149 9. การวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ หรือ ส่ิงท่ตี ้องการจะวดั และ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ประเมินผล ตอบคาถามของ 1.นกั เรยี นสามารถอธิบายหลกั การ นักเรยี น 3 =ดี 3 =ดี ของการลาดบั ช้นั ดินได้(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 2.นักเรยี นสามารถอธิบาย -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก โครงสรา้ งทางธรณที มี่ ผี ลตอ่ การ ตอบคาถามของ ลาดบั ชัน้ หินได้(K) นกั เรยี น 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 3.นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการหา -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก อายทุ างธรณวี ิทยาทงั้ อายุ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี เปรียบเทียบและอายสุ มั บรู ณไ์ ด้(K) นกั เรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมนิ จาก - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภเู ขาไฟระเบิด(P) สร้างสรรค์ที่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผูเ้ รยี นไดแ้ สดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกับ -การสงั เกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผูอ้ ่นื ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง
150 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
151 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
152 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................
153 13. ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชื่อ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)
154 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..
155 ใบงานที่ 4.1 เร่อื ง การลาดบั ชน้ั หิน คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กยี่ วกบั การลาดบั ช้ันหินในรูปแบบของแผนผงั ความคดิ และนาเสนอผลงาน
156 ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง การลาดับชั้นหิน คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกบั การลาดับช้ันหินในรปู แบบของแผนผงั ความคิด และนาเสนอผลงาน การลำดบั ช้ันหนิ การจดั เรยี งลำดบั หน่วยของชั้นหินตามตำแหนง่ การจำแนกหนว่ ยหิน และลำดบั อายขุ องชั้นหนิ อีกทัง้ ยงั สามารถบอก ลำดบั เหตุการณ์ หรือปรากฏการณ์ทาง ธรณีวิทยาท่เี คยเกิดข้นึ ในบริเวณนนั้ กลมุ่ หิน หนว่ ยหินซ่ึงมอี ายุอย่ใู นยคุ หรือมหายคุ เดียวกัน ที่ประกอบดว้ ยหมวดหนิ ตัง้ แต่ 2 หมวดข้นึ ไป หมวดหิน หมู่หิน หนว่ ยหนิ ซึง่ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของหมวดหิน แตม่ ี ลกั ษณะเดน่ แตกต่างจากสว่ นอื่นของหมวดหิน ชน้ั หนิ หน่วยย่อยท่สี ุดของลำดบั ชนั้ หิน มลี กั ษณะเดน่ แตกตา่ งจากช้ันหินอน่ื อาจหนาตัง้ แต่ 1 เซนติเมตรจนถึง 3 เมตร
157 แผนการเรยี นร้ทู ่ี 13 สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การหาอายุทางธรณี เวลา 3 ช่ัวโมง 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด เข้าใจกระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก ธรณพี ิบตั ภิ ยั และผลตอ่ สงิ่ มชี วี ิตและสงิ่ แวดลอ้ ม รวมทัง้ การศกึ ษาลาดบั ชั้นหนิ ทรัพยากรธรณี แผนที่ และการนาไปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ชี้วดั 1. วิเคราะหห์ ลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่พี บในปจั จุบนั และอธิบายลาดับเหตกุ ารณ์ทางธรณีวิทยาในอดตี 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพสิ ยั 1.1 นกั เรียนสามารถอธิบายหลกั การของการลาดบั ชนั้ ดินได้(K) 1.2 นกั เรียนสามารถอธิบายโครงสรา้ งทางธรณที ี่มผี ลต่อการลาดบั ชั้นหนิ ได้(K) 1.3 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการหาอายทุ างธรณีวิทยาท้งั อายเุ ปรียบเทียบและอายสุ ัมบูรณ์ได้(K) ดา้ นทักษะพิสยั 1.4 นกั เรยี นสามารถสบื ค้นและนาเสนอข้อมลู เกยี่ วกบั ลาดบั ชั้นของหินได้(P) ด้านเจตพสิ ัย 1.5 นกั เรยี นสามารถทางานรว่ มกับผ้อู นื่ ได้อย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคิดเห็นของสมาชกิ ในกลุ่มได้ (A)
158 4. สาระสาคญั อายุทางธรณีวิทยา คือ ช่วงเวลาที่เวลาที่ซากดึกดาบรรพ์หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาได้ปรากฏหรื อ เกิดข้ึน สามารถแสดงไดท้ ัง้ อายสุ มบรู ณ์ และอายเุ ปรยี บเทยี บ อายุสัมบูรณ์ คือ อายุของหิน ซากดึกดาบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาที่ระบุเป็นจานวนปี โดย คานวณไดจ้ ากไอโซโทปของธาตุ อายุเปรยี บเทยี บ คอื อายุของหนิ ซากดกึ ดาบรรพ์ หรือเหตุการณท์ างธรณีวิทยาเมื่อเทียบกับหิน ซากดึก ดาบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาอืน่ ๆ โดยไม่บอกเป็นจานวนปี 5. สาระการเรียนรู้ หลักฐานทางธรณวี ิทยา ได้แก่ ซากดึกดาบรรพ์ หิน และลักษณะโครงสร้างทางธรณี ซึ่งนามาหาอายุได้ 2 แบบ ได้แก่ อายุเปรียบเทียบ คืออายุของ ซากดึกดาบรรพ์ หิน และ/หรือเหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยา เมื่อเทยี บกบั ซากดึกดาบรรพ์ หิน และ/หรือเหตกุ ารณท์ างธรณีวทิ ยาอื่น ๆ และอายุสัมบูรณ์ คือ อายทุ ีร่ ะบุเป็นตัวเลขของหิน และ/หรอื เหตุการณท์ างธรณีวทิ ยาซึ่งคานวณได้จากไอโซโทปของธาตุ 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน) ทกั ษะการอ่าน (Reading) ทกั ษะการ เขยี น (Writing) ทักษะการ คิดคานวณ (Arithmetic) ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ปญั หา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
159 ทักษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสือ่ (Communication information and media literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing) ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ า (Leadership) 7. ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง การลาดบั ชนั้ หิน - ใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา - ใบงานท่ี 4.3 เรอ่ื ง มาตราธรณกี าล 8. การจัดการเรียนรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ ใช้รูปแบบการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ท่ี 1 : ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูกระตุ้นความสนใจ โดยถามคาถามวา่ การหาอายทุ างธรณีวิทยามีประโยชนอ์ ยา่ งไร (แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยาสามารถบอกประวตั ิของพน้ื ท่ี หรือช่วงเวลาทีเ่ คยเกิดเหตุการณ์ทาง ธรณีวทิ ยาทีเ่ คยขึ้นในพนื้ ท่ีน้นั เพอ่ื นาข้อมลู ไปใชใ้ นการศึกษา การวางแผน การจัดการพ้นื ท)ี่ 1. ครตู ้งั คาถามกระต้นุ ความคิดโดยใหน้ ักเรยี นช่วยกันระดมความคดิ ในการตอบคาถาม • อายุทางธรณีวิทยาคอื อะไร (แนวตอบ อายุทางธรณีวทิ ยา คือ ชว่ งเวลาท่ีเวลาทซี่ ากดกึ ดาบรรพห์ รือเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ทิ ยา ไดป้ รากฏหรือเกดิ ขน้ึ สามารถแสดงไดท้ ั้ง อายสุ มบรู ณ์ และอายุเปรยี บเทยี บ) • อายเุ ปรยี บเทียบและอายสุ มั บูรณแ์ ตกต่างกนั อย่างไร (แนวตอบ อายุเปรียบเทียบจะไม่แสดงอายเุ ป็นจานวนปี อายุสมั บรู ณจ์ ะแสดงอายุเปน็ จานวนปี) • นกั วทิ ยาศาสตร์มีวิธกี ารหาอายเุ ปรียบเทยี บไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ หาได้จากกฎและหลกั ในการลาดบั ชั้นหิน)
160 ขั้นที่ 2 : ขน้ั สารวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ กั เรยี นสืบค้นข้อมลู เก่ยี วกบั การหาอายุเปรียบเทยี บ แล้วครถู ามคาถามวา่ • นกั เรยี นคิดว่า หลกั การและกฎในการลาดบั ช้ันหนิ เพ่ือใชใ้ นการหาอายเุ ปรยี บเทยี บ ทคี่ วรทราบ มี อะไรบ้าง (แนวตอบ กฎการลาดบั ช้นั กฎความสัมพันธ์ทตี่ ัดกัน กฎการสบื สัตวชาติ กฎชนั้ ต่อเนือ่ ง กฎชั้นแนวนอน หลักเอกรปู นยิ ม และกฎอน่ื ๆ ตามทน่ี กั เรยี นสบื ค้นได้) • นกั เรียนคิดว่าการหาอายเุ ปรยี บเทียบของหินตะกอนท่วี างตวั ซอ้ นทบั กนั เปน็ ชน้ั ควรใช้หลกั ในการ ลาดบั ช้นั หนิ ข้อใด (แนวตอบ กฎการลาดบั ช้นั กฎชัน้ ต่อเนอ่ื ง กฎชน้ั แนวนอน และกฎอื่น ๆ ตามหลักฐานทาง ธรณีวิทยาทีพ่ บในช้นั หินตะกอนดังกล่าว) ข้ันท่ี 3 : ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยครูตัง้ คาถามเพ่ือใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ดงั น้ี • ถา้ เปรียบเทียบการวางตัวของกรวดและทรายกบั ชนั้ หนิ ชัน้ ใดมีอายมุ ากท่ีสดุ และชน้ั ใดมีอายุนอ้ ยทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ ชน้ั กรวดมอี ายุมากทีส่ ุด เพราะเทลงในขวดเป็นลาดบั แรก ชั้นทรายละเอียดมอี ายุน้อย ทีส่ ดุ เพราะเทลงในขวดเปน็ ลาดบั สดุ ท้าย) • จากผลการทากิจกรรม สามารถนามาสรุปเปน็ กฎการลาดบั ชนั้ ได้อยา่ งไร (แนวตอบ ช้นั หินที่มีอายอุ ่อนจะวางตัวอยบู่ นช้ันหินทีม่ อี ายุแก่กว่า ถ้าช้นั หนิ ไม่มกี ารพลกิ กลับ) ขั้นท่ี 4 : ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเพื่อใหไ้ ด้ข้อสรุปเกี่ยวกับอายุทางธรณีวิทยา โดยอาจมีแนวทางสรปุ ดงั นี้ “อายุทางธรณวี ิทยา คือ ช่วงเวลาทีเ่ วลาที่ซากดึกดาบรรพ์หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาได้ปรากฏหรือ เกดิ ขึ้น สามารถแสดงได้ท้งั อายุสมบรู ณ์ และอายุเปรยี บเทียบ ซงึ่ อายุสัมบูรณ์ คอื อายขุ องหิน ซากดึก ดาบรรพ์ หรอื เหตกุ ารณ์ทางธรณีวทิ ยาทีร่ ะบเุ ป็นจานวนปี โดยคานวณไดจ้ ากไอโซโทปของธาตุ และอายุ เปรยี บเทยี บ คือ อายขุ องหิน ซากดึกดาบรรพ์ หรือเหตกุ ารณ์ทางธรณีวิทยาเม่อื เทียบกบั หิน ซากดึกดา บรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาอ่นื ๆ โดยไม่บอกเป็นจานวนป”ี
161 ขัน้ ที่ 5 : ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) 5. ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน 6. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทาผลงาน และการนาเสนอผลงาน 7. ครปู ระเมนิ การปฏบิ ัตกิ ารจากการทาใบงานท่ี 4.2 เร่ือง การหาอายทุ างธรณีวทิ ยา 8. ครูตรวจสอบผลการทาแบบฝกึ หัด
162 9. การวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ หรือ ส่ิงท่ตี ้องการจะวดั และ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ประเมินผล ตอบคาถามของ 1.นกั เรยี นสามารถอธิบายหลกั การ นักเรยี น 3 =ดี 3 =ดี ของการลาดบั ช้นั ดินได้(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 2.นักเรยี นสามารถอธิบาย -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก โครงสรา้ งทางธรณที มี่ ผี ลตอ่ การ ตอบคาถามของ ลาดบั ชัน้ หินได้(K) นกั เรยี น 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 3.นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการหา -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก อายทุ างธรณวี ิทยาทงั้ อายุ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี เปรียบเทียบและอายสุ มั บรู ณไ์ ด้(K) นกั เรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมนิ จาก - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภเู ขาไฟระเบิด(P) สร้างสรรค์ที่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผูเ้ รยี นไดแ้ สดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกับ -การสงั เกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผูอ้ ่นื ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง
163 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
164 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
165 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................
166 13. ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชื่อ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)
167 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..
168 ใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง การหาอายุทางธรณีวิทยา คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนสรปุ ความรเู้ กี่ยวกับการหาอายทุ างธรณวี ทิ ยาในรปู แบบของแผนผังความคดิ และนาเสนอ ผลงาน
169 ใบงานท่ี 4.2 เร่อื ง การหาอายทุ างธรณวี ิทยา คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนสรปุ ความรเู้ ก่ียวกับการหาอายุทางธรณวี ิทยาในรูปแบบของแผนผังความคดิ และนาเสนอ ผลงาน อายทุ างธรณวี ทิ ยา อายุเปรยี บเทียบ อายุสมั บรู ณ์ หลักในการลำดบั ชั้นหิน บอกเปน็ จำนวนปีโดย - กฎการลำดับช้นั คำนวณจากครึ่งชวี ติ ของ - กฎความสมั พันธท์ ตี่ ัด ไอโซโทปของธาตุ เช่น กนั โพแทสเซียม รบู ิเดยี ม - กฎการสืบสตั วชาติ คาร์บอน ยเู รเนยี ม - หลักเอกรูปนิยม - รอยชัน้ ไมต่ ่อเน่อื ง - การเทยี บสมั พันธ์ชัน้ หิน
170 แผนการเรยี นรูท้ ่ี 14 สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง มาตราธรณกี าล เวลา 3 ชว่ั โมง 1.มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั เข้าใจกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก ธรณพี ิบตั ภิ ยั และผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม รวมทัง้ การศกึ ษาลาดบั ช้ันหิน ทรัพยากรธรณี แผนท่ี และการนาไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตัวชีว้ ดั 1. วเิ คราะห์หลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาทพ่ี บในปัจจบุ ัน และอธบิ ายลาดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดตี 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย 1.1 นักเรียนสามารถอธบิ ายหลกั การของการลาดบั ชน้ั ดนิ ได้(K) 1.2 นกั เรียนสามารถอธิบายโครงสรา้ งทางธรณที ีม่ ีผลตอ่ การลาดบั ชั้นหินได้(K) 1.3 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวิธกี ารหาอายทุ างธรณีวทิ ยาทงั้ อายุเปรยี บเทียบและอายสุ ัมบรู ณไ์ ด้(K) ด้านทกั ษะพสิ ยั 1.4 นักเรยี นสามารถสบื ค้นและนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ลาดบั ชน้ั ของหนิ ได้(P) ดา้ นเจตพสิ ัย 1.5 นักเรียนสามารถทางานร่วมกบั ผ้อู นื่ ได้อย่างสร้างสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ในกลุ่มได้ (A)
171 4. สาระสาคัญ มาตราธรณีกาล คือ การลาดับอายุทางธรณีวิทยาตั้งแต่โลกถือกาเนิดขึ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทาง ธรณวี ิทยา และสงิ่ มีชวี ติ มากมาย เพ่อื ความเข้าใจชัดเจน นกั วิทยาศาสตรจ์ ึงจดั แบ่งชว่ งเวลาทางธรณีวทิ ยาออกเปน็ บรมยคุ มหายุค ยคุ สมยั ช่วงอายุ และรนุ่ ตามลาดับ 5. สาระการเรยี นรู้ ข้อมูลจากอายุเปรียบเทียบและอายุสัมบูรณ์ สามารถนามาจัดทามาตราธรณีกาล คือ การลาดับ ช่วงเวลาของโลกต้งั แตเ่ กิดจนถงึ ปัจจุบันแบ่งออกเป็น บรมยคุ มหายุค ยุค และสมยั ซง่ึ แต่ละช่วงเวลามีสิ่งมีชีวิต สภาพแวดลอ้ มและเหตกุ ารณท์ ี่เกิดขนึ้ แตกตา่ งกัน 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ทักษะของผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น) ทักษะการอา่ น (Reading) ทักษะการ เขียน (Writing) ทักษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic) ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork and leadership) ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะดา้ น การส่อื สาร สารสนเทศ และร้เู ท่าทนั สื่อ (Communication information and media literacy) ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing)
172 ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ า (Leadership) 7. ช้นิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การลาดบั ชนั้ หิน - ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา - ใบงานที่ 4.3 เร่ือง มาตราธรณีกาล 8. การจัดการเรยี นรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ใชร้ ูปแบบการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นที่ 1 : ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภิปรายว่า มาตราธรณกี าลในความคิดของนกั เรียนเปน็ อย่างไร 2. ครตู ้งั คาถามกระต้นุ ความคดิ โดยใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ระดมความคดิ ในการตอบคาถาม • ถา้ ตอ้ งการทราบวา่ เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาใด เกิดขึ้นก่อน หรอื หลงั นกั เรียนจะทาอยา่ งไร (แนวตอบ นาขอ้ มลู อายทุ างธรณวี ิทยาของเหตุการณแ์ ต่ละเหตกุ ารณ์มาเรยี งลาดบั ) • นักวทิ ยาศาสตรศ์ กึ ษาเหตุการณท์ ี่เกิดขนึ้ ในอดตี ไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ ศึกษาไดจ้ ากซากดกึ ดาบรรพ์ ร่องรอยทปี่ รากฏอยใู่ นหิน หรอื หลกั ฐานทางธรณวี ิทยาอนื่ ๆ) • มาตราธรณีกาลมคี วามสาคญั อยา่ งไร (แนวตอบ ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจลาดับเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ิทยานบั ตั้งแต่โลกถือกาเนิดขึน้ เมื่อประมาณ 4,500 ล้านปกี ่อนจนถึงปจั จบุ ัน) ข้ันที่ 2 : ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ กั เรียนสืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับการจดั ทามาตราธรณีกาล แลว้ ครถู ามคาถามว่า • มาตราธรณีกาล จัดทาขึน้ ด้วยวธิ กี ารใด (แนวตอบ นาขอ้ มลู อายทุ างธรณีวทิ ยาของหนิ ซากดกึ ดาบรรพ์ และเหตุการณ์ทางธรณวี ทิ ยาอน่ื ๆ มาจดั เรียงโดยเรมิ่ ตงั้ โลกถือกาเนิดขึ้นจนถึงปจั จบุ ัน โดยแบง่ ชว่ งเวลา เป็นบรมยคุ มหายคุ ยุค สมยั ช่วงอายุ และรุน่ ตามลาดับ)
173 • นกั วทิ ยาศาสตรใ์ ช้หลักการใดในการแบ่งช่วงเวลาทางธรณกี าล (แนวตอบ นักวิทยาศาสตรใ์ ช้การเปล่ียนแปลงโครงสร้างของโลก และการเปลย่ี นแปลงของ สิ่งมีชวี ติ ทงั้ การเปลีย่ นแปลงครง้ั ใหญ่และย่อยในการแบง่ ชว่ งอายุทางธรณวี ทิ ยา เชน่ การสูญพนั ธ์ ครงั้ ของสัตว์ทะเลในยคุ เพอรเ์ มียน และการสญู พันธุข์ องไดโนเสาร์ในยคุ ครีเทเชยี ส) ขั้นท่ี 3 : ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครกู ลา่ วเชอ่ื มโยงเข้าสเู่ นอื้ หาตอ่ ไป โดยตง้ั ประเด็นคาถามวา่ มาตราธรณกี าลสามารถเปล่ยี นแปลง ได้ หรอื ไม่ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ ราย (แนวตอบ ได้ เพราะถ้าหากมีการค้นพบหลกั ฐานทางธรณีวิทยาใหม่ หรือมเี ทคโนโลยีท่ีสามารถ หาอายุสมั บรู ณ์ไดแ้ ม่นยาขน้ึ เชน่ การขยายเวลาของยุคควอเทอรน์ ารี การเปลีย่ นแปลงยุคเทอร์ เชยี ร์เป็นยคุ พาลีโอจีน และนีโอจีน) ข้ันท่ี 4 : ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื ให้ไดข้ อ้ สรุปเก่ียวกบั มาตราธรณีกาล โดยอาจมีแนวทางสรุป ดงั น้ี “มาตราธรณีกาล คือ การลาดับอายุทางธรณีวิทยาตั้งแต่โลกถือกาเนิดขึ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทาง ธรณีวิทยา และสิ่งมีชีวิตมากมาย เพื่อความเข้าใจชัดเจน นักวิทยาศาสตร์จึงจัดแบ่งช่วงเวลาทาง ธรณีวิทยาออกเป็น บรมยุค มหายุค ยุค สมัย ช่วงอายุ และรุ่น ตามลาดับ ซึ่งมาตราธรณีกาลสามารถ เปลีย่ นแปลงได้ ถ้ามหี ลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยามาสนบั สนุน” ขน้ั ที่ 5 : ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 9. ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 10. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคาถาม การร่วมกนั ทาผลงาน และการนาเสนอผลงาน 11. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทาใบงานท่ี 4.3 เร่อื ง มาตราธรณกี าล 12. ครูตรวจสอบผลการทาแบบฝกึ หดั
174 9. การวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ หรือ ส่ิงท่ตี ้องการจะวดั และ -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ประเมินผล ตอบคาถามของ 1.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายหลกั การ นักเรยี น 3 =ดี 3 =ดี ของการลาดบั ช้นั ดินได้(K) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 2.นักเรยี นสามารถอธิบาย -ประเมินจากการ - 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก โครงสรา้ งทางธรณที มี่ ผี ลตอ่ การ ตอบคาถามของ ลาดบั ชัน้ หินได้(K) นกั เรยี น 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 3.นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการหา -ประเมินจากการ - 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก อายทุ างธรณวี ิทยาทงั้ อายุ ตอบคาถามของ 3 =ดี 3 =ดี เปรียบเทียบและอายสุ มั บรู ณไ์ ด้(K) นกั เรยี น 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรงุ 4.นักเรียนสามารถสืบค้นและ -ประเมนิ จาก - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก นาเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และ ความคดิ 3 =ดี 3 =ดี ผลจากการเกิดภเู ขาไฟระเบิด(P) สร้างสรรค์ที่ 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ ผูเ้ รยี นไดแ้ สดง 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง ความคดิ เหน็ 5.นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกับ -การสงั เกต - 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ ได้ 3 =ดี 3 =ดี (A) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง
175 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน วิธวี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ (ตามหัวข้อที่ 5) 1.ความสามารถในการคดิ สังเกต แบบประเมินใบงาน 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา สงั เกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สังเกต แบบประเมนิ ใบงาน 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก 3 =ดี 3 =ดี 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
176 ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมิน 1.ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมี การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดมี าก 4 =ดีมาก รายบุคคล วจิ ารณญาณและทักษะในการ 3 =ดี 3 =ดี แบบประเมิน แกป้ ญั หา (Critical thinking and พฤตกิ รรม 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ รายบุคคล problem solving) 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง แบบประเมิน 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และ การสงั เกต พฤตกิ รรม 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก รายบุคคล นวตั กรรม (Creativity and 3 =ดี 3 =ดี innovation) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรุง 1 =ปรบั ปรุง 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การ การสงั เกต 4 =ดีมาก 4 =ดีมาก ทางานเปน็ ทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork 3 =ดี 3 =ดี and leadership) 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรุง 4.ทักษะด้าน การส่ือสาร การสงั เกต แบบประเมนิ 4 =ดมี าก 4 =ดมี าก สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่ พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี (Communication information รายบุคคล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ and media literacy) 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ 5.ทักษะการเรียนรู้ (Learning การสงั เกต แบบประเมิน 4 =ดีมาก 4 =ดมี าก Skills) พฤติกรรม 3 =ดี 3 =ดี รายบคุ คล 2 =พอใช้ 2 =พอใช้ 1 =ปรบั ปรงุ 1 =ปรบั ปรงุ
177 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตา่ งๆ เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก ระดบั คะแนน ดี 4 พอใช้ 3 ปรบั ปรุง 2 1 10. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...... 11. บันทึกผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรียนการสอน นกั เรียนท้งั หมดจานวน.....................คน จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวนนกั เรียนทผี่ า่ น จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น 1 จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ 2 3 12. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................
178 13. ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ..................................................................ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... () ลงชื่อ................................................................ หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ.......................................................... รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ (……………………………………………..)
179 ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง การจัดกจิ กรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ........................................................................................ ( …………………………………..……………………………………… ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..
180 ใบงานที่ 4.3 เรือ่ ง มาตราธรณกี าล คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กี่ยวกับ มาตราธรณกี าลในรูปแบบของแผนผงั ความคิด และนาเสนอผลงาน
181 ใบงานที่ 4.3 เรือ่ ง มาตราธรณกี าล คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ กี่ยวกับ มาตราธรณกี าลในรูปแบบของแผนผงั ความคิด และนาเสนอผลงาน
ค บรรณานุกรม http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/earth-structure/chemical-structure. (ม.ป.ป.). การแบง่ โครงสรา้ งโลกตาม องคป์ ระกอบทางเคมี. http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano. (ม.ป.ป.). ภูเขาไฟระเบดิ . https://sites.google.com/site/sripraiprae/khorngsrang-laea-kar-ladab-chan-hin. (ม.ป.ป.). ลาดบั ชนั้ หิน. https://th.wikipedia.org/wiki/. (2564). ธรณีแปรสณั ฐาน. https://th.wikipedia.org/wiki/. (ม.ป.ป.). ทฤษฎีแปรสณั ฐาน. https://th.wikipedia.org/wiki/. (ม.ป.ป.). ธรณีพบิ ตั ิภยั . https://th.wikipedia.org/wiki/. (ม.ป.ป.). แผน่ ดินไหว. https://th.wikipedia.org/wiki/. (ม.ป.ป.). สนึ ามิ. https://www.scimath.org/e-books/8290/flippingbook/index.html#35 การแบง่ โครงสรา้ งโลกตามสมบตั เิ ชิงกล. https://www.scimath.org/e-books/8290/flippingbook/index.html#76. (ม.ป.ป.). รูปแบบการเคลอื่ นทีข่ องแผน่ ธรณ.ี https://www.stkc.go.th/info/. (2021). โครงสรา้ งโลก.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184