมความสาเรจ็ ของทกุ ตัวชวี้ ดั เปา้ หมายการพฒั นาเมอ่ื เทียบกบั เปา้ หมายตามแผน 30 20 66.66 78.61 จ-5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook