หนงั สือเรยี นสาระการพัฒนาสงั คม รายวิชา สค23088 หนา้ ทีพ่ ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่เกา้ 2 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเมอื งประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ สำนกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำนำ กกกกกกกหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวชิ า สค23088 หน้าทพี่ ลเมืองตามรอย พระยุคลบาทรัชกาลที่เก้า 2 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดทาข้ึนเพื่อเป็นส่ือการเรียนรู้ของหลักสูตรรายวิชานี้ และให้นกั ศกึ ษาท่ีลงทะเบยี นเรยี นหลกั สูตรรายวชิ านี้ ได้ศึกษาเรียนร้จู ากสอ่ื หนังสือเรียนฉบับนี้ ส่งผล ให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการปฏิบัติหน้าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ีเก้า หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงตระหนักถึงความสาคัญคุณค่า และประโยชน์ท่ีจะได้รับจากการเรียนรู้หน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก้า นอกจากนี้ ผู้ท่ีสนใจสามารถศึกษา และนาไปสู่การปฏิบัติหน้าท่ีพลเมืองดีตามรอยพระยุคลบาทของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไดด้ ว้ ยเชน่ เดียวกนั กกกกกกกหนังสือเรียนฉบับน้ีประกอบด้วย (1) คาแนะนาการใช้หนังสือเรียน (2) โครงสร้างรายวิชา ได้แก่ สรุปสาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ขอบข่ายเน้ือหา และส่ือประกอบการเรียน (3) บทที่ 1 ความรพู้ ืน้ ฐานเก่ยี วกบั หนา้ ท่ีพลเมอื ง บทที่ 2 ความหมายและความสาคัญของหน้าที่พลเมืองตามรอย พระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 บทที่ 3 หนา้ ทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ด้วยทศพิธราชธรรม บทท่ี 4 หน้าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชดารัส บทที่ 5 หน้าที่พลเมือง ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามหลักการทรงงาน บทที่ 6 หน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ และบทที่ 7 การประยุกต์ใช้หน้าที่พลเมือง ตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ในชีวิตประจาวัน โดยในแต่ละบทประกอบด้วย สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง ขอบข่ายเนื้อหา ส่ือประกอบการเรียน เร่ืองที่ และกิจกรรมท้ายบท (4) บรรณานุกรม และ (5) ภาคผนวก กกกกกกกหนังสือเรียนฉบับน้ีสาเร็จลงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับการสนับสนุนให้ความรู้ในการจัดทา จาก รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี ศรีสังข์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รวมถึง คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ เมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ ข้าราชการครู บรรณารักษ์ ครูอาสาสมัคร นอกโรงเรยี น ครู กศน.ตาบล ครูศนู ยก์ ารเรยี นชมุ ชน บรรณารักษ์อัตราจ้าง และเจ้าหน้าท่ีบริหารงาน ท่ัวไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัด ประจวบครี ขี ันธ์ ขอขอบพระคณุ และขอขอบคณุ ทุกท่าน มา ณ ทนี่ ้ี (นางสาวขวัญจติ ต์ ศรจี ันทนากุล) ผู้อานวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
สำรบญั หน้า คาแนะนาการใช้หนังสือเรียน………………………………………………………………………………………….. 1 โครงสร้างรายวิชา………………………………………………………………………………………………………….. 2 กกกสรุปสาระสาคัญ……………………………………………………………………………………………………… 2 กกกผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั . …………………………………………………………………………………………. 9 กกกขอบขา่ ยเน้ือหา............................................................................................................... ..... 9 กกกส่ือประกอบการเรียน…………………………………………………………………………………………...... 11 12 บทที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับหน้าทพ่ี ลเมือง............................................................................. 12 กกกสาระสาคญั .................................................................................................................... ....... 12 กกกผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั ……………………………………………………………………………………………. 12 กกกขอบข่ายเน้ือหา………………………………………………………………………………………………………. 13 กกกส่ือประกอบการเรยี น………………………………………………………………………………………………. 13 กกกเร่ืองท่ี 1 ความหมายของหนา้ ทพ่ี ลเมือง............................................................................... 15 กกกเร่ืองที่ 2 ความสาคัญของหนา้ ท่ีพลเมือง.............................................................................. 16 กกกเร่ืองท่ี 3 แนวทางการปฏิบตั ติ นในการเปน็ สมาชิกดีต่อสงั คม.............................................. 19 กกกเร่ืองที่ 4 คุณธรรมของการเป็นพลเมอื งดี............................................................................. 20 กกกกิจกรรมทา้ ยบท.................................................................................................................... 23 บทท่ี 2 ความหมายและความสาคญั ของหนา้ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9.......... 23 กกกสาระสาคัญ.................................................................................................................... ....... 23 กกกผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง……………………………………………………………………………………………. 23 กกกขอบข่ายเนื้อหา………………………………………………………………………………………………………. 23 กกกสื่อประกอบการเรียน………………………………………………………………………………………………. 24 กกกเรื่องที่ 1 ความหมายของหน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9.......................... 25 กกกเรื่องที่ 2 ความสาคัญของหน้าท่พี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9.......................... 26 กกกกิจกรรมทา้ ยบท.................................................................................................................... 29 บทที่ 3 หน้าที่พลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ด้วยทศพธิ ราชธรรม............................ 29 กกกสาระสาคญั .................................................................................................................... ....... 31 กกกผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง……………………………………………………………………………………………. 31 กกกขอบขา่ ยเนื้อหา………………………………………………………………………………………………………. 31 กกกสื่อประกอบการเรยี น………………………………………………………………………………………………. 32 กกกเร่ืองท่ี 1 ความหมายของทศพิธราชธรรม.............................................................................
สำรบญั (ตอ่ ) หน้า กกกเร่ืองท่ี 2 แนวทางปฏิบตั ิหนา้ ที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั การที่ 9ด้วยทศพธิ ราชธรรม.... 32 กกกกจิ กรรมทา้ ยบท.................................................................................................................... 50 บทท่ี 4 หนา้ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชดารัส.............................. 52 กกกสาระสาคญั ........................................................................................................................... 52 กกกผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั ……………………………………………………………………………………………. 54 กกกขอบขา่ ยเน้ือหา………………………………………………………………………………………………………. 54 กกกสื่อประกอบการเรียน………………………………………………………………………………………………. 54 กกกเรื่องที่ 1 หน้าที่พลเมืองตามพระราชดารสั ความสขุ ในการดาเนนิ ชีวิต................................ 55 กกกเรื่องที่ 2 หนา้ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระราชดารัส เกีย่ วกับเด็ก นกั เรียนและเยาวชน และ นกั ศกึ ษา...................................................................................................................................... 57 กกกเร่ืองท่ี 3 หนา้ ทพ่ี ลเมอื งตามพระราชดารัส ทเี่ ก่ียวข้องกับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง.... 62 กกกกิจกรรมท้ายบท.................................................................................................................... 85 บทที่ 5 หนา้ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามหลักการทรงงาน..................... 87 กกกสาระสาคญั .................................................................................................................... ....... 87 กกกผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง……………………………………………………………………………………………. 87 กกกขอบข่ายเน้ือหา………………………………………………………………………………………………………. 87 กกกสื่อประกอบการเรียน………………………………………………………………………………………………. 88 กกกเร่ืองที่ 1 หนา้ ทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามหลักการทรงงาน................. 88 กกกเร่ืองที่ 2 แนวทางการปฏบิ ัตหิ น้าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามหลกั การทรงงาน................................................................................................................... 111 กกกกจิ กรรมท้ายบท.................................................................................................................... 112 บทที่ 6 หน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชจรยิ วัตร และพระราชกรณียกิจ...........................……………........................................................................ 115 กกกสาระสาคญั .................................................................................................................... ....... 115 กกกผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง……………………………………………………………………………………………. 116 กกกขอบข่ายเน้ือหา………………………………………………………………………………………………………. 116 กกกส่ือประกอบการเรยี น………………………………………………………………………………………………. 116 กกกเรื่องที่ 1 หนา้ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชจรยิ วตั ร................. 117 กกกเร่ืองท่ี 2 หนา้ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชกรณียกิจ............... 129 กกกกจิ กรรมทา้ ยบท.................................................................................................................... 143
สำรบญั (ตอ่ ) หนา้ บทท่ี 7 การประยกุ ต์ใชห้ น้าที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ในชวี ติ ประจาวัน......... 146 กกกสาระสาคญั .................................................................................................................... ....... 146 กกกผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง……………………………………………………………………………………………. 147 กกกขอบข่ายเน้ือหา………………………………………………………………………………………………………. 147 กกกส่ือประกอบการเรยี น………………………………………………………………………………………………. 148 กกกเร่ืองที่ 1 การน้อมนาทศพศิ ราชธรรมไปใช้ในชีวติ ประจาวัน............................................... 148 กกกเร่ืองที่ 2 การนอ้ มนาพระราชดารัสไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั .................................................. 167 กกกเร่ืองที่ 3 การน้อมนาหลักการทรงงานไปใช้ในชีวิตประจาวัน............................................. 178 กกกกจิ กรรมทา้ ยบท.................................................................................................................... 187 บรรณานกุ รม………………………………………………………………………………………………………………… 190 ภาคผนวก.................................................................................................................................... 194 กกกก เฉลยกิจกรรมท้ายบท………………………………………………………………………………………….. 195 กกกข การอนมุ ตั ใิ ชห้ นงั สือเรียน…………………………………………………………………………………….. 201 กกกค รายชื่อคณะผู้จดั ทา……………………………………………………………………………………………… 203
1 คาแนะนาการใชห้ นงั สือ กกกกกกกหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค23088 หน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่เก๎า 2 ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ๑ จังหวัดประจวบคีรีขันธ๑ เป็นสื่อหนังสือเรียนที่จัดทาขึ้นให๎ผู๎เรียน ที่เป็นนักศึกษาของศูนย๑การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ๑ จังหวัดประจวบคีรีขันธ๑ ได๎ศึกษา เรียนรู๎ รวมถึงผ๎ูท่ีสนใจเรียนรู๎หน๎าท่ีพลเมืองดี ได๎ศึกษาเรียนร๎ูและนาไปใช๎ในชีวิตประจาวันได๎ โดยเฉพาะผ๎ูเรียนท่ีเป็นนักศึกษา และลงทะเบียนเรียนหลักสูตรรายวิชา สค23088 หน๎าที่พลเมือง ตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ีเก๎า 2 จานวน 3 หนวํ ยกติ จานวน 120 ชั่วโมง ได๎ใช๎เป็นส่ือการเรียนรู๎ ใหบ๎ รรลมุ าตรฐานของหลักสตู รของรายวชิ าน้ี กกกกกกกในการศึกษาหนงั สือเรียนเลํมน้ี ผ๎เู รยี นทเ่ี ป็นนกั ศกึ ษา ควรมีแนวทางในการศึกษาหนงั สือ เรยี นใหม๎ ีประสิทธภิ าพ และเกดิ ประสิทธผิ ลได๎อยํางแทจ๎ ริง ตามลาดบั ตอํ ไปนี้ กกกกกกก1. ให๎นักศึกษา ศึกษาโครงสรา๎ งรายวิชา ประกอบดว๎ ย สรุปสาระสาคัญ ผลการเรยี นรู๎ ท่ีคาดหวัง ขอบขํายเนื้อหา และสื่อประกอบการเรียน ใหเ๎ ข๎าใจกํอนท่จี ะศึกษารายละเอียดเนอื้ หาใน แตํละบท ในลาดบั ตํอไป กกกกกกก2. ใหน๎ กั ศกึ ษา ศึกษารายละเอียดของเน้ือหาในแตลํ ะบทมที ั้งหมด 7 บท ในแตํละบท ประกอบด๎วย สาระสาคัญ ผลการเรียนรู๎ที่คาดหวัง ขอบขํายเนื้อหา ส่ือประกอบการเรียน และ รายละเอียดในแตํละเร่ืองของบทนั้นๆ ตํอจากนั้นให๎ทากิจกรรมท๎ายบท เพื่อสรุปความร๎ูท่ีได๎จาก การศึกษาเน้ือหาในแตํละเรื่องของบทน้ันๆ หลังจากนั้นผู๎เรียนท่ีเป็นนักศึกษาสามารถตรวจสอบผล การตอบหรอื ผลการทากิจกรรมท๎ายบทได๎จากภาคผนวก ก. เฉลยกิจกรรมท๎ายบทของบทนั้นๆ ถ๎าใน กรณีผลการตรวจสอบคาตอบไมํถูกต๎อง ให๎นักศึกษาอํานทบทวนเนื้อหาของเรื่องน้ันๆ ใหมํอีกครั้ง นอกจากน้นี กั ศึกษาสามารถนาผลการตอบกิจกรรมท๎ายบท ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับครูผ๎ูสอนรายวิชา นี้หรือเพื่อนนักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนรายวิชานี้ หรือเพ่ือนนักศึกษาคนอื่นๆ ในระดับการศึกษา เดียวกนั ก็ได๎ กกกกกกก3. หนังสอื เรยี นเลมํ น้ีประกอบด๎วย 7 บท ดงั น้ี กกกกกกกกก บทท่ี 1 ความร๎พู ืน้ ฐานเกย่ี วกบั หนา๎ ท่ีพลเมือง กกกกกกกกก บทท่ี 2 ความหมายและความสาคัญของหน๎าทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลท่ี 9 กกกกกกกกก บทท่ี 3 หน๎าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ดว๎ ยทศพธิ ราชธรรม กกกกกกกกก บทที่ 4 หนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชดารสั กกกกกกกกก บทที่ 5 หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามหลักการทรงงาน กกกกกกกกก บทท่ี 6 หนา๎ ทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชจรยิ วตั ร และพระราชกรณียกจิ กกกกกกกกก บทที่ 7 การประยุกตใ๑ ชห๎ นา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ในชีวติ ประจาวัน
2 โครงสรา้ งรายวชิ า สรปุ สาระสาคญั กกกกกกก1. บทท่ี 1 ความรพ๎ู นื้ ฐานเกยี่ วกับหน๎าทีพ่ ลเมือง กกกกกกก1. 1.1 หนา๎ ที่พลเมอื ง หมายถงึ การทบี่ ุคคลในชุมชน สังคม ประเทศ ต๎องปฏิบัติตาม กฎหมาย ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของชาติ คาสัง่ สอน ของพอํ แมํ ครูอาจารย๑ มีความ สามัคคีเอ้ือเฟื้อเผือ่ แผํซ่งึ กันและกัน ร๎ูจักรับผิดชอบช่ัวดีตามหลักจริยธรรม และหลักธรรมของศาสนา มีความรอบรู๎ มีสติป๓ญญา ขยันขันแข็ง สร๎างความเจริญก๎าวหน๎าให๎แกํตนเอง ครอบครัว สังคม และ ประเทศชาติ กกกกกกก1. 1.2 ความสาคญั ของหน๎าท่ีพลเมอื งท่มี ีตํอประเทศชาติ (1) ตอ๎ งจงรกั ภักดแี ละรักษาไว๎ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย๑ (2) ต๎องรักษาไว๎ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตย (3) ต๎องชํวยกนั ปอู งกันประเทศ (4) ตอ๎ งปฏิบตั ติ ามกฎหมายบ๎านเมืองอยํางเครํงครัด (5) ต๎องให๎ความ รํวมมอื ชํวยเหลอื แกรํ าชการ และ (6) ตอ๎ งเสยี ภาษีอากรตามทก่ี ฎหมายบัญญัติไว๎ กกกกกกก1. 1.3 แนวทางการปฏิบัติตนในการเป็นสมาชิกท่ดี ขี องสงั คมต๎องปฏิบัตติ ามกฎหมาย วัฒนธรรม ประเพณี และปฏิบตั ติ นตามสิทธิหน๎าท่ีตามระบอบประชาธปิ ไตย กกกกกกก1. 1.4 คุณธรรมของการเป็นพลเมืองท่ีดี มี 8 ประการ คือ (1) ความจงรักภักดตี อํ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑ (2) การยึดม่ันในหลักธรรมของศาสนาท่ีตนเองนับถือ (3) ความซื่อสัตย๑ (4) ความเสียสละ (5) ความรับผิดชอบ (6) การมีระเบียบวินัย (7) การตรงตํอเวลา และ (8) ความ กล๎าหาญทางจรยิ ธรรม กกกกกกก2. บทท่ี 2 ความหมาย และความสาคัญของหน๎าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รชั กาลท่ี 9 กกกกกกก1. 2.1 หนา๎ ทพี่ ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลท่ี 9 หมายถึง การทปี่ ระชาชน หรือ บุคคลในประเทศไทย ได๎น๎อมนาแนวทางการปกครองด๎วยทศพิธราชธรรม พระราชดารัสท่ีสาคัญ หลักการทรงงาน รวมถึงพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ ท่ีทรงเป็นแบบอยํางเป็นท่ียอมรับ ท้ังในระดับประเทศ และนานาประเทศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาศึกษาเรียนรู๎และนาไปเป็นแนวทางปฏิบัติในการดาเนินชีวิต หรือการประกอบอาชีพเพ่ือให๎ตนเอง มคี ุณภาพชีวิตท่ดี ี มีความเข๎มแข็ง และมั่นคง สงํ ผลตํอเนื่องตํอการพฒั นาประเทศ และโลกได๎ กกกกกกก1. 2.2 ความสาคัญของหน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ชวํ ยให๎พลเมือง มีจติ สาธารณะ มสี ํวนรํวมหรือใหค๎ วามรวํ มมือทาภารกิจ เพื่อสวํ นรวมของสาธารณะ หรือของชาติ ทาใหส๎ งั คม ประเทศ มีความมน่ั คงผาสกุ และเจรญิ ก๎าวหน๎าได๎ กกกกกกก3. บทที่ 3 หน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ดว๎ ยทศพิธราชธรรม กกกกกกก1. 3.1 ทศพิธราชธรรม หมายถงึ เป็นหลกั ธรรมหรอื จริยวตั รประจาพระเจา๎ แผนํ ดนิ หรือ เป็นคุณธรรมประจาตนของผู๎ปกครองบ๎านเมือง และยังประโยชน๑สุขให๎เกิดแกํประชาชนบุคคล ธรรมดา ท่ีเป็นผู๎บริหารระดับสูงในทุกองค๑กร สามารถใช๎ทศพิธราชธรรมในการปกครององค๑กรของ ตนเองให๎มีความเปน็ ไปโดยธรรม
3 กกกกกกก1. 3.2 แนวทางปฏิบัติหนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ด๎วย ทศพธิ ราชธรรม มี 10 ประการ คอื กกกกกกก1. 3.2 3.2.1 ทาน คือ การให๎ หมายถงึ การสละทรัพย๑ ส่งิ ของ เพอ่ื ชวํ ยเหลือคนที่ด๎อย และอํอนแอกวํา แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการเป็นผ๎ูให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็นทรัพย๑สิน หรือสิ่งของแกํผู๎ยากไร๎ ผู๎ด๎อยโอกาส และผู๎ตกทุกข๑ได๎ยากตามที่เราทาอยูํเสมอแล๎ว เราก็อาจจะให๎ น้าใจแกํผ๎ูอ่ืนได๎ เชํน ให๎กาลังใจแกํผ๎ูตกอยูํในห๎วงทุกข๑ ให๎ข๎อแนะนาท่ีเป็นความรู๎แกํผู๎รํวมงานหรือ ผ๎ูใต๎บังคับบัญชา ให๎รอยย้ิม และปิยวาจาแกํญาติพี่น๎อง เพื่อนฝูง รวมถึงบุคคลที่มารับบริการจากเรา เป็นต๎น การเป็นผ๎ูให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็นทรัพย๑สินหรือสิ่งของแกํผู๎ยากไร๎ ผู๎ด๎อยโอกาส แล๎วสามารถให๎คาแนะนา หรอื ให๎กาลังใจดังกลําว ยงั สามารถให๎อภัยทาน คือ การยกโทษให๎กับบุคคล ทท่ี าใหเ๎ ราร๎สู ึกไมสํ บายใจ หรอื ทาใหเ๎ ราไดร๎ ับกระทบกระเทือน ท้ังดา๎ นวาจา กาย และใจดว๎ ย กกกกกกก1. 3.2 3.2.2 ศลี คือ การตั้งอยใํู นศลี หมายถึง มีความประพฤตดิ งี าม เปน็ ตวั อยาํ งทดี่ ี แกํคนท่ัวไป แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการประพฤติที่ดีงาม ตามหลักศาสนาของตน อยํางน๎อยก็ ขอให๎เราได๎ปฏิบัติตามศีล 5 คือ ไมํฆําสัตว๑ตัดชีวิต ไมํลักขโมยของของผู๎อื่น ไมํลํวงละเมิดลูกเมียเขา ไมํพูดโกหก หรือพูดสํอเสียดยุยง และควรทาตนให๎หํางไกลจากเหล๎า บุหรี่ หรืออบายมุขตําง ๆ นอกจากน้ีให๎นาศีล 5 ท่ยี ดึ ถือปฏบิ ัตไิ ปควบคมุ พฤตกิ รรมของตนเอง ให๎เคารพกฎหมายของบา๎ นเมอื ง อยาํ งเครํงครดั ก็จะชํวยใหส๎ งั คมไทยอยํรู ํวมกันได๎อยาํ งมคี วามสุข กกกกกกก1. 3.2 3.2.3 ปรจิ จาคะ คอื บรจิ าค หมายถงึ การเสียสละความสุขสาราญของตนเพอ่ื ประโยชน๑สุขของหมํูคณะ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการเสียสละความสุขสํวนตนเพ่ือความสุข หรือประโยชน๑ของสํวนรวม ซึ่งอาจจะเป็นครอบครัว หนํวยงาน หรือเพื่อนรํวมงานของเราก็ได๎ เชํน ครอบครัว พํอบ๎านเสียสละความสุขสํวนตัวด๎วยการเลิกด่ืมเหล๎า ทาให๎ลูกเมียมีความสุข และ เพือ่ นบ๎านกส็ ขุ ดว๎ ย เพราะไมํตอ๎ งฟง๓ เสียงอาละวาด ดาํ ทอทุบตีกัน หรือบุคคลอาจจะเสียสละเวลาชํวง ท่ีต๎องอยํูกับครอบครัวในตอนเย็นอยํูชํวยเพื่อนทางาน หรือไปเข๎าคํายพัฒนาชนบท อาสาไปดูแลเด็ก ในสถานเล้ียงเด็กกาพร๎าเป็นครั้งคราว หรือเสียสละรํางกาย /อวัยวะหลังตายแล๎วเพื่อการศึกษา เป็นต๎น ซง่ึ การเสยี สละดังกลาํ วถือวาํ ไดเ๎ ป็นการบรจิ าค เสยี สละความสุขสวํ นตัว เพ่ือสวํ นรวม กกกกกกก1. 3.2 3.2.4 อาชชวะ คอื ความซื่อตรง หมายถึง มีความซ่ือสตั ย๑สุจรติ มคี วามจรงิ ใจ ไมํกลับกลอก แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการดาเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจ/หน๎าที่การงานตํางๆ ด๎วยความซื่อสตั ย๑สจุ รติ ไมํคดิ คดโกงหรอื หลอกลวงผอ๎ู นื่ เชํน ถ๎าเราขายของ ก็ไมํเอาของไมํดีไปหลอก ขายลูกค๎า เปน็ ข๎าราชการ พนักงานบริษัท ห๎างร๎าน ก็ไมํคอรัปชั่นทั้งเวลา ทรัพย๑สินของหนํวยงานตน เพราะถ๎าทุกคนเอาเปรยี บหรือโกงกิน ขาดความซือ่ สัตย๑ สจุ ริต จะทาให๎หนํวยงานเสียหาย เดือดร๎อน แม๎เราจะได๎ทรัพย๑สินไปมากมาย แตํเราไมํเจริญก๎าวหน๎า ถูกคนรุมประณาม และแม๎คนอ่ืนจะไมํร๎ู แตํตัวเรายํอมรู๎อยํูแกํใจ จะไมํมีความสุขกาย สบายใจ เพราะกลัวคนอื่นจะมาร๎ูความลับตลอดเวลา ผ๎ทู ป่ี ระพฤติตนด๎วยความซื่อตรง แมไ๎ มรํ า่ รวยเงินทอง แตํก็มคี วามสุขท้งั กาย ใจได๎ กกกกกกก1. 3.2 3.2.5 มทั ทวะ คอื ความอํอนโยน หมายถงึ มีกริ ิยาสภุ าพ มีสมั มาคารวะ วาจา อํอนหวาน มีความนุํมนวล ไมํเยํอหยิ่ง ไมํหยาบคาย แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการทาตัวสุภาพ นุํมนวล ไมเํ ยํอหยง่ิ ถอื ตวั หรือแสดงกิริยาวาจา หยาบคายกับใคร ไมวํ าํ จะเปน็ ผ๎ูใหญํ ผู๎นอ๎ ยหรือเพ่ือน
4 ในระดับเดียวกัน การทาตัวเป็นผ๎ูท่ีมีความอํอนน๎อมถํอมตน จะทาให๎ไปที่ไหนคนก็ให๎การต๎อนรับ เพราะอยํใู กล๎แล๎วสบายใจ ไมรํ อ๎ นรํมุ หากบุคคลแสดงกิรยิ าหยาบคาย กา๎ วรา๎ ว คนกถ็ อยหําง ดังนนั้ หลักธรรมขอ๎ น้ี จึงเป็นการสร๎างเสนหํ อ๑ ยาํ งหน่งึ ให๎แกตํ วั เราด๎วย กกกกกกก1. 3.2 3.2.6 ตบะ คอื ความเพียร หมายถงึ การเพียรพยายามไมใํ หค๎ วามมัวเมาเขา๎ ครอบงาจิตใจ ไมํลุํมหลงกับอบายมุขและส่ิงชั่วร๎าย ไมํหมกมุํนกับความสุขสาราญ แนวปฏิบัติของ พลเมืองดี ด๎วยการให๎ปฏิบัติหน๎าท่ีการงานท่ีรับผิดชอบด๎วยความมุมานะ อดทน ขยัน มํุงม่ัน และทา แตํส่ิงที่ดี ความถูกต๎อง ฝุาฟ๓นอุปสรรคตําง ๆ จนประสบความสาเร็จ ด๎วยความพากเพียรนี้จะทาให๎ เราภาคภูมิใจเมือ่ งานสาเร็จ และจะทาใหเ๎ รามีประสบการณเ๑ กํงกล๎าขน้ึ นอกจากนี้ ยงั สอนให๎เราสูช๎ ีวติ ไมยํ อมแพอ๎ ะไรงาํ ยๆ กกกกกกก1. 3.2 3.2.7 อักโกธะ คือ ความไมโํ กรธ หมายถึง มีจติ ใจมน่ั คง มีความสขุ มุ เยือกเย็น อดกล้ัน ไมํแสดงความโกรธหรือความไมํพอใจให๎ปรากฏ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการฝึกฝน ควบคุมอารมณ๑ของตนเอง ไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายามระงับยับยั้งความโกรธอยูํเสมอ แม๎ใน หลาย ๆ สถานการณ๑จะทาได๎ยาก แตํหากเราสามารถฝกึ ฝน ไมํใหเ๎ ป็นคนโมโหงําย และพยายามระงับ ยบั ยั้งความโกรธอยํเู สมอ จะเปน็ ประโยชน๑ตํอเราหลายอยําง เชํน ทาให๎เราสุขภาพจิตดี หน๎าตาผํองใส ขอ๎ สาคัญ ทาใหเ๎ รารกั ษามิตรไมตรหี รือสมั พันธภาพกบั ผู๎อื่นไว๎ได๎ อันมผี ลใหบ๎ ุคคลน้ันเปน็ ท่รี กั และ เกรงใจของคนท่ีตดิ ตํอดว๎ ย กกกกกกก1. 3.2 3.2.8 อวหิ ิงสา คอื ความไมํเบียดเบยี น หมายถงึ ไมํกดข่ีขํมเหง กลั่นแกลง๎ รงั แก คนอื่น ไมํหลงในอานาจ ทาอันตรายตํอรํางกายและทรัพย๑สินผ๎ูอื่นตามอาเภอใจ แนวปฏิบัติของ พลเมอื งดี ด๎วยการไมเํ บียดเบียนหรอื บีบค้ันกดขี่ผู๎อ่ืน รวมไปถึง การไมํใช๎อานาจไปบังคับ หรือหาเหตุ กลั่นแกล๎งคนอื่นด๎วย เชํน ไมํไปขํมเหงรังแกผ๎ูด๎อยกวํา ไมํไปขํมขูํให๎เขากลัวเราหรือไปบีบบังคับเอา ของรัก ของหวงมาจากเขา เป็นต๎น นอกจากไมํเบียดเบียนคนด๎วยกันแล๎ว เรายังไมํควรเบียดเบียน ธรรมชาติ สิ่งแวดล๎อม และสตั ว๑อีกด๎วย เพราะมิฉะนั้น ผลร๎ายจะย๎อนกลับมาสูํเรา และสังคม อยํางท่ี เห็นในปจ๓ จุบนั จากภยั ธรรมชาตติ ําง ๆ กกกกกกก1. 3.2 3.2.9 ขันติ คอื ความอดทน หมายถงึ การอดทนตํอสิง่ ทัง้ ปวง สามารถอดทนตํอ งานหนัก ความยากลาบาก ท้ังอดทน อดกลั้นตํอคาติฉินนินทา แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการให๎ เราอดทนตํอความยากลาบากทุกสถานการณ๑ ไมํท๎อถอย และไมํหมดกาลังกาย กาลังใจที่จะดาเนิน ชีวติ และทาหน๎าที่การงานตอํ ไปจนสาเรจ็ รวมทงั้ อดทนตอํ การไมไํ ด๎รบั ความสุขสาราญ ไมํได๎รับความ สะดวกสบาย ความอดทนจะทาใหเ๎ ราชนะอุปสรรคทัง้ ปวงไมํวาํ เล็กหรือใหญํ และจะทาใหเ๎ ราแกรงํ ข้ึน เขม๎ แข็งข้นึ กกกกกกก1. 3.2 3.2.10 อวโิ รธนะ คือ ความเทย่ี งธรรม หมายถงึ ไมํประพฤตผิ ิด ประพฤตปิ ฏบิ ัติ ตนอยูํในความดีงาม ไมํหวน่ั ไหวในเรอื่ งดีเรือ่ งร๎าย แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ดว๎ ยการควรกระทาการ งานหรือดาเนนิ ชีวติ ท่ีถูกต๎อง และใหค๎ วามเป็นธรรมกับบุคคลทีเ่ ก่ยี วข๎อง ดว๎ ยความยุตธิ รรม และ เทยี่ งธรรม กกกกกกก4. บทท่ี 4 หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชดารัส กกกกกกก4. 4.1 หน๎าท่ีพลเมอื งตามพระราชดารัส ความสุขในการดาเนินชีวิต ได๎แกํ กกกกกกก4. 4.1 4.1.1 สขุ กาย จะเกิดข้นึ ได๎ พลเมืองต๎องมสี ภาวะรํางกายท่ีมีความสมบรู ณ๑
5 แข็งแรง เจริญเติบโตอยํางปกติ มีความต๎านทานโรคได๎ดี ปราศจากโรคภัยไข๎เจ็บ รวมถึงดูแล สุขภาพจิตด๎านการแสวงหาความรู๎ให๎มีป๓ญญารู๎เทําทัน จะทาให๎จิตใจดี ควบคุมจิตได๎ นอกจากนี้ต๎อง แสวงหาความรู๎ที่ทาให๎เข๎าใจ สบายใจ หรือร๎ูเทําทันการเปลี่ยนแปลง เพ่ือให๎สามารถดาเนินชีวิตได๎ อยํางปกติ รวมถงึ ทางานได๎ดว๎ ย กกกกกกก4. 4.1 4.1.2 สขุ ใจ จะเกดิ ข้ึนได๎ พลเมืองตอ๎ งมีสภาวะของจิตใจท่ีมีความสดชื่นแจมํ ใส สามารถควบคุมอารมณ๑ให๎มั่นคง ปรับตัวให๎เข๎ากับการเปล่ียนแปลงทางสังคมและส่ิงแวดล๎อมได๎เป็น อยาํ งดี จากการทบ่ี คุ คลน้นั ใชค๎ วามร๎ูท่มี อี ยปํู ระกอบกับมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นอันดี และมีรํางกาย ทีแ่ ขง็ แรงจึงจะทาใหม๎ คี วามสขุ ใจได๎ กกกกกกก4. 4.1 4.1.3 สุขในการอยรํู วํ มกนั จะเกิดขนึ้ ได๎พลเมอื งต๎องมี ความรัก ความสามคั คี ความปรองดองและความสงบสุขในสังคม ท่ีเกดิ จากทกุ คนไดร๎ บั ความยุตธิ รรม กกกกกกก4. 4.2 หน๎าทพ่ี ลเมืองตามพระราชดารัสเกี่ยวกับเดก็ นักเรียนและเยาวชน และนกั ศึกษา กกกกกกก4. 4.1 4.2.1 วัยเด็ก และการปลกู ฝ๓งคุณธรรม จะเกดิ ขึน้ ได๎ จากการอบรมเลย้ี งดู ส่ังสอน ขดั เกลาของทุกฝุายทั้งครอบครัวและโรงเรียน ให๎เห็นคณุ คําของความดี ความสุจรติ มคี วาม ประพฤตเิ รียบร๎อย มีเหตุผลหรือสตปิ ญ๓ ญานน้ั เอง โดยการเป็นแบบอยํางทด่ี ี เพ่ือให๎เด็กเห็นเปน็ ตัวอยาํ งและยึดเปน็ แบบอยํางใหไ๎ ด๎ กกกกกกก4. 4.1 4.2.2 นกั เรียนและเยาวชนตอ๎ งได๎รบั การปลูกฝง๓ ถํายทอดความรู๎ทีแ่ ท๎จริง เพือ่ ให๎ สามารถร๎ูเทําทัน ฉลาดและคิดสร๎างสรรค๑ ทาประโยชน๑ให๎กับตนเองและสํวนรวม กกกกกกก4. 4.1 4.2.3 นักศึกษาเป็นผ๎ทู มี่ คี วามพร๎อมท้ังวัยวฒุ ิและคณุ วฒุ ิ ฉะนน้ั จึงต๎องมีความ เพียร ความอดทน มสี ติป๓ญญา รู๎จักใช๎เหตผุ ล และเลอื กสง่ิ ท่ดี ีงามมาประยุกต๑ใช๎ในชวี ิตของตนเอง กกกกกกก4. 4.1 4.2.4 วยั ทางาน และการศึกษา กกกกกกก4. 4.1 4.2.4 1) วยั ทางาน ยอํ มเจอป๓ญหาและอุปสรรคเสมอ เมื่อเจอปญ๓ หาให๎หา ทางแก๎ไข ถ๎าแก๎คนเดยี วไมํได๎กใ็ ห๎คนทเี่ ก่ยี วข๎องชํวยกนั คดิ หาทางแก๎ไข กกกกกกก4. 4.1 4.2.4 2) การศึกษา สร๎างคนให๎มคี วามร๎ู ความสามารถ เปน็ พน้ื ฐานท่จี าเปน็ ใน การพัฒนาตนเองและประเทศชาติ กกกกกกก4. 4.1 4.2.5 หน๎าท่ี และความรับผิดชอบตํอบ๎านเมอื งของคนในชาตติ ๎องมีความรัก ความสามัคคี มีเหตผุ ล มีความรู๎ ชวํ ยกันสร๎างความเจรญิ ปลูกฝ๓งความดงี ามใหก๎ บั จติ ใจของคนในชาติ รวมถึงรกั ษาวฒั นธรรมประเพณีทีเ่ ปน็ แบบแผนของไทยใหค๎ งอยตํู ลอดไป กกกกกกก4. 4.3 หนา๎ ทพี่ ลเมืองตามพระราชดารสั ที่เกี่ยวขอ๎ งกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กกกกกกก4. 4.1 4.3.1 ความพอประมาณ จะเกดิ ขึ้นได๎ โดยรจ๎ู ักตนเอง มีความซ่ือสัตยแ๑ ละความ เพยี ร เดินทางสายกลาง และพอใจในสิ่งทตี่ นมอี ยูํ กกกกกกก4. 4.1 4.3.2 ความมเี หตผุ ล ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมุํงสอนให๎ พลเมอื งไทยมีความคิดอยาํ งรอบคอบ โดยพจิ ารณาจากปจ๓ จยั ทเี่ กยี่ วขอ๎ งและคานึงถงึ ผลที่จะเกิดข้นึ จากการกระทานัน้ กกกกกกก4. 4.1 4.3.3 ความมีภมู ิค๎ุมกัน คือ เปน็ การเตรยี มตัวให๎พรอ๎ มตํอการเปลี่ยนแปลงใน ทุกดา๎ นดว๎ ยการวเิ คราะห๑ความเสี่ยง ใช๎ประสบการณ๑เดิมมาชวํ ยตดั สินใจ และรวบรวมมาใชใ๎ นโอกาส ตอํ ไป
6 กกกกกกก4. 4.1 4.3.4 เงอื่ นไขความรู๎ กกกกกกก4. 4.1 4.3.4 1) ความร๎ู มหี ลายประเภท ได๎แกํ ความรทู๎ ่ีเกย่ี วขอ๎ งกบั การดาเนนิ ชวี ติ การประกอบอาชีพ การศึกษารวมถึงความรู๎ที่เกี่ยวข๎องกับการพัฒนาจิตใจทาให๎บุคคลมีความ เจรญิ กา๎ วหน๎าได๎ กกกกกกก4. 4.1 4.3.4 2) หลักวชิ า คอื เนื้อหาความรู๎ และหลกั วชิ าการ คือ นาความรู๎มาจัด กระบวนการเรยี นร๎ู กกกกกกก4. 4.1 4.3.4 3) รอบรู๎ รอบคอบ และระมดั ระวงั เป็นการศึกษาหาขอ๎ มลู กอํ นการ ปฏบิ ตั โิ ดยคานงึ ผลท่จี ะตามมา อยาํ งรอบคอบและระมัดระวัง กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 เง่อื นไขคณุ ธรรม แบํงออกเป็น 2 ประเภท ได๎แกํ คณุ ธรรมและหนา๎ ท่ี กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) คุณธรรม กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (1) ความซื่อสตั ยส๑ จุ ริต เปน็ พืน้ ฐานของความดีทกุ อยาํ ง กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (2) ความเพยี ร พากเพยี ร และอดทน จะเกดิ ข้นึ ไดจ๎ ากการฝึกฝนจน เกดิ เป็นนิสัย และกระตนุ๎ ให๎เกิดการทางานอยํางจริงจังจนสาเรจ็ กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (3) สติ และป๓ญญา เปน็ ความสามารถในตวั บุคคล ทจี่ ะทราบได๎จาก พฤติกรรมที่บุคคลแสดงออก ระดับของสติป๓ญญาสังเกตได๎จากการแสดงออกท่ีมีความคลํองแคลํว รวดเร็ว ความถูกต๎อง ความสามารถในการคิด การแก๎ป๓ญหาและการปรับตัว การใช๎แบบทดสอบวัด สติป๓ญญาจะทาใหท๎ ราบระดับสตปิ ญ๓ ญาชัดเจนข้ึน กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (4) ไมํเบียดเบยี น มเี มตตา จะเกิดข้นึ ได๎ โดยการปลูกฝ๓งคุณธรรมจาก ครอบครวั และสิ่งแวดลอ๎ ม กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (5) ตัง้ ใจดี คดิ ดี และทาดี หากคิดดีกจ็ ะมคี วามร๎สู ึกทด่ี ี เม่ือมี ความรู๎สกึ ท่ีดีก็จะมีคาพดู ทด่ี ี สํงผลให๎มกี ารกระทาท่ีดีดว๎ ย กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (6) ความรับผิดชอบ รับผิด และรับชอบ จะแสดงถงึ ความเอาใจใสํ มํุงม่ันตํอภารกิจที่ทา ทุกคนต๎องมีความรับผิดชอบตํอหน๎าที่การงาน การศึกษา อ่ืน ๆ อยํางเต็ม ความสามารถเพอ่ื ให๎บรรลุผลสาเร็จตามจุดมงุํ หมาย และยอมรบั ผลการกระทาท่จี ะเกดิ ขึน้ กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 2) หนา๎ ท่ี กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (1) ประโยชนส๑ วํ นรวม ประโยชน๑สวํ นตน และเสียสละ การทา ประโยชนใ๑ หส๎ ํวนรวม เสยี สละเพือ่ ให๎ประเทศชาติมีความเจริญซงึ่ เปน็ ความรับผิดชอบของทุกคน และ ไมเํ หน็ แกํประโยชนส๑ วํ นตน กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (2) ความสามัคคี รํวมมือ ปรองดอง เกดิ จากความรํวมมอื รวํ มใจเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกัน คุณธรรมนี้นับวําสาคัญมากในหมูํคณะเป็นคุณธรรมที่กํอให๎เกิดความสุขอยํางย่ิง แกํหมํคู ณะ กกกกกกก4. 4.1 4.3.5 1) (3) ความสขุ ความเจรญิ เกดิ ขนึ้ จาก บุคคลทงั้ หมดมเี จตนากระทา เพ่อื ให๎มคี วามสุขความเจรญิ จะตอ๎ งไมํเบียดเบียนหรอื แกงํ แยํงผู๎อ่ืนมา กกกกกกก5. บทที่ 5 หนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามหลักการทรงงาน กกกกกกก5. 5.1 หลักการทรงงาน หมายถงึ การปฏิบัติหนา๎ ท่ี หรือภารกิจ หรอื กิจกรรมของ
7 พระมหากษัตริย๑ ทรงยึดการดาเนินงานในลักษณะทางสายกลางท่ีสอดคล๎องกับสิ่งท่ีอยูํรอบตัว แ ล ะ ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ไ ด๎ จ ริ ง ท ร ง มี ค ว า ม ล ะ เ อี ย ด ร อ บ ค อ บ แ ล ะ ท ร ง คิ ด ค๎ น แ น ว ท า ง พั ฒ น า เพื่อมุํงสูํประโยชน๑ตํอประชาชนสูงสุดมี 23 ข๎อ ได๎แกํ (1) ศึกษาข๎อมูลอยํางเป็นระบบ (2) ระเบิด จากข๎างใน (3) แก๎ป๓ญหาที่จุดเล็ก (4) ทาตามลาดับขั้น (5) ภูมิสังคม (6) องค๑รวม (7) ไมํติดตารา (8) ประหยดั เรยี บงาํ ย ได๎ประโยชน๑สูงสุด (9) ทาให๎งําย (10) การมีสํวนรํวม (11) ประโยชน๑สํวนรวม (12) บริการรวมทจ่ี ุดเดียว (13) ใช๎ธรรมชาติ ชํวยธรรมชาติ (14) ใช๎อธรรมปราบอธรรม (15) ปลูกปุา ในใจคน (16) ขาดทุนคือกาไร (17) การพ่ึงตนเอง (18) พออยูํพอกิน (19) เศรษฐกิจพอเพียง (20) ความซื่อสตั ย๑สจุ รติ จริงใจตอํ กัน (21) ทางานอยาํ งมคี วามสขุ (22) ความเพยี ร และ (23) รู๎ รกั สามัคคี กกกกกกก5. 5.2 หน๎าท่พี ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามหลกั การทรงงาน ท่ีเก่ียวขอ๎ ง กับคุณธรรมของการเป็นพลเมืองดี มี 9 ข๎อ ได๎แกํ (1) การมีสํวนรํวม มีสํวนรํวมและคิดถึงสํวนรวม (2) ต๎องยึดประโยชน๑สํวนรวม (3) บริการจุดเดียว (4) ขาดทุนคือกาไร (5) การพ่ึงตนเอง (6) ความ ซอื่ สตั ย๑สจุ ริต จริงใจตอํ กัน (7) ทางานอยํางมีความสุข (8) ความเพยี ร และ (9) ร๎ู รัก สามคั คี กกกกก6. บทท่ี 6 หนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ กกกกก6. 6.1 หนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชจรยิ วัตร ได๎แกํ กกกกก6. 6.1 6.1.1 ครอบครวั กกกกก6. 6.1 6.1.1 1) ในฐานะบตุ ร ควรเชอ่ื ฟ๓งคาสั่งสอนของบิดามารดาโดยเฉพาะในเร่อื งของ ความรับผิดชอบ ควรมีการนาไปปฏิบัติอยํางเครํงครัด นอกจากน้ีในฐานะบุตรต๎องมีความกตัญ๒ูตํอ บดิ ามารดา และควรแสดงความรักเคารพตอํ บดิ ามารดาอยาํ งสมา่ เสมอ กกกกก6. 6.1 6.1.1 2) ในฐานะพํอ ตอ๎ งอบรมส่ังสอนบตุ รใหเ๎ ปน็ คนดี มีความเสยี สละ รับผิดชอบ หน๎าท่ีที่ต๎องปฏิบัติให๎ดี โดยเฉพาะในวัยเยาว๑ต๎องต้ังใจศึกษาเลําเรียนและทางานท่ีพํอแมํหรือ ครูมอบหมายให๎ทาเป็นอยํางดี นอกจากน้ีพํอแมํต๎องสํงเสริมให๎บุตรได๎ออกกาลังกาย เพ่ือให๎รํางกาย แข็งแรง ใช๎เวลาวํางให๎เป็นประโยชน๑ รวมถึงแนะนาสํงเสริมให๎บุตรได๎เรียนรู๎ ศิลปะ ดนตรี เพอื่ ขัดเกลาจิตใจใหอ๎ อํ นโยน กกกกก6. 6.1 6.1.1 3) ในฐานะสามี ต๎องเปน็ สุภาพบรุ ุษต๎องใหเ๎ กยี รติสุภาพสตรี ดูแลคํูครองดว๎ ย ความรัก ให๎เกียรติกันและกัน เม่ือพบป๓ญหาต๎องรํวมกันตัดสินใจแก๎ไขป๓ญหาอยํางต้ังมั่นในความ ซอ่ื สัตย๑สจุ รติ และความปรารถนาดี กกกกก6. 6.1 6.1.1 4) ในฐานะผนู๎ าครอบครัว ต๎องเป็นแบบอยํางในการปฏิบัตดิ ี ปฏบิ ตั ิชอบ ให๎บุตรได๎เห็นและทาตาม รวมถึงสั่งสอนใหบ๎ ุตรทางานทเี่ ป็นบทบาทของตวั เองให๎ดีท่ีสดุ กกกกก6. 6.1 6.1.2 ความออํ นน๎อมถํอมตวั ได๎แกํ กกกกก6. 6.1 6.1.2 1) กับประชาชนทั่วไป ควรให๎การเคารพออํ นน๎อมถํอมตวั กับผูท๎ ่ีมีอาวุโสกวาํ และแสดงความสภุ าพอํอนโยนกบั ผู๎ทมี่ ีอาวโุ สเทาํ กันหรือน๎อยกวาํ กกกกก6. 6.1 6.1.2 2) กับพระสงฆ๑ เม่อื พบพระสงฆค๑ วรยกมือไหว๎ เพ่ือแสดงความเคารพ ในฐานะท่ีพระสงฆ๑เป็นผสู๎ บื ทอดพระพุทธศาสนาให๎คงอยูํคํูกบั คนไทย กกกกก6. 6.1 6.1.2 3) กับญาตพิ ่ีน๎อง ต๎องดแู ลญาติพ่ีน๎อง และให๎ความเคารพญาติผ๎ูทีม่ อี าวโุ ส กวาํ ดว๎ ยความอํอนน๎อมถํอมตัว และผ๎ทู มี่ อี าวโุ สเทาํ กัน หรอื น๎อยกวาํ กแ็ สดงความสุภาพออํ นโยน
8 กกกกก6. 6.2 หนา๎ ทพี่ ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ตามพระราชกรณยี กจิ กกกกก6. 6.2 6.2.1 โรงเรยี น ถา๎ พลเมืองมฐี านะหรือมเี งินเหลอื เกบ็ กส็ ามารถสงเคราะห๑เงิน ดงั กลาํ วสนับสนุนกจิ กรรมการศึกษาของโรงเรยี น หรอื สถาบนั การศกึ ษาในชุมชนท่ตี ัวเองเปน็ สมาชิก อยูํในกรณที ี่ไมมํ เี งนิ สามารถชํวยเหลือดา๎ นแรงกายกบั ภารกิจท่โี รงเรียนตอ๎ งการให๎ชํวยเหลือกไ็ ด๎ กกกกก6. 6.2 6.2.2 ทอ๎ งถ่ิน ต๎องมสี วํ นรวํ มในการพัฒนาท๎องถ่ินของตวั เองทกุ ด๎าน ทั้งดา๎ นแรงกาย หรือเงินตามโอกาสอันควร กกกกก7. บทที่ 7 การประยกุ ตใ๑ ช๎หนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ในชีวิตประจาวนั กกกกก7. 7.1 การน๎อมนาทศพิธราชธรรมไปใช๎ในชวี ติ ประจาวนั สามารถใช๎กบั ครอบครวั ทีป่ ระกอบดว๎ ย หัวหนา๎ ครอบครัว สมาชกิ ในครอบครวั และเครือญาติ การศึกษา ประกอบด๎วย เพ่ือน ผู๎เรียน หรือนักศึกษา และครูบาอาจารย๑ การประกอบอาชีพการงาน ประกอบด๎วย เพ่ือนรํวมอาชีพ และนายจ๎างหรือผ๎ูบังคับบัญชา และการพัฒนาชุมชน ท๎องถ่ิน และสังคม ประกอบด๎วย สมาชิกใน ชุมชน และผู๎นา ได๎เป็นอยํางดี คือ ทาน ด๎วยการให๎บริจาคสิ่งของ ทรัพย๑ หรือแรงกาย ชํวยเหลือ กิจกรรม หรือภารกิจทเ่ี ก่ียวขอ๎ ง ใหค๎ าแนะนา หรือความรทู๎ เ่ี กี่ยวขอ๎ ง และให๎อภัยเมื่อได๎รับความร๎ูสึก หรือการกระทาท่ีไมํถูกต๎องกับตนเอง ศีล คือ การละเว๎นในส่ิงที่เป็นข๎อห๎ามของศีล 5 ให๎ประพฤติ ในสิ่งที่ดีงาม ปริจจาคะ คือ การเสียสละ สํวนที่เกี่ยวข๎องกับตนเองเพื่อประโยชน๑ของสํวนรวม อาชชวะ คือ ความซ่ือตรง ให๎ปฏิบัติงานหรือภารกิจท่ีเกี่ยวข๎องทั้งตํอหน๎า และลับหลัง ด๎วยความ ซ่ือสัตย๑สุจริต มัททวะ คือ ความอํอนโยน ให๎คานึงถึงอายุ ถ๎าเป็นผ๎ูอาวุโสต๎องปฏิบัติด๎วยความอํอน น๎อมถํอมตัว ให๎การเคารพ สํวนผ๎ูที่มีอายุเสมอกัน หรืออํอนกวําให๎ปฏิบัติด๎วยความสุภาพอํอนโยน ตบะ คือ ความเพียร ความอดทน ให๎ปฏิบัติภารกิจด๎วยความขยัน มุํงม่ัน อดทน ตั้งใจให๎สาเร็จลุลํวง อักโกธะ คือ ความไมํโกรธ ต๎องควบคุมอารมณ๑ของตนเองให๎สงบ มีสติตลอดเวลา เพื่อแสดงออกถึง พฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับ กาลเทศะทุกสถานการณ๑ อวิหิงสา คือ ความไมํเบียดเบียน ไมํเอารัด เอาเปรียบ ด๎วยการไมํเอาทรัพย๑สินหรือสิ่งของสํวนรวมหรือของผ๎ูอ่ืนมาใช๎เพื่อสํวนตน ไมํพูดจา หรือมีกิริยาสํอเสียด เบียดเบียนผ๎ูอ่ืน ท้ังทางกาย วาจา และใจ ขันติ คือ ความอดทน ต๎องมีความ อดทนในภารกิจที่มอบหมาย หรืออดทนตํอสถานการณ๑ที่ไมํพึงประสงค๑ ไมํยํอท๎อ ไมํท๎อถอย และ อวิโรธนะ คือ ความเท่ียงธรรม ให๎วางตัวเป็นกลาง ไมํเอนเอียงไปท่ีบุคคลใดหรือกลํุมใดกลุํมหน่ึง ไมํหวั่นไหว ไปกับคาพูด การกระทา ใหม๎ คี วามยตุ ธิ รรม เทีย่ งตรง กกกกก7. 7.2 การนอ๎ มนาพระราชดารสั ไปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ครอบครวั ต๎องให๎ความสาคญั กับ การอบรมเล้ียงดูบตุ รหลานให๎เปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม มสี ติป๓ญญาเฉลยี วฉลาด และมีเหตุมีผล การศึกษา ต๎องอบรม นักเรียน นักศึกษา และบัณฑิตที่เพ่ิงจบหรือศิษย๑เกําท่ีจบไปนานแล๎วให๎มีความร๎ูวิชาการ และคุณธรรม การประกอบอาชีพ ทุกอาชีพต๎องเน๎นการพัฒนาอาชีพ ตั้งใจ ศึกษาพัฒนาอาชีพ ประกอบอาชีพด๎วยความร๎ู ความสามารถ ประกอบอาชีพด๎วยความพอเพียง ประหยัด พ่ึงตนเอง รอบคอบ คํอย ๆ พัฒนาตามลาดับเพื่อปูองกันความผิดพลาด ใช๎ข๎อมูลหรือส่ือสารที่เป็นประโยชน๑ และต๎องมีคุณธรรมในอาชีพของตนเอง และการพัฒนาชุมชน ท้องถ่ินและสังคม ต๎องมีวิชาการและ ผ๎ูปฏิบัติรํวมมือกันพัฒนาด๎วยดี ต๎องพัฒนาให๎สอดคล๎องกับบริบทแตํละพื้นที่ เน๎นความเข๎มแข็งของ ชุมชน ท๎องถ่ิน ด๎วยการอาศัยการแลกเปลีย่ นเรียนรูก๎ ับบคุ คล หรือองค๑กรภายนอกชมุ ชน เข๎ามามีสํวน
9 รํวมพัฒนาด๎วยความรักความสามัคคี กระบวนการพัฒนาต๎องเป็นลาดับขั้นตอน ประหยัด ถกู หลักวิชา เพ่อื ปอู งกันความลม๎ เหลวจากการพัฒนา กกกกก7. 7.3 การน๎อมนาหลกั การทรงงานไปใช๎ในชีวติ ประจาวนั ครอบครวั ใชไ๎ ด๎ 10 ขอ๎ คือ (1) การมีสํวนรํวม (2) ประโยชนส๑ วํ นรวม (3) ขาดทนุ คอื กาไร (4) การพึ่งตนเอง (5) พออยพํู อกิน (6) เศรษฐกิจพอเพียง (7) ความซื่อสัตย๑ สุจริต จริงใจตํอกัน (8) ทางานอยํางมีความสุข (9) ความเพียร และ (10) ร๎ู รัก สามัคคี การศึกษา ใช๎ได๎ 21 ข๎อ คือ (1) ศึกษาข๎อมูลอยํางเป็นระบบ (2) ระเบิดจากข๎างใน (3) แก๎ป๓ญหาท่ีจุดเล็ก (4) ทาตามลาดับขั้น (5) ภูมิสังคม (6) องค๑รวม (7) ไมํติดตารา (8) ประหยัด เรียบงําย ได๎ประโยชน๑สูงสุด (9) ทาให๎งําย (10) การมีสํวนรํวม (11) ประโยชน๑สํวนรวม (12) บริการรวมท่ีจุดเดียว (13) ปลูกปุาในใจคน (14) ขาดทุนคือกาไร (15) การพึ่งตนเอง (16) พออยํูพอกิน (17) เศรษฐกิจพอเพียง (18) ความซื่อสัตย๑ สุจริต จริงใจตํอกัน (19) ทางานอยํางมีความสุข (20) ความเพียร และ (21) ร๎ู รัก สามัคคี การประกอบอาชีพการงาน ใช๎ได๎ 22 ขอ๎ (1) ศึกษาขอ๎ มูลอยํางเปน็ ระบบ (2) ระเบิดจากข๎างใน (3) แก๎ป๓ญหาท่ีจุดเล็ก (4) ทาตาม ลาดับข้ัน (5) ภูมิสังคม (6) องค๑รวม (7) ไมํติดตารา (8) ประหยัด เรียบงําย ได๎ประโยชน๑สูงสุด (9) ทาให๎งําย (10) การมีสํวนรํวม (11) ประโยชน๑สํวนรวม (12) บริการรวมที่จุดเดียว (13) ใช๎ธรรมชาติ ชํวยธรรมชาติ (14 ) ปลูกปุาในใจคน (15) ขาดทุนคือกาไร (16) การพ่ึงตนเอง (17) พออยูํพอกนิ (18) เศรษฐกิจพอเพยี ง (19) ความซื่อสัตย๑ สุจริต จริงใจตํอกัน (20) ทางานอยํางมี ความสุข (21) ความเพียร และ (22) ร๎ู รัก สามัคคี และการพัฒนาชุมชนท้องถ่ินและสังคม สามารถ ใช๎หลักการทรงงาน ใช๎ได๎ 23 ข๎อ คือ (1) ศึกษาข๎อมูลอยํางเป็นระบบ (2) ระเบิดจากข๎างใน (3) แก๎ป๓ญหาที่จุดเล็ก (4) ทาตามลาดับขั้น (5) ภูมิสังคม (6) องค๑รวม (7) ไมํติดตารา (8) ประหยัด เรียบงําย ไดป๎ ระโยชนส๑ งู สุด (9) ทาให๎งาํ ย (10) การมสี ํวนรํวม (11) ประโยชน๑สํวนรวม (12) บริการ รวมท่ีจุดเดียว (13) ใช๎ธรรมชาติ ชํวยธรรมชาติ (14) ใช๎อธรรมปราบอธรรม (15) ปลูกปุาในใจคน (16) ขาดทุนคือกาไร (17) การพ่ึงตนเอง (18) พออยํูพอกิน (19) เศรษฐกิจพอเพียง (20) ความ ซื่อสัตย๑ สุจริต จริงใจตํอกัน (21) ทางานอยํางมีความสุข (22) ความเพียร และ ( 23) รู๎ รัก สามัคคี มาใช๎ในการพฒั นาชมุ ชน ทอ๎ งถน่ิ และสังคม ใหเ๎ จริญก๎าวหน๎าได๎ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั กกกกกกก1. บอกความร๎ูพ้นื ฐานเกยี่ วกับหนา๎ ที่พลเมอื งและความหมายของหน๎าที่พลเมืองตามรอย พระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ได๎ กกกกกกก2. ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของหน๎าท่พี ลเมืองและความสาคญั ของหนา๎ ท่ีพลเมอื งตามรอย พระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 กกกกกกก3. วิเคราะห๑หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ดว๎ ยทศพธิ ราชธรรม และ ตามพระราชดารสั ในสถานการณท๑ ก่ี าหนดใหไ๎ ด๎ กกกกกกก4. ตระหนักถึงความสาคญั ของหนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ดว๎ ย ทศพิธราชธรรม และตามพระราชดารสั
10 กกกกกกก5. สามารถประยุกตใ๑ ช๎หน๎าท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ดว๎ ย ทศพธิ ราชธรรม และตามพระราชดารสั ในชีวิตประจาวนั ได๎ กกกกกกก6. ตระหนกั ถงึ ความสาคญั เห็นคุณคาํ ของการประยุกต๑ใชห๎ น๎าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ล บาทรัชกาลท่ี 9 ในชีวติ ประจาวนั ขอบขา่ ยเนื้อหา กกกกกกกบทที่ 1 ความรู๎พื้นฐานเกย่ี วกับหนา๎ ท่ีพลเมอื ง กกกกกกกบทท่ี 1 เรอ่ื งท่ี 1 ความหมายของหน๎าทพ่ี ลเมือง กกกกกกกบทท่ี 1 เรอ่ื งที่ 2 ความสาคญั ของหนา๎ ทพี่ ลเมอื ง กกกกกกกบทท่ี 1 เร่ืองท่ี 3 แนวทางการปฏบิ ัตติ นในการเปน็ สมาชิกทด่ี ตี ํอสังคม กกกกกกกบทท่ี 1 เรือ่ งที่ 4 คุณธรรม ของการเป็นพลเมืองดี กกกกกกกบทท่ี 2 ความหมายและความสาคัญของหน๎าท่ีพลเมือง ตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 กกกกกกกบทท่ี 1 เรื่องท่ี 1 ความหมายของหนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 กกกกกกกบทท่ี 1 เร่อื งท่ี 2 ความสาคัญของหนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 กกกกกกกบทที่ 3 หนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ดว๎ ยทศพิธราชธรรม กกกกกกกบทที่ 1 เรือ่ งท่ี 1 ความหมายของทศพิธราชธรรม กกกกกกกบทที่ 1 เร่ืองท่ี 2 แนวทางการปฏิบัติหนา๎ ท่พี ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ดว๎ ยทศพธิ ราชธรรม กกกกกกกบทท่ี 4 หน๎าทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามพระราชดารสั กกกกกกกบทท่ี 1 เรือ่ งท่ี 1 หน๎าท่พี ลเมืองตามพระราชดารสั ความสุขในการดาเนินชวี ิต กกกกกกกบทที่ 1 เรื่องท่ี 2 หนา๎ ท่พี ลเมืองตามพระราชดารสั เกย่ี วกบั เดก็ นักเรียนและเยาวชน และ นกั ศึกษา กกกกกกกบทที่ 1 เรื่องที่ 3 หนา๎ ที่พลเมืองตามพระราชดารัส ท่ีเกี่ยวขอ๎ งกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กกกกกกกบทที่ 5 หนา๎ ที่พลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามหลกั การทรงงาน กกกกกกกบทที่ 1 เร่อื งที่ 1 หนา๎ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ตามหลกั การทรงงาน กกกกกกกบทท่ี 1 เรื่องท่ี 2 แนวทางการปฏบิ ัตหิ น๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามหลักการทรงงาน กกกกกกกบทที่ 6 หนา๎ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร และพระราชกรณยี กิจ กกกกกกกบทที่ 1 เรื่องที่ 1 หนา๎ ทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร กกกกกกกบทท่ี 1 เรื่องที่ 2 หนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชกรณยี กิจ กกกกกกกบทที่ 7 การประยุกต๑ใชห๎ นา๎ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลท่ี 9 ในชีวิตประจาวนั กกกกกกกบทท่ี 1 เรือ่ งท่ี 1 การน๎อมนาทศพศิ ราชธรรมไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวนั กกกกกกกบทท่ี 1 เรื่องที่ 2 การน๎อมนาพระราชดารัสไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวัน
11 ส่อื ประกอบการเรยี น กกกกกกก1. สอ่ื เอกสาร ไดแ๎ กํ หนงั สอื ท่เี ก่ียวขอ๎ งกับบทน้ัน กกกกกกก2. ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส๑ ได๎แกํ เว็ปไซต๑ CD ทีเ่ กย่ี วขอ๎ งกับบทนั้นๆ กกกกกกก3. สอ่ื บุคคล ได๎แกํ เจา๎ คณะจงั หวดั ประจวบคีรีขันธ๑ เจ๎าคณะตาบลในอาเภอเมือง ประจวบครี ีขนั ธ๑ และวิทยากรจากชมรมคนรักในหลวงจัดประจวบคีรขี ันธ๑ กกกกกกก4. สอ่ื การเรยี นรใู๎ นชมุ ชน ได๎แกํ หอ๎ งสมุดประชาชนจังหวัดประจวบคีรขี นั ธ๑ บ๎านหนงั สอื ชมุ ชนทกุ ตาบลในอาเภอเมืองประจวบคีรขี นั ธ๑ และพพิ ิธภัณฑ๑จงั หวัดประจวบครี ขี ันธ๑
12 บทที่ 1 ความรูพ้ ้ืนฐานเก่ยี วกบั หนา้ ท่พี ลเมือง สาระสาคัญ กกกกกกก1. หนา๎ ท่ีพลเมือง หมายถึง การทบ่ี ุคคลในชมุ ชน สังคมประเทศ ต๎องปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาติ คาสั่งสอน ของพํอแมํ ครูอาจารย๑ มีความสามัคคี เอือ้ เฟ้ือเผื่อแผํซึ่งกนั และกัน รจู๎ กั รับผดิ ชอบช่วั ดตี ามหลกั จรยิ ธรรม และหลักธรรมของศาสนา มีความ รอบร๎ู มีสติป๓ญญา ขยันขันแข็ง สร๎างความเจริญก๎าวหน๎าให๎แกํตนเอง ครอบครัว สังคมและ ประเทศชาติ กกกกกกก2. ความสาคัญของหนา๎ ท่พี ลเมืองทีม่ ีตํอประเทศชาติ (1) ต๎องจงรักภักดีและรักษาไว๎ซึ่ง สถาบันชาติ ศาสนา พรมหากษัตริย๑ (2) ต๎องรักษาไว๎ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตย (3) ต๎องชํวยกันปอู งกันประเทศ (4) ต๎องปฏบิ ัติตามกฎหมายบ๎านเมืองอยํางเครํงครัด (5) ต๎องให๎ความ รํวมมอื ชํวยเหลือแกํราชการ (6) ต๎องเสียภาษอี ากรตามที่กฎหมายบญั ญัตไิ ว๎ กกกกกกก3. แนวทางการปฏิบตั ิตนในการเปน็ สมาชิกทีด่ ีของสงั คมต๎องปฏบิ ัติตามกฎหมาย วัฒนธรรม ประเพณี และปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิหนา๎ ท่ีตามระบอบประชาธิปไตย กกกกกกก4. คุณธรรมของการเปน็ พลเมืองท่ดี ี มี 8 ประการคือ (1) ความจงรักภกั ดตี ํอชาตศิ าสนา และพระมหากษัตริย๑ (2) การยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนาที่ตนเองนับถือ (3) ความซื่อสัตย๑ (4) ความเสยี สละ (5) ความรับผดิ ชอบ (6) การมรี ะเบยี บวนิ ัย (7) การตรงตํอเวลา (8) ความกล๎าหาญ ทางจริยธรรม กกกกกกกกก ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง กกกกกกก1. บอกความหมายของหน๎าท่ีพลเมืองได๎ กกกกกกก2. อธิบายและตระหนักถึงความสาคญั ของหน๎าท่ีพลเมือง กกกกกกก3. บอกแนวทางการปฏิบัตติ นในการเปน็ สมาชิกท่ดี ขี องสงั คมได๎ กกกกกกก4. บอกคุณธรรมของการเป็นพลเมืองดีได๎ ขอบข่ายเนอื้ หา กกกกกกกเร่ืองที่ 1 ความหมายของหนา๎ ท่ีพลเมือง กกกกกกกเรื่องท่ี 2 ความสาคัญของหนา๎ ท่ีพลเมือง กกกกกกกเรื่องที่ 3 แนวทางการปฏิบัตติ นในการเป็นสมาชกิ ท่ีดีของสังคม กกกกกกกเร่ืองที่ 4 คณุ ธรรมของการเป็นพลเมืองดี
13 สอื่ ประกอบการเรียน กกกกกกก1. สือ่ เอกสาร ได๎แกํ 1.1 ชือ่ หนงั สือ สทิ ธิ เสรีภาพ และหน๎าทีข่ องพลเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย ผ๎ูแตํง กลมุํ งานผลติ เอกสาร สานักประชาสัมพันธ๑ สานักงานเลขาธิการสภาผู๎แทนราษฎร ปที ี่พมิ พ๑ พ.ศ. 2556 โรงพิมพ๑ สานกั การพิมพ๑ สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผ๎ูแทนราษฎร 1.2 ชื่อหนังสือ เรียนรายวชิ าศาสนาและหน๎าทพ่ี ลเมืองระดับประถมศึกษา ผู๎แตํง สานักงานสงํ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ปีที่พิมพ๑ พ.ศ. 2559 โรงพมิ พ๑ ปยิ มิตร กกกกกกก2. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส๑ ได๎แกํ 2.1 บทความ พลเมืองดีของประเทศชาติและสงั คมโลก ผูแ๎ ตํง พิมพ๑ พิมพ๑นภัทร สบื ค๎นจาก https://www.academia.edu/8265830 2.2 บทความ พลเมือง ผแ๎ู ตํง สานักงานราชบณั ฑติ ยสภา สืบค๎นจาก http://www.royin.go.th/?knowledges กกกกกกก3. ส่อื แหลํงเรียนรู๎ในชุมชน ได๎แกํ 3.1 ห๎องสมุดประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ๑ 3.2 กศน.ตาบล/เทศบาลทุกแหงํ และศูนย๑การเรียนชมุ ชน ในอาเภอเมือง ประจวบครี ขี ันธ๑ เรอ่ื งที่ 1 ความหมายของหนา้ ทีพ่ ลเมือง กกกกกกก1. ความหมายของพลเมอื ง กกกกกกก1. พลเมอื ง (Citizen) หมายถึง พลเมือง มาจากภาษาลาตินวาํ eiver (พลเมือง) ซง่ึ เคย ใช๎ในยุคโบราณซ่ึงเกี่ยวกับประชาธิปไตยในกรีกและโรมัน ตํอมายุคกลางไมํได๎นามาใช๎แตํคาวํา พลเมืองก็ได๎มีการนากลับมาใช๎อีกครั้งในชํวงของการปฏิวัติในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และ ฝร่ังเศสในปลายศตวรรษที่ 18 การเป็นพลเมืองมีหลายมิติ การที่จะเป็นพลเมืองน้ันต๎องมี องคป๑ ระกอบ ดงั ตํอไปนี้ กกกกกกก1. ข๎อที่ 1 มีเอกลักษณ๑ท่ีมาจากความเป็นสมาชิกของชมุ ชนทางการเมือง กกกกกกก1. ขอ๎ ท่ี 2 ยึดถอื คาํ นยิ มเฉพาะและอุดมคติ กกกกกกก1. ขอ๎ ท่ี 3 มสี ทิ ธิและหนา๎ ท่ี กกกกกกก1. ขอ๎ ท่ี 4 มีสวํ นรํวมทางการเมอื ง กกกกกกก1. ขอ๎ ท่ี 5 มคี วามรู๎ความเข๎าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง กกกกกกก1. พลเมือง หมายถึง ชาวเมืองหรือประชาชนทปี่ ฏิบตั ติ ามระเบยี บกฎเกณฑ๑ของสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบตํอหน๎าที่และรจ๎ู กั บทบาทหนา๎ ที่ของตนเอง ปฏิบตั ิตนได๎อยาํ งเหมาะสมไมํละเมิด สทิ ธแิ ละเสรีภาพของบคุ คลอ่ืน
14 กกกกกกก1. พลเมือง หมายถึง ประชาชนทป่ี ระพฤติปฏบิ ัตติ ามระเบยี บกฎเกณฑ๑ของสงั คมมคี วาม รับผดิ ชอบตํอหน๎าท่ีของตนเอง รู๎จักบทบาทหน๎าทข่ี องตนเอง และปฏบิ ัตติ นได๎อยาํ งเหมาะสม ไมลํ ะเมดิ ลํวงลา้ สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบุคคลอนื่ กกกกกกก1. พลเมอื ง หมายถงึ หมูํคนท่ีเป็นของประเทศใดประเทศหน่ึง คนทง้ั หมดซ่ึงเป็นกาลงั ของประเทศ ทง้ั ในทางเศรษฐกิจ การทหาร และสนับสนนุ ผูม๎ ีอานาจตํอรองอานาจกบั ประเทศอื่น โดยนัยของความหมาย คาวาํ พลเมือง หมายถึง คนท่สี นบั สนุนเปน็ กาลงั อานาจของผ๎ปู กครอง เป็น คนทอ่ี ยูํในการควบคุมดูแลของผ๎ปู กครอง กกกกกกก1. กลาํ วโดยสรปุ พลเมอื ง หมายถงึ พลงั หรอื กาลังคนของประเทศ ซงึ่ อยูใํ นฐานะเป็น เจ๎าของประเทศ ที่มีสัญชาติของประเทศน้ัน ๆ มีสิทธิและหน๎าที่ ตามกฎหมายของประเทศน้ัน มีคํานิยม มีสํวนรํวมทางการเมือง เป็นผ๎ูสนับสนุนผ๎ูปกครอง ในการควบคุมดูแลบุคคลในประเทศให๎ อยํูรํวมกนั อยาํ งมคี วามสุข กกกกกกก2. ความหมายของพลเมืองดี กกกกกกก2. พลเมืองดี หมายถงึ ผทู๎ ีป่ ฏบิ ัตหิ นา๎ ที่พลเมอื งได๎ครบถว๎ น ทัง้ กจิ ท่ตี ๎องทาและกจิ ท่ีควรทา กกกกกกก2. พลเมืองดี หมายถึง พลเมืองที่มีคุณลักษณะทีส่ าคญั คือเปน็ ผท๎ู ี่ยดึ ม่นั ในหลกั ศลี ธรรม และคณุ ธรรมของศาสนา ปฏิบัติตนตามกฎหมาย ดารงตนเป็นประโยชน๑ตํอสังคม โดยมีการชํวยเหลือ เกื้อกูลกนั อันจะกอํ ใหเ๎ กิดการพฒั นาสงั คม และ ประเทศชาติ กกกกกกก2. กิจทค่ี วรทา คือ สิ่งท่ีคนสวํ นใหญเํ ห็นวําเป็นหนา๎ ที่ จะต๎องทาหรือละเว๎นการกระทา ถ๎าไมํทาหรือละเว๎นการกระทาจะได๎รับผลเสียโดยทางอ๎อม เชํนได๎รับการดูหมิ่นเหยียดหยามหรือไมํ คบค๎าสมาคมด๎วย ผ๎ูกระทากิจท่ีควรทาจะได๎รับการยกยํองสรรเสริญจากคนในสังคมโดยทั่วไปสิ่งที่ ระบุกิจทีค่ วรทาไดแ๎ กํ วฒั นธรรมประเพณี เปน็ ตน๎ กกกกกกก2. พลเมอื งดีมหี น๎าทตี่ อ๎ งปฏิบัตติ ามกฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวฒั นธรรมของ ชาติ คาสั่งสอนของพํอแมํครูอาจารย๑ มีความสามัคคีเอ้ือเฟื้อเผื่อแผํซ่ึงกันและกัน ร๎ูจักรับผิดชอบช่ัวดี ตามหลักจริยธรรม และหลักธรรมของศาสนา มีความรอบร๎ู มีสติป๓ญญา ขยันขันแข็ง สร๎างความ เจรญิ ก๎าวหน๎าใหแ๎ กํตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศชาติ กกกกกกก2. กลาํ วโดยสรปุ พลเมอื งดี หมายถึง ผู๎ที่ปฏิบตั ิหน๎าท่ีพลเมืองได๎ครบถว๎ น ทง้ั กิจที่ต๎องทา และกิจที่ควรทาหน๎าท่ี กิจท่ีต๎องทาหรือควรทาเป็นสิ่งที่กาหนดให๎ทา หรือห๎ามมิให๎กระทา ถ๎าทาก็จะ กํอให๎เกิดผลดี เกิดประโยชน๑ตํอตนเอง ครอบครัวหรือสังคมสํวนรวมแล๎วแตํกรณี ถ๎าไมํทาหรือ ไมํละเว๎นการกระทาตามท่ีกาหนด จะได๎รับผลเสียโดยตรง คือได๎รับโทษ หรือถูกบังคับ เชํน ปรับ จาคกุ หรือประหารชีวติ เปน็ ต๎น โดยท่วั ไปสิ่งท่ี ระบุกิจท่ีตอ๎ งทา ไดแ๎ กํ กฎหมาย เปน็ ตน๎ กกกกกกก3. ความหมายของหน๎าทพ่ี ลเมือง กกกกกกก2. หนา๎ ที่พลเมือง หมายถึง ต๎องปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละ วัฒนธรรมของชาติ คาสัง่ สอนของพํอแมํ ครูอาจารย๑ มีความสามัคคีเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผํซึ่งกันและกัน ร๎ูจัก รับผิดชอบชั่วดีตามหลักจริยธรรม และหลักธรรมของศาสนา มีความรอบร๎ู มีสติป๓ญญา ขยันขันแข็ง สรา๎ งความเจรญิ กา๎ วหนา๎ ให๎แกํตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศชาติ
15 เรื่องที่ 2 ความสาคญั ของหนา้ ท่พี ลเมอื ง กกกกกกกความสาคญั ของหน๎าท่ีพลเมืองท่ีมตี ํอประเทศชาติ ได๎แกํ กกกกกกก1. ตอ๎ งจงรักภักดีและรกั ษาไวซ๎ ่ึงสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ๑ ซ่ึงเป็นสถาบนั สงู สดุ ของชาติ เปน็ ทเี่ คารพสกั การะบูชาของประชาชนชาวไทยทุกคน นอกจากน้สี ถาบันดังกลาํ ว ยงั เป็น เอกลักษณ๑ของชาติไทยดว๎ ย ดังนั้นตราบใดทส่ี ถาบันท้ังสามยงั คงอยํู คนไทยก็จะดารงอยูํได๎ กกกกกกก2. ต๎องรักษาไวซ๎ งึ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยปกครองโดยระบอบ ประชาธิปไตย ซึ่งมีพระมหากษัตริย๑เป็นประมุข และรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย ประชาชนทกุ คนจึงมีหน๎าท่รี กั ษาไว๎ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญของชาติก็ได๎ กาหนดไว๎วําเป็นหน๎าที่ของคนไทยทุกคนท่ีจะต๎องดารงรักษาไว๎ซึ่งการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย กกกกกกก3. ตอ๎ งชํวยกันปูองกันประเทศ ประเทศชาตเิ ป็นของประชาชนไทยทุกคน ดังน้นั ในฐานะที่ เราเป็นสํวนหนึ่งของประเทศ จึงต๎องมีหน๎าที่รักษาไว๎ซึ่งความเป็นเอกราชและความมั่นคงของชาติ โดยการปูองกันประเทศชาติให๎พ๎นจากภัยอันตรายตํางๆ ซ่ึงเกิดจากศัตรูท้ังภายในและภายนอก ประเทศ เม่ือมีเหตุร๎ายข้ึนในประเทศ ตํางก็ต๎องชํวยกันปราบปรามให๎ความรํวมมือกับเจ๎าหน๎าท่ีของ บ๎านเมอื งอยํางเต็มท่ี โดยเฉพาะอยาํ งยิง่ เปน็ งานโดยตรงทีช่ ายไทยทกุ คนจะต๎องเขา๎ รบั ราชการทหาร กกกกกกก4. ต๎องปฏบิ ตั ิตามกฎหมายบา๎ นเมืองอยาํ งเครํงครดั กฎหมายบ๎านเมือง หมายถึง กตกิ า หรอื ระเบยี บกฎเกณฑ๑ที่วํางไว๎ให๎ประชาชนทุกคนปฏิบัติ เพื่อความสงบเรียบร๎อยของบ๎านเมืองในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย ได๎กาหนดให๎ประชาชนทุกคนมีสํวนรํวมในการพิจารณาเห็นชอบและ กาหนดกฎหมายขึ้นใช๎ในประเทศ โดยการเลือกตั้งผู๎แทนตน เพื่อไปปฏิบัติหน๎าท่ีออกกฎหมายใน สภานิติบัญญัติติจึงเทํากับวําประชาชนทุกคนรํวมกันตรากฎหมายออกมาใช๎รํวมกัน ประชาชนทุกคน จงึ ควรปฏิบตั ิอยํางเครํงครดั เพอ่ื ความสงบเรยี บร๎อย และความผาสกุ รวํ มกัน กกกกกกก5. ต๎องใหค๎ วามรํวมมอื ชวํ ยเหลอื แกรํ าชการ เจ๎าหน๎าท่เี ปน็ ตัวแทนของรัฐบาลในการที่จะ ให๎บริการแกํประชาชน และปฏิบัติงานให๎เป็นไปตามกฎหมายของบ๎านเมือง ชํวยเป็นหูเป็นตา แกํเจ๎าหน๎าที่บ๎านเมือง เพ่ือชํวยปูองกันปราบปรามโจรผู๎ร๎าย หรือผู๎เป็นภัยตํอความสงบสุขของ บ๎านเมือง เมื่อประชาชนทุกคนตํางให๎ความรํวมมือกัน รักษาความสงบเรียบร๎อยของบ๎านเมือง ประเทศชาตกิ ็จะอยูํอยาํ งสงบสขุ และปลอดภัยจากศตั รูทั้งภายใน และภายนอก กกกกกกก6. ตอ๎ งเสยี ภาษีอากรตามท่ีกฎหมายบญั ญัติไว๎ ประเทศชาตจิ ะรงํุ เรือง และประชาชนจะมี ความสงบสุขอยูํได๎ ต๎องอาศยั การบริหารราชการแผํนดินของรัฐบาล เป็นหน๎าที่สาคัญท่ีประชาชนชาว ไทยจะต๎องชวํ ยกนั เสียภาษอี ากร เพอ่ื เราจะได๎มกี าลังทหารไวป๎ อู งกันเอกราชของชาติ มีถนนดี ๆ ไว๎ใช๎ มีโรงเรียนให๎ลูกหลานได๎ศึกษาเลําเรียน มีโรงพยาบาลสาหรับรักษาเม่ือเราเจ็บไข๎ ได๎ปุวย เป็นต๎น
16 เรือ่ งที่ 3 แนวทางการปฏบิ ตั ติ นในการเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของสงั คม กกกกกกก1. ดา๎ นกฎหมาย กกกกกกก1. กฎหมาย คือ กฎเกณฑ๑ ข๎อบงั คับทใี่ ช๎ควบคุมความประพฤติของมนุษย๑ในสงั คม กฎหมาย มีลักษณะเป็นคาส่ัง ข๎อห๎าม ที่มาจากผู๎มีอานาจสูงสุดในสังคม ใช๎บังคับได๎ท่ัวไป ใครฝุาฝืน จะตอ๎ งได๎รับโทษ หรือสภาพบังคบั อยํางใดอยาํ งหนึ่ง กกกกกกก1. พลเมืองทุกคนตอ๎ งปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ข๎อบังคบั ของสงั คม และบทบญั ญัติของ กฎหมาย เชนํ ไมํลํวงละเมิดสิทธิของผู๎อื่น หรือไมํกระทาความผิดตามท่ีกฎหมายกาหนดก็จะทาให๎รัฐ ไมํตอ๎ งเสียงบประมาณในการปูองกนั ปราบปราม และจับกมุ ผ๎ทู ่กี ระทาความผิดมาลงโทษ นอกจากน้ี ยงั ทาใหส๎ งั คมมีความเป็นระเบียบสงบสุข ทุกคนอยํูรํวมกันอยํางสมานฉันท๑ ไมํหวาดระแวงคิดร๎ายตํอ กนั พลเมืองดตี อ๎ งเคารพกฎหมาย และทาตามกฎหมายรฐั ธรรมนญู กกกกกกก2. ด๎านวัฒนธรรม กกกกกกก1. วัฒนธรรม คอื แบบแผนการกระทา หรอื ผลการกระทาท่ีพัฒนาจากสภาพเดิมตาม ธรรมชาติให๎ดีงาม ยั่งยืน จนเป็นท่ียอมรับของคนในสังคม เชํน กิริยา มารยาท การพูด การแตํงกาย การรับประทานอาหาร เป็นต๎น วัฒนธรรมการไหว๎ เป็นวัฒนธรรมภายนอกที่มักได๎รับการตอบสนอง จากผู๎ไดร๎ ับดว๎ ยการไหว๎ตอบ นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรมไทยอ่ืน ๆ ที่งดงาม เชํน การกราบ การทาบุญ ตักบาตร การแตํงกายแบบไทย เป็นตน๎ กกกกกกก1. 2.1 พลเมืองดียํอมเป็นที่ต๎องการของสังคมทกุ สงั คม สถาบัน และสถานะของตนเอง ดงั นั้น พลเมืองดีจึงต๎องไดร๎ ับการปลกู ฝ๓งวัฒนธรรมส่ิงทีด่ ีงาม โดยเฉพาะสังคมแรก คือ ครอบครวั ตอ๎ งอบรมให๎คนไทยมีสัมมาคารวะตํอผู๎อาวุโส มีความเสียสละ ซ่อื สตั ยส๑ จุ รติ ตรงตํอเวลา เปน็ ตน๎ กกกกกกก1. 2.2 สอนใหเ๎ ยาวชนร๎จู ัก และปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ และบทบาทของตนเองโดยมี ความรบั ผิดชอบ รบั ฟง๓ ความคดิ เหน็ ของผู๎อน่ื เคารพกฎหมาย ปฏบิ ตั ติ ามขนบธรรมเนยี มประเพณี และวฒั นธรรมการปลูกฝ๓งสง่ิ ทดี่ งี าม กกกกกกก1. 2.3 พลเมืองดีทุกคนต๎องปฏิบัติตามวัฒนธรรมของสงั คมทต่ี นเองเปน็ สมาชิก กกกกกกก3. ดา๎ นประเพณีไทย กกกกกกก3. ประเพณี คือ ส่ิงทปี่ ฏบิ ตั ิสืบทอดสืบทอดกันมา และถือวาํ เป็นส่งิ ทด่ี ีงาม สิง่ ท่ีงดงามของ แตํละสังคม อาจเหมือนกนั คลา๎ ยกนั หรือแตกตํางกนั ได๎ และสง่ิ ทงี่ ดงามของสังคมหนงึ่ เมื่อเวลาผําน ไปอาจเป็นสิง่ ทไี่ มงํ ดงามได๎ ดังนนั้ ประเพณีไทยอาจมีการปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงไปกบั สภาพสงั คม กกกกกกก3. พลเมืองดจี งึ ควรรกั ษาประเพณี แตถํ า๎ พบวาํ ประเพณีมคี วามลา๎ หลังไมํทนั สมยั ก็ สามารถปรบั ปรุงให๎เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปล่ยี นไป กกกกกกก4. ด๎านสิทธิหน๎าท่ีตาม ระบอบประชาธิปไตย กกกกกกก3. การเป็นสมาชิกที่ดขี องสังคมตามสิทธิหนา๎ ทต่ี ามระบอบประชาธปิ ไตยมี 4 ระดบั ดังน้ี กกกกกกก3. 4.1 ระดบั ครอบครัว กกกกกกก3. 4.1 หน๎าทขี่ องครอบครวั ผลติ สมาชิกให๎แกสํ ังคม อบรมบํมเพาะคํานิยมท่ีดีงามปลูกฝง๓ ขนบธรรมเนียม แบบแผนทางสังคม และกลํอมเกลาให๎สมาชิกในครอบครัว เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของ สังคมตํอไป ให๎ความอบอุํนแกํสมาชิกในครอบครัว เพ่ือให๎สมาชิกผู๎นั้นเข๎าสูํสังคมและเป็นสมาชิกที่ดี
17 ของสังคมให๎การศึกษาแกํสมาชิกของครอบครัว ซึ่งหน๎าท่ีของสมาชิกในครอบครัว หลักสาคัญตาม ระบอบประชาธิปไตย มดี ังน้ี กกกกกกก3. 4.1 4.1.1 ใหค๎ วามเคารพเชือ่ ฟ๓งผนู๎ าในครอบครวั กกกกกกก3. 4.1 4.1.2 ดแู ลครอบครวั ใหส๎ ามารถอยํูได๎ท้ังด๎านเศรษฐกจิ และความเป็นอยอํู น่ื ๆ กกกกกกก3. 4.1 4.1.3 ไมสํ รา๎ งความแตกแยกแกคํ รอบครวั กกกกกกก3. 4.1 4.1.4 ไมํสร๎างความเดอื ดรอ๎ นแกํครอบครัว กกกกกกก3. 4.1 4.1.5 เคารพกฎเกณฑ๑ของครอบครัว และแบบแผนทางสังคม กกกกกกก3. 4.1 4.1.6 สรา๎ งอาชพี และรายได๎ใหเ๎ พียงพอกบั สมาชิกในครอบครวั กกกกกกก3. 4.1 4.1.7 ทานุบารุงครอบครัว ดูแลสมาชกิ ที่เจบ็ ปุวย และสมาชกิ ท่ีชวํ ยเหลือตวั เอง ไมไํ ด๎ กกกกกกก3. 4.1 ดงั นน้ั ครอบครัวมีหน๎าท่ีวางแผนอนาคต กาหนด และควบคมุ คําใชจ๎ ํายใน ครอบครวั ให๎มีความสมดลุ สอดรับกบั รายได๎ เพ่ือครอบครวั จะได๎ไมเํ ดือดร๎อน กกกกกกก3. 4.2 ระดบั โรงเรียน กกกกกกก3. 4.2 เมือ่ เราอยํูในโรงเรียน เราทุกคนมหี น๎าที่ทต่ี ๎องปฏบิ ัตติ ํอโรงเรยี นเพราะโรงเรยี น เป็นสถานท่ีที่ให๎ความรู๎ ซ่ึงเราต๎องอยํูรํวมกับคนอื่น ๆ อีกมากมาย ดังน้ันเราจึงจาเป็นต๎องปฏิบัติ ตามกฎระเบียบของห๎องเรียนและโรงเรียน เพื่อท่ีจะได๎อยํูรํวมกันอยํางมีความสุข และเกิดความเป็น ระเบยี บเรยี บรอ๎ ย บทบาทหน๎าท่ตี ามระบอบประชาธิปไตยในโรงเรียนมีดงั นี้ กกกกกกก3. 4.2 4.2.1 เม่ือมาโรงเรยี น เราต๎องปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของโรงเรียน เชนํ แตํงกาย ให๎ถูกต๎องตามระเบียบ มาให๎ทนั เข๎าแถวเคารพธงชาติในตอนเชา๎ กกกกกกก3. 4.2 4.2.2 เมอื่ อยํใู นโรงเรยี น เราต๎องชํวยกันรักษาความสะอาดในห๎องเรียน และใน บรเิ วณตาํ ง ๆ ของโรงเรยี น ท้ิงขยะลงในถังขยะทโ่ี รงเรียนจัดให๎ กกกกกกก3. 4.2 4.2.3 ใหค๎ วามเคารพเชอื่ ฟ๓งครูอาจารย๑ ต้ังใจเรยี นหนงั สอื รวมทัง้ ทางานตาํ งๆ ทคี่ รูมอบหมายด๎วยความตง้ั ใจและเอาใจใสํ กกกกกกก3. 4.2 4.2.4 ปฏบิ ัติตนในการเป็นผน๎ู าและผู๎ตามท่ีดีในห๎องเรยี นและโรงเรียน ต๎องรว๎ู ํา เม่ือเราเป็นผน๎ู าในการทากิจกรรมตาํ ง ๆ ควรปฏิบตั ติ นอยํางไร และเมือ่ เปน็ ผู๎ตามควรปฏบิ ตั ิตน อยํางไร กกกกกกก3. 4.2 4.2.5 ร๎จู กั แสดงความคดิ เหน็ ตามสิทธิของตนเองในห๎องเรยี นและโรงเรียน รวมทง้ั ร๎ูจกั รบั ฟ๓งความคดิ เหน็ ของผ๎ูอ่นื และเคารพข๎อตกลงของคนสวํ นใหญํ กกกกกกก3. 4.2 4.2.6 ถา๎ เกิดข๎อขดั แย๎งกนั ในห๎องเรียนและโรงเรยี น ใหแ๎ กป๎ ๓ญหาด๎วยหลักเหตผุ ล ไมํใชอ๎ ารมณห๑ รือพละกาลงั ในการแก๎ป๓ญหา เพราะไมํใชวํ ิธแี กป๎ ๓ญหาที่ถกู ต๎อง แตํกลบั จะทาใหเ๎ กดิ ป๓ญหาอื่น ๆ ตามมา กกกกกกก3. 4.2 4.2.7 ในการแขํงขันทากิจกรรมตาํ ง ๆ ของโรงเรยี น เชนํ การแขํงกีฬา การ ประกวดในด๎านตาํ ง ๆ ต๎องฝึกฝนตนเองใหเ๎ ปน็ ผรู๎ จู๎ กั แพ๎ ชนะ และให๎อภัย รวมทง้ั ยอมรับในคาตัดสนิ ของคณะกรรมการ
18 กกกกกกก3. 4.3 ระดบั ท๎องถนิ่ กกกกกกก3. 4.3 การปฏิบัติตนในฐานะสมาชกิ ของชมุ ชน บคุ คลสามารถปฏบิ ัตติ นตามระบอบ ประชาธิปไตยได๎หลายวธิ ี ดังนี้ กกกกกกก3. 4.3 4.3.1 ปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบียบของชุมชน เชํน ปฏบิ ัติตามกฎจราจร โดยขา๎ ม ถนนตรงทางม๎าลาย หรือสะพานลอย ไมํว่ิงข๎ามถนนตัดหน๎ารถ ไมํท้ิงขยะลงในท่ีสาธารณะ ไมํทาลาย ส่ิงของที่เป็นของสาธารณะ และทรัพย๑สินสํวนตัวของผู๎อื่นให๎ได๎รับความเสียหายเพราะความ สนุกสนานของตนเอง กกกกกกก3. 4.3 4.3.2 เขา๎ รวํ มกจิ กรรมของชุมชน เพอื่ ชวํ ยรกั ษาและเผยแพรวํ ัฒนธรรมประเพณี ของชมุ ชนไว๎ ในแตลํ ะชมุ ชนจะมขี นบธรรมเนยี มประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกนั มา เชนํ ประเพณกี าร ทาบญุ เมื่อถงึ วันสาคัญทางศาสนา ประเพณีวันสงกรานต๑ ประเพณวี นั ลอยกระทง กกกกกกก3. 4.3.3 บาเพญ็ ประโยชน๑ตํอชุมชน เชํน ชํวยเกบ็ เศษขยะทพ่ี บเห็นในบริเวณตาํ ง ๆ ชวํ ยดแู ลต๎นไม๎ ดอกไม๎ในสวนสาธารณะของชมุ ชน กกกกกกก3. 4.3.4 รวํ มกนั อนรุ กั ษ๑ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ๎ มในชมุ ชน โดยให๎ทุกคน ในชุมชนมีจิตสานึกในการรักษาส่ิงแวดล๎อม เชํน ชุมชนที่มีปุาชายเลน ควรจะรํวมใจกันอนุรักษ๑ ปาุ ชายเลน เพื่อใหเ๎ ปน็ ทีอ่ ยูขํ องสตั ว๑ตาํ ง ๆ รวมท้ังยงั เป็นแหลํงหลบภัยของลูกสัตว๑น้า และชุมชนท่ีอยํู ติดชายทะเล ควรรํวมใจกันรักษาความสะอาดของชายหาด เพ่ือให๎เป็นแหลํงทํองเที่ยวที่ยั่งยืนของ ชุมชน การอนุรักษ๑ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมในชุมชนควรเป็นความรํวมมือกันหลายฝุาย ระหวํางบา๎ น โรงเรยี น และชมุ ชน กกกกกกก3. 4.4 ระดบั ประเทศ กกกกกกก3. 4.4 บุคคลปฏบิ ัติตนในการเป็นสมาชิกที่ดีของประเทศตามระบอบประชาธิปไตย ด๎วยการมสี วํ นรํวมในกิจกรรมทางการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย ประชาชนสามารถ มสี วํ นรํวมได๎ ดงั น้ี กกกกกกก3. 4.4 4.4.1 การใช๎สทิ ธใิ นการเลอื กตงั้ ระดับตาํ ง ๆ เมอื่ อายุครบ 18 ปบี ริบรู ณ๑ ทุกคน ต๎องไปใช๎สิทธิเลือกต้ังท้ังในระดับประเทศ เชํน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผ๎ูแทนราษฎร การเลือกต้ัง สมาชิกวุฒิสภา และการเลือกตั้งระดับท๎องถ่ิน เชํน การเลือกตั้งผ๎ูวํากรุงเทพมหานคร การเลือกต้ัง สมาชิกองค๑กรสวํ นท๎องถนิ่ เป็นต๎น เพอื่ เลอื กตัวแทนไปทาหน๎าที่บรหิ ารประเทศหรือท๎องถน่ิ ตํอไป กกกกกกก3. 4.4 4.4.2 การมีสวํ นรวํ มในการตรวจสอบการใช๎อานาจรัฐ ในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยน้ัน ประชาชนทุกคนล๎วนมีสํวนรํวมในการสอดสํองดูแลการบริหารราชการแผํนดินของ รัฐบาล หรือตรวจสอบการทางานของเจ๎าหน๎าท่ีในองค๑กรตําง ๆ เพ่ือไมํให๎ ใช๎อานาจไปในทางที่ไมํ ถูกตอ๎ ง กกกกกกก3. 4.4 4.4.3 การเปน็ แกนนาปลุกจติ สานึกให๎แกผํ อู๎ ื่นในการรํวมกิจกรรมทางการเมือง การปกครอง ไดแ๎ กํ การใชส๎ ทิ ธเิ ลอื กต้งั และการมีสวํ นรํวมในการตรวจสอบอานาจของรัฐ โดยการเป็น แกนนาน้ัน สามารถปฏิบัติได๎หลายอยําง เชํน ประกาศ โฆษณา ประชาสัมพันธ๑ การเข๎าไปช้ีแจงเป็น รายบคุ คล การจดั ใหม๎ ีการประชุมเพอ่ื แสดงความคิดเห็นตอํ ประเด็นที่มีผลกระทบตอํ สงั คม
19 เรอื่ งที่ 4 คุณธรรมของการเป็นพลเมอื งดี กกกกกกกคุณธรรมของการเป็นพลเมอื งดี มี 8 ข๎อ ได๎แกํ คอื กกกกกกก1. ความจงรกั ภกั ดีตํอชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ๑ หมายถงึ การที่บคุ คลมีความ นึกถงึ ความสาคัญของความเป็นคนไทย มีจิตใจฝก๓ ใฝุศาสนา และตระหนักถงึ พระมหากรุณาธคิ ุณของ พระมหากษัตริย๑ ปฏบิ ตั ติ นในการผดุงรกั ษาสถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ๑ให๎คงอยํูคํู สังคมไทย ตลอดไป กกกกกกก2. การยึดมนั่ ในหลักธรรมของศาสนาทีต่ นเองนับถือ ทุกศาสนามีหลักศลี ธรรมที่ชวํ ยสร๎าง จติ ใจของ คนให๎กระทาดี ไมเํ บยี ดเบียนกัน มีใจเออ้ื เฟ้ือเผอื่ แผแํ กํกัน สมาชิกในสงั คมสมควรศรทั ธาใน ศาสนาทีต่ นนับถือ แล๎วปฏิบตั ิตามหลักศลี ธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถืออยํางสม่าเสมอ กกกกกกก3. ความซอ่ื สัตย๑ หมายถึง การกระทาที่ถกู ต๎องตรงไปตรงมา ไมํยึดเอาส่ิงของผ๎ูอื่นมาเปน็ ของตน บุคคลควรซื่อสัตย๑ตํอตนเอง คือ กระทาตนให๎เป็นคนดี และบุคคลควรซื่อสัตย๑ตํอบุคคลอื่นๆ หมายถงึ กระทาดี และถกู ต๎องตามหน๎าที่ตอํ ผอ๎ู นื่ กกกกกกก4. ความเสยี สละ หมายถึง การคานึงถงึ ประโยชนข๑ องสงั คมสํวนรวมมากกวาํ ประโยชน๑ สํวนตน และยอมเสียสละประโยชนส๑ วํ นตนเพื่อประโยชนแ๑ กํผอ๎ู น่ื และสวํ นรวม กกกกกกก5. ความรับผดิ ชอบ หมายถึง การยอมรบั การกระทาของตนเอง หรือการทางานตามหนา๎ ที่ ทีไ่ ด๎รบั มอบหมายให๎สาเรจ็ ลุลํวง กกกกกกก6. การมีระเบียบวินัย หมายถงึ การกระทาท่ถี ูกต๎องตามกฎเกณฑ๑ทส่ี ังคมกาหนดไว๎ กกกกกกก7. การตรงตํอเวลา หมายถงึ การทางานหรือทาหน๎าทท่ี ่ีไดร๎ ับมอบหมายให๎สาเร็จลลุ ํวง ทนั ตรงตามเวลาที่กาหนด โดยใช๎เวลาอยํางคม๎ุ คํา กกกกกกก8. ความกล๎าหาญทางจริยธรรม หมายถงึ การกระทาที่แสดงออกในทางทถ่ี ูกทีค่ วรโดยไมํ เกรงกลวั อิทธิพลใด ๆ ความกล๎านไ้ี มใํ ชกํ ารอวดดี แตเํ ป็นการแสดงออกอยาํ งมเี หตุผล เพ่ือความ ถกู ต๎อง
20 กิจกรรมท้ายบท กกกกกกกกิจกรรมที่ 1 กกกกกกกคาชแ้ี จง ใหน๎ ักศกึ ษาเลือกคาตอบท่ีถกู ต๎องทีส่ ดุ เพยี งข๎อเดียวแล๎วนาไปเขยี นไว๎ในแผํน กระดาษคาตอบท่ีแจกให๎ กกกกกกก1. สิทธิและเสรีภาพมีความสาคัญอยาํ งไร ก. เปน็ รากฐานของประชาธิปไตย ข. เป็นเครอ่ื งมือทีใ่ ชต๎ ํอรองทางการเมือง ค. เป็นเครื่องมือหลักท่ีทาให๎เทคโนโลยเี จรญิ กา๎ วหน๎า ง. เปน็ สง่ิ ทีท่ าให๎คนในสังคมเกิดความรูส๎ กึ เป็นหนึ่งเดียวกัน กกกกกกก2. ขอ๎ ใดไมํใชํคุณธรรมของการเปน็ พลเมืองดี 8 ขอ๎ ก. ความเสียสละ ข. การตรงตอํ เวลา ค. ความพรากเพยี ร ง. การมีระเบยี บวินยั กกกกกกก3. อานาจหรือผลประโยชน๑ของบุคคลท่ีกฎหมายใหค๎ วามคุ๎มครอง คือความหมาย ของขอ๎ ใด กกกกกกก3. ก. สทิ ธิ ข. หนา๎ ท่ี ค. พลเมอื งดี ง. สิทธแิ ละเสรีภาพ กกกกกกก4. การปฏบิ ัติตนตามบทบาทของพลเมืองดีในข๎อใดท่ีมผี ลตํอความระเบียบเรียบรอ๎ ย ของสงั คม ก. รบั การศึกษาอบรม ข. ปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย ค. ปฏบิ ัตติ นตามคาํ นยิ มท่ีดี ง. การปฏิบัติตนตามพิธกี รรมทางศาสนาอยํางเครํงครัด กกกกกกก5. การเป็นพลเมืองดีควรเร่มิ ตัง้ แตรํ ะดบั ใด ก. ระดับสากล ข. ระดบั ประเทศ ค. ระดับโรงเรยี น ง. ระดบั ครอบครัว
21 กกกกกกกกจิ กรรมที่ 2 กกกกกกกคาชีแ้ จง ให๎นักศกึ ษาจบั คูโํ ดยการโยงเส๎น ข๎อความด๎านตัวเลขกับขอ๎ ความตัวอักษรทีม่ ี ความสมั พนั ธ๑กันแลว๎ นาคาตอบท่ีได๎ไปเขยี นลงในแผนํ กระดาษคาตอบทีแ่ จกให๎ กกกกกกก1. หน๎าที่ ก. พลงั หรอื กาลงั คนของประเทศ ซึง่ อยใํู นฐานะ กกกกกกก2. พลเมอื ง เป็นเจ๎าของ ประเทศ ท่ีมสี ญั ชาติของ กกกกกกก3. ความรบั ผิดชอบ ประเทศนน้ั ๆ กกกกกกก4. สทิ ธขิ องปวงชนชาวไทย ข. กิจที่ตอ๎ งทาหรอื ควรทา เปน็ สิ่งท่ีกาหนดให๎ กกกกกกก5. หนา๎ ที่ของพลเมืองดีตํอ ทาหรอื หา๎ มมิใหก๎ ระทาถ๎าทากจ็ ะกํอให๎เกิด กกกกกกก ประเทศชาติ ผลดี คค ค. รกั ษาไวซ๎ ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตย ง. คณุ ธรรมของการเป็นพลเมืองดี จ. สิทธใิ นทรพั ยส๑ นิ บุคคลจะไดร๎ ับการคุ๎มครอง สิทธิในการครอบครองทรัพย๑สนิ ของตนและ การสืบทอดมรดก กกกกกกกกจิ กรรมที่ 3 กกกกกกกคาช้ีแจง ใหน๎ ักศกึ ษาเตมิ คาลงในชํองวํางให๎ถูกต๎องสมบูรณ๑สั้น ๆ แล๎วนาคาตอบท่ีได๎ไป เขยี นลงในแผนํ กระดาษคาตอบท่แี จกให๎ กกกกกกก1. พลเมอื งมคี วามหมายตํางจากบุคคล ซง่ึ หมายถงึ สิ่งซึง่ มีสิทธแิ ละหน๎าทตี่ ามกฎหมาย ซ่ึงได๎แกํ………………………….……และ………………………….…… กกกกกกก2. คาวาํ “สทิ ธิ” มคี าคํูกนั อยูํคือ “………………………….……” ไมวํ าํ เรือ่ งใด ๆ ก็ตาม เม่ือมี “สทิ ธิ” กย็ อํ มมี “………………………….……” คูํกนั เสมอเม่ือเราเกดิ มาเป็นคนไทยมสี ิทธิ ตามที่………………………….……กาหนด กกกกกกก3. ………………………….……หมายถึง ผท๎ู ปี่ ฏบิ ัติหนา๎ ที่พลเมืองไดค๎ รบถว๎ น ทั้งกิจทตี่ อ๎ งทา และกิจท่ีควรทา กกกกกกก4. สทิ ธิใน………………………….……บคุ คลจะได๎รับการคุม๎ ครองสิทธิในการครอบครอง ทรัพยส๑ ินของตนและการสบื ทอดมรดก กกกกกกก5. การปอู งกนั ประเทศ เปน็ หน๎าทขี่ อง………………………….……
22 กกกกกกกกจิ กรรมท่ี 4 กกกกกกกคาชแ้ี จง ใหน๎ ักศกึ ษาทาเครื่องหมายถูก ( ) หรอื ผิด () หนา๎ ข๎อตํอไปน้ี โดยนา คาตอบท่ีได๎นาไปเขียนตอํ ลงในแผํนกระดาษคาตอบท่ีแจกให๎ กกกกกกก……….1. หนา๎ ท่ี คือ ความมีอิสระในการกระทาของบุคคลท่ีอยํใู นของเขตของกฎหมาย เชํน ในการพูด การเขยี น เปน็ ต๎น กกกกกกก……….2. บคุ คลยอํ มมีเสรีภาพบรบิ ูรณ๑ในการถอื ศาสนาหรอื ลทั ธใิ ด ๆ และมเี สรีภาพใน การปฏบิ ตั ิพิธกี รรมตามความเชอ่ื ถอื ของตน เม่ือไมเํ ป็นปฏปิ ก๓ ษต๑ ํอหนา๎ ท่ขี องพลเมืองและไมํเปน็ การขัดตํอความสงบเรียบรอ๎ ยหรอื ศลี ธรรมของประชาชน กกกกกกก……….3. ความจงรกั ภกั ดตี ํอชาติศาสนา และพระมหากษตั รยิ ๑ไมไํ ด๎จัดอยูใํ นคุณธรรม ของการเปน็ พลเมืองดี 8 ข๎อ กกกกกกก……….4. บคุ คลจะเป็นพลเมืองดีของสงั คมนน้ั ต๎องตระหนักถงึ บทบาทหน๎าท่ี ที่จะต๎อง ปฏิบัติ และมํงุ มั่นเพื่อใหบ๎ รรลเุ ปาู หมาย ด๎วยความรบั ผิดชอบอยํางเต็มที่ กกกกกกก……….5. เมือ่ มาโรงเรียน เราตอ๎ งปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของโรงเรยี น เชํน แตงํ กายให๎ ถูกต๎องตามระเบียบ มาให๎ทันเข๎าแถวเคารพธงชาตใิ นตอนเชา๎
23 บทที่ 2 ความหมายและความสาคัญของหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 สาระสาคญั กกกกกกก1. หนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รชั กาลที่ 9 หมายถงึ การท่ปี ระชาชนหรอื บุคคล ในประเทศไทยได๎น๎อมนาแนวทางการปกครองด๎วยทศพิธราชธรรม พระราชดารัสที่สาคัญ หลักการ ทรงงาน รวมถึงพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ ท่ีทรงเป็นแบบอยํางเป็นท่ียอมรับท้ังใน ระดับประเทศ และนานาประเทศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาศึกษา เรียนรู๎ และนาไปเป็นแนวทางปฏิบัติในการดาเนินชีวิตหรือการประกอบอาชีพ เพ่ือให๎ตนเอง มคี ณุ ภาพชวี ิตทีด่ ี มีความเข๎มแขง็ และมั่นคงสงํ ผลตํอเน่อื งตอํ การพฒั นาประเทศและโลกได๎ กกกกกกก2. ความสาคญั ของหน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ชวํ ยให๎พลเมือง มจี ิตสาธารณะ มสี วํ นรวมหรือให๎ความรวํ มมือทาภารกิจเพื่อสํวนรวมของสาธารณะหรือของชาติทาให๎ สงั คมประเทศมีความมนั่ คงผาสุก และเจริญกา๎ วหน๎าได๎ ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั กกกกกกก1. บอกความหมายของหนา๎ ที่พลเมืองามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ได๎ กกกกกกก2. อธิบายและตระหนักถึงความสาคัญของหนา๎ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 ขอบขา่ ยเนือ้ หา กกกกกกกเรื่องท่ี 1 ความหมายของหน๎าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 กกกกกกกเรื่องที่ 2 ความสาคัญของหนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 สอ่ื ประกอบการเรียน กกกกกกก1. สื่อเอกสารได๎แกํ กกกกกกก1. 1.1 ชือ่ หนงั สอื พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เฉลิมพระเกยี รติ พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระขนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554. ผ๎ูแตํงราชบัณฑิตสถาน. ปีท่ีพิมพ๑ 2556. สานักพิมพ๑ ศิริวัฒนาอินเตอร๑พริ้นท๑ จากดั . กกกกกกก1. 1.2 ชื่อหนงั สือการเดินตามรอยพระยคุ ลบาท เศรษฐกิจพอเพยี ง ชํวยแก๎ป๓ญหาความ ยากจนและการทจุ รติ . ผแ๎ู ตํงสมพร เทพสิทธา. ปีทพี่ มิ พ๑ 2546. โรงพิมพ๑ศรีเมืองการพิมพ.๑
24 กกกกกกก1. 1.3 ชอ่ื หนงั สือโครงการเรียนรูต๎ ามรอยพระยุคลบาท. ผ๎ูแตํงสานักสํงเสริมกิจการ การศกึ ษา สานักปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ. ปีทีพ่ ิมพ๑ ม.ป.ป. สถานที่พิมพ๑ ม.ป.พ. กกกกกกก2. สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส๑ ได๎แกํ กกกกกกก2. 2.1 บทความความหมายของคนดี. ผ๎ูแตงํ ทกั ษ๑ดนัย สร๎อยคา. สบื ค๎นจาก http://www.gotoknow.org2posts2244587 กกกกกกก2. 2.2 บทความพลเมอื งดีตามวิถีประชาธปิ ไตย. ผู๎แตงํ ปณิตา ปตตาทานัง. สบื ค๎นจาก http;//www.thistudyfocas.com/สังคมศึกษา/หนา๎ ที่พลเมือง กกกกกกก3. สอื่ แหลํงเรียนรใู๎ นชมุ ชน ไดแ๎ กํ กกกกกกก2. 3.1 ห๎องสมุดประชาชนจงั หวัดประจวบครี ีขันธ๑ กกกกกกก2. 3.2 กศน.ตาบล/เทศบาล และศนู ยก๑ ารเรียนชุมชนในอาเภอเมืองประจวบคีรขี ันธ๑ เรอื่ งที่ 1 ความหมายของหนา้ ทีพ่ ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 กกกกกกก1. ความหมายของหน๎าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 กกกกกกก1. 1.1 ความหมายของหน๎าทพี่ ลเมือง หมายถงึ การท่บี ุคคลในชุมชน สังคม ประเทศ ต๎องปฏิบัติตามกฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาติ คาสั่งสอนของพํอแมํ ครู อาจารย๑ มีความสามัคคีเอื้อเฟ้ือเผื่อแผํซ่ึงกันและกัน รู๎จักรับผิดชอบชั่วดีตามหลักจริยธรรม และ หลักธรรมของศาสนา มีความรอบร๎ู มีสติป๓ญญา ขยันขันแข็งสร๎างความเจริญก๎าวหน๎าให๎แกํตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศชาติ กกกกกกก1. 1.2 ความหมายตามรอยพระยุคลบาท กกกกกกก1. 1.2 ยุคลบาท จากพจนานุกรมราชบณั ฑิตยสถาน ปี พ.ศ. 2554 ได๎ให๎ความหมายไว๎วาํ เท๎าทงั้ คูํ โดยมากใชแ๎ กพํ ระมหากษตั รยิ ๑และสมเด็จพระบรมราชนิ นี าถ กกกกกกก1. 1.2 ตามรอยพระยคุ ลบาท มีความหมายตอํ ไปนี้ กกกกกกก1. 1.2 ตามรอยพระยุคลบาท หมายถึง วธิ ีคดิ วิธีทรงงาน วิธีปฏบิ ัติ ที่ลว๎ นเปน็ แบบอยําง ทค่ี วรแกํการนาไปเป็นแนวทางปฏบิ ัตแิ ละดาเนนิ ชวี ิต กกกกกกก1. 1.2 ตามรอยพระยุคลบาท หมายถงึ ทรงเป็นแบบอยาํ งทด่ี ีในการดาเนินชีวิต และการ ทางานสามารถน๎อมนาไปปฏิบตั ไิ ด๎ กกกกกกก1. 1.2 กลําวโดยสรปุ ตามรอยพระยุคลบาท หมายถงึ การเรียนรู๎วิธคี ิด วธิ ีทรงงาน วธิ ีปฏิบตั ิ ท่ีทรงเปน็ แบบอยํางท่ดี ขี องพระมหากษัตรยิ ๑ เพ่อื นามาใช๎เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ หรอื การประกอบอาชพี กกกกกกก1. 1.3 ความหมายของรัชกาลท่ี 9 กกกกกกก1. 1.2 รชั กาลท่ี 9 หมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย๑ลาดับที่ 9 แหํงราชวงศ๑จักรีท่ีมีคุณูปการตํอประเทศไทย และนานาประเทศ โดยได๎พระราชทานปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงเพื่อใชใ๎ นการพฒั นาคุณภาพชวี ิต สง่ิ แวดล๎อมใหม๎ ีความม่งั คง และยั่งยืน
25 กกกกกกก1. 1.4 ความหมายของหนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลท่ี 9 กกกกกกก1. 1.2 สามารถนาความหมายของหน๎าท่พี ลเมืองความหมายของพระยุคลบาทและ ความหมายของรัชกาลที่ 9 ดังกลําวข๎างต๎นมารวบรวมเป็นความหมายของหน๎าท่ีพลเมือง ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ได๎วาํ หมายถงึ การท่ีประชาชนหรือบุคคลในประเทศไทยได๎น๎อมนา แนวทางการปกครองด๎วยทศพิธราชธรรม พระราชดารัสท่ีสาคัญ หลักการทรงงาน รวมถึงพระราช จริยวัตร และพระราชกรณียกิจที่ทรงเป็นแบบอยําง เป็นท่ียอมรับทั้งในระดับประเทศ และนานา ประเทศของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมาศึกษาเรียนรู๎ และนาไปเป็นแนวทาง ปฏิบัติในการดาเนินชีวิต หรือการประกอบอาชีพ เพื่อให๎ตนเองมีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีความเข๎มแข็ง และมน่ั คง สงํ ผลตอํ เน่อื งตอํ การพฒั นาประเทศ และโลกได๎ เร่อื งที่ 2 ความสาคญั ของหนา้ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 กกกกกกก2. ความสาคัญของหนา๎ ท่ีพลเมืองตํอประเทศชาติโดยทั่วไปพลเมืองไทยทุกคนต๎อง จงรักภักดีตํอสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑ ซึ่งเป็นเอกลักษณ๑ของชาติไทยให๎ดารงอยํูได๎ ต๎องรักษาระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย๑ทรงเป็นประมุข ต๎องชํวยกันรักษา ปูองกันประเทศชาติรํวมมือกับเจ๎าหน๎าท่ีอยํางเต็มที่ ต๎องปฏิบัติตามกฎหมายบ๎านเมืองอยํางเครํงครัด เพ่ือความผาสกุ ของคนในชาติ ต๎องชํวยเหลือราชการเมื่อยามบ๎านเมืองมีภัยตํอความสงบสุข และต๎อง เสยี ภาษีอากรจากความสาคัญของหน๎าที่พลเมืองดังกลําว จะเห็นได๎วําความสาคัญของหน๎าที่พลเมือง โดยทั่วไป ต๎องให๎ความรํวมมือแกํราชการในการปฏิบัติภารกิจเพ่ือสํวนรวมมากกวําสํวนตนการที่ พลเมืองได๎เรียนรู๎ยึดแนวปฏิบัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติภารกิจเพ่ือประโยชน๑สํวนรวมของพลเมืองไทย จะทาให๎พลเมืองไทยได๎เรียนรู๎ ซึมซับเกิด ความซาบซงึ้ ตระหนักถงึ ความสาคญั ของการมจี ิตสาธารณะ หรอื ทาภารกจิ เพ่อื สวํ นรวมอยํางเครํงครัด ได๎งาํ ยขน้ึ สงํ ผลตอํ การดารงอยูขํ องชาติไทยดังกลําว เพราะหน๎าที่พลเมืองมีหน๎าที่ปฏิบัติเพื่อสํวนรวม ด๎วย ไมํใชํปฏิบัติแตํภารกิจสํวนตัวเทํานั้นถ๎าพลเมืองทุกคนรับร๎ู ตระหนัก รํวมมือทาภารกิจสํวนรวม ตามบทบาทที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลท่ี 9 ได๎ทรงทาเป็นแบบอยําง ยอํ มสงํ ผลตอํ ความม่ันคงของประเทศ กกกกกกกกลาํ วโดยสรปุ ความสาคญั ของหนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 ชํวยให๎ พลเมืองมีจิตสาธารณะ มีสํวนรวม หรือให๎ความรํวมมือทาภารกิจเพื่อสํวนรวมของสาธารณะ หรือ ของชาติ ทาใหส๎ ังคมประเทศมีความม่นั คงผาสุก และเจริญก๎าวหนา๎ ได๎
26 กิจกรรมทา้ ยบท กกกกกกกกจิ กรรมท่ี 1 กกกกกกกคาช้ีแจง ให๎นกั ศึกษาเลือกคาตอบที่ถูกต๎องทส่ี ุดเพียงข๎อเดยี ว แล๎วนาไปเขยี นไว๎ในแผนํ กระดาษคาตอบท่ีแจกให๎ ข๎อ 1 ขอ๎ ใดไมใํ ชํความหมายหนา๎ ทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ก. วิธคี ิด ข. วธิ ีเลือก ค. วธิ ปี ฏิบตั ิ ง. วธิ ที รงงาน ขอ๎ 2 ขอ๎ ใดไมํใชํความสาคัญหนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ก. ความสงบสุข ข. การมีสวํ นรวํ ม ค. การมจี ติ สาธารณะ ง. การรวํ มกลํมุ ประทว๎ ง ข๎อ 3 ข๎อใดไมํใชํสํงผลหลกั การเรยี นรู๎ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ก. ความสงบสขุ ข. ความผาสกุ ค. ความเหลอ่ื มลา้ ง. ความเจริญรํงุ เรอื ง ข๎อ 4 ข๎อใดหมายถึงความดขี องการเรียนรู๎ตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ก. ความงอกงาม ความเพิม่ พนู ความอุดมสมบรู ณ๑ ข. ความรอบรู๎ ความรอบคอบ และความระมดั ระวัง ค. ความพร๎อมเพรยี งกัน ความกลมเกลยี วเป็นน้าหนง่ึ ใจเดียวกัน ง. การทาใหเ๎ กดิ ผลดอี ยํางมีคุณคาํ ตํอผอู๎ ื่น ตอํ สํวนรวม รวมถึงตอํ ตนเอง ขอ๎ 5 ขอ๎ ใดหมายถึงความสามัคคขี องการเรียนร๎ตู ามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ก. ความงอกงาม ความเพม่ิ พูน ความอุดมสมบูรณ๑ ข. ความรอบรู๎ ความรอบคอบ และความระมดั ระวัง ค. ความพรอ๎ มเพรยี งกนั ความกลมเกลียวเปน็ นา้ หนง่ึ ใจเดยี วกัน ง. การทาให๎เกดิ ผลดีอยํางมคี ณุ คาํ ตํอผ๎อู ื่น ตอํ สํวนรวม รวมถึงตํอตนเอง
27 กกกกกกกกจิ กรรมที่ 2 กกกกกกกคาชแ้ี จง ให๎นกั ศึกษาจบั คูํโดยการโยงเส๎นขอ๎ ความดา๎ นตัวเลขกับข๎อความตวั อักษรทีม่ ี ความสัมพันธก๑ นั แลว๎ นาคาตอบที่ได๎ไปเขียนลงในแผนํ กระดาษคาตอบที่แจกให๎ กกกกกกก1. ความดีตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ก. ส่ิงท่สี ่งั สมมาจากการศกึ ษา เลําเรยี นการค๎นควา๎ หรือจาก กกกกกกก2. ความสามัคคีตามรอยพระยุคลบาท ประสบการณ๑ รชั กาลที่ 9 ข. ความพอเพยี ง ความพอประมาณ กกกกกกก3. ความเจริญตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ความมีเหตผุ ล ค. ความพร๎อมเพรยี งกนั ความกลม กกกกกกก4. ความร๎ูตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ง. ความงอกงาม ความเพิม่ พูน กกกกกกก5. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เกลียวเป็นนา้ หน่ึงใจเดียวกัน จ. การทาให๎เกิดผลดีอยํางมี คณุ คาํ ตอํ ผู๎อนื่ ตํอสํวนรวม กกกกกกกกิจกรรมที่ 3 กกกกกกกคาช้แี จง ใหน๎ กั ศึกษาเตมิ คาลงในชํองวาํ งใหถ๎ ูกต๎องสมบรู ณ๑ ส้นั ๆในหน๎าคาตอบทีไ่ ด๎ไปเขียน ขอ๎ ความลงในแผํนกระดาษคาตอบท่แี จกให๎ 1. การท่ีประชาชนหรือบุคคลในประเทศไทยไดน๎ ๎อมนาเป็นแนวทางการปกครองด๎วย ทศพธิ ราชธรรม พระราชดารัส หลกั การทรงงานรวมถึงพระราชจรยิ วตั ร หมายถึง............................. ............................................................................................................................................................ 2. การทีพ่ ลเมอื งไทยมีสํวนรวํ มในการทาภารกจิ ตํางๆ เพ่ือสวํ นรวม มีจิตสาธารณะ และ เพอื่ ต๎องการใหส๎ งั คมและประเทศมีความมั่นคงและมคี วามผาสุกตลอดไป หมายถึง............................ ............................................................................................................................. ................................ 3. สง่ิ ทีบ่ ํงบอกถึงความงอกงาม ความเพ่ิมพนู ความรงุํ เรือง และความอดุ มสมบูรณ๑ หมายถึง............................................................................................................................... ................ 4. การค๎นคว๎า การศึกษาเลาํ เรียนเพ่อื ให๎ตนเองเป็นผ๎ทู ี่มีความฉลาด มีความสามารถเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารและมีทกั ษะในองค๑วชิ าในแตลํ ะสาขา หมายถึง................................................................... 5. การแสดงความพร๎อมเพยี ง ความกลมเกลยี วเป็นน้าหน่งึ ใจเดยี วกัน หมายถงึ ............. ................................................................................................ ............................................................
28 กกกกกกกกิจกรรมท่ี 4 กกกกกกกคาช้แี จง ให๎นักศึกษาทาเครื่องหมายถูก ( ) หรอื ผิด () หน๎าข๎อตํอไปน้ี โดยนาคาตอบ ทไ่ี ด๎ไปเขียนลงในแผนํ กระดาษคาตอบทแี่ จกให๎ กกกกกกก..............1. ความหมายของหน๎าท่ีพลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 หมายถึง การที่ประชาชนน๎อมนาแนวทางเรื่อง ทศพิธราชธรรม พระราชดารัส หลักการทรงงาน พระราช กรณียกจิ และพระราชจริยวัตร มาเป็นแนวปฏบิ ตั ใิ นการดาเนนิ ชวี ติ ..............2. การมีสวํ นรวํ มในการทาภารกิจตํางๆ มจี ติ สาธารณะเพื่อให๎ประเทศมีความ มน่ั คง และมคี วามสงบสขุ ถอื เปน็ ความสาคัญของหนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 .............3. การกระทาทเี่ ป็นผลดมี ีคุณคาํ ตอํ ตนเอง ตํอผอ๎ู ื่น และตอํ สงั คมถือเปน็ การสร๎าง ความสามัคคี .............4. การศึกษาคน๎ คว๎า เพื่อให๎ตนเองเปน็ ผู๎ฉลาด มีความสามรถเชิงปฏบิ ัตกิ ารและ มีทักษะ เปน็ การแสวงหาความร๎ู .............5. การใชช๎ วี ติ บนความไมํประมาท มคี วามพอประมาณ ความมเี หตุผล มีภูมคิ ๎ุมกันท่ดี ี เป็นการยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
29 บทท่ี 3 หน้าทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ดว้ ยทศพธิ ราชธรรม สาระสาคัญ กกกกกกก1. ทศพธิ ราชธรรม หมายถึง หลักธรรมหรือจรยิ าวัตรประจาพระเจา๎ แผํนดิน หรอื เปน็ คุณธรรมประจาตนของผู๎ปกครองบ๎านเมือง และยังประโยชน๑สุขให๎เกิดแกํประชาชน บุคคลธรรมดา ทีเ่ ปน็ ผ๎ูบรหิ ารระดับสูงในทุกองค๑กร สามารถใช๎ทศพิธราชธรรมในการปกครององค๑กรของตนเองให๎มี ความเปน็ ไปโดยธรรม กกกกกกก2. แนวทางปฏิบตั หิ น๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ด๎วยทศพธิ ราชธรรม มี 10 ประการ คอื กกกกกกก2. ข๎อ 1 ทาน คอื การให๎ หมายถึง การสละทรัพย๑ ส่ิงของ เพื่อชํวยเหลอื คนท่ีดอ๎ ยและ อํอนแอกวํา แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการการเป็นผู๎ให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็นทรัพย๑สิน หรือสิ่งของแกํผ๎ูยากไร๎ ผู๎ด๎อยโอกาส และผู๎ตกทุกข๑ได๎ยากตามท่ีเราทาอยํูเสมอแล๎ว เราก็อาจจะให๎ น้าใจแกํผ๎ูอ่ืนได๎ เชํน ให๎กาลังใจแกํผู๎ตกอยํูในห๎วงทุกข๑ ให๎ข๎อแนะนาท่ีเป็นความร๎ูแกํผ๎ูรํวมงานหรือ ผู๎ใต๎บังคับบัญชา ให๎รอยย้ิม และปิยวาจาแกํญาติพี่น๎อง เพ่ือนฝูง รวมถึงบุคคลท่ีมารับบริการจากเรา เปน็ ต๎น การเปน็ ผู๎ให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็นทรัพยส๑ นิ หรอื ส่ิงของแกํผู๎ยากไร๎ ผู๎ด๎อยโอกาสแล๎ว สามารถให๎คาแนะนา หรือให๎กาลังใจดงั กลาํ ว ยังสามารถใหอ๎ ภยั ทาน คือ การยกโทษให๎กับบุคคลท่ีทา ใหเ๎ รารส๎ู กึ ไมสํ บายใจหรอื ทาใหเ๎ ราไดร๎ ับกระทบกระเทือน ทัง้ ด๎านวาจา กาย และใจดว๎ ย กกกกกกก2. ขอ๎ 2 ศีล คือ การตั้งอยใํู นศีล หมายถึง มีความประพฤตดิ ีงาม เป็นตวั อยาํ งทด่ี แี กํคน ท่ัวไป แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการประพฤติท่ีดีงาม ตามหลักศาสนาของตน อยํางน๎อยก็ขอให๎ เราได๎ปฏิบัติตามศีล 5 คือ ไมํฆําสัตว๑ตัดชีวิต ไมํลักขโมยของของผู๎อื่น ไมํลํวงละเมิดลูกเมียเขา ไมํพูด โกหก หรือพูดสํอเสียดยุยง และควรทาตนให๎หํางไกลจากเหล๎า บุหร่ี หรืออบายมุขตําง ๆ นอกจากนี้ ให๎นาศีล 5 ที่ยึดถือปฏิบัติไปควบคุมพฤติกรรมของตนเอง ให๎เคารพกฎหมายของบ๎านเมืองอยําง เครงํ ครัด กจ็ ะชวํ ยใหส๎ งั คมไทยอยํูรวํ มกนั ไดอ๎ ยาํ งมีความสุข กกกกกกก2. ขอ๎ 3 ปรจิ จาคะ คือ บริจาค หมายถึง การเสยี สละความสขุ สาราญของตนเพ่ือ ประโยชน๑สุขของหมูํคณะ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการเสียสละความสุขสํวนตนเพื่อความสุข หรือประโยชน๑ของสํวนรวม ซ่ึงอาจจะเป็นครอบครัว หนํวยงาน หรือเพื่อนรํวมงานของเราก็ได๎ เชํน ครอบครัว พํอบ๎านเสียสละความสุขสํวนตัวด๎วยการเลิกด่ืมเหล๎า ทาให๎ลูกเมียมีความสุข และเพ่ือน บา๎ นก็สขุ ดว๎ ย เพราะไมํตอ๎ งฟง๓ เสียงอาละวาด ดําทอทบุ ตีกัน หรือบุคคลอาจจะเสียสละเวลาชํวงที่ต๎อง อยูํกับครอบครัวในตอนเย็นอยํูชํวยเพ่ือนทางาน หรือไปเข๎าคํายพัฒนาชนบท อาสาไปดูแลเด็กใน สถานเล้ียงเด็กกาพรา๎ เปน็ คร้ังคราว หรือเสียสละรํางกาย /อวัยวะหลังตายแล๎วเพ่ือการศึกษา เป็นต๎น ซึ่งการเสยี สละดังกลาํ วถือวําได๎เปน็ การบริจาค เสยี สละความสขุ สํวนตวั เพ่อื สวํ นรวม
30 กกกกกกก2. ขอ๎ 4 อาชชวะ คือ ความซอ่ื ตรง หมายถึง มีความซอื่ สัตย๑สจุ ริต มีความจริงใจ ไมํกลับกลอก แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการดาเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจ/หน๎าที่การงานตําง ๆ ด๎วยความซ่ือสัตย๑สุจริต ไมํคิดคดโกง หรือหลอกลวงผ๎ูอ่ืน เชํน ถ๎าเราขายของ ก็ไมํเอาของไมํดีไป หลอกขายลูกค๎า เป็นข๎าราชการ พนักงานบริษัท ห๎างร๎าน ก็ไมํคอรัปช่ันท้ังเวลา ทรัพย๑สินขอ ง หนํวยงานตน เพราะถ๎าทุกคนเอาเปรียบหรือโกงกิน ขาดความซ่ือสัตย๑สุจริต จะทาให๎หนํวยงาน เสียหาย เดอื ดร๎อน แม๎เราจะไดท๎ รพั ย๑สินไปมากมาย แตเํ ราไมํเจรญิ ก๎าวหนา๎ ถูกคนรมุ ประณาม และ แม๎คนอ่ืนจะไมํรู๎แตํตัวเรายํอมรู๎อยูํแกํใจ จะไมํมีความสุขกาย สบายใจ เพราะกลัวคนอื่นจะมาร๎ู ความลับตลอดเวลา ผ๎ูท่ีประพฤติตนด๎วยความซ่ือตรง แม๎ไมํร่ารวยเงินทอง แตํก็มีความสุขทั้งกาย ใจได๎ กกกกกกก2. ข๎อ 5 มทั ทวะ คอื ความอํอนโยน หมายถงึ มกี ริ ยิ าสภุ าพ มสี มั มาคารวะ วาจา อํอนหวาน มีความนํุมนวล ไมํเยํอหย่ิง ไมํหยาบคาย แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการทาตัวสุภาพ นุมํ นวล ไมเํ ยอํ หยงิ่ ถือตัว หรอื แสดงกิรยิ าวาจา หยาบคายกับใคร ไมวํ ําจะเป็นผ๎ใู หญํ ผ๎ูนอ๎ ยหรือเพื่อน ในระดับเดียวกัน การทาตัวเป็นผ๎ูที่มีความอํอนน๎อมถํอมตน จะทาให๎ไปท่ีไหนคนก็ให๎การต๎อนรับ เพราะอยใํู กลแ๎ ลว๎ สบายใจ ไมํร๎อนรมํุ หากบุคคลแสดงกริ ิยาหยาบคาย กา๎ วร๎าว คนก็ถอยหาํ ง ดังน้นั หลกั ธรรมขอ๎ น้ี จึงเปน็ การสรา๎ งเสนํหอ๑ ยาํ งหนง่ึ ใหแ๎ กํตัวเราด๎วย กกกกกกก2. ข๎อ 6 ตบะ คือ ความเพียร หมายถึง การเพียรพยายามไมใํ ห๎ความมวั เมาเข๎าครอบงา จิตใจ ไมํลํุมหลงกับอบายมุขและสิ่งช่ัวร๎าย ไมํหมกมุํนกับความสุขสาราญ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการให๎ปฏิบัติหน๎าที่การงานท่ีรับผิดชอบด๎วยความมุมานะ อดทน ขยัน มํุงมั่น และทาแตํสิ่งที่ดี ความถูกต๎อง ฝุาฟ๓นอุปสรรคตําง ๆ จนประสบความสาเร็จ ด๎วยความพากเพียรนี้จะทาให๎เรา ภาคภมู ิใจเม่ืองานสาเร็จ และจะทาใหเ๎ รามีประสบการณ๑เกงํ กล๎าข้ึน นอกจากน้ี ยังสอนใหเ๎ ราสูช๎ วี ติ ไมํยอมแพอ๎ ะไรงําย ๆ กกกกกกก2. ขอ๎ 7 อกั โกธะ คือ ความไมโํ กรธ หมายถึง มีจิตใจม่ันคง มีความสุขุม เยือกเย็น อดกลั้น ไมํแสดงความโกรธหรือความไมํพอใจให๎ปรากฏ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการฝึกฝนควบคุม อารมณ๑ของตนเอง ไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายามระงับยับย้ังความโกรธอยูํเสมอแม๎ในหลาย ๆ สถานการณ๑จะทาได๎ยาก แตํหากเราสามารถฝึกฝน ไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายามระงับยับยั้ง ความโกรธอยูํเสมอ จะเป็นประโยชน๑ตํอเราหลายอยําง เชํน ทาให๎เราสุขภาพจิตดี หน๎าตาผํองใส ขอ๎ สาคัญ ทาใหเ๎ รารกั ษามติ รไมตรีหรือสัมพันธภาพกับผู๎อน่ื ไวไ๎ ด๎ อันมผี ลให๎บุคคลน้ันเปน็ ที่รกั และ เกรงใจของคนทต่ี ดิ ตํอด๎วย กกกกกกก2. ขอ๎ 8 อวิหิงสา คอื ความไมํเบียดเบียน หมายถงึ ไมํกดขี่ขํมเหง กล่นั แกล๎งรังแกคนอ่นื ไมํหลงในอานาจ ทาอันตรายตํอรํางกายและทรัพย๑สินผู๎อื่นตามอาเภอใจ แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการไมํเบยี ดเบียนหรอื บีบค้ันกดข่ีผู๎อื่น รวมไปถึง การไมํใช๎อานาจไปบังคับ หรือหาเหตุกล่ันแกล๎ง คนอ่ืนด๎วย เชํน ไมํไปขํมเหงรังแกผู๎ด๎อยกวํา ไมํไปขํมขํูให๎เขากลัวเราหรือไปบีบบังคับเอาของรักของ หวงมาจากเขา เป็นต๎น นอกจากไมํเบียดเบียนคนด๎วยกันแล๎ว เรายังไมํควรเบียดเบียนธรรมชาติ สิ่งแวดล๎อม และสัตว๑อีกด๎วย เพราะมิฉะนั้น ผลร๎ายจะย๎อนกลับมาสํูเรา และสังคม อยํางท่ีเห็นใน ปจ๓ จุบันจากภยั ธรรมชาตติ ําง ๆ
31 กกกกกกก2. ขอ๎ 9 ขันติ คอื ความอดทน หมายถงึ การอดทนตํอสิ่งท้ังปวง สามารถอดทนตํอ งานหนัก ความยากลาบาก ท้ังอดทน อดกลั้นตํอคาติฉินนินทา แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการให๎ เราอดทนตํอความยากลาบากทุกสถานการณ๑ ไมํท๎อถอย และไมํหมดกาลังกาย กาลังใจที่จะดาเนิน ชีวิต และทาหน๎าที่การงานตํอไปจนสาเร็จ รวมทงั้ อดทนตํอการไมํได๎รบั ความสุขสาราญ ไมํได๎รับความ สะดวกสบาย ความอดทนจะทาให๎เราชนะอุปสรรคทง้ั ปวงไมวํ ําเลก็ หรอื ใหญํ และจะทาใหเ๎ ราแกรํงขน้ึ เข๎มแข็งขึน้ กกกกกกก2. ข๎อ 10 อวิโรธนะ คือ ความเท่ยี งธรรม หมายถงึ ไมํประพฤตผิ ดิ ประพฤติปฏิบัตติ นอยํู ในความดีงาม ไมํหว่ันไหวในเรื่องดีเรื่องร๎าย แนวปฏิบัติของพลเมืองดี ด๎วยการควรกระทาการงาน หรือดาเนินชีวิตท่ีถูกต๎อง และให๎ความเป็นธรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข๎อง ด๎วยความยุติธรรม และ เทย่ี งธรรม ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั กกกกกกก1. วเิ คราะหห๑ นา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ด๎วยทศพิธราชธรรมตาม สถานการณ๑ทก่ี าหนดให๎ได๎ กกกกกกก2. ตระหนักถึงความสาคญั ของหนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ด๎วยทศพิธราชธรรม ขอบข่ายเนือ้ หา กกกกกกกเรื่องท่ี 1 ความหมายของทศพิธราชธรรม กกกกกกกเรื่องที่ 2 แนวทางการปฏบิ ัตหิ น๎าที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ด๎วยทศพธิ ราชธรรม สื่อประกอบการเรียน กกกกกกก1. สื่อเอกสาร ไดแ๎ กํ กกกกกกก1. 1.1 หนังสอื ชือ่ ทศพธิ ราชธรรม ผแ๎ู ตงํ ท.กลว๎ ยไม๎ ณ อยุธยา ปที ี่พมิ พ๑ พ.ศ.2535 สานักพิมพ๑ พับลิคบิสเนสพรน้ิ ท๑ กกกกกกก1. 1.2 หนงั สอื ชื่อ ราชธรรมจริยวัตรพระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยหํู วั ภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ผแู๎ ตํง พระพรหมวชิรญาณ ปีทีพ่ มิ พ๑ 2549 สานกั พิมพ๑ รมํ ธรรม กกกกกกก2. สือ่ อิเล็กทรอนิกส๑ ได๎แกํ กกกกกกก1. 2.1 ชื่อบทความ ทศพิธราชธรรม ผ๎ูแตํง ทรงพร ศรสี ุวรรณ สบื คน๎ จาก https://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1478247611 กกกกกกก1. 2.2 บทโทรทัศน๑เฉลมิ พระเกยี ตริ พระบาทสมเด็จพระภูมิพลมหาราชเน่ืองในมหามงคล สมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ วนั ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 โดยนางสาววันเพญ็ เซ็นตระกลู ฉบบั ไดน๎ บั รางวัลส่ือมวลชนดเี ดํนเพ่อื เยาวชนประจาปี 2529 – 2530 ประเภทภาพยนตร๑ขาํ วและ สารคดี สืบค๎นจาก http://www.dhammajak.met/ratchathum/index.php
32 กกกกกกก1. 2.3 ช่ือบทความ “ทศพิธราชธรรม” หลักปฏิบตั ิ 10 ประการ ผู๎แตํง ประชาชาตธิ รุ กจิ ออนไลน๑ สบื คน๎ จาก https://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=14782476 กกกกกกก3. สื่อบุคคล ได๎แกํ กกกกกกก1. 3.1 เจ๎าคณะจังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ๑ กกกกกกก1. 3.2 เจา๎ คณะตาบล ในอาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ๑ กกกกกกก1. 3.3 วิทยากรจากชมรมคนรักในหลวงจังหวดั ประจวบคีรขี ันธ๑ กกกกกกก4. สื่อแหลํงเรียนร๎ใู นชมุ ชน ได๎แกํ กกกกกกก1. 4.1 หอ๎ งสมุดประชาชนจงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธ๑ กกกกกกก1. 4.2 กศน.ตาบล/เทศบาล ทกุ แหํง และศนู ย๑การเรียนชุมชน ในอาเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ๑ เร่ืองท่ี 1 ความหมายของทศพธิ ราชธรรม กกกกกกกทศพิธราชธรรม หมายถงึ เป็นหลักธรรมประจาพระองค๑ หรือเปน็ คุณธรรมประจาตนของ ผู๎ปกครองบ๎านเมือง ให๎มีความเป็นไปโดยธรรม และยังประโยชน๑สุขให๎เกิดแกํประชาชนจนเกิดความ ช่ืนชมยินดี ซึ่งความจริงแล๎วไมํได๎จาเพาะเจาะจงสาหรับพระเจ๎าแผํนดิน หรือผ๎ูปกครองแผํนดิน เทํานัน้ บุคคลธรรมดาท่ีเป็นผู๎บรหิ ารระดบั สูงในทุกองคก๑ รก็พงึ ใชห๎ ลักธรรมเหลาํ น้ี กกกกกกกทศพิธราชธรรม หมายถงึ จรยิ วตั รทพ่ี ระเจ๎าแผํนดนิ ทรงประพฤติเปน็ หลักธรรมประจา พระองค๑ หรือคณุ ธรรมของผป๎ู กครองบ๎านเมือง กกกกกกกทศพิธราชธรรม หมายถงึ ความซ่อื ตรง ทรงมีพระราชอัธยาศยั อันประกอบดว๎ ยความ ซอ่ื ตรง ดารงในสตั ย๑สุจรติ กกกกกกกทศพิธราชธรรม หมายถงึ หลักธรรมอนั เปน็ เครื่องยดึ เหนย่ี วนา้ ใจของกันและกันเหน็ เหตใุ ห๎ ตนเอง และหมคํู ณะก๎าวไปสูํความเจริญรงํุ เรอื ง กกกกกกกกลําวโดยสรปุ ทศพิธราชธรรม หมายถงึ เป็นหลักธรรมหรอื จริยาวตั รประจาพระเจ๎า แผนํ ดนิ หรอื เป็นคุณธรรมประจาตนของผู๎ปกครองบ๎านเมือง และยังประโยชน๑สุขให๎เกิดแกํประชาชน บุคคลธรรมดาท่ีเป็นผู๎บริหารระดับสูงในทุกองค๑กร สามารถใช๎ทศพิธราชธรรมในการปกครององค๑กร ของตนเองใหม๎ ีความเป็นไปโดยธรรม เร่ืองท่ี 2 แนวทางการปฏบิ ัติหน้าที่พลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลท่ี 9 ด้วยทศพธิ ราชธรรม กกกกกกกทศพธิ ราชธรรมที่พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ใช๎ ปกครองประเทศไทยและพลเมอื งไทย ควรตามรอยพระยุคลบาท มี 10 ประการ ดงั นี้ กกกกกกก1. ทาน คอื การให๎ การสละทรพั ย๑ สงิ่ ของ เพอ่ื ชํวยเหลอื คนทด่ี ๎อยและอํอนแอกวาํ กกกกกกก1. นับแตํปพี ทุ ธศักราช 2493 หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษกแลว๎ พระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9ไดท๎ รงบาเพ็ญทานบารมมี ากมายจนเหลือที่จะพรรณนา ได๎สุดส้ิน ครบถ๎วนทั้งสองประการ คือ “ธรรมทาน” ซ่ึงถือเป็นทานอันเลิศทางพระพุทธศาสนา
33 สามารถแก๎ความทุกข๑ยากขาดแคลนทางจิตใจ ทาให๎ใจเป็นสุขและต้ังอยํูในความดีงาม โดยได๎ พระราชทาน พระบรมราโชวาทแฝงด๎วยคติธรรมเป็นเครื่องเตือนใจในเรื่องตําง ๆ แกํพสกนิกรตาม สถานะ และวาระโอวาทอยูเํ สมอ ในท๎องถิ่นที่ต๎องการความร๎ู ได๎พระราชทานความร๎ู และตรัสแนะนา ในสิ่งอันจะทาประโยชน๑มาให๎ ด๎วยพระมหากรุณาธิคุณท่ีจะทรงชํวยดับทุกข๑ความเดือดร๎อนในจิตใจ ของประชาชนท้งั มวล นอกจากธรรมทานแล๎ว “อามิสทาน” หรือ “วัตถุทาน” ก็ทรงมีพระเมตตาคุณ ในพระราชหฤทัยเป็น ล๎นพ๎น ได๎พระราชทานพระราชทรัพย๑และวัตถุสิ่งของตําง ๆ เพ่ือแก๎ความทุกข๑ ยากขาดแคลนทางกายให๎แกํพสกนิกรเสมอมา ในการบาเพ็ญทางบารมีนี้ ได๎ทรงบาเพ็ญตามท่ี พระพุทธเจ๎าตรัสสองทุกประการ คือ ทรงบาเพ็ญครบถ๎วนตามคุณสมบัติของทาน 3 ประการ ได๎แกํ คุณสมบัตขิ องทาน ประการที่หนงึ่ คอื การพระราชทานให๎แกํบุคคลท่ีสมควรได๎รับการอนุเคราะห๑โดย มิได๎ทรงเลือกเช้ือชาติหรือศาสนา คุณสมบัติของทานประการที่สอง คือ ถึงพร๎อมด๎วยเจตนาโดยทรง มีพระเมตตาคุณเป่ียมล๎นในพระราชหฤทัย ทั้งกํอนการพระราชทาน ขณะพระราชทาน และหลังการ พระราชทานแล๎ว คุณสมบัติของทานประการที่สาม คือวัตถุที่พระราชทานนั้นล๎วนเป็นประโยชน๑แกํ ราษฎรผ๎รู ับพระราชทาน ใหพ๎ น๎ จากการขาดแคลนได๎อยํางไมํมีข๎อสงสัย นอกจากนี้ยังทรงบาเพ็ญทาน ให๎เป็นบุญตามท่ีพระพุทธองค๑ทรงสอนไว๎ คือ บาเพ็ญให๎เป็นเครื่องชาระกิเลสอันมีความละโมบ เป็นตน๎ ตวั อยาํ งเชํน “สวนหลวง ร.9” ซงึ่ ชาวไทยรํวมใจกนั สรา๎ งข้นึ เพ่อื ถวายเป็นราชสักการะก็มิได๎ ทรงสงวนไว๎สาหรับพระองค๑ แตํได๎พระราชทานให๎เป็นสาธารณสถาน เพื่อประโยชน๑สุขแหํงปวงชน ชาวไทยท้ังมวล สํวนโครงการหลวง โครงการพระราชดาริตําง ๆ ท่ีมีอยํูนับพันโครงการท่ัวประเทศ รวมทั้ง \"ศนู ยศ๑ ึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ\" ซ่ึงโปรดให๎ตั้งขึ้นในภาคตําง ๆ เพ่ือศึกษา พ้ืนที่และวิจยั ปรับปรุงพันธุ๑พืชผลให๎เหมาะแกํท๎องถ่ิน อันเป็นการแก๎ไขต๎นเหตุแหํงป๓ญหา เพื่อพัฒนา ประเทศให๎ไดผ๎ ลน้นั จดั เป็นการบาเพญ็ ทานใหเ๎ ป็นกุศล คือ เป็นกิจของคนดี คนมีป๓ญญา ถูกกาลสมัย เหมาะแกคํ วามต๎องการของผรู๎ บั ไมทํ าให๎พระองค๑ หรือผู๎ใดเดือดร๎อน การบาเพ็ญทานให๎เป็นกุศลของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 จึงยังผลให๎ไพรํฟูาหน๎าใสได๎โดย ท่ัวหนา๎ กัน ภาพการใหว๎ ตั ถุทาน
34 ภาพการให๎ธรรมทาน กกกกกกก1. หนา้ ทพี่ ลเมืองดี มแี นวปฏิบัติ ได๎แกํ การเปน็ ผู๎ให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็น ทรัพย๑สินหรือสิ่งของแกํผ๎ูยากไร๎ ผ๎ูด๎อยโอกาส และผู๎ตกทุกข๑ได๎ยากตามที่เราทาอยํูเสมอแล๎ว เราก็อาจจะให๎น้าใจแกํผู๎อ่ืนได๎ เชํน ให๎กาลังใจแกํผู๎ตกอยูํในห๎วงทุกข๑ ให๎ข๎อแนะนาท่ีเป็นความร๎ูแกํ ผร๎ู ํวมงาน หรือผ๎ูใต๎บังคับบัญชา ให๎รอยยิ้ม และปิยวาจาแกํญาติพ่ีน๎อง เพื่อนฝูง รวมถึงบุคคลที่มารับ บริการจากเรา เป็นต๎น การเป็นผ๎ูให๎ นอกเหนือจากการบริจาคเป็นทรัพย๑สิน หรือส่ิงของแกํผู๎ยากไร๎ ผ๎ูด๎อยโอกาสแล๎ว สามารถให๎คาแนะนา หรือให๎กาลังใจดังกลําว ยังสามารถให๎อภัยทาน คือ การยกโทษให๎กับบุคคลท่ีทาให๎รู๎สึกไมํสบายใจ หรือทาให๎เราได๎รับกระทบกระเทือน ทั้งด๎านวาจา กาย และใจดว๎ ย กกกกกกก2. ศลี คอื การตง้ั อยใูํ นศีล หมายถงึ มคี วามประพฤตดิ ีงาม เป็นตัวอยาํ งทีด่ แี กคํ นทัว่ ไป กกกกกกก1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัตพิ ระองค๑ให๎ เป็นท่ีประจักษ๑ตลอดมาวํา ทรงเครํงครัดในการรักษาศีล และทรงมีน้าพระทัยนับถือพระพุทธศาสนา โดยบริสุทธ์ิ ดังจะเห็นได๎จากการเสด็จออกทรงผนวชรักษาศีล 227 ข๎อ ของพระภิกษุในบวร พุทธศาสนา เม่ือวันท่ี 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเมื่อทรง ผนวชแล๎วได๎เสด็จมาประทับรักษาศีลตามพุทธบัญญัติ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยประทับ ณ “พระตาหนักป๓น้ หยํา” แลว๎ จงึ เสด็จมาประทับ ณ “พระตาหนักทรงพรต” ตามขัตติยราชประเพณี แม๎เมื่อทรงลาผนวชแล๎ว พระองค๑ยังคงเสด็จมาประทับนั่งสมาธิกรรมฐานเป็นคร้ังคราว ณ พระตาหนักทรงพรตนี้ ตลอดระยะเวลาแหํงการทรงผนวช ทรงดารงพระองค๑ได๎งดงามบริสุทธ์ิ สมควรแกกํ ารเปน็ พทุ ธสาวก จนเปน็ ท่ีเลือ่ มใสศรัทธา แกํพสกนิกรโดยทั่วหน๎า เม่ือทรงลาผนวชมาอยํู พระราชฐานะแหํงพระมหากษัตริยาธิราชแล๎ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ยังทรงประพฤติอยํูในศีลโดยบริสุทธิ์ กลําวคือ ทรงประพฤติพระราชจริยวัตรในทางพระ วรกาย และในทางพระวาจาให๎สะอาดงดงามถูกต๎องอยํูเป็นนิจ ไมํเคยบกพรํอง ไมํวําจะเป็นศีลในการ ปกครอง หรือศีลในทางศาสนากต็ าม ในด๎านศีลในการปกครอง คือ การประพฤตติ นตามกฎหมายและ จารีตประเพณีอันดีงามน้ัน ไมํเคยปรากฏเลยวําพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงใช๎พระราชอานาจของพระองคเ๑ หนอื กฎหมาย และไมํเคยมีแม๎แตํสักครั้งเดียวที่จะทรง ละทิ้งจารีตประเพณีอันดีงามของชาติ และของพระราชวงศ๑ พระเกียรติคุณในข๎อนี้เป็นท่ีซาบซึ้งในใจ ของชาวไทยเป็นอยํางดี นับจากกาลเวลาท่ีลํวงผํานมาตราบจนถึงทุกวันน้ี สํวนศีลในทางศาสนา
35 อยํางนอ๎ ยคอื ศีลห๎า อนั เป็นศีลหรือกฎหมายทใี่ ช๎ในการปกครองแผํนดินมาตั้งแตํอดีตกํอนพุทธกาลนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได๎ทรงสมาทานรักษาอยํางเครํงครัด และทรงสนับสนุนให๎พสกนิกรของพระองค๑สมาทานรักษาศีล อยํางเครํงครัด สาหรับผ๎ูที่มิได๎นับถือ พทุ ธศาสนา พระองคท๑ รงสนบั สนุนใหย๎ ดึ มัน่ ตามคาสอนแหงํ ศาสนาอนั ตนศรัทธา ด๎วยทรงตระหนักวํา ทุกศาสนามีหลกั คาสอนท่ีนาไปสํูการประพฤติดี ศาสนาจึงเป็นส่ิงจาเป็นสาหรับการอยํูรํวมกันของชน หมูํมาก แม๎บัดน้ีในการปกครองจะมีกฎหมายอยํูแล๎วก็ยังต๎องอาศัยศาสนาเป็นเครื่องอุปการะ ด๎วยกฎหมายบังคับได๎เพียงแคํกาย สํวนศาสนาสามารถเข๎าถึงจิตใจ น๎อมนาไปปฏิบัติตามโดยไมํต๎อง บังคับ การที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงปกครองบ๎านเมือง ด๎วยกฎหมายและศาสนา ประกอบกับการท่ีทรงสมาทานศีลอยํางเครํงครัดดังปรากฏในที่ทุกสถาน ชาวไทยจงึ มีความสขุ สงบ และวัฒนาด๎วยศลี บารมแี หํงพระองค๑ ภาพการสนทนาธรรมกับสมเดจ็ พระสงั ฆราช ภาพทรงผนวช กกกกกกก1. หนา้ ทพี่ ลเมืองดี มีแนวปฏิบตั ิ ได๎แกํ การประพฤตทิ ดี่ ีงาม ตามหลักศาสนาของตน อยํางน๎อยก็ขอให๎เราได๎ปฏิบัติตามศีล 5 คือ ไมํฆําสัตว๑ตัดชีวิต ไมํลักขโมยของของผู๎อ่ืน ไมํลํวงละเมิด ลูกเมียเขา ไมํพูดโกหก หรือพูดสํอเสียดยุยง และควรทาตนให๎หํางไกลจากเหล๎า บุหรี่ หรืออบายมุข ตําง ๆ นอกจากน้ีให๎นาศีล 5 ท่ียึดถือปฏิบัติไปควบคุมพฤติกรรมของตนเอง ให๎เคารพกฎหมายของ บา๎ นเมืองอยาํ งเครํงครดั กจ็ ะชวํ ยใหส๎ งั คมไทยอยูรํ ํวมกันไดอ๎ ยาํ งมีความสขุ
36 กกกกกกก3. ปริจจาคะ คือ บริจาค หมายถึง การเสียสละความสุขสาราญของตน เพ่ือประโยชน๑สุข ของหมํคู ณะกก กกกกกกก1. ในดา๎ นการบรจิ าค การเสยี สละความสขุ สาราญของตน เพื่อประโยชน๑สขุ ของหมูคํ ณะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงยึดถือประโยชน๑และความเจริญ ของชาติ ศาสนา รวมท้ังประโยชน๑สุขของพสกนิกร สาคัญยิ่งกวําพระองค๑เอง พระราชกรณียกิจ นานปั การจึงเปน็ ไปเพ่อื ความวฒั นา และประโยชนส๑ ุขของชาวไทย ด๎านการสงเคราะห๑ ได๎ทรงเสียสละ พระราชทรพั ย๑ และสง่ิ ของจานวนมากมายจนสุดท่ีจะประมาณได๎ เพ่ือดับความทุกข๑ยากของพสกนิกร ในยามประสบภัยพิบัติ และในถ่ินทุรกันดาร ทรงสละพระราชทรัพย๑เพ่ือพัฒนาการศึกษาให๎แกํ เยาวชนไทย โดยโปรดให๎มโี ครงการจดั ตงั้ โรงเรียนในถ่ินยากจนตาํ ง ๆ โครงการสารานุกรมไทยสาหรับ เยาวชน และทุนอานันทมหิดลเพื่อสํงนักเรียนไทยไปศึกษาตํางประเทศ เป็นต๎น ทรงสละพระราช ทรัพย๑นับจานวนไมํน๎อย ในการพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ๑แกํมูลนิธิและสาธารณสถานตําง ๆ เพ่ือประโยชน๑สุขของชาวไทย ทรงเสียสละพระราชทานท่ีนาของทรัพย๑สินสํวนพระมหากษัตริย๑ใน จังหวัดตาํ ง ๆ กวาํ 50,000 ไรํ ให๎เข๎าอยูํในโครงการปฏิรูปท่ีดิน เมื่อปี พ.ศ.2518 เพื่อแบํงป๓นที่ทากิน ให๎แกํเกษตรกรท่ียากจน การท่ที รงบรจิ าคพระราชทรพั ย๑ วัตถุส่ิงของและทีด่ นิ จานวนมหาศาล รวมท้ัง การที่ทรงเสียสละปฏิบัติ พระราชภารกิจทั้งนอกและในประเทศ พระราชภารกิจในโครงการ พระราชดาริ นับพันๆ โครงการท่ัวประเทศนี้ ยํอมเป็นที่ประจักษ๑ชัดในความเสียสละอันใหญํหลวง ของพระองค๑ ด๎วยทรงเสียสละเวลา พระปรีชาสามารถ และความสาราญพระราชหฤทัยทั้งมวล ทรงยอมรับความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายทุกประการเพ่ือพสกนิกรชาวไทยอยํางแท๎จริง จะเห็นได๎วํา พระองค๑ทรงเสียสละความสุขสาราญของตนเพื่อประโยชนส๑ ขุ ของพสกนิกรนั่นเอง ภาพเสดจ็ เยี่ยมพสกนิกร
37 ภาพทรงมอบทุนอานนั ทมหิดลเพอื่ สํงนักเรยี นไทยไปศึกษาตาํ งประเทศ กกกกกกก1. หนา้ ท่ีพลเมืองดี มแี นวปฏิบัติ ได๎แกํ การเสยี สละความสขุ สวํ นตน เพอ่ื ความสุขหรือ ประโยชน๑ของสํวนรวม ซึ่งอาจจะเป็นครอบครัว หนํวยงาน หรือเพ่ือนรํวมงานของเราก็ได๎ เชํน ครอบครัว พํอบ๎านเสียสละความสุขสํวนตัวด๎วยการเลิกด่ืมเหล๎า ทาให๎ลูกเมียมีความสุข และเพื่อน บา๎ นก็สขุ ด๎วย เพราะไมตํ อ๎ งฟง๓ เสยี งอาละวาด ดําทอทบุ ตกี นั หรือบุคคลอาจจะเสียสละเวลาชํวงท่ีต๎อง อยูํกับครอบครัวในตอนเย็นอยํูชํวยเพ่ือนทางาน หรือไปเข๎าคํายพัฒนาชนบท อาสาไปดูแลเด็กใน สถานเล้ยี งเด็กกาพรา๎ เป็นครั้งคราว หรือเสียสละรํางกาย /อวัยวะหลังตายแล๎วเพื่อการศึกษา เป็นต๎น ซ่ึงการเสยี สละดงั กลาํ วถอื วําได๎เปน็ การบริจาค เสียสละความสุขสวํ นตวั เพื่อสวํ นรวม กกกกกกก4. อาชชวะ คือ ความซื่อตรง หมายถึง มีความซ่อื สตั ย๑สุจริต มีความจริงใจ ไมกํ ลบั กลอก กกกกกกก1. อันทศพธิ ราชธรรมข๎อท่ีสี่ คอื อาชชวะ หรอื ความซื่อตรงน้ี พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ได๎ทรงปฏิบัติอยํูเป็นนิจ สาหรับผ๎ูที่มีอายุคงจะจากันได๎ดีวําหลังจากที่ได๎ทรงดารงสิริ ราชสมบัติแล๎ว ในวันท่ี 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 อันเป็นวันกาหนดเสด็จกลับไปทรงศึกษาตํอใน ตาํ งประเทศ ระหวํางประทับรถพระท่ีน่ังเพ่ือเสด็จพระราชดาเนินไปข้ึนเคร่ืองบินน้ัน ได๎มีเสียงร๎องมา จากกลุํมพสกนิกรที่เฝูาสํงเสด็จวํา “อยําท้ิงประชาชน” และได๎มีพระราชดารัสตอบในพระราชหฤทัย วํา “เราจะไมํท้ิงประชาชน ถ๎าประชาชนไมํท้ิงเรา” การตั้งพระราชหฤทัยดังน้ี เสมือนเป็นการ พระราชทานสัจจะ วําจะทรงเป็นรํมบรมโพธิสมภารของพสกนิกรตลอดไป ครั้นตํอมาในวันท่ี 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ซึ่งเป็นวันท่ีทรงกระทาพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได๎มีพระปฐม บรมราชโองการแกํพสกนิกรท่ัวประเทศวํา “เราจะครองแผํนดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน๑สุขแหํง มหาชนชาวสยาม” พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได๎ทรงรักษาสัจจะ ท่ีไดพ๎ ระราชทานใหแ๎ กํพสกนกิ รท้ังสองประการ มาอยํางสมบรู ณ๑สมา่ เสมอ พระองค๑ไมํเคยทรงทอดท้ิง พสกนิกร ด๎วยทรงถือเอาความทุกข๑เดือดร๎อนของพสกนิกรเป็นความทุกข๑เดือดร๎อนของพระองค๑เอง เหตุนี้เมื่อเกิดความเดือดร๎อน หรือภัยพิบัติในสํวนใดของประเทศ พระองค๑จะเสด็จฝุาไปไมํวํา ระยะทางจะใกล๎ไกล ทุรกันดารเพียงใด แดดจะแผดกล๎าร๎อนแรง หนทางจะคดเคี้ยวข๎ามขุนเขา พงไพรจะรกเร้ือแฉะชื้นเต็มไปด๎วยตัวทาก ฝนจะตกกระหน่าจนเหน็บหนาว น้าจะทํวมเจ่ิงนอง พระองค๑ก็มิได๎ทรงยํอท๎อท่ีจะเสด็จไปประทับเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรผู๎ทุกข๑ยาก เพื่อทรงสดับความ เดือดรอ๎ นใหก๎ ลบั กลายเปน็ ความรํมเย็น นอกจากน้ียังทรงครองแผํนดินด๎วยธรรมานุภาพ ไมํวําการส่ิง ใดอันจะนามาซ่ึงความสงบสุขมาสํูพสกนิกร พระองค๑จะทรงปฏิบัติ และการส่ิงใดที่ทรงมีพระราช
38 ประสงคใ๑ ห๎พสกนิกรประพฤติปฏิบัติตาม จะพระราชทานกระแสพระราชดารัสชี้แจงถึงเหตุและผลให๎ เขา๎ ใจ พสกนกิ รผ๎ูปฏบิ ัติจงึ ปฏิบัติด๎วยเห็นประโยชน๑แหํงผลของการปฏิบัตินั้น ปฏิบัติด๎วยความเต็มใจ และด๎วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ มิใชํด๎วยความกลัวเกรงพระบรมเดชานุภาพ การครอง แผํนดินโดยธรรมของพระองค๑ จึงยังประโยชนส๑ ุขมาสูมํ หาชนชาวสยาม สมดังพระราชปณิธาน คงไมํมี ความรส๎ู ึกอนั ใดท่จี ะวาบหวาน และซาบซง้ึ ใจชาวไทย ยิ่งไปกวาํ ความสานึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระองค๑ พระผ๎ูทรงมีพระราชอัธยาศัยเปี่ยมไปด๎วยอาชชวะ คือ ความซ่ือตรงตํอพสกนิกรและ ประเทศชาติ ภาพเสดจ็ กลับไปทรงศึกษาตํอในตาํ งประเทศ เม่ือวันที่ 19 สงิ หาคม พ.ศ.2489 ภาพพระราชพิธบี รมราชาภิเษก วนั ที่ 5 พฤษภาคม 2493 กกกกกกก1. หน้าท่พี ลเมืองดี มแี นวปฏิบตั ิ ได๎แกํ การดาเนินชวี ิตและปฏบิ ตั ภิ ารกิจ/หนา๎ ท่ี การงานตําง ๆ ด๎วยความซ่ือสัตย๑สุจริต ไมํคิดคดโกง หรือหลอกลวงผู๎อ่ืน เชํน ถ๎าเราขายของ ก็ไมํเอา ของไมํดีไปหลอกขายลูกค๎า เป็นข๎าราชการ พนักงานบริษัท ห๎างร๎าน ก็ไมํคอรัปชั่นท้ังเวลา ทรัพย๑สิน ของหนํวยงานตน เพราะถ๎าทุกคนเอาเปรียบหรือโกงกิน ขาดความซื่อสัตย๑สุจริต จะทาให๎หนํวยงาน เสยี หาย เดอื ดร๎อน แม๎เราจะไดท๎ รพั ย๑สินไปมากมาย แตํเราไมเํ จริญกา๎ วหนา๎ ถูกคนรุมประณาม และ แม๎คนอ่ืนจะไมํร๎ู แตํตัวเรายํอมร๎ูอยูํแกํใจ จะไมํมีความสุขกาย สบายใจ เพราะกลัวคนอื่นจะมาร๎ู ความลับตลอดเวลา ผู๎ท่ปี ระพฤติตนดว๎ ยความซ่อื ตรง แมไ๎ มํร่ารวยเงนิ ทอง แตํกม็ คี วามสขุ ทงั้ กาย ใจ
39 กกกกกกก5. มัททวะ คือ ความอํอนโยน หมายถึง มกี ิริยาสุภาพ มีสมั มาคารวะ วาจาอํอนหวาน มคี วามนมํุ นวล ไมํเยํอหยง่ิ ไมํหยาบคาย กกกกกกก5. ทศพิธราชธรรม ในขอ๎ มัททวะหรอื ความอํอนโยนนี้ เป็นทปี่ ระจกั ษ๑แกํพสกนกิ รมา ช๎านานแลว๎ วํา พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ 9 ทรงมีพระราชอัธยาศัย อํอนโยนเพียบพร๎อมทุกประการ ไมํวําจะเป็นความอํอนโยนในความหมายทางโลกหรือความหมายทาง ธรรม ความอํอนโยนในความหมายทางโลก คือ ความอํอนโยนตํอบุคคลอ่ืนในสังคม อันเป็นมารยาท ทบ่ี ุคคลในสังคมจะพงึ ปฏิบัติตํอกัน เพื่อผลดีในทางสังคม ความอํอนโยนในความหมายนี้ยํอมชี้ให๎เห็น ชัดได๎ด๎วยพระราชจริยาวัตรตําง ๆ ในทุกสถานท่ี สํวนความอํอนโยนในทางธรรมนั้น มีความหมาย กว๎างขวางมาก คือ หมายถึง การโอนอํอนผํอนตาม น๎อมไป หรือเปลี่ยนไปในทางแหํงความดี ทาให๎ เกิดการผสมผสานกันอยํางดีในทางการงาน และบุคคลทุกระดับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงเข๎าถึงธรรมะในข๎อน้ีเป็นอยํางดี และอยํางถํองถ๎วนทุกระดับข้ัน ขั้นแรก คือ ความอํอนโยนทางพระวรกาย ทุกพระอิริยาบถท่ีปรากฏไมํมีที่จะแสดงถึงความรังเกียจ เดียดฉันท๑ หรือถือพระองค๑เลย จะมีก็แตํความอํอนโยน น่ิมนวล งดงาม เป็นไปด๎วยความบริสุทธิ์ พระราชหฤทยั อันสํงผลถึงความ ช่ืนชม โสมนัส และอบอํุนใจให๎เกิดแกํพสกนิกรโดยท่ัวกัน ข้ันที่สอง คือ ความอํอนโยนทางพระวาจา อันพึงเห็นได๎จากการที่ทรงมีพระราชปฏิสันถารแกํราษฎรซึ่งเป็น ชาวบ๎านธรรมดา ที่มารับเสด็จอยาํ งใกล๎ชิดสนิทสนม ไมํเคยมีพระวาจาที่กระด๎าง มีแตํอํอนโยนสุภาพ ละมุนละไม แม๎จะทรงอยํูในพระราชฐานะอันสูงสุด กลับทรงแสดงพระองค๑เป็นธรรมดาอยํางท่ีสุด มิได๎ทรงวางพระองค๑ให๎แตกตํางหํางไกลจากประชาชนท่ีประกอบด๎วยฐานะแตกตํางกัน ทางปฏิบัติ พระองคเ๑ ปน็ กนั เอง เสมือนบิดาปฏบิ ตั ิตํอบุตรอันเป็นที่รัก ตรัสพระวาจาสุภาพอํอนโยน ขั้นที่สาม คือ ความอํอนโยนน่ิมนวลทางจิตใจและสติป๓ญญา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงบรรลุถงึ มัททวะในขั้นนอ้ี ยํางแทจ๎ รงิ และทรงเข๎าพระทัยในธรรมะของชีวิตอยํางลึกซ้ึง วําแตํละชีวิตยํอมมีหน๎าท่ีหลายอยําง พระองค๑จึงทรงวางพระทัยให๎อํอนโยน และทรงวาง พระสติป๓ญญาให๎โอนอํอนไปตามสถานภาพได๎อยํางเหมาะสม เชํน ในพระราชฐานะตําง ๆ ในพระ บรมราชวงศ๑ มีพระราชฐานะเป็นพระราชโอรส เป็นพระอนุชา เป็นพระบิดา เป็นพระอัยกา และใน พระราชฐานะแหํงพระมหากษตั รยิ าธริ าช ทรงมสี มั มาคารวะอํอนน๎อมแดํผู๎เจริญโดยวัย และเจริญโดย คณุ และมีพระราชอัธยาศัยออํ นโยนตอํ บุคคลท่ีเสมอพระองค๑ และตา่ กวํา ไมํเคยทรงดูหม่ิน การที่ทรง วางพระองค๑เชนํ นี้ จงึ กํอให๎เกิดความสุขความเจริญแกํบ๎านเมือง และความปิติศรัทธาแกํชาวไทยอยําง ไมํมีอะไรจะเปรยี บ
40 ภาพแสดงความสภุ าพอํอนโยนตอํ สมเด็จพระชนนี ภาพแสดงความสภุ าพอํอนโยนแกํพสกนกิ ร กกกกกกก5. หนา้ ที่พลเมืองดี มแี นวปฏิบัติ ไดแ๎ กํ การทาตัวสภุ าพ นุํมนวล ไมํเยํอหยิ่ง ถอื ตวั หรือ แสดงกิริยาวาจา หยาบคายกับใคร ไมํวําจะเป็นผู๎ใหญํ ผ๎ูน๎อยหรือเพ่ือนในระดับเดียวกัน การทาตัว เป็นผ๎ูที่มีความอํอนน๎อมถํอมตน จะทาให๎ไปท่ีไหนคนก็ให๎การต๎อนรับ เพราะอยํูใกล๎แล๎วสบายใจ ไมํร๎อนรํุม หากบุคคลแสดงกิริยาหยาบคาย ก๎าวร๎าว คนก็ถอยหําง ดังนั้น หลักธรรมข๎อนี้ จึงเป็นการ สร๎างเสนหํ ๑อยาํ งหนึง่ ให๎แกตํ ัวเราดว๎ ย กกกกกกก6. ตบะ คอื ความเพียร หมายถงึ การเพยี รพยายามไมํให๎ความมวั เมาเข๎าครอบงาจิตใจ ไมลํ มํุ หลงกบั อบายมขุ และสง่ิ ช่วั รา๎ ย ไมหํ มกมํุนกับความสขุ สาราญ กกกกกกก6. ทศพิธราชธรรมขอ๎ ที่หก คือ ตบะ หรอื ความเพียร เป็นทศพธิ ราชธรรมทม่ี ีการตี ความหมายกันไว๎หลายประการ แตํไมํวําจะตีความหมายโดยนัยอยํางใด การดารงพระองค๑ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ก็ยังคงอยํูในขอบขํายของพระมหา กษัตริยาธิราช ผ๎ูทรงบาเพ็ญตบะบารมีอยูํน่ันเอง ตบะในความหมายหนึ่ง คือความเพียรเป็นเคร่ือง แผดเผาความเกียจคร๎าน โดยความหมายน้ีจะเห็นได๎วํา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงประกอบด๎วยพระราชอุตสาหะวิริยภาพเป็นอยํางย่ิง พระองค๑ไมํโปรดท่ีจะ ประทบั อยูํเฉย ทรงพอพระราชหฤทัยในการเสดจ็ พระราชดาเนินออกทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในท๎องถิ่น
41 ตํางๆ แม๎ในถิ่นทุรกันดารและหํางไกล ขวางกั้นด๎วยผืนน้ากว๎างใหญํ ปุาทึบ หรือภูเขาสูง เพียงเพื่อให๎ ทรงทราบถึงความทุกข๑สุขของราษฎร ด๎วยพระเนตรพระกรรณของพระองค๑เอง เมื่อทรงทราบแล๎วก็ มิได๎ทรงนิ่งนอนพระราชหฤทัย แตํได๎ทรงมีพระราชดาริริเร่ิมสิ่งตําง ๆ เพ่ือขจัดความทุกข๑เดือดร๎อน ของราษฎรทั้งในด๎านการอาชีพ ชีวิตความเป็นอยูํ สุขภาพอนามัย การศึกษาและอื่น ๆ ด๎วยพระราช อตุ สาหะ วริ ิยะเชํนนี้ พระองค๑จงึ ทรงขจัดความขัดข๎อง ความยากจน ขัดสนทั้งหลาย ให๎แกํราษฎรได๎ โดยทั่วกัน กกกกกกก6. ตบะ ในอีกความหมายหนึง่ หมายถงึ ความต้ังใจกาจัดความเกียจครา๎ น และการกระทา ผิดหน๎าท่ี มํุงทากิจอันเป็นหน๎าท่ีที่พึงกระทา ซึ่งเป็นกิจท่ีดีที่ชอบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได๎ทรงบาเพ็ญตบะในความหมายนี้ได๎อยํางครบถ๎วนเชํนเดียวกัน ในพระราชฐานะแหํงพระมหากษัตริยาธิราช ทรงมีหน๎าท่ีปกครองอาณาประชาราษฎร๑ให๎ได๎รับความ รํมเย็น พระองคไ๑ ด๎ทรงตัง้ พระราชอตุ สาหะวริ ิยะ ประกอบดว๎ ยป๓ญโญภาส ปฏิบัติพระราชกรณียกิจให๎ เป็นไปด๎วยดีไมํมีข๎อผิดพลาด ทรงมีพระราชดาริริเร่ิมโครงการตําง ๆ เพ่ือประโยชน๑สุขของพสกนิกร โดยไมํหยุดยั้ง โครงการพระราชดาริของพระองค๑จึงมีนับพัน ๆ โครงการ ไมํเพียงเทํานั้นพระองค๑ยัง ทรงติดตามกิจการท่ีได๎ทรงปฏิบัติ หรือโปรดให๎ปฏิบัติโดยใกล๎ชิด โดยเสด็จพระราชดาเนินไปทรง ทอดพระเนตรด๎วยพระองค๑เอง ไมํวําจะทรงลาบากยากพระวรกายเพียงใด แตํด๎วยพระราชหฤทัยที่ เปี่ยมไปด๎วยพระมหากรุณาธิคุณ จึงทรงพอพระราชหฤทัยท่ีจะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ ด๎วยพระราชอุตสาหะวิริยะทุกวัน และในวันหน่ึง ๆ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจได๎มากมาย สาหรับ บุคคลทว่ั ไปหากตอ๎ งปฏิบัตติ ๎องใช๎เวลาหลายวัน กกกกกกก6. ตบะ ในความหมายอีกอยํางหนึ่ง คอื ความเพียรในการละอกุศลกรรม เพยี รอบรมกุศล บุญตําง ๆ ให๎บังเกิดข้ึน โดยความหมายนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเพียบพร๎อมด๎วยพระราชวิริยะที่จะทรงเอาชนะความชั่วตําง ๆ ด๎วยความดี อาณาประชาราษฎร๑ผ๎ูอยูํใต๎รํมพระบรมโพธิสมภาร จึงมีแตํความสุขสวัสดิ์วัฒนา พ๎นจากความ เดอื ดร๎อนนานาประการ ด๎วยตบะเดชะบารมแี หํงพระองค๑ ภาพเสด็จพระราชดาเนินออกทรงเยี่ยมเยียนราษฎร
42 ภาพเสด็จพระราชดาเนินออกทรงเยี่ยมเยียนราษฎร กกกกกกก6. หน้าท่ีพลเมืองดี มแี นวปฏิบัติ ได๎แกํ ใหป๎ ฏิบัติหนา๎ ทก่ี ารงานทีร่ บั ผิดชอบด๎วยความ มุมานะ อดทน ขยัน มุํงมั่น และทาแตํส่ิงที่ดี ความถูกต๎อง ฝุาฟ๓นอุปสรรคตําง ๆ จนประสบ ความสาเร็จ ด๎วยความพากเพียรน้ีจะทาให๎เราภาคภูมิใจเมื่องานสาเร็จ และจะทาให๎เรามี ประสบการณ๑เกงํ กล๎าข้นึ นอกจากนี้ ยังสอนให๎เราสูช๎ วี ิต ไมยํ อมแพอ๎ ะไรงาํ ย ๆ
43 กกกกกกก7. อักโกธะ คอื ความไมโํ กรธ หมายถงึ มีจิตใจมั่นคง มคี วามสขุ ุม เยือกเยน็ อดกล้นั ไมแํ สดงความโกรธ หรอื ความไมพํ อใจให๎ปรากฏ กกกกกกก7. พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ 9 ได๎ทรงบาเพญ็ อักโกธะบารมี หรือความไมํโกรธให๎เป็นที่ประจักษ๑ใจ ทั้งในหมํูประชาชนชาวไทย และในนานา ประเทศมาเป็นเวลาช๎านาน แม๎มีเหตุอันควรให๎ทรงพระพิโรธยังทรงขํมพระทัยให๎สงบได๎โดยสิ้นเชิง อยาํ งทีป่ ถุ ชุ นน๎อยคนนกั จะทาได๎ ดังเหตกุ ารณท๑ ี่เกดิ ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2505 และ พ.ศ. 2510 เป็นต๎น ซ่ึง ยงั ตราตรึงอยํูในความทรงจาของผ๎ูตามเสด็จทุกคน วันนั้นวันท่ี 27 สิงหาคม พ.ศ.2505 เป็นวันแรกท่ี ทรงยํางพระบาทสํูดินแดนออสเตรเลีย พร๎อมด๎วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเสด็จเยือนมา สามประเทศแลว๎ จากรถพระที่นั่งขณะเสด็จไปยังที่ประทับ พระองค๑ได๎ทรงทอดพระเนตรเห็นชายคน หน่ึงชูปูายเป็นภาษาไทยขับไลํพระองค๑ แตํพระองค๑ก็มิได๎ทรงหวั่นไหวด๎วยทรงพิจารณาวําเป็นการ กระทาของคนเพียงคนเดียว มิใชํประชาชนทั้งประเทศจึงทรงแย๎มพระสรวล และโบกพระหัตถ๑ให๎แกํ ประชาชนอ่นื ๆ ทีโ่ หํร๎องรับเสดจ็ ไปตลอดทาง ตอํ มาท่ีนครซิดนีย๑เหตุการณ๑อยํางเดียวกันได๎เกิดข้ึนอีก โดยกลํุมคนท่ีได๎รับการสนับสนุนจากลัทธิการเมือง ท่ีต๎องการล๎มล๎างรัฐบาลไทย เร่ิมจากการชูปูาย ข๎อความขับไลํผู๎เผด็จการเมืองไทยในทันทีท่ีรถพระท่ีน่ังแลํนเข๎าสูํศาลากลางเทศบาล ซ่ึงจัดไว๎เพ่ือรับ เสด็จ ติดตามด๎วยใบปลิวมีข๎อความขับไลํผ๎ูเผด็จการเมืองไทย และกลําวหารัฐบาลไทยวําเป็นฆาตกร ฆําผู๎บริสุทธิ์ ใบปลิวนี้โปรยลงมารอบพระองค๑ขณะที่ตรัสตอบขอบใจนายกเทศมนตรี และประชาชน กลางเวทีแตพํ ระองคย๑ งั คงตรสั ตํอไป เสมอื นมิได๎มีสิ่งใดเกิดขึ้น เพียงเทําน้ันยังไมํพอ เมื่อเสด็จตํอไปยัง เมืองเมลเบริ น๑ เพือ่ ทรงรับการถวายปริญญานิติศาสตร๑ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พระองค๑ยังทรงถูกโหํฮา ปุาจากกลุํมนักศึกษาซ่ึงไมํสุภาพ ทั้งทําทางและการแตํงกาย และเม่ืออธิการบดีกลําวสดุดีพระเกียรติ คุณของพระองค๑ นักศึกษากลุํมเดิมได๎โหํฮาปุากลบเสียงสดุดีเสีย แม๎เมื่อเสด็จพระราชดาเนินไปเพ่ือ ตรัสตอบ คนกลํุมนี้ยังโหํฮาปุาข้ึนอีก แตํพระองค๑คงมีสีพระพักตร๑เรียบเฉย ซ้ายังทรงหันมาเปิด พระมาลาที่ทรงคูํกับฉลองพระองค๑ครุยโค๎งคานับคนกลุํมน้ันอยํางสุภาพ พร๎อมกับตรัสด๎วย พระสุรเสียงท่ีราบเรียบมีใจความวํา “ขอบใจทํานทั้งหลายเป็นอันมากในการต๎อนรับอันอบอุํน และสุภาพเรียบร๎อย ท่ีทํานแสดงตํอแขกเมืองของทําน” เสียงฮาปุาเงียบลงทันที นักศึกษากลํุมน้ีได๎ พํายแพ๎แกํอักโกธะหรือความไมํโกรธของพระองค๑โดยสิ้นเชิง คร้ันถึงเวลาเสด็จกลับทุกคนในกลํุม พร๎อมใจกันยืนคอยสํงเสด็จด๎วยสีหน๎าเจ่ือน ๆ บ๎าง ยิ้มบ๎าง โบกมือและปรบมือให๎บ๎างจนรถพระท่ีน่ัง แลํนไปจนลับตา ตํอมาในปี พ.ศ.2510 อันเป็นปีท่ีชาวอเมริกันเดินขบวนและหนังสือพิมพ๑ลงขําว โจมตรี ฐั บาล เร่ืองการสํงทหารมาชํวยรบและเสียชีวิตมากมายในเวียดนามใต๎ ในภาวะอันวิกฤตนี้ทรง เกรงรัฐบาลอเมริกันจะล๎มเลิกนโยบายชํวยเหลือเอเชียอาคเนย๑ ซึ่งจะเป็นอันตรายตํอความมั่นคง ของไทย จึงเสด็จไปทรงเจริญสัมพันธไมตรี ในการน้ีจะทรงได๎รับปริญญากิตติมศักด์ิจากมหาวิทยาลัย วิลเลียมส๑ กํอนวันแจกปริญญา ทรงทราบวําบทความที่ได๎รับรางวัลซึ่งจะอํานในวันแจกปริญญา เป็นบทความคัดค๎านนโยบายของรัฐบาล ในการสํงทหารมาชํวยรบในเวียดนาม นอกจากน้ีกลํุม นักศึกษายังเตรียมแจกใบปลิว และเตรียมเดินขบวนออกจากพิธีถวายปริญญาแกํพระองค๑ด๎วย และแล๎ววนั ท่ี 11 มิถนุ ายน พ.ศ.2510 วนั อันนาํ ระทึกใจก็มาถึง เมื่อนักศึกษาอํานบทความท่ีได๎รับรางวัล จบลง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ได๎ทรงปรบพระหัตถ๑ให๎กับการใช๎
44 ภาษาท่ีถูกต๎องและไพเราะ แม๎จะไมํทรงเห็นด๎วยกับเน้ือหาก็ตาม จากน้ันพระองค๑จึงตรัสขอบใจ มหาวทิ ยาลยั และทรงเตือนสตนิ ักศกึ ษา “ให๎ใช๎ป๓ญญาไตรํตรองดูเหตุผลให๎ถํองแท๎เสียกํอนท่ีจะม่ันใจ เช่ืออะไรลงไป มิใชํสักแตํวําเช่ือเพราะมีผู๎บัญญัติไว๎” พระราชดารัสน้ีเป็นท่ีช่ืนชอบมากถึงกับทุกคน ลุกข้ึนยืน และปรบมือถวายเป็นเวลานาน และเหตุการณ๑ร๎ายที่เกรงกลัวก็มิได๎เกิดข้ึน การท่ีประเทศ ไทยมีพระมหากษัตริยาธิราชผ๎ูทรงบาเพ็ญอักโกธะบารมี หรือความไมํโกรธได๎อยํางม่ันคงเชํนน้ี จึงทา ให๎ประเทศไทยสามารถรักษาสัมพันธไมตรีอันดีกับนานาประเทศไว๎ได๎ตลอดมา พระเกียรติคุณของ พระองค๑ในขอ๎ น้ีจงึ เป็นท่ชี ืน่ ชมของชาวไทยและชาวตาํ งประเทศย่ิงนัก ภาพเสดจ็ ประเทศออสเตรเลยี ภาพเสด็จประเทศสหรฐั อเมริกา กกกกกกก7. หนา้ ที่พลเมืองดี มีแนวปฏบิ ัติ ไดแ๎ กํ ฝึกฝนควบคุมอารมณ๑ของตนเอง ไมํให๎เป็นคน โมโหงาํ ย และพยายามระงบั ยบั ย้งั ความโกรธอยเูํ สมอ แมใ๎ นหลาย ๆ สถานการณจ๑ ะทาได๎ยาก แตํหาก เราสามารถฝึกฝน ไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายามระงับยับย้ังความโกรธอยูํเสมอ จะเป็น ประโยชน๑ตํอเราหลายอยําง เชํน ทาให๎เราสุขภาพจิตดี หน๎าตาผํองใส ข๎อสาคัญ ทาให๎เรารักษามิตร ไมตรหี รอื สัมพนั ธภาพกบั ผอู๎ นื่ ไว๎ได๎ อันมีผลให๎บุคคลน้ันเปน็ ที่รกั และเกรงใจของคนที่ตดิ ตอํ ด๎วย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212