Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561

เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561

Published by atsadu, 2020-06-29 01:03:46

Description: เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561

Search

Read the Text Version

เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนนิ การทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 39 4.2 การจัดการความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ: สถาบันมีวิธีการอย่างไร ในการจัดการสินทรัพย์ทางความรู้ของสถาบัน รวมทั้งสารสนเทศ และโครงสร้างของ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (45 คะแนน) [กระบวนการ] อธิบายวิธีการจัดการและเพ่ิมพูนสินทรัพย์ทางความรู้และวิธีการเรียนรู้ของ สถาบัน รวมท้ังวิธีการท่ีท�ำให้ม่ันใจว่าคุณภาพและความพร้อมของข้อมูลสารสนเทศ ซอฟทแ์ วรแ์ ละฮารด์ แวรแ์ ละโครงสรา้ งของเทคโนโลยสี ารสนเทศตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการ ในการใช้งานของบุคลากร ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมืออย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ผูเ้ รยี นและลูกคา้ กลุ่มอนื่ โดยตอบคำ� ถามต่อไปนี้ ก. ความรู้ของสถาบนั (1) การจัดการความรู้ สถาบันมีวิธกี ารอยา่ งไรในการจดั การความรขู้ องสถาบัน สถาบนั มีวธิ กี ารอย่างไร ในการ ● รวบรวมและถา่ ยทอดความรูข้ องบุคลากร ● ผสมผสานและหาความสัมพันธ์ของข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพ่ือสร้าง องคค์ วามรูใ้ หม่ ● ถ่ายทอดความรู้ท่ีเป็นประโยชน์ ระหว่างสถาบันกับผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอื่น ผสู้ ง่ มอบ คูค่ วามร่วมมือทั้งทีเ่ ปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการ ● รวบรวมความรู้และถ่ายทอดความรู้ท่ีเป็นประโยชน์ไปใช้ในการสร้าง นวัตกรรมและในกระบวนการวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ (2) การเรยี นรรู้ ะดับสถาบัน สถาบันใช้ความรู้และทรัพยากรอย่างไร เพ่ือให้การเรียนรู้ฝังลึกเข้าไป ในวถิ กี ารปฏิบตั ิงานของสถาบนั ข. ขอ้ มลู สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (1) คุณภาพของขอ้ มูลและสารสนเทศ สถาบนั มวี ธิ กี ารจดั การอยา่ งไรในการทวนสอบและท�ำใหม้ น่ั ใจวา่ ขอ้ มลู และ สารสนเทศทใ่ี ชใ้ นสถาบนั มีคุณภาพ สถาบันมีวิธีการจัดการอย่างไรในการจัดการข้อมูลและสารสนเทศเชิง อิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบอ่ืนๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความแม่นย�ำ ถูกต้อง สมบูรณ์ เชื่อถือได้ และเป็นปัจจุบนั

40 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพื่อการด�ำ เนินการท่เี ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 (2) ความปลอดภยั ของข้อมลู และสารสนเทศ สถาบนั ท�ำใหม้ น่ั ใจไดอ้ ยา่ งไร ถงึ ความปลอดภยั ของขอ้ มลู และสารสนเทศที่ ออ่ นไหวและเป็นสิทธพิ ิเศษ (privilege) สถาบันมีวิธีการจัดการอย่างไรในการจัดการข้อมูลและสารสนเทศเชิง อิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบอื่นๆ เพ่ือให้ม่ันใจว่ามีการรักษาความลับและการเข้าถึงท่ี เหมาะสม สถาบันดูแลการรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศทางด้านไซเบอร์ (cybersecurity) อยา่ งไร (3) ความพรอ้ มใชง้ านของข้อมลู และสารสนเทศ สถาบนั ท�ำใหม้ ั่นใจได้อย่างไร ถึงความพรอ้ มของข้อมลู และสารสนเทศของ สถาบนั สถาบนั มวี ธิ กี ารอยา่ งไรเพอ่ื ใหม้ ขี อ้ มลู และสารสนเทศทจี่ ำ� เปน็ มพี รอ้ มใชใ้ นรปู แบบ ที่ใช้งานง่าย และทันการส�ำหรับบุคลากร ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมืออย่างเป็นทางการและ ไมเ่ ป็นทางการ ผูเ้ รยี น และลูกค้ากลมุ่ อืน่ (*) (4) คุณสมบัตขิ องฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ สถาบันมีวิธีการอย่างไรเพ่ือให้ม่ันใจได้ว่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มีความ น่าเชอื่ ถือ มัน่ คงปลอดภยั และใชง้ านงา่ ย (5) ความพรอ้ มใช้ในภาวะฉกุ เฉิน ในภาวะฉกุ เฉนิ สถาบนั มวี ธิ กี ารอยา่ งไรในการท�ำใหม้ น่ั ใจวา่ ระบบฮารด์ แวร์ และซอฟต์แวร์รวมท้ังข้อมูลและสารสนเทศมีความม่ันคงปลอดภัย และพร้อมใช้งานอย่าง ตอ่ เนอื่ งเพอื่ ตอบสนองตอ่ ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ รวมทง้ั ตอ่ ความตอ้ งการของสถาบนั อยา่ ง มีประสิทธิผล ค�ำศัพท์ที่ส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 4.2ก(1)  การผสมผสานและหาความสัมพันธ์ของข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจเก่ียวกับ ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ และสารสนเทศทแี่ ตกตา่ งกนั โดยสนิ้ เชงิ เชน่ ตารางขอ้ มลู วดี ที ศั น์ และขอ้ ความ นอกจากนี้ ความรูข้ องสถาบันทีส่ รา้ งจากขอ้ มลู เหล่านี้ อาจเป็นเพียงขอ้ คดิ เห็นและอาจเปิดเผย สารสนเทศที่ออ่ นไหวเก่ยี วกับสถาบนั หรอื รายบคุ คล ท่ีจ�ำเปน็ ต้องไดร้ ับการปกปอ้ งจากการนำ� ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น

เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนินการท่เี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 41 4.2ข(2)  การจัดการความปลอดภัยด้านไซเบอร์ (การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล) รวมถึงการป้องกันการสูญหายของสารสนเทศท่ีอ่อนไหว เกี่ยวกับคณาจารย์ พนักงาน ผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอ่ืน และสถาบันการปกปอ้ งสนิ ทรพั ยท์ เี่ กบ็ อยใู่ นคลาวด์ (cloud) หรอื แหลง่ เกบ็ อน่ื ทอ่ี ยนู่ อกเหนอื การควบคมุ ของสถาบนั การปกปอ้ งทรัพย์สินทางปัญญา และการปกป้อง จากการทจุ ริตในการใช้ข้อมลู ดา้ นการเงนิ กฎหมาย และทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับชอ่ื เสียงของสถาบนั ดูค�ำอธบิ ายเพ่มิ เติมของหัวข้อนไ้ี ดท้ ่หี น้า 146-147

42 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพื่อการด�ำ เนินการท่เี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 5. บคุ ลากร (85 คะแนน) หมวดบุคลากร ถามว่าสถาบันมีวิธีการอย่างไรในการประเมินความต้องการด้าน ขดี ความสามารถ และอตั รากำ� ลงั และในการสร้างสภาพแวดลอ้ มการท�ำงานเพือ่ นำ� ไปสูผ่ ลการ ด�ำเนินการที่โดดเด่น หมวดนี้ยังถามถึงวิธีการที่สถาบันสร้างความผูกพัน จัดการ และพัฒนา บุคลากรเพื่อน�ำศักยภาพของพวกเขามาใช้อย่างเต็มที่ โดยสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับ พนั ธกิจ กลยุทธ์ และแผนปฏบิ ตั ิการโดยรวมของสถาบนั 5.1 สภาพแวดลอ้ มดา้ นบคุ ลากร (Workforce Environment) : สถาบนั มวี ธิ ีการอยา่ งไร ในการสรา้ งสภาพแวดลอ้ มด้านบุคลากรทเ่ี กือ้ หนุนและมีประสทิ ธผิ ล (40 คะแนน) [กระบวนการ] อธบิ ายวธิ กี ารทสี่ ถาบนั ใชใ้ นการบรหิ ารขดี ความสามารถ และอตั ราก�ำลงั เพอื่ ให้ งานของสถาบนั บรรลผุ ลส�ำเรจ็ อธบิ ายวา่ สถาบนั ด�ำเนนิ การอยา่ งไร เพอ่ื รกั ษาบรรยากาศใน การท�ำงานใหเ้ กอ้ื หนุน และมคี วามม่ันคงตอ่ การท�ำงาน โดยตอบค�ำถามต่อไปน้ี ก. ขดี ความสามารถและอัตราก�ำลัง (1) ขีดความสามารถและอตั ราก�ำลงั สถาบนั มวี ธิ กี ารอยา่ งไรในการประเมนิ ความตอ้ งการ ดา้ นขดี ความสามารถ ของบุคลากร และอัตราก�ำลัง สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการประเมินความต้องการด้านทักษะ สมรรถนะ คุณสมบตั ิทีต่ ้องมีการรบั รองและระดบั ก�ำลังคนทีต่ อ้ งมี (2) บคุ ลากรใหม่ สถาบนั มวี ธิ กี ารอยา่ งไร ในการสรรหา วา่ จา้ ง บรรจุ และรกั ษาบคุ ลากรใหมไ่ ว้ สถาบนั มนั่ ใจไดอ้ ยา่ งไรวา่ บคุ ลากรเปน็ ตวั แทนทสี่ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ความหลากหลาย ทางความคดิ วฒั นธรรม และวธิ คี ดิ ของชมุ ชนที่สถาบันจา้ งและของผ้เู รยี น (3) การท�ำงานให้บรรลผุ ล สถาบนั มีวธิ กี ารอย่างไรในการจดั ระบบและบรหิ ารบุคลากร สถาบันมีวธิ กี ารอย่างไรในการจดั ระบบและบริหารบคุ ลากร เพอื่ ● ท�ำใหง้ านของสถาบนั ประสบความส�ำเรจ็ ● ใชป้ ระโยชนจ์ ากสมรรถนะหลักของสถาบันอยา่ งเต็มท่ี ● สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การมงุ่ เนน้ ผเู้ รยี น ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ และการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ● ให้มผี ลการดำ� เนินการที่ดีกวา่ ความคาดหมาย

เกณฑ์คุณภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนนิ การทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 43 (4) การจัดการการเปลยี่ นแปลงด้านบุคลากร สถาบันมวี ิธกี ารอย่างไรในการเตรียมบคุ ลากรให้พร้อมรับตอ่ ความตอ้ งการ ด้านขดี ความสามารถและอตั ราก�ำลงั ที่ก�ำลงั เปล่ยี นไป สถาบันมวี ธิ กี ารอยา่ งไร ในการ ● บริหารบุคลากร ความต้องการบุคลากร และความต้องการของสถาบัน เพอื่ ใหม้ นั่ ใจวา่ สามารถดำ� เนนิ การไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ปอ้ งกนั การลดจำ� นวน ของบคุ ลากร และเพอื่ ลดผลกระทบหากหากจำ� เปน็ ● เตรยี มพร้อมและบริหารช่วงทม่ี กี ารเพิม่ ของบุคลากร ● เตรียมบุคลากรเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสถาบันและระบบ หากจำ� เป็น ข. บรรยากาศด้านบคุ ลากร (1) สภาพแวดล้อมของที่ท�ำงาน สถาบันด�ำเนินการอย่างไรเพื่อให้มั่นใจว่าสถานท่ีท�ำงานมีสุขภาวะ ความ ปลอดภยั และมคี วามสะดวกในการเขา้ ท�ำงานของบุคลากร สถาบันมีตัววัดและเป้าประสงค์อะไรบ้างในการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ดังกล่าว ในสภาพแวดล้อมการท�ำงานที่แตกต่างกัน มีความแตกต่างที่ส�ำคัญในปัจจัย ตัววัด หรือเปา้ หมาย เหล่าน้อี ยา่ งไร (2) สทิ ธปิ ระโยชนแ์ ละนโยบายด้านบุคลากร สถาบนั สนบั สนนุ บคุ ลากรโดยใหบ้ รกิ าร สทิ ธปิ ระโยชน์ และนโยบายอยา่ งไร สถาบันได้ออกแบบสิ่งเหล่าน้ีให้เหมาะสมตามความต้องการของบุคลากรท่ี หลากหลายและตามความแตกต่างของกลุ่มและประเภทของบุคลากรอย่างไร บุคลากรของ สถาบันไดร้ ับสทิ ธิประโยชน์ที่ส�ำคญั อะไรบ้าง ค�ำศัพท์ที่ส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124

44 เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพ่ือการด�ำ เนินการทเ่ี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 หมายเหตุ 5.1 “บุคลากร” หมายถึง บุคคลที่มีส่วนเก่ียวข้องอย่างจริงจังในการท�ำให้งานของ สถาบนั ประสบความสำ� เรจ็ ทง้ั นร้ี วม บคุ ลากรประจ�ำ ชั่วคราว และที่ท�ำงานไมเ่ ต็มเวลา ตลอด จนคณาจารย์และบุคลากรที่สถาบันให้ค�ำแนะน�ำอยู่ ซ่ึงรวมถึง หัวหน้าทีม (Team Leader) หัวหน้างาน (Supervisor) และผู้บริหารทุกระดับ ส่วนผู้ปฏิบัติงานที่ควบคุมดูแลโดยคู่สัญญา ควรอธบิ ายในหมวด 2 และ 6 โดยเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกลยทุ ธใ์ นการวางระบบงานและกระบวนการ ท�ำงานภายในของสถาบัน ส�ำหรับสถาบันท่ีต้องใช้อาสาสมัคร ค�ำว่า บุคลากรครอบคลุมถึง อาสาสมัครเหลา่ นด้ี ว้ ย 5.1ก “ขีดความสามารถ” หมายถงึ ความสามารถในการด�ำเนินการตามกระบวนการ ท�ำงานของสถาบัน โดยใชค้ วามรู้ ทกั ษะ ความสามารถ และสมรรถนะของบุคลากร ขดี ความ สามารถ อาจรวมถึง ความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้เรียนและลูกค้า กลมุ่ อน่ื การสรา้ งนวตั กรรมและการปรบั เปลยี่ นสเู่ ทคโนโลยใี หม่ การพฒั นาหลกั สตู ร บรกิ าร และ กระบวนการทำ� งานใหม่ รวมทงั้ เพอื่ ใหต้ อบสนองตอ่ การเปลย่ี นแปลงความตอ้ งการของสถาบนั ตลาด และขอ้ บังคบั ตามกฎหมาย “อตั ราก�ำลงั ”หมายถงึ ความสามารถของสถาบนั ทจี่ ะทำ� ใหม้ นั่ ใจวา่ มจี ำ� นวนผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ทตี่ รงตามความตอ้ งการอยา่ งพอเพยี งในดำ� เนนิ การตามกระบวนการทำ� งาน และความสำ� เรจ็ ใน การจัดหลักสูตร และบรกิ าร ใหแ้ ก่ผูเ้ รยี น รวมท้งั ความสามารถในการตอบสนองตอ่ ระดับความ ตอ้ งการท่แี ปรเปลยี่ นตามกรอบเวลา/ฤดูกาล 5.1ก การประเมินความต้องการด้านขีดความสามารถและอัตราก�ำลังของสถาบัน ควร คำ� นึงถงึ ความจำ� เป็นทัง้ ในปัจจุบนั และอนาคต ตามวัตถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์และแผนปฏบิ ตั กิ าร ทร่ี ะบุไวใ้ นหมวด 2 และการคาดการณ์ทร่ี ะบุไวใ้ น 4.1ค(2) 5.1ก(2) ขอ้ ก�ำหนดน้ี น�ำมาใช้เฉพาะกับบคุ ลากรใหม่ การรักษาบคุ ลากรทม่ี อี ยู่แล้วจะ ถกู พจิ ารณาในหัวขอ้ 5.2 ความผูกพันของบคุ ลากร 5.1ก(3) และ 5.1ก(4) การจดั คนและการจดั การบคุ ลากรเกีย่ วกับการจัดก�ำลงั คนเพื่อ รองรับการเปล่ียนแปลงท่ีอาจเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก วัฒนธรรม เทคโนโลยี หรือ วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยุทธ์

เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพอื่ การดำ�เนินการท่ีเปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 45 5.1ก(4) การเตรียมความพร้อมของบุคลากรรองรับการเปล่ียนแปลงด้านขีดความ สามารถและอัตรากำ� ลัง อาจรวมถงึ การฝึกอบรม การศึกษา การสือ่ สารบ่อยครั้ง การพิจารณา ถงึ การจา้ งงาน และโอกาสในการไดง้ านท�ำของบคุ ลากร การใหค้ �ำปรกึ ษาดา้ นอาชพี และการสง่ ตอ่ ไปท�ำงานในองค์การอ่นื ตลอดจนการบรกิ ารอื่นๆ 5.1ข(1) ความสะดวกในการเข้าถึงท่ีท�ำงานท�ำให้เพ่ิมผลิตภาพได้เต็มท่ี โดยการขจัด อุปสรรคต่อการท�ำงานเต็มศักยภาพของบุคลากรท่ีเป็นผู้พิการ ซึ่งต้องอาศัยท้ังเทคโนโลยี การจดั การเชงิ กายภาพและทศั นคตทิ เ่ี ปดิ กวา้ ง เพอื่ ใหเ้ ปน็ สถานทท่ี �ำงานทเี่ ออ้ื อำ� นวยอยา่ งเตม็ ท่ี ดคู �ำอธิบายเพม่ิ เติมของหวั ขอ้ นไี้ ดท้ ่ีหน้า 147-148 5.2 ความผูกพันของบุคลากร (Workforce Engagement) : สถาบันมีวิธีการอย่างไร ในการสรา้ งความผูกพันกับบคุ ลากร เพือ่ ใหเ้ กดิ สภาพแวดล้อมในการท�ำงานทกี่ ่อให้เกดิ ผล งานทีโ่ ดดเดน่ (45 คะแนน) [กระบวนการ] อธบิ ายวธิ กี ารทส่ี ถาบนั ใชใ้ นการพฒั นาบคุ ลากร ผบู้ รหิ าร และผนู้ �ำเพอ่ื ใหเ้ กดิ ผล การด�ำเนนิ การทโี่ ดดเดน่ รวมถึงวิธีการท่ีสถาบันท�ำให้บุคลากรมีส่วนร่วมอย่างทุ่มเทในการ ปรบั ปรงุ และสร้างนวัตกรรม ให้สถาบนั ตอบค�ำถามดงั ตอ่ ไปน้ี ก. ความผกู พันของบุคลากรและผลการปฏบิ ตั กิ าร (1) วัฒนธรรมองคก์ าร สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์การท่ีมีลักษณะ การสือ่ สารทีเ่ ปดิ กว้าง มีผลการด�ำเนนิ การท่ีโดดเดน่ และบคุ ลากรมีความผูกพนั ต่อสถาบัน สถาบันท�ำให้ม่ันใจได้อย่างไรว่าวัฒนธรรมองค์การได้ใช้ประโยชน์จากความ หลากหลายของความคิด วัฒนธรรมและวิธีคิดของบุคลากร สถาบันเอ้ืออ�ำนาจ (empower) ใหก้ บั บุคลากรอย่างไร (2) ปัจจยั ขบั เคลอ่ื นความผูกพัน สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการก�ำหนดปจั จยั ผลักดนั ส�ำคัญท่ีสง่ ผลตอ่ ความ ผูกพันของบุคลากร วธิ กี ารกำ� หนดปจั จยั ขบั เคลอ่ื นเหลา่ นแ้ี ตกตา่ งกนั อยา่ งไร ตามกลมุ่ และประเภท ของบุคลากร

46 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนนิ การที่เปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 (3) การประเมนิ ความผกู พนั สถาบันประเมินความผกู พนั ของบุคลากรอยา่ งไร วิธีการประเมินทั้งท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการและตัววัดที่ใช้ในการ ประเมินความผูกพันของบุคลากร รวมทั้งความพึงพอใจ มีอะไรบ้าง วิธีการและตัววัดเหล่านี้ มคี วามแตกตา่ งกันอย่างไร ส�ำหรบั แต่ละกล่มุ และประเภทของบคุ ลากร สถาบนั ใช้ตวั บง่ ช้อี ่นื ๆ เชน่ การคงอยู่ การขาดงาน การรอ้ งทกุ ข์ ความปลอดภยั และผลติ ภาพของบคุ ลากรเพอ่ื ประเมนิ และปรับปรุงความผูกพันของบุคลากรอย่างไร (4) การจดั การผลการด�ำเนนิ การ สนับสนุนให้เกิดผลการด�ำเนินการท่ีโดดเด่นและสร้างความผูกพันกับ บุคลากรไดอ้ ยา่ งไร ระบบดงั กลา่ วไดพ้ จิ ารณาถงึ การบรหิ ารคา่ ตอบแทน การใหร้ างวลั การยกยอ่ ง ชมเชย และสง่ิ จูงใจแกบ่ ุคลากรอย่างไร มกี ารดำ� เนนิ การในระบบดังกล่าวอยา่ งไร ระบบการจัดการผลการด�ำเนินงานของบุคลากรผลักดันให้เกิดเรื่องต่อไปนี้ อยา่ งไร ● การกล้าเส่ียงในเร่ืองทน่ี ่าลงทนุ เพื่อท�ำให้เกิดนวตั กรรม ● การมงุ่ เน้นผเู้ รยี น ลกู ค้ากลมุ่ อ่ืน และการเรยี นรขู้ องผู้เรียน ● การบรรลุแผนปฏบิ ัติการของสถาบัน ข. การพฒั นาบคุ ลากรและผู้น�ำ (1) ระบบการเรียนร้แู ละการพฒั นา ระบบการเรียนรู้และการพัฒนาของสถาบันสนับสนุนความต้องการของ สถาบัน และการพัฒนาตามความต้องการของบคุ ลากร ผู้บริหาร และผู้น�ำแต่ละคนอย่างไร ระบบนไ้ี ดพ้ ิจารณาประเดน็ ตา่ งๆ เหลา่ นอี้ ย่างไรบ้าง ● การให้ความส�ำคัญต่อสมรรถนะหลัก ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และการ บรรลแุ ผนปฏิบัตกิ ารทง้ั ระยะสน้ั และระยะยาว ● สนับสนุนการปรับปรุงผลการด�ำเนินการ และการเปลี่ยนแปลงของ สถาบันและการสรา้ งนวัตกรรม ● สนบั สนุนจริยธรรมและการดำ� เนินธรุ กิจอย่างมีจริยธรรม ● ปรับปรงุ การมุ่งเนน้ ผ้เู รยี น และลูกคา้ กลมุ่ อน่ื ● ท�ำให้มั่นใจว่ามีการถ่ายทอดความรู้จากบุคลากรที่จะลาออกหรือเกษียณ อายุ และ

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพือ่ การดำ�เนนิ การทเ่ี ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 47 ● ท�ำให้มั่นใจว่ามีการผลักดันให้น�ำความรู้และทักษะใหม่มาใช้ในการ ทำ� งาน (2) ประสิทธิผลของการเรยี นรแู้ ละการพฒั นา สถาบันมีการประเมินประสิทธิผลและประสิทธิภาพของระบบการเรียนรู้ และการพัฒนาของสถาบันอย่างไร สถาบนั มวี ิธีการอยา่ งไร ในเร่อื ง ● หาความสัมพันธ์ระหว่างผลลัพธ์ของการเรียนรู้กับผลการประเมินความ ผูกพันของบุคลากรและกบั ผลลัพธท์ ีส่ ำ� คัญของสถาบนั ท่ีรายงานไว้ในหมวด 7 ● ใช้ผลการศึกษาความสัมพันธ์ข้างต้นเพ่ือช้ีบ่งโอกาสส�ำหรับการปรับปรุง ท้ังในเร่ีองความผกู พันของบุคลากรและการใหก้ ารพฒั นาและการเรียนรู้แก่บุคลากร (3) ความก้าวหน้าในหนา้ ทก่ี ารงาน สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการจัดการความก้าวหน้าในหน้าที่การงานใน สถาบนั สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการจัดการความก้าวหน้าในหน้าที่การงานส�ำหรับ บุคลากร สถาบันมีวิธีการเพื่อให้บรรลุการวางแผนการสืบทอดส�ำหรับต�ำแหน่งผู้บริหารและ ผู้นำ� อย่างไร ค�ำศัพท์ที่ส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 5.2 การเข้าใจคณุ ลักษณะของสภาพแวดลอ้ มการทำ� งานท่ีมผี ลการดำ� เนนิ การท่โี ดดเดน่ ซง่ึ บคุ ลากรทมุ่ เทเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กผ่ เู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ และเพอ่ื ความสำ� เรจ็ ของสถาบนั เป็นกุญแจส�ำคัญในการเข้าใจและสร้างความผูกพันของบุคลากร รายละเอียดของคุณลักษณะ เหลา่ นถี้ กู อธบิ ายอยใู่ นนยิ ามของผลการดำ� เนนิ การทโ่ี ดดเดน่ (High Performance) หนา้ 106-107 5.2ก(2) “องคป์ ระกอบทมี่ ผี ลตอ่ ความผกู พนั ของบคุ ลากร” (ตามทรี่ ะบไุ วใ้ น P1 ก (3)) หมายถึง แรงขับเคลอ่ื นทีท่ �ำใหบ้ ุคลากรมีความมุ่งม่ัน ทง้ั ในดา้ นจติ ใจและสติปญั ญา เพือ่ ให้งาน สำ� เร็จ บรรลุพนั ธกิจและวิสัยทัศนข์ องสถาบัน

48 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนนิ การที่เป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 5.2ก(4) ระบบค่าตอบแทน การยกย่องชมเชย การให้รางวลั และส่งิ จงู ใจนี้ รวมถึงการ เล่อื นต�ำแหนง่ และการให้โบนสั ทอ่ี าจจะองิ กบั ผลงาน ทกั ษะที่เพมิ่ ขน้ึ การปรับตวั กบั ระบบงาน และวัฒนธรรมใหม่ และปัจจัยอ่ืนๆ ระบบการยกย่องชมเชยอาจใช้กลไกที่ท้ังที่เป็นตัวเงินและ ไมเ่ ปน็ ตวั เงนิ เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ รายบคุ คลและทมี งาน ในสถาบนั การศกึ ษาบางแหง่ ระบบคา่ ตอบแทนอาจถกู กำ� หนดโดยกฎหมาย หรอื ขอ้ บงั คบั ดงั นนั้ ระบบการใหร้ างวลั และการ ยกยอ่ งชมเชยจึงควรใชท้ างเลือกอืน่ 5.2ข ในการอธิบายวิธีการที่สถาบันน�ำมาใช้ควรครอบคลุมถึงวิธีการที่เฉพาะในการ พัฒนาการเรียนรู้และความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของบุคลากรท่ีเกิดจากสถาบัน และควร ครอบคลุมโอกาสในการพัฒนาบคุ ลากรที่สถาบันสามารถจัดให้ รวมถงึ การศกึ ษา การฝกึ อบรม การเป็นพ่เี ลี้ยง การใหค้ �ำปรึกษา และประสบการณ์ทไี่ ด้จากการทำ� งาน ดูค�ำอธบิ ายเพิ่มเติมของหวั ขอ้ น้ไี ด้ท่หี น้า 149-151

เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนินการทเ่ี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 49 6. ระบบปฏบิ ัติการ (85 คะแนน) ในหมวดระบบปฏบิ ัติการนี้ ถามว่าสถาบันมวี ธิ ีการอย่างไรในการออกแบบ จัดการ ปรบั ปรงุ และสรา้ งนวตั กรรมในหลกั สตู รและบรกิ าร และกระบวนการตา่ งๆ และถามวา่ มวี ธิ กี าร อย่างไรในการปรับปรุงประสิทธิผลของการปฏิบัติการเพื่อส่งมอบคุณค่าแก่ผู้เรียนและลูกค้า กลุ่มอน่ื และทำ� ให้สถาบันประสบความส�ำเร็จอย่างต่อเนือ่ ง 6.1 กระบวนการท�ำงาน : สถาบนั มีวธิ ีการออกแบบ จดั การ และปรบั ปรุง หลักสตู รและ บริการและกระบวนการท�ำงานทส่ี �ำคัญอยา่ งไร (45 คะแนน) [กระบวนการ] อธิบายวิธีการที่สถาบันใช้ในการออกแบบ จัดการ และปรับปรุงกระบวนการ ท�ำงานส�ำคญั เพอื่ สง่ มอบหลกั สตู รและบรกิ ารทม่ี คี ณุ คา่ ส�ำหรบั ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื และ ท�ำใหส้ ถาบันประสบความส�ำเรจ็ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง สถาบันมกี ารจดั การนวัตกรรมอย่างไร สรปุ กระบวนการท�ำงานท่สี �ำคัญของสถาบนั ใหส้ ถาบนั ตอบคำ� ถามดังต่อไปนี้ ก. การออกแบบหลักสตู ร การบริการ และกระบวนการ (1) ขอ้ ก�ำหนดของหลกั สตู ร บริการ และกระบวนการ สถาบันมีวิธีการอย่างไร ในการระบุข้อก�ำหนดของหลักสูตร บริการ และ กระบวนการท�ำงานท่สี �ำคญั กระบวนการทส่ี ำ� คญั ของสถาบนั มอี ะไรบา้ ง ขอ้ กำ� หนดทส่ี ำ� คญั ของกระบวนการ เหล่าน้ีคืออะไร (2) แนวคดิ การออกแบบ สถาบันมีวิธกี ารอย่างไรในการออกแบบหลกั สูตร บรกิ าร และกระบวนการ ท�ำงานท่สี �ำคัญเพอ่ื ให้เปน็ ไปตามข้อก�ำหนด สถาบนั ได้น�ำเทคโนโลยใี หม่ ๆ ความรขู้ องสถาบนั ความเป็นเลิศด้านหลักสตู ร และบรกิ าร คณุ คา่ ในมมุ มองของลกู คา้ และความคลอ่ งตวั ทอี่ าจจำ� เปน็ ตอ้ งมี มาพจิ ารณาในการ ออกแบบหลักสูตร บริการ และกระบวนการเหล่านีอ้ ย่างไร ข. การจัดการกระบวนการ (1) การน�ำกระบวนการไปสูก่ ารปฏบิ ัติ สถาบนั มัน่ ใจไดอ้ ยา่ งไรว่าการปฏบิ ัติงานประจ�ำวันของกระบวนการท�ำงาน ต่างๆ เป็นไปตามข้อก�ำหนดท่ีส�ำคัญ มีตัววัดหรือตัวบ่งช้ีของผลการด�ำเนินการและตัววัดภายในกระบวนการอะไร บ้างท่ีสถาบันใช้เพ่ือควบคุมและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ตัววัดเหล่าน้ีสัมพันธ์กับคุณภาพ ของสัมฤทธิ์ผลและผลการด�ำเนนิ การของหลักสูตรและบริการของสถาบันอย่างไร

50 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพือ่ การด�ำ เนินการทเี่ ป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 (2) กระบวนการสนับสนุน สถาบันมีวิธีการอย่างไร ในการก�ำหนดกระบวนการสนบั สนุนที่ส�ำคัญ กระบวนการสนบั สนนุ ทสี่ �ำคญั มอี ะไรบา้ ง สถาบนั มน่ั ใจไดอ้ ยา่ งไรวา่ การปฏบิ ตั ิ งานประจ�ำวันของกระบวนการเหล่าน้ี เป็นไปตามข้อก�ำหนดทส่ี �ำคญั เพ่อื สนบั สนุนสถาบัน (3) การปรับปรุงหลกั สูตร การบรกิ าร และกระบวนการ สถาบนั มวี ธิ กี ารอยา่ งไร ในการปรบั ปรงุ กระบวนการท�ำงานเพอื่ เพมิ่ การเรยี น รู้ของผเู้ รยี น ปรับปรงุ หลักสตู รและการบรกิ าร และผลการด�ำเนนิ การ เสริมสรา้ งสมรรถนะ หลกั ของสถาบันและลดความแปรปรวน ค. การจัดการนวตั กรรม สถาบนั มกี ารจดั การนวัตกรรมอย่างไร สถาบนั ใชโ้ อกาสเชงิ กลยทุ ธซ์ ง่ึ พจิ ารณาแลว้ วา่ ความเสย่ี งทน่ี า่ ลงทนุ (Intelligent Risks) อย่างไร สถาบันได้เตรียมทรัพยากรด้านการเงินและทรัพยากรอื่นๆ ไว้เพ่ือสนับสนุน โอกาสดงั กลา่ วอยา่ งไร สถาบนั ยตุ กิ ารสนบั สนนุ เรอ่ื งดงั กลา่ ว ณ เวลาทเี่ หมาะสมเพอื่ นำ� ทรพั ยากร ไปสนบั สนนุ โอกาสอ่ืนทีส่ ำ� คัญกว่าอย่างไร ค�ำศัพท์ท่ีส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 6.1 ผลลัพธข์ องการปรบั ปรงุ ผลการด�ำเนนิ การของหลักสูตร บริการ และกระบวนการ ของสถาบันควรรายงานไว้ในหวั ขอ้ 7.1 6.1ก(1) กระบวนการท�ำงานหลักของสถาบันคือกระบวนการสร้างคุณค่าที่ส�ำคัญท่ีสุด ภายในองค์การ ซึ่งอาจหมายถึงกระบวนการออกแบบและจัดการศึกษาตามหลักสูตร การ สนับสนุนผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน และกระบวนการทางธุรกิจ กระบวนการท�ำงานหลักของ สถาบันคือกระบวนการท่ีเก่ียวข้องกับบุคลากรส่วนใหญ่ของสถาบัน และสร้างคุณค่าแก่ผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอื่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โครงการคือกระบวนการท�ำงานเฉพาะที่มุ่งหวังให้เกิด ผลลพั ธอ์ นั ใดอันหนง่ึ และเลิกไปเมอื่ เสร็จส้นิ

เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพอื่ การดำ�เนนิ การทีเ่ ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 51 6.1ก(2) ความจ�ำเปน็ ทอี่ าจตอ้ งมคี วามคลอ่ งตวั อาจรวมการเปลยี่ นกระบวนการท�ำงาน ซึ่งเกิดจากการเปล่ียนระบบงานโดยรวม เช่น การสร้างกระบวนการห่วงโซ่อุปทานข้ึนภายใน สถาบันเพื่อหลีกเล่ียงการขาดช่วงของการส่งวัสดุเนื่องจากเหตุการณ์ภายนอกซึ่งเกิดจากการ เปล่ียนแปลงของสภาวะภมู อิ ากาศหรือจากปจั จยั ทไ่ี มอ่ าจทำ� นายได้ 6.1ข(2) กระบวนการสนบั สนนุ ทส่ี ำ� คญั ของสถาบนั ควรสนบั สนนุ กระบวนการสรา้ งคณุ คา่ อาจเป็นการสนับสนุนผู้นำ� และบคุ ลากรอน่ื ๆ ในสถาบัน ซ่งึ ท�ำหนา้ ท่ีออกแบบและดำ� เนนิ การ ตามหลักสตู รและบรกิ าร ปฏิสมั พันธก์ บั ผ้เู รียนและลกู คา้ กล่มุ อ่ืน บริหารดา้ นธุรกิจและบริหาร องค์การ 6.1ข(3) สถาบนั อาจใชเ้ ครอ่ื งมอื ตา่ งๆ เพอื่ ปรบั ปรงุ การดำ� เนนิ การของกระบวนการและ ลดความแปรปรวน เช่น ระบบ Lean, Six sigma, ระบบการจัดการคณุ ภาพตามมาตรฐาน ISO แนวทาง PDSA ศาสตร์การตัดสนิ ใจ หรอื เคร่ืองมือปรับปรุงกระบวนการอน่ื ๆ แนวทางเหล่านี้ อาจเป็นส่วนหน่ึงของระบบการปรับปรุงผลการด�ำเนินการตามท่ีสถาบันระบุไว้ในโครงร่าง องค์การข้อ P2(ค) 6.1 ค กระบวนการจัดการนวัตกรรมควรใช้ประโยชน์จากโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่ระบุไว้ ใน 2.1ก(2) ดคู �ำอธิบายเพ่มิ เตมิ ของหวั ขอ้ นี้ไดท้ ่ีหนา้ 152-155 6.2 ประสิทธผิ ลของการปฏบิ ตั กิ าร : สถาบนั ท�ำใหม้ น่ั ใจได้อยา่ งไรวา่ การปฏบิ ัติการตา่ งๆ มกี ารบริหารจดั การอย่างมปี ระสทิ ธผิ ล (40 คะแนน) [กระบวนการ] อธบิ ายวธิ กี ารทส่ี ถาบนั ใชใ้ นการควบคมุ ตน้ ทนุ บรหิ ารหว่ งโซอ่ ปุ ทาน ท�ำใหส้ ถานท่ี ท�ำงานมคี วามปลอดภยั มกี ารเตรยี มพรอ้ มรบั ภาวะฉกุ เฉนิ ทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ทั้งนเี้ พือ่ ท�ำใหม้ ่นั ใจว่า ระบบปฏิบตั ิการมีประสทิ ธิผล และส่งมอบคุณคา่ แก่ผเู้ รยี นและลกู ค้ากลุ่มอนื่ ใหส้ ถาบันตอบคำ� ถามดงั ต่อไปนี้ ก. ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของกระบวนการ สถาบนั ควบคุมตน้ ทนุ โดยรวมของระบบปฏบิ ัตกิ ารอย่างไร สถาบนั ดำ� เนินการอย่างไรในเร่อื ง ● พิจารณารอบเวลาการท�ำงาน การเพ่ิมผลผลิตและปัจจัยด้านประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลมาใชใ้ นกระบวนการทำ� งานอยา่ งไร

52 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 ● ปอ้ งกันไม่ใหเ้ กิดขอ้ ผดิ พลาดหรือการท�ำงานซำ้� ● ลดต้นทุนในการตรวจสอบ การทดสอบ และการตรวจติดตามกระบวนการ หรือผลการด�ำเนนิ การ (*) ● สร้างสมดุลระหว่างความจ�ำเป็นในการควบคุมต้นทุน กับความต้องการของ ผเู้ รยี นและลูกคา้ กลุ่มอ่นื ข. การจัดการหว่ งโซอ่ ปุ ทาน สถาบนั มีการจัดการหว่ งโซ่อุปทานอยา่ งไร สถาบันด�ำเนนิ การอย่างไร ในเรอื่ ง ● การคดั เลอื กผสู้ ง่ มอบ และทำ� ใหม้ น่ั ใจวา่ มคี ณุ สมบตั แิ ละอยใู่ นสถานะทไ่ี มเ่ พยี ง ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของการปฏบิ ตั กิ ารเทา่ นนั้ แตย่ งั สามารถยกระดบั ผลการดำ� เนนิ การ ขององคก์ าร และเพิม่ ความพึงพอใจของผู้เรียนและลกู ค้ากลุ่มอืน่ ● วดั และประเมนิ ผลการด�ำเนนิ การของผสู้ ่งมอบ ● ใหข้ อ้ มูลปอ้ นกลบั เพ่อื ชว่ ยให้ผูส้ ่งมอบนำ� ไปใช้ปรบั ปรงุ ● จัดการกับผู้ส่งมอบที่มีผลการดำ� เนนิ งานไม่ดี ค. การเตรียมพร้อมดา้ นความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉนิ (1) ความปลอดภัย สถาบนั ดูแลใหม้ สี ภาพแวดล้อมในการปฏบิ ตั กิ ารท่ีปลอดภัยไดอ้ ย่างไร ระบบความปลอดภัยของสถาบันได้ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันอุบัติเหตุ การตรวจสอบ การวิเคราะห์หาสาเหตขุ องความไมป่ ลอดภัย และการกคู้ ืนสู่สภาพเดิมอยา่ งไร (2) การเตรยี มพรอ้ มต่อภาวะฉกุ เฉนิ สถาบันมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ม่ันใจว่า มีการเตรียมพร้อมต่อภัยพิบัติหรือ ภาวะฉกุ เฉนิ ระบบการเตรียมพร้อมดังกล่าวได้ค�ำนึงถึงการป้องกัน การจัดการความ ต่อเน่ืองของระบบปฏิบัติการ และการกู้คืน สู่สภาพเดิมอย่างไร ระบบการเตรียมพร้อมต่อ ภัยพิบัติและสภาวะฉุกเฉินของสถาบัน ได้น�ำเอาเรื่องท่ีต้องพึ่งพาผู้ส่งมอบและคู่ความร่วมมือ มาพจิ ารณาอยา่ งไร ค�ำศัพท์ที่ส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124

เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพือ่ การดำ�เนินการทเ่ี ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 53 หมายเหตุ 6.2ข การทำ� ใหม้ นั่ ใจวา่ ผสู้ ง่ มอบจะสามารถตอบสนองความตอ้ งการดา้ นปฏบิ ตั กิ ารและ สนบั สนนุ ผลการดำ� เนนิ งาน สรา้ งความพงึ พอใจใหก้ บั ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื อาจเกยี่ วขอ้ งกบั การเปน็ ค่คู วามรว่ มมอื กับผู้สง่ มอบเพ่อื ประโยชนร์ ว่ มกัน 6.2ข รายงานป้อนกลับแก่ผู้ส่งมอบควรเป็นการสื่อสารสองทิศทาง เพื่อเปิดโอกาสให้ ส่งมอบไดส้ อื่ ถึงความต้องการทอี่ ยากได้จากสถาบนั 6.2ค(2) ภัยพิบัติและภาวะฉุกเฉินอาจเก่ียวข้องกับสภาพอากาศ สาธารณูปโภค ความปลอดภัย หรือภาวะฉุกเฉินท้ังในระดับท้องถ่ินหรือระดับประเทศ ขอบข่ายของการ เตรียมภัยภิบัติและภาวะฉุกเฉินขึ้นกับสภาพแวดล้อมของสถาบันและการหยุดชะงักของระบบ ปฏิบัติการ ระดับการยอมรับความเส่ียงแปรเปลี่ยนตามธรรมชาติของหลักสูตร บริการ ห่วงโซ่อุปทาน และความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผลกระทบของ การเปล่ยี นแปลงสภาวะภูมอิ ากาศอาจรวมการหยุดชะงกั ของระบบปฏิบัตกิ ารที่เกิดถขี่ นึ้ การเตรียมพร้อมต่อภาวะฉุกเฉินท่ีเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ควรรายงานไว้ใน หัวขอ้ 4.2 ดคู �ำอธบิ ายเพ่มิ เติมของหัวข้อน้ไี ดท้ ่หี นา้ 155-156

54 เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพื่อการด�ำ เนินการที่เป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 7. ผลลัพธ์ (450 คะแนน) ในหมวดของผลลัพธ์นี้ถามถึงผลด�ำเนินการและผลการปรับปรุงในด้านท่ีส�ำคัญ ทุกด้านของสถาบัน ได้แก่ ผลลัพธ์ด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและด้านกระบวนการ ผลลัพธ์ ดา้ นการมงุ่ เนน้ ลกู คา้ ผลลพั ธด์ า้ นการมงุ่ เนน้ บคุ ลากร ผลลพั ธด์ า้ นการนำ� องคก์ ารและการกำ� กบั ดูแล และผลลัพธ์ดา้ นงบประมาณ การเงนิ และตลาด หมวดนถ้ี ามถงึ ระดับผลการดำ� เนินการ ทเ่ี ปรยี บเทยี บกบั คแู่ ขง่ และสถาบนั การศกึ ษาทจ่ี ดั การศกึ ษาตามหลกั สตู รและบรกิ ารในลกั ษณะ เดยี วกนั 7.1 ผลลพั ธด์ ้านการเรียนรู้ของผู้เรยี น และด้านกระบวนการ : ผลลพั ธด์ า้ นการเรียนรขู้ อง ผู้เรยี น และดา้ นประสทิ ธิผลของกระบวนการเปน็ อย่างไร (120 คะแนน) [ผลลัพธ]์ สรุปผลลัพธ์ที่ส�ำคัญด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และด้านประสิทธิผลและ ประสิทธิภาพของกระบวนการ ให้รวมผลลัพธ์ของกระบวนการท่ีตอบสนองโดยตรงต่อ ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ ตามพนั ธกจิ หลกั ของสถาบนั และทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ระบบปฏบิ ตั กิ าร และห่วงโซ่อปุ ทาน ใหแ้ สดงขอ้ มลู และสารสนเทศเพ่ือตอบคำ� ถามตอ่ ไปนี้ ก. ผลลพั ธด์ า้ นการเรียนรูข้ องผู้เรยี นและดา้ นบริการทีม่ งุ่ เนน้ ลูกคา้ ผลลพั ธด์ า้ นการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และกระบวนการทตี่ อบสนองผเู้ รยี นและลกู คา้ กล่มุ อ่ืน คืออะไร ระดับปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดหรือตัวบ่งชี้ที่ส�ำคัญของการเรียนรู้ของ ผเู้ รยี นและผลการดำ� เนนิ การของกระบวนการตา่ งๆ ทส่ี ำ� คญั และเกยี่ วขอ้ งโดยตรงกบั ผเู้ รยี นและ ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ คอื อะไร ผลลพั ธด์ งั กลา่ วเปรยี บเทยี บกบั ผลการดำ� เนนิ การของคแู่ ขง่ และสถาบนั อนื่ ๆ ที่มกี ารดำ� เนนิ งานทค่ี ล้ายคลึงกนั ผลลัพธ์เหล่านีแ้ ตกต่างกันอย่างไรระหวา่ งหลักสตู รและ บรกิ าร กล่มุ ของผู้เรยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื และสว่ นตลาด (*) ข. ผลลัพธด์ ้านประสิทธิผลของกระบวนการท�ำงาน (1) ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลของกระบวนการ ผลลัพธด์ ้านประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของกระบวนการคืออะไร ระดบั ปจั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั หรอื ตวั บง่ ชท้ี สี่ ำ� คญั ของผลการดำ� เนนิ การ ดา้ นปฏบิ ตั ิการของกระบวนการท�ำงานและกระบวนการสนบั สนนุ ทสี่ �ำคญั คอื อะไร ทง้ั นี้ ใหร้ วม ถงึ ผลลพั ธด์ า้ นผลติ ภาพ รอบเวลา และตวั วดั อน่ื ๆ ดา้ นประสทิ ธผิ ล ประสทิ ธภิ าพ และนวตั กรรม

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การดำ�เนินการที่เปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 55 ของกระบวนการผลลพั ธด์ งั กลา่ วเปรยี บเทยี บกบั ผลการดำ� เนนิ การของคแู่ ขง่ และสถาบนั อนื่ ๆ ที่ มกี ระบวนการคลา้ ยคลงึ กนั ผลลพั ธเ์ หลา่ นแี้ ตกตา่ งกนั อยา่ งไรระหวา่ งกระบวนการชนดิ ตา่ งๆ (*) (2) การเตรยี มพร้อมตอ่ ภาวะฉุกเฉิน ผลลัพธข์ องการเตรียมพรอ้ มตอ่ ภาวะฉุกเฉินคอื อะไร ระดับปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดหรือตัวบ่งช้ีท่ีส�ำคัญด้านประสิทธิผล ของการเตรียมพรอ้ มของสถาบันเพื่อรับมอื กับภัยพิบตั แิ ละภาวะฉุกเฉินคืออะไร ผลลัพธ์เหล่าน้ี แตกตา่ งกนั อย่างไรตามท่ีตั้งหรอื ประเภทของกระบวนการต่างๆ (*) ค. ผลลพั ธ์ดา้ นการจัดการห่วงโซอ่ ปุ ทาน ผลลัพธ์ดา้ นการจดั การห่วงโซ่อปุ ทานคืออะไร ผลลัพธ์ของตัววัดหรือตัวบ่งช้ีที่ส�ำคัญของผลการด�ำเนินการด้านห่วงโซ่อุปทาน รวมทง้ั ผลลพั ธท์ ่ชี ่วยส่งเสรมิ ใหผ้ ลการด�ำเนนิ การของสถาบันดีขน้ึ คืออะไร ค�ำศัพท์ท่ีส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 7.1 ผลลพั ธค์ วรใหส้ ารสนเทศส�ำคญั เพอ่ื การวเิ คราะหแ์ ละการทบทวนผลการด�ำเนนิ การ ของสถาบัน (หวั ข้อ 4.1) แสดงให้เห็นถงึ การใช้ความรขู้ องสถาบัน (หัวขอ้ 4.2) และปทู างไปสู่ ผลลพั ธ์ดา้ นการมุ่งเนน้ ผเู้ รยี น (หัวข้อ 7.2) และดา้ นงบประมาณดา้ นงบประมาณ การเงนิ และ ตลาด (หวั ขอ้ 7.5) ทง้ั นไ้ี มม่ ีการเกย่ี วเนอื่ งกันโดยตรง (หนึ่งตอ่ หนงึ่ ) ระหวา่ งหวั ขอ้ ตา่ งๆ ของ ผลลัพธก์ บั หมวด 1–6 ควรพจิ ารณาผลลพั ธ์อย่างเปน็ ระบบ โดยผลลัพธ์ในแตล่ ะหวั ข้อมกั เป็น ผลจากกระบวนการที่ดำ� เนินการในหมวดตา่ งๆ มากกว่า หน่ึงหมวด 7.1ก ผลลัพธ์ท่ีรายงานควรรวมตัววัดท่ีส�ำคัญ ที่บังคับใช้โดยผู้ให้ทุนและที่ต้องแจ้งต่อ สาธารณะ และ/หรอื ถกู บงั คับใช้โดยผปู้ ระเมินหรอื หนว่ ยงานทีก่ ำ� กับ เชน่ สถาบนั รบั รองโดย วชิ าชพี หรือหน่วยงานทก่ี �ำกับในระดับชาตแิ ละระดับท้องถนิ่ 7.1ก ผลลัพธ์ด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและด้านกระบวนการบริการลูกค้า ควรเกี่ยว เน่ืองกับความต้องการและความคาดหวังที่ส�ำคัญของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่นตามที่ระบุไว้ ใน P.1ข(2) ซ่ึงเป็นสารสนเทศท่ีได้จากการรวบรวมผ่านกระบวนการใน หมวด 3 ตัววัดหรือ ตัวบ่งชี้ต่างๆ ควรพิจารณาปัจจัยที่มีผลต่อความนิยมของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน ดังตัวอย่าง ท่ใี หไ้ ว้ในหมายเหตขุ ้อ P.1ข(2) และ 3.2ก

56 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การท่เี ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 7.1ข ผลลัพธ์ควรพิจารณาข้อก�ำหนดหลักของการปฏิบัติการตามท่ีระบุไว้ในโครงร่าง องคก์ ารและในหมวด 6 7.1ข ตัววัดและตัวบ่งช้ีที่เหมาะสมของประสิทธิผลกระบวนการอาจรวมเรื่องดังต่อไป น้ี ผลการตรวจติดตาม จ�ำนวนและผลลัพธ์ของนวัตกรรมของหลักสูตร บริการ และการสร้าง นวัตกรรมในระบบงาน ผลลัพธจ์ ากการปรบั ปรุงงานภายในให้งา่ ยขนึ้ และการจัดกลุ่มงานใหม่ การลดของเสีย การปรับเปล่ียนสัดส่วนการบังคับบัญชา การรายงานอุบัติการของการบริหาร ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ระยะเวลารวมพลในการซ้อมฉุกเฉิน และผลลัพธ์ของการ ซ้อมย้ายท่ที ำ� งานหรอื ซ้อมแผนฉุกเฉนิ 7.1ค ข้อกำ� หนดน้ีไมไ่ ด้ถามถึงระดับและแนวโน้ม กเ็ พราะวา่ ผลลพั ธ์ดา้ นหว่ งโซ่อุปทาน บางด้านอาจเปน็ ข้อมลู เชงิ คณุ ภาพ หรือไม่สามารถแสดงเปน็ แนวโนม้ ตวั อย่างสำ� หรบั ผสู้ ่งมอบ เช่น ช่ัวโมงการอบรมในหลักสูตร บริการ หรือกระบวนการใหม่ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จำ� นวนชวั่ โมงในการตรวจสอบซงึ่ แปรผนั ตามประสบการณข์ องผสู้ ง่ มอบหรอื ตามขอ้ กำ� หนดของ การจดั ซอื้ จดั จา้ ง หรอื ความรว่ มมอื ในการพฒั นาหลกั สตู รหรอื กระบวนการ อยา่ งไรกต็ ามสถาบนั ควรรายงานระดบั และแนวโนม้ ของผลลพั ธท์ เี่ ปน็ ตวั เลขและสามารถพฒั นาใหเ้ กดิ แนวโนม้ ได้ (*) 7.1ค ตัววัดและตัวบ่งช้ีที่เหมาะสมของผลการด�ำเนินการของห่วงโซ่อุปทานอาจรวมถึง การตรวจตดิ ตามผสู้ ง่ มอบและคคู่ วามร่วมมือ การส่งมอบแบบทนั เวลาพอดี และผลการยอมรบั ของหลักสูตร บริการและกระบวนการที่ด�ำเนินการโดยภายนอก ตัววัดและตัวบ่งช้ีท่ีช่วยเสริม ใหก้ ารดำ� เนินการของสถาบันดขี น้ึ อาจรวมถงึ ตัววัดด้านการปรับปรงุ การบริการของผสู้ ง่ มอบที่ เก่ยี วขอ้ งโดยตรงกับผูเ้ รียนและลูกคา้ กลมุ่ อน่ื ดูค�ำอธบิ ายเพมิ่ เติมของหัวข้อน้ีไดท้ ห่ี นา้ 157-159

เกณฑ์คุณภาพการศกึ ษาเพือ่ การดำ�เนนิ การทเ่ี ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 57 7.2 ผลลพั ธด์ ้านการมงุ่ เน้นลูกคา้ : ผลลัพธ์การด�ำเนนิ งานด้านการมุ่งเน้นลกู คา้ เป็นอยา่ งไร (80 คะแนน) [ผลลพั ธ]์ ใหส้ รปุ ผลลพั ธท์ ส่ี �ำคญั ของการมงุ่ เนน้ ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ ของสถาบนั รวมทง้ั ความพงึ พอใจ ความไม่พงึ พอใจ ความผกู พนั ให้แสดงขอ้ มลู และสารสนเทศเพื่อตอบคำ� ถามตอ่ ไปน้ี ก. ผลลัพธ์ดา้ นการม่งุ เน้นผเู้ รียนและลกู ค้ากลุ่มอน่ื (1) ความพึงพอใจของผู้เรียนและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื ผลลัพธ์ด้านความพึงพอใจและความไม่พึงพอใจของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่ม อน่ื คืออะไร ผลลพั ธป์ จั จบุ นั และแนวโนม้ ดา้ นความพงึ พอใจและความไมพ่ งึ พอใจของผเู้ รยี น และลูกค้ากลุ่มอ่ืนเป็นอย่างไร ให้เปรียบเทียบผลลัพธ์ของสถาบันกับระดับความพึงพอใจของ ผู้เรียน และลูกค้ากลุ่มอื่นของคู่แข่งและสถาบันอ่ืนที่จัดหลักสูตรและบริการที่คล้ายคลึงกัน ผลลัพธ์เหล่าน้ีแตกต่างกันอย่างไรระหว่างหลักสูตรและบริการ กลุ่มของผู้เรียนและลูกค้า กล่มุ อื่น และส่วนตลาด (*) (2) ความผกู พันของผูเ้ รยี นและลกู ค้ากลุม่ อืน่ ผลลัพธ์ด้านความผูกพันของผู้เรียนและลกู คา้ กลมุ่ อ่ืนคอื อะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มด้านความผูกพันของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่น ซง่ึ รวมถงึ ผลลพั ธด์ า้ นการสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื เปน็ อยา่ งไร ใหเ้ ปรยี บเทยี บ ผลลัพธ์ตลอดช่วงเวลาที่ผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่นมีความสัมพันธ์กับสถาบัน (*) ผลลัพธ์เหล่าน้ี แตกต่างกันอย่างไรระหว่างหลักสูตรและบริการ กลุ่มของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่น และส่วน ตลาด (*) ค�ำศัพท์ท่ีส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124

58 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 หมายเหตุ 7.2 ผลลพั ธด์ า้ นความพงึ พอใจ ความไมพ่ งึ พอใจ ความผกู พนั และการสรา้ งความสมั พนั ธ์ ของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืน ท่ีรายงานไว้ในหัวข้อนี้ควรสัมพันธ์กับกลุ่ม/ประเภทผู้เรียน กลุ่ม ลูกค้า และส่วนตลาดที่ระบุไว้ในโครงร่างองค์การ [P 1ข(2)] และควรสัมพันธ์กับวิธีการรับฟัง เสียงลูกค้าและวธิ ีการประเมินทไ่ี ดอ้ ธบิ ายไว้ในหัวขอ้ 3.1 7.2ก(1) ตวั วดั และตวั บง่ ชด้ี า้ นความพงึ พอใจทมี่ ตี อ่ หลกั สตู รและบรกิ ารเมอื่ เปรยี บเทยี บ กับความพึงพอใจของผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่นที่มีต่อคู่แข่งและองค์การอ่ืนๆ ที่สามารถเทียบ กันได้ อาจรวมถึงขอ้ มลู และสารสนเทศจากผ้เู รยี น ลกู ค้ากลุม่ อื่น ลูกค้าของคแู่ ขง่ และองคก์ าร อสิ ระอืน่ ๆ ดูค�ำอธบิ ายเพิม่ เติมของหัวขอ้ น้ีไดท้ ห่ี น้า 159-160 7.3 ผลลพั ธด์ ้านการมุง่ เนน้ บุคลากร : ผลลัพธก์ ารด�ำเนนิ การดา้ นการมงุ่ เน้นบคุ ลากรของ สถาบนั มอี ะไรบ้าง (80 คะแนน) [ผลลพั ธ]์ ใหส้ รปุ ผลลพั ธด์ า้ นการมงุ่ เนน้ บคุ ลากรทส่ี �ำคญั รวมถงึ ผลลพั ธด์ า้ นสภาพแวดลอ้ ม ในการท�ำงาน และความผกู พันของบุคลากร ใหแ้ สดงข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือตอบคำ� ถามต่อไปนี้ ก. ผลลัพธ์ดา้ นการม่งุ เนน้ บคุ ลากร (1) อตั ราก�ำลังและขีดความสามารถของบคุ ลากร ผลลพั ธ์ดา้ นอตั ราก�ำลังและขดี ความสามารถของบุคลากรคอื อะไร ผลลพั ธด์ า้ นอตั รากำ� ลงั และขดี ความสามารถ รวมถงึ จำ� นวนของบคุ ลากร และทกั ษะ ทเ่ี หมาะสม ผลลพั ธป์ จั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั ทส่ี ำ� คญั ดา้ นอตั รากำ� ลงั และขดี ความสามารถ ของบุคลากร ซ่ึงรวมถึงทักษะท่ีจ�ำเป็น และจ�ำนวนบุคลากรท่ีมีในแต่ละระดับ ผลลัพธ์เหล่าน้ี มคี วามแตกตา่ งตามความหลากหลายของบคุ ลากร ตามกลุ่ม ประเภทของบคุ ลากรอย่างไร (*) (2) บรรยากาศการท�ำงาน ผลลพั ธ์ดา้ นบรรยากาศการท�ำงานคืออะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดท่ีส�ำคัญด้านบรรยากาศการท�ำงานรวมถึง สุขภาพของบุคลากร ความปลอดภัย ความมั่นคง รวมทั้งการให้บริการและสิทธิประโยชน์

เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการดำ�เนนิ การทเ่ี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 59 ของบุคลากรเป็นอย่างไร (*) ผลลัพธ์เหล่านี้มีความแตกต่างตามความหลากหลายของ บุคลากร ตามกลมุ่ ประเภทของบคุ ลากรอยา่ งไร (*) (3) ความผูกพันของบคุ ลากร ผลลพั ธด์ า้ นความผูกพนั ของบคุ ลากรคอื อะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดท่ีส�ำคัญด้านความพึงพอใจและความผูกพัน ของบคุ ลากร ผลลพั ธเ์ หลา่ นมี้ คี วามแตกตา่ งตามความหลากหลายของบคุ ลากร ตามกลมุ่ ประเภท ของบุคลากรอยา่ งไร (*) (4) การพัฒนาบุคลากร ผลลัพธด์ า้ นการพัฒนาบุคลากรและผนู้ �ำคอื อะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดที่ส�ำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร และผู้น�ำ ผลลพั ธเ์ หลา่ นม้ี คี วามแตกตา่ งตามความหลากหลายของบคุ ลากร ตามกลมุ่ ประเภทของบคุ ลากร อยา่ งไร (*) ค�ำศัพท์ท่ีส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 7.3 ผลลัพธ์ท่ีรายงานในหัวข้อน้ี ควรจะเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการท่ีรายงานไว้ใน หมวด 5 และควรตอบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนดของกระบวนการปฏบิ ตั งิ านทสี่ ำ� คญั ตามทอ่ี ธบิ ายไวใ้ น หมวด 6 และตอ่ แผนปฏบิ ตั กิ ารและแผนด้านทรพั ยากรบคุ คล ตามทต่ี อบไว้ในหัวขอ้ 2.2 7.3 ส�ำหรับสถาบันท่ีต้องใช้อาสาสมัคร ควรรายงานผลลัพธ์ของกลุ่มบุคลากรที่เป็น อาสาสมคั รดว้ ย (*) 7.3ก(3) ในการตอบควรรวมถึงตวั วัดและตัวบ่งช้ตี ามทีไ่ ดร้ ะบไุ วใ้ นหวั ขอ้ 5.2 ก.(3) ดูค�ำอธบิ ายเพิม่ เตมิ ของหัวข้อนไ้ี ดท้ ่ีหนา้ 160-161

60 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่ือการด�ำ เนินการทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 7.4 ผลลัพธ์ด้านการน�ำองค์การและการก�ำกับดูแล: ผลลัพธ์ด้านการน�ำองค์การของผู้น�ำ ระดับสูง และการก�ำกับดแู ลมีอะไรบ้าง (80 คะแนน) [ผลลพั ธ์] ให้สรุปผลลัพธ์ด้านการน�ำองค์การที่ส�ำคัญของผู้น�ำระดับสูง และการก�ำกับ ดูแล รวมท้งั ภาระรับผิดชอบดา้ นการเงนิ การปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย การประพฤติปฏบิ ัติอยา่ ง มจี รยิ ธรรม ความรบั ผดิ ชอบ ต่อสังคม และการสนับสนนุ ชุมชนท่สี �ำคัญ รวมทั้งการบรรลุ เป้าหมายเชงิ กลยทุ ธ์ ใหแ้ สดงขอ้ มูลและสารสนเทศเพือ่ ตอบคำ� ถามต่อไปน้ี ก. ผลลัพธด์ ้านการน�ำองคก์ าร การก�ำกบั ดูแลและความรับผิดชอบตอ่ สงั คม (1) การน�ำองค์การ ผลลัพธ์ด้านการส่ือสารและสร้างความผูกพันกับบุคลากร ผู้เรียนและ ลกู คา้ กลมุ่ อนื่ คอื อะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มส�ำหรับตัววัดและตัวบ่งช้ีท่ีส�ำคัญที่แสดงถึงการ ท่ีผู้น�ำส่ือสารและสร้างความผูกพันกับบุคลากร ผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอื่น เพ่ือน�ำวิสัยทัศน์ และค่านิยมไปสู่การปฏิบัติ สนับสนุนให้เกิดการส่ือสารแบบสองทาง และมุ่งเน้นการปฏิบัติ ผลลพั ธ์เหลา่ นม้ี คี วามแตกต่างตามหน่วยงานกลุม่ ผเู้ รียนและลกู คา้ กลุ่มอ่นื อยา่ งไร (*) (2) การก�ำกับดแู ล ผลลัพธ์ด้านภาระรบั ผิดชอบของการก�ำกบั ดแู ลคืออะไร ผลลพั ธป์ จั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั และตวั บง่ ชด้ี า้ นการกำ� กบั ดแู ล และภาระ รบั ผิดชอบ ด้านการเงินท้ังภายในและภายนอก (*) (3) กฎหมาย ข้อบงั คับและการรบั รองมาตรฐาน ผลลัพธด์ า้ นกฎหมาย ข้อบงั คบั และการรับรองมาตรฐานคอื อะไร ผลลพั ธป์ จั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั และตวั บง่ ชดี้ า้ นการปฏบิ ตั ติ ามและทำ� ให้ ดีกว่าระเบียบขอ้ บงั คบั กฎหมาย และการรับรองมาตรฐาน ผลลัพธเ์ หล่านีม้ ีความแตกต่างตาม หนว่ ยงานอยา่ งไร (*) (4) จรยิ ธรรม ผลลพั ธ์ด้านประพฤติปฏิบตั ิอยา่ งมจี รยิ ธรรมคอื อะไร ผลลพั ธป์ จั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั และตวั บง่ ชด้ี า้ นการประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยา่ ง มีจรยิ ธรรม พฤตกิ รรมท่ขี ัดต่อจรยิ ธรรม ความเช่อื มั่นของผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี ทีม่ ตี ่อผู้น�ำระดบั สูง และตอ่ ระบบการก�ำกบั ดแู ลของสถาบนั ผลลพั ธเ์ หลา่ นม้ี คี วามแตกตา่ งตามหนว่ ยงานอยา่ งไร (*)

เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนนิ การทีเ่ ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 61 (5) สงั คม ผลลพั ธด์ า้ นความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและการสนบั สนนุ ชมุ ชนทส่ี �ำคญั คอื อะไร ผลลัพธ์ปัจจุบันและแนวโน้มของตัววัดและตัวบ่งชี้ด้านการบรรลุผลลัพธ์ด้าน ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและการสนับสนนุ ชุมชนทสี่ �ำคญั ข. ผลลพั ธด์ ้านการน�ำกลยทุ ธ์ไปปฏบิ ตั ิ ผลลัพธ์ดา้ นการบรรลุกลยุทธข์ องสถาบันและแผนปฏิบตั ิการคืออะไร ผลลพั ธข์ องความสำ� เรจ็ ตามตวั วดั และตวั บง่ ชที้ ส่ี ำ� คญั ในการบรรลกุ ลยทุ ธแ์ ละแผน ปฏิบัติการของสถาบันคืออะไร ผลลัพธ์ด้านการสร้างและเสริมสมรรถนะหลักของสถาบันให้มี ความแขง็ แกร่งขน้ึ และผลลพั ธ์ด้านความเสี่ยงทีน่ า่ ลงทนุ คอื อะไร ค�ำศัพท์ที่ส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หน้า 99-124 หมายเหตุ 7.4 ข้อก�ำหนดส่วนใหญ่ของหัวข้อนี้ไม่ถามถึงระดับและแนวโน้ม ก็เพราะว่าผลลัพธ์ ที่ส�ำคัญบางตัว อาจเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ หรือไม่สามารถแสดงเป็นแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น ผลลัพธด์ ้านความเสย่ี งท่ีน่าลงทุน และภาระรับผดิ ชอบดา้ นการกับดแู ล สำ� หรับผลลัพธด์ ังกล่าว ค�ำอธิบายเชิงคุณภาพอาจส่ือความหมายได้ดีกว่าการแสดงระดับและแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม สถาบันควรรายงานระดับและแนวโน้มของผลลัพธ์ที่เป็นตัวเลขและสามารถพัฒนาให้เกิด แนวโน้มได้ (*) 7.4ก(1) ค�ำตอบควรสัมพนั ธ์กับกระบวนการส่ือสารทรี่ ะบไุ วใ้ นหัวข้อ 1.1 7.4ก(2) คำ� ตอบอาจรวมถงึ ประเดน็ ตา่ งๆ ในรายงานทางการเงนิ และความเสยี่ ง คำ� แนะนำ� ท่สี ำ� คัญๆ ของผตู้ รวจสอบภายในและภายนอก และการตอบสนองของผ้บู ริหารในเรื่องดังกล่าว 7.4ก(3) ผลลพั ธด์ า้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บขอ้ บงั คบั และการรบั รองมาตรฐาน ควรสัมพันธ์กับกระบวนการและตัววัดที่ระบุไว้ในข้อ 1.2ข ผลลัพธ์ด้านอาชีวอนามัยและ ความปลอดภยั ของบคุ ลากร (ตวั อยา่ งเชน่ การรายงาน การเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นงาน) ควรรายงานไวใ้ น ขอ้ 7.1ข(2) และ 7.3ก(2)

62 เกณฑ์คุณภาพการศกึ ษาเพอ่ื การด�ำ เนนิ การทีเ่ ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 7.4ก(4) ตวั อย่างตัววดั ของการประพฤติปฏบิ ตั ิอยา่ งมีจริยธรรม และความเชือ่ มั่นของ ผูม้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ใหด้ หู มายเหตุส�ำหรบั ข้อ 1.2ข(2) 7.4ก(5) ค�ำตอบควรสัมพันธ์กับความรับผิดชอบต่อสังคม ตามท่ีระบุไว้ในข้อ 1.2ข(1) และ 1.2ค(1) รวมถงึ การสนับสนนุ ชมุ ชนท่ีสำ� คญั ของสถาบัน ตามทร่ี ะบุไวใ้ นขอ้ 1.2ค(2) ตัววัด การสนับสนุนให้เกิดความผาสุกของสังคม อาจรวมถึงการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงาน หมนุ เวยี น การหมนุ เวยี นนำ�้ กลบั มาใชใ้ หม่ การลดปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก (carbon footprint) การลดของเสยี และนำ� มาใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละทางเลอื กอน่ื สำ� หรบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร (เชน่ เพมิ่ การประชมุ ทางไกลแบบภาพและเสียง) 7.4ข ตัววัดหรือตัวบ่งช้ีแสดงถึงความส�ำเร็จตามแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการ ควร มคี วามสมั พนั ธก์ บั วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธแ์ ละเปา้ ประสงคท์ รี่ ะบไุ วใ้ นขอ้ 2.1ข(1) และตวั วดั ผล การด�ำเนนิ การและผลท่ีคาดการณไ์ ว้ของแผนปฏิบตั กิ ารทร่ี ะบุไวใ้ นข้อ 2.2ก(5) และ 2.2ข ตาม ลำ� ดบั ดคู �ำอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ของหัวข้อนไ้ี ด้ทหี่ นา้ 161-162 7.5 ผลลพั ธด์ า้ นงบประมาณ การเงิน และตลาด : ผลลัพธ์การด�ำเนินการดา้ นงบประมาณ การเงนิ และตลาดของสถาบันเป็นอยา่ งไร (90 คะแนน) [ผลลัพธ์] ใหส้ รปุ ผลลัพธ์การด�ำเนินการดา้ นงบประมาณ การเงนิ และตลาดทีส่ �ำคญั ของ สถาบนั ใหแ้ สดงข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื ตอบคำ� ถามตอ่ ไปน้ี ก. ผลลพั ธด์ ้านงบประมาณ การเงนิ และตลาด (1) ผลการด�ำเนินการด้านงบประมาณและการเงิน ผลลพั ธ์ของการด�ำเนนิ การดา้ นการเงนิ คืออะไร ระดบั ปจั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั หรอื ตวั บง่ ชที้ สี่ ำ� คญั ของผลการดำ� เนนิ การ ดา้ นงบประมาณและการเงิน รวมถงึ ตัววดั เชิงรวม (Aggregrete measures) ของการควบคุม ตน้ ทนุ ความมนั่ คงทางการเงิน (Financial viability) หรอื ผลการด�ำเนนิ การด้านงบประมาณ (Budgetary performance) (*) ผลลพั ธเ์ หลา่ นม้ี คี วามแตกตา่ งตามสว่ นตลาด กลมุ่ และประเภท ของผู้เรียนและลกู ค้ากลุ่มอ่นื อยา่ งไร (*)

เกณฑค์ ณุ ภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนินการที่เปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 63 (2) ผลการด�ำเนนิ การดา้ นตลาด ผลลพั ธข์ องการด�ำเนนิ การด้านตลาด คืออะไร ระดบั ปจั จบุ นั และแนวโนม้ ของตวั วดั หรอื ตวั บง่ ชท้ี ส่ี ำ� คญั ของผลการดำ� เนนิ การ ด้านตลาดรวมถึงส่วนแบ่งตลาดหรือต�ำแหน่งในตลาด การเติบโตของตลาดและส่วนแบ่งตลาด และการเจาะตลาดใหม่ (*) ผลลพั ธเ์ หลา่ นมี้ คี วามแตกตา่ งตามสว่ นตลาด กลมุ่ และประเภทของ ผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื อยา่ งไร (*) ค�ำศัพท์ท่ีส�ำคัญต่าง ๆ สามารถดูความหมายของค�ำศัพท์ส�ำคัญได้ในอภิธานศัพท์ หนา้ 99-124 หมายเหตุ 7.5ก(1) ตัววัดอาจรวมสภาพคลอ่ ง ปรมิ าณเงนิ ที่มใี ช้ ประสทิ ธิภาพในการใช้สินทรัพย์ กระแสเงนิ สด การจดั อนั ดบั พนั ธบตั ร คา่ ใชจ้ า่ ยของการเรยี นการสอนและการบรหิ ารทวั่ ไปตอ่ หวั ผเู้ รยี นหรอื เปน็ รอ้ ยละของคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมด เงนิ ทนุ สำ� รองและกองทนุ ระดบั คา่ เลา่ เรยี นและคา่ ธรรมเนยี มตา่ งๆ คา่ ใชจ้ า่ ยตอ่ หนว่ ยกติ จ�ำนวนทนุ การศกึ ษาตอ่ ปี ตน้ ทนุ การด�ำเนนิ การเมอื่ เทยี บ กับงบประมาณ รายจา่ ยต่อหลักสตู รคดิ เป็นรอ้ ยละของงบประมาณ งบประมาณทีเ่ พมิ่ ขนึ้ หรือ ลดลงในแต่ละปี ทรพั ยากรเพอ่ื การศึกษาซึง่ ผนั มาจากดา้ นอน่ื ๆ จ�ำนวนทุนการศกึ ษาทเี่ พ่ิมขึน้ ตวั วดั ตอ้ งเกย่ี วเนอื่ งกบั ตวั วดั ดา้ นการเงนิ ทส่ี ถาบนั รายงานไวใ้ นขอ้ 4.1ก(1) และแนวทางการบรหิ าร การเงนิ ตามทไี่ ดร้ ายงานไวใ้ นหวั ขอ้ 2.2 ดูค�ำอธิบายเพ่ิมเตมิ ของหัวขอ้ น้ไี ด้ท่หี น้า 162

64 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพือ่ การด�ำ เนินการที่เปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ระบบการใหค้ ะแนน (เพอ่ื การประเมนิ ระดบั พฒั นาการ) การใหค้ ะแนนค�ำตอบในแตล่ ะหวั ขอ้ และการใหข้ ้อมลู ปอ้ นกลบั แกส่ ถาบัน จะขนึ้ อยูก่ ับ การประเมินใน 2 มิติ คือกระบวนการ (หมวด 1-6) และผลลัพธ์ (หมวด 7) ในการประเมนิ ระดบั พฒั นาการตามแนวทางทต่ี อบไว้ ใหพ้ จิ ารณาถงึ สารสนเทศทเี่ ชอื่ มโยง กบั ขอ้ ก�ำหนดของหวั ข้อและแนวทางการให้คะแนน (หนา้ 70-73) ดงั นี้ ● ปัจจยั หลกั ด้านธรุ กจิ ซง่ึ นำ� เสนอไว้ในโครงรา่ งองคก์ าร ● ระดบั พัฒนาการของแนวทางตา่ ง ๆ ความครอบคลุมของการไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ความ เขม้ แขง็ ของกระบวนการเรยี นรแู้ ละกระบวนการปรับปรงุ รวมทงั้ ของผลลพั ธท์ ีน่ �ำเสนอ มิติการใหค้ ะแนน กระบวนการ “กระบวนการ”หมายถงึ วธิ กี ารทส่ี ถาบันใชแ้ ละปรบั ปรงุ เพ่ือตอบสนองขอ้ กำ� หนดของ หัวข้อตา่ งๆ ในหมวด 1-6 ปจั จยั ทงั้ 4 ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ กระบวนการไดแ้ ก่ A (Approach) – แนวทาง D (Deployment) – การถา่ ยทอดเพอื่ นำ� ไปปฏบิ ตั ิ L (Learning) – การเรยี นรู้ และ I (Integration) – การบรู ณาการ การรายงาน ปอ้ นกลบั ตามแนวทาง EdPEx สะทอ้ นถึงจดุ แข็ง และโอกาสในการพฒั นาของปัจจัยตา่ งๆ เหลา่ นี้ การให้คะแนนหวั ขอ้ ในหมวด 1-6 เปน็ ผลรวม ซงึ่ มพี นื้ ฐานจากผลการดำ� เนนิ การโดยรวม โดยคำ� นงึ ถงึ ปจั จยั ทงั้ 4 ดา้ นของกระบวนการ (ADLI) A (Approach ) – “แนวทาง” หมายถงึ ● วิธีการที่ใช้เพื่อให้บรรลุผลตามกระบวนการ ● ความเหมาะสมของวิธีการที่ใช้เพ่ือตอบสนองข้อก�ำหนดของหัวข้อต่างๆ และ สภาพแวดลอ้ มการปฏิบัตกิ ารของสถาบัน ● ความมปี ระสทิ ธผิ ลของการใชว้ ิธีการเหล่านน้ั ● การที่แนวทางถูกน�ำไปใช้ซ้�ำได้เพียงใด และการที่แนวทางน้ันอาศัยข้อมูลและ สารสนเทศท่ีเชื่อถอื ไดเ้ พยี งใด (ซ่งึ หมายถงึ การดำ� เนินการอย่างเปน็ ระบบ) D (Deployment) – “การถา่ ยทอดเพอื่ น�ำไปปฏบิ ตั ”ิ หมายถงึ ความครอบคลมุ และทวั่ ถงึ ของ ● การใช้แนวทางเพ่ือตอบสนองข้อก�ำหนดของหัวข้อต่างๆ ท่ีมีความเก่ียวข้องและมี ความสำ� คญั ต่อสถาบนั ● การใชแ้ นวทางอย่างคงเสน้ คงวา ● การใชแ้ นวทางในทุกหน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง

เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพ่อื การดำ�เนนิ การท่ีเปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 65 L (Learning) – “การเรียนร้”ู หมายถึง ● การปรับปรุงแนวทางใหด้ ขี ้นึ ผ่านวงรอบของการประเมนิ และการปรับปรุง ● การกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงแนวทางอยา่ งกา้ วกระโดด ผา่ นการสรา้ งนวตั กรรม ● การแบ่งปันความรู้ที่ได้จากการปรับปรุงและการสร้างนวัตกรรมกับหน่วยงานและ กระบวนการอนื่ ๆ ทเี่ กย่ี วข้องภายในสถาบนั ใหด้ จู าก“จากการผจญเพลงิ ส่นู วตั กรรม : อุปมาอุปมัยส�ำหรับการเรียนรู้” หนา้ ท่ี 67 ซง่ึ แสดงให้เหน็ ถึงระดับพัฒนาการประกอบกบั มติ กิ ารใหค้ ะแนน I (Integration) – “การบูรณาการ” หมายถึง ความครอบคลุมและทวั่ ถงึ ของ ● แนวทางทใ่ี ชส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของสถาบนั ตามทรี่ ะบไุ วใ้ นโครงรา่ งองคก์ าร และข้อก�ำหนดของหวั ข้อต่างๆ ในหมวด 1 ถงึ หมวด 6 ● การใช้ตัววัด สารสนเทศ และระบบการปรบั ปรุงที่ช่วยเสรมิ ซึ่งกันและกันทั้งระหวา่ ง กระบวนการ และหน่วยงานต่างๆ ของสถาบนั ● การท่ีแผนงาน กระบวนการ ผลลัพธ์ การวิเคราะห์ การเรียนรู้ และการปฏบิ ตั กิ าร มีความสอดคล้องกลมกลืนกันในทุกกระบวนการและหน่วยงาน เพื่อสนับสนุน เป้าประสงคร์ ะดบั สถาบัน ในการประเมินให้คะแนนหัวข้อหมวดกระบวนการ (หมวด 1-6) พงึ ระลกึ ไว้เสมอวา่ แนวทาง การนำ� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ การเรยี นรู้ และบรู ณาการ มคี วามเชอื่ มโยงกนั การอธบิ ายเกยี่ วกบั แนวทางต้องระบุ ถึงการน�ำไปสู่การปฏิบัติที่สอดรับกับความต้องการเฉพาะของหัวข้อและ ของสถาบัน เมื่อกระบวนการมีพัฒนาการมากข้ึน ค�ำอธิบายควรครอบคลุมถึงวัฏจักรของ การเรียนรู้ (ไปจนถึงการสร้างนวัตกรรม) ทั้งนี้ รวมถึงการบูรณาการกับกระบวนการ และ หนว่ ยงานอืน่ ๆ (ให้ดู “ขั้นตอนสกู่ ระบวนการทมี่ กี ารพฒั นา” หนา้ 68) ผลลพั ธ์ “ผลลัพธ์” หมายถึงผลผลิตและผลลัพธ์ของสถาบัน ในการบรรลุตามข้อก�ำหนด ในหวั ขอ้ 7.1 ถงึ 7.6 ปจั จยั ทง้ั 4 ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ผลลพั ธ์ ไดแ้ ก่ L (Level) – ระดบั T (Trends) – แนวโนม้ C (Comparisons) – การเปรยี บเทยี บ และ I (Integration) – การบรู ณาการ การ ใหค้ ะแนนหัวข้อในหมวด 7 เปน็ ผลรวมซงึ่ มพี นื้ ฐานจากผลการด�ำเนินการโดยรวม โดยคำ� นงึ ถงึ ปัจจัยทง้ั 4 ดา้ นของผลลัพธ์

66 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่ือการด�ำ เนนิ การที่เป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 L (Level) – “ระดบั ” หมายถึง ● ระดับของผลการด�ำเนินการในปัจจุบัน โดยใช้มาตรวัดที่น�ำมาใช้ประโยชน์ได้ (meaningful measurement scales) T (Trends) – “แนวโน้ม”หมายถึง ● อตั ราของการปรับปรุงผลการดำ� เนนิ การ หรือผลการดำ� เนินการท่ีดอี ย่างต่อเนอื่ ง (เชน่ ความลาดชนั ของจดุ ท่ีแสดงข้อมลู บนแกนของเวลา) ● ความครอบคลุมของผลการด�ำเนินการ (เช่น ความครอบคลุมของการถ่ายทอดเพ่ือ น�ำไปปฏิบัติ) C (Comparisons) – “การเปรียบเทยี บ”หมายถงึ ● ผลการดำ� เนินการของสถาบนั โดยเทยี บกับข้อมลู เชิงเปรยี บเทียบทีเ่ หมาะสม เช่น เปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือสถาบนั ที่คล้ายคลึงกัน ● ผลการดำ� เนนิ การของสถาบันเม่ือเทียบกับค่าเทียบเคียง หรอื กบั องคก์ ารช้ันนำ� I (Integration) – “การบรู ณาการ” หมายถงึ ความครอบคลุมและทวั่ ถงึ ของ ● ตวั วัดต่าง ๆ (จ�ำแนกประเภท) ด้านลูกคา้ หลกั สตู รและบรกิ าร ตลาด กระบวนการ และแผนปฏบิ ตั กิ าร ทร่ี ะบไุ วใ้ นโครงรา่ งองคก์ ารและหวั ขอ้ ทอ่ี ยใู่ นหมวดกระบวนการ (ในหมวด 1 ถึงหมวด 6) ● ผลลพั ธร์ วมถงึ ตวั ชี้วัดทเี่ ชอ่ื ถือได้ส�ำหรบั ผลการด�ำเนินการที่เชือ่ ถือได้ ● ผลลพั ธม์ คี วามสอดคลอ้ งกลมกลนื กนั ในทกุ กระบวนการและหนว่ ยงาน เพอื่ สนบั สนนุ เปา้ ประสงคร์ ะดบั สถาบัน ในการประเมินให้คะแนนหัวข้อหมวดผลลัพธ์ควรดูข้อมูลผลการด�ำเนินการที่มีระดับ แนวโนม้ การเปรยี บเทยี บทเี่ หมาะสมสำ� หรบั ตวั วดั และตวั ชว้ี ดั ทสี่ ำ� คญั ตลอดจนดคู วามเชอ่ื มโยงกบั ความตอ้ งการหลกั ๆ ของสถาบนั ดว้ ย นอกจากนยี้ งั ควรแสดงขอ้ มูลให้ครอบคลุมถึงผลลพั ธข์ อง การด�ำเนินการท้ังหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลของการถ่ายทอดไปสู่การปฏิบัติอย่างทั่วถึงและ ผลการเรียนรู้ระดับองค์การ หากกระบวนการปรับปรุงได้ถูกน�ำไปถ่ายทอดและเผยแพร่อย่าง กว้างขวางแล้ว ผลลัพธ์ทดี่ นี า่ จะตอ้ งเกิดข้ึน

เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพือ่ การดำ�เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 67 จากการผจญเพลงิ สู่นวตั กรรม : อปุ มาอุปมยั ส�ำหรับการเรียนรู้ 1 ตัง้ รบั ปญั หา (0-5%) • ผูท้ ีร่ บั ผิดชอบโดยตรงเกดิ ความตระหนกตกใจกบั ปัญหาท่เี กดิ ขึ้น เน้นการหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คล่ีคลายสถานการณ์ให้ ปกติอย่างรวดเร็วคล้ายกับเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบเร่งว่ิงลากสายดับ เพลิงเพอ่ื ดบั เพลิงใหเ้ ร็วท่ีสดุ เท่าที่จะท�ำได้ 2 รณรงคใ์ ห้เกิดการปรบั ปรงุ แบบพน้ื ๆ (10-25%) • ผู้ที่รับผิดชอบแสวงหาเคร่ืองมือหรือก�ำหนดมาตรการในการ แก้ไขปัญหาเพ่ือให้สามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และลด ผลกระทบของความเสียหายที่เกิดข้ึน เทียบได้กับการติดต้ังท่อและ สายดับเพลิงจ�ำนวนมากข้ึนเพ่ือช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการดับเพลิง และลดความเสยี หายท่อี าจเกดิ ข้ึน 3 การปรบั ปรงุ และประเมนิ ผลอย่างเป็นระบบ (30-45%) • องค์กรเร่ิมมีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อประเมินจุดที่เป็น ความเสี่ยงหรือสาเหตุของปัญหา เพื่อหาทางรับมือกับความผิดปกติ ที่อาจเกิดข้ึนได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น เทียบได้กับการท่ีองค์กร ประเมนิ วา่ พนื้ ทใ่ี ดมคี วามเสยี่ งในการเกดิ เพลงิ ไหมแ้ ละตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ ตรวจจับความร้อนและหัวรดน้�ำ (heat sensors and a sprinkler system) เป็นพิเศษพร้อมทั้งแผนการรับมืออัคคีภัยที่อาจเกิดข้ึน ในพื้นที่บริเวณน้ัน 4 กลยุทธก์ ารปรับปรงุ และการเรยี นรู้ (50-65%) • องค์กรด�ำเนินการบริหารจัดการเชิงป้องกันการเกิดอัคคีภัย อย่างเป็นระบบมากขึ้น เทยี บได้กบั การทอ่ี งคก์ รติดตง้ั ระบบตรวจจบั ความร้อนและหัวรดน�้ำ เพื่อช่วยเตือนภัยให้ทราบเม่ือระดับอุณหภูมิ เพมิ่ สูงข้ึนจนสามารถท�ำให้เกิดเพลงิ ไหมไ้ ด้ 5 การวิเคราะห์องคก์ รและสร้างนวตั กรรม (70-100%) • องค์กรด�ำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศระดับองค์กร และสร้างนวัตกรรมทเ่ี นน้ การป้องกันทสี่ าเหตเุ บ้อื งตน้ เพอ่ื ลดโอกาส การเกดิ ของปญั หา เทยี บไดก้ บั การทอี่ งคก์ รเนน้ ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุอุปกรณ์ท่ีป้องกันไฟและติดไฟยาก การเปล่ียน มาใช้ของเหลวที่มนี ำ้� เปน็ สว่ นประกอบหลักแทนของเหลวไวไฟ แนวคิดการป้องกันเป็นการปกป้องชั้นแรก โดยมีระบบตรวจจับความร้อนและหัวรดนํ้า เป็นการปอ้ งกันช้ันทส่ี อง แนวคดิ น้ไี ด้น�ำไปใชใ้ นทกุ สถานการณแ์ ละพ้นื ที่ในองค์กร

68 เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพอื่ การด�ำ เนนิ การทเ่ี ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 ขัน้ ตอนสู่ความกา้ วหนา้ ในการพัฒนา เครอื่ งมอื ช่วยในการประเมินและการให้คะแนนในหมวดกระบวนการ 1) ต้งั รบั ปัญหา เปา้ ประสงค์ (0-25%) เชิงกลยุทธ์และ การปฏิบัตกิ าร การปฏิบัติการมีลักษณะเป็นกิจกรรมมากกว่าเป็นกระบวนการ และส่วนใหญ่จะตอบสนองความ ตอ้ งการหรอื การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขาดการก�ำหนดเป้าประสงค์ท่ดี ี (2) แนวทางเริ่ม เป้าประสงค์ เปน็ ระบบ เชิงกลยุทธ์และ (30-45%) การปฏิบัตกิ าร (3) แนวทาง สถาบันเพิ่งเริ่มต้นการปฏิบัติการด้วยการใช้กระบวนการท่ีสามารถท�ำซ้�ำได้ มีการประเมินผล การ สอดคล้องไป ปรับปรงุ และเรม่ิ มกี ารประสานงานบ้างระหว่างหน่วยงานต่างๆ ภายในสถาบัน มีการก�ำหนดกลยุทธ์ ในทศิ ทางเดยี วกนั และเปา้ ประสงคเ์ ชิงปริมาณ (50-65%) เปา้ ประสงค์ เชงิ กลยุทธแ์ ละ การปฏบิ ัติการ การปฏิบัติการมีลักษณะเป็นกระบวนการที่สามารถท�ำซ้�ำได้ และมีการประเมินผลอย่างสม่�ำเสมอ เพื่อการปรับปรุง มีการแบ่งปันการเรียนรู้และมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ภายใน สถาบนั กระบวนการตอบสนองกลยุทธ์และเปา้ ประสงคท์ ี่สำ� คัญของสถาบัน (4) แนวทางท่ี เปา้ ประสงค์ มีการบรู ณาการ เชงิ กลยุทธแ์ ละ (70-100%) การปฏบิ ตั กิ าร การปฏิบัติการมีลักษณะเป็นกระบวนการที่สามารถท�ำซ�้ำได้ และมีการประเมินผลอย่างสม่�ำเสมอ เพ่ือตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงและการปรับปรุง โดยความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นท่ีได้รับ ผลกระทบ สถาบันมุ่งม่ันสู่ความมีประสิทธิภาพจนประสบความส�ำเร็จทั่วท้ังองค์การการวิเคราะห์ การสร้างนวตั กรรม การแบง่ ปนั สารสนเทศและความรู้ มกี ารใชก้ ระบวนการและตัววดั ในการติดตาม ความก้าวหนา้ ของเปา้ ประสงค์เชงิ กลยทุ ธ์และของการปฏบิ ัตกิ ารทสี่ ำ� คญั

เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพอื่ การดำ�เนนิ การทเี่ ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 69 “ความส�ำคัญ” เม่อื ใชใ้ นการพิจารณาใหค้ ะแนน องค์ประกอบส�ำคัญในการประเมินและให้ข้อมูลป้อนกลับตามเกณฑ์ EdPEx คือต้อง พจิ ารณาวา่ กระบวนการและผลลพั ธท์ รี่ ายงานไวม้ ี “ความสำ� คญั ” ตอ่ ปจั จยั หลกั ในการดำ� เนนิ การ ของสถาบนั หรอื ไม่ สถาบนั ควรระบเุ รอ่ื งทเี่ หน็ วา่ “สำ� คญั ทสี่ ดุ ” ไวใ้ นโครงรา่ งองคก์ ารและหวั ขอ้ ตา่ งๆ เชน่ 2.1, 2.2, 3.2, 5.1, 5.2 และ 6.1 โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เรอื่ งความตอ้ งการทส่ี ำ� คญั ของลกู คา้ สภาพแวดลอ้ มดา้ นการแขง่ ขนั ความตอ้ งการของบคุ ลากร วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธท์ สี่ ำ� คญั และ แผนปฏิบตั กิ าร การใหค้ ะแนนในแต่ละหัวข้อ ควรยดึ แนวทางดังต่อไปนี้ ● ค�ำตอบของแต่ละหัวข้อ ควรอธิบายประเด็นพิจารณาทั้งหมดและควรสะท้อนส่ิงท่ี สำ� คัญต่อสถาบนั ● การใหค้ ะแนนในแต่ละหวั ข้อ ก่อนอน่ื ให้กำ� หนดว่า - ชว่ งคะแนนใดอธบิ ายระดบั ความส�ำเรจ็ ของสถาบนั ไดใ้ กลเ้ คยี งทส่ี ดุ (เชน่ รอ้ ยละ 50 ถงึ 65) คำ� ตอบในรายงานการประเมินตนเองของสถาบนั อาจยงั มีความไม่สมบูรณ์ในบาง ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นการตรวจประเมนิ ในหมวด 1-6 (ADLI) หรือในหมวด 7 (LeTCI) ก็ได้ การประเมิน ระดับความส�ำเร็จของสถาบันเป็นการประเมินภาพรวมของปัจจัยทั้ง 4 ของกระบวนการหรือ ปจั จยั ทง้ั 4 ของผลลพั ธ์ โดยไมเ่ ปน็ การแจงนบั หรอื การเฉลย่ี ผลของการตรวจประเมนิ ทลี ะปจั จยั เม่ือก�ำหนดช่วงคะแนนแล้ว การตัดสินใจว่าจะให้คะแนนจริงเท่าไร ต้องประเมินว่าค�ำตอบใน หวั ข้อน้ันๆ ใกลเ้ คียงกับเน้อื หาทอ่ี ธบิ ายในช่วงคะแนนทส่ี งู ขึน้ ไปหรือต่�ำลงเพยี งใด - หัวขอ้ ที่อย่ใู นหมวด 1-6 ท่ีไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 50 แสดงว่ามแี นวทางทต่ี อบสนอง ขอ้ กำ� หนดโดยรวมของหัวข้อน้นั มีการถ่ายทอดเพ่อื น�ำไปปฏบิ ัติอย่างคงเส้นคงวาในหน่วยงาน ส่วนใหญ่ และได้ผ่านรอบของการปรับปรุงและการเรียนรู้มาบ้างแล้ว รวมทั้งตอบสนองความ ตอ้ งการทสี่ ำ� คญั ของสถาบนั หากจะใหไ้ ดร้ บั คะแนนสงู ขน้ึ ตอ้ งมกี ารถา่ ยทอดเพอื่ นำ� ไปปฏบิ ตั อิ ยา่ ง ครอบคลมุ มากขนึ้ มกี ารเรยี นรขู้ องสถาบนั อยา่ งมนี ยั สำ� คญั /ชดั เจน และมกี ารบรู ณาการมากขน้ึ - หัวข้อทีอ่ ยใู่ นหมวด 7 ทีไ่ ดค้ ะแนนรอ้ ยละ 50 แสดงวา่ มผี ลการด�ำเนินการใน ระดบั ทดี่ อี ยา่ งชดั เจน มแี นวโนม้ ทด่ี ี พรอ้ มดว้ ยขอ้ มลู เชงิ เปรยี บเทยี บทเี่ หมาะสมในผลลพั ธเ์ กอื บ ทกุ หวั ขอ้ ทม่ี คี วามสำ� คญั ตอ่ สถาบนั หรอื ตอ่ พนั ธกจิ หากจะใหไ้ ดร้ บั คะแนนสงู ขนึ้ ตอ้ งมอี ตั ราการ ปรับปรุง และ/หรือระดับของผลการด�ำเนินการที่ดีข้ึน มีผลการด�ำเนินการเชิงเปรียบเทียบที่ ดีขึ้น รวมท้ังมีความครอบคลุม และมีการบูรณาการกับความต้องการของสถาบันหรือพันธกิจ ของสถาบนั มากขนึ้

70 เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การท่ีเป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 แนวทางการใหค้ ะแนน ส�ำหรับหมวด 1-6 คะแนน ค�ำอธบิ าย 0% หรือ5% A: ไมม่ ีแนวทางอยา่ งเป็นระบบให้เห็น มีสารสนเทศเพียงผิวเผนิ D: ไมม่ กี ารนำ� แนวทางทเี่ ปน็ ระบบไปถา่ ยทอดเพอื่ นำ� ไปปฏบิ ตั ิ หรอื มเี พยี งเลก็ นอ้ ย L: ไมแ่ สดงใหเ้ ห็นว่ามีแนวคดิ ในการปรับปรงุ มกี ารปรับปรุงเมื่อเกดิ ปัญหา I : ไมแ่ สดงใหเ้ หน็ วา่ มคี วามสอดคลอ้ งไปในแนวทางเดยี วกนั ในระดบั สถาบนั แตล่ ะ สว่ นหรือหนว่ ยงานดำ� เนนิ การอย่างเอกเทศ 10%,15%, A: แสดงให้เห็นวา่ เร่มิ มีแนวทางท่ีเป็นระบบท่ีตอบสนองตอ่ ข้อกำ� หนดพื้นฐานของ 20% หัวขอ้ หรอื 25% D: การนำ� แนวทางไปถา่ ยทอดเพอื่ นำ� ไปปฏบิ ตั เิ พยี งอยใู่ นขนั้ เรม่ิ ตน้ ในเกอื บทกุ สว่ น หรือหนว่ ยงานซ่งึ เป็นอปุ สรรคตอ่ การบรรลขุ ้อกำ� หนดพนื้ ฐานของหัวข้อนั้น L: แสดงให้เห็นวา่ เรม่ิ มกี ารเปลีย่ นแปลงจากการตั้งรับปัญหามาเปน็ แนวคดิ ในการ ปรบั ปรุงแบบพื้นๆ I : มแี นวทางท่สี อดคล้องไปในแนวทางเดยี วกันกบั สว่ นหรอื หน่วยงานอืน่ โดยสว่ น ใหญเ่ กิดจากการรว่ มกันแกป้ ญั หา 30%, 35%, A: แสดงใหเ้ หน็ วา่ มแี นวทางทเี่ ปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธผิ ลทต่ี อบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนด 40%หรอื 45% พ้นื ฐานของหวั ข้อ D: มกี ารนำ� แนวทางไปถ่ายทอดเพอ่ื นำ� ไปปฏบิ ตั ิ ถงึ แม้ว่าบางสว่ นหรือบางหนว่ ย งานเพ่ิงอยู่ในข้นั เร่ิมตน้ L: แสดงให้เห็นว่าเร่ิมมีแนวทางอย่างเป็นระบบในการประเมินและปรับปรุง กระบวนการท่ีส�ำคัญ I : แนวทางเร่ิมมคี วามสอดคลอ้ งกบั ความต้องการพื้นฐานของสถาบนั ตามทรี่ ะบุ ไวใ้ นโครงร่างองค์การและเกณฑ์หมวดอืน่ ๆ 50%,55%, A: แสดงใหเ้ หน็ วา่ มแี นวทางทเ่ี ปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธผิ ลทต่ี อบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนด 60% หรือ โดยรวมของหัวข้อ 65% D: มีการนำ� แนวทางไปถ่ายทอดเพื่อนำ� ไปปฏบิ ตั เิ ป็นอย่างดี ถึงแมก้ ารปฏบิ ัติอาจ แตกต่างกันในบางส่วนหรือบางหน่วยงาน L: มีกระบวนการประเมินและปรับปรุงอย่างเป็นระบบโดยใช้ข้อมูลจริง และเริ่ม มกี ารเรยี นรใู้ นระดบั องคก์ าร ซงึ่ รวมถงึ การสรา้ งนวตั กรรมเพอ่ื ปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพและ ประสทิ ธผิ ลของกระบวนการทสี่ ำ� คญั I: แนวทางมคี วามสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการโดยรวมของสถาบัน ตามทีร่ ะบไุ ว้ใน โครงร่างองค์การและเกณฑ์หมวดอ่นื ๆ

เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพอื่ การดำ�เนินการทีเ่ ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 71 คะแนน ค�ำอธิบาย 7 0 % , 7 5 % , A: แสดงใหเ้ หน็ วา่ มแี นวทางทเ่ี ปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธผิ ลทตี่ อบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนด 80% หรอื 85% โดยรวมของหวั ข้อ D: มกี ารนำ� แนวทางไปถา่ ยทอดเพอ่ื ไปปฏบิ ตั เิ ปน็ อยา่ งดโี ดยไมม่ คี วามแตกตา่ งของ การปฏบิ ัติอย่างมีนัยส�ำคญั L: มีกระบวนการประเมินและปรับปรุงอย่างเป็นระบบโดยใช้ข้อมูลจริง และเริ่ม มกี ารเรยี นรใู้ นระดบั องคก์ าร ซง่ึ รวมถงึ การสรา้ งนวตั กรรม เปน็ เครอื่ งมอื สำ� คญั ในการ จัดการ มีหลักฐานชัดเจนของการพฒั นาอนั เป็นผลเน่อื งมาจากการวเิ คราะหแ์ ละการ เรยี นรรู้ ะดับองคก์ าร I : แนวทางมีบูรณาการกับความต้องการของสถาบัน ท้ังในปัจจุบันและอนาคต ตามทรี่ ะบไุ ว้ในโครงร่างองคก์ ารและเกณฑ์หมวดอืน่ ๆ 90%, 95% A: แสดงใหเ้ หน็ วา่ มแี นวทางทเ่ี ปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธผิ ลทต่ี อบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนด หรือ 100% โดยรวมของหัวข้ออย่างสมบรู ณ์ D: มกี ารนำ� แนวทางไปถ่ายทอดเพื่อนำ� ไปปฏิบตั อิ ย่างสมบรู ณ์โดยไมม่ จี ุดออ่ นหรอื ความแตกต่างท่สี ำ� คญั ระหวา่ งสว่ นหรือหนว่ ยงาน L: มีกระบวนการประเมินและปรับปรุงอย่างเป็นระบบโดยใช้ข้อมูลจริงและมีการ เรยี นรใู้ นระดบั องคก์ ารผา่ นการสรา้ งนวตั กรรม เปน็ เครอื่ งมอื สำ� คญั ทใ่ี ชท้ ว่ั ทงั้ องคก์ าร ในการจดั การ มีหลักฐานชดั เจนของการพัฒนาและนวัตกรรมทวั่ ทั้งองคก์ าร อนั เป็น ผลเน่อื งมาจากการวิเคราะห์และแบ่งปัน I : แนวทางมีบูรณาการอย่างสมบูรณ์กับความต้องการของสถาบันทั้งในปัจจุบัน และอนาคตตามทร่ี ะบุไวใ้ นโครงร่างองค์การและเกณฑห์ มวดอืน่ ๆ

72 เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพื่อการด�ำ เนนิ การทีเ่ ปน็ เลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 แนวทางการใหค้ ะแนน ส�ำหรบั หมวด 7 คะแนน ค�ำอธิบาย 0% หรือ5% Le: ไม่มีการรายงานผลการด�ำเนินการของสถาบัน และ/ หรือมีผลลัพธ์ที่ไม่ดี ในเรอ่ื งทรี่ ายงานไว้ T: ไมม่ กี ารรายงานข้อมูลทีแ่ สดงแนวโน้ม หรือมขี อ้ มลู ที่แสดงแนวโนม้ ในทางลบ C: ไมม่ กี ารรายงานสารสนเทศเชิงเปรียบเทยี บ I: ไมม่ ีการรายงานผลลพั ธใ์ นเรือ่ งทีม่ ีความส�ำคัญต่อการบรรลพุ นั ธกิจของสถาบนั 10%,15%, Le: มีการรายงานผลการด�ำเนินการของสถาบันเพียงบางเร่ืองท่ีส�ำคัญต่อสถาบัน 20% ตามท่รี ะบุไว้ในขอ้ ก�ำหนดของหวั ขอ้ และเรม่ิ มรี ะดบั ผลการด�ำเนนิ การที่ดีในบางเร่ือง หรือ25% T: มกี ารรายงานแนวโน้มของข้อมูลบางเรื่อง บางเรื่องแสดงแนวโน้มในทางลบ C: แทบไม่มี หรอื ไมม่ กี ารรายงานสารสนเทศเชงิ เปรยี บเทียบ I: มีการรายงานผลลัพธ์เพียงบางเร่ืองที่มีความส�ำคัญต่อการบรรลุพันธกิจของ สถาบัน 30%, 35%, Le: มีการรายงานถึงระดับผลการด�ำเนินการท่ีดีในบางเรื่องที่ส�ำคัญต่อสถาบัน 40%หรือ 45% ตามที่ระบไุ วใ้ นขอ้ ก�ำหนดของหวั ข้อ T: มีการรายงานแนวโน้มของข้อมูลบางเรื่อง และข้อมูลส่วนใหญ่ท่ีแสดงนั้น มีแนวโนม้ ท่ดี ี C: เรม่ิ มสี ารสนเทศเชงิ เปรยี บเทยี บ I: มกี ารรายงานผลลพั ธใ์ นหลายเรอ่ื งทมี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ การบรรลพุ นั ธกจิ ของสถาบนั 50%,55%, Le: มีการรายงานถงึ ระดบั ผลการดำ� เนนิ การที่ดีในเกอื บทุกเร่อื งท่มี คี วามสำ� คญั ต่อ 60% หรอื สถาบัน ตามทร่ี ะบุไวใ้ นขอ้ กำ� หนดของหวั ขอ้ 65% T: แสดงถงึ แนวโนม้ ทดี่ อี ยา่ งชดั เจนในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ทมี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ การบรรลพุ นั ธกจิ ของสถาบัน C: ผลการด�ำเนินการในปัจจุบันในบางเร่ืองดี เม่ือเทียบกับตัวเปรียบเทียบ และ/ หรือระดับเทียบเคียง I : มีการรายงานผลการด�ำเนินการของสถาบันในข้อก�ำหนดที่ส�ำคัญเป็นส่วนใหญ่ เกย่ี วกบั ผ้เู รยี น ผ้มู ีส่วนไดส้ ่วนเสยี ตลาด และกระบวนการ

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพือ่ การดำ�เนนิ การที่เปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 73 คะแนน ค�ำอธบิ าย 70%,75%, Le: มกี ารรายงานผลการดำ� เนนิ การทดี่ ถี งึ ดเี ลศิ ในเรอื่ งทมี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ ขอ้ กำ� หนด 80% หรอื ของหวั ข้อเป็นสว่ นใหญ่ T: สามารถรกั ษาแนวโนม้ ทดี่ อี ย่างตอ่ เนื่องในเรือ่ งสำ� คญั ทุกเร่อื งทีจ่ ะบรรลพุ ันธกิจ 85% ของสถาบนั C: มกี ารเปรยี บเทยี บแนวโนม้ และระดบั ผลการดำ� เนนิ การในปจั จบุ นั เปน็ จำ� นวนมาก 90%, 95% หรอื ส่วนมากกับตวั เปรยี บเทียบ และ/หรอื ระดับเทยี บเคยี ง รวมท้ังแสดงถงึ ความเป็น หรอื 100% ผ้นู �ำในเรื่องตา่ ง ๆ และมผี ลการด�ำเนินการที่ดมี าก I : มีการรายงานผลการด�ำเนินการของสถาบันในข้อก�ำหนดท่ีส�ำคัญเป็นส่วนใหญ่ เก่ียวกบั ผเู้ รยี น ผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสีย ตลาด กระบวนการ และแผนปฏิบตั กิ าร Le: มกี ารรายงานผลการดำ� เนนิ การทด่ี เี ลศิ ในเรอ่ื งทมี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ ขอ้ กำ� หนดของ หวั ขอ้ เปน็ สว่ นใหญ่ T: สามารถรักษาแนวโน้มท่ีดีไว้ได้อย่างต่อเนื่องในเรื่องส�ำคัญทุกเรื่องที่จะบรรลุ พนั ธกจิ ของสถาบัน C: แสดงถึงความเป็นผู้น�ำในวงการศึกษาและเป็นระดับเทียบเคียงให้สถาบันอ่ืน ในหลายเร่ือง I : มกี ารรายงานผลการดำ� เนนิ การของสถาบนั ในข้อกำ� หนดท่สี �ำคญั ทัง้ หมด ท่ีเก่ยี ว กบั ผเู้ รยี น ผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี ตลาด กระบวนการ และแผนปฏิบัตกิ าร

74 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การทเี่ ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 แนวทางการใช้เกณฑ์ EdPEx แนวทางตอ่ ไปน้ีจะชว่ ยใหส้ ถาบัน สามารถตอบสนองตอ่ ขอ้ ก�ำหนดทง้ั 17 หวั ขอ้ ใน เกณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิผลท่ีสุด ให้ดูระบบการให้คะแนนรวมท้ังแนวทางการประเมิน (หน้า 64-73) ซ่งึ อธบิ ายวิธกี ารตรวจประเมนิ ผลการวเิ คราะหต์ นเอง และการบรรลุผลการด�ำเนนิ การ ของสถาบนั ข้นั ตอนแรก 1. เรียนรเู้ ก่ยี วกบั เกณฑ์ ให้ท�ำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ กับเนื้อหาในส่วนต่างๆ ซ่ึงให้ภาพท้ังหมดเก่ียวกับ เกณฑน์ ้ี ดงั ตอ่ ไปนี้ : ● เนื้อหารายละเอยี ดของเกณฑ์ EdPEx ต้งั แต่หมวด 1-7 (ในหน้า 12-63) ● ระบบการให้คะแนน (ในหนา้ 64) ● อภธิ านศพั ท์ (ในหน้า 99-124) ● คำ� อธบิ ายเพมิ่ เติมรายหมวดและหัวข้อตา่ งๆ (ในภาคผนวก หน้า 125-162) 2. รู้วิธีอ่านเกณฑ์และวธิ กี ารตอบสนองตอ่ ขอ้ ก�ำหนดของหัวข้อตา่ งๆ ให้ทำ� ความเข้าใจโครงสรา้ งของเกณฑ์ EdPEx (ดรู ปู ในหน้า 3) เนอ้ื หาเกณฑ์ในทุก หมวดแบ่งออกเปน็ หัวข้อ (ไดแ้ ก่ 1.1, 1.2 ฯลฯ) ซงึ่ เปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ในการด�ำเนินการใน แตล่ ะหมวด ภายใตห้ วั ขอ้ จะมขี อ้ กำ� หนดโดยรวมซง่ึ เปน็ ขอ้ คำ� ถามทขี่ ยายขอ้ กำ� หนดพน้ื ฐานของ เกณฑใ์ นหวั ขอ้ น้นั ๆ ในล�ำดบั ถัดไปจะเป็นข้อคำ� ถามต่างๆ จัดเปน็ หมวดหมภู่ ายใต้ประเด็นเพอื่ พจิ ารณา ในการตอบสนองต่อข้อค�ำถาม ให้พิจารณาค�ำถามในข้อก�ำหนดโดยรวม (overall requirement) หากสถาบันยังค้นพบว่ามีข้อค�ำถามท่ียังไม่สามารถตอบได้ครบถ้วนในระดับนี้ ก็สามารถน�ำไปใช้ในการวางแผนเพ่ือปรับปรุงกระบวนการ หากต้องการเข้าใจความหมาย ของเกณฑ์ลึกซึ้งยิ่งข้ึน อาจท�ำได้โดยอ่านค�ำถามย่อยๆ ที่อยู่ภายใต้ประเด็นเพ่ือพิจารณาและ หมายเหตุ เกณฑ์ EdPEx ไดค้ งเนอื้ หาของขอ้ กำ� หนดโดยรวมจากเกณฑป์ ี 2557 เอาไว้ (overall level 1) ซงึ่ มเี นอ้ื หาของกระบวนการทม่ี คี วามสำ� คญั ในการดำ� เนนิ การ หากสถาบนั มกี ารพฒั นา ในระดบั นค้ี รบถ้วนกส็ ามารถนำ� ไปสกู่ ารสรา้ งระบบที่สมบูรณข์ ้ึน โดยพัฒนาตามขอ้ ก�ำหนดโดย รวมในระดบั 2 (overall level 2) ทกี่ �ำกับในแตล่ ะค�ำถามต่อไป สถาบันควรเข้าใจว่าค�ำถามต่าง ๆ เหล่าน้ี เพื่อช่วยให้สถาบันใช้สารสนเทศท่ีมีอยู่ ดำ� เนินกระบวนการต่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ และตอบสนองตอ่ ความความต้องการของเกณฑไ์ ด้

เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพอ่ื การดำ�เนินการท่เี ปน็ เลศิ ฉบับปี 2558-2561 75 หากสถาบนั มรี ะบบทมี่ ปี ระสทิ ธผิ ลและสามารถตอบสนองตอ่ ขอ้ กำ� หนดโดยรวมได้ ก็ สามารถพยายามตอบสนองตอ่ คำ� ถามของขอ้ ก�ำหนดต่าง ๆ ต่อไป ซงึ่ ค�ำถามต่าง ๆ ชว่ ยชแี้ นะ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้ วา่ ตอ้ งการสารสนเทศอะไรบา้ ง ทงั้ นไี้ มค่ วรตอบค�ำถามแตล่ ะขอ้ แยกจาก กัน โดยไม่เหน็ ความเช่ือมโยงของสารสนเทศที่เก่ยี วข้องกับการตอบค�ำถามในแต่ละข้อ 3. อ่านแนวทางการประเมนิ ใหเ้ ขา้ ใจ ในการตอบสนองต่อค�ำถามของหัวข้อต่างๆ สถาบันต้องพิจารณาท้ังข้อก�ำหนด ของเกณฑ์และแนวทางการประเมินซ่ึงอยู่ในรูปแบบของคะแนน (หน้า 64-73) ท้ังน้ีเพราะ แนวทางการประเมนิ นน้ั นอกจากจะเสรมิ ความเขา้ ใจในขอ้ กำ� หนดของหวั ขอ้ กระบวนการ (หมวด 1-6) แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นระดบั พัฒนาการของแนวทาง ความครอบคลมุ ของการนำ� แนวทาง ดังกล่าวไปปฏิบัติ ระดับของการเรียนรู้และการบูรณาการกับองค์ประกอบอ่ืนๆ ในระบบการ จดั การผลการดำ� เนินการของสถาบัน ในท�ำนองเดยี วกันเพื่อเสรมิ ข้อก�ำหนดในหวั ข้อผลลัพธ์ (หมวด 7) แนวทางการ ประเมนิ ผลลพั ธย์ งั เนน้ ถงึ ระดบั ผลการดำ� เนนิ การในปจั จบุ นั ความสำ� คญั ของแนวโนม้ ของผลลพั ธ์ ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบที่เกี่ยวข้อง การบูรณาการกับองค์ประกอบส�ำคัญในระบบการจัดการผล การดำ� เนินการของสถาบนั และความเขม้ แข็งของการกระบวนการปรับปรงุ ในการประเมนิ ตนเอง สถาบนั ควรอา่ นคำ� อธบิ ายของการใหค้ ะแนนในแตล่ ะระดบั โดยองคร์ วม และเลอื กแถบคะแนน (Band) ทเี่ หมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการของสถาบนั ในหวั ขอ้ น้ันโดยรวม โดยไม่ใช่ค่าเฉล่ียของแต่ละประเด็น และไม่จ�ำเป็นต้องตัดสินโดยใช้คะแนนเพียง คา่ เดยี ว 4. ท�ำความเข้าใจกับความหมายของค�ำส�ำคัญๆ ที่ใช้ในเกณฑ์ ค�ำศัพท์หลายค�ำท่ีใช้ในเกณฑ์ อาจมีความหมายไม่ตรงกับความหมายที่ใช้อยู่ ในสถาบันของท่าน ค�ำศัพท์ดังกล่าวจะมีค�ำอธิบายขยายความไว้ใน “อภิธานศัพท์” ในหน้า 80-101 การท�ำความเข้าใจกับค�ำส�ำคัญเหล่าน้ีจะช่วยให้สถาบันสามารถประเมินตนเองได้ อย่างถกู ตอ้ ง และส่อื ให้ผปู้ ระเมินเข้าใจกระบวนการและผลลัพธ์ของสถาบนั และเพือ่ ใชใ้ นการ วางแผนการปรบั ปรงุ 5. เร่มิ ต้นด้วยการจัดท�ำโครงร่างองค์กร โครงร่างองค์กร (หนา้ 5-11) เปน็ จดุ เริ่มตน้ ทเ่ี หมาะสมที่สดุ โครงรา่ งองคก์ รจะ ช่วยให้ทุกฝ่ายได้แก่ สถาบันที่ใช้เกณฑ์ในการตรวจประเมินตนเอง ผู้เตรียมรายงานเพื่อขอรับ การประเมินหรือผู้ประเมินรายงานให้เข้าใจในสิ่งท่ีเกี่ยวข้องและส�ำคัญท่ีสุดต่อการอยู่รอด พันธกจิ และผลการด�ำเนนิ งานของสถาบัน

76 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการด�ำ เนนิ การทีเ่ ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 แนวทางในการตอบค�ำถามในหัวขอ้ กระบวนการ แมว้ า่ เกณฑ์ EdPEx จะมงุ่ เนน้ ในดา้ นผลการดำ� เนนิ การสำ� คญั ๆ ของสถาบนั แตล่ ำ� พงั ผลลพั ธเ์ พยี งอยา่ งเดยี วใหค้ ณุ คา่ ทางด้านการวินิจฉัยองคก์ ารน้อยมาก ตัวอยา่ งเชน่ หากสถาบัน มีผลการด�ำเนินการบางเรื่องที่ไม่ดีหรือมีอัตราการปรับปรุงที่ต�่ำกว่าของคู่แข่งหรือสถาบันอ่ืนที่ เทียบกันได้ สถาบันต้องเข้าใจถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร และควรด�ำเนินการอย่างไรเพ่ือเร่งการ ปรับปรุงใหด้ ีขนึ้ คำ� ตอบของหวั ขอ้ กระบวนการ (หมวด 1-6) ชว่ ยใหส้ ถาบนั หรอื ผปู้ ระเมนิ รายงานของ สถาบนั สามารถวนิ จิ ฉยั กระบวนการทม่ี คี วามสำ� คญั ทส่ี ดุ กบั สถาบนั (ทส่ี ง่ ผลตอ่ การปรบั ปรงุ การ ดำ� เนนิ การมากที่สุด และมีผลตอ่ ผลลัพธแ์ ละการดำ� เนนิ การที่ส�ำคัญ) เนอื้ หาและความสมบรู ณ์ ของค�ำตอบในแต่ละหัวข้อมีผลอย่างย่ิงต่อการวินิจฉัยและคุณภาพของข้อมูลป้อนกลับ ดังน้ัน สถาบนั จงึ ควรตอบหวั ขอ้ ตา่ งๆ โดยเนน้ สารสนเทศของกระบวนการสำ� คญั เปน็ หลกั ตามแนวทาง ดงั ต่อไปนี้ 1. เขา้ ใจความหมายของค�ำว่า “อยา่ งไร” หวั ขอ้ กระบวนการประกอบดว้ ยค�ำถามทใี่ ชค้ �ำวา่ “อยา่ งไร”สถาบนั ควรตอบค�ำถาม ดงั กลา่ วดว้ ยการนำ� เสนอสารสนเทศของกระบวนการสำ� คญั ทแี่ สดงถงึ แนวทาง การถา่ ยทอดเพอื่ น�ำไปปฏิบตั ิการเรยี นรู้และการบูรณาการ (ดรู ะบบการประเมินในหน้า 67 ประกอบ) ค�ำตอบ ที่ขาดสารสนเทศดังกล่าว หรือให้เพียงแค่ตัวอย่างจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “สารสนเทศผิวเผิน” ดังระบุในแนวทางการประเมิน - แสดงให้เหน็ ว่ามแี นวทางท่เี ปน็ ระบบ แนวทางท่ีเป็นระบบจะสามารถน�ำไปท�ำซ�้ำได้ และใช้ข้อมูลและสารสนเทศเพื่อ สนับสนุนการเรียนรู้ หรืออีกนัยหน่ึงคือ แนวทางจะเป็นระบบได้ถ้าสามารถประเมิน ปรับปรุง มีนวัตกรรมและแบง่ ปนั ความรู้ จนน�ำไปสู่การพัฒนาอยา่ งสมบูรณข์ ้ึน - แสดงใหเ้ ห็นวา่ มีการถา่ ยทอดเพอื่ น�ำไปปฏบิ ัติ ในการตอบคำ� ถาม ควรสรุปให้เห็นว่าไดม้ ีการน�ำแนวทางไปใชใ้ นหน่วยงานต่างๆ ของสถาบัน - แสดงหลักฐานให้เห็นวา่ มกี ารเรยี นรู้ แสดงหลกั ฐานวา่ มวี งจรการประเมนิ ผลและการปรบั ปรงุ กระบวนการตา่ งๆ รวมถงึ ศกั ยภาพในการสรา้ งนวตั กรรม แสดงใหเ้ หน็ วา่ มกี ารแบง่ ปนั การปรบั ปรงุ กระบวนการกบั หนว่ ย งานภายในอื่นๆ ทเ่ี หมาะสมเพอื่ สนบั สนนุ การเรียนรูร้ ะดบั สถาบนั

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนินการที่เป็นเลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 77 - แสดงให้เห็นว่ามกี ารบูรณาการ การบูรณาการเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องและความกลมกลืนของ กระบวนการ แผน ตวั วัด กิจกรรม และผลลัพธ์ ซ่งึ ก่อใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของ สถาบัน การแสดงให้เห็นความสอดคล้องในหัวข้อกระบวนการ และตัววัดท่ีสัมพันธ์กัน ในหัวขอ้ ผลลัพธ์ จะชว่ ยใหส้ ถาบนั มีผลการดำ� เนินการที่ดีขน้ึ ความสอดคลอ้ งสามารถแสดงได้ 4 ดา้ น ดงั น้ี ● โครงรา่ งองค์กรควรระบเุ รอื่ งทีม่ คี วามส�ำคัญต่อสถาบันไว้ให้ชัดเจน ● ในหมวดกลยทุ ธ์ (หมวด 2) ซง่ึ รวมถงึ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ แผนปฏบิ ตั กิ าร และสมรรถนะหลัก เน้นส่ิงท่ีสถาบันให้ความส�ำคัญที่สุด และอธิบายวิธีการ ทีน่ �ำแผนกลยทุ ธไ์ ปปฏบิ ัติ ● ในการอธิบายการวิเคราะห์และทบทวนระดับสถาบัน (หัวข้อท่ี 4.1) แสดง ให้เห็นถึงวิธีที่สถาบันวิเคราะห์และทบทวนสารสนเทศที่เก่ียวข้องกับผลการ ดำ� เนนิ การ เพ่ือเป็นพื้นฐานในการจดั ล�ำดบั ความส�ำคญั ● ในหมวดกลยุทธ์ (หมวด 2) และการปฏิบัติการ (หมวด 6) เน้นระบบงาน และกระบวนการท�ำงานทีส่ �ำคัญต่อผลการด�ำเนินการโดยรวมของสถาบนั 2. เขา้ ใจความหมายของค�ำว่า “อะไร” คำ� ถามทใ่ี ชค้ ำ� วา่ “อะไร” ในหวั ขอ้ กระบวนการมอี ยสู่ องลกั ษณะ ลกั ษณะแรกเปน็ การ ถามหาสารสนเทศพนื้ ฐานของกระบวนการหลกั ๆ และวิธีการด�ำเนนิ งาน แมว้ า่ การระบุผู้รบั ผิด ชอบในแต่ละข้ันตอนจะมีประโยชน์ แต่การขาดรายละเอียดว่ากระบวนการทำ� งานได้อย่างไรก็ อาจไม่สามารถวนิ จิ ฉยั หรือให้ขอ้ มูลปอ้ นกลับได้ ลักษณะที่สองเป็นการถามหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับผล แผน วัตถุประสงค์ เป้าประสงค์ หรือตัวช้ีวัดที่ส�ำคัญๆ ของสถาบัน ค�ำถามในลักษณะนี้เป็นตัวก�ำหนดให้สถาบัน แสดงความสอดคล้องและการบูรณาการของระบบการจัดการผลการด�ำเนินการของตนเองได้ ตวั อย่างเช่น เมอื่ สถาบันระบุวัตถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยุทธ์ไว้อยา่ งไร แผนปฏบิ ตั กิ าร ตัวชีว้ ดั ของผล การด�ำเนินการรวมท้ังผลลัพธ์บางเร่ือง ที่น�ำเสนอไว้ในหมวด 7 ก็ต้องสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ เชงิ กลยุทธท์ ่ีระบไุ ว้ดว้ ย

78 เกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาเพือ่ การด�ำ เนนิ การท่ีเปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 แนวทางในการตอบหวั ขอ้ ผลลัพธ์ 1. ให้เน้นทผี่ ลการด�ำเนินการทส่ี �ำคญั ทสี่ ุดของสถาบัน การรายงานผลลพั ธค์ วรครอบคลมุ ขอ้ ก�ำหนดทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ ตอ่ ความส�ำเรจ็ ของสถาบนั ทเ่ี น้นไว้ในโครงรา่ งองค์การ และในหมวดการนำ� องคก์ าร หมวดการวางแผนกลยุทธ์ หมวดการ มุ่งเน้นลกู คา้ หมวดการมงุ่ เนน้ บคุ ลากรและหมวดการม่งุ เนน้ การปฏิบัติการ 2. รายงานระดบั แนวโนม้ และการเปรยี บเทยี บผลลพั ธแ์ ละแสดงใหเ้ หน็ วา่ มกี ารบรู ณาการ - รายงานระดบั ของผลการด�ำเนนิ การ โดยใช้มาตรวดั ที่น�ำมาใชป้ ระโยชน์ได้ - รายงานแนวโนม้ เพอื่ แสดงทศิ ทางของผลลพั ธ์ อตั ราการเปลย่ี นแปลง และขอบเขต ของการถา่ ยทอดเพอื่ นำ� ไปปฏบิ ตั โิ ดยทว่ั ไปแลว้ ควรมขี อ้ มลู ยอ้ นหลงั อยา่ งนอ้ ย 3 จดุ เพอ่ื ใหเ้ หน็ แนวโน้มชัดเจน ท้ังนี้ควรแสดงผลการด�ำเนินการท่ีเกิดขึ้นจริงในอดีตและปัจจุบัน โดยไม่ใช่ผล การด�ำเนนิ การท่เี ปน็ ค่าคาดการณ์ในอนาคต ไมม่ กี ารกำ� หนดระยะเวลาขน้ั ตำ่� สำ� หรบั ขอ้ มลู แนวโนม้ ชว่ งเวลา ทใ่ี ชค้ วรเหมาะสม กบั ตวั วัด แตล่ ะตัวที่ได้รายงานไว้ สำ� หรับผลลพั ธบ์ างอยา่ ง แนวโนม้ อาจจะนานถึง 5 ปหี รือ กว่านั้นหรือต่�ำกว่า 1 ปีก็ได้ ข้ึนอยู่กับการน�ำไปใช้ประโยชน์ ส�ำหรับผลลัพธ์ท่ีมีความส�ำคัญ รวมทั้งข้อมูลใหม่ด้วย แม้ว่าจะยังไม่สามารถแสดงแนวโน้มได้อย่างชัดเจน อธิบายแนวโน้ม ทแี่ สดงการเปลี่ยนแปลงท่ีส�ำคญั ทงั้ ที่ดีและไมด่ ี - รายงานการเปรียบเทยี บ เพือ่ แสดงวา่ ผลลพั ธ์ของสถาบนั เปน็ อย่างไรเมื่อเทียบ กับผลลัพธข์ องสถาบนั อน่ื ที่เหมาะสม - รายงานการบรู ณาการโดยรายงานผลลพั ธท์ สี่ ำ� คญั ทงั้ หมดพรอ้ มการจำ� แนกอยา่ ง เหมาะสม(ตัวอย่างเช่น ตามกลุ่มของผู้เรียนหรือกลุ่มลูกค้าอื่นท่ีส�ำคัญ บุคลากร กระบวนการ และกลมุ่ หลกั สตู รและบริการ) ตอบค�ำถามอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 1. อ้างองิ หวั ข้ออืน่ ตามความเหมาะสม คำ� ตอบในแตล่ ะหวั ขอ้ ควรมคี วามสมบรู ณใ์ นตวั เองใหม้ ากทสี่ ดุ และคำ� ตอบตา่ งหวั ขอ้ ก็ควรสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเหมาะสมที่จะอ้างอิงถึงค�ำตอบในหัวข้ออ่ืน แทนการกล่าวซ้�ำ ในกรณีดังกล่าวสารสนเทศเกี่ยวกับกระบวนการส�ำคัญ จึงควรระบุไว้ก�ำกับ หวั ขอ้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งโดยตรง ตวั อยา่ งเชน่ ควรอธบิ ายรายละเอยี ดของระบบการพฒั นาบคุ ลากรและ ระบบการเรียนร้ใู นหวั ข้อ 5.2 เม่อื มีการกลา่ วถงึ การพัฒนาบุคลากรและการเรยี นร้ใู นท่อี น่ื ๆ อีก ในรายงานก็ควรอา้ งองิ ว่าไดอ้ ธบิ ายไวแ้ ล้วในหวั ขอ้ 5.2 โดยไม่ตอ้ งใหร้ ายละเอยี ดซ้ำ�

เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพือ่ การดำ�เนนิ การท่เี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 79 2. ใชร้ ปู แบบที่กระชบั ควรเขยี นรายงานโดยใชป้ ระโยชนจ์ ากเนอ้ื ทบี่ นกระดาษใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ อาจใช้ แผนภมู ิ ตาราง และสญั ลักษณ์น�ำหวั ข้อ เพอ่ื นำ� เสนอสารสนเทศไดอ้ ย่างกะทัดรดั การจำ� กัดจำ� นวนหนา้ เปน็ ความตงั้ ใจทจ่ี ะบบี ใหส้ ถาบนั พจิ ารณาวา่ สง่ิ ใดทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ ในการบรหิ ารสถาบนั และในการ รายงานผลลัพธ์ 3. การใช้กราฟและตาราง ควรใชก้ ราฟและตาราง เพอื่ รายงานผลลพั ธจ์ ำ� นวนมากอยา่ งกระชบั การแสดงผลลพั ธ์ ในช่วงเวลาระยะยาว หรอื เปรยี บเทียบกับสถาบนั อนื่ ๆ ควร “ปรับให้เป็นฐานเดียวกนั ” (ได้แก่ การน�ำเสนอเมื่อมีปัจจัยด้านขนาดมาเกี่ยวข้อง เช่น การรายงานเป็นสัดส่วน) ตัวอย่างเช่น การรายงานแนวโน้มด้านความปลอดภัย ในแง่ของจ�ำนวนวันท�ำงานที่สูญเสียไปเนื่องจาก อุบัติเหตุต่อบุคลากร 100 คนอาจมีความหมายที่ดีกว่าการรายงานเป็นจ�ำนวนวันท�ำงานที่ สญู เสยี ไปทง้ั หมด หากจำ� นวนบคุ ลากรมกี ารผนั แปรในชว่ งเวลานน้ั หรอื สถาบนั มกี ารเปรยี บเทยี บ ผลลพั ธก์ บั สถาบนั อ่ืนทีม่ ีจ�ำนวนบคุ ลากรแตกตา่ งกนั กราฟดา้ นลา่ งแสดงสว่ นหนง่ึ ของการตอบสนองตอ่ เกณฑห์ มวด 7.1 ผลลพั ธด์ า้ นการ เรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และดา้ นกระบวนการ สถาบนั ใชอ้ ตั ราการสอบผา่ นการสอบครงั้ แรกเพอ่ื ขอรบั ใบประกอบวชิ าชีพ เป็นตัววัดความสำ� เรจ็ ท่สี �ำคญั กราฟแสดงให้เห็นถึงลักษณะหลายอย่างของการรายงานผลลัพธ์ที่ชัดเจนและ มีประสทิ ธผิ ลได้แก่ ● การระบุความหมายของทั้งสองแกนและหนว่ ยวดั อย่างชดั เจน ● รายงานท้ังระดับและแนวโน้มของผลลัพธ์ของตัววัดผลการด�ำเนินการท่ีส�ำคัญ เช่น อัตราการสอบผ่านในการสอบครง้ั แรก เพ่ือขอรับใบประกอบวชิ าชพี ● รายงานผลลัพธ์ในช่วงเวลาหลายปี ● ลูกศรชี้ขน้ึ แสดงว่าแนวโนม้ ท่ีสงู ขึ้น ดีส�ำหรับตวั วัดน้ี ● แสดงการเปรียบเทยี บอย่างเหมาะสมและชัดเจน ● สถาบนั การศกึ ษาน้ี ใชก้ ราฟเพยี งรปู เดยี วเพอื่ แสดงวา่ มกี ารตดิ ตามอตั ราการสอบ ผา่ นในการสอบครงั้ แรก เพอื่ ขอรบั ใบประกอบวชิ าชพี ทส่ี งู ขนึ้ ทง้ั ในระดบั ภาพรวม ทงั้ ประเทศและเปรยี บเทยี บกบั ค่แู ขง่ ● สถาบนั คาดการณอ์ ตั ราการสอบผา่ นฯ ทส่ี งู ขน้ึ ในทกุ สถาบนั ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2555-2556 ถึง 2558-2559 ซงึ่ รวมถงึ การปรบั ปรงุ อยา่ งฉับพลันหรืออยา่ งกา้ ว กระโดดเม่ือเทียบกับผลการด�ำเนินการที่ผ่านมาของสถาบัน ในรายงานควร

80 เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพ่อื การด�ำ เนินการท่ีเปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 มีข้อความอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดดังกล่าวและอาจอ้างถึงการ เรยี นรทู้ สี่ ำ� คัญจากสถาบัน ก. ท่ใี ชเ้ ป็นฐานในการคาดการณ์ การวิเคราะห์กราฟโดยค�ำนึงถึงแนวทางการให้คะแนนท�ำให้ได้ข้อสรุปเก่ียวกับผลการ ดำ� เนินการและระดบั พัฒนาการขององค์การดังนี้ ● ระดับโดยรวมในปัจจุบันของผลการด�ำเนินการของสถาบันดีเลิศ โดยดูจากการ เปรยี บเทียบกับ และค่าเทยี บเคียงระดับชาติ ● ผลโดยรวมของสถาบนั มีแนวโนม้ ที่ดขี นึ้ อยา่ งตอ่ เนื่อง ● สถาบัน ก เปน็ สถาบนั ท่เี ป็นผู้น�ำในปจั จุบัน - แสดงผลการด�ำเนินการทส่ี ูงขึน้ อยา่ ง ต่อเน่ือง และมแี นวโน้มท่ีดี ตัง้ แตป่ ีการศึกษา 2552 สถาบนั ข มกี ารปรับปรุงอย่าง รวดเร็ว ถึงแม้ระดับของผลการด�ำเนินการใกล้เคียงกับสถาบันอื่นที่เปรียบเทียบกัน ไดแ้ ต่ยังต่�ำกวา่ สถาบนั ก ● สถาบัน ค ในรายงานระบุว่าเป็นสถาบันท่ีเพิ่งเกิดใหม่ - ก�ำลังเร่ิมมีปัญหาเพราะ คะแนนไม่สูงขึ้นแต่คาดว่าจะดีข้ึนอย่างพลิกผัน (สถาบันควรอธิบายถึงปัญหา ดงั กลา่ วอยา่ งสน้ั ๆ) สถาบนั คาดการณว์ า่ ทกุ สถาบนั จะมอี ตั ราการสอบผา่ นฯ ทสี่ งู ขนึ้ สถาบนั ค จะยงั คงตาม หลังสถาบันอื่นๆ และจะเรมิ่ เหน็ ผลลพั ธ์ทด่ี ีข้นึ ในปี 2556-2557 กราฟแสดงอตั ราการสอบผ่านใบรบั รองวิชาชพี

เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอ่ื การดำ�เนินการทเ่ี ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 81 คา่ นิยมหลักและแนวคิด ค่านิยมหลักและแนวคิดนี้ เป็นความเช่ือและพฤติกรรมที่ฝังลึกในองค์การท่ีมีผลการ ด�ำเนนิ การท่ีเปน็ เลิศ คา่ นิยมหลักและแนวคดิ จึงเปน็ รากฐานทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเชอื่ มโยงระหวา่ ง ความต้องการหลักของสถาบันและกระบวนการปฏิบัติงานภายใน ภายใต้กรอบการจัดการที่ เน้นผลลัพธ์ ซึ่งเปน็ รากฐานส�ำคญั ของการปฏิบัติ การใหข้ ้อมูลป้อนกลบั และความส�ำเรจ็ อยา่ ง ตอ่ เน่อื ง เกณฑ์ EdPEx จัดท�ำขึน้ โดยอาศยั คา่ นยิ มหลักและแนวคดิ ตา่ งๆ 11 ข้อ ดงั ตอ่ ไปน้ี ● มุมมองเชงิ ระบบ ● การนำ� องคก์ ารอย่างมีวิสยั ทัศน์ ● ความเป็นเลิศทีม่ งุ่ เน้นผ้เู รยี น ● การให้ความสำ� คัญกับคน ● การเรยี นรูร้ ะดับสถาบันและความคลอ่ งตัว ● การม่งุ เน้นความสำ� เรจ็ ● การจัดการเพ่ือนวตั กรรม ● การจัดการโดยใช้ขอ้ มลู จรงิ ● ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ● จริยธรรมและความโปร่งใส ● การสง่ มอบคุณคา่ และผลลพั ธ์ มมุ มองเชงิ ระบบ มุมมองเชิงระบบหมายถึง การบริหารจัดการทุกภาคส่วน (องค์ประกอบ) ของสถาบัน ใหเ้ ป็นแบบองคร์ วม เพอ่ื ให้บรรลุพนั ธกิจ ความส�ำเร็จอยา่ งตอ่ เนื่อง และมีผลการด�ำเนินงานที่ เปน็ เลศิ การบริหารจัดการเพ่ือผลการด�ำเนินการโดยรวมที่จะประสบความส�ำเร็จได้จ�ำเป็นต้อง มององค์การเปน็ หนง่ึ ระบบทม่ี กี ารปฏบิ ตั กิ ารทพี่ ง่ึ พาอาศยั กนั ระบบจะประสบความสำ� เรจ็ ตอ้ ง อาศัยการสังเคราะห์ การมุ่งไปในแนวทางเดียวกัน และการบูรณาการที่มีลักษณะเฉพาะตัวใน แตล่ ะสถาบนั การสงั เคราะห์ หมายถงึ การมองภาพรวมของสถาบนั โดยใช้คุณลักษณะท่ีส�ำคญั ของสถาบัน รวมถึงสมรรถนะหลัก วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ และระบบงาน การมงุ่ ไปในแนวทางเดยี วกนั หมายถงึ การอาศยั ความเชอ่ื มโยงขององคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ในสถาบนั

82 เกณฑ์คณุ ภาพการศกึ ษาเพอื่ การด�ำ เนินการทเ่ี ปน็ เลิศ ฉบับปี 2558-2561 เพื่อให้แผนงาน กระบวนการ ตัววัด ตลอดจนกิจกรรมต่างๆมีความสอดคล้องซ่ึงกันและกัน การบรู ณาการ หมายถงึ การทอี่ งคป์ ระกอบทกุ ภาคสว่ นในระบบการบรหิ ารจดั การของสถาบนั มีการเช่ือมโยงปฏิสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ เป็นหนึ่งเดียว และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายเพ่ือ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามทีต่ ั้งไว้ ซึ่งเปน็ การต่อยอดจากการมงุ่ ไปในแนวทางเดียวกนั แนวคิดดังกล่าวข้างต้นได้แสดงในหน้า 3 ของเกณฑ์ EdPEx เมื่อสถาบันมีมุมมอง เชิงระบบ ผู้น�ำระดับสูงของสถาบันจะให้ความส�ำคัญต่อทิศทางเชิงกลยุทธ์ต่อผู้เรียนและลูกค้า กลุม่ อื่น ซ่งึ หมายถงึ ว่า ผ้นู ำ� ระดับสูงตอ้ งใช้ผลลพั ธ์ในการตดิ ตาม ตอบสนอง และบริหารจัดการ ผลการดำ� เนนิ งาน มมุ มองเชงิ ระบบ คือ การใช้ตวั วัดตัวบง่ ช้ี สมรรถนะหลัก และความรขู้ อง สถาบนั เพอ่ื กำ� หนดกลยทุ ธท์ ส่ี ำ� คญั และเชอ่ื มโยงกลยทุ ธเ์ หลา่ นนั้ กบั ระบบงาน กระบวนการหลกั และการจัดสรรทรัพยากรให้สอดคล้อง เพื่อปรับปรุงผลการด�ำเนินการโดยรวมและการให้ ความส�ำคัญกบั ผู้เรียนและลกู ค้ากล่มุ อน่ื คา่ นยิ มและแนวคดิ เกณฑท์ ง้ั 7 ขอ้ และแนวทางการใหค้ ะแนน เปน็ องคป์ ระกอบทส่ี �ำคญั ของระบบและเป็นกลไกท่ีทำ� ให้เกดิ การบูรณาการ การน�ำองคก์ ารอย่างมวี สิ ัยทศั น์ ผู้นำ� ระดับสงู ควรก�ำหนดวสิ ัยทัศน์ มุ่งเนน้ ผูเ้ รียนและลูกค้ากลมุ่ อ่นื แสดงถงึ คา่ นิยมของ สถาบันและแนวปฏิบัติท่ีมีจริยธรรมให้ประจักษ์ รวมทั้งก�ำหนดความคาดหวังที่สูงต่อบุคลากร การก�ำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยมและความคาดหวังของสถาบันควรพิจารณาความสมดุลระหว่าง ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ผู้น�ำต้องก�ำกับให้มีการสร้างกลยุทธ์ ระบบและ วธิ ีการต่างๆ เพอ่ื สรา้ งองคค์ วามรู้ เพมิ่ ขดี ความสามารถ กระตนุ้ ให้เกดิ นวตั กรรม สง่ เสรมิ ให้เกิด ความรบั ผดิ ชอบ และเกดิ ผลการดำ� เนนิ การทเี่ ปน็ เลศิ ซง่ึ จะนำ� ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งของ สถาบนั ค่านิยมและกลยุทธ์ท่ีผู้น�ำก�ำหนดข้ึน ควรช่วยชี้น�ำการปฏิบัติงานและการตัดสินใจของ สถาบัน ผู้น�ำระดับสูงของสถาบันควรสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมให้บุคลากรท้ังหมดมี สว่ นร่วม มีการพฒั นาและเรยี นรู้ มีความคิดสรา้ งสรรค์ และพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงทส่ี �ำคญั คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย/สภาสถาบัน จะต้องเป็นผู้ก�ำกับดูแลการกระท�ำและผลการ ดำ� เนนิ งานของผนู้ ำ� ระดบั สงู ทา้ ยทสี่ ดุ คณะกรรมการชดุ นต้ี อ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทกุ กลมุ่ ในดา้ นจรยิ ธรรม การปฏบิ ตั กิ ารและผลการดำ� เนนิ การทง้ั ของสถาบนั และของผนู้ ำ� ระดบั สงู

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพื่อการดำ�เนินการทเี่ ป็นเลศิ ฉบับปี 2558-2561 83 ผนู้ �ำระดบั สูง ควรปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ี โดยการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิอย่างมีจรยิ ธรรม และเข้าร่วมในการวางแผน การสร้างบรรยากาศที่สนบั สนุนใหเ้ กิดนวตั กรรม สือ่ สาร สอนงาน และสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนาผู้น�ำในอนาคต การทบทวนผลการด�ำเนินการ ของสถาบัน และการยกย่องชมเชยผู้ปฏิบัติงาน การเป็นแบบอย่างที่ดี ผู้น�ำระดับสูงสามารถ เสรมิ สรา้ งเรอ่ื งจรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และความคาดหวงั ไปพรอ้ มๆ กบั การสรา้ งภาวะผนู้ ำ� ความมงุ่ มนั่ และความคดิ รเิ รมิ่ ให้เกิดข้นึ ท่วั ท้งั องค์การ ความเป็นเลศิ ทีม่ งุ่ เน้นผ้เู รยี น ทา้ ยที่สุดผเู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อนื่ คอื ผูต้ ดั สนิ ในเรื่องผลการด�ำเนนิ การและคณุ ภาพของ หลกั สตู รและบรกิ าร ดงั นนั้ สถาบนั จงึ ตอ้ งพจิ ารณาสง่ิ ทส่ี ง่ ผลตอ่ คณุ คา่ ในมมุ มองของผเู้ รยี นและ ลูกคา้ กลุ่มอนื่ ได้แก่ องค์ประกอบและคณุ ลักษณะของหลักสตู รและบริการ ช่องทางตา่ ง ๆ ท่ี ผเู้ รียนและลูกค้ากลมุ่ อ่นื จะติดตอ่ เข้าถงึ และส่ิงสนับสนุนอ่ืน ๆ พฤตกิ รรมเหล่าน้จี ะช่วยนำ� ไปสู่ การไดผ้ ูเ้ รียนและลกู ค้า สร้างความพึงพอใจ ความชอบและความจงรกั ภักดี การกล่าวถึงในทาง ที่ดี และผลในท้ายทส่ี ุด คือความสำ� เร็จอย่างตอ่ เนอื่ งของสถาบนั ความเป็นเลศิ ทม่ี ุ่งเน้นผูเ้ รยี น มีท้ังองค์ประกอบท่ีเป็นปัจจุบันและอนาคต ความเข้าใจความปรารถนาของผู้เรียนและลูกค้า กลุม่ อื่นในปัจจุบันและการคาดคะเนถึงความปรารถนาของผ้เู รียนและตลาดในอนาคต ตลอดชว่ งเวลาทผ่ี เู้ รยี นและลกู คา้ กลมุ่ อน่ื มคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั สถาบนั มหี ลายปจั จยั ทอ่ี าจ สง่ ผลตอ่ การรบั รถู้ งึ คณุ คา่ และความพงึ พอใจ ซงึ่ รวมถงึ วธิ กี ารบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ผเู้ รยี นและ ลูกคา้ กลมุ่ อน่ื ซงึ่ ช่วยสรา้ งความเช่อื ถือ ความเชื่อมน่ั และความจงรักภักดี ความเป็นเลิศท่ีมุ่งเน้นผู้เรียน จึงมีความหมายมากกว่าเพียงการเพ่ิมผลสัมฤทธิ์ของ การเรยี น การผ่านเกณฑ์มาตรฐานขัน้ ต�่ำท่กี �ำหนดไว้ หรอื ลดความจ�ำเป็นทตี่ ้องแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง ปจั จยั ต่างๆ เหล่านีส้ ่งผลต่อมุมมองท่ผี ู้เรยี นและลูกค้ากลุม่ อื่นมีต่อสถาบนั ดงั นน้ั จึงเป็นสว่ นท่ี ส�ำคัญของความเป็นเลิศท่ีมุ่งเน้นผู้เรียน นอกจากนี้ความส�ำเร็จของสถาบันในการตอบสนอง ตอ่ ผลการด�ำเนนิ การทไ่ี ม่เปน็ ไปตามเปา้ ขอ้ รอ้ งเรียน หรอื ความผิดพลาดในขนั้ ตอนการบริการ จึงมีความส�ำคัญยิ่งต่อการรักษาผู้เรียนและลูกค้ากลุ่มอ่ืนไว้กับสถาบัน และสร้างความผูกพัน ในระยะยาว สถาบนั ทม่ี ุง่ เนน้ ผเู้ รียน นอกจากจดั การหลักสูตรและการบรกิ ารทส่ี ามารถตอบต่อความ ตอ้ งการพน้ื ฐานของผเู้ รยี นและลกู คา้ กล่มุ อนื่ ได้แลว้ ยงั ต้องให้ความส�ำคัญต่อองคป์ ระกอบและ คุณลักษณะที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การสร้างความแตกต่างนี้ อาจเป็นการน�ำเสนอ หลักสูตรและบริการทางการศึกษาใหม่ๆ การผสมผสานของหลักสูตรและบริการ หรือการจัด

84 เกณฑ์คณุ ภาพการศึกษาเพอ่ื การด�ำ เนินการทีเ่ ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 บรกิ ารทตี่ อบสนองตอ่ ความตอ้ งการเฉพาะราย กลไกทหี่ ลากหลายในการเขา้ ถงึ และการสอื่ สาร ทไ่ี ปถึงลูกค้า การตอบสนองทีฉ่ ับไว หรือสมั พนั ธภาพพิเศษเฉพาะกลุ่ม ความเปน็ เลศิ ทมี่ งุ่ เนน้ ผเู้ รยี นจงึ เปน็ แนวคดิ เชงิ กลยทุ ธ์ ซง่ึ มงุ่ ไปสกู่ ารรกั ษาและสรา้ งความ จงรักภกั ดขี องผู้เรยี นและลกู คา้ กลุ่มอื่น การยอมรบั และชอ่ื เสียงของสถาบนั การเตบิ โตและการ ขยายสว่ นตลาด สถาบนั ตอ้ งมคี วามไวตอ่ การตอบสนองตอ่ ความความตอ้ งการทเี่ ปลย่ี นแปลงหรอื เกดิ ใหม่ ของผูเ้ รยี น ลกู ค้าอื่นและ ตลาด และตอ่ ปจั จยั ทีม่ ผี ลต่อความผูกพนั ของลูกคา้ สถาบนั ต้องใส่ใจตอ่ เสียงของลูกค้า และคาดการณก์ ารเปล่ยี นแปลงของตลาด ดังน้ันความเป็นเลิศที่มงุ่ เนน้ ผเู้ รยี นจงึ ตอ้ งสรา้ งวฒั นธรรมที่มุ่งเน้นผู้เรียนและความคล่องตวั ของสถาบัน การใหค้ วามส�ำคัญกับคน ความสำ� เร็จของสถาบันขึ้นกับบุคลากรทม่ี คี วามผกู พันซงึ่ ไดร้ ับประโยชน์จากการทำ� งาน ทม่ี คี วามหมาย เหน็ ทศิ ทางของสถาบนั อยา่ งชดั เจน โอกาสในการเรยี นรแู้ ละความรบั ผดิ รบั ชอบ ตอ่ ผลการดำ� เนนิ การ บคุ ลากรจะมคี วามผกู พนั ไดต้ อ้ งมบี รรยากาศการทำ� งานทมี่ คี วามปลอดภยั มีความไว้เน้อื เชื่อใจ และการใหค้ วามร่วมมือซ่งึ กันและกนั นอกจากนัน้ สถาบันท่ีประสบความ สำ� เรจ็ ตอ้ งสามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากภมู หิ ลงั ทหี่ ลากหลายของบคุ ลากรและคคู่ วามรว่ มมอื รวมทง้ั ความรู้ ทกั ษะ ความคิดสร้างสรรค์ และแรงจงู ใจ สถาบันท่ีประสบความส�ำเรจ็ เหล่านใ้ี ห้ความ สำ� คัญกบั คนทุกกลมุ่ ทมี่ ีส่วนได้ส่วนเสียกับสถาบัน ซ่งึ รวมถึงผู้เรยี น ลกู คา้ กลุ่มอื่น ชุมชน และ กล่มุ บุคคลอน่ื ซงึ่ ไดร้ ับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของสถาบนั การใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ คนในสถาบนั หมายถงึ ความมงุ่ มน่ั ทจ่ี ะสรา้ งความผกู พนั การพฒั นา และความผาสุกของบุคลากร ส่ิงเหล่าน้ีนับวันจะต้องอาศัยการออกแบบกระบวนการให้มี ความยดื หยนุ่ เพอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั สถานทที่ ำ� งานและความตอ้ งการใชช้ วี ติ ครอบครวั ทแี่ ตกตา่ งกนั ความท้าทายหลักในการให้ความส�ำคัญกับบุคลากรรวมถึง (1) การแสดงความมุ่งม่ันของผู้น�ำ ที่จะท�ำให้บุคลากรประสบความส�ำเร็จ (2) การสร้างระบบการยกย่องชมเชยหรือให้รางวัล ทนี่ อกเหนอื ไปจากระบบการใหผ้ ลตอบแทนตามปกติ (3) จดั ใหม้ กี ารพฒั นาและความกา้ วหนา้ ภายในสถาบนั (4) การแบง่ ปันความร้ขู องสถาบนั เพ่ือให้บุคลากรสามารถใหบ้ ริการแก่ผเู้ รยี น และลกู ค้ากลุ่มอน่ื ตลอดจนชว่ ยให้สถาบนั บรรลเุ ป้าหมายเชิงกลยุทธ์ไดด้ ยี ่งิ ขนึ้ (5) การสร้าง สภาพแวดล้อมท่ีส่งเสริมให้สามารถตัดสินใจในสถานการณ์ท่ีมีการวิเคราะห์ผลได้ผลเสียของ ความเสี่ยงในการตัดสินใจน้ัน เพ่ือให้เกิดนวัตกรรม (6) การพัฒนาระบบความรับผิดชอบต่อ ผลการด�ำเนินการของตนท้ังในระดับบุคลากรและระดับองค์การ (7) การสร้างสภาพแวดล้อม ทส่ี นบั สนุนบคุ ลากรทหี่ ลากหลาย

เกณฑค์ ณุ ภาพการศกึ ษาเพ่ือการดำ�เนนิ การท่เี ป็นเลิศ ฉบับปี 2558-2561 85 ความสำ� เรจ็ ของบคุ ลากรซงึ่ รวมถงึ ทงั้ ของผนู้ ำ� ดว้ ย ขน้ึ อยกู่ บั โอกาสทจ่ี ะเรยี นรู้ การเรยี นรนู้ ้ี รวมถงึ การเตรยี มคนเพอ่ื สมรรถนะหลกั ของสถาบนั ในอนาคต การฝกึ งานในหนา้ ทเ่ี ปน็ การฝกึ ให้ คนเรยี นรขู้ า้ มสายงาน และทำ� ให้เชอื่ มโยงการฝกึ อบรมเข้ากับดา้ นอตั รากำ� ลังและความจ�ำเปน็ เร่งด่วนได้อยา่ งมีประสิทธิผลและคมุ้ คา่ ในสถาบันที่ต้องพึง่ พาอาสาสมัคร การเรียนรู้ของอาสา สมัครเหลา่ น้กี ม็ ีความสำ� คัญทคี่ วรน�ำมาพจิ ารณา สถาบนั ตอ้ งสรา้ งคคู่ วามรว่ มมอื ทง้ั ภายในและภายนอกกบั บคุ คลและองคก์ ารอน่ื เพอ่ื ใหบ้ รรลุ เปา้ ประสงคโ์ ดยรวมไดด้ ขี น้ึ คคู่ วามรว่ มมอื ภายในสถาบนั อาจหมายถงึ ความรว่ มมอื ระหวา่ งฝา่ ย ปฏบิ ตั ิงานกับฝ่ายบริหาร การเปน็ ค่คู วามรว่ มมอื กบั บคุ ลากรอาจครอบคลมุ โอกาสที่จะพฒั นา การฝึกอบรมคร่อมสายงาน หรือการปรับโครงสร้างการท�ำงานใหม่ เช่น การสร้างทีมงาน ทีม่ ีสมรรถนะสูง นอกจากนก้ี ารต้ังกลุ่มความรว่ มมอื ภายในสถาบันยังอาจเกีย่ วขอ้ งกบั การสร้าง เครือข่าย ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน หรือระหว่างคณาจารย์ บุคลากรและอาสาสมัคร เพือ่ เสรมิ สร้างความยดื หยนุ่ การตอบสนองและการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ คู่ความร่วมมือภายนอกอาจหมายถึงลูกค้า ผู้ส่งมอบ สถาบันการศึกษาอื่น หรือชุมชน บุคคลเหล่านอี้ าจมบี ทบาทต่อความส�ำเรจ็ อย่างตอ่ เน่ืองของสถาบนั การเรียนรรู้ ะดับองค์การและความคลอ่ งตวั เพ่ือให้ประสบความส�ำเร็จในโลกปัจจุบันซึ่งมีสภาพแวดล้อมในการแข่งขันสูง และ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สถาบันจ�ำเป็นต้องมีความคล่องตัวและมีการเรียนรู้ระดับองค์กรอย่าง ต่อเนื่อง ความคล่องตัวคือความสามารถในการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นในการ ปฏิบัติการ สถาบันกำ� ลงั เผชิญกับระยะเวลาในการน�ำเสนอ/ปรบั ปรุงหลักสตู รและบรกิ ารใหม่ๆ ทส่ี นั้ ลงเรอื่ ยๆ มกี ารเรยี กรอ้ งใหห้ นว่ ยงานของรฐั บาลและองคก์ ารทไี่ มแ่ สวงหากำ� ไร ดำ� เนนิ การ ตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อประเด็นใหม่ๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม เนื่องจากในปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์ท่ีท�ำให้เกิดภาวะชะงักงันบ่อยข้ึนมาก ซ่ึงเหตุการณ์เหล่านี้อาจถูกกระตุ้นด้วย นวตั กรรมทางเทคโนโลยี การนำ� เสนอหลกั สตู รและบรกิ ารใหม่ ความวนุ่ วายหรอื ความตงึ เครยี ด ทางเศรษฐกจิ เหตกุ ารณส์ �ำคัญทางสภาพภูมอิ ากาศ ข้อบงั คับดา้ นกฎระเบยี บ หรอื ขอ้ เรียกร้อง จากสังคมและชุมชน ดังนั้นสถาบันจึงต้องมีความสามารถท่ีจะปรับเปลี่ยนตนเองได้ โดยใช้ ระยะเวลาท่สี ้ันลง การปรบั ปรุงระยะเวลาในการตอบสนอง มักต้องเปล่ยี นระบบงานใหม่ ปรบั กระบวนการท�ำงานใหง้ ่ายข้ึน หรือสร้างความสามารถในการปรับเปลยี่ นจากกระบวนการหนง่ึ ไปสอู่ กี กระบวนการหนง่ึ อยา่ งรวดเรว็ บคุ ลากรทไ่ี ดร้ บั อบรมครอ่ มสายงาน และทไี่ ดร้ บั การมอบ อำ� นาจในการตดั สนิ ใจ และการจดั การของความรขู้ องสถาบนั ทที่ นั เหตกุ ารณ์ จงึ มคี า่ อยา่ งยง่ิ ตอ่ สถาบนั ในสภาพแวดลอ้ มดังกลา่ ว

86 เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพอื่ การด�ำ เนินการท่ีเป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 การเรยี นรรู้ ะดบั องคก์ าร ประกอบดว้ ยการปรบั ปรงุ แนวทางทม่ี อี ยแู่ ลว้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และ การเปล่ียนแปลงท่ีส�ำคัญหรือการสร้างนวัตกรรมที่น�ำไปสู่เป้าประสงค์และแนวทาง หลักสูตร บรกิ าร และตลาดใหม่ การเรียนรู้ต้องฝังลึกเข้าไปในวิถีการปฏิบัติงานของสถาบัน นั่นคือ การเรียนรู้ควรเป็น (1) สว่ นหนง่ึ ของการปฏบิ ตั งิ านประจำ� ทที่ ำ� จนเปน็ กจิ วตั ร (2) สงิ่ ทสี่ ง่ ผลตอ่ การแกป้ ญั หาทต่ี น้ เหตุ โดยตรง (3) การเน้นการสร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วท้ังสถาบัน (4) ขับเคลื่อน โดยโอกาสในการเปลีย่ นแปลงท่ีส�ำคัญ และมคี วามหมาย รวมทัง้ การสรา้ งนวตั กรรม แหล่งเรียนรู้ต่างๆ หมายรวมถึงแนวความคิดจากอาจารย์และบุคลากร อาสาสมัคร ผลการวจิ ัยและพัฒนา ข้อมลู จากผ้เู รียนและลูกค้ากล่มุ อ่นื การแลกเปลี่ยนเรียนรเู้ ร่ืองวิธปี ฏบิ ัติ ทเี่ ป็นเลศิ ผลการด�ำเนินการของคแู่ ขง่ และการเทียบเคยี ง การเรียนรูข้ ององค์การส่งผล ดังนี้ (1) เพมิ่ คุณคา่ ใหแ้ กผ่ ูเ้ รียน และลกู ค้ากลมุ่ อื่นด้วย หลกั สตู ร และบรกิ ารทางการศึกษาใหมๆ่ หรือท่ีไดร้ ับการปรบั ปรุง (2) สร้างโอกาสใหม่ทางการ ศึกษา (3) พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการ หรือรูปแบบธุรกิจใหม่ (4) ลดความผิดพลาด ความคลาดเคลื่อน ความสูญเปล่า และต้นทุนท่ีเกีย่ วข้อง (5) ปรบั ปรงุ ผลการตอบสนองและ ลดรอบเวลาการด�ำเนินการ (6) เพมิ่ ผลติ ภาพและประสทิ ธิผลในการใชท้ รพั ยากรทงั้ หลายของ สถาบนั (7) ส่งเสรมิ ผลการด�ำเนนิ การของสถาบนั ในด้านความรับผดิ ชอบต่อสังคม และการให้ บรกิ ารต่อชุมชน และ (8) เพิม่ ความคลอ่ งตวั ในการจดั การการเปลย่ี นแปลงและการหยุดชะงัก ปัจจัยแห่งส�ำเร็จท่ีส�ำคัญท่ีตอบสนองต่อความท้าทายในด้านเวลาท่ีใช้ต้ังแต่การออกแบบจนถึง การน�ำไปปฏิบัติ (เวลาที่ใช้ตั้งแต่การริเร่ิมหลักสูตรหรือบริการ) หรือรอบเวลาในการสร้าง นวตั กรรม สถาบนั จำ� เปน็ ตอ้ งบรู ณาการในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตง้ั แตข่ น้ั ตอนการวจิ ยั หรอื รเิ รมิ่ แนวคดิ ไปจนถึงการน�ำไปใชจ้ ริง เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการที่เปลี่ยนแปลงเร็วของตลาด ทกุ มติ ขิ องการดำ� เนนิ การทวี่ ดั ดว้ ยเวลามคี วามสำ� คญั มากขนึ้ ในปจั จบุ นั และรอบเวลาคอื ตวั วดั หลักของกระบวนการ การใหค้ วามส�ำคญั เร่ืองเวลายงั กอ่ ให้เกิดประโยชนส์ ำ� คัญอ่นื ๆ การ ปรับปรุงเวลาท่ีใช้ในการด�ำเนินการจะส่งผลให้เกิดการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกัน ในเรื่องตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ระบบงาน โครงสร้างสถาบัน คุณภาพ ต้นทนุ การบูรณาการห่วงโซอ่ ุปทาน ผลิตภาพและความสำ� เร็จอย่างต่อเน่อื งในภาวะตลาดท่ที ้าทาย การเรียนรู้ของสถาบันและความคล่องตัว อาจได้จากพันธมิตรหรือคู่ความร่วมมือเชิง กลยุทธ์ ซ่ึงอาจช่วยเสริมสมรรถนะหลักของสถาบัน เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ หรือเป็นฐานส�ำหรับ สร้างหลักสูตรและหรือบริการใหม่ คู่ความร่วมมืออาจช่วยแก้ประเด็นที่เป็นปัญหาร่วมกัน โดยการผสมผสานและเสรมิ ความแข็งแกร่งและสมรรถนะหลักขององค์การ หรอื ความสามารถ

เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำ�เนินการท่เี ปน็ เลศิ ฉบบั ปี 2558-2561 87 ในการเป็นผู้น�ำของสถาบันเข้ากับจุดแข็งและศักยภาพของคู่ความร่วมมือ ความร่วมมือเช่นน้ี อาจสร้างความได้เปรยี บเชิงกลยทุ ธ์ใหม่ๆ ของสถาบันอีกดว้ ย การมงุ่ เนน้ ความส�ำเรจ็ การสร้างความส�ำเร็จของของสถาบันท้ังในปัจจุบันและอนาคต ต้องอาศัยความเข้าใจ ในปจั จัยตา่ งๆ ทีม่ ีผลกระทบตอ่ สถาบนั และตลาดทงั้ ระยะส้ันและระยะยาว การจะทำ� ใหม้ น่ั ใจ ไดว้ า่ จะมคี วามสำ� เรจ็ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตอ้ งมกี ารจดั การความไมแ่ นน่ อนในสภาพแวดลอ้ ม และการ สร้างความสมดุลระหว่างความต้องการระยะสั้นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับความจ�ำเป็นในการ ลงทนุ เพอ่ื ความสำ� เรจ็ ระยะยาวของผ้มู ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี และของสถาบัน ความเติบโตอย่างยัง่ ยืน และการเป็นผู้น�ำด้านผลการด�ำเนินการอย่างต่อเน่ืองต้องมีทิศทางอนาคตท่ีชัดเจน ทั้งยังต้อง มีความมุ่งมั่นท่ีจะสร้างพันธะระยะยาวกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท่ีส�ำคัญ ได้แก่ ผู้เรียนและลูกค้า กลุ่มอ่ืน บุคลากร ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมือ ชุมชนและสังคม สถาบันยังต้องมีความคล่องตัว ทจ่ี ะปรบั แผนในกรณที ่สี ถานการณบ์ งั คบั การวางแผนและการจัดสรรทรัพยากรของสถาบันควรต้องค�ำนึงล่วงหน้าถึงปัจจัยต่างๆ เชน่ ความคาดหวังทง้ั ระยะส้นั และระยะยาวของผ้เู รยี นและลกู ค้ากลุม่ อืน่ โอกาสทางการศึกษา และการสร้างคู่ความร่วมมือใหม่ๆ วิกฤตการณ์ต่างๆท่ีอาจเกิดข้ึน รวมท้ังการเปล่ียนแปลง สภาวะทางเศรษฐกิจ ความต้องการด้านสมรรถนะและอัตราก�ำลังของบุคลากร การแข่งขัน ในตลาดโลก การพัฒนาเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงของผู้เรียน ลูกค้ากลุ่มอื่นและส่วนตลาด รูปแบบใหม่ในการท�ำธุรกิจ การเปล่ียนแปลงของกฎระเบียบข้อบังคับ ความต้องการและ ความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงของสังคมและชุมชน และการปรับกลยุทธ์ของคู่แข่ง การก�ำหนด วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และการจัดสรรทรัพยากรของสถาบันต้องพิจารณาถึงอิทธิพลของ ปจั จัยเหล่านี้ การมงุ่ เน้นอนาคตหมายถงึ การพัฒนาผนู้ �ำ บุคลากรและผูส้ ง่ มอบ การวางแผน การสืบทอดที่มีประสิทธิผล การสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้เกิดความกล้าเส่ียงอย่าง คุ้มค่าและสนับสนุนนวัตกรรม รวมถึงคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของสังคมและมีความ รับผดิ ชอบต่อสงั คม การจดั การเพื่อนวตั กรรม นวัตกรรม หมายถึง การเปล่ียนแปลงท่ีมีความส�ำคัญเพ่ือปรับปรุงหลักสูตรและ บริการ กระบวนการ การปฏิบัติการ และรูปแบบทางธุรกิจ (*) เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย นวัตกรรมควรน�ำสถาบันสู่มิติใหม่ของผลด�ำเนินการ นวัตกรรมจ�ำเป็นต้องมี

88 เกณฑค์ ุณภาพการศึกษาเพ่อื การด�ำ เนนิ การทเ่ี ป็นเลิศ ฉบบั ปี 2558-2561 สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ก้ือหนนุ กระบวนการท่จี ะค้นหาโอกาสทางกลยทุ ธ์ และการตดิ ตามการลงทุน ที่มีความเส่ียง (intelligent Risk) นวัตกรรมและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นแนวคิด ที่แตกต่างแต่เสริมซึ่งกันและกัน สถาบันที่ประสบความส�ำเร็จใช้ท้ังสองแนวทางเพ่ือปรับปรุง ผลการด�ำเนินการ นวัตกรรมไม่จ�ำกัดอยู่เพียงในหน่วยงานด้านวิจัยและพัฒนาเท่านั้น แต่ยังมีความส�ำคัญ ต่อการปฏิบัตกิ าร ระบบและกระบวนการทัง้ หมดในทกุ ๆ ดา้ น การบรหิ ารและจดั การสถาบนั จึงต้องสร้างบรรยากาศ เพื่อค้นหาโอกาสทางกลยุทธ์และลงทุนในความเสี่ยงท่ีน่าลงทุน เพื่อ ให้กลายเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมการเรียนรู้ การสร้างนวัตกรรมควรบูรณาการเข้าไว้ในการ ปฏบิ ตั งิ านประจำ� วนั โดยมรี ะบบการปรบั ปรงุ ผลการดำ� เนนิ การชว่ ยเกอ้ื หนนุ นอกจากนย้ี งั ตอ้ ง มีกระบวนการที่เป็นระบบในการเฟน้ หาโอกาสทางกลยุทธ์ในทุกส่วนของสถาบัน นวัตกรรมอาจได้มาจากการดัดแปลงนวัตกรรมจากอุตสาหกรรมอื่น เพื่อให้เกิดการ ปรับปรุงแบบก้าวกระโดดในวงการศึกษา นวัตกรรมเกิดจากการส่ังสมความรู้ของสถาบันและ บุคลากรและจากนวัตกรรมของคู่แข่ง อาจเกี่ยวข้องกับความร่วมมือของบุคลากรซ่ึงปกติไม่ได้ ทำ� งานดว้ ยกนั หรอื มาจากตา่ งหนว่ ยงานภายในสถาบนั ดงั นน้ั ความสามารถในการเผยแพรแ่ ละ ใช้ประโยชน์จากความรู้เหล่านี้อย่างรวดเร็วจึงมีความส�ำคัญย่ิงต่อการผลักดันให้เกิดการสร้าง นวตั กรรมของสถาบัน การจดั การโดยใช้ขอ้ มลู จรงิ การจัดการโดยใช้ข้อมูลจริง หมายถึง การท่ีสถาบันวัดและวิเคราะห์ผลการด�ำเนินการ เป็นส่วนส�ำคัญของการด�ำเนินการของสถาบัน ทั้งจากมุมมองภายในและจากสภาพแวดล้อม ที่มีการแข่งขัน การวัดผลควรพัฒนาจากความต้องการและกลยุทธ์ของสถาบัน และควรสื่อถึง ขอ้ มลู และสารสนเทศทส่ี ำ� คญั อยา่ งยง่ิ เกยี่ วกบั กระบวนการหลกั ผลผลติ ผลลพั ธ์ และผลสมั ฤทธิ์ และจากผลการด�ำเนนิ การของคู่แขง่ และในวงการศกึ ษา การบรหิ ารจัดการผลการด�ำเนนิ การท่ี มปี ระสทิ ธผิ ลของสถาบนั ตอ้ งใชข้ อ้ มลู และสารสนเทศทหี่ ลากหลาย ขอ้ มลู และสารสนเทศเหลา่ น้ี อาจอยใู่ นหลากหลายรปู แบบ เชน่ ตวั เลข กราฟ ขอ้ มลู เชงิ พรรณา และมาจากหลากหลายแหลง่ ทั้งกระบวนการภายใน การส�ำรวจ ฐานข้อมูล และสื่อสังคม ตัววัดผลการด�ำเนินการเก่ียวกับ ผเู้ รียน ลกู คา้ กลุ่มอื่น หลักสตู ร บริการ และกระบวนการ การเปรียบเทยี บวธิ กี ารปฏิบตั ิ ตลาด และผลการดำ� เนนิ การของคแู่ ขง่ ผลการดำ� เนนิ การของผสู้ ง่ มอบ บคุ ลากร คคู่ วามรว่ มมอื ตน้ ทนุ งบประมาณ และผลลพั ธด์ า้ นการเงนิ ดา้ นการกำ� กบั ดแู ล การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย และการบรรลุ เป้าประสงค์เชิงกลยทุ ธ์