Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.เธ_เธนเน_เธกเธทเธญเธ_เธฒเธฃเธ_เธฑเธ”เธ_เธฒเธฃเธญเธ_เธฒเธกเธฑเธขเธชเธดเน_เธ_เน_เธงเธ”เธฅเน_เธญเธกเน_เธ_เน_เธฃเธ_เน€เธฃเธตเธขเธ_ (1)

2.เธ_เธนเน_เธกเธทเธญเธ_เธฒเธฃเธ_เธฑเธ”เธ_เธฒเธฃเธญเธ_เธฒเธกเธฑเธขเธชเธดเน_เธ_เน_เธงเธ”เธฅเน_เธญเธกเน_เธ_เน_เธฃเธ_เน€เธฃเธตเธขเธ_ (1)

Published by Guset User, 2023-06-19 08:31:43

Description: 2.เธ_เธนเน_เธกเธทเธญเธ_เธฒเธฃเธ_เธฑเธ”เธ_เธฒเธฃเธญเธ_เธฒเธกเธฑเธขเธชเธดเน_เธ_เน_เธงเธ”เธฅเน_เธญเธกเน_เธ_เน_เธฃเธ_เน€เธฃเธตเธขเธ_ (1)

Search

Read the Text Version

กคมู่าือรจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม ในโรงเรียน

















































































2.5 การนำ� มูลฝอยไปใชป้ ระโยชน์ 41 2.5.1 การหมักมลู ฝอยใหเ้ ป็นปยุ๋ 1) การหมักท�ำปุ๋ย โดยการน�ำเศษอาหาร ใบไม้ ก่ิงไม้มาหมักในถังผลิตปุ๋ยหมักอินทรีย์ กล่อง ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น คอนกรตี หรือบ่อคอนกรีต ตามความเหมาะสมของพืน้ ท่ีและปรมิ าณมูลฝอย ไดเ้ ป็นปุ๋ยหมัก ใช้ภายในพ้ืนที่โรงเรยี น 2) การหมักก๊าซชีวภาพ โดยใส่เศษอาหารลงไปในถังผลิตแก๊สชีวภาพ ซึ่งมีหลายขนาด อาศัย หลกั การยอ่ ยสลายของเสยี อนิ ทรยี ใ์ นถงั หมกั หรอื บอ่ ทไ่ี รอ้ ากาศทม่ี แี บคทเี รยี ซงึ่ ไมใ่ ชอ้ อกซเิ จน ย่อยสลายสารอินทรีย์ให้กลายเป็นก๊าซชีวภาพ ซึ่งสามารถน�ำก๊าซชีวภาพไปใช้ในการหุงต้ม อาหารในโรงครัว แม้ผลผลิตจะไม่มาก แต่ช่วยก�ำจัดมูลฝอยได้ส่วนหนึ่ง และได้ผลผลิต สุดท้ายเป็นป๋ยุ หรือสารปรับสภาพดิน 3) การท�ำน้ำ� หมักชีวภาพ ใช้เศษอาหาร เศษผกั เปลอื กผลไม้ นำ� มาหมกั ให้เปน็ นำ้� หมักชีวภาพ สามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการชว่ ยยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ใ์ นทอ่ ระบายนำ้� ลดกลนิ่ เหมน็ เทใสใ่ นถงั เกบ็ กกั สง่ิ ปฏกิ ลู ชว่ ยใหส้ ว้ มเตม็ ชา้ สำ� หรบั การหมกั เศษหรอื เปลอื กผลไมท้ ม่ี รี สเปรย้ี วสามารถ น�ำไปต่อยอดโดยการผลิตน้�ำยาอเนกประสงค์ใช้ท�ำความสะอาดพ้ืนห้องต่าง ๆ ในโรงเรียน ท�ำใหล้ ดการใชผ้ ลติ ภัณฑพ์ วกสารเคมไี ด้ ไม่เป็นพษิ ตอ่ สิง่ แวดล้อมและผู้ปฏบิ ตั ิงาน 2.5.2 การนำ� ไปเลยี้ งสตั ว์ โดยอาจมผี มู้ าตดิ ตอ่ ขอรบั หรอื รบั ซอ้ื นำ� ไปเลย้ี งสตั ว์ โดยเจา้ หนา้ ทใี่ นโรงอาหาร ตอ้ งแยกมลู ฝอยประเภทเศษผกั เศษอาหารไวใ้ นถงั บรรจทุ ปี่ ดิ มดิ ชดิ ไมค่ วรเกบ็ ไวข้ า้ มวนั เนอื่ งจาก มูลฝอยประเภทดงั กลา่ วจะเกิดการเนา่ เสยี และเกดิ กล่ินเหมน็ ได้ 2.5.3 การท�ำธนาคารขยะ เป็นกิจกรรมหนึ่งท่ีช่วยปลูกฝังให้เด็กมีจิตส�ำนึกในการใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่า และมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการลดปรมิ าณมลู ฝอย การคดั แยกมลู ฝอยและนำ� กลบั ไปใชป้ ระโยชน์ ซ�ำ้ กอ่ นทง้ิ เปน็ มลู ฝอย โดยอาศยั การมสี ว่ นร่วมของครู เดก็ ผูป้ กครองและชุมชนโดยรอบโรงเรยี น ซ่งึ กิจกรรมนนี้ อกจากจะสง่ ผลใหเ้ ด็กรู้จกั ประหยัดในการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติแล้ว ยงั สง่ เสรมิ ให้ เดก็ รจู้ ักการออมเงนิ อีกดว้ ย

ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น รูปท่ี 29 การทำ� ธนาคารขยะในโรงเรียน 42 3. มาตรการในการจัดการมูลฝอยในโรงเรียน 3.1 รณรงค์ให้นักเรียนมีจิตส�ำนึกในการท้ิงมูลฝอยให้เป็นท่ี โดยเริ่มจากนักเรียนกลุ่มเล็ก ๆ เช่น จิตอาสา สภานกั เรียน เปน็ ตน้ 3.2 ใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากการฝกึ ปฏบิ ตั จิ รงิ เชน่ ฝกึ การคดั แยกมลู ฝอยทส่ี ามารถนำ� กลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หม่ ได้ ซงึ่ นอกจากจะชว่ ยลดปรมิ าณมลู ฝอยไดแ้ ลว้ ยงั เปน็ การฝกึ ทกั ษะการทำ� งานใหก้ บั นกั เรยี น และเปน็ การ เพ่ิมมูลคา่ ให้กบั สง่ิ ของอีกด้วย เปน็ ตน้ 3.3 จัดกิจกรรมส่งเสริมเพ่ือให้นักเรียนมีส่วนร่วมและมีการคัดแยกมูลฝอยอย่างถูกต้อง เช่น ธนาคารขยะ การทำ� น้ำ� หมักชวี ภาพ การท�ำปุย๋ หมัก เปน็ ต้น 3.4 ปลูกฝังทัศนคติท่ีถูกต้องแก่นักเรียน โดยให้การศึกษาและรณรงค์ให้เกิดความร่วมมือปฏิบัติ รวมทั้ง ให้ประชาชนและชมุ ชนเข้ามามสี ่วนร่วมมากข้ึน

บทที่ 4การจัดการส้วมและสิง่ ปฏกิ ูล สว้ มเปน็ สถานทถี่ า่ ยอจุ จาระและปสั สาวะ ซง่ึ เปน็ กจิ วตั รทสี่ ำ� คญั ตอ่ การดำ� รงชวี ติ ของมนษุ ย์ หากไมม่ กี ารจดั การ ส้วมที่ถูกหลกั สุขาภิบาล และไม่มกี ารปลูกฝงั พฤติกรรมการใช้ส้วมท่ีถูกวธิ ใี หก้ ับเดก็ นักเรยี น ส้วมก็จะกลายเป็นแหลง่ 43 แพรก่ ระจายเชอื้ โรคที่สำ� คัญ เชน่ อหวิ าตกโรค บิด ไทฟอยด์ พยาธลิ ำ� ไส้ และโรคอ่ืน ๆ อกี หลายชนดิ เปน็ ต้น ดงั นน้ั สว้ มในโรงเรียนตอ้ งมคี วามสะอาด เพยี งพอ และปลอดภยั ตอ่ การใช้งาน รวมทั้งต้องถกู หลักสขุ าภิบาล เพ่อื ช่วยลดการ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น แพรก่ ระจายเชอ้ื โรค นอกจากนโี้ รงเรยี นจำ� เปน็ ตอ้ งสรา้ งเสรมิ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั เรอื่ งสว้ ม สขุ ลกั ษณะการใชส้ ว้ ม และพฤติกรรมสุขภาพหลังการใช้ส้วมที่ถูกวิธีให้แก่นักเรียนอย่างสม�่ำเสมอ และผลักดันให้นักเรียนถ่ายทอดความรู้ และพฤตกิ รรมสุขอนามัยท่ดี ไี ปสู่ครอบครัวและชมุ ชน 1. ความหมาย สว้ ม หมายถงึ สถานทที่ ใี่ ชเ้ กบ็ รวบรวม บำ� บดั และกำ� จดั อจุ จาระ ปสั สาวะทมี่ นษุ ยข์ บั ถา่ ยออกมา โดยท�ำให้เกิดการย่อยสลาย ป้องกันการแพร่ระบาดของเช้ือโรค ไม่ก่อให้เกิดความร�ำคาญ ไม่เป็น แหลง่ เพาะพันธุข์ องสัตว์และแมลงพาหะนำ� โรค สงิ่ ปฏกิ ลู หมายถงึ อจุ จาระ ปสั สาวะ และหมายความรวมถงึ สงิ่ อน่ื ใด ซ่งึ เปน็ สิง่ โสโครก และทมี่ กี ลิน่ เหม็น จงึ ครอบคลุมถงึ น้ำ� โสโครก นำ้� เสียจาก อาคารประเภทต่าง ๆ รวมท้ังของเสียอืน่ ๆ ด้วย การจดั การสงิ่ ปฏกิ ลู หมายถงึ กระบวนการดำ� เนนิ งานตงั้ แตก่ ารรองรบั การขน และการก�ำจดั หรือบ�ำบดั สิง่ ปฏกิ ูล

2. หอ้ งสว้ มในโรงเรียน การจดั ให้มหี ้องส้วมในโรงเรียนให้เหมาะสมตามกฎกระทรวงฉบับท่ี 63 (พ.ศ.2551) ออกตามความในพระราช บัญญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ไดก้ �ำหนดตามรายละเอียดดังตารางดังนี้ ตารางท่ี 2 มาตรฐานจำ� นวนหอ้ งสว้ ม อ่างล้างมือส�ำหรบั โรงเรยี น เพศ จำ�นวนห้องส้วม จำ�นวนทป่ี ัสสาวะ อ่างลา้ งมือ หมายเหตุ ชาย 1 ที:่ 50 คน 1 ท่:ี 50 คน 1 ท:ี่ 50 คน สว่ นที่เกิน 500 คน ใหเ้ พิ่มอยา่ งละ 1 ที่ ต่อจำ�นวนนักเรียนชายทุก 100 คน หญงิ 2 ที่: 50 คน - 1 ที่: 50 คน ส่วนทเี่ กนิ 500 คน ใหเ้ พิ่มห้องสว้ ม 2 ที่ 44 และอ่างล้างมอื 1 ที่ต่อจำ�นวนนักเรียน หญิงทกุ 100 คน ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ที่มา: กฎกระทรวงฉบับที่ 63 (พ.ศ.2551) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิควบคมุ อาคาร พ.ศ.2522 3. องคป์ ระกอบท่ีสำ� คัญของส้วม รูปท่ี 30 ลกั ษณะของหัวส้วม 3.1 หัวส้วม ท�ำหน้าที่เป็นช่องรับอุจจาระและปัสสาวะก่อนลงสู่บ่อหรือ แบบนั่งยองและแบบนั่งราบ ถงั เกบ็ กกั หวั สว้ มประกอบดว้ ย 2 สว่ นทส่ี ำ� คญั คอื โถสว้ ม และคอหา่ น รูปทรงของโถส้วมท่ีเหมาะสมต้องสามารถรองรับได้ท้ังอุจจาระและ ปสั สาวะ และจะตอ้ งทำ� ความสะอาดงา่ ย คอหา่ นมหี นา้ ทป่ี กปดิ ชอ่ งถา่ ย ไมใ่ ห้แมลงและพาหะน�ำโรคลงไปในบอ่ เก็บกกั อุจจาระ และท�ำหนา้ ท่ี ป้องกันกล่ินจากบ่อเก็บกักด้วย ระบบปกปิดของคอห่านใช้ระบบ น้ำ� หล่อ หวั ส้วมทนี่ ยิ มใชใ้ นปัจจุบนั มี 2 ชนิด คอื หัวส้วมแบบน่งั ยอง และแบบนัง่ ราบ

3.2 ระบบเกบ็ และบำ� บดั อจุ จาระ ระบบที่มีใช้อยใู่ นประเทศไทยปัจจุบนั มอี ยู่ 2 แบบ คือ ระบบบอ่ เกรอะบ่อซึม และระบบบ�ำบดั แบบติดกบั ท่ี 3.3 ทอ่ ระบายอากาศ เพื่อใช้ระบายก๊าซท่ีเกิดขึ้นจากการย่อยสลายในบ่อเก็บกักอุจจาระ และยังช่วยระบาย อากาศเพอื่ ลดความดนั ของอากาศขณะราดนำ้� ชำ� ระทโ่ี ถสว้ มดว้ ย จดุ สำ� คญั ทค่ี วรมกี ารตอ่ ทอ่ ระบายอากาศ คอื ทฐ่ี านวางหัวสว้ มและบอ่ เก็บกกั อจุ จาระ 4. ลกั ษณะของส้วมท่ีถกู สุขลกั ษณะ 45 ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ควรมลี ักษณะดงั นี้ 4.1 ตวั เรอื นสว้ ม ตอ้ งสามารถปกปดิ ไมใ่ หผ้ อู้ น่ื มองเหน็ จากภายนอก และสามารถปอ้ งกนั แสงแดด ลม และฝน ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น รวมท้งั ไม่เป็นทห่ี มกั หมมของเชื้อโรค โดยตอ้ งมีลกั ษณะดังนี้ 4.1.1 สรา้ งดว้ ยวสั ดทุ นทาน ทำ� ความสะอาดงา่ ย มรี ะบบการขบั เคลอื่ นอจุ จาระและปสั สาวะลงสทู่ เี่ กบ็ กกั ท่ี ปอ้ งกนั สตั วแ์ ละแมลงซง่ึ เปน็ พาหะนำ� โรคได้ และไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ หรอื กอ่ ความเดอื ดรอ้ นรำ� คาญตอ่ ผใู้ ช้ รวมทงั้ ผอู้ ยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี ง และตอ้ งไมซ่ มึ หรอื ปนเปอ้ื นแหลง่ นำ้� ธรรมชาตแิ ละนำ�้ ใตด้ นิ ทกุ ขนั้ ตอน ทสี่ ำ� คญั ควรเลอื กใชส้ ขุ ภณั ฑ์ กระเบอ้ื งปพู นื้ และผนงั เปน็ วสั ดไุ มด่ ดู ซบั นำ้� ผวิ เรยี บ ทำ� ใหไ้ มเ่ ปน็ แหลง่ หมกั หมมของเชอื้ โรคและมกี ลน่ิ เหมน็ การเลอื กสคี วรใชส้ อี อ่ น เพราะนอกจากจะทำ� ใหท้ ราบวา่ บรเิ วณไหนสกปรกเพอ่ื จะไดท้ ำ� ความสะอาดแลว้ การใชส้ อี อ่ นจะทำ� ใหผ้ ใู้ ชส้ ว้ มรสู้ กึ วา่ หอ้ งสว้ มกวา้ ง นา่ ใช้ ไมอ่ ดึ อดั 4.1.2 หอ้ งสว้ มตอ้ งมขี นาดพนื้ ทภี่ ายในไมน่ อ้ ยกวา่ 0.90 ตารางเมตรตอ่ 1 ทน่ี งั่ โดยตอ้ งมคี วามกวา้ งภายใน ไม่นอ้ ยกวา่ 0.90 เมตร และความยาวไม่นอ้ ยกวา่ 1 เมตร 4.1.3 ความสงู จากพน้ื ถงึ เพดาน หรอื ส่ิงอืน่ ท่ตี ิดกบั คานหรอื เพดานไม่นอ้ ยกวา่ 2.00 เมตร ทั้งท่มี แี ละไม่มี ระบบปรบั อากาศ 4.1.4 ตอ้ งมชี อ่ งระบายอากาศไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 10 ของพนื้ ทห่ี อ้ ง หรือมีพัดลมระบายอากาศผนังก้ัน หอ้ งสว้ มควรติดต้งั ใหม้ ีชอ่ งวา่ งด้านบนและด้านล่าง

ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 4.1.5 มแี สงสวา่ งไมน่ อ้ ยกวา่ 100 ลกั ซ์ หรอื สวา่ งพอมองเหน็ ลายมอื ไดช้ ดั เจนเพอ่ื ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตขุ ณะใชส้ ว้ ม การใชห้ ลงั คาโปรง่ แสงเพอ่ื รบั แสงจากธรรมชาติจะชว่ ยประหยดั พลงั งานและถา้ เลอื กใชว้ ธิ นี ช้ี อ่ งรบั แสง ตอ้ งไมต่ รงกบั อา่ งเกบ็ นำ้� และพน้ื หอ้ งสว้ มตอ้ งแหง้ เกอื บตลอดเวลาเพราะไมเ่ ชน่ นนั้ จะเกดิ ตะไครน่ ำ้� ทง้ั ทอ่ี า่ งเกบ็ นำ้� และพนื้ หอ้ งสว้ ม 4.1.6 พน้ื ทห่ี อ้ งสว้ มตอ้ งมคี วามลาดเอยี ง ไมน่ อ้ ยกวา่ 1:100 และมจี ดุ ระบายนำ้� ทงิ้ อยใู่ นตำ� แหนง่ ตำ�่ สดุ ของพ้ืนห้อง จุดระบายน�้ำทิ้งควรติดตั้งที่ดับกลิ่นย้อนและดักขยะด้วย เพ่ือป้องกันไม่ให้ห้องส้วมมี กลน่ิ เหมน็ และทอ่ อดุ ตนั 4.1.7 จดั ใหม้ กี ระดาษชำ� ระหรอื นำ�้ สำ� หรบั ชำ� ระ ใหเ้ พยี งพอสำ� หรบั หอ้ งสว้ มทกุ หอ้ ง 4.1.8 ควรจดั ใหม้ โี ถปสั สาวะและอา่ งลา้ งมอื เปน็ สว่ นหนงึ่ ของสว้ มดว้ ย และอา่ งลา้ งมอื ตอ้ งมรี ะบบดกั กลนิ่ 46 และขยะดว้ ย รูปท่ี 31 ลกั ษณะของสว้ มที่ถูกหลกั สขุ าภบิ าล 4.2 ระบบเก็บกักและบำ� บัด ตอ้ งมลี ักษณะดงั นี้ 4.2.1 เป็นระบบท่ีมีการขับเคลื่อนอุจจาระ ปัสสาวะจากโถลงสู่ที่เก็บกักท่ีแยกเป็นระบบถังเกรอะ และถงั ซมึ หรอื ระบบบำ� บดั อน่ื โดยสามารถปอ้ งกนั สตั วแ์ ละแมลงพาหะนำ� โรคได้ และไมป่ นเปอ้ื น แหลง่ นำ�้ ธรรมชาตหิ รอื นำ�้ ใตด้ นิ ทกุ ขนั้ ตอน 4.2.2 มที อ่ ระบายอจุ จาระจากฐานสว้ มลงถงั เกบ็ กกั ซงึ่ ตอ้ งมขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางไมน่ อ้ ยกวา่ 10เซนตเิ มตร มคี วามลาดเอยี งไมน่ อ้ ยกวา่ 1:100 เพอ่ื ใหท้ อ่ มขี นาดใหญแ่ ละมคี วามลาดเอยี งมากพอใหส้ งิ่ ปฏกิ ลู เคลอ่ื นลงสถู่ งั เกบ็ กกั ไดส้ ะดวกและลดการอดุ ตนั

4.2.3 มที อ่ ระบายกา๊ ซ มขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางไมน่ อ้ ยกวา่ 2.50 เซนตเิ มตร ตดิ ตงั้ ทฐี่ านของหวั สว้ มหรอื จดุ ใกลเ้ คยี ง ปลายทอ่ อยเู่ หนอื หลงั คาสว้ ม หรอื สงู จนกลน่ิ เหมน็ ของกา๊ ซไมร่ บกวนผอู้ นื่ ทงั้ นี้ เพราะ สกเปา๊ง่ิ ็นปซทกฏ๊าม่ีกิ ซกีลู ตลในิดน่ิ ถไเหฟงั เมกกน็ บ็ ๊าทกซเ่ีกัรคาจาเะรรเยี์บกกอดิ วนกา่ าไกดรา๊ยอซอ่ อไยขกสเ่ไนลซา่าดนย์ น่ัต(CเลอOองด2)ดเวงัแลนลาน้ั ะทกกำ�๊าาใซรหไตเ้ฮกดิ โดิตดกง้ัรทา๊เจชอ่ นหระลซบัาลยาไยฟชกนดา๊ดิ์ ซ(Hจเชะ2น่Sช)ว่ กยเา๊ ปใซห็นมป้ ตเี ทร้นะนหซย(ึ่งCดัเปHน็น4ำ�้ ) ราดสว้ ม ปอ้ งกนั กลนิ่ เหมน็ แลว้ ยงั ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการสะสมของกา๊ ซมเี ทนทตี่ ดิ ไฟดว้ ย จดุ ทต่ี อ้ ง มกี ารตอ่ ทอ่ ระบายกา๊ ซ คอื ทฐี่ านวาง หวั สว้ มหรอื ทอ่ ระบายสงิ่ ปฏกิ ลู และบอ่ เกบ็ กกั อจุ จาระ 4.2.4 ถังเก็บกักและบ�ำบัด จะต้องมีช่องเปิดส�ำหรับรถสูบส่ิงปฏิกูลมาดูดเม่ือส้วมเต็ม โดยมีขนาด เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางไมน่ อ้ ยกวา่ 10 เซนตเิ มตร (4 นวิ้ ) ทงั้ นเี้ พราะหวั สบู และทอ่ สบู สง่ิ ปฏกิ ลู มขี นาด เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 7.5 เซนตเิ มตร (3 นวิ้ ) 4.2.5 ถา้ เปน็ โถสว้ มแบบนงั่ ยอง ใหท้ ว่ี างเทา้ ของโถสว้ มสงู กวา่ พน้ื หอ้ งสว้ มไดไ้ มเ่ กนิ 5 เซนตเิ มตร ในกรณี 47 ทมี่ คี วามจำ� เปน็ ทโี่ ถสว้ มสงู กวา่ พน้ื หอ้ งเกนิ 5 เซนตเิ มตร ใหม้ พี น้ื ทดี่ า้ นขา้ งอยา่ งเพยี งพอ ระบบเกบ็ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น และบำ� บดั อจุ จาระทม่ี ใี ชอ้ ยใู่ นประเทศไทยปจั จบุ นั มอี ยู่ 2 ระบบ คอื ระบบบำ� บดั หรอื กำ� จดั สง่ิ ปฏกิ ลู แบบตดิ กบั ที่ และระบบบำ� บดั หรอื กำ� จดั สง่ิ ปฏกิ ลู รวม ซง่ึ ระบบบำ� บดั หรอื กำ� จดั สง่ิ ปฏกิ ลู แบบตดิ กบั ทม่ี ี 2 ระบบ คอื ระบบบำ� บดั แบบตดิ กบั ทไ่ี มเ่ ตมิ อากาศและระบบเตมิ อากาศ ● ระบบบำ� บดั แบบตดิ กบั ทไี่ มเ่ ตมิ อากาศ หรอื ทเ่ี ราเรยี กวา่ ระบบบอ่ เกรอะบอ่ ซมึ บอ่ เกรอะมหี นา้ ที่ ในการเกบ็ กกั อจุ จาระและทำ� ใหเ้ กดิ การหมกั หมมยอ่ ยสลายโดยระบบไมใ่ ชอ้ ากาศ กากอจุ จาระ ทย่ี อ่ ยแลว้ จะตกตะกอนอยทู่ ก่ี น้ บอ่ รปู ทรงของบอ่ อาจเปน็ ทรงกระบอกหรอื สเ่ี หลย่ี มกไ็ ด้ แตค่ วาม ลกึ ของบอ่ ไมค่ วรเกนิ 2 เมตร เพราะจะทำ� ใหอ้ จุ จาระถกู ยอ่ ยสลายโดยจลุ นิ ทรยี ไ์ ดย้ าก นำ�้ ใสจาก บอ่ เกรอะจะไหลออกไปยงั บอ่ ซมึ บอ่ ซมึ จะกำ� จดั นำ�้ ทงิ้ โดยการปลอ่ ยใหซ้ มึ ไปในดนิ ระดบั ของดนิ ท่ียอมให้มีการซึมควรจะอยู่ลึกจากผิวดินไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร เพ่ือมิให้เช้ือโรคที่อาจมีการ ปนเปอ้ื นถงึ ผวิ ดนิ ได้ และสถานทที่ ำ� บอ่ ซมึ ควรคำ� นงึ ถงึ ระยะหา่ งจากแหลง่ นำ้� ดม่ื นำ้� ใชอ้ ยา่ งนอ้ ย 30 เมตร เพอื่ ปอ้ งกนั การปนเปอ้ื นตอ่ นำ�้ ผวิ ดนิ และนำ�้ ใตด้ นิ ● ระบบบำ� บดั แบบตดิ กบั ทชี่ นดิ เตมิ อากาศ เปน็ ระบบทมี่ กี ารบำ� บดั นำ�้ ปฏกิ ลู ทแ่ี หลง่ กำ� เนดิ ใหไ้ ด้ มาตรฐานกอ่ นปลอ่ ยออกสแู่ หลง่ นำ้� สาธารณะ

ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 5. จุ ดเส่ียงในหอ้ งสว้ ม หอ้ งส้วมเป็นพ้นื ท่ีท่มี กั มีการปนเปือ้ นของเชอื้ โรคท่มี าจากอุจจาระ ทำ� ใหผ้ ู้ใช้งานในหอ้ งสว้ มทไ่ี ม่สะอาด หรือมี การจดั การทไี่ มถ่ กู สขุ ลกั ษณะมโี อกาสเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคตดิ ตอ่ หรอื โรคระบบทางเดนิ อาหารทม่ี าจากการปนเปอ้ื นของ อุจจาระได้ โดยจดุ เสีย่ งทพ่ี บมากที่สุด ได้แก่ 5.1 ทจี่ ับสายฉีดนำ้� ชำ� ระ 5.2 พื้นหอ้ งสว้ ม 5.3 ทรี่ องนัง่ สว้ ม 5.4 ทก่ี ดน้�ำของโถส้วม 5.5 ท่ีกดโถปัสสาวะ 48 5.6 ก๊อกนำ้� 5.7 กลอนประตู ทีก่ ดนำ้ ของโถสวม 7.7 % กลอนประตู 7 % กอกนำ้ 2.7 % สาชยำฉรีดะน้ำ 31% 85.3% ท่รี องนั่งสวม แบบน่ังราบ พนื้ หอ งสวม 50 % รูปท่ี 32 จดุ เสีย่ งต่อการปนเปอื้ นอจุ จาระในส้วม

6. วธิ กี ารทำ� ความสะอาดส้วม 49 หอ้ งสว้ มสว่ นใหญจ่ ะอยภู่ ายนอกอาคารเรยี น เพอ่ื ปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ กี ลนิ่ รบกวน จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารดแู ลรกั ษาความ สะอาด ซง่ึ ขั้นตอนในการท�ำความสะอาดห้องสว้ มมีดงั น้ี ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 6.1 สำ� รวจดูหยากไย่ทุกวัน ถา้ พบกวาดออก และให้ทำ� ความสะอาดทันที 6.2 กรณีมีถังขยะ ควรเก็บขยะแล้วผูกปากถุงให้แน่นแล้วน�ำไปก�ำจัดให้ถูกต้องทุกวัน โดยจะต้องมีการล้าง และท�ำความสะอาดถงั ขยะอย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 1 คร้งั 6.3 ท�ำความสะอาดพ้ืน ผนัง ฉากกั้น ประตูด้านใน ประตูด้านนอก ลูกบิดประตูและกลอนประตูด้วยน้�ำยา ท�ำความสะอาด (ควรเน้นการใชน้ ้ำ� ยาชวี ภาพทดแทนการใชน้ ้�ำยาเคม)ี อยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง 6.4 ทำ� ความสะอาดและเชด็ กระจกส่องหนา้ ใหใ้ สสะอาด อยา่ งน้อยสัปดาหล์ ะ 1 ครั้ง 6.5 ขดั ล้างอ่างลา้ งหน้า กอ๊ กน้ำ� ขอบอ่าง ใต้อ่าง เนน้ พิเศษบริเวณสะดืออ่าง หลงั จากนน้ั เชด็ ใหแ้ หง้ อยา่ งนอ้ ย วันละ1 ครง้ั 6.6 ขัดล้างและทำ� ความสะอาดที่กดน�ำ้ ที่รองน่ัง โถส้วม และโถปสั สาวะ ทง้ั ด้านในและด้านนอกทกุ วนั 6.7 ท�ำความสะอาดพ้นื ห้องส้วมทกุ วนั รวมถึงการดูแลพ้ืนห้องส้วมให้แหง้ สะอาด เพอื่ ป้องกันการล่นื หกล้ม 6.8 ส�ำรวจตรวจสอบอุปกรณ์หรือสุขภัณฑ์ในห้องส้วม เช่น ระบบท่อ วาล์วปิด-เปิดน�้ำ กลอนประตู เป็นต้น ถา้ หากชำ� รุดตอ้ งมกี ารซ่อมแซมหรือเปลย่ี นใหม่ รูปท่ี 33 การทำ� ความสะอาดสว้ ม