Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม หน้าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก้า 1 ระดับประถมศึกษา

หนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม หน้าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก้า 1 ระดับประถมศึกษา

Description: หนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค13113 หน้าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก้า 1 ระดับประถมศึกษา

Search

Read the Text Version

95 ภาพทรงเปิดสหกรณโ๑ คนมทจ่ี ังหวดั ราชบุรี กกกกกกก2. 2.6 ขั้นทส่ี าม ทฤษฎีใหมํขั้นก๎าวหน๎า เม่ือดาเนนิ การผํานพน๎ ขน้ั ท่สี องแลว๎ เกษตรกร หรือกลํุมเกษตรกรก็ควรพัฒนาก๎าวหน๎าไปสํูขั้นท่ีสามตํอไป คือ ติดตํอประสานงานเพ่ือ จัดหาทุน หรือแหลํงเงินทุน เชํน ธนาคารหรือบริษัท ห๎างร๎านเอกชน มาชํวยในการลงทุนและพัฒนา คุณภาพชีวิต ทั้งนี้ ท้ังฝุายเกษตรกรและฝุายธนาคารและบริษัทจะได๎ประโยชน๑รํวมกัน กลําวคือ เกษตรกรขายของในราคาสูง (ไมํถูกกดราคา) ธนาคารกับบริษัทสามารถซ้ือข๎าวบริโภคในราคาต่า (ซ้ือข๎าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและนามาสีเอง) เกษตรกรซื้อเคร่ืองอุปโภคบริโภคในราคาต่า เพราะรวมกันซ้ือเป็นจานวนมาก (เป็นร๎านสหกรณ๑ ราคาขายสํง) ธนาคารกับบริษัทจะสามารถ กระจายบุคลากรเพอื่ ไปดาเนินการในกิจกรรมตาํ ง ๆ ใหเ๎ กิดผลดียิ่งขึ้น ภาพทรงพัฒนาโดยใชห๎ ลกั เกษตรทฤษฎีใหมํ ขั้นกา๎ วหน๎า

96 กกกกกกก2. 2.7 ไมํติดตารา กกกกกกก2. 2.7 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ได๎ใช๎หลักการ ทรงงานข๎อน้ี โดยการพัฒนาที่อนโุ ลม และรอมชอมกบั สภาพธรรมชาติ สิง่ แวดลอ๎ ม และสภาพของ สังคมจิตวิทยาแหงํ ชุมชน คือ ไมผํ กู มัดติดกบั วชิ าการ และเทคโนโลยีทีไ่ มเํ หมาะสมกบั สภาพชวี ิต ความเป็นอยูํทีแ่ ท๎จรงิ ของคนไทยปกตเิ ข๎าสํูระบบท่ีเป็นปกติ ดังตัวอยาํ ง การนาน้าดขี บั ไลนํ ้าเสียหรอื เจือจางน้าเสียให๎กลบั เป็นน้าดี ตามจังหวะการขึน้ ลงตามธรรมชาติของน้าหรอื การบาบัดนา้ เนําเสีย โดยใช๎ผกั ตบชวา ภาพทรงพัฒนาแก๎ไขสภาพธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ๎ ม กกกกกกก2. 2.8 ประหยดั เรยี บงาํ ย ได๎ประโยชนส๑ ูงสุด กกกกกกก2. 2.8 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 ได๎ใชห๎ ลกั การ ทรงงานข๎อน้ี โดยทรงการกระทาโดยการประหยดั เรยี บงําย ไดป๎ ระโยชน๑สงู สุดจากการใช๎วัสดุแรงงาน ในท๎องถิ่นให๎สอดคล๎องกับภูมิสังคม ขณะเดียวกันการพัฒนาและชํวยเหลือราษฎรทรงใช๎หลักการ แก๎ปญ๓ หาด๎วยความเรยี บงาํ ย ประหยัด ราษฎรสามารถทาเองได๎ หาไดใ๎ นทอ๎ งถ่นิ และประยุกต๑ใช๎ส่ิงท่ีมี อยํูในภูมิภาคนั้น ๆ มาแก๎ไขปญ๓ หาโดยไมํตอ๎ งลงทุน หรอื ใช๎เทคโนโลยีที่ไมํยุํงยากนัก ดังตัวอยําง เร่ือง การทาฝายน้าล๎น โดยใช๎วัสดุในท๎องถ่ิน เชํน ไม๎ หิน กรวด ทราย กั้นทางน้าไว๎แตํต๎องให๎น้าไหลผําน จากหมบํู ๎านตน๎ นา้ สํูกลางน้า และปลายน้าได๎ เพือ่ แบํงป๓นในการอปุ โภค บรโิ ภค

97 ภาพทรงแกไ๎ ขป๓ญหานา้ โดยการทาฝายนา้ ล๎นโดยใชว๎ ัสดุในท๎องถิ่น กกกกกกก2. 2.9 ทาใหง๎ ําย กกกกกกก2. 2.9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ไดใ๎ ช๎หลักการ ทรงงานข๎อน้ี โดยการวางแผน ออกแบบ ค๎นหาวิธีการดาเนินงานท่ีมีลักษณะเรียบงําย ไมํยุํงยาก สลับซับซ๎อน คาวํา ทาให๎งําย คือ เข๎าใจ รู๎แจ๎ง และพร๎อมนาไปใช๎ วิธีการทาให๎งํายต๎องอาศัยการ มีสํวนรํวม ไมํติดตารา ยึดภูมิป๓ญญาเดิม ผสมผสานเทคโนโลยีใหมํ ดังตัวอยําง ในเรื่อง การปลูก หญ๎าแฝก ตามแนวลาดเอียงของพ้ืนดิน ขนานไปตามแนวยาวเป็นช้ัน ๆ ปูองกันการพังทลายของ หน๎าดิน การใช๎ผักตบชวา ชํวยบาบัดน้าเสียเป็นวิธีงํายๆอยํางหน่ึง การตํอยอด ตํอตา ต๎นท๎อและ มะเขือเทศ ก็เป็นวิธีการงําย ๆ ใช๎เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับภูมิป๓ญญาชาวบ๎าน และต๎นทุนทางสังคม เกิดนวัตกรรมที่ให๎มูลคาํ เพ่มิ

98 ภาพทรงวางแผนการปลูกหญา๎ แฝกตามแนวลาดเอยี งของพื้นดนิ กกกกกกก2. 2.10 การมสี วํ นรํวม กกกกกกก2. 2.10 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท่ี 9 ไดใ๎ ช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยการมีสํวนรํวมของชุมชนเป็นกิจกรรมท่ีสาคัญอยํางย่ิงในการดาเนินงาน การมีสํวนรํวมต๎องกระทาอยํางครบถ๎วน ตลอดกระบวนการ ต้ังแตํการวางแผน (Plan) การปฏิบัติ (Do) การตรวจสอบประเมนิ ผล (Check) และการแกไ๎ ขปรบั ปรุง (Act) กกกกกกก2. 2.10 การมสี ํวนรํวมทาใหช๎ มุ ชนเกิดความเป็นเจา๎ ของโครงการ การแก๎ป๓ญหาตําง ๆ เกดิ จากสาเหตุทีป่ ระชาชนตอ๎ งการใหแ๎ ก๎ไข และวธิ ีการแก๎ไขก็รบั ฟ๓งความคิดเห็นของประชาชนเพื่อจะ ได๎ความรํวมมือจากประชาชน ดังพระราชดารัสตอนหนึ่งวํา “สาคัญท่ีสุดจะต๎องทาใจให๎กว๎างขวาง หนักแนํน ร๎ูจักรบั ฟ๓งความคิดเห็น แม๎กระทั้งคาวิพากษ๑วิจารณ๑จากผ๎ูอ่ืนอยํางฉลาด เพราะการรู๎จักรับ ฟง๓ อยํางฉลาดน้ันแทจ๎ ริง คือ การระดมสติป๓ญญาและประสบการณ๑อันหลากหลายมาอานวยประโยชน๑ ในการปฏิบตั ิบริหารงานให๎ประสบความสาเร็จท่ีสมบูรณ๑นัน้ เอง”

99 ภาพทรงดาเนินงานอยํางครบถว๎ นตลอดกระบวนการมีสํวนรวํ ม กกกกกกก2. 2.11 ประโยชน๑สํวนรวม กกกกกกก2. 2.11 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 ได๎ใช๎หลักการ ทรงงานข๎อนี้ โดยทรงระลึกถงึ ประโยชนส๑ ํวนรวมเปน็ สาคัญ ดังพระราชดารัสความตอนหนึ่งวํา กกกกกกก2. 2.11 “ ใครตํอใครบอกวําขอใหเ๎ สยี สละสํวนตวั เพอ่ื สํวนรวม อันนี้ฟ๓งจนเบื่อ อาจจะ ราคาญด๎วยซ้าวํา ใครตํอใครมาก็บอกวําขอให๎คิดถึงประโยชน๑สํวนรวม อาจมานึกในใจวําให๎ ๆ อยํูเรื่อยแล๎วสํวนตัวจะได๎อะไร ขอให๎คิดวําคนที่ให๎เพ่ือสํวนรวมน้ันมิได๎ให๎สํวนรวมอยํางเดียวเป็นการ ให๎เพื่อตัวเอง สามารถที่จะมีสวํ นรวมท่ีจะอาศยั ได๎ ” ภาพทรงระลกึ ถึงประโยชน๑สวํ นรวมเปน็ สาคัญ

100 กกกกกกก2. 2.12 บรกิ ารรวมท่จี ดุ เดียว เร่อื งท่ี 1 2. 2.23 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 ไดใ๎ ช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยการดาเนินงานที่มุํงเน๎นการแก๎ป๓ญหาในรูปแบบของ “การพัฒนาแบบ ผสมผสาน” ท่ใี หผ๎ ลเป็นการ “บรกิ ารรวมทจี่ ุดเดียว” เปน็ การปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมในการบริหารงาน จากการที่ตํางคนตํางทา มาสูํการประสานงานระหวํางหนํวยงานท่ีเก่ียวข๎อง ซึ่งปรากฏเป็นรูปธรรม ชัดเจน ดงั ตวั อยาํ ง ทรงใหศ๎ นู ยพ๑ ัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ เป็นตน๎ แบบในการบริการที่จุดเดียว คือ การบริการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให๎ประชาชนที่มาขอใช๎บริการ ประหยัดเวลาและคําใช๎จําย โดยมีหนํวยงานราชการตําง ๆ มารํวมดาเนินการ และให๎บริการประชาชน ณ ท่ีแหํงเดียว มีพระราช ดารัสวํา ประชาชนซึ่งจะต๎องใช๎วิชาการท้ังหลายก็สามารถท่ีจะมาดู สํวนเจ๎าหน๎าที่จะให๎ความ อนุเคราะห๑ แกํประชาชน ก็มาอยํูพร๎อมกัน ในท่ีเดียวกันเหมือนกัน ที่สาคัญปลายทาง คือ ประชาชน ไดร๎ ับประโยชนแ๑ ละต๎นทางของผเ๎ู ป็นเจ๎าหนา๎ ท่จี ะให๎ประโยชน๑ ภาพทรงมุงํ เน๎นการแก๎ป๓ญหาในรูปแบบของการบรกิ ารที่จดุ เดียว กกกกกกก2. 2.13 ใช๎ธรรมชาติชวํ ยธรรมชาติ กกกกกกก2. 2.13 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ไดใ๎ ช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยการให๎ประชาชนใกล๎ชิดกับธรรมชาติ ทรงมองอยํางละเอียดถึงป๓ญหา ธรรมชาติ หากเราต๎องการแก๎ไขธรรมชาติ จะต๎องใช๎ธรรมชาติเข๎าชํวยเหลือ ดังตัวอยําง การแก๎ไข ป๓ญหาปุาเสื่อมโทรม ได๎พระราชทานพระราชดาริ การปลูกปุาโดยไมํต๎องปลูก ปลํอยให๎ธรรมชาติ ชํวยในการฟ้ืนฟูธรรมชาติ หรือแม๎กระทั่ง การปลูกปุา 3 อยําง ประโยชน๑ 4 อยําง ได๎แกํ

101 ปลกู ไม๎เศรษฐกิจ ไม๎ผล และไม๎ฟืน นอกจากได๎ประโยชน๑ตามช่ือของไม๎แล๎ว ยังชํวยรักษาความชุํมช้ืน ให๎แกํพื้นดินด๎วย เห็นได๎วํา ทรงเข๎าใจธรรมชาติและมนุษย๑อยํางเกื้อกูลกัน ทาให๎คนอยํูรํวมกับปุาได๎ อยาํ งยั่งยนื ภาพทรงมองอยํางละเอยี ดถึงป๓ญหาธรรมชาติโดยใชธ๎ รรมชาติชํวยธรรมชาติ กกกกกกก2. 2.14 ใชอ๎ ธรรมปราบอธรรม กกกกกกก2. 2.14 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยการนาความจริงในเร่ือง ความเป็นไปแหํงธรรมชาติ และกฎเกณฑ๑ของ ธรรมชาตมิ าเปน็ หลักการ แนวปฏิบัติท่ีสาคัญ ในการแก๎ป๓ญหาและปรับปรุงเปล่ียนแปลงสภาวะท่ีไมํ ปกติ เข๎าสํรู ะบบท่เี ปน็ ปกติ คอื ทรงใชส๎ ง่ิ ของที่มีอยํูแล๎วแตํขาดประโยชน๑ หรือไมํเกิดประโยชน๑ (ไมํดี) ให๎มีประโยชน๑ (ดีขึ้น) ดังตัวอยําง การนาน้าดี ขับไลํน้าเสีย หรือ เจือจางน้าเสียให๎กลับเป็นน้าดี ตามจังหวะการขึ้นลงตามธรรมชาติของน้า การบาบัดน้าเนําเสียโดย ใช๎ผักตบชวาซ่ึงมีตามธรรมชาติ ให๎ดดู ซึมสงิ่ สกปรกปนเปอ้ื นในน้า ดงั พระราชดารัสความวาํ “ใชอ๎ ธรรม ปราบอธรรม”

102 ภาพทรงมองความจรงิ โดยใช๎ผักตบชวาบาบดั นา้ เสยี กกกกกกก2. 2.15 ปลูกปุาในใจคน กกกกกกก2. 2.15 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ 9 ไดใ๎ ช๎หลกั การ ทรงงานข๎อนี้ โดยการปลูกปุาในใจคน คือ การกระตุ๎นจิตสานึก และรื้อฟื้นวัฒนธรรมให๎คนอนุรักษ๑ ระบบนิเวศปาุ และอยํูรวํ มกบั ปุาอยํางม่นั คง และพ่ึงพิงองิ กนั “ใช๎น้าอนุรักษ๑น้า ใช๎ปุา (ดิน) อนุรักษ๑ปุา ดังนั้น “การปลูกปุาโดยไมํต๎องปลูก” ปลํอยให๎ปุาข้ึนเองธรรมชาติ ก็เป็นพระราชดาริอยํางหน่ึง “เจ๎าหน๎าท่ีบ๎านเมือง ควรจะปลูกต๎นไม๎ ลงในใจคนเสียกํอน แล๎วคนเหลําน้ันก็จะพากันปลูกต๎นไม๎ ลงบนแผนํ ดิน และรักษาต๎นไม๎ดว๎ ยตนเอง”

103 ภาพทรงปลูกปุาเพื่อใหไ๎ ดใ๎ จคน กกกกกกก2. 2.16 ขาดทนุ คือกาไร เร่อื งท่ี 1 2. 2.23 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยการดาเนินงานที่ยึดผลสาเร็จแหํงความ “คุ๎มคํา” มากกวํา “ค๎ุมทุน” คานึงถึงผลประโยชน๑ของคนสํวนรวม มากกวําผลสาเร็จท่ีเป็นตัวเลขอันเป็นผลประโยชน๑ของกลุํมคน สํวนน๎อย เล็งเห็นผลท่ีได๎จากการลงทุนเพ่ือประโยชน๑แกํคนสํวนใหญํ อันได๎แกํ ความอยูํดีมีสุขของ ประชาชนซง่ึ ตีคาํ เปน็ ตวั เงนิ ไมไํ ด๎ ซึ่งถ๎าหากพิจารณาตามหลักเศรษฐศาสตร๑แล๎ว อาจจะถือวําเป็นการ ลงทุนที่ขาดทุนหรือไมํคุ๎มทุน ดังตัวอยําง การลงทุนสร๎างถนน ไฟฟูา ประปา เข่ือน ฝาย คลองสํงน้า ระบบการเก็บขยะ ระบบบาบัดน้าเสีย เป็นต๎น ป๓จจัยพ้ืนฐานการผลิตเหลําน้ีต๎ องลงทุน แตผํ ลตอบแทนท่ีประชาชนไดร๎ ับ คือ การพฒั นาอยาํ งยง่ั ยืน ทง้ั ทางด๎านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอ๎ ม ภาพทรงดาเนนิ งานโดยยึดผลสาเร็จค๎ุมคาํ มากกวาํ คุ๎มทุน

104 กกกกกกก2. 2.17 การพง่ึ ตนเอง เรือ่ งที่ 1 2. 2.23 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อน้ี โดยการแก๎ไขป๓ญหาเฉพาะหน๎า เพ่ือให๎ประชาชนมีความแข็งแรง พอท่ีจะ ดารงชีวิตตํอไป แล๎วข้ันตํอไปก็คือการพัฒนาให๎ประชาชนสามารถอยูํในสังคมได๎ตามสภาพแวดล๎อม และสามารถพึ่งพาตนเองได๎ ดังพระราชดารัสตอนหน่ึงวํา “การชํวยเหลือสนับสนุนประชาชนในการ ประกอบอาชพี และตง้ั ตวั ใหม๎ ีความพอกนิ พอใช๎กอํ นอ่นื เป็นสิ่งสาคัญยิ่งยวด เพราะผ๎ูมีอาชีพและฐานะ เพยี งพอทจี่ ะพ่งึ พาตนเองได๎ ยํอมสามารถสร๎างความเจรญิ ในระดับสูงขั้นตํอไป” ภาพทรงแก๎ไขปญ๓ หาเฉพาะหน๎าให๎ประชาชนมกี ารพง่ึ ตนเอง กกกกกกก2. 2.18 พออยูํพอกิน เรอื่ งท่ี 1 2. 2.23 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 ไดใ๎ ช๎ หลักการทรงงานข๎อน้ี โดยการสร๎างความ “พออยูํ” “พอกิน” พออยํู คือ การท่ีเราปลูกปุาท่ีให๎ไม๎ พชื ท่จี าเป็นตํอการนามาใชท๎ าทอ่ี ยอํู าศยั ตาํ ง ๆ เชํน ไม๎ทาเสา ไม๎ทาพ้ืน ไม๎ทาฝา ไม๎ทาโครงสร๎างบ๎าน ตําง ๆ เป็นต๎น คร้ันเม่ือเหลือใช๎ เราก็แบํง จําย แจก ขาย เป็นรายได๎เสริมให๎ครอบครัวได๎ พอกิน คือ การท่ีเราปลูกปุาเพ่ือให๎ได๎พืชที่เราจะนามาใช๎กินได๎อยํางพอเพียง เชํน ข๎าว ผัก ฯลฯ เมื่อเหลือ กินแล๎ว เราก็แบํงออกขายหารายได๎เสริมได๎เราจะต๎องใช๎ในชีวิตประจาวัน เชํน ยา ขนม ผลไม๎ เครอื่ งปรงุ เปน็ ต๎น คร้ันเมื่อเราใช๎ได๎อยํางพอเพียงแล๎ว เราก็แบํงออกขายหารายได๎ให๎แกํครอบครัวได๎ ให๎กับคนสํวนใหญํของประเทศ ให๎ประชาชนสามารถอยํูอยําง “พออยูํพอกิน” ให๎ได๎เสียกํอน แล๎วจึง คอํ ยขยบั ขยายใหม๎ ขี ีดสมรรถนะทกี่ ๎าวหน๎าตอํ ไป

105 ภาพทรงสร๎างความพออยํูพอกินโดยการปลกู พืชผกั สวนครวั กกกกกกก2. 2.19 เศรษฐกิจพอเพียง กกกกกกก2. 2.19 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานขอ๎ น้ี โดยชี้ถึงแนวการดารงอยูํ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ต้ังแตํระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให๎ดา เนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพ่ือให๎ก๎าวทันตํอโลกยุคโลกาภิวัตน๑ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึง ความจาเป็นที่จะต๎องมีระบบภูมิค๎ุมกันในตัวท่ีดี พอสมควรตํอการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต๎อง อาศัยความรอบร๎ู ความรอบคอบ และความระมัดระวังอยํางยิ่ง ในการนาวิชาการตําง ๆ มาใช๎ในการ วางแผนและการดาเนินการทกุ ขัน้ ตอน และขณะเดียวกันจะต๎องเสริมสรา๎ งพน้ื ฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ๎าหน๎าท่ีของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจ ในทุกระดับให๎มีสานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย๑ สุจรติ และใหม๎ คี วามรอบรูท๎ ี่เหมาะสม ดาเนนิ ชีวติ ดว๎ ยความอดทน ความเพยี ร มีสติป๓ญญา และความ รอบคอบ เพื่อให๎สมดลุ และพรอ๎ มตอํ การรองรับการเปล่ียนแปลงอยํางรวดเร็ว และกว๎างขวางท้ังด๎าน วัตถุ สงั คม ส่ิงแวดล๎อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได๎เป็นอยํางดี

106 ภาพทรงเสด็จเยีย่ มราษฎรดาเนนิ ชีวติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง กกกกกกก2. 2.20 ความซ่ือสตั ย๑สจุ ริต จรงิ ใจตํอกัน กกกกกกก2. 2.20 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อน้ี โดยผู๎ปฏิบัติงานต๎องมีความรู๎ควบคํูคุณธรรม ความซ่ือสัตย๑สุจริต จริงใจตํอกัน คือ องค๑ประกอบอยํางหน่ึงของคุณธรรมในการปฏิบัติงานให๎ก๎าวหน๎า และการอยูํรํวมกันอยํางมี ความสุขดังพระราชดารัสตอนหนึ่งวํา “ผู๎ท่ีมีความซื่อสัตย๑สุจริตและบริสุทธ์ิใจ แม๎จะมีความร๎ูน๎อย ก็ยํอมทาประโยชน๑ให๎แกํสํวนรวมได๎มากกวําผ๎ูมีความร๎ูมาก แตํไมํมีความสุจริต ไมํมีความบริสุทธ์ิใจ” ดังตัวอยําง คร้ังหนึ่งในการแขํงขันเรือใบ ทรงเรือใบออกจากฝ๓่งไปได๎ไมํนานก็ทรงแลํนกลับฝ๓่ง และ ตรัสกับผู๎ท่ีคอยมาเฝูาฯ วําเสด็จกลับฝ่๓งเพราะเรือแลํนไปโดนทํุนเข๎า ซึ่งในกติกาแขํงเรือใบถือวําผิด กติกา (ฟาวล๑) ท้ัง ๆ ท่ีไมํมีใครเห็น หากทรงไมํบอกใคร ก็ไมํมีใครทราบ การแขํงขันก็ดาเนินตํอไป และทํานอาจจะเป็นผู๎ชนะก็ได๎ แตํก็ทรงยึดตามกติกาทุกอยําง ทาตามกติกาทุกประการ เอาความ ซอ่ื สตั ย๑เปน็ ทต่ี ้ัง เพื่อใหก๎ ารแขํงขันยุตธิ รรม

107 ภาพทรงแสดงความซื่อสัตยต๑ ํอกฎกตกิ า กีฬาเรือใบ กกกกกกก2. 2.21 ทางานอยาํ งมีความสุข กกกกกกก2. 2.20 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยความสุขในการทางาน สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี มีจิตใจรักงาน หรือยึดหลักอิทธิบาทส่ี คือ ฉันทะ (ใจรักงาน) วิริยะ (ความเพียร) จิตตะ (เอาใจฝ๓กใฝุ) วิมังสา (ใช๎ป๓ญญาไตรํตรอง) พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวรัชกาลท่ี 9 ทรงเกษมสาราญและทรงมีความสุข ทุกคราที่จะชวํ ยเหลือประชาชน ซึง่ มีพระราชดารสั ครง้ั หนงึ่ ความวาํ “ทางานกับฉนั ฉันไมํมีอะไรจะให๎ นอกจากการมคี วามสุขรํวมกนั ในการทาประโยชนใ๑ หก๎ ับผ๎ูอน่ื ”… ภาพทรงเกษมสาราญและมคี วามสุขในการทางาน

108 กกกกกกก2. 2.22 ความเพียร กกกกกกก2. 2.22 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ได๎ใช๎ หลักการทรงงานข๎อนี้ โดยทรงรเิ ริม่ ดาเนินงานโครงการตําง ๆ ในระยะแรกท่ีไมํได๎มีความพร๎อมในการ ดาเนินงานมากนัก และทรงใช๎พระราชทรัพย๑สํวนพระองค๑ท้ังส้ิน แตํพระองค๑ก็มิได๎ท๎อพระราชหฤทัย ทรงอดทนและมุํงม่ันดาเนินงาน้ัน ๆ ให๎สาเร็จลุลํวง ดังตัวอยําง พระราชนิพนธ๑ “พระมหาชนก” ซึ่งพระองคท๑ รงใช๎เวลาคํอนข๎างนานในการคิดประดิษฐ๑ถ๎อยคาให๎เข๎าใจงําย และปรับเปลี่ยนให๎เข๎ากับ สภาพสังคมป๓จจุบัน เพื่อให๎ประชาชนชาวไทยปฏิบัติตามรอยพระมหาชนก กษัตริย๑ผ๎ูเพียรพยายาม แม๎จะไมํเห็นฝ๓่งก็จะวํายน้าตํอไป เพราะถ๎าไมํเพียรวํายก็จะตกเป็นอาหารปู และไมํได๎พบกับเทวดาที่ ชวํ ยเหลอื มใิ ห๎จมนา้ ภาพทรงมิได๎ทอ๎ พระราชหฤทัย ทรงอดทนและมุงํ มนั่ ทางาน กกกกกกก2. 2.23 ร๎ู รัก สามคั คี กกกกกกก2. 2.23 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ไดใ๎ ช๎ หลักการทรงงานขอ๎ นี้ โดยมพี ระราชดารัสในเรื่อง “ร๎ู รัก สามัคคี” มาอยํางตํอเนื่อง ซ่ึงเป็นคาสามคา ท่ีมีคําและมีความหมายลึกซ้ึง พร๎อมท้ังสามารถปรับใช๎ได๎กับทุกยุคทุกสมัย รู๎ : การที่เราจะลงมือทา ส่ิงใดนั้นจะต๎องร๎ูเสียกํอน ร๎ูถึงป๓จจัยทั้งหมด ร๎ูถึงป๓ญหาและรู๎ถึงวิธีการแก๎ป๓ญหา รัก : คือ ความรัก เมื่อเรารู๎ครบถว๎ นกระบวนการแล๎ว จะต๎องมีความรักการพิจารณาท่ีจะเข๎าไปลงมือปฏิบัติแก๎ไขป๓ญหา นั้น ๆ สามัคคี : การที่จะลงมือปฏิบัติน้ันควรคานึงเสมอวํา เราจะทางานคนเดียวไมํได๎ ต๎องทางาน รํวมใจเป็นองค๑กร เป็นหมํูคณะจึงจะมีพลังเข๎าไปแก๎ป๓ญหาให๎ลุลํวงไปได๎ด๎วยดี ดังพระราชดารัส ตอนหนึง่ วํา “คนเราถ๎าไมํสามัคคีกัน สํวนรวมกไ็ มไํ ด๎รับประโยชน๑ งานไมไํ ป สํวนตัวกอ็ าจจะเสยี หายได๎

109 ภาพความร๎ู รกั สามัคคขี องพสกนิกรชาวไทยทม่ี ตี ํอ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 กกกกกกก2. จากหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รชั กาลที่ 9 จานวน 23 ข๎อขา๎ งตน๎ เม่ือวิเคราะหใ๑ นสวํ นที่เกี่ยวข๎องกบั คุณธรรมของพลเมืองดี มี 9 ข๎อ ซง่ึ พลเมือง ดีควรนาไปปฏิบัตใิ หเ๎ ปน็ รูปธรรม คือ กกกกกกก2. ข๎อที่ 10 การมีสวํ นรํวม กกกกกกก2. ข๎อที่ 11 ประโยชนส๑ วํ นรวม กกกกกกก2. ข๎อท่ี 12 บริการรวมทจี่ ดุ เดยี ว กกกกกกก2. ขอ๎ ที่ 16 ขาดทนุ คอื กาไร กกกกกกก2. ขอ๎ ที่ 17 การพง่ึ ตนเอง กกกกกกก2. ข๎อท่ี 20 ความซอื่ สัตยส๑ ุจริต จริงใจตํอกัน กกกกกกก2. ขอ๎ ท่ี 21 ทางานอยาํ งมีความสขุ กกกกกกก2. ข๎อที่ 22 ความเพยี ร กกกกกกก2. ข๎อที่ 23 รู๎ รกั สามคั คี

110 เรื่องท่ี 2 แนวทางการปฏบิ ตั ิหนา้ ทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามหลกั การทรงงาน กกกกกกก2.1 การมสี วํ นรวํ ม กกกกกกก2.1 หน๎าทพ่ี ลเมืองที่ดีมแี นวปฏิบตั ิ คือ ภารกิจสวํ นรวม ทกุ คนควรเขา๎ ไปมีสํวนรํวมคดิ รํวมทาเพื่อให๎ภารกิจน้ันสาเร็จลุลํวง ถึงแม๎วําบางครั้งการคิดของแตํละคนอาจจะไมํตรงกันก็ตาม แตเํ ราต๎องปฏบิ ตั ติ ามถา๎ เป็นมติความคิดเห็นของสํวนใหญํ กกกกกกก2.2 ประโยชนส๑ ํวนรวม กกกกกกก2.1 หนา๎ ทพี่ ลเมืองทด่ี ีมแี นวปฏบิ ัติ คือ จะต๎องมีความเสียสละ ในเร่ืองทจี่ าเป็น เพ่ือผลประโยชน๑ของสํวนรวม และรักษาไว๎ซึ่งสังคมประชาธิปไตย เป็นการสํงผลตํอความม่ันคง และความก๎าวหน๎าขององค๑กร ซ่ึงสุดท๎ายแล๎วผลประโยชน๑ดังกลําวก็ย๎อนกลับมาสํูสมาชิกของสังคม เชนํ การไปใชส๎ ทิ ธิเลือกตัง้ ถึงแม๎วําเราจะมอี าชพี บางอยํางที่มีรายได๎ตลอดเวลา เชํน ค๎าขาย แตํก็ยอม เสียเวลาค๎าขายเพ่ือไปลงสิทธิเลือกตั้ง บางคร้ังเราต๎องมีน้าใจชํวยเหลือกิจกรรมสํวนรํวม เชํน การสมัครเป็นกรรมการเลือกต้งั หรือสมาคมบาเพญ็ ประโยชน๑สํวนรวม เป็นต๎น กกกกกกก2.3 บรกิ ารรวมทจี่ ุดเดียว กกกกกกก2.1 หนา๎ ที่พลเมืองที่ดีมีแนวปฏบิ ัติ คือ พลเมืองหลากหลายอาชพี ซึ่งมีความร๎แู ละ ประสบการณ๑ทีแ่ ตกตาํ งกัน การรวํ มกันแก๎ไขปญ๓ หาหรอื การบริการรํวมกนั ณ จุดเดยี วกัน เพ่อื ให๎ สมาชกิ ในสงั คมไดร๎ ับบริการเบด็ เสรจ็ กกกกกกก2.4 ขาดทนุ คือกาไร กกกกกกก2.1 หนา๎ ที่พลเมืองท่ดี มี ีแนวปฏิบตั ิ คือ การเสียสละผลประโยชนท๑ ีต่ นเองจะได๎รบั ใหก๎ ับ สํวนรวมแทน เพราะเม่ือสํวนรวมได๎รับผลประโยชน๑ เราในฐานะเป็นสํวนหน่ึงของสมาชิกสังคม ก็ได๎รับผลประโยชนด๑ ว๎ ย กกกกกกก2.5 การพง่ึ ตนเอง กกกกกกก2.1 หนา๎ ทพ่ี ลเมืองท่ีดมี ีแนวปฏิบัติ คือ พยายามพ่ึงตนเองให๎มากที่สดุ ลดการพึ่งพา ภายนอก จะทาใหส๎ ามารถแก๎ไขป๓ญหาในเบ้อื งต๎นได๎ กกกกกกก2.6 ความซื่อสัตย๑สุจรติ จรงิ ใจตํอกนั กกกกกกก2.1 หนา๎ ทพ่ี ลเมืองทด่ี มี แี นวปฏบิ ตั ิ คือ การปฏิบัตติ น ทางกาย วาจา จิตใจ ท่ี ตรงไปตรงมา ไมแํ สดงความคดโกง ไมหํ ลอกลวง ไมํเอาเปรยี บผ๎อู ่นื ลนั่ วาจาวาํ จะทางานส่ิงใดก็ต๎อง ทาใหส๎ าเร็จเปน็ อยํางดี ไมกํ ลับกลอก มคี วามจรงิ ใจตํอทุกคน จนเป็นทไี่ วว๎ างใจของคนทุกคน กกกกกกก2.7 ทางานอยํางมีความสขุ กกกกกกก2.1 หน๎าท่พี ลเมืองทด่ี ีมแี นวปฏบิ ัติ คือ ขณะทางานต๎องมคี วามสุขด๎วย ถ๎าเราทาอยาํ งไมํมี ความสขุ เราจะแพ๎ แตถํ า๎ เรามีความสุข เราจะชนะ สนุกกับการทางานเพียงเทํานั้น ถือวําเราชนะแล๎ว หรอื จะทางานโดยคานงึ ถงึ ความสขุ ทเี่ กดิ จากการได๎ทาประโยชน๑ให๎กบั ผู๎อน่ื ก็สามารถทาได๎ กกกกกกก2.8 ความเพยี ร กกกกกกก2.1 หน๎าที่พลเมืองที่ดีมีแนวปฏบิ ตั ิ คือ การเรมิ่ ต๎นทางาน หรือทาสงิ่ ใดนน้ั อาจไมมํ ีความ พร๎อมแตตํ ๎องอาศัยความอดทนและความมงํุ ม่ัน เพยี รพยายามให๎งานนั้นสาเรจ็ ลลุ วํ งไปได๎

111 กกกกกกก2.9 รู๎ รัก สามคั คี กกกกกกก2.1 หนา๎ ทีพ่ ลเมืองท่ีดีมีแนวปฏิบตั ิ คือ ตอ๎ งมคี วามร๎ใู นงานที่ตนเองทาเปน็ อยํางดีกํอน ตํอจากนนั้ ให๎ทางานดว๎ ยความรกั และเม่ือลงมือปฏบิ ัติ ถ๎าทาคนเดียวไมํสาเรจ็ ก็ต๎องใช๎บุคคลอ่ืนมาชํวย ทารวํ มกนั อยาํ งมีความสามคั คี กจิ กรรมท้ายบท กกกกกกกกิจกรรมท่ี 1 กกกกกกกคาช้ีแจง ให๎นกั ศกึ ษาเลือกคาตอบท่ีถูกต๎องท่ีสุดเพียงข๎อเดียวแลว๎ นาไปเขยี นไว๎ในแผํน กระดาษคาตอบที่แจกให๎ กกกกกกก1. หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มีทั้งหมดกีข่ ๎อ กกกกกกก1. ก. 9 ข๎อ กกกกกกก1. ข. 15 ข๎อ กกกกกกก1. ค. 21 ขอ๎ กกกกกกก1. ง. 23 ขอ๎ กกกกกกก2. หลักการทรงงาน ขอ๎ แรกของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช คือข๎อใด กกกกกกก1. ก. ระเบดิ จากข๎างใน กกกกกกก1. ข. ทางานอยาํ งมคี วามสุข กกกกกกก1. ค. ซอื่ สัตย๑ สุจริต จริงใจตํอกนั กกกกกกก1. ง. ศกึ ษาขอ๎ มลู อยํางเปน็ ระบบ กกกกกกก3. ข๎อใดคอื ความหมายของการพง่ึ พา กกกกกกก1. ก. มีความเอ้ือเฟ้อื เผ่ือแผํ กกกกกกก1. ข. มคี วามมน่ั ใจวาํ ตนเองเกํง กกกกกกก1. ค. ขอความชํวยเหลอื เม่ือทาส่ิงน้นั ไมํได๎ กกกกกกก1. ง. พยายามทาทุกอยํางดว๎ ยตนเอง เพื่อสรา๎ งตนเองให๎ม่ันคง กกกกกกก4. เศรษฐกจิ พอเพียงเป็นหลกั ในการดาเนนิ ชวี ิตแบบใด กกกกกกก1. ก. พอเพียง กกกกกกก1. ข. ประหยดั กกกกกกก1. ค. ทางสายกลาง กกกกกกก1. ง. หากินตามธรรมชาติ กกกกกกก5. ขอ๎ ใดคอื หลกั การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กกกกกกก1. ก. ร๎ู สามคั คี กกกกกกก1. ข. รัก ร๎ู สามัคคี กกกกกกก1. ค. ร๎ู รัก สามัคคี กกกกกกก1. ง. รู๎ เข๎าใจ รกั เข๎าถงึ การพัฒนา

112 กกกกกกกกจิ กรรมท่ี 2 กกกกกกกคาช้แี จง ใหน๎ ักศึกษาจับคโูํ ดยการโยงเสน๎ ข๎อความด๎านตวั เลขกับขอ๎ ความตวั อักษรทีม่ ี ความสัมพันธ๑กัน แลว๎ นาคาตอบท่ีได๎ไปเขียนลงในแผนํ กระดาษคาตอบที่แจกให๎ กกกกกกก1. ความเพียร ก. การบาบัดนา้ เสยี โดยใช๎ผกั ตบชวาให๎ กกกกกกก2. ทางานแบบองคร๑ วม ก. ดูดซมึ น้าส่ิงสกปรกปุนเปือ้ นในน้า กกกกกกก3. ใช๎อธรรม ปราบอธรรม ข. ต๎องสรา๎ งความเขม็ แขง็ ให๎คนในชุมชน กกกกกกก4. การพงึ่ พาตนเอง เสียกอํ นแลว๎ คํอยออกมาสสํู ังคมภายนอก กกกกกกก5. ระเบดิ จากข๎างใน ค. พระมหาชนก ง. การมองอยํางครบวงจรในการปฏิบตั งิ าน หรอื โครงการจะทรงมองเหตกุ ารณ๑ที่ เกดิ ขนึ้ และนาแนวทางมาแก๎ไขอยําง เชอื่ มโยง จ. การแก๎ไขปญ๓ หาในเบ้ืองตน๎ ดว๎ ยการแก๎ไข ป๓ญหาเฉพาะหน๎า เพ่ือใหม๎ คี วามแข็งแรง พอทีจ่ ะดารงชวี ติ ไดต๎ ํอไป กกกกกกกกจิ กรรมท่ี 3 กกกกกกกคาชี้แจง ใหน๎ กั ศึกษาเตมิ คาลงในชอํ งวําให๎ถูกต๎องสมบูรณ๑ สัน้ ๆแลว๎ นาคาตอบทไี่ ด๎ไปเขยี น ตอบลงในกระดาษคาตอบที่แจกให๎ กกกกกกก1. ……………………………………….คาสามคา ที่มีคําและมีความหมายลกึ ซึง้ สามารถปรบั ใช๎ไดท๎ ุกยุคทุกสมยั กกกกกกก2. ………………………………….…… ประกอบด๎วย ฉันทะ วริ ิยะ จิตตะ กกกกกกก3. พระมหาชนก เปน็ พระราชนิพนธ๑ ของ...........................…………………………….……………. กกกกกกก4. หนา๎ ที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตามหลักการทรงงานที่เก่ียวข๎องกับ คุณธรรมม.ี ..........ข๎อ กกกกกกก5. เกษตรทฤษฎีใหมขํ ัน้ ต๎น ไดจ๎ ัดสรรพน้ื ที่อยอํู าศยั และทที่ ากินออกเป็น....................สวํ น โดยมอี ตั ราสํวน...................................................................................................................................... กกกกกกก

113 กกกกกกกกิจกรรมท่ี 4 กกกกกกกคาชีแ้ จง ใหน๎ ักศกึ ษาทาเครื่องหมายถูก ( ) หรอื ผิด () หนา๎ ข๎อตอํ ไปน้ี โดยนาคาตอบ ที่ได๎ไปเขยี นตอบลงในแผนํ กระดาษคาคอบที่แจกให๎ กกกกกกก………………1. การปลูกหญ๎าแฝกเพือ่ การอนรุ ักษ๑ดินและฟ้นื ฟูพน้ื ท่ีเส่อื มโทรม เป็นหลกั การ ทรงงาน ทาตามลาดับขนั้ ตอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช กกกกกกก………………2. การทางานแบบองคร๑ วมเป็นการทางานอยํางครบวงจร ในการปฏบิ ตั ิงาน หรือโครงการจะทรงมองเหตุการณ๑ท่จี ะเกดิ ขน้ึ และนาแนวทางมาแกไ๎ ขอยํางเช่ือมโยง กกกกกกก………………3. การทางานโดยยึดผลกาไรเป็นหลักการสาคัญของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กกกกกกก………………4. ศูนย๑ศึกษาการพัฒนาห๎วยทรายอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ จดั เปน็ การ ทางานบรกิ ารที่จดุ เดยี ว กกกกกกก………………5. การปลูกปาุ 3 อยําง ไดป๎ ระโยชน๑ 4 อยาํ ง เปน็ หลกั การทรงงานโดยใช๎ อธรรมปราบอธรรม

114 บทท่ี 6 หนา้ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลที่ 9 ตามพระราชจริยวตั ร และพระราชกรณยี กจิ สาระสาคญั กกกกกกก1. หนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชจรยิ วัตร ได๎แกํ 1.1 ครอบครวั 1.1.1 ในฐานะบตุ ร ควรเชอ่ื ฟง๓ คาสั่งสอนของบิดามารดาโดยเฉพาะในเรื่องของ ความรับผิดชอบ ควรมีการนาไปปฏิบัติอยํางเครํงครัด นอกจากน้ีในฐานะบุตรต๎องมีความกตัญ๒ูตํอ บิดามารดา และควรแสดงความรกั เคารพตํอบดิ มารดาอยํางสม่าเสมอ 1.1.2 ในฐานะพํอ ตอ๎ งอบรมส่งั สอนบตุ รให๎เปน็ คนดี มคี วามเสียสละ รบั ผิดชอบ หน๎าท่ีที่ต๎องปฏิบัติให๎ดี โดยเฉพาะในวัยเยาว๑ต๎องต้ังใจศึกษาเลําเรียนและทางานที่พํอแมํหรือครู มอบหมายให๎ทาเป็นอยํางดี นอกจากน้ีพํอแมํต๎องสํงเสริมให๎บุตรได๎ออกกาลังกาย เพื่อให๎รํางกาย แข็งแรง ใช๎เวลาวํางให๎เป็นประโยชน๑ รวมถึงแนะนาสํงเสริมให๎บุตรได๎เรียนรู๎ ศิลปะ ดนตรี เพือ่ ขดั เกลาจิตใจใหอ๎ ํอนโยน 1.1.3 ในฐานะสามี ต๎องเปน็ สุภาพบรุ ุษตอ๎ งให๎เกยี รตสิ ภุ าพสตรี ดูแลคคํู รองด๎วย ความรัก ให๎เกียรติกันและกัน เมื่อพบป๓ญหาต๎องรํวมกันตัดสินใจแก๎ไขป๓ญหาอยํางตั้งม่ันในความ ซอื่ สัตยส๑ ุจรติ และความปรารถนาดี 1.1.4 ในฐานะผู๎นาครอบครวั ตอ๎ งเป็นแบบอยํางในการปฏิบัติดี ปฏบิ ัติชอบ ให๎บุตรได๎เห็นและทาตาม รวมถงึ ส่งั สอนให๎บุตรทางานทเี่ ป็นบทบาทของตวั เองใหด๎ ีท่สี ุด 1.2 ความอํอนนอ๎ มถอํ มตวั ได๎แกํ 1.2.1 กบั ประชาชนทัว่ ไป ควรใหก๎ ารเคารพอํอนน๎อมถํอมตัวกับผ๎ทู ม่ี ีอาวโุ สกวาํ และแสดงความสภุ าพอํอนโยนกับผทู๎ ่มี ีอาวุโสเทํากันหรอื น๎อยกวํา 1.2.2 กบั พระสงฆ๑ เม่ือพบพระสงฆค๑ วรยกมอื ไหว๎ เพ่ือแสดงความเคารพ ในฐานะ ทพ่ี ระสงฆเ๑ ป็นผ๎ูสืบทอดพระพุทธศาสนาใหค๎ งอยํูคํูกบั คนไทย 1.2.3 กับญาติพีน่ ๎อง ต๎องดแู ลญาตพิ น่ี ๎อง และให๎ความเคารพญาตผิ ท๎ู ่ีมีอาวโุ ส กวําด๎วยความอํอนน๎อมถํอมตัว และผู๎ทีม่ อี าวุโสเทาํ กัน หรือนอ๎ ยกวําก็แสดงความสุภาพอํอนโยน 2. หน๎าทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชกรณยี กจิ 2.1 โรงเรียน ถ๎าพลเมืองมีฐานะหรือมีเงนิ เหลือเก็บก็สามารถสงเคราะห๑เงนิ ดังกลําว สนับสนุนกิจการการศึกษาของโรงเรียนหรือสถานบันการศึกษาในชุมชนที่ตัวเองเป็นสมาชิกอยูํ ในกรณที ่ีไมํมเี งินสามารถชวํ ยเหลือด๎านแรงกายกบั ภารกจิ ที่โรงเรยี นต๎องการให๎ชวํ ยเหลือก็ได๎ 2.2 ทอ๎ งถ่นิ ตอ๎ งมสี วํ นรวํ มในการพัฒนาท๎องถ่ินของตวั เองทุกด๎าน ทงั้ ด๎านแรงกาย หรอื เงนิ ตามโอกาสอนั ควร

115 ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั กกกกกกก1. วิเคราะหห๑ น๎าที่พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรัชกาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร และ พระราชกรณียกิจ ในสถานการณ๑ท่กี าหนดใหไ๎ ด๎ 2. ตระหนกั ถึงความสาคัญของหน๎าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 ตาม พระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกจิ ขอบขา่ ยเนอ้ื หา 1. เรือ่ งท่ี 1 หน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชจริยวตั ร 2. เร่ืองที่ 2 หน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชกรณียกิจ สอื่ และประกอบการเรียน 1. สอื่ เอกสาร ได๎แกํ 1.1 ชอ่ื หนังสือ สรา๎ งเด็กดี มคี ุณธรรมตามคาสอน “พํอ” ผแ๎ู ตงํ ธ.ธรรมรักษ๑ และ จิตตวชริ ะ ปี 2554 สานกั พมิ พ๑ รชิ 1.2 ชอื่ หนังสือ ธรรมดีทีพ่ ํอทา ผู๎แตงํ ดนัย จันทร๑เจ๎าฉาย ปี 2555 สานักพมิ พด๑ ีเอ็มจี 2. สอื่ อิเลก็ ทรอนิกส๑ ได๎แกํ 2. 2.1 รายการวทิ ยุโทรทัศน๑ เรื่อง สารคดเี ฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 เน่อื งในโอกาสมหามงคลเสดจ็ เถลงิ ถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 \"เอกกษัตรยิ อ๑ ัครศิลปิน\" ของสถานี Yes Announcer สบื คน๎ จาก https://www.youtube.com/watch?v=9XT3Y05Vv08 2. 2.2 ชือ่ บทความ “89 เร่อื งของในหลวง แรงบนั ดาลใจของพสกนิกรไทยทง้ั ชาติ” ผูแ๎ ตงํ นติ ยสารแพรว สืบค๎นจาก http://www.praew.com/60005/king-of-thailand/ inspiration-89-story-thailands-king-bhumibol 3. สื่อแหลงํ เรียนรใู๎ นชมุ ชน ไดแ๎ กํ 2. 3.1 หอ๎ งสมดุ ประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขนั ธ๑ 3.2 กศน.ตาบล/เทศบาล ทุกแหงํ ศูนย๑การเรียนชมุ ชน ในอาเภอเมืองประจวบคีรขี นั ธ๑ 3.3 พิพธิ ภัณฑ๑จังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ๑ เร่ืองท่ี 1 หน้าทีพ่ ลเมอื งตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร กกกกกกก1. ครอบครวั กกกกกกก1. 1.1 ในฐานะบุตร (พระโอรส) พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ในฐานะเป็นบุตร (พระโอรส) ทรงเช่ือฟ๓งในคาส่ังสอนของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี เป็นอยํางยิ่ง ทรงจดบันทึกคาส่ังสอนแล๎วนามาปฏิบัติ ดังพระราโชวาทหน่ึงที่มีความวํา “ในครอบครัวเรา ความรับผิดชอบเป็นของที่ไมํต๎องคิด เป็นธรรมชาติ สิ่งที่สอนอันแรกคือ เราจะทา

116 อะไรให๎เมืองไทย ถ๎าไมํมีความรับผิดชอบจะไปชํวยเมืองไทยได๎อยํางไร” ในทุกคร้ังท่ีสมเด็จยําหรือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตรัสสอนไมํวําเร่ืองใด ในหลวงจะทรงนากระดาษมาจดและ มีพระราชดารัสตอบวํา “อยากฟ๓งแมํสอนอีก” อยูํเสมอ นอกจากนี้พสกนิกรชาวไทยยังได๎เห็นภาพ ความประทับใจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ได๎แสดงความรัก ความกตัญ๒ู ด๎วยการเอาใจใสํดูแลให๎สมเด็จยําได๎รับความสะดวกสบายอยูํเป็นนิจ รวมถึงภาพ แสดงออกถึงความรักท่ีมีตํอสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นที่ประจักษ๑อยํางตํอเน่ือง สม่าเสมอทุกครั้งทไ่ี ดพ๎ บกับสมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี ภาพทรงจดและจาทุกคร้ังทส่ี มเด็จพระชนนีสอน ภาพทรงดแู ลเอาพระทัยใสํสมเดจ็ พระชนนดี ๎วยความเต็มใจ ภาพในฐานะลูก ทรงกอด หอม และบอกรกั แมทํ ุกคร้ัง

117 กกกกกกก1. หน๎าที่พลเมืองท่ีดี มแี นวปฏบิ ตั ิ ในฐานะลูก ควรเชื่อฟ๓งคาสงั่ สอนของบิดามารดา โดยเฉพาะในเรอ่ื งของความรับผดิ ชอบ ควรมีการนาไปปฏิบตั อิ ยํางเครงํ ครดั นอกจากน้ีในฐานะบตุ ร ต๎องมีความกตัญ๒ูตํอบดิ ามารดา และควรแสดงความรักเคารพตํอบดิ ามารดาอยํางสม่าเสมอ กกกกกกก1. 1.2 ในฐานะพํอ (พระราชบดิ า) พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ได๎ทรงอ๎ุมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไว๎ในอ๎อมพระกรข๎างหน่ึง อีกข๎างหน่ึงทรงอิเล็กโทน พระราชนิพนธ๑เพลง LULLABY และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู ิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท่ี 9 โปรดให๎พระราชโอรส พระราชธิดาทอดพระเนตรโทรทัศน๑เฉพาะวันหยุด เรยี น สวํ นวันหยุดโปรดใหเ๎ สด็จออกกลางแจ๎งเพ่ือรับอากาศบริสุทธ์ิ รับแสงแดด และเมื่อถึงเวลาออก กาลังกาย สมเดจ็ พระนางเจ๎าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ในรัชกาลท่ี 9 โปรดให๎พระราชโอรส พระราชธิดา หัดกายบริหาร เมื่อมีเวลาวํางทั้งสองพระองค๑ทรงพาพระราชโอรส และพระราชธิดานั่งรถไปพักผํอน ดังท่ี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รัชกาลที่ 10 ทรงเลําวํา “เม่ือทูลกระหมํอม พํอขับรถไป สมเด็จแมํก็จะทรงเลําประสบการณ๑ท่ีพระองค๑ได๎พบเห็นในตํางประเทศ ในตํางแดน ทรงเลําถึงพระองค๑เองเม่ือคร้ังทรงพระเยาว๑ เมื่อติดตามทํานพํอของพระองค๑ซ่ึงเสด็จไปเป็นทูตไทย ประจาประเทศตาํ ง ๆ ในยุโรป ตลอดเวลาท่ลี กู ๆ ได๎ฟง๓ ก็ต่นื เต๎นกนั มาก” ภาพทรงอภิบาลพระราชโอรส (สมเด็จพระเจ๎าอยูหํ ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10) ภาพทรงอุ๎มและทรงจบั พระหัตถ๑พระราชธิดา

118 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 แมม๎ ีพระราชกรณยี กจิ มากมายและทรงงานอยํางหนัก แตํพระองค๑ทรงอบรมดูแลพระราชโอรส และพระราชธิดา ท้ัง 4 พระองค๑ด๎วยความรัก โดยมีพระราชประสงค๑ในการอบรมทุกพระองค๑ให๎ร๎ูจักชีวิตของคนสามัญ มากทส่ี ดุ ไมทํ รงต๎องการให๎พระราชโอรส พระราชธิดาถือตัววําเป็นลูกเจ๎า ดังพระราชดารัสในสมเด็จ พระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได๎พระราชทานให๎แกํคณะบุคคลตําง ๆ ท่ีมาเข๎าเฝูาฯ ถวาย พระพรชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต เมื่อวันท่ี 12 สิงหาคม พ.ศ. 2522 ความวํา “พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวทรงสอนลูก ๆ ทุกคน สอนข๎าพเจ๎า กํอน และก็สอนลูกวํา เมื่อคนเขายกยํองนับถือให๎เป็นประมุขเทําไร เราต๎องร๎ูสึกวําเราต๎องทางานให๎ หนักกวาํ ทุกคน ต๎องมีความรับผดิ ชอบ มีความเสยี สละ ข๎อสาคัญเป็นคนดีให๎ร๎ูจักเสียสละ ยิ่งเกิดมาใน ตาแหนํงของลูกของประมุขแล๎วก็ย่ิงต๎องเสียสละมากขึ้น ต๎องท้ังเรียน และต๎องทางานไปด๎วย และกต็ อ๎ งพยายามทาใหไ๎ ด๎ดี” นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ยงั ไดท๎ รงส่ัง สอนปลูกฝง๓ ใหพ๎ ระราชโอรส และพระราชธิดาใหไ๎ ดเ๎ รียนรูเ๎ รื่องศลิ ปะ ดนตรี การออกกาลังกาย การใช๎ เวลาวํางให๎เป็นประโยชนจ๑ ากประสบการณ๑ท่ีพระองคไ๑ ดพ๎ บเหน็ ในตํางประเทศ โดยมีสมเด็จนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผ๎ูรํวมถํายทอดประสบการณ๑ของพระองค๑ทํานให๎พระราช โอรส และพระราชธิดาไดท๎ รงรบั ฟง๓ ดงั ที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร (รัชกาลที่ 10) ทรงเลําวํา “เมื่อทูลกระหมํอมพํอขับรถไป สมเด็จแมํก็จะทรงเลําประสบการณ๑ที่พระองค๑ได๎พบ เห็นในตํางประเทศ ในตํางแดน ทรงเลําถึงพระองค๑เอง เม่ือคร้ังทรงพระเยาว๑ เม่ือติดตามทํานพํอของ พระองค๑ซึ่งเสด็จไปเป็นทูตไทยประจาประเทศตําง ๆ ในยุโรป ตลอดเวลาท่ีลูก ๆ ได๎ฟ๓งก็ต่ืนเต๎น กันมาก” และดงั ภาพที่พสกนิกรได๎เหน็ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงอุ๎มสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไว๎ในอ๎อมพระกรข๎างหน่ึง อีกข๎างหน่ึงทรง อิเล็กโทน เพลงพระราชนิพนธ๑ LULLABY และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โปรดให๎พระราชโอรส พระราชธิดาทอดพระเนตรโทรทัศน๑เฉพาะวันหยุดเรียน สํวน วันหยุด โปรดให๎เสด็จออกกลางแจ๎งเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ รับแสงแดดและเมื่อถึงเวลาออกกาลังกาย สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 โปรดให๎พระราชโอรส พระราชธิดาหัดกาย บริหาร เมื่อมีเวลาวาํ งทงั้ สองพระองค๑ทรงพาพระราชโอรส และพระราชธดิ านงั่ รถไปพกั ผํอน ภาพทรงสอนพระราชธิดาให๎รู๎จักชีวิตของคนสามัญมากที่สุด

119 กกกกกกก1. หน๎าท่พี ลเมืองทีด่ ี มแี นวปฏิบตั ิ ต๎องอบรมส่ังสอนบตุ รให๎เปน็ คนดีมีความเสียสละ รับผิดชอบหน๎าที่ท่ีต๎องปฏิบัติให๎ดี โดยเฉพาะในวัยเยาว๑ต๎องต้ังใจศึกษาเลําเรียนและทางานท่ีพํอแมํ หรือครูมอบหมายให๎ทาเป็นอยํางดี นอกจากนี้พํอแมํต๎องสํงเสริมให๎บุตรได๎ออกกาลังกาย เพ่ือให๎ รํางกายแข็งแรง ใช๎เวลาวํางให๎เป็นประโยชน๑ รวมถึงแนะนาสํงเสริมให๎บุตรได๎เรียนร๎ู ศิลปะ ดนตรี เพ่อื ขัดเกลาจิตใจใหอ๎ อํ นโยน กกกกกกก1. 1.3 ในฐานะสามี (พระสวามี) พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ในฐานะพระสวามสี มเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได๎ทรงให๎เกียรติ ตั้งแตํวันที่มีพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสโปรดให๎มีการจดทะเบียนสมรส นอกจากน้ียังทรงดูแลใน ฐานะสามีต๎องดแู ลภรรยา เมอ่ื ปฏบิ ัติงาน หรอื ปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กิจเยีย่ มราษฎร ภาพท่ีพสกนิกรได๎ พบเห็นมักจะเป็นภาพท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ยืนพระกร (แขน) หรือพระหัตถ๑ (มือ) ให๎สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได๎จับขณะทรง เดินไปในที่ตําง ๆ ของแผํนดินไทย รวมถึงการให๎เกียรติในฐานะภรรยา เมื่อมีพระราชอาคันตุกะได๎ เข๎าเฝาู พสกนกิ รมักทรงได๎เห็นภาพใหส๎ มเด็จพระนางเจา๎ ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลท่ี 9 น่ังเคียง ขา๎ งหรือทรงประทบั ยืนเคียงคูํกันปฏิบตั พิ ระราชกรณียกจิ ตลอดจนบางคร้ังทั้งสองพระองค๑สัมผัสพระ หัตถใ๑ ห๎กาลังพระราชหฤทยั ซึ่งกันและกันด๎วย ภาพวนั พระราชพิธรี าชาภเิ ษกสมรส ภาพใบทะเบยี นสมรส

120 ภาพทรงเป็นสภุ าพบรุ ุษ ดแู ลสภุ าพสตรี ภาพขณะทรงต๎อนรบั พระราชอาคนั ตุกะรวํ มกบั สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ภาพแสดงความรักท่มี ีให๎กบั สมเด็จพระนางเจา๎ ฯ พระบรมราชินีนาถ กกกกกกก1. หน๎าทีพ่ ลเมืองท่ดี ี มแี นวปฏิบตั ิ โดยสามีในฐานะเป็นสุภาพบุรุษต๎องให๎เกียรตสิ ุภาพสตรี ดูแลคํูครองด๎วยความรัก ให๎เกียรติกันและกัน เม่ือพบป๓ญหาต๎องรํวมกันตัดสินใจแก๎ไขป๓ญหาอยําง ตง้ั มัน่ ในความซอื่ สัตยส๑ จุ ริตและความปรารถนาดี

121 กกกกกกก1. 1.4 ในฐานะผ๎ูนาครอบครัว พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาล ท่ี 9 ได๎ทรงเป็นผู๎นาครอบครัวที่ดี พระองค๑ทรงเป็นแบบอยํางให๎ สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินนี าถในรชั กาลที่ 9 พระราชโอรส และพระราชธิดาในการทรงงานเพ่ือประโยชน๑สุขของ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากน้ีพระองค๑ยังได๎ทรงสั่งสอนทุกพระองค๑ให๎ทรงงานด๎วยความ มํุงม่ัน เสียสละ และชํวยพสกนิกรให๎พ๎นจากความทุกข๑ยากลาบาก พสกนิกรจึงได๎เห็นทุกพระองค๑ได๎ รํวมกันทางาน บาบัดทุกข๑บารุงสุขให๎กับราษฎรมาอยํางตํอเนื่อง นอกจากนี้พระองค๑ทํานยังได๎ทรง ประทานพระราโชวาทให๎กับประชาชนอยํางตํอเน่ืองในฐานะผ๎ูนาครอบครัวของชนชาวไทย เพ่ือให๎ สามารถดาเนนิ ชีวติ ได๎อยํางมคี วามสุข ภาพพระบรมวงศานวุ งศ๑ ภาพทรงขบั รถไถนากบั สมเดจ็ พระเจา๎ อยํหู วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู รัชกาลที่ 10

122 ภาพทรงสอนสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี . ภาพทูลกระหมอํ มหญงิ อบุ ลรัชราชกญั ญา สิริวฒั นาพรรณวดี ทรงไดร๎ บั การดูแลใกล๎ชิดจากพระราชบดิ า ภาพสมเด็จพระเจ๎าลกู เธอ เจ๎าฟูาจุฬาภรณวลยั ลักษณ๑ อัครราชกมุ ารี ทรงไดร๎ ับการดูแลใกลช๎ ิดจากพระราชบดิ า

123 ภาพทรงปฏบิ ัติพระราชกรณียกิจกับครอบครัว กกกกกกก1. หนา๎ ที่พลเมืองทด่ี ี มแี นวปฏิบัติ ในฐานะผู๎นาครอบครัว ต๎องเป็นแบบอยํางในการ ปฏบิ ตั ดิ ี ปฏิบตั ชิ อบ ให๎บตุ รไดเ๎ ห็นและทาตาม รวมถึงสงั่ สอนใหบ๎ ุตรทางานที่เป็นบทบาทของตัวเอง ใหด๎ ที ่ีสุด กกกกกกก2. ความอํอนน๎อมถํอมตัว กกกกกกก2. 2.1 กบั ประชาชน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ไดเ๎ สด็จฯ เยยี่ มราษฎร ภาพที่พสกนิกรเห็นคุ๎นตาเสมอ คือ พระองค๑ทรงโน๎มพระวรกายหาประชาชน ด๎วยการคุกเขําหน๎าประชาชน ถามทุกข๑สุข ปรึกษาหารือกับประชาชนเป็นชั่วโมง ๆ บางครั้ง ประชาชนน่ังพับเพียบ พระองค๑ทํานก็ทรุดพระวรกายนั่งพับเพียบเสมอบนพ้ืนดินเดียวกันอยําง เรียบงําย พระองค๑ทรงมีความอํอนน๎อมถํอมตัวกับผู๎รํวมงาน ดังภาพที่พสกนิกรได๎พบเห็น พระองค๑ทํานจะทรงประทับกับพ้ืนดินหรือพ้ืนห๎องทางานโดยมีคณะทางานนั่งล๎อมวงเฝูาอยํางไมํถือ พระองค๑ ไมํตอ๎ งมีโตะ๏ เก๎าอ้ี กกกกกกก2. 2.1 นอกจากนี้พระองค๑ยังทรงให๎คาแนะนากับคณะทางาน โดยเฉพาะกับ แพทย๑ไดท๎ รงแนะนาผู๎ปวุ ย หรือญาติผปู๎ วุ ยอยํางสภุ าพอํอนนอ๎ ม เพ่ือชํวยลดป๓ญหาการขัดแย๎งระหวาํ ง ผป๎ู ุวย หรอื ญาติผ๎ูปุวยกบั แพทย๑ให๎การรกั ษา สะท๎อนให๎เห็นวาํ พระองค๑ทรงเป็นผทู๎ ่ีมีความอํอนนอ๎ ม ถอํ มตวั อยาํ งแทจ๎ ริงทง้ั ๆ ท่ีพระองคเ๑ ปน็ ถึงองค๑พระประมขุ ของชาติ ภาพพระองคท๑ รงโน๎มพระวรกายลงไปหาประชาชน

124 ภาพทรงคุกเขาํ หนา๎ ประชาชน ภาพทรงพูดคุยกับประชาชนอยาํ งเรยี บงํายเป็นกันเอง ภาพทรงใหค๎ าแนะนากบั แพทยท๑ รี่ กั ษาคนไข๎ กกกกกกก2. 2.1 หน๎าที่พลเมอื งท่ีดี มแี นวปฏิบตั ิ ไมํถอื ตัวเป็นคนสมถะและเรยี บงาํ ยไมํวําจะอยํูท่ี ไหนก็อยไูํ ด๎ไมํสรา๎ งเดือดเน้ือร๎อนใจ และสรา๎ งความลาบากใหผ๎ ู๎อืน่ ให๎เกียรตบิ ุคคลอ่นื ทัง้ ทส่ี ูงกวําหรอื ต่ากวาํ ด๎วยการเคารพศักด์ศิ รีความเป็นมนษุ ย๑ของบุคคลน้ัน

125 2.2 กบั พระสงฆ๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 พระองค๑ ทรงเป่ียมไปด๎วยพระราชจริยวัตรท่ีสุขุมคัมภีรภาพ มีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรอยํางเป็นกันเอง และไมํทรงถือพระองค๑ ถึงแม๎บุคคลผู๎น้ันจะตํางช้ันชน หรือมีฐานะยากจนสักเพียงไร โดยเฉพาะอยําง ยิ่งพระภิกษุสงฆ๑ หรือนักบวชในแตํละศาสนา พระองค๑จะทรงให๎เกียรติเป็นอยํางมาก ดังเชํน ตอนท่ี องค๑กรพทุ ธศาสนาฝุายฆราวาสในประเทศไทย ได๎นิมนต๑ภิกษุสงฆ๑จากตํางประเทศเข๎ามาถวายพระพร ในพิธีนี้พระเถระช้ันผ๎ูใหญํเข๎ามาเป็นประธานในพิธีด๎วย กลําวคือ สมเด็จพระญาณสังวรและสมเด็จ พระมหาวีรวงศ๑ ทาํ มกลางเถรานเุ ถระมากมาย พระองค๑ทรงพระดาเนนิ เข๎าไปตรงที่ประทับของสมเด็จ พระสังฆราช พรอ๎ มทรงคุกเขาํ ลงนมัสการ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ เถรานุเถระทั้งหลายตํางสรรเสริญ ช่ืนชมในพระราชจริยวัตรอันอํอนโยนวํา “เกิดมาไมํเคยเห็นพระเจ๎าแผํนดินท่ีทรุดพระองค๑ลงกราบ พระภิกษุ ที่บ๎านเมืองเขาไมํเคยเห็น เป็นทป่ี ระทับใจมาก” ภาพทรงสภุ าพออํ นโยนกบั พระภกิ ษุเป็นอยํางมาก ภาพทรงกราบพระภกิ ษุ

126 ภาพพระองค๑ทรงเปยี่ มไปด๎วยพระราชจรยิ วตั รที่สุภาพอํอนโยน หนา๎ ทพ่ี ลเมืองท่ีดี มแี นวปฏบิ ัติ เมื่อพบพระสงฆ๑ควรยกมือไหว๎ เพ่อื แสดงความเคารพ ในฐานะที่พระสงฆเ๑ ป็นผูส๎ บื ทอดพระพุทธศาสนาให๎คงอยูํคํูกบั คนไทย 2.3 กบั พระประยรู ญาติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงใหค๎ วามเคารพพระประยูรญาติชนั้ ผ๎ใู หญเํ ปน็ อยํางมาก ดงั ท่ีพสกนิกรเคยพบเห็นดังภาพ สมเด็จ พระพนั วสาอัยยกิ าเจ๎า พระเจ๎าบรมวงศเ๑ ธอ พระองค๑เจา๎ วาปีบุษบากร สมเด็จพระเจ๎าพีน่ างเธอ สมเดจ็ พระเจ๎าภคินเี ธอ เจา๎ ฟูาเพชรรัตนราชสดุ า สิริโสภาพณั ณวดี ในฐานะพระประยูรญาติชนั้ ผ๎ใู หญํ และ เจ๎าฟูากัลยาณวิ ัฒนา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร๑ ภาพทรงกราบพระพันวสั สาอัยยิกาเจ๎าในฐานะพระประยูรญาตชิ ้นั ผู๎ใหญํ

127 ภาพทรงเข๎าพบพระองคเ๑ จา๎ วาปบี ุษบากรดว๎ ยความนอบน๎อม ภาพสมเด็จพระเจา๎ พน่ี างเธอ เจา๎ ฟูากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร๑ หนา๎ ท่ีพลเมืองที่ดี มแี นวปฏิบตั ิ ดแู ลญาติพ่ีน๎องและให๎ความเคารพญาตผิ ใู๎ หญํดว๎ ย ความอํอนน๎อมสุภาพ เรื่องที่ 2 หนา้ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชกรณียกิจ 1. โรงเรยี น 1.1 โรงเรียนในพระบรมราชปู ถมั ภ๑ เป็นโรงเรียนท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงให๎การอุปถัมป์ในด๎านตําง ๆ เชํน ทรงพระราชทาน พระราชทรัพย๑ชํวยเหลือ ให๎คาแนะนา รวมท้ังเสด็จพระราชดาเนินไปเยี่ยมเยียน และพระราชทาน พระบรมราโชวาท เพ่ือสนับสนุน และเป็นกาลังใจแกํครูและนักเรียนของโรงเรียน โรงเรียนใน พระบรมราชูปถัมภ๑ มีทั้งโรงเรียนรัฐบาล และโรงเรียนเอกชน ได๎แกํ 1) โรงเรียนจิตรลดา 2 ) โ ร ง เ รี ย น ร า ช วิ นิ ต 3 ) โ ร ง เ รี ย น วั ง ไ ก ล กั ง ว ล 4 ) โ ร ง เ รี ย น ร า ช ป ร ะ ช า ส ม า สั ย 5) โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ๑ 6) โรงเรียนเพ่ือลูกหลานชนบท

128 7) โรงเรยี นรํมเกล๎า 8) โรงเรยี นสงเคราะหเ๑ ด็กยากจน และ 9) โรงเรียนท่ีต๎องการความชํวยเหลือตาม ความจาเป็นเรํงดวํ น ภาพโรงเรียนวังไกลกังวล อาเภอหัวหิน จังหวดั ประจวบครี ีขันธ๑ ภาพทรงพระราชดาเนนิ ไปเยี่ยมเยียนและทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ภาพการศึกษาด๎วยระบบทางไกลผํานดาวเทียม (ครูต๎)ู 1.2 ทุนการศกึ ษาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงทราบดีวําเด็กและเยาวชนของไทยมิได๎ขาดสติป๓ญญา หากแตํด๎อยโอกาสและขาดทุน ทรัพย๑สาหรับการศึกษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าโปรดกระหมํอมพระราชทานพระราชทรัพย๑

129 สํวนพระองค๑ เพ่ือกํอต้ังกองทุนการศึกษาหลายช้ันหลายทุน ต้ังแตํระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา และนิสิตนักศึกษา ได๎แกํ 1) ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล 2) ทุนเลําเรียนหลวง 3) ทุนมูลนิธิ ภูมิพล 4) ทุนการศึกษาสงเคราะห๑ในมูลนิธิราชประชานุเคราะห๑ 5) ทุนมูลนิธิราชประชาสมาสัยใน พระบรมราชูปถมั ภ๑ 6) มูลนธิ โิ รงเรยี นราชประชาสมาสัย 7) ทุนนวฤกษ๑ และ 8) ทุนการศึกษาพระราชทานแกํนกั เรียนเฉพาะกรณี ภาพทรงพระราชทานทุนการศกึ ษา ภาพทรงพระราชทานอุปกรณ๑การเรียน 1.3 โครงการสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน เร่มิ ดาเนินงานเมือ่ ปี พ.ศ. 2551 โดย คณะกรรมการผ๎ูทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาตําง ๆ เพ่ือเป็นการสนองพระราชดาริของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ป๓จจุบันโครงการสารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน ได๎จัดทาหนังสือสารานุกรมไทยที่บรรจุความรู๎ใน 7 สาขาวิชา คือ 1) วิทยาศาสตร๑ 2) เทคโนโลยี 3) สงั คมศาสตร๑ 4) มนุษยศาสตร๑ 5) เกษตรศาสตร๑ 6) แพทยศาสตร๑ และ 7) คณิตศาสตร๑ โดยแตํละ เลํมได๎จัดแบํงเน้ือหาของแตํละเร่ืองออกเป็นสามระดับ เพื่อที่จะให๎เยาวชนสามารถศึกษาค๎นคว๎าหา ความรู๎ไดต๎ ามพ้ืนฐานของตวั

130 ภาพสารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน 1.4 พิธพี ระราชทานปริญญาบตั รแกํผูส๎ าเรจ็ การศึกษาในทุก ๆ ปี พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรม วงศานุวงศ๑ จะเสด็จพระราชดาเนินไปยังสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรแกํ ผ๎ูสาเร็จการศึกษา แม๎พระราชกรณียกิจนี้จะเป็นภาระแกํพระองค๑ และพระบรมวงศานุวงศ๑มาก แตํพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ก็มีพระราชกระแสรับสั่งให๎คงพิธี พระราชทานปริญญาบัตร ในป๓จจุบันมีมหาวิทยาลัยเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นจานวนมาก จึงทรงพระกรุณา โปรดเกลา๎ โปรดกระหมํอมใหพ๎ ระบรมวงศานุวงศ๑เสดจ็ พระราชทานแทนพระองค๑ (เฉพาะมหาวทิ ยาลัย เอกชน) ภาพพระราชทานปรญิ ญาบัตร หน๎าทพ่ี ลเมืองที่ดี มแี นวปฏบิ ัติ ถ๎าพลเมืองมฐี านะ หรือมเี งินเหลอื เก็บกส็ ามารถ สงเคราะห๑เงินดงั กลําว สนับสนนุ กิจการการศกึ ษาของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาในชุมชนที่ตัวเอง เป็นสมาชิกอยํู ในกรณีที่ไมํมีเงินสามารถชํวยเหลือด๎านแรงกายกับภารกิจท่ีโรงเรียนต๎องการให๎ ชวํ ยเหลือก็ได๎

131 2. ทอ๎ งถิ่น 2.1 ดา๎ นสาธารณูปโภค พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาล ที่ 9 ทรงวางแผนสร๎างถนนเพื่อความมน่ั คงของประเทศและพฒั นาบ๎านเมือง เส๎นทางข๎ามภูเขาในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต๎ โดยเฉพาะเส๎นทางสายนําน-ป๓ว-ทุํงช๎าง-ปอน-ห๎วยโกร๐น ในพื้นที่อันตรายที่ผู๎กํอการร๎ายขัดขวาง ท้ังทรงแก๎ป๓ญหาจราจรด๎วยระบบเครือขําย ได๎แกํ ถนน วงแหวนรัชดาภิเษก กาญจนาภิเษก โครงขํายถนนจตุรทิศเหนือ-ใต๎ตะวันออก-ตะวันตก รองรับ การจราจร ขา๎ มกรุงเทพฯ ถนนวงแหวนอตุ สาหกรรม สะพานขนาดใหญํ ข๎ามแมํน้าเจ๎าพระยาสองชํวง ท่ีโดดเดํนสงํางาม สะพานแขวนพระราม 8 ทางคํูขนานลอยฟูา ถนนบรมราชชนนี อีกท้ังโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดาริด๎านการคมนาคมโครงการแรก คือ การกํอสร๎าง ถนนเข๎าสูํหมํูบ๎าน ห๎วยมงคล ตาบลหินเหลก็ ไฟ อาเภอหัวหนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ๑ ในปี พ.ศ. 2495 ภาพถนนเขา๎ สหูํ มบูํ า๎ นหว๎ ยมงคลในอดีต ภาพถนนห๎วยมงคลในป๓จจุบัน 2.2 ดา๎ นการเกษตร พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเน๎นในเร่ืองของการค๎นคว๎า ทดลอง และวิจัยหาพันธุ๑พืชใหมํ ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร รวมถงึ การศึกษาเก่ียวกับแมลงศัตรูพืช และพันธุ๑สัตว๑ตําง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพท๎องถ่ินน้ัน ๆ ซ่ึงแตํ ละโครงการจะเน๎นให๎สามารถนาไปปฏิบัติได๎จริง มีราคาถูก ใช๎เทคโนโลยีงําย ไมํสลับซับซ๎อน เกษตรกรสามารถดาเนนิ การเองได๎ นอกจากนี้ ยังทรงพยายามไมํให๎เกษตรกรยึดติดกับพืชผลทางการ เกษตรเพียงอยํางเดยี ว แตเํ กษตรกรควรจะมรี ายไดจ๎ ากดา๎ นอนื่ นอกเหนอื ไปจากการเกษตรเพ่ิมขึ้นด๎วย

132 ภาพทรงใหค๎ าแนะนากับประชาชนเก่ยี วกับเกษตรทฤษฎีใหมํ ภาพทรงเน๎นในเรื่องของการค๎นควา๎ ทดลอง และวจิ ัย เกยี่ วกับดิน 2.3 ดา๎ นสาธารณสุข พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท่ี 9 ทรงตระหนักถึงสุขภาพอนามัยประชาชน กาจัดโรคระบาดที่คุกคามบ่ันทอนชีวิตราษฎร ได๎แกํ โรคเรื้อน วัณโรค โปลิโอ และโรคติดตํอร๎ายแรง สงเคราะห๑ผ๎ูประสบสาธารณภัยทุกวาระอยํางทัน เหตุการณ๑ ฟื้นฟูท้ังรํางกายและจิตใจ โดยจัดตั้งหนํวยงานแพทย๑หลวง หนํวยแพทย๑พระราชทานทั้ง ทางบกและทางน้า หนํวยทันตกรรมเคลื่อนท่พี ระราชทาน กํอตั้งมูลนิธิราชประชาสมาสัย และมูลนิธิ ราชประชานุเคราะห๑ดาเนนิ งานชํวยเหลอื ในโอกาสตําง ๆ โดยเฉพาะกอํ ต้ังมลู นิธิชัยพัฒนา ดาเนินการ ชํวยเหลือประชาชนได๎รวดเร็ว ในด๎านการแพทย๑สํงเสริมให๎ทุนนายแพทย๑สาขาตําง ๆ ไปศึกษา เพิม่ เติมในตาํ งประเทศ เพื่อนาวิทยาการที่เจริญมาพฒั นาประเทศ

133 ภาพหนํวยแพทย๑พระราชทาน ภาพทรงพระราชทานนามทุน “อานันทมหดิ ล”แกํผสู๎ าเรจ็ การศึกษาวชิ าแพทยศาสตร๑ 2.4 ด๎านสง่ิ แวดล๎อม พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ทานุบารุงและปรับปรุงสภาพทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล๎อม ให๎ดีขึ้นในด๎านตําง ๆ โดยใน ด๎านการแก๎ไขป๓ญหาสิ่งแวดล๎อมนั้น และทรงเน๎นงานการอนุรักษ๑ และฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล๎อม โดยเฉพาะอยํางย่ิงในเร่ืองของป๓ญหาน้าเนําเสีย พร๎อมท้ังพระราชทานทุนการศึกษาแกํนักเรียนไทย ไปศึกษาตํอตํางประเทศ เพื่อนากลับมาพัฒนาประเทศ โดยทรงมีพระราชดาริให๎มีการอนุรักษ๑พร๎อม กับการฟ้ืนฟทู รพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ๎ ม ภาพทรงคิดวางแผนปรบั ปรงุ สภาพทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ๎ ม

134 2.5 ดา๎ นเทคโนโลยี พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงเล็งเหน็ ความสาคัญ และสนบั สนนุ การค๎นคว๎าทางด๎านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยพระองค๑ได๎ทรง ศกึ ษาคดิ ค๎น และนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนบั สนนุ พระราชภารกิจมากมาย มกี ารค๎นควา๎ ในทางวิทยาการคอมพิวเตอร๑ พระองค๑ทรงศึกษาคิดค๎นสรา๎ งโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ๑ พ่ือการประมวล ผลข๎อมูลตาํ ง ๆ ด๎วยพระองคเ๑ อง ทรงประดิษฐ๑รปู แบบตวั อักษรไทยท่มี ีลักษณะงดงาม เพอื่ แสดงผล บนจอคอมพิวเตอร๑ และเคร่อื งพมิ พ๑ ทรงใชเ๎ ครื่องคอมพวิ เตอร๑เพื่อประดิษฐบ๑ ตั ร ส.ค.ส.พระราชทาน พรแกํพสกนิกรชาวไทย ในโอกาสวันข้ึนปีใหมเํ ปน็ ประจาทุกปี ภาพโครงการฝนหลวง ภาพกังหนั นา้ ชัยพฒั นา หนา๎ ท่ีพลเมืองท่ีดี มีแนวปฏบิ ตั ิ ตอ๎ งมสี วํ นรํวมในการพัฒนาทอ๎ งถิ่นของตัวเอง ทุกดา๎ น ทงั้ ด๎านแรงกายหรอื เงินตามโอกาสอนั ควร

135 กจิ กรรมทา้ ยบท กกกกกกกกิจกรรมที่ 1 กกกกกกกคาชีแ้ จง ให๎นักศกึ ษาเลอื กคาตอบท่ีถกู ต๎องท่ีสุดเพียงข๎อเดยี วแล๎วนาไปเขียนไว๎ใน แผนํ กระดาษท่ีแจกให๎ กกกกกกก1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 ทรงอบรมดูแลพระราช โอรสพระราชธิดาท้ังหมดกี่พระองค๑ กกกกกกก1. ก. 3 พระองค๑ กกกกกกก1. ข. 4 พระองค๑ กกกกกกก1. ค. 5 พระองค๑ กกกกกกก1. ง. 6 พระองค๑ 2. สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีความสัมพนั ธ๑กับพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 อยาํ งไร ก. แมํ ข. ปาู ค. ยํา ง. ยาย 3. พระราชโอรสพระราชธิดา ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ทอดพระเนตรโทรทศั น๑เฉพาะวนั อะไร ก. วันหยุดยาว ข. ทกุ วันจันทร๑ ค. วันทห่ี ยดุ เรียน ง. วนั พุธและวนั พฤหัสบดี 4. ข๎อใดไมํใชํโรงเรยี นในพระบรมราชูปถมั ภ๑ ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิ พลอดลุ ยเดช รชั กาลที9่ ก. โรงเรียนจิตรลดา ข. โรงเรียนราชวินิต ค. โรงเรยี นวงั ไกลกังวล ง. โรงเรียนปิยชาตพิ ัฒนา 5. ข๎อใดไมํใชํทุนการศกึ ษาพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิ พลอดุลยเดช รัชกาลท9ี่ ก. ทนุ มลู นิธภิ ูมิพล ข. ทนุ เลาํ เรียนหลวง ค. ทนุ รํวมจติ ต๑นอ๎ มเกล๎า ง. ทุนมลู นธิ ิอนันทมหดิ ล

136 กกกกกกกกจิ กรรมที่ 2 คาชีแ้ จง ให๎นกั ศึกษาจบั คูโํ ดยโยงเส๎นข๎อความด๎านตวั เลขกบั ข๎อความตวั อักษรทม่ี ี ความสมั พันธก๑ นั แลว๎ นาคาตอบที่ได๎ไปเขยี นลงในแผนํ กระดาษคาตอบท่ีแจกให๎ 1. สมเด็จพระเจ๎าพีน่ างเธอ เจ๎าฟูากัลยาณิวฒั นา ก. ถนนห๎วยมงคล กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร๑ ข. ภมู ิลาเนา 2. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดารดิ า๎ นการ ค. ถนนวงแหวนรชั ดาภิเษก คมนาคมโครงการแรก ง. พส่ี าว 3. ต๎องมีสวํ นรวํ มในการพัฒนาท๎องถิน่ ของตนเอง จ. ผนู๎ าครอบครวั ทุกด๎าน ทงั้ ด๎านแรงกายหรือเงินตามโอกาสดงั อนั ควร 4. เป็นแบบอยํางในการปฏิบตั ิได๎ ปฏบิ ัตชิ อบ ให๎บตุ รได๎เหน็ และทาตาม รวมถึงสง่ั สอนใหบ๎ ุตร ทางานทีเ่ ปน็ บทบาทของตนเองใหด๎ ที ่ีสดุ 5. แกป๎ ๓ญหาการจราจรตดิ ขดั เป็นประจา กจิ กรรมที่ 3 คาชแ้ี จง ให๎นกั ศกึ ษาเติมคาลงในชํองวํางให๎ถกู ต๎องสมบูรณ๑ สน้ั ๆ โดยนาคาตอบท่ีไดไ๎ ป เขยี นลงในแผนํ กระดาษทีแ่ จกให๎ 1. ในทกุ ครงั้ ทีส่ มเดจ็ ยาํ หรอื สมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี ตรสั สอนไมวํ ําเร่ืองใด ในหลวงจะทรงนากระดาษมาจดและมีพระราชดารัสตอบวาํ “.....................................” 2. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่9 ได๎ทรงอมุ๎ ........................ ไว๎ในอ๎อมพระกรข๎างหน่ึง อีกขา๎ งหนงึ่ ทรงอเิ ล็กโทน พระราชนพิ นธ๑เพลง LULLABY 3. ทรง.......................................พระพันวสั สาอยั ยิกาเจ๎าในฐานะพระประยูรญาตชิ ั้นผใ๎ู หญํ 4. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท9่ี ได๎ทรงใหเ๎ กยี รตสิ มเด็จ นางเจ๎าฯ พระบรมราชินีนาถ รชั กาลท9ี่ ต้ังแตวํ ันท่ีมพี ระราชพิธรี าชาภเิ ษกสมรสโปรดให๎มกี าร ........................................... 5. หนงั สอื สารานุกรมไทยท่ีบรรจุความรู๎ใน 7 สาขาวชิ า คือ 1) วิทยาศาสตร๑ 2) เทคโนโลยี 3) สังคมศาสตร๑ 4) มนุษยศาสตร๑ 5) ..........................................6) แพทยศ๑ าสตร๑ และ 7) คณติ ศาสตร๑

137 กิจกรรมท่ี 4 กกกกกกกคาชีแ้ จง ให๎นกั ศกึ ษาทาเครื่องหมาย ( ) หรือผิด () หนา๎ ขอ๎ ตํอไปน้ี โดยนาคาตอบท่ี ได๎เขยี นลงในแผนํ กระดาษคาตอบทแ่ี จกให๎ .................1. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี9 ทรงจดและจา ทกุ ครง้ั ท่ีสมเดจ็ พระชนนสี อน .................2. พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท9่ี ทรงสั่งสอน พระราชโอรสและพระราชธิดาให๎ทรงงานด๎วยความมงํุ มน่ั เสียสละ .................3. เม่อื พบพระสงฆ๑ควรยกมือไหว๎ เพื่อแสดงความเคารพ ในฐานะทพ่ี ระสงฆ๑เปน็ ผ๎ูสืบทอดพระพุทธศาสนาให๎คงอยํคู ูํกับคนไทย .................4. โรงเรยี นวังไกลกังวลตั้งอยูํท่ีอาเภอชะอา จังหวดั เพชรบรุ ี .................5. มีสวํ นรํวมในการพฒั นาท๎องถน่ิ ของตนเองเฉพาะด๎านท่ีตนสนใจ

138 บทที่ 7 การประยกุ ต์ใช้หน้าที่พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลที่ 9 ในชวี ิตประจาวนั สาระสาคัญ กกกกกกก1. การน๎อมนาทศพธิ ราชธรรมไปใชใ๎ นชวี ิตประจาวัน สามารถใชก๎ ับครอบครัว ทป่ี ระกอบ ด๎วย หัวหน๎าครอบครัว สมาชิกในครอบครัว และเครือญาติ การศึกษา ประกอบด๎วย เพื่อนผู๎เรียน หรือนักศึกษา และครูบาอาจารย๑ การประกอบอาชีพการงาน ประกอบด๎วย เพ่ือนรํวมอาชีพ และ นายจ๎างหรือผู๎บังคับบัญชา และการพัฒนาชุมชน ท๎องถ่ิน และสังคม ประกอบด๎วย สมาชิกในชุมชน และผ๎ูนา ได๎เป็นอยํางดี คือ ทาน ด๎วยการให๎บริจาคสิ่งของ ทรัพย๑ หรือแรงกาย ชํวยเหลือกิจกรรม หรือภารกิจท่เี ก่ยี วข๎อง ให๎คาแนะนา หรอื ความร๎ทู ี่เกีย่ วข๎อง และให๎อภัยเมื่อได๎รับความรู๎สึก หรือการ กระทาที่ไมํถูกต๎องกับตนเอง ศีล คือ การละเว๎นในสิ่งที่เป็นข๎อห๎ามของศีล 5 ให๎ประพฤติใน สงิ่ ท่ีดีงาม ปริจจาคะ คือ การเสียสละ สํวนที่เก่ียวข๎องกับตนเองเพ่ือประโยชน๑ของสํวนรวม อาชชวะ คอื ความซื่อตรง ใหป๎ ฏิบัติงานหรือภารกิจที่เกี่ยวข๎องทั้งตํอหน๎า และลับหลัง ด๎วยความซ่ือสัตย๑สุจริต มัททวะ คือ ความอํอนโยน ให๎คานึงถึงอายุ ถ๎าเป็นผ๎ูอาวุโสต๎องปฏิบัติด๎วยความอํอนน๎อมถํอมตัว ให๎การเคารพ สํวนผู๎ท่ีมีอายุเสมอกัน หรืออํอนกวําให๎ปฏิบัติด๎วยความสุภาพอํอนโยน ตบะ คือ ความ เพียร ความอดทน ให๎ปฏิบัติภารกิจด๎วยความขยัน มุํงมั่น อดทน ตั้งใจให๎สาเร็จลุลํวง อักโกธะ คือ ความไมโํ กรธ ต๎องควบคุมอารมณ๑ของตนเองให๎สงบ มีสติตลอดเวลา เพ่ือแสดงออก ถึงพฤติกรรม ท่ีเหมาะสมกับ กาลเทศะทุกสถานการณ๑ อวิหิงสา คือ ความไมํเบียดเบียน ไมํเอารัดเอาเปรียบ ด๎วยการไมํเอาทรัพย๑สินหรือส่ิงของสํวนรวม หรือของผ๎ูอื่นมาใช๎เพื่อสํวนตน ไมํพูดจา หรือมีกิริยา สํอเสียด เบียดเบียนผ๎ูอ่ืน ท้ังทางกาย วาจา และใจ ขันติ คือ ความอดทน ต๎องมีความอดทน ในภารกจิ ทมี่ อบหมาย หรอื อดทนตํอสถานการณ๑ที่ไมํพึงประสงค๑ ไมํยํอท๎อ ไมํท๎อถอย และ อวิโรธนะ คือ ความเท่ียงธรรม ให๎วางตัวเป็นกลาง ไมํเอนเอียงไปที่บุคคลใดหรือกลํุมใดกลุํมหนึ่ง ไมํหว่ันไหว ไปกบั คาพูด การกระทา ใหม๎ ีความยุตธิ รรม เทีย่ งตรง กกกกกกก2. การน๎อมนาพระราชดารัสไปใช๎ในชีวิตประจาวนั ครอบครวั ต๎องให๎ความสาคญั กับการ อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานให๎เป็นคนดี มีคุณธรรม มีสติป๓ญญาเฉลียวฉลาด และมีเหตุมีผล การศึกษา ต๎องอบรม นักเรียน นักศึกษา และบัณฑิตท่ีเพ่ิงจบหรือศิษย๑เกําท่ีจบไปนานแล๎วให๎มีความรู๎ วิชาการ และคุณธรรม การประกอบอาชีพ ทุกอาชีพต๎องเน๎นการพัฒนาอาชีพ ต้ังใจ ศึกษาพัฒนาอาชีพ ประกอบอาชีพด๎วยความรู๎ ความสามารถ ประกอบอาชีพด๎วยความพอเพียง ประหยัด พ่ึงตนเอง รอบคอบ คํอย ๆ พัฒนาตามลาดับเพ่ือปูองกันความผิดพลาด ใช๎ข๎อมูลหรือสื่อสารท่ีเป็นประโยชน๑ และต๎องมีคุณธรรมในอาชีพของตนเอง และการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและสังคม ต๎องมีวิชาการ และผ๎ูปฏิบัติรํวมมือกันพัฒนาด๎วยดี ต๎องพัฒนาให๎สอดคล๎องกับบริบทแตํละพ้ืนท่ี เน๎นความเข๎มแข็ง ของชุมชน ท๎องถิ่น ด๎วยการอาศัยการแลกเปล่ียนเรียนรู๎กับบุคคล หรือองค๑กรภายนอกชุมชน เข๎ามามีสํวนรํวมพัฒนาด๎วยความรัก ความสามัคคี กระบวนการพัฒนาต๎องเป็นลาดับข้ันตอน ประหยัดถูกหลกั วิชา เพอื่ ปูองกันความลม๎ เหลวจากการพัฒนา

139 ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั 1. ปฏบิ ัตหิ น๎าท่พี ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ในชวี ิตประจาวนั ได๎ 2. ตระหนกั ถึงความสาคัญเห็นคุณคาํ ของการประยกุ ต๑ใชห๎ น๎าทพ่ี ลเมืองตามรอยพระยุคล บาทรัชกาลที่ 9 ในชีวติ ประจาวัน ขอบข่ายเนื้อหา กกกกกกกการประยุกตใ๑ ชห๎ น๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 ในชวี ิตประจาวันมขี อบขําย เน้อื หา ดังน้ี กกกกกกก1. การน๎อมนาทศพิธราชธรรมไปใชช๎ วี ิตประจาวนั กกกกกกก2. การนอ๎ มนาพระราชดารสั ไปใชช๎ ีวิตประจาวัน สื่อประกอบการเรยี น กกกกกกก1. สอื่ เอกสาร ได๎แกํ กกกกกกก1. 1.1 ใบความร๎ู เรอื่ งท่ี 7 ทศพธิ ราชธรรม และตามพระราชดารัสเกย่ี วกับการศึกษา กกกกกกก1. 1.2 ใบงาน หัวเร่อื งท่ี 7 การประยกุ ต๑ใชห๎ น๎าทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาล ท่ี 9 ในชีวิตประจาวนั กกกกกกก1. 1.3 หนังสือเรียน สาระการพฒั นาสังคม รายวชิ า สค13113 หนา๎ ท่พี ลเมืองตามรอย พระยุคลบาทรัชกาลที่เกา๎ 1 กกกกกกก1. 1.4 ชอื่ หนังสือ พระราชดารสั ตรัสเลํา ผ๎แู ตงํ พวงรัตน๑ วิเวกกานนท๑ ปีที่พมิ พ๑ ม.ป.ป. สานักพมิ พ๑ ประสานมิตร จากัด 1.5 ช่ือหนงั สือ คาพํอสอน : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดารสั เก่ยี วกบั เดก็ และเยาวชน ผู๎แตํง มูลนิธิโตโยต๎าประเทศไทยและมูลนิธิพระดาบส ปีทีพ่ ิมพ๑ พ.ศ. 2550 สานกั พมิ พ๑ กรงุ เทพ 1.6 ชอ่ื หนงั สือ คาพํอสอน : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดารสั เกี่ยวกับ ความสุขในการดาเนนิ ชวี ติ ผแ๎ู ตํง สานักงานกองทุนสนบั สนนุ การสร๎างเสริมและมลู นิธิสดศรี – สฤษดิ์ วงศ๑ ปที ีพ่ มิ พ๑ พ.ศ.2550 สานกั พิมพก๑ รุงเทพ กกกกกกก2. สอ่ื อิเล็กทรอนิกส๑ ได๎แกํ 2.1 ชื่อบทความ บันทึกตามรอย 84 ตามคาสอนพํอ ผู๎แตงํ สานักพิมพ๑เนชนั่ บุ๏ค สืบค๎นจาก https://books.google.co.th/books?id=true 2.2 ชือ่ บทความ 69 พระราชดารัสในหลวง ครองแผํนดนิ โดยธรรม ผูแ๎ ตํง ดร.จินตนันท๑ ชญาตร๑ ศุภมติ ร สืบค๎นจาก http://www.thaimonarch.org/?p=429 2.3 ชอ่ื บทความ “9 พระบรมราโชวาทและพระราชดารัส ” ผ๎ูแตํงมารุตชุํมขนุ ทด สบื ค๎นจาก https://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1477557926

140 กกกกกกก3. สื่อบุคคลและภมู ิป๓ญญา ได๎แกํ 3.1 เจ๎าคณะจังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ๑ 3.2 นายกฤษฏา นตุ ะโร วทิ ยากรชมรมคนรกั ในหลวงจังหวดั ประจวบคีรขี ันธ๑ กกกกกกก4. ส่อื แหลํงเรียนรใู๎ นชมุ ชน ไดแ๎ กํ 4.1 หอ๎ งสมุดประชาชนจังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ๑ 4.2 กศน.ตาบล/เทศบาลทกุ แหงํ และศนู ยก๑ ารเรยี นชุมชน ในอาเภอเมือง ประจวบครี ีขนั ธ๑ เรอื่ งท่ี 1 การนอ้ มนาทศพิธราชธรรมไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั กกกกกกกกหลกั ทศพิธราชธรรม เปน็ หลกั ธรรมสาคัญในการปกครอง กลาํ วคือ เป็นหลักธรรมท่ี พระราชา หรือสิง่ ทค่ี วรประพฤติ และสามารถท่จี ะนาไปประยุกตใ๑ ช๎ในชวี ิตประจาวนั ได๎เปน็ อยาํ งดีย่งิ โดยมีหลักทศพธิ ราชธรรมทเี่ ก่ียวข๎อง ดังน้ี กกกกกกกกก 1.1 ทศพิธราชธรรมที่ใช๎ในครอบครัว ได๎แกํ 1.1.1 ทศพิธราชธรรมข๎อที่ 1 ทาน คือ การให๎ ผ๎ทู ีเ่ ปน็ ผ๎ูนาครอบครัว ได๎แกํ บิดามารดา ควรมบี ทบาทในการใหท๎ านกบั บุตรธดิ า ดว๎ ยการอบรมส่ังสอน การให๎กาลังใจ การให๎อภัย การให๎ความรัก กับเครือญาติ ด๎วยการให๎ความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผํ ชํวยเหลือยามลาบาก และให๎กาลังใจ สํวนบุตรธิดา ควรให๎ทานกับบุคคลในครอบครัว ด๎วยการให๎ความเคารพนับถือ เชื่อฟ๓งคาสั่งสอนของ บิดามารดา และญาติผ๎ูใหญํ พร๎อมทั้งเอาใจใสํรับผิดชอบชํวยงานบ๎านเพ่ือแบํงเบาภาระของทําน และให๎ความสนับสนุนแกผํ ทู๎ ที่ าคุณงามความดี เป็นการให๎รางวัลเพื่อเป็นกาลังในการเรียน ไมํทอดท้ิง ยามทุกข๑ยาก เข๎าลักษณะที่วํา ยามปกติ ก็เรียกใช๎ ยามเจ็บไข๎ก็รักษา ยามต๎องการคาแนะนาปรึกษา กช็ วํ ยให๎แสงสวาํ ง แนะคือ บอกอุบายให๎รู๎ นา คอื ทาใหด๎ ูเปน็ แบบอยําง แม๎จากผ๎ูน๎อยผิดพลาดไปบ๎าง โดยมิต้ังใจ ผู๎ใหญํกต็ อ๎ งรจ๎ู กั ให๎โอกาส แกไ๎ ข ใหอ๎ ภัย มนี า้ ใจ จากการสัมภาษณ๑ พระราชสทุ ธิโมลี เจ๎าคณะจังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อที่ 1 ทาน ไปใช๎ในครอบครัวด๎วยการ (1) บิดามารดา ควรปฏิบัติด๎วยการบาบัดทุกข๑ บารุงสุขคนในครอบครัว การให๎สิ่งของ การให๎วิชา ความรู๎ การให๎สิ่งท่ีต๎องการ ตลอดจนการอบรมแนะนาเพื่อจะได๎ใช๎เป็นเคร่ืองยังชีพ และสร๎างสรรค๑ ชีวิตให๎มีความผาสุกตามควรแกํอัตภาพ (2) บุตรธิดา ควรปฏิบัติด๎วยการปฏิบัติตนเป็นคนดีให๎คนใน ครอบครัวเกิดความผาสุก และ (3) เครือญาติ ควรปฏิบัติให๎ความรํวมมือกับคนในครอบครัว ทกุ ๆ ดา๎ น กลาํ วโดยสรปุ หนา๎ ท่พี ลเมืองดี ประกอบด๎วย หวั หน๎าครอบครัว สมาชิกใน ครอบครัว และเครือญาติของครอบครัว ควรนาทศพิธราชธรรม ข๎อ 1 ทาน คือ การให๎ ไปใช๎กับ ครอบครัวและเครือญาติ ด๎วยการให๎ทานในเรื่องส่ิงของ การเสียสละทรัพย๑ ส่ิงของบารุงเลี้ยงดู ชํวยเหลือเกื้อกูล ให๎ธรรมทานด๎านการให๎คาแนะนาในการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และให๎อภัยทาน ดว๎ ยการ ให๎อภยั เมอื่ มีการกระทาผิด หรอื ละเมดิ กนั และกัน

141 1.1.2 ทศพิธราชธรรมขอ๎ ท่ี 2 ศลี คอื การต้งั อยูํในศลี ซง่ึ สามารถปฏิบตั ติ าม ศีล 5 คือ ไมํฆําสัตว๑ตัดชีวิต ไมํลักขโมยของของผ๎ูอื่น ไมํลํวงละเมิดลูกเมียเขา ไมํพูดโกหก หรือพูดสํอเสียดยุยงให๎คนเขาทะเลาะเบาะแว๎งกัน และควรทาตนให๎หํางไกลจากเหล๎า บุหรี่ หรืออบายมุขตําง ๆ เพราะส่ิงเหลํานี้ นอกจากจะทาให๎เราเสียเงินแล๎ว ยังเสียสุขภาพกายและใจทั้ง ของตัวเราเอง และคนใกล๎ชิดเราด๎วย ผ๎ูที่เป็นผู๎นาครอบครัวได๎แกํ บิดามารดา ควรปฏิบัติศีล 5 ทุกข๎อเป็นแบบอยํางกบั สมาชิกในครอบครัวหรือเครือญาติ ดังตัวอยําง มีบทบาทการปฏิบัติศีลข๎อที่ 3 กับคูํสมรส ด๎วยการมีความประพฤติท่ีดี ไมํลํวงละเมิดลูกเมียผ๎ูอ่ืน ศีลข๎อที่ 4 ไมํพูดโกหกหลอกลวง ไมํพดู จาสอํ เสียด ให๎เกียรติซง่ึ กันและกัน กับสมาชกิ ครอบครัวและเครือญาติ ด๎วยการมีความประพฤติ ท่ีดี ไมํพูดจาสํอเสียด ให๎เกียรติซ่ึงกันและกัน สํวนบุตรธิดา ควรปฏิบัติตามแบบอยํางท่ีดีของพํอแมํ เรื่องศีล 5 ในการดาเนินชวี ิต จากการสมั ภาษณ๑ พระราชสุทธโิ มลี เจา๎ คณะจังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อที่ 2 ศีล ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดามารดา ควรปฏิบัติต๎องรักษาระเบียบกติกา และปฏิบัติตามกฎระเบียบของบ๎านเชํนเดียวกับ สมาชกิ คนอน่ื ๆ โดยไมมํ ีขอ๎ ยกเวน๎ ผู๎นาครอบครัวต๎องไมํทาตัวให๎อยูํเหนือกฎระเบียบ เพราะถือตัววํา มีอานาจเบ็ดเสร็จ (2) บุตรธิดา ควรปฏิบัติด๎วยการทาตนให๎มีความประพฤติที่ดีทั้งทางกาย วาจา ใจ และ (3) เครือญาติ ควรปฏิบัติวางตนให๎อยํูในความดีงามท้ังทางกาย วาจา ใจ ให๎สะอาดปราศจาก โทษอนั ควรครหา กลําวโดยสรปุ หน๎าท่ีพลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหวั หนา๎ ครอบครวั สมาชิกใน ครอบครัวและเครือญาติ ควรนาทศพิธราชธรรม ข๎อ 2 ศีล คือ การตั้งอยูํในศีล ไปใช๎กับทุกคน ในครอบครวั โดยเฉพาะบิดามารดา ควรปฏบิ ตั ติ นเป็นตัวอยํางที่ดีให๎แกํคนในครอบครัว ท้ังด๎านความ ประพฤติและการปฏิบัติตน สวํ นสมาชิกในครอบครัวก็ควรปฏบิ ัตติ ามแบบอยํางของบิดามารดา 1.1.3 ทศพธิ ราชธรรมขอ๎ ที่ 3 ปริจจาคะ คือ การเสียสละ ผท๎ู ่ีเป็นผู๎นาครอบครัว ได๎แกํ บิดามารดา ควรมีบทบาทในการเสียสละกับบุตรธิดา ด๎วยการเสียสละความสุขสํวนตนเพ่ือ ความสุขหรือประโยชน๑ของสํวนรวม คอยให๎คาปรึกษา ให๎กาลังใจ ดูแล และเข๎าใจในทุกเร่ืองที่ เก่ยี วข๎องกับครอบครัว ปกปูองและให๎ความอบอํุนโดยไมํเกรงกลัวตํอภยันตรายใด ๆ เพ่ือให๎ทุกคนใน ครอบครัวอยูํอยํางสุขสบาย เชํน พํอเสียสละความสุขสํวนตัวด๎วยการเลิกด่ืมเหล๎า ทาให๎ลูกเมีย มีความสุข และสละทรัพย๑ส่ิงของบารุงเลี้ยงดู ชํวยเหลือเก้ือกูล กับเครือญาติ ด๎วยการให๎ความ ชํวยเหลือเก้ือกูล และคอยให๎คาปรึกษา ให๎กาลังใจ และยืนหยัดอยูํเคียงข๎าง สํวนบุตรธิดาควรให๎การ เสียสละกับบุคคลในครอบครัว ด๎วยการตั้งใจศึกษาเลําเรียน และเพียรพยายามจนสาเร็จ รวมถึงเสียสละแรงกายและเวลาในการชวํ ยภารกิจของครอบครัวตามโอกาส จากการสมั ภาษณ๑ พระราชสุทธโิ มลี เจา๎ คณะจังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อท่ี 3 ปริจจาคะ ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดา มารดา ควรปฏิบัติตนให๎มีความรับผิดชอบมาก ต๎องดูแลทุกข๑สุขของคนท่ัวไป ต๎องพยายาม หาหนทางทาให๎สมาชิกในครอบครัวได๎รับความสุขพ๎นจากความทุกข๑ จึงจาเป็นที่ผ๎ูเป็นนักปกครอง จะต๎องอุทิศกาลังกาย กาลังใจ และกาลังความคิดให๎แกํสํวนรวม (2) บุตรธิดา ควรปฏิบัติควร สนองตอบตํอความปรารถนาดีของผ๎ูปกครอง และ (3) เครือญาติ ควรปฏิบัติด๎วยการเสียสละเพ่ือ

142 สนองตํอกฎระเบียบของครอบครัว หรือความปรารถนาดีของคนในครอบครัว เชํน เมื่อถึงคราวอด เราก็อดดว๎ ยกัน เมอื่ ถึงคราวควรออมกอ็ อมดว๎ ยกนั กลําวโดยสรุปหนา๎ ท่พี ลเมืองดี ประกอบด๎วยหัวหน๎าครอบครัว สมาชิกใน ครอบครัวและเครือญาติ ควรนาทศพิธราชธรรม ข๎อ 3 ปริจจาคะ คือ การเสียสละไปใช๎กับครอบครัว ด๎วยการมคี วามเสยี สละในเร่อื งของสํวนตน เพอ่ื ประโยชน๑สํวนรวมของคนในครอบครัว 1.1.4 ทศพธิ ราชธรรมขอ๎ ที่ 4 อาชชวะ คือ ความซอ่ื ตรง ผ๎ูที่เปน็ ผน๎ู าครอบครัว ได๎แกํ บิดามารดา ควรมีบทบาทในอาชชวะ ด๎วยการแสดงความซ่ือตรงให๎เป็นแบบอยํางกับบุตรธิดา ด๎วยการสั่งสอนให๎ลูก ๆ มีความซ่ือสัตย๑สุจริต มีความซื่อตรงไมํคดโกง หรือหลอกลวงผ๎ูอ่ืน กับเครือ ญาติ ด๎วยการซ่ือสัตย๑ จริงใจ ไมํคิดคดโกง หรือหลอกลวง สํวนบุตรธิดาควรให๎อาชชวะ ด๎วยการมี ความซ่อื ตรงกบั บุคคลในครอบครัวดว๎ ยการปฏิบัติตนในส่ิงที่ถูกต๎อง ดีงามทั้งกาย วาจา และใจ ทั้งตํอ หนา๎ และลบั หลัง เชนํ ไมํพูดโกหกหลอกลวง ไมลํ ักขโมย ไมเํ อาของผูอ๎ นื่ มาเป็นของตน จากการสัมภาษณ๑ พระราชสุทธโิ มลี เจ๎าคณะจังหวดั ประจวบคีรขี ันธ๑ ฝาุ ยธรรมยุต ได๎ใหข๎ ๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อท่ี 4 อาชชวะ ความซ่ือตรง ไปใชใ๎ นครอบครัว ด๎วย การ (1) บดิ า มารดา ควรปฏิบตั ติ นซือ่ ตรงตอํ หนา๎ ท่ี และซื่อตรงตํอความถูก ความควร (2) บตุ รธดิ า ควรปฏบิ ัตติ นใหร๎ ๎ูจกั การตรงตํอเวลา ความซ่ือสตั ย๑ในหน๎าที่ของตน และไมโํ กหกบุคคลในครอบครัว และ (3) เครือญาติ ควรปฏบิ ัติตนใหซ๎ อ่ื ตรงตอํ หน๎าท่ีของตน โดยไมยํ ํอท๎อตํออปุ สรรค กลําวโดยสรุปหนา๎ ทพี่ ลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหวั หน๎าครอบครัว สมาชกิ ใน ครอบครัวและเครือญาติ ควรนาทศพิธราชธรรม ข๎อ 4 อาชชวะ คือความซ่ือตรง ไปใช๎กับครอบครัว ด๎วยการดาเนินชีวิตด๎วยความซื่อสัตย๑สุจริต ด๎วยความซื่อตรง ไมํพูดโกหก ไมํหลอกลวง และให๎ความ จริงใจแกํคนในครอบครวั ทงั้ ตํอหนา๎ และลบั หลงั 1.1.5 ทศพิธราชธรรมขอ๎ ที่ 5 มทั ทวะ คอื ความอํอนโยน ผทู๎ ี่เปน็ ผู๎นาครอบครัว ได๎แกํ บิดา มารดา ควรมีบทบาทในการสอนเร่ืองความอํอนโยนให๎กับบุตรธิดา ด๎วยการสอนให๎ร๎ูจัก การเคารพผู๎ท่ีมีอายุสูงกวํา ไมํเยํอหยิ่ง ไมํถือตัว และร๎ูจักความอํอนน๎อมถํอมตน กับเครือญาติ ด๎วย การให๎ความเคารพนบน๎อม รจ๎ู ักเอาใจเขามาใสใํ จเรา สวํ นบตุ รธิดาควรมีมทั ทวะกับบุคคลในครอบครัว ด๎วยการมสี ัมมาคารวะ ร๎ูจกั กลาํ วคาขอบคณุ ขอโทษ รจู๎ ักการให๎ความเคารพ การไหว๎ผู๎ใหญํ ประพฤติ ตนตามกฎระเบียบของครอบครัวตํอบิดา มารดาและญาติผ๎ูใหญํ จะทาให๎ไปที่ไหนคนให๎การต๎อนรับ เพราะอยูํใกล๎แล๎วสบายใจ ไมรํ อ๎ นรํุม หากบคุ คลแสดงกิรยิ าหยาบคาย กา๎ วร๎าวคนก็ถอยหําง จากการสมั ภาษณ๑ พระราชสุทธโิ มลี เจา๎ คณะจังหวัดประจวบครี ีขันธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อท่ี 5 มัททวะ ไปใช๎ในครอบครัวด๎วยการ (1) บดิ ามารดาควรปฏบิ ตั ิ ใหเ๎ ปน็ คนทมี่ ีเหตุและมผี ล และควรมีอัธยาศัยอํอนโยน กิริยาสุภาพนุํมนวล ละมุนละไม (2) บุตร ธิดา ควรปฏิบัติตนให๎มีสัมมาคารวะตํอผู๎ใหญํ หรือบุคคลในครอบครัวและ อํอนโยนตํอบุคคลท่ีเสมอกันและต่ากวํา เชํน พ่ีน๎อง หรือญาติท่ีอายุรํุนราวคราวเดียวกัน และ (3) เครอื ญาติ ควรปฏิบัติตนให๎เคารพในเหตุผลทค่ี วร กลําวโดยสรปุ หนา๎ ที่พลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหวั หน๎าครอบครัว สมาชกิ ใน ครอบครวั และเครือญาติ ควรนาทศพธิ ราชธรรม ข๎อที่ 5 มทั ทวะ คอื ความอํอนโยนไปใช๎กบั ครอบครวั

143 ด๎วยการทาตวั ให๎มีกริ ยิ าสภุ าพนมุํ นวล ละมนุ ละไม ไมํเยํอหยง่ิ ถอื ตัว หรือแสดงกริ ิยาวาจา หยาบคาย กับใคร ทาตัวเปน็ ผท๎ู ม่ี ีความอํอนนอ๎ มถํอมตัว กับผทู๎ ่ีมคี วามอาวุโสกวํา และอํอนโยนกบั บุคคลทีเ่ สมอกนั 1.1.6 ทศพิธราชธรรมขอ๎ ท่ี 6 ตบะ คือ ความเพียร ผู๎ท่ีเปน็ ผู๎นาครอบครวั ได๎แกํ บิดามารดา ควรมีบทบาทในเรอื่ งของตบะกับบุตรธดิ า ด๎วยการเป็นตัวอยํางท่ีดี มีความมุมานะ อดทน ขยัน มุํงมั่นในการสร๎างครอบครัว ให๎มีความเป็นอยูํที่สุขสบาย กับเครือญาติ ด๎วยการมีความอดทน พากเพยี ร เอาใจใสบํ คุ คลในครอบครวั สํวนบุตรธิดาควรมีตบะกับบุคคลในครอบครัว ด๎วยการมีความ มมุ านะ อดทน ขยัน มํุงม่ัน พากเพียรในการเรียนหนังสือให๎ประสบผลสาเร็จเป็นที่ช่ืนชมให๎กับบุคคล ในครอบครัว รวมถึงมํุงม่ัน พากเพียรในภารกิจท่ีได๎รับมอบหมายจากครอบครัวให๎สาเร็จตามที่ กาหนดไว๎ จากการสมั ภาษณ๑ พระราชสทุ ธโิ มลี เจ๎าคณะจังหวดั ประจวบคีรีขันธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อที่ 6 ตบะ ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดามารดาควรปฏิบัติมีความมานะบากบ่ัน ไมํยํอท๎อ ก๎าวหน๎าไมํถอยหลัง ในหน๎าที่ที่จะต๎อง รับผดิ ชอบ ตาํ ง ๆ ภายในครอบครัว มีความทุํมเททาอยํางสุดความสามารถ ไมํเสร็จเป็นไมํยอมเลิกรา (2) บุตรธิดา ควรปฏิบัติด๎วยการต้ังใจกาจัดความเกียจคร๎าน หรือการทาผิดหน๎าที่ มํุงทากิจอันเป็น หน๎าท่ีที่พึงทา อันเป็นกิจดีกิจชอบ ให๎สม่าเสมอ และ (3) เครือญาติ ควรปฏิบัติตนด๎วยการมีความ อดทน ปราศจากความเกียจครา๎ น กลําวโดยสรปุ หน๎าทีพ่ ลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหัวหนา๎ ครอบครวั สมาชิกใน ครอบครัวและเครือญาติ ควรนาทศพิธราชธรรม ข๎อ 6 ตบะ คือ ความเพียร ไปใช๎กับครอบครัว ดว๎ ยการปฏิบัตหิ น๎าที่ทร่ี ับผิดชอบดว๎ ยความมุมานะ อดทน ขยัน มุํงม่ัน และทาแตํส่ิงท่ีดี ความถูกต๎อง ฝุาฟน๓ อุปสรรคตาํ ง ๆ จนประสบความสาเรจ็ นอกจากน้ี ยังสอนให๎เราสชู๎ ีวิตไมยํ อมแพ๎อะไรงําย ๆ 1.1.7 ทศพธิ ราชธรรมข๎อที่ 7 อักโกธะ คอื ความไมโํ กรธ ผู๎ท่ีเปน็ ผ๎ูนาครอบครัว ได๎แกํ บิดามารดา ควรมีบทบาทในอักโกธะกับบุตรธิดา ด๎วยการควบคุมอารมณ๑ของตนเอง ไมํให๎เป็น คนโมโหงําย และพยายามระงับยับยั้งความโกรธอยูํเสมอ กับเครือญาติด๎วยการรักษามิตรไมตรี หรือ สัมพันธภาพของคนในครอบครัว สํวนบุตรธิดาควรมีอักโกธะกับบุคคลในครอบครัว ด๎วยการไมํแสดง ความโกรธ หรือความไมํพอใจให๎ปรากฏ ต๎องฝึกฝนควบคุมอารมณ๑ของตนเองไมํให๎เป็นคนโมโหงําย แมใ๎ นหลาย ๆ สถานการณจ๑ ะทาได๎ยาก แตํหากเราสามารถฝึกฝนไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายาม ระงับยับยั้งความโกรธอยํูเสมอจะเป็นประโยชน๑ตํอเราหลายอยําง เชํน ทาให๎เราสุขภาพจิตดี หน๎าตา ผอํ งใส ข๎อสาคญั ทาให๎เรารกั ษามิตรไมตรี หรือสัมพันธภาพกับผ๎ูอ่ืนไว๎ได๎ อันมีผลให๎บุคคลนั้นเป็นท่ีรัก และเกรงใจของคน จากการสมั ภาษณ๑ พระราชสทุ ธิโมลี เจา๎ คณะจังหวัดประจวบครี ีขันธ๑ ฝาุ ยธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมลู การนาทศพธิ ราชธรรม ขอ๎ ท่ี 7 อักโกธะ ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดา มารดา ควรปฏิบัติตนด๎วยการร๎ูจักการควบคุมอารมณ๑ ไมํโกรธงําย ต๎องร๎ูจักเหตุ ร๎ูจักผล มีเมตตา ประจาใจ ไมํเกร้ียวกราดปราศจากเหตุผล ต๎องกระทาด๎วยจิตอันสุขุมเยือกเย็น ละเอียดรอบคอบท่ี สาคญั ต๎องมพี รหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา (2) บุตร ธิดา ควรปฏิบัติให๎ร๎ูจักคิด และควบคุมอารมณ๑ของตน เชํน เมื่อพํอแมํ วํากลําวตักเตือนก็ควรจะรับฟ๓งและนาไปแก๎ไขตนเอง

144 ไมํควรโกรธท่ีพํอแมํวํากลําว และ (3) เครือญาติ ควรมีไมตรี เยื่อใยตํอกัน ปรารถนาให๎มีความสุข ไมํทาบคุ คลรอบข๎างเกิดความลาบากใจ กลาํ วโดยสรปุ หน๎าทีพ่ ลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหวั หน๎าครอบครัว สมาชิกใน ครอบครวั และเครือญาติ ควรนาทศพธิ ราชธรรม ข๎อ 7 อักโกธะ คือ ความไมโํ กรธ ไปใช๎กับครอบครวั ด๎วยการฝกึ ฝนควบคุมอารมณ๑ของตนเอง ไมํให๎เป็นคนโมโหงําย และพยายามระงบั ยบั ยั้งความโกรธ อยูเํ สมอในทุกสถานการณ๑ 1.1.8 ทศพธิ ราชธรรมขอ๎ ที่ 8 อวิหงิ สา คือ ความไมเํ บยี ดเบียน ผู๎ที่เป็นผน๎ู า ครอบครัว ไดแ๎ กํ บดิ ามารดา ควรมบี ทบาทของอวหิ ิงสา กบั บุตรธิดา ดว๎ ยการไมํใชอ๎ านาจไปบังคบั และใหค๎ วามชํวยเหลือในดา๎ นตําง ๆ กบั เครือญาติ ดว๎ ยการใหค๎ วามเทําเทียมกนั เหมือนกนั เสมอภาค กนั ไมํทะเลาะววิ าท ไมํบาดหมางกนั หม่ันนาขอ๎ คิดเห็นท่ีแตกตํางมาพูดคยุ สร๎างความเข๎าใจกันการนา ความคิดเห็นท่ีแตกตํางกนั มาสร๎างความสามคั คี บตุ รธิดาควรมีอวิหิงสา คอื ความไมเํ บยี ดเบยี นกบั บคุ คลในครอบครัว ดว๎ ยการไมทํ ะเลาะววิ าท บาดหมางกัน หากมเี ร่อื งคลางแคลงใจควรหนั หน๎า พูดคุยกนั จากการสัมภาษณ๑ พระราชสุทธิโมลี เจ๎าคณะจังหวัดประจวบคีรขี นั ธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อที่ 8 อวิหิงสา ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดา มารดา ควรปฏิบัติตนด๎วยการไมํวางอานาจขํมขํู หรือพูดจาบังคับให๎บุคคลในครอบครัว ปฏิบัติตาม (2) บุตร ธิดา ควรปฏิบัติตนด๎วยการหลีกเล่ียงความรุนแรง ไมเบียดเบียนผู๎อ่ืน เคารพใน กฎระเบียบ กติกาของบคุ คลในครอบครัว และ (3) เครือญาติ ควรปฏิบัติตนให๎มีความสุข ท้ังทางกาย วาจา ใจ ไมํทะเลาะวิวาท ไมํบาดหมางกนั ในครอบครัว กลาํ วโดยสรปุ หนา๎ ที่พลเมืองดี ประกอบดว๎ ยหวั หน๎าครอบครัว สมาชกิ ในครอบครัวและเครือญาติ ควรนาทศพธิ ราชธรรม ขอ๎ 8 อวิหงิ สา คือ ความไมํเบียดเบียน ไปใชก๎ บั ครอบครัว ดว๎ ยการไมํใช๎อานาจกิรยิ าวาจา ขํมขูํ เบียดเบยี นสมาชกิ ในครอบครัว ให๎มคี วาม เทําเทยี มกัน เสมอภาคกนั เคารพในกฎหมาย ไมํทะเลาะวิวาทบาดหมาง 1.1.9 ทศพิธราชธรรมขอ๎ ท่ี 9 ขนั ติ คอื ความอดทน ผท๎ู ่ีเป็นผู๎นาครอบครวั ได๎แกํ บิดามารดา ควรมีบทบาทในขันติ กับบุตรธิดา ด๎วยการมีความอดทนตํอสู๎กับความเหนื่อย ยากลาบาก ในการเลี้ยงดูบุตรธิดาของตน กับเครือญาติ ด๎วยการมีอดทนตํอความยากลาบาก ไมํท๎อถอย และไมํหมดกาลังกาย กาลังใจ ที่จะดาเนินชีวิตเพ่ือให๎ครอบครัวน้ันอยํูอยํางสุขสบาย สํวนบุตรธดิ า ควรมีขันติกับบุคคลในครอบครัว ดว๎ ยการอดทนตํอการทางานที่ได๎รับมอบหมาย อดทน ตํอคาพูดกิริยา ทําทาง ของบุคคลในครอบครัวท่ีตนเองไมํชอบ รวมท้ังไมํยํอท๎อตํอการทาคุณงาม ความดี ความอดทนจะทาให๎เราชนะอุปสรรคทั้งปวงไมํวําเล็กหรือใหญํ และจะทาให๎เราแกรํงขึ้น เข๎มแขง็ ข้ึน จากการสัมภาษณ๑ พระราชสทุ ธโิ มลี เจ๎าคณะจังหวัดประจวบคีรขี ันธ๑ ฝุายธรรมยุต ได๎ให๎ข๎อมูลการนาทศพิธราชธรรม ข๎อท่ี 9 ขันติ ไปใช๎ในครอบครัว ด๎วยการ (1) บิดา มารดา ควรปฏิบัติตนให๎มีความอดทนอุตสาหะ ในการปกครองคนในครอบครัว ด๎านอารมณ๑ ด๎านวาจา (2) บุตรธิดา ควรปฏิบัติตนด๎านความอดทนตํอสิ่งย่ัวยุกิเลสตําง ๆ ที่จะเข๎ามาทาลายชีวิต