วารสารด�ำรงราชานุภาพ DAMRONG RAJANUPHAB JOURNAL ตราประจำ� พระองค์ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพ คณะผูจ้ ดั ท�ำวารสารดำ� รงราชานุภาพ เจ้าของ สถาบันดำ� รงราชานุภาพ คณะท่ีปรกึ ษา นายฉตั รชัย พรหมเลศิ ปลดั กระทรวงมหาดไทย นายธนาคม จงจริ ะ รองปลดั กระทรวงมหาดไทย นายปวณิ ชำ� นิประศาสน ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบุญธรรม เลิศสขุ เี กษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลดั กระทรวงมหาดไทย บรรณาธิการบรหิ าร นายอังกรู สนุ่ กุล ผอู้ �ำนวยการสถาบนั ด�ำรงราชานภุ าพ หวั หนา้ กองบรรณาธิการ นางสาวดารา รักษาชาติ ผอู้ �ำนวยการกล่มุ งานพัฒนาและบรหิ ารจดั การความรู้ กองบรรณาธิการ นางจรญั ญา ศรีไพร นางกาญจนา แจ่มมนิ ทร์ นางสาววรดา สงอักษร นายวีระ แสงจันทร์ นางสาวบุษบา ลาภวิไล นางทิพวัลย์ อดุ มทรัพย์ นายอกนษิ ฐ์ ศริ ศิ กั ด ิ์ นางสาวภทั รภร ป้อมมะลัง ออกแบบปก นางสาวอัจนา เตชะพนั ธ์ุ สถานทตี่ ดิ ตอ่ สถาบนั ด�ำรงราชานุภาพ ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร./โทรสาร 0-2221-5958 www.stabundamrong.go.th E-mail: [email protected]
บทบรรณาธิการ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) เป็นกรอบทิศทางส�ำหรับการพัฒนาประเทศ มีวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนา ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง” โดยมเี ปา้ หมาย คอื “ประเทศชาตมิ น่ั คง ประชาชนมคี วามสขุ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเน่ือง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับ ศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และ มีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตร กับส่ิงแวดล้อม และมีภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม การขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศเพื่อน�ำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ และเป้าหมายดังกล่าว เหตุผลส�ำคัญประการหน่ึงคือ ความคิดของคนไทยต้องประสานสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนา ประเทศและการเปล่ียนแปลงของสังคม ดังนั้นในการเตรียมพร้อมคนไทยเพ่ือเข้าสู่ศตวรรษท่ี 21 จึง เป็นปัจจัยส�ำคัญต่อการขับเคล่ือนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาว ที่จะต้อง สร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสมส�ำหรับคนไทยให้พึงมีกับคนไทยทุกคน อันเป็น พื้นฐานที่ไปสนับสนุนสู่การพัฒนาท่ีย่ังยืน ด้วยเป้าหมายหลัก 5 ประการ ดังน้ี ความพอเพียง ความมีวินัย ความสุจริต การมีจิตสาธารณะ และความรับผิดชอบ วารสารด�ำรงราชานุภาพฉบับนี้ เป็นการรวบรวมแนวคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้สนใจ ได้ศึกษาไว้เก่ียวกับกระบวนทัศน์และหลักคิดของคนไทยในมุมมองต่างๆ ที่วิเคราะห์ในหลักการ เชิงสังคมวัฒนธรรม ทางวิชาการสาขาสังคมศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ กรณีศึกษาจากต่างประเทศ และบทบาทของคนไทยสมัย Thailand 4.0 ที่ต้องมีจิตส�ำนึกมีความร่วมมือกันของคนในชาติไทย กองบรรณาธิการขอขอบคุณผู้เขียนทุกท่านที่ส่งบทความอันเป็นประโยชน์เผยแพร่ สู่สาธารณะ และหากท่านผู้อ่านมีข้อแนะน�ำในการปรับปรุงการจัดท�ำวารสาร กรุณาแจ้งได้ท่ี สถาบนั ดำ� รงราชานภุ าพ ส�ำนกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทย E-mail:[email protected] จะเป็นพระคุณยิ่ง ทั้งนี้บทความท้ังหมดในวารสารฉบับน้ีได้จัดเก็บรวบรวมไว้ในระบบคลังความรู้ ของสถาบันด�ำรงราชานุภาพ ส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เว็บไซต์สถาบันด�ำรงราชานุภาพ www. stabundamrong.go.th เพ่ือเป็นประโยชน์ในการสืบค้นต่อไป กองบรรณาธิการ
สารบัญ หน้า กระบวนทัศนแ์ ละหลกั คิดทเ่ี หมาะสมสำ� หรบั คนไทย 1 โดย นายเทยี นฉาย กรี ะนันทน์ กระบวนทศั น์ หลกั คิด และการยา่ งก้าวเข้าสูศ่ ตวรรษที่ 21 ของคนไทย 19 โดย ดร.สุนทร คุณชยั มงั กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ของคนไทยและสงั คมไทย : บทวเิ คราะหเ์ ชิงสงั คมวฒั นธรรม 51 โดย ดร. กนกกาญจน์ อนแุ ก่นทราย การสรา้ งพลเมืองในศตวรรษท่ี 21 84 โดย นายคณุสสัน ศภุ วตั รวรคณุ คนไทยสมยั Thailand 4.0 ตอ้ งมีจติ สำ� นึกท่มี คี วามร่วมมือกนั ของคนในชาติไทย 92 โดย ศาสตราภิชาน เรวตั ร์ ชาตรวี ิศษิ ฏ์,Ph.D
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 1 กระบวนทัศน์และหลกั คดิ ที่เหมาะสมสำ� หรบั คนไทย โดย นายเทียนฉาย กีระนนั ทน์ ปฐมบท ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนการสอนที่เน้น ในการศึกษาวิเคราะห์เพ่ือเตรียมการ การท่องจ�ำ เป็นต้นเหตุให้คนไทยมีปัญหาด้าน จัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้พบว่าคนไทย กระบวนการคดิ คดิ วิเคราะหไ์ มเ่ ป็นและไมร่ ู้จกั ในปัจจุบันด�ำเนินชีวิตในรูปแบบและสภาวะ หาเหตุผลที่สมเหตุสมผล ประการท่ีส่ี คนไทย ทสี่ มุ่ เสยี่ ง สะทอ้ นปญั หาสำ� คญั ๆ หลายประการ มีปัญหาด้านคุณภาพในทุกช่วงวัย ต้ังแต่ก่อน กล่าวคือประการแรก คนไทยด�ำเนินชีวิตแบบ วยั เรยี นไปจนถงึ วยั เรยี น วยั รนุ่ วยั แรงงาน จนถงึ ปล่อยปละละเลยตัวเอง เป็นสภาพที่อาจเรียก วัยสูงอายุ โดยเฉพาะวัยเด็กท่ีมี IQ และ EQ ไดว้ า่ ดแู ลตวั เองไมด่ พี อ ดำ� รงชวี ติ ดว้ ยความเสย่ี ง ค่อนข้างต่�ำกว่ามาตรฐานของวัย ปัญหาการ และมีแนวโน้มบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้ ตง้ั ครรภก์ อ่ นวยั อนั ควร ปญั หายาเสพตดิ แรงงาน พฤตกิ รรมเสย่ี งมากขน้ึ เปน็ สำ� คญั ประการทส่ี อง มีคุณภาพต�่ำกว่าระดับและขาดทักษะขั้นสูง คนไทยตกอยู่ในวังวนของการขาดคุณธรรม และปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุภายใต้แนวโน้ม ไม่ตระหนกั ถึงวินยั ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ซ่ือตรง ขาดจติ การอยตู่ วั คนเดยี วในวยั ชรา ประการทหี่ า้ คนไทย สาธารณะ ขาดทักษะในการคิด วเิ คราะหแ์ ละวนิ จิ ฉยั อยา่ งเปน็ ระบบ ท�ำให้ไม่สามารถคัดกรองความดี ความไม่ดี รวมท้งั ความถูกตอ้ งและ ความไม่ถูกต้อง และยังปรากฏการ ละทงิ้ วฒั นธรรม ประเพณแี ละคา่ นยิ ม ทดี่ ๆี เพมิ่ ขน้ึ เปน็ ลำ� ดบั ประการทสี่ าม การศึกษาขาดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล ท�ำให้คนไทยขาด
2 วารสารดำ�รงราชานุภาพ ขาดดุลพินิจ เปราะบาง อ่อนไหว ขาดทักษะ ซ่ึงมีคุณลักษณะไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่เป็นเชิง ในการใช้ดุลพินิจในการเลือกรับและปรับใช้ วิทยาศาสตร์ที่อาจอธิบายหรือพิสูจน์ถึงเหตุ วัฒนธรรมและเทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน และ และผลไดแ้ ละเป็นจริง ไมเ่ ปน็ ระบบ โดยเฉพาะ ประการที่หก คนไทยมีระบบครอบครัวท่ี จับต้นชนปลายไม่ได้หรือเรียบเรียงความคิด หละหลวม เยาวชนได้รับการเอาใจใส่ดูแล ไม่ได้ ไปจนถึงการใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาและ ไม่เหมาะสมเพียงพอ ผู้ใหญ่ขาดความรู้และ ขาดตรรกะในความผดิ ชอบชว่ั ดี ความเข้าใจในการเล้ียงดูและอบรมเยาวชน เป้าหมายของการพัฒนาคนไทยตาม อย่างพอเหมาะพอดีและไม่ได้ปลูกฝังคุณธรรม ยุทธศาสตร์ 20 ปี คนไทยตอ้ งเปน็ คนที่สมบรู ณ์ และจริยธรรมทพ่ี อเหมาะให้กับคนรนุ่ หลงั ท้ังกาย ใจและสติปัญญา มีคุณลักษณะ ปัญหาส�ำคัญๆ ของคนไทยดังกล่าวน้ัน และสมรรถนะของคนไทยในศตวรรษที่ 21 แม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดวิกฤติ และยังไม่ได้กระจาย ทคี่ าดหมายไวว้ า่ ประกอบดว้ ย (1) กายมสี มรรถนะ ขยายตวั กวา้ งขวาง ไปทงั้ สงั คม แตก่ ารศกึ ษาวจิ ยั เป็นแรงงานทักษะฝีมือระดับสูง (2) จิตใจ หลายๆ กรณตี า่ งบง่ ชถี้ งึ สถานการณท์ รี่ นุ แรงและ มีส�ำนึกวัฒนธรรมท่ีดีงาม รู้ค่าความเป็นคนไทย กวา้ งขวางมากข้ึนในทางลบ โดยเฉพาะในระยะ มีความรับผิดชอบ และ(3) สติปัญญา มีทักษะ 10-20 ปที ผ่ี า่ นมา อกี ทัง้ ยงั ปรากฏการขยายตัว ในการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของปัญหาอันเป็นจุดอ่อนของคนไทยดังกล่าว เปน็ นกั คดิ สรา้ งนวัตกรรม เปน็ ผ้ปู ระกอบการ นั้นในคนไทยรุ่นคนอายุต�่ำกว่า 10 ปี (หรือ แนวทางหลกั ๆ ในการปรบั เปลยี่ นคนไทย ประมาณรุ่น Alpha - generation) หนักหนา ให้มีความพร้อมตามสมรรถนะของคนไทย และรุนแรงมากขึ้นกว่ารุ่นคนอายุ 11-30 ปี ในศตวรรษท่ี 21 ทคี่ าดหมายไว้นนั้ นา่ จะต้องให้ (หรือประมาณรุ่น Y- generation) และรุนแรง ความสำ� คญั กบั การปรบั เปลย่ี นคนไทยใน 2 ดา้ น มากกว่าคนอายุ 31-50 ปี (หรือประมาณรุ่น กล่าวคือ X- generation) ผลกระทบอยา่ งมนี ยั สำ� คญั จาก ก. การปรับเปลี่ยนด้านการเรียนรู้ คุณลักษณะของคนไทยนี้ ส่งผลถึงคุณภาพและ เรียกว่าเปน็ Transition of learning เพอื่ จะปรับ ผลิตภาพของแรงงานไทยและส่งผลลบต่อความ เปลี่ยนคนไทยให้ใฝ่เรียนรู้ มีกระบวนการคิด สามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศไทย ซง่ึ นบั วนั วเิ คราะหต์ ามหลกั เหตแุ ละผล สามารถสงั เคราะห์ จะรนุ แรงมากขน้ึ เปน็ ลำ� ดับ และบูรณาการข้อมูลข้อสนเทศต่างๆ มีทักษะ ในบรรดาประเดน็ ปญั หาหลกั ๆ ทงั้ หลาย ด้านเทคโนโลยีและการสร้างนวตั กรรม ขอ้ ทน่ี า่ หว่ งกงั วลมากทส่ี ดุ จะไดแ้ กก่ ระบวนทศั น์ ข. การปรับเปล่ียนด้านค่านิยมและ และหลักคิดหรือ mindset ของคนไทย วฒั นธรรม เรยี กวา่ เปน็ Transition of Culture
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 3 โดยการขับเคล่ือนให้เกิดการปรับ แต่งต้ังคณะกรรมการขับเคล่ือนการปฏิรูป เปลี่ยนสังคมไทยอย่างเป็นองค์รวม เพอ่ื รองรบั การปรบั เปลย่ี นตามนโยบาย Thailand ได้แก่ การปลูกฝังค่านิยมกับคนทุก 4.0 โดยมีภารกิจส�ำคัญด้านหนึ่งให้เตรียม ช่วงวัย ส่งเสริมให้สถาบันทางสังคม ความพร้อมด้านภาคสังคมของประเทศ รองรับ ร่วมปลูกฝังค่านิยมวัฒนธรรมที่ การปรับเปล่ียนตามนโยบาย Thailand 4.0 พึงประสงค์ สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง ในศตวรรษที่ 21 (ซึง่ ในปี ค.ศ.2019 ยังถือวา่ ได้ กระตุ้นภาคธุรกิจให้มีการบริหาร กา้ วเข้าสชู่ ว่ งระยะศตวรรษที่ 21 มาแล้ว 18 ปี จัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล ท�ำให้คงเหลืออีกประมาณ 82 ปีกว่าจะพ้น ส่งเสรมิ ใหใ้ ชส้ ่ืออยา่ งสรา้ งสรรค์ มีจรรยาบรรณ ศตวรรษที่ 21 หรอื อกี ประมาณ 4-6 รนุ่ คน) และ และมีความรับผิดชอบ ส่งเสริมบทบาทองค์กร เพอ่ื ใหก้ ารดำ� เนนิ ภารกจิ ดา้ นการเตรยี มกำ� ลงั คน ภาคประชาสงั คม ใหเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มเปน็ พลงั ใน เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ จึงได้แต่งต้ัง การปรบั เปลย่ี นสงั คมใหด้ ขี น้ึ ซงึ่ การปรบั เปลย่ี น คณะอนกุ รรมการเตรยี มคนไทยสศู่ ตวรรษที่ 212 ค่านิยมและวัฒนธรรมท่ีส�ำคัญคือ การสร้าง เพื่อรับผิดชอบด�ำเนินการโดยตรง โดยก�ำหนด กระบวนทัศน์ และหลักคิดที่เหมาะสมส�ำหรับ อ�ำนาจหน้าท่ีไว้ว่า (1) ประสานและบูรณาการ คนไทยที่มีความครอบคลุมกับสภาพปัญหาของ ด�ำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความ คนไทยดงั ทกี่ ลา่ วในตอนตน้ พร้อมของคนไทยในศตวรรษท่ี 21 รองรับ การเตรยี มคนไทยสู่ศตวรรษท่ี 21 การปรับเปล่ียนตามนโยบาย Thailand 4.0 เมื่อแรกเริ่มพิจารณาเห็นนัยส�ำคัญของ (2) ขบั เคลอ่ื นการดำ� เนนิ งานเพอ่ื สรา้ งกระบวนทศั น์ ประเด็นปัญหานั้น ประกอบกับนิมิตหมายท่ีดี จากการเตรียมการจัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติ ระยะยาว (พ.ศ.2561-2580 ) ทก่ี ำ� หนดเปา้ หมาย การพัฒนาประเทศว่า “ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง สงั คมเปน็ ธรรม ฐานทรพั ยากรธรรมชาติ ยง่ั ยนื ” รัฐบาลได้มีค�ำส่ังส�ำนักนายกรัฐมนตรี 1 1 คำ� สงั่ สำ� นกั นายกรัฐมนตรี ที่ 194/2560 ลงวันท่ี 10 สงิ หาคม 2560 2 ค�ำส่งั คณะกรรมการขบั เคล่ือนการปฏิรูปเพอ่ื รองรับการปรบั เปลย่ี นนโยบาย Thailand 4.0 ที่ 1/2560 ลงวนั ท่ี 21 ธนั วาคม 2560
4 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ แ ล ะ ห ลั ก คิ ด ที่ เ ห ม า ะ ส ม ใ ห ้ กั บ ค น ไ ท ย ใ ห ้ นนั้ อยทู่ ก่ี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และความคดิ เหน็ สอดคล้องตามนโยบาย Thailand 4.0 และ ในเบอื้ งตน้ และพบวา่ คณุ ลกั ษณะเปน็ ปมปญั หา (3) ติดตามและประเมินผลการด�ำเนินงานของ ของคนไทยในปัจจุบันอยู่ท่ีการไม่สามารถคิด หน่วยงานท้ังภาครัฐและภาคเอกชนรวมท้ัง วิเคราะห์และจ�ำแนกแยกแยะความผิดชอบชั่วดี วิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค วิเคราะห์ทางแก้ไข ขาดความคิดอย่างเป็นระบบ และขาดการรู้จัก เสนอต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏริ ูปฯ พจิ ารณาปญั หาดว้ ยเหตแุ ละผลในเชงิ วทิ ยาศาสตร์ หน้าท่ีตามภารกิจท่ีก�ำหนดนั้นมีหลาก การขาดตรรกะทด่ี ที างความคดิ และความไมร่ ถู้ งึ หลายและครอบคลุมประเด็นหลักๆ หลาย ต ร ร ก ะ ท่ี ดี ท่ี แ ต ก ต ่ า ง จ า ก ต ร ร ก ะ ล ว ง ห รื อ ประการท่ีมีคณะบุคคลได้รับมอบหมายให้ท�ำ เรียกว่า False Logic ย่ิงกว่านั้นข้อท่ีเห็นว่า หน้าท่ีศึกษาวิเคราะห์และก�ำหนดวิธีการปฏิรูป เร่งด่วนที่สุด คือการท่ีต้องเร่งรีบหาข้อสนเทศ อยู่แล้ว เช่น ประเด็นเกี่ยวกับการศึกษา หรือ และตรรกะที่แท้จริงเก่ียวกับกระบวนทัศน์และ ประเด็นเก่ียวกับสุขภาพอนามัยและคุณภาพ หลักคิดของคนไทยในปัจจุบันว่าเป็นไปตามที่ ชีวิต เป็นต้น ซ่ึงท�ำให้ประเด็น “การสร้าง ปรากฏในข้อมูลพ้ืนฐานและความคิดเห็น โดย กระบวนทัศน์และหลักคิดท่ีเหมาะสมส�ำหรับ ทวั่ ไปแสดงไวน้ นั้ ใชห่ รอื ไม่ และถา้ ใช่ กต็ อ้ งหาวา่ คนไทย” เป็นประเด็นเร่งด่วนเฉพาะหน้า และ อะไรคือสาเหตุและสมมุติฐานหลักที่ท�ำให้เป็น ยังไม่มีผู้รับผิดชอบท�ำการศึกษาวิเคราะห์ เช่นนั้น เพ่ือที่จะได้หาวิธีการปรับแก้ไขให้ได้ โดยตรง ความส�ำคญั เฉพาะหนา้ เร่งดว่ นดังกลา่ ว ตรงจดุ และเรว็ ทีส่ ดุ
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 5 การศึกษาวิเคราะห์กระบวนทัศน์และหลักคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม (ข) ของคนไทย การเห็นแก่เครือข่ายส่วนตัว พวกพ้อง ตาม ด้วยข้อจ�ำกัดเดียวกับเวลาที่มีไม่มาก คา่ นยิ มในระบบอปุ ถมั ภ์ (ค) การขาดระเบยี บวนิ ยั ท�ำให้ต้องตัดสินใจเลือกให้มีการศึกษาวิเคราะห์ มกั ง่ายและขาดความรบั ผดิ ชอบ (ง) การฟุ้งเพ้อ ด้วยข้อมูลทุติยภูมิ โดยก�ำหนดลักษณะของ เกนิ ตวั และความโลภเกนิ พอดี (จ) ความรกั สนกุ ผทู้ จี่ ะทำ� การศกึ ษาวเิ คราะหว์ า่ เปน็ ผทู้ มี่ ปี ระสบการณ์ รักสบาย ที่ท�ำให้สังคมไทยขาดความเอาจริง ในการศึกษาวจิ ยั ประเด็นทีเ่ กี่ยวข้อง และพร้อม เอาจัง ขาดการคิดวิเคราะห์โดยใช้หลักเหตุผล ทจี่ ะสงั เคราะหร์ ายละเอยี ดเกยี่ วกบั กระบวนทศั น์ ในขณะท่ีค่านิยมด้ังเดิมบางอย่างก็เป็นทุนทาง และหลักคิดของคนไทยจากวรรณกรรมที่ได้มี สังคมด้ังเดิมของคนไทยที่สามารถพัฒนาไปได้ การศึกษาวิจัยกันไว้แล้วจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในทิศทางของค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ได้แก่ (โดยมีเงื่อนไขว่า หากมีเวลาและงบประมาณ ความกตัญญูต่อบุพการี การท�ำบุญให้ทาน สนบั สนุนเพียงพอเมื่อใด จงึ จะจดั ใหม้ กี ารศกึ ษา ความเมตตากรุณา และความมีน้�ำใจช่วยเหลือ วิจัยด้วยข้อมูลปฐมภูมิเพื่อให้ได้ความครบถ้วน เกือ้ กลู กนั ของคนไทย สมบรณู แ์ ละเปน็ ปจั จบุ นั อยา่ งทส่ี ดุ อกี คราวหนึ่ง) ลักษณะทางบคุ ลกิ ภาพ พฤติกรรม จากเง่ือนไขดังกล่าวน้ัน ได้จัดให้มีการ และค่านิยมของคนไทยน้ันเป็นผลผลิตจาก ศึกษาวิเคราะห์แล้วจัดท�ำเป็นบทวิเคราะห์สรุป กระบวนทัศน์และหลักคิดเด่นๆ ของคนไทย เป็น 3 รายการ กล่าวคือ เป็นบทวิเคราะห์เชิง ทสี่ ามารถจ�ำแนกออกเปน็ 6 ด้าน ที่ต่างสมั พนั ธ์ สังคมวัฒนธรรม บทวิเคราะห์เชิงสังคมศาสตร์ เกยี่ วขอ้ งกนั ในทางใดทางหนงึ่ ไดแ้ ก่ (ก) อำ� นาจ และบทวเิ คราะห์เชงิ เศรษฐศาสตร์ นิยม (Authoritarianism) หรือการมองโลก โดยใช้อ�ำนาจและความแตกต่างทางสถานภาพ (1) บทวิเคราะห์เชิงสังคมวัฒนธรรม เป็นเกณฑ์ตัดสิน ซ่ึงเป็นลักษณะเด่นของ เกี่ยวกับกระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ของคนไทย3 คนไทยในสังคมระบบอุปถัมภ์ (ข) ปัจเจกนิยม บทวิเคราะห์นี้ได้อ้างถึงค่านิยม (Individualism) (ค) ปฏิบัตินิยม (Popular ของคนไทยในปัจจุบันบางอย่าง เป็นค่านิยม Practice) ทั้งกระบวนทัศน์และหลักคิดแบบ ไม่พึงประสงค์ที่ต้องปรับแก้เร่งด่วน จากการ ปัจเจกนิยมและปฏิบัตินิยมเป็นลักษณะของ วิเคราะห์ของคณะอนุกรรมาธิการ ค่านิยม คนไทยท่ีเห็นได้ชัดจากสังคมโครงสร้างหลวม คุณธรรม จริยธรรม ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ทไี่ มไ่ ดใ้ หค้ วามสำ� คญั ตอ่ หลกั การและการยดึ โยง (2558) กล่าวคือ (ก) การขาดจิตสาธารณะ กับชุมชนเท่าใดนัก คนไทยจึงรักอิสระ นิยมท�ำ 3 โดย ดร.กนกกาญจน์ อนุแกน่ ทราย ผู้อำ� นวยการศูนยส์ าธารณประโยชนแ์ ละประชาสงั คม สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์
6 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ ในสงิ่ ทต่ี นตอ้ งการและมคี วามยดื หยนุ่ ปรบั ตวั ตอ่ เช่น แสดงการต่อต้านด้วยการไม่ยกมือไหว้ สถานการณ์ (ง) สุขนิยมและบริโภคนิยม คนโกง ในขณะท่ีกระบวนทัศน์และหลักคิดของ (Hedonism and Consumerism) อันเป็น คนไทยยังนิยมการให้เกียรติ ยอมจำ� นนตอ่ คนท่ี ทัศนะในการใช้ชีวิตท่ีมีความสุขของค น ไ ท ย มีอ�ำนาจและร�่ำรวย และไม่พร้อมต่อการแสดง ท่ี ใ ห ้ คุ ณ ค ่ า ต ่ อ ก า ร รั ก ส นุ ก แ ล ะ รั ก ส บ า ย ความรู้สึกด้วยการเผชิญหน้า อาจจ�ำเป็นต้องใช้ (จ) การใหค้ วามสำ� คญั แกค่ วามสมั พนั ธส์ ว่ นตวั เวลาในการปรับลดกระบวนทัศน์และหลักคิด (Personalism) ที่มีรากฐานมาจากสังคมใน แ บ บ อ� ำ น า จ นิ ย ม ใ ห ้ บ ร ร เ ท า ล ง แ ล ะ ส ร ้ า ง ระบบอุปถัมภ์ที่ถือตัวบุคคลและสายสัมพันธ์ กระบวนทัศน์และหลักคิดใหม่ที่ให้คุณค่าต่อ ระหว่างบุคคลเป็นส�ำคัญ และ(ฉ) คุณความดี ความเสมอภาคและการตรวจสอบอ�ำนาจไป หรือคุณธรรมจริยธรรม (Ethical Mind) ท่ีมี พร้อมๆ กัน ลกั ษณะเฉพาะและเปน็ กรอบทางศลี ธรรมในการ (2) บทวิเคราะห์เชิงสังคมศาสตร์ ก�ำกบั พฤติกรรมของตนเองในสังคมไทย เกี่ยวกับกระบวนทัศน์และหลักคิดของคนไทย4 กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ในแตล่ ะดา้ น การวิเคราะห์กระบวนทัศน์และ ต่างก็ท�ำงานในลักษณะสอดประสานกันแต่ก็มี หลักคิดว่าด้วยความเป็นไทยว่าเป็นหลักคิด สัญญาณเชิงพฤติกรรมหลายอย่างท่ีบ่งบอกถึง แบบรวมศูนย์อ�ำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง ซึ่งเป็นมา การเปล่ียนแปลงในหลายส่วน อีกท้ังการ ต่อเน่ืองและช้านาน เม่ือถึงยุคสมัยการพัฒนา เปลยี่ นแปลงของสงั คมทสี่ ามารถเกดิ ขน้ึ ไดต้ ลอด เศรษฐกิจและสังคมด้วยการบริหารอ�ำนาจ เวลาทงั้ จากปจั จยั ภายนอกและภายในสงั คม เชน่ ทางการเมืองแบบลุ่มๆ ดอนๆ ก้าวไม่ข้ามการ การเกิดขึ้นของแนวคิดประชานิยมที่ให้น�้ำหนัก พฒั นาประชาธปิ ไตย โดยเฉพาะในระยะหลงั ๆ น้ี กับ “ประชาชน”อย่างท่ีไมเ่ คยมมี าก่อน ก็อาจ ทำ� ใหเ้ กดิ การสะดดุ ในการ “พฒั นาความสามารถ มสี ว่ นทำ� ใหค้ นไทยจำ� นวนหนง่ึ พงึ่ พงิ กลไกของรฐั ทางสงั คม” การดำ� รงชวี ติ ประจำ� วนั ของประชาชน ในระบบอุปถัมภ์ ซ่ึงเคยมีการวิเคราะห์ว่าเป็น จึงประสบความเสี่ยงทางสังคม ซึ่งคนไทย “การอุปถัมภ์เชงิ นโยบาย” ด้วยการ “ผูกจิตใจ สร้างขึ้นเองแบบ “มายาคติสุดโต่ง” ท้ังฝ่าย ของคนจนและชาวบ้านไว้กับภาคการเมือง” ทเี่ หน็ ผลของความเหลอ่ื มลำ�้ และความไมส่ มดลุ หรืออีกกรณีหนึ่ง ความพยายามในการสร้าง ของการพัฒนาเป็นความเสี่ยงทางสังคม กับอีก วฒั นธรรม (Policy Patronage) ไมย่ อมการโกง ฝา่ ยหนง่ึ ทเี่ ลง็ เหน็ ผลของวถิ สี ขู้ องชนชน้ั กลางใหม่ ด้วยการต่อต้านทางสังคม (Social Sanction) 4 โดย ดร.สุนทร คณุ ชยั มัง ผอู้ ำ� นวยการศูนย์การพัฒนารว่ มสมัยเพ่อื สงั คมรว่ มสมัยนวัตกรรมสงั คม มหาวิทยาลยั รังสิต
วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 7 และชนชน้ั ลา่ งวา่ กำ� ลงั ทำ� ลายความเปน็ ระเบยี บ การวิเคราะห์ได้ศึกษาเฉพาะกรณี ความสงบสขุ ความมน่ั คงและความเจรญิ กา้ วหนา้ เร่ืองการจัดการปัญหา การจ่ายสินบนและการ ซ่ึงนับเป็นมายาคติท่ีไม่ได้อธิบายตัวเอง แต่เป็น คอรร์ ปั ชนั ของสงิ คโปร์ เปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ที ส่ี ะทอ้ น มายาคติท่ีไปอธิบายความและลักษณะทาง ถงึ การเขา้ ใจถงึ กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ทม่ี กี าร สังคมของฝ่ายตรงข้าม ปัจจัยที่ไม่พึงประสงค์ ส่อื สารในวงกวา้ ง ถงึ ผลเสยี หายจากการหวงั ผล ท่ีเกิดขึ้น ก็คือ การผลิตวาทกรรมท่ีน�ำไปสู่ เฉพาะหน้าของความสามารถจ่ายสินบนได้ของ ความขัดแย้ง รวมทั้งแปรผลไปสู่ความขัดแย้ง ตัวเองและเครือญาติ แต่สร้างความเสียหายใน ขนาดใหญ่ทางสังคมตามมายาคติขา้ งตน้ ระยะยาวใหก้ บั สงั คมรนุ่ ถดั ไปพรอ้ มๆ กบั การลด การเอ้ือประโยชน์ซ่ึงกันและกัน เงื่อนไขเร่ืองท่ีจะต้องจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ ระหว่างผู้มีอ�ำนาจทางการเมือง ข้าราชการ ของรัฐ ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการ ชัน้ ผใู้ หญ่และนักธุรกิจทไี่ ดร้ บั ประโยชนจ์ ากการ บริหารจัดการและบริการ เป็นการจัดการท่ีลด ด�ำเนินตามแนวคิด อุดมการณ์ของชาติและ อุปสงค์และอุปทานของการจ่ายสินบนและ นโยบายของรัฐบาลจึงเป็นท่ีมาของการก่อร่าง คอรร์ ปั ชันในจังหวะพรอ้ มๆ กนั สร้างตัวของทุนหรือการประกอบการต่างๆ การพิจาณาก�ำหนดคุณลักษณะ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ท้ังส่วนกลางและ บางประการเพื่อลดหรือแก้ไขคุณลักษณะ ภมู ภิ าค เปน็ ตวั อยา่ งของการเอาอยา่ งเลยี นแบบ ไม่พึงประสงค์อันเป็นอุปสรรคต่อการก้าวเข้าสู่ ตามกันของคนในสังคม เป็นปฏิกิริยาของความ ศตวรรษท่ี 21 เช่น การมีจิตสาธารณะ ความ สัมพันธ์ทางสังคมที่หล่อเล้ียงระบบอุปถัมภ์ใน สจุ รติ และความรบั ผดิ ชอบ ในดา้ นหนง่ึ กจ็ ะเปน็ ชวี ติ จริง คุณลักษณะพ้ืนฐานที่สามารถน�ำไปใช้แล้วได้ ผลลัพธ์หรือสร้างคุณค่าให้กับการด�ำรงชีวิต ประจ�ำวันของบุคคล ครอบครัว ชุมชน เป็น เครื่องมือของการบริหารงานองค์กรและ นโยบายในทางการเมือง เศรษฐกิจและ สังคม และขณะเดียวกันก็อยู่บนพื้นฐาน ของวิถีสัมพันธ์ทางสังคม ที่สามารถก้าว ขา้ มการยดึ โยงกบั ศนู ยร์ วมอำ� นาจทนี่ ำ� ไป สู่มายาคติของการสร้างฝ่ายตรงกันข้าม และน�ำไปสู่การร่วมมือและมีส่วนร่วมใน ชีวิตจริงของคนในสังคม
8 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ (3) บทวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์ ศึกษาวิเคราะห์ทั้งสามกรณีท่ีกล่าวถึงข้างต้น เกี่ยวกับกระบวนทศั นแ์ ละหลกั คิดของคนไทย5 ท่ีสะท้อนและแสดงว่าสาเหตุต่างๆ น่าจะมี วรรณกรรมทัศน์ทางเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบในทางหล่อหลอมกระบวนทัศน์และ แสดงว่า กระบวนทัศน์และหลักคิดคนไทย หลักคิดของคนไทย แม้แต่สุภาษติ หรอื ความเชื่อ ในปจั จบุ นั ยดึ เรอื่ ง “ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง” บางอย่าง เช่น “น้�ำข้นึ ให้รบี ตัก”น่าจะมีผลมาก เปน็ หลกั “ความพอเพยี ง” เปน็ ปจั จยั ทเี่ ชอ่ื มโยง ให้คนไทยจ�ำนวนหนึ่งรีบฉกฉวยประโยชน์ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ต่างๆ ไว้ด้วยกันไม่ว่า สว่ นรวมเปน็ ของตน หรอื “การยดึ หลกั อาวโุ ส” จะเปน็ ประเด็นใดๆ การแทรก “ความพอเพยี ง” น่าจะมีผลให้ในหลายกรณีเกิดการ มองข้าม เขา้ กบั คุณลกั ษณะด้านอ่นื ๆ จะสามารถกอ่ ใหเ้ กดิ ความเหมาะสม ความถกู ตอ้ งและความรบั ผดิ ชอบ การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมตอ่ ไปได้ รวมไปถึงสาเหตุท่ีอาจมาจาก “มายาคติ” วรรณกรรมทางเศรษฐศาสตร์มี ในการสรา้ งและกำ� หนด “ฝา่ ยตรงข้าม” ความหลากหลาย เม่ือจ�ำแนกตามวัตถุประสงค์ หวั ใจสำ� คญั ของการรา่ งกรอบกระบวนทศั น์ วิธีวิทยา และการด�ำเนินงานในเชิงพ้ืนที่และ และหลักคิดของคนไทยท่ีพึงปรารถนาน้ัน กลุ่มเป้าหมาย พบว่าส่วนใหญ่เก่ียวข้องกับ จึงอยู่ท่ีต้องเลือกสรรเฉพาะคุณลักษณะส�ำคัญ “เศรษฐกิจพอเพียง” และแนวคดิ ตาม วิธวี ทิ ยา บางประการ ที่น่าจะเป็นเหตุและส่งผลอย่างมี ของการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมที่ นัยส�ำคัญต่อกระบวนทัศน์และหลักคิดของ เพง่ิ เรม่ิ ตน้ ศกึ ษาวเิ คราะหจ์ รงิ จงั กบั ประเทศไทย คนไทยอย่างมากถึงมากที่สุด ท้ังนี้เพราะคง น่าจะนำ� ไปสูค่ �ำตอบทช่ี ัดเจนยง่ิ ขึน้ ได้ในอนาคต ไม่อาจวางมาตรการและแก้ไขสถานการณ์ คุณลักษณะพึงประสงค์ส�ำหรับคนไทยใน ท่ีไม่พึงปรารถนาได้ หากยึดถือว่าทุกเหตุปัจจัย ศตวรรษที่ 21 (จ�ำนวนมากและหลากหลาย) ต่างส่งผลถึง จากประเด็นปัญหาพื้นฐานเก่ียวกับ กระบวนทัศน์และหลักคิดของคนไทยและ กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ของคนไทยในปจั จบุ นั จะดำ� เนนิ การในทุกๆ เหตุปจั จัยเหล่านัน้ ซ่ึงมีท่าทบี านปลายและมีแนวโน้มขยายตัวไปใน กรอบแนวคิดข้างต้นน้ี จึงเป็นการ ทางไม่พึงปรารถนามากขึ้น โดยเฉพาะปัจจัย ปรบั เปลยี่ นดา้ นคา่ นยิ มและวฒั นธรรม โดยสรา้ ง ท่ีเช่ือได้ว่าเป็นเหตุส�ำคัญให้กระบวนทัศน์และ ความพยายามขับเคลื่อนให้เกิดการปรับเปลี่ยน หลักคิดของคนไทยเป็นเช่นนั้น น่าจะสืบเน่ือง สังคมไทยอย่างเป็นองค์รวม สอดคล้องกับ จากสาเหตุท่ีหลากหลายมาก รวมไปถึงผลการ ทไ่ี ดก้ ลา่ วไวใ้ นตอนตน้ (Transition of Culture) เมื่อประมวลจากวรรณกรรมและการศึกษาวิจัย 5 โดย ผชู้ ่วยศาสตราจารยศ์ ศมิ า บนุ นาค คณะเศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 9 ในภาพรวมแล้ว อาจกล่าวได้ว่ามีแนวคิดท่ี ความรับผิดชอบ คือ รับผิดชอบต่อ หลากหลายมากทคี่ วรนำ� มากำ� หนดเปน็ เปา้ หมาย ตนเอง ต่อครอบครวั และต่อสังคมในสิ่งท่ตี นคิด กระบวนทัศน์และหลักคิดในที่น้ี การประชุม พดู และท�ำ ระดมความคิดหลายคร้ังปรากฏผลสรุปว่า การศึกษาวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมและ เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิผล ความเป็นไปไดข้ องคณุ ลักษณะพึงประสงค์ จงึ เหน็ ควรนำ� มากำ� หนดเปน็ เปา้ หมายกระบวนทศั น์ เพ่ือทดสอบและเพ่ือให้แน่ใจว่า และหลกั คดิ สำ� คญั ในขน้ั ตน้ นี้ 5 ประการ ไดแ้ ก่ คณุ ลกั ษณะพงึ ประสงคห์ รอื เปา้ หมายกระบวนทศั น์ ความพอเพยี ง คอื การดำ� เนินชวี ติ แบบ และหลักคิดส�ำหรับคนไทย ท้ัง 5 ประการ ทางสายกลาง มเี หตมุ ผี ล ใชค้ วามรใู้ นการตดั สนิ ใจ ท่ีก�ำหนดประมวลข้ึนนั้นมีความเหมาะสม อย่างรอบคอบ มีความพอประมาณ พอดี และมีความเป็นไปได้ท่ีจะอธิบายคนไทยใน ไม่เบียดเบียนตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม ศตวรรษท่ี 21 จึงได้คิดแผนงานจัดการความรู้ ไม่ประมาท สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี รู้เท่าทันการ ร่วมกับแผนงานส่งเสริมกระบวนการก�ำกับ เปลย่ี นแปลง พฤติกรรมด้วยมาตรการทางกฎหมายและ ความมวี นิ ยั คอื การยดึ มนั่ และรบั ผดิ ชอบ มาตรการทางสังคม ด�ำเนินการสังเคราะห์ ในหนา้ ท่ขี องตน ท้งั วินัยในตนเองในการผลกั ดัน ประเด็นส�ำคัญๆ ที่สังคมให้ความสนใจในช่วง ชีวิตให้ก้าวหน้า วินัยในองค์กร สังคม ปฏิบัติ ระยะ 2 ปีที่ผ่านมาแล้วจัดประชุมระดมสมองใน ตามจริยธรรม จรรยาบรรณ และเคารพต่อ เวทีสร้างการเรียนรู้ทางสังคม เพื่ออภิปรายใน กฎหมาย ประเด็นที่น�ำมาสังเคราะห์ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ความสจุ รติ คอื ความซอ่ื ตรง ความซอื่ สตั ย์ ด้านต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง รวมท้ังหมด 4 ประเด็น สุจริต ยึดม่ัน ยืนหยัดในการรักษาความจริง ดังต่อไปน้ี ความถูกต้อง ความเป็นธรรมท้งั ปวง กล้าปฏิเสธ การกระท�ำท่ีไม่ซ่ือตรง ไม่ซ่ือสัตย์ของบุคคลอ่ืน (1) ประเด็นการสร้างจิตส�ำนึกความ ที่จะท�ำให้สว่ นรวมเกิดความเสยี หาย รบั ผดิ ชอบ : ยืม-ไมค่ ืน 6 การมจี ติ สาธารณะ คอื การเปน็ ผมู้ ใี จใส่ ปรากฏการณใ์ นชว่ งระยะปจั จบุ นั มี ต่อสังคม สาธารณะและอาสาลงมือท�ำอย่างใด กรณีของการยืมแล้วไม่คืนด้วยเหตุผลต่างๆ อย่างหน่ึง อันมิใช่หน้าท่ีของตน ด้วยความรัก หลายกรณี เชน่ ทป่ี รากฏวา่ “ไมม่ ี ไมห่ นี ไมค่ นื ” ความสามัคคี เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น สังคม หรือ กรณีของคณะครูที่เข้าโครงการกู้ยืมของ ประเทศชาติ โดยมิไดห้ วงั ผลตอบแทน 6 โดย นายวัชรมงคล เบญจธนะจักร คณะท�ำงานสง่ เสริมกระบวนการในการปรบั พฤติกรรมด้วยมาตรการทางกฎหมายและมาตรการ ทางสังคม
10 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ ธนาคารออมสิน หรือกรณีของนักเรยี นนักศกึ ษา สำ� หรบั ใชเ้ ปน็ ตน้ แบบกน็ า่ จะทำ� ได้ รวมทงั้ สง่ เสรมิ กยู้ มื จากกองทนุ เงนิ ใหก้ ยู้ มื เพอื่ การศกึ ษา (กยศ.) การสร้างจิตส�ำนึกที่ดีให้แก่ลูกหน้ีทั้งในระหว่าง จ�ำนวนหลายแสนคนท่ีค้างช�ำระเงินคืนหลังจาก ศกึ ษาและเมอื่ ศกึ ษาสำ� เรจ็ แลว้ อาจจดั ทำ� กจิ กรรม จบการศึกษาแล้ว สาเหตุส�ำคัญของการไม่ช�ำระ จติ อาสาเพอ่ื ชดเชยหรอื ทดแทนดอกเบย้ี เงนิ กยู้ มื หน้ี น่าจะมาจากขาดการสื่อสารเพ่ือสร้างความ ตลอดจนการเพมิ่ เตมิ ความรทู้ งั้ ในและนอกหลกั สตู ร เข้าใจในการช�ำระหนี้ ท้ังผู้กู้/ผู้ค�้ำประกันและ เกย่ี วกบั การสรา้ งวนิ ยั การออมเงนิ เพอ่ื ประโยชน์ สถานศึกษาท่ีท�ำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ ในการวางแผนชีวิตของคนรวมถึงการวางแผน การกูย้ ืมเงนิ ทุน กยศ. ยงั ไม่มีความร้คู วามเขา้ ใจ ใชห้ นี้ภายหลังส�ำเรจ็ การศึกษาด้วย เพียงพอต่อกฎระเบียบการช�ำระหนี้ ผู้อธิบาย (2) ประเด็นทุจรติ โกงคนเดอื ดร้อน 7 โดยเฉพาะสถานศึกษาไม่ใช่เจ้าของทุนตัวจริง ส า ร ะ โ ด ย ส รุ ป จ า ก ก ร ณี ศึ ก ษ า และท่ีส�ำคัญคือผู้กู้ขาดจิตส�ำนึก เน่ืองจากไม่ได้ ห ล า ก ห ล า ย ก ร ณี ที่ ป ร า ก ฏ เ ป ็ น ค ดี ค ว า ม รับการปลูกฝังความคิดที่ถูกต้อง เห็นต้นแบบที่ โดยเฉพาะกรณีบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ดีโดยเช่ือว่าไม่คืนก็ไม่เป็นไร กองทุนคงไม่ ทุจริตโกงเงินอุดหนุนช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่ จริงจังกับการเรียกคืนหนี้ ทั้งๆที่เงินต้นและ เด็กยากจนและเด็กไร้ท่ีพ่ึง หรือกรณีบุคลากร ดอกเบี้ยท่ีกองทุนได้รับช�ำระคืนจะกลับไปเป็น กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เงนิ ทนุ ใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษารนุ่ ใหม่ ไดก้ ยู้ มื ตอ่ ไป หรือกรณีบุคลากรส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จวบจนเม่ือ กยศ. เอาจริงด้วยการฟ้องคดีและ แห่งชาติโกงเงินอุดหนุนวัดโดยเรียกรับเงินทอน บงั คบั ผคู้ ำ�้ ประกนั หนใี้ หช้ ำ� ระหนแี้ ทน ซงึ่ ปรากฏ จากเงินอุดหนุนวัดและโรงเรียนพระปริยัติธรรม ว่าครูบางคนท่ีได้ช่วยลงชื่อค้�ำประกันให้ศิษย์ (รวมทงั้ มกี ารสรา้ งหลกั ฐานการเบกิ จา่ ยเปน็ เทจ็ ) จำ� นวนมากไดถ้ กู ฟอ้ งคดี ศษิ ยท์ ไี่ ดป้ ระโยชนจ์ าก กยศ. โดยครูค้�ำประกันให้ จึงได้ส�ำนึกผิดและ ปรากฏเปน็ ขา่ วอยา่ งกวา้ งขวาง ปรากฏเป็นข้อเสนอแนะว่า นอกจากการด�ำเนินมาตรการทาง กฎหมายในการฟ้องบังคับคดีแล้ว กยศ. จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจ ทถี่ กู ตอ้ ง การสง่ เสรมิ การเปน็ ลกู หนที้ ดี่ ี 7 โดยนายสนั สง่ั สอน ผอู้ ำ� นวยการศนู ยค์ ณุ ธรรม คณะทำ� งานและเลขานกุ าร โดยคณะทำ� งานสง่ เสรมิ กระบวนการในการปรบั พฤตกิ รรม ด้วยมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางสงั คม
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 11 การสังเคราะห์จากกรณีศึกษาต่างๆ แสดงว่า ตัวแบบคุณธรรม โดยอาจพัฒนาข้ึนจากกรณี การทุจริตเป็นการกระท�ำที่เกิดข้ึนจากปัจจัย ต่างๆ ที่ดีๆ ท่ียังมีเกิดขึ้นเสมอๆ น�ำเอามาใช้ ส�ำคัญ 3 ประการ คือความไม่ซ่ือสัตย์ ประโยชน์ การแสวงหาและฉวยโอกาส ทั้งสามปัจจัยเป็น (3) ประเดน็ จติ สาธารณะ ปรากฏการณ์ สิ่งเร้าและสิ่งจูงใจ สะท้อนว่าคนรู้จักคุณธรรม เชงิ บวกทางสงั คม 8 แตไ่ มเ่ คยยดึ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั คณุ ธรรม การกระทำ� ประเด็นจิตสาธารณะ ซึ่งเป็น ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ โดยเฉพาะการโกง คนทเี่ ดอื ดรอ้ น ปรากฏการณ์เชิงบวกทางสังคม ได้ใช้ 2 กรณี และมีความทุกข์อยู่แล้วก็เพราะไม่ได้คิด ไม่ได้ ศึกษา คือ โครงการก้าวคนละก้าว ของ ตูน ยับย้ังชง่ั ใจ ขาดทง้ั วนิ ัยและความรับผดิ ชอบ บอด้ีสแลม และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ การปลูกฝังคุณธรรมหลักท้ัง 5 ถ�้ำหลวง - ขุนน�้ำนางนอน ท้ังสองกรณีศึกษา ประการ คือ ความพอเพยี ง ความมวี ินยั ความ แสดงว่าการมีจิตสาธารณะน้ันเป็นพ้ืนฐานของ สุจริต การมีจิตสาธารณะและความรับผิดชอบ คนไทยโดยมีปัจจัยที่ส่งผลสู่ความส�ำเร็จคือ ซง่ึ นา่ จะจำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ โดยอาจจดั เปน็ หลกั สตู ร การมีเป้าหมายท่ีชัดเจนมีกระบวนการจัดการ ต้ังแต่ชั้นเรียนเริ่มต้นการศึกษาข้ันพื้นฐานหรือ ท่ีดี (โดยเฉพาะกรณีโครงการก้าวคนละก้าว) แทรกไวใ้ นกจิ กรรมการเรยี นในทกุ ชนั้ ปี หรอื โดย มีการวางแผนอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมและเป็น วธิ กี ารอน่ื ๆ นอกจากนน้ั การสรา้ งวนิ ยั การออม ระบบ ทกุ คนมสี ว่ นรว่ ม เขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย การสอื่ สาร ใหร้ จู้ กั การวางแผนการเงนิ ใหเ้ ขา้ ใจความพอเพยี ง ทเี่ นน้ ความถกู ตอ้ งและเลน่ กบั อารมณค์ วามรสู้ กึ ตั้งแต่ยังเด็กเพื่อโตไปจะได้ไม่โกง ในผู้ใหญ่ ของคนเพ่ือน�ำไปสู่เป้าประสงค์ใหญ่ และการมี อาจตอ้ งหาวธิ กี ระตกุ ตอ่ มคดิ (เปน็ moral remind) ผู้น�ำที่มีศักยภาพเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น เช่น แสดงและเผยแพร่ต้นแบบที่ดี ให้แสวงหา อยากทำ� ตามหรอื อยากเขา้ มามสี ว่ นร่วม สิ่งยึดเหน่ียวหรือบุคคลท่ียึดเป็นตัวอย่างหรือ 8 โดย ดร.สุนทร คณุ ชยั มงั ผอู้ �ำนวยการศนู ย์ศึกษาและพฒั นากิจการเพอื่ สงั คม วิทยาลยั นวตั กรรม มหาวิทยาลยั รงั สิต และสมาชกิ คณะท�ำงานฯ
12 วารสารดำ�รงราชานุภาพ มีข้อเสนอแนะว่า ในการวางเป้าหมาย ถึงความต่อเน่ืองในการอธิบายท�ำความเข้าใจ/ การพัฒนาคนเพ่ือให้มีคุณลักษณะอย่างท่ี ประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งผเู้ กย่ี วขอ้ งจำ� นวนมาก ต้องการนั้น มีอีกอย่างหนึ่งท่ีมักมองข้ามไปคือ ทำ� ใหค้ นจำ� นวนมากทตี่ อ้ งการแสดงออกไดม้ เี วที กระบวนการมุ่งไปสู่ผลส�ำเร็จ ซ่ึงมีความท้าทาย และมีส่วนร่วมแสดงออกอย่างทั่วถึง พฤติกรรม และมีความส�ำคัญต่อการพัฒนาคนไทยเป็น ทำ� นองน้ีอาจตอ้ งปลกู ฝังตัง้ แต่วยั เยาว์ อย่างมาก ทั้งสองกรณีศึกษาสะท้อนถึง (4) ประเด็นมาตรการทางกฎหมาย9 “กระบวนการ” ท่ีวางหรือเกิดขึ้นเป็นล�ำดับ การสงั เคราะหก์ รณนี พ้ี บวา่ กระบวนการ กอ่ นหลงั ตอ่ เนอื่ งเปน็ ลกู โซ่ กระบวนการนนั้ อาจ สอบสวนมีผลต่อกระบวนการทางกฎหมาย วางแผนมาเป็นอย่างดี (เช่นกรณีโครงการ โดยเฉพาะผทู้ เี่ สยี เปรยี บกวา่ ทางสงั คม การทำ� ให้ ก้าวคนละก้าว) หรืออาจเป็นไปโดยธรรมชาติ หลกั คณุ ธรรมในงานสอบสวนและหลกั พน้ื ฐานใน ไม่มีการเตรียมการแต่มักมีกลวิธีและผู้น�ำที่ดีใน กระบวนการสอบสวนมีความเข้มแข็ง จ�ำเป็น การวางกระบวนการนน้ั (เชน่ กรณกี ารชว่ ยเหลอื ต้องปรับระบบงานสอบสวนให้เป็นไปตาม ผปู้ ระสบภยั นอกจากนน้ั ทงั้ สองกรณบี ง่ ชชี้ ดั เจน 9 โดย ศาสตราจารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ คณะนติ ศิ าตร์ สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบริหารศาสตร์ และสมาชิกคณะท�ำงานฯ
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 13 มาตรฐานสากล ไดแ้ ก่ การกระจายอำ� นาจใหก้ บั คุณลักษณะพื้นฐานที่มีอยู่ในคนไทยส่วนใหญ่ ต�ำรวจในระดับจังหวัด การสร้างหลักประกัน ซงึ่ ปรากฏเปน็ ความโอบออ้ มอารี เออ้ื เฟอ้ื เผอื่ แผ่ ความอิสระให้แก่พนักงานสอบสวน การปรับ และช่วยเหลือเก้ือกูลกัน เมื่อใดท่ีมีเหตุการณ์ โครงสร้างการสอบสวนและการฟ้องร้องคดีให้ ส�ำคัญ (ที่วางแผนสร้างขึ้นเป็นอย่างดี) หรือ เป็นกระบวนการเดียวกัน และกระจายงาน ภาวะฉุกเฉินวิกฤติ (ท่ีไม่คาดคิดล่วงหน้าได้) สอบสวนใหห้ น่วยงานตา่ งๆ ท่ีเกี่ยวข้อง สภาวะการมจี ติ สาธารณะจะปรากฏโดยพรอ้ มเพรยี ง กรณศี กึ ษานี้ ใหข้ อ้ คดิ วา่ การสง่ เสรมิ วนิ ยั และท�ำให้ประสบผลสัมฤทธ์ิอย่างดี โดย แก่คนไทยโดยเฉพาะเด็กน่าจะส่งผลส�ำคัญมาก ตอ้ งอาศยั ภาวะผนู้ ำ� ทดี่ แี ละสถานการณท์ อ่ี ำ� นวย ในเชิงการป้องกันระบบคุณธรรมของประเทศ ให้ ในแงน่ เี้ ปน็ ขอ้ นา่ กงั วลหากเกดิ กรณกี ารสรา้ ง หากจัดให้มีข้ึนได้ดีก็จะวางกรอบให้ระบบการ สถานการณ์โดยไม่ประสงค์ดี อาจน�ำไปสู่ความ สอบสวนสามารถตรวจสอบได้ กระบวนการทาง เสียหายในวงกว้างได้ (เช่นกรณีการระดมพล กฎหมายตอ้ งใหม้ สี ว่ นรว่ ม โปรง่ ใสและตรวจสอบ สนับสนุนโรงพยาบาลแห่งหน่ึงด้วยการจัดวิ่ง ได้ ส่วนมาตรการทางกฎหมายต้องชัดเจน การกุศลแต่ขาดการวางแผนและไม่มีผู้น�ำท่ีดี และต้องมีการส่ือสารสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน ได้ส่งผลเสียหายดังท่ีปรากฏ) ส่วนคุณลักษณะ และระบบการสอบสวนต้องอาศัยกระบวนการ อน่ื ๆ อีก 4 ประการ เป็นประเดน็ ท่อี าจเคยเปน็ มสี ว่ นรว่ มจากภาคสว่ นตา่ งๆ เพอื่ ตรวจสอบและ คณุ ลกั ษณะประจำ� ของคนไทย แตไ่ ดเ้ ลอื นรางไป คานอ�ำนาจซึ่งกันและกัน (เช่นระหว่างต�ำรวจ ตามกาลเวลาและสภาพแวดลอ้ มกบั เทคโนโลยใี หม่ และอัยการ) ดงั ทปี่ รากฏแนวพระราชดำ� รแิ ละ พระบรมราโชวาท น่าสังเกตว่ากระบวนการทางกฎหมาย ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ท่ีถูกบิดเบือนน่าจะมาจากการไม่ต้องการ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท�ำความจริงให้ปรากฏ โดยการอ�ำพราง ปิดบัง เรอื่ งปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทำ� ใหป้ จั จบุ นั หรือให้ข้อมูลเท็จ และหากยังไม่สามารถท�ำ มีองค์กรหน่วยงานต้นแบบหลายแห่งได้ช่วยกัน ความจรงิ ใหป้ รากฏได้ กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ รณรงค์ให้คนไทยรู้จัก “พอเพียง” มากข้ึน ของคนไทยกจ็ ะไมอ่ าจสรา้ งใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายได้ ความสุจริตก็เป็นท�ำนองเดียวกัน บทวิเคราะห์ สรุปรวมความจากการศึกษาวิเคราะห์ คราวน้ีได้แสดงถึงพ้ืนเพเดิมของพฤติกรรม กรณีศึกษาต่างๆ เพ่ือทดสอบความเหมาะสม คนไทยว่าเป็นคนซ่ือตรง (มี integrity) และ และความเปน็ ไปไดข้ องคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ซ่ือสัตย์ (มี honesty) ซึ่งถือเป็นคนสุจริต ของคนไทยตามกรอบเป้าหมายคุณธรรม แตก่ ารแสวงหาโอกาสและฉวยโอกาสกย็ งั ปรากฏ 5 ประการนี้ พบว่าการมีจิตสาธารณะเป็น จากกรณเี ลก็ ๆ นอ้ ยๆ จนระยะหลงั เปน็ เรอื่ งใหญ่
14 วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ ได้ขยายขอบข่ายความเสียหายเป็นวงเงิน ดงั กลา่ วใหก้ วา้ งขวางมากทส่ี ดุ ทงั้ โดยวธิ ที างตรง หมน่ื ลา้ นหรอื แสนลา้ นบาท การยดึ ตวั ตนของตวั เอง การใช้สื่อ รวมทั้งส่ือสังคมและภาคีเครือข่ายใน เป็นหลักมากเกินไปท�ำให้ขาดความรับผิดชอบ การรณรงค์ และเม่ือขาดวินัย ก็สามารถท�ำการได้หลายๆ (ก) ในเบ้ืองต้นได้อาศัยองค์กรที่มี อย่างที่ส่งผลเสียต่อผู้อื่น ฝ่าฝืนกฎหมายหรือ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละพนั ธกจิ ใกลเ้ คยี งกบั เปา้ หมายที่ เปน็ การผลกั ภาระและตน้ ทนุ ใหก้ บั ผอู้ นื่ ฉวยเอา กำ� หนดนี้ ไดแ้ ก่ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ประโยชนเ์ ปน็ ของตนฝา่ ยเดยี ว ปรากฏการณข์ อง ซึ่งได้จัดสมัชชาคุณธรรมเป็นประจ�ำทุกๆ 2 ปี องค์กรและหน่วยงานต้นแบบหลายกรณีท่ีสนใจ และในบรรดาหลายๆ กจิ กรรมนนั้ ไดร้ ว่ มสานพลัง ในประเด็นปัญหาท�ำนองน้ีและได้ด�ำเนินการ สร้างโรงเรียนคุณธรรม จากอ�ำเภอบางมูลนาก ตา่ งๆ เชน่ การรณรงคต์ อ่ ตา้ นการทจุ รติ ประพฤติ จงั หวัดพิจิตร ภายใต้การดำ� เนนิ งานของกองทนุ มชิ อบ การเรยี กรอ้ งสร้างความมีวินัย การสร้าง การศึกษาพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จ ธรรมาภบิ าล และการพฒั นาจติ สำ� นกึ รบั ผดิ ชอบ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช ในการคิดการพูดและการกระท�ำของตนเอง บรมนาถบพิตร และต่อมาเป็นศูนย์โรงเรียน เปน็ ตน้ คณุ ธรรมมลู นธิ ยิ วุ สถริ คณุ ในปจั จบุ นั พนั ธกจิ นน้ั การสรา้ งกระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ สำ� หรบั คนไทย ไดข้ ยายอยา่ งกวา้ งขวางไปยงั โรงเรยี นจำ� นวนมาก จากสถานภาพและองค์ความรูท้ ป่ี รากฏ ตอ่ ไปถงึ โรงพยาบาลคณุ ธรรม และอำ� เภอคณุ ธรรม ดังกล่าวข้างต้น จึงร่วมกันก�ำหนดหลักการของ เป็นตน้ พันธกิจ “การสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิด (ข) การประสานความร่วมมือกับ ส�ำหรบั คนไทยในศตวรรษที่ 21” ดงั น้ี คณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ 1. กระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ทพี่ อเหมาะ ซึ่งจัดตั้งโดยระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรี ส�ำหรับคนไทยในศตวรรษที่ 21 น่าจะอย่ภู ายใต้ และมีรัฐมนตรีประจ�ำส�ำนักนายกรัฐมนตรีเป็น กรอบแนวคิด คนไทยต้องมีความพอเพียง เป็น ประธาน มีกรมการศาสนาและศูนย์คุณธรรม คนมวี ินัย สุจรติ มีจติ สาธารณะและรรู้ ับผิดชอบ เป็นฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการฯ คณะน้ีมี ซ่ึงอาจสรุปเรียกว่า “คุณธรรมที่พึงประสงค์ คณะอนุกรรมการอยู่หลายคณะ ได้ด�ำเนิน 5 ประการ” โดยมุ่งเป้าหมายให้ “คนไทยเห็น การรณรงค์ “คุณธรรม” เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ประโยชนส์ ว่ นรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน” โดยนิยามไว้ 4 ประการได้แก่ ความพอเพียง 2. การรณรงค์คุณธรรมที่พึงประสงค์ ความมีวินัย ความสุจริตและการมีจิตอาสา 5 ประการ โดยพยายามสร้างและขยายความคิด ลา่ สดุ ผลการประชมุ เสนอใหผ้ นกึ กำ� ลงั ดำ� เนนิ การ รณรงค์ร่วมกันเพ่ือศักยภาพในการด�ำเนินงาน
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 15 และขอใหค้ ณะกรรมการฯ พิจารณา “คุณธรรม สัมฤทธ์ิผลของการด�ำเนินงานตามข้อแรกใน ที่พึงประสงค์” เป็น 5 ประการ โดยเฉพาะ แต่ละรอบเวลา เช่นใน 1 ปี จะจัดให้มีการวัด การเพิ่มเตมิ หลกั ความรบั ผดิ ชอบ ซงึ่ สำ� คญั มาก และประเมินสมรรถนะและสัมฤทธ์ิผลตาม กับบุคคลและนิติบุคคลในภาคเอกชนท่ีเข้มงวด หลักคุณธรรมท่ีพึงประสงค์ท้ัง 5 ประการ โดย มากกับการมีธรรมาภิบาลในการท�ำธุรกิจ พัฒนาตัวชี้วัดส�ำหรับคุณธรรมแต่ละประการ ซึ่งความรับผิดชอบเป็นหลักส�ำคัญมากประการ ข้ึนจากบรรดาตัวช้ีวัดเดิมที่ใช้วัดประสิทธิภาพ/ หน่ึงในเรื่องธรรมาภิบาล ส่วนประเด็นการมี ประสทิ ธผิ ลของการดำ� เนนิ งานอยแู่ ลว้ โดยไมต่ อ้ ง จิตสาธารณะนั้นจะส่ือความหมายกว้างขวาง ร่างตัวชี้วัดขึ้นใหม่ การประเมินดังกล่าวนี้ มากกวา่ การมจี ติ อาสา เพราะการมจี ติ สาธารณะ จะแสดงผลการประเมนิ ในรปู แบบใดรปู แบบหนงึ่ จะทำ� ใหค้ นนกึ ถงึ ผอู้ นื่ เสมอื นนกึ ถงึ ตวั เองหรอื ไม่ เช่น จัดเป็นกลุ่มฯ ตามล�ำดับสัมฤทธิ์ผลของ ด้อยไปกว่าตัวเอง จึงไม่เพียงแต่อาสาไปกระท�ำ สมรรถนะหรือจัดเป็นกลุ่มตามล�ำดับในแต่ละ การใดๆ เทา่ นนั้ คณะกรรมการฯ ไดร้ บั หลกั การ ประเภทของ อปท. และ (3) ในทา้ ยสดุ อาจพฒั นา ไวแ้ ลว้ และจะทยอยดำ� เนนิ การร่วมกันตอ่ ไป ไปถงึ ข้นั ทีใ่ ชผ้ ลการประเมนิ ตาม (2) ไปประกาศ (ค) การรณรงค์คุณธรรมในองค์กร ใหม้ ี อปท. คณุ ธรรม เชน่ เทศบาลคณุ ธรรม อบต. ปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้มีการประสานและ คณุ ธรรม หรอื อบจ.คุณธรรม และพัฒนาต่อไป ปรึกษาหารือในเชิงนโยบายกับกรมส่งเสริม ในอนาคตถึงกระบวนการที่แต่ละ อปท. ต้อง การปกครองทอ้ งถนิ่ และไดข้ อ้ ยตุ เิ ปน็ แนวปฏบิ ตั ิ รักษาระดับคณุ ธรรมของตนไว้ ทีส่ �ำคญั 3 ประการ กลา่ วคอื (1) การสนบั สนนุ (ง) การรณรงค์คุณธรรมในกลุ่ม ให้ อปท. ใช้หลักคุณธรรมท่ีพึงประสงค์ 5 องค์กรอื่นๆ เช่นกลุ่มของเครือข่ายวัฒนธรรม ประการ ในการด�ำเนินงานโดยต้ังเป้าหมาย ในแต่ละพ้ืนที่ เครือข่ายพัฒนาสังคมและความ ทบี่ ุคลากรทุกระดบั ของ อปท. กับประชาชนใน มั่นคงของมนุษย์ กลุ่มโรงเรียนสังกัดส�ำนักงาน อปท. นนั้ ๆ เอง การดำ� เนนิ งานที่ อปท. ใดทำ� อยแู่ ลว้ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกลุ่มที่ ด้วยหลักการใน 5 ประการ หากยังไม่ครบ สังกัดกรุงเทพมหานครหรือในกลุ่มสถาบัน ทุกประการ ให้ค่อยๆ ขยายเพ่ิมเติมต่อไป อุดมศึกษา ได้มีการด�ำเนินการไปบ้างแล้วแต่ยัง เมอื่ บคุ ลากรของ อปท. กับประชาชนใน อปท. ไม่จัดว่าเป็นระบบความคิดในการด�ำเนินงาน ได้ยึดหลักคุณธรรมท่ีพึงประสงค์ 5 ประการ ที่ชัดเจนเพียงพอ มีสมาชิกมาเข้าร่วมกิจกรรม แล้ว ย่อมจะแสดงพัฒนาการในประสิทธิภาพ อ่ืนๆ บา้ ง ซง่ึ ต้องผลักดนั และรณรงค์ตอ่ ไป และประสทิ ธผิ ลของการดำ� เนนิ งานของ อปท. นน้ั (จ) การรณรงคค์ ณุ ธรรมในเครอื ขา่ ย (2) เพอื่ ใหส้ ามารถวดั และประเมนิ สมรรถนะและ โรงเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้มี
16 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ การด�ำเนินการโดยมีคณะท�ำงานประสานงาน บุคคลคุณธรรม ส่งเสริมให้ผู้ท่ีท�ำความดีได้รับ ในเรื่องน้ี โดยอาศัยเครือข่ายกลุ่มโรงเรียนของ การช่ืนชมยินดีและมีก�ำลังใจ ควบคู่ไปกับการ อปท. ที่ท�ำกิจกรรมภายใต้การสนับสนุนของ ต�ำหนิและต่อต้านกรณีท่ีขาดคุณธรรมอย่าง ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม รุนแรงโดยเฉพาะการทุจริต เพื่อช่วยปรามการ สุขภาพ (สสส.) อยู่แลว้ กระท�ำท่ีไม่พึงปรารถนาด้วย (2) การช่วย (ฉ) การรณรงคค์ ณุ ธรรมในเครอื ขา่ ย เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธก์ ระบวนทศั นแ์ ละหลกั คดิ ธุรกิจภาคเอกชน มีคณะท�ำงานรับผิดชอบ ท่ีเหมะสมส�ำหรับคนไทย โดยเฉพาะคุณธรรม ด�ำเนินเป็นการเฉพาะเรียกว่า คณะท�ำงาน ทพ่ี งึ ประสงคแ์ ละ (3) สรา้ งธรรมาภบิ าลในวงการ รณรงคธ์ รรมาภบิ าล และอาศยั สืบต่อจากกรอบ สือ่ และบุคลากรของส่อื เง่ือนไขและข้อก�ำหนดของตลาดหลักทรัพย์ 3. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ แหง่ ประเทศไทยสำ� หรบั ภาคธรุ กจิ เอกชนทอี่ ยใู่ น สร้างกระบวนทัศน์และหลักคิด พันธกิจทสี่ ำ� คัญ ตลาดหลกั ทรพั ยฯ์ โดยเฉพาะทเี่ กยี่ วกบั ธรรมาภบิ าล อีกประการหน่ึงคือการพัฒนาเครือข่ายความ ของธุรกิจ ทั้งในด้านความโปร่งใส ความพร้อม ร่วมมือในการสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิด รับการตรวจสอบได้ การมีส่วนร่วม และความ ท่ีเหมาะสมส�ำหรับคนไทย เพราะนอกจาก รับผิดชอบโดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นการสร้างและขยายการยอมรับคุณธรรม ป ร ะ ก อ บ กั บ บ ท บ า ท ข อ ง ส ภ า ห อ ก า ร ค ้ า ที่พึงประสงค์ท้ัง 5 ประการแล้ว ยังเป็นฐาน แห่งประเทศไทยที่สนับสนุนในระยะเร่ิมต้น ส�ำคัญส�ำหรับการท�ำให้คนไทยปฏิบัติคุณธรรม ในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ได้ 5 ประการ กว้างขวางมากยิ่งข้ึน ซ่ึงจะท�ำให้ พัฒนาเป็นองค์กรต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน บรรเทาปัญหาท่ีไม่พึงปรารถนาไปได้มากใน ในปจั จบุ นั ธรุ กจิ ภาคเอกชนในเครอื ขา่ ยคอ่ นขา้ ง อนาคต หลักการส�ำคัญในการสร้างเครือข่าย เครง่ ครดั และดำ� เนนิ การในดา้ นการมจี ติ สาธารณะ ในครั้งน้ีได้ยึดข้อเท็จจริงจากการมีเครือข่าย และความรบั ผิดชอบจากการท�ำ CSR ของธรุ กิจ ต่างๆ ด�ำเนินการอยู่แล้วเป็นจ�ำนวนมากใน เปน็ ประจำ� อยแู่ ลว้ และเลอื กทจ่ี ะขยายคณุ ธรรม ประเทศไทย ท้ังที่เป็นรูปแบบนิติบุคคลตาม ด้านความมวี ินัยเพ่ิมข้ึนอกี ประการหน่ึง กฎหมายและที่จัดตั้งในแบบองค์กรจิตอาสา (ช) การรณรงคค์ ณุ ธรรมในเครอื ขา่ ย แต่ละเครือข่ายที่มีอยู่ มีวัตถุประสงค์และ สื่อมวลชน มคี ณะท�ำงานด้านน้ีโดยเฉพาะชอ่ื วา่ เปา้ หมาย (เฉพาะทเ่ี กย่ี วกบั การรณรงคค์ ณุ ธรรม) คณะท�ำงานเครือข่ายสื่อมวลชน มีเป้าหมาย แตกต่างกัน เช่น บางเครือข่ายเน้นเฉพาะการ การดำ� เนนิ งานเปน็ 3 ดา้ น กลา่ วคอื (1) การชว่ ย ต่อต้านการทุจริต บางเครือข่ายรณรงค์สร้าง จดั การใหส้ ่อื ประเภทต่างๆ ไดเ้ ผยแพรก่ รณีหรอื จิตส�ำนึกของความพอเพียง หรือบางเครือข่าย
วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 17 เน้นหลักการมีวินัยด้านการจราจร เป็นต้น กระบวนทัศน์และหลกั คดิ ของคนไทยตอ่ ไป ประเด็นส�ำคัญคือไม่มีฐานข้อมูลท่ีสมบูรณ์ว่ามี การประชุมเชิงปฏิบัติการ ครั้งท่ี 4 เครือข่ายใดบ้างและท�ำอะไรอยู่ ทางลัดท่ีดีที่สุด เมื่อวันท่ี 24 ธันวาคม 2561 ซ่ึงเป็นครั้งล่าสุด คือเกาะเก่ียวสร้างสัมพันธ์กับเครือข่ายต่างๆ นอกจากยำ�้ เตอื นคำ� มน่ั ตามปฏญิ ญาดงั กลา่ วแลว้ ที่พอมขี อ้ มลู ใหอ้ า้ งถึง ยังเป็นการสรุปภาพรวมรายงานการด�ำเนินงาน การจดั ประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารมวี ตั ถปุ ระสงค์ ทง้ั หมดในรอบปเี ศษดว้ ย การรายงานนยี้ งั ไมอ่ าจ เพื่อ (1) แจ้งให้ทราบถึงการสร้างกระบวนทัศน์ ประเมินผลสัมฤทธ์ิได้เพราะเป็นปีแรกของ และหลักคิดส�ำหรับคนไทยในศตวรรษที่ 21 การระดมความคิดและเร่ิมด�ำเนินงานเทา่ นัน้ (2) ให้ทราบรายละเอียดคุณธรรมท่ีพึงประสงค์ ประมวลสรปุ 5 ประการ (3) ประเมินความเห็นและชักชวน การทำ� ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั กระบวนทศั น์ ให้เข้าร่วมด�ำเนินงานไปด้วยกัน ท้ังน้ีโดยแต่ละ และหลักคิดของคนไทยเป็นประเด็นท่ียาก เครือข่ายยังคงด�ำเนินงานของตนตามเดิมต่อไป เพราะมีความซับซ้อนและไม่ค่อยมีผู้ท�ำการ และถ้าหากพร้อมและประสงค์อาจขยาย ศึกษาวิเคราะห์ไว้มากนัก สภาพบังคับของการ เป้าหมายให้ครอบคลุมคุณธรรมที่พึงประสงค์ จดั ระเบยี บความคดิ ภายใตเ้ วลาอนั สนั้ ทำ� ใหต้ อ้ ง 5 ประการได้ เลือกศึกษาวิเคราะห์จากวรรณกรรมและข้อมูล เครือข่ายหลักที่เป็นฐานส�ำหรับ ทุติยภูมิซึ่งมีข้อจ�ำกัดอยู่มาก แต่ก็ท�ำให้ได้สาระ เร่ิมด�ำเนินงานได้แก่ เครือข่ายของคุณธรรม สำ� คญั พอประมวลสรปุ เปน็ ตรรกะสำ� หรบั รา่ งเปน็ โดยเฉพาะสมชั ชาคุณธรรม เครือข่ายของ สสส. คณุ ธรรมทพ่ี งึ ประสงค์ 5 ประการทจ่ี ะเปน็ กญุ แจ เครือข่ายของงานพัฒนาสังคมและความม่ันคง ส�ำหรับกระบวนทัศน์และหลักคิดท่ีเหมาะสม ของมนุษย์ เครือขา่ ยวัฒนธรรม เครอื ขา่ ยธุรกิจ สำ� หรบั คนไทยในศตวรรษท่ี 21 คอื ความพอเพยี ง และเครือขา่ ยประชาสังคม ความมวี นิ ยั ความสจุ รติ การมจี ติ สาธารณะ และ การประชุมเชิงปฏบิ ัติการจดั ข้ึน 3 ครงั้ ความรบั ผิดชอบ แต่ละครั้งมีสมาชิกและผู้แทนเครือข่ายต่างๆ การทดสอบความเหมาะสมและความ รวมทั้งบุคคลท่ัวไปเข้าร่วมกว่า 300 ราย เปน็ ไปได้ของคุณธรรมทพี่ งึ ประสงค์ 5 ประการ รวมแล้วมีสมาชิกท้ังเครือข่ายและบุคคลเป็น เช่น กรณีศึกษาต่างๆ ท่ีเกิดในประเทศไทย จ�ำนวนมาก ซ่ึงเมื่อประเมินแล้ว ทุกฝ่าย ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมาและเป็นที่ทราบกันท่ัวไป มคี วามเหน็ พอ้ งตอ้ งกนั วา่ การดำ� เนนิ งานทงั้ หมด ให้ผลสรุปท่ีน่าสนใจมากว่า การมีจิตสาธารณะ นา่ จะถูกตอ้ งและถูกทางแล้ว และไดม้ กี ารจัดทำ� เป็นคุณลักษณะพ้ืนฐานของคนไทย และพร้อม ปฏญิ ญารว่ มกนั วา่ จะรว่ มกนั ขบั เคลอื่ นการสรา้ ง
18 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ แสดงออกรว่ มกนั เปน็ มวลชนเมอื่ สถานการณเ์ ออื้ ตา่ งๆ ทม่ี อี ยกู่ ระจดั กระจายและมคี วามหลากหลาย และมีผู้น�ำท่ีเหมาะสม ส่วนความพอเพียง ในวัตถุประสงค์ เพื่อประมวลความเห็นและท�ำ ความสุจริต ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ปฏิญญาร่วมกันรณรงค์คุณธรรมท่ีพึงประสงค์ ซ่ึงเป็นคุณลักษณะท่ีสามารถหล่อหลอมและ เพ่ือสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะ สรา้ งใหเ้ ปน็ ทพ่ี งึ ประสงค์ได้ สำ� หรบั คนไทย การดำ� เนนิ งานเมอื่ กำ� หนดกรอบแนวคดิ กระบวนทัศน์และหลักคิดของคนไทย และเป้าหมายแล้ว จึงท�ำการรณรงค์สร้าง เปน็ ภาวะพลวตั ทเี่ ปลยี่ นแปลงไดแ้ ละเปลย่ี นแปลง เครือข่ายด�ำเนินงานคุณธรรมท่ีพึงประสงค์ อยู่เสมอมา การปรับสร้างกระบวนทัศน์และ ท้ังการร่วมมือกับเครือข่ายหลักที่มีอยู่แล้ว เช่น หลักคิดท่ีพอเหมาะแล้วก็อาจเปลี่ยนไปได้อีก สมชั ชาคณุ ธรรม รวมทงั้ การประสานความรว่ มมอื ในช่วงต่อไป ดังนั้นพันธกิจดังกล่าวน้ีจึงเป็น กบั คณะกรรมการสง่ เสรมิ คณุ ธรรมแหง่ ชาติ และ ภาระทไี่ มส่ นิ้ สดุ และตอ้ งดำ� เนนิ งานเปน็ ระยะยาว เครือข่ายอ่ืนๆ เช่น เครือข่ายองค์กรปกครอง ทผ่ี า่ นมาเปน็ เพยี งรอบ 1 ปแี รกของการดำ� เนนิ งาน ส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคธุรกิจเอกชน และ เท่านั้นและการด�ำเนินงานก็ยังไม่แล้วเสร็จ เครือข่ายส่ือมวลชน เป็นต้น นอกจากน้ัน มีทั้งภาระที่ค้างอยู่และท่ีต้องสร้างขยายเพิ่มขึ้น ไดจ้ ดั ประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอื่ รวบรวมเครอื ขา่ ย เพือ่ วางแนวคิดคณุ ธรรมทพี่ งึ ประสงค์ให้สำ� เร็จ
วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 19 กระบวนทัศน์ หลักคิด และการย่างก้าวเข้าสู่ ศตวรรษท่ี 21 ของคนไทย ดร.สนุ ทร คุณชัยมัง ผูอ้ �ำนวยการศนู ยศ์ กึ ษาและพัฒนากิจการเพ่ือสงั คม วิทยาลยั นวัตกรรมสงั คม มหาวิทยาลัยรงั สิต 1. ความส�ำคัญ ที่จะเลือกรับปรับใช้วัฒนธรรมและเทคโนโลยี บทความน้ี ปรบั ปรุงจากรายงาน “การ อยา่ งรู้เทา่ ทนั ฯลฯ ประมวลองค์ความรู้เก่ียวกับกระบวนทัศน์และ ในศตวรรษท่ี 21 สังคมจะผลิตความ หลักคิดของคนไทยปัจจุบัน ในมุมมองของ สัมพันธ์ทางสังคมข้ึนใหม่ตามวิถีของเครือข่าย นักสังคมศาสตร์” ที่เสนอต่อส�ำนักงาน และความสามารถของเทคโนโลยีดิจิทัล ซ่ึงถึง คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็น ปี พ.ศ. 2560 มีประชาชนท่ัวโลกเข้าถึงการใช้ ส่วนหน่ึงของการด�ำเนินงานของคณะท�ำงาน บริการอินเทอร์เน็ตไปแล้ว 4 พันล้านคน โดย จัดการความรู้และติดตามประเมินผลภายใต้ ประมาณ (53 % ของประชากรโลก) ความ คณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 สมั พนั ธท์ างสงั คมทเี่ กดิ ขนึ้ ตามโครงสรา้ งพน้ื ฐาน เพ่ือค้นหาแนวทางที่จะรองรับต่อปัญหาความ ของการติดต่อส่ือสารแบบใหม่นี้ จะไม่ได้เข้า ไม่พร้อมของคนไทยที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับ แทนที่วิถีความสัมพันธ์เดิมท่ีด�ำรงอยู่ตาม นโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยน ความสัมพันธ์ทางการผลิต การปกครอง และ เร่ืองส�ำคัญๆ 2 เรอ่ื งดว้ ยกนั คือ หนึง่ การปรบั การพัฒนาประชาธิปไตย แต่จะน�ำเอาวิถี เปลยี่ นดา้ นการเรยี นรู้ (Transition of learning) ความสัมพันธ์ทางสังคมไปเพ่ิมความเข้มข้น สอง การปรบั เปลีย่ นดา้ นค่านยิ มและวฒั นธรรม หลากหลาย และซับซ้อนเข้ากับนโยบายของ (Transition of culture) ในขณะท่ีรายงานของ การปกครองและการจัดการธุรกิจเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พบว่า คนไทยมีความ (Schmidt & Cohen, 2013) ยกตัวอย่าง ไมพ่ รอ้ มทจี่ ะกา้ วเดนิ ไปพรอ้ มกบั การเปลยี่ นผา่ น ผลจากความสามารถและความทันสมัยของ ของยคุ สมยั เชน่ ดแู ลตวั เองไมด่ พี อ มปี ญั หาดา้ น ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถบรรจุข้อมูลลงได้ คุณธรรม ขาดความคดิ สร้างสรรค์ ขาดดลุ ยพินจิ จ�ำนวนมาก องค์กรต่างๆ สามารถใช้เป็น
20 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ ช่องทางของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อ ก�ำกับควบคุม (Broadcast structure) เช่น สาธารณะได้ ทั้งข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ภาพ กองบรรณาธกิ ารขา่ ว ของสื่อมวลชน อันเป็นผล เคล่ือนไหว และเสียง เหมือนกับรวมเอางาน ท�ำให้ข้อมูลข่าวสารในพ้ืนท่ีของส่ือออนไลน์ ภาพยนตร์ เพลง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ จะมคี วามรวดเรว็ มหี ลายหลากสสี นั และอารมณ์ การบนั ทกึ เทปคาสเซท็ มารวมไวใ้ นทแ่ี หง่ เดยี วกนั มากกว่าการรายงานของสื่อมวลชน ก็ย่ิงท�ำให้ และเม่ือเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารนี้สามารถ ความนิยมของสังคมที่มีต่อสื่อออนไลน์และ รวมเข้ากับการบริการผ่านคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค การสื่อสารผ่าน Social media ไดร้ ับความนิยม และโทรศัพท์เคล่ือนที่ได้ ก็ยิ่งท�ำให้การส่ือสาร เพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Social media แบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน้ีมีบทบาทต่อการ โลกออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังเป็น เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการใช้ชีวิตประจ�ำวัน ตัวกระตุ้นสร้างเครือข่ายทางสังคม ซึ่งเป็นการ ของผ้คู นได้มากยิง่ ขึน้ เป็นทวีคูณ รวมตวั กนั ตามความชอบ ความนยิ มทเ่ี หมอื นกนั ผลจากการทำ� งานเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นเครือข่ายร่วมกัน และนับได้ว่าเทคโนโลยี ต่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลข่าวสารข้างต้น ยังน�ำ ข้อมูลข่าวสารได้มีส่วนร่วมสร้างประเด็น/สาระ ไปสู่การเพิ่มความเข้มข้นหรือความส�ำคัญของ ใหม่ๆ พร้อมๆ กับสร้างเครือข่ายทางสังคมขึ้น การสื่อสารระหว่างผู้รับข้อมูลข่าวสารท่ีมักจะ และมคี วามโดดเดน่ เปน็ กระแสนำ� สงั คมเพม่ิ ขน้ึ ๆ สง่ ตอ่ ขอ้ มลู ทตี่ นเองไดร้ บั ไปยงั เพอ่ื นหรอื คนอนื่ ๆ จนน�ำไปสู่ “การสร้างตัวข้ึนเป็นโครงสร้างของ เสมอื นหนง่ึ เปน็ ผสู้ อื่ ขา่ วทผ่ี ลติ ขอ้ มลู ขา่ วสารและ สงั คม” (Shaping social structure) (Castells, เผยแพร่ออกไปตามความสามารถของโทรศัพท์ 1996) การท่ีสังคมยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 เคลื่อนท่ีและ Social media ซึ่งเป็นวิถีของ มีกระบวนการทางสังคมท่ีเข้มข้น หลากหลาย การสอ่ื สารแบบเครอื ขา่ ย (Networking structure) และซับซ้อนข้ึนใหม่ อย่างน้อยก็จะมีเรื่องตาม การส่ือสารของสังคมในรูปแบบน้ี จะต่างไป การอธิบายข้างต้น ซ่ึงมีช่องทางของการสื่อสาร จากการส่ือสารแบบการกระจายออกจากศูนย์ การรับรู้ และการสร้างความรู้ขึ้นใหม่ตาม เครือข่ายของอินเทอร์เน็ตและ Network structure ซ่ึงท�ำให้ข้อมูลไหลเวียน โดยไม่มีระบบคัดกรอง เช่นข้อมูล ข่าวสารท่ีผ่านตามช่องทางการสื่อสาร แบบเดมิ ที่เปน็ Broadcast structure ดังนั้น โลกและสังคมแบบดิจิทัล ในศตวรรษท่ี 21 จึงเต็มไปด้วยความ
วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 21 ท้าทายต่อปัญญา วุฒิภาวะ และความสามารถ 2. ทฤษฎีทอี่ ธบิ ายพฤตกิ รรมสังคม ทางสังคม (Social capabilities) ของผู้คน/ 2.1 การเห็นอกเหน็ ใจผู้ผู้อนื่ (Com- พลเมอื งในสงั คมนน้ั ๆ เป็นสำ� คญั passion) คณะอนุกรรมการเตรียมคนไทย Charles Darwin เจ้าของทฤษฎี สศู่ ตวรรษท่ี 21 ไดจ้ ดั ทำ� แผนงานสรา้ งกระบวนทศั น์ ววิ ฒั นาการ ไดเ้ ขยี นบทความเรอ่ื ง The Decent และหลักคิดที่เหมาะสม เพ่ือเตรียมความ of Man and Selection in Relation to Sex พร้อมรองรับต่อการเปล่ียนผ่านทางสังคมนี้ เมอื่ ปี ค.ศ. 1871 โดยยกเอาเหตกุ ารณท์ ลี่ งิ บาบนู โดยมีองคป์ ระกอบ/เปา้ หมายข้นั ต้น 5 ประการ กำ� ลงั ทำ� รา้ ยผดู้ แู ลสวนสตั ว์ ในขณะทมี่ ลี งิ ตวั เลก็ ๆ ดว้ ยกนั คอื ความพอเพยี ง ความมวี นิ ยั ความสจุ รติ ฝูงหนึ่ง ที่ได้รบั การดูแลและความเปน็ เพอ่ื นจาก การมจี ติ สาธารณะ และความรับผิดชอบ ผดู้ แู ลสวนสตั ว์ และเคยถกู ลงิ บาบนู ทำ� รา้ ยมากอ่ น ซงึ่ จะถือว่า แผนงานสรา้ งกระบวนทศั น์ เม่ือฝูงลิงเห็นเหตุการณ์น้ัน จึงได้ส่งเสียงและ และหลักคิดข้างต้น เป็นการริเริ่มการคิดตาม รว่ มกนั เขา้ ไปรมุ กดั ลงิ บาบนู แมว้ า่ จะไมส่ ามารถ ระบบเหตุผล (Rationalism) เป็นการสร้าง เอาชนะลงิ บาบูนกต็ าม แต่การกระท�ำของฝูงลิง ความคิดและกรอบ (Ideas and frames) เพือ่ ตัวเล็กๆ เหล่าน้ัน ได้ท�ำให้ลิงบาบูนชะงักและ การพัฒนาตนเองให้มีความสามารถที่จะอยู่ เป็นจังหวะท่ีท�ำให้ผู้ดูแลสวนสัตว์หนีเอาตัวรอด รว่ มกับสังคมทีม่ ีความเข้มขน้ หลากหลาย และ มาจากเหตุการณ์น้ัน Darwin สรุปเหตุการณ์ ซบั ซ้อนของศตวรรษที่ 21 ท่ีเกิดขึ้นว่า ปฏิกิริยาของความเห็นอกเห็นใจ จากความส�ำคัญของประเด็นข้างต้น บทความน้ี จึงมีความประสงค์ที่จะสังเคราะห์ โอกาสและความเป็นไปได้ของสังคมไทย ว่า จะน�ำพากระบวนทัศน์และหลักคิดที่มี องค์ประกอบ 5 ประการข้างต้น สร้างเป็น ความพรอ้ มขนึ้ ใหมท่ า่ มกลางการเปลยี่ นผา่ นของ ยุคสมัยนไ้ี ด้หรือไม่ อย่างไร โดยองิ กรอบคิดและ ทฤษฎที างสงั คมศาสตร์ - พฤตกิ รรมศาสตร์ และ คุณลักษณะใหม่ของวิถีความสัมพันธ์ทางสังคม แบบใหม่ตามยุคสมัยดิจิทัล มาใช้ประกอบการ สังเคราะหด์ ว้ ย
22 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ หรือปฏิกิริยาท่ีจะเข้าช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน แพร่หลายในสังคมด้วย “การใช้งานแบบเลียน จากคนท่ีเคยเดือดร้อนมาก่อน หรือรับรู้ได้ใน แบบตามกนั ของคนในสงั คม” (Imitation) ในทาง ความเดอื ดรอ้ นนนั้ ย่อมจะเกดิ ขึ้นไดเ้ สมอ และ ฟิสิกส์และชีววิทยา ก็มีการอธิบายเร่ืองของการ ความรสู้ กึ นมี้ ไี ดแ้ มใ้ นสตั ว์ เชน่ ฝงู ลงิ ตามตวั อยา่ ง ท�ำซ�้ำๆ กันนี้ โดยเรื่องของการเคลื่อนไหวแบบ Darwin สรุปว่า ความเป็นสังคม สั่นสะเทอื น (Vibratory Movements) Tarde ของคนเรานั้นต้ังอยู่บนพ้ืนฐานที่มีความเห็นอก เห็นว่าเร่ืองของการท�ำซ�้ำ การสั่นสะเทือน เห็นใจซึ่งกันและกัน ปกป้องการอยู่ร่วมกัน การสง่ ตอ่ รนุ่ ตอ่ รนุ่ และการเลยี นแบบเอาอยา่ งกนั ของชุมชนเม่ือถูกผู้อ่ืนรุกราน แล้วขยายวงให้ ทางสงั คมเป็นเรือ่ งเดยี วกนั (Tarde, 1903) กว้างออกไปตามความเก่ียวข้องของผู้คน การท�ำอะไรซ้�ำๆ กันและการ ไม่ว่าจะชนชาติหรือชนเผ่า เป็นปฏิกิริยาห่วงโซ่ รวบรวมเร่ืองท่ีเหมือนกัน จะอธิบายได้ท้ัง ความสมั พนั ธท์ คี่ อยยำ้� เตอื นตอ่ กนั และกนั สง่ ตอ่ ตามข้อเท็จจริงและตามความสัมพันธ์ทางสังคม เป็นสายใยจากรุ่นสู่รุ่น โดยส่ิงที่ส่งต่อกันน้ัน ทงั้ แบบนบั ได้ เชน่ คนนับถือศาสนาเพ่ิมข้นึ และ จะประกอบไปด้วย หน้าที่รับผิดชอบ (Duty) แบบไมใ่ ช้จ�ำนวนนับ เช่น ความนิยม (Fashion) การเสียสละ (Selflessness) และการยึดหลัก ขนบธรรมเนียม (Custom) การชอบเหมอื นกัน การปฏิบัติที่เห็นประโยน์ของผู้อ่ืนเป็นที่ตั้ง (Sympathy) การเชื่อฟัง (Obedience) (Altruism) (Ekman, 2010) การศึกษา (Education) การปรึกษาหารือ (Deliberative) และสญั ชาตญาณ (Instinctive) 2.2 การเลยี นแบบทำ� ตามกนั ทางสงั คม ซ่งึ เป็นการอธบิ ายตามนยั ของปัจจยั ท่แี สดงออก (Imitation) หรือการกระทำ� ทางสังคม (Tarde, 1903) ผลงานสำ� คัญของ Gabriel Tarde ท้ังเร่ือง The Law of Imitation (1890) และ 2.3 การตระหนักรู้ร่วมกันของสังคม The Social Logic (1895) มีความเกี่ยวข้อง (Collective Consciousness) กับการตกผลึกภายใน (Implicitly) และการ Emile Durkheim อธิบายว่า แสดงออก (Explicitly) ต่อภายนอกของคนเรา ในขณะที่สังคมปรับเปลี่ยนจากเกษตรกรรม - ที่ว่า การช้ีน�ำทางสังคม ไม่ได้เกิดจากกฎของ ชนบท ไปสู่สังคมอุตสาหกรรม - เมือง น้ัน ความคลุมเครือ การไม่มีบุคลิกลักษณะ และ การแบ่งงานกันท�ำตามวิถีการผลิตใหม่ของ ความไม่ชัดแจ้ง แต่เกิดขึ้นจากการคิดค้น ริเริ่ม อุตสาหกรรม และการอยู่อาศัยแบบเมือง สร้างสรรค์ การค้นพบ การประดิษฐ์ และการ ได้เปลี่ยนวิถีความสัมพันธ์ของผู้คนจากเดิมที่มี สร้างนวัตกรรม แล้วสิ่งเหล่านั้นจะถูกใช้งาน การอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ใช้ชีวิตประจ�ำวัน
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 23 ตามขั้นตอนการผลิตทางเศรษฐกิจอย่างง่ายๆ ทฤษฎีการอธิบายสังคมท้ัง 3 ไปเป็นความสัมพันธ์ท่ีมีระเบียบแบบแผนและ ทฤษฎขี า้ งตน้ ลว้ นแตต่ ง้ั อยบู่ นพน้ื ฐานของความ มีความซับซ้อนมากกว่า ความเป็นไปของสังคม สมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนในสงั คมเปน็ ทต่ี ง้ั เปน็ มมุ มอง อตุ สาหกรรม/เมอื งทเี่ กดิ ขน้ึ ใหมน่ ้ี สงั คมจะสรา้ ง ทร่ี วบรวมผลเชงิ ประจกั ษท์ เ่ี กดิ ขนึ้ จากกรณตี า่ งๆ “จดุ ร่วม” ขึน้ ใหม่ โดยนำ� เอาการตระหนกั รู้ร่วม มาประกอบสร้างเป็นค�ำอธิบาย หรือเป็นแนว กัน (Collective Conscience or Collective การอธบิ ายแบบพฤตกิ รรมศาสตร์ (Behaviorism) Consciousness) ไปเป็นกลไกส�ำคัญของการ ไม่ใช่สร้างขึ้นจากบทบาทของหน้าท่ีของหน่วย จัดระเบียบทางสังคม (Social order) จัดแบ่ง หรือสถาบันทางสังคมท่ีมีอยู่ หรือท่ีเรียกกันว่า เรื่องความดีงาม/ส่ิงช่ัวร้าย อะไรควร/ไม่ควร เปน็ ทฤษฎที างสงั คมแบบหนา้ ทนี่ ยิ ม (Function- มคี วามคิดเห็นและยอมรบั ในเรอ่ื งตา่ งๆ รว่ มกนั alism) จงึ มกั จะทำ� ใหก้ ารคน้ ควา้ หรอื การทำ� งาน มีการยอมรับและถือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ การศึกษาหดแคบตัวลงไปอย่างน่าเสียดาย มีความชอบ ช่ืนชม เล็งเห็นคุณค่า และบูชาใน เพราะจะน�ำไปสู่การสร้างเป็นกรอบและ เรื่องเดียวกัน ส่ิงเหล่านี้ จะเกิดขึ้นตามลักษณะ ความหมายแบบแขง็ ทอื่ และท�ำใหก้ ารแปรผลสู่ ของการท�ำงานตามกระบวนการท่ีเรียกว่า การปฏบิ ตั ทิ างสงั คมนำ� ไปสคู่ วามลม้ เหลวโดยสน้ิ เชงิ กระบวนการขดั เกลาทางสังคม (Socialization) ยกตวั อยา่ งเชน่ การศกึ ษาเรอื่ ง Social Sanctions (Durkheim, 1893) มักจะให้ความส�ำคัญกับการลงโทษต่อผู้ฝ่าฝืน ในระหว่างที่สังคมก�ำลังพิจารณา ปทัสถานทางสังคม เป็นด้านหลักและมิติเดียว ความเหมือน ความต่างในเรือ่ งใดเร่อื งหนึ่ง และ ท้ังๆ ทโี่ ดยแทจ้ ริงแล้ว การลงโทษโดยสงั คมนนั้ เห็นว่าเรามีความเหมือนและต่างกับใครอยู่นั้น เป็นผลโดยรวมของการสะสมการเรียนรู้ เท่ากับว่า ตัวเราก�ำลังสร้างความเฉพาะเจาะจง การสร้างความเข้มแข็งของปทัสถานทางสังคม หรือสร้างความแตกต่างจากคนอื่นเป็นการ ( เ ป รี ย บ เ ส มื อ น ก า ร ส ะ ส ม พ ลั ง ง า น ศั ก ย ์ ) เทียบเคียง หรือที่เรียกกันว่า การสร้างความ ซ่ึงเป็นการท�ำงานเชิงบวกก่อน จึงจะมาร่วม แตกต่างทางสังคม (Social differentiation) แสดงเป็นการปฏิบัติการลงโทษ (เปรียบเสมือน ไปพร้อมกัน ยิง่ ไปกวา่ นัน้ การตระหนักร้รู ว่ มกนั การท�ำงานของพลังงานจลน์) ต่อผู้ฝ่าฝืน ของสังคม จะขยายตัวและกลายเป็นพลังกดดัน ปทัสถานทางสังคมได้ ซ่ึงสอดคล้องกับการ จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหน่ึงในสังคม และมักจะ อธิบายของ แรด็ คลิฟฟ์ - บราวน์ (Radcliffe - มีปรากฏการณ์ทางสังคมที่มวลชนกลุ่มหน่ึงไป Brown), วิตเมเยอร์ (Whitmeyer), เน็ตเทอร์ อธบิ ายความเปน็ ไปของมวลชนอกี กลมุ่ หนง่ึ แทน (Netter) และเวอร์บูน และดิจเก (Verboon การอธบิ ายตวั ตนโดยเจา้ ของเรอื่ ง (Aron, 2009) and Dijke) อธิบายไว้ในความหมายแบบกว้าง
24 วารสารดำ�รงราชานุภาพ วา่ หมายถงึ การจดั การทงั้ เชงิ บวกตอ่ สงั คมทวั่ ไป สรา้ งอาชพี ” จดั ตงั้ เครอื ขา่ ย Student Success (Positive social sanctions) และเชิงลบต่อ Networks (SSN) จัดประชุมพี่เลี้ยงและ ผกู้ ระทำ� ความผดิ (Negative social sanctions) ผปู้ ระสานกิจกรรมในทกุ ๆ 2 สปั ดาห์ (สังศิต พิริยะรงั สรรค,์ 2559) จากผลจากการด�ำเนินงานตาม ความรว่ มมอื และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทค่ี ดิ คน้ รว่ มกนั 3. Best practices การขบั เคลอื่ นทางสงั คม ในโครงการทไี่ ดด้ ำ� เนนิ การตดิ ตอ่ กนั 3 ปี ปรากฏ ว่า ผลการเรียนของเด็กดีขึ้น ลดการละทิ้งการ 3.1 การท�ำงานแบบเน้นการสร้าง เรียนของเด็ก และเปน็ ทส่ี นใจตอ่ การขยายพน้ื ท่ี ผลลพั ธร์ ว่ ม (Collective Impact) รณรงค์ออกไปในเขตอื่นๆ John Kania & Mark Kramer กรณีท่ีสอง เป็นการรณรงค์เพ่ือ ไดศ้ กึ ษาความสำ� เรจ็ ของการจดั การปญั หาสงั คม การฟื้นฟูความเน่าเสียของแม่น�้ำ Elizabeth ท่ีมีความซับซ้อน มีการสะสมมายาวนาน และ ตอนใตข้ องมลรฐั Virginia ทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจาก ถูกละเลยจากความเก่ียวข้องของหน่วยงาน การปล่อยน้�ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม ท่ีน�ำ ในภาคส่วนตา่ งๆ ในหลายกรณดี ว้ ยกัน โดย Marjorie Mayfield Jackson ซึ่งเป็น กรณแี รก เปน็ เรอ่ื งการละทง้ิ การเรยี น นกั พฒั นาองคก์ รเอกชน (NGOs) ทท่ี ำ� งานรว่ มมอื หนงั สือของเดก็ มัธยมท่เี มอื ง Cincinnati มลรัฐ กับหน่วยงานต่างๆ มากกว่า 100 องค์กร Kentucky ของ USA โดยเป็นผลการท�ำงาน ทั้ง นักธุรกจิ ในทอ้ งถิ่น ชุมชน โรงเรียน องค์กร ขององค์กรไม่แสวงหาก�ำไรท่ีชื่อ Strive ที่สร้าง ด้านส่ิงแวดล้อม มหาวิทยาลัย รัฐบาลท้องถ่ิน ความร่วมมือกับผู้น�ำท้องถิ่น ระดมทุนและ รฐั บาลกลาง โดยหนว่ ยงานดา้ นปกปอ้ งสงิ่ แวดลอ้ ม ความรว่ มมอื จากภาคสว่ นตา่ ง ๆ มากกวา่ 300 แหง่ และกองทพั เรอื มกี ารแบง่ โครงการ เปน็ โครงการยอ่ ย ทั้งเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ ผู้แทนโรงเรียน ตามจดุ ทต่ี งั้ ของโรงงาน/สถานทข่ี องผรู้ ว่ มรณรงค์ ในระดับเขต มหาวิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน ฟน้ื ฟแู มน่ ำ้� ใหส้ ะอาด 18 โครงการ โดยมเี ปา้ หมาย ผูบ้ รหิ ารองค์กรเอกชน กลุ่มบรษิ ัททีป่ รึกษาและ ร่วมกันว่า ความส�ำเร็จของงานคือการให้คน องค์กรไม่แสวงหาก�ำไร แม้กระทงั่ ผเู้ ป็นตวิ เตอร์ ลงไปวา่ ยนำ้� เลน่ สามารถบรโิ ภคปลาและสตั วน์ ำ�้ โดยนำ� เสนอประเด็นความสำ� คัญที่ว่า การละท้ิง และพืชผักตา่ งๆ ได้ การเรียนหรือการไม่เรียนหนังสือของเยาวชน ผ ล ข อ ง ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ต า ม เป็นปัญหาเดียวกันของประเทศท่ีมีคุณภาพของ โครงการน้ี ตลอด 15 ปี พบว่า สามารถฟื้นฟู การศึกษาตกต่�ำลงเรือ่ ยมา จนอยใู่ นล�ำดบั ท่ี 18 สภาพแวดล้อมที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ชุ่มน�้ำของ ใน 24 ประเทศที่พัฒนาแล้ว Strive จัดท�ำ แม่น้�ำกลับคืนมาได้ 1,000 เอเคอร์ ลดสาร โครงการรณรงค์ “จากอู่ไกวเปลไปจนถึงการ
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 25 แขวนลอยลงไปมากกวา่ 215 ลา้ นปอนด์ ลดสาร ทเ่ี รยี กวา่ “การทำ� งานแบบเนน้ การสรา้ งผลลพั ธร์ ว่ ม ก่อมะเรง็ ลงไปได้ 6 เทา่ ตัว ปลาและหอยทเ่ี คย (Collective Impact) ท่ีเห็นว่า การจัดการ สูญหายไป กลับคนื สภาพเดิม 27 สายพันธ์ุ แกไ้ ขปญั หาสงั คมทเี่ รอื้ รงั มานานนนั้ ลกั ษณะของ กรณีทีส่ าม โครงการ Shape up ประเด็นจะมีความซับซ้อน ดังนั้น ลักษณะของ Somerville ที่แก้ไขปญั หาเด็กท่อี ้วนเกนิ ไปของ ปัญหาที่จะเป็นไปแบบ Adaptive problem มลรฐั Massachusetts ซงึ่ รณรงคโ์ ดย Christina ทต่ี อ้ งการความสามารถในการจดั การแกไ้ ขทม่ี าก Economos ซงึ่ เปน็ อาจารยป์ ระจำ� มหาวทิ ยาลยั ไปจากเรื่องเทคนิค แต่จะเป็นไปโดยความรู้ Tuffs University เป็นโครงการที่ได้รับการ ประสบการณ์ และดุลยพินิจของผู้บริหาร สนบั สนนุ และความรว่ มมอื จากศนู ยค์ วบคมุ และ มีการท�ำงานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ป้องกันโรค มูลนิธิ Robert Wood Johnson, หลายภาคส่วน ไม่ใช่การจัดการแบบ Single Blue Cross Blue Shield, รัฐบาลท้องถ่ิน organization มกี ารก�ำหนดเปน็ วาระทางสงั คม นักการศึกษา นักธุรกิจ องค์กรไม่แสวงหาก�ำไร ร่วมกัน สนับสนุนมาตรการซ่ึงกันและกัน การ และกลุ่มพลเมือง การประสานและสนับสนุน ท�ำงานขององค์กรหนึ่งไปต่อเติมเป็นพลังการ ซงึ่ กนั และกนั ตามความรว่ มมอื ในการดำ� เนนิ งาน ท�ำงานให้อีกองค์กรหน่ึง มีการส่ือสารท�ำความ ตามกจิ กรรมโครงการ เชน่ การจดั บรกิ ารอาหาร เขา้ ใจใหม้ คี วามตอ่ เนอ่ื งทง้ั ในองคก์ รและระหวา่ ง เพ่ือสุขภาพของโรงเรียน จัดให้มีครูสอน องค์กร มีผู้ท�ำหน้าที่เป็นแกนกลางประสานงาน เรื่องโภชนาการเพื่อสอนในเรื่องน้ีอย่างจริงจัง (Kania, & Kramer, 2011) ประสานกับภัตตาคารท้องถิ่นให้ลดบริการ อาหารท่ีไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เทศบาลจัดให้มี 3.2 การจดั การคอรร์ ปั ชนั ของสงิ คโปร์ การปลูกพืชผัก จัดสถานที่ขายของให้กับ ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ในช่วง เกษตรกร (ไม่พ่ึงพาการผลิตเพ่ือการส่งให้ หลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 เม่ือครั้งยังเป็น ภัตตาคารเพียงด้านเดียว) ลดราคาโรงยิม อาณานิคมในการปกครองของอังกฤษ (ก่อนที่ ปรับปรุงทางเดินเท้า และรณรงค์ให้เด็กเดินไป จะได้รับเอกราชและรวมอยู่กับมาเลเซียในปี โรงเรยี น ฯลฯ พ.ศ. 2506 และถูกขับออกจากมาเลเซียในปี ผลของการท�ำงานร่วมกันแบบ พ.ศ. 2508) เป็นประเทศทย่ี ากจน มคี อรร์ ัปชนั หลายภาคส่วนในระหวา่ งปี ค.ศ. 2002 - 2015 อย่างแพร่หลาย การใช้ชีวิตประจ�ำวันของ พบว่า ข้อมูลมวลกายของเด็กนักเรียนท่ีเข้าร่วม ประชาชน ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับการ ตามโครงการนล้ี ดลง ความสำ� เรจ็ ของ 3 โครงการ จา่ ยสนิ บนแกเ่ จา้ หนา้ ทข่ี องรฐั และตำ� รวจ จนเปน็ นี้ Konia & Kramer ประมวลขึ้นเป็นทฤษฎี ที่กล่าวขานกันว่า เป็นยุคสมัยของการเอาตัวให้
26 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ อยู่รอดภายใต้การจัดการต่าง ๆ แบบตลาดมืด ประเด็นส�ำคัญของการน�ำเสนอ (Surviving on some sort of black marketing) ตอ่ สาธารณะของ ลี กวน ยู และพรรค People’s ส ถ า น ก า ร ณ ์ ข อ ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม น้ี Action Party จนน�ำไปสชู่ ยั ชนะในคร้งั นั้น ก็คือ มีส่วนน�ำไปสู่การก�ำหนดประเด็นส�ำคัญของ ลี เสนอประเด็นให้สังคมสิงคโปร์ตระหนักว่า นโยบายทางการเมืองของพรรคกิจประชาชน หากชาวสิงคโปร์แต่ละคน แต่ละครอบครัว People’s Action Party ของ ลี กวน ยู จนน�ำ แสวงหาช่องทางจ่ายสินบนเพ่ือสร้างความได้ ไปสู่ชยั ชนะการเลือกตง้ั ทัว่ ไปในปี พ.ศ. 2502 เปรียบและอยู่รอด และให้ความส�ำคัญต่อการ ตอ่ มา มกี ารจดั ตงั้ องคก์ รทร่ี บั ผดิ ชอบ สรา้ งความสมั พนั ธแ์ บบเครอื ขา่ ย เพอื่ น เครอื ญาติ ต่อการคอร์รัปชันขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัด และพวกพ้อง ก็ยิ่งจะท�ำให้ตลาดมืดรุ่งเรือง สำ� นกั นายกรฐั มนตรี และมกี ารพฒั นาการดำ� เนนิ การ ต่อไปและท�ำร้ายประเทศชาติ/ส่วนรวม รวมท้ัง จดั การเรื่องคอร์รปั ชนั มาตามล�ำดบั เปน็ ตวั อย่าง ตัวเองในอนาคต (Quah, 2007) ของการสรา้ งรฐั โดยระบบการบรหิ ารสว่ นราชการ 3.3 การปรบั เปลย่ี นความขดั แยง้ เปน็ ท่ีมีประสิทธิภาพ ลดความจ�ำเป็น/โอกาสของ ความร่วมมอื ของประชาชนที่อาฟริกาใต้ การจ่ายสินบน จนเป็นกรณีตัวอย่างที่นิยม หลงั จากทรี่ ฐั บาลสหภาพอาฟรกิ าใต้ กลา่ วอา้ งถงึ แหง่ หนงึ่ ของโลกวา่ เปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ี ประกาศปล่อยตัวเนลสัน แมนเดลลา ผู้น�ำ ของการจัดการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยองค์กร ขบวนการทางการเมอื งคนสำ� คญั ออกจากเรอื นจำ� ท่ีเป็นหน่วยงานของรฐั ในปี ค.ศ. 1990 และจัดให้มีการเลือกต้ังท่ัวไป เพ่อื เลือกประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1994 ท�ำใหม้ ี การจัดตั้งพรรคการเมืองและขบวนการ ทางการเมืองต่างๆ ท่ีจะลงแข่งขันทาง การเมือง และมีการสร้างประเด็นขัดแย้ง ทางการเมืองระหว่างคนผิวขาว ผิวสี ระหวา่ งฝา่ ยนยิ มซา้ ย และขวา ทง้ั African National Congress (ANC), Pan African Congress (PAC), South African Com- munist Party (SACP) และองค์กรอื่นๆ อีกจ�ำนวนหนึ่ง เป็นช่วงที่ประเทศอยู่ ระหวา่ งหัวเล้ยี วหัวต่อทางการเมอื ง
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 27 The Mont Fleur project เป็น (1) การจัดการพ้ืนที่วิกฤติท่ีมีความขัดแย้ง เวที (Forums) หน่ึงที่ได้รับการสนับสนุนจาก ไม่ยอมรับท่ีจะพัฒนาร่วม เช่น เมือง Ostrich The Friedrich Ebert Stiftung และ (2) การจัดการต่อเมืองที่มีลักษณะเปล่ียนผ่าน The Swiss Development Agency ดว้ ยความลา่ ชา้ และลงั เล เชน่ เมอื ง Lame Duck มี Adam Kahane สมาชิกของ Global (3) เมืองท่ีพร้อมจะเปล่ียนผ่านไปสู่การจัดการ Business Network อดีตเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญ ใหม่ แตม่ ีขอ้ เสนอเชงิ ประชานิยม/ไม่ย่งั ยืน เช่น การบรหิ ารสถานการณแ์ วดลอ้ มเพอื่ การวางแผน Icarus และ (4) เท่ียวบินของนกฟลามิงโก จดั การบรหิ ารของ Shell International มากอ่ น Flight of the Flamingos) ซง่ึ เปน็ แผนงานหลกั มาท�ำหน้าที่เป็น Facilitator เป็น Project ท่ีพร้อมสร้างการเมืองการปกครองท่ียั่งยืน manager จัดให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมการเติบโตทางเศรษฐกิจเข้ากับการพัฒนา เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกันของ ประชาธิปไตย คณะผู้จัดได้น�ำเอาความคิดเห็น ผมู้ สี ว่ นได้เสีย ในระหว่างปี ค.ศ. 1991 - 1992 เบ้ืองต้นดังกล่าวสรุปย่อเป็นเอกสารความยาว การทำ� งานของ The Mont Fleur 16 หนา้ เปน็ ภาษาตา่ งๆ ของทอ้ งถ่นิ เผยแพร่ project ตัง้ อย่บู นสมมติฐานทวี่ า่ “จะไมก่ ำ� หนด ไปยังหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ จัดท�ำวีดีโอ นิยามความเป็นปัจจุบัน แต่จะร่วมกันหา ความยาว 30 นาที (โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน แนวทางทีจ่ ะพัฒนาประเทศใน 10 ปีข้างหนา้ ” ภาพยนตร์และเป็นผู้ให้ค�ำแนะน�ำใช้ช่ือของนก โดยเริ่มต้นจากการจัดประชุมตัวแทนกลุ่ม เป็นช่ือโครงการรณรงค์) จัดท�ำการ์ตูนเพ่ือ ผเู้ ขา้ รว่ มจำ� นวน 22 คนทโี่ ดดเดน่ ของอาฟรกิ าใต้ ประกอบการน�ำเสนอ โดยนักวาดการ์ตูนช้ันน�ำ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักกิจกรรม ของประเทศ แลว้ จดั ใหม้ กี ารประชมุ กลมุ่ ยอ่ ยอกี นักวิชาการมหาวิทยาลัย นักธุรกิจ ทั้งซ้ายและ 50 กลุ่ม ประกอบไปด้วย พรรคการเมอื ง บรษิ ทั ขวานยิ ม จดั ประชมุ เชงิ ปฏิบัติการร่วมกัน 3 วนั สถาบันการศึกษา สหภาพแรงงาน และองค์กร ที่ Mont Fleur conference center นอกเมือง พลเมอื ง เม่ือครบรอบ 2 ปขี องการรณรงค์ ก็มี Cape Town ผลปรากฏเป็นเบื้องต้นว่า การจัดประชุมรวบยอดเพ่ือติดตามการบรรลุ การพฒั นาประเทศทจี่ ะเดนิ ไปขา้ งหนา้ 10 ปี นน้ั เปา้ หมายและรบั ฟงั ขอ้ คดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ จากทมี งาน มีแผนงานท่ีควรจะเกิดข้ึน 4 แบบด้วยกัน คือ (Kahane, 2012 : 9)
28 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ ประสบการณก์ ารเรยี นรขู้ อง The เพ่ือกระตุ้นหรือริเริ่มให้มีและเป็นไปแบบมีส่วน Mont Fleur project ไมไ่ ดอ้ ยทู่ ก่ี ารจำ� แนกกลมุ่ ร่วมของการท�ำงานเพื่อน�ำไปสู่ความเป็นไปได้ แผนงาน 4 แบบ แต่เป็นเรื่องการจัดการที่จะ ของการพัฒนา ไมไ่ ดส้ ร้างการมสี ว่ นร่วมแบบให้ ล�ำเลียงข้อมูลข่าวสารไปยังกลุ่มประชาชนที่มี คนส่วนใหญ่คล้อยตาม แต่เป็นการลดเง่ือนไข ความคิดเห็นแตกต่างกัน จะท�ำในระยะเวลา อุปสรรคของงานพัฒนาที่ประเทศจะเดินไป เดียวกันได้อย่างไร และจะบรรลุตามความ ขา้ งหนา้ เนน้ ความไมเ่ ปน็ ทางการ สนทนาในพนื้ ท่ี ตอ้ งการของแผนงานไดอ้ ยา่ งไร เพราะแตล่ ะแผน เปิด ตระหนักเสมอว่า การประชุมเชงิ ปฏิบตั ิการ จะต้องมีกระบวนการท�ำงานตามแผนงาน เช่น ครง้ั แรก ยอ่ มจะไมส่ ามารถหาทางออกไดท้ งั้ หมด เจรจาตอ่ รองกบั ผนู้ ำ� ขบวนการทางการเมอื งและ แต่จะพูดและแลกเปล่ียนเพ่ือท�ำความเข้าใจ กลุ่มต่าง ๆ ให้เห็นความส�ำคัญของ Flight of ร่วมกันและตกลงกัน จนพบทางออกร่วมกัน the Flamingos การสร้างช่องทางการส่ือสาร จะถกเถียงเรื่องที่จะน�ำไปสู่การสร้างอนาคต แลกเปลี่ยนกับประชาชนในเมืองที่ร่วมพัฒนา เฉพาะในเรอ่ื งท่ีเหน็ รว่ มกนั Common (โดยจดั ประเทศเป็นไปแบบเช่ืองช้าและลังเลแบบเมือง ให้มีท่ีปรึกษาในการค้นหาและขยายพ้ืนท่ีความ Lam Duck การส่ือสารประชาสัมพันธ์ผ่าน เห็นร่วม เป็นกระบวนการย่อยโดยตรง น�ำโดย รายการวิทยุแบบ Phone - in วธิ กี ารซึง่ The Marvin Weisbord) ไม่จัดให้กลุ่มผู้เข้าร่วม Mont Fleur project ใช้ท�ำงานเป็นเครื่องมือ ประชุมท่ีมีความเห็นต่างกันพบกันโดยตรง
วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 29 จัดการประชุมกลุ่มย่อยตามลักษณะต�ำแหน่ง บันทึกท่ีมีสาระส�ำคัญท่ีต่างออกไป เช่น บันทึก ผลประโยชน์ และผู้ที่ต้องการค้นหาทางออก ของจอห์น ครอฟอร์ด (John Crawfurd) ทีเ่ ปน็ แบบเดียวกัน รวมทั้งจัดให้มีความปรองดองใน บันทึกการส�ำรวจข้อมูลและน�ำเสนอต่อรัฐบาล ความแตกต่าง วิธีการท�ำงานของ The Mont องั กฤษ 183 ขอ้ วา่ หากจะเปรยี บเทยี บกบั คน Fleur project สามารถลดการขัดขวางคน ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว คนสยาม การน�ำของคนส่วนน้อยแบบเมือง Ostrich มีความเหนือกว่าในแง่ความเจริญ มีทรัพยากร ลดความส�ำคัญจากกฎของคนส่วนใหญ่ท่ีไม่มี ทีม่ ากกวา่ มีประชากรท่มี ากกว่า มคี วามเคารพ ระบบเหตุผลรองรับแบบเมือง Lam Duck ในระบบอ�ำนาจมากกว่า และมีความสามารถ และก้าวข้ามการติดหล่มกับการพ่ึงพารัฐ ที่จะปรองดองกันในบางกิจการ ที่ต้องการ (แบบประชานยิ ม - สงั คมนยิ ม) แบบเมอื ง Icarus ความคดิ อ่านร่วมกนั ดกี วา่ มคี วามใจกว้าง และ และน�ำเอาความส�ำเร็จต่างๆ เหล่าน้ีไปรวมกับ รจู้ กั เพยี งพอ (จำ� นง เทพหสั ดนิ ณ อยธุ ยา, 2549) ความเป็นไปได้ของ Flight of the Flamingos ไดใ้ นท่ีสุด (Beery et al, ออนไลน)์ 4.2 การสร้างชาติแบบรัฐรวมศูนย์ 4. ประวตั ศิ าสตรก์ ารรบั รแู้ ละการคดิ ของคนไทย ของไทย สายชล สัตยานุรักษ์ (2557 : (27)) 4.1 คนสยาม ตามบนั ทกึ ของตา่ งชาติ ระบุว่า “...โครงสร้างรัฐไทยในระยะเวลากว่า หนงึ่ ศตวรรษทผ่ี า่ นมามลี กั ษณะรวมศนู ยอ์ ำ� นาจ จากบันทึกของชาวตะวันตกไม่ว่าจะเป็น แมภ้ ายหลงั การปฏวิ ตั ใิ นวนั ท่ี 24 มถิ นุ ายน 2475 โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝรง่ั เศส และองั กฤษ ทเี่ ขา้ มา การเมืองก็มิได้เป็นประชาธิปไตยในความหมาย ตดิ ตอ่ คา้ ขาย มาเปน็ นกั การศาสนา นกั การศกึ ษา ทอี่ ำ� นาจอธปิ ไตยเปน็ ของประชาชนอยา่ งแทจ้ รงิ นักการทูต รวมท้ังรับราชการเป็นทหาร และ ...การปลูกฝังมโนทัศน์และอุดมการณ์ที่เป็น ขุนนางไทย ตั้งแต่สมัยพระเจ้าไชยราชาธิราช ประโยชนต์ อ่ การจรรโลงโครงสรา้ งการเมอื งแบบ กษตั รยิ อ์ งคท์ ี่ 13 (ครองราชยร์ ะหวา่ ง พ.ศ. 2077 รวมศนู ยอ์ ำ� นาจไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทำ� ใหก้ าร - 2089) แหง่ กรงุ ศรอี ยุธยา จนถึงการปกครอง รับรู้และความรู้เกี่ยวกับ “สังคมและวัฒนธรรม ในรัชสมัยของรัชกาลท่ี 5 (ครองราชย์ระหว่าง ไทย” จำ� กดั อยภู่ ายใตก้ รอบความคดิ เดยี วกนั ...” พ.ศ. 2411 - 2453) แหง่ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ ตา่ งมี การท่ี สายชล สัตยานุรักษ์ สรุป ข้อสรุปไปในทางเดียวกันถึงลักษณะคนไทย ความคดิ เห็นไดว้ า่ ไทยสรา้ งรัฐขึน้ แบบรวมศูนย์ (สยาม) ไปในทางเดียวกันว่า “...มีนิสัยโลเล อ�ำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง และการสร้างความคิด วันนี้มีความคิดอย่างหนึ่ง พรุ่งน้ีเปล่ียนเป็น อดุ มการณ์ การรบั รู้ ความรู้ และวฒั นธรรม กม็ ี อีกอย่างหนึ่ง ไม่ซ่ือสัตย์ ขี้ขลาด ฯลฯ” แต่ก็มี
30 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ ลักษณะเป็นไปในทางเดียวกัน ตามท่ีกล่าวไว้ ส่วนประกอบของโครงสร้างรัฐแบบรวมศูนย์ ขา้ งตน้ นน้ั มาจากการศกึ ษาวจิ ยั ปญั ญาชนสยาม โดยได้สื่อสารและส่งต่อออกไปอย่างต่อเน่ือง ประกอบด้วย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า และกวา้ งขวาง ท้ังโดยการปกครอง การศาสนา เจา้ อยหู่ วั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั การเรยี นการสอนในระบบการศกึ ษา ต�ำรา และ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส การสอื่ สารผา่ นสอื่ สาธารณะรปู แบบตา่ ง ๆ ไมว่ า่ เจ้าพระยาธรรมศักด์ิมนตรี หลวงวจิ ติ รวาทการ จะเป็น อนุสาวรีย์ พิธีกรรม งานประเพณี พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหม่ืนนราธิป พิพิธภัณฑ์ นวนิยาย ละครโทรทัศน์ เพลง พงศป์ ระพนั ธ์ พระยาอนมุ านราชธน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ บทความ ฯลฯ ปราโมช และสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นการศึกษา การหนีไปให้พ้นจากความล้าหลังน้ี ท่ีตั้งค�ำถามว่า ท�ำไมประชาธิปไตยของไทย ยังจะนับรวมเอาลักษณะของการไม่มีส�ำนึกใน จึงอ่อนแอ ท�ำไมรัฐไทยจึงมีลักษณะอุปถัมภ์ ความเป็นไทย และการลดค่าความหมายตัวตน ท�ำไมคนไทยมักอธิบายปัญหาต่างๆ จากมิติ ของคนจนี วา่ เปน็ ยวิ แหง่ บรู พาทศิ หรอื การลดคา่ ศีลธรรมและมองไม่เห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ความหมายหรือคุณค่าทางวัฒนธรรม เช่น ฯลฯ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนนั้นดินแดนในบริเวณนี้ การอธิบายถึงลาวเชียงแสนไม่มีฝีมือทางศิลปะ มีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 80 ชนชาติ รวมท้ัง จงึ ตอ้ งนำ� คนไทยจากสวรรคโลกไปสรา้ งพระพทุ ธรปู คนต่างชาติและคนจีนที่อพยพเข้ามาอยู่อาศัย ทป่ี รากฏในตำ� นานพทุ ธชนิ ราช หรอื ตามหนงั สอื ในภายหลัง แต่ด้วยกระบวนการของการสร้าง ของกรมหลวงวงศาธริ าช กราบบงั คมทลู ลกั ษณะ รัฐชาติของไทย ที่ถูกพัฒนาตนเองให้พ้นไปจาก ของคนลา้ นนา ใน “จดหมายเหตทุ พั เมอื งเชยี งตงุ ” ความลา้ หลงั /ชนเผา่ ไปเปน็ คนในสงั คมทศ่ี วิ ไิ ลซ์ ว่า นิสัยสันดานลาวน้ัน มีอยู่ 3 อย่าง เป็นแต่ รู้จักหน้าท่ี รู้จักรับผิดชอบ รู้จักที่สูงท่ีต่�ำ อยากได้ของเขา ไม่อยากเสียของให้ใคร กับ รู้จักกาลเทศะ ฯลฯ หรือท่ีทราบกันดีในเรื่อง เกยี จครา้ นเทา่ นน้ั เหมอื นกนั ตงั้ แตเ่ มอื งเชยี งใหม่ ของการเปลี่ยนจาก “นายเถื่อน” ให้เป็น ตลอดไปทุกบา้ นเมอื ง “นายเมือง” พร้อมกับรับเอาความเป็น “ไทย” การอธิบายลักษณะของประเทศ ให้รวมเข้าด้วยกัน เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอม เป็นชาติ เป็นสังคมตามแนวทางแบบการสร้าง ที่ก�ำลังรุกรานเข้ามาตามอิทธิพลของการ วาทกรรมขา้ งตน้ ไดส้ รา้ งผลผลติ 2 ดา้ นขน้ึ พรอ้ ม ลา่ อาณานคิ มตะวนั ตก เปน็ การสรา้ ง “ชาตไิ ทย” กนั คอื ดา้ นหนงึ่ นำ� พาสงั คมใหป้ รบั เปลย่ี นขยับ และ “ความเป็นคนไทย” โยงไว้กับความเป็น ตามเพ่อื เร่งความเป็นไทย และความศิวไิ ลซ์ อีก ชาตนิ ยิ ม เขา้ กบั ราชานยิ ม และพทุ ธศาสนานยิ ม ด้านหน่ึง คือท�ำให้ใครก็ตามท่ีไม่เดินไปตาม ซ่ึงเป็นวาทกรรม (Discourse) ท่ีสร้างข้ึน เป็น แบบแผนกลายเป็น “ส่ิงผิดปกติ” ที่จะน�ำไปสู่
วารสารดำ�รงราชานุภาพ 31 ความชอบธรรมอย่างใดอย่างหน่ึงในการจัด สมบรู ณข์ องราษฎรในทางเศรษฐกจิ โดยรฐั บาลใหม่ ระเบยี บเพอ่ื ความเรยี บรอ้ ย และความมน่ั คงทาง จะหางานให้ราษฎรทุกคนท�ำ จะวางโครงการ สงั คม รวมทงั้ “ถกู ทงิ้ ไวข้ า้ งหลงั /ไมน่ บั รวม” เปน็ เศรษฐกิจแห่งชาติไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก ค�ำตอบได้อย่างหนึ่งว่า ท�ำไม คำ� ว่า ชาติ (Na- (4) จะต้องให้ราษฎรได้มีสิทธิเสมอภาคกัน tion) ที่กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้ทรง (5) จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็น บัญญัติความหมายไว้ว่า ชาติของประชาชน อิสระเม่ือเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก 4 ประการ โดยประชาชน และเพ่ือประชาชน จึงไม่ได้รับ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ (6) จะตอ้ งใหก้ ารศกึ ษาอยา่ งเตม็ ที่ ความนยิ มแพรห่ ลาย (สายชล. 12 ตลุ าคม 2561) แก่ราษฎร (คณะราษฎร) ได้ริเร่ิมให้จัดต้ัง และค�ำว่า “ชาติ” นี้ เริ่มปรากฏขึ้นในปลาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง และ รัชสมัยของรัชกาลท่ี 5 โดยท่ีก่อนน้ัน จะเป็น พยายามทจ่ี ะจดั รปู เศรษฐกจิ ขน้ึ ใหมต่ ามขอ้ เสนอ แนวคิดว่าด้วยการปกครองที่ประกอบไปด้วย ว่าด้วยเค้าโครงเศรษฐกิจ แต่ถูกขัดขวางและ กษัตริย์ ราษฎร และมลรัฐ (State) ที่เจาะจง ต้องล้มเลิกไป แต่มีเร่ืองส�ำคัญท่ีได้ต่อรองการ ในความหมายถึง “แผ่นดิน” (ธีรยุทธ,์ 2547) เพิ่มภาษีน�ำเข้าเพื่อปกป้องและสร้างเป็นโอกาส สำ� หรบั การพฒั นาทนุ ในประเทศแทนทตี่ ะวนั ตก 4.3 ประสบการณ์และการเรียนรู้ (ผาสกุ พงษไ์ พจติ ร และครสิ เบเคอร,์ 2539 : 447) ทางสังคมผา่ นรัฐอปุ ถมั ภแ์ ละทุนนยิ ม แต่การรัฐประหารเม่ือวันท่ี 7 การพัฒนาประชาธิปไตยของไทย พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2490 ไดน้ ำ� พาประเทศเขา้ สู่ เริ่มต้นข้ึนด้วยการปฏิวัติ 24 มิถุนายน การจัดการเศรษฐกิจท่ีรู้จักกันดีว่า “ทุนนิยม พ.ศ. 2475 ทม่ี กี ารเปล่ียนแปลง โดยรัฐ” โดยอ้างเหตุผลเพ่ือแข่งขันกับต่างชาติ การปกครองจากระบบสมบรู ณาญา แต่อีกด้านหนึ่งก็กันผู้ประกอบการเชื้อสายจีน สิทธิราชย์มาเป็นระบบประชาธิปไตยโดยมี (เพราะไม่วางใจคนจีน) มีการยึดธุรกิจด้าน พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ และคณะราษฎร สาธารณูปโภคและหัตถกรรมหลายแห่งของ ได้ประกาศหลักการน�ำพาประเทศขึ้นใหม่ เอกชนมาเปน็ ของรฐั สง่ ทหาร ขา้ ราชการระดบั สงู 6 ประการ ประกอบด้วย (1) จะต้องรักษา และนักการเมืองเข้าไปด�ำรงต�ำแหน่งต่างๆ ความเป็นเอกราชท้ังหลาย เช่น เอกราชใน ในรัฐวิสาหกิจ ผู้น�ำฝ่ายทหาร ไม่ว่าจะเป็น การเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ พลต�ำรวจเอกเผ่า ของประเทศไว้ให้ม่ันคง (2) จะต้องรักษา ศรียานนท์ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจช้ันผู้ใหญ่ และ ความปลอดภัยในประเทศ ให้การประทุษร้าย ขา้ ราชการชนั้ สงู ตา่ งแสวงหาประโยชนจ์ ากการ ตอ่ กนั ลดนอ้ ยลงใหม้ าก (3) จะตอ้ งบำ� รงุ ความสขุ ใชจ้ า่ ยของรฐั บาลโดยรบั เงนิ คา่ คอมมชิ ชนั่ ในการ
32 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ ก่อสร้าง การจัดหาส่ิงของให้รัฐ การใช้จ่ายเงิน จะพฒั นาอตุ สาหกรรม ไมพ่ ัฒนาเทคโนโลยแี ละ จากสำ� นกั งานสลากกนิ แบง่ รฐั บาลเพอื่ ประโยชน์ การผลติ เนน้ การตลาดแบบสรา้ งผลตอบแทนเรว็ สว่ นตวั และพรรคพวก รวมทั้งการจัดตงั้ องค์การ และบรหิ ารงานแบบครอบครวั จงึ ทำ� ใหน้ โยบาย รัฐวิสาหกิจก่อสร้างข้ึนเพ่ือรับเหมางานรัฐบาล แบบชาตินิยมกลายเป็นเพียงเครื่องมือของการ และกระจายงานใหแ้ กผ่ รู้ บั เหมา ในขณะเดยี วกนั ขยายงานและอ�ำนาจทางเศรษฐกิจของชนช้ัน ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งทหาร ผมู้ อี ำ� นาจทางการเมอื ง ปกครองใหม่ ในขณะท่ีทุนชาวจีนโดยส่วนใหญ่ และนักธุรกิจชาวจีนบางกลุ่ม ก็เริ่มมีความ ก็ยังส่งเงินก�ำไรกลับประเทศแม่เหมือนเดิม แนบแน่นมากขึ้น เช่น กลุ่มราชครู (กลุ่มของ (สธุ าชยั และทพิ ย์พาพร, บรรณาธิการ, 2556 : จอมพลผิน ชุณหะวัณ) กับนายชิน โสภณพนิช 302) เจ้าของธนาคารกรุงเทพ มีการเอื้อประโยชน์ แม้ว่าจะมีความพยายามกระจาย ซ่ึงกันและกัน โดยธนาคารกรุงเทพได้รับเงิน อำ� นาจออกจากการรวมศนู ย์ การปะทะประสาน สนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ 30 ล้านบาท กันระหว่างผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง ความ (ผาสกุ พงษไ์ พจติ ร และคริส เบเคอร,์ 2539 : ศิวิไลซ์กับความล้าหลัง คนเมืองหลวงกับคน 369 - 474) ต่างจังหวัดของไทย ตั้งแต่การเปล่ียนแปลงการ การบริหารประเทศตามนโยบาย ปกครอง พ.ศ. 2475 มาจนถงึ ปจั จบุ นั การพฒั นา แบบชาตินิยมของคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490 ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็อยู่ใน ได้น�ำไปสู่การจัดตั้งกิจการบริษัทโดยรัฐ เช่น วงั วนเดมิ ระหวา่ งการเลอื กตง้ั กบั การรฐั ประหาร บริษัท จังหวัด จ�ำกัด, บริษัท ข้าวไทย จ�ำกัด, พร้อมกับมีเหตุการณ์ทางการเมืองแบบการ บริษทั ยางไทย จำ� กดั , บรษิ ทั เกลอื ไทย จำ� กัด, เคลื่อนไหวมวลชนเป็นระยะๆ ตั้งแต่การ บริษัท ไทยนิยมพาณิชย์ จ�ำกัด ผูกขาดการค้า ประท้วงการเลือกต้ังสกปรกในปี พ.ศ. 2500 พาณชิ ยใ์ นกจิ การตา่ งๆ ยดึ กจิ การของชาวตา่ งชาติ จนกระท่ังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม และสง่ เสรมิ ใหจ้ ดั ตง้ั ธนาคารพาณชิ ยข์ องคนไทย พ.ศ. 2557 ล้วนสะท้อนถึงความขัดแย้งในการ ข้ึนแทน เช่น ธนาคารมณฑล ธนาคารกรุงเทพ บริหารจัดการประเทศ ความขัดแย้งในระดับ พาณิชยการ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคาร โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคม และการจัดการ กสกิ รไทย การดำ� เนนิ งานตามนโยบายเศรษฐกจิ ต่อความคิดเห็นท่ีต่างไม่ลงตัว ตลอดระยะเวลา แบบชาตินิยม ได้ท�ำให้เกิดนายทุนกลุ่มใหม่ที่มี เร่ือยมาจนกระท่ังปัจจุบัน ในขณะท่ีโครงสร้าง พนื้ ฐานจากการเปน็ ขา้ ราชการ (และสรา้ งความ ทางเศรษฐกิจและสังคมด�ำเนินไปอย่างไม่ลงตัว ร่วมมือกับพ่อค้าชาวจีน) เป็น “ทุนนิยมของ น้ัน ก็ได้มีปรากฏการณ์ที่เป็นจริงทางสังคม ขา้ ราชการ” ลกั ษณะของทนุ กลมุ่ นี้ ไม่มงุ่ เน้นที่ อย่างน้อย 2 ประการ คือ (1) การก่อรูปของ
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 33 ระบบอุปถัมภ์แบบเจ้าพ่อในระดับจังหวัด เพื่อ ในขณะทกี่ ารพฒั นาดา้ นเศรษฐกจิ ยดึ ครองโอกาสและความไดเ้ ปรยี บทางเศรษฐกจิ กม็ วี วิ ฒั นาการทเ่ี ปลย่ี นจากการผลติ เพอื่ ทดแทน และการเมือง เช่น ตระกูลคุณปล้ืม ในจังหวัด การน�ำเข้าตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ชลบุรี ตระกลู เทยี นทอง ในจงั หวัดสระแกว้ เปน็ แหง่ ชาติ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ. 2504 - 2509) ไปสกู่ าร ผลให้ท้องถ่ินเป็นไปแบบขั้วอ�ำนาจเดียว หรือ ผลิตเพ่ือการส่งออก ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ บางจังหวัดจะแย่งชิงกัน 2 - 3 ตระกูล เช่น และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2510 - 2514) ตระกูลฉายแสงกับตันเจริญที่จังหวัดฉะเชิงเทรา การเปลยี่ นสนามรบใหเ้ ปน็ สนามการคา้ การเตรยี ม และตระกูลปิตุเตชะ อรุณเวสสะเศรษฐ และ ประเทศรองรับการเป็น NICs การรับมือกับ การญุ ทจ่ี งั หวดั ระยอง สง่ิ เหลา่ นี้ ไดส้ ะทอ้ นลกั ษณะ กระแสโลกาภิวัตน์ และการเปล่ียนผ่านทาง ของการเลียนแบบระบบอ�ำนาจแบบรวมศูนย์ เศรษฐกจิ และสงั คมเขา้ สยู่ คุ สมยั ดจิ ทิ ลั ในปจั จบุ นั อ�ำนาจไว้กับชนชั้นน�ำเช่นเดียวกับส่วนกลาง แต่การสร้างผู้ประกอบการในระบบเศรษฐกิจ (โอฬาร, 2553 : 190 - 193) (2) การประสบ ยงั เปน็ ไปตามระบบสงั คมอปุ ถมั ภแ์ ละการพง่ึ พา ความส�ำเร็จในชีวิตการงานในการประกอบการ ทางการเมือง ดังจะเห็นได้จากผลสะท้อนจาก ของนักธุรกิจ นักวิชาชีพของคนไทยเช้ือสายจีน วกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ พ.ศ. 2540 ทเี่ จา้ ของกจิ การของ ได้กลายเป็น “ตัวแบบ” (Role model) ของ ทุนไทย ที่บริหารแบบครอบครัว และผูกขาด สังคมและได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง กิจการที่ด�ำรงความได้เปรียบมานานนับ 40 ปี มากข้ึนเรื่อยๆ ท�ำให้เส้นแบ่งความแตกต่าง บางแห่งต้องล้มละลายไป บางแห่งต้องขาย ระหว่างไทย - จีน จางหายไป (ต้งั แต่ประมาณปี กิจการไป บา้ งก็ปรบั โครงสร้างหนี้ หรือไม่กต็ ้อง พ.ศ. 2525) ในขณะเดยี วกนั ผลจากการเคลอื่ นยา้ ย ลดบทบาทลงตามหนุ้ ส่วนพร้อมกบั การยึดครอง ประชากรจากต่างจังหวัดเข้ามาอาศัยรวมกัน แทนท่ีโดยบรรษัทข้ามชาติ โดยเฉพาะในธุรกิจ ในเมอื งใหญ่ มาทำ� งานในหนา้ ทกี่ ารงานในระดบั คา้ ปลกี และธรุ กจิ การเงนิ ในขณะทที่ นุ ขนาดใหญ่ ต่างๆ ในสังคมเมือง เป็นผลให้วัฒนธรรมย่อย ทผี่ กู ขาดหรอื กงึ่ ผกู ขาด ไดป้ ระโยชนท์ ง้ั ยามปกติ (Sub - culture) ทค่ี นเมอื งหลวงเคยดถู กู ดแู คลน และวิกฤติ กลับอยู่รอด (ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คนต่างจังหวัด กลับได้รับการยอมรับนับรวม บรรณาธิการ, 2549) กลายเปน็ สว่ นหนงึ่ ของวฒั นธรรมเมอื ง สงั เกตได้ จากปรากฏการณ์ทางสังคมนี้ จากการยอมรับในอาหารพื้นบ้าน อาหารเหนือ แบบที่หน่ึง เป็นการเลียนแบบการสร้างอ�ำนาจ อาหารอีสานและอาหารใต้ เป็นส่วนหน่ึงของ โดยรัฐแบบรวมศูนย์ ซ่ึงจะท�ำหน้าที่ได้ท้ังเป็น Lifestyle ซ่งึ เกดิ ในราวปี พ.ศ. 2530 (ธรี ยุทธ์, กลไกท�ำงานแทนส่วนกลางและ/หรือต่อรองกับ 2547) ส่วนกลาง แบบท่ีสอง เป็นการสร้างลักษณะ
34 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ แทนทขี่ องอำ� นาจผา่ นสว่ นทไี่ มใ่ ชร่ ฐั ไมใ่ ชอ่ ำ� นาจ กจิ การขนาดใหญท่ มี่ คี วามสมั พนั ธก์ บั ขา้ ราชการ ทางการเมือง เป็นค่านิยมและการยอมรับของ และนกั การเมอื งตามวถิ ขี องระบบอปุ ถมั ภ์ ตงั้ อยู่ สังคมท่ีรัฐไม่มีส่วนร่วมสร้าง นอกจากน้ันแล้ว บนความไมเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตยทางการเมอื ง และ สถานการณ์ทางสังคมของไทยยังมีความขัดแย้ง การไม่ค�ำนึงถึงผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและ เพิ่มเติมข้ึน และเคลื่อนตัวออกไปจากเร่ืองสิทธิ ชุมชน/สังคมของอุตสาหกรรม ท�ำให้ขบวนการ เสรีภาพทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ภาคประชาสังคม น�ำเสนอแนวทางเลือกใหม่ การจัดการค่าจ้างแรงงาน และราคาสินค้า ส�ำหรับการพ่ึงตนเอง ตั้งอยู่บนความต้องการ ทางการเกษตร ไปสกู่ ารจดั การประเดน็ ทางสงั คม ของชุมชนเป็นแนวทางของการพัฒนาการเมือง โดยเฉพาะอย่างย่ิง เรื่องอุตสาหกรรมกับ และเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า ประชาสังคม - สิ่งแวดล้อม การขยายตัวของเมือง และการ วฒั นธรรมชมุ ชน (ประภาส ปน่ิ ตบแตง่ , ออนไลน)์ หดตัวของชนบท พร้อมกับการก่อตัวของ ผลจากวกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ พ.ศ. 2540 “ขบวนการเคล่ือนไหวภาคประชาสังคม (Civil และการปะทะกันระหว่างเศรษฐกิจแบบ Society Movement) ที่มีความโดดเด่นเป็น อุตสาหกรรมกับการสร้างปัญหาต่อสังคมและ กระแสของสงั คมในชว่ งหลงั เหตกุ ารณท์ างการเมอื ง ส่ิงแวดล้อม สังคมไทยก็ขานรับเอาแนวปรัชญา พฤษภาคม พ.ศ. 2535 และแนวคิดทถี่ กู บรรจไุ ว้ ของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีพระบาทสมเด็จ ในรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช 2540 และแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ มหาราช บรมนาถบพิตร ได้อธิบายไว้ตั้งแต่ ฉบบั ท่ี 8 (อนชุ าติ พวงสำ� ลี และกฤตยา อาชวนจิ กลุ , ปี พ.ศ. 2517 ให้ประชาชนตระหนักในการ บรรณกิ าร, 2542) ประกอบอาชพี จาก “...ความพอมี พอกิน พอใช้ การปะทะกันของการจัดการ เปน็ พอควรปฏิบัติได้แล้ว จงึ คอ่ ยสรา้ งคอ่ ยเสรมิ ประเด็นทางสังคมในช่วงเวลาเหล่านี้ เป็น ความเจรญิ และฐานะเศรษฐกจิ ทสี่ งู ขนึ้ โดยลำ� ดบั การสร้างประเด็นทางสังคมให้เป็นการเมือง ตอ่ ไป หากจะทมุ่ เทสรา้ งความเจรญิ ยกเศรษฐกจิ (Politicization) ท่ีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกับ ข้ึนให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้ สิ่งแวดล้อม การเข้าถึงซึ่งโอกาสของคนในพ้ืนท่ี แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศ ชนบททด่ี อ้ ยกวา่ คนในเมอื ง รวมทงั้ การใชอ้ ำ� นาจรฐั และของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิด ความขัดแย้งทางสังคม/การเมืองท่ีเกิดข้ึนใหม่นี้ ความไมส่ มดลุ ในเรอ่ื งตา่ งๆ ขน้ึ ซง่ึ อาจกลายเปน็ ไปซ้อนทับต่อการต่อต้านการรวมศูนย์อ�ำนาจ ความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด...” ซึง่ สำ� นักงาน ท้ังในมิติทางการเมืองและทุน ทั้งนี้ ก็เพราะ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โรงงานที่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม มักจะเป็น ไดป้ รบั เปน็ นยิ ามสำ� หรบั การนำ� ไปใชง้ านเปน็ เรอื่ งของ
วารสารด�ำ รงราชานุภาพ 35 “3 ห่วง 2 เง่ือนไข” ซงึ่ ประกอบไปดว้ ยการคำ� นงึ และการเมอื งในตา่ งจงั หวดั รวมทง้ั อตุ สาหกรรม ถึงหลัก “พอประมาณ มเี หตมุ ผี ล มภี มู คิ มุ้ กนั ” ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน/สังคม บนเงอ่ื นไขของ “ความร”ู้ และ “คณุ ธรรม” และ (2) การพึ่งตนเอง - สร้างความหมายของ ได้ยึดโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับ จริยธรรม/คุณธรรม ซ่ึงจะเห็นได้จากกรณี การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ความส�ำเร็จของการประกอบการของคนไทย การพฒั นาทเ่ี นน้ การจดั การตนเอง เชอื้ สายจนี กบั การพงึ่ ตนเองตามแนวปรชั ญาของ การจัดการครัวเรือน และกลุ่มนี้ ยังมีแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดแบบสัมมาชีพ ว่าดว้ ย “สมั มาชพี เต็มพนื้ ท่”ี ของศาสตราจารย์ รวมทั้งการเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาจัดการ พเิ ศษ นายแพทยป์ ระเวศ วะสี (2549) ไดน้ ยิ ามวา่ แก้ไขปัญหาผลกระทบจากอุตสาหกรรม ทั้งนี้ “เปน็ อาชพี ทไ่ี มเ่ บยี ดเบยี นตนเอง ไมเ่ บยี ดเบยี น จะเห็นได้ว่า ลักษณะความคิดของคนไทยใน ผู้อ่ืน ไม่เบียดเบียนส่ิงแวดล้อม มีรายจ่าย ห้วงระยะเวลาท่ีผ่านมา จะเป็นการปะทะกัน นอ้ ยกวา่ รายได้ เปน็ ไปตามหลกั การของเศรษฐกจิ ระหวา่ งแนวคดิ กระแสหลกั ทต่ี งั้ อยบู่ นการพงึ่ พา ทเี่ ชอ่ื มโยงกบั หลกั ศลี ธรรม และมคี วามเชอื่ มโยง ศูนย์อ�ำนาจ/ระบบอุปถัมภ์ ที่วิถีความสัมพันธ์ อย่างใกล้ชิดกับสภาวะของสุขภาพในชุมชน...” ทางสงั คมจะดำ� เนนิ ไปแบบลดคา่ ความหมายของ ซงึ่ เปน็ การนำ� เอาประเดน็ คณุ ภาพชวี ติ ดา้ นสงั คม จริยธรรม/คุณธรรม เพราะจะค�ำนึงถึงการ สาธารณสุขสร้างมิติสัมพันธ์กับการจัดการ ชว่ ยเหลอื ใหต้ นเองอยรู่ อดเปน็ สำ� คญั กบั แนวคดิ เศรษฐกิจและชีวิตประจ�ำวัน ท้ังในความเป็น กระแสรองท่ีเป็นการพ่ึงตนเอง ซ่ึงเป็นไปตาม ผูผ้ ลิตและผู้บริโภค ยดึ โยงการจัดการประโยชน์ ระบบประสิทธภิ าพท่ีเป็นเหตเุ ปน็ ผล ค�ำนงึ หลกั เข้ากับหลักศีลธรรม รวมทั้งเป็นข้อต่อระหว่าง จริยธรรม/คุณธรรม และการสร้างความ่ันคง ชุมชนกับระบบเศรษฐกิจการตลาดและการ ย่ังยนื ให้กับสังคมในระยะยาว บรโิ ภค 5. ปรากฏการณ์ทางสังคมและการปะทะ กลา่ วโดยสรปุ ววิ ฒั นาการของการ 5.1 การปะทะของขบวนการแบบ พฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม และประชาธปิ ไตยของไทย มวลชน 2 ขบวน ได้สร้างการเรียนรู้ทางสังคม พร้อมกับได้สร้าง ในรอบ 15 ปีท่ีผา่ นมา สงั คมไทย การยอมรับทางสังคมท่ีเป็นจริงข้ึน 2 แบบ ประสบวิกฤติทางการเมืองที่เป็นความขัดแย้ง ดว้ ยกนั คอื (1) การองิ อำ� นาจรวมศนู ย์ - ลดความ แบบการเคลื่อนไหวมวลชนขนาดใหญ่ (Mass หมายของจริยธรรม/คณุ ธรรม ตามตัวอย่างของ mobilization) ปะทะกนั 2 ขบวน ทร่ี จู้ กั กนั โดย การมีเจ้าพ่ออิทธิพลทางการเมืองและการใช้ ทวั่ ไปวา่ ขบวนคนเสอ้ื เหลอื งกบั ขบวนคนเสอ้ื แดง อ�ำนาจให้ได้มาซ่ึงประโยชน์ท้ังในทางเศรษฐกิจ
36 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ ต่างฝ่ายต่างสร้างขบวนการมวลชน ชุมนุม แบบอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุขกล่มุ ” ทางการเมอื งยดื เยอื้ ทา้ ทายตอ่ รฐั (และการเมอื ง (กปปส.) ทตี่ อ่ ตา้ นการออกกฎหมายนริ โทษกรรม ฝ่ายตรงกันข้าม) ขบวนคนเส้ือเหลือง ซ่ึงเป็น และยกระดบั เปน็ การขบั ไลร่ ฐั บาลยง่ิ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร ขบวนต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ที่ก่อตัวมาตั้งแต่ (ในระหว่างน้ัน ย่ิงลักษณ์ ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญ กลางปี พ.ศ. 2547 แล้วมีพัฒนาการตอ่ เนอื่ งกัน ตดั สนิ มคี วามผดิ อนั เนอ่ื งมาจากการยา้ ยนายถวลิ มาจนกระทั่งจัดตั้งเป็น “พันธมิตรประชาชน เปลยี่ นสี จงึ ตอ้ งพน้ ไปจากตำ� แหนง่ นายกรฐั มนตรี เพ่ือประชาธิปไตย” (People’s Alliance for ไปในวนั ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557) และมสี ว่ น Democracy : PAD) และจัดชุมนุมใหญ่ขับไล่ ท�ำให้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยไปสู่การ รฐั บาลขน้ึ ในวนั ท่ี 4 และ 11 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2549 รัฐประหารในวันท่ี 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 จนน�ำไปสู่การยุบสภาและจัดให้มีการเลือกต้ัง ขบวนคนเสื้อเหลอื ง (รวมทั้งขบวน กปปส.) เปน็ ทวั่ ไปใหมใ่ นวนั ท่ี 2 เมษายน พ.ศ. 2549 ต่อมา ขบวนของกลุ่มชนช้ันกลางในเมืองหลวงและ ไดจ้ ดั ชมุ นมุ ทางการเมอื งแบบมวลชนขนาดใหญ่ เมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ที่ยึดโยงอุดมการณ์ ต่อต้านรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช (พรรคพลัง เข้ากับการต่อต้านคอร์รัปชันและเรียกร้องให้มี ประชาชน) ในวนั ท่ี 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 การจัดการบริหารประเทศแบบธรรมาภิบาล โดยชูประเด็นเป็นรัฐบาลนอมินีของทักษิณและ มี “กรอบคิดขนาดใหญ่” (Mega narrative) ว่า เครือญาติแล้วน�ำเสนอทางออกว่าด้วยการเมือง ทกั ษณิ เครอื ญาติ และพวกพอ้ ง สรา้ งฐานอำ� นาจ ใหม่ - สนับสนนุ คนดมี าปกครองบ้านเมือง และ ทางการเมืองและเศรษฐกิจเพื่อเอ้ือประโยชน์ ใหป้ ระชาชนมีสว่ นรว่ ม การชมุ นุมทางการเมอื ง กับกลุ่มของตน พร้อมกับมอมเมาประชาชน ของ PAD ในรอบ 2 น้ีเป็นไปแบบยืดเย้ือและ รากหญา้ ดว้ ยนโยบายประชานยิ มและซอื้ คะแนน ยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง จนสถานการณ์ เสยี งเลอื กตงั้ ไมเ่ ปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภบิ าลและ คลคี่ ลายลงไปดว้ ยการทศ่ี าลรฐั ธรรมนญู ไดต้ ดั สนิ การพัฒนาประชาธปิ ไตย ยุบพรรคพลังประชาชนไปในวันที่ 2 ธันวาคม อกี ขบวนหนงึ่ คอื ขบวนคนเสอ้ื แดง พ.ศ. 2551 ขบวนการมวลชนอีกขบวนหนึ่ง เริ่มต้นข้ึนจากการต่อต้านทหาร โดยเรียก ทร่ี วมตวั กนั เมอ่ื วนั ท่ี 29 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2556 ตัวเองว่าแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ เพ่ือขับไล่รัฐบาลย่ิงลักษณ์ ชินวัตร ท่ีชนะการ เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร เลือกต้ังท่ัวไปในนามของพรรคเพ่ือไทยเมื่อวันที่ เมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 รวมตัวกันปกป้อง 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 โดยเรียกตัวเองว่า รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เม่ือวันที่ 2 กันยายน “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง พ.ศ. 2551 และพัฒนาขบวนการเป็น “แนวร่วม ปฏริ ปู ประเทศไทยใหเ้ ปน็ ประชาธปิ ไตยทส่ี มบรู ณ์ ประชาธปิ ไตยตอ่ ตา้ นเผดจ็ การแหง่ ชาต”ิ (นปช.)
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 37 (United Front of Democracy Against พัฒนาการรวมตัวกันขึ้นเป็น “จุดร่วมที่สร้าง Dictatorship : UDD) เพ่ือชุมนุมแบบยืดเย้ือ ข้ึนใหม่” แบบ Collective consciousness ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ ในระหว่างปี ตามการอธบิ ายของ Durkheim ซงึ่ จะตา่ งไปจาก พ.ศ. 2552 - 2553 ขบวนการคนเส้ือแดงมี ขบวนการกรรมกร สหภาพแรงงาน เกษตรกร “กรอบคิดขนาดใหญ่” วา่ การพัฒนาเศรษฐกจิ สมชั ชาคนจน รวมทงั้ ต่างไปจากเครอื ข่ายผ้ทู ่ีได้ และสังคมของไทยที่เปน็ ไปอยา่ งไมส่ มดลุ น�ำไป รบั ผลกระทบจากการประกอบการอตุ สาหกรรม สสู่ ภาวะทเี่ รยี กวา่ “รวยกระจกุ จนกระจาย” เกดิ (เชน่ เรอื่ งมาบตาพดุ แมเ่ มาะ หรอื เขอ่ื นปากมลู ) ความเหล่ือมล�้ำของรายได้และการถือครอง ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการวพิ ากษข์ องเกษยี ร เตชะพรี ะ ทรัพย์สินอย่างสูง น�ำไปสู่ความเสี่ยงทางสังคม ตอ่ การนำ� เสนอประเดน็ ลกู จนี กชู้ าติ เพอื่ ตอ่ ตา้ น/ ทม่ี ตี อ่ ชนชน้ั กลางใหมแ่ ละชนชนั้ กลางในระดบั ลา่ ง ขบั ไลร่ ฐั บาลสมคั ร สนุ ทรเวช ของขบวนคนเสอ้ื เหลอื ง สถาบันทางสังคมทั้งวัดและพระสงฆ์ ไม่อยู่ใน ว่า โดยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของคนจีน ฐานะท่ีจะเป็นท่ีพ่ึงท่ีดีได้ สถาบันทางการเมือง ทอ่ี พยพมาอาศยั อยใู่ นเมอื งไทย (รวมทงั้ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ใหม่ ๆ ทรี่ ฐั สรา้ งขนึ้ มา ไมว่ า่ จะเปน็ องคก์ รอสิ ระ ในเมืองไทย) ในยุคก่อร่างสร้างตัวหรือเส่ือผืน องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมอนใบ เกบ็ หอมรอมริบจากค่าแรงงานรับจา้ ง รวมท้ังระบบประกันสังคม ไม่มีความเข้มแข็ง การค้าขายเล็กๆ น้อยๆ สร้างกิจการในฐานะ และมีประสิทธิภาพเพียงพอ ไม่เปิดโอกาส ผปู้ ระกอบการขน้ึ ในสงั คมไทยในภายหลงั ตา่ งถกู ส�ำหรับการเข้าถึงอย่างแท้จริง จึงมีความรู้สึก กล่าวหาแบบเหมารวมโดยรัฐ (และชนชั้นน�ำ) ทีร่ นุ แรงต่อ “ความไม่เสมอภาค” และ “สภาวะ เหมอื นกนั มากอ่ นวา่ ทำ� ตวั เปน็ “ยวิ แหง่ บรู พาทศิ ” สองมาตรฐาน” ทด่ี �ำรงอยู่ในสงั คมไทย และเชื่อ และทีส่ �ำคัญไปกว่าน้นั คือ ทงั้ ทักษิณ (นายทนุ ในค�ำอธิบายง่ายๆ ท่ีว่าปัญหาท้ังหลายเกิดจาก ผู้ประกอบการธุรกิจส่ือสารโทรคมนาคม) และ “พวกอำ� มาตย”์ (สายชล, 2554) สนธิ (นายทุนผู้ประกอบการธุรกิจสื่อ) ต่างเป็น ขบวนการมวลชนของคนเสอ้ื เหลอื ง ลูกจนี ด้วยกนั ดงั นน้ั ความขดั แยง้ ทางการเมือง และคนเสอ้ื แดง ไมใ่ ชข่ บวนการทางการเมอื งของ ทว่ี า่ นี้ ไมม่ อี ะไรทไ่ี ปเกยี่ วขอ้ งกบั “ความเปน็ ลกู จนี ” คนจน คนชนช้ันล่าง คนชนบท หรือคนท่ไี ด้รับ มนั เกย่ี วกบั การอธบิ ายการเมอื งดว้ ยกระบวนการ ผลกระทบจากอุตสาหกรรม แต่เป็นขบวน ทางสังคมท่ีว่า ทักษิณ เป็นนายทุนเผด็จการ ทางการเมือง ที่ปะปนกันระหว่างคนจากหลาย (Capitalist dictatorship) และทุนนิยมแบบ ภาคส่วน หลายสาขาอาชีพ และแหล่งท่ีมา มูมมาม/หยาบกระด้าง (Vulgar capitalism) เป็นขบวนท่ีรวมตัวกันข้ึนตามความคิดเห็น ในขณะท่ีฝ่ายทักษิณพร้อมผู้สนับสนุน ก็เห็นว่า เบ้อื งต้นในเรอ่ื งหน่งึ ๆ ทสี่ อดคล้องตรงกัน และ ฝา่ ยรฐั ประหารและ PAD กำ� ลงั นำ� ประเทศ “ถอยหลงั
38 วารสารดำ�รงราชานภุ าพ กลับเข้าสู่ระบบศักดินานิยม” (Retrogressive แอด๊ คาราบาว และเปน็ ลกู พลี่ กู นอ้ งกบั ตกั๊ บงกช feudalism) “ระบบการปกครองโดยขา้ ราชการ ซ่ึงเป็นศิลปิน ดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงใน หรืออ�ำมาตย์” (Bureaucratic polity) และ สังคมของไทย มีผลงานเป็นท่ีนิยมในนามชื่อวง “ระบบอปุ ถมั ภ”์ (Patronage system)” (Tejapira, บอด้ีสแลมเรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เมื่อปี 2009) พ.ศ. 2559 ตนู ไดจ้ ดั ทำ� โครงการ “กา้ วคนละกา้ ว ลกั ษณะของการชปู ระเดน็ ทางการ เพ่ือโรงพยาบาลบางสะพาน” เป็นกิจกรรม เมืองของขบวนการคนเสื้อเหลือง ที่วิพากษ์ วิ่งระยะไกล จากกรุงเทพมหานคร ไปส้ินสุดที่ รัฐบาลทักษิณ และการวิพากษ์รัฐบาลอภิสิทธ์ิ โรงพยาบาลบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ ของขบวนการคนเสอื้ แดง ตามกรอบคดิ ขนาดใหญ่ ระยะทางรวม 400 กิโลเมตร ใช้เวลาด�ำเนิน ข้างต้น รวมทั้งการอธิบายของนายเกษียร กจิ กรรม 10 วนั (1 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559) เตชะพีระ ท่ีอธิบายลักษณะประเด็นชูของ สามารถระดมเงินบริจาคได้ 85 ล้านบาท ฝ่ายต่อต้านทักษิณและฝ่ายสนับสนุนทักษิณ โครงการ “ก้าวคนละก้าวเพ่ือ 11 โรงพยาบาล ข้างต้นน้ัน ตา่ งเปน็ ไปตามหลกั ของ “การสรา้ ง ทั่วประเทศ” เป็นกิจกรรมต่อมา ท่ีจัดข้ึนใน ความแตกตา่ งทางสงั คม” (Social differentiation) ระหว่างวนั ที่ 1 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2560 ถึงวนั ที่ ที่สังคมสร้างข้ึนจากการรวมตัวกันเป็นกลุ่มทาง 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ใช้เวลาว่ิง 55 วัน สงั คมใหมต่ าม “การตระหนกั รรู้ ว่ มกนั ” (Collective ต้ังแต่อ�ำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปสิ้นสุดที่ consciousness) ท่ีขยายตัวและกลายเป็นพลงั อ�ำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระยะทางรวม ทางสังคมท่ีเกิดข้ึนจากมวลชนกลุ่มหนึ่งจะไป 2,215 กิโลเมตร และระดมเงินบริจาคเพ่ือ อธิบายความเป็นไปของมวลชนอกี กลมุ่ หนง่ึ แทน จัดซ้ืออุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ให้กับ การอธบิ ายตวั ตนโดยเจา้ ของเรอื่ ง โรงพยาบาล 11 แหง่ ประกอบดว้ ย (1) โรงพยาบาล ยะลา (2) โรงพยาบาลสรุ าษฎรธ์ านี (3) โรงพยาบาล 5.2 การว่ิงเพ่ือระดมเงินบริจาคของ ราชบุรี (4) โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ตนู บอด้สี แลม (สุพรรณบุรี) (5) โรงพยาบาลศูนย์สระบุรี ตนู บอดสี้ แลม หรอื นายอาทวิ ราห์ (6) โรงพยาบาลขอนแก่น (7) โรงพยาบาล คงมาลัย พื้นเพเป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เจา้ พระยาอภยั ภเู บศร (ปราจนี บรุ )ี (8) โรงพยาบาล จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียน นครพิงค์ (เชียงใหม่) (9) โรงพยาบาลเชียงราย สวนกหุ ลาบวิทยาลยั และนิตศิ าสตรบัณฑติ จาก ประชานุเคราะห์ (10) โรงพยาบาลน่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีศักดิ์เป็นหลานของ (11) โรงพยาบาลพระมงกุฎเกลา้
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 39 การจัดกิจกรรมว่ิงเพ่ือระดมเงิน ตลอดเส้นทางจะมีผู้ท่ีเข้าร่วมสมทบ บริจาคเพื่อการกุศลส�ำหรับโรงพยาบาลของ ทงั้ การร่วมวิง่ ร่วมบริจาคเงิน มากขึ้นตามล�ำดบั ตนู บอดสี้ แลม เปน็ การจัดการขึน้ เอง ไมใ่ ช่การ มที ง้ั บริษัทเอกชน ศลิ ปนิ ดารา ช้นั นำ� คนอ่นื ๆ จดั การโดยรฐั ไมใ่ ชอ่ งคก์ รเอกชน แตเ่ ปน็ ไปแบบ เข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นระยะๆ เช่น ญาญ่า ญิ๋ง อาสาสมัครตัวแทนของสังคม (Volunteer โอปอล แหม่ม สุริวิภา ฯลฯ มีคหบดีประจ�ำ organizations) ท่ีมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ จงั หวดั ใหก้ ารตอ้ นรบั และรว่ มบรจิ าคเงนิ กอ้ นใหญ่ โรงพยาบาล 11 แห่ง จัดการองค์กรก็เป็นไป เชน่ คณุ จมิ มี่ ทจี่ งั หวดั นครศรธี รรมราช ทบี่ รจิ าค เฉพาะเพอื่ การนี้ เปน็ งานแบบเจาะจงทง้ั เปา้ หมาย มากถึง 16 ล้านบาท มีขบวนย่อยของการว่ิง ของการรวมเงนิ และการใชเ้ งนิ เปน็ การจดั รปู แบบ เพ่ือระดมเงินบริจาคของศิลปินคนอื่น ๆ เช่น ขององค์กรที่สอดรับกับการจัดการเชิงกลยุทธ์ วรเชษฐ เอมเปีย จากวงดนตรีสไมล์บัฟฟาโล ของการบริจาคเพื่อการกุศล หรือ Strategic ที่จัดวิ่งในพ้ืนท่ีภาคตะวันออกแล้วน�ำเงินไป philanthropy สมทบตนู และคณะท่จี งั หวัดพะเยา การวิ่งในแต่ละวัน ผ่านไปตามเส้นทาง ในระหว่างการด�ำเนินกิจกรรมว่ิงของ ที่มีการประกาศให้ทราบล่วงหน้า ท้ังต่อ ตูนและคณะ ท้ัง 55 วนั ทมี่ กี ิจกรรม ไดส้ รา้ งและ สื่อมวลชนและองค์กรร่วมงานในพ้ืนท่ี ตูน กลายเปน็ ศนู ยร์ วมของความสนใจอยา่ งกวา้ งขวาง และคณะ จะรับบริจาคเงินจากประชาชนผู้ร่วม มีการรายงานความก้าวหน้าของกิจกรรมเป็น บริจาคท่ัวไป/รายย่อย ท้ังแบบรับเงินสดและ ระยะๆ และทุกชั่วโมงของการรายงานข่าวของ บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร (และช่องทางการ วิทยุ โทรทัศน์ และเป็นข่าวหน้าหน่ึงของ ใชจ้ า่ ยเงนิ ผา่ น Application ทางการเงนิ รปู แบบ หนังสือพมิ พท์ กุ ส�ำนกั ทง้ั หนงั สอื พิมพ์ส่วนกลาง ต่างๆ ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต รวมท้ัง เคานเ์ ตอรเ์ ซอรว์ สิ ของ 7-11) มกี ารแวะทกั ทาย ร่วมเล่นดนตรีและกิจกรรมอื่นตาม รายทางท่ีผา่ น ทีม่ ีการจดั การตอ้ นรบั แ ล ะ ส อ ด รั บ กั น ทั้ ง ท่ี เ ป ็ น ไ ป ต า ม ธรรมชาติและเป็นกิจกรรมท่ีจัดการ โดยจังหวัดหรือส่วนราชการเพื่อร่วม จัดระเบียบกิจกรรมให้เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย และการว่ิงเป็นไป ตามแผนงานทกี่ ำ� หนด
40 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ และท้องถ่ิน ยิ่งไปกว่าน้ัน ยังมีการสื่อสารผ่าน นางนอน ซ่ึงเป็นเทือกเขาติดชายแดนประเทศ Social media ท้ัง Facebook, Instagram, เมยี นมารใ์ นพน้ื ทอี่ ำ� เภอแมส่ าย จงั หวดั เชยี งราย Line และถา่ ยทอดสดผ่าน YouTube ก็ยิง่ ท�ำให้ เยาวชนเหล่านั้น มีอายุระหว่าง 11 - 18 ปี ขา่ วสารของกจิ กรรมทเี่ ปน็ ทสี่ นใจของสาธารณะ จังหวัดเชียงรายได้จัดตั้ง “ศูนย์อ�ำนวยการร่วม เป็นไปด้วยความเข้มข้น ปะปนกันไปทั้งเร่ือง ค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้�ำหลวง - ขุนน�้ำ ของตูน บอดี้สแลม และการร่วมกิจกรรมของ นางนอน” (ศอร.) ขึ้นเป็นกลไกการช่วยเหลือ ตนเอง ทั้งในฐานะที่เป็นผู้ร่วมรายการจัดการ ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทา ตอ้ นรบั รว่ มบรจิ าค รายงานขา่ วของตนู และคณะ สาธารณภัย พ.ศ. 2550 ในวันท่ี 24 มิถุนายน และรายงานเหตุการณ์ของเพื่อน ๆ ที่ร่วมงาน พ.ศ. 2561 โดยมีนายณรงค์ศักด์ิ โอสถธนากร การว่ิงเพ่ือระดมเงินบริจาคของตูนและคณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้อ�ำนวยการ สนิ้ สุดลงด้วยการวมเงนิ บรจิ าคไดม้ ากถงึ 1,400 การค้นหาเป็นไปด้วยความล�ำบาก เพราะในถ้�ำ ลา้ นบาทเศษ เพอื่ มอบใหก้ บั โรงพยาบาล 11 แหง่ ท่ีมีน้�ำท่วมและไหลเข้าจากพายุฝนท่ีตกลงมา บรรลคุ วามสำ� เร็จตามวัตถปุ ระสงค์ อยา่ งต่อเนอ่ื ง เหตุการณด์ ังกล่าว เกิดข้นึ ในหว้ ง ระยะเวลาเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 5.3 การช่วยเหลือผู้ประสบภัยท่ี ค.ศ. 2018 ท่ีจัดข้นึ ทรี่ ัสเซยี จึงได้รบั ความสนใจ ถำ�้ หลวงขนุ น้ำ� นางนอน - จงั หวดั เชยี งราย จากส่ือมวลชน และ Social media ยิ่งท�ำให้ เมือ่ วนั ท่ี 23 มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เร่ืองนี้เป็นที่สนใจของผู้ส่ือข่าวทั่วโลก และร่วม มีรายงานข่าวว่า ทีมฟุตบอลเยาวชนที่เรียกว่า รายงานเหตุการณ์นี้แบบวันต่อวัน ช่วงต่อช่วง หมูป่าอะคาเดมี 13 คน รวมทั้งผู้ช่วยโค้ช และเป็นไปแบบตลอดเวลา ฯลฯ ทง้ั BBC CNN ไดส้ ญู หายไประหวา่ งไปเทยี่ วในถำ�้ หลวง - ขนุ นำ�้ ABC News พรอ้ มกับใหส้ ัมภาษณ์สง่ สาสน์ เป็น ก�ำลังใจจากผู้น�ำทางสังคมและการเมอื งทว่ั โลก การช่วยเหลือผู้ประสบภัยคร้ังนี้ เป็นภัยพบิ ัติทหี่ นว่ ยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และ ประชาสังคมของไทยไม่มีประสบการณ์มาก่อน ประกอบกบั เวริ ์น อันสเวริ ์ธ นกั สำ� รวจถำ�้ หลวง ชาวอังกฤษ ซ่ึงมีภรรยาเป็นชาวไทย มีข้อมูล รายละเอียดของถ�้ำที่สามารถใช้เป็นประโยชน์
วารสารด�ำ รงราชานภุ าพ 41 ในการค้นหาได้จึงได้ย่ืนมือให้การช่วยเหลือ การดำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื ดำ� เนนิ งาน เป็นเบ้ืองต้น ขณะเดียวกันก็มีเพื่อนๆ ที่เป็น ไปอย่างต่อเน่ือง โดยมี ศอร. เป็นศูนย์บังคับ อาสาสมัครกู้ภัยและด�ำน�้ำในถ้�ำในต่างประเทศ บัญชา มีส่วนราชการท่ีเข้ามาร่วมสนับสนุนการ จึงมีการประสานความช่วยเหลือดังกล่าวไป คน้ หาจากสว่ นตา่ งๆ ทัง้ กองทัพ ตำ� รวจตระเวน จึงท�ำให้ ศอร. ได้พ่ึงพาการท�ำงานด้านเทคนิค ชายแดน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ ต่าง ๆ ของอาสาสมัครจากต่างประเทศ ท่ีมาก พรรณพืช กรมปา่ ไม้ และการสนับสนุนอุปกรณ์ ไปกว่าเคร่ืองมือและกลไกที่มีอยู่ตามปกติ เครื่องมือ ผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้าน ทั้งจาก ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน และอาสาสมัคร ประสานความรว่ มมือนกั ดำ� นำ�้ ในถำ�้ ในเครอื ข่าย ผมู้ จี ติ สาธารณะแขนงตา่ งๆ เชน่ การตดิ ตงั้ ระบบ ของ British Cave Rescue Council : BCRC ไฟฟ้าด้วยสายไฟกันน้�ำพร้อมรถปั่นไฟของ ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมของอังกฤษ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประสานเครือข่าย ท�ำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งน้ีมี สัญญาณโทรศัพท์มือถือของทุกค่ายโดย กสทช. นกั ดำ� นำ�้ ทม่ี ปี ระสบการณส์ งู จากทวั่ โลก เขา้ มารว่ ม ในการวางสายเข้าไปในถ้�ำของการส่ือสาร เปน็ อาสาสมคั รสมทบกบั หนว่ ยซลี และอาสาสมคั ร แห่งประเทศไทย การสนับสนุนเครื่องมือการ ของกองทัพเรือของไทย ท�ำงานหุ่นยนต์ใต้น�้ำท่ีมีโซนาร์สแกนเนอร์
42 วารสารด�ำ รงราชานุภาพ เครอื่ งปม๊ั นำ้� และโดรน ของ บรษิ ทั ปตท. สำ� รวจ อปพร. ไปทำ� หนา้ ทสี่ ำ� รวจการไหลของนำ้� นอกถำ�้ และผลติ ปโิ ตรเลียม จ�ำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เพื่อเบ่ียงเส้นทางไม่ให้ไหลเข้าถ�้ำ ซึ่งโดย การสนับสนุนท่อ HDPE ท่อเหล็กคดงอได้ เน้ือหาของงานจะเหมือนกับการเร่งสูบน้�ำออก น้�ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้มของ บริษัท ปตท.จ�ำกัด จากถ�้ำของเครอ่ื งสบู พญานาค การชว่ ยเหลอื ของ (มหาชน) การสนบั สนนุ การเดนิ ทางของไทยแอร์ นักด�ำน�้ำ แพทย์จากออสเตรเลีย หรือกรณี เอเชีย บริษัท การบินไทย จ�ำกัด (มหาชน) การตง้ั โรงครวั ของอาสาสมคั รชมุ ชนทเ่ี ดนิ ทางไป การสนับสนุนอุปกรณ์ เคร่ืองมือ และทีมงาน จากจังหวัดนนทบุรี (อดีตเจ้าของร้านอาหาร นักธรณีวิทยาและผู้ช�ำนาญการของบริษัท เยาวราชทะเลเผา) การบริการซักรองเท้าผ้าใบ เชพรอน รวมทง้ั การสนบั สนนุ งานดา้ นตา่ ง ๆ จาก และรองเท้าคอมแบทของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคม บรษิ ทั เอกชนชน้ั นำ� เชน่ บรษิ ทั ช.การชา่ ง จำ� กดั ศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย การท�ำ (มหาชน), บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิล หนา้ ทผี่ จู้ ดั การพนื้ ทก่ี ารสอ่ื สารของ โดย คณุ ศศวิ มิ ล จ�ำกัด, กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จ�ำกัด อยคู่ งแกว้ ซงึ่ เปน็ ภรรยาของผอู้ ำ� นวยการหนว่ ยซลี (มหาชน), บริษัท บุญรอดบริวเวอรี จ�ำกัด, และการคดิ คน้ สงิ่ ประดษิ ฐข์ น้ึ ใหมแ่ ลว้ นำ� ไปมอบ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซี จ�ำกัด, บริษัท ให้ทดลองใช้งาน เช่น กรณีกระสวย/จรวดจิ๋ว บางกอกโคมัตสุเซลส์ จ�ำกัด รวมท้ังการบริการ ซึ่งสร้างจากวัสดุของยานอวกาศ เพ่ือช่วยน�ำพา ขนสง่ ฟรขี องการบินไทยหรือแอรเ์ อเชยี ฯลฯ ผปู้ ระสบภยั ออกจากถำ�้ ของ Elon Musk เจา้ ของ น อ ก จ า ก ก า ร ส นั บ ส นุ น โ ด ย บรษิ ทั เทสลา แมว้ า่ กรณหี ลงั นี้ ทมี งานชว่ ยเหลอื หน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ข้างต้นแล้ว ล�ำเลียงผู้ประสบภัยไม่เลือกใช้ก็ตาม แต่ก็เป็น ยังมีงานที่เป็นอาสาสมัครท่ีมาจากระดับชุมชน ตัวอย่างของงานท่ีสร้างสรรค์ข้ึนใหม่เพ่ือการนี้ ท่ีเข้ามาร่วมปฏิบัติงานตามก�ำลังความสามารถ โดยตรง เฉพาะ เช่น นกั ปนี ถ้ำ� จากเกาะลิบง จงั หวัดตรงั ในระหว่างการช่วยเหลือ มีกรณี ซ่ึงมีอาชีพเก็บรังนกนางแอ่นในถ�้ำ รถสูบน้�ำ ของการจัดการของสังคมที่มีต่อการสื่อสารใน ขนาดใหญ่ท่ีเรียกว่าเครื่องสูบน�้ำพญานาค พนื้ ทข่ี องสงั คมหรอื Social media เชน่ การชว่ ยกนั ซง่ึ เปน็ อปุ กรณด์ ดั แปลงจากเจา้ ของทเ่ี ปน็ วศิ วกร ตดั วงจรขา่ วลอื ขอ้ มลู ทยี่ งั ไมไ่ ดร้ บั การยนื ยนั จาก ชาวไทย แมบ่ า้ นทอ่ี าสามาตงั้ โรงครวั อาหารเลยี้ ง ศอร. รวมทั้งการรายงานการให้ความร่วมมือ ผู้ปฏิบัติงาน ร้านซักรีดท่ีอาสารับซักเสื้อผ้าให้ ของส่ือมวลชนและการไม่ให้ความร่วมมือของ ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน มหี นว่ ยงานอาสาสมคั รทร่ี วมตวั จาก สอื่ มวลชนท้ังของไทยและตา่ งประเทศ ผา่ นช่อง
วารสารดำ�รงราชานภุ าพ 43 ทางของ Social media ท�ำให้การท�ำหน้าท่ี 5.4 การรณรงคค์ ณุ ธรรม 12 ประการ รายงานของสอื่ มวลชน กลายเป็นหวั ข้อ “ข่าว” ของ คสช. การพยายามรอื้ ฟน้ื โดยรัฐ หรือเป็นข่าวท่ีเกิดเป็นข่าวโดยผู้รายงานข่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการตรวจสอบผู้ที่ท�ำหน้าท่ีตรวจสอบสังคม (คสช.) โดย พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา หวั หนา้ อกี ตอ่ หนึง่ คสช. ไดม้ นี โยบายเพอื่ การรณรงคก์ ำ� หนดคา่ นยิ ม ผลการช่วยเหลือของ ศอร. และความ หลกั ในสงั คมไทย เรยี กวา่ “คา่ นยิ ม 12 ประการ” ร่วมมือจากหลายฝ่ายหลายมิติ ท้ังก�ำลังทรัพย์ เมอื่ วนั ท่ี 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ประกอบดว้ ย แรงงาน ทรพั ยากร เคร่ืองมอื เทคโนโลยี บริการ (1) มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสามารถต่าง ๆ ท่ีประสานก�ำลังเข้า (2) ซอ่ื สัตย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ในส่ิงที่ ประกอบกัน จนน�ำไปสู่การค้นพบผู้สูญหาย ดงี ามเพอื่ สว่ นรวม (3) กตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง และน�ำพาออกจากถ้�ำหลวงนางนอน สามารถ ครูบาอาจารย์ (4) ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษา ช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี เล่าเรียนท้ังทางตรง และทางอ้อม (5) รักษา ทั้ง 13 คน โดยทยอยน�ำตัวผู้ประสบภัยส่ง วฒั นธรรมประเพณไี ทยอันงดงาม (6) มีศีลธรรม โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะหต์ ง้ั แตว่ นั ท่ี รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 จนกระท่ังวันท่ี 10 แบ่งปัน (7) เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย กรกฎาคม พ.ศ. 2561 รวมใช้เวลาด�ำเนินงานนี้ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง ร่วมกนั ท้ังส้ิน 18 วนั (8) มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จัก การเคารพผใู้ หญ่ (9) มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ� รปู้ ฏบิ ตั ิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110