๙๗ คนวยั ทางานทม่ี คี วามเสยี่ งต่อปัญหาสขุ ภาพจติ เช่น เป็นพนักงานเขา้ ใหม่ ผู้มปี ัญหาหน้ีสนิ มโี รค ประจาตวั ผู้มีปัญหาครอบครวั เป็นต้น ควรใช้การสงั เกตพฤตกิ รรมรว่ มกับการใชแ้ บบประเมนิ แบบคดั กรอง ต่าง ๆ เพอ่ื เฝ้าระวงั ปัญหาสขุ ภาพจติ ท่จี ะเกดิ ขน้ึ อนั เน่อื งมาจากปัญหาการปรบั ตวั ปัญหาสขุ ภาพ ปัญหา ดา้ นความสมั พนั ธ์กบั ผ้อู น่ื ซง่ึ จะส่งผลใหเ้ กดิ ความเครยี ดสะสมเรอ้ื รงั โดยอาจใชก้ ารพดู คยุ ซกั ถาม วางแผน และใหค้ วามชว่ ยเหลอื รายบุคคล เพ่อื แก้ปัญหาไดอ้ ย่างตรงจุด ท่สี าคญั ต้องคานงึ ถงึ การรกั ษาความลบั ส่วน บคุ คลของพนักงานเป็นสาคญั 2. การเสริมสรา้ งวคั ซีนใจในสถานประกอบการ 2.1 มาตการ “4 สรา้ ง” ในสถานประกอบการ เป็นมาตรการหรอื กจิ กรรมท่สี ่งเสริมให้ผู้ปฏบิ ตั ิงานในสถานประกอบการ/องค์กร ทางานร่วมแรง ร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหาหรือวิกฤตต่างๆท่ีเกิดขึ้นจนสามารถผ่านพ้นไปได้ และยังทาให้สถาน ประกอบการ/องค์กร ฟ้ืนคนื สู่ภาวะปกติได้ ประกอบไปด้วย หลกั การ “4 สร้าง” ได้แก่ 1. สร้างความรู้สึก ปลอดภยั (Safety) 2. สร้างความตระหนัก ไม่ตระหนก (Calm) 3. สร้างความหวงั (Hope) 4. สร้าง ความเข้าใจ ใส่ใจและให้โอกาส (Care) และนาหลกั “2 ใช้” มาเป็นฐานสาคญั ในการเสริมสร้างใหค้ นใน สถานประกอบการ/องค์กรมภี ูมคิ ุ้มกนั ทางใจท่เี ข้มแขง็ ซึ่งประกอบด้วย 1.ใช้ศกั ยภาพท่ีมีอยู่ในสถาน ประกอบการ/องค์กร (Efficacy) ร่วมกบั การ 2.ใช้สายสมั พนั ธ์ท่ีดีระหว่างกันของสมาชิกในสถาน ประกอบการ/องค์กร (Networks And Relationships) นาไปสู่การลดปั ญ หาสุขภาพจิตและการ แพรก่ ระจายของโรคโควดิ -19 ได้ ๙๗
๙๘ 1. สร้างความร้สู กึ ปลอดภยั (Safety) 1.1 สรา้ งความมนั ่ ใจในการป้องกนั และควบคมุ โรค COVID-19 แบบ New Normal 1.1.1 มีมาตรการในการป้องกนั โรค COVID-19 - สวมหนา้ กากอนามัยตลอดเวลา - เครง่ ครดั การเวน้ ระยะหา่ ง - ล้างมอื บ่อยๆ เม่อื สมั ผสั จดุ สัมผสั รว่ ม เชน่ ลกู บดิ ประตู ราวบนั ได - งดรบั ประทานอาหารร่วมกนั หา้ มพดู คยุ ขณะกนิ ขา้ ว - แยกของใช้สว่ นตวั เช่น แก้วน้า จาน ชาม ชอ้ น - เมอ่ื มอี าการเจบ็ ป่ วย เชน่ ไอ มไี ข้ มนี ้ามูก หยุดงานทนั ทแี ละรบี พบแพทย์เพ่อื ตรวจวนิ จิ ฉยั (ทม่ี า: พนกั งานโรงงานปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรห่างไกลโควดิ , กรมควบคุมโรค, 2564) 1.1.2 มกี ารตงั้ จุดคดั กรองความเสยี่ ง ตรวจวดั อณุ หภูมแิ ละใหเ้ ขา้ ออกทางเดยี ว 1.1.3 มกี ารตดิ ตงั้ ฉากกนั้ จดั พ้นื ทใ่ี ห้มรี ะยะหา่ งท่เี หมาะสมในจุดท่ใี ห้บรกิ ารลูกคา้ 1.1.4 มกี ารวางเจลแอลกอฮอล์และทาความสะอาดในจดุ ทม่ี กี ารสมั ผสั รว่ ม เช่น ลกู บดิ ประตู ราวบนั ได สวติ ซไ์ ฟ อปุ กรณส์ านักงาน 1.1.5 มขี อ้ มลู สุขภาพ ประวตั กิ ารเจบ็ ป่ วยของผู้ปฏบิ ตั งิ าน เพ่อื ตดิ ตามและเฝ้าระวงั ความ เสยี่ งของการเกดิ โรคและใหก้ ารช่วยเหลอื กรณีท่เี จบ็ ป่วย 1.1.6 มขี อ้ ตกลงหรอื บทลงโทษร่วมกนั ถา้ ไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการการป้องกนั โรค COVID- 19 1.1.7 มกี ารจดั ทมี เฉพาะกจิ เพ่อื ทาแผนฉุกเฉินและเตรียมรบั มอื กรณพี บผู้ปฏบิ ตั งิ านติดเชอ้ื COVID-19 1.1.8 มกี ารสอ่ื สารจากผู้บรหิ ารเพ่อื สร้างความมนั ่ ใจให้แก่ผปู้ ฏบิ ตั งิ านด้วยขอ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง และทนั ต่อเหตกุ ารณ์ 1.2 ส่งเสรมิ ให้ผู้ปฏิบตั งิ านไดร้ บั การฉีดวคั ซนี โควดิ -19 ในการควบคุมและป้องกนั โรค ลดความกลวั และสร้างแรงจงู ใจ 1.2.1 สร้างตน้ แบบในการฉดี วคั ซนี โควดิ -19 เช่น ผู้นาองคก์ ร หวั หน้างาน ฯลฯ 1.2.2 สร้างแรงจงู ใจให้ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านทไ่ี ม่กลา้ ฉีดวคั ซนี โควดิ -19 ด้วยวธิ ี “3 เป็น” ด้วยการ สนทนาแสดงความช่นื ชมในเร่อื งสาคญั สงิ่ ดแี ละความพยายาม จากนนั้ ใช้คาถามสร้างแรงจูงใจเชน่ การถาม ถงึ สงิ่ ท่ผี ่านมา และการใหข้ อ้ มลู จาเป็นอย่างสนั้ ๆและมลี กั ษณะให้ทางเลอื ก ชมเป็น; เชน่ คุณเป็นเสาหลกั ของครอบครวั เลยนะหากขาดคุณสกั คน ทุกคนคงลาบาก ถามเป็น; การไม่ฉดี วคั ซนี มผี ลต่อคุณไหม แนะเป็น; เพอ่ื ให้คณุ ได้ดแู ลครอบครวั คณุ อยา่ งตงั้ ใจ หรอื ถา้ ฉดี วคั ซนี คณุ คดิ วา่ อย่างไร ๙๘
๙๙ ถ้าเขากลัวผลขา้ งเคยี งทเ่ี กดิ จากการฉดี วคั ซนี โควดิ -19 ใหช้ มว่า “เขาเป็นคนทใ่ี สใ่ จตวั เองและรกั ครอบครวั 1.2.3 อานวยความสะดวกให้ผปู้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ บั การฉีดวคั ซนี โควดิ -19 - จดั ใหม้ กี ารฉีดวคั ซนี วดิ -19 ในสถานประกอบการ/องคก์ ร - ผปู้ ฏบิ ัตงิ านสามารถไปฉีดวคั ซนี โควดิ -19 ไดโ้ ดยไม่ถอื เป็นวันลา - อานวยความสะดวกในการลงทะเบยี นจองควิ และจดั รถรบั -ส่งให้ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านไปเขา้ รบั การ ฉดี วคั ซนี โควดิ -19 1.3 สง่ เสรมิ ให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านในสถานประกอบการ/องค์กร ดูแลตนเองและผูร้ ่วมงาน 1.3.1 มกี ารรณรงค์และสอ่ื สารให้ความร้เู ก่ยี วกบั การป้องกนั โรค COVID-19 และสถานการณ์ ท่เี กย่ี วขอ้ งแก่ผปู้ ฏิบตั งิ าน - จดั บอร์ดนทิ รรศการ - เปิดเสยี งตามสาย - สง่ ในกลมุ่ LINE ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน - ช่องทางการส่อื สารอ่นื ๆของสถานประกอบการ/องคก์ ร 2. สรา้ งความตระหนกั ไม่ตระหนก (Calm) 2.1 ให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั โรค COVID-19 ท่ถี ูกต้องชดั เจน เช่อื ถอื ได้ ทนั ตอ่ สถานการณ์ เพอ่ื ลดความวติ ก กงั วล และต่นื ตระหนกจากข่าวต่างๆ 2.1.1 มกี ารใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั โรค COVID-19 อย่างสมา่ เสมอ เชน่ ทุกเช้าวนั จนั ทร์ พกั กลางวนั 2.1.2 มชี ่องทางเพอ่ื ตอบขอ้ สงสยั ของผปู้ ฏิบตั งิ านอยา่ งรวดเรว็ เช่น กลมุ่ ไลน์ กลุ่มเฟซบกุ๊ ฯลฯ 2.1.3 กรณีพบผูต้ ดิ เชอ้ื ทมี เฉพาะกจิ ตอ้ งแจ้งให้ผูป้ ฏบิ ตั งิ านทุกคนทราบทนั ที ไม่ปกปิดขอ้ มูล และ ช้แี จงถงึ สง่ิ ทส่ี ถานประกอบการดาเนนิ การและสงิ่ ทผ่ี ้ปู ฏบิ ตั งิ านต้องปฏบิ ตั ิ 2.2 ใหค้ วามรู้เก่ยี วกบั การดแู ลจติ ใจตนเอง 2.2.1 มกี ารแนะนาใหผ้ ้ปู ฏบิ ัตงิ านรบั ขอ้ มูลขา่ วสารอยา่ งเหมาะสม - ลดเวลาการดูและฟังขา่ ว ไม่หมกมุ่นเกนิ ไป ตดิ ตามข่าวตามปกตวิ ันละ 1-2 ครงั้ ประมาณ 2-3 ชวั ่ โมง ถ้าร้สู กึ เครยี ดใหห้ ยุดตดิ ตามข่าวทนั ที - ตรวจสอบว่าเป็นข่าวปลอม (Fake News) หรอื ไม่ และควรดูขอ้ มูลจากแหล่งทเ่ี ช่อื ถอื ได้ - ทากจิ วตั รประจาวนั ตามปกติ และทางานอดเิ รกอ่นื ๆ เพ่อื ไม่ให้หมกมุ่นกบั การดูข่าวมาก เกนิ ไป ๙๙
๑๐๐ 2.2.2 มกี ารแนะนาวธิ คี ลายความเครยี ด - วธิ คี ลายความเครยี ดทวั ่ ไป เช่น ออกกาลงั กาย เช่น วง่ิ เตน้ แอโรบกิ รามวยจนี โยคะ เลน่ กฬี า ฟังเพลง รอ้ งเพลง หรอื เลน่ ดนตรี ปลกู ตน้ ไม้ ทาสวนเลน่ กบั สตั ว์เล้ยี ง จดั หอ้ งตกแตง่ บ้านหรอื อะไรกไ็ ด้ ท่ที าแลว้ รู้สกึ ดขี นึ้ - เทคนคิ เฉพาะในการคลายเครยี ด เชน่ การฝึกหายใจคลายเครยี ด การฝึกสมาธิ การนวด คลายเครยี ด การฝึกผ่อนคลายกล้ามเน้อื 2.2.3 ทมี เฉพาะกจิ ควรใหผ้ ปู้ ฏบิ ัตงิ านได้รบั การประเมนิ สขุ ภาพใจผา่ นเว็บไซต์ Mental Health Check-in หรอื แบบประเมนิ ของกรมสุขภาพจติ - แบบคดั กรองความเครยี ด (ST-5) - แบบคดั กรองโรคซมึ เศรา้ (2Q) - แบบประเมนิ ภาวะเหน่อื ยลา้ หมดไฟ (Burn out) - แบบประเมนิ พลงั ใจ (RQ) 2.2.3 มกี ารแนะนาบรกิ ารหรอื สถานบรกิ ารด้านสขุ ภาพจติ ให้แกผ่ ู้ปฏบิ ัตงิ านในกรณที ผ่ี ปู้ ฏบิ ัตงิ านมี ปัญหาสขุ ภาพจติ เช่น สายด่วนสุขภาพจติ 1323 โรงพยาบาลคเู่ ครอื ข่ายของสถานประกอบการ 3. สรา้ งความหวงั (Hope) 3.1 สนบั สนุนให้มกี จิ กรรมเพอ่ื สรา้ งขวญั กาลงั ใจแกผ่ ้ปู ฏบิ ตั งิ าน - ผู้บรหิ ารมกี ารพูดคุยให้กาลงั ใจและสรา้ งความเช่ือมนั ่ แก่ผู้ปฏบิ ตั งิ าน - จดั ให้มพี ้นื ท่สี ร้างกาลงั ใจและแลกเปล่ยี นประสบการณ์เพอ่ื ฝ่าวกิ ฤตไปด้วยกนั เช่น เร่อื ง เล่าสร้างกาลงั ใจ คลปิ วดี โิ อ บอรด์ ให้กาลงั ใจ ฯลฯ - กรณที ส่ี ถานประกอบจาเป็นตอ้ งปิดกจิ การหรอื หยดุ กจิ การชวั ่ คราว ผู้บรหิ ารควรสอ่ื สารให้ ผปู้ ฏิบตั งิ านทกุ คนทราบ และควรมแี ผนการรบั มอื ในการดแู ลจติ ใจผู้ปฏบิ ตั งิ าน 3.2 จดั สวสั ดกิ าร/ออกมาตรการเยียวยาชว่ ยเหลอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน - มแี นวทางในการช่วยเหลอื และดแู ลความเป็นอยู่ของผปู้ ฏิบตั งิ าน เชน่ ต้ปู ันสุข ถุงยงั ชพี คูปองอาหารฟรี หน้ากากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ - ประสานหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งเพ่อื ให้ผปู้ ฏบิ ตั งิ านได้รบั สวสั ดกิ ารตามกฎหมาย เช่น ประกนั สงั คม กองทนุ สงเคราะห์ลูกจา้ ง เป็นต้น - หาชอ่ งทางการในการสรา้ งรายไดเ้ พม่ิ เตมิ ให้แก่ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตามศกั ยภาพและทรพั ยากรท่ี สถานประกอบการมอี ยู่ - มกี ารทาประกนั สขุ ภาพใหแ้ กผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านทุกคน ๑๐๐
๑๐๑ - มชี อ่ งทางใหค้ วามช่วยเหลอื ให้แกผ่ ้ปู ฏบิ ตั งิ าน เช่น ต้คู ลายทุกข์ สายด่วนใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื ฯลฯ 3.3 ส่งเสรมิ ใหผ้ ้ปู ฏบิ ตั งิ านทากจิ กรรมจติ อาสาภายในสถานประกอบการ/องคก์ ร เชน่ เป็นจติ อาสาในการคดั กรอง/ตรวจวดั อุณหภมู ิ ส่งอาหารและสงิ่ จาเป็นใหผ้ ู้ปฏบิ ตั งิ านท่ถี ูกกกั ตวั ฯลฯ 3.4 สง่ เสรมิ ให้สถานประกอบการ/องค์กร นาโปรแกรม/หลกั สูตรตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นการดแู ลคุณภาพชวี ติ ของผปู้ ฏบิ ัตงิ าน เชน่ - โปรแกรมสร้างสขุ วยั ทางานในสถานประกอบการ - หลกั สตู รสรา้ งสขุ ดว้ ยสตใิ นองคก์ ร (Mindfulness in Organization: MIO) - คมู่ อื การสรา้ งความสุข 8 ประการในท่ที างาน (HAPPY WORKPLACE) 4. สร้างความเข้าใจ ใสใ่ จและใหโ้ อกาส (Care) 4.1 เอ้อื อานวยให้ผปู้ ฏิบตั งิ านสามารถทางานได้ภายใต้สถานการณท์ ่เี ปลย่ี นแปลง - มกี ารปรบั รูปแบบการทางาน เช่น แบ่งทมี ทางาน เหลอ่ื มเวลาทางาน หรอื ทางานในท่พี กั อาศยั - จดั หาและสนับสนุนอปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื ในการทางานในทพ่ี กั อาศยั ใหแ้ ก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน เชน่ คอมพวิ เตอร์ อนิ เทอร์เน็ต ระบบการประชมุ ออนไลน์ ฯลฯ - เฝ้าระวงั กลมุ่ เสยี่ ง เช่น มคี วามเครยี ดสงู มีภาวะ Burn out เป็นตน้ - ดูแลผู้ปฏบิ ตั งิ านด้วยการสงั เกตพฤตกิ รรมทเ่ี ปล่ยี นแปลงไปจากปกติ ใส่ใจรบั ฟังเมอ่ื มา ปรบั ทุกข์ เม่อื เกนิ กาลงั ท่สี ถานประกอบการสามารถช่วยเหลอื ไดใ้ หส้ ง่ ตอ่ สถานบรกิ ารคเู่ ครอื ข่าย 4.2 ลดอคตติ ่อผูต้ ดิ เช้อื COVID-19 - ทมี เฉพาะกจิ สอ่ื สารเพอ่ื สร้างความเขา้ ใจท่ถี ูกตอ้ งตามความเป็นจรงิ เก่ยี วกบั ผู้ตดิ เชอ้ื COVID-19 ท่รี กั ษาหายแล้ว เช่น แสดงผลการตรวจรกั ษา - สถานประกอบการและผรู้ ว่ มงานให้โอกาสผ้ทู ห่ี ายป่วยไดก้ ลบั มาทางานได้ตามปกติ โดยไม่ ตาหนิ หรอื แสดงท่าทรี งั เกยี จ 4.3 สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั งิ านชว่ ยเหลอื และดูแลจติ ใจกนั และกนั ดว้ ยหลกั การปฐมพยาบาลทางใจ 3 ส. ไดแ้ ก่ - สอดส่องมองหา : สงั เกตเพ่อื นรว่ มงานทม่ี พี ฤตกิ รรมเปล่ยี นแปลงไปหรอื ต้องการความ ช่วยเหลอื เช่น เครยี ด หงดุ หงดิ กนิ ไมไ่ ด้ นอนไม่หลบั - ใสใ่ จรบั ฟัง : ฟังเพ่อื นรว่ มงานอย่างตงั้ ใจและไมต่ ดั สนิ เพ่อื ชว่ ยให้เขาไดร้ ะบายความรู้สกึ และไดค้ ลายความทกุ ขใ์ จ ๑๐๑
๑๐๒ - ส่งต่อเช่อื มโยง : ถ้าเพ่อื นร่วมงานมปี ัญหาเกนิ กาลงั ทจ่ี ะช่วยเหลอื ใหแ้ จ้งหวั หน้างานหรอื ทมี เฉพาะกจิ เพ่อื ใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกผ่ ู้ปฏบิ ัตงิ านตามความเหมาะสม 2 ใช้ 1. ใชศ้ กั ยภาพของสถานประกอบการ/องคก์ ร - ผู้นาสถานประกอบการ/องค์กรเหน็ ความสาคญั และเป็นผู้นาในการดแู ลสขุ ภาพกายและ สขุ ภาพจติ ของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน - ผู้นาสถานประกอบการ/องคก์ ร แกนนา ชว่ ยกนั ระดมความคดิ และหาวธิ ปี รบั ตวั เพ่อื ประคองกจิ การและสรา้ งรายไดภ้ ายใตท้ รพั ยากรทม่ี อี ยู่ - ผูน้ าสถานประกอบการ/องคก์ รสนบั สนุนให้เกดิ การระดมกาลงั คนท่มี คี วามสามารถและมจี ติ อาสาจากทกุ สว่ นช่วยเหลอื ชุมชนและสงั คมตามกาลงั ความสามารถ 2. ใชส้ ายสมั พนั ธ์ของสถานประกอบการ/องค์กร - ผนู้ าสถานประกอบการ/องคก์ ร แกนนา จติ อาสาและผปู้ ฏบิ ตั งิ านทุกระดบั ใช้ความสมั พนั ธ์ ท่มี อี ย่ใู นการรว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการหรอื แผนทว่ี างไวเ้ พ่อื ใหส้ ถานประกอบการ/องคก์ รกา้ วผ่านวกิ ฤตนี้ ไปได้ - ผนู้ าสถานประกอบการ/องคก์ รใช้เครอื ข่ายภายนอกท่มี อี ยู่ ในการสนับสนุนศกั ยภาพและ ทรพั ยากร เพ่อื รบั มอื กบั สถานการณ์วกิ ฤต เช่น เคร่อื งมอื วสั ดอุ ปุ กรณ์ องค์ความรตู้ ่างๆ ฯลฯ - ผู้นาสถานประกอบการ/องคก์ รส่งเสรมิ ความเขม้ แขง็ ภายในสายงาน เช่น หวั หน้างานควร ทราบความเป็นอยู่ วิถชี วี ติ ของผู้ปฏบิ ัตงิ านเพอ่ื ใหก้ ารดแู ลชว่ ยเหลอื อยา่ งเหมาะสม 2.2 การดาเนิ นการ/กิจกรรมภายใต้โครงการบรู ณาการตา่ งๆ เช่น โครงการสถานประกอบการ/ วสิ าหกจิ ชมุ ชนปลอดโรค ปลอดภยั กายใจเป็นสขุ , 10 packages กระทรวงสาธารณสขุ เป็นต้น 2.2.1 กิจกรรมนันทนาการ เพอ่ื ใหเ้ กดิ สมั พนั ธภาพทด่ี ตี อ่ กนั และการผอ่ นคลาย ความเครยี ด ได้แก่ การจดั งานประจาปี งานกฬี าสี การจดั กจิ กรรมรวมกลุ่มเพ่อื ออกกาลงั กาย 2.2.2 กิจกรรมสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและป้องกันปญั หาสุขภาพจิต ได้แก่ การ ใหค้ วามรู้ สุขภาพจติ ผ่านเสยี งตามสาย การจดั อบรมใหค้ วามรู้ จดั กจิ กรรมโปรแกรมสรา้ งสขุ วยั ทางานในสถาน ประกอบการ ตดิ โปสเตอรร์ ณรงคป์ ระชาสมั พนั ธ์ด้านสขุ ภาพจติ มสี ถานทห่ี รอื มมุ พักผ่อนหยอ่ นใจใหพ้ นกั งาน มกี จิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และศาสนา 2.2.3 กิจกรรมการเหน็ คุณคา่ ของผปู้ ฏิบตั ิงานและครอบครวั ได้แก่ การมอบเกียรตบิ ตั ร หรอื รางวลั แก่พนกั งานทป่ี ฏบิ ตั งิ านดตี ามสมรรถนะการทางาน กจิ กรรมเชดิ ชกู ารทาความดี กจิ กรรมการ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ การดูงานนอกสถานท่ที งั้ ครอบครวั ๑๐๒
๑๐๓ 2.3 ประเด็นการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปญั หาสุขภาพจิต - การเสริมสร้างความสุขในการทางาน “ความสุข” และ “สุขภาพจิต” ของคนทางาน วยั ทางานถอื เป็นทรพั ยากรบคุ คลท่มี คี วามสาคญั ของประเทศ เพราะคนวยั นี้เป็นผู้ท่มี พี ลงั ในการ ทางานเพ่อื สรา้ งความมนั ่ คงให้แกต่ นเองและประเทศชาติ คงไมม่ ใี ครปฏเิ สธวา่ “คน” ไม่ใชเ่ คร่อื งจกั รหรอื ห่นุ ยนต์ท่ไี ม่มอี ารมณ์ความรสู้ กึ ดงั นนั้ ย่อมมบี างขณะทอ่ี าจมบี างสงิ่ บางอย่างมากระทบใจจนทาใหห้ มดพลงั ชวั ่ คราว ซง่ึ จะส่งผลใหค้ วามสามารถในการทางานลดลงและส่งผลตอ่ ผลผลิตของหน่วยงานหรอื สถาน ประกอบการทว่ี า่ จา้ ง แต่ถา้ หน่วยงานหรอื สถานประกอบการใหค้ วามสาคญั ของคนทางานและส่งเสรมิ ให้ คนทางานมสี ขุ ภาพทแ่ี ขง็ แรงและมใี จทเ่ี ป็นสขุ ในการทางานย่อมจะสง่ ผลดที งั้ ตอ่ ตวั คนทางานเองและ หน่วยงานหรอื สถานประกอบการ องค์การอนามยั โลกไดใ้ หค้ านยิ าม “ความสุข” ว่าหมายถงึ การทค่ี นมสี มั พนั ธภาพท่ดี ตี ่อผอู้ น่ื และ สามารถรกั ษาสมั พนั ธภาพนนั้ ใหย้ งั ่ ยนื มกี ารปรบั ตวั เขา้ กบั สภาพสงั คมท่เี ปล่ยี นแปลงได้ และมคี วาม ภาคภูมใิ จในชวี ติ แนวทางทห่ี น่วยงานหรอื สถานประกอบการจะช่วยส่งเสรมิ ให้ คนทางาน “กายใจเป็นสุข” ตามคา นิยามขององค์การอนามยั โลก คอื 1. สง่ เสรมิ และสนับสนุนให้คนทางานมสี ุขภาพกายท่แี ขง็ แรง โดยจดั สรรเวลาให้คนทางานไดอ้ อก กาลงั กายและมสี ถานทใ่ี ห้ตามความเหมาะสม เชน่ มสี ถานทอ่ี อกกาลงั กาย มสี นามฟตุ บอล สนามเปตอง พร้อมมอี ุปกรณส์ นับสนุน เป็นตน้ 2. สง่ เสรมิ ให้คนทางานมสี มั พนั ธภาพท่ดี รี ะหว่างกนั โดยเปิดโอกาสใหค้ นทางานไดท้ ากจิ กรรม รว่ มกนั เพ่อื สรา้ งความสนทิ สนมและแสดงความมนี ้าใจต่อกนั เช่น เขยี นการด์ อวยพรวนั เกดิ จดั กจิ กรรม สงั สรรคป์ ระจาปี จดั ทมี ไปเยย่ี มเพ่อื นท่เี จบ็ ป่วย แข่งกฬี าสรี ะหวา่ งแผนก เป็นต้น 3. สง่ เสรมิ และสร้างบรรยากาศท่ผี ่อนคลายในการทางาน เช่น เปิดเพลงเบาๆใหค้ นทางานฟังขณะ ทางาน มกี ารหมุนเวยี นหนา้ ทใ่ี นแผนกทก่ี อ่ ให้เกดิ ความเครยี ดได้ เช่น แผนกท่มี เี สยี งดงั ตลอดเวลา หรอื เปล่ยี นหน้าทท่ี เ่ี หมาะสมใหก้ บั พนกั งานทต่ี งั้ ครรภ์ เป็นต้น 4. ส่งเสรมิ ให้คนทางานเกดิ ความภาคภมู ใิ จในตนเอง โดยให้รางวลั แกค่ นทางานดหี รอื ขยนั ทางานให้ เป็นผู้สอนงานแกผ่ ูม้ าเย่ยี มชมหน่วยงาน สนับสนุนใหร้ ว่ มกนั ทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนหรอื สงั คม 5. สารวจความสุขของคนทางาน โดยใช้แบบประเมนิ ความสขุ ของกรมสขุ ภาพจิต อย่างน้อยปีละ 1 ครงั้ เพ่อื หน่วยงานหรือสถานประกอบการใช้เป็นข้อมูลในการส่งเสริมความสุขของคนทางานต่อไป และ ขณะเดียวกันควรจดั ให้มีบุคคลท่สี ามารถทาหน้าท่ีให้การปรึกษาให้แ ก่พนักงานท่ีมีความสุขน้อยหรือมี ความเครยี ด และสงิ่ สาคญั คอื ควรให้ความสาคญั ในการเกบ็ ความลบั เรอ่ื งท่คี นทางานมาขอรบั การปรกึ ษา ๑๐๓
๑๐๔ แนวทางการจดั กจิ กรรมเพอ่ื สง่ เสรมิ สุขภาพจติ คนทางานด้วย โปรแกรมสรา้ งสขุ วยั ทางานในสถานประกอบการ หรอื สามารถ Download ได้ท่ี www.sorporsor.com หรอื link; shorturl.asia/nktI9 - การเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ทางใจ (Resilience) เสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทางใจ “อดึ ฮึด สู”้ คนเราทุกคนย่อมมโี อกาสพบกบั เหตกุ ารณร์ นุ แรงทม่ี ากระทบทงั้ ร่างกาย จติ ใจ ทาใหเ้ กดิ ความทกุ ข์ ใจ ไม่สบายใจ ซ่งึ เหตุการณ์เหล่านนั้ อาจเกดิ ขนึ้ ชวั ่ คราว แตผ่ ลกระทบจติ ใจจะคงอยนู่ านหรอื หายไปอยา่ ง รวดเรว็ ขน้ึ อยกู่ บั ความเขม้ แขง็ ทางใจของแตล่ ะคน ความเข้มแขง็ ทางใจ คือ ความสามารถท่จี ะปรบั ตวั ปรบั ใจกบั เหตุการณ์วกิ ฤตขิ องชวี ิตและฟ้ืนคืน กลบั สู่ภาวะปกตภิ ายหลงั ทพ่ี บกบั เหตุการณ์วกิ ฤตหิ รอื สถานการณ์ท่ที าให้เกดิ ความยากลาบากในชวี ติ ได้ ซ่งึ เป็นความสามารถของคนท่ีมีอยู่แล้วในตัวเอง และนามาใช้เม่ือต้องเอาชนะปัญหา อุปสรรค หรือความ ยากลาบากท่เี กดิ ขนึ้ ดงั นนั้ การส่งเสรมิ ใหบ้ ุคคลมีความเขม้ แขง็ ทางใจจะช่วยให้สามารถใช้วกิ ฤติเป็นโอกาส ยกระดบั ความคดิ จติ ใจ มพี ลงั ใจในการดาเนนิ ชวี ติ ตอ่ ไปได้หลงั จากผ่านพน้ เหตกุ ารณท์ ่ไี มด่ ใี นชวี ติ สนใจศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ผ่านหลกั สูตรออนไลน์ และ YouTube หลกั สูตรเสรมิ สร้างพลงั ใจ https://www.dmh-elibrary.org/items/show/185 - การจดั การความเครยี ด ความเครียดคืออะไร? ความเครยี ดเป็นเร่อื งของรา่ งกายและจติ ใจ ท่เี กดิ การตน่ื กลวั เตรยี มรบั กบั เหตกุ ารณ์ใดเหตุการณ์หนง่ึ ทไ่ี มเ่ ป็นไปตามต้องการ ซ่งึ เราคดิ วา่ ไม่น่าพอใจ เป็นเร่อื งหนกั หาสาหสั เกนิ กาลงั ทรพั ยากรท่เี รามอี ยู่ หรอื เกนิ ความสามารถของเราทจ่ี ะแกไ้ ขได้ ทาใหร้ สู้ กึ เป็นทกุ ข์ หนกั ใจ กงั วลใจ หรอื ไมส่ บายใจ พลอยทาใหเ้ กดิ อาการผดิ ปกตทิ างรา่ งกายและพฤตกิ รรมตามไปด้วย ความเครยี ดเป็นเรอ่ื งปกตทิ ่เี กดิ ขนึ้ ไดก้ บั ทกุ คน จะมากหรอื นอ้ ยขน้ึ อยกู่ บั สภาพปัญหา การคดิ และ การประเมนิ สถานการณ์ของแตล่ ะคน ถ้าเราคดิ ว่าปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ไมร่ า้ ยแรงกจ็ ะรู้สกึ เครยี ดนอ้ ยหรอื แม้เราจะ รสู้ กึ วา่ ปัญหานนั้ รา้ ยแรงแต่เราพอจะรบั มอื ไหว เราก็จะไมเ่ ครยี ดมาก แต่ถ้าเรามองว่าปัญหานนั้ ใหญ่ แก้ไม่ ไหว และไม่มใี ครช่วยเราได้ เรากจ็ ะเครยี ดมาก ๑๐๔
