Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา 9 หน้า

วิชา 9 หน้า

Published by saowanee.yaukala, 2020-04-10 03:22:28

Description: วิชา 9 หน้า

Search

Read the Text Version

©Œ¶ ´­§©Œ¶¯´ƒ­¡§´i ¯ƒ¡´i ©Œ¶ ´š¥©¥Œ¶ £´Œš´¥—¥£¶ Œ´—¶ ©¶Œ´©¥¶Œº‰Æ´™¤¥º‰Æ™¤ ¬´£†³ ¬†´· £³††· ©Œ¶ ´ ©¶Œ´ śŊ†Å››ÅŠ†› ­£¯–­›¶ £¯–¶› ©Œ¶ ´›¶Â©©¶Œª´›¶Â©ª ’£©³¤’£©¤³ ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´¥³ƒ©Ã¶Œ¥´‰¥Äƒ³›Ã£n ¥˜‰m©Ä›‰n£˜©m ‰ §»ƒ¥³ƒ§«»ƒq ¥ƒ³ «q ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´—©µ›¶Œ´—› µ›³›´š›qº  ›³ šqº Œ§¥´Œƒ§´¥¥´ƒ´¥

©Œ¶ ´­§©Œ¶¯´ƒ­¡§´i ¯ƒ¡´i ©Œ¶ ´š¥©¥Œ¶ £´Œš´¥—¥£¶ Œ´—¶ ©¶Œ´©¥¶Œº‰Æ´™¤¥º‰Æ™¤ ¬´£†³ ¬†´· £³††· ©Œ¶ ´ ©¶Œ´ śŊ†Å››ÅŠ†› ­£¯–­›¶ £¯–¶› ©Œ¶ ´›¶Â©©¶Œª´›¶Â©ª ’£©³¤’£©¤³ ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´¥³ƒ©Ã¶Œ¥´‰¥Äƒ³›Ã£n ¥˜‰m©Ä›‰n£˜©m ‰ §»ƒ¥³ƒ§«»ƒq ¥ƒ³ «q ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´—©µ›¶Œ´—› µ›³›´š›qº  ›³ šqº Œ§¥´Œƒ§´¥¥´ƒ´¥



©Œ¶ ´­§©Œ¶¯´ƒ­¡§´i ¯ƒ¡´i ©Œ¶ ´š¥©¥Œ¶ £´Œš´¥—¥£¶ Œ´—¶ ©¶Œ´©¥¶Œº‰Æ´™¤¥º‰Æ™¤ ¬´£†³ ¬†´· £³††· ©Œ¶ ´ ©¶Œ´ śŊ†Å››ÅŠ†› ­£¯–­›¶ £¯–¶› ©Œ¶ ´›¶Â©©¶Œª´›¶Â©ª ’£©³¤’£©¤³ ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´¥³ƒ©Ã¶Œ¥´‰¥Äƒ³›Ã£n ¥˜‰m©Ä›‰n£˜©m ‰ §»ƒ¥³ƒ§«»ƒq ¥ƒ³ «q ©¶Œ´ ©¶Œ´ ©Œ¶ ´—©µ›¶Œ´—› µ›³›´š›qº  ›³ šqº Œ§¥´Œƒ§´¥¥´ƒ´¥





ตอ้ งยอมรบั วา่ เกดิ เปน็ คนไทยนน้ั แสนจะโชคดี เพราะเมอ่ื มปี ญั หา เราก็มีพระราชา ท่ีทรงคิดหาทางแก้ไขอยู่เสมอ เมืองไทย จึงเปรียบเสมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ ที่มีในหลวงรัชกาลท่ี 9 เป็นครขู องแผน่ ดิน หากอาศยั อยบู่ นผนื แผน่ ดนิ ไทย ไมว่ า่ จะเปน็ ชนชาตใิ ด ซอ่ นตวั อยู่ แหง่ หนตำ�บลไหน ยากลำ�บาก หรอื ทรุ กนั ดารเพยี งใด พระองคจ์ ะ เสดจ็ พระราชดำ�เนนิ ไปหา เพอ่ื ชแี้ นะแนวทางแกไ้ ขในทกุ เรอ่ื ง ไมว่ า่ จะเป็นเร่ืองของ ดนิ ฟ้า ป่า ฝน น�้ำ ความยากจน ความแตกแยก และปัญหานับหมื่นนับแสน จนเกิดเป็นโครงการในพระราชดำ�ริ ท้งั ขนาดเล็ก จนถงึ ขนาดใหญ่ มากมายกวา่ 4,000 โครงการ ศาสตร์พระราชา หรือคำ�สอนของพระองค์ จึงเปรียบเสมือน วิชาของพ่อ ท่ีช่วยพัฒนาให้คนไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างม่ันคง และยงั่ ยนื คอื ของขวญั ลำ้� คา่ และกลายเปน็ ตำ�ราของแผน่ ดนิ ไทย ตราบชั่วนริ นั ดร์ น้อมสำ�นึกในพระมหากรณุ าธิคณุ อันหาทส่ี ุดมิได้ การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย

6หน้า หนา้ 16 หน้า 26 หนา้ 36

หน้า 86 หน้า 76 หนา้ 66 หนา้ 56 หน้า 46

6

สบื สานตำ�นานเรือ สร้างสรรค์ตำ�นานไทย หากไมน่ บั เทศกาลลอยกระทง หนงึ่ ในประเพณที างนำ�้ ทค่ี นไทยคนุ้ เคยมากทส่ี ดุ กค็ อื กระบวนพยหุ ยาตรา ชลมารค ซงึ่ จะมเี รอื หลวงเคลอื่ นขบวนไปตามแมน่ ำ้� เจา้ พระยา ฝพี ายแตง่ ชดุ เตม็ ยศ เวลาพายเปน็ จงั หวะ จะโคน สอดประสานพร้อมเสยี งเหเ่ รือซึ่งดงั กึกกอ้ งท่ัวทอ้ งนำ้� เพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์ประมขุ ไทย ความจริงแล้วกระบวนพยุหยาตราเป็นประเพณีโบราณ ทสี่ บื ทอดกนั มาตงั้ แตค่ รงั้ กรงุ ศรอี ยธุ ยา จวบจน ถึงสมัยรัชกาลท่ี 7 จึงหยุดชะงักไป ด้วยปัญหาเศรษฐกิจที่สืบเน่ืองมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และ สภาพการเมืองการปกครองในห้วงเวลาน้ัน ผ่านมาจนถึงสมัยของในหลวงรัชกาลท่ี 9 ทรงเห็นคุณค่า ของประเพณเี หเ่ รอื น้ี เพราะถงึ จะโบราณแต่ก็สะท้อนความเปน็ ไทยได้เปน็ อยา่ งดี ในปีพ.ศ. 2495 พระองค์ ไดเ้ สดจ็ ฯ ไปยังโรงเกบ็ เรอื พระราชพิธที ี่คลองบางกอกนอ้ ย ทรงทอดพระเนตร เหน็ เรอื หลายลำ� อยใู่ นสภาพชำ� รดุ ทรดุ โทรม จงึ มพี ระราชดำ� รใิ หฟ้ น้ื ฟเู ปน็ การถาวร โดยชใี้ หเ้ หน็ วา่ ถงึ จะ จดั งานแหเ่ รอื บอ่ ยขนึ้ กไ็ มไ่ ดส้ น้ิ เปลอื งอะไรนกั เนอ่ื งดว้ ยฝพี ายกใ็ ชก้ ำ� ลงั ของทหารเรอื ซง่ึ ปกตจิ ะฝกึ ซอ้ ม กันอยู่แล้ว เช่นเดียวกับเคร่ืองแต่งกาย ซึ่งตัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่ที่เป็นประโยชน์ มากทส่ี ดุ คอื ประชาชน จะไดเ้ หน็ เรอื พระราชพธิ ตี า่ งๆ ทสี่ วยงามและทรงคณุ คา่ ทางศลิ ปะ รวมทงั้ ยงั เปน็ โอกาสอนั ดที เี่ รอื จะไดร้ ับการดูแลรักษาให้คงสภาพดีอยู่เสมอ การจัดขบวนพยุหยาตราชลมารคในรัชกาลที่ 9 เริ่มข้ึนคร้ังแรกในปี พ.ศ.2500 เพ่ือฉลองปีมหามงคล 25 พทุ ธศตวรรษ และพ.ศ.2502 ในหลวงรชั กาลท่ี 9 ทรงเสดจ็ ฯ ถวายผา้ พระกฐนิ ณ วดั อรณุ ราชวราราม ถึงจัดเรือได้เต็มขบวน นอกจากนย้ี ังโปรดฯ ให้มีการต่อยอดและพัฒนาศลิ ปะเรอื อยเู่ สมอ มีการจดั สร้าง เรอื นารายณท์ รงสบุ รรณ รชั กาลที่ 9 ซง่ึ ถอดแบบจากเรอื พระทนี่ งั่ ลำ� เดมิ ทช่ี ำ� รดุ เสยี หาย เหลอื เพยี งโขนเรอื ท่ีเป็นรูปพระนารายณ์ประทับอยู่บนหลังของพญาครุฑ ซ่ึงเก็บรักษาไว้ที่นี่ ยังมีการจัดขบวนเรือหลวง ออกแสดงในช่วงท่ีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (เอเปก 2003) เมอื่ พ.ศ. 2546 ทำ� ใหช้ าวโลกไดป้ ระจกั ษถ์ งึ ภมู ปิ ญั ญาของชาตไิ ทยทส่ี งั่ สมมานานหลายรอ้ ยปี ทง้ั หมดนก้ี เ็ พราะในหลวงรชั กาลที่ 9 ทรงตระหนกั ดวี า่ ประเพณวี ฒั นธรรมคอื รากเหงา้ ของความเปน็ ชาติ ดงั เชน่ พระราชดำ� รสั ท่วี ่า “อฐิ เกา่ ๆ แผน่ เดียวก็มคี า่ ควรจะชว่ ยกันรักษาไว้ ถา้ เราขาดสุโขทยั อยุธยา และกรงุ เทพฯ แลว้ ประเทศไทยกไ็ มม่ คี วามหมาย” จงึ เปน็ สาเหตสุ ำ� คญั ทโ่ี ปรดฯ ใหร้ อ้ื ฟน้ื ประเพณสี ำ� คญั มากมาย เพ่อื ใหค้ นไทยไดภ้ าคภูมิใจวา่ ประเทศน้อี ดุ มไปดว้ ยศลิ ปวฒั นธรรมอนั ยง่ิ ใหญ่ และสมควรท่จี ะ ต้องสบื ทอดไปยงั อนุชนรุน่ หลังไปอีกนานแสนนาน วิชา ๙ หน้า ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพ่อ • ปรุงไทยในใจคน 7

พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ เรอื พระราชพธิ ี เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร “นารายณท์ รงสบุ รรณ ผาดผายผนั ผอ่ งโสภี ดง่ั ครฑุ ยดุ นาคี น�ำมาใช้ได้อีกครั้งในปีพ.ศ.2502 แบกจักรีโบกบินบน” เร่ืองราวของเรือพระราชพิธี ท่ีใช้ใน พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ 9 กระบวนพยุหยาตราชลมารค มีมาต้ังแต่สมัยอยุธยาจนถึง ทรงเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ถวายผา้ พระกฐนิ ปัจจุบัน ได้ถูกบอกเล่าเอาไว้อย่างละเอียดและน่าสนใจ โดยกระบวนพยหุ ยาตราชลมารคขนึ้ ใหม่ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซ่ึงเดิมเป็นอู่เก็บเรือพระราชพิธี และ เป็นคร้ังแรก นับเป็นการฟื้นฟูจารีต อยู่ในการดูแลของส�ำนักพระราชวังและกองทัพเรือ จนวันท่ี ประเพณีทหี่ ่างหายไปนาน 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2495 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเนอ่ื งในโอกาสครบ 100 ปี แหง่ การ รัชกาลที่ 9 เสด็จทอดพระเนตรเรือพระราชพิธีต่างๆ ที่ สถาปนาพพิ ธิ ภณั ฑสถานในประเทศไทย ได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งท่ี 2 ทรงมีพระราช พ.ศ.2517 อเู่ กบ็ เรอื แหง่ นจ้ี งึ ไดร้ บั การ กระแสรับส่ังให้รักษาเรือและโรงเรือมากขึ้น รัฐบาลจึงได้ ยกฐานะใหเ้ ปน็ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ มอบหมายใหก้ รมศลิ ปากรและกองทพั เรอื เขา้ มาดแู ลซอ่ มแซม เรอื พระราชพธิ ี ในปีเดียวกนั เพ่อื เปิดให้ รักษา และจัดท�ำทะเบียนเรือพระราชพิธีต่างๆ จนสามารถ 8

เรอื พระราชพธิ ที จ่ี ดั แสดงและเกบ็ รกั ษาไวใ้ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ เรอื พระทน่ี งั่ นารายณท์ รงสบุ รรณ รชั กาลท่ี 9 กรมศิลปากรร่วมกับกองทัพเรือและส�ำนักพระราชวังได้จัด สรา้ งขนึ้ เพอื่ นอ้ มเกลา้ ฯ ถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ 9 เนอื่ งในพระราชพธิ กี าญจนาภเิ ษก ทพี่ ระองคท์ รง ครองราชสมบตั คิ รบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 เรอื พระทน่ี ง่ั สพุ รรณหงส์ มีแต่ตั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่องค์ปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ ในสมัยรัชกาลท่ี 6 แทนล�ำเดิมในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็น เรอื พระทน่ี งั่ ชน้ั สงู ใชเ้ ปน็ ทปี่ ระทบั ของพระมหากษตั รยิ แ์ ละ พระราชนิ เี ทา่ นน้ั บางครงั้ โปรดฯ ใหเ้ ปน็ เรอื ทรงผา้ ไตร หรอื ผา้ ทรงสะพกั พระพทุ ธรปู หรอื พานพมุ่ ดอกไม้ นักท่องเท่ียวสามารถเข้าชมเพื่อศึกษา เรอื พระทนี่ งั่ อนนั ตนาคราช เรื่องราวของเรือพระราชพิธีได้อย่าง ลกึ ซงึ้ โดยจดั แสดงเรอื พระราชพธิ ตี า่ งๆ สรา้ งขนึ้ ใหมใ่ นสมยั รชั กาลที่ 6 แทนลำ� เดมิ ทสี่ รา้ งในสมยั รชั กาล ทง้ั บลั ลงั กบ์ ษุ บก บลั ลงั กก์ ญั ญา รวมทง้ั ที่ 3 ใชเ้ ปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานพระพทุ ธรปู สำ� คญั หรอื ผา้ พระกฐนิ ใน ส่ิงของเครื่องใช้ เคร่ืองแต่งกายของ กระบวนพยหุ ยาตราชลมารค เหล่าฝีพายในต�ำแหน่งต่างๆ มีการ เนอื่ งดว้ ยพน้ื ทจ่ี ำ� กดั จงึ จดั แสดงไดท้ ง้ั หมด 8 ลำ� อกี 5 ลำ� จ�ำลองกระบวนพยุหยาตราชลมารคให้ ฝากไว้ท่ีท่าวาสุกรี และ 38 ล�ำ เก็บรักษาไว้ที่กองเรือเล็ก ไดเ้ หน็ ภาพอยา่ งชัดเจน บรเิ วณสะพานอรณุ อมรนิ ทรด์ า้ นทศิ ตะวนั ตก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพธิ ี ปากคลองบางกอกน้อย เขตบางกอกนอ้ ย กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าชม วนั จันทร-์ อาทิตย์ 09.00-17.00 น. ปดิ วนั ปีใหม่ และสงกรานต์ โทร. 0-2424-0004 ค่าธรรมเนยี มเขา้ ชม คนไทย 20 บาท / ตา่ งชาติ 100 บาท ค่าถ่ายภาพ ภาพน่งิ 100 บาท ถ่ายวดิ ิโอ 200 บาท

บ้านบุ ชมุ ชนทำ�ขันลงเงนิ มรดกแผน่ ดนิ ทเ่ี ดยี วในเมอื งไทย บุขันลงหนิ คอื อาชีพเกา่ แกท่ ่ีทำ� กันในครวั เรอื นมาตง้ั แต่สมัยอยุธยา มอี ยรู่ ้อยกวา่ ครอบครัว และต้ังบา้ นเรือนอยใู่ นละแวกเดยี วกัน ชาวบา้ นนิยมน�ำขนั ลงหนิ มาใส่ นำ้� ดม่ื เพราะจะเยน็ ชน่ื ใจ หรอื ใสข่ า้ วสวยสำ� หรบั ตกั บาตร จนเมอื่ ครงั้ กรงุ ศรอี ยธุ ยา แตก จึงมีการอพยพมาตั้งหลักแหล่งกันที่บางลำ� พู ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ริมคลอง บางกอกนอ้ ย จนกลายเป็นชอ่ื ของชมุ ชนในปัจจบุ นั เมอ่ื กอ่ นชมุ ชนบา้ นบุ มกี ารทำ� ขนั ลงหนิ อยหู่ ลายครอบครวั สง่ ขายทง้ั ในฝง่ั พระนคร และฝง่ั ธน แตเ่ นอ่ื งจากการทำ� ขนั ลงหนิ นนั้ คอ่ นขา้ งยงุ่ ยาก เรม่ิ จากการใชโ้ ลหะผสม แลว้ ใชฝ้ มี อื ของชา่ งตแี ผโ่ ลหะใหแ้ บน ขนึ้ รปู เปน็ ขนั แลว้ นำ� มาขดั ผวิ ใหเ้ รยี บเกลย้ี ง ดว้ ยหนิ กอ่ นทจ่ี ะสง่ ไปเขยี นลายทแี่ ปดรว้ิ อกี ที ตอ้ งใชท้ ง้ั เวลาและความประณตี ใน ฝมี อื ชา่ งเปน็ อย่างมาก จงึ มีราคาคอ่ นขา้ งสงู จึงมีแตเ่ ชอ้ื พระวงศ์ หรือข้าราชการ ระดับสงู เท่าน้ันที่จะซ้ือได้ 10

ที่เท่ียวในชุมชนบา้ นบุ และเมอ่ื มเี ทคโนโลยใี หมๆ่ เขา้ มา ความ วัดสุวรรณาราม ราชวรวหิ าร นิยมเริ่มหดหายลงไป จึงเหลือเพียง โรงงานของตระกูลเจียมแสงสัจจา เดมิ ชอื่ วดั ทอง สนั นษิ ฐานวา่ สรา้ งตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยาตอนปลาย ตระกูลเดียวในชุมชนน้ี ภายใต้การน�ำ มเี รอ่ื งเลา่ กนั วา่ พระยาตาก (หรอื พระเจา้ ตากสนิ มหาราช) ใชว้ ดั ของคุณเมตตา เสลานนท์ท่ียังคง เปน็ ทป่ี ระหารเชลยศกึ พมา่ จากคา่ ยบางแกว้ ตอ่ มารชั กาลท่ี 1 อนุรักษ์อาชีพด้ังเดิม ท่ีสืบทอดมาจาก โปรดใหส้ ถาปนาสง่ิ กอ่ สรา้ งภายในวดั แลว้ พระราชทานนามวา่ รนุ่ บรรพบรุ ษุ เอาไวไ้ มใ่ หส้ ญู หายไป โดยมี วดั สวุ รรณาราม พระอโุ บสถมคี วามงดงามโดยเฉพาะจติ รกรรม คุณป้าคุณลุงท่ียังมีใจรักนั่งสร้างสรรค์ ฝาผนงั สว่ นพระวหิ ารนน้ั สรา้ งในสมยั รชั กาลที่ 4 ผลงานช้ินเอก เพ่ือเป็นมรดกของ แผ่นดิน ภายในโรงงานเจียมแสงสัจจา มขี นั ลงหนิ สวยงามมากมายตงั้ โชวไ์ วใ้ ห้ ชนื่ ชมโดยเฉพาะขนั ลงหนิ ลายนำ�้ มะลวิ ลั ย์ ขนาด 11 นิ้ว งานหัตถกรรมช้ินเอก ถือเป็นขันลงหินขนาดใหญ่ท่ีสุดในโลก มีใหด้ ูทน่ี ีเ่ พียงทีเ่ ดยี วเทา่ น้นั ชมุ ชนบา้ นบุ ตลาดไร้คาน หรอื ตลาดสุวรรณาราม(วดั ทอง) รมิ คลองบางกอกนอ้ ย ข้างวดั สวุ รรณาราม เขตบางกอกนอ้ ย เป็นแหล่งค้าขายของคนจีนในย่านบางบุ ท่ีมีอายุเก่าแก่กว่า กรงุ เทพมหานคร 80 ปี เนอื่ งมาจากโครงสรา้ งทไ่ี มม่ คี าน จงึ เปน็ ทมี่ าของชอื่ เมอ่ื มี ตลาดภายนอกเกดิ ขนึ้ มากมาย ทำ� ใหเ้ หลอื เพยี ง 4- 5 รา้ น ทเ่ี ปดิ เท่ยี วชมุ ชนใกลเ้ คียง ขายของ ปจั จบุ นั ไดป้ รบั ใหเ้ ปน็ ตลาดทอ่ งเทยี่ ว ซงึ่ จะเปดิ ขาย ตลาดนอ้ ย เฉพาะวนั เสาร-์ อาทติ ย์ ที่ 1 และ 3 ของทกุ เดอื น ตงั้ แตเ่ วลา เขตสมั พนั ธวงศ์ กรงุ เทพฯ 09.00-15.00 น. โดยจะมที ง้ั ของกนิ ขนมโบราณ ผลติ ภณั ฑจ์ าก ชมุ ชนกฎุ จี นี ธรรมชาติ และการแสดงของเดก็ ในชมุ ชน เขตธนบรุ ี กรงุ เทพฯ วิชา ๙ หนา้ ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพอ่ • ปรงุ ไทยในใจคน 11

สถานที่ทอ่ งเทีย่ วนา่ สนใจ กรงุ เทพมหานคร พิพธิ ภัณฑศ์ ริ ิราชพิมขุ สถาน เปน็ เอกลกั ษณ์ พ.ศ.2546 การรถไฟไดย้ กกรรมสทิ ธท์ิ ด่ี นิ และ สิ่งปลูกสร้างให้กับคณะแพทย์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล จากสถานีรถไฟธนบุรี สถานีรถไฟ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษา จึงได้รับการบูรณะให้เป็น สายใต้แห่งแรกของไทย ที่สร้างตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์ และได้รับช่ือพระราชทานจากพระบาทสมเด็จ สมยั รัชกาลที่ 5 เมอ่ื ถกู ระเบิดลงในชว่ ง พระเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลที่ 9 ในสว่ นของพพิ ธิ ภัณฑน์ ั้นจะแบง่ สงครามโลกคร้ังท่ี 2 จึงได้มีการสร้าง เปน็ หอ้ งตา่ งๆ มากมาย ทจี่ ะบอกเลา่ ประวตั คิ วามเปน็ มาของ อาคารสมยั ใหม่ ทมี่ สี ถาปตั ยกรรมกอ่ อฐิ โรงพยาบาลศริ ิราช ประวตั ิของสถานรี ถไฟ เร่อื งราวเก่ยี วกับ แบบวกิ ตอเรยี น โดยมหี อนาฬกิ าตงั้ เดน่ การเรียนการแพทย์ รวมท้งั วถิ ชี มุ ชนรมิ คลองบางกอกน้อย เปิด วันจันทร์ และวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. ปดิ วนั อังคารและวนั หยุดนกั ขัตฤกษ์ ราคาบัตร ผู้ใหญ่ 150 บาท/ตา่ งชาติ 300 บาท เดก็ ไม่เกิน 18 ปี 50 บาท (รายได้ทงั้ หมดเขา้ ศริ ริ าช) 2 ถ.วงั หลัง แขวงศิรริ าช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพฯ โทร. 0-2419-2601, 0-2419-2618-9 12

หลวงพอ่ โบสถ์น้อย วัดอมรนิ ทราราม โรงรถจักรธนบุรี พระประธานในโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ หรือโรงซ่อมรถไฟ สถานีรถไฟบางกอกน้อย ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ต่อมาในสมัย ใช้เฉพาะซ่อมรถจักรไอน้�ำเพียงอย่างเดียว ต่อมา รชั กาลท่ี 5 มกี ารสรา้ งทางรถไฟสายใต้เฉยี ดผา่ น เม่ือมีรถจักรดีเซลเข้ามาแทนที่ จึงปรับมาเป็น พระอุโบสถของวัด จึงต้องมีการร้ือด้านหน้าออก โรงซ่อมรถจักรดีเซลท่ีดีท่ีสุดแห่งหนี่งของไทย ไปหน่ึงห้องจึงท�ำให้โบสถ์มีขนาดเล็กลง ชาวบ้าน และยังคงเก็บรักษารถจักรไอน�้ำเอาไว้ เพื่อน�ำมา จึงพากนั เรยี กว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อย ใช้ในงานเทศกาลส�ำคัญๆ สามารถเดินชมหรือ ถ่ายรูปได้เฉพาะในส่วนด้านนอก แต่ต้องใช้ความ 095 ถ.อรณุ อมรนิ ทร์ แขวงศิรริ าช เขตบางกอกนอ้ ย ระมดั ระวงั กรงุ เทพฯ ท่ามหาราช นง่ั เรือลอ่ งคลองบางกอกน้อย คอมมนู ติ สี้ ดุ เกร๋ มิ แมน่ ำ้� เจา้ พระยา ทใี่ ชก้ ลมุ่ อาคาร ชมกจิ กรรมรมิ คลอง บา้ นไมโ้ บราณ สวนผกั ผลไม้ พาณิชย์แบบด้ังเดิม เป็นแหล่งแฮงก์เอาท์ ให้คน รวมทง้ั วดั วาอารามตา่ งๆ ทต่ี ง้ั อยรู่ มิ นำ้� และมคี วาม มากิน ด่ืม ช้อป มี Riverside Walk ให้เดินเล่น ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดสุวรรณาราม หรอื น่งั ชลิ ริมแม่น�้ำได้อย่างเพลิดเพลนิ วัดสวุ รรณคีรี วัดศรสี ุดาราม ฯลฯ 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถ.มหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ วิชา ๙ หน้า ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพ่อ • ปรงุ ไทยในใจคน 13





16

จาก ‘นครนายก’ สู่ ‘นครนาสมบรู ณ์‘ ถึงจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่ได้อุดมสมบูรณ์อย่างท่ีใครๆ คิด ค�ำว่านครนายกท่ีหลายคนเข้าใจว่า หมายถงึ นายกรฐั มนตรี ความจรงิ แลว้ มาจากความแหง้ แลง้ ของพน้ื ที่ ปลกู ขา้ วไมค่ อ่ ยขน้ึ ปลกู พชื อยา่ งอน่ื ก็ไมค่ อ่ ยรอด จนทางการต้องยกภาษีท่ีนาให้เพื่อแก้ปัญหาอยา่ งยง่ั ยนื ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสังเกตว่า ที่นี่มีปริมาณน�้ำไหลผ่านสูงถึง 1,540 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทว่าน้�ำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์กลับถูกปล่อยลงสู่ทะเลโดยเปล่าประโยชน์ จึงรับสั่งให้กรมชลประทาน สร้างเขอ่ื นขนาดใหญ่ เพือ่ กักเกบ็ น�้ำให้ชาวบ้านไวใ้ ชย้ ามขาดแคลน และเพอ่ื ป้องกันอุทกภัยท่ีมกั เกดิ ข้นึ เวลาเข้าหนา้ ฝน ตลอดจนใชส้ �ำหรับระบายน�้ำเพ่อื ชะล้างความเปน็ กรดของทด่ี นิ ในแถบนี้ ระหว่างน้ันในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จฯ มาเย่ียมราษฎร เพื่อสอบถามถึงสภาพปัญหาท่ีแท้จริง รวมทงั้ กำ� ชบั ชาวบา้ นวา่ ไมใ่ หข้ ายทดี่ นิ เปน็ อนั ขาด โดยตรสั ดว้ ยพระราชอารมณข์ นั วา่ เมอ่ื สรา้ งเขอ่ื นเสรจ็ กจ็ ะโปรดฯ ให้เปลี่ยนชือ่ จังหวัดจาก ‘นครนายก’ เป็น ‘นครนาสมบรู ณ’์ แทน โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ใช้เวลาศึกษานานถึง 7 ปี ถึงได้เร่ิมก่อสร้างในพ.ศ.2544 เน่ืองจาก พระองคท์ รงตระหนกั ดวี า่ การสรา้ งเขอื่ นแตล่ ะครงั้ หมายถงึ การใชง้ บประมาณแผน่ ดนิ มหาศาล ยงั ไมร่ วม ไปถึงผลกระทบท่ีอาจเกิดขึ้นกับประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติในละแวกนั้น จึงใส่พระทัยกับ ทุกขั้นตอน ต้ังแต่การเลือกสถานท่ี โดยย�้ำว่าต้องไม่ทับซ้อนกับพ้ืนที่ของอุทยานแห่งชาติหรือ ป่าสงวนแห่งชาติ รวมไปถึงบ้านเรือนราษฎร เพราะเข่ือนนี้มีไว้เพื่อบรรเทาความทุกข์ ไม่ใช่เพ่ือสร้าง ความเดือดร้อน หรือแม้แต่ขนาดของเขื่อนก็ต้องเก็บน้�ำไม่ต่�ำกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ซ่ึงนับเป็น ปริมาณท่สี งู เป็นประวตั กิ ารณ์เลยทีเดยี ว เข่ือนสร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในสิบปีกลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่เก็บน้�ำสมัยใหม่ของไทย เพราะถึงจะห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 100 กิโลเมตร แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมใดๆ ท้ัง ยังมีการน�ำเทคนิคและวิทยาการสมัยใหม่มาปรับใช้อย่างลงตัว เช่น แทนท่ีจะใช้คอนกรีตธรรมดา ก็โปรดฯ ให้น�ำคอนกรีตไปบดอัดกับกากถ่านหินจนมีความทนทานสูง สามารถรองรับเข่ือน ท่ีมีความสูงถึง 93 เมตร และยาวกว่า 2.5 กิโลเมตรได้อย่างมั่นคง ท่ีส�ำคัญกว่าน้ันคือ เมื่อสร้าง เสร็จก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที ผลผลิตในเรือกสวนไร่นาเจริญเติบโตเต็มท่ีรวมทั้งยังต่อยอด ไปสู่การจัดพ้ืนที่เพาะพันธุ์สัตว์น้�ำ และสถานท่ีท่องเที่ยวเพ่ือรองรับผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ท้ังหมดนี้ก็เพราะพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ใส่พระทัยเร่ืองน้�ำอย่างจริงจัง และ ไม่ได้มองปัญหาเพียงเฉพาะหน้า แต่พระองค์ทรงคิดถึงผลลัพธ์ระยะยาว ท�ำให้ท่ีน่ีกลายเป็นนคร นาสมบรู ณ์อยา่ งแท้จรงิ วชิ า ๙ หนา้ ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วิชาชลปราการ 17

เขอ่ื นขนุ ดา่ นปราการชล โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ�ริ อ.เมอื ง จ.นครนายก ปัญหาของประชาชนชาวไทย คือสิ่งที่ในหลวงรัชกาลท่ี 9 ไม่เคยน่ิงเฉย ส�ำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบลุ่มน�้ำ นครนายกนน้ั นอกจากปญั หาเรอ่ื งดนิ เปรย้ี ว ทำ� ใหก้ ารเกษตร ไมไ่ ดผ้ ลแลว้ ปญั หาใหญก่ ค็ อื ปญั หาอทุ กภยั เพราะนครนายก เป็นพ้ืนทรี่ าบลมุ่ ระดบั นำ�้ ใต้ดินต�่ำ จึงมีปัญหาขาดแคลนนำ้� ในช่วงหน้าแล้ง แต่กลับมีปัญหาน�้ำท่วมหนักในช่วงหน้าฝน เน่ืองจากพ้ืนทีล่ าดเอียงนอ้ ยทำ� ใหร้ ะบายน�้ำออกได้ชา้ เข่ือนขุนด่านปราการชล หรือเข่ือนคลองท่าด่านเดิม คือ ทางออกของการแก้ปัญหา ซ่ึงในหลวงรัชกาลท่ี 9 ทรงมี พระราชดำ� รใิ หก้ รมชลประทาน พจิ ารณาสรา้ งโครงการเขอื่ น เก็บกักน้�ำคลองท่าด่านอย่างเร่งด่วน เนอื่ งจากอา่ งเกบ็ นำ้� อยู่บนพ้นื ท่รี าบเชงิ เขา ตง้ั อยูใ่ นลุม่ น้�ำนครนายก ลมุ่ นำ�้ ยอ่ ย 18

กจิ กรรมทอ่ งเทยี่ วรอบเขื่อน ปากประตรู ะบายนำ�้ ของเขอื่ น เปน็ ทเี่ ลน่ นำ�้ พายเรอื คายคั ลอ่ งหว่ งยาง ปกิ นกิ นงั่ รบั ประทาน อาหาร ของคนในทอ้ งถนิ่ และนกั ทอ่ งเทยี่ ว โดยมภี าพมมุ สงู ของ ประตนู ำ�้ เขอ่ื นคอนกรตี ทยี่ าวทส่ี ดุ ในโลก เปน็ ฉากเบอื้ งหลงั พระตำ�หนกั ประทบั ตง้ั อยบู่ นเนนิ เขาเหนอื สนั เขอื่ น ใชเ้ ปน็ ทปี่ ระทบั ของในหลวง รชั กาลท่ี 9 และพระบรมวงศานวุ งศ์ เวลาเสดจ็ มาทรงงานทน่ี ่ี สามารถมองเหน็ ววิ ทวิ ทศั นแ์ ละสนั เขอ่ื นไดจ้ ากมมุ สงู กวา้ งไกล สดุ สายตา เปดิ ใหข้ นึ้ ไปชมเฉพาะวนั เสาร์ อาทติ ย์ เทา่ นนั้ ของลมุ่ นำ�้ บางปะกง สามารถเปน็ แหลง่ นง่ั รถบรกิ ารชมสนั เขอื่ น กักเก็บน�้ำไว้ใช้ประโยชน์แก่ราษฎร ทางตอนล่างได้เป็นจ�ำนวนมาก และ หากอยากรู้ประวัติความเป็นมาของเข่ือนอย่างละเอียด ครอบคลุมหลายพื้นท่ี ท�ำให้มีน�้ำใช้ แนะน�ำให้น่ังรถบริการเท่ียวชม พร้อมผู้บรรยาย ใช้เวลา ทำ� การเกษตร อปุ โภค บรโิ ภค รวมทงั้ ประมาณ 30 นาที นอกจากจะได้ช่ืนชมวิวทิวทัศน์ของ เพ่ือการอุตสาหกรรม และบรรเทา สนั เขอ่ื นเขาแบบประหยดั แรงเดนิ แลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ ราไดส้ ำ� นกึ ใน ปัญหาอุทกภัยในจังหวัดนครนายก พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่ีมีต่อปวงชน และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี ชาวไทย มีให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด และทรงพระราชทานชอ่ื วา่ เขอื่ นขนุ ดา่ น นกั ขตั ฤกษ์ ตงั้ แตเ่ วลา 09.30-17.00 น. คนละ 30 บาท ปราการชล เมื่อวันท่ี 2 มิถุนายน พ.ศ.2549 และนับเป็นเขื่อนคอนกรีต ลอ่ งเรอื ชมธรรมชาตริ อบเขอ่ื น อดั บดทย่ี าวทสี่ ดุ ในโลก สว่ นใครทไ่ี มถ่ นดั กจิ กรรมผจญภยั กส็ ามารถลอ่ งเรอื ชมเขอ่ื น สมั ผสั ภาพมมุ กวา้ ง ดมื่ ดำ่� กบั ความงามของนำ�้ ตกผางามงอน นำ้� ตกคลองคราม และนำ้� ตกชอ่ งลมได้ เข่ือนขุนดา่ นปราการชล ม.2 บ้านทา่ ด่าน ต.หนิ ตัง้ อ.เมอื ง จ.นครนายก โทร. 0-3738-4334 วิชา ๙ หนา้ ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วชิ าชลปราการ 19

ศูนยภ์ มู ริ กั ษธ์ รรมชาติ อ.เมอื ง จ.นครนายก หากอยากจะเริ่มต้นเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างลึกซึ้งและครบวงจร ศนู ยภ์ ูมริ ักษธ์ รรมชาติ คือสถานท่ีๆ จะทำ� ให้กา้ วแรกของคุณเริม่ ตน้ ได้อยา่ งม่ันคง ใครจะเชอื่ ว่าเมื่อสบิ ปที ี่แลว้ พื้นที่ 14 ไร่ตรงนี้ จะเป็นแคท่ ดี่ นิ รกร้างและแหง้ แลง้ แตด่ ว้ ยความมงุ่ มนั่ ของปราชญช์ มุ ชนอยา่ งคณุ ปญั ญา ปลุ เิ วคนิ ทร์ หวั หนา้ ศนู ยฯ์ ท่ี ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ปลกุ ปั้นอาณาจักรแห่งความพอเพียงและชวี ิตทย่ี งั่ ยืน โดยนำ� แนวคดิ และทฤษฎกี ารปรบั ปรงุ และพัฒนาคุณภาพของ ดิน น้�ำ ปา่ คน ตามแนว พระราชดำ� รขิ องในหลวงรัชกาลท่ี 9 มาใช้ จนกลายเปน็ ศูนย์เรียนรู้ส�ำหรับทุกคน 20

ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ คือชื่อพระราชทานจากสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ท�ำให้สัมผัส ไดถ้ ึงบรรยากาศเขยี วชอุ่มร่มเย็นของสถานท่ี นอกจากตน้ ไม้ เลก็ ใหญน่ านาพรรณแลว้ พน้ื ทด่ี า้ นนอกไดจ้ ดั เปน็ แปลงสาธติ แสดงแนวคดิ และทฤษฎตี า่ งๆ ของในหลวงรชั กาลที่ 9 ทงั้ การ จำ� ลองทฤษฎแี กม้ ลงิ ทฤษฎแี กลง้ ดนิ ทฤษฎอี ธรรมปราบอธรรม กงั หนั นำ้� ชยั พฒั นา เพอื่ ใหเ้ ราไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งราวของผนื ดนิ และ ผืนน�้ำตามแนวพระราชด�ำริมากมาย โดยแบ่งเป็นภาคต่างๆ ของไทย ท่ีน่ีจึงเปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ท่ีมีชีวิตให้ได้สนุกรู้ และเพลดิ เพลนิ กบั ทกุ กจิ กรรม ดว้ ยการไดล้ งมอื ทำ� ภาคเหนือ ขนึ้ เนนิ เตย้ี เขา้ ไปทำ� ความรจู้ กั ปา่ เปยี กกนั ไฟและฝายตามทฤษฎี ปา่ 3 อยา่ ง ใหป้ ระโยชน์ 4 อยา่ ง คอื ปลกู เพอื่ ใชส้ อย ปลกู เพอ่ื กนิ ปลกู เพอ่ื เปน็ พลงั งาน และสดุ ทา้ ยปลกู เพอื่ อนรุ กั ษด์ นิ และตน้ นำ�้ เท่ียวชุมชนใกลเ้ คียง ภาคอีสาน กลมุ่ สตรสี หกรณห์ ตั ถกรรม น�ำเสนอเร่ืองราวของข้าว หลักความคิดของธนาคารข้าว ผา้ ทอไทยพวนบา้ นใหม่ การสขี า้ ว การทำ� ปศสุ ตั ว์ และแนวคดิ ในการทำ� อาชพี เสรมิ อ.ปากพลี จ.นครนายก โทร. 09-2 757-9377, 09-0007-1061 ภาคกลาง บา้ นทงุ่ กระโปรง อ.บา้ นนา จ.นครนายก เรยี นรแู้ ปลงเกษตรทฤษฎใี หม่ สำ� รวจสวนสมนุ ไพรเพอื่ นำ� มา โทร. 09-8468-5499, 09-6889-0889 ประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ประโยชนก์ บั ชวี ติ ประจำ� วนั เสน้ ทางเครอื่ งแกง อยอู่ ยา่ งคนตดิ ดนิ เรยี นรวู้ ธิ สี รา้ งบา้ นดนิ และแปลงสมนุ ไพรรปู คน ภาคใต้ พบกับคนเอาถ่านและคนมีไฟ ที่แสดงแนวคิดเรื่องพลังงาน ทดแทน การทำ� นำ�้ มนั ไบโอดเี ซล แหลง่ พลงั งานราคาประหยดั ศูนย์ภมู ิรักษ์ธรรมชาติ 98/1 ม. 2 บา้ นท่าดา่ น ต.หนิ ตงั้ อ.เมือง จ.นครนายก ติดตอ่ ทำ�กิจกรรมล่วงหน้า โทร. 0-3738-4049 (มแี บบคร่งึ วัน และหนงึ่ วัน) เปดิ ทกุ วนั เวลา 08.00-17.00 น. วชิ า ๙ หนา้ ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วิชาชลปราการ 21

สถานท่ที อ่ งเทย่ี วนา่ สนใจ จ.นครนายก วดั หลวงพ่อปากแดง (วัดพราหมณ)ี หากต้องการสมหวังในเร่ืองโชคลาภ หลวงพ่อปากแดง พระประธานในอุโบสถ ท่ีประดิษฐานอยู่ในวัดพราหมณี วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี คือที่พึ่งทางใจและเป็นท่ีเล่ือมใส ของชาวนครนายกและจงั หวดั ใกล้เคียงทเ่ี ดนิ ทางมาสักการะ บูชากันอย่างไม่ขาดสาย ของไหว้ส�ำคัญนอกจากกล้วยน�้ำว้า หมาก พลู ดอกไม้แล้วยังมีน้�ำแดง ที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ ให้พร้อมสรรพ หลังจากขอโชคลาภเสร็จแล้ว สามารถเดิน จับจ่ายซื้อของกินของใช้กลับบ้านท่ีตลาดต้องชม ซึ่งต้ังอยู่ บริเวณดา้ นหนา้ ของวดั ต.บา้ นใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก โทร. 08-1384-8522, 0-3738-6166 เปดิ ทุกวนั เวลา 06.00-18.00 น. 22

โรงเรียนนายรอ้ ย นำ้� ตกยอดฮติ พระจุลจอมเกลา้ ใกล้กรุงเทพฯ เป็นเขตทหารท่ียินดี วังตะไคร้ สาริกา ต้อนรับประชาชนให้ นางรอง คอื ช่อื นำ�้ ตก เข้ามาสัมผัสวิถีแห่ง ทีเ่ ปน็ แหลง่ ท่องเท่ียว ชายชาติทหาร โดย ทางธรรมชาติใกล้ มีกิจกรรมท่องเที่ยว กรุงเทพฯ มากที่สุด มากมาย ไดแ้ ก่ ศาลเจา้ พอ่ ขนุ ดา่ น พพิ ธิ ภณั ฑ์ จปร. น้�ำตกน้อยใหญ่ไหลผ่านผาสูงลดหล่ันลงมาสู่ 100 ปี ศาลาวงกลมประดษิ ฐานพระบรมรปู รชั กาล ช้ันหินธรรมชาติที่รองรับ กลายเป็นแอ่งน้�ำ ที่ 5 วดั ชะโงก และกจิ กรรมทที่ า้ ทาย เชน่ พายเรอื ธรรมชาติให้สามารถสัมผัสสายน�้ำใสไหลเย็นฉ�่ำ เลื่อนขา้ มลำ� นำ้� กระโดดหอสงู 34 ฟตุ โรยตวั จาก ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอันเขียว หนา้ ผาจำ� ลอง หรอื ยิงปืนด้วยแสงเลเซอร์ ชอุ่มไดต้ ลอดทัง้ ปี 99 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ติดต่อทำ�กจิ กรรมล่วงหน้า โทร. 0-3739-3185 เปิดทุกวนั เวลา 08.00-16.00 น. อุทยานพระพฆิ เนศ อา่ งเกบ็ น�ำ้ หว้ ยปรือ สักการะพระพิฆเนศ ด้วยเป็นเมืองแห่ง เทพเจ้าแห่งความรู้ สายน�้ำ เลยมีสถานที่ และศิลปะ ที่เกิด ท่องเที่ยวท่ีมีความ จ า ก แ น ว คิ ด ข อ ง เกี่ยวพันกับน�้ำหลาย หลวงพ่อเณร หรือ แห่ง และอ่างเก็บน้�ำ พระราชพพิ ฒั นโ์ กศล ที่ น่ี ก็ เ ป ็ น ห นึ่ ง ใ น เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร บางขุนนนท์ แหล่งท่องเที่ยวท่ีอยากให้ลองแวะมาเที่ยวชม กรงุ เทพฯ ทตี่ อ้ งการสรา้ งสถานทป่ี ฏบิ ตั ธิ รรม โดยมี แม้จะเป็นอ่างเก็บน้�ำขนาดเล็ก แต่ก็มีทิวทัศน์ พระพฆิ เนศองคใ์ หญท่ สี่ ดุ ในประเทศไทย มคี วามสงู สวยงามตามธรรมชาติ มีน้�ำตลอดปี และบริเวณ ถงึ 15 เมตร พพิ ธิ ภัณฑพ์ ระพิฆเนศ 108 ปาง และ รอบอ่างยังมีถนนลาดยาง สามารถปั่นจักรยาน พระบรมสารีริกธาตุจาก 9 ประเทศ ให้สักการะ หรือเดินเล่นกินลมชมแสงแรกแห่งวันได้อย่าง เพอ่ื ความเปน็ สิริมงคล งดงามอีกดว้ ย ต.สารกิ า อ.เมือง จ.นครนายก ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก เปิด ทกุ วัน เวลา 08.00-18.00 น. วิชา ๙ หนา้ ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วชิ าชลปราการ 23





26

จุดเริม่ ต้นของ 3 ดำ� แหง่ แดนภพู าน คร้ังหน่ึงระหว่างการเสด็จฯ ออกเย่ียมราษฎรภาคอีสาน นักข่าวต่างประเทศได้กราบทูลถามในหลวง รัชกาลที่ 9 ถึงเหตุผลที่ทรงพัฒนาชนบทเพราะต้องการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ใช่หรือไม่ พระองค์รับสั่ง กลบั ทนั ทวี ่า สงิ่ ท่ที รงต่อส้ดู ้วยไม่ใช่คอมมิวนิสต์ แต่เป็นความอดอยากหวิ โหยของประชาชนตา่ งหาก ด้วยต้องการบรรเทาความทุกข์ของประชาชน ในหลวงรัชกาลท่ี 9 จึงโปรดฯ ให้สร้างพระต�ำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการท�ำงานของพระองค์ในภาคอีสาน จะได้แก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที พร้อมกันนั้นยังโปรดฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเน่ืองมาจาก พระราชดำ� ริ เพอื่ เปน็ สถานทท่ี ดลองแนวพระราชดำ� รติ า่ งๆ โดยเฉพาะการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ เกษตร เชน่ การสรา้ งอา่ งเกบ็ นำ้� ไวใ้ นฤดแู ลง้ การหาขา้ วพนั ธด์ุ ที เ่ี หมาะสมกบั สภาพภมู ปิ ระเทศ และอกี โครงการหนงึ่ ซง่ึ ถอื เปน็ ไฮไลตข์ องทน่ี ี่ คอื การเลย้ี งสตั ว์ โดยพระองคท์ รงพระราชทานแนวทางงา่ ยๆ วา่ ตอ้ งแขง็ แรง ทนทาน ต่อสภาพแวดล้อม เล้ียงง่ายไม่ต้องลงทุนสูง ไม่เช่นน้ันหากมีอะไรผิดพลาด เกษตรกรจะกลายเป็นหน้ี จนเป็นท่ีมาของตำ� นาน 3 ด�ำแห่งภพู าน ซง่ึ ประกอบดว้ ย ไก่ดำ� ภูพาน สกุ รภูพาน โคเนอ้ื ภพู าน ส�ำหรับโคเนอ้ื ภูพานน้ันปรบั ปรงุ สายพนั ธุ์มาจากโคทาจิมะ ซึง่ ได้ชอ่ื เป็นพันธุท์ ีด่ ีทส่ี ุดในโลก โดยสมาคม ผู้เลี้ยงโคเมืองโอซาก้า น้อมเกล้าฯ ถวายพันธุ์โคคู่หน่ึงแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จากน้ันได้ พระราชทานตอ่ ใหก้ รมปศสุ ัตว์ทดลองผสมเทียม จนสามารถผลติ น�้ำเช้ือไดถ้ งึ 1,500 หลอด แล้วนำ� มา ฉดี ใหโ้ คทน่ี ี่ กลายเปน็ โคเนอ้ื ขนสดี ำ� ซง่ึ ทนทาน และมไี ขมนั แทรกในกลา้ มเนอื้ สงู ปจั จบุ นั เกษตรกรอสี าน นยิ มเลย้ี งกนั แพรห่ ลาย เพราะตน้ ทุนไมแ่ พง ลกู กข็ ายตอ่ ไดใ้ นราคาสูง แถมเนื้อกอ็ รอ่ ย เป็นทน่ี ิยมของ คนทวั่ ประเทศ สว่ นสกุ รภพู าน เดมิ ในหลวงโปรดฯ ใหช้ าวบา้ นเลย้ี งสกุ รพนั ธเ์ุ หมยซาน ซงึ่ ไดพ้ นั ธม์ุ าจาก ประเทศจนี ภายหลงั กรมปศสุ ตั วไ์ ดศ้ กึ ษาทดลองเพมิ่ เตมิ โดยนำ� สายพนั ธอ์ุ น่ื ๆ ผสมดว้ ย เชน่ พนั ธพ์ุ นื้ เมอื ง พันธุ์ดูร็อคเจอร์ซ่ี และพันธุ์แลนด์เรซ จนได้เป็นสุกรขนสีด�ำที่เล้ียงง่าย โตเร็ว ทนทานต่อสิ่งแวดล้อม ลูกดก เล้ียงลูกเก่ง และให้ปริมาณเนื้อแดงมากเม่ือน�ำไปขุน ขณะท่ีไก่ด�ำภูพาน มีต้นก�ำเนิดจาก ไก่สายพนั ธจุ์ ีน ด้วยความทเ่ี ล้ยี งง่าย ตน้ ทุนต่�ำ และยังให้ราคาท่ดี ีกว่าไกพ่ นั ธุพ์ น้ื เมอื ง กรมปศุสัตวจ์ ึงเรมิ่ คน้ ควา้ วจิ ยั เรอื่ ยมาจนไดพ้ นั ธไ์ุ กท่ ดี่ ำ� สนทิ คอื ขนดำ� หนงั ดำ� แขง้ ดำ� เนอ้ื เทาดำ� และกระดกู เทาดำ� สามารถ ทนตอ่ โรคและสภาพอากาศร้อนได้ดดี ้วย ท่ีสำ� คญั สารสีด�ำทอ่ี ยู่ในตัวไก่ แท้ท่ีจรงิ คอื สารเมลานิน ซงึ่ เป็น สารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ มฤี ทธชิ์ ว่ ยตอ่ ตา้ นโรคมะเรง็ และชะลอความแก่ จงึ เปน็ ทน่ี ยิ มของผบู้ รโิ ภคอยา่ งมาก จากแนวทางการพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อนของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ท�ำให้ความเป็นอยู่ของ ชาวอีสานดขี ึน้ มีอาหาร มีรายไดท้ ม่ี ่ันคง สามารถเลี้ยงครอบครัวจนพน้ จากสภาพความหวิ โหยอดอยาก ดงั ท่พี ระราชปณิธานของในหลวงรชั กาลที่ 9 ทรงตงั้ พระทยั ไว้ทุกประการ วชิ า ๙ หน้า ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วิชาตำ�นานพันธุ์ 27

โครงการพระราชดำ�ริ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านตามพระราชดำ� ริ บา้ นนานกเคา้ ต.หว้ ยยาง อ.เมอื ง จ.สกลนคร ครง้ั หนงึ่ ในหลวงรชั กาลท่ี 9 ของปวงชนชาวไทย เคยสอนวชิ า แห่งวิถีการด�ำรงอยู่อย่างพอเพียง ฝากไว้ในห้องเรียนตาม สถานท่ีต่างๆ มากมายทั่วทุกภูมิภาค ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ภพู านตามพระราชดำ� ริ เปน็ อกี หนง่ึ หอ้ งเรยี นทที่ รงพระราชทาน ไวใ้ หช้ าวบา้ นเพอื่ แกไ้ ขปญั หาสภาพดนิ รวมถงึ การขาดแคลนนำ้� ในการท�ำเกษตรกรรม และเติมเต็มองค์ความรู้ให้ชาวบ้าน ด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ปจั จบุ นั กลายเปน็ พน้ื ทตี่ น้ แบบสำ� คญั ในการจดั การทรพั ยากร ป่าและน้�ำให้กับอีกหลายพื้นท่ี อีกท้ังยังเป็นต้นแบบในการ หนุนเสริมการพฒั นาด้านเกษตรกรรมของภาคอีสาน จนเกดิ เป็นตำ� ราวิชาเฉพาะ 19 บทเรียน โดยเฉพาะวชิ าทเี่ กย่ี วกบั ต�ำนาน 3 ด�ำ ทเี่ ปน็ เคลด็ ไม่ลับแห่งเทอื กเขาภูพาน 28

ศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาภูพาน แหล่งทอ่ งเท่ยี วรอบโครงการ อันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ�ริ บา้ นนานกเคา้ ต.หว้ ยยาง 1) เรยี นรศู้ าสตรก์ ารจดั การปา่ และพรรณไม้ เรยี นรแู้ นวคดิ อ.เมอื ง จ.สกลนคร การจดั การปา่ เพอ่ื การอนรุ กั ษ์ โดยใหผ้ ลตอบแทนทางเศรษฐกจิ โทร. 0-4274-7458-9 “การปลกู ปา่ 3 อยา่ ง ไดป้ ระโยชน์ 4 อยา่ ง” รวมไปถงึ ชนดิ เปดิ วนั จนั ทร์-ศกุ ร์ พรรณไมใ้ นพน้ื ทเ่ี ทอื กเขาภพู านกวา่ 300 ชนดิ ผลผลติ จากปา่ เวลา 08.30-16.30 น. อาทิ เหด็ ปา่ ทก่ี นิ ไดแ้ ละกนิ ไมไ่ ด้ 185 ชนดิ และสมนุ ไพรใน ปา่ ภพู าน 260 กวา่ ชนดิ 2) เสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3 กโิ ลเมตร เป็นเส้นทางเรียนรู้ระบบนิเวศธรรมชาติภายในพื้นท่ีศูนย์ ศกึ ษาการพฒั นาภพู านตามพระราชดำ� ริ เพอื่ เปน็ พนื้ ทใ่ี นการ สรา้ งการเรยี นรใู้ หก้ บั ผทู้ สี่ นใจเขา้ มาเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม ภายในเส้นทางมีการจัดท�ำป้ายสื่อความหมาย ไวต้ ามจดุ ตา่ งๆ 3) นง่ั รถรางชมพน้ื ทแี่ ปลงเกษตรสาธติ และปศสุ ตั ว์ 3 ดำ� แห่งภูพาน เรียนรู้ระบบเกษตรบนแนวคิดวิถีพอเพียง ตามรอยพอ่ ชมการเพาะเลย้ี งหมดู ำ� ไกด่ ำ� และโคเนอื้ 4)อา่ งเกบ็ นำ้� หว้ ยตาดไฮใหญ่ชมความทศั นยี ภาพของอา่ งเกบ็ นำ้� และเรียนรู้แนวคิดการจัดการระบบน�้ำเพ่ือใช้ในการเกษตร ของชมุ ชน วชิ า ๙ หนา้ ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพ่อ • วิชาตำ�นานพนั ธ์ุ 29

ชุมชนบ้านหนองส่าน จ.สกลนคร วถิ ไี ทเทงิ ภ-ู นา-ปา่ -คราม หากจะพูดถึงอีสานหลายคนคงคิดถึงความแห้งแล้ง ไร้สีสันแห่งชีวิต แต่ส�ำหรับ ชุมชนบา้ นหนองส่าน หมู่บ้านเล็กๆ บนเทอื กเขาภพู าน กลบั มชี ่วงเวลาทธ่ี รรมชาติ ได้ออกมาเผยความงามโดยเฉพาะหน้าฝน ก้าวย่างสู่ฤดูการท�ำนา พ้ืนท่ีป่าและ ท้องทุ่งเต็มไปด้วยความเขียวขจี จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาของอีสานเขียวที่ชุ่มฉ่�ำ วถิ ไี ทบา้ นของคนในชมุ ชนมกี ารกนิ อยทู่ เี่ รยี บงา่ ย แตม่ ากดว้ ยมนตเ์ สนห่ ์ ผสมผสาน วฒั นธรรมทเี่ ปน็ เอกลกั ษณด์ ว้ ยกลน่ิ อายของความเปน็ ทอ้ งถน่ิ ของชาวอสี าน สอื่ สาร ผ่านอาหารท้องถ่ินตามฤดูกาล ท่ีหาได้จากในป่า และหัวไร่ปลายนา อาทิ เห็ด หนอ่ ไม้ พชื ผกั สวนครวั ลกู ออ๊ ด ปลา กงุ้ หอย เปน็ ตน้ ลกั ษณะบา้ นเรอื น มคี วามเปน็ เครือญาติ คนในชุมชนมีอัธยาศัยไมตรีท่ีดี นักท่องเท่ียวที่มาเที่ยวในชุมชนจะได้ รับการต้อนรับการบายศรีสู่ขวัญจากผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน เพ่ือสร้างขวัญก�ำลังใจให้ กับแขกผมู้ าเยือน เสมือนเปน็ ลูกหลานคนในชุมชน 30

วถิ ีไทบา้ น Real life Experience วิถนี าและเมนอู าหารพืน้ บ้าน การตง้ั บา้ นเรอื นของคนในชมุ ชนมลี กั ษณะเปน็ คมุ้ บา้ นแตล่ ะหลงั เปน็ กจิ กรรมเฉพาะชว่ งฤดทู ำ� นาเทา่ นนั้ อยไู่ มห่ า่ งกนั มากนกั สว่ นใหญเ่ ปน็ เครอื ญาตกิ นั ถงึ บางหลงั นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ข้ันตอนการ มกี ารปรบั เปลยี่ นตามยคุ สมยั แตก่ ย็ งั พบรปู แบบดง้ั เดมิ ไดอ้ ยู่ ทำ� นา ตง้ั แตก่ ระบวนการถอนกลา้ ข้าว คือ การยกพื้นบ้านให้สูง และใช้ใต้ถุนบ้านเป็นพ้ืนที่เล้ียงวัว การด�ำนา และรอชมผลผลิตในปีถัดไป แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่มีการสร้างคอกวัวแยกออกจากตัวบ้าน หลงั จากเสรจ็ จากการดำ� นาจะไดร้ ว่ มเกบ็ คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพท�ำนา บางพ้ืนที่เริ่มท�ำไร่นา หาวตั ถดุ บิ ทปี่ ลกู ไวใ้ นพนื้ ทแ่ี ปลงนา อาทิ สวนผสม รวมถึงเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษและเร่ิมหันมา หน่อไม้ มะละกอ ผกั สดๆ มาประกอบ เดนิ ตามรอยเศรษฐกจิ พอเพยี ง อาหารกินร่วมกัน เมนูเด็ดแห่งท้องทุ่ง หนองส่านเป็นอีกหนึ่งชุมชนท่ียังคงวิถีวัฒนธรรมแบบ ทีน่ ่าจะขาดไมไ่ ดค้ อื แกงหน่อไม้ สม้ ตำ� ไทบ้านไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ ชุมชนมีการจัดท่ีพัก ปลาย่าง และข้าวเหนียว ปัจจุบันชาว โฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้ลองมาเรียนรู้วิถีกินอยู่ในแบบ บ้านบางส่วนน้อมน�ำแนวคิดศาสตร์ คนบ้านหนองส่าน และสามารถเดินชมวิถีชีวิตของคนใน พระราชามาปรับใช้ในการท�ำเกษตร ชุมชน โดยมีไกด์ท้องถ่ินน�ำชม อาทิ ไหว้พระในวัดโพธ์ิชัย มากข้ึน โดยเฉพาะการท�ำไร่นาแบบ หนองส่าน ชมยุ้งข้าวแบบเก่าซึ่งบางหลังมีอายุกว่าร้อยปี ผสมผสานเป็นการแบ่งพื้นท่ีในการ แวะชมการสานกระตบิ ขา้ วและหวดขา้ ว ลกั ษณะของกจิ กรรม เพาะปลูกพืชเพ่อื ใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ งู สุด จึงไม่ตายตัว ข้ึนอยู่กับว่าในแต่ละวันชาวบ้านมีวิถีการ ด�ำเนินชีวิตอย่างไร ถือเป็นวิถีท่ีไร้การปรุงแต่ง “Real life Experience” วิชา ๙ หน้า ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพ่อ • วิชาตำ�นานพันธุ์ 31

ชุมชนบ้านหนองส่าน วิถีปา่ ติดตอ่ ชมุ ชนทอ่ งเท่ยี วบ้านหนองส่าน Ban Nongsan ชาวบา้ นในหมู่บ้านหนองส่านในอดตี มีความผกู พันและต้อง 28 ม.11 ต.โคกภู เทศบาลนครสกลนคร พึ่งพิงทรัพยากรธรรมชาติป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน อ.ภูพาน จ.สกลนคร ในแง่ของแหล่งอาหารและพื้นท่ีเลี้ยงสัตว์ อีกหน่ึงกิจกรรม โทร. 09-8476-3184 ตามฤดูกาลท่ีน่าสนใจคือ การเข้าป่าเก็บเห็ด เรียนรู้ระบบ www.facebook.com/ นเิ วศป่า ฟังเร่อื งราวจากความทรงจ�ำเกยี่ วกบั ประวตั ิศาสตร์ bannongsan/ ของพื้นทปี่ ่าเทือกเขาภูพาน ซงึ่ อดตี เคยเปน็ สมรภูมิการต่อสู้ ของพรรคคอมมวิ นิสต์แหง่ ประเทศไทย (พคท.) ช่วงหน้าฝน เทย่ี วชุมชนใกลเ้ คยี ง สภาพป่าเต็งรังภูพานจะเขียวขจี ถูกแซมสีสันด้วยดอกไม้ ชมุ ชนภไู ทบา้ นโนนหอม ป่านานาชนิด ภายในเส้นทางมีลานหินและลักษณะหินที่มี อ.เมอื ง จ.สกลนคร รูปรา่ งแปลกตา โทร. 08-6857-2838 หมบู่ า้ นทา่ แร่ วิถคี ราม (ผ้ายอ้ มครามและการทอผา้ ฝ้าย) อ.เมอื ง จ.สกลนคร โทร. 0-4275-1090, 0-4271-1272 ถือเป็นอีกหนง่ึ ความดำ� ทซ่ี อ่ นอยใู่ นวิถชี ุมชนหนองสา่ น และ อีกหลายหม่บู ้านในแถบเทือกเขาภพู าน คราม (Indigo) เปน็ 32 พชื ตระกลู ถวั่ คนสมยั กอ่ นนยิ มปลกู ไวต้ ามหวั ไรป่ ลายนา เมอ่ื อายคุ รบ 3 เดอื นโดยประมาณ จะเกบ็ เกยี่ วตน้ และใบมาแชน่ ำ�้ 1 คืน แลว้ น�ำไปหมกั กบั ปนู ขาว เพอ่ื ใหส้ ีครามจบั กับเนื้อปูน การผสมเนื้อครามส�ำหรับย้อมในแต่ละพื้นที่ จะมีสูตรท่ี แตกต่างกันไปตามภูมิปัญญาของแต่ละที่ แต่ที่ขาดไม่ได้ คือน�้ำด่างจากถ่าน และน�้ำมะขามเปียก ก่อนน�ำผ้าไปย้อม การมัดผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ ถือเป็นความสร้างสรรค์ ของกิจกรรม เพราะเม่อื ลา้ งออกมาแลว้ จะไดศ้ ิลปะแบบไหน ก็ต้องมารอลุ้นอีกที ระหว่างการย้อมควรให้มือสัมผัสกับ เน้ือผ้าโดยตรง จะท�ำให้สีติดผ้าได้ดีย่ิงขึ้น ท่ีบ้านหนองส่าน นยิ มยอ้ มครามกนั ตามบา้ น และนำ� ผา้ มาฝากขายทกี่ ลมุ่ ภคู ราม และมีการเชื่อมโยงกิจกรรมกับกลุ่มไทเทิงภูผ้าคราม ซึ่งเป็น หมบู่ า้ นใกลเ้ คยี ง เพอ่ื เรยี นรกู้ ารทอผา้ ฝา้ ยตงั้ แตก่ ระบวนการ อิ้วฝ้าย หรือ หีบฝ้าย การดีดฝ้าย ไปจนถึงการทอ ผ้าฝ้าย ย้อมครามจึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีที่เป็นเอกลักษณ์ ของบา้ นหนองส่าน

สถานท่เี ทย่ี วนา่ สนใจ จ.สกลนคร อาสนวิหารอัครเทวดา วัดปา่ ภรู ิทตั ตถริ าวาส  มคี าแอลท่าแร่ หมบู่ ้านท่าแร่ หรือวัดป่าบ้านหนองผือ เ ป ็ น วั ด ท่ี ส� ำ คั ญ ม า ก โ บ ส ถ ์ ค ริ ส ต ์ ที่ มี ค ว า ม ในสายวัดป่ากัมมัฏฐาน สวยงามทางสถาปตั ยกรรม ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน สมัยใหม่ รูปทรงคล้าย ส่ิงส�ำคัญในวัดคือ กุฏิ เรือใหญ่ ตั้งอยู่ในชุมชน ทา่ นพระอาจารยม์ น่ั ภรู ทิ ตั คริสต์เก่าแก่ท่ีอพยพมาจากเวียดนามที่มีอายุ ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เกือบร้อยปี นอกจากบ้านเรือนท่ีมีความสวยงาม และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยสถาปัตยกรรมท่ีมีกล่ินอายของฝร่ังเศสและ เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตร พ.ศ.2521 เวียดนาม ใช้เป็นสถานท่ีในการปฏิบัติพิธีกรรม และได้จดทะเบียนขึ้นกับกรมศิลปากรเป็น ส�ำคัญทางศาสนาคริสต์ เพราะเป็นหมู่บ้านที่ โบราณสถาน เมอ่ื พ.ศ.2522 นบั ถอื ศาสนาครสิ ตใ์ หญท่ ส่ี ดุ ในประเทศ มเี ทศกาล แหด่ าว ประเพณี UNSEEN ของเมืองไทย ซ่งึ จะ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จดั ในช่วงครสิ มาสต์ของทกุ ปี เปิด เวลา 06.00-18.00 น. ท่าแร่ ต. ทา่ แร่ อ. เมือง จ. สกลนคร เขอื่ นน�ำ้ พงุ วัดถำ้� ขาม นอกจากผลิตกระแสไฟฟ้า ชาวบา้ นมกั เรยี กวา่ ภคู ำ� ขาม แจกจ่ายให้ประชาชน เพราะต้ังอยู่บนภูขาม ซึ่ง ใ น เ ข ต จั ง ห วั ด ส ก ล น ค ร เป็นเขาลูกหนึ่งบนเทือก และนครพนมแล้วบริเวณ เขาภูพาน วัดนี้เป็นท่ีตั้ง รอบเข่ือนขนาดเล็กแห่งน้ี ยังมีวิวทิวทัศน์ท่ี ของสำ� นักสงฆ์ ซึ่งต้ังข้ึนโดย อาจารยฝ์ น้ั อาจาโร สวยงาม ร่มร่ืนด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีขุนเขา และหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ใช้ฝึกวิปัสสนา เรียงรายอยู่โดยรอบ ด้วยบรรยากาศท่ีเงียบสงบ บ�ำเพ็ญเพียร ลานหินบนยอดเขาซ่ึงมีทิวทัศน์ สวยงาม เขื่อนน�้ำพุงจึงเป็นสถานท่ีอีกแห่งหน่ึง งดงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติ มองเห็นเทือกเขา ซ่งึ นักทอ่ งเทีย่ วนิยมเดินทางพกั ผอ่ น ภูพานในมมุ กว้าง อ.กดุ บาก จ.สกลนคร 14 ต.ไร่ อ.พรรณานคิ ม จ.สกลนคร เปิด เวลา 06.00-18.00 น. วชิ า ๙ หน้า ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพ่อ • วชิ าตำ�นานพันธ์ุ 33





36

บทพสิ ูจนข์ อง ‘คนกับปา่ ’ ใครที่คิดว่าคนอยู่ร่วมกับป่าไม่ได้ คงจะต้องเปล่ียนความคิดเสียใหม่ หากได้สัมผัสกับโครงการพัฒนา ปา่ ไม้ ภูหนิ รอ่ งกลา้ ซึ่งนอ้ มน�ำแนวพระราชดำ� ริเรื่องคนกับป่าของในหลวงรชั กาลที่ 9 มาปรบั ใช้ ต้งั แต่ ปี พ.ศ.2552 เมอื่ ประมาณ 30 ปกี อ่ น ขณะทป่ี ระเทศไทยกำ� ลงั ตกอยภู่ ายใตก้ ระแส การคบื คลานของลทั ธคิ อมมวิ นสิ ต์ ภูหินร่องกลา้ คอื สมรภมู สิ ำ� คญั ในฐานะจุดยุทธศาสตร์ซึง่ เช่ือมตอ่ พืน้ ท่ีถึง 3 จงั หวัด คือ อำ� เภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก อ�ำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำ� เภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกท้ังด้วยสภาพ ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยป่ารกชัฏ ท�ำให้กลุ่มผู้ก่อการยึดพ้ืนท่ีน้ีเป็นฐาน บญั ชาการ ภายหลังเหตุการณค์ ลีค่ ลายลง รัฐบาลในขณะนัน้ ประกาศใช้นโยบายการเมืองน�ำการทหาร ผกู้ ่อการจำ� นวนมากตดั สนิ ใจออกจากปา่ เพอ่ื มาเปน็ ผรู้ ว่ มพฒั นาชาตไิ ทย สมรภมู ริ บภหู นิ รอ่ งกลา้ จงึ กลาย เปน็ อดตี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซ่งึ กำ� กบั ดแู ลเร่อื งป่าไม้อยู่ จึงประกาศใหท้ ่นี ี่เป็นอุทยานแหง่ ชาติ ล�ำดบั ที่ 48 ของไทย ทว่าถึงสถานการณ์บ้านเมืองจะสงบ แต่ปัญหาที่ภูหินร่องกล้ากลับยังไม่หมดไป เพราะชาวบ้านท่ีอยู่ใน ละแวกนเี้ ปน็ ชาวมง้ ยงั ชพี ดว้ ยการปลกู ฝน่ิ กบั กะหลำ�่ ปลี จงึ มกั จะเขา้ ไปบกุ รกุ แผว้ ถางพนื้ ทป่ี า่ อยเู่ สมอ สร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก บางครั้งลุกลามจนกลายเป็นความขัดแย้ง ระหว่างเจ้าหน้าที่รฐั และประชาชน ซง่ึ แมจ้ ะไมร่ นุ แรงเมือ่ เทยี บกับสมยั กอ่ น แต่ก็เป็นโจทย์สำ� คัญที่ทาง การต้องเร่งด�ำเนนิ การแกไ้ ข ดว้ ยเหตนุ ก้ี รมอทุ ยานแหง่ ชาตสิ ตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื ไดห้ ยบิ ยกแนวทางพระราชดำ� รมิ าเปน็ ฐานเพอื่ แกไ้ ข ปัญหา โดยสนับสนุนให้ชาวบ้านเปล่ียนมาปลูกพืชที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ทดแทนภูเขาหัวโล้นที่ถูก บุกรุกบนยอดดอย อยา่ ง กาแฟอราบกิ า้ และสตรอวเ์ บอรร์ ี พนั ธพ์ุ ระราชทาน 80 เพอ่ื นำ� ไปจำ� หนา่ ยแก่ นกั ทอ่ งเทย่ี วทม่ี าชมความงามของทุ่งดอกกระดาษและดอกนางพญาเสอื โครง่ ขณะเดียวกนั ก็ยงั ปลกู ฝงั แนวคดิ เรอ่ื งปา่ ไม้ สอนใหร้ จู้ กั วธิ ดี แู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ไมว่ า่ จะเปน็ การทำ� แนวปอ้ งกนั ไฟปา่ การดแู ลพนั ธ์ุพืชสตั ว์ป่า การดแู ลแหล่งน�้ำธรรมชาติ ฯลฯ ส่งผลใหภ้ ูหนิ ร่องกล้ากลับมาอดุ มสมบรู ณใ์ น ระยะเวลาไม่นาน และนี่คือเป็นบทพิสูจน์ว่า คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้ หากมีกระบวนการจัดการท่ีเหมาะสม ดังเช่น พระราชด�ำริอนั ย่งั ยืนของในหลวงรชั กาลที่ 9 ทท่ี รงพระราชทานให้ชาวไทยยดึ ถือปฏบิ ัติมาตลอด 70 ปี วิชา ๙ หนา้ ศาสตรพ์ ระราชาจากตำ�ราของพ่อ • วชิ าธรรมชาตสิ ามัคคี 37

โครงการพฒั นาปา่ ไมต้ ามแนวพระราชดำ�รภิ หู นิ รอ่ งกลา้ จ.พษิ ณโุ ลก เรยี นรดู้ ว้ ยการปฎิบัติจริง แต่เดิมพ้ืนท่ีบนเทือกเขาตะเข็บชายแดนแห่งนี้ เป็นพื้นที่ ยุทธศาสตร์มีการสู้รบและเป็นฐานท่ีมั่นของคอมมิวนิสต์ ภายหลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายการเมืองน�ำการทหาร ยุติสถานการณ์แล้ว ท�ำให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งได้เข้ามอบตัว เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย บริเวณดังกล่าวเป็นพ้ืนที่ที่มี ชาวไทยภูเขาอยู่อาศัยจ�ำนวนมากรอบแนวเขตอุทยานฯ ซึ่งมีแนวโน้มของการบุกรุกป่า ท�ำลายทรัพยากรเพ่ือยังชีพ ดว้ ยความไมร่ ู้เพ่ิมขึ้น โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชด�ำริภูหินร่องกล้า ในโครงการฯกอ่ นจากนนั้ ชาวบา้ นกน็ ำ� ไป จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.เลย จึงก�ำเนิดข้ึน เพ่ือ ปลูกในพื้นท่ีของตน ตอนนี้มีชาวเขา ปฏิบัติงานโครงการตามแนวพระราชด�ำริด้านงานพัฒนา เผ่าม้งมาช่วยงานในโครงการท้ังสิ้น ป่าไม้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในปี พ.ศ.2552 โดยส่งเสริม 17 ครอบครัว และได้น�ำการปลูก ใหช้ าวไทยภเู ขาเผา่ มง้ ทบี่ า้ นใหมร่ อ่ งกลา้ หมทู่ ่ี 10 ต.เนนิ เพม่ิ สตรอว์เบอร์รี และกาแฟอราบิก้า อ.นครไทย ได้ปรับเปล่ียนอาชีพจากเดิมมีการปลูกฝิ่นและ ไปปลูกไม่ต�่ำกว่า 30 ไรแ่ ลว้ ไร่กะหล่�ำปลี ที่ใช้สารเคมีมากมายท�ำใหด้ ินเสยี หันมาปลูก หนึ่งในความภาคภูมิใจของโครงการฯ สตรอว์เบอร์รี พันธุ์พระราชทาน 80 และกาแฟอราบิก้า คอื การเพาะปลกู กาแฟอราบกิ า้ ใตต้ น้ สน เพมิ่ อาชพี สรา้ งรายได้ เร่มิ แรกมีเพยี ง 3 ไร่ โดยมีแปลงสาธิต 38

เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ซ่ึงแรงงานส่วนใหญ่จะเป็นชาวม้ง ไม่ว่าจะพรวนดิน รดน�้ำ แต่เดิมคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าใต้ต้นสน เตรียมต้นอ่อน เก็บเมล็ดและการแปรรูปกาแฟเพื่อจ�ำหน่าย เป็นพ้ืนที่ๆ ปลูกอะไรก็ไม่ข้ึน แต่เมื่อ ให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากกาแฟ ท่ีเราจะเห็นอีกอย่างคือ ได้ท�ำการทดลองปลูกแล้ว กลับได้ การปลูกชาอัสสัม ซึ่งเริ่มน�ำมาทดลอง ปลูกในระยะแรก รับผลผลิตท่ีดีแม้ช่วงแรกจะประสบ หากได้ผลดีก็จะให้ชาวบ้านปลูกเป็นอาชีพต่อไป สิ่งเหล่าน้ี ปัญหาบ้าง เจ้าหน้าท่ีก็มิได้ท้อถอย เกิดขึ้นจากการน�ำแนวพระราชด�ำริมาปฏิบัติให้เกิดผลทาง หาวิธีลองผิดลองถูกจนส�ำเร็จ และให้ รปู ธรรมทชี่ ัดเจน เรยี กว่าการเรยี นรจู้ ากการปฏิบัตจิ ริง ความรู้กับประชาชนในพ้ืนท่ีว่า กาแฟ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของท่ีนี่คือทุ่งดอกกระดาษที่จะเริ่มบาน สามารถขึ้นได้ทุกที่ โดยไม่จ�ำเป็นต้อง ชว่ งปลายปี ซง่ึ เป็นฤดทู ่องเท่ียว อากาศเย็นสบาย มีจดุ ชมวิว ถางป่า ถ้ามีความสูงเพียงพอ มีความ สวยงามตามแนวหนิ ผา 6 จดุ สำ� คญั ไดแ้ ก่ ผาไททานคิ ผาพบรกั เยน็ เพยี งพอ เมอื่ กาแฟออกผลสามารถ ผาบอกรกั ผาครู่ กั ผารกั ยนื ยง และผาสลดั รกั สามารถจบิ กาแฟ เก็บเมล็ด แปรรูปและขายได้ในราคา ปลอดสารเคมฝี มี อื ชาวมง้ ทา่ มกลางผนื ปา่ เขยี วชอมุ่ นอกจากนี้ แพงคุม้ คา่ กวา่ ในช่วงฤดูหนาว ท่ีนี่ยังเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือ เม่ือชาวบ้านได้เห็นแนวทางการปฏิบัติ ซากุระเมืองไทยท่ีสวยงามอีกจุดหนงึ่ ของเมอื งไทย ที่เป็นจริงได้ จึงเกิดความม่ันใจและ ลงมือปฏิบัติ เกิดผลลัพธ์ที่ดีสามารถ ข า ย ผ ล ผ ลิ ต ไ ด ้ ใ น ร า ค า ดี ก ว ่ า เ ดิ ม ท�ำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างย่ังยืน โครงการพฒั นาปา่ ไมต้ ามแนวพระราชดำ�ริ ภหู นิ รอ่ งกลา้ จ.พษิ ณโุ ลก ม.10 บา้ นรอ่ งกล้า ต.เนินเพมิ่ อ.นครไทย จ.พษิ ณโุ ลก อช.ภูหนิ ร่องกล้า โทร. 08-1596-5977 ฤดูทอ่ งเที่ยว : เดือนมกราคม-กมุ ภาพนั ธ์ วิชา ๙ หนา้ ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วชิ าธรรมชาติสามัคคี 39

บ้านเขก็ น้อย จ.เพชรบูรณ์ เทย่ี วปใี หมม่ ง้ สมั ผสั ประเพณโี บราณทม่ี มี ากวา่ 100 ปี หากพูดถึงหมู่บ้านม้ง ที่มีจ�ำนวนประชากรมากท่ีสุดในเมืองไทย ต้องยกให้ บา้ นเขก็ นอ้ ย ปจั จบุ นั มเี กอื บ 14,000 คน อาศยั อยใู่ น 12 หมบู่ า้ น สว่ นใหญท่ ำ� การ เพาะปลกู พชื ไรต่ ามแนวภเู ขา บางคนกเ็ ขา้ ไปทำ� งานในเมอื ง ไปเรยี นหนงั สอื เมอ่ื ทกุ คน ต่างแยกย้ายไปจากบ้านห่างไกลญาติพ่ีน้อง มีเพียงประเพณีเดียว คือ ปีใหม่ม้ง ที่จะพาชาวม้งทุกคนจากทุกหมูบ่ า้ น ใหก้ ลบั มาพร้อมหน้าพร้อมตากันอกี คร้ัง งานฉลองวนั ขน้ึ ปใี หมข่ องชาวเขาเผา่ มง้ จะเรม่ิ ตงั้ แตเ่ ดอื นธนั วาคม-มกราคมของทกุ ปี ซ่ึงแต่ละหมู่บ้านจะจัดงานไม่ตรงกัน ส่วนใหญ่จะเร่ิมท่ี วันขึ้น 1 ค่�ำ เดือน 1 จดั นาน 7-9 วนั ยง่ิ จดั งานไดน้ านถงึ 9 วนั จะเปน็ ทป่ี ระทบั ใจของชาวมง้ มาก เพราะ ถือเปน็ ประเพณีเกา่ แก่ ทีส่ บื ทอดจากร่นุ สู่รุน่ มากวา่ 100 ปี 40

ปีใหม่ม้งของแต่ละหมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับการเก็บเกี่ยวข้าว สอบถามรายละเอยี ด เปน็ สำ� คญั เมอื่ เกย่ี วขา้ วเสรจ็ เรยี บรอ้ ย ชว่ งตน้ เดอื นธนั วาคม การทอ่ งเที่ยวประเพณีปใี หมม่ ง้ ชาวมง้ จะเตรยี มตวั ฉลองวนั ขน้ึ ปใี หม่ ผหู้ ญงิ จะเตรยี มตดั เยบ็ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำ�บลเข็กน้อย เสอื้ ผา้ ใหส้ มาชกิ ในครอบครวั คนละ2–3ชดุ ผชู้ ายจะเตรยี มฟนื หมูท่ ่ี 4 ต.เข็กนอ้ ย อ.เขาค้อ จ.เพชรบรู ณ์ ไวส้ ำ� หรบั หงุ ตม้ เอาหมทู เี่ ลย้ี งไวเ้ ตรยี มสำ� หรบั ทำ� อาหารเลย้ี ง โทร. 0-5692-5575-6 คุณนารีรตั น์ ญาตพิ น่ี อ้ ง สว่ นกรรมการของหมบู่ า้ นจะฝกึ หนมุ่ สาวใหฟ้ อ้ นรำ� เพอื่ แสดงในงานฉลองปีใหมท่ กุ คนื เท่ยี วชมุ ชนใกลเ้ คียง วันแรกชาวม้งจะเริ่มหยุดท�ำงานและสวมเส้ือผ้าชุดใหม่ หมบู่ า้ นรอ่ งกลา้ โดยเฉพาะหนุ่มสาวจะแต่งตัวเต็มท่ีใส่เครื่องเงินแพรวพราว อ.นครไทย จ.พษิ ณโุ ลก ในงานมกี ารละเลน่ หลายอยา่ ง เชน่ ชนววั เลน่ ลกู ขา่ ง เปา่ แคน โทร. 09-8417-1782 ยิงหนา้ ไม้ แต่การเลน่ โยนลกู ชว่ งของหน่มุ สาวจะส�ำคัญทีส่ ดุ ชมุ ชนเนนิ มะปราง เพราะเหมือนเป็นการหาคู่ อ.เนนิ มะปราง จ.พษิ ณโุ ลก โดยหญิงสาวจะน�ำผ้าสีด�ำมาเย็บเป็นลูกช่วงขนาดเท่าก�ำปั้น โทร. 08-5400-1727 ใชเ้ ศษผา้ ยดั ไส้ แลว้ นำ� ไปฝากเพอื่ นหญงิ เพอื่ นำ� ไปมอบใหแ้ ก่ ชายหนมุ่ ทตี่ นสนใจ เมอื่ ชายหนมุ่ ไดร้ บั กจ็ ะเดนิ คน้ หาหญงิ สาว ท่ีเป็นเจ้าของ เม่ือเจอแล้วก็จะจับคู่โยนลูกช่วงเล่นกัน โดย เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวสามารถเกี้ยวพาราสีในท่ีสาธารณะได้ ถ้าคู่ใดไม่พอใจกัน จะแกล้งท�ำหล่นบ้าง แกล้งโยนไม่ให้รับ ไดบ้ า้ งแตถ่ า้ ถกู ใจกนั กจ็ ะนดั หมายกนั มาเทยี่ วงานตอนกลางคนื เมื่อจัดงานได้ 3 วัน ผู้อาวุโสของแต่ละแซ่สกุลจะประกอบ พธิ บี ูชา ผฟี า้ ผีปา่ ผบี ้าน บรรพบรุ ุษ ท่ใี ห้ความคุ้มครองดูแล ครอบครัวและผลผลิตท่ีได้ในรอบปี เพ่ือความเป็นสิริมงคล หลังจากจบงานฉลองมีหลายคู่ที่แต่งงานกัน หรือไปใช้ชีวิต อยูร่ ่วมกนั กอ่ นแตง่ งาน คนอ่นื ๆ ก็จะแยกย้ายกลบั ไปทำ� งาน ตามทตี่ า่ งๆ เหมอื นเดมิ เพอื่ จะรอใหเ้ ทศกาลปใี หมว่ นกลบั มา อีกคร้ัง เปน็ แบบนี้มานับรอ้ ยปไี ม่เคยเปลี่ยนแปลง **เทศกาลปใี หมม่ ง้ ตำ� บลเขก็ น้อย ประจำ� ปี 2561 จะตรงกับ วนั ที่ 18 -26 ธันวาคม พ.ศ.2560 วิชา ๙ หนา้ ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วิชาธรรมชาติสามคั คี 41

สถานท่ที ่องเท่ียวนา่ สนใจ วัดผาซอ่ นแก้ว สรา้ งขน้ึ เพอ่ื ถวายเปน็ พระราชกศุ ลเนอื่ งในวโรกาสทใ่ี นหลวง รัชกาลที่ 9 ครองราชย์ครบ 60 ปี ความโดดเด่นอลังการ ทไ่ี มเ่ หมอื นใคร นอกจากทวิ ทศั นส์ วยๆ ของทะเลภเู ขารายรอบ ผสมกับทะเลหมอกสีขาว ก็คือสีสันที่สดใส อันเกิดจาก การน�ำกระเบื้องสีถ้วยชามเบญจรงค์มุกลูกปัดแก้วแหวน เงนิ ทอง สง่ิ มคี า่ ตา่ งๆ ตลอดจนเซรามกิ หลากสสี นั มาประดบั ประดาตกแตง่ เปน็ ลวดลายทส่ี วยงาม โดยเฉพาะชว่ งเวลาเยน็ ทว่ั ทงั้ บริเวณวดั จะสะทอ้ นแสงระยบิ ระยบั 95 ม. 7 บา้ นทางแดง ต.แคมปส์ น อ.เขาคอ้ จ.เพชรบูรณ์ เปิด เวลา 08.00–17.00 น. 42

พระตำ�หนกั เขาคอ้ ทงุ่ แสลงหลวง เ ป ็ น จุ ด สู ง สุ ด ข อ ง มีข้อสันนิษฐานว่า อ� ำ เ ภ อ เ ข า ค ้ อ ชื่อน้ีน่าจะมาจากชื่อ ร อ บ พ ร ะ ต� ำ ห นั ก พันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ซ่ึง จะปลูกดอกไม้สีสัน เป็นไม้ยืนต้นขนาด สวยงามโดยเฉพาะ ใหญ่ มีผลสุกสีแสด ดอกกุหลาบดอกใหญ่ๆ หลากสีที่บานสวยรับ คือ ต้นแสลงใจ ขึ้นอยู่เป็นจ�ำนวนมากในทุ่ง อากาศหนาว บนพระต�ำหนักเขาค้อ มจี ดุ ชมวิวที่ หญ้าแห่งน้ี และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็น สวยงาม มีดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใสให้ถ่ายรูป เนินสูงๆ ต�่ำๆ มีป่าหลายชนิดและสัตว์ป่าชุกชุม มากมาย โดยเฉพาะทิวสนท่ีเรียงรายกันไล่ระดับ จึงต้ังช่ือว่าทุ่งแสลงหลวง ให้สมกับเป็นพื้นที่ ตามไหล่เขา มองดูแล้วสวยงามจับตา ท่รี วบรวมความหลากหลายของธรรมชาติไว้ ยอดเขาย่า อ.เขาค้อ จ.เพชรบรู ณ์ ม. 9 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณโุ ลก เปิด เวลา 06.00-18.00 น. โทร. 0-5526-8019 ภูทบั เบกิ อุ ท ย า น แ ห ่ ง ช า ติ ภูหนิ ร่องกลา้ ภทู บั เบกิ เปน็ ยอดเขา ที่สูงท่ีสุดในจังหวัด กินพื้นที่ 3 จังหวัด เพชรบรู ณ์ มคี วามสงู ไ ด ้ แ ก ่   พิ ษ ณุ โ ล ก จากระดับน�้ำทะเล เพชรบรู ณ์ และ เลย ประมาณ 1,768 เมตร นอกจากสภาพ และเป็นที่ต้ังของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ภูมิประเทศ ที่เป็น ซ่ึงได้อพยพมาอาศัยอยู่ท่ีบ้านทับเบิก มีอาชีพ ภูเขาสลับซับซ้อน มีผืนป่าท่ีอุดมสมบูรณ์แล้ว ทำ� การเกษตรแบบขัน้ บันไดตามเชิงเขา ภูทับเบกิ ยังมีความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาท่ีเกิดจาก มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ในช่วงหน้าฝน การเคล่ือนและยกตัวของแผ่นเปลือกโลก ท�ำให้ ยังมีไร่กะหล่�ำปลีท่ีสวยงาม ส่วนหน้าหนาวก็มี เกิดแหล่งท่องเท่ียวแปลกตาทางธรรมชาติ ดอกนางพญาเสือโครง่ สีชมพบู านเต็มพน้ื ท่ี ทมี่ คี วามสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ อยา่ ง ลานหนิ ปมุ่ ผาชูธงและลานหินแตกที่ปกคลุมไปด้วยมอส ภทู บั เบกิ ต.วงั บาล อ.หลม่ เกา่ จ.เพชรบูรณ์ ไลเคน ตะไคร่ เฟิรน์ และกลว้ ยไม้ชนดิ ตา่ งๆ สอบถามรายละเอียดได้ท่ี วสิ าหกิจชมุ ชนท่องเทีย่ วภูทับเบกิ 3 อ.นครไทย จ.พษิ ณโุ ลก โทร. 08-5733-9737 วชิ า ๙ หน้า ศาสตร์พระราชาจากตำ�ราของพอ่ • วิชาธรรมชาตสิ ามัคคี 43





46


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook