Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มเอกสารวิจัย

เล่มเอกสารวิจัย

Published by tube38387, 2021-12-20 05:36:43

Description: เล่มเอกสารวิจัย

Search

Read the Text Version

ก บทสรปุ ผบู้ รหิ าร การวิจัยคร้ังน้ีมี วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา และความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามแบบประเมินมาตรฐานสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในพ้ืนที่เขตตรวจราชการที่ 1 ประชากรท่ีศึกษาได้แก่ สถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย ทุกสังกัด ในพ้นื ที่เขตตรวจราชการที่ 1 จำนวน 2,435 แห่ง กลุม่ ตัวอย่าง ได้แก่ สถานพัฒนา เด็กปฐมวัยทุกสังกัดและทุกจังหวัดในพื้นที่เขตตรวจราชการท่ี 1 ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัด พระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง จำนวน 343 แห่ง จากการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรคำนวณ จากประชากร 2,435 แห่ง ท่ีความคลาด เคลื่อน .05 และทำการเลอื กกลุม่ ตัวอย่างโดยการสุ่มอยา่ งงา่ ย รายละเอยี ดตามตารางท่ี 1 เคร่ืองมือท่ี ใชใ้ นการวิจัย เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) แบ่งเปน็ 3 ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นแบบตรวจสอบรายการ ตอนท่ี 2 สภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานตามแบบประเมิน มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาติ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) ตามแบบ ของลิกเคิร์ท (Likerr’s Rating Scale) รปู แบบการตอบสนองคู่ (Duel-Response Format) ระหว่าง สภาพปัจจุบัน และความต้องการ และคำถามปลายเปิด สอบถามเก่ียวกับสภาพปัญหาและความ ตอ้ งการในการดำเนินงานตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตอนท่ี 3 ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการดำเนินงาน เปน็ คำถามปลายเปิดเพ่อื ให้ผ้ตู อบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่นื ๆ สรปุ ผลการศกึ ษา การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในพ้ืนที่ เขตตรวจราชการท่ี 1 สรุปผลดงั นี้ 1. ข้อมูลท่วั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม จากการศึกษาสรุปว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง ร้อยละ 94.60 อายุ ระหว่าง40-49 ปี ร้อยละ 32.80 ตำแหน่งครูผู้สอน ร้อยละ 92.30 สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) ร้อยละ 66.80 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รอ้ ยละ 21.60 2. สภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามแบบ ประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ

ข มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัย สภาพปัญหาอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความ ต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จงั หวัดชยั นาท ระดบั ปานกลาง ไดแ้ ก่ จังหวัดลพบุรี จงั หวัดสระบุรี จงั หวัดอา่ งทอง จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา และจงั หวัดสิงห์บรุ ี ดา้ นท่ี 1 การบรหิ ารจัดการทีเ่ ป็นระบบ จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 1 การบริหารจดั การท่ีเปน็ ระบบมี สภาพปัญหา ระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี สระบุรีและจังหวัดอ่างทอง ความต้องการอยู่ ในระดับมาก ได้แก่ จงั หวดั ชยั นาท ระดบั ปานกลาง ได้แก่ จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา จังหวดั ลพบุรี จังหวัดสิงหบ์ รุ ี จังหวัด สระบุรแี ละจงั หวัดอ่างทอง ดา้ นที่ 2 การบรหิ ารจดั การบุคลากรทุกประเภทตามหนว่ ยงานทส่ี ังกัด จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 2 การบรหิ ารจัดการบุคลากรทุก ประเภทตามหนว่ ยงานที่สงั กัด มสี ภาพปัญหาระดับมาก ไดแ้ ก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความ ต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จงั หวดั อ่างทอง จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา และจังหวดั สิงห์บรุ ี ด้านที่ 3 การบรหิ ารจดั การสภาพแวดลอ้ มเพ่ือความปลอดภัย จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 3 การบริหารจัดการ สภาพแวดลอ้ มเพื่อความปลอดภัย มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จงั หวัด ลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับระดับ มาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา และจงั หวัดสิงห์บรุ ี ด้านที่ 4 การส่งเสรมิ สขุ ภาพและการเรยี นรู้ จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 4 การส่งเสริมสุขภาพ และการเรียนรู้ มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี

ค จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา จังหวดั อ่างทอง จังหวัดสระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการ อยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท และจังหวัดลพบุรี ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวดั อา่ งทอง จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา และจงั หวัดสิงห์บรุ ี ดา้ นที่ 5 การสง่ เสรมิ การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชมุ ชน จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 5 การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ครอบครัวและชุมชน มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดอ่า งทอง ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดลพบุรี ระดับปานกลาง ได้แก่ จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา จังหวัดอ่างทอง จงั หวดั สระบุรี และจังหวัดสงิ ห์บรุ ี มาตรฐานท่ี 2 คร/ู ผู้ดแู ลเด็กใหก้ ารดูแล และจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้และการเล่นเพ่ือ พัฒนาเด็กปฐมวัย จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับ ปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง จังหวัด สระบุรี และสิงห์บุรีความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดลพบุรี ระดับ ปานกลาง ได้แก่จังหวดั พระนครศรีอยุธยา จงั หวดั สงิ ห์บุรี จงั หวดั สระบรุ ี และจงั หวดั อา่ งทอง ด้านที่ 1 การดูแลและพัฒนาเดก็ อยา่ งรอบด้าน จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 1 การดูแลและพัฒนาเด็กอย่าง รอบด้าน มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสระบุรี และจังหวัดอ่างทอง ความต้องการ อยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดจังหวัดอ่างทอง จังหวัดสระบรุ ี จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา และจังหวดั สิงหบ์ ุรี ดา้ นท่ี 2 การสง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นร่างกายและดูแลสุขภาพ จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 2 การส่งเสริมพัฒนาการด้าน ร่างกายและดูแลสุขภ าพ มีสภ าพ ปัญ หาอยู่ในระดับ ปานกลาง ได้แก่ จังห วัดชัยน าท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสิงห์บุรี

ง ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดจังหวัดลพบุรี จังหวดั สระบรุ ี จงั หวดั อา่ งทอง จังหวดั พระนครศรีอยุธยา และจงั หวัดสิงห์บุรี ด้านท่ี 3 การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปญั ญา ภาษาและการสือ่ สาร จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 3 การส่งเสริมพัฒนาการด้าน สติปัญญา ภาษาและการส่ือสาร มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัด ลพบุรี จังหวัดสระบรุ ี จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา จงั หวดั อา่ งทอง และจงั หวัดสงิ ห์บุรคี วามต้องการอยู่ ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัด อา่ งทอง จังหวดั สงิ ห์บรุ ี และจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา ด้านที่ 4 การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ-สังคม ปลูกฝังคุณธรรมและความเป็น พลเมอื งดี จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านที่ 4 การส่งเสริมพัฒนาการด้าน อารมณ์จิตใจ-สังคม ปลูกฝังคุณธรรมและความเป็นพลเมืองดี มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้ แ ก่ จั งห วัด ล พ บุ รี จั งห วั ด ชั ย น าท จั งห วัด ส ระ บุ รี จั งห วั ด พ ระ น ค รศ รีอ ยุ ธ ย า จงั หวัดอ่างทอง และจังหวดั สงิ ห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบรุ ี ระดบั ปานกลาง ไดแ้ ก่ จงั หวัดสระบรุ ี จังหวดั อา่ งทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวดั สิงหบ์ ุรี ด้านท่ี 5 การสง่ เสรมิ เด็กในระยะเปลี่ยนผา่ นให้ปรับตัวสู่การเชื่อมตอ่ ในข้ันถัดไป จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านที่ 5 การส่งเสริมเด็กในระยะเปล่ียน ผ่านให้ปรับตัวสู่การเชื่อมต่อในข้ันถัดไป มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยาจังหวัดสระบุรี จังหวัด จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความ ต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา และจงั หวัดสิงหบ์ ุรี มาตรฐานท่ี 3 คณุ ภาพของเด็กปฐมวยั จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยาจังหวัด สระบรุ ี จงั หวดั จังหวดั อ่างทอง และจงั หวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัด ชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี และจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา

จ ด้านท่ี 1 เดก็ มีการเจริญเติบโตสมวัย จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านที่ 1 เด็กมีการเจริญเติบโตสมวัย มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง และ จังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัด ชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรีจังหวัดสระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอ่างทอง ดา้ นท่ี 2 เดก็ มีพัฒนาการสมวัย(ก) (กล้ามเน้ือ) จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 2 เด็กมีพัฒนาการสมวัย(ก) (กล้ามเนื้อ) มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัด พระนครศรีอยธุ ยา จังหวดั สระบุรี จงั หวัดอ่างทอง และ จงั หวัดสิงห์บรุ ี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ไดแ้ ก่ จงั หวดั ชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จงั หวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี และจังหวดั สิงห์บรุ ี จังหวัด อา่ งทอง และ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ดา้ นที่ 3 เดก็ มีการเจรญิ เตบิ โตสมวยั และมีสุขนิสยั ท่เี หมาะสม จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านที่ 3 เดก็ มกี ารเจริญเติบโตสมวัยและ มีสุขนิสัยที่เหมาะสม มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จั งห วั ด พ ระ น ค รศ รีอ ยุ ธ ย า จั งห วัด ส ระ บุ รี จั งห วัด อ่ างท อ ง แ ล ะ จั ง ห วั ด สิ งห์ บุ รี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัด ลพบรุ ี จงั หวดั อา่ งทอง จงั หวดั สงิ หบ์ ุรี และ จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา ด้าน 4 เด็กมีพฒั นาการสมวยั (ข) (ฟัน) จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 4 เด็กมีพัฒนาการสมวัย (ข) (ฟัน) มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัด ชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง และ พระนครศรอี ยุธยา ดา้ นที่ 5 เด็กมีพัฒนาการดา้ นการเคล่อื นไหว จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 5 เด็กมีพัฒนาการด้านการ เคลื่อนไหว มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี

ฉ จงั หวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสงิ หบ์ รุ ี ดา้ นที่ 6 เด็กมีพัฒนาการดา้ นอารมณ์จติ ใจ จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 6 เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัด พระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง และจงั หวดั สงิ ห์บุรี ความต้องการอยใู่ นระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัด พระนครศรีอยธุ ยา และจงั หวัดอ่างทอง ด้านที่ 7 เด็กมีพฒั นาการดา้ นสติปญั ญา เรียนรแู้ ละสรา้ งสรรค์ จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 7 เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา เรียนรู้และสร้างสรรค์ มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท จั งห วั ด พ ร ะ น ค รศ รีอ ยุ ธ ย า จั งห วั ด ส ระ บุ รี จั งห วั ด อ่ างท อ ง แ ล ะ จั งห วั ด สิ งห์ บุ รี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรีจังหวัด สระบรุ ี จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา จังหวัดอ่างทอง และ จังหวัดสงิ หบ์ ุรี ด้านท่ี 8 เดก็ มีพฒั นาการดา้ นภาษาและการส่ือสาร จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 8 เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาและ การสอ่ื สาร มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี และ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา ด้านท่ี 9 เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นสงั คม คุณธรรม มีวินัย และความเปน็ พลเมอื งดี จากการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ด้านท่ี 9 เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม คุณธรรม มีวินัย และความเป็นพลเมืองดี มีสภาพปัญหาอยู่ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ความ ต้องการอยู่ในระดับมาก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ระดับปานกลาง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวดั อ่างทอง จงั หวัดสิงหบ์ รุ ี และ พระนครศรอี ยธุ ยา

ช อภิปรายผล การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในก ารดำเนินงานของ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สรุปว่าได้ว่าท้ัง 6 จังหวัด มีสภาพปัญหาและความต้องการ ส่วนมากอยู่ใน ระดบั ปานกลางใน 3 มาตรฐาน มาตรฐานที่มีสภาพปัญหาสงู สุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รองลงมา มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การ เรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ ทั้ง 3 มาตรฐาน มาตรฐานที่มีความต้องการสูงสุด คือ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนา เด็กปฐมวัย รองลงมา มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเลน่ เพ่อื พฒั นาเดก็ ปฐมวยั และมาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย จังหวัดชัยนาท มีสภาพปัญหา สูงท่ีสุด คอื มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพฒั นาเด็ก ปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และ การเล่นเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเดก็ ปฐมวัย ความต้องการ สูงที่สุด คือ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็ก ให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 3 คณุ ภาพของเด็กปฐมวัย จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา มีสภาพปัญหา สูงทสี่ ุด คอื มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การ เรียนรู้และการเล่นเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ สูงท่ีสุด คือ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานที่ 3 คณุ ภาพของเดก็ ปฐมวัย จังหวัดลพบุรี มีสภาพปัญหา สูงที่สุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเล่นเพ่ือพัฒนาเดก็ ปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ สูงที่สุด มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็ก ปฐมวัย คือ รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐาน ที่ 3 คุณภาพของเดก็ ปฐมวยั จงั หวัดสระบุรี มีสภาพปัญหา สูงท่ีสุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจดั การสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเล่นเพ่ือพัฒนาเดก็ ปฐมวัย และมาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ สูงท่ีสุด มาตรฐานที่ 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็ก

ซ ปฐมวัย คือ รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย และมาตรฐานท่ี 1 การบริหาร จดั การสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย จังหวัดสงิ ห์บุรี มสี ภาพปัญหา สูงที่สุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการสถานพฒั นาเด็ก ปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเล่นเพื่อพัฒนาเดก็ ปฐมวัย และมาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ สูงท่ีสุด มาตรฐานท่ี 3 คณุ ภาพของเด็กปฐมวัย รองลงมา คอื มาตรฐานที่ 2 คร/ู ผดู้ ูแลเด็กให้การดูแล และจัด ประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการ สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย จังหวัดอา่ งทอง มสี ภาพปัญหา สูงท่ีสุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจดั การสถานพฒั นาเด็ก ปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย ความต้องการ สูงที่สุด คือ มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 2 ครู/ผู้ดูแล เด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนร้แู ละการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และมาตรฐานที่ 3 คณุ ภาพของเดก็ ปฐมวยั ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การนำไปใช้ 1. มีข้อมูลเพ่ือนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในการดำเนินงาน ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั แห่งชาติ 2. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีแนวทางในการดำเนินงานให้เป็นไปตามแบบประเมินมาตรฐาน สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ 3. มีการพัฒนาอบรมให้ความรู้เชิงลึก ในการดำเนินการตามแบบประเมินมาตรฐานสถาน พฒั นาเดก็ ปฐมวยั ข้อเสนอแนะเพ่ือการวจิ ัยต่อไป 1.ควรมีการศึกษาหาความสัมพันธ์ของสภาพปัญหา และความต้องการในการดำเนินงานของ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในพื้นท่ีเขต ตรวจราชการท่ี 1 2. ควรมีการวิจัยเก่ียวกับปัจจัย ส่งเสริมสนับสนุนในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวยั ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั แห่งชาติ

ฌ กติ ติกรรมประกาศ การวจิ ัยครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะไดร้ ับความกรณุ า แนะนำ ช่วยเหลอื เป็นอยา่ งดียง่ิ จาก นายปรีดี ภูสีน้ำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายศัจธร วัฒนะมงคล รองศึกษาธกิ ารภาค 1 รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการภาค 1 นางสาวปรัชญวรรณ วนานันท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 ดร.ชนิตา ไกรเพชร หัวหน้างานกลุ่มส่งเสริมวิชาการ มหาวทิ ยาลัยการกฬี าแหง่ ชาติ วิทยาเขตสมทุ รสาคร ดร. ภัสยกร เลาสวัสดิกุล คณบดคี ณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี นางพิฐชญาณ์ ไพรดำ ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดลพบุรี ดร. วิไลวรรณ เทียนประนมกร ผู้อำนวยการโรงเรียนแย้มจาด วิชชาอนุสรณ์ ว่าท่ีร้อยเอก สาคร ก่ิงจันทร์ รองศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร คุณทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ อดีตรองเลขาธิการสภาการศึกษา ดร. ช่ืนฤดี บุตะเขียว ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้เชยี่ วชาญในการตรวจสอบเครื่องมือในการวจิ ัยครัง้ นี้ผู้ วิจัยขอขอบพระคุณท่ีได้กรุณาให้แนวคิด ข้อแนะนำหลายประการ ทำให้งานวิจัยฉบับนี้สมบูรณ์มาก ย่ิงขึ้น ซงึ่ ผู้วจิ ัยขอขอบพระคุณเปน็ อยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสนี้ ขอขอบพระคุณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ในพ้ืนท่ีรับผิดชอบของสำนักงานศึกษาธิการ ภาค 1 ที่ได้กรุณา อนุเคราะห์ข้อมูลจำนวนสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเพื่อใช้ดำเนินการวิจัย และ ขอบคุณผู้บริหารและครูสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนา สังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่เขตตรวจราชการ ท่ี 1 ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการตอบแบบสอบถามและให้ขอ้ มูลอยา่ งเต็มท่ีทำให้การวิจัยครั้งน้ีสำเร็จ ในเวลาอันรวดเรว็ และขอขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลืออีกหลายทา่ น ซงึ่ ไม่สามารถกล่าวนามในทีน่ ี้ได้หมด กลุม่ ตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผล สำนักงานศึกษาธกิ ารภาค 1

สารบญั ญ บทสรปุ ผู้บริหาร หน้า กติ ติกรรมประกาศ ก-ซ สารบญั ฌ สารบญั ตาราง บทท่ี 1 1 บทนำ 1 3 1.1 ความสำคญั ของปญั หาและทีม่ าของการวจิ ัย 3 1.2 วตั ถุประสงค์ 7 1.3 ขอบเขตของการวิจัย 9 1.4 นยิ ามศพั ท์ 11 1.5 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รับจากการวิจยั 11 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง 31 2.1 มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 2.2 การประเมินคณุ ภาพโดยใชม้ าตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ 33 37 ปี พ.ศ. 2562 38 2.3 ปัญหาและความทา้ ทายของการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั 40 2.4 บทบาทของสำนักงานศกึ ษาธิการภาคในการจดั การศึกษาปฐมวยั 40 2.5 งานวิจัยที่เกีย่ วข้อง 40 3 วธิ ีดำเนนิ การวจิ ัย 42 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง 42 3.2 เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการวิจัย 44 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 45 3.4 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 45 3.5 แผนภาพข้นั ตอนการดำเนนิ งาน 48 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 4.1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 78 4.2 ผลการวิเคราะห์สภาพปญั หาและความต้องการในการดำเนินงาน ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแหง่ ชาติ 4.3 ความคิดเหน็ เก่ียวกบั ปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการดำเนินงาน ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั แหง่ ชาติ

สารบัญ (ตอ่ ) ฎ 5 สรปุ ผลการศกึ ษา อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ หนา้ 5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา 82 5.2 อภปิ รายผล 82 5.2 ข้อเสนอแนะ 87 89 บรรณานุกรม 90 ภาคผนวก ภาคผนวก แบบสอบถาม I

ฏ สารบญั ตาราง ตารางที่ 1 แสดงจำนวนประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ งที่ใช้ในการวิจยั หน้า ตารางท่ี 2 แสดงอตั ราสว่ นคร/ู ผดู้ แู ลต่อจำนวนเดก็ ในกลุ่มกิจกรรมตามช่วงอายุ 3 ตารางท่ี 3 มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแหง่ ชาติ สำหรบั เด็กแรกเกดิ - อายุ 6 ปี 18 23 (ก่อนเข้าประถมศกึ ษาปีท่ี 1) 45 ตารางที่ 4 จำนวนและร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ ตารางท่ี 5 จำนวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ 46 ตารางที่ 6 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามตำแหนง่ 46 ตารางท่ี 7 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามสงั กดั 46 ตารางที่ 8 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามจงั หวัด 47 ตารางท่ี 9 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ 48 49 รายมาตรฐาน (ภาพรวมทุกจงั หวดั ) 50 ตารางที่ 10 แสดงค่าเฉล่ยี และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถาน พฒั นาเดก็ ปฐมวัย(ภาพรวมทกุ จงั หวดั ) 51 52 ตารางท่ี 11 แสดงคา่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ 53 มาตรฐานที่ 2 ครู/ผดู้ ูแลเดก็ ให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรแู้ ละ 54 การเลน่ เพอื่ พัฒนาเดก็ (ภาพรวมทกุ จงั หวดั ) 55 ตารางที่ 12 แสดงค่าเฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเดก็ ปฐมวัย (ภาพรวมทกุ จงั หวัด) ตารางท่ี 13 แสดงค่าเฉล่ยี และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานด้าน (จังหวดั ชยั นาท) ตารางที่ 14 แสดงค่าเฉล่ยี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั (จังหวัดชัยนาท) ตารางท่ี 15 แสดงค่าเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 2 คร/ู ผู้ดแู ลเดก็ ใหก้ ารดูแล และจัดประสบการณก์ ารเรียนร้แู ละ การเลน่ เพื่อพัฒนาเด็ก (จังหวดั ชัยนาท) ตารางที่ 16 แสดงค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย (จังหวัดชัยนาท)

ฐ สารบญั ตาราง (ตอ่ ) หน้า 56 ตารางท่ี 17 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ 57 รายมาตรฐาน(จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา) 58 ตารางที่ 18 แสดงค่าเฉลีย่ และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความตอ้ งการ มาตรฐานท่ี 1 การบรหิ ารจดั การสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย 59 (จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา) 61 62 ตารางท่ี 19 แสดงค่าเฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ 63 มาตรฐานที่ 2 คร/ู ผูด้ แู ลเดก็ ใหก้ ารดูแล และจัดประสบการณ์การเรยี นรแู้ ละ การเลน่ เพื่อพัฒนาเดก็ (จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา) 64 65 ตารางที่ 20 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ 66 มาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย (จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา) 67 ตารางท่ี 21 แสดงคา่ เฉล่ียและสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ 68 รายมาตรฐาน (จงั หวดั ลพบรุ ี) ตารางที่ 22 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 1 การบรหิ ารจดั การสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (จงั หวัดลพบรุ )ี ตารางท่ี 23 แสดงค่าเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผ้ดู ูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณก์ ารเรียนรแู้ ละ การเล่น เพอื่ พัฒนาเด็ก (จงั หวัดลพบรุ ี) ตารางท่ี 24 แสดงค่าเฉลีย่ และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความตอ้ งการ มาตรฐานท่ี 3 คณุ ภาพของเดก็ ปฐมวยั (จังหวดั ลพบุร)ี ตารางที่ 25 แสดงคา่ เฉลีย่ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ รายมาตรฐาน (จังหวดั สระบรุ )ี ตารางที่ 26 แสดงค่าเฉลย่ี และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานที่ 1 การบรหิ ารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (จงั หวัดสระบรุ )ี ตารางที่ 27 แสดงค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานที่ 2 คร/ู ผู้ดแู ลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณก์ ารเรยี นร้แู ละ การเลน่ เพื่อพัฒนาเดก็ (จงั หวดั สระบรุ ี) ตารางท่ี 28 แสดงคา่ เฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย (จงั หวัดสระบุรี)

ฑ สารบัญตาราง (ต่อ) หน้า 69 ตารางที่ 29 แสดงคา่ เฉลีย่ และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ 70 รายมาตรฐาน (จังหวัดสิงหบ์ ุรี) 71 ตารางท่ี 30 แสดงคา่ เฉล่ียและสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ 72 มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพฒั นาเด็กปฐมวัย (จังหวดั สิงหบ์ ุรี) 74 75 ตารางที่ 31 แสดงค่าเฉล่ยี และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 2 คร/ู ผดู้ ูแลเด็กใหก้ ารดแู ล และจัดประสบการณ์การเรียนร้แู ละ 76 การเล่น เพ่ือพัฒนาเดก็ (จังหวดั สงิ ห์บุรี) 77 ตารางท่ี 32 แสดงค่าเฉลีย่ และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานสภาพปญั หาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 3 คณุ ภาพของเด็กปฐมวัย (จังหวดั สงิ ห์บรุ ี) ตารางท่ี 33 แสดงค่าเฉลีย่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ รายมาตรฐาน (จังหวัดอา่ งทอง) ตารางท่ี 34 แสดงคา่ เฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 1 การบรหิ ารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (จงั หวัดอา่ งทอง) ตารางที่ 35 แสดงคา่ เฉลย่ี และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานท่ี 2 ครู/ผ้ดู แู ลเดก็ ใหก้ ารดูแล และจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ และการเลน่ เพอื่ พัฒนาเดก็ (จังหวดั อ่างทอง) ตารางที่ 36 แสดงค่าเฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานสภาพปัญหาและความต้องการ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย (จังหวดั อา่ งทอง)

1 บทท่ี 1 บทนำ 1. ความสำคัญของปัญหาและที่มาของการวจิ ัย การพัฒนาเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะช่วงปฐมวัย ซ่ึงถือเป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญในการ วางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ โดยเริ่มต้ังแต่การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีสุขภาพกาย และใจที่ดี มีทักษะทางสมอง ทักษะการเรียนรู้ และทักษะชีวิต เพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ และสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพการศึกษา และสวัสดิการสังคมได้อย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้บริบท ของประเทศท่ีเปล่ียนแปลงหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายและวรรคสอ งรัฐต้อง ดำเนนิ การใหเ้ ด็กเล็กได้รับการดแู ลและพฒั นาก่อนเข้ารับการศกึ ษาตามวรรคหนึ่ง เพอ่ื พฒั นาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกบั วยั (สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา : 2562) การพัฒนาเด็กปฐมวัยมีความสำคัญยิ่ง มีหลายหน่วยงานที่ดำเนินการจัดการศึกษาสำหรับ เด็กปฐมวัย ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องมีการเช่ือมโยงกัน โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้อง เป็นการบูรณาการการ ดำเนินงานขับเคล่ือนการจัดการศึกษาปฐมวัยให้บังเกิดประสิทธิภาพ ดังนั้นการพัฒนาเด็กปฐมวัยจึงเป็นรากฐานที่มีผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของคนตลอ ดชีวิต และเป็นการลงทุนท่ีคุ้มค่าท่ีสุด กล่าวคือ เด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีมีความสามารถเรียนรู้ ทำงานได้เก่ง และเป็นพลเมืองดี ที่จะนําไปสู่ความสำเร็จในสังคมที่ท้าทายในศตวรรษท่ี 21 ต้องได้รบั โอกาสการพฒั นาอยา่ งรอบดา้ นโดยเฉพาะในช่วงปฐมวยั การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นการศึกษาก่อนภาคบังคับที่มีความสำคัญอย่างย่ิง ในการท่ีจะ ส่งเสรมิ ให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกตอ้ งเหมาะสมสอดคล้องกับวัยและพัฒนาการ ทั้งน้ีเน่ืองจากเด็กปฐมวัยซึ่งหมายถึงเด็กท่ีมีอายุระหว่าง 0 - 6 ขวบน้ัน เป็นวัยที่มีการพัฒนาของ พัฒนาการทุกด้าน และมีการเจริญเติบโตในอัตราท่ีสูงสุดโดยเฉพาะในระบบประสาทและสมอง ซ่งึ เจรญิ เติบโตถงึ ร้อยละ 80 ของผู้ใหญ่ เปน็ ระยะที่เกิดการเรียนรอู้ ย่างเตม็ ท่ี เม่ือได้รบั การส่งเสริม อย่างถูกต้องนักจิตวิทยาและนักการศึกษาท่ัวไปต่างเชื่อว่า ประสบการณ์ท่ีเด็กปฐมวัยได้รับเป็น ปัจจัยพ้ืนฐานของการพัฒนาการทุกด้านต่อเนื่องไปจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การวางรากฐาน ท่ีให้กับเด็กปฐมวัยจึงเท่ากับเป็นการเตรียมและสร้างพลเมืองท่ีดีมีคุณภาพให้กับประเทศชาติ ดังน้ันจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาปฐมวัยคือการสร้างเสริมพัฒนาการทุกด้านให้เจริญ เติบโตถึง

2 ขีดสุด ของศักยภ าพและเต รียม ความ พร้อมเพื่ อการเรียน รู้ชีวิตโด ยคุณ สม บั ติท่ี มุ่ งสร้ างเสริมคือ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่มคุณธรรม จริยธรรม วิถีชีวิตไทย สิ่งแวดล้อม และค่านิยม ความเสมอภาค ดังนั้นการจัดการศกึ ษาปฐมวัยจึงเป็นส่งิ จำเปน็ เพราะเป็นการวางรากฐานเพ่ือพฒั นา ทรัพยากรมนุษย์เสริม สร้างคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์อีกท้ังยังมีความสำคัญในฐานะท่ีเป็นจุดเริ่มต้น ของกระบวนการจัดการศกึ ษาของมนุษย์ (กระทรวงมหาดไทย,2549) มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เป็นมาตรฐานกลางของประเทศ เพ่ือให้ ทุกหน่วยงานและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ท้ังภาครัฐและเอกชนท่ัวประเทศ ใช้เป็นแนวทาง ในการประเมินผลการดำเนินงานและยกระดับคุณภาพ รวมถึงใช้เป็นเครอื่ งมอื ประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการตรวจประเมินจากต้นสังกัด และภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) โดยในการจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มหี น่วยงานท่เี กี่ยวขอ้ งมาร่วมดำเนินการ ได้แก่ กระทรวงศกึ ษาธิการ กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) นอกจากนี้ผลการวิจัยของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมาตรฐานต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น มาตรฐานคุณภาพของอาเซียน มาตรฐานความปลอดภัย คู่มือเฝ้าระวัง คัดกรอง และส่งเสริมพัฒนาการ DSPM เป็นต้น นำมาใช้ประกอบในการจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยแห่งชาติด้วย มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติถือเป็นมาตรฐานข้ันต้นที่จำเป็น สำหรับการพัฒนาเด็กของประเทศ และเป็นมาตรฐานเชิงคุณภาพเพ่ือใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน และจัดบริการให้เด็กปฐมวัยได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตอย่างมีคุณภาพและเท่ าเทียมกัน เพ่ือลด ค ว า ม เห ล่ื อ ม ล้ ำ เป็ น ก า ร เพ่ิ ม คุ ณ ภ า พ ท รั พ ย า ก ร ม นุ ษ ย์ ท่ี ส ำ คั ญ ที่ สุ ด ใน ก า ร น ำ ป ร ะ เท ศ ไท ย สู่ ความเจริญก้าวหน้า ม่ันคง ย่ังยืน ท่ามกลางความท้าทายของโลกในศตวรรษท่ี 21 นอกจากน้ี มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติเป็นเครื่องมือในการประเมินคุณภาพของการดำเนิ นงาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี บรบิ ูรณ์ หรือ ก่อนเขา้ เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ซง่ึ ใช้ไดก้ ับทุกบรบิ ท สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 จึงได้เห็นความสำคัญของกระบวนการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งยังคงมีความแตกต่างและความหลากหลาย รวมทั้งไม่ตรงกับประเด็นตัวชี้วัดตามแบบประเมิน มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยแห่งชาติ (การติดตามผลการจัดการศกึ ษาปฐมวัยในพื้นที่รับผิดชอบ ของสำนักงานศึกษาธิการภาค 1,2563) ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการภาค ดำเนินการในการดูแลกำกับ ติดตาม การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ ดังนั้นเพ่ือให้การพัฒนาเด็กปฐมวัยได้อย่าง มีคุณภาพตามความต้องการและสอดคล้องแนวนโยบายที่รัฐมุ่งหวัง สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 จึงได้ทำการวิจัยศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 ในพ้ืนที่เขตตรวจราชการท่ี 1

3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยดำเนินการในพืน้ ท่ีกลุม่ จังหวัดภาคกลางตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี และจังหวัด อ่างทอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาการศึกษาในทุกมิติ ทุกช่วงวัยตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย แห่งชาติขนึ้ ในพื้นทร่ี ับผิดชอบ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่ือศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ ในพ้ืนทีเ่ ขตตรวจราชการที่ 1 2.2 เพื่อศึกษาความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการดำเนินงานของ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในพ้ืนที่ เขตตรวจราชการท่ี 1 3. ขอบเขตการวิจัย การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนินงาน ของสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัยตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในพ้ืนท่ีเขตตรวจ ราชการที่ 1 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรท่ีศึกษาได้แก่ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ทุกสังกัด ในพ้ืนท่ีเขตตรวจราชการที่ 1 จำนวน 2,435 แหง่ กล่มุ ตวั อย่าง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดและทุกจังหวัดในพื้นท่ีเขตตรวจราชการ ท่ี 1 ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง จำนวน 343 แห่ง จากการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรคำนวณ จาก ประชากร 2,435 แห่ง ท่ีความคลาดเคลื่อน .05 และทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มอย่างง่าย รายละเอยี ดตามตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 แสดงจำนวนแสดงประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ งทีใ่ ชใ้ นการวิจัย ลำดับ จังหวดั สังกดั ชอ่ื หน่วยงาน จำนวน จำนวนกลมุ่ ประชากร ตวั อย่าง ท่ี (แห่ง) (แหง่ ) 1 ลพบรุ ี กระทรวงมหาดไทย ศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก 213 30 องค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถิ่น 81 กระทรวงการพัฒนาสงั คม สถานรบั เลยี้ งเด็ก และความมนั่ คงของมนษุ ย์ เอกชน

4 ลำดับ จงั หวัด สังกัด ชื่อหน่วยงาน จำนวน จำนวนกลุ่ม ท่ี ประชากร ตวั อย่าง ศูนย์เด็กเลก็ ใน (แห่ง) กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล (แหง่ ) 1 1 กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรยี นอนุบาล 287 40 (สำนักงาน 2 สิงหบ์ ุรี กระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการ 31 4 กระทรวงศึกษาธกิ าร การศกึ ษา ขนั้ พืน้ ฐาน) 75 11 3 อา่ งทอง กระทรวงมหาดไทย โรงเรียนอนุบาล 97 14 กระทรวงศึกษาธิการ เอกชน (สำนกั งาน คณะกรรมการสง่ เสรมิ 12 2 การศกึ ษาเอกชน) ศูนย์พฒั นาเด็กเลก็ 115 16 องค์กรปกครองส่วน 138 19 ท้องถ่นิ โรงเรยี นอนุบาล (สำนกั งาน คณะกรรมการ การศกึ ษา ข้นั พนื้ ฐาน) โรงเรียนอนบุ าล เอกชน (สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน) ศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก องค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ โรงเรียนอนบุ าล (สำนกั งาน คณะกรรมการ

5 ลำดับ จังหวดั สังกดั ช่ือหนว่ ยงาน จำนวน จำนวนกลุ่ม ท่ี ประชากร ตัวอย่าง การศึกษา (แห่ง) 4 ชยั นาท กระทรวงมหาดไทย ข้ันพื้นฐาน) (แห่ง) โรงเรยี นอนุบาล 1 กระทรวงการพฒั นา เอกชน (สำนักงาน 8 สงั คมและความม่ันคง คณะกรรมการสง่ เสริม 16 ของมนุษย์ การศกึ ษาเอกชน) 115 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ศูนย์พัฒนาเด็กเลก็ 1 องค์กรปกครองสว่ น 4 ทอ้ งถนิ่ สถานรับเลีย้ งเด็ก เอกชน 5 สระบรุ ี กระทรวงมหาดไทย โรงเรียนอนบุ าล 165 23 (สำนักงาน กระทรวงการพัฒนา คณะกรรมการ 10 1 สงั คมและความมั่นคง การศกึ ษา 186 26 ของมนุษย์ ขนั้ พน้ื ฐาน) 6 1 กระทรวงสาธารณสุข โรงเรยี นอนบุ าล เอกชน (สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน) ศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ องค์กรปกครองสว่ น ท้องถนิ่ สถานรบั เล้ียงเด็ก เอกชน ศนู ย์เดก็ เลก็ ใน 21 โรงพยาบาล

6 ลำดบั จงั หวัด สังกัด ชื่อหนว่ ยงาน จำนวน จำนวนกลุ่ม ที่ ประชากร ตัวอยา่ ง (แห่ง) (แหง่ ) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โรงเรยี นอนุบาล 254 35 (สำนักงาน คณะกรรมการ การศกึ ษา ข้นั พน้ื ฐาน) โรงเรียนอนุบาล 30 4 เอกชน (สำนกั งาน คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษาเอกชน) 6 พระนครศรี กระทรวงมหาดไทย ศูนย์พัฒนาเด็กเลก็ 308 43 อยุธยา องค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ กระทรวงการอดุ มศึกษา โรงเรยี นอนุบาลสาธิต 1 1 วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและ ในมหาวทิ ยาลยั นวัตกรรม กระทรวงศกึ ษาธิการ โรงเรียนอนบุ าล 335 46 (สำนักงาน คณะกรรมการ การศกึ ษา ขน้ั พนื้ ฐาน) โรงเรียนอนบุ าล 32 5 เอกชน (สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษาเอกชน) รวม 2,435 343 หมายเหตุ : ในการวิจัยคร้ังน้ีไม่ได้เก็บข้อมูลสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยสังกัดกระทรวงกลาโหมเนื่องจาก ไมไ่ ด้มีการดำเนินงานตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ

7 3.2 ตัวแปรท่ีศึกษา ตัวแปรต้น ได้แก่ 1) สงั กดั ของสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ประกอบดว้ ย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม และ กระทรวงศึกษาธิการ 2) บทบาท ประกอบด้วย ผูบ้ ริหาร และครูผสู้ อน ตัวแปรตาม ไดแ้ ก่ 1) สภาพปัญหาและความต้องการในการดำเนนิ งานตามแบบประเมนิ มาตรฐาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวยั แหง่ ชาติ ประกอบดว้ ย • มาตรฐานด้านที่ 1 การบรหิ ารจัดการสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั • มาตรฐานดา้ นท่ี 2 คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ให้การดูแล และจดั ประสบการณ์การเรียนรู้และ การเลน่ เพ่ือพฒั นาเดก็ ปฐมวัย • มาตรฐานดา้ นที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวยั 2) ความคิดเหน็ เกีย่ วกับปัญหา อปุ สรรคและแนวทางในการดำเนนิ งานตามแบบ ประเมนิ มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาตขิ องสถานศึกษา 3.3 ขอบเขตดา้ นเนื้อหา การดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยแห่งชาติของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยปี พ.ศ. 2562 ที่พัฒนาโดยสำนักงานเลขาธิการสภา การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3.4 ขอบเขตดา้ นเวลา ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 3.5 ขอบเขตด้านสถานท่ี สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ประกอบด้วย สังกัดกระทรวงมหาดไทย สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ สังกัดกระทร วงสาธารณสุข สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ใน พื้นที่เขตตรวจราชการท่ี 1 ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัด สระบรุ ี จังหวัดสิงหบ์ ุรี และจงั หวัดอ่างทอง 4. นยิ ามศพั ท์ สภาพปัญหาการดำเนนิ งานของสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ หมายถึง การดำเนินงานตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัยแห่งชาติของสถานศึกษาสังกัดต่าง ๆ ที่จัดการศึกษาปฐมวัย รวมท้ังส่ิงที่เป็นข้อขัดข้อง หรือ อปุ สรรค ในการดำเนนิ งาน

