Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา

สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา

Description: หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา

Search

Read the Text Version

46 02-333-310 ควำมมั่นคงดำ้ นระบบสำรสนเทศ 3(2-2-5) Information Systems Security แนวคิดและหลักการของความม่ันคงด้านระบบสารสนเทศ ภัยคุกคาม รูปแบบและเทคนิคในการ บุกรุกระบบสารสนเทศ เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ สาหรับจัดการความมั่นคงด้านสารสนเทศ เทคโนโลยีไฟร์วอลล์ ระบบป้องกันการตรวจจับการบุกรกุ เทคนิคการเข้ารหสั และถอดรหสั ลบั การ กู้คืนข้อมูล นโยบายความมั่นคงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มาตรฐานความม่ันคงของสารสนเทศ และฝึกปฏิบัตติ รวจสอบความมั่นคงของระบบสารสนเทศ Concepts and principles of information systems security, threats, patterns and technique of information systems intrusion, tools and techniques for information security, firewall technology, intrusion detection systems, encryption and decryption techniques, data recovery, information technology security policies, information security standards and practice on testing information systems security 02-332-311 ระบบฐำนควำมรู้ 3(2-2-5) Knowledge-based System ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบฐานความรู้ และกระบวนการพฒั นาระบบฐานความรู้ เน้นการนาความรู้ ความเข้าใจไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบระบบสารสนเทศ การใช้ระบบฐานความรู้ในเชิง การศึกษา การแทนความรู้ และกระบวนการหาเหตุผล เทคนิคในการสร้างคาอธิบาย และ เคร่ืองมอื สาหรับการสอบถาม Introduction to knowledge- based systems and knowledge management framework and process, IT Infrastructure and emerging technologies, foundations of business intelligence, databases and information management, knowledge representation, knowledge strategies, planning and assessment 02-332-312 กำรทำเหมืองข้อมูล 3(2-2-5) Data Mining แนวคิดและหลักการของการทาเหมอื งขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะและชนิดของข้อมลู สถาปัตยกรรมการทา เหมืองข้อมูล กระบวนการจัดเตรียมข้อมูล เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างโมเดล เทคนิคการ ประเมินผลโมเดล การวิเคราะห์ข้อมูลจากเครือข่ายสังคม การวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ โปรแกรม สาหรบั การทาเหมอื งข้อมูล และฝกึ ปฏบิ ตั ิวเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรมประยุกต์ Concepts and principles of data mining, characteristics and types of data, architectures of data mining, data preparation, data analysis and modelling techniques, model evaluation techniques, social network analysis, business analysis, data mining software and practicing on data analysis by applications program

47 02-332-313 กำรวิเครำะหข์ อ้ มูลขนำดใหญ่ 3(2-2-5) Big Data Analytics วิธีการเรียนรู้ของเครื่องสาหรับข้อมูลขนาดใหญ่ การวิเคราะห์เชิงสารวจ สถาปัตยกรรม Map Reduce และ Hadoop การวิเคราะห์เชิงทานาย เทคนิคการจาแนกประเภท การประเมินผลตัว แบบ การจัดกลุ่มและการวิเคราะห์การเช่ือมโยง การวิเคราะห์เครือข่ายสังคม การค้นหาคาแนะนา และกฎความสมั พันธแ์ ละวิธีการวเิ คราะห์ขอ้ มลู บนแพลต็ ฟอร์มประเภทตา่ งๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ Large-scale machine learning methods, exploratory data analysis, examining the Map Reduce and Hadoop architectures, predictive analytics, categorizing data with classification techniques, assessing model performance, detecting patterns in complex data with clustering and link analysis, discovering connections with Link Analysis, capturing important connections with Social Network Analysis, recommendations and association rules, methods to optimize the analytics based on different hardware platforms, challenges of big data especially on the ongoing linked big data issues 02-333-314 กำรประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ 3(2-2-5) Cloud Computing แนวคิดและหลักการการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ สถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบ กลุ่มเมฆ การบริการบนระบบการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ท่ีใช้ประมวลผลแบบ กลุ่มเมฆ เทคโนโลยีเสมือนจริง ความมั่นคงของการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ การประยุกต์ใช้ การ ประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ Concepts and principles of cloud computing, cloud computing architecture, cloud computing services, software and hardware for cloud computing, virtualization technology, cloud computing security, cloud computing application

48 02-333-315 คลำวด์เทคโนโลยแี ละอนิ เทอรเ์ นต็ ของสรรพสง่ิ 3(2-2-5) Cloud Technology and Internet of Things หลักการของคลาวดเ์ ทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตของสรรพส่ิง องค์ประกอบและเทคโนโลยีท่ีจาเป็น ต่อการรองรับการเช่ือมโยงอุปกรณ์และทุกส่ิงทุกอย่างในชีวิตของคนเรากับอินเทอร์เน็ต การ ควบคุมอุปกรณ์และทุกส่ิงทุกอย่างจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีสายเชื่อมโยง การส่ือสารและ แลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างระบบปฏิบัติงานต่าง ๆ ของเทคโนโลยี การประยุกต์ใช้หลักการของ อินเทอรเ์ น็ตของสรรพส่งิ และกรณีศกึ ษา Principles of cloud technology and internet of things, elements and technologies necessary to support the link of devices and everything in our lives with the Internet, controlling devices and everything from long distance wirelessly, communication and data exchange between the various operating systems of technology, application of principles of Internet of things and case studies 02-333-205 ระบบกำรศึกษำทำงไกลเพอ่ื กำรเรยี นรู้ตลอดชวี ติ 3(2-2-5) Distance Education Systems for Lifelong Learning การออกแบบและการส่งผ่านระบบศึกษาทางไกลประเภทต่าง ๆ ได้แก่ วิดีโอ / เสียง เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ส่ือการเรียนการสอนออนไลน์ และสมาร์ทโฟน เป็นต้น ผ่าน ระบบจัดการเนือ้ หา หรือ CMS โดยใช้ส่อื การเรยี นการสอน การออกแบบการเรียนการสอน ทฤษฎี เพือ่ ออกแบบและจัดส่งบทเรยี นผ่านระบบการศึกษาทางไกลเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชวี ติ Design and delivery various types of distance education systems including video/ audio, computer technologies, computer networks, online learning tools, and mobile learning via CMS with the combination of instructional media, instructional design, theoretical to design and delivery distance education systems for lifelong learning 02-333-206 กำรออกแบบและพฒั นำเกมคอมพิวเตอรเ์ พ่ือกำรศกึ ษำ 3(2-2-5) Design and Development of Computer Games for Education การออกแบบและการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ระบบกราฟิกที่ใชใ้ นเกม เครื่องมือกราฟิกท่ี ใช้ในเกม กระบวนออกแบบและสร้างเกม เทคโนโลยีท่ีเกี่ยวข้องกับเกม แนวโน้มของเทคโนโลยี ใหม่ๆและผลกระทบต่อการออกแบบเกม Introduction to computer game design and development, graphics systems utilized in games, graphical tools used in games, game design methodology and created game, potential future technology and its impact on game design

49 02-333-207 คอมพวิ เตอร์แอนเิ มชนั และวิชวลเอฟเฟกต์ 3(2-2-5) Computer animation and Visual effects แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวกับการข้ันตอนการผลิตแอนิเมชันเชิงสร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์ การผลิต แอนิเมชันด้วยการใช้โปรแกรม 3 มิติและ 2 มิติ และการสร้างเทคนิคพิเศษด้วยคอมพิวเตอร์เพ่ือ ใช้ในการสอ่ื ดิจิทลั และสอื่ สมัยใหม่ Concepts, theories related to the creative process of computer animation, production of animation by using 3D and 2D programs, and the creation of computer-specific techniques for use in digital media and new media 02-333-308 กำรพฒั นำส่ือดจิ ิทัลเสมอื นจรงิ เพ่อื กำรเรียนรู้ 3(2-2-5) Development of virtual media for learning แนวคิด ทฤษฎีท่ีเกี่ยวของกับส่ือดิจิทัลเสมือนจริง การออกแบบและการพัฒนาส่ือดิจิทัลเสมือนจริง การจัดการองค์ประกอบต่าง ๆ เครื่องมือในการพัฒนา แนวโน้มของเทคโนโลยีใหม่ๆและผลกระทบ ฝึกปฏิบัติการพัฒนาสื่อดิจิทัลเสมือนจริงด้วยโปรแกรมที่หลากหลาย รวมทั้งเทคนิคพิเศษ และ ประยกุ ต์ใช้ในระบบการศกึ ษา Concepts, theories related with virtual media for learning, design and development of virtual media, including the management of components, digital media for learning tools used, potential future technology and its impact on virtual media and learning areas, practice virtual media development with a variety of programs, including special effects and apply in the education system 02-333-309 คอมพวิ เตอรก์ รำฟกิ สำมมิตเิ ชิงโต้ตอบ 3(2-2-5) Interactive 3D Computer Graphics แนวคิด ทฤษฎีในการออกแบบและผลิตส่ือกราฟิก 3 มิติ เครื่องมือการทากราฟิก 3 มิติ การทา เทคนิคพิเศษ การควบคุมการแสดงผลของภาพเคล่ือนไหว ฝึกปฏิบัติการผลิตส่ือกราฟิก 3 มิติ ด้วยโปรแกรมประยกุ ต์ Concepts, theories design and production of 3d graphic, tools, special effects, control the display of animations, practice media with 3d graphics applications

50 02-333-310 กำรวิจยั ในช้ันเรยี นเพอื่ พัฒนำกำรเรยี นรู้ 3(2-2-5) Classroom Research for Learning Development หลักการ แนวคิด การวิจัยเพื่อหานวัตกรรมสาหรับแก้ปัญหาหรือเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ในช้ันเรียน ตามกระบวนการวิจัย สถิติเพ่ือการวิจัย การเขียนรายงานการวิจัย และการนาเสนอ ผลการวิจัย รวมถงึ แนวทางการเผยแพร่ผลการวิจัย Principles of research ideas to find solutions for problem solving or to develop students' learning in the classroom according to the research process, research statistics, research report writing and presentation of research results, include guidelines for dissemination of research results. 02-333-311 สัมมนำทำงวชิ ำชพี 3(2-2-5) Seminar in Profession สัมมนา หรือศึกษาดูงานหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์เพื่อแสดงให้เห็นแนวทางการ ประยุกต์ใช้และแนวทางปฏิบัตทิ ี่ดี รวมถึงมาตรฐานของการประยุกตใ์ ช้ เทคโนโลยีในวงการศึกษา และแวดวงอื่น ๆ Seminar or field trip to study organizational use of best practices and standards of Education and other field 02-333-312 กำรจดั กำรสื่อสงั คม 3(2-2-5) Social Media Management แนวคิดและหลักการของส่ือสังคม ประเภทของส่ือสังคม ส่ือสังคมภายในองค์กร สื่อสังคมกับ การศึกษา เครื่องมือการจัดการส่ือสังคม ส่วนตอ่ ประสานโปรแกรมประยุกต์ การวเิ คราะห์และการ ตรวจสอบสอ่ื สงั คม แนวโนม้ ของสือ่ สงั คมในอนาคต และกรณศี กึ ษา Concepts and principles of social media, social media types, social media in enterprise, social media and education, social media management tools, application programming interface (API), social media analysis and audit, future trends in social media and case studies

51 1.1 ช่อื -สกุล ตำแหน่ง และคุณวุฒิของอำจำรย์ 1.1.1 อำจำรยป์ ระจำหลกั สูตร ตำแหน่ง ปที ่ี ภำระกำรสอน ชม./สัปดำห์/ วชิ ำกำร จบ ดบั ช่อื - นำมสกุล คณุ วฒุ ิ - สำขำวชิ ำ สำเรจ็ จำก ปีกำรศกึ ษำ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี 2562 2563 2564 2565 2566 พระจอมเกล้าพระนคร 1 นายเอกรัฐ ผูช้ ว่ ย ปร.ด. (เทคโนโลยี เหนอื 2559 12 15 14 22 28 หล่อพิเชียร* ศาสตราจารย์ สารสนเทศ) สถาบันเทคโนโลยพี ระ จอมเกล้าเจา้ คณุ ทหาร วศ.ม. (วศิ วกรรม ลาดกระบัง 2545 สารสนเทศ) สถาบันเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าเจ้าคุณทหาร วศ.บ. (วิศวกรรม ลาดกระบัง 2541 สารสนเทศ) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนคร 2 นางธญั ญาภรณ์ บญุ ยัง อาจารย์ ปร.ด. (เทคโนโลยี เหนอื 2557 12 20 28 32 32 สารสนเทศ) สถาบนั เทคโนโลยีพระ จอมเกลา้ พระนครเหนือ วท.ม. (เทคโนโลยี 2545 สารสนเทศ) สถาบันราชภัฎ 2541 วท.บ. (วิทยาการ นครศรีธรรมราช คอมพิวเตอร)์ 3 นางสาวศิริพร มขิ า อาจารย์ ปร.ด. (นวัตกรรมการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี 2560 12 15 16 24 28 เรียนรู้และเทคโนโลยี) พระจอมเกลา้ ธนบรุ ี วท.ม. (การศึกษาวิทยา ศาสตร) สถาบันเทคโนโลยพี ระ 2545 จอมเกล้าเจา้ คุณทหาร ลาดกระบัง ค.อ.บ. (วศิ วกรรม สถาบันเทคโนโลยพี ระ 2541 อิเล็กทรอนิกสแ์ ละ คอมพวิ เตอร)์ จอมเกล้าเจา้ คุณทหาร Ed.D. (Instructional ลาดกระบัง Technology) 4 นายนพดล พรามณี อาจารย์ Northern Illinois 2548 8 8 12 18 18 University, DeKalb, USA. ร.ม. (การจัดการ มหาวทิ ยาลยั บูรพา 2553 ทรพั ยากรเพอื่ ความ มั่นคง) Fort Hays State 2541 M.S. (Instructional Technology) University, Hays, USA. ศศ.บ. (ภาษาไทย) มหาวทิ ยาลัยบูรพา 2538 ปร.ด. (เทคโนโลยี 5 นายนริ ุตต์ิ พองาม อาจารย์ สารสนเทศ) มหาวทิ ยาลยั 2559 8 8 12 18 18 เทคโนโลยีพระจอม เกลา้ พระนครเหนือ วท.ม. (เทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัย 2546 สารสนเทศ) เทคโนโลยีพระจอม เกลา้ พระนครเหนือ ค.อ.บ. (วศิ วกรรม สถาบนั เทคโนโลยีราช 2541 คอมพิวเตอร์) มงคล

52 1.1.2 อำจำรยผ์ ู้สอน ลำดับ ชอ่ื - นำมสกลุ ตำแหน่ง คณุ วฒุ ิ สำขำวิชำเอก ภำระกำรสอน ชม./สปั ดำห์/ 1. นายนิรุตติ์ พองาม วชิ ำกำร ปกี ำรศกึ ษำ อาจารย์ ปร.ด. (เทคโนโลยี เทคโนโลยีดิจิทลั 2562 2563 2564 2565 2566 สารสนเทศ) เพื่อการศกึ ษา วท.ม. (เทคโนโลยี 12 15 14 20 24 สารสนเทศ) ค.อ.บ. (วิศวกรรม คอมพวิ เตอร)์ 2. นางสาวนฤมล เทพนวล อาจารย์ กศ.ด. (เทคโนโลยีและ เทคโนโลยีและ - 4 4 - 4 ส่ือสารการศึกษา) สื่อสาร ศศ.ม. (บรรณารกั ษ การศกึ ษา ศาสตรแ์ ละ สารนเิ ทศศาสตร)์ ศศ.บ. (บรรณารกั ษ ศาสตรแ์ ละ สารนเิ ทศศาสตร)์ 3. นางสาวธดิ ารัตน์ กุลณัฐรวงศ์ อาจารย์ ปร.ด. (เทคโนโลยีเทคนิค เทคโนโลยีและ - 4 4 4 4 ศกึ ษา) สื่อสาร ค.อ.ม. (คอมพวิ เตอร์และ การศกึ ษา เทคโนโลยี สารสนเทศ) บธ.บ. (ระบบสารสนเทศ) 4 นางสาวทศพร แสงสวา่ ง อาจารย์ ปร.ด. นวัตกรรมการ เทคโนโลยีและ - 4 4 - 4 เรียนรู้ ทางเทคโนโลยี ส่ือสาร ศษ.ม. เทคโนโลยแี ละ การศกึ ษา สื่อสาร การศกึ ษา ค.บ. บรรณารกั ษศาสตร์ 5 นายยงยทุ ธ ศรีแสงอ่อน อาจารย์ ค.อ.ม.เทคโนโลยเี ทคนคิ เทคโนโลยีและ - 4 4 - 4 ศกึ ษา สอ่ื สาร ค.บ.เทคโนโลยีและ การศกึ ษา นวัตกรรมทางการศึกษา

53 1.1.2 อำจำรย์ผูส้ อน (ต่อ) ลำดบั ช่ือ - นำมสกลุ ตำแหนง่ คุณวุฒิ สำขำวิชำเอก ภำระกำรสอน ชม./สัปดำห/์ 6 นางสาวนวพรรษ จันทร์คา วิชำกำร ปกี ำรศึกษำ อาจารย์ ศษ.ม.เทคโนโลยกี ารศกึ ษา เทคโนโลยีและ 7 นางโอบเออื้ ต่อสกุล ค.บ.เทคโนโลยีและ สือ่ สาร 2562 2563 2564 2565 2566 อาจารย์ นวตั กรรมทางการศึกษา การศกึ ษา 4 44-4 8 นางสาวศิรลิ ักษณ์ วส.ม.ส่ือสารมวลชน เทคโนโลยแี ละ อ้ึงเจริญสกุ านต์ อาจารย์ ศศ.บ.ภาษาศาสตร์ ส่ือสาร - 44-4 การศึกษา 9 นายมหาชาติ อินทโชติ อาจารย์ ศษ.ม.เทคโนโลยีการศึกษา เทคโนโลยีและ - 44-4 ศษ.บ.การประถมศึกษา สอ่ื สาร การศกึ ษา - 4444 ศษ.ด.เทคโนโลยีการศกึ ษา เทคโนโลยีและ ศษ.ม.เทคโนโลยีการศึกษา ส่ือสาร ศษ.บ.เทคโนโลยแี ละ การศกึ ษา สอ่ื สารการศึกษา 1.1.3 อำจำรยพ์ ิเศษ ตำแหน่ง สถำนทีท่ ำงำน อาจารยป์ ระจาสาขาวิชาเทคโนโลยมี เี ดยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้า ลำดับ ชอื่ -สกุล ธนบรุ ี อาจารย์ประจาวทิ ยาลยั นวตั กรรมดิจิทัล มหาวิทยาลยั รังสิต 1 ดร.นรพล ดชี ่วย และเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจารย์ประจาภาควชิ าเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ 2 อาจารยภ์ าคภูมิ ชยั ศริ ิประเสริฐ สารสนเทศ พระนครเหนือ อาจารยป์ ระจาวิทยาลัยนวัตกรรมดจิ ิทัล มหาวิทยาลัยรังสิต 3 ผศ.ดร.วันทนี ประจวบศภุ กจิ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4 อาจารย์สเุ มธ ผอ่ งพรรณแข 2. องคป์ ระกอบเกีย่ วกับประสบกำรณภ์ ำคสนำม (กำรปฏิบัติกำรสอน) การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครใู นสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจทิ ลั เพอื่ การศึกษา ศึกษามีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือเพ่มิ ความรู้และประสบการณ์ให้แก่นักศึกษาโดยเป็นการฝึกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาท่ีผ่านการรับรองจาก สานักงานรับรองมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา ภายใต้การดูแลของอาจารย์นิเทศ ทุกปีการศึกษา เป็น เวลารวมกนั ไม่นอ้ ยกว่าหนึ่งปี (ไม่นอ้ ยกว่า 30 สัปดาห)์ 2.1 มำตรฐำนผลกำรเรยี นรขู้ องประสบกำรณภ์ ำคสนำม ความคาดหวงั ในผลการเรียนรปู้ ระสบการณ์ภาคสนามของนักศกึ ษา มดี งั น้ี 2.1.1 ประยุกต์ใช้หลักการแนวคิดทฤษฎีเข้าไปเพิ่มความชานาญในวิชาชีพสามารถคิดวิเคราะห์ คน้ คว้าและวิจัยเพ่ือเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการทาการสอน

54 2.1.2 ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบซื่อสัตย์สุจริตเพื่อภาวะผู้นาในการทางาน รู้จักการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และเขา้ ใจจรรยาบรรณทางวิชาชีพ 2.1.3 มมี นษุ ยสัมพันธแ์ ละแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ในการทางานสามารถทางานรว่ มกบั ผู้อ่ืนไดด้ ี 2.1.4 มีระเบยี บวนิ ัยตรงเวลาเข้าใจวัฒนธรรมและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานศกึ ษาได้ 2.1.5 รว่ มกันวิเคราะห์ปัญหาร่วมกนั กบั ผ้บู งั คับบัญชาขน้ั ต้นได้ 2.2 ชว่ งเวลำ ทุกปกี ารศึกษา เป็นเวลารวมกันไมน่ ้อยกว่าหนึ่งปี (ไมน่ อ้ ยกวา่ 30 สัปดาห์) 2.3 กำรจดั เวลำและตำรำงสอน ระดับปรญิ ญาตรชี ้นั ปีท่ี 1 ภาคการศึกษาที่ 2 (ไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห)์ ระดับปรญิ ญาตรีชั้นปีท่ี 2 ภาคการศกึ ษาท่ี 1 (ไมน่ อ้ ยกวา่ 4 สปั ดาห)์ ระดบั ปรญิ ญาตรชี ั้นปที ี่ 3 ภาคการศกึ ษาท่ี 1 (ไมน่ อ้ ยกว่า 4 สัปดาห)์ ระดบั ปรญิ ญาตรชี น้ั ปีท่ี 4 ภาคการศึกษาที่ 2 (ไม่นอ้ ยกว่า 15 สปั ดาห/์ 1 ภาคการศกึ ษา) 3. ข้อกำหนดเกี่ยวกับกำรทำโครงงำนหรอื งำนวจิ ยั นักศึกษาทุกคนต้องทาโครงการทางเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการศึกษา หัวข้อที่สอดคล้องกับวิชาเอก และต้องเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพ่ือสร้างนวัตกรรมใหม่ หรือเน้นการแก้ปัญหาท่ีเกิดใน โรงเรียนและสถานประกอบการ โดยใช้หลักการทางทฤษฎีอ้างอิง และเม่ือโครงการเสร็จสิ้นสามารถ นาไปใช้งานได้จริง และมีการสอบวัดความรู้พร้อมกับรายงานที่ต้องนาส่งตามรูปแบบ ระยะเวลาตามที่ หลักสตู รกาหนด 3.1 คำอธบิ ำยโดยย่อ โครงการทางเทคโนโลยดี ิจทิ ลั เพอื่ การศึกษา ท่ีนกั ศึกษาสนใจ ทไ่ี ดร้ ับความเห็นชอบจากอาจารยท์ ่ี ปรึกษา ซึง่ สามารถอธิบายทฤษฎีและหลกั การทีน่ ามาใช้ในการทาโครงการ วตั ถุประสงค์ ขอบเขต ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รับจากการทาโครงการ ทีส่ ามารถทาเสร็จภายในระยะเวลาท่ีกาหนด 3.2 มำตรฐำนผลกำรเรยี นรู้ ให้นักศกึ ษำสำมำรถ 1) วางแผน กาหนดกรอบแนวคดิ และวธิ ีดาเนนิ งานในการทาโครงการทางวิชาการอย่างเป็น ระบบได้ด้วยตนเอง 2) ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการเรียนรตู้ ิดตามความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยใี หม่ๆ ที่เกี่ยวข้องมี การสืบคน้ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ

55 3) ดาเนินโครงการทางวิชาการอย่างสร้างสรรค์ด้วยตนเอง โดยใช้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ดุลยพินิจ เทคนิควิจัยหรือเทคนิคคานวณ และการวิเคราะห์ เพ่ือหาข้อสรุปท่ี สมบูรณ์ทีข่ ยายองค์ความร้เู ดิมหรอื แนวทางปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งมีนัยสาคัญ 4) สืบค้น ตคี วาม และใช้ความรทู้ ง้ั ภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ตั ิ เพ่ือแกไ้ ขปัญหาหรือจัดการกับ บรบิ ทใหม่ทางวิชาการ และวชิ าชีพ 5) สอ่ื สารอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยใชก้ ารสอ่ื สารดว้ ยปากเปล่าและการเขยี น รวมทัง้ สามารถ นาเสนอรายงานแบบเปน็ ทางการได้ดี 3.3 ช่วงเวลำ ภาคการศึกษาท่ี 1 ชน้ั ปีท่ี 4 3.4 จำนวนหนว่ ยกิต 3 หน่วยกิต 3.5 กำรเตรียมกำร 1) แต่งตัง้ อาจารยท์ ่ปี รกึ ษา 2) จดั เตรยี มรูปแบบการเขียนโครงการหรืองานวิจัย พร้อมตวั อย่าง 3) วางแผนการนาเสนอผลงานของนกั ศกึ ษาในแตล่ ะสัปดาห์ 4) ดาเนินการเสนอผลงานตามแผน 3.6 กระบวนกำรประเมนิ ผล 1) นาเสนอผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ กระชบั ชัดเจน ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ 2) มีสว่ นร่วมในการนาเสนอผลงาน 3) ความสมบรู ณข์ องรายงาน

56 หมวดท่ี 4 ผลกำรเรียนรู้ กลยทุ ธ์กำรสอนและกำรประเมินผล 1. กำรพฒั นำคุณลักษณะพิเศษของนักศกึ ษำ คณุ ลกั ษณะพิเศษ กลยทุ ธ์หรอื กิจกรรมของนกั ศกึ ษำ ดำ้ นบคุ ลิกภำพ 1. แตง่ กายเหมาะสมถกู กาลเทศะและสถานที่ - ฝึกการแสดงออกทางท่าทางและการ 2. ใช้วาจาสุภาพและเรียนรู้มารยาทในการส่ือสาร เคล่อื นไหวในห้องเรียน อย่างถูกกาลเทศะต่อบคุ คลทกุ ระดับ - สอนในรายวิชา 3. รู้จักประพฤติตนให้เหมาะสมกับบุคคลและ - บรรจุในรายวชิ าความเปน็ ครู สถานท่ี - ฝกึ การใชภ้ าษาในการพดู 4. ความสามารถในการใช้ภาษาตา่ งประเทศ - ฝึกการนาเสนอรายงาน ด้ำนภำวะผนู้ ำ และควำมรบั ผิดชอบตลอดจนมวี นิ ัย - ฝึกการทางานรว่ มกับผอู้ ่นื ในตนเองเป็นผมู้ จี ติ สำธำรณะ - สอนในรายวชิ าทกั ษะปฏบิ ตั ิ - ฝึกการจดั โครงการบรกิ ารทางวชิ าการ 1. เป็นผู้เปดิ ใจยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ - ฝกึ การจดั กิจกรรมการแสดง 2. เป็นผ้มู คี วามเสียสละเข้าใจความแตกต่าง ระหว่างบุคคลและรูจ้ กั ให้อภยั 3. มีจติ สานึก รรู้ ับผิดชอบตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน 4. ร้จู กั การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ด้ำนจริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชพี - สอนในรายวิชา 1. เปน็ ผมู้ คี วามเคารพต่อวิชาชีพ - บรรจุในรายวิชาความเป็นครู 2. แสวงหาความรู้ ช่างสังเกต เพ่ือนามาพัฒนา ตนเอง 3. เรียนรู้และปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพของ ตนเองอยา่ งเหมาะสม

57 2. กำรพัฒนำผลกำรเรียนรู้ในแตล่ ะดำ้ น 2.1 หมวดวชิ ำศึกษำทั่วไป 1. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1.1 ผลกำรเรยี นรู้ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 1) มคี ุณธรรม จริยธรรม ในการดาเนินชวี ิต บนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง 2) สามารถวเิ คราะห์ประเดน็ คุณธรรม จรยิ ธรรม 3) ซอ่ื สตั ย์ ขยนั อดทน มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา เคารพกฎระเบยี บและข้อบังคับขององคก์ รและ สังคม 1.1 กลยทุ ธ์กำรสอนท่ีใชพ้ ฒั นำกำรเรยี นรู้ด้ำนคุณธรรม จริยธรรม 1) จัดกจิ กรรมเปน็ ประโยชน์ต่อสังคม 2) สอดแทรกประเด็นคุณธรรม จริยธรรมทกี่ าลงั พูดคุยในสงั คม 3) สอดแทรกความซอื่ สัตย์ต่อตนเอง และสังคม ใหค้ วามสาคญั ในวินัย การตรงตอ่ เวลา การส่ง งานภายในเวลาที่กาหนด เน้นเร่ืองการแต่งกายและปฏิบัติตนที่เหมาะสม ถูกต้อง ตามระเบยี บขอ้ บงั คบั ของมหาวทิ ยาลัย 1.2 กลยทุ ธ์กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นร้ดู ำ้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 1) พจิ ารณาจากกิจกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนักศกึ ษา 2) การอภิปรายในช้ันเรียนเกีย่ วกับประเดน็ คณุ ธรรม จริยธรรม 3) การขานชือ่ การใหค้ ะแนนการเข้าชนั้ เรยี นและการสง่ งานตรงเวลา 4) สังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ อย่าง ต่อเนือ่ ง 2. ควำมรู้ 2.1 ผลกำรเรยี นรดู้ ้ำนควำมรู้ 1) มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน เพ่ือนาไปต่อยอดองค์ความรู้ หรือนาความรู้ไปสู่การสร้าง นวตั กรรม 2) มคี วามรทู้ นั ตอ่ ความกา้ วหนา้ และการเปล่ียนแปลง 3) สามารถนาความรไู้ ปปรบั ใช้ใหเ้ หมาะสมกบั การเปน็ ผู้ประกอบการ 2.2 กลยทุ ธก์ ำรสอนที่ใช้พฒั นำกำรเรียนรดู้ ้ำนควำมรู้ 1) ใชก้ ารสอนหลายรูปแบบ โดยเน้นหลักทางทฤษฎีและการปฏบิ ตั ิ เพอื่ ใหเ้ กดิ องคค์ วามรู้ 2) จัดให้มีการเรยี นรูจ้ ากประสบการณต์ รง และสถานการณท์ ่ีเปน็ ปัจจุบัน 3) จัดใหม้ ีการเรียนรูจ้ ากสถานการณจ์ รงิ โดยการศกึ ษาดูงานในสถานประกอบการ 2.3 กลยทุ ธ์กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ด้ำนควำมรู้ 1) ประเมินจากแบบทดสอบดา้ นทฤษฎี รายงานท่มี อบหมาย และผลงานและการปฏิบตั ิการ 2) ประเมินจากรายงานผลการศึกษาดงู าน 3) ประเมินจากการปฏบิ ตั ติ ามขอ้ กาหนด ระเบียบ ข้อบังคบั

58 3. ทักษะทำงปญั ญำ 3.1 ผลกำรเรยี นรู้ดำ้ นทกั ษะทำงปญั ญำ 1) มีทกั ษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองตลอดชวี ติ 2) สามารถแกไ้ ขปญั หาได้ และเสนอแนวทางการแก้ไขได้อย่างสรา้ งสรรค์ 3) สามารถใชข้ อ้ มลู ประมวลผล และวเิ คราะห์ข้อมลู ได้อย่างเปน็ ระบบ 3.2 กลยทุ ธก์ ำรสอนทีใ่ ชพ้ ฒั นำกำรเรยี นรู้ด้ำนทกั ษะทำงปัญญำ 1) ให้นักศึกษาฝึกการคน้ หาความร้ใู หมอ่ ยู่ตลอดเวลา 2) ส่งเสริมการเรยี นรจู้ ากการแกป้ ญั หา (Problem Based Instruction) 3) มอบหมายงานท่ีส่งเสริมการคดิ วิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ 3.3 กลยุทธก์ ำรประเมนิ ผลกำรเรยี นร้ดู ำ้ นทกั ษะทำงปญั ญำ 1) ประเมินจากรายงาน ผลการค้นควา้ 2) ประเมินจากการรายงานผลการดาเนินงานและการแก้ปัญหา ผลการปฏิบัติการจาก สถานการณ์จริง 3) ประเมินจากการทดสอบ การวิเคราะหก์ รณีศึกษาตา่ งๆ 4. ทกั ษะควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งบคุ คลและควำมรบั ผิดชอบ 4.1 ผลกำรเรยี นรู้ดำ้ นทกั ษะควำมสัมพันธ์ระหวำ่ งบุคคลและควำมรบั ผิดชอบ 1) มีบุคลกิ ภาพและมนษุ ยส์ ัมพนั ธท์ ่ดี ี สามารถเป็นผูน้ าและผตู้ ามที่ดีและทางาน เปน็ ทีมได้ 2) มีสานกึ สาธารณะและจิตอาสา เป็นพลเมอื งทมี่ คี ณุ คา่ ต่อสงั คมไทยและสงั คมโลก 3) มีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 4.2 กลยทุ ธ์กำรสอนท่ใี ชพ้ ฒั นำกำรเรยี นรู้ดำ้ นทักษะควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งบคุ คลและ ควำมรับผดิ ชอบ 1) กาหนดการทางานกลุ่มโดยใหห้ มุนเวียนการเปน็ ผู้นาและผรู้ ายงาน 2) ใหค้ าแนะนาในการเขา้ รว่ มกิจกรรมสโมสร กิจกรรมของมหาวทิ ยาลยั ฯ 3) ให้ความสาคญั ในการแบง่ หนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบและการใหค้ วามร่วมมือ 4.3 กลยุทธ์กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ดำ้ นทักษะควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งบคุ คลและ ควำมรับผดิ ชอบ 1) ประเมินผลจากแบบประเมนิ ตนเองและกิจกรรมกล่มุ 2) พจิ ารณาจากการเขา้ ร่วมกิจกรรมของนกั ศึกษา 3) ประเมินจากการรายงานหนา้ ช้ันเรยี นและจากการสังเกตพฤตกิ รรม

59 5. ทักษะกำรวเิ ครำะห์เชงิ ตัวเลข กำรสอื่ สำร และกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ 5.1 ผลกำรเรียนรู้ด้ำนทักษะกำรวิเครำะห์เชิงตัวเลข กำรส่ือสำร และกำรใช้ เทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1) สามารถเลือกและประยุกต์ใช้เทคนิคทางสถิติและคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการ ดารงชวี ิตและปฏิบัตงิ านไดอ้ ย่างเหมาะสม 2) สามารถใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นเพ่ือนามาวิเคราะห์และสนับสนุนการ ตดั สนิ ใจ 3) สามารถเลอื กรูปแบบของการสอ่ื สารและการนาเสนอท่เี หมาะสมตอ่ บุคคลท่ีหลากหลาย 5.2 กลยทุ ธ์กำรสอนทใี่ ช้พฒั นำกำรเรียนรู้ดำ้ นทกั ษะกำรวิเครำะหเ์ ชงิ ตวั เลข กำรส่ือสำร และกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1) สง่ เสรมิ ให้เหน็ ความสาคัญ และฝกึ ให้มีการตัดสินใจบนฐานข้อมลู และข้อมลู เชงิ ตัวเลข 2) มอบหมายงานค้นควา้ องคค์ วามรู้จากแหลง่ ข้อมลู ต่างๆ และให้นักศึกษานาเสนอหน้าชัน้ 3) การใชศ้ ักยภาพทางคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอผลงานท่ีไดร้ ับ มอบหมาย และฝึกการนาเสนอผลงานโดยเน้นความสาคัญของ การใช้ภาษา และบคุ ลิกภาพ 5.3 กลยทุ ธก์ ำรประเมนิ ผลกำรเรียนรดู้ ้ำนทกั ษะกำรวิเครำะหเ์ ชิงตัวเลข กำรส่ือสำร และกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1) ประเมนิ จากงานทมี่ อบหมาย ความสามารถในการคานวณด้วยหลกั คณิตศาสตร์เชิงเลข 2) พิจารณาจากรายงานการค้นคว้าข้อมูล วิธีการนาข้อมูลออกมานาเสนอ และการ ประยกุ ตใ์ ชง้ าน 3) พิจารณาจากวิธกี ารนาเสนอ การใช้ข้อมูล 2.2 หมวดวชิ ำเฉพำะ 1. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1.1 ผลกำรเรยี นรู้ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 1) แสดงออกซึ่งความรัก ศรัทธาและภูมิใจในวิชาชีพครู และจิตวิญญาณความเป็นครู และปฏิบัติ ตนตามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 2) มีจิตอาสา จิตสาธารณะ อดทนอดกลั้น มีความเสียสละ รับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่องานท่ีได้รับ มอบหมายทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ และสามารถพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง ประพฤติตนเป็น แบบอยา่ งทดี่ ีแกศ่ ษิ ย์ ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ เสริมสร้างการพัฒนาท่ยี งั่ ยนื 3) มีค่านิยมและคุณลักษณะเป็นประชาธิปไตย คือ การเคารพสิทธิ และให้เกียรติคนอื่น มีความ สามคั คีและทางานรว่ มกับผู้อนื่ ได้ ใช้เหตผุ ลและปัญญาในการดาเนินชวี ิตและการตดั สนิ ใจ 4) มคี วามกล้าหาญและแสดงออกทางคณุ ธรรมจริยธรรม สามารถวินจิ ฉัย จัดการและคิดแกป้ ญั หา ทางคุณธรรมจริยธรรมด้วยความถูกต้องเหมาะสมกับสังคม การทางานและสภาพแวดล้อม โดย

60 อาศัยหลักการ เหตุผลและใช้ดุลยพินิจทางค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคม ความรู้สึกของผู้อื่นและ ประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและความไม่ถูกต้อง มีจิตสานึกในการ ธารงความโปร่งใสของสังคมและประเทศชาติ 1.2 กลยุทธก์ ำรสอนทีใ่ ชพ้ ัฒนำกำรเรยี นรดู้ ้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม 1) กาหนดขอ้ ปฏิบตั ทิ ส่ี ่งเสรมิ คณุ ลักษณะด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรมความเป็นครู 2) การเรียนรจู้ ากกรณีศึกษา (Case Study) 3) การเรยี นรโู้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-based learning) 4) การวเิ คราะห์แบบวภิ าษวิธี (Dialectics) ในประเดน็ วิกฤตด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมของสังคมและ วิชาการ รวมทง้ั ประเดน็ วกิ ฤตจรรยาบรรณของวิชาชีพครู 5) การเขา้ ร่วมกจิ กรรมเสรมิ ความเป็นครูเปน็ รายปตี ลอดหลักสตู ร 6) สอดแทรกและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพในทุกรายวิชาของหลักสูตร และในการปฏิบตั งิ านจรงิ ในสถานศึกษา 1.3 กลยุทธก์ ำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรดู้ ำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 1) วัดและประเมนิ จากการสังเกตพฤติกรรมในขณะทางานตามสภาพจรงิ (Authentic Approach) 2) วดั และประเมินจากการสงั เกตพฤตกิ รรมในขณะทางานตามสภาพจรงิ (Authentic Approach) 3) วัดและประเมินจากผลการวิเคราะหแ์ บบวภิ าษวธิ ี 4) วัดและประเมินจากกล่มุ เพ่อื น 5) วัดและประเมินจากผลงานกรณศี กึ ษา 6) ประเมนิ ผลการเข้ารว่ มกิจกรรมของผูเ้ รยี น 7) วัดและประเมินจากผลการเข้ารว่ มกจิ กรรมเสริมความเปน็ ครเู ปน็ รายปีตลอดหลักสตู ร 8) วดั และประเมนิ คา่ นยิ มและความเป็นครูจากผลการปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษา 2. ควำมรู้ 2.1 ผลกำรเรยี นร้ดู ำ้ นควำมรู้ 1) มคี วามรอบรู้ในหลกั การ แนวคดิ ทฤษฎีดา้ นวชิ าชีพครู อยา่ งกวา้ งขวางลึกซงึ้ สามารถ ประยกุ ตส์ กู่ ารปฏบิ ัติ 2) มคี วามรอบรใู้ นหลกั การ แนวคดิ ทฤษฎี เน้ือหาสาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สามารถบรู ณาการขอบข่ายสาระความรู้เก่ยี วกบั หลกั การ ทฤษฎี เนอื้ หา และมโนทศั นท์ ่ี เกีย่ วกบั วิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน และความรเู้ ฉพาะสาขาวิชา การจัดการ เรียนร้สู าหรับนกั เรียนประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา การเสรมิ สร้างศกั ยภาพนกั เรียน ส่อื เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมสาหรบั ครู ตลอดจนตดิ ตามความก้าวหน้าทางดา้ นวิทยาศาสตร์ สามารถวเิ คราะห์ความรู้ เนอ้ื หาวิชาท่ีสอนอย่างลึกซึง้ และตดิ ตามความก้าวหน้าดา้ น วิทยาการและนาไปประยุกต์ใชใ้ นการพัฒนาผูเ้ รียน โดยสามารถบูรณาความร้ทู ่ี ครอบคลมุ ไมน่ อ้ ยกว่าหัวข้อต่อไปน้ี เทคโนโลยี

61 1.วิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 2.ความร้เู ฉพาะสาขาเทคโนโลยี 2.1 พ้นื ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล 2.2 หลักการคดิ เชิงคานวณ การแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณฟงั ชั่น 2.3 การออกแบบ เทคโนโลยี การวางแผน และการดาเนินการ และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 2.4 การใช้อินเทอร์เนต็ ซอฟแวรแ์ ละการพฒั นาแอบพลิเคชัน่ การเขียนโปรแกรม 2.5 เคร่ืองมือทางฮารด์ แวร์ การใชง้ านโปรแกรมไมโครคอนโทรเลอร์ และสมองกล 2.6 การสบื ค้น การรวบรวม การวิเคราะห์ การประมวลผล การเลือกใชแ้ หลง่ ขอ้ มลู ประเมนิ และนาเสนอข้อมลู สารสนเทศ 2.7 ออกแบบ พฒั นาระบบสารสนเทศ การออกแบบและพฒั นานวตั กรรม การ พัฒนาโครงงาน 2.8 การนาแนวคดิ เชงิ คานวณไปพัฒนาโครงงานท่ีเกย่ี วกับชีวิตประจาวัน ธุรกจิ และ บริการ 2.9 การเพ่ิมมูลคา่ ใหบ้ ริการหรือผลติ ภัณฑ์ 2.10 วทิ ยาการสมยั ใหมเ่ ก่ยี วกบั เทคโนโลยี การรเู้ ทา่ ทนั 2.11 กฎหมายคอมพวิ เตอรแ์ ละการใชล้ ขิ สิทธ์ิของผูอ้ น่ื โดยชอบธรรม 3) มคี วามรู้ เขา้ ใจชวี ิต เข้าใจชุมชน เข้าใจโลกและการอยรู่ ว่ มกนั บนพืน้ ฐานความ แตกต่างทางวฒั นธรรม สามารถเผชญิ และเท่าทันกบั การเปลี่ยนแปลงของสังคม และ สามารถนาแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชวี ติ และ พัฒนาตน พฒั นางาน และพฒั นาผู้เรียน 4) มคี วามรูแ้ ละความสามารถในการใชภ้ าษาไทยและภาษาอังกฤษเพอื่ การสือ่ สารตาม มาตรฐาน 5) มีความรู้ ความเข้าใจในการบูรณาการความรู้ สามารถบรู ณาการการเรียนการสอนกับ การปฏบิ ัติจริงและการบรู ณาการข้ามศาสตร์ 2.2 กลยทุ ธก์ ำรสอนที่ใชพ้ ฒั นำกำรเรยี นรดู้ ้ำนควำมรู้ 1) ใช้รูปแบบการเรยี นการสอนทหี่ ลากหลายโดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ 2) จัดการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้เกิดประสบการณ์ตรงท้ังจากสถานการณ์จริง สถานการณ์จาลองและ ผ้ทู รงคุณวฒุ หิ รอื ผเู้ ชยี่ วชาญ 3) จัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองจากแหล่งการ เรยี นรู้ต่างๆ 4) การเรียนรแู้ บบรวมพลงั (Collaborative Learning) 5) การเรยี นรโู้ ดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 6) การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning)

62 7) การเรยี นรแู้ บบหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น (Flipped Classroom) 8) การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) โดยบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลสาหรับการ เรียนรูด้ ว้ ยตนเองนอกช้นั เรยี นและเรยี นรว่ มกันในช้นั เรยี น 2.3 กลยุทธก์ ำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ด้ำนควำมรู้ 1) ประเมนิ โดยใช้วธิ ีการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจรงิ ดว้ ยวิธีการทห่ี ลากหลาย 2) วดั และประเมินจากการวิเคราะห์และสงั เคราะหอ์ งคค์ วามรู้ 3) วัดและประเมินจากการนาเสนอโครงงานหรือรายงานการคน้ ควา้ 4) วัดและประเมินจากผลการปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา 5) สะทอ้ นผลการประเมนิ ให้ผู้เรียนอย่างสมา่ เสมอ เพอื่ การปรับปรงุ และพฒั นาผูเ้ รยี นอย่างตอ่ เนอ่ื ง 3. ทกั ษะทำงปญั ญำ 3.1 ผลกำรเรียนร้ดู ้ำนทักษะทำงปญั ญำ 1) คิด ค้นหา วิเคราะห์ข้อเท็จจริง และประเมินข้อมูล สื่อ สารสนเทศจากแหล่งข้อมูลที่ หลากหลายอย่างรู้เท่าทัน เป็นพลเมืองต่ืนรู้ มีสานึกสากล สามารถเผชิญและก้าวทันกับการ เปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล เทคโนโลยีข้ามแพลทฟอร์ม (Platform) และโลกอนาคต นาไป ประยุกต์ใช้ในการปฏบิ ัติงานและวินิจฉัยแก้ปัญหาและพัฒนางานได้อย่างสร้างสรรค์ โดยคานึงถึง ความรู้ หลักการทางทฤษฎี ประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ค่านิ ยม แนวคิด นโยบายและ ยทุ ธศาสตรช์ าติ บรรทัดฐานทางสงั คมและผลกระทบท่อี าจเกดิ ขน้ึ 2) สามารถคดิ ริเร่มิ และพัฒนางานอย่างสรา้ งสรรค์ 3) สร้างและประยุกต์ใช้ความรู้จากการทาวิจัยและสร้างหรือร่วมสร้างนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาการ เรียนรู้ของผู้เรียนและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้สร้างหรือร่วมสร้างนวัตกรรม รวมทั้งการถ่ายทอด ความรแู้ ก่ชมุ ชนและสังคม 3.2 กลยุทธก์ ำรสอนทใี่ ชพ้ ฒั นำกำรเรยี นรู้ด้ำนทักษะทำงปญั ญำ 1) จัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น เน้นวิจัยเป็นฐาน (Research Based Learning) เน้นปัญหา เป็นฐาน (Problem Based Learning) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) หรือโครงงานเปน็ ฐาน(Project Based Learning) 2) จัดการเรียนรู้ตามหลักการท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และสรา้ งองคค์ วามร้ดู ้วยการสร้างสรรคผ์ ลงาน (Constructionism) 3) การเรยี นรทู้ ่สี ่งเสรมิ ทกั ษะการคิดขั้นสูง (Higher Order Thinking skills) 4) การส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นสามารถเรียนรดู้ ้วยการนาตนเอง (Self-Directed Learning) 5) จัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงโดยบูรณาการการปฏิบัติงานจริงใน สถานศึกษา 3.3 กลยทุ ธก์ ำรประเมินผลกำรเรยี นร้ดู ้ำนทักษะทำงปญั ญำ 1) ประเมนิ โดยใชว้ ิธีการวดั ผลและประเมินผลตามสภาพจรงิ ด้วยวิธกี ารที่หลากหลาย

63 2) วดั และประเมินจากผลการทาวิจัยเพ่อื สรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ 3) วดั และประเมินจากการนาเสนอรายงานหรือผลการปฏิบตั ิงาน 4) วดั และประเมินจากผลการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 5) สะท้อนผลการประเมนิ ให้ผเู้ รยี นอย่างสมา่ เสมอ เพื่อการปรบั ปรุงและพัฒนาผู้เรียนอย่างตอ่ เนอ่ื ง 4. ทักษะควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งบคุ คลและควำมรบั ผิดชอบ 4.1 ผลกำรเรยี นร้ดู ำ้ นทักษะควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลและควำมรบั ผดิ ชอบ 1) เข้าใจและใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่ืน มีความคิดเชิงบวก มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และทาง สงั คม 2) งานร่วมกับผู้อ่ืน ทางานเป็นทีม เป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้เรียน ผู้ร่วมงาน ผู้ปกครองและคนในชมุ ชน มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวมทั้งด้านเศรษฐกจิ สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 3) มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อตนเอง ต่อผู้เรียน ต่อผู้ร่วมงาน และต่อส่วนรวม สามารถ ช่วยเหลือและแกป้ ญั หาตนเอง กลุ่มและระหวา่ งกลุม่ ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4) มีภาวะผู้นาทางวิชาการและวิชาชีพ มีความเข้มแข็งและกล้าหาญทางจริยธรรม สามารถชี้นา และถ่ายทอดความร้แู กผ่ เู้ รยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชนและสังคมอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.2 กลยุทธก์ ำรสอนที่ใช้พฒั นำกำรเรียนร้ดู ำ้ นทกั ษะควำมสัมพนั ธร์ ะหว่ำงบคุ คลและ ควำมรบั ผิดชอบ 1) จัดการเรียนรู้ท่ีเน้นทักษะกระบวนการกลุ่มโดยการเรียนแบบร่วมมือ (Co-operative Learning) การอภปิ รายกลุ่ม (Group Discussion) 2) จัดการเรยี นรโู้ ดยใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) ชมุ ชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี (PLC) 3) การเรยี นรแู้ บบรวมพลงั (Collaborative learning) 4) การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ (Cooperative Learning) 5) การให้ความเห็นและการรับฟังความเห็นแบบสะท้อนกลับอย่างไตร่ตรอง (Reflective thinking) 6) การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ (Cooperative Learning) 7) สอดแทรกและปลกู ฝังความรบั ผิดชอบในทกุ รายวิชา 8) การเข้ารว่ มกิจกรรมเสริมความเปน็ ครู เปน็ รายปตี ลอดหลักสูตร 4.3 กลยุทธก์ ำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรดู้ ำ้ นทกั ษะควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งบคุ คลและ ควำมรบั ผดิ ชอบ 1) ประเมนิ ผลงานจากการทางานกลุ่ม 2) วัดและประเมนิ จากผลการเรียนรู้แบบรว่ มมือ 3) วดั และประเมนิ จากผลการปฏบิ ตั ิการสอนในสถานศกึ ษา 4) วดั และประเมินจากผลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเสรมิ ความเปน็ ครูเปน็ รายปตี ลอดหลกั สตู ร 5) ประเมินพฤตกิ รรมการมสี ว่ นร่วมและการทางานกลมุ่

64 5. ทกั ษะกำรวิเครำะห์เชิงตัวเลข กำรส่ือสำร และกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศ 5.1 ผลกำรเรยี นรู้ด้ำนทักษะกำรวเิ ครำะหเ์ ชิงตัวเลข กำรสื่อสำร และกำรใชเ้ ทคโนโลยี สำรสนเทศ 1) สามารถวิเคราะห์เชิงตัวเลข สาหรับข้อมูลและสารสนเทศ(data and information) ทั้งท่ีเป็น ตัวเลขเชิงสถิติ หรือคณิตศาสตร์ เพ่ือเข้าใจองค์ความรู้ หรือประเด็นปัญหาได้อย่างรวดเร็วและ ถกู ต้อง 2) สามารถสอ่ื สารกับผู้เรียน บุคคลและกล่มุ ตา่ งๆ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพดว้ ยวิธีการหลาก หลายทั้ง การพดู การเขียน และการนาเสนอดว้ ยรูปแบบต่างๆ โดยใชเ้ ทคโนโลยีและนวัตกรรมทเ่ี หมาะสม 3) สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โปรแกรมสาเร็จรูปที่จาเป็นสาหรับการเรียนรู้ การจัดการ เรียนรู้ การทางาน การประชุม การจัดการและสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศ รับและส่งข้อมูลและ สารสนเทศโดยใช้ดุลยพินิจที่ดีในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลและสารสนเทศ อีกทั้ง ตระหนกั ถึงการละเมดิ ลขิ สิทธิแ์ ละการลอกเลียนผลงาน 5.2 กลยุทธ์กำรสอนที่ใช้พัฒนำกำรเรยี นร้ดู ้ำนทักษะกำรวิเครำะห์เชงิ ตวั เลข กำรส่อื สำร และกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ 1) การตดิ ตาม วเิ คราะห์ และนาเสนอรายงานประเด็นสาคญั ด้านการศึกษาจากขา่ วสารบนสอ่ื สังคมออนไลน์ 2) จัดการเรยี นรู้ทีส่ ง่ เสริมการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการแสวงหาและเลือกใชข้ อ้ มลู ข่าวสารความรโู้ ดยบูรณาการการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยดี จิ ิทลั 3) การจัดทาอนิ โฟกราฟิกเพอ่ื สรุปประเดน็ สาระสาคญั ของงานท่ีนาเสนอ 4) จดั การเรียนร้ทู ่เี น้นการฝกึ ทักษะดา้ นการใชภ้ าษาและการสอื่ สาร 5) การเรียนรู้โดยบรู ณาการการปฏบิ ตั งิ านจรงิ ในสถานศึกษา 5.3 กลยุทธ์กำรประเมนิ ผลกำรเรียนร้ดู ำ้ นทกั ษะกำรวเิ ครำะห์เชิงตวั เลข กำรสือ่ สำร และกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1) วดั และประเมนิ จากการติดตาม วเิ คราะห์ และนาเสนอรายงานประเดน็ สาคัญ ดา้ นการศกึ ษา 2) วัดและประเมินจากผลการสบื คน้ และประเมินจากผลงานและการนาเสนอผลงาน 3) วดั และประเมินจากผลการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 4) ประเมินทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การส่อื สาร 6. วิธวี ิทยำกำรจดั กำรเรยี นรู้ 6.1 ผลกำรเรยี นร้ดู ้ำนวิธวี ทิ ยำกำรจัดกำรเรยี นรู้ 1) มีความเช่ียวชาญในการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ วิธีการท่ีหลาก หลายโดยเน้นผู้เรียนเป็น สาคัญ สามารถออกแบบและสร้างหลัก สูตรรายวิชาในช้ันเรียน วางแผนและออกแบบเน้ือหา สาระและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ บริหารจัดการช้นั เรียน ใชส้ ่ือและเทคโนโลยี วัดและประเมิน ผลเพอื่ พฒั นาผู้เรยี นอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์

65 2) สามารถวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อนาไปออกแบบและจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรม การเรียนรู้ให้สอด คล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนอย่างหลาก หลายตามความ แตกต่างระหว่างบุคคล ทง้ั ผเู้ รยี นปกติและ ผู้เรยี นทม่ี ีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ 3) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การ เผชิญสถานการณ์ ฝึกการปฏิบัติให้ทาได้ คิดเป็น ทาเป็น โดยบูรณาการการทางานกับการเรียนรู้ และคุณธรรม จรยิ ธรรม สามารถประยุกต์ความรมู้ าใช้เพ่ือป้องกนั แกไ้ ขปัญหา และพัฒนา 4) สร้างบรรยากาศ จัดสภาพ แวดล้อม ส่ือการเรียน แหล่งวิทยาการ และภูมิปัญญาทั้งในและ นอกสถานศึกษา ประสานความร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชมุ ชนทุกฝ่าย เพื่อ อานวยความสะดวกและร่วมมือกันพฒั นาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ มีความรอบรู้ มีปญั ญารู้คิด และเกดิ การใฝ่รอู้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง 5) นาทักษะศตวรรษ ที่ ๒๑ มาใช้ในการการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน พัฒนาตนเองและ สังคม เช่น ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ทักษะการรู้เรื่อง (Literacy Skills) และทักษะ ชวี ติ (Life Skills) เป็นต้น และดาเนนิ ชวี ิตตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 6.2 กลยทุ ธ์กำรสอนท่ใี ชพ้ ฒั นำกำรเรียนรู้ด้ำนวิธีวทิ ยำกำรจัดกำรเรยี นรู้ 1) จดั การเรยี นรู้จากประสบการณ์ตรง จากสถานการณ์จรงิ และสถานการณจ์ าลอง 2) การออกแบบการจดั การเรยี นรูโ้ ดยบรู ณาการความรูใ้ นเนื้อหาวชิ าเฉพาะผนวกวิธสี อนกบั เทคโนโลยี (Technological Pedagogical Content Knowledge: TPCK) 3) จดั การเรยี นรทู้ ีเ่ นน้ การฝึกปฏบิ ัติทกั ษะการสอนดว้ ยวธิ ีการสอนแบบจุลภาค (Micro Teaching) 4) การเรียนรผู้ า่ นประสบการณ์ (Experience-Based Approach) 5) ใชเ้ ทคนิคการนเิ ทศการสอนแบบแนะ (Coaching) 6) การเข้าร่วมกิจกรรมเสรมิ ความเปน็ ครูเปน็ รายปีตลอดหลักสูตร 6.3 กลยุทธ์กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรดู้ ้ำนวธิ วี ทิ ยำกำรจัดกำรเรียนรู้ 1) ประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์จาลองและผลการปฏิบัติการสอนใน สถานศกึ ษา 2) ประเมินจากแผนจดั การเรียนรู้และบนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 3) วัดและประเมินจากรายงานการทาวิจยั ในช้ันเรียน 4) วดั และประเมนิ จากผลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมเสริมความเปน็ ครเู ปน็ รายปตี ลอดหลกั สูตร 3. แผนทแ่ี สดงกำรกระจำยควำมรบั ผิดชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรู้จำกหลักสตู รสูร่ ำยวชิ ำ (Curriculum Mapping)

66 รายวิชาในหมวดวิชาศึกษาท่ัวไปและหมวดวิชาเฉพาะทุกรายวิชาจะครอบคลุมมาตรฐานผลการ เรียนรู้ด้านต่างๆในตารางโดยแสดงความรับผิดชอบหลัก และความรับผิดชอบรอง ไว้ทุกรายวิชา ซ่ึงเมอ่ื นักศกึ ษาไดเ้ รียนวิชาใดจะสามารถประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามท่ีกาหนดไวใ้ นตาราง อันจะส่งผลให้ นักศึกษามคี ณุ ลักษณะตามวัตถปุ ระสงค์ ผลกำรเรยี นรใู้ นตำรำงมคี วำมหมำยดงั น้ี หมวดวิชำศกึ ษำทั่วไป 1. ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 1) มีคณุ ธรรม จริยธรรม ในการดาเนนิ ชีวิต บนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง 2) สามารถวิเคราะหป์ ระเดน็ คุณธรรม จรยิ ธรรม 3) ซ่อื สตั ย์ ขยัน อดทน มวี นิ ัย ตรงต่อเวลา เคารพกฎระเบียบและขอ้ บังคบั ขององคก์ รและสงั คม 2. ควำมรู้ 1) มคี วามรูแ้ ละทักษะพ้ืนฐาน เพ่ือนาไปตอ่ ยอดองค์ความรู้ หรอื นาความร้ไู ปสูก่ ารสร้างนวตั กรรม 2) มคี วามรูท้ นั ตอ่ ความก้าวหนา้ และการเปลยี่ นแปลง 3) สามารถนาความรู้ไปปรับใช้ใหเ้ หมาะสมกบั การเป็นผ้ปู ระกอบการ 3. ทักษะทำงปัญญำ 1) มที ักษะการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเองตลอดชีวิต 2) สามารถแกไ้ ขปญั หาได้ และเสนอแนวทางการแก้ไขไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ 3) สามารถใชข้ ้อมลู ประมวลผล และวิเคราะหข์ อ้ มูลไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ 4. ทักษะควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งบคุ คลและควำมรับผิดชอบ 1) มบี ุคลกิ ภาพและมนุษยส์ มั พันธท์ ่ีดี สามารถเปน็ ผนู้ าและผ้ตู ามท่ดี แี ละทางานเป็นทีมได้ 2) มสี านึกสาธารณะและจติ อาสา เป็นพลเมืองที่มีคณุ คา่ ตอ่ สังคมไทยและสังคมโลก 3) มคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม 5. ทกั ษะกำรวิเครำะหเ์ ชงิ ตวั เลข กำรสื่อสำร และกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1) สามารถเลือกและประยุกต์ใชเ้ ทคนิคทางสถิติและคณิตศาสตร์ที่เก่ียวข้องมาใช้ในการดารงชีวิต และปฏบิ ตั งิ านได้อย่างเหมาะสม 2) สามารถใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื คน้ เพ่อื นามาวิเคราะห์และสนับสนนุ การตดั สนิ ใจ 3) สามารถเลอื กรูปแบบของการสื่อสารและการนาเสนอท่ีเหมาะสมตอ่ บุคคลท่ีหลากหลาย

6 แผนท่แี สดงกำรกระจำยควำมรบั ผิดชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรู้จำกห 1. คุณธรรม จริยธรรม 2. ควำมรู้ 3. ทักษ 1) มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ในการ 1) มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน 1) มที ักษะกา ดาเนินชวี ิต บนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือนาไปต่อยอดองค์ความรู้ หรือ ด้วยตนเองตล 2) สามารถวเิ คราะหป์ ระเดน็ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม นาความรู้ไปสู่การสร้างนวตั กรรม 2) สามารถแก 3) ซ่อื สตั ย์ ขยนั อดทน มวี ินยั ตรงตอ่ เวลา เคารพกฎระเบยี บ 2) มีความรู้ทันตอ่ ความก้าว หนา้ เสนอแนวทาง และขอ้ บังคับขององคก์ รและ สงั คม และการเปล่ยี นแปลง สร้างสรรค์ 3) สามารถนาความรู้ไปปรับใช้ให้ 3) สามารถใช เหมาะสมกบั การเปน็ และวเิ คราะห ผปู้ ระกอบการ ระบบ

7 หลักสูตรสู่รำยวิชำ (Curriculum Mapping) หมวดวชิ ำศกึ ษำทวั่ ไป ษะทำงปญั ญำ 4. ทักษะควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ ง 5. ทักษะกำรวเิ ครำะหเ์ ชงิ ารแสวงหาความรู้ บคุ คลและควำมรับผิดชอบ ตัวเลข กำรสอ่ื สำร และกำรใช้ ลอดชวี ิต กไ้ ขปัญหาได้ และ เทคโนโลยีสำรสนเทศ งการแก้ไขได้อย่าง 1) มีบคุ ลิกภาพและมนษุ ย์ 1) สามารถเลอื กและประยกุ ต์ ชข้ อ้ มลู ประมวลผล ห์ข้อมลู ได้อยา่ งเปน็ สัมพนั ธท์ ่ดี ี สามารถเป็นผู้นา ใชเ้ ทคนคิ ทางสถติ ิ และ และผู้ตามทด่ี ีและทางาน คณิตศาสตร์ท่ีเกีย่ วขอ้ งมาใชใ้ น เปน็ ทมี ได้ การดารงชวี ิตและปฏิบัตงิ านได้ 2) มสี านกึ สาธารณะและจติ อยา่ งเหมาะสม อาสา เป็นพลเมืองทีม่ คี ุณค่าตอ่ 2) สามารถใชง้ านเทคโนโลยี สงั คมไทยและสงั คมโลก สารสนเทศในการสบื คน้ เพอ่ื 3) มคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม นามาวเิ คราะห์และสนับสนุน การตดั สินใจ 3) สามารถเลอื กรปู แบบของ การสอ่ื สารและการนาเสนอท่ี เหมาะสมต่อบุคคลท่ี หลากหลาย

6 แผนท่แี สดงกำรกระจำยควำมรบั ผดิ ชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรจู้ ำกห ความรบั ผิดชอบหล รำยวชิ ำ 1. คุณธรรม จรยิ ธรรม 01-110-012 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งเพอ่ื การพัฒนาที่ยัง่ ยนื 123 01-110-021 ชวี ิตในสังคมพหุวัฒนธรรม 01-110-022 มองสังคมอยา่ งนกั วิจัย  01-210-017 การค้นควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ  01-210-021 การใช้เหตุผลและจรยิ ธรรม  01-210-023 มหัศจรรยแ์ หง่ รกั 01-610-001 ทกั ษะกฬี าเพ่ือสขุ ภาพ  01-610-003 นนั ทนาการ  01-320-001 ภาษาอังกฤษเพ่อื การสื่อสาร 1  01-320-002 ภาษาองั กฤษเพื่อการส่อื สาร 2  01-310-006 การอา่ นและการเขยี นเชงิ วิชาการ  01-310-014 วาทศลิ ป์เพือ่ ความสาเร็จ    

8 หลกั สตู รสรู่ ำยวิชำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำศกึ ษำทว่ั ไป ลกั  ความรบั ผดิ ชอบรอง 2. ควำมรู้ 3. ทักษะทำง 4. ทกั ษะ 5. ทักษะกำร ปัญญำ ควำมสมั พันธ์ วิเครำะหเ์ ชงิ ระหว่ำงบุคคล ตัวเลข กำรสอ่ื สำร และควำม และกำรใช้ รับผดิ ชอบ เทคโนโลยี สำรสนเทศ 1 2 31231 2 3 1 2 3                                              

6 แผนที่แสดงกำรกระจำยควำมรับผดิ ชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรูจ้ ำกห ความรับผดิ ชอบหล รำยวิชำ 1. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 01-320-010 ภาษาอังกฤษเพื่อการทดสอบ 123 01-330-001 ภาษาจนี พ้นื ฐาน  01-330-006 ภาษาญี่ปุน่ พื้นฐาน  01-320-003  สนทนาภาษาองั กฤษ 09-000-001  09-000-002 ทักษะการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ 09-000-003 การใช้งานโปรแกรมสาเร็จรูปเพ่ืองานมลั ติมเี ดยี  09-121-002 เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การตัดสินใจ  09-311-051 สถิตเิ บอ้ื งตน้ สาหรบั นวตั กรรม  00-100-101 ชวี ิตกบั สิ่งแวดล้อม  00-100-201 อตั ลกั ษณ์แห่งราชมงคลธญั บรุ ี  00-100-202 มหาวิทยาลัยสเี ขียว  00-100-301 การคดิ เชิงออกแบบ  00-100-302 ความเป็นผูป้ ระกอบการ 09-090-013 นวัตกรรมเพอ่ื ชุมชน  การจัดการสารสนเทศเพ่ือผูป้ ระกอบการ  

9 หลกั สูตรสู่รำยวชิ ำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำศึกษำท่ัวไป ลกั  ความรับผดิ ชอบรอง 2. ควำมรู้ 3. ทักษะทำง 4. ทักษะ 5. ทกั ษะกำร ปญั ญำ ควำมสมั พนั ธ์ วเิ ครำะหเ์ ชงิ ระหว่ำงบคุ คลและ ตวั เลข กำรส่อื สำร 123 ควำมรับผิดชอบ และกำรใช้  เทคโนโลยี   สำรสนเทศ 12 3  123123                                             

70 หมวดวิชำเฉพำะ มำตรฐำนผลกำรเรียนรู้ (แกนสำหรับทุกวชิ ำเอก) 1. ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม 1) แสดงออกซึ่งความรัก ศรัทธาและภมู ิใจในวชิ าชีพครู และจิตวญิ ญาณความเป็นครู และปฏบิ ัติ ตนตามจรรยาบรรณวชิ าชีพครู 2) มีจิตอาสา จิตสาธารณะ อดทนอดกล้ัน มีความเสียสละ รับผิดชอบและซื่อสัตย์ตอ่ งานที่ได้รับ มอบหมายท้ังด้านวิชาการและวิชาชีพ และสามารถพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ประพฤติตน เป็นแบบอยา่ งท่ดี แี ก่ศิษย์ ครอบครวั สังคมและประเทศชาติ เสริมสร้างการพฒั นาที่ยงั่ ยืน 3) มีค่านิยมและคุณลักษณะเป็นประชาธิปไตย คือ การเคารพสิทธิ และให้เกียรติคนอื่น มีความ สามัคคีและทางานรว่ มกับผู้อื่นได้ ใช้เหตผุ ลและปัญญาในการดาเนนิ ชีวิตและการตดั สินใจ 4) มีความกล้าหาญและแสดงออกทางคุณธรรมจริยธรรม สามารถวินิจฉัย จัดการและคิด แก้ปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรมด้วยความถูกต้องเหมาะสมกับสังคม การทางานและ สภาพแวดล้อม โดยอาศัยหลักการ เหตุผลและใช้ดุลยพินิจทางค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคม ความรู้สึกของผู้อ่ืนและประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและความไม่ ถกู ต้อง มีจิตสานึกในการธารงความโปร่งใสของสังคมและประเทศชาติ 2. ด้ำนควำมรู้ 1) มีความรอบรใู้ นหลักการ แนวคิดทฤษฎดี ้านวชิ าชีพครู อยา่ งกวา้ งขวางลึกซง้ึ สามารถประยุกตส์ ู่ การปฏิบัติ 2) มีความรอบรู้ในหลักการ แนวคิด ทฤษฎี เนื้อหาสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถ บูรณาการขอบข่ายสาระความรู้เกี่ยวกับหลักการ ทฤษฎี เน้ือหา และมโนทัศน์ที่เก่ียวกับ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์พื้นฐาน และความรู้เฉพาะสาขาวิชา การจัดการเรียนรู้สาหรับ นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา การเสริมสร้างศักยภาพนักเรียน ส่ือ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมสาหรับครู ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ สามารถวิเคราะห์ ความรู้ เน้ือหาวิชาที่สอนอย่างลึกซ้ึงและติดตามความก้าวหน้าด้าน วิทยาการและนาไป ประยุกต์ใชใ้ นการพฒั นาผู้เรียน โดยสามารถบูรณาความรู้ที่ครอบคลุมไม่น้อยกว่าหัวข้อตอ่ ไปน้ี เทคโนโลยี 1.วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน 2.ความร้เู ฉพาะสาขาเทคโนโลยี 2.1 พืน้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั 2.2 หลักการคิดเชิงคานวณ การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คานวณฟังช่ัน 2.3 การออกแบบ เทคโนโลยี การวางแผน และการดาเนินการ และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัย 2.4 การใช้อนิ เทอร์เนต็ ซอฟแวรแ์ ละการพัฒนาแอบพลเิ คช่ัน การเขียนโปรแกรม

71 2.5 เครอื่ งมอื ทางฮาร์ดแวร์ การใชง้ านโปรแกรมไมโครคอนโทรเลอร์ และสมองกล 2.6 การสืบคน้ การรวบรวม การวเิ คราะห์ การประมวลผล การเลอื กใช้แหลง่ ข้อมลู ประเมนิ และ นาเสนอขอ้ มลู สารสนเทศ 2.7 ออกแบบ พัฒนาระบบสารสนเทศ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม การพฒั นาโครงงาน 2.8 การนาแนวคิดเชงิ คานวณไปพฒั นาโครงงานทีเ่ กย่ี วกับชวี ติ ประจาวนั ธุรกจิ และบริการ 2.9 การเพ่ิมมลู คา่ ใหบ้ ริการหรอื ผลติ ภณั ฑ์ 2.10 วิทยาการสมัยใหมเ่ กย่ี วกบั เทคโนโลยี การรู้เทา่ ทนั 2.11 กฎหมายคอมพวิ เตอร์และการใช้ลขิ สทิ ธข์ิ องผ้อู ืน่ โดยชอบธรรม 3) มคี วามรู้ เข้าใจชวี ติ เขา้ ใจชุมชน เข้าใจโลกและการอย่รู ่วมกันบนพืน้ ฐานความแตกต่างทาง วัฒนธรรม สามารถเผชญิ และเทา่ ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสงั คม และสามารถนาแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ติ และพฒั นาตน พัฒนางาน และ พฒั นาผู้เรียน 4) มคี วามรู้และความสามารถในการใชภ้ าษาไทยและภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สารตามมาตรฐาน 5) มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการบรู ณาการความรู้ สามารถบรู ณาการการเรียนการสอนกับการปฏบิ ัติ จรงิ และการบรู ณาการข้ามศาสตร์ 3.ด้ำนทักษะทำงปัญญำ 1) คิด ค้นหา วิเคราะห์ข้อเท็จจริง และประเมินข้อมูล สื่อ สารสนเทศจากแหล่งข้อมูลท่ีหลากหลาย อย่างรู้เท่าทัน เป็นพลเมืองตื่นรู้ มีสานึกสากล สามารถเผชิญและก้าวทันกับการเปล่ียนแปลงใน โลกยุคดิจิทัล เทคโนโลยีข้ามแพลทฟอร์ม (Platform) และโลกอนาคต นาไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานและวินิจฉัยแก้ปัญหาและพัฒนางานได้อย่างสร้างสรรค์ โดยคานึงถึงความรู้ หลักการ ทางทฤษฎี ประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ค่านิยม แนวคิด นโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ บรรทัดฐาน ทางสงั คมและผลกระทบท่ีอาจเกดิ ข้นึ 2) สามารถคดิ รเิ ร่ิมและพฒั นางานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3) สร้างและประยุกต์ใช้ความรู้จากการทาวิจัยและสร้างหรือร่วมสร้างนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาการ เรียนรู้ของผู้เรียนและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้สร้างหรือร่วมสร้างนวัตกรรม รวมท้ังการถ่ายทอด ความรูแ้ ก่ชมุ ชนและสังคม

72 4. ด้ำนทักษะควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งบคุ คลและควำมรบั ผิดชอบ 1) เข้าใจและใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น มีความคิดเชิงบวก มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และทาง สังคม 2) งานร่วมกับผู้อื่น ทางานเป็นทีม เป็นผู้นาและผู้ตามที่ดี มีสัมพันธภาพท่ีดีกับผู้เรียน ผู้ร่วมงาน ผู้ปกครองและคนในชุมชน มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและ ส่งิ แวดลอ้ ม 3) มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี ต่อตนเอง ต่อผู้เรียน ต่อผู้ร่วมงาน และต่อส่วนรวม สามารถ ชว่ ยเหลือและแก้ปญั หาตนเอง กลุ่มและระหวา่ งกลุ่มได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4) มีภาวะผู้นาทางวิชาการและวิชาชีพ มีความเข้มแข็งและกล้าหาญทางจริยธรรม สามารถชี้นา และถ่ายทอดความรู้แก่ผเู้ รียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคมอยา่ งสรา้ งสรรค์ 5. ด้ำนทักษะกำรวิเครำะห์เชิงตัวเลข กำรสื่อสำรและกำรใชเ้ ทคโนโลยี 1) สามารถวิเคราะห์เชิงตัวเลข สาหรับข้อมูลและสารสนเทศ(data and information) ท้ังท่ีเป็น ตัวเลขเชิงสถิติ หรือคณิตศาสตร์ เพื่อเข้าใจองค์ความรู้ หรือประเด็นปัญหาได้อย่างรวดเร็วและ ถูกต้อง 2) สามารถสือ่ สารกับผู้เรียน บคุ คลและกลมุ่ ตา่ งๆ อย่างมีประสิทธิภาพด้วยวิธีการหลาก หลายทง้ั การพูด การเขียน และการนาเสนอด้วยรูปแบบต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ เหมาะสม 3) สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โปรแกรมสาเร็จรูปท่ีจาเป็นสาหรับการเรียนรู้ การจัดการ เรียนรู้ การทางาน การประชุม การจัดการและสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศ รับและส่งข้อมูล และสารสนเทศโดยใช้ดุลยพินิจท่ีดีในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลและสารสนเทศ อีกท้ังตระหนักถงึ การละเมิดลิขสทิ ธ์แิ ละการลอกเลยี นผลงาน 6. วธิ วี ิทยำกำรจัดกำรเรยี นรู้ 1) มีความเช่ียวชาญในการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ วิธีการท่ีหลาก หลายโดยเน้นผู้เรียนเป็น สาคัญ สามารถออกแบบและสร้างหลัก สูตรรายวิชาในชั้นเรียน วางแผนและออกแบบเน้ือหา สาระและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ บริหารจัดการช้ันเรียน ใช้ส่ือและเทคโนโลยี วัดและ ประเมนิ ผลเพือ่ พัฒนาผูเ้ รียนอยา่ งเหมาะสมและสรา้ งสรรค์ 2) สามารถวิเคราะห์ผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล เพื่อนาไปออกแบบและจัดเน้ือหาสาระและกจิ กรรมการ เรียนรู้ให้สอด คล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนอย่างหลาก หลายตามความ แตกตา่ งระหว่างบุคคล ทัง้ ผู้เรยี นปกติและ ูผ้เรียนท่มี ีความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษ 3) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การ เผชญิ สถานการณ์ ฝกึ การปฏบิ ัติใหท้ าได้ คดิ เปน็ ทาเป็น โดยบรู ณาการการทางานกบั การเรียนรู้ และคณุ ธรรม จริยธรรม สามารถประยุกต์ความรมู้ าใช้เพอื่ ป้องกนั แกไ้ ขปัญหา และพฒั นา

73 4) สร้างบรรยากาศ จัดสภาพ แวดล้อม ส่ือการเรียน แหล่งวิทยาการ และภูมิปญั ญาท้ังในและนอก สถานศึกษา ประสานความร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพ่ือ อานวยความสะดวกและร่วมมือกันพัฒนาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ มีความรอบรู้ มีปัญญารู้ คิดและเกดิ การใฝ่รู้อยา่ งต่อเนื่อง 5) นาทกั ษะศตวรรษ ที่ ๒๑ มาใช้ในการการจดั การเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาผู้เรียน พัฒนาตนเองและสังคม เชน่ ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ทักษะการรเู้ รอื่ ง (Literacy Skills) และทกั ษะชวี ติ (Life Skills) เปน็ ต้น และดาเนินชวี ิตตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

7 แผนท่ีแสดงกำรกระจำยควำมรบั ผดิ ชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรูจ้ ำ 1. คณุ ธรรม จริยธรรม 2. ควำมรู้ 3. ทักษะทำ 1) แสดงออกซง่ึ ควำมรัก ศรทั ธำและ 1) มีควำมรอบรใู้ นหลักกำร แนวคดิ ทฤษฎดี ำ้ นวิชำชพี ครู อย่ำงกว้ำงขวำงลกึ ซ้งึ สำมำรถ 1) คิด คน้ หำ วเิ ครำะห ภูมิใจในวิชำชีพครู และจิตวิญญำณ ประยุกตส์ กู่ ำรปฏิบตั ิ ประเมนิ ข้อมูล สื่อ สำร ควำมเป็นครู และปฏิบัติตนตำม 2) มคี วำมรอบรูใ้ นหลักกำร แนวคิด ทฤษฎี เนอื้ หำสำระวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำมำรถ แหลง่ ข้อมลู ที่หลำกหล จรรยำบรรณวชิ ำชีพครู บรู ณำกำรขอบข่ำยสำระควำมรเู้ กยี่ วกับหลักกำร ทฤษฎี เนอ้ื หำ และมโนทศั นท์ ่ีเก่ียวกบั เปน็ พลเมอื งตื่นรู้ มสี ำน 2) มีจิตอำสำ จิตสำธำรณะ อดทน วทิ ยำศำสตรแ์ ละคณติ ศำสตร์พืน้ ฐำน และควำมรเู้ ฉพำะสำขำวิชำ กำรจัดกำรเรียนรสู้ ำหรบั สำมำรถเผชญิ และกำ้ ว อดกลั้น มีควำมเสียสละ รับผิดชอบ นกั เรยี นประถมศึกษำและมัธยมศกึ ษำ กำรเสรมิ สร้ำงศกั ยภำพนกั เรยี น สื่อ เทคโนโลยแี ละ เปลย่ี นแปลงในโลกยุค และซ่ือสัตย์ตอ่ งำนท่ไี ด้รับมอบหมำย นวัตกรรมสำหรบั ครู ตลอดจนตดิ ตำมควำมกำ้ วหนำ้ ทำงดำ้ นวิทยำศำสตร์ สำมำรถวเิ ครำะห์ ข้ำมแพลทฟอรม์ (Pla ทั้งด้ำนวิชำกำรและวิชำชีพ และ ควำมรู้ เนื้อหำวชิ ำทส่ี อนอย่ำงลึกซ้งึ และตดิ ตำมควำมกำ้ วหน้ำดำ้ น วิทยำกำรและนำไป อนำคต นำไปประยุกต สำมำรถพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเนื่อง ประยุกต์ใช้ในกำรพฒั นำผู้เรียน โดยสำมำรถบรู ณำควำมรทู้ ค่ี รอบคลุมไม่นอ้ ยกว่ำหัวข้อ ปฏบิ ตั ิงำนและวินิจฉัย ประพฤติตนเป็นแบบอย่ำงที่ดีแก่ ตอ่ ไปน้ี เทคโนโลยี พฒั นำงำนได้อย่ำงสรำ้ ศิ ษ ย์ ค ร อ บ ค รั ว สั ง ค ม แ ล ะ 1. วทิ ยำศำสตร์และคณิตศำสตรพ์ ื้นฐำน คำนึงถึงควำมรู้ หลักก ประเทศชำติ เสริมสร้ำงกำรพัฒนำที่ 2. ควำมร้เู ฉพำะสำขำเทคโนโลยี ประสบกำรณภ์ ำคปฏบิ ยง่ั ยืน 2.1 พน้ื ฐำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั แนวคิด นโยบำยและย 3) มีค่ำนิยมและคุณลักษณะเป็น 2.2 หลกั กำรคดิ เชงิ คำนวณ กำรแก้ปญั หำโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณฟงั ช่ัน บรรทดั ฐำนทำงสงั คมแ ประชำธิปไตย คือ กำรเคำรพสิทธิ 2.3 กำรออกแบบ เทคโนโลยี กำรวำงแผน และกำรดำเนินกำร และกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ อำจเกิดข้ึน และให้เกียรติคนอ่ืน มีควำมสำมัคคี อยำ่ งปลอดภยั 2) สำมำรถคิดริเร่ิมแล และทำงำนร่วมกับผู้อื่นได้ ใช้เหตุผล 2.4 กำรใช้อนิ เทอร์เน็ต ซอฟแวรแ์ ละกำรพัฒนำแอบพลิเคช่ัน กำรเขียนโปรแกรม สรำ้ งสรรค์ และปัญญำในกำรดำเนินชีวิตและ 2.5 เครื่องมือทำงฮำรด์ แวร์ กำรใชง้ ำนโปรแกรมไมโครคอนโทรเลอร์ และสมองกล 3) สร้ำงและประยกุ ต์ใ กำรตัดสนิ ใจ 2.6 กำรสืบคน้ กำรรวบรวม กำรวเิ ครำะห์ กำรประมวลผล กำรเลอื กใชแ้ หล่งขอ้ มูล ประเมนิ ทำวิจัยและสร้ำงหรอื ร 4) มคี วำมกล้ำหำญและแสดงออกทำง และนำเสนอข้อมูลสำรสนเทศ นวตั กรรมเพ่ือพัฒนำก คณุ ธรรมจริยธรรม สำมำรถวนิ จิ ฉยั 2.7 ออกแบบ พัฒนำระบบสำรสนเทศ กำรออกแบบและพัฒนำนวัตกรรม กำรพัฒนำโครงงำน ผ้เู รยี นและพัฒนำผเู้ รยี จดั กำรและคิดแก้ปญั หำทำงคณุ ธรรม 2.8 กำรนำแนวคดิ เชิงคำนวณไปพฒั นำโครงงำนทีเ่ ก่ยี วกับชวี ิตประจำวนั ธรุ กิจและบริกำร หรือร่วมสร้ำงนวัตกรร จรยิ ธรรมดว้ ยควำมถูกตอ้ งเหมำะสม 2.9 กำรเพิ่มมลู ค่ำใหบ้ รกิ ำรหรือผลติ ภัณฑ์ ถ่ำยทอดควำมรู้แกช่ ุมช กับสังคม กำรทำงำนและ 2.10 วทิ ยำกำรสมยั ใหมเ่ กีย่ วกบั เทคโนโลยี กำรร้เู ทำ่ ทนั สภำพแวดลอ้ ม โดยอำศัยหลกั กำร 2.11 กฎหมำยคอมพวิ เตอรแ์ ละกำรใชล้ ิขสทิ ธิข์ องผ้อู ื่นโดยชอบธรรม เหตุผลและใชด้ ลุ ยพินิจทำงคำ่ นิยม 3) มีควำมรู้ เข้ำใจชีวติ เข้ำใจชุมชน เขำ้ ใจโลกและกำรอย่รู ่วมกันบนพื้นฐำนควำมแตกตำ่ งทำง บรรทดั ฐำนทำงสงั คม ควำมรู้สึกของ วฒั นธรรม สำมำรถเผชิญและเท่ำทนั กบั กำรเปลยี่ นแปลงของสงั คม และสำมำรถนำแนวคิด ผอู้ น่ื และประโยชนข์ องสงั คมสว่ นรวม ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ต์ใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ิตและพัฒนำตน พฒั นำงำน และ ต่อตำ้ นกำรทุจริตคอรปั ช่ันและควำมไม่ พัฒนำผู้เรียน ถกู ตอ้ ง มีจติ สำนึกในกำรธำรงควำม 4) มคี วำมรู้และควำมสำมำรถในกำรใช้ภำษำไทยและภำษำองั กฤษเพือ่ กำรสื่อสำรตำม โปร่งใสของสังคมและประเทศชำติ มำตรฐำน 5) มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรบรู ณำกำรควำมรู้ สำมำรถบูรณำกำรกำรเรยี นกำรสอนกับกำร ปฏิบัติจริงและกำรบูรณำกำรข้ำมศำสตร์

4 ำกหลักสตู รส่รู ำยวชิ ำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำเฉพำะ ำงปญั ญำ 4. ทกั ษะควำมสมั พันธ์ 5. ทักษะกำรวิเครำะห์เชิง 6. วธิ วี ิทยำกำรจดั กำรเรียนรู้ หข์ ้อเท็จจริง และ ระหวำ่ งบุคคลและควำม ตัวเลข กำรส่อื สำร และกำร 1) มีควำมเชย่ี วชำญในกำรจดั กำรเรยี นรู้ด้วยรูปแบบ รสนเทศจำก วิธกี ำรทหี่ ลำก หลำยโดยเน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั สำมำรถ ลำยอย่ำงรู้เทำ่ ทนั รับผิดชอบ ใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ ออกแบบและสร้ำงหลกั สตู รรำยวิชำในชัน้ เรียน นกึ สำกล วำงแผนและออกแบบเน้อื หำสำระและกิจกรรมกำร วทันกับกำร 1) เขำ้ ใจและใสใ่ จอำรมณ์ควำมรสู้ กึ 1) สำมำรถวเิ ครำะหเ์ ชงิ ตวั เลข สำหรบั จัดกำรเรียนรู้ บริหำรจัดกำรช้ันเรยี น ใชส้ ื่อและ คดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี ของผู้อืน่ มีควำมคดิ เชงิ บวก มีวฒุ ิ ขอ้ มูลและสำรสนเทศ(data and เทคโนโลยี วัดและประเมนิ ผลเพอ่ื พฒั นำผเู้ รียนอยำ่ ง atform) และโลก ภำวะทำงอำรมณ์และทำงสงั คม information) ทงั้ ทีเ่ ป็นตัวเลขเชงิ สถติ ิ เหมำะสมและสรำ้ งสรรค์ ตใ์ ชใ้ นกำร 2) งำนร่วมกบั ผูอ้ ่นื ทำงำนเปน็ ทมี หรือคณิตศำสตร์ เพอื่ เข้ำใจองค์ควำมรู้ 2) สำมำรถวเิ ครำะห์ผูเ้ รียนเป็นรำยบุคคล เพ่ือนำไป ยแกป้ ัญหำและ เป็นผนู้ ำและผูต้ ำมท่ีดี มสี ัมพันธภำพ หรือประเดน็ ปญั หำได้อยำ่ งรวดเรว็ และ ออกแบบและจดั เนอ้ื หำสำระและกจิ กรรมกำรเรียนรใู้ ห้ ำงสรรค์ โดย ท่ีดกี บั ผู้เรยี น ผรู้ ่วมงำน ผปู้ กครอง ถกู ต้อง สอด คล้องกับควำมสนใจและควำมถนดั ของผ้เู รียนอย่ำง กำรทำงทฤษฎี และคนในชุมชน มีควำมรับผดิ ชอบ 2) สำมำรถส่อื สำรกับผเู้ รียน บุคคลและ หลำก หลำยตำมควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบคุ คล ทง้ั ผเู้ รียน บัติ คำ่ นิยม ตอ่ ส่วนรวมทั้งดำ้ นเศรษฐกจิ สังคม กลุ่มตำ่ งๆ อย่ำงมีประสิทธภิ ำพดว้ ย ปกตแิ ละ ูผเ้ รยี นทม่ี ีควำมตอ้ งกำรจำเปน็ พเิ ศษ ยทุ ธศำสตรช์ ำติ และสงิ่ แวดล้อม วิธีกำรหลำก หลำยท้งั กำรพดู กำรเขียน 3) จดั กิจกรรมให้ผเู้ รียนได้เรยี นรจู้ ำกประสบกำรณ์ ฝกึ และผลกระทบที่ 3) มีควำมรับผิดชอบต่อหนำ้ ที่ ต่อ และกำรนำเสนอด้วยรูปแบบต่ำงๆ โดย ทักษะกระบวนกำรคดิ กำรจัดกำร กำรเผชญิ สถำนกำรณ์ ตนเอง ตอ่ ผู้เรียน ตอ่ ผรู้ ่วมงำน และ ใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมที่เหมำะสม ฝกึ กำรปฏบิ ตั ใิ หท้ ำได้ คิดเป็น ทำเป็น โดยบูรณำกำรกำร ละพัฒนำงำนอยำ่ ง ตอ่ สว่ นรวม สำมำรถชว่ ยเหลือและ 3) สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศ ทำงำนกบั กำรเรียนรู้และคุณธรรม จริยธรรม สำมำรถ แก้ปญั หำตนเอง กลมุ่ และระหว่ำง โปรแกรมสำเร็จรูปท่จี ำเป็นสำหรับกำร ประยกุ ต์ควำมรมู้ ำใช้เพ่อื ปอ้ งกัน แกไ้ ขปญั หำ และ ใช้ควำมรู้จำกกำร กลุม่ ได้อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ เรียนรู้ กำรจดั กำรเรยี นรู้ กำรทำงำน กำร พัฒนำ รว่ มสร้ำง 4) มภี ำวะผู้นำทำงวิชำกำรและ ประชุม กำรจดั กำรและสืบคน้ ขอ้ มลู และ 4) สรำ้ งบรรยำกำศ จดั สภำพ แวดล้อม ส่อื กำรเรยี น กำรเรยี นรขู้ อง วชิ ำชพี มีควำมเข้มแขง็ และกล้ำ สำรสนเทศ รับและสง่ ข้อมูลและ แหล่งวิทยำกำร และภูมปิ ญั ญำทงั้ ในและนอก ยนให้เปน็ ผ้สู ร้ำง หำญทำงจริยธรรม สำมำรถชน้ี ำและ สำรสนเทศโดยใชด้ ลุ ยพนิ ิจทดี่ ใี นกำร สถำนศกึ ษำ ประสำนควำมรว่ มมือกบั บิดำมำรดำ รม รวมทง้ั กำร ถ่ำยทอดควำมรูแ้ ก่ผู้เรยี น ตรวจสอบควำมนำ่ เชอื่ ถือของข้อมลู และ ผู้ปกครอง และบคุ คลในชุมชนทกุ ฝ่ำย เพ่อื อำนวยควำม ชนและสงั คม สถำนศึกษำ ชมุ ชนและสงั คมอย่ำง สำรสนเทศ อกี ทง้ั ตระหนกั ถึงกำรละเมิด สะดวกและร่วมมอื กันพฒั นำผเู้ รียนให้เตม็ ตำมศกั ยภำพ สรำ้ งสรรค์ ลขิ สทิ ธิแ์ ละกำรลอกเลยี นผลงำน มีควำมรอบรู้ มีปัญญำร้คู ดิ และเกดิ กำรใฝร่ ้อู ยำ่ งตอ่ เนื่อง 5) นำทักษะศตวรรษ ที่ ๒๑ มำใช้ในกำรกำรจัดกำร เรียนรเู้ พือ่ พัฒนำผเู้ รียน พฒั นำตนเองและสังคม เชน่ ทกั ษะกำรเรยี นรู้ (Learning Skills) ทกั ษะกำรรูเ้ รอื่ ง (Literacy Skills) และทกั ษะชีวติ (Life Skills) เปน็ ต้น และดำเนินชวี ิตตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง

7 แผนทแี่ สดงกำรกระจำยควำมรับผิดชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรจู้ ำ  ความรับผดิ ชอบหลัก รำยวิชำ 1. คุณธรรม 2. ควำมร จริยธรรม 02-111-101 จิตวิทยาสาหรับวชิ าชีพครู 1234123 02-121-101 บรบิ ททางการศกึ ษาและการประกนั คุณภาพ  การศึกษา 02-131-301 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้  02-132-301 การวิจยั สาหรบั วชิ าชพี ครู 02-141-201 การพฒั นานวตั กรรมหลกั สตู ร  02-142-305 การพฒั นานวตั กรรมการจัดการเรียนรู้ 02-143-201 จติ วญิ ญาณและการพฒั นาวิชาชีพครู  02-311-101 ส่อื และเทคโนโลยีเพอ่ื การเรยี นรู้ 02-142-101 การปฏบิ ัติการสอน 1   02-142-202 การปฏบิ ตั กิ ารสอน 2 02-142-304 การปฏบิ ัตกิ ารสอน 3          

5 ำกหลักสูตรสู่รำยวิชำ (Curriculum Mapping) หมวดวชิ ำเฉพำะ  ความรบั ผดิ ชอบรอง 5. ทักษะกำร 4. ทักษะ วเิ ครำะหเ์ ชิง รู้ 3. ทักษะทำง ควำมสมั พันธ์ระหว่ำง ตัวเลข กำร 6. วิธวี ิทยำกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปญั ญำ บคุ คลและควำม สือ่ สำร และ รับผดิ ชอบ กำรใช้ เทคโนโลยี สำรสนเทศ 45123123412312345                                      

7 แผนท่ีแสดงกำรกระจำยควำมรับผดิ ชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นร้จู ำ  ความรับผิดชอบหลกั รำยวชิ ำ 1. คณุ ธรรม 2. ควำมร จริยธรรม 02-142-407 การปฏบิ ัติการสอน 4 1234123  02-331-101 พน้ื ฐานคณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์สาหรบั  นักเทคโนโลยดี ิจิทัล 02-331-102 เทคโนโลยีสารสนเทศและทกั ษะดจิ ทิ ลั  02-331-103 การส่อื สารข้อมูลและเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์   02-331-104 กฎหมายและจริยธรรมดา้ นเทคโนโลยี   สารสนเทศ 02-332-101 การคิดเชิงคานวณ  02-332-202 การเขยี นโปรแกรมและข้นั ตอนวธิ ี  02-332-203 ฐานขอ้ มลู และระบบการจัดการฐานข้อมูล   02-332-204 การวเิ คราะห์และออกแบบระบบงาน   02-332-205 การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชนั  

6 ำกหลักสูตรสรู่ ำยวิชำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำเฉพำะ  ความรบั ผดิ ชอบรอง 4. ทกั ษะ 5. ทักษะกำร วเิ ครำะหเ์ ชงิ ควำมสมั พนั ธ์ 6. วิธวี ิทยำกำรจัดกำร รู้ 3. ทักษะทำง ระหว่ำงบคุ คลและ ตัวเลข กำร เรียนรู้ ปัญญำ ควำมรับผดิ ชอบ ส่อื สำร และ กำรใช้ เทคโนโลยี สำรสนเทศ 45123123412312345                                         

7 แผนท่ีแสดงกำรกระจำยควำมรับผิดชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรจู้ ำ  ความรบั ผดิ ชอบหลกั รำยวชิ ำ 1. คณุ ธรรม 2. ควำมร จริยธรรม 1234123 02-332-206 การเขยี นโปรแกรมบังคบั หุ่นยนต์เบอ้ื งต้น        02-332-307 การเขียนโปรแกรมควบคมุ ระบบสมองกลฝงั ตวั        02-332-308 สะเตม็ ศึกษาและกระบวนการออกแบบเชิง     วิศวกรรม 02-333-201 การออกแบบและพฒั นาส่ือดจิ ทิ ลั เพอื่ การ    เรียนรู้ 02-333-402 การพฒั นาการจัดการเรยี นรวู้ ิชาวทิ ยาการ    คานวณ 02-333-303 โครงงานวจิ ัยระดบั ปริญญาตรี 1    02-333-404 โครงงานวจิ ยั ระดบั ปรญิ ญาตรี 2    02-331-205 โปรแกรมประยุกต์เพื่อจดั การเรยี นรู้  02-332-309 การเขยี นโปรแกรมประยุกต์บนอุปกรณ์    เคลอื่ นที่

7 ำกหลักสูตรส่รู ำยวชิ ำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำเฉพำะ  ความรบั ผดิ ชอบรอง 4. ทกั ษะ 5. ทกั ษะกำร วเิ ครำะหเ์ ชิง ควำมสัมพนั ธ์ 6. วิธีวทิ ยำกำรจัดกำร รู้ 3. ทักษะทำง ระหว่ำงบคุ คลและ ตัวเลข กำร เรียนรู้ ปัญญำ ควำมรับผดิ ชอบ สอื่ สำร และ กำรใช้ เทคโนโลยี สำรสนเทศ 45123123412312345                                                                       

7 แผนท่ีแสดงกำรกระจำยควำมรับผิดชอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรจู้ ำ  ความรับผิดชอบหลกั รำยวชิ ำ 1. คุณธรรม 2. ควำมร จริยธรรม 02-332-310 ความมนั่ คงดา้ นระบบสารสนเทศ 1234123 02-332-311 ระบบฐานความรู้    02-332-312 การทาเหมอื งข้อมลู   02-332-313 การวเิ คราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญ่  02-333-314 การประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ   02-333-315 คลาวด์เทคโนโลยีและอินเทอรเ์ น็ตของสรรพส่งิ      02-333-205 ระบบการศกึ ษาทางไกลเพ่ือการเรียนรู้ตลอด      ชวี ิต   02-333-206 การออกแบบและพัฒนาเกมคอมพิวเตอรเ์ พื่อ   การศกึ ษา 02-333-207 คอมพวิ เตอร์แอนิเมชนั และวชิ วลเอฟเฟกต์   02-333-308 การพัฒนาสื่อดจิ ิทลั เสมอื นจริงเพอื่ การเรียนรู้    02-333-309 คอมพิวเตอร์กราฟกิ สามมติ เิ ชิงโต้ตอบ   02-333-310 การวจิ ยั ในชนั้ เรยี นเพอื่ พัฒนาการเรียนรู้    02-333-311 สัมมนาทางวชิ าชพี    02-333-312 การจัดการส่ือสังคม  

8 ำกหลกั สตู รสู่รำยวิชำ (Curriculum Mapping) หมวดวิชำเฉพำะ  ความรับผิดชอบรอง 4. ทกั ษะ 5. ทักษะกำร รู้ 3. ทกั ษะทำง ควำมสัมพันธ์ วเิ ครำะห์เชงิ 6. วิธีวทิ ยำกำรจดั กำร ปัญญำ ระหว่ำงบคุ คลและ ตัวเลข กำร เรยี นรู้ ควำมรบั ผดิ ชอบ ส่อื สำร และกำร ใชเ้ ทคโนโลยี สำรสนเทศ 45123123412312345                                                                                                            

108 หมวดท่ี 5 หลักเกณฑใ์ นกำรประเมินผลนกั ศกึ ษำ 1. กฎระเบียบหรอื หลกั เกณฑ์ในกำรใหร้ ะดับคะแนน (เกรด) ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เร่ือง เกณฑ์การวัดและประเมินผลการศึกษาระดับ ปริญญาตรี (ภาคผนวก ค) 2. กระบวนกำรทวนสอบมำตรฐำนผลสัมฤทธขิ์ องนกั ศกึ ษำ 2.1 กำรทวนสอบมำตรฐำนผลกำรเรียนรขู้ ณะนักศกึ ษำยงั ไม่สำเร็จกำรศึกษำ 1. อาจารย์ผู้สอนและ/หรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกดาเนินการสอน ประเมินผลการเรียนรู้ตาม จุดมงุ่ หมายรายวิชา และเป็นไปตามเกณฑก์ ารวดั ผลทีก่ าหนดไว้ใน มคอ.3 รายละเอียดของรายวชิ า 2. กรรมการประจาหลักสูตรและ/หรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกประชุมพิจารณาผลการเรียนรู้ทุกรายวิชา ในด้านของความยุติธรรมความเหมาะสม แล้วนาผลจากการประชุมพิจารณาผลการเรียนรู้ของกรรมการ ประจาหลกั สูตรเสนอตอ่ คณะกรรมการประจาคณะฯ พิจารณา 3. กรณีท่ีเป็นรายวิชาท่ีสอนหลายคน อาจารย์ผู้สอนและ/หรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกร่วมกันพิจารณา ผลการเรียนรูเ้ พ่ือนาไปใช้พจิ ารณาการเรียนการสอนตอ่ ไป 2.2 กำรทวนสอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรหู้ ลังนกั ศกึ ษำสำเรจ็ กำรศกึ ษำ 1. ประเมินภาวการณ์ได้งานทาของบัณฑิต ในด้านของระยะเวลาในการหางานทา ความเห็นต่อ ความรู้ ความสามารถ ความมน่ั ใจของบณั ฑติ ในการประกอบการงานอาชพี 2. ประเมินผลการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ โดยใช้แบบสัมภาษณ์หรือส่งแบบสอบถามเพื่อ ประเมนิ ความพึงพอใจต่อบณั ฑิตทจ่ี บการศึกษาจากคณะฯ และกองพฒั นานักศกึ ษา 3. ประเมนิ ตาแหน่งงานและคุณวฒุ ิทางการศกึ ษาของบณั ฑิต 3. เกณฑ์กำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำตำมหลกั สูตร 3.1 นักศึกษาที่มีสิทธ์ิได้รับปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตร ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ดงั ตอ่ ไปนี้ 3.1.1 ต้องเรียนครบตามจานวนหน่วยกิตท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตร และต้องได้ระดับคะแนนเฉลี่ย ไม่ต่ากว่า 2.00 จากระบบ 4 ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า จึงถือว่าเรียนจบหลักสูตร ปริญญาตรี 3.1.2 ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 เท่าของระยะเวลาการศึกษาที่กาหนดไว้ในหลักสูตร ท้ังน้ีไม่นับ ระยะเวลาการลาพกั การศึกษาตามท่รี ะบไุ วใ้ นหลักสูตร 3.1.3 เป็นผมู้ คี ุณสมบัติเหมาะสมกับการเปน็ บณั ฑติ และไมม่ ีหน้ีสนิ ผูกพนั ต่อมหาวิทยาลัย 3.1.4 การยืน่ คารอ้ งขอสาเรจ็ การศึกษาต้องยื่นต่อสานกั ส่งเสริมวชิ าการและงานทะเบยี นทกุ ภาค การศึกษาท่ีนักศึกษาคาดว่าจะสาเร็จการศึกษาภายในสามสิบวัน นับแต่วันเปิดภาค การศกึ ษาน้ันจนกวา่ นักศึกษาจะสาเรจ็ การศึกษาตามประกาศสภามหาวิทยาลยั

109 3.1.5 นักศึกษาที่ไม่ดาเนินการตามข้อ 3.1.3 จะไม่ได้รับการพจิ ารณาเสนอช่ือเพ่ือรับปริญญาใน ภาคการศึกษาน้ันและจะต้องชาระค่ารกั ษาสภาพการเป็นนักศึกษาทุกภาคการศึกษาจนถึง ภาคการศกึ ษาทนี่ กั ศกึ ษายื่นคารอ้ งขอสาเร็จการศึกษา 3.1.6 ตามประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานความสามารถ ทางภาษาองั กฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรีกอ่ นสาเร็จการศกึ ษา พ.ศ.2560 3.1.7 ตามประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานความสามารถ ทางภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปรญิ ญาตรีกอ่ นสาเรจ็ การศึกษา (ฉบบั ท่2ี ) พ.ศ.2562

110 หมวดที่ 6 กำรพฒั นำคณำจำรย์ 1. กำรเตรียมกำรสำหรับอำจำรย์ใหม่ 1.1 การปฐมนิเทศแนะแนวการเป็นอาจารย์ใหม่ ให้มีความรู้และเข้าใจนโยบายของมหาวิทยาลัย/คณะ รวมทั้งหลกั สตู รและการจดั การเรยี นการสอน การวจิ ัย และการประกันคุณภาพ 1.1 การฝึกอบรมอาจารยใ์ หมด่ า้ นการจัดการเรยี นการสอน กลยุทธก์ ารสอน การวัดประเมินผล 1.3 การพัฒนาด้านการวิจัย การจัดเงินทนุ สาหรบั นักวิจัยหน้าใหม่ เพื่อผลิตผลงานวิจยั และการเข้าร่วม เปน็ คณะผวู้ จิ ัยรว่ มกับนกั วจิ ยั อาวุโส 2. กำรพฒั นำควำมรู้และทกั ษะใหแ้ ก่อำจำรยป์ ระจำ 2.1 กำรพัฒนำทกั ษะกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรวดั และกำรประเมนิ ผล 2.1.1 จัดให้มีการฝึกอบรมเพ่ือเพิ่มทักษะการจัดการด้านการเรียนการสอน เช่น การจัดทาส่ือ การสอน การวดั ผลและประเมินผลที่ดแี ละทันสมัย การใชโ้ ปรแกรมเฉพาะสาขาในการคานวณผล เปน็ ตน้ 2.1.2 ส่งเสรมิ ให้มีการเพ่ิมพูนความร้ดู ้านการเรียนการสอน เชน่ การประชมุ ทางวชิ าการท้ังในและ ต่างประเทศ เพ่ือเพ่ิมประสบการณแ์ ละพัฒนาทกั ษะการจัดการเรยี นการสอนอย่างตอ่ เนื่อง 2.2 กำรพัฒนำวิชำกำรและวิชำชพี ดำ้ นต่ำง ๆ 2.2.1 ส่งเสริมให้มีการเพิ่มพูนความรู้ เช่น การฝึกอบรม การดูงานทางวิชาการ และวิชาชีพใน องค์กรอนื่ ๆ การประชุมทางวิชาการทัง้ ในและต่างประเทศ เพ่ือเพม่ิ ประสบการณ์การวจิ ยั และการ บริการวชิ าการ 2.2.2 สนับสนุนให้อาจารย์เข้ารับประสบการณ์ตรง ณ สถานประกอบการตามนโยบายของ มหาวทิ ยาลัยฯ 2.2.3 ส่งเสริมการทาผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ในสาขาวชิ าเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพ่อื การศกึ ษา 2.2.4 มีการกระตนุ้ อาจารยเ์ ข้ารว่ มทางานเป็นกลมุ่ วิจยั และสร้างเครือขา่ ย 2.2.5 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมบริการวิชาการ โดยเฉพาะกับชุมชนท้องถิ่น เพ่ือส่งเสริมให้มีการ พฒั นาวชิ าการเพือ่ ให้เกดิ ประโยชน์ต่อชมุ ชน

111 หมวดที่ 7 กำรประกันคณุ ภำพหลักสตู ร 1. กำรกำกบั มำตรฐำน เพื่อให้การดาเนินการจดั การเรียนการสอนของหลกั สูตรศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพ่ือการศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) ได้มาตรฐานทางการศึกษา และมาตรฐานวิชาชีพ คณะกรรมการได้ดาเนินการกากบั มาตรฐานของหลกั สูตรดงั น้ี 1.1 กำรบริหำรจดั กำรหลักสูตรตำมเกณฑม์ ำตรฐำนท่ีกำหนด การบริหารจัดการหลักสูตรให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานท่ีกาหนด ทาให้ผลิตบัณฑิตท่ีมี คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ คณะกรรมการจึงได้กาหนดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดบั หลกั สตู ร ดังน้ี 1.1.1 ดาเนินการบริหารจัดการหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือ การศึกษา (4 ปี) (หลกั สตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. 2562) เปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดบั อดุ มศึกษา พ.ศ. 2558 ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ตามมาตรฐานคุณวุฒิ สาขาครุศาสตร์และสาขาศึกษาศาสตร์ พ.ศ. 2561 และข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชพี พ.ศ. 2556 1.1.2 ดาเนินงาน และการบริหารจัดการหลักสูตรให้มีความเชื่อมโยงกับปรัชญา ปณิธาน เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของท้ังมหาวิทยาลัยฯ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และภาควิชาเทคโนโลยีและส่ือสาร การศึกษาและให้สอดคล้องกับตวั บง่ ชีผ้ ลการดาเนนิ งานทง้ั 14 ตวั บง่ ช้ที ่ีมาตรฐานคณุ วุฒิสาขาวชิ าชพี กาหนด 1.1.3 ดาเนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตรให้เป็นไปตามวงรอบการศึกษาใน แต่ละปีการศกึ ษา และจดั ทารายงานการประกนั คุณภาพการศกึ ษาของหลกั สตู ร 1.1.4 การบริหารการจัดการหลักสูตร เพ่ือให้การดาเนินงานการบริหารหลักสูตรเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย และมีประสทิ ธภิ าพ ได้มาตรฐานคุณภาพตามท่กี าหนดไว้ คณะกรรมการจึงมีการดาเนนิ การ กากับมาตรฐานในการบริหารหลักสตู ร ดงั น้ี 1) คณะกรรมการหลักสูตร กาหนดนโยบายการจัดการศึกษา การวัดผลและการประเมินผล รวมท้ังการควบคุมคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์ มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558 มาตรฐานคุณวุฒิสาขาครุศาสตร์และสาขา ศกึ ษาศาสตร์ พ.ศ. 2561 และข้อบังคบั ครุ สุ ภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556 2) แต่งต้ังคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ทาหน้าที่วางแผนบริหารหลักสูตร การจัดการเรียน การสอน การตดิ ตามประเมนิ ผล การควบคมุ คุณภาพ และการพัฒนาหลักสูตร 3) แต่งต้ังคณะกรรมการรับผิดชอบหลักสูตรทาหน้าที่ดาเนินการจัดการเรียนการสอน การประเมินผล และเสนอผลการจัดการเรียนการสอนทุกรายวิชาที่เปิดสอนต่ อคณะ กรรมการบริหารหลักสตู ร

112 4) แต่งตงั้ ผู้ประสานรายวิชา รับผิดชอบในการดาเนินการจัดการเรียนการสอนในแต่ละรายวชิ า ให้เป็นไปตามรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของการฝึกประสบการณ์ภาคสนาม (ปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา) 5) แต่งต้ังคณะกรรมการทวนสอบระดับรายวิชาและระดับหลักสูตร ทาหน้าท่ีทวนสอบและ ประเมนิ ผลการจัดการเรยี นการสอนแตล่ ะรายวิชาในหลักสตู ร 2. บัณฑิต หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) มงุ่ เนน้ การผลิตครูนักปฏบิ ัติการมอื อาชีพที่มคี วามเป็นเลิศทางดา้ นความรู้ ทกั ษะ และความชานาญ ทาง ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา วิทยาการคานวณ การออแบบเทคโนโลยี โดยบูรณาการวิชาการ จดั การเรยี นรู้ กบั หลกั วชิ าวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพอ่ื เผยแพรส่ สู่ งั คม และมคี ุณธรรมและจรรยาบรรณ วิชาชีพ โดยอยู่ในกากับดูแลของคณะกรรมการรับผิดชอบหลักสูตร และผู้บริหารระดับภาควิชาฯ และคณะฯ และได้ดาเนินการเพือ่ ประกันคณุ ภาพบัณฑติ ดังนี้ 2.1 คณุ ภำพบณั ฑติ ตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิระดับอดุ มศึกษำแห่งชำติ หลักสูตรผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่ งชาติ สาขาครุศาสตรแ์ ละสาขาศึกษาศาสตร์ พ.ศ. 2561 โดยมผี ลลพั ธ์การเรียนรู้ 6 ดา้ น 2.2 กำรไดง้ ำนทำ บณั ฑิตทีส่ าเรจ็ การศกึ ษาหลักสูตรศกึ ษาศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ าเทคโนโลยีดิจทิ ัลเพือ่ การศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) สามารถไปประกอบอาชีพครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี นักวิชาการศึกษา นักวิเคราะห์ และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ดูแลและบริหารฐานข้อมูล นักออกแบบคอมพวิ เตอร์กราฟิก/พฒั นาแอพพลิเคชนั เพ่ือการศึกษา นักบริหารงาน นักวิชาการวัฒนธรรม หรือเปดิ กิจการเปน็ ของตนเองทีม่ ีรายได้ 3. นกั ศึกษำ บุคคลท่ีไดร้ ับคัดเลือกเป็นนักศึกษาในหลักสูตร ตอ้ งมีคุณสมบัติและความพร้อมในการเรียนตลอดหลักสูตร จนสาเร็จการศึกษาตามเวลาที่กาหนด หลักสูตรมีการดาเนินการเพื่อประกันคณุ ภาพนกั ศกึ ษา ดังนี้ 3.1 กำรรับนักศกึ ษำ เกณฑใ์ นการรับนกั ศกึ ษาหลกั สูตรได้กาหนดให้มกี ารรบั นักศึกษาใน 5 ข่องทาง คือ 3.1.1 ระบบการรับคัดเลือกแบบแฟ้มประวัติ (Portfolio) การรับนักศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบ การสอบคัดเลือกแบบโควตาของมหาวิทยาลัยฯ วุฒิท่ีรับผู้สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ /คณิตศาสตร์ /คอมพิวเตอร์ /เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไป ตามดุลยพินิจของคณะกรรมการประจาหลักสูตร หรือสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตร วชิ าชีพ (ปวช.) ประเภทวิชา คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ โดยใช้กาหนดใหม้ ีการทดสอบด้วย ข้อสอบวัดแววครู สอบสัมภาษณ์ และผ่านทดสอบวัดคุณลักษณะความเป็นครูตามเกณฑ์ท่ี กาหนด

113 3.1.2 ระบบการรับคัดเลือกแบบโควตา การรับนักศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการสอบคัดเลือก เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยฯ หรือการคัดเลือกตามวิธีการที่มหาวิทยาลัย กาหนด วฒุ ทิ ี่ รับผูส้ าเร็จการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ /คณิตศาสตร์ /คอมพิวเตอร์ /เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของคณะกรรมการ ประจาหลักสูตร หรือสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชา คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยใช้กาหนดให้มีการทดสอบด้วยข้อสอบวัดแววครู สอบ สัมภาษณ์ และผา่ นทดสอบวัดคุณลักษณะความเป็นครตู ามเกณฑท์ ก่ี าหนด 3.1.3 ระบบการรับคัดเลือกแบบรับตรงร่วมกัน การรับนักศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการสอบ คัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยฯ หรือการคัดเลือกตามวิธีการท่ี มหาวทิ ยาลยั กาหนด วุฒิที่ รับผู้สาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ /คณิตศาสตร์ /คอมพิวเตอร์ /เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของ คณะกรรมการประจาหลักสูตร หรือสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวชิ า คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ โดยใชก้ าหนดให้มกี ารทดสอบด้วยข้อสอบวัดแววครู สอบสัมภาษณ์ และผา่ นทดสอบวดั คุณลักษณะความเปน็ ครูตามเกณฑ์ท่กี าหนด 3.1.4 ระบบการรับคัดเลือกแบบแอดมิสชัน การรับนักศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการสอบ คัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยฯ หรือการคัดเลือกตามวิธีการท่ี มหาวิทยาลัยกาหนด วุฒิท่ี รับผู้สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ /คณิตศาสตร์ /คอมพิวเตอร์ /เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามดุลยพนิ จิ ของคณะกรรมการประจาหลักสูตร หรือสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชา คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ โดยใชก้ าหนดใหม้ กี ารทดสอบด้วยขอ้ สอบวัดแววครู สอบสัมภาษณ์ และผา่ นทดสอบวดั คุณลกั ษณะความเปน็ ครตู ามเกณฑ์ทก่ี าหนด 3.1.5 ระบบการรับคัดเลือกแบบรับตรงอิสระ การรับนักศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการสอบ คัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยฯ หรือการคัดเลือกตามวิธีการที่ มหาวิทยาลัยกาหนด วุฒิท่ี รับผู้สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ /คณิตศาสตร์ /คอมพิวเตอร์ /เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามดลุ ยพินิจ ของคณะกรรมการประจาหลักสูตร หรือสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชา คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ธุรกจิ โดยใชก้ าหนดให้มีการทดสอบด้วยข้อสอบวดั แววครู สอบสมั ภาษณ์ และผา่ นทดสอบวัดคุณลกั ษณะความเป็นครตู ามเกณฑท์ ก่ี าหนด

114 3.2 กำรส่งเสริมและกำรพฒั นำนกั ศึกษำ เป็นการเตรียมนักศึกษาให้มีความพร้อมทางการเรียน เพื่อเพ่ิมทักษะในการเรียนรู้ที่จะส่งผลต่อ อัตราการสาเร็จการศึกษา และความพึงพอใจต่อหลักสูตร โดยมีการพัฒนานักศึกษาอย่างต่อเน่ืองตลอด ระยะ 4 ปี หลกั สูตรไดด้ าเนนิ การดงั นี้ 3.2.1 หลักสูตรไดเ้ ตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาก่อนเข้าศึกษา โดยจัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ เพอ่ื แนะนา และสรา้ งความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ระบบการเรยี นการสอนในระดบั มหาวทิ ยาลัยฯ 3.2.2 ปรับความรู้และทักษะพื้นฐานสาหรับนักศึกษาท่ีมีพ้ืนฐานต่ากว่าเกณฑ์ หรือตามความ เหน็ ชอบของคณะกรรมการหลกั สตู ร 3.2.3 ให้ความสาคัญกับระบบการให้คาปรึกษา โดยมีการแต่งตง้ั อาจารย์ท่ีปรึกษาให้กับนักศึกษา ทกุ กลุม่ เพ่อื ทาหน้าท่ีตดิ ตาม ดูแล ตักเตอื น และให้คาแนะนาแก่นกั ศึกษา ตงั้ แต่ชน้ั ปที ี่ 1-4 3.2.4 ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยจัดกิจกรรมเสริม ความเป็นครู (Teacher Enhancing Activities) เพ่ือให้สอดคล้องกับมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ สาขาครุศาสตร์และสาขาศึกษาศาสตร์ พ.ศ. 2561 และมาตรฐานการ ผลติ บณั ฑติ ตามมหาวิทยาลัยกาหนด 3.3 ผลท่ีเกดิ กบั นกั ศกึ ษำ 3.3.1 การคงอย่ขู องนักศึกษาในหลกั สูตรอย่ใู นระดบั สงู 3.3.2 การสาเรจ็ การศกึ ษาเป็นไปตามแผนระยะเวลาทก่ี าหนด 3.3.3 ความพึงพอใจในการจดั การเรยี นการสอนในหลกั สตู รอย่ใู นระดบั สูง 3.3.4 คุณภาพของนักศึกษา และบัณฑิตท่ีสาเร็จการศึกษา โดยภาวการณ์มีงานทาและความพึง พอใจของผู้ใช้บณั ฑิตอยใู่ นระดบั สูง 3.4 กำรอุทธรณข์ องนักศกึ ษำ 3.4.1 กรณีที่นักศึกษามีความสงสัยเก่ียวกับผลการประเมินในรายวิชาใดสามารถท่ีจะย่ืนคาร้อง ขอดูกระดาษคาตอบในการสอบ ตลอดจนดูคะแนนและวิธีการประเมินของอาจารย์ในแต่ละ รายวชิ าได้ 3.4.2 นกั ศกึ ษาสามารถเสนอความคดิ เหน็ ในดา้ นการสอนของอาจารย์ 3.4.3 นกั ศึกษาสามารถอุทธรณใ์ นกรณที ่ีไม่ได้รบั ความยตุ ธิ รรม หมำยเหตุ นกั ศึกษาสามารถร้องเรียนได้ทางเว็บไซต์ของคณะฯ หรอื ทางตรู้ ับความคดิ เห็น

115 4. อำจำรย์ อาจารย์เปน็ ปจั จัยท่ีสาคัญในการผลิตบณั ฑิต จึงมีความจาเปน็ อยา่ งย่ิงในการคัดเลอื กอาจารย์ให้ได้อาจารย์ ที่มีคุณภาพเหมาะสมสอดคล้องกับบริบท ปรัชญา วิสัยทัศน์ ของสถาบันและหลักสูตร จึงต้องมีการวางระบบ ประกันคุณภาพเพื่อให้ได้อาจารย์ที่มีคุณสมบัติท้ังเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน หลักสูตรปริญญาตรี พ.ศ. 2558 และเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยฯ กาหนดไว้ ตลอดจนมีการพัฒนาศักยภาพ อาจารย์ให้สูงยิง่ ขึ้น 4.1 กำรบริหำรอำจำรย์ การคัดเลือกอาจารย์ใหม่ หลักสูตรได้ดาเนินการตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยการกาหนดคุณสมบัติของอาจารย์ใหม่ให้เป็นไปตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558 และเกณฑ์ของ มหาวทิ ยาลยั ฯ ท่ีไดก้ าหนดไว้ ดงั นี้ 4.1.1 สาเร็จการศกึ ษาอยา่ งน้อยระดับปรญิ ญาโท ในสาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง โดยกาหนดให้มีวุฒิทางการศึกษา ในระดับใดระดับหนึ่ง และมี ประสบการณท์ างานด้านการสอนมาไมต่ า่ กวา่ 2 ปี 4.1.2 มีคะแนนทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษได้ตามเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการการ อดุ มศกึ ษา เรือ่ ง มาตรฐานความสามารถภาษาองั กฤษของอาจารยป์ ระจา 4.2 กำรพัฒนำอำจำรยใ์ หม่ อาจารย์ใหม่ของหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) ทุกคนจะได้รับการเตรียมความพร้อมในการเป็นอาจารย์ใหม่ทั้งในระดับ มหาวิทยาลัย และระดับคณะ หรอื ภาควชิ า โดยจะมกี ารเตรียมความพร้อมใหก้ บั อาจารยใ์ หม่ดังที่ระบุไว้ใน หมวดที่ 6 ข้อที่ 1 4.3 กำรพฒั นำอำจำรยป์ ระจำ 4.3.1 กำรพัฒนำทักษะกำรจดั กำรเรียนกำรสอน กำรวัดและกำรประเมินผล 1) จัดให้มีการฝึกอบรมเพ่ือเพิ่มทักษะการจัดการด้านการเรียนการสอน เช่น การจัดทาส่ือ การสอน การวัดผลและประเมินผลท่ีดีและทันสมัย การใช้โปรแกรมเฉพาะสาขาในการ คานวณผล เปน็ ต้น 2) สง่ เสริมให้มีการเพ่ิมพูนความรู้ดา้ นการเรียนการสอน เช่น การประชุมทางวิชาการท้ังใน และต่างประเทศ เพ่ือเพ่ิมประสบการณ์และพัฒนาทักษะการจัดการเรียนการสอนอย่าง ต่อเนื่อง 4.3.2 กำรพัฒนำวชิ ำกำรและวิชำชพี ด้ำนตำ่ ง ๆ 1) ส่งเสริมให้มีการเพ่ิมพูนความรู้ เช่น การฝึกอบรม การดงู านทางวิชาการ และวิชาชีพใน องค์กรอื่นๆ การประชุมทางวิชาการท้ังในและต่างประเทศ เพ่ือเพิ่มประสบการณ์การวิจัย และการบรกิ ารวชิ าการ 2) สนับสนุนให้อาจารย์เข้ารับประสบการณ์ตรง ณ สถานประกอบการตามนโยบายของ มหาวิทยาลยั ฯ

116 3) ส่งเสริมการทาผลงานทางวิชาการของอาจารย์ในสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือ การศึกษา 4) มกี ารกระตนุ้ อาจารย์เขา้ รว่ มทางานเป็นกลุม่ วจิ ยั และสรา้ งเครือข่าย 5) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมบริการวิชาการ โดยเฉพาะกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้มี การพัฒนาวิชาการเพ่อื ให้เกิดประโยชนต์ ่อชุมชน 5. หลักสูตร กำรเรยี นกำรสอน กำรประเมนิ ผู้เรยี น คณะกรรมการไดด้ าเนนิ การจัดทาหลักสูตรศกึ ษาศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชาเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพื่อการศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2558 ตาม กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ตามมาตรฐานคุณวุฒิสาขาครุศาสตร์และสาขา ศึกษาศาสตร์พ.ศ. 2561 และข้อบังคับคุรุสภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556 โดยมีระบบการเปิด-ปดิ หลักสูตรเป็นไปตามแนวปฏิบัติของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และมีคาสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการ พฒั นาหลกั สตู ร และคณะกรรมการรบั ผดิ ชอบหลักสตู รในการดาเนนิ งานเพื่อนาหลกั สูตรไปใช้ 5.1 กำรบรหิ ำรจัดกำรหลักสตู ร 5.1.1 ออกแบบร่างหลักสูตร โดยแต่งตั้งคาส่ังคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร และคณะกรรมการ รับผิดชอบหลักสูตร ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2558 ตามกรอบ มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ตามมาตรฐานคุณวุฒิสาขาครุศาสตร์และ สาขาศึกษาศาสตร์พ.ศ. 2561 และข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 และ สอดคล้องกับแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2551-2565) และแผนพัฒนา เศรษฐกจิ สังคมแห่งชาติฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ.2559-2564) ที่กล่าวถึงการพฒั นาคุณภาพและสงั คมไทย สู่สังคมแหง่ ภูมิปัญญาและการเรียนรู้ รวมท้ังประยุกต์ใช้ศลิ ปวัฒนธรรมมาพฒั นาสังคม และประเทศชาติท่ีสนองต่อความต้องการของหน่วยงานทั้งภาครัฐบาลและเอกชน มีวตั ถุประสงค์ เพ่ือผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความชานาญ สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ครูผู้สอนและฝึกอบรม สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา พร้อมท้ังมีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามจรรยาบรรณ วชิ าชพี สอดคล้องกบั การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 5.1.2 การบริหารจัดการหลักสูตร คณะกรรมการประจาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม เห็นชอบใน หลักสูตร นาเสนอต่อคณะกรรมการด้านหลักสูตรและการเรียนการสอนของสภามหาวิทยาลัยฯ เพือ่ ให้ความเห็นชอบกรอบโครงสรา้ งของหลกั สตู ร 5.1.3 ดาเนินการวิพากษ์หลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก องค์กรวิชาชีพ ผู้ใช้บัณฑิต และศิษย์ เก่า เพื่อนาเสนอต่อคณะกรรมการบริหารวิชาการและวิจัย คณะกรรมการสภาวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะกรรมการด้านหลักสูตรและการเรียนการสอนของ สภามหาวิทยาลัยฯ และคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พิจารณาให้ ความเหน็ ชอบ และดาเนินการเปดิ ใช้หลกั สตู ร