Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore DGA_AI-free-book-thai-ver1

DGA_AI-free-book-thai-ver1

Published by JOJO DIY CHANNEL, 2019-11-27 00:30:21

Description: DGA_AI-free-book-thai-ver1

Search

Read the Text Version

FAAGODNORMDVEISNREIMRSETVNRICTAETSION เทคโนโลยี ปญญา ประดิษฐ สำหรบั การบร�หารงาน และการบร�การภาครฐั เวอรช นั 1.0 (พฤศจกิ ายน 2562) สำนักงานพัฒนารฐั บาลดิจิทลั (องคการมหาชน) (สพร.)



GAFAONDORMDVEISNREIMRSETVNRICTAETSION เทคโนโลยี ปญญาประดิษฐ สำหรบั การบร�หารงานและการบร�การภาครัฐ เวอรช นั 1.0 (พฤศจกิ ายน 2562) ที่ปรึกษา ออกแบบ ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ บริษทั มูสส์เฮด จ�ำกดั บรรณาธิการบริหาร พมิ พท์ ่ี ดร. ศักดิ์ เสกขุนทด บรษิ ทั ส.พจิ ติ รการพิมพ์ จำ� กดั บรรณาธกิ าร พมิ พ์ครงั้ ที่ 1 ชรินทร์ ธรี ฐิตยางกรู พฤศจกิ ายน 2562 ชื่อผแู้ ตง่ จำ� นวน ปรีชาพล ชูศรี 300 เลม่ จรี ณา นอ้ ยมณี ISBN เกษม พนั ธุส์ ิน 978-616-235-342-0 จดั ทำ� สำ� นกั งานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ัล (องคก์ ารมหาชน)

คำ�นยิ ม ถ้าเราไมเ่ รม่ิ เรียนรู้หรอื ท�ำ ความเขา้ ใจ เทคโนโลยีในตอนนี้ อาจสง่ ผลกบั การด�ำ เนินชีวติ ของเราในอนาคต โลกมกี ารเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ถา้ ถามวา่ ปจั จยั อะไรทส่ี ามารถเปลยี่ นแปลงโลกไดบ้ า้ ง เทคโนโลยี คงเปน็ คำ� ตอบแรกของใครหลายคน และถา้ ถามลกึ ลงไปอกี วา่ เทคโนโลยอี ะไรในปจั จบุ นั ทมี่ อี ทิ ธพิ ล ในการเปลีย่ นแปลงโลก เชอื่ ว่า “เทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ”์ หรอื AI (Artificial Intelligence) คงเป็นค�ำตอบแรกในบรรดาผู้ท่ีมองว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยส�ำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก โดย เฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการด�ำเนินชีวิตของเรา ดังน้ัน ถ้าเราไม่เร่ิมเรียนรู้หรือท�ำความเข้าใจ เทคโนโลยใี นตอนนี้ อาจสง่ ผลกบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ของเราในอนาคต เนอ่ื งจากไมช่ า้ กเ็ รว็ เรากต็ อ้ งเขา้ มาสโู่ ลกแหง่ เทคโนโลยที ม่ี ี AI ชว่ ยเราคดิ ชว่ ยเราทำ� งาน และใหเ้ ราจดั การกบั เรอ่ื งรอบตวั ไดง้ า่ ยขนึ้ ไม่เพียงแต่ภาคเอกชนเท่านั้นที่กระตือรือร้นที่จะน�ำ AI มาใช้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้บริโภค ภาครัฐเองก็มีความจ�ำเป็นต้องน�ำ AI มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐเช่นกัน หลายประเทศไดม้ กี ารนำ� AI มาใชใ้ นการพฒั นาบรกิ ารและใชเ้ พมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทำ� งานภาครฐั ในสว่ นของประเทศไทยเองเรมิ่ กม็ กี ารนำ� AIมาใชบ้ า้ งแลว้ แตย่ งั ไมแ่ พรห่ ลายมากนกั ดงั นน้ั สงิ่ สำ� คญั สำ� หรับภาครฐั ไทยคอื ต้องทำ� ความเข้าใจกบั AI วา่ มีรปู แบบ มกี ารท�ำงาน และมีประโยชน์อย่างไร เพอื่ สรา้ งแนวคดิ ใหมๆ่ ในการพฒั นาบรกิ ารและยกระดบั การท�ำงานใหต้ อบสนองตอ่ ความตอ้ งการ ของประชาชนซึ่งตรงกับแนวทางการพัฒนาประเทศในปจั จบุ นั

สพร. ไดเ้ ชญิ ผมเปน็ ประธานกรรมการรว่ มกบั ผทู้ รงคณุ วฒุ หิ ลายทา่ นเพอ่ื พจิ ารณาเนอ้ื หาในหนงั สอื “เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐส์ ำ� หรบั การบรหิ ารงานและการบรกิ ารภาครฐั ” จงึ มโี อกาสไดอ้ า่ น หนงั สอื เลม่ นกี้ อ่ นคนอน่ื โดยหนงั สอื เลม่ นตี้ รงกบั ทศิ ทางและแนวโนม้ เทคโนโลยขี องโลกทกี่ ลา่ วถงึ ประโยชนข์ อง AI สำ� หรับภาครฐั เนื้อหากล่าวถึงความรู้เบ้ืองตน้ เกย่ี วกบั AI นโยบายดา้ น AI ของ แต่ละประเทศ ตัวอย่างการน�ำ AI มาใช้ส�ำหรับภาครัฐ และสุดท้ายเป็นการรวบรวมประเด็นท่ี ภาครฐั ต้องเตรียมความพรอ้ มในรูปแบบของข้อเสนอแนะ ซ่ึงจะชว่ ยให้ผูอ้ ่านเขา้ ใจวา่ AI คอื อะไร ท�ำอะไรได้บ้าง และมีประโยชน์อย่างไร ซ่ึงนับว่ามีประโยชน์ต่อแนวทางการท�ำงานและการให้ บริการของภาครฐั เป็นอย่างย่ิง ผมหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเล่มน้ีจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน AI รวมท้ังสามารถสร้าง แนวคดิ ใหมใ่ นการนำ� AI มาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ทางเลอื กในการพฒั นาและแกไ้ ขปญั หาในการทำ� งาน ของภาครฐั ใหแ้ ก่ผู้อา่ นครับ – วรากรณ์ สามโกเศศ

สารบัญ บทสรุปผู้บริหาร 6 บทที่ 2 60 ค�ำศพั ท์ทเ่ี กยี่ วข้องกับ AI 16 ทิศทาง AI ของโลก 68 บทที่ 1 72 บทน�ำ กลมุ่ สหภาพยโุ รป 73 1. ปัญญาประดษิ ฐ์ 19 กล่มุ สแกนดิเนเวีย 75 (Artificial Intelligence: AI) คอื อะไร 75 1.1 นิยามและความหมายของ AI กลุ่มทวีปอเมริกา 77 1.2 ประเภทและการแบง่ ระดบั การเรยี นรู้ 27 กลุ่มตะวันออกกลาง 78 ของ AI 80 2. ความสามารถของ AI ในปจั จบุ ัน กลมุ่ เอเชยี 3. แนวทางเบื้องต้นในการวิเคราะหว์ ่า 28 กลมุ่ อาเซยี น ส่งิ ใดเป็น AI 32 สรุปทศิ ทาง AI ของโลก 4. ประโยชนข์ อง AI ส�ำหรบั ภาครฐั ข้อสังเกตเพ่ิมเติม: หลกั การและจรยิ ธรรมใน 37 การพฒั นา AI 53 56

บทท่ี 3 84 บทที่ 4 113 แนวทางการน�ำ AI มาเพมิ่ ประสิทธภิ าพ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือนำ� AI 118 การทำ� งานของภาครฐั มาใช้เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพภาครัฐ 119 การใช้ AI ในการใหบ้ รกิ ารของรัฐ (Service) 90 ข้อเสนอแนะสำ� หรบั หนว่ ยงานภาครฐั 125 1. การวเิ คราะห์รปู แบบ AI ทน่ี ำ� มาใช้ 90 1. ประเมินความเหมาะสมในการน�ำ AI มาใช้ 127 แตล่ ะขัน้ ตอน 2. ก�ำหนดกรอบการด�ำเนินโครงการ 129 2. ตวั อย่างการนำ� AI มาใช้ใน 93 3. การเตรยี มความพร้อมดา้ นขอ้ มูล 135 งานบริการสาธารณะของรฐั 4. แสวงหาความร่วมมือ 141 การใช้ AI ในระบบบรหิ ารจดั การของรฐั 99 5. การสรา้ งจรยิ ธรรม 142 1. การวิเคราะห์รูปแบบ AI ทีน่ ำ� มาใช้ 99 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 144 ในแตล่ ะงาน 1. ก�ำหนดกรอบการก�ำกบั ดูแล 148 2. ตัวอยา่ งการนำ� รูปแบบ AI มาใช้ใน 102 2. ส่งเสรมิ พน้ื ฐานข้อมลู ภาครฐั 149 งานบรหิ ารจดั การภาครัฐ 3. สร้างเสรมิ บุคลากร AI ภาครฐั 150 3. การใช้ AI ในระบบเฉพาะของหนว่ ยงาน 107 4. สง่ เสริมภาคส่วนที่เก่ียวข้อง 4. สรุป บทบาท อนาคต และแนวโนม้ 112 แนวทางการประยุกต์ใช้ AI ของปญั ญาประดษิ ฐ์ในภาครัฐ เพ่ือขบั เคลอื่ นโครงการส�ำคัญของภาครัฐ บรรณานุกรม 155

บทสรุปผ้บู ริหาร รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปประเทศไทยเพ่ือเปลี่ยนผ่านให้ประเทศก้าวสู่ยุคที่ขับเคล่ือน เศรษฐกิจดว้ ยนวตั กรรมและเทคโนโลยี ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดงั นนั้ การพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัลจึงเป็นกลไกส�ำคัญในการพัฒนาประเทศตามนโยบายดังกล่าว ส�ำหรับภาคเอกชนได้มี การนำ� เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใชใ้ นการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพองคก์ รและสรา้ งความพงึ พอใจใหแ้ กผ่ บู้ รโิ ภค อยู่แล้ว แต่ส�ำหรับภาครัฐการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ยังประสบกับความท้าทายหลายประการ ท้ังประเด็นด้านความเช่ือม่ัน โครงสร้างของภาครัฐที่มีการรวมศูนย์จึงมีขนาดใหญ่และซับซ้อน นโยบายและมาตรการทไ่ี มส่ นองตอ่ ความตอ้ งการของประชาชน ขาดการบรู ณาการ รวมทงั้ กฎหมาย และวัฒนธรรมการท�ำงานท่ีขาดความยืดหยุ่น ภาครัฐจึงจ�ำเป็นต้องเตรียมความพร้อมต่อการน�ำ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาประยกุ ตใ์ นงานภาครฐั ซงึ่ การพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั (Digital Government) เปน็ ส่ิงส�ำคัญต่อการเตรียมความพรอ้ มดังกล่าว ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรอื AI เปน็ หนึ่งในเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ท่ีถูกให้ความส�ำคัญ จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเคร่ืองมือทางเลือกที่สามารถ ยกระดบั การทำ� งาน แกป้ ญั หา และสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สำ� นกั งานพฒั นา รัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ในฐานะหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนการพัฒนา รัฐบาลดิจิทัล จึงมีแนวคิดในการศึกษาเทคโนโลยี AI เพ่ือน�ำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพ ภาครัฐ โดยมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือสรา้ งแรงจูงใจให้หนว่ ยงานภาครัฐน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้เพือ่ สร้าง ประสิทธิภาพในการให้บรกิ ารสาธารณะและการทำ� งานของภาครัฐต่อไป เนื้อหาในหนังสือเล่มน้มี ี 4 สว่ น ไดแ้ ก่ สว่ นที่ 1 เปน็ บทนำ� เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจเรอื่ ง AI ใหแ้ กผ่ อู้ า่ น สว่ นท่ี 2 เปน็ การรวบรวม ทศิ ทางกลยทุ ธ์ AI ของโลก สว่ นท่ี 3 เปน็ แนวทางการนำ� AI มาเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการทำ� งานของ ภาครฐั โดยแบง่ งานภาครฐั ออกเปน็ 3 กลมุ่ คอื งานบรกิ าร งานบรหิ ารจดั การของรฐั และงานเฉพาะ ของหนว่ ยงาน สว่ นสดุ ทา้ ยเป็นขอ้ เสนอแนะสำ� หรบั ภาครัฐเพอื่ นำ� AI มาใชป้ ระโยชน์

สำ�นกั งานพัฒนารัฐบาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 7 1 What AI is... AI ไม่ใช่เฉพาะหุ่นยนต์ท่ีสามารถเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ได้เท่าน้ัน แต่หมายถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ สามารถคิดและโต้ตอบกับมนุษย์ได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องมีรูปร่างหรือหน้าตาเหมือนมนุษย์เสมอไป แต่อาจมีฟังก์ชันการท�ำงานบางอย่างแบบมนุษย์ เช่น การคิดแบบมนุษย์ การพูดคุยแบบมนุษย์ เปน็ ตน้ เราสามารถพบเห็นความสามารถ AI ท่ีถูกสอดแทรกอยใู่ นบรกิ ารท่ีเราใชอ้ ยู่ทวั่ ไป ส�ำหรับ ความหมายของ AI สพร. ไดร้ วบรวมนยิ ามและแนวคดิ ทน่ี า่ เชอื่ ถอื วเิ คราะหร์ ว่ มกบั เทคนคิ และความ สามารถของ AI ในปจั จบุ ัน ซึ่งสามารถสรุปความหมายได้ว่า AI หร�อ ปญญาประดิษฐ (Artificial Intelligence)_ เปน เทคโนโลยกี ารสรา งความสามารถใหแ กเ ครอ่ื งจกั รและคอมพวิ เตอร ดว ยอลั กอรทิ มึ และกลมุ เครอ่ื งมอื ทางสถิติ เพื่อสรางซอฟตแวรทรงปญญา ที่สามารถเลียนแบบความสามารถของมนุษยที่ซับซอนได เชน จดจำ แยกแยะ ใหเ หตผุ ล ตดั สนิ ใจ คาดการณ สอ่ื สารกบั มนษุ ย เปน ตน ในบางกรณอี าจไปถงึ ขน้ั เรยี นรไู ดดว ยตนเอง AI มรี ะดบั การเรยี นรอู้ ยู่ 3 ระดบั คอื Machine Learning ทพี่ ฒั นาไดง้ า่ ยทสี่ ดุ Machine Intelligence ใชเ้ ทคนคิ ขนั้ สงู ขนึ้ ทพ่ี บไดม้ ากในปจั จบุ นั และ Machine Consciousness ทเี่ ปน็ การพฒั นาในระดบั สงู สดุ และยงั ไมถ่ กู นำ� มาใชแ้ พรห่ ลายมากนกั ดงั นนั้ การนำ� AI มาใชป้ ระโยชนจ์ ำ� เปน็ ตอ้ งทราบกอ่ น ว่า AI ทำ� อะไรไดบ้ า้ ง ซึง่ AI ในปจั จบุ นั มคี วามสามารถหลากหลายรปู แบบ ดังน้ี n Machine Learning เปน็ ความสามารถในการเรยี นรแู้ ละวเิ คราะหข์ อ้ มลู ของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เพ่อื พยากรณ์ผลลพั ธ์ โดยมเี ทคนิคยอ่ ย คือ Supervised, Unsupervised, Semi-supervised และ Reinforcement ทม่ี คี วามแตกต่างกนั ดว้ ยอลั กอริทึมการเรยี นรู้ ขอ้ มูลทีก่ �ำหนดใหเ้ รยี นรู้ และวตั ถุประสงคใ์ นการใช้งาน n ความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) เปน็ เทคนิคที่ทำ� ให้เครื่องเข้าใจภาษามนษุ ย์

8 เทคโนโลยีปญั ญาประดษิ ฐ์ n ความสามารถในการวางแผน (Automated Planning, Scheduling & Optimization) เปน็ การ ท�ำให้เครื่องสามารถตัดสนิ ใจและเลือกการด�ำเนินงานท่ีบรรลุเปา้ หมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ n ความสามารถในการวเิ คราะหแ์ บบผเู้ ชย่ี วชาญ (Expert System) เปน็ เทคนคิ การเลยี นแบบ ความสามารถในการตดั สนิ ใจแบบมนุษย์ n ความสามารถในการรู้จ�ำค�ำพูด (Speech) เป็นเทคนิคการท�ำให้เครื่องรู้จ�ำเสียงพูดและ โครงสร้างภาษาของมนุษยแ์ ละวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากเสียงนนั้ n Computer Vision เปน็ เทคนคิ ทำ� ใหเ้ ครอ่ื งมองเหน็ และเขา้ ใจโครงสรา้ งภาพเพอ่ื วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากภาพได้ n วทิ ยาการหนุ่ ยนต์ (Robotics) เปน็ สาขาวชิ าทพี่ ฒั นาเครอื่ งยนตใ์ หม้ รี ปู รา่ งและเคลอื่ นไหวได้ แตกต่างกนั ไปตามวัตถุประสงค์การใชง้ าน จากความสามารถของ AI ทกี่ ลา่ วมาแลว้ เราสามารถวเิ คราะหป์ ระโยชนท์ ภี่ าครฐั จะไดร้ บั หากนำ� AI มาใชใ้ นการทำ� งานภาครัฐโดยสรุปได้ ดังน้ี เพ�ม่ ประสิทธภิ าพ ลดการใชท รพั ยากร ในการทำงานใหภาครัฐ ทง้ั กำลงั คนภาครฐั งบประมาณ ทั้งการใหบรกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพ และลดการใชเ วลาในการทำงาน การลดความซ้ำซอนและ ลดทรพั ยากรในการทำงาน การสรางมาตรฐานใหการทำงาน และสามารถวดั ผลได การแก ปญ หาในการทำงานภาครฐั และแกป ญหาการทุจริต เพม�่ ผลติ ภาพ คือ การยกระดบั การทำงาน ภาครัฐโดยรวมใหด ียิง่ ขน้ึ เพม่� คณุ ภาพชีว�ต ทั้งในฝง บุคลากรภาครฐั เอง และในฝง ประชาชน

สำ�นักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 9 2 Where the world is heading... เมอื่ เราทราบสถานการณข์ องประเทศไทย ความหมายและนิยามของ AI รวมทง้ั ประโยชน์ท่จี ะได้ รบั จากการน�ำ AI มาใช้แล้ว ส่วนถดั มาจงึ เป็นการทราบถึงทิศทางการพฒั นา AI ในภาพรวมของ โลกวา่ แตล่ ะประเทศมกี ารนำ� AI มาใชเ้ ปน็ กลยทุ ธใ์ นการขบั เคลอ่ื นประเทศอยา่ งไร โดยขอนำ� เสนอ กลยทุ ธต์ ามพนื้ ที่ในแตล่ ะทวีปของโลก กลุม่ สหภาพยโุ รป (EU) โดยคณะกรรมาธกิ ารสหภาพยุโรปมกี ารพฒั นาแผนยุทธศาสตร์ดา้ น AI รวมทง้ั ประเทศท้ังในและ นอกกลุ่มดังกล่าวท่ีอยู่ในทวีปยุโรปก็ได้มีการจัดท�ำแผนกลยุทธ์ด้าน AI ที่มีทิศทางการพัฒนา เชื่อมโยงกันทั้งหมด อาทิ สหราชอาณาจกั ร ทใ่ี ช้ AI ขบั เคลอื่ นอตุ สาหกรรมขนาดใหญร่ ว่ มกบั เอกชน พร้อมเงนิ ลงทนุ จ�ำนวนมาก เยอรมนี ทอี่ อกกลยุทธพ์ ร้อมแนวคิด “Made in Germany” อติ าลี ท่ีจัดท�ำกลยุทธ์เพื่อบูรณาการท�ำงานของภาครัฐและ สร้างความรว่ มมอื กับเอกชนดว้ ย กลุ่มสแกนดิเนเวยี (Scandinavia) เป็นกลุ่มประเทศทางตอนเหนือของทวีปยุโรปที่มีระดับการพัฒนาในขั้นสูงอยู่แล้ว มีการน�ำ AI มาใชเ้ พอ่ื สร้างความเจรญิ เตบิ โตและอำ� นวยความสะดวกใหแ้ กป่ ระชาชน เดนมารก์ ไม่มีการก�ำหนดกลยุทธ์ด้าน AI เฉพาะ แต่มีเป้าหมาย เป็นผู้น�ำในการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างความเจริญ และความมัง่ ค่ังให้ประเทศ ฟนิ แลนด์ อยู่ระหว่างการจัดท�ำกลยุทธ์ โดยเน้นการศึกษาจุดแข็ง และจุดอ่อนด้าน AI ของประเทศแล้วจึงจัดท�ำข้อเสนอ แนะเชงิ นโยบายเพื่อขับเคลอ่ื นประเทศต่อ

10 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ กล่มุ ทวีปอเมรกิ า (North and South America) ใหค้ วามสำ� คญั กับการศึกษาวิจัยและการเตรยี มความพรอ้ มเพื่อพัฒนา AI สหรัฐอเมริกา ก�ำหนดเป้าหมาย 4 ด้าน ทั้งการเป็นผู้น�ำด้าน AI การ สนับสนุนแรงงานในประเทศ การส่งเสริมการวิจัยและ พฒั นา และการขจัดอุปสรรคในการสร้างนวัตกรรม แคนาดา เปน็ ประเทศแรกทปี่ ระกาศกลยทุ ธ์ AI ในระดบั ชาตใิ นชอื่ Pan-Canadian ทเ่ี ปน็ แผนกลยทุ ธ์ 5 ปี ทเ่ี นน้ การเพม่ิ คน เพื่อวิจัยและพัฒนาสร้างความเป็นเลิศด้าน AI รวมท้ัง สนับสนุนชุมชนวิจัยด้าน AI เพื่อให้เกิดความเช่ือมโยง ในการด�ำเนินกลยทุ ธ์ เมก็ ซิโก มีการวางรากฐานโดยการศึกษาก่อนวางกลยุทธ์เช่นกัน โดยศกึ ษาถึงการใช้ AI ในระดบั ภูมิภาค และมีขอ้ เสนอ แนะเพ่อื การน�ำ AI มาใช้ประโยชนส์ ำ� หรบั ภาครัฐ กลุ่มตะวนั ออกกลาง (Middle East) สหรฐั อาหรับเอมเิ รตส์ เป็นประเทศแรกในกลุ่มที่พัฒนากลยุทธ์ AI และจัดตั้ง กระทรวงปัญญาประดิษฐ์ โดยรัฐบาลให้ความส�ำคัญ กับการจัดสรรงบประมาณเพ่ือลงทุนในการพัฒนา เทคโนโลยี AI

สำ�นกั งานพัฒนารัฐบาลดิจทิ ลั (องคก์ ารมหาชน) 11 กลมุ่ เอเชีย (Asia) มีความต่ืนตัวและให้ความสนใจกับกลยุทธ์ AI เพ่ือช่วงชิงความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยมี ประเทศทมี่ กี ลยุทธท์ ีน่ ่าสนใจดงั นี้ จีน ประกาศแผน “Next Generation AI Development” เพอ่ื เปน็ ผนู้ ำ� ของโลกด้าน AI โดยมรี ะยะการพัฒนา 3 ระยะ ญป่ี นุ่ เปน็ ประเทศทีส่ องของโลกในการพฒั นากลยุทธ์ AI ดว้ ย การจดั ตง้ั สภายทุ ธศาสตรส์ ำ� หรบั เทคโนโลยี AI และมขี นั้ ตอนการดำ� เนนิ การตามแผน 3 ขนั้ ตอน กลุ่มอาเซยี น (ASEAN Community) สิงคโปร์ รัฐบาลได้จัดท�ำโครงการขนาดใหญ่ช่ือ AI Singapore โดยมีระยะเวลา 5 ปี เพือ่ ปรับปรงุ ขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศ ทงั้ นี้ EU และทปี่ ระชมุ ระหวา่ งประเทศยงั ไดป้ ระกาศหลกั การและประเดน็ ดา้ นจรยิ ธรรมทค่ี วรค�ำนงึ ถึงในการพัฒนา AI เนื่องจากเห็นความส�ำคัญต่อผลกระทบทีอ่ าจเกิดขึน้

12 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ 3 When AI shines in action... จากบทน�ำจนถึงกลยุทธ์ของต่างประเทศด้าน AI ทำ� ให้เรารจู้ กั AI ข้นึ ทั้งในเชงิ ลกึ และแนวโนม้ ของ โลก เพื่อสร้างความเขา้ ใจมากขนึ้ สพร. จงึ ได้รวบรวมตวั อย่างของตา่ งประเทศในการนา AI มาใช้ สนบั สนุนการท�ำงานของภาครฐั ตามลักษณะการทางานของภาครัฐ 3 รูปแบบ คือ AI for Public service เป็นแนวทางการประยุกต์ AI ส�ำหรับการให้บริการสาธารณะของรัฐท่ีวิเคราะห์จากขั้นตอนการให้ บริการของรฐั โดยมีตวั อยา่ งทนี่ ่าสนใจ ไดแ้ ก่ 1. สิงคโปรพ์ ัฒนา GOV.SG Chatbot เพ่อื ยกระดบั การให้ขอ้ มลู กบั ประชาชน 2. ฟนิ แลนด์ใช้ AI ช่วยออกแบบหลกั สูตรการศกึ ษา 3. เอสโตเนยี ใช้ AI ตดั สนิ คดีแทนผพู้ พิ ากษา 4. ไทยใช้ AI พจิ ารณาอนญุ าตน�ำกากอตุ สาหกรรมออกนอกบรเิ วณโรงงาน 5. เมอื งเอสปู ฟนิ แลนด์ ใช้ AI ใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพและประกนั สังคมเชงิ รุก AI for government management เป็นแนวทางการประยุกต์ AI ส�ำหรับการบริหารจัดการภายในของภาครัฐที่เป็นงานสนับสนุนการ ใหบ้ รกิ ารหรอื งานตามภารกจิ ของหนว่ ยงาน โดยวเิ คราะหจ์ ากงานทตี่ อ้ งทำ� ซำ้� เปน็ ประจำ� และมขี น้ั ตอนไม่ยุง่ ยาก มีตวั อยา่ งดังนี้ 1. รัฐแอลเบอรต์ า แคนาดา น�ำ AI มาเพม่ิ ประสิทธิภาพใหร้ ะบบ ERP ของรฐั 2. จนี ใชร้ ะบบ Zero Trust System ในการตรวจจับการคอร์รัปชนั 3. กลาโหมสหรฐั อเมริกาใช้ AI คาดการณย์ านพาหนะทีต่ ้องได้รับการบำ� รงุ รกั ษา 4. สรรพากรออสเตรเลียใช้เสยี งในการยืนยันตวั ตน 5. ฮังการีน�ำ AI มาใช้จดั การข้อมูลภาพในคลังภาพและเสียงแห่งชาติ

ส�ำ นกั งานพฒั นารัฐบาลดิจิทลั (องค์การมหาชน) 13 AI for government mission เป็นแนวทางการประยุกต์ AI ในงานตามภารกิจเฉพาะของแต่ละหน่วยงาน โดยมีตัวอย่างท่ีน่า สนใจดังนี้ 1. โรงพยาบาลราชวถิ ใี ช้ AI ในการวินจิ ฉัยโรคเบาหวาน 2. เกาหลีใชเ้ ทคนคิ Face detection ตรวจจับผูพ้ ำ� นักเกินเวลาในวีซ่า 3. รฐั เทกซัสให้ AI คาดการณป์ ริมาณน�้ำล่วงหนา้ 4. เมอื งพิตตส์ เบริ ์ก รัฐเพนซลิ เวเนยี ใช้ AI จดั การปัญหาการจราจรติดขดั 5. ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหาร 4 ลาดกระบัง (สจล.) พฒั นาระบบเฝ้าระวงั โจรปลน้ รา้ นทอง sHhoowultdheprgeopvaerrenfmorenAtI... AIไมส่ ามารถนำ� มาใชไ้ ดท้ นั ทีแตจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการนำ� มาใชก้ อ่ นโดยเฉพาะ ภาครัฐที่มีขนาดใหญ่และมีผู้เก่ียวข้องเป็นจ�ำนวนมาก ดังน้ัน สพร. จึงได้น�ำเสนอข้อเสนอแนะ ส�ำหรบั ภาครฐั เพ่ือน�ำ AI มาใช้เพ่ิมประสทิ ธิภาพ ซง่ึ มขี อ้ เสนอแนะ 2 สว่ น ไดแ้ ก่ ข้อเสนอแนะของหน่วยงานภาครัฐ ก่อนการด�ำเนินโครงการหน่วยงานภาครัฐต้องประเมินความเหมาะสมในการน�ำ AI มาใช้ก่อน เป็นล�ำดับแรก โดยวิเคราะห์จากกระบวนงานปัจจุบันของหน่วยงานเพ่ือระบุคุณค่าที่ AI จะให้ ผ่านแนวทางการวิเคราะห์ 3 ขั้นตอน คือ การประเมินสภาพปัญหาปัจจุบันของหน่วยงาน การประเมนิ ความเปน็ ไปได้ และการประเมินคุณคา่ ของการน�ำ AI มาใช้ ล�ำดับถดั ไปตอ้ งกำ� หนดกรอบการดำ� เนินโครงการให้ชัดเจนและก�ำหนดตวั ชว้ี ดั ทเี่ ปน็ รูปธรรม หลัง จากนนั้ ตอ้ งมกี ารเตรยี มความพรอ้ มดา้ นขอ้ มลู ซง่ึ นบั เปน็ ปจั จยั แหง่ ความสำ� เรจ็ ทสี่ ำ� คญั ปจั จยั หนง่ึ ในการนำ� AI มาใชป้ ระโยชน์ ทง้ั นี้ หนว่ ยงานภาครฐั ยงั ควรแสวงหาความรว่ มมอื ทง้ั จากภาครฐั และ เอกชนในรปู แบบตา่ งๆ ท่เี หมาะสม เพอ่ื รวบรวมองค์ความรแู้ ละดึงศักยภาพของผ้เู ช่ียวชาญมาให้ ค�ำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ในการด�ำเนินโครงการ เน่ืองจากภาครัฐไม่มีความช�ำนาญในการน�ำ AI มาใช้ประโยชน์นั่นเอง

14 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ นอกจากน้ี หน่วยงานภาครัฐยังต้องค�ำนึงถึงการสร้างจริยธรรม เนื่องจากการท�ำงานของภาครัฐ ครอบคลุมกจิ กรรมของทุกภาคสว่ น ดังน้ัน การด�ำเนินโครงการภาครัฐจึงมตี ้นทนุ และผลกระทบที่ สงู ตามไปดว้ ย โดยจริยธรรมท่ีควรคำ� นึงถึงส�ำหรับการด�ำเนินโครงการด้าน AI ได้แก่ n ค�ำนึงถึงอคติของระบบ ท่ีต้องมีการฝึกฝนระบบ AI อย่างรอบคอบ และหมั่นตรวจสอบการ วเิ คราะหข์ ้อมูลที่เปน็ อคติ n ออกแบบระบบให้สามารถตรวจสอบท่มี าและสาเหตุของการตดั สนิ ใจของระบบ AI ได้ n ควรออกแบบให้ AI อยู่ภายใต้การก�ำกบั ของมนุษย์ n หนว่ ยงานตอ้ งทำ� ความเขา้ ใจและสรา้ งทกั ษะแกเ่ จา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ใหส้ ามารถทำ� งานรว่ มกบั AI ได้ n จัดท�ำมาตรการความปลอดภัยและความเปน็ ส่วนตวั ใหค้ รอบคลุมทกุ มิติ ข้อเสนอแนะของรฐั บาล รฐั ควรดำ� เนนิ นโยบายเพอ่ื สง่ เสรมิ ใหห้ นว่ ยงานภาครฐั มคี วามพรอ้ มในการนำ� AI มาใช้ โดยมโี มเดล การเตรยี มความพรอ้ มดงั น้ี

1 สำ�นักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทลั (องค์การมหาชน) 15 Governance 2 กำหนดกรอบการกำกบั ดูแล Data n AI Printciples สง เสร�มพน�้ ฐานขอมลู ภาครฐั n กฎหมาย/มาตรฐาน n ขอ มลู ภาครฐั n โครงสรา งพืน้ ฐานขอ มลู AI Capability Partnerships สรางบคุ ลากร AI ภาครฐั สง เสรม� ภาคสวนพันธมิตร n AI Talent n Deep Tech Startup n หลกั สูตรฝก อบรม n R&D 3 4 n กำ� หนดกรอบการกำ� กบั ดแู ล รฐั ควรจดั ทำ� “หลกั การนำ� AI มาใชข้ องประเทศไทย” (Thailand’s AI Principles) โดยใหท้ กุ ภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ มในการออกแบบแนวทางดงั กลา่ ว เพอ่ื เปน็ แนวทาง การพฒั นา AI อยา่ งมจี รยิ ธรรม (Ethical AI) รวมทงั้ ตอ้ งครอบคลมุ ประเดน็ การนำ� AI มาใชอ้ ยา่ ง เหมาะสม n สง่ เสรมิ การพฒั นาโครงสรา้ งพนื้ ฐานขอ้ มลู ภาครฐั ใหเ้ ปน็ ไปตามกรอบธรรมาภบิ าลขอ้ มลู รฐั ควรด�ำเนินนโยบายสง่ เสรมิ ให้หนว่ ยงานมีความพรอ้ มด้านขอ้ มูล โดยสร้างกลไกขบั เคลือ่ น ให้เกิดแหล่งข้อมูลภาครัฐท่ีมีคุณภาพ เข้าถึงได้ง่าย ผ่านนโยบายและข้อก�ำหนดข้อมูลเปิด ภาครฐั (Open Government Data) และการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลทม่ี กี ลไกการจดั การปอ้ งกนั ท่เี หมาะสมในการน�ำข้อมลู ไปใช้ต่อ n พัฒนาบุคลากร AI ภาครัฐ รัฐควรจัดท�ำหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นและระยะกลางส�ำหรับ เจา้ หนา้ ทภี่ าครฐั ตามความเหมาะสมในทกุ ระดบั และสรา้ งบคุ ลากรดา้ นAIภาครฐั (Government AI Talent) ผา่ นการเพิ่มจำ� นวนทุนการศึกษาในสาขาวิชาที่เก่ยี วขอ้ ง n สง่ เสรมิ ภาคสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การดงึ ศกั ยภาพของเทคโนโลยี AI ออกมาใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ สงู สดุ หนว่ ยงานภาครฐั จำ� เปน็ ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื จากทกุ ภาคสว่ น โดยเฉพาะในชว่ งระยะ เริ่มต้น ดังน้ัน นอกเหนือจากแนวทางการพัฒนาศักยภาพภายใน ภาครัฐควรออกมาตรการ ส่งเสริมภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง (Deep Tech Startups) และภาควจิ ัยและพฒั นา

16 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ กศบัพั ทA์ทIีเ่ ก่ียวข้อง เพอื่ ใหผ้ อู้ า่ นทไ่ี มไ่ ดศ้ กึ ษาหรอื คนุ้ เคยกบั AI มากอ่ นสามารถทำ� ความเขา้ ใจกบั เนอื้ หาไดง้ า่ ย อกี ทง้ั AI ยงั ถอื เปน็ เรอื่ งคอ่ นขา้ งใหมส่ ำ� หรบั ประเทศไทย ดงั นนั้ กอ่ นเขา้ สเู่ นอ้ื หา สพร. จงึ ไดร้ วบรวมศพั ท์ เทคนิคที่เก่ยี วขอ้ งกบั AI ไว้ดงั น้ี ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เทคโนโลยีการสรา้ งความสามารถ LMeaacrnhiinnge ใหแ้ ก่เครอ่ื งจกั รและคอมพิวเตอร์ ดว้ ยอลั กอริทมึ และกล่มุ เคร่ืองมอื ทางสถติ ิ กลไกท่ีท�ำใหเ้ คร่อื งจกั รสามารถ เพื่อสรา้ งซอฟต์แวรท์ รงปัญญา ที่สามารถ เรียนรู้จากข้อมูลได้โดยอตั โนมตั ิ เลยี นแบบความสามารถของมนุษย์ที่ซบั ซ้อนได้ เชน่ จดจ�ำ แยกแยะ ให้ และพฒั นากระบวนการตัดสิน เหตุผล ตัดสินใจ คาดการณ์ สือ่ สารกบั มนุษย์ เป็นต้น ในบางกรณีอาจไป ถึงขัน้ เรียนรไู้ ด้ด้วยตนเอง อย่างตอ่ เนื่อง Deep Learning เทคนคิ หนึ่งของ Machine Learning โดยจ�ำลองการทำ� งานของสมองมนษุ ย์ ในการประมวลผลขอ้ มลู ทำ� ใหส้ ามารถหาความเชื่อมโยงและเรียนรู้ขอ้ มลู จำ� นวนมากได้ Weak AI Strong AI ประเภทของปัญญาประดษิ ฐ์ที่ ประเภทของปญั ญาประดิษฐ์ สามารถเรียนรูไ้ ด้เฉพาะดา้ น ที่มรี ะบบการเรยี นรู้ ท่ีถูกก�ำหนดไวแ้ ละไม่สามารถ เหมอื นมนษุ ย์ ท�ำให้ ใชอ้ ัลกอริทึมในการเรยี นรู้ สามารถรองรบั และ ในดา้ นที่อย่นู อกเหนือจากนัน้ ได้ เรียนรู้ข้อมูล ในรูปแบบที่ หลากหลายได้

สำ�นักงานพัฒนารฐั บาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 17 อัลกอริทมึ อคติในอลั กอริทึม (Algorithmic Bias) (Algorithm) ข้อผดิ พลาดของอลั กอริทมึ อันเกดิ จาก ALGORITHM การเรียนรู้ขอ้ มูลท่สี ่งผลใหก้ ารตดั สนิ ใจของ ชุดค�ำสัง่ ท่ถี กู กำ� หนดโดยนักเขยี น ระบบปญั ญาประดษิ ฐ์เอ้ือประโยชน์ต่อคน โปรแกรมซึ่งเปรยี บเสมอื นข้ันตอน สำ� หรบั ระบบปญั ญาประดษิ ฐ์ใน กลุม่ ใดกลุ่มหน่ึง การเรียนรูข้ ้อมูลและสร้างการ เทคโนโลยีทก่ี ระบวนการหรอื ขั้นตอนสามารถด�ำเนินการได้ ตดั สนิ ใจโดยอัตโนมตั ิ โดยปราศจากความชว่ ยเหลือจากมนษุ ย์ ข้อมูล (Data) แ(Cชตhaบtอbทot) ข้อเทจ็ จรงิ หรอื จำ� นวนทางสถติ ิ ชดุ ข้อมูล (Data Set) ที่เกิดจากการสงั เกตและเก็บ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดำ� เนิน รวบรวมจากเหตกุ ารณ์ทีเ่ กดิ ขึ้น กลมุ่ ข้อมลู ท่ีมี การสนทนาผ่านทางโสตทัศน์หรือ เพอื่ นำ� มาใชใ้ นการวิเคราะห์ ความเก่ียวข้องกันและถกู จัด ขอ้ ความ ใหอ้ ยู่ในรูปแบบเดยี วกัน ท่ีพร้อมน�ำไปใช้

18 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หนว่ ยประมวลผลกราฟกิ Turing Test (Graphics Processing Unit: GPU) การทดสอบความสามารถของเครือ่ ง ท�ำหน้าท่ีประมวลผลทีเ่ ก่ยี วกับภาพ ในการแสดงพฤติกรรมที่เหมอื นมนษุ ย์ เพ่อื แสดงผลเทา่ น้ัน ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระใหห้ น่วย ประมวลผลหลกั (Central Processing Unit: CPU) หุ่นยนต์ สามารถประมวลผลดา้ นอ่ืน (Robotics) ได้มีประสทิ ธิภาพเพ่ิมข้ึน วิทยาการท่เี กีย่ วข้องกับ อ(AHตัuutตomาnณaonmตั ิขyอ)งมนษุ ย์ การสรา้ งและการทำ� งานของหนุ่ ยนต์ ความสามารถหรอื อำ� นาจ ในการตัดสนิ ใจของมนุษย์ ในการกำ� หนดทางเลือก และผลลพั ธ์ให้แก่ตนเอง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) ขอบคุณ Hello! อ いいね A การประยุกตใ์ ชเ้ ทคนิคการประมวลผลขอ้ มลู เฉพาะ เพอื่ ให้เคร่ืองจักรสามารถเข้าใจภาษามนษุ ย์และ วเิ คราะห์ข้อมลู ทอี่ ยูใ่ นรปู แบบภาษาได้

บทที่ 1 บทนำ�

20 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ บทสรปุ : บทท่ี 1 AI หรือ ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีการสร้างความสามารถ ให้แก่เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ ด้วย อัลกอริทึมและกลุ่มเครื่องมือทางสถิติ เพ่ือสร้างซอฟต์แวร์ทรงปัญญาท่ี สามารถเลียนแบบความสามารถของ มนุษยท์ ซ่ี บั ซอ้ นได้ เช่น จดจ�ำ แยกแยะ ให้เหตุผล ตัดสนิ ใจ คาดการณ์ ส่อื สาร กับมนุษย์ เปน็ ต้น ในบางกรณอี าจไป ถึงข้ันเรียนรู้ไดด้ ้วยตนเอง”

ส�ำ นักงานพฒั นารฐั บาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 21 Machine Learning การประมวลผลภาษาธรรมชาติ การวางแผน เปน การทำใหเ ครอื่ ง เปน เทคนคิ การทำใหเ ครื่อง (Automated Planning, สามารถเรยี นรไู ด ทำความเขาใจภาษาของมนษุ ย Scheduling & Optimization) ดว ยตนเอง ใหเ ครอ่ื งสามารถตดั สนิ ใจ AIความสามารถของ เลอื กการดำเนนิ งาน หุนยนต (Robotics) ท่ีถกู นำมาใช ในการบรรลเุ ปา หมาย ในปจ จ�บนั ทีก่ ำหนด พฒั นาเครือ่ งจักร ใหมรี ปู รางและ การว�เคราะหแบบ ผเู ชีย่ วชาญ เคลอ่ื นไหวแตกตา งกนั ไป ตามวัตถปุ ระสงค (Expert System) การใชง าน ใหเ ลยี นแบบ ความสามารถในการ ตดั สนิ ใจท่เี ชีย่ วชาญ อยางมนษุ ย Computer vision Speech recognition ใหเ ครอื่ งสามารถเขาใจคุณลักษณะ การรจู ำเสยี งและคำพูด ของภาพคลา ยคลงึ กับความสามารถ เปน ความสามารถในการระบคุ ำ ในการมองเหน็ ของมนุษย และวลีในการพดู

22 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ ลดการใชทรัพยากร ประโยชนข์ อง AI ส�ำหรับภาครัฐ n ลดการใชก ำลงั คนของภาครฐั เพ�ม่ ประสิทธภิ าพในการทำงาน n ลดการใชง บประมาณ n ลดการใชเวลาในการทำงาน n การใหบรกิ ารสาธารณะ ที่มคี ณุ ภาพ เพ�่มผลิตภาพ n ชวยแกไขปญหาความซำ้ ซอ น n ในระยะเวลาเทา เดมิ การบรกิ าร ในการทำงานและลดการ โดยใช AI ใชค นลดลง บริหารจดั การแบบรวมศูนย แตส ามารถใหบ รกิ ารประชาชน (Centralized) ของหนว ยงานของรฐั ผูรับบรกิ ารไดเ พมิ่ ข้ึน n สรางมาตรฐานใหแ ก เพ�่มคุณภาพชวี ต� การทำงานของภาครฐั n คุณภาพชีวิตของบคุ ลากร n สามารถวดั ผลการทำงาน ภาครัฐดขี น้ึ และการใหบ รกิ ารไดอยางเปน รปู ธรรมและแมนยำ n คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนดขี น้ึ n ชว ยแกไขปญหาการทำงาน และการใหบ ริการของภาครฐั ไดอยางตรงจุด n ชวยแกป ญหาการทจุ ริตในภาครฐั

ส�ำ นกั งานพัฒนารฐั บาลดจิ ทิ ลั (องค์การมหาชน) 23 บทท่ี 1 : บทนำ� ความม่งุ มน่ั ของรฐั บาล รัฐบาลได้มีนโยบายปฏิรูปประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีความมั่นคง ม่ังคั่ง และย่ังยืน เพื่อเปลี่ยน ผา่ นใหป้ ระเทศกา้ วสยู่ คุ ทขี่ บั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ ดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั และนวตั กรรม ตามนโยบายไทย แลนด์ 4.0 โดยไดก้ ำ� หนดยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) เพอื่ กำ� หนดวสิ ยั ทศั นแ์ ละ สร้างความต่อเนื่องในการปฏิรูปประเทศ ซ่ึงยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแผนพัฒนา เศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 และแผนพฒั นาดิจทิ ลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ท่ีตอ้ งการ น�ำเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใช้ในการปฏริ ปู ระบบการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ ทันสมยั โปร่งใส และคำ� นึงถงึ ประชาชนเปน็ หลกั ซ่ึงจะสง่ ผลตอ่ ภาพรวมของประเทศทง้ั ด้านเศรษฐกิจ คอื การเพม่ิ ขดี ความสามารถทางการแขง่ ขนั ของประเทศ และดา้ นสงั คมทเี่ ปน็ การสรา้ งความกนิ ดอี ยดู่ ี ใหแ้ ก่ประชาชนไดอ้ ย่างท่ัวถงึ การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลจึงเป็นกลไกส�ำคัญของรัฐบาลในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศตาม นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ยกระดับการท�ำงานของภาครัฐให้ ทันสมัย และสามารถให้บริการสาธารณะโดยค�ำนึงถึงประชาชนเป็นส�ำคัญ โดยมีเป้าหมายเพ่ือ พัฒนาบริการสาธารณะที่สามารถให้บริการในรูปแบบเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อลด ต้นทุนในการให้บริการของภาครัฐ และลดต้นทุนการขอรับบริการของประชาชน รวมท้ังต้องเพ่ิม ประสิทธิภาพในการท�ำงานของภาครัฐบนพ้ืนฐานของข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นย�ำ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และอ�ำนวยความสะดวกแก่ทุกภาคส่วน ตลอดจนเป็นการเพิ่มศักยภาพของประเทศ โดยรวมอกี ด้วย สภาพปญั หาของภาครฐั ภาพการท�ำงานของภาครัฐในอดีตนับว่ามีความแตกต่างจากปัจจุบัน เนื่องจากมีการปฏิรูปติดต่อ กันมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาครัฐยังไม่สามารถพัฒนาในระดับที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทางเทคโนโลยีและสงั คม โดยสภาพปัญหาทีส่ ำ� คญั ของภาครฐั ที่ยงั รอการแกไ้ ข 1 ได้แก่ 1 สรปุ จากกรอบความเห็นร่วมปฏริ ูปประเทศไทยดา้ นการบริหารราชการแผน่ ดนิ โดยคณะท�ำงานเตรยี มการปฏิรูป เพื่อคนื ความสขุ ให้คนในชาติ, 2557

24 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ n ประชาชนขาดความเชื่อมั่นจากภาครัฐ โดยเฉพาะการให้บริการสาธารณะ การไม่ค�ำนึงถึง ผลประโยชนส์ ว่ นรวม การบรหิ ารงานเกิดความซบั ซอ้ น ไม่โปร่งใส และขาดประสิทธภิ าพ n โครงสรา้ งภาครฐั ขนาดใหญแ่ ละซบั ซอ้ นซงึ่ ทำ� ใหบ้ ทบาทหนา้ ทแี่ ตล่ ะหนว่ ยงานมคี วามทบั ซอ้ นกนั มีสายการบังคับบัญชาหลายชั้นท�ำให้เกิดความไม่คล่องตัวและส้ินเปลืองทรัพยากรโดย ไม่จ�ำเปน็ n การรวมศนู ยอ์ ำ� นาจไวท้ ห่ี นว่ ยงานกลางหรอื สว่ นกลาง ทำ� ใหป้ ระชาชนในสว่ นภมู ภิ าคและสว่ น ทอ้ งถน่ิ ไมส่ ามารถขอรบั บรกิ ารไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ หรอื จำ� เปน็ ตอ้ งเขา้ มาขอรบั บรกิ ารจากสว่ นกลาง n การวางนโยบายและมาตรการไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลท่ีตอบสนองต่อความต้องการของ ประชาชน n ขาดการบรู ณาการและประสานเชอื่ มโยงซง่ึ กนั และกนั ไมเ่ พยี งแตส่ ง่ ผลใหป้ ระชาชนเสยี เวลาใน การติดต่อหลายหน่วยงานเพ่ือขอรับบริการเร่ืองใดเรื่องหน่ึงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ภาครัฐ ไมส่ ามารถตรวจสอบและวัดผลการท�ำงานไดอ้ ย่างชัดเจนอีกดว้ ย n วฒั นธรรมการทำ� งานยงั ยดึ ตดิ กบั กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั สง่ ผลใหข้ าดความยดื หยนุ่ และ จติ ส�ำนึกในการให้บรกิ าร แมว้ า่ นโยบายของรฐั พยายามสง่ เสรมิ ใหก้ ารท�ำงานภาครฐั ใชเ้ ทคโนโลยที สี่ ามารถสนองตอ่ ปญั หา และความต้องการท่ีแท้จริงของทุกภาคส่วน แต่สภาพปัญหาของรัฐอาจไม่สามารถแก้ไขด้วยการ ก�ำหนดนโยบายหรือการบังคับได้เพียงอย่างเดียว แต่ควรให้การสนับสนุนหน่วยงานของรัฐด้วย การก�ำหนดแนวทางท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหาท่ีเป็นรูปธรรม โดยสามารถตอบสนองต่อการ เปล่ียนแปลงสภาพแวดล้อมของภาครฐั และความตอ้ งการของทุกภาคสว่ นได้อย่างเตม็ ที่ แนวทางการทำ� งานปจั จบุ นั ของหนว่ ยงานภาครฐั ตอ้ งมกี ารวางแผนและกำ� หนดกลยทุ ธก์ ารปฏบิ ตั ิ งานที่ชัดเจน รวมทั้งต้องสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายเฉพาะในแต่ละด้าน ซ่ึงส่วน ใหญ่การวางแผนการปฏิบัติงานยังคงใช้ข้อมูลของหน่วยงานตนเองเท่านั้น ยังไม่มีการบูรณาการ ขอ้ มูลระหวา่ งกนั หรอื ขาดความมัน่ ใจในการน�ำข้อมลู ของหน่วยงานอ่ืนมาใช้ เนอ่ื งจากไมท่ ราบถงึ กระบวนการได้มาซึ่งข้อมูล มาตรฐานของข้อมูล และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล จึงน�ำมาสู่ ความซำ้� ซอ้ นของขอ้ มลู ภาครฐั ทมี่ จี ำ� นวนมหาศาลในปจั จบุ นั ทไ่ี มส่ ามารถใชง้ านรว่ มกนั ได้ ตลอดจน ไม่สามารถนำ� มาใช้วิเคราะห์หรือสนบั สนุนการตดั สนิ ใจของหน่วยงานภาครัฐไดเ้ ท่าทคี่ วร

ส�ำ นกั งานพฒั นารัฐบาลดจิ ิทลั (องคก์ ารมหาชน) 25 การเตรียมความพร้อมของภาครฐั เพอื่ ใหก้ ารนำ� เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใชไ้ ดต้ ามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละประสบผลสำ� เรจ็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ หน่วยงานของรัฐจ�ำเป็นต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลของภาครัฐให้มีความพร้อมเพ่ือรองรับต่อความ ต้องการใช้ข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาการท�ำงาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ เนอ่ื งจากขอ้ มลู เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ตอ่ ประสทิ ธภิ าพของการนำ� เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ จะเห็นได้ว่าหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานล้วนเป็นเจ้าของข้อมูลส�ำคัญในแต่ละด้านตามภารกิจ ของหน่วยงาน จึงต้องมีกระบวนการจัดเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลสอดแทรกอยู่ในการด�ำเนิน งานของหน่วยงาน โดยส่วนใหญ่แล้วข้อมูลท่ีแต่ละหน่วยงานจัดเก็บสามารถน�ำมาใช้งานร่วมกัน ได้ แตห่ นว่ ยงานเลือกท่จี ะเก็บข้อมูลด้วยตนเองเพอื่ ความสะดวกและคลอ่ งตวั ในการท�ำงานท�ำให้ ขอ้ มลู ทแ่ี ตล่ ะหนว่ ยงานจดั เกบ็ มกั มคี วามซำ้� ซอ้ นกนั สง่ ผลใหก้ ารทำ� งานของหนว่ ยงานภาครฐั ไทย จึงเกดิ การบูรณาการและเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ระหว่างกันได้ยาก ข้อมูลจากเว็บไซต์ data.go.th ท่ี สพร. จัดท�ำข้ึนเพื่อสนองต่อนโยบายการการบูรณาการและ เชอ่ื มโยงขอ้ มลู ของภาครฐั ทส่ี มบรู ณ์ เพอ่ื ยกระดบั การใหบ้ รกิ ารประชาชนผา่ นบรกิ ารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ของรัฐท่ีครอบคลุมทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ พบว่าชุดข้อมูลที่เผยแพร่ บนเวบ็ ไซตม์ ีจำ� นวน 1,251 รายการ 17 หมวดหมู่ เช่น สังคมและสวัสดิการ สาธารณสุข การศกึ ษา เป็นต้น ซึ่งชดุ ข้อมูลทีป่ รากฏบนเวบ็ ไซตน์ เี้ ปน็ เพียงส่วนหนง่ึ ของข้อมลู ภาครฐั ทั้งหมด ทถี่ ูกจับเก็บ ในรูปแบบ (format) ท่สี ามารถน�ำไปใชป้ ระโยชน์ต่อได้ อยา่ งไรกต็ ามยงั มขี ้อมูลของภาครฐั อกี เปน็ จ�ำนวนมากท่ีถูกจัดเก็บในรูปแบบเอกสาร หรืออยู่ในรูปแบบไฟล์ที่ไม่สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ ตอ่ ได้ เชน่ pdf file เปน็ ตน้ ขอ้ มลู จงึ เปน็ ปญั หาทสี่ �ำคญั อนั ดบั แรกหากภาครฐั ตอ้ งการนำ� เทคโนโลยี ดิจิทัลมาใช้ยกระดบั การท�ำงาน เนื่องจากการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและ การบริหารงานภาครัฐเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาให้แก่หน่วยงานภาครัฐได้ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบการให้บริการและการท�ำงานของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาด้าน กระบวนการท่ีต้องท�ำซ้�ำซ้อน และการวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือสนับสนุนการตัดสินใจในเร่ืองต่างๆ ได้ อย่างแม่นยำ� ภาครัฐจำ� เป็นตอ้ งมีการเตรยี มความพร้อมในทกุ ดา้ นเพ่ือรองรบั ต่อการเปล่ยี นแปลง รปู แบบการทำ� งานให้เปน็ รปู แบบดิจิทลั อาทิ การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ใหอ้ ย่ใู นรปู แบบดิจิทัล การพัฒนา ระบบการท�ำงานและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ สะดวก น่าเชื่อถือ และมีความเป็นอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องอาศัยการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีรูปแบบที่เหมาะสมมาใช้แก้ปัญหาในแต่ละ กระบวนการทำ� งาน เชน่ Cloud, Blockchain, Internet of Things (Iot) เปน็ ต้น

26 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ การน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ Artificial Intelligence หรือ AI เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศท้ังองค์กร ภาครฐั และองคก์ รภาคเอกชน ในการนำ� มาใชย้ กระดบั การทำ� งาน การแกป้ ญั หา และการตดั สนิ ใจ ต่างๆ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ซง่ึ AI เปน็ เทคโนโลยที ีจ่ ำ� เป็นตอ้ งใช้ข้อมูลเป็นปัจจยั พื้นฐานในการ สรา้ งรปู แบบทเี่ หมาะสมในการวเิ คราะห์ ประมวลผล และทำ� งานบางอยา่ งแทนมนษุ ย์ สง่ ผลใหเ้ กดิ การประหยัดทรัพยากร ประหยัดเวลา และสามารถรองรับปัญหาในการท�ำงานของมนุษย์ เช่น การขาดแคลนแรงงาน ความผดิ พลาดจากการทำ� งาน ความเบอ่ื หนา่ ยในการทำ� งานเดมิ ซำ�้ ๆ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ AI ยงั สามารถน�ำมาใชเ้ ปน็ ผูช้ ว่ ยเหลอื มนษุ ย์ในการใชช้ ีวิตประจำ� วนั ได้ ดว้ ยการพัฒนา ให้ AI สามารถสอื่ สารภาษามนษุ ย์ โตต้ อบกบั มนษุ ย์ ทำ� งานแทนมนษุ ย์ และชว่ ยเหลอื มนษุ ยใ์ นการ ตดั สนิ ใจในเรือ่ งต่างๆ แทนมนษุ ย์ได้อีกดว้ ย จากรายงานของ PwC (PriceWaterhouseCoopers) คาดการณว์ ่าในปี 2030 AI จะสรา้ งมูลคา่ ในทางธรุ กจิ ถงึ 15.7 ล้านดอลลารส์ หรัฐ องคก์ รเอกชนมกั เปน็ เจา้ ของเทคโนโลยที ที่ นั สมยั และกา้ วหนา้ กวา่ ภาครฐั เสมอ เนอ่ื งจากตอ้ งมกี าร แข่งขันและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดอยู่ตลอดเวลา หากไม่มีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้อาจเสียเปรียบคู่ แข่งขนั ไดง้ ่าย เราจึงไดเ้ หน็ ภาคเอกชนมีการนำ� ปญั ญาประดษิ ฐ์มาใช้ค่อนข้างหลากหลาย ทงั้ การ วเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอ่ื ตดั สนิ ใจ การแกป้ ญั หาใหแ้ กล่ กู คา้ ไดอ้ ยา่ งแมน่ ยำ� หรอื ชว่ ยโตต้ อบและสอื่ สาร ข้อมูลกบั ผใู้ ชบ้ ริการต่างๆ เช่น SIRI ซึง่ เปน็ ผชู้ ว่ ยอัจฉริยะของ Apple ท่สี ามารถเปน็ เลขาส่วนตวั ให้กับผู้ใช้งานได้ Alexa ของ Amazon ที่ช่วยเปล่ียนบ้านพักอาศัยธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะ พรอ้ มแนะนำ� สนิ คา้ จากเวบ็ ไซตข์ องตนไดด้ ว้ ย เปน็ ตน้ นอกจากนภ้ี าคเอกชนยงั ใช้ AI ในการคาดเดา พฤติกรรมของผู้บรโิ ภค หรือแนวโนม้ ของตลาดเพอ่ื ประโยชน์ในการปรบั ปรุงและพฒั นาสินคา้ และ บรกิ ารของตนใหต้ รงกับความตอ้ งการของกลุม่ เป้าหมายตลอดเวลาอีกดว้ ย ในส่วนของภาครฐั ซงึ่ มขี อ้ ได้เปรียบดว้ ยการครอบครองขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Big Data) ท�ำใหก้ ารน�ำ AI มาใช้ในภาครัฐจึงมีความจ�ำเป็นอย่างยิ่ง เน่ืองจากท่ีมีหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะและ ท�ำงานตามภารกิจที่มีความซับซ้อนและมีความหลากหลาย AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใน การทำ� งานของภาครฐั ไดเ้ ชน่ กนั AI จะชว่ ยใหก้ ารบรกิ ารมคี วามรวดเรว็ สะดวก สามารถทำ� ไดท้ กุ ที่ ทุกเวลา สรา้ งมาตรฐานให้แก่การบรกิ าร รวมท้งั สามารถวเิ คราะห์ข้อมูลเพ่อื แกป้ ญั หาต่างๆ ให้แก่ ภาครฐั ไดอ้ ยา่ งแมน่ ยำ� หลายประเทศจงึ มกี ลยทุ ธใ์ นการนำ� AI มาใชเ้ ปน็ แนวทางในพฒั นาประเทศ ด้วยการสง่ เสริมการน�ำ AI มาใชท้ ัง้ ภาครฐั รว่ มกับเอกชน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแขง่ ขนั และ สภาพเศรษฐกจิ ของประเทศให้ดีย่ิงขนึ้

ส�ำ นักงานพัฒนารัฐบาลดิจทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 27 ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ซ่ึงมีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางใน การขับเคลอื่ นการพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ัล (Digital Government) เหน็ ถงึ แนวโน้มของหน่วยงานของ รัฐในหลายประเทศท่ีได้น�ำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพ่ือพัฒนาประสิทธิภาพของภาครัฐ จงึ มแี นวคดิ ในการศกึ ษาเครอื่ งมอื ทางเทคโนโลยที สี่ ามารถนำ� มาใชย้ กระดบั การทำ� งานของภาครฐั ได้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม รวมทงั้ เปน็ การตอบสนองตอ่ แนวนโยบายของรฐั ทตี่ อ้ งการสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ให้หน่วยงานภาครัฐน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพ่ือสร้างประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน และการให้บริการสาธารณะควบคู่กัน จึงเป็นที่มาของการศึกษาแนวทางการน�ำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เล่มน้ี 1. ปญั ญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence: AI) คอื อะไร เนื่องจาก AI ไม่ได้หมายถึงเฉพาะหุ่นยนต์ที่สามารถท�ำท่าทางและคิดได้แบบมนุษย์ได้เหมือนใน นยิ ายวทิ ยาศาสตร์ (Science Fiction) ตามทเ่ี ราไดร้ บั ชมผา่ นภาพยนตรเ์ ทา่ นน้ั แต่ AI ยงั หมายความ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ในรูปแบบของเครื่องจักรหรือระบบท่ีสามารถคิดและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ ซงึ่ ปัจจบุ ันเราสามารถพบเจอ AI ได้ในชีวิตประจำ� วันทง้ั การหาขอขอ้ มลู การซอื้ ของออนไลน์ หรอื แม้แต่อุปกรณ์ท่ีเราใช้อยู่เป็นประจ�ำ ก็อาจมี AI ซ่อนอยู่ด้วย เนื่องจากภาคธุรกิจและภาครัฐต่าง คดิ คน้ ข้นึ เพอ่ื นำ� AI มาใช้แกไ้ ขปัญหาและเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทำ� งานด้านตา่ งๆ ดงั นน้ั เนือ้ หา ในสว่ นนจี้ ะเปน็ การอธบิ ายถงึ ความหมายโดยละเอยี ดของ AI การทำ� งานแบบไหนทเ่ี รยี กวา่ AI บา้ ง และตอนนโ้ี ลกเราใช้ AI ทำ� อะไรกนั รูห ร�อไมว ากิจกรรมในแตล ะวันของเรา_ เกี่ยวของกับ AI อยูตลอด เชื่อวาคนสวนใหญที่เคยใชอินเทอรเน็ต ไมวาจะใชผานทางคอมพิวเตอร โทรศัพทมือถือ แท็บเล็ต นาจะเคยเขาใชบริการสื่อสังคมออนไลน (Social Media) ยอดฮิตอยาง Facebook ทไ่ี ดน ำเทคโนโลยี AI มาใชเ พม่ิ ประสทิ ธภิ าพ และสรา งประสบการณแ กส มาชกิ ในเครอื ขา ย โดยมฟี งกชนั ที่นา สนใจ ดังน้ี DeFteaccteion New Feed Advertisement Translation PhoSteoaIrmchage PTiacktiunrge เนอ่ื งจาก Facebook เปน ผใู หบ รกิ ารสอ่ื สงั คมออนไลนท ม่ี เี ครอื ขา ยมากในลำดบั ตน จงึ มขี อ มลู พฤตกิ รรม การใชงานของสมาชิกอยูมาก ทั้งการโพสตขอความ การแชรรูปภาพ และการแสดงความคิดเห็น Facebook จึงไดนำฟงกชัน AI ที่เนนทั้งการคนหาและการระบุรูปภาพ การแนะนำโฆษณาที่เขากับ พฤตกิ รรมและความสนใจของสมาชกิ และการชว ยแปล ซง่ึ นา จะตอบโจทยแ ละสรา งประสบการณท ด่ี ี ใหแ กส มาชิก โดยในบรรดาฟง กช นั ท้งั หมดสว นใหญจ ะเนน ไปท่ีรปู ภาพเปน หลัก

28 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ 1.1 นยิ ามและความหมายของ AI ก่อนอน่ื ตอ้ งท�ำความเข้าใจวา่ แนวคิดแรกเร่ิมของ AI เกดิ ข้ึนจากความต้องการในการพฒั นาระบบ อิเล็กทรอนิกส์ให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยในปี ค.ศ. 1950 นักคณิตศาสตร์ท่ีมีชื่อว่า Alan Turing ต้ังค�ำถามว่าเครื่องจักรสามารถคิดได้หรือไม่ จึงได้คิดวิธีการทดสอบความคิดของ เครอ่ื งจกั ร ซงึ่ ปจั จบุ นั เรยี กวา่ “Turing Test” ดว้ ยการประเมนิ วา่ มนษุ ยส์ ามารถแยกแยะคสู่ นทนาท่ี เปน็ เครอ่ื งจกั รไดห้ รอื ไม่ และไดข้ อ้ สรปุ วา่ คอมพวิ เตอรส์ ามารถถกู โปรแกรมใหเ้ รยี นรู้ จดจ�ำ ประมวล ผล และตอบสนองในส่ิงท่ีอยู่นอกเหนอื ความคาดหมายของโปรแกรมได้ ตอ่ มานกั วทิ ยาศาสตรไ์ ดท้ ำ� การวจิ ยั และทดสอบแนวคดิ การสรา้ งเครอื่ งจกั รอจั ฉรยิ ะ ทฤษฎอี ตั โนมตั ิ (Automata theory) โครงข่ายใยประสาท และศึกษาเรอื่ งความฉลาด (Intelligence) อย่างตอ่ เนอ่ื ง จนกระท่ังในปี 1956 ได้มีการประชุม Dartmouth conference ที่เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ ครัง้ แรกส�ำหรบั AI และมกี ารจดั ต้ังสาขา AI ขน้ึ โดย John McCarthy อาจารยจ์ ากมหาวิทยาลัย พรินซ์ตัน (Princeton University, U.S.A) เป็นคนแรกท่ีใช้ค�ำว่า “ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)” ภาพท่ี 1 นักวิจัยหลักจาก Dartmouth Summer Research Project ร่วมกันถ่ายภาพ ณ งาน สัมมนาวชิ าการปญั ญาประดษิ ฐ์ (AI@50) ในเดอื นกรกฎาคม 2006 (John McCarthy คอื คนท่ี 2 จากซา้ ย ที่มา: ภาพโดย Joseph Mehling

ส�ำ นักงานพัฒนารฐั บาลดจิ ทิ ัล (องค์การมหาชน) 29 แนวคดิ ดา้ นปญั ญาประดษิ ฐถ์ กู พฒั นาขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และไดม้ โี ครงการวจิ ยั ขนาดใหญเ่ กดิ ขน้ึ ตาม มาดว้ ย โดยในปี 1997 AI กลายไดร้ บั ความสนใจอีกคร้ังเมื่อเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของ IBM สามารถ เอาชนะแชมป์หมากรุกโลกในขณะนั้นได้ (Garry Kasparov) อย่างไรก็ตามการวิจัยด้านปัญญา ประดิษฐ์ได้ชะลอตัวลงเนื่องจากนักวิจัยในขณะนั้นไม่สามารถคิดค้นและต่อยอดงานวิจัย AI ได้ จนกระทง่ั ในปี 2015 ปญั ญาประดษิ ฐก์ ลบั มาอยใู่ นกระแสเทคโนโลยอี กี ครง้ั ซง่ึ ปจั จยั สำ� คญั เกดิ จาก เทคโนโลยีพ้ืนฐานไดพ้ ัฒนาขึ้นเปน็ อย่างมาก รวมถงึ เทคโนโลยีการประมวลผลกราฟกิ หรอื GPU (Graphic Processing Unit) ท่ีได้พัฒนาข้ึนบนต้นทุนท่ีลดลง ส่งผลให้เทคโนโลยี AI ที่ใช้ GPU ในการประมวลผลมีตน้ ทนุ ในการพัฒนาทล่ี ดลงตามไปด้วย เนอ่ื งจากเทคโนโลยีดา้ นปญั ญาประดิษฐ์เป็นความพยายามของมนุษย์ในการพัฒนาส่งิ ทไี่ มม่ ีชีวติ ใหม้ สี ตปิ ญั ญาทดั เทยี มมนษุ ย์ นกั วทิ ยาศาสตรจ์ งึ ไดม้ กี ารศกึ ษาแนวคดิ ดา้ นความฉลาดของมนษุ ย์ ควบคกู่ นั ไปดว้ ย ตามทฤษฎีการจดั การความรู้ของมนษุ ย์สามารถแบง่ ความรอู้ อกเปน็ 2 ประเภท คือ ความรชู้ ดั แจง้ (Explicit Knowledge) ทเี่ ป็นรปู ธรรมและสามารถรวบรวมความรู้และถา่ ยทอด ความรู้ให้แก่ผู้อ่ืนได้ง่าย และความรู้เฉพาะตัว (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ท่ีซ่อนอยู่ใน ตัวปัจเจกบุคคลจึงไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนยากต่อการถ่ายทอด หากต้องการถ่ายทอดจ�ำเป็นต้อง ปรบั เปลี่ยนความรใู้ หเ้ ปน็ ความร้ทู ่ีเป็นความร้ชู ัดแจง้ เสียก่อน ด้านการพัฒนา AI มีแนวคิดในการสร้างความฉลาดให้แก่ AI เช่นกัน โดยจะถ่ายทอดความรู้ให้ แก่ AI ได้เฉพาะความรู้ชัดแจ้ง หรือ Explicit Knowledge ซึ่งการสร้างความฉลาดให้แก่ AI มี 2 รปู แบบ ไดแ้ ก่ “ความฉลาดจากฐานความรู้ (Knowledge-based system)” เปน็ การใชค้ วามรทู้ เ่ี กดิ จากการเรยี นรู้ และประสบการณใ์ นเชงิ ประจกั ษ์ (Explicit Knowledge) ทเี่ ปน็ ความรสู้ ามารถรวบรวมและถา่ ยทอด ได้ เมื่อน�ำความรู้ท่ีมีไปใช้แล้วเกิดความรู้ใหม่สามารถสรุปเพ่ือใช้อ้างอิงหรือถ่ายทอดให้ผู้อ่ืน ต่อไปได้ ส�ำหรับการสร้างความฉลาดเชิงความรู้ให้ AI จะมุ่งเน้นการสร้างคลังความรู้และ คลงั เครอ่ื งมอื ในการแกป้ ญั หาใหแ้ กเ่ ครอื่ งจกั ร เชน่ Expert System ทนี่ �ำองคค์ วามรขู้ องผเู้ ชยี่ วชาญ (ท่ีเป็นมนุษย์) ในแตล่ ะด้านมารวบรวมเพื่อใช้เป็นองคค์ วามรูแ้ ละแนวทางการแกป้ ัญหาให้แก่ AI เป็นต้น

30 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ “ความฉลาดเชงิ ค�ำนวณ (Computational intelligence)” เปน็ การสร้างรปู แบบในการประมาณ คำ� ตอบทม่ี คี วามแมน่ ยำ� ในระดบั ทยี่ อมรบั ได้ เพอ่ื แกป้ ญั หาทไี่ มส่ ามารถนำ� ความแนน่ อนทางตรรกะ มาใช้ได้ เช่น การใช้อลั กอรทิ มึ ท่ีมีข้นั ตอนการปรับปรงุ การแกป้ ญั หาหรือหาคำ� ตอบอย่างอัตโนมัติ ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ของเครื่องเอง เป็นต้น โดยใช้วิธีการท่ีเหมาะเหมาะสมและสร้าง ความแม่นย�ำได้มากที่สุด เช่น การค้นและหาค่าท่ีเหมาะสมท่ีสุด (Search and Optimization) ความฉลาดแบบกลุ่ม (Swarm Intelligence) เปน็ ต้น ภาพที่ 2 แนวคดิ ในการสร้างความฉลาดให้ AI AI Category Knowledge-Based System Computational Intelligence ความฉลาดเชิงความรู ความฉลาดเชิงคำนวณ Expert System Machine Learning ระบบทร่ี วมเอาองคค วามรู ระบบท่เี รียนรูจากขอ มลู ของผูเชี่ยวชาญดานตา งๆ และวิเคราะหจ ากท่ี สอนไว มารวบรวมไว Swarm Intelligence RPA ระบบทีเ่ รยี นรูผา นกลมุ ระบบทที่ ำหนาทีแ่ ทนคน เพอื่ หาคำตอบท่เี หมาะสม ตามขอ มูลทีป่ อ นไวแ ละ ที่สุด โดยใชการสมุ คำตอบ สามารถตอบโตก ับมนษุ ย ทีเ่ ปน ไปไดหลายๆ ชดุ ไดใ นหลายสถานการณ ทมี่ า: เอกสารประกอบการบรรยาย Cutting edge technology research topics ในหัวขอ้ Application of AI in research ณ โรงแรมเซน็ ทาราแกรนด์ (11 สิงหาคม 2018) โดย ศ.ดร. ธนารกั ษ์ ธีระม่ันคง หากตอ งการทำความเขา ใจกบั ความหมายของปญญาประดษิ ฐ เราควรทำความเขา ใจกบั ความหมายของคำวา สตปิ ญ ญาเสยี กอ น สตปิ ญ ญา (Intelligence) เปน แนวคดิ และทฤษฎีที่ถูกพูดถึงในหลายสาขา เชน มานุษยวิทยา จิตวิทยา วิทยาการคอมพิวเตอร เปนตน โดย Legg & Hutter (2006) ไดร วบรวมคุณลักษณะสำคญั ของสติปญญาไวดังน้ี n สตปิ ญ ญาเปนคณุ สมบตั ิของปจเจกในการตอบสนองตอ ส่งิ แวดลอ ม n สตปิ ญ ญาเกย่ี วของกบั ความสามารถของปจเจกในการบรรลุวตั ถุประสงคบ างอยาง n สติปญญาข้นึ อยูกับความสามารถของปจเจกในการตอบสนองตอสภาพแวดลอมที่ตา งกัน ดงั นน้ั หากสรปุ ความหมายของสตปิ ญ ญาในความหมายโดยทว่ั ไปจะหมายถงึ ความสามารถของผกู ระทำ ในการบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคภ ายใตส ภาพแวดลอ มตา งๆ ซง่ึ ตอ งอาศยั การเรยี นรู ปรบั ตวั และตระหนกั รถู งึ เงื่อนไขที่แตกตางกัน

ส�ำ นกั งานพัฒนารัฐบาลดิจิทลั (องคก์ ารมหาชน) 31 ปัจจุบันมี AI มีนิยามและความหมายที่หลากหลายตามแนวคิด ในที่น้ีจะขอเสนอนิยามและ ความหมายของ AI ทนี่ า่ สนใจ ซ่ึงบริษทั ที่ปรกึ ษาช้ันนำ� ได้นยิ ามความหมายของ AI ไว้ดังนี้ AI หมายถึง ความสามารถของเคร่ืองจกั รในการ แสดงออกถึงสติปัญญาเหมอื นมนุษย์ เชน่ ความ สามารถในการแก้ไขปญั หาโดยไมต่ ้องอาศัยซอฟตแ์ วรท์ ี่ ถกู เขยี นขึ้นอยา่ งละเอยี ด แต่เรียนรู้จากการแก้ไขปญั หา จากการหารปู แบบภายใตข้ ้อมลู จ�ำ นวนมาก เป็นตน้ – McKinsey AI คือ เทคโนโลยีทเี่ ลยี นแบบการท�ำ งานของมนุษย์ จากการเรียนรู้ สรุปผลการด�ำ เนินงานดว้ ยตนเอง แสดง ใหเ้ หน็ ถึงความเขา้ ใจบรบิ ททม่ี ีความซับซ้อน สื่อสารกับ มนุษย์อย่างเปน็ ธรรมชาติ เสรมิ สรา้ งความสามารถทาง ดา้ นการรู้คิด (Cognitive Performance) ของมนุษย์ หรอื ทำ�งานแทนมนุษย์ในงานท่ีไมเ่ ป็นกจิ วัตร (Non-routine Task) – Gartner AI คือ ซอฟตแ์ วร์ที่เพิม่ ศกั ยภาพการท�ำ งานทอ่ี าศัย องค์ความรู้ (Knowledge-based Work) และชว่ ยด�ำ เนนิ การให้โดยอตั โนมตั ิ – Boston Consulting Group (BCG)

32 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ AI คือ ชดุ ของเทคโนโลยที ถี่ ูกขับเคลอ่ื นด้วยความ สามารถในการคาดการณแ์ ละแสดงออกถึงความ สามารถในการเรียนรู้ดว้ ยตนเองที่ช่วยเสรมิ สรา้ ง ศักยภาพของมนุษย์ในการจำ�แนกรูปแบบ (Recognize Patterns) พยากรณ์อนาคต (Anticipate future events) ก�ำ หนดวธิ ปี ฏิบตั ิ (Create good rules) สร้าง การตัดสนิ ใจ (Make good decisions) และการสอ่ื สาร กบั ผูอ้ ่นื (Communicate with others) – Deloitte ทั้งน้ี ยงั มนี ิยามและความหมายของ AI ทีน่ า่ สนใจจาก Science and Technology Committee, House of Commons, UK “AI คือ กล่มุ ของเครื่องมือทางสถิตแิ ละอัลกอรทิ ึมทปี่ ระสานกนั เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ทรงปัญญาท่ีช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบพฤติกรรม มนษุ ย์ เชน่ การเรยี นรู้ การใชเ้ หตผุ ล การจ�ำแนกส่งิ ของ เปน็ ตน้ ” AI หรอ� ปญ ญาประดิษฐ (Artificial Intelligence) เปน เทคโนโลยกี ารสรา งความสามารถใหแ กเ ครอ่ื งจกั รและคอมพวิ เตอรด ว ยอลั กอรทิ มึ และกลมุ เครอ่ื งมอื ทางสถติ ิ เพอ่ื สรา งซอฟตแ วรท รงปญ ญาทส่ี ามารถเลยี นแบบความสามารถของมนษุ ยท ซ่ี บั ซอ นได เชน จดจำ แยกแยะ ใหเหตุผล ตัดสินใจ คาดการณ สื่อสารกับมนุษย เปนตน ในบางกรณีอาจไปถึงขั้น เรียนรูไดดวยตนเอง

สำ�นักงานพฒั นารัฐบาลดจิ ิทัล (องคก์ ารมหาชน) 33 1.2 ประเภทและการแบ่งระดบั การเรียนรขู้ อง AI เทคโนโลยี AI ในปัจจุบันมีความเข้มข้นของเทคโนโลยีและความสามารถเพิ่มข้ึนจากในอดีตเป็น อยา่ งมาก อกี ทง้ั ยงั มแี นวโนม้ การพฒั นาอยา่ งกา้ วกระโดดอยตู่ ลอดเวลา ดงั นน้ั การทำ� ความเขา้ ใจ ถงึ ประเภทและระดับการเรยี นรู้ของ AI จะท�ำให้เราสามารถทำ� ความเขา้ ใจกลไกการท�ำงาน AI ได้ มากข้นึ ทั้งน้ี การแบง่ ประเภทและระดับการเรยี นรู้ของ AI เปน็ เพยี งบริบทของเทคโนโลยีปัจจบุ ัน จะทำ� ให้เราสามารถประยุกตใ์ ช้ AI เพื่อแก้ปัญหาในการทำ� งานได้ดียิ่งข้ึน n ประเภทของ AI การพัฒนา AI มีวัตถุประสงคเ์ พ่อื ใหเ้ ครื่องจักรทำ� งานแทนมนุษย์ รวมท้ังเพอ่ื เพิ่มประสิทธิภาพให้ กับงานบางอยา่ ง ดังน้ัน AI ทพ่ี ฒั นาขึ้นจึงไมจ่ �ำเป็นตอ้ งพฒั นาใหส้ ามารถคดิ อา่ นและมพี ฤตกิ รรม เลยี นแบบมนษุ ยไ์ ดท้ งั้ หมด แตส่ ามารถทำ� งานบางอยา่ งแทนมนษุ ยห์ รอื สามารถสรา้ งประสทิ ธภิ าพ ในการทำ� งานของมนษุ ย์ได้ จากการศกึ ษาสามารถสรปุ ประเภทของ AI ได้ 3 ประเภท ดงั นี้ Artificial Narrow Intelligence (ANI) หรอื “ปญั ญาประดษิ ฐแ์ บบเบา (Weak AI)” เปน็ AI ทส่ี รา้ งขนึ้ มาเพอื่ ใชง้ านเฉพาะทาง เชน่ SIRI เปน็ AI ทสี่ ามารถให้ความชว่ ยเหลือ แนะนำ� และใหค้ �ำปรึกษา (เทา่ ทสี่ ามารถทำ� ได)้ ตอ่ ผใู้ ชง้ านสนิ คา้ แบรนด์ Apple หรอื Alexa ทอ่ี ำ� นวยความสะดวกใหแ้ กล่ กู คา้ ของ Amazon ในการหาข้อมลู ต่างๆ ทัง้ การจองทริปและแสดงราคาสินค้า เปน็ ต้น Artificial General Intelligence (AGI) หรอื อาจเรยี กวา่ “ปญั ญาประดษิ ฐแ์ บบเขม้ (Strong AI)” คอื AI ทมี่ คี วามสามารถใกลเ้ คยี งกบั มนษุ ย์ (Human-Level AI) ซงึ่ มนษุ ยเ์ หนอื กวา่ สตั วห์ รอื สง่ิ ประดษิ ฐ์ อื่นตรงท่ีมนุษย์สามารถใช้ความคิดบนพ้ืนฐานของเหตุและผล สามารถวางแผนเพ่ือแก้ไขปัญหา ต่างๆ และสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต ตัวอย่างแอปพลิเคชันในระดับนี้ เช่น รถยนต์ ขับเคล่อื นไดเ้ องของ Uber และระบบขบั รถอัตโนมตั ิ (Autonomous Car) ของ Tesla เปน็ ตน้ Artificial Super Intelligence (ASI) อาจเรียกว่า “ปัญญาประดิษฐ์แบบทรงปัญญา” ซึ่ง Nick Bostrom นกั คดิ ชั้นน�ำดา้ น AI จาก Harvard University กล่าววา่ AI ประเภทน้เี ทียบเคียงไดก้ ับ “Superintelligence” หรือเครื่องจักรทรงภูมิปัญญา (Machine Superintelligence) ที่สามารถ บูรณาการความรู้ในทุกศาสตร์แล้วน�ำมาประมวลผลด้วยความเร็วสูง และมีความเป็นไปได้ว่า AI ประเภทน้ีจะมศี ักยภาพในเชงิ สตปิ ญั ญาเหนือมนษุ ย์

34 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ n ระดับการเรยี นรู้ของ AI (ในบรบิ ทของ Machine Learning) AI จ�ำเป็นต้องเรียนรู้เพ่ือสร้างความคิดและความฉลาดให้แก่ตนเองผ่านข้อมูลที่ได้รับหรือข้อมูลท่ี เรากำ� หนดไว้ เพอ่ื นำ� มาใชใ้ นการตดั สนิ ใจดำ� เนนิ การหรอื ตดั สนิ ใจบนพนื้ ฐานของขอ้ มลู แทนมนษุ ย์ ซึง่ ความสามารถในการเรยี นร้ขู อง AI สามารถแบ่งได้เปน็ 3 ระดับ ดังนี้ ภาพท่ี 3 ความสามารถในการเรียนรู้ของ AI เทคโนโลยีปจ จบ� นั > 3ระยะที่ เคร�่องจกั รตระหนักรู 2ระยะท่ี Machine Consciousness 1ระยะท่ี เครอ่� งจักรอจั ฉร�ยะ Machine Intelligence การเรย� นรขู องเคร่อ� ง Machine Learning ระดบั ท่ี 1 Machine Learning ชดุ ของอลั กอรทิ มึ ทเี่ ครอื่ งใชเ้ พอ่ื เรยี นรขู้ อ้ มลู และประสบการณเ์ พอื่ สรา้ งความฉลาดให้แก่ตนเอง หรืออาจพูดได้วา่ AI ใช้เทคนคิ Machine Learning ในการพัฒนา ความสามารถในการคดิ และตดั สนิ ใจ โดยผพู้ ฒั นาจะเขยี นโปรแกรมใหเ้ ครอ่ื ง (AI) เรยี นรจู้ ากขอ้ มลู และเครอื่ งจะทำ� หนา้ ทเ่ี รียนรดู้ ว้ ยตนเองตามวิธีทผี่ พู้ ฒั นาก�ำหนดไว้ สรุปว่า AI ในระดบั นีจ้ ะคดิ จะ ทำ� อะไรกข็ น้ึ อยกู่ บั สง่ิ ทเ่ี ราสง่ ไปใหเ้ รยี นรแู้ ละวธิ กี ารเรยี นรทู้ เี่ ราออกแบบให้ แลว้ จงึ ประมวลผลบน พ้ืนฐานของความรู้ท่ไี ดเ้ รียนไป โดยเป็นเทคนคิ ทอี่ อกแบบพัฒนาไดง้ ่ายทีส่ ดุ ระดับท่ี 2 Machine Intelligence ชุดของอัลกอริทมึ ขั้นสูงทเ่ี คร่อื งใช้เพ่ือเรียนรูจ้ ากประสบการณ์ เช่น Deep Learning แนวโน้มเทคโนโลยใี นปจั จุบัน เปน็ ตน้ โดยเทคนิคในระดบั นี้มีประสทิ ธภิ าพ เหนอื กวา่ เทคนคิ Machine Learning และตอ้ งการขอ้ มลู ในการเรยี นรมู้ ากขน้ึ เชน่ กนั ซงึ่ ระดบั ความ สามารถในการเรียนรู้ของ AI ในปัจจุบันส่วนใหญจ่ ะอยใู่ นระดบั น้ี

Performance สำ�นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ิทลั (องคก์ ารมหาชน) 35 ภาพท่ี 4 ประสทิ ธิภาพความแม่นย�ำในการทำ� นายเปรียบเทียบระหวา่ ง Machine Learning และ Deep Learning Deep learning Older learning algorithms Amount of data ท่ีมา: Mueller & Massaron, 2018 จากภาพเมื่อถึงระดับหนึ่งเครื่องจะไม่สามารถเพิ่มความรู้หรือประสิทธิภาพท่ีได้จากการเรียนรู้ ไดอ้ ีก (Older Learning Algorithms) แม้จะเพ่ิมปริมาณของข้อมูลให้เคร่ืองเท่าใดกต็ าม ซ่งึ ปัญหา ดงั กลา่ วจำ� เปน็ ตอ้ งใช้ Deep Learning (การเรยี นรเู้ ชงิ ลกึ ) เขา้ มาเพม่ิ การเรยี นรเู้ พอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ในการท�ำงานให้สงู ขึ้น ซง่ึ Deep Learning เปน็ กระบวนการเรยี นรแู้ บบหนงึ่ ของ Machine Learning โดยเปน็ กระบวนการ สร้างประสาทแบบลึก (Deep Neural Network) ท่ีมีข้ันตอนในการเรียนรู้ข้อมูลแตกต่างจาก การเรยี นรขู้ ้อมูลโดยทัว่ ไป ทง้ั นี้ Machine Learning จะถกู กลา่ วในหวั ข้อ 1.2 ความสามารถของ AI ในปัจจบุ นั

36 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ ภาพท่ี 5 ความสัมพันธร์ ะหว่าง AI, Machine Learning และ Deep Learning ARTIFICIAL MACHINE DEEP INTELLIGENCE LEARNING LEARNING Early artificial intelligence Machine learning Deep learning breakthroughs stirs excitement begins to flourish drive AI boom ปญ ญาประดษิ ฐ การเรยี นรขู องเคร่อื ง การเรียนรเู ชงิ ลกึ ระบบที่สามารถ อัลกอริท่มึ สวนหนงึ่ ของการเรยี นรขู องเครือ่ ง เรียนรูใชเหตผุ ล ท่มี คี วามสามารถพฒั นา ท่นี ำโครงขา ยประสาทเทียม ปฏิบตั ิ และปรับตวั ได ตวั เอง จากประสบการณ มาเพมิ่ การเรียนรูข องช้ันขอมลู ทไ่ี ดจ ากการสังเคราะห เพอ่ื ใหแ มนยำข้ึน ขอ มูลมากขนึ้ เมื่อเวลา ผานไป 1950’s 1960’s 1970’s 1980’s 1990’s 2000’s 2010’s ที่มา: สรปุ จาก Copeland, 2016 ระดบั ที่ 3 Machine Consciousness เปน็ การออกแบบใหเ้ ครอื่ งสามารถเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยประสบการณ์ ของตนเอง โดยไมต่ อ้ งเรยี นรจู้ ากขอ้ มลู ภายนอกทม่ี นษุ ยส์ ง่ ให้ ซงึ่ เปน็ เทคนคิ ระดบั ทส่ี งู ทส่ี ดุ ของ AI ในปัจจุบันทเ่ี ปน็ ความสามารถในการเรยี นรขู้ อง AI ท่ยี ังไมถ่ ูกนำ� มาใช้แพรห่ ลายมากนกั เทคนคิ ทง้ั 3 เปรยี บเหมอื นระดบั ความคดิ ของ AI ทผ่ี พู้ ฒั นาสรา้ งใหแ้ กเ่ ครอ่ื งจกั ร เรมิ่ จากระดบั แรก คอื Machine Learning ทอี่ อกแบบและพฒั นาไดง้ า่ ย และในระดบั ถดั มา Machine Intelligence ที่ ต้องใชเ้ ทคนคิ ขัน้ สูงในการพัฒนา ส่วน Machine Consciousness ทีเ่ ปน็ การพฒั นาในระดับสงู สุด ของ AI ในปจั จบุ นั ซงึ่ เปน็ เทคนคิ การพฒั นาขน้ั สงู สดุ ของการพฒั นาปญั ญาประดษิ ฐใ์ นปจั จบุ นั และ ยงั ไมถ่ ูกนำ� มาใช้แพรห่ ลายนัก

สำ�นกั งานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ลั (องคก์ ารมหาชน) 37 2. ความสามารถของ AI ในปจั จบุ ัน AI สามารถท�ำงานได้หลายรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งานและการออกแบบของผู้พัฒนา เปน็ หลัก โดยความสามารถหลกั ของ AI ในปจั จุบนั มีดงั น้ี ภาพท่ี 6 ความสามารถของ AI ที่ถกู นำ� มาใช้ในปจั จบุ นั AIความสามารถของ ทถี่ กู นำมาใช ในปจจ�บัน ทมี่ า: Ng A. , n.d. 2.1 Machine Learning เป็นการท�ำให้เคร่ืองสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากข้อมูลที่เราก�ำหนดไว้ โดย AI สามารถเรียน รู้และพัฒนาประสบการณ์ด้วยวิธีอัตโนมัติ ซ่ึงการท�ำงานในรูปแบบน้ีมี 2 ส่วน ได้แก่ การเรียนรู้ จากขอ้ มลู ในอดีต และการพยากรณเ์ พอื่ แสดงผลลัพธ์ โดยขน้ั ตอนการเรยี นรู้ของเครอื่ งจะเร่มิ จาก การเรยี นรขู้ อ้ มลู ในอดตี ผา่ นแบบจ�ำลองทกี่ ำ� หนดแลว้ จงึ ประมวลผลขอ้ มลู ปจั จบุ นั จนกระทงั่ แสดง ผลลัพธ์ ทั้งน้ี การเตรียมการให้เครื่องเรียนรู้ข้อมูลในอดีตในจ�ำนวนที่เหมาะสมเป็นสิ่งส�ำคัญและ ตอ้ งใชเ้ วลามากทีส่ ดุ

38 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ ภาพท่ี 7 ข้ันตอนการท�ำงานของ Machine Learning ขัน้ ตอนเร�ยนรู ขอมูลตัวอยาง อัลกอร�ทึม่ โมเดล เพ�่อสรางโมเดล สำหรบั สอน การเร�ยนรู (ขอ มูลจากอดตี ) ขัน้ ตอน ขอ มลู จรง� พยากรณ ผลลัพธ ใชง านโมเดล (ขอ มูลปจ จ�บนั ) อตั โนมตั จิ าก โมเดล ทม่ี า: Ng, 2018 Machine Learning มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถเข้าถึงข้อมูลและ เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยสามารถแบง่ ออกได้ 4 รปู แบบ ดงั นี้ n การเรยี นรแู้ บบมผี สู้ อน (Supervised Machine Learning Algorithms) การมผี สู้ อน หมายถงึ ข้อมูลที่ใช้ในการฝึกนั้น (Training Data) ได้ถูกน�ำมาแยกประเภทผลลัพธ์ด้วยการติดป้าย (Label) แลว้ จงึ นำ� ขอ้ มลู ทต่ี ดิ ปา้ ยแลว้ ไปใชใ้ นการฝกึ ของเครอื่ งทที่ ำ� งานผา่ นอลั กอรทิ มึ สำ� หรบั สรา้ งโมเดลทใี่ ชใ้ นการทำ� นายผลลพั ธ์ เมอื่ ไดโ้ มเดลทผี่ า่ นการฝกึ แลว้ กจ็ ะทดลองกบั ขอ้ มลู ใหม่ (New Data) เพ่อื ใหเ้ คร่อื งทำ� นายผ่านแบบจ�ำลอง (Predictive Model) ว่าค�ำตอบควรจะเป็น อย่างไร

สำ�นักงานพฒั นารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 39 ภาพท่ี 8 กระบวนการทำ� งานของ Supervised Machine Learning Algorithms Training Data Labels Machine Learning Algorithm New Data Predictive Model Prediction ทีม่ า: Raschka, Python Machine Learning, 2016 ภาพที่ 9 วิธีการเรยี นรู้ของ Supervised Machine Learning ขอมูลสอน ปา ย (Label) Model แอปเปล� ทายผล กลวย มะละกอ กลวย นี่คืออะไร? สม ท่มี า: จากการสรุปและรวบรวมข้อมูลของ สพร.

40 เทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ์ นอกจากการเรียนรู้แบบ Supervised Machine Learning ท่ีมีผู้สอนโดยปกติทั่วไปแล้ว ยังมีวิธี การเรียนรแู้ บบ Deep Learning ทีเ่ ป็นรปู แบบการเรยี นรู้ของเครือ่ งแบบมผี ู้สอนเช่นกนั แต่ Deep Learning มีการก�ำหนดช้ันของข้อมูล (Layer) ท่ีแตกต่างกันเพ่ือให้เคร่ืองสามารถเรียนรู้ข้อมูลได้ มากขึ้น แม่นย�ำข้ึน โดยใช้เทคนิคการเพ่ิมความลึกของข้อมูลท่ีแสดงออกมาตามจ�ำนวนของ ชั้นขอ้ มูลท่มี ากขึน้ ซึ่งสามารถแสดงรายละเอยี ดได้ดงั ภาพด้านล่าง ภาพที่ 10 วธิ ีการท�ำงานของ Machine Learning และ Deep Learning Machine CNaott Cat Learning Input Feature Extraction Classification Output Deep Cat Learning BNroeetdC: Rautssian Blue Input Feature Extraction + Classification Output ท่ีมา: The Computing Center, 2018 เนอ่ื งจาก Deep Learning เปน็ เทคนคิ สำ� คญั ตอ่ การพฒั นาการเรยี นรขู้ องเครอ่ื ง ดงั นนั้ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจ ถึงเทคนิคดังกล่าวได้ง่ายขึ้นจึงขอยกตัวอย่างการเพิ่มล�ำดับชั้นของข้อมูล จากภาพในกรณีท่ีเรา ตอ้ งการใชค้ วามสามารถ Face Recognition (ซง่ึ เปน็ ความสามารถของ AI รปู แบบหนงึ่ ) หากเราใช้ เทคนคิ การเรยี นรแู้ บบมผี สู้ อนเครอื่ งจะสามารถแยกภาพบคุ คลไดจ้ ำ� กดั เฉพาะภาพหนา้ ตรงเทา่ นนั้ แต่ถ้าเราต้องการให้เคร่ืองสามารถคัดแยกภาพใบหน้าได้หลายมุม จะต้องมีใช้เทคนิคการสอน ด้วยการเพ่ิมชั้นของข้อมูลให้มากขึ้น ซ่ึงจะส่งผลให้เครื่องสามารถวิเคราะห์ใบหน้าบุคคลได้จาก หลายมุม หรอื สามารถวิเคราะห์ใบหน้าในช่วงอายทุ แี่ ตกต่างกันได้

สำ�นักงานพัฒนารฐั บาลดจิ ิทลั (องคก์ ารมหาชน) 41 ภาพท่ี 11 การทำ� งานของ Deep Learning ในการรูจ้ ำ� ภาพหนา้ คน Deep Neural Network Input Hidden Hidden Hidden Output Layer Layer 1 Layer 2 Layer 3 Layer Face Edges Combinations Object of edges Models ทีม่ า: Sachdeva, 2017 n การเรยี นรแู้ บบไมม่ ผี สู้ อน (Unsupervised Machine Learning Algorithms) อลั กอรทิ มึ การ เรยี นรแู้ บบไมม่ ผี สู้ อนหรอื แบบไมถ่ กู ควบคมุ เปน็ เทคนคิ การเรยี นรดู้ ว้ ยขอ้ มลู ทไ่ี มถ่ กู จดั ประเภท หรือติดป้ายก�ำกับข้อมูล การเรียนรู้ด้วยเทคนิคน้ีเคร่ืองจะอนุมานข้อมูลที่ได้รับและท�ำความ เขา้ ใจถึงโครงสรา้ งที่ซ่อนอยู่ ดงั นั้น เทคนิคนี้จงึ ไมส่ ามารถหาผลลพั ธ์ท่ถี ูกต้องได้ แต่จะใชว้ ธิ ี ส�ำรวจขอ้ มูลและใชก้ ารอนุมานวา่ ข้อมูลนนั้ คอื อะไร

ขอ ูมล42 เทคโนโลยีปญั ญาประดษิ ฐ์ ภาพท่ี 12 การเรียนรูแ้ บบไมม่ ีผู้สอน Model จัดกลมุ n Semi-supervised Machine Learning Algorithm เปน็ เทคนคิ การเรยี นรดู้ ว้ ยอลั กอรทิ มึ แบบกง่ึ ควบคุม เปน็ เทคนิคการเรียนรทู้ ่ีผสมผสานท้งั การเรียนรูแ้ บบมีผู้สอน (Supervised) และไม่มี ผู้สอน (Unsupervised) เนื่องจากมีการใช้ทั้งข้อมูลท่ีมีป้ายก�ำกับและไม่มีป้ายก�ำกับส�ำหรับ การกำ� หนดข้อมลู ให้เครอ่ื งเรยี นรู้ ซึง่ เทคนิคนี้สามารถปรับปรงุ ความแม่นยำ� ในการเรยี นรขู้ อง เครอ่ื งได้ดยี งิ่ ขน้ึ มกั ถกู น�ำมาใช้ในกรณีท่ีข้อมูลท่มี ปี า้ ยก�ำกับนัน้ ไมส่ ามารถวิเคราะหด์ ้วยการ ฝึกสอนแบบปกตไิ ดแ้ ตต่ ้องใชท้ กั ษะในการวเิ คราะหเ์ พิม่ เตมิ

ขอมูลสอน ส�ำ นกั งานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 43ขอ มูลดบิ ภาพที่ 13 การเรียนร้แู บบ Semi-supervised Machine Learning ปาย (Label) กลว ย ไมใชกลวย Model n Reinforcement Machine Learning Algorithms เปน็ เทคนคิ การเรียนรู้ของเครือ่ งแบบเสริม ก�ำลัง โดยการก�ำหนดเป้าหมายให้แก่เคร่ืองหรือคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า “Reinforcement Signal” เพ่ือให้เครื่องสร้างทางเลือกในการตัดสินใจหลายรูปแบบตามสภาวะแวดล้อมท่ี แตกตา่ งกนั หลงั จากนนั้ เครอื่ งจะเกบ็ ขอ้ มลู การตดั สนิ ใจในแตล่ ะทางเลอื กเพอื่ เรยี นรผู้ ลลพั ธแ์ ละ ข้อผิดพลาดท่ีเกิดข้ึน ซ่ึงวิธีนี้จะช่วยให้เคร่ืองสามารถประมวลผลเพ่ือหาทางเลือกที่มี ประสิทธภิ าพทสี่ ุดในการบรรลุเป้าหมายไดโ้ ดยอัตโนมตั ิ

44 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ ภาพท่ี 14 การเรียนรแู้ บบ Reinforcement Machine Learning Reward Internal State Action Environment Observation Learning Rate Inverse Temperature Discount Rate ท่ีมา: Das, 2017

ส�ำ นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ิทัล (องคก์ ารมหาชน) 45 2.2 การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) เป็นเทคนิคการท�ำให้เคร่ืองท�ำความเข้าใจภาษาและระดับของภาษาของมนุษย์ด้วยอัลกอริทึมที่ สามารถประมวลผลภาษาของมนษุ ยไ์ ด้ อยา่ งไรกต็ ามยงั มขี อ้ จำ� กดั ทเ่ี ครอื่ งไมส่ ามารถเขา้ ใจภาษา มนษุ ยไ์ ดค้ รอบคลมุ ทงั้ หมด เนอื่ งจากความหลากหลายของโครงสรา้ งของแตล่ ะภาษา หรอื รปู แบบ ของภาษาบางภาษาทีเ่ ปน็ วลีหรอื สแลง (Slang) ทไ่ี มม่ โี ครงสร้างทางภาษาทีช่ ดั เจน ภาษาของมนุษย์และภาษาของคอมพิวเตอร์มีวัตถุประสงค์การใช้งานคล้ายคลึงกัน แต่มีรูปแบบ และโครงสร้างของภาษาที่แตกตา่ งกัน โดย “ภาษามนุษย์ (Language) คอื ถอ้ ยค�ำหรือขอ้ ความ ท่ีมนุษย์ใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งอาจมีความแตกต่างท้ังโครงสร้างและภาษาในแต่ละประเทศ สว่ นความหมายของ “ภาษาในทางวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ หมายถงึ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสอื่ สารระหวา่ ง คนกบั คอมพวิ เตอรเ์ พ่ือสง่ั ใหค้ อมพวิ เตอร์ทำ� งานตามขอบเขตท่ีท�ำได”้ ภาษาธรรมชาติ หรอื Natural Language เรมิ่ การศกึ ษาเพอื่ นำ� มาใชใ้ นการประมวลผลภาษามนษุ ย์ ต่อมาไดพ้ ฒั นาเทคนคิ การประมวลผลภาษาธรรมชาติหรอื NLP ข้ึน ดว้ ยอลั กอริทึมท่ชี ว่ ยใหเ้ คร่ือง สามารถเขา้ ใจโครงสรา้ งและรูปแบบของภาษาที่หลากหลายไดเ้ อง โดย NLP มีขนั้ ตอนการท�ำงาน 5 ขั้นตอน ได้แก่ n การวเิ คราะห์ทางองค์ประกอบของค�ำ (Morphological Analysis) n การวิเคราะหไ์ วยากรณข์ องประโยคและวลีต่างๆ (Syntactic Analysis) n การวิเคราะห์ความหมายของค�ำ ด้วยการก�ำหนดค่าและแยกแยะรูปประโยคและไวยากรณ์ (Semantic Analysis) n การวิเคราะห์ความหมายประโยคจากบรบิ ท (Discourse Integration) n การวเิ คราะหเ์ พอ่ื แปลความหมายด้วยข้อมลู จากขน้ั ตอนท่ีผ่านมา (Pragmatic Analysis)

46 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ ปจ จ�บัน NLP ถูกพฒั นาเพอ�่ ใชงานหลายรูปแบบ โดยมตี วั อยางทีน่ าสนใจ ดังนี้_ n ระบบแปลภาษา (Machine Translation) เปนแอปพลิเคชันที่ใชตัวอยาง (Example-based) จากฐานขอมูลที่มนุษยไดแปลและเก็บรวบรวมไว รวมกับเทคนิค Machine learning โดยระบบ ดังกลาวเริ่มมาพรอมกับการศึกษา NLP ดวยการพัฒนารวมกันระหวางนักวิจัยดานคอมพิวเตอร และนกั ภาษาศาสตรท ่ีพัฒนาเพมิ่ เตมิ จากเทคนิค Rule-based n ระบบหาขอ มลู (Information retrieval) เปน เครอ่ื งมอื สำคญั ทใ่ี หค วามชว ยเหลอื เราในการหาขอ มลู ทม่ี อี ยอู ยา งมากมายในโลกทส่ี ว นใหญอ ยใู นรปู แบบภาษาธรรมชาตไิ ดอ ยา งแมน ยำ โดยมขี น้ั ตอน การทำงานหลกั คือ (1) การทำดชั นขี อมลู (Indexing) ดวยการกำหนดกลมุ คำแทนความหมาย ของขอ มลู นน้ั และ (2) การหาขอ มลู ทเ่ี กย่ี วของผา นดชั นี n ระบบแบงประเภทขอมูล (Text categorization) เปนระบบที่ชวยใหมีการจัดเก็บขอมูลอยาง เปน ระเบยี บเพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการหาขอ มูล n ระบบยอความ (Text summarization) เปนระบบที่ชวยอานและสรุปใจความสำคัญแบบยอ ใหเราอานกอ นทเี่ ราจะตดั สนิ ใจเลือกอานเน้ือหาเต็มของขอ มลู ท่ีเราสนใจ n ระบบประมวลภาษามือ (Sign language processing) คือ การนำ NLP มาประยุกตเพื่อชวย ผูมีปญหาดานการสื่อสาร ดวยการแปลงโครงสรางทั้งภาษาธรรมชาติ ภาษามือ และจัดการ การรบั ขอมลู ภาพ แม้ NLP ได้ถูกน�ำมาใช้งานเพ่ิมขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็มีข้อจ�ำกัดที่ส�ำคัญ คือ NLP ยังไม่สามารถ ประมวลผลภาษาธรรมชาตไิ ดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ดงั นน้ั การนำ� มางานจงึ เนน้ การนำ� มาพฒั นาเปน็ ฟงั กช์ นั ประกอบเครอื่ งมอื และเครอ่ื งใชต้ า่ งๆ เพอื่ อำ� นวยความสะดวกใหม้ นษุ ยม์ ากกวา่ การนำ� ไปใชก้ บั งาน ทีม่ ผี ลกระทบสูง หรืองานท่ตี ้องอาศยั การอ้างอิง

สำ�นักงานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ัล (องค์การมหาชน) 47 2.3 การวางแผน (Automated Planning, Scheduling & Optimization) คอื การสรา้ งเทคนคิ ใหเ้ ครอ่ื งหรอื คอมพวิ เตอรส์ ามารถตดั สนิ ใจดว้ ยการเลอื กลำ� ดบั ของการกระทำ� หรอื การดำ� เนนิ งานทมี่ โี อกาสสงู สดุ ในการบรรลเุ ปา้ หมายทกี่ ำ� หนด (แตกตา่ งจาก Machine Learn- ing ที่เน้นการคิด) โดยการตัดสินใจเพื่อด�ำเนินงานของเคร่ืองมีประสิทธิภาพสูงกว่าหรือเทียบเท่า การทำ� งานของมนษุ ย์ โดย AI จะทำ� งานตามขนั้ ตอน (Workflow) ทเี่ รากำ� หนด และจะวเิ คราะหง์ านที่ มคี วามซำ้� ซอ้ นเพอื่ ตดั สนิ ใจลดขน้ั ตอนใหม้ คี วามเหมาะสม ตวั อยา่ งของรปู แบบ AI ทใี่ ช้ เชน่ Robot- ic Process Automation (RPA) ทใี่ ชพ้ ฒั นาระบบจดั การทรพั ยากรของหนว่ ยงานเชน่ เดยี วกบั ERP ของภาคเอกชน Robotic Desktop Automation (RDA) เป็นระบบผชู้ ่วยงานใหแ้ ก่มนษุ ย์ เปน็ ต้น ภาพท่ี 15 แสดงแนวทางการพัฒนาระบบ AI Planning Straight Through Processing CIonmcCrpoelasestxsiintiges Robotic Robotic Machine Artificial Desktop Process Learning Intelligence Automation Automation adwneitcahilsypitoircenssec&nrigpitnivees wanitahlydtiecdsuctive winittehrvmenantiuoanl owritshedlfigsietravlitvreiggers Doing Process-Driven Data-Driven Thinking ท่ีมา: Das, 2017

48 เทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ์ 2.4 การวิเคราะห์แบบผูเ้ ชี่ยวชาญ (Expert System) คอื เทคนคิ การเลยี นแบบความสามารถในการตดั สนิ ใจของมนษุ ยใ์ หแ้ กเ่ ครอื่ งจกั รหรอื คอมพวิ เตอร์ โดยคอมพวิ เตอรจ์ ะเลียนแบบความสามารถในการตัดสินใจทีเ่ ชีย่ วชาญอย่างมนษุ ย์ ระบบน้ไี ด้รบั การออกแบบมาเพอ่ื แกป้ ญั หาทซ่ี บั ซอ้ นดว้ ยการพจิ ารณาเหตผุ ลผา่ นองคค์ วามรู้ ซง่ึ มคี วามซบั ซอ้ น มากกว่าการให้เหตุผลด้วยการค�ำนวณหรือการให้เหตุผลท่ัวไป และมีประโยชน์ในการรักษา องคค์ วามรไู้ มใ่ หส้ ญู หายไปตามกาลเวลา ทง้ั นี้ การพฒั นาระบบจะถกู ออกแบบใหม้ กี ารตอบสนอง และตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างรวดเรว็ รวมทง้ั ต้องขจดั อคติในการตดั สนิ ใจออกไป ภาพที่ 16 ภาพแสดงการท�ำงานของระบบผ้เู ชยี่ วชาญ ระบบผชู ำนาญการ (Expert System) คำถาม กล(ไIกEnกnfeาgrรienอneนc)มุ eาน สวนผตูใชิดง ตาอนกับ คำแนะนำ B(aKsฐneาodนwคSlวyeาsdมtgeรemู -) ผูใชง าน ที่มา: จากการสรปุ และรวบรวมข้อมลู ของ สพร.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook