ครั้งที่ 22 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง)

๑.๑.๓ ระดบั ประเทศ คือ สสส. และหน่วยงานสขุ ภาพอนื่ ภายใตร้ ัฐบาลไทย ได้ร่วมกนั 151 จดั ทำ� ความรว่ มมอื กบั องคก์ ารอนามยั โลกประจำ� ประเทศไทย (WHO Thailand) ภายใตก้ ลไก ทีเ่ รยี กวา่ WHO Country Cooperation Strategy (CCS) เพื่อขับเคลอ่ื นแผนงานขนาดใหญ่ ทีม่ คี วามส�ำคัญและมผี ลกระทบสงู ตอ่ การแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ดำ� เนินการใน ๖ แผนงาน ได้แก่ แผนงานควบคุมโรคไม่ตดิ ต่อ แผนงานความปลอดภัยทางถนน แผนงานสขุ ภาพของประชากรตา่ งดา้ ว แผนงานจดั การปญั หาเชอื้ ดอื้ ยาตา้ นจลุ ชพี แผนงานสรา้ ง ความเข้มแข็งของงานสขุ ภาพโลก และแผนงานการคา้ ระหวา่ งประเทศกับสุขภาพ ๑.๒ จากความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก ส่งผลประโยชน์แก่ประเทศไทย ๕ เร่ือง ดังน้ี ๑) ประเทศไทยเปน็ ทยี่ อมรบั ของนานาประเทศ ในฐานะผนู้ �ำระดบั ภมู ภิ าคและโลกในดา้ นการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ และ สสส. เป็นต้นแบบกลไกการคลังที่ยั่งยืนเพ่ือการสร้างเสริมสุขภาพ ๒) ประเทศไทย และ สสส. มบี ทบาทนำ� ในการขบั เคลอ่ื นนโยบายสากล ในประเดน็ การสง่ เสรมิ กจิ กรรมทางกาย และ การพัฒนานโยบายควบคุมเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ ๓) กระชับความสมั พันธ์กับตา่ งประเทศ โดยใชง้ าน สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของไทยไปชว่ ยพฒั นางานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและลดปจั จยั เสย่ี งโรคไมต่ ดิ ตอ่ ในประเทศ ก�ำลังพัฒนาอื่นๆ ๔) สร้างความเข้มแข็งงานวิชาการระหว่างประเทศ พัฒนาศักยภาพนักวิชาการ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง และ ๕) เกิดการถอดบทเรียนองค์ความรู้ และนวตั กรรมจากการด�ำเนินงานของ สสส. ไปสรู่ ะดบั สากล ๒. การสง่ เสริมการประกวดนวตั กรรมสร้างเสริมสขุ ภาพ สสส. จดั โครงการประกวดนวตั กรรมสร้างเสรมิ สขุ ภาพ เพ่อื เปดิ พนื้ ทีใ่ หเ้ ยาวชนทศี่ ึกษาอยู่ใน ระดบั มธั ยมศกึ ษาและอาชวี ศกึ ษา สง่ ผลงานนวตั กรรมสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเขา้ รว่ มประกวด โดยมเี ยาวชน สนใจส่งผลงานเข้าประกวด ๑๕๓ โครงการ สสส. มุ่งหวงั ใหเ้ กดิ การประดษิ ฐค์ ดิ ค้น สร้างผลงานในการ แก้ไขปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชนและสังคมในอนาคต โดยเยาวชนเหลา่ น้ีจะเปน็ ผู้มศี กั ยภาพและเปน็ กำ� ลัง ส�ำคญั ที่ท�ำให้คนในชมุ ชนและสังคมมสี ุขภาพทีด่ ไี ด้อย่างยงั่ ยนื มีผลการด�ำเนนิ งาน ดงั นี้ ๒.๑ ผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสขุ ภาพทผ่ี า่ นการคดั เลือก ๑๙ โครงการ ไดถ้ กู นำ� ไปตอ่ ยอด ขยายผลใช้กบั ชุมชนและโรงเรยี น ๖ โครงการ อาทิ ๒.๑.๑ ผลงาน “npk easy” จากโรงเรยี นวชริ วทิ ย์ จงั หวดั เชยี งใหม่ ไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ เป็นนวตั กรรมสรา้ งสขุ ภาวะชมุ ชน ส่งเสรมิ อาชพี เกษตรปลอดสารเคมีและการแปรรูปผลิตภณั ฑ์ ๕ ผลงาน ไดแ้ ก่ จิ้งหรีดแช่แขง็ การคัดแยกขยะ ปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ปุย๋ มูลไสเ้ ดือน การเพาะ ต้นอ่อนผักปลอดสาร โดยสามารถขยายผลไปใช้กับชุมชนรอบโรงเรียน ๒.๑.๒ ผลงาน “Smart Punching Bag” จากโรงเรยี นจฬุ าภรณร์ าชวทิ ยาลัย จังหวดั มกุ ดาหาร ไดร้ บั รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั หนงึ่ เปน็ การพฒั นากระสอบทรายรว่ มกบั เครอื่ งตอ่ ยวดั แรง สามารถบอกผลลัพธจ์ ากการออกกำ� ลังกายแบบจ�ำเพาะเจาะจง ท้งั ความแรง เวลา จ�ำนวนหมัด และแคลอร่ี ซงึ่ สามารถน�ำผลงานไปใช้ในการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายในโรงเรยี น

ผลงาน Smart Punchig Bag ของทมี \"Smart Kids F T J\" นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรียนจุฬาภรณ์ ราชวทิ ยาลยั จ.มกุ ดาหาร ทไี่ ดร้ บั รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๑ ในระดับมัธยมศึกษา จากการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริม สุขภาพ THAIHEALTH INNO Awards จัดโดย สสส. ทห่ี อศลิ ปวัฒนธรรมแหง่ กรงุ เทพมหานคร วนั ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ๒.๑.๓ ผลงาน “สานรักสองวัยบึงพะไลใส่ใจชุมชน” จากโรงเรียนบึงพะไล จังหวัด นครราชสมี า โดยจดั อบรมใหเ้ ยาวชนมที กั ษะในการดแู ลผสู้ งู อายุ ไดแ้ ก่ การตรวจวดั ความดนั โลหติ เบอ้ื งต้น การนวดแผนไทย การวัดไข้ การดูแลผูป้ ว่ ยติดเตยี ง และสง่ เสริมใหเ้ ยาวชนใช้เวลาวา่ ง ดแู ลผ้สู ูงอายใุ นชมุ ชน ๑ คร้งั ตอ่ สัปดาห์ เพอ่ื ทำ� ให้ผู้สงู อายมุ สี ุขภาพดีทั้งกายและใจ และสร้าง ความผกู พนั ระหวา่ งเยาวชนและผสู้ งู อายใุ นทอ้ งถน่ิ ซงึ่ สามารถนำ� รปู แบบนไ้ี ปใชใ้ นชมุ ชนใกลเ้ คยี ง 152 กบั โรงเรียนได้ ๒.๑.๔ ผลงาน “เครอ่ื งพิฆาตลกู น�้ำยงุ ลาย” จากโรงเรยี นอนบุ าลทา่ หลวง จงั หวดั ลพบรุ ี เปน็ การออกแบบเครอ่ื งดดู ลูกน�้ำยงุ ลายจากแหลง่ นำ้� และนำ� ลูกน�้ำไปตากแห้ง ป้ันเปน็ ก้อน เพื่อ เป็นอาหารปลา ซ่ึงสามารถน�ำไปใช้ในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง ช่วยลดปัญหาไข้เลือดออก ระบาดในชุมชนได้

การดำ� เนินงานตามขอ้ เสนอแนะ 153 ของคณะกรรมการประเมินผล ท่ีให้ไว้ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ในการประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานของ สสส. ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการ ประเมนิ ผล ไดใ้ หข้ อ้ เสนอแนะตอ่ การดำ� เนนิ งานในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวม ๔ ประเดน็ ซง่ึ สสส. ได้ดำ� เนนิ การตอบสนองตอ่ ข้อเสนอแนะ สรปุ ไดด้ ังนี้ ๑. ในการด�ำเนนิ งานเพอื่ บรรลุทศิ ทาง เปา้ หมาย และยทุ ธศาสตร์ ระยะ ๑๐ ปีของ สสส. ซ่งึ เป็นเป้าหมายระดับชาติน้ัน จ�ำเป็นต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์ในระดับภาพใหญ่ของประเทศ ว่ามหี นว่ ยงาน/องคก์ าร ด�ำเนินการอะไรอย่แู ลว้ บา้ ง มจี ดุ ใดที่เปน็ ชอ่ งว่างของการดำ� เนนิ การ ซึง่ สสส. จะเขา้ ไปสนบั สนนุ ตามบทบาทและพนั ธกจิ ของ สสส. และควรแสดงภาพความเชอื่ มโยงตง้ั แต่ โครงการ/แผนงาน ไปจนถงึ เป้าหมายระยะ ๑๐ ปี เพอื่ ใหผ้ ู้เกี่ยวขอ้ งทั้งภายใน สสส. ภาคเี ครอื ขา่ ย ประชาชน และผมู้ ีสว่ นได้สว่ นเสยี ตา่ งๆ ได้รบั รูแ้ ละมีความเข้าใจตรงกัน สสส. ไดส้ นบั สนุนกระบวนการจดั ท�ำแผนยุทธศาสตรแ์ บบมีส่วนรว่ ม โดยในการจัดท�ำแผนหลัก ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓) และแผนการด�ำเนินงานประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ น้นั สสส. ไดน้ �ำขอ้ เสนอ แนะจากผลการประเมินการด�ำเนินงาน ร่วมกับใช้ข้อมูลจากรายงานการทบทวนสถานการณ์แนวโน้ม ทางสขุ ภาพของคนไทยทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาของสถาบนั วจิ ยั เพอื่ การพฒั นาประเทศ (TDRI) และขอ้ มลู เชงิ วิชาการจากภาคเี ครอื ขา่ ยตา่ งๆ เพ่ือวิเคราะหแ์ ละสรุปสถานการณ์สำ� คัญ และเสนอตอ่ คณะกรรมการ กองทุนฯ ที่มีองค์ประกอบกรรมการจากทุกภาคส่วนในการก�ำหนดแนวนโยบายและจุดเน้นในการ จัดทำ� แผน ของ สสส. ประกอบดว้ ยสาระส�ำคญั ดังน้ี ๑.๑ ใช้ทิศทาง เป้าหมาย และยุทธศาสตร์ ๑๐ ปี เพือ่ การบรู ณาการการทำ� งาน และม่งุ เน้น ความเปน็ ธรรมทางสขุ ภาพ ๑.๒ ตอบสนองแนวนโยบายการปฏิรูปสังคมและเศรษฐกิจตามทิศทางของยุทธศาสตร์การ พฒั นาประเทศ ๑.๓ สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป้าหมาย การพัฒนาอย่างยง่ั ยืน (SDGs) ๑.๔ เนน้ ความส�ำคญั ของการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพทเ่ี หมาะสมกบั พลวตั เชงิ พนื้ ท่ี และกลมุ่ ประชากร ๑.๕ พฒั นานวัตกรรม และใช้เทคโนโลยยี คุ ดิจทิ ัลเพื่อการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ โดยแผนหลกั ทง้ั ๑๕ แผนไดร้ ับแนวนโยบายและจดุ เน้นเพอ่ื ใช้ในการจัดทำ� แผนการด�ำเนนิ งาน ประจ�ำปี ด้วยการสื่อสารและท�ำแผนร่วมกับภาคียุทธศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ส�ำนักงานยังได้มี การเผยแพร่แนวนโยบายและจุดเน้นในการจัดท�ำแผน เพื่อส่ือสารให้เกิดการรับรู้ ความเข้าใจ และ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผเู้ กยี่ วขอ้ งทง้ั ภายใน สสส. ภาคเี ครอื ขา่ ย ประชาชน และผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ตา่ งๆ ผ่านทางเวบ็ ไซต์ของสำ� นักงาน

นอกจากนี้ ฝา่ ยติดตามและประเมินผล ไดส้ นบั สนุนการดำ� เนนิ งานของคณะอนกุ รรมการพัฒนา กรอบการประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานของ สสส. ขึ้น เมือ่ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เพอื่ พัฒนา กรอบการประเมินผลที่สามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของผลงานท่ี สสส. ด�ำเนินงานตามคุณค่าหลัก ขององค์การ รวมทงั้ สามารถสะท้อนภาพรวมขององคก์ าร รวมทั้งเช่อื มโยงไปสเู่ ปา้ หมายในระยะ ๑๐ ปี ของ สสส. ได้อย่างชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาพัฒนากรอบการประเมินผลการด�ำเนินงาน สร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ท่ีตอบสนองต่อเป้าหมายและภารกิจในระดับแผนและสะท้อนภาพรวม การท�ำงานในระดบั องค์การได้ ทง้ั นี้ ไดพ้ ัฒนากรอบการประเมินฯ แลว้ เสรจ็ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ และจะ เริม่ ผลกั ดันให้เกิดการใชง้ านใน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ๒. ควรพจิ ารณาการปฏริ ปู องคก์ ร (Organization Transformation) เพอื่ รองรบั การดำ� เนนิ งาน ตามบทบาทและพันธกจิ ของ สสส. โดยน�ำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เปน็ เคร่ืองมือ (information technology enabler) ในการพฒั นาและปรบั ปรงุ การดำ� เนนิ งานอยา่ งเปน็ ระบบใหม้ คี วามสะดวก รวดเรว็ มคี วามถกู ตอ้ ง ทนั ใชง้ าน และมปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ขนึ้ สามารถตอบสนองกลมุ่ เปา้ หมายตา่ งๆ และสอื่ สารกบั สงั คมไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งที อาทิ การปรบั ปรงุ ระบบขอ้ มลู สารสนเทศทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน และการตดั สนิ ใจ การสรา้ งฐานขอ้ มลู ทม่ี กี ารเชอ่ื มโยงทงั้ ภายในและภายนอก ระบบการตดิ ตอ่ สอื่ สาร เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจรว่ มกัน การนำ� เทคโนโลยมี าใช้ในการลดข้นั ตอนการดำ� เนินงาน สสส. ตระหนกั ถงึ ความส�ำคัญของขอ้ มลู องคค์ วามรู้ตา่ งๆ ทีเ่ กิดข้นึ จากการด�ำเนินงานทีผ่ า่ นมา จึงได้มกี ารแตง่ ตัง้ คณะท�ำงานขบั เคลอ่ื นแผนแม่บทการจดั การความรขู้ อง สสส. ข้ึน โดยมีการท�ำงาน ควบคู่กับคณะอนุกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการน�ำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเคร่ืองมือ ในการท�ำงานและจัดการข้อมูลต่างๆ (information technology) เพ่ือใช้ในการปฏิบัติงานและการ ตัดสนิ ใจ ทั้งนี้ ฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศได้มกี ารจัดทำ� แผน ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓) ที่มีจดุ เน้นและเป้าหมายดงั นี้ จดุ เน้นที่ ๑ จดั กระบวนการทำ� งานสคู่ วามเปน็ ดจิ ิทลั ๒ ด้าน คือ ๑.๑ การสนบั สนนุ โครงการ : มรี ะบบสนบั สนนุ การทำ� โครงการ ตั้งแตก่ ารจดั ทำ� แผน ขอ้ มูลข้อ เสนอโครงการ พจิ ารณาโครงการ ทำ� ขอ้ ตกลง รายงานความกา้ วหนา้ รายงานการเงนิ ตรวจสอบโครงการ จดั การโครงการยอ่ ย จดั การครภุ ณั ฑโ์ ครงการ ดำ� เนนิ โครงการ ปดิ โครงการ ไปจนถงึ การประเมนิ ผลราย แผน 154 ๑.๒ การสนับสนุนงานภายใน : มรี ะบบบญั ชสี �ำนักงานที่มกี ารควบคมุ ภายในทดี่ ีและตรวจสอบ ได้ มรี ะบบสนับสนุนการจัดประชุมตั้งแตก่ ารเตรยี มประชมุ ไปจนถึงการโอนเงินประชมุ มีระบบบรหิ าร งานบุคคลท่รี องรับการบริหารจดั การบคุ ลากรตง้ั แตเ่ ร่ิมรับสมัครจนสน้ิ สดุ การจา้ ง

จุดเน้นที่ ๒ พัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการความรู้ โดย 155 มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สสส. และภาคี โดยการพัฒนาแม่บทที่ส�ำคัญ ๒ แผน คือ ๒.๑ แผนแม่บทสารสนเทศและแผนปฏิบัติการสารสนเทศ ที่สนับสนุนการด�ำเนินงาน เพิ่ม ประสทิ ธภิ าพ และพัฒนาไปสอู่ งคก์ รดิจิทัล ซึ่งมจี ดุ เน้นการดำ� เนินงาน ดังนี้ • การจัดการกระบวนการท�ำงานสู่ความเป็นดิจิทัล โดยปรับปรุงกระบวนการท�ำงาน และพัฒนาระบบสารสนเทศที่สนับสนุนให้มีการด�ำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ ท่ีให้บริการได้ อยา่ งรวดเร็ว • การจดั การข้อมลู และความรู้ โดยพฒั นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและฐานข้อมลู ที่ สนบั สนนุ การจัดการขอ้ มลู และความรู้ • พัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ องค์กร ๒.๒ แผนแม่บทการจัดการความรู้ของ สสส. พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ท่ีมีองค์ประกอบส�ำคัญ ๓ ประการ ไดแ้ ก่ • คน (People) เปน็ แหลง่ ความรู้ และเป็นผ้นู �ำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ • กระบวนการจดั การความรู้ (Process) เปน็ การบรหิ ารจดั การ เพอ่ื รวบรวมองคค์ วามรู้ มาจดั การใหเ้ ปน็ ระบบเพื่อให้ทกุ คนในองคก์ รสามารถน�ำความรูจ้ ากแหลง่ ความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพ่อื ทำ� ให้เกดิ การปรับปรุง และนวัตกรรม • เทคโนโลยี (Technology) เปน็ เครอื่ งมอื เพอื่ ให้คนสามารถค้นหาจดั เกบ็ แลกเปล่ยี น รวมท้งั น�ำความรูไ้ ปใชไ้ ด้อยา่ งสะดวกและรวดเรว็ ขึ้น จดุ เน้นท่ี ๓ รกั ษาความมั่นคงปลอดภยั ด้านสารสนเทศ เกดิ โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศทมี่ น่ั คงปลอดภยั รองรบั การทำ� งาน ทงั้ จากภายใน และภายนอกส�ำนักงาน ที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมรบั สถานการณฉ์ ุกเฉิน ๓. ควรเพิ่มการบูรณาการการด�ำเนินงานทั้งภายในแผนและระหว่างแผนในด้านต่างๆ อาทิ ด้านข้อมูล ด้านเป้าหมาย ด้านการด�ำเนินงาน ด้านการติดตามประเมินผล รวมท้ังก�ำหนด ตัวชว้ี ดั ผลการดำ� เนนิ งานร่วมกนั ท้งั นี้ เพือ่ ให้เกดิ การหนุนเสริมซง่ึ กนั และกนั และลดความทับซ้อน ของทรัพยากรทจี่ ะใช้ด�ำเนนิ งาน ส�ำนักงานได้มีการด�ำเนินงานด้านบูรณาการ โดยมุ่งเน้นให้มีการท�ำงานเช่ือมประสานในระดับ ตา่ งๆ ดังน้ี ระดับภายใน สสส. ผู้บริหาร สสส. ได้ตกลงร่วมกันเพ่ือให้ทุกแผนก�ำหนด “เป้าหมายและ ตัวช้ีวัดร่วม” เพ่ือบูรณาการการด�ำเนินงานกับแผนอื่นๆ โดยก�ำหนดให้มีน้�ำหนักตัวชี้วัดร่วมดังกล่าว อย่างนอ้ ยร้อยละ ๒๐ โดยใน พ.ศ. ๒๕๖๑ ทกุ แผนได้จัดท�ำตวั ช้วี ัดบรู ณาการในการดำ� เนนิ งานร่วมกนั ทงั้ ๑๕ แผน รวมทง้ั หมด ๒๗ ตวั ชวี้ ัด โดยตัวช้วี ดั ส่วนใหญ่มกี ารก�ำหนดกระบวนการ เปา้ หมายผลการ ดำ� เนินงาน และการประเมินผลรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน

ระดบั ภายนอก สสส. มกี ารดำ� เนนิ การตามแนวทางการจดั ตงั้ เขตบรกิ ารสขุ ภาพเพอื่ ประชาชน (ตามมติของคณะรัฐมนตรี) ซึ่งเป็นการด�ำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบสุขภาพให้เกิดการ บรู ณาการในการทำ� งานรว่ มกนั จากการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ นในสงั คม โดย สสส. เปน็ ฝา่ ยเลขานกุ าร ในเขตพน้ื ทที่ ง้ั ๑๒ เขตรว่ มกบั สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (สปสช.) สำ� นกั งานคณะกรรมการ สุขภาพแหง่ ชาติ (สช.) กระทรวงสาธารณสขุ (สธ.) และกรุงเทพมหานคร (เขตท่ี ๑๓) ๔. เน่อื งจากในแต่ละปี สสส. มีประเดน็ ขอ้ ค้นพบ ข้อเสนอแนะเปน็ จำ� นวนมาก ทั้งจากการ ประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งาน การตรวจสอบภายใน รวมทงั้ จากภาคนโยบายและผมู้ หี นา้ ทใ่ี นการกำ� กบั ดแู ล สสส. ในทกุ ระดบั ดงั นนั้ สสส. ควรมรี ะบบในการจดั การ วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ อ้ คน้ พบและ ขอ้ เสนอแนะดงั กลา่ วอนั จะนำ� ไปสคู่ วามเขา้ ใจและความรใู้ หมๆ่ เพอื่ ใชใ้ นการกำ� หนดนโยบาย/แผน/ กลยทุ ธ์ การจดั ลำ� ดับความสำ� คัญในการด�ำเนินงาน รวมท้ังเพ่อื ให้เกดิ การพัฒนาและการปรบั ปรุง การด�ำเนนิ งานตามขอ้ เสนอแนะต่างๆ เหล่านัน้ อยา่ งไดผ้ ลและตอ่ เนอ่ื ง สสส. ไดม้ ีการมอบหมายและกำ� หนดเป็นตวั ช้ีวดั แกส่ �ำนกั พฒั นานโยบายและยทุ ธศาสตร์ โดยให้ มีการวิเคราะห์ข้อมูล และจัดกลไกการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะต่างๆ และให้มีการออกแบบระบบ การจัดการตอบสนองตอ่ ข้อเสนอแนะในภาพรวม คือ ระบบ “Management Response System” ท่ี เชอ่ื มโยงกบั ระบบยอ่ ยตา่ งๆ ทม่ี กี ารดำ� เนนิ งานอยแู่ ลว้ ในปจั จบุ นั ไดแ้ ก่ การบรหิ ารความเสยี่ ง การตรวจ สอบภายใน การตอบสนองต่อขอ้ สงั เกตและขอ้ ค้นพบของส�ำนกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ (สตง.) และ การตอบสนองตอ่ ผกู้ �ำกับติดตามและประเมินผล สสส. อาทิ คณะกรรมการประเมนิ ผล สสส. กรมบัญชี กลาง และ สำ� นกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (กพร.) รวมถงึ การตอบสนองตอ่ นโยบายตา่ งๆ ของรฐั บาลดว้ ย ทงั้ น้ี เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาและการปรบั ปรงุ การดำ� เนนิ งานตามขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ เหลา่ นน้ั อยา่ งไดผ้ ลและตอ่ เนอื่ ง และเปน็ การจดั การองคค์ วามรทู้ เ่ี กดิ ขนึ้ เพอ่ื นำ� มาใชใ้ นการพฒั นาสำ� นกั งานตอ่ ไป 156

รายงานของคณะกรรมการประเมินผล รายงานของคณะอนุกรรมการก�ำกบั ดูแล การตรวจสอบภายใน รายงานของสำ� นักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ

รายงานของคณะกรรมการประเมินผล การดำ� เนินงาน กองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ (เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ - กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑) โดยคณะกรรมการประเมินผลการด�ำเนินงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รายนามคณะกรรมการประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งาน กองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑. ศ.ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ ประธานกรรมการประเมินผล ๒. รศ.ปาริชาติ วลัยเสถยี ร กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒดิ ้านการประเมนิ ผล ๓. รศ.นภาภรณ์ หะวานนท ์ กรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิด้านการประเมนิ ผล ๔. นางเพชรศรี ศิรนิ ิรันดร์ กรรมการผูท้ รงคณุ วุฒดิ ้านสร้างเสริมสุขภาพ ๕. ศ.ทิพวรรณ หลอ่ สุวรรณรัตน์ กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิดา้ นการประเมนิ ผล ๖. นายมนสั แจม่ เวหา กรรมการผทู้ รงคุณวุฒดิ ้านการเงนิ ๗. รศ.ชโยดม สรรพศร ี กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิดา้ นการเงิน 158

อำ� นาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) พ.ศ. ๒๕๔๔ ตามความในมาตรา ๓๗ ได้ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการประเมินผลการด�ำเนินงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพ่ือ ปฏิบตั ิหน้าทตี่ ามมาตรา ๓๗ แหง่ พระราชบัญญตั ิฯ ดังนี้ ๑. ประเมนิ ผลด้านนโยบายและการก�ำหนดกิจกรรมของกองทนุ ๒. ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำ� เนนิ งานของกองทุน ๓. รายงานผลการปฏิบัตงิ านพร้อมทัง้ ขอ้ เสนอแนะต่อคณะกรรมการในทกุ รอบปี ขอบเขตการประเมินผลของ สสส. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะกรรมการประเมนิ ผลฯ ไดก้ ำ� หนดประเดน็ การประเมนิ ผลการ ด�ำเนินงานสร้างเสรมิ สขุ ภาพของ สสส. ๒ ดา้ น ดังนี้ ๑. การประเมนิ ผลการด�ำเนินงานของกองทนุ ประกอบด้วย 159 ๑.๑ การประเมินผลการด�ำเนนิ งานของ สสส. ตามหลกั การของ Balanced Scorecard คณะกรรมการประเมินผล เห็นชอบให้มีการก�ำหนดตัวช้ีวัดผลการด�ำเนินงานขององค์กร โดย ยงั คงใหใ้ ชห้ ลักการของ Balanced Scorecard ตามกรอบการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงาน ของรัฐท่ีจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะของส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พ.ศ. ๒๕๕๓ รวมทงั้ มกี ารน�ำกรอบหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการด�ำเนินงานทนุ หมุนเวยี นของ กรมบญั ชกี ลาง กระทรวงการคลงั พ.ศ. ๒๕๖๑ มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พมิ่ เตมิ ทงั้ น้ี ไดม้ กี ารปรบั รปู แบบตวั ชวี้ ดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั การประเมนิ ผลในบรบิ ทและขอ้ เทจ็ จรงิ ของการดำ� เนนิ งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของ สสส. โดยมเี ปา้ หมายส�ำคญั เพื่อให้การดำ� เนินงานตามพนั ธกจิ และการบริหารจัดการของ สสส. เป็นไปอย่างมี ประสิทธภิ าพและมกี ารพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่ือง การประเมนิ ผลครอบคลุมการด�ำเนินการใน ๕ ด้าน ดังนี้ ๑) ดา้ นผลสมั ฤทธ์ิตามพนั ธกิจของแผนหลกั ๑๕ แผน โดยใช้กระบวนการประเมนิ แบบมี ส่วนร่วมของ ๑๕ แผนในการประเมนิ ตนเอง (self-assessment) ร่วมกบั คณะกรรมการบริหาร แผนท่ีกำ� กับดูแลแตล่ ะแผน และประเมินผลสุดท้ายโดยคณะกรรมการกลางประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ รายแผนของ สสส. ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒) ดา้ นผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ตอ่ การดำ� เนนิ งานของกองทนุ ในสว่ นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ๑) ภาคการเมอื ง และนโยบาย โดยวิธีการประเมินตนเองในการตอบสนองต่อมติ/ค�ำแนะน�ำของคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะกรรมการประเมินผลฯ ๒) การขยายกลุ่มผู้รับประโยชน์ เพื่อสร้างโอกาสในการท�ำงานสร้างเสริมสุขภาพกับภาคประชาสังคม โดยประเมินจากจ�ำนวน ภาคีรายใหมท่ ีจ่ ัดเก็บในระบบบริหารโครงการออนไลน์ และ ๓) การสอื่ สารองคก์ ร เพ่อื ท�ำความ เขา้ ใจกบั สงั คมและพัฒนาศกั ยภาพของภาคี โดยการส�ำรวจขอ้ มูลโดยบคุ คลภายนอก

๓) ด้านการเงิน มีการประเมิน ๒ ส่วน ประกอบด้วย ๑) การประเมินประสิทธิภาพ การใชจ้ า่ ยเงิน พิจารณาจากการอนุมัติงบประมาณและเบิกจา่ ยงบประมาณประจ�ำปี บรรลุตาม เป้าหมายที่ตงั้ ไว้ โดยใชข้ อ้ มูลจากระบบบรหิ ารโครงการออนไลน์ และ ๒) การวดั ความสามารถ ในการบริหารจัดการการเงิน พิจารณาจากการบริหารจัดการเงินทุนท่ียังไม่ถึงก�ำหนดเบิกจ่าย และการจดั ส่งรายงานการรบั และการใช้จา่ ยเงนิ ให้กรมบญั ชกี ลางภายในเวลาท่ีกำ� หนด โดยการ ประเมินตนเองของฝ่ายการเงิน ๔) ดา้ นปฏบิ ตั กิ าร เพอื่ ประเมนิ การบรหิ ารจดั การโครงการ/กจิ กรรมทเี่ กยี่ วขอ้ งไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ มีการติดตามผลการด�ำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามก�ำหนดและมีการจัดการ ความรู้เพื่อสนับสนุนการด�ำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยใช้ข้อมูลจากระบบบริหารโครงการ ออนไลน์ การประเมินตนเอง และรายงานที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์และประเมินผลเปรียบเทียบ กบั ผลการด�ำเนินในปที ่ีผ่านมา ๕) ด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน โดยใช้กรอบหลักเกณฑ์การประเมินผล การด�ำเนินงานทุนหมุนเวียนประจ�ำปีบัญชี พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงกลไกหลัก ๕ ด้านให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน ได้แก่ บทบาทคณะกรรมการกองทุน การบริหารความเส่ียง และการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหารจัดการสารสนเทศ และการบริหาร ทรพั ยากรบคุ คล ๑.๒ การประเมนิ ผลการบริหารจัดการท่ีดีตามหลกั ธรรมาภบิ าลของ สสส. คณะกรรมการประเมนิ ผลฯ เหน็ ชอบให้มีการ ใช้กรอบการประเมนิ ผลตามหลกั ธรรมาภบิ าลท้ัง ๖ หลักการ ไดแ้ ก่ หลักการปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทับซ้อน (conflict of interest) หลกั การแสดงความ รับผิดชอบต่อผลงาน (accountability) หลักการมีส่วนร่วม (participation) หลักความโปร่งใส (transparency) หลักนิติธรรม (rule of law) และหลักความถูกต้องชอบธรรม (integrity) ในการ ประเมินผลฯ โดยวิธีการประเมินใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ท่ีฝ่ายต่างๆ ในส�ำนักงานร่วมกันเก็บข้อมูล สง่ ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ภายนอกทำ� การประเมนิ ใหค้ ะแนนตามหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ทผี่ า่ นความเหน็ ชอบจาก คณะกรรมการประเมินผล ๒. การประเมนิ ผลตามข้อกฎหมาย ประกอบดว้ ย 160 ๒.๑ การประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสของหนว่ ยงานภาครฐั (Integrity & Transparency Assessment-ITA) ตามขอ้ กำ� หนดของคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ (สำ� นกั งาน ป.ป.ช.) โดยมกี ารวัดผล ๕ ด้าน ได้แก่ ๑) ดชั นคี วามโปร่งใส ๒) ดัชนคี วามพรอ้ มรบั ผดิ ๓) ดชั นคี วาม ปลอดจากการทุจรติ ในการปฏบิ ัตงิ าน ๔) ดัชนวี ัฒนธรรมคณุ ธรรมในองค์กร และ ๕) ดชั นีคุณธรรมการ ทำ� งานในหน่วยงาน ๒.๒ การตรวจสอบจากสำ� นักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ (สตง.) ครอบคลมุ การบริหารจัดการ ดา้ นการเงนิ และการบญั ชีของ สสส. ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐๓๙ด�ำเนินการโดย สำ� นักงานการ ตรวจเงินแผน่ ดิน ๓๙ สตง. จะสง่ ผลการตรวจสอบฯ พรอ้ มขอ้ สงั เกตและขอ้ ทกั ทว้ งของแตล่ ะปงี บประมาณ ในชว่ งเดอื นเมษายนของปปี ฏทิ นิ ถดั ไป

๒.๓ การประเมินองค์การมหาชนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏบิ ตั ริ าชการ (ก.พ.ม.)๔๐ เป็นการด�ำเนินการตามค�ำส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีค�ำส่ังท่ี ๕/๒๕๕๙ เร่ืองมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้มี การประเมินส่วนราชการและบุคลากรภาครัฐ เพ่ือประโยชน์ในการปฏิรูประบบการบริหารราชการ แผ่นดนิ การประเมินประกอบด้วย ๕ องค์ประกอบ ได้แก่ หลักภารกจิ พืน้ ฐานฯ (functional based) หลักภารกิจยุทธศาสตร์ (agenda based) หลกั ภารกจิ พื้นที่/ท้องถิน่ ฯ (area based) หลักการบริหาร จดั การและพฒั นานวตั กรรม (innovation based) และศกั ยภาพในการเปน็ สว่ นราชการทม่ี คี วามสำ� คญั ในเชิงยุทธศาสตร์ (potential based) ในการประเมินผล ฝ่ายต่างๆ ในส�ำนักงานร่วมกันเก็บข้อมูล ส่งใหผ้ ู้ประเมินภายนอกท�ำการประเมนิ ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ม. กำ� หนด รปู แบบและวิธีการประเมินผล การประเมนิ ผลการดำ� เนินงานของ สสส. ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยคณะกรรมการ ประเมนิ ผลฯ ด�ำเนนิ การใน ๓ รปู แบบ ได้แก่ (๑) การประเมินโดยบุคคลภายนอก เป็นการสร้างกลไกการประเมินเพื่อให้ได้ผลการ ประเมินท่ีมคี วามนา่ เชือ่ ถอื สามารถน�ำเสนอตอ่ สาธารณะได้ (๒) การประเมินแบบมีส่วนร่วม เป็นกลไกการประเมินที่ให้แผนต่างๆ ประเมินตนเอง (self-assessment) และเสนอใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารแผนทกี่ ำ� กบั ดแู ลแตล่ ะแผนพจิ ารณา กอ่ น การประเมินผลการด�ำเนินงานขั้นสุดท้าย โดยคณะกรรมการกลางประเมินผลสัมฤทธิ์รายแผน ทงั้ ๑๕ แผน ทแ่ี ตง่ ตง้ั โดยคณะกรรมการประเมนิ ผลฯ และมผี แู้ ทนของคณะกรรมการประเมนิ ผลฯ ร่วมอยู่ในคณะกรรมการกลางฯ ดังกล่าวด้วย (๓) การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามกรอบการประเมนิ ไดแ้ ก่ ดา้ นการเงนิ และดา้ ปฏบิ ตั กิ าร ซ่งึ เป็นการประเมนิ ประสทิ ธิภาพการอนุมตั แิ ละเบกิ จา่ ยงบประมาณ การบรหิ ารจดั การโครงการ และกิจกรรมท่ีเก่ียวข้อง โดยใช้ข้อมูลจากระบบบริหารออนไลน์เปรียบเทียบกับเกณฑ์คะแนน ท่ีกำ� หนดไว้ 161 ๔๐ ก.พ.ม. หมายถงึ คณะกรรมการพฒั นาและสง่ เสรมิ องคก์ ารมหาชน

การประเมินผลการด�ำเนินงานของกองทุน ๑. การประเมนิ ผลการดำ� เนินงานของ สสส. ตามหลักการของ Balanced Scorecard ผลการดำ� เนนิ งานในภาพรวมของ สสส. ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีคะแนนสงู ขน้ึ เมื่อเปรียบ เทียบกบั ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ดังแสดงในรูปที่ ๑ คะแนน พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๔.๘๓ ๔.๙๐ ๔.๓๐ ๔.๗๓ ๔.๕๐ ๔.๓๐ ๔.๑๐ ๔.๗๒ ๕.๐๐ ๔.๘๐ ๔.๖๔ ๔.๗๑ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ ภาพรวม รูปท่ี ๑ แสดงคะแนนเฉลี่ยผลการด�ำเนนิ งานของ สสส. ในดา้ นตา่ งๆ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑ เมอ่ื พจิ ารณาคะแนนของแตล่ ะดา้ น พบว่า มีผลการดำ� เนินงานทส่ี ูงขน้ึ ใน ๓ ดา้ น ได้แก่ ด้านผล สมั ฤทธต์ิ ามพนั ธกจิ ดา้ นผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และดา้ นปฏบิ ตั กิ าร๔๑ สว่ นผลการดำ� เนนิ งานทลี่ ดลง ๒ ดา้ น 162 ไดแ้ ก่ ดา้ นการเงนิ และดา้ นพฒั นาทนุ หมนุ เวยี น เหตผุ ลมาจากการเรมิ่ ใชร้ ะบบบรหิ ารโครงการออนไลน์ (e-granting) เพ่ือการบริหารจัดการสารสนเทศ ซึ่งระบบยังอยู่ระหว่างการพัฒนาจึงส่งผลกระทบ ต่อตวั ชว้ี ัดทเ่ี กย่ี วข้อง ๔๑ ไมร่ วมคา่ คะแนนตวั ชว้ี ดั ท่ี ๑๐ รอ้ ยละของขอ้ เสนอโครงการทม่ี คี ณุ ภาพ เนอื่ งจาก สสส. ไดเ้ รมิ่ ใหม้ กี ารใชง้ านระบบขอ้ เสนอโครงการออนไลน์ (e-proposal) เมอ่ื ปงี บประมาณ ๒๕๖๑ และพบวา่ มปี ญั หาเรอื่ งความไมพ่ รอ้ มของระบบทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ คณุ ภาพขอ้ เสนอโครงการ จงึ เปน็ ขอ้ จำ� กดั ในการประเมนิ ซงึ่ ทางคณะกรรมการประเมนิ ผลฯ พจิ ารณาแลว้ จงึ มมี ตใิ นการประชมุ ครง้ั ที่ ๑๑/๒๕๖๑ วนั ที่ ๑ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ใหย้ กเวน้ การประเมนิ ตวั ชวี้ ดั นใ้ี นปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑

เม่อื พจิ ารณาผลการด�ำเนินงานแต่ละด้านสรุปไดด้ ังน้ี ๑.๑ ดา้ นผลสมั ฤทธต์ิ ามพนั ธกจิ ผลการดำ� เนนิ งานในภาพรวมทงั้ ๑๕ แผนถอื วา่ บรรลเุ ปา้ หมาย ตามแผนและมีผลการด�ำเนินงานดีขึ้น เม่ือเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ดังแสดง ในรปู ท่ี ๒ คะแนน พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๕ ๔.๙๓ ๔.๘ ๕.๐๐ ๔.๖ ๔.๗๑ ๔.๔ ๔.๙๕ ๔.๒ ๔.๙๖ ๔.๙๖ ๔ ๔.๕๖ ๔.๓๖ ๔.๙๓ ๕.๐๐ ๔.๙๓ ๔.๙๗ ๔.๗๒ ๔.๕๒ ๔.๕๖ ๔.๖๐ ๔.๙๖ ๕.๐๐ ๔.๙๗ ๕.๐๐ ๔.๗๖ ๔.๙๑ ๔.๗๘ ๕.๐๐ ๔.๕๔ ๔.๙๐ ๔.๙๗ ๕.๐๐ ๔.๙๓ ๔.๙๘ ๔.๘๓ ๔.๙๐ ๐๒๐-๓ค-วกบารคจุมดั เคกราอื่รงคดวม่ืา๐มแ๑ปอ-คลลวกอบดอคฮภุมอยั ลยแ๐์แาล๔สละ-ปบูะคสัจวงิ่จบเัยสคเพสมุ ยี่ตป๐งดิจั๕ทจ-สายั งุขเสสภ่ียังางวคทะม๐ปา๗รงะส-ชสุขาุขภกภาราพกวละเ๐ุ่มด๖เก็ ฉ-สพเย๐ขุาา๘ภะว-าชสวนระชา้ แงุมลเชสะ๑นคร๒๑๐ริม-๐อ๙สสบ--ุขนรสคภ๑บัะ่งรบา๑๑สเัววสบ๓-นะสรส-ในุ พิมนรอ่ื ก้ากอัฒแงางจิลรสนกคะสรวาร์กรรริถรรา้คะีสมงบ์โขุทอเบสภากแรางาลวิมกสะะสาแกทยุขลลาภะงไนากปพวสัญตัผนกญบั่ารนสารรนมะุนบสเบขุพภบื่อารกวิกาะารรสสรุข้าภง๑าเ๑๕สพ๔-รส-ิมอรสา้าุขหงภเาสรารพเพิมคอื่ สวาขุ มภเาขว้าะใจสขุ ภาวะ ภาพรวม รูปท่ี ๒ แสดงผลการประเมนิ ผลสมั ฤทธริ์ ายแผน เปรยี บเทยี บปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑ โดยมี ๑๓ แผนทม่ี ผี ลการดำ� เนนิ งานสงู ขน้ึ และมเี พยี ง ๒ แผนทม่ี ผี ลการดำ� เนนิ งานลดลงเมอ่ื เทยี บกบั 163 ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไดแ้ ก่ แผนปจั จยั เสยี่ งทางสขุ ภาพ และแผนเดก็ เยาวชนและครอบครวั เหตผุ ล ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อจ�ำกัดในการด�ำเนินงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนท่ีรับผิดชอบ ท้ังนี้ แผนอยรู่ ะหวา่ งการปรบั กระบวนการท�ำงานเพ่ือให้สามารถบรรลผุ ลตามเปา้ หมายท่ตี ้ังไว้ ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มกี ารดำ� เนนิ งานทบ่ี รรลผุ ลสมั ฤทธต์ิ ามเปา้ ประสงคใ์ นหลายประเดน็ ที่ ส�ำคัญ คือ การด�ำเนินงานเพื่อลดปัจจัยเส่ียงทางสุขภาพ ในประเด็นการป้องกันและควบคุม โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั (Non-communicable diseases-NCDs) ซงึ่ เปน็ สาเหตขุ องการเสยี ชวี ติ อนั ดบั ตน้ ๆ ของประชากรไทย เชน่ การสง่ เสรมิ กจิ กรรมกาย สง่ ผลประชากรไทยมกี จิ กรรมทางกายในชวี ติ ประจำ� วนั เพม่ิ ขน้ึ กวา่ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยพบวา่ ประชากรไทยมกี จิ กรรมทางกายดว้ ยการวงิ่ เพมิ่ ขนึ้ ถงึ ๑๕.๑ ลา้ นคน การส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ท่ีปลอดภัยอย่างเพียงพอตามข้อแนะน�ำองค์การอนามัยโลก (๔๐๐ กรัมต่อวันหรือ ๕ ส่วนมาตรฐาน) มีผลท�ำให้อัตราการบริโภคผักและผลไม้ท่ีปลอดภัย อยา่ งเพยี งพอเพิม่ ข้ึนบรรลุเป้าหมายระยะ ๑๐ ปที ก่ี �ำหนดไว้ การสนับสนุนให้เกิดการพัฒนามาตรฐาน การบรกิ ารเลกิ สบู บหุ รแ่ี ละดม่ื แอลกอฮอลใ์ นระดบั บรกิ ารตา่ งๆ มผี สู้ มคั รใจมาใชบ้ รกิ ารเพอ่ื เลกิ บหุ รเ่ี ฉลย่ี ๖,๐๐๐ ราย/เดอื น และเลกิ ดมื่ เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ ๑๐,๐๐๐ ราย/เดอื น และมผี ทู้ ส่ี ามารถเลกิ สบู บหุ ร่ี ๙๐๐ ราย/เดอื น และเลิกดม่ื เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ ๔๐๐ ราย/เดอื น มากกว่าเป้าหมายทก่ี �ำหนดไว้

























176

177

178

179

180

181

182

183

184

185

186

187

188

189

190

191

192

193

194

195

196

197

198

199

200