คุณแม่พยับ เอิบอาบ ชาตะ - - พ.ศ. ๒๔๗๕ มรณะ ๓ พ.ค พ.ศ. ๒๕๖๓
สำนกึ ในพระมหากรุณาธิคณุ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม พระราชทานเพลิงศพ นาง พยับ เอิบอาบ ซ่ึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อม เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูล อยา่ งหาที่สดุ มไิ ด้ หากความทราบโดยญาณวถิ ถี งึ ดวงวญิ ญาณของนาง พยับ เอิบอาบ ได้ด้วยประการใดในสัมปรายภพคงจะมีความปลาบปล้ืมซาบซ้ึงเป็น ล้นพ้นในพระมหากรุณาธิคุณ ท่ีได้รับพระราชทานเกียรติอันสูงยิ่งใน วาระสดุ ท้ายแหง่ ชีวิต ข้าพระพุทธเจ้า ผู้เป็น บุตร ธิดา และหลานๆ ขอพระราชทาน กราบถวายบังคมแทบเบ้ืองพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด้ และจะเทดิ ทนู ไว้ เหนอื เกลา้ เหนอื กระหมอ่ ม เปน็ สรรพสริ ิ สวสั ดพ์ิ ิพฒั นมงคลแก่ข้าพระพทุ ธเจา้ และวงศต์ ระกูล ตลอดไป ´ŒÇÂà¡ÅŒÒ´ÇŒ ¡ÃÐËÁ‹ÍÁ ¢ÍപРขา้ พระพุทธเจา้ “ครอบครวั เอบิ อาบ”
ประวัตคิ ุณแม่พยับ เอบิ อาบ แม่พยับ เอิบอาบ เป็นบุตรคนโตของก๋งกุ่ยฮ้ี ยาย เถ่าฟ้า แซ่แป๊ะ มีพี่น้องรวม ๘ คน แมพ่ ยับเกดิ ท่บี ้านคลอง ๑๐ ต.บงึ สน่นั อ.ธัญบรุ ี จ.ปทมุ ธานี เม่อื วันองั คาร ปวี อก พ.ศ. ๒๔๗๕ (วันที่ และเดือน แม่บอกว่าจำไม่ได)้ แมเ่ ลา่ ใหล้ กู ๆ ฟงั เรอื่ งราวของแมเ่ สมอ ดว้ ยเจตนาของแมต่ อ้ งการใหล้ กู ๆ ดูวิถีการดำเนินชีวิตของแม่เป็นตัวอย่าง แม่เล่าว่าวัยเด็ก แม่เข้ารับการศึกษาท่ี โรงเรยี นวัดขมุ แกว้ คลอง ๑๐ ต.บงึ สนั่น อ.ธญั บรุ ี จ. ปทมุ ธานี จนจบชน้ั ประถม ศึกษาปีท่ี ๔ ซึ่งเป็นช้ันสูงสุดของโรงเรียน ด้วยแม่เป็นเด็กท่ีเรียนเก่งมาก พอแม่ เรียนจบช้ันป.๔ ครูใหญ่ของโรงเรียนวัดขุมแก้วในสมัยน้ันได้มาขอยายเถ่าฟ้า
ให้แม่ไปเป็นครูสอนหนังสือเด็กๆ ในโรงเรียน แต่ด้วยที่บ้านยายเถ่าฟ้ามีอาชีพ ค้าขายจึงไม่อนุญาตให้แม่ไปเป็นครู แม่จึงได้ช่วยอาก๋งกับยายค้าขาย จนถึงวัย อันสมควรแม่จึงได้สมรสกับเต่ียพิพัฒน์ เอิบอาบ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เต่ยี ได้รับการคัดเลือกจากชาวบ้านให้เป็นผูใ้ หญ่บา้ น หมูท่ ่ี ๒ ตำบล บงึ สนัน่ อำเภอธัญบรุ ี จงั หวดั ปทมุ ธานี เมื่อแม่มาใช้ชีวิตคู่กับเต่ีย แม่ต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เพราะด้วยฐานะของเต่ียค่อนข้าง ยากจน แม่ตอ้ งพยายามสรา้ งฐานะ เคียงคู่กับเต่ียโดยไม่ย่อท้ออะไรที่ ทำให้เกิดเป็นเม็ดเงินได้แม่ก็ทำโดย ไม่คิดถึงความเหน็ดเหนื่อย ด้วย ความโชคดีของเต่ียและแม่ เต่ียและ แม่ได้อาศัยท่ีของกรมชลประทาน ปลูกบ้านที่ริมคลองทำให้สะดวกกับ การประกอบอาชีพเน่ืองจากสมัยนั้นชาวบ้านจะใช้การสัญจรไปมาทางเรือ แม่จึง ยดึ อาชีพคา้ ขายของชำ รับจ้างตัดเยบ็ เสือ้ ผ้า ทำผม ทำขนมขาย ลกู ค้าของแมจ่ ะ มาซ้ือของโดยใช้เรือมาจอดที่หน้าบ้าน รวมถึงการที่แม่เป็นผู้ที่มีอัธยาศัยไมตรีกับ ทกุ คน แมย่ ม้ิ งา่ ยพดู คยุ กบั ทกุ คนดว้ ยถอ้ ยคำทไี่ พเราะ ทำใหก้ จิ การของแมไ่ ปดว้ ยดี เต่ียและแม่จึงเพิ่มอาชีพตามถนัดของเตี่ยคือการเช่าที่ทำนา ทำสวนส้ม ถึงแม้ว่า แม่จะพยายามสร้างฐานะด้วยความแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่แม่ก็ไม่ร่ำรวย เพราะ แมม่ ภี าระตอ้ งเลยี้ งดลู กู ๆ ของแมซ่ ง่ึ มรี วมทงั้ สน้ิ ๘ คน ดว้ ยจติ อนั แนว่ แนข่ องแมว่ า่ จะต้องเล้ียงลูกๆของแม่ท้ังหมดให้เป็นคนดี มีหน้าท่ีการงานท่ีดีจะได้ไม่ลำบาก
เหมือนกับแม่ คำๆ หนึ่งของแม่ที่มักจะพูดกับลูกๆ เสมอว่า แม่ไม่มีสมบัติท่ีจะให้ ลกู ได้นอกจากการศึกษาขอใหล้ ูกๆ ทุกคนตัง้ ใจเรียนให้ดีนะ ดว้ ยคำพูดของแม่และ การเปน็ แมต่ วั อยา่ งของลกู ๆ ทำใหล้ กู ๆ ของแม่ ทง้ั ๘ คนไดจ้ บการศกึ ษาขน้ั สงู ตาม ความสามารถของแต่ละคน ลกู ๆ ทกุ คนจงึ มอี าชพี และหน้าทกี่ ารงานสามารถเลีย้ ง ตัวและครอบครัวได้เป็นอย่างดี ทำให้แม่ภาคภูมิใจในตัวลูกๆ ทุกคร้ังที่ลูกๆ มารวมตวั กนั ครงั้ ใด แมจ่ ะนง่ั มองลกู ๆ และยม้ิ อยา่ งมคี วามสขุ สงิ่ นนั้ มนั คอื สง่ิ ทแี่ ม่ ภาคภูมิที่แม่จนๆ คนหน่ึงสามารถสร้างลูกด้วยมือของแม่เอง พวกลูกๆ เห็นแม่มี ความสุขได้ไม่นานนัก ในปีพ.ศ.๒๕๕๑ เตี่ยได้จากแม่ไป ทำให้แม่เหงาไปบ้าง เพราะการใชช้ ีวติ รว่ มกับเตีย่ มานาน ตอ่ มาแมเ่ กิดอาการหลงลมื เนอื่ งอายแุ ม่มากขึ้น ลกู ๆ ไดน้ ำเรอื่ งราวของ แม่ไปปรึกษาหมอท่ีดูแลแม่อยู่ หมอได้แนะนำให้หากิจกรรมให้แม่ทำ ลูกๆ จึงได้ ปรึกษากันให้แม่มีกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและมีความสุขเป็นส่ิงท่ีแม่ชอบ คือการร้องเพลง แม่ชอบฟังเพลงและร้องเพลงเล่น ลูกๆ จึงได้ทำห้องคาราโอเกะ ไว้ในบ้านให้แม่ได้ร้องเล่นยามเหงา ทั้งเป็นการพัฒนาสมองให้แม่มีความจำท่ีดีข้ึน ลูกๆ สังเกตดูแม่มีความสุขข้ึน คร้ังใดที่ลูกๆ หลานมารวมตัวกันที่บ้านแม่จะร้อง เพลงให้ฟัง หรือเมื่อมีงานเล้ียงสังสรรค์ในหมู่เครือญาติแม่จะได้รับเชิญร้องเพลง เป็นประจำ โดยแม่มีเพลงโปรดท่ีแม่จะร้องเป็นประจำ คือเพลง ค่าน้ำนม, เพลง ครวญ และเพลงจดหมายจากแม่ ในช่วงระยะน้ีดูสุขภาพของแม่ดีขึ้นตามลำดับ ดูแมแ่ ข็งแรงขนึ้ เมือ่ เวลาท่ีลกู คนไหนว่างในชว่ งวนั หยุดหรอื วนั พเิ ศษลกู ๆ ก็จะพา แม่ไปเท่ียวพักผ่อนตามต่างจังหวัด แต่ที่แม่ชอบไปมากคือการไปไหว้พระทำบุญ ลูกๆ ต่างช่วยกันดูแลแม่ท้ังด้านสุขภาพกายสุขภาพจิต แต่เป็นเพราะแม่ทำงาน หนกั มาตลอดท้งั ชีวิต ทง้ั แม่ยงั มไี ตขา้ งเดยี ว และแม่เคยเข้ารบั การผ่าตดั สะโพกถึง สองคร้ัง มีการผ่าตัดน่ิวในถุงน้ำดี พอแม่มีอายุเข้าสู่วัย ๘๐ ร่างกายแม่เร่ิมทรุด
โทรมมากขึ้น ทำให้แม่ไม่ชอบเดินทางไปเท่ียว เมื่อลูกๆ จะพาแม่ไปเที่ยวอย่าง เช่นเคย แม่ไม่ค่อยยอมไปหรือถ้าไปก็จะไปเที่ยวท่ีใกล้ๆ บ้านเท่านั้น สังเกตดู แม่ชอบนอนพักผ่อนหรือนั่งเล่นอยู่ในบ้านทำให้อาการของแม่ไม่สดช่ืนลูกๆ ได้พาแม่ไปพบแพทย์ท่ีโรงพยาบาล ศิริราชตามท่ีแพทย์นัด และรับประทานยา ตามทแี่ พทยก์ ำหนด ลกู ๆ ยงั หวงั วา่ แมค่ งจะแขง็ แรงเหมอื นเดมิ แตด่ ว้ ยอายแุ มม่ าก และการท่ีแม่ทำงานหนักมาโดยตลอด ซ้ำอวัยวะในร่างกายของแม่มีไม่ครบ เหมือนคนอ่ืน ทำให้แม่มีโรคแทรกซอ้ นบ่อยๆ แพทยท์ ี่โรงพยาบาลศิรริ าชได้รักษา แมไ่ ปตามอาการ จนปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๒ แมเ่ ริม่ ล้มปว่ ยด้วยโรคชราและมีการตดิ เชื้อในกระแสเลือด เข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลศิริราช จนกระท่ัง วันอาทิตย์ท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ แม่ได้จากลูกๆ หลานๆ ไปอย่างสงบ เม่ือ เวลา ๐๔.๐๐ น. รวมอายไุ ด้ ๘๘ ปี
รายชื่อบุตร- ธิดา และหลานๆ ของแม่ ๑ นางนนั ทยิ า เอบิ อาบ อายุ ๗๑ ปี อาชพี คา้ ขาย สมรสกบั นายสมชาย เออ้ื สขุ เกษม มีบุตร ๒ คน ๑. นายชัยวฒั น์ เอ้ือสุขเกษม อาชีพ เจ้าหน้าท่ีโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ๒. นายสุทธศิ กั ดิ์ เอื้อสขุ เกษม อาชีพ ฝา่ ยเทคนคิ โทรทัศน์ ช่อง ๓ ๒ นายปรีชา เอิบอาบ (เสียชวี ิต) ๓ นาย วสนั ต์ เอบิ อาบ อายุ ๖๗ ปี อาชพี ธรุ กจิ สว่ นตวั สมรสกบั นางลาวลั ย์ เอบิ อาบ มบี ตุ ร ๒ คน ๑. นายสิทธโิ ชค เอบิ อาบ อาชพี กราฟฟกิ ออกแบบโฆษณา สิง่ พิมพ์ สื่อดิจติ อล บรษิ ัท อัลเคมี ไวน์ แอนสปิรติ ส์ ประเทศไทย สมรสกับนางสุรีรัตน์ เอิบอาบ ๒. นายวฒุ ชิ ัย เอบิ อาบ อาชพี นักการตลาดดจิ ิตอล บรษิ ทั สคลดู ิโอ้ จำกัด ๔ พ.ต.อ. เชิงศกั ดิ์ เอบิ อาบ อายุ ๖๕ ปี อาชีพ ข้าราชการบำนาญผู้ประนี ประนอม ประจำศาลจงั หวดั ตราด สมรสกบั นางนิตยา เอิบอาบ มีบุตร - ธดิ า ๒ คน ๑. นายวชั รินทร์ เอบิ อาบ อาชพี ธุรกจิ สว่ นตวั ๒. นางสาวผกาวัลย์ เอบิ อาบ อาชพี ธุรกจิ ส่วนตัว
๕ นางนวลจนั ทร์ อน้ ขวัญเมือง อายุ ๖๔ ปี อาชพี อดีตครูโรงเรียนเอกชน สมรสกับนายคมสัน อน้ ขวัญเมือง (เสียชวี ิต) มีบุตร - ธิดา ๒ คน ๑. นางสาวปาริชาติ อ้นขวญั เมือง อาชีพ ผจู้ ดั การฝ่ายทรัพยากรบคุ คล บรษิ ทั ลงิ โก้เอช (ไทยแลนด)์ จำกัด ๒. นายจาตรุ นต์ อน้ ขวญั เมอื ง อาชพี เจ้าหนา้ ท่ีฝ่ายป้องกนั ความเสยี หาย โรงแรม ซัมเมอร์เซ็ตปาร์ค สวนพลู กรุงเทพฯ ๖ ร.ต.อ.พชิ าติ เอิบอาบ เปน็ ขา้ ราชการตำรวจบำนาญ มธี ิดา ๑ คน ๑. นางสาวชาณิการ์ เอิบอาบ ทำธรุ กิจสว่ นตวั ๗ พล.ต.ต.พิศาล เอิบอาบ ผทู้ รงคุณวุฒิ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ สมรสกบั นางสจุ ิตรา เอบิ อาบ ผู้ตรวจการพยาบาล โรงพยาบาลศิรริ าช มธี ิดา ๑ คน ๑. นางสาวดลพร อุไรวรรณ ๘ นางสาวปุณยวรี ์ เอบิ อาบ อายุ ๕๙ ปี เปน็ ผ้จู ดั การอาวุโส ฝา่ ยค้าหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์แลนแอนด์เฮา้ ส์ จำกดั มหาชน
แม่ คอื ผ้สู รา้ งลกู ดว้ ยสองมือของแมเ่ อง แมม่ ใิ ชจ่ ะเปน็ ผใู้ หก้ ำเนดิ ลกู ๆ เทา่ นนั้ แมย่ งั เปน็ ผทู้ สี่ รา้ งลกู ทกุ คนดว้ ยมอื แมเ่ อง สง่ิ แรก ที่แม่ทำคือแม่ต้องใช้ความอดทนสู้ชีวิตในการหารายได้มาเพ่ือเป็นเลี้ยงดูลูกๆ ให้มีสุขภาพกายสุข จิตที่ดีรวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูก ส่ิงท่ีแม่ต้องการเห็นคือ ลูกทุกคน “ต้องเป็นคนดี ขยัน ซ่ือสัตย์ และอดทน” วิธีการสร้างลูกของแม่ โดยแม่จะใช้วิธีการแบบง่ายๆ คือการทำเป็น ตวั อย่างใหล้ กู เหน็ ดา้ นต่างๆ ได้แก่ แม่ผู้เสียสละยอมอดไดแ้ ตล่ กู ตอ้ งอม่ิ ถึงแมว้ า่ แม่จะตอ้ งทำหน้าที่ค้าขาย เยบ็ ผ้า ทำผม หารายให้เล้ียงครอบครัว แตล่ ะวนั แมไ่ มค่ อ่ ยมเี วลาพกั ผอ่ นหลบั นอนเตม็ ทเ่ี หมอื นคนอนื่ ๆ แตแ่ ม่ ไมเ่ คยละเลยหนา้ ทกี่ ารเปน็ แม่ ทุกวันแม่ต้องต่ืนเช้าเพ่ือมาหุงข้าวทำกับข้าวให้ลูกๆ ได้กินก่อนไป โรงเรียนและเอาใส่ปิ่นโตไปกินที่โรงเรียน พอใกล้เวลาท่ีลูกจะกลับจากโรงเรยี นแมต่ อ้ งรบี วางงาน ทก่ี ำลงั ทำอยเู่ ตรยี มหาอาหารไวใ้ หล้ กู ๆ เนอื่ งจากแมเ่ กรงวา่ ลกู จะหวิ ทุกมื้ออาหารแม่ไม่เคยกินข้าว ก่อนลูกเมื่อทำอาหารเสร็จแม่จะให้ลูก มาน่ังล้อมวงกินข้าวพร้อมกันถ้าขาดคนใดคนหน่ึงแม่ให้ น่ังรอจนกว่าจะมาครบแม่จะน่ังดูลูกๆ กิน แม่จะพูดย้ำเสมอว่าแม่อดได้แต่ลูกต้องอิ่มอาหาร ทล่ี ูกได้กนิ แต่ละม้ือเปน็ อาหารที่แสนวิเศษ เพราะเปน็ อาหารทแี่ มต่ ้งั ใจทำเพ่ือลกู แม่แสนประหยัดอดออม แม่จะพูดเสมอเงินทองหาได้ยากลำบาก ฉะนั้นเมื่อแม่จะใช้ จา่ ยเงนิ แต่ละบาทแต่ละสตางคแ์ มค่ ดิ กอ่ นเสมอว่าการใชไ้ ปแล้วคมุ้ คา่ เพียงใด แม่ไม่เคยจะนำเงนิ ท่ีหาได้ไปใช้ส่วนตัวบางคร้ังแม่อยากจะกินก๋วยเต๋ียวสักชามแม่ยังไม่ยอมซื้อ แม่จะคิดว่าเอาเงิน ค่าก๋วยเตี๋ยวไปซ้ือกับข้าวกินได้ท้ังบ้าน เสื้อที่แม่ใส่แม่จะเก็บเศษผ้ามาตัดต่อเย็บเป็นเสื้อ แม่มีวิธี ปลูกฝังเร่ืองการประหยัดอดออมให้กับลูกๆ โดยใช้วิธีแบบการปฏิบัติจริง เช่น ทุกวันแม่จะให้ค่า ขนมลกู ๆ ทกุ คนคนละหนง่ึ สลงึ (ย่สี ิบหา้ สตางค)์ กอ่ นท่แี มจ่ ะจ่ายตงั คใ์ ห้ลกู ทุกคน แมจ่ ะตัง้ กฎ ไว้ว่าทุกคนต้องกินข้าวเช้าให้เรียบร้อยก่อน และเม่ือรับเงินจำนวนหน่ึงสลึงแล้วถือว่าจบในหน่ึง วนั หา้ มมาขออีก ใครอยากได้อะไรตอ้ งประหยัดเกบ็ เงนิ ทแ่ี มใ่ หไ้ ปหาซือ้ เอง áÁ¼‹ ÙŒáʹʹ·¹ แม่เป็นผู้หญงิ ทฉ่ี ลาดเก่งและแสนอดทน ทกุ วนั นล้ี กู ยงั จำภาพผู้หญิง คนหนึ่งท่ีต้องทำงานตั้งแต่เช้าจนค่ำหรือบางวันแม่ไม่ได้นอนเลย เพราะแม่จะต้องเย็บผ้าท่ีลูกค้า นัดมารับแม่กลัวว่าจะผิดคำพูดกับลูกค้า เม่ือนัดลูกค้ามารับแม่ต้องทำให้เสร็จ เวลากลางวันแม่ ไม่มีเวลาทำ ดังนั้นแม่จึงต้องใช้เวลากลางคืน บ่อยคร้ังพวกเราตื่นมายามดึกจะได้ยินเสียงแม่ถีบ จกั รคนั เกา่ ๆ เสียงดังฟังแล้วรู้สึกสงสารแม่มากแต่พวกเราก็ช่วยแม่ไม่ได้ ถ้าพวกเราตื่นมาดูแม่ แมจ่ ะไลใ่ หไ้ ปนอนเพราะเชา้ ต้องไปโรงเรียน จากการทแ่ี มต่ ้องทำงานหนักทั้งในเวลากลางวนั และ
กลางคืนโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ส่งผลให้แม่เกิดอาการปวดหลังแม่ต้องใช้ยาแก้ปวดกินเป็นประจำ ทำให้ไตของแม่เสียข้างหนึ่งประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๓ แม่เกิดการปวดหลังอย่างหนักเตี่ยส่งแม่ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬา หมอท่ีรักษาแม่บอกกับเตี่ยว่าจำเป็นต้องตัดไต ข้างที่เสีย ของแม่ท้ิงถ้าไม่ตัดทิ้งอาจทำให้แม่เสียชีวิตได้ แต่ถ้าตัดท้ิงแม่อาจมีชีวิตอยู่ได้สัก ๔-๕ ปี แต่แม่ ไม่ยอมทิ้งลูกๆ ไปง่ายๆ เพราะแม่ยังส่งลูกไม่ถึงฝั่ง แม่ใช้ความอดทนต่อสู้กับชีวิตที่ร่างกายมีไต ขา้ งเดยี ว ดว้ ยความอดทนอย่างแรงกล้าของแม่ แมส่ ามารถอยกู่ ับลกู ๆ ได้นานถงึ ๕๐ ปี แม่ผู้มีน้ำใจเป็นเลิศ ถึงแม้ว่าในแต่ละวันแม่ไม่เคยว่างด้วยภาระหน้าที่มากมายของแม่ แมย่ งั เปน็ ผหู้ ญงิ ทเ่ี ปย่ี มไปดว้ ยนำ้ ใจ เมอื่ ใดทม่ี ผี มู้ าใหแ้ มช่ ว่ ยเหลอื สง่ิ นนั้ จะยากงา่ ยเพยี งใด แมพ่ รอ้ ม จะชว่ ยเหลอื เสมอ ไมม่ กี ารปฏเิ สธ แมค่ ดิ เพยี งวา่ เคา้ เดอื ดรอ้ นกต็ อ้ งชว่ ย เชน่ การนำคนปว่ ยไปหาหมอ ใหผ้ ทู้ เ่ี ดอื ดรอ้ นเรอ่ื งเงนิ หยบิ ยมื โดยไมค่ ดิ อะไร หรอื บา้ นไหนมงี านบญุ ตา่ งๆ เชน่ งานบวช งานแตง่ งานศพ แม่จะไปช่วยเป็นแม่ครัวทำอาหารเล้ียงแขก ด้วยแม่เป็นคนท่ีมีความสามารถด้านการทำ อาหารให้มรี สอร่อย ฉะน้ันทุกงานในยา่ นคลองเกา้ คลองสิบจะมแี มเ่ ป็นแม่ครัวเอกเสมอ แมผ่ มู้ ีจติ เป็นกศุ ล ตัวอย่างอกี ดา้ นหนง่ึ ของแม่ที่ลกู นำมายึดถอื และปฏิบัตติ าม คือการ เปน็ ผทู้ ม่ี จี ติ ใจใฝเ่ รอื่ งบญุ ทกุ เชา้ แมจ่ ะเตรยี มอาหารใสบ่ าตรโดยมพี ระพายเรอื มารบั บาตรทหี่ นา้ บา้ น แมใ่ สบ่ าตรและกรวดนำ้ ทกุ เชา้ หรอื มเี วลาพอจะปลอ่ ยใหล้ กู ๆ ดแู ลตวั เองไดแ้ ลว้ แมจ่ ะไปปฏบิ ตั ธิ รรม ถึงแม้ว่าแม่จะเป็นผู้ท่ีประหยัดอดออม แต่เรื่องการทำบุญแม่จะเต็มใจทำเสมอ แม่ได้นำเงินไป ร่วมสรา้ งโบสถว์ หิ าร สร้างพระประธาน วัดใกล้ไกล หรือเม่ือมีใครมาบอกใหแ้ มร่ ่วมบุญแม่จะร่วม ทำโดยไม่มีการปฏิเสธ ในชีวิตของแม่ถึงแม้ว่าแม่ไม่ได้มีเงินทองมากมายแต่แม่ได้มีโอกาสเป็นเจ้า ภาพทอดกฐินสามัคคใี หก้ ับวดั สมุหราษฎร์บำรุง คลองเกา้ ถึงสองครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเร่ืองราวบางส่วนของแม่ท่ีลูกๆ ภาคภูมิใจและยึดถือเป็นแบบอย่าง ในการดำเนินชีวิต ยังมีเร่ืองราวที่แม่ทำให้เห็นเป็นแบบอย่างอีกมากแต่เน้ือที่ในหนังสือมีจำกัดจึง สามารถเขียนให้อ่านได้เพียงเท่านี้ ด้วยคุณงามความดีของแม่ส่งผลให้แม่ได้รับรางวัล แม่ดีเด่น โครงการวนั แมแ่ หง่ ชาตจิ ากมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั จงั หวดั นครปฐม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ สดุ ทา้ ยขอให้แม่หลับใหส้ บาย ไม่ตอ้ งกงั วลสงิ่ ใดแมเ่ หนอื่ ย มามากแลว้ หวงั วา่ ความดที แี่ มไ่ ดท้ ำมาจะสง่ ผลใหแ้ ม่ ไดไ้ ปจตุ เิ ปน็ นางฟา้ อยบู่ นสวรสวรรค์ หรอื ถา้ ชาตหิ นา้ มจี รงิ ลกู ๆ ขออธษิ ฐานขอให้ไดเ้ กดิ มาเป็นลกู ของแม่ ทุกชาตไิ ป รกั แม่สุดหัวใจ ติ๋ม เปย๊ี ก ชาย ต ู่ ชาต ิ ศาล จิต
เธอ...ผู ้เสียสละ แม้ผืนดิน ผืนแผ่นฟ้า นภากาศ ยังมิอาจ ยิ่งใหญ่กว่า แม่ลูกได้ แม่พยับ..คือ ศูนย์รวม ของดวงใจ แม่จากไป ลูกสุดเหงา เศร้าอาดูร แม่เลี้ยงลูก ทั้งแปดคน ล้นดวงจิต แม่ครุ่นคิด หาเงินมา หนทางไหน แม่มีเพียง ไตหนึ่งข้าง ท่านทำไป ไม่หวั่นไหว ในกายา ให้อาทร แม่ทำผม ดัด-ซอย-เซ็ต เย็บเสื้อผ้า รายได้มา นั้นแสนยาก ลำบากหลาย ทำสวนส้ม ทั้งไร่-นา ใช่..ว่าสบาย แม่ขวนขวาย เพื่อลูกยา ข้าฯ ได้เรียน ขอสรวงสวรรค์ บนฟากฟ้า มากำหนด เกิดกี่ภพ เกิดกี่ชาติ ลูกปรารถนา เป็นลูกแม่ ทุกๆ ชาติ ไม่คลาดครา บุญนำพา สมดั่งจิต ทจี่คาิดกเอลย กู แม่
ใบไม้ใหค้ ุณ... สมนุ ไพรใกลต้ วั สงวนลิขสทิ ธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลขิ สทิ ธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ห้ามคัดลอก ถา่ ยเอกสาร หรอื พิมพ์ หรอื นำาไปเกบ็ ในระบบทส่ี ามารถถ่ายเทขอ้ มลู ได้ ไม่ว่าบางสว่ นหรอื ท้งั หมดของหนงั สอื นี้ โดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต ISBN : 978-616-355-028-6 จำานวนพิมพ์ 5,000 เล่ม ปี พ.ศ. 2565 จัดพมิ พ์โดย 000889 798200009108 342837814980
คน หนงั สอื ใบไมใ้ หค้ ุณ...สมนุ ไพรใกลต้ วั เปน็ ผลงาน “หนงั สือดีมสี าระ” หนึ่งในโครงการสรรหาสาระหนังสือเพื่อผู้อ่านท่ีมีความตั้งใจท่ีจะผลิตหนังสือดี มสี าระในหลากหลายรปู แบบสมนุ ไพรนา่ รู้ การดแู ลสขุ ภาพ ท้งั การป้องกันและ การบำาบัดรักษาอาการโรคต่างๆ และยังมีสาระความรู้เพ่ือปกป้องและรักษา สขุ ภาพขนั้ พน้ื ฐานอนั พงึ มขี องประชาชนทว่ั ไป บรษิ ทั ฯ มคี วามมงุ่ มน่ั ทจ่ี ะคดั สรรหาหนงั สอื ดที ม่ี ปี ระโยชนแ์ ละผลติ เพอ่ื ให้ บรกิ ารทา่ นนาำ ไปเผยแพรใ่ นโอกาสตา่ งๆ ไมว่ า่ จะเปน็ งานวนั คลา้ ยวนั เกดิ งานเกษยี ณ อายุราชการ หรือแม้กระท่งั งานฌาปนกิจและงานพระราชทานเพลิงศพ ท้ังน้ี นอกจากความมุ่งม่ันท่ีจะผลิตหนังสือดีท่ีมีสาระ เพ่ือให้ท่านได้แจกจ่ายเผยแพร่ แล้วทางผู้จัดพิมพ์ยังเช่ือม่ันเสมอว่าสาระที่ได้จากการอ่านจะเป็นประโยชน์ อย่างมหาศาลและตลอดกาล ซึง่ เชอื่ ไดว้ า่ ท่านได้ใหค้ วามรู้เปน็ กศุ ลจิตอนั สงู สดุ บรรณาธกิ าร มณทพิ ย์ เทพวารินทรามาศ
ส รบั สมนุ ไพร เรื่อง หนา้ เรอ่ื ง หนา้ กระเจ๊ยี บแดง 7 เขยตาย 18 กระเจ๊ยี บมอญ 7 คงคาเดือด 19 กระดงั งาไทย 8 คนทีเขมา 19 กระดงั งาสงขลา 8 คนทีสอ 20 กระถนิ 9 คนทีสอทะเล 20 กระทุ่ม 9 ควำา่ ตายหงายเป็น 21 กระเบา 10 คัดเค้าเครือ 21 การบรู 10 คาำ ไทย 22 กาหลง 11 คาำ แสด 22 กุหลาบมอญ 11 เครอื งูเห่า 23 เกลด็ ปลาหมอ 12 แคขาว-แคแดง 23 แกแล 12 โคกกระออม 24 แกว้ 13 งา 24 กระชาย 13 จัน 25 ก้างปลา 14 จาำ ปา 25 ขม้ินชัน 14 จำาปี 26 ขลู่ 15 จิก 26 ข่อย 15 เจตมูลเพลิงขาว 27 ข้าว 16 เจตมูลเพลิงแดง 27 ขา้ วโพด 16 ชะมวง 28 ขงิ 17 ชะเอมไทย 28 ขห้ี นอน 17 ช้าพลู 29 ขี้เหล็ก 18 ชงิ ชา้ ชาลี 29 2 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตัว
ส รบั สมนุ ไพร เร่ือง หน้า เร่ือง หนา้ ชิงเฮา 30 นมสวรรค์ 42 ชุมเหด็ เทศ 30 น้อยหน่า 42 ชมุ เหด็ ไทย ดาวเรือง 31 โนรา 43 ดีปลี 31 บอระเพด็ 43 โดไ่ มร่ ูล้ ม้ 32 บานบรุ ี 44 ตะขบไทย ตะขบปา่ 32 บานไมร่ โู้ รยดอกขาว 44 ตะไครห้ อม 33 บกุ , บุกรอ 45 ตะแบก 33 บุนนาค 45 ตาลโตนด ตมู กาขาว 34 ใบเงนิ -ใบทอง-ใบนาค 46 เตยหอม 34 ประด่ปู า่ 46 ตะขาบหิน 35 ประยงค์ 47 ถว่ั แระ เถาวลั ยเ์ ปรยี ง 35 เปล้านอ้ ย 47 ทรงบาดาล 36 เปล้าใหญ่ 48 ทองพันชัง่ 36 ผกั กาดน้ำา 48 ทับทมิ ทานตะวนั 37 ผักคราดหัวแหวน 49 ทำามัง 37 ผักหนาม 49 ทุ้งฟ้า 38 ผักปลงั 50 เทยี นกง่ิ นมแมว 38 ผักแพวแดง 50 39 ผกั หวานบ้าน 51 39 ฝรั่ง 51 40 ฝาง 52 40 ฝา้ ยสาำ ลี 52 41 พญามูลเหลก็ 53 41 พญาไร้ใบ 53 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมุนไพรใกลต้ วั 3
ส รบั สมุนไพร เรื่อง หนา้ เร่อื ง หนา้ พญาสตั บรรณ 54 มะเด่อื อทุ ุมพร 66 พลบั พลงึ ดอกแดง 54 มะตูม 66 พกิ ลุ 55 มะเฟือง 67 พมิ เสนต้น 55 มะมว่ งหมิ พานต์ 67 พดุ 56 มะรมุ 68 พทุ ธรักษา 56 มะละกอ 68 พทุ รา 57 มะลิ 69 พู่ระหง 57 มะแว้งเครอื 69 เพกา 58 มะแว้งต้น 70 แพงหวย 58 มะหาด 70 ไพล 59 มังคดุ 71 ฟ้าทะลาย 59 มันเทศ 71 มหาหงส์ 60 มา้ กระทืบโรง 72 มะกลา่ำ ตาช้าง 60 โมก 72 มะกลาำ่ ตาหนู 61 โมกบ้าน 73 มะกล่ำาเผอื ก 61 ย่านาง 73 มะกอก 62 โยทะกา 74 มะกา 62 ยางนอ่ งเครอื 74 มะเกลือ 63 รัก 75 มะขาม 63 รางจดื 75 มะขามแขก 64 ราตรี 76 มะขามปอ้ ม 64 เรว่ กระวาน 76 มะคาำ ดีควาย 65 ละหงุ่ 77 มะดนั 65 ลนั่ ทม 77 4 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมุนไพรใกล้ตวั
ส รบั สมุนไพร เรื่อง หนา้ เรื่อง หน้า ลางสาด 78 สาำ รอง 89 ลำาดวน 78 เสนียด 90 ลาำ โพง 79 เสลดพงั พอนตัวผู้ 90 ล้นิ มังกร 79 เสลดพงั พอนตัวเมยี 91 ลน้ิ งเู หา่ 80 แสงจนั ทร์ 91 เล็บมือนาง 80 แสนประสะ 92 วา่ นกอบหอยใหญ่ 81 สลัดได 92 ว่านธรณสี าร 81 หงอนไก่ 93 ว่านพังพอน 82 หญา้ หนวดแมว 93 ว่านมหากาฬ 82 หมอ่ น 94 ว่านหอมแดง 83 หมากแดง 94 สม้ เชา้ 83 หมีเหม็น 95 สม้ ป่อย 84 หว้า 95 สมอไทย 84 หวายขม 96 สมลุ แวง้ 85 ว่างหางจระเข้ 96 สลอด 85 หางนกยูง 97 ส่องฟ้าดง 86 หูเสือ 97 สะเดาบา้ น 86 เหงอื กปลาหมอดอกขาว 98 สันพรา้ หอม 87 อบเชยญวน 99 สาบเสือ 87 อโศก 99 สายนา้ำ ผงึ้ 88 ออ้ 100 สารภี 88 ออ้ ยแดง 100 สาำ มะงา 89 อญั ชัน 101 101 เออื้ งหมายนา ใบไม้ใหค้ ุณ...สมนุ ไพรใกล้ตัว 5
บ กรนน ทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า สมุนไพรไทย มีประโยชน์ มากมาย โดยเฉพาะสรรพคุณทางยา เพ่ือช่วยบรรเทาและรักษา อาการเจ็บไข้ไดป้ ว่ ยต่างๆ ทส่ี ำาคญั สมุนไพรไทย ส่วนใหญ่ยงั สามารถ หาไดท้ วั่ ไป โดยหลายชนดิ กเ็ ปน็ พชื ผกั สวนครวั ทแ่ี ทบทกุ บา้ นจะตอ้ งมี ตดิ ไวเ้ รียกงา่ ยๆ ว่า เปน็ ของดคี บู่ ้านคู่ครวั นั่นเอง มกี ารนาำ มาใช้เปน็ เคร่ืองยา อาหาร เครือ่ งสาำ อาง และอื่น ๆ สว่ นการประกอบอาหาร มกี ารใชพ้ ชื สมนุ ไพร เครอื่ งเทศ และผกั สวนครวั มาใชใ้ นชวี ติ ประจาำ วนั จำานวนหลายชนดิ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรดู กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก ขึ้นช่ือว่าผักสมุนไพร ยังไงก็มีประโยชน์กับร่างกาย ดังนั้น ลองหามาปลกู ตดิ บา้ นไว้ รบั รองวา่ จะได้ใช้ประโยชน์แนน่ อน เพราะ ไม่ใช่แค่ปรงุ อาหารอรอ่ ยๆ เทา่ นน้ั แตย่ ังช่วยบรรเทาอาการเจบ็ ป่วย ต่างๆ ได้ดอี กี ด้วย การปลูกพืชสมุนไพรท่ีเป็นไม้ล้มลุกหรือผักสวนครัว ทำาได้ เช่นเดียวกับการปลูกพืชทั่วๆ ไป แต่ส่ิงสำาคัญคือ สรรพคุณท่ีจะนำา มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำาวัน เป็นภูมิปัญญาไทยที่มีความสำาคัญ และมเี ทคนคิ การใช้ ขอให้ทุกท่านได้เรยี นรู้เร่ืองราวของสมุนไพรไทย ไปกับเราผ่านหนงั สือเล่มนี้ 6 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมนุ ไพรใกลต้ ัว
กร บ ชื่อสามัญ : Roselle ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Hibiscus sabdariffa Linn. ชื่อวงศ์ : MALVACEAE ชือ่ อืน่ : กระเจย๊ี บ กระเจ๊ียบเปร้ียว ผักเกง็ เคง็ ส้มเก็งเค็ง สม้ ตะเลงเครง ลกั ษณะ : ไม้พุ่ม 50-180 ซม. มีหลายพันธุ์ ลำาต้นสีม่วงแดง ใบเดี่ยวรูปฝ่ามือ 3 หรือ 5 แฉก กว้างและยาวใกล้เครียงกัน 8-15 ซม. ดอกเดี่ยว ออกท่ีซอกใบ กลีบดอกสีชมพูหรือเหลือง บริเวณกลางดอก สีมว่ งแดง เกสรตวั ผู้เช่อื มกันเป็นหลอด ผลเปน็ ผลแหง้ แตกได้ มกี ลีบเลย้ี งสีแดงฉำา่ นำ้า หมุ้ ไว้ สรรพคณุ : ใบและยอดอ่อนซึ่งมีรสเปรี้ยว แกไ้ อ เมลด็ บาำ รงุ ธาตุ ขบั ปสั สาวะ กร บม ชอ่ื สามัญ : Lad’s Finger/Okra ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Abelmoschus esculentus (L.) Moench ชอ่ื วงศ์ : MALVACEAE ชื่ออืน่ : มะเขือมอญ กระเจ๊ยี บ มะเขอื ทะวาย มะเขอื พมา่ มะเขือม่ืน มะเขือละโว้ ลักษณะ : ไมล้ ม้ ลกุ สงู 1-2 เมตร ลาำ ตน้ และใบมขี นหยาบ ใบเดย่ี วเรยี งสลบั รปู ฝา่ มอื กวา้ ง 5-25 ซม. ยาว 10-30 ซม. ดอกเดย่ี ว ออกท่ีซอกใบ กลบี ดอกสีเหลือง โคนกลีบ ด้านในสมี ว่ งแดง กา้ นชอู บั เรณตู ดิ กันเปน็ หลอด ผลเปน็ ผลแหง้ แตกได้ รูปทำาเหลยี่ ม สรรพคุณ : ผลแหง้ ป่นชงนำ้า กินบำาบัดโรคกระเพาะอาหาร เนอ่ื งจากมเี พคตนิ และ สารเมือก ชว่ ยเคลือบกระเพาะอาหาร ใบไม้ใหค้ ุณ...สมุนไพรใกล้ตวั 7
กร ั ไ ชื่อสามัญ : Ylang-ylang Tree ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lamk.) Hook f & Th. ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE ชื่ออ่นื : กระดังงา, กระดังงาใบใหญ่, กระดังงาใหญ่, สะบนั งา, สะบนั งาตน้ ลักษณะ : ไม้ยืนต้น สูง 8-15 เมตร ลำาต้นตรง เปลือกต้นเกล้ียงสีเทา ก่ิงมักจะ ลู่ลง ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั รปู วงรหี รอื รูปใบหอกกวา้ ง 5-7 ซม. ยาว 13-20 ซม. ขอบใบ เป็นคลน่ื ดอกช่อออกเปน็ กระจกุ 4-6 ดอกท่ซี อกใบ กลบี ดอกสีเหลืองหรอื เหลืองอม เขยี ว กล่ินหอม ผลเปน็ ผลกล่มุ ผลแกจ่ ะเปล่ียนจาก สเี หลืองอมเขียวเป็นสีดาำ สรรพคณุ : ใบและเน้ือไม้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ ดอกปรงุ เป็นยาหอม แกล้ มวงิ เวียน กร ั ส ล ชื่อสามญั : Dwarf Ylang-ylang ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lamk.) f. & Th Var. fruticosa (Craib) J.Sincl. ชอ่ื วงศ์ : ANNONACEAE ชื่ออน่ื : กระดงั งอ, กระดงั งาเบา, กระดงั งาสาขา ลักษณะ : ไมพ้ ่มุ สูง 1-2.5 เมตร ใบเดีย่ ว เรียงสลับ รปู ไขห่ รือรปู ขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 10-18 ซม. ดอกชอ่ ออกเป็นกระจุก ที่ ปลายก่ิง กลีบดอกสีเขยี วแกมเหลอื ง กลิน่ หอม ผลเป็นผลกลุ่ม สรรพคุณ : ดอกเปน็ ยาหอมบาำ รุงหวั ใจ บาำ รงุ ธาตุ บาำ รุงโลหิต 8 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมนุ ไพรใกล้ตัว
กร น ชื่อสามญั : Wild Tamarind ช่อื วิทยาศาสตร์ : Leucaena glauca Benth. ช่ือวงศ์ : MIMOSACEAE ชือ่ อ่นื : กระถนิ ไทย, กระถน่ิ ดอกขาว, สะตอเทศ, สะตอบ้าน ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่ม ขนาดย่อม ใบประจำากอบแบบขนนก ดอกเล็กๆ อัดแนน่ เป็นกระจกุ กลม เกสรเปน็ พู่สีขาว ฝักแบน ยาว เมล็ดรูปไข่แบน ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดปลูกได้ ทกุ สภาพพ้ืนท่ีท่ัวประเทศ สรรพคุณ : ดอก บำารุงตับ แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา ราก ขับลม ขบั ระดขู าว เปน็ ยาอายุวัฒนะ กร มุ ชอื่ สามญั : Wild cinchona ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Mitragyan hirsute Hav. ชอ่ื วงศ์ : RUBLACEAE ช่อื อื่น : กะท่มุ , กระทุม่ ใหญ,่ กระทุ่มโคก, กระทุ่มพาย, ตมุ้ เขา, ตุ่มพาย ลกั ษณะ : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ใบเด่ียวรูปไข่ คล้ายใบกระท่อม แตใ่ หญ่กวา่ กว้าง 3-4 นิว้ ยาว 4-5 นิ้ว ดอกกลมคล้ายดอกกระถนิ เส้นผา่ ศูนย์กลาง ประมาณ 1 นว้ิ เกสรสเี หลอื งปลายขาว ออกเปน็ ชอ่ เกดิ ตามปา่ เบญจพรรณทว่ั ไป ขยายพนั ธด์ุ ว้ ย เมลด็ สรรพคุณ : ใบ รสขมเฝื่อนเมา แก้ท้องร่วง แก้ ปวดมวนในทอ้ ง ใบไม้ให้คณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตัว 9
กร บ ชื่อสามญั : Chaulmoogra ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Hydnocarpus anthlminthicus Pierre ชอ่ื วงศ์ : FLACOURTIACEAE ชอ่ื อนื่ : กระเบานาำ้ , กระเบาเบา้ แข็ง, กระเบาใหญ,่ กาหลง, เบา ลกั ษณะ : ไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร ใบเด่ียว เรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 10-20 ซม. ดอกเด่ียวหรอื ช่อสนั้ ๆ ออกท่ีซอกใบ แยกเพศ อยคู่ นละ ตน้ ตน้ ตวั เมยี เรยี กวา่ กระเบา ต้นตัวผู้เรียกวา่ แก้วกาหลง กลีบดอกสีมว่ งแดงจางๆ ผลเปน็ ผลสด รปู กลม เปลอื กหนา มขี นกาำ มะหย่ี สนี า้ำ ตาล มีเมล็ดจำานวนมาก สรรพคุณ : นำา้ มันท่ีบบี จากเมล็ด รกั ษาโรคเร้อื น และโรคผิวหนงั อ่ืนๆ ก รบร ชื่อสามญั : Camphor Tree ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Cinnamomum camphora (L.) Presl ชอ่ื วงศ์ : LAURACEAE ชื่ออนื่ : การะบูน, อบเชยญวน, พรมเสง็ , เจยี โล,่ จางมู่ จางหนา่ ว ลกั ษณะ : ไมย้ นื ตน้ สูง 10-15 เมตร กงิ่ ก้านเรยี บเกลยี้ ง ยอดอ่อนมใี บเกลด็ สเี หลือง แกมน้าำ ตาลห้มุ ใบเดี่ยว เรยี งตรงขา้ ม รูปไข่ กวา้ ง 3-5 ซม. ยาว 5-8 ซม. มีกลนิ่ หอม ดอกชอ่ ออกที่ซอกใบ ดอกยอ่ มมีขนาดเลก็ สีนวล ผลเป็นผลสด ขนาดเล็ก สรรพคุณ : เน้ือไม้เป็นยาบำารุงธาตุ ขับเสมหะ ขบั ลมแกจ้ กุ แนน่ เฟอ้ แกป้ วดทอ้ ง ทอ้ งรว่ ง ขบั เหงอ่ื 10 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมนุ ไพรใกลต้ วั
ก หล ชื่อสามัญ : Snowy orchid tree ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Bauhinia acuminate L.mn ช่ือวงศ์ : CEASALPNIACEAE ชื่ออืน่ : เสยี้ วดอกขาว, เสย้ี วน้อย, กาแจะ๊ กโู ด ลักษณะ : เปน็ ไม้ยืนต้น ขนาดเลก็ สูงประมาณ 2 ม. ใบเด่ยี ว ทรงกลม ปลายจัก เวา้ ลกึ พบั เขา้ หากนั ออกเรียงสลับกนั ดอกช่อละ 5-8 ดอก ทยอยบานไล่กันไปกลีบ ดอกสขี าว 6 กลบี ผลเป็นฝักแบนยาว เกดิ ตามป่า เบญจพรรณ ทว่ั ไป ขยายพนั ธด์ุ ว้ ยเมลด็ และกง่ิ ตอน สรรพคุณ : ดอก รสสขุ ุม แกป้ วดศรี ษะ ลดความ ดนั โลหติ แก้เสมหะพิการ แก้เลอื ดออก ตามไรฟัน กุหล บม ชอ่ื สามัญ : Damask Rose ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rosa damascene Mill. ชอื่ วงศ์ : ROSACEAE ชื่ออ่นื : ยีส่ ุ่น ลักษณะ : ไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร ลำาต้นและก่ิงก้านมีหนามแหลม ใบประกอบ แบบขนนก เรยี งสลับ ใบย่อยรูปไข่ กวา้ ง 2-4 ซม. ยาว 3-6 ซม. ขอบใบหยักฟนั เลื่อย ดอกชอ่ ออกทปี่ ลายก่งิ กลีบดอกสชี มพู กล่ินหอม ผลเป็นผลกลุ่ม สรรพคุณ : กลีบดอกบำารุงหัวใจ ขับน้ำาดี กลีบดอก สด มีนำ้ามันหอมระเหย ซ่ึงได้แต่กล่ินเครื่องสำาอาง นา้ำ กหุ ลาบเป็นส่วนผสมของน้ำาดอกไม้เทศ ใชบ้ รรเทา อาการอ่อนเพลียและกระวนกระวาย ใบไม้ให้คณุ ...สมุนไพรใกลต้ วั 11
กล ล หม ชื่อสามญั : - ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Phyllodium elegans (Lour.) Desv. ช่ือวงศ์ : FABACEAE ชื่ออืน่ : กาสามปกี กลาง ลักษณะ : ไม้พุ่ม ลำาต้นต้ังตรง สูง 1-2 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบยอ่ ย 3 ใบ ใบย่อยใบกลางรูปไขก่ ว้าง กว้าง 3-7 ซม. ยาว 4-9 ซม. ใบย่อยดา้ นข้าง กว้าง 1.5-4 ซม. ยาว 2.5 ซม. ดอกช่อออกเป็นกระจุกที่ซอกใบ มีใบประดับ ลกั ษณะคลา้ ยเกลด็ ปลา ประกบหุม้ ไว้ 2 ใบ กลบี ดอก สขี าว รปู ดอกถวั่ ผลเป็นฝัก แบนยาวคอดเปน็ ขอ้ ๆ สรรพคณุ : ราก ตม้ นา้ำ ดมื่ แกโ้ รคตบั พกิ าร (อาการผดิ ปกตขิ อง ตบั ) กล ชอ่ื สามญั : Cockspur thorn ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Maclura cochinchinensis (Lour.) Corner ชอ่ื วงศ์ : MALVACEAE ชื่ออืน่ : แกก้อง, สักข,ี เหลอื ง, แกล, แหร, เข, ช้างงาต้อก, นา้ำ เค่ยี วโซ,่ หนามเข ลกั ษณะ : ไมพ้ ุ่ม สูง 5-10 เมตร มยี างขาว ใบเดยี่ ว เรียงสลบั เวยี นรอบกิ่ง รูปวงรี กวา้ ง 1-3.5 ซม. ยาว 2.-9 ซม. มีหนามแหลมออกตรงซอกใบ 1 อนั ยาวประมาณ 1 ซม. ดอกชอ่ ออกที่ซอกใบ แยกเพศอยคู่ นละตน้ รูปกลม ผลเป็นผลรวม สรรพคณุ : แกน่ แก้ไขรากสาด แกท้ ้องรว่ ง บาำ รงุ นา้ำ เหลอื ง บาำ รุงกาำ ลัง 12 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมุนไพรใกลต้ ัว
กว้ ชื่อสามัญ : Orang Jessamine ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Murraya paniculata (Linn.) Jack. M.exotica Linn. ช่อื วงศ์ : RUTACEAE ช่อื อืน่ : จ๊าพรกิ , ตะไหลแกว้ , แกว้ พรกิ , แก้ข้ไี ก,่ กะมูนงิ ลักษณะ : เป็นไมพ้ ุม่ ขนาดเลก็ สูง 5 เมตร เปลอื กมี cork ใบประกอบแบบขนนก ใบยอ่ ยรปู ไข่ดอกส้ันๆ ท่ีปลายกิ่งสขี าว กลีบโค้ง 5 กลบี หอมจัด ผลกลมรี เมอ่ื สกุ สี แดง ผิวมีตอ่ มนาำ้ มนั ออกดอกตลอดปี เนอื้ ไม้สขี าวนวล มีเส้ียนลายสวยงาม สรรพคุณ : ใบ รสร้อยเผ็ดขม ขับโลหะระดูสตรี บำารุงธาตุ แก้จุกเสียด แน่นท้อง ขับผายลม ใบสดตำาปั้นใส่ทวารหนักประมาณ 5 นาที ตัวจะร้อนเหมือนเป็นไข้ ราก แก้ปวดสะเอว แก้ผื่นคันที่เกิดจากความช้นื แก้ฝฝี ักบวั ท่เี ต้านม ฝใี นมดลูก แกแ้ ผลคัน แก้พษิ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย กร ชอ่ื สามัญ : Lad’s Finger/Okra ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Boesenbergia pandurata (Roxb.) Schltr. Gastrochilus panderata (Roxb.) Ridl. Daempferia pandurata Roxb. ช่อื วงศ์ : ZINGIBERACEAE ชอ่ื อ่ืน : หัวละแอน, ขงิ แดง, ขงิ ทราย ลกั ษณะ : เปน็ ไมล้ ม้ ลกุ สงู ประมาณ 2-3 ฟตุ มกี าบใบหมุ้ ลาำ ตน้ ตลอด ใบมกี ลน่ิ หอม ดอกชอ่ สมี ว่ งแดง มเี หงา้ มรี ากเกบ็ อาหาร แยกเปน็ กระเปาะจากเหงา้ เรยี กวา่ กระโปก หรือนมกระชาย กระชายมี 3 ชนิด คือ กระชายดำา กระชาย แดง และกระชายเหลือง ที่นิยมใช้กันท่ัวไปคือ กระชายเหลือง ขยายพนั ธโุ์ ดยการแยกหน่อ สรรพคุณ : เหง้าแก้โรคอันเกิดในปาก แก้ปากเปื่อย ปากแตก ขบั ระดูขาว รักษาลาำ ไส้ใหญ่อกั เสบ ใบไม้ให้คุณ...สมุนไพรใกลต้ วั 13
ก้ ล ชือ่ สามญั : - ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus reticularus Poir. ชอื่ วงศ์ : EUPHORBIACEAE ชอื่ อน่ื : กา้ งปลาขาว, กา้ งปลาแดง, ปู่เจ้าคาคลอง, ขวางคลอง ลกั ษณะ : เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 7 ฟุต ใบเดี่ยวรูปไข่หรือรีหัวท้าย มน ออกเรียงสลับกนั ขอบเรยี บขนาดเทา่ หัวแมม่ ือ ก้านใบยาว 2-3 มม. ดอกเล็กๆ ทรงกลม ชอ่ ละ 1-3 ดอก ไมม่ ีกลีบผลนุ่มโตกวา่ เมลด็ พริกไทยเลก็ น้อย กา้ งปลาขาว ผลสขี าว กา้ งปลาแดง ผลสุกสดี าำ ขยายพันธุด์ ว้ ยเมล็ด หรอื กงิ่ ชำา สรรพคุณ : ใบต้มดื่มขับปัสสาวะ บดเป็นผงโรยสมานผล ต้น เปลือกต้มชงน้ำาร้อน ด่ืมแก้น้ำาเหลือง ฟอกโลหิต แก้บิดท้องเสีย ลูก แก้อาการอักเสบต่างๆ ราก ต้มดื่ม แก้หอบหดื แกไ้ ขขับพษิ ฝนทาแกเ้ ริม งสู วัด มน นั ชอ่ื สามญั : Turmeric ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Curcuma longa Linn ชอ่ื วงศ์ : ZINGIBERACEAE ชอ่ื อืน่ : ขมนิ้ , ขม้ินแกง, ขมนิ้ หยอก, ขมิน้ หัว, ขม้ี ิน้ , หมิ้น ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก อายุหลายปี สูง 30-90 ซม. เหง้าใต้ดินรูปไข่มีแขนง รูปทรงกระบอก แตกออกด้านข้าง 2 ด้าน ตรงข้ามกัน เนื้อในเหง้าสีเหลืองส้ม มีกลิ่นเฉพาะ ใบเด่ียวแทงออกจากเหง้าเรียวเป็นวงซ้อนทับกันรูปใบหอก กว้าง 12-15 ซม. ยาว 30-40 ซม. ดอกช่อแทงออกจากเหง้าแทรกข้ึนมาระหว่าง ก้านใบ รูปทรงกระบอก กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ใบประดับสีเขียวอ่อนหรือสีนวล บานคร้ังละ 3-4 ดอก ผลรูปกลมมี 3 พู สรรพคณุ : เหง้ารกั ษาโรคผิวหนงั ผน่ื คนั โดยทาำ เป็นผงผสมนำ้าหรือเหง้าสด ฝนน้ำาทา นอกจากน้ียงั ใชเ้ หงารักษาโรคท้องอืด ทอ้ งเฟ้อและแผลในกระเพาะอาหาร 14 ใบไม้ให้คุณ...สมนุ ไพรใกลต้ ัว
ล ชอ่ื สามัญ : Indian Marsh Fleabane ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pluchea indiea (Linn) Less. P. foliolosa DC., Cobyza corymbosa Roxb. C. indica Mig. Baccharis indica Linn. ชอ่ื วงศ์ : COMPOSTTAI ชอื่ อื่น : หนาดวัว, หนวดงิว้ , คลู ลักษณะ : เป็นไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร ใบรูปไข่กลับ ปลายแหลม ขอบหยักโดยรอบ มขี นขาวๆ ปกคลมุ กา้ นสน้ั ดอกเล็กๆ เป็นกระจุกรวมกนั เป็นช่อสขี าวอมมว่ ง ออก ตามง่ามใบ เกิดตามท่ีรกร้างว่างเปล่า ที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ชอบดินเค็มหรือกร่อย ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใบเมื่อนำามาผ่ึงให้แห้งจะมีกล่ินหอมคล้ายกล่ินน้ำาผึ้ง ใช้ชงด่ืม แทนชา สรรพคุณ : ใบ ดอก ราก เปลอื กตน้ แก้รดิ สีดวงทวาร ขบั นิ่ว ขับปสั สาวะ ชื่อสามัญ : Siamese Rough Bush, Tooth Brush Tree ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Streblus asper Lour ชือ่ วงศ์ : MORACEAE ชอ่ื อ่ืน : กกั ไมฝ้ อย, สม้ พอ ลักษณะ : ไมย้ นื ตน้ มนี าำ้ ยางขาว สงู 5-15 เมตร ใบเดยี่ วเรยี งสลบั รปู ไขแ่ กมขอบขนาน รูปวงรี หรือรูปไข่กลบั กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ผิวใบสากคายดอกชอ่ ออกทซ่ี อก ใบ แยกเพศอยคู่ นละตน้ ชอ่ ดอกตวั ผเู้ ปน็ ชอ่ กลม ชอ่ ดอกตวั เมยี ออกออกเปน็ กระจกุ มี 2-4 ดอกยอ่ ย กลบี ดอกสเี หลอื ง ผลสด รูปไข่ เม่ือสกุ สีเหลือง สรรพคุณ : เปลือกต้น แก้ท้องร่วง บิด รำามะนาด ปวดฟัน โรคผิวหนัง รักษาแผล ใบ ปง้ิ ไฟชงน้าำ ดม่ื เปน็ ยาระบาย เมล็ด บาำ รุงธาตุ เจรญิ อาหาร ขบั ลม แกน่ มวนบุหร่ี สบู รกั ษาริดสีดวงจมกู ใบไม้ให้คณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตัว 15
้ว ชื่อสามญั : Rice, Rice Plant ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Oryza sativa Linn. ชื่อวงศ์ : GRAMINEAE ชอ่ื อ่นื : ข้าวเจา้ , ข้าวสาร ลกั ษณะ : เปน็ พชื ลม้ ลกุ จาำ พวกหญา้ ถา้ ในตาำ รายาเรยี กวา่ ขา้ ว, ขา้ วสาร, ขา้ วเปลอื ก มกั หมายถึง ขา้ วเจ้า ถา้ จะให้ใชข้ า้ วชนดิ อนื่ จะบอกกำากบั มาด้วย สรรพคณุ : ข ้ า ว ที่ กำ า ลั ง ง อ ก แ ก ้ ร ้ อ น ใ น แก้อ่อนเพลีย ข้าวสารซ้อมมือบำารุงร่างกาย แก้ตาฟาง แก้เหน็บชา ซังข้าวพอกดูดหนองฝี นำ้าซาวข้าวถอนพิษผิดสำาแดง พิษอักเสบฟกบวม แกผ้ ืน่ คัน น้ำาข้าวแก้ตาฝา้ ฟาง บำารุงรา่ งกาย ้ วพ ชื่อสามญั : Indian Cone, corn Maize ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Zea mays Linn. ชอ่ื วงศ์ : GRAMINEAE ช่ืออื่น : ขา้ วแช่, เงก็ บี้, เงก็ จกซู่ ลักษณะ : เป็นไม้ล้มลุกจำาพวกหญ้า ต้นอวบกลมต้ังตรง เน้ือฟ่าม ใบทรง ขนานยาว ปลายแหลม มขี นสากทง้ั ใบ มผี ลเปน็ ฝกั ทรงกระบอก มเี มลด็ เกาะตดิ โดยรอบ มีหลายพันธุ์ เป็นพืชในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ขยายพนั ธดุ์ ว้ ยเมล็ด สรรพคณุ : เมล็ด บำารุงหัวใจ ปอด ขับปัสสาวะ บดพอกแผล ซัง ตน้ และใบ ขบั นว่ิ ไหมข้าวโพด แก้ตบั -ไต อกั เสบ แก้โรคความดนั โลหิตสูง 16 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกลต้ ัว
ชอ่ื สามัญ : Ginger ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Zingiber offichinale Rose. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ชอ่ื อน่ื : ขงิ บา้ น ลกั ษณะ : เป็นพืชล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน สูงประมาณ 1 ม. ใบรูปพายกกาบใยยาว หุ้ม ลำาต้น ดอกเล็กๆ เป็นช่อทรงกระบอกต้ังออกจากเหง้าใต้ดิน กาบสีแดงกลีบสี เหลอื ง อมเขยี ว ผลกลมนยิ มปลกู ไวป้ รงุ อาหาร ทว่ั ประเทศขยายพนั ธโ์ุ ดยการแยกหนอ่ สรรพคุณ : เหง้าขบั ลม แกห้ อบไอ ขับเสมหะ แก้บิด ใบแก้ ฟกชำา้ แก้ น่วิ ขบั ปสั สาวะ ฆา่ พยาธิ หน น ชื่อสามัญ : - ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Zollingeria dongnaiensis Pierre. ชือ่ วงศ์ : SAPINDACEAE ชื่ออื่น : ข้มี อด ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ กัน รูปหอกปลายและโคนแหลม ขนาดไม่โตมาก ดอกเล็กๆ เป็นช่อ ผลแก่สีเหลือง เปลือกต้นนำามาตีกับน้ำาให้เป็นฟองใช้ซักผ้า แทนสบู่ ขยายพนั ธ์ดุ ้วยเมลด็ สรรพคณุ : เปลือกต้น รสขมเย็น แก้ไข้ ดับพิษร้อน แก้หวัดคัดจมูก เอามาตีกับนำ้า ให้เป็นฟองสุมกระหม่อมเด็ก แก้หวัดคัดจมูก แกช้ ันนะตุ ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตวั 17
หลก ช่ือสามญั : Cassod Tree, Thai Copper Pod ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia siamea Lamk. ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE ชอ่ื อื่น : ขีเ้ หล็กแก่น, ขเี้ หล็กบ้าน, ขี้เหลก็ หลวง, ขีเ้ หลก็ ใหญ่ ลักษณะ : ไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับใบย่อย รูปขอบขนาน กว้างประมาณ 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. ใบอ่อนมีขนสีนำ้าตาลแกมเขียว ดอกชอ่ ออกที่ปลายกิง่ กลีบดอกสเี หลือง ผลเปน็ ฝักแบบยาวและหนา สรรพคณุ : ดอกเปน็ ยานอนหลับ ลดความดันโลหิต ดอกตมู และใบออ่ นเปน็ ยาระบาย ใบแกร้ ะดขู าว แกน้ วิ่ ขบั ปสั สาวะ แกน่ แกไ้ ข ทาำ ใหน้ อนหลบั รกั ษา กามโรค ต ชื่อสามัญ : - ชื่อวิทยาศาสตร์ : Glycosmis pentaphylla Corr. ชอ่ื วงศ์ : RUTACEAE ช่อื อน่ื : กระรอกนำา้ , กระโรกนาำ้ ข้าว, เขนทะ, นำ้าข้าว, ประยงคใ์ หญ่, พุทธรกั ษา, ส้มชนื่ ลกั ษณะ : ไม้พมุ่ สูง 2-4 เมตร ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลบั ใบยอ่ ย 1-5 ใบ รูปวงรีแกมขอบขนาน รูปไข่กลับหรือรูปใบหอก กว้าง 3-5 ซม. ยาว 8-14 ซม. ดอกชอ่ ออกทซี่ อกใบ กลบี ดอกสขี าว ผลสดรปู ทรง กลม สขี าวหรอื ชมพู สรรพคุณ : ราก ฝนนำ้ากินและทาแผล แก้พิษงู แตย่ งั ไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตรร์ บั รอง 18 ใบไม้ให้คุณ...สมนุ ไพรใกล้ตัว
คค ชื่อสามญั : - ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Arfeuillea arborescens Pierre ชอ่ื วงศ์ : SAPINDCEAE ชื่ออืน่ : หมากเลก็ หมากนอ้ ย, ชา้ งเผอื ก, ตะไล ตะไลคงคา, สมุยกยุ ลักษณะ : ไม้ยนื ต้น สูง 8-20 เมตร ใบประกอบ แบบขนนกเรยี งสลบั ใบยอ่ ย 5-9 ใบ รูปไข่หรอื รูป ใบหอก กวา้ ง 2.5-4 ซม. ยาว 4.5-7 ซม. ดอกช่อ ออกที่ปลายก่งิ กลีบดอกสีนาำ้ ตาล ผลแหง้ แตกได้มปี ีก 3 ปกี สรรพคุณ : แก่น ฝนกับน้ำากินเป็นยาฆ่าพยาธิ เปลือกต้น ต้มน้ำาดื่ม แก้ร้อนใน กระหายนา้ำ แก้ไข้และ ชว่ ยใหเ้ จรญิ อาหาร ต้มนำ้าอาบ ชว่ ยรกั ษาอาการคนั แสบรอ้ น ตามผิวหนงั และโรคซาง คน ม ช่อื สามัญ : Nagundo Chest Nut ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Vitex negundo Linn. ชือ่ วงศ์ : VERBENACEAE ชื่ออ่นื : คนทสี อดำา, กโุ นกามอ ลกั ษณะ : เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 5 ม. กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม ใบและกิ่ง มีกลิ่นหอม ใบประกอบรูปน้วิ มอื มีใบยอ่ ยรปู หอกเรียว ปลายแหลม ขอบจกั 3-5 ใบ ดอกเลก็ เปน็ ชอ่ สีมว่ ง ผลกลมเลก็ เป็นพวง ขยายพันธ์ุดว้ ยเมล็ด สรรพคุณ : ใบแก้ไข้หวัด เจ็บคอ ปวดตามข้อ- กล้ามเน้ือ แก้เย่ือจมูกอักเสบ ดอกแก้ท้องเสีย ลูกขับเสมหะ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เปลือกตน้ แก้ริดสดี วง ยางฆ่าพยาธผิ วิ หนัง ใบไม้ให้คุณ...สมนุ ไพรใกล้ตัว 19
คน ส ชอ่ื สามญั : - ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Vitex trifolia Linn. ชื่อวงศ์ : VERBENACEAE ช่ืออนื่ : คนทีสอขาว, โคนดินสอ, ดินสอ, สสี อ, มูดเพ่งิ , ผเี สอ้ื น้อย, ดอกสมทุ ร, สีเสอ้ื นอ้ ย ลกั ษณะ : เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 5 ม. ลำาต้นสีเทา เป็นกระสีดำา ขาว ใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบย่อยรูปไข่ปลายแหลม 3 ใบ ดอกเลก็ สีม่วงเป็นช่อยาว ออกทีป่ ลายกง่ิ ผลเทา่ ผลพรกิ ไทย เปน็ พวงชอ่ ขยายพันธด์ุ ้วยเมล็ด สรรพคณุ : ใบบำารุงนำ้าดี แก้สบสางในร่างกาย ปวดเมื่อย ตามตัวตามข้อ ดอกแก้หืดไอ ลูกแก้ คลื่นเหียนอาเจียน เมล็ดระงับปวด เจริญอาหาร รากแก้ไข แก้โรคตับ โรคตา ขับเหง่ือ ปัสสาวะ คน ส ล ชื่อสามัญ : - ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Vitex repens Ridl ชอ่ื วงศ์ : VERBENACEAE ชอื่ อ่นื : คนที, กูนงิ ลกั ษณะ : เปน็ ไมเ้ ถา เลือ้ ยไปตามพน้ื ทรายรมิ ทะเล ใบประกอบ ใบย่อย 3 ใบ หนา สเี ขียวเข้มมัน ทอ้ งใบเหลืองขาวเปน็ เงาคลา้ ยกำามะหย่ี ปลายโตแหลม โคนใบสอบเลก็ ดอกชอ่ สมี ่วง ผลคลา้ ยคนทีสอ ขยายพันธดุ์ ้วยเมล็ด สรรพคณุ : ทั้งต้น รสเผ็ดร้อน แก้พยาธิ แก้ฟก บวม แก้เสมหะ แก้ริดสดี วงคอ 20 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตัว
คว ต ห น ชอ่ื สามัญ : Chinese kale ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Kalanchoe pinnata Pers. ชื่อวงศ์ : CRASSULACEAE ชือ่ อน่ื : ฆอ้ งสามย่านตัวผ,ู้ นิลพดั , นลิ ปตั ลกั ษณะ : เป็นไม้ล้มลุก ลำาต้นตั้งตรง สูงประมาณ 2-3 ฟุต ใบเด่ียวหนา ขอบจักมีตาตามจัก งอกเป็นไม้ใหม่ได้ ดอกช่อทรงกระบอกสีแดง ออกท่ีปลายต้น หอ้ ยเป็นพวง ปลกู เป็นไมป้ ระดับ สรรพคณุ : ใบ ค้ันเอาน้ำากิน แก้บิด ท้องร่วง อหิวาตกโรค แก้น่ิว แก้ไขข้ออักเสบ ขับปัสสาวะ ตำาพอกแก้ปวด แก้พิษ ถอนพิษฝี แก้อักเสบ ฟกบวม คั ค้ คร ชื่อสามัญ : Siamese randia ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Oxyceros horridus Lour. ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE ชอ่ื อนื่ : คดั เค้า, คัดเค้าหนาม, เคด็ เคา้ , จเี คา๊ , หนามลดิ เคา้ ลกั ษณะ : ไมพ้ มุ่ รอเลอื้ ย กงิ่ กา้ นมหี นามแหลมโคง้ สงู 3-6 เมตร ใบเดยี่ ว เรยี งตรงขา้ ม รูปวงรีแกม ขอบขนานกว้าง 2.5-4 ซม. ยาว 6-10 ซม. หใู บอยูร่ ะหวา่ งก้านใบ ดอกชอ่ ออกเป็นกระจกุ ทซี่ อกใบ กลบี ดอกเมอ่ื แรกบานสขี านแลว้ เปลย่ี นสขี าว แกมเหลอื ง กลิ่นหอม ผลสด รูปทรงกลม สรรพคณุ : ผล ขบั ประจาำ เดอื น ฟอกเลอื ด บาำ รงุ เลอื ด ราก มีรสฝาดเย็น แก้ไข้ ยาพื้นบ้าน ใช้ใบแช่นำ้าดื่ม แกไ้ ข้ รากหรือแกน่ ฝนน้ำากนิ แกไ้ ข ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมุนไพรใกล้ตวั 21
คไ ชื่อสามญั : Annatto Tree ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Bixa orellana Linn. ชอ่ื วงศ์ : BIXACEAE ชอื่ อื่น : คำาเงาะ, คาำ แงะ, คำาแสด, แสด ลกั ษณะ : ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 8 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบเดี่ยว เรียงสลบั รปู ไข่ กว้าง 8-12 ซม. ยาว 11-18 ซม. ปลายแหลม ฐานเว้าเขา้ เลก็ นอ้ ย ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่งกลีบดอกสีขาวแกมชมพู มีเกสรตัวผู้จำานวนมาก ผลเป็น ผลแห้งรูปไข่ สีแดงหรือนำ้าตาลเขียว มีขนคล้าย เงาะแตกเป็น 2 ฝา เมล็ดรูปสามเหล่ียม มีร่อง ทหี่ ลังและปกคลมุ ด้วยเยอ่ื สแี ดง สรรพคณุ : ดอกตม้ กินเปน็ ยาบำารุงโลหติ แก้โรค โลหิตจาง แก้บดิ คส ชื่อสามัญ : Monkey-faced Tree ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Mallotus philipoensis (Lam) Muell. Arg. ชอ่ื วงศ์ : EUPHORBIACEAE ช่อื อน่ื : กายขัดหนิ , ขี้เน้อื , ขางปอย, ซาดปา่ , คาำ แดง, ทองทวย ลกั ษณะ : ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น สูง 5-15 เมตร กิ่งก้านมีขนสีน้ำาตาลใบเด่ียว เรียงสลับรูปวงรีหรือรูปไข่กว้าง 3-8 ซม. ยาว 6-10 ซม. ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง และซอกใบ แยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ไม่มีกลีบ ดอก ผลแห้ง แตกได้ รูปกลมแป้น มี 3 พู สแี ดง สรรพคณุ : เมล็ด แก้โรคเรื้อน ขับพยาธิ แก้ไข้ เวียนศีรษะ เบ่ืออาหาร ยาพื้นบ้านใช้ แก่นต้ม นา้ำ ดม่ื ปัสสาวะแดงหรอื เหลอื ง 22 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกลต้ วั
คร ห ชื่อสามัญ : - ชื่อวิทยาศาสตร์ : Toddalia asiatiea (Linn.) Lamk ชือ่ วงศ์ : PUTACEAE ชอื่ อื่น : ผักแปมปา่ , เล็บรอก ลกั ษณะ : ไม้เถาเนื้อแข็ง เล้ือยพาดพันอยู่บนพรรณไม้อ่ืนยาว 2-20 เมตร กิ่งก้านมีหนาม ใบประกอบแบบน้ิวมือ เรียงสลับ ใบย่อย 3 ใบ รูปขอบขนาน แกม ไข่กลับ กว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 3-8 ซม. เน้ือใบ มีจุดน้ำามันกระจาย ดอกช่อ ออกท่ีปลายกิ่งและซอกใบกลีบดอกสีเหลือง แกมเขียว ผลสดรูปทรง กลม เม่ือสุกสสี ้ม สรรพคุณ : ตน้ 1 กาำ มอื ตม้ นาำ้ ดมื่ วนั ละ 2-3 ครง้ั ขบั ปสั สาวะ ควค ชื่อสามญั : Cork Wood Tree ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Sesbania grandiflora desv. ชอ่ื วงศ์ : PAPILIONACEAE ชอ่ื อืน่ : แค แคบ้าน ต้นแค แคแกง ลกั ษณะ : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยขนาดเล็กรูป ไข่งู ดอกโตกลบี บาง แคขาวดอกสีขาว แคแดงดอกสียแดงเขม้ ฝกั แบนยาวเหมือนถ่ัว เม่อื แก่จะแตกออก ปลกู เพื่อประกอบอาหาร สรรพคณุ : ใบ แกไ้ ขเ้ ปลย่ี นฤดู ไข้หวดั ถอนพษิ ไข้ ดับพิษ ดอกแก้ไขเปลยี่ นฤดู เปลือกตน้ แก้บิด มูกเลือด คุมธาตุ สมานท้ังภายนอกและภายใน ชะลา้ งบาดแผล ใบไม้ใหค้ ุณ...สมุนไพรใกล้ตวั 23
คกกร ม ชอ่ื สามัญ : Balloon Vine, Heart Pea ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cardiospermum halicacabum Linn. ชอ่ื วงศ์ : SAPINDACEAE ช่อื อ่ืน : โพออม, ลบู ลีบเครอื , ววิ ่ี ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุกเลือ้ ยพันอายุปีเดยี ว ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ยาว 3-7 ซม. ใบย่อยรูปสามเหลี่ยมหรือรูปไข่ กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 4-5 ซม. ดอกชอ่ ออกที่ซอก ใบ มีมอื เกาะปลายม้วนงอกลีบดอกสขี าว ผลแหง้ แตกได้ รปู ทรงกลมแกมสามเหล่ียม มเี ยือ่ บางๆ สีเขียวหุ้มมดิ ลกั ษณะเปน็ ถุงลม มีสามสัน แบง่ เป็นสามช่อง เมล็ดรูปทรง กลม สดี ำา มขี ้วั รูปหัวใจสีขาว สรรพคุณ : ใบ แก้หืด ตำารายาไทยใช้ เถา แก้ไข้ ดอกขับประจำาเดือน ผลตำาพอก ดับพิษไฟลวก ยาพ้ืนบา้ นใช้ ใบ ขบั ปสั สาวะ นำา้ คน้ั จากใบสด ขับระดู แกไ้ อ ทั้งต้น แก้โรคไขขอ้ อกั เสบ ช่ือสามัญ : Sesame ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sesamum indicum Linn. ชื่อวงศ์ : PEDALIACEAE ชอื่ อน่ื : งาขาว, งาดำา ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลกุ สงู 30-100 ซม. ลาำ ตน้ เปน็ สเ่ี หลย่ี ม มรี อ่ งตามยาวและมขี นปกคลมุ ใบเด่ียว เรียงตรงข้ามหรือสลับรูปไข่หรือรูปใบหอก กว้าง 2-5 ซม. ยาว 6-10 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาว หรอื สชี มพู ผลเปน็ ผลแห้ง แตกได้เมลด็ แบน รปู ไข่ สีดำา น้าำ ตาลหรือขาว สรรพคุณ : นา้ำ มนั ระเหยยาก ซง่ึ บบี จากเมลด็ หุงเป็นนำ้ามันใส่บาดแผลและทาถูกนวล แกเ้ คลด็ ขอ้ ยอก 24 ใบไม้ใหค้ ุณ...สมนุ ไพรใกลต้ ัว
นั ชอ่ื สามัญ : Gold apple ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Diospyros decandra Lour. ชื่อวงศ์ : EBENACEAE ช่ืออืน่ : จนั อิน, จันโอ, จันขาว, จนั ลูกหอม ลักษณะ : ไมย้ นื ตน้ สงู ไดถ้ งึ 20 เมตร ยอดออ่ นมขี น ใบเดยี่ วเรยี งสลบั รปู ขอบขนาด หรอื รปู วงรี กวา้ ง 2.5-3 ซม. ยาว 7-10 ซม. ดอกแยกเพศ ดอกตวั ผูเ้ ป็นชอ่ กลีบดอก เช่ือมติดกันเป็นรูปคนโท สีขาวนวล ดอกตัวเมียเป็นดอกเดี่ยว ลักษณะคล้ายกับ ดอกตวั ผแู้ ตม่ ขี นาดใหญก่ วา่ ผลสด มสี องรปู รา่ งคอื ทรงกลมแป้นเรยี กวา่ ลกู จนั และทรงกลมเรียกว่า ลูกอิน เมื่อสุกสีเหลือง มีกล่ินหอมและกลีบเล้ียง ยังคงตดิ อยู่ สรรพคณุ : แกน่ ผสมรวมกบั สมุนไพรอื่น ต้มนำา้ ดื่ม แก้ไอ ชื่อสามญั : Champaca ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Michelia champaca Linn. ชื่อวงศ์ : MAGNOLIACEAE ชื่ออืน่ : จำาปาเขา, จาำ ปาทอง, จำาปาป่า ลักษณะ : ไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ยอดอ่อนมีใบเกล็ดหุ้ม ใบเด่ียว เรียงสลับ รปู ไข่ รปู วงรี หรอื รปู วงรแี กมขอบขนาน กวา้ ง 5-10 ซม. ยาว 12-20 ซม. ท้องใบมขี น นุ่ม ดอกเด่ยี ว ออกทซี่ อกใบ สีเหลืองสม้ กลน่ิ หอม ผลเปน็ ผลกล่มุ ผลย่อยตดิ บนแกน เป็นชอ่ ยาว เมื่อแก่จะแตก สรรพคณุ : ดอกแหง้ ปรงุ ยาหอม บาำ รงุ หวั ใจ บาำ รงุ ประสาท บาำ รงุ โลหิต แก้คลนื่ ไส้ แกไ้ ข้ ขบั ปัสสาวะ จัดอยู่ในเกสรทง้ั เจ็ด ใบแกโ้ รคประสาท เปลอื กต้น แก้ไข้ ใบไม้ให้คุณ...สมุนไพรใกลต้ วั 25
ชื่อสามญั : White Chempaka ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Michelia alba DC. ชอ่ื วงศ์ : MAGNOLIACEAE ช่อื อ่นื : จมุ ปี ลักษณะ : ไม้ยืนต้น ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 15-20 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รปู ขอบขนานแกมใบหอกหรอื รูปไข่ กวา้ ง 4.9 ซม. ยาว 15-25 ซม. ดอกเด่ียว ออก ท่ีซอกใบ กลีบรวมสขี าว กลิน่ หอม ผลเป็นผลกลุ่ม ผลยอ่ ยรูปรา่ งเกอื บเป็นทรงกลม แตม่ ักไม่ตดิ ผล สรรพคณุ : ดอก บำารุงหัวใจ บำารุงประสาท บำารุงโลหิต น้ำามันจากดอก ทาแก้ปวดศีรษะและตาบวม ดอกและผล บาำ รงุ ธาตุ แกค้ ลน่ื เหยี น แกไ้ ข้ ขบั ปสั สาวะ ใบ แกโ้ รคประสาท แกป้ ว่ ง เปลือกตน้ แก้ไข้ แกน่ บำารุงประจำาเดือน รากแหง้ หรอื เปลือกราก ผสมนมสำาหรบั บ่มฝี ก ชอ่ื สามัญ : Indian oak, Freshwater mangrove ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Barringtonia acutangula (L.) Gaertn. ช่ือวงศ์ : BARRINGTONIACEAE ชื่ออนื่ : กระโดนท่งุ , กระโดนน้ำา, จกิ นา, ตอง, เรยี ง ลักษณะ : เปน็ ไมย้ ืนต้นขนาดกลาง ใบและยอดอ่อนมีขนบางๆ ใบเด่ยี วหยาบหนา รปู ไขก่ ลบั ทอ้ งใบสีหมน่ ๆ ปลายมที ง้ั แหลมและมน ดอกชอ่ เลก็ ยาว หอ้ ยระยา้ หอม ออกท่ีปลายก่ิง กลีบดอก 4 กลีบเล็ก สีชมพู เกสรตัวผู้เป็นพู่ฝอย ผลทรง สี่เหลี่ยม มคี รบี ตามยาว มเี มล็ดอันเดียว รปู ไข่ สรรพคุณ : ใบแก้ท้องเสยี เมล็ดแก้แน่นจกุ เสียด เปน็ ยาระบายหลงั คลอด แกเ้ ยื่อตา อักเสบ ผลแกห้ ดื ไอ เปลอื กต้น สมานแผล แก้พิษแมลงกดั ตอ่ ย เลือดออกตามไรฟัน รากระบายทอ้ ง ขบั เสมหะ 26 ใบไม้ใหค้ ณุ ...สมนุ ไพรใกล้ตัว
ตมล พล ว ชื่อสามัญ : Witie Leadwort ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Plumbago zeylanica Linn. ชอ่ื วงศ์ : PLUMBAGINACEAE ชอ่ื อ่นื : ป่ปี ีขาว, ปดิ ปวิ ขาว, ตอชวู า, แปะฮวยตงั , ปา๋ ยฮวั ตาน ลักษณะ : เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สีเขียวอ่อน สูงประมาณ 1 ม. ใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายแหลม เน้ือบาง ดอกสีขาว ก้านมียางเหนียวออกเป็นช่อที่ปลายก่ิง ผลกลม สเี ขยี วยาวมขี นเหนยี วรอบตวั ขยายพนั ธด์ุ ว้ ยเมลด็ และปกั ชาำ สรรพคณุ : ใบแก้ลมในกองเสมหะ ช่วยย่อย อาหาร ดอก แกโ้ รคตา ตน้ ขบั ระดู ราก ขับโลหิต มพี ษิ แกร้ ดิ สดี วง ปวดทอ้ ง ทอ้ งเสยี กระจาย เลอื ดลม ตมล พล ชื่อสามญั : Rose-colored Leadwort ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Plumbago indica Linn. ชื่อวงศ์ : PLUMBAGINACEAE ชื่ออ่นื : ปิดปวิ แดง, ไฟใตด้ ิน ลกั ษณะ : ไม้พุ่ม สงู 0.8-1.5 ม. ยอดออ่ นสีแดง ลำาต้นกลมเรยี งมีสแี ดงบรเิ วณข้อ ใบเดย่ี ว เรียงสลบั รูปไข่แกมวงรี กว้าง 3-5 ซม. ยาว 6-10 ซม. ดอกช่อออกท่ีปลาย กิ่ง กลีบเลย้ี งมตี อ่ ม ซึ่งเมือ่ จับจะรูส้ กึ เหนยี่ ว กลีบ ดอก สีแดง ผลเปน็ ผลแหง้ แตกได้ สรรพคณุ : รากแหง้ ขบั ประจาำ เดอื น กระจายลม บาำ รงุ ธาตุ รกั ษาโลหิต ริดสดี วงทวาร ใบไม้ให้คุณ...สมนุ ไพรใกล้ตวั 27
มว ช่อื สามญั : Cowa ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Garcinia atroviridis Griff. ชื่อวงศ์ : GUTTIFERAE ชื่ออืน่ : มวง, กะมวง ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง ใบคล้ายใบมะดัน ดอกเล็กแข็งเหมือน ดอกมะดัน กลน่ิ หอม เกิดตามป่าดงดบิ และปลูกเปน็ อาหาร มีมากทางภาคใต้ ขยาย พันธ์ดุ ว้ ยเมล็ด สรรพคณุ : ใบ ลกู กดั เสมหะ แก้ธาตพุ กิ าร ระบายท้อง แกไ้ ข ราก แกไ้ ข้ตวั รอ้ น มไ ชื่อสามญั : - ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia myriophylla Benth ชอ่ื วงศ์ : LEGUMINOSAE ช่ืออ่นื : ชะเอมป่า, ตาลอ้อย, สม้ ป่อยหวาน, ออ้ ยช้าง, ยา่ นงาย ลกั ษณะ : ไม้เถายืนต้น มีหนามตามลำาตัวและกิ่งก้าน ใบประกอบแบบขนนกสอง ชัน้ ยาว 10-15 ซม. โคนกา้ นใบปอ่ งออก ใบย่อยรูปขอบขนาน ดอกชอ่ ออกท่ีปลายกง่ิ ลักษณะเป็นพู่ กลบี ดอกสีขาว กล่ินหอม ผลเป็นฝักสเี หลืองถงึ นำ้าตาล ตรงที่เป็นเมลด็ จะมรี อยนูนเหน็ ชดั สรรพคณุ : รากซึ่งมีรสหวาน เป็นยาแก้กระหายน้ำา และเป็นยาระบาย ผลขับเสมหะ เน้ือไม้มีรสหวาน แกโ้ รคในคอ แก้ไอ ขบั เสมหะ 28 ใบไม้ให้คุณ...สมุนไพรใกลต้ วั
้ พล ชื่อสามัญ : Wildbetal Leafbush ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb. ชอ่ื วงศ์ : PIPERACEAE ชื่ออ่นื : ชนดิ ต้น ชะพลู, ผักอไี ร, พลูลงิ , พลนู ก, ผกั ปูนก, นมวา ชนดิ เถา ชะพลเู ถา, ผักอเี ลดิ , ปรู ิงนก, ผกั ปูริง ลกั ษณะ : เปน็ พชื จาำ พวกผกั ตน้ สงู ประมาณ 1-2 ฟตุ ลาำ ตน้ เปน็ ขอ้ ๆ ใบเดยี่ วรปู หวั ใจ คลา้ ยพลู ดอกช่อเหมอื นดอกดีปลแี ตส่ ้ันกว่า กลีบดอกสีขาวเล็กมาก ปลูกเป็นอาหาร ไดท้ ว่ั ไป ตามทลี่ มุ่ ชนื้ แฉะ ขยายพนั ธด์ุ ว้ ยลาำ ตน้ ทอดนอนไปงอกเปน็ ตน้ ใหมห่ รอื ปกั ชาำ สรรพคุณ : ใบเจริญอาหาร ขับเสมหะ ดอกชว่ ยยอ่ ย อาหาร ขับลมในลำาไส้ รากบำารงุ ธาตุทำาให้เสมหะแหง้ ตน้ แกเ้ สมหะในทรวงอก ้ล ชื่อสามัญ : Heart-leaved Moonseed ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Tinospora baenzigeri Forman ช่ือวงศ์ : MENISPERMACEAE ชื่ออื่น : จุ่งจะลงิ ตวั แม่ ลกั ษณะ : ไม้เถาเล้ือยพัน เถามีปุ่มปมเล็กน้อย ทุกส่วนมีรสขมโดยเฉพาะเถา แก่ ใบเดี่ยว เรยี งสลบั รปู หวั ใจ กวา้ งและยาว 6-10 ซม. ด้านหลงั ใบใกลก้ ับฐานใบ มปี มุ่ เลก็ ๆ 2 ปมุ่ อยบู่ นเสน้ ใบดอกชอ่ ออกตามเถา และท่ีซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็กมาก ไม่มี กลบี ดอก ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม สรรพคณุ : เถาแทนบอระเพด็ ใชแ้ ก้ไข้ บำารุงธาตุ เจรญิ อาหาร แกป้ วดและลดการอกั เสบ ใบไม้ให้คุณ...สมุนไพรใกลต้ ัว 29
ชอื่ สามญั : Ginghao ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Artemisia annua Linn. ชื่อวงศ์ : COMPOSITAE ช่อื อน่ื : โกฐจุฬาลมั พาจนี , โกฐจฬุ า, ชงิ ฮาว, แชเฮา, เซียงเก่า ชิงเฉา ลักษณะ : ไม้ล้มลุก สูง 1-1.5 เมตร อายุส้ัน ออกดอกออกผลแล้วต้นจะตาย ลำาต้นกลม ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ กว้าง 10-15 ซม. ยาว 30-50 ซม. เนื้อในบาง ต้นที่กำาลังจะออกดอกใบบริเวณโคนต้นจะแผ่คลุมดิน ดอกช่อออก ที่ปลายก่ิง โดยเฉพาะท่ีส่วนยอด สีเหลืองอ่อน ผลเป็นผลแห้ง รปู ยาวรขี นาดเลก็ มาก สีดำา สรรพคณุ : ใช้ทั้งต้นรักษาริดสีดวงทวารและ ไข้มาเลเรีย มุ ห ช่ือสามัญ : Ringworm Bush ชื่อวิทยาศาสตร์ : Senna alata (L.) Roxb. ชื่อวงศ์ : FABACEAE ชอ่ื อน่ื : ขีค้ าก, ลับมึนหลวง, หมากกะลิงเทศ, ชมุ เหด็ ใหญ่ ลกั ษณะ : ไมพ้ มุ่ สูง 1-3 เมตร แตกกิง่ ออกด้านข้างในแนวขนานกบั พนื้ ใบประกอบ แบบขนนกเรียงสลับ ใบย่อยรปู ขอบขนานรปู วงรีแกมขอบขนาน หรอื รูปไขก่ ลับ กวา้ ง 3-7 ซม. ยาว 6-15 ซม. หใู บเป็นรปู สามเหลีย่ ม ดอกช่อ ออกทซี่ อกใบตอนปลายกิง่ กลบี ดอกสเี หลอื งทองใบประดบั สนี าำ้ ตาลแกมเหลอื งหมุ้ ดอกยอ่ ยเหน็ ชดั เจน ผลเปน็ ฝกั มคี รบี 4 ครบี เมลด็ แบนรูปสามเหล่ียม สรรพคุณ : ใบและดอกเป็นยาระบาย โดยใช้ใบแห้งครั้งละ 12 ใบ ต้มหรือชงนำ้า ดม่ื กอ่ นนอนหรอื ทาำ เปน็ ยาลกู กลอนหรอื ใชด้ อกสด 2-3 ชอ่ ตม้ กนิ เปน็ ผกั จมิ้ ใบสดเปน็ ยาภายนอกทารกั ษากลาก เกล้อื น 30 ใบไม้ให้คุณ...สมนุ ไพรใกลต้ ัว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124