Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ สำหรับ Health Leader

คู่มือ สำหรับ Health Leader

Published by kanokrat sudiapa, 2021-12-05 11:35:21

Description: คู่มือ สำหรับ Health Leader

Search

Read the Text Version

๙๗ การวดั ประเมินผลการเรียนรู้ แบบทดสอบจานวน 10 ขอ้ เอกสารอ้างอิง กรรชั มากเจรญิ . (2554). ผลของการจดั การเรยี นร้วู ชิ าสขุ ศกึ ษาโดยใช้โปรแกรมการกากบั ตนเองทม่ี ตี ่อพฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารจานด่วนของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ . วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญามหาบัณฑติ , จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . กองสุขศกึ ษา. (2556). แนวทางการดาเนนิ งานปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสุขภาพระดบั จงั หวดั . นนทบรุ :ี โรงพมิ พก์ องสุข ศกึ ษา. กองสุขศกึ ษา.(2563).โปรแกรมสุขศกึ ษาเพ่อื การเสรมิ สร้างความรอบรดู้ ้านสุขภาพในกลมุ่ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความ ดนั โลหติ สูงรายใหม่. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั 25 มเี ดยี จากดั . นภิ านันท์ สขุ สวสั ด,ิ์ อารยา ปรานประ และสาโรจน์ เพชรมณี. (2559). ผลของโปรแกรมสขุ ศกึ ษาโดยประยุกต์ใช้ ทฤษฎีความสามารถแหง่ ตนรว่ มกบั แรงสนบั สนุนทางสงั คมเพ่อื การดแู ลตนเองในผูส้ งู อายทุ ่เี ป็น โรคเบาหวานของโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบลทา่ สะท้อน อาเภอพุนพนิ จงั หวดั สุราษฎร์ธาน.ี วารสาร การพฒั นาสุขภาพชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ , 4(1), 49-65. บุญยง เกย่ี วการคา้ . (2562). ทฤษฎีสาหรบั งานสุขศกึ ษาและการส่งเสรมิ สุขภาพ. นนทบุร:ี สานักพมิ พ์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. Green, L.W., & Kreuter, M.W. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach (4th ed.). Boston: McGraw-Hill.

๙๘ ชุดความร้ทู ่ี 5 การสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและการป้องกนั สขุ ภาพจิตในสถานประกอบการ ผนู้ ิพนธ์ ภวมยั กาญจนจิรางกรู กลั ยกร ไชยมงคล กรมสขุ ภาพจิต วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ เพอ่ื ให้กล่มุ เป้าหมาย 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการส่งเสรมิ สุขภาพจติ และป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ 2. มแี นวทางในการสง่ เสรมิ สุขภาพจติ วยั ทางานในสถานประกอบการกลมุ่ ดี และป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ วยั ทางานในสถานประกอบการกล่มุ เส่ยี ง 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้แบบประเมนิ สุขภาพจติ เบ้อื งตน้ ของกรมสุขภาพจติ เค้าโครง/สาระสาคญั การส่งเสรมิ สุขภาพจติ และป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ วยั ทางานในสถานประกอบการ ใน 4 ประเด็นสาคญั ได้แก่ การเสรมิ สร้างความสขุ ในการทางาน การเสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ทางใจ การจดั การความเครยี ด ความรู้ เบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั โรคซึมเศรา้ ผ่าน 3 กจิ กรรมหลกั ไดแ้ ก่ กจิ กรรมนันทนาการ กจิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพจติ และ ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ กจิ กรรมการเหน็ คุณคา่ ของผู้ปฏบิ ตั งิ านและครอบครวั เน้ือหาประกอบดว้ ย การสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ คนวยั ทางานในสถานประกอบการ ใน 4 ประเดน็ สาคญั ไดแ้ ก่ การเสรมิ สรา้ งความสุขในการทางาน การเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ทางใจ การจดั การความเครยี ด ความรู้

๙๙ เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั โรคซึมเศร้า ผ่าน 3 กจิ กรรมหลกั ไดแ้ ก่ กจิ กรรมนันทนาการ กจิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพจติ และ ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ กจิ กรรมการเหน็ คุณคา่ ของผ้ปู ฏบิ ตั งิ านและครอบครวั 1. แนวคิดการสง่ เสริมสขุ ภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิต 1.1 ความหมายและความสาคญั องค์การอนามยั โลก (WHO) ไดใ้ ห้ความหมายของการสง่ เสรมิ สุขภาพจติ และการป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ไว้ว่า (กรมสขุ ภาพจติ , 2559) การสง่ เสริมสุขภาพจิต คอื การส่งเสรมิ ให้ประชาชนทุกเพศวยั ไดร้ บั การดูแลทางสงั คมจติ ใจให้มคี ณุ ภาพ ชวี ติ ท่ดี ี โดยมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะในการดูแลตนเอง และอยู่ในสง่ิ แวดล้อม ครอบครวั สงั คม ชุมชนท่ี เออ้ื อานวยตอ่ การมสี ขุ ภาพจติ ทด่ี ี ดงั นนั้ การส่งเสรมิ สุขภาพจติ จงึ เกดิ จากการท่สี งั คม ชมุ ชน ดูแลคณุ ภาพชวี ติ ของ ประชาชน การจดั บรกิ ารสุขภาพแบบองค์รวมทงั้ รา่ งกายจติ ใจ และการท่ปี ระชาชนมศี กั ยภาพในการดแู ลจติ ใจตนเอง การป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิต คอื การป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ ปัญหาสุขภาพจติ และโรคทางจติ เวชในกลุ่มเส่ยี ง โดยการเฝ้าระวงั ค้นหาและคดั กรองกลมุ่ เส่ยี ง รวมถงึ การจดั กจิ กรรมเพอ่ื การป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ไดอ้ ย่าง เหมาะสม ซึง่ นาไปสูก่ ารลดปัจจยั เสย่ี ง เช่น ความเครยี ดระยะยาว ความกา้ วร้าวรุนแรง และเพมิ่ ปัจจยั ปกป้อง เชน่ การให้กาลงั ใจ การชว่ ยเหลอื ดา้ นการอาชพี แก่ประชาชนทกุ เพศวยั การป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ ดาเนนิ การใน กลมุ่ ประชาชนทกุ เพศวยั ในกลุ่มปกติ เชน่ การจดั โปรแกรมการออกกาลงั กายในทท่ี างานเพ่อื ลดความเครยี ด การจดั คา่ ยป้องกนั ยาเสพตดิ สาหรบั วยั รนุ่ และกลุม่ เสย่ี ง เชน่ การคดั กรองและดแู ลทางสงั คมจติ ใจในผู้ป่วยโรคเรอ้ื รงั การ ดูแลทางสงั คมจติ ใจผ้ดู ูแลผสู้ งู อายุตดิ เตยี ง เป็นต้น ทงั้ นี้ การบรกิ ารส่งเสรมิ สุขภาพจติ และการป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ มกั จะดาเนนิ การร่วมกนั ใน ประชาชนกลุม่ ตา่ ง ๆ จนเป็นเนอ้ื เดยี วกนั 1.2 กลุม่ เสย่ี งต่อปัญหาสุขภาพจิต การเฝ้าระวงั ปญั หาสุขภาพจิตในกลมุ่ เสี่ยงของคนวยั ทางาน คนวยั ทางานท่มี คี วามเสย่ี งตอ่ ปัญหาสุขภาพจติ เช่น เป็นพนกั งานเขา้ ใหม่ ผู้มปี ัญหาหนี้สนิ มโี รคประจาตวั ผูม้ ปี ัญหาครอบครวั เป็นตน้ ควรใช้การสงั เกตพฤตกิ รรมร่วมกบั การใชแ้ บบประเมนิ แบบคดั กรองตา่ ง ๆ เพ่อื เฝ้า ระวงั ปัญหาสุขภาพจติ ท่จี ะเกดิ ข้นึ อนั เน่อื งมาจากปัญหาการปรบั ตวั ปัญหาสขุ ภาพ ปัญหาด้านความสมั พนั ธ์กบั ผู้อ่ืน ซึง่ จะสง่ ผลใหเ้ กดิ ความเครยี ดสะสมเร้อื รงั โดยอาจใช้การพูดคยุ ซกั ถาม วางแผนและให้ความช่วยเหลอื รายบคุ คล เพอ่ื แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างตรงจุด ท่สี าคญั ตอ้ งคานึงถงึ การรกั ษาความลบั ส่วนบุคคลของพนักงานเป็นสาคญั 2. การเสริมสร้างวคั ซนี ใจในสถานประกอบการ 2.1 มาตการ “4 สร้าง” ในสถานประกอบการ

๑๐๐ เป็นมาตรการหรอื กจิ กรรมท่สี ง่ เสรมิ ให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านในสถานประกอบการ/องคก์ ร ทางานรว่ มแรง รว่ มใจกนั ในการแกไ้ ขปัญหาหรอื วกิ ฤตตา่ งๆทเ่ี กดิ ขน้ึ จนสามารถผา่ นพน้ ไปได้ และยงั ทาใหส้ ถานประกอบการ/องค์กร ฟื้นคนื สู่ภาวะปกตไิ ด้ ประกอบไปด้วย หลกั การ “4 สร้าง” ได้แก่ 1. สรา้ งความรู้สึกปลอดภยั (Safety) 2. สรา้ งความ ตระหนัก ไม่ตระหนก (Calm) 3. สร้างความหวงั (Hope) 4. สรา้ งความเขา้ ใจ ใสใ่ จและให้โอกาส (Care) และ นาหลกั “2 ใช้” มาเป็นฐานสาคญั ในการเสรมิ สร้างให้คนในสถานประกอบการ/องค์กรมภี ูมคิ ุม้ กนั ทางใจทเ่ี ขม้ แขง็ ซ่ึง ประกอบดว้ ย 1.ใชศ้ กั ยภาพที่มีอยู่ในสถานประกอบการ/องค์กร (Efficacy) ร่วมกบั การ 2.ใชส้ ายสมั พนั ธ์ที่ดี ระหว่างกนั ของสมาชิกในสถานประกอบการ/องค์กร (Networks And Relationships) นาไปสู่การลดปัญหา สขุ ภาพจติ และการแพร่กระจายของโรคโควดิ -19 ได้ 1. สร้างความรู้สึกปลอดภยั (Safety) 1.1 สรา้ งความมนั่ ใจในการป้องกนั และควบคมุ โรค COVID-19 แบบ New Normal 1.1.1 มมี าตรการในการป้องกนั โรค COVID-19 - สวมหน้ากากอนามยั ตลอดเวลา - เคร่งครดั การเวน้ ระยะหา่ ง - ลา้ งมอื บอ่ ยๆ เมอ่ื สมั ผสั จดุ สมั ผสั ร่วม เช่น ลกู บดิ ประตู ราวบนั ได - งดรบั ประทานอาหารรว่ มกนั หา้ มพดู คยุ ขณะกนิ ขา้ ว - แยกของใชส้ ่วนตวั เชน่ แกว้ น้า จาน ชาม ชอ้ น - เม่อื มอี าการเจบ็ ป่วย เชน่ ไอ มไี ข้ มนี ้ามกู หยุดงานทนั ทีและรบี พบแพทย์เพอ่ื ตรวจวนิ ิจฉัย (ท่มี า: พนักงานโรงงานปฏบิ ตั ติ นอย่างไรห่างไกลโควดิ , กรมควบคมุ โรค, 2564) 1.1.2 มกี ารตงั้ จุดคดั กรองความเสย่ี ง ตรวจวดั อณุ หภมู ิและให้เขา้ ออกทางเดยี ว 1.1.3 มกี ารตดิ ตงั้ ฉากกนั้ จดั พ้นื ทใ่ี หม้ รี ะยะหา่ งท่เี หมาะสมในจุดท่ใี ห้บรกิ ารลกู คา้

๑๐๑ 1.1.4 มกี ารวางเจลแอลกอฮอล์และทาความสะอาดในจุดท่มี กี ารสมั ผสั ร่วม เชน่ ลูกบดิ ประตู ราว บนั ได สวติ ซไ์ ฟ อุปกรณ์สานกั งาน 1.1.5 มขี อ้ มูลสุขภาพ ประวตั กิ ารเจ็บป่วยของผู้ปฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื ตดิ ตามและเฝ้าระวงั ความเสย่ี งของ การเกดิ โรคและให้การช่วยเหลอื กรณที ่เี จ็บป่วย 1.1.6 มขี อ้ ตกลงหรอื บทลงโทษร่วมกนั ถา้ ไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการการป้องกนั โรค COVID-19 1.1.7 มกี ารจดั ทีมเฉพาะกจิ เพ่อื ทาแผนฉุกเฉินและเตรยี มรบั มอื กรณีพบผูป้ ฏบิ ตั งิ านตดิ เชอ้ื COVID- 19 1.1.8 มกี ารสอ่ื สารจากผู้บรหิ ารเพ่อื สร้างความมนั่ ใจใหแ้ กผ่ ูป้ ฏบิ ตั งิ านดว้ ยขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งและทนั ต่อเหตกุ ารณ์ 1.2 สง่ เสรมิ ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ บั การฉีดวคั ซนี โควดิ -19 ในการควบคุมและป้องกนั โรค ลดความกลวั และ สรา้ งแรงจงู ใจ 1.2.1 สร้างตน้ แบบในการฉีดวคั ซนี โควดิ -19 เช่น ผูน้ าองคก์ ร หวั หน้างาน ฯลฯ 1.2.2 สร้างแรงจงู ใจให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี มก่ ล้าฉีดวคั ซนี โควดิ -19 ด้วยวธิ ี “3 เป็น” ดว้ ยการสนทนา แสดงความช่นื ชมในเรอ่ื งสาคญั สงิ่ ดแี ละความพยายาม จากนนั้ ใช้คาถามสร้างแรงจงู ใจเช่น การถามถึงสงิ่ ทผ่ี ่านมา และการให้ขอ้ มูลจาเป็นอยา่ งสนั้ ๆและมีลกั ษณะให้ทางเลอื ก ชมเป็น; เชน่ คณุ เป็นเสาหลกั ของครอบครวั เลยนะหากขาดคณุ สกั คน ทุกคนคงลาบาก ถามเป็น; การไมฉ่ ีดวคั ซนี มผี ลต่อคณุ ไหม แนะเป็น; เพ่อื ให้คุณได้ดูแลครอบครวั คณุ อยา่ งตงั้ ใจ หรอื ถา้ ฉีดวคั ซีนคุณคดิ วา่ อยา่ งไร ถา้ เขากลวั ผลขา้ งเคยี งท่เี กดิ จากการฉีดวคั ซีนโควดิ -19 ให้ชมว่า “เขาเป็นคนท่ใี สใ่ จตวั เองและรกั ครอบครวั 1.2.3 อานวยความสะดวกให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านไดร้ บั การฉีดวคั ซีนโควดิ -19 - จดั ให้มกี ารฉีดวคั ซีนวดิ -19 ในสถานประกอบการ/องค์กร - ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสามารถไปฉีดวคั ซีนโควดิ -19 ไดโ้ ดยไม่ถอื เป็นวนั ลา - อานวยความสะดวกในการลงทะเบยี นจองควิ และจดั รถรบั -สง่ ให้ผปู้ ฏบิ ตั งิ านไปเขา้ รบั การฉีด วคั ซีนโควดิ -19 1.3 ส่งเสรมิ ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในสถานประกอบการ/องค์กร ดูแลตนเองและผู้ร่วมงาน 1.3.1 มกี ารรณรงค์และส่อื สารให้ความรเู้ ก่ยี วกบั การป้องกนั โรค COVID-19 และสถานการณ์ท่ี เกย่ี วขอ้ งแก่ผู้ปฏบิ ตั งิ าน - จดั บอร์ดนิทรรศการ - เปิดเสยี งตามสาย - ส่งในกลุม่ LINE ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน - ช่องทางการส่อื สารอ่นื ๆของสถานประกอบการ/องคก์ ร 2. สร้างความตระหนัก ไมต่ ระหนก (Calm)

๑๐๒ 2.1 ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั โรค COVID-19 ทถ่ี ูกต้องชดั เจน เช่อื ถือได้ ทนั ตอ่ สถานการณ์ เพอ่ื ลดความวติ กกงั วล และตน่ื ตระหนกจากข่าวตา่ งๆ 2.1.1 มกี ารใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั โรค COVID-19 อยา่ งสมา่ เสมอ เช่น ทุกเช้าวนั จนั ทร์ พกั กลางวนั 2.1.2 มชี ่องทางเพ่อื ตอบขอ้ สงสยั ของผู้ปฏบิ ตั งิ านอย่างรวดเรว็ เช่น กลุ่มไลน์ กลุ่มเฟซบกุ๊ ฯลฯ 2.1.3 กรณีพบผตู้ ดิ เชอ้ื ทีมเฉพาะกจิ ตอ้ งแจ้งให้ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทกุ คนทราบทนั ที ไม่ปกปิดขอ้ มลู และช้แี จงถงึ สง่ิ ท่สี ถานประกอบการดาเนินการและสง่ิ ทผ่ี ู้ปฏบิ ตั งิ านต้องปฏบิ ตั ิ 2.2 ใหค้ วามรูเ้ ก่ยี วกบั การดูแลจติ ใจตนเอง 2.2.1 มกี ารแนะนาใหผ้ ู้ปฏบิ ตั งิ านรบั ขอ้ มูลข่าวสารอย่างเหมาะสม - ลดเวลาการดูและฟังข่าว ไมห่ มกม่นุ เกนิ ไป ตดิ ตามข่าวตามปกตวิ นั ละ 1-2 ครงั้ ประมาณ 2-3 ชวั่ โมง ถ้ารู้สกึ เครยี ดให้หยดุ ตดิ ตามข่าวทนั ที - ตรวจสอบวา่ เป็นข่าวปลอม (Fake News) หรอื ไม่ และควรดูขอ้ มูลจากแหล่งท่เี ช่อื ถอื ได้ - ทากจิ วตั รประจาวนั ตามปกติ และทางานอดเิ รกอน่ื ๆ เพ่อื ไม่ให้หมกมนุ่ กบั การดูข่าวมากเกนิ ไป 2.2.2 มกี ารแนะนาวธิ คี ลายความเครยี ด - วธิ คี ลายความเครยี ดทวั่ ไป เช่น ออกกาลงั กาย เช่น วง่ิ เตน้ แอโรบกิ รามวยจนี โยคะ เล่นกฬี า ฟังเพลง รอ้ งเพลง หรอื เลน่ ดนตรี ปลูกต้นไม้ ทาสวนเล่นกบั สตั วเ์ ลย้ี ง จดั หอ้ งตกแต่งบา้ นหรอื อะไรกไ็ ด้ ทท่ี าแลว้ รสู้ กึ ดขี น้ึ - เทคนคิ เฉพาะในการคลายเครยี ด เช่น การฝึกหายใจคลายเครยี ด การฝึกสมาธิ การนวดคลาย เครยี ด การฝึกผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ 2.2.3 ทมี เฉพาะกจิ ควรให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านได้รบั การประเมนิ สุขภาพใจผ่านเวบ็ ไซต์ Mental Health Check-in หรอื แบบประเมนิ ของกรมสขุ ภาพจติ - แบบคดั กรองความเครยี ด (ST-5) - แบบคดั กรองโรคซมึ เศรา้ (2Q) - แบบประเมนิ ภาวะเหน่อื ยลา้ หมดไฟ (Burn out) - แบบประเมนิ พลงั ใจ (RQ) 2.2.3 มกี ารแนะนาบรกิ ารหรอื สถานบรกิ ารด้านสขุ ภาพจติ ให้แก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ านในกรณที ่ผี ูป้ ฏบิ ตั งิ านมปี ัญหา สขุ ภาพจติ เช่น สายด่วนสขุ ภาพจติ 1323 โรงพยาบาลคู่เครอื ขา่ ยของสถานประกอบการ 3. สร้างความหวงั (Hope) 3.1 สนับสนุนให้มกี จิ กรรมเพอ่ื สรา้ งขวญั กาลงั ใจแก่ผู้ปฏบิ ตั งิ าน - ผู้บรหิ ารมกี ารพดู คยุ ใหก้ าลงั ใจและสร้างความเช่อื มนั่ แก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน

๑๐๓ - จดั ใหม้ พี ้นื ทส่ี รา้ งกาลงั ใจและแลกเปลย่ี นประสบการณเ์ พ่อื ฝ่าวกิ ฤตไปดว้ ยกนั เช่น เรอ่ื งเลา่ สร้าง กาลงั ใจ คลปิ วดี โิ อ บอร์ดให้กาลงั ใจ ฯลฯ - กรณีทส่ี ถานประกอบจาเป็นตอ้ งปิดกจิ การหรอื หยุดกจิ การชวั่ คราว ผบู้ รหิ ารควรส่อื สารให้ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทกุ คนทราบ และควรมแี ผนการรบั มอื ในการดแู ลจติ ใจผู้ปฏบิ ตั งิ าน 3.2 จดั สวสั ดกิ าร/ออกมาตรการเยยี วยาช่วยเหลอื ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน - มแี นวทางในการช่วยเหลอื และดูแลความเป็นอย่ขู องผู้ปฏบิ ตั งิ าน เชน่ ตูป้ ันสุข ถงุ ยงั ชพี คูปอง อาหารฟรี หน้ากากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ - ประสานหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งเพ่อื ให้ผู้ปฏบิ ตั งิ านได้รบั สวสั ดกิ ารตามกฎหมาย เช่น ประกนั สงั คม กองทนุ สงเคราะห์ลกู จ้าง เป็นตน้ - หาช่องทางการในการสร้างรายไดเ้ พม่ิ เตมิ ใหแ้ ก่ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตามศกั ยภาพและทรพั ยากรทส่ี ถาน ประกอบการมอี ยู่ - มกี ารทาประกนั สขุ ภาพใหแ้ ก่ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทุกคน - มชี อ่ งทางให้ความช่วยเหลอื ให้แก่ผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน เช่น ต้คู ลายทกุ ข์ สายดว่ นให้ความ ชว่ ยเหลอื ฯลฯ 3.3 ส่งเสรมิ ใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั งิ านทากจิ กรรมจติ อาสาภายในสถานประกอบการ/องค์กร เช่น เป็นจติ อาสาในการคดั กรอง/ ตรวจวดั อุณหภูมิ ส่งอาหารและสงิ่ จาเป็นให้ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านทถ่ี กู กกั ตวั ฯลฯ 3.4 ส่งเสรมิ ใหส้ ถานประกอบการ/องคก์ ร นาโปรแกรม/หลกั สูตรต่าง ๆ ไปใช้ในการดแู ลคุณภาพชวี ติ ของ ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน เช่น - โปรแกรมสรา้ งสุขวยั ทางานในสถานประกอบการ - หลกั สูตรสรา้ งสขุ ดว้ ยสตใิ นองค์กร (Mindfulness in Organization: MIO) - คู่มอื การสร้างความสุข 8 ประการในท่ที างาน (HAPPY WORKPLACE) 4. สรา้ งความเขา้ ใจ ใส่ใจและให้โอกาส (Care) 4.1 เอ้อื อานวยใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั งิ านสามารถทางานได้ภายใต้สถานการณท์ ่เี ปล่ยี นแปลง - มกี ารปรบั รปู แบบการทางาน เชน่ แบ่งทมี ทางาน เหลอ่ื มเวลาทางาน หรอื ทางานในท่พี ักอาศยั - จดั หาและสนบั สนุนอปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื ในการทางานในทพ่ี กั อาศยั ให้แกผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน เชน่ คอมพวิ เตอร์ อนิ เทอรเ์ นต็ ระบบการประชมุ ออนไลน์ ฯลฯ - เฝ้าระวงั กล่มุ เส่ยี ง เชน่ มคี วามเครยี ดสงู มภี าวะ Burn out เป็นต้น - ดูแลผู้ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยการสงั เกตพฤตกิ รรมท่เี ปลย่ี นแปลงไปจากปกติ ใส่ใจรบั ฟังเมอ่ื มาปรบั ทุกข์ เมอ่ื เกนิ กาลงั ทส่ี ถานประกอบการสามารถช่วยเหลอื ไดใ้ หส้ ่งตอ่ สถานบรกิ ารค่เู ครอื ขา่ ย 4.2 ลดอคตติ ่อผตู้ ดิ เช้อื COVID-19 - ทมี เฉพาะกจิ ส่อื สารเพอ่ื สร้างความเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ งตามความเป็นจรงิ เกย่ี วกบั ผตู้ ดิ เช้อื COVID-19 ทร่ี กั ษาหายแล้ว เชน่ แสดงผลการตรวจรกั ษา

๑๐๔ - สถานประกอบการและผรู้ ว่ มงานใหโ้ อกาสผู้ท่หี ายป่วยได้กลบั มาทางานไดต้ ามปกติ โดยไม่ตาหนิ หรอื แสดงทา่ ทรี งั เกยี จ 4.3 สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั งิ านช่วยเหลอื และดูแลจติ ใจกนั และกนั ดว้ ยหลกั การปฐมพยาบาลทางใจ 3 ส. ไดแ้ ก่ - สอดส่องมองหา : สงั เกตเพ่อื นรว่ มงานท่มี พี ฤตกิ รรมเปลย่ี นแปลงไปหรอื ต้องการความชว่ ยเหลอื เช่น เครยี ด หงุดหงดิ กนิ ไมไ่ ด้ นอนไมห่ ลบั - ใสใ่ จรบั ฟัง : ฟังเพ่อื นรว่ มงานอย่างตงั้ ใจและไมต่ ดั สนิ เพ่อื ช่วยให้เขาไดร้ ะบายความรู้สึก และได้คลายความทกุ ข์ใจ - ส่งตอ่ เช่อื มโยง : ถ้าเพอ่ื นร่วมงานมปี ัญหาเกนิ กาลงั ท่จี ะช่วยเหลอื ให้แจง้ หวั หนา้ งานหรอื ทมี เฉพาะกจิ เพ่อื ให้ความช่วยเหลอื แก่ผู้ปฏบิ ตั งิ านตามความเหมาะสม 2 ใช้ 1. ใชศ้ กั ยภาพของสถานประกอบการ/องคก์ ร - ผูน้ าสถานประกอบการ/องคก์ รเหน็ ความสาคญั และเป็นผนู้ าในการดแู ลสขุ ภาพกายและ สุขภาพจติ ของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน - ผนู้ าสถานประกอบการ/องค์กร แกนนา ช่วยกนั ระดมความคดิ และหาวธิ ปี รบั ตวั เพ่อื ประคอง กจิ การและสรา้ งรายไดภ้ ายใตท้ รพั ยากรทม่ี อี ยู่ - ผู้นาสถานประกอบการ/องค์กรสนบั สนุนใหเ้ กดิ การระดมกาลงั คนทม่ี คี วามสามารถและมจี ติ อาสา จากทุกส่วนชว่ ยเหลอื ชมุ ชนและสงั คมตามกาลงั ความสามารถ 2. ใช้สายสมั พนั ธ์ของสถานประกอบการ/องค์กร - ผู้นาสถานประกอบการ/องคก์ ร แกนนา จติ อาสาและผปู้ ฏบิ ตั งิ านทกุ ระดบั ใช้ความสมั พันธท์ ม่ี อี ยู่ ในการรว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการหรอื แผนท่วี างไว้เพอ่ื ใหส้ ถานประกอบการ/องคก์ รก้าวผ่านวกิ ฤตน้ีไปได้ - ผนู้ าสถานประกอบการ/องค์กรใชเ้ ครอื ข่ายภายนอกทม่ี อี ยู่ ในการสนบั สนุนศกั ยภาพและ ทรพั ยากร เพอ่ื รบั มอื กบั สถานการณ์วกิ ฤต เช่น เครอ่ื งมอื วสั ดอุ ุปกรณ์ องคค์ วามรตู้ ่างๆ ฯลฯ - ผู้นาสถานประกอบการ/องค์กรสง่ เสรมิ ความเขม้ แขง็ ภายในสายงาน เช่น หวั หน้างานควรทราบ ความเป็นอยู่ วถิ ีชวี ติ ของผู้ปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ใหก้ ารดูแลช่วยเหลอื อยา่ งเหมาะสม 2.2 การดาเนินการ/กิจกรรมภายใตโ้ ครงการบูรณาการตา่ งๆ เชน่ โครงการสถานประกอบการ/ วสิ าหกจิ ชมุ ชนปลอดโรค ปลอดภยั กายใจเป็นสขุ , 10 packages กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น 2.2.1 กิจกรรมนันทนาการ เพอ่ื ให้เกดิ สมั พนั ธภาพท่ดี ตี ่อกนั และการผอ่ นคลายความเครยี ด ไดแ้ ก่ การจดั งานประจาปี งานกฬี าสี การจดั กจิ กรรมรวมกล่มุ เพ่อื ออกกาลงั กาย 2.2.2 กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต ไดแ้ ก่ การ ใหค้ วามรู้ สขุ ภาพจติ ผ่านเสยี งตามสาย การจดั อบรมให้ความรู้ จดั กจิ กรรมโปรแกรมสร้างสขุ วยั ทางานในสถานประกอบการ

๑๐๕ ตดิ โปสเตอร์รณรงค์ประชาสมั พนั ธ์ด้านสุขภาพจติ มสี ถานท่หี รอื มมุ พกั ผอ่ นหย่อนใจให้พนักงานมกี จิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และศาสนา 2.2.3 กิจกรรมการเหน็ คณุ คา่ ของผปู้ ฏิบตั ิงานและครอบครวั ได้แก่ การมอบเกยี รติบตั รหรอื รางวลั แก่พนักงานทป่ี ฏบิ ตั งิ านดตี ามสมรรถนะการทางาน กจิ กรรมเชดิ ชูการทาความดี กิจกรรมการแลกเปล่ยี น เรยี นรู้ การดงู านนอกสถานทท่ี งั้ ครอบครวั 2.3 ประเดน็ การสง่ เสริมสุขภาพจิตและป้องกนั ปญั หาสุขภาพจิต - การเสริมสรา้ งความสขุ ในการทางาน “ความสุข” และ “สุขภาพจิต” ของคนทางาน วยั ทางานถือเป็นทรพั ยากรบคุ คลท่มี คี วามสาคญั ของประเทศ เพราะคนวยั นเี้ ป็นผู้ทม่ี พี ลังในการทางานเพอ่ื สรา้ งความมนั่ คงให้แกต่ นเองและประเทศชาติ คงไม่มใี ครปฏเิ สธว่า “คน” ไม่ใช่เคร่อื งจกั รหรอื หุน่ ยนตท์ ไ่ี ม่มอี ารมณ์ ความรู้สกึ ดงั นนั้ ยอ่ มมบี างขณะทอ่ี าจมบี างสงิ่ บางอยา่ งมากระทบใจจนทาให้หมดพลงั ชวั่ คราว ซ่ึงจะสง่ ผลให้ ความสามารถในการทางานลดลงและส่งผลต่อผลผลติ ของหน่วยงานหรอื สถานประกอบการท่วี า่ จ้าง แตถ่ ้าหน่วยงาน หรอื สถานประกอบการใหค้ วามสาคญั ของคนทางานและส่งเสรมิ ให้คนทางานมสี ขุ ภาพท่แี ขง็ แรงและมใี จท่เี ป็ นสุขใน การทางานยอ่ มจะส่งผลดที งั้ ตอ่ ตวั คนทางานเองและหน่วยงานหรอื สถานประกอบการ องค์การอนามยั โลกได้ให้คานยิ าม “ความสขุ ” วา่ หมายถงึ การทค่ี นมสี มั พนั ธภาพทด่ี ตี ่อผู้อ่นื และสามารถ รกั ษาสมั พนั ธภาพนนั้ ให้ยงั่ ยนื มกี ารปรบั ตวั เขา้ กบั สภาพสงั คมท่เี ปล่ยี นแปลงได้ และมคี วามภาคภมู ใิ จในชวี ติ แนวทางทห่ี น่วยงานหรอื สถานประกอบการจะชว่ ยส่งเสรมิ ให้ คนทางาน “กายใจเป็นสขุ ” ตามคานิยามของ องค์การอนามยั โลก คอื 1. ส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้คนทางานมสี ุขภาพกายท่แี ขง็ แรง โดยจดั สรรเวลาให้คนทางานไดอ้ อกกาลงั กาย และมสี ถานทใ่ี ห้ตามความเหมาะสม เช่น มสี ถานท่อี อกกาลงั กาย มสี นามฟุตบอล สนามเปตอง พรอ้ มมอี ปุ กรณ์ สนับสนุน เป็นต้น 2. ส่งเสรมิ ใหค้ นทางานมสี มั พนั ธภาพทด่ี รี ะหว่างกนั โดยเปิดโอกาสใหค้ นทางานไดท้ ากจิ กรรมร่วมกนั เพอ่ื สร้างความสนทิ สนมและแสดงความมนี ้าใจตอ่ กนั เชน่ เขยี นการ์ดอวยพรวนั เกดิ จดั กจิ กรรมสงั สรรค์ประจาปี จดั ทมี ไปเยย่ี มเพอ่ื นทเ่ี จบ็ ป่วย แข่งกฬี าสรี ะหวา่ งแผนก เป็นตน้ 3. ส่งเสรมิ และสร้างบรรยากาศท่ผี ่อนคลายในการทางาน เช่น เปิดเพลงเบาๆใหค้ นทางานฟังขณะทางาน มี การหมุนเวยี นหนา้ ทใ่ี นแผนกทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ความเครยี ดได้ เช่น แผนกทม่ี เี สยี งดงั ตลอดเวลา หรอื เปล่ยี นหน้าท่ที ่ี เหมาะสมใหก้ บั พนกั งานทต่ี งั้ ครรภ์ เป็นต้น 4. สง่ เสรมิ ให้คนทางานเกดิ ความภาคภูมใิ จในตนเอง โดยใหร้ างวัลแกค่ นทางานดหี รอื ขยนั ทางานใหเ้ ป็น ผ้สู อนงานแกผ่ ้มู าเยย่ี มชมหน่วยงาน สนบั สนนุ ให้ร่วมกนั ทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่ชุมชนหรอื สงั คม 5. สารวจความสุขของคนทางาน โดยใช้แบบประเมนิ ความสขุ ของกรมสขุ ภาพจติ อย่างนอ้ ยปีละ 1 ครงั้ เพ่อื หน่วยงานหรอื สถานประกอบการใช้เป็นขอ้ มูลในการส่งเสรมิ ความสุขของคนทางานตอ่ ไป และขณะเดยี วกนั ควรจดั ให้ มบี คุ คลทส่ี ามารถทาหนา้ ทใ่ี หก้ ารปรกึ ษาให้แกพ่ นักงานท่มี คี วามสุขนอ้ ยหรอื มคี วามเครยี ด และสงิ่ สาคญั คอื ควรให้ ความสาคญั ในการเกบ็ ความลบั เร่อื งท่คี นทางานมาขอรบั การปรกึ ษา

๑๐๖ แนวทางการจดั กจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ คนทางานดว้ ย โปรแกรมสรา้ งสุขวยั ทางานในสถานประกอบการ หรอื สามารถ Download ได้ท่ี www.sorporsor.com หรอื link; shorturl.asia/nktI9 - การเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทางใจ (Resilience) เสริมสร้างความเข้มแขง็ ทางใจ “อดึ ฮึด ส”ู้ คนเราทกุ คนย่อมมโี อกาสพบกบั เหตกุ ารณ์รนุ แรงทม่ี ากระทบทงั้ ร่างกาย จติ ใจ ทาให้เกดิ ความทุกขใ์ จ ไม่ สบายใจ ซึง่ เหตกุ ารณ์เหลา่ นนั้ อาจเกดิ ข้นึ ชวั่ คราว แต่ผลกระทบจติ ใจจะคงอยู่นานหรอื หายไปอยา่ งรวดเรว็ ข้นึ อยกู่ บั ความเข้มแขง็ ทางใจของแตล่ ะคน ความเข้มแข็งทางใจ คือ ความสามารถท่จี ะปรบั ตวั ปรับใจกบั เหตุการณ์วิกฤติของชวี ติ และฟื้นคนื กลบั สู่ ภาวะปกติภายหลังท่ีพบกับเหตุการณ์วิกฤตหิ รือสถานการณ์ท่ีทาให้เกดิ ความยากลาบากในชีวิตได้ ซึ่งเป็น ความสามารถของคนท่มี อี ยู่แล้วในตัวเอง และนามาใช้เม่อื ต้องเอาชนะปัญหา อุปสรรค หรอื ความยากลาบากท่ี เกิดข้นึ ดงั นัน้ การส่งเสริมให้บุคคลมคี วามเขม้ แข็งทางใจจะช่วยให้สามารถใช้วิกฤตเิ ป็นโอกาส ยกระดบั ความคดิ จติ ใจ มพี ลงั ใจในการดาเนนิ ชวี ติ ตอ่ ไปไดห้ ลงั จากผา่ นพ้นเหตุการณ์ท่ไี มด่ ใี นชวี ติ สนใจศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ผ่านหลกั สูตรออนไลน์ และ YouTube หลกั สูตรเสรมิ สรา้ งพลงั ใจ https://www.dmh-elibrary.org/items/show/185 - การจดั การความเครยี ด ความเครยี ดคอื อะไร? ความเครยี ดเป็นเร่อื งของร่างกายและจติ ใจ ท่เี กดิ การตน่ื กลวั เตรยี มรบั กบั เหตุการณใ์ ดเหตุการณห์ นึ่ง ทไ่ี ม่ เป็นไปตามตอ้ งการ ซึง่ เราคดิ วา่ ไม่น่าพอใจ เป็นเร่อื งหนักหาสาหสั เกนิ กาลงั ทรพั ยากรท่เี รามอี ยู่ หรอื เกนิ ความสามารถของเราท่จี ะแกไ้ ขได้ ทาใหร้ ู้สกึ เป็นทกุ ข์ หนกั ใจ กงั วลใจ หรอื ไม่สบายใจ พลอยทาให้เกดิ อาการ ผดิ ปกตทิ างรา่ งกายและพฤตกิ รรมตามไปดว้ ย

๑๐๗ ความเครยี ดเป็นเรอ่ื งปกตทิ ่เี กดิ ข้นึ ไดก้ บั ทกุ คน จะมากหรอื น้อยข้นึ อยกู่ บั สภาพปัญหา การคดิ และการ ประเมนิ สถานการณข์ องแต่ละคน ถา้ เราคดิ ว่าปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ ไมร่ า้ ยแรงกจ็ ะรสู้ กึ เครยี ดนอ้ ยหรอื แมเ้ ราจะรู้สกึ ว่า ปัญหานนั้ รา้ ยแรงแตเ่ ราพอจะรบั มอื ไหว เราก็จะไม่เครยี ดมาก แตถ่ ้าเรามองวา่ ปัญหานนั้ ใหญ่ แกไ้ ม่ไหว และไม่มี ใครชว่ ยเราได้ เรากจ็ ะเครยี ดมาก ความเครยี ดเกิดจากอะไร? ความเครยี ดของแตล่ ะบคุ คลอาจเกดิ ไดจ้ ากเหตแุ ละปัจจยั หลายอย่างเขา้ มากระทบกบั ความคดิ และ ความรูส้ กึ สาเหตุสาคญั ท่ที าใหบ้ คุ คลเกดิ ความเครยี ดมี 2 ประการ คอื 1. สภาพปัญหาทเี่ กดิ ขน้ึ ในชวี ติ เชน่ ปัญหาการเงนิ ปัญหาการงาน ปัญหาครอบครวั ปัญหาการเรยี น ปัญหาสขุ ภาพ ปัญหามลพษิ ปัญหาภยั ธรรมชาติ ปัญหาความขดั แย้งระหวา่ งบคุ คล ฯลฯ ปัญหาเหล่าน้จี ะเป็น ตวั กระต้นุ ใหค้ นเราเกดิ ความเครยี ดข้นึ ได้มาก 2. การคดิ และการประเมนิ สถานการณข์ องบคุ คล เราจะสงั เกตได้วา่ คนท่มี องโลกในแง่ดี มอี ารมณข์ นั ใจเยน็ จะมคี วามเครยี ดน้อยกว่าคนมองโลกในแง่ร้าย เอาจรงิ เอาจงั กบั ชวี ติ และใจร้อน นอกจากนีค้ นท่รี ู้สกึ วา่ ตนเองมคี น คอยใหค้ วามช่วยเหลอื เมอ่ื มปี ัญหา เช่น มพี อ่ แม่ ญาตพิ น่ี ้อง มคี ู่สมรส มเี พ่อื นสนทิ ทร่ี กั ใคร่ และไว้วางใจกนั ได้ ก็จะ มคี วามเครยี ดน้อยกวา่ คนท่อี ยู่โดดเดย่ี วตามลาพงั ดว้ ย ความเครยี ดมกั ไม่ไดเ้ กดิ จากสาเหตใุ ดเพยี งสาเหตุเดยี วแต่มกั จะเกดิ จากทงั้ สองสาเหตปุ ระกอบกนั คอื มี ปัญหาเป็นตวั กระต้นุ และมกี ารคดิ การประเมนิ สถานการณ์ เป็นตวั บ่งบอกว่าจะเครยี ดมากนอ้ ยแค่ไหน ความเครยี ดกม็ ีประโยชน์ ความเครยี ดในระดบั พอดี ๆ จะกระตนุ้ ให้เรามพี ลงั เกดิ ความพยายาม มคี วามอดทน มคี วามกระตอื รอื ร้น ชว่ ยผลกั ดนั และตอ่ สู้เพ่อื ขจดั ความเครยี ด และส่งเสรมิ ให้เกดิ ความเขม้ แขง็ สามารถเอาชนะปัญหาและอปุ สรรคได้ แตค่ วามเครยี ดท่มี มี าก อยู่นาน และรุนแรงเกนิ ไป จะทาให้เกดิ ปัญหาสุขภาพจติ หรอื เจ็บป่วยทางกายและทางจติ ได้ เชน่ โรคหวั ใจ ความดนั โลหติ มะเรง็ โรคกระเพาะ โรคซมึ เศรา้ เป็นต้น การสารวจความเครียด สญั ญาณเตอื น 3 ด้านท่บี ่งบอกวา่ กาลงั มคี วามเครยี ด 1. ดา้ นรา่ งกาย มกั เจบ็ ป่วยบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ไมม่ เี รย่ี วแรง ปวดศรี ษะ เบอ่ื อาหาร นอนไม่หลับหรอื งว่ งเหงาหาวนอนตลอดเวลา ปวดเม่อื ยกล้ามเน้ือ ท้องอดื อาหารไม่ย่อย ทอ้ งผูก ประจาเดอื นมาไม่ปกติ ใจสนั่ ถอน หายใจบ่อย ๆ เป็นตน้ 2. ดา้ นจติ ใจ ไดแ้ ก่ วติ กกงั วล คดิ มาก เครง่ เครยี ด หงดุ หงดิ เศร้าหมอง ฟ้งุ ซ่าน โกรธงา่ ย ใจน้อย เบ่อื หน่าย ซมึ เศร้า เหมอ่ ลอย ไมม่ สี มาธใิ นการทางาน หมดความสนุกสนาน เป็นต้น

๑๐๘ 3. ด้านพฤตกิ รรม ไดแ้ ก่ สบู บุหร/่ี ดม่ื สุรามากข้นึ อาจใช้ยากระตุ้นหรอื สารเสพตดิ ตา่ ง ๆ ใช้ยานอนหลบั จู้จ้ี ข้บี ่น ชวนทะเลาะ มีเร่อื งขดั แยง้ กบั ผู้อ่นื บ่อย ๆ ดงึ ผม กดั เล็บ กดั ฟัน ผดุ ลุกผุดนงั่ เงียบขรมึ เกบ็ ตวั เป็นต้น เมื่อร้ตู วั วา่ เครียดจากปัญหาใด ใหพ้ ยายามแก้ปัญหานนั้ ให้ไดโ้ ดยเรว็ ปัญหาตา่ ง ๆท่เี กดิ ข้นึ ในชวี ติ เป็นสาเหตุทก่ี ระตุ้นให้เกดิ ความเครยี ด เม่อื แก้ปัญหาไดค้ วามเครยี ดกจ็ ะหมด ไป การเรยี นรู้วธิ กี ารแก้ปัญหาท่ถี กู ตอ้ งเหมาะสมจงึ เป็นสง่ิ จาเป็น เพ่อื แกป้ ัญหาได้ดแี ละรวดเรว็ ยงิ่ ข้นึ วธิ กี ารแกป้ ัญหาท่เี หมาะสม มดี งั นี้ • ใช้เหตุผล และความคดิ พจิ ารณา คดิ หาสาเหตุของปัญหาด้วยใจเป็นกลาง ไม่เขา้ ขา้ งตัวเอง ไมโ่ ทษคนอ่นื • คดิ หาวธิ แี กป้ ัญหาหลายๆ วธิ ี ถ้าคดิ ไม่ออกอาจปรกึ ษาคนใกลช้ ดิ หรอื ผทู้ ่มี ปี ระสบการณ์มากกวา่ เผชญิ ปัญหาและไมผ่ ดั วนั ประกนั พรงุ่ รบี แกป้ ัญหาเสยี แต่เนน่ิ ๆ ไมป่ ล่อยใหค้ า้ งคาอย่เู ป็น เวลานาน จะชว่ ยป้องกนั ความเครยี ดสะสมจนกลายเป็นความเครยี ดเรอ้ื รงั • ลงมอื แก้ปัญหาตามวธิ ที คี่ ดิ ไว้ อาจต้องใช้ความกลา้ หาญ อดทน หรอื ตอ้ งใช้เวลาบ้าง อย่าได้ ท้อถอยไปกอ่ น • ประเมนิ ผลดวู า่ วธิ ที ใ่ี ชไ้ ดผ้ ลหรอื ไม่ ถ้าไมไ่ ดผ้ ลก็เปลย่ี นไปใช้วธิ อี น่ื ๆ ท่เี ตรยี มไว้ จนกวา่ จะได้ผล ผอ่ นคลายความเครยี ดดว้ ยวิธที คี่ นุ้ เคย เมอ่ื รูส้ กึ เครยี ด การทากจิ กรรมหรอื มงี านอดเิ รกทช่ี อบ ทาแลว้ เพลดิ เพลนิ จะช่วยผ่อนคลาย ความเครยี ดลงได้มาก ซ่งึ แต่ละคนจะมวี ธิ กี ารผ่อนคลายความเครยี ดท่แี ตกต่างกนั ตามความชอบและ ความคุน้ เคย วธิ กี ารคลายเครยี ดโดยทวั่ ไป เชน่ นอนหลบั พกั ผ่อน ออกกาลงั กาย ฟังเพลง รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรี ดู โทรทศั น์ ภาพยนตร์ เตน้ รา ปลกู ตน้ ไม้ ทาสวน ตกแต่งบา้ น อา่ นหนังสอื ไปซอ้ื ของ ไปท่องเท่ยี ว เปล่ยี นบรรยากาศ ฯลฯ สง่ิ ท่สี าคญั คอื เม่อื เกดิ ความเครยี ด อย่าได้ทาสง่ิ ท่ไี ม่เหมาะสม เช่น สูบบุหร่ี ดม่ื เหลา้ ใชส้ ารเสพตดิ เลน่ การ พนนั เท่ยี วกลางคนื ฯลฯ เพราะนอกจากจะทาให้เสียสุขภาพและเงนิ ทองแลว้ ยงั ทาให้เกดิ ปัญหาตา่ ง ๆ ตามมาอกี มาก เช่น เมาแลว้ ขับรถทาให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุ เสยี พนันแลว้ ทาให้เกดิ หน้ีสนิ เป็นต้น ใช้เทคนิคเฉพาะในการคลายเครยี ด เทคนิคเฉพาะเพ่อื ใช้ในการคลายเครยี ด ได้แก่ การผ่อนคลายกล้ามเนือ้ การฝึกการหายใจ การทาสมาธิ การจนิ ตนาการ การคลายเครยี ดจากใจส่กู าย การนวดคลายเครยี ด แต่ละวธิ มี รี ายละเอยี ดแตกตา่ งกนั ออกไป ไม่ จาเป็นตอ้ งฝึกทงั้ 6 วธิ ี เพยี งเลอื กวธิ ใี ดวธิ หี น่งึ ท่ชี อบ สะดวก ทาแล้วคลายเครยี ดได้ดเี ท่านนั้ กพ็ อเม่อื ฝึกการคลาย

๑๐๙ เครียดไปสกั ระยะหนง่ึ จะรู้สกึ ได้วา่ มกี ารเปล่ยี นแปลงไปในทางทด่ี ขี น้ึ เช่น ใจเยน็ ลง สบายใจขน้ึ สขุ ภาพดขี น้ึ ความจา ดขี ้นึ สมาธดิ ขี ้นึ การเรยี นหรอื การทางานดขี ้นึ ความสัมพนั ธก์ บั คนรอบขา้ งดขี ้นึ ฯลฯ เทคนิ คการคลายเครียดโดยการฝึ กการหายใจ ตามปกตคิ นทวั่ ไปจะหายใจต้นื ๆ โดยใช้กลา้ มเน้ือหน้าอกเป็นหลกั ทาใหไ้ ด้ออกซิเจนไปเลย้ี งร่างกายน้อย กว่าท่คี วร โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในเวลาเครยี ดคนเราจะหายใจถ่ีและต้นื ข้นึ มากกวา่ เดมิ ทาใหเ้ กดิ อาการถอนใจเป็นระยะ ๆ เพอ่ื ให้ไดอ้ อกซเิ จนมากขน้ึ การฝึกหายใจชา้ ๆ ลกึ ๆ โดยใช้กลา้ มเนือ้ กระบงั ลมบรเิ วณท้องจะช่วยให้ร่างกายได้ อากาศเขา้ สู่ปอดมากข้นึ เพมิ่ ปรมิ าณออกซเิ จนในเลอื ดและยงั ช่วยเพิม่ ความแขง็ แรงแกก่ ล้ามเนื้อหนา้ ทอ้ งและลาไส้ ด้วย การฝึกการหายใจอย่างถูกวธิ จี ะทาใหห้ ัวใจเต้นช้าลง สมองแจ่มใส เพราะได้ออกซิเจนมากข้นึ และการหายใจ ออกอย่างชา้ ๆ จะทาให้รูส้ กึ ว่าได้ปลดปล่อยความเครยี ดออกไปจากตวั จนหมดสน้ิ การสงั เกต: การหายใจทถ่ี ูกตอ้ งตามหลกั การ สามารถสงั เกตไดจ้ ากเวลาหายใจเขา้ ทอ้ งจะป่องและเวลา หายใจออกทอ้ งจะแฟบอาจให้พนักงานเอามอื วางทห่ี นา้ ทอ้ งตนเอง วิธกี ารฝึก 1. ใหน้ งั่ บนเกา้ อแ้ี ละหอ้ ยขาในทา่ ท่สี บายๆ แล้วหลบั ตา และเอามือประสานไวบ้ รเิ วณทอ้ งของตนเอง 2. คอ่ ยๆ หายใจเขา้ พร้อมๆ กบั นบั เลข 1 ถึง 4 ในใจเป็นจงั หวะชา้ ๆ 1...2...3...4...ใหม้ อื รสู้ กึ ไดว้ า่ หนา้ ท้อง พองออก 3. กลนั้ หายใจเอาไว้สกั ครู่ นับ 1 ถงึ 4 ในใจเป็นจงั หวะช้าๆ เชน่ เดยี วกบั เมอ่ื หายใจเขา้ 4. แล้วจงึ คอ่ ยๆ ผอ่ นลมหายใจออกให้นานกว่าชว่ งหายใจเขา้ โดยนับ 1 ถงึ 8 อย่างช้าๆ ในใจ 1...2...3...4...5...6...7...8... พยายามไล่ลมหายใจออกมาใหห้ มด ให้มอื รู้สกึ ได้วา่ หนา้ ทอ้ งแฟบลง 5. ทาซา้ อกี ประมาณ 4-5 ครงั้ (ตามขอ้ 2.- 4.) การใช้เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการฝึกการหายใจให้ไดผ้ ล คอื ควรหายใจเขา้ และหายใจออกตามวธิ กี ารตดิ ต่อกนั ประมาณ 4-5 ครงั้ ตอ่ การฝึกแตล่ ะครงั้ และควรฝึกการหายใจทกุ ครงั้ ท่รี ูส้ กึ เครยี ด รสู้ กึ โกรธ รสู้ กึ ไม่สบายใจ หรอื ฝึก ทุกครงั้ ท่นี กึ ได้ ทกุ ครงั้ ท่หี ายใจออก ให้รสู้ กึ ได้วา่ ผลกั ดนั ความเครยี ดออกมาดว้ ยจนหมด เหลอื ไว้แตค่ วามรู้สกึ โลง่ สบายเท่านนั้ ในแต่ละวนั ควรฝึกการหายใจทถ่ี ูกวธิ ใี หไ้ ด้ประมาณ 40 ครงั้ ต่อวนั แต่ไม่จาเป็นตอ้ งทาตดิ ต่อกนั ให้ครบ 40 ครงั้ ในคราวเดยี วกนั เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการผ่อนคลายกล้ามเน้ือ ความเครยี ดมผี ลทาให้กลา้ มเนอื้ ตามรา่ งกายหดตวั สงั เกตไดจ้ ากเวลาท่เี ครยี ดแล้วเราจะเผลอมอี าการหน้าน่ิวคว้ิ ขมวด กาหมดั กดั ฟัน ฯลฯ โดยไมร่ ู้ตวั บ้างร้ตู วั บ้าง การเกรง็ ตวั ของกล้ามเนือ้ ท่เี กดิ ขน้ึ ถา้ ปล่อยท้งิ ไวจ้ ะสง่ ผลทาให้เกดิ อาการเจบ็ ปวดตามรา่ งกายได้ เช่น ปวดตน้ คอ ปวดหลงั ปวดไหล่ เป็นต้น การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนอื้ จะชว่ ยให้อาการหด เกรง็ ของกลา้ มเน้อื ลดลง และขณะเดยี วกนั ในขณะฝึกผ่อนคลายกล้ามเน้ือ จติ ใจของเราจะจดจ่ออยกู่ บั การคลายกล้ามเนอ้ื สว่ นตา่ ง ๆ จงึ ทาใหส้ ามารถช่วยลดความคดิ ฟ้งุ ซา่ นและลดความวติ กกงั วลลงได้ รวมทงั้ ทาให้มสี มาธมิ ากขน้ึ กว่าเดมิ ดว้ ย

๑๑๐ วิธกี ารฝึ ก 1. ให้พนักงานเตรียมตวั เพอ่ื พร้อมทจ่ี ะทาการฝึก โดยใหน้ งั่ ในทา่ ท่สี บายไม่ไขว้หา้ งและวางเทา้ ให้ราบไปกบั พน้ื ไมก่ ระดกปลายเทา้ คลายเคร่อื งแตง่ ตวั และเสอ้ื ผา้ ให้หลวมสบาย เชน่ ดงึ ชายเส้อื ออกมาจากกางเกง ถอดรองเทา้ หลงั จากนนั้ ให้หลับตา ทาใจให้ว่าง ตงั้ สมาธอิ ยูท่ ก่ี ล้ามเน้อื สว่ นตา่ ง ๆ ขอ้ ควรระวงั เวลากามอื ระวงั อย่าใหเ้ ลบ็ จกิ เนื้อ ตวั เองให้ได้รบั บาดเจ็บ 2. ผู้นากจิ กรรมช้แี จงกตกิ าการใช้เวลาเกรง็ และผอ่ นคลายกลา้ มเนอื้ ว่าใหใ้ ชเ้ วลาเกรง็ กล้ามเนื้อน้อยกว่าเวลาท่ี ใชผ้ ่อนคลาย เชน่ เกรง็ 3-5 วนิ าที ผ่อนคลาย 10-15 วนิ าที เป็นต้น หลงั จากนนั้ ให้พนักงานเรมิ่ ฝึกเกรง็ และคลาย กลา้ มเนอ้ื 10 กลมุ่ ตามลาดบั ดงั นี้ - พุ่งความสนใจไปท่มี ือและแขนขวา หลงั จากนนั้ ค่อยๆกามอื และเกรง็ แขนขวาจนเตม็ ท่ี แล้วจงึ คอ่ ยๆคลาย โดยให้สงั เกตความร้สู กึ ตนเองและเปรยี บเทียบถึงความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ข้นึ และความสบายเม่ือผอ่ นคลาย - พ่งุ ความสนใจไปท่มี ือและแขนซ้าย หลงั จากนนั้ ค่อยๆกามอื และเกรง็ แขนซา้ ยจนเตม็ ท่ี แล้วจงึ คอ่ ยๆคลาย โดยใหส้ งั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่หี น้าผาก หลงั จากนนั้ ค่อยๆเลกิ คว้ิ ให้สูงขน้ึ ๆแล้วคลาย โดยให้สงั เกตความร้สู กึ ตนเองและ เปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความสบายเมอ่ื ผ่อนคลาย ตอ่ จากนนั้ ให้ขมวดคิ้วให้มากท่สี ดุ เท่าท่จี ะทาได้ แล้วผ่อนคลาย โดยใหส้ งั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ข้นึ และความสบายเมอ่ื ผ่อนคลาย - พุ่งความสนใจไปท่ตี า แก้ม จมกู หลงั จากนนั้ หลบั ตาให้แน่นและย่นจมูกให้มากท่สี ดุ ทจ่ี ะทาได้ แล้วจงึ คลาย โดยให้สงั เกตความรู้สกึ ตนเองและเปรยี บเทียบถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความสบายเม่อื ผอ่ นคลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่ขี ากรรไกร ลิ้น ริมฝี ปาก หลงั จากนัน้ ให้กดั ฟันและใช้ล้นิ ดนั เพดานปากให้มากท่สี ุดแล้ว คลาย ต่อจากนนั้ ให้เม้มปากให้แน่นทส่ี ดุ ท่จี ะทาได้ แล้วคลาย โดยให้สงั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถึงความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ข้นึ และความสบายเมอ่ื ผอ่ นคลาย - พุ่งความสนใจไปท่คี อ หลงั จากนนั้ ก้มหน้าให้คางจดคอให้มากทส่ี ดุ แล้วคลาย ตอ่ จากนนั้ เงยหน้าให้มากทส่ี ุด แล้วคลาย โดยให้สงั เกตความรสู้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถงึ ความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความสบายเมอ่ื ผอ่ นคลาย - พุง่ ความสนใจไปท่อี ก ไหล่ และหลงั หลงั จากนนั้ หายใจเขา้ ลกึ ๆและกลนั้ ไว้ แล้วค่อยๆหายใจออก ต่อมาให้ยก ไหลใ่ ห้สงู ขน้ึ ๆเท่าท่ที าได้ แล้วคลาย โดยให้สงั เกตความร้สู กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถึงความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความ สบายเมอ่ื ผอ่ นคลาย โดยใหส้ งั เกตความรูส้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถึงความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ข้นึ และความสบายเม่อื ผ่อน คลาย - พงุ่ ความสนใจไปท่หี น้าท้อง และก้น หลงั จากนนั้ ค่อยๆแขม่วท้องให้มากข้นึ ๆแล้วคลาย ต่อจากนนั้ ขมบิ กน้ ให้ มากทส่ี ดุ แล้วคลาย - พุ่งความสนใจไปท่เี ทา้ และขาขวา หลงั จากนนั้ คอ่ ยๆเหยยี ดขาขวาออกและงอน้ิวเท้าลงมาใหม้ ากท่สี ดุ ทจ่ี ะทา ได้ แลว้ คลาย ต่อมาเหยยี ดขาขวาออกอกี ครงั้ และกระดกปลายเท้าข้นึ ให้มากท่สี ุดทจ่ี ะทาได้ แล้วคลาย โดยใหส้ งั เกต ความรู้สกึ ตนเองและเปรียบเทยี บถึงความตงึ เครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ และความสบายเม่อื ผ่อนคลาย

๑๑๑ - พ่งุ ความสนใจไปท่เี ท้าและขาซ้าย หลงั จากนนั้ ค่อยๆเหยยี ดขาซ้ายออกและงอนิ้วเท้าลงมาใหม้ ากท่สี ุดทจ่ี ะทา ได้ แล้วคลาย ต่อมาเหยยี ดขาซา้ ยออกอกี ครงั้ และกระดกปลายเทา้ ขน้ึ ใหม้ ากท่สี ดุ ทจ่ี ะทาได้ แล้วคลาย โดยให้สงั เกต ความรูส้ กึ ตนเองและเปรยี บเทยี บถึงความตงึ เครยี ดท่เี กดิ ขน้ึ และความสบายเม่อื ผอ่ นคลาย การใช้เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการผ่อนคลายกล้ามเน้อื ใหไ้ ดผ้ ล ควรฝึกผอ่ นคลายกล้ามเนอ้ื เป็นประจา อาจฝึก ประมาณ 8-12 ครงั้ เพอ่ื ให้เกดิ ความชานาญ เมอ่ื คุ้นเคยกบั การผอ่ นคลายแล้ว ให้ฝึกคลายกลา้ มเนอ้ื ได้เลย โดยไม่ จาเป็นตอ้ งเกรง็ ก่อน อาจเลอื กคลายกล้ามเน้อื เฉพาะสว่ นทเ่ี ป็นปัญหาเท่านนั้ กไ็ ด้ เช่น บริเวณใบหนา้ ตน้ คอ หลงั ไหล่ เป็นตน้ ไมจ่ าเป็นต้องคลายกล้ามเนอ้ื ทงั้ ตวั จะชว่ ยใหใ้ ช้เวลานอ้ ยลง และสะดวกมากขน้ึ เม่อื ร้สู กึ กลา้ มเน้ือตงึ เครยี ดท่ี ไม่ใชจ่ ากการทางานในท่าเดยี วนาน ๆ ให้ลองสารวจตวั เองว่ามคี วามเครยี ดเกดิ ข้นึ หรอื ไม่ ให้รบี ผอ่ นคลายกล้ามเนื้อ รว่ มกบั การแก้ไขท่สี าเหตุท่ที าให้เกดิ ความเครยี ด เทคนิ คการคลายเครียดโดยการทาสมาธิ การทาสมาธถิ ือเป็นการผ่อนคลายความเครยี ดท่ลี กึ ซงึ้ ทส่ี ดุ เพราะจติ ใจจะสงบและปลอดจากความคดิ ทซ่ี ้าซาก ฟ้งุ ซ่าน วติ กกงั วล เศร้า โกรธ ฯลฯ หลกั การของการทาสมาธิ คอื การเอาใจไปจดจ่อกบั สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ เพยี งอย่างเดยี ว ซง่ึ ใน ท่นี จ้ี ะใช้การนบั ลมหายใจเป็นหลกั และยุตกิ ารคดิ เร่อื งอ่นื ๆ อย่างส้นิ เชงิ หากฝึกสมาธเิ ป็นประจา จะทาให้จติ ใจเบกิ บาน อารมณ์เยน็ สมองแจม่ ใส หายเครยี ดจนตวั เองและคนใกล้ชดิ รู้สกึ ถงึ ความเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี นี ี้ไดอ้ ย่างชดั เจน วิธีการฝึ ก ขนั้ ท่ี 1 ให้นงั่ ในท่าทส่ี บาย จะเป็นการนงั่ ขดั สมาธิ นงั่ พบั เพยี บ หรอื นอนก็ได้ หลงั จากนนั้ ให้หลบั ตา หายใจเขา้ หายใจออกช้า ๆ เรม่ิ นับลมหายใจเขา้ ออก ดงั น้ี -หายใจเขา้ นบั 1 หายใจออกนบั 1 -หายใจเขา้ นบั 2 หายใจออกนับ 2 -นับไปเร่อื ย ๆ จนถงึ 5 -แล้วเรมิ่ นบั 1 ใหม่ นบั จนถึง 6 -แล้วเรมิ่ 1 ใหม่ นบั จนถึง 7 -แล้วเรม่ิ 1 ใหม่ นบั จนถงึ 8 -แล้วเรมิ่ 1 ใหม่ นบั จนถึง 9 -แล้วเรม่ิ 1 ใหม่ นับจนถงึ 10 ครบ 10 ถือเป็น 1 รอบ แล้วเร่ิม 1-5 ใหม่ ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 9,9

๑๑๒ 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 6,6 7,7 8,8 9,9 10,10 1,1 2,2 3,3 4,4 5,5 ฯลฯ หลงั จากฝึกขนั้ ท่ี 1 เสรจ็ แลว้ ในการฝึกครงั้ แรกๆ อาจยงั ไม่มสี มาธพิ อ ทาใหน้ ับเลขผดิ พลาดหรอื บางทอี าจมี ความคดิ อ่นื แทรกเขา้ มาทาใหล้ มื นับเป็นบางช่วงถอื เป็นเร่อื งปกติ ตอ่ ไปพยายามตงั้ สตใิ หม่ เมอ่ื มคี วามคดิ อน่ื แทรกเขา้ มา กใ็ หร้ บั รู้ แล้วปล่อยให้ผา่ นไป ไม่เก็บมาคดิ ตอ่ ในท่สี ดุ ก็จะสามารถนบั เลขไดอ้ ย่างต่อเน่อื งและไมผ่ ดิ พลาดเพราะมสี มาธดิ ี ข้นึ หากเหน็ ว่าสามารถฝึกปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ท่ี 1 จนจติ ใจสงบมากขน้ึ แล้ว ในการฝึกครงั้ ต่อ ๆ ไปให้เปล่ยี นเป็นฝึกขนั้ ท่ี 2 โดยให้เรมิ่ นบั เลขแบบเร็วข้นึ ไปอกี คอื หายใจเขา้ นับ 1 หายใจออกนบั 2 หายใจเขา้ นับ 3 หายใจออกนับ 4 หายใจเขา้ นับ 5 หายใจออกนับ 1 ใหม่ จนถึง 6, 7, 8, 9, 10 ตามลาดบั ดงั น้ี 12345 123456 1234567 12345678 123456789 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5ฯลฯ เม่อื สามารถฝึกปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ท่ี 2 ได้ดจี นนบั ลมหายใจไดเ้ รว็ และไม่ผดิ พลาด แสดงวา่ จติ ใจสงบมากแล้วในการ ฝึกครงั้ ต่อ ๆ ไป ให้เปล่ยี นเป็นฝึกขนั้ ท่ี 3 โดยให้ใชส้ ตริ บั ร้ลู มหายใจเขา้ ออกเพียงอยา่ งเดยี ว ไม่ตอ้ งนับเลขอกี และไม่คดิ เรอ่ื งใด ๆ ทงั้ ส้นิ มแี ต่ความสงบเท่านนั้ การใช้เทคนิคการคลายเครยี ดโดยการทาสมาธใิ หไ้ ด้ผล ควรฝึกสมาธิเป็นประจาทุกวนั โดยเฉพาะกอ่ นนอน จะช่วยให้ นอนหลบั ไดด้ ี และไมฝ่ ันร้ายอกี ดว้ ย 3. แบบประเมิน 3.1 แบบประเมินความสุขคนไทย 15 ข้อ (TMHI-15) ของกรมสุขภาพจิต - แบบประเมินความสุขคนไทย 15 ขอ้ (TMHI-15) ของกรมสขุ ภาพจิต การประเมินผล คอื เกบ็ ขอ้ มูลผลคะแนนความสุขจากการใชแ้ บบประเมนิ ความสขุ คนไทย 15 ขอ้ ของ กรมสุขภาพจติ นาผลคะแนนความสุขท่ไี ด้มาสรุปและวิเคราะห์ผล โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มคี ะแนน

๑๑๓ ความสุขต่ากว่าคนทวั่ ไป ผู้มีคะแนนความสุขเท่ากบั คนทวั่ ไป และผู้มคี ะแนนความสุขสงู กว่าคนทวั่ ไป ดาเนินการ ประเมนิ ความสุขอย่างนอ้ ยปีละ 1 ครงั้ และสามารถเปรยี บเทยี บผลคะแนนการประเมนิ ความสุขรายปีได้ นอกจากน้ี ยงั สามารถจดั กจิ กรรมเพ่อื ส่งเสรมิ ความสุขให้แก่พนักงานในสถานประกอบการ โดยการจดั กจิ กรรมตามโปรแกรม สร้างสุขวยั ทางานในสถานประกอบการ และนาผลท่ไี ด้จากการจดั กิจกรรมมาวเิ คราะหแ์ ละวางแผนพฒั นาการจดั กจิ กรรมในปีต่อไปให้มปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ และตรงกบั ความตอ้ งการของพนกั งานมากขน้ึ สถานประกอบการสามารถ เลอื กประเมนิ ได้จาก 2 รูปแบบ คอื 1) การประเมินผลหลังเสรจ็ สิ้นการจดั กิจกรรมทุกครงั้ ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ี สถานประกอบการพจิ ารณาตามความเหมาะสม ตวั อย่าง เชน่ จากการสงั เกตการมสี ่วนร่วมในการทากจิ กรรม ขอ้ มูล จากการสัมภาษณ์ จากการประเมินความพึงพอใจ เป็นต้น 2) การประเมินภาพรวมทุกกิจกรรม ซ่ึงสถาน ประกอบการสามารถประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมทงั้ หมดทุกส้นิ ปี เพ่ือนาผลมาวเิ คราะห์และวางแผนพฒั นาการจดั กจิ กรรมในปีต่อไปใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ 3.2 แบบประเมินความเครียด (ST-5) แบบประเมินความเครยี ด (ST-5) ความเครยี ดเกดิ ข้นึ ไดก้ บั ทุกคน สาเหตุท่ที าใหเ้ กดิ ความเครยี ดมหี ลายอย่าง เช่น รายไดท้ ไ่ี มเ่ พยี งพอ หนส้ี นิ ภยั พบิ ตั ติ ่าง ๆ ท่ที าให้เกดิ ความสูญเสยี ความเจ็บป่วย เป็นต้น ความเครยี ดมที งั้ ประโยชน์และโทษ หากมากเกนิ ไป จะเกดิ ผลเสยี ต่อรา่ งกายและจติ ใจของท่านได้ขอใหท้ า่ นลองประเมนิ ตนเองโดยใหค้ ะแนน 0- 3 ท่ตี รงกบั ความรู้สกึ ของท่าน คะแนน 0 หมายถึง เป็นนอ้ ยมากหรอื แทบไม่มี คะแนน 1 หมายถึง เป็นบางครงั้ คะแนน 2 หมายถงึ เป็นบ่อยครงั้ คะแนน 3 หมายถงึ เป็นประจา ข้อที่ อาการหรอื ความรู้สกึ ที่เกิดในระยะ แทบไม่มี เป็ น บ่อยครงั้ เป็นประจา 2 – 4 สปั ดาห์ บางครงั้ 1 มปี ัญหาการนอน นอนไม่หลบั หรอื นอนมาก 0 1 2 3 2 มสี มาธนิ อ้ ยลง 0123 0123 3 หงดุ หงดิ / กระวนกระวาย / ว้าวุน้ ใจ 0123 4 รสู้ กึ เบ่อื เซง็ 0123 5 ไม่อยากพบปะผ้คู น คะแนนรวม การแปลผล 0–4 คะแนน หมายถงึ ไม่มคี วามเครยี ดในระดบั ทก่ี ่อใหเ้ กดิ ปัญหากบั ตวั เอง ยงั สามารถจดั การกบั ความเครยี ด ท่เี กิดข้นึ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ และปรบั ตวั กบั สถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม

๑๑๔ 5-7 คะแนน หมายถึง สงสยั ว่ามปี ัญหาความเครยี ด ควรผ่อนคลายความเครยี ดดว้ ยการพูดคยุ หรอื ปรกึ ษาหารอื กบั คนใกล้ชดิ เพ่อื ระบายความเครยี ดหรอื คลค่ี ลายทม่ี าของปัญหาและอาจใชก้ ารหายใจเขา้ -ออก ลกึ ๆ ชา้ ๆ หลาย ๆ ครงั้ หรอื ใชห้ ลกั ศาสนาเพ่อื คลายความกงั วล 8 คะแนนขึ้นไป หมายถึง มีความเครยี ดสูงในระดบั ท่อี าจจะสง่ ผลเสยี ต่อรา่ งกาย เช่น ปวดหวั ปวดหลงั นอนไม่ หลบั ฯลฯ ควรขอรบั คาปรกึ ษาจากบุคลากรสาธารณสุขเพ่อื ดแู ลจติ ใจหรอื เพ่อื ค้นหาสาเหตทุ ่ที าให้เกดิ ความเครยี ด และหาแนวทางแก้ไข โดยสามารถโทรปรึกษากรมสุขภาพจิต ทห่ี มายเลขโทรศพั ท์ 1323 บริการปรกึ ษาฟรี ตลอด 24 ชวั ่ โมง และควรคัดกรองโรคซมึ เศร้าด้วยแบบคัดกรองโรคซมึ เศรา้ 2 คาถาม (2Q) 3.3 แบบประเมินความเขม้ แขง็ ทางใจ (RQ ฉบบั 20 ข้อ) - แบบประเมินความเข้มแขง็ ทางใจ RQ ความเขม้ แขง็ ทางใจ เป็นความสามารถของบุคคลในการปรบั ตวั และฟื้นตวั ภายหลงั ท่พี บกบั เหตกุ ารณ์ วกิ ฤตหรอื สถานการณท์ ่กี อ่ ใหเ้ กดิ ความยากลาบาก เป็นคุณสมบตั ิหนึ่งท่ชี ่วยใหค้ นผ่านพ้นอปุ สรรคและดาเนนิ ชวี ติ ตอ่ ไปได้ แบบประเมนิ ความเข้มแขง็ ทางใจ หรอื แบบประเมนิ พลงั สขุ ภาพจติ เป็นแบบประเมนิ ความสามารถของ บุคคล 3 ดา้ น คอื ด้านความทนทานทางอารมณ์ (อดึ ) ดา้ นกาลงั ใจ (ฮดึ ) และดา้ นการจดั การกบั ปัญหา (ต่อสเู้ อาชนะ อปุ สรรค) เป็นแบบประเมนิ สาหรบั ผู้ใหญ่ อายุ 25-60 ปี หากการประเมนิ แลว้ พบวา่ มคี ะแนนในองคป์ ระกอบด้านใด ดา้ นหนง่ึ ตา่ กว่าเกณฑส์ ามารถส่งเสรมิ และพฒั นาในด้านนนั้ ๆ ได้ (ตามคาแนะนาในแบบประเมนิ ) 3.4 แบบคดั กรองโรคซมึ เศร้า 2 คาถาม (2Q) แบบคดั กรองโรคซมึ เศรา้ 2 คาถาม (2Q) แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 2 คาถาม (2Q) เป็นแบบคดั กรองคน้ หาผู้ทมี่ แี นวโนม้ หรอื เสยี่ งต่อการป่วยดว้ ย โรคซมึ เศร้า ใชส้ มั ภาษณ์เพอ่ื ประเมนิ ภาวะซึมเศร้าใน 2 สปั ดาห์ โดยคาตอบมี 2 แบบคอื มแี ละไมม่ ี ถา้ คาตอบมใี น ขอ้ ใดขอ้ หน่งึ หรอื ทงั้ 2 ขอ้ หมายถึง เป็นผมู้ คี วามเสย่ี งหรอื มแี นวโน้มทป่ี ่วยเป็นโรคซึมเศร้า จงึ จาเป็นต้องประเมนิ อกี ครงั้ ดว้ ยแบบประเมนิ ท่มี คี วามจาเพาะสูง รายละเอยี ดของแบบคดั กรองโรคซึมเศร้า 2 คาถาม (2Q) มดี งั น้ี มี ไมม่ ี คาถาม 1 ใน 2 สปั ดาหท์ ี่ผ่านมา รวมวนั นี้ ทา่ นรูส้ กึ หดหู่ เศร้า หรอื ทอ้ แท้สน้ิ 2 ใหนวงั 2 สปั ดาหท์ ่ีผ่านมา รวมวนั น้ี ท่านรสู้ ึกเบ่อื ทาาอะไรกไ็ ม่ เพลดิ เพลนิ การแปลผล

๑๑๕ ถ้าคาตอบ “ไมม่ ”ี ทงั้ สองข้อ ถือว่า ปกติ ไมเ่ ป็นโรคซมึ เศรา้ ถา้ คาตอบ “มี” ขอ้ ใดข้อหน่ึงหรอื ทงั้ สองข้อ (มอี าการใด ๆ ในคาถามท่ี 1 และ 2) หมายถงึ เป็นผู้มีความเส่ยี งหรือ มแี นวโน้มทจ่ี ะเป็นโรคซึมเศร้า คาแนะนา หากพบบุคคลท่มี โี อกาสหรอื มแี นวโน้มป่วยเป็นโรคซึมเศรา้ จากการคดั กรองดว้ ยแบบคดั กรองโรคซมึ เศร้า 2 คาถาม (2Q) 1. ควรมกี ารพูดคยุ และให้การปรกึ ษาเบ้อื งต้นโดยบุคคลใกลช้ ดิ หวั หนา้ งาน เพอ่ื นร่วมงาน พยาบาลประจา สถานประกอบการ หรอื บคุ คลทพ่ี บความเส่ยี งหรอื มแี นวโนม้ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าให้ความเคารพนบั ถอื เป็นต้น 2. ประเมนิ วา่ มปี ัญหาด้านสงั คมจติ ใจหรอื ไม่ เช่น มปี ัญหาหนี้สนิ ปัญหาด้านการปรบั ตวั ปัญหากบั เพอ่ื น ร่วมงาน ปัญหาครอบครวั ปัญหาการดม่ื สุรา ฯลฯ ถ้ามคี วรให้การปรกึ ษาเพ่อื แกไ้ ขปัญหาดงั กล่าวและแนะนาทกั ษะ ในการแก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง 3. แนะนาให้ออกกาลงั กาย 30 - 45 นาที อย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 3 ครงั้ ยกเว้นในผู้ท่มี ขี อ้ จากดั ห้ามออกกาลงั กาย 4. หากพจิ ารณาแล้วเหน็ วา่ บุคคลทพ่ี บความเสย่ี งหรอื ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าประสบปัญหาทเ่ี กนิ กาลงั ความสามารถในการให้การช่วยเหลอื ควรสง่ ตอ่ เพ่อื ขอความชว่ ยเหลือจากผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะทางดา้ นสุขภาพจติ หรอื จากสถานพยาบาลเครอื ข่ายประกนั สงั คม และแนะนาให้ประเมนิ โรคซมึ เศรา้ ดว้ ยแบบประเมนิ โรคซมึ เศรา้ 9 คาถาม (9Q) เพ่อื ให้การดแู ลช่วยเหลอื ต่อไป ทงั้ นี้ สามารถขอรบั การปรกึ ษาปัญหาความเครยี ด วติ กกงั วล โรคซมึ เศรา้ และปัญหาสุขภาพจิตอน่ื ๆ ได้ท่ี สายดว่ นสุขภาพจติ 1323 โทร.ฟรตี ลอด 24 ชวั่ โมง ทวั่ ประเทศ 4. ช่องทางการดแู ลช่วยเหลอื และแหลง่ บริการ แหลง่ ปรึกษาปัญหาสขุ ภาพใจ คณุ สามารถโทรปรกึ ษาสายดว่ นสขุ ภาพจติ 1323 ไดต้ ลอด 24 ชวั่ โมง

๑๑๖ หรอื ปรกึ ษาออนไลนผ์ ่านเฟซบคุ๊ แฟนเพจสายด่วนสุขภาพจติ 1323 http://www.facebook.com/helpline1323 แหลง่ ขอ้ มูลความรูส้ ขุ ภาพจิต 1. กรมสขุ ภาพจติ www.dmh.go.th 2. กองสง่ เสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพจติ www.sorporsor.com 2. สุขภาพใจ.com www.thaimentalhealth.com 3. คลงั สขุ ภาพจติ http://mhllibrary.com 4. คลงั ความรสู้ ุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ https://www.dmh-elibrary.org ช่องทางสาหรบั ประเมินสขุ ภาพจิตเบ้อื งต้น 1. Checkin.dmh.go.th (ตรวจเชค็ สุขภาพใจ) เคร่อื งมอื ประเมินสุขภาพจติ เบ้อื งต้น และคดั กรองความเส่ยี งต่อปัญหาสุขภาพจิตจากสถานการณ์ COVID-19 เพอ่ื ใหป้ ระชาชนสามารถประเมนิ ตนเองและเขา้ ถึงบรกิ ารได้อย่างรวดเรว็ ประกอบดว้ ย 4 รายการคอื เครยี ด,ภาวะ หมดไฟ,เส่ยี งฆ่าตัวตาย,ซึมเศร้า โดยทราบผลการประเมนิ ทนั ที มคี าแนะนาในการปฏบิ ตั ติ วั พรอ้ มมชี อ่ งทางการ ขอรบั การปรกึ ษาจากผู้เชย่ี วชาญทางออนไลน์

๑๑๗ 2. Application: Mental Health Check Up เคร่อื งมือประเมินสุขภาพจติ เบ้อื งตน้ และคัดกรองความเส่ยี งต่อปัญหาจิตเวช พฒั นาข้นึ เพ่อื ให้ประชาชน และผู้มคี วามเส่ียงต่อปัญหาสุขภาพจติ สามารถเขา้ ถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 6 รายการ ได้แก่ ความเครยี ด ภาวะซึมเศร้า ภาวะสมองเส่อื ม ความสุข พลงั สุขภาพจติ และความฉลาดทางอารมณ์ กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. บรรยาย 2. ดูคลปิ วดี โี อ ระยะเวลาการเรียนรู้ จานวน 3 ชวั่ โมง การเรยี นรผู้ า่ นระบบออนไลน์ ส่อื การเรยี นรู้ Power point การวดั ประเมินผลการเรยี นรู้

๑๑๘ แบบทดสอบจานวน 10 -15 ขอ้ สว่ นที่ ๖ โควิด ๑๙ ในสถานประกอบการ ๑. โควิด–๑๙ ในสถานประกอบการของประเทศไทย โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 มีการระบาดในวงกว้างในสาธารณรฐั ประชาชนจนี ตงั้ แต่เดอื นธนั วาคม 2562 เป็นต้นมา โดยเรม่ิ จากเมอื งอูฮ่ นั่ มณฑลหเู ป่ย์ จนถงึ ปัจจบุ นั ทาใหพ้ บผู้ป่วยยนื ยนั มากกว่า 70,000 ราย และ เสยี ชวี ิตมากกว่า 2,000 ราย การระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 เร่มิ ต้นท่ปี ระเทศจนี ตงั้ แต่วันท่ี 30 ธันวาคม 2562 ต่อมาได้พบผู้ป่วยยืนยัน ในหลายประเทศทวั่ โลก จานวนผู้ป่วยยนื ยนั เพ่มิ ข้นึ อย่างรวดเร็ว เช่น ฮอ่ งกง มาเก๊า ไตห้ วนั เกาหลใี ต้ สงิ คโปร์ และญี่ป่นุ พบอตั ราการเสยี ชวี ติ จากโรคประมาณร้อยละ 2 ซ่ึงรอ้ ยละ 26.4 ของผู้ทเ่ี สยี ชวี ติ จะเป็นผู้สูงอายุ และผ้ทู ม่ี โี รคประจาตวั มโี อกาสเส่ยี งทจ่ี ะเสยี ชวี ติ เพมิ่ ขน้ึ โดยผทู้ เ่ี ป็นโรคหวั ใจมอี ตั รา

๑๑๙ การเสยี ชวี ติ มากท่สี ดุ รอ้ ยละ 10.5 รองลงมาคอื โรคเบาหวาน (รอ้ ยละ 7.3) และ โรคระบบทางเดนิ หายใจเรอ้ื รงั (ร้อย ละ 6.3) อาการของโรค การตดิ เช้อื ไวรสั COVID-19 สามารถทาให้เกดิ การเจบ็ ป่วยได้ตงั้ แต่ระดบั เลก็ น้อยถงึ ระดับ รนุ แรง และในบางกรณีอาจถงึ แกช่ วี ติ ได้ โดยทวั่ ไปจะมไี ข้ ไอ และหายใจถี่ บางคนท่ตี ดิ เช้อื ไวรสั มรี ายงานว่าอาจจะ มอี าการอ่นื ๆ ท่ไี ม่ใช่ระบบทางเดินหายใจ หรือบางรายไม่มอี าการแสดงเลย ตามรายงานของ Center of Disease Control (CDC) ประเทศสหรฐั อเมรกิ าให้ขอ้ มูลวา่ อาการของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 อาจปรากฏข้นึ ช่วง 2 วนั หรอื นานถึง 14 วนั หลงั จากไดร้ บั เช้อื การแพร่กระจายของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ๑. จากการหายใจ ผ่านละอองฝอย (droplets) เม่อื ผู้ติดเช้อื ไอหรอื จาม ละอองเหล่าน้ีเข้าสู่ปากหรอื จมูก ของคนทอ่ี ยู่ใกลเ้ คยี งหรอื ผ่านเขา้ ไปในปอด ๒. จากการสมั ผสั พ้นื ผิวหรอื วตั ถทุ ่มี เี ช้อื COVID-19 แล้วมาสมั ผัสปาก จมูกหรือตา แต่การสัมผสั ก็ไมใ่ ช่ ชอ่ งทางหลกั ในการแพรก่ ระจายของไวรสั (https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php) ผลกระทบทอี่ าจเกิดกบั สถานประกอบการ

๑๒๐ ผลกระทบที่เกิดขนึ้ กบั สถานประกอบการ การขาดงาน/อัตรากาลัง ผลผลิต/รปู แบบการผลิต การขนส่ง/ความตอ้ งการสนิ ค้า จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ ๑๙ ยอ่ มส่งผลต่อสถานประกอบการในดา้ นต่างๆ ดงั น้ี (กอง โรคจากการประกอบอาชพี และสงิ่ แวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๔) 1. การขาดงาน ขาดแคลนอตั รากาลงั การเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด ๑๙ สง่ ผลใหพ้ นักกงาน/คนงานขาดงานเพราะความเจ็บป่วย หรอื ตอ้ ง ขาดงานเน่อื งจากตอ้ งกกั ตวั จากการเป็นกลมุ่ เสย่ี ง หรอื ตอ้ งดูแลสมาชกิ ในครอบครวั ท่ปี ่วย ๒. ผลผลติ และรปู แบบการผลติ เปล่ยี นแปลงไป จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ ๑๙ ทาใหค้ วามต้องการของผู้บรโิ ภคมคี วามตอ้ งการ สนิ ค้าบางอย่างเพม่ิ ข้นึ เชน่ สนิ ค้าในหมวดการป้องกนั การตดิ เช้อื อาทิ อปุ กรณณ์การป้องกนั ระบบทางเดนิ หายใจมี แนวโน้มเพมิ่ ข้นึ อย่างมาก ในขณะท่คี วามสนใจต่อสินค้าในหมวดอน่ื ๆ อาจลดลง ผ้บู รโิ ภคจะมพี ฤตกิ รรมการเลอื ก ซื้อสนิ ค้าหรือรูปแบบการซื้อสนิ คา้ ท่เี ปล่ยี นแปลงไป โดยเฉพาะในช่วงท่มี ีการระบาดอย่างรุนแรง ผู้บริโภคจะซ้ือ สนิ ค้าในลักษณะเร่งด่วน หรอื ซ้ือสินค้าช่องทางออนไลน์เพิ่มข้นึ เพ่อื ลดการสมั ผสั กับคนหมู่มาก ลดการติดต่อ ระหว่างบคุ คล เป็นตน้ ๓. การขนสง่ ความตอ้ งการสนิ ค้าเปล่ยี นไป ในช่วงท่มี ีการระบาดของโรคโควดิ ๑๙ ทาให้เกิดมาตรการในด้านต่างๆ อาจส่งผลให้การจดั ส่ง สินค้าจากพน้ื ท่ตี ่างๆ ได้รับผลกระทบ เกิดการจดั สง่ ล่าช้า ทาให้สินค้าเสยี หาย มผี ลให้เกิดการถูกยกเลิก หรือเกดิ ความต้องการสนิ คา้ ลดลง

๑๒๑ ๒. มาตรการในการเฝ้าระวงั ป้องกนั และควบคมุ โรคโควิด ๑๙ สาหรบั พนกั งาน หรือแรงงานท่ีอย่ใู น โรงงาน และทพ่ี กั คนงาน จากคูม่ อื การปฏบิ ตั ติ ามมาตรการผอ่ นปรนกจิ การและกจิ กรรมเพอ่ื ป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 สาหรบั ประเภทกจิ การและกจิ กรรม กลุม่ ท่ี 2 (กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๓) ไดก้ าหนดมาตรการในการเฝ้าระวงั ป้องกนั และควบคมุ โรคโควดิ ๑๙ สาหรบั สถานประกอบการและทพ่ี กั ของพนักงานซ่ึงมรี ายละเอยี ดดงั น้ี มาตรการของสถานประกอบการหรอื โรงงาน ๑.๑ สถานท่ีทางาน • ให้มกี ารตรวจวดั อุณหภูมริ า่ งกายเจ้าหน้าท่ี พนกั งานทกุ คน และบคุ คลภายนอกท่ตี อ้ งเขา้ มา ใน สถานประกอบการ หรอื โรงงาน หากพบวา่ เกนิ กว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรอื มอี าการอย่างใดอย่าง หนงึ่ ได้แก่ ไอ จาม เจบ็ คอ ให้ส่งตวั ไปพบแพทย์ทนั ที และรายงานให้ผบู้ งั คบั บญั ชาทราบโดยเร็ว ในกรณีท่เี พง่ิ เดนิ ทางกลบั จากต่างประเทศภายใน 14 วนั ให้แจง้ ประวตั กิ ารเดนิ ทางให้แพทยท์ ราบ ด้วย • จดั ใหม้ จี ดุ วางแอลกอฮอลห์ รอื เจลล้างมอื ใหบ้ รกิ ารในบรเิ วณจดุ คดั กรองทางเขา้ -ออก ของสถาน ประกอบการ หรอื โรงงาน หรอื ทม่ี ม่ี แี รงงานพกั อาศยั รวมกนั จานวนมาก • ควรกาหนดการเวน้ ระยะห่างระหว างบุคคลอย่างน้อย 1 - 2 เมตรในระหวา่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี หรอื ทากจิ กรรมใดๆ • จดั ใหม้ กี ารส่อื สารความรูเ้ กย่ี วกบั การป้องกนั ตนเอง ไม่ใช้ของส่วนตวั ร่วมกบั ผู้อน่ื (เชน่ ผา้ เชด็ หนา้ แก้วน้า ผ้าเชด็ ตวั ) เน่อื งจากเช้อื กอ่ โรคทางระบบทางเดนิ หายใจสามารถเขา้ สรู่ ่างกาย ได้ทางการสมั ผสั สารคดั หลงั่ ของผตู้ ดิ เชอ้ื • จดั ใหม้ คี าแนะนาการเฝ้าระวงั ป้องกนั เช้อื ไวรสั โควดิ -19 โดยจดั ทาโปสเตอร์เป็นภาษาตา่ งประเทศ ทม่ี แี รงงานมาจาก ประเทศนนั้ ๆ ตดิ ในจดุ ทเ่ี หน็ ไดส้ ะดวกเพอ่ื ส่อื สารใหก้ บั แรงงาน เจา้ หน้าท่ี และ บุคคลภายนอกท่ตี ้องเขา้ มาประสาน และตดิ ตอ่ ในสถานประกอบการ และโรงงาน ได้รบั ทราบ • กากบั ดแู ลความสะอาดสถานท่ี ท่มี ผี ู มาใช บรกิ ารร วมกนั ด วยน้ายาทาความสะอาดอย างสม่าเสมอ และอาจใช น้ายาฆ าเช้อื ในจดุ ทม่ี กี ารสมั ผสั ร วมกนั เช น ลูกบดิ ประตู ราว จบั สวติ ไฟ เป็นตน้ รวมทงั้ ดูแลให มกี ารระบายอากาศทด่ี ี • รวบรวมขยะทวั่ ไปใส ถงุ ขยะ มดั ปากถงุ ให แน น และนาไปท้งิ ในจดุ รวบรวมขยะท่จี ดั เตรยี ม ไว เพอ่ื นาไปกาจดั อย าง ถกู ต อง • ๑.๒. พนักงาน/แรงงาน • พนกั งานทุกคนต้องสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา และหมนั่ ลา้ งมอื อยา่ งสม่าเสมอเม่อื ตอ้ งสมั ผสั ในจุดสมั ผสั ร่วม เช่น ลกู บดิ ประตู ราวจบั สวติ ไฟ เป็นต้น

๑๒๒ • ควรเว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคลอย่างนอ้ ย 1 - 2 เมตร ในระหว่างปฏบิ ตั หิ น้าท่หี รอื ทากจิ กรรมใดๆ • งดการสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกล่มุ ใดๆ รวมถึงงดการจดั กจิ กรรมท่มี กี ารรวมคนจานวนมากท่ี จะมคี วามเสย่ี งตอ่ การแพร่ระบาดของเชอ้ื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอกชุมชนโดยไม่ จาเป็น กรณีจาเป็นต้องเดนิ ทางออกนอกชมุ ชน ตอ้ งใหค้ วามร่วมมอื การตรวจคดั กรอง และปฏบิ ตั ิ ตามมาตรการท่ชี ุมชนกาหนด ๑.๓ เจา้ ของสถานประกอบการ หรือโรงงาน • กากบั พนักงานในการงดสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลมุ่ ใดๆ งดการจดั กจิ กรรมท่มี กี ารรวมคน จานวนมากท่จี ะมคี วามเสย่ี งตอ่ การแพรร่ ะบาดของเชอ้ื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอก ชมุ ชนโดยไมจ่ าเป็น กรณีจาเป็นตอ้ งเดนิ ทางออกนอกชุมชน ตอ้ งใหค้ วามร่วมมอื การตรวจคดั กรอง และปฏบิ ตั ติ ามมาตรการทช่ี ุมชนกาหนด • กรณที ม่ี ผี ู้ป่วยยนื ยนั หรอื มขี อ้ มูลบง่ ช้วี ่าสถานท่ที างานเป็นจุดแพร่เชอ้ื ตอ้ งดาเนนิ การตามคาสงั่ ของเจา้ พนักงานควบคมุ โรคตดิ ตอ่ เชน่ พจิ ารณาหยดุ กจิ กรรมหรอื ใหบ้ รกิ ารในแผนกทม่ี แี รงงาน ป่วยดว้ ยโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โควดิ -19เป็นเวลา 3 วนั และทาความสะอาดฆา่ เช้อื ทนั ทภี ายใน 24 ชวั่ โมง ภายใต้การกากบั ดแู ลของพนกั งานควบคมุ โรคตดิ ต่อ เป็นตน้ ๑. มาตรการของทพ่ี กั คนงาน ๒.๑ มาตรการของสถานท่ีพกั คนงาน • จดั ใหม้ กี ารตรวจวดั อณุ หภูมริ า่ งกายทุกคน กอ่ นเขา้ ในท่พี กั อาศยั หากพบว่าเกนิ กวา่ 37.5 องศา เซลเซียส หรอื มอี าการอย่างใดอยา่ งหนึ่ง ไดแ้ ก่ ไอ จาม เจบ็ คอ ใหส้ ง่ ตวั ไปพบแพทย์ทนั ที • จดั ให้มจี ุดวางแอลกอฮอลห์ รอื เจลล้างมอื ใหบ้ รกิ ารในบรเิ วณจุดคดั กรองทางเขา้ -ออก ของสถาน ท่ี พกั อาศยั หรอื ในสถานทส่ี าธารณะของชุมชน • ควรกาหนดการเว้นระยะหา่ งระหว่างบคุ คล อยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร ในระหว่างปฏบิ ตั ิหน้าทห่ี รอื ทา กจิ กรรมใดๆ • จดั ใหม้ กี ารส่อื สารความรู้เก่ยี วกบั การป้องกนั ตนเอง ไมใ่ ช้ของส่วนตวั ร่วมกบั ผู้อน่ื (เชน่ ผา้ เชด็ หนา้ แก้วน้า ผ้าเชด็ ตัว) เน่ืองจากเช้อื กอ่ โรคทางระบบทางเดนิ หายใจสามารถเขา้ สรู่ ่างกายไดท้ างการ สมั ผสั สารคดั หลงั่ ของผู้ตดิ เช้อื • จดั ใหม้ คี าแนะนาการเฝ้าระวงั ป้องกนั เชอ้ื ไวรสั โควดิ -19 โดยจดั ทาโปสเตอร์เป็นภาษาต่างประเทศ กรณีท่มี ผี ู้พกั อาศยั ชาวต่างชาติ โดยตดิ ในจดุ ท่เี หน็ ได้สะดวกเพอ่ื สอ่ื สารและสร้างความตระหนัก ให้กบั ผ้พู กั อาศยั • กากบั ดแู ลผพู้ กั อาศยั ให้มสี ่วนรว่ มในการทาความสะอาดสถานท่ี และอุปกรณ์ ทม่ี ผี ู้มาใช้บริการ ร่วมกนั ดว้ ยน้ายาทาความสะอาดอยา่ งสมา่ เสมอและอาจใช้น้ายาฆ่าเชอ้ื ในจดุ ทม่ี กี ารสมั ผสั ร่วมกัน เช่น ลูกบดิ ประตู ราวจบั สวติ ไฟเป็นต้น รวมทงั้ ดแู ลใหม้ กี ารระบายอากาศทด่ี ี

๑๒๓ • รวบรวมขยะทวั่ ไปใส่ถุงขยะ มดั ปากถุงให้แน่นและนาไปท้งิ ในจุดรวบรวมขยะท่จี ดั เตรยี มไว้ เพ่อื นาไปกาจดั อยา่ งถกู ตอ้ ง ๒.๒ มาตรการของสมาชิกผ้พู กั อาศยั ในสถานท่พี กั คนงาน • ผอู้ าศยั ในท่พี กั ทุกคนต้องสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาเม่อื อย่นู อกท่พี กั อาศยั และหมนั่ ล้างมือ อยา่ งสมา่ เสมอ • ควรเว้นระยะหา่ งระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในระหว่างอกไปทากจิ กรรมใดๆ นอกท่พี กั • งดการสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลุ่มใดๆ และงดการจดั กจิ กรรมทม่ี กี ารรวมคนจานวนมากท่จี ะ มคี วามเสย่ี ต่อการแพร่ระบาดของเช้อื โรค และงดหรอื ชะลอการเดนิ ทางออกนอกทพ่ี กั โดยไมจ่ าเป็น กรณีจาเป็นต้องเดนิ ทางออกนอกท่พี กั ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคดั กรอง และปฏิบัติตาม มาตรการท่สี ถานทพ่ี กั กาหนด ๒.๓ มาตรการสาหรบั เจา้ ของสถานทพ่ี กั คนงาน • กากบั ผ้อู าศยั ในทพ่ี กั คนงานใหง้ ดการสงั สรรค์ หรอื ทากจิ กรรมรวมกลุ่มใดๆ งดการจดั กจิ กรรม ท่มี กี ารรวมคนจานวนมากท่จี ะมคี วามเส่ยี ง ต่อการแพร่ระบาดของเช้อื โรค และงดหรือชะลอ การเดนิ ทางออกนอกทพ่ี กั คนงานโดยไมจ่ าเป็น กรณจี าเป็นต้องเดนิ ทางออกนอกท่พี กั คนงาน ตอ้ งจดั ใหม้ กี ารตรวจคดั กรอง และกากบั ให้ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการทก่ี าหนด • กรณีท่มี ีผู้ป่วยยนื ยนั หรือมขี อ้ มูลบ่งช้วี ่าสถานท่ใี ดเป็นจุดแพร่เช้อื ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าท่แี ละ ดาเนนิ การตามคาสงั่ ของเจา้ พนกั งานควบคุมโรคตดิ ต่อ ๓. แนวทางปฏิบตั ิการรายงานโรค กรณีพบผ้ปู ่ วยสงสยั ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 ทีเ่ ข้าเกณฑส์ อบสวนโรค สาหรบั ผปู้ ระกอบการ/เจ้าของกิจการ ๓.๑ นิยามผ้สู งสัยติดเช้ือท่ีมีอาการ กรณีเฝ้าระวังในผู้สงสัยตดิ เช้อื หรอื ผู้ป่วย ได้แก่ ผู้ท่มี อี าการของ ระบบทางเดนิ หายใจอย่างใดอยา่ งหน่ึง ดงั ต่อไปนี้ ไอ น้ามกู เจ็บคอ ไม่ไดก้ ลนิ่ หายใจเรว็ หายใจ เหน่อื ย หรอื หายใจ ลาบาก และ/หรอื ประวตั ิมไี ข้ หรอื อุณหภูมกิ ายตงั้ แต่ 37.5 องศาเซลเซียสขน้ึ ไป ร่วมกบั การมปี ระวตั ใิ นช่วงเวลา 14 วนั กอ่ นวนั เรม่ิ ป่วย อย่างใดอยา่ งหนึ่งตอ่ ไปน้ี 1. มปี ระวตั เิ ดนิ ทางไปยงั หรอื มาจาก หรอื อยูอ่ าศยั ในพน้ื ท่เี กดิ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 2. ประกอบอาชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั นักทอ่ งเท่ยี ว สถานทแ่ี ออดั หรอื ตดิ ต่อกบั คนจานวนมาก 3. ไปในสถานท่ชี ุมนุมชน หรอื สถานท่ที ่มี กี ารรวมกลุ่มคน เชน่ ตลาดนัด ห้างสรรพสนิ ค้า สถานพยาบาล หรอื ขนสง่ สาธารณะ 4. สมั ผสั กบั ผปู้ ่วยยนื ยนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ๓.๒ สถานประกอบการกบั การมีสว่ นร่วมในการรายงานโรค

๑๒๔ วตั ถปุ ระสงค์การรายงานโรค 1. ผู้ประกอบการ มสี ว่ นรว่ มในการเฝ้าระวงั โรคกรณีพบผู้สงสยั ตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ทเ่ี ขา้ เกณฑ์ สอบสวนโรค รวมทงั้ สรา้ งความมนั่ ใจในการให้บรกิ ารกบั ผ้ใู ชบ้ รกิ าร รว่ มกบั พระราชบญั ญตั โิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 2. ประชาชน มคี วามมนั่ ใจในการใชบ้ รกิ ารกจิ การหรอื รว่ มกจิ กรรมทไ่ี ด้รบั การคดั กรองโรค รวมทงั้ ไดร้ บั บรกิ ารตรวจคดั กรองทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื ตรวจหาร่องรอยการตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ตามแนวทาง ทก่ี าหนด โดยไม่เสยี ค่าใช้จ่าย 3. เพอ่ื ใหก้ ารเฝ้าระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรคของประเทศ สามารถค้นหา สอบสวนโรค และควบคุมป้องกนั การ ระบาดของโรคไดท้ นั ท่วงที ๓.๓ แนวทางการปฏิบตั ิสาหรบั ผปู้ ระกอบการ/เจ้าของกิจการ มาตรฐานการดาเนนิ การ GFP (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ , ๒๕๖๔) มาตรการ GFP เป็นมาตรการท่เี กดิ จากการบรู ณาการการทางานร่วมกนั ระหว่างหน่วยงาน (กรม) หลกั ของ กระทรวงสาธารณสุข ดงั น้ี การดาเนินงานเชงิ รุก เน้นมาตรการป้องกนั และเฝ้าระวงั 1. กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ ไดก้ าหนดมาตรฐานอาคารสถานท่ี ท่ปี ลอดภยั สาหรบั สถานประกอบการ ๒. กรมอนามยั ใหค้ วามสาคญั กบั การคดั กรอง การปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมบุคคล และเน้นการอนามยั สงิ่ แวดล้อมทงั้ ระดบั บคุ คลและระดบั องค์กร การดาเนนิ งานเชงิ รบั เน้นการจดั การเมอ่ื พบผู้เสย่ี ง ผูป้ ่วย

๑๒๕ ๓. กรมควบคมุ โรค เน้นกระบวนการดาเนนิ งานของสถานประกอบการในกรณที ่พี บพนกั งานมกี ารตดิ เชอ้ื และผู้ท่ใี กล้ชดิ ๔. กรมการแพทย์ ใหก้ ารบรกิ ารดแู ลเพ่อื การรกั ษาพยาบาลผ้ปู ่วยโควดิ ๑๙ เครื่องมอื ทางออนไลน์ที่ใช้เป็นแนวทางของสถานประกอบในการเฝ้าระวังและป้องกนั โรคโควิด ๑๙ ๑. เครื่องมือหลกั ดาเนินการ 2 Platform ทต่ี อ้ งดาเนินการ ๑.๑ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP หากสถานประกอบการ/โรงงานประเมนิ ผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน จะได้รบั ใบ Certificate (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๔)

๑๒๖ ๑.๒ Thai Save Thai (TST ) โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP สาหรบั พนักงานประเมินความ เสี่ยงการแพรเ่ ช้ือด้วยตนเอง การประเมนิ เพ่อื การยกระดบั การคดั กรองเขม้ ๔ องคป์ ระกอบ ซง่ึ ไดแ้ ก่ ๑) สถานท่เี สย่ี ง ๒) พฤตกิ รรมเส่ยี ง ๓) อาการเสย่ี ง ๔) ผลการเส่ยี ง

๑๒๗ ๒. เครอื่ งมือเสริมการดแู ลสขุ ภาพชว่ งโควิด 2 Platform ดาเนินการตามความสมคั รใจร ไดแ้ ก่ ๒.๑ กา้ วทา้ ใจ ทวั่ ไทยพิชิตโควิต และ ๒.๒ อนามยั Quarantine สาหรบั โรงงานท่ีมี โรงพยาบาลสนาม ๓. ระบบรายงาน ระบบกากบั มาตรฐานป้องกนั โควดิ รายโรงงาน ระบบรายงานความเสย่ี งพนกั งาน รายบคุ คลสาหรบั โรงงาน และหน่วยกากบั ดูแลในจงั หวดั เขต และประเทศนาไปบรหิ ารจัดการ แนวทางการจดั การเมื่อพบผ้เู ส่ยี ง/ผ้ปู ่ วยโควิด ๑๙

๑๒๘ 1. เม่อื สถานประกอบการ/สถานท่จี ดั งานคดั กรองพบผูม้ อี าการอย่างใดอย่างหนึง่ ตอ่ ไปนี้ ไดแ้ ก่ ไอ มนี ้ามูก มเี สมหะ หายใจลาบาก หอบ หรอื ไมไ่ ด้กลนิ่ หรอื มี อาการไข้ (อณุ หภูมกิ ายสูงกวา่ 37.5 องศาเซลเซียส) ไม่ให้ผู้มี อาการป่วยเขา้ งานหรอื สถานท่โี ดยเด็ดขาด และใหแ้ ยกผู้ป่วยในทท่ี ่จี ดั ไว้ 2. หากพบผู้มอี ณุ หภมู กิ ายสงู กวา่ 37.5 องศาเซลเซยี ส โดยไมม่ อี าการอน่ื ๆ ให้แยกพกั ในร่มเป็นระยะเวลา 5 - 15 นาที และวดั ซ้า โดยจดั สถานทพ่ี กั ใหม้ กี ารเว้นระยะหา่ งจากบคุ คลอ่นื อยา่ งน้อย 2 เมตร 3. กรณีมีอาการไข้ หรืออาการระบบทางเดนิ หายใจ ให้ประเมนิ อาการผู้ป่วยว่าเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 หรอื ไม่ โดยใช้คาถามตามนิยามผู้สงสยั ติดเช้อื ท่มี อี าการ กรณีเฝ้าระวังในผู้สงสยั ตดิ เช้อื หรือผู้ป่ วย หรือบันทึกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ซ่ึงจะรายงานไปยังหน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบ ได้แก่ สานักงาน สาธารณสขุ จงั หวดั และกรมควบคมุ โรค 4. หากพบวา่ ผู้มอี าการ เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ใหด้ าเนินการบนั ทกึ ขอ้ มูล โดย ระบุชอ่ื ผ้ปู ระกอบการ/ผู้ใหบ้ รกิ าร โดยระบุ ชอ่ื สถานประกอบการ สถานทต่ี งั้ และหมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ตอ่ สาหรบั ผ้ใู ช้บริการ ใหบ้ นั ทกึ เฉพาะขอ้ มูล ชอ่ื -นามสกุล และหมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ต่อ ทงั้ น้ีประวตั อิ าการป่วยให้ ตรวจสอบ การบนั ทกึ ตามนิยามขา้ งต้น ทงั้ นีใ้ ห้ผู้ใช้บรกิ ารท่เี ป็นผู้สงสยั เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรค 4.1 กรณสี ถานประกอบการ ให้บรกิ ารอานวยความสะดวกในการสง่ ตอ่ ผปู้ ่วยไปคลนิ กิ โรงพยาบาล หรอื สถานพยาบาล ให้แจ้งสถานพยาบาลล่วงหนา้ กอ่ นนาส่ง เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มในการตรวจคดั กรองทาง หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ไป 4.2 กรณสี ถานประกอบการ ให้คาแนะนาผูใ้ ช้บรกิ ารทม่ี อี าการป่วยท่เี ขา้ เกณฑ์สอบสวนโรค ไปยงั คลนิ กิ หรอื สถานพยาบาลเอง ให้แนะนาการเดนิ ทางโดยหลกี เลย่ี งการใชร้ ถโดยสารสาธารณะ อาจใช้บรกิ าร แทก็ ซ่ี หรอื รถรบั จ้างสว่ นบุคคล 5. หากพบว่าผู้มอี าการ ไมเ่ ขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 สามารถ ให้คาแนะนาให้ผ้มู ี อาการไปโรงพยาบาลโดยหลกี เล่ยี งการใช้ขนส่งสาธารณะ อย่างไรก็ดี ไมอ่ นุญาตใหผ้ มู้ อี าการป่วยเข้าใน สถานท่ี 6. สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั หรอื หน่วยงานรบั ผดิ ชอบในแต่ละพ้นื ท่ี ให้ตดิ ตามขอ้ มูลผปู้ ่วยเขา้ เกณฑ์ สงสยั เป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ทร่ี ายงานจากสถานประกอบการ หรอื สถานทท่ี ่มี กี ารรวมกล่มุ จาก ฐานขอ้ มูลในแอปพลเิ คชนั โดยนามาเปรยี บเทยี บกบั รายชอ่ื ผูป้ ่วยจากฐานขอ้ มูลผ้ปู ่วยเข้าเกณฑ์ สอบสวนโรค (PUI) ของกรมควบคมุ โรค 6.1 หากพบวา่ ผูป้ ่วยท่รี ายงานจากสถานประกอบการฯ ไดร้ บั การตรวจหาเชอ้ื แลว้ ใหด้ าเนินการ ตดิ ตามต่อ ตามแนวทางเมอ่ื พบผปู้ ่วยเขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตามปกติ 6.2 หากผู้ป่วยทพ่ี บจากสถานประกอบการยงั ไม่ถูกรายงานเขา้ ส่ฐู านขอ้ มูลของกรมควบคมุ โรค ให้ ตดิ ต่อ กบั ผู้ป่วยตามขอ้ มูลหมายเลขโทรศพั ท์ทแ่ี จ้งไว้ เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยมารบั การตรวจวนิ จิ ฉัยตอ่ ไป

๑๒๙ ๓.๔ การจดั การผ้มู อี าการป่ วยท่พี บจากการคดั กรอง 1. เม่อื สถานประกอบการ/สถานทจ่ี ดั งานคดั กรองพบผู้มอี าการอยา่ งใดอย่างหนง่ึ ตอ่ ไปน้ี ได้แก่ ไอ มนี ้ามกู มเี สมหะ หายใจลาบาก หอบ หรอื ไม่ไดก้ ลน่ิ หรอื มี อาการไข้ (อุณหภูมกิ ายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส) ไม่ใหผ้ ู้มี อาการป่วยเขา้ งานหรอื สถานท่โี ดยเด็ดขาด และใหแ้ ยกผู้ป่วยในทท่ี ่จี ดั ไว้ 2. หากพบผู้มอี ุณหภูมกิ ายสงู กวา่ 37.5 องศาเซลเซียส โดยไมม่ อี าการอ่นื ๆ ให้แยกพกั ในรม่ เป็นระยะเวลา 15 นาที และวดั ซ้า โดยจดั สถานท่พี กั ใหม้ กี ารเวน้ ระยะห่างจากบุคคลอ่นื อย่างน้อย 2 เมตร 3. ประเมนิ อาการผปู้ ่วยวา่ เขา้ เกณฑส์ อบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื ไม่ โดยใช้การประเมนิ ออนไลน์ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงานประเมินมาตรฐาน GFP (เน้น ประเมินในหวั ข้อมาตรการเมือ่ พบผ้ปู ่ วยติดเช้อื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ยนื ยนั (จานวน ๔ ข้อ) และมาตรการ เสิรม 6 ขอ้ สาหรบั โรงงานขนาดกลายและใหญ่ (เริ่มใหส้ ถานประกอบการ/โรงงานดาเนินการประเมิน ภายในวนั ที่ ๑๕ มิถนุ ายน ๒๕๖๔ และประเมินซ้าทกุ ๑๔ วนั โดยการกากบั ติดตามของสภาอตุ สาหกรรม จงั หวดั ) 3.1 หากพบวา่ ผู้มอี าการ เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 1 การประเมนิ ออนไลน์ Thai Stop Covid Plus (TSC+) สาหรบั สถานประกอบการ/โรงงานประเมนิ มาตรฐาน GFP จะรายงานขอ้ มลู ผู้ป่วยไปยงั กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข และจะดาเนินการสนับสนุนขอ้ มูลไป

๑๓๐ ยงั สว่ นทเ่ี ก่ยี วขอ้ งทนั ที โดยสถานประกอบการจะตอ้ งบนั ทกึ ขอ้ มูล 2 ส่วน • สว่ นผใู้ ห้บรกิ าร: ช่อื ท่อี ยู่ และสถานท่ี ทางานของตน ความสมั พนั ธ์กบั ผทู้ ่เี ป็นหรอื มเี หตุ อนั ควรสงสยั ว่าเป็นโรค และหมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ต่อ • ส่วนผู้มี อาการ: ชอ่ื อายุ เพศ สญั ชาติ ท่อี ยู่ปัจจบุ นั และอาการสาคญั ของ ผทู้ ่เี ป็นหรอื มเี หตุอนั ควรสงสยั วา่ เป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 และหมายเลขตดิ ตอ่ (2) ใหอ้ านวยความสะดวกในการส่งต่อผูป้ ่วยไปโรงพยาบาล หรอื ใหค้ าแนะนาให้ผู้มอี าการไป โรงพยาบาลโดยหลกี เล่ยี งการใชข้ นสง่ สาธารณะ 3.2 หากพบว่าผมู้ อี าการ ไม่เขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 สามารถใหค้ าแนะนา ให้ผู้มอี าการไปโรงพยาบาลโดยหลกี เล่ยี งการใช้ขนส่งสาธารณะ อย่างไรก็ดี ไม่อนุญาตให้ผู้มีอาการเข้า งานโดย เด็ดขาด 4. สานักงานสาธารณสุขจงั หวดั ตดิ ตามข้อมูลผู้ป่วยเขา้ เกณฑ์สงสยั เป็นโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ท่ี รายงานจากสถานประกอบการ หรอื สถานท่ที ม่ี กี ารรวมกล่มุ จากฐานขอ้ มูลของ application Thai.Care เปรยี บเทียบ กบั ฐานขอ้ มูลผู้ป่วยเขา้ เกณฑส์ อบสวนโรค (PUI) ของกรมควบคมุ โรค 4.1 หากพบว่าผู้ป่วยท่รี ายงานจากสถานประกอบการฯ ได้รบั การตรวจหาเช้อื แล้ว ให้ดาเนินการ ตดิ ตามตอ่ ตามแนวทางเม่อื พบผู้ป่วยเขา้ เกณฑ์สอบสวนโรคตามปกติ 4.2 หากผูป้ ่วยท่พี บจากสถานประกอบการยงั ไม่ถกู รายงานเขา้ ส่ฐู านขอ้ มูลของกรมควบคุมโรค ให้ ตดิ ตอ่ กบั ผปู้ ่วยตามขอ้ มูลท่อี ยู่/หมายเลขโทรศพั ท์ท่แี จ้งไว้ เพอ่ื ให้ผ้ปู ่วยมารบั การตรวจวนิ จิ ฉัยต่อไป ๓.๕ การจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) คาจากัดความ“โรงพยาบาลสนาม”หมายถึง สถานท่ที ่ใี ห้การดูแลรักษาพยาบาลซึ่งเกินศักยภาพการ จดั ระบบบรกิ ารในการรองรบั ผู้ป่วยทงั้ นี้การจัดตงั้ จะตงั้ นอกสถานพยาบาล ข้นึ กบั การดาเนินการของหน่วยงานท่ี รบั ผิดชอบในพ้นื ท่ี เช่น วัด โรงเรียน โรงยิม หรอื หอประชุมขนาดใหญ่ เป็นต้น การคัดเลือกสถานท่ขี ้นึ อยู่กับ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ตงั้ ความต้องการของชมุ ชน และทรพั ยากรด้านสาธารณสขุ ท่มี อี ยู่เพอ่ื ใหก้ ารดูแลรกั ษาผู้ป่วย COVID-19 ในสภาวการณท์ ่มี กี ารระบาดได้รบั การดแู ลรกั ษาอย่างปลอดภยั ผ้รู บั ผดิ ชอบหลกั ในการดาเนนิ การจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามคือ ผวู้ ่าราชการจงั หวัด หรอื ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย รว่ มกบั สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั สานกั งาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จังหวดั และหน่วยงานอน่ื ๆ รวมถึงมกี ารกาหนดคณะทางานท่ปี ระกอบดว้ ย หวั หน้าส่วนราชการระดบั จงั หวดั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งและภาคเอกชน โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) หมายถึง สถานท่ที ่ถี ูกจัดตงั้ ข้นึ ในสถาน ประกอบการ/โรงงาน ท่ใี ห้การดูแลรกั ษาพยาบาลแก่พนักงาน คนงานในสถานประกอบการนัน้ เกิดการเจ็บป่วย COVID-19 ในสภาวการณ์ท่มี กี ารระบาด ใหไ้ ด้รบั การดูแลรกั ษาอย่างปลอดภยั

๑๓๑ ความสาคญั ของ โรงพยาบาลสนามและการกกั ตวั ในสถานประกอบการ (Factory Quarantine) ในกรณีทม่ี คี วามรุนแรงของสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโควดิ ๑๙ อยู่ในระดบั ท่มี ผี ปู้ ่วยยนื ยนั ในโรงงาน หรอื สถานประกอบการเป็นจานวนมาก ควรรีบประสานหน่ายงานภาครัฐโดยด่วน เพ่อื ดาเนินการตามแผนการ ตอบสนองสถานการณฉ์ ุกเฉนิ และวางแผนดาเนินการตามแผนฟ้ืนฟูธุรกจิ ต่อไป และในระหว่างทร่ี อหน่วยงานภาครฐั เขา้ มาสนบั สนุนเพ่อื ตรวจหาเชอ้ื โควดิ ๑๙ ให้กบั พนกั งานกลุ่มเสย่ี งต่างๆ และยงั ไม่ได้มกี ารดาเนินการส่งตอ่ ผู้ป่วย ไปยงั สถานท่ภี ายนอกท่จี ะรองรบั โรงงานหรอื สถานประกอบการอาจดาเนินการกกั ตวั ภายในโรงงานหรอื สถานท่ี เฉพาะเหมาะสมเบอ้ื งตน้ เพ่อื ลดความเส่ยี งและควบคมุ การแพร่ระบาดออกสู่ภายนอกในวงกว้าง โดยเร่ิมจากการ แยกกลุ่มผู้ป่วยยนื ยนั ผู้สมั ผสั เส่ยี งสูงและผู้สมั ผสั เส่ยี งต่าออกจากกลุ่มประชากรปกติ เพ่อื ลดอตั ราการแพรก่ ระจาย เช้อื และกาหนดการกกั กนั ตวั ภายในโรงงาน โดยมปี ระเดน็ ทจ่ี ะต้องคานงึ ถึง ดงั น้ี (สภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย, ๒๕๖๔) ๑. เตรยี มความพรอ้ มสาหรบั พ้นื ทใ่ี ช้ในการกกั ตวั ๒. จดั แบง่ ภารกจิ ความรบั ผดิ ชอบของบุคลากร ๓. การบรหิ ารจดั การภายในสถานท่กี กั กนั ท่สี าคญั ๔. หลกั ปฏบิ ตั ติ นในสถานท่กี กั ตวั ซ่ึงมีรายละเอียดดงั นี้ ข้อพิจารณาในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลนามในสถานประกอบการ ขอ้ มลู ประกอบการตดั สนิ ใจในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนาม ประกอบดว้ ย• 1) รายงานความรุนแรงของโรค COVID-19 และการระบาดในสถานประกอบการ 2) อตั ราการมารับบริการท่หี ้องฉุกเฉิน หรอื โรงพยาบาลในพ้นื ท่ที ่สี ถานประกอบการจัดตงั้ อยู่ มีอัตรา ผู้ป่วย (พนกั งาน คนงานจากสถานประกบอการ) เพมิ่ สงู ขน้ึ อย่างรวดเรว็ ในระยะเวลาสนั้

๑๓๒ 3) อตั ราการรบั เขา้ ไว้รกั ษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วยPUI เพมิ่ สงู ข้นึ • 4) อตั ราสว่ นของผูป้ ่วยซง่ึ เป็นพนกั งาน คนงานท่อี ย่อู าศยั ร่วมกบั ผ้ทู ่อี ยใู่ นภาวะเส่ยี งสงู ทงั้ เพ่อื นรว่ มงาน ในสถานประกอบการ หรอื ผทู้ ไ่ี ม่มคี นดูแลท่บี ้านและไมส่ ามารถดแู ลตนเองได้ แนวทางการรบั ผปู้ ่ วยยนื ยนั COVID-19 ในโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ • ผูป้ ่วยยนื ยนั COVID-19 ท่ไี ม่มอี าการ หรอื มอี าการเลก็ น้อย หรอื ดขี น้ึ หลงั จากการรบั รกั ษาไว้ใน โรงพยาบาลและมอี าการคงท่เี ขา้ รบั บรกิ ารตามระบบการดูแลและเฝ้าสงั เกตอาการในโรงพยาบาล สนามในสถานประกอบการ การจดั เตรียมการโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ในการจดั เตรยี มโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการนนั้ มกี ารบรหิ ารจดั การในด้านต่างๆ โดยสามารถ ประยกุ ตไ์ ด้จากการจดั เตรยี มโรงพยาบาลสนามตามแนวทางการจดั เตรยี มโรงพยาบาลสนาม(กรณมี กี ารระบาดของ โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในวงกว้าง ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (๒๕๖๔) ซึ่งมี รายละเอยี ด ดงั น้ี ๑. การบริหารจดั การในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ จากตน้ แบบการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในจงั หวดั สมุทรสาคร พบวา่ มกี ารแบง่ พ้นื ท่อี อกเป็น 3 สี ไดแ้ ก่ -สเี ขยี ว คอื พน้ื ท่ปี ฏบิ ตั งิ าน ทอ่ี ยู่ดา้ นหน้า -สเี หลอื ง เป็นพน้ื ท่ี ท่แี พทย์ปฏบิ ตั งิ าน และเปล่ยี นชดุ ทางการแพทย์ -สว่ นสแี ดง จะเป็นพน้ื ทท่ี ่ผี ู้ตดิ เชอ้ื ใชก้ กั ตวั ซงึ่ จะเป็นออกเป็นท่พี กั / ท่รี บั ประทานอาหาร ห้องน้า สถานท่ี อาบน้า พ้นื ทซ่ี กั ลา้ ง และพน้ื ทอ่ี อกกาลงั กาย ซึ่งผปู้ ่วยจะไมส่ ามารถออกไปด้านนอกได้ จนกว่าจะรกั ษาโรคโควดิ -19 หาย จนปลอดเชอ้ื (https://www.prachachat.net/general/news-594015) ในการจดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ควรมกี ารดาเนินงาน ดงั นี้ ๑.๑ สถานท่ี สถานทจ่ี ดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ควรมลี กั ษณะดงั น้ี คอื ควรเป็น สถานท่ที ่มี ีการถ่ายเทอากาศได้ดี • ไม่ควรอยู่ใกล้บรเิ วณโซนท่มี พี นักงานหรอื คนงานปฏบิ ตั งิ านอยู่ มีส่ิง อานวยความสะดวกทางด้านสาธารณูปโภคท่จี าเป็นหรอื สามารถจดั การต่อเตมิ จัดหาอุปกรณ์ท่จี าเป็นได้ อาทิ ไฟฟ้า ประปา และอน่ื ๆ ๑.๒ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละเวชภณั ฑ์ท่จี าเป็นรวมถงึ วสั ดุสานักงาน เคร่อื งอุปโภคบรโิ ภค น้าดม่ื ฯลฯ ๑.๓ .การปฐมนิเทศการปฏบิ ตั ิงานตลอดจนการกากบั ดูแลการทางานของบุคลากรโดยเฉพาะ อาสาสมคั ร

๑๓๓ ๑.4 ระบบการดูแลรกั ษาผูป้ ่วย ให้เป็นไปตามแนวทางเวชปฏบิ ตั กิ ารดูแลรกั ษาผู้ป่วยโรค COVID- 19 ของกระทรวงสาธารณสุข (ซงึ่ มกี ารปรบั ปรงุ อยา่ งต่อเน่อื ง โดยขอให้ตดิ ตามอยา่ งใกลช้ ดิ ) ๑.5 ระบบการบรหิ ารจดั การหน่วยผู้ป่วยนอก หอผู้ป่วย การจดั เวร โดยประเมนิ จากความเพยี งพอ ของการให้บรกิ าร ๑.6 ระบบการขนสง่ ตา่ งๆ รวมถงึ ระบบการส่งตอ่ ผปู้ ่วย อาทกิ ารขนสง่ วสั ดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ วสั ดุอุปกรณ์อน่ื ๆ ขยะตดิ เช้อื การจดั การและการเคลอ่ื นย้ายศพ เป็นต้น รวมถงึ จดั การซ้อมแผนเคล่อื นย้าย ผู้ป่วยในกรณีทผ่ี ปู้ ่วยมกี ารทรุดลง ๑.7 ระบบการเช่อื มโยงและระบบสอ่ื สาร อาทริ ะบบเวชระเบยี น การติดต่อส่อื สารทวั่ ไป ระหว่าง โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการกับหน่วยงานอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น โรงพยาบาล สานักงาน สาธารณสุขจงั หวดั สานกั งานป้องกนั ควบคมุ โรค หน่วยประชาสมั พนั ธ์ เป็นตน้ ๑.8 ระบบการป้องกนั ควบคมุ การตดิ เชอ้ื และแพร่กระจายเชอ้ื •ฝึกซ้อมการสวม-ถอด PPE ใหค้ ล่อง อย่างถูกต้องตามความเส่ยี งของหตั ถการ•สารวจและสารอง PPE ให้พร้อมใช้และเพยี งพอรวมถงึ สามารถ จดั หาเพม่ิ ได้ •ทมี บคุ ลากรทางการแพทยท์ กุ คน ทุกระดบั ตอ้ งเขา้ ใจหลกั การพ้นื ฐานของ ระบบการป้องกนั การตดิ เช้อื ในสถานพยาบาล ๑.9 ระบบสนับสนุน รวมถึงการจดั การด้านสาธารณูปโภคทพ่ี กั บุคลากร โภชนาการ เคร่อื งปัน่ ไฟ เครอ่ื งกรองนํา้ ประปาสนาม ฯลฯ ๑.10 ระบบสุขาภบิ าล มีกระบวนการกาจดั เช้อื โรครวมถึงการจดั สัดส่วนห้องอาบน้า/ห้องสุขา สาหรบั ผปู้ ่วยอยา่ งเหมาะสม ๑.11 ระบบรกั ษาความปลอดภยั และป้องกนั การกอ่ เหตุร้าย ๑.12 ระบบป้องกนั อคั คภี ยั และการซอ้ มแผนจดั การอคั คภี ยั ๑.13 งานสงั คมสงเคราะห์และจติ วทิ ยา เน่อื งจาก เพอ่ื ลดความกงั วล และ ความเครยี ดของผู้ป่วย รวมถงึ ทมี บุคลากรทางการแพทย์ ๑.14 การจดั ระบบการสอ่ื สารความเสย่ี ง ใหแ้ ก่พนกั งาน คนงานท่เี จ็บป่วย ญาติ รวมถึง ประชาชน ในพน้ื ทโ่ี ดยรอบสถานประกอบการ ให้เขา้ ใจตงั้ แตก่ อ่ นจดั ตงั้ และ ในระหวา่ งการระบาด ๒. การบริหารเพอ่ื การจดั เตรยี มอุปกรณ์ เคร่อื งมอื สาหรบั โรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ ๒.1. เต็นท์ปฏบิ ตั งิ านและทพ่ี กั (กรณีทไ่ี ม่มอี าคารหรือสถานทท่ี ่เี หมาะสม)• ๑) เต็นท์ปฏบิ ตั กิ าร - หากเป็นไปไดค้ วรตดิ กลอ้ งวงจรปิดในกรณที ่ตี อ้ งตดิ ตามดูอาการผู้ป่วย - มพี ้นื ทส่ี าหรบั สวม–ถอดชุดเครอ่ื งป้องกนั สว่ นบุคคล กอ่ นและลงพน้ื ท่ใี นการดแู ลผู้ป่วย - ควรมคี อมพวิ เตอรพ์ ร้อมโปรแกรมในการส่อื สารกบั ผู้ป่วยในลกั ษณะTelemedicine ๒) เตน็ ทท์ พ่ี กั เจ้าหน้าท่ี ๓) เต็นทห์ รอื พน้ื ท่สี าหรบั ประกอบอาหาร ๒.๒ อุปกรณ์สานักงาน

๑๓๔ - เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ notebook พรอ้ ม printer - โต๊ะ เกา้ อ้ี •เครอ่ื งใชอ้ ุปกรณส์ านกั งานเช่น ปากกา กระดาษ กรรไกร แมก็ ซ์พร้อมลวดเยบ็ เป็น ต้น ๒.3 อุปกรณส์ ่อื สาร(ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ไดแ้ ก่ วทิ ยุสอ่ื สารแบบตงั้ เครอื ข่ายสถานี วทิ ยสุ ่อื สาร แบบ Mobile , Walky-talky •ระบบ telemedicine ระะบบสญั ญาณ internet และเครอื ข่าย โทรโข่ง หรอื ระบบเสยี ง ตามสาย ๒.4 เคร่อื งมือแพทย์•เคร่อื งวัดความดนั โลหติ (ผู้ป่วย /เจ้าหน้าท่)ี ได้แก่ ท่วี ัดอุณหภูมิ เคร่อื งวัดความ อมิ่ ตัวของออกซิเจนในกระแสเลอื ด(Pulse Oximeter) อุปกรณ์ช่วยฟ้ืนคนื ชพี •รถพยาบาลกรณีสง่ ต่อผูป้ ่วยฉุกเฉนิ รถเอกซเรยเ์ คล่อื นท่ี (mobile x-ray unit) (ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ๒.5 อุปกรณป์ ้องกนั สว่ นบคุ คล ได่แก่ ชดุ PPE ตามความเสย่ี ง ไดแ้ ก่ level C, D (ถุงมอื หนา้ กากอนามยั (N95, surgical mask), หมวกคุลมผม, เส้อื กาวน์,face shield, ถุงหุ้มขา (leg cover)) ชุดเปล่ยี นเข้าปฏิบตั ิงานใน พน้ื ท่เี ส่ยี ง Alcohol ลา้ งมอื /alcohol gel ๒.6 อปุ กรณ์ความปลอดภยั ระบบกลอ้ งวงจรปิด(CCTV) (ควรม)ี เทปกนั้ พน้ื ท่ี กญุ แจเพอ่ื ปิดกนั้ พ้นื ท่ี (ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ๒.7 อุปกรณด์ ารงชพี ทจ่ี าเป็น ได้แก่ อาหาร-น้าด่มื อปุ กรณง์ านครวั อาทิ จาน ชาม ชอ้ น อปุ กรณ์ และ ของใชป้ ระจาวนั พ้นื ฐานสาหรบั ผู้ป่วย (ท่ผี ้ปู ่วยเตรยี มไว้ไม่เพยี งพอ) อาทิ ผ้าอนามยั ชุดชนั้ ใน ผงซกั ฟอก เป็นตน้ • อุปกรณ์สนั ทนาการ เพอ่ื บรรเทาความเครยี ดให้กบั ผู้ป่วย ไดแ้ ก่ อุปกรณ์การกฬี า ๒.๘ ยาและเวชภณั ฑ์(ปรมิ าณ ตามความจาเป็นและเหมาะสม) ยาลดความดนั โลหติ ยาลดระดบั ไขมนั ใน เลอื ดยาลดระดบั นํา้ ตาลในเลอื ด ยารกั ษาโรคตดิ เชอ้ื ทางเดนิ หายใจ•ยาตา้ นการจบั ตวั ของเกรด็ เลอื ด Emergency bag•Antipsychotic drug โดยทมี ช่วยเหลอื เยยี วยาจติ ใจผู้ประสบภาวะวกิ ฤต (MCATT) ยาประจาตวั ผ้ปู ่วยแต่ละ ราย (กรณที ่รี บั ผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาล) ๓. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสขุ ในโรงพยาบาลสนาม ประกอบไปด้วยดา้ นต่างๆ ดงั น้ี ๓.๑ บุคลากรดา้ นการแพทย์และสาธารณสุข ควรเป็นผู้ท่ไี ดร้ บั การอบรมการปฏบิ ตั งิ านโรงพยาบาลสนามแล้ว (ประเภทของบคุ ลากร และจานวน พจิ ารณาตามความจาเป็นและเหมาะสม) ไดแ้ ก่ แพทย์ พยาบาลเภสชั กร เวชกรกชู้ พี นักจติ วทิ ยา เป็นตน้ ๓.2. เจ้าหน้าท่ดี า้ นบรหิ ารงานทวั่ ไป หรอื เจา้ หน้าทส่ี นบั สนุนด้านตา่ งๆ คณุ สมบตั ขิ องบุคลากรโรงพยาบาลสนามจติ อาสา มสี ุขภาพรา่ งกายแขง็ แรงและสขุ ภาพจติ ดี ควร ไดร้ บั วคั ซนี ภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ ไขห้ วดั ใหญ่ (หากมวี คั ซีน) บคุ ลากรท่คี วรระมดั ระวงั และหลกี เล่ยี งการปฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาลสนามoเป็นโรคระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลนั หรอื เรอ้ื รงั หรอื เป็นโรคของระบบหวั ใจและหลอดเลอื ดoตงั้ ครรภ์ หรอื เป็นโรคทต่ี ้องไดร้ บั การดแู ลสมา่ํ เสมอ ได้แก่ โรคมะเรง็ เบาหวาน โรคไตวาย หรอื เขา้ รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลในรอบปีท่ี ผ่านมา หรอื โรคทส่ี ง่ ผลใหม้ ภี มู คิ ุม้ กนั บกพร่อง ได้แก่ โรคเอดส์ หรอื ได้รบั ยากดภูมคิ ุม้ กนั

๑๓๕

๑๓๖ ทงั้ น้ีสถานประกอบการสามารถใชแ้ บบประเมินความพร้อมของตนเองสาหรบั เป็นสถานทีก่ กั กนั (Self-Assessment Report) Factory Quarantine (FQ) ดงั แบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี

๑๓๗

๑๓๘

๑๓๙

๑๔๐ *Major Defect จาเป็นต้องมถี ้าไม่ผ่านถอื วา่ ตกทกุ หมวด

๑๔๑

๑๔๒

๑๔๓

๑๔๔

๑๔๕

๑๔๖


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook