Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผล การพัฒนาเครื่องมือการประเมินทักษะการดำรงชีวิต สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

รายงานผล การพัฒนาเครื่องมือการประเมินทักษะการดำรงชีวิต สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

Published by special_lp, 2018-07-08 08:16:13

Description: รายงานผล การพัฒนาเครื่องมือการประเมินทักษะการดำรงชีวิต สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

Search

Read the Text Version

รายงานผล การพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสาํ หรับเด็กทีม่ คี วามตองการจําเปน พเิ ศษเพอื่ การนเิ ทศการเรยี นการสอน ในศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง นางสุรัญจติ วรรณนวล ผอู าํ นวยการชํานาญการพิเศษ ศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลําปางรายงานน้ีเปนการรายงานผลการดําเนินงานตามขอ เสนอในการพัฒนางาน (ดานท่ี ๓ สวนที่ ๓) ใหข าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามีวิทยฐานะหรือเลื่อนเปนวทิ ยฐานะเชี่ยวชาญ พ.ศ.๒๕๖๐

คํานาํ กิ จ ก ร ร ม ก า ร พั ฒ น า เ ค ร่ื อ ง มื อ ป ร ะ เ มิ น ทั ก ษ ะ ก า ร ดํ า ร ง ชี วิ ต ป ร ะ จํ า วั น สํ า ห รั บเด็ กท่ี มี ความต องการจํ าเป นพิ เศษเ พื่ อ ก า ร นิ เ ท ศ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ใ น ศู น ย ก า ร ศึ ก ษ า พิ เ ศ ษประจําจังหวัดลําปาง เปนกิจกรรมหน่ึงของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาใหบรรลุผลสําเร็จตามเปาหมายของสถานศึกษา โดยการพัฒนาแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน การจัดทําคูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทกั ษะการดํารงชีวิตประจาํ วันสําหรบั เดก็ ทมี่ ีความตองการจาํ เปนพิเศษ และการดําเนินการตามแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง เรื่อง การประเมนิ ทกั ษะการดํารงชวี ิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ซ่ึงการดําเนินการพัฒนาขางตนเปนการดําเนินการโดยกระบวนการมีสวนรวมของผูเกี่ยวของ ไดแก ครูและบุคลากรทางการศึกษาของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลาํ ปาง ทําใหเ กดิ ประโยชนใ นการพฒั นาทกั ษะการดาํ รงชีวติ ประจําวันของเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษท่ีรับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางกลาวคือ เด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษมีทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสูงขึ้น และผูปกครองมีความพึงพอใจ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ไดดําเนินการบรรลุผลสําเร็จตามขอตกลงทุกประการ ดวยความรวมมือ รวมใจของครูและบุคลากรของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางท่รี วมกนั พฒั นาตามขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน จงึ ขอขอบคณุ ทุกทา นเปน อยา งสูงมา ณ โอกาสนี้ นางสุรญั จิต วรรณนวล ผูอาํ นวยการศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑

ข หนา ก สารบญั ข คคาํ นํา จสารบญั ๑สารบัญตาราง ๔สารบัญภาพ ๗สวนท่ี ๑ เหตผุ ลและความจาํ เปนในการพัฒนา ๑๐สวนที่ ๒ ประเด็นในการพัฒนา ๔๖สว นที่ ๓ เปา หมายในการพฒั นา ๔๙สวนท่ี ๔ วธิ ีการพฒั นา ๗๖สว นท่ี ๕ แนวทางการตรวจสอบและประเมินผลการพฒั นางาน ๗๘สว นท่ี ๖ ผลการพัฒนา และขอเสนอแนะ ๗๙บรรณานุกรม ๘๑ภาคผนวก ภาคผนวก ก รายช่ือผูเ ช่ียวชาญตรวจสอบเครื่องมือ ภาคผนวก ข เครอ่ื งมือทใี่ ชใ นการพฒั นา

ค สารบญั ตารางตารางท่ี ๔.๑ แสดงโครงรา งของการปรบั ปรุงแบบประเมินความสามารถพน้ื ฐาน หนา ๓๒กลมุ ทักษะการดํารงชวี ติ ประจําวนั สาํ หรบั เด็กท่มี ีความตองการจําเปนพเิ ศษตารางที่ ๔.๒ แสดงขอ มูลการปรับปรุงแกไขเครื่องมือประเมินทกั ษะการดาํ รงชวี ติ ประจาํ วนั ๔๓สาํ หรับเด็กทีม่ คี วามตอ งการจาํ เปน พเิ ศษ เพ่ือการนเิ ทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลําปางตารางท่ี ๖.๑ แสดงขอ มลู ผลการพัฒนาศักยภาพในทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน ๕๐ของเด็กที่มคี วามตองการจาํ เปนพิเศษท่ีรับบริการในศนู ยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลาํ ปาง เปรยี บเทยี บกอนและหลงั การพัฒนาตารางท่ี ๖.๒ แสดงผลการประเมินพฤติกรรมผูรบั การนเิ ทศ เรือ่ ง การประเมนิ ทักษะ ๕๒การดํารงชีวติ ประจําวนั สาํ หรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปนพิเศษของศนู ยก ารศึกษาพเิ ศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปางตารางที่ ๖.๓ แสดงผลการประเมนิ พฤตกิ รรมผูนิเทศ เรอื่ ง การประเมินทักษะการดํารงชีวิต ๕๔ประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลาํ ปางตารางท่ี ๖.๔ แสดงระดบั คุณภาพของแผนนิเทศภายในศนู ยการศึกษาพเิ ศษประจาํ จังหวัด ๕๖ลําปาง เรอ่ื ง การประเมินทักษะการดํารงชวี ติ สําหรบั เด็กท่ีมคี วามตองการจําเปนพิเศษตารางท่ี ๖.๕ แสดงระดบั ประโยชนข องแผนนเิ ทศภายในศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวดั ๕๗ลาํ ปาง เรือ่ ง การประเมินทกั ษะการดํารงชวี ิตสาํ หรบั เดก็ ท่ีมีความตองการจําเปน พเิ ศษตารางที่ ๖.๖ แสดงระดบั คุณภาพของแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐาน ๕๘กลุมทกั ษะการดาํ รงชวี ิตประจําวันสําหรับเด็กทีม่ ีความตองการจําเปนพเิ ศษของศูนยการศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จังหวัดลําปางตารางท่ี ๖.๗ แสดงระดบั ประโยชนข องแบบประเมินความสามารถพื้นฐาน ๖๐กลุมทักษะการดํารงชวี ติ ประจําวนั สําหรบั เดก็ ท่มี คี วามตองการจําเปนพเิ ศษของศูนยก ารศกึ ษาพิเศษประจําจงั หวดั ลาํ ปางตารางท่ี ๖.๘ แสดงระดบั คุณภาพของคมู ือการปฏบิ ัติงาน (Work Manual) การประเมิน ๖๑ความสามารถพ้นื ฐานกลุมทกั ษะการดาํ รงชีวติ ประจําวนั สําหรบัเด็กท่มี คี วามตองการจําเปน พิเศษของศูนยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจําจงั หวัดลําปางตารางที่ ๖.๙ แสดงระดบั ประโยชนของคมู ือการปฏบิ ตั ิงาน (Work Manual) การประเมิน ๖๒ความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวติ ประจําวนั สาํ หรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปน พิเศษของศนู ยก ารศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลาํ ปางตารางที่ ๖.๑๐ แสดงผลการประเมินคุณภาพภายในศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจําจงั หวัด ๖๕ลําปางปการศึกษา ๒๕๖๐ มาตรฐานท่ี ๑ ดานคณุ ภาพผูเรียน

ง หนา ๖๕ สารบัญตาราง (ตอ )ตารางที่ ๖.๑๑ แสดงผลการประเมินความพึงพอใจของผูปกครองที่มตี อการพฒั นา ทกั ษะการดํารงชีวิตประจําวันสาํ หรบั เด็กทมี่ ีความตองการจําเปน พเิ ศษ ของศนู ยการศกึ ษาพเิ ศษประจําจงั หวดั ลาํ ปาง

จ หนา ๑๖ สารบญั ภาพ ๒๔ภาพที่ ๔.๑ โครงสรา งโปรแกรมการพฒั นาทักษะการดาํ รงชวี ติ ๒๕ สาํ หรับเดก็ ทีม่ ีความตองการจําเปน พเิ ศษของศนู ยการศึกษาพเิ ศษภาพท่ี ๔.๒ กรอบแนวคิดการพัฒนาเครื่องมือประเมนิ ทักษะการดาํ รงชวี ติ ประจําวัน สําหรบั เด็กที่มีความตอ งการจําเปนพิเศษเพอ่ื การนิเทศการเรยี นการสอน ในศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจงั หวดั ลําปางภาพท่ี ๔.๓ แสดงวิธีการพฒั นาเครื่องมือประเมินทกั ษะการดํารงชีวติ ประจําวัน สาํ หรบั เด็กท่มี คี วามตองการจําเปนพิเศษเพือ่ การนิเทศการเรยี นการสอน ในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวดั ลําปาง

สวนท่ี ๑ เหตผุ ลและความจาํ เปน ในการพัฒนา พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕มาตรา ๑๐ กําหนดไววา “การจัดการศึกษาตองจัดใหบุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานไมนอยกวา สบิ สองปทร่ี ัฐตองจัดใหอยางทัว่ ถงึ และมคี ณุ ภาพโดยไมเก็บคาใชจ า ย”และพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ กําหนดใหคนพิการมีสิทธิทางการศึกษาโดยไมเสียคาใชจายต้ังแตแรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พรอมท้ังไดรับเทคโนโลยีสิ่งอํานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความชวยเหลืออื่นใดทางการศึกษาเลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคํานึงถึงความสามารถความสนใจ ความถนัดและความตองการจําเปนพิเศษของบุคคลน้ัน และใหไดรับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมท้ังการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรูที่เหมาะสมสอดคลอ งกับความตอ งการจําเปนพเิ ศษของคนพกิ ารแตล ะประเภทและบุคคล เพ่ือเปนการสนองพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแกไขเพ่ิมเติม(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ บทบาทหนาท่ีและกลุมเปาหมายท่ีรับบริการดังกลาวศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางจึงไดนํา (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทกั ษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษพุทธศักราช ๒๕๕๘ ของสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษมาจัดทําหลักสูตรสถานศึกษา เพ่ือเปนแนวทางการจัดการศึกษาสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษโดยมุงเนนการพัฒนาผูเรียนตามทักษะการเรียนรู ๔ กลุมทักษะ ประกอบดวย กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน กลุมทักษะสวนบุคคลและสังคม กลุมทักษะวิชาการเพ่ือการดํารงชีวิต และกลุมทักษะการทํางานและอาชีพ (สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘ ก) เพื่อใหผูเรียนมีความพรอมท่ีจะเขาเรียนในระดับชั้นตอไปสามารถเรียนรูและชวยเหลือตนเอง อยูในสังคมไดอยางมีความสุข บนพื้นฐานความเช่ือที่วา เด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษทุกคนสามารถเรียนรูและพฒั นาตนเองไดเต็มศกั ยภาพ ปญหาที่ผานมาพบวาในการจัดการเรียนการสอนของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางมีการจัดการเรยี นการสอนเดก็ ที่มคี วามตองการจาํ เปนพิเศษตามหลกั สูตรการใหบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่มสําหรับเด็กพิการศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ซ่ึงมีเน้ือหาสาระเพ่ือการกระตุนพัฒนาการทักษะกลามเน้ือมัดใหญ ทักษะกลามเนื้อมัดเล็ก ทักษะการชวยเหลือตนเองในชีวิตประจําวันทักษะการรับรูและแสดงออกทางภาษาทักษะทางสังคมทักษะทางสติปญญาหรือการเตรียมความพรอมทางวิชาการและทักษะจําเปนเฉพาะความพิการหรือทักษะจําเปนอ่ืนๆแตก ลุมเปาหมายสวนใหญเปน เด็กทีม่ ีอายุมาก และมคี วามตองการจาํ เปนเพื่อเพม่ิ ทักษะการดาํ รงชีวิตมากกวาการกระตุนพัฒนาการ ในขณะที่กลุมเด็กเล็กก็มีความจําเปนท่ีจะตองไดรับการเตรียมความพรอมกอนเปลี่ยนผานไปโรงเรียนเรียนรวมหรือโรงเรียนเฉพาะความพิการ ดังนั้นการกระตุนพฒั นาการอยางเดียวจึงไมเพยี งพอ ควรไดร ับการเตรยี มความพรอ มดา นทักษะการดํารงชีวติ ดวย ในขณะท่ีหลักสูตรที่ใชในการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษ คือ (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กทม่ี ีความตอ งการจาํ เปน พิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษ พุทธศกั ราช ๒๕๕๘ ถอื เปนหลักสูตรใหม

๒ท่ีอยูในชวงทดลองใช ครูของศูนยการศึกษาพิเศษยังไมมีความชัดเจนในการนําไปใชเทาที่ควร อีกท้ังมีครูเขาใหมตลอดเวลาทําใหการพัฒนาครูเรื่องการใชหลักสูตรใหมมีอุปสรรคในการใหครูมีความรูความเขาใจท่ีใกลเคียงกัน กอปรกับแบบประเมินที่บรรจุไวใน (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพเิ ศษของศูนยการศกึ ษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘เปนเพียงแบบประเมินตัวอยางที่ตองนํามาปรับปรุงกอนนําไปใช จึงยังไมเหมาะกับบริบทของการใชในสถานการณจ รงิ จงึ ทําใหครูไมเขาใจและนําไปใชไ ดย าก สงผลใหการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตของเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางไมมีประสิทธิภาพเทาที่ควร สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษไดนําแนวคิดการพัฒนาหลักสูตรท่ีเนนการปฏิบัติไดจริง(Functional Curriculum) มาเปนแนวทางในการพัฒนาโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พ.ศ.๒๕๕๘ โดยเนนความสําคัญของทักษะการดํารงชีวิตประจําวันเปนทักษะแรก และจําเปนท่ีจะตองพัฒนาผูเรียนทุกอายุแตใหเนนเรื่องการนําไปใชที่สอดคลองกับสภาพแวดลอม (Wehman & Kregel, 2002, p.3-7. อางถึงในสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๒) นอกจากน้ัน ทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวนั เปนกลุมทักษะที่เร่ิมในผูเรียนอายุตั้งแตแรกเกิดจนถึงตลอดชีวิต จําเปนจะตองไดรับการพัฒนากอน (สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๕) สวนกลุมทักษะอื่น ๆ น้ัน จะขึ้นอยูกับความตองการจําเปนหลังจากท่ีผูเรียนมีทักษะการดํารงชีวิตประจําวันและมีความพรอมแลว สอดคลองกับงานวิจัยของ มะลิวัลย เรือนคํา และศุภลักษณ เข็มทอง (๒๕๕๒) รวมท้ัง ดราโฮตา (Drahota, 2008) ไดทําการวิจัยและคนพบวา จะตองจัดทาํ แบบประเมินทักษะดํารงชีวิตประจําวันเปน อันดับแรกเพ่ือชวยใหผเู รยี นมีความสามารถและปรบั ตัวไดใ นการเรียนรูในทักษะอ่ืน ประกอบกับผลการวิจัยของ แซนเดอร(Sanders, 2006) ท่ีระบุวา การสรางเครื่องมือไมเพียงแตจะสรางข้ึนมาใชเทาน้ัน นอกจากจะผานการตรวจสอบจากผูเชี่ยวชาญแลว หากจะนําไปใชอาจจะเกิดการตีความตางกัน จําเปนตองมีการฝกฝนอบรมกอนนําไปใช ดังนั้นเมื่อผูรายงานจะพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะจึงไดเลือกจัดทําแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษกอน และเห็นความจําเปนท่ีจะตองนิเทศกํากับติดตามและช้ีแนะตลอดการใชแบบประเมิน เพื่อใหเกิดความเขาใจตรงกัน และเช่ือมั่นวาหากมีการนิเทศกํากับติดตามและช้ีแนะในขณะนําแบบประเมินทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวันไปใชจริง จะชวยใหการประเมินผูเ รียนสะทอ นขอมูลพ้ืนฐานท่ีเปนจริงสาํ หรับครูและผูเ กย่ี วขอ งนาํ ไปวางแผนเพ่ือพัฒนาทักษะตางๆ ใหม ีศักยภาพสูงสดุ จากเหตุผลและความจําเปนดังกลาว จึงจําเปนตองพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพ่ือใหครูและบุคลากรทางการศึกษาพิเศษมีความรูความเขาใจ และมีทักษะในการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ที่รับบริการแบบไป - กลับหมุนเวียน ในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เด็กที่มี

๓ความตองการจําเปนพิเศษมีผลการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันที่สูงข้ึน และผูปกครองมีความพงึ พอใจ

สวนท่ี ๒ ประเดน็ ในการพฒั นา จากการสํารวจสภาพภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง พบประเด็นท่ีเปนมลู เหตใุ นการพฒั นาครัง้ น้ี ดังน้ี ประเด็นดานผูเรียน พบวา ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางมีผูเรียนท่ีอายุตั้งแต๒ – ๑๘ ป ซึ่งเดิมไดจัดการเรียนการสอนโดยใชหลักสูตรการใหบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่มแกเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ ซ่ึงเปนหลักสูตรทอี่ ิงพัฒนาการ เม่ือนํามาใชไ ดมีการปรบั การจัดกิจกรรมในบางเรื่อง ดังน้ันเม่ือสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษไดมีการพัฒนาโปรแกรมการพัฒนาทักษะดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษข้ึน ซ่ึงโปรแกรมนี้เนนใหจัดการเรียนการสอนท่ีสอดคลองกับอายุจริงของผูเรียน ประกอบกับบริบทของผูเรียนที่มีความหลากหลายของเปาหมายบริการสาธารณะซึ่งรับบริการทั้งในศูนยการศึกษาพิเศษ หนวยบริการ ที่บานและศนู ยก ารเรียนเฉพาะความพิการ แตก ารจะพฒั นาผเู รยี นใหสามารถเปลีย่ นผา นไปดํารงชีวิตในโรงเรียนและชุมชนไดน้ัน การจัดการเรียนการสอนควรจัดใหเอ้ือกับหลักการของหลักสูตรและหลักการการศึกษาพิเศษ ที่กลาววาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควรจัดใหใกลเคียงและสัมพันธกับสภาพแวดลอมของการดํารงชีวิตของเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษแตละคน เพ่ือการนําไปใชไดจริงทั้งในสภาพแวดลอมของตนและสภาพแวดลอมที่เปล่ียนแปลงไปในสังคม โดยครูผูสอนตองคํานึงถึงสภาพแวดลอมทางการศึกษา ความเปนอยู ชุมชน และสันทนาการท่ีจะตองเผชิญทั้งในและนอกโรงเรียน การเรียนการสอนไมควรเตรียมผูเรียนใหปฏิบัติทักษะในสถานการณเดียว แตควรใหผเู รียนสามารถนําไปใชกับความสามารถใหมกับสภาพแวดลอ มใหมในชุมชนของตน การเรยี นการสอนควรเกิดข้ึนในสถานการณหรือบรบิ ทที่ผูเรยี นไดนําทักษะท่ีไดเ รียนรเู หลานั้นไปใชไ ดจรงิ (Wehman &Kregel, 2003. อางถึงใน สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ข. ๓) ศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปางตระหนักในหลักการดงั กลา ว จึงจะตองจัดการเรียนการสอนใหเหมาะสมกับอายุจริงและบริบทของผูเรียนท้ังในหองเรียนและชุมชน แตเน่ืองจากโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตดังกลาวเปนหลักสูตรใหม การนําไปใชจําเปนท่ีจะตองจัดทําเครื่องมือเพื่ออํานวยความสะดวกแกครูในการประเมินความสามารถพ้ืนฐานของผูเรียน รวมทั้งเปนแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของผเู รยี นใหส ูงสุดในการดํารงชีวติ ประเด็นดานครู พบวา ครูสวนใหญเพ่ิงจบการศึกษาและมีประสบการณนอย และมีการเปลี่ยนงานบอย บางคนไมไดจบการศึกษาพิเศษโดยตรง ขาดประสบการณในการวางแผนการพัฒนาศักยภาพเดก็ ที่มีความตอ งการจําเปนพิเศษในองคร วม จําเปนตองไดรบั การนิเทศการเรียนการสอนต้ังแตการประเมินความสามารถพื้นฐาน การออกแบบการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การประเมินผลระหวางเรียน และการประเมินผลสรุป ซึ่งการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวติ ประจําวนั สําหรับเด็กที่มีความตองการจาํ เปน พิเศษจะชวยใหนิเทศครูไดรับ

๕การชี้แนะที่ตรงประเด็นตามขั้นตอนการจัดการศึกษาพิเศษและชวยใหครูมีความรู และทักษะในการจัดการเรียนการสอนทักษะการดํารงชีวิตแกเดก็ ท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษใหมีความพรอมตอการดาํ รงชวี ิตในโรงเรียนหรอื ชมุ ชนตอ ไปได ประเด็นดานผูบริหาร พบวา ผูบริหารในฐานะผูบริหารหลักสูตรตองเปนผูนําในการช้ีแนะแนะนํา ชวยเหลือสอนงานผูใตบังคับบัญชา และศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางไมมีรองผูอํานวยการ จึงแตงตั้งครูเปนผูชวยผูอํานวยการมีประสบการณในการนิเทศการเรียนการสอนเชิงชี้แนะนอย ดังน้ันผูบริหารหลักสูตรสูการปฏิบัติจึงจําเปนตองพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษข้ึนและจึงใชโอกาสน้ีในการสอนงานทั้งผูชวยผอู ํานวยการและครโู ดยการนเิ ทศการเรยี นการสอนเชิงชแี้ นะแกครใู นหองเรยี นได ประเด็นดานหลักสูตรหรือการจัดการศึกษา พบวา โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ถือวาเปนหลักสูตรใหมสําหรับการพัฒนาเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ อยูในระหวางทดลองใช ซ่ึงมีเพียงโปรแกรม ฯ และแนวทางการใชโ ปรแกรม ฯ เทานนั้ ในหลกั สูตรนี้จะมีเนอ้ื หา ทกั ษะ ประกอบไปดวยกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน กลุมทักษะวิชาการเพ่ือการดํารงชีวิต กลุมทักษะสวนบุคคลและสังคม และกลุมทักษะการทํางานและอาชีพ (สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๖) ซึ่งดา นการนําไปใชในแนวทางการใชโปรแกรม ฯ ระบุวาจําเปนจะตองมีการประเมินผูเรียนกอนการพัฒนาแตโปรแกรม ฯ ไดใหเพียงแบบประเมินที่มีทักษะยอยแบบกวาง ๆ ที่ยังไมครอบคลุมพฤติกรรม วัสดุอุปกรณ สถานที่ ประเพณี หรือสภาพอากาศ ฤดูกาลท่ีแตกตางกัน ซึ่งกอนพัฒนาครูจะตองนําไปวิเคราะหเพ่ิมเติมกอนนําไปใช จึงมีความจําเปนท่ีจะตองทําแบบประเมินใหครอบคลุมทุกทักษะยอยเพ่ือใหการนําโปรแกรม ฯ ไปใชไดบรรลุผล อยางไรก็ตามโปรแกรม ฯ ดังกลาวไดแนะนําใหครูผูสอนสามารถเลือกทักษะที่จําเปนเรงดวนมาพัฒนาผูเรียนเปนอันดับแรก ซ่ึงแตกตางจากหลักสูตรการใหบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่มท่ีจําเปนตองพัฒนาทุกทักษะ หากศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางไดจัดทําเครื่องมือไดครบครอบคลุมจะชวยใหครูนําไปใชไดสะดวก และเม่ือนําแบบประเมินไปใชเปนแนวทางในการสอนจริงก็ตองปรับการเรียนการสอนใหเหมาะสมกับอายุจริงของผูเรียน ซ่ึงหลักสูตรดังกลาวไมไดเนนใหสอนทุกสิ่งทุกอยาง หากประเมินแลวพบวาทักษะยอยใดมีความจําเปนตอการดํารงชีวิตของผูเรียนใหพิจารณานํามาจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียน แตหากประเมินแลวพบวาทักษะยอยใดไมมีความจําเปนตอการดํารงชีวิตของผูเรียนหรือไมมีโอกาสไดใชในชีวิตใหละทง้ิ ได เชน ผเู รียนทีม่ ีความพกิ ารรนุ แรงและนอนติดเตียงไมส ามารถชวยเหลือตนเองได ผูปกครองและครูอาจละท้ิงทักษะยอยการรับประทานอาหารนอกบาน ซ่ึงเปนทักษะท่ียังไมจําเปนเรงดวนกับชีวิตจรงิ ในขณะนี้ เปนตน อน่ึง โครงสรางของโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ของศูนยการศึกษาพเิ ศษ พ.ศ.๒๕๕๘ (สํานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๕)ไดกําหนดใหกลุมทักษะการดํารงชวี ิตประจําวันเปนกลุมทกั ษะแรกของการพัฒนาทักษะการดาํ รงชวี ิตโดยเริ่มตั้งแตอายุแรกเกิดข้ึนไปจนถึงตลอดชีวิต สวนกลุมทักษะวิชาการเพื่อการดํารงชีวิต และกลุมทักษะสวนบุคคลและสังคม เริ่มท่ีอายุ ๔ ปขึ้นไปจนถึงตลอดชีวิต และกลุมทักษะการทํางานและอาชีพ เริ่มตนที่อายุ ๗ ปขึ้นไปจนถึงตลอดชีวิต ดังนั้น ผูรายงานจึงพิจารณาจากความจําเปนพื้นฐาน

๖ของผูเ รียนทุกคนที่จะตองไดรับการพฒั นากลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันเบ้ืองตนกอนท่ีจะพัฒนากลุมทักษะอ่ืน ๆ จึงไดเลือกที่จะพัฒนาเครื่องมือประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดาํ รงชวี ิตประจําวนั เปน อันดับแรก ประเด็นดานส่ืออุปกรณและสิ่งแวดลอม พบวา ส่ืออุปกรณและส่ิงแวดลอมที่มีในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางสวนใหญเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมตามหลักสูตรสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนยการศึกษาพิเศษฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๕๘ แตโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ มุงใหผูปกครอง หรือหนวยงานที่จัดการศึกษาไดปรับสภาพแวดลอมใหเอ้ือตอการดํารงชีวิตท่ีเหมาะสมกับอายุจริงและบริบท แตเน่ืองจากโปรแกรม ฯ มีหลายกลุมทักษะ ซ่ึงมีสื่อบางอยางหรือสถานที่บางอยางสามารถใชไดเลย เชน ส่ือที่ใชสอนการแตงกาย การทําความสะอาดบาน เปนตน แตมีบางดานท่ีจะตองจัดหาและปรับเปล่ียนเพื่อใหเหมาะสมโดยเฉพาะอยางยิ่งสภาพแวดลอม ไดแก หองนํ้าชายหญิง บานจําลอง รานคา และสวนผักซ่ึงสภาพแวดลอมเหลานี้จะเอื้อใหการนําเครื่องมือที่จําเปนตองพัฒนาสําหรับโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสามารถใชประเมินเด็กไดตามสภาพจริงและสอดคลองกับบริบทของชุมชน เชนหองนํ้าของบานผูเรียนที่มีความตางกัน หรือการใชหองน้ําในชุมชน หรือการซักผาของแตละบานเปนตน ส่อื หรือสภาพแวดลอมบางอยา งใชไดกบั บางคนหรือบางสถานการณ แตบ างอยา งใชไมไดตองปรับใหเอ้ือตอการใชหลักสูตร เมื่อสรางแบบประเมินมาจากหลักสูตรแลวจึงจําเปนตองจัดสภาพแวดลอม สอ่ื และอปุ กรณตางๆ ใหสอดคลอ งสําหรบั การใชเ ครือ่ งมอื ดงั กลาว ประเด็นดานการประกันคุณภาพพบวา มาตรฐานการศึกษาของศูนยการศึกษาพิเศษดานคุณภาพผูเรียน ตัวบงช้ี ๑.๒ ระบุวา ผูเรียนสามารถพึ่งพาตนเองไดและมีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึนแตการวัดและประเมินผลในปจจุบันยังไมสามารถวัดและประเมินผลตามคําอธิบายของตัวบงชี้ไดอยา งชัดเจน จากหลกั การและสภาพดงั กลาวศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจําจังหวัดลําปางจึงเหน็ ความจาํ เปนท่ีจะตองพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษข้ึนเพื่อใหการนําหลักสูตรแกนกลาง คือ (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสาํ หรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ มาใชในสถานศึกษาบรรลุผลอันเปนการแสดงความรับผิดชอบตอผลการจัดการศึกษารวมกันของผูบริหาร ครูและผูเก่ียวของ โดยการเร่ิมตนวางแผนใหผูเรียนดวยการประเมินความสามารถพ้ืนฐานทักษะการดํารงชีวิตประจําวันแกเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษไดอยางมีประสิทธิภาพ และนําผลไปใชจัดทําแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลแกเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษไดรับการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันไดตรงตามความตองการจาํ เปนพเิ ศษอยางแทจริง และผปู กครองมีความพงึ พอใจ

สวนท่ี ๓ เปาหมายในการพฒั นา การพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง มีเปาหมายในการพฒั นา ดังน้ี๑. เปาหมายเชิงปริมาณ ประกอบดวย๑.๑) ผูอาํ นวยการ จํานวน ๑ คน๑.๒) หัวหนา กลมุ บริหารวชิ าการ จํานวน ๑ คน๑.๓) หัวหนา งานบรกิ ารชว ยเหลอื ระยะแรกเร่ิม จํานวน ๑ คน๑.๔) ครู จํานวน ๖ คน๑.๕) พ่ีเลย้ี งเด็กพิการ จาํ นวน ๑๑ คน๑.๖) เด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษที่รับบริการในศูนยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง จาํ นวน ๕๐ คนหมายเหตุ ขอมูลมีความคลาดเคล่ือนจาก “แบบขอเสนอในการพัฒนางาน (ดานที่ ๓สว นที่ ๓)” เนอื่ งจากในภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศึกษา ๒๕๖๐ จํานวนพ่ีเล้ียงเด็กพิการและจาํ นวนเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษที่รบั บรกิ ารในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปางมีจาํ นวนเพิม่ ขึ้น ๒. เปาหมายเชิงคุณภาพ ๒.๑) ฝายบริหารมีแผนในการนิเทศติดตามการเรียนการสอน เพ่ือพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ๒.๒) ครูผูสอนและพ่ีเลี้ยงเดก็ พิการมีแบบประเมินทักษะการดาํ รงชีวติ เดก็ ท่ีมีความตอ งการจําเปนพิเศษ กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน ตรงตามความตองการจําเปนพิเศษเฉพาะบุคคล และมีความรคู วามเขาใจในการใชเครื่องมือประเมนิ สาํ หรับการออกแบบการเรยี นการสอน ๒.๓) เด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษที่รับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ไดรับการประเมินท่ีตรงกับสภาพจริงและมีโปรแกรมพัฒนาการดํารงชีวิตทเ่ี หมาะสมในการเรียนกลมุ ทักษะการดํารงชีวติ ประจําวนั ไดเต็มตามศักยภาพ ๒.๔) ผูปกครองของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษที่รับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง มีความพึงพอใจตอการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพเิ ศษ กลมุ ทักษะการดาํ รงชวี ิตประจําวนั อยใู นระดบั มาก ๓. ระยะเวลาดําเนินการ จํานวน ๓ เดือน ระหวางกลางเดือน พฤษภาคม ถึง กลางเดือนสงิ หาคม ๒๕๖๐

๘ ซ่งึ การพัฒนาครง้ั น้ไี ดกําหนดขอบเขตของนิยามศัพท ไวด ังน้ี ทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน หมายถึง ความสามารถของเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล การดูแลท่ีอยูอาศัย การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจําวัน การเขาสังคม การทํากิจกรรมนันทนาการและการทํางานอดิเรก(กิจกรรมยามวาง) การเคลื่อนที่เคลื่อนยายตนเอง การมีสวนรวมในสังคมและทักษะชีวิต (สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๑๖) เครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน หมายถึง นวัตกรรมที่เกิดจากการพัฒนา ประกอบดวย แบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน คูมือการปฏบิ ัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ และแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจาํ เปน พเิ ศษ แบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน หมายถึงเอกสารสําหรับประเมินความสามารถพื้นฐานกอนการพัฒนาทักษะการดํารงชีวติ เดก็ ทมี่ ีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ ตามหลักสูตรสถานศึกษาสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐และหลักสตู รสถานศกึ ษาการพัฒนาทักษะการดํารงชวี ิตสําหรับเด็กทม่ี คี วามตอ งการจาํ เปนพเิ ศษ ของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ ประกอบดวย๑) ทักษะการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล ๒) ทักษะการเขาสังคม การทํากิจกรรมนันทนาการและการทํางานอดิเรก (กิจกรรมยามวาง) ๓) ทักษะการเคลื่อนยายตนเองในบาน๔) ทักษะการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจําวัน ๕) ทักษะการทํางานบาน และ ๖)ทกั ษะการมีสว นรวมในสงั คมและทักษะชีวิต คูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวันสําหรับเดก็ ที่มีความตองการจําเปนพิเศษ หมายถึง เอกสารการปฏิบัติงานสําหรับครู และพเี่ ลี้ยงเด็กพิการ ของกิจกรรมพัฒนาหลักสูตร กลุมบรหิ ารงานวิชาการในศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางใชเพื่อการประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ ในข้ันตอนการประเมินกอนพัฒนา เพ่ือนําไปสูการวางแผนการจัดการศึกษาของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเปนรายบุคคลภายใน ๑ ปการศึกษา โดยมีวัตถุประสงคเพื่อเปนแนวทางในการใชแบบการประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง และเปนแนวทางแกฝายบริหารในการกํากับ ติดตาม ดูแลการใชแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศกึ ษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง

๙ แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ หมายถึง แนวทางการนิเทศภายใน ท่ีเขียนขึ้นจากการมีสวนรวมของครูและบุคลากรของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพื่อใหผูอํานวยการ หัวหนากลุมบริหารวิชาการ และหัวหนางานชวยเหลือระยะแรกเริ่ม ในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางใชเปนคูมือสําหรับการนิเทศครูและพ่ีเลี้ยงเด็กพิการ ในการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษทร่ี ับบริการในศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง เด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ หมายถึง เด็กที่มีความบกพรองทางการศึกษาและไดลงทะเบียนเปนนักเรียนท่ีมารับบริการแบบไป – กลับ หมุนเวียน ภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางและไดรับการคัดกรองจากคณะกรรมการคัดกรองความพิการทางการศึกษาของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางแลววามีความบกพรองทางสติปญญา หรือบกพรองทางรางกายหรือการเคลอื่ นไหวหรือสุขภาพ หรอื ออทสิ ติก

สว นที่ ๔ วิธกี ารพฒั นา การพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ผูรายงานไดศึกษาวรรณกรรมที่เก่ียวของ เพ่ือเปนพื้นฐานและกรอบแนวคิดในการกําหนดกรอบการพัฒนางานโดยนาํ เสนอเนอ้ื หาสาระในหัวขอตามลาํ ดบั ดังนี้๑. บรบิ ทศนู ยการศึกษาพเิ ศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปางและสภาพปญ หา ความตอ งการ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๑ ไดระบุความหมายของศูนยการศึกษาพิเศษไววา หมายถึง สถานศึกษาของรัฐท่ีจัดการศึกษานอกระบบ หรือตามอัธยาศัยแกคนพิการ ต้ังแตแรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต และจัดการศึกษาอบรมแกผูดูแลคนพิการ ครู บุคลากรและชุมชน รวมทั้งการจัดสื่อ เทคโนโลยี ส่ิงอํานวยความสะดวก บริการและความชว ยเหลอื อื่นใด ตลอดจนปฏบิ ตั หิ นาที่อน่ื ตามท่ีกําหนดในประกาศกระทรวง ซ่ึงคณะรัฐมนตรี ไดมีมติเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๒ (กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๔๓)เห็นชอบใหกระทรวงศึกษาธิการโดยกรมสามัญศึกษา ดําเนินการจัดตั้งศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัด เพ่ือจัดการศึกษาในลักษณะศูนยบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่ม และเตรียมความพรอมของคนพิการ สนับสนุนการเรียนการสอน จัดสื่อ จัดสิ่งอํานวยความสะดวก ใหบริการและความชวยเหลือท่ีเก่ียวของ จัดครูเดินสอนแกคนพิการและสถานศึกษา โดยพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ ไดกําหนดบทบาทหนาท่ีใหศูนยก ารศึกษาพิเศษจัดการศึกษานอกระบบหรือตามอัธยาศัยแกคนพิการตั้งแตแรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต และจัดการศึกษาอบรมแกผูดูแลคนพิการ ครูบุคลากรและชุมชน รวมทั้งการจัดส่ือเทคโนโลยี สิ่งอํานวยความสะดวกบริการและความชวยเหลืออื่นใด ตลอดจนปฏิบัติหนาท่ีอื่นตามที่กําหนดในประกาศกระทรวง บทบาทหนาท่ีอื่นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การปฏิบัติหนาที่อื่นของศูนยการศกึ ษาพเิ ศษ พ.ศ. ๒๕๕๓ (๒๕๕๓) ใหศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษปฏิบัติหนาทอี่ นื่ ดงั ตอไปนี้ ๑. สงเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาใหแกคนพิการที่มีความบกพรองทางสุขภาพซ่ึงเจ็บปวยเรื้อรังอยูในโรงพยาบาลหรือที่บานเปนระยะเวลานานจนไมสามารถไปเรยี นในสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐานไดต ามปกติ ๒. สงเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการที่มีการเรียนรวมในสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐานท้ังของรฐั และเอกชน ๓. จดั ระบบสง ตอ และสงเสริมสนับสนนุ ชวงเชื่อมตอสําหรบั คนพกิ าร ๔. สงเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพดานอาชีพใหแกคนพิการและผูดูแลคนพิการตามความเหมาะสมจาํ เปน

๑๑ ๕. ประสานและสงเสริมใหองคกรปกครองสวนทองถิ่น และองคกรคนพิการ หนวยงานภาครัฐและเอกชน สามารถพัฒนา สนับสนุนและจัดการศึกษาสําหรับคนพิการท่ีมีการเรียนรวมท้ังของรัฐและเอกชน ศูนยการศึกษาพิเศษ ปจจุบันสังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จัดตั้งข้ึนตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๒ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการ ไดประกาศจัดต้ังศูนยการศึกษาพิเศษตางๆ ตั้งแต พ.ศ. ๒๕๓๙ จนถึงพ.ศ.๒๕๔๓ โดยกระทรวงศึกษาธิการไดประกาศจัดต้ัง ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางลงวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๓ โดยใหจดั การศึกษาในลักษณะศูนยบริการชว ยเหลือระยะแรกเริ่มและเตรียมความพรอมของคนพิการรวมท้ังสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน การจัดสื่อจัดส่ิงอํานวยความสะดวก การใหบริการและความชวยเหลือท่ีเก่ียวของ ทําการวิจัยและอบรมบุคลากร รวมถึงการจัดครูเดินสอนแกคนพิการและสถานศึกษา โดยระหวางป พ.ศ.๒๕๔๓ -พ.ศ.๒๕๔๖ อยูภายใตส งั กดั กองการศึกษาสาํ หรับคนพิการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง กอต้ังข้ึนคร้ังแรกโดยกรมสามัญศึกษา ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๔๓ โดยไดรับความอนุเคราะหจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะหจิตตอารีฯ ใหตั้งสํานักงานที่ทําการชั่วคราว บริเวณอาคารมหิดลชั้นลาง จํานวน ๑ หอง โดย นายกมล ดาระสุวรรณผูชวยผูอํานวยการโรงเรียนกาวิละอนุกูล ปฏิบัติหนาท่ีหัวหนาศูนย ตอมา เดือนพฤษภาคมพ.ศ.๒๕๔๕ นางสุรัญจิต วรรณนวล ตําแหนงหัวหนาศูนย ๑ ไดยายสถานที่ใหบริการไปยังโรงเรียนวัดนากวมใต และในป พ.ศ.๒๕๔๖ ไดรับบริจาคท่ีดินจากนายนิวัฒน ศิรินาวิน จํานวน ๕ ไร ๓๙ตารางวา จึงยายท่ีทําการมาเปนท่ีทําการถาวรจนถึงปจจุบัน ตั้งแตวันท่ี ๒ เมษายน ๒๕๔๗ ที่อยูเลขที่ ๑๒๘/๔ ถนนสขุ สวัสดิ์ ๑ ตาํ บลพระบาท อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดลาํ ปาง ตอมาวันท่ี ๒๓ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ดร.อรสุดา เจริญรัถ ผูดําเนินรายการสถานีวิทยุจุฬา ฯ F.M 101.50 ไดโทรศัพทสัมภาษณนางสุรัญจิต วรรณนวล ถึงงานการใหบริการแกเด็กพิการและผูเกี่ยวของ ความทราบถึงพระกรรณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกลาโปรดกระหมอมพระราชทานพระราชทรัพยจัดสรางอาคารพระราชทานเปนโรงอาหารพระราชทานชื่อวา “อาคารพระราชทาน๑” และทรงพระกรุณาโปรดเกลาโปรดกระหมอมใหจัดสรางอาคารพระราชทานเปนสถานท่ีเรียนงานอาชีพเด็กพิการและผูปกครองพระราชทานช่ือวา “อาคารพระราชทาน๒” และเสด็จพระราชดําเนินมาทรงเปดอาคารเม่ือวันศุกรท่ี ๒๙ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ตลอดจนพระราชทานท่ีดินเพ่ิมเติมใหศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางอีกจํานวน ๔ ไร ๕๙ ตารางวา ยังความปราบปล้ืมปติโสมนัสแก คณะครู ผูปกครองและนักเรียน และรูสึกสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอยางหาท่ีสุดมิได(ศนู ยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลาํ ปาง. ๒๕๕๔. ๑๗) สําหรับวิสัยทัศนของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง (๒๕๖๐) ไดดําเนินการจดั ทําแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาภายใตก ารวิเคราะหรวมกนั ของบุคลากรทุกคน และระบุวิสยั ทัศนไววา “พัฒนาการดีวิชาการเดน เนนคุณภาพ ภายในป พ.ศ.๒๕๖๒ (Good development,Academic dominant and Focus on quality within the year 2019)” และมีการจัดโครงสราง

๑๒การบริหาร โดยมีผูอํานวยการศูนยฯ เปนผูบริหาร และมีการแบงงานออกเปน ๔ กลุมงาน ไดแกกลุมบริหารงานวิชาการ กลุมบริหารงานบุคคล กลุมบริหารงานงบประมาณ และกลุมบริหารงานทว่ั ไป ศนู ยการศึกษาพิเศษ มกี ารใหบ รกิ ารหลายกลุม เปา หมาย ดงั นี้ ๑. กลุมเด็กพิการรับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประเภทไป-กลับ คือ กลุมเด็กพิการที่มีที่พักอาศัยอยูไ มไกลจากศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ผูปกครองสามารถพามารับบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่ม การพัฒนาศักยภาพและการเตรียมความพรอมแบบรายช่ัวโมง หรือเชามา –เยน็ กลับในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลําปาง ๒. กลุมเด็กพิการรับบริการที่บานและชุมชน คือ กลุมเด็กพิการที่มีความรุนแรงหรือกลุมเด็กพิการที่ผูปกครองไมสามารถพาเด็กเขามารับบริการการบริการชวยเหลือระยะแรกเร่ิมการพัฒนาศักยภาพและการเตรียมความพรอมท่ีศูนย ดังน้ัน ศูนยการศึกษาพิเศษจึงไดจัดสงครูและบุคลากรเดินทางไปใหบริการชวยเหลือระยะแรกเร่ิมพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพรอมท่ีบานของนักเรียนแบบเชาไป – เย็นกลับ โดยจัดกิจกรรมปรับบานเปนหองเรียนเปล่ียนพอแมเปนครูรวมถึงใหบ ริการในศนู ยก ารเรียนเฉพาะความพิการทุกอาํ เภอ และหนว ยบรกิ ารประจาํ อําเภอ ๓. กลุมเด็กพกิ ารเรียนรวมรับบริการทโี่ รงเรียนเรียนรวม คือ กลุมเด็กพิการ ที่อยูในโรงเรียนเรียนรวมเรียนรวมท่ัวไปในจังหวัดลําปาง และการใหบริการในหองเรียนคูขนานออทิสติกในโรงเรียนชุมชนบานฟอนวิทยา และโรงเรียนศึกษาสงเคราะหจิตตอารีฯ โดยศูนยการศึกษาพิเศษจัดสงครูและพีเ่ ล้ยี งเด็กพกิ ารไปสอนเปน การประจําหอ งเรยี นละ ๒ คน ๔. กลุมเด็กพิการหรือเจ็บปวยเรื้อรังในโรงพยาบาล คือ กลุมนักเรียนที่เจ็บปวยแบบเรื้อรังอยูในโรงพยาบาลลําปาง ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางจะสงบุคลากรครู จํานวน ๓ คนไปสอนเปนการประจําทต่ี กึ เดก็ โรงพยาบาลศูนยล ําปาง ๕. กลุมผูบริหารโรงเรียน ครู ผูปกครองและผูเกี่ยวของ คือ การบริการจัดอบรม สัมมนาตลอดจนนิเทศดานการจัดการศึกษาพิเศษใหกับโรงเรียนเรียนรวมเรียนรวมในจังหวัดลําปาง ตลอดจนผปู กครองและผูท ี่เกย่ี วของกับเด็กท่ีมคี วามตองการจําเปนพิเศษ นอกจากจะบริการชวยเหลือระยะแรกเร่ิม พัฒนาศักยภาพและเตรียมความพรอมตามแผนการสอนเฉพาะบุคคลแลว ศูนยการศึกษาพิเศษจะตองทําหนาท่ีสงเสริมและสนับสนุนใหเด็กพิการใหไดรับส่ือ สิ่งอํานวยความสะดวก บริการและความชวยเหลืออื่นใดทางการศึกษาตามกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑใหคนพิการไดรับสื่อ สิ่งอํานวยความสะดวก บริการและความชวยเหลอื อ่ืนใดทางการศกึ ษา ประเด็นปญหา คือ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางเปนสถานศึกษาที่จัดการศึกษาในลักษณะใหบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่มแกเด็กพิการในจังหวัดลําปาง แตปจจุบันมีผูเรียนท่ีมีอายุต้ังแต ๒ – ๑๘ ป ท่ีจําเปนตองไดรับการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตเพ่ือเปลี่ยนผานไปสูการดํารงชีวิตในโรงเรียนหรือในชุมชน อีกทั้งศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางเปนเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาโปรแกรมทักษะการดํารงชีวิตของสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ซ่ึงจะตองจัดการเรียนการสอนใหเหมาะสมกับบริบทท้ังในหองเรียนและชุมชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพของผูเรียนใหส งู สดุ ในการดาํ รงชีวติ

๑๓ ในขณะท่ีครูสวนใหญเพ่ิงจบการศึกษาและมีประสบการณนอย และมีการเปล่ียนงานบอยบางคนไมไดจบการศึกษาพิเศษโดยตรง ขาดประสบการณในการวางแผนการพัฒนาศักยภาพเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในองครวม จําเปนตองไดรับการนิเทศการเรียนการสอนต้ังแตการประเมินความสามารถพ้ืนฐาน การออกแบบการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมินผลระหวางเรียน และการประเมินผลสรุป การพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษและใชนิเทศครูจะชวยใหครูมีความรู ทักษะในการจัดการเรียนการสอนทักษะการดํารงชีวิตแกเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษใหมีความพรอมตอการดํารงชีวิตในโรงเรียนหรือชุมชนตอไปได ประกอบกับ ผูบริหารในฐานะผูบริหารหลักสูตรตองเปนผูนําในการชี้แนะ แนะนํา ชว ยเหลือสอนงานผูใตบังคบั บัญชา และไมมรี องผูอ ํานวยการ จึงแตงตั้งครูเปนผูชวยผูอํานวยการมีประสบการณในการนิเทศการเรียนการสอนเชิงชี้แนะนอย ดังน้ันผูบริหารหลักสูตรจึงตองใชโอกาสนี้ในการสอนงานทั้งผูชวยผูอํานวยการและครูโดยการนิเทศการเรียนการสอนเชิงชแ้ี นะแกค รูในหอ งเรียนได สําหรับปญหาดานหลักสูตรหรือการจัดการศึกษา พบวา โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ถือวาเปนหลักสูตรใหมสําหรับการพัฒนาเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ อยูในระหวางทดลองใชซ่ึงมีเพียงโปรแกรม ฯ แนวทางการใชโปรแกรมฯ และแบบประเมนิ กอนพัฒนาเปนเพียงแบบประเมินตวั อยางที่ตอ งนาํ มาปรบั ปรุงกอ นนาํ ไปใช จึงยังไมเหมาะกับบริบทของการใชในสถานการณจรงิ จงึ ทําใหค รไู มเ ขา ใจและนําไปใชไดยาก อกี ทง้ั ยงั ขาดเคร่ืองมือในการประเมนิ ทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษที่ครอบคลุมและสะดวกตอการใชงานของครู สวนปญหาดานส่ืออุปกรณและส่ิงแวดลอม พบวา สื่ออุปกรณและสิ่งแวดลอมที่มีในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางสวนใหญเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมตามหลักสูตรสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนยการศึกษาพิเศษฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ แตควรมีการปรับเปลี่ยน ปรับแตงใหเอ้ือกับสภาพการจัดการเรียนการสอนและเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมตามโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช๒๕๕๘ และปญหาดานการประกันคุณภาพพบวา มาตรฐานการศึกษาของศูนยการศึกษาพิเศษดานคุณภาพผูเรียน ตัวบงชี้ ๑.๒ ระบุวา ผูเรียนสามารถพ่ึงพาตนเองไดและมีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึนแตการวัดและประเมินผลในปจจุบันยังไมสามารถวัดและประเมินผลตามคําอธิบายของตัวบงชี้ไดอยางชดั เจน จากแนวคิดบริบทศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางและสภาพปญหา ความตอ งการนี้เปนจุดเร่ิมตนของการพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตอ งการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศนู ยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง

๑๔๒. แนวคดิ การพัฒนาทกั ษะการดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๕๘ ข) ไดแสดงแนวคิดวาการศึกษาเปนเคร่ืองมือในการพัฒนาคนเพื่อพัฒนาชาติ การจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ มีปรัชญา แนวคิดเชนเดียวกับคนทั่วไป โดยมีเปาหมายสูงสุดใหคนพิการไดรับการพัฒนาศักยภาพ ของตนเองอยางสูงสุดมีความเขาใจ ยอมรับตนเอง มีความเชื่อมั่น ชวยเหลือตนเองได และมีความรับผิดชอบตอตนเองและสังคม การท่ีคนพิการจะประสบความสําเร็จและมีคุณลักษณะดังกลาวนั้น การจัดการศึกษาจะตองนําเปาหมายและวิธีการท่ีคนพิการในวัยผูใหญตองเผชิญมาศึกษาเพื่อพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนท่ีทําใหเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในวัยเรียน ไดรับการจัดโปรแกรมที่สัมพันธกับสภาพการดําเนินชีวิตและนําไปใชไดจริงในสถานการณตาง ๆ ท่ีหลากหลาย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยางตอเนื่องตามความกาวหนาทางดานวิทยาศาสตร และเทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม การจัดการศึกษาใหผูเรียนมีคุณลักษณะขางตน สถานศึกษาตองมีการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนที่หลากหลายตอบสนองตอความตองการจําเปนของผูเรียนและความเปลี่ยนแปลงของสังคมดังขอบญั ญัติของพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหงชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แกไขเพิม่ เติม (คร้ังที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕มาตรา ๒๘ ใหมีหลักสูตรสถานศึกษาตา งๆ รวมท้ังหลักสูตรสถานศึกษาสําหรับคนพิการตองมีลักษณะหลากหลาย ท้ังน้ีใหจัดตามความเหมาะสมของแตละระดับ โดยมุงพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลใหเหมาะสมแกวัยและศักยภาพ สาระของหลักสูตรท้ังท่ีเปนวิชาการและวิชาชีพตองมุงพัฒนาคนใหมีความสมดุลท้ังดานความรู ความคิด ความสามารถ ความดีงามและความรับผิดชอบตอสังคม ดังน้ันการจัดการศึกษาสําหรับเด็กทม่ี ีความตองการจําเปนพิเศษ จึงจําเปนตองมีการจัดและพัฒนาหลักสูตรใหตอบสนองตอ การพัฒนาทักษะชีวิตหรอื ทักษะการดาํ รงชีวิตของคนพกิ าร การที่บุคคลจะดําเนินชีวิตของตนในสังคมไดอยางเปนปกติสุขนั้น จําเปนตองมีความรูความสามารถในการใชเครื่องมือในการเรียนรูในดานการอาน การเขียน การคิดคํานวณ แสวงหาความรูและพัฒนาทักษะตาง ๆ ในเรื่องท่ีเกี่ยวกับตนเอง การสรางสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น การอยูรวมกันในสังคม การปรับตัวในสถานการณตาง ๆ ในการดําเนินชีวิต การควบคุมตนเอง การทํางานและการประกอบอาชีพ รวมท้ังการพัฒนาคุณลักษณะที่ดี ซึ่งคนพิการก็ตองมีสิ่งที่กลาวมาขางตนเชนเดียวกัน ฉะนั้น ทักษะการดํารงชีวิต หรือทักษะชีวิตจึงเปนทักษะที่จําเปนสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษท่ีจะตองไดรับการพัฒนาอยางตอเนื่องตามชวงวัย ไรท (Wright, 1980อางถึงใน สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘ ข) ไดนิยาม การดํารงชีวิตอิสระหรือทักษะชีวิตของคนพิการวา หมายถึง ความสามารถของคนพิการในการปฏิบตั ิกิจกรรมการดูแลตนเอง เขารวมในกระบวนการของการจัดการควบคุมตนเองในสภาพแวดลอมที่มีขอจํากัดนอยท่ีสุด ดัทตาและกันดู(Dutta & Kundu, 2006. อางถึงใน สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘ ข) ไดขอคิดเห็นเพ่ิมเติมวา การดํารงชีวิตเปนทัศนคติ การเคลื่อนไหวทางความคิด การเมืองและสังคมของมิติตาง ๆของโลก และไดช้ีใหเห็นวาปรัชญาการดํารงชีวิตอิสระอยูบนพ้ืนฐานของการยอมรับใหเกียรติตอสิทธิโอกาสที่เทาเทียมกันของคนพิการ การเสริมพลังและการยอมรับนับถือตนเองของคนพิการซ่ึงสอดคลองกับขอเท็จจริงท่ีวา คนพิการเปนผูท่ีรูเร่ืองชีวิตของตนเองดีและมีสิทธิ์ที่จะแสดงการควบคุมชีวิตของตนเองไดเต็มที่ ซึ่ง โนเสคและรัทสกา (Nosek, 1997; Ratzka, 1997. อางถึงในสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘ ข) ไดเนนย้ําวา เปนการสรางหลกั ประกันวาคนพิการมีสิทธิและทางเลอื กอื่น ๆ เชน เดียวกบั เพ่ือนรวมชุมชนและสงั คม

๑๕ จากแนวคิดท่ีกลาวมาแสดงใหเห็นวาการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเปนสิทธิของบุคคลในการพัฒนาตนเองใหมีทักษะตาง ๆ ในการควบคุมตนเองและสรางการยอมรับนับถือตนเอง มีโอกาสสําหรับการดําเนินชีวิตและมีชีวิตอยูรวมกับผูอื่นไดอยางมีคุณคาในสังคม โดยประยุกตหลักการจัดการศึกษาพิเศษมาใชพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตเด็ก ที่มีความตองการจําเปนพิเศษ ซึ่ง ผดุง อารยะวิญู. ๒๕๔๒. และ ศรียา นิยมธรรม. ๒๕๔๖.(อางถึงในสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘ ข) ไดกลาวอยางชัดเจนถึงแนวคิดหลักการการจัดการศึกษาพิเศษ ดังนี้ ๑. ทุกคนมีโอกาสเทาเทียมกันในการท่ีจะไดรับบริการทางการศึกษาไมวาจะเปนคนพิการหรือคนปกติ เม่ือรัฐจัดการศึกษาใหแกเด็กปกติแลว ก็ควรจัดการศึกษาใหแกเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษดวย หากเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษไมสามารถเรียนในโปรแกรมการศึกษาท่ีรัฐจัดใหเด็กปกติไดก็เปนหนาที่ของรัฐที่จะจัดการศึกษาใหสนองตอความตองการของเด็กที่มีความตองการจาํ เปน พิเศษ ๒. เด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษควรไดรับการศึกษาควบคูไปกับการบําบัด การฟนฟูสมรรถภาพทุกดานโดยเร็วท่ีสุด ในทันทีท่ีทราบวาเด็กมีความตองการพิเศษ ท้ังน้ีเพ่ือเปนการเตรียมเดก็ ใหพรอมที่จะเรยี นตอไป และมีพัฒนาการทุกดานเตม็ ศักยภาพ ๓. การจัดการศึกษาพิเศษควรคํานึงถึงการอยูรวมสังคมกับคนปกติไดอยางมีประสิทธิภาพการเรียนการสอนเด็กเหลานี้จึงควรใหเรียนรวมกับเด็กปกติใหมากท่ีสุดเทาท่ีจะทําได เวนแตเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษผูนั้นมีสภาพความพิการหรือความบกพรองในข้ันรุนแรง จนไมอาจเรยี นรว มได อยางไรกต็ าม ควรใหเ ด็กท่มี ีความตองการจําเปน พิเศษไดสัมผัสกบั สังคมปกติ ๔. การศึกษาพิเศษควรมุงใหเด็กมีความเขาใจยอมรับตนเอง มีความเช่ือมั่นและมุงใหชวยเหลอื ตนเองได ตลอดจนมีความรับผดิ ชอบตอตนเอง และสังคม ๕. การศึกษาพิเศษ ควรจัดทําอยางตอเน่ือง ตามความตองการพิเศษของเด็ก และควรเนนถึงเรือ่ งอาชพี ดว ย จากแนวคิดขางตน สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษไดนําแนวคิดการพัฒนาหลักสูตรท่ีเนนการปฏิบัติไดจริง (Functional Curriculum) มาเปนแนวทางในการพฒั นาโปรแกรมการพฒั นาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ของศูนยการศึกษาพิเศษ พ.ศ.๒๕๕๘ ซ่ึงโปรแกรมท่ีเหมาะสมกับเด็กทุกกลุมอายุตองเปนโปรแกรมตลอดแนวท่ีออกแบบตามหลักการ ๔ ขอไดแก เนนความเปนเฉพาะบุคคลและใชบุคคลเปนศูนยกลาง มีความเหมาะสมกับสภาพการนําไปใชในชีวิตจริง โปรแกรมระยะยาวท่ีออกแบบจะตองมีการปรับเปาหมาย วัตถุประสงคใหมีความเจาะจงและเหมาะสมกับสมรรถนะของผูเรียน และเนนนิเวศวิทยาสําหรับการปฏิบัติที่ครู ผูปกครอง ผูเรียนและผูเกี่ยวของจะไดรวมวิเคราะหกิจกรรมที่จําเปนเรงดวนในแตละสภาพแวดลอมหลักของการดํารงชีวิตของบุคคลนั้น ๆ (Wehman & Kregel, 2002, p.3-7. อางถึงใน สํานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ. ๒๕๕๘. ก. ๒)

๑๖ Functional Curriculum จะเนนความสําคัญของทักษะการดํารงชีวิตประจําวันเปนทักษะแรกและกําหนดใหเรียนในทุกอายุ ซึ่งการกําหนดโครงสรางของโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษจึงนําชวงอายุของผูเรียนมาเปนตัวต้ัง เพื่อใหเห็นลักษณะและจุดเดนของโปรแกรม ฯ ที่ใหเห็นความสําคัญของทักษะการดํารงชีวิตประจําวันทีส่ ถานศึกษาทกุ แหงจะตองจัดการเรียนการสอนใหกับผูเรียนทุกชวงวัย สว นทักษะอ่ืน ๆ ใหพจิ ารณาตามความจําเปนและเปาหมายสําหรับการเปลี่ยนผานในอนาคต อยางไรก็ตาม หลักสูตรเนนใหสถานศึกษานําไปจัดการเรียนการสอนที่สอดคลองกับสภาพแวดลอมในการดํารงชีวิตของผูเรียน(Wehman & Kregel, 2002, p.3-7. อางถงึ ใน สาํ นกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๒)ชวงวัย ๐ – ๓ ป ชว งวยั ๔ – ๖ ป ชวงวัย ๗ – ๑๐ ป ชว งวยั ๑๑ ปข ึ้นไปกลุม ทักษะการดาํ รงชวี ติ ประจําวัน๑.ทักษะการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสว นบคุ คล๒.ทักษะการเขา สงั คม การทาํ กจิ กรรมนนั ทนาการ และการทาํ งานอดเิ รก(กจิ กรรมยามวา ง)กลมุ ทักษะการดํารงชวี ิตประจาํ วัน๑.ทกั ษะการเคลื่อนยายตนเองในบา น๒.ทกั ษะการดแู ลสขุ ภาพและความปลอดภยั ในชีวติ ประจําวัน๓.ทักษะการทาํ งานบา น๔.ทกั ษะการมีสวนรวมในสงั คมและทกั ษะชวี ิตกลุมทกั ษะวิชาการเพ่ือการดาํ รงชวี ติ๑. ทักษะการส่อื สารกลุมทกั ษะสว นบุคคลและสังคม๑.ทักษะการจดั การและการควบคุมตนเอง๒.ทักษะการมีสวนรวมทางสงั คม๓.ทกั ษะการเดนิ ทางในชมุ ชน๔.ทักษะการปรบั ตวั ในสงั คมและการใชเวลาวางใหเ ปน ประโยชน กลมุ ทกั ษะวชิ าการเพ่อื การดาํ รงชวี ติ ๑.ทกั ษะการอา น ๒.ทักษะการเขยี น ๓.ทักษะการคดิ คาํ นวณ ๔.ทกั ษะความคดิ รวบยอดและการแกป ญหา กลมุ ทกั ษะการทํางานและอาชพี ๑.ทกั ษะการเรยี นรเู ร่ืองอาชีพ ๒.ทกั ษะการเรยี นรเู รอื่ งการทาํ งาน กลุมทักษะการทํางานและอาชีพ ๑.ทกั ษะการวางแผนการใชเงนิ ๒.ทักษะสขุ ภาพและความปลอดภัยในการทาํ งาน ๓.ทักษะการเดนิ ทางไปทํางานภาพที่ ๔.๑ โครงสรา งโปรแกรมการพัฒนาทกั ษะการดํารงชีวิต สาํ หรับเด็กทีม่ ีความตองการจําเปน พิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษทมี่ า : สํานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๕๘. ก. ๕) จากภาพท่ี ๔.๑ ทักษะการดํารงชีวิต (Independent Living Skills) เปนความสามารถในการปฏิบตั ิตนเพ่ือการดํารงชีวติ โดยอิสระ ซึ่งครอบคลมุ กลมุ ทักษะการดํารงชีวิตประจําวนั กลุมทักษะวิชาการเพื่อการดํารงชีวิต กลุมทักษะสวนบุคคลและสังคม และกลุมทักษะการทํางานและอาชีพ เมื่อพิจารณาโครงสรางโปรแกรมขางตน ทักษะการดํารงชีวิตประจําวันเปนกลุมทักษะที่ผูเรียนอายุต้ังแต

๑๗แรกเกิดจนถึงตลอดชีวิต จําเปนจะตองไดรับการพัฒนากอน สวนกลุมทักษะอ่ืน ๆ นั้น จะขึ้นอยูกับความตองการจําเปนหลังจากท่ีผูเรียนมีทักษะการดํารงชีวิตประจําวันและมีความพรอมแลว ดังน้ันผูรายงานจึงไดรวมวิเคราะหความตองการกับครูผูสอนและเห็นวาแบบประเมินท่ีจําเปนตองพัฒนาเรงดวน คือ แบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน ซึ่งโปรแกรมดังกลาวไมไดเนนใหสอนทุกส่ิงทุกอยาง หากประเมินแลวพบวาทักษะยอยใดมีความจําเปนตอการดํารงชีวิตของผูเรียนใหพิจารณานํามาจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียน แตหากประเมินแลวพบวาทักษะยอยใดไมม ีความจําเปนตอการดํารงชวี ิตของผูเรียนหรือไมมีโอกาสไดใ ชในชีวิตใหละท้ิงได เชน ผูเรียนที่มีความพิการรุนแรงและนอนติดเตียงไมสามารถชวยเหลือตนเองได ผูปกครองและครูอาจละท้ิงทักษะยอยการรับประทานอาหารนอกบาน ซึ่งเปนทักษะท่ียังไมจําเปนเรงดวนกับชีวิตจริงในขณะน้ีเปน ตน ตามแนวคิดของโปรแกรม ฯ มุงใหเด็กทุกคนตองไดรับการพัฒนาอยางตอเน่ือง ตามความตองการจําเปนในสภาพแวดลอม ทักษะท่ีจําเปนตองใชและอายุที่เพิ่มข้ึน เด็กบางคนตองการฝกแบบตัวตอตัว ตามวิธีการเรียนรู (Learning style) แมวาผูสอนหรือผูดูแลจะไดวิเคราะหงานมาแลวอยางละเอียดก็ควรตรวจสอบข้ันตอนของงานกับวิธีปฏิบัติของเด็กและปรับใหตรงกับวิธีปฏิบัติของเด็กคนนั้น ๆ เด็กท่ีเรียนรูโดยการมองเห็นการทําเปนแบบอยางทีละขั้น การแสดงบทบาทสมมติจะชวยใหเด็กทําตามแบบจนสามารถปฏิบัติไดเอง ซ่ึงในการสอนทักษะใดๆ ก็ตามตองพิจารณาใหรอบคอบวาการที่เด็กจะเรียนรูและบรรลุทักษะนี้ไดนั้น จําเปนตองมีพฤติกรรมหรือทักษะใดมากอน(สํานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ข. ๑๕) โดยมีคําอธิบายกลมุ ทกั ษะการดํารงชีวิตประจําวันดงั น้ี (สํานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ. ๒๕๕๘. ก. ๑๖) กลุมทกั ษะการดาํ รงชวี ติ ประจําวัน (Functional Daily Living Skills) หมายถึง ความสามารถในการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล การดูแลท่ีอยูอาศัย การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจําวัน การเขาสังคม การทํากิจกรรมนันทนาการและการทํางานอดิเรก (กิจกรรมยามวาง) การเคล่ือนที่เคล่ือนยายตนเอง การมีสวนรวมในสังคมและทักษะชีวิต ซ่ึงสามารถแยกออกเปน ทักษะยอ ยไดดังน้ี ๑. ทักษะการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล (Personal Care and HygieneSkills) หมายถึง การเลือกเครื่องแตงกาย การถอดและสวมใสเคร่ืองแตงกาย การใชหองนํ้าในท่ีอยูอาศัย การใชหองนาํ้ ในทสี่ าธารณะ อนามัยสวนบคุ คล และการปฏิบตั ติ นและดูแลบคุ ลกิ ภาพ ๒. ทักษะการเขาสังคม การทํากิจกรรมนันทนาการ และ การทํางานอดิเรก (กิจกรรมยามวาง) (Socialization, Recreation and leisure Skills) หมายถึง มารยาทในการรับประทานอาหารรว มกนั และการใชเ วลาวางท่บี าน ๓. ทักษะการเคล่ือนยายตนเองในบาน (Functional mobility Skills) หมายถึง การเคลื่อนยายตนเองในบานเพ่ือใหผูเรียนมีพฤติกรรมที่คาดหวงั คือ สามารถเคลือ่ นยายตนเองจากท่หี น่ึงไปยังอีกที่หนึ่ง รูจักสถานท่ี ตางๆ ภายในบาน รูจักการใชประโยชนจากสถานท่ี หรืออุปกรณ รวมท้ังสามารถเคล่อื นยา ยตนเองไปยังที่ตา งๆ ภายในบา นไดต ามความตองการ ๔. ทักษะการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจําวัน (Health and safety Skills)หมายถงึ การดูแลและการปองกนั สขุ ภาพ การปฐมพยาบาล และการแพอาหารหรือแพย า

๑๘ ๕. ทักษะการทํางานบาน (Home Living Skills) หมายถึง การดูแลเสื้อผา การเตรียมอาหารและเคร่ืองดื่ม การจัดและการทําความสะอาดโตะอาหาร การทําความสะอาดภาชนะตางๆทาํ หรอื เปลีย่ นเครื่องนอน ทําความสะอาดหอ งและจดั หอง ๖. ทักษะการมีสวนรวมในสังคมและทักษะชีวิต (Community Participation and LivingSkills) หมายถงึ การซ้อื ของ และการรบั ประทานอาหารนอกบาน สรุป แนวคิดการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันนี้ ผูรายงานไดนํามาเปนกรอบในการพัฒนาแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานทักษะการดํารงชีวิตประจําวันและคูมือการปฏิบัติงาน(Work Manual) เร่ือง การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ประกอบดวยทักษะยอยจํานวน ๖ ทักษะ ไดแก ๑) ทักษะการดูแลตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล ๒) ทักษะการเขาสังคม การทํากิจกรรมนันทนาการและการทํางานอดิเรก (กิจกรรมยามวาง) ๓) ทักษะการเคลื่อนยายตนเองในบาน ๔) ทักษะการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจําวัน๕) ทักษะการทํางานบาน และ ๖) ทักษะการมีสวนรว มในสังคมและทกั ษะชวี ิต๓. แนวคิดการจดั การศึกษาสําหรบั เดก็ ท่มี คี วามตองการจําเปน พเิ ศษ ในศูนยก ารศกึ ษาพิเศษ สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (๒๕๕๘. ค. ๑๖) ไดแจกแจงกระบวนการใหบริการชวยเหลือระยะแรกเรมิ่ ในศนู ยการศึกษาพิเศษ ไวด ังนี้ ๑. การรวบรวมขอมูลทั่วไปของเด็กพิการ ไดแก การสังเกต การสัมภาษณ การซักประวัติการใชส งั คมมิติ และการเยีย่ มบา น ๒. การคัดกรองประเภทความพิการทางการศึกษาและการสงตอ ไดแก การใชแบบทดสอบหรือแบบคดั กรอง ๓. การประเมินความสามารถพื้นฐาน ไดแ ก การประเมนิ หรือการทดสอบ ๔. การจัดทําแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program :IEP) ๕. การใหบริการดวยการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมในการสงเสริมทักษะพื้นฐานและทักษะจาํ เปนเฉพาะความพิการ ๖. การประเมินความกาวหนา โดยการสังเกตพฤติกรรมเด็ก การสัมภาษณ การเขียนบันทึกเก่ียวกับตัวเด็ก แฟมผลงานเด็ก การใชแบบประเมินผลพัฒนาการ การเขียนบันทึก การทําสังคมมิติและแบบทดสอบ ๗. การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และการสงตอ โดยใชแบบประเมิน แบบทดสอบ และรายงานผลการพัฒนา จากขั้นตอนลําดับที่ ๑ – ๗ ที่กลาวมา เปนข้ันตอนที่สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษกําหนดใหศูนยการศึกษาพิเศษนําไปจัดบริการชวยเหลือระยะแรกเร่ิมสําหรับเด็กที่มีความตองการ

๑๙จําเปนพิเศษที่รับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษ ๙ ประเภท (ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๕๒)แตเนื่องจากศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางมีเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษที่รับบริการแบบหมุนเวียนและไปกลับในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพียง ๓ ประเภทความพิการคือ เด็กที่มีความบกพรองทางสติปญญา เด็กที่มีความบกพรองทางรางกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ และเด็กออทิสติก ดังน้ัน ในการจัดบริการจึงไดนําแนวคิดและหลักเกณฑดังกลาวมาเปนกรอบพ้ืนฐานในการสรางแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน เพื่อใหครูมีขอมูลเพียงพอของผูเรียนแตละคน สําหรบั การจัดทําแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ซ่ึงจะไมทําใหครูสับสนในการบูรณาการการประเมินความสามารถพื้นฐานกอนการจัดทํา IEP และเม่ือนําIEP ไปใช ก็สามารถบูรณาการใหเกิดความตอเนื่องทั้งการทบทวน IEP ตลอดจนการเก็บรวบรวมขอ มูลสําหรบั การสงตอ ของครูและพี่เลยี้ งเด็กพิการในศูนยก ารศึกษาพิเศษประจําจงั หวดั ลําปาง๔. แนวคดิ การบริหารงานวงจรควบคมุ คุณภาพ วงจรควบคุมคุณภาพ หรือที่เรียกวาวงจรเดมมิง (Deming Cycle) หรือวงจรชูฮารต(Shewhart Cycle) หรือรูจักกันโดยทั่วไปวา วงจร PDCA ไดรับการพัฒนาข้ึนเปนครั้งแรกโดยWalter Shewhart ซ่ึงถือเปนผูบุกเบิกการใชสถิติสําหรับวงการอุตสาหกรรม และตอมาวงจร PDCAไดเปนท่ีรูจักอยางแพรหลาย มากขึ้น เมื่อปรมาจารยดานการบริหารคุณภาพ อยาง W.EdwardsDeming ไดนํามาเผยแพร ใหเปนเคร่ืองมือสําหรับการปรับปรุงกระบวนการ วงจรนี้จึงมีอีกชื่อหน่ึงวา “Deming Cycle” (สถาบันเพิ่มผลผลิตแหงชาติ. ๒๕๖๐) สวนในประเทศญี่ปุนรูจักกันในนามDeming Cycle และคนทั่วไปนิยมเรียกวา PDCA cycle ซ่ึงประกอบดวย ๔ ขั้นตอนหลัก ๆดงั น้ี (ปราณี ชวยชยั . ๒๕๖๐) P = Plan หมายถึง การวางแผน D = Do หมายถึง การปฏิบัติตามแผน C = Check หมายถึง การตรวจสอบ A = Action หมายถึง การดําเนินการใหเหมาะสม Plan การวางแผน (Plan : P) เปนสวนประกอบของวงจรที่มีความสําคัญ เน่ืองจากการวางแผนจะเปนจุดเร่ิมตนของงานและเปนสวนสําคัญท่ีจะทําใหการทํางานในสวนอื่นเปนไปอยางมีประสิทธิผล การวางแผนในวงจรเดมม่ิง เปนการหาองคประกอบของปญหา โดยวิธีการระดมความคิด การเลือกปญหา การหาสาเหตุของปญหา การหาวิธีการแกปญหา การจัดทําตารางการปฏิบัติงาน การกําหนดวิธีดําเนินการ การกําหนดวิธีการตรวจสอบและประเมินผล ในขั้นตอนน้ีสามารถนําเคร่ืองมือเบ้ืองตนแหงคุณภาพอื่นๆ มาใชงานรวมดวย เชน Flowchart, Why-WhyDiagram, How-How Diagram, 5W 2H Principles, Brainstorming ฯลฯ Do การปฏิบัติตามแผน เปนการลงมือปฏิบัติตามแผนท่ีกําหนดไวในตารางการปฏิบัติงานท้ังนี้ สมาชิกกลุมตองมีความเขาใจถึงความสําคัญและความจําเปนในแผนน้ันๆ ความสําเร็จของการนําแผนมาปฏิบัติตองอาศัยการทํางานดวยความรวมมือเปนอยางดีจากสมาชิก ตลอดจนการจัดการทรัพยากรท่ีจําเปนตองใชในการปฏิบัติงานตามแผนน้ันๆ ในขั้นตอนน้ีขณะท่ีลงมือปฏิบัติจะมีการตรวจสอบไปดวย หากไมเปนไปตามแผนอาจจะตองมีการปรับแผนใหม และเมื่อแผนน้ันใชงานได ก็นําไปใชเ ปน แผนและถือปฏิบตั ติ อ ไป

๒๐ Check การตรวจสอบ หมายถึง การตรวจสอบดูวาเมื่อปฏิบัติงานตามแผน หรือการแกปญหางานตามแผนแลว ผลลัพธเปนอยางไร สภาพปญหาไดรับการแกไขตรงตามเปาหมายที่กลุมต้ังใจหรือไม การไมประสบผลสําเร็จอาจจะเกิดจากสาเหตุหลายประการ เชน ไมปฏิบัติตามแผนความไมเหมาะสมของแผน การเลอื กใชเ ทคนิคทไี่ มเหมาะสม เปนตน Action การดําเนินการใหเหมาะสม เปนการกระทําภายหลังที่กระบวนการ ๓ ข้ันตอนตามวงจรไดดําเนินการเสร็จแลว ข้ันตอนน้ีเปนการนําเอาผลจากขั้นการตรวจสอบมาดําเนินการใหเหมาะสมตอไป วงจร PDCA ที่สมบูรณจะเกิดขึ้นเม่ือนําผลท่ีไดจากขั้นตอนการดําเนินการท่ีเหมาะสม(A) มาดําเนินการใหเหมาะสมในกระบวนการวางแผนอีกคร้ังหนึ่ง (P) และเปนวงจรอยางน้ีเร่ือย ๆไมมีที่ส้ินสุด จนกระทั่งสามารถใชวงจรนี้กับทุกกิจกรรมท่ีคลายกันไดอยางเปนปกติธรรมดาไมยุงยากอีกตอไป จะเห็นวา วงจร PDCA จะไมไดหยุดหรือจบลง เม่ือหมุนครบรอบ แตวงลอ PDCA จะหมุนไปขางหนาเร่ือยๆ โดยจะทํางานในการแกไขปญหาในระดับที่สูงข้ึน ซับซอนขึ้น และยากขึ้น หรือเปนการเรียนรูท่ีไมส้ินสุด ซ่ึงสอดคลองกับปรัชญาของการพัฒนาอยางตอเน่ือง (ContinuousImprovement) อยางไรก็ดี หัวใจสําคัญของวงจร Deming ไมไดข้ึนอยูกับ PDCA เทาน้ัน แตอยูที่คนที่มีคุณภาพ และเขาใจคุณภาพอยางแทจริง หรือที่เรียกวา คุณภาพอยูที่ใจ (Quality at Heart)ท่ีพรอ มจะเปดใจเรียนรู และพัฒนาตนเองอยูตลอดเวลา อยา งมุงมนั่ และไมยอทอ ตอ อปุ สรรค การนําแนวคิดการบริหารงานวงจรควบคุมคุณภาพมาใชเปนกรอบเพื่อพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง และพฒั นาการนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง๕. แนวคดิ การนิเทศภายในสถานศึกษา การนิเทศภายในสถานศึกษา กรองทอง จิรเดชากุล (๒๕๕๐) ไดกลาววา หมายถึงการสงเสริมสนับสนุน หรือการใหความชวยเหลือครูและบุคลากรในสถานศึกษาใหประสบผลสําเร็จในการปฏิบัติงาน ใหสําเร็จตามจุดมุงหมาย กอใหเกิดผลดีตอการพัฒนางานของสถานศึกษาตอไปและไดจ ําแนกจุดมุง หมายของการนิเทศภายในสถานศึกษา ไว ๒ ลักษณะ ดังน้ี ๑. จดุ มงุ หมายทัว่ ไป ๑.๑ เพื่อใหผูบริหารและคณะกรรมการนิเทศของสถานศึกษามีความรูความเขาใจและปฏิบัติการนิเทศภายในโรงเรยี นได ๑.๒ เพื่อพัฒนาความสามารถครู ๑.๓ เพือ่ ชวยเหลือและจัดสรรเครื่องมือ ส่อื การเรียนรู ตลอดจนชว ยเหลือและปรับปรุงวิธีจดั การเรียนรู ๑.๔ เพอื่ ใหค รูเกิดความเจริญงอกงามทางวิชาชีพ ๒. จดุ มุง หมายเฉพาะ เพอื่ ใหครูสามารถพัฒนาพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน ในเรื่องตอไปน้ี ๒.๑ เพอ่ื ใหสถานศึกษามแี ผนการนิเทศภายในโรงเรียน

๒๑ ๒.๒ เพื่อเนนใหมกี ารวิเคราะหป รับปรงุ หลกั สตู รสถานศึกษาและในกลุมสาระการเรยี นรูท่ีไดรบั มอบหมาย ๒.๓ เพื่อใหครูจัดการเรียนการสอนตามแนวปฏิรปู การเรียนรทู ่ีเนนผูเรียนเปนสําคญัการบูรณาการ เนนทักษะกระบวนการคิด ฯลฯ ๒.๔ เพื่อปรบั ปรุงและพฒั นากระบวนการ วธิ ีการจดั การเรียนรูของครู ๒.๕ เพื่อใหมีการจัดกิจกรรมเสรมิ การเรียนรูไดอยา งเหมาะสม ๒.๖ เพอื่ พัฒนาการใชสอ่ื และแหลง เรยี นรู ๒.๗ เพื่อใหมีการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง และปรับปรุงกระบวนการวัดและประเมินผลใหมปี ระสิทธิภาพสูงข้นึ หลักการนเิ ทศภายในสถานศึกษา ๑. การดําเนินการนิเทศ จะตองดําเนินการอยางเปนระบบและตอเน่ือง ตามข้ันตอนกระบวนการนิเทศภายในสถานศกึ ษา ๒. บุคลากรท่ีเปนหลักสําคัญในการดําเนินการพัฒนาระบบนิเทศภายในสถานศึกษาคอื ผบู รหิ ารสถานศกึ ษา ๓. การนิเทศภายในสถานศึกษา จะตองสอดคลองกับความตองการจําเปนในการพัฒนาครูและนกั เรียน บทบาทหนา ทีข่ องผนู ิเทศ ๑) กําหนดนโยบายของการนิเทศภายในสถานศึกษา เชน สงเสริมใหใชกระบวนการกลุมในการทาํ งาน เพอื่ ใหเกิดความสามัคคีในหมูคณะ เปนตน ๒) สงเสริมใหครูมีความรูความเขาใจในเร่ืองหลักสูตรและเร่ืองอ่ืน ที่ครูสวนใหญมคี วามตองการในการพัฒนา ซ่ึงจะเปนประโยชนตอ การปรบั ปรงุ การปฏบิ ัติงานในหนาท่ีครู ตลอดจนมีเจตคตทิ ่ีดตี อ การนิเทศภายในสถานศึกษา ๓) ปฏิบัตกิ ารนเิ ทศภายในสถานศึกษาตามแผนการนิเทศของสถานศกึ ษา ๔) เปดโอกาสใหคณะครูมีสวนรวมในการดําเนินงานนิเทศภายในสถานศึกษาและมกี ารประเมนิ ตนเอง ๕) สรปุ และเผยแพรงานทปี่ ระสบผลสาํ เร็จ บทบาทของผูรบั การนิเทศ ๑) รวมกิจกรรมในการเกบ็ รวบรวมขอมลู และการจดั ทาํ แผนการนิเทศภายในสถานศกึ ษา ๒) นาํ แนวทางทไี่ ดรับจากการนิเทศ ไปแกไขปญหาหรือพัฒนางาน ๓) เสนอปญ หาตอ ผูนเิ ทศ เมอ่ื พบปญ หาระหวา งการปฏบิ ัตงิ านเพ่ือรวมกันหาแนวทางแกไข ๔) ใหค วามรว มมือในการประเมินผลการนิเทศ ดังน้ัน การนิเทศภายในสถานศึกษาสําหรับการพัฒนางานคร้ังน้ี หมายถึง การสงเสริมสนับสนุน หรือการใหความชวยเหลือครูและบุคลากรในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางใหประสบผลสําเร็จในการปฏิบัตกิ ารประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน สําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางใหส ําเร็จตามจุดมุงหมาย กอใหเกิดผลดีตอการพัฒนาศักยภาพทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางตอไป แนวคิดน้ีจึงเปนกรอบในการดําเนินงานจัดทํา

๒๒แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง และการสอนงานใหกับผูนิเทศ คือ ผูชวยผอู ํานวยการกลมุ บรหิ ารงานวิชาการและหัวหนางานชวยเหลอื ระยะแรกเริม่๖. งานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วของ จากการคนควางานวิจัยที่เกี่ยวของกับทักษะการดํารงชีวิต พบวามีการทําวิจัยในเรื่องเหลานี้นอย สําหรับในประเทศไทยเปนเร่ืองใหม จึงพบเพียงงานวิจัยของ มะลิวัลย เรือนคํา และศุภลักษณ เข็มทอง (๒๕๕๒) เรื่อง ทักษะชีวิตสําหรับเด็กออทิสติกผานมุมมองของผูดูแล ผลการวิจัยพบวา เน้ือหาที่เก่ียวของกับทักษะชีวิตสําหรับเด็กออทิสติก สามารถจําแนกตามโมเดลปรามิดของNational Unified Life Skills Model (NULM) และตามรอยละของความถี่ท่ีแสดงเนื้อหาท่ีซํ้ากันจากผูใหขอ มูลทั้งหมด ไดแก กลุมทกั ษะชีวิตพ้ืนฐาน รอยละ ๓๖ กลุมทักษะทางจิตสังคม รอยละ ๓๒กลุมองคประกอบท่ีจําเปนในทักษะชีวิต รอยละ ๑๐ กลุมองคความรูพื้นฐานในทักษะชีวิต รอยละ ๘กลุมความสามารถในเร่ืองการพึ่งพาตนเองไดโดยอิสระ รอยละ ๗.๒ และกลุมการเปล่ียนแปลงส่ิงแวดลอม รอยละ ๖.๘ จากนั้นผูวิจัยปรับเปลี่ยนโมเดลปรามิดสูโมเดลตนไมเพื่อสรางความเขาใจในการพัฒนาทักษะชีวิตในผูดูแลเด็กออทิสติกไทย สรุปไดวา ผูดูแลและผูที่ใหความชวยเหลือสะทอนความสําคัญของการพัฒนาทกั ษะชีวติ สําหรับเด็กออทิสตกิ โดยเนนหมวดกลุมทกั ษะชีวติ พื้นฐาน ในขณะที่งานวิจัยท่ีเกี่ยวของของตางประเทศ พบงานวิจัยของ แซนเดอร (Sanders, 2006)ท่ีวิจัยเร่ือง การวัดประเมินทักษะดานการดํารงชีวิตอิสระโดยผูเช่ียวชาญดานการดํารงชีวิตอิสระผลการวิจัยพบวา ทักษะสําหรับการดํารงชีวิตอยางอิสระเปนทักษะจําเปนท่ีบุคคลที่มีความตองการจําเปนพิเศษจะตองไดรับการฝกโดยมีโปรแกรมท่ีแตกตางและหลากหลายตามความตองการจําเปนแตพบวาคํานิยามหรือคําจํากัดความของคําวา ทักษะสําหรับการดํารงชีวิตอยางอิสระ ยังมีความหลากหลายและแตกตางไปตามบริบทของผูใหคํานิยาม จึงทําใหการตีความมีความแตกตางไมเปนเอกเทศ ผูเชี่ยวชาญดานการดํารงชีวิตอิสระซึ่งเปนเจาหนาที่ลูกจางประจําศูนยการดํารงชีวิตอิสระจึงไดทําการตรวจสอบระดับความสามารถของนักเรียนผานการตกลงในหมูของผูเชี่ยวชาญดานการดํารงชีวิตอิสระ วัดโดยการใชเคร่ืองมือวัดประเมินดานทักษะการดํารงชีวิตอยางอิสระ :The Ansell Casey Life Skills Assessment (ACLSA) เปนเครื่องมือวัดเพื่อใชประเมินทักษะการดํารงชีวิตอยางอิสระซึ่งใชในการศึกษาคร้ังน้ี ประชากรในการวิจัยเปนผูเช่ียวชาญดานการดํารงชีวิตอิสระมาจาก Illinois Network of Center for Independent Living (INCIL)การวจิ ยั เปน การวิจัยเชงิ พรรณนาและการศกึ ษาการวิเคราะหส ถติ ิโดยใชการวิเคราะหขอมูล และงานวิจัยของ ดราโฮตา (Drahota, 2008) ท่ีทําวิจัย เร่ือง การชวยเหลือทักษะการดํารงชีวิตประจําวันอยางอิสระสําหรับเด็กออทิสติกท่ีมีความสามารถสูงและควบคูไปดวยโรควิตกกังวล ผลพบวา เด็กท่ีมีภาวะออทิสติกและควบคูไปดวยโรควิตกกังวล ไดแก ออทิสติกที่มีความสามารถสูง และแอสเพอรเกอรซินโดรม ไดรับการชวยเหลือตลอดจนการเสริมองคความรู

๒๓เก่ียวกับพฤติกรรมบําบัดของครอบครัว (Family Cognitive - Behavioral Therapy: FCBT) เปนการเสนอเพื่อเพ่ิมเติมและปรับปรุงทักษะการดํารงชีวิตประจําวันของเด็ก ทักษะสังคมและความรับผิดชอบและลดการมีสวนรวมแบบไมจําเปนของผูปกครองในการทํางานทักษะดํารงชีวิตประจําวันของเด็ก คือ ประสิทธิภาพของการทดสอบนักเรียนของการแกไขโปรแกรม FCBT ท่ีเก่ียวของกับเด็กออทิสติก ๔๐ คนต้ังแตอายุ ๗ ถึง ๑๑ ปและมีผูดูแลเด็กที่สุมจะไดรับมอบหมายเพ่ือการรักษาทันทีทันใด (n=17) หรือรอสามเดือน (n=23) เง่ือนไขที่จะรับการแกไขโดยโปรแกรม FCBT ผลของประสิทธภิ าพ FCBT ทจี่ ะปรับปรุงความเขาใจของผูปกครองตอทกั ษะการดํารงชีวิตประจําวันของเด็กออทิสติกและโรควิตกกังวลพรอมกัน ความเขาใจของผูปกครองท่ีไดรับ FCBT มีผลในการเพิ่มทักษะการดํารงชีวิตประจําวันอิสระในการใชชีวิตประจําวันสวนบุคคล เพิ่มการใชทักษะสังคมท้ังหมดรวมถึงความรับผิดชอบและความเชื่อในประสิทธิภาพของตนเอง ซ่ึงตรงกับขอมูลที่ไดรับจากผูปกครองเมอ่ื ลดการมีสวนรวมโดยไมจําเปน ในทักษะการดาํ รงชีวติ ประจําวนั จากการศึกษางานวิจัยของ มะลิวัลย เรือนคํา และศุภลักษณ เข็มทอง (๒๕๕๒) รวมท้ังดราโฮตา (Drahota, 2008) ไดขอสรุปวา ทักษะดํารงชีวิตประจําวันมีความสําคัญและเม่ือจะนําไปใชทําใหผูเรียนเกิดทักษะชีวิตพ้ืนฐาน ทักษะทางจิตสังคม องคประกอบท่ีจําเปนในทักษะชีวิตองคความรูพ้ืนฐานในทักษะชีวิต ความสามารถในเร่ืองการพึ่งพาตนเองไดโดยอิสระ และการเปลี่ยนแปลงสงิ่ แวดลอม ซ่งึ เปนการเนนยา้ํ วาจะตองจัดทาํ แบบประเมินทักษะดาํ รงชีวิตประจาํ วันเปนอันดับแรกเพ่ือชวยใหผูเรียนมีความสามารถและปรับตัวไดในการเรียนรูในทักษะอ่ืน จึงเปนที่มาของการวิเคราะหรวมกันของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางตั้งแตเร่ิมสรางแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานที่เลือกทักษะการดํารงชีวิตประจําวนั กอนเปน อนั ดบั แรก จากการศึกษางานวิจัยของ แซนเดอร (Sanders, 2006) การสรางเครื่องมือไมเพียงแตจะสามารถสรางขึ้นมาไดเทานั้น หรือถึงแมจะสรางและผานผูเช่ียวชาญแลว แตเมื่อนําไปใชอาจจะเกิดการตีความตางกัน จึงจําเปนตองมีการฝกฝนอบรมกอนนําไปใช ดังน้ันเม่ือผูรายงานจะพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ จึงจําเปนที่จะตองนิเทศกํากับติดตามและช้ีแนะการใชแบบประเมินในลักษณะแบบเขม เพ่ือใหเกิดผลการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ ทําใหเกิดความเช่ือม่ันวา หากมีการนิเทศกํากับติดตามและช้ีแนะในขณะนําแบบประเมินทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวันไปใชจ ริง ผูเ รยี นนาจะเกิดพฤตกิ รรมในทักษะตางๆ ดีขนึ้

๒๔๗. กรอบแนวคิดการพฒั นาเครอ่ื งมือประเมนิ ทกั ษะการดาํ รงชีวติ สาํ หรบั เด็กที่มคี วามตองการจาํ เปน พเิ ศษเพ่ือการนิเทศการเรยี นการสอน ในศูนยก ารศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลาํ ปางบริบทศูนยการศกึ ษาพิเศษ รปู แบบการพัฒนาเคร่ืองมือประจําจงั หวัดลําปางและสภาพปญหา ประเมนิ ทักษะการดํารงชวี ติความตองการ ประจําวนั สาํ หรับเด็กที่มคี วาม ตอ งการจาํ เปนพิเศษแนวคิดการพฒั นาทักษะการดาํ รงชีวติ เพอ่ื การนิเทศการเรียนการสอนประจาํ วนั ในศูนยการศึกษาพิเศษ ประจําจงั หวัดลําปางแนวคิดการจัดการศึกษาสําหรบัเด็กทมี่ ีความตองการจําเปนพิเศษในศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษแนวคิดการบริหารงานวงจรควบคุมคุณภาพแนวคิดการนิเทศภายในสถานศกึ ษาภาพท่ี ๔.๒ กรอบแนวคดิ การพฒั นาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชวี ิตประจาํ วัน สําหรบั เด็กทม่ี ีความตองการจําเปนพเิ ศษเพอ่ื การนิเทศการเรียนการสอน ในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลําปาง๘. ขน้ั ตอนการพฒั นาเครื่องมือประเมนิ ทักษะการดํารงชวี ิตประจําวนั สําหรบั เดก็ ทมี่ ีความตองการจําเปน พเิ ศษเพอ่ื การนิเทศการเรยี นการสอน ในศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จงั หวัดลําปาง การพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ภาคเรียนท่ี ๑ปการศึกษา ๒๕๖๐ ไดกําหนดวิธีการพัฒนาอยางเปนระบบ โดยอาศัยองคประกอบตางๆ ของวงจรควบคุมคณุ ภาพ มาใชในการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กทมี่ ีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางดังภาพท่ี ๔.๓

๒๕ ปจจยั นาํ เขา กระบวนการ ผลผลติ ผลลพั ธดา นผเู รยี น อายตุ ้งั แต ๒ – ๑. การวางแผน เครือ่ งมอื ประเมนิ ทกั ษะการ ดา นผูเรยี น ผลการพัฒนา๑๘ ป ที่จาํ เปน ตองไดร บั ๒. การปฏิบัตติ ามแผน ดาํ รงชีวติ ประจาํ วันสาํ หรบั เด็ก ศักยภาพในทักษะการ ๓. การตรวจสอบ ท่ีมคี วามตอ งการจําเปน พเิ ศษการพัฒนาทักษะการ ๔. การดาํ เนนิ การให ไดแ ก ดํารงชวี ติ ประจาํ วนั สงู ขน้ึ ๑. คูมือการปฏบิ ัติงานดาํ รงชีวิตเพ่อื เปลีย่ นผา น เหมาะสม กวากอ นการพฒั นา (Work Manual) การ ดานครู มคี วามรู ทกั ษะและดานครู เพ่งิ จบการศกึ ษามี ประเมนิ ความสามารถ เจตคติ รอ ยละ ๘๐ประสบการณน อ ย ไมไ ดจ บ พน้ื ฐานกลุม ทกั ษะ ดา นผูบริหาร มคี วามรูการศึกษาพิเศษโดยตรง การดํารงชวี ิตประจาํ วนั ทกั ษะและเจตคติ รอ ยละ สําหรับเด็กท่ีมีความดา นผบู รหิ าร ผูบรหิ าร ตอ งการจาํ เปน พิเศษ ๘๐หลกั สูตรตอ งเปนผนู ําในการ ๒. แบบประเมนิ ความสามารถพืน้ ฐาน และ คณุ ภาพและประโยชนช้ีแนะไมมีรองผอู ํานวยการ กลมุ ทกั ษะการดาํ รงชวี ิต ของแผนนิเทศ ฯ ระดบั มาก ประจาํ วนั สาํ หรับเดก็ ทมี่ ี ดา นการจดั การศึกษาดา นการจดั การศกึ ษาทักษะ ความตอ งการจําเปน พเิ ศษ คณุ ภาพและประโยชนข องการดาํ รงชีวติ เปนหลักสตู รใหม ๓. แผนนเิ ทศภายในศูนย การศึกษาพเิ ศษประจํา แบบประเมนิ ฯ ระดับมากอยรู ะหวางทดลองใช จังหวัดลาํ ปาง เร่อื ง การประเมินทกั ษะ และ คุณภาพและประโยชนดานสอื่ อุปกรณแ ละ การดํารงชวี ิตสําหรับสงิ่ แวดลอ ม ยงั ไมไดรับการ เดก็ ทมี่ ีความตองการ ของคมู อื การปฏบิ ตั งิ านปรับแตง ใหเ หมาะกบั ทกั ษะ จําเปนพเิ ศษ (Work Manual) ฯ ระดบัดํารงชวี ิต มากดานการประกันคุณภาพ ดา นส่อื อุปกรณแ ละการวัดและประเมินผลยงั ไม สิ่งแวดลอ ม มกี ารพัฒนาสื่อ และแหลง เรียนรเู พมิ่ ข้ึนสามารถวัดไดต ามตวั บงช้ี ดานการประกันคณุ ภาพ ผล การประเมินเทา กับหรือสูง กรอบแนวคดิ๑. แนวคิดการพฒั นาทักษะ กวาคา เปา หมายของ การดาํ รงชวี ิตประจาํ วนั สถานศึกษา และ๒. แนวคิดการจัดการศกึ ษา ผูปกครองมีความพงึ พอใจใน สาํ หรบั เด็กท่ีมีความ ตองการจาํ เปนพเิ ศษใน ระดับมาก ศนู ยก ารศึกษาพเิ ศษ๓. แนวคิดการบรหิ ารงาน วงจรควบคุมคณุ ภาพ๔. แนวคิดการนเิ ทศภายใน สถานศึกษา ขอมูลยอ นกลับ ประเมิน,ตดิ ตามผลภาพท่ี ๔.๓ แสดงวิธีการพัฒนาเครื่องมือประเมนิ ทกั ษะการดาํ รงชีวิตประจาํ วัน สาํ หรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพเิ ศษเพือ่ การนิเทศการเรยี นการสอน ในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปางพัฒนาโดย : สุรญั จติ วรรณนวล. ๒๕๖๐

๒๖ การพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง มีข้ันตอนการดาํ เนินงานตามวงจรควบคุมคุณภาพ ดังตอ ไปนี้ ๑. การวางแผน (Plan) การพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ไดมีการวางแผนการปฏบิ ัติงานเปนขนั้ ตอน ดงั น้ี ๑. การพัฒนาความรูครู และบุคลากรทางการศึกษาของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่อง (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ของศูนยการศึกษาพิเศษพุทธศักราช ๒๕๕๘ และหลักสูตรสถานศึกษาการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางพ.ศ.๒๕๖๐ เพ่ือใหทุกคนมีความรูความเขาใจในเปาหมายของท้ังหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศกึ ษา ตลอดจนเขา ใจวิธีการวัดผลประเมนิ ผลตามหลักสตู รในทิศทางเดยี วกัน ๒. การวเิ คราะหป ญหาความตองการจาํ เปน การกําหนดปญหาความตองการเพื่อการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอน ในศูนยการศึกษาพเิ ศษประจําจังหวัดลําปาง มีวิธีการ ดังน้ี ๒.๑ ศึกษาความตองการหรือเปาหมายในการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสาํ หรับเด็กท่ีมคี วามตองการจาํ เปนพเิ ศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง โดยจัดประชมุ ครูเพือ่ ใหม กี ารศึกษาทบทวน ในเร่ืองตอ ไปน้ี ๒.๑.๑ รฐั ธรรมนญู แหงราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ ๒.๑.๒ พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แกไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี๒)พ.ศ.๒๕๔๕ และ (ฉบับท่๓ี ) พ.ศ.๒๕๕๓ ๒.๑.๓ พระราชบัญญตั สิ ง เสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนพิการ พ.ศ.๒๕๕๐ ๒.๑.๔ พระราชบัญญัติสงเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่๒)พ.ศ.๒๕๕๖ ๒.๑.๕ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาํ หรับคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๑ ๒.๑.๖ นโยบายรัฐบาล นโยบายสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและนโยบายสาํ นกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ ๒.๑.๗ บทบาทหนา ท่ีศูนยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวดั ๒.๑.๘ มาตรฐานการศึกษาศนู ยการศึกษาพิเศษ พ.ศ.๒๕๕๓ ๒.๑.๙ กฎกระทรวงวาดวยระบบหลักเกณฑและวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาพ.ศ.๒๕๕๓

๒๗ ๒.๑.๑๐ (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปน พเิ ศษของศูนยการศึกษาพิเศษพุทธศกั ราช ๒๕๕๘ ๒.๑.๑๑ หลักสูตรสถานศึกษาการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปนพิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลําปาง (ฉบบั ปรับปรุง) พ.ศ.๒๕๖๐ ๒.๑.๑๒ ศึกษาสภาพการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปน พเิ ศษในศูนยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลาํ ปาง ๒.๒ ระดมสมองรวมกับคณะครูและบุคลากรวิเคราะหสภาพ ปญหาและแนวทางการนําหลักสูตรสถานศึกษาการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง โดยเฉพาะประเด็นการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง สิ่งท่ีนํามาพจิ ารณารว มกนั ไดแก ๒.๒.๑ แบบประเมินกอนพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปน พิเศษของศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษท่ีใชใ นปจจบุ นั ของศูนยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลําปาง ๒.๒.๒ สภาพการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลําปาง ขอมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเร่ืองขางตน ไดรวมกันกับครูศกึ ษาจากขอมูลสารสนเทศ และเอกสารจากกลุมบริหารงานวิชาการ ไดแก สรุปผลการพัฒนาผูเรียนตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลที่รับบริการชวยเหลือระยะแรกเริ่ม ฟนฟูสมรรถภาพและเตรียมความพรอมในศูนยสรุปผลการพัฒนาผูเรียนตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลที่รับบริการในศูนยการเรียนเฉพาะความพิการ สรุปผลการพัฒนาผูเรียนตามแผนใหบริการชวยเหลือเฉพาะครอบครัว สมุดรายงานผลการพัฒนาผูเรียนตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Programme: IEP) และมาตรฐานการศึกษาศูนยการศึกษาพิเศษ สมุดรายงานผลการพัฒนาผูเรียนตามแผนใหบริการชวยเหลอื เฉพาะครอบครวั (Individualized Family Service Plan : IFSP) และมาตรฐานการศกึ ษาศูนยการศึกษาพิเศษ และสมดุ บนั ทึกการพัฒนาคณุ ภาพผูเรียน (ต๒ก.) ๒.๓ ประเมินปญหาความตองการจําเปน โดย (๑) สอบถามความตองการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับความเขาใจแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐาน กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน(๒) สอบถามความตองการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับวิธีการใชแบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน (๓) สอบถามความตองการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับการนําแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐาน กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันไปใชในการจัดการศึกษา(๔) การประชุมครูผูสอนเพ่ือรวมกันตัดสินและกําหนดปญหาความตองการจําเปนในการพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรยี นการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง ๒.๔ กําหนดนโยบาย เปาหมาย และมาตรการในการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง

๒๘ ๒.๕ ประชุมชี้แจงนโยบาย และมาตรการในการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศนู ยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง ๒.๖ แตงตั้งคณะกรรมการพัฒนาเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตของเด็กที่มีความตอ งการจําเปนพิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง ๓. การวิเคราะหทางเลอื กในการแกปญหา ดาํ เนนิ การประชุมครูเพ่ือวิเคราะหทางเลือกในการแกปญ หาดังวิธกี ารตอ ไปน้ี ๓.๑ นําความตองการจําเปนและปญหาท่ีไดมาวิเคราะหจัดลําดับความสําคัญของปญหาทจ่ี ําเปนตองไดร ับการพัฒนา ไดส รปุ ประเดน็ ปญ หาจัดลําดับความสาํ คญั ไดด ังน้ี ๓.๑.๑ (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ถือวาเปนหลักสูตรใหมท่ีสํานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษไดกําหนดใหทดลองใชในศูนยก ารศึกษาพิเศษ โดยมีแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตทีเ่ ปนฉบับยกราง เมื่อมีการนาํ มาทดลองใช พบวา แบบประเมินดังกลาวไมเหมาะสมกับศักยภาพของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษท่ีมีความหลากหลายของประเภทความพิการและหลากหลายระดับความรนุ แรง ตลอดจนสาํ นกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษยังไมมกี ารจัดอบรมการใชหลักสูตรดงั กลา ว ๓.๑.๒ ครูเขาใหมตลอดเวลา และไมมีประสบการณดานการประเมิน รวมทั้งการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเกี่ยวกับทักษะการดํารงชีวิต ตลอดจนการวิเคราะหแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิต ถึงแมวาจะไดจัดกิจกรรมช้ีแจงการใชหลักสูตรแลว หลังจากจัดอบรมใหแลวครูผูสอนลาออกไมตรงกัน และรับครูใหมเขามาไมพรอมกัน ประกอบกับภาระงานของศูนยฯ มีมากจงึ ไมสามารถจัดอบรมใหกับครใู หมเปนรายบุคคลไดตลอดเวลา อีกทง้ั ครูเกาก็ยังเขาใจไมตรงกัน จึงไมสามารถสอนงานครูใหมได ๓.๑.๓ ผลการประเมินทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษในภาคเรียนที่ผานมา ยังไมสามารถวิเคราะหไดตรงกับความตองการจําเปนของเด็ก ๓.๑.๔ ครูตองการความชัดเจนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตาม(ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพเิ ศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ๓.๒ ประชุมรวมกันวิเคราะหหาสาเหตุของปญหา กําหนดทางเลือกในการแกปญหาดังนี้ ๓.๒.๑ ปรับปรุงแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษท่ีชวยใหครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการสามารถประเมินไดทุกพฤติกรรมยอยที่คาดหวงั ๓.๒.๒ จัดทําคูมือการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อเปนแนวทางใหครูเกาครูใหมสามารถปฏิบัติงานในการประเมินไดมาตรฐานทีใ่ กลเคยี งกัน และเปน ทศิ ทางเดยี วกัน

๒๙ ๓.๒.๓ จัดทําแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ืองการประเมินทกั ษะการดาํ รงชวี ิตประจําวัน สําหรับเดก็ ทมี่ ีความตองการจาํ เปนพิเศษ เพื่อเปน แนวทางและอาํ นวยความสะดวกใหกบั กรรมการนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลาํ ปาง ๓.๒.๔ ประเมินผลการนิเทศภายใน เร่ือง การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวัน สําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลําปาง เพื่อใชเปนขอมูลในการปรบั ปรุงแกไขในลําดับตอไป ๓.๒.๕ ประเมินคุณภาพและประโยชนของแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพอ่ื ใชเ ปนขอ มลู ในการปรับปรุงแกไขในลาํ ดับตอไป ๓.๒.๖ ประเมินคุณภาพและประโยชนของ คูมือการปฏิบัติงาน การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษเพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง เพ่ือใชเ ปนขอ มลู ในการปรบั ปรุงแกไ ขในลาํ ดบั ตอไป ๓.๒.๗ ประเมินคุณภาพและประโยชนของแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือใชเปนขอมลู ในการปรับปรุงแกไขในลาํ ดับตอ ไป ๓.๒.๘ ประเมินผลการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพ่ือเปนการตรวจสอบการนําผล การประเมนิ ไปสกู ารปฏบิ ตั ขิ องครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการ ๓.๒.๙ ประเมินความพึงพอใจของผูปกครองตอการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจาํ วันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เพื่อเปนการตรวจสอบการนําผลการประเมนิ ไปสูก ารปฏิบตั ิของครแู ละพี่เลยี้ งเด็กพิการ ๔. การเลอื กทางเลือกที่เหมาะสมและการวางแผนแกป ญหา ดาํ เนินการประชุมครูรว มกนั ดําเนินการ ดังนี้ ๔.๑ ประเมินทางเลอื กแตละทางเลอื ก เพ่ือจัดลําดับความสําคัญของแตละทางเลือก โดยพิจารณาจากทรัพยากรและขอจํากัดตาง ๆ ดังน้ี ๔.๑.๑ ความตองการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับการนําแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจาํ วันไปใชในการจัดการศึกษา คิดเปน รอยละ ๙๕.๘๐ ๔.๑.๒ ความตองการพัฒนาตนเองเก่ียวกับความเขาใจแบบประเมินทักษะการดํารงชีวติ ประจาํ วัน คิดเปนรอ ยละ ๙๐.๓๘ ๔.๑.๓ ความตองการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับวิธีการใชแบบประเมินทักษะการดาํ รงชวี ิตประจําวนั คิดเปนรอยละ ๙๐.๓๘ ๔.๒ รว มกันวางแผน จดั ทาํ กจิ กรรมการพัฒนา จากผลการประชุมรวมกันวิเคราะหหาสาเหตุของปญหา กําหนดทางเลือกในการแกปญหา การเลือกทางเลือกที่เหมาะสมและการวางแผนการแกปญหา ไดแนวทางในการแกปญหา คือ มีความจําเปนทุกแนวทาง เน่ืองจากเปนเร่ืองใหมและเปนกิจกรรมที่ตอเน่ืองกัน

๓๐ไมสามารถเลือกพัฒนาบางกิจกรรมหรือยกเลิกบางกิจกรรมได เพราะจะมีผลตอการพัฒนาทักษะดํารงชีวิตประจําวันของเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษจึงนําทางเลือกทั้ง ๓ ทางเลือกในขอ ๔.๑มาดําเนินการเปน กิจกรรมรว มกัน ๕. การกาํ หนดวิธีดาํ เนนิ การและการจัดทําตารางการปฏบิ ตั ิงาน ๕.๑ ปรับปรุงแบบประเมินทักษะการดํารงชวี ิตประจําวนั สําหรับเด็กท่ีมคี วามตอ งการจําเปนพิเศษ ๕.๒ จัดทําคูมือการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปน พิเศษ ๕.๓ จัดทําแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางเร่ืองการประเมินทกั ษะการดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั สําหรับเด็กท่ีมีความตอ งการจาํ เปนพิเศษ ๕.๔ นําเคร่ืองมือไปสูการปฏิบัติ โดยผูอํานวยการ หัวหนากลุมบริหารงานวิชาการ และหวั หนางานชว ยเหลือระยะแรกเริม่ ในศนู ย นเิ ทศกาํ กบั ติดตามอยา งตอเน่อื ง และประเมนิ ผล ๖. การกําหนดวิธกี ารตรวจสอบและประเมนิ ผลของการพัฒนา ดังน้ี ๖.๑ ประเมินคุณภาพและประโยชนของแบบประเมนิ ทกั ษะการดํารงชีวติ ประจําวนั สาํ หรับเด็กทมี่ ีความตอ งการจําเปน พิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลําปาง ๖.๒ ประเมินคุณภาพและประโยชนของ คูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual)การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพเิ ศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง ๖.๓ ประเมินคุณภาพและประโยชนของ แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่อง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศนู ยก ารศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง ๖.๔ ประเมินพฤติกรรมผูรับการนิเทศ เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเดก็ ทีม่ ีความตองการจําเปน พิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง ๖.๕ ประเมินความคิดเห็นครูและพี่เล้ียงเด็กพิการ เรื่อง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจาํ วนั สาํ หรบั เด็กที่มคี วามตองการจําเปน พิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง ๖.๖ ประเมนิ ผลการพัฒนาทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยก ารศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง ๖.๗ ประเมินความพึงพอใจของผูปกครองตอการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสาํ หรบั เดก็ ทม่ี คี วามตองการจําเปนพิเศษในศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง ๗. กําหนดปฏิทินรวมกันเพื่อนําแบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดาํ รงชวี ติ ประจาํ วนั สาํ หรับเด็กท่มี คี วามตองการจําเปนพิเศษไปใช

๓๑ ๒. การปฏิบัติตามแผน (Do) หลังจากท่ีไดรวมกันวางแผนการพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลําปางแลว จงึ นาํ แผนทีว่ างไวมาสูก ารปฏิบตั ิ ดงั นี้ ๑. ขัน้ การจัดทํา แบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทกั ษะการดํารงชีวติ ประจําวันสําหรับเดก็ ท่ีมีความตอ งการจาํ เปนพิเศษในศูนยก ารศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลําปาง ไดด ําเนินการดังน้ี ๑.๑ ประเมินความตองการนวัตกรรมโดยการศึกษาหลักสูตรการพัฒนาทักษะการดาํ รงชวี ิต และเอกสารท่ีเกย่ี วขอ ง ไดแก ๑) สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๕๘ ข). (ราง) แนวทางการใชโปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘. ถา ยเอกสาร. ๒) สาํ นักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ. (๒๕๕๘ ก). (ราง) โปรแกรมการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๘.ถา ยเอกสาร. ๓) หนวยศึกษานิเทศก กรมสามัญศึกษา. (๒๕๓๕). สมุดบันทึกพัฒนาการการประเมินเพ่ือสาํ รวจพัฒนาการ (๐ – ๗ ป) . ถายเอกสาร. ๑.๒ สรางตนแบบนวัตกรรมโดยการปรับปรุงแบบประเมินกอนพัฒนา ทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ ชวงวัย ๐ – ๓ ป ชวงวัย๔ – ๖ ป ชวงวัย ๗ – ๑๐ ป และ ๑๑ ปข้ึนไป เปนแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง โดยดาํ เนนิ การดังน้ี ๑.๒.๑ ประชุมตรวจสอบแบบประเมินกอนพัฒนา ทักษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษ ท่ีใชในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางและคนหาขอบกพรองที่ควรแกไขของแบบประเมินกอนพัฒนา ทกั ษะการดํารงชีวิตสําหรับเด็กทม่ี ีความตอ งการจําเปน พิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษ ทีละประเด็น ๑.๒.๒ สอบถามครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการถึงความคาดหวังและความตองการแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษที่จะนํามาใชในการประเมินท่ีเขาใจงาย สะดวกและนําไปใชไดกับเดก็ ทม่ี ีความตองการจาํ เปนพิเศษทุกคน ไดข อสรุปวาควรจัดทําแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันที่มีการกําหนดเกณฑที่เหมาะกับทักษะ มีการวเิ คราะหวสั ดุ เวลา สถานการณ พฤติกรรมท่ีเด็กในศนู ยก ารศึกษาพิเศษควรเรียนรู ทลี ะประเด็น ๑.๒.๓ รวมกันกําหนดโครงรางของการปรับปรุงแบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ประกอบดวย

๓๒การวิเคราะหแบบประเมินตามชวงวัย รวมถึงการกําหนดเกณฑการประเมินกอนการพัฒนา และการวเิ คราะหแบบประเมินแยกตามกลุมทักษะ ทักษะยอยและพฤติกรรม ดงั น้ีตารางท่ี ๔.๑ แสดงโครงรา งของการปรบั ปรุงแบบประเมนิ ความสามารถพื้นฐานกลมุ ทักษะ การดาํ รงชีวิตประจําวนั สาํ หรบั เดก็ ท่มี คี วามตอ งการจําเปนพิเศษที่ ประเดน็ รายละเอยี ด๑ ช่อื แบบประเมินความสามารถพ้ืนฐาน กลุม ทักษะการดาํ รงชวี ิตประจาํ วัน สาํ หรบั เด็กท่ีมีความตองการจาํ เปนพิเศษของศนู ยการศึกษาพิเศษประจํา จังหวดั ลาํ ปาง ตามหลักสูตรสถานศกึ ษาสําหรับเด็กท่มี ีความตองการ จําเปนพิเศษระยะแรกเริ่มของศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวดั ลําปาง ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ และหลกั สตู รสถานศกึ ษาการพฒั นา ทักษะการดํารงชีวติ สําหรบั เด็กท่ีมีความตอ งการจาํ เปน พิเศษ ของศนู ย การศึกษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐๒ เกณฑ มี ๓ ระดับ คือ ทําได ทําไมได และไมมีโอกาสทําการประเมิน๓ ๑. การดแู ล มี ๖ ทักษะยอยตนเองและการดูแลสุขอนามัยสวนบุคคล๔ ๒. การเขา มี ๒ ทักษะยอ ยสงั คม การทํากิจกรรมนนั ทนาการและการทาํ งานอดิเรก(กิจกรรมยามวา ง)๕ ๓. ทกั ษะการ มี ๓ ทักษะยอ ยเคล่ือนยา ยตนเองในบา น๖ ๔. การดแู ล มี ๓ ทักษะยอ ยสุขภาพและความปลอดภยัในชวี ิตประจําวนั๗ ๕. การทาํ งาน มี ๖ ทักษะยอยบา น

๓๓ ที่ ประเดน็ รายละเอียด ๘ ๖. การมีสวน มี ๒ ทักษะยอ ย รวม ในสงั คมและ ทกั ษะชวี ติ ๙ หมายเหตุ ผูสอนควรเลือกประเมนิ ทกั ษะยอ ยใหเหมาะสมกับชวงวยั และความจาํ เปน ในการดํารงชีวิตของผูเรียน๑๐ ลงชื่อผปู ระเมนิ เทากับจาํ นวนคณะกรรมการประเมิน ๑.๓ หาประสิทธิภาพนวตั กรรม โดย ๑.๓.๑ นํา (ราง) แบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ เสนอผูเชี่ยวชาญ จํานวน ๓ คน (ประวัติผูเชี่ยวชาญไดแ สดงไวในภาคผนวก ก) เพื่อตรวจความถูกตองเหมาะสมและใหขอ เสนอแนะ ๑.๓.๒ รวมกันปรับแกตามขอเสนอแนะ พรอมท้ังจัดพิมพ (ราง) แบบประเมินความสามารถพนื้ ฐานกลุมทกั ษะการดํารงชวี ิตประจําวนั สําหรบั เด็กท่ีมีความตองการจาํ เปน พิเศษ ๑.๓.๓ ประชุมครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการชี้แจงการใช (ราง) แบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลมุ ทักษะการดาํ รงชีวิตประจาํ วนั สําหรบั เด็กทม่ี ีความตองการจําเปนพิเศษ ๑.๔ ทดลองใชนวัตกรรม โดยการนํา (ราง) แบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุม ทกั ษะการดาํ รงชีวิตประจําวนั สาํ หรับเดก็ ท่ีมคี วามตองการจําเปน พิเศษสกู ารปฏิบัติ ดงั น้ี ๑.๔.๑ การนํา (ราง) แบบประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจาํ วันสาํ หรับเด็กที่มีความตองการจาํ เปนพิเศษไปใชกอนการพัฒนาศักยภาพผูเรียน เปนการประเมินความสามารถพ้ืนฐานโดยคณะกรรมการประเมินรวมกับผูปกครองกอนวางแผนการจัดทําแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ ๑.๔.๒ การนํา (ราง) แบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษไปใชระหวางการพัฒนาศักยภาพผูเรียน เปนการประเมินผลตามจุดประสงคพฤติกรรมท่ีกําหนดไวในแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ในเดือนมิถนุ ายน – เดอื นสงิ หาคม ๒๕๖๐ ๒. ขั้นการจัดทําคูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุม ทักษะการดํารงชีวิตประจาํ วันสําหรับเดก็ ท่ีมคี วามตอ งการจาํ เปน พิเศษ ไดดําเนนิ การ ดังนี้ ๒.๑ ประเมินความตองการนวัตกรรมโดยการประชุมคณะกรรมการระดมสมองเพ่ือออกแบบคูมือการใชแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ โดยศึกษารูปแบบการจัดทําคูมือการปฏิบัติงาน จากหลากหลายแหลง ขอมลู ดังน้ี

๓๔ ๑) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (๒๕๕๓). คูมือการปฏิบัติงานกระบวนการจัดการความรู. กรุงเทพฯ : สถาบันการพฒั นาชุมชน. ๒) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (๒๕๕๓). คูมือการปฏิบัติงานกระบวนการพัฒนาทรัพยากรบุคคล. กรงุ เทพฯ : สถาบันการพฒั นาชมุ ชน. ๓) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (๒๕๕๕). คูมือมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน กระบวนการที่สรางคุณคา. กรงุ เทพฯ : บริษัทอพั ทรยู ู ครเี อทนิว จาํ กดั . ๔) เรอื งชัย จรุงศริ วัฒน. (๒๕๕๔). เทคนคิ การเขียนคูมือการปฏิบัติงาน. ขอนแกน.: ศูนยผลติ เอกสาร สาํ นกั งานอธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลัยขอนแกน . ๕) สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (๒๕๕๒). การจัดทําคูมือการปฏิบัติงาน WORKMANUAL. พิมพครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพคณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา ๒.๒ สรางตนแบบนวัตกรรม โดยการรวมกันจัดทํา (ราง) คูมือการปฏิบัติงาน (WorkManual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจาํ เปน พิเศษ โดยกาํ หนดขอบเขตของคมู ือการปฏบิ ตั ิงาน ออกเปน ๕ บท ดังน้ี บทที่ ๑ บทนํา ประกอบดวย ความเปนมาและความสําคัญ วัตถุประสงคประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ ขอบเขตของคูมือ คําจํากัดความเบ้ืองตน หลักเกณฑวิธีการปฏิบัติงานและคําอธิบายสัญลกั ษณที่ใช บทท่ี ๒ โครงสรางและหนาท่ีความรับผิดชอบ ประกอบดวย โครงสรางองคกร(Organization chart) และโครงสรางการปฏบิ ัติงาน (Activity chart) กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ บทท่ี ๓ หลักเกณฑวิธีการปฏิบัติงาน ประกอบดวย แผนผังการปฏิบัติงานของผูปฏิบัติ : การประเมินความสามารถพ้ืนฐาน กลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ แผนผังการปฏิบัติงานตามข้ันตอนการปฏิบัติงาน : การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษและขอ ควรระวงั ในการปฏบิ ัตงิ าน บทที่ ๔ ข้ันตอนการปฏิบัติงาน ประกอบดวย มาตรฐานคุณภาพงาน การติดตามประเมินผล ประกอบดว ย ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน และคาํ อธบิ าย บทท่ี ๕ สรุปและขอเสนอแนะ ประกอบดวย ปญหาอุปสรรค แนวทางการแกไขปญ หาอปุ สรรค และขอ เสนอแนะเพอื่ การพฒั นา ๒.๓ หาประสิทธภิ าพนวัตกรรม โดย ๒.๓.๑ นํา (ราง) คูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ เสนอผูเช่ียวชาญจาํ นวน ๓ คน (ประวัติผเู ชย่ี วชาญไดแสดงไวใ นภาคผนวก ก) เพ่ือตรวจความถูกตองเหมาะสมและใหขอเสนอแนะ

๓๕ ๒.๓.๒ รวมกันปรับแกตามขอเสนอแนะ พรอมท้ังจัดพิมพ (ราง) คูมือการปฏบิ ัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทกั ษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรบั เด็กทีม่ ีความตอ งการจาํ เปนพิเศษ ๒.๓.๓ ประชุมครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการช้ีแจงการใช (ราง) คูมือการปฏิบัติงาน(Work Manual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปน พิเศษ ๒.๔ ทดลองใชนวัตกรรม โดยการนํา (ราง) คูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual)การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวนั สําหรบั เด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ สูการปฏิบัติทั้งกอนการพัฒนาศักยภาพผูเรียน ระหวางการพัฒนาศักยภาพผูเรียน และหลังการพัฒนาศักยภาพผูเรยี น๓. ข้ันการจัดทําแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่องการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ ไดดําเนินการดังน้ี ๓.๑ ประเมนิ ความตอ งการนวตั กรรม โดย ๓.๑.๑ ประชุมคณะกรรมการระดมสมอง โดยศึกษารวมกันศึกษาเอกสารตําราที่เกี่ยวของกับการนิเทศการศึกษาภายในสถานศึกษา และไดเลือกรูปแบบการนิเทศจากคูม อื การนเิ ทศภายในโรงเรียน ของกรองทอง จริ เดชากุล (๒๕๕๐) ๓.๑.๒ รวมกันวิเคราะหความตองการและประเมินความจําเปนในการพัฒนากําหนดจุดที่จะตองพัฒนา หาแนวทางเลือกเพื่อพัฒนา วิเคราะหขอมูลเพื่อจัดทําแผนนิเทศภายในสถานศึกษา ๓.๑.๓ จากการวิเคราะหขอมูล ทําใหสรุปเปนกิจกรรมการนิเทศ เพ่ือนําไปจัดทําเปนแผนนเิ ทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลาํ ปาง ได ๙ กิจกรรม ดงั น้ี ๑) สัมมนาเชิงปฏิบัติการวิเคราะหแบบประเมินและเกณฑการประเมินทกั ษะการดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั ๒) ตรวจสอบแบบประเมินและเกณฑการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวนั ๓) สัมมนาเชิงปฏิบัติการวิธีการใชแบบประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวนั ๔) ตรวจสอบผลงานการประเมนิ ทกั ษะการดํารงชีวติ ประจําวัน ๕) สมั มนาการจดั ทาํ แผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล (IEP) ๖) สมั มนาการจดั ทาํ แผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ๗) สมั มนาการจดั ทาํ และการใชส ่ือ / นวตั กรรม ๘) สัมมนาการทบทวนแผนการสอนและการวัดผลประเมนิ ผล ๙) ตรวจสอบเอกสารวิชาการในแฟมสะสมงานนักเรียน

๓๖ ๓.๒. สรางตนแบบนวัตกรรม โดยการนํากิจกรรมขางตนมาจัดทําเปน (ราง) แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง โดยกําหนดจุดประสงค เปาหมาย ขั้นตอนการดําเนินงาน ระยะเวลา ผูรับผิดชอบ ส่ือ /เคร่ืองมือ และการประเมินผล ของแตละกิจกรรม และกําหนดขอบเขตของแผนนิเทศภายใน ออกเปน ๓ บท ดงั นี้ บทที่ ๑ สภาพท่ัวไปของสถานศึกษา ประกอบดวย ช่ือสถานศึกษา ท่ีต้ัง ผูบริหารสถานศึกษา จํานวนครูในสถานศึกษา จํานวนบุคลากรอ่ืนในสถานศึกษา กลุมเปาหมายบริการสาธารณะ จํานวนนักเรียน และผลการใหบริการพัฒนาศักยภาพผูเรียน ปการศึกษาท่ีผานมา(ปก ารศึกษา ๒๕๕๙) บทที่ ๒ การวางแผนการนิเทศภายใน ประกอบดวย วิเคราะหความตองการและประเมินความจําเปนในการพัฒนา กําหนดจุดท่ีจะตองพัฒนา หาแนวทางเลือกเพื่อพัฒนา วิเคราะหขอมูลเพื่อจัดทาํ แผนนิเทศภายในสถานศึกษา และสรปุ กจิ กรรมการนิเทศ บทที่ ๓ แผนการนิเทศภายใน ประกอบดวย แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง ปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศตามแผนท่กี ําหนดไว และบนั ทกึ เพิ่มเตมิ ๓.๓ หาประสทิ ธภิ าพนวตั กรรม โดย ๓.๓.๑ นํา (ราง) แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ืองการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสาํ หรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ เสนอผูเช่ียวชาญจํานวน ๓ คน (ประวัติผเู ชย่ี วชาญไดแสดงไวใ นภาคผนวก ก) เพื่อตรวจความถูกตองเหมาะสมและใหขอ เสนอแนะ ๓.๓.๒ รวมกันปรับแกตามขอเสนอแนะ พรอมทั้งจัดพิมพ (ราง) แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเดก็ ทีม่ คี วามตอ งการจําเปน พิเศษ ๓.๓.๓ ประชุมครูและพ่ีเลี้ยงเด็กพิการชี้แจงการใช (ราง) แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กทมี่ ีความตอ งการจาํ เปนพิเศษ ๓.๔ ทดลองใชนวัตกรรม โดยการนํา (ราง) แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่อง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ สูการปฏิบัติรวมกับหัวหนากลุมบริหารงานวิชาการและหัวหนางานใหบริการชวยเหลือระยะแรกเร่มิ ในศนู ย ๓. การตรวจสอบการปฏบิ ัติตามแผน (Check) การตรวจสอบเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมคี วามตอ งการจําเปนพิเศษเพ่ือการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ดําเนินการรวมกันกับครู พเี่ ลีย้ งเดก็ พกิ ารและผูเกี่ยวขอ ง โดยการตรวจสอบผลผลิต ดังน้ี

๓๗ ๑. แบบตรวจสอบผลการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง โดยการจัดทําตารางเปรียบเทียบผลการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษท่ีรับบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง กอนและหลังการพัฒนา ดําเนินการในเดือนพฤษภาคมและเดอื นกันยายน ๒๕๖๐ ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมผูนิเทศและผรู ับการนเิ ทศ เรื่อง การประเมนิ ทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางประจําภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศกึ ษา ๒๕๖๐ มีรายละเอียดของเคร่ืองมือในการประเมนิ ดงั นี้ ๒.๑ ลักษณะเครื่องมือ จัดทําเปนแบบสังเกตอยางเปนทางการ มีลักษณะเปนแบบตรวจสอบรายการ โดยรายการที่สังเกตประกอบดวย มีการศึกษาเครื่องมือการประเมินมากอนมีการปฏิบัติตามข้ันตอนตามคูม ือประเมิน สามารถปฏิบัติตามขัน้ ตอนไดต ามคําแนะนําชี้แนะ สามารถประเมินตามขนั้ ตอนไดอยา งมนั่ ใจโดยลาํ พัง ๒.๒ การสรางและตรวจสอบเครื่องมือ ไดดําเนินการศึกษาวัตถุประสงคของการพัฒนา ศึกษาเอกสารท่ีเกี่ยวของ กําหนดโครงสรางของขอ คําถาม นําแบบสังเกตเสนอผูเชีย่ วชาญจํานวน ๓ คน (ประวัติผูเชี่ยวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา(Content Validity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index of objectivecongruence : IOC.) ปรากฏวาแบบสอบถามมีคา ดชั นีความสอดคลองเทา กบั ๑.๐๐ ๒.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลรวมกับหัวหนากลุมบริหารงานวิชาการและหัวหนางานชวยเหลือระยะแรกเริ่ม ใชสังเกตพฤติกรรมของครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการในการประเมินความสามารถพื้นฐานทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษท่ีรับบริการในศูนยก ารศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง ๒.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติที่ใช การวิเคราะหขอมูลเปน ๒ ลักษณะ คือ สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) นําเสนอดวยคารอยละ สําหรับพฤติกรรมผูรับการนิเทศ เรื่องการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง และวิเคราะหเนื้อหา (Content analysis) รวบรวมและแยกแยะขอมูล รวมท้ังตีความหมาย จากการสังเกตสําหรับพฤติกรรมของครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการในการประเมินความสามารถพื้นฐานทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพเิ ศษของศนู ยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง ๓. แบบสัมภาษณความคิดเห็นผูนิเทศ รวมท้ังครูและพ่ีเลี้ยงเด็กพิการ เร่ือง การประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวัดลําปาง มรี ายละเอยี ดของเคร่อื งมือในการประเมิน ดังนี้ ๓.๑ ลักษณะเคร่ืองมือ จัดทําเปนแบบสัมภาษณมีโครงสราง (StructuredInterview) แบง เปน ๓ ขอใหญ คือ ความคิดเห็นดานความรูความเขาใจ ดานทักษะ และดานเจตคติ

๓๘ ๓.๒ การสรางและตรวจสอบเคร่ืองมือ ไดดําเนินการศึกษาทฤษฎี หลักการ หรือประเด็นสําคัญที่เก่ียวกับการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง และกําหนดโครงสรางของขอคําถามใหสัมพันธกับประเด็นตองการทราบขอมูล นําแบบสัมภาษณเสนอผูเชี่ยวชาญจํานวน ๓ คน(ประวัติผูเชี่ยวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชิงเน้ือหา (ContentValidity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index of objective congruence :IOC.) ปรากฏวา แบบสอบถามมีคา ดัชนีความสอดคลอ งเทา กบั ๑.๐๐ ๓.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลโดยการนําไปสัมภาษณครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการที่ใหบริการในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง การสัมภาษณเปนลักษณะ แบบกลุม(Group Interview) แยกตามหองเรยี น ๓.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติท่ีใช คือ สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics)นําเสนอดวยคารอยละและวิเคราะหเน้ือหา สําหรับความคิดเห็นของครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการตอการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยก ารศกึ ษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง ๔. การตรวจสอบ แผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่องการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ ไดดําเนินการประเมินคุณภาพและประโยชน มรี ายละเอยี ดของเครือ่ งมอื ในการประเมนิ ดงั นี้ ๔.๑ ลักษณะเครื่องมือ จัดทําเปนแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา ๕ ระดับ ซึ่งปรับปรุงจากสมพร หวานเสร็จ (มปป.) แบงเปน ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ สอบถามคุณภาพของแผนนิเทศ จํานวน ๑๐ ขอ ตอนที่ ๒ สอบถามประโยชนของแผนนิเทศ จํานวน ๑๐ ขอ และตอนที่ ๓คาํ ถามปลายเปดสอบถามความคดิ เหน็ ๔.๒ การสรางและตรวจสอบเครอื่ งมือ ไดด ําเนินการศึกษาวัตถุประสงคของการพัฒนาศึกษาเอกสารที่เก่ียวของ กําหนดโครงสรางของขอคําถาม นําแบบสอบถามเสนอผูเชี่ยวชาญจํานวน๓ คน (ประวัติผูเช่ียวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชงิ เน้อื หา (ContentValidity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index of objective congruence :IOC.) ปรากฏวาแบบสอบถามมีคา ดัชนคี วามสอดคลองเทากับ ๑.๐๐ ๔.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลโดยจัดทําแบบสอบถามออนไลน (Google Form) ใหกับครูและพ่ีเลี้ยงเด็กพิการตอบแบบสอบถามทางออนไลน จํานวนทั้งส้ิน ๑๙ คน ไดรับการตอบกลับจาํ นวน ๑๙ คน คิดเปน รอ ยละ ๑๐๐ ๔.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติท่ีใช ดําเนินการนําแบบสอบถามมาตรวจใหคะแนนแตล ะขอ ดังนี้ ๕ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนมากท่ีสุด ๔ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนมาก

๓๙ ๓ หมายถงึ มีคุณภาพและประโยชนปานกลาง ๒ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนนอย ๑ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนนอยทีส่ ุด ๔.๕ นําแบบสอบถามไปบันทึกลงในตารางบันทึกขอมูลเพื่อคาํ นวณหาคาทางสถิติดวยโปรแกรมคอมพวิ เตอร ๔.๖ นําคาคะแนนเฉล่ียความคิดเห็นของครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการตอการประเมินคุณภาพและประโยชนของแผนนิเทศภายในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง เรื่องการประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ มาแปลผลตามเกณฑ ดงั น้ี (บุญชม ศรีสะอาด. ๒๕๕๓)คา เฉล่ยี ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถึง แผนนิเทศมีคณุ ภาพและประโยชนอยูในระดบั มากที่สุดคาเฉลย่ี ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถึง แผนนิเทศมคี ณุ ภาพและประโยชนอยูในระดับมากคา เฉลีย่ ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถงึ แผนนเิ ทศมคี ณุ ภาพและประโยชนอยูในระดับปานกลางคาเฉล่ีย ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถึง แผนนเิ ทศมคี ณุ ภาพและประโยชนอยูในระดบั นอยคาเฉลี่ย ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถึง แผนนเิ ทศมคี ุณภาพและประโยชนอยูในระดบั นอยที่สุด ๔.๗ วิเคราะหข อคิดเหน็ อน่ื ๆ โดยการวเิ คราะหข อความ ๔.๘ สถิติท่ีใชวิเคราะหขอมูลดวยคอมพิวเตอร โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป คือ สถิติพนื้ ฐาน ไดแ ก คาเฉลีย่ และคา เบี่ยงเบนมาตรฐาน ๕. การตรวจสอบแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง ไดดําเนินการประเมินคณุ ภาพและประโยชน มีรายละเอยี ดของเครือ่ งมือในการประเมนิ ดงั นี้ ๕.๑ ลักษณะเคร่ืองมือ จัดทําเปนแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา ๕ ระดับซ่ึงปรับปรุงจากสมพร หวานเสร็จ (มปป.) แบงเปน ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ สอบถามคุณภาพของแบบประเมิน จํานวน ๑๐ ขอ ตอนท่ี ๒ สอบถามประโยชนของแบบประเมิน จํานวน ๑๐ ขอ และตอนท่ี ๓ คาํ ถามปลายเปด สอบถามความคิดเห็น ๕.๒ การสรางและตรวจสอบเคร่ืองมือ ไดดําเนินการศกึ ษาวัตถุประสงคข องการพัฒนาศึกษาเอกสารที่เกี่ยวของ กําหนดโครงสรางของขอคําถาม นําแบบสอบถามเสนอผูเชี่ยวชาญจํานวน๓ คน (ประวัติผูเชี่ยวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา (ContentValidity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index of objective congruence :IOC.) ปรากฏวาแบบสอบถามมีคาดัชนีความสอดคลองเทากับ ๐.๙๘ และนําไปปรับแกตามคําแนะนาํ ของผเู ช่ยี วชาญ ๕.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลโดยจัดทําแบบสอบถามออนไลน (Google Form) ใหกับครูและพี่เล้ียงเด็กพิการตอบแบบสอบถามทางออนไลน จํานวนท้ังส้ิน ๑๙ คน ไดรับการตอบกลับจํานวน ๑๙ คน คิดเปน รอ ยละ ๑๐๐

๔๐ ๕.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติท่ีใช ดําเนินการนําแบบสอบถามมาตรวจใหคะแนนแตล ะขอ ดงั น้ี ๕ หมายถึง มีคณุ ภาพและประโยชนมากทีส่ ุด ๔ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนมาก ๓ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนปานกลาง ๒ หมายถงึ มีคณุ ภาพและประโยชนนอย ๑ หมายถงึ มีคณุ ภาพและประโยชนนอยท่ีสดุ ๕.๕ นําแบบสอบถามไปบันทึกลงในตารางบันทึกขอมูลเพ่ือคาํ นวณหาคาทางสถิติดวยโปรแกรมคอมพวิ เตอร ๕.๖ นําคาคะแนนเฉล่ียความคิดเห็นของครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการตอการประเมินคุณภาพและประโยชนของแบบประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง มาแปลผลตามเกณฑ ดังนี้ (บุญชม ศรสี ะอาด. ๒๕๕๓)คาเฉลี่ย ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถึง แบบประเมินมคี ณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับมากท่สี ดุคาเฉลย่ี ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถึง แบบประเมนิ มีคณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับมากคาเฉลี่ย ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถงึ แบบประเมนิ มคี ณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับปานกลางคาเฉล่ีย ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถงึ แบบประเมินมีคุณภาพและประโยชนอ ยูในระดับนอยคาเฉล่ยี ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถึง แบบประเมนิ มคี ณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับนอยทส่ี ุด ๕.๗ วเิ คราะหข อคดิ เห็นอื่น ๆ โดยการวิเคราะหขอความ ๕.๘ สถิติท่ีใชวิเคราะหขอมูลดวยคอมพิวเตอร โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป คือ สถิติพนื้ ฐาน ไดแ ก คา เฉลี่ย และคาเบ่ียงเบนมาตรฐาน ๖. การตรวจสอบ คูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพ้ืนฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ไดดําเนินการประเมินคุณภาพและประโยชน มีรายละเอียดของเครื่องมอื ในการประเมิน ดังนี้ ๖.๑ ลักษณะเคร่ืองมือ จัดทําเปนแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา ๕ ระดับ ซึ่งปรับปรุงจากสมพร หวานเสร็จ (มปป.) แบงเปน ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ สอบถามคุณภาพของคูมือการปฏิบัติงาน จํานวน ๑๐ ขอ ตอนท่ี ๒ สอบถามประโยชนของคูมือการปฏิบัติงาน จํานวน ๑๐ ขอและตอนที่ ๓ คาํ ถามปลายเปด สอบถามความคิดเห็น ๖.๒ การสรางและตรวจสอบเคร่ืองมือ ไดดําเนินการศึกษาวัตถุประสงคของการพัฒนา ศึกษาเอกสารที่เก่ียวของ กําหนดโครงสรางของขอคําถาม นําแบบสอบถามเสนอผูเช่ียวชาญจํานวน ๓ คน (ประวัติผูเช่ียวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index ofobjective congruence : IOC.) ปรากฏวาแบบสอบถามมีคา ดัชนคี วามสอดคลองเทา กับ ๑.๐๐

๔๑ ๖.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลโดยจัดทําแบบสอบถามออนไลน (Google form) ใหก ับครูและพี่เลี้ยงเด็กพิการตอบแบบสอบถามทางออนไลน จํานวนท้ังสิ้น ๑๙ คน ไดรับการตอบกลับจาํ นวน ๑๙ คน คดิ เปน รอยละ ๑๐๐ ๖.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติท่ีใช ดําเนินการนําแบบสอบถามมาตรวจใหคะแนนแตล ะขอ ดังนี้ ๕ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนมากทส่ี ดุ ๔ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนมาก ๓ หมายถงึ มีคณุ ภาพและประโยชนปานกลาง ๒ หมายถึง มีคุณภาพและประโยชนนอย ๑ หมายถงึ มีคณุ ภาพและประโยชนนอยท่สี ดุ ๖.๕ นําแบบสอบถามไปบันทึกลงในตารางบันทึกขอมูลเพื่อคํานวณหาคาทางสถิติดวยโปรแกรมคอมพิวเตอร ๖.๖ นําคาคะแนนเฉล่ียความคิดเห็นของครูและพ่ีเล้ียงเด็กพิการตอการประเมินคุณภาพและประโยชนของคูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) การประเมินความสามารถพื้นฐานกลุมทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ มาแปลผลตามเกณฑ ดังน้ี(บุญชม ศรีสะอาด. ๒๕๕๓)คา เฉล่ีย ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถึง คูม ือมีคุณภาพและประโยชนอยูในระดับมากทสี่ ุดคาเฉล่ีย ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถงึ คมู ือมคี ุณภาพและประโยชนอยูในระดับมากคา เฉลี่ย ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถงึ คมู อื มคี ณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับปานกลางคา เฉลี่ย ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถึง คมู อื มคี ณุ ภาพและประโยชนอยูในระดบั นอ ยคา เฉล่ยี ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถงึ คมู ือมคี ณุ ภาพและประโยชนอ ยูในระดับนอยทีส่ ดุ ๖.๗ วิเคราะหข อคิดเห็นอ่ืน ๆ โดยการวิเคราะหขอความ ๖.๘ สถิติท่ีใชวิเคราะหขอมูลดวยคอมพิวเตอร โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป คือสถติ พิ นื้ ฐาน ไดแ ก คาเฉลีย่ และคา เบี่ยงเบนมาตรฐาน ๗. แบบสอบถาม เรอ่ื ง ความพงึ พอใจของผูปกครองทม่ี ีตอการพัฒนาทักษะการดาํ รงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางมีรายละเอียดของเคร่ืองมือในการประเมิน ดงั นี้ ๗.๑ ลักษณะเครื่องมือ จัดทําเปนแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา ๕ ระดับแบงเปน ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ เปนแบบสอบถามเกีย่ วกับขอมลู ท่ัวไปของผูต อบแบบสอบถาม จํานวน๓ ขอ ตอนท่ี ๒ เปนแบบสอบถามความพึงพอใจของผูปกครองท่ีมีตอการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ ของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปางท้ังหมด ๔ ดาน จํานวน ๕๐ ขอ และตอนที่ ๓ คําถามปลายเปด สอบถามความคิดเห็น

๔๒ ๗.๒ การสรางและตรวจสอบเครือ่ งมือ ไดดําเนินการศกึ ษาวัตถุประสงคข องการพัฒนาศึกษาเอกสารทเี่ กยี่ วขอ ง กาํ หนดโครงสรา งของขอ คําถาม นาํ แบบสอบถามเสนอผูเชี่ยวชาญจาํ นวน ๓คน (ประวัติผูเช่ียวชาญไดแสดงไวในภาคผนวก ก) ตรวจพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหา (ContentValidity) โดยใชแบบประเมินคาดัชนีความสอดคลอง (Index of objective congruence :IOC.) ปรากฏวา แบบสอบถามมีคาดัชนีความสอดคลองเทากับ ๑.๐๐ ๗.๓ การเก็บรวบรวมขอมูลโดยมอบแบบสอบถามใหกับครูและพี่เล้ียงเด็กพิการเพ่ือนําไปแจกผูปกครองของผูเรียนในหอง จํานวนท้ังส้ิน ๕๐ คน ไดรับการตอบกลับ จํานวน ๔๙ฉบบั คิดเปน รอ ยละ ๙๘ ๗.๔ การวิเคราะหขอมูลและสถิติท่ีใช ดําเนินการนําแบบสอบถามมาตรวจใหคะแนนแตละขอ ดงั นี้ ๕ หมายถึง พึงพอใจมากทสี่ ุด ๔ หมายถึง พงึ พอใจมาก ๓ หมายถึง พงึ พอใจปานกลาง ๒ หมายถึง พึงพอใจนอ ย ๑ หมายถึง พงึ พอใจนอ ยทสี่ ุด ๗.๕ นําแบบสอบถามไปบันทึกลงในตารางบันทึกขอมูลเพ่ือคาํ นวณหาคาทางสถิติดวยโปรแกรมคอมพวิ เตอร ๗.๖ นําคาคะแนนเฉล่ียความพึงพอใจของผูปกครองท่ีมีตอการพัฒนาทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษของศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง มาแปลผลตามเกณฑ ดังน้ี (บุญชม ศรีสะอาด. ๒๕๕๓)คา เฉลี่ย ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถึง ความพึงพอใจอยูในระดบั มากทีส่ ดุคา เฉล่ยี ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถงึ ความพงึ พอใจอยูในระดบั มากคา เฉลย่ี ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถงึ ความพึงพอใจอยูในระดบั ปานกลางคาเฉลี่ย ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถึง ความพึงพอใจอยูในระดับนอยคา เฉลี่ย ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถึง ความพงึ พอใจอยูในระดบั นอยทสี่ ดุ ๗.๗ วิเคราะหข อคิดเห็นอนื่ ๆ โดยการวิเคราะหข อความ ๗.๘ สถิติที่ใชวิเคราะหขอมูลดวยคอมพิวเตอร โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป คือ สถิติพืน้ ฐาน ไดแก คาเฉล่ยี และคา เบีย่ งเบนมาตรฐาน ๔. การปรับปรงุ แกไ ข (Action) จากการตรวจสอบและประเมินเครื่องมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับเด็กที่มีความตองการจําเปนพิเศษ เพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษประจําจงั หวดั ลําปาง พบวามกี ารปรบั ปรุงแกไขหลายคร้ัง ดังน้ี

๔๓ตารางที่ ๔.๒ แสดงขอมูลการปรับปรุงแกไขเคร่ืองมือประเมินทักษะการดํารงชีวิตประจําวันสําหรับ เด็กท่ีมีความตองการจําเปนพิเศษ เพื่อการนิเทศการเรียนการสอนในศูนยการศึกษาพิเศษ ประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง เคร่ืองมอื รายการปรบั ปรงุ แกไข๑. แบบประเมนิ ความสามารถพ้ืนฐาน ปรับปรงุ ครง้ั ที่ ๑ วันที่ ๑๔ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ กลมุ ทกั ษะการดํารงชีวติ ประจาํ วัน ปรับปรุงรปู แบบของแบบประเมิน และ ปรับเกณฑก ารประเมินจาก การประเมิน ๕ ระดบั ไดแก ทาํ ไดอ ยางสมบรู ณแบบ ทําไดเ องแตไ ม สมบูรณแบบ มผี ชู ว ยบางข้ันตอน มีผูชว ยหลาย ขั้นตอน มีผูช ว ยทุกข้นั ตอน เปลยี่ นเปน “ระดบั ความสามารถกอนการพัฒนา” และเพิ่มชอง สําหรับเขยี นขอ สังเกต ปรับปรุงคร้งั ที่ ๒ วันที่ ๑๖ มถิ ุนายน ๒๕๖๐ เปลย่ี นชื่อจาก “แบบประเมนิ กอนการพฒั นา...” เปน “เครือ่ งมือการประเมนิ กอนการพฒั นา...” ยังคง รูปแบบเปนแนวตั้ง เกณฑการประเมินแบง ออกเปน ๕ ระดบั เชน เดมิ ไดแก ทําไดอยางสมบูรณแบบ ทําไดเ อง แตไ มส มบรู ณแ บบ มผี ูชวยบางขน้ั ตอน มผี ชู วยหลาย ขนั้ ตอน มีผูช วยทกุ ขั้นตอน และเปลีย่ นชอ งบนั ทึก เกณฑการประเมนิ จาก “ระดับความสามารถกอ นการ พัฒนา” เปลย่ี นเปน “ผล” ปรับปรุงครัง้ ท่ี ๓ วันท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ เปลยี่ นชื่อจาก “แบบประเมนิ กอ นการพฒั นา ...” เปน “เคร่อื งมือการประเมนิ กอนการพัฒนา ...” ปรบั ปรงุ รูปแบบของแบบประเมิน จาก แนวตั้งเปน แนวนอน ชอ งในการระบุเกณฑการ ประเมินยังคงใชค ําเชนเดิม คือ “ผล” และมี ชอ งสําหรับเขยี นขอสังเกต สวนของเกณฑการ ประเมินกอนการพฒั นา เปลี่ยนจากเกณฑ ๕ ระดับ เปน ทาํ ได หมายถึง ทาํ ไดด วยตนเอง หรอื ทําไดบางขน้ั ตอน ทําไมได หมายถงึ ตอบสนองแตทํา ไมไ ด ไมม ีโอกาสทํา หมายถึง ไมเคยไดทํา ไมเคย ถูกพาทําโดยมีขอควรพิจารณาดงั นี้ (๑) หากประเมินแลวพบวาทักษะยอยใดมี ความจําเปนตอการดาํ รงชีวิตของเด็กให พิจารณานาํ มาจัดกิจกรรมพัฒนาเด็ก