๑๐๕ ความเครียดเกิดจากอะไร? ความเครยี ดของแตล่ ะบุคคลอาจเกดิ ไดจ้ ากเหตุและปัจจยั หลายอย่างเขา้ มากระทบกบั ความคดิ และ ความร้สู กึ สาเหตุสาคญั ทท่ี าให้บคุ คลเกดิ ความเครยี ดมี 2 ประการ คอื 1. สภำพปัญหำทเี่ กดิ ข้นึ ในชวี ติ เชน่ ปัญหาการเงนิ ปัญหาการงาน ปัญหาครอบครวั ปัญหาการ เรยี น ปัญหาสุขภาพ ปัญหามลพษิ ปัญหาภยั ธรรมชาติ ปัญหาความขดั แยง้ ระหว่างบุคคล ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ จะเป็นตวั กระต้นุ ใหค้ นเราเกดิ ความเครยี ดข้นึ ไดม้ าก 2. กำรคดิ และกำรประเมนิ สถำนกำรณข์ องบุคคล เราจะสงั เกตไดว้ า่ คนทม่ี องโลกในแงด่ ี มอี ารมณ์ขนั ใจเยน็ จะมคี วามเครยี ดน้อยกวา่ คนมองโลกในแง่ร้าย เอาจรงิ เอาจงั กบั ชวี ติ และใจรอ้ น นอกจากนค้ี นท่รี ู้สกึ ว่าตนเองมคี นคอยให้ความช่วยเหลอื เม่อื มีปัญหา เช่น มพี ่อแม่ ญาติพนี่ อ้ ง มคี สู่ มรส มเี พ่อื นสนทิ ท่รี กั ใคร่ และไว้วางใจกนั ได้ ก็จะมคี วามเครยี ดน้อยกวา่ คนทอ่ี ยโู่ ดดเดย่ี วตามลาพงั ดว้ ย ความเครยี ดมกั ไม่ไดเ้ กดิ จากสาเหตุใดเพยี งสาเหตุเดยี วแต่มกั จะเกดิ จากทงั้ สองสาเหตปุ ระกอบกนั คอื มปี ัญหาเป็นตวั กระตุ้นและมกี ารคดิ การประเมนิ สถานการณ์ เป็นตวั บ่งบอกวา่ จะเครยี ดมากนอ้ ยแค่ไหน ความเครยี ดกม็ ีประโยชน์ ความเครยี ดในระดบั พอดี ๆ จะกระตุน้ ให้เรามพี ลงั เกดิ ความพยายาม มคี วามอดทน มคี วาม กระตอื รอื รน้ ช่วยผลกั ดนั และตอ่ สเู้ พอ่ื ขจดั ความเครยี ด และส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ ความเข้มแขง็ สามารถเอาชนะ ปัญหาและอุปสรรคได้ แตค่ วามเครยี ดท่มี มี าก อย่นู าน และรนุ แรงเกนิ ไป จะทาให้เกดิ ปัญหาสขุ ภาพจติ หรอื เจบ็ ป่วยทางกายและทางจติ ได้ เชน่ โรคหวั ใจ ความดนั โลหติ มะเรง็ โรคกระเพาะ โรคซมึ เศรา้ เป็นต้น การสารวจความเครียด สญั ญาณเตอื น 3 ดา้ นท่บี ่งบอกวา่ กาลงั มคี วามเครยี ด 1. ด้ำนรำ่ งกำย มกั เจบ็ ป่ วยบอ่ ย ๆ โดยไมท่ ราบสาเหตุ ไมม่ เี ร่ยี วแรง ปวดศรี ษะ เบ่อื อาหาร นอนไมห่ ลบั หรอื ง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา ปวดเม่อื ยกล้ามเนอ้ื ทอ้ งอดื อาหารไม่ย่อย ท้องผกู ประจาเดอื นมาไมป่ กติ ใจ สนั ่ ถอนหายใจบอ่ ย ๆ เป็นตน้ 2. ดำ้ นจติ ใจ ได้แก่ วติ กกงั วล คดิ มาก เครง่ เครยี ด หงดุ หงดิ เศร้าหมอง ฟ้งุ ซ่าน โกรธงา่ ย ใจนอ้ ย เบ่อื หน่าย ซมึ เศร้า เหมอ่ ลอย ไม่มสี มาธใิ นการทางาน หมดความสนุกสนาน เป็นต้น 3. ดำ้ นพฤตกิ รรม ได้แก่ สูบบหุ ร/่ี ด่มื สุรามากขนึ้ อาจใช้ยากระตนุ้ หรอื สารเสพตดิ ต่าง ๆ ใช้ยานอน หลบั จู้จ้ี ขบ้ี น่ ชวนทะเลาะ มเี ร่อื งขดั แยง้ กบั ผู้อน่ื บอ่ ย ๆ ดงึ ผม กดั เลบ็ กดั ฟัน ผดุ ลุกผดุ นงั่ เงยี บขรมึ เก็บ ตวั เป็นตน้ ๑๐๕
๑๐๖ เมื่อรตู้ วั ว่าเครียดจากปญั หาใด ให้พยายามแกป้ ญั หานนั้ ใหไ้ ด้โดยเรว็ ปัญหาต่าง ๆท่เี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ เป็นสาเหตทุ ่กี ระตนุ้ ให้เกดิ ความเครยี ด เม่อื แกป้ ัญหาไดค้ วามเครยี ดก็ จะหมดไป การเรยี นรู้วธิ กี ารแกป้ ัญหาท่ถี กู ตอ้ งเหมาะสมจงึ เป็นสง่ิ จาเป็น เพอ่ื แกป้ ัญหาได้ดแี ละรวดเรว็ ยงิ่ ขนึ้ วธิ กี ารแก้ปัญหาทเ่ี หมาะสม มดี งั นี้ • ใชเ้ หตผุ ล และควำมคดิ พจิ ำรณำ คดิ หาสาเหตุของปัญหาดว้ ยใจเป็นกลาง ไมเ่ ขา้ ขา้ งตัวเอง ไม่โทษคนอ่นื • คดิ หำวธิ แี ก้ปัญหำหลำยๆ วธิ ี ถา้ คดิ ไม่ออกอาจปรกึ ษาคนใกลช้ ดิ หรอื ผู้ท่มี ปี ระสบการณ์ มากกวา่ เผชญิ ปัญหาและไม่ผดั วนั ประกนั พรุ่ง รบี แก้ปัญหาเสยี แต่เนน่ิ ๆ ไม่ปล่อยใหค้ า้ งคา อยเู่ ป็นเวลานาน จะช่วยป้องกนั ความเครยี ดสะสมจนกลายเป็นความเครยี ดเร้อื รงั • ลงมอื แก้ปัญหำตำมวธิ ที คี่ ดิ ไว้ อาจต้องใชค้ วามกลา้ หาญ อดทน หรอื ต้องใชเ้ วลาบา้ ง อยา่ ได้ ท้อถอยไปกอ่ น • ประเมนิ ผลดูวา่ วธิ ที ่ใี ชไ้ ดผ้ ลหรอื ไม่ ถ้าไมไ่ ด้ผลกเ็ ปลย่ี นไปใช้วธิ อี น่ื ๆ ท่เี ตรยี มไว้ จนกวา่ จะ ไดผ้ ล ผอ่ นคลายความเครยี ดด้วยวิธีที่คุ้นเคย เม่อื รู้สกึ เครยี ด การทากจิ กรรมหรอื มงี านอดเิ รกทช่ี อบ ทาแลว้ เพลดิ เพลนิ จะชว่ ยผ่อนคลาย ความเครยี ดลงได้มาก ซ่งึ แต่ละคนจะมวี ธิ กี ารผ่อนคลายความเครยี ดทแ่ี ตกตา่ งกนั ตามความชอบและ ความคุ้นเคย วธิ กี ารคลายเครยี ดโดยทวั ่ ไป เช่น นอนหลบั พกั ผอ่ น ออกกาลงั กาย ฟังเพลง รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรี ดูโทรทศั น์ ภาพยนตร์ เตน้ รา ปลูกตน้ ไม้ ทาสวน ตกแตง่ บ้าน อา่ นหนงั สอื ไปซอ้ื ของ ไปท่องเทย่ี ว เปล่ยี นบรรยากาศ ฯลฯ สง่ิ ท่สี าคญั คอื เมอ่ื เกดิ ความเครยี ด อย่าไดท้ าสงิ่ ท่ไี มเ่ หมาะสม เชน่ สูบบหุ ร่ี ดม่ื เหล้า ใชส้ ารเสพตดิ เล่นการพนัน เทย่ี วกลางคนื ฯลฯ เพราะนอกจากจะทาให้เสยี สขุ ภาพและเงนิ ทองแล้ว ยงั ทาใหเ้ กดิ ปัญหาต่าง ๆ ตามมาอกี มาก เช่น เมาแล้วขบั รถทาให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุ เสยี พนันแลว้ ทาให้เกดิ หน้สี นิ เป็นตน้ ใชเ้ ทคนิคเฉพาะในการคลายเครยี ด เทคนคิ เฉพาะเพอ่ื ใช้ในการคลายเครยี ด ได้แก่ การผอ่ นคลายกล้ามเนือ้ การฝึกการหายใจ การทา สมาธิ การจนิ ตนาการ การคลายเครยี ดจากใจสกู่ าย การนวดคลายเครยี ด แตล่ ะวธิ มี รี ายละเอยี ดแตกตา่ งกนั ออกไป ไมจ่ าเป็นตอ้ งฝึกทงั้ 6 วธิ ี เพียงเลอื กวธิ ใี ดวธิ หี นึ่งท่ชี อบ สะดวก ทาแล้วคลายเครยี ดไดด้ เี ทา่ นนั้ กพ็ อ เม่อื ฝึกการคลายเครยี ดไปสกั ระยะหน่ึง จะรู้สกึ ไดว้ ่ามกี ารเปล่ยี นแปลงไปในทางทด่ี ขี ้นึ เชน่ ใจเยน็ ลง สบายใจ ๑๐๖
๑๐๗ ขน้ึ สขุ ภาพดขี นึ้ ความจาดีขนึ้ สมาธดิ ขี ึน้ การเรยี นหรอื การทางานดขี นึ้ ความสมั พันธ์กบั คนรอบขา้ งดขี นึ้ ฯลฯ เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการฝึกการหายใจ ตามปกตคิ นทวั ่ ไปจะหายใจตน้ื ๆ โดยใชก้ ลา้ มเน้ือหน้าอกเป็นหลกั ทาให้ได้ออกซเิ จนไปเลย้ี งรา่ งกาย นอ้ ยกว่าทค่ี วร โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในเวลาเครยี ดคนเราจะหายใจถแ่ี ละต้นื ขนึ้ มากกว่าเดมิ ทาใหเ้ กดิ อาการถอน ใจเป็นระยะ ๆ เพ่อื ให้ได้ออกซเิ จนมากขน้ึ การฝึกหายใจช้า ๆ ลกึ ๆ โดยใช้กล้ามเน้อื กระบงั ลมบรเิ วณทอ้ ง จะช่วยให้ร่างกายไดอ้ ากาศเขา้ สู่ปอดมากขน้ึ เพมิ่ ปรมิ าณออกซเิ จนในเลอื ดและยงั ช่วยเพมิ่ ความแขง็ แรงแก่ กล้ามเนื้อหน้าท้องและลาไสด้ ้วย การฝึกการหายใจอยา่ งถกู วธิ จี ะทาให้หวั ใจเต้นช้าลง สมองแจม่ ใส เพราะได้ ออกซเิ จนมากขนึ้ และการหายใจออกอย่างช้า ๆ จะทาให้รสู้ กึ ว่าได้ปลดปล่อยความเครยี ดออกไปจากตวั จน หมดสน้ิ การสงั เกต: การหายใจทถ่ี ูกต้องตามหลกั การ สามารถสงั เกตได้จากเวลาหายใจเขา้ ทอ้ งจะป่องและ เวลาหายใจออกทอ้ งจะแฟบอาจให้พนกั งานเอามอื วางท่หี นา้ ท้องตนเอง วิธีการฝึ ก 1. ให้นงั่ บนเก้าอ้แี ละห้อยขาในทา่ ทส่ี บายๆ แล้วหลบั ตา และเอามอื ประสานไว้บรเิ วณทอ้ งของตนเอง 2. ค่อยๆ หายใจเขา้ พร้อมๆ กบั นับเลข 1 ถงึ 4 ในใจเป็นจงั หวะช้าๆ 1...2...3...4...ให้มอื รูส้ กึ ได้ว่า หนา้ ทอ้ งพองออก 3. กลนั้ หายใจเอาไว้สกั ครู่ นบั 1 ถงึ 4 ในใจเป็นจงั หวะช้าๆ เช่นเดยี วกบั เม่อื หายใจเขา้ 4. แลว้ จงึ คอ่ ยๆ ผ่อนลมหายใจออกให้นานกว่าช่วงหายใจเขา้ โดยนับ 1 ถงึ 8 อย่างช้าๆ ในใจ 1...2...3...4...5...6...7...8... พยายามไลล่ มหายใจออกมาให้หมด ให้มอื ร้สู กึ ไดว้ า่ หนา้ ท้องแฟบลง 5. ทาซ้าอกี ประมาณ 4-5 ครงั้ (ตามขอ้ 2.- 4.) กำรใช้เทคนคิ กำรคลำยเครยี ดโดยกำรฝึกกำรหำยใจให้ได้ผล คอื ควรหายใจเขา้ และหายใจออกตามวธิ กี าร ตดิ ต่อกนั ประมาณ 4-5 ครงั้ ต่อการฝึกแต่ละครงั้ และควรฝึกการหายใจทกุ ครัง้ ทร่ี ูส้ กึ เครยี ด รูส้ กึ โกรธ รสู้ กึ ไม่ สบายใจ หรอื ฝึกทกุ ครงั้ ทน่ี กึ ได้ ทกุ ครงั้ ทห่ี ายใจออก ให้รู้สกึ ได้วา่ ผลกั ดนั ความเครยี ดออกมาด้วยจนหมด เหลอื ไว้แตค่ วามรสู้ กึ โลง่ สบายเท่านนั้ ในแต่ละวนั ควรฝึกการหายใจท่ถี ูกวธิ ใี ห้ไดป้ ระมาณ 40 ครงั้ ตอ่ วนั แต่ ไมจ่ าเป็นตอ้ งทาตดิ ต่อกนั ให้ครบ 40 ครงั้ ในคราวเดยี วกนั เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการผอ่ นคลายกล้ามเน้ือ ความเครยี ดมผี ลทาใหก้ ลา้ มเนอื้ ตามรา่ งกายหดตวั สงั เกตได้จากเวลาท่เี ครยี ดแล้วเราจะเผลอมอี าการ หน้าน่วิ คว้ิ ขมวด กาหมดั กดั ฟัน ฯลฯ โดยไมร่ ู้ตวั บา้ งรู้ตวั บ้าง การเกรง็ ตวั ของกลา้ มเนื้อท่เี กดิ ขนึ้ ถ้าปลอ่ ยทง้ิ ไว้ ๑๐๗
๑๐๘ จะสง่ ผลทาให้เกดิ อาการเจบ็ ปวดตามร่างกายได้ เช่น ปวดต้นคอ ปวดหลงั ปวดไหล่ เป็นตน้ การฝึกผ่อนคลาย กลา้ มเนือ้ จะช่วยให้อาการหดเกรง็ ของกล้ามเนอื้ ลดลง และขณะเดยี วกนั ในขณะฝึกผ่อนคลายกลา้ มเน้ือ จติ ใจของ เราจะจดจ่ออยู่กบั การคลายกลา้ มเนื้อส่วนตา่ ง ๆ จงึ ทาใหส้ ามารถช่วยลดความคดิ ฟ้งุ ซ่านและลดความวติ กกงั วล ลงได้ รวมทงั้ ทาให้มสี มาธมิ ากขนึ้ กว่าเดมิ ด้วย วิธีการฝึ ก 1. ให้พนักงานเตรียมตัวเพ่อื พรอ้ มทจ่ี ะทาการฝึก โดยใหน้ งั่ ในท่าทส่ี บายไม่ไขว้ห้างและวางเทา้ ให้ราบไป กบั พน้ื ไม่กระดกปลายเทา้ คลายเคร่อื งแต่งตวั และเส้อื ผ้าให้หลวมสบาย เช่น ดงึ ชายเส้อื ออกมาจากกางเกง ถอด รองเท้า หลงั จากนนั้ ใหห้ ลบั ตา ทาใจใหว้ ่าง ตงั้ สมาธอิ ย่ทู ก่ี ลา้ มเนือ้ ส่วนตา่ ง ๆ ขอ้ ควรระวงั เวลากามอื ระวงั อยา่ ใหเ้ ล็บจกิ เน้ือตวั เองใหไ้ ด้รบั บาดเจบ็ 2. ผู้นากจิ กรรมชแ้ี จงกตกิ าการใช้เวลาเกรง็ และผอ่ นคลายกล้ามเน้ือ ว่าใหใ้ ช้เวลาเกรง็ กลา้ มเนื้อน้อยกวา่ เวลาท่ใี ช้ผ่อนคลาย เช่น เกรง็ 3-5 วนิ าที ผอ่ นคลาย 10-15 วนิ าที เป็นตน้ หลงั จากนนั้ ใหพ้ นักงานเรมิ่ ฝึกเกรง็ และคลายกล้ามเน้อื 10 กลมุ่ ตามลาดบั ดงั น้ี - พุ่งความสนใจไปท่มี อื และแขนขวา หลงั จากนัน้ คอ่ ยๆกามอื และเกรง็ แขนขวาจนเต็มท่ี แล้วจงึ ค่อยๆ คลาย โดยให้สงั เกตความรูส้ กึ ตนเองและเปรยี บเทียบถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พ่งุ ความสนใจไปท่มี อื และแขนซ้าย หลงั จากนัน้ ค่อยๆกามอื และเกรง็ แขนซ้ายจนเต็มท่ี แลว้ จงึ คอ่ ยๆ คลาย โดยให้สงั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทียบถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พุ่งความสนใจไปท่หี น้าผาก หลงั จากนนั้ คอ่ ยๆเลกิ ค้วิ ให้สูงขนึ้ ๆแล้วคลาย โดยใหส้ งั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขึ้นและความสบายเมอ่ื ผอ่ นคลาย ต่อจากนนั้ ให้ขมวดคิ้วให้มาก ท่สี ดุ เทา่ ทจ่ี ะทาได้ แลว้ ผ่อนคลาย โดยใหส้ งั เกตความร้สู กึ ตนเองและเปรียบเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ และ ความสบายเม่อื ผอ่ นคลาย - พุ่งความสนใจไปท่ตี า แก้ม จมูก หลงั จากนัน้ หลับตาใหแ้ น่นและย่นจมกู ใหม้ ากทส่ี ดุ ทจ่ี ะทาได้ แลว้ จงึ คลาย โดยใหส้ งั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กิดขนึ้ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พุ่งความสนใจไปท่ขี ากรรไกร ล้ิน ริมฝี ปาก หลงั จากนนั้ ใหก้ ดั ฟันและใช้ลน้ิ ดนั เพดานปากให้มากท่สี ุด แล้วคลาย ตอ่ จากนนั้ ให้เม้มปากให้แน่นท่สี ดุ ท่จี ะทาได้ แล้วคลาย โดยให้สงั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทยี บ ถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่คี อ หลงั จากนนั้ ก้มหนา้ ใหค้ างจดคอให้มากท่สี ุด แล้วคลาย ต่อจากนนั้ เงยหน้าให้ มากทส่ี ดุ แล้วคลาย โดยให้สงั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรยี บเทียบถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่ือ ผ่อนคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่อี ก ไหล่ และหลงั หลงั จากนนั้ หายใจเขา้ ลกึ ๆและกลนั้ ไว้ แลว้ ค่อยๆหายใจออก ต่อมาให้ยกไหลใ่ หส้ งู ขน้ึ ๆเท่าท่ที าได้ แล้วคลาย โดยใหส้ งั เกตความร้สู กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ด ๑๐๘
