1. เพอ่ื พฒั นาการประสานสัมพันธกันระหวา งมือ และตา 2. เพอ่ื พัฒนาการรบั รูส ัมผสั และการกะระยะ 3. เพ่ือพัฒนาการเรยี นรูรปู ราง รูปทรง การเปรียบเทยี บ 4. เพื่อพัฒนาทักษะดานสังคม การเลนรวมกันเปนกลุม การแบงปน การยอมรับ ชนื่ ชมตนเองและผูอ น่ื เรยี นรูก ฎกตกิ า 1. ขวดนาํ้ แกว นาํ้ 2. นํ้าใสสผี สมอาหาร 3. กะละมังใสนาํ้ 1. ครแู บง เดก็ เปน 3 กลุม 2. ครสู อนสาธิตวิธกี ารเลนโดยใชแ กว ตักนา้ํ กรอกใสข วด 3. จากน้นั ใหเด็กใชแ กว ตกั นาํ้ กรอกใสข วด ภายในเวลาที่กาํ หนด 4. หลงั จากนน้ั ใหเด็กนําขวดทีใ่ สนาํ้ แลว มาเปรียบเทยี บปริมาณนํา้ ทต่ี างกัน มาก นอย 5. ถามสจี ากนา้ํ ท่เี ด็กเห็น 6. เกบ็ อปุ กรณแ ละลา งมอื ทาํ ความสะอาด ครูอาจเรมิ่ สอนจากน้ําท่ผี สมแมส ี (แดง เหลือง น้ําเงิน) หลังจากแขง ขันกนั ใหเด็กแบง นา้ํ เปน 3 สว น เทา ๆ กนั ใสขวดใหเพ่อื นกลุม ละ 1 ขวด ทดลองผสมสี เพ่อื ใหเด็กสังเกตสที เี่ ปล่ียนแปลง 143
ผลที่ไดรบั อีคิว ไอคิว การเรียนรู ความสนกุ สนาน ระเบยี บวินยั ราเริง ความชาง การถายทอด การคิดเชอ่ื มโยง การทาํ งาน การรูจกั และ สงั เกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคมุ 3 มอื และตา อารมณ 3 33 หมายเหตุ 33 = ไดผ ลมาก 3 = ไดผ ล 144
1. เพ่อื พฒั นาทกั ษะดา นการเคล่อื นไหวและความแข็งแรงของกลา มเนื้อมดั ใหญและมดั เล็ก 2. เพ่ือพฒั นาการประสานสัมพันธกนั ระหวางมอื และตา 3. เพอื่ พัฒนาการรบั รสู มั ผัส 4. เพือ่ พัฒนาทักษะดา นสังคม การเลนรวมกันเปนกลุม การดแู ลรกั ษาความสะอาด 1. ภาชนะรูปทรงตางๆ เชน ถวยไอศกรีม แกวน้ําพลาสติก 2. อปุ กรณที่ใชตักทรายได 3. กระบะทราย 4. ขวดใสน ้ําพลาสตกิ เจาะรทู ่ีฝาไว 1. ครสู อนสาธติ การบีบขวดนํา้ ใสก ระบะทราย 2. มอบขวดน้ําใหคนละ 1 ขวด บบี น้าํ ในขวดใหทั่วกระบะทราย 3. ใหเดก็ ตักทรายใสในภาชนะตา งๆ 4. หลงั จากนัน้ กดทรายใหแ นน 5. จากนัน้ นาํ ภาชนะควาํ่ ลงกับพ้นื ทราย 6. ยกภาชนะขน้ึ ใหเ หน็ เปน รูปทรงของทราย 7. เมอ่ื เสร็จแลว ใหซ กั ถามเดก็ วาเปนรูปทรงใด 8. หลังเสรจ็ กิจกรรม ใหเกบ็ อปุ กรณแ ละลา งมอื ใหส ะอาด ครอู าจใชภ าชนะอนื่ ๆ เชน ถว ยไอศกรมี แกว นา้ํ พลาสตกิ ทอ PVC เพอ่ื ใหเ ดก็ สงั เกต รปู ทรงทปี่ รากฏ ตา งๆ กนั แลว จินตนาการเพม่ิ เตมิ วาเหมือนอะไร 145
ผลที่ไดรับ อีคิว ไอคิว การเรียนรู ความสนกุ สนาน ระเบียบวนิ ัย ราเริง ความชา ง การถายทอด การคิดเช่ือมโยง การทํางาน การรูจ กั และ สังเกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวาง ควบคมุ 33 3 มอื และตา อารมณ 3 หมายเหตุ 33 = ไดผลมาก 3 = ไดผ ล 146
1. เพือ่ พัฒนาอวยั วะทุกสวนใหม ีความสมั พันธกนั ในขณะเคลอื่ นไหว 2. เพอ่ื ใหเ กดิ ความสนุกสนาน ผอยคลายความตึงเครียดทั้งรา งกายและจิตใจ 3. เพือ่ พฒั นาภาษา ฝก ฟงคาํ ส่ัง ขอ ตกลงและปฏบิ ัติตามได 4. เพอ่ื ฝกความจาํ และเสรมิ สรา งประสบการณ 5. เพือ่ พฒั นาทักษะดา นสงั คม การปรับตัวและความรวมมอื ในกลุม 6. เพื่อปลูกฝง ใหม ีคุณธรรม จริยธรรม 7. เพื่อสงเสรมิ การกลาแสดงออก ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง และความคิดรเิ ร่มิ สรา งสรรค 1. ไมกระดานกวาง 10 เซนตเิ มตรและ 5 เซนตเิ มตร อยา งละ 1 แผน 2. เชอื ก 2 เสน 1. ครูนาํ อุปกรณท ง้ั หมดใหเด็กดู แลวถามเด็กๆ วา “เด็กๆ ลองดซู ิวา วนั นคี้ รูมอี ะไรมาใหเ ลน” จากนนั้ ใหเ ดก็ คดิ คน วธิ เี ลน จากอปุ กรณทคี่ รจู ัดใหไ วอ ยางอิสระดวยตนเอง หรือคดิ รวมกบั เพอ่ื น แลว ใหเ วลาเดก็ เลน สกั ครู 2. ครูชวนเดก็ เลนรถไฟ โดยใหเ ขา แถวเรยี งกนั ใหหวั แถวจับเชอื ก สวนเด็กคนอ่ืนกจ็ ับเชือกตอๆ กนั สมมตติ ัวเองเปน ขบวนรถไฟ 3. ครสู มมติใหไมก ระดานเปนรางรถไฟ แลวใหเ ดก็ ๆ เดนิ บนรางรถไฟ กวา ง 10 ซ.ม. เม่ือเด็ก เดินไดใหลดขนาดเปน ไมก ระดานกวาง 5 เซนตเิ มตร 147
148
149
ผลท่ีไดรับ อีคิว ไอคิว การเรียนรู ความสนกุ สนาน ระเบียบวินยั ราเรงิ ความชาง การถายทอด การคิดเชือ่ มโยง การทาํ งาน การรจู กั และ สงั เกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคมุ 3 มือและตา อารมณ 3 33 หมายเหตุ 33 = ไดผลมาก 3 = ไดผ ล 150
1. เพอื่ พฒั นาและเพมิ่ ความแขง็ แรงของกลามเนื้อมดั เล็ก 2. เพ่ือพฒั นาการทํางานประสานสัมพนั ธกนั ระหวา งมอื และตา 3. เพื่อพฒั นาการรบั รูสัมผสั และการกะระยะ 4. เพอื่ การเรียนรูรปู ราง รูปทรง สี คําศัพท 5. เพื่อพัฒนาทักษะดานสงั คม การเลนรว มกนั เปน กลมุ การแบงปน 1. ดินนํ้ามนั สีแดง เหลือง เขยี ว 2. แกว พลาสติกใส 3 ใบ 3. ไมบ รรทดั 1. ครสู อนสาธติ การคลึงดนิ นํา้ มัน เปน เสนยาว 2. หลงั จากนั้น ใหเ ด็กนําไมบ รรทัดมาตดั เปน ช้ินๆ โดยแบง เปน สีตางๆ และถามเด็กวา นอกจาก ใชไมบ รรทดั ตัดแลว เรายงั สามารถใชอ ะไรตัดไดอีก 3. ใหเ ดก็ แยกสดี นิ น้ํามนั ใสต ามแกวพลาสติกแตละใบ 4. เสร็จกจิ กรรม ทบทวนสีแดง สเี หลอื ง สเี ขียว 5. เก็บอปุ กรณ ลา งมือทาํ ความสะอาด ครอู าจใหเ ด็กใชนิว้ ดงึ ดนิ น้ํามนั หรอื แปง โด แทนการใชไ มบ รรทัด เพอ่ื พฒั นาการควบคมุ น้าํ หนัก นว้ิ เอน็ ขอ และ การกะระยะ 151
ผลท่ีไดรับ อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบียบวนิ ัย รา เรงิ ความชาง การถายทอด การคดิ เชือ่ มโยง การทาํ งาน การรจู กั และ สงั เกต จินตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคมุ 3 มอื และตา อารมณ 33 หมายเหตุ 33 = ไดผลมาก 3 = ไดผล 152
1. เพื่อพัฒนาการประสานสมั พันธก นั ระหวา งมือ และตา 2. เพ่อื พฒั นาทกั ษะดา นภาษาและคําศพั ท 3. เพอื่ พฒั นาการเรียนรคู วามสัมพนั ธ การจบั คู 4. เพือ่ พฒั นาทกั ษะดานสังคมและอารมณ ช่ืนชมตนเองและผูอ ืน่ - ถุงเทา หลายสี หลายคู 1. ครูนําถุงเทาหลายสี หลายคมู าปะปนกัน 2. ครสู อนสาธติ เลอื กถงุ เทาคทู เ่ี หมือนกัน 1 คู 3. ใหเ ดก็ ชว ยกนั เลือกถุงเทา จับเปนคู ในเวลาทกี่ ําหนด 4. ชมเชยเดก็ ทเ่ี ลือกคถู งุ เทา ไดถ ูกตอง คณุ ครอู าจเพมิ่ เติมกจิ กรรมโดยใหเ ดก็ ใสถ งุ ทจี่ บั คไู ดแ ลว หรอื ใชกระดาษหลากสี มาตดั เปน รปู ตา งๆ เชน รูปหัวใจสแี ดง สีขาว แลวใหเ ด็กจับคสู ที เี่ หมือนกนั 153
ผลท่ีไดรบั อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบยี บวินัย ราเรงิ ความชาง การถายทอด การคิดเชอ่ื มโยง การทาํ งาน การรูจกั และ สังเกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคุม 3 มือและตา อารมณ 33 3 หมายเหตุ 33 = ไดผ ลมาก 3 = ไดผ ล 154
1. เพอ่ื พัฒนาการประสานสัมพนั ธก นั ระหวา งมือ และตา 2. เพอ่ื พฒั นาทักษะดา นภาษาและคําศัพท 3. เพือ่ พฒั นาการเรียนรคู วามสมั พนั ธ การจบั คู การสมั ผสั 4. เพ่ือพฒั นาทกั ษะดา นสงั คมและอารมณ ชน่ื ชมตนเองและผูอืน่ 1. สิ่งของ เชน ลูกบอล รถเดก็ เลนคนั เลก็ ตกุ ตา 2. ถงุ ผา ทึบใสเ มลด็ พืช เชน ถว่ั ขาวสาร 1. ครูนําถุงผา ทใี่ สเมล็ดพืชตางๆไว นาํ อุปกรณสิ่งของตา งๆ ซอนลงในถุงผา 2. เลอื กส่ิงของ 1 ชนิ้ แบบเดยี วกับที่มีอยใู นถงุ วางไวบนโตะ เชน รถ 3. จากนน้ั ใหเ ดก็ ลว งคลําของในถงุ โดยไมใหเห็นส่งิ ของ บอกใหเ ด็กหาของที่เหมือนกับตวั อยาง 4. ชมเชยเดก็ เมอื่ เดก็ เลอื กสงิ่ ของไดถ ูกตอง 5. เสร็จกจิ กรรม ลา งมอื ทาํ ความสะอาด ครอู าจเปลยี่ นสงิ่ ของเปน สงิ่ ตา งๆ ทเี่ ดก็ สนใจ แตไ มเ ปนอนั ตรายและในถงุ ผา อาจเปลยี่ นเปน เมลด็ พชื ขา วเปลอื ก มักกะโรนี สําลี เพือ่ ใหเ ดก็ ไดร บั สัมผสั ทต่ี างๆ กนั ไป 155
ผลที่ไดรับ อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบียบวินยั รา เริง ความชาง การถา ยทอด การคดิ เชื่อมโยง การทํางาน การรูจกั และ สังเกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวาง ควบคุม มือและตา อารมณ 33 3 หมายเหตุ 33 = ไดผ ลมาก 3 = ไดผ ล 156
1. เพื่อพฒั นาการประสานสัมพันธกันระหวางมอื และตา 2. เพ่ือพฒั นาทกั ษะดานภาษาและคาํ ศพั ท 3. เพือ่ พฒั นาการเรยี นรูความสัมพันธ การจบั คู การสัมผสั 4. เพ่อื พฒั นาทักษะดา นสังคมและอารมณ ชืน่ ชมตนเองและผูอน่ื ส่งิ ของ เชน ชอน สอม ดนิ สอ ยางลบ 1. ครสู อนสาธิต โดยนาํ สิง่ ของท่ีสัมพันธกันจับคกู ัน 2. เลือกสงิ่ ของ 1 ชน้ิ วางบนโตะ จากนั้นใหเดก็ เลือกของทส่ี ัมพันธกนั คูก ัน เชน หยิบ ชอ น ให เลือกสอ ม มาคกู ัน 3. ชมเชยเดก็ เมอื่ เดก็ เลอื กสงิ่ ของไดถ กู ตอ ง ครอู าจเลอื กหาสงิ่ ของทสี่ มั พนั ธกนั โดยทาํ ในรปู ของบตั รคาํ เพอ่ื สะดวกในการเตรยี มอปุ กรณก ารสอน 157
ผลที่ไดรบั อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบียบวินยั รา เริง ความชาง การถา ยทอด การคิดเชอ่ื มโยง การทํางาน การรูจกั และ สังเกต จนิ ตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคุม มือและตา อารมณ 33 3 3 หมายเหตุ 33 = ไดผลมาก 3 = ไดผล 158
1. เพ่ือใหเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ 2. เพอ่ื สงเสรมิ การใชกลา มเน้อื มอื และพัฒนาประสานสัมพนั ธระหวางมือกบั ตา 3. เพอ่ื ฝก ทกั ษะการสงั เกต การคิด และการแกปญหา 4. เพอื่ สง เสริมการกลา แสดงออกและมีความมั่นใจในตนเอง 5. เพอ่ื สง เสริมการปรับตวั ในการทาํ งานรว มกบั ผอู นื่ - รปู ปรศิ นาอาจเปน รูปคน สัตว สงิ่ ของท่ีมีสวนตอกันหลาย ๆ ช้ิน ( 6,7,10 ชิน้ ) - นาํ ชิ้นสวนรูปปริศนาใหเ ด็กดู แลวถามเด็กวา “เด็ก ๆ ลองดูซิวาวันนี้ครูมีอะไรมาใหเลน” จากน้นั แจกชน้ิ สวนรูปปรศิ นากลมุ ละ 1 ชดุ ซ่ึงมีจาํ นวนชนิ้ สวนเทา กับจาํ นวนเด็กภายในกลุม แลว ใหเ ดก็ ๆ ภายในกลมุ ชว ยกนั คดิ ตอ ชน้ิ สว นปริศนา กลมุ ใดเสรจ็ กอนใหยกมอื แลว ชว ยกนั สรปุ วาเปนรปู อะไร 159
160
161
ผลที่ไดรบั อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบยี บวินยั ราเริง ความชา ง การถา ยทอด การคิดเชอื่ มโยง การทาํ งาน การรูจกั และ สงั เกต จินตนาการ เหตุผล ประสานระหวา ง ควบคมุ 33 มอื และตา อารมณ 33 3 3 หมายเหตุ 33 = ไดผ ลมาก 3 = ไดผล 162
1. เพอ่ื สงเสรมิ ความคดิ รเิ รมิ่ สรางสรรคและจินตนาการ 2. เพอ่ื ใหเ กิดความสนุกสนาน เพลดิ เพลนิ 3. เพ่อื สง เสรมิ การใชกลามเนื้อมอื และพัฒนาประสานสมั พันธร ะหวา งมอื กับตา 4. เพ่อื ฝก ทกั ษะการสงั เกต การคดิ และการแกป ญหา 5. เพอ่ื สงเสรมิ การกลา แสดงออกและมคี วามมนั่ ใจในตนเอง - รปู ภาพปริศนา 1 รปู อาจเปนหนาคน สัตว ส่ิงของ แบง ออกเปน 3 - 5 ชิ้น 1. ครนู าํ อปุ กรณท ง้ั หมดใหเ ดก็ ดู แลวถามเดก็ วา “เดก็ ๆ ลองดซู วิ า วนั นคี้ รมู อี ะไรมาใหเ ลน ” จากนนั้ ใหเ ด็กคดิ คน วธิ เี ลนจากอปุ กรณทคี่ รจู ัดใหไวอยา งอสิ ระดว ยตนเอง หรือคดิ รว มกับเพ่อื น แลว ให เวลาเดก็ เลนสกั ครู 2. ครแู จกชน้ิ สวนของรปู ปริศนาใหเ ดก็ คนละ 1 ชน้ิ จากนนั้ ใหเ ด็กวาดรูปตอ เตมิ จากชน้ิ สว นทต่ี นมี 3. เดก็ ตา งคนตางวาดรูปท่ีตนมี จากนั้นใหนําเสนอวา ชิน้ สวนทตี่ นเองไดน าจะเปนรปู อะไร 4. ครูใหเ ด็กนําชน้ิ สวนทงั้ หมดมาตอกนั วา สรปุ แลวเฉลยวา เปน รปู อะไร 163
ผลที่ไดรับ อีคิว ไอคิว การเรยี นรู ความสนกุ สนาน ระเบยี บวินัย ราเรงิ ความชา ง การถายทอด การคิดเช่อื มโยง การทํางาน การรูจกั และ สังเกต จินตนาการ เหตุผล ประสานระหวาง ควบคมุ 3 มือและตา อารมณ 3 33 หมายเหตุ 33 = ไดผลมาก 3 = ไดผ ล 164
1. เพ่ือ สงเสรมิ การคดิ เชือ่ มโยงความรู และการรับรูส่งิ ของตางๆ 2. เพื่อสง เสรมิ ทกั ษะการใชภ าษาในการส่ือสารกับผูอ ่นื 3. เพ่ือสงเสริมใหเ ดก็ กลาแสดงออกทางการคดิ การตดั สินใจ และการพูด - กลอ ง 1 ใบ ภายในบรรจุส่งิ ของหรอื ลูกสัตวตัวเล็ก ๆ สําหรับทายปริศนา 1. ครหู ยิบสงิ่ ของที่มรี ูปรา ง ขนาด แตกตางกนั มาใหเดก็ ดูแลว ใหเด็กชว ยกันอธิบาย รูปรา งลกั ษณะ ที่เหน็ ถามวา ควรอยทู ่ีไหน ใชทาํ อะไร เปนการทบทวนความรูเ ดิมของเดก็ 2. ครูอธิบายและสาธิตการเลนเกม โดย 2.1 ครูนาํ กลอ งกระดาษ ภายในมีส่ิงของ 1 สิ่ง ซึง่ เดก็ จะไมท ราบวา เปน อะไร ครูจะใหเ ดก็ ๆ ชวยกันทายวาสง่ิ ของทอี่ ยใู นกลองคอื อะไร 2.2 เรม่ิ ตนครจู ะบอกใบใ หด ว ยขอ ความเพยี ง 3 ประโยคทเ่ี กย่ี วกบั รปู รา ง ทอี่ ยู ประโยชนการ ใชข องสง่ิ ของภายในกลอ ง 2.3 จากน้ันใหเด็กๆ หาคําตอบใหไดว าสิ่งของภายในกลองนา จะเปน อะไร โดยใหเ ด็กๆ ทั้งหมด สามารถถามคาํ ถามครูได เพียง 5 คําถาม ในแตล ะคําถามจะตอ งมีคาํ วา “ใช หรอื ไม” ตอ ทายเสมอ เชน สง่ิ ของนมี้ ีขนาดเล็กเทา จานใชไหม สงิ่ ของนนี้ า้ํ หนกั เบาพอท่ี เดก็ ๆ จะยกไดใชไ หม สิ่งของน้ที ําดวยพลาสตกิ ใชไ หม เปนตน 2.4 ถา คาํ ถามนนั้ มคี ณุ สมบตั ทิ ตี่ รงกบั สงิ่ ของปรศิ นา ครูกจ็ ะพยกั หนา รบั วา ใช ถา ไมใชจะใช การสา ยหนา 2.5 เมอื่ ครบ 5 คาํ ถามแลว เดก็ จะตองตอบวา สิ่งของน้นั คืออะไร ถาเดก็ คนใดตอบถูกจะได คะแนน 1 คะแนน ใหเ ด็กสะสมคะแนนไปจนสน้ิ สุดของการเลนเกม จงึ จะสรปุ ผลผูท ่ี ชนะการแขง ขนั 165
3. ครูทดลองเกมการเลน กับเด็กพอประมาณจนกวาเด็กจะเขาใจกติกาการเลน จากนั้นครูเลือก อาสาสมคั รออกมาเลน แทนครู ครูเปน เพียงผคู วบคมุ การเลนเกมของเด็ก 4. ครูและเด็กรวมกันสรุปวา เราสามารถทายปริศนาไดถูกตองเพราะเหตุใด การฟง การคิด การพดู มสี วนเก่ียวขอ งกบั การทายคาํ ตอบอยา งไร 166
กองวิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ. คูม ือพฒั นาวุฒิภาวะทางอารมณ ศีลธรรม และจรยิ ธรรม ระดบั ประถมศกึ ษา. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค รุ สุ ภา ลาดพราว. 2544. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ . คมู ือกิจกรรมเสรมิ สรางความฉลาดทางอารมณเ ด็ก อายุ 3-11 ป. กรงุ เทพฯ : สาํ นกั งานกจิ การโรงพมิ พ องคก ารสงเคราะหท หารผา นศกึ . 2547. กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ . คูมอื คลายเครยี ดดวยตนเองสําหรบั วยั รุน กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พองคก าร สงเคราะหท หารผา นศกึ . 2548. นชุ นาฏ เนตรประเสรฐิ ศร.ี เชอ่ื เถอะ EQ คณุ ชว ยสราง EQ ลกู . กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั เพาเวอร พรนิ ท จาํ กดั . 2545 มธรุ ส กุลจินต. เชื่อเถอะ ลกู คุณก็ฉลาดได. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท เพาเวอรพ รินท จาํ กดั . 2546 มูลนิธศิ นู ยพทิ กั ษส ทิ ธเิ ดก็ . Activity Book for Treatment Strategies for Abused Chilren. เอกสารอัดสาํ เนา . ไมป รากฏปพิมพ. โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. คมู ือการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนา เด็กดอยโอกาส. ไมปรากฏทีพ่ ิมพ. 2544. 167
ที่ปรึกษา นายแพทยสจุ รติ สุวรรณชีพ ทีป่ รกึ ษากรมสุขภาพจิต นายแพทยหมอมหลวงสมชาย จักรพันธุ อธบิ ดกี รมสขุ ภาพจิต นายแพทยอภชิ ัย มงคล รองอธบิ ดกี รมสขุ ภาพจติ แพทยหญิงศภุ รัตน เอกอัศวนิ ผอู าํ นวยการสํานักพัฒนาสขุ ภาพจติ นายแพทยสมยั ศริ ทิ องถาวร ผอู ํานวยการสถาบันพฒั นาการเดก็ ราชนครินทร แพทยห ญิงพรรณพมิ ล หลอ ตระกูล ผอู ํานวยการสถาบนั ราชานกุ ลู นายแพทยด ุสติ ลิขนะพชิ ิตกลุ ผูอ าํ นวยการโรงพยาบาลยวุ ประสาทไวทโยปถมั ภ นายแพทยบณั ฑิต ศรไพศาล ผูอาํ นวยการสถาบันสุขภาพจติ เด็กและวยั รุนราชนครินทร คณะทาํ งาน พัวสกุล กลุมทป่ี รึกษากรมสขุ ภาพจิต (ประธาน) แพทยห ญงิ อนิ ทริ า ศรวี งคพ านชิ สถาบนั ราชานกุ ลู แพทยห ญิงนพวรรณ เวชวริ ฬุ ห สถาบันราชานกุ ลู นางสาวชนสิ า อภยั ยานกุ ร สถาบันราชานุกลู นางสธุ ญั ญา ธรี นันทน สถาบันราชานุกลู นางพรพิมล คุมรกั ษา สถาบนั ราชานุกูล นางนริ มัย จิตตภ กั ดี สถาบันพัฒนาการเดก็ ราชนครนิ ทร นางสินนี าฏ ธาํ รงวจนะเมธาวี สถาบนั พฒั นาการเด็กราชนครนิ ทร นางสาวสงั เวยี น บญุ ศรี สถาบันพัฒนาการเดก็ ราชนครนิ ทร นางสาวกนกวรรณ กว่ิ แกว สถาบันพฒั นาการเดก็ ราชนครนิ ทร นายภทั ราวธุ อปุ ระโจง สถาบนั พฒั นาการเด็กราชนครินทร นายยทุ ธการ แกวหิรญั สถาบันพฒั นาการเดก็ ราชนครินทร นางสาวเสาวรส ศรสี ืบ สถาบนั พัฒนาการเดก็ ราชนครนิ ทร นางสาวพงึ พศิ ธรรมขันโท สถาบนั พัฒนาการเดก็ ราชนครินทร นางสาวขวญั ใจ ยอดอญั มณวี งศ สถาบนั พฒั นาการเด็กราชนครินทร นางสาวแสงเดอื น แสงรัตนายนต โรงพยาบาลยวุ ประสาทไวทโยปถมั ภ นางเดอื นฉาย พงษพานิช โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถมั ภ นางชะไมพร เกวลิน โรงพยาบาลยวุ ประสาทไวทโยปถัมภ นางอภริ ตั น จันเที่ยง โรงพยาบาลยวุ ประสาทไวทโยปถัมภ นางสาวอศิ ราวลั ย ศภุ รฤทัย สถาบนั สขุ ภาพจิตเด็กและวยั รนุ ราชนครินทร นางสุจติ รา ตรที พิ ยธ ิคณุ สถาบันสขุ ภาพจติ เด็กและวัยรนุ ราชนครนิ ทร นางยุพาวดี รุมวริ ยิ ะพงษ สถาบันสุขภาพจิตเดก็ และวยั รนุ ราชนครนิ ทร นางสาวจุฬาลกั ษณ ชนนิ ทยทุ ธวงศ สาํ นักพฒั นาสุขภาพจติ นางวนดิ า อนิ โอชานนท สํานักพฒั นาสุขภาพจติ นางสาวอมรากลุ วณชิ รมณยี สาํ นกั พัฒนาสขุ ภาพจติ นางสาวกาญจนา ศรสี ชุ าติ สํานักพฒั นาสขุ ภาพจติ นางสาวรววิ รรณ แกว เมอื ง สํานักพฒั นาสุขภาพจิต นางธัญลักษณ 168
169
170
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178