ดนิ ทราย เป็นท่ีประกอบด้วยทรำยตงั้ แตร่ ้อยละ 70 ขนึ ้ ไป โดยนำ้ หนักมีสมบัติเหมือนทรำย เนือ้ ดินมี ลกั ษณะหยำบ เม็ดดินไม่เกำะตวั กนั ทำให้กำรระบำย นำ้ ได้เร็วมำก จึงไม่สำมำรถกักเก็บนำ้ ไว้ได้ เหมำะ สำหรับปลกู พืชที่ต้องกำรนำ้ น้อย และมีควำมอดทน สงู เชน่ ตะบองเพช •ดนิ ทราย : อ้มุ นำ้ ได้ไมด่ ี ดินจะ แห้งงำ่ ย มีธำตอุ ำหำรพืชน้อย
ดนิ เหนียว เป็นดินที่มีเนือ้ ละเอียดแน่น มีกำรจับตัวกัน อย่ำงหนำแน่น มีช่องว่ำงระหว่ำงเม็ดดินน้อย อุ้มนำ้ ได้ ดี และไม่ยอมให้นำ้ ซึมผ่ำนได้ง่ำย แต่กำรระบำย ถ่ำยเทอำกำศไม่สะดวก เหมำะสำหรับปลูกพืชที่ ต้องกำรนำ้ มำก เช่น ข้ำว บวั •ดนิ เหนียว : อ้มุ นำ้ ได้ดี มีธำตอุ ำหำรพืชมำก •กำรระบำยนำ้ ไมด่ ี มกั มีนำ้ ขงั ทำให้รำกพืชขำดอำกำศ หำยใจ ทำกำรไถพรวนลำบำก
ดินร่วน เป็นดินที่ประกอบด้วย ทรำย โคลนตม และ ดนิ เหนียว โดยมีปริมำณดนิ ทรำยและดนิ เหนียวไม่มำก นกั ดินชนิดนีจ้ ะมีช่องว่ำงระหว่ำงเม็ดดินมำก ทำให้ นำ้ ซึมได้สะดวก แต่กำรอุ้มนำ้ น้ อยกว่ำดินเหนียว เหมำะสำหรับปลูกพืชส่วนใหญ่ เช่น ฟักทอง คะน้ำ ถวั่ ฝักยำว ผลไม้ ได้แก มะละกอ ส้ม เงำะ •ดนิ ร่วน : มีธำตอุ ำหำรพืชและระบำยนำ้ ดี พอควรเหมำะกบั กำรเจริญเติบโตของพืช
คุณส บัตขิ องเนื้อดนิ ประเภทของ กำรพงั ทลำย คณุ สมบตั ิ ปริมำณ เนือ้ ดนิ งำ่ ยมำก กำรระบำยนำ้ โปแตสเซียม ดินทรำย ดีมำก น้อย ดนิ ร่วน ง่ำย ดี ปำนกลำง ดินเหนียว ยำก เลว มำก
ควา เป็ นกรดเป็ นด่าง หรือ pH ของดนิ •pH ของดนิ บอกเป็นคำ่ ตวั เลข 0-14 •pH น้อยกวำ่ 7 ดินจะเป็นกรด •pH มำกกวำ่ 7 ดนิ จะเป็นดำ่ ง •pH 7 ดนิ จะเป็นกลำง
การละลายของธาตุอาหารในดนิ
ความเป็ นกรดเป็ นด่างของดนิ
พชื แต่ละชนิดจะเจริญเตบิ โตได้ดี ในดนิ ท่มี ีช่วงpHต่างกัน •pH ของดินที่เหมำะสมตอ่ กำรปลกู พืช ตอ่ ไปนีเ้ทำ่ ไร? •ข้ำวโพด •ถว่ั ลิสง •มะเขอื •พืชทวั่ ไป
หากดนิ เป็ นกรดมากเกนิ ไป
ควรใส่ปนู เท่าใดเพ่อื แก้ความเป็ น กรดของดนิ
ความอุดมสมบรู ณ์ของดนิ หมายถงึ ความมากน้อยของธาตุอาหาร พชื ท่พี ชื จะสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ ธาตุอาหารท่พี ชื จะนาไปใช้ประโยชน์ได้ มี 13 ชนิด (ธำตอุ ำหำรหลกั ) N P K Ca Mg S (ธำตอุ ำหำรรอง) Fe Zn Cu Mn Mo B Cl
ธาตุอาหารพืช ท่จี าเป็ นต่อการเจริญเตบิ โตของพชื คือธาตุใด?
• ธาตุอาหารท่ใี ช้ในปริมาณมาก ( Major elements ) 1. ธาตอุ าหารหลัก (Primary elements) ไนโตรเจน(N) ฟอสฟอรสั (P) โปแตสเซยี ม(K)
2. ธาตุอาหารรอง (Secondary elements) แคลเซยี ม(Ca) แมกนีเซยี ม(Mg) กำมะถนั (S)
• ธาตอุ าหารเสริม ( Trace elements ) เป็ นธาตุอาหารท่ใี ช้ในปริมาณน้อย ได้แก่ ธาตเุ หล็ก (Fe) แมงกานีส(Mn) สังกะสี(Zn) โมลิบดนี ัม(Mo) ทองแดง(Cu) โบรอน(B) คลอรีน (Cl)
ชนิดของธาตุอาหารพืช • การให้แร่ธาตุอาหารแก่พืชนัน้ เราให้ ในรูปของ ป๋ ุย(Fertilizer) ป๋ ุยอินทรีย์(Organic fertilizer) ป๋ ุยอนินทรีย์ หรือป๋ ุยเคมี ( Inorganic fertilizer หรือ Chemical fertilizer )
ป๋ ุยอินทรีย์ • ป๋ ุยคอก ◼ ป๋ ุยหมกั ◼ ป๋ ุยพืชสด ◼ ป๋ ุยอนิ ทรีย์รูปอ่นื ๆ : นา้ ทงิ้ จากโรงงาน
ป๋ ุยคอก ป๋ ุยหมกั ป๋ ุยพืชสด ป๋ ุยอนิ ทรีย์
ป๋ ุยอนินทรีย์ / ป๋ ุยวทิ ยาศาสตร์ / ป๋ ุยเคมี • ป๋ ุยเด่ยี ว ป๋ ุยยูเรีย ป๋ ุยซูเปอร์ฟอสเฟต ป๋ ยุ โปแตส เซียมซัลเฟต ◼ ป๋ ุยผสม สูตร 15-15-15, 13-21-21, 25-7-7
การประเมิน ความอดุ มสมบูรณ์ของดิน
1. การสังเกตอาการของพืชทป่ี ลูก N•พืชขำด อยำ่ งรุนแรง จะมี อำกำรขอบใบเหลอื ง ต้นแคระ แกร็น
P•พืชขำด อย่ำงรุนแรง จะมีอำกำร แคระแกร็น ใบสีเขียวทึบ ไมส่ ดใส ใบล่ำง มีสมี ว่ ง รำกพชื ไมเ่ จริญเตบิ โต
K•พชื ขำด อยำ่ งรุนแรง มกั จะ เห่ียวง่ำย แคระแกร็น ใบล่ำง เหลือง เกิดรอยไหม้ตำมขอบใบ และผลผลติ ต่ำ
2. การวเิ คราะห์พืช •เป็นวธิ ีท่ี ย่งุ ยำก เพรำะต้อง พิจำรณำว่ำ •จะเก็บสว่ นใดของพืชมำวิเครำะห์ •อำยขุ องพืช •ช่วงเวลำในกำรเก็บ
3. การทดลองใส่ป๋ ยุ ในไร่นา •เป็นวธิ ีท่ี แมน่ ยำท่ีสดุ แต่ •สนิ ้ เปลอื ง •เสยี เวลำ เพรำะต้องทำแปลงทดลอง
4. การวเิ คราะห์ดิน •เป็นวิธีท่ี นยิ มใช้อยำ่ งกว้ำงขวำง โดยเก็บ ตวั อย่ำงดินมำวิเครำะห์หำค่ำธำตอุ ำหำร แล้ว นำค่ำมำเปรียบเทียบกับค่ำมำตรฐำน ก็จะ ทรำบวำ่ ดินนนั้ อดุ มสมบรู ณ์มำกน้อยเพยี งใด
การเกบ็ ตวั อย่างดนิ สาหรับวเิ คราะห์
1. เครื่อง ือทจี่ ะใช้เกบ็ ตัวอย่างดนิ •ขึน้ กับชนิดของดนิ •สะดวกในการขนย้าย •สะอาดและเก็บตวั อย่างดนิ ได้ครัง้ ละเท่าๆกนั •ได้แก่ สว่านเจาะดนิ กระบอกเจาะดนิ จอบ เสียม พล่ัว และภาชนะใส่ดนิ (ถุงพลาสตกิ ถัง พลาสตกิ )
2. ขนาดของพืน้ ทเี่ กบ็ ตวั อย่างดนิ •ขนาด 5-25 ไร่ •หลีกเล่ียงการเกบ็ ตวั อย่างดนิ บนพนื้ ท่ี กองป๋ ุยเก่า ทางเดนิ ของคน สัตว์ หรือ พนื้ ท่เี ล็กท่แี ตกต่างจากพนื้ ท่ีส่วนใหญ่
แบ่งพ้ืนท่ี (กรณีพ้ืนท่ีใหญ่ หรือดินมี ความแตกต่างกนั ) เม่ือแบ่งแลว้ ใหห้ มายเลข แต่ละแปลง หรือทาแผนที่แสดงการแบ่ง แปลงเพ่ือกนั ลืม
3. จานวนจุดท่เี จาะดนิ •ปกติ 15 – 20 จุดต่อแปลง •ย่งิ เก็บมากจุดย่งิ ได้ตวั อย่างรวมท่เี ป็ น ตัวแทนได้ดเี ท่านัน้ กรณีที่เป็นพืน้ ที่ไร่นำ หรือพืน้ ท่ียงั ไม่มีกำร ปลูกพืช ให้เดินสุ่มเก็บตวั อย่ำงดินให้ทว่ั แปลง ในแตล่ ะแปลง แปลงละประมาณ 15 จุด
กรณีทเ่ี ป็ นสวนไ ้ผล ให้เกบ็ ดินภายในทรงพุ่ ต้น ละจุด ประ าณ 15 ต้น ในแต่ละแปลง
4. ควา ลกึ ของตวั อย่างดิน ความลกึ ในการเกบ็ ตัวอย่าง ชนิดของการใช้ประโยชน์ ดนิ หรือปัญหา 1. ระดบั ไถพรวน แปลงผกั ไม้ดอก ข้ำวโพด ข้ำว (0-15 หรือ 0-20 ซม.) ฟ่ ำง 2. ลกึ 0-7.5 ซม. ถว่ั ตำ่ งๆ แปลงเพำะกล้ำหรือ กอ่ นปลกู พืชล้มลกุ ทงุ่ หญ้ำ อำหำรสตั ว์ สนำมหญ้ำ 3. ลกึ 0-15 และ 15-30 ซม. 2 สวนส้ม ไม้ยืนต้น ไม้พมุ่ ตวั อยำ่ ง
4. ควา ลกึ ของตวั อย่างดนิ (ต่อ) ความลกึ ในการเกบ็ ตัวอย่าง ชนิดของการใช้ประโยชน์ ดนิ หรือปัญหา 4. ลกึ 0-15 ซม.เก็บบริเวณท่ีพืช เม่ือพืชทป่ี ลกู มีกำรเจริญเตบิ โต ปกติ 1 ตวั อยำ่ ง และ ไมด่ ีหรือตำยเป็นหยอ่ มๆ หรือ บริเวณพชื อำกำรผดิ ปกติ เข้ำใจวำ่ เป็นอำกำรผดิ ปกติทำง 1 ตวั อยำ่ ง ระดบั ธำตอุ ำหำรในดิน 5. ลกึ 0-15 ซม.เกบ็ หำ่ งกนั จดุ ดนิ มีปัญหำเนื่องจำกกำรสะสม ละ 2 เมตร เก็บ 20 จดุ รวมเป็น ของปนู ขำว(แคลเซียมออกไซด์) 1 ตวั อยำ่ ง และเกบ็ ดนิ ลำ่ งลกึ เกลือซลั เฟต เกลอื แกง(โซเดียม 15 ซม., 1 เมตร 3 จดุ รวม 1 คลอไรด์) ตวั อยำ่ ง
กำรเก็บดินแต่ละจดุ ให้ใช้พลวั่ ขดุ ดินเป็นรูปล่ิม ลึกประมำณ 15 ซม. หลังจำกนัน้ เก็บดิน โดยใช้ พลว่ั แซะดินข้ำงหลมุ (ด้ำนเรียบ) ให้ได้ดินเป็นแผ่น หนำประมำณ 2-3 ซม. จนถงึ ก้นหลมุ ดินที่ได้เก็บ รวบรวมใสถ่ งุ หรือถงั พลำสตกิ
คลกุ เคล้ำดนิ แตล่ ะแปลงท่ีเก็บมำให้เข้ำกนั แล้วเทลงบนผ้ำพลำสติก ทำกำรคลุกเคล้ำอีก ครัง้ โดยยกมมุ ผ้ำพลำสติกทีละ 2 มมุ ที่อย่ตู รง ข้ำมกนั ทำสลบั มมุ กนั 3-4 ครัง้
หลงั จำกนนั้ กองดินให้เป็นรูปฝำชี แล้วใช้มือ ตบยอดกองให้แบนรำบ หลงั จำกนนั้ ใช้นิว้ มือขีด เป็นกำกบำด (+) บนยอดกอง ซ่ึงจะทำให้ดินถูก แบ่งแยกเป็น 4 ส่วน เก็บตัวอย่ำงจำกกองดินนี ้ เพียง 1 ส่วน ให้ได้ดินหนกั ประมำณคร่ึงกิโลกรัม หรือถ้ ำดินมีหินกรวดปนมำก อำจเก็บมำ 1-2 กิโลกรัม ใสด่ ินลงในถงุ พลำสติกท่ีเตรียมไว้เพ่ือส่ง วเิ ครำะห์
5. เวลาในการเกบ็ ตวั อย่างดนิ •ควรเก็บก่อนฤดปู ลกู หรือเก็บลว่ งหน้ำเม่ือไรก็ได้ •ควรทำกำรเก็บประมำณ 2-3 ปีตอ่ ครัง้
การวเิ คราะห์ดนิ
ปัจจยั ทางชีวภาพ (Biotic Factors)
พวกเกาะกนิ พชื กาฝาก พวกอย่รู ่วมกันแบบแก่งแย่งกนั วชั พชื โรคและแมลงศัตรูพชื
พวกอยู่อย่างเป็ นอสิ ระต่อพืช กล้วยไม้ป่ า
พวกอยู่อย่างเป็ นอสิ ระต่อพืช เฟิ นกระแต ไต่ไม้ พวกอยู่อย่างพ่งึ พาอาศยั กัน แบคทเี รียในปมรากพืชตระกูลถ่ัว
การควบคุมสภาพแวดล้อมท่ไี ม่เหมาะสม เพ่อื ผลิตพชื ให้มคี ุณภาพ สภำพแวดล้อมท่ีไม่เหมำะสม ทำให้มีผลเสีย ตอ่ พืชท่ีปลกู อยเู่ สมอๆ โดยเฉพำะในไม้ตดั ดอก •ดาวเรือง ดอกที่ถกู ฝนจะรับนำ้ ท่ีแทรกอย่ใู น กลีบดอกทำให้ดอกมีนำ้ หนักเพิ่มขึน้ มำกจน ก้ำนดอกรับนำ้ หนักไม่ไหว ก้ ำนดอกจึงหัก และดอกเน่ำงำ่ ย •การเพ่ิมแสงไฟฟ้ าให้ กับต้ นเบญจมาศ เพ่ือให้เกินช่วงวิกฤติทำให้ ไม่ออกดอกก่อน เวลำอนั สมควร
การแกป้ ัญหาสภาพแวดลอ้ มทไ่ี ม่ เหมาะสมเพอ่ื ผลติ พชื ใหม้ ี คณุ ภาพ
วางแผนการปลูกพืชให้เห าะส กบั ฤดูกาล เช่น กำรปลูกไม้ตัดดอกที่ดอก เสียหำยได้ง่ำยจำกนำ้ ฝน อำทิเช่น ดอกดำวเรือง ดอกแกลดิโอลสั ฯ ควร จะปลูกในฤดหู นำวหรือฤดแู ล้ง ทัง้ นี ้ เพ่ือหลีกเล่ียงปริมำณนำ้ ฝนที่มำก เกินไป
การเลือกชนิดพชื ที่ปลูกท่ีทนต่อ สภาพแวดลอ้ ม เช่นในเขตท่ีมีฝนชุก ควร เลือกปลกู ดอกรัก ดอกพดุ ดอกดำหลำ
การปลูกพชื ในโรงเรือนพลาสติก ประเทศเขตร้ อนชืน้ นำ้ ฝนทำควำม เสียหำยให้ แก่ผลผลิตดอกของไม้ ตัดดอกบำ ง ชนิดก่อนที่จะทำกำรเก็บเก่ียว เช่น ดำวเรือง เบญจมำศ เยอบีร่ำ แกลดิโอลัส คำร์เนชั่น กำรปลูกพืชในโรงเรื อนพลำสติกจะช่วย แก้ปัญหำนีไ้ ด้เกือบ 100%
การปลูกพชื ในโรงเรือนพลาสติก ประเทศท่ีอยู่ในเขตหนาว มีหิมะตก เช่น เนเธอร์ แลนด์ ออสเตรเลีย หรื อประเทศท่ีมี ทะเลทรำย เช่น ประเทศอิสรำเอล กำรปลกู พืชใน โรงเรื อนจะช่วยแก้ ปั ญหำเร่ื องอำกำศหนำวเย็น จน เป็นอันตรำยต่อพืช หรือทรำยท่ีปลิวมำกระทบต้น พชื
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105