รูจ้ ักกองทุน สสส. 1 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔ มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือ รัฐวิสาหกิจ ก�ำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการกองทุน เร่ิมด�ำเนินงานมาตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๔ สสส. มหี นา้ ที่ “รเิ รมิ่ ผลกั ดนั กระตนุ้ สนบั สนนุ และรว่ มกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ในการขับเคล่ือนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ” เพื่อให้บรรลุผลในการลดอัตราการเจ็บป่วยและ เสียชีวิตก่อนวัยอันควร กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเช่ือ และการปรับเปลี่ยน สภาพแวดลอ้ มให้เอื้อต่อคุณภาพชีวิต ช่วยลดภาระทางเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ ทีม่ าของเงนิ ทุน เงนิ บำ� รงุ กองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ มาจากภาษเี พอื่ วตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะ (Earmarked Tax) ท่ีรัฐจดั เกบ็ เพิ่มจากผู้ผลติ และน�ำเข้าสรุ าและยาสูบในอตั รารอ้ ยละ ๒ ของภาษที ตี่ อ้ งชำ� ระ ระบบการจดั เกบ็ ภาษเี พื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เป็นจ�ำนวนเงินทไี่ ม่ไดห้ กั มาจากภาษที ผ่ี ้ผู ลิตและ น�ำเข้าสรุ าและยาสบู ต้องเสยี ใหก้ บั รัฐ แตเ่ ป็นการเกบ็ “ภาษีเพ่มิ ” จากภาษปี กติ โดยไมใ่ ชก่ ารแบ่งมา จากภาษสี รรพสามิตที่เกบ็ เขา้ คลงั หลักในการท�ำงาน สสส. ถือว่าการพัฒนางานสร้างเสริมสุขภาพเป็นเรื่องของทุกคนและทุกองค์กร บทบาทหลัก ของ สสส. คอื การสนับสนุน และร่วมมอื กับบุคคล กลมุ่ และองคก์ รต่างๆ ในการเป็น “ภาคีเครือข่าย” ร่วมสร้างเสริมสุขภาพของคนไทย และการท�ำงานจะไม่จ�ำกัดเฉพาะบุคคล กลุ่ม หรือองค์กรใน ภาคส่วนใดภาคสว่ นหนงึ่ แตเ่ ชอื่ มโยงกันทั้งภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน บทบาทหลักของ สสส. สสส. ท�ำหนา้ ที่ “จดุ ประกาย กระตนุ้ สาน และเสริมพลัง บุคคล และองค์กรทกุ ภาคสว่ น ให้มี ขดี ความสามารถ และสรา้ งสรรคร์ ะบบสงั คม ทเี่ ออื้ ตอ่ การมสี ขุ ภาวะ” ในการขบั เคลอื่ นกระบวนการ สร้างเสริมสุขภาพอย่างเข้มแข็งในสังคมไทย ท�ำหน้าที่ด่ัง “น้�ำมันหล่อล่ืน” ก่อให้เกิดการพัฒนา อย่างคล่องตัวและตอ่ เนอื่ ง
สารบญั แนะนำ� กองทนุ ๑ สารจากผูบ้ ริหาร ๔ • สารประธานกรรมการกองทนุ ๖ • สารประธานกรรมการประเมนิ ผล ๘ • สารผจู้ ัดการกองทุน ๑๑ ๑สว่ นท่ี สาระส�ำคญั ๑๗ • บทสรปุ ส�ำหรบั ผู้บรหิ าร ๓๒ • สถานการณ์ปัจจยั เสย่ี งหลกั ตอ่ สขุ ภาพ ๔๐ • ผลงานเด่น ๗ ดา้ น ๔๗ ๑. ขบั เคลือ่ นยทุ ธศาสตรล์ ดผูป้ ่วย NCDs ภยั เงียบคุกคามประชาคมโลก ๕๒ ๕๘ ๒. ปลกุ พลังคนรนุ่ ใหม่ สรา้ งสังคมปลอดบหุ ร ี่ ๖๔ ๗๑ ๓. ชมุ ชนเขม้ แขง็ สู้เหล้า ๗๖ 2 ๔. ส่งเสริมพัฒนาการเด็กและเยาวชน สูพ่ ลเมอื งคุณภาพ ๘๖ ๕. พฒั นาสังคมสขุ ภาวะเพอ่ื ทกุ ชวี ติ ๖. พฒั นาส่ือสร้างสรรค์ เสรมิ ภมู ิคุม้ กนั ยุคดิจทิ ัล ๗. สง่ เสริมสุขภาพพระสงฆไ์ ทย สผู่ ู้น�ำสุขภาวะ ๒สว่ นที่ การด�ำเนินงาน • ข้อมูลเกีย่ วกบั กองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสริมสุขภาพ • การบรหิ ารงบประมาณกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
๓สว่ นที่ ผลการด�ำเนินงาน ๙๒ ๙๔ • ผลการด�ำเนนิ งานสำ� คญั ตามเป้าประสงค์ ๖ ประการ ๑๑๓ เปา้ ประสงค์ท่ี ๑ ลดปัจจัยเสยี่ งหลัก ๑๒๔ เป้าประสงค์ท่ี ๒ พฒั นากระบวนการลดปัจจัยเส่ียงทางสุขภาพอืน่ ๆ ๑๓๒ เปา้ ประสงค์ที่ ๓ พัฒนาต้นแบบสุขภาวะ ๑๔๐ เปา้ ประสงค์ที่ ๔ สรา้ งความต่นื ตวั และคา่ นิยมใหมใ่ นสงั คม ๑๔๔ เปา้ ประสงค์ที่ ๕ ขยายโอกาสและพฒั นานวัตกรรม ๑๕๓ เปา้ ประสงคท์ ่ี ๖ สง่ เสริมสมรรถนะของระบบสขุ ภาพและบริการสุขภาพ • การด�ำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประเมินผล ๑๕๘ ๑๖๙ ๔ส่วนท่ี การตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการทำ� งาน ๑๗๒ • รายงานของคณะกรรมการประเมินผล • รายงานของคณะอนกุ รรมการก�ำกับดูแลการตรวจสอบภายใน • รายงานของสำ� นักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดิน ภาคผนวก 3 • คณะกรรมการกองทนุ ๒๑๙ • ท่ปี รกึ ษาคณะกรรมการกองทุน ๒๒๑ • คณะกรรมการประเมินผล ๒๒๒
สาร ประธานกรรมการกองทนุ หนึง่ ในกลไกส�ำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปขี องรฐั บาล คอื การสง่ เสรมิ ใหป้ ระชากรมีสขุ ภาวะดใี นทุกด้าน เพื่อเป็น รากฐานทม่ี ่นั คงในการก้าวไปสู่การพัฒนาประเทศใหม้ ีความมน่ั คง มั่งค่งั ยง่ั ยืน “เป้าหมายการพฒั นาคนไทยตามยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี คือ การท�ำให้ประชาชน ทกุ คนเปน็ คนทส่ี มบรู ณ์ มสี มรรถนะทางกาย จติ ใจ จติ สำ� นกึ ทดี่ งี าม มสี ตปิ ญั ญาและมกี ารเรยี นรู้ ตลอดชีวิต” ถอ้ ยคำ� ประกาศของ พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรฐั มนตรี ซ่งึ ยุทธศาสตร์ ของ สสส. กม็ งุ่ ไปในแนวทางเดียวกนั เพ่ือส ร้างสขุ ภาวะให้ครบทั้ง ๔ มติ ิ ครอบคลมุ กาย จิต ปัญญา สงั คม คุณภาพประชากรเป็นปัจจัยพื้นฐานท่ีส�ำคัญท่ีสุดในการพัฒนาที่ย่ังยืน แต่ปัจจุบัน แตล่ ะประเทศถกู ทา้ ทายจากปญั หาความเสยี่ งทางสขุ ภาพนานปั การ โดยเฉพาะโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รงั (non-communicable diseases) หรือโรค NCDs เป็นสาเหตุของการเสยี ชีวติ ล�ำดับตน้ ๆ ของ ประชากร โดยมปี จั จยั มาจากพฤตกิ รรม สงั คมและสิง่ แวดล้อมท่เี ปลย่ี นแปลง ยงิ่ ใชช้ ีวิตไดอ้ ยา่ ง สะดวกสบายขนึ้ ยง่ิ ถอยห่างจากการมีสขุ ภาพดีตามไปดว้ ย 4 นอกจากบทบาททร่ี ฐั บาลดำ� เนนิ การโดยภารกจิ ของกระทรวงสาธารณสขุ และหนว่ ยงาน ภาครัฐต่างๆ แล้ว กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. เป็นอีกกลไกส�ำคัญ ของระบบสุขภาพไทย ที่ท�ำหน้าที่ประสาน เช่ือมโยง ภาคส่วนอื่นๆ ทั้งภาควิชาการ ภาคประชาสงั คม ภาคการสือ่ สาร ภาคเอกชน ภาคท้องถน่ิ มารว่ มกันสร้างเสริมสขุ ภาพคนไทย ลดปจั จยั เสีย่ งทีต่ ้นทาง รวมท้งั สรา้ งนวัตกรรมทใี่ ห้คำ� ตอบใหมๆ่ แกส่ งั คมไทย ซ่ึงหลายค�ำตอบ เป็นตน้ แบบแกส่ งั คมโลกด้วย
จากผลงานเชงิ ประจกั ษ์ ทเี่ กดิ จากความทมุ่ เทเพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะทด่ี ขี องหลากหลายภาคสว่ น สง่ ผลใหป้ ระเทศไทยไดร้ บั การประเมินจากองคก์ ารสหประชาชาติ องค์การอนามยั โลกวา่ ประเทศไทย มผี ลงานอยใู่ นอันดบั สามของโลก เปน็ อันดบั หนง่ึ ในอาเซยี น โดยยกย่องให้ “สสส. เปน็ ตน้ แบบกลไก การทำ� งานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเพื่อปอ้ งกันโรค NCDs ใหแ้ กน่ านาประเทศ” ในนามของประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ผมขอขอบคุณ กรรมการกองทุนทกุ ท่าน บุคลากร รวมถึงภาคีเครือขา่ ยอันกวา้ งขวางทัว่ ประเทศ ทีร่ ่วมกันสรา้ งเสริม สขุ ภาพของประชากรไทยในรูปแบบตา่ งๆ รวมทง้ั ผ่านโครงการกวา่ หา้ พันโครงการที่ สสส. ได้สนับสนุน จนเกดิ เป็นพลังในการรว่ มขับเคล่อื นประเทศไทยสูส่ งั คมสขุ ภาวะตอ่ เนื่องสบื ไป พลเอก (ฉัตรชยั สาริกลั ยะ) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ 5
สารประธานกรรมการประเมนิ ผล การด�ำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพเป็นภารกิจหลักของส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ทจ่ี ำ� เป็นต้องไดร้ บั การพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้สอดคลอ้ ง กบั เป้าหมายท่ไี ด้มกี ารก�ำหนดไว้ การดำ� เนินการนนั้ ควรเปน็ ไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ คมุ้ ค่า และ สามารถตดิ ตามตรวจสอบได้ คณะกรรมการประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ มบี ทบาท ส�ำคัญในการก�ำกับและวางนโยบาย รวมทั้งก�ำหนดวิธีการในการประเมินผลการด�ำเนินงาน ของ สสส. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะกรรมการประเมินผลฯ มีการวางแนวทาง ในการประเมนิ ให้มกี รอบทส่ี ะทอ้ นถงึ คณุ คา่ หลัก (core values) ๓ ด้าน ไดแ้ ก่ การส่งเสรมิ และ สนบั สนนุ การสรา้ งนวตั กรรม (innovation) การสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ ผลกระทบจากการเสรมิ พลงั รว่ ม (collective impact) และการเปล่ียนแปลงท่ีมีความย่ังยืน (sustainable changes) มีการ เชอื่ มโยงกระบวนการทำ� งานของ สสส. และผลลพั ธใ์ นระดบั ตา่ งๆ เพอื่ ใชก้ ำ� หนดแผนยทุ ธศาสตร์ และการพฒั นาโครงการทต่ี อบสนองต่อทิศทาง เป้าหมาย และยทุ ธศาสตร์ระยะยาวของ สสส. ใหช้ ดั เจนมากย่ิงขึน้ 6 ภารกิจประการหน่ึงของคณะกรรมการประเมินผลฯ คือการประเมินผลการด�ำเนินงาน ตามกรอบตัวช้ีวัดขององค์กร โดยเป็นการด�ำเนินการที่มีความต่อเนื่องเป็นประจ�ำทุกปี ใน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พบว่า สสส. มีผลการด�ำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเม่ือเทียบกับ ปที ผี่ า่ นมา ทงั้ ในดา้ นผลสมั ฤทธต์ิ ามพนั ธกจิ ดา้ นการเงนิ ดา้ นผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ดา้ นปฏบิ ตั กิ าร และดา้ นการบรหิ ารพฒั นาทนุ หมนุ เวยี น สสส. สามารถดำ� เนนิ งานไดบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องการ จดั ตง้ั กองทนุ ฯ ครบทกุ ดา้ นอนั ไดแ้ ก่ การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพในประชากร ทุกวยั การสร้างความตระหนัก การสนับสนนุ การรณรงคใ์ ห้ลดพฤตกิ รรมเส่ยี งทางสขุ ภาพและ ใหป้ ระชาชนได้รบั รูข้ อ้ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง การสนับสนนุ ให้เกดิ องค์ความร้แู ละนวตั กรรมการ สร้างเสริมสขุ ภาพ การสรา้ งเสริมขดี ความสามารถของชุมชนและภาคเี ครอื ข่าย ตลอดจนการ สรา้ งความยง่ั ยนื การดำ� เนนิ การดงั กลา่ วมคี วามเชอื่ มโยงกบั กลไกขบั เคลอ่ื นหลกั ในระบบสขุ ภาพ อันจะนำ� ไปสู่การเปลยี่ นแปลงสง่ิ แวดลอ้ มและพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาวะท่ีดีของประชาชน
คณะกรรมการประเมินผลฯ ตระหนักถึงความส�ำคัญท่ี สสส. ต้องได้รับความเชื่อมั่นและ 7 ความไวว้ างใจในการดำ� เนนิ งานจากสาธารณชน จงึ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารประเมนิ การบรหิ ารจดั การทดี่ ตี าม หลกั ธรรมาภบิ าลขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ งเปน็ ปที ่ี ๓ โดยรกั ษาความตอ่ เนอื่ งของกรอบและหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ท่ีมุ่งเน้นให้เกิดมาตรฐานการบริหารจัดการที่ดีทั้งสองด้าน คือ ด้านกระบวนการและด้านผลลัพธ์ กรอบการประเมินน้ีสอดคล้องกับมาตรฐานของหลักธรรมาภิบาล ได้แก่ ๑. การปลอดจากสภาวะ ผลประโยชน์ทบั ซ้อน ๒. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลการดำ� เนนิ งาน ๓. ความมีสว่ นร่วม ๔. ความโปรง่ ใส ๕. หลกั นติ ิธรรม และ ๖. ความถูกตอ้ งชอบธรรม นอกจากนไ้ี ดจ้ ัดทำ� ประกาศเจตจำ� นงและนโยบาย การบรหิ ารกจิ การตามหลกั ธรรมาภิบาล ซงึ่ ลงนามโดยผูจ้ ัดการกองทุน สสส. ทงั้ นี้ เพื่อให้เป็นนโยบาย หรือแนวทางปฏิบัติท่ีเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนส�ำหรับบุคลากรท่ัวท้ังองค์กรในการยึดถือปฏิบัติ อยา่ งเครง่ ครดั ประกาศเจตจำ� นงและนโยบายนจี้ ะมคี วามสำ� คญั อยา่ งมากในการผลกั ดนั หรอื รณรงคใ์ ห้ องคก์ รและเครอื ข่ายที่เก่ยี วข้องยกระดบั การดำ� เนนิ งานตามหลกั ธรรมาภิบาลในอนาคตด้วย ในรอบปีที่ผ่านมา คณะกรรมการประเมินผลฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะหลายประการที่อาจเป็น ประโยชน์ต่อการด�ำเนินงานของกองทุนฯ ท้ังในแง่ของการบรรลุวัตถุประสงค์และประสิทธิภาพ การด�ำเนินงานขององค์กร คณะกรรมการประเมินผลฯ ได้ให้ความส�ำคัญเกี่ยวกับการประเมินท่ีเน้น หลักประสิทธิภาพและความคุ้มค่า การเน้นผลลัพธ์ของการด�ำเนินงาน การประเมินความก้าวหน้า ของการด�ำเนินงานเก่ียวกับบุหร่ี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารปลอดภัย การวิเคราะห์และการ ประเมินความพึงพอใจ การพัฒนาระบบสารสนเทศการประเมินผล ตลอดจนความเข้มแข็งของระบบ ตรวจสอบภายใน นอกจากน้ีคณะกรรมการประเมินผลฯ ยังได้เสนอแนะให้มีการพัฒนาให้ สสส. เป็นองค์กรแบบดิจิทัล เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการด�ำเนินงานและยกระดับบทบาทท่ีต้องก้าวหน้า เท่าทันโอกาสและการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ท่ีก�ำลังเกิดข้ึนอย่างรวดเร็ว ฝ่ายจัดการของ สสส. ได้ให้ ความรว่ มมอื อยา่ งนา่ ชน่ื ชมตอ่ ขอ้ เสนอแนะทง้ั หลายของคณะกรรมการประเมนิ ผลฯ รวมทง้ั การแสวงหา ข้อมูลและการรับทราบความก้าวหนา้ ในการดำ� เนนิ งานทค่ี ณะกรรมการประเมนิ ผลฯ ตอ้ งการทราบ คณะกรรมการประเมินผลฯ มีความมุ่งมั่นท่ีจะท�ำหน้าที่ภายใต้บทบาทที่มี เพื่อการพัฒนา ดา้ นการสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของกองทนุ ฯ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์ แกท่ กุ ภาคสว่ น เพอ่ื ใหม้ ขี ดี ความสามารถและสรา้ งสรรคร์ ะบบสงั คมทเี่ ออ้ื ตอ่ การมสี ขุ ภาวะอนั สอดคลอ้ ง กับเจตนารมณ์ของกองทนุ ฯ ท้ายสุดน้ี ขอขอบคุณคณะกรรมการกองทุนฯ ผู้บริหาร ผูร้ ว่ มงานภายใน หน่วยงาน หน่วยงานภายนอกที่ให้การสนับสนุนร่วมมือกับ สสส. และขอให้ก�ำลังใจแก่ผู้เก่ียวข้อง ทุกทา่ นท่ไี ดร้ ่วมกันขบั เคลอื่ นการสร้างเสริมสุขภาพมาอยา่ งต่อเนือ่ ง (ศ.ดร.ตีรณ พงศ์มฆพฒั น์) ประธานคณะกรรมการประเมินผล กองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ
สาร ผ้จู ดั การกองทุน “จุดประกาย กระตุ้น สาน และเสริมพลัง บคุ คล และองค์กรทุกภาคสว่ น” เปน็ หัวใจ การท�ำงานของ สสส. เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ทุกคนบนแผ่นดินไทย มีขีดความสามารถ สังคม สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ” ที่ได้ด�ำเนินงานมาอย่างต่อเน่ือง ตลอด ๑๗ ปที ่ีผ่านมา ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สสส. มกี ารดำ� เนนิ งานทีบ่ รรลผุ ลสัมฤทธิ์ตามเปา้ ประสงค์ ในหลายประเด็นท่ีส�ำคัญ โดยเฉพาะการด�ำเนินงานเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพในประเด็น การป้องกนั และควบคุมโรคไมต่ ิดต่อเรอ้ื รงั (non-communicable diseases : NCDs) ท่เี ปน็ สาเหตุของการเสยี ชีวิตอันดบั ตน้ ๆ ของประชากรไทย ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน โดยบรรจุวาระเก่ยี วกับการลดการเสียชวี ิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs อยา่ งน้อย ๑ ใน ๓ ให้ไดภ้ ายใน พ.ศ. ๒๕๗๓ สาเหตุจากประชากรท่วั โลก ๔๐.๑๐ ล้านคนเสยี ชีวติ จากกลมุ่ โรคน้ี ขณะท่ีประเทศไทยในแตล่ ะปี มีประชากรเสียชีวติ จากโรค NCDs สงู ถงึ ๓๖๘,๕๗๐ คน หรอื ร้อยละ ๗๕ ของสาเหตกุ ารเสยี ชวี ิตทัง้ หมด โดยเฉพาะใน ๕ โรคส�ำคญั ทอ่ี งคก์ ารอนามัยโลก ระบุ ไดแ้ ก่ โรคมะเร็ง โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด โรคเบาหวาน โรคถุงลมโปง่ พอง และโรคจติ เวช 8 ในการมงุ่ แกไ้ ขทตี่ น้ เหตขุ องปญั หาอนั ซบั ซอ้ นน้ี สสส. จงึ ตอ้ งผนกึ กำ� ลงั บรู ณาการทำ� งาน ท้งั ๑๕ แผน ด้วยยทุ ธศาสตร์ไตรพลงั คอื การใช้องคค์ วามรทู้ างวชิ าการ การสรา้ งเครือขา่ ย การขับเคลื่อนทางสังคม และการผลักดันนโยบาย กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเปล่ียนแปลง อย่างย่ังยืน เช่น สนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ส่งผลให้ประชากรไทยมีกิจกรรม ทางกายในชวี ิตประจ�ำวันเพมิ่ เป็น ๑๗ ลา้ นคน ซึง่ สูงกวา่ ปีท่ีผา่ นมา เกิดการสง่ เสรมิ การบริโภค ผกั และผลไมท้ ปี่ ลอดภยั อยา่ งเพยี งพอเพม่ิ ขน้ึ ตามขอ้ แนะนำ� ขององคก์ ารอนามยั โลก และบรรลุ เป้าหมายระยะ ๑๐ ปี ท่ี สสส. ก�ำหนดไว้
ในแง่การลดปัจจัยเสี่ยง ได้สนับสนุนให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการบริการเลิกสูบบุหรี่ 9 และเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในระดับบริการต่างๆ มีผู้สมัครใจมาใช้บริการเพื่อเลิกบุหรี่เฉล่ีย ๖,๐๐๐ ร ายตอ่ เดอื น เลกิ ดมื่ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ ๑๐,๐๐๐ ร ายตอ่ เดอื น และมผี ทู้ สี่ ามารถเลกิ สบู บหุ ร่ี ๙๐๐รายตอ่ เดอื น เลกิ ดืม่ เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ ๔๐๐ รายต่อเดอื น ซ่ึงมากกว่าเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สสส. เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ๔,๖๑๐ ล้านบาท โดยเบิกจ่ายงบประมาณส�ำหรับโครงการสร้างเสริมสุขภาพใหม่และโครงการ ต่อเนื่องท้ังสนิ้ ๕,๓๙๔ โครงการ ในวงเงิน ๔,๒๓๙ ล้านบาท รวมค่าใช้จา่ ยบริหารโครงการคดิ เป็น ร้อยละ ๙๓ ของกรอบวงเงินงบประมาณ สนับสนุนการจัดท�ำโครงการสร้างเสริมสุขภาพผ่านภาคี ผู้รบั ทุนท้ังสิ้น ๒,๗๕๗ ราย ในจำ� นวนนเ้ี ปน็ ภาคผี รู้ ับทุนรายใหม่ ๑,๙๐๔ ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ ๖๙.๑๐ ของภาคีรับทนุ ทัง้ หมด ซึ่งมหี น่วยงานรบั ทุนทห่ี ลากหลายครอบคลมุ ทุกภาคสว่ นในสังคม การประเมินผลการด�ำเนินงานของ สสส. โดยคณะกรรมการประเมินผลที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คณะรฐั มนตรี โดยขอ้ เสนอของกระทรวงการคลงั อยใู่ นเกณฑท์ นี่ า่ พอใจ โดยมกี ารประเมนิ ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ ตามพนั ธกจิ ได้ ๔.๗๑ คะแนน จาก ๕ คะแนนเตม็ ซง่ึ สงู ขนึ้ จาก พ.ศ. ๒๕๖๐ ขณะทก่ี ารประเมนิ คณุ ธรรม และความโปรง่ ใสการดำ� เนนิ งานของหนว่ ยงานภาครฐั (Integrity & Transparency Assessment - ITA) โดยส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ สสส. ได้รบั ผลการประเมินระดับ “สูงมาก” โดยได้คะแนน ร้อยละ ๘๖.๐๒ จากสัมฤทธิผลในประเทศ สสส. ยังได้ต่อยอดผลงานไปยังประเทศเพ่ือนบ้าน และภูมิภาคอ่ืน ทั่วโลก ส่งผลให้คณะท�ำงานสหประชาชาติด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ได้รายงาน ผลการตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของโลกเรอ่ื งโรค NCDs ประจำ� ปี ๒๕๖๐ (World NCD Progress Monitor 2017) ได้กลา่ วถึงประเทศไทยวา่ รฐั บาลควรบำ� รงุ กลไกนวัตกรรมการเงินการคลงั ท่ีย่งั ยืนจากภาษีสุรา และยาสบู ส�ำหรบั การท�ำงานปอ้ งกนั และควบคมุ โรค NCDs ใหม้ คี วามตอ่ เนอื่ ง พรอ้ มสนบั สนนุ บทบาท ประเทศไทยให้เป็นผู้น�ำโลกและศูนย์กลางด้านการส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้บทเรียนจากการท�ำงาน หนว่ ยงานดา้ นสขุ ภาพของไทยอาทิ สสส. กระทรวงสาธารณสขุ ส�ำนกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ในโลกแห่งการเปลีย่ นแปลงท่สี ุขภาพของผูค้ นไม่ไดเ้ กิดปัญหาจาก “เชอ้ื โรค” ที่ “หมอและยา” เคยใช้แก้ปัญหาอย่างได้ผลเช่นในอดีต แต่เกิดจากสาเหตุหลักทาง “พฤติกรรม/วิถีชีวิต” และ “ส่ิงแวดล้อม” น้ัน สังคมโลกและสังคมไทยจ�ำเป็นต้องใช้กลไกใหม่ท่ีประสานความร่วมมือจาก ทกุ ภาคสว่ น ทง้ั นอกและในวงการสขุ ภาพมารว่ มกนั แก้ไขต้นทางของปัญหา และ สสส. ไดก้ �ำเนดิ และ ด�ำรงอยู่เพื่อร่วมเป็นกลไกนี้ในปัจจุบัน และจะสะสมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาบทบาทให้มีประสิทธิผล ย่ิงขน้ึ ตอ่ ไปในอนาคต (นายสปุ รดี า อดุลยานนท์) ผู้จัดการกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ
บทสรุปสำ� หรับผบู้ รหิ าร สถานการณป์ จั จัยเสยี่ งหลกั ต่อสขุ ภาพ ผลงานเด่น ๗ ด้าน ๑. ขบั เคลอื่ นยทุ ธศาสตรล์ ดผปู้ ว่ ย NCDs ภยั เงียบคกุ คามประชาคมโลก ๒. ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสังคมปลอดบุหรี่ ๓. ชมุ ชนเข้มแขง็ สู้เหลา้ ๔. ส่งเสริมพัฒนาการเด็กและเยาวชน สู่พลเมืองคณุ ภาพ ๕. พัฒนาสังคมสุขภาวะเพอ่ื ทุกชวี ิต ๖. พัฒนาส่ือสร้างสรรค์ เสรมิ ภูมคิ มุ้ กนั ยคุ ดิจทิ ัล ๗. ส่งเสริมสุขภาพพระสงฆไ์ ทย ส่ผู นู้ ำ� สขุ ภาวะ
บทสรุปส�ำหรบั ผู้บริหาร กองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ไดด้ ำ� เนนิ พนั ธกจิ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพผา่ นแผนหลกั ๑๕ แผน โดยเชื่อม ประสาน บูรณาการท�ำงานทุกภาคส่วนในการขับเคล่ือนการสร้างเสริมสุขภาพ ในประเดน็ ตา่ งๆ เพ่อื ใหป้ ระชาชนทกุ ช่วงวยั มสี ุขภาวะท่ีดี พรอ้ มสนบั สนุนให้ภาคีเครอื ขา่ ย องคก์ รด้าน สุขภาพ มีความเข้มแข็ง สานต่องานสร้างเสริมสขุ ภาพได้อยา่ งยั่งยนื โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สสส. ได้เบิกจ่ายงบประมาณเพือ่ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพทง้ั สน้ิ ๔,๖๑๐ ลา้ นบาท จาก ๕,๓๙๔ โครงการ มภี าคผี รู้ บั ทนุ รายใหมเ่ ขา้ รว่ มทำ� งานกบั สสส. จำ� นวน ๑,๙๐๔ ราย จากภาคที งั้ หมด ๒,๗๕๗ ราย สสส. มงุ่ มน่ั ในการทำ� งานเพอื่ บรรลผุ ลสมั ฤทธติ์ ามแนวนโยบายการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของรฐั บาล ไทย ตลอดจนการด�ำเนนิ งานรว่ มกบั องคก์ ารอนามยั โลก องคก์ ารสหประชาชาติ ทว่ี างเปา้ หมายรว่ มกนั เพอ่ื ลดภาระจากโรคไมต่ ิดต่อเร้อื รัง (non-communicable diseases : NCDs) สง่ ผลให้ประเทศไทย ได้รับค�ำชน่ื ชมใหเ้ ปน็ ตน้ แบบกลไกสร้างเสรมิ สขุ ภาพเพอ่ื ป้องกนั โรค NCDs โดยมีผลงานความกา้ วหนา้ เป็นอันดับท่ีสามของโลก และอันดบั หนงึ่ ของเอเชีย สสส. ไดว้ างเปา้ หมายการท�ำงานเพื่อลดปัจจยั เสี่ยงทางสุขภาพ และสรา้ งปัจจัยเสรมิ ตอ่ สุขภาวะ ลดการคมุ คามของโรค NCDs ทค่ี รา่ ชวี ติ ประชากรไปกอ่ นวยั อนั ควร ผา่ นการทำ� งานอยา่ งบรู ณาการภายใต้ ๑๕ แผนงานของ สสส. ที่มุ่งเป้าหมายการท�ำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการลดปัจจัยเส่ียง จากปัญหายาสูบ เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เพ่ิมการมีกิจกรรมทางกาย และบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ อยา่ งเหมาะสม การผลกั ดันนโยบายตา่ งๆ เพอ่ื น�ำไปส่กู ารปรับปรงุ เสรมิ ประสิทธิภาพกฎหมายต่างๆ ให้เอื้อต่อการเปลย่ี นแปลงส่งิ แวดล้อม สงั คม ใหม้ ีสขุ ภาวะท่ดี ีของประชากรในปัจจบุ ัน สถานการณ์ปจั จัยเสีย่ งทางสขุ ภาพ 11 ๑. การบริโภคยาสูบ จากการส�ำรวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของประชากรไทย โดยส�ำนักงาน สถิติแห่งชาติ พบว่า คนไทยมีแนวโน้มสูบบุหรี่ลดลงจาก ๑๒.๒๖ ล้านคน หรือร้อยละ ๓๒.๐๐ ใน พ.ศ. ๒๕๓๔ ลดลงเหลอื ๑๐.๗๐ ลา้ นคน หรอื รอ้ ยละ ๑๙.๑๐ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒. การบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ จากการส�ำรวจการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ ประชากรไทย โดยส�ำนักงานสถติ ิแหง่ ชาติ พบวา่ คนไทยดืม่ เครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ค่อนขา้ งคงที่ โดยมี แนวโนม้ ลดลงจาก ร้อยละ ๓๒.๗๐ ใน พ.ศ. ๒๕๔๗ เหลอื ร้อยละ ๒๘.๔๑ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ สอดคลอ้ ง กับข้อมลู ค่าใชจ้ า่ ยการบรโิ ภคเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล์ของคนไทยลดลงตอ่ เนื่องตลอดชว่ ง ๓ ปีที่ผ่านมา จาก ๑๔๗,๘๐๗ ลา้ นบาท ใน พ.ศ. ๒๕๕๘ เหลอื ๑๔๒,๖๒๐ ล้านบาท ใน พ.ศ. ๒๕๕๙ และลดลง เหลือ ๑๔๒,๒๓๐ ล้านบาท ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ๓. ความปลอดภัยทางถนน จากการบูรณาการข้อมูลการเสียชีวติ จากอุบัติเหตทุ างถนน โดย กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข ท่เี ชื่อมโยงขอ้ มลู จาก ๓ ฐาน พบว่า ผูเ้ สยี ชวี ิตจากอุบตั ิเหตทุ าง ถนน มแี นวโน้มลดลงจาก ๒๑,๙๙๖ ราย ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ เหลือ ๒๐,๑๖๙ ราย ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ ขณะที่ อัตราการสวมหมวกนริ ภัยเพ่ิมสงู ข้ึนเล็กน้อยจาก รอ้ ยละ ๔๓.๐๐ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็น ร้อยละ ๔๖.๐๐ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑
๔. การมีกิจกรรมทางกาย จากการส�ำรวจการมีกิจกรรมทางกายท่ีเพียงพอ โดยสถาบันวิจัย ประชากรและสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล รว่ มกบั สสส. พบวา่ คนไทยมกี จิ กรรมทางกายทเี่ พยี งพอ มแี นวโนม้ เพม่ิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนือ่ งจาก ร้อยละ ๗๒.๙๐ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ เพิ่มเปน็ ร้อยละ ๗๔.๔๐ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยกลุม่ วยั ท�ำงาน อายุ ๒๕-๕๙ ปี เป็นกลมุ่ ท่มี ีกิจกรรมทางกายเพ่ิมขน้ึ มากท่ีสุด ๕. การบริโภคผักและผลไม้ จากการส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒) และคร้งั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗) โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่า อัตราการบริโภคผักและผลไม้ท่ีเพียงพอตามข้อแนะน�ำเพ่ิมมากข้ึนจาก ร้อยละ ๑๗.๗๐ ใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เปน็ รอ้ ยละ ๒๕.๙๐ ใน พ.ศ. ๒๕๕๗ ผลงานเด่น ๗ ด้าน ๑. ขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรล์ ดผปู้ ว่ ย NCDs ภยั เงยี บคกุ คามประชาคมโลก สสส. ขบั เคลอื่ นการ ด�ำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเร้ือรังอย่างเข้มข้น โดยมุ่งสร้างความร่วมมือระดับประเทศ ระดบั ภมู ภิ าค และระดบั โลก เกดิ ผลงานในเวทรี ะดบั โลกทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ ปฏญิ ญากรงุ เทพฯ วา่ ดว้ ยกจิ กรรม ทางกายเพ่อื สขุ ภาวะโลกและการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ซ่ึงเปน็ ฉบับแรกของโลก และแผนปฏิบัติการส่งเสรมิ กจิ กรรมทางกายระดบั โลก ซง่ึ ผา่ นการรับรองจากทีป่ ระชุมสมชั ชาอนามยั โลก สมัยท่ี ๗๑ พรอ้ มการ ขบั เคลอ่ื นในประเทศ ไดแ้ ก่ การขบั เคลอื่ นแผนกจิ กรรมทางกาย พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ การสนบั สนนุ การ พฒั นาขอ้ เสนอมาตรการทางภาษใี นเครอ่ื งดม่ื ทมี่ สี ว่ นผสมของนำ้� ตาล เพอื่ ปรบั เปลยี่ นสภาพแวดลอ้ มท่ี เอือ้ ต่อการมสี ขุ ภาพดี ผลจากการด�ำเนนิ งาน ท�ำให้ไดร้ บั การชื่นชมจากองคก์ ารสหประชาชาติ องค์การ อนามยั โลก ว่า ประเทศไทยมีผลงานอนั ดับหนง่ึ ในอาเซียน และเป็นอันดับสามของโลก โดยยกย่องให้ “สสส. เป็นต้นแบบกลไกสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเพื่อปอ้ งกันโรค NCDs ท่ีสามารถเปน็ ตน้ แบบการทำ� งานให้ แกน่ านาประเทศ” ๒. ปลกุ พลงั คนรนุ่ ใหม่ สรา้ งสงั คมปลอดบหุ ร่ี สนบั สนนุ มาตรการเชงิ รกุ ชว่ ยเหลอื ใหป้ ระชาชน เลกิ สูบบหุ ร่ี เน้นปอ้ งกันไมใ่ ห้เกดิ นักสบู หนา้ ใหม่ โดยพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่ ๑๒๔ แหง่ ในจ�ำนวนน้ีมี ๒๕ แหง่ บรรจุเรอื่ งการควบคุมการบริโภคยาสูบในรายวิชาการเรียนการสอน ขณะที่การ ควบคุมยาสูบในระดับชุมชน สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) ใหม้ ีความเชี่ยวชาญดา้ นการชว่ ยเลิกบุหรี่ และส่งเสริมให้ชมุ ชนมีบทบาทช่วยลดการสูบบุหร่ีใน 12 พ้ืนท่ีของตนเอง โดยผสานวิถีวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดเป็นมาตรการทางสังคม ซ่ึงเป็นการท�ำงานเชิงรุก แนวใหม่ที่ไม่รอให้ผ้สู ูบบหุ ร่เี ข้ามารับการรักษาทีโ่ รงพยาบาล ๓. ชุมชนเข้มแข็งสู้เหล้า ขยายบทบาทมาตรการลด ละ เลิกการดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ในระดบั ชุมชน ด้วยการสร้างตน้ แบบผนู้ ำ� การรณรงค์งดเหลา้ ในโครงการนายอำ� เภอชวนเลิกเหลา้ มี นายอำ� เภอเข้าร่วม ๑๕๗ คน เกิดพลงั เครอื ขา่ ย ชวน ช่วย เชยี ร์ งดเหลา้ ครบพรรษา มชี ุมชนร่วมรณรงค์ งดเหล้าเข้าพรรษา ๑,๕๔๖ แห่ง ประชาชนร่วมบวชใจงดเหล้า ๒๔,๓๗๖ คน ส่งผลให้ประชาชนท่ี เขา้ รว่ มโครงการสขุ ภาพดขี นึ้ ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย ชว่ ยลดปญั หาในครอบครวั และปญั หาสงั คมในมติ อิ น่ื ๆ
๔. สง่ เสรมิ พฒั นาการเด็กและเยาวชน สพู่ ลเมืองคณุ ภาพ สนบั สนุนการพฒั นาคุณภาพชวี ิต ของเด็กปฐมวัยและเยาวชน ผ่านโครงการยกระดับคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแบบก้าวกระโดด มี ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เขา้ รว่ มกระบวนการ ๑,๒๖๕ แหง่ พรอ้ มสนบั สนนุ โครงการวจิ ยั สรา้ งความปลอดภยั ทางถนนใน ๘ จังหวดั ส่งผลใหเ้ กดิ ตน้ แบบศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ ดา้ นความปลอดภยั ทางถนน ๒๖ แห่ง และส่งเสริมการเรียนรู้สุขภาวะในเด็กด้อยโอกาส ๑๖,๖๐๐ คนทั่วประเทศ จาก ๑๘๙ โครงการ ใน ๕๗ จงั หวดั สามารถยกระดบั คุณภาพชวี ิตและการเรียนรู้ที่มปี ระสิทธผิ ลตอ่ กลมุ่ เป้าหมายอยา่ งเปน็ รูปธรรม โดยศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น น�ำไปเป็นแนวทางการด�ำเนินการ ตามบรบิ ทของพน้ื ทีไ่ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. พฒั นาสังคมสุขภาวะเพื่อทกุ ชีวติ รว่ มสรา้ งสังคมสขุ ภาวะทเี่ อือ้ ตอ่ การดำ� เนินชีวิตที่ดขี อง ผู้สงู อายุและคนพกิ าร โดยร่วมพัฒนาศนู ยอ์ อกแบบสภาพแวดลอ้ มเพอ่ื ทุกคนในมหาวิทยาลัย ๕ แห่ง พัฒนาระบบการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในพื้นท่ีน�ำร่องเขตชุมชนเมืองกรุงเทพมหานคร ๑๒ ชุมชน สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมท่ีคนพิการและคนไม่พิการสามารถท�ำกิจกรรมร่วมกัน ได้ และร่วมเป็นกรรมการเขตสขุ ภาพเพ่ือประชาชน (กขป.) เขตที่ ๑๓ กรุงเทพมหานคร เพ่อื ขบั เคลื่อน การพฒั นาระบบสขุ ภาพของกรงุ เทพมหานครใหม้ คี ณุ ภาพอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม สง่ ผลใหป้ ระชาชนทกุ กลมุ่ มี โอกาสเข้าถงึ การมสี ุขภาวะอย่างเท่าเทยี ม ๖. พฒั นาสอ่ื สรา้ งสรรค์ เสรมิ ภมู คิ มุ้ กนั ยคุ ดจิ ทิ ลั สนบั สนนุ การปฏริ ปู สอื่ สรา้ งเสรมิ ใหป้ ระชาชน ทกุ กลมุ่ โดยเฉพาะเดก็ เยาวชน และผู้สงู อายุใหร้ ูเ้ ทา่ ทันสือ่ เกดิ เครอื ขา่ ยพลเมืองต่ืนร้แู ละนักสอ่ื สาร สขุ ภาวะ ๕,๐๐๐ คน โดยศนู ยเ์ รียนรสู้ ขุ ภาวะ สสส. สร้างกระบวนการเรยี นรู้และการสือ่ สารในรปู แบบ สรา้ งสรรค์ ส่งผลให้ไดร้ ับรางวลั “Museum Thailand Awards 2018” ด้านการมีสว่ นร่วมทางสังคม ดีเดน่ จากสถาบันพพิ ิธภณั ฑ์การเรียนรู้แหง่ ชาติ (มวิ เซยี มสยาม) ๗. ส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ไทย สู่ผู้น�ำสุขภาวะ ร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับ พระพุทธศาสนาเสริมสร้างสุขภาวะในกลุ่มพระสงฆ์ท่ีถือเป็นผู้น�ำทางความคิด สู่บทบาทผู้น�ำสุขภาวะ แก่ฆราวาสในสังคมไทยได้อยา่ งยงั่ ยืน ดว้ ยการบรรจุโครงการวัดสรา้ งสุขในแผนปฏริ ูปพระพุทธศาสนา ใน พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๑ มกี ระบวนการท�ำงานรว่ มกนั ในรปู แบบ วดั ประชา รฐั สรา้ งสขุ โดยมวี ดั ทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาใหเ้ ปน็ ศูนย์เรียนรูส้ ขุ ภาวะรว่ มสมัยกวา่ ๑,๕๐๐ แห่ง ผลการด�ำเนนิ งาน 13 เปา้ ประสงคท์ ่ี ๑ ลดปจั จยั เสี่ยงหลกั มผี ลการด�ำเนนิ งานทส่ี ำ� คญั ดังนี้ ๑.๑ แผนควบคมุ ยาสูบ สนับสนนุ การสร้างสภาพแวดล้อมปลอดควนั บุหร่ี โดยกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝ่ัง ออกประกาศหา้ มสบู บุหรี่หรือท้ิงกน้ บหุ รี่ลงชายหาด ๒๔ หาด ใน ๑๕ จงั หวดั สร้างความเข้มแข็งของกลไกคณะกรรมการควบคุมยาสูบระดับจังหวัด เกิดชุมชนต้นแบบเลิกบุหร่ี ๗๕ จงั หวดั รวม ๑๕๐ ชมุ ชน พฒั นาองค์ความรู้และงานวิจัยเกย่ี วกับการควบคุมยาสูบ ๑๔ เรอ่ื ง และ พฒั นาสถานพินจิ และค้มุ ครองเดก็ และเยาวชนปลอดบุหร่ตี ้นแบบ ๑๐ แห่ง
๑.๒ แผนควบคมุ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลแ์ ละสง่ิ เสพตดิ สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตร์ นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ สร้างการรเู้ ท่าทนั กลยทุ ธ์ทางการตลาดของเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ รว่ ม ขับเคลื่อนให้ยุติการจ�ำหน่ายเบียร์สดผ่านเคร่ืองกดในร้านสะดวกซื้อ พัฒนาจังหวัดต้นแบบควบคุม เครอ่ื งด่มื แอลกอฮอล์ ๕ จงั หวัด ขยายต้นแบบงานบญุ ประเพณปี ลอดเหลา้ กวา่ ๓๐๐ พืน้ ท่ปี ฏิบตั กิ าร และเกดิ เปน็ นโยบายสาธารณะสงกรานตป์ ลอดเหลา้ ๑๕ งาน ๑.๓ แผนการจดั การความปลอดภยั และปจั จยั เสยี่ งทางสังคม พฒั นานโยบายสาธารณะเพื่อ สร้างความปลอดภัยทางถนน สนับสนุนกลไกการจัดการอุบัติเหตุทางถนนและขยายผลมาตรการลด อบุ ัตเิ หตุในพ้ืนท่ี โดยสรา้ งความร่วมมือผ่านกลไกประชารัฐเพื่อสังคม มอี งค์กรเข้ารว่ มสรา้ งมาตรการ ความปลอดภัยทางถนน ๓๐๐ แหง่ สนับสนนุ กลไกจัดการอบุ ตั ิเหตรุ ะดบั พื้นท่ี มอี งคก์ รเข้ารว่ ม ๕๓๐ แหง่ ใน ๕๓ จงั หวดั และเกดิ เครือขา่ ยการท�ำงานใน ๑๕ จงั หวัด จดั ท�ำสอื่ รณรงคป์ อ้ งกนั อคั คภี ยั ภายใน ชมุ ชนเมือง และขบั เคลอื่ นมาตรการลดปัญหาจากการพนนั ๑.๔ แผนสง่ เสรมิ กจิ กรรมทางกาย สนบั สนนุ การเพม่ิ กจิ กรรมทางกายใหเ้ พยี งพอ ดว้ ยการเพม่ิ พ้นื ทส่ี ขุ ภาวะ โดยมีลานกฬี าพฒั น์ เป็นต้นแบบพ้นื ท่สี ุขภาวะเพอ่ื ผู้สูงอายุ พรอ้ มสรา้ งความรว่ มมอื กับ ชุมชน พัฒนาพ้ืนท่ีรกร้างให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย และจัดท�ำคู่มือการจัดกิจกรรมงานวิ่งเพ่ือ สุขภาพ ส่งผลให้คนไทยมีกจิ กรรมทางกายเพ่ิมขึ้นเป็นรอ้ ยละ ๗๔.๔๐ และเกดิ นกั วิ่งหนา้ ใหมเ่ พ่มิ เปน็ ๑๗ ลา้ นคน ๑.๕ แผนอาหารเพ่ือสุขภาวะ ส่งเสริมความมั่นคงและปลอดภัยด้านอาหาร สนับสนุนพัฒนา รา่ งแผนยทุ ธศาสตรก์ ารจดั การสารเคมแี หง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๙) ผลกั ดนั ใหส้ ถานประกอบการ มีนโยบายส่งเสริมการเล้ียงลูกด้วยนมแม่และสิทธิ์การลาคลอด ๓ เดือน โดยมีสถานประกอบการ น�ำไปด�ำเนินการเป็นรูปธรรม ๑๐๐ แห่ง และขยายโรงเรียนต้นแบบเด็กไทยแก้มใส ลดอัตราภาวะ นำ�้ หนกั ตวั เกิน จากร้อยละ ๔๐.๐๐ ใน พ.ศ. ๒๕๕๙ เหลือร้อยละ ๘.๓๔ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ เป้าประสงคท์ ี่ ๒ พฒั นากระบวนการลดปจั จยั เสย่ี งทางสขุ ภาพอนื่ ๆ มผี ลการดำ� เนนิ การ ท่สี �ำคญั ดังน้ี ๒.๑ แผนควบคมุ ปัจจยั เส่ียงทางสขุ ภาพ สนบั สนนุ การขบั เคล่อื นยุทธศาสตรก์ ารปอ้ งกันและ แก้ไขปัญหาการต้ังครรภ์ในวัยรุ่น เพ่ิมสมรรถนะครูผู้สอนด้วยการพัฒนาหลักสูตรเพศวิถีศึกษาน�ำร่อง ในโรงเรียน ๕๖ โรง ใน ๑๐ จังหวดั ครอบคลมุ นักเรยี น ๑๔,๐๐๐ คน พฒั นางานการคุม้ ครองผบู้ ริโภค 14 เกิดองคก์ รผู้บริโภค ๒๒๒ แห่ง ผ่านการรบั รองเป็นองคก์ รคุม้ ครองผู้บรโิ ภคคณุ ภาพ พรอ้ มท้ังสนบั สนนุ การเฝ้าระวัง ทดสอบ และเผยแพรค่ ุณภาพสินค้าและบรกิ ารที่ไม่ไดม้ าตรฐาน ๒.๒ แผนสุขภาวะเดก็ เยาวชน และครอบครัว เสริมสรา้ งครอบครัวอบอนุ่ ต้นแบบในการใช้ ชวี ติ ใหส้ มดลุ ระหวา่ งงานและครอบครวั ในองคก์ ร ๒๐ แหง่ ใหเ้ ปน็ นกั เสรมิ สรา้ งครอบครวั อบอนุ่ ตน้ แบบ ๕๒ คน ผลดำ� เนนิ งานทำ� ใหด้ ชั นคี รอบครวั อบอุ่นมคี ะแนนรวม ๗๒.๘๓ คะแนน พฒั นาหลักสูตรลกู เสือ เสรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ และพัฒนานวัตกรรมทางสงั คม โดยสภาเด็กและเยาวชน เพอื่ แกป้ ญั หาในพื้นที่ ๒๐ โครงการ
๒.๓ แผนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ พัฒนากระบวนการเข้าถึงสิทธิสุขภาพและบริการ 15 ขนั้ พนื้ ฐานใหเ้ ทา่ เทยี ม พฒั นาตน้ แบบการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะคนไรบ้ า้ นแบบครบวงจร พฒั นาศนู ยพ์ กั พงิ คนไรบ้ ้าน ผลกั ดันให้คนไร้บา้ น คนไทยไรส้ ทิ ธิ ไดร้ บั การพิสูจน์ โอนยา้ ยสิทธสิ ุขภาพ ๔๘๐ คน เกิด คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน สร้างทัศนคติขจัดปัญหาความรุนแรงต่อเพศหญิงและ ครอบครัว และลดปัญหาการคุกคามทางเพศในระบบขนสง่ สาธารณะ เป้าประสงค์ที่ ๓ พัฒนาต้นแบบสขุ ภาวะ มีผลการด�ำเนินการทส่ี ำ� คัญ ดังนี้ ๓.๑ แผนสขุ ภาวะชมุ ชน สง่ เสรมิ ใหพ้ ฒั นาระบบเกษตรทางเลอื ก โดยเกดิ ตน้ แบบชมุ ชนพฒั นา ระบบเกษตรทางเลือกที่เหมาะสมกบั ชมุ ชนในพ้ืนทีอ่ ำ� เภอนาน้อย จงั หวดั นา่ น พัฒนานักจดั การชุมชน ด้านข้อมูล ๓๐ คน พัฒนาพ้ืนท่ีน�ำร่องการผลิตพืชอาหารของชุมชน ๓ พ้ืนท่ี พร้อมพัฒนาเทศบาล ตำ� บลเฝา้ ไร่ อำ� เภอเฝ้าไร่ จงั หวดั หนองคาย ให้เป็นองคก์ รต้นแบบควบคุมเครอื่ งด่มื แอลกอฮอลแ์ ละลด อบุ ตั เิ หตุ และสร้างเครือข่ายเยาวชนต้นแบบรณรงคง์ ดเหลา้ ในตำ� บลเฝ้าไร่ ๑๗๐ คน ๓.๒ แผนการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร โดย พัฒนารูปแบบส่งเสริมสุขภาพคนท�ำงาน ๑๐ ประเด็น ขยายเครือข่ายมหาวิทยาลัยแห่งความสุขเป็น องค์กรสุขภาวะ ๒๔ แห่ง พฒั นาท่าบรหิ ารรา่ งกายสไตลไ์ ทย ๑๒ ทา่ เพอ่ื น�ำไปใช้ในสถานประกอบการ ๒,๐๐๐ แหง่ และส่งเสรมิ กระทรวงสาธารณสุข เปน็ กระทรวงแหง่ ความสขุ สเู่ ป้าหมายระบบสุขภาพ ยั่งยนื ทีเ่ รม่ิ จากบุคลากรสาธารณสุข เป้าประสงค์ท่ี ๔ สร้างความต่ืนตัวและค่านิยมใหม่ในสังคม มีผลการด�ำเนินการที่ สำ� คัญ ดังนี้ ๔.๑ แผนระบบส่ือและวิถีสุขภาวะทางปัญญา พัฒนาระบบนิเวศสื่อสุขภาวะ เพ่ือการใช้สื่อ อย่างสร้างสรรค์ใน ๔๕ จังหวัด สนับสนุนการจัดการความรู้ นวัตกรรมด้านส่ือสร้างสรรค์และ การส่งเสรมิ วิถสี ุขภาวะทางปัญญา ๓ ประเดน็ คอื รู้เทา่ ทนั สือ่ สอ่ื สร้างสรรค์ และงานจติ อาสา และ พฒั นาขอ้ เสนอนโยบายสาธารณะประเดน็ พนื้ ทเี่ ลน่ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะของเดก็ ปฐมวยั และวยั ประถมศกึ ษา ๔.๒ แผนสร้างเสรมิ ความเขา้ ใจสขุ ภาวะ สรา้ งความเข้าใจและรอบรู้ด้านสุขภาวะ เพ่อื ปรบั ใช้ ในชวี ติ ประจำ� วนั และขยายผลองคค์ วามรสู้ ขุ ภาวะ โดยสรา้ งพนั ธมติ รเครอื ขา่ ยขยายองคค์ วามรสู้ ขุ ภาวะ ๒๖ แห่งทั่วประเทศ สู่ผไู้ ดป้ ระโยชน์กวา่ ๖ ลา้ นคน สรา้ งแกนนำ� สุขภาวะ ๒,๐๗๒ คน และพัฒนางาน สอื่ สารการตลาดเปลี่ยนพฤตกิ รรมคนไทย ๑๐ โครงการ ซึง่ สร้างการรบั รเู้ ป็นวงกว้าง เปา้ ประสงคท์ ี่ ๕ ขยายโอกาสและพฒั นานวตั กรรม มผี ลการดำ� เนนิ การทส่ี ำ� คญั ดงั นี้ ๕.๑ แผนสร้างสรรค์โอกาสและนวตั กรรมสขุ ภาวะ สนบั สนนุ การกระจายโอกาสทางสขุ ภาวะ เพ่ือลดความเหล่ือมล้�ำ ผ่านการด�ำเนินโครงการสร้างเสริมสุขภาพสู่ระดับชุมชน ๒,๐๑๖ โครงการ ท่ัวประเทศ มีกลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์ ๗.๗ แสนคน สร้างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในพื้นที่ ๙ ประเดน็ พฒั นาแกนน�ำสร้างเสรมิ สขุ ภาพในพ้นื ที่ ๒.๒ หมื่นคน พฒั นานวัตกรรมสรา้ งเสริมสขุ ภาพ เชิงกระบวนการ ๔ นวัตกรรม และนวัตกรรมการสร้างเสรมิ สุขภาพระดบั พนื้ ท่ี ๑๕๓ กรณี
เปา้ ประสงค์ที่ ๖ สง่ เสรมิ สมรรถนะของระบบสขุ ภาพและบรกิ ารสขุ ภาพ มผี ลการดำ� เนนิ การ ทสี่ ำ� คญั ดังนี้ ๖.๑ แผนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพผ่านระบบบริการสุขภาพ ผลักดันบทบาทการ สร้างเสริมสุขภาพให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม โดยสนับสนุนการต้ังคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดบั อำ� เภอ (พชอ.) ๘๗๘ อ�ำเภอทว่ั ประเทศ เพื่อแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งตรงประเดน็ เกิดพืน้ ทีน่ �ำร่องการ สร้างเสริมสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย ๑๑ พื้นที่ และพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ๑๐ แหง่ ตามแนวคิดโรงพยาบาลที่เปน็ มากกวา่ โรงพยาบาล ๖.๒ แผนพฒั นาระบบและกลไกสนบั สนนุ เพอื่ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สนบั สนนุ การขบั เคลอื่ น งานสรา้ งสขุ ภาวะใหย้ ง่ั ยนื เกดิ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื ดา้ นการสง่ เสรมิ สขุ ภาพรว่ มกบั องคก์ ารอนามยั โลก ใน ๓ ระดบั แบง่ เป็น ระดบั โลก ๖ ประเด็น ระดับภูมภิ าค ๒ ประเดน็ และระดับประเทศ คอื หนว่ ยงาน ด้านสุขภาพได้ร่วมกันจัดท�ำความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกประจ�ำประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อน แผนงานขนาดใหญ่ นอกจากน้ยี ังส่งเสริมผลงานนวตั กรรมสร้างเสรมิ สขุ ภาพของเยาวชน ประกวดและ คดั เลอื กนำ� ไปใช้ประโยชนใ์ นชุมชนและโรงเรียน ๑๙ ผลงาน การตรวจสอบ ติดตาม และประเมนิ ผล รายงานประเมนิ ผลของคณะกรรมการประเมนิ ผล การประเมินผลการด�ำเนินงานตามกรอบการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านหน่วยงานของรัฐท่จี ดั ตัง้ ขึ้นตามพระราชบญั ญตั ิเฉพาะของส�ำนักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยแบ่ง ตวั ชี้วดั ๕ ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านผลสัมฤทธ์ิตามพันธกิจ ดา้ นการเงนิ ดา้ นผูม้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ด้านปฏบิ ัติการ และด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน โดย สสส. มีผลการด�ำเนินงานในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ท่ีน่า พอใจ ได้คะแนนรวม ๔.๗๑ คะแนน ซงึ่ มีคะแนนสูงขนึ้ เมื่อเปรยี บเทยี บกับปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ นอกจากนี้ สสส. มกี ารบรหิ ารจดั การสอดคล้องหลักธรรมาภิบาล ไดค้ ะแนนเฉล่ยี ๙.๑๓ คะแนน จาก ๑๐ คะแนนเต็ม ขณะที่การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment - ITA) ประจำ� ปี ๒๕๖๑ สสส. ได้รับผลการประเมินระดบั 16 “สงู มาก” โดยได้คะแนนร้อยละ ๘๖.๐๒ รายงานการตรวจสอบภายในของคณะอนุกรรมการก�ำกับดแู ลการตรวจสอบภายใน คณะอนกุ รรมการกำ� กบั ดแู ลการตรวจสอบภายใน เหน็ วา่ สสส. ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั ตอ่ ขอ้ สงั เกตของ หนว่ ยงานตรวจสอบและมรี ะบบการบรหิ ารจดั การทดี่ ี มกี ารตดิ ตามการปฏบิ ตั แิ ละปรบั ปรงุ แกไ้ ขประเดน็ ท่ีเปน็ จดุ อ่อนของการด�ำเนินงานอยา่ งใกล้ชิด และได้รบั ข้อเสนอแนะการพัฒนาหลกั ธรรมาภบิ าล การ ให้ความสำ� คัญต่อระบบบรหิ ารงานและการควบคมุ ภายในองคก์ รท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพเพ่อื ถือปฏิบตั ติ อ่ ไป รายงานของส�ำนกั งานการตรวจเงนิ แผ่นดิน (สตง.) รับรองงบการเงินของ สสส.
สถานการณ์ ปจั จัยเส่ยี งหลกั ตอ่ สขุ ภาพ สถานการณ์การบริโภคยาสบู คนไทยมีแนวโน้มสูบบหุ รล่ี ดลง จ�ำนวนและอัตราการสูบบหุ รข่ี องประชากรไทยอายุ ๑๕ ปขี นึ้ ไป พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๖๐ ๔๐ ๓๕ ๓๐ ๓๒.๐๐ ๒๘.๘๑ ๒๕.๔๗ ๒๕ ๒๒.๙๘ ๒๐ ๒๑.๒๒ ๒๐.๗๐ ๒๑.๔๐ ๑๙.๙๔ ๑๙.๙๐ ๑๙.๑๐ ๑๕ ๑๒.๒๖ ๑๒.๕๒ ๑๑.๙๘ ๑๑.๓๕ ๑๐.๘๖ ๑๐.๙๐ ๑๑.๕๐ ๑๐.๗๗ ๑๐.๙๐ ๑๐.๗๐ ๑๐ ๕ ๐ ๒๕๓๔ ๒๕๓๙ ๒๕๔๔ ๒๕๔๗ ๒๕๕๐ ๒๕๕๒ ๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘ ๒๕๖๐ ท่มี า : ส�ำนักงานสถติ แิ ห่งชาติ, โครงการสำ� รวจอนามยั และสวัสดกิ าร พ.ศ. ๒๕๓๔, ๒๕๓๙, ๒๕๕๒, ๒๕๕๔, ๒๕๕๖, ๒๕๕๘ 17 และโครงการสำ� รวจพฤตกิ รรมการสูบบุหรีแ่ ละดืม่ สรุ าของประชากร พ.ศ. ๒๕๔๔, ๒๕๔๗, ๒๕๕๐, ๒๕๕๔, ๒๕๖๐ ขอ้ มลู การสำ� รวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รข่ี องประชากรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ พบวา่ ในจำ� นวนประชากร ไทยทมี่ อี ายุ ๑๕ ปขี ึน้ ไป ท้ังส้นิ ๕๕.๙๐ ลา้ นคน เปน็ ผสู้ ูบบุหรี่ ๑๐.๗๐ ล้านคน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๙.๑๐ โดยในภาพรวม พบวา่ ในช่วง พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๖๐ อัตราการสูบบุหรีม่ แี นวโนม้ ลดลง จากรอ้ ยละ ๒๕.๔๗ เปน็ รอ้ ยละ ๑๙.๑๐
ผูส้ บู บหุ ร่ีประจ�ำมแี นวโนม้ ลดลง ๙๕.๐๐ ๘๘.๒๐ ๘๘.๒๘ ๑๐.๗๐ ๕๙๐,๕๒๘ ๑,๑๗๕,๘๘๙ ๑,๒๕๑,๖๙๕ คน คน คน ลา้ นคน ในจ�ำนวนผู้สูบบุหรี่ปัจจุบัน ๑๐.๗๐ ล้านคน แบ่งเป็น ผู้สูบบุหร่ีประจ�ำ๑ และผู้สูบบุหร่ีเป็น ครงั้ คราว๒ โดยพบวา่ สัดสว่ นผู้สูบบุหร่ีประจ�ำอย่ทู ่ีรอ้ ยละ ๙๕.๐๐ ใน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งค่อยๆ ลดลง อยทู่ ่รี ้อยละ ๘๘.๒๐ ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ และกลบั เพิ่มขึน้ เล็กนอ้ ยเปน็ ร้อยละ ๘๘.๒๘ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ขณะท่ีจ�ำนวนผู้สูบบุหรี่เป็นครั้งคราวกลับมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึนเรื่อยๆ โดยใน พ.ศ. ๒๕๓๔ มีผู้สูบบุหรี่เป็นคร้ังคราวเพียง ๕๙๐,๕๒๘ คน เพิ่มเป็น ๑,๑๗๕,๘๘๙ ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ และ 18 เพ่ิมขึ้นต่อเนื่องเป็น ๑,๒๕๑,๖๙๕ คน ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ จากข้อมูลดังกล่าว เป็นสัญญาณเตือน บ่งบอกให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยาสูบมีกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ ท่ีอาจส่งผลให้มีผู้ทดลองสูบบุหรี่ เพม่ิ มากข้ึน ๑ ผูส้ ูบบุหรีป่ ระจ�ำ หมายถึง ผสู้ บู บหุ รีเ่ ป็นประจำ� ทกุ วัน ๒ ผสู้ บู บหุ ร่เี ป็นครั้งคราว หมายถงึ ผูส้ บู บุหร่ไี มท่ ุกวนั
อตั ราการสบู บหุ รข่ี องประชากรไทยอายุ ๑๕ ปขี นึ้ ไป พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๖๐ : จำ� แนกตามเพศ ชาย หญงิ รวม ๗๐ ๕๙.๓๐ ๕๔.๕๐ ๖๐ ๔๘.๔๐ ๔๓.๗๐ ๕๐ ๔๑.๗๐ ๔๐.๕๐ ๔๑.๗๐ ๓๙.๐๐ ๓๙.๓๐ ๓๗.๗๐ ๓๒.๐๐ ๔๐ ๓๐ ๒๘.๘๑ ๒๕.๔๗ ๒๒.๙๘ ๒๑.๒๒ ๒๐.๗๐ ๒๑.๔๐ ๑๙.๙๔ ๑๙.๙๐ ๑๙.๑๐ ๒๐ ๕.๐๐ ๑๐ ๓.๕๐ ๓.๐๐ ๒.๖๐ ๑.๙๐ ๒.๐๐ ๒.๑๐ ๒.๑๐ ๑.๘๐ ๑.๗๐ ๐ ๒๕๓๔ ๒๕๓๙ ๒๕๔๔ ๒๕๔๗ ๒๕๕๐ ๒๕๕๒ ๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘ ๒๕๖๐ ทม่ี า : สำ� นักงานสถิติแหง่ ชาต,ิ โครงการส�ำรวจอนามัยและสวสั ดิการ พ.ศ. ๒๕๓๔, ๒๕๓๙, ๒๕๕๒, ๒๕๕๔, ๒๕๕๖, ๒๕๕๘ และโครงการสำ� รวจพฤตกิ รรมการสูบบุหร่ีและด่ืมสรุ าของประชากร พ.ศ. ๒๕๔๔, ๒๕๔๗, ๒๕๕๐, ๒๕๕๔, ๒๕๖๐ เมื่อพจิ ารณาตามเพศ ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ทง้ั เพศชาย และเพศหญิง มอี ตั ราการบรโิ ภคยาสบู ต่�ำทส่ี ดุ ตัง้ แต่เรม่ิ มกี ารสำ� รวจอตั ราการสูบบหุ รค่ี อื เพศชายมอี ตั ราการสบู บุหร่รี อ้ ยละ ๓๗.๗๐ ขณะทเี่ พศหญงิ มีอตั ราการสูบบหุ รรี่ อ้ ยละ ๑.๗๐ หากวิเคราะห์ในภาพรวมของอัตราการสูบบุหร่ีต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๖๐ พบว่า อัตราการ บรโิ ภคยาสบู ของประชากรเพศชาย มอี ตั ราการเปลย่ี นแปลงทล่ี ดนอ้ ยกวา่ เพศหญงิ โดยเพศชายมอี ตั รา การสูบบุหร่ีลดลงรอ้ ยละ ๓๖.๔๐ ขณะท่ีเพศหญงิ มอี ัตราการสูบบหุ รีล่ ดลงร้อยละ ๖๖.๐๐ 19
อัตราการสบู บหุ ร่ขี องประชากรไทยอายุ ๑๕ ปขี ึน้ ไป พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๖๐ : จำ� อแัตนรากกตาารมสกบู ลบมุุ่หรว่ขียั องประชากรไทยอายุ ๑๕ ปขี น้ึ ไป พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๕๘ : จําแนกตามกลุ่มวัย พ.ศ. ๑๕ - ๑๘ ปี ๑๙ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๔๐ ปี ๔๑ - ๕๙ ปี ๖๐ ปีขึน้ ไป ๒๕๖๐ ๑๔.๓๐ ๒๐๒.๒๑๔๑.๐๔.๘๐๐ ๒๕๕๘ ๒๕๕๖ ๗.๗๗ ๒๕๕๔ ๒๕๕๒ ๑๓.๙๕ ๒๐.๒๒๐๒๒.๕๓๓.๒๓ ๒๕๕๐ ๒๕๔๗ ๗.๙๒ ๒๕๔๔ ๒๕๓๙ ๑๔.๒๕ ๒๑.๑๘๒๔.๕๕ ๒๕๓๔ ๑๙.๘๕ ๘.๔๓ ๑๖.๒๙ ๒๒๒.๐๓๒๗.๔๔๔.๔๖ ๙.๒๑ ๑๖.๖๙ ๒๒๒๒.๓๓๑..๙๐๐๔๕ ๗.๖๒ ๗.๒๕ ๑๘.๓๒๓๑.๒๒๗๓๒.๔๑.๔๓๔ ๒๐.๕๗ ๒๒๖๖..๐๓๙๙ ๒๐.๙๒ ๖.๕๘ ๒๓.๕๗ ๒๙.๕๘ ๒๒.๖๐ ๒๙.๔๔ ๖.๔๔ ๘.๘๗ ๒๗.๖๖ ๓๓๒๓.๓.๒๑ ๙ ๒๘.๑๑ ๓๒.๙๓ ๓๖.๒๓๘๘.๑๔ ๑๒.๐๔ ๒๙.๙๓ ๐ ๕ ๑๐ ๑๕ ๒๐ ๒๕ ๓๐ ๓๕ ๔๐ ๔๕ ร้อยละ ท่ีมา : สำ� นักงานสถิตแิ หง่ ชาติ : โครงการสำ� รวจอนามยั และสวสั ดิการ พ.ศ. ๒๕๓๔, ๒๕๓๙, ๒๕๕๒, ๒๕๕๔, ๒๕๕๖, ๒๕๕๘ และโครงการส�ำรวจพฤติกรรมการสบู บหุ รีแ่ ละดม่ื สุราของประชากร พ.ศ. ๒๕๔๔, ๒๕๔๗, ๒๕๕๐, ๒๕๕๔, ๒๕๖๐ 20 ภาพรวมอตั ราการสูบบุหร่ขี องประชากรไทย ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ มแี นวโน้มลดลงทกุ กลมุ่ ยกเวน้ กลมุ่ อายุ ๑๙-๒๔ ปี ทม่ี อี ตั ราการสบู บหุ รเ่ี พม่ิ ขน้ึ เลก็ นอ้ ย เปน็ รอ้ ยละ ๒๐.๔๐ โดยเพม่ิ จาก พ.ศ. ๒๕๕๘ อยทู่ ่ี ร้อยละ ๒๐.๒๐ และกลุ่มอายุ ๖๐ ปีข้ึนไป เพิ่มเป็นร้อยละ ๑๔.๓๐ จาก พ.ศ. ๒๕๕๘ อยู่ที่ ร้อยละ ๑๓.๙๕
เมือ่ พจิ ารณาตามภูมศิ าสตร์ พบว่า ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล ผู้อยู่นอกเขตเทศบาลมีอัตราการสูบบุหรี่ ๑๗๑.๐๗๐.๐๐ ๒๐๒.๙๐๐.๙๐รอ้ ใยนลเะขตเทศบาล สงู กวา่ ในเขตเทศบาลในทกุ รอบการสำ� รวจ รอ้ ยละ โดยอัตราการสูบบุหร่ีของผู้อยู่นอกเขต รอ้นยอลกะเขตเทศบาล เทศบาลอยู่ท่ีร้อยละ ๒๐.๙๐ ขณะท่ี รอ้ ยละ ผ้อู ยใู่ นเขตเทศบาลอยู่ท่ีร้อยละ ๑๗.๐๐ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภมู ภิ าคทมี่ อี ตั ราการสบู บหุ รี่ สงู ทส่ี ดุ ยงั คงเปน็ ภาคใตซ้ งึ่ เปน็ ภาค ๑๗ร้อ๑ย.๗ล๖รภอ้าะค๐ยก.ลล๖างะ๐ ๑๗รอ้ ๑ย.๗รล๑ภอ้าะค๐ยเ.หล๑นือะ๐ ทม่ี อี ตั ราการสบู สูงท่สี ดุ ในทุกรอบ การสำ� รวจ โดยใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ภาคใต้ กรุงเทพฯ ภาค มอี ตั ราการสบู บหุ รี่ รอ้ ยละ ๒๔.๕๐ ตะวันออกเฉยี งภเหานคือ รองลงมาคอื ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ๑ร๕้อ๑ย.๔ลร๕กอ้ระ๐ุงย.เท๔ลพฯะ๐ ร้อยละ ๒๑.๑๐ ภาคกลาง ๒๑๒.๑๑๐.๑๐รต้อะวยนั รลออ้อะกยเฉลียงะเหนอื ร้อยละ ๑๗.๖๐ ภาคเหนือ รอ้ ยละ ๑๗.๑๐ และกรงุ เทพมหานคร ภาคใต้ ร้อยละ ๑๕.๔๐ แสดงให้เห็นว่า มาตรการในการควบคุมยาสูบ ๒ร๔้อ๒ย.๕รล๔้อภะา๐ย.คใ๕ลต้ ะ๐ ที่ผา่ นมา ไดผ้ ลดมี ากในภาคเหนอื และยงั ไมค่ อ่ ยไดผ้ ลในภาคใต้ สถานการณ์ในช่วงเวลาตั้งแต่การก่อตั้ง สสส. จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๖๑) อัตราการ 21 สูบบุหร่ีลดลงตามล�ำดับ โดยลดลงจากร้อยละ ๒๕.๔๗ ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นร้อยละ ๑๙.๑๐ ของ ประชากร ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ และมีแนวโน้มท่ีจะลดลงต่อเน่ือง ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศบังคับใช้ พระราชบัญญัตคิ วบคมุ ผลติ ภณั ฑ์ยาสบู พ.ศ. ๒๕๖๐ ทีเ่ พม่ิ ประสิทธภิ าพและการควบคุมยาสูบมากข้นึ อาทิ การห้ามโฆษณาโดยสน้ิ เชิงรวมถงึ การโฆษณาในส่อื ออนไลน์ การจำ� กดั อายผุ ู้ซอ้ื การจ�ำกัดสถานท่ี สูบและจำ� หน่าย รวมถึงการปรบั ข้นึ อตั ราภาษีสรรพสามติ ท�ำให้ยาสบู มรี าคาสูงข้ึน สง่ ผลต่อการเขา้ ถงึ ยาสบู ของประชากรไทย ซึ่งขณะน้ี สสส. และภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐและนอกภาครัฐ ก�ำลังพยายามด�ำเนินการ ดว้ ยวธิ ตี า่ งๆ เพอื่ ลดและปอ้ งกนั การบรโิ ภคยาสบู ของประชากรไทย โดยเฉพาะกลมุ่ เยาวชน และกลมุ่ ท่ี อาศยั นอกเขตเทศบาล ทย่ี งั มอี ตั ราการสบู บหุ รที่ ส่ี งู กวา่ ประชากรกลมุ่ อน่ื ๆ ใหเ้ ปน็ ผลตอ่ ไป ซงึ่ มาตรการ เหล่าน้ีจะปกป้องสุขภาพของประชากรไทยจากยาสูบ ท�ำให้รัฐบาลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการ รักษาโรคที่เกดิ จากการสูบบหุ รไ่ี ด้
สถานการณ์ความปลอดภยั ทางถนน ในประเทศไทย ผเู้ สียชีวิตบนทอ้ งถนนลดลงอยา่ งตอ่ เนอื่ ง จำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนเปรยี บเทยี บขอ้ มลู แตล่ ะฐาน พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๖๑ จาํ นวน มรณบัตร POLIS E-claim WHO ๓๐,๐๐๐ ๒๖,๓๑๒ ๒๑,๙๙๖ ๒๑,๖๐๓ ๒๕,๐๐๐ ๑๕,๐๔๕ ๑๙,๙๖๐ ๒๑,๗๔๕ ๑๕,๗๐๐ ๑๖,๙๗๓ ๒๔,๒๓๗ ๖,๐๘๖ ๒๒,๔๙๑ ๗,๘๐๗ ๒๐,๑๖๙ ๒๑,๗๔๒ ๙,๗๑๐ ๑๐,๑๙๕ ๒๐,๐๐๐ ๑๔,๐๓๓ ๒๐,๗๙๐ ๑๔,๕๐๔ ๑๕,๔๕๘ ๒๑,๖๐๗ ๘,๘๕๓ ๑๕,๐๐๐ ๑๓,๗๖๖ ๑๐,๒๐๙ ๖,๖๐๖ ๖,๗๐๐ ๑๐,๗๔๒ ๑๐,๔๐๑ ๑๐,๑๔๓ ๑๐,๐๐๐ ๑๔,๐๕๙ ๖,๐๘๗ ๙,๐๔๗ ๗,๘๓๕ ๘,๑๓๗ ๑๐,๔๒๒ ๑๔,๗๘๙ ๗,๑๖๑ ๙,๘๙๘ ๕,๐๐๐ ๐ ๒๕๕๓ ๒๕๕๔ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ท่ีมา : สำ� นักโรคไมต่ ิดตอ่ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเน่ือง โดยมีจ�ำนวนผู้เสียชีวิต ๒๑,๙๙๖ ราย ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ ลดลงเปน็ ๒๐,๑๖๙ ราย ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ จากสถติ ยิ อ้ นหลงั ชว่ งหลายปที ผ่ี า่ นมา กลมุ่ เสย่ี งตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตุ 26 ทางถนน ยงั คงเปน็ กลุ่มวัยร่นุ กลุ่มผู้ใช้รถจกั รยานยนต์ กลุ่มผ้ชู าย และกลมุ่ แรงงาน ท้ังนี้ ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยมีหลายฐานข้อมูลและมีหลายหน่วยงานท่ีเป็น ผู้ด�ำเนินการจัดเก็บ ซ่ึงการเก็บข้อมูลก็ขึ้นกับนิยามของแต่ละหน่วยงานและการน�ำไปใช้ประโยชน์ คณะอนุกรรมการด้านการบริหารจัดการข้อมูลและการติดตามประเมินผล ภายใต้ศูนย์อ�ำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน โดยส�ำนกั โรคไมต่ ิดตอ่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงได้บูรณาการ ขอ้ มลู การตายจากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนใน พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๖๑ จาก ๓ ฐานขอ้ มลู สำ� คญั ของประเทศ ไดแ้ ก่ สำ� นกั งานตำ� รวจแห่งชาติ บริษัท กลางคมุ้ ครองผปู้ ระสบภยั จากรถ จำ� กดั และฐานข้อมลู มรณบตั รและ หนังสือรับรองการตาย เพ่ือใช้เป็นฐานข้อมูลหลักในการรายงาน และพบว่าข้อมูลนี้มีความใกล้เคียง กับข้อมูลที่องค์การอนามัยโลกได้รายงานเอาไว้ใน “Global Status Report on Road Safety” ใน พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๘ และ พ.ศ. ๒๕๕๙ จากการคาดประมาณโดยสตู รคำ� นวณซงึ่ ใชห้ ลายตวั แปร ขา้ งเคยี ง อยา่ งไรกต็ าม หากพจิ ารณาขอ้ มลู ของส�ำนกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ ซงึ่ เปน็ ฐานขอ้ มลู แรกทม่ี กี ารจดั เกบ็ มาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ขอ้ มลู จากการบรู ณาการเชอื่ มขอ้ มลู ๓ ฐาน และขอ้ มลู จากการรายงานขององคก์ ารอนามยั โลก ต่างก็มีแนวโน้มไปในทศิ ทางเดยี วกนั ทพ่ี บวา่ “จำ� นวนผเู้ สียชีวิตจากอบุ ัตเิ หตุทางถนนลดลง”
ขณะท่ขี อ้ มูลจำ� นวนผบู้ าดเจบ็ จากอุบตั เิ หตทุ างถนนของโรงพยาบาลสังกดั กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ช้ีชัดว่ากลุ่มอายุ ๑๕-๑๙ ปี เปน็ กลุ่มอายุทีบ่ าดเจบ็ จากอบุ ตั ิเหตุทางถนนสูงสดุ เฉล่ียเดือนละ ๑๗,๖๘๗ ราย คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๗๙ ของผู้บาดเจ็บท้ังหมด รองลงมาคือ กลุ่มอายุ ๒๐-๒๔ ปี เฉลย่ี เดอื นละ ๑๑,๗๑๒ ราย คดิ เป็นร้อยละ ๑๒.๔๕ ของผู้บาดเจบ็ ทงั้ หมด๑๔ ซง่ึ ชชี้ ดั วา่ กล่มุ วัยร่นุ เปน็ กลุ่มเสย่ี งท่เี กดิ อุบัติเหตสุ งู สดุ รวมร้อยละ ๓๑.๒๔ แนวโน้มอัตราการการสวมหมวกนริ ภยั ของผใู้ ช้รถจักรยานยนตใ์ นประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๖๑ ๘๐ รวม ๖๐ ๕๓ ๕๔ ๕๒ ๕๑ ๕๑ ๕๑ ๕๑ ๕๐ ๕๓ ๔๐ ๔๔ ๔๖ ๔๓ ๔๓ ๔๒ ๔๓ ๔๓ ๔๓ ๔๖ ๒๐ ๑๙ ๒๔ ๒๐ ๑๙ ๑๙ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๓ ๐ ๒๕๕๔ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๕๓ ทม่ี า : มลู นธิ ไิ ทยโรดส,์ การส�ำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของผใู้ ชจ้ กั รยานยนต์ จากผลการส�ำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัย ๙ ปีท่ีผ่านมา พบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัย 27 ของคนไทยโดยเฉลี่ยทั้งประเทศอยทู่ ร่ี ้อยละ ๔๔ แต่ในข้อมูลการส�ำรวจลา่ สดุ พ.ศ. ๒๕๖๑ จะพบวา่ ผขู้ ับขแี่ ละผโู้ ดยสารสวมหมวกนริ ภัยร้อยละ ๔๖ สูงกว่าปีแรกท่ีเร่มิ สำ� รวจ (พ.ศ. ๒๕๕๓) ซง่ึ สวมหมวก นิรภัยรอ้ ยละ ๔๔ และในภาพรวมผขู้ บั ขย่ี งั คงสวมหมวกนริ ภยั มากกวา่ ผโู้ ดยสาร ร้อยละ ๓๐ เหตผุ ลสำ� คญั ของการไม่สวมหมวกนิรภยั คือ ผู้ขับขี่คดิ วา่ เดินทางระยะใกล้ สะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ คนไทยจ�ำนวนมากยังมีความประมาทและขาดวัฒนธรรมความปลอดภัย หากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ สวมหมวกนริ ภัยทกุ คร้งั แมจ้ ะเดนิ ทางระยะใกลจ้ ะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิต เนือ่ งจากการบาดเจบ็ ท่ี ศรี ษะไดถ้ ึงร้อยละ ๕๘ ๑๔ ข้อมูล ๔๓ แฟม้ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ของกระทรวงสาธารณสขุ