๑๐๙ ท่เี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่อื ผอ่ นคลาย โดยให้สงั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ และความสบายเมอ่ื ผ่อนคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่หี น้าท้อง และก้น หลงั จากนนั้ คอ่ ยๆแขม่วทอ้ งให้มากขนึ้ ๆแล้วคลาย ต่อจากนัน้ ขมิบกน้ ใหม้ ากท่สี ุด แล้วคลาย - พ่งุ ความสนใจไปท่เี ทา้ และขาขวา หลงั จากนนั้ ค่อยๆเหยยี ดขาขวาออกและงอนว้ิ เทา้ ลงมาให้มากท่สี ุด ท่จี ะทาได้ แล้วคลาย ตอ่ มาเหยยี ดขาขวาออกอกี ครงั้ และกระดกปลายเท้าขน้ึ ใหม้ ากทส่ี ุดทจ่ี ะทาได้ แล้วคลาย โดยใหส้ งั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรียบเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่เี ทา้ และขาซ้าย หลงั จากนนั้ คอ่ ยๆเหยยี ดขาซ้ายออกและงอนว้ิ เท้าลงมาใหม้ ากทส่ี ดุ ท่จี ะทาได้ แลว้ คลาย ตอ่ มาเหยยี ดขาซ้ายออกอกี ครงั้ และกระดกปลายเทา้ ขน้ึ ให้มากท่สี ดุ ท่จี ะทาได้ แลว้ คลาย โดยให้สงั เกตความรูส้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครียดท่เี กดิ ขนึ้ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย กำรใชเ้ ทคนคิ กำรคลำยเครยี ดโดยกำรผ่อนคลำยกล้ำมเน้อื ใหไ้ ด้ผล ควรฝึกผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื เป็นประจา อาจ ฝึกประมาณ 8-12 ครงั้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความชานาญ เม่อื ค้นุ เคยกับการผอ่ นคลายแล้ว ใหฝ้ ึกคลายกล้ามเนือ้ ได้เลย โดยไม่จาเป็นต้องเกรง็ กอ่ น อาจเลอื กคลายกลา้ มเน้อื เฉพาะส่วนท่เี ป็นปัญหาเทา่ นนั้ กไ็ ด้ เช่น บรเิ วณใบหน้า ตน้ คอ หลงั ไหล่ เป็นต้น ไม่จาเป็นตอ้ งคลายกล้ามเนือ้ ทงั้ ตวั จะช่วยให้ใช้เวลานอ้ ยลง และสะดวกมากขน้ึ เมอ่ื รู้สกึ กลา้ มเน้ือตงึ เครยี ดทไ่ี ม่ใช่จากการทางานในทา่ เดยี วนาน ๆ ใหล้ องสารวจตวั เองว่ามคี วามเครยี ดเกดิ ขนึ้ หรอื ไม่ ให้รบี ผอ่ นคลายกล้ามเน้อื ร่วมกบั การแกไ้ ขท่สี าเหตุท่ที าให้เกดิ ความเครยี ด เทคนิ คการคลายเครียดโดยการทาสมาธิ การทาสมาธถิ อื เป็นการผอ่ นคลายความเครียดท่ลี กึ ซง้ึ ทส่ี ดุ เพราะจติ ใจจะสงบและปลอดจากความคดิ ท่ี ซ้าซาก ฟ้งุ ซ่าน วติ กกงั วล เศร้า โกรธ ฯลฯ หลกั การของการทาสมาธิ คอื การเอาใจไปจดจอ่ กบั สง่ิ ใดสงิ่ หน่งึ เพยี ง อยา่ งเดยี ว ซง่ึ ในท่นี จ้ี ะใช้การนบั ลมหายใจเป็นหลกั และยุตกิ ารคดิ เร่อื งอ่นื ๆ อย่างส้นิ เชงิ หากฝึกสมาธเิ ป็น ประจา จะทาใหจ้ ติ ใจเบกิ บาน อารมณเ์ ยน็ สมองแจม่ ใส หายเครยี ดจนตัวเองและคนใกลช้ ดิ รู้สกึ ถงึ ความ เปล่ยี นแปลงในทางท่ดี นี ี้ได้อย่างชดั เจน วิธีการฝึ ก ขนั้ ที่ 1 ให้นงั่ ในทา่ ท่สี บาย จะเป็นการนงั่ ขดั สมาธิ นงั่ พบั เพียบ หรอื นอนก็ได้ หลงั จากนนั้ ให้ หลบั ตา หายใจเขา้ หายใจออกช้า ๆ เรม่ิ นับลมหายใจเข้าออก ดงั นี้ -หายใจเขา้ นับ 1 หายใจออกนับ 1 -หายใจเขา้ นับ 2 หายใจออกนบั 2 -นบั ไปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ 5 -แล้วเริ่มนบั 1 ใหม่ นบั จนถงึ 6 ๑๐๙
๑๑๐ -แล้วเรม่ิ 1 ใหม่ นับจนถงึ 7 -แล้วเริ่ม 1 ใหม่ นับจนถงึ 8 -แลว้ เริ่ม 1 ใหม่ นับจนถงึ 9 -แล้วเรม่ิ 1 ใหม่ นับจนถงึ 10 ครบ 10 ถอื เป็น 1 รอบ แลว้ เริ่ม 1-5 ใหม่ ดงั ตวั อย่างต่อไปน้ี 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 9,9 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 9,9 10,10 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 ฯลฯ หลงั จากฝึกขนั้ ท่ี 1 เสรจ็ แล้ว ในการฝึกครงั้ แรกๆ อาจยงั ไม่มสี มาธพิ อ ทาใหน้ ับเลขผดิ พลาดหรอื บางที อาจมคี วามคดิ อน่ื แทรกเขา้ มาทาใหล้ ืมนับเป็นบางชว่ งถอื เป็นเร่อื งปกติ ตอ่ ไปพยายามตงั้ สตใิ หม่ เมอ่ื มคี วามคดิ อน่ื แทรกเขา้ มาก็ใหร้ บั รู้ แล้วปลอ่ ยให้ผ่านไป ไม่เกบ็ มาคดิ ต่อ ในท่สี ดุ กจ็ ะสามารถนบั เลขไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื งและไม่ ผดิ พลาดเพราะมสี มาธดิ ขี น้ึ หากเหน็ วา่ สามารถฝึกปฏบิ ตั ิตามขนั้ ท่ี 1 จนจติ ใจสงบมากขน้ึ แล้ว ในการฝึกครงั้ ต่อ ๆ ไปใหเ้ ปล่ยี นเป็นฝึกขนั้ ท่ี 2 โดยใหเ้ ร่มิ นับเลขแบบเรว็ ขนึ้ ไปอกี คอื หายใจเขา้ นบั 1 หายใจออกนับ 2 หายใจเขา้ นบั 3 หายใจออกนบั 4 หายใจเขา้ นับ 5 หายใจออกนบั 1 ใหม่ จนถงึ 6, 7, 8, 9, 10 ตามลาดับดงั น้ี 12345 123456 1234567 12345678 123456789 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5ฯลฯ ๑๑๐
๑๑๑ เมอ่ื สามารถฝึกปฏบิ ตั ิตามขนั้ ท่ี 2 ไดด้ จี นนับลมหายใจได้เรว็ และไม่ผดิ พลาด แสดงว่าจติ ใจสงบมากแลว้ ในการฝึกครงั้ ตอ่ ๆ ไป ใหเ้ ปล่ยี นเป็นฝึกขนั้ ท่ี 3 โดยใหใ้ ชส้ ตริ บั รู้ลมหายใจเขา้ ออกเพยี งอยา่ งเดยี ว ไม่ตอ้ งนับเลข อกี และไมค่ ดิ เร่อื งใด ๆ ทงั้ สน้ิ มแี ตค่ วามสงบเทา่ นนั้ กำรใช้เทคนคิ กำรคลำยเครยี ดโดยกำรทำสมำธใิ หไ้ ด้ผล ควรฝึกสมาธเิ ป็นประจาทุกวัน โดยเฉพาะก่อนนอน จะ ช่วยใหน้ อนหลับได้ดี และไมฝ่ ันรา้ ยอกี ด้วย 3. แบบประเมิน 3.1 แบบประเมินความสุขคนไทย 15 ขอ้ (TMHI-15) ของกรมสขุ ภาพจิต - แบบประเมินความสุขคนไทย 15 ข้อ (TMHI-15) ของกรมสุขภาพจิต การประเมินผล คอื เก็บข้อมูลผลคะแนนความสุขจากการใช้แบบประเมนิ ความสุขคนไทย 15 ขอ้ ของกรมสขุ ภาพจิต นาผลคะแนนความสุขท่ไี ด้มาสรุปและวเิ คราะห์ผล โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มี คะแนนความสขุ ตา่ กวา่ คนทวั ่ ไป ผู้มคี ะแนนความสุขเท่ากับคนทวั ่ ไป และผู้มคี ะแนนความสขุ สูงกว่าคนทวั ่ ไป ดาเนินการประเมนิ ความสุขอย่างน้อยปีละ 1 ครงั้ และสามารถเปรยี บเทยี บผลคะแนนการประเมนิ ความสุข รายปีได้ นอกจากนี้ยงั สามารถจดั กจิ กรรมเพ่อื ส่งเสรมิ ความสุขให้แกพ่ นกั งานในสถานประกอบการ โดยการ จดั กจิ กรรมตามโปรแกรมสร้างสุขวยั ทางานในสถานประกอบการ และนาผลท่ไี ด้จากการจัดกิจกรรมมา วเิ คราะหแ์ ละวางแผนพฒั นาการจดั กจิ กรรมในปีต่อไปใหม้ ีประสิทธภิ าพย่งิ ขน้ึ และตรงกบั ความต้องการของ พนักงานมากขึ้น สถานประกอบการสามารถเลือกประเมนิ ได้จาก 2 รูปแบบ คอื 1) การประเมินผลหลัง เสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมทุกครัง้ ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีสถานประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม ตวั อย่าง เช่น จากการสงั เกตการมสี ่วนร่วมในการทากจิ กรรม ขอ้ มลู จากการสมั ภาษณ์ จากการประเมนิ ความ พงึ พอใจ เป็นต้น 2) การประเมินภาพรวมทุกกิจกรรม ซ่งึ สถานประกอบการสามารถประเมินผลการจัด กิจกรรมทัง้ หมดทุกส้ินปี เพ่ือนาผลมาวิเคราะห์และวางแผนพัฒนาการจัดกิจกรรมในปี ต่อไปให้มี ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ขนึ้ 3.2 แบบประเมินความเครยี ด (ST-5) แบบประเมินความเครยี ด (ST-5) ความเครยี ดเกดิ ขนึ้ ไดก้ บั ทุกคน สาเหตทุ ท่ี าใหเ้ กดิ ความเครยี ดมหี ลายอย่าง เช่น รายได้ท่ไี ม่เพยี งพอ หน้ีสนิ ภยั พบิ ตั ิตา่ ง ๆ ท่ที าให้เกดิ ความสูญเสยี ความเจบ็ ป่ วย เป็นตน้ ความเครยี ดมที งั้ ประโยชน์และโทษ หากมากเกนิ ไปจะเกดิ ผลเสยี ตอ่ ร่างกายและจติ ใจของทา่ นไดข้ อใหท้ า่ นลองประเมนิ ตนเองโดยใหค้ ะแนน 0- 3 ทต่ี รงกบั ความรสู้ กึ ของทา่ น ๑๑๑
๑๑๒ คะแนน 0 หมายถึง เป็นนอ้ ยมากหรอื แทบไม่มี คะแนน 1 หมายถงึ เป็นบางครงั้ คะแนน 2 หมายถงึ เป็นบ่อยครงั้ คะแนน 3 หมายถึง เป็นประจา ขอ้ ท่ี อาการหรอื ความรู้สึกที่เกิดในระยะ แทบไม่มี เป็นบางครงั้ บอ่ ยครงั้ เป็นประจา 2 – 4 สปั ดาห์ 0123 1 มปี ัญหาการนอน นอนไมห่ ลบั หรือนอนมาก 0123 0123 2 มสี มาธนิ ้อยลง 0123 3 หงดุ หงดิ / กระวนกระวาย / วา้ วนุ้ ใจ 0123 4 รูส้ กึ เบ่อื เซ็ง 5 ไมอ่ ยากพบปะผู้คน คะแนนรวม การแปลผล 0–4 คะแนน หมายถงึ ไมม่ คี วามเครยี ดในระดบั ทก่ี อ่ ให้เกดิ ปัญหากบั ตวั เอง ยงั สามารถจดั การกบั ความเครยี ดท่เี กดิ ขนึ้ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ และปรบั ตวั กบั สถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5-7 คะแนน หมายถงึ สงสยั ว่ามีปัญหาความเครยี ด ควรผอ่ นคลายความเครยี ดด้วยการพดู คุย หรอื ปรกึ ษาหารอื กบั คนใกลช้ ดิ เพอ่ื ระบายความเครยี ดหรอื คลค่ี ลายท่มี าของปัญหาและอาจใชก้ าร หายใจเขา้ -ออก ลกึ ๆ ชา้ ๆ หลาย ๆ ครงั้ หรอื ใชห้ ลกั ศาสนาเพอ่ื คลายความกงั วล 8 คะแนนข้นึ ไป หมายถงึ มคี วามเครียดสูงในระดบั ทอ่ี าจจะสง่ ผลเสยี ต่อร่างกาย เช่น ปวดหวั ปวด หลงั นอนไม่หลบั ฯลฯ ควรขอรบั คาปรกึ ษาจากบคุ ลากรสาธารณสขุ เพ่อื ดูแลจติ ใจหรอื เพอ่ื ค้นหา สาเหตทุ ่ที าใหเ้ กดิ ความเครยี ดและหาแนวทางแกไ้ ข โดยสามารถโทรปรึกษากรมสขุ ภาพจิต ที่ หมายเลขโทรศพั ท์ 1323 บริการปรึกษาฟรีตลอด 24 ชวั่ โมง และควรคดั กรองโรคซมึ เศร้าด้วยแบบ คดั กรองโรคซมึ เศรา้ 2 คาถาม (2Q) 3.3 แบบประเมินความเขม้ แขง็ ทางใจ (RQ ฉบบั 20 ขอ้ ) - แบบประเมินความเข้มแขง็ ทางใจ RQ ๑๑๒
๑๑๓ ความเขม้ แขง็ ทางใจ เป็นความสามารถของบุคคลในการปรบั ตวั และฟ้ืนตวั ภายหลงั ท่พี บกบั เหตกุ ารณว์ กิ ฤตหรอื สถานการณ์ท่กี ่อให้เกดิ ความยากลาบาก เป็นคณุ สมบตั หิ น่ึงทช่ี ว่ ยให้คนผ่านพน้ อปุ สรรค และดาเนนิ ชวี ติ ต่อไปได้ แบบประเมนิ ความเข้มแขง็ ทางใจ หรอื แบบประเมนิ พลงั สุขภาพจติ เป็นแบบ ประเมนิ ความสามารถของบคุ คล 3 ดา้ น คอื ดา้ นความทนทานทางอารมณ์ (อดึ ) ด้านกาลงั ใจ (ฮดึ ) และด้าน การจดั การกบั ปัญหา (ตอ่ สเู้ อาชนะอุปสรรค) เป็นแบบประเมนิ สาหรบั ผใู้ หญ่ อายุ 25-60 ปี หากการประเมนิ แล้วพบวา่ มคี ะแนนในองค์ประกอบด้านใดด้านหนง่ึ ตา่ กวา่ เกณฑ์สามารถสง่ เสรมิ และพฒั นาในดา้ นนนั้ ๆ ได้ (ตามคาแนะนาในแบบประเมนิ ) 3.4 แบบคดั กรองโรคซมึ เศรา้ 2 คาถาม (2Q) แบบคดั กรองโรคซึมเศรา้ 2 คาถาม (2Q) แบบคดั กรองโรคซึมเศร้า 2 คาถาม (2Q) เป็นแบบคดั กรองคน้ หำผทู้ มี่ แี นวโนม้ หรอื เสยี่ งต่อกำรป่วย ด้วยโรคซึมเศรำ้ ใชส้ มั ภาษณ์เพ่อื ประเมนิ ภาวะซมึ เศร้าใน 2 สปั ดาห์ โดยคาตอบมี 2 แบบคอื มแี ละไม่มี ถ้า คาตอบมใี นขอ้ ใดขอ้ หน่งึ หรือทงั้ 2 ขอ้ หมายถงึ เป็นผ้มู คี วามเสยี่ งหรอื มแี นวโน้มท่ปี ่วยเป็นโรคซมึ เศร้า จึง จาเป็นต้องประเมนิ อกี ครงั้ ดว้ ยแบบประเมนิ ท่มี คี วามจาเพาะสูง รายละเอยี ดของแบบคดั กรองโรคซมึ เศร้า 2 คาถาม (2Q) มดี งั น้ี มี ไม่มี คำถาม 1 ใน 2 สปั ดาห์ท่ีผา่ นมา รวมวนั นี้ ทา่ นร้สู ึกหดหู่ เศร้า หรอื ท้อแทส้ ิ้นหวงั 2 ใน 2 สัปดาหท์ ผี่ า่ นมา รวมวนั นี้ ท่านรู้สกึ เบื่อ ทำาอะไรกไ็ มเ่ พลดิ เพลนิ การแปลผล ถ้าคาตอบ “ไม่ม”ี ทงั้ สองขอ้ ถอื ว่า ปกติ ไมเ่ ป็นโรคซมึ เศร้า ถา้ คาตอบ “ม”ี ขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ หรอื ทงั้ สองขอ้ (มอี าการใด ๆ ในคาถามท่ี 1 และ 2) หมายถงึ เป็นผู้มี ความเส่ยี งหรอื มีแนวโน้มท่จี ะเป็นโรคซมึ เศรา้ คาแนะนา ๑๑๓
๑๑๔ หากพบบุคคลท่มี โี อกาสหรอื มแี นวโน้มป่ วยเป็นโรคซมึ เศร้าจากการคดั กรองดว้ ยแบบคดั กรองโรค ซมึ เศร้า 2 คาถาม (2Q) 1. ควรมกี ารพดู คุยและใหก้ ารปรกึ ษาเบ้อื งตน้ โดยบคุ คลใกล้ชดิ หวั หน้างาน เพอ่ื นร่วมงาน พยาบาล ประจาสถานประกอบการ หรอื บคุ คลทพ่ี บความเส่ยี งหรอื มแี นวโน้มป่วยเป็นโรคซมึ เศร้าใหค้ วามเคารพนบั ถอื เป็นต้น 2. ประเมนิ ว่ามีปัญหาด้านสงั คมจติ ใจหรอื ไม่ เช่น มปี ัญหาหนส้ี นิ ปัญหาด้านการปรับตวั ปัญหากบั เพอ่ื นรว่ มงาน ปัญหาครอบครวั ปัญหาการด่มื สุรา ฯลฯ ถ้ามคี วรใหก้ ารปรกึ ษาเพ่อื แกไ้ ขปัญหาดงั กลา่ วและ แนะนาทกั ษะในการแก้ปัญหาด้วยตวั เอง 3. แนะนาให้ออกกาลงั กาย 30 - 45 นาที อยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละ 3 ครงั้ ยกเวน้ ในผทู้ ่มี ขี อ้ จากดั หา้ ม ออกกาลงั กาย 4. หากพจิ ารณาแล้วเหน็ ว่าบุคคลท่พี บความเสีย่ งหรอื ป่วยเป็นโรคซมึ เศร้าประสบปัญหาท่เี กนิ กาลงั ความสามารถในการให้การชว่ ยเหลอื ควรส่งต่อเพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื จากผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะทางดา้ น สขุ ภาพจติ หรอื จากสถานพยาบาลเครอื ข่ายประกนั สงั คม และแนะนาให้ประเมนิ โรคซมึ เศรา้ ดว้ ยแบบประเมนิ โรคซมึ เศร้า 9 คาถาม (9Q) เพอ่ื ให้การดูแลชว่ ยเหลอื ต่อไป ทงั้ นี้ สามารถขอรบั การปรกึ ษาปัญหาความเครยี ด วิตกกงั วล โรคซมึ เศร้า และปัญหาสุขภาพจติ อ่นื ๆ ไดท้ ส่ี ายดว่ นสุขภาพจติ 1323 โทร.ฟรตี ลอด 24 ชวั ่ โมง ทวั ่ ประเทศ 4. ชอ่ งทางการดแู ลช่วยเหลือและแหล่งบริการ แหล่งปรึกษาปญั หาสุขภาพใจ คณุ สามารถโทรปรกึ ษาสายดว่ นสุขภาพจิต 1323 ไดต้ ลอด 24 ชวั่ โมง หรอื ปรกึ ษาออนไลนผ์ า่ นเฟซบ๊คุ แฟนเพจสายดว่ นสุขภาพจติ 1323 ๑๑๔
๑๑๕ http://www.facebook.com/helpline1323 แหล่งข้อมูลความรู้สุขภาพจิต 1. กรมสุขภาพจติ www.dmh.go.th 2. กองสง่ เสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพจติ www.sorporsor.com 2. สุขภาพใจ.com www.thaimentalhealth.com 3. คลงั สขุ ภาพจติ http://mhllibrary.com 4. คลงั ความรู้สุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ https://www.dmh-elibrary.org ชอ่ งทางสาหรบั ประเมินสขุ ภาพจิตเบ้อื งต้น 1. Checkin.dmh.go.th (ตรวจเชค็ สขุ ภาพใจ) เคร่อื งมือประเมินสขุ ภาพจติ เบ้อื งตน้ และคดั กรองความเสย่ี งต่อปัญหาสุขภาพจติ จากสถานการณ์ COVID- 19 เพ่อื ให้ประชาชนสามารถประเมนิ ตนเองและเข้าถึงบรกิ ารได้อย่างรวดเรว็ ประกอบด้วย 4 รายการคือ เครียด, ภาวะหมดไฟ,เส่ยี งฆ่าตวั ตาย,ซึมเศรา้ โดยทราบผลการประเมินทันที มีคาแนะนาในการปฏบิ ตั ิตวั พร้อมมีช่อง ทางการขอรบั การปรกึ ษาจากผเู้ ชย่ี วชาญทางออนไลน์ ๑๑๕
๑๑๖ 2. Application: Mental Health Check Up เครอ่ื งมอื ประเมินสขุ ภาพจิตเบ้อื งต้น และคัดกรองความเส่ยี งต่อปัญหาจติ เวช พัฒนาข้นึ เพ่อื ให้ประชาชนและผู้มี ความเส่ยี งต่อปัญหาสุขภาพจติ สามารถเขา้ ถึงบรกิ ารได้อย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 6 รายการ ได้แก่ ความเครยี ด ภาวะ ซมึ เศรา้ ภาวะสมองเส่อื ม ความสขุ พลงั สขุ ภาพจติ และความฉลาดทางอารมณ์ ๑๑๖
๑๑๗ สว่ นที่ ๖ โควิด ๑๙ ในสถานประกอบการ ๑. สถานการณ์โควิด–๑๙ ในสถานประกอบการของประเทศไทย โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 มกี ารระบาดในวงกว้างในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตงั้ แต่เดือน ธนั วาคม 2562 เป็นต้นมา โดยเร่มิ จากเมอื งอูฮ่ นั ่ มณฑลหูเป่ ย์ จนถึงปัจจุบนั ทาให้พบผู้ป่วยยนื ยันมากกว่า 70,000 ราย และเสยี ชีวติ มากกวา่ 2,000 ราย การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 เรม่ิ ต้นทป่ี ระเทศ จนี ตงั้ แต่วนั ท่ี 30 ธนั วาคม 2562 ต่อมาได้พบผู้ป่ วยยนื ยัน ในหลายประเทศทัว่ โลก จานวนผู้ป่ วยยืนยนั เพมิ่ ขนึ้ อย่างรวดเรว็ เช่น ฮ่องกง มาเก๊า ไตห้ วัน เกาหลใี ต้ สงิ คโปร์ และญ่ีป่นุ พบอตั ราการเสยี ชวี ติ จากโรค ประมาณรอ้ ยละ 2 ซ่งึ ร้อยละ 26.4 ของผู้ท่เี สยี ชวี ิตจะเป็นผสู้ ูงอายุ และผู้ทม่ี ีโรคประจาตวั มโี อกาสเสย่ี งท่จี ะ เสียชีวติ เพม่ิ ขึ้น โดยผู้ท่เี ป็นโรคหัวใจมีอตั ราการเสียชวี ติ มากท่สี ุดรอ้ ยละ 10.5 รองลงมาคอื โรคเบาหวาน (ร้อยละ 7.3) และ โรคระบบทางเดนิ หายใจเรอ้ื รงั (ร้อยละ 6.3) อาการของโรค การตดิ เช้อื ไวรัส COVID-19 สามารถทาให้เกดิ การเจบ็ ป่ วยได้ตงั้ แต่ระดบั เล็กน้อย ถงึ ระดบั รุนแรง และในบางกรณีอาจถึงแก่ชวี ติ ได้ โดยทวั ่ ไปจะมไี ข้ ไอ และหายใจถ่ี บางคนท่ตี ดิ เช้อื ไวรสั มี รายงานว่าอาจจะ มอี าการอ่นื ๆ ท่ไี ม่ใช่ระบบทางเดินหายใจ หรอื บางรายไม่มอี าการแสดงเลย ตามรายงาน ของ Center of Disease Control (CDC) ประเทศสหรฐั อเมรกิ าให้ขอ้ มูลว่า อาการของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโร นา 2019 อาจปรากฏขน้ึ ช่วง 2 วนั หรอื นานถงึ 14 วนั หลงั จากได้รบั เช้อื การแพร่กระจายของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ๑. จากการหายใจ ผา่ นละอองฝอย (droplets) เม่อื ผู้ตดิ เช้อื ไอหรอื จาม ละอองเหล่านี้เขา้ สู่ปากหรือ จมูกของคนท่อี ยใู่ กลเ้ คยี งหรอื ผ่านเขา้ ไปในปอด ๒. จากการสมั ผสั พ้นื ผิวหรอื วตั ถทุ ่มี เี ช้อื COVID-19 แล้วมาสมั ผัสปาก จมูกหรอื ตา แต่การสมั ผัสก็ ไ ม่ ใ ช่ ช่ อ ง ท า ง ห ลั ก ใ น ก า ร แ พ ร่ ก ร ะ จ า ย ข อ ง ไ ว รั ส (https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php) ๑๑๗
๑๑๘ ผลกระทบท่ีอาจเกิดกบั สถานประกอบการ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ กบั สถานประกอบการ การขาดงาน/อัตรากาลัง ผลผลิต/รูปแบบการผลติ การขนสง่ /ความตอ้ งการสนิ คา้ จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ ๑๙ ย่อมสง่ ผลต่อสถานประกอบการในด้านต่างๆ ดงั น้ี (กองโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดลอ้ ม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ , ๒๕๖๔) 1. การขาดงาน ขาดแคลนอตั รากาลงั การเจบ็ ป่วยด้วยโรคโควดิ ๑๙ ส่งผลให้พนักกงาน/คนงานขาดงานเพราะความเจบ็ ป่วย หรือ ต้องขาดงานเน่อื งจากตอ้ งกกั ตวั จากการเป็นกลุ่มเสยี่ ง หรอื ต้องดแู ลสมาชกิ ในครอบครวั ท่ปี ่วย ๒. ผลผลติ และรูปแบบการผลติ เปล่ยี นแปลงไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควดิ ๑๙ ทาให้ความต้องการของผู้บรโิ ภคมคี วาม ต้องการสินคา้ บางอย่างเพมิ่ ขนึ้ เชน่ สนิ คา้ ในหมวดการป้องกนั การตดิ เช้อื อาทิ อปุ กรณณ์การป้องกนั ระบบ ทางเดนิ หายใจมแี นวโนม้ เพม่ิ ขนึ้ อยา่ งมาก ในขณะท่คี วามสนใจตอ่ สนิ คา้ ในหมวดอ่นื ๆ อาจลดลง ผู้บรโิ ภคจะ มพี ฤติกรรมการเลอื กซ้อื สินค้าหรือรูปแบบการซ้อื สนิ ค้าท่เี ปล่ยี นแปลงไป โดยเฉพาะในช่วงท่มี ีการระบาด อยา่ งรุนแรง ผบู้ รโิ ภคจะซ้อื สนิ ค้าในลกั ษณะเรง่ ด่วน หรอื ซอ้ื สนิ คา้ ชอ่ งทางออนไลน์เพม่ิ ขน้ึ เพ่อื ลดการสมั ผัส กบั คนหมู่มาก ลดการตดิ ตอ่ ระหว่างบุคคล เป็นต้น ๑๑๘
๑๑๙ ๓. การขนส่ง ความตอ้ งการสนิ ค้าเปลย่ี นไป ในช่วงท่มี กี ารระบาดของโรคโควดิ ๑๙ ทาให้เกดิ มาตรการในด้านต่างๆ อาจส่งผลให้การ จัดส่งสนิ ค้าจากพ้ืนท่ตี ่างๆ ได้รับผลกระทบ เกิดการจดั ส่งล่าช้า ทาให้สนิ ค้าเสียหาย มผี ลให้เกดิ การถูก ยกเลกิ หรอื เกดิ ความตอ้ งการสนิ ค้าลดลง ๒. มาตรการในการเฝ้าระวงั ป้องกนั และควบคุมโรคโควิด ๑๙ สาหรบั พนักงาน หรือแรงงานที่อยู่ใน โรงงาน และท่ีพกั คนงาน จากคู่มอื การปฏบิ ตั ติ ามมาตรการผอ่ นปรนกจิ การและกจิ กรรมเพ่อื ป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคโค วดิ 19 สาหรบั ประเภทกจิ การและกจิ กรรม กลมุ่ ท่ี 2 (กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๓) ได้กาหนดมาตรการในการเฝ้า ระวงั ป้องกนั และควบคมุ โรคโควดิ ๑๙ สาหรบั สถานประกอบการและท่พี กั ของพนกั งานซง่ึ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี มาตรการของสถานประกอบการหรือโรงงาน ๑.๑ สถานที่ทางาน • ให้มกี ารตรวจวดั อณุ หภมู ริ ่างกายเจ้าหน้าท่ี พนักงานทกุ คน และบคุ คลภายนอกทต่ี อ้ งเขา้ มา ใน สถานประกอบการ หรอื โรงงาน หากพบว่าเกนิ กวา่ 37.5 องศาเซลเซียส หรอื มอี าการอย่างใดอยา่ ง หน่งึ ไดแ้ ก่ ไอ จาม เจ็บคอ ใหส้ ่งตวั ไปพบแพทย์ทนั ที และรายงานใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทราบโดยเรว็ ในกรณีทเ่ี พง่ิ เดนิ ทางกลบั จากต่างประเทศภายใน 14 วนั ให้แจง้ ประวตั กิ ารเดนิ ทางให้แพทย์ทราบ ดว้ ย • จดั ใหม้ จี ุดวางแอลกอฮอล์หรอื เจลล้างมอื ให้บรกิ ารในบรเิ วณจุดคดั กรองทางเขา้ -ออก ของสถาน ประกอบการ หรอื โรงงาน หรอื ท่มี ่มี แี รงงานพกั อาศยั รวมกนั จานวนมาก • ควรกาหนดการเว้นระยะห่างระหว างบคุ คลอยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตรในระหวา่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี หรอื ทากจิ กรรมใดๆ • จดั ใหม้ กี ารสอ่ื สารความรู้เก่ยี วกบั การป้องกนั ตนเอง ไมใ่ ช้ของส่วนตวั รว่ มกบั ผู้อ่นื (เช่น ผา้ เชด็ หนา้ แก้วน้า ผ้าเชด็ ตวั ) เน่อื งจากเชอ้ื ก่อโรคทางระบบทางเดนิ หายใจสามารถเขา้ สู่ร่างกาย ไดท้ างการสมั ผสั สารคดั หลงั่ ของผตู้ ดิ เช้อื • จดั ให้มคี าแนะนาการเฝ้าระวงั ป้องกนั เช้อื ไวรสั โควดิ -19 โดยจดั ทาโปสเตอร์เป็นภาษาตา่ งประเทศ ทม่ี แี รงงานมาจาก ประเทศนนั้ ๆ ตดิ ในจดุ ท่เี หน็ ได้สะดวกเพอ่ื ส่อื สารให้กบั แรงงาน เจา้ หนา้ ท่ี และ บุคคลภายนอกท่ตี ้องเขา้ มาประสาน และตดิ ต่อในสถานประกอบการ และโรงงาน ได้รบั ทราบ ๑๑๙
๑๒๐ • กากบั ดแู ลความสะอาดสถานท่ี ท่มี ผี ู มาใช บรกิ ารร วมกนั ด วยน้ายาทาความสะอาดอย างสม่าเสมอ และอาจใช น้ายาฆ าเชอ้ื ในจดุ ทม่ี กี ารสมั ผสั ร วมกนั เช น ลูกบดิ ประตู ราว จบั สวติ ไฟ เป็นตน้ รวมทงั้ ดูแลให มกี ารระบายอากาศท่ดี ี • รวบรวมขยะทวั่ ไปใส ถุงขยะ มดั ปากถุงให แน น และนาไปท้งิ ในจดุ รวบรวมขยะท่จี ดั เตรยี ม ไว เพอ่ื นาไปกาจดั อย าง ถูกต อง • ๑.๒. พนักงาน/แรงงาน • พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามยั ตลอดเวลา และหมนั่ ล้างมอื อยา่ งสม่าเสมอเม่อื ต้องสมั ผสั ในจุดสมั ผสั รว่ ม เชน่ ลูกบดิ ประตู ราวจบั สวติ ไฟ เป็นตน้ • ควรเว้นระยะห่างระหว่างบคุ คลอยา่ งน้อย 1 - 2 เมตร ในระหวา่ งปฏบิ ตั ิหนา้ ท่หี รอื ทากจิ กรรมใดๆ • งดการสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลุม่ ใดๆ รวมถึงงดการจดั กจิ กรรมท่มี กี ารรวมคนจานวนมากท่ี จะมคี วามเส่ยี งต่อการแพรร่ ะบาดของเชอ้ื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอกชุมชนโดยไม่ จาเป็น กรณีจาเป็นตอ้ งเดนิ ทางออกนอกชุมชน ต้องให้ความร่วมมอื การตรวจคดั กรอง และปฏบิ ตั ิ ตามมาตรการท่ชี ุมชนกาหนด ๑.๓ เจ้าของสถานประกอบการ หรือโรงงาน • กากบั พนกั งานในการงดสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลุม่ ใดๆ งดการจดั กจิ กรรมท่มี กี ารรวมคน จานวนมากท่จี ะมคี วามเส่ยี งตอ่ การแพร่ระบาดของเชอ้ื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอก ชุมชนโดยไม่จาเป็น กรณีจาเป็นต้องเดนิ ทางออกนอกชมุ ชน ต้องให้ความรว่ มมือการตรวจคดั กรอง และปฏบิ ตั ติ ามมาตรการท่ชี ุมชนกาหนด • กรณที ม่ี ผี ้ปู ่วยยนื ยนั หรอื มขี อ้ มูลบ่งช้วี า่ สถานท่ที างานเป็นจุดแพร่เชอ้ื ต้องดาเนนิ การตามคาสงั่ ของเจ้าพนกั งานควบคมุ โรคตดิ ตอ่ เช่น พจิ ารณาหยุดกจิ กรรมหรอื ใหบ้ รกิ ารในแผนกท่มี แี รงงาน ป่วยด้วยโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โควดิ -19เป็นเวลา 3 วนั และทาความสะอาดฆ่าเช้อื ทนั ทภี ายใน 24 ชวั่ โมง ภายใต้การกากบั ดแู ลของพนกั งานควบคุมโรคตดิ ต่อ เป็นตน้ ๑. มาตรการของท่ีพกั คนงาน ๒.๑ มาตรการของสถานที่พกั คนงาน • จดั ใหม้ กี ารตรวจวดั อณุ หภมู ริ ่างกายทกุ คน ก่อนเขา้ ในทพ่ี กั อาศยั หากพบว่าเกนิ กว่า 37.5 องศาเซลเซยี ส หรอื มอี าการอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ได้แก่ ไอ จาม เจบ็ คอ ให้ส่งตวั ไปพบแพทย์ ทนั ที • จดั ให้มจี ุดวางแอลกอฮอลห์ รอื เจลลา้ งมอื ใหบ้ รกิ ารในบรเิ วณจดุ คดั กรองทางเขา้ -ออก ของ สถาน ท่พี กั อาศยั หรอื ในสถานทส่ี าธารณะของชมุ ชน ๑๒๐
๑๒๑ • ควรกาหนดการเว้นระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในระหว่างปฏบิ ตั ิหน้าท่ี หรอื ทากจิ กรรมใดๆ • จดั ให้มีการส่อื สารความรู้เก่ยี วกบั การป้องกันตนเอง ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อ่นื (เช่น ผา้ เช็ดหน้าแก้วน้า ผ้าเชด็ ตัว) เน่ืองจากเช้อื ก่อโรคทางระบบทางเดนิ หายใจสามารถเขา้ สู่ รา่ งกายไดท้ างการสมั ผสั สารคดั หลงั ่ ของผ้ตู ิดเช้อื • จัดให้มีคาแนะนาการเฝ้ าระวังป้ องกันเช้ือไวรัสโควิด -19 โดยจัดทาโปสเตอร์เป็ น ภาษาต่างประเทศ กรณีท่มี ผี ู้พกั อาศยั ชาวต่างชาติ โดยตดิ ในจุดท่เี หน็ ได้สะดวกเพอ่ื สอ่ื สาร และสรา้ งความตระหนักใหก้ บั ผู้พกั อาศยั • กากบั ดูแลผู้พักอาศัย ให้มสี ว่ นร่วมในการทาความสะอาดสถานท่ี และอุปกรณ์ ท่มี ผี ู้มาใช้ บรกิ ารรว่ มกนั ด้วยน้ายาทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอและอาจใช้น้ายาฆา่ เช้อื ในจุดทม่ี ีการ สมั ผสั รว่ มกนั เชน่ ลูกบดิ ประตู ราวจบั สวติ ไฟเป็นต้น รวมทงั้ ดแู ลให้มกี ารระบายอากาศทด่ี ี • รวบรวมขยะทวั ่ ไปใสถ่ งุ ขยะ มดั ปากถุงให้แน่นและนาไปท้งิ ในจดุ รวบรวมขยะท่จี ัดเตรยี มไว้ เพอ่ื นาไปกาจดั อยา่ งถกู ตอ้ ง ๒.๒ มาตรการของสมาชิกผพู้ กั อาศยั ในสถานที่พกั คนงาน • ผอู้ าศัยในท่พี กั ทุกคนต้องสวมหนา้ กากอนามัยตลอดเวลาเมอ่ื อยู่นอกท่พี กั อาศยั และหมนั ่ ลา้ งมอื อย่างสมา่ เสมอ • ควรเว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในระหว่างอกไปทากจิ กรรมใดๆ นอก ท่พี กั • งดการสงั สรรค์ หรือทากิจกรรมรวมกลุ่มใดๆ และงดการจัดกิจกรรมทม่ี ีการรวมคนจานวน มากทจ่ี ะมีความเสยี่ ต่อการแพรร่ ะบาดของเช้อื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอกท่ี พกั โดยไม่จาเป็น กรณจี าเป็นตอ้ งเดนิ ทางออกนอกท่พี กั ต้องให้ความรว่ มมอื ในการตรวจคดั กรอง และปฏบิ ตั ติ ามมาตรการท่สี ถานท่พี กั กาหนด ๒.๓ มาตรการสาหรบั เจ้าของสถานท่ีพกั คนงาน • กากบั ผู้อาศยั ในท่พี กั คนงานให้งดการสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลุ่มใดๆ งดการจัด กจิ กรรมท่มี กี ารรวมคนจานวนมากท่จี ะมคี วามเส่ยี ง ตอ่ การแพร่ระบาดของเช้อื โรค และ งดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอกท่พี ักคนงานโดยไม่จาเป็น กรณีจาเป็นต้องเดนิ ทาง ออกนอกทพ่ี ักคนงาน ต้องจดั ใหม้ กี ารตรวจคดั กรอง และกากบั ให้ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการท่ี กาหนด • กรณีท่มี ผี ู้ป่วยยนื ยนั หรอื มีขอ้ มลู บ่งช้วี ่าสถานท่ใี ดเป็นจดุ แพรเ่ ช้อื ต้องรบี แจ้งเจ้าหน้าท่ี และดาเนินการตามคาสงั ่ ของเจา้ พนกั งานควบคุมโรคตดิ ตอ่ ๑๒๑
๑๒๒ ๓. แนวทางปฏิบตั ิการรายงานโรค กรณีพบผปู้ ่ วยสงสยั ติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ท่ี เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรค สาหรบั ผปู้ ระกอบการ/เจ้าของกิจการ ๓.๑ นิ ยามผสู้ งสยั ติดเช้ือท่ีมีอาการ กรณีเฝ้าระวงั ในผู้สงสัยติดเช้อื หรอื ผูป้ ่ วย ไดแ้ ก่ ผทู้ ่มี อี าการ ของระบบทางเดนิ หายใจอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ดงั ต่อไปน้ี ไอ น้ามกู เจบ็ คอ ไมไ่ ดก้ ลนิ่ หายใจเรว็ หายใจ เหน่อื ย หรอื หายใจลาบาก และ/หรือ ประวตั ิมีไข้ หรอื อณุ หภูมกิ ายตงั้ แต่ 37.5 องศาเซลเซียสขนึ้ ไป ร่วมกับ การมี ประวตั ใิ นชว่ งเวลา 14 วนั กอ่ นวนั เรม่ิ ป่วย อยา่ งใดอย่างหนึ่งต่อไปน้ี 1. มปี ระวตั เิ ดนิ ทางไปยงั หรอื มาจาก หรอื อยู่อาศยั ในพ้นื ท่เี กดิ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 2. ประกอบอาชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั นกั ทอ่ งเท่ยี ว สถานท่แี ออดั หรอื ตดิ ตอ่ กบั คนจานวนมาก 3. ไปในสถานท่ีชุมนุมชน หรือ สถานท่ีท่ีมีการรวมกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรอื ขนสง่ สาธารณะ 4. สมั ผสั กบั ผ้ปู ่วยยนื ยนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ๓.๒ สถานประกอบการกบั การมสี ว่ นร่วมในการรายงานโรค วตั ถปุ ระสงคก์ ารรายงานโรค 1. ผู้ประกอบการ มสี ่วนรว่ มในการเฝ้าระวงั โรคกรณีพบผู้สงสยั ตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ท่ี เขา้ เกณฑ์ สอบสวนโรค รวมทงั้ สรา้ งความมนั ่ ใจในการให้บรกิ ารกบั ผใู้ ช้บรกิ าร ร่วมกบั พระราชบญั ญตั ิ โรคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2558 2. ประชาชน มคี วามมนั ่ ใจในการใชบ้ รกิ ารกจิ การหรอื ร่วมกจิ กรรมท่ไี ด้รบั การคดั กรองโรค รวมทงั้ ได้รบั บรกิ ารตรวจคดั กรองทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเพ่อื ตรวจหาร่องรอยการตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ตาม แนวทาง ท่กี าหนดโดยไมเ่ สยี ค่าใชจ้ ่าย 3. เพ่อื ใหก้ ารเฝ้าระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรคของประเทศ สามารถคน้ หา สอบสวนโรค และควบคมุ ป้องกนั การระบาดของโรคได้ทนั ท่วงที ๓.๓ แนวทางการปฏิบตั ิสาหรบั ผปู้ ระกอบการ/เจ้าของกิจการ ๑๒๒
๑๒๓ มาตรฐานการดาเนินการ GFP (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๔) มาตรการ GFP เป็นมาตรการท่เี กดิ จากการบรู ณาการการทางานรว่ มกนั ระหว่างหน่วยงาน (กรม) หลกั ของกระทรวงสาธารณสขุ ดงั นี้ การดาเนนิ งานเชงิ รุก เน้นมาตรการป้องกนั และเฝ้าระวงั 1. กรมสนับสนุนบรกิ ารสขุ ภาพ ได้กาหนดมาตรฐานอาคารสถานท่ี ท่ปี ลอดภยั สาหรบั สถาน ประกอบการ ๒. กรมอนามยั ให้ความสาคญั กบั การคดั กรอง การปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมบุคคล และเนน้ การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มทงั้ ระดบั บคุ คลและระดบั องค์กร การดาเนนิ งานเชงิ รบั เน้นการจดั การเม่อื พบผเู้ สย่ี ง ผปู้ ่ วย ๓. กรมควบคุมโรค เน้นกระบวนการดาเนินงานของสถานประกอบการในกรณที พ่ี บพนักงานมกี าร ตดิ เช้อื และผทู้ ่ใี กล้ชดิ ๔. กรมการแพทย์ ให้การบรกิ ารดแู ลเพ่อื การรกั ษาพยาบาลผปู้ ่ วยโควดิ ๑๙ เคร่อื งมอื ทางออนไลน์ที่ใช้เป็นแนวทางของสถานประกอบในการเฝ้าระวงั และป้องกนั โรคโควิด ๑๙ ๑. เครือ่ งมือหลกั ดาเนิ นการ 2 Platform ท่ีต้องดาเนินการ ๑๒๓
๑๒๔ ๑.๑ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP หากสถานประกอบการ/โรงงานประเมนิ ผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน จะได้รบั ใบ Certificate (กรม อนามยั กระทรวงสาธารณสขุ , ๒๕๖๔) ๑๒๔
๑๒๕ ๑.๒ Thai Save Thai (TST ) โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP สาหรบั พนักงานประเมิน ความเส่ยี งการแพรเ่ ชอื้ ด้วยตนเอง การประเมนิ เพ่อื การยกระดบั การคดั กรองเขม้ ๔ องคป์ ระกอบ ซ่งึ ไดแ้ ก่ ๑) สถานท่เี สย่ี ง ๒) พฤตกิ รรมเสยี่ ง ๓) อาการเสยี่ ง ๔) ผลการเสย่ี ง ๒. เครอ่ื งมือเสริมการดแู ลสุขภาพช่วงโควิด 2 Platform ดาเนินการตามความสมคั รใจร ๑๒๕
๑๒๖ ได้แก่ ๒.๑ กา้ วท้าใจ ทวั่ ไทยพิชิตโควิต และ ๒.๒ อนามยั Quarantine สาหรบั โรงงานท่ีมี โรงพยาบาลสนาม ๓. ระบบรายงาน ระบบกากับมาตรฐานป้องกนั โควดิ รายโรงงาน ระบบรายงานความเสยี่ งพนกั งาน รายบุคคลสาหรบั โรงงาน และหน่วยกากบั ดูแลในจงั หวดั เขต และประเทศนาไปบริหารจดั การ แนวทางการจดั การเมื่อพบผ้เู สยี่ ง/ผปู้ ่ วยโควิด ๑๙ 1. เมอ่ื สถานประกอบการ/สถานท่จี ดั งานคัดกรองพบผ้มู อี าการอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ต่อไปน้ี ได้แก่ ไอ มี น้ามูก มีเสมหะ หายใจลาบาก หอบ หรือ ไม่ได้กลน่ิ หรือมี อาการไข้ (อุณหภูมกิ ายสูงกว่า 37.5 องศา เซลเซยี ส) ไม่ให้ผูม้ อี าการป่วยเขา้ งานหรอื สถานทโ่ี ดยเดด็ ขาด และใหแ้ ยกผู้ป่วยในท่ที จ่ี ดั ไว้ 2. หากพบผู้มีอุณหภูมิกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซยี ส โดยไม่มีอาการอ่นื ๆ ให้แยกพกั ในร่มเป็น ระยะเวลา 5 - 15 นาที และวดั ซ้า โดยจดั สถานท่พี กั ให้มกี ารเว้นระยะหา่ งจากบุคคลอน่ื อยา่ งน้อย 2 เมตร 3. กรณีมีอาการไข้ หรอื อาการระบบทางเดนิ หายใจ ให้ประเมินอาการผู้ป่วยว่าเข้าเกณฑ์สอบสวน โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื ไม่ โดยใช้คาถามตามนยิ ามผู้สงสยั ตดิ เช้อื ท่มี อี าการ กรณีเฝ้าระวงั ในผู้ สงสยั ตดิ เชอ้ื หรอื ผูป้ ่วย หรอื บันทกึ ขอ้ มูลผา่ นแอปพลิเคชนั ซ่งึ จะรายงานไปยงั หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบ ได้แก่ สานกั งาน สาธารณสขุ จงั หวดั และกรมควบคุมโรค 4. หากพบว่าผูม้ อี าการ เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ใหด้ าเนินการบนั ทกึ ขอ้ มูล โดยระบชุ ่อื ผู้ประกอบการ/ผใู้ หบ้ รกิ าร โดยระบุ ช่อื สถานประกอบการ สถานท่ตี งั้ และหมายเลขโทรศพั ท์ ตดิ ตอ่ สาหรบั ผ้ใู ช้บริการ ใหบ้ นั ทกึ เฉพาะขอ้ มลู ชอ่ื -นามสกุล และหมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ตอ่ ทงั้ นีป้ ระวตั ิ อาการป่วยให้ ตรวจสอบการบนั ทกึ ตามนยิ ามขา้ งต้น ทงั้ นใ้ี ห้ผูใ้ ช้บรกิ ารทเ่ี ป็นผสู้ งสยั เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรค 4.1 กรณีสถานประกอบการ ให้บรกิ ารอานวยความสะดวกในการส่งต่อผปู้ ่วยไปคลนิ ิก โรงพยาบาล หรอื สถานพยาบาล ให้แจ้งสถานพยาบาลล่วงหน้าก่อนนาส่ง เพอ่ื เตรยี มพร้อมในการตรวจคดั กรองทาง ห้องปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ไป 4.2 กรณสี ถานประกอบการ ใหค้ าแนะนาผใู้ ช้บรกิ ารท่มี อี าการป่วยทเ่ี ขา้ เกณฑ์สอบสวนโรค ไปยงั คลนิ กิ หรอื สถานพยาบาลเอง ให้แนะนาการเดนิ ทางโดยหลกี เล่ยี งการใชร้ ถโดยสารสาธารณะ อาจใช้ บรกิ าร แทก็ ซ่ี หรอื รถรบั จ้างส่วนบุคคล 5. หากพบวา่ ผมู้ อี าการ ไม่เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 สามารถ ใหค้ าแนะนาให้ ผ้มู ี อาการไปโรงพยาบาลโดยหลกี เล่ยี งการใช้ขนส่งสาธารณะ อยา่ งไรกด็ ี ไมอ่ นุญาตให้ผมู้ อี าการป่วยเขา้ ใน สถานท่ี ๑๒๖
๑๒๗ 6. สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั หรอื หน่วยงานรบั ผดิ ชอบในแตล่ ะพน้ื ท่ี ใหต้ ดิ ตามขอ้ มลู ผู้ป่วย เขา้ เกณฑส์ งสยั เป็นโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ทร่ี ายงานจากสถานประกอบการ หรอื สถานท่ที ่มี กี าร รวมกลุ่ม จากฐานขอ้ มูลในแอปพลเิ คชนั โดยนามาเปรยี บเทยี บกบั รายช่อื ผปู้ ่วยจากฐานขอ้ มลู ผูป้ ่ วย เขา้ เกณฑ์ สอบสวนโรค (PUI) ของกรมควบคมุ โรค 6.1 หากพบวา่ ผู้ป่วยท่รี ายงานจากสถานประกอบการฯ ได้รบั การตรวจหาเช้อื แลว้ ให้ ดาเนินการตดิ ตามตอ่ ตามแนวทางเม่อื พบผปู้ ่ วยเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตามปกติ 6.2 หากผู้ป่ วยทพ่ี บจากสถานประกอบการยงั ไมถ่ ูกรายงานเขา้ สูฐ่ านขอ้ มูลของกรมควบคมุ โรค ให้ตดิ ต่อ กบั ผปู้ ่วยตามขอ้ มูลหมายเลขโทรศพั ทท์ ่แี จง้ ไว้ เพอ่ื ให้ผู้ป่วยมารบั การตรวจวนิ ิจฉัยต่อไป ๓.๔ การจดั การผ้มู ีอาการป่ วยท่ีพบจากการคัดกรอง 1. เม่อื สถานประกอบการ/สถานทจ่ี ดั งานคดั กรองพบผ้มู อี าการอยา่ งใดอย่างหน่ึงตอ่ ไปน้ี ไดแ้ ก่ ไอ มี น้ามกู มเี สมหะ หายใจลาบาก หอบ หรอื ไม่ไดก้ ลนิ่ หรอื มี อาการไข้ (อุณหภูมกิ ายสงู กวา่ 37.5 องศา เซลเซยี ส) ไมใ่ ห้ผู้มอี าการป่วยเขา้ งานหรอื สถานทโ่ี ดยเดด็ ขาด และให้แยกผู้ป่วยในทท่ี ่จี ดั ไว้ 2. หากพบผู้มอี ณุ หภมู กิ ายสูงกวา่ 37.5 องศาเซลเซยี ส โดยไม่มอี าการอน่ื ๆ ใหแ้ ยกพกั ในรม่ เป็น ระยะเวลา 15 นาที และวดั ซา้ โดยจดั สถานทพ่ี กั ใหม้ กี ารเว้นระยะหา่ งจากบคุ คลอน่ื อยา่ งน้อย 2 เมตร ๑๒๗
๑๒๘ 3. ประเมนิ อาการผู้ป่วยว่าเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื ไม่ โดยใช้การ ประเมนิ ออนไลน์ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP (เน้นประเมินในหวั ข้อมาตรการเม่อื พบผปู้ ่ วยติดเช้อื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ยนื ยนั (จานวน ๔ ขอ้ ) และมาตรการเสิรม 6 ข้อ สาหรบั โรงงานขนาดกลายและใหญ่ (เริ่มใหส้ ถานประกอบการ/โรงงาน ดาเนิ นการประเมินภายในวนั ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ และประเมินซ้าทุก ๑๔ วนั โดยการกากบั ติดตามของสภาอตุ สาหกรรมจงั หวดั ) 3.1 หากพบวา่ ผู้มอี าการ เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 1 การประเมนิ ออนไลน์ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงาน ประเมนิ มาตรฐาน GFP จะรายงานขอ้ มูลผู้ป่ วยไปยงั กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และจะดาเนนิ การ สนบั สนุนขอ้ มูลไปยงั ส่วนทเ่ี กย่ี วขอ้ งทนั ที โดยสถานประกอบการจะต้องบนั ทกึ ขอ้ มลู 2 ส่วน • สว่ นผู้ ใหบ้ รกิ าร: ชอ่ื ท่อี ยู่ และสถานทท่ี างานของตน ความสมั พนั ธก์ บั ผูท้ เ่ี ป็นหรอื มเี หตุ อนั ควรสงสยั วา่ เป็นโรค และหมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ต่อ • ส่วนผู้มอี าการ: ชอ่ื อายุ เพศ สญั ชาติ ทอ่ี ยู่ปัจจบุ นั และอาการสาคญั ของ ผู้ท่ี เป็นหรอื มเี หตอุ นั ควรสงสยั ว่าเป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 และหมายเลขตดิ ต่อ (2) ใหอ้ านวยความสะดวกในการส่งตอ่ ผู้ป่วยไปโรงพยาบาล หรอื ให้คาแนะนาใหผ้ ูม้ อี าการไป โรงพยาบาลโดยหลกี เล่ยี งการใช้ขนสง่ สาธารณะ 3.2 หากพบว่าผมู้ อี าการ ไม่เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 สามารถ ใหค้ าแนะนา ให้ผมู้ อี าการไปโรงพยาบาลโดยหลกี เลย่ี งการใช้ขนสง่ สาธารณะ อย่างไรก็ดี ไมอ่ นุญาตให้ ผูม้ อี าการเขา้ งานโดยเดด็ ขาด 4. สานักงานสาธารณสุขจงั หวดั ตดิ ตามข้อมลู ผปู้ ่ วยเขา้ เกณฑ์สงสยั เป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโร นา 2019 ทร่ี ายงานจากสถานประกอบการ หรอื สถานท่ที ม่ี กี ารรวมกลุ่ม จากฐานขอ้ มูลของ application Thai.Care เปรยี บเทยี บกบั ฐานขอ้ มูลผปู้ ่วยเขา้ เกณฑส์ อบสวนโรค (PUI) ของกรมควบคุมโรค 4.1 หากพบวา่ ผปู้ ่ วยท่รี ายงานจากสถานประกอบการฯ ได้รบั การตรวจหาเช้อื แล้ว ให้ ดาเนนิ การตดิ ตามตอ่ ตามแนวทางเมอ่ื พบผปู้ ่วยเขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตามปกติ 4.2 หากผู้ป่ วยท่พี บจากสถานประกอบการยังไม่ถูกรายงานเข้าสู่ฐานข้อมูลของกรม ควบคมุ โรค ให้ตดิ ตอ่ กบั ผปู้ ่วยตามขอ้ มลู ทอ่ี ย/ู่ หมายเลขโทรศพั ท์ทแ่ี จ้งไว้ เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยมารบั การตรวจ วนิ จิ ฉยั ตอ่ ไป ๓.๕ การจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) คาจากดั ความ“โรงพยาบาลสนาม”หมายถงึ สถานท่ที ่ใี ห้การดูแลรักษาพยาบาลซ่งึ เกินศักยภาพ การจัดระบบบรกิ ารในการรองรบั ผู้ป่ วยทงั้ น้ีการจดั ตงั้ จะตงั้ นอกสถานพยาบาล ขึน้ กบั การดาเนินการของ ๑๒๘
๑๒๙ หน่วยงานท่รี ับผดิ ชอบในพ้นื ท่ี เช่น วดั โรงเรยี น โรงยมิ หรอื หอประชุมขนาดใหญ่ เป็นต้น การคัดเลอื ก สถานท่ขี น้ึ อยู่กบั วัตถปุ ระสงค์ของการจดั ตงั้ ความต้องการของชุมชน และทรัพยากรด้านสาธารณสุขท่มี ีอยู่ เพ่ือให้การดูแลรักษาผู้ป่ วย COVID-19 ในสภาวการณ์ท่ีมกี ารระบาดได้รับการดูแลรกั ษาอย่างปลอดภัย ผรู้ ับผิดชอบหลกั ในการดาเนนิ การจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามคอื ผูว้ ่าราชการจงั หวดั หรอื ผ้ทู ่ไี ด้รบั มอบหมาย ร่วมกบั สานักงานสาธารณสุขจงั หวดั สานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั (ปภ.) จังหวดั และหน่วยงาน อ่นื ๆ รวมถึงมีการกาหนดคณะทางานท่ีประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับจงั หวดั ท่ีเก่ียวข้องและ ภาคเอกชน โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) หมายถึง สถานท่ีท่ีถูกจดั ตงั้ ข้ึนใน สถานประกอบการ/โรงงาน ทใ่ี ห้การดแู ลรกั ษาพยาบาลแก่พนักงาน คนงานในสถานประกอบการนนั้ เกดิ การ เจบ็ ป่วย COVID-19 ในสภาวการณท์ ม่ี กี ารระบาด ใหไ้ ด้รบั การดแู ลรกั ษาอยา่ งปลอดภยั ความสาคัญ ของ โรงพยาบาลสนาม และการกักตัวในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) ในกรณีท่มี คี วามรนุ แรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควดิ ๑๙ อยู่ในระดับท่มี ผี ปู้ ่ วยยนื ยันใน โรงงานหรือสถานประกอบการเป็นจานวนมาก ควรรบี ประสานหน่ายงานภาครฐั โดยดว่ น เพ่อื ดาเนินการ ตามแผนการตอบสนองสถานการณฉ์ ุกเฉนิ และวางแผนดาเนินการตามแผนฟ้ืนฟธู ุรกจิ ตอ่ ไป และในระหว่างท่ี รอหน่วยงานภาครฐั เข้ามาสนับสนุนเพ่อื ตรวจหาเช้อื โควิด ๑๙ ใหก้ บั พนักงานกลุ่มเสย่ี งต่างๆ และยงั ไม่ได้มี การดาเนินการสง่ ตอ่ ผปู้ ่ วยไปยงั สถานท่ภี ายนอกท่จี ะรองรบั โรงงานหรือสถานประกอบการอาจดาเนินการ กกั ตวั ภายในโรงงานหรอื สถานทเ่ี ฉพาะเหมาะสมเบ้อื งตน้ เพ่อื ลดความเสย่ี งและควบคมุ การแพร่ระบาดออกสู่ ภายนอกในวงกว้าง โดยเรม่ิ จากการแยกกลมุ่ ผูป้ ่ วยยืนยนั ผสู้ มั ผสั เสย่ี งสูงและผสู้ มั ผัสเสย่ี งต่าออกจากกลุ่ม ประชากรปกติ เพ่อื ลดอตั ราการแพร่กระจายเช้อื และกาหนดการกกั กนั ตัวภายในโรงงาน โดยมีประเดน็ ท่ี ๑๒๙
๑๓๐ จะต้องคานึงถงึ ดงั นี้ (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ๒๕๖๔) ๑. เตรยี มความพรอ้ มสาหรบั พ้นื ทใ่ี ชใ้ นการกกั ตวั ๒. จดั แบ่งภารกจิ ความรบั ผดิ ชอบของบคุ ลากร ๓. การบรหิ ารจดั การภายในสถานท่กี กั กนั ทส่ี าคญั ๔. หลกั ปฏบิ ตั ติ นในสถานท่กี กั ตวั ซ่งึ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี ขอ้ พิจารณาในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลนามในสถานประกอบการ ขอ้ มลู ประกอบการตดั สนิ ใจในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนาม ประกอบดว้ ย• 1) รายงานความรนุ แรงของโรค COVID-19 และการระบาดในสถานประกอบการ 2) อตั ราการมารับบริการท่หี ้องฉุกเฉิน หรอื โรงพยาบาลในพ้นื ท่ที ่สี ถานประกอบการจัดตงั้ อยู่ มี อตั ราผูป้ ่วย (พนกั งาน คนงานจากสถานประกบอการ) เพมิ่ สูงขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ ในระยะเวลาสนั้ 3) อตั ราการรบั เขา้ ไว้รกั ษาในโรงพยาบาลของผปู้ ่วยPUI เพม่ิ สงู ขน้ึ • 4) อตั ราส่วนของผู้ป่ วยซ่งึ เป็นพนักงาน คนงานท่อี ยู่อาศยั ร่วมกับผู้ท่อี ยูใ่ นภาวะเสยี่ งสูง ทงั้ เพ่อื น ร่วมงานในสถานประกอบการ หรอื ผู้ทไ่ี ม่มคี นดแู ลทบ่ี า้ นและไม่สามารถดแู ลตนเองได้ แนวทางการรบั ผปู้ ่ วยยนื ยนั COVID-19 ในโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ • ผปู้ ่วยยนื ยนั COVID-19 ท่ไี ม่มอี าการ หรอื มีอาการเลก็ น้อย หรอื ดขี นึ้ หลงั จากการรบั รกั ษา ไว้ในโรงพยาบาลและมอี าการคงท่เี ขา้ รบั บรกิ ารตามระบบการดูแลและเฝ้าสังเกตอาการใน โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ การจดั เตรียมการโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ในการจัดเตรยี มโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการนัน้ มกี ารบรหิ ารจดั การในดา้ นต่างๆ โดย สามารถประยกุ ตไ์ ด้จากการจดั เตรยี มโรงพยาบาลสนามตามแนวทางการจดั เตรยี มโรงพยาบาลสนาม(กรณีมี การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในวงกว้าง ของกรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข (๒๕๖๔) ซง่ึ มรี ายละเอยี ด ดงั นี้ ๑. การบริหารจดั การในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ๑๓๐
๑๓๑ จากต้นแบบการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในจงั หวดั สมุทรสาคร พบว่า มกี ารแบ่งพ้นื ท่อี อกเป็น 3 สี ได้แก่ -สเี ขยี ว คอื พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ าน ทอ่ี ยดู่ า้ นหน้า -สเี หลอื ง เป็นพน้ื ท่ี ทแ่ี พทย์ปฏบิ ตั งิ าน และเปลย่ี นชุดทางการแพทย์ -สว่ นสีแดง จะเป็นพ้นื ท่ที ่ผี ู้ติดเช้อื ใช้กักตัว ซ่งึ จะเป็นออกเป็นท่พี ัก / ท่รี บั ประทานอาหาร ห้องน้า สถานทอ่ี าบน้า พ้นื ท่ซี กั ล้าง และพ้นื ท่อี อกกาลังกาย ซ่งึ ผู้ป่ วยจะไม่สามารถออกไปดา้ นนอกได้ จนกว่าจะ รกั ษาโรคโควดิ -19 หาย จนปลอดเชอ้ื (https://www.prachachat.net/general/news-594015) ในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ควรมกี ารดาเนินงาน ดงั น้ี ๑.๑ สถานท่ี สถานท่จี ดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ควรมลี กั ษณะดังน้ี คอื ควรเป็นสถานท่ีท่ีมีการถ่ายเทอากาศได้ดี • ไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณโซนท่ีมีพนักงานหรือคนงาน ปฏบิ ัตงิ านอยู่ มีสงิ่ อานวยความสะดวกทางด้านสาธารณูปโภคท่จี าเป็นหรอื สามารถจัดการต่อเติม จดั หาอุปกรณท์ ่จี าเป็นได้ อาทิ ไฟฟ้า ประปา และอน่ื ๆ ๑.๒ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละเวชภณั ฑ์ทจ่ี าเป็นรวมถงึ วสั ดสุ านกั งาน เครอ่ื งอปุ โภคบรโิ ภค น้าด่มื ฯลฯ ๑.๓ .การปฐมนิเทศการปฏบิ ตั งิ านตลอดจนการกากบั ดแู ลการทางานของบุคลากรโดยเฉพาะ อาสาสมคั ร ๑.4 ระบบการดูแลรักษาผู้ป่ วย ให้เป็นไปตามแนวทางเวชปฏิบัตกิ ารดูแลรักษาผู้ป่ วยโรค COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสขุ (ซง่ึ มกี ารปรบั ปรงุ อย่างตอ่ เน่อื ง โดยขอให้ตดิ ตามอย่างใกล้ชดิ ) ๑.5 ระบบการบริหารจดั การหน่วยผู้ป่ วยนอก หอผู้ป่ วย การจดั เวร โดยประเมนิ จากความ เพยี งพอของการใหบ้ รกิ าร ๑.6 ระบบการขนส่งต่างๆ รวมถงึ ระบบการส่งต่อผู้ป่ วย อาทิการขนส่งวัสดุ อุปกรณ์ทาง การแพทย์ วสั ดุอุปกรณ์อ่นื ๆ ขยะตดิ เช้อื การจัดการและการเคล่อื นย้ายศพ เป็นต้น รวมถงึ จัดการ ซ้อมแผนเคล่อื นย้ายผู้ป่วยในกรณที ผ่ี ูป้ ่วยมกี ารทรุดลง ๑.7 ระบบการเช่ือมโยงและระบบส่อื สาร อาทริ ะบบเวชระเบียน การตดิ ต่อส่ือสารทวั ่ ไป ระหวา่ งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการกบั หน่วยงานอ่ืนๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง เช่น โรงพยาบาล สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั สานกั งานป้องกนั ควบคมุ โรค หน่วยประชาสมั พนั ธ์ เป็นต้น ๑.8 ระบบการป้องกนั ควบคุมการติดเช้อื และแพร่กระจายเช้อื •ฝึกซ้อมการสวม-ถอด PPE ให้คล่องอยา่ งถูกต้องตามความเส่ยี งของหตั ถการ•สารวจและสารอง PPE ให้พร้อมใช้และเพยี งพอ รวมถึงสามารถจัดหาเพมิ่ ได้ •ทมี บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ทกุ ระดบั ต้องเขา้ ใจหลกั การพ้นื ฐาน ของ ระบบการป้องกนั การตดิ เชอ้ื ในสถานพยาบาล ๑๓๑
๑๓๒ ๑.9 ระบบสนับสนุน รวมถงึ การจัดการด้านสาธารณูปโภคท่พี กั บุคลากร โภชนาการ เครอ่ื ง ปัน่ ไฟ เคร่อื งกรองนํา้ ประปาสนาม ฯลฯ ๑.10 ระบบสุขาภบิ าล มกี ระบวนการกาจดั เชอ้ื โรครวมถงึ การจดั สัดสว่ นห้องอาบน้า/ห้องสขุ า สาหรบั ผปู้ ่วยอยา่ งเหมาะสม ๑.11 ระบบรกั ษาความปลอดภยั และป้องกนั การก่อเหตุร้าย ๑.12 ระบบป้องกนั อคั คภี ยั และการซอ้ มแผนจดั การอคั คภี ยั ๑.13 งานสงั คมสงเคราะห์และจิตวิทยา เน่อื งจาก เพ่อื ลดความกงั วล และ ความเครยี ดของ ผูป้ ่วย รวมถงึ ทมี บุคลากรทางการแพทย์ ๑.14 การจัดระบบการส่อื สารความเสย่ี ง ให้แก่พนักงาน คนงานท่ีเจ็บป่ วย ญาติ รวมถึง ประชาชนในพน้ื ท่โี ดยรอบสถานประกอบการ ให้เขา้ ใจตงั้ แต่กอ่ นจดั ตงั้ และ ในระหวา่ งการระบาด ๒. การบริหารเพื่อการจดั เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ สาหรบั โรงพยาบาลสนามในสถาน ประกอบการ ๒.1. เตน็ ทป์ ฏบิ ตั งิ านและท่พี กั (กรณีทไ่ี มม่ อี าคารหรอื สถานทท่ี เ่ี หมาะสม)• ๑) เตน็ ท์ปฏบิ ตั กิ าร - หากเป็นไปไดค้ วรตดิ กล้องวงจรปิดในกรณที ต่ี อ้ งตดิ ตามดอู าการผูป้ ่วย - มพี ้นื ท่สี าหรบั สวม–ถอดชุดเคร่อื งป้องกันส่วนบุคคล ก่อนและลงพ้นื ท่ใี นการดแู ล ผูป้ ่วย - ควรมคี อมพวิ เตอรพ์ รอ้ มโปรแกรมในการสอ่ื สารกบั ผปู้ ่วยในลกั ษณะTelemedicine ๒) เต็นทท์ พ่ี กั เจ้าหน้าท่ี ๓) เต็นทห์ รอื พน้ื ท่สี าหรบั ประกอบอาหาร ๒.๒ อปุ กรณ์สานักงาน - เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ notebook พรอ้ ม printer - โตะ๊ เกา้ อ้ี •เครอ่ื งใชอ้ ปุ กรณ์สานักงานเช่น ปากกา กระดาษ กรรไกร แมก็ ซพ์ ร้อมลวดเย็บ เป็นต้น ๒.3 อปุ กรณ์ส่อื สาร(ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ได้แก่ วทิ ยุส่อื สารแบบตงั้ เครือขา่ ยสถานี วทิ ยุ สอ่ื สาร แบบ Mobile , Walky-talky •ระบบ telemedicine ระะบบสัญญาณ internet และเครอื ข่าย โทรโข่ง หรอื ระบบเสยี งตามสาย ๒.4 เคร่อื งมอื แพทย•์ เคร่อื งวัดความดันโลหติ (ผู้ป่ วย /เจ้าหน้าท่)ี ได้แก่ ท่วี ดั อุณหภูมิ เคร่อื งวดั ความอิม่ ตวั ของออกซิเจนในกระแสเลือด(Pulse Oximeter) อุปกรณ์ช่วยฟ้ืนคนื ชพี •รถพยาบาลกรณีส่งต่อ ผปู้ ่วยฉุกเฉนิ รถเอกซเรยเ์ คลอ่ื นท่ี (mobile x-ray unit) (ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ๑๓๒
๑๓๓ ๒.5 อุปกรณ์ป้องกนั ส่วนบุคคล ได่แก่ ชุด PPE ตามความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ level C, D (ถุงมอื หน้ากาก อนามยั (N95, surgical mask), หมวกคลุ มผม, เสอ้ื กาวน์,face shield, ถงุ หุ้มขา (leg cover)) ชุดเปล่ยี นเขา้ ปฏบิ ตั งิ านในพ้นื ท่เี สยี่ ง Alcohol ล้างมอื /alcohol gel ๒.6 อุปกรณ์ความปลอดภยั ระบบกลอ้ งวงจรปิด(CCTV) (ควรม)ี เทปกนั้ พน้ื ท่ี กุญแจเพอ่ื ปิด กนั้ พน้ื ท(่ี ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ๒.7 อุปกรณ์ดารงชีพท่จี าเป็น ได้แก่ อาหาร-น้าด่ืม อุปกรณ์งานครัว อาทิ จาน ชาม ช้อน อปุ กรณ์ และของใช้ประจาวนั พ้นื ฐานสาหรบั ผปู้ ่ วย (ท่ผี ู้ป่ วยเตรียมไวไ้ ม่เพยี งพอ) อาทิ ผ้าอนามัย ชุดชนั้ ใน ผงซกั ฟอก เป็นต้น•อุปกรณ์สนั ทนาการ เพ่อื บรรเทาความเครยี ดให้กบั ผูป้ ่วย ไดแ้ ก่ อุปกรณก์ ารกฬี า ๒.๘ ยาและเวชภณั ฑ์(ปรมิ าณ ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ยาลดความดนั โลหติ ยาลดระดบั ไขมนั ในเลอื ดยาลดระดบั นํา้ ตาลในเลอื ด ยารกั ษาโรคตดิ เชอ้ื ทางเดนิ หายใจ•ยาต้านการจบั ตวั ของเกรด็ เลอื ด Emergency bag•Antipsychotic drug โดยทมี ช่วยเหลอื เยยี วยาจติ ใจผปู้ ระสบภาวะวกิ ฤต (MCATT) ยา ประจาตวั ผู้ป่ วยแต่ละราย (กรณที ร่ี บั ผ้ปู ่ วยมาจากโรงพยาบาล) ๓. บุคลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขในโรงพยาบาลสนาม ประกอบไปดว้ ยด้านตา่ งๆ ดงั นี้ ๓.๑ บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสขุ ควรเป็นผทู้ ไ่ี ด้รบั การอบรมการปฏบิ ตั งิ านโรงพยาบาลสนามแล้ว (ประเภทของบุคลากร และ จานวนพจิ ารณาตามความจาเป็นและเหมาะสม) ไดแ้ ก่ แพทย์ พยาบาลเภสชั กร เวชกรกชู้ พี นักจติ วทิ ยา เป็นต้น๓.2. เจ้าหน้าทด่ี า้ นบรหิ ารงานทวั ่ ไป หรอื เจา้ หน้าทส่ี นับสนุนดา้ นตา่ งๆ คุณสมบตั ขิ องบุคลากรโรงพยาบาลสนามจติ อาสา มสี ขุ ภาพร่างกายแขง็ แรงและสขุ ภาพจติ ดี ควรได้รบั วคั ซนี ภูมคิ ุ้มกนั ตอ่ ไขห้ วดั ใหญ่ (หากมีวคั ซนี ) บคุ ลากรทค่ี วรระมดั ระวงั และหลกี เลย่ี งการปฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาลสนามoเป็นโรคระบบ ทางเดนิ หายใจเฉียบพลนั หรอื เร้อื รงั หรอื เป็นโรคของระบบหวั ใจและหลอดเลอื ดoตงั้ ครรภ์ หรอื เป็น โรคท่ตี ้องไดร้ บั การดูแลสมํา่ เสมอ ไดแ้ ก่ โรคมะเรง็ เบาหวาน โรคไตวาย หรอื เขา้ รบั การรกั ษาใน โรงพยาบาลในรอบปีทผ่ี ่านมา หรอื โรคท่สี ง่ ผลให้มภี มู คิ ุ้มกนั บกพร่อง ไดแ้ ก่ โรคเอดส์ หรอื ได้รบั ยา กดภูมคิ มุ้ กนั ทงั้ น้ีสถานประกอบการสามารถใชแ้ บบประเมินความพร้อมของตนเองสาหรบั เป็นสถานที่ กกั กัน (Self-Assessment Report) Factory Quarantine (FQ) ดงั แบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี ๑๓๓
๑๓๔ ๑๓๔
๑๓๕ ๑๓๕
๑๓๖ ๑๓๖
๑๓๗ ๑๓๗
๑๓๘ *Major Defect จาเป็ นตอ้ งมีถ้าไม่ผา่ นถือวา่ ตกทกุ หมวด ๑๓๘
๑๓๙ ๑๓๙
๑๔๐ ๑๔๐
๑๔๑ ๑๔๑
๑๔๒ ๑๔๒
๑๔๓ ๑๔๓
๑๔๔ ๑๔๔
๑๔๕ ๑๔๕
๑๔๖ ขนั้ ตอนการดาเนิ นการโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ 1. หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบแจ้งรายช่อื ผู้ป่วยมาทโ่ี รงพยาบาลสนามล่วงหนา้ โดยมกี ารยนื ยนั ตวั ตน จานวนและรายละเอยี ดของผ้ปู ่วยท่ชี ดั เจนเพ่ือโรงพยาบาลสนามได้จดั เตรยี มเตยี งและจดั ทาระบบ admit ไว้ ล่วงหน้า และกาหนดช่วงเวลาในการรบั -ส่งผูป้ ่วยท่แี น่นอนทงั้ น้ี การเคลอ่ื นยา้ ยผู้ป่วยควรมคี วามรดั กุมและ เหมาะสม 2. เจ้าหน้าทโ่ี รงพยาบาลสนามประเมนิ ผู้ป่วย และจดั ผู้ป่ วยเข้าตามผงั เตยี งทก่ี าหนด รายละเอยี ด การดาเนนิ การอาจจดั แบ่งโซนให้ชดั เจนเช่น ตามความเสย่ี งของผู้ป่ วย หรอื ตามวนั ทร่ี บั ไว้ และแบ่งโซนชาย/ หญงิ ให้ชดั เจน เพอ่ื ความสะดวกในการบรหิ ารจดั การ 3. ระยะระหว่างเตยี งผ้ปู ่วยควรห่างกนั ไมน่ ้อยกวา่ 1.5 เมตรทงั้ น้ี อาจพจิ ารณาปรบั เปล่ยี นไดต้ าม ความจาเป็นและเหมาะสมของแตล่ ะสถานท่ี 4. จดั เตรยี มอุปกรณ์ท่จี าเป็นในส่วนท่พี กั ผู้ป่วย อาทิ ปรอทวดั ไขเ้ คร่อื งวดั อ๊อกซเิ จนในเลอื ด (pulse oximeter) เป็นต้น เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่ วยวดั และรายงานให้เจ้าหนา้ ทท่ี ราบผ่านระบบ telemedicineทุกวนั 5. เจ้าหนา้ ทจ่ี ดั ส่งอาหาร 3 มอ้ื โดยจดั วางไวท้ พ่ี น้ื ท่ที ก่ี าหนดเพอ่ื ใหผ้ ปู้ ่วยมารบั ไปแจกจา่ ยภายใน ส่วนท่พี กั 6. เตรยี มอุปกรณส์ นั ทนาการเพ่อื บรรเทาความเครยี ดให้กบั ผปู้ ่ วย อาทิ อุปกรณก์ ฬี า 7.กรณีผู้ป่วยเดก็ เดก็ อายุตา่ํ กวา่ 12 ขวบ ควรใหก้ ารรกั ษาทโ่ี รงพยาบาล 8. การจดั การภาวะเครยี ดของผปู้ ่วยสามารถดาเนินการไดโ้ ดยมชี อ่ งทางให้คาปรกึ ษาโดยนกั จติ วทิ ยา หรอื ทมี MCATT 9. กรณีเกดิ ผปู้ ่วยมอี าการผดิ ปรกติ หรอื เกดิ เหตุฉุกเฉนิ ให้ตดิ ตอ่ โรงพยาบาลหลกั เพอ่ื นาสง่ ผ้ปู ่วย 10.ผู้ป่วยทไ่ี ด้รบั การดรู กั ษาในโรงพยาบาลสนามควรได้รบั การเอกซเรย์ปอด (หากสามารถ ดาเนินการได)้ ตามระยะเวลาทเ่ี หมาะสมเพ่อื ตดิ ตามอาการผู้ป่ วย 11.การจาหน่ายผู้ป่วยเม่อื ครบกาหนดการรกั ษาในโรงพยาบาลสนาม โดยการประสานงานกบั โรงพยาบาลหลกั และมเี อกสารรบั รองการรกั ษาให้ผู้ป่วยตดิ ตวั ๑๔๖
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182