รายงานการศึกษาตามอัธยาศัย ประจำปีงบประมาณ 2564

รายงานผลการดาเนนิ งาน ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอป่าซาง จงั หวดั ลาพูน ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอปา่ ซาง สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดลาพูน สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ

ก คานา การจัดทาโครงการและการจัดกิจกรรมห้องสมุดประชาชนอาเภอป่าซางเป็นการให้บริการกับ ผู้รับบริการ และชุมชน ในหลายลักษณะ เพื่อให้การดาเนินการจัดกิจกรรมห้องสมุดประชาชนอาเภอป่าซาง ได้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน.จังหวัด/อาเภอ สภาพปัญหาและ ความต้องการของผู้รับบริการและชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ จึงควรมีรายงานผลการดาเนินงานของห้องสมุด ประชาชนอาเภอป่าซาง จังหวดั ลาพนู โดยดาเนินการตัง้ แต่ ตุลาคม ๒๕๖๓ – กนั ยายน ๒๕๖๔ รายงานผลการดาเนินงานเล่มนี้ สามารถนามาเป็นบทเรียนและพัฒนาในการจัดทาโครงการและการ จัดกิจกรรมห้องสมุดประชาชนต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพ ซ่ึงสามารถดาเนินการจัดกิจกรรมได้ อย่างครบวงจร ห้องสมุดประชาชนอาเภอป่าซาง จึงหวังว่ารายงานผลการดาเนินงานเล่มน้ี จะบ่งบอกถึงการบรรลุ วัตถุประสงค์ของโครงการและจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมห้องสมุดประชาชน ทั้งในการบริหารงาน การพัฒนาคน และการทางานที่ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการและชุมชน สามารถเผยแพร่ต่อ สาธารณชนได้ และขอขอบคุณผู้มีส่วนเก่ียวข้องและให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามทุกท่านไว้ ณ โอกาสนด้ี ้วย หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอปา่ ซาง กนั ยายน ๒๕๖๔

สารบัญ ข เร่ือง หน้า คานา ก สารบัญ ข ตอนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานห้องสมุดประชาชนอาเภอป่าซาง ๑ ประวัตคิ วามเปน็ มา ๑ วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย และกลยทุ ธ์ ๒ โครงสรา้ งการบริหารงานห้องสมดุ ๓ บคุ ลากรหอ้ งสมุด ๔ จานวนสมาชิก ๔ จานวนทรัพยากรสารสนเทศ ๕ สถิตผิ ใู้ ช้บริการห้องสมดุ ๕ สถิติการยืม-คนื ทรัพยากรสารสนเทศ ๖ สถติ ิผ้ใู ช้บรกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ ๖ ระเบยี บการใชบ้ รกิ ารห้องสมุด ๗ รางวลั หรือการเชิดชูเกียรตทิ เ่ี คยได้รับจากหนว่ ยงาน ๑๒ เวบ็ ไซตข์ องหอ้ งสมุด ๑๒ เพจ Facebook : ห้องสมดุ ประชาชน ๑๓ อาคารสถานที่ ๑๕ ตอนที่ ๒ งานบริการของห้องสมดุ ประชาชนอาเภอป่าซาง ตอนที่ ๓ สรุปผลการดาเนินงานโครงการ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ๒๑ โครงการโครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ๕๗ ๘๒ โครงการบ้านหนงั สือชุมชน ๙๔ ๑๐๕ โครงการห้องสมุดเคลอื่ นทีส่ าหรบั ชาวตลาด ๑๑๖ ๑๒๕ โครงการห้องสมุดเคล่อื นท่ีส่ชู ุมชน ๑๓๔ ๑๔๖ โครงการบรรณสัญจร ๑๕๘ ๑๖๙ โครงการรถโมบายส่งเสริมการอ่าน ๑๗๙ โครงการวันรักการอ่าน โครงการพฒั นาห้องสมุดประชาชนใหเ้ ปน็ ศูนย์กลางการเรยี นรู้ตลอดชีวิต โครงการสง่ เสริมการอา่ นออนไลน์ โครงการปฐมวยั ใสใ่ จการอา่ น โครงการวันเดก็ แหง่ ชาติ โครงการอา่ นได้ไมล่ มื ภาคผนวก

๑ ตอนที่ ๑ ข้อมูลพ้ืนฐานหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอปา่ ซาง ประวัตหิ ้องสมดุ ประชาชนอาเภอป่าซาง ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซาง เดิมใช้อาคารภายในทว่ี ่าการอาํ เภอปา่ ซาง เปน็ สถานท่ีให้บรกิ าร ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๓๖ กรมการศกึ ษานอกโรงเรียนไดจ้ ัดตง้ั ศูนยบ์ ริการการศึกษานอกโรงเรยี นอําเภอป่าซางขึ้น ห้องสมุดประชาชนอาํ เภอปา่ ซางจึงยา้ ยมาใหบ้ รกิ ารท่ีอาคารเอนกประสงค์ภายในวัดฉางขา้ วน้อยเหนือ เป็นทใี่ ห้บรกิ าร ในปี พ.ศ.๒๕๓๗ ไดร้ ับงบประมาณจากสว่ นกลางเพ่ือนํามาก่อสร้างอาคารห้องสมุดประชาชนเปน็ อาคารเอกเทศชั้นเดียว และได้ทาํ พิธีเปิดอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.๒๕๓๙ โดยมีนายชาตชิ าตรี โยสีดา อธบิ ดี กรมการศึกษานอกโรงเรยี น เปน็ ประธานในพิธีเปิดและใชเ้ ป็นสถานทีป่ ฏิบัติงานมาจนถงึ ปจั จบุ ัน สถานท่ีตง้ั หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอปา่ ซาง เลขที่ ๒๓๗ หม่ทู ี่ ๔ ถนนลาํ พนู – ล้ี อําเภอป่าซาง จังหวดั ลําพนู ๕๑๑๒๐ โทรศพั ท์ ๐-๕๓๕๕-๗๒๑๗ โทรสาร ๐-๕๓๕๒-๒๓๒๘ Website : http://lrls.nfe.go.th/LRLS/frontend/theme/index.php?Submit=Init&ID_Lib=624 Facebook : https://www.facebook.com/libpasang/ วิสัยทัศน์ ม่งุ พฒั นาห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซางเปน็ แหล่งเรียนรู้ท่มี ีคุณภาพและมาตรฐาน เพ่ือสรา้ งสงั คม แห่งการเรียนรู้ และสรา้ งนิสัยรกั การอา่ นอย่างยง่ั ยืน พนั ธกิจ ๑. จดั หาและใหบ้ รกิ ารหนังสือและสื่อเรียนรู้ทด่ี ี มีคณุ ภาพ ๒. สรา้ งบรรยากาศทีเ่ อื้อต่อการอ่านและการเรยี นรู้ ๓.บรรณารักษ์เปน็ นักบริหารงานห้องสมดุ มืออาชีพ จดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน ประสานเครือข่าย อยา่ งมีคณุ ภาพ

๒ เปา้ หมายห้องสมุดประชาชนอาเภอป่าซาง ๑. ดา้ นปริมาณ ประชาชนอาํ เภอปา่ ซางและพน้ื ทใี่ กลเ้ คยี งไดร้ บั บริการอย่างทวั่ ถึง ๒. ดา้ นคุณภาพ ๑. ห้องสมุดมีหนังสือ สื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย หลากหลาย และสอดคล้องกับความต้องการ ของผูร้ ับบรกิ าร ๒. หอ้ งสมุดได้รบั การปรบั ปรงุ ดา้ นภูมิทศั นแ์ ละบรรยากาศให้เอ้ือต่อการอา่ นและการเรยี นรู้ ๓. บรรณารักษ์ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ สามารถบริหารจัดการห้องสมุดแนวใหม่ จดั กิจกรรมส่งเสริมการอ่านอา่ นมคี ณุ ภาพ กลยุทธใ์ นการดาเนนิ งาน ๑. หนงั สือและส่อื การเรยี นรดู้ ี มีคุณภาพ ๒. สถานท่ดี ี บรรยากาศดี มีความสขุ ๓. บรรณารักษด์ ี มคี ุณภาพ ๔. บรกิ าร ICT ๕. สง่ เสริมการอา่ น สรา้ งการเรยี นรู้ ๖. พัฒนาหอ้ งสมุดให้เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรู้ตลอดชีวติ โครงสร้างการบริหารงานห้องสมุด

๓ บุคลากรห้องสมุดประชาชนอาเภอปา่ ซาง นางสาวชุติมา วงศ์กญั ญา ปรญิ ญาตรี คณะบริหารธรุ กจิ สาขาการศึกษา วิชาเอกการบญั ชี มหาวิทยาลัยแมโ่ จ้เชยี งใหม่ เร่มิ ปฏบิ ัตงิ านต้งั แต่วนั ท่ี ๑ เดอื น เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ จานวนสมาชิกหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอป่าซาง สมาชิก ชาย ๙๙๑ คน สมาชกิ หญงิ ๑,๗๒๘ คน รวม ๒,๗๑๙ คน (ขอ้ มูล ณ วันท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๔)

๔ จานวนทรัพยากรสารสนเทศ ประเภททรัพยากรสารสนเทศ จานวน หนว่ ยนบั หมายเหตุ หนังสือทัว่ ไป ๐๐๐ เบ็ดเตล็ด ๘๓ เลม่ ๑๐๐ ปรชั ญาและจติ วทิ ยา ๑๐๙ เล่ม ๒๐๐ ศาสนา ๑๖๒ เลม่ ๓๐๐ สังคมศาสตร์ ๑๓๙ เล่ม ๔๐๐ ภาษา ๘๒ เล่ม ๕๐๐ วทิ ยาศาสตร์ ๘๙ เล่ม ๖๐๐ เทคโนโลยี ๔๙๑ เล่ม (ข้อมลู ณ วันที่ ๓๐ กนั ยายน ๗๐๐ ศิลปะและนนั ทนาการ ๑๕๑ เลม่ ๒๕๖๔) เล่ม ๘๐๐ วรรณกรรม ๑๔๔ ๙๐๐ ประวัติศาสตร์และภมู ิศาสตร์ ๒๐๑ เล่ม หนงั สืออา้ งอิง ๕๔๔ เล่ม นวนิยาย ๑,๓๑๐ เล่ม เรอ่ื งสั้น ๒๙ เลม่ หนังสือเยาวชน เด็ก ๒๒๘ เลม่ วารสาร/นิตยสาร ๑๒ ชอ่ื หนังสอื พิมพ์ ๑ ชอื่ สื่อโสตทัศนวัสดแุ ละสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ซีดรี อม ๖๗๓ (ข้อมูล ณ วันท่ี แผน่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๔)

๕ สถติ ิผใู้ ชบ้ ริการหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอปา่ ซาง สถติ กิ ารยืม-คืนทรพั ยากรสารสนเทศ สถติ ิผใู้ ชบ้ ริการห้องสมุด ชาย หญิง รวม หมายเหตุ เดอื น / ปี ๑๐๕ ๔๓ ๑๔๘ หยดุ วันนกั ขตั ฤกษ์ ตุลาคม ๒๕๖๓ ๑๔๖ ๓๐ ๑๗๖ (ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ๗๖ ๑๗ ๙๓ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๔) ธันวาคม ๒๕๖๓ ๕๖ ๓๑ ๘๗ มกราคม ๒๕๖๔ ๙๔ ๒๔ ๑๑๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ ๑๒๓ ๑๑ ๑๓๔ ๓๑ ๑๙ ๕๐ มนี าคม ๒๕๖๔ ๑๐๑ ๓๔ ๑๓๕ เมษายน ๒๕๖๔ ๙๕ ๒๕ ๑๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ๓๓ ๑๒ ๔๕ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ๙๘ ๓๖ ๑๓๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ๘๙ ๑๖ ๑๐๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ ๑,๐๔๗ ๒๙๘ ๑,๓๔๕ กนั ยายน ๒๕๖๔ รวม เดอื น / ปี ทรัพยากรสารสนเทศ (เล่ม) หมายเหตุ ยืม คนื รวม ตุลาคม ๒๕๖๓ ๑๑ ๒๖ ๓๗ หยุดวันนกั ขตั ฤกษ์ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ๒๙ ๒๕ ๕๔ (ข้อมลู ณ วันที่ ธันวาคม ๒๕๖๓ ๓๗ ๕๔ ๙๑ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๔) มกราคม ๒๕๖๔ ๑๙ ๑๑๒ ๑๓๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ๑๗ ๖๗ ๘๔ ๔๖ ๑๑๘ ๑๖๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ๖๙ ๓๓ ๑๐๒ เมษายน ๒๕๖๔ ๓๗ ๕๑ ๘๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ๖๗ ๑๐๑ ๑๖๙ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ๒๑ ๗๗ ๕๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ๕๗ ๕๓ ๑๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ๖๘ ๓๗ ๑๐๕ กนั ยายน ๒๕๖๔ ๔๑๑ ๗๘๒ ๑,๑๙๓ รวม

๖ สถิติผูใ้ ชบ้ ริการอินเตอร์เนต็ เดือน / ปี ชาย หญงิ รวม หมายเหตุ ตลุ าคม ๒๕๖๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓ ๕๕ ๒๙ ๘๖ หยุดวนั นกั ขัตฤกษ์ ธันวาคม ๒๕๖๓ ๔๘ ๒๙ ๗๗ (ขอ้ มลู ณ วันท่ี มกราคม ๒๕๖๔ ๔๑ ๑๘ ๕๙ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔ มนี าคม ๒๕๖๔ ๕๐ ๒๖ ๗๖ เมษายน ๒๕๖๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ๓๙ ๒๔ ๖๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ๕๒ ๒๓ ๗๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ กันยายน ๒๕๖๔ ๑๕ ๙ ๒๔ รวม ๕๕ ๒๔ ๗๙ ๕๓ ๑๖ ๖๘ ๒๑ ๑๓ ๓๔ ๕๗ ๓๐ ๘๗ ๖๑ ๒๑ ๘๒ ๕๔๗ ๒๖๓ ๘๑๐ ระเบียบการใช้บรกิ ารห้องสมดุ การสมัครสมาชกิ การสมคั รสมาชกิ ประชาชนทั่วไปและผ้รู ับบริการสามารถสมัครสมาชกิ ผ่านเวบ็ ไซตข์ องห้องสมุดได้ http://lrls.nfe.go.th/LRLS/frontend/theme/index.php?Submit=Init&ID_Lib=624 เลอื กหวั ข้อ “สมัครสมาชิกห้องสมดุ ” หรอื ติดต่อบรรณารักษ์และเจ้าหนา้ ท่ผี ้ดู ูแล

๗ ระเบยี บการยืม - คืนทรัพยากรสารสนเทศ ๑. หนงั สือหมวด ๐๐๐ - ๙๐๐ ๒. นวนยิ าย เรอ่ื งส้ัน เยาวชน หนังสอื เด็ก ๓. ยมื ไดไ้ ม่เกนิ ๗ เรอื่ ง กาํ หนด ๗ วนั และตอ้ งเปน็ สมาชิกห้องสมดุ เทา่ นัน้ ๔. วดี ีทัศน์ ซดี รี อม วีซดี ี เทปประกอบการศึกษา ยืมได้ไม่เกิน ๓ แผน่ /มว้ น/ตลับ กาํ หนด ๓ วนั ๕. หนังสืออ้างอิง หนังสือพิมพ์ วารสาร ไม่อนุญาตให้ยืมหรือนําออกจากห้องสมุด หากประสงค์ ต้องการบทความในหนังสอื ดังกล่าว ใหต้ ดิ ตอ่ บรรณารกั ษห์ รือเจา้ หน้าทผี่ ู้ดแู ลทําการสาํ เนาเอกสารให้ การใชบ้ ริการคอมพิวเตอรแ์ ละอนิ เตอรเ์ น็ต สมาชกิ ห้องสมุดสามารถใชบ้ ริการอนิ เตอรเ์ น็ตเพื่อการเรียนรู้ และสามารถยืมสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ได้ กรณีสมาชิกห้องสมดุ ทาหนังสอื และส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์หาย สมาชิกต้องแจ้งบรรณารักษ์หรือเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าหนังสือหาย โดยปฏิบัตดิ งั นี้ ๑. ซ้ือหนังสือเรือ่ งเดยี วกันมาทดแทน ๒. ถา้ หาหนังสอื ช่ือเร่ืองเดียวกนั ไม่ได้ ใหห้ าหนังสือที่มีราคาเท่ากันกับหนงั สอื ทีส่ ูญหายมาทดแทน วัน เวลาทาการ เปิดบรกิ ารทุกวนั วันจันทร์ - วันอาทิตย์ (เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น.) หยุดวันนักขตั ฤกษ์ และตาม ประกาศของ กศน.อาํ เภอป่าซาง เกียรตบิ ตั ร โล่ประกาศเกียรติคุณ ๑. เกยี รติบัตรจดั กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านและการเรียนรู้ เทศบาลตาํ บลป่าซาง ๒. เกยี รติบตั รเข้ารว่ มกิจกรรม โครงการเทศบาลพบประชาชน ปี ๒๕๕๗ ๓. เกียรติบัตรจัดกจิ กรรมอาเซียนศึกษาดีเด่น ๔. โลป่ ระกาศเกียรติคุณ ห้องสมุดประชาชนประจาํ อําเภอดีเดน่ ประจาํ ปี ๒๕๕๗

๘ ๕. เกยี รตบิ ตั รรางวัล สดุ ยอดนักอ่าน อาํ เภอป่าซาง ประจาํ ปี ๒๕๕๘ ๖. รางวัลบา้ นหนงั สืออัจฉรยิ ะดีเด่นประจําอําเภอ ได้แก่ บ้านนางรัชนบี รู ณ์ กาํ แพงทิพย์ ๗. รางวลั บา้ นหนงั สอื ชมุ ชนดเี ด่น ไดแ้ ก่ บา้ นหนังสือชุมชนตาํ บลมะกอก นางรชั นีบรู ณ์ กาํ แพงทิพย์ ๘. เกยี รตบิ ัตร บา้ นหนังสือชุมชนตน้ แบบ ระดบั กล่มุ สํานักงาน กศน.จังหวดั ประจาํ ปี ๒๕๕๙ ๙. เกียรตบิ ตั ร บ้านหนงั สอื ชมุ ชนตน้ แบบ ระดับกลุ่มสาํ นักงาน กศน.จังหวัด กลุ่มหลา่ ยดอย ประจาํ ปี ๒๕๖๐

๙ ๑๐. เกียรติบตั ร บ้านหนังสือชมุ ชนตน้ แบบดีเดน่ ระดับจงั หวดั ประจาํ ปี ๒๕๖๑ ๑๑. เกยี รติบตั ร นวัตกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นดีเดน่ ระดับจงั หวัด ประจําปี ๒๕๖๑ ๑๒. เกียรติบัตร รางวลั สุดยอดนักอา่ น เน่ืองในวันรักการอ่าน ประจาํ ปี ๒๕๖๑

๑๐ ๑๓. เกียรติบัตร บรรณารักษ์ดเี ด่น ดา้ นการสรา้ งบรรยากาศหอ้ งสมุดดเี ดน่ ระดับจังหวดั ประจาํ ปี ๒๕๖๑ ๑๔. เกียรติบัตร เชดิ ชเู กียรติ ในการร่วมดาํ เนินโครงการ “หอ้ งสมดุ เคลื่อนท่สี าํ หรบั ชาวตลาด” ประจาํ ปี ๒๕๖๑ ๑๕. เกียรตบิ ัตร ด้านการจัดกิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น ดีเดน่ ระดบั อําเภอ ประจําปี ๒๕๖๑

๑๑ ๑๖. เกียรติบตั ร บรรณารักษ์ ดเี ดน่ ระดบั อําเภอ ประจาํ ปี ๒๕๖๒ ๑๗. เกยี รติบตั ร รางวลั ชมเชย ประเภทบรรณารกั ษ์ ดีเดน่ ระดับจงั หวดั ประจําปี ๒๕๖๒ ๑๘. เกียรติบตั ร รางวัลท่ี ๓ ประเภทบรรณารักษ์ ดีเดน่ ระดบั จงั หวัด ประจาํ ปี ๒๕๖๓

๑๒ เวบ็ ไซต์ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอป่าซาง เว็บไซตห์ ้องสมุดประชาชนอําเภอปา่ ซางใหบ้ ริการทางดา้ นข้อมูลขา่ วสารต่างๆ ข้อมูลพืน้ ฐานเกี่ยวกับ หอ้ งสมดุ กจิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งสมุด ผูร้ บั บริการสามารถใชบ้ รกิ ารตา่ งๆ ผา่ นเว็บไซต์ของหอ้ งสมดุ ประชาชน อาํ เภอปา่ ซางได้ เชน่ สมคั รสมาชกิ ออนไลน์ บริการจองหนังสอื และสื่อโสตทัศนวสั ดุ บรกิ ารสืบคน้ หนงั สอื /สือ่ บรกิ ารตอบคาํ ถามและช่วยค้นคว้า ขอ้ มูลต่างๆ เกยี่ วกบั ห้องสมดุ ได้ อีกทงั้ เว็บไซต์ของห้องสมุดประชาชน อาํ เภอป่าซางเป็นระบบเชือ่ มโยงแหลง่ การเรียนรู้ สามารถศึกษาและสบื คน้ ข้อมลู ความร้ตู ่างๆ ผ่านเว็บไซต์ http://lrls.nfe.go.th/LRLS/frontend/theme/index.php?Submit=Init&ID_Lib=624 เพจ Facebook ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปา่ ซาง Facebook ของห้องสมดุ ประชาชนอาํ เภอปา่ ซาง ให้บรกิ ารข้อมูลขา่ วสาร ความร้ตู า่ งๆ ในดา้ นการ สง่ เสริมการอ่าน อาทเิ ชน่ กิจกรรมส่งเสริมการอา่ นของห้องสมดุ บริการแนะนําหนงั สือใหม่ นิตยสารและ วารสารใหม่ ความรตู้ า่ งๆ ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ผ้รู ับบริการ https://www.facebook.com/libpasang/

๑๓ อาคารสถานที่ ด้านอาคารสถานที่เป็นส่ิงสําคัญท่ีเอ้ือต่อการให้บริการ ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซางจึงมีการ พัฒนาอาคารสถานท่ีอย่างต่อเนื่อง มีบรรยากาศดีเอื้อต่อการอ่านและการเรียนรู้ มีมุมหนังสือหลากหลาย มตี น้ ไมใ้ ห้ความร่มรนื่ อากาศถ่ายเทดี สถานท่ีสะอาด ปลอดโปร่ง ปลอดภัย พ้ืนที่ไม่คับแคบ มีท่ีนั่งเพียงพอต่อ ผู้มาใช้บรกิ ารผู้ใช้บรกิ ารสามารถนั่งหรือนอนอ่านตามอัธยาศัย มีเฟอร์นิเจอร์ จัดสัดส่วนได้เหมาะสม ฟรี WiFi ฟรนี าํ้ ดมื่ ชาและกาแฟ ห้องนาํ้ สะอาด สถานทจ่ี อดรถเพียงพอต่อผ้มู าใชบ้ ริการ บรรยากาศดเี อ้ือต่อการอ่าน มุมเฉลมิ พระเกียรติ มุมหนงั สอื ทัว่ ไป มุมนวนิยาย มุมหนังสือพมิ พ์และวารสาร มุมเศรษฐกจิ พอเพยี ง

๑๔ มมุ บรกิ ารยืม – คืนทรัพยากรสารสนเทศ มุมคอมพวิ เตอร์ มุมเด็ก มุมอาเซยี น มมุ น้าํ ดื่ม ชาและกาแฟ ห้องนาํ้ สะอาด

ตน้ ไมใ้ ห้ความร่มรื่น ๑๕ ที่จอดรถมเี พยี งพอสาํ หรบั ผรู้ ับบรกิ าร ตอนที่ ๒ งานบรกิ ารหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอปา่ ซาง ๑. บรกิ ารอา่ น บริการอ่าน ถือเป็นบริการหลักของห้องสมุดท่ีจัดหาและคัดเลือกหนังสือ ส่ิงพิมพ์ต่างๆ มาไว้เพื่อ ให้บริการ ตอบสนองความต้องการ และความสนใจของผู้รับบริการมากท่ีสุด ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซาง มีหนังสือและส่ือต่างๆ หลากหลายประเภท จัดเตรียม แยกตามหมวดหมู่ไว้ให้บริการแก่ผู้รับบริการทุกท่าน เพ่ือการอ่านท่ัวไปและการศึกษาค้นคว้าท้ังภายในและภายนอกห้องสมุด สามารถอ่านภายในห้องสมุดและยืม กลับไปอ่านที่บ้านได้ หนังสือและสื่อๆ ต่าง ได้จัดไว้บริการให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อเอื้อความสะดวกให้กับ ผู้รับบรกิ าร อกี ทั้งยังให้บริการการศกึ ษาคน้ คว้าทัง้ ภายในและภายนอกห้องสมดุ ดว้ ยระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ของห้องสมดุ เพื่อการสืบค้นสารสนเทศได้อย่างสะดวกและรวดเรว็

๑๖ ๒. บริการยมื -คืน บริการยืม – คืน ทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ ภายในห้องสมุดตามระเบียบการยืม – คืน ของห้องสมุด เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการในการใช้งานห้องสมุด และใช้เว็บไซต์ระบบเชื่อมโยง แหลง่ การเรียนรู้ในการให้บริการยมื – คืน ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด ซ่ึงระบบเชื่อมโยงแหล่งการเรียนรู้ ยงั เปน็ เวบ็ ไซต์ของหอ้ งสมุดประชาชนอําเภอป่าซางอกี ด้วย ระบบบรกิ ารยืม – คืน ทรัพยากรสารสนเทศ ๓. บรกิ ารสืบคน้ สารสนเทศ บริการสบื คน้ สารสนเทศ เปน็ บรกิ ารสืบค้นฐานข้อมูลหนงั สอื ของห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซางและ ห้องสมุดประชาชนอ่ืนๆ หรือสืบค้นสารสนเทศอ่ืนๆ ตามความต้องการ เพื่อช่วยให้ผู้รับบริการสามารถค้นหา หนังสือและฐานข้อมูลอ่ืนๆ ตามความต้องการด้วยตนเองได้สะดวกรวดเร็วข้ึน ด้วยการให้บริการโดยระบบ อัตโนมัติโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีจํานวนท้ังหมด ๑๖ เครื่อง ในการสืบค้นสารสนเทศออนไลน์ ท้ังการ ค้นหารายชอ่ื หนังสอื หรอื บทความจากวารสาร และหากต้องการรายชอื่ บทความจากวารสารหรือรายช่ือหนังสือ เหล่าน้ัน สามารถตดิ ตอ่ ขอสําเนาเอกสารไดจ้ ากบรรณารักษ์หรอื เจ้าหนา้ ที่ห้องสมดุ

๑๗ ๔. บริการสอ่ื สง่ิ พมิ พต์ ่อเน่อื ง บรกิ ารสง่ิ พมิ พ์ต่อเนื่อง ใหบ้ ริการหนังสอื พมิ พ์และวารสาร ทั้งฉบบั ปัจจบุ ันและฉบบั ลว่ งเวลา ท้งั นี้ทาง หอ้ งสมดุ จดั ให้มีบริการทางดา้ นหนังสอื พมิ พ์จํานวน ๒ ฉบบั ต่อวัน ไดแ้ ก่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและหนังสือพิมพ์ เดลนิ ิวส์ สว่ นบริการทางด้านวารสาร จัดให้มกี ารบรกิ าร จํานวน ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน ๕. แนะนาหนังสือใหม่ บริการแนะนําหนังสือใหม่ ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซางเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สําคัญของชุมชน อําเภอป่าซาง จงึ คํานงึ ถึงความสําคัญในการเลือกทรัพยากรสารสนเทศท่ีสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่า มากท่ีสุด จึงได้จัดบริการแนะนําหนังสือใหม่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจในหนังสือเล่มใหม่ท่ีอยู่ภายใน ห้องสมดุ และเพ่อื ใหผ้ ู้ใช้บริการได้ทราบถึงกระบวนการจัดหาสื่อใหม่ตามความต้องการ และสอดคล้องสําหรับ ใชป้ ระกอบการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ การจัดแสดงและแนะนําหนังสือใหม่ จะจัดแสดงและบริการแนะนํา หนังสือใหม่ สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง จัดแสดงและแนะนําภายในห้องสมุด และแนะนําหนังสือใหม่ผ่านส่ือออนไลน์ อ่นื ๆ ของห้องสมดุ ได้แก่ เว็บไซต์ และเฟซบ๊กุ ของหอ้ งสมุดประชาชนอาํ เภอปา่ ซาง

๑๘ ๖. บริการเคร่ืองคอมพิวเตอร์ บริการเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซาง ด้านคอมพิวเตอร์ มีจํานวนคอมพิวเตอร์ ใหบ้ ริการในมุม ICT จาํ นวน ๑๖ เครือ่ ง ซง่ึ มอี ุปกรณค์ รบครนั พร้อมให้บริการ ท้ังนี้ผู้รับบริการสามารถเชื่อมต่อ อนิ เตอรเ์ น็ตได้ดว้ ยตนเอง โดยติดตอ่ ขอรับรหสั เข้าใชง้ านไดท้ ี่บรรณารักษ์หรือเจ้าหนา้ ท่หี ้องสมุด ๗. บรกิ ารอินเทอร์เนต็ ไร้สาย (WIFI) บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WIFI) ให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี จากเครือข่าย TOT ผู้รับบริการสามารถ สืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตท่ีสนใจได้ท่ัวโลก ด้วยขนาดความเร็ว Fiber 2U Up to ๑๐๐Mb/๕๐Mb ซึ่งทํา ให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงสารสนเทศท่ีทันสมัยได้มากขึ้น ตรงตามความต้องการและสะดวกรวดเร็ว ผู้รับบริการสามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทางห้องสมุดมีไว้บริการ หรือสามารถใช้ เครอื่ งมอื ส่อื สารของผรู้ ับบริการไดเ้ ลย โดยตดิ ต่อขอรบั รหสั เขา้ ใชง้ านได้ที่บรรณารักษห์ รือเจา้ หน้าทหี่ อ้ งสมดุ

๑๙ ๘. จัดแสดงนทิ รรศการและบอรด์ ความรู้ ตามเทศกาลวันสาคญั ตา่ งๆ จัดแสดงนิทรรศการและบอร์ดความรู้ ตามเทศกาลท่ีสําคัญต่างๆ ห้องสมุดประชาชนอําเภอป่าซาง เล็งเห็นและให้ความสําคัญกับเทศกาลและวันสําคัญต่างๆ จึงได้จัดนิทรรศการและบอร์ดความรู้ตามเทศกาล และวันสําคัญต่างๆ เพ่ือประชาสัมพันธ์และให้ประชาชนท่ัวไป ผู้รับบริการ ได้รับความรู้และเกิดการเรียนรู้ เก่ียวกับเทศกาลและวนั สําคัญต่างๆ ลาดบั ท่ี นทิ รรศการและบอรด์ ความรู้ ๑ วนั ปิยมหาราช ๒ วันลอยกระทง ๓ วนั คริสตม์ าส ๔ วนั คล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ๒ เมษายน ๕ วันสงกรานต์ ๖ วันฉตั รมงคล ๗ วันพชื มงคล ๘ วันวิสาขบูชา ๙ วันเฉลมิ พระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสทุ ดิ า พัชรสธุ าพิมลลักษณ พระบรมราชนิ ี ๑๐ วนั เข้าพรรษา ๑๑ วันเฉลมิ พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ ัว รัชกาลท่ี ๑๐ ๑๒ วันงดดืม่ สุราแหง่ ชาติ ๑๓ วันเฉลมิ พระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนี พันปี หลวง และวนั แม่แหง่ ชาติ ๑๔ ความรโู้ รคโควิด-๑๙ และวคั ซีน

๒๐ ๙. บริการตอบคาถามและชว่ ยการคน้ คว้า บริการตอบคําถามและช่วยการค้นคว้า ประชาชนท่ัวไปและผู้รับบริการ มีความสําคัญต่อห้องสมุด ประชาชนอําเภอป่าซางเป็นอย่างมาก เนื่องจากงานห้องสมุดเป็นงานบริการท้ังภายนอกและภายในสถานท่ี ดังนนั้ การใหค้ ําแนะนาํ ตอบคําถามจึงเป็นที่สงิ่ สําคญั ตอ่ การใหบ้ ริการ ท่ตี อ้ งให้คําแนะนําและตอบคําถามทั่วไป เกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุด เช่น คําถามเก่ียวกับการค้นคว้าหาทรัพยากรสารสนเทศในเร่ืองต่างๆ ภายใน หอ้ งสมุด ๑๐. บริการหนงั สือจอง บรกิ ารหนงั สือจอง ทางห้องสมดุ ไดใ้ หบ้ ริการหนงั สือจองด้วย เพราะเป็นบริการพิเศษทข่ี ้าพเจา้ จัดข้ึน ในกรณที ี่หนังสอื นน้ั มจี ํานวนน้อย แต่มีผู้ใชต้ ้องการจาํ นวนมาก โดยแยกไว้ตา่ งหาก และมีกาํ หนดระยะเวลา ให้ยมื สัน้ กวา่ หนังสอื ทว่ั ไป

๒๑ ตอนที่ ๓ สรุปผลการดาเนนิ งาน ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๔ โครงการโครงการชมรมรกั การอ่าน Lamphun Reading Club บทนา การอา่ น เป็นส่ิงที่ช่วยเสริมสร้างและพฒั นาความรู้ ความคิดของคนให้เพิ่มพนู ทันต่อเหตุการณ์ สรา้ ง ความเพลดิ เพลิน และระดบั สติปญั ญาให้สูงขนึ้ ลว้ นเป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง ท้ังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ การจัดกิจกรรมสง่ เสริมการอ่านเปน็ รูปแบบหนงึ่ ในการกระตนุ้ ความสนใจใน การอ่าน ใหต้ ่อเนื่อง และพฒั นาการอา่ นใหถ้ งึ ระดับการอา่ นเป็น และอา่ นจนเปน็ นิสัย อนั เป็นลกั ษณะของสงั คมแห่งการ อ่าน ชมรมรกั การอ่าน เป็นการรวมกลุ่มกันของสมาชกิ เพื่ออา่ นหนังสือในเรื่องทสี่ นใจ และนําความรู้ เนอ้ื หา จากหนังสือที่ได้อา่ น มาสรุปความคิดรวบยอด แลกเปลี่ยนความรทู้ ีไ่ ด้จากการอ่านร่วมกนั เพ่อื เปน็ การ สงั เคราะหค์ วามรูจ้ ากการอา่ นในแต่ละมุมมองของสมาชิกแตล่ ะคน และมีการจดบันทึกการอ่าน ตลอดจนนาํ ความร้ทู ี่ไดร้ บั ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วันของสมาชิกแตล่ ะคนต่อไป ตามนโยบายและจุดเน้นของสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สํานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ ไดม้ ีเปา้ ประสงค์ ในการพัฒนาให้ประชาชนใหไ้ ด้รบั การสร้างและสง่ เสริมให้มีนิสัยรกั การอา่ น เพอ่ื แสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง ซ่ึงมตี ัวชว้ี ดั ร้อยละการอา่ นของคน ไทยเพิม่ ขน้ึ นอกจากน้ียังมีนโยบายเพื่อร่วมขับเคล่อื นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ดา้ นการพัฒนาและ เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคนใหม้ ีคุณภาพ โดยเพ่ิมอัตราการอา่ นของประชาชน โดยการจดั กิจกรรม ในรปู แบบต่างๆ เพือ่ ให้ประชาชนมคี วามสามารถในระดบั อ่านคล่อง เข้าใจความคิดวิเคราะห์พ้ืนฐาน และ สามารถรบั รขู้ ้อมลู ข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณร์ วมท้ังสามารถนําความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชน์ ในการปฏบิ ัตจิ รงิ อีกทัง้ จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรเู้ พ่ือปลูกฝังนิสยั รกั การอา่ น และพฒั นาความสามารถ ในการอ่านและศักยภาพการเรียนร้ขู องประชาชนทกุ กลุ่มเป้าหมาย และมีการส่งเสรมิ ให้มกี ารสรา้ งบรรยากาศ และส่งิ แวดลอ้ มที่เออ้ื ต่อการอ่านใหเ้ กดิ ขึ้นในสังคมไทย โดยสนับสนนุ การพฒั นาแหล่งการเรยี นรู้ให้เกิดข้นึ อยา่ งกว้างขวางและท่วั ถึงต่อไป ดังนนั้ กศน.อําเภอปา่ ซางร่วมกบั สาํ นกั งาน กศน.จังหวดั ลาํ พนู จึงไดจ้ ดั ทาํ โครงการชมรมรกั การอา่ น Lamphun Reading Club ขึน้ เพ่ือสรา้ งชมรมรักการอ่านของนักศึกษา กศน.ท่วั ทัง้ จังหวัดลําพูน ให้ไดฝ้ กึ ฝนนสิ ยั รักการอ่าน การคิดวิเคราะห์และจดบันทกึ การอ่านอยา่ งสม่ําเสมอ ก่อให้เกิดการอา่ นออก เขียน ได้ อ่านคลอ่ ง ฝึกการเขียน และฝกึ การจดจํารายละเอียดโดยการจดบนั ทึก เกิดการเรยี นรแู้ บบกลมุ่ ในการแลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ว่ มกนั การนําความร้แู ละทักษะท่ีไดจ้ ากการอา่ น ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจําวัน ของนักศึกษา กศน. ท้ังในดา้ นการเรียน การทาํ งาน การประกอบอาชีพและทกั ษะชีวิต เป็นต้น

๒๒ สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน กศน. มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพผูร้ ับบริการการศึกษาตามอธั ยาศยั มาตรฐานท่ี ๒ คุณภาพการจัดการศึกษาตามอธั ยาศยั มาตรฐานที่ ๓ คณุ ภาพการบริหารจัดการของสถานศกึ ษา ภารกิจเรง่ ดว่ น ๖. พัฒนาระบบ Online Learning ONIE Digital Learning Platform รองรบั DEEP และ Digital Science Museum, ศูนย์เรยี นรู้ทุกชว่ งวัย รวมทั้งสือ่ การเรยี นการสอน แหล่งเรียนรู้ในทกุ กลุ่มเปา้ หมาย เรียนรูไ้ ดท้ ุกท่ที ุกเวลา ภารกิจต่อเน่ือง ๑. ด้านการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ ๑.๔ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ๑) ส่งเสริมให้มีการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตําบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ ความรู้ และจัดกิจกรรม เพ่ือเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ในชมุ ชนไดอ้ ย่างท่วั ถึง ๒) จัดกจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรเู้ พอื่ ปลูกฝังนสิ ัยรกั การอา่ น และพฒั นา ความสามารถในการอา่ น และศักยภาพการเรยี นรู้ของประชาชนทกุ กลุ่มเป้าหมาย ๓) สง่ เสรมิ ให้มกี ารสร้างบรรยากาศ และสง่ิ แวดล้อมทีเ่ อื้อตอ่ การอ่านใหเ้ กดิ ขน้ึ ใน สังคมไทย โดยสนบั สนุนการพัฒนาแหล่งการเรยี นร้ใู ห้เกดิ ข้ึนอยา่ งกวา้ งขวางและทัว่ ถึง เชน่ พัฒนาหอ้ งสมดุ ประชาชน ทกุ แหง่ ให้เป็นแหลง่ เรยี นร้ตู ลอดชีวิตของชมุ ชน ส่งเสรมิ และสนบั สนุนอาสาสมัครสง่ เสรมิ การอา่ น การสร้างเครือข่าย สง่ เสริมการอ่าน จัดหนว่ ยบรกิ ารเคล่ือนทพ่ี รอ้ มอุปกรณ์เพื่อจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น และการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย ใหบ้ รกิ ารกับประชาชนในพนื้ ท่ีตา่ งๆ อย่างทวั่ ถงึ สม่ําเสมอ รวมท้ังเสริมสรา้ ง ความพร้อมในด้านสอ่ื อปุ กรณ์ เพ่อื สนบั สนุนการอา่ น และการจัดกิจกรรมเพอ่ื ส่งเสริมการอา่ นอย่างหลากหลาย วตั ถุประสงค์ของโครงการ ๑. เพื่อให้ผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมมีนสิ ยั รักการอ่าน ๒. ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมสามารถนําความรู้ท่ไี ด้รบั จากการอ่าน ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาํ วันได้ ๓. เพอื่ ศึกษาสภาพการดาํ เนินงานของโครงการ ขอบเขตของโครงการ ๑. ดา้ นเน้อื หา โครงการโครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ส่งเสริมการอ่านเป็นรูปแบบ หนึ่งในการกระตุ้นความสนใจใน การอ่านให้ต่อเน่ือง และพัฒนาการอ่านให้ถึงระดับการอ่านเป็น และอ่านจน เป็นนิสัย อันเป็นลักษณะของสังคมแห่งการอ่าน ชมรมรักการอ่าน เป็นการรวมกลุ่มกันของสมาชิกเพื่ออ่าน หนังสือในเร่ืองเดียวกัน เนื้อหาเดียวกัน และนําความรู้ เน้ือหาจากหนังสือท่ีได้อ่าน มาสรุปความคิดรวบยอด แลกเปลี่ยนความรู้ท่ีได้จากการอ่านร่วมกัน เพ่ือเป็นการสังเคราะห์ความรู้จากการอ่านในแต่ละมุมมองของ สมาชกิ แตล่ ะคน และมกี ารจดบันทกึ การอา่ น ตลอดจนนําความรู้ท่ีได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจําวันของสมาชิก แต่ละคนต่อไป โครงการโครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประกอบด้วยกิจกรรม ดังตอ่ ไปน้ี

๒๓ - เจา้ พนักงานห้องสมุดจดั หาและจัดเตรียมหนังสือและส่ือตามความต้องการของสมาชิกใน ชมรม - เจ้าพนักงานห้องสมุดร่วมกับครู กศน.ตําบล นําหนังสือและส่ือจัดกิจกรรม กศน.แต่ละ ตาํ บล ๒. ด้านระยะเวลา ตลุ าคม ๒๕๖๓ – กนั ยายน ๒๕๖๔ ๓. ด้านประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง นกั ศกึ ษา กศน.อาํ เภอป่าซางและประชาชนทวั่ ไป จาํ นวน 90 คน ๔. สถานทดี่ าเนนิ การ ห้องสมดุ ประชาชนอาํ เภอปา่ ซาง ชมุ ชนเขตพนื้ ที่อาํ เภอปา่ ซาง และ กศน.ตําบล ๙ ตาํ บล ๕. วัน เวลา การจัดกจิ กรรม วนั ท่ี ๔, ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ วันที่ ๑,๘,๑๐,๑๕,๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ๖. ผู้รบั ผิดชอบโครงการ กล่มุ งานการศกึ ษาตามอัธยาศัยอําเภอปา่ ซาง ๗. วทิ ยากร เจา้ พนกั งานหอ้ งสมุด ครู กศน.ตําบลทง้ั ๙ ตาํ บล ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รับ ๑. ทราบถงึ สภาพการดําเนนิ งานของโครงการ สามารถนําไปวเิ คราะหเ์ ป็นแนวทาง และปรบั ปรงุ แก้ไข ในการจัดทําโครงการในปีต่อไป ๒. ทราบขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ เพ่ือสามารถเพม่ิ การสนับสนนุ สื่ออย่างพอเพยี งและตรงความ ต้องการ ๓. ทาํ ให้สมาชิกในชมรมใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ รักการอา่ น มคี วามใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน และมีทักษะการ อา่ น เขยี นเพิม่ มากข้ึน ๔. สมาชกิ ในชมรมสามารถเรียบเรยี งความคิดของต้นเองจากการอา่ น และเปรียบเทียบตัวเองในอดีต และปัจจบุ ันได้ ๕. การแลกเปลีย่ นความคิดเห็นกนั ทําให้ได้ข้อคิดและมุมมองท่แี ตกต่าง ๖. ไดร้ ับความรจู้ ากเรื่องท่ีอ่านและสามารถนําความรู้ไปพัฒนาตนเอง และครอบครวั

๒๔ วธิ ีดาเนินการ กิจกรรมหลกั วัตถุประสงค์ กลมุ่ เปา้ หมายและเปา้ หมาย พืน้ ที่ ระยะเวลา งบ ดาเนนิ การ ต.ค. ๖๓ ประมาณ กลุ่มเป้าหมาย เปา้ หมาย อาํ เภอ ใน พ.ย.๖๓ ๔,๐๐๐ (เชิงคุณภาพ) จังหวดั ลาํ พนู พ.ย. ๖๓ - สารวจข้อมลู - เพื่อทราบ นักเรยี น สาํ นักงาน พ.ย. ๖๓ การอา่ นของ ข้อมลู ในการวาง นักศกึ ษา และ กศน.จ. ถึง ก.ย. ลําพูน ประชาชนใน แผนการจัด ประชาชน ๖๔ กศน.อําเภอ อาเภอปา่ ซาง กิจกรรมชมรม ทวั่ ไป ปา่ ซาง จังหวดั ลาพนู รกั การอ่าน หอ้ งสมุด ประชาชน - วางแผนการ - เพื่อทราบ กลมุ่ งาน มีแผนการจดั อาํ เภอ ปา่ ซาง จดั กิจกรรมตาม แนวทางในการ อัธยาศยั และ กิจกรรมท่ีมี และ กศน. ตาํ บลทั้ง ๙ โครงการชมรม ดาํ เนนิ งาน บรรณารกั ษ์ ประสิทธภิ าพ ตาํ บล รกั การอา่ น - ประสานงาน - เพ่อื วาง ครู กศน. ไดร้ ับความ ครู กศน.ตาบล แผนการจัด ตาํ บล รว่ มมอื จากภาคี กิจกรรมตาม เครือข่ายในการ โครงการชมรม จดั กิจกรรม รักการอ่าน ร่วมกัน - ดาเนินการจดั ๑. เพื่อให้ นักศึกษา นักศึกษา กศน. กิจกรรม ดงั น้ี ผเู้ ข้าร่วม กศน. และ อําเภอป่าซาง ท่ี ๑. รับสมัคร กจิ กรรมมนี ิสยั ประชาชน เขา้ ร่วมโครงการ สมาชิกชมรมรัก รกั การอ่าน ทัว่ ไป รจู้ ักใช้เวลาว่าง การอา่ น ๒. ผเู้ ขา้ รว่ ม จํานวน ๙๐ ให้เป็นประโยชน์ Lamphun กจิ กรรม คน แสวงหาความรู้ Reading Club สามารถนํา ใหแ้ ก่ตนเอง รัก ๓. ช้ีแจง ความรทู้ ไี่ ด้รับ การอา่ น ใฝ่ วตั ถุประสงคใ์ น จากการอา่ น ไป เรยี น ใฝ่รู้ และมี การดาเนนิ ประยกุ ตใ์ ชใ้ น เจตคตทิ ดี่ ีต่อ กจิ กรรมให้แก่ ชวี ิตประจําวนั การอ่าน สมาชกิ ชมรม ได้ ๔. สมาชกิ ๓. เพือ่ ศึกษา ร่วมกนั กาหนด สภาพการ หัวข้อในการ ดาํ เนนิ งานของ อา่ น โครงการ - ไตรมาสที่ ๑-๒ เร่ือง ศาสตร์ พระราชา

๒๕ - ไตรมาส ๓-๔ กลมุ่ งาน ไดร้ บั การนเิ ทศ ห้องสมดุ มี.ค.๖๔ - เรือ่ ง ทีส่ มชกิ อัธยาศยั ตรวจสอบ และ ประชาชน ต.ค.๖๔ สนใจ สํานกั งาน นาํ ผลการนเิ ทศ อาํ เภอ ๔. ห้องสมดุ กศน.จ.ลําพูน มาปรับปรุง ป่าซาง และ ต.ค.๖๔ ประชาชนจัดมุม แกไ้ ข กศน.ตําบล การเรียนรู้ จัดหา นกั ศึกษา ทั้ง ๙ ตาํ บล หนงั สอื ส่ือ ท่ี กศน. แลกเปลยี่ น เกยี่ วข้องกับ ครู กศน. เรียนรรู้ ว่ มกัน หอ้ งสมุด หวั ข้อการอ่าน ตาํ บล และ จากการเข้ารว่ ม ประชาชน ๕. สมาชกิ ชมรม บรรณารกั ษ์ โครงการ อาํ เภอ แตล่ ะอาเภอเขา้ ป่าซาง ศึกษามมุ การ เรียนรู้ ไตรมา สละ 1 ครงั้ และ จดบนั ทึกการ อา่ น ๖. สมาชิกชมรม รวมกลุ่มและ แลกเปลีย่ น ความรรู้ ่วมกัน ๗. ประเมนิ ความรู้ ความ เขา้ ใจของ สมาชิกชมรม ๘. คัดเลือก สมาชิกชมรม ดเี ดน่ อาเภอละ ๑ คน - นิเทศ ตดิ ตาม - เพื่อตรวจสอบ ผล วดั ผลและ และตดิ ตาม ประเมนิ ผลการ ความกา้ วหน้า ดาเนนิ งาน ของกิจกรรม - ถอดบทเรยี น - เพอ่ื สรุปผล โครงการชมรม การดําเนนิ งาน รักการอ่าน โครงการร่วมกัน Lamphun Reading Club

๒๖ - สรุป/รายงาน - เพือ่ จัดทาํ เป็น กลุ่มงาน มเี ล่มสรปุ ผล ห้องสมุด ก.ย. ผล ๖๔ ขอ้ มูล อธั ยาศัย การดาํ เนนิ ประชาชน - ประชุม อําเภอ ก.ย. สรุปผลการ สารสนเทศและ อําเภอปา่ ซาง งานโครงการ ป่าซาง ๖๔ ดาเนนิ กิจกรรม การเผยแพร่ ท่ีมีคุณภาพ ประชาสัมพนั ธ์ และสามารถ และ กศน. เผยแพรใ่ หแ้ ก่ ตําบลทงั้ ๙ ผู้อืน่ ได้ ตาํ บล - เพอ่ื นาํ เสนอ กลมุ่ งาน สรุปผลการ สํานักงาน ผลการ อัธยาศยั และ ดาํ เนนิ งาน และ กศน.จังหวดั ดาํ เนินงาน และ เจา้ พนักงาน ประเมินผลการ ลาํ พูน สรุปผลโครงการ ห้องสมดุ จดั กิจกรรม รว่ มกนั ๒. เคร่ืองมือในการเกบ็ ข้อมูล ๒.๑ แบบประเมินพฤติกรรมการอา่ นก่อนเข้ารว่ มกิจกรรมผ้เู ข้ารว่ มโครงการ ๒.๒ แบบประเมินพฤติกรรมการอ่านหลังเข้าร่วมกจิ กรรมผ้เู ข้าร่วมโครงการ ๒.๓ สมดุ บนั ทกึ การอ่าน ๓. การเกบ็ ขอ้ มูล ๓.๑ใบสมคั รโครงการชมรมรักการอา่ น Lamphun Reading Club ตามใบสมัครท่ที าง เจา้ หน้าทจ่ี ัดเตรยี มไว้ให้ ๓.๒ แบบประเมินพฤตกิ รรมการอ่านก่อน และหลัง เข้าร่วมกิจกรรมผู้เขา้ รว่ มโครงการ หลังจากเสรจ็ ส้ินกิจกรรมนน้ั ๆ ๓.๓ สมุดบันทกึ การอ่าน ๔. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในครง้ั นี้ใช้การกําหนดขนาดกลุ่มตัวอยา่ งจากการกาํ หนดเกณฑ์ ดังน้ี ๔.๑ ผูเ้ ข้าร่วมโครงการเปน็ หลักสบิ ใช้กลมุ่ ตัวอยา่ ง อย่างนอ้ ย ๕๐% ๔.๒ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการเปน็ หลักร้อย ใชก้ ลุ่มตัวอยา่ ง อยา่ งนอ้ ย ๒๕% ๔.๓ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการเปน็ หลกั พัน ใชก้ ลุม่ ตัวอย่าง อย่างนอ้ ย ๑๕% แบง่ ระดับความสาํ คญั ของการประเมินผล โดยกําหนดค่าลําดบั ความสําคญั ของการประเมนิ ผล ออกเป็น ๕ ระดบั ดงั นี้ มากท่สี ดุ ใหค้ ะแนน ๕ มาก ให้คะแนน ๔ ปานกลาง ใหค้ ะแนน ๓ นอ้ ย ให้คะแนน ๒ น้อยทสี่ ดุ ใหค้ ะแนน ๑

๒๗ ในการแปลผล ใช้เกณฑก์ ารพิจารณาจากคะแนนเฉล่ีย ดังน้ี ต่ํากวา่ รอ้ ยละ ๕๐ = ควรปรบั ปรงุ ร้อยละ ๕๑ - ๖๔ = พอใช้ ร้อยละ ๖๕ - ๗๙ = ปานกลาง รอ้ ยละ ๘๐ - ๘๙ = ดี ต้ังแต่รอ้ ยละ ๙๐ ขนึ้ ไป = ดมี าก ๕. เกณฑ์การประเมนิ ๕.๑ ร้อยละ ๑๐๐ ของกลมุ่ เปา้ หมายท่รี ่วมโครงการ ๕.๒ ร้อยละ ๘๐ ของผู้เขา้ รว่ มโครงการได้รับความพึงพอใจในระดับ ดีข้ึนไป ตอนท่ี ๑ ข้อมลู ท่วั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถามท่เี ข้าร่วมกิจกรรม โครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประจาปี ๒๕๖๔ ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม ทีต่ อบแบบสอบถามได้นํามาจาํ แนกตามกลุ่มตัวอย่าง เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ ผู้จัดทาํ ได้นําเสนอแยกตามข้อมลู ดงั กลา่ ว ดังปรากฏตามตาราง ดงั ตอ่ ไปน้ี ตารางที่ ๑ แสดงคา่ ร้อยละของกลุ่มตวั อย่าง จานวนผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม จานวนผู้ตอบ ร้อยละ แบบสอบถาม โครงการชมรมรกั การอ่าน Lamphun Reading Club ๙๔ คน ๑๐๐ ประจาปี ๒๕๖๔ จานวนท้งั สิน้ ๙๔ คน รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๑ แสดงกลมุ่ ตวั อย่างตอบแบบสอบถามของผู้เขา้ รว่ มโครงการชมรมรกั การอา่ น Lamphun Reading Club ประจําปี ๒๕๖๔ มีผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมท้ังส้ิน ๙๔ คน โดยมีกล่มุ ตัวอยา่ ง จาํ นวน ๙๔ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ตารางท่ี ๒ แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ ข้อมูลท่ัวไป จานวน(คน) ร้อยละ เพศ ๔๑.๔๙ ๕๘.๕๑ - ชาย ๓๙ ๑๐๐ - หญงิ ๕๕ รวม ๙๔ จากตารางท่ี ๒ แสดงเพศผตู้ อบแบบสอบถาม โครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประจาํ ปี ๒๕๖๔ เปน็ ชาย ๓๙ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๔๑.๔๙ หญิง ๕๕ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๕๘.๕๑

๒๘ ตารางที่ ๓ แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจําแนกตามอายุ ข้อมูลท่ัวไป จานวน(คน) ร้อยละ ๐- ๖ ปี -- ๗ – ๑๔ ปี -- ๑๕ – ๒๕ ปี ๕๘ ๖๑.๗๐ ๒๖ – ๕๙ ปี ๓๔ ๓๖.๑๗ ๖๐ ปขี น้ึ ไป ๒ ๒.๑๓ รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางที่ ๓ แสดงชว่ งอายุผ้ตู อบแบบสอบถาม โครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประจาํ ปี ๒๕๖๔ อยูใ่ นช่วงอายุ ๑๕ – ๒๕ ปี จาํ นวน ๕๘ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๖๑.๗๐ ชว่ งอายุ ๒๖ – ๕๙ ปี จํานวน ๓๔ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๓๖.๑๗ และช่วงอายุ ๖๐ ปขี ึ้นไป จาํ นวน ๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๑๓ ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจําแนกตามระดบั การศึกษา การศกึ ษา จานวน(คน) ร้อยละ ระดบั การศกึ ษา - ประถมศกึ ษา ๖ ๖.๓๘ - ม.ต้น ๔๙ ๕๒.๑๓ - ม.ปลาย ๓๙ ๔๑.๔๙ - ปวช. - - - ปวส. - - - ปรญิ ญาตรี -- - สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี -- รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๔ แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจําแนกตามระดับการศึกษาผู้ตอบแบบสอบถาม โครงการชมรมรกั การอ่าน Lamphun Reading Clubประจาํ ปี ๒๕๖๔ ดังน้ี ระดบั ประถมศึกษา จาํ นวน ๖ คน คิดเปน็ ร้อยละ๖.๓๘ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จาํ นวน ๔๙ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๕๒.๑๓ และระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย จํานวน ๓๙ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๔๑.๔๙ ตารางท่ี 5 แสดงคา่ รอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจําแนกตามอาชีพ อาชพี จานวน(คน) ร้อยละ การประกอบอาชีพ ๙๑.๔๙ ๒.๑๓ - นกั เรียน/นกั ศึกษา ๘๖ ๒.๑๓ - รบั จา้ ง ๒ - ๔.๒๕ - เกษตรกรรม ๒ - - รับราชการ - ๑๐๐ - ค้าขาย ๔ - อื่นๆ - รวม ๙๔

๒๙ จากตารางท่ี ๕ แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาํ แนกตามอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม โครงการ ชมรมรกั การอ่าน Lamphun Reading Clubประจําปี ๒๕๖๔ ดังนี้ นกั เรียน/นกั ศึกษา ๘๖ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๙๑.๔๙ รบั จา้ ง ๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒.๑๓ เกษตรกรรม ๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒.๑๓ และ คา้ ขาย ๔ คน คิด เป็นร้อยละ ๔.๒๕ ตอนท่ี ๒ ข้อมลู เกี่ยวกับความพงึ พอใจ ของผ้เู ขา้ รว่ มโครงการชมรมรกั การอ่าน Lamphun Reading Club ประจาปี ๒๕๖๔ ความพงึ พอใจของกลุม่ ตัวอยา่ ง จานวน ๙๔ ชดุ จากแบบสอบถามท้ังหมด ๙๔ ชดุ ดังน้ี “โครงการชมรมรักการอา่ น Lamphun Reading Club ประจาปี ๒๕๖๔” (จากกล่มุ ตัวอย่าง ๙๔ คน) ระดับความพึงพอใจ ที่ รายการ มากท่ีสดุ มาก ปาน น้อย น้อย กลาง ที่สุด ๕ ๔๓๒๑ ๑ กิจกรรมตา่ งๆ ในโครงการชมรมรกั การอ่าน ๖๑ ๒๖ ๗ - - Lamphun Reading Club ประจาํ ปี ๒๕๖๔ ๒ ความรู้ทไ่ี ดร้ บั จากการจดั กจิ กรรม ๕๗ ๓๐ ๗ - - ๓ สถานท่ีมคี วามเหมาะสมในการจดั กจิ กรรม ๗๒ ๒๒ - - - ๔ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม ๔๙ ๓๔ ๑๑ - - ๕ ส่ือ, อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม ๗๕ ๑๗ ๒ - - ๖ ความพงึ พอในการจดั กิจกรรมโครงการชมรมรัก การอ่าน Lamphun Reading Club ประจําปี ๖๘ ๒๖ - - - ๒๕๖๔ รวม ๓๔๒ ๑๕๕ ๒๗ - - คณู ระดับคะแนน ๑,๗๑๐ ๖๒๐ ๘๑ - - ขอ้ เสนอแนะ - อภปิ รายผล จากคะแนนการประเมินความพึงพอใจ =๒,๔๑๑ x ๑๐๐ = คดิ เปน็ ร้อยละ ๙๒.๐๒ ๒,๖๒๐ สรปุ จากโครงการชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประจําปี ๒๕๖๔ ผลการประเมินระดับ ความ พงึ พอใจผ้เู ข้าร่วมกิจกรรมในระดับดขี น้ึ ไป คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๐๒ อยใู่ นระดับ ดีมาก

๓๐ สรปุ ผลการประเมินพฤติกรรมการอา่ น (กอ่ นเข้าร่วมชมรม) ของสมาชกิ ชมรมรักการอา่ น (Lamphun Reading Club) ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอปา่ ซาง ก่อนเร่ิมการจัดกิจกรรมตามโครงการชมรมคนลาํ พูนรักการอ่าน (Lamphun Reading Club) ไดม้ ี การสํารวจพฤติกรรมการอ่านของสมาชิกชมรมก่อน โดยใชแ้ บบประเมนิ พฤตกิ รรมการอ่าน (กอ่ น) เพ่ือประเมิน ความสามารถในการอา่ น ความถใ่ี นการอ่าน และความต้องการในการอา่ นเพมิ่ เติมของสมาชกิ ชมรม จํานวน ๙๔ คน ซึง่ มีผู้ตอบแบบสอบถามทัง้ หมด จาํ นวน ๙๔ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ สามารถสรปุ ผลการประเมนิ พฤติกรรมการอา่ น (กอ่ น) ได้ดังน้ี ตอนท่ี ๑ ข้อมูลท่วั ไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ ๑ แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินในด้านเพศ ข้อมูลทั่วไป จานวน(คน) ร้อยละ เพศ - ชาย ๓๙ ๔๑.๔๙ - หญงิ ๕๕ ๕๘.๕๑ รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๑ แสดงเพศผู้ตอบแบบประเมินส่วนใหญเ่ ป็นหญิง ๕๕ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๘.๕๑ ชาย ๓๙ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๔๑.๔๙ ตารางที่ ๒ แสดงคา่ ร้อยละของผ้ตู อบแบบประเมนิ ในด้านอายุ ข้อมูลทั่วไป จานวน(คน) รอ้ ยละ ๐- ๖ ปี -- ๗ – ๑๔ ปี -- ๑๕ – ๒๕ ปี ๕๘ ๖๑.๗๐ ๒๖ – ๕๙ ปี ๓๔ ๓๖.๑๗ ๖๐ ปขี นึ้ ไป ๒ ๒.๑๓ รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางที่ ๒ พบว่า ผตู้ อบแบบประเมนิ จาํ นวน ๙๔ คน สรปุ ไดว้ ่า ส่วนใหญ่จะมี อายุ ๑๕-๒๕ ปจี าํ นวน ๕๘ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๖๑.๗๐ รองลงมาไดแ้ ก่ ๒๖ – ๕๙ ปี จํานวน ๓๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๑๗ และน้อยท่ีสดุ ไดแ้ ก่อายุ ๖๐ ปขี ้นึ ไปจานวน ๒ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๒.๑๓ ตามลําดบั

๓๑ ตารางที่ ๓ ระดับการศึกษา การศกึ ษา จานวน(คน) รอ้ ยละ ระดับการศึกษา -- - ประถมศึกษา ๖ ๖.๓๘ - ม.ตน้ ๔๙ ๕๒.๑๓ - ม.ปลาย ๓๙ ๔๑.๔๙ - ปวช. - - - ปวส. - - - ปรญิ ญาตรี -- - สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี -- รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๓ แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบประเมิน ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ มากทสี่ ุด จาํ นวน ๔๙ คน คดิ เป็น รอ้ ยละ ๕๒.๑๓ รองลงมา ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย จาํ นวน ๓๙ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๑.๔๙ และ ระดบั ประถมศกึ ษา น้อยท่ีสุด จํานวน ๖ คน คิดเป็นร้อยละ๖.๓๘ ตอนที่ ๒ แบบประเมินพฤติกรรม จานวนคน (คน) รอ้ ยละ ๑. นกั ศึกษาอ่านหนงั สอื บ่อยแคไ่ หน ๑๗ ๑๘.๐๙ ๓๑ ๓๒.๙๙ รายการ ๒๒ ๒๓.๔๐ อา่ นทกุ วนั ๒๔ ๒๕.๕๒ ๕-๖ ครัง้ /สปั ดาห์ ๙๔ ๑๐๐.๐๐ ๓-๔ ครง้ั /สปั ดาห์ ๑-๒ ครง้ั /สัปดาห์ รวม จากตารางพบวา่ ผ้ตู อบแบบประเมินจํานวน ๙๔ คน ส่วนใหญอ่ ่าน ๕-๖ คร้งั ตอ่ สปั ดาห์ จาํ นวน ๓๑ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๓๒.๙๙ รองลงมาไดแ้ ก่ ๑-๒ ครั้งตอ่ สปั ดาห์ จานวน ๒๔ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๕.๕๒ อา่ น ๓-๔ คร้งั ต่อสัปดาห์ จาํ นวน ๒๒ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๓.๔๐ และอา่ นทุกวันนอ้ ยท่สี ุด จํานวน ๑๗ คน คิดเป็น รอ้ ยละ ๑๘.๐๙

๓๒ ๒. นกั ศึกษาอ่านหนังสือกีบ่ รรทัด/วัน รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ ๑-๑๐ บรรทัด ๘ ๘.๕๑ ๑๑-๒๐ บรรทัด ๓๙ ๔๑.๔๙ ๒๑-๓๐ บรรทัด ๒๙ ๓๐.๘๕ มากกว่า ๓๐ บรรทดั ๑๘ ๑๙.๑๕ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผู้ตอบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน สรุปไดว้ ่า สว่ นใหญ่อา่ น ๑๑-๒๐ บรรทดั จาํ นวน ๓๙ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔๑.๔๙ รองลงมาได้แก่ ๒๑-๓๐ บรรทัดจาํ นวน ๒๙ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๐.๘๕ และอา่ นน้อย ทสี่ ุด ๑-๑๐ บรรทัด จํานวน ๘ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๘.๕๑ ตามลําดับ ๓. นักศึกษาอ่านหนังสือจากแหลง่ สารสนเทศประเภทใด รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ หนงั สือ ๖ ๖.๓๘ นติ ยสาร/หนังสอื พิมพ์ ๑๑ ๑๑.๗๐ สือ่ สงั คมออนไลน์ (Facebook, Twitter, Line) ๗๙ ๗๙.๗๙ สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book, e-Journal) -- บทความในอินเตอรเ์ น็ต ๒ ๒.๑๓ อื่น ๆ - - รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผู้ตอบแบบประเมินจํานวน ๙๔ คน ส่วนใหญอ่ ่านส่ือสังคมออนไลน์ (Facebook, Twitter, Line) จํานวน ๗๙ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๗๙.๗๙ รองลงมาคือนติ ยสาร/หนังสือพมิ พ์ จํานวน ๑๑ คน คิดเป็นรอ้ ย ละ ๑๑.๗๐ และบทความในอินเตอร์เนต็ นอ้ ยทสี่ ดุ จํานวน ๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒.๑๓ ตามลําดับ ๔. เมอ่ื อ่านหนังสือเสรจ็ แลว้ นักศกึ ษาจําเน้ือหาท่ีอ่านไดห้ รือไม่ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ จาและสามารถเลา่ เนอื้ หาได้ ๑๗ ๑๘.๐๙ จาได้บ้าง ๕๑ ๕๔.๒๖ จาเนอ้ื หาไมไ่ ด้ ๒๖ ๒๗.๖๕ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผู้ตอบแบบประเมนิ จํานวน ๙๔ คน สรุปได้วา่ ส่วนใหญอ่ า่ นจาํ ไดบ้ า้ ง จาํ นวน ๕๑ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๕๔.๒๖ รองลงมาจาํ เน้ือหาไมไ่ ด้ จาํ นวน ๒๖ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๗.๖๕ และจําและสามารถเล่า เนอื้ หาได้น้อยที่สดุ จํานวน ๑๗ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๘.๐๙ ตามลาํ ดับ

๓๓ ๕. นักศึกษามีการจดบันทกึ การอ่านจากสิง่ ทไ่ี ด้อ่านไปแล้วหรือไม่ รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ จดบนั ทึกสมา่ เสมอ -- จดบันทกึ เป็นครัง้ คราว ๑๐ ๑๐.๖๔ ไม่มกี ารจดบนั ทกึ ๘๔ ๘๙.๓๖ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่าผูต้ อบแบบประเมนิ จํานวน ๙๔ คน สรปุ ได้ว่า ส่วนใหญไ่ ม่มีการจดบันทึก จาํ นวน ๘๔ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๘๙.๓๖ รองลงมาจดบันทึกเปน็ ครั้งคราว จํานวน ๑๖ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐.๖๔ ๖. นกั ศึกษาเขา้ ใจเนื้อหาที่อา่ นหรอื ไม่ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ เข้าใจและอธิบายได้ ๗ ๗.๔๕ เข้าใจบา้ ง ๖๔ ๖๘.๐๙ ไม่เข้าใจ ๒๓ ๒๔.๔๘ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผตู้ อบแบบประเมินจํานวน ๙๔ คน สว่ นใหญ่เข้าใจบา้ งจํานวน ๖๔ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๖๘.๐๙ รองลงมาไมเ่ ข้าใจ จาํ นวน ๒๓ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๔.๔๘ และเข้าใจและอธิบายได้ น้อยท่ีสดุ จํานวน ๗ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๗.๔๕ ตามลาํ ดับ ๗. นกั ศกึ ษาชอบอา่ นหนังสือประเภทใดมากทสี่ ดุ รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ หนังสอื เรียน -- การเกษตร ๒๑ ๒๒.๓๔ อาหาร ๘ ๘.๕๑ การแพทย์ -- หนงั สือภาษาตา่ งประเทศ -- นวนิยาย ๔๔ ๔๖.๘๑ หนงั สอื การ์ตนู ๕ ๕.๓๒ ประวตั ศิ าสตร์/การท่องเทย่ี ว ๙ ๙.๕๗ เทคโนโลยี ๗ ๗.๔๕ อืน่ ๆ - - รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผู้ตอบแบบประเมนิ จาํ นวน ๙๔ คน สรปุ ไดว้ ่า สว่ นใหญอ่ ่านนวนิยาย จาํ นวน ๔๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๖.๘๑ รองลงมาการเกษตรจาํ นวน ๒๑ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๒๒.๓๔ และเทคโนโลยี นอ้ ย ทส่ี ดุ จํานวน ๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๗.๔๕ ตามลาํ ดับ

๘. นกั ศึกษานําความรทู้ ี่ได้จากการอ่านไปใชป้ ระโยชนใ์ นด้านใดมากที่สดุ ๓๔ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ ๖.๓๘ เพ่ือเตรยี มสอบ ๖ ๓๘.๓๐ เพื่อเพิม่ พูนความรู้ ทันตอ่ เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ๓๖ ๔๕.๗๔ เพ่อื ความบนั เทิงเริงใจ ๔๓ ๙.๕๘ เพอ่ื นาไปประกอบอาชีพ ๙ ๑๐๐.๐๐ ๙๔ รวม จากตารางพบว่า ผ้ตู อบแบบประเมินจานวน ๙๔ คน สรปุ ได้ ส่วนใหญ่อา่ นเพอื่ ความบนั เทิงเรงิ ใจ จาํ นวน ๔๓ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๔๕.๗๔ รองลงมาเพื่อเพ่ิมพนู ความรู้ ทันต่อเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ จาํ นวน ๓๖ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓๘.๓๐ และเพ่ือเตรยี มสอบ น้อยท่สี ดุ จาํ นวน ๖ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๖.๓๘ ตามลาํ ดบั ๙. นกั ศึกษาถ่ายทอดความรู้ท่ีไดจ้ ากการอา่ นแก่คนในครอบครัวหรอื ผู้อ่นื ได้ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ สามารถถา่ ยทอดไดท้ ง้ั หมด - - สามารถถา่ ยทอดไดบ้ างเรอื่ ง ๗๑ ๗๕.๕๓ ไม่สามารถถา่ ยทอดได้ ๒๓ ๒๔.๔๗ ๙๔ ๑๐๐.๐๐ รวม จากตารางพบว่า ผ้ตู อบแบบประเมนิ จานวน ๙๔ คน สว่ นใหญส่ ามารถถา่ ยทอดได้บางเรื่องจํานวน ๗๑ คน คิด เปน็ ร้อยละ ๗๕.๕๓ รองลงมาไมส่ ามารถถา่ ยทอดได้ จํานวน ๒๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๔๗

๑๐. ปจั จัยใดทีส่ ง่ ผลกระทบต่อการอ่านของนักศกึ ษามากที่สุด ๓๕ รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ ๒.๑๓ ไม่มเี วลา ๒ ไม่มหี นังสอื ท่ีตนเองสนใจ - - ไม่มเี งินซื้อหนังสือ/ค่าเดนิ ทางมาห้องสมุด ๓๕ ๓๗.๒๓ ไม่มสี มาธิ ๑๓ ๑๓.๘๓ อา่ นหนังสอื ไมค่ ล่อง ๑๐ ๑๐.๖๔ อุปกรณ์/โทรศัพทม์ ือถือไม่เอ้ืออานวย ๓๔ ๓๖.๑๗ อืน่ ๆ - ๙๔ - รวม ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผู้ตอบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน สว่ นใหญไ่ ม่มเี งินซื้อหนงั สือ/ค่าเดินทางมาห้องสมดุ จาํ นวน ๓๕ คน คดิ เป็นร้อยละ ๓๗.๒๓ รองลงมาอุปกรณ์/โทรศพั ท์มือถอื ไม่เอื้ออํานวย จาํ นวน ๓๔ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๓๖.๑๗ และไม่มีเวลานอ้ ยทสี่ ุด จาํ นวน ๒ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒.๑๓ ตามลําดบั ตอนที่ ๓ ความตอ้ งการให้ห้องสมดุ ประชาชนจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านในรปู แบบใดเพ่มิ เติม จากการตอบแบบประเมนิ พฤตกิ รรมการอา่ น (กอ่ นเขา้ ร่วมชมรม) มีผู้ตอบแบบประเมนิ เกยี่ วกบั รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านท่ตี อ้ งการใหห้ ้องสมุดประชาชนจดั เพ่ิมเติม สามารถสรุปได้ ดงั น้ี ๑. ควรจัดกจิ กรรมสง่ เสริมในเรอื่ งของการอ่านหนงั สือ การเขียน และมีการแข่งขนั ชิงรางวัล ๒. จัดกจิ กรรมให้มรี ูปแบบท่นี ่าสนใจมากข้นึ โดยใชว้ ิธีการเลน่ เกมส์ มกี ารทดลอง ปฎบิ ตั ิ ๓. ควรจัดให้มกี ารอ่านสาํ หรับเด็กๆด้วย ๔. อยากให้มเี กียรตบิ ตั รใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย

๓๖ กลุม่ เป้าหมาย สรปุ ตารางการจดั กจิ กรรม Lamphun Reading Club ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอล้ี ไตรมาส ๓-๔ ปงี บประมาณ ๒๕๖๔ จานวนผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม วนั ทีจ่ ัดกิจกรรม สถานทจี่ ดั กิจกรรม กศน.ตำบลบำ้ นเรือน ๑๐ คน ๔ ก.ค. ๖๔ กศน.ตำบลบำ้ นเรือน กศน.ตำบลป่ ำซำง ๑๐ คน ๑๑ ก.ค. ๖๔ กศน.ตำบลป่ ำซำง กศน.ตำบลทำ่ ตุม้ ๑๕ คน ๑๑ ก.ค. ๖๔ กศน.ตำบลทำ่ ตุม้ กศน.ตำบลนครเจดีย์ ๑๓ คน ๑ ส.ค. ๖๔ กศน.ตำบลนครเจดีย์ กศน.ตำบลน้ำดิบ ๙ คน ๑ ส.ค. ๖๔ กศน.ตำบลน้ำดิบ กศน.ตำบลมะกอก ๗ คน ๘ ส.ค. ๖๔ กศน.ตำบลมะกอก กศน.ตำบลมว่ งนอ้ ย ๑๐ คน ๑๐ ส.ค. ๖๔ ศำลำอเนกประสงคบ์ ำ้ นแซม กศน.ตำบลแม่แรง ๑๐ คน ๑๕ ส.ค. ๖๔ กศน.ตำบลแมแ่ รง กศน.ตำบลปำกบอ่ ง ๑๐ คน ๑๖ ส.ค. ๖๔ กศน.ตำบลปำกบ่อง รวมท้งั สิ้น ๙๔ คน

๓๗ สรุปผลการประเมนิ พฤตกิ รรมการอ่าน (หลังเขา้ ร่วมชมรม) ของสมาชกิ ชมรมรักการอา่ น (Lamphun Reading Club) ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอป่าซาง ก่อนเริม่ การจัดกิจกรรมตามโครงการชมรมคนลําพูนรักการอ่าน (Lamphun Reading Club) ได้มี การสํารวจพฤติกรรมการอ่านของสมาชิกชมรมก่อน โดยใช้แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการอ่าน (หลงั ) เพ่ือประเมิน ความสามารถในการอ่าน ความถ่ีในการอา่ น และความต้องการในการอา่ นเพ่มิ เติมของสมาชกิ ชมรม จํานวน ๙๔ คน ซึง่ มผี ้ตู อบแบบสอบถามทัง้ หมด จํานวน ๙๔ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ สามารถสรปุ ผลการประเมิน พฤติกรรมการอ่าน (กอ่ น) ได้ดังน้ี ตอนท่ี ๑ ขอ้ มลู ท่วั ไปเก่ียวกับผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางท่ี ๑ แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบประเมินในดา้ นเพศ ขอ้ มูลท่ัวไป จานวน(คน) ร้อยละ เพศ - ชาย ๓๙ ๔๑.๔๙ - หญงิ ๕๕ ๕๘.๕๑ รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางที่ ๑ แสดงเพศผูต้ อบแบบประเมินส่วนใหญเ่ ปน็ หญิง ๕๕ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๕๘.๕๑ ชาย ๓๙ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๑.๔๙ ตารางที่ ๒ แสดงคา่ ร้อยละของผ้ตู อบแบบประเมินในด้านอายุ ข้อมูลท่ัวไป จานวน(คน) รอ้ ยละ ๐- ๖ ปี -- ๗ – ๑๔ ปี -- ๑๕ – ๒๕ ปี ๕๘ ๖๑.๗๐ ๒๖ – ๕๙ ปี ๓๔ ๓๖.๑๗ ๖๐ ปีข้ึนไป ๒ ๒.๑๓ รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๒ พบว่า ผตู้ อบแบบประเมินจํานวน ๙๔ คน สรุปไดว้ า่ สว่ นใหญจ่ ะมี อายุ ๑๕-๒๕ ปจี าํ นวน ๕๘ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๖๑.๗๐ รองลงมาไดแ้ ก่ ๒๖ – ๕๙ ปี จํานวน ๓๔ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๓๖.๑๗ และน้อยทส่ี ดุ ได้แก่อายุ ๖๐ ปีขน้ึ ไปจานวน ๒ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒.๑๓ ตามลําดบั

๓๘ ตารางท่ี ๓ ระดบั การศึกษา การศกึ ษา จานวน(คน) ร้อยละ ระดับการศกึ ษา -- - ประถมศกึ ษา ๖ ๖.๓๘ - ม.ตน้ ๔๙ ๕๒.๑๓ - ม.ปลาย ๓๙ ๔๑.๔๙ - ปวช. - - - ปวส. - - - ปริญญาตรี -- - สงู กวา่ ปริญญาตรี -- รวม ๙๔ ๑๐๐ จากตารางท่ี ๓ แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบประเมิน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมากท่ีสุด จาํ นวน ๔๙ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๕๒.๑๓ รองลงมา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จาํ นวน ๓๙ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๔๑.๔๙ และ ระดบั ประถมศึกษา น้อยทสี่ ุด จาํ นวน ๖ คน คิดเป็นร้อยละ๖.๓๘ ตอนท่ี ๒ แบบประเมินพฤติกรรม ๑. นักศึกษาอา่ นหนังสือบอ่ ยแคไ่ หน รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ อา่ นทุกวัน ๑๙ ๒๐.๒๑ ๕-๖ ครง้ั /สัปดาห์ ๓๘ ๔๐.๔๓ ๓-๔ คร้ัง/สปั ดาห์ ๒๖ ๒๗.๖๖ ๑-๒ ครงั้ /สปั ดาห์ ๑๑ ๑๑.๗๐ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่าผตู้ อบแบบประเมินจํานวน ๙๔ คน ส่วนใหญ่อ่าน๕-๖ คร้งั /สัปดาห์ จํานวน ๓๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๔๓ รองลงมาได้แก่ ๓-๔ ครั้ง/สปั ดาห์ จํานวน ๒๖ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒๗.๖๖ อา่ นทุกวนั จาํ นวน ๑๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐.๒๑ และ๑-๒ ครง้ั /สปั ดาห์น้อยทส่ี ุด จาํ นวน ๑๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๑.๗๐ ๒. นกั ศึกษาอ่านหนังสอื กี่บรรทดั /วัน จานวนคน (คน) ร้อยละ รายการ - - ๑-๑๐ บรรทดั ๔๒ ๔๔.๖๘ ๑๑-๒๐ บรรทดั ๓๑ ๓๒.๙๗ ๒๑-๓๐ บรรทัด ๒๑ ๒๒.๓๓ มากกว่า ๓๐ บรรทัด ๙๔ ๑๐๐.๐๐ รวม

๓๙ จากตารางพบวา่ ผตู้ อบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน สรปุ ได้ว่า ส่วนใหญอ่ า่ น ๑๑-๒๐ บรรทัด จาํ นวน ๔๒ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๔.๖๘ รองลงมาได้แก่ ๒๑-๓๐ บรรทัดจํานวน ๓๑ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๓๒.๙๗ และ อา่ นน้อยที่สดุ มากกวา่ ๓๐ บรรทัด จาํ นวน ๒๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๒๒.๓๓ ตามลําดบั ๓. นกั ศึกษาอ่านหนังสือจากแหล่งสารสนเทศประเภทใด รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ หนังสือ ๒๖ ๒๗.๖๖ นิตยสาร/หนงั สอื พิมพ์ ๖ ๖.๓๘ สอ่ื สงั คมออนไลน์ (Facebook, Twitter, Line) ๔๓ ๔๕.๗๔ สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book, e-Journal) -- บทความในอินเตอร์เนต็ ๑๙ ๒๐.๒๒ อ่นื ๆ - - รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผตู้ อบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน ส่วนใหญอ่ า่ นส่ือสังคมออนไลน์ (Facebook, Twitter, Line) จํานวน ๔๓ คน คดิ เป็นร้อยละ ๔๕.๗๔ รองลงมาหนังสือ จํานวน ๒๖ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒๗.๖๖ และนติ ยสาร/หนังสอื พมิ พ์ น้อยทสี่ ุด จานวน ๖ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๖.๓๘ ตามลาํ ดับ ๔. เม่ืออ่านหนงั สือเสร็จแล้วนกั ศกึ ษาจาํ เนื้อหาท่ีอา่ นไดห้ รือไม่ รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ จาํ และสามารถเลา่ เนือ้ หาได้ ๒๗ ๒๘.๗๒ จําได้บา้ ง ๕๖ ๕๙.๕๗ จําเนอ้ื หาไม่ได้ ๑๑ ๑๑.๗๐ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผ้ตู อบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน สรปุ ไดว้ ่า ส่วนใหญอ่ ่านจาํ ไดบ้ ้าง จํานวน ๕๖ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๕๙.๕๗ รองลงมาจําและสามารถเล่าเนื้อหาได้ จาํ นวน ๒๗ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๘.๗๒ และ จาํ เนอ้ื หาไม่ได้ น้อยท่สี ุด จํานวน ๑๑ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๑๑.๗๐ ตามลาํ ดบั ๕. นกั ศึกษามีการจดบันทกึ การอ่านจากส่งิ ที่ได้อา่ นไปแลว้ หรือไม่ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ จดบันทกึ สม่ําเสมอ ๕ ๕.๓๒ จดบันทกึ เปน็ ครั้งคราว ๗๘ ๘๒.๙๘ ไม่มีการจดบนั ทึก ๑๑ ๑๑.๗๐ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่าผ้ตู อบแบบประเมนิ จํานวน ๙๔ คน สรุปไดว้ ่า สว่ นใหญ่จดบนั ทกึ เป็นครง้ั คราว จํานวน ๗๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๙๘ รองลงมาไม่มกี ารจดบนั ทกึ จํานวน ๑๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๑.๗๐ และจดบันทึกสม่ําเสมอนอ้ ยท่ีสดุ จํานวน ๕ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๕.๓๒

๔๐ ๖. นักศึกษาเข้าใจเน้ือหาท่ีอา่ นหรือไม่ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ เขา้ ใจและอธิบายได้ ๒๗ ๒๘.๗๒ เขา้ ใจบ้าง ๖๖ ๗๐.๒๑ ไมเ่ ขา้ ใจ ๑ ๑.๐๗ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผ้ตู อบแบบประเมนิ จาํ นวน ๙๔ คน ส่วนใหญเ่ ข้าใจบ้างจํานวน ๖๖ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๗๐.๒๑ รองลงมาเขา้ ใจและอธบิ ายได้ จาํ นวน ๒๗ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๒๘.๗๒ และเขา้ ใจและไม่เข้าใจ น้อย ที่สดุ จํานวน ๑ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑.๐๗ ตามลาํ ดับ ๗. นกั ศึกษาชอบอ่านหนังสือประเภทใดมากทส่ี ดุ รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ หนังสือเรียน ๑๓ ๑๓.๘๓ การเกษตร ๑๘ ๑๙.๑๕ อาหาร ๑๐ ๑๐.๖๔ นวนิยาย ๓๕ ๓๗.๒๓ หนงั สอื การต์ นู ๑๑ ๑๑.๗๐ ประวัตศิ าสตร์/การทอ่ งเทย่ี ว ๔ ๔.๒๖ เทคโนโลยี ๓ ๓.๑๙ อื่น ๆ - - รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผตู้ อบแบบประเมนิ จํานวน ๙๔ คน สรปุ ได้ว่า ส่วนใหญอ่ า่ นนวนิยาย จํานวน ๓๕ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๗.๒๓ รองลงมาการเกษตรจํานวน ๑๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๑๕ และเทคโนโลยี น้อยทสี่ ุด จํานวน ๓ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๓.๑๙ ตามลาํ ดับ ๘. นักศึกษานําความรทู้ ่ีได้จากการอา่ นไปใช้ประโยชนใ์ นด้านใดมากท่ีสุด รายการ จานวนคน (คน) รอ้ ยละ เพ่ือเตรยี มสอบ ๑๕ ๑๕.๙๖ เพ่อื เพิม่ พนู ความรู้ ทันต่อเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ๑๙ ๒๐.๒๑ เพอ่ื ความบนั เทิงเริงใจ ๓๙ ๔๑.๔๙ เพอื่ นําไปประกอบอาชีพ ๒๑ ๒๒.๓๓ รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบว่า ผู้ตอบแบบประเมินจานวน ๙๔ คน สรุปได้ สว่ นใหญอ่ ่านเพื่อความบันเทงิ เริงใจ จํานวน ๓๙ คน คดิ เป็นร้อยละ ๔๑.๔๙ รองลงมาเพื่อนําไปประกอบอาชีพ จาํ นวน ๒๑ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒๒.๓๓และเพ่อื เตรียมสอบ นอ้ ยทีส่ ุด จํานวน ๑๕ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๑๕.๙๖ ตามลาํ ดับ

๔๑ ๙. นักศึกษาถ่ายทอดความรู้ท่ีไดจ้ ากการอ่านแก่คนในครอบครัวหรือผูอ้ ืน่ ได้ รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ สามารถถ่ายทอดได้ท้ังหมด ๓๒ ๓๔.๐๔ สามารถถ่ายทอดไดบ้ างเร่ือง ๖๒ ๖๕.๙๖ ไม่สามารถถา่ ยทอดได้ -- รวม ๙๔ ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผตู้ อบแบบประเมินจานวน ๙๔ คน ส่วนใหญ่สามารถถา่ ยทอดได้บางเรื่องจาํ นวน ๖๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๕.๙๖ รองลงมาไม่สามารถถา่ ยทอดได้ จาํ นวน ๓๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๓๔.๐๔ ๑๐. ปัจจยั ใดทสี่ ง่ ผลกระทบต่อการอ่านของนักศกึ ษามากท่ีสุด รายการ จานวนคน (คน) ร้อยละ ไมม่ เี วลา ๑๒ ๑๒.๗๗ ไม่มีหนงั สือท่ตี นเองสนใจ - - ไมม่ ีเงินซื้อหนังสือ/ค่าเดินทางมาหอ้ งสมุด ๒๑ ไม่มีสมาธิ ๑๙ ๒๒.๓๔ อา่ นหนังสือไม่คลอ่ ง ๘ ๒๐.๒๑ อุปกรณ์/โทรศัพท์มือถือไม่เอื้ออานวย ๓๔ ๘.๕๑ อ่นื ๆ - ๓๖.๑๗ ๙๔ รวม - ๑๐๐.๐๐ จากตารางพบวา่ ผูต้ อบแบบประเมินจาํ นวน ๙๔ คน สว่ นใหญอ่ ปุ กรณ/์ โทรศัพท์มือถือไม่เอ้ืออานวย จาํ นวน ๓๔ คน คดิ เป็นร้อยละ ๓๖.๑๗ รองลงมาไม่มเี งนิ ซ้ือหนังสอื /ค่าเดนิ ทางมาห้องสมดุ จํานวน ๒๑ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๒๒.๓๔ และอ่านหนงั สือไม่คลอ่ ง น้อยท่ีสดุ จาํ นวน ๘ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๘.๕๑ ตามลาํ ดบั ตอนท่ี ๓ ความต้องการให้ห้องสมดุ ประชาชนจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรปู แบบใดเพ่ิมเตมิ จากการตอบแบบประเมินพฤติกรรมการอา่ น (ก่อนเขา้ ร่วมชมรม) มผี ้ตู อบแบบประเมิน เกย่ี วกบั รปู แบบกิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านท่ีต้องการให้ห้องสมุดประชาชนจัดเพิ่มเติม สามารถสรุปได้ ดงั น้ี ๓.๑ ควรจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ ในเรอ่ื งของการอ่านหนังสือ การเขียน และมีการแข่งขันชงิ รางวลั ๓.๒ จดั กจิ กรรมใหม้ รี ปู แบบที่น่าสนใจมากขนึ้ โดยใช้วธิ กี ารเล่นเกมส์ มีการทดลอง ปฏิบัติ ๓.๓ ควรจัดใหม้ ีการอา่ นสาํ หรบั เด็กๆด้วย ๓.๔.อยากให้มเี กยี รติบัตรให้ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมดว้ ย

๔๒ แผนภูมิแสดงการเปรยี บเทียบขอ้ มลู ร้อยละแบบประเมนิ พฤติกรรมการอ่าน (ก่อนเข้ารว่ มชมรม) และ (หลงั เขา้ ร่วมชมรม) จากการสาํ รวจแบบประเมนิ พฤตกิ รรมการอ่าน ทง้ั ก่อนและหลงั เขา้ รว่ มกจิ กรรม มีผลการเปรยี บเทียบ ร้อยละของข้อมูลแบบประเมิน ซง่ึ มีการเปล่ยี นแปลงไปหลังจากเข้าร่วมกจิ กรรม ดงั น้ี ๑. นกั ศึกษาอ่านหนังสอื บ่อยแคไ่ หน ๔๐.๔๓ .๒๑ ๓๒.๙๙ ๒๑ ๒๗.๖๖ ๒๕.๕๒ ๒๓.๔๐ ๑๑.๗๐ ๒๐.๒๑ ๑๘.๐๙ ๒. นกั ศึกษาอ่านหนงั สอื กบี่ รรทัด/วนั ๔๔.๖๘ ๔๑.๔๙ ๔๑.๔๙ ๓๒.๙๗ ๓๐.๘๕ ๒๒.๓๓ ๑๙.๑๕ ๘.๕๑ ๐

๔๓ ๓ .นักศึกษาอา่ นหนังสือจากแหลง่ สารสนเทศประเภทใด ๗๙.๗๙ ๖.๓๘ ๒๗.๖๖ ๒๐.๒๒ ๖.๓๘ ๑๑.๗๐ ๐๐ ๒.๑๓ ๐๐ ๔. เมือ่ อ่านหนังสือเสรจ็ แลว้ นักศึกษาจาํ เน้ือหาท่ีอา่ นได้หรือไม่ ๕๙.๕๗ ๕๔.๒๖ ๒๘.๗๒ ๒๗.๖๕ ๑๘.๐๙ ๑๑.๗๐

๔๔ ๕. นกั ศกึ ษามีการจดบันทึกการอ่านจากสิง่ ที่ได้อ่านไปแล้วหรือไม่ ๘๙.๓๖ ๖๘.๐๙ ๒๔.๔๘ ๗.๔๕ ๑๐.๖๔ ๐ ๖.นกั ศกึ ษาเขา้ ใจเน้ือหาท่ีอ่านหรือไม่ ๖๘.๐๙ ๗๐.๒๑ ๒๘.๗๒ ๒๔.๔๘ ๗.๔๕ ๑.๐๙

๔๕ ๗. นกั ศกึ ษาชอบอา่ นหนังสือประเภทใดมากที่สดุ ๔๖.๘๑ ๓๗.๒๓ ๒๒.๓๔ ๑๙.๑๕ ๑๓.๘๓ ๑๑.๗๐ ๙.๕๗ ๘.๕๑๑๐.๖๔ ๗.๔๕ ๕.๓๒ ๔.๒๖ ๓.๑๙ ๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๘. นกั ศึกษานําความรู้ท่ีได้จากการอา่ นไปใชป้ ระโยชนใ์ นด้านใดมากท่ีสดุ ๓๘.๓๐ ๔๕.๗๔ ๔๑.๔๙ ๒๐.๒๑ ๒๒.๓๓ ๙.๕๘ ๑๕.๙๖ ๖.๓๘

๔๖ ๙. นกั ศึกษาถ่ายทอดความรู้ท่ีไดจ้ ากการอ่านแก่คนในครอบครวั หรือผอู้ น่ื ได้ ๗๕.๕๓ ๖๕.๙๖ ๓๔.๐๔ ๒๔.๔๗ ๐ ๐ ๑๐. ปจั จัยใดทส่ี ง่ ผลกระทบต่อการอา่ นของนักศึกษามากท่ีสดุ ๓๗.๒๓ ๓๖.๑๗ ๓๖.๑๗ ๒๒.๓๔ ๒๐.๒๑ ๑๒.๗๗ ๑๓.๘๓ ๑๐.๖๔๘.๕๑ ๑.๑๓ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐

๔๗ รูปภาพกิจกรรม โครงการชมรมคนลาพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club วนั ท่ี ๔ กรกฎาคม ๒๕๖ กศน.ตาบลบ้านเรือน