Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เผป็นยาอย่างชาญฉลาด ม.ปลาย

วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เผป็นยาอย่างชาญฉลาด ม.ปลาย

Published by fonnuanlaong29, 2021-05-19 01:47:23

Description: วิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Search

Read the Text Version

240 1.6 แนะน้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเสริม หรือควบรวมกับการรักษาตาม มาตรฐาน 2. โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ด้ือต่อยารักษา (Intractable epilepsy) ผู้ส่ังใช้ ควรเป็นแพทย์ผู้เช่ียวชาญด้านระบบประสาท และได้รับการอบรมการใช้สารสกัดจากกัญชาเพื่อ การรักษาผู้ปว่ ย ภายใตข้ ้อพิจารณาดงั ต่อไปน้ี 2.1 ใช้ในโรคลมชักที่รักษายากในเด็ก ได้แก่ ดราเวท ( Dravet ) และเลนนอค แกสโท ซินโดรม (Lennox - Gastaut Syndrome) 2.2 โรคลมชักท่ีด้ือตอ่ ยารักษา ตั้งแต่ 2 ชนิดข้ึนไป หากคาดวา่ จะเกิด ดรักอินเตอร์แอคชั่น (Drugs interaction) อาจพจิ ารณาใชผ้ ลิตภณั ฑ์กญั ชาที่มี CBD สงู 2.3 แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคลมชักที่เข้าเกณฑ์โรคลมชักท่ีรักษายาก ควรส่งต่อผู้ป่วย ไปยังสถานบริการสุขภาพระดับตติยภูมิ เพื่อพบแพทย์ผู้เช่ียวชาญเฉพาะทางระบบประสาท เพื่อประเมนิ และใหก้ ารรักษาต่อไป ในกรณีต่อไปนี้ 2.3.1 ลมชักท่ียงั ควบคมุ ด้วยยาไม่ได้ 2.3.2 ผปู้ ว่ ยเดก็ ทม่ี ีอายตุ า้่ กว่า 2 ปี 2.3.3 ผู้ป่วยลมชักท่ีมีความเสี่ยง หรือไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงของการรักษา ลมชกั ได้ 2.3.4 มคี วามผิดปกติทางจิต หรอื มีโรคจติ ร่วมดว้ ย 2.3.5 มีข้อสงสัยในการวนิ ิจฉัยลักษณะลมชกั หรอื กล่มุ อาการลมชกั 3. ภาวะกล้ามเน้ือหดเกร็ง (Spasticity) ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเส่ือมแข็ง (Multiple sclerosis) แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา เพื่อบรรเทาอาการปวดและเกร็ง ในกรณีที่รักษาภาวะ กล้ามเน้ือหดเกรง็ ทด่ี ือ้ ต่อการรักษาภายใตข้ ้อพิจารณาดงั ต่อไปนี้ 3.1 ไม่แนะน้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์กญั ชาเปน็ การรักษาเริ่มต้น 3.2 แนะน้าให้ปรกึ ษากับผปู้ ว่ ยถึงประโยชน์ และความเสยี่ งของผลติ ภณั ฑ์กัญชาก่อนใช้ 3.3 แนะน้าให้ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานอย่างเหมาะสม (รวมถึงวิธีท่ีไม่ใช้ยา) แลว้ ไม่ไดผ้ ล 4. ภาวะปวดจากระบบประสาท (Neuropathic pain) แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ในกรณีที่รักษาภาวะปวดจากระบบประสาทที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน ภายใต้ข้อพิจารณา ตอ่ ไปนี้ 4.1 ไม่แนะนา้ ให้ใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชาเปน็ การรักษาเรมิ่ ตน้ 4.2 แนะน้าใหป้ รึกษากบั ผูป้ ว่ ยถึงประโยชน์ และความเสยี่ งของผลิตภัณฑ์กัญชาท่ีใช้

241 4.3 แนะน้าให้ใช้ในกรณีที่ทดลองใช้ยาบรรเทาอาการปวด อย่างสมเหตุผลแล้ว แตผ่ ู้ป่วย ยงั คงมอี าการปวด 4.4 แนะน้าให้ใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชา เป็นการรกั ษาเสริม หรอื ควบรวมกบั วธิ มี าตรฐาน กล่าวโดยสรุป การใชผลิตภัณฑกัญชาและกัญชงให้ได้ประโยชน์ทางการแพทย์ ในปจั จุบัน แนะนา้ โดยกรมการแพทย์ เพอื่ ใช้ในการดูแลรกั ษา และควบคมุ อาการของผู้ป่วย เนอ่ื งจาก มีหลักฐานทางวิชาการท่ีมีคุณภาพสนับสนุนชัดเจน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) ภาวะคล่ืนไส้ อาเจียนจากเคมีบ้าบัด (Chemotherapy induced nausea and vomiting) โดยแพทย์สามารถใช้ ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อรักษาภาวะคล่ืนไส้อาเจียนจากเคมีบ้าบัดท่ีรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล (2) โรคลมชักท่ีรักษายาก และโรคลมชักท่ีด้ือต่อยารักษา (Intractable epilepsy) ผู้ส่ังใช้ควรเป็น แพทย์ผู้เช่ียวชาญด้านระบบประสาท และได้รับการอบรมการใช้สารสกัดจากกัญชาเพื่อการรักษา ผู้ป่วย (3) ภาวะกล้ามเน้ือหดเกร็ง (Spasticity) ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis) แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อบรรเทาอาการปวดและเกร็งในกรณีที่รักษาด้วยวิธี อ่ืน ๆ แล้วไม่ได้ผล และ (4) ภาวะปวดจากระบบประสาท (Neuropathic pain) แพทย์สามารถใช้ ผลิตภณั ฑก์ ญั ชาในกรณีทรี่ กั ษาภาวะปวดจากระบบประสาททด่ี ื้อต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน เร่ืองท่ี 6 การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์น่าจะได้ประโยชน์ในการ ควบคุมอาการ ผลิตภัณฑ์กัญชาประเภทน้ีมีหลักฐานทางวิชาการที่มีคุณภาพสนับสนุน มีจ้านวนจ้ากัด ซ่ึงตอ้ งการขอ้ มลู การศกึ ษาวิจัยเพื่อสนับสนนุ ต่อไป อยา่ งไรก็ตาม ในกรณที ผี่ ้ปู ว่ ยได้รบั การรกั ษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้ว ไมส่ ามารถควบคุมอาการ ของโรคได้ หากจะน้าผลิตภัณฑ์กัญชามาใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย ปฏิญญาเฮลซิงกิ ของแพทยสมาคมโลก (ปี ค.ศ. 2013) ข้อ 37 ระบวุ ่ามีความเปน็ ไปไดห้ ากไม่มีวธิ กี ารรกั ษาอน่ื ๆ หรือมวี ธิ ีการรักษาแต่ไม่เกิด ประสิทธิผล ภายหลังจากได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ และได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย หรือญาติ โดยชอบธรรมแล้ว แพทย์อาจเลือกวิธีการที่ยังไม่ได้พิสูจน์ หากมีดุลยพินิจว่า วิธีการนั้น ๆ อาจช่วยชีวิตผู้ป่วย ฟ้ืนฟูสุขภาพ หรือลดความทุกข์ทรมานของผ้ปู ่วยได้ วิธีการดังกล่าวควรน้าไปเป็น วตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั โดยออกแบบใหป้ ระเมนิ ความปลอดภยั และประสทิ ธิผลควบค่กู ันไป รวมถงึ ตอ้ งบันทึกข้อมลู ผู้ป่วยทกุ ราย และหากเหมาะสมควรเผยแพรใ่ ห้สาธารณชนได้ทราบ การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยเฉพาะราย และด้าเนินการเก็บข้อมูลวจิ ัยควบค่กู นั ไป อาจมีรูปแบบการวิจัยในลักษณะการวิจัยเชิงสังเกต (Observational study) หรือการวิจัยจาก สถานการณ์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยจริง (Actual used Research) โรคและภาวะของโรค ในกลุ่มน้ี อาทิเชน่ ผู้ป่วยท่ีได้รับการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย (End –

242 State cancer) โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรควิตกกังวลไปทั่ว (Generalized anxiety disorders) โรคปลอกประสาทอกั เสบ (Demyelinating diseases) เป็นตน้ การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา เพ่อื บรรเทาความปวดในผู้ป่วยที่ได้รบั การดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ปว่ ยในวาระสดุ ทา้ ยของชวี ติ (End of Life) ซึง่ เป็นการตดั สินใจของผู้รักษา มีข้อแนะนา้ ดงั น้ี ขอ้ แนะน้าท่ี 1 ไมแ่ นะนา้ ให้ใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชาเปน็ การรักษาเริ่มต้น ข้อแนะน้าท่ี 2 ผู้ป่วยที่ได้รับยาแก้ปวดอย่างสมเหตุผลแล้วยังมีอาการปวดมาก ทั้งท่ี ยาแก้ปวดทีไ่ ดร้ บั อย่ใู นปริมาณทเ่ี หมาะสมแลว้ ข้อแนะน้าที่ 3 แนะน้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเสริม หรือควบรวมกับวิธีการ รกั ษาตามมาตรฐาน กล่าวโดยสรุป การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ น่าจะได้ประโยชน์ในการ ควบคุมอาการ ในกรณีท่ีผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยวิธมี าตรฐานแล้ว ไม่สามารถควบคุมอาการของโรค ได้ หากจะน้าผลิตภัณฑ์กัญชามาใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย ปฏิญญาเฮลซิงกิ ของแพทยสมาคมโลก (ปี ค.ศ. 2013) ระบุว่ามีความเป็นไปได้หากไม่มีวิธีการรักษาอ่ืน ๆ หรือมีวิธีการรักษาแต่ไม่เกิด ประสิทธิผล ภายหลังจากได้ปรึกษากับผู้เช่ียวชาญ และได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย หรือญาติ โดยชอบธรรมแล้ว แพทย์อาจเลือกวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชามาช่วยชีวิตผู้ป่วย ฟ้ืนฟูสุขภาพ หรือลด ความทกุ ขท์ รมานของผปู้ ว่ ย กจิ กรรมทา้ ยบท 1. กจิ กรรมท่ี 1 คา้ ชแ้ี จง : โปรดเลอื กตวั อักษรหนา้ ข้อท่ีผู้เรียนคดิ ว่าข้อนน้ั เป็นค้าตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุด เพยี งข้อเดยี ว แล้วเขียนค้าตอบลงในกระดาษของผเู้ รยี น ข้อ 1 ผู้ปว่ ยทีแ่ พทยแ์ นะน้าให้ใชน้ า้ มันกัญชามาหยดเพ่ือรักษาหรือบรรเทาอาการปว่ ย ควรหยดลงบรเิ วณใด ถงึ จะถูกตอ้ งในทางการแพทย์ ก. หยดลงบริเวณใต้ลน้ิ และกระพุ้งแกม้ ข. หยดลงบริเวณข้างล้ิน และกระพ้งุ แก้ม ค. หยดลงบรเิ วณโคนลน้ิ และกระพุ้งแก้ม ง. หยดลงบริเวณปลายล้ิน และกระพงุ้ แก้ม

243 ขอ้ 2 การหยดน้ามนั กญั ชาในทางการแพทย์ควรหยดน้ามันกัญชาในช่วงเวลาใด ก. เวลาเช้า ข. เวลาบา่ ย ค. เวลาเยน็ ง. เวลากอ่ นนอน ขอ้ 3 ขอ้ ใดคือสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ ซาตเิ วกซ์ (SativexR) รปู แบบสเปรย์ในชอ่ งปาก ใต้ลิ้น ปรมิ าณ THC : CBD อัตราส่วน 1.08 : 1 ทถี่ กู ตอ้ งท่ีสดุ ก. เพื่อรักษาโรคปลอกประสาทอักเสบ ข. เพื่อรักษาโรคปลอกประสาทอักเสบ บรรเทาอาการเกร็งทีเ่ กิดขน้ึ จากโรค ค. เพ่ือรักษาโรคปลอกประสาทอักเสบ บรรเทาอาการเกรง็ ท่เี กิดขน้ึ จากโรค และอาการปวดของเส้นประสาท ง. เพื่อรักษาโรคปลอกประสาทอักเสบ บรรเทาอาการเกรง็ ทเ่ี กิดขึน้ จากโรค และอาการปวดของเสน้ ประสาท โรคเครยี ด กรณศี ึกษา นายรามิล ป่วยมีภาวะกล้ามเน้ือหดเกร็ง ของโรคปลอกประสาทเส่ือมแข็ง ต่อมา นายรามลิ ได้ข้อมูลจากกลุ่มเพ่ือน และศกึ ษาข้อมูลจากอนิ เตอรเ์ น็ตว่านา้ มนั กัญชา สามารถใช้ รักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งได้ จึงไปหาซื้อน้ามันกัญชามาเอง และใช้หยดใต้ล้ิน รกั ษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแขง็ ให้กบั ตนเอง ข้อ 4 จากกรณีศึกษา นายรามิล ควรหรือไม่ควร ที่จะใช้น้ามนั กัญชาในการรักษาภาวะ กลา้ มเนอื้ หดเกรง็ ของโรคปลอกประสาทเสอื่ มแข็ง ก. ควร เนอ่ื งจากได้ขอ้ มลู จากกลุม่ เพือ่ น ข. ควร เนอื่ งจากศึกษาจากอนิ เตอร์เน็ตสามารถรักษาได้ ค. ไม่ควร เนอ่ื งจากโรคปลอกประสาทเสือ่ มแข็ง สามารถหายได้ด้วยยาอน่ื ง. ไมค่ วร เนอ่ื งจากแพทย์ยงั ไม่ไดว้ ินิจฉยั ตรวจสาเหตขุ องโรคทีต่ นเองเป็นอยู่

244 ข้อ 5 จากกรณีศึกษา การศึกษาหาข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต และการแนะนา้ จากเพอ่ื น ในการน้ากญั ชามารกั ษาโรคปลอกประสาทเส่ือมแข็ง ได้ผลจรงิ หรือไม่ ก. จริง เนอื่ งจากน้ามนั กัญชาดดู ซึมไดง้ ่าย ข. จรงิ เน่ืองจากน้ามันกญั ชาสามารถรักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งได้ ค. ไมจ่ รงิ เนื่องจากน้ามันกญั ชาไมส่ ามารถรกั ษาโรคปลอกประสาทเส่ือมแข็งได้ ง. ไมจ่ รงิ เนื่องจากการใชน้ ้ามันกัญชาปรมิ าณเท่าใดขึน้ อยู่กับการควบคมุ ดูแล ของแพทย์ 2. กจิ กรรมท่ี 2 ค้าชี้แจง : โปรดจับคู่ข้อมูลที่อยู่หลังตัวอักษรที่ตรงกับตัวเลขของข้อน้ัน ๆ หรือมี ความสมั พนั ธต์ รงกบั หวั ข้อเลขนนั้ ๆ ให้ถูกต้องแลว้ นา้ ตวั อักษรของหน้าข้อมลู มาใสห่ น้าตัวเลขตรงกับ ขอ้ นน้ั ๆ .......... 1. โรคทางสมองท่ีเกดิ จากเซลลป์ ระสาทในบางต้าแหนง่ ก. โรคพารก์ ินสัน เกิดการตายโดยไม่ทราบสาเหตุท่แี น่ชดั ข. โรคลมชกั .......... 2. โรคทสี่ ามารถใชก้ ญั ชารักษาไดผ้ ลพอสมควร ค. โรคตอ้ หิน .......... 3. น้ามนั กัญชาท่ีมีการผลิตอยา่ งไดม้ าตรฐานในประเทศไทย ง. องคก์ ารเภสชั กรรม .......... 4. โรคท่ไี มส่ ามารถรกั ษาใหห้ ายขาดได้ท้าได้เพียงควบคมุ อาการ จ. องค์การอาหารและยา .......... 5. กลุม่ โรคที่เกีย่ วข้องกับการเจริญของเซลล์ทม่ี คี วามผิดปกติ ฉ. โรคสะเกด็ เงนิ ช. โรคมะเร็ง ซ. คลินิคกัญชา 3. กจิ กรรมที่ 3 ค้าช้ีแจง : โปรดท้าเคร่ืองหมายถูก () หรือเคร่ืองหมายผิด () ลงหน้าข้อตัวเลข ทผี่ ูเ้ รยี นอ่านข้อมลู แล้วคดิ ว่าคา้ ตอบนี้ถูก ใหท้ ้าเคร่ืองหมายถูก () ถา้ คดิ วา่ ข้อมูลที่อ่านเป็นค้าตอบ ท่ีผดิ ให้ท้าเครอ่ื งหมายผิด () .......... 1. ในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมรกิ า จดสทิ ธบิ ัตรกัญชา อา้ งสิทธิในการใชก้ ญั ชา รักษาโรคทางระบบประสาท .......... 2. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบรุนแรงเฉียบพลัน (Acute Leukemia ) คอื กลุม่ โรคมะเร็ง ทางโลหิตวทิ ยาที่เกิดจากความผิดปกติของเซลลต์ ้นก้าเนดิ เม็ดโลหิต .......... 3. กญั ชาทอี่ งคก์ ารอาหารและยา (Food and Drug Administration) ของประเทศ สหรฐั อเมรกิ า อนมุ ัตยิ าจากสารสกัดกัญชาตัวแรก (ไม่ใช่สารสังเคราะห์) ชอื่ การค้า ซีซาเมท (Cesamet®)

245 .......... 4. น้ามนั กัญชาทม่ี ีการผลิตอย่างได้มาตรฐานในประเทศไทย จากโรงพยาบาลเจ้าพระยา อภยั ภูเบศร ปจั จุบันมอี ยู่ 4 สตู ร .......... 5. ในปี พ.ศ. 2556 บริษัท โอซกู ้า ฟามัซยู ทแิ ค็ล จา้ กดั มหาชน โตเกยี ว ประเทศญีป่ ุ่น บริษัทยาในประเทศญ่ีป่นุ และประเทศอังกฤษ ไดจ้ ดสทิ ธบิ ตั รใชก้ ัญชารกั ษา โรคมะเรง็

246 บทที่ 7 ใชก้ ัญชาและกัญชงเปน็ ยาอยา่ งรคู้ ณุ คา่ และชาญฉลาด สาระสาคัญ 1. ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับกัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ 1.1 ความเชื่อเก่ียวกับกัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ ได้แก่ ตาราสมุนไพรโบราณ กัญชาและกัญชงรักษาโรคมะเร็งได้ และกัญชาและกัญชงเป็นยารักษาชีวิตได้ ซ่ึงความเชื่อบางอย่าง ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยรองรับ แต่ความเชื่อบางอย่างยังอยู่ในการศึกษาวิจัย จึงไม่ควรปฏิบัติตาม จนกวา่ จะมผี ลการวจิ ัยความเชอ่ื ท่ไี ด้ศึกษา ในหวั ขอ้ ดังกลา่ ว 1.2 ความจริงเก่ียวกับกัญชาและกัญชงทางการแพทย์ จากการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ กัญชาและกัญชงช่วยในการรักษาอาการ และโรคดังน้ี (1) อาการปวดเรื้อรังจากเส้นประสาท (2) อาการ คล่นื ไส้อาเจียน และเพิ่มความอยากอาหาร (3) โรคปลอกประสาทเสอ่ื ม และ (4) โรคลมชัก 2. การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ เช่น โรคมะเร็ง โรคสมองเส่ือม โรคเบาหวาน และโรคไตเรื้อรัง เป็นต้น จาเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยถึงความปลอดภัย และประสิทธิผลอย่างละเอียด ซึ่งปัจจุบัน (พ.ศ. 2562) ยังมีข้อมูลหลักฐานทางวิชาการไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจึงควรได้รับการรักษาตามวิธีมาตรฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันหากเลือกใช้ เฉพาะผลิตภัณฑ์ กญั ชาและกัญชงในการรักษาแลว้ อาจทาใหผ้ ูป้ ว่ ยเสยี โอกาสในการรักษาได้ 3. ข้อแนะนาก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ มี 8 ข้อ ได้แก่ (1) ความสมั พนั ธ์ระหว่างแพทย์กับผ้ปู ว่ ย เป็นพน้ื ฐานในการยอมรับการรักษาพยาบาล รวมถงึ การประเมิน ผู้ป่วยว่าเหมาะสมท่ีจะใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงหรือไม่ (2) การประเมินผู้ป่วย ข้อมูลประวัติที่ เกี่ยวข้องกับอาการของผู้ป่วย (3) การแจ้งให้ทราบ และตัดสินใจร่วมกัน (4) ข้อตกลงการรักษาร่วมกัน (5) เงอื่ นไขที่เหมาะสม ในการตัดสินใจของแพทย์ในการส่ังใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง (6) การติดตาม อย่างต่อเน่ืองและปรับแผนการรักษา (7) การให้คาปรึกษา และการส่งต่อ และ (8) การบันทึกเวชระเบียน จะชว่ ยสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจในการแนะนาการใช้ผลิตภัณฑ์กญั ชาและกัญชง 4. การวางแผนการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง แนะนาให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและ กญั ชงในการทดลองรักษาระยะสั้น เพื่อประเมนิ ประสิทธิผลในการรักษาผู้ปว่ ย แผนการรกั ษาควรมีความ ชัดเจน ใน 6 ประเด็น ได้แก่ (1) วางเป้าหมายการเริ่มรกั ษา และการหยุดใช้ แพทย์ควรหารือร่วมกับ ผู้ป่วยให้ชัดเจน (2) การบริหารจัดการโดยแพทย์เวชปฏิบัติท่ัวไป (3) มีกระบวนการจัดการความเส่ียง

247 (4) กากบั ติดตาม ทบทวนทุกสัปดาห์ โดยแพทย์ หรอื เภสชั กรผู้เชย่ี วชาญ (5) ให้ผ้ปู ว่ ยลงนามยินยอม และ (6) ให้คาแนะนาผู้ป่วยเม่ือใช้ผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 5. การเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงกับผู้ป่วยในทางการแพทย์ ต้องคานึงถึงข้อปฏิบัติ 2 ประการ ไดแ้ ก่ (1) การซกั ประวตั ิอาการป่วยในปจั จุบนั ประวตั กิ ารเจบ็ ปว่ ยในอดีต ประวตั เิ จ็บป่วย ทางจติ และโรคทางจิตเวช และอาการทางจิตจากการไดร้ ับยารักษาโรคพาร์กินสัน ยารกั ษาโรคสมองเส่ือม และพฤติกรรมเส่ียงท่ีสัมพันธ์กับการติดสารเสพติด และ (2) การกาหนดขนาดยา และการบริหารยา ไม่มีขนาดยาเริ่มต้นท่ีแน่นอนในผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงแต่ละชนิด ขนาดยาท่ีเหมาะสมข้ึน กับ ลักษณะของผู้ป่วยแต่ละคน โดยเร่ิมต้นขนาดต่า และปรับเพ่ิมขนาดช้า ๆ จนได้ขนาดยาท่ีเหมาะสม ส่งผลตอ่ การรกั ษาสูงสุด และเกิดผลข้างเคยี งตา่ สุด ขนาดยาในระดบั ต่ามีโอกาสเกิดผลข้างเคียงนอ้ ย 6. ข้อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีสาร THC และ CBD เป็นส่วนประกอบมี 4 ข้อ ได้แก่ (1) ผู้ท่ีมี ประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสารสกัดกัญชาและกัญชง (2) ผู้ท่ีมีอาการรุนแรง หรือมีปัจจัยเส่ียงของ โรคหลอดเลือดหัวใจ (3) ผู้ที่เป็นโรคจิต หรืออาการของโรคอารมณ์แปรปรวน หรือโรควิตกกังวลมาก่อน และ (4) สตรีมคี รรภ์ สตรที ใ่ี ห้นมบุตร รวมท้ังสตรีวยั เจรญิ พนั ธท์ุ ี่ไม่ไดค้ มุ กาเนิด หรือสตรวี างแผนทจี่ ะ ตงั้ ครรภ์ 7. ขอ้ ควรระวงั เกยี่ วกบั การใช้ผลิตภณั ฑก์ ญั ชาและกัญชง 7.1 ข้อควรระวังทางการแพทย์ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในผู้ป่วยท่ีมีอายุ ต่ากว่า 25 ปี เพราะมีผลข้างเคียงต่อสมองที่กาลังพัฒนา และไม่ควรใช้กับผู้ป่วยโรคตับ ผู้ติดสารเสพตดิ รวมถึงนิโคติน ผู้ดื่มสุราอย่างหนัก ผู้ใช้ยาในกลุ่มโอปิออยด์ (opioids) ยากล่อมประสาท เด็กและ ผ้สู ูงอายุ เน่อื งจากยังไมม่ ีขอ้ มูลทางวิชาการมากเพยี งพอ 7.2 ขนาดของกัญชาและกัญชงที่ใช้ในทางการแพทย์ ในการรักษาโรค ยังไม่สามารถ กาหนดขนาดการใช้ท่ีแน่นอนได้ โดยตอ้ งปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และมีหลักสาคัญคือ เร่มิ ทีละน้อย แลว้ ค่อย ๆ เพ่ิมขนาด ซ่งึ ผู้ปว่ ยที่เป็นโรค หรอื มอี าการต่างกัน จะใช้ขนาดยาต่างกัน โดยหากใช้ขนาดยา กัญชาและกญั ชงท่ีไมถ่ ูกต้องจะเกิดการดือ้ ยา 7.3 ห้ามใช้น้ามันกัญชาและกัญชงทาบุหรี่ เพราะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบบ ทางเดนิ หายใจ และไมค่ วรใช้กบั บุหรี่ไฟฟ้า อาจทาให้ปอดอกั เสบเป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ 7.4 สารตกค้างจากการสกัดน้ามันกัญชาและกัญชง ในการเลือกผลิตภัณฑ์กัญชาและ กัญชงต้องศึกษาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้สารสกัดชนิดใด มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด การสกัด โดยตวั ทาละลายแนฟทา หรอื ปโิ ตรเลียมอเี ทอร์ มคี วามปลอดภัยนอ้ ยกว่าการสกดั ดว้ ยเอทานอล หรอื การต้มในน้ามันมะกอก เนอ่ื งจากพบการตกค้างของตัวทาละลายท่ีมีความเสี่ยงท่ีทาให้เกดิ โรคมะเร็งได้ และวิธีการสกัดใหม่ท่ีเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ การสกัดโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์เหลว และเอทานอล สกดั เยน็ เนือ่ งจากมคี วามปลอดภัยสูง สามารถสกดั ได้ปรมิ าณมาก และได้สารแคนนาบนิ อยด์เข้มขน้

248 7.5 ความปลอดภัยของน้ามันกัญชาและกัญชง ต้องคานึงถึงแหล่งท่ีมา ผลิตภัณฑ์ที่ได้ มาตรฐานการผลิตท่ีดี ต้องผ่านการตรวจควบคุมคุณภาพ และส่ังจ่ายภายใต้แพทย์ เภสัชกร และ แพทย์แผนไทยทีผ่ ่านการอบรมการใช้กัญชาและกัญชง เพือ่ ประโยชน์ทางการแพทยม์ าแล้ว 7.6 สายพันธุ์กัญชาและกัญชงเหมาะกับบางโรค จากการสังเกตการณ์เก็บข้อมูลจาก งานวิจัย สารเคมีที่แตกต่างกันในกัญชาและกัญชงแต่ละสายพันธ์ุ และผลการรักษาในผู้ปว่ ยแต่ละโรค ในต่างประเทศ พบว่ากัญชาและกัญชงแต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับแต่ละโรคไม่เท่ากัน แต่ยงั เปน็ งานวจิ ัยขนั้ ต้น ตอ้ งมกี ารศึกษาในเชงิ ลึกต่อไป 7.7 หลกั ธรรมนาชีวิตพ้นพิษภัยจากกัญชาและกัญชง การใชพ้ ุทธธรรมเพ่ือสร้างภูมิคุ้มกัน ทางดา้ นจิตใจให้มีความเข้มแข็ง โดยใช้ภูมคิ ุ้มกันทางครอบครวั ท่ีเปน็ ความรักความอบอุ่น ความเขา้ ใจ ซ่ึงกันและกัน ภูมิคุ้มกันจากสังคมส่ิงแวดล้อม ภูมิคุ้มกันจากกัลยาณมิตร รวมถึงการเสริมสร้างการ เรียนรู้ท่ีเกิดจากตนเองเป็นผู้กาหนด เยาวชนของชาติส่วนใหญ่ที่หลงเข้าไปเสพยา หรือเก่ียวข้องกับ ยาเสพติด รวมทั้งกัญชาและกัญชง อาจเนื่องจากขาดความรักความอบอุ่น ขาดความรู้ความเข้าใจต่อ สงั คม เขา้ ใจวา่ ตนเองไม่มคี ุณค่า และขาดความรู้ทางธรรมะพืน้ ฐาน หากเราตอ้ งการแก้ปัญหาเร่ืองยา เสพติดของเยาวชน เราจาเป็นต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของเยาวชน รวมท้ังตัวเราควรได้เรียนรู้ปรับ ทัศนคติมุมมองด้วยการใช้ปัญญา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาของตนเอง ในด้านครอบครัว สังคม และมิตร ให้ประสานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เสมือนเฟืองสามตัวขับเคลื่อนกลไกให้ทางาน ในเวลาเดียวกัน ดังน้ันการป้องกันมิให้เยาวชน รวมทั้งตัวเราได้มีโอกาสเข้าไปยุ่งเกี่ยว กับยาเสพติด เป็นการป้องกันในลักษณะการสร้างความพร้อมในการใช้ชีวิตเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้ใหญ่ หรือ เป็นผู้ดูแลตนเองได้ โดยใช้ปัญญาเป็นเคร่ืองมือท่ีจะนาพาตนเองให้อยู่ในสังคมเป็นพลเมือง ท่ีมีคุณภาพ ซ่งึ จะเปน็ ปจั จยั สาคัญท่ีจะทาให้เราใชช้ วี ติ ในสังคมได้อยา่ งภาคภูมิใจ เปน็ พลเมืองที่มีคุณภาพ มคี วาม เข้มแข็งท่ีเกิดจากกระบวนการใช้ปัญญาเป็นหลักที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งจะเป็นพ้ืนฐานสาคัญท่ีจะทาให้ ประเทศไทยมีพลเมืองที่มีคุณภาพนาพาประเทศให้มีความสุขสงบ เจริญร่งุ เรอื งสืบไป 8. ข้อห้ามในการใช้กัญชาและกัญชงกับบุคคลต่อไปนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยท่ีมีอาการทางระบบ ประสาทผิดปกติ ผู้ปว่ ยโรคหัวใจข้ันรนุ แรงทมี่ ีอาการความดันโลหติ ต่าลง หรอื หวั ใจเต้นเร็ว สตรีต้งั ครรภ์ หรือให้นมบุตร บุคคลที่มีอายุต่ากว่า 25 ปี ผู้ป่วยโรคตับ โดยถ้าจาเป็นต้องใช้ต้องอยู่ในความดูแล ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 9. การถอนพิษเบื้องต้นจากการเมากัญชาและกัญชง ที่มีอาการมึนศีรษะ โคลงเคลง แน่น หน้าอกจากการใช้กัญชาและกัญชงเกินขนาด มีอยู่ 3 วิธี ได้แก่ วิธีที่ 1 ให้ดื่มน้ามะนาวผสมน้าผ้ึง หรือ น้าตาลทราย วิธีที่ 2 ดื่มสมุนไพรรางจืด และวิธีท่ี 3 รับประทานกล้วยน้าว้าสุก วันละ 3 เวลา เวลาเช้า กลางวนั และเยน็

249 ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั 1. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับความเช่ือและความจริงเก่ียวกับกัญชาและกัญชง ทางการแพทย์ การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ ข้อแนะนา ก่อนตัดสนิ ใจใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ การวางแผนการรักษาดว้ ยผลิตภัณฑ์กัญชา และกัญชง การเร่ิมใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ ข้อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC และ CBD เป็นส่วนประกอบ ข้อควรระวังเก่ียวกับการใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ข้อห้ามในการใช้ กญั ชาและกญั ชง และการถอนพิษเบอ้ื งต้นจากการเมากญั ชาและกญั ชง 2. เพื่อใหม้ ที ักษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ และทักษะในการให้คาแนะนา การใช้กญั ชาและกัญชง กับบุคคลในครอบครัว หรือเพือ่ น หรือชุมชน 3. เพ่อื ให้ตระหนักถึงคณุ ค่าของการนากัญชาและกัญชงไปใชเ้ ปน็ ยา ขอบขา่ ยเนอื้ หา บทท่ี 7 ใช้กัญชาและกญั ชงเป็นยาอย่างร้คู ณุ ค่าและชาญฉลาด เรื่องที่ 1 ความเชอ่ื และความจริงเกี่ยวกับกญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ เร่ืองที่ 2 การใช้ผลิตภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ เรื่องที่ 3 ขอ้ แนะนาก่อนตดั สินใจใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ เรื่องท่ี 4 การวางแผนการรักษาดว้ ยผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกัญชง เร่อื งที่ 5 การเรม่ิ ใช้ผลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ เรื่องที่ 6 ขอ้ ห้ามใชผ้ ลิตภัณฑ์ทม่ี ีสาร THC และ CBD เปน็ ส่วนประกอบ เรอ่ื งที่ 7 ขอ้ ควรระวังเก่ยี วกบั การใช้ผลติ ภัณฑก์ ัญชาและกัญชง เรอื่ งที่ 8 ขอ้ หา้ มในการใช้กัญชาและกัญชง เรอ่ื งที่ 9 การถอนพิษเบ้อื งต้นจากการเมากัญชาและกญั ชง ส่ือประกอบการเรียน 1. ชือ่ หนงั สือกระท่อมและกัญชาทางการแพทย์ ชอ่ื ผู้แต่ง นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ช่ือโรงพิมพ์ Go Green บริษทั โกกรีน โซเซยี ล เวนเจอร์ จากัด ปที ่พี ิมพ์ 2562 2. ช่ือหนังสือรักษาโรคด้วยกัญชงและกัญชา ช่ือผู้แต่ง นพ.สมยศ กิตติม่ันคง ช่ือโรงพิมพ์ Go Green บริษทั โกกรนี โซเซียล เวนเจอร์ จากัด ปที ่ีพมิ พ์ 2562

250 3. บทความเรื่องคาแนะนาการใช้กัญชาทางการแพทย์ (Guidance on Cannabis for Medical Use) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สบื ค้นจาก https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document/190609156008311353.PDF 4. บทความเรื่องขนาดยาจากกญั ชาที่เหมาะสมในการรักษาโรค ช่ือผู้เขียน ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น สืบค้นจาก https://thaicam.go.th/wp- content/uploads/2019/09/ขนาดยาจากกัญชาท่ีเหมาะสมในการรักษาโรค.pdf 5. บทความเรื่องกัญชากับการรักษาโรค ช่ือหน่วยงานคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สบื ค้นจาก https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/453 6. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ เลขท่ี 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 เบอรโ์ ทรศัพท์ 02 226 0335 7. ห้องสมุดใกล้บา้ นผู้เรยี น เรื่องท่ี 1 ความเชอื่ และความจรงิ เก่ียวกบั กัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ 1. ความเชอ่ื เกี่ยวกบั กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ 1.1 ตาราสมุนไพรโบราณ ตาราสมุนไพรโบราณที่ชื่อ ‘มักข์ซาน’ ที่เกิดจากการผสมผสานความรู้ด้านสมุนไพร ของอาหรับ และกรีกไว้ด้วยกัน กล่าวถึงกัญชาไว้ว่า “คาเนห์บอส (กัญชา) คือผู้ประทานความปีติสุข ผู้โบยบินสู่ฟากฟ้า ผู้ช้ีทางสวรรค์ เป็นสวรรค์ของคนยาก และผู้ปลอบประโลมยามทุกข์ระทม” ในคติความเชื่อของศาสนาฮินดู เรยี กสมนุ ไพรชนิดนีว้ ่า ภงั ค์ (bhang หรือ bhanga) เชอื่ ว่าเป็นสมุนไพร ท่พี ระศิวะเจา้ ทรงประทานแด่มวลมนุษย์ 1.2 คนมีความเชือ่ วา่ กญั ชาและกญั ชงรกั ษาโรคมะเร็งได้ 1.2.1 นายแพทย์วีรวุฒิ อ่ิมสาราญ ได้กล่าวว่าในปัจจุบัน (พ.ศ. 2562) ยังไม่มี ข้อมูลยืนยันว่ากัญชาและกัญชงสามารถรักษามะเร็งในมนุษย์ได้ จะมีก็แต่เพียงการศึกษา และวิจัยใน ระดับขนั้ ทดลองตามกระบวนการ ไดแ้ ก่ (1) ทดสอบกับเซลล์มีชีวิตในหลอดทดลอง (2) ทดสอบใน สัตว์ทดลอง และ (3) ทดสอบในมนุษย์ โดยล่าสุดอยู่ในข้ันตอนกาลังทาการวิจัยว่า กัญชาและกัญชง จะสามารถรักษามะเร็งในมนุษย์ได้หรือไม่ นอกจากนี้นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสาราญ ได้ระบุถึงวิธีการใช้ กัญชารักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการนาเตารีด หรือท่ีหนีบผมมานาบกับกัญชา ว่าในฐานะที่เป็นแพทย์ แผนปัจจุบันนั้น การท่ีแพทย์จะนาอะไรก็ตามไปใช้กับผู้ป่วยเพื่อทาการรักษา แพทย์ต้องมีความรู้ ความเข้าใจวิธีการรักษาโดยละเอียด ในกรณีที่แพทย์แนะนาผู้ป่วยให้ใช้กัญชารักษาโรคมะเร็ง ผู้ป่วยจะ ทราบได้อย่างไรว่าความร้อนของเตารีดต้องมีอุณหภูมิเท่าไร ปริมาณของกัญชาต้องอยู่ในระดับใด ในการรักษาโรคครัง้ นขี้ ณะนี้ยังไมม่ ีผลงานวิจยั ใด ๆ ออกมายนื ยันว่ากญั ชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

251 1.2.2 นายแพทย์สมยศ กิตติมั่นคง ผู้เขียนหนังสือกัญชา คือยารักษาโรคมะเร็ง ได้ให้ข้อมูลว่าตนเองไม่ได้เห็นกับตาว่ากัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ แต่มีผู้ป่วย หรือ ญาติผู้ปว่ ย เขา้ มาพูดคยุ บอกเลา่ ให้ฟงั วา่ เคยใช้กญั ชารกั ษาโรคมะเร็งแล้วไดผ้ ลดี 1.3 มนษุ ย์มีความเช่อื วา่ กัญชาและกัญชงเป็นยารักษาชวี ติ ได้ นายณรงค์ รัตนานุกูล อดีตเลขาธิการสานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ว่าจากการศึกษาข้อมูลของสานักงานป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดในช่วงท่ีผ่านมา พบว่ากัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์ แต่ในทางกลับกัน หากทา การศึกษาวจิ ัยแล้วพบว่า สารในกญั ชาสามารถรกั ษาชวี ิตได้ หรือสามารถใช้ประโยชนใ์ นทางการแพทย์ กจ็ ะดึงประโยชน์นั้น ๆ มาใช้ และในขณะเดียวกันต้องอยู่ในขอบเขตท่ีควบคุมได้ ในสว่ นของประโยชน์ ทางสาธารณสุขไม่มีใครกีดกัน หรือขวางประโยชน์ของประชาชน แต่บางท่านควรอ่านเน้ือหาของ ข้อมูล หรือข่าวให้ครบถ้วน เพราะการอ่านแค่พาดหัวข่าวอาจสร้างความเข้าใจผิด หรือหลงเชื่อใน ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนได้ การเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด และรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ เป็นสิ่ง สาคัญ และจาเป็นอย่างย่ิง นอกจากนี้หากจะทาการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกท่ีมีอยู่ ส่ิงสาคัญคือไม่ ควรท้ิงการรกั ษามาตรฐาน เพราะจากประสบการณ์ที่พบมา หากละทิ้งการรกั ษามาตรฐานแล้วจะเกิด ผลเสียกับผูป้ ว่ ยมากกวา่ ผลดี หรืออาจถงึ ขน้ั เสียชีวิต 1.4 ความเชื่อกัญชากบั แอลกอฮอล์ ถาม  จรงิ หรือไม่ กญั ชาเสพตดิ ยาก ส่วนเครอื่ งดื่มแอลกอฮอลเ์ สพติดง่ายกวา่ ตอบ จริง เพราะแอลกอฮอล์เสพติดไดง้ ่ายกว่า แตไ่ ม่ใช่แปลว่ากัญชาไมเ่ สพติด กญั ชามโี อกาสติดโดยเฉลีย่ ประมาณร้อยละ 10 แต่ถ้าเปน็ เยาวชนวยั ทางาน หากเรม่ิ ตน้ เสพกัญชาโอกาสติดจะเพิ่มจากร้อยละ 10 เปน็ รอ้ ยละ 16 ถาม  จริงหรือไม่ กญั ชารกั ษาสุขภาพ แตแ่ อลกอฮอลท์ าลายสขุ ภาพ ตอบ ไมจ่ รงิ เพราะทงั้ กญั ชาและแอลกอฮอลต์ ่างก็ทาลายสุขภาพ

252 ถาม  จรงิ หรือไม่ กัญชารักษาโรคมะเรง็ แตส่ รุ าทาให้เกดิ โรคมะเรง็ ตอบ จริง เพราะแอลกอฮอล์ทาให้เกิดโรคมะเร็งตับ และจากการศึกษาวิจัยทดลอง ในสัตว์ พบว่าสัตวม์ ีความเสยี่ งเกดิ โรคมะเร็งบางชนดิ ไดเ้ ช่นกัน ถาม  จริงหรือไม่ กัญชาไม่เคยทาให้มีผู้เสียชีวิต แต่แอลกอฮอล์ทาให้มีผู้เสียชีวิต ปีละล้านคน ตอบ ไมจ่ รงิ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทาให้เสียชวี ิตได้ จากหลายสาเหตุ สว่ นกญั ชา จากงานวิจัยพบว่าที่รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 2015 - 2017 (พ.ศ. 2558 - 2560) มีผู้เสพกัญชาต้องถูกนาส่งโรงพยาบาล 250 กว่าราย ในจานวนน้ี 8 ราย ต้องนอนห้องไอซียู และมี 1 รายเสียชีวิต เป็นผู้ชาย อายุ 70 ปี ถาม  จรงิ หรอื ไม่ กญั ชาค้มุ ค่า ราคาไม่แพง แตแ่ อลกอฮอล์ทาให้เสยี ทรพั ย์ ตอบ ไม่จรงิ เพราะกญั ชาไม่มีความค้มุ ค่า ในรฐั โคโลราโด สหรัฐอเมรกิ าได้ปลดล็อก กัญชาทางการแพทย์ และเปิดเสรีกัญชา ทุก ๆ 1 ดอลลาร์ ท่ีเก็บภาษีจากการ คา้ ขายกัญชา ประชาชนต้องเสยี ค่าใช้จา่ ย ประมาณ 4.5 ดอลลาร์ เพื่อไปช่วยเหลอื หรอื ชว่ ยแก้ไขผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากกัญชาทาให้ได้ไม่คมุ้ เสยี สว่ นแอลกอฮอล์ สว่ นแอลกอฮอล์ก็มีโทษจานวนมากเชน่ กัน

253 ถาม  จริงหรือไม่ กัญชาไม่มีผลกระทบเม่ือเสพเกินขนาด แต่การด่ืมสุรามีผู้เสียชีวิต เพราะดม่ื เกินขนาด ตอบ ไม่จริง เพราะการเสพกัญชามีผลกระทบต่อสุขภาพมากเช่นกัน ดังตัวอย่าง ประเทศฝรั่งเศสหลังปลดล็อกกัญชาอัตราเด็ก และเยาวชน เสพกญั ชาแลว้ ต้อง มารับการรกั ษาท่ีโรงพยาบาลเพิม่ ขึ้นอย่างชัดเจน ถาม  จริงหรือไม่ กญั ชากระตนุ้ เศรษฐกิจ แตแ่ อลกอฮอล์ก่อเหตุวิวาท ตอบ ไม่จริง เพราะทั้งกญั ชาและแอลกอฮอล์ก่อใหเ้ กิดปัญหาอาชญากรรม และ ทะเลาะวิวาทได้ ถาม  จรงิ หรือไม่ กญั ชาช่วยป้องกันรักษาและเสรมิ สรา้ งเซลล์ในมนษุ ยไ์ ด้ ตอบ ไม่จริง เพราะไม่มีหลักฐาน และงานวิจัยท่ีบ่งบอกว่ามีผลดีต่อเซลล์มนุษย์ แต่หากเสพกัญชาในระยะยาวจะพบโครงสร้างสมองมีการเปล่ียนแปลงไป เป็น การทาลายสมอง ถาม  จริงหรือไม่ กัญชามีสารในการซ่อมแซมรา่ งกายของมนุษย์ ตอบ ไมจ่ รงิ เพราะไม่มหี ลักฐานเพียงพอวา่ กัญชามสี ารซ่อมแซมรา่ งกายมนุษย์ แตม่ ี สารที่ทาให้นอนหลบั สบาย คลายเครียด เคลิบเคลิ้ม

254 ถาม  จริงหรอื ไม่ กญั ชาชว่ ยลดความดันในลูกตาของผู้ปว่ ยตอ้ หิน ตอบ จริง เพราะต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของขั้วประสาทตา ส่งผลให้เกิด การสูญเสียการมองเห็น เนื่องจากมีความดันในตาสูง มีการศึกษา ความสามารถ ของสาร THC ร้อยละ 0.01-0.1 ในยาหยอดตา เพ่ือช่วยลดความดันในตา และพบว่าขนาดร้อยละ 0.05 - 0.1 ของสาร THC สามารถช่วยลดความดันใน ตาของผปู้ ่วยต้อหนิ ได้ แตเ่ ปน็ การออกฤทธิ์ในระยะส้ัน 2 - 3 ชว่ั โมงเทา่ น้ัน อยา่ งไรก็ตามพบว่ายานีก้ ่อใหเ้ กิดผลอนั ไม่พึงประสงคใ์ นระหว่างใช้ หากยา ไม่ไดม้ าตรฐานอาจทาใหต้ าบอดได้ ถาม  จรงิ หรือไม่ กญั ชาป้องกันและรักษาอาการสมองฝ่อ ตอบ ยังไม่มีคาตอบว่าจริง เนื่องจาก ในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) และจากผลการ วิจัยต่อเน่ืองจนถึงปัจจุบัน พบความเป็นไปได้ในการใช้สารกลุ่ม เอซิด แคนนาบินอยด์ (acid cannabinoids) และ เอ็นโดแคนนาบินอยด์ (endocannabinoids) ในการ รักษาความผิดปกติทางสมอง เช่น โรคฮันติงตัน (Huntington disease) โรคพาร์กินสัน (Parkinson disease) โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer disease) และโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด (Cerebral ischemia /stroke) เป็นต้น ยงั ไม่มกี ารสรุปที่ชัดเจน กล่าวโดยสรุป ความเชื่อเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ ได้แก่ ตาราสมุนไพร โบราณ กัญชาและกัญชงรักษาโรคมะเร็งได้ และกัญชาและกัญชงเป็นยารักษาชีวิตได้ ซ่ึงความเช่ือ บางอย่าง ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยรองรับ แต่ความเช่ือบางอย่างยังอยู่ในการศึกษาวิจัย จึงไม่ควร ปฏิบตั ติ ามจนกวา่ จะมผี ลการวจิ ยั ความเชือ่ ทีไ่ ด้ศึกษา ในหวั ขอ้ ดังกลา่ ว

255 2. ความจรงิ เก่ียวกับกญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ การศึกษาวจิ ัยเกยี่ วกบั การใชก้ ัญชา และกัญชงในการรักษาอาการ และโรคตา่ ง ๆ มีดงั นี้ 2.1 อาการปวดเร้ือรังจากเสน้ ประสาท ยาจากกัญชาและกัญชงยังถือว่าเป็นยาใหม่ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาการวิจัย ทางคลินิกส่วนมากมุ่งเน้นไปท่ีการวิจัยเกี่ยวกับสารแคนนาบินอยด์ท่ีให้ผลดี สาหรับการระงับอาการ ปวดเรื้อรังจากโรคเส้นประสาท รวมถึงรูปแบบของยากระตุ้นความอยากอาหารในผู้ป่วยโรคมะเร็ง และการรักษาภาวะกล้ามเน้ือหดเกร็งจากโรคปลอกประสาทเสื่อม และเมื่อไม่นานมานี้ มีการค้นพบ สารแคนนาบิไดออล (CBD) ว่าเป็นสารแคนนาบินอยด์เด่ียว ซึ่งมีแนวโน้มจะมีฤทธ์ิบาบัด รักษาโรค ลมชักในเด็กได้ การทดลองทางคลินิกช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเก่ียวกับภาวะโรคท่ีเกี่ยวข้อง และ ปริมาณการให้ยา ขณะที่ข้อมูลสนับสนุนใหม่ท่ีตีพิมพ์ออกมาเกี่ยวกับสารเคมีในพืช การเพาะปลูก การวเิ คราะห์ คณุ ภาพ และการบรหิ ารยา ชว่ ยเพิ่มคุณค่าให้กบั ความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์ และหลักปฏิบัติในการส่ังจา่ ยยา ในที่น้ีจะสรุปเน้ือหาในส่วนของภาวะโรคท่กี ัญชาและ กัญชงน่าจะมีประโยชน์ในการรักษาอาการปวดเร้ือรังอย่างรุนแรง ถือได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ผู้ป่วยใช้ กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ อาการปวดมีอยู่หลายประเภท และสารแคนนาบินอยด์ไม่สามารถ รักษาอาการปวดได้ทุกประเภท จากการศึกษาในปัจจุบันแคนนาบินอยด์จะได้ผลดีต่ออาการปวดจาก เส้นประสาทเท่านนั้ ซง่ึ เป็นอาการปวดท่เี กดิ จากการบาดเจ็บ หรือโรคซง่ึ ส่งผลกระทบตอ่ เสน้ ประสาท การรับรู้ เม่ือเทียบกันแล้วการศึกษาที่วัดผลต่ออาการปวดรุนแรง ดังตัวอย่าง อาการปวดหลังการผ่าตัด มักพบว่าไม่มีประโยชน์ต่อการรักษา อย่างไรก็ตามกลไกเบื้องหลังความแตกต่างที่เกิดขึ้นนย้ี ังต้องการ การศึกษาวิจัยในเชิงลึกต่อไป อาการปวดเร้ือรังจากเส้นประสาทเป็นอาการที่พบได้บ่อย และยากต่อ การรักษา รวมไปถึงทางเลือกในการรักษาที่จากัด จึงทาให้ยาจากกัญชาและกัญชงจาเป็นต่อผู้ป่วย กล่มุ นี้ จากการศึกษาในผปู้ ่วยแสดงให้เห็นว่า ผู้ปว่ ยสามารถทนต่ออาการข้างเคียงจากสารแคนนาบินอยด์ ได้ดีกว่าการให้ยาประเภทโอปิออยด์ท่ีมีฤทธ์ิแก้ปวดรุนแรง แน่นอนว่ามีผู้ศึกษาการใช้กัญชาและกัญชง ทางการแพทย์ร่วมกับยาอื่น ๆ มากมาย ดังตัวอย่าง มอร์ฟีน ซ่ึงพบว่าสารแคนนาบินอยด์ และโอปิออยด์ ทางานรว่ มกันไดฤ้ ทธ์แิ ก้ปวดไดด้ ีขึ้น 2.2 อาการคลน่ื ไสอ้ าเจยี นและเพ่ิมความอยากอาหาร สารแคนนาบินอยด์ให้ผลที่ดีมากต่อการรักษาอาการคลื่นไส้ และอาเจียนซึ่งเป็น ผลมาจากการใช้เคมีบาบัด หรือรังสีบาบัดรักษาโรคมะเร็ง โรคตับอักเสบซี หรือการรักษาโรคเอดส์ ยา THC สังเคราะห์ในช่ือการค้า Marinol® มีการใช้ในหลายประเทศทั่วโลกเพ่ือเป็นยาแก้อาเจียน สาหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อยู่ในระหว่างการให้เคมีบาบัด มีงานศึกษาวิจัยสนับสนุนข้อมูลว่าการให้ THC โดยตรงก่อน และหลังการทาเคมีบาบัดจะส่งผลดีมากกว่าการใช้ยาแก้อาเจียนแผนปัจจุบัน แบบเดิม (อย่างไรก็ตามการศึกษาเหล่านี้ไม่ได้เปรียบเทียบกับการให้ยาแก้อาเจียนแผนปัจจุบันล่าสดุ

256 ซ่ึงมีประสิทธิภาพมากกว่ายาแผนปัจจุบนั แบบเดมิ มาก) สารแคนนาบินอยด์จะช่วยกระตุ้นความอยาก อาหารทีม่ ีไขมัน และน้าตาลสูง ต้งั แต่ ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) มีการใช้ Marinol® เป็นยากระตุ้นความ อยากอาหารในผ้ปู ว่ ยโรคเอดส์ ทน่ี า้ หนักลดลง สาหรับผ้ปู ว่ ยทรี่ ้สู กึ เบ่ืออาหารการรับประทานอาหารท่ี ให้พลังงานสูงอาจส่งผลให้น้าหนักตัวเพิ่มข้ึน และเพ่ิมการดูดซึมสารอาหารได้ดีข้ึน มีการใช้ในภาวะ โรคผอมแหง้ (ภาวะผอมหนังหุ้มกระดูก) แม้ว่าจะมียาอ่ืน ๆ ให้เลือกใชเ้ พ่ือรักษาอาการคล่ืนไส้อาเจียน แต่มักจะทาให้ความอยากอาหารลดลง แต่แคนนาบินอยด์ช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้ท้ังหมด ทาให้ยา กัญชาและยากญั ชงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพ่อื ช่วยในการเพิ่มคุณภาพชีวิต แกผ่ ู้ป่วยได้ 2.3 โรคปลอกประสาทเส่ือม โรคปลอกประสาทเส่ือม (MS) เป็นโรคชนิดหน่ึงซึ่งมีอาการปวดเร้ือรังร่วมด้วย จากการศึกษาฤทธิข์ องสารแคนนาบินอยด์ในระยะยาวต่อโรคนแี้ สดงใหเ้ หน็ วา่ ผู้ปว่ ยไม่มีการต้านฤทธิ์ การรกั ษาโรค และไมต่ ้องเพ่ิมปริมาณยา เพอ่ื ให้ผลการรักษาเท่าเดิม เมอื่ มีการใช้ยามาเป็นระยะเวลา หน่ึง แม้ว่าหลักฐานทางการแพทย์ที่สนับสนุนการใช้กัญชาและกัญชงสาหรับโรค MS ยังมีข้อจากัด แต่การรักษาโรค MS ด้วยยาแผนปัจจุบันส่วนใหญ่ก็มีอยู่อย่างจากัดเช่นกัน ผู้ป่วยโรค MS มักมี ประสบการณ์รักษาด้วยทางเลอื กอื่นร่วมดว้ ย รวมถึงการใช้กัญชาและกัญชงเพ่ือเพ่ิมคุณภาพชีวิตของ ตนเอง การรักษาแบบมาตรฐานมักไม่สามารถบรรเทาอาการได้ตามต้องการ และอาจถูกจากัดด้วย อาการข้างเคียงของยา หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ท่ีมีอยู่ต่างสนับสนุนการใช้กัญชาและกัญชงทาง การแพทย์ในการรักษาอาการปวดท่ีเกี่ยวข้องกับโรคกลุ่มอาการเก่ียวกับทางเดินปัสสาวะ อาการส่ัน และภาวะกล้ามเน้ือหดเกร็ง นอกจากน้ันในผู้ป่วยหลายราย สารแคนนาบินอยด์ยังมีส่วนช่วยในการ นอนหลับ โดยทาให้สามารถนอนหลบั ไดล้ กึ และนานย่ิงข้ึน 2.4 โรคลมชกั โรคลมชกั โดยทว่ั ไปสามารถควบคมุ อาการไดด้ ว้ ยการให้ยา อย่างไรกต็ ามมีผู้ป่วย โรคลมชักจานวนมากท่ีไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ดี ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) มีผล การศึกษาจากห้องปฏิบัติการยนื ยนั วา่ ฤทธิ์ตา้ นอาการชกั ของสารบริสุทธิ์ CBD ในการศกึ ษาทางคลินิก ขนาดเล็ก และในสัตว์ทดลองพบว่าสาร CBD สามารถลดความถี่ และความรุนแรงของอาการชักได้ และสาร CBD ยังไม่ก่อให้เกิดผลต่อจิตประสาทด้วยแล้ว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสาร CBD ใน การพัฒนาเป็นยาใช้ในการรักษาโรคลมชักในมนุษย์ได้ อย่างไรก็ดีข้อมูลงานวิจัยยังมีไม่มากพอ ซ่ึงทา ให้ไม่สามารถหาข้อสรุปท่ีแน่นอนเก่ียวกับศักยภาพของสารแคนนาบินอยด์ในการรักษาโรคลมชักได้ นอกจากนน้ั ข้อมูลดา้ นความปลอดภัย และการทนต่อยาแคนนาบินอยด์ในผู้ปว่ ยเด็กยงั ไม่เป็นที่แน่ชัด แม้ว่าสาร CBD จะมีประสิทธิภาพในการลดอาการชกั ในผ้ปู ่วยโรคลมชัก แต่ก็ยังจาเป็นต้องมีการวิจัย ที่มีการควบคุมอย่างรัดกุมมากขึ้น เพ่ือทาความเข้าใจประโยชน์ทางคลินิกของผลิตภัณฑ์ประเภทน้ีได้ อย่างสมบูรณ์

257 กลา่ วโดยสรปุ ความจรงิ เกีย่ วกบั กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ จากการวจิ ัยเกี่ยวกับการ ใชก้ ญั ชาและกัญชงช่วยในการรักษาอาการ และโรคดังน้ี (1) อาการปวดเร้ือรังจากเส้นประสาท (2) อาการ คล่ืนไส้อาเจยี น และเพม่ิ ความอยากอาหาร (3) โรคปลอกประสาทเสอ่ื ม และ (4) โรคลมชัก เรอื่ งที่ 2 การใช้ผลิตภัณฑก์ ัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ ปัจจุบันมีการวิจัย และพัฒนายาจากกัญชาและกัญชง เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มากขึ้น หลังจากหลายประเทศมีการอนุญาตให้ใช้ผลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ได้มีงานวจิ ัย และรายงานการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ใช้กับผู้ป่วยบางโรคที่เห็นว่าผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง อาจจะมปี ระโยชนไ์ ด้ เช่น โรคมะเร็ง โรคสมองเสอื่ ม โรคเบาหวาน โรคไตเรือ้ รงั เป็นตน้ แต่ท้ังน้ีการใช้กัญชาและกัญชงรักษาโรคมะเร็ง และโรคอ่ืน ๆ ท่ียังไม่ได้มีประกาศให้ใช้ จากกรมการแพทย์ และยังมีความจาเป็นตอ้ งศึกษาวิจัยถงึ ประสิทธิผลของกัญชาและกัญชงในหลอดทดลอง เพือ่ ตรวจสอบความปลอดภัย และประสิทธิผลในสัตว์ทดลอง กอ่ นการศึกษาวจิ ัยในมนุษย์เป็นลาดับต่อไป เน่ืองจากในปัจจุบันข้อมูลหลักฐานทางวิชาการท่ีสนับสนุนว่ากัญชาและกัญชงมีประโยชน์ในการรักษา โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ หรือโรคอนื่ ๆ ยงั มีไม่เพยี งพอ แตส่ มควรได้รับการศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียด ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรได้รับการรักษาตามวิธีมาตรฐานทางการแพทย์ในปัจจุบัน หากเลือกใช้เฉพาะ ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในการรักษาแล้ว อาจทาให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษาท่ีมีประสิทธิผล ดว้ ยวิธมี าตรฐานได้ กล่าวโดยสรุป การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ เช่น โรคมะเร็ง โรคสมองเส่ือม โรคเบาหวาน และโรคไตเรื้อรัง เป็นต้น จาเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยถงึ ความปลอดภัย และประสทิ ธิผลอย่างละเอียด ซง่ึ พ.ศ. 2562 ยงั มีขอ้ มลู หลกั ฐานทางวิชาการ ไมเ่ พียงพอ ผู้ป่วยจึงควรได้รับการรักษาตามวิธีมาตรฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันหากเลือกใช้ เฉพาะผลิตภัณฑ์ กญั ชาและกญั ชงในการรักษาแลว้ อาจทาให้ผูป้ ่วยเสียโอกาสในการรักษาได้ ถาม รบั ประทานกัญชาเพ่ือลดนา้ ตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานไดจ้ รงิ หรือไม่ ตอบ ไม่จริง เพราะไม่มีผลการวิจัยท่ียืนยันมากพอ ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานควร รบั ประทานยาและอยภู่ ายใตก้ ารดูแลของแพทย์

258 เรือ่ งท่ี 3 ขอ้ แนะนากอ่ นตดั สินใจใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกัญชงทางการแพทย์ 1. ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย (Physician-patient relationship) เป็นพื้นฐาน ในการใหก้ ารยอมรับการรักษาพยาบาล แพทย์ควรม่นั ใจว่ามคี วามสัมพนั ธ์กับผูป้ ว่ ยดีเพยี งพอก่อนการ ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เช่ียวชาญ และบันทึกใน เวชระเบียนผู้ป่วย รวมถึงการประเมินผู้ป่วยว่ามีความเหมาะสมท่ีจะใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง หรอื ไม่ 2. การประเมินผู้ป่วย (Patient evaluation) ควรบันทึกข้อมูลการตรวจทางการแพทย์ และ รวบรวมขอ้ มูลประวัตทิ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั อาการทางคลินกิ ของผปู้ ่วย 3. การแจ้งใหท้ ราบและตัดสินใจร่วมกนั (Informed and shared decision making) โดย ให้ข้อมลู รายละเอยี ดของการรักษาที่ได้รับอยู่ในปจั จุบันด้านประสิทธิผล ผลข้างเคียง และคุณภาพชีวิต การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงกับผู้ป่วยควรเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้รักษา และ ผู้ป่วย แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงความเสี่ยง และประโยชน์ของผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ความหลากหลาย และมาตรฐานการเตรียมผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง อาจทาให้ผลท่ีเกิดกับผู้ป่วยมี ความแตกต่างกัน กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง แพทย์ควรแจ้งให้ญาติ หรือผู้ดูแล ทราบถึงความเส่ียง และผลที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ซึ่งส่งผลต่อการ วางแผนการรกั ษา และการยินยอมรกั ษา 4. ข้อตกลงการรักษาร่วมกัน (Treatment agreement) วัตถุประสงค์ และแผนการรักษา ควรแจ้งให้ผู้ป่วยทราบต้ังแต่แรก และทบทวนอย่างสม่าเสมอ รวมถึงความเหมาะสมในการเลือกวิธี รกั ษาของแตล่ ะบคุ คล 5. เง่ือนไขที่เหมาะสม (Qualifying condition) ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการ ด้านประสิทธิผลของการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในทางการแพทย์เพียงพอ การตัดสินใจส่ังใช้ ขึ้นอยู่กับความเช่ียวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ในประเดน็ ข้อบ่งใช้ ความเหมาะสม และความ ปลอดภยั ของผู้ป่วยแต่ละคน 6. การติดตามอย่างต่อเนื่องและปรับแผนการรักษา (Ongoing monitoring and adapting the treatment plan) แพทย์ควรประเมินการตอบสนองของการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและ กัญชงกับผู้ป่วยอย่างสม่าเสมอ ท้ังสุขภาพในภาพรวม และผลลัพธ์เฉพาะด้าน รวมถึงผลข้างเคียงท่ี อาจเกดิ ขนึ้ 7. การให้คาปรึกษาและการส่งต่อ (Consultation and referral) ผู้ป่วยที่มีประวัติการ ใช้สารเสพติด และปัญหาโรคทางจิต จาเป็นต้องได้รับการประเมิน และให้การรักษาเป็นกรณีพิเศษ แพทย์ผรู้ กั ษาควรขอคาปรกึ ษา หรอื สง่ ตอ่ ผปู้ ่วยไปพบผู้เชยี่ วชาญเฉพาะดา้ น

259 8. การบนั ทกึ เวชระเบียน (Medical records) การบันทกึ ข้อมูลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมจะช่วย สนับสนุนการตัดสินใจในการแนะนาการใช้ผลติ ภณั ฑ์กัญชาและกัญชง เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ การบันทกึ ในเวชระเบียนควรมขี ้อมลู ของผปู้ ่วยครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งอาจมผี ลทางกฎหมาย ควรลงวันที่ และลายมอื ชอื่ กากบั ไวใ้ นการบันทึกแตล่ ะคร้ัง โดยข้อมูลทค่ี วรปรากฏในเวชระเบยี น มดี งั นี้ 8.1 ประวัตผิ ู้ป่วย การทบทวนปจั จัยเสย่ี งตา่ ง ๆ 8.2 ผลการรักษาท่ีได้รับมาก่อนการประเมินผู้ป่วย การวินิจฉัย และให้การรักษา รวมถึงผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ 8.3 การให้คาแนะนาผู้ป่วย รวมถึงการทาความเข้าใจกับความเสี่ยง ประโยชน์ที่ได้รับ ผลข้างเคียง และผลการรักษาที่อาจพบได้หลากหลาย 8.4 ผลการประเมินผ้ปู ่วยอยา่ งต่อเนอื่ ง และการกากับติดตามผลที่เกิดกับผูป้ ่วย 8.5 สาเนาการลงนามในข้อตกลงรักษา รวมถึงคาแนะนาในการดูแลความปลอดภัย และไมน่ าผลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกญั ชงไปให้ผูอ้ ่นื 8.6 การมีผลประโยชน์ทับซ้อนของแพทย์ (Physician conflicts of interest) แพทย์ผสู้ งั่ ใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชง ต้องไม่มผี ลประโยชน์ทับซ้อนท้ังทางตรง และทางอ้อม กล่าวโดยสรุป ข้อแนะนาก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์ มี 8 ข้อ ได้แก่ (1) ความสัมพันธ์ ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย เป็นพ้ืนฐานในการยอมรับการรักษาพยาบาล รวมถงึ การประเมนิ ผู้ปว่ ยว่าเหมาะสมทจี่ ะใช้ผลติ ภัณฑก์ ัญชาและกัญชงหรอื ไม่ (2) การประเมินผู้ป่วย ข้อมูลประวัติท่ีเกี่ยวข้องกับอาการของผู้ป่วย (3) การแจ้งให้ทราบ และตัดสินใจร่วมกัน (4) ข้อตกลง การรักษาร่วมกัน (5) เง่ือนไขท่ีเหมาะสม ในการตัดสินใจของแพทย์ในการสั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและ กัญชง (6) การติดตามอย่างต่อเน่ืองและปรับแผนการรักษา (7) การให้คาปรึกษา และการส่งต่อ และ (8) การบันทึกเวชระเบียน จะชว่ ยสนับสนุนการตดั สินใจในการแนะนาการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง เรื่องที่ 4 การวางแผนการรักษาด้วยผลิตภณั ฑก์ ญั ชาและกญั ชง แนะนาให้ใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในการทดลองรักษาระยะส้ัน เพ่อื ประเมินประสิทธิผล ในการรักษาผปู้ ว่ ย แผนการรักษาควรมีความชัดเจน ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1. วางเป้าหมายการรักษา การเริ่ม และการหยุดใช้ แพทย์ควรหารอื ร่วมกับผปู้ ่วยใหช้ ัดเจน ในประเด็นทเ่ี ก่ียวข้องกับอาการของผู้ปว่ ยท่รี บั การรักษาด้วยผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง เชน่ หยุดเมือ่ อาการคลื่นไส้ หรืออาเจยี นลดลง เป็นตน้ อาการปวดดีขนึ้ ในกรณที ่ีค้นพบสาเหตุ และสามารถรกั ษาได้ 2. การบริหารจัดการโดยแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป (General practitioner ; GP) ควรมี เอกสารจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางรับรองการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง รักษาอาการของผู้ป่วย เฉพาะราย ดงั ตวั อยา่ ง การรักษาแบบประคบั ประคอง

260 3. มีกระบวนการจัดการความเสี่ยง เช่น การบริหารยา และความถ่ีของการจ่ายยาเป็นต้น โดยการจ่ายยาเป็นรายสัปดาห์หากมีข้อสงสัยว่าผปู้ ว่ ยอาจเพิม่ ขนาดยาดว้ ยตนเอง 4. กากับติดตาม โดยการทบทวนทุกสัปดาห์ 2 สัปดาห์ และทุกเดือน รวมถึงการตรวจทาง ห้องปฏบิ ัติการ การทบทวนโดยผูเ้ ช่ยี วชาญ การตรวจอ่นื ๆ ตามความจาเป็นโดยเฉพาะดา้ นการรกั ษา 5. ให้ผ้ปู ่วยลงนามยินยอม โดยได้รับทราบข้อมลู เกย่ี วกับผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกัญชงที่ใช้ ในการรกั ษา ผลข้างเคยี งที่อาจเกดิ ขนึ้ และเปา้ หมายของการรกั ษา รวมท้ังการหยดุ เม่อื การรักษาไมไ่ ด้ ประโยชน์ 6. ให้คาแนะนาผู้ป่วยว่าไม่ควรขับข่ียานพาหนะ และทางานกับเคร่ืองจักรกลเม่ือใช้ ผลิตภัณฑก์ ัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ กลา่ วโดยสรปุ การวางแผนการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง แนะนาให้ใช้ผลิตภัณฑ์ กัญชาและกัญชงในการทดลองรักษาระยะส้ัน เพือ่ ประเมินประสิทธิผลในการรักษาผู้ปว่ ย แผนการรักษา ควรมีความชัดเจน ใน 6 ประเด็น ได้แก่ (1) วางเป้าหมายการเร่ิมรักษา และการหยุดใช้ แพทย์ควร หารือร่วมกับผู้ป่วยให้ชัดเจน (2) การบริหารจัดการโดยแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป (3) มีกระบวนการจัดการ ความเสี่ยง (4) กากับติดตาม ทบทวนทุกสัปดาห์ โดยแพทย์ หรือเภสัชกรผู้เช่ียวชาญ (5) ให้ผู้ป่วย ลงนามยนิ ยอม และ (6) ให้คาแนะนาผ้ปู ว่ ยเมอ่ื ใช้ผลติ ภณั ฑก์ ญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ เรอ่ื งท่ี 5 การเร่มิ ใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ เมื่อพิจารณาแล้วว่าจาเป็นต้องใชผ้ ลติ ภัณฑก์ ัญชาและกัญชงกบั ผูป้ ่วย ผู้สง่ั ใชค้ วรซักประวัติ อย่างละเอยี ดก่อนเร่ิมการสงั่ ใช้ ดงั นี้ 1. การซักประวัติ 1.1 อาการสาคัญปัจจุบันที่จะใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงมาใช้ในการรักษาหรือ บรรเทาอาการ 1.2 ประวัติเจ็บปว่ ยในปัจจบุ ัน โดยเฉพาะ 1.2.1 โรคหลอดเลือดหวั ใจ โรคตบั และโรคไต 1.2.2 การรักษาท่ีได้รับมาก่อนแล้วไม่เป็นผล (รวมถึงระยะเวลาที่รักษา และ เหตผุ ลทห่ี ยุด) 1.3 ประวตั กิ ารเจบ็ ปว่ ยในอดตี 1.4 ประวัตเิ จ็บปว่ ยทางจิต และโรคทางจติ เวช โดยเฉพาะโรคจิตเภท (schizophrenia) และอาการทางจิตจากการได้รับยารักษาโรคพาร์กินสัน ยารักษาโรคสมองเสื่อม (cholinesterase inhibitor)

261 1.5 พฤติกรรมเสีย่ งท่สี มั พันธก์ บั การตดิ สารเสพตดิ ผูท้ ่เี คยใช้ หรอื ใช้ผลติ ภณั ฑ์กัญชา และกญั ชง ในปัจจบุ นั อาจไม่เปน็ ขอ้ ห้ามแต่ควรระมัดระวัง และจดั การความเส่ยี งของการเสพตดิ 1.5.1 การติดนิโคตินในบหุ รี่ 1.5.2 การติดแอลกอฮอล์ 1.5.3 การใช้ยาท่ผี ิดกฎหมายมาก่อน 1.6 ประวัตดิ ้านสุขภาพของครอบครัว รวมสขุ ภาพจติ โดยเฉพาะโรคจติ เภท (schizophrenia) 1.7 ประวัติทางสงั คม (การสนับสนุนจากสงั คม และครอบครวั ในการใช้ผลติ ภัณฑ์ กญั ชาและกญั ชงในการรกั ษาโรคของผู้ป่วย) 1.8 ตรวจรา่ งกายตามความเหมาะสม 1.9 ตรวจเพ่มิ เติมอื่น ๆ ตามความจาเปน็ 1.10 ทบทวนการใชย้ า 1.11 ยาบางชนิดทีผ่ ้ปู ่วยใชอ้ าจมีปฏิกริ ยิ า กับยากญั ชาและกัญชง 1.12 ความเสย่ี งของผลข้างเคยี งตา่ ง ๆ จากการใชย้ ากญั ชาและกัญชง หมายเหตุ ข้อ 1.4 , 1.5 และ 1.6 อาจพิจารณาใช้ตารับยากัญชาและกัญชง แบบไมอ่ อกฤทธติ์ อ่ จติ ประสาท (non-psychoactive cannabis preparation) 2. ขนาดยาและการบรหิ ารยา 2.1 ขนาดยาทใี่ ชใ้ นผลิตภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงแตล่ ะชนดิ มคี วามไม่แนน่ อนข้ึนอยู่กับ ลักษณะของผู้ป่วยแต่ละคน ปรับตามแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยเร่ิมต้นขนาดต่า และปรับเพ่ิมขนาดช้า ๆ จน ได้ขนาดยาท่ีเหมาะสมให้ผลการรักษาสูงสุด และเกิดผลข้างเคียงต่าสุด ขนาดยาในระดับต่ามีโอกาส เกดิ ผลข้างเคยี งน้อย 2.2 ผู้ที่เริ่มต้นรักษา และได้รับผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงเป็นครั้งแรกควรเร่ิมต้นที่ ขนาดต่ามาก ๆ หากเกดิ ผลขา้ งเคียง ควรปฏิบัติดังน้ี 2.2.1 ปรับลดขนาดยา เมื่อพบอาการ 1) มนึ เวียนศรี ษะ (dizziness) 2) เสยี ความสมดลุ (loss of co-ordination) 3) หวั ใจเตน้ ช้า (bradycardia) 4) ความดันโลหิตผดิ ปกติ (abnormal pressure) 2.2.2 หยุดใช้ทนั ที เม่อื พบอาการ 1) สับสน (disorientation) 2) กระวนกระวาย (agitation)

262 3) วิตกกงั วล (anxiety) 4) ประสาทหลอน (hallucination) และโรคจติ (psychosis) 2.3 การให้สารสกัดจากกัญชาและกัญชงในคร้ังแรกควรใช้เวลาก่อนนอน และมี ผดู้ ูแลอยา่ งใกล้ชดิ เน่ืองจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้ 2.4 เน่ืองจากยังไม่มีข้อมูลการใช้สารสกัดจากกัญชาและกัญชงในรูปน้ามัน หาก เทยี บเคยี งกบั การใช้ 2.4.1 สารสกัดจากกัญชาและกัญชงท่ีมี แคนนาบิไดออล (cannabidiol หรือ CBD) สูง ข้อมูลของการวิจัยคลินิกของยาเอพิดิโอเล็กซ์ (epidiolex หรือ CBD ในลักษณะน้ามัน) ควรให้ใช้ CBD ขนาด 5-20 มิลลิกรัม ต่อ กิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดยาสาหรับเด็ก ก่อนเริ่มการรักษาควร ตรวจการทางานของตับ (liver function test) เปน็ ขอ้ มูลเบ้ืองต้น ภายหลงั เร่ิมต้นให้การรักษา 2 สัปดาห์ และทกุ 2 สปั ดาห์ ภายหลังเพิ่มปริมาณที่ใช้ในแต่ละครั้ง เนื่องจาก CBD จะเพ่ิมระดับของยาหลายชนิด รวมถงึ ยากันชัก เมื่อใชร้ ว่ มกับ CBD ซึ่งพบอุบัติการณข์ องตับอักเสบสูงข้ึน ดงั น้นั เม่อื เร่ิมคุมอาการชัก ของผูป้ ว่ ยไดแ้ ล้ว ควรลดขนาดยาอน่ื ๆ ทใ่ี ช้ลง 2.4.2 สารสกัดกัญชาและกัญชงท่ีขึ้นทะเบียน ยาซาทิเวกซ์ (Sativex) และยา นาบซิ ิมอล (nabiximol) ในรปู สเปรย์ ซึ่งมสี ัดส่วนโดยประมาณของ THC : CBD = 1 : 1 แนะนาให้ใช้ 1 สเปรย์ (THC 2.7 mg และ CBD 2.5 mg) ต่อวัน และเพิ่มปริมาณการใช้ได้สูงสุด 12 สเปรย์ต่อวัน (THC 32.4 mg และ CBD 30 mg) 2.5 แพทย์ผู้ส่ังใช้สารสกัดจากกัญชาและกัญชงต้องเฝ้าระวัง และติดตามความ ปลอดภัยของการใช้สารสกัดจากกัญชาและกัญชง และเก็บรวบรวมข้อมูลของขนาดยาท่ีใช้โดยเฉพาะ เม่อื ใช้ในผู้สูงอายุ และผทู้ ี่มีอายุน้อย กลา่ วโดยสรุป การเริ่มใชผ้ ลิตภัณฑ์กญั ชาและกัญชงกับผ้ปู ว่ ยในทางการแพทย์ ต้องคานึงถึง ข้อปฏิบัติ 2 ประการ ได้แก่ (1) การซักประวัติอาการป่วยในปัจจุบัน ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ประวัติเจ็บป่วยทางจิต และโรคทางจิตเวช และอาการทางจิตจากการได้รับยารักษาโรคพาร์กินสัน ยารักษาโรคสมองเส่ือม และพฤติกรรมเส่ียงที่สัมพันธ์กับการติดสารเสพติด และ (2) การกาหนด ขนาดยา และการบริหารยา ไม่มีขนาดยาเร่ิมต้นท่ีแน่นอนในผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงแต่ละชนิด ขนาดยาทีเ่ หมาะสมข้ึน กบั ลกั ษณะของผู้ป่วยแตล่ ะคน โดยเรมิ่ ต้นขนาดต่า และปรับเพ่ิมขนาดช้า ๆ จน ได้ขนาดยาท่ีเหมาะสม ส่งผลต่อการรักษาสูงสุด และเกิดผลข้างเคียงต่าสุด ขนาดยาในระดับต่ามี โอกาสเกดิ ผลขา้ งเคยี งน้อย

263 เร่ืองท่ี 6 ข้อห้ามใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ่ีมีสาร THC และ CBD เป็นส่วนประกอบ 1. ผู้ทมี่ ปี ระวัติแพผ้ ลิตภัณฑ์ท่ีได้จากสารสกัดกัญชาและกัญชง ซ่ึงอาจเกิดจากส่วนประกอบ อื่น ๆ หรือสารที่เปน็ ตัวทาละลาย (solvent) ท่ีใชใ้ นการสกัด 2. ผทู้ ม่ี อี าการรนุ แรง และมีปัจจัยเส่ยี งของโรคหลอดเลือดหัวใจ 3. ผู้ท่ีมปี ระวัติเป็นโรคจติ มาก่อน หรือมีอาการของโรคอารมณ์แปรปรวน (concurrent active mood disorder) หรอื โรควิตกกังวล (anxiety disorder) 4. หลีกเล่ียงการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ในสตรีมีครรภ์ สตรีท่ีให้นมบุตร รวมถึง สตรีวัยเจริญพันธุ์ท่ีไม่ได้คุมกาเนิด หรือสตรีท่ีวางแผนจะตั้งครรภ์ เนื่องจากมีรายงานการศึกษาพบว่า มีทารกคลอดก่อนกาหนด ทารกมีน้าหนักตัวน้อย รวมถึงพบสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) ใน น้านมแมไ่ ด้ กล่าวโดยสรุป ข้อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีสาร THC และ CBD เป็นส่วนประกอบมี 4 ข้อ ได้แก่ (1) ผู้ที่มีประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากสารสกัดกัญชาและกัญชง (2) ผู้ท่ีมีอาการรุนแรง หรือมี ปจั จัยเสย่ี งของโรคหลอดเลือดหวั ใจ (3) ผู้ทเี่ ปน็ โรคจิต หรอื อาการของโรคอารมณ์แปรปรวน หรอื โรค วิตกกังวลมาก่อน และ (4) สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร รวมทั้งสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ได้คุมกาเนิด หรอื สตรวี างแผนที่จะตงั้ ครรภ์ เรื่องท่ี 7 ข้อควรระวังเกี่ยวกับผลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกญั ชง 1. ข้อควรระวงั ทางการแพทย์ 1.1 การสั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงที่มีสาร THC เป็นส่วนประกอบในผู้ป่วย ท่ีมี อายุต่ากว่า 25 ปี เน่ืองจากผลข้างเคียงท่ีเกิดขึ้นส่งผลต่อสมองที่กาลังพัฒนาได้ ดังนั้น ผู้สั่งใช้ควร วิเคราะห์ความเสีย่ งทีอ่ าจเกิดขน้ึ กอ่ นการสัง่ ใช้ผลติ ภณั ฑ์จากกัญชาและกัญชง 1.2 ผทู้ ีเ่ ป็นโรคตับ 1.3 ผู้ปว่ ยทต่ี ดิ สารเสพติด รวมถงึ นิโคติน หรอื เป็นผูด้ มื่ สุราอย่างหนกั 1.4 ผู้ท่ีใช้ยาอ่ืน ๆ โดยเฉพาะยากลุ่มโอปิออยล์ (opioids) และยากล่อมประสาท เช่น เบนโซไดอะเซปนี (benzodiazepines) เป็นตน้ 1.5 ผู้ปว่ ยเดก็ และผปู้ ่วยสูงอายุ เนือ่ งจากยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการมากเพียงพอในสอง กลุ่มนี้ กระบวนการเผาผลาญอาหาร (metabolism) ของผู้สูงอายุจะช้ากว่า จึงดูเหมือนว่ามีการ ตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงได้สูงกว่า ดังน้ันการใช้จึงควรเร่ิมต้นในปริมาณท่ีน้อย และ ปรบั ขนาดเพิม่ ข้นึ ช้า ๆ หมายเหตุ ขอ้ 1.3 และ 1.4 อาจพิจารณาใช้กัญชาแบบไม่ออกฤทธท์ิ างจติ

264 กล่าวโดยสรุป ข้อควรระวังทางการแพทย์ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงในผู้ป่วย ที่มีอายุต่ากว่า 25 ปี เพราะมีผลข้างเคียงต่อสมองท่ีกาลังพัฒนา และไม่ควรใช้กับผู้ป่วยโรคตับ ผู้ติด สารเสพติด รวมถึงนิโคติน ผู้ด่ืมสุราอย่างหนัก ผู้ใช้ยาในกลุ่มโอปิออยด์ (opioids) ยากล่อมประสาท เดก็ และผสู้ ูงอายุ เนอ่ื งจากยังไม่มีข้อมลู ทางวิชาการมากเพยี งพอ 2. ขนาดของกัญชาและกัญชงท่ีใช้ในทางการแพทย์ จากเอกสารประกอบการบรรยายเม่ือวันท่ี 13 กันยายน 2562 ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ปตั พงษ์ เกษสมบรู ณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ได้ให้ขอ้ มูลไวด้ ังน้ี 2.1 ขนาดยากัญชาและกัญชงที่เหมาะสม ข้อสรุปจากงานวิจัยยาจากกัญชาและกัญชง มีความแตกต่างจากยาแผนปัจจุบันอ่ืน ๆ อย่างมาก ไม่สามารถกาหนดขนาดการใช้ได้อย่างตายตัว จาเป็นต้องปรับให้เหมาะกับแต่ละคน หลักการสาคัญ คือ “เร่ิมทีละน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มขนาดจน ควบคุมอาการเจบ็ ป่วยได้ (Titration)” 2.2 ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ ขนาดกญั ชาและกญั ชงท่เี หมาะสม มี 3 ประการ ไดแ้ ก่ ประการท่ี 1 ชนิดของยากัญชาและกัญชงท่ีใช้ รวมถึงยากัญชาและกัญชงจาก พืช สกัดหรือไม่ สายพันธุ์ ความเข้มข้นของยาสกัด วิธีใช้แบบสูบ แบบพ่น แบบหยอดใต้ล้ิน แบบ รับประทาน แบบสวนทวาร แบบทาภายนอก หรือการผสมผสานหลายวิธี ยากัญชา 2 ชนิด ท่ีมีขนาด ของ THC เท่ากัน แต่ถ้ามีส่วนผสมของเทอร์ปีนส์ (Terpenes) ที่แตกต่างกัน ก็ให้ผลลัพธ์ในการรักษา แตกตา่ งกัน ประการที่ 2 โรคที่ผู้ป่วยเป็น รวมถึงระยะเวลา และระดับความรุนแรงของโรค การรักษาแบบอืน่ ๆ ท่ไี ดร้ ับการรกั ษารว่ มกับโรคอ่นื ๆ ประการท่ี 3 การตอบสนองต่อยากัญชาและกัญชงของแต่ละคน รวมถึงระดับ เอนโดแคนนาบินอยด์ (endocannabinoid) เดิมในร่างกาย หรือเรียกว่า เอนโดแคนนาบินอยด์ โทน (endocannabinoid tone) และการด้อื ยา เม่อื ใช้ไปนาน ๆ 2.3 คาแนะนาการใช้ขนาดของนา้ มนั กญั ชาและกญั ชง อาการข้างเคียงที่อาจเกิดข้ึน โดยท่ัวไปผู้ป่วยจะทนต่อฤทธ์ิยากัญชาและกัญชง ได้เป็นอย่างดี อาจจะพบอาการข้างเคียงอยู่ชั่วครู่หน่ึง มักจะไม่เป็นอันตราย และค่อย ๆ หายไป เมื่อ ทนต่อยาได้ดีขึน้ อาการขา้ งเคยี งสว่ นใหญ่จะเกิดข้ึนเมื่อไดร้ ับยาในปริมาณมาก หรอื ใชร้ ว่ มกบั สารอืน่ ๆ โดยมกั จะเกดิ ขน้ึ หลงั การใช้ทันที อาการของผลค้างเคียงการใช้กญั ชาและกัญชง ได้แก่ 2.3.1 ปากแหง้ 2.3.2 ตาแดง 2.3.3 ความอยากอาหารเพิ่มข้นึ (ซ่ึงอาจเป็นอาการข้างเคียงที่พึงประสงค์) 2.3.4 ภาวะเคลิ้มสขุ อยา่ งอ่อน ๆ

265 2.3.5 ความตื่นตวั ลดลง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในช่วงเวลาไม่ก่ีชวั่ โมงหลังไดร้ ับยา 2.3.6 อตั ราการเตน้ ของหัวใจเพ่ิมข้ึน 2.3.7 ความดนั โลหิตลดต่าลง และมีอาการเวียนศีรษะ ปกติแล้วอาการข้างเคียงทง้ั หมดจะค่อย ๆ ลดน้อยลง และหายไปภายใน ไมก่ ่ีชั่วโมง ทัง้ น้ขี ึน้ อยู่กับปรมิ าณท่ีไดร้ บั และวธิ ีการให้ยา การใช้ยาเกินขนาด การได้รับสาร THC เป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก เกินไป ผปู้ ว่ ยอาจประสบกับภาวะเป็นพิษได้ ซึ่งมกั จะระบุว่าเกิดภาวะเคลิ้มสุขอย่างอ่อน ๆ หรือส่งผลให้ ผปู้ ่วยเงียบสงบ หรืองว่ งซมึ สาหรับบางกรณผี ู้ปว่ ยอาจเผชิญกับภาวะท่ีความคิดบิดเบือนไปจากความ เปน็ จริง ความวิตกกงั วลระดบั เล็กน้อย รวมถงึ อัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตที่เปลยี่ นแปลงไป ในกรณีต่าง ๆ ท่ีกล่าวถึงเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วการให้ผู้ป่วยนงั่ ลง หรือนอนลงในบริเวณที่สงบ และสบาย นบั ว่าเพยี งพอแล้ว แตถ่ ้าจะให้ดีย่ิงข้ึน ควรมบี ุคคลท่ีใกล้ชิดคอยพูดคุยกับผู้ปว่ ยดว้ ยเช่นกนั การใช้ยา เกนิ ขนาดในปริมาณที่สูงมากอาจก่อให้เกิดภาวะวิกลจรติ หรอื ภาวะทางจิตเวชอน่ื ๆ โดยเฉพาะอย่าง ย่ิงกับผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมอยู่ก่อนแล้ว ขนาดการใช้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และเภสชั กร โดยมหี ลักการ คือเรม่ิ ใช้ยากัญชาและกัญชงท่ีขนาดต่า ๆ โดยแนะนาใหเ้ ริ่มท่ี 0.05 - 0.1 ซีซี หรอื เท่ากับ 1 - 2 หยด และปรบั เพิ่มขนาดช้า ๆ ตามคาแนะนาของแพทย์ (start low go slow and stay low) การหยดน้ามันให้หยดก่อนนอน บริเวณใต้ล้ิน เพ่ือให้ตัวยาสามารถซึมผ่านเส้นเลือดใต้ลิ้น และออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว โดยหลีกเลี่ยงการถูกเปล่ียนแปลงยาที่ตับ เนื่องจากอาจทาให้ประสิทธิภาพ ของยาลดลง ยากัญชาและกญั ชงอาจจะทาใหม้ ภี าวะง่วงซึม จึงแนะนาให้ใช้เวลาก่อนนอน และหลีกเล่ียง การทางานใกลเ้ ครอื่ งจกั ร หรอื ขบั ข่ียานพาหนะ พษิ จากการใช้สารสกดั กัญชาและกญั ชง และการดูแลเบอ้ื งตน้ การใช้สารสกัดกัญชาและกัญชงท่ีมีขนาดสูงทาให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะ สาร THC มีฤทธต์ิ ้านอาการปวด และลดอาการคล่ืนไสอ้ าเจียนผทู้ ี่ใชส้ ารสกัดกัญชาที่มีสาร THC ในขนาดสงู ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานอาจทาให้ใช้ในปริมาณน้อยแล้วไม่เหน็ ผล จึงต้องเพิ่มปริมาณ การใช้มากข้ึน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสพติดได้ในที่สุด สาร CBD ไม่มีฤทธ์ิเสพติด และต้านฤทธ์ิเมาเคลิ้ม ของสาร THC อย่างไรกต็ าม สาร CBD สามารถกระต้นุ ใหเ้ กิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ ดงั น้นั ผ้ปู ว่ ยที่ ใช้สาร THC เพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียน หากได้รับสารสกัดกัญชาและกัญชงชนิดที่มีสาร CBD สูง จะทาให้มีอาการคล่ืนไส้อาเจียนเพ่ิมข้ึนได้ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้สารสกัดกัญชาและกัญชง ขึน้ อยกู่ บั ปจั จัยต่าง ๆ เช่น ปรมิ าณทไี่ ดร้ บั ต่อครง้ั (unit dose) ความทน (tolerance) ของผู้ใช้ เปน็ ต้น วิธีการนาเข้าสู่ร่างกาย การใช้กัญชาและกัญชงท่ีไม่ถูกวิธีอาจทาให้เกิด โอเวอร์ โดส (overdose) หรือ การรบั ประทานยามากเกนิ ขนาด ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของกญั ชาเมื่อเขา้ ส่รู ่างกาย วิธใี ชท้ ่ีแตกต่างกนั จะ ทาให้การออกฤทธ์ิแตกต่างกัน เช่น (1) ชนิดสูด (inhalation) ระยะเวลาออกฤทธิ์เร็ว ถึงระดับสูงสุด

266 ภายในเวลา 15-30 นาที มีระยะเวลาคงอยู่ประมาณ 3-4 ช่ัวโมง (2) ชนิดรับประทาน เริ่มออกฤทธ์ิ ประมาณ 30 นาที และ (3) ชนดิ หยดใตล้ ้นิ (sublingual drop) สารสกดั กญั ชาออกฤทธ์ิเรว็ ประมาณ 15 นาที เปน็ ตน้ พิษของกัญชาและกัญชงต่อระบบประสาทส่วนกลาง เม่อื ร่างกายได้รับ สาร THC ในปริมาณมาก สาร THC จะไปจับกับตัวรับ (receptor) CB1 ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลง ท่าทาง และเสียการควบคุมการทางานของกล้ามเน้ือ เกิดอาการเคลิ้ม ประสาทหลอน และติดยาได้ สาร THC ทาใหม้ คี วามเสีย่ งในการเกิดอาการทางสมอง ได้แก่ การเปลยี่ นแปลงของสติ ความสนใจสมาธิ ความจาระยะสนั้ การทางานของสมองผิดปกตไิ ด้ พิษของกัญชาและกัญชงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด สาร THC และ CBD จะทาให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดได้ หากได้รับปริมาณมาก ความดันโลหิตอาจจะต่าลงได้ อาจทาให้เกิดอาการวูบ หน้ามืด หมดสติเม่ือลกุ ยืน กัญชาชนดิ สูบ ทาให้อตั ราการเตน้ ของหวั ใจเพ่ิมข้ึน ได้รอ้ ยละ 20 - 100 เป็นเวลา 2 - 3 ชวั่ โมง เพ่ิมความเส่ียงใหเ้ กิดเส้นเลือดหวั ใจตีบได้ เพิม่ ความเสี่ยง ของการเกิดกล้ามเน้ือหวั ใจขาดเลือด หวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะ อาจจะมีผลต่อกลุ่มอาการหลอดเลือดสมองหด ชั่วคราว หากผูป้ ว่ ยมีภาวะเมากัญชาและกัญชง หรอื เกดิ ผลข้างเคียงจากการใช้ยากัญชาและยากัญชง ควรหยุดใช้ทันที และควรปรึกษาแพทย์ อาจจะช่วยให้ผู้ป่วยด่ืมน้าให้มากเพื่อขับพิษของกัญชาและ กัญชงออกจากร่างกาย ควรระวังการพลัดตกหกล้ม เนื่องจากผู้ป่วยจะมีภาวะการทรงตัวท่ีล ดลง อาการอาเจียนรุนแรงจากกัญชาและกัญชง มักเกิดกับผู้ที่ใช้กัญชาและกัญชาอย่างต่อเน่ืองเป็นระยะ เวลานาน และใช้ในปริมาณท่ีถ่ีมากกว่า 20 ครงั้ ตอ่ เดือน แกอ้ าการโดยให้อาบน้าอุ่น และหยุดยา อาการ จะทเุ ลาลงเมอื่ ผ่านไป 2 - 3 สัปดาห์ กล่าวโดยสรุป ขนาดของกัญชาและกัญชงที่ใช้ในทางการแพทย์ ในการรักษาโรค ยังไม่ สามารถกาหนดขนาดการใช้ท่ีแน่นอนได้ โดยต้องปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และมีหลักสาคัญคือ เร่ิมทีละน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มขนาด ซ่ึงผู้ป่วยท่ีเป็นโรค หรือมีอาการต่างกัน จะใช้ขนาดยาต่างกัน โดยหากใช้ขนาดยากญั ชาและกัญชงท่ไี มถ่ ูกตอ้ งจะเกดิ การด้ือยา 3. ห้ามใชน้ า้ มันกัญชาและกัญชงทาบหุ ร่ี มีคนเคยเอาน้ามันกัญชาและกัญชงท่ีผสมน้ามันมะพร้าวไปทาบุหรี่สูบ เรื่องนี้มีข้อ ถกเถียงกันว่า อาจเกิดอันตรายต่อทางเดินหายใจได้ ดังนั้นจึงไม่ควรทาโดยเด็ดขาด เน่ืองจากน้ามัน กัญชาและกัญชงเมื่อถูกเผาไหม้ท่ีอุณหภูมิสูง จะเกิดสารอนุมูลอิสระเหมือนกับการสูบบุหร่ี และน้ามัน มะพร้าวท่ีผสมเข้ากับน้ามันกัญชาและกัญชงเพ่ือให้ล่ืนข้ึน ไม่ควรใช้กับบุหรี่ไฟฟ้า หรือทาบนบุหรี่เพื่อสูบ เพราะอาจทาใหป้ อดอักเสบได้ นา้ มนั กัญชาและกัญชง สาหรับบหุ รไ่ี ฟฟา้ จึงต้องพิจารณาวา่ ใช้สารอะไรเป็นตวั ทาละลาย และมีโอกาสที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ตัวทาละลายที่อาจเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ ได้แก่

267 โพลีเอทิลีน ไกลคอล (Polyethylene Glycol (PEG) โพพิลีน ไกลคอล (Propylene Glycol (PG) และกลเี ซอรีน (Glycerin) อุปกรณ์บุหร่ีไฟฟ้า ท่ีใช้สาหรับน้ามันกัญชาและกัญชง มีกระบวนการใช้ความร้อนทา ให้เกิดไอ สาหรับสูดเข้าปอด ที่ไม่ผ่านการเผาไหม้จึงมีความปลอดภัยมากกว่าใช้ตัวทาละลายท่ีอาจมี สารตกคา้ งทเี่ ป็นอันตราย ดังทกี่ ลา่ วมาแล้วข้างต้น กล่าวโดยสรุป ห้ามใช้นา้ มันกญั ชาและกัญชงทาบหุ รี่ เพราะเปน็ อนั ตรายร้ายแรงต่อระบบ ทางเดินหายใจ และไม่ควรใช้กบั บหุ รี่ไฟฟ้า อาจทาให้ปอดอกั เสบเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ 4. สารตกคา้ งจากการสกดั นา้ มนั กัญชาและกัญชง การตกค้างของตัวทาละลายในสารสกัดกัญชาและกัญชง จากข้อมูลงานวิจัยของ Romano LL และ Hazekamp A. พบว่าการสกัดกัญชาและกญั ชงโดยใช้ตวั ทาละลายแตกตา่ งกัน จะ สามารถสกัดสารสาคัญกลุ่มต่าง ๆ ออกมาได้แตกต่างกัน ได้แก่ สารกลุ่มแคนนาบินอยด์ เทอร์ปีน และพบสารตกค้างที่เป็นอันตรายแตกต่างกัน จากผลการวิจัยพบว่าการสกัดกัญชาและกัญชงด้วยตัว ทาละลายแนฟทา หรือปโิ ตรเลียมอเี ทอร์มีความปลอดภัยน้อยกว่าการสกดั ดว้ ยเอทานอล หรือการต้ม ในน้ามันมะกอก เน่ืองจากพบการตกค้างของตัวทาละลายที่มีความเส่ียงที่ทาให้เกิดโรคมะเร็งได้ (ข้อมูลความเส่ียงจากเอกสารข้อมูลความปลอดภัย Material Safety Data Sheets (MSDS) ของ แนฟทา และปิโตรเลียมอีเทอร์) นอกจากนี้ยังมีวิธีสกัดอ่ืน ๆ ท่ีไม่ใช้ตัวทาละลายอินทรีย์ (solvent- free) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผลิตภัณฑ์มากย่ิงข้ึน เช่น การหีบน้ามันจากช่อดอก การสกัดแห้ง โดยผ่านแร่ง และน้าแข็งแห้ง เป็นต้น แต่วิธีดังกล่าวยังเป็นข้อจากัดในการผลิตระดับอุตสาหกรรม วิธีการสกัดกัญชาและกัญชงท่ีนิยมใช้ และได้รับการยอมรับสาหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยากัญชา และกัญชง โดยการสกัดคาบอนไดออกไซด์เหลว และการสกัดด้วยเอทานอลเย็นท่ีอุณหภูมิต่ากว่า -60 ºC เนอื่ งจากมีความปลอดภัยสงู สามารถสกดั ไดป้ ริมาณมาก และได้สารแคนนาบนิ อยด์เข้มขน้ กล่าวโดยสรุป สารตกค้างจากการสกัดน้ามันกัญชาและกัญชง ในการเลือกผลิตภัณฑ์ กัญชาและกัญชงต้องศึกษาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้สารสกัดชนิดใด มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด การสกัดโดยตัวทาละลายแนฟทา หรือปิโตรเลียมอีเทอร์ มีความปลอดภัยน้อยกว่าการสกัดด้วยเอทานอล หรือการต้มในนา้ มันมะกอก เน่ืองจากพบการตกค้างของตัวทาละลายท่ีมีความเส่ียงที่ทาใหเ้ กดิ โรคมะเร็งได้ และวธิ กี ารสกัดใหม่ท่ีเป็นท่ีนิยมในปจั จุบัน ได้แก่ การสกัดโดยใช้คารบ์ อนไดออกไซด์เหลว และเอทานอล สกดั เยน็ เนื่องจากมคี วามปลอดภัยสงู สามารถสกดั ไดป้ รมิ าณมาก และไดส้ ารแคนนาบินอยด์เขม้ ข้น 5. ความปลอดภยั ของนา้ มนั กญั ชาและกญั ชง แหล่งท่ีมาของยาต้องได้รับการอนุญาตให้ผลิตยาจากกัญชาและกัญชาอย่างถูกต้องตาม กฎหมาย ยาจากกัญชาและกัญชงต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ตามข้อกาหนดของ

268 มาตรฐานการผลิตยาที่ดี (GMP) โดยมีการควบคุมปริมาณสารสาคัญ (THC , CBD) โลหะหนัก ได้แก่ แคดเมยี ม ปรอท ตะกวั่ และสารหนู เชอ้ื จุลนิ ทรยี ์ก่อโรค สารปนเปื้อน และยาฆ่าแมลง นอกจากน้ีการรับยากัญชาและกัญชงมาใช้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแล และปรึกษาโดย แพทย์ เภสัชกร หรือแพทย์แผนไทยท่ีผ่านการอบรมการใช้ยากัญชาและกัญชงเพ่ือประโยชน์ทาง การแพทย์ จากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว เนื่องจากการตอบสนองต่อยากัญชาและยากัญชงในผู้ป่วย แต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ดังนั้นแพทย์จะต้องตรวจติดตามอาการ เพื่อปรับยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ ละราย กล่าวโดยสรุป ความปลอดภัยของน้ามันกัญชาและกัญชง ต้องคานึงถึงแหล่งที่มาผลิตภัณฑ์ ท่ีได้มาตรฐานการผลิตที่ดี ต้องผ่านการตรวจควบคุมคุณภาพ และสั่งจ่ายภายใต้แพทย์ เภสัชกร และ แพทย์แผนไทยท่ผี า่ นการอบรมการใชก้ ัญชาและกญั ชง เพือ่ ประโยชนท์ างการแพทย์มาแลว้ 6. สายพนั ธ์ุกญั ชาและกญั ชงเหมาะกบั บางโรค จากการสังเกตการณ์เก็บข้อมูลจากงานวิจัย สารเคมีที่แตกต่างกันในกัญชาและกัญชงแต่ ละสายพันธ์ุ และผลการรักษาในผู้ป่วยแต่ละโรค ในต่างประเทศพบว่ากัญชาและกัญชงแต่ละสายพันธ์ุมี คณุ สมบัตทิ ่ีเหมาะสมกับแต่ละโรคไมเ่ ท่ากัน นอกจากน้ีการวิจยั ในประเทศอิสราเอล พบว่ากญั ชาและกัญชง แต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติในการทาลายเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดไม่เท่ากัน แต่การวิจัยส่วนใหญ่ยังเป็น เพียงการวิจัยในหลอดทดลองเท่าน้ัน ข้อมูลการรักษาโรคมะเร็งโดยการใช้กัญชาและกัญชงจึงจาเป็นต้อง ศกึ ษาต่อไป ข้อมูลงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า กัญชาและกัญชงแต่ละสายพันธุ์จะมีความจาเพาะต่อ โรคมะเรง็ แต่ละชนิด ทาให้ความรเู้ รื่องการใชส้ ารสกดั กญั ชาและกัญชงในการรักษาโรคมะเร็งก้าวหน้า ไปมากขน้ึ ทาให้ในขณะนี้การใช้กัญชาและกญั ชงรักษาโรคต้องลงลึกไปในรายละเอียดว่ากัญชาและกัญชง สายพันธ์ไุ หน เหมาะกับโรคอะไร กล่าวโดยสรุป สายพันธ์ุกัญชาและกัญชงเหมาะกับบางโรค จากการสังเกตการณ์เก็บข้อมูล จากงานวิจยั สารเคมที แี่ ตกตา่ งกนั ในกัญชาและกัญชงแตล่ ะสายพนั ธ์ุ และผลการรักษาในผู้ป่วยแต่ละ โรคในต่างประเทศพบว่ากัญชาและกัญชงแต่ละสายพันธ์ุมีคุณสมบัติท่ีเหมาะสมกับแต่ละโรคไม่เท่ากัน แตย่ งั เป็นงานวิจยั ขัน้ ต้น ตอ้ งมกี ารศกึ ษาในเชงิ ลึกต่อไป 7. หลักธรรมนาชวี ิตพน้ พิษภยั จากกญั ชาและกัญชง กัญชาและกัญชง เป็นท้ังพืชยาที่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และเป็นพืชท่ีมีสารเสพติด ให้โทษ มีฤทธ์ิกล่อมประสาท ทาลายรา่ งกายทงั้ ปอดสมอง และประสาท มผี ลตอ่ ความรสู้ กึ นกึ คิด และจติ ใจ ท่ีผิดปกติ ทาให้ขาดสติ เป็นการเบียดเบียนตัวเองอย่างรุนแรง ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม ในทาง พระพุทธศาสนาถือว่า กัญชาและกัญชงเป็นสิ่งเสพติด คือ เมรัย ตามท่ีบัญญัติไว้ในข้อท่ี 5 ท่ีว่า สุราเมรยะมัชชะ ปมาทัฏฐานา เวรมณี คาว่า “มัชชะ” หมายถึงของมึนเมาอันเป็นที่ต้ังแห่งความ

269 ประมาท ซึ่งหากใช้กัญชาและกัญชงในลักษณะสารเสพติด จะทาให้ขาดสติสัมปชัญญะในการประกอบ กจิ การงาน และประการสาคัญ คือ ขาดสติในการวนิ ิจฉัย ผิด ชอบ ช่ัว ดี จงึ ถือไดว้ า่ ผดิ ศลี ขอ้ 5 เพื่อ หลีกเล่ียงพิษภัยของกัญชาและกัญชงท่ีเป็นสารเสพติด จึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยใช้ หลักพุทธธรรมในการดาเนินชีวิต เพ่ือให้ประชาชนปฏิบัติตนตามหลักธรรมเปน็ เครื่องยึดเหนี่ยวจติ ใจ จะช่วยให้เกิดความสงบสุขในสังคม คาสอนของพระพุทธเจ้าซ่ึงเป็นหลักสัจธรรมท่ีผู้ปฏิบัติ สามารถ นามาปรับใช้ในชีวิตเพ่ือเยียวยารักษาจิตใจ ให้ห่างไกลจากยาเสพติดได้น้ัน มีหลักธรรมที่สามารถ นามาประยกุ ตใ์ ช้ได้ ดังน้ี หลักธรรมท่ี 1 หลักทิศ 6 เป็นหลักในการปฏิบัติต่อบุคคลรอบข้าง ซ่ึงประกอบด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในระดับต่าง ๆ ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างมารดาบิดา กับบุตรธิดา ความสัมพันธร์ ะหว่างอาจารย์กับศิษย์ ความสมั พันธร์ ะหว่างภรรยากับสามี ความสมั พนั ธ์ระหว่างมิตร กับมิตร ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และความสัมพันธ์ระหว่างนักบวชกับชาวบ้าน ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ได้กาหนดหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติ และมีสิทธิอันชอบธรรมท่ีจะได้รบั การปฏิบัติตอบ ประกอบด้วยบุคคลประเภทต่าง ๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางสังคม ดุจทิศท่ีอยู่ รอบตวั ทีส่ าคัญ คอื ทิศเบ้อื งหน้า คือ ทิศตะวนั ออก ได้แก่ มารดา บดิ า เพราะเป็นผมู้ ีอุปการะแก่เรา มาก่อน จะเป็นภูมิคุ้มกันประชาชน โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนจากยาเสพติดได้ เน่ืองจากพ่อแม่เปน็ ผู้ให้โดยเฉพาะการให้ความรัก ความอบอุ่น การปกป้องคุ้มครอง การศึกษา และทรัพย์สิน โดยไม่ ตอ้ งการส่งิ ใดตอบแทน มเี พยี งต้องการให้ลูกไดเ้ ติบโตมีชีวิตท่ีดมี ีคุณภาพ ดงั นั้นหากประชาชนร่วมกัน สร้างครอบครัวให้อบอุ่น อบรมส่ังสอนบุตรหลานให้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม ก็จะนาพาชีวิต บคุ คลในครอบครัวให้ปลอดภัยหา่ งไกลจากยาเสพตดิ รวมทง้ั พษิ ภัยจากกัญชาและกัญชงได้ หลักธรรมที่ 2 หลักคบมิตร ความเป็นมิตรเป็นสิ่งที่จาเป็นของผู้ท่ีอยู่รวมกันในสังคม เราจะอยู่ลาพังคนเดียวไม่ได้ ต้องมีมิตรเป็นองค์ประกอบในสังคม ดังน้ันการจะเลือกคบมิตรจึงควร พจิ ารณาเลอื กคบแต่คนดีที่นาความเจริญรุ่งเรืองมาให้ ดังปรากฏจากคาสอนในพระไตรปิฎกเก่ียวกับ มติ ร ใหเ้ ลอื กคบมติ ร ดังนี้ มิตรประเภทท่ี 1 มิตรอุปการะ เป็นมิตรท่ีมีคุณธรรม ซ่ึงแสดงออกด้วยพฤติกรรม 4 ประการ คือ (1) ปอ้ งกัน รักษา มิตรไมใ่ หป้ ระพฤตผิ ิดศีลธรรมอนั ดีงาม (2) ป้องกันทรัพยส์ มบัติของ มิตรไม่ให้เสียหาย (3) เม่ือมีภัยก็เป็นที่พึ่งพานักได้ และ (4) เมื่อมีกิจท่ีจาเป็นเกิดขึ้น ก็ให้ทรัพย์สิน ช่วยเหลือได้ เน่ืองจากการดาเนินชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องราวมากมายผ่าน เข้ามาในชีวิต มีความโชคดี มีความเดือดร้อนกายเดือดร้อนใจ ในบางครั้งได้รับทรัพย์ ในบางคร้ังเสีย ทรัพย์ ในยามที่เรามีความลาบาก หากมีมิตรท่ีให้ความช่วยเหลือ ดูแลปกป้องภัยอันตราย ส่งเสริมให้ อยู่ในสถานที่ปลอดภัยโดยไม่ได้หวังส่ิงตอบแทนใด ๆ แสดงถึงเราเป็นผู้มีมิตรดี ดังน้ันมิตรจึงมีความ จาเป็นอย่างมากในการดาเนินชีวิต ดังจะเห็นตัวอย่างการคบมิตรของเยาวชนในปัจจุบันที่ชวนกันไป

270 ทากิจกรรมทีเ่ ป็นการเสริมความร้ทู างวชิ าการ ไปเรยี นรู้วชิ าการเพิม่ เติม หรือที่เรียกวา่ “ตวิ วิชา” เพ่ือ เสริมทักษะความรู้ในการท่ีจะสอบเข้าในระดับสูง ซ่ึงเป็นการปกป้องให้อยู่ในสถานท่ีที่เหมาะสมถูกต้อง ด้วยกาลเทศะ และสง่ เสริมความเจริญใหเ้ ป็นการเพม่ิ เติมทรพั ยใ์ หก้ ับเยาวชน ซึ่งเปน็ ทรัพยท์ างปัญญา ท่อี ันมคี า่ มหาศาลติดตัวไปกับเยาวชนตลอด มิตรประเภทที่ 2 มติ รรว่ มสขุ ร่วมทุกข์ การอยู่รว่ มกัน จาเปน็ ต้องมีน้าใจไมตรีต่อกัน โดยอาศัยคุณธรรมของการอยู่ร่วมกนั ช่วยเหลือกันในยามจาเป็น ดงั คาสอนท่ปี รากฏในพระไตรปิฎกท่ีว่า มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์แสดงออกด้วยพฤติกรรม 4 ประการ คือ (1) บอกความลับแก่มิตร (2) ปิดความลับ ของมติ ร (3) ไม่ละทิ้งมติ รในยามอันตราย และ (4) แม้ชวี ติ ก็อาจจะสละเพื่อประโยชน์ของมิตรได้ จาก คาสอนจะเห็นได้ว่า การปฏิบัติต่อมิตรในลักษณะ มีทุกข์ร่วมทุกข์มีสุขร่วมสุข ในสังคมไทยทุกวันนี้ ปฏิบัติได้ยากย่ิงนัก โดยเฉพาะข้อท่ี 4 ส่วนใหญ่ในสังคมไทยจะเห็นได้ว่า สมาชิกของสังคมจะปฏิบัติ แตกต่างจากคาสอน เช่น มักพูดโกหกขยายความลับของมิตรให้ไม่เป็นความลบั เอาตัวรอดในยามมภี ยั และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทจ่ี ะยอมเสียสละชีวิตเพ่ือมิตร เป็นต้น ดงั นัน้ เยาวชนควรไดร้ บั การฝึกฝน อบรมในเร่ืองของความมนี า้ ใจในขณะอยรู่ ่วมกนั ในสังคม มิตรประเภทท่ี 3 มิตรแนะนาประโยชน์ เป็นคุณธรรมที่สร้างความมีน้าใจ เอาใจใส่ ดูแลมิตร โดยการตักเตือนส่ิงต่าง ๆ ต่อมิตร จะคอยตักเตือนมิตรเมื่อเห็นว่ามิตรปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง เพ่ือให้มิตรทาแต่ความดี มิตรแนะนาประโยชน์ แสดงออกด้วยพฤติกรรม 4 ประการ คือ (1) ห้ามมิ ให้ทาความชั่ว (2) แนะนาให้ต้ังอยู่ในความดี (3) ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง และ (4) บอกทางสวรรค์ให้โดย จะถ่ายทอดประสบการณ์ และความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต เพื่อให้มิตรมีความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนแนะนามิตรในการทาความดีสร้างกุศล เพือ่ ประโยชนใ์ นวันข้างหน้า มติ รประเภทที่ 4 มติ รมคี วามรักใคร่ เป็นมิตรท่ีมจี ิตใจงดงาม แสดงออกด้วยพฤติกรรม 4 ประการ คือ (1) ไม่พอใจความเส่ือมของมิตร (2) พอใจความเจริญของมิตร (3) ห้ามปรามคนท่ีนินทา มิตร และ (4) สนับสนุนคนที่สรรเสริญมิตร เป็นการกล่าวถึงมิตรที่มีความห่วงใยพร้อมส่งเสริม สนับสนุน และยินดีให้มิตรได้ดีมีภาพลักษณ์ท่ีเหมาะสม ระแวดระวังไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียกับมิตร เมื่อมิตรได้รับรางวัลก็พลอยยินดี และร่วมสนับสนุนสรรเสริญกล่าวถึงไปด้วยจะคอยเป็นหูเป็นตาไม่ ยอมใหใ้ ครเขา้ มาทาลายมิตรไมว่ า่ จะเปน็ วธิ ีใด ๆ จงึ กลา่ วได้ว่ามิตรท้ัง 4 นเี้ ป็นมิตรที่นาพาชีวิตให้ปลอดภัยห่างไกลจากยาเสพติด รวมทั้ง พิษภัยจากกญั ชาและกญั ชงได้ หลกั ธรรมท่ี 3 หลักปัญญา เปน็ หลกั ธรรมที่แนะนาให้ใช้ความคดิ พิจารณาความเป็นไป ตามธรรมชาติ และละกเิ ลสทท่ี าใหช้ ีวติ ของเราเศรา้ หมอง หรอื ได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง หลักธรรมน้ี เป็นคาสอนมีปรากฏในพระไตรปิฎกท่ีกล่าวถึงหลักปัญญาว่า ผู้มีปัญญา คือผู้ใช้ปัญญาเป็นเครื่อง พิจารณาเห็นทั้งความเกิด และความดับตามความเป็นจริง ชาระกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ

271 พระพรหมคุณาภรณ์ ได้อธิบายความหมายของ ปัญญาสัมปทา หมายถึงความพร้อมด้วย ปัญญารู้จัก บาป บุญ คณุ โทษ ประโยชน์ มใิ ช่ประโยชน์ และเขา้ ใจชีวิตน้ตี ามความเปน็ จริงทจ่ี ะไม่ใหล้ มุ่ หลงมัวเมา การใช้ ความคิดพิจารณาเพ่ือให้รู้อย่างไม่วิปริต ใช้สติพิจารณาคติแห่งกุศลธรรม และอกุศลธรรม รู้สิ่งท่ีเก้ือกูล และสง่ิ ไมเ่ ก้อื กลู แกต่ นเอง และผอู้ ืน่ ดว้ ยปัญญาตามความเปน็ จรงิ ดังน้ันคนเราจึงต้องพิจารณาโทษพิษภัยของสารเสพติด รวมท้ังกัญชาและกัญชาด้วย ความรู้ ความฉลาด หรือรู้เท่าทันต่อพิษภัย ท่ีเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา ควรใช้ปัญญาในการหา ทางออกแห่งปัญหา ใช้เหตุผลในการพิจารณาแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยความเฉลียวฉลาด ส่ิงใดเป็นโทษ สิ่งใดเป็นกิเลส ส่ิงใดถูกต้อง สิ่งใดเหมาะสม สิ่งใดเป็นประโยชน์ ส่ิงใดควรให้ สิ่งใดควรเก็บ สิ่งใดควร รับ เลือกนามาเป็นแนวทางให้ชีวิตของเรามีคุณภาพ จะทาให้เราเข้าใจตนเอง เข้าใจสังคม เข้าใจ ในการเลือกคบมิตร และนาไปสู่การนับถือตนเอง เห็นคุณค่าตนเอง เป็นที่ยอมรับของครอบครัว ชุมชน และสังคม ซึ่งเป็นสิ่งท่ีสาคัญที่จะพัฒนาตัวเราให้เจริญก้าวหน้าเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ นาพาชีวิตใหป้ ลอดภัยห่างไกลจากยาเสพติด รวมท้ังพษิ ภยั จากกญั ชาได้ กล่าวโดยสรุป หลักธรรมนาชีวิต พ้นพิษภัยจากกัญชาและกัญชง การใช้พุทธธรรมเพื่อ สร้างภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจให้มีความเข้มแข็ง โดยใช้ภูมิคุ้มกันทางครอบครัวท่ีเป็นความรักความ อบอุ่น ความเข้าใจซ่ึงกันและกัน ภูมิคุ้มกันจากสังคมสิ่งแวดล้อม ภูมิคุ้มกันจากกัลยาณมิตร รวมถึง การเสริมสร้างการเรียนรู้ที่เกิดจากตนเองเป็นผู้กาหนด เยาวชนของชาติส่วนใหญ่ที่หลงเข้าไปเสพยา หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมท้ังกัญชาและกัญชง อาจเนื่องจากขาดความรักความอบอุ่น ขาดความรู้ ความเข้าใจต่อสังคม เข้าใจว่าตนเองไม่มีคุณค่า และขาดความรู้ทางธรรมะพื้นฐาน หากเราต้องการ แก้ปัญหาเร่ืองยาเสพติดของเยาวชน เราจาเป็นต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของเยาวชนรวมท้ังตัวเราควร ได้เรียนรู้ปรับทัศนคติมุมมองด้วยการใช้ปัญญา เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาของตนเอง ในด้านครอบครัว สังคม และมิตร ให้ประสานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เสมือนเฟืองสามตัว ขับเคลื่อนกลไกให้ทางานในเวลาเดยี วกัน ดงั นั้นการป้องกันมิใหเ้ ยาวชน รวมทั้งตวั เราไดม้ โี อกาสเข้าไป ย่งุ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ เปน็ การป้องกนั ในลักษณะการสรา้ งความพร้อมในการใชช้ ีวติ เตรียมความพร้อมใน การเป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นผู้ดูแลตนเองได้ โดยใช้ปัญญาเป็นเคร่ืองมือท่ีจะนาพาตนเองให้อยู่ในสังคมเป็น พลเมืองท่ีมีคุณภาพ ซ่ึงจะเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะทาให้เราใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ เป็น พลเมืองท่ีมีคุณภาพ มีความเข้มแข็งท่ีเกิดจากกระบวนการใช้ปัญญาเป็นหลักท่ียึดเหนี่ยว ซ่ึงจะเป็น พื้นฐานสาคัญท่ีจะทาให้ประเทศไทยมีพลเมืองที่มีคุณภาพนาพาประเทศให้มีความสุขสงบ เจริญรุง่ เรืองสบื ไป

272 เร่ืองที่ 8 ขอ้ หา้ มในการใช้กญั ชาและกญั ชง 1. ห้ามใช้สาร THC ในผู้ปว่ ยทม่ี ีอาการทางระบบประสาทผิดปกติ 2. ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจขั้นรุนแรงที่มีอาการความดันตก หรือหัวใจเต้นเร็ว เพราะ เพ่ิมความเส่ียงหวั ใจขาดเลอื ด 3. สตรีตั้งครรภ์ หรือใหน้ มบุตร (อาจทาให้เด็กในครรภน์ ้าหนักนอ้ ย และมีพัฒนาการช้า) 4. ในเด็กอายุต่ากว่า 25 ปี ให้พิจารณาตามความเหมาะสมกับโรคของผู้ป่วย ยาเพ่ิมความเสี่ยง ตอ่ การเกดิ จติ เภท และลดพัฒนาการทางสมองได้ 5. ห้ามใช้ในผู้เป็นโรคตบั แข็ง (หากจาเป็นให้ลดยาลง เนื่องจากกัญชาใช้ตับในการกาจดั ยาเป็นหลกั ) กล่าวโดยสรุป ข้อห้ามในการใช้กัญชาและกัญชงกับบุคคลต่อไปนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยท่ีมีอาการ ทางระบบประสาทผิดปกติ ผู้ป่วยโรคหัวใจขั้นรุนแรงท่ีมีอาการความดันโลหิตต่าลง หรือหัวใจเต้นเร็ว สตรตี ้งั ครรภ์ หรือใหน้ มบุตร บุคคลที่มอี ายตุ ่ากว่า 25 ปี ผปู้ ่วยโรคตับ โดยถา้ จาเปน็ ตอ้ งใช้ต้องอยูใ่ น ความดแู ลของแพทย์ผู้เชีย่ วชาญ เรอื่ งท่ี 9 การถอนพิษเบ้อื งตน้ จากการเมากญั ชาและกัญชง เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โพสต์ข้อความผ่านโซเซียลเฟซบุ๊ก โดยระบุวิธีแก้อาการมึนศีรษะ โคลงเคลง แน่นหน้าอก จากการใช้ กญั ชาและกญั ชงเกนิ ขนาดทเ่ี ป็นภูมิปญั ญาชาวบา้ น ดังนี้ 1. ด่ืมน้ามะนาวผสมน้าผึ้ง หรือน้าตาลทรายแดงไปเรื่อย ๆ ถ้าเป็นโรคเบาหวานควร ใส่น้าผงึ้ หรือน้าตาลในปรมิ าณน้อย และด่ืมจนกว่าอาการจะหายเมา 2. ชงสมุนไพรรางจดื ดม่ื วนั ละ 3 เวลา เวลาเชา้ กลางวัน และเย็น 3. รับประทานกล้วยนา้ วา้ สกุ 6 ผล เวลาเชา้ 2 ผล กลางวัน 2 ผล และเยน็ 2 ผล โดยให้เลือกใช้วิธีใดวิธีหน่ึง สาหรับอาการเมา ศีรษะโคลงเคลง จะเป็นอีกระยะหน่ึง และจะค่อย ๆ มีอาการดขี ้ึน กลา่ วโดยสรุป การถอนพษิ เบอ้ื งตน้ จากการเมากัญชาและกัญชง ทม่ี อี าการมึนศรี ษะ โคลงเคลง แนน่ หนา้ อกจากการใชก้ ญั ชาและกญั ชงเกนิ ขนาด มีอยู่ 3 วธิ ี ได้แก่ วิธที ี่ 1 ใหด้ ื่มนา้ มะนาวผสมนา้ ผึ้ง หรอื น้าตาลทราย วิธีที่ 2 ดื่มสมุนไพรรางจืด และวิธีท่ี 3 รับประทานกล้วยน้าว้าสุก วันละ 3 เวลา เวลาเช้า กลางวัน และเยน็

273 ถาม จริงหรือไม่ การด่ืมน้ามะนาวผสมน้าผงึ้ ช่วยแก้อาการเมาค้างจากพิษของกญั ชาได้ ตอบ จริง เพราะจากประสบการณ์ของชาวบ้านที่เล่าสืบต่อกันมายืนยันว่าช่วยแก้ อาการเมาค้างจากกัญชาให้ดีข้ึนจริง การด่ืมน้ามะนาวผสมน้าผ้ึง หรือชารางจืด ถือว่าเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างปลอดภัย จึงสามารถนามาใช้ช่วยในการบรรเทา อาการเมาค้างจากกญั ชาได้ เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรเชี่ยวชาญ (ด้านเภสัชกรรมการผลติ ) รองผู้อานวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ที่ เซเรนิต้ี โฮเทล แอนด์ สปา อาเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ว่า “การระบาดของกัญชาและยาเสพติด เกิดจากสภาวะจิตใจ และ ความเครียด ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนไม่เข้าใจสภาวะจิตของตัวเอง ก็จะไปพ่ึงพิงส่ิง ต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอก เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดยา ทาให้ไม่สามารถควบคุมจิตได้ เพราะ กัญชาเลน่ กับจติ ของคนทไ่ี ม่ฝกึ สมาธิ และวางความทกุ ข์ไม่ได้ ซ่งึ เป็นสภาวะเรือ่ งใหญม่ าก คน ต่างชาติจะเช่ือว่าเมื่อมีปัญหาชีวิต การใช้กัญชาดีกว่าการฆ่าตัวตาย ซ่ึงแท้ท่ีจริงแล้วการมี ธรรมะทาให้เกิดการฝึกสมาธิ ทาให้จิตใจเกิดความสุขได้ ฉะนั้นเราไม่ต้องใช้กัญชาก็ได้ หาก เราสามารถฝึกจิต และสมาธิไดเ้ อง โดยไม่ตอ้ งพึง่ ยา”

274 กิจกรรมทา้ ยบท 1. กจิ กรรมที่ 1 คาชี้แจง : โปรดเลือกตัวอักษรหน้าข้อที่ผู้เรียนคิดว่าข้อนั้นเป็นคาตอบท่ีถูกต้องที่สุด เพียงขอ้ เดยี ว แล้วเขยี นคาตอบลงในกระดาษของผู้เรยี น ขอ้ 1 “ตารวจจับกุมนายสายฟ้า พร้อมของกลางเป็นเฮโรอีน 4 แท่ง น้าหนัก 10 กิโลกรมั รถยนต์ 1 คนั เงนิ สดอีก 50,000 บาท นายสายฟ้าสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตารวจวา่ ตนเองทา หน้าท่ีขนยามาส่งเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ค้ายาเสพติด” จากข้อความดังกล่าวนายสายฟ้าขาดคุณธรรมข้อใด มากทส่ี ดุ ก. ฉนั ทะ ข. วิริยะ ค. จิตตะ ง. วิมงั สา ขอ้ 2 นายเอ มีอาการป่วยกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ มีเพ่ือนแนะนาว่าผลิตภัณฑ์ กัญชาและกัญชงสามารถรักษาได้ นายเอจึงตัดสินใจไปซ้ือผลิตภัณฑ์กัญชามาใช้เอง กรณีดังกล่าวจะ เป็นผลดี หรือผลเสียอยา่ งไรตอ่ รา่ งกายนายเอ ก. เปน็ ผลดี เพราะใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ัญชาตามคาแนะนาของเพื่อน ข. เปน็ ผลเสยี เพราะใช้ผลติ ภัณฑก์ ัญชาที่ไม่ได้มาตรฐาน ค. เปน็ ผลดี เพราะมผี ใู้ ช้ผลติ ภัณฑก์ ัญชาใชแ้ ล้วไดผ้ ลดสี ามารถรักษาโรคท่ี เป็นอยไู่ ด้ ง. เป็นผลเสีย เพราะผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาไม่ได้ไปปรึกษาแพทย์ และเภสัชกร ผูเ้ ชี่ยวชาญ ขอ้ 3 “นายแพทย์นรินทร์ให้คาปรึกษา กับผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงใน การรักษาโรคด้วยจิตใจจดจ่อ ระมัดระวัง” จากข้อความดังกล่าวนายแพทย์นรินทร์นาหลักธรรมข้อใด มาใชป้ ฏิบตั ิงานในหนา้ ท่ีมากทสี่ ุด ก. ฉันทะ ข. วิรยิ ะ ค. จิตตะ ง. วมิ ังสา

275 ขอ้ 4 ผปู้ ่วยในขอ้ ใดที่แพทย์สามารถสั่งใช้ผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกัญชงในการรกั ษาได้ ก. นายแดง ปว่ ยเป็นโรคอ้วน ข. นายนพ ปว่ ยเปน็ โรคคางทูม ค. นางสาวจมิ ป่วยเปน็ โรคพารก์ ินสนั ง. นางสาวนวล ปว่ ยเป็นโรคปากเทา้ เปื่อย ขอ้ 5 จากรายงานการวิจัยพบว่า ในอนาคตมนุษย์สามารถนากัญชาและกัญชงไปใช้ รกั ษาโรคในขอ้ ใดได้บ้าง ก. โรคมะเรง็ ข. โรคเท้าชา้ ง ค. โรคคอพอก ง. โรคเหงือกอกั เสบ 2. กิจกรรมท่ี 2 คาช้ีแจง : โปรดจับคู่ข้อมูลท่ีอยู่หลังตัวอักษรที่ตรงกับตัวเลขของข้อมูลน้ัน ๆ หรือมี ความสัมพันธ์ตรงกับหัวข้อเลขน้ัน ๆ ให้ถูกต้อง แล้วนาตัวอักษรของหน้าข้อมูลมาใส่หน้าตัวเลขตรง กับขอ้ นัน้ .......... 1. จากรายงานการวจิ ัย พบว่าในอนาคตจะสามารถ ก. ประเมนิ ผู้ป่วย ใช้ผลิตภัณฑก์ ัญชาและกัญชงกบั โรคใด ข. โรคอ้วน .......... 2. ข้อแนะนาก่อนตดั สนิ ใจใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชา ค. สง่ั จา่ ยภายใตแ้ พทย์ และกญั ชงทางการแพทย์ ง. โรคสมองเสือ่ ม .......... 3. การเริ่มใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาและกญั ชง จ. โรคถุงลมโป่งพอง ในทางการแพทย์ ฉ. ปรึกษาผูท้ ีเ่ คยใชก้ ญั ชา .......... 4. ข้อหา้ มใชผ้ ลติ ภัณฑ์ทีม่ ีสาร THC และ CBD ช. ปรึกษาแพทย์ เป็นสว่ นประกอบ ซ. ผูท้ ม่ี ีประวัติแพผ้ ลิตภณั ฑ์ .......... 5. ความปลอดภัยของน้ามันกัญชาและกญั ชง ท่ไี ด้จากการสกัดกัญ 3. กจิ กรรมท่ี 3 คาชี้แจง : โปรดทาเครื่องหมายถูก () หรือเคร่ืองหมายผิด () ลงหน้าข้อตัวเลขที่ ผู้เรียนอ่านข้อมูล แล้วคิดว่าคาตอบนี้ถูกให้ทาเครื่องหมายถูก () ถ้าคิดว่าข้อมูลที่อ่านเป็นคาตอบที่ ผิดให้ทาเคร่ืองหมายผิด () .......... 1. กญั ชาและกัญชงช่วยป้องกันรักษาเสริมสรา้ งเซลล์ .......... 2. การรักษาด้วยผลิตภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชงเปน็ คร้งั แรกควรเริ่มต้นที่ขนาดตา่ มาก ๆ .......... 3. อัตราการเตน้ ของหัวใจต่าลง คือ อาการของผลข้างเคยี งจากการใช้กัญชาและกัญชง

276 .......... 4. การใชก้ ญั ชาและกัญชงในลักษณะสารเสพตดิ จะทาให้ขาดสตสิ ัมปชัญญะ .......... 5. หา้ มใช้สาร THC ในคนไขท้ ่ีมีอาการทางระบบประสาทผิดปกติ

277 / / / / / / / บรรณานุกรม / / / / / / / / / / / /

278 บรรณานกุ รม กรมทรัพย์สนิ ทางปัญญา.)ม.ป.ป.). กฎหมายทรพั ยส์ ินทางปัญญาไทย.สบื คน้ จาก กกกกกกกttps://www.ipthailand.go.th/th/dip-law-2/category/acts.html กกกกกกก(สืบคน้ เม่ือ 7 ตุลาคม 2562) กองบรรณาธกิ ารHONESTDOCS. (2562). บทความเรอื่ งกัญชารวมเร่อื งน่ารู้ และสรรพคุณทาง กกกกกกกการแพทยร์ ูแ้ ลว้ ตอ้ งอึง้ .สืบคน้ จาก https://www.honestdocs.co/interesting- กกกกกกกcannabis-medicinal-properties.(สืบค้นเมือ่ 11 ตลุ าคม 2562) ข่าวประชาสัมพนั ธเ์ ขต 1. (2562). ขา่ วหมอพ้ืนบ้านกับราชกิจจานุเบกษา ท่รี ับรองหมอพื้นบ้าน. กกกกกกกสืบคน้ จาก https://www.facebook.com/PRD1KK/?_tn_=kC-R&eid กกกกกกก(สบื ค้นเม่อื 31 ตุลาคม 2562) คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ , สานกั งาน.(ป.ม.ท.).กฎหมายเกยี่ วกับกญั ชา. กกกกกกกสบื ค้นจากhttps://www.tci-thaijo.org/. (สืบคน้ เม่อื 7 ตุลาคม 2562) คณะกรรมการอาหารและย,าสานักงาน. กองควบคุมวตั ถุเสพติด.(2562).กฎหมายสําคญั /กฎหมาย กกกกกกกออกใหม่พระราชบญั ญตั วิ ัตถทุ อ่ี อกฤทธิต์ ่อจติ และประสาท พ.ศ2.559. สืบคน้ จาก กกกกกกกhttp://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics/SitePages/AllNewlaw.aspx#และ กกกกกกกhttp://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics/SitePages/Psychotropic.aspx กกกกกกก(สืบคน้ เม่ือ 7 ตุลาคม 2562) จงกล บุญพิทักษ.์ (2562).พทุ ธธรรม: ภมู คิ มุ้ กันเยาวชนจากยาเสพต.ดิ สบื ค้นจาก กกกกกกกhttps://lanmakhamvan.wordpress.com/2016/02/25/พุทธธรรม-ภูมคิ ุ้มกนั เย-2/ กกกกกกก(สบื คน้ เมอ่ื 10 ตุลาคม 2562) จอห์น ดอลลนิ ส์. (2562).กญั ชา : ทําไมหลายประเทศในโลกถงึ เปดิ รบั กญั ชากันมากขึ้น. กกกกกกกสบื ค้นจาก http://www.bbc.com/thai/international(สบื คน้ เม่ือ 7 ตุลาคม 2562.) จฬุ าพฒั น์ ชา่ งเกตุ.(ม.ป.ป.).กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา. เข้าถงึ ได้จาก https://www. กกกกกกกparliament.go.th/ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=2247 กกกกกกก(สบื คน้ เมอื่ 11 ตลุ าคม 2562) จุฬาลงกรณ์, มหาวิทยาลยั . (ม.ป.ป.).สรุปเวทจี ฬุ า ฯ เสวนา คร้งั ท่ี 19 “กญั ชา เพ่ือเยยี วยา กกกกกกกสุขภาพ?”สบื คน้ จาก http://www.chula.ac.th/news/19179/ กกกกกกก(สบื คน้ เม่อื 27 สงิ หาคม 2562)

279 ชีวจติ .(ม.ป.ป.). คลินิกกัญชาทางการแพทยแ์ ผนไทย ดีเดย์เปิดบรกิ าร 13 แหง่ ทุกเขตสุขภาพ. กกกกกกกสืบค้นจากhttp://www.bbc.gooddlifeupdate.com/healthy-body/ กกกกกกก(สืบคน้ เม่อื 27 สิงหาคม 2562) ถนดั มว่ งมณี.และประยนต์ ทรัพยเ์ จรญิ . (ม.ป.ป.). กัญชาสดุ ยอดยาวิเศษศาสตรแ์ ห่งการรักษา กกกกกกกโรคยคุ ใหม่. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพบ์ รษิ ัทเอกพิมพ์ไท จากดั . ทมี งานวิชาการบริษัท ไซเบอรบ์ ุคสแ์ อนดป์ ร้นิ ท์ จากดั . (ม.ป.ป.). หนงั สอื กญั ชาสุดยอดยาวเิ ศษ กกกกกกกศาสตรแ์ หล่งการรกั ษาโรคยคุ ใหม่.สานกั พิมพ์ บริษัทเอกพิมพ์ไท จากดั . ไทยรัฐ. (2562.). สารผสมเอง น้ํามนั กัญชา “หยอดแลว้ ตาย” โดนแจง้ จับ พบเงินสดกว่า กกกกกกก3 ลา้ น. สบื คน้ จาก http://www.thairath.co.th/news(สืบคน้ เมือ่ 25 กนั ยายน 2562) ไทยรฐั ออนไลน์. (ม.ป.ป.) ไขขอ้ คาใจ กัญชารกั ษามะเรง็ ‘มโนมว่ั ’หรอื ‘ยาสวรรค์. กกกกกกกสืบค้นจากhttps://www.thairath.co.th/content/616855 กกกกกกก(สืบคน้ เมื่อ 25 กันยายน 2562) ไทยรัฐออนไลน์.(ม.ป.ป.). ประวัตศิ าสตร์ฉบบั ย่อของ “กญั ชา”สบื ค้นจาก กกกกกกกhttps://www.thairath.co.th/news/society/1570476(สบื คน้ เม่ือ 25 กันยายน 2562) ไทยรัฐออนไลน์.(ม.ป.ป.). ความแตกระหวา่ ง \"กญั ชง\" และ \"กญั ชา\" สืบคน้ จาก กกกกกกกกกก กกกกกกกhttps://www.thairath.co.th/content/849370 (สบื คน้ เมอื่ 25 กันยายน 2562) ไทยรัฐออนไลน์. (2562). สาวผสมเอง นาํ้ มนั กญั ชา \"หยอดแล้วตาย\" โดนแจง้ จบั กกกกกกกพบเงนิ สดกว่า 3ลา้ น.สบื คน้ จากhttps://www.thairath.co.th/ กกกกกกกnews/local/north/1665323(สืบคน้ เมือ่ 31 ตลุ าคม 2562) ธติ ิ มีแต้มฐิติพล ปัญญาลมิ ปนันท์. (ม.ป.ป.). พชื รา้ ยหรอื สมุนไพรทางเลอื ก. กกกกกกกสืบค้นจาก http://www.bbc.com/thai/thailand-42748753 กกกกกกก(สบื ค้นเม่ือ27 สงิ หาคม 2562) ธติ ิ มีแตม้ กานต์ธรี า ภูรวิ ิกรยั . (2562.).เม่ือกัญชาแคนนาดาไฟเขียว : เบ้ืองหลงั และ กกกกกกกคําแนะนําจาก ดร.เจอร์เกน ไรหม์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโส. กกกกกกกสบื ค้นจาก https://www.the101.world/cannabis-canada-experience/ กกกกกกก(สืบค้นเมอื่ 11 ตลุ าคม 2562) ธีระ วรธนารตั น์. (ม.ป.ป.). บทความเรอื่ งกัญชา นโยบายทคี่ วรทบทวน. กกกกกกกสบื ค้นจาก http://www.tcijthai.com/news/(สืบคน้ เมื่อ 27 สงิ หาคม 2562)

280 ธีระวฒั น์ เหมะจุฑา. (2562). โรคใชก้ ัญชารักษาได้ทงั้ พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ปวดจากระบบกกกก กกกกกกกประสาทผิดปกติ. สืบคน้ จาก https://www.thaipost.net/tag/กัญชารกั ษาโรค กกกกกกก(สบื ค้นเมอื่ 10 ตลุ าคม 2562) นพิ นธ์ พวงวริทร์.(2562).โรคพาร์กินสนั กบั ผู้สูงอายุ.สืบค้นจาก https://www.si.mahidol.ac.th/ กกกกกกกsidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=112 (สบื ค้นเมอ่ื 7 ตุลาคม 2562) บา้ นและสวน. (2562).กญั ชา vs กัญชง ประวัติความเป็นมาและความตา่ งในความเหมือน. กกกกกกกสบื คน้ จาก https://www.baanlaesuan.com/145563/plant-scoop/marijuana กกกกกกก(สบื ค้นเมื่อ 7 ตลุ าคม 2562) ประชาสมั พันธ์,กรม.(2562). สานกั ขา่ ว NATIONAL NEWS BUREAU OF THANILAND.(ม.ป.ป.). กกกกกกกยา้ํ การโพสตซ์ ือ้ – ขาย“กญั ชา” หรอื ยาเสพติดทุกชนดิ ผ่านสื่อสงั คม ออนไลน์ เป็นการ กกกกกกกกระทาํ ท่ผี ดิ กฎหมาย.สบื คน้ จาก http://www.thainws.prd.go.th/th/news/detail/ กกกกกกก(สืบค้นเมื่อ 27 สงิ หาคม 2562) ประชาไท. (2561).ศาลมาเลเซียตัดสินประหารชีวติ ชายผู้แจกจ่ายกญั ชาทางการแพทยฟ์ รี. กกกกกกกสืบค้นจาก https://prachatai.com/journal/2018/09/78582 กกกกกกก(สบื คน้ เม่อื 31 ตุลาคม 2562) ปตั พงษ์เกษสมบรู ณ์.คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . (2562).ขนาดยาจาก กกกกกกกกัญชาทีเ่ หมาะสมในการรกั ษาโรค. กรุงเทพฯ: กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ปานเทพ พัวพงษ์พนั ธ์.(ม.ป.ป.). สรุ ยิ ันกัญชาอมั ฤตย์โอสถแห่งความหวัง. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์กก กกกกกบา้ นพระอาทติ ย์ ผกาทพิ ย์รืน่ ระเริงศกั ดิ์.(2562).กัญชากบั การรกั ษาโรค.สืบค้นจาก https://www.pharmacy. กกกกกกกmahidol.ac.th/ (สืบค้นเมอ่ื 7 ตลุ าคม 2562) ผู้จัดการออนไลน์. (ม.ป.ป.). เคาะใช้ นา้ํ มันกญั ชา สูตร CBD สงู ของ อภ.กลุ่มลมชักในเดก็ . กกกกกกกสืบคน้ จาก https://maronline.com/gol/8503/start=0(สืบคน้ เมือ่ 11ตุลาคม2562) พงศ์ นพเกต.ุ (ม.ป.ป.).กัญชา ประโยชน์ หรือ โทษ. กกกกกกกสืบค้นจาก http://www.nidapoll.nida.ac.th (สืบค้นเมื่อ 27 สงิ หาคม 2562) พรทิพย์ ทองด.ี (ม.ป.ป.).มองกัญชาใหร้ อบด้าน.สบื คน้ จาก http://www.kornchadluek. กกกกกกกnet/news/breaking-news/370287 (สบื ค้นเม่ือ 27 สงิ หาคม 2562) พินิจ จนั ทร์. (พ.ศ.2562). กัญชงหรอื เฮมพ์ ปลกู กอ่ นรวยกอ่ น. สานักพิมพป์ ญั ญาชน

281 พีรพจน์ ป่ินทองดี. (ม.ป.ป.).กัญชา : กฎหมายยาเสพติดอนั เป็นอปุ สรรคต่อการพัฒนากัญชา กกกกกกกการแพทย์.สืบค้นจาก https://www.tci-thaijo.org/(สืบค้นเมือ่ 7 ตลุ าคม 2562) แพทย์สภา.(2561).กญั ชาทางการแพทย์. สืบค้นจากhttps://www.tmc.ot.th/cannabis.php กกกกกกก(สบื คน้ เมื่อ 7 ตุลาคม 2562) โพสตท์ ูเดย์ รอบโลก. (2562.).เมืองหลวงออสซี่ รบั รองกฎหมายใช้กัญชาเพื่อสนั ทนาการ. กกกกกกกสืบคน้ จาก http://www.posttoday.com/world/601830(สืบคน้ เม่ือ11ตลุ าคม2562) โพสตท์ เู ดย์ สงั คมท่ัวไป. (ม.ป.ป.).หนนุ นาํ กญั ชา–กระทอ่ มมาใช้ทางการแพทย์. กกกกกกกสบื คน้ จาก http://www.posttoday.com/social/general/(สบื ค้นเม่ือ27สิงหาคม2562) ภาสิน เหมะจฑุ า. (2562).กญั ชง กญั ชา กบั ฤทธิ์กันชกั โรคลมบ้าหมู. สบื ค้นจาก กกกกกกกhttps://www.thairath.co.th/news/society/1570550 (สืบคน้ เม่ือ 7 ตลุ าคม 2562) รุจิระ บุนนาค. (2561).สิทธบิ ตั รกับกัญชา.สบื คน้ จาก https://martbunnag.com/artide/607/ กกกกกกก(สืบคน้ เมอ่ื 7 ตุลาคม 2562) วสนั ต์ ศรแี กว้ นิตย์. (2562).ปจั จัยทม่ี ผี ลตอ่ การเสพกัญชาของผ้เู ขา้ รับการตรวจพิสูจน์ : กกกกกกกกรณศี ึกษา สถานควบคุมตวั และสถานที่เพอื่ การตรวจพิสจู น์ เรอื นจํากลาง กกกกกกกคลองเปรม.สืบค้นจากhttps://www.rsu.ac.th/cja/IS/18- กกกกกกกWASAN_%20SRIKAEWNIT-2560.pdf(สบื คน้ เมื่อ 27 กนั ยายน 2562) วารสารการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก.(2562).ศลิ าจารึกตาํ รายาวัดราชโอรสาราม กกกกกกกราชวรวหิ ารท่สี ูญหาย. สืบคน้ จากhttp://digi.library. tu.ac.th/index/0122/7 กกกกกกก-1-Jan-Apr-2552/08PAGE39-PAGE53.pdf(สืบค้นเมอื่ 9ตลุ าคม2562) วารสารสนั ติศึกษาปริทรรศน์. (2562.).กัญชา : กฎหมายยาเสพติดอันเป็นอปุ สรรคตอ่ การ กกกกกกกพัฒนากัญชาการแพทย์.สบื ค้นจาก https://www.tci-thaijo.org›index.php›journal- กกกกกกกpeace›article›download(สืบคน้ เม่ือ 11 ตลุ าคม 2562) วิชยั โชคววิ ัฒน์.(2562). วารสารทางการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก บทความ กกกกกกกกัญชาเป็นยาวิเศษจรงิ หรอื . (2562).กัญชา กัญชา เปน็ ยาวิเศษ จริงหรอื .นนทบุรี: กกกกกกกสถาบนั พัฒนาการคุม้ ครองการวิจยั ในมนุษย์ สถาบนั วจิ ัยระบบสาธารณสขุ เวสารสั เวสสโกวทิ .(2562).แนวทางการใชส้ ารสกัดกญั ชาเมดคิ ัลเกรดกับโรคผวิ หนงั .สืบคน้ จาก กกกกกกกhttps://www.gpo.or.th/LinkClick.aspx?fileticket=PX_EM8lbhJM%3D&tabid= กกกกกกก414&mid=1297 (สบื ค้นเม่ือ 10 ตุลาคม 2562)

282 ศนู ย์พิษวิทยารามาธบิ ดี คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลัยมหิดล. (2562). กกกกกกกขอ้ ระวงั การใชผ้ ลติ ภัณฑก์ ญั ชา.(สบื คน้ เมอ่ื 28 สงิ หาคม 2562) สถาบันสารวจและติดตามการปลูกพืชเสพตดิ .(ม.ป.ป.).ชดุ องคค์ วามรู้พชื เสพติดกญั ชง(HEMP) กกกกกกกโรงพมิ พส์ ถาบนั สารวจและติดตามการปลกู พชื เสพติด สานักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และ กกกกกกกปราบปรามยาเสพตดิ (ป.ป.ส.) กระทรวงยตุ ธิ รรม สมนกึ ศริ ิพานทอง.(2562).สถานการณก์ ารใช้ยาผลิตจากพืชกัญชา. สืบคน้ จาก กกกกกกกhttps://www.gpo.or.th/Default.aspx?tabid=338&language=th-TH กกกกกกก(สืบค้นเม่อื 7 ตุลาคม 2562) สมยศ กิตตมิ ่ันคง. (2562).รกั ษาโรคด้วยกัญชงและกญั ชา. (2562).กระทอ่ มและกญั ชาทาง กกกกกกกการแพทย์.กรงุ เทพฯ : โรงพิมพบ์ รษิ ทั โกกรนี โซเชยี ล เวนเจอร์ จากดั . สมยศ ศภุ กิจไพบลู ย์ พรรคเขยี ว จรรโลงโลก.(2562).กญั ชายาวิเศษกัญชารกั ษามะเร็ง. กกกกกกกกรุงเทพฯ : สานักพมิ พป์ ัญญาชน. สยามรัฐออนไลน์ 1.(2562).การระดมความคดิ เตรียมปลกู กญั ชา. กกกกกกกสืบคน้ จาก today.line.me.th/article (สืบคน้ เม่อื 31 ตุลาคม 2562) สมศกั ดิ์ อรรฆศิลป์.(2562).Health Policy for Cannabis on Medical Use. อธิบดกี รม กกกกกกกการแพทยป์ ระธานคณะทางานเพือ่ พิจารณาการนากญั ชามาใชท้ างการแพทย์ :กระทรวง กกกกกกกสาธารณสุข. สาธารณสขุ , กระทรวง กรมการแพทย. ์(2562).คาํ แนะนาํ การใชก้ ัญชาทางการแพทย. ์ กกกกกกกสบื คน้ จาก http://www.dms.moph.go.th/dms2559/download/Final_Guidance.pdf กกกกกกก(สืบค้นเมื่อ 7 ตลุ าคม 2562) สาธารณสุข, กระทรวง.(2562).ประกาศกาํ หนดตํารับยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท 5 ท่มี ีกญั ชา กกกกกกกปรุงผสมอยู่ ท่ีให้เสพเพ่ือรักษาโรคหรอื การศึกษาวจิ ัยไ.ด้ กรงุ เทพฯ:กรมการแพทย์ สานกั ขา่ ว Hfocus. เจาะลึกระบบสุขภาพ ปลดล็อกใชป้ ระโยชนจ์ ากสาระสําคญั ใน กกกกกกก“กญั ชา – กญั ชง” ได้ ยกเว้นไมเ่ ป็นยาเสพติด. (2561).สบื ค้นจาก กกกกกกกhttps://www.hfocus.org(สบื คน้ เม่ือ 7 ตุลาคม 2562)กกกกกกก สานกั ข่าวไทย อสม.(2562).ข้อมลู เปรียบเทียบแอลกอฮอล์กบั กัญชา.สบื คน้ จาก กกกกกกกhttps://tna.mcot.net/view(สบื ค้นเมอ่ื 7 ตลุ าคม 2562) สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สานกั งานปลัดกระทรวงศษึกาธิการ. กกกกกกก(2562). หนงั สือเรยี นทกั ษะการดําเนินชวี ติ รายวิชา สุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช31002) กกกกกกกระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ฉบบั ปรับปรุง 2560. ลิขสทิ ธิเ์ ปน็ ของสานกั งาน กศน. กกกกกกกสานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารเอกสารวชิ าการลาดบั ที่ 14/2555.

283 สง่ เสรมิ การคา้ ในตา่ งประเทศสานักงาน.(ม.ป.ป.).ผลติ ภัณฑ์สารสกัด CBD (cannabidiol) กกกกกกกในออสเตรยี .สบื คน้ จากhttps://www.ditp.go.th/contents_attach/376953/376953.pdf กกกกกกก(สืบคน้ เมอ่ื 27 สงิ หาคม 2562) สวุ ัฒน์ แก้วสังข์ทอง. (2555).สาระทกั ษะการดําเนินชีวิต รายวชิ าสขุ ศึกษา พลศึกษาทช21002. กกกกกกกกรุงเทพฯ :บรษิ ัท ปิยมิตร มัลตมิ ีเดยี จากดั . เสาวลักษณ์ เช้อื คา. (2562).กญั ชาในอาหาร ชูรส เสพติด หรือคิดไปเอง. กกกกกกกสบื คน้ จาก http://krua.co/food-story/food-feeds/(สบื ค้นเม่อื 25 กนั ยายน 2562) อภัยภูเบศร.(2562).องค์ความรู้กัญชาอภยั ภูเบศรโมเดล.สบื ค้นจากhttp://www.abhaiherb.com/ กกกกกกก(สืบค้นเมอ่ื 9 ตลุ าคม 2562) อมั รินทรท์ ีวี. (2562).อภัยภูเบศร เผยภูมปิ ญั ญาชาวบา้ นใชก้ ญั ชาปรุงอาหารไทย กกกกกกกยํ้าอยา่ ใส่มากเดี๋ยว เมา.สบื คน้ จาก http://www.amarintv.com/news-update/news กกกกกกก(สบื ค้นเมื่อ 25 กันยายน 2562) BBC News บีบีซไี ทย. (2560).อิสราเอลเลง็ ลดโทษผูเ้ สพกญั ชา ให้เสยี ค่าปรับในสองคร้งั แรก. กกกกกกกจาก https://www.bbc.com/thai/international-39176802 กกกกกกก(สบื คน้ เมอ่ื 31 ตุลาคม 2562) BRIGHT today. (ม.ป.ป.). อย.ยํ้าออกใบอนญุ าตให้มี กญั ชา ไม่เกีย่ วปลกู /เสพ โพสต์ลง กกกกกกกโซเชยี ลเส่ียงคกุ . สบื ค้นจาก http://www.brighttv.co.th/news กกกกกกก(สืบค้นเมือ่ 27 สงิ หาคม 2562) CatDump News. (2018). เปิดภาพอุตสาหกรรมกญั ชาในยคุ 70 จากหนงั สือทเ่ี ป็นเหมอื นคัมภรี ์ กกกกกกกของสายเขียว. สบื คน้ จากhttps://www.catdumb.com/mel-frank-007/(สืบค้นเมื่อ กกกกกกก27 สงิ หาคม 2562) Chiang Mai News. (ม.ป.ป.). แมโ่ จโ้ พลลช์ ้ี คนไทยเหน็ ด้วย นาํ กญั ชามาเปน็ ยา ช่วยลดต้นทนุ กกกกกกกนาํ เขา้ ยานอก.สืบคน้ จาก https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/871420 กกกกกกก(สืบคน้ เม่ือ 27 สงิ หาคม 2562) Delivered by FeedBurner.(2562). ประวัตศิ าสตร์กับการใช้กญั ชาทางการแพทยใ์ นอดตี . กกกกกกกสืบคน้ จาก https://www.กญั ชาทางการแพทย์com//05/2019marijuana-cannabis- กกกกกกกdrugs-medical-use-history.htm(สืบคน้ เมื่อ 10 ตุลาคม 2562) Ganjathai. (ม.ป.ป.). กัญชาสายพันธตุ์ ่างๆ.สบื ค้นจากhttps://ganjathai.com/articles/cannabis- กกกกกกกvarieties/(สืบคน้ เมอ่ื 10 ตลุ าคม 2562) H focus. (2562.). เจาะลึกระบบสขุ ภาพ.สบื ค้นจาก https://www.hfocus.org/(สืบคน้ เมอ่ื 28 กกกกกกกสิงหาคม 2562)

284 Hfocus. (ม.ป.ป.). เปดิ แลว้ คลินกิ กัญชาแพทยแ์ ผนไทย เบ้ืองตน้ “3 รพ” พรอ้ มจ่ายยาตาํ รบั กกกกกกก“ศขุ ไสยาสน์” สืบคน้ จาก http:// hfocus.org/conten/2019/09/17653 กกกกกกก(สบื ค้นเม่ือ 27 สิงหาคม 2562) KXLY news. (ม.ป.ป.). Straight Smokin Spokane กกกกกกกสืบคน้ จาก http://straightsmokinspokane.weebly.com/#/ กกกกกกก(สบื ค้นเมอ่ื 27 สงิ หาคม 2562) livinggreenbotanicals.com. (2018). Does CBD Come From Industrial Hemp? กกกกกกกสบื ค้นจากhttps://livinggreenbotanicals.com/2018/12/01/does-cbd-come- กกกกกกกfrom-industrial-hemp/(สบื ค้นเมือ่ 10สิงหาคม 2562) Martin Woodbridge. (2562). ขอ้ มูลเบื้องต้นเกยี่ วกับกัญชาทางการแพทย์.ประเทศนวิ ซีแลนด:์ กกกกกกกบรษิ ทั Bedrocan International.(สืบค้นเมือ่ 10สิงหาคม 2562) Medibis.(ม.ป.ป.). ซีบจี ี (CBG) รวมเอาความสดุ ยอดของ THC และ CBD มาไว้ดว้ ยกนั . กกกกกกกสืบคน้ จากhttps://www.medibis.shop/post/cbg-oil(สืบคน้ เมอื่ 10สิงหาคม 2562) MGR Online. (ม.ป.ป.). เปิดงานวจิ ยั การ“สบู กัญชา”ทาํ ใหเ้ พม่ิ หรือลดความเสย่ี งมะเร็งกนั แน่. กกกกกกกสืบคน้ จากhttps://mgronline.com/daily/detail/9600000126015 กกกกกกก(สืบค้นเมื่อ 10สงิ หาคม 2562) MThai.com. (2562). เทรนด์ปลูก-แปรรปู กญั ชงใช้ทาํ อาหาร-นมกญั ชง กาํ ลงั บูม. กกกกกกกสบื ค้นจาก http://today.line.me/th/pc/article(สบื ค้นเมอ่ื 11 ตลุ าคม 2562) NEW18. (2562). ฮอื ฮา เปดิ “คลนิ กิ กัญชา” รพ.เจ้าพระยาอภยั ภูเบศร. กกกกกกกสบื ค้นจาก.https://www.newtv.co.th/news/37136(สืบค้นเมื่อ 28 สงิ หาคม 2562) PanitiWongkumjan. (ม.ป.ป.). สาร THC และ CBD ในกัญชา แตกต่างกันอยา่ งไร. กกกกกกกสืบคน้ จากhttps://www.billionmindset.com/how-thc-cbd-difference/ กกกกกกก(สบื คน้ เมือ่ 10สงิ หาคม 2562) Pobpad.(ม.ป.ป.). โรคลมชกั . สบื คน้ จาก https://www.pobpad.com/ กกกกกกก(สืบค้นเมือ่ 8 ตุลาคม 2562) PorraphatJutrakul.(ม.ป.ป.). แพทยแ์ นะ 4 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ผิ ูป้ ว่ ยโรคพารก์ ินสนั . กกกกกกกสบื ค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/42483-.html กกกกกกก(สืบคน้ เมอ่ื 9 ตลุ าคม 2562) RattaponSanrak. (ม.ป.ป.). ประวัตศิ าสตร์กัญชา.สบื ค้นจากhttps://highlandnetwork.asia กกกกกกก(สบื คน้ เม่ือ 8 ตลุ าคม 2562)

285 The Bangkok Insight. (2562). แหง่ แรก อนทุ นิ เปดิ คลนิ ิกกญั ชารกั ษาทางการแพทย์. กกกกกกกสบื คน้ จาก http://www/thebangkokinsight.com(สบื ค้นเมอ่ื 28 สงิ หาคม 2562) TNEWS ONLINE. (ม.ป.ป.).สมุนไพรสาํ คัญในอารยธรรมตา่ ง ๆ ท่พี ระศิวะเจา้ ทรงประทานแดม่ วล กกกกกกกมนุษย์ท่ีนยิ มใช้เพ่ือ \"ตดิ ต่อกับพระเจ้า.สืบค้นจาก https://www.tnews.co.th/religion กกกกกกก(สืบคน้ เมอ่ื 8 ตุลาคม 2562) Workpoint News. (2562). กัญชา ในมมุ มองของจิตแพทย์. สบื ค้นจาก กกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกhttps://workpointnews.com./2018/11/15/กัญชา-ในมุมมองของจิตแพทย์ กกกกกกก(สืบค้นเม่ือ 25 กนั ยายน 2562)

286 บรรณานุกรมภาพ ภาพหน้าปกหนังสอื เรยี น มาจากhttps://www.thairath.co.th/news/society/1662411ไทยรัฐ กกกกกกกออนไลน์https://www.technologychaoban.com/featured/article_106309กกกก กกกกกกกเทคโนโลยีชาวบา้ น https://www.thairath.co.th/news/society/1570476ไทยรัฐ กกกกกกกออนไลน์https://oryor.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2/infographic/detail/ กกกกกกก73/1744 สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) https://www.matichon กกกกกกกweekly.com/column/article_81038มตชิ นสุดสัปดาห์ https://th.pngtree.com/กกกก กกกกกfreepng/wood-floor-background_3612574.htmlpngtreehttps://28309guy.กกกกกก กกกblogspot.com/2019/03/blog-post.htmlhttps://voicetv.co.th/read/B1Id7u_9X กกกกกกกVOICEonlinehttps://1th.me/qQQqSpixabayhttps://1th.me/b1qTwArticlekey กกกกกกกและ https://www.pobpad.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84% E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81พบแพทย์ ภาพปกหลงั หนงั สือเรยี นมาจาก https://www.medibis.shop/post/cbg-hempMedibis กกกกกกกhttps://images.theconversation.com/files/233891/original/file-20180828- กกกกกกก86153-12l36j6.jpg?ixlib=rb-1.1.0&q=45&auto=format&w=754&fit=clip กกกกกกกคณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ลและ https://www.simplycbdwales.com/2019/ กกกกกกก03/15/cbd-an-introduction-and-history/ ภาพที่ 1 มาจาก https://www.thairath.co.th/news/local/north/1665323 ภาพที่ 2มาจาก facebookสานกั ประชาสมั พนั ธ์เขต 1 ภาพที่ 3มาจาก Line today.line.me.th/article ภาพที่ 4มาจากhttps://www.youtube.com/watch?v=QZ1cP4_3As8 ภาพที่ 5มาจาก https://www.thairath.co.th/tags ภาพที่ 6มาจากhttps://thailandhivtestplace.lovefoundation.or.th/ ภาพท่ี 7มาจาก โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร ภาพที่ 8มาจาก โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภัยภูเบศร ภาพท่ี 9มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภเู บศร ภาพท่ี 10มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภเู บศร ภาพที่ 11มาจาก โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภัยภเู บศร

287 ภาพที่ 12มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ภาพท่ี 13มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภเู บศร ภาพที่ 14มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ภาพที่ 15มาจาก โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร ภาพท่ี 16มาจาก มูลนธิ โิ รงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภเู บศร ในพระอุปถมั ภ์ สมเด็จพระเจา้ ภคนิ เี ธอ กกกกกกกเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสดุ า สิรโิ สภาพณั ณวดี ภาพท่ี 17มาจาก World Health Organization (WHO). Cannabis and cannabis resin. กกกก กกกกกGeneva; 2018. p. 10. ภาพที่ 18มาจาก www.gpo.or.th/LinkClick.aspx?fileticket=sjyxuXZvxNU%3d&tabid กกกกกกก=388&mid=1186&language=th-TH ภาพที่ 19มาจาก www.gpo.or.th/LinkClick.aspx?fileticket=sjyxuXZvxNU%3d&tabid กกกกกกก=388&mid=1186&language=th-TH ภาพที่ 20มาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ภาพที่ 21มาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ภาพที่ 22 มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ภาพท่ี 23 มาจาก https://www.catdumb.com/mel-frank-007/ ภาพท่ี 24มาจาก World Health Organization (WHO). Cannabis and cannabis resin. กกกก กกกGeneva; 2018. p. 10. ภาพที่ 25 มาจาก https://www.who.int/medicines/access/controlled- substances/Cannabis-and-cannabis-resin.pdf?ua=1 ภาพท่ี 26 มาจาก https://chroniccreation.com/thc-diamonds/ ภาพท่ี 27 มาจาก https://getcannabisonline.ca/product/thc-distillate/ ภาพที่ 28มาจาก https://terpenesandtesting.com/live-resin-cannabis-concentrates/ ภาพที่ 29 มาจาก https://cannabisnow.com/what-is-shatter-marijuana-concentrate/ ภาพที่ 30 มาจาก https://www.coloradopotguide.com/marijuana-glossary/budder/ ภาพที่ 31 มาจาก https://mcleoneldispensary.com/product/budder/ ภาพท่ี 32 มาจาก https://gramho.com/media/2150538646963720535 ภาพท่ี 33 มาจาก https://keytocannabis.com/blogs/cannabis/what-are- cannabis-concentrates-a-guide-to-extraction-techniques ภาพท่ี 34 มาจาก https://keytocannabis.com/blogs/cannabis/what-are- cannabis-concentrates-a-guide-to-extraction-techniques

288 ภาพท่ี 35 มาจาก https://keytocannabis.com/blogs/cannabis/what-are- cannabis-concentrates-a-guide-to-extraction-techniques ภาพที่ 36 มาจาก https://www.eastbayexpress.com/oakland/a-little-dab-could-doom- ya/Content?oid=3518696 ภาพท่ี 37 มาจาก https://www.justbob.shop/products/cannabis/ ภาพท่ี 38มาจาก https://merryjane.com/culture/how-long-do-weed-edibles-stay-in- your-system,https://board.postjung.com/1080669, https://www.thedrinksbusiness.com/2018/06/heineken-has-launched-a-non- alcoholic-cannabis-beer-under-the-lagunitas-brand/ ภาพที่ 39มาจาก https://www.indiamart.com/proddetail/hemp-seed-oil-19402298555.h ภาพที่ 40มาจาก https://drive.google.com/drive/folders/0B9Pd9rJRFMPde FMwcy1jX1lPTzA?fbclid=IwAR1Ak1Ede4Fu-QYbZ6cfu72_ZghK6FSb YebVAJmAOp-LM7EbHIuL_Ci-cbs ภาพท่ี 41มาจาก https://oryor.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2/detail/media_ printing/1395 ภาพที่ 42 มาจากhttps://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid= 1544703225673230&id=216848761792023 ภาพที่ 43 มาจากhttps://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1656914 ภาพที่ 44มาจาก https://today.line.me ภาพท่ี 45มาจาก https://www.medicinalthaicannabis.com/thai-cannabis-laws?fbclid= IwAR3McpGoOdJOItiE9ESg_DzjXXoe4zQhUXHzjHWXoYVOp9S-RtydDIH0ykw ภาพที่ 46 มาจากhttps://oryor.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2/detail/media_ printing/1744 ภาพท่ี 47 มาจากhttps://www.twipu.com/pathrx495/tweet/1167841776930963456 ภาพท่ี 48 มาจาก https://oryor.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2/detail/media_news/1707 ภาพที่ 49 มาจาก http://eyespimlapas.blogspot.com/2017/ ภาพท่ี 50 มาจากhttp://www.tloubi.cmu.ac.th/tloubi1_detail.php?ID=68 ภาพท่ี 51 มาจาก https://www.prachachat.net/facebook-instant-article/news-254286 ภาพที่ 52 มาจาก http://www.diripatent.org/single_page/23 ภาพท่ี 53 มาจากhttps://workpointnews.com/2018/12/26/ไทยไมไ่ ด้ประโยชน์จาก/กม-

289 ภาพท่ี 54มาจาก https://www.facebook.com/592927530849788/posts/13224770 64561494?sfns=mo ภาพท่ี 55 มาจาก https://www.moj.go.th/view/8027 ภาพที่ 56 มาจาก https://www.moj.go.th/view/34714?fbclid=IwAR3Dm5K8BBoPlJBCTT- if_RM2kZHEXMpkqhgXyP7V_eD9glW_tH4dXEFwD8 ภาพท่ี 57 มาจาก https://www.bltbangkok.com ภาพที่ 58 มาจากhttps://www.slideshare.net/benzwongumpornpinit/ss-76607009 ภาพท่ี 59 มาจาก https://mgronline.com/daily/detail/9610000106793 ภาพท่ี 60 มาจาก https://hi-in.facebook.com/fondokmaipd/posts/547718048993010 ภาพท่ี 61 มาจาก digi.library.tu.ac.th/index/0122/7-1-Jan-Apr-2552/08PAGE39-PAGE53.pdf ภาพที่ 62มาจาก http://lexnoy.blogspot.com/2018/09/blog-post_511.html ภาพท่ี 63มาจาก https://www.samunpri.com/medicine/category/thai-medicine/page/2/ ภาพท่ี 64มาจาก https://www.samunpri.com/medicine/category/thai-medicine/page/3/ ภาพที่ 65มาจากhttps://www.samunpri.com/medicine/category/thai-medicine/page/3/ ภาพท่ี 66มาจากhttps://www.samunpri.com/medicine/category/thai-medicine/page/3/ ภาพที่ 67มาจาก https://www.matichon.co.th/local/news_470042 ภาพท่ี 68มาจากhttps://www.sentangsedtee.com/health-beauty/article_117535 ภาพที่ 69มาจาก https://www.sentangsedtee.com/health-beauty/article_117535 ภาพท่ี 70มาจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภเู บศวร ภาพที่ 71มาจาก https://www.thairath.co.th/news/society/1647300 ภาพที่ 72มาจาก https://www.facebook.com/abhaiherb.center/ ภาพท่ี 73มาจาก มาจาก https://www.facebook.com/228319977850497/posts/ 393498127999347/ ภาพท่ี 74มาจาก https://www.naewna.com/likesara/363190 ภาพที่ 75มาจาก https://www.77kaoded.com/content/612967 ภาพท่ี 76มาจาก https://www.bbc.com/thai/thailand-47944088 ภาพท่ี 77 มาจากhttps://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1081132 ภาพที่ 78 มาจาก มูลนิธโิ รงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศรในพระอุปถมั ภ์สมเดจ็ พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิรโิ สภาพัณณวดี ภาพที่ 79 มาจากhttps://www.xn--12carlo5dc9cwbh2moabc0urg.com/2019/04/ synthetic- cannabinoids-drug.html