Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้โลกดาราศาสตร์ม.4 6281114012

แผนการจัดการเรียนรู้โลกดาราศาสตร์ม.4 6281114012

Published by praweena4696, 2022-01-09 10:46:24

Description: แผนการจัดการเรียนรู้โลกดาราศาสตร์ม.4 6281114012

Search

Read the Text Version

99 4. สาระสาคญั ภูเขาไฟ คือ ลักษณะธรณีสัณฐานที่เกดิ จากการปะทุของแมกมา แก๊ส และเถ้าภูเขาไฟจากภายในโลก ภูเขาไฟมีรูปร่างแตกต่างกันหลายลักษณะขึ้นอยู่กับความรุนแรงในการปะทุ มักพบหนาแน่นบริเวณรอยตอ่ ระหว่างแผ่นธรณี ซ่งึ ผลจากการระเบดิ ของภูเขาไฟมีท้งั ประโยชน์และโทษ จงึ ต้องศกึ ษาแนวทางในการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัย 5. สาระการเรียนรู้ ภูเขาไฟระเบิดเกิดจากการแทรกดันตัวของหินหนืดขึ้นมาตามส่วนเปราะบางหรอื รอยแตกบนเปลือก โลกมักพบหนาแน่นบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นธรณี ทาใหบ้ ริเวณดังกลา่ วเปน็ พนื้ ที่เสย่ี งภัย ความรุนแรงของการ ปะทแุ ละรูปร่างของภเู ขาไฟที่แตกตา่ งกนั ข้ึนอยกู่ บั องค์ประกอบของหนิ หนืด ผลจากภเู ขาไฟระเบิดมีท้ังประโยชน์ และโทษ จึงตอ้ งศกึ ษาแนวทางในการเฝ้าระวังและการปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั 6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน)  ทกั ษะการอ่าน (Reading)  ทกั ษะการ เขียน (Writing)  ทักษะการ คิดคานวณ (Arithmetic)  ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สื่อ (Communication information and

100 media literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing) ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ า (Leadership) 7. ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ภูเขาไฟระเบิด 8. การจัดการเรยี นรู้ รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ใช้รปู แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ข้ันท่ี 1 : ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพ่อื วดั ความรเู้ ดิมของนักเรยี น 2. ครกู ระตนุ้ ความสนใจโดยให้นกั เรียนดูวีดทิ ัศน์เก่ียวกับภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ จากนน้ั ให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ คาถาม ตัวอยา่ งเชน่ • ภัยพิบัตทิ างธรรมชาตทิ เี่ กดิ ข้ึนภายในโลกของเรามีอะไรบา้ ง (แนวตอบ: ภเู ขาไฟระเบิด แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ น้าท่วม ดนิ ถล่ม ฯลฯ) • ภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาตทิ เ่ี กิดข้นึ ในประเทศไทยมอี ะไรบ้าง (แนวตอบ: แผ่นดนิ ไหว สึนามิ นา้ ทว่ ม ดินถลม่ หลมุ ยบุ ) ขัน้ ท่ี 2 : ขน้ั สารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ใหน้ ักเรียนสบื ค้นข้อมูลเกย่ี วกบั ธรณพี ิบตั ภิ ัยบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี แล้วครถู ามคาถามว่า • บรเิ วณแนวแผ่นธรณีเคล่อื นท่ีออกจากกนั พบธรณพี บิ ตั ภิ ยั ใดบ้าง (แนวตอบ แผ่นดินไหวระดับต้ืน และภูเขาไฟระเบิด) • บรเิ วณแนวแผ่นธรณเี คลอ่ื นท่หี ากัน พบธรณีพบิ ัติภัยใดบา้ ง (แนวตอบ แผ่นดนิ ไหวระดับลกึ ภูเขาไฟระเบดิ และสนึ ามิ ) • บริเวณแนวแผ่นธรณีเคล่ือนทผ่ี ่านกนั พบธรณีพิบัตภิ ัยใดบ้าง (แนวตอบ แผ่นดินไหวระดับต้ืน)

101 ขั้นที่ 3 : ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. ครูกล่าวเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาต่อไป โดยตั้งประเด็นคาถามว่า ภูเขาไฟระเบิดพบได้ทุกพื้นที่บนโลก หรอื ไม่ และบริเวณใดท่ีพบภูเขาไฟระเบิดหนาแน่น (แนวตอบ ภูเขาไฟระเบิดสามารถพบได้ทุกพื้นที่บนโลกทั้งบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี และ บริเวณกลางแผน่ ธรณี ทัง้ บนแผน่ ดนิ และใต้มหาสมทุ ร บรเิ วณท่ีพบภูเขาไฟระเบดิ หนาแน่นคือบรเิ วณ แนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณี) ขน้ั ท่ี 4 : ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพอื่ ให้ได้ข้อสรปุ เก่ยี วกบั ภเู ขาไฟระเบดิ โดยอาจมีแนวทางสรปุ ดงั นี้ “ภูเขาไฟ คอื ลกั ษณะธรณสี ณั ฐานทีเ่ กิดจากการปะทุของแมกมา แกส๊ และเถ้าภูเขาไฟจากภายในโลก ภเู ขาไฟมีรูปร่างแตกตา่ งกันหลายลกั ษณะขนึ้ อยูก่ บั ความรุนแรงในการปะทุ มกั พบหนาแนน่ บริเวณรอยตอ่ ระหวา่ งแผน่ ธรณี ซง่ึ ผลจากการระเบดิ ของภเู ขาไฟมที งั้ ประโยชน์ เชน่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว ทาใหด้ นิ บรเิ วณภเู ขาไฟมีความอดุ มสมบูรณ์ นาอัญมณีข้นึ มาสผู่ วิ โลก และโทษ เช่น ทาให้เกดิ ฝนกรด สร้างความ เสยี หายต่อสง่ิ มีชวี ิตและส่งิ แวดลอ้ ม สง่ ผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศ” ขั้นท่ี 5 : ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. ครูประเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การร่วมกนั ทาผลงาน และจากการนาเสนอผลงาน 3. ครตู รวจใบงานที่ 3.1 เร่ือง ภเู ขาไฟระเบดิ

102 9. การวดั และประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ หรือ สงิ่ ที่ต้องการจะวดั และ ประเมินผล 1.นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ โดย ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี โดยใชแ้ บบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 2.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด ขนาดและความ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี รุนแรงของแผ่นดินไหว โดยใช้ นกั เรยี น แบบจาลอง(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด จากสึนามิโดยใช้ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี แบบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมินจาก - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบกิ (P) สรา้ งสรรคท์ ี่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผู้เรียนได้แสดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกบั -การสังเกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ

103 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

104 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

105 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑ์การประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรงุ 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรยี นทผี่ า่ น จานวนนกั เรยี นทไี่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน ร้อยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................

106 13. ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชอ่ื ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)

107 ความเห็นของหวั หน้าสถานศึกษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรขู้ อง....................................................แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดงั นี้ เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม  ยังไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ลงชอื่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผ้อู านวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

108 ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ภเู ขาไฟระเบดิ คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั ภเู ขาไฟระเบิดในรปู แบบของแผนผงั ความคิด และนาเสนอผลงาน

109 ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ภูเขาไฟระเบิด คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กีย่ วกบั ภเู ขาไฟระเบดิ ในรปู แบบของแผนผังความคดิ และนาเสนอผลงาน กระบวนการเกดิ สญั ญาณเตือนกอ่ นเกิด สิง่ ท่ีออกมากับการปะทุ เกดิ จากการปะทขุ องแมกมา แผน่ ดนิ ส่ันสะเทอื น มเี สยี ง ลาวา เศษหนิ ฝุ่นละออง เถา้ แกส๊ และเถา้ จากภายในโลก คลา้ ยฟ้าร้องติดตอ่ กนั เป็น ถ่านภูเขาไฟ แกส๊ ต่าง ๆ เวลานาน แนวทางการเฝา้ ระวงั ภูเขาไฟระเบิด แนวภูเขาไฟ - รับฟงั ข่าวสาร บรเิ วณรอยต่อของแผ่นธรณี - ใสห่ น้ากาก แว่นตาปอ้ งกันฝุ่น โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงบริเวณรอบ - เตรียมเสบียงและส่ิงของ มหาสมุทรแปซิฟิก ทเ่ี รียกว่า จำเปน็ วงแหวนแห่งไฟ - อพยพไปยังสถานท่ีหลบภัย ประโยชน์ โทษ - เป็นแหลง่ ท่องเท่ียว - ทำให้เกิดแผ่นดินไหว/สึนามิ - นำอญั มณีข้ึนมาสู่ผิวโลก - เกดิ ฝนกรด - ดนิ อุดมสมบรู ณ์ - สญู เสยี ชีวิตและทรัพย์สิน

110 แผนการเรียนรทู้ ่ี 9 สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง แผน่ ดินไหว เวลา 4 ชวั่ โมง 1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การศึกษาลาดับชน้ั หิน ทรัพยากรธรณี แผนท่ี และการนาไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรนุ แรง และผลจากแผน่ ดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมลู พนื้ ท่เี สย่ี งภยั ออกแบบและนาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ได้ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธิพิสยั 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดโดยโดยใชแ้ บบจาลอง(K) 1.2 นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว โดยใช้ แบบจาลอง(K) 1.3 นักเรียนสามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด จากสนึ ามโิ ดยใชแ้ บบจาลอง(K) ดา้ นทกั ษะพิสยั 1.4 นกั เรียนสามารถสืบค้นและนาเสนอข้อมูลพ้ืนทเ่ี ส่ยี งภยั และผลจากการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ (P) ด้านเจตพิสยั 1.5 นกั เรียนสามารถทางานร่วมกับผ้อู นื่ ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ยอมรบั ความคิดเหน็ ของสมาชกิ ในกลมุ่ ได้ (A)

111 4. สาระสาคัญ แผ่นดินไหว คือ การสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่รับรู้ได้ ณ จุดใดจุดหนึ่งบนโลก เกิดจากการปลดปล่อย พลังงานทีส่ ะสมไว้ในเปลือกโลกออกมาในรูปของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งมีสาเหตุจากกระบวนการในธรรมชาติ และ กิจกรรมของมนุษย์ ส่งผลให้ส่ิงก่อสร้างเสยี หาย เกิดอันตรายต่อชีวติ และทรัพย์สิน จึงต้องศึกษาแนวทางในการเฝา้ ระวัง และการปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั 5. สาระการเรยี นรู้ แผ่นดินไหวเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ของเปลือกโลกในรูปของคลื่นไหวสะเทือน แผ่นดินไหวมีขนาดและความรุนแรงแตกต่างกนั ทาลายทรพั ย์สิน ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวมักอยู่บริเวณรอยต่อของ แผ่นธรณี และพนื้ ทภ่ี ายใต้อิทธพิ ลของการเคลือ่ นของแผน่ ธรณีท่ีระดบั ความลึกต่างกนั ใหบ้ ริเวณดังกลา่ วเปน็ พื้นที่ เสี่ยงภัยแผน่ ดนิ ไหว ซง่ึ สง่ ผลใหส้ ง่ิ กอ่ สรา้ งเสยี หาย เกิดอนั ตรายตอ่ ชีวติ และทรพั ย์สนิ จงึ ต้องศึกษาแนวทางในการ เฝ้าระวัง และการปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเนน้ ส่กู ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการ เขยี น (Writing)  ทกั ษะการ คิดคานวณ (Arithmetic)  ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)

112 ทกั ษะดา้ น การสอื่ สาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอ่ื (Communication information and media literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผ้นู า (Leadership) 7. ช้ินงานหรอื ภาระงาน - 8. การจัดการเรยี นรู้ รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ท่ี 1 : ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูต้งั คาถามกระตนุ้ ความคดิ โดยใหน้ ักเรียนช่วยกนั ระดมความคิดในการตอบคาถาม ตวั อย่างเช่น • ประเทศไทยเคยเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ (แนวตอบ : นักเรียนส่วนมากอาจตอบว่าแผ่นดินไหวเคยเกิดขึ้นในประเทศไทยหลายครั้ง ตาม รายงานข่าวทางโทรทัศน์ที่นักเรียนเคยได้รับฟัง หรือจากรายงานการเกิดแผ่นดินไหวของกรม อตุ นุ ยิ มวทิ ยา) • แผน่ ดนิ ไหวเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ: แผน่ ดนิ ไหวเกิดจากการปลดปลอ่ ยพลังงานทีส่ ะสมไว้ในเปลือกโลกออกมาในรูปของคล่ืน ไหวสะเทือน ซ่ึงมสี าเหตจุ ากกระบวนการในธรรมชาติ และกิจกรรมของมนุษย์) ขัน้ ที่ 2 : ขนั้ สารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ใหน้ กั เรียนสบื ค้นข้อมูลเก่ียวกับการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว แลว้ ครูถามคาถามว่า • ศนู ย์เกิดแผ่นดินไหวกับจดุ เหนือศนู ย์เกดิ แผน่ ดินไหวคือบริเวณเดยี วกันหรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ ศนู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหว คือ ตาแหนง่ ภายในโลกทป่ี ลดปลอ่ ยพลังงานออกมาในรูปคล่ืนไหว สะเทือน ส่วนจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว คือ ตาแหน่งที่อยู่บนผิวโลกซึ่งอยู่เหนือศูนย์เกิด แผน่ ดนิ ไหว)

113 ขั้นท่ี 3 : ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายผลการทากจิ กรรม โดยครูตั้งคาถามเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดงั นี้ • การเปลี่ยนแปลงของแผ่นดินน้ามันมีผลต่อสิ่งต่างๆ ที่วางอยู่บนแผ่นดินน้ามันและหน้าตัดของ ดินน้ามนั อยา่ งไร (แนวตอบ: เมอื่ ออกแรงดนั อุปกรณช์ ุดรอยเลือ่ น จะทาใหแ้ ผ่นดินนา้ มันบรเิ วณใกล้รอยเลื่อนบิดและ โก่งตัว ส่งผลให้สิง่ ต่างๆ ที่วางอยู่บนแผ่นดินน้ามนั โค่นลม้ และเมื่อใช้มีดตดั แผ่นดินน้ามันตามแนว รอยเลอ่ื น จะเห็นหนา้ ตดั ดินน้ามนั เปน็ รอยคดโค้งอยา่ งชดั เจน) 2. หลงั จากอภปิ รายผลการทากิจกรรม ครตู งั้ คาถามเชือ่ มโยงเข้าสู่สภาพจริงของเปลือกโลกวา่ • ถ้าแผ่นดินนา้ มันในกิจกรรมเปรียบได้กับเปลือกโลก นักเรียนคิดว่าพ้ืนดินบรเิ วณน้ันจะเป็นอย่างไร และส่งผลตอ่ สิ่งมชี วี ติ และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างไร (แนวตอบ: พื้นดินแยกตัวหรือยบุ ตัวลง สิ่งกอ่ สร้างพังทลาย สิ่งมีชีวิตอาจเสียชีวิตจากการพังทลาย ของสง่ิ ก่อสร้าง สิง่ แวดล้อมมกี ารเปลยี่ นแปลงสภาพไปจากเดิม) ขั้นที่ 4 : ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูนาภาพแผนที่แสดงรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผ่านจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยมาให้นักเรียนดู เพื่อ เชื่อมโยงกบั ตาแหน่งการเกดิ แผ่นดินไหวในประเทศไทย แล้วถามคาถามให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความ คดิ เหน็ • จากแผนทีแ่ สดงรอยเลือ่ นมพี ลังท่พี าดผา่ นจงั หวดั ตา่ งๆ ในประเทศไทย นกั เรยี นคิดว่าบริเวณใดบ้าง ทตี่ ้ังอยู่บนแนวของเขตรอยเล่อื น (แนวตอบ: บริเวณแนวดา้ นตะวนั ตกของประเทศไทยจากภาคเหนอื ถงึ ภาคใต)้ • จงั หวัดที่นกั เรียนอาศยั อย่มู ีความเสี่ยงท่จี ะเกิดแผ่นดินไหวมากนอ้ ยเพียงใด (แนวตอบ: พิจารณาจากคาตอบของนักเรียน โดยอยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน ซึง่ ข้ึนอยู่กับจังหวัดท่ี นักเรยี นอาศัยอย)ู่ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรุปเกย่ี วกับแผ่นดินไหว โดยอาจมแี นวทางสรปุ ดงั น้ี “แผ่นดินไหว คือ การสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่รับรู้ได้ ณ จุดใดจุดหนึ่งบนโลก เกิดจากการปลดปล่อย พลังงานที่สะสมไวใ้ นเปลือกโลกออกมาในรูปของคลน่ื ไหวสะเทอื น ซง่ึ มีสาเหตุจากกระบวนการในธรรมชาติ และกจิ กรรมของมนุษย์ ส่งผลใหส้ งิ่ กอ่ สรา้ งเสียหาย เกิดอันตรายต่อชวี ิตและทรัพยส์ ิน”

114 ขั้นที่ 5 : ขั้นประเมนิ (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสังเกตการตอบคาถาม การรว่ มกันทาผลงาน และการนาเสนอผลงาน 2. ครปู ระเมินการปฏิบัตกิ ารจากการทาใบกิจกรรมท่ี 3.1 กิจกรรม ผลจากการเกิดแผน่ ดินไหว 3. ครตู รวจสอบผลการทาแบบฝกึ หดั

115 9. การวดั และประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ หรือ สงิ่ ที่ต้องการจะวดั และ ประเมินผล 1.นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ โดย ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี โดยใชแ้ บบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 2.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด ขนาดและความ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี รุนแรงของแผ่นดินไหว โดยใช้ นกั เรยี น แบบจาลอง(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด จากสึนามิโดยใช้ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี แบบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมินจาก - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบกิ (P) สรา้ งสรรคท์ ี่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผู้เรียนได้แสดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกบั -การสังเกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ

116 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

117 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

118 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................

119 13. ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชอ่ื ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)

120 ความเห็นของหวั หน้าสถานศึกษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรขู้ อง....................................................แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดงั นี้ เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม  ยังไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ลงชอื่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผ้อู านวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

121 ใบกิจกรรมท่ี 3.1 กิจกรรม ผลจากการเกดิ แผ่นดินไหว คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นปฏิบัตกิ จิ กรรมตามข้นั ตอนทกี่ าหนดให้ วสั ดุอปุ กรณ์ 1. อปุ กรณช์ ดุ รอยเลือ่ น 2. ดินนา้ มัน (หลายๆ สี) 3. คตั เตอร์ วิธปี ฏิบตั ิ 1. กดดินนา้ มันแผใ่ หเ้ ตม็ บนอปุ กรณช์ ุดรอยเลอื่ นจานวน 4-5 ชั้น โดยใชด้ นิ นา้ มนั ช้ันละสี 2. วางอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ยางลบ คลิปหนีบกระดาษ เหรียญ เป็นต้น เพื่อแทนส่ิงปลูกสรา้ งและสงิ่ แวดลอ้ ม ลงบนดินน้ามนั 3. ออกแรงดันกรอบไม้ของอุปกรณ์ชุดรอยเลื่อนตาม แนวลกู ศร สังเกตและบนั ทึกการเปลย่ี นแปลง 4. ใช้คัตเตอร์ตดั ดินน้ามันตามแนวของรอยแยก สังเกต และบันทึกลกั ษณะและรูปรา่ งของช้ันดินน้ามัน 5. อภปิ รายผลกจิ กรรม และตอบคาถามทา้ ยกิจกรรม คาถามทา้ ยกจิ กรรม 1. การเปล่ียนแปลงของแผ่นดินน้ามันมีผลต่อสิ่งต่างๆ ที่วางอยู่บนดินน้ามันและหน้าตัดของ ดนิ นา้ มนั อยา่ งไร

122 ใบกิจกรรมที่ 3.1 กิจกรรม ผลจากการเกดิ แผ่นดินไหว คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมตามข้ันตอนท่ีกาหนดให้ อภิปรายผลกิจกรรม เมื่อออกแรงดันกรอบไม้ของอุปกรณ์ชุดรอยเลื่อนตามแนวลูกศรจนดินน้ามันไม่สามารถ ต้านทานแรงนัน้ ได้ ดินนา้ มันจึงเปลีย่ นแปลงรปู ร่างในลักษณะการยืด บิด โคง้ งอ และเม่ือตดั ดินน้ามนั ให้ขาดจากกันจะเห็นหน้าตัดของดินน้ามันมีการโค้งงออย่างชัดเจน ซึ่งมีลักษณะเช่นเดยี วกับกรณที ่ี เกิดแผน่ ดินไหว คาถามทา้ ยกิจกรรม 2. การเปล่ียนแปลงของแผ่นดนิ น้ามันมีผลต่อสิ่งต่างๆ ที่วางอยู่บนดินน้ามันและหน้าตัดของ ดินนา้ มันอย่างไร (แนวตอบ : เม่อื ออกแรงดนั อปุ กรณช์ ดุ รอยเลื่อน จะทาให้แผน่ ดนิ น้ามนั บริเวณใกล้รอยเลื่อน บิดและโก่งตวั ส่งผลใหส้ ิ่งตา่ งๆ ท่วี างอยู่บนแผ่นดนิ น้ามนั โคน่ ล้ม และเมอ่ื ใชม้ ดี ตดั แผน่ ดินนา้ มันตาม แนวรอยเลอื่ น จะเห็นหน้าตัดดินนา้ มนั เปน็ รอยคดโค้งอย่างชดั เจน)

123 แผนการเรียนรู้ที่ 10 สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง สนึ ามิ เวลา 4 ชว่ั โมง 1.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั เขา้ ใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภยั และผลตอ่ สงิ่ มีชวี ติ และสง่ิ แวดล้อม รวมทงั้ การศกึ ษาลาดบั ชน้ั หิน ทรพั ยากรธรณี แผนที่ และการนาไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วัด 1. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและ นาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภยั ได้ 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั 1.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดโดยโดยใช้แบบจาลอง(K) 1.2 นักเรยี นสามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ขนาดและความรนุ แรงของแผน่ ดินไหว โดยใช้ แบบจาลอง(K) 1.3 นกั เรียนสามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดจากสนึ ามโิ ดยใช้แบบจาลอง(K) ด้านทกั ษะพสิ ยั 1.4 นักเรียนสามารถสืบค้นและนาเสนอขอ้ มลู พ้นื ทเี่ ส่ียงภัย และผลจากการเกดิ สึนามไิ ด้(P) ดา้ นเจตพสิ ัย 1.5 นักเรยี นสามารถทางานร่วมกับผู้อื่นไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ในกลุม่ ได้ (A)

124 4. สาระสาคัญ สึนามิ คือ คลื่นน้าที่เกิดจากมวลนา้ ถูกแทนที่ในปริมาณมหาศาล มีลักษณะที่แตกต่างจากคลื่นนา้ ทั่วไป คือ คลื่นเคลือ่ นที่ด้วยความเร็วสูง มีความยาวคลื่นยาวมาก ความสูงคลื่นน้อยเมื่ออยู่ในนา้ ลึก ส่วนมากจะเกิดใน ทะเลหรือมหาสมทุ ร และสามารถเคลื่อนที่ในมหาสมุทรได้เปน็ ระยะทางหลายพันกิโลเมตร เมอื่ คลื่นเคลื่อนที่เข้าสู่ ชายฝ่งั ความเรว็ จะลดลง และความสูงคลนื่ จะเพิ่มข้ึนจึงทาให้พ้ืนทบ่ี รเิ วณชายฝง่ั บางบรเิ วณเป็นพ้ืนท่ีเสี่ยงภัย จึง ตอ้ งศกึ ษาแนวทางในการเฝา้ ระวัง และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั 5. สาระการเรียนรู้ สึนามิ คอื คลนื่ นา้ ทเ่ี กดิ จากการแทนทมี่ วลน้าในปริมาณมหาศาล สว่ นมากจะเกดิ ในทะเลหรือมหาสมุทร โดยคลืน่ มลี กั ษณะเฉพาะ คือ ความยาวคล่นื มากและเคล่ือนทดี่ ้วยความเรว็ สูง เมอื่ อยกู่ ลางมหาสมทุ รจะมคี วามสูง คล่นื น้อย และอาจเพิม่ ความสูงขน้ึ อยา่ งรวดเร็วเมอ่ื คลน่ื เคลอื่ นทผ่ี า่ นบรเิ วณน้าตนื้ จงึ ทาให้พ้ืนทบ่ี รเิ วณชายฝ่ังบาง บริเวณเป็นพ้นื ท่เี ส่ยี งภยั สึนามิกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายแก่มนษุ ยแ์ ละสงิ่ กอ่ สรา้ งในบรเิ วณชายหาด จงึ ต้องศกึ ษาแนวทาง ในการเฝา้ ระวัง และการปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั 6. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการ เขยี น (Writing)  ทกั ษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทีม และภาวะผูน้ า (Collaboration , teamwork and leadership)

125 ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทันสอื่ (Communication information and media literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผูน้ า (Leadership) 7. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - 8. การจดั การเรียนรู้ รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ใชร้ ูปแบบการเรียนรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขน้ั ที่ 1 : ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ครูกระตุ้นความสนใจโดยให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับเหตุการณ์สึนามิในปี พ.ศ. 2547 จากนั้นให้ นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นในประเด็นคาถาม ตวั อยา่ งเชน่ • เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ วเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ: เกดิ จากสึนามเิ คลอื่ นทเ่ี ข้าส่ชู ายฝ่งั และความเสยี หายเกดิ จากการเคลอ่ื นท่ีของมวล นา้ เข้าปะทะกบั ส่ิงปลูกสร้าง และส่งิ แวดลอ้ มบรเิ วณชายฝั่ง) • นักเรยี นคดิ ว่าสนึ ามเิ กิดขึ้นไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ: เกดิ จากการแทนทีม่ วลน้าในปรมิ าณมาก เชน่ การเคลอ่ื นท่ีของเปลือกโลกในแนวดิ่ง อกุ กาบาตตกลงในมหาสมุทร แผน่ ดนิ ถลม่ ขนาดใหญใ่ ต้มหาสมุทร) ขั้นที่ 2 : ขนั้ สารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มทากจิ กรรมตามข้ันตอน ดงั น้ี 1. นาต้ปู ลาหรือกลอ่ งพลาสตกิ ใสทรงยาว มาใสท่ รายกองไวต้ ิดขอบดา้ นหนึง่ แล้วเตมิ นา้ ใหม้ คี วามสูง ของระดบั นา้ ประมาณคร่ึงหนึง่ ของกองทราย 2. นาขวดพลาสติกขนาด 300 มลิ ลลิ ติ ร ใส่น้าให้เตม็ แลว้ หย่อนลงในตูป้ ลาด้านตรงขา้ มกบั กองทราย สงั เกตการเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ขึ้น

126 ขั้นท่ี 3 : ขั้นอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยครูตั้งคาถามเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกัน แสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี • การเปลี่ยนแปลงของแผ่นดินน้ามันมีผลต่อสิ่งต่างๆ ที่วางอยู่บนแผ่นดินน้ามันและหน้าตัดของ ดินน้ามันอยา่ งไร (แนวตอบ: เมอื่ ออกแรงดันอปุ กรณ์ชดุ รอยเลื่อน จะทาให้แผ่นดนิ นา้ มันบรเิ วณใกลร้ อยเล่ือนบิดและ โก่งตัว ส่งผลใหส้ ิง่ ต่างๆ ที่วางอยู่บนแผ่นดินน้ามันโค่นลม้ และเมือ่ ใช้มดี ตัดแผ่นดินน้ามนั ตามแนว รอยเลื่อน จะเหน็ หน้าตดั ดินน้ามันเปน็ รอยคดโค้งอย่างชัดเจน) 2. หลงั จากอภปิ รายผลการทากิจกรรม ครูตงั้ คาถามเช่ือมโยงเข้าสสู่ ภาพจรงิ ของเปลือกโลกว่า • ถ้าแผ่นดินน้ามันในกิจกรรมเปรียบได้กับเปลือกโลก นักเรียนคิดว่าพ้ืนดินบรเิ วณนั้นจะเป็นอย่างไร และส่งผลตอ่ ส่งิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อมอย่างไร (แนวตอบ: พื้นดินแยกตัวหรือยุบตัวลง สิ่งกอ่ สร้างพังทลาย ส่ิงมีชวี ิตอาจเสียชีวิตจากการพังทลาย ของสิง่ ก่อสรา้ ง ส่ิงแวดล้อมมกี ารเปลีย่ นแปลงสภาพไปจากเดมิ ) ข้ันที่ 4 : ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเพอ่ื ใหไ้ ด้ขอ้ สรปุ เกยี่ วกับสนึ ามิ โดยอาจมีแนวทางสรปุ ดงั นี้ “สึนามิ คือ คลืน่ น้าที่เกดิ จากมวลน้าถกู แทนทใ่ี นปริมาณมหาศาล มลี กั ษณะท่ีแตกตา่ งจากคล่ืนนา้ ทว่ั ไป คือ คลน่ื เคลื่อนที่ดว้ ยความเร็วสงู มคี วามยาวคลื่นยาวมาก ความสงู คล่ืนน้อยเมื่ออยใู่ นน้าลกึ ส่วนมากจะเกิดในทะเลหรอื มหาสมทุ ร และสามารถเคลอื่ นที่ในมหาสมทุ รได้เปน็ ระยะทางหลายพนั กโิ ลเมตร เม่ือคลื่นเคลอ่ื นที่เขา้ สชู่ ายฝ่ังความเร็วจะลดลง และความสงู คลนื่ จะเพมิ่ ข้ึนจงึ ทาให้พน้ื ทบ่ี รเิ วณ ชายฝงั่ บางบรเิ วณเป็นพนื้ ท่เี ส่ยี งภยั ” ขั้นท่ี 5 : ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) 1. ครูประเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การร่วมกนั ทาผลงาน และจากการนาเสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลการทาแบบฝกึ หัด 3. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบหลังเรยี น

127 9. การวดั และประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ หรือ สงิ่ ที่ต้องการจะวดั และ ประเมินผล 1.นกั เรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ โดย ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี โดยใชแ้ บบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 2.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด ขนาดและความ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี รุนแรงของแผ่นดินไหว โดยใช้ นกั เรยี น แบบจาลอง(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.นักเรียนสามารถอธิบายสาเหตุ -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก กระบวนการเกิด จากสึนามิโดยใช้ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี แบบจาลอง(K) นักเรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมินจาก - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบิด(P) สรา้ งสรรคท์ ี่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผู้เรียนได้แสดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกับ -การสังเกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ

128 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

129 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

130 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................

131 13. ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชอ่ื ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)

132 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..

133 แผนการเรยี นรู้ที่ 4 วิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ เรื่อง ลาดับชนั้ หนิ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละผลการเรียนรู้ กลุ่มสารการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( ฉบบั ปรับปรงุ 2560 )

134 แผนการเรยี นร้ทู ่ี 11 สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง ลาดับชัน้ หนิ เวลา 10 ชัว่ โมง 1.มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ดั เขา้ ใจกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก ธรณีพิบตั ภิ ยั และผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และสง่ิ แวดล้อม รวมท้งั การศึกษาลาดบั ช้ันหนิ ทรัพยากรธรณี แผนที่ และการนาไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชีว้ ดั 1. วเิ คราะหห์ ลักฐานทางธรณวี ิทยาท่พี บในปัจจบุ นั และอธบิ ายลาดบั เหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาในอดีต 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพิสยั 1.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายหลกั การของการลาดบั ชน้ั ดนิ ได้(K) 1.2 นักเรียนสามารถอธิบายโครงสร้างทางธรณที มี่ ีผลตอ่ การลาดับชนั้ หินได้(K) 1.3 นกั เรียนสามารถอธบิ ายวธิ ีการหาอายุทางธรณีวิทยาทง้ั อายุเปรียบเทยี บและอายสุ มั บูรณไ์ ด้(K) ด้านทักษะพิสยั 1.4 นกั เรียนสามารถสบื ค้นและนาเสนอข้อมลู เกยี่ วกบั ลาดบั ชัน้ ของหนิ ได้(P) ด้านเจตพสิ ยั 1.5 นกั เรียนสามารถทางานรว่ มกับผูอ้ ่ืนได้อย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เห็นของสมาชิกในกลุ่มได้ (A)

135 4. สาระสาคัญ การลาดับช้นั หนิ คือ การจดั เรียงลาดับหน่วยของชั้นหินตามตาแหนง่ และลาดบั อายขุ องชัน้ หิน อีกท้ังยัง สามารถบอกลาดับเหตุการณ์ หรอื ปรากฏการณ์ทางธรณวี ทิ ยาทีเ่ คยเกดิ ขนึ้ ในบริเวณน้ันดว้ ย อายุทางธรณีวิทยา คือ ช่วงเวลาที่เวลาที่ซากดึกดาบรรพ์หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาได้ปรากฏหรือ เกดิ ข้ึน สามารถแสดงไดท้ ง้ั อายสุ มบรู ณ์ และอายเุ ปรยี บเทยี บ 5. สาระการเรยี นรู้ การลาดบั ชัน้ หิน เปน็ การศึกษาการวางตัว การแผ่กระจาย ลาดบั อายุ ความสมั พนั ธ์ของ ชน้ั หิน รอยช้ัน ไม่ต่อเนื่อง และหลักฐานทางธรณีวิทยาอื่น ๆ ที่ปรากฏ ทาให้ทราบลาดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา การ เปลย่ี นแปลงสภาพแวดล้อม วิวฒั นาการของส่งิ มชี วี ติ ทเ่ี กิดข้นึ บนโลกตั้งแต่กาเนิดโลกจนถงึ ปจั จุบนั หลักฐานทางธรณีวทิ ยา ได้แก่ ซากดึกดาบรรพ์ หิน และลกั ษณะโครงสร้างทางธรณี ซง่ึ นามา หาอายุได้ 2 แบบ ได้แก่ อายุเปรียบเทียบ คืออายุของ ซากดึกดาบรรพ์ หิน และ/หรือเหตกุ ารณ์ทางธรณีวิทยา เมื่อเทียบกับซากดึกดาบรรพ์ หิน และ/หรือเหตกุ ารณท์ างธรณีวิทยาอื่น ๆ และอายุสัมบูรณ์ คือ อายุที่ระบุเปน็ ตัวเลขของหิน และ/หรอื เหตกุ ารณ์ทางธรณีวทิ ยาซง่ึ คานวณได้จากไอโซโทปของธาตุ ขอ้ มูลจากอายุเปรยี บเทยี บและอายุสัมบรู ณ์ สามารถนามาจัดทามาตราธรณีกาล คือ การลาดับช่วงเวลา ของโลกตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันแบ่งออกเป็น บรมยุค มหายุค ยุค และสมัย ซึ่งแต่ละช่วงเวลามีสิ่งมีชีวิต สภาพแวดลอ้ มและเหตกุ ารณ์ที่เกิดขึ้นแตกตา่ งกนั 6. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรียน)  ทกั ษะการอา่ น (Reading)  ทักษะการ เขยี น (Writing)

136  ทักษะการ คิดคานวณ (Arithmetic)  ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทักษะดา้ น การสอ่ื สาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่อื (Communication information and media literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing) ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผู้นา (Leadership) 7. ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การลาดบั ชนั้ หนิ - ใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง การหาอายทุ างธรณวี ิทยา - ใบงานท่ี 4.3 เรื่อง มาตราธรณีกาล 8. การจัดการเรียนรู้ เวลา 4 ชว่ั โมง • แผนฯ ที่ 1 : การลาดับชั้นหิน เวลา 3 ชว่ั โมง วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 3 ช่วั โมง • แผนฯ ที่ 2 : การหาอายทุ างธรณีวทิ ยา (รวมเวลา 10 ชว่ั โมง) วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ท่ี 3 : มาตราธรณีกาล วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

137 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดไม่ใช่หนว่ ยหินทใ่ี ช้ในการลาดับชน้ั หิน 6. กระบวนการในข้อใดไมเ่ กยี่ วข้องกบั รอยชัน้ ไมต่ อ่ เนอ่ื ง 1. ชั้นหิน 2. ชุดหนิ 1. การยกตัวของเปลือกโลก 3. หมู่หนิ 4. กลุ่มหิน 2. การกร่อน 5. หมวดหิน 3. กระบวนการของแมกมา 2. ขอ้ ใดเปน็ กลุ่มหินท่ีมีอายมุ ากท่สี ุดในประเทศไทย 1. กลมุ่ หินแม่เมาะ 4. การสะสมตัวของตะกอน 2. กลุม่ หินราชบรุ ี 3. กลุ่มหินทับศิลา 5. การนาพา 4. กลมุ่ หินทองผาภูมิ 5. กลมุ่ หินราชบรุ ี 7. ถา้ ตอ้ งการหาอายุของหินในบรมยุคพรแี คมเบรยี น 3. ข้อใดเปน็ การบอกอายเุ ปรียบเทียบ ควรใชไ้ อโซโทปของธาตใุ ด 1. หินชีสต์อายุ 2,000 ลา้ นปี 2. ตน้ ไม้มีวงปี 250 วง 1. โพแทสเซยี ม 3. ซากดึกดาบรรพ์ช้างอายุ 4 แสนปี 4. หนิ ทรายมีอายุมากกว่าหนิ ปูน 2. คารบ์ อน 5. หินไนสม์ ีอายอุ ยใู่ นยคุ ไทรแอสสิก 3. ออกซเิ จน 4. ข้อใดอธิบายกฎการลาดับช้นั 1. หนิ ทรายทีอ่ ยู่วางตัวบนชั้นหนิ ปูนมีอายุน้อยกวา่ 4. ไฮโดรเจน 2. หินอัคนที ี่แทรกตดั เข้ามามีอายมุ ากกว่าหินเดมิ 3. หินอคั นที แี่ ทรกตดั เข้ามามีอายนุ ้อยกว่าหินเดมิ 5. ไนโตรเจน 4. รอยเลื่อนท่แี ทรกตัดเข้ามามีอายุมากกว่าหินเดิม 5. รอยเลือ่ นแทรกตัดเข้ามามอี ายุน้อยกวา่ หินเดมิ 8. ถา้ ตอ้ งการหาอายุของซากดกึ ดาบรรพท์ ี่อายุ 20,000 ปี 5. กระบวนการใดที่อาจทาใหช้ ัน้ หินมกี ารพลิกกลับ ควรใช้ไอโซโทปของธาตุใด 1. การยกตัวของเปลือกโลก 2. การกร่อน 1. โพแทสเซยี ม 3. รอยคดโคง้ 4. กระบวนการของแมกมา 2. คารบ์ อน 5. การแปรสภาพของหนิ 3. อารก์ อน 4. รบู ิเดียม 5. ยูเรเนยี ม 9. ยุคใดท่สี ตั ว์ทะเลสูญพันธม์ุ ากทีส่ ุด 1. พรแี คมเบรยี น 2. แคมเบรยี น 3. ไซลูเรียน 4. ดโี วเนียน 5. เพอร์เมยี น 10. ยคุ ใดทีไ่ ดโนเสารส์ ญู พันธ์ไุ ปจนหมด 1. ไทรแอสสิก 2. จแู รสสกิ 3. ครีเทเชียส 4. พาลีโอจนี 5. เพอรเ์ มียน

138 แบบทดสอบหลังเรียน คาชแี้ จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเปน็ การบอกอายุเปรยี บเทยี บ 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หน่วยหินทใ่ี ช้ในการลาดบั ช้ันหิน 1. หินชีสต์อายุ 2,000 ลา้ นปี 1. ชั้นหิน 2. ต้นไมม้ ีวงปี 250 วง 2. ชุดหนิ 3. ซากดึกดาบรรพ์ช้างอายุ 4 แสนปี 3. หมู่หนิ 4. หินทรายมีอายุมากกว่าหนิ ปูน 4. กลมุ่ หิน 5. หนิ ไนส์มอี ายอุ ย่ใู นยุคไทรแอสสิก 5. หมวดหนิ 2. กระบวนการใดทอ่ี าจทาใหช้ น้ั หินมกี ารพลกิ กลับ 7. ถา้ ต้องการหาอายุของซากดกึ ดาบรรพ์ท่ีอายุ 20,000 ปี 1. การยกตัวของเปลือกโลก ควรใช้ไอโซโทปของธาตใุ ด 2. การกร่อน 1. โพแทสเซียม 3. รอยคดโค้ง 2. คาร์บอน 4. กระบวนการของแมกมา 3. อาร์กอน 5. การแปรสภาพของหนิ 4. รูบเิ ดยี ม 3. ขอ้ ใดอธบิ ายกฎการลาดับชนั้ 5. ยเู รเนียม 1. หินทรายที่อยู่วางตัวบนช้ันหนิ ปูนมีอายนุ ้อยกวา่ 8. ข้อใดเป็นกลุม่ หนิ ท่ีมอี ายมุ ากท่สี ดุ ในประเทศไทย 2. หินอคั นที แ่ี ทรกตดั เขา้ มามีอายมุ ากกว่าหนิ เดิม 1. กลุ่มหินแมเ่ มาะ 3. หินอคั นที ่ีแทรกตัดเขา้ มามีอายนุ ้อยกว่าหินเดิม 2. กลุ่มหินราชบุรี 4. รอยเลื่อนทีแ่ ทรกตดั เข้ามามีอายุมากกว่าหินเดิม 3. กลุ่มหินทบั ศิลา 5. รอยเลื่อนแทรกตดั เขา้ มามีอายุน้อยกวา่ หินเดมิ 4. กลมุ่ หินทองผาภมู ิ 4. กระบวนการในข้อใดไม่เก่ียวข้องกบั รอยชัน้ ไมต่ ่อเนือ่ ง 5. กลมุ่ หินราชบุรี 1. การยกตัวของเปลือกโลก 9. ยุคใดที่ไดโนเสาร์สูญพันธ์ุไปจนหมด 2. การกร่อน 1. ไทรแอสสิก 3. กระบวนการของแมกมา 2. จูแรสสกิ 4. การสะสมตัวของตะกอน 3. ครเี ทเชียส 5. การนาพา 4. พาลีโอจนี 5. ถา้ ตอ้ งการหาอายุของหินในบรมยคุ พรีแคมเบรียน 5. เพอรเ์ มยี น ควรใชไ้ อโซโทปของธาตุใด 10. ยุคใดทสี่ ตั วท์ ะเลสูญพนั ธมุ์ ากท่สี ดุ 1. โพแทสเซยี ม 1. พรแี คมเบรียน 2. คาร์บอน 2. แคมเบรียน 3. ออกซเิ จน 3. ไซลเู รยี น 4. ไฮโดรเจน 4. ดโี วเนียน 5. ไนโตรเจน 5. เพอร์เมยี น

139 การวดั และประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ หรอื ส่ิงท่ีตอ้ งการจะวดั และ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ประเมินผล ตอบคาถามของ 1.นกั เรยี นสามารถอธิบายหลกั การ นักเรยี น 3 =ดี 3 =ดี ของการลาดบั ช้ันดินได้(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 2.นกั เรียนสามารถอธิบาย -ประเมนิ จากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก โครงสรา้ งทางธรณีทม่ี ผี ลตอ่ การ ตอบคาถามของ ลาดบั ชั้นหนิ ได้(K) นักเรยี น 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.นักเรียนสามารถอธบิ ายวธิ กี ารหา -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก อายุทางธรณีวิทยาทง้ั อายุ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี เปรียบเทียบและอายสุ มั บรู ณ์ได้(K) นกั เรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมนิ จาก - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคิด 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ (P) สร้างสรรคท์ ี่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผเู้ รียนได้แสดง 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ ความคิดเห็น 5.นักเรียนสามารถทางานรว่ มกบั -การสังเกต - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ผู้อื่นไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคิดเห็นของสมาชกิ ในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง

140 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

141 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ

142 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................

143 13. ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชื่อ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)

144 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..

145 แผนการเรียนรู้ที่ 12 สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง การลาดบั ชนั้ หิน เวลา 4 ชั่วโมง 1.มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัด เข้าใจกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก ธรณพี บิ ตั ภิ ัยและผลตอ่ สงิ่ มชี วี ิตและสง่ิ แวดล้อม รวมทั้ง การศึกษาลาดบั ชนั้ หิน ทรพั ยากรธรณี แผนที่ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ช้ีวัด 1. วิเคราะหห์ ลกั ฐานทางธรณีวิทยาท่พี บในปจั จุบนั และอธบิ ายลาดับเหตุการณ์ทางธรณวี ทิ ยาในอดตี 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านพุทธิพิสยั 1.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายหลกั การของการลาดบั ชน้ั ดนิ ได้(K) 1.2 นกั เรียนสามารถอธิบายโครงสร้างทางธรณีท่ีมผี ลต่อการลาดบั ช้ันหนิ ได้(K) 1.3 นักเรยี นสามารถอธิบายวิธีการหาอายทุ างธรณวี ทิ ยาท้ังอายเุ ปรียบเทียบและอายสุ ัมบูรณ์ได้(K) ด้านทักษะพิสยั 1.4 นักเรียนสามารถสบื คน้ และนาเสนอขอ้ มลู เก่ยี วกบั ลาดบั ชัน้ ของหนิ ได้(P) ดา้ นเจตพิสยั 1.5 นักเรียนสามารถทางานรว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ยอมรับความคิดเห็นของสมาชิกในกลมุ่ ได้ (A)

146 4. สาระสาคัญ การลาดับชน้ั หนิ คอื การจดั เรียงลาดับหน่วยของชน้ั หินตามตาแหนง่ และลาดบั อายขุ องชั้นหิน อีกท้ังยัง สามารถบอกลาดบั เหตุการณ์ หรอื ปรากฏการณท์ างธรณีวทิ ยาทเี่ คยเกิดข้ึนในบริเวณนัน้ ดว้ ย 5. สาระการเรียนรู้ การลาดับชัน้ หิน เป็นการศึกษาการวางตวั การแผ่กระจาย ลาดับอายุ ความสมั พนั ธข์ อง ชน้ั หนิ รอยช้ัน ไม่ต่อเนื่อง และหลักฐานทางธรณีวิทยาอื่น ๆ ที่ปรากฏ ทาให้ทราบลาดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา การ เปล่ยี นแปลงสภาพแวดลอ้ ม ววิ ฒั นาการของสงิ่ มีชีวติ ท่เี กดิ ขึน้ บนโลกตั้งแต่กาเนิดโลกจนถึงปัจจบุ นั 6. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ทกั ษะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน)  ทักษะการอา่ น (Reading)  ทกั ษะการ เขียน (Writing)  ทักษะการ คิดคานวณ (Arithmetic)  ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration , teamwork and leadership) ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะด้าน การส่ือสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สอ่ื (Communication information and media literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing)

147 ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change)  ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills) ภาวะผ้นู า (Leadership) 7. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง การลาดบั ช้นั หิน - ใบงานท่ี 4.2 เรอื่ ง การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา - ใบงานที่ 4.3 เร่ือง มาตราธรณกี าล 8. การจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ใชร้ ูปแบบการเรียนรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ท่ี 1 : ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพือ่ วัดความร้เู ดิมของนกั เรยี นกอ่ นเขา้ สบู่ ทเรียน ครตู ้งั คาถามกระตุน้ ความคดิ โดยให้นักเรียนชว่ ยกันระดมความคดิ ในการตอบคาถาม • ถ้าต้องการทราบเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดขน้ึ ในอดีต นักเรียนจะทาอยา่ งไร (แนวตอบ ค้นหาข้อมลู จากหอ้ งสมดุ หรือสืบคน้ จากอนิ เทอร์เน็ต) • ถา้ เหตุการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ในอดตี ยาวนานนับล้านปี นักเรยี นจะทาอย่างไร (แนวตอบ ศกึ ษาไดจ้ ากซากดกึ ดาบรรพ์ หรือร่องรอยท่ีปรากฏใหเ้ ห็นในปจั จุบนั ) • นักวิทยาศาสตรม์ วี ิธีการอยา่ งไร ในการศึกษาเหตุการณใ์ นอดีตที่ยาวนาน เชน่ ประวตั ิของโลก (แนวตอบ ศึกษาจากหลักฐานทางธรณีวทิ ยา ประกอบกับปรากฏการณ์ในปัจจุบนั เพื่ออธบิ าย เหตุการณ์ท่ีเคยเกิดขนึ้ ในอดตี ) ข้นั ที่ 2 : ข้ันสารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ใหน้ กั เรียนสบื คน้ ขอ้ มูลเกีย่ วกับการลาดับชั้นหนิ แลว้ ครูถามคาถามวา่ • นกั วิทยาศาสตรใ์ ชว้ ิธีการใดในการลาดับชน้ั หิน (แนวตอบ นาข้อมูลอายุทางธรณวี ทิ ยาของหิน ซากดกึ ดาบรรพ์ และเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ทิ ยา อน่ื ๆ มาจดั เรียงตามลาดับ ประกอบกบั หลักการในการลาดบั ชน้ั หิน เช่น กฎการลาดบั ชัน้ กฎ ความสมั พนั ธท์ ่ีตัดกัน หลักเอกรูปนิยม)

148 • การลาดบั ช้ันหินมปี ระโยชน์ในด้านใดบา้ ง (แนวตอบ นกั วทิ ยาศาสตรจ์ ัดลาดบั ชน้ั หินเพอ่ื ใชอ้ า้ งอิงในงานด้านธรณวี ิทยา และสาขาวชิ าท่ี เก่ยี วข้อง นอกจากนยี้ งั สามารถบอกถึงประวตั ทิ างธรณีวิทยาของพ้นื ท่ี หรือปรากฏการณท์ าง ธรณวี ทิ ยาที่เคยเกิดขึน้ ในอดีต) ขั้นท่ี 3 : ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยครูตัง้ คาถามเพื่อให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ดังนี้ • กลุ่มหินท่มี อี ายุมากที่สุด และนอ้ ยทส่ี ดุ ในประเทศไทย คือกลมุ่ หนิ ใด (แนวตอบ กลุ่มหนิ ท่ีมีอายุมากทสี่ ดุ คือ กลุม่ หินทับศิลา กลมุ่ หนิ ท่ีมีอายุนอ้ ยทีส่ ดุ คอื กลุ่มหิน แมเ่ มาะ) • กลุ่มหินที่มีอายมุ ากที่สุด และน้อยทีส่ ุดในประเทศไทย ประกอบด้วยหนิ ใดบ้าง และกระจายตัวอยู่ บรเิ วณใดของประเทศ (แนวตอบ กลุม่ หนิ ที่มีอายุมากท่สี ดุ ส่วนใหญป่ ระกอบด้วยหินแปร เชน่ หินไนส์ หินชีสต์ กระจาย ตัวอยู่บริเวณภาคตะวันตกของประเทศ ส่วนกลุ่มหนิ ทีอ่ ายุน้อยท่ีสุดส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้น ตะกอนสลับกบั หนิ ตะกอน อยูบ่ รเิ วณภาคเหนอื และภาคกลางของประเทศ) ขน้ั ที่ 4 : ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายเพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ เก่ียวกบั การลาดบั ชัน้ หนิ โดยอาจมแี นวทางสรุป ดังน้ี “การลาดับชนั้ หนิ คอื การจดั เรียงลาดบั หนว่ ยของชน้ั หินตามตาแหน่ง และลาดับอายขุ องช้ันหิน อีกทั้งยัง สามารถบอกลาดบั เหตุการณ์ หรือปรากฏการณ์ทางธรณวี ทิ ยาท่เี คยเกดิ ข้นึ ในบรเิ วณนั้นดว้ ย ซง่ึ การจาแนก หนว่ ยหินจะเรยี งจากหน่วยใหญ่ไปยงั หน่วยย่อย ดงั น้ี กล่มุ หนิ หมวดหนิ หมูห่ ิน และชัน้ หนิ ” ขน้ั ที่ 5 : ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) 1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ครูประเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การร่วมกนั ทาผลงาน และการนาเสนอผลงาน 3. ครูประเมินการปฏบิ ัตกิ ารจากการทาใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง การลาดับช้ันหิน 4. ครูตรวจสอบผลการทาแบบฝึกหัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook