2. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ กบั นักเรยี นเกยี่ วกับประโยชน์จากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศว่า“การ ใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศยังกอ่ ให้เกิดประโยชนใ์ นด้านต่างๆอีกมากมาย เช่น 1) ทำให้เกิดความเท่าเทยี มกนั ในสังคม และเกดิ การกระจายโอกาสทางดา้ นการศึกษา เช่น การใชร้ ะบบการเรียนการสอนทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ทำใหเ้ ดก็ ท่ีอยู่ในชนบท หรอื เด็กที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารมีโอกาสไดเ้ รยี นรู้และได้ศึกษาเน้อื หาการเรยี นต่าง ๆ อย่างเท่าเทียม 2) ทำใหเ้ กดิ การสรา้ งส่ือการเรียนการสอนตา่ ง ๆ มากขน้ึ เช่น การใชบ้ ทเรยี น คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เปน็ ตน้ 3) ทำให้เกดิ ระบบป้องกันประเทศทมี่ ีประสิทธภิ าพมากยง่ิ ขึน้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ มาควบคมุ อาวธุ ยทุ โธปกรณ์ หรือระบบป้องกันภยั ตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ 4) ทำใหช้ ว่ ยลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลติ หรอื ชว่ ยในการ คำนวณตลอดจนยังเปน็ แหลง่ สร้างความบันเทิง เปน็ ตน้ ” 3. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครูให้ความร้เู พิม่ เติมในสว่ นน้ันหรือเปิดโอกาสให้ นักเรยี นศกึ ษาความรู้เพม่ิ เติมจากอนิ เทอร์เน็ต 4. จากนนั้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันจัดอันดบั ประโยชน์จากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจากคำตอบ ของนักเรยี นบนกระดานหนา้ ชน้ั เรียน ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 5. ครทู บทวนเน้อื หาการเรยี นเม่ือช่ัวโมงที่แล้วเกย่ี วกบั ประโยชน์จากการใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ และให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ3-4 คน (กลุ่มเดิม) หรือตามความเหมาะสม เพ่อื ศกึ ษาและอภิปรายถึงโทษทเี่ กิดจากการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณา โทษจากการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ จากหนงั สอื เรยี นหรอื สืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เน็ตท่ี เครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง 6. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ มานำเสนอเกี่ยวกับโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ พรอ้ มอภปิ ราย ร่วมกบั เพ่ือนในชั้นเรยี นโดยครคู อยบันทึกคำตอบของนักเรียนแตล่ ะกลุ่มลงบนกระดานหนา้ ชัน้ เรยี น ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 7. ครอู ธบิ ายเชือ่ มโยงความรู้ส่ชู ีวิตประจำวัน (Com Sci in Real Life) วา่ “การเข้าถงึ สารสนเทศ ในยุคดจิ ทิ ลั เน่ืองจากเปน็ ยุคท่ีมีการติดต่อสอื่ สารทร่ี วดเร็วและยงั สามารถเขา้ ถึงได้ง่ายมาก จึง ทำให้ระบบการรักษาความปลอดภยั นน้ั ไม่สามารถทำได้ 100% และปัจจบุ ันปัญหานีไ้ ด้ เพ่มิ ข้ึนตลอดเวลา เนอ่ื งจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศไปในทางที่ผิด ดังน้ัน การใช้ สารสนเทศจึงควรระวงั ในเรอื่ งของการกระทำในทางสื่อสารหรอื เผยแพร่ เพื่อป้องกนั การถูก ลอ่ ลวงหรือขโมยข้อมูล” 8. นกั เรียนและครูร่วมกนั จัดอันดบั โทษจากการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ จากคำตอบของ นักเรยี นบนหนา้ กระดาน ดงั นี้“โทษการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีเกดิ จากความต้งั ใจหรอื ไมไ่ ดต้ ้ังใจ ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ดงั นี้ 1. ปัญหาการติดเกมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. ปัญหาการละเมิดลขิ สทิ ธิ์จากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ปญั หาสังคมเสื่อมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ปัญหาอาชญากรรมทางข้อมลู จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5. ปัญหาการละเมิดสทิ ธิสว่ นบุคคลจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ปัญหาอาชญากรรมท่ีมีผลต่อชวี ิตจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ” ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย โดยครูให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนนั้ 10. นกั เรียนทำใบงานที่ 4.1.1 เรอ่ื ง ประโยชนแ์ ละโทษจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาข้อความทก่ี ำหนดให้ว่าเปน็ ประโยชนห์ รือโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ 11. ครสู ุ่มนักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรยี น พรอ้ มกับอภปิ รายร่วมกนั ในห้องเรยี น โดยครูให้คำแนะนำตามความเหมาะสม Note วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ให้นกั เรียน - มีทกั ษะการทำงานรว่ มกันโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงานหรอื การทำ กจิ กรรมเพอ่ื ให้เกดิ การสอื่ สารและแลกเปลยี่ นขอ้ มลู รว่ มกันภายในกลมุ่ - มที กั ษะการสบื ค้นข้อมูล โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื สืบเสาะหาความรู้ตามหวั ขอ้ ท่ีได้รับมอบหมาย - มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ โดยให้นกั เรียนพจิ ารณาเนื้อหาจากการสืบคน้ หรือศึกษา ขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต เป็นตน้ ขนั้ สรุป ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนักเรยี นจากการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น การทำกิจกรรม กลุ่ม และการทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานท่ี 4.1.1 3. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปเกี่ยวกับการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศว่า“เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มามีบทบาทกบั ชีวิตของผู้คนในหลากหลายด้าน ดังน้ัน เทคโนโลยีสารสนเทศจงึ สรา้ งทง้ั คุณประโยชน์และโทษให้กบั ผู้ใชท้ งั้ ตัง้ ใจและไมไ่ ดต้ ั้งใจหลากหลายลักษณะเพยี งแคม่ ี คอมพวิ เตอร์ สมาทโฟน หรอื แท็บเลต็ เปน็ ต้น” 8. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย 2. ใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ประโยชน์และโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. เครื่องคอมพิวเตอร์
9. การวัดและประเมินผล ด้าน วิธกี ารวัดผลและการประเมินผล เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั ความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทักษะ/ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 กระบวนการ (P) ผลงาน ผ่านเกณฑ์ คุณธรรม จริยธรรม สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 และคา่ นิยม (A) รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ เกณฑก์ ารประเมิน ด้าน ประเดน็ การประเมิน ระดับคณุ ภาพ 54321 ความรู้ (K) ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ทักษะ/กระบวนการ (P) การเรยี นรู้ 1. ประโยชน์และโทษ จากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ การนำเสนอผลงาน คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพดีมาก ระดับ 5 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพดีเย่ยี ม ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพปานกลาง ระดบั 3 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพดี ระดับ 1 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพพอใช้ 10. บนั ทึกผลหลงั การสอน 10.1 สรุปผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจำนวน........................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ไมผ่ ่านจุดประสงค์............................คน คิดเป็นร้อยละ................................. ไดแ้ ก่ 1. .......................................................................... 2. ......................................................................... นกั เรียนท่ีมคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. ......................................................................... 2. .........................................................................
2. นักเรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรยี นมคี วามรูเ้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นกั เรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ทไี่ ม่เป็นไปตามจุดประสงค์สู่ตวั ช้ีวัด คุณลักษณะหรือสมรรถนะ ของผู้เรียน) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปัญหา/พฒั นานักเรียนให้ได้ ตามตัวชว้ี ัด คุณลกั ษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรียน) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงชือ่ . ( นายวิรตั น์ พิมพา ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
ความเหน็ ของหัวหนา้ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ...................................................................แล้วมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ลงชอ่ื . ( นายชวลติ สจุ ริต ) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี . ความคดิ เหน็ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวชิ าการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .......................................................... ( นางบุณฑริก ศรีบุญเรอื ง) รองผอู้ ำนวยการ กลุ่มงานบริหารวิชาการ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15 . รายวิชา การออกแบบฯและวทิ ยการคำนวณ2 รหสั วิชา ว 22103 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 . หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง การปฏบิ ัติตนเม่อื พบเนอ้ื หาที่ไม่เหมาะสม จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ข้ันตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ัด ม. 2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิ์ใน การเผยแพรผ่ ลงาน 2. จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ู่ตวั ช้วี ัด 1. อธิบายรปู แบบของเนอ้ื หาต่าง ๆ ท่ไี ม่เหมาะสมได้ถูกต้อง (K) 2. บอกวธิ กี ารปฏิบตั ิตนเมื่อพบเน้ือหาที่ไมเ่ หมาะสมไดถ้ ูกต้อง (K) 3. สืบคน้ ข้อมูลเก่ยี วกับเน้ือหาที่ไม่เหมาะสมท่ีพบในขณะที่ใช้งานอนิ เทอร์เน็ต (P) 4. สนใจใฝเ่ รยี นรใู้ นการศึกษาและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ อินเทอรเ์ นต็ เปน็ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีมีขนาดใหญ่ สามารถเชอ่ื มต่อเครือขา่ ยได้ทวั่ โลก การเข้าใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ นัน้ เราสามารถท่จี ะพบขอ้ มูลหรือเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์หรอื ไม่เหมาะสมได้ โดยเนื้อหาทพี่ บอาจทำให้เกิดความเสยี หายท้ังต่อตนเอง คนรอบขา้ ง และสังคมไดง้ ่าย โดยเฉพาะการใช้ สอื่ สังคมออนไลน์ทเ่ี ขา้ มามีบทบาทอย่างมากกับคนในสงั คมไทยในขณะน้ี 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน(ใหเ้ ลอื กเขียนเฉพาะหัวขอ้ ทสี่ อดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนในแตล่ ะหนว่ ย และต้องประเมนิ ไดจ้ รงิ ) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ทกั ษะนกั เรียนในศตวรรษที่ 21 ทกั ษะด้านการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ทกั ษะด้านชีวติ และอาชีพ 6. การบูรณาการการเรียนรู้ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนคุณธรรม สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรียนสจุ ริต/ต้านทุจรติ อนื่ ๆ (ระบ)ุ .......................................................................... สิ่งแวดลอ้ ม 7. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน (ให้เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ด้วยวิธีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนทห่ี ลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) ข้ันนำ ขน้ั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกับนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจว่า“ถา้ นักเรยี นพบว่าระหว่างใชง้ าน อินเทอร์เน็ตอยู่แล้วมีข้อความขึ้นมาว่า“คุณคือผู้โชคดี” นักเรียนควรทำอย่างไร” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน เช่น ไม่ควรคลิกเข้าไปชมควรแจ้งเจ้าหน้าทห่ี รือแจ้งไปยังผูด้ แู ลเว็ปไซต์ เป็นตน้ ) ข้ันสอน ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน เพอื่ อภปิ รายร่วมกนั ถึงเน้ือหาต่าง ๆ ท่ีไมเ่ หมาะสมและพบ เจอในขณะทีใ่ ช้งานอนิ เทอร์เนต็ จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนมานำเสนอเกย่ี วกับ เนอ้ื หาตา่ ง ๆ ท่ีไม่เหมาะสมและพบเจอในขณะทใ่ี ช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ หนา้ ชั้นเรยี น 2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สืบค้นหาข้อมลู จากอินเทอร์เน็ตทเ่ี ครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเองเกยี่ วกับ เน้อื หาที่ไมเ่ หมาะสมท่พี บในขณะที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพม่ิ เติม 3. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอเน้ือหาเพิ่มเติมหน้าช้ันเรยี น โดยแต่ละกลมุ่ จะต้องนำเสนอเนื้อหาท่ีพบท่ีไม่ซำ้ กับกลมุ่ อน่ื ๆ พรอ้ มอภิปรายร่วมกันในหอ้ งเรยี น 4. ครูอธบิ ายกับนักเรียนว่า“เมื่อสังคมออนไลน์ท่ีเข้ามามบี ทบาทอย่างมากกับคนในสงั คมไทยใน ทุกเพศทุกวยั เนื้อหาท่ีไมเ่ หมาะสมมีทงั้ ท่ีอยใู่ นรปู แบบของขอ้ ความ ภาพนิ่ง ภาพเคลอ่ื นไหว หรอื เสียง เชน่ เนอื้ หาเก่ียวกับการพนนั เน้ือหาเกี่ยวกับสอื่ ลามกอนาจาร เน้ือหาเกีย่ วกับการ คุกคาม เนอื้ หาเกย่ี วกับการหลอกลวงหรือข่มข่ตู า่ ง ๆ” 5. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรเู้ พิม่ เติมในส่วนนัน้
ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 6. ครูทบทวนเน้ือหาการเรียนเมื่อชว่ั โมงทแี่ ล้วเกีย่ วกับเนื้อหาตา่ ง ๆ ทไี่ ม่เหมาะสมท่ีพบเจอ ในขณะใชง้ านอินเทอร์เน็ต 7. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกย่ี วกับการปฏิบัตติ นเม่ือพบเน้ือหาที่ไม่เหมาะสม จากหนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ตามหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 1. การปฏบิ ัติตนเม่ือพบเนื้อหาเกย่ี วกบั การพนนั 2. การปฏบิ ัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกีย่ วกบั สอ่ื ลามกอนาจาร 3. การปฏบิ ตั ิตนเมื่อพบเนื้อหาเกย่ี วกบั การหลอกลวง 4. การปฏิบตั ิตนเมื่อพบเน้ือหาเกี่ยวกบั การขมขู่ ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 8. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเกีย่ วกบั การปฏบิ ตั ิตนเม่อื พบเน้อื หาทไี่ ม่เหมาะสมว่า“เพ่ือเป็นการป้องกัน ปัญหาทอ่ี าจจะเกิดข้ึนในขณะทใี่ ชเ้ ทคโนโลยี นักเรยี นควรปฏิบัติตนในการใช้เทคโนโลยีดงั น้ี คอื เลา่ ให้ผู้ปกครองฟังถงึ กิจกรรมในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ในแต่ละครงั้ ใชน้ ามแฝง อย่าบอกช่อื และท่ีอยู่ให้กบั บุคคลแปลกหน้า แจ้งใหผ้ ปู้ กครองทราบก่อนทจี่ ะใช้บตั รเครดิต หรือส่ังซ้ือ สินคา้ หรอื พบปะบคุ คลทางอินเทอรเ์ น็ต ควรตกลงกับผู้ปกครองในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต เกย่ี วกับกฎกติกาตา่ ง ๆ และปฏบิ ัตติ ามกฎท่ีได้กำหนดไว้ และไมใ่ ช้คำพดู หรอื ถ้อยคำที่หยาบ คาย หรือกระทบต่อบคุ คลอ่ืน” 9. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั โดยครูให้ความรู้เพม่ิ เติมในส่วนนั้น ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 10. ครใู หน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง การปฏิบตั ติ นเมือ่ พบเนือ้ หาท่ีไม่เหมาะสม 11. ครูส่มุ นักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าช้นั เรยี น พรอ้ มกับอภิปรายรว่ มกันในห้องเรยี น Note วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ให้นักเรยี น - มที กั ษะการทำงานร่วมกันโดยใช้กระบวนการกล่มุ ในการทำงานหรือการทำ กจิ กรรมเพ่อื ใหเ้ กิดการส่ือสารและแลกเปล่ยี นข้อมลู ร่วมกันภายในกลุม่ - มที ักษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนสืบค้นข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต เพือ่ สืบเสาะหาความร้ตู ามหวั ขอ้ ท่ีได้รบั มอบหมาย - มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ โดยใหน้ กั เรียนพจิ ารณาเนื้อหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา ข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ เชน่ หนงั สือเรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นตน้
ข้นั สรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสงั เกตการตอบคำถาม การนำเสนอหน้าชนั้ เรียน การทำ กจิ กรรมกล่มุ ดว้ ยความตัง้ ใจ และการทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานท่ี 4.2.1 3. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปเก่ียวกับการปฏบิ ตั ิตนเม่ือพบเนื้อหาตา่ ง ๆ ท่ีไมเ่ หมาะสมจากการ ใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ 8. ส่อื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั 2) ใบงานท่ี 4.2.1 เร่ือง การปฏิบัตติ นเมอ่ื พบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม 3) เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 9. การวดั และประเมินผล ด้าน วธิ กี ารวดั ผลและการประเมินผล เครือ่ งมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั ความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 ใบงานท่ี 4.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทกั ษะ/ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 กระบวนการ (P) ผลงาน ผ่านเกณฑ์ คณุ ธรรม จริยธรรม สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 และคา่ นิยม (A) รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ เกณฑก์ ารประเมิน ดา้ น ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 54321 ความรู้ (K) ประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรม ทักษะ/กระบวนการ (P) การเรยี นรู้การปฏิบตั ิตนเม่ือพบ เนอ้ื หาท่ีไมเ่ หมาะสม การนำเสนอผลงาน คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มีระดบั คุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถึง มีระดบั คุณภาพดีเยี่ยม ระดับ 2 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถงึ มีระดับคุณภาพดี ระดบั 1 หมายถงึ มีระดับคุณภาพพอใช้
10. บนั ทึกผลหลงั การสอน 10.1 สรุปผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรียนจำนวน........................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้...............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไดแ้ ก่ 1. .......................................................................... 2. ......................................................................... นกั เรียนท่ีมีความสามารถพเิ ศษได้แก่ 1. ......................................................................... 2. ......................................................................... 2. นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมีความรู้เกดิ ทกั ษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมินทไ่ี ม่เป็นไปตามจดุ ประสงค์สู่ตวั ช้ีวดั คุณลกั ษณะหรือสมรรถนะ ของผู้เรยี น) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปัญหา/พัฒนานกั เรียนใหไ้ ด้ ตามตวั ช้วี ดั คุณลักษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรียน) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงช่อื . ( นายวิรตั น์ พมิ พา ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
ความเห็นของหัวหน้าของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ...................................................................แล้วมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไมเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ลงช่ือ . ( นายชวลิต สุจรติ ) หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี . ความคดิ เหน็ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวชิ าการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .......................................................... ( นางบณุ ฑรกิ ศรีบญุ เรอื ง) รองผูอ้ ำนวยการ กลุม่ งานบริหารวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 . รายวิชา การออกแบบฯและวิทยการคำนวณ2 รหสั วชิ า ว 22103 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2565 . หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง ความรับผิดชอบตอ่ การใช้งานเทคโนโลยี จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นข้นั ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด ม. 2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธ์ใิ น การเผยแพรผ่ ลงาน 2. จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ วั ชีว้ ัด 1. อธิบายความหมายของความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ต่อบุคคลอ่ืน และต่อสังคมเม่ือมีการใช้งาน เทคโนโลยสี ารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. สิบค้นวิธีการกระทำเพ่ือแสดงความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อบุคคลอืน่ และตอ่ สังคมเมื่อมกี ารใช้งาน เทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (P) 3. สนใจใฝ่เรียนรใู้ นการศกึ ษาและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันมีทัง้ การใชง้ านเพื่องานสว่ นตวั หรือใช้งานเพ่ือสว่ นรวมซง่ึ ไม่ ว่าจะเปน็ การใช้งานแบบใดก็ตามล้วนแล้วแต่ตอ้ งมีจรยิ ธรรมและความรับผิดชอบต่อการใชง้ านท้งั ความ รบั ผิดชอบต่อตนเอง ต่อบคุ คลอนื่ และต่อสงั คม 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน(ใหเ้ ลอื กเขยี นเฉพาะหัวข้อท่สี อดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนในแตล่ ะหน่วย และตอ้ งประเมนิ ได้จรงิ ) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. ทักษะนกั เรียนในศตวรรษที่ 21 ทกั ษะด้านการเรียนรูแ้ ละนวตั กรรม ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ 6. การบรู ณาการการเรยี นรู้ โรงเรยี นคณุ ธรรม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนสจุ ริต/ต้านทจุ รติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ส่ิงแวดล้อม อืน่ ๆ (ระบ)ุ .......................................................................... 7. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน (ใหเ้ น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ด้วยวธิ ีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนทหี่ ลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) ขั้นนำ ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคำถามประจำหวั ข้อนักเรียนว่า“เมื่อต้องใช้คอมพวิ เตอรร์ ่วมกบั ผู้อน่ื จะต้องทำอยา่ งไร เพือ่ รักษาความเป็นสว่ นตวั และไมส่ รา้ งความเดือดร้อนต่อส่วนรวม” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กบั ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน เชน่ ตอ้ งมจี ริยธรรมและความรับผิดชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตอ่ ตนเอง บคุ คลอ่ืน และสงั คม) 2. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนเพื่อเชอ่ื มโยงเข้าส่บู ทเรียนว่า“การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจบุ ันมี ท้ังการใชง้ านเพ่ืองานสว่ นตวั การใชง้ านเพ่ือสว่ นรวม และการใชง้ านร่วมกบั บคุ คลอนื่ ซึ่งไมว่ า่ จะ เปน็ การใชง้ านแบบใดหรือลักษณะใดกต็ ามลว้ นแล้วแตจ่ ะต้องมีจรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบต่อ การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ” ขั้นสอน ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อพดู คุยกนั ถึงความรับผิดชอบตอ่ ตนเองเมื่อมีการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ จากนนั้ บนั ทึกคำตอบลงบนสมุดประจำตวั 2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอเกีย่ วกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองเม่ือมีการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมอภปิ รายร่วมกนั ในห้องเรยี น 3. นักเรยี นศกึ ษาความรู้เสริมจากเนอ้ื หาเพือ่ ขยายความรูข้ องผเู้ รียน (Com Sci Focus) เรอื่ ง Log in และ Password 4. นักเรยี นศึกษาความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จากหนังสอื เรยี นรายวิชา พนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และสังเกตตวั อย่างความรบั ผิดชอบต่อตนเองที่สามารถ ทำได้ 5. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครูให้ความรู้เพิ่มเตมิ ในสว่ นนัน้ หรือใหน้ ักเรียน ศึกษาความรูเ้ พิ่มเติมจากอนิ เทอรเ์ นต็ ทเ่ี ครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง
ขน้ั สอน ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 6. ครทู บทวนเนือ้ หาการเรียนเม่ือชว่ั โมงทแี่ ล้วเกีย่ วกับความรับผิดชอบต่อตนเองเมื่อใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 7. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน (กล่มุ เดิม) เพ่ือพดู คยุ กนั ถงึ ความรบั ผดิ ชอบต่อบุคคลอ่ืน และตอ่ สังคมเม่อื มีการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยนกั เรยี นศึกษาเนื้อหาจากหนงั สือเรียนหรอื สบื คน้ เพ่มิ เติมจากอินเทอร์เน็ตทเี่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องตนเองและให้นกั เรยี นสังเกตตวั อย่าง ความรบั ผดิ ชอบต่อบคุ คลอืน่ และต่อสงั คมทสี่ ามารถทำได้ 8. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอเกีย่ วกับความรับผิดชอบต่อบุคคลอืน่ และต่อสังคม พรอ้ ม อภิปรายร่วมกันในห้องเรยี น ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 9. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับความรบั ผิดชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศวา่ “ผูใ้ ช้ คอมพิวเตอร์ควรมีจรรยาบรรณในการใช้งานดงั น้ี 1) ต้องไมใ่ ช้คอมพวิ เตอร์ทำรา้ ยหรอื ละเมิดผู้อนื่ 2) ต้องไม่รบกวนการทำงานของผ้อู ่นื 3) ตอ้ งไม่สอดแนมหรอื เปดิ ดแู ฟ้มของผู้อ่ืน 4) ตอ้ งไม่ใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พ่ือการโจรกรรมข้อมลู ขา่ วสาร 5) ต้องไม่ใชค้ อมพวิ เตอรส์ รา้ งหลักฐานทเ่ี ป็นเท็จ 6) ตอ้ งไมค่ ัดลอกโปรแกรมผูอ้ ่ืนทมี่ ลี ิขสิทธ์ิ 7) ต้องไมล่ ะเมดิ การใชท้ รัพยากรคอมพิวเตอร์โดยท่ีตนเองไม่มสี ทิ ธิ์ 8) ตอ้ งไม่นำเอาผลงานของผ้อู ่ืนมาเปน็ ของตน 9) ต้องคำนึงถึงส่ิงทจ่ี ะเกดิ ข้นึ กับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ 10) ต้องใชค้ อมพวิ เตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท” ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 10. นักเรยี นทำใบงานท่ี 4.3.1 เรือ่ ง ความรบั ผดิ ชอบต่อการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ 11. ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น พร้อมกบั อภปิ รายรว่ มกนั ในหอ้ งเรยี น 12. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสยั และครูให้ความรูเ้ พิ่มเติมในส่วนน้ัน Note วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพือ่ ใหน้ กั เรียน - มที กั ษะการทำงานร่วมกันโดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทำงานหรือการทำ กิจกรรมเพอื่ ใหเ้ กดิ การสอื่ สารและแลกเปลยี่ นข้อมูลรว่ มกันภายในกลุ่ม - มีทกั ษะการสืบค้นข้อมูล โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนสบื คน้ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ เพื่อสืบเสาะหาความร้ตู ามหัวข้อท่ีไดร้ ับมอบหมาย - มที กั ษะการสงั เกต โดยให้นักเรยี นสงั เกตตวั อยา่ งความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง บคุ คล อืน่ และสงั คมทสี่ ามารถทำได้จากหนังสอื เรยี น เพื่อนำไปปรับใชใ้ นการเรียนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - มที ักษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยให้นกั เรยี นพิจารณาเน้ือหาจากการสืบค้นหรือศึกษา ข้อมลู จากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน อนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ต้น
ข้นั สรุป ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น การทำ กจิ กรรมกลุ่มดว้ ยความตงั้ ใจ และการทำใบงาน 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องการทำใบงานท่ี 4.3.1 3. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ 8. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 2. ใบงานที่ 4.3.1 เร่ือง ความรบั ผดิ ชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 9. การวดั และประเมินผล ด้าน วธิ กี ารวดั ผลและการประเมินผล เครอ่ื งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวดั ความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 ใบงานที่ 4.3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ทกั ษะ/ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 กระบวนการ (P) ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ คณุ ธรรม จริยธรรม สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 และคา่ นิยม (A) รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ เกณฑก์ ารประเมนิ ประเด็นการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดา้ น 54321 ความรู้ (K) ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม ทักษะ/กระบวนการ (P) การเรยี นรู้ความรบั ผดิ ชอบต่อการ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ การนำเสนอผลงาน คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดีเย่ียม ระดบั 2 หมายถึง มีระดับคุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพดี ระดบั 1 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้
10. บันทึกผลหลงั การสอน 10.1 สรุปผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจำนวน........................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้...............คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์............................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................................. ไดแ้ ก่ 1. .......................................................................... 2. ......................................................................... นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. ......................................................................... 2. ......................................................................... 2. นกั เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมีความร้เู กดิ ทกั ษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นักเรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปัญหา/อุปสรรค (ผลการประเมินทไี่ ม่เป็นไปตามจุดประสงค์สู่ตวั ชี้วดั คุณลกั ษณะหรือสมรรถนะ ของผู้เรยี น) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปญั หา/พฒั นานกั เรียนให้ได้ ตามตัวช้ีวดั คุณลักษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรยี น) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื . ( นายวริ ตั น์ พมิ พา ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ
ความเห็นของหัวหนา้ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ...................................................................แล้วมีความคดิ เห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ยังไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี นำไปใชไ้ ด้จรงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ลงช่ือ . ( นายชวลิต สจุ รติ ) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี . ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวิชาการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .......................................................... ( นางบุณฑรกิ ศรีบุญเรือง ) รองผู้อำนวยการ กลุ่มงานบริหารวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 . รายวิชา การออกแบบฯและวทิ ยการคำนวณ2 รหัสวิชา ว 22103 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2565 . หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่ือง ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้วี ดั ม. 2/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ สรา้ งและแสดงสิทธิใ์ น การเผยแพรผ่ ลงาน 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ ัวช้ีวัด 1. อธิบายความหมายของทรัพย์สินทางปญั ญาได้ถกู ต้อง (K) 2. บอกประเภทของงานท่ีมลี ิขสิทธิ์ไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 3. บอกความแตกต่างประเภทของสิทธบิ ัตรได้ถูกต้อง (K) 4. สบื ค้นข้อมลู ต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพยส์ นิ ทางปัญญาได้ (P) 5. สนใจใฝ่เรียนรใู้ นการศึกษาและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ ทรพั ยส์ ินทางปัญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิดสรา้ งสรรค์ของมนุษย์ เปน็ ทรัพยส์ ินอกี ชนิดหน่งึ นอกเหนือจากสงั หาริมทรัพย์ และอสงั หาริมทรัพย์ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ ลิขสิทธ์ิ และสทิ ธบิ ตั ร 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน(ใหเ้ ลอื กเขียนเฉพาะหัวข้อท่ีสอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนในแตล่ ะหน่วย และต้องประเมินได้จริง) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ทักษะนักเรยี นในศตวรรษที่ 21 ทักษะด้านการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ 6. การบรู ณาการการเรยี นรู้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โรงเรียนคณุ ธรรม สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรยี นสุจรติ /ตา้ นทุจรติ อนื่ ๆ (ระบ)ุ .......................................................................... สิง่ แวดล้อม 7. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน (ให้เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ด้วยวิธกี ารสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนที่หลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) ข้ันนำ ข้ันที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อว่า“นกั เรยี นอยากสรา้ งสิง่ ใดที่จะเปน็ ลขิ สิทธ์ขิ องตนเองบา้ งหรือไม่ และเพราะเหตุใดจึงตอ้ งมีลิขสทิ ธิเ์ ปน็ ของตนเอง” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึน้ อย่กู บั ดุลยพนิ ิจของ ครูผู้สอน เชน่ ไดส้ ิทธ์ิความเปน็ เจ้าของผลงานตา่ ง ๆ เพ่ือป้องกนั การคัดลอก ทำซำ้ หรือ ดัดแปลง เปน็ ตน้ ) 2. ครูอธิบายเพื่อเช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรียนวา่ “ทรพั ย์สินทางปัญญา คอื ผลงานอันเกิดจากความคิด สรา้ งสรรคข์ องมนุษย์ เป็นทรัพย์สินอีกชนิดหน่งึ นอกเหนือจากสังหารมิ ทรัพย์ คือ ทรพั ย์สินที่ สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬกิ า รถยนต์ เป็นตน้ และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพยส์ นิ ทไ่ี ม่ สามารถเคล่ือนย้ายได้ เช่น บ้าน ท่ดี นิ ” ข้ันสอน ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพื่ออภปิ รายรว่ มกนั ถึงประเภทของงานตา่ ง ๆ ที่ จำเป็นต้องมีการจดลขิ สทิ ธ์ิซง่ึ กฎหมายลิขสทิ ธใิ์ หค้ วามคมุ้ ครองแกง่ านสรา้ งสรรค์ 9 ประเภท ตามทกี่ ฎหมายกำหนด ได้แก่ 1) งานวรรณกรรม 2) งานนาฏกรรม 3) งานศลิ ปกรรม 4) งานดนตรีกรรม 5) งานสิง่ บนั ทึกเสยี ง 6) งานโสตทัศนวัสดุ
7) งานภาพยนต์ 8) งานแพร่เสียงแพรภ่ าพ 9) งานอืน่ ใดในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร์ หรอื แผนกศิลปะ 2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนมานำเสนอเกย่ี วกบั งานประเภทต่าง ๆ ทีต่ อ้ งมกี ารจดลขิ สิทธิ์ พร้อมอภิปรายรว่ มกนั ภายในช้ันเรียน 3. นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเติมจากหนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เกย่ี วกับการไดม้ าซ่ึงสิทธ์ิ เจา้ ของสทิ ธ์ิ เอกสารใช้ประกอบการแจ้งข้อมลู ลขิ สทิ ธ์ิ และ ประโยชน์ของลขิ สทิ ธิ์ 4. นกั เรียนศึกษาการเช่ือมโยงความรสู้ ่ชู ีวติ ประจำวัน (Com Sci in Real Life) เกีย่ วกบั หนว่ ยงานทีท่ ำหน้าที่ดูแลรบั ผิดชอบทรพั ย์สินทางปญั ญาและให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำแกผ่ ู้ ทสี่ ร้างสรรคผ์ ลงานจดเปน็ ลขิ สทิ ธข์ิ องตนเอง 5. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย และครูให้ความรู้เพม่ิ เตมิ ในส่วนนนั้ 6. นักเรียนทำใบงานที่ 4.4.1 เรื่อง ประเภทของลิขสิทธิ์ โดยใหน้ กั เรยี นนำข้อความทกี่ ำหนดให้ เตมิ ในกรอบใหต้ รงกับประเภทของลขิ สทิ ธิ์ ขน้ั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 7. ครทู บทวนเน้ือหาการเรียนเม่ือช่ัวโมงท่แี ลว้ เกย่ี วกับลิขสิทธิ์ 8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน (กลุ่มเดิม) เพื่ออภิปรายร่วมกันถึงความหมายและประเภท ของสิทธิบัตร จากหนังสอื เรยี น ตามหัวขอ้ ดังตอ่ ไปนี้ 1) ความหมายของสทิ ธิบตั ร 2) ประเภทของสทิ ธบิ ตั ร 2.1) สทิ ธิบัตรการประดษิ ฐ์ 2.2) สิทธบิ ตั รการออกแบบผลติ ภัณฑ์ 2.3) อนสุ ทิ ธบิ ัตร 3) ความแตกตา่ งระหว่างอนุสิทธิบัตรและสิทธบิ ตั รการประดษิ ฐ์ 4) ประโยชนข์ องสทิ ธิบตั ร 9. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอเกี่ยวกับความหมายและประเภทของสิทธิบัตร พร้อมอภปิ รายร่วมกันในห้องเรียน ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 10. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมเกยี่ วกบั ความจำเป็นในการจดลขิ สทิ ธ์ิและสิทธิบตั รวา่ “หากเราเป็นผ้ผู ลติ อะไรกต็ ามไม่ว่าจะเปน็ สง่ิ ของเคร่ืองใช้หรือแมแ้ ต่ความคิด ทเ่ี ราคิดวา่ เราสามารถขายเพ่ือ สรา้ งรายได้ หรอื เพื่อให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตัวเราและคนอ่ืน ๆ ได้ หากเราไม่ไดไ้ ปทำการจด สิทธิบัตรหรอื อนุสทิ ธบิ ตั ร และมคี นมาลอกเลียนแบบการออกแบบของเรา หรอื ความคิด ของเรา แลว้ นำไปจดสทิ ธิบัตรหรอื อนสุ ทิ ธิบัตรก่อนเรา จะสง่ ผลใหเ้ ราไม่สามารถผลติ หรอื จำหน่ายสินคา้ หรือความคดิ นน้ั ๆ ไดอ้ ีก”
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 11. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย และครูให้ความรเู้ พมิ่ เติมในส่วนนน้ั หรอื ให้นกั เรียน ศึกษาความรู้เพม่ิ เติมจากอนิ เทอรเ์ น็ต 12. ครใู หน้ ักเรียนทำกิจกรรมทีส่ อดคลอ้ งกบั เน้ือหา โดยการตอบคำถามเพ่ือพัฒนาความร้แู ละ ทกั ษะการเรยี นรู้ (Com Sci Activity) เกย่ี วกบั การจัดการขอ้ มลู สารสนเทศ ลงในสมุด ประจำตวั Note วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพือ่ ใหน้ กั เรยี น - มีทักษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทำงานหรอื การทำ กิจกรรมเพอ่ื ใหเ้ กิดการสอ่ื สารและแลกเปล่ยี นข้อมูลรว่ มกันภายในกลุม่ - มีทกั ษะการสบื คน้ ข้อมูล โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนสบื ค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ เพอ่ื สืบเสาะหาความร้ตู ามหัวขอ้ ท่ีได้รบั มอบหมาย - มที กั ษะการคดิ วิเคราะห์ โดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาเนื้อหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ เช่น หนังสือเรยี น อินเทอรเ์ น็ต เป็นต้น ข้นั สรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหนา้ ช้นั เรียน การทำ กิจกรรมกล่มุ ด้วยความต้งั ใจ และการทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องการทำใบงานที่ 4.4.1 3. เปดิ โอกาสให้นักเรียนอภิปรายรว่ มกันในช้ันเรียนเกย่ี วกบั ข้อดี-ข้อเสียของทรัพยส์ ินทางปัญญา เพื่อใหผ้ ้เู รยี นไดท้ บทวนสาระสำคญั ประจำหน่วยการเรียนรู้ 4. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเกี่ยวกับทรพั ย์สนิ ทางปัญญา 5. นกั เรยี นตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจด้วยตนเองจากหนังสือเรียน โดยพิจารณาขอ้ ความวา่ ถูก หรือผดิ หากนกั เรยี นพิจารณาข้อความไม่ถกู ต้องให้นกั เรยี นกลับไปทบทวนเน้ือหาตามหัวขอ้ ท่ี กำหนดให้ 6. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ประจำหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 โดยให้บนั ทึกลงในสมดุ และทำชนิ้ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เพ่ือตรวจสอบความ เข้าใจ และนำมาสง่ ในชัว่ โมงถัดไป 7. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภยั เพ่ือวัดความรทู้ น่ี กั เรยี นไดร้ บั หลงั จากผ่านการเรียนรู้
8. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย 2. ใบงานที่ 4.4.1 เรื่อง ประเภทของลิขสิทธ์ิ 3. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 9. การวดั และประเมินผล ดา้ น วธิ ีการวดั ผลและการประเมินผล เครือ่ งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั ความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 4.4.1 ใบงานท่ี 4.4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ทกั ษะ/ ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 กระบวนการ (P) ผลงาน ผ่านเกณฑ์ คุณธรรม จริยธรรม สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 และคา่ นิยม (A) รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมนิ ดา้ น ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 54321 ความรู้ (K) ประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม ทักษะ/กระบวนการ (P) การเรยี นรู้ประเภทของลิขสทิ ธิ์ การนำเสนอผลงาน คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถงึ มีระดบั คุณภาพดีเยย่ี ม ระดับ 2 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถึง มีระดับคุณภาพดี ระดบั 1 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพพอใช้
10. บนั ทึกผลหลังการสอน 10.1 สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน........................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์............................คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไดแ้ ก่ 1. .......................................................................... 2. ......................................................................... นักเรียนท่ีมคี วามสามารถพเิ ศษไดแ้ ก่ 1. ......................................................................... 2. ......................................................................... 2. นักเรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรียนมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นักเรียนมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปัญหา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ทีไ่ ม่เป็นไปตามจดุ ประสงค์สู่ตวั ช้ีวัด คุณลกั ษณะหรอื สมรรถนะ ของผู้เรยี น) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแกป้ ญั หา/พฒั นานกั เรียนให้ได้ ตามตวั ช้วี ดั คุณลักษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรียน) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงช่ือ . ( นายวริ ตั น์ พมิ พา ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพิเศษ
ความเหน็ ของหัวหน้าของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ...................................................................แลว้ มีความคิดเห็น ดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ลงชื่อ . ( นายชวลิต สจุ ริต ) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี . ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวชิ าการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .......................................................... ( นางบณุ ฑรกิ ศรีบุญเรือง) รองผ้อู ำนวยการ กลมุ่ งานบริหารวิชาการ
ใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง ประโยชนแ์ ละโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ คำชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปนี้ว่าเป็นประโยชน์หรือโทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดย ถา้ ขอ้ ใดเป็นประโยชนใ์ หต้ อบ ก และถ้าข้อใดเป็นโทษให้ตอบ ข ............. 1. ชว่ ยนำเสนอขอ้ มูลได้หลากหลายรูปแบบ ............. 2. ชว่ ยประหยดั เวลาและค่าใช้จา่ ยในการติดตอ่ ส่ือสาร ............. 3. การขาดการออกกำลงั กาย ............. 4. ลดความผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและรักษาโรค ............. 5. การล้วงขอ้ มูลสว่ นบุคคล การแฮ็กเจาะระบบท่ีหรือไวรสั คอมพิวเตอร์ ............. 6. เปน็ ชอ่ งทางการนำเสนอข้อมลู ไปส่ปู ระชาชน ............. 7. เด็กไมม่ ีการสร้างความเข้มแข็งให้กับทางเดนิ เส้นประสาทที่ใช้ในการคิด ............. 8. ช่วยใหผ้ ู้เรียนสามารถศกึ ษาหาความรูไ้ ด้ด้วยตนเอง ............. 9. คา่ ใช้จา่ ยที่เพิ่มขึ้น ............. 10. เดก็ เกดิ พฤตกิ รรมเลียนแบบ ............. 11. ชว่ ยรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ ไว้ในแหล่งข้อมูลเดียวกัน ............. 12. ช่วยแลกเปล่ียนและนำเสนอแนวความคิดของผเู้ รยี นและผู้อนื่ ............. 13. ช่วยเกบ็ ข้อมูลสถิติด้านสงั คมศาสตร์ ............. 14. การละเมิดลิขสิทธิ์ ............. 15. คอมพิวเตอรจ์ ำกัดจินตนาการของเดก็ ............. 16. ช่วยควบคุมการผลติ ช้ินงานใหไ้ ด้ปรมิ าณและคณุ ภาพตามต้องการ ............. 17. ได้รับแสงและอากาศบรสิ ุทธไิ์ ม่เพียงพอ ............. 18. อาการกล้ามเนื้อเกรง็ ............. 19. ชว่ ยลดเวลาในการรกั ษาโรค ............. 20. เกดิ ความเครียด ............. 21. การควบคมุ อารมณ์ไม่ได้ ............. 22. เปน็ สอ่ื กลางในรับและสง่ ข้อมูลจากทีห่ นึง่ ไปยังอกี ท่ีหน่งึ ............. 23. ชว่ ยคำนวณปริมาณวตั ถุดบิ สนิ คา้ และกำไร ............. 24. ชว่ ยทำงานในพ้ืนที่เส่ยี งภยั หรอื งานที่มนุษย์ไมส่ ามารถทำได้ ............. 25. การขาดปฏสิ มั พนั ธ์กบั ผู้อ่ืนส่งผลใหพ้ ฒั นาการทางอารมณ์และสงั คมถูกจำกัด
ใบงานท่ี 4.1.1 เฉลย เรื่อง ประโยชนแ์ ละโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ คำช้ีแจง : ให้นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปน้ีว่าเป็นประโยชน์หรือโทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดย ถา้ ข้อใดเปน็ ประโยชนใ์ หต้ อบ ก และถา้ ข้อใดเป็นโทษใหต้ อบ ข ......ก.....1. ช่วยนำเสนอขอ้ มลู ไดห้ ลากหลายรูปแบบ ......ก..... 2. ชว่ ยประหยัดเวลาและค่าใช้จา่ ยในการติดตอ่ ส่ือสาร ......ข..... 3. การขาดการออกกำลงั กาย ......ก..... 4. ลดความผิดพลาดและเพ่ิมความแมน่ ยำในการวนิ ิจฉัยและรกั ษาโรค ......ข..... 5. การลว้ งข้อมลู ส่วนบุคคล การแฮก็ เจาะระบบที่หรือไวรสั คอมพิวเตอร์ ......ก..... 6. เป็นชอ่ งทางการนำเสนอข้อมูลไปสู่ประชาชน ......ข..... 7. เด็กไมม่ ีการสรา้ งความเขม้ แขง็ ให้กบั ทางเดนิ เส้นประสาทที่ใช้ในการคิด ......ก..... 8. ช่วยใหผ้ ู้เรยี นสามารถศึกษาหาความร้ไู ด้ดว้ ยตนเอง ......ข..... 9. คา่ ใช้จ่ายที่เพิม่ ข้ึน ......ข..... 10. เด็กเกิดพฤติกรรมเลยี นแบบ ......ก..... 11. ชว่ ยรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ ไวใ้ นแหลง่ ข้อมูลเดียวกัน ......ก..... 12. ช่วยแลกเปล่ียนและนำเสนอแนวความคดิ ของผเู้ รียน ......ก..... 13. ช่วยเก็บข้อมูลสถิติ ......ข..... 14. การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ ......ข..... 15. คอมพวิ เตอรจ์ ำกดั จินตนาการของเด็ก ......ก..... 16. ช่วยควบคุมการผลติ ช้ินงานใหไ้ ด้ปรมิ าณและคุณภาพตามต้องการ ......ข..... 17. ได้รับแสงและอากาศบรสิ ุทธิไ์ ม่เพียงพอ ......ข..... 18. อาการกล้ามเนื้อเกร็ง ......ก..... 19. ชว่ ยลดเวลาในการรักษาโรค ......ข..... 20. เกดิ ความเครียด ......ข..... 21. การควบคุมอารมณ์ไมไ่ ด้ .......ก.... 22. เปน็ สื่อกลางในรับและสง่ ข้อมูลจากท่ีหน่งึ ไปยังอกี ท่หี นง่ึ .......ก.... 23. ชว่ ยคำนวณปรมิ าณวัตถุดิบ สนิ ค้าและกำไร .......ก.... 24. ชว่ ยทำงานในพื้นที่เส่ยี งภยั หรอื งานที่มนุษย์ไมส่ ามารถทำได้ .......ข.... 25. การขาดปฏสิ มั พนั ธ์กับผอู้ น่ื ส่งผลให้พฒั นาการทางอารมณแ์ ละสงั คมถกู จำกัด
ใบงานท่ี 4.2.1 เร่อื ง การปฏิบัตติ นเม่ือพบเนอ้ื หาที่ไม่เหมาะสม คำชี้แจง : ให้นักเรียนบอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนเม่ือพบกบั สถานการณ์ท่ีกำหนดใหด้ งั ต่อไปน้ี 1. เว็บไซตห์ ลอกใหน้ ักเรียนซ้อื ตวั เลขเพ่ือเส่ียงโชค โดยใหโ้ อนเงินไปทางหมายเลขบญั ชีทกี่ ำหนดให้ ......................................................................................................................................................... ........................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. เวบ็ ไซต์หลอกใหน้ ักเรยี นโอนเงนิ เพ่อื ดูภาพลามกอนาจาร ............................................................................................................................................................................. ....... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. เวบ็ ไซตห์ ลอกลวงใหน้ ักเรียนซื้อของ โดยใหโ้ อนเงนิ ไปยงั หมายเลขบัญชี แต่ไม่สง่ ของมาให้ .................................................................................................................................................................. .................. .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................
ใบงานที่ 4.2.1 เฉลย เรอ่ื ง การปฏิบัติตนเมือ่ พบเน้ือหาที่ไมเ่ หมาะสม คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นบอกวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนเม่ือพบกับสถานการณ์ท่กี ำหนดใหด้ ังต่อไปนี้ 1. เว็บไซตห์ ลอกให้นักเรยี นซ้อื ตวั เลขเพอื่ เสยี่ งโชค โดยให้โอนเงินไปทางหมายเลขบญั ชีทก่ี ำหนดให้ 1. ควรแจง้ ผู้ใหญ่ หรือเจา้ หน้าท่ีทเ่ี ก่ยี วขอ้ งให้ทราบ 2. ไมค่ วรโอนเงินให้ 3. ถ้าพบการโฆษณาเหลา่ นี้ ไมค่ วรคลิกเข้าไปดู 2. เวบ็ ไซตห์ ลอกให้นกั เรยี นโอนเงนิ เพอ่ื ดูภาพลามกอนาจาร 1. ควรแจ้งผใู้ หญ่ หรือเจา้ หน้าทที่ เ่ี ก่ียวขอ้ งให้ทราบ 2. ควรตดิ ตง้ั โปรแกรมในการบลอ็ กเวบ็ ไซตท์ ี่แปลกปลอม 3. ควรตั้งคา่ ความปลอดภยั ในโปรแกรมหรือระบบปฏิบตั กิ ารเพ่ือไม่ให้เขา้ ถึงเน้ือหาท่ีไมเ่ หมาะสม 3. เวบ็ ไซตห์ ลอกลวงให้นักเรยี นซ้อื ของ โดยให้โอนเงนิ ไปยงั หมายเลขบัญชี แตไ่ มส่ ง่ ของมาให้ 1. ไม่เปดิ เผยขอ้ มลู สว่ นตัวใหเ้ ปน็ สาธารณะ 2. ควรแจง้ หรือปรึกษาผใู้ หญ่ เมือ่ พบเว็บไซต์ทีห่ ลอกขายของให้เรา 3. ไม่ควรเขยี นข้อความที่บ่งบอกถึงความเป็นตวั ตนของเรา หรือเกยี่ วกบั ครอบครวั ของเราตอ่ สาธารณะ
ใบงานที่ 4.3.1 เรือ่ ง ความรบั ผดิ ชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนบอกสิง่ ทค่ี วรกระทำตอ่ ความรบั ผดิ ชอบต่าง ๆ เม่อื มีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ (อยา่ งน้อย 3 รายการ) ความรบั ผิดชอบต่อตนเอง ความรับผดิ ชอบต่อบุคคลอื่น ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
ใบงานท่ี 4.3.1 เฉลย เรื่อง ความรบั ผดิ ชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นบอกสิง่ ท่ีควรกระทำต่อความรับผิดชอบตา่ ง ๆ เมอ่ื มีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (อยา่ งนอ้ ย 3 รายการ) ความรับผิดชอบต่อตนเอง - ใชง้ านบัญชผี ู้ใชเ้ ฉพาะของตนเองเท่านนั้ - ไมต่ ดิ ตั้งหรือใชซ้ อฟต์แวรท์ ผี่ ิดกฎหมาย - ไมแ่ จกจ่ายข้อมูลสว่ นตัวใหบ้ คุ คลอน่ื ทราบ - ไมแ่ สดงหรือไม่เขา้ เว็บไซตท์ ี่มีเนอ้ื หาไมเ่ หมาะสม - หมน่ั ตรวจสอบ ดูแลระบบคอมพวิ เตอร์อย่างสม่ำเสมอ ความรับผดิ ชอบต่อบุคคลอ่นื - ไม่พยายามใชง้ านบัญชีของบุคคลอน่ื - ไมค่ ดั ลอก หรือนำเสนอผลงานของผู้อืน่ ท่ีไมใ่ ชข่ องตนเอง - ไมเ่ ปลย่ี นแปลงแกไ้ ข ย้าย หรอื ลบไฟลข์ องผ้อู ่ืน - ไม่ข่มขู่ คุกคาม หรอื หลอกลวงผอู้ ื่น - ไมส่ ่งอีเมลท่ีไม่เหมาะสม หรือสงิ่ ทอี่ าจเกิดอันตรายตอ่ คอมพิวเตอรใ์ ห้บุคคลอ่ืน ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม - ไม่พยายามเขา้ ถงึ เครือข่ายใดๆ ทไ่ี ม่ไดร้ ับอนุญาต - ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบ หรือข้อบังคับขององคก์ ร - ไม่เปิดอเี มล ไฟล์ หรือโปรแกรมที่ไดร้ ับมาจากแหลง่ ท่ไี มร่ ู้จัก - ไมน่ ำข้อมลู สารสนเทศขององคก์ รไปเผยแพร่ - ไม่เจาะระบบ เข้าสู่ระบบงาน ขโมย คัดลอก โอนย้าย หรือแก้ไขปลอมแปลงข้อมูล โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต
ใบงานท่ี 4.4.1 เรือ่ ง ประเภทของลขิ สทิ ธ์ิ คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนนำข้อความทีก่ ำหนดใหเ้ ตมิ ในกรอบใหต้ รงกับประเภทของลิขสทิ ธิ์ จลุ สาร ซีดีเพลงเบิรด์ ภาพจิตรกรรมฝาผนงั ทา่ รำเพลงเกย่ี วขา้ ว ทา่ เต้นประกอบเพลง เนอ้ื ร้องเพลงชาตไิ ทย ภาพยนตรเ์ ร่ืองแฮรร์ ี่พอตเตอร์ ภาพประตมิ ากรรม ทำนองเพลงลอยกระทง เทปเพลง หนงั สอื อ่านเล่นสำหรบั เดก็ เสยี งประกอบภาพยนตร์ งานวรรณกรรม งานนาฏกรรม ................................................. .................................................. ................................................. .................................................. ................................................. .................................................. . งานศลิ ปกรรม ................................................. งานดนตรกี รรม ................................................. .................................................. ................................................. .................................................. .................................................. งานส่ิงบนั ทึกเสียง งานภาพยนตร์ ................................................. .................................................. ................................................. .................................................. ................................................. .................................................. ...
ใบงานที่ 4.4.1 เฉลย เรอ่ื ง ประเภทของลขิ สิทธ์ิ คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นนำขอ้ ความที่กำหนดให้เตมิ ในกรอบใหต้ รงกบั ประเภทของลิขสทิ ธ์ิ จุลสาร ซดี ีเพลงเบริ ์ด ภาพจติ รกรรมฝาผนัง ทา่ รำเพลงเก่ยี วข้าว ท่าเตน้ ประกอบเพลง เนื้อรอ้ งเพลงชาติไทย ภาพยนตรเ์ รือ่ งแฮรร์ ี่พอตเตอร์ ภาพประติมากรรม ทำนองเพลงลอยกระทง เทปเพลง หนังสอื อา่ นเลน่ สำหรบั เดก็ เสียงประกอบภาพยนตร์ งานวรรณกรรม งานนาฏกรรม จลุ สาร ทา่ รำเพลงเก่ยี วข้าว หนังสอื อ่านเลน่ สำหรบั เด็ก ท่าเต้นประกอบเพลง ................................... งานดนตรกี รรม ............................... เนอื้ ร้องเพลงชาติไทย ทำนองเพลงลอยกระทง งานศิลปกรรม ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพประตมิ ากรรม งานสิ่งบันทึกเสียง งานภาพยนตร์ ซีดีเพลงเบริ ์ด ภาพยนตร์เร่อื งแฮรี่พอตเตอร์ เทปเพลง เสียงประกอบภาพยนตร์
ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนอา่ นกรณศี ึกษาต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำถามดา้ นล่าง เด็กชายโป้และเด็กหญิงแป้งไปรับจ้างขายของที่ตลาดนัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งมีนายสมชาย เป็นผ้นู ำสินค้าประเภทต่างๆ จากเจ้าของร้านที่ผลิตมาให้เดก็ ทั้งสองขาย โดยให้ค่าจ้างขายวนั ละ 300 บาท ของที่นำมาให้เด็กท้ังสองขายนั้น ได้แก่ ซีดีเพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง ซีดีคาราโอเกะ ซีดีภาพยนตร์ ไทย ภาพยนตร์จีน หนงั สืออ่านเลน่ หนังสือการ์ตูน แผ่นซีดีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และภาพจติ รกรรม ฝาผนัง ต่อมาวันหนึ่งโป้และแป้งถูกตำรวจจับ โดยตำรวจแจ้งข้อหาว่าโป้และแป้งจำหน่ายสิ่งของท่ีผิด กฎหมายลิขสิทธ์ิ และถามว่าโป้และแป้งนำส่ิงของเหล่านี้มาจากใคร เพราะส่ิงของท้ังหมดท่ีพวกเขา ขายน้นั เป็นสิง่ ของทผ่ี ิดกฎหมายทัง้ สน้ิ 1) โปแ้ ละแป้งทำผิดกฎหมายลิขสิทธ์ิในงานประเภทใดบ้าง จงบอกประเภทของลิขสิทธิ์และสงิ่ ของท่ีพบ
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษาต่อไปน้ี แล้วตอบคำถามด้านลา่ ง เด็กชายโป้และเด็กหญิงแป้งไปรับจ้างขายของที่ตลาดนัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซ่ึงมีนายสมชาย เป็นผนู้ ำสินค้าประเภทต่างๆ จากเจ้าของร้านท่ีผลิตมาให้เด็กท้ังสองขาย โดยให้ค่าจ้างขายวนั ละ 300 บาท ของท่ีนำมาให้เด็กท้ังสองขายน้ัน ได้แก่ ซีดีเพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง ซีดีคาราโอเกะ ซีดีภาพยนตร์ ไทย ภาพยนตร์จีน หนังสืออ่านเล่น หนังสือการต์ ูน แผ่นซีดีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และภาพจติ รกรรม ฝาผนัง ตอ่ มาวันหน่ึงโป้และแป้งถูกตำรวจจับ โดยตำรวจแจ้งข้อหาว่าโป้และแป้งจำหน่ายสิ่งของที่ผิด กฎหมายลิขสิทธ์ิ และถามว่าโป้และแป้งนำส่ิงของเหล่าน้ีมาจากใคร เพราะสิ่งของท้ังหมดท่ีพวกเขา ขายนน้ั เป็นสง่ิ ของทผ่ี ิดกฎหมายทั้งสิ้น 1) โป้และแป้งทำผิดกฎหมายลขิ สทิ ธิ์ในงานประเภทใดบา้ ง จงบอกประเภทของลขิ สิทธิแ์ ละสิง่ ของที่พบ 1. วรรณกรรม คอื แผ่นซดี ีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หนังสอื อ่านเลน่ หนังสอื การต์ นู 2. งานศิลปกรรม คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง 3. งานสง่ิ บันทกึ เสียง คือ ซีดเี พลงสตริง เพลงลูกทุง่ ซีดีคาราโอเกะ 4. งานภาพยนตร์ คอื ซึดภี าพยนตรไ์ ทย ภาพยนตร์จนี
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา 2 ความคดิ สร้างสรรค์ 3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............/................./................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32
1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ น่ื 3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย 4 ความมนี ำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน การมี ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ของนกั เรยี น ความ ฟงั คนอน่ื ตามทไี่ ด้รบั น้ำใจ การ 15 คิดเห็น มอบหมาย คะแนน ปรับปรงุ ผลงานกลุ่ม 321321321321321 ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............./.................../............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีสร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ กษัตริย์ โรงเรียน 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา 3. มีวินยั รับผิดชอบ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรียนจดั ขึน้ 4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบัตใิ นส่งิ ทถี่ ูกต้อง 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครวั 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั 7. รกั ความเป็นไทย 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 8. มีจิตสาธารณะ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เช่อื ฟังคำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ตงั้ ใจเรยี น 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสำเร็จ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน 8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรียน ลงชื่อ..................................................ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตบิ างครง้ั 30–40 พอใช้ ตำ่ กวา่ 30 ปรับปรงุ
แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ว 4.2 ม.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธใ์ิ นการ เผยแพร่ผลงาน รายการ ดีมาก (4) เกณฑ์การประเมนิ (ระดบั คุณภาพ) ปรบั ปรงุ (1) ระดับ ประเมิน คณุ ภาพ บอกประเภทของ ดี (3) พอใช้ (2) ไม่สามารถบอก 1. ประเภทของลขิ สิทธิ์ ลิขสิทธไิ์ ดถ้ กู ต้องดี ประเภทของลิขสิทธิ์ ดมี าก มาก บอกประเภทของ บอกประเภทของ ได้ถกู ตอ้ ง ลขิ สทิ ธไิ์ ด้ถกู ต้องดี ลิขสิทธิ์ได้ถกู ต้อง พอใช้ 2. การใช้สารสนเทศท่ผี ิด บอกวิธกี ารใช้ บอกวิธกี ารใช้ บอกวิธกี ารใช้ ไมส่ ามารถบอก ดี จรยิ ธรรม สารสนเทศทผ่ี ดิ สารสนเทศท่ผี ดิ สารสนเทศท่ผี ดิ วธิ ีการใช้สารสนเทศ พอใช้ จริยธรรมไดถ้ กู ตอ้ งดี จริยธรรมไดถ้ ูกต้องดี จริยธรรมไดถ้ กู ต้อง ทีผ่ ดิ จรยิ ธรรมได้ ปรับปรุง 3. ความสมบรู ณข์ อง มาก พอใช้ ถกู ต้อง ผลงาน ผลงานมีความ ผลงานมคี วาม ครบถว้ น สมบรู ณ์ ผลงานมีความ ผลงานมีความ 4. สง่ งานตรงเวลา ครบถว้ น สมบรู ณด์ ี คอ่ นข้างดี ครบถว้ น สมบรู ณด์ ี ครบถ้วน สมบรู ณ์ มาก ส่งภาระงานช้ากวา่ เป็นบางส่วน นอ้ ย กำหนด 1 วนั สง่ ภาระงานภายใน สง่ ภาระงานชา้ กวา่ สง่ ภาระงานชา้ กวา่ เวลา กำหนด 2 วัน กำหนดเกนิ 3 วันข้ึน ท่ีกำหนด ไป เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 - 16 ดมี าก 10 - 13 ดี 7 - 9 พอใช้ 1 - 6 ปรับปรงุ
หากล้มเหลวแต่ได้รับบทเรียนที่มีคุณค่า การล้มเหลว ครั้งนั้นหาใช่เรื่องเลวร้ายของชีวิตแต่อย่างใด นิ้วกลม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240