248 248 วชิ าแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลนท ี่ 2 แบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง กระบวนการสรา งแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำชี้แจง ใหนกั ศึกษาเลอื กคำตอบที่ถูกตองทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดียว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. การเขียน Mind Map ในอดีต เนนเขียนลง 4. แผนพฒั นาความคิด มีความสําคัญตาม บนสิง่ ใด ขอใด ก. สมดุ ก. ชวยทาํ งานใหสาํ เรจ็ ลุลว งโดยดี ข. กระดานดาํ ข. ใชในการเลือกตัดสินใจที่ถูกตอง ค. คอมพวิ เตอร ค. ชวยในการเรยี นรูต าง ๆ ของมนษุ ย ง. กระดาษเปลา ง. ใชเปนจดุ กําเนดิ หรอื จดุ เร่มิ ตนในการ ทํางานตา ง ๆ รวมถงึ การจินตนาการ 2. การเขยี นแผนพฒั นาความคิดควรเรม่ิ ตน จากจุดใดเปน อนั ดับแรก 5. ขัน้ ตอนแรกของการเขยี นแผนพฒั นา ก. จุดศนู ยก ลาง ความคิดดว ยมือ คือขอใด ข. จดุ เล็ก ๆ ไปหาจุดศูนยกลาง ก. เตรียมดินสอหรือปากกาอยา งนอย 3 สี ค. เขียนจากเร่ืองเลก็ ใหเปนเร่ืองใหญ ข. เขยี นหวั ขอความคดิ หลัก พรอมวาดรปู ง. เขียนจุดใดกอ นกไ็ ด แลวแตความถนัด ท่เี กยี่ วขอ งประกอบ ค. ขดี เสนออกจากจุดเลก็ ไปหา ความคดิ 3. ขอ ใดไมใชป ระโยชนของแผนพฒั นา หลัก (Ideas) ทเ่ี กย่ี วกับเรอื่ งน้ี ความคดิ ง. เรม่ิ ตน ดว ยเขียนหวั เร่อื งหลักของ ก. ชวยในการเรยี นรตู า ง ๆ ของมนุษย แนวคิด (Concept) ทก่ี ง่ึ กลาง ข. สรา งจากสง่ิ ทเี่ ปน นามธรรมสูร ปู ธรรม หนากระดาษ ค. ใชแกป ญ หาตางๆ ทุกเรอ่ื งได สาํ เร็จ ง. ใชในการทําการตัดสนิ ใจ กรณีมี ทางเลอื กหลาย ๆ ทาง
บทเรียนออนไลนที่ 2 249 249 วิชาแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศกึ ษา เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน หลังเรียน เร่ือง กระบวนการสรางแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) 1. ง 2. ก 3. ค 4. ง 5. ง
250 250 วิชาแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรยี นออนไลนที่ 3 ใบงาน คำส่ัง 1. ใหผ ูเรยี นทำแบบทดสอบกอนเรียนบทเรยี นออนไลนท ่ี 3 เรอ่ื ง ลักษณะของ แผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ เู รียนศกึ ษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนท ่ี 3 เร่อื ง ลักษณะของ แผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) 3. ใหผ เู รยี นทำกจิ กรรมท่ี 3 เรอ่ื ง ลักษณะของ แผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) จำนวน 1 ขอ 4. ใหผ เู รียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง ลกั ษณะของ แผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) จำนวน 5 ขอ สแกนควิ อารโ คด บทเรยี นออนไลนที่ 3 เรอ่ื ง ลกั ษณะของแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map)
บทเรยี นออนไลนท ี่ 3 251 251 วชิ าแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา แบบทดสอบกอนเรยี น เรือ่ ง ลักษณะของแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ชือ่ -นามสกลุ ..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำชี้แจง ใหนักศกึ ษาเลอื กคำตอบทถ่ี กู ตองท่สี ุดเพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. Mind Map หมายถึงขอใด 4. ขอ ใดไมใ ชข อ ดขี องการใชแ ผนพัฒนา ก. แผนทีค่ วามรู ความคดิ ข. แผนท่คี วามคดิ ก. ชวยใหก ารบันทกึ ขอมลู มปี ระสิทธภิ าพ ค. แผนผังความรู ข. สามารถเปนเครอ่ื งมอื ในการระดมสมอง ง. แผนผังความคิด ค. ไมสามารถใชท ํากิจกรรมหรอื วางแผน งานได 2. บคุ คลใดเปนผูคิดคนทฤษฎี Mind Map ง. พัฒนาความคิดนาํ ไปสูก ารปฏบิ ตั ทิ ีท่ าํ ให ก. โทนี บซู าน เกิดความรมู ากมาย ข. อริสโตเตลิ ค. มาริก ตอเวยี 5. ขอใดเปน ขอแตกตางของ Mind Map กบั ง. เซอร ไอแซก นิวตัน Concept Map ก. Concept Map ไมล อ มวงตกี รอบ แต 3. ขอ เสียของการเขียนแผนพัฒนาความคดิ Mind Map ใหล อ มกรอบ ดว ยมือ ข. Mind Map เสนจะเนนเสนตรง แต ก. เขียนแบบเดิม ๆ ไมมใี หเ ลือก Concept Map มกั ใชเ สนโคง หลากหลาย ค. Concept Map ลอมวงตกี รอบ แต ข. คอนขา งทําไดชา แตแกไ ขขอ มูลได Mind Map ไมใหล อมกรอบ งายกวา ง. สี Mind Map นาสนใจ แต Concept ค. ใครเขยี นกไ็ มได ตอ งเขยี นเอง เพราะ Map จะถอื วาเปนเคร่อื งมอื ทสี่ าํ คญั มาก อานลายมอื ไมอ อก ง. คอนขางทาํ ไดชา ลบและแกไ ขขอมลู ยาก และเสียเวลา
252 252 วิชาแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลนท่ี 3 ใบความรู เร่ือง ลักษณะของแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ลักษณะการเขยี นแผนพฒั นาความคดิ หรือแผนท่ีความคดิ (Mind Map) ลกั ษณะสาํ คัญของ Mind Map มี 4 ประการ คือ 1. หวั เรือ่ งท่เี ปนขอใหญใจความไดรับการกลน่ั กรองจนตกผลกึ เปน ภาพ “แกน แกน” ตรงกลาง 2. ประเด็นสาํ คญั กระจายเปน รัศมอี อกมาเปน “กา น” หรือ กง่ิ แกว แตกแขนงออกจาก “แกนแกน” 3. ก่ิงที่แตกแขนงออกมาแตล ะก่ิงรองรับ คําไข/ภาพ โดยมีเสนเชอ่ื มเปนรายละเอยี ดออกมารอบๆ 4. กิ่งกา นตา งๆตองเชื่อมตอ ยดึ โยงกันดจุ กง่ิ ไมหรอื รากไม ภาพแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map)
บทเรยี นออนไลนท่ี 3 253 253 วิชาแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา กิจกรรม เร่อื ง ลกั ษณะของแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ช่ือ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศึกษา.................................. คำช้แี จง จงอธิบายลกั ษณะการเขยี นแผนพฒั นาความคดิ (5 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
254 254 วชิ าแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรยี นออนไลนท ่ี 3 เฉลยกจิ กรรม เรอ่ื ง ลกั ษณะของแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คำชแ้ี จง จงอธิบายลกั ษณะของแผนพัฒนาความคิด (5 คะแนน) 1. หัวเร่ืองท่ีเปนขอใหญใ จความไดร บั การกลนั่ กรองจนตกผลึกเปน ภาพ “แกน แกน” ตรงกลาง 2. ประเดน็ สําคัญกระจายเปนรัศมีออกมาเปน “กาน” หรอื กิง่ แกว แตกแขนงออกจาก “แกน แกน” 3. ก่ิงที่แตกแขนงออกมาแตละกง่ิ รองรบั คาํ ไข/ภาพ โดยมเี สนเชือ่ มเปน รายละเอียดออกมารอบๆ 4. กิ่งกา นตา งๆตอ งเชือ่ มตอ ยดึ โยงกนั ดจุ กง่ิ ไมห รือรากไม
บทเรยี นออนไลนที่ 3 255 255 วชิ าแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง ลกั ษณะของแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ชือ่ -นามสกลุ ..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำชแ้ี จง ใหนักศึกษาเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ งทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. Mind Map หมายถึงขอ ใด 4.ขอ ใดไมใ ชข อดีของการใชแ ผนพัฒนา ก. แผนทีค่ วามรู ความคิด ข. แผนที่ความคดิ ก. ชวยใหการบันทกึ ขอ มูลมีประสทิ ธภิ าพ ค. แผนผงั ความรู ข. สามารถเปน เครอื่ งมอื ในการระดมสมอง ง. แผนผงั ความคดิ ค. ไมส ามารถใชทํากจิ กรรมหรอื วางแผน งานได 2. บุคคลใดเปน ผคู ิดคน ทฤษฎี Mind Map ง. พัฒนาความคิดนําไปสูการปฏิบตั ทิ ที่ าํ ให ก. โทนี บูซาน เกดิ ความรมู ากมาย ข. อริสโตเตลิ ค. มารกิ ตอเวีย 5. ขอใดเปน ขอ แตกตา งของ Mind Map กบั ง. เซอร ไอแซก นวิ ตนั Concept Map ก. Concept Map ไมลอ มวงตีกรอบ แต 3. ขอ เสียของการเขียนแผนพัฒนาความคิด Mind Map ใหลอ มกรอบ ดวยมอื ข. Mind Map เสน จะเนน เสนตรง แต ก. เขยี นแบบเดมิ ๆ ไมม ีใหเ ลือก Concept Map มกั ใชเสน โคง หลากหลาย ค. Concept Map ลอมวงตกี รอบ แต ข. คอ นขางทําไดชา แตแกไ ขขอ มูลได Mind Map ไมใ หล อมกรอบ งายกวา ง. สี Mind Map นาสนใจ แต Concept ค. ใครเขียนกไ็ มไ ด ตองเขียนเอง เพราะ Map จะถือวา เปนเครอ่ื งมือทส่ี าํ คญั มาก อา นลายมอื ไมอ อก ง. คอนขางทาํ ไดชา ลบและแกไ ขขอ มลู ยาก และเสียเวลา
256 256 วิชาแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลนท ่ี 3 เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน - หลังเรียน เรื่อง ลักษณะของแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) 1. ข 2. ก 3. ง 4. ค 5. ค
บทเรยี นออนไลนท ่ี 4 257 257 วชิ าแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา ใบงาน คำสั่ง 1. ใหผูเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียนบทเรยี นออนไลนที่ 4 เร่อื ง การสรา งแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ ูเรียนศกึ ษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนท ี่ 4 เรื่อง การสรางแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) 3. ใหผูเรยี นทำกจิ กรรมท่ี 4 เร่อื ง การสรางแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) จำนวน 1 ขอ 4. ใหผ ูเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง การสรางแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) จำนวน 5 ขอ สแกนควิ อารโคด บทเรียนออนไลนที่ 4 เรอ่ื ง การสราง แผนพฒั นาความคิด (Mind Map)
258 258 วิชาแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรียนออนไลนท ่ี 4 แบบทดสอบกอนเรียน เร่ือง การสรางแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ชอ่ื -นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศกึ ษา...................................................... คำชีแ้ จง ใหนักศึกษาเลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ งทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. การเขยี นคําลงใน Mind Map ควรคํานงึ 4. การทาํ Mind Map เนนการใชคาํ อยา งไร ถงึ ขอ ใด ก. ใชค าํ มูล ก. เขียนแลวขดี เสนใตท กุ คาํ ข. ใชค ําซำ้ ๆ ข. ใหล อมกรอบคาํ ทุกคาํ ทเี่ ขยี น ค. ใชถอ ยคําส้นั ๆ ค. ควรตกแตง คําพูดใหตรงกบั ภาพ ง. ใชคาํ เปนประโยค ง. เขยี นคาํ หลักเปน วลีท่ีมคี วามหมาย ชดั เจน 5. การนําเสนอโดยการเขียนประเด็นหรือเรอื่ ง หลกั แลว เสนอสาเหตุและผลตา ง ๆ ท่ี 2. เพ่อื ใหเกดิ ความคิดสรา งสรรคใหม ๆ ควร เก่ียวของ ใช Mind Map ใด ปฏิบตั อิ ยางไร ก. ผังวงจร ก. คิดหลาย ๆ เรื่อง ข. แผนผังกางปลา ข. คิดอยา งมีอิสระมากทส่ี ุด ค. แผนผังแบบกิ่งไม ค. คิดแลว ตองปฏิบัติใหได ง. แผนผังใยแมงมมุ ง. คิดแตเรอ่ื งหลกั ทําใหป ระหยัดเวลา 3. การหาความคิดรองหรอื การแตกกงิ่ ควร ปฏิบัติอยา งไร ก. การแตกก่ิงไมควรเขยี นแตกทศิ ข. ไมค วรลอ มกรอบ ใสกลอ ง หรอื ขีดเสนให ค. การแตกก่ิง ควรเขยี นเอยี งไปขา งใด ขา งหน่งึ ง. คํา/ภาพ/เสน บนสาขาเดยี วกนั ควรใชส ี เดียวกัน
บทเรยี นออนไลนท ่ี 4 259 259 วิชาแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศึกษา ใบความรู เร่ือง การสรางแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) Mind Map เปนเพียงสวนหน่ึงของเครื่องมือในการบันทึกขอมูลและความคิดเปนภาพ ซงึ่ เครอ่ื งมือนําเสนอดว ยภาพ แบงออกเปน 5 ประเภท ไดแ ก - ดาว / ใยแมงมุม / เครือขาย เหมาะสําหรับการอธิบาย คําจํากัดความคุณสมบัติ คุณลกั ษณะ - แผนภูมิ / ตาราง / แถวอันดับ เหมาะสําหรับแสดงคุณสมบัติ คุณลักษณะเปรียบเทียบ การประเมนิ - ตนไม / แผนท่ี เหมาะสาํ หรบั การ จําแนก ตารางชาติตระกลู สายพนั ธ - ลกู โซ เหมาะสําหรบั กระบวนการเหตแุ ละผล ทม่ี าที่ไป ลาํ ดบั เหตุการณในอดตี - ภาพราง เหมาะสําหรับโครงสรางทางกายภาพ ทําเลท่ีต้ัง สถานท่ี รูปลักษณ เครื่องมือ นําเสนอดว ยภาพท่นี า สนใจ ซ่งึ แบง ออกไดเปน 7 ประเภท ตามการนาํ เสนอขอ มูล - แผนภาพใยแมงมมุ Spider Map เริม่ จากตรงกลางแผนท่ีดวยประเด็นสําคัญของเรื่องหรือ ปจ จยั รว มแลว แตก รศั มอี อกไปรอบๆ - แผนภูมิ ตามลําดับช้ัน Hierarchy Map นําเสนอขอมูลที่มีลําดับความสําคัญหรือลําดับ ช้ันสูงตำ่ - Flow Chart นาํ เสนอขอมูลในรูปแบบท่ตี อ เน่อื งเปน เสน ตรง หรือกระบวนการ - System Map นําเสนอขอ มลู ทีเ่ หมือน Flow Chart แตเ พิ่ม Input และ Outputs - picture / Landscape Map นาํ เสนอขอมูลทเี่ ปน ภมู ิทัศน ทศั นียภาพ หรือ ภาพ - Multidimentional / 3-D Concept Map นําเสนอขอ มลู ท่ีซับซอนมากๆ - Mandala / Mandala Concept Map นํ าเส น อ ข อ มู ล ท่ี เป น รู ป ท ร งเร ข าค ณิ ต ขอเหมอื นกันของ Mind Map กบั Concept Map - ใชค ําส้ันๆและเสน ในการจดบนั ทกึ ความคิดหรือขอ มูลแตละคํากแ็ ตกออกไปไดรอบทิศทาง ขอ แตกตาง Mind Map กบั Concept Map - จุดเริ่มตน / ใจกลาง Concept Map อาจมีขอมูลความคิดรวบยอดหรือกระบวนทัศน มากกวา หนึง่ ประเด็นได แต Mind Map® มแี กนแกนไดประการเดยี วเทา น้ัน - สี Concept Map น้นั ไมสนใจ แต Mind Map จะถือวาเปนเคร่อื งมอื ทสี่ าํ คญั มาก - Concept Map ลอมวงตีกรอบแต Mind Map ไมใ หล อ มกรอบ
260 260 วิชาแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลนท่ี 4 - Concept Map มักใชเ สนตรง แต Mind Map เสน จะเนน ทโี่ คงกบั ความยาวของภาพ - Mind Map เนน การใชคาํ มลู ข้ันตอนในการเขียน Mind Map 7 ข้นั ตอน 1. วางกระดาษเปลาตามแนวนอน เร่ิมจากกลางหนากระดาษ เพราะมนั จะชวยใหม อี สิ ระ ในการคิดแผข ยายไดต าม ธรรมชาติ 2. ใชรปู ภาพ หรอื สญั ลักษณแ ทนประเดน็ หลัก ที่ศูนยกลางซ่งึ เรยี กวา “แกน แกน” 3. ใชส ีสนั ใหท่ัวท้งั แผน 4. เช่อื งโยง “กิ่งแกว” เขากับ “แกน แกน” ท่ีอยูตรงกลาง และเชื่อม “ก่งิ แกว” ออกไปเปน ข้นั ที่ 2 และ 3 5. วาดกิ่งท่ีมีสญั ลักษณเ ปนเสนโคง 6. ใชค าํ มลู เพียงคาํ เดยี วบนแตล ะกง่ิ 7. ใชรูปภาพ ประกอบใหท่ัวท้ังแผน Mind Map เพราะภาพแทนคําไดเทากับคําพันคํา ขอเสนอแนะในการเขยี น MIND MAP 1. การสรางภาพศนู ยก ลาง การทําภาพใหน าสนใจ ดงั น้ี - ภาพควรมีสไี มนอ ยกวา 3 สี - ขนาดของภาพไมควรมีขนาดใหญจนเกินไป ขนาดพอเหมาะประมาณ 2 ตารางนิ้ว - ภาพไมจําเปนตองมีภาพเดียว อาจมีหลาย ๆ ภาพ หรือหลาย สิ่งที่เกี่ยวของกับ เรื่องนน้ั – ภาพเปน ภาพทม่ี ีลกั ษณะเคลอื่ นไหวกจ็ ะดี - ไมควรจะใสกรอบภาพศนู ยกลางเพราะกรอบอาจจะเปน สิ่งท่สี กดั ก้ันการไหลของ ความคิด 2. การหาคาํ สาํ คัญ (KEY WORD) คาํ สาํ คัญควรมีลกั ษณะดังนี้ - ควรเปน คาํ เดยี ว วลี หรอื ขอ ความส้นั ๆ - ควรเปนคาํ ทส่ี ือ่ ความหมายไดดี แสดงถึงจดุ เนน กระตนุ ความสนใจ งา ยแกการจํา 3. การหาความคดิ รอง หรือการแตกกง่ิ ควรทาํ ดังน้ี - เปนคําสําคัญทรี่ องลงไปหรือเปนสว นประกอบทเ่ี กี่ยวกับคาํ สําคัญ/คาํ กุญแจเพอ่ื เปน การลง รายละเอยี ด - ควรเขยี นบนเสน ทีต่ อออกไปแตเ สน จะเรียวลงไปเรอ่ื ย ๆ - ถาตองการเนนอาจทําใหเ ดน เชน การลอ มกรอบ ใสกลอ งหรอื ขดี เสน ใตเ ปน ตน - คํา/ภาพ/เสน บนสาขาเดยี วกัน ควรใชสเี ดียวกัน
บทเรยี นออนไลนท่ี 4 261 261 วิชาแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศึกษา - การแตกก่ิงไมควรใหเอียงไปขางใดขางหน่ึงควรใหสมบูรณ ควรแตกกิ่งใหไดภาพ MIND MAP ท่สี มดลุ - การแตกกิ่งควรแตกทศิ เฉียงมากกวา บนลา ง จากน้ันนาํ เสนอแผนท่ีความคิดดังกลาวขา งตน จะพบวามปี ระโยชน มากมายท้งั ในชวี ติ ประจาํ วนั และชวี ิตการทํางานเชน การวางแผนงาน การบนั ทึก ชวยจํา การสรุปบทเรียนเปนตน ไมวา ผูใหญหรือเด็กสามารถทําไดเชนกัน อยูท่ีการฝกฝนจนเกิด ความเคยชนิ แทนทจี่ ะเขยี นเปน หัวขอใหญ หัวขอยอย อยางในอดตี ท่เี ปน ลักษณะความเรยี งก็เปลี่ยน มาทําเปน MIND MAP จะทําใหเห็นภาพการสรปุ ความคิดเรื่องนั้นในหนากระดาษ เพียงแผนเดียว ดังนน้ั ผจู ัดการเรยี นรคู วรจะนําไปประยกุ ตใชป ระโยชนในการจดั กิจกรรมการเรยี นรูต อไป การสรา ง แผนท่ีความคดิ หรอื Mind Map ขั้นตอนการสราง Mind Map 1. เขียน/วาดมโนทศั นห ลกั ตรงกึ่งกลางหนากระดาษ 2. เขยี น/วาดมโนทัศนร องที่สมั พนั ธกับมโนทศั นหลักไปรอบ ๆ 3. เขียน/วาดมโนทัศนย อยทสี่ มั พันธก บั มโนทัศนร องแตกออกไปเรอื่ ย ๆ 4. ใชภ าพหรือสญั ลกั ษณสอื่ ความหมายเปน ตวั แทนความคิดใหม ากทส่ี ุด 5. เขียนคําสําคัญ (Key word) บนเสนและเสน ตองเช่อื มโยงกนั 6. กรณีใชส ี ทง้ั มโนทัศนรองและยอ ยควรเปนสเี ดยี วกัน 7. คดิ อยา งอสิ ระมากทสี่ ดุ ขณะทาํ ภาพสราง แผนที่ความคดิ
262 262 วชิ าแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรยี นออนไลนท ่ี 4 กจิ กรรม เรอื่ ง การสรางแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ชอ่ื -นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คำชีแ้ จง จงบอกข้นั ตอนการสรางแผนพฒั นาความคดิ (5 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
บทเรยี นออนไลนที่ 4 263 263 วชิ าแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศกึ ษา เฉลยกิจกรรม เร่ือง การสรา งแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศึกษา.................................. คำชี้แจง จงบอกขน้ั ตอนการสรา งแผนพฒั นาความคิด (5 คะแนน) 1. เขียน/วาดมโนทัศนห ลกั ตรงก่ึงกลางหนากระดาษ 2. เขียน/วาดมโนทัศนร องท่ีสมั พันธก ับมโนทศั นห ลักไปรอบ ๆ 3. เขียน/วาดมโนทัศนยอ ยท่สี มั พันธก บั มโนทัศนร องแตกออกไปเรอื่ ย ๆ 4. ใชภ าพหรอื สญั ลักษณส อื่ ความหมายเปนตัวแทนความคดิ ใหม ากทสี่ ุด 5. เขียนคําสําคัญ (Key word) บนเสนและเสน ตอ งเชอ่ื มโยงกนั 6. กรณใี ชส ี ทง้ั มโนทศั นร องและยอ ยควรเปน สเี ดยี วกนั 7. คิดอยา งอสิ ระมากทสี่ ุดขณะทาํ
264 264 วิชาแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลนท่ี 4 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสรา งแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ชอ่ื -นามสกลุ ..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำช้ีแจง ใหน กั ศึกษาเลอื กคำตอบที่ถกู ตอ งทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. การเขยี นคําลงใน Mind Map ควรคํานึงถงึ 4. การทํา Mind Map เนน การใชค ําอยา งไร ขอ ใด ก. ใชค ํามลู ก. เขยี นแลว ขดี เสนใตทกุ คํา ข. ใชค ําซำ้ ๆ ข. ใหล อมกรอบคาํ ทกุ คําทเี่ ขียน ค. ใชถ อยคาํ ส้นั ๆ ค. ควรตกแตง คําพูดใหต รงกบั ภาพ ง. ใชคาํ เปนประโยค ง. เขยี นคาํ หลักเปน วลที ี่มีความหมาย ชัดเจน 5. การนําเสนอโดยการเขยี นประเดน็ หรอื เรอ่ื ง หลกั แลว เสนอสาเหตแุ ละผลตาง ๆ ท่ี 2. เพื่อใหเกดิ ความคดิ สรา งสรรคใหม ๆ ควร เกี่ยวขอ ง ใช Mind Map ใด ปฏบิ ตั อิ ยา งไร ก. ผงั วงจร ก. คิดหลาย ๆ เรอ่ื ง ข. แผนผังกา งปลา ข. คดิ อยางมอี ิสระมากทส่ี ดุ ค. แผนผงั แบบกิ่งไม ค. คดิ แลวตองปฏิบัติใหไ ด ง. แผนผงั ใยแมงมมุ ง. คดิ แตเ ร่ืองหลกั ทาํ ใหประหยดั เวลา 3. การหาความคดิ รองหรือการแตกกง่ิ ควร ปฏบิ ัติอยา งไร ก. การแตกกิง่ ไมค วรเขียนแตกทิศ ข. ไมค วรลอ มกรอบ ใสก ลอ ง หรอื ขีดเสน ให ค. การแตกกิง่ ควรเขียนเอยี งไปขา งใด ขา งหนงึ่ ง. คํา/ภาพ/เสน บนสาขาเดียวกันควรใชส ี เดียวกนั
บบททเเรรยยีี นนออออนนไไลลนนทที่่ี 44 265 226655 ววิิชชาา แแผผนนพพฒััฒนนาาคคววาามมคคิดิด ((MMiinndd MMaapp)) ปปรระะถถมมศศึกกึ ษษาา เเรร่ือ่ืองงเเกกฉฉาาลลรรยยสสแแรรบบาา บบงงแแททผผดดนนสสพพออฒัฒับบกกนนออาานนคคเเววรราาียยี มมนนคคดิดิ-- หห((MMลลัังงiinnเเรรddยีียนนMMaapp)) 5522443311.......... ขขขกขกงงงง
266 266 วชิ าแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลนที่ 5 ใบงาน คำสง่ั 1. ใหผ ูเรยี นทำแบบทดสอบกอ นเรียนบทเรียนออนไลนท ี่ 5 เร่ือง การใชแ ผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพัฒนาการเรียนรู จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ เู รียนศกึ ษาใบความรบู ทเรียนออนไลนท ่ี 5 เรอ่ื ง การใชแ ผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพฒั นาการเรียนรู 3. ใหผูเรียนทำกจิ กรรม ท่ี 5 เรอื่ ง การใชแ ผนพัฒนา ความคิด (Mind Map) ในการพฒั นาการเรียนรู จำนวน 1 ขอ 4. ใหผูเ รียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนบทเรียนออนไลนท่ี 5 เรือ่ ง การใชแ ผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพฒั นาการเรยี นรู จำนวน 5 ขอ สแกนคิวอารโ คด บทเรยี นออนไลนท่ี 5 เรอ่ื ง การสรา ง แผนพฒั นาความคิด (Mind Map)
บทเรยี นออนไลนท ่ี 5 267 267 วชิ าแผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา แบบทดสอบกอนเรียน เร่อื ง การใชแ ผนพฒั นาความคิด (Mind Map) ในการพัฒนาการเรยี นรู ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำชี้แจง ใหน กั ศึกษาเลอื กคำตอบทีถ่ กู ตอ งทีส่ ุดเพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. การนําเสนอโดยการเขียนแผนผงั เพ่อื เสนอ 3. นําเสนอโดยการเขยี นความคดิ รวบยอด ความสัมพันธเปน ขัน้ ตอนตาง ๆ ที่สมั พนั ธ หลกั ไวขางบนหรือตรงกลางแลว ลากเสน ให กนั เรียงลาํ ดับเปนวงกลม ใชแผนพฒั นา เชื่อมโยงกับความคิดรวบยอด อน่ื ๆ ท่ี ความคิดรูปแบบใด สาํ คัญรองลงไปตามลาํ ดับ ใชแ ผนพัฒนา ก. ผังวงจร ความคดิ รปู แบบใด ข. แผนผงั กา งปลา ก. ผังวงจร ค. แผนผังแบบก่งิ ไม ข. แผนผงั กา งปลา ง. แผนผังใยแมงมมุ ค. แผนผงั แบบก่งิ ไม ง. แผนผังใยแมงมมุ 2. นําเสนอโดความคดิ รวบยอดหลักทส่ี ําคัญ ไวตรงกึ่งกลางหนากระดาษ แลว เขยี น 4. การทําแผนพฒั นาความคิด กระตุนใหเ กดิ คําอธิบายหรอื ความคดิ รองลงไป ใช สิง่ ใดมากทีส่ ุด แผนพฒั นาความคิดรูปแบบใด ก. กระตุน ใหค ิดแกไ ขปญ หา ก. ผังวงจร ข. เปด โอกาสใหเหน็ วธิ ีการใหม ๆ ข. แผนผงั กา งปลา ค. ใหเ กดิ การวางแผนไดอ ยา งถกู ตอ ง ค. แผนผังแบบก่งิ ไม ง. ทําใหเห็นภาพรวมกวา ง ๆ ในขอบเขต ง. แผนผงั ใยแมงมมุ ของเรอ่ื งนนั้ ๆ 5. นักศึกษาไดร ับประโยชนจากการทาํ แผนพฒั นาความคดิ ตามขอ ใด ก. ไดฝกการรวบรวมขอมูล ข. ไดค ิดและปฏิบัติดวยตนเอง ค. รจู กั การเกบ็ ขอมลู อยางเปน ระบบ ง. ถูกทกุ ขอ
268 268 วชิ าแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรียนออนไลนท ี่ 5 ใบความรู เรอ่ื ง การใชแ ผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพฒั นาการเรยี นรู การใชแผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพัฒนาการเรียนรู 1. การนำแผนที่ความคิดมาใชกับการศกึ ษาและการเตรียมสอบ แทนท่ีจะอานหนังสือและ สมุดบันทึกหลาย ๆ หนา ในแตละรายวชิ า เราใชแ ผนที่ความคดิ เพียงแผน เดียว ทำใหก ารสอบงายขึ้น ทำใหเราไดค ะแนนดี และยังสนุกตอ การเรียน 2. ประโยชนตอสมาธิ ความสนุกสนานในการเขียนแผนที่ความคิดจะชวยตรึงความสนใจ ไวได ชวยในการสรา งสมาธิและมแี รงจูงใจในการทำงาน 3. ในเรื่องของความคิดสรางสรรค การใชแผนท่ีความคิดจะชวยในการระดมสมอง การจดั รปู แบบ และการใชเ หตผุ ล ชว ยใหความความคดิ มคี วามคดิ ท่หี ลากหลายข้นึ 4. ในเรื่องของความจำ แผนท่ีความคดิ ทีม่ สี สี นั จะเปน ตัวกระตุน ในเร่ืองของความจำ ในการ ปอนขอมูลตาง ๆ เขา สสู มอง ทำใหจ ดจำเนื้อหาของการเรียนไดอ ยางดขี ้นึ นอกจากนี้ประโยชนของการประยุกตใ ชแ ผนท่ีความคิดประกอบไปดวย 7 ดาน มีดังตอไปน้ี (นัฐจา พันธสทุ ธิ, 2551) 1. ดานความจำ ชวยในการบันทึกจดจำส่ิงตาง ๆ ไดดียิ่งข้ึน เนื่องจากเปนการกระตุน ฝกสมองทั้งซีกซา ยและซกี ขวาใหก ระทำและคิดสรางสรรคไปพรอมกนั 2. ดานการศึกษา ชวยใหผูเรียนรวบรวมขอมูลเพื่อการคิด วิเคราะห ฟง และจดบันทึก การบรรยาย เปน เทคนคิ ชวยเสรมิ ความรูจ ากการศกึ ษาการคนควาการอา น 3. ดานการส่ือสารและการนำเสนอ เปนการนำแผนที่ความคิดเขามาชวยในการทำ ความเขา ใจส่ิงที่ตอ งการสอ่ื สาร และนำเสนออยางเปน ข้ันตอน 4. ดานการประชุม เปนเครื่องมือที่ชวยใหการประชุมดำเนินไปอยางมีแบบแผน โดยเริ่ม จากกำหนดการประชมุ หวั ขอ การประชมุ 5. ดานการจัดการ เปนการจัดระเบียบแบบแผนในการบริหารของหนวยงานหรือองคการ ตงั้ แตข นาดยอ มจนถึงขนาดใหญใหเ ปน ไปอยางเรียบงาย อยางมปี ระสทิ ธิภาพสูงสดุ 6. ดานการวางแผน ชวยในการจัดการโครงสรางวางแผนเพ่ือปองกันและแกปญหาเรื่อง ตาง ๆ เปน ไปอยา งมรี ะบบข้นั ตอน
บทเรยี นออนไลนท่ี 5 269 269 วชิ าแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ประถมศกึ ษา 7. ดานการระดมสมอง ชวยในการจัดระเบียบความคิดอันหลากหลาย เพ่ือเรียบเรียง กระบวน การคิดวิเคราะหใหมีคุณภาพท่ีเกิดจากการระดมสมอง ดังน้ัน แผนท่ีความคิด จะชวยให มองเห็นภาพรวมของเนื้อหาทงั้ หมด และสามารถนำมาประยุกตใชก ับผูเรียนได เน่ืองจากการเขียน แผนท่ีความคิดจะชวยใหผูเรยี นเกดิ อิสระทางความคิดสามารถระดมความคิด สามารถจัดหมวดหมู ความคิด และสรปุ ยอเนื้อหาที่สนใจ ซึ่งอาจเปนเน้ือหาท่ีไดจากการฟง การอาน โดยแผนท่ีความคิด จะมีผลชวยทำใหผ ูเรียนสามารถเขา ใจในเนื้อหาและจดจำเนื้อหานนั้ ไดเปน อยางดี นอกจากนี้ผูเรยี น ยังสามารถนำเนื้อหาท่ีสรปุ เปนแผนที่ความคิดนั้นมาทบทวนไดใ นภายหลัง ดังนั้น การพัฒนาทักษะ การสรุปบทเรียนของผูเรียนโดยใชแผนที่ความคิดจึงเปนวิธีการท่ีเปนระบบ และชวยใหการเรียน การสอนมีประสิทธิภาพย่งิ ข้ึน
270 270 วชิ าแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลนท่ี 5 ใบกิจกรรม เร่อื ง การใชแ ผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) ในการพัฒนาการเรียนรู ชอ่ื -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชแ้ี จง จงเขยี นแผนพฒั นาความคดิ ในการพฒั นาการเรียนรู (5 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 271 271 วชิ าแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา เฉลยกจิ กรรม เรือ่ ง การใชแ ผนพฒั นา ความคิด (Mind Map) ในการพัฒนาการเรียนรู ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศึกษา.................................. คำชแี้ จง จงเขียนแผนพฒั นาความคิดในการพฒั นาการเรียนรู (5 คะแนน) วิเคราะหตนเอง เปา หมายความสำเรจ็ แผนพฒั นาการเรยี นรู พฒั นาจุดเดน แกไขจดุ ดอย
272 272 วิชาแผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ประถมศึกษา บทเรียนออนไลนท ี่ 5 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การใชแ ผนพฒั นา ความคดิ (Mind Map) ในการพัฒนาการเรียนรู ชอ่ื -นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำชแ้ี จง ใหน ักศึกษาเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ งทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. การนําเสนอโดยการเขียนแผนผัง เพอ่ื เสนอ 3. นาํ เสนอโดยการเขียนความคดิ รวบยอด ความสัมพันธเปน ข้นั ตอนตา ง ๆ ท่สี มั พันธ หลัก ไวขา งบนหรือตรงกลางแลว ลากเสน ให กันเรียงลําดับเปน วงกลม ใชแผนพัฒนา เชอ่ื มโยงกบั ความคดิ รวบยอด อ่นื ๆ ที่ สาํ คญั รองลงไปตามลาํ ดับ ใชแ ผนพัฒนา ความคิดรปู แบบใด ความคิดรปู แบบใด ก. ผงั วงจร ก. ผังวงจร ข. แผนผงั กางปลา ข. แผนผังกา งปลา ค. แผนผังแบบก่ิงไม ค. แผนผงั แบบกิง่ ไม ง. แผนผังใยแมงมมุ ง. แผนผังใยแมงมมุ 2. นําเสนอโดความคดิ รวบยอดหลักทสี่ ําคญั 4. การทาํ แผนพฒั นาความคดิ กระตุนใหเ กิด ไวต รงกึ่งกลางหนา กระดาษ แลวเขียน สง่ิ ใดมากที่สุด คําอธบิ ายหรอื ความคดิ รองลงไป ใช ก. กระตุนใหคดิ แกไขปญ หา แผนพฒั นา ความคิดรปู แบบใด ข. เปด โอกาสใหเ ห็นวธิ ีการใหม ๆ ก. ผังวงจร ค. ใหเ กดิ การวางแผนไดอ ยางถกู ตอง ข. แผนผงั กา งปลา ง. ทาํ ใหเ ห็นภาพรวมกวา ง ๆ ในขอบเขต ค. แผนผังแบบกิ่งไม ของเรอื่ งนั้น ๆ ง. แผนผงั ใยแมงมมุ 5. นกั ศึกษาไดร บั ประโยชนจากการทาํ แผนพัฒนาความคดิ ตามขอใด ก. ไดฝก การรวบรวมขอมลู ข. ไดค ดิ และปฏบิ ัตดิ ว ยตนเอง ค. รูจักการเกบ็ ขอมลู อยางเปนระบบ ง. ถูกทกุ ขอ
บทเรียนออนไลนท ี่ 5 273 273 วิชาแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ประถมศกึ ษา เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน หลงั เรยี น เร่อื ง การใชแ ผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ในการพฒั นาการเรียนรู 1. ก 2. ง 3. ค 4. ก 5. ง
274 274 ตารางวิเคราะหเ น้ือหารายวิชา ภาษาองั กฤษอา น-เขยี นเบื้องตน พต 12001ระดับประถมศึกษา จำนวน 2 หนวยกิต จำนวน 80 ชั่วโมง จำนวน ระดับการเรียนรู ที่ หัวเรอื่ ง (ชัว่ โมง) งา ย ปาน ยาก 1 บทที่ 1 อกั ษร และ สระภาษาอังกฤษ 15 กลาง เรื่องท่ี 1 ตวั อักษรและสระภาษาองั กฤษ 20 (A-Z) ทง้ั พิมพใหญ พมิ พเล็ก และตัวเขียนใหญ เขียนเล็ก 15 10 2 บทท่ี 2 การสะกดคำศพั ท เรอื่ งที่ 1 คำศพั ทเ กี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น 20 80 สถานศึกษา สิ่งแวดลอ ม อาหารเครอ่ื งดืม่ เวลาวาง นนั ทนาการ สุขภาพสวสั ดกิ าร การซอ้ื ขายและลมฟา อากาศ 3 บทท่ี 3 คำส่งั คำขอรอง เรื่องที่ 1 ประโยคคำสง่ั ประโยคคำขอรอ ง 4 บทที่ 4 ขอมลู สวนบคุ คล(Personality Information) เรื่องที่ 1 คำศัพทเ กย่ี วกบั ขอ มูลสว นตวั Name, age, sex, address, nationality, hobby, birthday, job, religion, sure name 5 บทที่ 5 สัญลักษณ( Sign) เรื่องท่ี 1 สญั ลกั ษณ(Sign) รวม
275 275 การวัดผลประเมินผล บทเรียน กิจกรรม คะแนน ออนไลน ท่ี 1 ใหผูเรยี นศึกษาจากบทเรียนออนไลนท ี่ 1 เรื่อง ตัวอักษรและสระภาษาองั กฤษ - (A-Z) ทงั้ พิมพใ หญ พิมพเ ลก็ และตวั เขยี นใหญ เขยี นเลก็ และสรปุ ความรูท ่ไี ด ลงในสมดุ บันทกึ 2 กจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง คำศพั ทเกี่ยวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สถานศกึ ษา 10 สิง่ แวดลอ ม อาหารเครื่องดื่ม เวลาวา ง นนั ทนาการ สขุ ภาพสวสั ดกิ าร การซ้ือ ขายและลมฟาอากาศ (5คะแนน) และทำแบบทดสอบหลงั เรยี น (5 คะแนน) 3 กิจกรรมท่ี 3 เรื่อง ประโยคคำสัง่ ประโยคคำขอรอ ง (5คะแนน) และทำ 10 แบบทดสอบหลงั เรียน (5 คะแนน) 4 กจิ กรรมที่ 4 เรื่อง คำศพั ทเก่ียวกบั ขอมลู สว นตัว Name, age, sex, address, 10 nationality, hobby, birthday, job, religion, sure name (5คะแนน) และ ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น (5 คะแนน) 5 กิจกรรมที่ 5 เรอ่ื ง สัญลักษณ(Sign) (5คะแนน) และทำแบบทดสอบหลงั เรียน 10 (5 คะแนน) รวมคะแนนเก็บระหวา งภาค 40 สอบระหวางภาค 20 สอบปลายภาค 40 รวมท้ังสน้ิ 100
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าออนไลน์ 276 รายวิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียนเบ้ืองต้น พต 12001 จานวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศึกษา 276 จานวน 80 ชั่วโมง บทเรยี น หวั เรอื่ ง วัตถปุ ระสงค์ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน ส่ือการเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ ออนไลน์ เชิงพฤติกรรม ชว่ั โมง ประเมินผล ทคี่ าดหวงั ท่ี 1 บทที่ 1 อักษร 1. เพอื่ ให้ - ผเู้ รียนศึกษาเรยี นรจู้ าก 15 1.บทเรียนออนไลน์ที่ 1 Google บทเรยี น - 1.สามารถอ่าน ตัวอกั ษรและ และ สระ ผเู้ รยี นอ่าน ส่อื แบบเรียนออนไลนท์ ่ี 1 ชัว่ โมง site ออนไลนท์ ่ี สระ ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ ตวั อกั ษรและ Google site วชิ า วชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 1 ได้ 2. สามารถ สระ ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น เบอ้ื งตน้ พต12001 เขียนตวั อักษร และสระ ภาษาอังกฤษ เบอื้ งต้น พต12001 ภาษาองั กฤษได้ ได้ เรื่อง อักษร และ สระ 2. เพือ่ ให้ ภาษาองั กฤษ ผูเ้ รียนเขยี น - ผ้เู รยี นทาบทเรยี น https://qrgo.page.link/PtuqC ตัวอกั ษรและ ออนไลน์ท่ี 1 สระ ภาษาอังกฤษ ได้
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียนเบือ้ งต้น พต 12001 จานวน 2 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศึกษา จานวน 80 ชวั่ โมง บทเรียน หัวเรื่อง วัตถุประสง กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน สื่อการเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ คเ์ ชิง ชวั่ โมง ประเมนิ ผล เรยี นรู้ท่ี ท่ี พฤติกรรม คาดหวัง 2 บทที่ 2 การสะกด 1.ผเู้ รียนมี -ผเู้ รียนทาแบบทดสอบ 20 1.บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 บทเรยี น ช่องท่ี 1 สามารถ คาศัพท์ ทกั ษะการ ก่อนเรยี น ชั่วโมง Google site ออนไลน์ที่ 2 กิจกรรมที่ 2 อา่ น เรอื่ ง คาศพั ท์ อา่ น - ผู้เรยี นศกึ ษาเรียนรู้จาก วชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน (5 คะแนน) คาศัพท์ เกี่ยวกบั ตนเอง คาศพั ทง์ า่ ย สื่อบทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 เบือ้ งตน้ แบบทดสอบ งา่ ย ๆ ครอบครวั ๆ ได้ Google site วิชา พต12001 เร่อื งคาศพั ท์ หลังเรยี น และเขียน โรงเรียน 2.ผ้เู รยี นมี ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน เก่ียวกับตนเอง (5 คะแนน) สะกด สถานศึกษา ทักษะการ เบื้องต้น พต12001 เรอ่ื ง คาศพั ท์ สิง่ แวดลอ้ ม เขยี นสะกด คาศพั ทเ์ ก่ยี วกับตนเอง งา่ ย ๆ ได้ อาหารเคร่ืองด่ืม คาศัพท์ - ผเู้ รยี นทากิจกรรม เวลาวา่ ง งา่ ย ๆ ได้ ที่ 2 เร่อื งคาศพั ท์เก่ียวกบั https://qrgo.page.link/n ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น TGLT นนั ทนาการ - ผู้เรียนทาแบบทดสอบ สุขภาพสวัสดกิ าร การซ้อื ขายและลม หลงั เรยี น ฟา้ อากาศ 277 277
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าออนไลน์ 278 278 รายวิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี นเบือ้ งตน้ พต 12001 จานวน 2 หน่วยกิต ระดบั ประถมศกึ ษา จานวน 80 ชั่วโมง บทเรยี น หัวเร่ือง วัตถปุ ระสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน สือ่ การเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ พฤติกรรม ช่วั โมง ประเมนิ ผล เรยี นรู้ที่ ท่ี คาดหวัง 3 บทที่ 3 ผูเ้ รยี นมีทักษะการ - ผู้เรียนทาแบบทดสอบ 15 ชั่วโมง 1.บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 บทเรยี น ช่องท่ี 1 สามารถ คาสั่ง คา อา่ นประโยคคาสง่ั กอ่ นเรยี น Google site ออนไลน์ที่ 3 กิจกรรมที่ 3 อา่ น ขอร้อง และคาขอรอ้ งงา่ ย ๆ - ผเู้ รียนศึกษาเรยี นรู้ วชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน (5 คะแนน) ประโยค เรอ่ื งประโยค ได้ จากส่ือบทเรียน เบื้องต้น พต12001 แบบทดสอบ คาสงั่ และ คาส่ัง ออนไลน์ท่ี 3 Google เรือ่ ง คาส่งั คาขอร้อง หลังเรียน คาขอร้อง ประโยคคา site วชิ า (5 คะแนน) งา่ ย ๆ ได้ ขอรอ้ ง ภาษาอังกฤษอา่ น- เขียนเบอ้ื งต้น พต12001 https://qrgo.page.link/wj เร่อื ง คาสงั่ คาขอร้อง 9be - ผูเ้ รียนทากิจกรรมท่ี 3 เรอื่ งประโยคคาสง่ั ประโยคคาขอรอ้ ง - ผเู้ รียนทา แบบทดสอบหลงั เรยี น
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวชิ า ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี นเบ้ืองต้น พต 12001 จานวน 2 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา จานวน 80 ช่วั โมง บทเรยี น หัวเร่อื ง วตั ถุประสงค์เชิง กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน ส่อื การเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ พฤตกิ รรม ชั่วโมง ประเมินผล เรยี นรู้ท่ี ท่ี คาดหวัง 4 บทที่ 4 ขอ้ มลู ผเู้ รยี นมที กั ษะ - ผเู้ รียนทาแบบทดสอบ 10 1.บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 บทเรยี น ช่อง 3 สามารถ สว่ นบคุ คล การอา่ นคาศพั ท์ กอ่ นเรยี น ช่วั โมง Google site ออนไลน์ท่ี 4 กจิ กรรมที่ 4 อ่าน (Personality เกีย่ วกบั ขอ้ มลู - ผู้เรียนศกึ ษาเรยี นรู้จากส่ือ วิชาภาษาองั กฤษอา่ น- (5 คะแนน) คาศพั ท์ Information) ส่วนตวั ได้ แบบเรียนออนไลน์ Google เขียนเบือ้ งตน้ พต12001 - เกย่ี วกบั เร่ือง คาศพั ท์ ผู้เรยี นมีทกั ษะ site วชิ าภาษาองั กฤษอา่ น- เรอ่ื ง ข้อมลู ส่วนบุคคล แบบทดสอบ ข้อมูล เกย่ี วกับขอ้ มูล การเขยี นคาศพั ท์ เขียนเบื้องตน้ พต12001 หลังเรียน ส่วนตัว ส่วนตวั เกี่ยวกับข้อมูล เรอ่ื ง ข้อมูลสว่ นบุคคล (5 คะแนน) และเขยี น ส่วนตวั ได้ - ผู้เรยี นทากจิ กรรมที่ 4 คาศัพท์ เรอ่ื งคาศัพท์เก่ยี วกบั ข้อมลู เกย่ี วกับ ส่วนตัว https://qrgo.page.lin ข้อมลู -ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลงั k/NFtJd สว่ นตัวได้ เรียน 272979
แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าออนไลน์ 280 280 รายวิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี นเบอื้ งตน้ พต 12001 จานวน 2 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษา จานวน 80 ชั่วโมง บทเรียน หวั เรอื่ ง วตั ถุประสงคเ์ ชงิ กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน สือ่ การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ พฤติกรรม ชวั่ โมง ประเมินผล 1.บทเรยี นออนไลนท์ ี่ เรยี นรู้ท่ี ท่ี 20 ชวั่ โมง 5 Google site บทเรยี น วชิ า วิชาภาษาอังกฤษ ออนไลนท์ ี่ 5 คาดหวัง 5 บทที่ 5 อา่ น-เขยี นเบ้ืองต้น ผ้เู รียนระบุ - ผเู้ รียนทาแบบทดสอบ ชอ่ ง 4 สามารถระบุ สญั ลกั ษณ์ พต12001 กจิ กรรมที่ 5 สญั ลักษณ์ สัญลกั ษณห์ รือ ก่อนเรยี น เรื่อง สญั ลกั ษณ์ (5 คะแนน) หรือ เร่ืองที่ 1 เครื่องหมายของ - ผ้เู รียนศกึ ษาเรียนรู้ https://qrgo.page. แบบทดสอบ เครอื่ งหมาย สัญลกั ษณ์ link/E6y4w ประโยค ข้อความ จากส่ือแบบเรยี น ของประโยค ข้อความสนั้ ส้นั ๆ ท่ีอา่ นได้ ออนไลนท์ ่ี 5 Google หลังเรยี น ๆ ท่อี ่านได้ (5 คะแนน) ผ้เู รยี นวาดภาพ site วชิ าภาษาองั กฤษ สัญลักษณ์หรือ อา่ น-เขียนเบือ้ งต้น และวาดภาพ เครื่องหมายของ พต12001 สญั ลกั ษณ์ ประโยค ข้อความ เรอื่ ง สัญลกั ษณ์ หรอื สั้นๆท่อี า่ นได้ - ผูเ้ รียนทากิจกรรมท่ี เคร่อื งหมาย 5 เรื่องสัญลกั ษณ์ ของประโยค - ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบ ข้อความ หลงั เรียน สน้ั ๆที่อา่ น ได้
บทเรียนออนไลน์ที่ 1 281 วชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียนเบ้อื งตน้ (พต12001)ประถมศึกษา ใบงาน คาสง่ั 1. ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาความร้จู ากใบความร้บู ทเรยี นออนไลน์ที่ 1 เรือ่ ง อกั ษร และ สระ ภาษาอังกฤษ 2. ให้ผ้เู รยี นทากิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง ตวั อักษรและสระภาษาอังกฤษ (A-Z) ทัง้ พิมพใ์ หญ่ พมิ พ์เลก็ และตัวเขียนใหญ่ เขียนเล็ก https://qrgo.page.link/PtuqC Google site บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 1
282 วชิ า ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียนเบื้องตน้ (พต12001)ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 ใบความรู้ เรอ่ื ง ตัวอักษรและสระภาษาอังกฤษ (A-Z) ทงั้ พิมพใ์ หญ่ พมิ พ์เลก็ และตวั เขียนใหญ่ เขยี นเลก็ เรื่องท่ี 1 การเขียนพยัญชนะ 1.1 ตวั พมิ พใหญและตัวพมิ พเล็ก A a เอ B b บี C c ซี D d ดี E e อี F f เอฟ J j เจ K k เค L l แอล G g จี H h เอช I i ไอ P p พี Q q คิว R r อาร V v วี W w ดับเบลิ ยู X x เอก็ ซ M m เอ็ม N n เอ็น O o โอ S s เอส T t ที U u ยู Y y วาย Z z ซี 1.2 ตวั เขยี นใหญ ตวั เขียนเลก็
บทเรียนออนไลน์ที่ 1 283 วชิ า ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียนเบ้อื งต้น (พต12001)ประถมศึกษา . การเทียบอักษรไทยเป็นอังกฤษ เราสามารถทาได้โดยใชต้ ารางเทยี บ ตามหลกั เกณฑ์ท่กี าหนด โดยราชบัณฑติ ยสถาน ซงึ่ ก็คอื หลกั เกณฑก์ ารถอดอักษรไทยเปน็ อกั ษรโรมันแบบถ่ายเสียง ปี พ.ศ. 2542 หลักเกณฑน์ ถี้ ูกใชเ้ ปน็ มาตรฐานในการสะกดช่อื ทางการภาษาองั กฤษของสง่ิ ตา่ งๆ เช่น สถานท่ี จงั หวดั เขต อาเภอ ฯลฯ
284 วิชา ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี นเบื้องตน้ (พต12001)ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 ตารางเทยี บพยัญชนะไทยเปน็ องั กฤษ พยญั ชนะไทย ตวั ต้น ตัวอยา่ ง ตวั สะกด ตัวอย่าง ก k นก = nok ข kh กา = ka k สุข = suk ฃ kh – ค kh ขอ = kho k ยคุ = yuk ฅ kh – ฆ kh –k เมฆ = mek ง ng สงฆ์ = song จ ch โค = kho k อานาจ = amnat ฉ ch – ช ch –k คช = khot ฌ ch – ซ s ฆ้อง = khong k ก๊าซ = kat ทร (เสียง ซ) s – ศ s งาม = ngam ng ทศ = thot ษ s กฤษณ์ = krit ส s จีน = chin t รส = rot ญ y ชาญ = chan ฎ d ฉ่งิ = ching t กฎ = kot ฑ (เสียง ด) d ษัฑ = sat ด d ชนิ = chin t เป็ด = pet ฏ t ปรากฏ = prakot ต t เฌอ = choe t จติ = chit ฐ th รัฐ = rat ซา = sa t – ทราย = sai t วฒั น์ = wat ศาล = san t รักษา = raksa t สี = si t ญาติ = yat n ฎกี า = dika t บณั ฑิต = bandit t ด้าย = dai t ปฏมิ า = patima t ตา = ta t ฐาน = than t ฑ th มณฑล = t monthon ฒ th เฒ่า = thao t
บทเรียบนทอเอบรนทยี ไนเลรอียนอนท์ นอ่ี ไ1อลนนไท์ ลี่น1์ท่ี 1 285 วิชา ภาวษิชาาอวภังิชกาาฤษษภาออาษัง่ากนาอฤ-เษงัขกอยี ฤน่าษนเบอ-เ้ือ่าขนงยี ต-นเขน้ เบยี (พนอื้ งเตบต1อื้น2ง0(ตพ0น้1ต)1(ปพ2รต0ะ01ถ12ม)0ศป01กึระ)ษปถามระศถกึ มษศากึ ษา พยญั ชพนยะญัพไทยชยัญนะชไนทะยไทย ตัวต้นตวั ตต้นัวตน้ ตวั อยา่ตงวั อตยัวา่ องยา่ ง ตวั สะกตดัวสตะวั กสดะกด ถ ถถ th th th ถ่าน =ถt่าhนถan่า=นth=atnhan t t t ท ทท th th th ทอง =ทtอhงทo=nอgงth=otnhgong t t t ธ ธธ th th th ธง = tธhงo=nธgงth=otnhgong t t t ณ ณณ n nn ประณปีตร=ะปณpรrีตะaณn=ตีitp=rapnritanit n n n น นน n nn นอ้ ย =นn้อoยนi้อ=ยn=oinoi n n n บ บบ b bb ใบ = bใบai =ใบb=aibai p pp ป ปป p pp ไป = pไปai =ไปp=aipai p pp ผ ผผ ph ph ph ผา = pผhาa=ผาp=hapha p p p พ พพ ph ph ph พงศ์ =พpงhศพo์ =งnศgp์ =hopnhgong p p p ภ ภภ ph ph ph สาเภาส=าเsภสaาmเภ=pาhsa=amosapmhapohapo p p ฝ ฝฝ f ff ฝงั่ = fฝaง่ัng=ฝงั่ fa=nfgang p p p ฟ ฟฟ f ff ฟ้า = fฟa้า ฟ=า้ fa= fa p pp ม มม m mm ม้าม =มmา้ มaมm้า=มm=amam m m m ย ยย y yy ยาย =ยyาaยยi =ายy=ai yai – – – ร รร r rr รอ้ น =ร้อroนรn้อ=นro=nron n n n ล ลล l ll ลาน =ลlาaนnลา=นla=nlan n n n ฬ ฬฬ l ll กีฬา =กkีฬilากaีฬ=าk=ilakila n n n ว วว w ww วาย =วwายaวi=ายw=aiwai – – – ห หห h hh หา = hหaา ห=าh=a ha – –– ฮ ฮฮ h hh ฮา = hฮaา =ฮาh=a ha – ––
286 วชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี นเบ้ืองต้น (พต12001)ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 ตารางเทียบสระไทยเปน็ องั กฤษ สระไทย อักษรอังกฤษ ตวั อยา่ ง อะ -ั (อะ ลดรปู ) a ปะ = pa รร (มีตวั สะกด) อา a วนั = wan รร (ไม่มตี วั สะกด) อา a สรรพ = sap อิ อี a มา = ma อึ อื an สรรหา = sanha อุ อู am รา = ram เอะ เ-็ (เอะ ลดรปู ) i มิ = mi เอ แอะ i มีด = mit แอ โอะ ue นึก = nuek – (โอะ ลดรปู ) โอ ue หรือ = rue เอาะ ออ u ลุ = lu เออะ เ-ิ (เออะ ลดรูป) u หรู = ru เออ เอือ e เละ = le e เล็ง = leng e เลน = len ae และ = lae ae แสง = saeng o โละ = lo o ลม = lom o โล้ = lo o เลาะ = lo o ลอม = lom oe เลอะ = loe oe เหลิง = loeng oe เธอ = thoe uea เลอื ก = lueak
บทเรียนออนไลน์ที่ 1 287 สระไทย วชิ า ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียนเบอ้ื งตน้ (พต12001)ประถมศกึ ษา อวั ะ อัว อกั ษรองั กฤษ ตวั อยา่ ง -ว- (อัว ลดรูป) ua ผวั ะ = phua ใอ ua ไอ ua มัว = mua อัย ai ไอย ai รวม = ruam อาย ai เอา ai ใย = yai อาว ai อุย ao ไล่ = lai โอย ao ออย ui วัย = wai เอย oi เอือย oi ไทย = thai อวย oei อิว ueai สาย = sai เอว็ uai เอว io เมา = mao แอว็ eo แอว eo น้าว = nao เอยี ว aeo ฤ (เสยี งร)ึ aeo ลยุ = lui ฤๅ iao ฤ (เสยี งร)ิ rue โรย = roi ฤ (เสยี งเรอ) rue ฦ ri ลอย = loi roe เลย = loei lue เลือ้ ย = lueai มวย = muai ล่ิว = lio เรว็ = reo เลว = leo แผลว็ = phlaeo แมว = maeo เลี้ยว = liao ฤษี = ruesi ฤๅษี = ruesi ฤทธ์ิ = rit ฤกษ์ = roek –
288 วิชา ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี นเบอ้ื งตน้ (พต12001)ประถมศกึ ษา บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 อักษรอังกฤษ ตวั อยา่ ง lue ฦๅสาย = luesai สระไทย ฦๅ
บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 289 วิชา ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียนเบือ้ งตน้ (พต12001)ประถมศึกษา กจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ ง ตวั อกั ษรและสระภาษาอังกฤษ (A-Z) ทงั้ พมิ พ์ใหญ่ พมิ พ์เลก็ และตวั เขยี นใหญ่ เขยี นเลก็ คาช้ีแจง : ใหผูเรยี นเขียนตวั อกั ษรและสระภาษาอังกฤษ (A-Z) ทั้งพมิ พ์ใหญ่ พมิ พ์เล็ก และตวั เขียนใหญ่ เขยี นเลก็ 1 จงเขยี นอกั ษรภาษาองั กฤษตวั พิมพใหญ ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. 2 จงเขยี นอักษรภาษาองั กฤษตวั พิมพเล็ก ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. 3 จงเขยี นอักษรภาษาองั กฤษตวั เขยี นใหญ ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ………………………………………………………………………………………………………................................................. ……………………………………………………………………………………………………….................................................
290
291
292
293
294 19 วิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี นเบ้อื งต้น (พต12001)ประถมศึกษา บทเรียนออนไลน์ที่ 2 ใบงาน คาสั่ง 1. ให้ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นบทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เรอ่ื ง คาศพั ทเ์ กย่ี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สถานศึกษา สิ่งแวดล้อม อาหารเครอื่ งด่มื เวลาวา่ ง นนั ทนาการ สขุ ภาพสวัสดิการ การซอ้ื ขายและลมฟา้ อากาศ จานวน 5 ข้อ 2. ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาความรจู้ ากใบความร้บู ทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 เร่อื ง คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สถานศึกษา สิง่ แวดลอ้ ม อาหารเคร่อื งด่ืม เวลาวา่ ง นนั ทนาการ สขุ ภาพสวสั ดกิ าร การซอ้ื ขายและลมฟ้าอากาศ 3. ใหผ้ ้เู รียนทากิจกรรมที่ 2 เรื่อง คาศพั ท์เก่ียวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สถานศกึ ษา ส่ิงแวดล้อม อาหารเครือ่ งดมื่ เวลาวา่ ง นันทนาการ สขุ ภาพสวัสดิการ การซื้อขายและลมฟ้าอากาศ จานวน 10 ข้อ 4. ใหผ้ ู้เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียนบทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เร่ือง คาศพั ท์เก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สถานศึกษา สงิ่ แวดล้อม อาหารเคร่ืองด่มื เวลาวา่ ง นนั ทนาการ สุขภาพสวสั ดิการ การซอื้ ขายและลมฟา้ อากาศจานวน 5 ข้อ https://qrgo.page.link/nTGLT Google site บทเรยี นออนไลน์ที่ 2
บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 295 20 วิชา ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียนเบอื้ งตน้ (พต12001)ประถมศกึ ษา แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง คาศพั ท์เก่ียวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สถานศึกษา ส่ิงแวดลอ้ ม อาหารเคร่ืองดื่ม เวลาว่าง นันทนาการ สขุ ภาพสวสั ดกิ าร การซอื้ ขายและลมฟา้ อากาศ ช่ือ - สกลุ ......................................................................รหสั นกั ศกึ ษา................................................. คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รยี นเลือกคาตอบที่ถกู ต้องที่สดุ 1. A : What is the weather like today? 4. What is this? B : It is ………………………………….. a. windy a. This is a chair. b. sunny b. This is a book. c. loudy c. This is a table. d. raining d. This is a blackboard. 2. 5. Which is animal? a. tiger a. I have a cold. b. rose b. I have a backache. c. mango c. I have a toothache. d. mountain d. I have a sore throat. 3. My father’s age is 40. This sentence means that. a. He is 40 cms. tall. b. He weighs 40 kilos. c. He has 40 children. d. He is 40 years old.
296 21 วชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี นเบือ้ งต้น (พต12001)ประถมศึกษา บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 ใบความรู้ เรื่อง คาศัพท์เกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สถานศึกษา ส่งิ แวดลอ้ ม อาหารเครือ่ งดื่ม เวลาวา่ ง นันทนาการ สุขภาพสวสั ดกิ าร การซื้อขายและลมฟา้ อากาศ 1. คาศัพท์เก่ยี วกบั ครอบครวั ภาษาอังกฤษ คาอา่ น คาแปล aunt อ๊านท ป้า / นา้ หญงิ / อาหญิง brother บรั๊ดเดอะ อนิ ลอ พีช่ าย/น้องชาย cousin คซั๊ เซิน ลกู พ่ลี ูกนอ้ ง daughter ด๊อเทอะ ลูกสาว father ฟา๊ เดอะ พ่อ grandfather แกรน๊ ฟาเดอะ ปู่ / ตา grandmother แกรน๊ มาเดอะ ย่า / ยาย grandparents แกร๊นแพเรนิ ส ปู่ยา่ ตายาย grandson แกร๊นซัน หลานชาย granddaughter แกรน๊ ดอเธอะ หลานสาว husband ฮัส๊ เบนิ ดึ สามี mother ม๊ดั เดอะ แม่ niece นีซ หลานสาว parents แพเ๊ รน้ ทฺ พอ่ แม่ sister ซิ๊สเตอะ พี่สาว / นอ้ งสาว son ซนั ลูกชาย uncle องั๊ เคิล ลงุ / อาชาย / นา้ ชาย wife ไวฝ ภรรยา
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 297 22 วชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี นเบอ้ื งตน้ (พต12001)ประถมศกึ ษา ฝึกทักษะกับค่สู นทนา(Practice with partner.) A: Is that your family? B: Yes, it is. A: Who is this? B: This is my father. A: Who is that? B: that is my mother. A: Do you have any brothers and sisters? B: Yes, I have one brother but I have not and sisters. A: Thank you. B: That's alright หลกั ภาษา ผู้เรยี นจะพบวา่ ในบทสนทนามีการใช้คาวา่ “This” และคาว่า “That” สามารถอธิบายได้ว่า 1. This ใช้กับส่ิงที่อยู่ใกล้ตัวเสมอ เช่น This is my pen. หมายความว่า นี่คือปากกาของฉัน ผู้พูด สามารถหยิบ หรือสัมผัสของชนิ้ นนั้ ได้น่ันเอง 2. That ใช้กับสิ่งที่อยู่ไกลตัว (สามารถมองเห็นได้) เช่น That is my book. หมายความว่า นั่นคือ หนงั สอื ของฉนั หนงั สืออาจวางอยู่บนโตะ๊ ทไ่ี กลออกไปนน่ั เอง การอ่านออกเสียงผูเ้ รยี นจะตอ้ งฝกึ อ่านทีละคา และพยายามออกเสียงตาม ตวั อักษร เพอ่ื จะไดฟ้ ัง ไปเขียนสะกดคาอยา่ งถูกต้องนั่นเอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414