สถานการณก์ ารมกี ิจกรรมทางกาย ในประเทศไทย คนไทยมีกจิ กรรมทางกายท่เี พยี งพอเพมิ่ ข้นึ อยา่ งตอ่ เนื่อง อัตราการมีกจิ กรรมทางกายทเี่ พยี งพอของประชากรไทย อายุ ๖ ปีข้ึนไป พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๑ ๘๐ ๗๔.๔๐ ๗๑.๗๐ ๗๒.๙๐ ๗๕ ๖๘.๓๐ ๗๐.๙๐ ๖๘.๑๐ ๖๖.๓๐ ๗๐ ๖๕ ๖๐ ๐ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๕๕ ท่มี า : สถาบนั วิจยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล รว่ มกบั สสส., การสำ� รวจการมกี จิ กรรมทางกายของประชากรไทยอายุ ๖ ปขี ึ้นไป ประชากรไทยมกี จิ กรรมทางกายทเี่ พียงพอมแี นวโน้มเพิม่ ขนึ้ อย่างตอ่ เนื่อง จากการส�ำรวจการมี กิจกรรมทางกายของประชากรไทยอายุ ๖ ปขี ้ึนไป โดยสถาบันวิจยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั 28 มหดิ ล รว่ มกับ สสส. จากกลมุ่ ตัวอยา่ ง ๗,๖๐๖ คนทั่วประเทศ พบวา่ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ อตั ราการมี กจิ กรรมทางกายของประชากรไทยอยทู่ ่รี อ้ ยละ ๗๔.๔๐ เพม่ิ ขึ้นจาก พ.ศ. ๒๕๖๐ ร้อยละ ๑.๕๐ ซึง่ หาก เปรียบเทียบกบั พ.ศ. ๒๕๕๕ พบว่า ประชากรไทยมอี ตั ราการเพิ่มขน้ึ ถงึ รอ้ ยละ ๘.๑๐ โดยเพศชายมี กจิ กรรมทางกายรอ้ ยละ ๗๘.๒๐ มากกวา่ เพศหญิงทม่ี กี ิจกรรมทางกายรอ้ ยละ ๗๐.๘๐ เพศชาย เพศหญิง มกี จิ กรรมทางกาย มีกจิ กรรมทางกาย รอ้ ยละ ร้อยละ ๗๘.๒๐ ๗๐.๘๐
อัตราการมกี จิ กรรมทางกายทีเ่ พียงพอของประชากรอายุ ๖ ปขี นึ้ ไป พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๑ : จำ� แนกตามกลมุ่ วัย ๘๐ ๗๘.๔๐ ๗๕.๘๐ ๗๕.๒๐ ๗๕ ๗๒.๘๐ ๗๒.๐๐ ๗๓.๑๐ ๗๒.๘๐ ๗๐ ๖๗.๖๐ ๗๐.๔๐ ๖๘.๕๐ ๗๑.๘๐ ๖๘.๘๐ ๖๙.๗๐ ๖๗.๗๐ ๖๖.๖๐ ๖๗.๙๐ ๖๕.๘๐ ๖๙.๔๐ ๖๖.๑๐ ๖๗.๘๐ ๖๕ ๖๖.๐๐ ๖๖.๔๐ ๖๐.๗๐ ๖๔.๘๐ ๖๒.๙๐ ๖๓.๒๐ ๖๐ ๖๐.๕๐ ๕๘.๖๐ ๕๕ ๕๐ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๕๕ ท่ีมา : สถาบันวจิ ัยประชากรและสงั คม มหาวิทยาลยั มหดิ ล ร่วมกบั สสส., 29 การสำ� รวจการมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทยอายุ ๖ ปขี นึ้ ไป ทิศทางและแนวโน้มการมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทยในแต่ละช่วงวัยมีการเปลี่ยนแปลง ในทิศทางท่ีเพิ่มข้ึนและลดลงแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยใน พ.ศ. ๒๕๖๑ กลุ่มวัยท�ำงาน มีอัตรา การมกี จิ กรรมทางกายทเี่ พยี งพอเพิม่ ข้ึนสูงทสี่ ุด อย่ทู รี่ อ้ ยละ ๗๘.๔๐ รองลงมาคอื กลมุ่ วยั สูงอายุ มีอัตราการมีกิจกรรมทางกายท่ีเพียงพอร้อยละ ๖๙.๗๐ ขณะที่กลุ่มวัยเด็ก และวัยท�ำงาน มีอัตรา การมีกิจกรรมทางกายท่ีเพียงพอลดลงจากปีก่อน โดยกลุ่มวัยเด็ก มีกิจกรรมทางกายร้อยละ ๗๒.๘๐ และกล่มุ วัยรุ่น อตั ราการมีกิจกรรมทางกายทเ่ี พียงพอลดลงมากที่สุด อยู่ทรี่ อ้ ยละ ๖๕.๘๐ หากวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นในกลุ่มวัยรุ่นและวยั เด็ก ทมี่ อี ัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพยี งพอ ลดลง น่าจะเป็นสาเหตุจากการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง และพฤติกรรมการใช้หน้าจอที่มีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถงึ นโยบายปรบั ลดเวลาเรยี นวชิ าพลศกึ ษาในโรงเรยี นระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา ทเ่ี หลอื เพยี ง ๑ ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ จากเดมิ ๒ ชั่วโมงตอ่ สปั ดาห์ สสส. มงุ่ มนั่ ส่งเสริมใหค้ นไทยมีกจิ กรรมทางกายที่เพยี งพอ โดยไดป้ ลกุ กระแสประชากรไทยให้มี กิจกรรมทางกายผ่านกจิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพตา่ งๆ ท้งั กจิ กรรมระดบั ประเทศไปจนถึงกจิ กรรมในพนื้ ท่ี ทงั้ กิจกรรมการเดิน วง่ิ ปน่ั จกั รยานเพือ่ สขุ ภาพ การใชจ้ กั รยานในชีวิตประจ�ำวนั และการสง่ เสริมการ พฒั นาพน้ื ทส่ี ขุ ภาวะใหเ้ ออ้ื ตอ่ การมกี จิ กรรมทางกายทห่ี ลากหลายรปู แบบ และสอดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของ ประชาชน รวมไปถึงกระแสความนยิ มของการว่งิ เพ่ือสขุ ภาพท่มี ีการจดั กจิ กรรมอยา่ งต่อเน่อื ง สง่ ผลให้ ประชากรในประเทศมีกิจกรรมทางกายเพ่มิ มากขน้ึ
สถานการณ์การบรโิ ภคผัก และผลไมใ้ นประเทศไทย คนไทยมแี นวโน้มการบรโิ ภคผักและผลไม้เพิม่ ขึน้ อย่างต่อเนอื่ ง อตั ราการบริโภคผักและผลไม้ท่เี พียงพอ๑๕ ของประชากรไทย อายุ ๑๕ ปขี ึ้นไป พ.ศ.อ๒ัต๕รา๕ก๑า-ร๒บ๕รโิ๕ภ๗คผักและผลไมท้ เี่ พียงพอตามข้อแนะนําของประชากรไทย อายุ ๑๕ ปีขนึ้ ไป พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๗ พ.ศ. ชาย หญิง รวม ๒๔.๑๐ ๒๗.๖๐ ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ๒๕.๙๐ ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ๑๖.๙๐ ๑๘.๕๐ ๑๗.๗๐ รอ้ ยละ ๐ ๕ ๑๐ ๑๕ ๒๐ ๒๕ ๓๐ ที่มา : สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒) และครง้ั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗) 30 ประชากรไทยอายุ ๑๕ ปขี น้ึ ไป มอี ตั ราการบรโิ ภคผกั และผลไมท้ เี่ พยี งพอตามขอ้ แนะนำ� เพม่ิ มากขนึ้ โดยมีอัตราการบริโภครวมใน พ.ศ. ๒๕๕๒ อยู่ที่ร้อยละ ๑๗.๗๐ และเพ่ิมขึ้นเป็นร้อยละ ๒๕.๙๐ ใน พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยเพศหญิงมีอัตราการบริโภคผักและผลไม้มากกว่าเพศชายเล็กน้อยคือ เพศหญิง รอ้ ยละ ๒๗.๖๐ และเพศชาย ร้อยละ ๒๔.๑๐ ประชากรไทยบริโภคผกั และผลไม้โดยรวมในปรมิ าณเฉลยี่ ๓.๗ ส่วนต่อวนั ซึ่งตำ�่ กวา่ ขอ้ แนะนำ� มาตรฐานทใ่ี หบ้ ริโภค ๕ สว่ นต่อวัน (ผัก ๓ ส่วน และผลไม้ ๒ สว่ นขน้ึ ไป) โดยพบวา่ มีการบรโิ ภคผัก ตง้ั แต่ ๓ สว่ นขนึ้ ไปตอ่ วนั เพยี งรอ้ ยละ ๒๙.๘๐ และบรโิ ภคผลไมต้ ง้ั แต่ ๒ สว่ นขน้ึ ไปตอ่ วนั รอ้ ยละ ๓๐.๕๐ และมีแนวโน้มการบริโภคผักและผลไม้ลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุต้ังแต่ ๗๐ ปีขน้ึ ไป บรโิ ภคผักและผลไม้เพยี งพอมีเพยี งรอ้ ยละ ๒๙.๑๐ ๑๕ การบรโิ ภคผกั และผลไม้ทป่ี ลอดภยั และเพยี งพอตามขอ้ แนะนำ� ขององค์การอนามัยโลก คอื ๔๐๐ กรัมต่อวัน หรือ ๕ ส่วนมาตรฐาน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 525
Pages: