Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore T2286-56-2202-2003

T2286-56-2202-2003

Published by kamolchanok.plan1, 2020-06-23 04:36:15

Description: T2286-56-2202-2003

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา 2202-2003 ช่ือวิชา การดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม ( 3 หน่วยกิต 4 ช่ัวโมง / สัปดาห์ ) หมวดทกั ษะวิชาชีพ กลุ่มทกั ษะวชิ าชีพเฉพาะ หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2556 ประเภทวชิ า พาณิชยกรรม สาขาวชิ า การตลาด ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชนั้ ปที ่ี 3 โดย อาจารยณ์ ฐั ชญาภรณ์ มันทรา กลมุ่ วิชา การตลาด วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสนั ติราษฎร์ ในพระอปุ ถมั ภ์ สมเด็จพระเจ้าภคนิ เี ธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สริ โิ สภาพณั ณวดี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2561 แผนการจัดการเรยี นรู้

รหสั วชิ า 2202-2003 ช่ือวชิ า การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม จานวน 3 หนว่ ยกติ 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม สาขาวิชา การตลาด จุดประสงค์รายวชิ า เพอ่ื ให้ 1. เข้าใจหลักการและกระบวนการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม 2. มที กั ษะในการเขยี นแผนธรุ กิจสาหรบั ธรุ กิจขนาดยอ่ ม 3. มีเจตคติและกจิ นสิ ยั ทด่ี ีในการทางานด้วยความรบั ผิดชอบ ความอดทน อดกลั้น ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ความละเอยี ดรอบคอบ และความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั หลักการและกระบวนการดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม 2. แสดงความรเู้ กยี่ วกับกฎหมายและองคก์ ารท่เี กี่ยวข้องกบั การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม 3. แสดงความรู้เกย่ี วกับการตลาดและแผนธุรกจิ สาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 4. เลอื กทาเลที่ตั้งและแหล่งเงินทุนสาหรับธรุ กิจขนาดย่อมตามหลักการ 5. เขยี นแผนธุรกิจสาหรับธรุ กิจขนาดย่อมตามหลกั การ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการดาเนินธุรกิจขนาดย่อม ประเภทและรูปแบบของธุรกิจขนาดย่อม การเป็น ผู้ประกอบการ การเร่ิมต้นธุรกิจขนาดย่อม การจดทะเบียนจัดต้ังธุรกิจ กฎหมายและองค์การท่ีเกี่ยวข้องกับการดาเนินธุรกิจ ขนาดย่อม ทาเลที่ต้งั แหล่งเงินทุน การตลาดสาหรับธุรกิจขนาดยอ่ มและแผนธุรกิจ

หนว่ ยการเรยี นรแู้ ละสมรรถนะรายวิชา รหัสวชิ า 2202-2003 ชือ่ วิชา การดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม จานวน 3 หน่วยกติ 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ หน่วย ชอ่ื หนว่ ย สมรรถนะรายหน่วย 1 ความรทู้ ัว่ ไปเกี่ยวกบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม แสดงความร้เู ก่ยี วกับคณุ ลักษณะของธรุ กจิ และคุณสมบัตขิ อง การเป็นผปู้ ระกอบการธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 2 รูปแบบและประเภทของธุรกิจขนาดยอ่ ม เลือกรปู แบบการจัดตงั้ ธุรกิจขนาดย่อมใหเ้ หมาะสมกบั ธรุ กิจแต่ ละประเภท 3 เอกสารทีต่ ้องย่นื ขออนญุ าตจดทะเบยี นการค้า แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั จดทะเบียนพาณิชยต์ ามพระราชบัญญัติ คา้ และการพาณิชย์ ทะเบียนพาณชิ ย์ พ.ศ. 2499 4 กฎหมายและภาษีเกีย่ วกบั ธุรกิจขนาดย่อม แสดงความรูเ้ ก่ียวกับกฎหมายและภาษใี นการประกอบธุรกิจ 5 ทาเลท่ตี ัง้ และแหล่งเงนิ ทนุ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม 6 การตลาดสาหรับธุรกิจขนาดย่อม - วเิ คราะหป์ ัจจยั ในการเลือกทาเลที่ต้ังใหเ้ หมาะสมกบั ธุรกิจ ขนาดยอ่ ม - วเิ คราะหแ์ หลง่ ที่มาของเงินทนุ สาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม กาหนดกลยุทธ์การตลาดและวิเคราะหค์ แู่ ขง่ ขันเพ่ือวางแผน การตลาดสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม 7 แผนธุรกิจ เขยี นแผนธรุ กิจสาหรบั ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม (ตามแบบย่อ) ไดค้ รบ ตามองคป์ ระกอบของแผนธรุ กจิ

ตารางวิเคราะหห์ นว่ ยการเรียนรู้และเวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา 2202-2003 ชอื่ วิชา การดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม จานวน 3 หน่วยกิต 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ หน่วย ช่ือหน่วยเรียน สปั ดาหท์ ี่ ช่วั โมงท่ี 1 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกับธรุ กจิ ขนาดย่อม 1-2 1-8 1.1 ความร้ทู ่ัวไปเกย่ี วกับธุรกิจขนาดย่อม 3-4 9-16 1.1.1 ความหมายของธรุ กิจขนาดย่อม 5-6 17-24 1.1.2 ความสาคญั ของธุรกิจขนาดย่อม 1.1.3 ปญั หาและข้อจากดั ของธรุ กิจขนาดย่อม 1.1.4 ลกั ษณะของธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 1.2 คุณลักษณะของผ้ปู ระกอบการธุรกิจขนาดย่อม 1.2.1 คุณสมบัติของผ้ปู ระกอบการ 1.2.2 กระบวนการสร้างผ้ปู ระกอบการใหม่ 1.2.3 การวิเคราะห์สภาพปัญหาของผู้ประกอบการใหม่ 1.2.4 แนวทางในการเริ่มตน้ ประกอบธุรกจิ 2 รปู แบบและประเภทของธรุ กิจขนาดยอ่ ม 2.1 รปู แบบธุรกจิ ขนาดยอ่ ม 2.1.1 กิจการเจ้าของคนเดยี ว (Sold Proprietorship) 2.1.2 กจิ การหา้ งห้นุ สว่ น (Partnership) 2.1.3 บริษัทจากัด (Limited Company) 2.1.4 บรษิ ทั มหาชนจากัด (Public Limited Company) 2.1.5 ธุรกจิ แฟรนไชส์ (Franchise) 2.2 ประเภทของธุรกจิ ขนาดย่อม 2.2.1 ธรุ กจิ การผลิต (Manufacturing) 2.2.2 ธุรกิจการค้าส่ง (Wholesaling) 2.2.3 ธรุ กจิ กจิ คา้ ปลีก (Retailing) 2.2.4 ธรุ กิจบริการ (Service) 3 กาจดทะเบียนพาณชิ ย์ 3.1 จดทะเบยี นพาณชิ ย์ ตามพระราชบัญญตั ิทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 3.1.1 กิจการที่ต้องจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 3.1.2 พาณชิ ยกิจท่ีไดร้ ับการยกเว้นไมต่ ้องจดทะเบยี นพาณิชย์ 3.2 การจดทะเบียนหา้ งหุน้ ส่วนสามญั นิตบิ คุ คลและหา้ งหนุ้ ส่วนจากัด 3.2.1 การจดทะเบียนจัดต้ังหา้ งหุ้นสว่ น 3.2.2 เอกสารหลกั ฐานที่ใชใ้ นการจดทะเบียน 3.3 การจดทะเบยี นบรษิ ัท

3.3.1 การจดทะเบียนหนงั สือบริคณห์สนธิ 7 25-28 3.3.2 เอกสารหลักฐานที่ตอ้ งใชใ้ นการจดทะเบยี นหนังสือ 8 29-32 บริคณหส์ นธิ 9 33-36 3.3.3 การจดทะเบยี นจัดตั้งบริษัท 3.3.4 เอกสารหลักฐานท่ีตอ้ งใช้ในการจดทะเบยี นจดั ต้ังบริษัท 10-11 37-44 3.4 การจดทะเบียนบริษทั มหาชนจากัด 3.4.1 ขน้ั ตอนการจดทะเบยี นบริษัทมหาชนจากดั 3.4.2 ขนั้ ตอนการแปรสภาพบริษัทเอกชนเป็นบรษิ ัทมหาชนจากดั 3.4.3 เอกสารหลกั ฐานท่ีต้องใช้ในการจดทะเบียนบริษทั มหาชนจากดั 4 กฎหมายและภาษเี ก่ียวกับธรุ กิจขนาดยอ่ ม 4.1 พระราชบญั ญัติส่งเสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม 4.1.1 วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดตัง้ สานกั งานส่งเสรมิ วสิ าหกิจ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม 4.1.2 หนา้ ท่ขี องสานกั งานงานวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม 4.1.3 การจดสิทธิบัตร/อนสุ ทิ ธบิ ตั รในธุรกิจขนาดย่อม 4.1.4 การจดทะเบยี นเคร่ืองหมายการคา้ ในธรุ กิจขนาดย่อม 4.1.5 งานลขิ สทิ ธใ์ิ นธุรกจิ ขนาดย่อม 4.1.6 องค์ความรูภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ไทย 1-4 สอบกลางภาคเรยี นที่ 1/2560 4 กฎหมายและภาษีเกี่ยวกับธรุ กิจขนาดย่อม (ต่อ) 4.2 ภาษสี าหรับธุรกิจขนาดย่อม 4.2.1 ลกั ษณะของธรุ กจิ ขนาดย่อมตามประมวลรัษฎากร 4.2.2 รปู แบบธรุ กจิ ขนาดย่อมตามประมวลรษั ฎากร 4.2.3 ภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากร 4.2.4 สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษีสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 4.2.5 การลดอตั ราภาษี 5 ทาเลทตี่ ้งั และแหล่งเงินทุนสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 5.1 การเลอื กทาเลท่ตี ั้งสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 5.1.1 ความหมายและความสาคัญของทาเลที่ตงั้ 5.1.2 รูปแบบทาเลที่ตง้ั ของธุรกจิ ขนาดย่อม 5.1.3 ปจั จยั ในการเลอื กทาเลท่ตี งั้ ธรุ กิจขนาดย่อม 5.1.4 หลักในการเลอื กทาเลที่ตั้งธรุ กิจขนาดย่อม 5.2 การจัดหาแหล่งเงนิ ทุนสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 5.2.1 การคดั เลอื กแหล่งเงินทุน 5.2.2 ฐานะทางการเงนิ ของธุรกิจ 5.2.3 ความสามารถในการชาระหนี้

5.2.4 การนาเสนอคาขอเพื่อใหไ้ ดเ้ งินทนุ 12-14 45-56 6 การตลาดสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 15-17 57-68 6.2 สว่ นประสมทางการตลาด 18 69-72 6.2.1 สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ (Product) 6.2.2 ราคา (Price) 6.2.3 การจดั จาหน่าย (Place) 6.2.4 การสง่ เสริมการตลาด (Promotion) 6.3 การแขง่ ขนั ในตลาดธุรกิจขนาดย่อม 6.3.1 การวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มการแข่งขนั โดยใชห้ ลกั Five Force Model 6.3.2 แนวทางการปรบั ปรุงเพอ่ื เพมิ่ ขีดความสามารถการแข่งขนั 6.3.3 แนวทางการตลาดท่ีสามารถนามาปรับใช้ 6.4 แผนการตลาดสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 6.4.1 องค์ประกอบของแผนการตลาด 6.4.2 การเขียนแผนการตลาด 7 แผนธุรกจิ 7.1 ความหมาย ความสาคัญ และวัตถุประสงค์ของแผนธุรกิจ 7.1.1 ความหมายของแผนธรุ กิจ 7.1.2 ความสาคญั ของแผนธรุ กิจ 7.1.3 วตั ถุประสงค์ของแผนธุรกิจ 7.2 แผนธรุ กจิ 7.2.1 องค์ประกอบของแผนธุรกจิ 7.2.2 ขน้ั ตอนการเขียนแผนธุรกิจ 6-7 สอบปลายภาคเรียนที่ 1/2560

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบฐานสมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ชอื่ วิชา การดาเนินธรุ กจิ ขนาดย่อม รหสั วิชา 2202-2003 สอนสปั ดาห์ที่ 1-2 ช่ือหน่วย ความร้ทู ั่วไปเกย่ี วกับธุรกิจขนาดยอ่ ม ช่วั โมงรวม 8 ชัว่ โมง ระดบั ปวช.3 ชื่อผู้สอน อาจารยณ์ ัฐชญาภรณ์ มนั ทรา จานวน 4 ชง่ั โมง/สัปดาห์ สาระสาคญั ปัจจุบันเป็นท่ียอมรับว่าธุรกิจขนาดย่อมเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ เจริญรุ่งเรือง และมีบทบาทสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทาให้เกิดการสร้างงาน การใช้ภูมิปัญญาภายในชุมชน รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับประชาชนในท้องถ่ิน เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นโดยมีการระดมทุนหรือทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิด ประโยชน์และมูลค่าเพิ่มสูงสุด มีการหมุนเวียนเงินตราและกระจายการพัฒนาด้านต่าง ๆ ไปสู่ระดับภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นด้าน อุตสาหกรรม การเกษตรกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยี การค้าระหว่างประเทศและการแข่งขัน ธุรกิจขนาด ย่อมยังเป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจขนาดใหญ่ และ อาศัยโอกาสทางธุรกิจหลายรูปแบบด้วยการดาเนินการ ผ่านจุดแข็งของธุรกิจ โดยเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างธุรกิจท่ีหลากหลาย แล้วนามาบูรณาการเพื่อลดต้นทุนต่อ หนว่ ยใหต้ ่าลง ตลอดจนเป็นแนวทางในการก้าวไปสู่อตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ในชนบทและระดับประเทศ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป 1. รูแ้ ละเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกับธรุ กจิ ขนาดย่อม 2. รแู้ ละเขา้ ใจคุณลกั ษณะของผูป้ ระกอบการธุรกิจขนาดย่อม จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. บอกความหมายของธุรกิจขนาดย่อมได้ 2. บอกความสาคัญของธุรกิจขนาดยอ่ มได้ 3. อธิบายปัญหาและข้อจากัดของธุรกิจขนาดย่อมได้ 4. อธบิ ายลักษณะของธรุ กจิ ขนาดย่อมได้ 5. บอกคณุ สมบตั ิของผู้ประกอบการได้ 6. อธบิ ายกระบวนการสรา้ งผ้ปู ระกอบการใหม่ได้ 7. วิเคราะหส์ ภาพปญั หาของผปู้ ระกอบการใหม่ได้ 8. บอกแนวทางในการเร่ิมต้นประกอบธุรกจิ ได้ 9. ผู้เรียนมีความพยายามและความตง้ั ใจในการปฏิบตั งิ านจนสาเรจ็ สมรรถนะรายหน่วย แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั คณุ ลักษณะของธุรกิจและคุณสมบัติของการเป็นผ้ปู ระกอบการธรุ กิจขนาดยอ่ ม รายวิชาทจี่ ดั ควบคู่หรอื บูรณาการ ----

วิธกี ารบรู ณาการ ---- สาระการเรยี นรู้ 1. ความร้ทู ่ัวไปเกย่ี วกบั ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม 1.1 ความรูท้ ่ัวไปเกย่ี วกบั ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม 1.1.1 ความหมายของธุรกิจขนาดย่อม 1.1.2 ความสาคัญของธรุ กจิ ขนาดย่อม 1.1.3 ปญั หาและข้อจากดั ของธรุ กิจขนาดยอ่ ม 1.1.4 ลกั ษณะของธุรกิจขนาดย่อม 1.2 คณุ ลักษณะของผูป้ ระกอบการธุรกิจขนาดย่อม 1.2.1 คุณสมบตั ิของผูป้ ระกอบการ 1.2.2 กระบวนการสรา้ งผู้ประกอบการใหม่ 1.2.3 การวิเคราะหส์ ภาพปญั หาของผู้ประกอบการใหม่ 1.2.4 แนวทางในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ธรรมทมี่ ุ่งเน้น 1. พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคดิ วิเคราะหไ์ ด้เหมาะกับวตั ถุประสงค์การเรียนรู้ 2. มเี หตุผล ผ้เู รยี นทางานตามที่ไดร้ ับมอบหมายโดยคานงึ ถึงเหตแุ ละปัจจัยแวดลอ้ มทงั้ หมด เพื่อให้การ ดาเนินงานเปน็ ไปอยา่ งถกู ต้อง 3. ขยัน อดทน ผู้เรียนมีความตงั้ ใจในการทางาน ไม่ละเลย ไมท่ อดทงิ้ งานท่ีได้รับมอบหมาย จนทาใหป้ ระสบ ผลสาเรจ็ ในทส่ี ดุ 4. รอบรู้ ผู้เรยี นมีความรอบรเู้ กี่ยวกับวิชาการตา่ งๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งอย่างรอบดา้ น 5. รอบคอบ ผเู้ รยี นมีความรอบคอบที่จะนาความรทู้ ไี่ ด้จากการศึกษาค้นคว้า มาประยุกต์ใช้ในการเรียนไดอ้ ย่าง ถูกต้องตามเกณฑท์ ่ีกาหนด นาปัญหาและอุปสรรคในการเรียนการสอนมาปรับปรุงการเรยี นการสอน ผู้เรียนยังไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในการตอบคาถาม ผู้สอนต้องเสรมิ ทางบวกและกระตุ้นให้ผู้เรียนกล้าแสดงความ คดิ เหน็ มากข้ึน

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สปั ดาหท์ ี่ 1 ชัว่ โมงที่ 1-4) 1. ผสู้ อนช้ีแจงข้อตกลงในการเรียนในเรื่องตา่ งๆ โดยใช้ PowerPoint ได้แก่ การตรวจชอ่ื เข้าชนั้ เรยี น การ ออกนอกห้องเรียนในเวลาเรียน การพดู คุยในชั้นเรียน การใชโ้ ทรศัพทม์ ือถือและอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ต่างๆ วิธกี ารเรยี น และการสง่ งาน 2. ผสู้ อนแจ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล สัดสว่ นคะแนน (คะแนนเตม็ 100 คะแนน) มาจากคะแนนการ เขา้ เรยี น คะแนนจติ พิสยั คะแนนงาน และคะแนนสอบ 3. ผู้สอนแนะนารายละเอียดเก่ียวรายวชิ า โดยการซกั ถาม และทบทวนความรู้เดิมของผเู้ รยี นเพือ่ การเปน็ สารวจพื้นฐานความรู้ก่อนทจ่ี ะเร่มิ เรยี น 4. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจาหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ งความรู้ทวั่ ไปในการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 5. ผู้สอนชีใ้ หผ้ ู้เรียนเหน็ ถึงความสาคัญของการดาเนินธุรกจิ ขนาดยอ่ มจะชว่ ยทาใหป้ ระชาชนมีอาชีพและทาให้มี รายไดม้ ากขน้ึ อยา่ งไร 6. ผู้สอนอภิปรายเนื้อหาประกอบพรอ้ มรูปภาพสนิ คา้ และอ่นื ๆ ท่ีเกยี่ วข้องเพื่อสอ่ื ความหมายสาระสาคญั ของ เนอ้ื หาให้เข้าใจย่ิงข้ึน ซึ่งเนอ้ื หาทศี่ กึ ษาได้แก่ 1) ความหมายของธรุ กิจขนาดย่อม 2) ความสาคญั ของธรุ กจิ ขนาดย่อม 3) ปญั หาและข้อจากดั ของธุรกิจขนาดย่อม 4) ลกั ษณะของธุรกิจขนาดยอ่ ม 7. ผู้สอนใช้เทคนิคการสอนโดยการตงั้ คาถามแบบ 5W1H ให้ผู้เรียนวิเคราะหล์ กั ษณะของธุรกจิ จากคลปิ VDO รายการ SMEs ตแี ตก โดยให้ช่วยกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วธุรกจิ และใหบ้ ูรณาการแนวคิดแบบเศรษฐกิจ พอเพยี งกบั ธรุ กิจขนาดย่อม ตามรูปภาพสามห่วง 2 เงื่อนไข 8. ให้ผูเ้ รียนแบ่งกลมุ่ 3-4 คน ให้ชว่ ยกันยกตวั อยา่ ง ธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม\" หรอื SMEs (Small and Medium Enterprises) ตามหวั ขอ้ ดังน้ี 1) กจิ การการผลิต (Production Sector) 2) กิจการการค้า (Trading Sector) 3) กจิ การบริการ (Service Sector) 9. ผสู้ อนตรวจประเมนิ ผลงานผเู้ รียนแบบภาพรวมเปน็ รายบคุ คลและแบบกลุ่ม 10. ผู้สอนและผูเ้ รยี นร่วมกนั สรุปเน้อื หาแบบ Mind Mapping เพอื่ ทบทวนความเข้าใจอกี คร้ัง และเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ซกั ถามข้อสงสยั 11. มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาเก่ยี วกับเกี่ยวกบั ประวัตบิ คุ คลทปี่ ระสบความสาเรจ็ จากการประกอบธรุ กิจ 12. ผเู้ รยี นสามารถทบทวนความรู้ หรือดาวน์โหลด PowerPoint และ ใบงานได้จาก https://www.facebook.com/groups (กลมุ่ ช่อื SMEs 3/1 MKT)

เทคนคิ วิธีการสอนท่ีนามาใช้ 1. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุม่ ทางาน เป็นวธิ สี อนท่ผี ู้สอนมอบหมายให้นักเรยี นทางานรว่ มกันเป็นกลมุ่ รว่ มมือกนั ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ ผเู้ รยี นทางานร่วมกนั ตามวิถีแหง่ ประชาธปิ ไตย 2. วิธีสอนแบบใช้คาถาม เปน็ กระบวนการเรยี นรทู้ ี่มุง่ พัฒนากระบวนการทางความคดิ ของผู้เรียน โดยผู้สอนจะ ป้อนคาถามในลักษณะต่าง ๆ ทเ่ี ปน็ คาถามท่ีดี สามารถพฒั นาความคิดผเู้ รยี น ถามเพอ่ื ให้ผเู้ รยี นใช้ความคิด เชงิ เหตุผล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรอื การประเมินค่าเพื่อจะตอบคาถามเหล่านนั้ ส่อื การเรียนการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่อื สง่ิ พมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม 2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์, ลาโพง 3. สื่อเทคโนโลยีขัน้ สงู ได้แก่ PowerPoint , Clip VDO 4. อนิ เทอรเ์ นต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธรุ กจิ ) https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme- teetak.aspx (รายการ SMEs ตแี ตก) การวัดประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมินผล 1. ประเมินจากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นร้อยละ 70 ขน้ึ ไป ส่วนรว่ มของผู้เรยี นเป็นรายบุคคล 2. การส่มุ เรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบคุ คล 2. ผู้เรียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกนิ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพใบงาน 4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. เกณฑ์ตดั สินคุณภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอา้ งอิง/เว็บไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รัพย์ และ เพญ็ ศรี เลศิ เกยี รติวิทยา. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอยา่ งแผนธุรกจิ ) 3. https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme- teetak.aspx (รายการ SMEs ตีแตก

กิจกรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาหท์ ี่ 2 ช่ัวโมงท่ี 5-8) 1. ผสู้ อนช้ีแจ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ัตงิ านของผู้เรียน 2. ผู้สอนแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนร้ปู ระจาหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ืองความรู้ทวั่ ไปในการดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม 3. ผู้สอนทบทวนความรู้เดิมใหก้ ับผเู้ รยี น โดยการถาม-ตอบก่อนท่จี ะเร่ิมเรยี นหัวข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 4. ผ้สู อนเปิดรปู ภาพบุคคลท่ปี ระสบความสาเร็จจากการประกอบธรุ กิจของในประเทศและต่างประเทศ 5. ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนยกตัวอย่างบุคคลทปี่ ระสบความสาเรจ็ จากการประกอบธุรกจิ ทตี่ นชืน่ ชอบ และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกบั คณุ สมบัติที่ดีของเปน็ ผปู้ ระกอบธุรกิจ 6. ครผู ู้สอนอธบิ ายคุณลักษณะพื้นฐานของผปู้ ระกอบการธุรกิจขนาดย่อมทคี่ วรมีดังนี้ 1) เนน้ การใช้นวตั กรรม (Innovation) 2) มีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ (Creativity) 3) เนน้ การพัฒนาทักษะ ความชานาญ (Skill Based) 4) มีศักยภาพเชงิ พาณชิ ย์ (High Potential) 7. ผสู้ อนใช้เทคนคิ วิธีการจัดการเรียนร้แู บบอภิปรายกลุ่มย่อย ผสู้ อนจัดกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่มยอ่ ยประมาณ 3-4 คน ใหผ้ ู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ พูด คยุ แลกเปลีย่ นข้อมูลความคดิ เหน็ ประสบการณ์ในประเดน็ หรอื ปญั หาที่ กาหนด ดังนี้ กิจกรรมท่ี 1 ให้วิเคราะหจ์ ากรปู ภาพสนิ คา้ ที่ครผู สู้ อนนามาเป็นตัวอย่าง ใหช้ ่วยกนั แสดงความคิดเหน็ ว่า ผปู้ ระกอบการควรมีคุณสมบัตหิ รอื คุณลักษณะอยา่ งไร จึงจะทาให้ประสบความสาเร็จในการทาธรุ กจิ กิจกรรมที่ 2 ใหว้ ิเคราะห์จากรูปภาพศิลปะจากก้อนดนิ ดอกไมป้ ระดษิ ฐจ์ าก สนิ ค้า OTOP แลว้ ช่วยกัน แสดงความคิดเห็นวา่ ผปู้ ระกอบการควรมคี ุณสมบัตหิ รือคุณลกั ษณะอยา่ งไร จงึ จะทาให้ประสบความสาเรจ็ ใน การทาธุรกิจ 8. ผู้สอนคอยสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านของผู้เรยี นเป็นรายบคุ คลและเปน็ กลุ่มคอยคาให้คาแนะนา และ เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสยั หรือหัวขอ้ ทย่ี ังไม่เขา้ ใจได้ 9. ผสู้ อนตรวจประเมินผลงานผู้เรียนแบบภาพรวมเป็นรายบคุ คลและแบบกลุม่ 10. ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกันสรปุ เนือ้ หาแบบ Mind Mapping เพอ่ื ทบทวนความเขา้ ใจอีกคร้ัง และเปดิ โอกาสให้ ผ้เู รยี นไดซ้ กั ถามข้อสงสยั 11. มอบหมายใหผ้ ู้เรียนไปศึกษาเก่ียวกับ แผนธรุ กิจ จากเว็บไซต์ http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธรุ กจิ ) 12. ผู้เรียนสามารถทบทวนความรู้ หรือดาวน์โหลด PowerPoint และ ใบงานได้จาก https://www.facebook.com/groups (กลมุ่ ชื่อ SMEs 3/1 MKT) เทคนคิ วธิ ีการสอนทนี่ ามาใช้ 1. วธิ สี อนแบบแบง่ กลุม่ ทางาน เป็นวธิ ีสอนทผี่ สู้ อนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มร่วมมือกัน ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ ผ้เู รียนทางานร่วมกันตามวิถแี ห่งประชาธปิ ไตย 2. วธิ สี อนแบบอภปิ รายกลุ่มยอ่ ย เป็นการสอนโดยทีผ่ เู้ รยี นแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ซึ่งกันและกนั เพื่อช่วย แกไ้ ขปัญหาอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ การอภิปรายกระทาระหว่างครูกบั นกั เรยี น หรือระหวา่ งนักเรยี นด้วยกัน โดยมี ผู้สอนเป็นผปู้ ระสานงาน

ส่อื การเรยี นการสอนและแหล่งการเรียนรู้ 1. สอ่ื ส่งิ พิมพ์ ได้แก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม 2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์, ลาโพง 3. ส่ือเทคโนโลยขี ้ันสูง ไดแ้ ก่ PowerPoint , Clip VDO 4. อินเทอร์เนต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups http://www.thaifranchisecenter.com (ตวั อย่างแผนธุรกิจ) https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme- teetak.aspx (รายการ SMEs ตีแตก) การวัดประเมินผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรมการมี 1. ผ้เู รยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นร้อยละ 70 ขึ้นไป สว่ นร่วมของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล 2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผเู้ รยี นสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกนิ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพใบงาน 4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. เกณฑ์ตัดสนิ คุณภาพกิจกรรมกล่มุ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอา้ งอิง/เวบ็ ไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ิทยา. การดาเนินธุรกิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอยา่ งแผนธุรกจิ ) 3. https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme- teetak.aspx (รายการ SMEs ตีแตก)

วชิ า การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม ใบงานท่ี 1 ระดับ ปวช.ปีที่ 3 5 คะแนน รหสั วิชา 2202-2003 หน่วยเรียนท่ี 1 ช่ือหน่วย ความรู้ท่วั ไปเกย่ี วกบั ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม ระยะเวลา วนั ท่ีมอบหมายงาน…………./…………/………. ส่งวันท่ี…………./…………/………. กจิ กรรมที่มอบหมาย ใหน้ ักศึกษาวเิ คราะห์คุณสมบัตขิ องผู้ประกอบการท่ปี ระสบความสาเรจ็ ในการทาธรุ กจิ พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ล (5 ข้อ) 1. คณุ อิทธิพัทธ์ พรี ะเดชาพันธ์ เจา้ ของธุรกิจ “สาหรา่ ย ตราเถา้ แก่น้อย” 2. คุณตนั ภาสกรนที เจ้าของธุรกิจชาเขียว “ตราอชิ ิตนั ”

แผนการจัดการเรยี นรู้แบบฐานสมรรถนะ หน่วยที่ 2 ชื่อวิชา การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดยอ่ ม รหัสวิชา 2202-2003 สอนสปั ดาห์ที่ 3-4 ชอ่ื หน่วย รปู แบบและประเภทของธุรกิจขนาดย่อม ช่ัวโมงรวม 8 ชั่วโมง จานวน 4 ชัง่ โมง/สัปดาห์ ระดบั ปวช.3 ช่อื ผู้สอน อาจารย์ณัฐชญาภรณ์ มนั ทรา สาระสาคญั รูปแบบการประกอบธุรกิจขนาดย่อม สามารถดาเนินการได้หลายรูปแบบ ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับความต้องการ และ ความร้คู วามสามารถของผู้ประกอบการว่าจะเลือกรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมกับตนเองมากท่ีสุดไมว่ ่าจะเป็นการดาเนินกิจการ คนเดยี วหรือหลายคน นอกจากนี้การเลือกประเภทธุรกิจเพื่อใหส้ อดคล้องกับรปู แบบท่ีเหมาะสมก็ควรคานึงถึงด้วย เน่ืองจาก ผู้ประกอบการแต่ละบุคคลอาจจะมีทักษะ ความรู้ความชานาญแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการผลิต ธุรกิจการค้าส่ง ธุรกิจ การค้าปลีก และธุรกิจการบริการ โดยคานึงถึงเงินทุนท่ีนามาลงทุนและผลตอบแทนจากการดาเนินงานท่ีได้รับเป็นสาคัญ รวมทัง้ ประโยชน์ตา่ ง ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับดว้ ย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1. รู้และเขา้ ใจเกย่ี วกับรปู แบบของธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 2. รู้และเข้าใจเก่ียวกบั ประเภทของธุรกจิ ขนาดย่อม จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธบิ ายรปู แบบกจิ การเจ้าของคนเดียวได้ 2. อธบิ ายรปู แบบกิจการห้างหุ้นสว่ นได้ 3. อธบิ ายรปู แบบกิจการบริษัทจากัดได้ 4. อธบิ ายรปู แบบกจิ การบริษัทจากดั มหาชนได้ 5. อธิบายรูปแบบธุรกิจแฟรนไชสไ์ ด้ 6. อธิบายประเภทธรุ กิจการผลิตได้ 7. อธิบายประเภทธุรกจิ การค้าส่งได้ 8. อธบิ ายประเภทธุรกิจการค้าปลกี ได้ 9. อธบิ ายประเภทธรุ กจิ บริการได้ 10. ผู้เรยี นมีความพยายามและความตงั้ ใจในการปฏบิ ัตงิ านจนสาเร็จ สมรรถนะรายหน่วย เลอื กรูปแบบการจัดตั้งธรุ กิจขนาดย่อมให้เหมาะสมกับธุรกจิ แต่ละประเภท รายวิชาทจ่ี ัดควบคู่หรอื บูรณาการ ---- วิธกี ารบูรณาการ ----

สาระการเรียนรู้ 2. รปู แบบและประเภทของธุรกิจขนาดยอ่ ม 2.1 รปู แบบธรุ กจิ ขนาดย่อม 2.1.1 กจิ การเจา้ ของคนเดียว (Sole Proprietorship) 2.1.2 กิจการหา้ งหุน้ สว่ น (Partnership) 2.1.3 บริษัทจากัด (Limited Company) 2.1.4 บรษิ ัทมหาชนจากดั (Public Limited Company) 2.1.5 ธรุ กจิ แฟรนไชส์ (Franchise) 2.2 ประเภทของธุรกิจขนาดย่อม 2.2.1 ธุรกจิ การผลิต (Manufacturing) 2.2.2 ธรุ กิจการคา้ สง่ (Wholesaling) 2.2.3 ธรุ กิจกิจคา้ ปลกี (Retailing) 2.2.4 ธุรกจิ บริการ (Service) ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ธรรมท่ีมุ่งเน้น 6. พอประมาณ ผูเ้ รยี นสามารถคดิ วิเคราะหไ์ ด้เหมาะกับวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ 7. มเี หตุผล ผูเ้ รียนทางานตามทไี่ ดร้ ับมอบหมายโดยคานึงถึงเหตุและปัจจยั แวดล้อมทง้ั หมด เพ่ือใหก้ าร ดาเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง 8. ขยัน อดทน ผู้เรียนมีความตัง้ ใจในการทางาน ไมล่ ะเลย ไม่ทอดท้งิ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย จนทาใหป้ ระสบ ผลสาเรจ็ ในทสี่ ดุ 9. รอบรู้ ผู้เรยี นมีความรอบรเู้ กยี่ วกับวิชาการต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอย่างรอบดา้ น 10.รอบคอบ ผ้เู รียนมีความรอบคอบท่จี ะนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษาคน้ ควา้ มาประยุกตใ์ ช้ในการเรยี นได้อย่าง ถกู ต้องตามเกณฑท์ ่ีกาหนด นาปญั หาและอุปสรรคใ์ นการเรยี นการสอนมาปรับปรุงการเรยี นการสอน นกั ศกึ ษาสว่ นใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาสาระท่ีสอนได้อย่างรวดเรว็ มนี ักศึกษาบางราย ที่ผ้สู อนต้องกระตุ้นให้ มสี ว่ นรว่ มและกลา้ แสดงความคดิ เห็น กิจกรรมการเรยี นการสอน (สัปดาห์ที่ 3 ชัว่ โมงที่ 9-12) 1. ผูส้ อนชี้แจง้ เกณฑก์ ารวัดผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏบิ ตั งิ านของผู้เรยี น 2. ผู้สอนทบทวนความรู้เดิมให้กับผเู้ รยี น โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเรม่ิ เรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ประจาหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื งรปู แบบของธรุ กจิ ขนาดย่อม 4. ผ้สู อนยกตวั อยา่ งช่ือธุรกิจทง้ั ในและตา่ งประเทศให้ผเู้ รียนชว่ ยกันวเิ คราะหว์ า่ เปน็ ธรุ กจิ รูปแบบใด 5. ผูส้ อนใหผ้ ู้เรียนแบง่ กลมุ่ การเรียนแบบกล่มุ รว่ มมือตามลาดับคะแนนเฉลย่ี สะสม ในแตล่ ะกลุ่มตอ้ งมผี เู้ รยี น ระดับ เก่ง 1 คน ปานกลาง 2 คน ออ่ น 1 คน กลุม่ ละ 3-4 คน

6. ให้ผ้เู รยี นอภิปรายกลุ่มย่อยเกี่ยวกบั หัวขอ้ รปู แบบของธรุ กิจขนาดยอ่ ม พร้อมยกตัวอย่างรูปแบบธุรกจิ ท่ีก่อตั้งทง้ั ในและตา่ งประเทศ โดยส่งตวั แทนออกมาจับฉลากหัวข้อ กลุ่มละ 1 หัวข้อทีจ่ ะนาเสนอ มหี วั ข้อดังน้ี 1) กิจการเจ้าของคนเดยี ว (Sold Proprietorship) 2) กจิ การห้างหุ้นส่วน (Partnership) 3) บรษิ ทั จากดั (Limited Company) 4) บรษิ ทั มหาชนจากัด (Public limited company) 5) ธรุ กิจแฟรนไชส์ (Franchise) 7. ผสู้ อนสุ่มเรยี กโดยการจบั ฉลากรายชอ่ื จากแต่ละกลมุ่ 1 คน ใหอ้ อกมานาเสนอ ใชเ้ วลา 5-10 นาที โดยใหเ้ พ่อื นในห้องเรียนไดม้ โี อกาสซกั ถามข้อสงสยั ได้ 8. ผสู้ อนคอยสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านของผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคลและเปน็ กลมุ่ คอยคาให้คาแนะนา และ เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสยั หรือหวั ขอ้ ท่ยี ังไม่เข้าใจได้ 9. ผู้สอนตรวจประเมินผลงานผเู้ รยี นแบบภาพรวมเปน็ รายบคุ คลและแบบกล่มุ ใหข้ ้อเสนอแนะ เชน่ การแต่งกาย การพูด แตล่ ะกลุ่มหลงั จากการนาเสนอเสร็จสน้ิ 10. ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปเน้อื หาแบบ Mind Mapping เพื่อทบทวนความเขา้ ใจอีกคร้ัง และเปิดโอกาสให้ ผู้เรยี นไดซ้ กั ถามข้อสงสยั 11. มอบหมายให้ผ้เู รียนไปศึกษาเก่ียวกบั แผนธุรกิจ จากเว็บไซต์ http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอยา่ งแผนธุรกิจ) 12. ผู้เรยี นสามารถทบทวนความรู้ หรือดาวนโ์ หลด PowerPoint และ ใบงานไดจ้ าก https://www.facebook.com/groups (กล่มุ ชื่อ SMEs 3/1 MKT) เทคนิควิธกี ารสอนที่นามาใช้ 1. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลมุ่ ทางาน เป็นวธิ ีสอนท่ผี สู้ อนมอบหมายใหน้ ักเรียนทางานร่วมกนั เปน็ กลมุ่ ร่วมมอื กนั ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ ผู้เรียนทางานรว่ มกันตามวิถแี หง่ ประชาธปิ ไตย 2. แบบกลุ่มร่วมมอื เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานระหวา่ งการเรียนรแู้ บบกลมุ่ และการสอนรายบคุ คล โดยใหผ้ เู้ รยี นไดล้ งมือทากิจกรรมในการเรยี นได้ด้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกล่มุ มีการ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ซึ่งกันและกนั นอกจากน้ันยังเป็นการจดั การเรยี นการสอนท่ีเนน้ การมีปฏสิ มั พันธ์ซงึ่ กันและ กนั ระหว่างผู้เรียนกบั ผเู้ รยี น 3. วิธีสอนแบบอภปิ รายกลมุ่ ย่อย เป็นการสอนโดยท่ผี ้เู รียนแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ซ่ึงกนั และกันเพ่ือชว่ ย แกไ้ ขปัญหาอย่างใดอย่างหนึง่ การอภิปรายกระทาระหวา่ งครกู บั นักเรยี น หรือระหว่างนักเรยี นด้วยกัน โดยมี ผสู้ อนเป็นผ้ปู ระสานงาน

สอื่ การเรยี นการสอนและแหลง่ การเรียนรู้ 5. สอื่ สง่ิ พมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนินธรุ กจิ ขนาดย่อม 6. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ 7. สื่อเทคโนโลยขี ้นั สูง ได้แก่ PowerPoint 8. อนิ เทอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups การวัดประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผเู้ รียนมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนร้อยละ 70 ข้ึนไป สว่ นรว่ มของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล 2. การสุ่มเรียกถาม-ตอบ เป็นรายบุคคล 2. ผูเ้ รยี นสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกินร้อยละ 80 ขนึ้ ไป 3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสนิ คุณภาพใบงาน 4. ประเมินผลจากการทากจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. เกณฑ์ตดั สินคณุ ภาพกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอ้างองิ /เว็บไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพญ็ ศรี เลิศเกยี รตวิ ิทยา. การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพศ์ นู ย์ ส่งเสริมวิชาการ กิจกรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาหท์ ่ี 4 ช่วั โมงที่ 13-16) 1. ผสู้ อนชแี้ จ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏิบตั งิ านของผูเ้ รยี น

2. ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมใหก้ ับผู้เรียน โดยการถาม-ตอบก่อนทจ่ี ะเรม่ิ เรยี นหัวข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผู้สอนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรปู้ ระจาหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื งประเภทของธุรกิจขนาดย่อม 4. ใหผ้ ูเ้ รียนแบง่ กลมุ่ เปน็ 2 ทมี เพอ่ื แข่งขันกนั ตอบ โดยผูส้ อนจะยกตัวอย่างชือ่ ธรุ กจิ ทั้งในและต่างประเทศ ให้ผูเ้ รยี นแขง่ ขันกันตอบว่าเป็นธรุ กจิ รูปแบบใด 5. ผู้สอนบรรยายเนอ้ื หาประกอบพร้อมรปู ภาพธรุ กจิ ทเ่ี กี่ยวข้องเพ่ือสือ่ ความหมายสาระสาคัญของเนอื้ หาให้เขา้ ใจ ยิ่งข้นึ ซ่ึงเนื้อหาท่ศี ึกษาได้แก่ 1) ธรุ กจิ การผลติ 2) ธุรกจิ การค้าสง่ 3) ธุรกจิ บรกิ าร 6. ระหว่างการบรรยายเน้ือหาผู้สอนตง้ั คาถามใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการตอบและแสดงความคิดเหน็ โดยการสมุ่ เรียกรายชอ่ื หรือจิตอาสา 7. ผสู้ อนใช้เทคนิควิธกี ารจดั การเรยี นรู้แบบอภิปรายกล่มุ ย่อย จัดกลมุ่ ผู้เรียนแบบกลุ่มร่วมมอื ออกเป็นกลุ่มย่อย ประมาณ 3-4 คน ใหผ้ ู้เรียนชว่ ยกนั ศกึ ษาคน้ คว้าจากหนงั สอื หรอื นิ เทอร์เนต็ แล้วนาขอ้ มลู มาพดู คุย แลกเปล่ยี นขอ้ มูลความคิดเหน็ จากโจทย์ท่ีกาหนด ดงั น้ี 1) ใหน้ ักศึกษาคิดธุรกิจในรูปแบบกิจการเจา้ ของคนเดียวมา 1 ธุรกิจ 2. อธบิ ายลกั ษณะการดาเนนิ ธุรกจิ ดงั น้ี 2.1 ตั้งช่อื ธุรกิจ 2.2 บอกประเภทธุรกจิ 3. วเิ คราะห์ปจั จยั ในการทาธุรกิจนี้ (4 M’s) ว่าเปน็ อยา่ งไร 8. ผสู้ อนคอยสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานของผู้เรียนเป็นรายบุคคลและเปน็ กล่มุ คอยชว่ ยเหลือ และคาให้ คาแนะนา 9. ผสู้ อนส่มุ เรยี กผลงาน 2-3 ชิ้นงาน ใหอ้ อกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนเพือ่ แลกเปลี่ยนความรู้กัน 10. ผสู้ อนสรุปและให้ข้อเสนอแนะกลุ่มทีอ่ อกมานาเสนอผลงานเพอ่ื ปรบั ปรุงในครั้งตอ่ ไป 11. ผู้สอนตรวจประเมนิ ผลงานผเู้ รยี นแบบภาพรวมเป็นรายบุคคลและแบบกลุ่ม 12. ผสู้ อนและผูเ้ รียนรว่ มกันสรุปเนอื้ หาแบบ Mind Mapping เพ่ือทบทวนความเข้าใจอีกคร้ัง และเปดิ โอกาสให้ ผู้เรยี นได้ซกั ถามข้อสงสัยทยี่ ังไม่เขา้ ใจได้ 13. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นไปศึกษาหาขอ้ มูลเก่ยี วกบั รูปแบบธุรกิจขนาดยอ่ ม จาก Link เวบ็ ไซตเ์ กี่ยวกับธุรกิจ SMEs จาก www.Facebook.com สาหรับการเรียนในสัปดาหต์ ่อไป เทคนคิ วธิ กี ารสอนทน่ี ามาใช้ 1. วิธีสอนแบบแบ่งกล่มุ ทางาน เป็นวิธีสอนท่ีผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกัน ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลุม่ ร่วมมอื เป็นการจดั การเรียนรโู้ ดยการผสมผสานระหว่างการเรยี นรูแ้ บบกลมุ่ และการสอนรายบุคคล โดยให้ผ้เู รยี นไดล้ งมอื ทา กิจกรรมในการเรียนไดด้ ้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชกิ ในกลมุ่ มีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ซ่ึงกันและกนั นอกจากน้นั ยังเปน็ การจัดการเรียนการสอนทีเ่ นน้ การมีปฏิสัมพนั ธ์ซ่ึงกันและกันระหว่างผู้เรียนกับผูเ้ รยี น

3. วธิ สี อนแบบอภปิ รายกลุม่ ย่อย เปน็ การสอนโดยทผ่ี เู้ รยี นแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ซึง่ กนั และกันเพ่ือช่วยแก้ไขปัญหาอยา่ งใดอย่างหน่ึง การอภิปราย กระทาระหว่างครกู บั นักเรียน หรือระหว่างนกั เรียนดว้ ยกนั โดยมผี ้สู อนเปน็ ผู้ประสานงาน 4. วธิ สี อนแบบศึกษาด้วยตนเอง (Self Study Method) วธิ ีสอนแบบศึกษาดว้ ยตนเอง เป็นวธิ สี อนทเี่ ปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาหาความรูจ้ ากแหลง่ วชิ าด้วยตนเอง ได้แก่ การศกึ ษาจากหนังสอื และการศึกษานอกสถานท่ี การสอนวิธีนบี้ างครง้ั เรยี กวา่ วธิ ี Problem Solving หรือ Discovery Method สื่อการเรียนการสอนและแหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรยี นวิชาการดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม 2. โสตทศั น์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์ 3. สอ่ื เทคโนโลยขี ้นั สงู ได้แก่ PowerPoint 4. อนิ เทอรเ์ นต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups การวัดประเมินผล เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนรอ้ ยละ 70 ขึ้นไป สว่ นรว่ มของผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล 2. การสมุ่ เรียกถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผเู้ รยี นสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกนิ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพใบงาน 4. ประเมินผลจากการทากจิ กรรมกล่มุ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. เกณฑต์ ดั สินคณุ ภาพกจิ กรรมกลุม่ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง เอกสารอ้างองิ /เว็บไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวิทยา. การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พ์ เอมพันธ์ จากดั 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พศ์ ูนย์ สง่ เสรมิ วชิ าการ

วชิ า การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม ใบงานท่ี 2 ปวช. 3/1 กต. 10 คะแนน รหัสวิชา 2202-2003 หน่วยเรยี นท่ี 2 ชอื่ หน่วย รูปแบบและประเภทของธรุ กิจขนาดย่อม วันทมี่ อบหมายงาน…………./…………/………. กาหนดส่งวันที่…………./…………/………. กิจกรรมทมี่ อบหมาย 1. ให้นกั ศึกษาคดิ ธรุ กจิ อะไรก็ได้มา 1 ธุรกิจ 2. อธบิ ายลักษณะการดาเนนิ ธุรกิจ ดังนี้ 2.1 ต้งั ชอื่ ธรุ กจิ 2.2 กาหนดรูปแบบธรุ กจิ พร้อมอธิบายลักษณะ และข้อดี ข้อเสีย 2.3 กาหนดประเภทธุรกิจ พร้อมอธบิ ายลักษณะ 3. วิเคราะหป์ ัจจยั ในการทาธุรกจิ น้ี (4 M’s) ว่าเปน็ อยา่ งไร

แผนการจัดการเรียนรแู้ บบฐานสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื วิชา การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม รหัสวิชา 2202-2003 สอนสัปดาห์ที่ 5-6 ระดับ ปวช.3 ชอ่ื หน่วย การจดทะเบยี นพาณิชย์ ชวั่ โมงรวม 8 ช่ัวโมง ช่อื ผู้สอน อาจารย์ณัฐชญาภรณ์ มนั ทรา จานวน 4 ชง่ั โมง/สัปดาห์ สาระสาคัญ ผู้มีหน้าที่จดทะเบียนพาณิชย์ คือ บุคคลธรรมดาคนเดียว หรือหลายคนหรือนิติบุคคลรวมท้ังนติ ิบุคคลท่ีต้ังข้ึนตาม กฎหมายต่างประเทศท่ีมาตั้งสานักงานสาขาในประเทศไทย ซ่ึงประกอบกิจการอันเป็นพาณิชยกิจตามที่กระทรวงพาณิชย์ กาหนด กิจการเจ้าของคนเดียวท่ีต้องจดทะเบียนการคา้ ใหด้ าเนินการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตทิ ะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 และกิจการห้างหุ้นส่วนต้องจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจากัด ตาม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชยไ์ ด้ออกประกาศให้ผูป้ ระกอบกจิ การ จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ทว่ั ไป 1. รแู้ ละเขา้ ใจเกีย่ วกบั การจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญตั ทิ ะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 2. รแู้ ละเขา้ ใจเกีย่ วกับการจดทะเบียนหา้ งหุ้นส่วนสามญั นิตบิ ุคคลและหา้ งหนุ้ สว่ นจากัด 3. รู้และเข้าใจเกย่ี วกับการจดทะเบยี นบรษิ ทั และบริษัทมหาชนจากัด จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกกิจการท่ีตอ้ งจดทะเบยี นพาณิชย์ได้ 2. บอกพาณชิ ยกิจทีไ่ ด้รับการยกเว้นไมต่ ้องจดทะเบียนพาณิชยไ์ ด้ 3. อธบิ ายการจดทะเบียนจัดต้ังหา้ งหนุ้ ส่วนได้ 4. บอกเอกสารหลักฐานทีใ่ ชใ้ นการจดทะเบียนได้ 5. อธบิ ายการจดทะเบยี นหนงั สือบรคิ ณหส์ นธไิ ด้ 6. บอกเอกสารหลกั ฐานท่ีตอ้ งใชใ้ นการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธไิ ด้ 7. อธบิ ายการจดทะเบยี นจดั ต้ังบริษทั ได้ 8. บอกเอกสารหลักฐานทต่ี ้องใชใ้ นการจดทะเบียนจัดตง้ั บริษัทได้ 9. อธบิ ายขน้ั ตอนการจดทะเบียนบรษิ ทั มหาชนจากัดได้ 10. อธบิ ายข้นั ตอนการแปรสภาพบรษิ ทั เอกชนเปน็ บริษัทมหาชนจากัดได้ 11. บอกเอกสารหลกั ฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจากัดได้ 12. ผเู้ รยี นมีความพยายามและความตั้งใจในการปฏิบตั ิงานจนสาเรจ็ สมรรถนะรายหน่วย แสดงความรเู้ กย่ี วกบั จดทะเบียนพาณิชย์ตามพระราชบญั ญัตทิ ะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ. 2499 รายวชิ าท่จี ดั ควบคหู่ รอื บรู ณาการ ---- วิธีการบรู ณาการ ----

สาระการเรียนรู้ 3. กาจดทะเบียนพาณิชย์ 3.1 จดทะเบยี นพาณชิ ย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณชิ ย์ พ.ศ. 2499 3.1.1 กจิ การที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ 3.1.2 พาณิชยกิจท่ีได้รับการยกเว้นไมต่ ้องจดทะเบียนพาณชิ ย์ 3.2 การจดทะเบียนหา้ งหุ้นสว่ นสามญั นติ บิ คุ คลและหา้ งหุ้นสว่ นจากัด 3.2.1 การจดทะเบียนจดั ตั้งห้างห้นุ สว่ น 3.2.2 เอกสารหลกั ฐานที่ใชใ้ นการจดทะเบยี น 3.4 การจดทะเบียนบริษัท 3.3.1 การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ 3.3.2 เอกสารหลักฐานที่ตอ้ งใช้ในการจดทะเบยี นหนังสือบริคณห์สนธิ 3.3.3 การจดทะเบยี นจัดตงั้ บริษทั 3.3.4 เอกสารหลักฐานที่ต้องใชใ้ นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 3.5 การจดทะเบียนบริษัทมหาชนจากัด 3.4.1 ขั้นตอนการจดทะเบียนบรษิ ัทมหาชนจากดั 3.4.2 ขั้นตอนการแปรสภาพบริษทั เอกชนเปน็ บริษัทมหาชนจากัด 3.4.3 เอกสารหลกั ฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบยี นบริษทั มหาชนจากดั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณธรรมทม่ี ุ่งเนน้ 11.พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคดิ วเิ คราะห์ได้เหมาะกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ 12.มีเหตผุ ล ผูเ้ รยี นทางานตามทไี่ ด้รับมอบหมายโดยคานงึ ถึงเหตแุ ละปจั จยั แวดล้อมท้งั หมด เพ่ือให้การ ดาเนินงานเป็นไปอยา่ งถกู ต้อง 13.ขยัน อดทน ผเู้ รยี นมคี วามต้งั ใจในการทางาน ไม่ละเลย ไม่ทอดทง้ิ งานท่ีได้รับมอบหมาย จนทาใหป้ ระสบ ผลสาเร็จในทส่ี ดุ 14.รอบรู้ ผเู้ รยี นมคี วามรอบรเู้ กย่ี วกบั วิชาการต่างๆ ท่ีเกยี่ วข้องอย่างรอบด้าน 15.รอบคอบ ผู้เรียนมคี วามรอบคอบท่ีจะนาความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษาค้นคว้า มาประยุกต์ใช้ในการเรยี นไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้องตามเกณฑ์ที่กาหนด นาปัญหาและอุปสรรคใ์ นการเรยี นการสอนมาปรบั ปรุงการเรียนการสอน ผู้เรยี นยังขาดทักษะการในการนาเสนองานและทักษะการคิด ดงั นน้ั ผสู้ อนจงึ กระตุ้นโดยใชแ้ รงจูงใจให้ผเู้ รียนสนใจ และใหผ้ ู้เรยี นได้มีโอกาสเรียนรูแ้ ละค้นควา้ จากแหล่งเรียนรู้อนื่ ๆ

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สัปดาหท์ ี่ 5 ชว่ั โมงท่ี 17-20) 1. ผสู้ อนชแี้ จ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏบิ ตั งิ านของผู้เรยี น 2. ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมให้กับผเู้ รียน โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเร่มิ เรยี นหัวข้อใหม่ ดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจาหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง การจดทะเบียนพาณิชย์ 4. ผ้สู อนยกตวั อย่างบรษิ ัทท่จี ดั ต้ังในประเทศไทย แลว้ ต้ังคาถามใหผ้ ู้เรียนตอบ วา่ จะต้องจดทะเบยี นจดั ต้ังธรุ กจิ ใน รูปแบบใด 5. ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนนาเอกสารทีเ่ ก่ยี วข้องกับการจดทะเบยี นจัดตั้งธรุ กิจแต่ละประเภทมาประกอบการปฏบิ ัติ กจิ กรรม ผสู้ อนใช้เทคนิคการสอนแบบศึกษาด้วยตนเองโดยให้ผเู้ รยี นสืบคน้ ดว้ ยแบบฟอรม์ การจดทะเบยี นและ ตวั อย่าการจดทะเบียนด้วยตนเองจากอนิ เทอร์เนต็ เพื่อนาขอ้ มลู มาประกอบการเรยี น 6. ให้ผู้เรียนแบง่ กลุ่มการเรียนแบบรว่ มมือ กลุ่มละ 3-4 คน ให้ชว่ ยกันระดมสมอง และศกึ ษาเกีย่ วกบั เอกสารการจดทะเบยี นจัดตั้งธุรกิจดังน้ี - จดทะเบียนจัดตงั้ หา้ งหุ้นสว่ น - การจดทะเบียนจัดต้งั บรษิ ัทจากดั - การจดทะเบียนจัดต้งั บรษิ ทั มหาชนจากดั 7. ใหผ้ ู้เรยี นกรอกข้อความในเอกสารตวั อยา่ งเกยี่ วกับการยืน่ ขอจดทะเบียนห้างหุน้ ส่วน บริษทั จากดั บริษทั มหาชน ตามข้นั ตอนของกฏหมาย ตามพระราชบญั ญตั ทิ ะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ. 2499 8. หลังจากกรอกเอกสารตวั อย่างเกี่ยวกบั การยน่ื ขอจดทะเบยี น ให้สรุปสาระสาคัญดงั นี้ - การจดทะเบียนจัดต้งั ธุรกิจ ตอ้ งมีข้อมลู เกย่ี วกับอะไรบา้ ง - เอกสารหลกั ฐานท่ีต้องใช้ในการจดทะเบียนอะไรบ้าง 9. ผ้สู อนคอยสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านของผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คลและเป็นกลุม่ คอยคาใหค้ าแนะนา และ เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยหรอื หัวขอ้ ทีย่ ังไม่เขา้ ใจได้ 10. ผสู้ อนเฉลยคาตอบและอธบิ ายเพ่มิ เติมในแต่ละหวั ขอ้ อกี ครั้ง 11. ผสู้ อนตรวจประเมินผลงานผเู้ รียนแบบภาพรวมเปน็ รายบคุ คลและแบบกลมุ่ ใหข้ ้อเสนอแนะเพ่อื ปรบั ปรุงงานใน คร้ังตอ่ ไป 12. ผสู้ อนกับผูเ้ รยี นรว่ มกันสรปุ และทบวนเนอ้ื หาอกี ครั้ง เปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นไดซ้ ักถามขอ้ สงสัย 13. ผู้สอนตรวจและประเมนิ ผลงานพร้อมใหข้ ้อเสนอแนะ 14. ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาการเร่มิ ต้นธุรกิจการคา้ ระบบสาขาแฟรนไชส์ของธรุ กิจใดก็ได้ ที่น่าสนใจมา 1 ธุรกจิ เทคนิควิธีการสอนทน่ี ามาใช้ 1. วธิ สี อนแบบแบ่งกล่มุ ทางาน เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลุม่ ร่วมมือ เปน็ การจัดการเรียนรูโ้ ดยการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบกลุม่ และการสอนรายบุคคล โดยให้ผเู้ รียนได้ลงมือทา กจิ กรรมในการเรียนได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกล่มุ มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ซ่งึ กนั และกัน เน้นการมปี ฏสิ ัมพนั ธซ์ ึ่งกนั และกนั ระหวา่ งผู้เรียนกับผ้เู รียน

3. วิธสี อนแบบอภปิ รายกลุ่มยอ่ ย เป็นการสอนโดยท่ผี เู้ รยี นแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ซงึ่ กนั และกนั เพื่อช่วยแกไ้ ขปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง การอภปิ ราย กระทาระหวา่ งครูกับนักเรยี น หรือระหว่างนกั เรยี นด้วยกนั โดยมีผ้สู อนเปน็ ผปู้ ระสานงาน 4. วธิ สี อนแบบใช้คาถาม ผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ที่เป็นคาถามท่ีดี สามารถพัฒนาความคิดผูเ้ รียน ถามเพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนใช้ความคดิ เชิงเหตผุ ล วิเคราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรือ การประเมินคา่ เพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ นัน้ 5. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง การแบ่งนักเรียนเปน็ กลุม่ ย่อย ผสู้ อนและผู้เรียนเรียนรว่ มกันกาหนดปญั หาในการระดมพลงั สมองโดยใชเ้ วลาสั้นๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชกิ ในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ซ่งึ ความคิดเห็นไม่มีการตานวิ า่ “ถกู ” หรือ ”ผิด” จากนั้นผูแ้ ทนกลุ่มนามารายงานให้กลมุ่ ใหญ่ในชั้นเรียนทราบผลการระดมพลงั สมอง 6. วธิ สี อนแบบศกึ ษาด้วยตนเอง (Self-Study Method) วธิ ีสอนแบบศึกษาดว้ ยตนเอง เปน็ วธิ ีสอนท่ีเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นศึกษาหาความรจู้ ากแหลง่ วชิ าดว้ ยตนเอง ไดแ้ ก่ การศกึ ษาจากหนังสอื การศึกษานอกสถานท่ี หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ ส่ือการเรยี นการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่อื สง่ิ พมิ พ์ ไดแ้ ก่ หนังสอื เรยี นวชิ าการดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม 2. โสตทศั น์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์ 3. สอ่ื เทคโนโลยขี นั้ สงู ไดแ้ ก่ PowerPoint 4. อินเทอร์เนต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/group การวัดประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนร้อยละ 70 ข้นึ ไป ส่วนรว่ มของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล 2. การส่มุ เรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผ้เู รียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกินร้อยละ 80 ขึน้ ไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ัดสินคุณภาพใบงาน คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. ประเมินผลจากการทากิจกรรมกลมุ่ 4. เกณฑต์ ดั สนิ คณุ ภาพกิจกรรมกลมุ่ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง เอกสารอา้ งองิ /เวบ็ ไซต์ 1. สฏิ ฐากร ชทู รพั ย์ และ เพญ็ ศรี เลิศเกยี รติวทิ ยา. การดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ เอมพันธ์ จากดั 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พศ์ ูนย์ สง่ เสรมิ วิชาการ

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สปั ดาห์ท่ี 6 ชั่วโมงที่ 21-24) 1. ผสู้ อนชแ้ี จง้ เกณฑก์ ารวัดผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏิบัติงานของผเู้ รียน 2. ผู้สอนทบทวนความรูเ้ ดิมให้กับผเู้ รยี น โดยการถาม-ตอบก่อนทจ่ี ะเร่ิมเรยี นหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผูส้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ประจาหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ งธุรกจิ แฟรนไชส์ (ความร้เู พ่ิมเตมิ ) 4. ผู้สอนยกตัวอย่างธุรกจิ แฟรนไชสท์ ป่ี ระสบความสาเร็จ หวั ข้อเรื่อง แฟรนไชส์ Seoul Bekery ธรุ กิจแนวใหม่ เอาใจคนรักขนมปัง! จากคลิป VDO (ทม่ี า https://www.youtube.com/watch?v=7xq_E_8lpGw) 5. ผู้สมุ่ เรียกผเู้ รียนให้ยกตัวอยา่ งธรุ กจิ ธรุ กจิ แฟรนไชสท์ ี่ตนรจู้ กั และสนใจ โดยบอกชอื่ ตราสินคา้ และลกั ษณะของ สินคา้ วา่ เป็นอยา่ งไร 6. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนแบง่ กลุม่ การเรยี นแบบรว่ มมอื กลุ่มละ 3-4 คน ใหช้ ่วยกนั ระดมสมองและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับธรุ กจิ แฟรนไชน์ จากการเปิด คลิป VDO เรื่อง แฟรนไชส์ คอื อะไร? จากเว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU 7. ผู้สอนต้ังคาถามใหผ้ ู้เรยี นตอบจากการดู คลปิ VDO โดยเขียนความคิดเห็นลงในกระดาษท่ีแจกให้ 8. ผสู้ อนสรุปคาตอบจากการดูคลิป VDO ให้ผเู้ รยี นอกี ครั้ง 9. ให้ผเู้ รียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลุม่ โดยใหน้ าขอ้ มูลทศี่ ึกษาค้นคว้าเพม่ิ เกยี่ วกบั การเร่ิมต้นธรุ กิจการคา้ ระบบสาขา แฟรนไชสข์ อง “7-Eleven” โดยศกึ ษาจาก www.7eleven.co.th ให้วิเคราะห์ตามหวั ข้อดังน้ี 1) ความหมายของสัมปทาน แฟรนไชสแ์ ละคาศัพท์อ่ืน ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง 2) ลกั ษณะของธรุ กิจแฟรนไชส์ 3) ลกั ษณะของผู้ซ้ือสิทธิ 4) องค์ประกอบของแฟรนไชส์ 5) ปจั จัยความสาเรจ็ ของธุรกิจแฟรนไชส์ 10. ผ้สู อนจบั ฉลากเลอื ก 1-2 กลุ่ม (ทยี่ งั ไม่เคยออกมานาเสนองาน) กลมุ่ ท่ีถูกเลือกต้องส่งตวั แทนออกมานาเสนองาน หน้าชนั้ เรยี น 1 คน ใหใ้ ช้เวลาในการนาเสนอ 5-10 นาที 11. ผู้สอนกับผูเ้ รียนรว่ มกันสรุปและทบวนเนอื้ หาอกี ครัง้ 12. ผสู้ อนตรวจและประเมินผลงานภาพรวมเปน็ กล่มุ 13. ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาหาข้อมูลเกย่ี วกบั รปู แบบธรุ กจิ ขนาดย่อม จาก Link เวบ็ ไซตเ์ กี่ยวกบั ธุรกิจ SMEs ได้แก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx http://www.thaifranchisecenter.com/home.php เทคนิควิธีการสอนทีน่ ามาใช้ 1. วิธสี อนแบบแบ่งกลมุ่ ทางาน เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลมุ่ ร่วมมือ เปน็ การจัดการเรยี นร้โู ดยการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบกล่มุ และการสอนรายบุคคล โดยให้ผเู้ รยี นไดล้ งมอื ทา กิจกรรมในการเรียนได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชกิ ในกลุม่ มีการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ซ่งึ กันและกัน เนน้ การมีปฏสิ มั พันธซ์ ่ึงกันและกันระหวา่ งผูเ้ รียนกบั ผเู้ รียน

4. วิธสี อนแบบใช้คาถาม ผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ท่เี ปน็ คาถามทดี่ ี สามารถพฒั นาความคิดผเู้ รยี น ถามเพ่อื ใหผ้ ้เู รียนใช้ความคิด เชิงเหตผุ ล วิเคราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรือ การประเมินคา่ เพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ นน้ั 5. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง การแบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ ย่อย ผู้สอนและผเู้ รยี นเรียนร่วมกันกาหนดปัญหาในการระดมพลงั สมองโดยใชเ้ วลาสน้ั ๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชกิ ในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ซ่งึ ความคดิ เห็นไม่มีการตานวิ ่า “ถกู ” หรือ ”ผิด” จากน้นั ผู้แทนกลุ่มนามารายงานให้กล่มุ ใหญ่ในช้นั เรียนทราบผลการระดมพลงั สมอง สื่อการเรยี นการสอนและแหลง่ การเรียนรู้ 1. สอื่ สิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรยี นวิชาการดาเนินธุรกิจขนาดย่อม 2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลิป VDO 3. สื่อเทคโนโลยีข้นั สูง ไดแ้ ก่ PowerPoint 4. อนิ เทอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx (ตัวอย่างธรุ กจิ SMEs) http://www.thaifranchisecenter.com/home.php (ตวั อยา่ งธุรกิจ SMEs) คลิป VDO เรอ่ื ง แฟรนไชส์ คืออะไร? จากเว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU การวัดประเมินผล เกณฑก์ ารประเมินผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรมการมี 1. ผ้เู รียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป ส่วนรว่ มของผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล 2. การสมุ่ เรียกถาม-ตอบ เปน็ รายบคุ คล 2. ผู้เรยี นสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกินร้อยละ 80 ข้นึ ไป 3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสนิ คุณภาพใบงาน คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกล่มุ 4. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพกิจกรรมกล่มุ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอา้ งอิง/เวบ็ ไซต์ 1. สิฏฐากร ชูทรพั ย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ิทยา. การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ เอมพันธ์ จากดั 2. เพญ็ ศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนินธรุ กจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พศ์ ูนย์ สง่ เสริมวิชาการ 3. http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx (ตวั อยา่ งธรุ กิจ SMEs) http://www.thaifranchisecenter.com/home.php (ตวั อย่างธรุ กจิ SMEs) https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU

วชิ า การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม ใบงานท่ี 3 ระดบั ปวช.ปที ่ี 3 5 คะแนน รหสั วชิ า 2202-2003 หน่วยเรยี นท่ี 3 ช่อื หน่วย การจดทะเบียนการคา้ และการพาณิชย์ วนั ทม่ี อบหมายงาน…………./…………/………. สง่ วันท่ี…………./…………/………. คาสงั่ 1. ให้ผู้เรียนแบง่ กลุ่มๆ ละ 3-4 คน ให้ชว่ ยกันระดมสมองและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับธุรกิจแฟรนไชน์ 2. ให้ผู้เรียนนาข้อมูลทีศ่ ึกษาค้นคว้าเพมิ่ เก่ียวกบั การเรม่ิ ต้นธรุ กิจการคา้ ระบบสาขาแฟรนไชสข์ อง “7-Eleven” โดยศกึ ษาจาก www.7eleven.co.th ใหว้ เิ คราะหต์ ามหวั ขอ้ ดังนี้ 1) ความหมายของสมั ปทาน แฟรนไชสแ์ ละคาศัพท์อนื่ ๆ ที่เกีย่ วข้อง 2) ลกั ษณะของธรุ กจิ แฟรนไชส์ 3) ลกั ษณะของผู้ซ้ือสิทธิ 4) องค์ประกอบของแฟรนไชส์ 5) ปจั จัยความสาเรจ็ ของธุรกิจแฟรนไชส์

แผนการจดั การเรียนรู้แบบฐานสมรรถนะ สอนสปั ดาห์ที่ 7 และ 9 หน่วยที่ 4 ชอื่ วิชา การดาเนินธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม รหัสวิชา 2202-2003 ชั่วโมงรวม 8 ชวั่ โมง ช่อื หน่วย กฎหมายและภาษีสาหรับธุรกิจขนาดยอ่ ม จานวน 4 ชั่งโมง/สัปดาห์ ระดับ ปวช.3 ช่อื ผ้สู อน อาจารย์ณัฐชญาภรณ์ มนั ทรา สาระสาคญั ในการประกอบธุรกิจขนาดย่อม มีกฎหมายหลายฉบับท่ีเกี่ยวข้อง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติม เพ่ือให้การจัดตั้งธุรกิจขนาดย่อม หรือการประกอบการเป็นไปอย่างถูกต้อง และเพ่ือให้เกิดความสะดวกแก่ ผู้ประกอบการ ในการนาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, สทิ ธบิ ตั ร/อนุสทิ ธบิ ตั ร, เคร่ืองหมายการคา้ , ลขิ สิทธ์ิ และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นไทย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ทัว่ ไป 1. รู้และเขา้ ใจกฎหมายเก่ียวกับธุรกิจขนาดยอ่ ม 2. รแู้ ละเขา้ ใจเก่ียวกับภาษีสาหรับธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกวตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ต้งั สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้ 2. บอกหนา้ ท่ีของสานักงานงานวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมได้ 3. อธบิ ายการจดสทิ ธิบตั ร/อนสุ ิทธิบัตรในธรุ กิจขนาดย่อมได้ 4. อธิบายการจดทะเบียนเครอื่ งหมายการค้าในธรุ กิจขนาดย่อมได้ 5. อธิบายการใช้ลิขสทิ ธใิ์ นธรุ กิจขนาดยอ่ มได้ 6. อธบิ ายเกีย่ วกบั องคค์ วามรภู้ ูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ไทยได้ 7. อธบิ ายลักษณะของธุรกิจขนาดย่อมตามประมวลรษั ฎากรได้ 8. อธบิ ายรปู แบบธรุ กจิ ขนาดยอ่ มตามประมวลรัษฎากรได้ 9. อธบิ ายเก่ยี วภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรได้ 10. บอกสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษีสาหรบั ธรุ กิจขนาดยอ่ มได้ 11. อธิบายเกี่ยวกับการลดอตั ราภาษีได้ 12. ผู้เรยี นมีความพยายามและความตง้ั ใจในการปฏบิ ตั ิงานจนสาเร็จ สมรรถนะรายหน่วย แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั กฎหมายและภาษีในการประกอบธรุ กิจขนาดกลางและขนาดย่อม รายวิชาทจ่ี ดั ควบคู่หรอื บูรณาการ ---- วธิ กี ารบูรณาการ ----

สาระการเรยี นรู้ 4. กฎหมายและภาษีเกยี่ วกบั ธุรกจิ ขนาดย่อม 4.1 พระราชบญั ญัตสิ ่งเสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 4.1.1 วตั ถุประสงค์ของการจัดต้งั สานักงานส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม 4.1.2 หนา้ ที่ของสานกั งานงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 4.1.3 การจดสิทธบิ ัตร/อนุสิทธิบัตรในธรุ กจิ ขนาดย่อม 4.1.4 การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 4.1.5 งานลิขสทิ ธิ์ในธรุ กิจขนาดย่อม 4.1.6 องค์ความรู้ภมู ิปญั ญาท้องถิ่นไทย 4.2 ภาษสี าหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม 4.2.1 ลกั ษณะของธรุ กิจขนาดยอ่ มตามประมวลรษั ฎากร 4.2.2 รปู แบบธุรกิจขนาดย่อมตามประมวลรัษฎากร 4.2.3 ภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากร 4.2.4 สทิ ธิประโยชน์ทางภาษีสาหรับธุรกจิ ขนาดยอ่ ม 4.2.5 การลดอัตราภาษี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ธรรมท่ีมุ่งเนน้ 16.พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคดิ วิเคราะหไ์ ด้เหมาะกบั วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ 17.มีเหตผุ ล ผูเ้ รยี นทางานตามทไี่ ด้รบั มอบหมายโดยคานึงถึงเหตแุ ละปัจจยั แวดล้อมทง้ั หมด เพื่อให้การ ดาเนนิ งานเป็นไปอย่างถกู ต้อง 18.รอบรู้ ผเู้ รยี นมคี วามรอบรเู้ กีย่ วกบั วิชาการตา่ งๆ ท่เี กี่ยวข้องอยา่ งรอบด้าน 19.รอบคอบ ผเู้ รียนมคี วามรอบคอบท่ีจะนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษาคน้ คว้า มาประยุกตใ์ ช้ในการเรียนไดอ้ ย่าง ถกู ต้องตามเกณฑท์ ่ีกาหนด 5. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต ผู้เรยี นมคี วามพยามยามที่จะเรยี นรแู้ ละปฏิบัตดิ ้วยตนเอง งานจนสาเรจ็ ตามเป้าหมาย นาปญั หาและอุปสรรค์ในการเรยี นการสอนมาปรบั ปรุงการเรียนการสอน ผู้เรยี นขาดทักษะด้านการศึกษาคน้ คว้าความรู้จากแหลง่ เรียนร้อู น่ื ๆ เช่น การอา่ นหนังสือพิมพ์ นิตยสารเกย่ี วกบั การตลาด ขา่ วสารจากอนิ เทอร์เนต็ เป็นตน้ กิจกรรมการเรียนการสอน (สัปดาห์ที่ 7 ชว่ั โมงท่ี 25-28) 1. ผ้สู อนทบทวนความรู้เดมิ ท่ีเรียนไปสปั ดาห์ท่ีแล้วเพ่ือเชื่อมโยงให้ผ้เู รียนเชื่อมโยงกบั เนือ้ หาใหมไ่ ด้งา่ ยขนึ ้ 2. ผ้สู อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจาหนว่ ยการเรียนท่ี 4 เรื่องกฎหมายสาหรับธุรกิจขนาดยอ่ ม 3. ผ้สู อนให้นกั ศกึ ษาชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็นรูปภาพ เคร่ืองหมายการค้าในธรุ กิจขนาดยอ่ ม 1) เคร่ืองหมายการค้า 2) เครื่องหมายบริการ

3) เครื่องหมายรับรอง 4) เครื่องหมายร่วม 4. ผ้สู อนเข้าสเู่ นือ้ หาโดยการเปิดคลิป VDO เร่ือง รู้ทนั ลขิ สิทธ์ิ ตอน ทาความรู้จกั กบั ลิขสิทธิ์ เพื่อเชื่อมโยงเนือ้ หาที่ จะเรียนในสปั ดาห์นี ้มี 3 ตอนดงั นี ้ 1) ตอนที่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4 2) ตอนท่ี 2 https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w 3) ตอนที่ 3 https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw 5. ผ้สู อนตงั้ คาถามให้ผ้เู รียนช่วยกนั แสดงความคิดเหน็ จาก คลปิ VDO 6. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนปฏิบตั กิ ิจกรรมเป็นรายบคุ คล โดยให้นง่ั แบบกลมุ่ ร่วมมือ กลมุ่ ๆ ละ 3-4 คน แบบเพื่อนชว่ ยเพื่อน 1) ให้ตอบคาถามลงในกระดาษที่แจกให้ ตามหวั ข้อดงั นี ้ 2) ความหมายของลขิ สิทธ์ิ (Copyright) 3) งานท่ีมีลขิ สทิ ธิ์ 4) งานที่ไมถ่ ือวา่ เป็นงานอนั มีลขิ สทิ ธ์ิ 5) การค้มุ ครองลิขสิทธ์ิ 7. ผ้สู อนคอยสงั เกตพฤตกิ รรมงานทางานกลมุ่ และชว่ ยเหลือให้คาแนะนา และข้อเสนอแนะเพ่มิ เป็นรายบคุ คล 8. ให้ผ้เู รียนสลบั กนั ตรวจกบั เพื่อ โดยผ้สู อนเฉลยคาตอบและอธิบายเพมิ่ เตมิ สรุปและทบวนเนือ้ หาอีกครัง้ 9. ผ้สู อนตรวจและประเมินผลงานอีกครัง้ 10. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนไปศกึ ษาหาข้อมลู เก่ียวกบั รูปแบบธรุ กิจขนาดยอ่ ม จาก Link เวบ็ ไซต์เก่ียวกบั ธรุ กิจ SMEs ได้แก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx http://www.thaifranchisecenter.com/home.php เทคนคิ วธิ ีการสอนท่ีนามาใช้ 1. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุม่ ทางาน เป็นวิธีสอนท่ีผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลมุ่ ร่วมมือ เป็นการจัดการเรยี นรู้โดยการผสมผสานระหวา่ งการเรียนรู้แบบกลุ่มและการสอนรายบคุ คล โดยใหผ้ ้เู รียนไดล้ งมือทา กจิ กรรมในการเรยี นได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลมุ่ มีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ซงึ่ กนั และกนั เนน้ การมปี ฏิสัมพนั ธซ์ ่ึงกนั และกนั ระหว่างผ้เู รยี นกบั ผเู้ รียน 4. วิธสี อนแบบใชค้ าถาม ผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ท่ีเป็นคาถามทด่ี ี สามารถพฒั นาความคดิ ผเู้ รียน ถามเพอื่ ใหผ้ ้เู รียนใช้ความคดิ เชงิ เหตุผล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สงั เคราะห์ หรอื การประเมินค่าเพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ น้ัน

5. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง การแบง่ นักเรยี นเปน็ กลุ่มย่อย ผสู้ อนและผู้เรยี นเรยี นร่วมกันกาหนดปัญหาในการระดมพลงั สมองโดยใชเ้ วลาส้นั ๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชกิ ในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ซึง่ ความคดิ เหน็ ไม่มีการตานวิ ่า “ถกู ” หรอื ”ผิด” จากนนั้ ผแู้ ทนกลุ่มนามารายงานให้กลมุ่ ใหญ่ในชน้ั เรยี นทราบผลการระดมพลงั สมอง สือ่ การเรยี นการสอนและแหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อสง่ิ พมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรียนวิชาการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม 2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลิป VDO 3. สอื่ เทคโนโลยขี ั้นสูง ได้แก่ PowerPoint 4. อินเทอร์เนต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups ตอนท่ี 1 https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4 ตอนท่ี 2 https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w ตอนท่ี 3 https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw การวดั ประเมินผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ประเมินจากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรียนมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นร้อยละ 70 ขึ้นไป ส่วนร่วมของผ้เู รียนเป็นรายบุคคล 2. การสุ่มเรียกถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกนิ ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพใบงาน คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกลุม่ 4. เกณฑต์ ัดสนิ คุณภาพกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอ้างองิ /เวบ็ ไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพญ็ ศรี เลศิ เกียรตวิ ทิ ยา. การดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. เพ็ญศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พศ์ ูนย์ สง่ เสรมิ วิชาการ 3. https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4 https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx http://www.thaifranchisecenter.com/home.php

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาหท์ ่ี 9 ชวั่ โมงท่ี 33-36) 1. ผสู้ อนชี้แจ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ตั ิงานของผ้เู รยี น 2. ผู้สอนทบทวนความรเู้ ดิมใหก้ ับผเู้ รยี น โดยการถาม-ตอบก่อนทจี่ ะเรม่ิ เรยี นหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint 3. ประกอบการสอน 4. ผ้สู อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนรปู้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เร่อื งภาษีสาหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม 5. มอบหมายใบงานท่ี 4 ให้ผ้เู รียนจับคู่ 2 คน แลว้ ชว่ ยกันศึกษาเกย่ี วแบบฟอรม์ การชาระภาษี นาแบบฟอรม์ การเสยี 6. ภาษสี าหรับธุรกจิ แต่ละประเภทมาประกอบการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ Download แบบฟอร์มจาก 7. http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444 หรือจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ 8. เกยี่ วขอ้ งกไ็ ด้ มีหัวขอ้ ดังนี้ 9. แบบฟอร์มเอกสาร สาหรับบริษทั จากดั 10. แบบฟอร์มเอกสาร สาหรบั หา้ งหนุ้ สว่ นจากดั 11. แบบฟอร์มเอกสาร รา้ นค้า-ทะเบียนพาณิชย์ 12. แบบฟอรม์ เอกสาร การจดทะเบียนเลกิ บรษิ ทั ฯ-หา้ งหนุ้ สว่ นฯ 13. แบบฟอรม์ เอกสาร การจดทะเบียนธรุ กจิ ของ บรษิ ัทต่างด้าว 14. ให้สมมุตติ นเองวา่ เป็นผปู้ ระกอบการธรุ กจิ SMEs ประเภทใดก็ได้และกรอกข้อมูลลงในเอกสารตัวอย่าง 15. ให้สรปุ ว่ามตี ้องเตรยี มข้อมลู อะไรบ้างในกรอกแบบฟอร์มการชาระภาษสี าหรบั ธุรกิจประเภทต่าง ๆ มาโดย รายละเอยี ด 16. ผู้สอนคอยสังเกตพฤติกรรมงานทางานกลุ่มและชว่ ยเหลอื ให้คาแนะนา และข้อเสนอแนะเพิ่มเป็นรายบุคคล 17. ใหผ้ เู้ รยี นตรวจผลงานของดว้ ยเองด้วยความซื้อสตั ย์ โดยผสู้ อนเฉลยคาตอบและอธิบายเพ่ิมเตมิ สรปุ และทบวน เนอื้ หาให้อีกคร้ัง 18. ผูส้ อนตรวจและประเมินผลงานอีกคร้ัง 19. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนไปศึกษาหาข้อมลู เกี่ยวกบั รปู แบบธุรกจิ ขนาดย่อม จาก Link เว็บไซตเ์ กย่ี วกบั ธุรกิจ SMEs ได้แก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx http://www.thaifranchisecenter.com/home.php เทคนิควิธีการสอนท่นี ามาใช้ 1. วธิ สี อนแบบแบ่งกลมุ่ ทางาน เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลุ่มร่วมมอื เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานระหวา่ งการเรียนรู้แบบกลุ่มและการสอนรายบุคคล โดยใหผ้ ู้เรยี นได้ลงมอื ทา กจิ กรรมในการเรียนไดด้ ว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลุ่มมีการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ซง่ึ กนั และกัน เน้นการมปี ฏสิ มั พนั ธซ์ ึ่งกันและกันระหวา่ งผูเ้ รยี นกับผเู้ รยี น

สื่อการเรยี นการสอนและแหล่งการเรยี นรู้ 1. สอ่ื ส่งิ พิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรียนวชิ าการดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม 2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ 3. สอ่ื เทคโนโลยขี น้ั สูง ได้แก่ PowerPoint 4. อนิ เทอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444 การวดั ประเมินผล เกณฑ์การประเมินผล 1. ประเมินจากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นร้อยละ 70 ข้นึ ไป ส่วนรว่ มของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล 2. การสมุ่ เรียกถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกินร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตดั สนิ คณุ ภาพใบงาน คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. ประเมินผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม 4. เกณฑ์ตัดสนิ คุณภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอ้างองิ /เวบ็ ไซต์ 1. สฏิ ฐากร ชูทรพั ย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวทิ ยา. การดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวตั ิ. การดาเนินธรุ กจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์ สง่ เสรมิ วิชาการ 3. http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444

วิชา การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม ใบงานท่ี 4 ระดบั ปวช.ปที ี่ 3 10 คะแนน รหสั วชิ า 2202-2003 หน่วยเรียนท่ี 4 ชือ่ หน่วย กฎหมายและภาษีเก่ียวกับธุรกิจขนาดยอ่ ม วันทม่ี อบหมายงาน…………./…………/………. สง่ วนั ที่…………./…………/………. คาส่ัง 1. ให้นกั ศึกษานาแบบฟอร์มการเสียภาษสี าหรับธรุ กิจแต่ละประเภทมาประกอบการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ดงั นี้ 1) แบบฟอร์มเอกสาร สาหรับบริษัทจากดั 2) แบบฟอร์มเอกสาร สาหรับหา้ งหนุ้ ส่วนจากดั 3) แบบฟอรม์ เอกสาร ร้านคา้ -ทะเบียนพาณชิ ย์ 4) แบบฟอรม์ เอกสาร การจดทะเบยี นเลกิ บริษัทฯ-ห้างหุน้ สว่ นฯ 5) แบบฟอร์มเอกสาร การจดทะเบียนธรุ กจิ ของ บรษิ ทั ต่างด้าว 2. ให้ศกึ ษาเก่ียวกบั เอกสารเพื่อกรอกขอ้ มูลลงในในแบบฟอร์มทนี่ ามา 3. ให้สมมตุ ติ นเองวา่ เปน็ ผปู้ ระกอบการ และกรอกขอ้ มูลลงในเอกสารตัวอย่าง 4. ใหส้ รุปสาระเกีย่ วกับการชาระภาษสี าหรับธรุ กจิ ประเภทต่าง ๆ มาโดยรายละเอยี ด

แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบฐานสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 ชื่อวิชา การดาเนินธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม รหัสวิชา 2202-2003 สอนสปั ดาห์ท่ี 10-11 ชอ่ื หน่วย ทาเลทต่ี ้ังและแหลง่ เงนิ ทุนสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม ช่วั โมงรวม 8 ชั่วโมง ระดบั ปวช.3 ชอ่ื ผูส้ อน อาจารย์ณัฐชญาภรณ์ มันทรา จานวน 4 ชง่ั โมง/สปั ดาห์ สาระสาคัญ ทาลที่ตั้ง เป็นสถานที่ที่จะใช้เป็นแหล่งผลิตหรือจาหน่ายสินค้าหรือบริการของสถานประกอบการ ซึ่งในการเลือก ทาเลที่ตง้ั ท่ีเหมาะสมจะทาใหธ้ ุรกจิ ประสบผลสาเรจ็ หรือล้มเหลวได้ ดังนั้น การเลือกทาเลท่ีต้งั สาหรับธุรกจิ ขนาดย่อม จึงเป็น การตัดสินใจท่ีมีความสาคัญ ในการที่จะทาธุรกิจนั้นเข้าถึงลูกค้าได้โดยง่าย รวมทั้งปัจจัยอ่ืน ๆ ที่ควรนามาพิจารณาเลือก ทาเลที่ต้งั ให้เหมาะสม เงินทุนถือเป็นปัจจัยหลักของการประกอบกิจการ เพ่ืออานวยความสะดวกสาหรับผู้ประกอบแหล่งเงินทุนที่ ผู้ประกอบการสามารถขอกู้ท้ังภาครัฐ เอกชน และแหล่งเงินทุนอื่นๆ โดยท่ัวไปแล้วธุรกิจขนาดย่อมมักจะเริ่มต้นด้วยเงินทุน จากเจา้ ของกิจการ และเม่อื กิจการดาเนนิ ไปไดร้ ะยะเวลาหนงึ่ ก็จะขยายธุรกิจ โดยแสวงหาแหลง่ เงนิ ทุนทใี่ ชใ้ นการขยายธรุ กิจ โดยอาจต้องใช้วิธีเพ่ิมทุนจากสมาชิกท่ีร่วมลงทุนหรืออาจต้องกู้ยืมญาติพ่ีน้องในครอบครัวหรือเพ่ือนฝูง หรือกู้ยืมจากแหล่ง ภายนอก ซงึ่ ผู้ประกอบการตอ้ งทาความเขา้ ใจในรายละเอยี ดของแหลง่ เงนิ กูแ้ ต่ละแหง่ และแต่ละรปู แบบใหเ้ หมาะสมกับธรุ กิจ ของตนเองตอ่ ไป จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1. รแู้ ละเข้าใจเกย่ี วกบั การเลอื กทาเลที่ตง้ั สาหรับธุรกจิ ขนาดย่อม 2. รแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแหลง่ ท่มี าของเงินทุนสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายและความสาคญั ของทาเลที่ตั้งได้ 2. บอกรูปแบบทาเลทีต่ ้ังของธุรกิจขนาดย่อมได้ 3. วิเคราะห์ปัจจยั ในการเลือกทาเลทตี่ งั้ ธุรกิจขนาดย่อมได้ 4. อธบิ ายหลกั ในการเลอื กทาเลท่ีตง้ั ธุรกิจขนาดย่อมได้ 5. อธิบายการคัดเลือกแหล่งเงนิ ทนุ ได้ 6. อธบิ ายฐานะทางการเงินของธุรกิจได้ 7. อธบิ ายความสามารถในการชาระหนี้ได้ 8. อธบิ ายการนาเสนอคาขอเพ่ือใหไ้ ด้เงนิ ทุนได้ 9. ผเู้ รียนมคี วามพยายามและความต้ังใจในการปฏบิ ตั งิ านจนสาเร็จ สมรรถนะรายหน่วย - วิเคราะหป์ จั จยั ในการเลือกทาเลที่ตั้งใหเ้ หมาะสมกับธุรกิจขนาดยอ่ ม - วเิ คราะห์แหล่งทีม่ าของเงนิ ทุนสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม รายวชิ าทจ่ี ัดควบคู่หรือบรู ณาการ ---- วธิ กี ารบรู ณาการ ----

สาระการเรียนรู้ 5. ทาเลท่ตี ง้ั และแหลง่ เงินทนุ สาหรบั ธรุ กิจขนาดยอ่ ม 5.1 การเลอื กทาเลที่ตั้งสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 5.1.1 ความหมายและความสาคญั ของทาเลทต่ี ั้ง 5.1.2 รปู แบบทาเลที่ตง้ั ของธุรกิจขนาดย่อม 5.1.3 ปจั จัยในการเลือกทาเลทีต่ ัง้ ธรุ กิจขนาดย่อม 5.1.4 หลักในการเลอื กทาเลที่ตั้งธรุ กิจขนาดย่อม 5.2 การจัดหาแหล่งเงนิ ทนุ สาหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม 5.2.1 การคดั เลอื กแหลง่ เงินทุน 5.2.2 ฐานะทางการเงินของธุรกิจ 5.2.3 ความสามารถในการชาระหน้ี 5.2.4 การนาเสนอคาขอเพ่ือใหไ้ ดเ้ งินทุน ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณธรรมท่มี ุ่งเน้น พอประมาณ ผเู้ รียนสามารถคดิ วเิ คราะห์ได้เหมาะกับวตั ถุประสงค์การเรียนรู้ มเี หตุผล ผูเ้ รยี นทางานตามทไ่ี ด้รับมอบหมายโดยคานึงถึงเหตแุ ละปัจจยั แวดล้อมทัง้ หมด เพื่อให้การ ดาเนนิ งานเป็นไปอย่างถูกต้อง ขยัน อดทน ผ้เู รยี นมีความตงั้ ใจในการทางาน ไม่ละเลย ไมท่ อดทงิ้ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย จนทาให้ประสบ ผลสาเร็จในท่สี ุด รอบรู้ ผูเ้ รียนมีความรอบรู้เกีย่ วกบั วิชาการตา่ งๆ ท่เี กี่ยวขอ้ งอย่างรอบดา้ น รอบคอบ ผู้เรยี นมีความรอบคอบทจี่ ะนาความรทู้ ไ่ี ด้จากการศึกษาค้นควา้ มาประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนได้ อยา่ งถูกต้องตามเกณฑท์ ่ีกาหนด นาปญั หาและอุปสรรคใ์ นการเรยี นการสอนมาปรับปรุงการเรียนการสอน ผู้เรยี นยงั ขาดทักษะการในการนาเสนองานและทกั ษะการคิด ดังนั้นผสู้ อนจงึ กระต้นุ โดยใช้แรงจูงใจใหผ้ ู้เรยี นสนใจ และให้ผู้เรยี นได้มโี อกาสเรยี นรู้และค้นคว้าจากแหลง่ เรยี นรู้อื่นๆ กิจกรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาห์ที่ 10 ชั่วโมงที่ 37-40) 5. ผู้สอนช้ีแจ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ตั ิงานของผูเ้ รียน 6. ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมให้กับผู้เรยี น โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเรมิ่ เรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน - ผู้สอนแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ประจาหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื งการเลือกทาเลทตี่ ง้ั สาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม 7. ผสู้ อนเข้าสู่เนอื้ หาเรยี นโดยเปิด Clip VDO เรือ่ ง 4 ปจั จัยสาคัญในการเลือกทาเลท่ดี ี https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE 8. ผู้สอนตง้ั คาถามปลายเปิดใหผ้ ู้เรยี นได้แสดงความคิดเหน็ จากการดู Clip VDO แลว้ ใส่ในกระดาษท่ีแจกใหค้ นละ 1 คาตอบ 9. ผู้สอนกับผูเ้ รยี นช่วยกันตรวจคาตอบว่ามีคาตอบวา่ ใดถูกต้องบ้าง โดยผู้สอนจะสรุปเนอื้ หาให้อกี คร้งั เพ่อื เช่ือมโยง เน้อื หาเข้ากิจกรรมการปฏิบตั ิงาน

10. ใหผ้ ู้เรียนแบ่งกลุม่ ๆ ละ 4 คน ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ใบงานท่ี 5.1 ให้ชว่ ยกันระดมสมองเพ่ือวเิ คราะห์ทาเลท่ีตัง้ จากรปู ภาพ และตอบคาถามให้ถกู ต้อง ดงั น้ี รูปภาพที่ 1 ทาเลทตี่ ้ังของ “ตลาดโบ๊เบ๊” รูปภาพท่ี 2 ทาเลทต่ี ง้ั ของ “โรงหนังเมเจอร์ สาขารชั โยธิน” คาถามมดี ังน้ี 1) รูปแบบทาเลทต่ี ั้งของธรุ กจิ ขนาดย่อมเป็นอย่างไร 2) ปัจจยั ในการเลือกทาเลทต่ี ั้งธุรกิจขนาดย่อมเปน็ อย่างไร 3) หลกั ในการเลือกทาเลท่ตี ้งั ธรุ กิจขนาดย่อมมีอะไรบ้าง จงอธบิ าย - ใหผ้ ู้เรยี นสลบั กันตรวจระหวา่ งเพอ่ื นในด้วยกัน และให้ชว่ ยกนั พิจารณาและคดั เลือก ผลงานที่ดีทสี่ ุด 2-3 ผลงาน เพื่อออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรียน - เปิดโอกาสใหเ้ พอ่ื นในห้องเรยี นซักถามข้อสงสยั - ผสู้ อนเฉลยคาตอบ ตรวจประเมินผลงาน และสรปุ ทบวนเน้ือหาแบบภาพรวมอีกคร้ัง - ใหผ้ เู้ รียน Download ใบมอบหมายงาน ลว่ งหน้า ไดจ้ าก www.facebook.com/#!/groups/998756883491606/ - ผสู้ อนมอบหมายให้ผเู้ รียนเตรียมข้อมลู ทางการตลาดจากส่ือประเภทต่าง ๆ เชน่ หนงั สอื พมิ พ์ธุรกจิ นิตยสาร วารสาร ธุรกจิ เป็นตน้ เทคนคิ วธิ ีการสอนทีน่ ามาใช้ 1. วธิ สี อนแบบระดมพลังสมอง เป็นวิธสี อนท่คี รูแบ่งนักเรียนเปน็ กลมุ่ ย่อย ครูและนักเรยี นร่วมกันกาหนดปญั หาในการระดมพลงั สมองโดยใช้เวลา สน้ั ๆ ประมาณ 10-15 นาที ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ แสดงความคิดเหน็ ซง่ึ ความคิดเหน็ ไม่มกี ารตานวิ า่ “ถูก” หรอื ”ผดิ ” จากน้ันผู้แทนกลุ่มนามารายงานให้กล่มุ ใหญ่ในชน้ั เรียนทราบผลการระดมพลงั สมอง 2. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุม่ ทางาน เป็นวิธีสอนที่ผูส้ อนมอบหมายใหน้ ักเรยี นทางานร่วมกันเป็นกลุม่ ร่วมมอื กนั ศึกษาคน้ คว้าหาวิธีการแก้ปญั หาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ เป็นการฝกึ ให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวถิ ีแห่ง ประชาธิปไตย 3. วิธสี อนแบบใชค้ าถาม เปน็ กระบวนการเรียนรู้ที่มงุ่ พัฒนากระบวนการทางความคิดของผเู้ รยี น โดยผ้สู อนจะปอ้ นคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ทเี่ ป็นคาถามท่ดี ี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรียน ถามเพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นใชค้ วามคิด เชิงเหตุผล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรอื การประเมนิ คา่ เพื่อจะตอบคาถามเหล่านน้ั 4. วธิ ีการสอนโดยใช้กรณตี ัวอย่าง (Case) การใหผ้ ู้เรียนศึกษาเรื่องท่สี มมติข้นึ จากความเปน็ จริง และตอบประเดน็ คาถามเกีย่ วกบั เรอ่ื งนั้น แลว้ นาคาตอบและ เหตผุ ลทีม่ าของคาตอบน้นั มาใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลในการอภิปราย เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้

ส่ือการเรยี นการสอนและแหลง่ การเรียนรู้ 1. ส่ือส่งิ พิมพ์ ได้แก่ หนังสือเรียนวชิ าการดาเนินธรุ กจิ ขนาดย่อม, ใบงาน 2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลปิ VDO 3. ส่ือเทคโนโลยีขน้ั สูง ได้แก่ PowerPoint 4. อินเทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE (4 ปัจจัยสาคญั ในการเลือกทาเลทด่ี ี) การวัดประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมินผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสงั เกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป ส่วนร่วมของผ้เู รียนเป็นรายบุคคล 2. การสุ่มเรียกถาม-ตอบ เป็นรายบุคคล 2. ผู้เรียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกนิ ร้อยละ 80 ขึ้นไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ัดสนิ คุณภาพใบงาน 4. ประเมินผลจากการทากจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. เกณฑต์ ดั สินคณุ ภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอ้างอิง/เวบ็ ไซต์ 1. สิฏฐากร ชูทรัพย์ และ เพญ็ ศรี เลิศเกียรตวิ ิทยา. การดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ เอมพันธ์ จากัด 2. เพ็ญศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ ศนู ย์ส่งเสรมิ วชิ าการ 3. https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE (4 ปจั จัยสาคญั ในการเลือกทาเลทดี่ ี) กจิ กรรมการเรียนการสอน (สปั ดาห์ที่ 11 ชัว่ โมงท่ี 41-44) - ผู้สอนชแ้ี จง้ เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏิบัติงานของผ้เู รยี น - ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมใหก้ ับผูเ้ รยี น โดยการถาม-ตอบให้ผเู้ รยี นชว่ ยกันตอบและแสดงความคิดเหน็ ก่อนที่จะเริม่ เรยี นหวั ขอ้ ใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน - ผู้สอนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรูป้ ระจาหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เร่อื งการเลือกทาเลทตี่ ง้ั สาหรบั ธรุ กจิ ขนาดย่อม - ผู้สอนบรรยายเนอื้ หาเพื่อสอื่ ความหมายสาระสาคญั ของเนอื้ หาให้เข้าใจยิง่ ขึน้ ซึ่งเนื้อหาทศี่ ึกษาตามหัวข้อดังน้ี 1. แหล่งเงนิ ทุนสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 2. กระบวนการจดั หาเงินทนุ

- ผู้สอนเปดิ กรณีตัวอย่างรูปภาพ Logo สถาบันการเงนิ ทีเ่ ปน็ หน่วยงานของรัฐบาลและสถาบันการเงินเฉพาะกจิ ท่ี สนบั สนนุ ดา้ นการเงินให้แกธ่ รุ กิจขนาดย่อม - ผู้สอนตัง้ คาถามใหผ้ ู้เรยี นชว่ ยกันวา่ แต่ละสถาบนั การเงนิ มีหน้าท่อี ยา่ งไรบ้าง - ผู้สอนสรุปเนือ้ หา และเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดซ้ ักถามข้อสงสัย - มอบหมายใบงานที่ 5.2 ใหผ้ ู้เรียน แบ่งกล่มุ ๆ ละ 4 คน ช่วยกันระดมสมองและร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เพื่อตอบ คาถาม ดังนี้ 1. ในการลงทุนต้องคานึงถงึ สิ่งใดเป็นสาคญั 2. กอ่ นการลงทนุ เราควรเตรียมตัวอย่างไร - เปิดโอกาสให้แต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนขอ้ มลู กนั ได้ หรอื ซักถามขอ้ สงสยั แบบเพื่อชว่ ยเพื่อนได้ - ผสู้ อนเฉลยและสรปุ ใหข้ ้อเสนอแนะและอธิบายเพ่ิมเติมอกี ครั้ง และเปิดโอกาสใหซ้ ักถามข้อสงสยั อกี ครั้ง - ผู้สอนตรวจประเมนิ และเฉลยคาตอบ - ให้ผเู้ รยี นไปศกึ ษา ค้นควา้ ขอ้ มูลเพิม่ เติม จาก www.smebank.co.th/ - เทคนคิ วิธีการสอนท่นี ามาใช้ 1. วิธีสอนแบบระดมพลังสมอง เป็นวธิ ีสอนที่ครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลุ่มยอ่ ย ครูและนักเรยี นร่วมกันกาหนดปัญหาในการระดมพลังสมองโดยใชเ้ วลา ส้ันๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเหน็ ซ่งึ ความคดิ เห็นไม่มีการตานิว่า “ถูก” หรือ ”ผดิ ” จากนน้ั ผ้แู ทนกลุ่มนามารายงานใหก้ ลมุ่ ใหญ่ในช้นั เรยี นทราบผลการระดมพลงั สมอง 2. วิธสี อนแบบแบ่งกลุ่มทางาน เป็นวิธสี อนที่ผู้สอนมอบหมายใหน้ ักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลมุ่ รว่ มมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธกี ารแกป้ ญั หาหรือ ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ เปน็ การฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นทางานรว่ มกนั ตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 3. วธิ สี อนแบบใชค้ าถาม เปน็ กระบวนการเรยี นรู้ท่มี ุ่งพัฒนากระบวนการทางความคิดของผูเ้ รียน โดยผสู้ อนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ท่ีเป็นคาถามที่ดี สามารถพัฒนาความคดิ ผู้เรียน ถามเพ่ือให้ผู้เรยี นใชค้ วามคดิ เชงิ เหตผุ ล วเิ คราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรอื การประเมนิ คา่ เพื่อจะตอบคาถามเหล่าน้นั 4. วิธกี ารสอนโดยใชก้ รณีตัวอยา่ ง(Case) การให้ผเู้ รียนศกึ ษาเร่ืองท่ีสมมติขึ้นจากความเปน็ จริง และตอบประเด็นคาถามเกยี่ วกบั เรื่องน้ัน แลว้ นาคาตอบและ เหตุผลท่ีมาของคาตอบนน้ั มาใช้เป็นขอ้ มลู ในการอภปิ ราย เพื่อใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้

สือ่ การเรยี นการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สื่อสง่ิ พมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรียนวชิ าการดาเนินธุรกิจขนาดย่อม, ใบงาน 2. โสตทศั น์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์ 3. ส่ือเทคโนโลยขี ้ันสูง ได้แก่ PowerPoint 4. อินเทอรเ์ นต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups การวัดประเมนิ ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนร้อยละ 70 ขน้ึ ไป สว่ นรว่ มของผู้เรยี นเป็นรายบุคคล 2. การส่มุ เรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกตอ้ งเกนิ ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป 3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสนิ คุณภาพใบงาน 4. ประเมินผลจากการทากจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง เอกสารอ้างองิ /เวบ็ ไซต์ 1. สฏิ ฐากร ชูทรัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกียรตวิ ิทยา. การดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ เอมพันธ์ จากัด 2. เพ็ญศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวตั ิ. การดาเนินธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พ์ศูนย์ ส่งเสริมวชิ าการ

วิชา การดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม ใบงานที่ 5.1 ระดับ ปวช. 3 10 คะแนน การตลาด รหสั วิชา 2202-2003 หน่วยเรยี นที่ 5 ชอ่ื หน่วย ทาเลทตี่ ั้งสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม คาส่ัง ใหน้ กั ศึกษาวเิ คราะห์ทาเลทต่ี ง้ั จากรูปภาพท่กี าหนดให้ ดงั น้ี รูปภาพท่ี 1 รปู ภาพที่ 1 ทาเลท่ตี ้งั ของ “ตลาดโบเ๊ บ๊” ทาเลที่ตง้ั ของ “โรงหนังเมเจอร์ สาขารชั โยธิน” คาถามสาหรบั ตอบรปู ภาพที่ 1 และ 2 1) รปู แบบทาเลที่ต้ังของธุรกจิ ขนาดย่อมเปน็ อย่างไร 2) ปจั จัยในการเลือกทาเลทีต่ ้ังธุรกจิ ขนาดย่อมเป็นอย่างไร 3) หลกั ในการเลือกทาเลทีต่ ้งั ธรุ กจิ ขนาดย่อมมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย

วิชา การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม ใบงานที่ 5.2 ระดับ ปวช. 3 10 คะแนน การตลาด รหัสวิชา 2202-2003 หนว่ ยเรยี นท่ี 5 ชื่อหน่วย แหลง่ เงนิ ทุนสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม คาส่งั ให้แบง่ กลุ่มๆ ละ 4 คน ช่วยกนั ระดมสมองและรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น เพ่ือตอบคาถาม ดังน้ี 1. ในการลงทุนต้องคานึงถึงส่ิงใดเป็นสาคัญ 2. ก่อนการลงทุน เราควรเตรียมตวั อยา่ งไร

ตง้ั แตข่ ้อ 3-7 ใหเ้ ลอื กระดับความเส่ียงในการลงทนุ 1 = ความเสี่ยงนอ้ ย 2=ความเสย่ี งปานกลาง 3=ความเสีย่ งมาก 3. บญั ชีเงินฝากออมทรพั ย์ เป็นการฝากเงนิ ไวก้ ับธนาคารโดยผู้ฝากจะได้รับดอกเบ้ยี เปน็ การตอบแทน ท้ังนี้อัตรา ดอกเบ้ียอาจไมส่ ูงมากนกั เม่ือเทียบกบั ประเภทอืน่ ๆ ขอ้ ดีคือไมจ่ าเปน็ ต้องใชเ้ งนิ มากในการเปิดบัญชแี ละสามารถถอนเงินคืน เมือ่ ใดก็ได้ตามต้องการ ความเสย่ี งทางการเงนิ 123 ความเสี่ยงจากการตลาด 123 ความเสย่ี งด้านสภาพคลอ่ ง 123 ความเสี่ยงจากเงนิ เฟ้อ 123 ผลตอบแทน 123 4. บัญชีเงินฝากประจา ผฝู้ ากเงนิ จะต้องฝากเงนิ ไวใ้ นบัญชี โดยมเี งนิ ขัน้ ต่าในบญั ชี (500-1,000 บาทแลว้ แต่กรณ)ี เปน็ เวลานานตามระยะเวลาที่กาหนดไว้จึงได้รบั ดอกเบี้ย ท้งั นหี้ ากต้องการถอนเงนิ ออกมาก่อนระยะเวลาท่ีกาหนดจะไม่ไดร้ ับ ดอกเบ้ียตามท่ีกาหนด ความเสี่ยงทางการเงนิ 123 ความเสย่ี งจากการตลาด 123 ความเสี่ยงดา้ นสภาพคล่อง 123 ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ 123 ผลตอบแทน 123 5. หนุ้ หุ้นแสดงการมสี ว่ นร่วมในการเปน็ เจ้าของกิจการร่วมกันดังนน้ั เมื่อซ้ือหุน้ สง่ิ ที่เราต้องยอมรบั นัน่ คือความ เสย่ี งที่เพม่ิ ขึ้น เมื่อเทยี บกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ผลตอบแทนที่ได้รบั น้นั ก็จะไม่แนน่ อนข้นึ อยกู่ ับส่วนต่างราคาหุ้นที่เราซื้อ กบั เงนิ ปนั ผลท่จี ะได้รบั ความเส่ียงทางการเงนิ 123 ความเสย่ี งจากการตลาด 123 ความเสีย่ งดา้ นสภาพคล่อง 123 ความเสี่ยงจากเงนิ เฟ้อ 123 ผลตอบแทน 123

6. พันธบตั รรัฐบาล ในประเทศไทย กระทรวงการคลัง โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผุ้ออกพนั ธบตั รขายให้ ประชาชน ซงึ่ พันธบัตรท่ีออกโดยรฐั บาลนน้ั ประชาชนสามารถขายก่อนครบกาหนดได้ โดยผซู้ อื้ จะหักสว่ นลดไป ความเสี่ยงทางการเงนิ 123 ความเสย่ี งจากการตลาด 123 ความเสยี่ งดา้ นสภาพคลอ่ ง 123 ความเสีย่ งจากเงินเฟ้อ 123 ผลตอบแทน 123 7. อสังหารมิ ทรัพย์ โดยปกติราคาบ้านและที่ดนิ จะสงู ขึ้นทุกปี จงึ มกี ารซ้อื เพ่อื ทีจ่ ะเกง็ กาไรไว้ ท้งั น้ีกาไรขึ้นอยู่กบั สภาพเศรษฐกจิ ดว้ ย เชน่ บางครงั้ ราคาท่ีดินจะเพ่มิ ข้นึ น้อยกว่าอัตราเงนิ เฟ้อ การท่จี ะขายอสังหารมิ ทรัพยไ์ ดน้ ัน้ จะต้องหาผู้ ซื้อท่ีมีความต้องการตรงกบั สิง่ ทีเ่ รามี ซึ่งปัจจุบนั จะมีนายหน้าคอยให้บริการจดั หาผ้ซู ้ือผขู้ าย ความเสย่ี งทางการเงนิ 123 ความเสีย่ งจากการตลาด 123 ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง 123 ความเสย่ี งจากเงนิ เฟ้อ 123 ผลตอบแทน 123

แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบฐานสมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชือ่ วิชา การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม รหสั วชิ า 2202-2003 สอนสปั ดาห์ท่ี 12-14 ชื่อหน่วย การตลาดสาหรบั ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม ช่วั โมงรวม 12 ช่ัวโมง ระดบั ปวช.3 ชอื่ ผู้สอน อาจารย์ณัฐชญาภรณ์ มันทรา จานวน 4 ชัง่ โมง/สัปดาห์ สาระสาคญั การดาเนินธุรกิจในปัจจุบัน หากขาดความรู้และความเข้าใจด้านการตลาดอาจทาให้กิจการเกิดความผิดพลาดได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดยอ่ ม ซ่งึ มีการเปิดตัวธรุ กิจใหม่เพิ่มมากข้ึน ดังนั้นผู้ประกอบการจาเป็นจะต้องมคี วามรู้เร่ือง “การตลาด สาหรับธุรกิจขนาดย่อม” เพ่ือใช้ในการวางแผนการดาเนินงาน และพัฒนาปรับปรุงธุรกิจให้สามารถสร้างความสาเร็จได้ โดย การเขียนแผนการตลาดสาหรบั การดาเนินธุรกิจข้ึนใชเ้ ป็นแนวทางในการบรหิ ารธุรกจิ ขนาดย่อมต่อไป จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ทวั่ ไป 1. รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาดสาหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม 2. รู้และเข้าใจเกย่ี วกับการแข่งขนั ในตลาดธรุ กิจขนาดยอ่ ม 3. รู้และเขา้ ใจเกย่ี วกบั แผนการตลาดสาหรบั ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. กาหนดกลยทุ ธ์ผลิตภณั ฑ์สาหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ มได้ 2. กาหนดกลยุทธ์ราคาสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อมได้ 3. กาหนดกลยทุ ธ์การจัดจาหนา่ ยสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ มได้ 4. กาหนดกลยุทธ์การสง่ เสริมการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อมได้ 5. วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มการแขง่ ขัน โดยใช้หลัก Five Force Model ได้ 6. กาหนดแนวทางการปรับปรุงเพือ่ เพิม่ ขดี ความสามารถการแข่งขันได้ 7. บอกองคป์ ระกอบของแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อมได้ 8. เขียนแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อมได้ 9. ผเู้ รียนมคี วามพยายามและความต้ังใจในการปฏบิ ตั ิงานจนสาเรจ็ สมรรถนะรายหน่วย กาหนดกลยุทธก์ ารตลาดและวเิ คราะห์ค่แู ข่งขนั เพื่อวางแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม รายวชิ าที่จัดควบคู่หรอื บรู ณาการ --- วิธีการบรู ณาการ ---

สาระการเรียนรู้ 6. การตลาดสาหรับธุรกจิ ขนาดยอ่ ม 6.2 สว่ นประสมทางการตลาด 6.2.1 สินคา้ หรอื ผลิตภณั ฑ์ (Product) 6.2.2 ราคา (Price) 6.2.3 การจดั จาหน่าย (Place) 6.2.4 การส่งเสริมการตลาด (Promotion) 6.3 การแข่งขันในตลาดธรุ กจิ ขนาดย่อม 6.3.1 การวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมการแข่งขัน โดยใช้หลกั Five Force Model 6.3.2 แนวทางการปรับปรงุ เพือ่ เพม่ิ ขดี ความสามารถการแขง่ ขนั 6.3.3 แนวทางการตลาดท่สี ามารถนามาปรบั ใช้ 6.4 แผนการตลาดสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม 6.4.1 องคป์ ระกอบของแผนการตลาด 6.4.2 การเขยี นแผนการตลาด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ธรรมท่ีมุ่งเนน้ 20.พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคดิ วเิ คราะหไ์ ด้เหมาะกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ 21.มีเหตุผล ผู้เรียนทางานตามท่ีไดร้ บั มอบหมายโดยคานงึ ถึงเหตุและปจั จัยแวดล้อมท้งั หมด เพื่อใหก้ าร ดาเนินงานเป็นไปอย่างถกู ต้อง 22.ขยัน อดทน ผู้เรียนมีความตงั้ ใจในการทางาน ไม่ละเลย ไมท่ อดทง้ิ งานท่ีได้รับมอบหมาย จนทาใหป้ ระสบ ผลสาเรจ็ ในทสี่ ดุ 23.รอบรู้ ผู้เรียนมีความรอบรู้เกยี่ วกับวิชาการต่างๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งอยา่ งรอบดา้ น 24.รอบคอบ ผู้เรียนมคี วามรอบคอบท่จี ะนาความร้ทู ไ่ี ด้จากการศึกษาค้นควา้ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนได้อย่าง ถูกต้องตามเกณฑท์ ี่กาหนด นาปญั หาและอุปสรรค์ในการเรยี นการสอนมาปรบั ปรุงการเรียนการสอน ผู้เรียน (บางส่วน) ยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมการเรียน เช่น การแสดงความคิดเห็น การตอบคาถาม ผู้สอนต้องเสริมแรง ทางบวกและกระตนุ้ ให้ผู้เรียนกล้าแสดงความคดิ เหน็ มากขนึ้ กจิ กรรมการเรียนการสอน (สัปดาห์ท่ี 12 ชว่ั โมงที่ 45-48) 1. ผู้สอนช้ีแจง้ เกณฑก์ ารวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ัติงานของผู้เรยี น 2. ผู้สอนทบทวนความร้เู ดิมให้กับผูเ้ รยี น โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเรม่ิ เรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผ้สู อนแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรูป้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง ส่วนประสมทางการตลาด 4. ผสู้ อนบรรยายเน้อื หาสาระสาคัญของเนอื้ หา หวั ขอ้ ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix - 4P’s) 1) สนิ ค้าหรอื ผลิตภณั ฑ์ (Product) 2) ราคา (Price) 3) การจัดจาหน่าย (Place)

4) การส่งเสริมการตลาด (Promotion) 5. ผู้สอนตั้งคาถามระหว่างการบรรยายใหผ้ ูเ้ รียนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ 6. ผู้สอนสรปุ เน้อื หาสาระสาคญั ในรูปแบบของแผนผงั ความคิด 7. เปดิ โอกาสให้ซักถามข้อสงสัย และหัวข้อทย่ี งั ไมเ่ ขา้ ใจ 8. ให้ผู้เรยี นโดยให้แบง่ กลุม่ แบบร่วมมอื กลมุ่ ละ 3 -4 คน ตามลาดบั คะแนน เกง่ ปานกลาง และอ่อนให้ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดังน้ี 1) ให้แต่ละกลุ่มนาตัวอยา่ งแผนธุรกิจ มาประกอบการปฏิบัติกจิ กรรม 2) ให้เลอื กศึกษาสินคา้ อปุ โภคบรโิ ภค ที่มีอยใู่ นท้องตลาด และเป็นท่ีต้องการของผู้บริโภค 1 อย่างพร้อม รูปภาพประกอบ 3) ให้พัฒนากลยทุ ธ์การตลาด ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix - 4P’s) จากของเดมิ ให้สอดคล้อง กับกล่มุ เป้าหมาย 9. ให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอ ใชเ้ วลา 5-10 นาที 10. เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นตง้ั คาถามขอ้ สงสัย และช่วยกันประเมนิ ผลกลมุ่ เพอ่ื นที่ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 11. ผู้สอนตรวจและประเมินผลงาน พร้อมใหค้ าแนะนาของการนาเสนอของแตล่ ะกลุม่ เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นนาไปพัฒนา และปรบั ปรุงในครัง้ ต่อไป 12. ผสู้ อนมอบหมายใบงานใหผ้ ้เู รียนศกึ ษาค้นควา้ ตัวอย่างแผนธุรกิจแบบเต็มรปู แบบเพื่อนามาใชใ้ นการประกอบการ เรียนการสอน กลมุ่ ละ 1 เล่ม เพ่อื ใช้ในสัปดาหท์ ี่ 14 เทคนิควธิ ีการสอนที่นามาใช้ 1. วิธสี อนแบบแบ่งกลุ่มทางาน เป็นวิธีสอนท่ีผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลมุ่ ร่วมมอื เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบกลมุ่ และการสอนรายบคุ คล โดยให้ผเู้ รยี นได้ลงมอื ทา กจิ กรรมในการเรียนได้ด้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลมุ่ มีการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ซึง่ กนั และกนั เน้นการมปี ฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกนั ระหว่างผู้เรียนกบั ผ้เู รียน 3. วิธีสอนแบบใชค้ าถาม ผ้สู อนจะปอ้ นคาถามในลกั ษณะต่าง ๆ ที่เปน็ คาถามที่ดี สามารถพฒั นาความคดิ ผเู้ รยี น ถามเพ่ือใหผ้ เู้ รยี นใช้ความคิด เชิงเหตุผล วเิ คราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรอื การประเมนิ ค่าเพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ นน้ั 4. วิธสี อนแบบศึกษาด้วยตนเอง (Self Study Method) วิธสี อนแบบศกึ ษาด้วยตนเอง เป็นวิธีสอนทเี่ ปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นศึกษาหาความรจู้ ากแหลง่ วชิ าด้วยตนเอง ไดแ้ ก่ การศึกษาจากหนังสอื การศึกษานอกสถานท่ี หรอื แหล่งเรียนรูอ้ น่ื ๆ

สือ่ การเรยี นการสอนและแหลง่ การเรียนรู้ 1. ส่ือส่ิงพิมพ์ ไดแ้ ก่ หนงั สอื เรยี นวชิ าการดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม, ตวั อยา่ งแผนธรุ กิจ, ใบงาน 2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ 3. สอื่ เทคโนโลยีขัน้ สูง ไดแ้ ก่ PowerPoint 4. อนิ เทอร์เนต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups การวดั ประเมินผล เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ประเมินจากสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรมการมี 1. ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนรอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป ส่วนรว่ มของผู้เรียนเป็นรายบุคคล 2. การสมุ่ เรียกถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผู้เรยี นสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกนิ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตดั สินคณุ ภาพใบงาน คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง 4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกลมุ่ 4. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอา้ งองิ /เว็บไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกยี รตวิ ทิ ยา. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากัด 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพศ์ นู ย์ สง่ เสริมวชิ าการ

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สัปดาหท์ ่ี 13 ชั่วโมงท่ี 49-52) 1. ผสู้ อนช้ีแจ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ัตงิ านของผู้เรยี น 2. ผสู้ อนทบทวนความรู้เดิมใหก้ ับผูเ้ รยี น โดยการถาม-ตอบ ก่อนท่ีจะเรม่ิ เรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน 3. ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรือ่ ง การวเิ คราะห์คู่แข่งขันทางธุรกิจ 4. ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนจับคู่ 2 คน ยกตัวอย่างธรุ กจิ ท่ีลกั ษณะผลิตภัณฑ์คลา้ ยๆ กัน สามารถใช้ทดแทนกนั ได้ 2 ยหี่ ้อ 5. ผู้สอนเชื่อมโยงตวั อย่างเขา้ ส่เู นื้อหา โดยการบรรยายสาระสาคัญของเนือ้ หา ตามหวั ข้อดังนี้ 1) การวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมการแขง่ ขัน โดยใช้หลัก Five Force Model 2) แนวทางการปรับปรุงเพื่อเพมิ่ ขีดความสามารถการแขง่ ขัน 6. ผูส้ อนตงั้ คาถามระหวา่ งการบรรยายให้ผเู้ รยี นมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็น 7. ผู้สอนสรุปเน้ือหาสาระสาคัญในรูปแบบของแผนผังความคิด 8. เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัย และหวั ขอ้ ทย่ี งั ไม่เขา้ ใจ 9. ใหผ้ ู้เรียนโดยใหแ้ บง่ กลุม่ แบบรว่ มมอื กล่มุ ละ 3 -4 คน ตามลาดบั คะแนน เก่ง ปานกลาง และอ่อนให้ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมดงั นี้ (กลมุ่ เดิมตอ่ จากสปั ดาห์ที่ 12) 1) ให้เลอื กศึกษาสนิ คา้ อปุ โภคบริโภค สินค้าที่เปน็ คแู่ ข่งขนั ต่อจากสปั ดาห์ท่ีแลว้ พร้อมรปู ภาพสนิ คา้ ประกอบการวเิ คราะห์ 2) ใหก้ ารวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มทางการแข่งขัน โดยใชห้ ลัก Five Force Model 10. ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอ ใชเ้ วลา 5-10 นาที 11. เปดิ โอกาสให้ผู้เรียนต้งั คาถามขอ้ สงสัย และชว่ ยกนั ประเมนิ ผลกลมุ่ เพื่อนท่ีออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน 12. ผู้สอนตรวจและประเมนิ ผลงาน พร้อมใหค้ าแนะนาของการนาเสนอของแต่ละกลุ่ม เพื่อใหผ้ เู้ รียนนาไปพฒั นา และปรับปรุงในครงั้ ต่อไป 13. ผูส้ อนมอบหมายใบงานให้ผ้เู รียนศึกษาคน้ ควา้ ตวั อย่างแผนธรุ กิจแบบเตม็ รูปแบบเพ่ือนามาใช้ในการ ประกอบการเรยี นการสอน กลุ่มละ 1 เลม่ เพื่อใชใ้ นสัปดาหท์ ่ี 14 เทคนคิ วธิ กี ารสอนท่ีนามาใช้ 1. วิธสี อนแบบแบ่งกลมุ่ ทางาน เป็นวิธีสอนท่ีผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่มร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือ ปฏิบัติกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรียนทางานร่วมกันตามวิถีแห่ง ประชาธิปไตย 2. แบบกลมุ่ ร่วมมอื

เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานระหว่างการเรยี นรู้แบบกลุ่มและการสอนรายบคุ คล โดยใหผ้ ู้เรียนไดล้ งมือทา กจิ กรรมในการเรยี นได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลมุ่ มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ซ่งึ กนั และกนั เน้นการมีปฏิสมั พนั ธซ์ ึ่งกนั และกันระหว่างผู้เรียนกบั ผู้เรยี น 3. วธิ ีสอนแบบใชค้ าถาม ผู้สอนจะป้อนคาถามในลักษณะตา่ ง ๆ ท่ีเป็นคาถามที่ดี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรยี น ถามเพอ่ื ให้ผเู้ รียนใช้ความคิด เชงิ เหตผุ ล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรือ การประเมนิ คา่ เพ่ือจะตอบคาถามเหล่านนั้ ส่อื การเรียนการสอนและแหล่งการเรียนรู้ 1. สือ่ สิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรยี นวชิ าการดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม, ตวั อย่างแผนธรุ กจิ , ใบงาน 2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ 3. ส่ือเทคโนโลยีขัน้ สงู ได้แก่ PowerPoint 4. อินเทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups การวดั ประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ประเมินจากสภาพจริง โดยการสังเกตพฤติกรรมการมี 1. ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนร้อยละ 70 ข้ึนไป สว่ นรว่ มของผเู้ รียนเป็นรายบุคคล 2. การสมุ่ เรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผู้เรยี นสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกินร้อยละ 80 ขนึ้ ไป 3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตดั สนิ คณุ ภาพใบงาน 4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง 4. เกณฑ์ตัดสนิ คณุ ภาพกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 10-12 = ดี คะแนน 7-9 = พอใช้ คะแนน 4-6 = ปรับปรุง เอกสารอา้ งองิ /เว็บไซต์ 1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวทิ ยา. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ เอมพันธ์ จากดั 2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ศูนย์ ส่งเสรมิ วชิ าการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook