เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การทเี่ ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 89 สง่ิ สำ� คญั ทต่ี อ้ งพจิ ารณาในการปรบั ปรงุ ผลการดำ� เนนิ การ และการบรหิ ารความเปลยี่ นแปลง ได้แก่ การเลือกและใช้ตัววัดหรือตัวบ่งช้ีผลการด�ำเนินการ ท้ังนี้ ตัววัดหรือตัวบ่งช้ีที่เลือกมา ต้องเป็นตัวที่ดีท่ีสุด ทสี่ ะทอ้ นถงึ ปจั จยั ทนี่ ำ� ไปสกู่ ารปรบั ปรงุ ผลสมั ฤทธดิ์ า้ นการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และการพฒั นาผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ การปฏิบัติการ การเงิน งบประมาณ และผลการด�ำเนิน การด้านสังคม กลุ่มตัววัดหรือตัวบ่งชี้ท่ีครอบคลุมและเช่ือมโยงกับความต้องการของผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอ่ืน และผลการด�ำเนินการของสถาบันจะช่วยท�ำให้กระบวนการทั้งหมดสอดคล้อง ไปในแนวทางเดียวกันกับเป้าประสงค์ของสถาบัน ตัววัดและตัวบ่งชี้เหล่านี้อาจจ�ำเป็นในการ สนับสนุนการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูล จากกระบวนการตดิ ตามผลจะชว่ ยใหส้ ถาบนั สามารถประเมนิ และปรบั เปลยี่ นตวั วดั และตวั บง่ ช้ี เหล่านั้น เพอ่ื ใหส้ นับสนนุ เปา้ ประสงคข์ องสถาบันไดด้ ยี ง่ิ ข้ึน การวิเคราะห์ หมายถึง การกลั่นกรองใจความส�ำคัญจากข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือใช้ สนบั สนนุ การวัดผล การตัดสนิ ใจ การปรับปรงุ และการสรา้ งนวตั กรรม การวเิ คราะหร์ วมถึง การใชข้ ้อมลู เพ่ือดแู นวโนม้ การคาดการณ์ ตลอดจนการหาความสัมพนั ธข์ องเหตุและผลซ่งึ โดย ปกติแล้วอาจไม่เห็นเด่นชัด การวิเคราะห์อาจใช้สนับสนุนจุดมุ่งหมายต่างๆ เช่น การวางแผน การทบทวนผลการดำ� เนนิ การโดยรวม การปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั งิ าน และการบรรลเุ ปา้ หมายของ การบริหารความเปลย่ี นแปลง และการเปรียบเทียบผลการด�ำเนินการกับคู่แขง่ หรือเทยี บเคียง กบั สถาบนั ที่มีวิธีปฏบิ ตั ิทีเ่ ปน็ เลิศ ข้อมูลอาจจ�ำเป็นต้องรวบรวมจากแหล่งต่างๆ เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ ข้อมูลอาจ จ�ำแนกได้ ในลักษณะต่าง ๆ เชน่ ตลาด หลักสูตร บริการ และกลุ่มบคุ ลากร เพ่ือให้มคี วาม เข้าใจที่ลึกซง้ึ มากข้นึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ผนู้ ำ� ของสถาบนั ควรใหค้ วามสำ� คญั กบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สาธารณะ รวมทง้ั ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความผาสุกและประโยชน์ของสังคม ผู้น�ำควรเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสถาบันและบุคลากรในการ ให้ความสำ� คญั ในการปกปอ้ งสุขภาวะ ความปลอดภยั และส่งิ แวดลอ้ ม การปกป้องดังกลา่ วควร ครอบคลุมถึงปฏบิ ตั ิการของสถาบนั ทอี่ าจสง่ ผลกระทบในทกุ ดา้ น นอกจากนน้ั สถาบนั ควรเนน้ การ อนรุ กั ษท์ รพั ยากรและการลดของเสยี ทแ่ี หลง่ เกดิ การวางแผนควรค�ำนงึ ถงึ ผลกระทบดา้ นลบทอี่ าจ เกดิ ขน้ึ จากการบรหิ ารทางกายภาพ การปฏบิ ตั งิ านภายในหอ้ งทดลองและการขนสง่ การวางแผน ทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ลควรปอ้ งกนั มใิ หเ้ กดิ ปญั หาตา่ งๆ มกี ารเตรยี มการเพอื่ ตอบสนองอยา่ งถกู ตอ้ งตรง ประเดน็ ในกรณที เี่ กดิ ปญั หาขน้ึ และจดั ใหม้ สี ารสนเทศ และการสนบั สนนุ ทจี่ �ำเปน็ ใหพ้ รอ้ ม เพอื่ สรา้ งความต่ืนตัว ความปลอดภยั และความเชอ่ื ม่นั ของสงั คม
90 เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนนิ การทเ่ี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 สถาบนั ไมเ่ พยี งตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและขอ้ กำ� หนดของทอ้ งถน่ิ จงั หวดั หรอื ประเทศ เท่าน้ัน แต่ควรถือเอาข้อบังคับเหล่านี้เป็นโอกาสเพื่อการปรับปรุง “ให้ดีกว่าส่ิงที่จ�ำเป็นต้อง ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ” สถาบันควรตอกย�้ำใหเ้ กิดการประพฤติปฏบิ ตั อิ ยา่ งมีจริยธรรมในการ ดำ� เนนิ การและการมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในทกุ กรณี สภามหาวทิ ยาลยั /สภาสถาบนั ควรกำ� หนด ขอ้ ปฏบิ ตั ดิ า้ นจรยิ ธรรมในมาตรฐานระดบั สงู และตอ้ งมกี ารตดิ ตามผลการปฏบิ ตั ใิ น ทกุ ด้านอยา่ งสมำ�่ เสมอ การคำ� นงึ ถงึ ความผาสกุ และประโยชนข์ องสงั คม หมายถงึ การเปน็ ผนู้ ำ� และการสนบั สนนุ ระบบเศรษฐกิจ สังคมและสภาพแวดล้อมภายในขอบเขตท่ีสถาบันครอบคลุมถึงและภายใต้ ข้อจ�ำกัดด้านทรัพยากรของสถาบัน การสนับสนุนและการเป็นผู้น�ำดังกล่าว อาจรวมถึงการ พฒั นาการศกึ ษา สขุ ภาวะและบรกิ ารอน่ื ๆในชมุ ชน การปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มทดี่ เี ลศิ การเปน็ ต้นแบบในประเด็นที่มีความส�ำคัญต่อสังคม การอนุรักษ์ทรัพยากร การลดการปล่อยก๊าซ เรอื นกระจก (carbon footprint) การบริการชมุ ชนและงานการกศุ ล การปรับปรงุ หลักปฏบิ ัติ ในวงการศึกษาและของสถาบัน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศท่ีไม่เป็นความลับทาง การแข่งขนั สถาบันท่ีเป็นต้นแบบ ภาวะผู้น�ำครอบคลุมการมีบทบาทในการโน้มน้าวสถาบันอ่ืนท้ัง ภาครัฐและเอกชน เพ่ือให้เกิดความร่วมมือ จากสถาบันอ่ืนท้ังภาครัฐและเอกชนเพ่ือให้บรรลุ วัตถุประสงคด์ ังกล่าวดว้ ย การจดั การความรับผดิ ชอบต่อสังคมจำ� เป็นต้องอาศัยตัววดั ทเ่ี หมาะสม และผู้นำ� สถาบนั ต้องรบั ผดิ ชอบตอ่ ตวั วดั ดงั กล่าวดว้ ย จริยธรรมและความโปรง่ ใส สถาบันต้องเน้นย้�ำถึงพฤติกรรมท่ีมีจริยธรรมในทุกปฏิสัมพันธ์และการติดต่อกับผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม องค์การก�ำกับดูแลของสถาบัน ควรก�ำหนดมาตรฐานจริยธรรมให้สูงและ ตดิ ตามการปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามนน้ั ผนู้ ำ� ระดบั สงู ของสถาบนั ควรเปน็ ตน้ แบบของพฤตกิ รรมการ มจี รยิ ธรรมและสือ่ สารความคาดหวังไปยงั บุคลากรให้ชัดเจน หลกั การดา้ นจรยิ ธรรมเปน็ พนื้ ฐานของวฒั นธรรมและคา่ นยิ มของสถาบนั ซง่ึ ชว่ ยแยกแยะ ถูกผิดให้ชัดเจน การระบุหลักการด้านจริยธรรมให้ชัดเจนร่วมกับค่านิยมของสถาบัน จะช่วย ให้บคุ ลากรตัดสินใจไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธผิ ล และอาจเปน็ การก�ำหนดกรอบทีเ่ ป็นบรรทดั ฐานและ ข้อหา้ มทีใ่ ชใ้ นสถาบนั
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนินการทเี่ ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 91 คุณลกั ษณะของความโปร่งใส หมายถึง การส่ือสารทีเ่ ปิดเผยและตรงไปตรงมาของผนู้ �ำ และการบรหิ ารจดั การ และการแบ่งปนั สารสนเทศท่ชี ดั เจนและแมน่ ย�ำ ประโยชนข์ องความโปรง่ ใสมหี ลายดา้ น ไดแ้ ก่ การสรา้ งความผกู พนั ของบคุ ลากร ชว่ ยให้ บุคลากรรู้ท่ีมาท่ีไปของส่ิงที่ก�ำลังด�ำเนินการ และเห็นบทบาทของตนเองที่จะส่งผลในการ ด�ำเนินการดังกล่าว นอกจากน้ียังมีความส�ำคัญในการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย สร้างความมีสว่ นร่วม ความผกู พันและความเชอ่ื มนั่ ในสถาบัน พฤตกิ รรมทมี่ จี รยิ ธรรมและความโปรง่ ใสสรา้ งความไวว้ างใจตอ่ สถาบนั และความเชอ่ื มนั่ ในความยตุ ธิ รรมและความตรงไปตรงมาซ่งึ มคี ณุ คา่ ในสายตาของผ้มู สี ว่ นได้สว่ นเสยี ทุกกลุ่ม การสง่ มอบคณุ ค่าและผลลัพธ์ การสง่ มอบคณุ คา่ แกผ่ มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทสี่ ำ� คญั เทา่ กบั ไดส้ รา้ งความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั มสี ว่ นช่วยใหเ้ ศรษฐกิจเตบิ โต และสง่ ผลดีตอ่ สังคมโดยรวม เพ่อื ให้บรรลเุ ปา้ หมายของการสรา้ ง สมดุลทางคุณค่าท่ีอาจเปลี่ยนแปลงและอาจขัดแย้งกันในบางคร้ัง กลยุทธ์ของสถาบันจึงควร พจิ ารณาถงึ ความตอ้ งการของผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทสี่ �ำคญั ไวใ้ หช้ ดั เจน เพอ่ื ชว่ ยใหม้ นั่ ใจไดว้ า่ แผน และการปฏบิ ตั ติ า่ งๆ สนองความตอ้ งการของทกุ ฝา่ ย และเพอ่ื เลยี่ งการเกดิ ผลกระทบดา้ นลบตอ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี กลมุ่ ใดกลมุ่ หนงึ่ การผสมผสานตวั วดั ผลการดำ� เนนิ การทงั้ แบบนำ� และแบบตาม อย่างสมดุล เป็นวิธีท่ีมีประสิทธิผลวิธีหน่ึงในการสื่อสารถึงล�ำดับความส�ำคัญของเรื่องต่างๆ ใน ระยะสน้ั และระยะยาว ติดตามผลการดำ� เนนิ การจริงและเป็นพ้ืนฐานเพอ่ื การปรับปรงุ ผลลัพธ์ การวดั ผลการดำ� เนนิ การของสถาบนั ควรมงุ่ เนน้ ทผ่ี ลลพั ธท์ ส่ี �ำคญั ซงึ่ นำ� ไปใชส้ รา้ งคณุ คา่ และรักษาสมดุลของคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสยี ท่ีส�ำคญั ได้แก่ ผู้เรียนและผู้ปกครอง ลกู ค้า กลมุ่ อ่นื บคุ ลากร ผูส้ ่งมอบ คู่ความรว่ มมือ สงั คมและชุมชน ดังนั้น ผลลพั ธ์จงึ ตอ้ งใชต้ ัววดั ทป่ี ระกอบข้นึ จากหลายดา้ น ซ่งึ ไม่เพียงแตด่ ูผลการเรยี นรู้ ของผเู้ รยี นและผลดา้ นงบประมาณเทา่ น้ัน แตย่ ังดผู ลลัพธ์ของกระบวนการ ความพึงพอใจของ ผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อน่ื และบคุ ลากร ผลลพั ธด์ า้ นความผกู พนั รวมทงั้ ผลการดำ� เนนิ การดา้ นการนำ� องคก์ าร กลยทุ ธ์ และดา้ นสังคม
92 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนนิ การทเี่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 บทบาทของคา่ นยิ มหลกั และแนวคดิ
เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนนิ การที่เป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 93 การเปล่ยี นแปลงจากเกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาปี 2556-2557 เฉกเชน่ เดยี วกนั กบั การเปลย่ี นแปลงเกณฑใ์ นฉบบั กอ่ น ๆ เจตจำ� นงคส์ ำ� คญั ในการปรบั ก็ เพอื่ ใหเ้ กณฑส์ ะทอ้ นแนวทางการปฏบิ ตั ทิ ใ่ี หมล่ า่ สดุ ในการนำ� และผลการดำ� เนนิ การขององคก์ าร ซงึ่ ไดร้ บั การยนื ยนั แลว้ คำ� สำ� คญั สองคำ� ในเจตจำ� นงคข์ า้ งตน้ คอื “ใหมล่ า่ สดุ ” และ“ไดร้ บั การยนื ยนั แลว้ ” เกณฑ์ ถูกพฒั นาบนพน้ื ฐานของแนวทางการปฏิบัตทิ ี่ถกู น�ำไปใชใ้ นภาคธรุ กจิ และองค์การอื่นๆ มาแลว้ อย่างได้ผล แนวทางการปฏิบัติเหล่านี้เม่ือน�ำไปใช้ในการจัดการผลการด�ำเนินการอย่าง บูรณาการและเป็นระบบจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จอย่างต่อเน่ือง แนวทางการปฏิบัติเหล่าน้ี สามารถใช้ได้ผลทัง้ กบั องค์การขนาดเลก็ หรอื ใหญ่ หรอื บริษัทข้ามชาติ การเปลยี่ นแปลงของเกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาฉบับปี 2558 นี้ ได้ใชม้ ุมมองแบบองคร์ วม เพอื่ จะชว่ ยชน้ี ำ� ใหส้ ถาบนั ตดั สนิ ใจในสภาพแวดลอ้ มภายนอกทซ่ี บั ซอ้ นและมกี ารแขง่ ขนั มากขนึ้ เกณฑ์ EdPEX ต้องการให้สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ปรับปรุงผลการด�ำเนินการและมุ่งสู่ความ เปน็ เลิศ ดงั นน้ั การใชเ้ กณฑ์นีจ้ ึงไมใ่ ช่เพียงแคผ่ ่านการประเมนิ เทา่ นน้ั แตส่ ถาบันควรใช้เพือ่ การ ประเมินตนเองและช่วยให้พัฒนาระบบการจัดการท่ีบูรณาการ และน�ำไปสู่การปรับปรุงและ สรา้ งนวตั กรรม การเปลี่ยนแปลงที่ส�ำคัญในฉบับน้ีเร่ิมต้นจากการเพิ่มประโยคส�ำคัญขยายชื่อของเกณฑ์ เป็น : แนวทางท่เี ป็นระบบสู่การปรับปรงุ ผลการด�ำเนินการขององค์การ เพอ่ื เนน้ ถงึ มุมมอง อยา่ งเปน็ ระบบของเกณฑฉ์ บบั นรี้ วมทงั้ คา่ นยิ มและแนวคดิ หลกั เนอื้ หารายละเอยี ดในขอ้ กำ� หนด ต่างๆ ของเกณฑ์และระบบการให้คะแนนช่วยให้สถาบันสามารถวัดระดับการพัฒนาการของ ตนเอง แผนภาพในหนา้ ท่ี 1 จงึ อธบิ ายถงึ การบรู ณาการในสว่ นตา่ งๆ ของเกณฑซ์ ง่ึ อยบู่ นพนื้ ฐาน ของคา่ นยิ มและแนวคิดหลกั เกณฑ์ยงั ประกอบดว้ ย คำ� อภิธานศัพทซ์ ึง่ ให้นิยามและความหมาย ของค�ำส�ำคัญที่น�ำไปสู่แนวทางการปฏิบัติที่ใหม่ล่าสุดในการน�ำและสร้างผลการด�ำเนินการของ องค์การ รายละเอียดของการเปล่ียนแปลงต่างๆจะสรุปในเนื้อหาเกณฑ์ดังต่อไปน้ี แผนภาพโดยรวม ได้มีการออกแบบแผนภาพใหม่เพ่ือย้�ำถึงความส�ำคัญของความเป็นระบบของเกณฑ์น้ี โครงสร้างท่ีเชื่อมต่อกันสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของการเกี่ยวเนื่องกันของระบบท้ังหมด โครงร่างองค์กรได้ถูกเปล่ียนเป็นฉากหลังเพื่อแสดงให้เห็นว่าเก่ียวข้องกับทุกๆ ส่วนของระบบ การด�ำเนินการท้ังหมด “การบูรณาการ” ถูกเน้นให้มีความส�ำคัญเพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่มี
94 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการด�ำ เนินการทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 ส่วนใดของระบบปฏิบัติการที่อยู่โดยอิสระ แผนภาพโดยรวม ได้เอาความส�ำคัญของค่านิยม และแนวคดิ หลกั โดยใช้เปน็ ฐานของระบบการน�ำและการจัดการผลการดำ� เนินการขององค์การ คา่ นิยมและแนวคดิ หลัก มีการทบทวนค่านิยมและสลับล�ำดับใหม่เพ่ือสะท้อนถึงความสัมพันธ์กับแนวทางการ ปฏิบัติในการนำ� องคก์ รและผลการดำ� เนนิ การทใ่ี ชอ้ ยใู่ นปจั จบุ นั สง่ิ ทสี่ �ำคญั อนั ดบั แรกคอื เกณฑ์ EdPEX น้ี ชว่ ยใหเ้ กดิ มมุ มองเชงิ ระบบทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารนำ� อยา่ งมวี สิ ยั ทศั นแ์ ละนคี่ อื คา่ นยิ มหลกั 2 ข้อแรก ค่านิยมหลักอีก 7 ข้อท่ีตามมาเป็นแนวทางของระบบที่มีประสิทธิผล ค่านิยมหลัก 2 ข้อสุดท้ายคือ จริยธรรมและความโปร่งใส และการส่งมอบคุณค่าและผลลัพธ์ เป็นผล จากการด�ำเนนิ การภายใต้เกณฑน์ ้ี ค�ำอภธิ านศัพท์ ประโยคท่ีพิมพ์เป็นตัวหนาตามหลังค�ำศัพท์แต่ละค�ำจะเป็นค�ำนิยามส้ันๆ ของค�ำนั้น มีการปรับเนื้อหาของค�ำนิยามหลายค�ำและได้ถอดค�ำว่า “ความยั่งยืน” ออกจากเน้ือหาของ เกณฑ์ทั้งหมด ท้ังนี้เพราะค�ำดังกล่าวได้สร้างปัญหากับการตีความอย่างมาก จึงได้เลือกใช้ ค�ำวา่ “ความสำ� เรจ็ ในปจั จบุ นั และอนาคต” แทน เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำเนนิ การท่เี ป็นเลิศ (EdPEX) หวั ขอ้ สว่ นใหญถ่ กู ทอนเหลอื เพยี งคำ� เดยี วเพอื่ แสดงถงึ หวั ขอ้ เรอื่ ง (ตวั อยา่ งเชน่ หมวด 2 กลยทุ ธ)์ เนอ้ื หาบางสว่ นในหวั ขอ้ ไดแ้ สดงในรปู แบบของรายการเพอ่ื ใหอ้ า่ นเขา้ ใจงา่ ย จงึ อาจดู เหมอื นมเี นอ้ื หามากกวา่ เดมิ ขอ้ กำ� หนดโดยรวมในแตล่ ะหวั ขอ้ ไดแ้ สดงไวใ้ น 2 ระดบั ดว้ ยกนั คอื ระดบั ที่ 1 เปน็ เนอื้ หา คำ� ถามสว่ นทอี่ ยถู่ ดั จากหวั ขอ้ เรอื่ งโดยตรงและ ระดบั ท่ี 2 สว่ นทแ่ี สดงเปน็ ตวั หนาในประโยคแรก ในแตล่ ะขอ้ คำ� ถาม ซงึ่ ผอู้ า่ นสามารถเลอื กใชเ้ ปน็ จดุ ตงั้ ตน้ สำ� หรบั การประเมนิ ตนเองไดท้ ง้ั 2 ระดบั จากการเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ มการแขง่ ขนั และผลกระทบเชงิ กลยทุ ธข์ ององคก์ ร สาระสำ� คัญ 3 เรือ่ งที่เกดิ ข้นึ ใหมใ่ นเกณฑฉ์ บบั ปี 2558 น้ี ไดแ้ ก่ 1. การบรหิ ารการเปลี่ยนแปลง 2. ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ 3. การเปลยี่ นแปลงสภาวะภมู อิ ากาศ
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 95 การบริหารการเปลีย่ นแปลง การเปลีย่ นแปลงขององคก์ รเป็นเรอื่ งยากและมักมีผลกระทบอยา่ งรุนแรงต่อองค์กรและ บุคคลากร ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการอุทิศ เกณฑ์ฉบับก่อนๆ ได้เน้นความส�ำคัญของการ ตัดสินใจเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ท่ีไม่อาจหลีกเล่ียงได้ ข้อจ�ำกัด ที่เผชิญหน้าองค์กรก็คือการออกแบบการเปล่ียนแปลงมักง่ายกว่าความมุ่งมั่นและความอุทิศ ในการดำ� เนนิ การถา่ ยทอดและสรา้ งใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งแทจ้ รงิ เกณฑฉ์ บบั นจี้ งึ ใหค้ วาม ส�ำคญั กับความสามารถขององค์กรในการบรรลกุ ลวิธเี พือ่ สรา้ งการเปลี่ยนแปลงดังกลา่ ว ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Big Data) สำ� หรับองคก์ รโดยทัว่ ไป การแปลขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ความรู้และแปลความรู้ใหเ้ ปน็ ความเขา้ ใจ เชิงกลยทุ ธ์ นับเป็นความทา้ ทายอย่างแทจ้ ริงของการใชข้ อ้ มลู ขนาดใหญ่ แมว้ ่าขนาดของขอ้ มลู ท่ีมีอยู่ในองค์กรและการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจนั้นอาจมีความแตกต่างกันอย่างมาก แต่ทุก องค์กรต่างก�ำลังเผชิญกับข้อมูลที่มาจากหลากหลายแหล่งและยังมีคุณภาพท่ีแตกต่างกัน เรื่อง เหลา่ น้จี ึงสรา้ งความทา้ ทายในการตรวจสอบขอ้ มูล ซงึ่ บอ่ ยครงั้ การตรวจสอบทำ� ไดย้ ากขนึ้ เมอื่ ขอ้ มลู ประกอบไปดว้ ยตวั เลข, ขอ้ ความ, วดิ ที ศั น,์ หรอื ในรปู แบบอนื่ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทม่ี คี วามซบั ซอ้ นและการบรู ณภาพของขอ้ มลู (Data Integrity) นบั วนั จะเปน็ ปญั หาทีท่ ุกๆสถาบนั ต้องเผชิญ ความทา้ ทายทางดา้ น Cybersecurity ย่งิ เพ่ิมแรงกดดัน และความจ�ำเป็นที่องค์กรจะต้องมีความเช่ียวชาญยิ่งขึ้น เสียงเรียกร้องจากผู้ใช้งานเพิ่มความ ต้องการด้านความเร็วและความพร้อมใช้ของข้อมูล เกณฑ์ฉบับน้ี ได้ครอบคลุมถึงการให้ความ สำ� คญั ดา้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู , บรู ณภาพของขอ้ มลู , และ Cybersecurity การเปลยี่ นแปลงสภาวะภูมิอากาศ ในเรอ่ื งการเปลยี่ นแปลงสภาวะภมู อิ ากาศบางองคก์ รอาจมโี อกาสมากกวา่ ในการชว่ ยลด แหลง่ กำ� เนดิ ที่กระทบโดยตรง แต่ไม่มีองค์กรไหนเลยที่จะปลอดจากผลกระทบดังกล่าว แม้แต่ สถาบันการศึกษาไม่ว่าจะประเภทใดหรือขนาดใด การเกิดพายุรุนแรง ลูกเห็บตกอย่างหนัก มหาอุทกภัย แผ่นดินไหว ภาวะขาดแคลนไฟฟ้าในวงกว้าง เรื่องเหล่าน้ีอาจส่งผลต่อห่วงโซ่ อุปทาน ความสามารถในการทำ� งาน ผลิตภาพ และการเดนิ ทาง เหตุการณเ์ หลา่ นี้ เพมิ่ ความ จำ� เปน็ ในการจัดใหม้ ีความชว่ ยเหลือจากหนว่ ยงานราชการและองค์กรทใ่ี ห้บริการแก่สาธารณะ สำ� หรบั องคก์ รทว่ั ๆไป ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงสภาวะภมู อิ ากาศเปน็ เรอ่ื งของการจดั การ
96 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนนิ การท่ีเป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ความเสี่ยง การตัดสินใจเลือก และการสร้างการยอมรับในความซ�้ำซ้อนหรือมีทางเลือกส�ำรอง ในระบบการบริหารจัดการ โดยไม่เพ่ิมภาระในระบบที่สูญเปล่าหรือเกินกว่าความสามารถ ทอี่ งคก์ รจะรับได้ การจดั การเหตกุ ารณเ์ หลา่ นี้ ได้ถกู ระบุในเกณฑฉ์ บับปี 2558 นี้ โครงรา่ งองค์กร หัวขอ้ P1 ลกั ษณะส�ำคญั ขององคก์ ร ได้รวมคำ� ถามเกย่ี วขอ้ งกบั การเปลย่ี นแปลงความ ต้องการหรือองคป์ ระกอบของบคุ ลากรทเี่ กดิ ขนึ้ (เนอ้ื หาในหมวด 5 เดมิ ) คำ� ถามนก้ี ำ� หนดบรบิ ท สำ� หรบั กลยทุ ธแ์ ละเรอื่ งอน่ื ๆของเกณฑ์ ในหมายเหตไุ ดร้ วมเอาผ้เู รยี น ลูกค้ากลมุ่ อน่ื ผ้มู สี ่วนได้ สว่ นเสยี และความตอ้ งการและความคาดหวงั ของระบบปฏบิ ตั กิ ารทเ่ี ปน็ ผลสบื เนอื่ งมาจากการ เปลี่ยนแปลงสภาวะภมู อิ ากาศหรือสถานการณ์ฉุกเฉินทอ่ี าจเกดิ ขึ้นได้ หวั ข้อ P2 สภาวะการขององค์กร มกี ารเพม่ิ ประโยคท่ีเกีย่ วกับการยอมรับ ภาพลกั ษณ์ และชื่อเสียง ซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาความท้าทายและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ไว้ ในหมายเหตุ หมวด 1 การน�ำองค์การ หัวข้อ 1.1 ผู้น�ำระดับสูง มีการถามเจาะจงถึงการกระท�ำของผู้น�ำระดับสูงในการสร้าง องค์กรท่ีประสบความส�ำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต เน้ือหาในข้อก�ำหนดและในหมายเหตุได้ อา้ งองิ ถงึ บทบาทของผู้น�ำในการสอื่ สารและสร้างการเปลยี่ นแปลงให้กบั องคก์ ร หัวข้อ 1.2 การก�ำกับดูแลและความรับผิดชอบต่อสังคม ถามถึงวิธีการท่ีแสดงถึงความ รบั ผิดชอบ ตอ่ แผนกลยทุ ธข์ ององคก์ รของกรรมการสภามหาวทิ ยาลัย หมวด 2 กลยทุ ธ์ ใน หัวข้อ 2.1 การพัฒนากลยุทธ์ ในขนั้ ตอนกระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์ ถามถึง วิธีการ ที่สถาบันใช้พิจารณาความจ�ำเป็นที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างพลิกผัน และการจัดล�ำดับ ความส�ำคัญของโครงการริเร่ิมด้านการเปลี่ยนแปลง (change initiatives) นอกจากน้ีเกณฑ์ ในหมวดน้ีได้ถามถึงวิธีการท่ีสถาบันเตรียมพร้อมเพ่ือรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดจากสภาพ แวดลอ้ มดา้ นกฏระเบยี บขอ้ บงั คบั ในหมายเหตไุ ดแ้ นะน�ำใหพ้ จิ ารณาประเดน็ ส�ำคญั เกยี่ วกบั การ ใช้ประโยชนข์ องข้อมลู และสารสนเทศขนาดใหญห่ รอื ท่มี คี วามซบั ซ้อนในการวางแผนกลยุทธ์
เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพือ่ การดำ�เนินการทเี่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 97 หมวด 3 ลูกคา้ หัวข้อ 3.1 เสียงของลูกค้า ได้รวมเอาความพึงพอใจและความไม่พึงพอใจของผู้เรียน และลูกค้ากลุ่มอื่นไว้ในข้อค�ำถามเดียวกัน ทั้งน้ีเพราะกระบวนการในการรวบรวมสารสนเทศ ทง้ั สองเรอ่ื งมกั คล้ายๆ กนั หัวข้อ 3.2 ความผูกพันของลูกค้า ถามถึงการจัดการและเสริมสร้างช่ือเสียงและ ภาพลกั ษณ์ของสถาบันเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการสร้างความสมั พันธก์ ับลูกค้า หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจดั การความรู้ หัวข้อ 4.1 การวดั การวิเคราะห์และการปรบั ปรุงผลการด�ำเนินการขององคก์ าร ถามถึง การใช้ขอ้ มูลเชงิ เปรยี บเทียบและข้อมูลของลกู คา้ ในการปรบั ปรงุ ผลการด�ำเนินการ และวธิ ีการ ทส่ี ถาบนั ใชใ้ นการประเมนิ ความจำ� เปน็ ทอี่ าจเกดิ ในการเปลย่ี นแปลงอยา่ งพลกิ ผนั ในโครงสรา้ ง และระบบงานของตน หวั ขอ้ 4.2 การจดั การความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ หวั ขอ้ นไ้ี ดเ้ พม่ิ ความ ส�ำคญั ในเรอื่ งความมนั่ คงปลอดภยั ของขอ้ มูลและสารสนเทศ และ Cybersecurity ของระบบ สารสนเทศ รวมท้ังการพิจารณาความท้าทายของการผสมผสานและหาความสัมพันธ์ของชุด ขอ้ มูลขนาดใหญก่ ับขอ้ มลู จากแหล่งท่หี ลากหลายเพอื่ สรา้ งความรู้ หมวด 5 บคุ ลากร หัวข้อ 5.1 สภาพแวดล้อมด้านบุคลากร ได้เพ่ิมเร่ืองวิธีการเตรียมบุคลากรเพ่ือรับการ เปลยี่ นแปลงดา้ นโครงสรา้ งองค์กรและระบบงาน หัวข้อ 5.2 ความผูกพันของบุคลากร ได้มีการสร้างความเชื่อมโยงใหม่และลดประเด็น พจิ ารณา ลงเหลอื เพียงสองหวั ขอ้ เพ่ือใหเ้ ข้าใจความเชื่อมโยงระหวา่ งความผกู พันของบคุ ลากร กบั การจดั การผลการดำ� เนนิ การ และเพอื่ ใหส้ ถาบนั สามารถประเมนิ ประสทิ ธผิ ลของระบบการ เรียนรู้และการพฒั นาได้ดยี ง่ิ ขน้ึ หมวด 6 ระบบปฏิบตั ิการ หวั ขอ้ 6.1 กระบวนการทำ� งาน ไดร้ วมการจดั การนวตั กรรมเปน็ หวั ขอ้ หนงึ่ ในกระบวนการ ท�ำงาน (ยา้ ยจากเดิมในหวั ข้อ 6.2) หวั ขอ้ 6.2 ประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ตั กิ าร ไดเ้ ปลยี่ นชอ่ื หวั ขอ้ ในประเดน็ เพอ่ื พจิ ารณาขอ้ แรกเปน็ “ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของกระบวนการ” เพ่อื ให้ส่ือถงึ การมุ่งเนน้ ของค�ำถาม
98 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพื่อการด�ำ เนินการทีเ่ ป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 หมวด 7 ผลลัพธ์ ได้มีการเพ่ิมการจ�ำแนกกลุ่มไว้ในทุกหัวข้อในหมวดน้ี โดยการจ�ำแนกผลลัพธ์ตามกลุ่ม หลกั ของตลาด หลกั สตู ร หรอื คณุ ลกั ษณะของบรกิ ารเปน็ สว่ นหนง่ึ ของขอ้ กำ� หนดตา่ งๆ แทนทจี่ ะ เปน็ ขอ้ กำ� หนดโดยรวม เพอื่ สะทอ้ นถงึ ระดบั พฒั นาการของสถาบนั การใชข้ อ้ มลู เชงิ เปรยี บเทยี บ ก็ได้ถูกย้ายไปเป็นข้อก�ำหนดต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการให้คะแนนและ ระดบั พัฒนาการของสถาบัน ไดม้ กี ารปรบั ลดคะแนนในหวั ขอ้ 7.2 ผลลัพธ์ดา้ นการมุ่งเนน้ ลูกค้า และ 7.3 ผลลัพธ์ ด้านการมงุ่ เนน้ บคุ ลากร ให้เหลือ 80 คะแนน และปรบั เพิ่มคะแนนในหวั ข้อ 7.5 ผลลพั ธ์ด้าน งบประมาณ การเงนิ และตลาด เปน็ 90 คะแนน เพอื่ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ บทบาทสำ� คญั ของผลลพั ธ์ ในหัวข้อนี้ต่อการบรรลคุ วามส�ำเร็จของสถาบัน
เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพื่อการดำ�เนนิ การท่เี ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 99 อภธิ านศัพท์ ค�ำศพั ทด์ า้ นลา่ งนเี้ ปน็ อกั ษรตวั หนาทอี่ ยใู่ นเกณฑแ์ ละในแนวทางการใหค้ ะแนน ค�ำนยิ าม แต่ละค�ำจะมีค�ำอธิบายเป็นตัวหนังสือเข้ม ซ่ึงตามด้วยประโยคขยายความและวิเคราะห์ ค�ำศัพท์น้ัน ย่อหน้าถัดๆ มาเป็นตัวอย่าง การอธิบายหรือความเชื่อมโยงท่ีส�ำคัญต่อเกณฑ์ ในหมวดอ่ืนค�ำศพั ทท์ ม่ี ี Action Plans: แผนปฏบิ ัตกิ าร ค�ำว่า “แผนปฏิบัติการ” หมายถึง แผนจ�ำเพาะท่ีสถาบันด�ำเนินการเพ่ือให้บรรลุ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยุทธท์ ัง้ ระยะสัน้ และระยะยาว ซึ่งต้องระบใุ หช้ ดั เจนถึงทรพั ยากรทตี่ อ้ งใช้ และกำ� หนดเวลาทต่ี ้องท�ำให้ส�ำเรจ็ การจัดทำ� แผนปฏบิ ัตกิ ารถอื ว่าเปน็ ขน้ั ตอนทส่ี �ำคญั อย่างยงิ่ ในการวางแผน หลังจากที่ก�ำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และเป้าประสงค์อย่างชัดเจนแล้ว เพ่ือให้คนทั่วท้ังสถาบันมีความเข้าใจและน�ำกลยุทธ์ไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิผล ในเกณฑ์น้ี การนำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารไปปฏบิ ตั คิ รอบคลมุ ถงึ การสรา้ งตวั วดั ใหส้ อดคลอ้ งกนั ระหวา่ งภาควชิ าและ หน่วยงานทีไ่ ด้รับผลกระทบทัง้ หมด ในการน�ำแผนไปปฏิบตั นิ น้ั อาจต้องให้การฝกึ อบรมเฉพาะ ทางแกบ่ คุ ลากรบางกลุ่ม หรอื อาจต้องมกี ารสรรหาบุคลากรใหมด่ ว้ ย ตวั อยา่ งเชน่ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธข์ องสถาบนั การศกึ ษาในตลาดทมี่ กี ารแขง่ ขนั สงู อาจ หมายถงึ การตง้ั เปา้ ใหผ้ เู้ รยี นมผี ลการสอบในระดบั ชาตหิ รอื กลมุ่ วชิ าชพี อยใู่ นกลมุ่ นำ� (25% แรก) แผนปฏิบตั ิการอาจรวมถึงการวเิ คราะห์ว่าวิชาใดทผี่ เู้ รยี นท�ำคะแนนไดน้ อ้ ยทส่ี ดุ และวเิ คราะห์ ถึงทักษะท่ียังไม่เพียงพอของผู้เรียนในวิชานั้นๆ เพื่อสร้างหลักสูตรที่จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนา ทกั ษะน้ันขึ้นมาได้ ในการน�ำแผนไปปฏิบัตอิ าจต้องมีการฝกึ อบรมคณาจารย์ถงึ วิธกี ารสอนและ การประเมิน การวิเคราะหแ์ ละการทบทวนในระดับสถาบนั ควรมงุ่ เนน้ ทผี่ ลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น การใชง้ บประมาณและความพงึ พอใจของผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ ดคู �ำจ�ำกดั ความของค�ำวา่ “วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ:์ Strategic Objectives” ในหนา้ 120 Alignment: การมุ่งไปในแนวทางเดยี วกัน คำ� วา่ “การมงุ่ ไปในแนวทางเดยี วกนั ” หมายถงึ ความสอดคลอ้ งของแผน กระบวนการ สารสนเทศ การตัดสินใจด้านทรัพยากร ขีดความสามารถและอัตราก�ำลังของบุคลากร การปฏิบัติการ ผลลัพธ์ การวิเคราะห์ และการเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนเป้าประสงค์หลักของ สถาบัน การมุ่งไปในแนวทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิผล จ�ำเป็นต้องมีความเข้าใจร่วมกัน ในจุดประสงค์และเป้าประสงค์ รวมถึงการใช้ตัววัดและสารสนเทศท่ีเก้ือหนุนกัน เพ่ือใช้ใน
100 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนินการทเี่ ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 การวางแผน การตดิ ตาม การวเิ คราะห์ และการปรบั ปรงุ ใน 3 ระดบั คอื 1) สถาบนั /ผนู้ �ำระดบั สงู 2) กระบวนการหลัก และ 3) หลักสตู ร สาขาวชิ า ชน้ั เรียน ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำวา่ “การบรู ณาการ: Integration” ในหน้า 109 Analysis: การวิเคราะห์ ค�ำว่า “การวิเคราะห์” หมายถึง การตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูล เพื่อใช้เป็น พื้นฐานในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิผล การวิเคราะห์มักเก่ียวข้องกับการหาความสัมพันธ์ ระหว่างเหตุและผลการวิเคราะห์ภาพรวมในระดับสถาบัน จะช่วยช้ีน�ำการบริหารระบบงาน และกระบวนการท�ำงาน เพ่ือให้บรรลุผลการด�ำเนินการที่ส�ำคัญและวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ของสถาบนั ถึงแม้ว่าข้อเท็จจริงและข้อมูลแต่ละตัวจะมีความส�ำคัญ แต่ไม่ใช่องค์ประกอบหลัก ทมี่ ปี ระสทิ ธผิ ลตอ่ การปฏบิ ตั กิ ารหรอื การจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั เสมอไป เนอื่ งจากการปฏบิ ตั กิ าร ที่มีประสิทธิผลขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความสัมพันธ์ข้างต้น ซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง และขอ้ มูล Anecdotal: ข้อมูลปลีกยอ่ ย คำ� วา่ “ขอ้ มลู ปลกี ยอ่ ย”หมายถึง สารสนเทศทใ่ี ช้ตอบเกณฑ์ EdPEx แต่ละหัวข้อซึง่ ขาดวธิ กี ารทเ่ี ฉพาะเจาะจง ไมม่ ตี วั วดั ไมม่ รี ะบบกลไกในการน�ำไปปฏบิ ตั ิ และไมม่ ปี จั จยั ดา้ น การประเมิน/การปรับปรุง/การเรียนรู้ สารสนเทศในลักษณะของข้อมูลปลีกย่อย มักอาศัย ตัวอย่าง และอธบิ ายกจิ กรรมแต่ละเร่ืองมากกวา่ กระบวนการที่เปน็ ระบบ ตัวอย่าง เร่ืองวิธีการท่ีผู้น�ำระดับสูงใช้ในการสื่อความคาดหวังต่อผลการด�ำเนินการของ บคุ ลากร การตอบแบบขอ้ มลู ปลกี ยอ่ ยคอื อธบิ ายถงึ เหตกุ ารณท์ ผี่ นู้ ำ� ระดบั สงู คนหนง่ึ ไดไ้ ปตรวจ เย่ียมสถานท่ีต่างๆ ของสถาบันซ่ึงเกิดข้ึนเพียงคร้ังเดียว แต่การตอบในเชิงระบบ จะอธิบาย ถึงวิธีการส่ือสารท่ีผู้น�ำระดับสูงทั้งหมดของสถาบันใช้อย่างสม่�ำเสมอเพ่ือส่ือสารกับหน่วยงาน ในทกุ แหง่ และบคุ ลากรทกุ คน ถงึ ความคาดหวงั ดา้ นผลการปฏบิ ตั งิ าน รวมถงึ ตวั วดั ซง่ึ ใชป้ ระเมนิ ประสทิ ธผิ ลของวธิ กี ารดงั กลา่ ว ตลอดจนเครอื่ งมอื และเทคนคิ ซงึ่ ใชป้ ระเมนิ และปรบั ปรงุ วธิ กี าร ส่ือสารในรูปแบบต่างๆ ดคู �ำจ�ำกดั ความของค�ำวา่ “มีความเป็นระบบ: Systematic” ในหน้า 121
เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนินการท่ีเปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 101 Approach: แนวทาง หรอื วธิ ีการ ค�ำว่า “แนวทาง”หรือ “วิธีการ” หมายถึง วิธีการที่สถาบันใช้ด�ำเนินการใน กระบวนการตา่ งๆ นอกเหนอื จากวธิ กี ารแลว้ แนวทางหมายถงึ ความเหมาะสมของวธิ กี ารนนั้ กบั ขอ้ ก�ำหนดในหัวข้อนนั้ และกับสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั ิงานของสถาบนั รวมถงึ ประสิทธผิ ล ของการใช้ “แนวทาง” เปน็ มติ ิหนง่ึ ทใ่ี ช้ในการประเมนิ หัวขอ้ กระบวนการ สำ� หรบั ค�ำอธิบายเพมิ่ เตมิ ดเู ร่ืองระบบการให้คะแนน ในหน้า 64 Basic Requirements: ขอ้ ก�ำหนดพน้ื ฐาน ค�ำว่า “ข้อก�ำหนดพ้ืนฐาน” หมายถึง แนวคิดท่ีเป็นแก่นส�ำคัญของหัวข้อในเกณฑ์ EdPEx ซงึ่ แสดงอยู่ในลักษณะค�ำถามต่อท้ายหวั ข้อ ดูตวั อย่างโครงสรา้ งของเกณฑ์ในหนา้ 2 Benchmark: คา่ เทียบเคียง คำ� ว่า “คา่ เทียบเคียง” หมายถึง กระบวนการและผลลพั ธซ์ ึ่งแสดงวธิ ีการปฏบิ ตั ิงาน และผลการด�ำเนินการที่เป็นเลิศของกิจกรรมที่คล้ายคลึงกันท้ังภายในและภายนอกวงการ ศกึ ษา สถาบนั ทง้ั หลายท่ีทำ� การเทียบเคียง ก็เพ่ือให้เขา้ ใจการดำ� เนนิ การของสถาบันระดบั โลก จากมมุ มองในปัจจุบนั และเพ่อื ให้เกดิ การปรบั ปรงุ อย่างกา้ วกระโดด คา่ เทยี บเคยี ง เปน็ รปู แบบหนง่ึ ของขอ้ มลู เชงิ เปรยี บเทยี บ รปู แบบอน่ื ๆ รวมถงึ ขอ้ มลู ท่ี ไดจ้ าก บคุ คลทส่ี าม (โดยมากเปน็ คา่ เฉลย่ี ของสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ) ขอ้ มลู ดา้ นผลการดำ� เนนิ การ ของคู่แข่งการเปรียบเทียบกับสถาบันท่ีคล้ายคลึงกันในภูมิภาคเดียวกันหรือในภูมิภาคอื่นๆ รวมทัง้ ขอ้ มลู แหล่งขอ้ มลู สาธารณะ เชน่ ผลลัพธ์ของการศึกษาวจิ ยั และแนวทางปฏบิ ตั ิ Capability, Workforce: ขดี ความสามารถ, บุคลากร ดูค�ำจ�ำกัดความของคำ� วา่ “ขีดความสามารถของบุคลากร: Workforce Capability” Capacity, Workforce: อตั ราก�ำลัง, บคุ ลากร ดูคำ� จ�ำกดั ความของคำ� ว่า“อัตราก�ำลัง: Workforce Capacity”
102 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพื่อการด�ำ เนินการที่เปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 Collaborator: คู่ความรว่ มมือท่ีไม่เปน็ ทางการ คำ� ว่า “ค่คู วามร่วมมือทไี่ มเ่ ปน็ ทางการ” หมายถงึ องคก์ ารหรือกลุ่มบคุ คลที่ใหค้ วาม รว่ มมอื กบั สถาบนั ในการสนบั สนนุ การจดั งานหรอื กจิ กรรมบางอยา่ ง หรอื ผทู้ ใ่ี หค้ วามรว่ มมอื เปน็ ครงั้ คราว โดยมเี ปา้ หมายระยะสน้ั ทส่ี อดคลอ้ งกนั หรอื อยา่ งเดยี วกนั กบั สถาบนั การรว่ มมอื ในลักษณะนีม้ กั ไม่มีข้อตกลงหรอื รูปแบบทเี่ ป็นทางการ ดคู วามจำ� กดั ความของคำ� วา่ “คคู่ วามร่วมมือท่เี ป็นทางการ: Partners” ในหน้า 112 Core Competencies: สมรรถนะหลกั คำ� ว่า “สมรรถนะหลัก” หมายถึง เรือ่ งทีส่ ถาบันมีความช�ำนาญท่ีสดุ สมรรถนะหลกั ขององค์การเป็นขีดความสามารถเชิงกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจส�ำคัญซ่ึงท�ำให้สถาบันบรรลุ พนั ธกจิ หรอื สรา้ งความไดเ้ ปรยี บในสภาพแวดลอ้ มของตลาดหรอื ในการบรกิ าร สมรรถนะหลกั มักจะเป็นขีดความสามารถที่คู่แข่งหรือคู่ความร่วมมือที่เป็นทางการ ยากที่จะลอกเลียนแบบ และเป็นส่ิงที่จะสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง หากขาดสมรรถนะหลักท่ี จำ� เปน็ อาจสง่ ผลอยา่ งมนี ยั ยะสำ� คญั ตอ่ ความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธ์ หรอื ความเสยี เปรยี บของสถาบนั ในตลาด สมรรถนะหลัก อาจจะเก่ียวข้องกับความเช่ียวชาญในเทคโนโลยี หรือมีเอกลักษณ์ ดา้ นหลกั สูตรและบริการ ซ่ึงตอบสนองตอ่ ความต้องการของผู้เรยี น ลูกคา้ กลุ่มอนื่ และตลาด Customer: ลูกค้า ลูกค้า รวมถึง ผูใ้ ช้ หรือผู้ที่มแี นวโนม้ จะมาใชห้ ลกั สูตร และบรกิ าร ซง่ึ เปน็ ผใู้ ชโ้ ดยตรง (ผู้เรียนและอาจรวมถึงผู้ปกครอง) รวมถึงกลุ่มบุคคลอื่นๆ ที่น�ำหลักสูตรและบริการไปใช้หรือ เปน็ ผ้อู อกคา่ ใช้จา่ ยให้ เกณฑ์ EdPEx กล่าวถึงลูกค้าในความหมายอย่างกว้างๆ ซ่ึงหมายถึง ผู้เรียนและลูกค้า กลมุ่ อ่นื ท้งั ในปจั จุบนั และอนาคต รวมถงึ ผู้เรียนและลูกค้ากล่มุ อน่ื ของสถาบันคู่แข่ง และลูกค้า กลุ่มอ่ืนท่ีมาใช้บริการ ความเป็นเลิศท่ีมุ่งเน้นผู้เรียน ซึ่งเป็นค่านิยมของเกณฑ์ EdPEx ต้อง ถูกฝังลึกอยู่ในความเช่ือและการประพฤติปฏิบัติขององค์การท่ีมีผลการด�ำเนินการท่ีโดดเด่น การมงุ่ เนน้ ผเู้ รยี นจงึ มผี ลกระทบและควรบรู ณาการเขา้ กบั ทศิ ทางกลยทุ ธร์ ะบบงาน กระบวนการ ท�ำงานและผลลัพธ์ของการด�ำเนินการ
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนินการทเี่ ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 103 ใหด้ นู ยิ ามของค�ำวา่ “ผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสีย: Stakeholders” ในหน้า 118 ส�ำหรบั ความ สมั พนั ธร์ ะหวา่ งลกู คา้ และบคุ คลอน่ื ซง่ึ อาจไดร้ บั ผลกระทบจากหลกั สตู ร และบรกิ ารของสถาบนั Customer Engagement: ความผกู พันของลกู ค้า ค�ำว่า“ความผูกพันของลูกค้า” หมายถึง การลงทุนหรือการตัดสินใจเข้าเรียนของ ผเู้ รยี นและลูกคา้ กลุ่มอื่นในหลกั สตู ร และบริการ ทง้ั นีข้ ้นึ กับความสามารถของสถาบนั ในการ สนองความตอ้ งการและสรา้ งความสมั พนั ธอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื ใหพ้ วกเขายงั คงมาใชห้ ลกั สตู รและ บรกิ ารของสถาบนั คณุ ลกั ษณะของความผกู พนั นร้ี วมถงึ การคงอยแู่ ละความจงรกั ภกั ดี ความเตม็ ใจ ของลูกค้าท่ีจงใจเลือกและสนับสนุนหลักสูตรและบริการของสถาบัน รวมถึงความเต็มใจท่ีจะ อทุ ศิ ตนสนบั สนนุ และแนะนำ� ผอู้ นื่ ใหร้ จู้ กั สถาบนั หลกั สตู รและบรกิ ารอนื่ ๆ อยา่ งแขง็ ขนั Cycle Time: รอบเวลา คำ� วา่ “รอบเวลา”หมายถงึ เวลาทตี่ อ้ งใชเ้ พอื่ บรรลขุ อ้ ผกู พนั หรอื เพอ่ื ท�ำงานใหส้ �ำเรจ็ ผลการทำ� งานทวี่ ดั ดว้ ยเวลาและความรวดเรว็ มคี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ การปรบั ปรงุ ศกั ยภาพใน การแขง่ ขันและผลการด�ำเนนิ การโดยรวม “รอบเวลา”หมายถงึ เวลาท่ีใชใ้ นการด�ำเนนิ การใน ทุกแง่มุม เชน่ การปรับปรุงรอบเวลาอาจรวมถึงเวลาที่ใช้ในการตอบสนองต่อผ้เู รยี น และลกู คา้ กลุม่ อ่นื เม่อื ความตอ้ งการเปล่ียนไป เวลาทีใ่ ช้ในการสร้างหลักสูตร ออกแบบกระบวนการและ การปรับปรุงตัวช้ีวัดด้านเวลาท่ีส�ำคัญอื่นๆ การปรับปรุง รอบเวลาให้ดีข้ึนอาจรวมเร่ืองใดเรื่อง หนง่ึ หรอื ทุกเรอ่ื งดังกลา่ วขา้ งต้น Deployment: การน�ำแนวทางไปปฏบิ ัติ ค�ำว่า “การน�ำแนวทางไปปฏิบัติ” หมายถึง ความครอบคลุมและท่ัวถึงของการน�ำ แนวทางไปด�ำเนนิ การเพอ่ื ตอบสนองขอ้ ก�ำหนดในเกณฑข์ องสถาบนั การประเมนิ เรอ่ื งการนำ� แนวทางไปปฏบิ ตั ิ ควรพจิ ารณาทงั้ จากความครอบคลมุ และความลกึ ของการนำ� แนวทางไปใชก้ บั หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งทัว่ ท้ังสถาบัน การนำ� แนวทางไปปฏบิ ตั เิ ปน็ มติ หิ นง่ึ ในการประเมนิ กระบวนการ ดคู ำ� อธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกับการนำ� แนวทางไปปฏิบัตใิ นเร่อื ง “ระบบการใหค้ ะแนน” ในหนา้ 64
104 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การทเ่ี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 Diversity: ความหลากหลาย คำ� วา่ “ความหลากหลาย” หมายถงึ ความแตกตา่ งของบุคลากรแตล่ ะคนในสถาบนั ท่ีเสริมคุณค่าให้กับสภาพแวดล้อมการท�ำงานและเป็นตัวแทนของชุมชนท่ีสถาบันว่าจ้าง และชมุ ชนของผเู้ รยี น โดยพจิ ารณาจากตัวแปรตา่ งๆ เช่น เช้ือชาติ ศาสนา เพศ อตั ลกั ษณ์ ทางเพศ (sexual orientation) สัญชาติ ความพิการ อายุ และพฤติกรรมท่ีแตกต่างกันตาม ยคุ สมัย การศกึ ษา ถิ่นก�ำเนดิ ความถนดั เฉพาะตวั ความคิดและแนวคดิ สาขาวิชาชพี ต่างๆ และ มุมมอง ในเกณฑ์นี้หมายถึงการเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของกลุ่มชุมชน ที่สถาบันว่าจ้างและกลุ่มชุมชนของผู้เรียน การใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความหลากหลาย ในการเสริมสร้างบุคลากร จะเพ่ิมโอกาสในการท�ำให้มีผลการด�ำเนินการท่ีโดดเด่น สร้างความ พึงพอใจให้แก่ผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอ่ืน บุคลากรและชุมชน รวมท้ังสร้างความผูกพันกับผู้เรียน ลกู ค้ากลมุ่ อ่นื และบคุ ลากร Educational Programs and Services: หลกั สูตร และบรกิ าร ค�ำวา่ “หลกั สตู ร”หมายถึง กจิ กรรมทท่ี �ำใหผ้ ู้เรียนทุ่มเทในการเรียนรู้ หรอื ทีส่ ่งเสริม ให้เกิดการสืบค้นทางวิทยาศาสตร์หรือทางวิชาการ ซ่ึงรวมถึงรายวิชาท้ังท่ีมีหน่วยกิตและ ไม่มีหน่วยกิตหลักสูตรระดับปริญญา การวิจัย กิจกรรมสู่ภายนอก ออกค่าย การบริการ ชุมชน โครงการความร่วมมอื และการศึกษาต่างประเทศ การออกแบบหลักสูตร ต้องมีการ กำ� หนดจดุ วกิ ฤตใิ นการสอนและกระบวนการเรยี นรู้ (ควรเรมิ่ เรว็ ทสี่ ดุ ในชว่ งตน้ ๆ) เพอื่ การวดั ผล การสังเกตและการด�ำเนินการ คำ� วา่ “บรกิ ารทางการศกึ ษา (Educational services)” หมายถงึ บรกิ ารทไี่ ดพ้ จิ ารณา ว่ามีความส�ำคัญท่ีสุดต่อการสมัครเข้าศึกษาหรือความส�ำเร็จของผู้เรียน กิจกรรมเหล่านี้อาจ รวมถึง การให้ค�ำปรึกษา การแนะน�ำ และการสอนเสริมให้ผู้เรียนห้องสมุด และเทคโนโลยี สารสนเทศ กระบวนการคัดเลือก การรับเข้า การลงทะเบียน การจัดช้ันเรียน ทุนการศึกษา และทอ่ี ยอู่ าศยั นอกจากนน้ั กจิ กรรมตา่ งๆ เหลา่ น้ี อาจรวมถงึ การบรกิ ารดา้ นอาหาร การรกั ษา ความปลอดภัย การบรกิ ารสขุ ภาพ การขนส่ง และร้านหนังสือ เป็นต้น ค�ำว่า “บริการ (services)” หมายถึง บริการการอ่ืนๆ ท่ีสถาบันให้กับลูกค้ากลุ่มอื่น ท่ีไม่ใช่ผู้เรียนตามพันธกิจของสถาบัน เช่น การบริการวิชาการ วิจัย บริการสุขภาพ การเป็น ท่ปี รกึ ษา และผลิตภัณฑ์ ซง่ึ เกย่ี วข้องกับพนั ธกิจหรอื สมรรถนะหลกั ของสถาบัน เป็นตน้
เกณฑ์คุณภาพการศกึ ษาเพ่ือการดำ�เนินการที่เป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 105 Effective: ประสทิ ธผิ ล คำ� วา่ “ประสทิ ธผิ ล” หมายถงึ การพจิ ารณา วา่ กระบวนการหรอื มาตรการทใ่ี ชส้ ามารถ ตอบสนองจดุ ประสงคท์ ต่ี งั้ ไวไ้ ดด้ เี พยี งใด การประเมนิ ประสทิ ธผิ ลตอ้ งประเมนิ (1) วา่ แนวทางนน้ั มีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับความต้องการของสถาบัน และสถาบันสามารถน�ำ แนวทางไปปฏบิ ตั ไิ ดด้ เี พยี งใด (2) การประเมนิ ผลลพั ธข์ องมาตรการทใ่ี ชเ้ พอ่ื บง่ ชร้ี ะดบั การด�ำเนนิ งานของกระบวนการต่างๆ หลกั สตู รหรอื บรกิ าร Empowerment: การใหอ้ �ำนาจในการตดั สนิ ใจ คำ� ว่า “การให้อ�ำนาจในการตัดสนิ ใจ” หมายถึง การให้อ�ำนาจและความรับผดิ ชอบ ในการตัดสินใจและการปฏิบัติการแก่บุคลากร เมื่อได้รับอ�ำนาจบุคลากร (ผู้ปฏิบัติงานที่อยู่ หน้างาน) จะสามารถตัดสินใจเองได้ เนื่องจากเป็นผู้ท่ีปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้เรียนและลูกค้า กลุ่มอ่ืน และมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั งานมากทสี่ ุด การใหอ้ �ำนาจในการตดั สินใจมีจดุ มงุ่ หมายเพือ่ ชว่ ยให้ผู้ปฏิบตั ิงานสามารถตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของผเู้ รยี น สรา้ งความพงึ พอใจตง้ั แตเ่ รม่ิ แรกแกผ่ เู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื ปรบั ปรงุ กระบวนการ เพมิ่ ผลติ ภาพ ปรบั ปรงุ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และผลการดำ� เนนิ การของสถาบนั ใหด้ ี ขน้ึ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทไี่ ดร้ บั มอบอำ� นาจในการตดั สนิ ใจจำ� เปน็ ตอ้ งมสี ารสนเทศเพอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจที่เหมาะสมดังน้นั สถาบันจงึ ตอ้ งจัดให้มสี ารสนเทศในรปู แบบท่ที ันการและใชป้ ระโยชน์ได้ Engagement, Customer: ความผกู พันของลกู ค้า ดูค�ำจ�ำกดั ความของคำ� ว่า“ความผกู พันของลกู ค้า”: Customer Engagement.” Engagement, Workforce: ความผูกพันของบุคลากร ดูคำ� จ�ำกดั ความของคำ� ว่า “ความผูกพันของบุคลากร: Workforce Engagement” Ethical Behavior: การประพฤตปิ ฏบิ ัติอย่างมีจรยิ ธรรม คำ� ว่า “การประพฤตปิ ฏบิ ัติอย่างมีจริยธรรม” หมายถึง วิธีการทีส่ ถาบนั ปฏิบัติเพ่อื ท�ำใหม้ นั่ ใจวา่ ทกุ การตดั สนิ ใจ การปฏบิ ตั กิ าร และการปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี เปน็ ไปตามหลักปฏิบัติด้านวิชาชีพและจรรยาบรรณของสถาบัน หลักการเหล่าน้ีควรสนับสนุน กฎหมาย ระเบยี บขอ้ บงั คบั ทบ่ี งั คบั ใชท้ งั้ หมด รวมทง้ั เปน็ พนื้ ฐานส�ำหรบั คา่ นยิ มและวฒั นธรรม สถาบัน ซง่ึ แยกแยะ “ความถูกตอ้ ง” และ “ความผดิ ”
106 เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพือ่ การด�ำ เนนิ การทเ่ี ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 ผนู้ ำ� ระดบั สูง ต้องประพฤติตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดขี องหลกั ปฏิบตั ิ หลักการนีใ้ ชก้ บั ทกุ คน ในสถาบนั ตง้ั แต่ผูป้ ฏิบตั งิ านชัว่ คราว จนถงึ คณะกรรมการบรหิ าร หลักปฏิบัตนิ ีจ้ ะได้ประโยชน์ จากการสอื่ สารและตอกย�้ำอย่างสมำ่� เสมอ เกณฑ์ EdPEx ไม่ได้ก�ำหนดรปู แบบที่เจาะจง จงึ เป็น ความรบั ผดิ ชอบของผนู้ ำ� ระดบั สงู ทจี่ ะทำ� ใหม้ น่ั ใจวา่ พนั ธกจิ และวสิ ยั ทศั นข์ องสถาบนั สอดคลอ้ ง กับหลักจริยธรรมของสถาบัน การประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรมครอบคลุม การปฏิบัติต่อ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท้ังหมด รวมถึงบุคลากรผู้เรียนผู้ปกครอง ลูกค้ากลุ่มอื่น คู่ความร่วมมือ อยา่ งเปน็ ทางการ ผู้ส่งมอบ และชมุ ชนในท้องถิน่ ทีส่ ถาบนั ต้ังอยู่ การกำ� หนดหลกั จรยิ ธรรมทด่ี แี ละชดั เจนจะใหอ้ ำ� นาจในการตดั สนิ ใจแกผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื ใหส้ ามารถตดั สนิ ใจอยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลดว้ ยความมนั่ ใจ ในบางสถาบนั หลกั การดา้ นจรยิ ธรรมเปน็ กรอบที่จะกำ� กับพฤตกิ รรมบางอย่าง ซ่ึงอาจส่งผลเสื่อมเสียแกส่ ถาบันและชุมชน Excellence ดคู �ำจ�ำกดั ความของค�ำวา่ “ผลการด�ำเนนิ การที่เปน็ เลิศ” หน้า 114 Goals: เปา้ ประสงค์ คำ� วา่ “เปา้ ประสงค”์ หมายถงึ สภาพในอนาคตหรอื ระดบั ผลการด�ำเนนิ การทสี่ ถาบนั ตงั้ ใจหรอื ปรารถนาทจี่ ะบรรลเุ ปา้ ประสงค์ ซง่ึ เปน็ ไดท้ งั้ ระยะสน้ั และระยะยาวและเปน็ จดุ หมาย ปลายทางที่ช้ีน�ำการปฏิบัติการ เป้าประสงค์ในเชิงปริมาณที่เป็นจุดหรือช่วงที่เป็นตัวเลข มักเรียกว่า “เป้าหมาย” เป้าหมายอาจเป็นผลการด�ำเนินการท่ีมุ่งมาดไว้บนพื้นฐานของ ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบหรือข้อมูลเชิงแข่งขัน “เป้าประสงค์ที่ท้าทาย” หมายถึง เป้าประสงค์ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การปรบั ปรงุ ครง้ั ใหญแ่ บบกา้ วกระโดดในเรอ่ื งทมี่ คี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ ความสำ� เรจ็ ในอนาคตของสถาบนั ประโยชน์ของเป้าประสงคร์ วมถึง ● การทำ� ใหเ้ ปา้ ประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธแ์ ละแผนปฏบิ ตั กิ ารมคี วามชดั เจนเพอื่ ใหส้ ามารถวดั ความสำ� เร็จได้ ● การสนบั สนนุ การท�ำงานเป็นทีมงานด้วยการม่งุ เน้นจุดหมายปลายทางร่วมกนั ● การสนบั สนนุ ใหม้ คี วามคดิ นอกกรอบ (นวตั กรรม) เพือ่ บรรลุเปา้ ประสงคท์ ี่ท้าทาย ● เปน็ พ้ืนฐานส�ำหรับวัดความกา้ วหน้าและเรง่ ให้บรรลุผล ดคู �ำจ�ำกดั ความของค�ำวา่ “การคาดการณผ์ ลการด�ำเนนิ การ: Performance Projec- tions” หนา้ 115
เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การท่เี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 107 Governance: การก�ำกับดแู ล ค�ำว่า “การก�ำกับดูแล”หมายถึง ระบบการจัดการและควบคุมต่างๆ ท่ีใช้ใน สถาบันการศกึ ษา รวมท้ังความรับผิดชอบในด้านตา่ งๆ ของคณะกรรมการประจ�ำสถาบนั เชน่ คณะกรรมการการศึกษา คณะกรรมการบรหิ ารของคณะ สภามหาวทิ ยาลยั ผบู้ ริหารสงู สุดของ สถาบัน ในสถาบันการศึกษาเอกชน อาจรวมถึงเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นด้วย ประมวลกฎหมาย ต่างๆ ทง้ั ในระดบั ประเทศ ระดับท้องถนิ่ กฎกระทรวง นโยบาย รวมถงึ พรบ. ของสถาบันเป็น ตัวก�ำหนดสิทธิและความรับผิดชอบของคณะกรรมการแต่ละชุด รวมทั้งวิธีการก�ำหนดทิศทาง และการควบคมุ เพอื่ สรา้ งหลกั ประกนั ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี (1) ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผทู้ ม่ี สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (2) ความโปรง่ ใสของการปฏบิ ตั กิ าร (3) การปฏบิ ตั ติ อ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทกุ กลมุ่ อยา่ งเปน็ ธรรม กระบวนการตา่ งๆ ดา้ นการกำ� กบั ดแู ลอาจรวมถงึ การใหค้ วามเหน็ ชอบกบั ทศิ ทางเชงิ กลยทุ ธข์ อง สถาบนั การกำ� หนดและดำ� เนนิ การตามนโยบาย การตดิ ตามและประเมนิ ผลการดำ� เนนิ การของ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ของสถาบนั การกำ� หนดคา่ ตอบแทนและสทิ ธปิ ระโยชนข์ องคณะผบู้ รหิ าร การ วางแผนการสบื ทอดตำ� แหนง่ การตรวจสอบทางการเงนิ และการบรหิ ารความเสย่ี ง การดแู ลให้ ระบบการกำ� กบั ดแู ลเกิดประสิทธิผล มีความส�ำคัญต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและ สงั คมภายนอก ตลอดจนตอ่ ประสิทธิผลของสถาบัน High-Performance: ผลการด�ำเนินการท่โี ดดเดน่ ค�ำว่า “ผลการด�ำเนินการท่ีโดดเด่น” หมายถึง ผลการด�ำเนินการของสถาบันและ แต่ละบุคคลมรี ะดบั สูงขึน้ เร่ือย ๆ อย่างเป็นระบบ โดยรวมถึงคณุ ภาพ ผลติ ภาพ อัตราการ สรา้ งนวตั กรรม และรอบเวลา ซงึ่ จะสง่ ผลใหม้ กี ารปรบั ปรงุ การบรกิ าร และคณุ คา่ สำ� หรบั ผเู้ รยี น ลูกคา้ กลมุ่ อน่ื และผู้มีสว่ นได้ส่วนเสยี อน่ื ๆ แนวทางทนี่ ำ� ไปสกู่ ารดำ� เนนิ การทโี่ ดดเดน่ มรี ปู แบบ วธิ กี าร และระบบจงู ใจทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป ผลการด�ำเนินการทโ่ี ดดเดน่ ทั้งมาจากและส่งเสรมิ ใหเ้ กิดความผกู พนั ของบุคลากร เกดิ จาก ● ความร่วมมือระหว่างผู้น�ำระดับสูง ผูบ้ ริหาร คณาจารย์ และบคุ ลากร ซ่ึงอาจรวมถงึ ตวั แทนบคุ ลากรและสภาคณาจารย์ ● ความร่วมมอื ระหว่างหนว่ ยงานซึ่งเกี่ยวข้องกับทีมงานต่าง ๆ ● การใหอ้ ำ� นาจในการตัดสินใจแก่บคุ ลากร รวมทัง้ ความรับผดิ ชอบของแตล่ ะบุคคล ● การนำ� ขอ้ มลู จากคณาจารย์และบุคลากรมาใชใ้ นการวางแผน ● การสร้างทกั ษะและการเรียนรูใ้ นระดบั บคุ คลและระดบั สถาบัน ● การเรยี นรู้จากองคก์ ารอ่ืน
108 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 ● การกำ� หนดหน้าที่และการมอบหมายงานท่ีมีความยืดหย่นุ ● การคงโครงสร้างองค์การแนวราบเพ่ือให้มีการกระจายอ�ำนาจในการตัดสินใจไปยัง ผูท้ ป่ี ฏิบตั ิงานทีอ่ ยู่ใกลก้ ับผเู้ รียนและลกู ค้ากลุ่มอนื่ ทส่ี ดุ ● การใชต้ วั วดั ผลการดำ� เนนิ การอยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ล ซง่ึ รวมถงึ การใชข้ อ้ มลู เปรยี บเทยี บ สถาบันส่วนใหญ่ส่งเสริมผลการด�ำเนินการท่ีโดดเด่น โดยใช้ส่ิงจูงใจท้ังท่ีเป็นตัวเงินและ ไมเ่ ปน็ ตวั เงนิ โดยพจิ ารณาจากปจั จยั ตา่ งๆ เชน่ ผลการดำ� เนนิ การของสถาบนั ผลงานของแตล่ ะ บคุ คลและทมี งาน และการเสรมิ สรา้ งทกั ษะ นอกจากนี้ แนวทางทที่ �ำใหเ้ กดิ ผลการดำ� เนนิ การที่ โดดเดน่ ตอ้ งพยายามทำ� ใหโ้ ครงสรา้ งสถาบนั สมรรถนะหลกั งาน ภาระงาน การพฒั นาบคุ ลากร และการใหส้ ิง่ จงู ใจมคี วามสอดคลอ้ งไปในแนวทางเดียวกนั How: อย่างไร คำ� วา่ “อยา่ งไร”หมายถงึ ระบบและกระบวนการทสี่ ถาบนั ใชเ้ พอ่ื บรรลขุ อ้ ก�ำหนดตา่ งๆ ของพนั ธกจิ ในการตอบค�ำถาม “อยา่ งไร” ในขอ้ ก�ำหนดของหวั ขอ้ ในหมวด 1-6 สถาบนั ควรรวม รายละเอยี ดเกยี่ วกบั แนวทาง (วธิ กี ารและตวั วดั ) การนำ� ไปปฏบิ ตั ิ การเรยี นรู้ และการบรู ณาการดว้ ย Indicators: ตวั บ่งช้ี ดคู ำ� จำ� กดั ความของคำ� วา่ “ตวั วดั และตวั บง่ ชี้ : Measures and Indicators” หนา้ 112 Innovation: นวตั กรรม คำ� วา่ “นวตั กรรม” หมายถงึ การเปลยี่ นแปลงทมี่ คี วามหมายตอ่ การปรบั ปรงุ หลกั สตู ร และบรกิ ารทางการศกึ ษา กระบวนการ หรอื ประสทิ ธผิ ลของสถาบนั รวมทงั้ สรา้ งคณุ คา่ ใหม่ ใหแ้ ก่ผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสีย นวตั กรรมเปน็ การรับเอาแนวคิด กระบวนการ เทคโนโลยี หลกั สตู ร การบริการหรือรูปแบบการด�ำเนินธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นของใหม่หรือน�ำมาปรับใช้ในรูปแบบใหม่ ผลลัพธ์ของนวัตกรรมคือการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันหรือก้าวกระโดดของผลลัพธ์ หลักสูตร บรกิ าร และกระบวนการ นวตั กรรมจะเกิดขึ้นไดต้ ้องมีสภาพแวดลอ้ มทเ่ี กอ้ื หนุน มกี ระบวนการ ทีค่ น้ หาโอกาสเชงิ กลยุทธ์ และความเต็มใจทจ่ี ะลงทนุ ในความเสยี่ งทน่ี ่าลงทนุ
เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพอื่ การดำ�เนนิ การทเ่ี ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 109 นวตั กรรมทปี่ ระสบความสำ� เรจ็ ในระดบั สถาบนั เปน็ กระบวนการทปี่ ระกอบดว้ ยหลายขน้ั ตอนทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การพฒั นาและการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ การตดั สนิ ใจทจี่ ะดำ� เนนิ การ การลงมอื ปฏบิ ัติ การประเมินผล และการเรยี นรู้ แม้วา่ นวตั กรรมมกั จะหมายถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกระบวนการท่ีส�ำคัญ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงผ่าน นวตั กรรม ไมว่ า่ จะเปน็ การปรบั ปรงุ อยา่ งกา้ วกระโดด หรอื การเปลย่ี นแปลงแนวทางหรอื ผลผลติ นวตั กรรมอาจรวมถงึ การเปลย่ี นแปลงโครงสรา้ งพน้ื ฐานของสถาบนั หรอื รปู แบบการดำ� เนนิ ธรุ กจิ เพอ่ื ให้งานส�ำเรจ็ อยา่ งมีประสิทธผิ ลยิ่งขึน้ ดูค�ำจ�ำกดั ความของค�ำวา่ “ความเส่ยี งท่ีน่าลงทนุ : intelligent risks”และ “โอกาส เชงิ กลยทุ ธ:์ strategic opportunities” Integration: การบูรณาการ คำ� วา่ “การบรู ณาการ” หมายถงึ การผสมกลมกลนื ของแผน กระบวนการ สารสนเทศ การจดั สรรทรพั ยากร ขดี ความสามารถและอตั ราก�ำลงั ของบคุ ลากร การปฏบิ ตั กิ าร ผลลพั ธ์ และการวเิ คราะห์ เพอ่ื สนบั สนนุ เปา้ ประสงคท์ สี่ �ำคญั ของสถาบนั (organization-wide goals) การบูรณาการท่ีมีประสิทธิผลเป็นมากกว่าความสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันและจะส�ำเร็จ ได้ก็ต่อเมื่อการด�ำเนินการ ของแต่ละองค์ประกอบภายในระบบการจัดการผลการด�ำเนินการ มคี วามเชื่อมโยงกันเป็นหนงึ่ เดยี วอยา่ งสมบรู ณ์ การบูรณาการเป็นปัจจัยหน่ึงของการประเมินท้ังในส่วนกระบวนการและผลลัพธ์ ดูค�ำอธบิ ายเพิ่มเตมิ ของระบบการให้คะแนน (หนา้ 64) ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า “การมุ่งไปในแนวทางเดยี วกนั : alignment” หนา้ 99 Intelligent Risks: ความเสี่ยงทน่ี า่ ลงทุน ค�ำว่า “ความเสี่ยงท่ีน่าลงทุน” หมายถึง โอกาสของประโยชน์ที่อาจจะได้มีมากกว่า ความเสียหายหรือสูญเสียท่ีอาจเกิดข้ึนต่อ ความส�ำเร็จในอนาคตของสถาบัน หากไม่พินิจ พิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน การตัดสินใจเส่ียงน้ีน้ี ต้องยอมรับความล้มเหลวได้ในระดับหน่ึง และต้อง ยอมรบั วา่ นวตั กรรมอาจไมไ่ ดเ้ กดิ จากความมานะบากบนั่ เพยี งอยา่ งเดยี ว ในระยะเรมิ่ แรกสถาบนั ต้องลงทุนลงแรงในเรื่องท่ีมีโอกาสประสบความส�ำเร็จ ในขณะเดียวกันต้องยอมรับความจริง วา่ การลงทนุ ลงแรงน้นั อาจประสบความล้มเหลวได้
110 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการด�ำ เนินการทเี่ ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ระดบั ของความเสยี่ งทนี่ า่ ลงทนุ นน้ั ขน้ึ กบั อตั ราเรง่ และระดบั ของภาวะคกุ คามและโอกาส ท่ีมีในภาคส่วนการศึกษา ภายใต้สภาพแวดล้อมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้าน หลักสูตร บริการ กระบวนการ หรือรูปแบบการด�ำเนินการทางธุรกิจใหม่ๆ ชัดเจนว่าสถาบัน จำ� เปน็ ตอ้ งทมุ่ เททรพั ยากรเพมิ่ ขนึ้ กบั ความเสย่ี งทน่ี า่ ลงทนุ มากกวา่ ยามทส่ี ภาพแวดลอ้ มคงเดมิ ซึ่งในกรณีหลังนี้ สถาบันเพียงติดตามและค้นหาความเป็นไปได้ในการเติบโตและเปลี่ยนแปลง แตไ่ ม่จำ� เปน็ ท่จี ะต้องใชท้ รัพยากรมากเทา่ ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า “โอกาสเชิงกลยุทธ์: strategic opportunities” หนา้ 120 Key: ทสี่ �ำคัญ/หลกั ค�ำว่า “ทสี่ �ำคัญ/หลกั ”หมายถงึ สว่ นประกอบหรอื ปจั จยั หลักตา่ งๆ ทส่ี �ำคัญมากหรอื ส�ำคัญที่สุด ท่ีมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิงต่อการบรรลุผลลัพธ์ที่สถาบันต้ังเป้าไว้ บางตัวอย่าง ท่ีได้กล่าวไว้ในเกณฑ์ EdPEx เช่น ความท้าทายที่ส�ำคัญ แผนงานที่ส�ำคัญ กระบวนการหลัก และตัววดั ทีส่ ำ� คัญ ซึง่ เปน็ สงิ่ ทม่ี คี วามส�ำคญั อย่างย่ิงตอ่ ความส�ำเร็จของสถาบัน สง่ิ เหล่านเี้ ป็น องค์ประกอบที่จ�ำเป็นในการบรรลุหรือติดตามผลลัพธ์ทต่ี อ้ งการ คำ� วา่ “ทส่ี �ำคญั / หลกั ” มกั หมายถึงความส�ำคัญประมาณ 5 ล�ำดับตน้ (เชน่ ความท้าทาย 5 ลำ� ดับแรก) Knowledge Assets: สนิ ทรัพย์ทางความรู้ ค�ำว่า “สินทรัพย์ทางความรู้” หมายถึง ทรัพยากรทางปัญญาที่มีการส่ังสมภายใน สถาบนั โดยเปน็ ความรทู้ ที่ งั้ สถาบนั และผปู้ ฏบิ ตั งิ านเกบ็ รวบรวมไวใ้ นรปู แบบของสารสนเทศ แนวความคดิ ผลการเรยี นรู้ความเขา้ ใจ ความทรงจ�ำ ความตระหนกั องคค์ วามรแู้ ละทกั ษะ รวมทง้ั ขดี ความสามารถตา่ งๆ แหล่งที่สั่งสมสินทรัพย์ทางความรู้ของสถาบัน ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงาน หลกั สตู ร ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล เอกสาร แนวทางปฏบิ ตั ิ นโยบายและระเบยี บปฏบิ ัติ สนิ ทรพั ย์ ทางความรู้ไม่เพยี งแตม่ อี ยู่ภายในสถาบนั เท่านน้ั แตย่ ังอย่ทู ่ีผเู้ รยี น ลูกค้ากลมุ่ อ่นื ผู้สง่ มอบ และ คูค่ วามร่วมมืออยา่ งเปน็ ทางการดว้ ย สินทรัพย์ทางความรู้เป็น “ความรู้ในภาคปฏิบัติ” (Know-how) ที่สถาบันมีอยู่และ สามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชน์ เพอื่ เพม่ิ พนู และพฒั นาสถาบนั ใหเ้ ตบิ โต การเสรมิ สรา้ งและการจดั การ สนิ ทรพั ยท์ างความรจู้ งึ เปน็ สว่ นประกอบทสี่ ำ� คญั สำ� หรบั สถาบนั ในการสรา้ งคณุ คา่ ใหแ้ กผ่ มู้ สี ว่ น ได้สว่ นเสยี ทั้งยงั ช่วยธ�ำรงความส�ำเร็จของสถาบนั ใหย้ ง่ั ยืน
เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การทเี่ ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 111 Leadership System: ระบบการน�ำองค์การ คำ� ว่า “ระบบการน�ำองคก์ าร” หมายถึง รปู แบบในการน�ำท่ีใช้ทวั่ ทงั้ สถาบนั ทั้งอยา่ ง เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ เปน็ พน้ื ฐานและทม่ี าในการตดั สนิ ใจสอื่ สาร และน�ำเรอ่ื งส�ำคญั ไปด�ำเนนิ การจน ระบบการนำ� องค์การ หมายรวมถงึ โครงสรา้ งและกลไกในการตัดสินใจ สร้าง ความมน่ั ใจวา่ เกดิ การสอื่ สารสองทศิ ทาง การสรรหาและการพฒั นาผนู้ ำ� ผบู้ รหิ าร หวั หนา้ ภาควชิ า และผูน้ �ำในระดบั ต่างๆ รวมท้ังการเสริมสร้างค่านิยม พฤติกรรมที่มีจริยธรรม ทิศทางองคก์ าร และความคาดหวงั ดา้ นผลการดำ� เนินการ ระบบการน�ำองค์การที่มีประสิทธิผลต้องให้ความส�ำคัญต่อขีดความสามารถและความ ตอ้ งการของบคุ ลากรและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี อนื่ และตงั้ ความคาดหวงั ใหส้ งู ในดา้ นผลการดำ� เนนิ การและการปรบั ปรงุ ผลการดำ� เนนิ การ ระบบนส้ี รา้ งความภกั ดแี ละการทำ� งานเปน็ ทมี โดยอาศยั วสิ ยั ทศั น์ คา่ นยิ ม และการมงุ่ ไปสเู่ ปา้ ประสงคร์ ว่ มกนั นอกจากนย้ี งั กระตนุ้ และสนบั สนนุ ความคดิ ริเรมิ่ นวตั กรรม และความกลา้ เสีย่ งในระดบั ท่เี หมาะสม การปรับโครงสร้างตามวตั ถุประสงค์ และหน้าท่ีงาน ลดสายการบังคับบัญชาเพ่ือให้การตัดสินใจเร็วข้ึน ระบบการน�ำองค์การที่ มปี ระสิทธผิ ลต้องมกี ลไกท่ีผู้น�ำใช้ประเมินตนเอง รับขอ้ มลู ปอ้ นกลบั และการปรับปรงุ ตนเอง Learning: การเรยี นรู้ คำ� วา่ “การเรียนรู”้ หมายถงึ ความร้หู รอื ทักษะใหมท่ ไี่ ดร้ บั จากการประเมนิ การศึกษา ประสบการณ์ และนวตั กรรม นอกเหนอื จากการมงุ่ เนน้ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นในเกณฑ์ EdPEx น้ี ยงั ไดเ้ นน้ ถงึ การเรยี นรู้ ในสองระดบั ทแ่ี ตกต่างกนั คือ การเรียนรรู้ ะดบั องคก์ ารและระดับบุคคล การเรยี นรรู้ ะดบั องคก์ ารไดม้ าจากการวจิ ยั และพฒั นา วงจรการประเมนิ และการปรบั ปรงุ ความคดิ และข้อมูลจากบคุ ลากรและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี การแบ่งปันวธิ ีปฏิบตั ิท่เี ปน็ เลศิ และการจัดระดับ เทยี บเคยี ง การเรยี นรขู้ องบคุ ลากร ไดม้ าจากการศกึ ษาการฝกึ อบรม และการไดร้ บั โอกาสในการ พฒั นาเพ่ือความเจริญกา้ วหน้าของแตล่ ะบคุ คล การเรยี นรทู้ มี่ ปี ระสทิ ธผิ ล ควรเปน็ สว่ นทฝี่ งั ลกึ อยใู่ นวธิ กี ารทสี่ ถาบนั ดำ� เนนิ การ ซงึ่ สง่ ผล ใหเ้ กดิ การได้เปรยี บเชงิ แขง่ ขันและความส�ำเรจ็ อยา่ งตอ่ เนื่องส�ำหรับสถาบันและบุคลากร ดูค�ำอธิบายเพ่ิมเติมของหัวข้อนี้ในค่านิยมหลักและแนวคิด ภายใต้ห้วข้อ“การให้ความ สำ� คัญกับบุคลากร” และ “การเรยี นรรู้ ะดบั องค์การและความคล่องตัว” ในหน้า 85 การเรยี นรู้เปน็ ปัจจัยหน่งึ ในการประเมินหวั ขอ้ กระบวนการ ดคู �ำอธิบายเพมิ่ เติม ในหน้า 64 เรือ่ ง “ระบบการให้คะแนน”
112 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนินการที่เป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 Levels: ระดบั ค�ำว่า “ระดับ”หมายถงึ สารสนเทศท่ีเปน็ ตวั เลขท่ที �ำใหท้ ราบวา่ ผลลพั ธ์และผล การด�ำเนินการขององค์การอยู่ในต�ำแหน่งหรืออันดับใดในมาตรวัดที่สื่อความหมายอย่างมี นยั สำ� คญั ระดบั ของผลการดำ� เนนิ การทำ� ใหส้ ามารถประเมนิ ผลเปรยี บเทยี บกบั ผลการดำ� เนนิ การ ที่ผา่ นมา การคาดการณ์ เป้าประสงค์ และตวั เปรยี บเทยี บอืน่ ๆ ทเ่ี หมาะสม Measures and Indicators: ตวั วดั และตวั บ่งช้ี คำ� วา่ “ตวั วดั และตวั บง่ ช”ี้ หมายถงึ สารสนเทศเชงิ ตวั เลขทบ่ี อกปรมิ าณปจั จยั น�ำเขา้ ผลผลิต และผลการด�ำเนนิ การในมติ ติ ่างๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกับกระบวนการ หลกั สูตร โครงการ บรกิ าร และผลการด�ำเนินการโดยรวมขององค์การ (ผลลพั ธ)์ ตัววดั และตวั บ่งชอี้ าจเป็นแบบ งา่ ยๆ (ไดจ้ ากตัววดั เดี่ยว) หรอื เปน็ การใชต้ วั วดั หลายตวั มาประกอบกัน เกณฑ์ EdPEx น้ี ไม่ได้แบ่งแยกระหว่างตัววัดและตัวบ่งชี้ อย่างไรก็ตาม มีผู้นิยมใช้ คำ� ว่า “ตวั บง่ ชี้”ในกรณดี ังน้ี (1) เมื่อการวัดนัน้ มคี วามสัมพันธ์กบั ผลการด�ำเนินการ แต่ไมเ่ ป็น ตวั วดั ผลการดำ� เนนิ การนนั้ โดยตรง (เชน่ จำ� นวนขอ้ รอ้ งเรยี นเปน็ ตวั บง่ ชคี้ วามไมพ่ งึ พอใจแตไ่ มใ่ ช่ ตวั วดั ผลความไมพ่ งึ พอใจโดยตรง) และ(2) เมอ่ื การวดั ผลเปน็ ตวั ทำ� นาย “ตวั บง่ ชน้ี �ำ” (leading indicator) ผลการดำ� เนินการด้านอ่ืนๆ ท่ีมีความส�ำคญั มากกว่า (เช่น ความสามารถหรอื ความ พึงพอใจของผเู้ รยี นท่เี พม่ิ ขนึ้ อาจเป็นตัวบง่ ชี้น�ำ ถึงการคงอยู่ของผู้เรียน) Mission: พนั ธกจิ คำ� วา่ “พนั ธกจิ ” หมายถงึ หนา้ ทโ่ี ดยรวมของสถาบนั การศกึ ษา เปน็ การตอบคำ� ถามท่ี วา่ “สถาบนั ตอ้ งการบรรลอุ ะไร” พนั ธกจิ อาจนยิ ามตวั ผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ หรอื ตลาดเปา้ หมาย ที่สถาบันให้บรกิ าร ความสามารถทโี่ ดดเดน่ ของสถาบนั หรอื เทคโนโลยที ี่ใช้ Multiple Requirements: ข้อก�ำหนดตา่ งๆ ค�ำว่า “ข้อก�ำหนดต่างๆ” หมายถึง รายละเอียดของหัวข้อในเกณฑ์ EdPEx ซึ่งอยู่ ในลกั ษณะค�ำถามยอ่ ยๆ ทส่ี ถาบนั ตอ้ งตอบในแตล่ ะประเดน็ พจิ ารณา ดงั แสดงไวใ้ นเรอื่ งของ รปู แบบหัวข้อ ซ่ึงปรากฏ ในหน้า 2 แมแ้ ตส่ ถาบนั ทมี่ ผี ลการดำ� เนนิ การทโ่ี ดดเดน่ และไดค้ ะแนนสงู จากการประเมนิ ตามเกณฑ์ EdPEx กไ็ มจ่ ำ� เปน็ วา่ แตล่ ะสถาบนั จะสามารถตอบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนดตา่ งๆ ไดส้ ำ� เรจ็ เทา่ เทยี มกนั
เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพ่ือการดำ�เนนิ การทีเ่ ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 113 Overall Requirements: ขอ้ ก�ำหนดโดยรวม ค�ำว่า “ข้อก�ำหนดโดยรวม” หมายถึง ประเด็นที่ส�ำคัญท่ีสุดของหัวข้อตามเกณฑ์ EdPEx ซึ่งอธิบายในย่อหน้าที่อยู่ใต้หัวข้อ และค�ำถามประโยคแรกในแต่ละข้อค�ำถาม ดูภาพ ประกอบได้ในรปู แบบของเกณฑ์ EdPEx หนา้ 3 Partners: คู่ความรว่ มมือที่เปน็ ทางการ คำ� วา่ “คคู่ วามร่วมมือที่เปน็ ทางการ” หมายถึง องค์การหรอื กลุ่มบุคคลที่ส�ำคญั อ่นื ๆ ซ่ึงท�ำงานร่วมกับสถาบัน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันหรือเพื่อการปรับปรุงผลการด�ำเนิน การ โดยทั่วไปจะเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการเพื่อเป้าประสงค์ที่ชัดเจน เช่น การบรรลุ วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กลยุทธห์ รือการจดั หลักสูตร หรอื บรกิ ารทเ่ี ฉพาะเจาะจง คู่ความร่วมมืออย่างเป็นทางการมักมีก�ำหนดช่วงเวลาของความร่วมมือและต้อง มคี วามเขา้ ใจทีช่ ดั เจนต่อบทบาทแต่ละฝ่าย และผลประโยชนข์ องคูค่ วามรว่ มมือ ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า “คู่ความร่วมมือท่ีไม่เป็นทางการ: Collaborators” ในหนา้ 113 Performance: ผลการด�ำเนินการ คำ� วา่ “ผลการด�ำเนินการ”หมายถึง ผลผลติ และผลลัพธ์ที่ไดจ้ ากการเรยี นรูข้ อง กระบวนการ หลกั สตู ร ผูเ้ รยี นและลูกคา้ กลุ่มอ่ืนซึ่งสามารถประเมนิ ผลและเปรยี บเทยี บกับ ผลการด�ำเนินการท่ีเกิดข้ึนกับผลการด�ำเนินการที่คาดการณ์ไว้ มาตรฐาน ผลลัพธ์ในอดีต เปา้ ประสงคแ์ ละกบั ผลลพั ธอ์ น่ื ๆ ขององคก์ าร ผลการดำ� เนนิ การอาจแสดงทง้ั ในรปู ของการเงนิ และรูปแบบอืน่ ๆ เกณฑ์ EdPEx นี้ กล่าวถึงผลการด�ำเนินการ 4 ด้าน ได้แก่ (1) ดา้ นหลกั สูตรการศกึ ษา และบริการ (2) ดา้ นการมุ่งเนน้ ผ้เู รียนและลูกคา้ กล่มุ อ่นื (3) ด้านการปฏิบตั ิการและ (4) ดา้ น งบประมาณ การเงิน และตลาด คำ� วา่ “ผลการด�ำเนนิ การดา้ นหลกั สตู รและบรกิ าร” คอื ผลการดำ� เนนิ การซงึ่ เกยี่ วขอ้ ง กับคุณลักษณะของตัววัดและตัวบ่งช้ีของหลักสูตรและบริการ ซึ่งมีความส�ำคัญต่อผู้เรียนและ ลกู คา้ กลมุ่ อน่ื ตวั อยา่ งเชน่ ความมปี ระสทิ ธผิ ลของหลกั สตู รและวธิ กี ารสอน การวดั ผลการเรยี นรู้ ของผู้เรยี น การเข้ารว่ มในกจิ กรรมการพฒั นาวิชาชพี และการได้งานท�ำเมือ่ ส�ำเรจ็ การศึกษา
114 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอ่ื การด�ำ เนนิ การทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 ค�ำว่า “ผลการด�ำเนินการด้านการมงุ่ เนน้ ผู้เรียนและลกู คา้ กลุม่ อนื่ ” คือผลการด�ำเนนิ การซ่งึ เก่ยี วข้องสัมพันธ์กบั คุณลกั ษณะของตวั วัดและตัวบ่งช้ดี า้ นการรบั รู้ การตอบสนอง และ พฤติกรรมของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน ตัวอย่างเช่น การรับผู้เรียนเข้าศึกษาในสถานศึกษา การคงอยู่ของผู้เรียน ข้อร้องเรียนของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน และผลการส�ำรวจผู้เรียน และลูกคา้ กล่มุ อ่ืน ค�ำว่า “ผลการด�ำเนินการด้านการปฏิบัติการ”คือ ผลการด�ำเนินการด้านบุคลากร ด้านการน�ำองค์การ และผลการด�ำเนินการของทั้งองค์การ (รวมถึงจริยธรรมและการปฏิบัติ ตามกฎหมาย) ซ่งึ เกี่ยวขอ้ งกบั ตวั วดั หรอื ตวั บ่งชี้ ดา้ นประสทิ ธผิ ล ประสิทธิภาพ และความ รบั ผิดชอบ ตัวอยา่ งเช่น รอบเวลา การเพมิ่ ผลผลติ (ผลติ ภาพ) การรบั รองมาตรฐาน การลด ของเสีย อตั ราการลาออกของบคุ ลากร อตั ราการฝึกอบรมข้ามสายงานของบคุ ลากร การปฏบิ ตั ิ ตามกฎระเบยี บ ความรับผิดชอบด้านการเงนิ การบรรลุแผนกลยุทธ์ ตลอดจนการมีสว่ นร่วม ในชมุ ชน ผลการด�ำเนินการดา้ นการปฏิบัตกิ ารอาจวดั ทร่ี ะดับองค์การ ระดับกระบวนการหลัก และระดบั หลักสูตร สาขาวชิ า ชั้นเรียน หรือตัวบุคคล คำ� วา่ “ผลการด�ำเนนิ การดา้ นงบประมาณ การเงนิ และตลาด” คอื ผลการดำ� เนนิ การ ซงึ่ เกย่ี วขอ้ งกบั คณุ ลกั ษณะของตวั วดั ดา้ นการควบคมุ ตน้ ทนุ รายได้ และตำ� แหนง่ ในตลาด รวมถงึ การใชง้ บประมาณ การเตบิ โตของสนิ ทรพั ยแ์ ละสว่ นแบง่ ตลาด ตวั อยา่ งเชน่ รอ้ ยละของคา่ ใชจ้ า่ ย ตอ่ หวั ผเู้ รยี นในด้านการบริหารและด้านการสอนต่องบประมาณ ร้อยละของค่าใชจ้ า่ ยหลกั สตู ร ต่องบประมาณ ผลการดำ� เนินการต่องบประมาณทไี่ ด้รับ การเพ่มิ ขนึ้ หรอื ลดลงของงบประมาณ ประจ�ำปี รายได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เงินทุนส�ำรอง และกองทุนเงินรางวัลและเงินสมทบประจ�ำปี การผนั ทรพั ยากรมาจากแหลง่ อน่ื เพอ่ื ใชใ้ นการศกึ ษา ทนุ การศกึ ษาทเ่ี พมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละของงบประมาณ ส�ำหรับการวิจยั ตลอดจนงบประมาณสำ� หรับการบรกิ ารสังคม รวมทัง้ การเพมิ่ สว่ นแบง่ ตลาด Performance Excellence: ผลการด�ำเนนิ การท่ีเป็นเลศิ คำ� วา่ “ผลการด�ำเนนิ การทเี่ ปน็ เลศิ ” หมายถงึ แนวทางการจดั การผลการด�ำเนนิ การ ของสถาบนั การศกึ ษาแบบบูรณาการ ท่ที �ำให้เกิดผลลัพธ์ในดา้ น (1) การเพิม่ คุณคา่ ใหก้ ับผเู้ รยี น ลกู ค้ากลุ่มอื่นและ ผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี อยา่ งต่อเน่อื ง ซ่ึงน�ำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการศึกษา การเรียนรู้ของผู้เรียนตลอดจนความส�ำเร็จอย่าง ต่อเน่ืองของสถาบัน
เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 115 (2) การปรบั ปรงุ ประสิทธผิ ลและขดี ความสามารถโดยรวมของสถาบนั และ (3) การเรียนร้ขู องสถาบันและของแต่ละผูค้ นในองคก์ ร เกณฑ์ EdPEx น้ีใช้เป็นกรอบและเคร่ืองมือในการประเมินผล เพ่ือให้สถาบันทราบ จดุ แขง็ และโอกาสในการปรบั ปรงุ สำ� หรบั เปน็ แนวทางในการวางแผนทม่ี งุ่ สกู่ ารมผี ลการดำ� เนนิ การทด่ี ขี น้ึ และความเปน็ เลศิ Performance Projections: การคาดการณ์ผลการด�ำเนนิ การ คำ� ว่า “การคาดการณ์ผลการด�ำเนินการ” หมายถึง การประมาณผลการด�ำเนินการ ของสถาบันในอนาคต การคาดการณ์ควรอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในผลการด�ำเนินการ ท่ีผ่านมา อัตราการพัฒนาการที่ดีข้ึน และสมมติฐานเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงที่จะเกิดขึ้น ภายในสถาบนั และการสรา้ งนวตั กรรมในอนาคตรวมถงึ การเปลยี่ นแปลงภายนอกทส่ี ง่ ผลตอ่ การ เปล่ียนแปลงภายในสถาบัน ดังนั้นการคาดการณ์ ผลการดำ� เนนิ การ จงึ เปน็ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ทใี่ ช้ จดั การการปฏบิ ตั กิ าร การกำ� หนดและดำ� เนนิ การตามแผนกลยทุ ธ์ การคาดการณ์ผลการด�ำเนินการระบุถึงผลการด�ำเนินการท่ีคาดหวังในอนาคต โดยที่ เปา้ ประสงค์ระบุถงึ ผลการด�ำเนินการที่ต้องการในอนาคต การคาดการณผ์ ลการด�ำเนินการของ สถาบันคู่แข่งหรือสถาบันท่ีคล้ายคลึงกัน อาจชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่สถาบันต้องเผชิญและ เร่ืองที่สถาบันจ�ำเป็นต้องปรับปรุงแบบก้าวกระโดดหรือสร้างนวัตกรรม ซ่ึงในกรณีดังกล่าว การคาดการณผ์ ลการด�ำเนนิ การกับเป้าประสงค์อาจเหลือ่ มซ้อนกนั ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า “เป้าประสงค์: Goals” Persistence: การคงอย่อู ย่างตอ่ เน่อื ง ค�ำว่า “การคงอยู่อย่างต่อเน่ือง”หมายถึง การลงทะเบียนเรียนอย่างต่อเนื่องของ ผู้เรียน (จากเทอมต่อเทอม ภาคต่อภาค ชั้นปีต่อช้ันปี และจากรายวิชาต่อรายวิชา) เพ่ือให้ ส�ำเร็จการศึกษา หรือบรรลุวัตถปุ ระสงคใ์ นการฝึกอบรม Process: กระบวนการ ค�ำว่า “กระบวนการ”หมายถึง กิจกรรมท่ีเช่ือมโยงกันเพ่ือพัฒนาเป็นหลักสูตรหรือ บริการส�ำหรบั ลูกคา้ (ผู้ใช)้ ท้งั ภายในหรือภายนอกสถาบนั โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการเป็น ขนั้ ตอนหรอื กจิ กรรมทม่ี ลี ำ� ดบั ชดั เจน ซง่ึ เกดิ จากการผสมผสานระหวา่ งคน เครอื่ งจกั ร เครอื่ งมอื
116 เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนนิ การที่เปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 เทคนคิ วสั ดุ และการปรับปรุง แทบจะไมม่ ีกระบวนการใดเลยที่ด�ำเนินการไดโ้ ดยล�ำพัง ดงั น้นั จงึ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ กระบวนการอน่ื ๆ ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ กนั ในบางกรณกี ระบวนการอาจตอ้ งดำ� เนนิ ตามล�ำดับข้ันท่ีเฉพาะเจาะจง ตามเอกสารวิธีปฏิบัติการและข้อก�ำหนด (ที่อาจเป็นทางการ) รวมท้งั การวัดและข้นั ตอนการควบคมุ ทีช่ ดั เจน การด�ำเนินการด้านบริการโดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องโดยตรงต่อผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่น เช่น หลักสูตรและบริการ กระบวนการโดยท่ัวไปจะต้องบอกรายละเอียดอย่างชัดเจน ว่าต้อง ท�ำอย่างไร บางกรณีอาจรวมล�ำดับข้ันตอนที่ต้องการหรือคาดหวัง ถ้าหากข้ันตอนน้ันมีความ สำ� คญั จะต้องให้ข้อมูลทชี่ ่วยให้ลกู คา้ เข้าใจและท�ำตามขน้ั ตอนดังกล่าวได้ กระบวนการบริการ ทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ จำ� เปน็ ตอ้ งมแี นวทางสำ� หรบั ผใู้ หบ้ รกิ ารในการจดั การกบั เหตกุ ารณท์ ไี่ มค่ าดฝนั ที่ เกยี่ วขอ้ งกบั การกระท�ำหรือพฤติกรรมของลกู ค้า การท�ำงานทต่ี ้องใช้ความรู้ เช่น การสอน การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การวิจยั การพัฒนา และการวเิ คราะหน์ นั้ คำ� วา่ กระบวนการ อาจไมไ่ ดห้ มายความถงึ ลำ� ดบั ขน้ั ตอนทกี่ ำ� หนดไวอ้ ยา่ ง เปน็ ทางการเทา่ นัน้ แต่อาจรวมถึง ความเขา้ ใจโดยรวมเกยี่ วกับการด�ำเนินการในเรือ่ งท่ีต้องใช้ ประสบการณ์และทกั ษะ เชน่ จงั หวะเวลา วธิ กี ารต่างๆทเ่ี ลือกใช้ได้ (options to include) การ ประเมินและรายงานผล ท้ังน้ีล�ำดับข้ันตอนของกระบวนการอาจเป็นผลที่เกิดขึ้นเมื่อมีความ เขา้ ใจดงั กลา่ ว กระบวนการ เปน็ หนง่ึ ในสองมิตขิ องการประเมนิ ในเกณฑ์ EdPEx ซ่ึงการประเมินอยูบ่ น พนื้ ฐานของ 4 ปจั จยั คอื แนวทาง การถา่ ยทอดเพอื่ น�ำไปปฏบิ ตั ิ การเรยี นรู้ และการบรู ณาการ ดคู �ำจ�ำกดั ความของค�ำว่า “ระบบการใหค้ ะแนน: Scoring System” Productivity: ผลติ ภาพ คำ� ว่า “ผลติ ภาพ” หมายถึง ตวั วัดประสทิ ธิภาพของการใช้ทรพั ยากร ถึงแม้ค�ำวา่ “ผลติ ภาพ” น้ี มกั จะใช้กบั ปัจจัยใดปจั จยั หนึง่ เพยี งอยา่ งเดียว เชน่ บุคลากร (ผลติ ภาพแรงงาน) เครื่องจกั ร วัสดุ พลังงาน และทุน แตแ่ นวคดิ เก่ียวกับผลติ ภาพน้ี ยังสามารถน�ำไปพิจารณาถึง การใชท้ รพั ยากรทงั้ หมดเพอ่ื ดำ� เนนิ งานใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องสถาบนั การวดั “ผลติ ภาพโดยรวม” โดยใช้ตัววัดหลายตัวร่วมกัน ท�ำให้สามารถประเมินได้ว่า ผลของการเปล่ียนแปลงทั้งหมดใน กระบวนการ (ซ่งึ อาจรวมถึงการเลือกใช้ทรพั ยากรด้วยนั้น) มีประโยชนห์ รอื ไม่
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนินการท่ีเป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 117 PROJECTIONS, PERFORMANCE ดคู ำ� จำ� กดั ความของคำ� วา่ “การคาดการณผ์ ลการด�ำเนนิ การ: Performance Projections” Purpose: จดุ ประสงค์ คำ� ว่า “จุดประสงค์” หมายถึง เหตุผลหลกั ทีท่ ำ� ให้สถาบนั ด�ำรงอยู่ บทบาทส�ำคัญของ จุดประสงค์คือเพื่อเป็นแรงบนั ดาลใจของสถาบัน และช้นี �ำการกำ� หนดค่านิยมของสถาบนั โดย ปกติจุดประสงค์มักจะกว้างและใช้ได้นาน สถาบันท่ีให้บริการทางการศึกษาท่ีต่างกัน อาจจะ มีจดุ ประสงคท์ ค่ี ลา้ ยกันได้ ในขณะเดียวกนั สถาบนั ท่ใี ห้บริการที่คล้ายกนั อาจมวี ตั ถปุ ระสงคท์ ี่ ตา่ งกันไดเ้ ช่นกัน Results: ผลลพั ธ์ ค�ำว่า “ผลลัพธ์” หมายถึง ผลผลิตและผลท่ีเกิดจากการด�ำเนินการตามข้อก�ำหนด ของหัวข้อในเกณฑ์เล่มนี้ ในการประเมินผลลัพธ์ จะพิจารณาผลการด�ำเนินการปัจจุบัน ผลการด�ำเนนิ การเมอื่ เทียบกบั ตัวเปรยี บเทยี บทเ่ี หมาะสม รวมท้ังอตั รา ความครอบคลุม และ ความส�ำคัญของการปรับปรุงผลการด�ำเนินการ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างตัววัดผลลัพธ์ กบั เป้าหมายหลกั ของผลการด�ำเนนิ การ ผลลัพธ์ เป็นหนึ่งในสองมิติของการประเมินในเกณฑ์ EdPEx ซ่ึงการประเมินอยู่บน พน้ื ฐานของ 4 ปจั จัย คือ ระดบั แนวโน้ม การเปรียบเทยี บ บูรณาการและบรู ณาการ ดคู �ำจ�ำกัดความของค�ำวา่ “ระบบการใหค้ ะแนน: Scoring System” ในหน้า 64 Segment: สว่ น/กลมุ่ คำ� วา่ “สว่ น/กลมุ่ ” หมายถงึ สว่ น/กลมุ่ ใดกลมุ่ หนงึ่ ของ ผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ ผมู้ สี ว่ นได้ สว่ นเสยี ตลาด หลักสตู ร หรอื บริการ หรอื บุคลากร โดยปกติ “สว่ น/กลุ่ม” จะตอ้ งมีลักษณะ รว่ มกนั ทสี่ ามารถจดั เปน็ กลมุ่ ไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล ในหมวด 7 คำ� วา่ “สว่ น/กลมุ่ ”หมายถงึ ขอ้ มลู ด้านผลลัพธ์ตามกลุ่มท่ีแบ่งไว้ เพื่อให้การวิเคราะห์ผลการด�ำเนินการของสถาบันเกิดประโยชน์ มากขน้ึ ทงั้ นข้ี น้ึ กบั แตล่ ะสถาบนั วา่ จะใชป้ จั จยั ใดในการก�ำหนดสว่ น/กลมุ่ ของผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ ตลาด หลกั สูตร บริการ และบคุ ลากร
118 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการด�ำ เนินการท่เี ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 ความเขา้ ใจในเรอ่ื ง “ส่วน/กลุ่ม” มคี วามส�ำคัญอย่างยงิ่ ในการจ�ำแนกความตอ้ งการและ ความคาดหวังเฉพาะของส่วน/กล่มุ ตา่ งๆ ของผ้เู รียน ลูกคา้ กลุม่ อ่นื ตลาด และบุคลากร และ รวมถงึ การจดั หลกั สตู ร บรกิ าร เพอื่ ใหต้ อบสนองตอ่ ความตอ้ งการและความคาดหวงั เฉพาะของ แต่ละกลุม่ ได้ ตวั อยา่ งเช่น แบง่ สว่ นตลาด อาจแบ่งตาม หลกั สูตรหรอื ชอ่ งทางให้บรกิ าร (เชน่ หอ้ งเรียนหรือเวบ็ ไซต)์ ผเู้ รยี น เชน่ แบง่ ตาม ความสนใจทางดา้ นวชิ าชพี สไตลก์ ารเรยี นรู้ ทอ่ี ยอู่ าศยั (เชน่ หอพกั หรอื ไปกลับ การเคลือ่ นย้ายของผเู้ รียน (student mobility) หรอื ความต้องการพเิ ศษ ในบางกรณอี าจแบ่งเปน็ สว่ นตลาดย่อยลงไปตามกลุ่มผูร้ ับผดิ ชอบ การจ�ำแนกบคุ ลากรอาจแบ่งตาม ภมู ิศาสตร์ ทักษะ ความตอ้ งการ การมอบหมายงาน หรือการจำ� แนกงาน/ ต�ำแหนง่ งาน Senior Leaders: ผู้น�ำระดับสูง ค�ำว่า “ผู้น�ำระดับสูง” หมายถึง กลุ่มบุคคลท่ีมีความรับผิดชอบหลักในการจัดการ องคก์ ารโดยรวมในหลายสถาบัน ผนู้ �ำระดบั สงู หมายถงึ ผูน้ ำ� สูงสุดและผูท้ ร่ี ายงานโดยตรงตอ่ ผู้นำ� สงู สุดและอาจหมายรวมถึง คณะผูบ้ รหิ ารคณบดแี ละหัวหนา้ ภาควิชา Stakeholders: ผู้มสี ่วนได้ส่วนเสีย ค�ำวา่ “ผูม้ สี ว่ นได้ส่วนเสยี ” หมายถึง กลมุ่ ตา่ งๆ ที่ได้รับผลกระทบ หรอื อาจได้รับ ผลกระทบจากการด�ำเนนิ การและความส�ำเรจ็ ของสถาบนั ตวั อยา่ งของกลมุ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ท่ีส�ำคัญ เช่น ลูกค้า ผู้ปกครอง/สมาคมผู้ปกครอง บุคลากร คู่ความร่วมมือทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ คณะกรรมการก�ำกับดูแลสถาบันในด้านต่างๆ ศิษย์เก่า นายจ้าง สถาบัน การศกึ ษาอน่ื ๆ องคก์ ารทท่ี ำ� หนา้ ทกี่ ำ� กบั ดแู ลกฎระเบยี บ องคก์ ารทใี่ หเ้ งนิ สนบั สนนุ ผเู้ สยี ภาษี ผู้ก�ำหนดนโยบาย ผูส้ ง่ มอบ ตลอดจนชุมชนในท้องถนิ่ และชมุ ชนวชิ าการ/วิชาชพี ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำวา่ “ลกู คา้ : Customer” หน้า 102 Strategic Advantages: ความไดเ้ ปรยี บเชิงกลยุทธ์ คำ� วา่ “ความไดเ้ ปรยี บเชงิ กลยทุ ธ”์ หมายถงึ ความไดเ้ ปรยี บในเชงิ ตลาดตา่ งๆ ทเ่ี ปน็ ตวั ตดั สนิ วา่ สถาบนั จะประสบความส�ำเรจ็ ในอนาคตหรอื ไม่ ซง่ึ โดยทวั่ ไปมกั จะเปน็ ปจั จยั ทชี่ ว่ ย ให้สถาบันประสบความส�ำเร็จในการแข่งขันท้ังในปัจจุบันและอนาคตเม่ือเทียบกับสถาบันอื่นท่ี
เกณฑ์คุณภาพการศกึ ษาเพ่ือการดำ�เนินการท่เี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 119 คลา้ ยคลงึ กนั ในดา้ นหลกั สตู ร และบรกิ าร ความไดเ้ ปรยี บเชงิ กลยทุ ธม์ กั มาจาก (1) สมรรถนะหลกั ทีเ่ น้นที่การสร้างและเพิม่ พูนความสามารถภายในสถาบนั และ (2) ทรพั ยากรภายนอกทีส่ ำ� คญั ในเชิงกลยุทธ์ซ่ึงเกิดจากการก�ำหนดและใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ผ่านความสัมพันธ์กับองค์การ ภายนอกและกบั คูค่ วามร่วมมอื เมือ่ สถาบนั เข้าใจถงึ ทม่ี าของความได้เปรียบเชิงกลยทุ ธท์ งั้ 2 แหล่ง ก็สามารถเสรมิ สรา้ ง ความแข็งแกรง่ ของความสามารถจ�ำเพาะของสถาบันได้ โดยการใช้ประโยชน์จากความสามารถ ท่ีเสรมิ กันทีม่ าจากองค์การอ่ืนๆ ดคู ำ� จำ� กดั ความของค�ำวา่ “ความทา้ ทายเชิงกลยทุ ธ์” และ “วตั ถุประสงค์เชิงกลยทุ ธ์” เพื่อให้เข้าใจความเช่ือมโยงของความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ ซงึ่ สถาบนั กำ� หนดเพอ่ื ตอบสนองความทา้ ทายและความไดเ้ ปรยี บดงั กลา่ ว Strategic Challenges: ความท้าทายเชงิ กลยุทธ์ ค�ำว่า “ความท้าทายเชิงกลยุทธ์” หมายถึง ความกดดันต่างๆ ท่ีเป็นตัวตัดสินว่า สถาบนั จะประสบความส�ำเรจ็ ในอนาคตหรือไม่ ความทา้ ทายดงั กล่าวมกั เกิดจากแรงผลกั ดัน ของตำ� แหนง่ ในการแขง่ ขนั ในอนาคตเมอื่ เทยี บกบั สถาบนั อน่ื ทมี่ หี ลกั สตู รและบรกิ ารทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั โดยทว่ั ไปความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธจ์ ะมาจากแรงผลักดันภายนอก อย่างไรกต็ าม ในการตอบสนอง ต่อแรงผลักดันภายนอกดงั กลา่ ว สถาบันอาจต้องเผชิญกบั ความทา้ ทายเชงิ กลยุทธภ์ ายในดว้ ย ความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธภ์ ายนอก อาจเกย่ี วกบั ความตอ้ งการหรอื ความคาดหวงั ของผเู้ รยี น ลูกคา้ กล่มุ อ่ืน ตลาด การเปลีย่ นแปลงของหลักสูตรหรอื บรกิ าร การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี หรอื ความเสย่ี งทางด้านงบประมาณ การเงนิ สังคม ตลอดจนความเสยี่ งหรือความต้องการดา้ น อน่ื ๆ ความท้าทายเชงิ กลยุทธภ์ ายใน อาจเกย่ี วกับขดี ความสามารถของสถาบัน หรือคณาจารย์ รวมทง้ั บคุ ลากร และทรพั ยากรอ่นื ๆ ของสถาบัน ดคู ำ� จำ� กดั ความของคำ� วา่ “ความไดเ้ ปรยี บเชงิ กลยทุ ธ”์ และ “วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ”์ เพื่อให้ทราบความสัมพันธ์ระหว่างความท้าทายเชิงกลยุทธ์ ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ และวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ีสถาบันก�ำหนดเพื่อตอบสนองต่อความความท้าทาย และ ความไดเ้ ปรยี บดังกล่าว
120 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพื่อการด�ำ เนินการท่ีเป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 Strategic Objectives: วตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ค�ำว่า “วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์”หมายถึง เป้าหมายที่ชัดเจนของสถาบัน หรือการ ตอบสนองตอ่ การเปลยี่ นแปลงหรือการปรับปรุงท่ีส�ำคัญ ความสามารถในการแข่งขนั หรอื ประเด็นทางสงั คม และขอ้ ไดเ้ ปรียบของสถาบัน โดยทวั่ ไปวตั ถุประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธม์ ักมงุ่ เนน้ ท้ังภายนอกและภายในสถาบัน และเก่ียวข้องกับโอกาสและความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่เกี่ยวกับ ผู้เรียน ลูกคา้ กลมุ่ อื่น ตลาด หลกั สตู รและบรกิ าร หรอื เทคโนโลยี ถา้ จะกลา่ วอยา่ งกว้างๆ ก็คอื สถาบันต้องบรรลวุ ตั ถุประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธเ์ พื่อคงไว้หรอื ท�ำใหม้ ีความสามารถในการแข่งขนั และ ความส�ำเร็จของสถาบันในระยะยาว วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เป็นตัวก�ำหนดทิศทางระยะยาว และเป็นแนวทางในการจัดสรรและปรับการกระจายทรพั ยากร ให้ดูค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า“แผนปฏิบัติการ” ในหน้า 99 เพ่ือให้ทราบความสัมพันธ์ ระหว่างวัตถุประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธแ์ ละแผนปฏิบตั ิการ รวมท้งั ตวั อย่างของแต่ละหัวข้อ Strategic Opportunities: โอกาสเชิงกลยทุ ธ์ ค�ำว่า “โอกาสเชงิ กลยทุ ธ์” หมายถงึ ชอ่ งทางที่เห็นจากการคดิ นอกกรอบ การระดม ความคดิ ผลดีท่ีเกดิ ข้ึนโดยไมค่ าดฝนั กระบวนการวจิ ัยและสรา้ งนวัตกรรม การคาดการณ์ อยา่ งฉกี แนวไปจากสภาพปจั จบุ นั และแนวทางอนื่ ๆ ทใี่ ชใ้ นการจนิ ตนาการอนาคตทแ่ี ตกตา่ ง ออกไป บรรยากาศท่ีเปิดให้คิดอย่างเสรี โดยปราศจากการชี้น�ำ จะช่วยท�ำให้เกิดความคิด ใหม่ ๆ ทนี่ ำ� ไปสโู่ อกาสเชงิ กลยทุ ธ์ การจะเลอื กใชโ้ อกาสเชงิ กลยทุ ธใ์ ดนนั้ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความเสยี่ ง ทเี่ กย่ี วขอ้ ง การเงนิ และอนื่ ๆ เพอื่ ตดั สนิ ใจเลอื กทจี่ ะเสยี่ งดว้ ยปญั ญา (ความกลา้ เสย่ี งดว้ ยปญั ญา) ดคู ำ� จ�ำกดั ความของค�ำวา่ “Intelligent Risks: ความเสย่ี งทน่ี ่าลงทุน” Sustainability (Short- and long-term success) ความส�ำเร็จในระยะสั้นและ ระยะยาว ค�ำว่า “ความส�ำเร็จในระยะส้ันและระยะยาว” หมายถึง ความสามารถโดยรวมของ สถาบันท่ีตอบสนองต่อความต้องการทางด้านการศึกษาในปัจจุบัน มีความคล่องตัวและมีการ จัดการเชิงกลยุทธ์ท่ีจะท�ำให้สถาบันสามารถเตรียมตัวให้พร้อมต่อสภาพแวดล้อมขององค์การ การด�ำเนินการและตลาดในอนาคต สถาบันจ�ำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกและภายใน ท้งั ที่เปน็ ปัจจยั เฉพาะของสถาบันและของภาคส่วนการศกึ ษา
เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนินการที่เปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 121 ประเด็นที่ควรพิจารณาอาจครอบคลุมถึงขีดความสามารถและอัตราก�ำลังของบุคลากร ทรพั ยากรทมี่ เี ทคโนโลยี ความรู้ สมรรถนะหลกั ระบบงาน อปุ กรณแ์ ละอาคารสถานที่ ความยงั่ ยนื อาจได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของตลาด ความชอบของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน สภาพแวดล้อมในการด�ำเนินการ งบประมาณและการเงนิ รวมทง้ั สภาพแวดลอ้ มดา้ นกฎหมาย และกฎระเบียบ นอกจากนี้ความส�ำเร็จในระยะสั้นและระยะยาวยังรวมถึงการเตรียมพร้อม วันตอ่ วนั ต่อเหตุฉกุ เฉินท่กี �ำลังเกดิ หรือเหตฉุ กุ เฉนิ ทีเ่ กดิ ขึ้นในช่วงสนั้ ๆ ในเกณฑ์ EdPEx นี้ ผลกระทบของหลกั สตู ร บริการ และปฏิบัตกิ าร ของสถาบันทมี่ ตี อ่ สังคมและการสนับสนุนชว่ ยเหลือเพื่อให้เกิดสภาวะท่ีดขี องระบบเศรษฐกจิ สงั คม และสภาพ แวดลอ้ มน้ี เปน็ สว่ นหนง่ึ ของความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมของสถาบนั การทส่ี ถาบนั จะพจิ ารณาเรอ่ื ง ดงั กลา่ วหรอื ไมแ่ ละอยา่ งไร อาจจะมผี ลตอ่ ความความสำ� เรจ็ ในระยะสนั้ และระยะยาวของสถาบนั Systematic: มีความเป็นระบบ คำ� ว่า “มีความเปน็ ระบบ” หมายถึง แนวทางซง่ึ มขี ้นั ตอนเป็นล�ำดบั ด�ำเนนิ การซำ้� ได้ รวมท้ังแสดงการใชข้ อ้ มูลและสารสนเทศเพื่อใหเ้ กิดการเรียนรู้ หรอื อาจกล่าวไดว้ ่า แนวทาง มคี วามเปน็ ระบบหากมกี ารประเมนิ การปรบั ปรงุ และการแบง่ ปนั จนสง่ ผลใหแ้ นวทางนนั้ มคี วาม สมบูรณ์ยิ่งข้ึน ในการใช้ค�ำน้ี ให้ดูค�ำจ�ำกัดความเพ่ิมเติมของค�ำว่า “แนวทางการให้คะแนน: Process Scoring Guidelines” ในหนา้ 70-73 Trends: แนวโนม้ คำ� ว่า “แนวโนม้ ” หมายถึง สารสนเทศทีเ่ ปน็ ตัวเลข ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นทิศทางและอัตรา การเปล่ียนแปลงของผลลัพธ์ของสถาบัน หรือความคงเส้นคงวาของผลการด�ำเนินการ ในแตล่ ะช่วงเวลา แนวโน้มแสดงผลการด�ำเนินการของสถาบนั ตามล�ำดบั เวลา โดยทั่วไป การแสดงแนวโน้มได้จะต้องมีข้อมูลในอดีตอย่างน้อยสามจุด (ไม่รวม ค่าคาดการณ์) ทั้งนี้ในทางสถิติ อาจจ�ำเป็นต้องแสดงจ�ำนวนข้อมูลมากกว่านี้เพื่อยืนยัน แนวโนม้ ระยะหา่ งระหวา่ งจดุ ขอ้ มลู ทแี่ สดงแนวโนม้ ขนึ้ กบั รอบเวลาของกระบวนการทนี่ ำ� เสนอ หากรอบเวลาส้ัน ต้องมกี ารวดั ถข่ี ้นึ ในขณะทรี่ อบเวลาทีย่ าวกวา่ อาจต้องใชช้ ว่ งเวลานาน จึงจะ ทราบแนวโนม้ ทีส่ ่ือความหมายได้ชดั เจน ตัวอย่างของแนวโน้มท่ีก�ำหนดไว้ในเกณฑ์ EdPEx นี้ ครอบคลุมถึงผลลัพธ์ด้านการ เรียนรู้ของผ้เู รยี น ผลลพั ธ์เกยี่ วกับความพึงพอใจและไม่พงึ พอใจของผเู้ รยี น ลูกค้ากลุ่มอ่นื และ ของบคุ ลากร ผลการดำ� เนนิ ดา้ นการเงนิ และงบประมาณ ดา้ นตลาด และดา้ นการปฏบิ ตั กิ าร เชน่ รอบเวลาและผลติ ภาพของกระบวนการจดั การหลักสูตรและการให้บรกิ าร
122 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการด�ำ เนินการที่เปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 Value: คุณค่า คำ� วา่ “คณุ คา่ ” หมายถงึ การยอมรบั ในความคมุ้ คา่ ของหลกั สตู ร บรกิ าร กระบวนการ สินทรัพย์ หรือการใชง้ าน เมื่อเทียบกบั ต้นทุนคา่ ใช้จา่ ยและทางเลอื กอื่น ๆ ทีม่ ี สถาบนั มกั จะ พจิ ารณาคณุ คา่ เพอ่ื ประเมนิ ผลประโยชนข์ องทางเลอื กตา่ งๆ เมอื่ เทยี บกบั คา่ ใชจ้ า่ ยเชน่ คณุ คา่ ของทง้ั หลกั สตู รและบรกิ ารโดยรวมในมมุ มองของผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื สถาบนั ตอ้ งเขา้ ใจวา่ อะไรคือคุณคา่ ที่ผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี กลุ่มตา่ ง ๆ ให้ความสำ� คัญ เพ่อื ส่งมอบคณุ คา่ ใหเ้ หมาะสม กับแต่ละกลุ่ม ในการนี้จ�ำเป็นต้องสร้างสมดุลของคุณค่าต่อลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอ่ืนๆ เช่น บุคลากร และชมุ ชน Values: คา่ นยิ ม คำ� วา่ “คา่ นยิ ม” หมายถงึ หลกั การทช่ี น้ี �ำและพฤตกิ รรมทหี่ ลอ่ หลอมวถิ ที างทสี่ ถาบนั และบุคลากรพึงปฏิบัติ ค่านิยมสะท้อนและเสริมสร้างวัฒนธรรมท่ีพึงประสงค์ของสถาบัน ค่านิยมสนับสนุนและชี้น�ำการตัดสินใจของบุคลากรทุกคน ช่วยให้สถาบันบรรลุพันธกิจและ วิสัยทัศน์ด้วยวิธีการที่เหมาะสม ตัวอย่างของค่านิยมอาจรวมถึงการแสดงถึงความมีคุณธรรม และความยุติธรรมในการปฏิสัมพันธ์ทุกกรณี การท�ำให้เหนือความคาดหมายของผู้เรียน และลกู คา้ กลมุ่ อนื่ การใหค้ ณุ คา่ ตอ่ แตล่ ะบคุ คลและตอ่ ความหลากหลาย การปกปอ้ งสง่ิ แวดลอ้ ม และความมานะบากบน่ั เพื่อให้มผี ลการด�ำเนนิ การทีเ่ ปน็ เลศิ ทุกเมอื่ เช่ือวนั Vision: วสิ ยั ทศั น์ คำ� วา่ “วสิ ยั ทัศน์”หมายถงึ สภาวะท่สี ถาบนั ตอ้ งการเป็นในอนาคต วสิ ยั ทศั นอ์ ธบิ าย ถึงทิศทาง ท่ีสถาบันจะมุ่งไป ส่ิงที่สถาบันต้องการจะเป็น หรือภาพลักษณ์ในอนาคตท่ีสถาบัน ต้องการใหผ้ ูอ้ ื่นรับรู้ Voice of the Customer: เสียงของลกู คา้ ค�ำว่า “เสียงของลูกค้า”หมายถึง กระบวนการรวบรวมสารสนเทศท่ีเกี่ยวข้องกับ ผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่น กระบวนการเหล่านี้ควรจะเป็นเชิงรุกและมีนวัตกรรมอย่างต่อเน่ือง เพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามตอ้ งการ ความคาดหวงั และความประสงค์ (ทง้ั ทร่ี ะบอุ ยา่ งชดั เจน ไมไ่ ดร้ ะบแุ ละ ที่คาดการณ์ไว้) ของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ความผูกพันของลูกค้า การรบั ฟงั “เสยี งของลกู คา้ ” อาจรวมถงึ การรวบรวมและบรู ณาการขอ้ มลู ชนดิ ตา่ งๆ ของผเู้ รยี น และลกู ค้ากลมุ่ อ่นื เช่น ขอ้ มลู จากการส�ำรวจ ข้อมูลจากการสนทนากลุม่ ข้อคิดเหน็ ในเว็บไซต์ ข้อมูลความพึงพอใจและข้อร้องเรียนที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในการสานสัมพันธ์และ สร้างความผกู พันของผเู้ รยี นและลกู ค้ากล่มุ อน่ื
เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนินการที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 123 Work Processes: กระบวนการท�ำงาน คำ� วา่ “กระบวนการท�ำงาน”หมายถงึ กระบวนการสรา้ งคณุ ค่าท่ีส�ำคัญท่ีสดุ ภายใน สถาบนั ซงึ่ อาจรวมถงึ กระบวนการการออกแบบและการจดั การเรยี นการสอนตามหลกั สตู รการ บริการ การสนับสนุนผูเ้ รียน กระบวนการทางธรุ กจิ และกระบวนการสนบั สนนุ “กระบวนการ ทำ� งาน” เป็นกระบวนการ ซึง่ เก่ยี วขอ้ งกับบุคลากรสว่ นใหญข่ องสถาบนั กระบวนการท�ำงานทสี่ �ำคญั ของสถาบันมักจะสมั พันธ์กับ 1) สมรรถนะหลักของสถาบัน 2) ปัจจัยท่ีก�ำหนดความส�ำเร็จเมื่อเทียบกับคู่แข่งและสถาบันอ่ืนท่ีจัดหลักสูตรและบริการ ในลักษณะเดียวกัน และ 3) ปจั จยั ทผี่ นู้ ำ� ระดบั สงู ได้พจิ ารณาแล้วว่ามีความส�ำคัญต่อการเตบิ โต ของสถาบนั กระบวนการทำ� งานหลกั ของสถาบนั ควรจะตอ้ งดำ� เนนิ การโดยบคุ ลากรของสถาบนั Work Systems: ระบบงาน คำ� วา่ “ระบบงาน” หมายถงึ วธิ กี ารทสี่ ถาบนั ใชเ้ พอื่ ท�ำงานใหบ้ รรลผุ ล ระบบงานตอ้ ง อาศยั การมสี ว่ นรว่ มของบคุ ลากร ผสู้ ง่ มอบและคคู่ วามรว่ มมอื อยา่ งเปน็ ทางการทสี่ �ำคญั ผรู้ บั จา้ ง คู่ความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการ และองค์ประกอบอ่ืนๆ ของห่วงโซ่อุปทานที่จ�ำเป็นใน การผลิตและด�ำเนินการตามหลักสูตร และบริการ รวมท้ังการด�ำเนินกระบวนการธุรกิจ และกระบวนการสนบั สนนุ ตา่ งๆ ระบบงานจะตอ้ งประสานกระบวนการภายในกบั ทรพั ยากร ภายนอกทจ่ี �ำเปน็ เพอ่ื พฒั นาและผลติ หลกั สตู รและบรกิ าร สง่ มอบใหผ้ เู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื และประสบความส�ำเร็จในตลาด การตัดสินใจเก่ียวกับระบบงานเป็นเร่ืองเชิงกลยุทธ์ ซ่ึงครอบคลุมถึงการปกป้องและ การใช้ประโยชน์จากสมรรถนะหลักของสถาบัน และตัดสินใจว่าสิ่งใดที่สถาบันควรจัดจ้าง หรือดำ� เนินการภายนอกสถาบนั เพ่อื ให้เกิดประสทิ ธภิ าพและความยง่ั ยนื ของสถาบนั Workforce: บคุ ลากร คำ� วา่ “บคุ ลากร”หมายถงึ บคุ ลากรทงั้ หมดทสี่ ถาบนั ก�ำกบั ดแู ลและมสี ว่ นรว่ มโดยตรง ในการท�ำให้งานของสถาบันบรรลุผลส�ำเร็จ รวมถึงคณาจารย์และพนักงานท่ีสถาบันจ้าง (เชน่ พนกั งานประจ�ำ พนกั งานทท่ี �ำงานไมเ่ ตม็ เวลา พนกั งานชว่ั คราว พนกั งานทท่ี �ำงานจาก ระยะไกลโดยใชก้ ารส่อื สารโทรคมนาคม (Telecommuting) คณาจารยแ์ ละพนักงานที่ได้รับ การว่าจ้างตามสัญญาภายใต้การก�ำกับดแู ลของสถาบัน) และอาสาสมคั ร (*) บุคลากร หมายถึง ผู้บริหารและหวั หน้างานทกุ ระดบั
124 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนินการท่เี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 Workforce Capability: ขีดความสามารถของบุคลากร คำ� วา่ “ขดี ความสามารถของบคุ ลากร” หมายถงึ ความสามารถของสถาบนั ทจ่ี ะท�ำให้ กระบวนการต่างๆ บรรลุผลส�ำเร็จโดยอาศัย ความรู้ ทักษะ ความสามารถ และสมรรถนะ ของคนในสถาบนั ขีดความสามารถน้ีอาจรวมถึงความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับ ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื การสรา้ งนวตั กรรมและการเปลย่ี นผา่ นไปสเู่ ทคโนโลยใี หม่ ๆ การพฒั นา หลักสูตร บริการและกระบวนการท�ำงานใหม่ ๆ รวมทง้ั ตอบสนองต่อความตอ้ งการของตลาด และกฎระเบียบขอ้ บงั คับดา้ นการศึกษาท่ีเปลี่ยนแปลงอยเู่ สมอ Workforce Capacity: อตั ราก�ำลังของบคุ ลากร ค�ำวา่ “อตั ราก�ำลังของบคุ ลากร”หมายถึง ความสามารถของสถาบันทจ่ี ะท�ำใหม้ ่ันใจ วา่ มจี �ำนวนผูป้ ฏิบัติงานทพ่ี อเพยี งในด�ำเนินการตามกระบวนการท�ำงาน และประสบความ ส�ำเร็จในการจัดหลักสูตร และบริการ ให้แก่ผู้เรียน รวมท้ังความสามารถในการตอบสนอง ตามความตอ้ งการก�ำลังคนตามชว่ งเวลาหรือตามความจ�ำเปน็ ทแ่ี ปรเปลย่ี นไป Workforce Engagement: ความผกู พนั ของบคุ ลากร ค�ำวา่ “ความผกู พันของบคุ ลากร”หมายถงึ ระดบั ความมงุ่ มัน่ ของบคุ ลากรทง้ั ในด้าน จิตใจและสติปัญญา เพ่ือให้งานส�ำเร็จบรรลุพันธกิจและวิสัยทัศน์ของสถาบัน องค์การที่ บุคลากรมีความผกู พันสงู มักจะมีบรรยากาศการทำ� งานทสี่ ง่ ให้เกดิ ผลการปฏิบตั ิงานทดี่ ี ทำ� ให้ บคุ ลากรมแี รงจงู ใจทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเตม็ ทเี่ พอ่ื ประโยชนข์ องผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ และความ ส�ำเรจ็ ของสถาบนั โดยท่ัวไปบุคลากรจะรู้สึกผูกพันกับสถาบัน เม่ือมีแรงจูงใจและได้ท�ำงานที่มีความหมาย และเม่ือได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ร่วมงานและในที่ท�ำงาน บุคลากรที่มีความผูกพันต่อ สถาบัน จะได้ประโยชนจ์ ากความสมั พันธบ์ นพน้ื ฐานของความไว้เนื้อเชือ่ ใจกนั มสี ภาพแวดลอ้ ม ท่ีปลอดภัยและมีความร่วมมือร่วมใจกัน มีการสื่อสารและการแลกเปล่ียนสารสนเทศท่ีดี อำ� นาจในการตดั สินใจ และมีความรับผิดชอบตอ่ ผลการท�ำงานของตน ปัจจยั แหง่ ความส�ำเรจ็ ที่ สง่ ผลใหเ้ กดิ ความผกู พนั ครอบคลมุ ถึง การฝกึ อบรมและการพัฒนาความกา้ วหน้าในการท�ำงาน ระบบการยกยอ่ งชมเชยและการใหร้ างวลั ทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ล โอกาสทเ่ี ทา่ เทยี มกนั และการไดร้ บั การ ปฏิบัตอิ ย่างเปน็ ธรรม รวมทัง้ การมีไมตรจี ติ ตอ่ ครอบครวั ของบุคลากร
ภาคผนวก
126 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการด�ำ เนนิ การทีเ่ ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ค�ำอธบิ ายเกณฑร์ ายหัวข้อ รายละเอยี ดทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั เกณฑ์ EdPEx ในส่วนนี้สรปุ รายละเอียดของแตล่ ะหมวดและ หวั ขอ้ รวมทง้ั แสดงตวั อยา่ งและคำ� แนะนำ� เพอื่ เสรมิ หมายเหตทุ แ่ี สดงในตอนทา้ ยของแตล่ ะหวั ขอ้ อาจหาขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ ไดจ้ ากwww.edpex.org และ www.nist.gov/baldrige/publications/ education_criteria.cfm โครงร่างองคก์ ร โครงรา่ งองคก์ ร แสดงเคา้ โครงทช่ี ว่ ยใหเ้ ขา้ ใจสถาบนั ไดด้ ขี นึ้ และยงั ชว่ ยชน้ี ำ� และจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ของสารสนเทศทสี่ ถาบนั น�ำเสนอในหวั ขอ้ ของหมวด 1-7 โครงร่างองค์การจะท�ำให้สถาบันเข้าใจลึกซ้ึงเกี่ยวกับปัจจัยภายในและภายนอกท่ีส�ำคัญ ซ่ึงก�ำหนดสภาพแวดล้อมในการด�ำเนินการ ปัจจัยเหล่าน้ี ได้แก่ พันธกิจ วิสัยทัศน์ ค่านิยม สมรรถนะหลัก สภาพแวดล้อมในการแข่งขัน ความทา้ ทายและความได้เปรยี บเชงิ กลยทุ ธ์ มผี ล กระทบตอ่ การด�ำเนนิ การและการตดั สนิ ใจของสถาบนั ดงั นนั้ โครงรา่ งองคก์ ารจึงชว่ ยใหส้ ถาบนั เขา้ ใจเร่อื งตอ่ ไปนีไ้ ดด้ ขี น้ึ ● บริบทของการด�ำเนนิ การของตนเอง ● เรื่องส�ำคัญที่สถาบันต้องด�ำเนินการเพ่ือให้ประสบความส�ำเร็จ ท้ังในปัจจุบันและใน อนาคต ● ความจำ� เป็น โอกาส และข้อจำ� กัดทสี่ ง่ ผลต่อระบบการบริหารจดั การของสถาบัน P.1 ลกั ษณะองค์การ จดุ ประสงค์ หวั ขอ้ นเี้ นน้ ถงึ คณุ ลกั ษณะและความสมั พนั ธท์ ส่ี ำ� คญั ทกี่ ำ� หนดสภาพแวดลอ้ มของสถาบนั จุดประสงค์ของหวั ข้อน้ี คอื การก�ำหนดบริบทส�ำหรบั สถาบนั ขอ้ สังเกต เข้าใจสถาบันของท่าน การใช้ศัพทต์ ่างๆ เช่น “จุดประสงค์ “วิสัยทัศน”์ “พันธกิจ” “ค่านิยม” และ “สมรรถนะหลัก” มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบัน บางสถาบันอาจ ไมใ่ ชศ้ ัพท์ดงั กลา่ วบางค�ำ อย่างไรกต็ าม สถาบันต้องเขา้ ใจอย่างชัดเจนถงึ แกน่ สารท่สี ำ� คญั ของ สถาบนั ภารกิจหลกั ที่ทำ� ใหต้ อ้ งมีสถาบนั นอ้ี ยู่ และเป้าหมายทผ่ี นู้ ำ� ระดบั สงู ต้องการใหส้ ถาบนั กา้ วไปถงึ ในอนาคต ความชดั เจนในเรอื่ งนจี้ ะชว่ ยใหส้ ถาบนั ตดั สนิ ใจเชงิ กลยทุ ธท์ มี่ ผี ลตอ่ อนาคต และนำ� ไปปฏบิ ัตติ อ่ ได้
เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพอื่ การดำ�เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 127 เขา้ ใจสมรรถนะหลักขององคก์ าร หัวใจของความยงั่ ยนื (ความส�ำเร็จทั้งในระยะส้นั และ ระยะยาว) และความสามารถในการแขง่ ขนั ของสถาบนั คอื การกำ� หนดสมรรถนะหลกั ทช่ี ดั เจนและ มคี วามเขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแทใ้ นเรอ่ื งดงั กลา่ ว การนำ� สมรรถนะหลกั ไปใชใ้ หเ้ หมาะสมจะสรา้ งความ แตกตา่ งในตลาด การรกั ษาสมรรถนะหลกั ของสถาบนั ใหท้ นั ตอ่ ทศิ ทางเชงิ กลยทุ ธท์ ำ� ใหเ้ กดิ ความ ไดเ้ ปรียบเชิงกลยุทธ์ และการปกปอ้ งทรัพยส์ ิน ทางปญั ญาที่เปน็ สว่ นหนึง่ ของสมรรถนะหลัก จะทำ� ใหอ้ งค์การประสบความสำ� เร็จในอนาคต เข้าใจสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบข้อบังคับขององค์การ สภาพแวดล้อมด้านกฎ ระเบียบข้อบังคับ เป็นตัวก�ำหนดข้อก�ำหนดต่างๆของการด�ำเนินการของสถาบันและวิธีการ ท่ีสถาบันใช้ในการบริหารจัดการ ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งส�ำคัญเพราะนอกจาก จะท�ำให้สามารถตัดสนิ ใจในเชงิ กลยุทธ์ และในการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งมปี ระสทิ ธิผลแลว้ ยงั ท�ำให้ สถาบันเหน็ ว่าได้ด�ำเนนิ การเพยี งเพอ่ื ให้เป็นไป ตามข้อกำ� หนดขัน้ ต่�ำของกฎหมาย กฎระเบยี บ ข้อบังคับ และมาตรฐานการปฏิบัติงาน หรือด�ำเนินการได้ดีกว่าข้อก�ำหนด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ อันโดดเด่น ที่บ่งบอกถึงความเป็นสถาบันการศึกษาช้ันน�ำและอาจกลายเป็นความได้เปรียบ ในอนาคต ระบุบทบาทและความสัมพันธ์ด้านการก�ำกับดูแล สถาบันการศึกษาชั้นน�ำจะมีระบบ การก�ำกับดูแลที่ก�ำหนดไว้เป็นอย่างดี โดยระบุช้ันการรายงานไว้อย่างชัดเจน ดังน้ันจึงจ�ำเป็น ต้องมีการก�ำหนดหน้าที่ของผู้น�ำระดับสูง และคณะกรรมการก�ำกับดูแล หรือคณะกรรมการ ที่ดูแลกำ� กับนโยบาย (*) และองคก์ ารแมไ่ ว้อยา่ งชดั เจน ความเปน็ อิสระและภาระรับผดิ ชอบ ของคณะกรรมการมกั เป็นประเด็นพจิ ารณาทส่ี �ำคญั ในโครงสร้างระบบการก�ำกบั ดูแลดังกลา่ ว เข้าใจบทบาทของผู้ส่งมอบ ในองค์การส่วนใหญ่ผู้ส่งมอบมีบทบาทอย่างยิ่งใน กระบวนการทสี่ �ำคญั ตอ่ การดำ� เนนิ การ และการรกั ษาระดบั หรอื บรรลถุ งึ ความไดเ้ ปรยี บเชงิ การ แขง่ ขนั ทย่ี งั่ ยนื ข้อกำ� หนดส�ำหรบั ผสู้ ่งมอบอาจรวมถงึ การส่งมอบทตี่ รงเวลาหรอื ทันการพอดี ความยดื หยนุ่ การจดั บคุ ลากรทผ่ี นั แปรได้ ความสามารถในการวจิ ยั และออกแบบ รวมทง้ั การสรา้ ง นวตั กรรมของกระบวนการ หลกั สตู ร และบรกิ ารอน่ื ๆ รวมถงึ บรกิ ารตามความตอ้ งการเฉพาะราย P.2 สภาวะการณ์ขององค์การ จดุ ประสงค์ หัวขอ้ นี้ ถามถึงสภาพแวดล้อมดา้ นการแขง่ ขันทสี่ ถาบันดำ� เนนิ งานอยู่ ความทา้ ทายและ ความไดเ้ ปรยี บเชงิ กลยทุ ธท์ ส่ี ำ� คญั ของสถาบนั และยงั ถามถงึ แนวทางทสี่ ถาบนั ใชใ้ นการปรบั ปรงุ ผลการด�ำเนินการและท�ำให้เกิดการเรียนรู้จุดประสงค์ของหัวข้อนี้ คือการช่วยให้สถาบันเข้าใจ
128 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพือ่ การด�ำ เนินการที่เปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ความทา้ ทายที่สำ� คญั ของสถาบัน และระบบการท�ำงาน เพ่อื สรา้ งและรักษาความไดเ้ ปรียบเชิง การแข่งขัน ข้อสงั เกต รู้จดุ แข็ง จดุ เปราะบาง และโอกาสขององค์กร ความรูใ้ นเรอ่ื งจดุ แข็ง จดุ เปราะบาง และ โอกาส ในการปรบั ปรงุ และการเตบิ โตของสถาบนั มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ตอ่ ความสำ� เรจ็ และความ ย่ังยืนของสถาบนั ความรู้ในเรอื่ งเหลา่ นช้ี ่วยท�ำใหส้ ถาบันสามารถก�ำหนด หลกั สตู รและบริการ อื่นๆ กระบวนการทำ� งาน สมรรถนะ และคณุ ลกั ษณะทีแ่ สดงผลการด�ำเนนิ การซง่ึ ● เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะของสถาบนั ● สรา้ งความแตกต่างจากสถาบนั อื่นๆ ● ชว่ ยรักษาความได้เปรยี บเชงิ การแขง่ ขนั ● สถาบนั ต้องพัฒนาเพือ่ สร้างหรอื รกั ษาต�ำแหน่งในตลาด รจู้ กั คแู่ ขง่ ของสถาบัน ความเขา้ ใจว่าคู่แขง่ คอื ใคร มีจ�ำนวนก่ีราย และมีคุณลกั ษณะท่ี ส�ำคญั อยา่ งไร เปน็ ส่งิ จำ� เปน็ อย่างย่งิ ในการก�ำหนดความไดเ้ ปรียบเชงิ การแขง่ ขันของสถาบันใน แวดวงการศึกษาและตลาด สถาบันการศึกษาชั้นน�ำมีความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงในสภาพแวดล้อม ดา้ นการแขง่ ขนั ในปัจจบุ ัน รวมถงึ การเปล่ียนแปลงหลกั ๆ ทีก่ �ำลงั เกดิ ขนึ้ แหลง่ ขอ้ มลู เชงิ เปรยี บเทยี บและเชงิ แขง่ ขนั อาจรวมถงึ วารสารและสง่ิ ตพี มิ พด์ า้ นการศกึ ษา รายงานระดบั ชาติ ภูมิภาค และทอ้ งถ่นิ การประชุมสัมมนา เครอื ข่ายในทอ้ งถิน่ และสมาคม วชิ าชพี ตา่ งๆ แหลง่ ขอ้ มลู เปรยี บเทยี บอนื่ ๆ อาจไดจ้ ากกจิ กรรมการเทยี บเคยี ง เชน่ คา่ มาตรฐาน ของประเทศหรือภาค เครือข่ายความร่วมมือการเทียบเคียงในระดับท้องถิ่นหรือระดับภูมิภาค หรอื กลมุ่ /หนว่ ยงานระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ ทดี่ ำ� เนนิ งานเพอ่ื ใหม้ น่ั ใจวา่ มรี ะบบตดิ ตามขอ้ มลู ระยะยาว ซง่ึ รายงานข้อมลู ท่ีใชก้ ารได้ดี ลงถึงระดบั ผู้เรียน แต่ละคน เข้าใจความท้าทายเชิงกลยุทธ์ขององค์การ การด�ำเนินการของสถาบันในบรรยากาศ ปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง หมายถึง สถาบันก�ำลังเผชิญกับความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อ ความสามารถในการคงผลการดำ� เนนิ งานไวแ้ ละรกั ษาความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั ความทา้ ทาย เหล่าน้อี าจจะรวมถึง ● การเปล่ียนแปลงด้านประชากรและสภาพการแข่งขัน เช่น โรงเรียนท่ีจัดการศึกษา แบบนอก ● ระบบ (charter school) ● การเพมิ่ หรือลดจ�ำนวนผเู้ รียน ● การคงสภาพผเู้ รยี น
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนนิ การทเ่ี ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 129 ● ต้นทนุ การด�ำเนนิ การ ● การปรับฐานการจดั เก็บภาษี หรอื การจัดสรรสู่ภาคการศกึ ษาทล่ี ดลง ● การเปล่ียนแปลงดา้ นประชากรและสภาพการแข่งขนั ● การนำ� เสนอโปรแกรมการศึกษา หลกั สตู ร และการบริการใหมห่ รือเพือ่ ทดแทน ● การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ● การมีค่แู ข่งใหม่เขา้ สู่ตลาด ● การเปล่ียนแปลงระเบยี บข้อบังคับของรัฐหรอื ท้องถนิ่ ● ความพร้อมของบุคลากรที่มีทกั ษะ ● การเกษียณของบคุ ลากร เข้าใจความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ขององค์การ ความเข้าใจเก่ียวกับความได้เปรียบ เชิงกลยุทธ์ มีความส�ำคัญพอๆกับความเข้าใจในเร่ืองความท้าทายเชิงกลยุทธ์ เพราะความ ได้เปรียบดังกล่าวเป็นแหล่งที่มาของความได้เปรียบในเชิงแข่งขันที่สถาบันสามารถน�ำมาใช้ เพ่ือให้เกิดประโยชน์เต็มท่ีและเพิ่มพูนความได้เปรียบดังกล่าวได้มากข้ึน โดยยังคงตอบสนอง ความท้าทายท่สี ำ� คญั อยา่ งตอ่ เน่อื ง ความไดเ้ ปรียบนอ้ี าจรวมถึง ● ช่อื เสียงในดา้ นคุณภาพของหลักสตู รและบรกิ าร ● ความเปน็ ผูน้ �ำดา้ นนวัตกรรมการศึกษา ● การเปน็ ท่ยี อมรบั ในเรอ่ื งการใหบ้ รกิ ารผู้เรียน ● ภาพลกั ษณแ์ ละการรับรูข้ องสังคม ● ความคลอ่ งตวั ● การใช้และปกป้องสภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติอยา่ งมคี วามรับผดิ ชอบ (Environmental stewardship) ● ความรับชอบต่อสงั คม การให้ชุมชนเข้ามามสี ว่ นรว่ ม เตรียมพร้อมต่อการปรับเปล่ียนเทคโนโลยีอย่างพลิกโฉม การไม่ได้เตรียมพร้อมต่อ การปรบั เปลย่ี นเทคโนโลยอี ยา่ งพลกิ โฉม จดั เปน็ ความทา้ ทายทมี่ คี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ซ่ึงคุกคามต่อต�ำแหน่ง ในการแข่งขันหรือตลาดของสถาบัน ตัวอย่างในอดีตของการปรับ เปล่ียนเทคโนโลยีอย่างฉีกแนวดังกล่าว ได้แก่ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มาแทนเคร่ืองพิมพ์ดีด โทรศัพท์มอื ถอื ที่กำ� ลงั มาแทนที่โทรศพั ทบ์ ้านและโทรศัพท์สาธารณะ เคร่อื งโทรสารทแี่ ย่งธุรกิจ จากบรกิ ารการส่งเอกสารข้ามคนื และจดหมายอิเลคทรอนิกส์ สอื่ สงั คมออนไลน์ และ smart phone ท่ีมาแทนท่วี ธิ กี ารติดต่อประเภทอ่นื ๆ ท้ังหมด ปจั จุบนั สถาบนั ต้องมกี ารสำ� รวจสภาพ แวดล้อมทั้ง ภายในและภายนอกวงการศึกษาอย่างสม่�ำเสมอ เพื่อให้ค้นพบความท้าทายเหล่า นน้ั ในระยะแรก ท่ีสดุ เท่าท่จี ะเป็นไปได้
130 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนนิ การท่ีเป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 การน�ำองคก์ าร (หมวด 1) หมวดการน�ำองค์การถามถึงวิธีการที่ผู้น�ำระดับสูงปฏิบัติด้วยตัวเอง และวิธีการท่ีระบบ การก�ำกับดูแลของสถาบัน ชน้ี �ำและท�ำให้สถาบนั มคี วามย่ังยนื 1.1 การน�ำองคก์ ารโดยผู้น�ำระดบั สงู จดุ ประสงค์ หัวข้อนี้ถามถึงประเด็นความรับผิดชอบท่ีส�ำคัญของผู้น�ำระดับสูงโดยมีเป้าหมาย คือความยงั่ ยนื ของสถาบนั (ประสบความส�ำเรจ็ ท้ังในปัจจบุ นั และอนาคต) ข้อสงั เกต บทบาทของผู้น�ำระดับสูง ผู้น�ำระดับสูงมีบทบาทหลักในการก�ำหนดค่านิยมและ ทศิ ทางการสอ่ื สาร การสรา้ งคณุ คา่ และทำ� ใหเ้ กดิ สมดลุ ระหวา่ งคณุ คา่ สำ� หรบั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทกุ ฝา่ ย และทำ� ใหส้ ถาบนั เกดิ การปฏบิ ตั กิ ารอยา่ งจรงิ จงั รวมถงึ การพลกิ โฉม (transformational change) โครงสรา้ งและวฒั นธรรมองคก์ ารถา้ จำ� เปน็ ความสำ� เรจ็ ของสถาบนั ตอ้ งอาศยั การมอง การณไ์ กล และความม่งุ ม่นั ใหเ้ กดิ การปรับปรงุ การสรา้ งนวัตกรรม ความเส่ยี งท่ีน่าลงทุน และ ความยั่งยนื (ประสบความส�ำเร็จท้ังในปัจจุบันและอนาคต) ของสถาบนั ซ่งึ ตอ้ งอาศยั การสรา้ ง บรรยากาศเพ่ือให้เกิดการมอบอ�ำนาจในการตัดสินใจ ความคล่องตัว การเปลี่ยนแปลงและ การเรยี นร้ใู นระดบั องคก์ ารที่มากยง่ิ ขน้ึ เรอื่ ยๆ ผู้บริหารระดับสูงที่เป็นต้นแบบ ในสถาบันท่ีได้รับการยกย่องอย่างสูงนั้น ผู้น�ำ ระดบั สงู จะมคี วามมงุ่ มน่ั ในการสรา้ งวฒั นธรรมทส่ี รา้ งความผกู พนั กบั ลกู คา้ พฒั นาผนู้ ำ� ในอนาคต ของสถาบนั ใหร้ างวลั และยกยอ่ งชมเชยผลงานของบคุ ลากร ผนู้ ำ� ระดบั สงู ตอ้ งสรา้ งความผกู พนั ด้วยตนเองกับผู้เรียนและลูกค้าหลักกลุ่มอื่น รวมท้ังยกระดับทักษะด้านการน�ำของตนเอง เข้าร่วมในการเรียนรู้ระดับองค์การ การพัฒนาผู้น�ำในอนาคต การวางแผนสืบทอดต�ำแหน่ง และการเขา้ รว่ มในโอกาสและกจิ กรรมตา่ งๆ ในการยอ่ งชมเชยบคุ ลากรการพฒั นาผนู้ ำ� ในอนาคต อาจรวมถึงการสอนงาน หรือการเข้าร่วมในหลักสูตรการพัฒนาผู้น�ำสถาบัน เมื่อมีเหตุผล อันสมควร ผู้น�ำที่ เป็นแบบอย่างท่ีดี ต้องเห็นความจ�ำเป็นของการเปล่ียนแปลงแบบพลิกโฉม และนำ� การเปลี่ยนแปลงดงั กล่าวให้เกดิ ประโยชน์อย่างเต็มที่ 1.2 การก�ำกบั ดแู ลและความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม จดุ ประสงค์ หัวขอ้ น้ีถามถึงประเดน็ ส�ำคญั ๆ ในระบบการกำ� กบั ดแู ล รวมถงึ การปรับปรงุ ผูน้ �ำ และระบบการนำ� องคก์ าร วธิ กี ารทที่ ำ� ใหม้ น่ั ใจวา่ บคุ ลากรทกุ คนไดป้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย
เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การดำ�เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 131 และจริยธรรม รวมทั้งวิธกี าร ทีท่ �ำให้สถาบันบรรลุผลดา้ นความรบั ผิดชอบต่อสังคม และการ สนับสนุนชมุ ชนทสี่ ำ� คัญ ขอ้ สังเกต การก�ำกับดูแลของสถาบัน หัวข้อน้ีเน้นว่าสถาบันต้องมีคณะกรรมการหรือที่ ปรกึ ษาดา้ นการกำ� กบั ดแู ลทรี่ บั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี รบั รเู้ ขา้ ใจ มคี วามโปรง่ ใส รวมทงั้ มภี าระรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ เพอื่ ใหส้ ามารถปกปอ้ งผลประโยชนข์ องผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทส่ี �ำคญั ได้ คณะกรรมการดงั กล่าวควรมีอิสระในการทบทวนและตรวจสอบสถาบัน รวมทั้งการประเมนิ ผล โดยการตรวจตดิ ตามผลการดำ� เนินการของสถาบนั และผู้น�ำระดบั สูง การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย จริยธรรม และความเสีย่ ง ในการจดั การและปรับปรงุ ผลการดำ� เนนิ การนั้นจ�ำเปน็ ตอ้ งมกี ารดำ� เนินการเชิงรุกในด้าน (1) การประพฤตปิ ฏบิ ัตอิ ย่างมีจริยธรรม (2) การปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บข้อบงั คบั และกฎหมาย ความปลอดภยั การรับรอง มาตรฐานที่เกย่ี วขอ้ งทง้ั หมด และ (3) ปจั จัยเสี่ยงต่างๆ การทจ่ี ะมผี ลการดำ� เนนิ การทด่ี ใี นเรอ่ื งดงั กลา่ วไดน้ นั้ สถาบนั ตอ้ งกำ� หนดตวั วดั หรอื ตวั ชว้ี ดั ทเ่ี หมาะสมทผี่ นู้ ำ� ระดบั สงู ใชใ้ นการตดิ ตามดู นอกจากนส้ี ถาบนั ควรไวตอ่ ความกงั วลของ สงั คม ไมว่ า่ ประเดน็ ดงั กลา่ วจะถกู กำ� หนดไวใ้ นกฎหมายหรอื ระเบยี บขอ้ บงั คบั หรอื ไม่ สถาบนั ท่ี เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ตี อ้ งพยายามใหม้ คี วามเปน็ เลศิ ดา้ นประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและจรยิ ธรรม ในดา้ นต่าง ๆ ความกังวลของสังคม สถาบันการศึกษาท่ีเป็นของรัฐหรือสถาบันการศึกษาที่ ไม่แสวงหาก�ำไรควรคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของสังคม ซึ่งรวมถึงต้นทุนของหลักสูตร บริการอ่ืนๆ และระบบปฏิบัติการ ความเท่าเทียมและการเข้าถึงได้อย่างทันการณ์ รวมท้ังมุม มองของสังคมต่อการดูแลทรพั ยากรของสถาบัน การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ การอนรุ ักษ์อาจดำ� เนนิ การโดยการใช้เทคโนโลยี ทเ่ี ปน็ มติ รกับสิ่งแวดล้อม การลด carbon footprint การทดแทนสารเคมีอนั ตรายด้วยสารที่ ละลายนำ�้ ได้ การอนุรักษพ์ ลงั งาน และการใชพ้ ลงั งานแหลง่ สะอาดหรอื การนำ� ผลิตผลพลอยได้ (by product) หรือของเสียกลับมาใชใ้ หม่ (*) ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม มคี วามหมายมากกวา่ การท�ำตามกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั เท่าน้ัน สถาบัน ไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็กมีโอกาสที่จะมุ่งเน้นและส่งเสริมระบบท่ีดีท้ังในด้าน
132 เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การท่เี ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 ส่ิงแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ทส่ี ถาบันอาจชว่ ยเหลอื ได้ รวมทง้ั มีโอกาสในการสนบั สนนุ ชุมชนที่ส�ำคัญ ระดับและขอบเขตของการช่วยเหลือจะขึ้นกับขนาดและความสามารถของ องคก์ าร ในปจั จุบันน้ี การตัดสินใจท่ีจะทำ� งานรว่ มกับองคก์ ารใดๆ มแี นวโน้มที่จะพจิ ารณาถึง ความรับผดิ ชอบต่อสังคมขององคก์ ารนัน้ มากข้นึ เร่ือยๆ การสนบั สนุนชมุ ชน สถาบันควรพจิ ารณาการเขา้ ไปมีสว่ นรว่ มกับชมุ ชนในเรือ่ งท่ี เกี่ยวข้องกับสมรรถนะหลักของสถาบนั ตัวอย่างเชน่ ● การที่สถาบันร่วมมือกับภาคธุรกิจและองค์การอ่ืนๆในชุมชน เพ่ือเพ่ิมโอกาส ทางการศกึ ษา ผใู้ หญแ่ ก่คนทำ� งาน หรือชมุ ชน ● ความพยายามของสถาบัน ผูน้ �ำระดบั สงู คณาจารย์ และบุคลากร ในการเสริม สรา้ งความเขม้ แขง็ และ/หรอื ปรบั ปรงุ การบรกิ ารชมุ ชน สภาพแวดลอ้ ม สมาคม กีฬา/กรฑี า และสมาคมวชิ าชพี ต่างๆ ● การมีส่วนร่วมกับชุมชน อาจหมายรวมถึงการที่สถาบันให้โอกาสนักศึกษา มสี ว่ นร่วมในการบริการสงั คมดว้ ย กลยทุ ธ์ (หมวด 2) หมวดน้ี ถามถึงวิธีท่ีสถาบันพัฒนาวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ น�ำแผน ปฏิบัติการไปด�ำเนนิ การและปรับเปลี่ยนเม่ือเกิดความจ�ำเปน็ รวมท้ังวดั ความก้าวหน้า หมวดน้ีเน้นว่า ความส�ำเร็จของสถาบันในระยะยาวและสภาพแวดล้อมด้านการแข่งขัน เปน็ ประเดน็ กลยทุ ธส์ ำ� คญั ทต่ี อ้ งบรู ณาการเขา้ กบั การวางแผนภาพรวมการดำ� เนนิ การของสถาบนั การตัดสินใจเรื่องสมรรถนะหลักและระบบงานของสถาบันเป็นอีกเรื่องท่ีต้องบูรณาการ เพื่อ ให้มั่นใจถึงความย่ังยืนของสถาบัน(ความส�ำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต) ดังน้ัน การตัดสินใจ ดงั กล่าว จงึ เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธท์ ี่สำ� คญั ในขณะที่หลายสถาบันมีความช�ำนาญในการวางแผนกลยุทธ์มากข้ึนเร่ือยๆ แต่ความ ท้าทายท่ีส�ำคัญยังคงเป็นเรื่องการน�ำแผนไปปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในสถานการณ์ที่ตลาด ผลกั ดนั ใหส้ ถาบนั มคี วามคลอ่ งตวั และพรอ้ มรบั มอื กบั การเปลยี่ นแปลงทมี่ ไิ ดค้ าดคดิ เชน่ สภาวะ เศรษฐกิจท่ีผันผวน หรือเทคโนโลยีท่ีพลิกโฉมซึ่งสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดที่ก�ำลัง เตบิ โตอยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ เคยคาดการณไ์ ด้ หวั ขอ้ นแี้ สดงใหเ้ หน็ อยา่ งชดั เจนวา่ มคี วามจำ� เปน็ ในการ มงุ่ เนน้ ท้ังการพฒั นาแผน และขดี ความสามารถในการปฏบิ ัตติ ามแผนของสถาบนั เกณฑ์ EdPEX นี้เน้นความเป็นเลิศ 3 ด้านหลักซ่ึงมีความส�ำคัญต่อการวางแผนเชิง กลยทุ ธ์ ได้แก่
เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 133 ● ความเปน็ เลิศทีม่ งุ่ เน้นผ้เู รยี น เป็นมมุ มองเชิงกลยุทธ์ของความเป็นเลิศ การมุง่ เน้นนี้ อยู่ท่ีกลไกในการผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ของผู้เรียน ความผูกพันของผู้เรียนและ ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ รวมทงั้ สว่ นแบง่ ตลาด ซงึ่ เปน็ ปจั จยั ทสี่ ำ� คญั ตอ่ ความสำ� เรจ็ ของสถาบนั ในระยะยาว ● การปรบั ปรงุ ผลการดำ� เนนิ การและนวตั กรรมสง่ ผลตอ่ การเพมิ่ ผลติ ภาพทงั้ ในระยะสนั้ และระยะยาว และการควบคมุ ตน้ ทนุ การเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถในการปฏบิ ตั กิ าร เชน่ ความรวดเรว็ ความฉบั ไวในการตอบสนอง และความยดื หยนุ่ นน้ั เปน็ การลงทนุ ท่เี สริมความพร้อมให้กบั สถาบนั ● ในสภาพแวดลอ้ มทเี่ ปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ในปจั จบุ นั สถาบนั จำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนนิ การ เชงิ กลยทุ ธ์ เพ่อื ให้เกดิ การเรยี นร้รู ะดบั สถาบันและการเรยี นรขู้ องบคุ ลากร เกณฑน์ ี้ เนน้ วา่ ตอ้ งปลกู ฝงั การปรบั ปรงุ และการเรยี นรใู้ หเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการทำ� งาน ความส�ำคัญของการวางแผนเชิงกลยุทธ์ คือ การท�ำให้ระบบงานและโครงการริเริ่ม ต่างๆ ท่ีท�ำใหเ้ กดิ การเรยี นรูส้ อดคล้องไปในแนวทางเดยี วกบั ทิศทางเชิงกลยทุ ธข์ อง สถาบัน ด้วยวิธีน้ีจึงจะท�ำให้ม่ันใจได้ว่า การปรับปรุงและการเรียนรู้ได้เตรียมและ เสรมิ สรา้ งสถาบันให้พรอ้ มรบั มือกบั เรอ่ื งท่มี ีความสำ� คัญ หมวดน้ถี ามถึงวธิ ีทสี่ ถาบนั ด�ำเนนิ การในเร่ือง ● การพจิ ารณาองคป์ ระกอบสำ� คญั ในกระบวนการวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ ซงึ่ รวมถงึ โอกาส ความท้าทาย และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ รวมท้ัง ความจ�ำเป็นที่ต้องมีการ เปลยี่ นแปลงแบบพลกิ โฉมของโครงสรา้ งและวฒั นธรรมองค์การ ● การใช้ทรัพยากรใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด การทำ� ใหม้ ่ันใจว่าผปู้ ฏิบตั ิงานทมี่ ีทักษะและ ผ่านการเตรียมความพร้อมมาอย่างดีมีจ�ำนวนพอเพียง การสร้างความเชื่อมโยง ระหว่างความต้องการระยะส้ันและระยะยาว ซ่ึงอาจรวมถึงการลงทุน การพัฒนา หรือจัดหาเทคโนโลยี การพัฒนา ผู้ส่งมอบและการสร้างคู่ความร่วมมือทั้งท่ีเป็น ทางการหรือไม่เปน็ ทางการรายใหม่ ● การทำ� ให้ม่ันใจว่าการนำ� แผนไปปฏบิ ตั อิ ย่างมีประสิทธผิ ล คือ มีกลไกในการส่ือสาร ความตอ้ งการและ ทำ� ให้มีความความสอดคลอ้ งไปในแนวทางเดยี วกัน ทัง้ 3 ระดับ ได้แก่ (1) ระดับสถาบันและผู้บริหารระดับสงู (2) ระดบั ของระบบงานและกระบวนการท�ำงานที่ส�ำคัญ (3) ระดบั หนว่ ยงาน ภาควชิ า คณะวิชา ชั้นเรยี น และระดับบคุ คล
134 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพือ่ การด�ำ เนินการท่เี ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ข้อก�ำหนดในหมวดนี้ กระตุ้นให้คิดและปฏิบัติในเชิงกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาพ้ืนฐานท่ีจะน�ำ ไปสู่ความเป็นผ้นู �ำทีโ่ ดดเดน่ ในวงการของสถาบนั ขอ้ ก�ำหนดนไี้ มไ่ ด้หมายความว่าจะตอ้ งมฝี า่ ย วางแผน หรือวงรอบของการวางแผนที่กำ� หนดตายตวั หรอื ตอ้ งมีวิธกี ารเฉพาะในการมองภาพ อนาคต รวมท้ังไม่ได้หมายความว่าการปรับปรุงให้ดีข้ึนน้ัน ต้องหรือควรมีการวางแผนไว้ล่วง หน้าได้ท้ังหมด ระบบการปรับปรุงท่ีมีประสิทธิผลเกิดจากการผสมผสานการปรับปรุงในหลาย รูปแบบและความเข้มข้นของการมีส่วนร่วม ซ่ึงต้องมีแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะ อย่างย่ิงเมื่อต้องจัดสรรทรัพยากรที่จ�ำกัดให้กับแผนการปรับปรุงที่หลากหลาย รวมถึงการ เปล่ียนแปลงขนานใหญห่ รือนวัตกรรม ส่วนใหญ่การจัดลำ� ดับความส�ำคัญมักค�ำนึงถึงความสม เหตสุ มผลด้านตน้ ทุน โอกาส และภยั คกุ คามเป็นหลกั อย่างไรก็ตามสถาบันยังอาจมขี อ้ กำ� หนด ที่มีความส�ำคัญอ่ืนๆ เช่น ความต้องการจ�ำเพาะของผู้เรียนหรือความรับผิดชอบต่อสังคม ซ่ึง ไมไ่ ดข้ ึ้นกบั การพจิ ารณาเพยี งต้นทนุ อย่างเดียว 2.1 การจัดท�ำกลยุทธ์ จดุ ประสงค์ หัวข้อน้ีถามถึงวิธีการที่สถาบันวางกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์เรื่องความท้าทายและใช้ ประโยชนจ์ ากความไดเ้ ปรยี บเชงิ กลยทุ ธข์ องตนและวธิ ที ส่ี ถาบนั ตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ระบบงานสำ� คญั และสมรรถนะหลัก หัวข้อน้ียังถามถึงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ส�ำคัญและเป้าหมายที่เก่ียวข้อง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับผลการด�ำเนินการโดยรวม และความสามารถในการแข่งขัน รวมทงั้ ท�ำให้สถาบันประสบความสำ� เร็จในอนาคต ขอ้ สงั เกต กรอบในการจัดท�ำกลยุทธ์ หัวข้อน้ีก�ำหนดให้สถาบันมีสารสนเทศพื้นฐานใน กระบวนการวางแผน รวมทั้งให้มีสารสนเทศของปัจจยั ส�ำคญั ทัง้ หมดท่มี ีผลกระทบ ความเสยี่ ง ความท้าทาย และข้อก�ำหนดที่ส�ำคัญ อ่ืน ๆ ท่ีอาจส่งผลต่อโอกาสและทิศทางในอนาคต ของสถาบัน โดยการมองการณ์ไกลอย่างเหมาะสม และที่เป็นไปได้ จากมุมมองของสถาบัน อตุ สาหกรรมการศกึ ษาหรอื สว่ นตลาดของสถาบนั แนวทางนเี้ นน้ ใหพ้ จิ ารณาบรบิ ทของตนอยา่ ง รอบคอบและเป็นจริงในการจัดท�ำกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอื่น และตลาด เพ่ือเป็น แนวทางในการตดั สนิ ใจ การจดั สรรทรพั ยากร และการบรหิ ารจดั การโดยรวม การวางฐานการน�ำไปปฏิบัติโดยมุ่งเน้นอนาคต หัวข้อนี้มุ่งหวังให้ครอบคลุมทุก ประเภทขององค์การการศึกษา สถานการณ์ตลาด ประเด็นเชิงกลยุทธ์ แนวทางการวางแผน และแผนงานขอ้ กำ� หนดนกี้ ลา่ วอยา่ งชดั เจนใหว้ างฐานการนำ� ไปปฏบิ ตั โิ ดยมงุ่ เนน้ อนาคต เพราะ แม้แต่สถาบันที่ก�ำลังค้นหาเพ่ือสร้างหลักสูตรหรือบริการใหม่ๆ ก็ยังจ�ำเป็นต้องกำ� หนดและ
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 135 ทดสอบวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เพื่อน�ำมาใช้ก�ำหนดและช้ีน�ำวิธีปฏิบัติและผลการด�ำเนินการท่ี สำ� คญั อยา่ งยง่ิ ต่อสถาบัน ความเปน็ ผนู้ �ำในการแขง่ ขนั หวั ขอ้ นเี้ นน้ ความเปน็ ผนู้ ำ� ในการแขง่ ขนั ดา้ นหลกั สตู ร และบรกิ าร ซงึ่ มกั ขนึ้ อยกู่ บั ประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ตั กิ าร การเปน็ ผนู้ ำ� ในการแขง่ ขนั นนั้ จำ� เปน็ ตอ้ งมมี มุ มองของอนาคต ซงึ่ ไมเ่ พยี งพจิ ารณาแคต่ ลาดทต่ี นกำ� ลงั แขง่ ขนั อยู่ แตต่ อ้ งรวมถงึ วา่ จะ แขง่ ขันอย่างไร ซ่ึงมีหลายทางเลือก การตัดสินใจวา่ จะแข่งขนั อย่างไรจะตอ้ งเข้าใจคแู่ ข่ง และจุดแขง็ จุดออ่ นของคูแ่ ข่ง รวมถงึ การตดั สินใจเลือกความเสย่ี งทน่ี า่ ลงทุนเพอื่ ชว่ งชงิ หรอื รักษาความเปน็ ผนู้ �ำในตลาดใหไ้ ด้ ถึงแม้หัวข้อน้ีจะไม่มีการก�ำหนดกรอบเวลาไว้อย่างชัดเจนเป้าหมายส�ำคัญคือการคงความเป็น ผู้นำ� ในการแขง่ ขนั ไดอ้ ยา่ งยั่งยนื ระบบงาน ระบบงานท่ีมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลตอ้ งอาศยั เรอื่ งตอ่ ไปนี้ ● การออกแบบทม่ี ีประสิทธผิ ล ● การมงุ่ เนน้ การปอ้ งกัน ● ความเช่ือมโยงกับลูกค้า ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมือท่ีเป็นทางการและท่ีไม่เป็น ทางการ และ ● การเนน้ การสร้างคณุ ค่าให้ผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี ทส่ี �ำคัญทง้ั หมด การปรบั ปรุงผล การด�ำเนินการ ด้านการปฏิบัติการ การลดรอบเวลา และการประเมินผล รวมทั้งการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การสร้างนวัตกรรม และการเรียนรู้ระดับ องค์การ ● การทบทวนอย่างสม่�ำเสมอเพ่ือประเมินถึงความจ�ำเป็นในการเปล่ียนพื้นฐาน ของระบบหรอื วิธีการท�ำงานเพอ่ื ให้บรรลผุ ล ระบบงานจ�ำเป็นต้องได้รับการออกแบบให้สถาบันมีความคล่องตัวและสามารถปกป้อง ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาดว้ ย อกี นยั หนง่ึ กค็ อื ความคลอ่ งตวั ทแ่ี สดงถงึ สามารถทจ่ี ะปรบั อยา่ งรวดเรว็ มคี วามยดื หยนุ่ และมปี ระสทิ ธผิ ล สอดรบั กบั ความตอ้ งการทเี่ ปลยี่ นแปลงไป ทงั้ นี้ ขนึ้ อยกู่ บั ลกั ษณะ ของกลยุทธ์และสภาวะตลาดของสถาบัน ความคล่องตัวอาจหมายถึงความสามารถท่ีจะ เปลี่ยนแปลงหลักสูตรหรือบริการได้อย่างรวดเร็วตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อความต้องการ หรือสภาวะของตลาดที่เปลี่ยนไป หรือจัดบริการหลากหลายประเภทตามความต้องการเฉพาะ ของลูกค้าได้ ความคล่องตัวและการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอาจท�ำให้เกิดความจ�ำเป็น ที่จะต้องตัดสินใจ เรื่องการจัดจ้างหน่วยงานภายนอก การท�ำความตกลงกับผู้ส่งมอบหลัก และการจัดการใหม้ ีความร่วมมือใหม่ๆ ดว้ ย
136 เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพอ่ื การด�ำ เนินการทเี่ ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 2.2 การน�ำกลยุทธไ์ ปสู่การปฏิบัติ จดุ ประสงค์ หัวข้อน้ีถามถึงวิธีการที่สถาบันใช้ในการแปลงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ไปสู่แผน ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคเ์ หลา่ นนั้ รวมทงั้ วธิ กี ารทใี่ ชต้ รวจประเมนิ ความกา้ วหนา้ เทยี บ กบั แผนปฏิบตั ิการ เพือ่ ทำ� ใหม้ ั่นใจวา่ มีการน�ำกลยุทธไ์ ปส่กู ารปฏบิ ัติจนบรรลุเปา้ ประสงค์ ข้อสงั เกต การจัดท�ำแผนปฏิบัติการและถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ ความส�ำเร็จของแผนปฏิบัติ การขนึ้ อยกู่ บั ทรพั ยากร ตวั วดั ผลการดำ� เนนิ การและความสอดคลอ้ งไปในแนวเดยี วกนั ของแผน พฒั นาของแต่ละหน่วยงาน ผสู้ ่งมอบและคู่ความรว่ มมืออยา่ งเป็นทางการ หัวใจสำ� คัญของเรอื่ งน้ี คือ วธิ กี ารทสี่ ถาบนั ใชเ้ พือ่ ใหเ้ กิดความสอดคลอ้ งและไปใน ทางเดยี วกนั อย่างคงเสน้ คงวา เชน่ ผ่านระบบงาน กระบวนการทำ� งาน และตวั วดั หลัก เป็นตน้ การด�ำเนินการดังกล่าวเป็นพื้นฐานส�ำหรับการก�ำหนดและการสื่อสารล�ำดับความส�ำคัญของ กิจกรรมปรบั ปรงุ งานทด่ี ำ� เนินอยู่ ซึง่ เป็นส่วนหน่งึ ของงานประจ�ำในทุกหน่วยงาน นอกจากนี้ ตัววัดผลเหล่านน้ั ยงั มีความสำ� คญั ยิ่งในการตดิ ตามผลการด�ำเนินการ การด�ำเนินการวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากร สถาบันอาจใช้การ วิเคราะห์ได้หลายรูปแบบ เพ่ือให้ม่ันใจได้ว่าทรัพยากรทางด้านการเงินมีเพียงพอเพ่ือให้แผน ปฏิบตั กิ ารบรรลุผลส�ำเร็จตามทต่ี อ้ งการพรอ้ มๆไปกบั การตอบสนองข้อผกู พันที่มีอยอู่ กี ดว้ ย ทั้งน้ี วิธกี ารวิเคราะห์ทีจ่ ะใช้น้ัน จะแตกต่างไปตามลกั ษณะของสถาบนั แตล่ ะแหง่ การวิเคราะหเ์ หลา่ น้ี จะช่วยให้องค์การสามารถประเมนิ ความมนั่ คงด้านการเงินของการด�ำเนิน การในปจั จบุ นั และแนวโนม้ ของสถานะดา้ นการเงนิ และความเสยี่ งทอ่ี าจจะเปน็ ผลจากโครงการ ทีร่ เิ ริ่มตามแผนปฏบิ ัติการด้วย การพัฒนาแผนบุคลากร แผนปฏิบัติการควรครอบคลุมถึงแผนด้านทรัพยากร บุคคลหรือผู้ปฏิบัติงาน ซ่ึงต้องสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันและสนับสนุนกลยุทธ์โดยรวม ของสถาบนั ตัวอย่างองค์ประกอบของแผน เชน่ ● การจดั โครงสรา้ งใหมข่ องงานหรอื ลกั ษณะงาน เพอ่ื เพม่ิ อำ� นาจและการตดั สนิ ใจ ของบุคลากร ● โครงการที่รเิ ร่ิมเพอื่ สง่ เสริมความรว่ มมือระหว่างบคุ ลากรและผบู้ รหิ ารมากขึน้ เช่น การเปน็ คู่ความรว่ มมือของสภาอาจารย์/สภาคณาจารย์กบั สถาบนั
เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การท่ีเปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 137 ● โครงการท่ีริเร่ิมเพ่ือเตรียมพร้อมส�ำหรับความจ�ำเป็นในด้านอัตราก�ำลังและ ขดี ความสามารถของผปู้ ฏบิ ัตงิ านในอนาคต ● โครงการรเิ รม่ิ ที่ส่งเสริมการแบ่งปนั ความรแู้ ละการเรยี นรรู้ ะดับองคก์ าร ● โครงการริเร่ิมด้านการศึกษาและฝึกอบรม เช่น การมอบหมายภาระหน้าท่ีใน เชงิ การพฒั นาใหแ้ กผ่ ทู้ จี่ ะเปน็ ผนู้ ำ� ในอนาคต การสรา้ งความรว่ มมอื กบั องคก์ าร ต่างๆเพ่ือให้เพ่ิมความมั่นใจว่า จะมีผู้ปฏิบัติงานที่มีคุณสมบัติและทักษะที่ ต้องการ รวมท้ังหลักสูตรการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีใหม่ๆที่จ�ำเป็นต่อความ ส�ำเรจ็ ของผูป้ ฏบิ ัติงานและองคก์ ารในอนาคต ● การสรา้ งความร่วมมือกบั ภาคธรุ กจิ เพื่อสนับสนุนการพฒั นาผ้ปู ฏิบตั ิงาน ● การริเร่ิมการเรียนรทู้ างไกลหรือวิธีการเรยี นรผู้ า่ นสอื่ เทคโนโลยมี าใช้ และ ● การริเริ่มโครงการตา่ งๆทจี่ ะปรบั ปรงุ ผลการด�ำเนินการ การคาดการณส์ ภาวะแวดลอ้ มในอนาคต องคป์ ระกอบทย่ี ง่ิ มคี วามสำ� คญั มากขน้ึ ตอ่ การวางแผนกลยทุ ธค์ อื การคาดการณส์ ภาวะแวดลอ้ มในอนาคตดา้ นการแขง่ ขนั และการสรา้ ง ความร่วมมือ โดยจะรวมถึงความสามารถในการคาดการณผ์ ลการด�ำเนินการในอนาคต ทงั้ ของ สถาบัน และของคู่แข่ง การคาดการณ์ดงั กลา่ ว จะช่วยให้สถาบันสามารถ ● ตรวจพบ และลดภัยคุกคามทอี่ าจจะเกดิ จากการแขง่ ขนั ● ลดเวลาในการแกไ้ ขปัญหา ● สามารถระบโุ อกาสได้ ท้ังนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของสถาบัน สถาบันควรค�ำนึงถึงความจ�ำเป็น ท่ีจะต้องมีสมรรถนะหลักใหม่ ปัจจัยภายนอก (เช่น ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปตาม บทบัญญัติด้านการศึกษา เทคโนโลยีการเรียนการสอน หรือ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างของ ประชากร) หรือปัจจัยภายใน (เช่น ขีดความสามารถและความต้องการของคณาจารย์และ บุคลากร) และมิตขิ องการแข่งขัน (เชน่ ราคาต้นทนุ หรอื อัตราการสร้างนวัตกรรม) ตามความ เหมาะสม สถาบนั อาจจะใชว้ ธิ กี ารทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป เชน่ การทำ� รปู แบบจำ� ลอง การจำ� ลอง ภาพอนาคตในสถานการณต์ า่ งๆหรอื เทคนคิ อนื่ ๆ หรอื วธิ คี ดิ ตา่ งๆ ทจี่ ะคาดการณส์ ภาวะแวดลอ้ ม ดา้ นการแขง่ ขันและการสรา้ งความรว่ มมือ
138 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพือ่ การด�ำ เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 การคาดการณ์และเทียบผลการด�ำเนินการ การคาดการณ์และการเปรียบเทียบ ในหัวข้อน้ี มุ่งหวังเพิ่มขีดความสามารถของสถาบันในการท�ำความเข้าใจและติดตามปัจจัยท่ี เกย่ี วกบั ผลการดำ� เนนิ การเชงิ แขง่ ขนั ทเ่ี ปลยี่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลา ผลการดำ� เนนิ การทคี่ าดการณ์ ไวอ้ าจรวมถงึ การเปลยี่ นแปลงทเี่ ปน็ ผลจากการเปดิ หรอื ปดิ หลกั สตู ร การรเิ รมิ่ ใชเ้ ทคโนโลยใี หม่ หรอื นวตั กรรมดา้ นหลกั สตู รหรอื การบรกิ ารทางการศกึ ษา หรอื แผนขบั เคลอื่ นทางกลยทุ ธอ์ น่ื ๆ ท่ี อาจตอ้ งมคี วามเสยี่ ง (intelligent risk) ในระดบั หนง่ึ โดยใชก้ ระบวนการตดิ ตามดงั กลา่ วสถาบนั จะมีความพร้อมย่ิงขึ้นท่ีจะพิจารณาความสามารถในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงของสถาบัน เปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือองค์การที่เทียบเคียงได้ และเทียบกับเป้าหมายหรือเป้าประสงค์ที่ ท้าทายของสถาบัน กระบวนการติดตามน้ีเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ท่ีส�ำคัญท่ีจะช่วยให้สถาบัน สามารถตัดสินใจที่จะลงมือท�ำ เร่งด�ำเนินการ หรือยกเลิกโครงการที่ริเริ่มไว้ และด�ำเนินการ เปลย่ี นแปลงองค์การทจ่ี ำ� เป็น ลูกค้า (หมวด 3) “ลูกค้า” หมายถงึ ผู้เรียน ผู้รับบริการ* และลูกคา้ กลมุ่ อน่ื ซงึ่ รวมถึงผ้มู สี ว่ นไดส้ ่วนเสีย ท่ีได้รบั ผลกระทบจากพนั ธกิจของสถาบนั ในหมวดนี้ ถามถึงวิธีการที่สถาบันสร้างความผูกพันกับลูกค้าเพื่อความส�ำเร็จในตลาด ในระยะยาว รวมท้ังวิธีการที่สถาบันรับฟังเสียงของลูกค้า สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และใช้ สารสนเทศดังกล่าว เพ่ือปรบั ปรงุ และคน้ หาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม หมวดน้ีเน้นให้การสร้างความผูกพันเป็นผลลัพธ์หน่ึงที่ส�ำคัญของผลการเรียนรู้โดยรวม และกลยุทธ์การดำ� เนนิ การท่เี ปน็ เลศิ ผลลัพธ์ดา้ นความพึงพอใจและความไมพ่ ึงพอใจของลูกคา้ จะให้สารสนเทศที่มีความส�ำคัญต่อสถาบันท่ีจะท�ำความเข้าใจผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอ่ืน ผู้มีส่วนได้ สว่ นเสยี และตลาด ในหลายกรณี เสยี งของลกู ค้าดังกล่าวจะให้สารสนเทศท่มี คี วามหมายสำ� คญั ไมเ่ พยี งแตม่ มุ มองและพฤตกิ รรมของลกู คา้ เทา่ นน้ั แตย่ งั รวมถงึ การเปลยี่ นแปลงและเสยี งสะทอ้ น ของตลาด ซ่ึงส่งผลต่อความสำ� เร็จในปจั จบุ นั และอนาคตของสถาบนั เกณฑ์ EdPEx นี้ กลา่ วเฉพาะเจาะจงถึงผเู้ รียนเพื่อเน้นความส�ำคญั ของผ้เู รียนต่อสถาบนั การศึกษา เกณฑ์ยังกล่าวถึง “ลูกค้ากลุ่มอื่น” เพ่ือให้ม่ันใจว่าการมุ่งเน้นลูกค้าและระบบการ จัดการผลการด�ำเนินการครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มของทุกพันธกิจ ลูกค้ากลุ่มอ่ืนอาจรวมถึง ผปู้ กครอง ธรุ กจิ ทอ้ งถน่ิ ผใู้ ชผ้ ลงานวจิ ยั สถาบนั การศกึ ษาอน่ื ทรี่ บั ผเู้ รยี นจากสถาบนั และนายจา้ ง บณั ฑติ ในอนาคต ความทา้ ทายสำ� คญั สำ� หรบั สถาบนั การศกึ ษาอาจเปน็ การสรา้ งความสมดลุ ของ ความคาดหวงั ของผู้เรียนและลูกคา้ กล่มุ อนื่ ซึ่งแตกตา่ งกนั หมายเหตุ *ผู้รับบริการ หมายถึง ผรู้ ับบริการหลกั จากภายนอกสถาบนั ตามพนั ธกิจ เช่น บรกิ ารวชิ าการท่ีสถาบันกำ� หนด บรกิ ารด้านงานวจิ ยั บรกิ ารทดสอบ ผลิตสนิ ค้าหรือบริการอ่นื ๆ ฯลฯ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176