แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คาชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน และทา ลงในชอ่ งท่ีตรงกับช่องระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ-สง่ สาร ในการสือ่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ ภาษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสื่อสารทีเ่ หมาะสม มปี ระสทิ ธภิ าพ 1.4 เจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจดั และลดปัญหา ความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ ได้ 1.5 เลอื กรับและไมร่ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารดว้ ย เหตุผลและถกู ต้อง สรุปผลการประเมนิ 2. ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ในการคิด สงั เคราะห์ 2.2 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอย่าง สร้างสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้ 2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาเกีย่ วกับตนเองได้ อย่างเหมาะสม สรปุ ผลการประเมิน 3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปญั หาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ ในการแก้ปญั หา ทเ่ี ผชญิ ได้ 3.2 ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา 3.3 เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการ เปลี่ยนแปลงในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใชใ้ น การปูองกนั และแก้ไขปัญหา 3.5 สามารติดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั สรปุ ผลการประเมิน กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 75
สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 4. ความสามารถ 4.1 เรียนรูด้ ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใชท้ กั ษะ 4.2 สามารถทางานกลมุ่ รว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ ชีวิต 4.3 นาความรทู้ ี่ได้ไปใชป้ ระโยชนใ์ น ชวี ติ ประจาวัน 4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้ เหมาะสม 4.5 หลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ทส่ี ่งผล กระทบตอ่ ตนเอง สรุปผลการประเมิน 5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวยั ในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาอย่าง สร้างสรรค์ 5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี สรปุ ผลการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คุณภาพ ดมี าก - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ดี - พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 3 คะแนน พอใช้ - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ต้องปรบั ปรงุ - ไม่เคยปฏบิ ตั ิพฤตกิ รรม ให้ 1 คะแนน คะแนนตัดสินระดบั คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 18 – 20 ดีมาก 15 – 17 ดี 10 – 14 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 76
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วทาเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งว่างทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 1.1 ยนื ตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และ 3. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 4. ใฝเ่ รียนรู้ บอกความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหนา้ ที่ของนักเรียน ให้ ความร่วมมอื ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชิกใน ห้องเรียน 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และ เป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชมุ ชน 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัติตน ตามหลักของศาสนาและเปน็ ตวั อย่างทด่ี ีของศาสนิกชน 1.5 เขา้ ร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมท่ี เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรยี นและ ชมุ ชนจัดข้นึ ชน่ื ชมในพระราชกรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตรยิ แ์ ละ พระราชวงศ์ 3. ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั และโรงเรียน มคี วามตรงต่อเวลา ใน การปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวนั มคี วามรบั ผิดชอบ 4.1 ต้งั ใจเรยี น 4.2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมคี วามเพยี รพยายาม ในการเรียน 4.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ 4.4 ศกึ ษาค้นคว้า หาความรูจ้ ากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สือ่ เทคโนโลยตี า่ งๆแหล่งการเรียนรู้ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใชส้ ื่อได้อย่างเหมาะสม 4.5 บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสิ่งที่เรยี นรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 4.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ด้วยวธิ กี ารต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวัน กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 77
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 6. มุง่ ม่ันในการทางาน 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับ มอบหมาย 7. รักความเป็นไทย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้ 8.มจี ิตสาธารณะ งานสาเรจ็ 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและ ภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปนั สิ่งของ ให้ผูอ้ ื่น 8.3 รู้จักการดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ของโรงเรียน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างครง้ั กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 78
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ การจดั กิจกรรมเนอื้ หาใชว้ ธิ กี ารสอน แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ดังตอ่ ไปน้ี แผนที่ 1 เรือ่ ง ความรู้ความเขา้ ใจต่อชาตบิ ้านเมือง (ชัว่ โมงท่ี 1-2) 1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นโดยให้นกั เรียนดูภาพเกีย่ วกบั สถาบนั ชาติ และรว่ มกันวเิ คราะห์ ถงึ ความสาคัญของสถาบันชาติ ต่อสงั คมไทย 2. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลุ่ม ศกึ ษา คน้ คว้าข้อมลู เกีย่ วกบั สถาบันชาติ 3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น 4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เพอ่ื ใหเ้ กิดเชอื่ มโยง ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั สถาบนั ชาติ โดย รว่ มกันวเิ คราะหเ์ กยี่ วกบั ความสาคญั ความเปน็ มา ความหมาย และองค์ประกอบสาคัญของ สถาบันชาติ 5. นกั เรียนสรุป และแลกเปล่ียนเรียนรู้เนื้อหาร่วมกนั 6. ครอู ธิบายเติมเต็มเน้ือหาความรใู้ นส่วนที่นกั เรียนยังไม่เข้าใจ 7. ครแู นะนาให้นักเรียนคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ทห่ี ้องสมดุ และเว็บไซต์ทเี่ กย่ี วข้องกบั เร่ือง สถาบันชาติ 8. นักเรยี นบันทึกการเข้ารว่ มกจิ กรรมสาคญั เกีย่ วกับสถาบันชาติ ในแบบบนั ทึกการเข้าร่วมกิจกรรม สาคัญเก่ียวกับสถาบันชาติ แผนท่ี 2 เร่อื ง ยึดมั่นในศาสนา (ช่ัวโมงท่ี 3-4) 1. นักเรียนดูคลิปวีดิโอ เรือ่ งความหลากหลายในการนบั ถือศาสนาในประเทศไทย และรว่ มกนั แสดง ความคดิ เห็นเก่ียวกับแนวทางการอย่รู ว่ มกันอย่างสงบสขุ ของผู้ท่ีนับถือศาสนาท่ีแตกต่างกัน 2. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ เพอ่ื ศึกษา ค้นคว้า สืบคน้ ขอ้ มูลเกยี่ วกับความสาคัญของหลักธรรมใน ศาสนาท่ีตนนับถือ คุณธรรมการอยู่รว่ มกันอย่างสงบสุข และกจิ กรรมเกยี่ วกับประเพณแี ละวันสาคัญของไทย 3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ ราย เพ่ือให้เกดิ เช่อื มโยง ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความสาคัญของ หลักธรรมในศาสนาทีต่ นนับถือ คณุ ธรรมการอยู่รว่ มกันอยา่ งสงบสุข และกจิ กรรมเก่ยี วกับประเพณีและวนั สาคัญของไทย 5. นกั เรยี นสรปุ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เน้ือหาร่วมกัน 6. ครอู ธบิ ายเติมเตม็ เนื้อหาความรู้ในสว่ นท่ีนักเรยี นยังไม่เข้าใจ 7. ครูแนะนาใหน้ ักเรียนค้นคว้าเพมิ่ เติมที่หอ้ งสมดุ และเว็บไซตท์ ่เี กีย่ วขอ้ งกบั เรื่อง ความสาคัญของ หลกั ธรรมในศาสนาทตี่ นนับถือ คณุ ธรรมการอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสงบสุข และกิจกรรมเกี่ยวกับประเพณีและวัน สาคญั ของไทย 8. นกั เรียนรายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรมตามศาสนาทีต่ นนบั ถือ ในแบบรายงานผลการเข้าร่ กิจกรรมตามศาสนาทต่ี นนับถือ กลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 79
แผนที่ 3 เร่อื ง มน่ั คงในสถาบนั พระมหากษตั ริย์ (ชั่วโมงที่ 5-6) 1. นักเรียนดคู ลิปวิดโี อพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก แลว้ รว่ มกนั วเิ คราะห์ถึงคุณคา่ และความสาคญั ของ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. อาสาสมคั รนกั เรียนออกมาพดู ถงึ ความประทับใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกรู กิตสิ ริ สิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามินทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รชั กาลที่ 10 3. แบ่งนักเรียนออกเป็นกล่มุ รว่ มกนั นาเสนอแนวทางการแสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ การเขา้ ร่วมกจิ กรรมสาคัญของสถาบันพระมหากษตั ริย์ และ การสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระมหากษตั ริย์ 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน 5. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปและแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ถงึ แนวทางการแสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ การเขา้ รว่ มกิจกรรมสาคัญของสถาบันพระมหากษตั ริย์ และ การสานึกในพระมหา กรุณาธคิ ุณของพระมหากษัตรยิ ์ 6. นกั เรยี นบนั ทึกผลการเข้าร่วมกิจกรรมสาคัญเก่ียวกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ในแบบบันทกึ ผลการ เข้ารว่ มกจิ กรรมสาคัญเกี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ แผนที่ 4 ความเอ้ืออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตน (ชั่วโมงที่ 6-8) 1. นักเรียนดูคลปิ วิดีโอ โครงการจติ อาสา “เราทาความดี ดว้ ยหวั ใจ” 2. นกั เรียนดูตวั อย่างรปู ภาพเกยี่ วกบั ความเอ้ืออาทร “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรี สินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภมู ิพลราชวรางกูร กติ สิ ิรสิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราช วโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกล้าเจา้ อยูห่ วั รัชกาลท่ี 10 พระราชทานสิง่ ของชว่ ยเหลอื ให้กบั ประชาชนทป่ี ระสบภยั ” 3. นักเรยี นแสดงความรู้สึกต่อรปู ภาพดังกลา่ ว 4. นักเรยี นกลมุ่ เดิมร่วมกันศึกษาค้นควา้ และวเิ คราะหค์ วามหมาย ประโยชนแ์ ละความสาคญั ของ ความ เอ้ืออาทร แล้วสรุปลงในผงั ความคดิ 5. ครแู นะนาให้นักเรียนคน้ คว้าเพ่มิ เติมท่หี อ้ งสมุด และเว็บไซตท์ ีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั เรื่อง ความเอ้ืออาทร 6. นักเรียนเขยี นการปฏิบตั ิตนทแี่ สดงออกถึงความเอื้ออาทรตอ่ ครอบครัวและชุมชน ในแบบบันทึก กจิ กรรมจิตอาสา “เราทาความดี ดว้ ยหวั ใจ” 7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันจัดทาปูายนิเทศเก่ยี วกับสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยแ์ ละความ เออื้ อาทรต่อครอบครัวและชมุ ชน 8. นกั เรยี นแตล่ ะคนประเมินผลงานการจัดปูายนเิ ทศของเพ่ือนตามเกณฑป์ ระเมิน และการใช้ สญั ลกั ษณต์ ามท่ีกาหนด กลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.36 80
9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1) สือ่ การเรียนรู้ 1.1 รปู ภาพเกี่ยวกบั สถาบันชาติ 1.2 คลิปวิดโี อ เรื่อง ความหลากหลายในการนับถือศาสนาในประเทศไทย 1.3 คลิปวดิ โี อเรื่อง พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก 1.4 คลปิ วิดีโอโครงการจติ อาสา “เราทาความดี ดว้ ยหวั ใจ” 1.5 รูปภาพเกี่ยวกบั ความเอ้ืออาทร “ภาพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี- ศรีสนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมพิ ลราชวรางกูร กิตสิ ิริสมบรู ณอดุลยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราช- วโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี 10 พระราชทานสิ่งของชว่ ยเหลือใหก้ ับ ประชาชนทีป่ ระสบภยั ” 2) แหล่งการเรยี นรู้ 2.1 อนิ เทอร์เนต็ 2.2 ห้องสมุดโรงเรยี น กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 81
บันทกึ ผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมสาคัญเกี่ยวกบั สถาบันชาติ คาช้ีแจง ให้นักเรยี นบนั ทกึ ผลการเข้าร่วมกจิ กรรมสาคญั เกี่ยวกับสถาบนั ชาตลิ งในตาราง ลาดับท่ี วัน เดือน ปี สถานที่ กจิ กรรม ผลการเข้าร่วม รปู ภาพ 1 กจิ กรรม 2 3 4 5 6 7 8 กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 82
บันทกึ ผลการเข้าร่วมกจิ กรรมตามศาสนาที่ตนนบั ถือ คาช้แี จง นกั เรียนบันทึกผลการเข้าร่วมกิจกรรมตามศาสนาท่ตี นนบั ถือ แลว้ บันทกึ ลงในตาราง ลาดบั ท่ี วัน เดือน ปี สถานท่ี กิจกรรม ผลการเข้ารว่ ม รปู ภาพ 1 กิจกรรม 2 3 4 5 6 7 8 กลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 83
บนั ทกึ ผลการเข้าร่วมกจิ กรรมสาคัญเกยี่ วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ คาชแ้ี จง นักเรียนบันทึกผลการเขา้ รว่ มกิจกรรมสาคัญเก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ แล้วบันทึก ลงในตาราง ลาดับท่ี วัน เดอื น ปี สถานท่ี กจิ กรรม ผลการเขา้ ร่วม รปู ภาพ 1 กจิ กรรม 2 3 4 5 6 7 8 กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 84
ผงั ความคดิ เรื่อง ความเออ้ื อาทร คาชี้แจง ให้นกั เรยี นศึกษาค้นควา้ ความหมาย ประโยชน์ และความสาคญั ของความเอ้ืออาทรสรปุ ลงในผงั ความคดิ ตค ความหมายของคาว่าเออื้ อาทร ความสาคัญของความเออ้ื อาทร ความเอื้ออาทร ประโยชน์ของความเอ้อื อาทร กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 85
แบบบันทึกกจิ กรรมจิตอาสา \" เราทาความดี ดว้ ยหวั ใจ” คาช้แี จง นกั เรยี นบนั ทกึ การเข้าร่วมกิจกรรมจติ อาสา แล้วบนั ทกึ ลงในตาราง วนั เดือน ปี รายการปฏิบัติ ช่วั โมง สถานที่ ผลที่เกดิ ผลที่เกดิ กับ ลายมอื ช่อื กบั ผูป้ ฏบิ ตั ิ สังคมสาธารณ ผู้รบั รอง ประโยชน์ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 86
-ตวั อย่าง- หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เร่อื ง มพี นื้ ฐานชวี ติ ท่มี น่ั คง รหสั วชิ า........... รายวิชา ทาดตี ามรอยพ่อ สานตอ่ พระราชปณธิ าน ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่.... กลุ่มสาระการเรยี นรู้............ปีการศกึ ษา...... ภาคเรยี นท่ี........เวลา 10 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต .................................................................................................................................................................... 1.ผลการเรยี นรู้ 1)รจู้ กั แยกแยะสิ่งท่ีผดิ – ชอบ / ชัว่ – ดี 2)ปฏิบัตแิ ต่ส่งิ ท่ชี อบท่ีดงี าม 3)ปฏเิ สธส่ิงที่ผดิ สง่ิ ท่ีชว่ั 4)ชว่ ยกันสรา้ งคนดีให้แกบ่ ้านเมือง 2.สาระสาคญั การมพี ้ืนฐานชีวติ ท่ีมั่นคงดว้ ยการร้จู ักแยกแยะ ส่ิงทีผ่ ิด-ชอบ/ชั่ว-ดี ปฏบิ ัติแต่ส่ิงท่ชี อบที่ดีงามและ ปฏเิ สธส่ิงทผ่ี ิดทีช่ ่ัว ย่อมนาไปสู่การเปน็ พลเมืองดีของสังคมและประเทศชาติ 3.สาระการเรยี นรู้ 1) ความหมาย ความสาคญั ของสิ่งที่ผดิ – ชอบ / ชั่ว – ดี 2) พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก ผิด – ชอบ / ช่วั – ดี 3) ทกั ษะในการปฏิบตั ิตนเป็นคนดี 3.1 การตัดสนิ ใจ 3.2 การแกป้ ัญหา 4) ความคดิ สร้างสรรค/์ การแกป้ ัญหา 5) การคิดวเิ คราะห/์ ปญั ญา 6) การสอื่ สารท่ไี ด้ผล 7) ความสมั พันธก์ ับคนอ่ืน 8) การสานึกถงึ ตนเอง/การมีสติ 9) ความตง้ั มั่นในจดุ ยนื ของตนโดยไม่ก้าวรา้ ว (Assertiveness) 10) การปฏเิ สธสิ่งทีผ่ ิด ส่ิงทช่ี ัว่ โดยใช้ทกั ษะต่อไปนี้ 10.1 หลกั ในการปฏเิ สธสงิ่ ท่ผี ิด สง่ิ ท่ีชว่ั 10.2 ทักษะการปฏบิ ตั ติ นเปน็ คนดี 11) คนดขี องสังคมและประเทศชาติ 12) การเสริมสรา้ งคนดใี นสงั คม 13) แนวนโยบายของรัฐในการสร้างคนดีในสงั คม 14) บุคคลตวั อยา่ ง คนดใี นสังคมไทย และโลก 15) โครงการ/กจิ กรรมที่เสรมิ สร้างคนดใี นสังคม เชน่ โครงการแผนทค่ี นดี วถิ ีคนกล้า โครงการตน้ กลา้ ความดี ฯลฯ กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 87
4.สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2) ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3) มีวินยั 4) ใฝเุ รียนรู้ 5) อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6) มุ่งมน่ั ในการทางาน 7) มีจติ สาธารณะ 6.การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 6.1) ชน้ิ งาน/ภาระงาน ระหวา่ งจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ใบงานที่ 1 ตารางวเิ คราะห์สง่ิ ใด ผิด สิง่ ใดชอบ ในชวี ิตประจาวนั 2) ใบงานที่ 2 ตารางวิเคราะหส์ ิง่ ที่ผิด ชอบ ชว่ั ดี โดยใช้กระบวนการคดิ แบบอรยิ สัจ 4 (กาหนดปญั หา หาทางเลอื กในการแก้ปัญหา กาหนดปณิธานในการทาความดี ออกแบบกิจกรรมใน การทาความด)ี 3) ใบงานที 3 สบื คน้ คนดี 4) ใบงานท่ี 4 ออกแบบกจิ กรรมสง่ เสรมิ คนดีในสงั คม แผนท่ี ส่งิ ทีจ่ ะประเมนิ วธิ ีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ 1 ใบงานที 1 ตาราง การสงั เกต แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ 2 วิเคราะหส์ ิง่ ใด ผิด สิง่ ใด ผ่านเกณฑ์ ชอบ ในชวี ติ ประจาวัน 2 ใบงานที 2ตารางวเิ คราะห์ ใบงาน แบบประเมนิ ใบงาน ระดบั คุณภาพ 2 สงิ่ ทผี่ ิด ชอบ ช่ัวดี โดยใช้ ผา่ นเกณฑ์ กระบวนการคดิ แบบ อริยสจั 4(กาหนดปัญหา หาทางเลือกในการ กลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 88
แผนท่ี ส่ิงทีจ่ ะประเมนิ วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ แกป้ ัญหา กาหนดปณิธาน ในการทาความดี ออกแบบกิจกรรมในการ ทาความดี) 3 ใบงานที 3 สบื คน้ คนดี ใบงาน แบบประเมินใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4 ใบงานที่ 4 ออกแบบ ใบงาน กิจกรรมสงเสริมคนดี แบบประเมินใบงาน ระดบั คุณภาพ 2 ในสงั คม ผา่ นเกณฑ์ 6.2) ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด 1) แผนโครงการช่วยสร้างคนดีให้แกบ่ ้านเมอื ง 2) กิจกรรมรณรงคต์ ่อต้านสิง่ ผดิ สง่ิ ท่ชี ั่ว เกณฑก์ ารประเมิน 1. แบบสงั เกต 2. แบบประเมนิ ใบงาน เกณฑก์ ารประเมิน ใบงานท่ี 1 ตารางวเิ คราะห์สิ่งใด ผดิ สง่ิ ใดชอบ ในชีวติ ประจาวัน ระดับคณุ ภาพ ลักษณะของงาน 4 (ดีมาก) - วิเคราะห์สงิ่ ทผ่ี ดิ - ชอบ / สง่ิ ชว่ั –ดถี กู ต้องตรงประเด็น - มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ - สรุปใจความได้สาระครอบคลุมเนือ้ หา - สามารถนาไปเปน็ ตวั อย่างที่ดี 3 (ดี) - วเิ คราะหส์ ง่ิ ท่ีผดิ - ชอบ / สิ่งชว่ั –ดีถกู ต้องตรงประเด็น - มคี วามคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ - สรปุ ใจความไดส้ าระบา้ ง แต่ครอบคลมุ เน้ือหาน้อย 2 (ผา่ น) - วเิ คราะห์สง่ิ ท่ีผิด- ชอบ / สิง่ ชว่ั –ดถี กู ตอ้ งตรงประเดน็ - มคี วามคดิ ริเร่ิมยังไม่สรา้ งสรรค์ - สรปุ ใจความได้สาระแต่ยงั ไม่ครอบคลุมเนื้อหา 1 (ปรบั ปรุง) - วเิ คราะห์ส่งิ ท่ผี ิด- ชอบ / สง่ิ ชว่ั –ดีถูกตอ้ งตรงประเดน็ - ไมม่ ีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ - สรปุ ใจความไม่ครบ ไม่ครอบคลุมเนอื้ หา กล่มุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 89
ใบงานที่ 2 ตารางวเิ คราะห์สิ่งทผ่ี ดิ ชอบ ชวั่ ดี โดยใช้กระบวนการคดิ แบบอริยสจั 4 (กาหนดปญั หา หาทางเลือกในการแกป้ ัญหา กาหนดปณิธานในการทาความดี ออกแบบกจิ กรรม ในการทาความดี) ระดบั คณุ ภาพ ลกั ษณะของงาน 4 (ดมี าก) - วเิ คราะหส์ ิ่งท่ีผิด- ชอบ / สงิ่ ชว่ั –ดถี ูกตอ้ งตามกระบวนการคิด 3 (ดี) แบบอริยสจั 2 (ผ่าน) - มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ - สรปุ ใจความได้สาระครอบคลุมเน้ือหา 1 (ปรบั ปรุง) - สามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ - สามารถนาไปเป็นตัวอย่างที่ดี - วิเคราะหส์ ง่ิ ท่ีผิด- ชอบ / สิ่งชว่ั –ดถี กู ตอ้ งตามกระบวนการคดิ แบบอริยสัจ - มคี วามคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ - สรุปใจความไดส้ าระครอบคลุมเน้ือหา - สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ - วิเคราะห์สิ่งท่ผี ิด- ชอบ / สง่ิ ชว่ั –ดไี ม่ครบตามกระบวนการคิด แบบอรยิ สัจ - มีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ - สรุปใจความไดส้ าระครอบคลุมเนื้อหา - สามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้บ้างเล็กนอ้ ย - วิเคราะห์สิง่ ท่ีผดิ - ชอบ / สิ่งชว่ั –ดไี ม่ครบตามกระบวนการคิด แบบอริยสัจ - มคี วามคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ - สรปุ ใจความไม่ครอบคลมุ เน้ือหา - ไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 90
ใบงานที 3 สืบคน้ คนดี ระดับคณุ ภาพ ลักษณะของงาน 4 (ดีมาก) - สืบค้นขอ้ มลู คดั เลอื กบคุ คลตัวอย่างในชุมชนโดยสรปุ ประวัติผลงาน 3 (ดี) และคตปิ ระจาใจได้ตรงประเด็นทก่ี าหนด 2 (ผา่ น) - ภาษาท่ใี ชถ้ กู ต้อง - มีภาพประกอบกจิ กรรมครบถ้วน 1 (ปรับปรุง) - นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ - สามารถนาไปเปน็ ตวั อย่างทด่ี ี - สืบค้นขอ้ มูลคัดเลือกบุคคลตวั อย่างในชมุ ชนโดยสรุปประวตั ิผลงาน และคติประจาใจได้ตรงประเด็นทีก่ าหนด - ภาษาทใ่ี ชถ้ ูกตอ้ ง - มภี าพประกอบกจิ กรรมครบถ้วน - นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ - สบื ค้นข้อมูลคดั เลือกบุคคลตัวอย่างในชมุ ชนโดยสรปุ ประวตั ิผลงาน และคติประจาใจไดต้ รงประเด็นทก่ี าหนด - ภาษาท่ใี ชเ้ กดิ ความสบั สน - มภี าพประกอบกจิ กรรมไม่ครบ - นาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ - สบื ค้นขอ้ มูลคัดเลือกบคุ คลตัวอยา่ งในชุมชนโดยสรุปประวัติผลงาน และคติประจาใจไดไ้ ม่ตรงประเด็น - ภาษาท่ใี ชเ้ กิดความสบั สน - ไมม่ ภี าพประกอบกจิ กรรม - ไมส่ ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวนั ได้ กลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 91
ใบงานท่ี 4 ออกแบบกจิ กรรมสง่ เสริมคนดใี หแ้ กบ่ า้ นเมือง (โครงการชว่ ยสรา้ งคนดใี ห้แก่บา้ นเมอื ง) ระดับคณุ ภาพ ลกั ษณะของงาน 4 (ดมี าก) - บันทกึ ได้ตรงประเด็นท่ีกาหนดครบ 3 (ดี) 1.หลักการ บอกเหตผุ ลทต่ี ้องจดั ทาโครงการ 2.วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ( การปฏิบัตกิ ารมีใครบา้ ง) 2 (ผา่ น) 3.สถานที่ปฏบิ ตั ิโครงการ ( ใชก้ จิ กรรมใดในการดาเนินการ จัดทาโครงการ ) 4.วนั เวลาในการปฏิบตั ิงาน ( เรม่ิ และเสรจ็ สน้ิ โครงการเมื่อใด) 5.งบประมาณในการดาเนนิ งาน ( ใช้งบประมาณหรอื ไม่อย่างไร) 6.วิธดี าเนนิ การคน้ ควา้ ( ใชว้ ิธีการาข้อมลู ทาอยา่ งไรบ้าง) 7.เครือ่ งมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ที่ใช้มอี ะไรบ้าง 8.ผลท่คี าดว่าจะได้รับ - ภาษาที่ใชถ้ ูกต้อง - มีความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ - สามารถนาไปเปน็ ตัวอย่างท่ดี ี - บันทกึ ไดต้ รงประเดน็ ทก่ี าหนดครบ 1.หลักการ บอกเหตุผลทตี่ ้องจัดทาโครงการ 2.วตั ถุประสงค์ของโครงการ ( การปฏบิ ัตกิ ารมีใครบา้ ง) 3.สถานที่ปฏบิ ัตโิ ครงการ ( ใชก้ ิจกรรมใดในการดาเนนิ การ จดั ทาโครงการ ) 4.วนั เวลาในการปฏบิ ัติงาน ( เร่ิมและเสร็จสน้ิ โครงการเม่ือใด) 5.งบประมาณในการดาเนนิ งาน ( ใชง้ บประมาณหรือไม่อย่างไร) 6.วธิ ีดาเนินการคน้ ควา้ ( ใช้วธิ กี าราขอ้ มลู ทาอย่างไรบ้าง) 7.เคร่อื งมือ วสั ดุ อปุ กรณ์ ท่ีใช้มอี ะไรบา้ ง 8.ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ บั - ภาษาทีใ่ ชถ้ กู ตอ้ ง - มีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ - บันทึกไดต้ รงประเดน็ ที่กาหนด5 ขอ้ 1.หลักการ บอกเหตผุ ลท่ตี ้องจัดทาโครงการ 2.วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ ( การปฏิบัตกิ ารมีใครบ้าง) 3.สถานทป่ี ฏบิ ตั โิ ครงการ ( ใชก้ ิจกรรมใดในการดาเนนิ การ จัดทาโครงการ ) 4.วัน เวลาในการปฏบิ ัตงิ าน ( เร่มิ และเสร็จส้ินโครงการเม่ือใด) กลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.36 92
ระดับคณุ ภาพ ลักษณะของงาน 1 (ปรับปรุง 5.งบประมาณในการดาเนนิ งาน ( ใช้งบประมาณหรอื ไม่อย่างไร) 6.วิธดี าเนินการคน้ คว้า ( ใชว้ ธิ ีการาขอ้ มลู ทาอยา่ งไรบ้าง) 7.เคร่อื งมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ที่ใชม้ อี ะไรบ้าง 8.ผลที่คาดว่าจะได้รบั - ภาษาทีใ่ ช้ไม่ถูกต้อง - มคี วามคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ - บนั ทกึ ไดต้ รงประเดน็ ทกี่ าหนด3 – 5 ข้อ 1.หลักการ บอกเหตุผลท่ีต้องจัดทาโครงการ 2.วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ ( การปฏิบตั ิการมีใครบ้าง) 3.สถานทป่ี ฏิบัติโครงการ ( ใชก้ ิจกรรมใดในการดาเนนิ การ จดั ทาโครงการ ) 4.วนั เวลาในการปฏบิ ตั งิ าน ( เรม่ิ และเสรจ็ ส้นิ โครงการเมื่อใด) 5.งบประมาณในการดาเนินงาน ( ใชง้ บประมาณหรอื ไม่อย่างไร) 6.วธิ ีดาเนนิ การค้นคว้า ( ใชว้ ธิ ีการาข้อมูลทาอยา่ งไรบ้าง) 7.เคร่อื งมือ วสั ดุ อปุ กรณ์ ท่ีใช้มอี ะไรบ้าง 8.ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ - ภาษาท่ีใชไ้ ม่ถูกต้อง - ไมม่ ีความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 93
8.กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนการเรยี นรูท้ ี่ 1 กจิ กรรมActive Learing ( แยกแยะ ผดิ – ถกู ) จานวน 3 ชั่วโมง เทคนิคการเรยี นรู้ด้วยตนเองและเรียนรู้กลมุ่ โดยใชเ้ ทคนิคการเรยี นรู้แบบหมวก 6 ใบ ของ เดอโบโน ( Six Thinking Hats ) กจิ กรรมที 1 หมวกทฉี่ นั ชอบ นาส่บู ทเรยี น ครใู ห้นักเรียนเลือกหมวกสตี ่าง ๆ ที่ตนเองชอบ แลว้ รวมกล่มุ หมวกสีเดียวกนั ซกั ถาม นักเรียนเกยี่ วกบั ความรูส้ ึก เหตุผลทเี ลอื กหมวกสีตา่ ง ๆ กจิ กรรมที 2: สาธิตความสาคญั ของหมวก โดยครเู ชอ่ื มโยงใหท้ ราบเก่ยี วกับการใชห้ มวก ท่ีมีความสมั พันธ์กับความคิดแตล่ ะแบบ พร้อมกบั อธิบาย แนะนาตัวอยา่ ง คาถาม เพ่ือสร้างความเขา้ ใจ ครูอธิบายบทบาทของแต่ละคนในกจิ กรรมการเรียนรู้ แบบหมวก 6 ใบ หมวกสนี ้าเงิน : เปน็ ผู้นาและเรมิ ต้นอภปิ ราย มบี ทบาทในการกาหนดขน้ั ตอนการอภิปราย หมวกสีเขยี ว : การคิดทีหลากหลาย หมวกสเี หลือง : สนับสนุนการคิดสร้างสรรค์ ( สนบั สนุนหมวกสีเขยี ว ) หมวกสีขาว : เสนอขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ กลาง ๆ ข้อเท็จจริงน้ัน ๆ หมวกสีแดง : แสดงออกทางอารมณ์ ความรสู้ ึกของตนท่ีบคุ คลน้ันแสดงออกมา หมวกสีดา : แสดงความคิด บทบาทใหเ้ กิดความสมดุลตอ่ ประเดน็ อภปิ ราย กจิ กรรมที 3 ขัน้ ฝึกปฏิบัติ การเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ ใช้หมวกคิดจากสถานการณ์หรือข้อคิดท่ีกาหนดให้ โดยบทบาทให้ นกั เรยี นไดฝ้ กึ คดิ โดยให้ครอบคลมุ หมวก ตามลาดับเปูาหมายทพี่ ฒั นา 1. นาอภปิ ราย หมวกสีนา้ เงิน : เป็นผู้นาเรมิ่ ต้นของเรื่อง และสถานการณ์ที่ศึกษา แล้วกาหนดกติกา ขั้นตอน การอภปิ ราย นาไปสู่เปูาหมายของการศึกษา 2. ความคิดเห็นท่ีหลากหลาย หมวกสีเขยี ว : ความคิดเห็นเช่นใดทเ่ี ราควรคดิ เราจะเอาชนะจุดอ่อนไดอ้ ยา่ งไร ทางเลือก คือ อะไร การออกแบบที่มีความเปน็ ไปได้คอื อะไร ความเป็นไปไม่ได้ คืออะไร กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.36 94
3. สะท้อนความคดิ ทหี ลากหลาย หมวกสเี หลอื ง : จดุ ท่ีดี คืออะไร สนบั สนนุ ความคิดสรา้ งสรรค์ หมวกสีขาว : เรารู้อะไรบา้ งเกยี่ วกับสถานการณ์ ข้อมลู ข้อเท็จจริง ความเปน็ จรงิ หมวกสีแดง : นกั เรยี นรสู้ กึ อยา่ งไร ต่อกรณีศึกษาน้ี เสนอแนวทางความรสู้ ึกต่อข้อคิดเห็นของบุคคลท่ีถกู แสดงออกมา หมวกสีดา : จุดอ่อนคืออะไร อะไรคอื สงิ่ ทย่ี งุ่ ยากและอนั ตราย อะไรคือสงิ่ ที่เปน็ ปญั หาอันตราย กิจกรรมที 4: ขน้ั หารายละเอียดเพม่ิ เติม เป็นการร่วมสนทนาเกี่ยวกบั รายละเอยี ดเพ่ิมเติม โดยใหน้ ักเรียนเห็นความชัดเจนสิ่งทีค่ ิด ( เพื่อปูองกันการสบั สน ) เช่น ความผดิ หมายถึงอะไร ความถกู หมายถึงอะไร ( โดยพิจารณาในกรอบของทางกฎหมาย และทางจริยธรรม ) เพิ่มเติมการพิจารณา เพ่ือตัดสนิ ใจ กจิ กรรมท่ี 5 : ขน้ั สรปุ นกั เรียนใช้กระบวนการกล่มุ นาเสนอพฤติกรรมบุคคลในชีวิตประจาวนั เป็นการทบทวนและ เรียบเรยี งเพ่ือเปน็ เกณฑใ์ นการคดิ และตดั สินใจ ที่เกิดจากความคิดวา่ สง่ิ ใด ผดิ ส่ิงใดชอบ / ส่ิงใดชว่ั – สิง่ ใดดแี ล้วสรปุ ลงในตารางใบงานท่ี 1ตารางวเิ คราะห์สง่ิ ใด ผิด ส่ิงใดชอบ / ส่ิงใดชว่ั – ส่ิงใดดีในชีวติ ประจาวนั แผนการเรยี นร้ทู ี่ 2 : ใช้เทคนคิ การเรียนรเู้ น้นกระบวนการคดิ แก้ปญั หาและพฒั นาทักษะโดยใช้เทคนคิ การจัดการแบบอรยิ สจั 4 ( วถิ แี หง่ ปัญญา ) และเทคนิคการเรียนรูโ้ ดยใชผ้ ังปญั ญา ( Mind Mapping ) จานวน 3 ชัว่ โมง กิจกรรมที 1: ความจรงิ ท่คี นไทยรบั ไม่ได้ ขั้นนาส่บู ทเรียน : ครหู ยิบยกขอ้ เท็จจรงิ ทเี่ กิดขึน้ ในสงั คมไทย จนกลายเป็นสญั ลักษณ์ในสายตาของ ชาวตา่ งชาติ - ประเทศไทย ติด 1 – 10 ของประเทศทีม่ ีคอรัปช่นั ในสงั คมไทย ครซู ักถามความคิดเหน็ นักเรียนเก่ยี วกับปญั หาคอรัปช่ัน ความรุนแรง และผลกระทบโดยทั่วไป ดงั น้ี 1. ปัญหานม้ี สี าเหตมุ าจากอะไร 2. ปญั หานีก้ ระทบต่อตนเองอยา่ งไร ครเู ชอ่ื มโยงกรณีตัวอยา่ งนี้กบั ความสาคัญของการตัดสินใจในสงิ่ ท่ี ผิด - ชอบ / ชวั่ – ดี ในชวี ติ ประจาวนั ที่จะต้องมีทักษะในการตดั สินใจและแกป้ ญั หา กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 95
ขน้ั ที 2 อริยสัจ : หาหนทางทเี่ หมาะสม ครูเชอื่ มโยง แบ่งกลมุ่ นักเรียนเป็น 3 กลมุ่ เพื่อกาหนดและหาทางออกโดยใชก้ ระบวนการคดิ แบบ อริยสัจ โดยมีภารกจิ ทม่ี งุ่ สเู่ ปูาหมาย ดังน้ี 1.วิถีปญั หา ผลกระทบในสง่ิ ท่ี ผิด - ชอบ / ชั่ว – ดี ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ 2. เสนอแนะ และเลือกเพื่อจัดกจิ กรรมที่ตอต้านในส่งิ ที่ ผดิ - ชอบ / ชว่ั – ดี 3. เลอื กปฏิบตั ิ เพอ่ื ปฏิเสธ ในส่งิ ท่ี ผิด - ชอบ / ช่ัว – ดี ขนั้ ตอนอรยิ สัจ ดังนี้ อรยิ สัจ ขน้ั ตอนการสอน 1. ทกุ ข์ วิเคราะห์ปญั หาว่าส่งิ ใด 1.ข้ันกาหนดปญั หา ( ข้นั ทุกข์ ) เปน็ ปัญหาทแี่ ทจ้ ริง นกั เรยี นใช้กระบวนการกลมุ่ ศึกษาปัญหาท่เี กิดข้ึนแล้วกาหนดวา่ ส่ิงใด คือ 2. สมทุ ัย ปญั หาวา่ สง่ิ ใด คือปญั หาที่แท้จริง 3. นโิ รธ ข้นั ตอนการสอน 2. ขั้นตัง้ สมมตุ ิฐาน ( ข้ันสมุทัย ) 4. นิโรธ - นกั เรียนใช้กระบวนการกล่มุ จาแนกปัญหาน้นั มีอะไรบา้ ง - ครชู ่วยให้นกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจว่าในการแกป้ ญั หาน้นั ๆ ถา้ กาจดั หรอื ขจดั ตน้ ตอ หรือแกท้ ส่ี าเหตุและปัญหาเหลา่ นน้ั -ครชู ว่ ยให้นกั เรยี นคิดว่า ในการแก้ปัญหาท่สี าเหตุนั้นอาจกระทา อะไรได้บา้ ง โดยกาหนดใหเ้ ป็นข้อ ๆ โดยครา่ ว ๆ 3.ขน้ั การทดลองวเิ คราะห์และเก็บข้อมูล (นิโรธ ) -นักเรียนใช้กระบวนการกลมุ่ วเิ คราะหผ์ ลกระทบในสิ่งท่ี ผิด - ชอบ / ช่วั – ดี ตอ่ ตนเอง สงั คม และประเทศชาติ -โดยนกั เรยี นนาผลการวิเคราะห์มาสรุปในรปู แบบ Mind Mapping ชใ้ี ห้เห็นถงึ ความเชอ่ื มโยงของปญั หา โดยนกั เรียนใชข้ ้อมูล อ้างอิงจากขอ้ มูลใน อนิ เทอรเ์ นต ประกอบเหตุผลเชอื่ มโยง 3.ขัน้ การทดลองวิเคราะห์และเก็บขอ้ มลู (นโิ รธ ) -นกั เรยี นใชก้ ระบวนการกลุ่ม วิเคราะห์ผลกระทบในสิ่งท่ี ผิด - ชอบ / ชั่ว – ดี ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ -โดยนักเรยี นนาผลการวิเคราะหม์ าสรุปในรูปแบบ Mind Mapping ช้ีใหเ้ ห็นถงึ ความเชอ่ื มโยงของปญั หา โดยนกั เรยี นใชข้ ้อมลู อ้างอิงจากข้อมูลใน อินเทอร์เนตประกอบเหตุผลเชอื่ มโยง กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.36 96
อริยสจั ข้ันตอนการสอน 5. มรรค 4.ข้นั วิเคราะห์ข้อมลู และสรุปผล (มรรค ) -นกั เรียนใช้กระบวนการกลมุ่ วิเคราะห์ทางเลือก / แนวทางแก้ปัญหาที่ หลากหลาย หรือเช่ือมโยงการแก้ปัญหาแล้วสรุปทางเลือก พร้อมท้งั วิเคราะห์ ข้อดี – ขอ้ เสยี ของแตล่ ะทางเลอื ก -นกั เรียนเลอื กและออกแบบกิจกรรมเพ่ือรณรงค์ต่อต้านสิ่งที่ ผิด - ชอบ / ชัว่ – ดี ของขา้ พเจ้า -นักเรียนสรา้ งปณิธาน “ฉันจะเป็นคนดี “ เพอ่ื กาหนดเป็นแนวทางปฏบิ ตั ติ ้งั มนั่ ในการทาแตส่ ่งิ ทีด่ ี -นกั เรยี นปฏบิ ัติความดีตามปณิธานที่บนั ทกึ ความดีของตนเองในชีวิตประจาวัน -นกั เรยี นบันทกึ ผลการเรียนรู้ตามข้นั ตอนของอริยสัจลงใน ใบงานที่ 2 วิเคราะห์ สงิ่ ทผ่ี ดิ - ชอบ / ชว่ั – ดี แผนการเรยี นรทู้ ี่ 3: ชว่ ยกันสรา้ งคนดีแก่บา้ นเมอื ง ใชเ้ ทคนิคการเรยี นรู้แบบโครงการ ( Project Metod) จานวน 3 ชวั่ โมง ข้นั ตอนการเรียนรู้ ขน้ั นาเสนอ : 1.นักเรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอแนวทางในการปฏบิ ตั ิความดที ่บี ันทึกไว้ ( ท่ีตนเองประทบั ใจ ) และ สามารถแก้ไขหรือสง่ เสริมให้เป็นคนดี หรือสนับสนนุ ให้เป็นคนดี ( คนละ 5 กิจกรรม ) 2.นักเรียนสบื ค้นหาข้อมูล บคุ ลคลในชุมชนท่ีเปน็ แบบอย่างของการทาความดี นาเสนอ หนา้ ชน้ั เรยี น ในประเด็นสาคัญ ดังน้ี 1.ช่อื 2.ประวตั คิ รอบครัว 3.ประวตั คิ วามดงี าม 4.แบบอย่างความดงี ามเปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชีวิต 2.ขั้นกาหนดความมุ่งหมาย 1.คัดเลือกบุคคลท่ีเปน็ ตัวอย่างทีด่ ีเพือ่ สง่ เสริมสร้างคนดใี ห้แก่บา้ นเมือง มา 1 คน 2.กาหนดจุดมุ่งหมายของกจิ กรรมช่วยกันสรา้ งคนดีแกบ่ า้ นเมือง 3. ขนั้ วางแผน มีขอบขา่ ยภายในกลมุ่ ชว่ ยกนั วางแผนดาเนนิ การอยา่ งไร 1. ข้นั กจิ กรรมท่ีทา 2. หลักการ บอกเหตุผลทต่ี ้องจดั ทาโครงการ 3. วตั ถุประสงคข์ องโครงการ ( การปฏบิ ัติการมีใครบ้าง) 4. เจ้าของโครงการ ( ผจู้ ดั ทาโครงการมใี ครบา้ ง ) 5. สถานทป่ี ฏิบัตโิ ครงการ ( ใชก้ จิ กรรมใดในการดาเนนิ การจัดทาโครงการ ) กลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 97
6. วัน เวลาในการปฏิบตั งิ าน ( เริม่ และเสรจ็ สิน้ โครงการเมื่อใด) 7. งบประมาณในการดาเนินงาน ( ใช้งบประมาณหรือไมอ่ ย่างไร) 8. วิธดี าเนนิ การค้นคว้า ( ใช้วธิ กี าราข้อมูลทาอย่างไรบา้ ง) 9. เครอ่ื งมือ วัสดุ อุปกรณ์ ท่ใี ช้มีอะไรบ้าง 10. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 4. ขน้ั ดาเนินงาน เปน็ ข้นั ทดี่ าเนนิ ตามโครงการที่วางแผนใชแ้ ต่ละกลุ่ม 5.ขน้ั ประเมินผล เปน็ ท่ีนกั เรยี นประเมินวา่ โครงการนั้นจะบรรลุจดุ มงุ่ หมายหรือไม่ และ ไดป้ ระโยชนอ์ ะไร 6. ขน้ั ตดิ ตามผล เปน็ ขน้ั การตดิ ตามผลวา่ จะตดิ ตามผลโครงการอยา่ งไร เพ่อื ให้งานดยี ่งิ ข้ึน แผนการเรียนรทู้ ่ี 4 : จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อตา้ นส่ิงทผี่ ิด 1. นักเรยี นแต่ละกลุม่ จดั กจิ กรรมรณรงค์ต่อต้านส่งิ ทผ่ี ิด 2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั ประเมินการจัดกิจกรรม 9.สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1) สอ่ื การเรยี นรู้ 1.1) ใบงาน 1.2) ตัวอย่างสถานการณ์ 1.3) แบบบันทกึ ความดี 1.4) แบบประเมิน 2.)แหลง่ การเรียนรู้ 2.1) อินเตอรเ์ นต 2.2) ห้องสมุด 2.3) แหล่งเรียนรชู้ ุมชน กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 98
ใบงานท่ี 1 ตารางวเิ คราะห์ส่ิงใดผิด สงิ่ ใดชอบ ในชีวิตประจาวัน พฤติกรรมในชวี ิตประจาวนั พฤติกรรม ผดิ ชอบ ชัว่ ดี 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 99
ใบงานท่ี 2 ตารางวิเคราะห์ส่งิ ท่ผี ิด ชอบ ช่ัวดี โดยใช้กระบวนการคิดแบบอริยสจั 4(กาหนดปัญหา หาทาง เลอื กใน การแกป้ ัญหา กาหนดปณธิ านในการทาความดี ออกแบบกิจกรรมในการทาความดี) อริยสัจ ขัน้ ตอนอริยสจั เหตุผล 1.ทุกข์ 1.ขั้นกาหนดปญั หา เพราะ ................................. 2.สมทุ ัย 3.นโิ รธ 1.1 ปัญหาท่พี บ จากกรณศี ึกษา คือปัญหา ............................................ ใดบา้ ง ............................................ .............................................................................. ............................................ .............................................................................. ............................................ 1.2 ปญั หาที่แทจ้ ริง จากกรณศี ึกษา คืออะไร ............................................ .............................................................................. ............................................ .............................................................................. ............................................ 2.ขัน้ ตอนการตั้งสมมุติฐาน เราสามารถแกป้ ัญหาโดย 2.1 ปัญหา .......................................................... การทาอะไรไดบ้ ้าง สาเหตุของปัญหา ............................................ .............................................................................. ............................................ .............................................................................. ............................................ 3.ขัน้ ทดลอง วเิ คราะห์และเก็บข้อมลู 3.1 นกั เรียนใช้กระบวนการกลมุ่ วเิ คราะห์สงิ่ ทผี่ ิด – ชอบ / ชวั่ –ดี ตอ่ ตนเอง สังคมและประเทศโดยสรปุ เป็น Mind Mapping ดงั นี้ สาเหตุ ผลกระทบตนเอง ปญั หา.............. ผลกระทบต่อสังคม . ผลกระทบต่อประเทศชาติ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.36 100
อริยสจั ข้ันตอนอริยสจั เหตผุ ล 4. มรรค 1.นกั เรยี นใช้กระบวนการกลุม่ วิเคราะหท์ างเลือก / แนวทางการแกป้ ญั หา ปญั หาทีห่ ลากหลาย และเชื่อมโยงแก้ปัญหา ดังนี้ 1.1 ทางเลือกทห่ี ลากหลายในการแกป้ ัญหา 1.2 วิเคราะหข์ ้อดี – ข้อเสียทางเลือก ปญั หา ................................. ................................ ทางเลือกในการแกป้ ญั หาทห่ี ลากหลาย ทางเลือก วธิ ปี ฏบิ ัติ ข้อดี ข้อเสยี ทางเลือกที่ 1 ทางเลอื กที่ 2 ทางเลือกที่ 3 2.ปณิธานของข้าพเจา้ ในการทาความดี ............................................................................................................................. ............................................................................................ ................................. 3. นกั เรียนเลอื กและออกแบบ กจิ กรรม รณรงค์ ต่อตา้ นส่ิงที่ผิด - ชอบ / ชวั่ – ดี ( ของข้าพเจา้ ) มา 1 วธิ กี าร ................................................................................................ ............................... ............................................................................................................................. .. 4.ออกแบบกจิ กรรม โดยวิธกี ารคร่าว ๆ ว่าทาอะไรบ้าง อย่างไรบ้าง และ เกิดผลอยา่ งไรบา้ ง เม่ือปฏบิ ัติเสร็จสน้ิ 4.1 ทาอะไร .................................................................. 4.2 ทาอยา่ งไร ................................................................ 4.3 ผลที่เกดิ ขึน้ จากการปฏบิ ัติ ............................................................................................................................... กลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 101
อรยิ สจั ขั้นวเิ คราะห์ขอ้ มลู และสรปุ ผล 4. มรรค 3. นกั เรียนเลอื กและออกแบบ กจิ กรรม รณรงค์ ตอ่ ต้านส่ิงท่ผี ดิ - ชอบ / ชั่ว – ดี ( ของขา้ พเจ้า ) มา 1 วิธีการ ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .... ................................................................................................................................. 4.ออกแบบกิจกรรม โดยวธิ กี ารครา่ ว ๆ ว่าทาอะไรบา้ ง อยา่ งไรบ้าง และเกิดผล อยา่ งไรบ้าง เม่ือปฏบิ ตั ิเสรจ็ สิ้น 4.1 ทาอะไร .................................................................. 4.2 ทาอย่างไร ................................................................ ............................................................................................................................. .... ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .... 4.3 ผลท่ีเกิดขึ้นจากการปฏบิ ัติ ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................... .................. ............................................................................................................................. .... กลุม่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 102
ใบงานที 3 สบื คน้ คนดี นกั เรยี นสืบค้นขอ้ มูล คดั เลอื กบุคคลตวั อย่างในชุมชน โดยสรปุ ประวัติ ผลงาน และคตปิ ระจาใจ ประวตั ิครอบครวั ตดิ รูปบุคคลตัวอยา่ ง ............................................................................................ ......................................................................... ............................................................................................ ......................................................................... ............................................................................................ ........................................................................... ประวัติผลงาน คติประจาใจ ............................................................................................ ............................................................................................ ......................................................................... ......................................................................... ............................................................................................ ............................................................................................ ......................................................................... ......................................................................... ............................................................................................ ............................................................................................ ........................................................................... ........................................................................... กลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 103
ใบงานท่ี 4 ออกแบบกิจกรรมสง่ เสริมคนดใี นสงั คม 1. ชือ่ 2. ประวัติครอบครัว 2.1.ขน้ั กจิ กรรมที่ทา 2.2.หลกั การ บอกเหตผุ ลที่ต้องจัดทาโครงการ 2.3.วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ( การปฏบิ ัตกิ ารมีใครบา้ ง) 2.4.เจ้าของโครงการ ( ผจู้ ัดทาโครงการมีใครบ้าง ) 2.5.สถานท่ีปฏบิ ตั โิ ครงการ ( ใชก้ ิจกรรมใดในการดาเนินการจดั ทาโครงการ ) 2.6.วนั เวลาในการปฏิบตั ิงาน ( เรมิ่ และเสร็จส้ินโครงการเมื่อใด) 2.7.งบประมาณในการดาเนนิ งาน ( ใช้งบประมาณหรือไมอ่ ย่างไร) 2.8.วธิ ีดาเนนิ การคน้ คว้า ( ใชว้ ธิ ีการาขอ้ มลู ทาอย่างไรบ้าง) 2.9.เครือ่ งมอื วัสดุ อุปกรณ์ ทใี่ ชม้ อี ะไรบ้าง 2.10.ผลท่คี าดว่าจะไดร้ ับ กลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 104
แบบประเมินกจิ กรรมรณรงค์ต่อต้านสิง่ ทผี่ ิด.................................... กลมุ่ ....................................................... คาช้แี จง 1. แบบประเมนิ กิจกรรม.................................... 2. วธิ ีการประเมินให้ทาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งระดับการประเมิน 5 ระดับ ดังน้ี คะแนน 5 หมายถึงระดบั มากท่สี ุด คะแนน 4 หมายถงึ ระดบั มาก คะแนน 3 หมายถงึ ระดบั ปานกลาง คะแนน 2 หมายถงึ ระดับ นอ้ ย คะแนน 1 หมายถงึ ระดับ น้อยทีส่ ุด รายการประเมนิ ระดบั การประเมนิ ขอ้ สังเกตจาก 54321 การประเมนิ 1. กิจกรรม........................................ สรา้ งคณุ ลกั ษณะทดี่ ีให้แก่ผู้เรียน 2. หลกั การ วตั ถุประสงค์และ เปูาหมายของกจิ กรรมมีความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกนั 3. การกาหนดเปาู หมาย วิธีการ ดาเนนิ การและระยะเวลาดาเนนิ การมี ความเหมาะสมและปฏิบัติจริงได้ 4. การจัดบรรยากาศในการดาเนินงาน เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั การดาเนิน กจิ กรรม 5. การประสานงานระหวา่ งบคุ ลากร ทาให้เกิดความร่วมมือในการดาเนนิ กจิ กรรม 6. การวางแผนดาเนินกิจกรรม 7. การปฏิบัตงิ านตามกิจกรรม 8. การดาเนนิ กิจกรรมท่ีกาหนด ตามขน้ั ตอนทุกกิจกรรม 9. การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผน 10. การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมด้วย ความสนใจและตั้งใจ กลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 105
-ตัวอยา่ ง- หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง มีงานทา มอี าชพี รหัสวิชา........... รายวิชา ทาดีตามรอยพ่อ สานต่อพระราชปณธิ าน ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่.... กลุ่มสาระการเรยี นร.ู้ ...........ปีการศึกษา....... ภาคเรียนท่ี........เวลา 6 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต .................................................................................................................................................................... 1. ผลการเรยี นรู้ 1) วเิ คราะห์หลกั การทางาน กระบวนการทางาน และหลักการทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภมู ิพลราชวรางกูร กิติสิรสิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 2) ใชท้ ักษะพื้นฐานและทกั ษะทจ่ี าเปน็ สาหรบั การทางานไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. สาระสาคญั การมงี านทา มีอาชพี ทด่ี ี จะต้องได้รับการฝึกฝนอบรม เรียนรู้ หลักการทางาน กระบวนการทางาน การใช้ทกั ษะพ้ืนฐานทกั ษะทีจ่ าเป็นสาหรับการทางาน รวมถงึ การนอ้ มนาหลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาประยุกตใ์ ช้ ในการทางาน ให้มี ความรักในงานที่ทา สู้งานไม่ย่อท้อ ทางานจนประสบความสาเร็จ เกิดความภาคภูมิใจ สามารถเลี้ยงตนเอง และครอบครวั ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 1) หลักการทางานและกระบวนการทางานที่มปี ระสทิ ธภิ าพและมีความสขุ 2) พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสริ ิสมบูรณอดลุ ยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลที่ 10 3) ทกั ษะพน้ื ฐานในการทางาน 4) ทกั ษะทจ่ี าเป็นสาหรับการทางาน 5) หลกั การเขียนโครงการอาชีพ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) การสอ่ื สาร 2) การคิด 3) การใช้ทักษะชีวติ 4) การใช้เทคโนโลยี กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 106
5.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) มวี นิ ัย 2) ใฝุเรียนรู้ 3) รับผิดชอบ 4) มุง่ ม่นั ในการทางาน 5) มจี ิตสาธาณะ 6.ช้นิ งาน/ภาระงาน 6.1) ชนิ้ งาน/ภาระงาน ระหว่างจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1) การทาแบบทดสอบก่อน และหลงั เรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 2) สบื คน้ ความรู้ (Searching for Information) 3) สรุปองค์ความรู้ (Knowledge Formation) 3.1) ผังความคิด เรอ่ื ง หลักการทางาน 3.2) แผนผัง Infographic เรื่อง กระบวนการทางานท่มี ีประสิทธภิ าพ 3.3) แผนผังเส้นเวลา(Time Line) หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราช วโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 10 3.4) นาเสนอโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพาเวอร์พอยท์ (Power Point) เรื่อง ทกั ษะพื้นฐานในการทางาน และทกั ษะทจี่ าเป็นสาหรับ การทางาน 4) การนาเสนอผลงาน ทปี่ ระยกุ ต์ใช้องคค์ วามรู้ เลือกทางานตามความถนัดและสนใจมา ออกแบบเขียนแผนโครงการอาชีพชองตนเองและครอบครวั 5) ออกแบบเขียนแผนโครงการอาชีพตามความถนัดและสนใจ โดยประยุกตใ์ ช้องค์ความรู้ หลกั การทรงงาน หลักการทางาน ทักษะพ้ืนฐาน ทักษะทจี่ าเป็นสาหรบั การทางาน ตามศกั ยภาพและ ความเหมาะสม 6.2) ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด แผนโครงการอาชีพของตนเองและครอบครัว 7.การวัดและประเมนิ ผล หน่วย ส่งิ ทีจ่ ะประเมนิ วิธีการวดั และ เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑ์ ที่ ประเมนิ ผล การประเมิน 1.แบบทดสอบ 1 เรื่อง มงี านทา มีอาชีพ 1.ทดสอบก่อน/หลงั เรยี น ก่อน/ หลงั เรยี น 1. ทดสอบกอ่ น/ 1.หลักการทางาน แบบปรนยั ชนิดเลือกตอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ หลงั เรยี น 2.กระบวนการทางาน จานวน 10 ข้อ ท่ี 4 ผ่านร้อยละ 70 กลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 107
หน่วย สิ่งท่จี ะประเมิน วิธีการวดั และ เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์ ที่ ประเมนิ ผล การประเมนิ 3.หลักการทรงงานของ 2. ผงั ความคิด 2. แบบสังเกต ไดค้ ะแนน 14 พระบาทสมเดจ็ พระ เรอ่ื งหลกั การทางาน พฤติกรรม แสดงว่า ผ่าน ปรเมนทรรามาธิบดีศรี 3 .สรุปองคค์ วามรู้ การทางาน ไดค้ ะแนนตา่ กว่า สินทรมหาวชริ าลงกรณ เปน็ แผนผัง Infographic 3. แบบประเมนิ ตา่ กว่า 14 มหศิ รภูมพิ ลราชวรางกรู เรื่องกระบวนการทางาน ผลงาน /แบบ แสดงวา่ กิติสริ สิ มบรู ณอดุลยเดช ที่มีประสิทธิภาพ ประเมินโครงการ ไม่ผ่าน สยามินทราธิเบศรราช 4. สรปุ องค์ความรู้ 4. แบบประเมิน 2. แบบสงั เกต วโรดม บรมนาถบพติ ร แผนผังเส้นเวลา(Time การนาเสนอ พฤติกรรม พระวชริ เกล้าเจา้ อยูห่ วั Line) เร่ือง หลกั การทรง ผลงาน การทางาน รชั กาลที่ 10 งานของ พระบาทสมเดจ็ 5. แบบประเมนิ 2 หมายถึง 4.ประยกุ ต์องคค์ วามรู้ พระปรเมนทรรามาธิบดี การเผยแพร่ แสดงพฤตกิ รรมที่ ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ ผลงาน กาหนด มหิศรภูมิพลราชวรางกูร บอ่ ยครั้ง กิตสิ ิริสมบรู ณอดลุ ยเดช 1 หมายถึง แสดง สยามินทราธเิ บศรราชวโรดม พฤติกรรมที่ บรมนาถบพิตร กาหนด พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว บางครัง้ รัชกาลที่ 10 0 หมายถึง 5. สรุปองค์ความรู้ดว้ ย ไม่แสดงพฤติกรรม โปรแกรมไมโครซอฟท์ ที่กาหนด เพาเวอร์พอยท์ 3. การประเมิน (Power Point) ผลงาน /แบบ เรอ่ื ง ทักษะพืน้ ฐานในการ ประเมินโครงการ ทางาน และทกั ษะทักษะ 4. การประเมิน ทจี่ าเป็นสาหรบั การ การ นาเสนอ ทางาน ผลงาน 6. ประยุกต์ใช้องค์ 5. การประเมิน ความรู้ เลอื กทางานท่ี การเผยแพร่ ตนเองสนใจมาออกแบบ ผลงาน เขียนแผนโครงการ อาชีพของตนเองและ ครอบครวั กล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สพม.36 108
เกณฑก์ ารประเมิน ภาระงาน พฤติกรรมการเรยี นรู้ น้าหนักคะแนน 20 1. แบบทดสอบก่อนเรียน ด้านความรู้ (K) 20 50 แบบทดสอบหลังเรียน ดา้ นความรู้ (K) 10 2. การวิเคราะห์ ด้วยกระบวนทศั นก์ ารเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 3.1 สืบคน้ ความรู้ (Searching for Information) 3.2 สรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formation) โดย สรปุ องคค์ วามรู้ /วิเคราะห์ในรปู แบบต่าง ๆ 1) ผงั ความคดิ เรื่อง หลักการทางาน 2) แผนผงั Infographic เรื่อง กระบวนการทางาน ทีม่ ีประสิทธิภาพ 3) แผนผังเส้นเวลา(Time Line) เร่ือง หลกั การ ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดศี รี- สินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมพิ ลราชวรางกูร กติ สิ ริ สิ มบูรณ อดลุ ยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 10 4) สรปุ องคค์ วามรูด้ ว้ ยโปรแกรมไมโครซอฟท์ เพาเวอร์พอยท์ (Power Point) หรอื เพาเวอร์พอยท์ ออนไลน์ (Power Point Online) เรอ่ื ง ทักษะพื้นฐานในการทางาน และ ทกั ษะทจ่ี าเป็นสาหรบั การทางาน 3.3 วิเคราะห์เน้ือหาสาระ 3.4 การนาเสนอผลงานสรา้ งสรรค์ 3.5 การเผยแพร่ผลงาน 4. ออกแบบเขียนแผนโครงการอาชีพตามความถนัดและ สนใจ โดยประยกุ ตใ์ ชอ้ งค์ความรู้ หลักการทรงงาน หลกั การทางาน ทกั ษะพื้นฐาน ทักษะที่จาเป็นสาหรบั การทางาน ตามศักยภาพและความเหมาะสม เหน็ คณุ ค่าการประยกุ ตใ์ ช้องค์ความรหู้ ลกั การทางาน ใน ดา้ นคณุ ลักษณะ(A) การเขียนแผนโครงการอาชพี ของตนเองและครอบครัว เกณฑ์การตัดสนิ ภาพรวม (การสรุปภาพรวมของจดุ ประสงค์การเรียนร)ู้ 1. สรุปผลการประเมินดา้ นความรู้ (K) คอื (การทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น) ผา่ นร้อยละ 70 ได้คะแนน 14 แสดงวา่ ผ่าน ได้คะแนนตา่ กว่า ต่ากวา่ 14 แสดงว่า ไมผ่ ่าน กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 109
2. สรปุ ผลการประเมินด้านทักษะกระบวนการ (P) ผ่านรอ้ ยละ 70 ไดค้ ะแนน 35 แสดงวา่ ผา่ น ได้คะแนนตา่ กว่า ตา่ กวา่ 35 แสดงว่า ไม่ผา่ น 3. สรปุ ผลการประเมินดา้ นคุณลกั ษณะ(A) ผ่านร้อยละ 60 ได้คะแนน 6 แสดงว่า ผา่ น ได้คะแนนตา่ กว่า ตา่ กวา่ 6 แสดงวา่ ไมผ่ ่าน 8.กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนรดู้ ้วยกระบวนทัศน์ 5 ข้นั ตอน 1. ตงั้ คาถาม/สมมุตฐิ าน (Hypothesis Formulation) พฒั นาการคิดวิเคราะห์ และกระตุน้ ให้ นักเรยี นคิด 2. สบื ค้นความรู้ (Searching for Information) ศกึ ษา ค้นคว้า สร้างองคค์ วามรู้ 3. การสรปุ องค์ความรู้ (Knowledge Formation) เช่น การสร้างผังความคิด การคน้ หาคาตอบ ในเวลาสั้น(Buzzing) ระดมสมอง ชว่ ยกนั คดิ วเิ คราะห์ การสรุป เหตผุ ล อภิปราย ตกผลกึ สรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ 4. ส่อื สารและนาเสนอ (Effective Communication) ฝกึ ฝนด้านภาษา พัฒนาเทคนิค วิธีการ นาเสนอ โดยใช้ตามความถนดั ศักยภาพของนกั เรยี น เชน่ นิทรรศการ ปาู ยนเิ ทศ ICT และ เครือ่ งมอื Social Media 5. บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Public Service) นาเสนอผลงาน สรา้ งเครอื ขา่ ย เช่อื มโยง เกดิ ระบบ Community โดยใชป้ ระยุกต์ใช้เคร่ืองมือเทคโนโลยสี ่ือสงั คม(Social Media) ไดแ้ ก่ Blog Wordpress , YouTube , SlideShare , Scribd , Facebook ฯลฯ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสงั คม (Social Media) 2. การกจิ กรรมระดมความคิด 3. การตั้งประเดน็ คำถาม 4. การคน้ หาคำตอบในเวลาส้ัน (Buzzing) 5. การสรา้ งผงั ความคิด โดยการประยุกต์ใชส้ ่ือออนไลน์ (Mind Map Online) และโดยใช้ กระดาษบรุ๊ฟ หรอื กระดาษ A4 ฯลฯ 6. กระบวนการสืบค้น(Inquiry based) 7. กระบวนการกลุ่ม 8. กระบวนการมสี ่วนร่วม 9. ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 10. ทักษะการเขยี นโครงการอาชีพ 11. กระบวนการโดยใช้สื่อ ICT (Information and Communication Technology กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 110
แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ เนือ้ หาและใช้วธิ กี ารสอน ดว้ ยกระบวนทศั น์การเรียนรู้ 5 ขัน้ ตอน แผนผงั แสดง ขัน้ ตอนการกิจกรรมการเรียนรู้หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง มีงานทา มีอาชพี ขัน้ ที่ 1 ตง้ั คาถาม/สมมตุ ฐิ าน การฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นรจู้ กั คดิ สงั เกต ตง้ั /ตอบคาถามอยา่ งมเี หตผุ ล และ สรา้ งสรรค์ ส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดการเรยี นรู้ในการตงั้ คาถาม (Learning to (Hypothesis Formulation) Question) กระตุ้นความสนใจ/ทบทวนความรู้ สร้างสัมพันธภ์ าพระหว่าง ผู้เรยี นและครู เชน่ การตอบคาถาม ข้นั ที่ 2 สบื ค้นความรู้ แบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ ศึกษา ค้นควา้ สร้างองคค์ วามรู้ มีอาชพี หัวขอ้ ดังนี้ (Searching for Information) - หลักการทางาน - หลกั การทรงงานของรชั กาลท่ี 10 ขั้นที่ 3 การสรุปองค์ความรู้ - กระบวนการทางานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ (Knowledge Formation)) - ทักษะพน้ื ฐานในการทางานและทักษะที่จาเปน็ สาหรบั การทางาน ข้นั ที่ 4 ส่อื สารและนาเสนอ การสรุปองคค์ วามร้(ู Knowledge Formation) นกั เรยี นรว่ มมอื ชว่ ยกันระดมสมอง (Effective Communication) คดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การสรปุ เหตุผล สรปุ องค์ความรู้ จากการแสวงหาความรู้ ขอ้ มูลทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 1. แผนผังเส้นเวลา (Time Line) หลักการทรงงาน ของ รัชกาลท่ี 10 2. การวเิ คราะห์ ดว้ ยกระบวนทัศน์การเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน 2.1 สืบค้นความรู้ (Searching for Information) 2.2 สรปุ องค์ความรู้ (Knowledge Formation) โดยสรุปองคค์ วามรู้ / วิเคราะห์ในรูปแบบตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจของนกั เรยี น - แผนทค่ี วามคดิ (Mind Mapping) เร่ือง หลกั การทางาน - แผนผงั Infographic เร่ือง กระบวนการทางานท่ีมปี ระสิทธิภาพ - แผนผังเส้นเวลา (Time Line) หลักการทรงงานของ รชั กาลที่ 10 - โปรแกรมไมโครซอฟทเ์ พาเวอร์พอยท์ (Power Point) ) เรอื่ ง ทักษะพ้นื ฐานใน การทางาน และทกั ษะทจี่ าเปน็ สาหรับการทางาน 2.3 วเิ คราะหเ์ น้อื หาสาระ 2.4 การนาเสนอผลงานสร้างสรรค์ 2.5 การเผยแพรผ่ ลงาน 3. ประยุกต์ใชอ้ งค์ความรู้ เลอื กทางานทต่ี นเองสนใจมาออกแบบเขยี นแผน โครงการอาชพี ของตนเองและครอบครัว ฝกึ ฝนดา้ นภาษา พฒั นาเทคนคิ วธิ กี ารนาเสนอ ผลงานสรา้ งสรรคห์ น้าชั้นเรยี น/ใช้เครอื่ งมอื Social Media หรอื ดว้ ยสือ่ อ่ืน ๆอนื่ ๆ ขัน้ ที่ 5 บรกิ ารสังคมและ แผนโครงการอาชพี ของตนเองและครอบครวั โดย จิตสาธารณะ (Public Service เผยแพรผ่ ลงานดว้ ยวธิ ีการถนัด สนใจ หรอื ผ่าน เทคโนโลยีสอ่ื สังคม และสร้างเครอื ข่าย เช่อื มโยง กลุม่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 111
ผังมโนทัศน์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 มงี านทา มีอาชีพ แสดงเปา้ หมายการเรียนรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ช้ินงาน สาระการเรียนรู้ 1. หลกั การทางาน 2. หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิตสิ ิรสิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามินทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตรพระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 10 3. กระบวนการทางานอย่างมปี ระสิทธิภาพ 4. ทกั ษะพน้ื ฐานในการทางาน และทกั ษะทีจ่ าเป็นสาหรับการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน มงี านทา มีอาชพี คณุ ลกั ษณะ การประยกุ ต์ใชอ้ งคค์ วามรู้ 1. การสอ่ื สาร หลักการทางาน ในการเขยี น 2. การคิด แผนโครงการอาชพี ของ ๓. การใชท้ ักษะชีวติ ๔. การใชเ้ ทคโนโลยี ตนเองและครอบครวั ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ภาระงาน/ชิน้ งาน ระหว่างจดั กิจกรรม 1. การทาแบบทดสอบกอ่ น และหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 1. ทกั ษะการเรยี นรู้ 2. สืบค้นความรู้ (Searching for Information) และนวัตกรรม : 3. สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation) - ทกั ษะการส่ือสาร 3.1 ผงั ความคดิ (Mind Mapping) เรอื่ ง หลกั การทางาน - ทักษะการคิด 3.2 แผนผัง Infographic เร่ือง กระบวนการทางานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ - ทักษะการรว่ มมือ 3.3. เสน้ เวลา (Time Line) หลกั การทรงงานของรชั กาลท่ี 10 2. ทกั ษะสารสนเทศ 3.4 โปรแกรมไมโครซอฟท์เพาเวอรพ์ อยท(์ Power Point) เรอ่ื ง ทักษะพนื้ ฐาน ส่อื และเทคโนโลยี : 3. ทักษะชวี ิต และ ในการทางาน และทักษะทจี่ าเปน็ สาหรับการทางาน การทางาน 4. การนาเสนอผลงาน ท่ปี ระยกุ ต์ใชอ้ งค์ความรู้ เลือกทางานตามความถนดั และ สนใจมาออกแบบ เขยี นแผนโครงการอาชพี ชองตนเองและครอบครวั 5. การเผยแพร่ผลงาน ท่ีประยุกต์ใชอ้ งค์ความรู้ เลอื กทางานตามความถนัดและ สนใจนามาออกแบบ เขยี นแผนโครงการอาชพี ชองตนเองและครอบครัว ภาระงาน/ชิ้นงาน ของหนว่ ยการเรียนรู้ แผนโครงการอาชพี ของตนเองและครอบครัว กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 112
แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอื้ หาและใช้วธิ กี ารสอน ดว้ ยกระบวนทศั นก์ ารเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ชว่ั โมงที่ 1 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรื่อง มีงานทา มอี าชีพ แบบปรนัยชนิด เลอื กตอบ 10 ข้อ โดยประยุกตใ์ ช้ Socrative , Microsoft forms (ใชเ้ วลาประมาณ 10 นาท)ี กจิ กรรมการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนทัศน์การเรียนรู้ 5 ข้นั ตอน ในเวลาเรียน ขั้นท่ี 1 ต้ังคาถาม/สมมุติฐาน (Hypothesis Formulation) พัฒนาการคิดวิเคราะห์และกระตุ้นให้ นักเรียนคิด 2. การตอบคาถาม หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง มีงานทา มอี าชีพ ท่ีประยกุ ต์ใช้ Kahoot และ Plickers 3. นกั เรียนดคู ลิปจากยทู ูป หรอื พระบรมฉายาลักษณ์ในการทรงงาน ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รีสินทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมพิ ลราชวรางกูร กิตสิ ริ ิสมบรู ณอดุลยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกลา้ เจา้ อย่หู วั รัชกาลที่ 10 แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอบ ในประเดน็ คาถามตอ่ ไปนี้ - พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนรามาธบิ ดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ มหศิ รภมู ิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีบทบาทสาคัญ ในการทรงงานอะไรบา้ ง อยา่ งไร - สาเหตุทพี่ ระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ มหศิ รภมู ิพลราชวรางกรู กิติสิริสมบรู ณอดลุ ยเดช สยามินทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ 10 ทรงงาน 4. ครูแนะนานักเรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากใบความรู้ จากเว็ปไซด์ คลิป YouTube เร่ือง หลักการ ทางาน และหลกั การทรงงานของพพระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 10 กระบวนทางานอย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะพ้ืนฐานในการทางาน และทักษะที่จาเป็น สาหรับการทางาน 5. นักเรียนช่วยกันตั้งประเด็นคาถาม คาตอบในเวลาส้ัน (Buzzing) เป็นการฝึกให้ผู้เรียนรู้จักคิด สังเกต ตั้งคาถามอย่างมีเหตุผล และสร้างสรรค์ ซ่ึงจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในการต้ังคาถาม (Learning to Question) กระตุ้นความสนใจ/ทบทวนความรู้ สรา้ งสมั พันธภ์ าพระหว่างผู้เรียนและครู ข้นั ท่ี 2 สืบคน้ ความรู้ (Searching for Information) ศกึ ษา คน้ ควา้ สร้างองคค์ วามรู้ เรื่อง มงี านทา มีอาชีพ 6. ครูทบทวนประเด็นคาถาม 7. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ 4กลุ่มๆละ5-6 คนและจับสลากหัวข้อเพอ่ื ศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ ตามหวั ข้อ ดงั น้ี - หลักการทางาน - หลกั การทรงงานของของพพระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธบิ ดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภมู ิพลราชวรางกรู กิตสิ ิริสมบูรณอดุลยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 กลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 113
- กระบวนการทางานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ - ทกั ษะพื้นฐานในการทางานและทักษะทีจ่ าเปน็ สาหรบั การทางาน หมายเหตุ ขัน้ ท่ี 2 สบื ค้นความรู้ (Searching for Information) นกั เรียนสามารถใช้นอกเวลาเรียนได้ ชัว่ โมงที่ 2 - 3 ขั้นที่ 3 การสรุปองค์ความรู้(Knowledge Formation) นักเรียนร่วมมือช่วยกันระดมสมอง คิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ การสรปุ เหตุผล สรปุ องค์ความรู้ จากการแสวงหาความรู้ ขอ้ มลู ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 8. ครูทบทวนถึงการแบ่งกลุ่ม การวางแผน การมอบหมายหน้าที่ในการจัดการในข้ันที่ 2 สืบค้น ความรู้ (Searching for Information) การศึกษา ค้นคว้า และการสรา้ งองคค์ วามรู้ 9. นกั เรียนระดมสมอง รว่ มกันคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ การสรปุ เหตผุ ล สรุปองคค์ วามรู้ จาก การแสวงหาความรู้ ขอ้ มูล เน้อื หาสาระ ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมายจากการศึกษา ค้นคว้า และการสร้างองค์ ความรู้ และเลือกวิธีการวิเคราะห์ เน้ือหาสาระ การสรุปองค์ความรู้(Knowledge Formation) นักเรียน ร่วมมือช่วยกันระดมสมอง คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสรุป เหตุผล สรุปองค์ความรู้ จากการแสวงหา ความรู้ ขอ้ มูลท่ีได้รับมอบหมาย 9.1 นักเรยี นกลุ่มทศ่ี ึกษาเร่ือง หลักการทางาน อภิปราย และสรปุ องค์ความรู้ เปน็ ผังความคดิ 9.2 นักเรียนกลุ่มท่ีศกึ ษา เรอ่ื ง กระบวนการทางานที่มีประสิทธิภาพ และสรุปองคค์ วามรู้ เป็นแผนผัง Infographic เร่อื ง กระบวนการทางานที่มปี ระสทิ ธิภาพ 9.3 นักเรียนกลมุ่ ท่ศี ึกษา เรื่อง หลักการทรงงานของ ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธิบดีศรี- สนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภมู พิ ลราชวรางกูร กติ สิ ริ ิสมบรู ณอดลุ ยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกล้าเจา้ อย่หู ัว รัชกาลท่ี 10 และสรุปองค์ความรู้ เป็นแผนผงั เสน้ เวลา(Time Line) 9.4 นักเรยี นกลมุ่ ทีศ่ ึกษา เรอ่ื ง ทกั ษะพื้นฐานในการทางานและทักษะทักษะท่จี าเป็นสาหรบั การทางานและสรุปองคค์ วามรดู้ ว้ ยโปรแกรมไมโครซอฟท์เพาเวอร์พอยท์ (Power Point) 10.นักเรียนทกุ กล่มุ ประยุกตใ์ ช้องค์ความรู้ เลอื กทางานที่ตนเองสนใจมาออกแบบเขียนแผน โครงการอาชีพของตนเองและครอบครัว 11. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม มอบหมายหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบในการนาเสนอผลงานสรา้ งสรรคห์ นา้ ชน้ั เรียน หมายเหตุ ขน้ั ที่ 3 การสรปุ องค์ความรู(้ Knowledge Formation) นักเรยี นสามารถใช้นอกเวลาเรยี นได้ ชวั่ โมงท่ี 4 - 5 ขนั้ ที่ 4 สอ่ื สารและนาเสนอ (Effective Communication) ฝึกฝนด้านภาษา พฒั นาเทคนคิ วิธีการนาเสนอ 12. ครูทบทวนถึงการระดมสมอง การร่วมกันวิเคราะห์ เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร พบปัญหา/ อปุ สรรคอะไรบ้างในการร่วมกันทาผลงานสร้างสรรคต์ ามความถนดั และความสามารถของกล่มุ นกั เรียน 13. นักเรียนแต่ละกลุ่ม นาเสนอผลงานสร้างสรรค์หน้าชั้นเรียน โดยวิธีการสุ่ม เพ่ือให้ทุกกลุ่ม เตรยี มพรอ้ มอย่เู สมอในการนาเสนอ จากความรว่ มมือชว่ ยกนั ระดมสมอง คิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ กลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 114
การสรปุ เหตุผล สรุปองคค์ วามรู้ การแสวงหาความรู้ ในหัวข้อหรอื เนอื้ หาสาระท่ไี ด้รบั มอบหมาย 14. ผู้เรียนและผูส้ อนสรุปสาระการเรยี นรู้ หรอื นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มต้ังประเด็นคาถามโดย ประยุกตใ์ ช้ Kahoot 15. ทดสอบหลงั เรียน แบบปรนยั ชนิดเลือกตอบจานวน 10 ขอ้ (โดยประยกุ ต์ใช้ Socrative , Microsoft forms) 17. ครูประเมนิ ผลงานของนกั เรียน สมรรถนะ และคุณลกั ษณะ ตามหลักเกณฑท์ ก่ี าหนดไว้ (Rubrics) ขนั้ ท่ี 5 บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ (Public Service) 18. นกั เรียนการเผยแพร่ผลงานสร้างสรรคต์ ามความถนัดศักยภาพของนกั เรียน เช่น จัดนิทรรศการ จัดปูายนิเทศ ICT และสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงเกิดระบบ Community โดยใช้ประยุกต์ใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีสื่อสังคม(Social Media) ได้แก่ Blog Wordpress , YouTube , SlideShare , Scribd , Facebook และอ่นื ๆ หมายเหตุ ขัน้ ท่ี 5 นักเรยี นสามารถใชน้ อกเวลาเรียนได้ ชว่ั โมงที่ 6 19. นกั เรยี นทุกกล่มุ นาเสนอการออกแบบเขยี นแผนโครงการอาชีพตามความถนัดและสนใจ โดย ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ หลักการทรงงาน หลักการทางาน ทักษะพื้นฐาน 20. นกั เรียนและครู รว่ มกนั พิจารณา และประเมนิ แผนโครงการอาชีพ ของแตล่ ะกลมุ่ พรอ้ มทงั้ เพมิ่ เติมข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาทเ่ี ปน็ รปู ธรรม 9 .สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1) สือ่ การเรยี นรู้ .1.1) ใบความรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรอื่ ง มงี านทา มีอาชีพ 1.2) ใบงาน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรือ่ ง มงี านทา มีอาชีพ 1.3) สือ่ ออนไลน์อ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ - การวเิ คราะหโ์ ดยผังความคิด เชน่ Mind Meister Map Mind Domo Prezi /Infographic /Sway 1.4) เอกสาร/ตารา/หนงั สือเรยี น 2) แหลง่ การเรยี นรู้ 2.1) หอ้ งสมดุ 2.2) เทคโนโลยสี ือ่ สังคม (Social Media) ได้แก่ เว็บบล็อก (Weblog) เฟซบ๊คุ (Facebook) Slideshard Youtube Twitter 2.3) อินเทอรเ์ น็ต (Internet) และอืน่ ๆ กลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.36 115
ใบงาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง มงี านทา มีอาชีพ 1. นกั เรียนแบง่ กล่มุ 4 กลมุ่ ๆ ละ 4 -5 คน และจับสลากหัวข้อ เพ่ือศกึ ษา คน้ ควา้ และสร้างองค์ความรู้ ตามหัวข้อ ดงั น้ี - หลกั การทางาน - หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหศิ รภมู ิพลราชวรางกูร กติ ิสิรสิ มบรู ณอดุลยเดช สยามินทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลท่ี 10 - กระบวนการทางานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ - ทักษะพืน้ ฐานในการทางาน และทกั ษะท่ีจาเปน็ สาหรับการทางาน 2. กลมุ่ นักเรียน การวางแผน การมอบหมายหน้าท่ใี นการจดั การ การศกึ ษา ค้นคว้า และการสร้าง องคค์ วามรู้ 3. ระดมสมอง ร่วมกันคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การสรปุ เหตผุ ล สรปุ องคค์ วามรู้ จากการแสวงหาความรู้ ข้อมลู เนือ้ หาสาระ ตามหัวข้อทีไ่ ด้รับมอบหมายจากการศกึ ษา คน้ ควา้ และการสรา้ งองค์ความรู้ และ เลอื กวิธกี ารวิเคราะห์ เน้ือหาสาระ การสรุปองคค์ วามร(ู้ Knowledge Formation) นกั เรยี นรว่ มมือช่วยกนั ระดมสมอง คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสรุป เหตุผล สรุปองคค์ วามรู้ จากการแสวงหาความรู้ ข้อมลู ที่ ไดร้ บั มอบหมาย - หลกั การทางาน อภิปราย โดยสรปุ องค์ความรู้ เปน็ ผังความคดิ - กระบวนการทางานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ โดยสรปุ องคค์ วามรู้ เป็นแผนผงั Infographic เรอ่ื ง กระบวนการทางานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ - หลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ 10 โดยสรปุ องคค์ วามรู้ เปน็ แผนผังเส้นเวลา (Time Line) - ทักษะพ้ืนฐานในการทางานและทักษะทกั ษะทจ่ี าเป็นสาหรบั การทางาน โดยสรปุ องค์ความรดู้ ้วยโปรแกรมไมโครซอฟทเ์ พาเวอร์พอยท์ 4. นักเรียนทกุ กลมุ่ ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ เลือกทางานท่ีตนเองสนใจมาออกแบบเขยี นแผนโครงการอาชีพ ของตนเองและครอบครัว 5. นักเรียนแต่ละกล่มุ มอบหมายหน้าท่ีความรับผิดชอบในการนาเสนอผลงานสรา้ งสรรคห์ น้าชั้นเรียน 6. ทดสอบหลงั เรียน แบบปรนยั ชนิดเลือกตอบจานวน 10 ขอ้ (โดยประยุกต์ใช้ Socrative , Microsoft forms) 7. นกั เรียนประเมนิ ผลงานของนักเรยี น สมรรถนะ และคุณลกั ษณะ ตามหลกั เกณฑ์ท่กี าหนดไว้ (Rubrics) 8. นักเรียนการเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ตามความถนัดศักยภาพของนักเรียน เช่น จัดนิทรรศการ จัดปูาย นิเทศ ICT และสร้างเครือข่าย เช่ือมโยงเกิดระบบ Community โดยใช้ประยุกต์ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีส่ือ สังคม(Social Media) ไดแ้ ก่ Blog Wordpress , YouTube , SlideShare , Scribd , Facebook และอนื่ ๆ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 116
9. นกั เรียนทกุ กลุม่ นาเสนอการออกแบบเขยี นแผนโครงการอาชพี ตามความถนัดและสนใจ โดยประยุกตใ์ ช้ องค์ความรู้ หลกั การทรงงาน หลักการทางาน ทกั ษะพน้ื ฐาน 10. นักเรียนและครู ร่วมกนั พจิ ารณา และประเมินแผนโครงการอาชีพ ของแต่ละกลุ่ม พร้อมทัง้ เพมิ่ เติม ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ เพ่ือเป็นแนวทางการพัฒนาทีเ่ ปน็ รูปธรรม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การสืบคน้ ข้อมลู เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ข้อท่ี รายการประเมิน 2 รายการประเมนิ 0 1 ด้านเนอื้ หาสาระ เนื้อหาสาระ เนือ้ หาสาระถกู ต้อง 1 ไม่ถูกต้อง 2 การแสวงหาความรู้ ครบถ้วนตามหวั ข้อ ดว้ ยตนเอง ทก่ี าหนดทุกรายการ เนอื้ หาสาระถูกต้อง ไมแ่ สวงหาข้อมูล ครบถ้วนตามหัวข้อ เพิ่มเติม แสวงหาขอ้ มูล ที่กาหนดบางสว่ น เพ่มิ เติมนอก ห้องเรยี น และ แสวงหาข้อมลู เพิม่ เติม อา้ งองิ แหลง่ ข้อมลู นอกห้องเรียน แต่ ไมอ่ ้างอิงแหลง่ ข้อมูล เกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 2 (ดีมาก) ผา่ น คะแนน 3-2 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ 1 (พอใช)้ ผ่าน คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง) ไมผ่ า่ น กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 117
เกณฑ์การใหค้ ะแนน - Mind Mapping- Infographic- Power Point-Sway ขอ้ รายการ รายการประเมนิ นา้ หนกั ที่ ประเมนิ 2 1 0 คะแนน 1 การใชง้ านส่ือ สามารถสรา้ งส่ือ สามารถสร้างส่อื ไม่สามารถสร้างสือ่ 5 ในการวเิ คราะห์ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนอ และสังเคราะห์ (อยา่ งใดอย่างหนงึ่ ) (อย่างใดอย่างหนึง่ ) (อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ) เนื้อหา สาระ ดว้ ย ด้วย ด้วย เช่น -Mind Mapping - Mind Mapping - Mind Mapping - Mind Online Online Online Mapping -Infographic -Infographic Online - Infographic Online -PowerPointOnline -PowerPoint Online Online Online - Infographic -PowerPointOnline -Sway -Sway ได้ตาม ได้แตช่ า้ กวา่ -Sway Online (นอกจากมีวธิ กี ารสรา้ ง - Power Point ระยะเวลาที่กาหนด ระยะเวลาที่กาหนด สอื่ นาเสนอ อ่นื ๆ) Online -Sway เกณฑ์ระดบั คุณภาพ หมายถึง ระดับคุณภาพ 2 (ดีมาก) ผา่ น คะแนน 8 – 10 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ 1 (พอใช)้ ผา่ น คะแนน 5 – 7 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง) ไมผ่ า่ น คะแนน 1 – 4 คะแนน กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 118
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การสร้างสรรค์ผลงาน(ส่ือ) นาเสนอ ขอ้ ท่ี รายการประเมิน 2 รายการประเมนิ 0 1 เนอื้ หา เนอื้ หาสาระ เนือ้ หาสาระถูกต้อง 1 ไม่ถูกต้อง 2 วิธีการนาเสนอ ครบถว้ นตามหวั ข้อ ท่กี าหนดทุกรายการ เนอ้ื หาสาระถูกต้อง การนาเสนอผลงาน 3 กระบวนการกล่มุ ครบถ้วนตามหวั ข้อ ไม่ถูกตอ้ ง การนาเสนอผลงาน ทก่ี าหนดบางสว่ น ไม่นา่ สนใจ 4 การวเิ คราะห์/ ถูกต้องทุกขนั้ ตอนมี สังเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ การนาเสนอผลงาน สมาชิกกล่มุ ไม่ให้ แปลกใหม่ นา่ สนใจ ถูกต้องบางขัน้ ตอน ความรว่ มมอื ใน 5 ความเปน็ ระเบียบ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ การทางาน เรยี บรอ้ ยและตรงเวลา สมาชกิ กลุ่มทุกคน แปลกใหม่ น่าสนใจ ผลงานวเิ คราะห์/ ให้ความร่วมมือใน สงั เคราะห์ ไม่ถูกต้อง การทางาน สมาชิกกลมุ่ ทุกคน ตามเนอ้ื หา ไม่ชัดเจน ส่วนใหญ่ให้ความ และไมส่ มบรู ณ์ ผลงานการวิเคราะห์/ ร่วมมือในการทางาน ผลงานไมเ่ ป็น สังเคราะห์ ถูกตอ้ งตาม ระเบียบเรียบรอ้ ย เน้ือหา ชัดเจน และ ผลงานวิเคราะห/์ และทางานไม่เสรจ็ สมบูรณ์ สงั เคราะห์ ถูกต้อง ตามระยะเวลา สว่ นใหญต่ ามเน้ือหา ทก่ี าหนด ผลงานเปน็ ระเบียบ ชดั เจน เรยี บร้อย สมบูรณ์ ครบถว้ น และเสรจ็ ผลงานเปน็ ระเบยี บ ตามเวลาท่ีกาหนด เรียบร้อย แต่ไม่ สมบูรณ์ และเสร็จไม่ ตรงตามเวลาท่ีกาหนด เกณฑ์ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ระดับคุณภาพ 2 (ดมี าก) ผา่ น คะแนน 8 – 10 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้) ผา่ น คะแนน 5 – 7 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 0 (ปรบั ปรุง) ไม่ผ่าน คะแนน 1 – 4 คะแนน กลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สพม.36 119
เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน ประเดน็ การประเมนิ เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1. กลวธิ ีในการ มีกลวธิ ีในการ มกี ลวิธใี นการ มกี ลวธิ ีในการ ขาดกลวิธีในการ นาเสนอข้อมูล นาเสนอข้อมูล นาเสนอข้อมูล นาเสนอข้อมลู นาเสนอข้อมลู ดีมาก ดี ปานกลาง 2. เน้อื หาถกู ต้อง นาเสนอเนื้อหา นาเสนอเน้อื หา เนือ้ หาท่ีนาเสนอ เนื้อหาทน่ี าเสนอ สมบูรณ์ครบถว้ น ครบถ้วน สมบรู ณ์ ครบถว้ นแต่ ขาดหายไป ขาดหายไปมาก ทุกประการ ไมส่ มบูรณ์ บางตอน ไม่สมบูรณ์ ทุกประการ 3. การใชภ้ าษา การใช้ภาษา ลลี า การใชภ้ าษา ลีลา การใชภ้ าษา ลีลา การใช้ภาษา ลลี า นา้ เสยี งถกู ต้อง นา้ เสียงถูกต้อง นา้ เสยี งถูกต้อง นา้ เสยี งไมถ่ ูกต้อง ชัดเจน ดมี าก ชดั เจน ดี ชัดเจน พอใช้ ไมช่ ัดเจน 4. ส่อื อุปกรณ์ มสี ือ่ ประกอบ มีสื่อประกอบ มสี ื่อประกอบ ไม่มสี ื่อประกอบ ประกอบการนาเสนอ ในการนาเสนอ ในการนาเสนอ ในการนาเสนอ ในการนาเสนอ ดีมาก ดี ไมด่ ี 5. การรกั ษาเวลา นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน ในการนาเสนอ เสร็จตรงตาม เสร็จเกนิ เวลา เสร็จตรงตาม เสรจ็ เกินเวลา ผลงาน เวลาทก่ี าหนด ท่ีกาหนดเพยี ง เวลาทกี่ าหนด ท่ีกาหนด เล็กน้อย ปานกลาง ไวม้ าก ประเดน็ การประเมนิ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน รวม สรปุ ผล เกณฑ์ระดบั คุณภาพ การประเมนิ กลวิธใี นการนาเสนอข้อมูล เนือ้ หาถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วน 4321 ผ่าน ไม่ผา่ น การใช้ภาษา สื่อ อุปกรณ์ประกอบการนาเสนอ หมายถึง ระดับคุณภาพ 4 (ดมี าก) ผา่ น การรักษาเวลาในการนาเสนอผลงาน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ 3 (ดี) ผา่ น เกณฑร์ ะดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ 2 (พอใช)้ ผ่าน คะแนน 11 – 15 คะแนน คะแนน 6 – 10 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ 1 (ปรบั ปรุง) ไม่ผา่ น คะแนน 1 – 5 คะแนน กลุม่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 120
แนวทางการประเมนิ พฤติกรรมนักเรียน เกณฑ์การพิจารณาการให้คะแนนพฤติกรรม 2 หมายถึง แสดงพฤติกรรมทก่ี าหนดบอ่ ยครั้ง 1 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมทกี่ าหนดบางคร้งั 0 หมายถึง ไม่แสดงพฤติกรรมทีก่ าหนด พฤติกรรม 2 ระดับการใหค้ ะแนน 0 1. สนใจการเรยี น ไมส่ นใจการเรยี น 2. การแสดงความคดิ เหน็ มีความสนใจ 1 ในการเรียนตลอดเวลา ไม่เคยแสดงความ 3. การรับฟังความคิดเห็น มีความสนใจ คิดเหน็ กับสมาชิกกลมุ่ แสดงความคดิ เห็นกบั ในการเรยี นเปน็ บางครั้ง ตนเองและกลุ่มเพ่ือน 4. ความรบั ผิดชอบ สมาชกิ กลุม่ ตนเองและ ไม่ยอมรับความคิดเหน็ กลุ่มเพ่ือน เป็นประจา แสดงความคิดเห็นกบั กบั สมาชกิ กลุ่มตนเอง 5. สรุปความรู้ /สรา้ งองค์ สมาชกิ กลมุ่ ตนเองและ และกลมุ่ เพ่ือน ความรู้ อยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ยอมรบั ฟังความคดิ เห็น กลุ่มเพ่ือน เป็นบางคร้ัง -แผนทคี่ วามคิด กบั สมาชิกกลุ่มตนเอง ปฏิบตั งิ านทไี่ ดร้ ับ -แผนท่ีความคดิ ออนไลน์ และกลมุ่ เพ่ือน เปน็ ยอมรับฟังความคิดเหน็ มอบหมายไม่ครบถว้ น -อนิ โฟกราฟฟิก ประจา กบั สมาชิกกลุ่มตนเอง และ ไม่ตรงเวลา ฯลฯ และกลุ่มเพ่ือน ไมส่ รปุ ความรู้ / ปฏิบัติงานที่ไดร้ บั เปน็ บางคร้งั สร้างองค์ความรู้ มอบหมายครบถว้ น ตามกิจกรรมการเรียนรู้ และ ตรงเวลา ปฏบิ ตั งิ านท่ไี ดร้ ับ มอบหมายครบถ้วน สรุปความรู้ /สรา้ งองค์ และ ตรงเวลาบางครัง้ ความรู้ ได้ครบถว้ นตาม กิจกรรมการเรียนรู้ สรปุ ความรู้ /สรา้ งองค์ ความรู้ ได้เป็นส่วนใหญ่ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้ กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.36 121
เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม/กระบวนการกลุ่ม กลุ่มที.่ .....................ชอื่ กลุม่ .............................................................. ประเด็นการประเมนิ เกณฑร์ ะดับคุณภาพ 1. การกาหนด บทบาท 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 2. ข้นั ตอนใน การทางาน มีประธาน เลขา ขาดองค์ประกอบ ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองค์ประกอบ กล่มุ เหรัญญกิ 3. การใหค้ วาม และผู้รายงาน 1 อย่าง 2 อยา่ ง 3 อยา่ ง รว่ มมือในการ ปฏบิ ัตงิ าน 1. มีการวางแผน ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองค์ประกอบ 4. ความรบั ผดิ ชอบ ในการทางาน 1 ข้อ 2 ข้อ ทกุ ข้อ ต่อหนา้ ท่ี 2. มีการเตรยี ม วัสดุ อปุ กรณ์ 80% ของกลุ่ม 60% ของกลมุ่ 40% ของกลุ่ม 5. ตรงเวลา 3. ปฏิบัตงิ าน มสี ว่ นร่วม และ มสี ว่ นร่วม และ มสี ่วนรว่ ม และ ตามแผน และ ใหค้ วามรว่ มมือ ใหค้ วามร่วมมือ ใหค้ วามรว่ มมือ พฒั นางาน มีผปู้ ฏิบตั ิหน้าที่ มผี ปู้ ฏิบตั หิ น้าที่ มผี ้ปู ฏบิ ัตหิ น้าท่ี ทุกคนมสี ่วนรว่ ม แต่ไมร่ ับผดิ ชอบ แต่ไม่รับผดิ ชอบ แตไ่ ม่รบั ผิดชอบ และให้ความ 1 คน 2 คน 2 คนขึ้นไป ร่วมมอื อย่าง เตม็ ที่ ทางานเสรจ็ ไม่ทนั ทางานเสรจ็ ไม่ทนั ทางานไมเ่ สร็จ ทกุ คนมหี น้าท่ี ตามเวลาที่ ตามเวลาท่ี ตามเวลาท่ี และมคี วาม รบั ผิดชอบต่อ กาหนด และ กาหนดและงาน กาหนด และงาน หน้าทขี่ องตน งานเสร็จตาม กาหนดและงาน มคี ุณภาพดมี าก งานมีคณุ ภาพดี มีคณุ ภาพตา่ มคี ุณภาพต่า กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา สพม.36 122
แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกล่มุ /กระบวนการกลุ่ม กลมุ่ ที่......................ชือ่ กลุม่ .............................................................. ประเด็นการประเมิน เกณฑ์ระดบั คุณภาพ รวม สรปุ ผลการประเมิน 4321 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1. การกาหนดบทบาท 2. ขน้ั ตอนในการทางาน รวม 3. การใหค้ วามร่วมมือในการ ปฏบิ ตั ิงาน 4. ความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี 5. ตรงเวลา เกณฑ์ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ระดบั คุณภาพ 4 (ดีมาก) ผ่าน คะแนน 16 – 20 คะแนน หมายถึง คะแนน 11 – 15 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ 3 (ดี) ผ่าน คะแนน 6 – 10 คะแนน หมายถงึ คะแนน 1 – 5 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (พอใช)้ ผา่ น ระดบั คุณภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) ไมผ่ า่ น กล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สพม.36 123
เกณฑก์ ารประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ /กระบวนการกลุม่ แบบประเมินการการเผยแพร่ผลงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง มีงานทา มีอาชพี กลมุ่ ท่.ี .....................ชอื่ กลมุ่ .............................................................. ประเดน็ การประเมิน เกณฑ์ระดบั คุณภาพ รวม สรปุ ผลการประเมิน กลวิธีในการเผยแพร่ขอ้ มลู 4321 ผา่ น ไม่ผา่ น เนื้อหาถูกตอ้ งสมบูรณ์ครบถว้ น การใช้ภาษา สอ่ื อปุ กรณ์ประกอบการเผยแพร่ ระยะเวลาในการเผยแพร่ผลงาน เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ หมายถงึ ระดบั คุณภาพ 4 (ดมี าก) ผ่าน คะแนน 16 – 20 คะแนน หมายถงึ คะแนน 11 – 15 คะแนน หมายถงึ ระดับคุณภาพ 3 (ดี) ผา่ น คะแนน 6 – 10 คะแนน หมายถึง คะแนน 1 – 5 คะแนน ระดบั คุณภาพ 2 (พอใช)้ ผา่ น ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) ไม่ผ่าน กลุม่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สพม.36 124
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187