คู่มือ สำหรับ Health Leader

๑๔๗

๑๔๘

๑๔๙ ขนั้ ตอนการดาเนินการโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ 1. หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบแจ้งรายช่อื ผู้ป่วยมาท่โี รงพยาบาลสนามล่วงหนา้ โดยมกี ารยนื ยันตวั ตน จานวน และรายละเอยี ดของผปู้ ่วยท่ชี ดั เจนเพอ่ื โรงพยาบาลสนามได้จดั เตรยี มเตยี งและจดั ทาระบบ admit ไวล้ ่วงหนา้ และ กาหนดช่วงเวลาในการรบั -ส่งผู้ป่วยท่แี น่นอนทงั้ นี้ การเคลอ่ื นย้ายผ้ปู ่วยควรมคี วามรดั กมุ และเหมาะสม 2. เจา้ หนา้ ท่โี รงพยาบาลสนามประเมนิ ผปู้ ่วย และจดั ผ้ปู ่วยเขา้ ตามผงั เตยี งท่กี าหนด รายละเอยี ดการ ดาเนินการอาจจดั แบง่ โซนใหช้ ดั เจนเชน่ ตามความเส่ยี งของผู้ป่วย หรอื ตามวนั ท่รี บั ไว้ และแบง่ โซนชาย/หญิงให้ ชดั เจน เพ่อื ความสะดวกในการบรหิ ารจดั การ 3. ระยะระหวา่ งเตยี งผ้ปู ่วยควรห่างกนั ไม่น้อยกวา่ 1.5 เมตรทงั้ นี้ อาจพจิ ารณาปรบั เปล่ยี นได้ตามความ จาเป็นและเหมาะสมของแต่ละสถานท่ี 4. จดั เตรยี มอปุ กรณท์ จ่ี าเป็นในส่วนทพ่ี กั ผู้ป่วย อาทิ ปรอทวดั ไข้เคร่อื งวดั ออ๊ กซิเจนในเลอื ด (pulse oximeter) เป็นต้น เพอ่ื ใหผ้ ูป้ ่วยวดั และรายงานให้เจา้ หนา้ ท่ที ราบผา่ นระบบ telemedicineทกุ วนั 5. เจ้าหนา้ ทจ่ี ดั ส่งอาหาร 3 มอ้ื โดยจดั วางไว้ท่พี ้นื ท่ที ก่ี าหนดเพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยมารบั ไปแจกจา่ ยภายในส่วนทพ่ี กั 6. เตรยี มอปุ กรณส์ นั ทนาการเพอ่ื บรรเทาความเครยี ดใหก้ บั ผู้ป่วย อาทิ อุปกรณ์กฬี า 7.กรณีผู้ป่วยเดก็ เด็กอายุตา่ํ กว่า 12 ขวบ ควรใหก้ ารรกั ษาทโ่ี รงพยาบาล 8. การจดั การภาวะเครยี ดของผปู้ ่วยสามารถดาเนินการได้โดยมชี อ่ งทางใหค้ าปรกึ ษาโดยนักจติ วทิ ยาหรอื ทมี MCATT 9. กรณีเกดิ ผูป้ ่วยมอี าการผดิ ปรกติ หรอื เกดิ เหตฉุ ุกเฉนิ ให้ตดิ ต่อโรงพยาบาลหลกั เพ่อื นาส่งผู้ป่วย 10.ผู้ป่วยทไ่ี ด้รบั การดูรกั ษาในโรงพยาบาลสนามควรได้รบั การเอกซเรย์ปอด (หากสามารถดาเนินการได้) ตามระยะเวลาท่เี หมาะสมเพอ่ื ตดิ ตามอาการผปู้ ่วย 11.การจาหน่ายผู้ป่วยเมอ่ื ครบกาหนดการรกั ษาในโรงพยาบาลสนาม โดยการประสานงานกบั โรงพยาบาล หลกั และมเี อกสารรบั รองการรกั ษาให้ผู้ป่วยตดิ ตวั

๑๕๐

๑๕๑

๑๕๒

๑๕๓ ภาคผนวก

๑๕๔ แบบประเมินตนเองของผรู้ บั บริการ ท่ีมา เครือขา่ ยคนไทยไรพ้ งุ ราชวิทยาลยั อายรุ แพทยแ์ หง่ ประเทศไทย

๑๕๕ ที่มา เครอื ขา่ ยคนไทยไรพ้ ุง ราชวิทยาลยั อายรุ แพทยแ์ หง่ ประเทศไทย

๑๕๖ ทีม่ า ผศ.นพ.พิสนธ์ จงตระกลู โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย

๑๕๗

๑๕๘ ทมี่ า สานกั โรคไมต่ ิดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข การประเมินสถานะสขุ ภาพเพื่อประเมินความเส่ียงโรคเบาหวานและความดนั โลหิตสงู โดยบคุ ลากร สาธารณสุข 1. วดั ระดบั นา้ ตาลในเลอื ด การตรวจวัดระดับน้าตาลในเลือด หมายถึง การเจาะหาระดบั กลูโคสในเลือด กลูโคสในเลือดมา จากอาหารทีเ่ รารบั ประทาน เช่น แป้ง ไขมนั หรือโปรตนี การตรวจนา้ ตาลสะสมเฉล่ียในชว่ ง 2-3 เดือนทผ่ี า่ นมา ดว้ ยการตรวจ HbA1c (Hemoglobin A1c) ซ่ึงต้องตรวจในโรงพยาบาลเท่านัน้ มีความสาคญั เพ่อื ช่วยประเมินผลการรักษาและป้องกันการเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นของโรคเบาหวานในระยะยาวได้ เชน่ ภาวะไตเสอ่ื ม ตาเส่อื ม ระบบหลอดเลอื ดหวั ใจ และระบบปลาย ประสาทเส่อื ม • คา่ ปกติ ผไู้ ม่เป็นเบาหวาน = น้อยกวา่ 5.7 mg% • ผู้มคี วามเส่ยี งเป็นเบาหวาน = 5.7 - 6.4 mg% • ผูเ้ ป็นเบาหวาน = มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 6.5 mg% การตรวจน้าตาลหลงั อดอาหาร 8 ชวั่ โมง Fasting blood sugar (FBS) ต้องงดอาหารและเคร่อื งด่มื อน่ื นอกเหนอื จากน้าอย่างนอ้ ย 8 ชวั่ โมง • ค่าปกติ ผไู้ มเ่ ป็นเบาหวาน = 70 - 100 mg/dl • ผมู้ คี วามเส่ยี งเป็นเบาหวาน = 100 - 125 mg/dl • ผู้เป็นเบาหวาน = มากกว่า 126 mg/dl การวินิจฉัยโรคเบาหวาน มเี กณฑด์ งั น้ี ●มรี ะดบั น้าตาลในเลอื ด ขณะงดอาหารและเครอ่ื งด่มื อยา่ งนอ้ ย 8 ชวั่ โมง มากกวา่ หรอื เท่ากบั 126 มลิ ลกิ รมั / เดซิลติ ร ● มอี าการของโรคเบาหวาน ร่วมกบั ระดับน้าตาลในเลอื ดดเวลาใดก็ตามมคี ่ามากกว่าหรือเท่ากับ 200 มลิ ลกิ รมั /เดซิลติ ร ●มรี ะดบั น้าตาลในเลอื ด มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 200 มลิ ลกิ รมั /เดซลิ ติ ร ณ 2 ชวั่ โมง ภายหลงั ทดสอบความทน ตอ่ น้าตาลกลโู คส 75 กรมั ท่รี บั ประทานเขา้ ไป ● มรี ะดบั น้าตาลเฉล่ยี สะสม (HbA1c) มากกวา่ หรอื เท่ากบั ร้อยละ 6.5 ขน้ึ ไป

๑๕๙ ขอ้ ดขี องการตรวจวดั ระดบั นา้ ตาลในเลอื ด ● เพ่อื ใช้ในการคดั กรองและวนิ ิจฉัยผทู้ ่มี อี าการแสดงหรอื มปี ัจจยั เสย่ี งท่จี ะเป็นเบาหวาน ● เพ่อื ใชต้ ดิ ตามระดบั น้าตาลในเลอื ด ● เพอ่ื ใชป้ ระเมนิ ผลการรกั ษาและประเมนิ ความเสย่ี งของการเกดิ โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน ● เพ่อื ช่วยใช้ในการตรวจป้องกันและแก้ไขอันตรายท่อี าจจะเกดิ ข้นึ ได้ทันทเี ม่อื มอี าการระดบั น้า ตาลใน เลอื ดสงู หรอื ระดบั น้าตาลในเลอื ดต่าเกนิ ไปในผปู้ ่วยเบาหวาน ท่มี า สานกั โรคไมต่ ดิ ต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ๒. การวดั ความดนั โลหิต ค่าความดนั โลหิตคา่ ตวั บน หากเท่ากบั หรอื มากกวา่ 120 มม.ปรอท หรอื คา่ ความดนั โลหิตค่าตวั ล่าง หากเท่ากบั หรอื มากกว่า 80 มม.ปรอท จดั อยู่ในกลมุ่ เส่ยี งต่อการเกิดโรคความดนั โลหิตสงู

๑๖๐

๑๖๑ ที่มา สานกั บรหิ ารยุทธศาสตรส์ ุขภาพดวี ถิ ีชวี ติ ไทย กระทรวงสาธารณสุข

การประเมินสขุ ภาพใจ ๑๖๒ ท่ีมา กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข

๑๖๓

๑๖๔

๑๖๕ การประเมินพฤติกรรมเส่ยี ง

๑๖๖

๑๖๗

๑๖๘

๑๖๙

๑๗๐

๑๗๑

๑๗๒

๑๗๓ แนวทางการสร้างเสริมสขุ ภาพดีวยั ทางานดว้ ย 10 package (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ) แนวทางสง่ เสรมิ สุขภาพวยั ทางาน ตามรปู แบบแนวทางการดาเนนิ งานตาม 10 Packages นนั้ สถาน ประกอบการสามารถพจิ ารณารปู แบบการสง่ เสรมิ สุขภาพตามเจตจานงและบรบิ ทของสถานประกอบการ ไดด้ งั น้ี ● ผู้บรหิ าร/แผนกบุคลากร/เจา้ หน้าท่คี วามปลอดภยั /อาสาสมัครสุขภาพ ประมวลจากความต้องการของ บุคคลากร ความจาเป็น และปัญหาทางสุขภาพกายและจติ โดยรวมขององค์กร/สถานประกอบการ ร่วมกบั ทีมงาน ส่งเสรมิ สขุ ภาพแบบบรู ณาการ ● เลือก Packages ท่ีเหมาะสมกับบริบทความต้องการและสภาพปัญหาโดยรวมขององค์กร /สถาน ประกอบการ อาจเริม่ ทาทีละ Packages ให้เห็นผลลพั ธ์หรอื ทาหลาย Packages พร้อมกนั ข้นึ กับบรบิ ทของสถาน ประกอบการ ● การดาเนินกจิ กรรมของแต่ละ Package โดยทมี งานสง่ เสรมิ สุขภาพแบบบูรณาการ จะช่วยแนะนาดูแล ใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทขององคก์ ร/สถานประกอบการ 10 Packages แนวทางส่งเสริมสุขภาพวยั ทางานได้มีการจัดกลุ่มองค์ความรู้ในเรื่องการ สง่ เสริมสุขภาพพฒั นาโดยกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข มรี ายละเอยี ดสาคญั คือ

๑๗๔

๑๗๕

๑๗๖ การประเมินผลการดำาเนินงาน 10 Packages แนวทางส่งเสริมสุขภาพวยั ทางาน วดั ผลลพั ธจ์ าก ● ผลการตรวจสุขภาพประจาปีหลงั ดาเนินงาน ● ผลการประเมนิ ภาวะสุขภาพจิต ● ผลผลิตของสถานประกอบการทเี่ พิ่มข้ึน อนั ส่งผลมาจากการมีสุขภาพกายใจทด่ี ีข้ึน ● การลดลงของอตั ราการขาดลา ลาออก และการเปลี่ยนงานอนั เป็นผลจากสุขภาพ ● มาตรฐานทางกายภาพเคมีชีวภาพในสถานประกอบการดีข้ึน

๑๗๗ สขุ ภาพวยั ทางานกบั สถานการณ์ Cocid-19 มาตรการการป้องกนั ในสถานประกอบการ

๑๗๘

๑๗๙

๑๘๐

๑๘๑

๑๘๒

๑๘๓ กรณีตวั อย่าง มาตรการป้องกนั การแพร่ระบาดของ Covid -19 .ในสถานประกอบการ จงั หวดั สมทุ รสาคร