Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนการสอน วิชาการใช้สารสนเทศ 1

แผนการจัดการเรียนการสอน วิชาการใช้สารสนเทศ 1

Published by gotzila.navy, 2022-07-26 12:41:49

Description: วิชาการใช้สารสนเทศ 1

Search

Read the Text Version

45 ใบงานเร่อื ง ทรพั ยากรสารสนเทศ คำสง่ั ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ปจั จยั ใดบ้างทท่ี ำใหเ้ กดิ เปน็ คุณคา่ ของสารสนเทศ (1) ........................................................................ (2) ........................................................................ (3) ........................................................................ (4) ........................................................................ (5) ........................................................................ (6) ........................................................................ 2. ทรพั ยากรสารสนเทศแบง่ เป็น ................... ประเภท คอื .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... 3. จงจับคู่ความหมายของคำตอ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง .............. 1. สารสนเทศ A. Non-Printed Materials .............. 2. ส่งิ พมิ พ์ B. Journal .............. 3. สง่ิ ไมต่ ีพิมพ์ C. Electronic Materials .............. 4. สอื่ อิเล็กทรอนิกส์ D. Information Resource .............. 5. สิทธิบัตร E. Information .............. 6. ทรพั ยากรสารสนเทศ F. Printed Materials .............. 7. แหล่งสารสนเทศ G. Non-Fiction .............. 8. หนงั สือวิชาการ H. Reference Book .............. 9. วารสารวชิ าการ I. Information Source .............. 10. หนังสืออา้ งอิง J. Patent

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ทรพั ยากรสารสนเทศ 46 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหัส ง33203 วิชา การใช้สารสนเทศ 1 แผนการจัดการเรียนที่ 2 เร่อื ง ประเภทและลกั ษณะของทรัพยากรสารสนเทศ เวลา 2 ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ อธบิ ายเกี่ยวกับทรพั ยากรตพี มิ พ์และไม่ตพี มิ พไ์ ด้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นกั เรียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกับประเภทและลักษณะของทรัพยากรสารสนเทศใน หอ้ งสมุดและสามารถเลอื กใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ได้ 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทกั ษะการคดิ การตดั สนิ ใจและการแกป้ ญั หา 2.2 ทักษะการแสวงหาขอ้ มูล ข่าวสาร ความรู้ สาระการเรยี นรู้ ทรพั ยากรสารสนเทศเป็นวัสดทุ ใี่ ชใ้ นการศกึ ษาคน้ ควา้ และวิจัยในรูปแบบ วัสดตุ ีพิมพแ์ ละวสั ดไุ ม่ ตีพิมพ์ ผเู้ รียนตอ้ งรจู้ กั และทำความเข้าใจเก่ยี วกบั ลกั ษณะของทรพั ยากรสารสนเทศแต่ละประเภท เพื่อใชใ้ น การตัดสินใจวา่ จะเลือกใช้ทรัพยากรสารสนเทศประเภทใดในการศกึ ษาคน้ คว้าประกอบการเรยี นร้แู ต่ละ รายวชิ าอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 2. ความสามารถในการคิด 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอังพงึ ประสงค์ 3. มวี นิ ยั 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 8. มีจติ สาธารณะ ทักษะชวี ติ 1. การตระหนักร้แู ละเห็นคุณคา่ ในตนเองและผูอ้ นื่ 2. การคิดวิเคราะห์ ตดั สนิ ใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4. การสร้างความสัมพนั ธ์ท่ีดกี ับผูอ้ น่ื

47 คณุ ลกั ษณะผ้เู รยี นตามมาตรฐานสากล 3. ล้ำหน้าทางความคิด 4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล 3. การมีภมู ิคุม้ กันทีด่ ใี นตัว 4. เงือ่ นไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมดั ระวงั ) 5. เงือ่ นไขคณุ ธรรม (มคี วามซอ่ื สตั ย์สุจริต และมคี วามอดทน มีความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนินชีวิต) หลักสูตรตอ่ ต้านการทจุ ริต การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ชิน้ งาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ 2.ใบงาน รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ การเรยี นรจู้ ากการสืบค้น กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ ครูสอบถามนกั เรยี นวา่ รจู้ ักทรพั ยากรสารสนเทศประเภทไหนบ้าง ขน้ั สอน 1.ครอู ธบิ ายเก่ยี วกบั ทรพั ยากรสารสนเทศประเภทวัสดตุ พี มิ พ์และวสั ดุไมต่ พี มิ พ์ 2.ครยู กตวั อย่างวัสดตุ ีพมิ พแ์ ละวัสดุไม่ตพี มิ พใ์ หน้ ักเรยี นดู และใหน้ กั เรียนบอกวา่ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ขัน้ สรุป ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ เน้อื หา การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. การสรปุ เนือ้ หา 2. ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นชน้ิ งาน 3. ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยสวยงาม สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้เรอื่ ง ระเบยี บการเขา้ ใชห้ ้องสมุด 2. หอ้ งสมดุ โรงเรียนชัยบาดาลวทิ ยา

48 3. ใบงาน 4. ทรัพยากรสารสนเทศในหอ้ งสมุด 5. ของตัวอยา่ ง กิจกรรม/ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

49 บนั ทกึ หลงั การสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกคี่ น คดิ เป็นร้อยละเท่าใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปญั หา/อุปสรรค (ระบุปัญหาและอุปสรรคจากการที่นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินท่ีกำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแก้ไข/พัฒนา (ระบแุ นวทางเพอื่ ให้บรรลตุ ามเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครูผสู้ อน ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ................................................................... (นางศุภรดา ปญั ญาทอง) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

50 ใบความรู้เรื่อง ประเภทและลกั ษณะของทรพั ยากรสารสนเทศ ประเภทและลกั ษณะของทรัพยากรสารสนเทศ ทรพั ยากรสารสนเทศแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) วสั ดตุ พี ิมพ์ (Printed Materials) 2) วัสดุไมต่ พี ิมพ์ (Non-Printed Materials) หรือโสตทศั นวสั ดุ 1. วสั ดตุ ีพิมพ์ (Printed Materials) คือ สง่ิ พมิ พท์ ่ีมกี ารบันทึกความรู้ ความคดิ ของมนุษย์นำมา รวบรวมเป็นเล่ม ใหผ้ อู้ า่ นได้ศึกษาคน้ ควา้ และใชอ้ า้ งองิ แบ่งตามลกั ษณะเนอ้ื หาได้ ดังนี้ 1.1 หนังสือ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทคือ 1.1.1 หนงั สอื สารคดี คอื หนังสือที่มุ่งให้ความรูแ้ ก่ผอู้ ่านเป็นสำคัญ ไดแ้ ก่ 1) ตำราวิชาการ คอื หนังสือทเ่ี ขยี นข้นึ ตามหลักสตู รในสถาบันการศกึ ษา ระดบั ตา่ ง ๆ ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน เช่น แบบเรยี นวชิ าต่าง ๆ

51 2) หนังสืออา่ นประกอบ คอื หนงั สอื ทีเ่ ขยี นขึ้น เพ่อื ใชอ้ า่ นประกอบ ใน เน้อื หาวชิ าต่าง ๆ ให้ได้ความรลู้ ะเอยี ดลกึ ซง้ึ เชน่ หนังสืออา่ นประกอบระดับมัธยมศึกษาที่จดั พิมพ์ และ เผยแพรโ่ ดยกรมวิชาการ เป็นต้น 3) หนังสอื ความรู้ทัว่ ไป คอื หนังสอื ทผ่ี ู้เขยี นต่าง ๆ เรยี บเรยี งขึ้นตาม ความ สนใจของผเู้ ขยี น เช่น ความรรู้ อบตวั เป็นตน้ 4) หนังสืออา้ งองิ คือ หนังสอื ที่มีลกั ษณะรวบรวมความรูไ้ ว้หลากหลายเพ่ือใช้ คน้ หาคำตอบเร่ืองใดเรอื่ งหนงึ่ โดยไม่ตอ้ งอ่านทงั้ เลม่ เรยี บเรียงตามลำดับอกั ษรของเรื่อง หรือเนื้อหา ที่ ต้องการคน้ เช่น พจนานกุ รมราชบณั ฑติ ยสถาน และพจนานุกรมไทย-อังกฤษ สารานุกรมวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ต้น

52 5) ปรญิ ญานพิ นธ์ หรือวทิ ยานิพนธ์ คอื บทนพิ นธท์ ่เี รยี บเรยี งขน้ึ เพอ่ื ประกอบ การศกึ ษาระดบั บัณฑติ 6) สิ่งพิมพร์ ัฐบาล คือ หนงั สือทผ่ี ลิตโดยหน่วยราชการ รฐั วิสาหกจิ เชน่ หนังสอื รายงานประจำปี ราชกจิ จานุเบกษา และหนงั สอื รายปี เป็นต้น 1.1.2 หนงั สือบันเทงิ คดี คอื หนงั สือทเี่ ขยี นขึ้นจากประสบการณ์และจนิ ตนาการ มุ่งให้ ความบนั เทิงเป็นสำคญั เชน่ หนงั สือนวนิยาย หนงั สอื รวมเรื่องสน้ั หนงั สอื สำหรบั เดก็ และเยาวชน เป็นต้น

53 1.2 สง่ิ พมิ พต์ อ่ เนือ่ ง คอื สงิ่ พมิ พท์ ่ีออกต่อเนอ่ื งกนั ตามกำหนดเวลาทกี่ ำหนดไว้ ไดแ้ ก่ 1.2.1 หนงั สอื พมิ พ์รายวนั คือ ส่ิงพมิ พ์ทก่ี ำหนดออกเป็นประจำทุกวนั เพอื่ นำเสนอข่าว และเหตกุ ารณค์ วามเคลอ่ื นไหวใหม่ ๆ ทง้ั ภายในประเทศและต่างประเทศ เชน่ ข่าวการเมอื ง ข่าว เศรษฐกจิ และสังคม ขา่ วการศึกษา ข่าวกีฬา ขา่ วธรุ กจิ ขา่ วบันเทงิ บทความทางวิชาการ และ สาระนา่ รู้ เปน็ ตน้ 1.2.2 วารสารและนติ ยสาร คอื สิ่งพิมพ์ทก่ี ำหนดออกตามเวลาท่กี ำหนด ได้แก่ 1) วารสารรายสัปดาห์ มีกำหนดออกสปั ดาหล์ ะ 1 ฉบบั 2) วารสารรายปักษ์ มีกำหนดออก 2 สปั ดาห์ 1 ฉบับ 3) วารสารรายเดอื น มีกำหนดออกเดอื นละ 1 ฉบับ 4) วารสารราย 3 เดอื น มีกำหนดออก 3 เดือน 1 ฉบับ เนื้อหาในวารสารจะ เน้นหนกั ทางวิชาการ สว่ นเนือ้ หาในนิตยสารจะเน้นบันเทงิ

54 1.2.3 จุลสาร คอื สงิ่ พมิ พ์ขนาดเลก็ อาจเป็นกระดาษแผน่ เดียวพับไปพับมา หรอื เปน็ เล่ม บาง ๆ มคี วามหนาไมเ่ กนิ 60 หน้า ใหค้ วามรู้เก่ียวกับเรื่องใดเรอ่ื งหน่ึงโดยเฉพาะ เชน่ โรคตา่ ง ๆ วิธดี แู ลรกั ษา และการปลกู พืชตา่ ง ๆ ใหข้ ้อมลู ทที่ ันสมัย เขียนงา่ ย ๆ จดั พมิ พ์ หรือออกโดย หน่วยงานรัฐ หรือเอกชน เพื่อเผยแพรค่ วามร้โู ดยการแจกจ่ายให้กบั ประชาชน หอ้ งสมดุ และ หนว่ ยงานต่าง ๆ เป็นต้น 1.2.4 กฤตภาค คอื ทรพั ยากรสารสนเทศท่หี อ้ งสมุดจดั ทำขึ้นโดยตดั บทความ ข่าว และ สาระน่ารู้ จากวารสารและหนงั สือพิมพ์ฉบับล่วงเวลาทมี่ ปี ระโยชน์ตอ่ ผใู้ ช้ แล้วนำมาผนกึ บนกระดาษ บอก แหลง่ ที่มาบนกระดาษ ใหห้ ัวเรื่อง และนำไปจัดเรยี งเขา้ แฟม้ ตามลำดับอักษรของหัวเร่อื ง เพ่อื ใช้ ค้นควา้ ต่อไป 2. วสั ดุไม่ตีพมิ พ์ (Non-Printed Materials) หรอื โสตทศั นวัสดุ คอื วัสดทุ ใี่ หค้ วามรคู้ วามคิดผ่าน ทางตา ทางหู ทำให้เกดิ ความเขา้ ใจในการเรียนรไู้ ดเ้ รว็ ขึ้น แบง่ ออกเปน็ ประเภทได้ ดังน้ี 2.1 โสตวสั ดุ คือ ทรพั ยากรสารสนเทศทใี่ ช้เสยี งเปน็ สอื่ ในการถ่ายทอด สารสนเทศ ไดแ้ ก่ แผ่นเสยี ง แถบบันทึกเสยี ง หรอื เทปบันทึกเสยี ง แผ่นดสิ ก์ เปน็ ตน้

55 2.2 ทศั นวัสดุ คอื ทรพั ยากรสารสนเทศทผี่ ู้รับตอ้ งใช้สายตารับรู้ อาจดดู ้วยตาเปลา่ หรอื ใช้เครอ่ื ง ฉายชว่ ยขยายภาพ เชน่ รปู ภาพ แผนที่ แผนภมู ิ วสั ดุกราฟกิ หรอื วสั ดุลายเสน้ ภาพเลอ่ื น หรือฟลิ ม์ สตรปิ ภาพนง่ิ หรอื แผ่นชุดการสอน ลูกโลก หนุ่ จำลอง เกม และของจริง เป็นตน้

56 2.3 โสตทัศนวัสดุ คือ วสั ดุสารสนเทศทม่ี ที ั้งภาพและเสยี ง ได้แก่ เคร่ืองฉายภาพยนตร์สไลด์ ประกอบ เสยี ง หรอื สไลด์มลั ตวิ ชิ นั่ เป็นต้น 2.4 วัสดุยอ่ สว่ น คือ วัสดทุ ีไ่ ดจ้ ากการถ่ายภาพสง่ิ พมิ พต์ น้ ฉบับ ยอ่ ส่วนลงบนฟลิ ม์ กระดาษ ทบึ แสงให้มีขนาดเลก็ โดยใชเ้ คร่ืองช่วยอ่าน เพือ่ ประหยดั งบประมาณและเนื้อทใ่ี นการจดั เก็บ ไดแ้ ก่ ไมโครฟลิ ม์ ไมโครฟิช ไมโครการ์ด ไมโครพรินท์ 2.5. วัสดุอเิ ล็กทรอนิกส์ คอื ทรพั ยากรสารสนเทศ ท่มี ีการแปลงสารสนเทศเปน็ สัญญาณ อิเล็กทรอนกิ สก์ ลบั คืนเปน็ ภาพหรือเสียง ไดแ้ ก่ วดิ ีทัศน์ ซดี -ี รอม

57 เป็นสอ่ื ใหม่ทใี่ ชใ้ นการบนั ทกึ สารนิเทศซึ่งเกดิ จากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีอิเลก็ ทรอนิกสพ์ ฒั นาใช้ กับเครอ่ื งคอมพิวเตอร์และการส่อื สารโทรคมนาคม ดงั น้ันการสบื ค้นข้อมลู สามารถส่งข่าวสารในสถานทต่ี า่ งกนั และใชข้ ้อมูลรว่ มกันไดท้ นั ทีในเวลาเดียวกนั อย่างมีประสทิ ธิภาพและรวดเร็ว สือ่ ประเภทนี้ เช่น ฐาน ขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ วารสารอเิ ล็กทรอนิกส์ อีเมล ฯลฯ วิธีเลือกใช้วสั ดุตพี มิ พ์ การเลือกใชว้ สั ดตุ พี มิ พ์เป็นความจำเปน็ ทน่ี กั เรียนจะตอ้ งพิจารณาวา่ วัสดุตพี มิ พป์ ระเภทใด เหมาะ สำหรับใช้ประกอบการเรยี นรู้ในสถานทใ่ี ด เวลาใด อยา่ งไร สถานการณไ์ หน เพอ่ื ให้ตรงตาม วัตถุประสงค์ และใช้ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งมีประสทิ ธิภาพ คุ้มค่าแก่เวลา 1. หนงั สือ สามารถเลอื กใชไ้ ดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ ดงั นี้ 1.1 หนงั สือสารคดี 1.1.1 ตำราวิชาการ อ่านประกอบการเรยี นซึง่ เปน็ แบบเรยี นของวชิ าตา่ ง ๆ 1.1.2 หนงั สืออา่ นประกอบ อา่ นประกอบเนอื้ หาของวิชาต่าง ๆ ใหไ้ ด้ความรู้ ละเอียดลึกซ้งึ ขน้ึ 1.1.3 หนังสือความรู้ทวั่ ไป อ่านเพ่ือค้นคว้าเพิ่มเตมิ ตามหัวขอ้ ท่ตี อ้ งการโดยดจู าก สารบัญ หรอื อา่ นตามความสนใจ 1.1.4 หนงั สืออา้ งองิ อา่ นเพ่ือการคน้ หาคำตอบเรือ่ งใดเรอื่ งหนง่ึ หรือเนอื้ หาท่ตี อ้ งการค้น 1.2 หนงั สือบันเทิงคดี อา่ นเพ่อื ความบันเทงิ เปน็ สว่ นใหญ่ ไดแ้ ก่ นวนิยาย หนงั สอื สำหรบั เด็ก รวมเร่ืองสั้น 2. สิง่ พิมพ์ต่อเน่ือง สามารถเลอื กใชไ้ ดต้ ามวตั ถุประสงค์ ดงั นี้ 2.1 หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั อา่ นเพือ่ ทราบเหตกุ ารณท์ เี่ กิดขึ้นในแต่ละวัน และเหตุการณ์ใน ชวี ติ ประจำวนั เช่น คอลัมน์สมัครงาน โฆษณา ซ้อื ขาย แลกเปลยี่ นสินคา้ และตอบปัญหาสุขภาพ เปน็ ตน้ 2.2 นิตยสารและวารสาร นติ ยสารอา่ นเพ่อื ความบันเทิง และวารสาร อ่านเพื่อประกอบ การ ค้นคว้าเรอื่ งราวทที่ ันสมยั และเป็นปจั จุบัน และยงั ไมต่ ีพมิ พ์เป็นหนงั สอื เช่น บทความทางวิชาการ เก่ยี วกบั เรื่องต่าง ๆ 2.3 จลุ สาร อ่านเมอื่ ตอ้ งการความรู้เรอ่ื งใดเรอ่ื งหนงึ่ โดยเฉพาะ ให้ขอ้ มูลทที่ นั สมัย เขยี น ง่ายๆ เช่น โรคตา่ ง ๆ และวิธีดูแลรักษา และการปลกู พชื ต่าง ๆ เป็นต้น 2.4 กฤตภาค ใช้ในการค้นควา้ ความรูเ้ รอ่ื งตา่ ง ๆ เชน่ บทความ ขา่ ว และสาระน่ารู้ วิธีเลือกใช้วัสดุไมต่ ีพิมพ์ 1. โสตวสั ดุ ใชใ้ นการฟังบรรยายจากวิทยากร การสมั มนา การสมั ภาษณ์ผู้ร้ตู า่ ง ๆ เชน่ แถบ บันทกึ เสยี ง หรอื เทปบนั ทกึ เสียง แผน่ ดิสก์ แผน่ ซีดี เปน็ ต้น

58 2. ทศั นวสั ดุ ใชใ้ นการดปู ระกอบการค้นควา้ หรอื การเรียนรู้ เชน่ รปู ภาพ แผนที่ แผนภมู ิ ภาพนิง่ เกม ชุดการเรียน ของจริง เปน็ ต้น 3. โสตทศั นวสั ดุ ใช้ในการดูและฟังประกอบการค้นควา้ หรือการเรยี นรู้ เช่น ภาพยนตร์และ ภาพนง่ิ ประกอบเสียง เปน็ ตน้ 4. วสั ดยุ อ่ สว่ น ใชใ้ นการคน้ ควา้ ความรูเ้ ร่ืองต่าง ๆ เชน่ ไมโครฟลิ ์ม เป็นตน้ 5. วัสดอุ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ ใชใ้ นการดแู ละฟงั ประกอบการคน้ ควา้ หรอื การเรยี นรู้ เช่น วิดีทศั น์ และซีดี- รอม เป็นต้น

59 ใบงานเรื่อง ประเภทของทรพั ยากรสารสนเทศ คำส่งั ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกต้อง 1. จงระบปุ ระเภทของวัสดตุ ีพิมพ์ใหถ้ กู ตอ้ ง (1) แฮรร์ ่ี พอตเตอร์ .................................................................................. (2) สยามกฬี า .................................................................................. (3) แมบ่ า้ น .................................................................................. (4) พจนานุกรมวทิ ยาศาสตร์ .................................................................................. (5) แผ่นพบั เรอื่ งไข้หวัดนก .................................................................................. (6) ศิลาจารึกพ่อขนุ รามคำแหงฯ .................................................................................. 2. สง่ิ พมิ พ์ท่เี ปน็ เรอื่ งใหมๆ่ ไม่เกิน 60 หน้า พิมพแ์ จกเป็นอภนิ นั ทนาการ เรยี กวา่ อะไร .......................................................................................................................................................................................... 3. หนังสอื ทีม่ ีเน้อื หาง่ายๆ หรือเป็นหนังสือภาพการ์ตูน ใหค้ วามร้คู ติสอนใจ คอื หนังสอื ประเภทใด .............................................................................................................................................................................. 4. จงให้ความหมายของคำว่า “กฤตภาค” .............................................................................................................................................................................. 5. ทรพั ยากรสารสนเทศประเภทโสตวสั ดุ ทัศนวสั ดุ และโสตทศั นวสั ดุตา่ งกนั อย่างไร จงอธบิ ายพร้อม ยกตวั อยา่ งวัสดสุ ารสนเทศแต่ละประเภท .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

ใบงานเรื่อง ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศ 60 คาส่ัง ให้นกั เรียนแยกประเภททรัพยากรสารสนเทศ สิ่งไม่ตีพมิ พ์ สิ่งตีพมิ พ์

61 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื งระบบการจดั หมวดหมทู่ รัพยากรสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหัส ง33203 วชิ า การใชส้ ารสนเทศ 1 แผนการจดั การเรียนที่ 1 เร่อื ง การจดั หมวดหมหู่ นังสือระบบทศนิยมดิวอี้ เวลา 2 ชว่ั โมง ผลการเรยี นรู้ เข้าใจระบบการจัดหมวดหมทู่ รัพยากรสารสนเทศและสารมารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจดั หมวดหมหู่ นงั สือระบบดีซี 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทกั ษะการคดิ การตัดสนิ ใจและการแกป้ ญั หา 2.2 ทักษะการแสวงหาข้อมลู ขา่ วสาร ความรู้ 2.3 ทกั ษะการปรบั ตวั 2.4 ทกั ษะการวางแผนและการจัดการ 2.5 ทักษะการทำงานเป็นทมี สาระการเรยี นรู้ ห้องสมุดเป็นสถาบันบริการสารสนเทศซึง่ ตอ้ งมที รพั ยากรสารสนเทศจำนวนมากและหลากหลาย รูปแบบ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมวี ธิ ีการจัดเก็บที่เปน็ มาตรฐานเพอื่ ใหผ้ ู้ใชเ้ ข้าถงึ ทรัพยากรสารสนเทศไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเรว็ และเข้าใจไดต้ รงกนั ระหวา่ งผ้ใู หบ้ รกิ ารและผู้ใชบ้ รกิ าร หนังสอื เป็นทรัพยากรสารสนเทศทสี่ ำคญั และมี มากทส่ี ุดในห้องสมุดจงึ ตอ้ งมีระบบการจดั เกบ็ ทด่ี ี นน่ั คือระบบการจดั หมวดหมู่สากลระบบทศนิยมดวิ อ้แี ละ ระบบหอสมดุ รัฐสภาอเมรกิ นั สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 2. ความสามารถในการคิด 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะองั พงึ ประสงค์ 3. มีวินัย 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 8. มีจติ สาธารณะ

62 ทกั ษะชีวิต 1. การตระหนกั ร้แู ละเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผอู้ ่นื 2. การคดิ วิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ และแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ 4. การสรา้ งความสัมพนั ธ์ที่ดกี ับผู้อื่น คณุ ลักษณะผูเ้ รียนตามมาตรฐานสากล 3. ลำ้ หน้าทางความคดิ 4. ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ เศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมภี มู ิคมุ้ กนั ท่ีดีในตวั 4. เงื่อนไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมัดระวงั ) 5. เงื่อนไขคณุ ธรรม (มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนนิ ชีวิต) ช้ินงาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ 2.ใบงาน รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 1.การเรยี นรูจ้ ากการสบื คน้ 2.การเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด 3.การสอนแบบสาธิต กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ ครสู อบถามนักเรยี นเกย่ี วกบั ระบบการจดั เกบ็ หนังสอื ท่ีนักเรียนรู้จกั ขนั้ สอน 1.ครอู ธิบายเกย่ี วกบั หลกั เกณฑก์ ารให้เลขหมูห่ นังสอื ส่วนประกอบของเลขเรียกหนงั สอื การเรียง หนงั สอื บนชน้ั และประโยชน์ของการจัดหมวดหมหู่ นังสือ 2.ครูยกตวั อย่างหมวดหมหู่ นงั สอื แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกวา่ เปน็ หนงั สอื ทม่ี ีเนอื้ หาเกีย่ วกบั อะไร และครบู อกชอื่ หนังสือและให้นักเรยี นบอกวา่ จัดเกบ็ ไว้ทีห่ มวดใด 3.ใหน้ ักเรยี นฝกึ ให้เลขหมหู่ นงั สือ และฝึกเรียงหนังสือบนช้ัน ขั้นสรุป ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ เนือ้ หา

63 การวดั ผลและประเมินผล 1. ให้ทำใบงานสำรวจหนงั สือแต่ละหมวด 2. ให้เรียงหนังสอื บนชัน้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้เร่อื ง การจัดหมวดหม่หู นังสือระบบทศนิยมดิวอี้ 2. ห้องสมดุ โรงเรียนชัยบาดาลวิทยา 3. ใบงาน 4. หนงั สือ กิจกรรม/ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

64 บันทกึ หลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกี่คน คดิ เปน็ ร้อยละเท่าใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปญั หา/อุปสรรค (ระบปุ ัญหาและอุปสรรคจากการทน่ี ักเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ท่กี ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา (ระบุแนวทางเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามเกณฑก์ ารประเมินที่กำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครผู ู้สอน ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรือผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................................... (นางศภุ รดา ปญั ญาทอง) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

65 ใบความรู้ เร่ืองการจัดหมวดหมูห่ นงั สอื ประโยชน์ของการจัดหมวดหมูห่ นงั สอื 1. ทำใหห้ นงั สอื ทุกเล่มมีสญั ลกั ษณ์ และตำแหน่งการจดั เก็บท่ีแน่นอน ช่วยใหผ้ ูใ้ ชห้ ้องสมดุ ค้นหาได้สะดวก และง่ายข้ึน 2. หนงั สือทมี่ เี นอื้ หาเหมอื นกัน สมั พนั ธก์ นั หรอื มรี ปู แบบการประพนั ธเ์ ดยี วกันรวมอยใู่ นทีเ่ ดียวกนั ชว่ ยใหผ้ ้ใู ช้ มีโอกาสเลอื กหนงั สอื ไดห้ ลายเล่มในเรือ่ งท่ตี ้องการ 3. ทำให้ทราบว่าห้องสมุดมหี นงั สอื ในแตล่ ะสาขาวชิ า แต่ละเรื่องมากนอ้ ยเท่าใด 4. เมื่อไดร้ ับหนังสือเขา้ ใหม่ ห้องสมุดสามารถจดั หมวดหมู่แลว้ นำออกใหบ้ รกิ ารได้อยา่ งรวดเรว็ 5. ช่วยให้เจ้าหนา้ ทีส่ ามารถจดั เกบ็ หนงั สือคืนไดเ้ ร็วข้นึ ผู้ใช้สามารถคน้ หาหนงั สือไดอ้ ย่างรวดเรว็ และ ประหยัดเวลาท้งั ผใู้ ช้และผู้ให้บรกิ าร การจดั หมวดหมหู่ นงั สือระบบทศนยิ มดิวอ้ี ระบบทศนิยมของดิวอ้ี (Dewey Decimal Classification) เรยี กย่อ ๆ วา่ ด.ี ซี. (D.C.) หรือ (D.D.C.) จัดพิมพ์ครั้งแรกเมือ่ พ.ศ. 2419 (ค.ศ.1876) และได้มีการแกไ้ ขปรบั ปรุงเพิ่มเตมิ เรอ่ื ยมาจนปจั จุบันเป็นคร้ังที่ 20 แล้ว ผ้คู ดิ ระบบการจดั หมวดหมรู่ ะบบน้ีคอื เมลวิล ดวิ อี (Melvil Dewey พ.ศ.2397 – 2747) เป็น บรรณารกั ษช์ าวอเมริกนั อยูท่ ี่วทิ ยาลัยแอมเฮริ ส์ (Amherst College) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมรกิ า เป็นระบบทใ่ี ชต้ วั เลขเปน็ สญั ลักษณ์แทนเน้อื หาของหนงั สือ การจดั หมวดหม่หู นังสอื ระบบดวิ อ้ี แบง่ หนังสอื ตามลำดับดงั น้ี 1. แบง่ หนังสอื ออกเปน็ 10 หมวดใหญ่ เรยี กวา่ การแบง่ ครง้ั ที่ 1 โดยใช้เลขหลกั ร้อย ดงั ตอ่ ไปนี้ 000 เบ็ดเตลด็ หรอื ความรู้ทัว่ ไป (Generalities) 100 ปรัชญาและจติ วทิ ยา (Philosophy and Psychology) 200 ศาสนา (Religion) 300 สังคมศาสตร์ (Social Sciences) 400 ภาษาศาสตร์ (Language) 500 วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ประยกุ ต์ (Natural Sciences and Mathematics) 600 เทคโนโลยีหรือวิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ (Technology, Applied Sciences) 700 ศลิ ปกรรมและการบนั เทิง (The Arts, Fine and Decorative Arts) 800 วรรณคดี (Literature and Rhetoric) 900 ภูมศิ าสตรแ์ ละประวตั ศิ าสตร์ (Geography and History)

66 2. จากหมวดใหญ่ในแตล่ ะหมวดยงั แบง่ ย่อยเป็นครั้งที่ 2 ได้อกี หมวดใหญล่ ะ 10 หมวดยอ่ ย โดยใชเ้ ลขหลกั สิบ เชน่ 020 บรรณารกั ษศาสตร์และสารนเิ ทศศาสตร์ 150 จิตวทิ ยา 280 คริสต์ศาสนาและนิกายตา่ ง ๆ 320 รัฐศาสตร์ 420 ภาษาอังกฤษ 530 ฟิสิกส์ 610 แพทยศ์ าสตร์ 780 ดนตรี 840 วรรณคดีฝร่งั เศส 960 ประวัติศาสตรท์ วปี แอฟรกิ า 3. จากหมวดย่อยแตล่ ะหมวดยังแบ่งย่อยเป็นครั้งที่ 3 ไดอ้ กี หมวดยอ่ ยละ 10 หมู่ โดยใช้เลขหลักหน่วย เช่น หมวดยอ่ ย 640 คหกรรมศาสตร์ 640 คหกรรมศาสตร์ 641 อาหารและเครอ่ื งดืม่ 642 การจดั เลย้ี งอาหาร ..... นอกจากนย้ี งั สามารถแบง่ ให้ละเอียดออกไปเปน็ จุดทศนยิ ม เพื่อระบเุ น้ือหาวิชาให้เฉพาะเจาะจง เชน่ 621 ฟิสิกสป์ ระยุกต์ 621.3 วิศกรรมไฟฟ้า 621.31 พลังงานไฟฟา้ นอกจากการแบ่งหมวดหมหู่ นังสือออกเป็น 3 ครง้ั แลว้ ยังแบ่งย่อยละเอียดจนถงึ จดุ ทศนิยมหน่ึง ตำแหน่งไปจนถึงหลายตำแหน่ง เช่น 400 ภาษา 490 ภาษาอนื่ ๆ 495 ภาษาตะวนั ออก 495.9 ภาษาอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ 495.91 ภาษาไทย 495.911 ภาษาพดู ภาษาเขยี นมาตรฐานของไทย 495.9115 สัทศาสตร์ภาษาไทย การออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง 495.91152 การสะกดการันตค์ ำในภาษาไทย 495.918 การใช้ภาษาไทย การใชค้ ำ การเลอื กคำเพ่อื ใชต้ ามต้องการ

67 ใบงานเรื่อง การจัดหมวดหมู่หนังสอื ระบบ D.C. คำสั่ง ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างหนงั สอื ทอ่ี ยู่ในห้องสมดุ หมวด 000 – 900 มาอยา่ งละ 1 เล่ม (เขา้ ห้องสมุด) ตัวอยา่ ง 371.2 ส่งความสขุ สคู่ ุณภาพการศึกษา เลขหมูห่ นงั สือ ชื่อหนงั สอื

68 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ งระบบการจัดหมวดหมทู่ รพั ยากรสารสนเทศ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหัส ง33203 วชิ า การใช้สารสนเทศ 1 แผนการจัดการเรียนที่ 2 เรื่อง การจดั หมวดหมหู่ นงั สอื ระบบทศรฐั สภาอเมรกิ นั เวลา 1 ชวั่ โมง ผลการเรยี นรู้ เข้าใจระบบการจัดหมวดหมูท่ รัพยากรสารสนเทศและสารมารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั การจัดหมวดหมูห่ นงั สือระบบรัฐสภาอเมรกิ นั 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทักษะการคิด การตัดสนิ ใจและการแกป้ ญั หา 2.2 ทักษะการแสวงหาข้อมลู ขา่ วสาร ความรู้ 2.3 ทกั ษะการปรับตัว 2.4 ทักษะการวางแผนและการจัดการ 2.5 ทกั ษะการทำงานเปน็ ทีม สาระการเรยี นรู้ ห้องสมุดเป็นสถาบันบริการสารสนเทศซึ่งตอ้ งมที รพั ยากรสารสนเทศจำนวนมากและหลากหลาย รปู แบบ ดังน้นั จึงต้องมีวธิ กี ารจดั เกบ็ ทีเ่ ปน็ มาตรฐานเพื่อใหผ้ ใู้ ชเ้ ข้าถึงทรพั ยากรสารสนเทศไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเรว็ และเข้าใจไดต้ รงกันระหว่างผู้ให้บรกิ ารและผู้ใช้บรกิ าร หนงั สือเปน็ ทรัพยากรสารสนเทศทสี่ ำคัญและมี มากทีส่ ดุ ในหอ้ งสมดุ จงึ ตอ้ งมรี ะบบการจัดเก็บที่ดี น่นั คือระบบการจดั หมวดหมสู่ ากลระบบทศนยิ มดิวอีแ้ ละ ระบบหอสมดุ รฐั สภาอเมริกัน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 2. ความสามารถในการคดิ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะองั พงึ ประสงค์ 3. มวี นิ ยั 5. อย่อู ย่างพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 8. มีจิตสาธารณะ

69 ทกั ษะชีวิต 1. การตระหนกั รู้และเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ ่นื 2. การคดิ วิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4. การสร้างความสมั พนั ธ์ที่ดีกับผู้อื่น คณุ ลักษณะผู้เรียนตามมาตรฐานสากล 3. ลำ้ หน้าทางความคดิ 4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ เศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมีภูมิคุ้มกนั ทด่ี ีในตัว 4. เงอื่ นไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมัดระวัง) 5. เงือ่ นไขคุณธรรม (มีความซ่อื สัตย์สุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สติปัญญาในการดำเนนิ ชีวิต) ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ 2.ใบงาน รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ 1.การเรยี นรจู้ ากการสบื คน้ 2.การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ 3.การสอนแบบสาธิต กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ ครูเร่ิมบทเรียนโดยให้นกั เรยี นทบทวนอักษร A – Z เพือ่ ใหน้ กั เรียนรู้จกั ตัวอกั ษรและเกริ่นนำให้ นักเรียนทราบว่าระบบแอลซใี ช้ตัวอักษรภาษาองั กฤษตวั พมิ พใ์ หญ่และตัวเลขอารบกิ ในการแบง่ เน้ือหาของ หนังสือ ข้นั สอน 1.ครูอธบิ ายเกย่ี วกับระบบรัฐสภาเมริกัน สถาบันการศกึ ษาทีใ่ ช้ระบบการจดั หมวดหมูร่ ะบบรัฐสภา อเมรกิ ัน 2.ครูเปรียบเทยี บข้อแตกตา่ งระบบรัฐสภาอเมรกิ นั กับระบบดิทศนยิ มดวิ อี้ ขน้ั สรุป ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ เนือ้ หา และทำแบบฝึกหัด

70 การวดั ผลและประเมินผล 1. ใหท้ ำใบงานเปรยี บเทยี บระบบ D.C. กับ ระบบ L.C. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้เร่อื ง การจัดหมวดหม่หู นังสอื ระบบรัฐสภาอเมรกิ นั 2. หอ้ งสมดุ โรงเรียนชยั บาดาลวทิ ยา 3. ใบงาน 4. internet กจิ กรรม/ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

71 บันทึกหลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกค่ี น คิดเปน็ ร้อยละเทา่ ใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปัญหา/อปุ สรรค (ระบปุ ญั หาและอุปสรรคจากการทนี่ กั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ท่กี ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแก้ไข/พฒั นา (ระบุแนวทางเพ่อื ใหบ้ รรลุตามเกณฑ์การประเมินท่ีกำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครูผูส้ อน ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ................................................................... (นางศภุ รดา ปญั ญาทอง) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี

72 การจดั หมวดหมหู่ นงั สอื ระบบรฐั สภาอเมริกัน การจดั หมหู่ นังสือระบบหอสมดุ รัฐสภาอเมรกิ นั (Library of Congress Classification) การจดั หมหู่ นงั สอื ระบบหอสมดุ รัฐสภาอเมริกนั น้เี รียกยอ่ ๆ วา่ ระบบ L.C. ผคู้ ดิ คอื ดร.เฮอร์ เบริ ์ต พุทนมั (Herbert Putnum) คดิ ข้นึ ในปี ค.ศ. 1899 ขณะทีท่ ำหน้าทเี่ ป็นบรรณารักษห์ อสมุด รฐั สภาอเมรกิ นั ซ่งึ ปัจจบุ ันเป็นห้องสมดุ ทใ่ี หญ่ท่สี ุดในโลก ตัง้ อยู่ ณ กรงุ วอชงิ ตนั สหรัฐอเมริกา การ จดั แบง่ หมวดหมหู่ นังสอื มิไดอ้ ิงหลกั ปรัชญาใด ๆ มไิ ดเ้ รียงลำดบั วทิ ยาการ แต่กำหนดหมวดหมตู่ ามหนงั สือ สาขาต่าง ๆ ทีม่ ีอยู่ในหอสมุดแหง่ นัน้ โดยแบ่งเปน็ 20 หมวดใหญ่ใช้อกั ษรโรมันตวั พิมพ์ใหญ่ A – Z ยกเว้น I O W X Y ผสมกบั ตัวเลขอารบิค ต้ังแต่เลข 1-9999 และอาจเพมิ่ จดุ ทศนิยมกบั ตัวเลขได้อกี หมวดใหญท่ ้งั 20 หมวด มีดังนี้ 1. หมวดใหญ่ (Classes) หรอื การแบง่ ครั้งท่ี 1 แบง่ สรรพวชิ าออกเปน็ 20 หมวด โดยใชต้ ัวอกั ษร โรมัน A – Z เป็นสัญลักษณแ์ ทนเนอื้ หาของหนงั สอื A ความรทู้ ่วั ไป (General Works) B ปรชั ญา จติ วทิ ยา ศาสนา (Philosophy Psychology, Religion) C ศาสตร์ที่เก่ยี วขอ้ งกับประวัติศาสตร์ (Auxiliary Sciences of History) D ประวัตศิ าสตร์ทวั่ ไป และประวตั ศิ าสตรโ์ ลกเกา่ (History : General and Old World) E-F ประวัตศิ าสตร์ : อเมรกิ า (History : America) G ภมู ศิ าสตร์ โบราณคดี นนั ทนาการ (Geography, Antropology, Recreation) H สังคมศาสตร์ (Social Sciences) J รฐั ศาสตร์ (Political Science) K กฎหมาย (Law) L การศกึ ษา (Education) M ดนตรี (Music and Books on Music) N ศลิ ปกรรม (Fine Arts) P ภาษาและวรรณคดี (Philology and Literatures) Q วทิ ยาศาสตร์ (Science) R แพทยศาสตร์ (Medicine) S เกษตรศาสตร์ (Agriculture) T เทคโนโลยี (Technology) U ยทุ ธศาสตร์ (Military Science) V นาวิกศาสตร์ (Naval Science) Z บรรณานุกรม และบรรณารกั ษศาสตร์ (Bibliography, Library Science)

73 2. หมวดยอ่ ย (Division) หรอื การแบ่งครั้งที่ 2 คอื ในแต่ละหมวดใหญแ่ บง่ ออกเปน็ หมวดยอ่ ย ได้มากน้อยตา่ งกนั ในแตล่ ะหมวดย่อยใชต้ วั อักษรโรมนั ตัวใหญ่สองตัวแทนเนือ้ หาของหนังสอื ยกเวน้ หมวด E- F และหมวด Z ใชอ้ กั ษรตวั เดยี วกับตัวเลข ตัวอย่างหมวด B แบ่งออกเป็น 14 หมวดย่อยดังน้ี B ปรัชญา BC ตรรกวิทยา BD ปรัชญาพยากรณ์ อภปิ รชั ญา BF จิตวทิ ยา BH สนุ ทรียศาสตร์ BJ จริยศาสตร์ BL ศาสนาตา่ ง ๆ เทพปกรณมั BM ศาสนายิว BP ศาสนาอิสลาม ศาสนาบาไฮ BQ พุทธศาสนา BR ศาสนาครสิ ต์ BS คัมภีรไ์ บเบลิ BT เทววทิ ยาเชิงคริสตศ์ าสตร์ BV เทววทิ ยาภาคปฏบิ ตั ิ BX ครสิ ตศาสนานิกายต่าง ๆ ตัวอยา่ ง หมวด T แบ่งออกเป็น 16 หมวดยอ่ ยดงั นี้ T เทคโนโลยี TA วิศวกรรมศาสตร์ทั่วไป วศิ วกรรมโยธา TC วิศวกรรมศาสตร์ TD เทคโนโลยสี ่งิ แวดลอ้ ม วศิ วกรรมสุขาภบิ าล TE วิศวกรรมทางหลวง ถนน และผิวการจราจร TF วศิ วกรรมรถไฟและการปฏบิ ตั กิ าร TG วศิ วกรรมสะพาน TH การก่อสรา้ งอาคาร TJ วศิ วกรรมเครอ่ื งกลและเครื่องจกั ร TK วศิ วกรรมไฟฟ้า อิเลก็ ทรอนิกส์ วิศวกรรมนวิ เคลียร์

74 TL ยานพาหนะ การบิน ยานอวกาศ TN วิศวกรรมเหมอื งแร่ โลหการ TP เคมเี ทคนคิ TR การถา่ ยภาพ TS โรงงาน TT งานฝมี ือ TX คหกรรมศาสตร์ 3. หมู่ยอ่ ย (Section) หรือการแบง่ ครัง้ ท่ี 3 คอื จากหมวดย่อย แบ่งละเอยี ดเป็นหมยู่ อ่ ยโดย วิธีเตมิ ตวั เลขอารบคิ ตงั้ แต่ 1-9999 เชน่ PN1 วารสารสากล PN2 วารสรอเมริกันและอังกฤษ PN86 ประวัตกิ ารวจิ ารณ์ PN101 ผู้แต่งอเมรกิ ันองั กฤษ 4. จุดทศนยิ ม หรอื การแบ่งครัง้ ที่ 4 จากการแบง่ เปน็ หมยู่ อ่ ย ยังสามารถแบ่งใหล้ ะเอียดโดยการใชจ้ ดุ ค่นั และตามดว้ ยอกั ษรและตวั เลข เพ่อื แสดง รายละเอียดหมวดเร่ือง หรอื รูปแบบ หรือประเทศ เช่น PN6100.C7 รวมโคลงกลอนของวิทยาลยั PN6100.H8 เรอ่ื งขำขัน PN6519.C5 สภุ าษติ จีน

75 ใบงานเรอ่ื ง การจัดหมวดหมู่หนังสือระบบ L.C คำสัง่ ใหน้ กั เรยี นเปรียบเทียบการจดั หมรู่ ะบบทศนยิ มดวิ อแ้ี ละระบบรัฐสภาอเมริกนั โดยแบ่งเป็น สาขาวิชาดงั นี้ สาขามนษุ ยศาสตร์ ระบบ D.C. ระบบ L.C. สาขาสงั คมศาสตร์ ระบบ D.C. ระบบ L.C. ประวัตศิ าสตร์ ระบบ D.C. ระบบ L.C.

76 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ งระบบการจัดหมวดหมทู่ รัพยากรสารสนเทศ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหสั ง33203 วิชา การใชส้ ารสนเทศ 1 แผนการจดั การเรยี นท่ี 3 เรื่อง การจดั หมูห่ นังสอื ทไ่ี มใ่ ช้ตวั เลขเป็นสัญลักษณ์ เวลา 1 ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ เข้าใจระบบการจัดหมวดหมทู่ รพั ยากรสารสนเทศและสารมารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การจดั หมวดหมู่หนังสอื แบบอื่นทไ่ี มใ่ ช้ตัวเลขเปน็ สญั ลักษณ์ และสามารถนำไปใชส้ ืบค้นได้ 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทกั ษะการคดิ การตัดสนิ ใจและการแกป้ ญั หา 2.2 ทกั ษะการแสวงหาข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ สาระการเรยี นรู้ หอ้ งสมุดเป็นสถาบันบริการสารสนเทศซึง่ ตอ้ งมีทรพั ยากรสารสนเทศจำนวนมากและหลากหลาย รปู แบบ ดังนั้นจึงตอ้ งมวี ิธกี ารจัดเกบ็ ทเี่ ป็นมาตรฐานเพื่อให้ผ้ใู ชเ้ ข้าถึงทรพั ยากรสารสนเทศไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเรว็ และเข้าใจไดต้ รงกันระหว่างผู้ให้บรกิ ารและผู้ใช้บริการ หนงั สือเป็นทรัพยากรสารสนเทศทสี่ ำคัญและมี มากทส่ี ุดในห้องสมุดจงึ ตอ้ งมรี ะบบการจัดเกบ็ ทีด่ ี น่ันคือระบบการจดั หมวดหมู่สากลระบบทศนิยมดิวอี้และ ระบบหอสมดุ รฐั สภาอเมรกิ ัน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 2. ความสามารถในการคดิ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะองั พึงประสงค์ 3. มวี นิ ัย 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 8. มจี ิตสาธารณะ ทักษะชวี ติ 1. การตระหนกั รู้และเหน็ คุณค่าในตนเองและผอู้ ่ืน 2. การคดิ วิเคราะห์ ตดั สินใจ และแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์

77 4. การสร้างความสัมพันธ์ท่ดี กี บั ผอู้ น่ื คุณลักษณะผเู้ รยี นตามมาตรฐานสากล 3. ลำ้ หน้าทางความคิด 4. ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมเี หตุผล 3. การมภี ูมิคมุ้ กันที่ดีในตัว 4. เงื่อนไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมดั ระวงั ) 5. เง่อื นไขคุณธรรม (มคี วามซ่ือสัตย์สจุ รติ และมีความอดทน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดำเนนิ ชีวิต) ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ 2.ใบงาน รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ 1.การเรยี นรจู้ ากการสืบค้น 2.การเรยี นรูท้ เ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ ครูเรม่ิ บทเรยี นด้วยการนำตัวอยา่ งหนังสอื บางประเภทที่ไม่ได้มกี ารจดั เกบ็ โดยใช้ตวั เลขเปน็ สัญลกั ษณ์ แทนเนอื้ หาหนงั สอื มาให้นกั เรยี นดู และสนทนาพดู คุยกันเกย่ี วกบั หนังสือทีค่ รนู ำมา และเกริน่ นำใหน้ กั เรียน ทราบวา่ ยังมกี ารจดั เกบ็ หนงั สอื ท่ีไมใ่ ชต้ ัวเลขเป็นสัญลักษณ์แทนเน้ือหาหนังสอื ด้วย ขัน้ สอน 1.ครอู ธิบายเก่ียวกับการจดั หมวดหมหู่ นังสอื ทไ่ี มใ่ ชต้ วั เลขเป็นสัญลักษณ์ 2.ยกตัวอยา่ งหนังสือที่ไมไดจ้ ดั เกบ็ แบบอิวอี้ และแบบแอลซี ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนชว่ ยกันสรปุ เนอื้ หา และทำแบบฝึกหดั การวดั ผลและประเมนิ ผล - สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้

78 1. ใบความรเู้ รื่อง การจดั หมูห่ นังสือท่ไี มใ่ ช้ตวั เลขเปน็ สญั ลกั ษณ์ 2. ห้องสมุดโรงเรียนชยั บาดาลวิทยา กจิ กรรม/ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

79 บันทกึ หลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกี่คน คดิ เปน็ ร้อยละเท่าใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปญั หา/อุปสรรค (ระบปุ ัญหาและอุปสรรคจากการทน่ี ักเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ท่กี ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา (ระบุแนวทางเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามเกณฑก์ ารประเมินที่กำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครผู ู้สอน ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรือผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................................... (นางศภุ รดา ปญั ญาทอง) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

80 ใบความรู้เรือ่ ง การจดั หม่หู นงั สอื ทไี่ ม่ใช้ตัวเลขเปน็ สัญลักษณ์ การจดั หมหู่ นงั สือทไ่ี มใ่ ชต้ ัวเลขเปน็ สัญลกั ษณ์ หนังสือบางประเภทผอู้ า่ นใหค้ วามสนใจดา้ นการใชภ้ าษา ตลอดจนวธิ ีการดำเนินเรอ่ื งมากกวา่ สาระ ทางวชิ าการ หอ้ งสมดุ จงึ ใชอ้ กั ษรย่อของคำที่บอกประเภทหนงั สือนั้น ๆ แทนการให้เลขหมู่แต่ละเล่ม ซ่งึ ห้องสมุดแต่ละแห่งอาจจะใชต้ ัวอกั ษรย่อแตกต่างกันสำหรบั หนังสือประเภทเดยี วกนั เพอื่ ความสะดวกและรวดเร็วในการจดั หมูห่ นังสือ หอ้ งสมดุ สว่ นมากนยิ มใชต้ ัวอกั ษรเปน็ สัญลกั ษณ์ แทนการให้เลขหมู่หนังสือบางประเภท เพราะหอ้ งสมุดพจิ ารณาเห็นว่าหนงั สอื ประเภทน้ันๆ ผูอ้ ่านมิได้ให้ ความสนใจสาระทางวิชาการมากเท่ากบั การใชถ้ ้อยคำ ภาษา ตลอดจนวธิ ีการดำเนนิ เรือ่ ง หอ้ งสมุดจงึ ใช้ อักษรยอ่ ของคำทบี่ อกประเภทหนงั สอื นัน้ ๆ แทนการใชส้ ญั ลกั ษณส์ ำหรบั หนงั สอื เหล่าน้ี แตล่ ะหอ้ งสมดุ อาจจะใชต้ วั อกั ษรแตกตา่ งกัน สำหรับหนังสือประเภทเดยี วกัน สำหรับห้องสมดุ โรงเรยี นกบินทร์วทิ ยาใช้ สัญลกั ษณด์ ังนี้ น แทน นวนยิ าย (นวนยิ ายภาษาไทย) Fic แทน Fiction (นวนยิ ายภาษาต่างประเทศ) รส แทน รวมเรอื่ งสนั้ (short story) ยว แทน หนงั สือสำหรบั เยาวชน พ แทน หนงั สอื พอ็ คเกต็ บุค๊ (pocket book) อ แทน หนงั สืออา้ งอิง Ref แทน หนงั สอื อ้างองิ ภาษาตา่ งประเทศ (Reference Book) บ แทน แบบเรียน หนังสอื ท่ีมีสญั ลักษณ์พเิ ศษทใี่ ชต้ วั ย่อแทนเลขหมู่หรือสัญลกั ษณข์ องระบบการจดั หมูเ่ หล่าน้ี จะเรยี ง อยู่บนช้ันแยกจากหนงั สืออ่ืน ๆ ทใ่ี ห้หมวดหม่หู รอื สัญลักษณ์ตามระบบการจัดหมวดหมูห่ นังสอื ท่ีเป็นสากล

81 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รายงานและการเขยี นบรรณานุกรม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหัส ง33203 วิชา การใช้สารสนเทศ 1 แผนการจดั การเรียนท่ี 1 เรื่อง ความรเู้ บือ้ งต้นเกย่ี วกบั รายงานทางวิชาการ เวลา 1 ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ เขา้ ใจรูปแบบการเขยี นรายงาและการเขียนอ้างองิ บรรณานกุ รมในรายงานการค้นควา้ ได้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับรปู แบบการเขียนรายงานทางวชิ าการ สามารถสบื ค้นขอ้ มลู ตา่ ง ๆ และนำมาเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเองได้ 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทักษะการคดิ การตดั สนิ ใจและการแกป้ ัญหา 2.2 ทกั ษะการแสวงหาข้อมูล ขา่ วสาร ความรู้ 2.3 ทักษะการปรับตวั 2.4 ทกั ษะการสื่อสารและสร้างสมั พนั ธภาพ 2.5 ทกั ษะการวางแผนและการจดั การ 2.6 ทักษะการทำงานเป็นทีม สาระการเรยี นรู้ การเรียนในระดบั มธั ยมศึกษา นอกจากผ้เู รียนตอ้ งเข้าหอ้ งเรยี นเพือ่ ฟังคำบรรยายและจดจำเรอื่ งราวที่ คุณครูอาจารยช์ ้แี นะและทำแบบฝึกหดั หรือปฏิบตั กิ จิ กรรมตามท่ไี ด้รบั มอบหมายแลว้ กย็ งั ไม่เพยี งพอ ผเู้ รียน ยงั ตอ้ งศึกษาคน้ คว้าข้อมลู ความร้เู พิ่มเตมิ จากแหล่งสารนิเทศต่าง ๆ เพื่อให้มคี วามรอบรู้ รจู้ กั คดิ พจิ ารณา ตดั สินปญั หาต่าง ๆ ได้อย่างถกู ตอ้ งมเี หตุผล ดังนน้ั ในบางรายวิชาจงึ กำหนดให้ผู้เรียนตอ้ งทำรายงานทาง วิชาการประกอบการเรยี นเพอ่ื เสรมิ การเรียนรใู้ หม้ ีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ อีกทง้ั ยงั สามารถนำเอาความร้แู ละ ประสบการณ์ทไี่ ดไ้ ปใชเ้ ป็นเครือ่ งมือในการศึกษาระดบั สูงต่อไป สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอังพงึ ประสงค์ 3. มีวนิ ยั 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

82 8. มีจิตสาธารณะ ทักษะชวี ติ 1. การตระหนักรู้และเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผ้อู ื่น 2. การคิดวเิ คราะห์ ตดั สินใจ และแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ 4. การสรา้ งความสัมพนั ธ์ท่ีดีกบั ผ้อู ่ืน คณุ ลกั ษณะผเู้ รยี นตามมาตรฐานสากล 3. ล้ำหน้าทางความคดิ 4. ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ เศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล 3. การมภี ูมิคมุ้ กนั ที่ดใี นตวั 4. เง่ือนไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมัดระวัง) 5. เงือ่ นไขคุณธรรม (มคี วามซือ่ สัตยส์ จุ ริต และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชีวิต) หลักสตู รต่อตา้ นการทจุ รติ การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชิน้ งาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ 1.การเรียนรู้จากการสบื ค้น 2.การเรียนร้ทู เ่ี น้นทักษะกระบวนการคดิ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ ครูและนักเรยี นสนทนาคร่าว ๆ เก่ยี วกบั การเขยี นรายงานทางวชิ าการ ข้นั สอน 1.ครูอธบิ ายความหมาย ประโยชน์ ประเภทของรายงาน 2.ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เก่ยี วกบั การใช้ภาษาในการเขียนรายงาน 3.ซกั ถามข้อสงสัย ข้ันสรปุ ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ เน้ือหา

83 การวดั ผลและประเมินผล - สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ 1. ใบความรูเ้ รอื่ ง ความรเู้ บอ้ื งต้นเกยี่ วกบั รายงานทางวิชาการ กจิ กรรม/ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

84 บนั ทกึ หลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกค่ี น คิดเปน็ ร้อยละเท่าใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปัญหา/อปุ สรรค (ระบุปัญหาและอุปสรรคจากการทีน่ กั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินทีก่ ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแก้ไข/พฒั นา (ระบแุ นวทางเพ่อื ให้บรรลตุ ามเกณฑ์การประเมนิ ทกี่ ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครูผ้สู อน ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ................................................................... (นางศุภรดา ปญั ญาทอง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี

85 ใบความร้เู ร่ือง ความร้ทู ว่ั ไปเก่ียวกบั การเขียนรายงานทางวชิ าการ ความหมายของรายงานทางวชิ าการ รายงานทางวิชาการ หมายถึง งานเขยี นทางวชิ าการซึ่งเปน็ ผลที่ได้มาจากการศกึ ษาคน้ ควา้ หรือวจิ ยั ใน เรือ่ งใดเรอื่ งหนึ่งอย่างมรี ะบบ มีการวิเคราะห์เนอ้ื หาอยา่ งมีเหตผุ ลแลว้ นำมาเรียบเรยี งอยา่ งมีข้ันตอน มีการ อา้ งอิงแหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู เพื่อเปน็ หลกั ฐานไว้อย่างชัดเจนและถูกตอ้ งตามหลักเกณฑ์ แล้วเขียนหรือพิมพ์ให้ ถูกต้องตามแบบแผนท่กี ำหนด ประโยชนข์ องรายงานทางวชิ าการ 1. เพ่ือฝกึ ให้นกั เรยี นมนี สิ ยั รกั การศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ มีความสามารถในการคน้ คว้าจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง 2. เพื่อฝกึ ทักษะด้านการอา่ น สามารถจบั ใจความหรอื สรุปความของเร่ืองท่อี ่านได้ 3. เพื่อสง่ เสรมิ ให้รู้จกั คิดอย่างมีวิจารณญาณ มเี หตุผล และประมวลผลข้อมลู ท่ไี ดร้ บั มารวบรวมเรยี บ เรยี งไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4. เพอ่ื ฝกึ ทกั ษะดา้ นการเขียนและการใช้ภาษาใหส้ ามารถถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ เหน็ ลายลกั ษณ์ อกั ษรดว้ ยภาษาท่ถี ูกต้อง 5. เพื่อเปน็ สว่ นหน่งึ ของการประเมินผลการศึกษาในรายวิชาท่ีกำลังศกึ ษาอยู่และเป็นพืน้ ฐานใน การศกึ ษาขั้นสงู ตอ่ ไป ประเภทของรายงานวชิ าการ 1. รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าทว่ั ไป (Report) เป็นการนำเสนอผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ในหวั ข้อใดหวั ข้อ หนง่ึ หรือเร่ืองใดเรอื่ งหน่ึงทอ่ี าจารย์กำหนดให้ หรอื ผู้เรยี นเลือกศึกษาเองตามความสนใจ รายงานอาจเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ กไ็ ด้ 2. ภาคนพิ นธ์ หรอื รายงานประจำภาค (Term Paper) มลี ักษณะเช่นเดียวกับรายงาน เพยี งแต่ เรอ่ื งท่ใี ช้ทำภาคนิพนธน์ นั้ จะมีขอบเขตกว้างกวา่ และลึกซึ้งกว่า มคี วามยาวของเน้ือหามากกว่า จงึ ต้องใชเ้ วลา คน้ คว้ามากกวา่ ดังน้ันใน 1 รายวิชาอาจารยจ์ ึงมอบหมายให้นกั เรียนนกั ศกึ ษาทำเพียงเรือ่ งเดียวให้แลว้ เสรจ็ ใน ภาคเรยี นน้ัน ๆ และใชเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงของการประเมนิ ผลรายวชิ าด้วย 3. รายงานการค้นควา้ วจิ ัย แบ่งออกเปน็ 3.1 วทิ ยานิพนธ์ หรอื ปรญิ ญานิพนธ์ (Thesis or Dissertation) เป็นการเสนอผล การศกึ ษาค้นควา้ วิจัยเปน็ รายบุคคลและเปน็ ส่วนหน่งึ ของการศกึ ษาตามหลักสตู รปรญิ ญามหาบณั ฑิต (ปริญญา โท) และปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑิต (ปรญิ ญาเอก) หัวข้อทีจ่ ะทำการศกึ ษาค้นควา้ วจิ ยั นัน้ จะต้องมีลกั ษณะเข้มงวดทัง้ ด้านปรมิ าณและคณุ ภาพ จะตอ้ งเปน็ หัวขอ้ ท่ีแสดงถึงการมคี วามคิดรเิ ร่ิม มีขอบเขตกวา้ งขวางลมุ่ ลกึ ศึกษา ตามลำดบั ข้นั ตอนของการทำวจิ ัยอยา่ งมรี ะเบยี บแบบแผน ประกอบดว้ ยขอ้ มลู ข้อเทจ็ จริงท่ไี ดร้ บั เพอ่ื ตอบ

86 สมมตฐิ านทีต่ ัง้ ไว้ พร้อมทงั้ ขอ้ เสนอแนะในการทำวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป กำหนดเวลาทำไวไ้ มเ่ กินระยะเวลาเรยี นของ หลกั สูตรนั้น ๆ 3.2 รายงานวิจัย (Research Report) เป็นการนำเสนอผลการศกึ ษาค้นควา้ วจิ ัยในเร่ือง หรือปัญหาเฉพาะท่ีต้องการคำตอบ หรอื เสาะแสวงหาความรู้เพื่อสร้างองค์ความรูใ้ หม่ มีวตั ถุประสงคท์ แ่ี นน่ อน ในการศกึ ษาค้นควา้ นนั้ จะตอ้ งมีข้นั ตอนและรปู แบบเฉพาะตามกระบวนการของวิธวี จิ ยั ลักษณะของรายงานทางวิชาการทดี่ ี 1. เน้ือหาตรงกบั หัวขอ้ เรอ่ื งหรอื ชอ่ื เรอื่ งของรายงาน ครอบคลุมครบถ้วนตามขอบเขต (โครงเร่ือง) ท่ี กำหนดไว้ 2. เน้ือหามีประโยชน์ท้งั ต่อผทู้ ำรายงานและผอู้ ่าน 3. เน้อื หาถกู ตอ้ งเที่ยงตรง ตอ้ งรวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ สารสนเทศที่นา่ เช่ือถือ และมีการอ้างอิง แหล่งท่มี าของขอ้ มลู ไวอ้ ยา่ งชัดเจน ถูกตอ้ งตามรปู แบบการอ้างองิ 4. ควรมีรูปภาพ ตาราง แผนภูมิประกอบเพื่อช่วยให้ผอู้ ่านเข้าใจง่ายชดั เจนยงิ่ ขึน้ 5. มรี ูปแบบการเขียนหรือพมิ พถ์ กู ตอ้ งเป็นระบบเดียวกนั ตลอดทั้งเลม่ มีสว่ นประกอบครบถ้วน สมบรู ณต์ ามข้อกำหนดของรายงานแต่ละประเภท รูปเล่มเรียบร้อย สะอาด สวยงาม ขนาดเป็นสากล

87 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 รายงานและการเขียนบรรณานุกรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหสั ง33203 วชิ า การใช้สารสนเทศ 1 แผนการจดั การเรียนที่ 2 เรื่อง ส่วนประกอบของรายงาน เวลา 1 ชัว่ โมง ผลการเรยี นรู้ เขา้ ใจรปู แบบการเขียนรายงาและการเขียนอ้างอิงบรรณานุกรมในรายงานการค้นควา้ ได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ขนั้ ตอนการเขียนรายงานทางวชิ าการ และสามารถนำไปใช้ ให้เกดิ ประโยชนไ์ ด้ 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 2.1 ทักษะการคดิ การตดั สินใจและการแก้ปญั หา 2.2 ทกั ษะการแสวงหาขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ 2.3 ทักษะการปรับตวั 2.4 ทกั ษะการสื่อสารและสรา้ งสัมพันธภาพ 2.5 ทกั ษะการวางแผนและการจดั การ 2.6 ทักษะการทำงานเปน็ ทีม สาระการเรยี นรู้ การเรยี นในระดบั มัธยมศกึ ษา นอกจากผเู้ รยี นตอ้ งเข้าห้องเรยี นเพ่ือฟงั คำบรรยายและจดจำเรื่องราวท่ี คณุ ครูอาจารย์ชแ้ี นะและทำแบบฝกึ หัด หรือปฏิบัตกิ จิ กรรมตามท่ีไดร้ บั มอบหมายแล้วก็ยงั ไม่เพียงพอ ผเู้ รียน ยังตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู ความรูเ้ พมิ่ เติมจากแหล่งสารนิเทศต่าง ๆ เพ่ือใหม้ คี วามรอบรู้ รจู้ กั คดิ พจิ ารณา ตดั สนิ ปญั หาตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องมีเหตผุ ล ดงั นน้ั ในบางรายวชิ าจึงกำหนดใหผ้ ู้เรียนต้องทำรายงานทาง วชิ าการประกอบการเรยี นเพือ่ เสริมการเรียนรใู้ หม้ ีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขนึ้ อีกทัง้ ยงั สามารถนำเอาความรแู้ ละ ประสบการณท์ ี่ได้ไปใชเ้ ป็นเครอ่ื งมือในการศกึ ษาระดบั สูงต่อไป สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลกั ษณะองั พงึ ประสงค์ 3. มวี นิ ัย 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6. ม่งุ มั่นในการทำงาน

88 8. มีจิตสาธารณะ ทกั ษะชวี ิต 1. การตระหนกั รู้และเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผู้อ่นื 2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4. การสร้างความสัมพันธ์ท่ีดกี ับผอู้ ืน่ คุณลกั ษณะผูเ้ รียนตามมาตรฐานสากล 3. ล้ำหน้าทางความคดิ 4. ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ เศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมเี หตผุ ล 3. การมภี ูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ีในตวั 4. เงอื่ นไขความรู้ (ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมัดระวัง) 5. เง่อื นไขคณุ ธรรม (มคี วามซื่อสตั ยส์ ุจริต และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดำเนินชีวิต) ชิ้นงาน/ภาระงาน 1.ใบความรู้ รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ 1.การเรยี นร้จู ากการสืบคน้ 2.การเรยี นรูท้ ี่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ ครูทบทวนความหมาย ลกั ษณะการเขียนรายงาน และมอบหมายงาน ข้นั สอน ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนฝึกเขียนรายงานทางวชิ าการ เนื้อหาไมต่ ำ่ กวา่ 5 หน้ากระดาษ โดยให้ แบง่ เปน็ กลมุ่ ๆ ละ 5 คน ขน้ั สรุป ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ เนอ้ื หา การวดั ผลและประเมินผล รปู เลม่ รายงานการศึกษาคน้ ควา้

89 สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1.ใบความรู้เร่อื ง ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับรายงานทางวชิ าการ 2.หนงั สือทนี่ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ จะจดั ทำโครงร่างรายงาน 3.ใบงาน 4.ห้องสมดุ โรงเรียน กิจกรรม/ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

90 บนั ทกึ หลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ (ระบุผลที่นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน/ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวนกี่คน คดิ เปน็ ร้อยละเท่าใด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปญั หา/อุปสรรค (ระบปุ ัญหาและอุปสรรคจากการที่นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินทก่ี ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา (ระบุแนวทางเพอื่ ให้บรรลตุ ามเกณฑ์การประเมินทกี่ ำหนด) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................................... (นางสาวกมลชนก สำอาง) ครผู ู้สอน ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ................................................................... (นางศุภรดา ปญั ญาทอง) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

91 ใบความรเู้ รอ่ื ง ส่วนประกอบของรายงานทางวชิ าการ รายงานทางวชิ าการมสี ว่ นประกอบดงั นี้ 1. ปกนอก ระบุชอื่ เรอื่ ง ชือ่ ผ้ทู ำรายงาน และสว่ นว่าง (เหมอื นหน้าปกใน) ปกนอกประกอบด้วย ปก หนา้ และปกหลงั 2. ใบรองปก เปน็ กระดาษว่าง ๆ ถัดจากปกหนา้ เขา้ ไป และถัดจากปกหลังเขา้ มา 3. หน้าปกใน สว่ นบนระบุชื่อเรอ่ื ง ส่วนกลางระบุช่อื ผ้ทู ำรายงาน สว่ นลา่ งระบุข้อความวา่ “รายงานนีเ้ ปน็ สว่ นหน่งึ ของการศึกษาวิชาอะไร ระบุรหัสวิชา สถานศึกษา ภาคการศึกษา และปกี ารศกึ ษา” 4. คำนำ กล่าวถึงวตั ถุประสงค์ของการทำรายงาน ขอบเขตของรายงาน ขอบคุณบุคคลผุ้ทำให้ รายงานนี้เสรจ็ สน้ิ ลง 5. สารบัญ ประกอบดว้ ยหวั ข้อเรอ่ื งตา่ ง ๆ ในรายงาน พรอ้ มทัง้ ระบเุ ลขหน้าทม่ี ีหัวข้อนน้ั ๆ เพอ่ื ชว่ ย ใหผ้ อู้ า่ นไดท้ ราบสาระยอ่ ๆ ของรายงาน 6. เนอ้ื เรื่อง เปน็ ส่วนสำคัญทสี่ ดุ ของรายงาน ผลจากการศึกษาคน้ ควา้ จะนำมาเสนอในสว่ นนี้ ถ้า รายงานมีขนาดสน้ั เนือ้ หาจะแบง่ ตามหวั ข้อสำคญั ๆ แต่ถ้ารายงานมีขนาดยาวเนื้อหาจะแบ่งเปน็ บท ๆ ในแต่ ละบทประกอบด้วยหวั ขอ้ ตา่ ง ๆ 7. บรรณานกุ รม (Bibliography) คือรายชอื่ วสั ดสุ ารสนเทศท่ีผู้เขยี นใช้ประกอบการคน้ ควา้ ในการทำ รายงาน เช่น วารสาร หนังสอื หนงั สือพมิ พ์ และเวบ็ ไซต์ เป็นตน้ 8. ภาคผนวก ( Appendix) รายละเอยี ดที่ไมใ่ ชเ่ นื้อหาของรายงานโดยตรง ผเู้ ขยี นตอ้ งการให้ผอู้ า่ นรู้ เพิ่มเติมเพือ่ เขา้ ใจไดด้ ขี ึ้นหรอื เป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่านนอกเหนอื ไปจากตวั เนอื้ เร่ือง ภาคผนวกอาจจะมีหรอื ไมม่ ี ก็ได้ 9. อภธิ านศพั ท์ บัญชีคำสำคญั ทีป่ รากฏในเน้ือเรอื่ ง พรอ้ มคำอธิบายศพั ท์ เรียงตามลำดับตวั อกั ษร อภธิ านศพั ทอ์ าจจะมีหรอื ไมม่ กี ไ็ ด้ 10. ดรรชนี บญั ชคี ำเรยี งตามลำดบั ตวั อักษรโดยรวบรวมคำที่สำคัญจากเนอ้ื เร่อื งรายงานมาเรียงไว้ พรอ้ มระบุเลขหนา้ กำกับ เพอื่ ให้ผ้อู า่ นตามค้นรายละเอียดในเนอ้ื เร่อื งไดส้ ะดวก ดรรชนีอาจจะมีหรอื ไมม่ ีก็ได้

92 ตวั อย่างการพมิ พป์ กรายงาน พฤติกรรมการใช้สารสนเทศของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นชยั บาดาลวทิ ยา นายสนั ติ ใจตรง รายงานนี้เป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาการใชส้ ารสนเทศ 1 โรงเรียนชัยบาดาลวทิ ยา ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

93 ตวั อย่างคำนำ คำนำ รายงานเลม่ น้จี ดั ทำขน้ึ เพื่อประกอบการเรยี นรายวิชาการใช้สรสนเทศ 1 ท้ังนีเ้ พ่อื ให้การเรียนการสอน บรรลุจดุ ประสงค์ของหลกั สูตรทวี่ างไว้ จำเป็นท่นี กั เรียนจะตอ้ งมีรายงานทใี่ ชป้ ระกอบการเรียนการสอน เน้อื หาของวชิ านี้ประกอบด้วย ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ห้องสมดุ ทรพั ยากรสารสนเทศ การจดั หมวดหมู่ ทรพั ยากรสารสนเทศ การสบื ค้นสารสนเทศ ทรพั ยากรอา้ งองิ การเขียนรายงาน การเขยี นอา้ งอิงในรายงาน และการเขยี นบรรณานกุ รม ผเู้ ขียนขอขอบพระคณุ เจ้าของตำรา เอกสารอา้ งองิ ตามรายนามทีป่ รากฏในบรรณานกุ รมทา้ ยเล่ม เปน็ อย่างย่งิ ซง่ึ เปน็ สว่ นทที่ ำให้รายงานเล่มนม้ี คี ุณคา่ และสมบรู ณ์ยง่ิ ขึน้ นายสนั ติ ใจตรง 1 มกราคม 2565

94 ตัวอยา่ งหนา้ สารบญั สารบญั บทท่ี 1 ความรู้เกย่ี วกบั สารสนเทศ ........................................................................................................ 1 ความหมายของสารสนเทศ แหลง่ สารสนเทศ และทรพั ยากรสารสนเทศ........................................... 2 ความสำคัญของสารสนเทศ................................................................................................................ 5 บทบาทของสารสนเทศ...................................................................................................................... 7 บทที่ 2 แหล่งสารสนเทศ...................................................................................................................... 9 ความหมายคำว่า “แหลง่ สารสนเทศ”.............................................................................................. 9 ความสำคญั ของหอ้ งสมดุ .................................................................................................................. 11 ระเบียบและมารยาทการใชบ้ รกิ ารของห้องสมุดและศูนย์วิทยบรกิ าร............................................... 15 บรรณานุกรม........................................................................................................................................ 20 ภาคผนวก.............................................................................................................................................. 21


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook