Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เผป็นยาอย่างชาญฉลาด ม.ปลาย

วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เผป็นยาอย่างชาญฉลาด ม.ปลาย

Published by fonnuanlaong29, 2021-05-19 01:47:23

Description: วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Search

Read the Text Version

90 รูปแบบที่ 4 เชทเทอร์ (shatter) ลักษณะแข็งเป็นแผ่นสเี หลืองน้าตาล กรอบ แตกหักได้ ภาพที่ 29 Shatter รูปแบบท่ี 5 บัดเดอร์ (budder) จะมลี ักษณะเปน็ ก้อนสเี หลอื งคลา้ ยเนย ภาพท่ี 30 Budder รูปแบบท่ี 6 สเน็ป (snap) เปน็ สารสกัดเข้มขน้ ทม่ี คี วามเหนยี วยดื แต่ไม่กรอบ แตกได้ ภาพท่ี 31 Snap

91 รปู แบบท่ี 7 ฮันน่ีโคม (Honey comb) สารสกดั ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยกับรวงผึ้ง มีรูพรุน ดา้ นในเปน็ ก้อนแข็ง ภาพที่ 32 Honeycomb รูปแบบที่ 8 ครมั เบลิ (crumble) ลักษณะเปน็ ช้ินเล็ก ๆ ปน่ ๆ คลา้ ยกับขนม ภาพที่ 33 Crumble รูปแบบท่ี 9 เซ็ฟ (Sap) มลี ักษณะค่อยข้างเหลว สเี หลือง หรือสีน้าตาล ภาพที่ 34 Sap

92 รปู แบบที่ 10 โพเพน เอ็กซ์แทร็ก (propane extract, PHO) จะมีลักษณะคล้ายก้อนแว็กซ์แข็ง สีเหลือง ภาพท่ี 35 PHO รปู แบบที่ 11 แฮช ออยล์ (Hash oil) เปน็ การสกดั เขม้ ข้นของกัญชา ทร่ี ะเหยตัวทาละลายออกแล้วจะไดส้ ารแคน นาบินอยด์เข้มข้น ลักษณะเปน็ ยาง เหนยี วๆ สี ภาพท่ี 36 Hash oil รูปแบบท่ี 12 เซเรซ (Charas) มกั ใช้วธิ กี ารราดดว้ ยน้าแข็งแห้ง หรอื ไนโตรเจนเหลว แลว้ เคาะไทรโครม ออกมาจากดอกเพศเมีย ซ่งึ มแี คนนาบินอยด์เรซิ่นอยมู่ าก ภาพที่ 37 Charas

93 กล่าวโดยสรุป ผลิตภัณฑ์พืชกัญชาและกัญชงแปรรูป คือ ผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชา และกัญชงท่ี แปรรูปเป็นสารสกัดเข้มข้น (Concentrates) ซึ่งมีหลายรูปแบบ และมีช่ือเรียกแตกต่าง กันไป ผลิตภัณฑ์สารสกดั กัญชาจะใหส้ ารแคนนาบินอยด์ที่เข้มข้นกวา่ ในรปู พชื แห้ง แตท่ ง้ั สองรูปแบบ สามารถนาไปใช้ประโยชน์ทั้งทางการแพทย์ และเพื่อการนันทนาการได้ตามกฎหมายของแต่ละ ประเทศที่มกี ารอนญุ าตใหใ้ ช้ 3. การบรโิ ภคและอปุ โภค กัญชาในอาหาร มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า ครั้งหน่ึง มีการใช้กัญชาเป็นสมุนไพร คู่ครัวไทย เพ่ือปรุงรสอาหาร และนิยมใช้เพ่ือการเข้ายาตามตารบั ยาไทยโบราณ ในปัจจุบันประเทศที่อนุญาตให้ ใชก้ ัญชาและกัญชงในอาหารมีการนามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑเ์ พื่อการบริโภคและอุปโภคมากมาย เชน่ 3.1 ผลติ ภัณฑเ์ พือ่ การบริโภค ในประเทศท่ีมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ มีการใช้กัญชาหรือกันชงเป็น ส่วนประกอบในอุตสาหกรรมอาหารมากมาย เช่น เครื่องดื่มชูกาลังหรือเครื่องด่ืมไร้แอลกอฮอล์ เพื่อ ด่ืมแทนเบียร์ ในอาหารหรือขนมคุกกี้ ไอศกรีม เย็นลี่ หมากฝรั่ง ลูกอม เป็นต้น โดยจะมีการระบุ ปริมาณสาร THC และCBD ไวอ้ ย่างชดั เจนซ่ึงปกตจิ ะไม่เกิน 10 บริกรรมตอ่ 1 หน่วยบรโิ ภคและมีการ กาหนดอายุของผ้ซู ้อื เพอ่ื จากัดการเข้าถึงของผ้บู รโิ ภคทสี่ มุ่ เสย่ี งให้ไมป่ ลอดภยั ได้ ภาพที่ 38 อาหารทีม่ ีส่วนผสมของกัญชา

94 มีการใช้น้ามันจากเมล็ดกันชง (Hemp seed oil) ในการประกอบอาหารโดยไม่ ผ่านความร้อน เช่น ในการใช้ในการปรุงน้าสลัด เพ่ือได้รับคุณค่าทางด้านโภชนาการ เนื่องจากน้ามัน เมล็ดกนั ชงอุดมไปดว้ ย โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และ Gamma Linolenic Acid (GLA) ซ่งึ เป็นกรดไขมัน ท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีผลิตภัณฑ์ประเภทชงด่ืมท่ีผลิตจากเส้นใยกันชง (Hemp fiber) ใช้ในการ บรโิ ภคเพอ่ื ชว่ ยเพ่มิ เสน้ ใยชว่ ยใหร้ ะบบลาไส้และการขบั ถา่ ยดีข้ึน ภาพที่ 39 Hemp seed oil นอกจากน้ี การใช้กญั ชาในการบรโิ ภคในประเทศไทย ก็มีใหเ้ ห็นมาอย่างช้านาน ภญ. ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โพสต์ข้อความ ผ่าน โซเซยี ลเฟสบ๊กุ ส์ในหวั ข้อเรื่อง “กญั ชากอ่ นภมู ปิ ัญญาจะหายไป” โดยมเี นือ้ หาดงั นี้ “จากการ ลงพื้นท่ี สารวจความรู้ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพ้ืนท่ีภาคใต้พบว่า ชาวบ้าน มีการใช้ กัญชาปรุงอาหาร นาใบอ่อนมาใช้เป็นอาหาร ใส่แกงส้ม แกงกะทิ แกงมัสมั่น เมนูผัดหรือรับประทาน สด เป็นผักจ้มิ น้าพรกิ นา้ บดู ู แต่จะใช้ปริมาณนอ้ ย 1 - 2 ใบ (ใชม้ ากจะทาใหเ้ มาได้) กญั ชาเพ่มิ รสชาติ อาหาร ทาให้กินข้าวได้มาก นอนหลับสบาย ในใบกัญชามีสารเมาน้อย และละลายน้าได้น้อย การ นามาใส่แกง ในปริมาณจากัด เช่น 1 - 2 ใบ จึงไม่ทาให้เมา สารเมาในกัญชา ละลายในน้ามันได้ดี นาไปชุบแปง้ ทอด สารเมาจะถูกสกดั ให้ออกไปกับนา้ มันทใี่ ช้ทอด” 3.2 ผลิตภณั ฑเ์ พอื่ ความงาม และสขุ ภาพ กัญชงนิยมนามาใช้ทาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพ มักใช้ ส่วนของน้ามันที่ได้จากเมล็ด (seed oil) และ น้ามัน CBD (CBD oil) จากช่อดอกตัวเมียของกัญชง นา้ มนั เมลด็ กัญชงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อผิวและเส้นผม มกี ารนามาใช้ทั้งในผลิตภัณฑ์สาหรับ ผิวกาย เพื่อช่วยเพ่ิมความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้ทาเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบารุงผิวหน้าและกาย สบู่ และ ผลิตภัณฑ์เครื่องสาอางอีกหลากหลายชนิด ส่วนน้ามัน CBD มีการนามาใช้ในการเป็นสารสาคัญที่ช่วย

95 ในเร่ืองตา้ นอนมุ ลู อิสระแกผ่ วิ ผลติ ภณั ฑ์รูปแบบ เชน่ ครีมเพ่อื ใชใ้ นการบารุงผวิ หนา้ เปน็ ผลติ ภัณฑใ์ น การช่วยใหผ้ ่อนคลาย เปน็ บาล์มทาเพือ่ บรรเทาอาการเมอ่ื ยล้า เปน็ ตน้ 3.3 ผลิตภัณฑ์เพ่ือการอปุ โภค การใช้ประโยชน์จากเส้นใย ส่วนใหญ่เป็นการใช้ประโยชน์จากกัญชงชนิดที่ให้ เส้นใยสูง (hemp fiber type) ซึ่งจะมีลักษณะเส้นใยที่เหนียว ทน ขาดยาก มีอายุการใช้งานนาน นอกจากการนามาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอเคร่ืองน่งุ ห่ม หรือใช้ทาเชอื กท่ีเรารู้จักกันดีแล้วนั้น เสน้ ใยกัญชง ยังสามารถนาไปใช้ในอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ ได้อีกด้วย เช่น ทาเสื้อเกราะกันกระสุนช้ันดีที่มีน้าหนักเบา ทาเย่ือกระดาษ (โดยเฉพาะกระดาษพิมพ์ธนบัตร) วัสดุหีบห่อ ฉนวนกันความร้อน ไบโอพลาสติก มีการ นามาข้ึนรูปใช้เป็นจานอาหารแทนการใช้โฟมและพลาสติก ทาอิฐ (Hemp crete) หรือคอนกรีต สาหรบั งานก่อสร้าง ทาสว่ นประกอบรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เชน่ พรม เกา้ อี้ เปน็ ตน้ กล่าวโดยสรุป มีการใช้พืชกัญชาหรือกัญชงเป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรม อาหาร บางประเทศมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาในอาหารซึ่งจะต้องระบุปริมาณสาร THC และ CBD ให้ ชัดเจน โดยปกติต้องไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่อหน่วยบริโภค แต่ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรม ความงามและสุขภาพ รวมไปถึงอุตสาหกรรมส่ิงทอ มีการใช้ประโยชน์อย่างมากมายของกัญชง เช่น การผลิตเคร่ืองสาอาง น้ามันจากเมล็ด ซ่ึงมีคุณค่าทางโภชนาการสูง การทาเคร่ืองแต่งกาย เส้ือกัน กระสนุ เป็นต้น 4. การนนั ทนาการ นันทนาการ คอื กจิ กรรมท่ีทาในยามว่าง เพือ่ ให้เกิดความเพลดิ เพลนิ ผอ่ นคลายความ ตึงเครียดท้ังร่างกายและจิตใจ กิจกรรมนันทนาการ มักเกิดข้ึนในช่วงสุดสัปดาห์ และวันหยุด ประกอบด้วย ดนตรี การเต้นรา กีฬา งานอดิเรก เกม และการท่องเท่ียว การดูโทรทัศน์ และฟังเพลง เป็นรปู แบบสามญั ของนันทนาการ แต่ในบุคคลบางกลุ่มมีการใชก้ ญั ชาเพอื่ นันทนาการ กญั ชาเป็นพชื ทมี่ ีสาร THC ซึ่งมฤี ทธติ์ ่อจิตประสาท การใช้กญั ชาในปริมาณน้อย ๆ จะ ทาให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและเป็นสุข อาจจะทาให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม อารมณ์ดี หัวเราะง่ายขึ้น แต่หากใช้ในปริมาณที่มากจะก่อให้เกิดอาการเมา เกิดความเปลี่ยนแปลงสติสัมปชัญญะ มีความ ผิดเพี้ยนในการรับรู้เรื่องเวลา และสถานที่ อาจทาให้เกิดภาพลวงตา หูแว่ว อาการประสาทหลอนเทียม (pseudo hallucination) และการสญู เสียสมรรถนะในการควบคมุ การเคลื่อนไหว เนอ่ื งจากเสยี ปฏกิ ิริยา สะท้อนทางระบบประสาท (impairment of polysynaptic reflexes) ในบางรายอาจทาให้เกิดภาวะ แยกตัว (dissociative states) เช่น การลืมตัว (depersonalization) และการสูญเสียการตระหนักรู้ (derealization) และกอ่ ใหเ้ กิดการเสพติดได้ ในบางประเทศอนุญาตให้ใช้พืชกัญชาเพ่ือการผ่อนคลาย เช่น ประเทศอุรุกวัย เป็น ประเทศแรกของโลกที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ แต่ทั้งนี้ อุรุกวัยมีระบบควบคุมการ

96 ซื้อขายกัญชาอย่างเข้มงวด ผู้เสพจะต้องลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ โดยมีข้อแม้ว่าสามารถซ้ือได้ 10 กรัม ต่อสัปดาหเ์ ท่านัน้ นอกจากนี้ ยงั จากัดในเร่ืองระดับความแรงของกญั ชาด้วยเชน่ กนั โดยปรมิ าณสาร THC ซึ่งมีผลในทางประสาท ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้มน้ันจะต้องสมดุลกับปริมาณสาร CBD ที่มี ฤทธิ์ทาใหผ้ ใู้ ช้อยใู่ นอาการสงบ ในประเทศแคนาดา เปิดให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ โดยอนุญาตให้ผู้ท่ีบรรลุนิติภาวะ แล้วสามารถซื้อนา้ มันกญั ชา เมลด็ ตน้ กัญชา และกญั ชาตากแห้งจากร้านค้าและผูผ้ ลติ ท่ีไดร้ ับอนุญาต เท่าน้ัน สาหรับการซื้อกัญชาจากร้านค้าท่ีไม่ได้รับอนุญาตน้ันถือเป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย และ หากร้านคา้ ขายกญั ชาให้เยาวชนอายตุ ่ากว่า 18 ปี (ในบางรัฐกาหนดที่ 19 ป)ี จะมโี ทษจาคุกถึง 14 ปี หลายรัฐในสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการได้ แต่ก็มี ข้อกาหนดที่คล้ายคลึงกับทางแคนาดา คือ ระบุอายุและกาหนดปริมาณการครอบครองกัญชา และ ตอ้ งซ้ือขายในรา้ นที่ได้รับอนญุ าตจากทางรัฐบาลแลว้ เท่าน้ัน ในสหรฐั อเมริกาน้ัน เนื่องจากข้อกาหนด ทางกฎหมายของกัญชาในแต่ละรัฐท่ีแตกต่างกัน ข้อควรระวังของการพกพากัญชาที่ซ้ืออย่างถูก กฎหมายข้ามผ่านไปยังรฐั ที่ไมอ่ นญุ าตใหใ้ ชก้ ญั ชาถือว่าเปน็ ความผดิ กล่าวโดยสรุป กัญชาเป็นพืชท่ีมีสารออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท ทาให้เกิดความผ่อน คลาย และความรู้สึกเป็นสุข ในบางประเทศอนุญาตให้ใช้พืชกัญชาเพื่อการนันทนาการได้ เช่น ประเทศอุรุกวัย ประเทศแคนาดา และในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เน่ืองจากผู้ใช้กัญชารู้สึกเกิดการผ่อน คลาย และเป็นสุขขณะท่ีใช้ แต่เนอ่ื งจากกัญชายังมีสารทที่ าให้ติดได้ จงึ ไม่ควรใช้กัญชาต่อเน่ืองและใช้ ในปรมิ าณสงู กิจกรรมทา้ ยบท กกกกกกก1. กจิ กรรมที่ 1 กกกกกกก คาช้ีแจง : โปรดเลือกตวั อักษรหนา้ ขอ้ ท่ีผู้เรยี นคดิ ว่าข้อนนั้ เป็นคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด เพียงข้อเดียว แลว้ เขยี นคาตอบลงในกระดาษคาตอบของผเู้ รียน กกกกกกก ขอ้ 1. ขอ้ ใดคือลักษณะของ กญั ชาต้นตวั เมีย ก. มีดอกตวั เมียและตัวผอู้ ยใู่ นตน้ เดียวกนั ข. มดี อกเปน็ ชอ่ ดอกเลก็ ๆ สีขาวตรงซอกใบ ค. มีดอกหนาแนน่ นา้ หนักมากตดิ กันเปน็ ช่อ ๆ ง. มดี อกออกเปน็ กระจุกแน่นเป็นช้นั ๆ มขี นสขี าว ๆ กกกกกกก ขอ้ 2. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง เกี่ยวกบั ประโยชน์ของพชื กญั ชาและกัญชง ก. การใช้ประโยชน์จากเส้นใย ส่วนใหญ่เปน็ การใชป้ ระโยชนจ์ ากกญั ชาชนิดท่ี ใหเ้ ส้นใยสูง (hemp fiber type) เหนียว ทน ขาดยาก

97 กกกกกกก ข. น้ามนั เมล็ดกัญชงอุดมไปด้วย โอเมกา้ 3 โอเมก้า 6 และ Gamma Linolenic Acid (GLA) ซ่งึ เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กกกกก ค. น้ามันเมลด็ กญั ชงอุดมไปดว้ ยสารอาหารท่มี ีคุณค่าตอ่ ผวิ และเสน้ ผม มกี าร นามาใช้ท้งั ในผลติ ภัณฑส์ าหรบั ผวิ กาย เพื่อชว่ ยในการเพม่ิ ความชมุ่ ชืน้ แกผ่ ิว ง. ภาคใตพ้ บวา่ ชาวบา้ นมีการใชก้ ัญชาปรุงอาหาร นาใบออ่ นมาใช้เป็นอาหาร ใสแ่ กงส้ม แกงกะทิ แกงมัสมั่น เมนผู ดั หรอื รบั ประทานสด เปน็ ผกั จม้ิ น้าพริก นา้ บูดู กกกกกกก ข้อ 3. สาร CBD และ THC ทนี่ ามาใชท้ างการแพทย์มฤี ทธิ์ต่างกนั อยา่ งไร ก. THC เปน็ สารท่มี ปี ระโยชน์ CBD เปน็ สารทีม่ ีโทษ ข. CBD มีผลต่อระบบประสาท THC ไม่มีผลต่อระบบประสาท ค. CBD ไมม่ ีผลต่อระบบประสาท THC มผี ลตอ่ ระบบประสาท ง. THC เปน็ สารท่ีใช้ในการรกั ษาโรคลมชักในเด็กมากกว่า CBD กกกกกกก ขอ้ 4. สารเทอรป์ นี และสารฟลาโวนอยด์ มีความสัมพนั ธ์อย่างไรกบั สาร THC และ สาร CBD ก. เปน็ สารทล่ี ดการออกฤทธิท์ างยาของสาร THC และ สาร CBD ข. เปน็ สารทชี่ ่วยเสริมการออกฤทธิท์ างยาของสาร THC และ สาร CBD ค. สารฟลาโวนอยด์เสริมการออกฤทธิ์ทางยา แต่สารเทอรป์ ีนลดการฤทธิ์ทางยา ง. สารเทอร์ปนี เสรมิ การออกฤทธทิ์ างยา แต่สารฟลาโวนอยดล์ ดการออกฤทธ์ิทางยา กกกกกกก ขอ้ 5. เพราะเหตุใด ทางการแพทย์ จงึ ไม่ใช้สาร CBD ผ่านทางชอ่ งปากโดยตรง ก. มรี สชาตขิ มเกนิ ไป และไมเ่ หมาะทจ่ี ะผา่ นชอ่ งปาก ข. การซมึ เขา้ กระแสเลือดชา้ กลายสภาพเป็น THC ได้ ค. การละลายทาปฏกิ ริ ยิ ากบั น้าลาย กลายสภาพเปน็ THC ได้ ง. การทาปฏกิ ิริยากับกรดในกระเพาะกลายสภาพเป็น THC ได้ กกกกกกก2. กิจกรรมท่ี 2 กกกกกกก คาชี้แจง : โปรดจบั คู่ข้อมูลที่อยหู่ ลงั ตัวอักษรที่ตรงกับตวั เลขของข้อน้ัน ๆ หรือมีความสัมพันธ์ ตรงกบั หัวเรื่องนนั้ ๆ ให้ถูกต้อง แลว้ นาตวั อกั ษรของหนา้ ขอ้ มูลมาใส่หน้าตวั เลขตรงกับข้อน้นั ๆ ........... 1. กัญชา 2,000 ปี ก่อนครสิ ตกาล ก. สาร CBGA เป็นสารตน้ กาเนิด ของสาร ........... 2. ซับสปชี ีส์ (subspecies) ทัง้ หมดท่ีมใี นต้นพืชกญั ชงและพชื กัญชา กญั ชาและกญั ชงของ WHO เมือ่ ตน้ พชื กัญชงและพชื กัญชาโตขึ้น ........... 3. สารสาคัญท่พี บในพชื กญั ชา ข. พบมากทีใ่ นยางไทรโครมของดอกเพศเมยี ท่ี และพืชกญั ชง ยังไมไ่ ดร้ บั การผสมพนั ธุ์

98 ........... 4. “กะหรี่กัญชา” ค. เปน็ สารที่มฤี ทธิท์ าให้มึนเมา นอนหลบั ........... 5. สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ ผอ่ นคลายหรือสนุกสนานได้ (cannabinoids) ง. ชอ่ ดอกเพศเมยี มีผลแบบผลแหง้ จ. พชื กญั ชาจะเกย่ี วข้องกับศาสนา เปน็ สงิ่ ชาระลา้ งจิตใจ สือ่ กลางในการเขา้ ถึงพระเจา้ ฉ. พืชกญั ชงสายพนั ธท์ุ ี่เนน้ การใช้ประโยชน์จาก เสน้ ใย (Hemp fiber) ช. เชื่อว่ากญั ชาเปน็ พชื ให้โทษมากกวา่ คณุ ซ. แบ่งย่อยเปน็ Cannabis sativa L. subsp. sativa กญั ชง และ Cannabis sativa L. subsp. indica กญั ชา กกกกกกก3. กิจกรรมที่ 3 กกกกกกก คาชี้แจง : โปรดทาเคร่ืองหมายถกู () หรือทาเคร่ืองหมายผิด () ลงหนา้ ข้อตวั เลขทผี่ ู้เรียนอ่านข้อมูลแล้วคิดว่าคาตอบน้ีถกู ใหท้ าเครื่องหมายถกู () ถา้ คดิ ว่าข้อมูลท่ีอ่านเปน็ คาตอบท่ีผดิ ใหท้ าเครื่องหมายผดิ () ........... 1. กญั ชาและกัญชงเปน็ พชื ล้มลุกตระกูลเดียวกนั ต่างกันท่พี ชื กัญชงมปี รมิ าณของสารเตตรา ไฮโดรแคนนาบนิ อล (tetrahydrocannabinol, THC) นอ้ ยกวา่ พชื กญั ชา ........... 2. กญั ชง (hemp) มีชอ่ื ทางวิทยาศาสตรว์ ่า Cannabis sativa L. subsp. sativa ........... 3. กัญชามลี ักษณะใบลีบเล็กเรยี วมจี านวนแฉกมากกัญชง และลาต้นเปน็ พ่มุ ลาต้นปอ้ มเตยี้ ........... 4. การใช้กัญชาหรอื กัญชงเปน็ สว่ นประกอบในอตุ สาหกรรมอาหาร จะไมร่ ะบปุ ริมาณ ..…………… สาร THC และสาร CBD ไว้ .......... 5. ประเทศอุรุกวัย เป็นประเทศแรกของโลกที่อนุญาตให้การใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ ซ่งึ บังคับใชเ้ มื่อ ปี ค.ศ. 2013

99 บทท่ี 3 รู้จักโทษและประโยชนข์ องกญั ชาและกญั ชง สาระสาคัญ กกกกกกก1. โทษของกญั ชาและกัญชง 1.1 ผลกระทบต่อร่างกายและผลข้างเคียง ผู้เช่ียวชาญเกี่ยวกับสารเสพติดจากสาขาต่าง ๆ และรายงานทางวิชาการ พบว่า กัญชามีผลกระทบต่อร่างกายเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ผลต่ออาการติดยา นอกจากกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติแล้ว กัญชายังมีโทษต่อทุกส่วน ของร่างกาย ผู้เสพกัญชา ร่างกายจะเสื่อมโทรม ทาลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทาลายสมอง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด ทาร้ายทารกในครรภ์ มีผลกระทบต่อทางเดินหายใจ หัวใจ และหลอดเลือด กญั ชาจะเพ่ิมอตั ราการเต้นของหวั ใจเรว็ เมื่อใช้กัญชาในปริมาณมาก และยาวนานต่อเนื่อง ไมส่ ามารถควบคุมอาการติดยาได้ 1.2 ผลกระทบต่อจติ ใจ ฤทธข์ิ องกัญชาและกัญชงทาให้ผู้เสพมีความผิดปกติทางความรู้สึก ความคิด อาการ หรือพฤติกรรมต่าง ๆ จิตฟั่นเฟือน มีอาการประสาทหลอน ความคิดสับสนนาไปสู่ โรคจติ เวช หรือภาวะซึมเศรา้ ได้ 1.3 ผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม การเสพกัญชาและกัญชงทาให้มี ผลกระทบต่อครอบครัวทาลายความสุขในบ้าน เป็นที่รังเกียจของชุมชน ทาลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล อาจเพ่ิมความรนุ แรงถึงขัน้ เกิดปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ในชุมชน และสงั คมตามมาได้ 1.4 ผลกระทบต่อประเทศชาติ เมื่อประชากรเสพติดกัญชามาก ส่งผลให้ทาลาย เศรษฐกิจ สูญเสียงบประมาณในการดูแลรักษาผู้ท่ีเสพติดกัญชา ทาลายความม่ันคงของประเทศ ต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก็จะ เป็นไปอย่างเชื่องช้า เกิดข้อขัดแย้งทางการเมือง หรือความไม่สงบระหว่างประเทศ ทาให้เสื่อมเสีย ชอื่ เสยี ง และเกียรตภิ มู ิในสายตาของชาวตา่ งชาติได้ กกกกกกก2. ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทางการแพทย์ สารสกัดจากกัญชาที่นามาใช้ประโยชน์ ทางการแพทย์ มีสารกลุ่ม แคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ท่ีมีสารออกฤทธิ์สาคัญ 2 ชนิด คือ แคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) มีคุณสมบัติลดอาการเจ็บปวด อักเสบ ชักเกร็ง คล่ืนไส้ และสาร เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) มีคุณสมบัติต่อจิตประสาททาให้ ผ่อนคลาย ลดอาการตึงเครียด สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม (1) สารสกัด กัญชาท่ีมีข้อมูลทางวิชาการท่ีสนับสนุนชัดเจน (2) สารสกัดกัญชาช่วยในการควบคุมอาการ ควรมีข้อมูล

100 ทางวชิ าการท่ีสนบั สนุนเพิ่มเติม และ (3) สารสกัดกัญชาทีย่ ังขาดขอ้ มูลจากการวิจัยสนับสนุนท่ีชัดเจน เพียงพอ ดังน้ัน การนาสารสกัดกัญชามาใช้ในทางการแพทย์จาเป็นต้องคานึงถึงประสิทธิผล ความปลอดภัยเป็นสาคัญ และในทางการแพทย์แผนไทย มีการอนุญาตให้ใช้ตารับยาท่ีมีกัญชา เป็นส่วนประกอบ ท่ีได้มีการคัดเลือก และรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข 16 ตารับ การใช้ยาจาก กัญชาต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลของแพทย์ และแพทย์แผนไทย เพ่ือให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์ สงู สดุ ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง กกกกกกก1. เพอื่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกบั โทษของกัญชาและกัญชง และประโยชน์ของกัญชา และกัญชงทางการแพทย์ กกกกกกก2. เพ่ือใหม้ ีทักษะการแสวงหาความรู้ และทกั ษะการคิดวิเคราะห์เกีย่ วกับโทษและประโยชน์ ของกัญชาและกญั ชง กกกกกกก3. เพ่อื ให้ตระหนกั ถงึ โทษและประโยชนข์ องกญั ชาและกัญชง ขอบขา่ ยเนอื้ หา กกกกกกกบทที่ 3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกญั ชาและกญั ชง มขี อบข่ายเน้อื หา ดังนี้ เรอื่ งที่ 1 โทษของกญั ชาและกัญชง เรื่องที่ 2 ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทางการแพทย์ สอ่ื ประกอบการเรียน กกกกกกก1. ชือ่ หนงั สือ กัญชาสุดยอดยาวเิ ศษ ศาสตรแ์ ห่งการรกั ษาโรคยุคใหม่ ไม่ระบุผ้แู ตง่ ชอ่ื โรงพิมพ์ บรษิ ัท เอกพิมพไ์ ท จากดั ไม่ระบุปีท่พี ิมพ์ กกกกกกก2. ชื่อบทความกัญชากับการรักษาโรค ชื่อผู้เขียน ดร.ภญ.ผกาทิพย์ รื่นระเริงศักดิ์ สบื ค้นจาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/453/กญั ชา กกกกกกก3. ช่ือบทความโทษของกัญชา ไม่ระบุผู้แต่ง สบื คน้ จาก https://sites.google.com/ site/thepenaltyfordrugna/thos-khxng-kay

101 เร่อื งท่ี 1 โทษของกญั ชาและกญั ชง กกกกกกกผู้เช่ียวชาญเก่ียวกับสารเสพติด จากสาขาต่าง ๆ ได้แก่ จิตเวชศาสตร์ เคมี เภสัชวิทยา นิติวิทยาศาสตร์ ระบาดวิทยา ตารวจ และนักกฎหมาย ร่วมกันวิเคราะห์ โดยการใช้เทคนิคเดลไฟล์ ในการจัดลาดับ ได้ขอ้ มูลว่า กญั ชาอยู่ในลาดับที่ 15 ใน 20 ชนิด ของสาร “โอสถลวงจิต” (Psychotropic Drugs) ทส่ี ่งผลต่อร่างกาย จิตใจ พฤติกรรม สงั คม และสมั พันธก์ บั โรคตบั ปอด หัวใจ และหลอดเลือด ไม่ควรเสพกัญชาท้ังก่อน และระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะอาจมีผลเสียต่อมารดา และทารกในครรภ์ นอกจากนี้ควันของกัญชามีสารประกอบทางเคมี ท้ังอินทรีย์และอนินทรีย์จานวนมาก น้ามันดิบ (Tar) ควันจากกญั ชา มีคณุ สมบตั ใิ กลเ้ คียงกบั ควนั บหุ ร่ี ทเี่ ปน็ สารกอ่ มะเร็ง และมีการศกึ ษาทบทวนรายงาน ทางวิชาการในปี พ.ศ. 2558 พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเสพกัญชากับการเกิดเน้ืองอกในลูกอัณฑะ ของเพศชาย โดยกัญชามผี ลกระทบตอ่ รา่ งกาย จติ ใจ สังคม และประเทศชาติ ดงั น้ี กกกกกกก1. ผลกระทบต่อรา่ งกายและผลข้างเคียง 1.1. ทาลายสมรรถภาพร่างกาย ผูเ้ สพกญั ชาในปริมาณมาก เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทาให้ ร่างกายเสื่อมโทรม จนไม่สามารถปฏิบตั ิงานใด ๆ ได้ โดยเฉพาะการทางานท่ตี ้องใช้แรง ความคดิ และ การตัดสินใจ รวมทั้งขาดแรงจูงใจ) Amotivation Syndrome) คือ การขาดแรงจูงใจของชีวิต ไม่คิด ทาอะไรอยากอยู่เฉย ๆ ไปวัน ๆ ซ่ึงมีผลกระทบต่อการดาเนินชีวิตและการทางานเป็นอย่างมาก ผลกระทบเฉียบพลัน ทาให้เกิดอาการกระวนกระวาย ต่ืนกลัว เส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเสพติด กัญชามีผลร้ายคล้ายกับการติดยาเสพติดชนิดอื่น ๆ การใช้กัญชาระยะส้ันเพิ่มความเส่ียงต่อผล ไม่พึงประสงค์ทั้งแบบไม่รุนแรงและรุนแรง (Minor And Major Adverse Effects) ผลข้างเคียง (Side Effects) ที่พบบ่อย ไดแ้ ก่ อาการมึนงง (Dizziness) เหน่อื ยล้า (Tired) เส่ยี งต่อการเสพตดิ และ อันตรายจากการบรโิ ภคเกนิ ขนาด อาจทาใหเ้ กดิ โรคจิตเภทในเยาวชน 1.2 ทาลายสมอง การเสพกัญชาแม้เพียงในระยะสั้นทาให้ผู้เสพบางราย สูญเสียสมาธิ ความทรงจา เพราะฤทธ์ิของกัญชาจะทาให้สมอง และความจาเส่ือม เกิดความสับสน วิตกกังวล หากผู้เสพเป็นผู้มีอาการของโรคจิตเภท หรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มีความเส่ียงทาให้เกิดอาการรุนแรง มากกว่าคนปกติท่ัวไป มีผลต่อระบบประสาท เลือดไปเลี้ยงสมองเพ่ิมมากข้ึน ทาให้ควบคุมการ เคลอ่ื นไหวของร่างกายลดลง เกดิ อาการตกสูง ตกต่า กะระยะผิด มอื ไมม่ ีแรง อาจทาให้ง่วงซึม ไมม่ ีสมาธิ พูดไม่ชัด การตอบสนองสิ่งต่าง ๆ ช้าลง การใช้กัญชาติดต่อกันเป็นเวลานานอาจจะส่งผลกระทบ ต่อความจาท้ังชนิดที่ผ่านมาไม่นาน (Recent Memory) และท่ีผ่านมานาน (Remote Memory) เน่ืองจากการเสพติดกัญชาจะทาให้ขนาดของสมองส่วนฮิปโปแคมคัส (Hippocampus) ลดลง และ บางครั้งพบความผิดปกติของสมองส่วนอะมิกดาลา (Amygdala) ซึ่งสมองทั้งสองส่วนนี้ทาหน้าที่ เกี่ยวกบั ความจา

102 1.3 เพิ่มความเสี่ยงทาให้เกิดมะเร็งปอด เน่ืองจากผู้เสพจะสูบควันกัญชาเข้าไปในปอด ลึกนานหลายวนิ าที การสูบบหุ ร่ีท่ีนากัญชามาทาเป็นไส้ จานวน 4 มวน จะมีผลเท่ากับสูบบุหร่ี 1 ซอง หรือ 20 มวน สามารถทาลายการทางานของระบบทางเดินหายใจ ทาให้มีความเสี่ยงต่อการเกิด โรคมะเร็งได้มากกว่าคนสบู บุหรธี่ รรมดาถึง 5 เทา่ และในกัญชายังมสี ารเคมที ่ีเป็นอันตรายสามารถเกิด โรคมะเรง็ ได้ 1.4 ทาร้ายทารกในครรภ์ ฉะนั้นหญิงท่ีเสพกัญชาในระยะต้ังครรภ์ ทารกที่คลอด มีความเสี่ยงต่อการผิดปกติทางร่างกาย และสติปัญญามากกว่าปกติ ควรหยุดเสพกัญชาท้ังก่อน และ ระหว่างต้ังครรภ์ เพราะอาจมีผลกระทบต่อมารดา และทารกในครรภ์ รวมไปถึงหญิงที่กาลังให้นมบุตร เนื่องจากมีรายงานการศึกษาพบว่า มีทารกคลอดก่อนกาหนด ทารกน้าหนักตัวน้อย และพบสาร แคนนาบนิ อยด์ (Cannabinoid) ในน้านมมารดาท่เี สพกัญชา 1.5 ผลกระทบต่อทางเดินหายใจ (Respiratory Tract System) ทาให้หลอดลมขยาย เฉียบพลัน การสูบต่อเนื่องจะเกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอเร้ือรัง เสมหะมาก และเพ่ิมความเส่ียงในการเกิดหลอดลมอักแสบ เป็นต้น การสูบกัญชาอาจมีผลทาให้เป็นมะเร็งจาก สารกอ่ มะเรง็ และการสบู บุหร่ผี สมกัญชาจะเพมิ่ ความเสยี่ งการเปน็ มะเร็งได้ 1.6 ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular System) คนท่ีไม่เคย เสพกัญชามาก่อนจะมีชีพจรเต้นเร็วมากขึ้นได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 2 - 3 ช่ัวโมงแรก นอกจากน้ี ทาให้หลอดเลือดส่วนปลายคลายตัว ความดันโลหิตต่าลงขณะเปล่ียนท่าน่ังหรือนอนมาเป็นยืนได้ (Postural Hypotension) กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวทางานมากขึ้น มีความต้องการออกซิเจนมากขึ้น แต่ร่างกายจะปรบั ตัวให้มีความทนต่อภาวะน้ี ในเวลา 2 - 3 วัน คนท่ีไม่เคยเสพบางราย หรือคนท่ีไม่มี โรคเก่ยี วกับหลอดเลือด อาจทาให้มอี าการเจ็บแนน่ หน้าอกจากกลา้ มเนอื้ หวั ใจขาดเลอื ด กญั ชาจะเพิ่ม อัตราการเต้นของหัวใจ อีกท้ังมีผลกระทบต่อโรคต่าง ๆ มีสารระคายเคืองต่อหลอดลม สารก่อมะเร็ง ทาใหไ้ อ หรอื อาจถึงขัน้ ปว่ ยเปน็ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน (Heart Attack) 1.7 ภาวะติดยา (Dependence Syndrome) การใช้กัญชาเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทาให้เกิดอาการติดยาประมาณ 1 ใน 10 ของผู้เสพกัญชา ทั้งนี้ อัตราส่วนจะเพ่ิมข้ึนเป็น 1 ใน 6 ของจานวนผู้เสพ หากเริ่มเสพตั้งแต่วัยรุ่น ซ่ึงผู้เสพกัญชาจะมีความต้องการอย่างมากที่จะเสพ ไม่สามารถท่ีจะลดการเสพได้ เกิดภาวะการหยุดยา และเกิดพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม (Withdrawal Symptoms And Behavioral Systems) มีการรายงานว่ากัญชาเป็นยาเสพติดตัวเร่ิมต้นที่นาไปสู่ การเสพยาเสพติดชนิดที่ร้ายแรงขึน้ อีกด้วย กกกกกกก นอกจากผลร้ายที่มีต่อร่างกายของผู้เสพแล้ว การขับรถขณะเมากัญชายังก่อให้เกิด อันตรายได้มาก เพราะฤทธิ์ของกัญชาจะทาให้เสียสมาธิ ทาให้การตัดสินใจผิดพลาด การตอบสนองช้าลง

103 การรับรู้ทางสายตาบิดเบือน ความสามารถในการมองเห็นสิ่งเคลื่อนที่ลดลงจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ตอ่ ผู้ขับรถยนต์ หรอื แมแ้ ต่เดนิ บนท้องถนนกต็ าม ถาม สูบกัญชาทาให้หวั ใจเต้นเร็ว จริงหรือไม่ ตอบ จรงิ เน่อื งจากสารในกัญชาทาใหห้ ลอดเลือดขยายตัว จึงทาให้หัวใจ ตอ้ งเร่งการสูบฉดี เลอื ด หวั ใจจงึ เตน้ เรว็ ข้ึน กกกกกกกนอกจากนี้ ผลข้างเคียงของการใชก้ ัญชาและกัญชง ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง ถึงระยะยาว มีดงั นี้ กกกกกกกผลข้างเคยี งระยะส้นั กกกกกกกข้อ 1 ผลขา้ งเคียงท่ีพบบอ่ ย คือ ปากแหง้ ตาแหง้ ตาแดง มนึ งง ตอบสนองต่อสิ่งรอบตวั ช้า มอี าการวิตกจรติ กกกกกกกข้อ 2 ผลขา้ งเคียงท่พี บไม่บ่อยนกั คือ ตาพรา่ มัว ปวดหวั เคลมิ้ กกกกกกกข้อ 3 ผลข้างเคียงที่พบได้ยาก ควบคุมการทรงตัวร่างกายได้ไม่ดี จานวนสเปิร์มลดลง ภาวะความดนั ต่า หวั ใจเต้นเร็ว ภาวะซมึ เศรา้ ท้องเสยี ตับอกั เสบ กัญชาอาจจะทาให้มีภาวะง่วงซึม ดังน้ัน ควรหลีกเลยี่ งการขับข่ียานพาหนะหลังจาก การใช้กัญชา กัญชาอาจจะทาให้รู้สึกคอแห้ง เน่ืองจากสารสาคัญในกัญชาจะไปปิดก้ันต่อมน้าลาย ให้ต่อมน้าลายไม่สามารถหลั่งได้ตามปกติ ผู้ใช้กัญชาอาจจะมีภาวะตาแดง หัวใจเต้นเร็ว ความดันต่า เนื่องจากสารสาคัญในกัญชามีฤทธ์ิในการขยายหลอดเลือด ผู้ป่วยท่ีมีภาวะโรคหัวใจและความดัน ควรระวังในการใชก้ ญั ชา และควรอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของแพทย์ กกกกกกกผลข้างเคยี งระยะกลางถึงระยะยาว กกกกกกกภาวะเสพติดกัญชาจะทาให้ผู้ใช้ยาเกิดการเสพติดได้ยากกว่าบุหรี่ แต่การใช้อย่างต่อเนื่อง ทุกวัน พบว่าประมาณร้อยละ 10 มีโอกาสเสพติดได้ และเม่ือหยุดใช้ยาจะมีอาการถอนยาได้ เช่น หงุดหงิดอยากกลับไปใช้ยา แต่ไมก่ ่อให้เกดิ อันตรายอน่ื ๆ ดงั นัน้ ในการใชย้ ารกั ษาโรค เพ่อื ลดการเกิด ภาวะถอนยา ควรลดขนาดยาลงอย่างช้า ๆ จะช่วยให้ลดการเกิดภาวะถอนยา และการใช้อย่าง ต่อเนื่อง มีผลต่อการทางานของสมอง หลังใช้กัญชาพบว่าผู้ป่วยอาจมีปัญหาเร่ืองความจาในระยะสัน้ เช่น หลงลืมได้ง่าย หรือมอี าการปวดศรี ษะ แต่เม่อื หยุดการใช้ประมาณ 20 วนั จะกลบั สู่ภาวะปกติ

104 กกกก การทางานของปอดและหัวใจ พบว่าไม่เพ่ิมความเสี่ยงต่อการเป็นโรคถุงลมโป่งพอง หรือ มะเร็งปอด ทั้งนี้เฉพาะในกลุ่มคนที่สูบกัญชาชนิดเดียว การสูบกัญชา และบุหรี่ร่วมกัน จะทาให้ ความเสย่ี งเพม่ิ ข้นึ ได้ กกกกกกก ในช่วง 2 เดือนแรกหลังการเริ่มใช้ยากัญชา เมื่อตรวจการทางานของตับ (ALT) จะพบการ เกิดตับอักเสบ ในกรณีหากอาการตับอักเสบไม่รุนแรง สามารถใช้ยาต่อได้ แต่ถ้ามีอาการตับอักเสบ รุนแรง แนะนาใหห้ ยดุ ยา หรอื ลดขนาดยา เพ่ือปอ้ งกันการเกิดตบั อกั เสบในระยะยาว กกกกกกกจะเห็นได้ว่า ผู้เช่ียวชาญเก่ียวกับสารเสพติดจากสาขาต่าง ๆ และรายงานทางวิชาการ พบว่า กัญชามีผลกระทบต่อร่างกายเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ผลต่ออาการติดยา นอกจาก กระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติแล้ว กัญชายังมีโทษต่อทุกส่วนของร่างกาย ผู้เสพกัญชา ร่างกาย จะเสื่อมโทรม ทาลายระบบภมู ิคุ้มกันของร่างกาย และทาลายสมอง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเรง็ ปอด ทาร้ายทารกในครรภ์ มีผลกระทบต่อทางเดินหายใจ หัวใจ และหลอดเลือด กัญชาจะเพิ่มอัตรา การเต้นของหัวใจเร็ว เม่ือใช้กัญชาในปริมาณมาก และยาวนานต่อเน่ืองไม่สามารถควบคุมอาการ ตดิ ยาได้ ถาม สูบกัญชาแลว้ ทาใหป้ ากแห้ง จริงหรอื ไม่ ตอบ จริง เนือ่ งจากสารในกัญชาสามารถไปบล็อกต่อมน้าลาย ทาใหก้ ารสรา้ งน้าลายลดลง เราจงึ รู้สึกคอแห้ง ถาม สบู กญั ชาแลว้ ทาให้ตาแดง คนสบู กัญชาจึงชอบใสแ่ วน่ ดา จรงิ หรอื ไม่ ตอบ จรงิ เนอ่ื งจากสารในกญั ชาทาให้หลอดเลือดขยายตัว เลอื ดไปเล้ียงไดม้ ากขึ้น จึงทาให้ตาแดง

105 กกกกกกก2. ผลกระทบตอ่ จติ ใจ 2.1 ผลต่อเชาว์ปัญญา ทาให้มีความบกพร่องเกี่ยวกับความทรงจา ท้ังผู้เสพระยะสั้น หรือ ระยะยาว ทาให้สติปัญญาลดลง หรือสูญเสียสมาธิ มีการเรียนรู้ท่ีลดลง ความจาช่วงสั้น หลงลืมง่าย และมีอาการปวดศีรษะ 2.2 ผลต่อความผิดปกติของจิตใจ การใช้กัญชามีความสัมพันธ์กับโรคทางจิตที่มี ความผิดปกติของความรสู้ กึ ความคิด อาการหรอื พฤติกรรมโรคทางจิต ซง่ึ อาจทาให้มีอาการมากขึน้ 2.3 ทาลายสุขภาพจิต ฤทธิ์ของกัญชาจะทาให้ผู้เสพมีอาการเลื่อนลอย ฝันเฟ่ือง ความคิดสับสน และมีอาการประสาทหลอนจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งถ้าเสพเป็นระยะเวลานานจะทาให้ มีอาการจิตเสื่อม ผลระยะสั้นของกัญชาอาจเปลี่ยนแปลงเม่ือมีการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์ร่วมด้วย เช่น เฮโรอีน หรือเฟนตานิล เปน็ ตน้ การใชย้ าอน่ื เพมิ่ เขา้ ไปเพ่ือเพิม่ ผลทางจติ ประสาท หรือ เพ่ิม ”ฤทธิล์ วงจิต“ (Psychotropic Action) ขณะเดียวกนั เพ่ิม อันตรายจากการใช้ยาเกนิ ขนาด 2.4 มีผลตอ่ ระบบจิตประสาท ถ้าได้รับกัญชาในขนาดทส่ี ูงในระยะสัน้ ๆ ทาให้มอี าการ กระวนกระวาย อาการหลอน มคี วามหลงผิด ความจาเสอ่ื ม วติ กกงั วล ในระยะยาวทาใหเ้ กดิ กลุ่มอาการ ที่เรียกว่า (Apathetic Syndrome) ประกอบด้วยอาการเฉยเมย รู้สึกไม่ประสบความสาเร็จ ท้อแท้ นาไป สู่ภาวะซึมเศรา้ เกดิ โรคจิตเวชในผูป้ ว่ ยท่เี สพกัญชาได้ จะเห็นได้ว่า ฤทธ์ิของกัญชาและกัญชงทาให้ผู้เสพมีความผิดปกติทางความรู้สึก ความคิด อาการ หรือพฤติกรรมต่าง ๆ จิตฟ่ันเฟือน มีอาการประสาทหลอน ความคิดสับสนนาไปสู่ โรคจิตเวช หรอื ภาวะซึมเศร้าได้ กกกกกกก3. ผลกระทบตอ่ ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม 3.1 ผลกระทบต่อครอบครัว 3..1.1 ทาลายความสุขภายในบ้าน ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของสมาชิก ในครอบครัว เปน็ เหตุใหเ้ กดิ ปญั หาต่าง ๆ ตามมา อาจทวคี วามรนุ แรงทาให้ครอบครัวแตกแยก 3..1.2 สูญเสียรายได้ของครอบครัว เนื่องจากมีรายจ่ายเพิ่มข้ึน จากการซ้ือยาเสพติด หรอื บาบัดรักษาผ้ทู ี่ตดิ ยาเสพติด 3..1.3 พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ขาดทพี่ งึ่ ในยามเจบ็ ปว่ ย หรือชราภาพ 3..1.4 ทาลายชอ่ื เสยี งวงศต์ ระกูล และเป็นทรี่ ังเกียจของสังคม 3..1.5 ทาให้ครอบครัวเดือดร้อน เพราะคนในครอบครัวที่มีปัญหายาเสพติด มักจะกอ่ อาชญากรรม 3..1.6 ครอบครัวที่มีผู้เสพกัญชา มักได้รับความเดือดร้อนในทุกด้าน เช่น การ ขาดความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทีน่ าไปสู่ความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท ก่อให้เกดิ ความเครยี ด และตอ้ งแก้ไข ปัญหาบ่อย ๆ

106 3..1.7 ทาให้สูญเสียสมรรถภาพการทางาน การเสพกัญชามีโอกาสถูกปลดออก จากงานมากกว่าปกติ ทาใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ ครอบครวั ทง้ั ทางเศรษฐกจิ และสงั คม เสยี ทรพั ยส์ ินรายได้ ของครอบครวั เนื่องจากต้องซอื้ กัญชามาเสพ และรกั ษาโรคที่เกิดจากกัญชา 3.2 ผลกระทบตอ่ ชมุ ชน และสงั คม 3.2.1 ก่อใหเ้ กิดปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ในชมุ ชน 3.2.2 เปน็ บอ่ เกิดใหช้ ุมชนเสอ่ื มโทรม สังคมถูกทาลาย 3.2.3 ทาลายเยาวชน อนั เป็นกาลงั สาคัญในการพัฒนาชุมชน และสังคม 3.2.4 สญู เสียรายได้ ทาให้การพฒั นาชุมชน และสังคมในด้านต่าง ๆ เปน็ ไปอย่าง เช่ืองชา้ 3.2.5 ทรัพย์สินของคนในชุมชน และสังคมเสียหาย เน่ืองจากพฤติกรรมทางจิต ประสาท 3.2.6 ก่อให้เกิดปัญหาอุบตั ิเหตุเน่ืองจากฤทธขิ์ องกัญชา 3.2.7 ปญั หาการเสพกญั ชา ก่อใหเ้ กิดความหวาดระแวงจากประชาชน และสงั คม เป็นวงกว้าง เน่ืองจากเกรงว่าบุตรหลานจะเข้าไปเก่ียวข้องกับกัญชา หรือถูกประทุษร้ายจากผู้เมากัญชา หรอื มีความผิดปกติทางจิตจากการใช้สารเสพตดิ กญั ชา กกกกกกก จะเห็นได้ว่า การเสพกัญชาและกัญชงทาให้มีผลกระทบต่อครอบครัว ทาลายความสุขในบ้าน เป็นที่รังเกียจของชุมชน ทาลายช่ือเสียงวงศ์ตระกูล อาจเพ่ิมความรุนแรงถึงขั้น เกดิ ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ในชุมชน และสังคมตามมาได้ กกกกกกก4. ผลกระทบต่อประเทศชาติ 4.1 ดา้ นเศรษฐกจิ 4.1.1 ทาลายเศรษฐกิจ และความม่นั คงของประเทศชาติ 4.1.2 เพิ่มภาระการเสียภาษีของประชาชน เพราะรัฐบาลต้องนาภาษีของ ประชาชนไปใชจ้ ่ายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด 4.1.3 การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างเช่ืองช้า ส่งผลต่อการพัฒนา ประเทศในภาพรวม 4.1.4 สญู เสียแรงงานในการปฏบิ ตั ิงานทาใหป้ ระเทศขาดรายได้ 4.2 ด้านสังคม ประเทศชาติต้องเสื่อมเสียช่ือเสียง และเกียรติภูมิในสายตาของชาว ต่างประเทศ 4.3 ด้านความมน่ั คง 4.3.1 รัฐบาลต้องสูญเสียกาลังเจ้าหน้าที่ และค่าใช้จ่ายในการป้องกันปราบปราม และรักษา ผู้ติดยาเสพตดิ จานวนมาก

107 4.3.2 สูญเสยี ทรัพยากรมนษุ ย์ทีม่ คี ณุ ภาพสาหรบั การพัฒนาประเทศ 4.3.3 ผทู้ ีไ่ มป่ ระสงคด์ อี าจใช้กัญชาและกัญชงเปน็ เครื่องมือบ่อนทาลายความมั่นคง ของประเทศชาติ 4.4 ด้านการเมือง อาจทาใหเ้ กิดข้อขัดแย้งทางการเมือง หรือความไม่สงบระหว่างประเทศ กกกกกกก จะเห็นได้ว่า เม่ือประชากรเสพติดกัญชามาก ส่งผลทาลายเศรษฐกิจ สูญเสีย งบประมาณในการดูแลรักษาผู้ที่เสพติดกัญชา ทาลายความม่ันคงของประเทศ ต้องสูญเสียทรัพยากร มนุษย์ที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก็จะเป็นไปอย่างเช่ืองช้า เกิดข้อขัดแย้งทางการเมือง หรือความไม่สงบระหว่างประเทศ ทาให้เส่ือมเสียชื่อเสียง และเกียรติภูมิ ในสายตาของชาวต่างชาติได้ กกกกกกก กล่าวสรุปโดยรวม กัญชามีโทษต่อทุกส่วนของร่างกาย ทาลายระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย และทาลายสมอง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด ทาร้ายทารกในครรภ์ มีผลกระทบ ต่อทางเดินหายใจ หัวใจ และหลอดเลือด นอกจากน้ี ผลข้างเคียงของการใช้กัญชาและกัญชง ท้ังใน ระยะสั้น ระยะกลาง ถึงระยะยาว ฤทธ์ิของกัญชาทาให้ผู้เสพมีความผิดปกติทางความรู้สึก ความคิด หรือพฤติกรรมต่าง ๆ มีอาการประสาทหลอน นาไปสู่โรคจิตเวช หรือภาวะซึมเศร้าได้ การเสพกัญชา ทาให้สูญเสียทั้งสมรรถภาพในการทางาน และรายได้ของครอบครัว ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ในชุมชน หรืออาจเพ่ิมความรุนแรงถึงขั้นให้ครอบครัวแตกแยกได้ เมื่อประชากรเสพติดกัญชามาก ส่งผลให้ ทาลายเศรษฐกิจ สูญเสียงบประมาณในการดูแลรกั ษาผู้ที่เสพติด สูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างเช่ืองช้า เกิดข้อขัดแย้ง หรือ ความไมส่ งบระหวา่ งประเทศ ทาให้เสื่อมเสยี ชอ่ื เสียง และเกยี รติภูมิในสายตาของชาวต่างชาติได้ เร่อื งที่ 2 ประโยชนข์ องกญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ กกกกกกกในปัจจุบันกัญชา เป็นพืชท่ียอมรับกันว่ามีประโยชน์ทางการแพทย์ ในสหราชอาณาจักร มีการนากัญชามาสกัด เพ่ือผลิตตารับส่วนผสมของสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) เพ่ือใช้ ในการรักษาโรคปลอกประสาทแข็ง (Multiple Sclerosis) ซ่ึงตารับน้ีเป็นที่ยอมรับให้ใช้ทางการแพทย์ ใน 24 ประเทศ เชน่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจกั ร สเปน เปน็ ต้น นอกจากนี้ มีการนาสารสกัดจากกัญชา มาใช้ในการบาบัดรักษาอาการจิตเวช และระบบประสาท (Neuropsychiatric Symptoms) การรักษาอาการไม่อยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง บางประเทศจึงยอมให้มีการปลูกกัญชา เพื่อใช้ในทางการแพทย์ เชน่ แคนาดา อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร สวิสเซอร์แลนด์ และบาง รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นตน้ กกกกกกกการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรค และบรรเทาอาการมีมายาวนาน ปรากฏในตารา ต่าง ๆ จานวนมาก กัญชาถือเป็นยาเสพตดิ ทาให้เป็นอุปสรรคในการผลิต และการศึกษาวจิ ัยทางการแพทย์

108 อย่างมาก มีงานวิจัยที่ระบุว่า กัญชาสามารถลดอาการคลื่นไส้อาเจยี นในผทู้ ี่รับยาเคมีบาบดั หรือเพิ่ม ความอยากอาหารในผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยเอดส์ รวมท้ังรักษาอาการปวดเรื้อรัง และการหดเกร็ง ของกล้ามเนื้อ การใช้ทางการแพทย์อื่น ๆ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเร่ืองความปลอดภัย และประสิทธิผล ของกญั ชา กกกกกกกกัญชาทางการแพทย์ถือเป็นยาประเภทใหม่ เนื่องจากกัญชาไม่ใช่ยาครอบจักรวาล หรือยา รักษาโรค ปัจจุบันท่ัวโลกไม่ได้เลือกให้ใช้กัญชาเป็นการรักษาลาดับแรก ในทางกลับกันผู้ป่วยที่มีสิทธ์ิ ไดร้ ับกญั ชา คอื ผทู้ ีไ่ ม่ตอบสนองต่อยาอื่น ๆ หรอื ได้รับผลข้างเคยี งจากการใช้ยา ในขณะที่มีผลิตภัณฑ์ กัญชาทางการแพทย์เพียงบางส่วนเท่าน้ัน ท่ีได้รับการข้ึนทะเบียนอย่างเป็นทางการ และเป็นไปตาม คุณภาพมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ผู้ควบคุมเก่ียวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ของผู้ป่วย แพทย์ต้องมี ขอ้ กาหนดด้านความปลอดภยั คุณภาพ และประสทิ ธิภาพของผลิตภัณฑ์ กกกกกกกสรรพคุณกัญชาทางการแพทย์ จากการศึกษาพบว่า ในกัญชามีสารออกฤทธิ์ ท่ีสาคัญ 2 ชนิด ซึ่งสามารถนามาใช้บาบัดหรือรักษาโรค ได้แก่ สารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) มีคุณสมบัติ ลดอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบของแผล ลดอาการชักเกร็ง และลดอาการคลื่นไส้ และสาร เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) มีคุณสมบัติต่อจิตประสาท ทาให้เกิด ความผอ่ นคลาย และเคลบิ เคลม้ิ หากได้รับปริมาณท่เี หมาะสม จะช่วยลดอาการตงึ เครียดได้ กกกกกกกรวมถึงกัญชาจาเป็นตอ้ งมีการศึกษาถึงฤทธิ์ของกัญชาเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยในการใช้ กัญชาทางการแพทย์ และเลี่ยงผลข้างเคียงของกัญชาท่ีอาจเกิดขึ้นได้ สาหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยา สารสกัดกัญชาเปน็ ทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยช่วยให้แพทย์หาวธิ ีการรักษาที่เหมาะสมท่ีสุด ซึ่งการใช้ สารสกัดกัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบันแนะนาการใช้รักษา ควบคุมอาการ โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เก่ียวกับประโยชน์ของสารสกัด จากกัญชาทางการแพทย์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 กลุม่ ดังนี้ กกกกกกก1. กลมุ่ โรคหรือภาวะทไี่ ด้ประโยชน์ มีผลการศึกษาวจิ ยั สนบั สนุนชัดเจน 1.1 โรคลมชักทรี่ กั ษายาก และโรคลมชักท่ดี อื้ ตอ่ ยารกั ษา 1.2 ภาวะคลืน่ ไส้ และอาเจยี นจากยาเคมบี าบดั ทรี่ ักษาดว้ ยวิธมี าตรฐานไมไ่ ด้ผล 1.3 ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) 1.4 ภาวะปวดประสาททีร่ กั ษาดว้ ยวิธีอื่น ๆ แลว้ ไม่ได้ผล (Intractable Neuropathic Pain) กกกกกกก2. กลุ่มโรคหรือภาวะทนี่ ่าจะได้ประโยชน์ ในการควบคุมอาการ ตอ้ งการขอ้ มลู วิชาการและ ศกึ ษาวจิ ัยสนับสนนุ เพิ่มเติม 2.1 โรคพารก์ นิ สัน 2.2 โรคอลั ไซเมอร์

109 2.3 โรคปลอกประสาทอักเสบ (Demyelinating Disease) 2.4 โรควิตกกังวล (Generalized Anxiety Disorder) 2.5 ผปู้ ว่ ยทีต่ ้องดูแลแบบประคับประคอง 2.6 ผปู้ ว่ ยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ย 3. กลุ่มโรคหรือภาวะท่ีอาจจะได้ประโยชน์ในอนาคต ซึ่งต้องการการศึกษาวิจัยในหลอดทดลอง และสัตว์ทดลองก่อนนามาศึกษาวิจัยในมนุษย์ เช่น การรักษามะเร็งชนิดต่าง ๆ สารสกัดกัญชาอาจมี ประโยชน์ในการรักษา แต่ยังขาดข้อมูลจากการวิจัยสนับสนุนท่ีชัดเจนเพียงพอในด้านความปลอดภัย และประสิทธิผล ในทางการแพทย์แผนไทยมีการอนุญาตให้ใช้ตารับยาท่ีมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ ทไี่ ดม้ กี ารคัดเลือก และรบั รองโดยกระทรวงสาธารณสขุ 16 ตารับ ดงั นี้ ยาอัคคนิ วี คณะ ยาศขุ ไสยาศน์ ยาแก้ลมเนาวนารีวาโย ยาน้ามันสน่ันไตรภพ ยาแก้ลมข้ึนเบ้ืองสูง ยาไฟอาวุธ ยาแก้นอนไม่หลับ/ยาแก้ไข้ ผอมเหลือง ยาแก้สัณฑฆาตกล่อนแห้ง ยาอัมฤตย์โอสถ ยาอไภยสาลี ยาแก้ลมแก้เส้น ยาแก้โรคจิต ยาไพสาลี ยาทารดิ สีดวงทวารหนกั และโรคผวิ หนงั ยาทาลายพระสเุ มรุ และยาทพั ยาธคิ ณุ กล่าวโดยสรุป สารสกัดจากกัญชาที่นามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มีสารกลุ่ม แคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ท่ีมีสารออกฤทธ์ิสาคัญ 2 ชนิด คือ แคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) มีคุณสมบัติลดอาการเจ็บปวด อักเสบ ชักเกร็ง คล่ืนไส้ และสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) มีคุณสมบัติต่อจิตประสาททาให้ผ่อนคลาย ลดอาการตึงเครียด สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม (1) สารสกัดกัญชาที่มีข้อมูลทางวิชาการ ท่ีสนับสนุนชัดเจน (2) สารสกัดกัญชาช่วยในการควบคุมอาการ ควรมีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุน เพิ่มเตมิ และ (3) สารสกดั กญั ชาที่ยังขาดข้อมูลจากการวิจัยสนบั สนนุ ทช่ี ัดเจนเพียงพอ ดังน้ัน การนา สารสกัดกัญชามาใช้ในทางการแพทย์จาเป็นต้องคานึงถึงประสิทธิผล และความปลอดภัยเป็นสาคัญ และในทางการแพทย์แผนไทย มีการอนุญาตให้ใช้ตารับยาท่ีมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ ท่ีได้มีการ คัดเลือก และรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข 16 ตารับ การใช้ยาจากกัญชาต้องอยู่ภายใต้การ ควบคุม ดแู ลของแพทย์ และแพทย์แผนไทย เพอื่ ให้ผู้ปว่ ยไดร้ ับประโยชน์สูงสุด

110 กิจกรรมท้ายบท กกกกกกก1. กิจกรรมที่ 1 คาชี้แจง : โปรดเลือกตัวอักษรหน้าข้อที่ผู้เรียนคิดว่าข้อนั้นเป็นคาตอบที่ถูกต้องที่สุด เพยี งข้อเดียว แล้วเขียนคาตอบลงในกระดาษของผู้เรียน ข้อ 1 หญิงสูงวัย ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับมานาน และรักษาอาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ น้ามันกัญชาควบคู่ไปกับยารักษาโรคมะเร็งแบบออกฤทธ์ิจาเพาะของแพทย์แผนปัจจุบันท่ีต้องได้รับทุก เดือน ภายใต้ความดูแลของแพทย์ เมื่อตรวจเลือดปรากฏว่าค่าการอักเสบของตับลดลง กรณีดังกล่าว นา้ มันกัญชามปี ระโยชน์ทางการแพทยด์ า้ นใด ก. หยุดอาการของโรค ข. ควบคุมไม่ให้เกดิ โรค ค. รักษาสาเหตุของโรค ง .ควบคุมอาการของโรค ข้อ 2 นายทอง ซื้อผลิตภัณฑ์น้ามันกัญชาจากการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมาให้แม่ ท่ีปว่ ยเป็นโรคลมชกั และมกี ารใชน้ า้ มันกัญชาอยา่ งต่อเนื่อง จะทาให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยตามอาการใด ก. เสี่ยงต่อการเกดิ โรคหวั ใจ ข. เสย่ี งต่อการเกิดโรคชนดิ อืน่ ค. เสยี่ งตอ่ การตดิ นา้ มนั กญั ชา ง. เส่ียงต่อการแพน้ ้ามนั กัญชา ขอ้ 3 ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งทส่ี ุด เก่ยี วกบั การใช้ประโยชนจ์ ากสารสกัดจากกัญชา ก. การใช้ประโยชนข์ องสารสกัดกญั ชาทางการแพทย์ใชร้ ักษากลุ่มโรค ท่ีมีผลการศึกษาวิจยั สนบั สนนุ ว่าสามารถใชไ้ ด้ ข. การใชป้ ระโยชน์ของสารสกดั กัญชาทางการแพทย์ใชร้ ักษากลุม่ โรค ทีม่ ผี ลการศึกษาวจิ ยั สนบั สนุนวา่ ไมเ่ ปน็ อันตรายต่อตับ ค. การใช้ประโยชนข์ องสารสกดั กัญชาทางการแพทย์ใช้รักษากลมุ่ โรค ทมี่ ผี ลการศึกษาวจิ ยั สนับสนนุ ว่าไมเ่ ปน็ อันตรายต่อหัวใจ ง. การใช้ประโยชน์ของสารสกัดกญั ชาทางการแพทย์ใชค้ วบคมุ อาการ กลมุ่ โรคท่มี ผี ลการศกึ ษาวิจยั วา่ สามารถใชไ้ ดเ้ ฉพาะผ้ปู ว่ ยที่ไม่แพ้เท่าน้นั

111 ขอ้ 4 สารทม่ี ีฤทธิ์กระตุ้นประสาทในกัญชาจะก่อให้เกิดอาการต่อผู้เสพในข้อใด ก. มคี วามคิดสร้างสรรค์ ข. มีสมาธิ และตัดสนิ ใจไดด้ ี ค. ความคิดสับสน ควบคมุ ตนเองได้ ง. ความคิดสับสน ควบคมุ ตนเองไม่ได้ ข้อ 5 ขอ้ ใดไมใ่ ชฤ่ ทธข์ิ องกัญชาที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในขณะขับรถ ก. ทาให้ตัดสินใจชา้ ลง ข. ทาใหก้ ะระยะไดแ้ มน่ ยา ค. ทาให้เหน็ ภาพตา่ ง ๆ ใหญ่ขึ้น ง. ทาใหเ้ สยี สมาธิ ตัดสินใจผิดพลาด กกกกกกก2. กิจกรรมที่ 2 คาชี้แจง : โปรดจับคู่ข้อมูลที่อยู่หลังตัวอักษรท่ีตรงกับตัวเลขของข้อน้ัน ๆ หรือมี ความสัมพันธ์ตรงกับหัวข้อเลขนั้น ๆ ให้ถูกต้อง แล้วนาตัวอักษรของหน้าข้อมูล มาใส่หน้าตัวเลข ตรงกบั ขอ้ น้นั ๆ .......... 1. โทษของกัญชาและกัญชงท่ีมผี ลต่อร่างกาย ก. เปน็ ที่รังเกียจ .......... 2. โทษของกัญชาและกญั ชงท่มี ีผลต่อจิตใจ ข. ชุมชนเส่ือมโทรม .......... 3. โทษของกญั ชาและกัญชงทมี่ ผี ลต่อสงั คม ค. เกิดอาการตกสงู ตกต่า กะระยะผดิ .......... 4. โทษของกัญชาและกัญชงทม่ี ผี ลประเทศชาติ ง. ทาให้ประสาทหลอน จติ เส่ือม .......... 5. ประโยชน์สารสกดั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ ควบคุมตนเองไมไ่ ด้ จ. กอ่ ใหเ้ กดิ อาชญากรรม ฉ. ทาลายเศรษฐกจิ ช. สารสกัดกญั ชาและกญั ชง ทม่ี ีผลการวจิ ัยรบั รองว่า ใช้ได้ ซ. ชว่ ยลดอาการตรึงเครยี ด กกกกกกก

112 กกกกกกก3. กิจกรรมท่ี 3 คาชี้แจง : โปรดทาเครื่องหมายถูก () หรือเครื่องหมายผิด () ลงหน้าข้อตัวเลขท่ี ผู้เรียนอ่านข้อมูลแล้วคิดว่าคาตอบนี้ถูกให้ทาเคร่ืองหมายถูก () ถ้าคิดว่าข้อมูลที่อ่านเป็นคาตอบที่ ผดิ ให้ทาเครอื่ งหมายผดิ () .........1. สาร Cannabidiol : CBD มีคุณสมบัติต่อจิตประสาท ลดอาการเจ็บปวด ลดอาการเกร็ง และอาการคล่ืนไส้ .......... 2. สารสกดั กญั ชาและกัญชงเพือ่ ใช้ทางการแพทย์รกั ษาไดท้ กุ โรค .......... 3. ฤทธขิ์ องกัญชาและกัญชงทาใหผ้ ู้เสพมคี วามผิดปกตทิ างความรู้สกึ ความคิด มีอาการประสาทหลอน .......... 4. การเสพกญั ชามโี อกาสถูกปลดออกจากงานมากกวา่ ปกติ .......... 5. กัญชาสามารถลดอาการคลืน่ ไส้อาเจียนในผู้ทร่ี ับยาเคมีบาบดั

113 บทท่ี 4 กฎหมายที่เกยี่ วข้องกับกัญชาและกัญชง สาระสาคญั กกกกกกก1. พระราชบญั ญัตยิ าเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ให้ความหมายคาว่า “ยาเสพติดให้โทษ” หมายถงึ สารเคมีหรอื วัตถุชนิดใด ๆ ซึ่งเมือ่ เสพเข้าสู่ร่างกายไมว่ ่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉดี หรือ ดว้ ยประการใด ๆ แลว้ ทาใหเ้ กดิ ผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสาคัญ เชน่ ตอ้ งเพิ่มขนาดการเสพ ขึ้นเป็นลาดับ มีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพ ท้ังร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ตลอดเวลา และสุขภาพโดยท่ัวไปจะทรุดโทรมลง กับให้รวมตลอดถึงพืชหรือส่วนของพืชที่เป็นหรือให้ ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษหรืออาจใช้ผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษและสารเคมีท่ี ใช้ในการผลิต ยาเสพติดให้โทษด้วย นอกจากนี้ยังแบ่งยาเสพติดให้โทษออกเป็น 5 ประเภท โดยกัญชาถูกบัญญัติไว้ ในกฎหมายว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามมาตรา 7 โดยกาหนดไว้ว่าห้ามปลูก ห้ามเสพ ห้ามจาหนา่ ยและมไี ว้ครอบครอง กกกกกกก2. พระราชบญั ญัติวัตถุออกฤทธต์ิ ่อจติ และประสาท พ.ศ. 2559 กกก พระราชบัญญัติวัตถุเพ่ือออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 มีเหตุผลในการ ประกาศใช้เพ่ือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซ่ึงมีสภาพปัญหาเก่ียวกับวัตถุออกฤทธิ์ท่ีทวีความ รนุ แรงย่ิงขนึ้ สมควรปรบั ปรงุ บทบญั ญตั ิเกย่ี วกับองคป์ ระกอบของคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิต และประสาท การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเก่ียวกับวัตถุออกฤทธิ์ หน้าท่ีของผู้รับอนุญาต หน้าที่ของเภสัชกร การโฆษณาและอานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าท่ี รวมท้ังเพ่ิมเติมบทบัญญัติ เกี่ยวกับด้านตรวจสอบวัตถุออกฤทธิ์ และการให้โอกาสแก่ผู้เสพ หรือเสพและมีไว้ในครอบครอง หรือ เสพและมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย หรือเสพและขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ ได้สมัครใจเข้ารับการ บาบัดรักษาในสถานพยาบาล ตลอดจนปรับปรุงบทกาหนดโทษ และอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม ยิ่งขึ้น ทั้งน้ีกัญชามีสารวัตถุออกฤทธ์ิช่ือว่า “เตตราไฮโดรแคนนาบินอล” (tetrahydrocannabinol, THC) และถกู บัญญัติไวใ้ นประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอื่ งระบุช่อื วัตถุออกฤทธใิ์ นประเภท 1 กกกกกกก3. พระราชบัญญตั ยิ าเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เป็นฉบับที่แก้ไขเพ่ิมเติมจาก พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เปิดโอกาสให้สามารถนากัญชาและพืชกระท่อมไป ทาการศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนาไปใช้ในการรักษาภายใต้การดูแลและ

114 ควบคุมของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตได้ เพ่ือให้ถูกต้องตามหลักวิชาการให้ทาได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อสร้างความม่ันคงทางด้านยาของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางด้านยา นอกจากน้ี ส่งผลให้อนาคตผู้ป่วยในประเทศ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้อย่างมาก และส่งผลทางด้าน เศรษฐกิจของประเทศ เปิดทางให้ใช้ในอุตสาหกรรมยา สมุนไพร อาหารและเครื่องสาอาง เพื่อประโยชนข์ องประเทศชาติ พร้อมสนับสนุนผปู้ ระกอบการภายในประเทศ ใช้ประโยชน์จากกญั ชง นอกเหนอื จากเส้นใย หวงั เพมิ่ มูลคา่ ทางเศรษฐกจิ นารายไดเ้ ขา้ ประเทศ กกกกกกก พระราชบัญญัติฉบับนี้ กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ห้ามมิให้ ผู้ใดเสพ เว้นแต่เสพเพ่ือรักษาโรคตามคาส่ังของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือเป็นการเสพ เพ่ือศึกษาวิจัย และยังสามารถใชป้ ระโยชน์ได้ ตามวัตถุประสงค์ในกรณีจาเป็น คือ ประโยชน์ของทาง ราชการ ประโยชนท์ างการแพทย์ ประโยชน์ในการรักษาผปู้ ่วย ประโยชนใ์ นการศึกษาวิจัยและพัฒนา และประโยชน์ในการเกษตรกรรม พาณิชยกรรม วิทยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรม อีกท้ังในมาตรา 26/5 ยังกาหนดผู้มีสิทธิ์ท่ีจะขอออกใบอนุญาตให้ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ผู้ขออนุญาตต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม สถาบันอุดมศึกษาตาม กฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมท่ีรวมกลุม่ เป็นวิสาหกจิ ชุมชน ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ และผู้ขอ อนุญาตอ่ืนตามที่รัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกาหนดในกฎกระทรวง ซ่ึงในวาระ เริ่มแรกภายในระยะเวลา 5 ปี การขอรับใบอนุญาตสาหรับวัตถุประสงค์ผลิต นาเข้า ส่งออก เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือการรักษาผู้ป่วย ให้อนุญาตได้ คือ ให้อนุญาตได้เฉพาะกรณีที่ผู้ขอ อนุญาตเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือเป็นผู้ขออนุญาตตามมาตรา 26/5 ซ่ึงดาเนินการร่วมกับ ผขู้ ออนุญาตทเี่ ป็นหน่วยงานของรัฐ กกกกกกก4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขทเ่ี ก่ยี วข้องกบั กัญชาและกัญชง ประกาศ และระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขที่เก่ียวข้องกับกัญชาและกัญชงทาให้ เกิดความชัดเจนตามกฎหมายสาหรับผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยทุกด้าน ท้ังนี้เพ่ือใช้ ประโยชน์จากสารสาคญั ในกญั ชา และกญั ชง มจี านวน 5 ฉบบั ดงั น้ี (1) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กาหนดตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยู่ ท่ีให้เสพเพื่อรักษาโรคหรือ การศึกษาวิจัยได้ (2) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กาหนดผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยและหมอ พื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้ว ยวิช าชีพการแพทย์แผนไทย ที่จะสามารถ ปรุง หรือส่ังจ่ายตารับยาท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยู่ได้ (3) ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก เรื่อง กาหนดแบบตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพ้ืนบ้าน พ.ศ. 2562 (4) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรือ่ ง ระบชุ ือ่ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2561 มีสาระสาคญั โดยกาหนดให้ กัญชา (cannabis) เปน็ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท 5 ลาดบั ที่ 1 ซึ่งมีช่ือ

115 พฤกษศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. และ Cannabis indica Lam. ทั้งน้ีให้หมายความรวมถึง ทุก สว่ นของพชื กญั ชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น และ วตั ถหุ รอื สารตา่ ง ๆ ท่ีมอี ย่ใู นพชื กัญชา เชน่ ยาง น้ามัน ยกเว้นเปลือกแหง้ แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเปลอื กแห้ง แกนลาตน้ แห้ง เส้นใยแห้ง และ (5) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุช่ือยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2562 มีสาระสาคญั คือ กาหนดยกเลิกและแก้ไขเพ่มิ เติม ลาดบั 1 กญั ชา (cannabis) ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพืชกัญชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาตน้ และวัตถหุ รือสารตา่ ง ๆ ที่มีอยูใ่ นพืชกัญชา เช่น ยาง น้ามัน และ ลาดบั ท่ี 5 คือ กัญชง (hemp) ซึ่งมีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อยของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพชื กัญชง เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาตน้ ท่มี ปี รมิ าณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) และลกั ษณะเปน็ ไปตามที่ คณะกรรมการประกาศกาหนด กกกกกกก5. ประกาศคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดให้โทษ กกกกกก ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง ท่ีสาคัญมีจานวน 6 ฉบับ ได้แก่ (1) ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เร่ือง การแสดง ความจานงและการตรวจสอบผู้แสดงความจานงเป็นผู้รับอนุญาตต้ังแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย (2) เร่ือง กาหนดแบบการจัดทาบัญชีรับจ่ายและรายงานเกี่ยวกับการผลิต การนาเข้า การส่งออก การจาหน่าย การมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา (3) เร่ือง กาหนดฉลากและเอกสารกากับยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท 5 หรอื คาเตอื นหรือข้อควรระวัง การใช้ที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ท่ีผลิต นาเข้า หรือส่งออก สาหรับยาแผนปัจจุบันซึ่งมีกัญชาปรุงผสมอยู่ (4) เร่ือง กาหนดเมล็ดพันธ์ุเฮมพ์เป็นเมล็ดพันธุ์รับรอง ตามกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติด ให้โทษประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. 2559 (5) เรอื่ ง กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) ประกาศเมื่อวันท่ี 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยกาหนดลักษณะกัญชง เพ่ือเป็นประโยชน์ในการควบคุมการผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดร แคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอกไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อน้าหนักแห้ง และ เ ม ล็ ด พั น ธุ์ รั บ ร อ ง มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ ม ล็ ด พั น ธุ์ กั ญ ช ง ท่ี มี ป ริ ม า ณ ส า ร เ ต ต ร า ไ ฮโ ด ร แ ค น น า บิ น อ ล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอกไม่เกินร้อยละ 0.3 ต่อน้าหนักแห้ง และ (6) เร่ือง กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 โดย กาหนดให้มกี ารยกเลิกประกาศฉบับเดิม ซ่ึงสาระสาคญั ของประกาศฉบับนี้ คอื กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) มีลักษณะเป็นพืชซึ่งมีช่ือทางวิทยาศาสตร์ ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็น ชนิดย่อยของพืชกัญชา (CannabissativaL.)ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล(tetrahydrocannabinol,

116 THC) ในใบและช่อดอก ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแห้งโดยตรวจวิเคราะห์ ตามหลักเกณฑ์และ วิธีการท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด และ เมล็ดพันธ์ุรับรองมีลักษณะเป็นเมล็ดพันธ์ุกัญชง (Hemp) ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบ และช่อ ดอก ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแห้ง ท้ังนี้ ตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด โดยการตรวจ วเิ คราะห์ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่คณะกรรมการประกาศกาหนด และเปน็ พันธุ์พชื ขน้ึ ทะเบียนตาม กฎหมายว่าด้วยพันธ์ุพืช โดยประกาศฉบับนี้จะไม่มีผลบังคับใช้กับกรณีกัญชงที่ปลูกอยู่ก่อนประกาศ ดงั กล่าวมผี ลบังคับใช้ รวมถึงเมล็ดพันธ์ทุ รี่ บั รองแลว้ ก่อนประกาศมีผลบงั คบั ใช้ เพ่อื สง่ เสรมิ การพัฒนา สายพันธกุ์ ัญชง โดยเฉพาะพันธุ์พื้นเมอื ง เปดิ กว้างใหเ้ กดิ การใช้ประโยชน์กญั ชงอยา่ งคมุ้ คา่ กกกกกกก6. พระราชบญั ญตั สิ ิทธิบัตรกับกญั ชาและกญั ชง ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2535 และ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2542 ให้ความหมาย “สิทธิบัตร” หมายถึง หนังสือสาคัญท่ีรัฐออกให้เพื่อ คุ้มครองการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกาหนด ทั้งนี้ ข้ันตอนการย่ืนคาขอจดสิทธิบัตรท่ีเก่ียวข้องกับกัญชาและกัญชง มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนท่ี 1 กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะพิจารณาว่าขัดต่อพระราชบัญญัติสิทธิบัตรในมาตรา 9 (1) ซึ่งกาหนดว่า สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืชไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติหรือ หากขัดกับ มาตราดังกล่าวจะไม่สามารถย่ืนจดสิทธิบัตรได้ เช่น สารสกัดจากกัญชาไม่สามารถจดได้.ขั้นตอนที่ 2 หากการย่ืนคาขอไม่ขัดกับมาตรา 9 (1) เช่น ตารับยาจากกัญชาสาหรับใช้รักษาโรคต่าง ๆ กรม ทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าสามารถจดได้หรือไม่ โดยพิจารณาตามหลักการ คือ ต้อง เป็นส่ิงประดิษฐ์ใหม่ มีขั้นตอนการประดิษฐ์ท่ีสูงข้ึน และสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการผลิต อุตสาหกรรม หัตถกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรมได้ และขัน้ ตอนที่ 3 เมือ่ ผ่านการพจิ ารณาใน ข้ันตอนท่ี 2 จะประกาศโฆษณาให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถคัดค้านหรือให้ข้อเสนอแนะได้ เม่ือประกาศโฆษณาแล้วผู้ขอต้องย่ืนขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ เจ้าหน้าท่ีจะนาข้อคัดค้านหรือ ข้อเสนอแนะมาประกอบการพิจารณาร่วมกับการตรวจสอบการประดิษฐ์อีกครั้ง ก่อนจะพิจารณาว่า สามารถจดสิทธิบัตรได้หรือไม่ ปัจจุบันนี้มีผู้ขอจดสิทธิบัตรที่เก่ียวข้องกับกัญชากับกรมทรัพย์สินทาง ปัญญา มีจานวน 3 บริษัท โดยมีจานวน 10 คาขอ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดาเนินการ และการขอจด สิทธิบตั ร กกกกกกก7. ข้อปฏบิ ตั ทิ ี่ตอ้ งทาตามกฎหมายทีเ่ ก่ียวข้องกบั กัญชาและกญั ชง กกกกกกกกก ข้อปฏบิ ัติท่ีสาคัญตามกฎหมายกัญชาและกัญชง มีข้อที่ควรปฏิบัตดิ งั น้ี กกกกกกกก ข้อ 1 โพสต์ภาพ หรือข้อความ เพื่อโฆษณายาเสพติด มีโทษจาคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่ เกนิ 200,000 บาท กกกกกกกก ขอ้ 2 ใชอ้ บุ ายหลอกลวง ขเู่ ขญ็ ใชก้ าลังประทษุ รา้ ย ขม่ ขืนใจให้ผู้อ่ืนเสพ มีโทษดังน้ี

117 กกกกกกกกกกก 2.1 จาคกุ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท กกกกกกกกกกก 2.2 ถ้าทาโดยมีอาวุธหรือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป จาคุก 2 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 - 1,500,000 บาท กกกกกกกกกกก 2.3 ถ้ากระทาต่อหญิงหรอื ผู้ยงั ไม่บรรลนุ ิติภาวะ หรอื เพอ่ื จงู ใจใหผ้ ู้อื่นทาผดิ อาญา หรอื เพอื่ ประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นในการทาผิดอาญา จาคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 300,000 - 5,000,000 บาท กกกกกกกก ข้อ 3 ยุยงส่งเสริมให้ผู้อ่ืนเสพ มีโทษจาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรอื ท้ังจาทง้ั ปรับ กกกกกกกก ข้อ 4 ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กาลังประทุษร้าย ข่มขืนใจให้ผู้อ่ืนผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย ครอบครองเพื่อจาหน่าย มีโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้สาหรับ ความผิดน้ัน ๆ กกกกกกกก ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นจานวนมาก ซึ่งกระทรวง ยุติธรรม ได้กาหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดแนวใหม่ ภายใต้กรอบความคิด “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ท่ีจะต้องได้รับการบาบัดรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์และพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ ทุกแห่งทั่วประเทศ และหลังจากท่ีผู้เสพได้รับการบาบัดรักษาแล้ว ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคม อย่างปกติสุข โดยรัฐบาลจะให้การติดตามช่วยเหลือส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพ่ือใหผ้ ู้เสพได้เร่ิมต้น ชีวติ ใหม่ “เปลย่ี นเพอ่ื ครอบครัว เพ่อื อนาคตทด่ี กี วา่ ” กกกกกกก8. โทษของการฝ่าฝนื กฎหมายท่ีเกยี่ วข้องกับกัญชาและกัญชง บทลงโทษของการฝ่าฝืนกฎหมายทีเ่ ก่ยี วข้องกญั ชาและกัญชง มี 5 กลุม่ ดังน้ี 8.1 กลุ่มผู้เสพ (นอกเหนือเพ่ือรักษาตามคาส่ังแพทย์) มีบทลงโทษ จาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือท้งั จาทง้ั ปรับ 8.2 กลุ่มครอบครอง หรือจาหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (ไม่ถึง 10 กิโลกรัม) มบี ทลงโทษ จาคุกไมเ่ กนิ 5 ปี หรือปรับไมเ่ กิน 100,000 บาท หรอื ทงั้ จาทัง้ ปรับ 8.3 กลุ่มจาหนา่ ยโดยไม่ได้รับอนุญาต (ปริมาณ 10 กิโลกรัมขึ้นไป) มีบทลงโทษ จาคุก ตั้งแต่ 1 – 15 ปี และปรบั 100,000 – 1,500,000 บาท 8.4 กลุ่มผู้ฝ่าฝืนผลิต นาเข้า หรือส่งออก มีบทลงโทษ จาคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่ เกนิ 500,000 บาท 8.5 กลุ่มกรณีเพื่อจาหน่าย มีบทลงโทษ จาคุกไม่เกิน 1 - 15 ปี และปรับ 100,000 – 1,500,000 บาท ในส่วนผู้ขออนุญาตตามมาตรา 26/5 มีสิทธิที่จะขอใบอนุญาตให้ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหนา่ ยหรอื มไี วใ้ นครอบครองซึง่ ผู้ขออนุญาตตามข้อ 2,3,4 และ 7 มบี ุคคลอยู่ 2 กลุ่ม ดงั น้ี

118 กลุ่มท่ี 1 กรณบี ุคคลธรรมดา สัญชาติไทย มถี น่ิ ท่อี ย่ใู นไทย กลุ่มที่ 2 กรณีนิติบุคคล จดทะเบียนตามกฎหมายไทย 2 ใน 3 กรรมการ หุ้นส่วน ผู้ถอื หนุ้ มสี ัญชาติไทย มสี านักงานในไทย นอกจากน้ีการนากัญชามาโฆษณาชวนเชื่อ บิดเบอื นฉลากอาหาร – ฉลากยา มีความผดิ ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หากเข้าข่ายเป็นอาหารที่มีการแสดงฉลากเพ่ือลวง หรือ พยายามลวงให้เข้าใจผิดเรื่องคุณภาพ ปริมาณ ประโยชน์ สถานที่ผลิต จัดเป็นอาหารปลอม ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตง้ั แต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรบั ตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท ตอ่ มาได้มีการนิรโทษกรรม โดยประกาศกระทรวงสาธารณสขุ 3 ฉบบั ซึ่งประกาศใช้ใน ราชกจิ จานุเบกษา ลงวนั ที่ 26 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ดงั น้ี ฉบบั ที่ 1 เรื่อง การกาหนดใหย้ าเสพติดให้ โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือใหท้ าลายกัญชาทไี่ ดร้ บั มอบจาก บคุ คล ซ่งึ ไมต่ อ้ งรับโทษ ตามมาตรา 22 แห่ง พระราชบัญญัติยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2562 โดยรายละเอียดผู้ท่ีได้รับการนิรโทษกรรม หรือการครอบครองก่อนหน้านี้ไม่ผิด และให้มาแจ้งภายใน 90 วัน ฉบับท่ี 2 เรื่องการครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สาหรับผู้ป่วยที่มี ความจาเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ ซึ่งในกรณีน้ีผู้ป่วยที่มีความจาเป็นต้องใช้กัญชารักษาตัว และมี ครอบครองก่อนกฎหมายใช้บงั คับ และฉบบั ท่ี 3 เรือ่ ง การแจง้ การมไี วใ้ นครอบครองกญั ชา สาหรับผู้มี คุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วยตามมาตรา 22 (2) ก่อนพระราชบัญญัติยาเสพ ติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ กล่าวคือ บุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มท่ี 1 และกลุ่ม ที่ 2 โดยในฉบับนี้ ให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ครอบครองกัญชาก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับเพื่อประ โยชน์ทางการแพทยก์ ารรกั ษาผู้ปว่ ย การใชร้ กั ษาโรคเฉพาะตัวหรอื การศึกษาวิจยั กกกกกกก9. กฎหมายระหว่างประเทศเกีย่ วกับกัญชาและกัญชง กกกกกกกกก บทลงโทษของการฝา่ ฝนื กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งกญั ชาและกญั ชง มี 5 กลมุ่ ดังน้ี กกกกกกกกก กลมุ่ ที่ 1 กลุ่มผูเ้ สพ (นอกเหนือเพอื่ รักษาตามคาสัง่ แพทย)์ มบี ทลงโทษ จาคกุ ไม่เกิน 1 ปี หรือปรบั ไมเ่ กิน 20,000 บาท หรือทั้งจาท้ังปรับ กกกกกกกกก กลุ่มที่ 2 กลุ่มครอบครอง หรือจาหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (ไม่ถึง 10 กิโลกรัม) มีบทลงโทษ จาคกุ ไมเ่ กนิ 5 ปี หรือปรับไมเ่ กิน 100,000 บาท หรือท้งั จาทั้งปรบั กกกกกกกกก กลุ่มที่ 3 กลุ่มจาหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (ปริมาณ 10 กิโลกรัมขึ้นไป) มีบทลงโทษ จาคุกต้งั แต่ 1 - 15 ปี และปรับ 100,000 - 1,500,000 บาท กกกกกกกกก กลุม่ ที่ 4 กลุ่มผ้ฝู ่าฝนื ผลิต นาเข้า หรอื สง่ ออก มบี ทลงโทษ จาคกุ ไม่เกิน 5 ปี และปรับ ไมเ่ กนิ 500,000 บาท

119 กกกกกกกกก กลุ่มที่ 5 กลุ่มกรณีเพื่อจาหน่าย มีบทลงโทษ จาคุกไม่เกิน 1 - 15 ปี และปรับ 100,000 - 1,500,000 บาท กกกกกกกกก ในส่วนผู้ขออนุญาตตามมาตรา 26/5 มีสิทธิท่ีจะขอใบอนุญาตให้ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหนา่ ยหรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงผู้ขออนุญาตตามข้อ 2,3,4 และ 7 มอี ยู่ 2 กลุ่ม ดังนี้ กกกกกกกกก กลุ่มท่ี 1 กรณบี คุ คลธรรมดา สัญชาติไทย มีถิน่ ท่อี ยูใ่ นไทย กกกกกกกก กกลุ่มท่ี 2 กรณีนิตบิ คุ คล จดทะเบยี นตามกฎหมายไทย 2 ใน 3 กรรมการ หุ้นส่วน ผถู้ อื หนุ้ มสี ัญชาติไทย มีสานักงานในไทย กกกกกกกกก นอกจากนี้การนากัญชามาโฆษณาชวนเช่ือ บดิ เบือนฉลากอาหาร - ฉลากยา มีความผิด ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หากเข้าข่ายเป็นอาหารท่ีมีการแสดงฉลากเพ่ือลวง หรือ พยายามลวงให้เข้าใจผิดเรื่องคุณภาพ ปริมาณ ประโยชน์ สถานท่ีผลิต จัดเป็นอาหารปลอม ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่ 6 เดือน - 10 ปี และปรบั ตั้งแต่ 5,000 - 100,000 บาท กกกกกกกกก ต่อมาได้มกี ารนริ โทษกรรม โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข 3 ฉบบั ซึง่ ประกาศใช้ใน ราชกิจจานเุ บกษา ลงวันที่ 26 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2562 ดงั น้ี ฉบบั ที่ 1 เร่ือง การกาหนดให้ยาเสพติดให้ โทษในประเภท 5 เฉพาะกญั ชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรอื ให้ทาลายกญั ชาท่ไี ดร้ บั มอบจาก บุคคล ซึง่ ไมต่ อ้ งรับโทษ ตามมาตรา 22 แหง่ พระราชบัญญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 โดยรายละเอียดผู้ที่ได้รบั การนิรโทษกรรม หรือการครอบครองก่อนหน้าน้ีไม่ผิด และให้มาแจ้งภายใน 90 วัน ฉบับที่ 2 เร่ืองการครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สาหรับผู้ป่วยท่ีมี ความจาเป็นต้องใช้เพ่ือรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ ซ่ึงในกรณีนี้ผู้ป่วยท่ีมีความจาเป็นต้องใช้กัญชารักษาตัว และ มีครอบครองก่อนกฎหมายใช้บังคับ และฉบับท่ี 3 เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สาหรับ ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอ่ืนที่มิใช่ผู้ป่วยตามมาตรา 22 (2) ก่อนพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ กล่าวคือ บุคคลท่ีไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และกลุ่มท่ี 2 โดยในฉบับน้ี ให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ครอบครองกัญชาก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับเพื่อ ประโยชนท์ างการแพทยก์ ารรกั ษาผู้ป่วย การใช้รักษาโรคเฉพาะตัวหรือการศกึ ษาวิจัย ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง กกกกกกก1. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับพระราชบญั ญัตยิ าเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขท่ีเก่ียวข้องกับกัญชาและกัญชง ข้อปฏิบัติที่ต้อง ทาตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับกัญชาและกัญชง โทษของการฝ่าฝืนกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชาและ กัญชง และกฎหมายระหวา่ งประเทศเกีย่ วกับกัญชาและกัญชง

120 กกกกกกก2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีทกั ษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคดิ วิเคราะห์ในกฎหมาย ที่เกย่ี วข้องกับกัญชาและกญั ชง กกกกกกก3. เพอื่ ให้ตระหนักถึงโทษของการฝา่ ฝนื กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องกบั กัญชาและกัญชงกกกกกกก ขอบข่ายเนื้อหา กกกกกกกบทที่ 4 กฎหมายทีเ่ กยี่ วข้องกับกัญชาและกญั ชง กกกกกกกกกกกกกเร่ืองท่ี 1 พระราชบัญญตั ิยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 กกกกกกกกกกกกกเรื่องท่ี 2 พระราชบัญญตั วิ ตั ถุออกฤทธิ์ต่อจติ และประสาท พ.ศ. 2559 กกกกกกกกกกกกกเร่ืองที่ 3 พระราชบญั ญตั ิยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 กกกกกกกกกกกกกเรื่องท่ี 4 ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั กญั ชาและกัญชง กกกกกกกกกกกกกเร่ืองที่ 5 ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ กกกกกกกกกกกกกเรื่องที่ 6 พระราชบัญญตั ิสิทธบิ ตั รกับกัญชาและกญั ชง กกกกกกกกกกกกกเร่ืองท่ี 7 ข้อปฏบิ ตั ิทตี่ ้องทาตามกฎหมายทเี่ ก่ียวข้องกับกญั ชาและกัญชง กกกกกกกกกกกกกเรื่องที่ 8 โทษของการฝา่ ฝืนกฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ งกับกัญชาและกัญชง กกกกกกกกกกกกกเรื่องท่ี 9 กฎหมายระหวา่ งประเทศเก่ยี วกบั กญั ชาและกญั ชง สือ่ ประกอบการเรยี น กกกกกกก1. ชื่อหนังสอื กัญชาสุดยอดยาวิเศษ ผู้แตง่ บริษัท ไซเบอร์บุคส์ แอนด์ ปรน้ิ ท์ จากัด สานักพิมพ์ บรษิ ัทเอกพิมพ์ไท จากดั ไมร่ ะบุปีท่ีพมิ พ์ กกกกกกก2. ชอ่ื หนังสอื กัญชายาวิเศษ ผู้แต่ง สมยศ ศุภกิจไพบลู ย์ สานักพิมพ์ปัญญาชน ปี พ.ศ. 2562 กกกกกกก3. ชื่อบทความ สิทธบิ ตั รกบั กญั ชา ผเู้ ขียน ดร.รุจริ ะ บนุ นาค ลงพิมพ์ในเดลนิ วิ ส์ เมือ่ 10 ธนั วาคม 2561 สบื คน้ จาก martbunnag.com/artide/607/ กกกกกกก4. ชอื่ บทความ กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา ผเู้ ขยี น สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และ ปราบปรามยาเสพติด สบื คน้ จาก https://media.oncb.go.th/index.php/th/23-2018-02-20-07- 04-07/2018-02-20-07-05-01/64-content5-21-5-61-1 กกกกกกก5. ช่อื บทความ กฎหมายสาคัญ/กฎหมายออกใหม่ ผเู้ ขยี น กองควบคุมวัตถุเสพติด สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา สบื คน้ จาก http://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics /SitePages/AllNewlaw.aspx#

121 กกกกกกก6. ชอื่ บทความ กฎหมายทรพั ยส์ ินทางปญั ญาไทย ผูเ้ ขยี น กรมทรัพยท์ างปัญญา สบื คน้ จาก https://www.ipthailand.go.th/th/dip-law-2/category/acts.html กกกกกกก7. สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสขุ ท่อี ยู่ 88/24 ถนนติวานนท์ ตาบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบรุ ี 11100 โทรศัพท์ 0-2590 7000 กกกกกกก8. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ 88/23 หมู่ 4 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข ตาบลตลาดขวญั จงั หวัดนนทบุรี 11100 โทรศัพท์ 0-2591 7007 กกกกกกก9. สานกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ป.ป.ส.) กระทรวงยุตธิ รรม ท่ีอยู่ 213 ซอยวิภาวดี 25 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลกั สี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ 0-98985 2262 กกกกกกก10. แหล่งเรยี นรใู้ กลบ้ ้านผเู้ รียน เร่อื งท่ี 1 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 กกกกกกกกฎหมายฉบับนี้ได้ให้ความหมายคาว่า “ยาเสพติดให้โทษ” หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุ ชนิดใด ๆ ซ่ึงเม่ือเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใด ๆ แล้วทา ให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสาคัญ เช่น ต้องเพ่ิมขนาดการเสพขึ้นเป็นลาดับ มีอาการ ถอนยาเม่ือขาดยา มีความต้องการเสพ ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา และสุขภาพ โดยทว่ั ไปจะทรุดโทรมลง กบั ใหร้ วมตลอดถงึ พชื หรือส่วนของพืชท่ีเป็นหรือใหผ้ ลผลติ เป็นยาเสพติดให้ โทษหรืออาจใชผ้ ลติ เป็นยาเสพติดให้โทษและสารเคมที ่ีใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษดว้ ย ภาพที่ 40 ความหมายของยาเสพติด

122 กกกกกกกกก นอกจากนี้ยังได้แบ่งยาเสพติดให้โทษออกเป็น 5 ประเภท เพ่ือประโยชน์ในการกาหนด วิธีการควบคุมที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม เน่ืองจากแต่ละประเภทมีอันตราย และความ จาเปน็ ในทางการแพทย์ไมเ่ หมอื นกนั ประเภทยาเสพติดใหโ้ ทษและรายชอื่ ยาเสพตดิ ทีส่ าคญั มีดังนี้ กกกกกกกกก ประเภท 1 ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษชนิดรา้ ยแรง เชน่ เฮโรอีน ยาบา้ ยาอี ยาเลฟิ กกกกกกกก ประเภท 2 ยาเสพติดใหโ้ ทษท่วั ไป เช่น ใบโคคา โคคาอีน ยาสกัดเขม้ ข้นของตน้ ฝ่นิ แหง้ เมทาโดน มอร์ฟนี ฝน่ิ ยา (ฝน่ิ ทีผ่ า่ นกรรมวิธีปรงุ แตง่ เพ่อื ใชใ้ นทางยา) ฝ่นิ (ฝ่ินดบิ ฝ่นิ สกุ มลู ฝ่นิ ) กกกกกกกกก ประเภท 3 ยาเสพติดให้โทษท่ีมลี ักษณะเปน็ ต้นตารบั ยาและมยี าเสพติดให้โทษประเภท 2 ผสมอยู่ เชน่ ยาแก้ไอ ยาแก้ท้องเสีย กกกกกกกกก ประเภท 4 สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ 2 เช่น อาเซติค แอนไฮโดรด์ อาเซติลคลอไรด์ กกกกกกกกก ประเภท 5 ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษท่ไี ม่เข้าอยใู่ นประเภท 1 ถงึ 4 เชน่ กัญชา (ทุกสว่ นของพชื กญั ชา) พชื กระท่อม (ทุกส่วนของพชื กระทอ่ ม) และพชื เหด็ ขค้ี วาย กกกกกกกกก กัญชาถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 โดยกาหนดไว้ว่าห้ามปลูก ห้ามเสพ ห้ามจาหน่ายและมี ไว้ครอบครอง กกกกกกกกก กล่าวโดยสรุป พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ให้ความหมายคาว่า “ยาเสพติดให้โทษ” หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุชนิดใด ๆ ซ่ึงเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดย รบั ประทาน ดม สูบ ฉดี หรือด้วยประการใด ๆ แลว้ ทาให้เกดิ ผลตอ่ ร่างกายและจิตใจในลักษณะสาคัญ เช่น ต้องเพ่ิมขนาดการเสพข้ึนเป็นลาดับ มีอาการถอนยาเม่ือขาดยา มีความต้องการเสพ ท้ังร่างกาย และจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา และสุขภาพโดยท่ัวไปจะทรุดโทรมลง กับให้รวมตลอดถึงพืชหรือ ส่วนของพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษหรืออาจใช้ผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษและ สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษด้วย นอกจากน้ียังแบ่งยาเสพติดให้โทษออกเป็น 5 ประเภท โดยกัญชาถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามมาตรา 7 โดยกาหนดไว้ว่า หา้ มปลกู หา้ มเสพ ห้ามจาหน่ายและมีไว้ครอบครอง เรอื่ งที่ 2 พระราชบัญญัติวตั ถอุ อกฤทธ์ติ ่อจติ และประสาท พ.ศ. 2559 กกกกกกจากสภาวการณ์ ซึ่งมีการเปล่ียนแปลงท้ังทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง วัฒนธรรม ตลอดจนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ส่งผลให้ บทบัญญัติบางประการในพระราชบัญญัติวัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ซึ่งได้ใช้ บังคับมาเป็นเวลานานแล้วไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหาการระบาดและการนาวัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิต และประสาทไปใชใ้ นทางทีผ่ ดิ

123 กกกกกกกสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซ่งึ เป็นหน่วยงานท่ีรับผิดชอบพระราชบญั ญัติวัตถุ ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมา ในปี พ.ศ. 2554 ไดม้ ีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในหลายมาตรา ซง่ึ หากประกาศเปน็ พระราชบัญญัติ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเช่นที่ผ่านมา อาจทาให้ผู้ใช้กฎหมายเกิดความสับสนหรือมีโอกาสที่จะใช้กฎหมาย ผิดได้ ดังนั้น จึงได้ดาเนินการปรับปรุงใหม่ท้ังฉบับและมีการประกาศ “พระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559” ในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันท่ี 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559 มีผลให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนด 180 วันนับแต่วันประกาศ คือวันท่ี 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เป็นตน้ ไป โดยใหย้ กเลิกพระราชบญั ญัติวตั ถุที่ออกฤทธ์ติ ่อจติ และประสาท ทัง้ 4 ฉบับ คือ พ.ศ. 2518 พ.ศ. 2528 พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2543 และปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์ประกอบของ คณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเก่ยี วกับวัตถุ ออกฤทธ์ิ หน้าที่ของผู้รับอนุญาต หน้าที่ของเภสัชกร การโฆษณาและอานาจหน้าท่ีของพนักงาน เจ้าหน้าท่ี รวมทั้งเพ่ิมเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับด้านตรวจสอบวัตถุออกฤทธิ์ และการให้โอกาสแก่ผู้เสพ หรือเสพและมีไว้ในครอบครอง หรือเสพและมีไว้ในครอบครองเพ่ือขาย หรือเสพและขายซ่ึงวัตถุ ออกฤทธิ์ ได้สมัครใจเข้ารับการบาบัดรักษาในสถานพยาบาล ตลอดจนปรับปรุงบทกาหนดโทษ และอตั ราคา่ ธรรมเนยี มให้เหมาะสมยิง่ ขน้ึ ภาพท่ี 41 พระราชบัญญัตวิ ัตถอุ อกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559

124 กกกกกกกโดยมาตรา 7 ให้รัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการมีอานาจประกาศกาหนด ระบุช่ือและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธ์ิว่าวัตถุออกฤทธิ์อยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยแบ่ง ประเภทวตั ถุออกฤทธท์ิ ่ไี ม่ใช้ในทางการแพทย์ ก ภาพที่ 42 ประเภทของวตั ถุออกฤทธติ์ ่อจิตและประสาท กกกกกกกท้ังน้ี กัญชาถูกบัญญัติไว้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่ืองระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภท 1 พ.ศ. 2561 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันท่ี 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ในลาดับท่ี 22 ช่ือวัตถอุ อกฤทธิ์ว่า เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) กกกกกกกกล่าวโดยสรุป พระราชบัญญัติวัตถุเพ่ือออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 มีเหตุผลในการประกาศใช้เพ่ือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีสภาพปัญหาเกี่ยวกับ วัตถุออกฤทธ์ิที่ทวีความรุนแรงย่ิงขึ้น สมควรปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์ประกอบของ คณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเก่ยี วกับวัตถุ ออกฤทธิ์ หน้าท่ีของผู้รับอนุญาต หน้าที่ของเภสัชกร การโฆษณาและอานาจหน้าที่ของพนักงาน เจ้าหน้าท่ี รวมทั้งเพิ่มเติมบทบัญญัติเก่ียวกับด้านตรวจสอบวัตถุออกฤทธ์ิ และการให้โอกาสแก่ผู้เสพ

125 หรือเสพและมีไว้ในครอบครอง หรือเสพและมีไว้ในครอบครองเพ่ือขาย หรือเสพและขายซ่ึงวัตถุออก ฤทธิ์ ได้สมัครใจเข้ารับการบาบัดรกั ษาในสถานพยาบาล ตลอดจนปรับปรงุ บทกาหนดโทษ และอัตรา ค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งนี้กัญชามีสารวัตถุออกฤทธ์ิชื่อว่า “เตตราไฮโดรแคนนาบินอล” (tetrahydrocannabinol, THC) และถูกบัญญัติไว้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุช่ือวัตถุ ออกฤทธใิ์ นประเภท 1 เร่ืองที่ 3 พระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 กกกกกกกกกญั ชาถูกใช้มาอย่างยาวนานต้ังแต่ในอดีตมาโดยตลอด ทั้งผู้ท่ีใช้ในลักษณะของการแพทย์ และผู้ที่ใช้ในลักษณะของยารักษาโรคกันอย่างลับ ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นส่ิงผิดกฎหมายก็ตาม แต่ใน ปัจจุบันนี้ภาครัฐได้เลง็ เห็นถึงคุณประโยชน์ของการวิจัยสารสกัดที่ได้จากกัญชาเพื่อมาใช้เปน็ ยารักษา โรคอีกทั้งยังพบว่าในหลายประเทศได้มีการแก้ไขกฎหมายและนากัญชาเพ่ือมาใช้ประโยชน์ทาง การแพทย์เช่นเดียวกัน ดังนั้น ประเทศไทยจึงจาเป็นจะต้องพัฒนากฎหมายของประเทศเพ่ือให้ ทันสมัยและสอดคลอ้ งกับสภาวการณ์ในปัจจุบันท่มี ีความต้องการนาคุณประโยชนจ์ ากกัญชามาช่วยใน การรักษาโรคต่าง ๆ ที่นับวันจะทวีความรุนแรง ซ่ึงยารักษาโรคต่าง ๆ น้ันล้วนมีราคาแพงหลายชนิด ต้องนาเข้ายาจากต่างประเทศ ทาให้ประเทศชาติต้องสูญเสียงบประมาณในการนาเข้ายาดังกล่าว อีกท้ังยังส่งผลกระทบทางด้านสังคมและเศรษฐกิจในวงกว้างอีกด้วย จึงนับได้ว่านี่เป็นโอกาสและ จุดเร่ิมต้นของการพัฒนาการรักษาโรค เพื่อให้คนในประเทศมีสุขภาพที่แข็งแรง มีทางรอดชีวิตจาก โรคร้ายต่าง ๆ มากขึ้น ดังน้ันเพื่อกาหนดมาตรการในการควบคุมยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องตามหลักสากล จึงได้มีประกาศพระราชบัญญัติยา เสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 ในวันท่ี 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยมีรายละเอียดท่ีสาคัญ ดังนี้ ภาพท่ี 43 กัญชายังคงเป็นยาเสพติด

126 กกกกกก  กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2562 กกกกกก  ห้ามมิให้ผู้ใดเสพ ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่เสพเพื่อรักษาโรคตามคาสั่ง ของผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม หรือเป็นการเสพเพอ่ื ศึกษาวิจัยกกกกกก   สามารถนากัญชามาใช้ประโยชน์ได้ ตามวัตถุประสงค์ที่กาหนดในมาตรา 26/2 ได้ ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่ ได้รบั ใบอนุญาตในกรณีจาเป็น เพ่ือประโยชน์ดังต่อไปนี้ กกกกกกก ขอ้ 1 ประโยชน์ของทางราชการ กกกกกกก ขอ้ 2 ประโยชน์ทางการแพทย์ ข้อ 3 ประโยชน์การรกั ษาผ้ปู ว่ ย ขอ้ 4 ประโยชนใ์ นการศึกษาวจิ ัยและพฒั นา ข้อ 5 ประโยชนใ์ นการเกษตรกรรม พาณิชยกรรม วทิ ยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรม เพ่ือประโยชนท์ างการแพทย์ ซง่ึ จะตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากผอู้ นุญาตโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการการยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ  มาตรา 26/5 กาหนดผู้มีสิทธทิ์ จี่ ะขอออกใบอนุญาตใหผ้ ลิต นาเขา้ สง่ ออก จาหน่าย หรอื มีไวค้ รอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้ กต็ ่อเมื่อผู้ขออนญุ าตตอ้ งเป็น กกกกกกก ข้อ 1 หน่วยงานของรัฐ ท่ีมีหน้าท่ีศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทาง การแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ เภสัชกร หรือวิทยาศาสตร์ หรือมีหน้าท่ีให้บริการทางเกษตรกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือ เภสัชกรรม หรือหนว่ ยงานของรัฐท่มี ีหนา้ ที่ในการปอ้ งกนั ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพติด หรือ สภากาชาดไทย ข้อ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพ ทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหน่ึง ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบ วิชาชพี แพทยแ์ ผนไทยประยุกต์ หรอื หมอพ้ืนบา้ นตามกฎหมายว่าดว้ ยวชิ าชีพการแพทยแ์ ผนไทย ท้ังน้ี ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและหมอพ้ืนบ้าน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ทร่ี ฐั มนตรีประกาศกาหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ ข้อ 3 สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายวา่ ด้วยสถาบนั อุดมศึกษาเอกชน ที่มหี น้าท่ี ศกึ ษาวิจยั และจัดการเรยี นการสอนเกยี่ วกับทางการแพทยห์ รือเภสชั ศาสตร์ ข้อ 4 ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจดทะเบียน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพ่ือสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการน้ัน หรือ สหกรณ์การเกษตรซ่ึงจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ ซ่ึงดาเนินการภายใต้ความร่วมมือและ

127 กากับดูแลของผู้ขออนุญาต ตาม ข้อ 1 หรือ ข้อ 3 ทั้งน้ี ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดังกล่าว สามารถร่วมผลิตและพัฒนาหลักสูตรตารับยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรได้เพื่อประโยชน์ทาง การแพทย์ ภายใตค้ วามรว่ มมอื และกากับดูแลของผู้ขออนญุ าตตาม ขอ้ 1 หรือ ขอ้ 3 ด้วย ขอ้ 5 ผปู้ ระกอบการขนสง่ สาธารณะระหว่างประเทศ ข้อ 6 ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ ที่มีความจาเป็นต้องพกนายาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ตดิ ตวั เขา้ มาในหรือออกไปนอกราชอาณาจกั รเพอ่ื ใช้รกั ษาโรคเฉพาะตัว ข้อ 7 ผู้ขออนุญาตอ่ืน ตามที่รัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ กาหนดในกฎกระทรวง ภาพที่ 44 ใครปลูกกัญชาได้บา้ ง

128 ในวาระเร่ิมแรกภายในระยะเวลา 5 ปี การขอรับใบอนุญาตสาหรับวัตถุประสงค์ผลิต นาเข้า ส่งออก ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือการรักษา ผปู้ ว่ ย ให้อนุญาต ดังนี้ ข้อ 1 ใหอ้ นุญาตไดเ้ ฉพาะกรณีทีผ่ ูข้ ออนุญาตเป็นหนว่ ยงานของรัฐ ข้อ 2 หรือเป็นผู้ขออนุญาตตามมาตรา 26/5 ซ่ึงดาเนินการร่วมกับผู้ขออนุญาตที่เป็น หนว่ ยงานของรฐั ถาม คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้บา้ นละ 6 ต้น จรงิ หรือไม่ ตอบ ไม่จรงิ ยงั ไม่สามารถทาได้ ณ ขณะน้ี (พฤศจกิ ายน 2562) กฎหมายไทยยังไมอ่ นุญาตให้ประชาชนปลกู กัญชาอยา่ งเสรีได้ กกกกกกกกกกลา่ วโดยสรุป พระราชบัญญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เป็นฉบับที่แก้ไข เพิ่มเติมจากพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เปิดโอกาสให้สามารถนากัญชาและ พชื กระทอ่ มไปทาการศึกษาวจิ ัย เพ่อื ประโยชน์ทางการแพทยแ์ ละสามารถนาไปใชใ้ นการรักษาภายใต้ การดูแลและควบคุมของแพทย์ผู้ไดร้ ับอนญุ าตได้ เพอื่ ใหถ้ ูกต้องตามหลักวชิ าการให้ทาได้โดยชอบด้วย กฎหมาย เพื่อสร้างความม่ันคงทางด้านยาของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางด้านยา นอกจากน้ีส่งผลให้อนาคตผู้ป่วยในประเทศ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้อย่างมาก และส่งผล ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ เปิดทางให้ใช้ในอุตสาหกรรมยา สมุนไพร อาหารและเคร่ืองสาอาง เพื่อประโยชนข์ องประเทศชาติ พร้อมสนับสนุนผูป้ ระกอบการภายในประเทศ ใช้ประโยชน์จากกญั ชง นอกเหนอื จากเส้นใย หวังเพ่มิ มลู ค่าทางเศรษฐกิจ นารายได้เข้าประเทศ กกกกกกกพระราชบัญญัติฉบับนี้ กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ห้ามมิให้ ผู้ใดเสพ เว้นแต่เสพเพื่อรักษาโรคตามคาส่ังของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือเป็นการเสพ เพ่ือศึกษาวิจัย และยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ ตามวัตถุประสงค์ในกรณีจาเป็น คือ ประโยชน์ของทาง ราชการ ประโยชนท์ างการแพทย์ ประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วย ประโยชน์ในการศึกษาวิจยั และพัฒนา และประโยชน์ในการเกษตรกรรม พาณิชยกรรม วิทยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรม อีกทั้งในมาตรา 26/5 ยังกาหนดผู้มีสิทธ์ิท่ีจะขอออกใบอนุญาตให้ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง

129 ผู้ขออนุญาตต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม สถาบันอุดมศึกษาตาม กฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกล่มุ เป็นวิสาหกจิ ชุมชน ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ และผู้ขอ อนุญาตอ่ืนตามท่ีรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกาหนดในกฎกระทรวง ซึ่งในวาระ เริ่มแรกภายในระยะเวลา 5 ปี การขอรับใบอนุญาตสาหรับวัตถุประสงค์ผลิต นาเข้า ส่งออก เพ่ือประโยชน์ทางการแพทย์หรือการรักษาผู้ป่วย ให้อนุญาตได้ คือ ให้อนุญาตได้เฉพาะกรณีท่ีผู้ขอ อนุญาตเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือเป็นผู้ขออนุญาตตามมาตรา 26/5 ซึ่งดาเนินการร่วมกับ ผขู้ ออนญุ าตทีเ่ ปน็ หน่วยงานของรัฐ เรือ่ งที่ 4 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกีย่ วขอ้ งกับกัญชาและกญั ชง กกกกกกก ประกาศกระทรวงสาธารณสุข และระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขท่ีเกี่ยวข้องกบั กัญชา เพ่ือทาให้เกิดความชัดเจนตามกฎหมายสาหรับผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยทุกด้าน ทั้งน้เี พ่ือใชป้ ระโยชนจ์ ากสารสาคญั ในกัญชา และกญั ชง มีจานวน 5 ฉบบั ดังนี้ กกกกกกก 1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กาหนดตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่มี กัญชาปรุงผสมอยู่ ที่ให้เสพเพ่ือรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2562 เนื้อหาสาคัญ คือการแก้ไขข้อความจากประกาศฉบับแรก ที่ยังระบุข้อความเร่ืองวัตถุดิบกัญชาต้องไม่สามารถแยก เปน็ ชอ่ ดอก ใบ เพอื่ นาไปใชใ้ นทางท่ีผดิ ได้ มาเป็น “ข้อ 5 ตารบั ยาทีผ่ ปู้ ระกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยปรุงข้ึนจากองค์ความรู้และภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยท่ีชัดเจน และได้รับการ รับรองจากกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก” ภาพที่ 45 กาหนดตารับกัญชาทใ่ี ห้เสพเพอื่ รักษาโรคได้

130 กกกกกกก 2. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง กาหนดผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และ หมอพ้ืนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ที่จะสามารถปรุง หรือส่ังจ่าย ตารับยาท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยู่ได้ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2562 เนื้อหาสาคัญคือ การแก้ไขข้อความจาก ประกาศฉบับแรก ท่ีห้ามแยก ช่อดอก ใบ ของกัญชาเช่นกัน มาเป็น “ข้อ 4 แนวทางการปรุงยา สาหรับผู้ป่วยของตนของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้าน ต้องมีการระบุองค์ ความรู้และภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่ชัดเจนและได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก” ภาพที่ 46 ผู้ประกอบวิชาชีพแผนไทยที่สามารถปรงุ หรอื สั่งจ่ายตารบั ยาทม่ี ีกญั ชาผสมอยไู่ ด้

131 กกกกกกก 3. ประกาศกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เร่อื ง กาหนดแบบตาม ระเบยี บกระทรวงสาธารณสุข วา่ ด้วยการรบั รองหมอพืน้ บ้าน พ.ศ. 2562 โดยประกาศจานวน 3 ฉบับข้างต้น เผยแพร่ประกาศและระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ในราชกจิ จานุเบกษา เมอ่ื วนั ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 กกกกกกก 4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. 2561 ประกาศ เม่ือวันท่ี 31 กรกฎาคม พ . ศ . 2561 มี ส า ร ะ ส า คั ญ โ ด ย ก า ห น ด ใ ห้ กั ญ ช า (cannabis) เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ลาดับที่ 1 ซึ่งมีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. และ Cannabis indica Lam. ท้ังนี้ให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพืชกัญชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น และ วัตถุหรือสารต่างๆ ท่ีมีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง น้ามัน ยกเว้นเปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เสน้ ใยแห้ง และผลติ ภณั ฑท์ ่ีผลิตจากเปลอื กแหง้ แกนลาตน้ แหง้ เส้นใยแห้ง เป็นต้น กกกกกกก 5. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่ือง ระบุช่ือยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2562 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันท่ี 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เพ่ือปลดล็อก ใช้ประโยชน์จากสารสาคญั ในกญั ชา และกัญชง โดยมีการยกเลิกแก้ไขเพมิ่ เตมิ ดงั นี้ 5.1 ยกเลิกช่ือ ลาดับที่ 1 ของประกาศ เม่ือวันท่ี 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 และ กาหนดให้ กัญชา (cannabis) ซ่ึงเปน็ พืชในสกุล Cannabis ทง้ั น้ีให้หมายความรวมถงึ ทกุ ส่วนของพืช กัญชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น และวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง น้ามัน ยกเวน้ กกกกกกกกกกกกกกก 5.1.1 กญั ชง (hemp) ทไ่ี ด้ประกาศเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตาม กฎหมาย กกกกกกกกกกกกกกก 5.1.2 แคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) ทีส่ กัดจากกัญชาซึ่งมคี วามบริสุทธ์ิ มากกวา่ หรือเทา่ กับรอ้ ยละ 99 โดยมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (tetrahydrocannabinol, THC) ไมเ่ กินร้อยละ 0.01 โดยน้าหนัก กกกกกกกกกกกกกกก 5.1.3 สารสกดั หรือผลิตภณั ฑจ์ ากสารสกัดทีม่ สี ารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลักและมสี ารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อย ละ 0.2 โดยนา้ หนกั ซ่งึ เป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมนุ ไพรตามกฎหมายวา่ ดว้ ยยาหรือผลติ ภณั ฑส์ มุนไพร และต้องใชต้ ามวัตถปุ ระสงค์ทางยาหรอื ผลิตภณั ฑส์ มุนไพร เทา่ นัน้ กกกกกกกกกกกกกกกทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 5 ปีแรก นับต้ังแต่วันที่ประกาศน้ีมีผลใช้บังคับ (วันท่ี 27 สิงหาคม 2562) การยกเว้นให้ใช้บังคับเฉพาะการผลิตในประเทศของผู้รับอนุญาตตาม กฎหมายนัน้ ๆ 5.1.4 เปลอื กแหง้ แกนลาตน้ แหง้ เส้นแหง้ และผลิตภัณฑท์ ่ผี ลิตจาก เปลือกแหง้ แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง

132 5.2 เพิ่มชื่อยาเสพติดให้โทษ คือ ลาดับที่ 5 กัญชง (Hemp) ซ่ึงมีชื่อทาง วิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อยของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ท้ังน้ีให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพืชกัญชง เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น ที่มีปริมาณ สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) และลักษณะเป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ประกาศกาหนด ยกเว้น 5.2.1 แคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) ซง่ึ สกัดจากกญั ชง ซึง่ มี ความบรสิ ทุ ธ์ิมากกวา่ หรือเท่ากับรอ้ ยละ 99 โดยมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.01 โดยน้าหนัก 5.2.2 สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลักและมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้าหนัก ซ่ึงเป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือ ผลิตภณั ฑส์ มุนไพร และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ทางยาหรอื ผลติ ภัณฑส์ มุนไพรเทา่ นั้น 5.2.3 เมล็ดกัญชง (hemp seed) หรือน้ามันจากเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) ซึ่งเป็นอาหารตามกฎหมายว่าดว้ ยอาหารและต้องใช้ตามวัตถปุ ระสงคท์ างอาหารเท่านั้น 5.2.4 น้ามันจากเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) หรือสารสกัดจากเมล็ด กัญชง ซ่ึงเป็นเคร่ืองสาอางตามกฎหมายว่าด้วยเคร่ืองสาอางและต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ทาง เครอ่ื งสาอางเทา่ นัน้ ทั้งน้ีเมล็ดกัญชงที่นาไปเป็นอาหาร หรือเคร่ืองสาอางต้องเป็นเมล็ดที่ไม่สามารถ นาไปเพาะพันธุ์ได้ (non - viable seed) หรือถูกทาให้ไม่มีชีวิต ซ่ึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขตามทีค่ ณะกรรมการประกาศกาหนด ภาพท่ี 47 เง่อื นไขการยกเลิกกัญชาและกญั ชง ออกจากกยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภท 5

133 กกกกกกกกกกล่าวโดยสรปุ ประกาศ และระเบียบของกระทรวงสาธารณสขุ ที่เก่ียวข้องกับกัญชาและ กัญชงทาให้เกิดความชัดเจนตามกฎหมายสาหรับผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยทุกด้าน ท้ังน้ี เพ่ือใช้ประโยชน์จากสารสาคัญในกัญชา และกัญชง มีจานวน 5 ฉบับ ดังน้ี (1) ประกาศกระทรวง สาธารณสุข เรื่อง กาหนดตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยู่ ท่ีให้เสพ เพ่อื รักษาโรคหรือการศึกษาวิจยั ได้ (2) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรือ่ ง กาหนดผปู้ ระกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ท่ีจะสามารถ ปรุง หรือส่ังจ่ายตารับยาท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยู่ได้ (3) ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก เรื่อง กาหนดแบบตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพ้ืนบ้าน พ.ศ. 2562 (4) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรือ่ ง ระบุชื่อยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท 5 พ.ศ. 2561 มีสาระสาคัญโดยกาหนดให้ กญั ชา (cannabis) เป็นยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท 5 ลาดับท่ี 1 ซ่ึงมีชื่อ พฤกษศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. และ Cannabis indica Lam. ท้ังนี้ให้หมายความรวมถึง ทุก ส่วนของพชื กญั ชา เชน่ ใบ ดอก ยอด ผล ลาตน้ และ วตั ถุหรอื สารต่าง ๆ ทม่ี อี ยใู่ นพืชกญั ชา เช่น ยาง น้ามัน ยกเว้นเปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากเปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และ (5) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2562 มีสาระสาคัญคือ กาหนดยกเลิกและแก้ไขเพ่ิมเติม ลาดับ 1 กัญชา (cannabis) ซ่ึงเป็นพืชในสกุล Cannabis ท้ังน้ีให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพืชกัญชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น และวัตถุหรือสารต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง น้ามัน และ ลาดับที่ 5 คือ กัญชง (hemp) ซ่ึงมีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อย ของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึง ทุกส่วนของพืชกัญชง เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) และ ลักษณะเปน็ ไปตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด เรื่องท่ี 5 ประกาศคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดให้โทษ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 กาหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมยาเสพ ติดให้โทษ โดยมีหน้าท่ีต่าง ๆ อาทิเช่น ให้ความเห็นชอบต่อผู้อนุญาตในการส่ังพักใช้ใบอนุญาตหรือ เพิกถอนใบอนุญาต วางระเบียบปฏิบัติราชการ กับกระทรวง ทบวงกรมอื่น ให้ความเห็นชอบในการ อนุญาตให้ผลิต จาหน่าย นาเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 4 และในประเภท 5 เป็นต้น ทั้งนี้ ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษที่ เกย่ี วขอ้ งกับกญั ชาและกญั ชง มีจานวน 6 ฉบบั ดงั น้ี 1. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง การแสดงความจานงและการ ตรวจสอบผู้แสดงความจานงเป็นผู้รับอนุญาตตั้งแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย พ.ศ. 2562 ประกาศเมื่อ

134 วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โดยกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแสดงความจานงและการตรวจสอบผู้แสดงความ จานงเป็นผู้รับอนุญาตเพ่ือประกอบกิจการของผู้รับอนุญาตที่ตายเพื่อให้การควบคุมยาเสพติดให้ โทษ ในประเภท 5 เฉพาะกัญชา เปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เร่ือง กาหนดแบบการจดั ทาบัญชีรับ จ่ายและรายงานเกี่ยวกับการผลิต การนาเข้า การส่งออก การจาหน่าย การมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยา เสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โดยประกาศฉบับนเี้ ปน็ การสมควรกาหนดแบบการจัดทาบัญชรี ับจา่ ยและรายงานเก่ียวกับ การผลิต การนาเข้า การส่งออก การจาหน่าย การมีไว้ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกญั ชา เพ่อื ใหก้ ารควบคุมเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ ปอ้ งกนั การร่วั ไหลไปนอกระบบ 3. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง กาหนดฉลากและเอกสาร กากับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 หรือคาเตือนหรือข้อควรระวังการใช้ที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อ บรรจุยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ท่ีผลิต นาเข้า หรือส่งออก สาหรับยาแผนปัจจุบันซ่ึงมีกัญชา ปรุงผสมอยู่ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โดยประกาศฉบับน้ี กาหนดให้มีฉลากและเอกสารกากับยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 โดยอยู่ในตาแหน่งท่ีเห็นได้ง่าย และชัดเจน 4. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เร่ือง กาหนดเมล็ดพันธุ์เฮมพ์เป็น เมล็ดพันธ์ุรับรองตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ใน ครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โดยเป็นการกาหนดเมล็ดพันธุ์เฮมพ์เป็นเมล็ดพันธ์ุรับรองตาม กฎกระทรวงการขออนญุ าต และการอนุญาตผลิต จาหนา่ ย หรอื มีไว้ครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษใน ประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. 2558 เพ่ือเป็นประโยชน์ในการควบคุมการผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรัดกุม มากยง่ิ ขึน้ 5. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดใหโ้ ทษ เร่ือง กาหนดลักษณะกญั ชง (Hemp) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยกาหนดลักษณะกัญชง เพื่อเป็น ประโยชน์ในการควบคุมการผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษใน ประเภท 5 เฉพาะกัญชง ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอกไม่เกนิ ร้อยละ 0.5 ต่อน้าหนักแหง้ และเมลด็ พนั ธุร์ ับรองมีลักษณะเป็นเมล็ดพันธ์ุกัญ ชงที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล ( tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและ ชอ่ ดอกไม่เกนิ ร้อยละ 0.3 ตอ่ นา้ หนกั แหง้

135 กก กกก ภาพท่ี 48 ลักษณะกญั ชง 6. ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรือ่ ง กาหนดลกั ษณะกญั ชง (Hemp) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ ในวันท่ี 25 ตุลาคม 2562 โดยกาหนดให้มีการยกเลิกประกาศฉบับเดิม ซึ่งสาระสาคัญของประกาศฉบับนี้ คือ กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) มีลักษณะเป็นพืชซ่ึงมีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อนั เปน็ ชนิดย่อยของพชื กัญชา (Cannabis sativa L.) ท่มี ีปริมาณสารเตตราไฮโดร แคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอก ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแห้ง โดยตรวจวิเคราะห์ ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด และเมล็ดพันธ์ุรบั รอง มีลักษณะเป็นเมล็ดพันธ์ุกัญชง (Hemp)ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอก ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 1.0 ต่อน้าหนกั แห้ง ทัง้ น้ี ตามทค่ี ณะกรรมการประกาศกาหนด โดยการตรวจวิเคราะห์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด และเป็นพันธุ์พืช ข้ึนทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยพันธุ์พืช โดยประกาศฉบับนี้จะไม่มีผลบังคับใช้กับกรณีกัญชงท่ีปลูก

136 อยู่ก่อนประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ รวมถึงเมล็ดพันธุ์ที่รับรองแล้วก่อนประกาศมีผลบังคับใช้ เพื่อ ส่งเสริมการพัฒนาสายพันธ์ุกัญชง โดยเฉพาะพันธ์ุพื้นเมือง เปิดกว้างให้เกิดการใช้ประโยชน์กัญชง อย่างคุ้มค่า อน่ึง ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ได้ประกาศกาหนดลักษณะ กัญชง (Hemp) พ.ศ. 2562 ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันท่ี 30 สิงหาคม พ.ศ 2562 ซ่ึงมี การกาหนดวา่ กัญชงท่ีไม่ถือเปน็ ยาเสพตดิ ประเภท 5 ในใบและชอ่ ดอกมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคน นาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.5 และเมล็ดพันธุ์รับรองที่จะใช้ในการ ปลูก ต้องเป็นเมล็ดพันธ์ุที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.3 แต่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมออนไลน์อย่างมาก จึงต้องให้มีการทบทวน ประกาศ เพ่ือให้มีการเปิดกว้างต่อการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงในประเทศไทยทาให้ออกประกาศ เป็น ฉบบั น้ี ลกั ษณะกญั ชง (Hemp) กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) THC ในใบและชอ่ ดอก ไม่เกนิ ร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแหง้ เมลด็ พนั ธรุ์ ับรอง THC ในใบและชอ่ ดอก ไมเ่ กิน ร้อยละ 1.0 ตอ่ น้าหนักแหง้ (ขอ้ มลู ณ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562) กล่าวโดยสรุป ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชาและ กญั ชง ทส่ี าคัญมีจานวน 6 ฉบับ ได้แก่ (1) ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรอ่ื ง การ แสดงความจานงและการตรวจสอบผู้แสดงความจานงเป็นผู้รับอนุญาตตั้งแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย (2) เรื่อง กาหนดแบบการจัดทาบัญชีรับจ่ายและรายงานเก่ียวกับการผลิต การนาเข้า การส่งออก การจาหน่าย การมีไว้ในครอบครอง ซ่ึงยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา (3) เรื่อง กาหนด ฉลากและเอกสารกากับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 หรือคาเตือนหรือข้อควรระวังการใช้ที่ภาชนะ บรรจุหรือหีบห่อบรรจุยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่ผลิต นาเข้า หรือส่งออก สาหรับยาแผน ปัจจุบันซง่ึ มกี ัญชาปรุงผสมอยู่ (4) เรอ่ื ง กาหนดเมล็ดพันธเุ์ ฮมพ์เป็นเมลด็ พันธุร์ ับรองตามกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. 2559 (5) เร่ือง กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) ประกาศเม่ือวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยกาหนดลักษณะกัญชง เพื่อเป็นประโยชน์ในการควบคุมการผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง ที่มีปริมาณสาร

137 เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอกไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อ น้าหนักแห้ง และเมล็ดพันธ์ุรับรองมีลักษณะเป็นเมล็ดพันธุ์กัญชงท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบิ นอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอกไม่เกินร้อยละ 0.3 ต่อน้าหนักแห้ง และ (6) เรื่อง กาหนดลักษณะกัญชง (Hemp) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 โดย กาหนดให้มกี ารยกเลิกประกาศฉบับเดมิ ซ่งึ สาระสาคัญของประกาศฉบับนี้ คอื กาหนดลกั ษณะกัญชง (Hemp) มีลักษณะเป็นพืชซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิด ย่ อ ย ข อ ง พื ช กั ญ ช า ( Cannabis sativa L.) ท่ี มี ป ริ ม า ณ ส า ร เ ต ต ร า ไ ฮ โ ด ร แ ค น น า บิ น อล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบและช่อดอก ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแห้งโดยตรวจ วิเคราะห์ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารท่คี ณะกรรมการประกาศกาหนด และ เมล็ดพนั ธรุ์ บั รองมลี กั ษณะ เป็นเมล็ดพันธุ์กัญชง (Hemp) ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ในใบ และช่อดอก ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้าหนักแห้ง ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการประกาศ กาหนด โดยการตรวจวิเคราะห์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกาหนด และเป็น พันธุ์พืชข้ึนทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยพันธุ์พืช โดยประกาศฉบับนี้จะไม่มีผลบังคับใชก้ ับกรณีกญั ชง ท่ีปลูกอยู่ก่อนประกาศดังกล่าวมผี ลบังคับใช้ รวมถงึ เมล็ดพันธุ์ท่รี ับรองแลว้ ก่อนประกาศมีผลบังคับใช้ เพื่อส่งเสรมิ การพัฒนาสายพันธ์ุกัญชง โดยเฉพาะพันธ์พุ ้ืนเมือง เปิดกวา้ งให้เกดิ การใช้ประโยชน์กัญชง อย่างคุ้มคา่ เร่อื งท่ี 6 พระราชบัญญตั สิ ทิ ธบิ ัตรกับกญั ชาและกัญชง กกกกกกกกตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 ประกาศเมอ่ื วนั ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2542 ให้ความหมาย “สิทธิบตั ร” หมายถงึ หนังสือสาคัญที่รัฐออกให้เพ่ือคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีมีลักษณะตามที่ กฎหมายกาหนด

138 ภาพที่ 49 ความหมายของ สทิ ธบิ ัตร กกกกกกกกการทีร่ ัฐให้ความคมุ้ ครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลติ ภัณฑ์ให้ผู้ทรงสิทธิบัตรมีสิทธิ เด็ดขาด และไดก้ าหนดการประดิษฐ์ท่ขี อรับสิทธิบตั รได้และไม่ได้ ในกรณีตา่ ง ๆ ดังนี้ กกกกกกกกมาตรา 5 กกาหนดการประดษิ ฐ์ทขี่ อรับสิทธิบตั รได้ ประกอบดว้ ยลักษณะดงั ต่อไปนี้ กกกกกกกกข้อ 1 ต้องเป็นการประดิษฐ์ข้ึนใหม่ คือ เป็นการประดิษฐ์ท่ีแตกต่างไปจากเดิม ยังไม่เคย มีใช้ หรอื แพร่หลายมากอ่ นหรอื ไมเ่ คยเปดิ เผยสาระสาคัญในเอกสาร หรอื ส่ิงพิมพม์ าก่อน กกกกกกกกข้อ 2 ต้องเป็นการประดิษฐ์ท่ีมีข้ันการประดิษฐ์สูงขึ้น คือ ไม่เป็นที่เข้าใจได้โดยง่ายแก่ บคุ คลท่ีมคี วามชานาญในระดบั สามญั สาหรับงานประเภทนั้น กกกกกกกกข้อ 3 ต้องเป็นการประดิษฐ์ท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณชิ ยกรรมหรอื หัตถกรรม

139 กกกกกกกกการประดิษฐ์ท่ขี อรับสิทธิบัตรไม่ได้ (ไมไ่ ด้รับการค้มุ ครองตามมาตรา 9) กกกกกกกกข้อ 1 จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหน่ึงของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์ พืช หรอื สารสกดั จากสัตว์หรอื พชื กกกกกกกกข้อ 2 กฎเกณฑ์และทฤษฎีทางวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ กกกกกกกกข้อ 3 ระเบียบข้อมลู สาหรบั การทางานของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ กกกกกกกกขอ้ 4 วธิ ีการวนิ จิ ฉยั บาบัด หรือรกั ษาโรคมนุษย์ หรือสตั ว์ กกกกกกกกข้อ 5 การประดิษฐ์ท่ีขัดตอ่ ความสงบเรยี บร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัยสวัสดภิ าพของ ประชาชน กก กก ภาพที่ 50 ความหมายของ สทิ ธิบตั รการประดิษฐ์ กกกกกกกการจดสิทธิบตั รในต่างประเทศและในประเทศไทย จะใช้ข้อตกลงลงบนพน้ื ฐานเดยี วกันโดย ประเทศไทยยึดหลักการตามข้อตกลงทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้าภายใต้องค์การค้าโลก (WTO)