8 ความต้องการในการดำเนินงานตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย แหง่ ชาติ หมายถึง สิ่งทีเ่ ปน็ ความต้องการในการดำเนนิ งานของสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ตามมาตรฐาน สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ การประเมิน หมายถึง กระบวนการพิจารณาตัดสินคุณภาพ หรือคุณลักษณะของพฤติกรรม ของนักเรยี นปฐมวัย ซึ่งวัดจากการแสดงพฤติกรรมของนกั เรยี น หรือการกำหนดตวั เลขให้กับคุณลักษณะ ของนักเรียนที่แสดงออกจากการสังเกต หรือทดสอบแล้วกำหนดตัวเลข หรือคะแนนให้กับสิ่งท่ีวัด ตามเกณฑท์ ี่กำหนดไว้ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หมายถึง สถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย หรือที่ เรียกว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยแหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กซึ่งมีอายุยังไม่ครบหกปีบริบูรณ์ และให้หมายความรวมถึง ทารก ในครรภม์ ารดาดว้ ย ตามระเบยี บสำนกั นายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการพัฒนาเด็กปฐมวยั พ.ศ. 2551 แบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หมายถึง เครื่องมือในการประเมินคุณภาพ ของการดำเนนิ งานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยทกุ สงั กัด ที่ดูแลเดก็ ในเวลากลางวัน ช่วงอายุต้ังแต่แรกเกิด ถึงอายุ 6 ปีบริบูรณ์ หรือ ก่อนเข้าเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ประกอบด้วย พัฒนาโดยสำนักงาน เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย มาตรฐานดา้ นท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั หมายถงึ การดำเนินงานของ สถานศกึ ษาตามตัวบง่ ชี้ทีก่ ำหนด ดังน้ี ตวั บ่งช้ที ี่ 1.1 การบรหิ ารจัดการอยา่ งเป็นระบบ ตวั บง่ ชที้ ่ี 1.2 การบริหารจดั การบคุ ลากรทุกประเภทตามหน่วยงานท่สี งั กดั ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.3 การบรหิ ารจัดการสภาพแวดลอ้ มเพ่ือความปลอดภยั ตัวบ่งชท้ี ่ี 1.4 การจัดการเพ่ือสง่ เสรมิ สขุ ภาพและการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ 1.5 การสง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ มของครอบครวั และชมุ ชน มาตรฐานดา้ นท่ี 2 ครู/ผูด้ ูแลเด็กใหก้ ารดูแล และจดั ประสบการณ์การเรยี นรูแ้ ละการเล่น เพอื่ พฒั นาเดก็ ปฐมวัย ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2.1 การดูแลและพัฒนาเด็กอยา่ งรอบด้าน ตวั บ่งชี้ที่ 2.2 การส่งเสริมพฒั นาการดา้ นร่างกายและดแู ลสุขภาพ ตวั บ่งช้ีท่ี 2.3 การสง่ เสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ภาษาและการสอ่ื สาร ตัวบ่งชี้ท่ี 2.4 การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ-สังคม ปลูกฝังคุณธรรม และ ความเป็นพลเมืองดี ตัวบ่งช้ีที่ 2.5 การส่งเสริมเด็กในระยะเปล่ียนผ่านให้ปรับตัวสู่การเช่ือมต่อในข้ัน ถัดไป มาตรฐานดา้ นที่ 3 คณุ ภาพของเดก็ ปฐมวัย สำหรบั เด็กแรกเกิด - อายุ 2 ปี (2 ปี 11 เดอื น 29 วัน)

9 ตัวบง่ ชีท้ ่ี 3.1 ก ตวั บ่งช้ีท่ี 3.2 ก สำหรับเด็ก อายุ 3 ปี - อายุ 6 ปี (กอ่ นเขา้ ประถมศึกษาปีท่ี 1) ตวั บ่งชท้ี ่ี 3.1 ข เดก็ มีการเจริญเติบโตสมวยั และมีสุขนิสยั ท่ีเหมาะสม ตวั บ่งชท้ี ่ี 3.2 ข เด็กมีพฒั นาการสมวยั ตัวบ่งชี้ที่ 3.3 ข เด็กมีพัฒนาการดา้ นการเคล่ือนไหว ตัวบ่งชีท้ ่ี 3.4 ข เดก็ มีพัฒนาการดา้ นอารมณจ์ ิตใจ ตวั บ่งชี้ท่ี 3.5 ข เดก็ มีพัฒนาการด้านสติปญั ญา เรียนร้แู ละสรา้ งสรรค์ ตัวบง่ ช้ที ่ี 3.6 ข เดก็ มีพฒั นาการด้านภาษาและการส่ือสาร ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.7 ข เด็กมพี ัฒนาการด้านสังคม คุณธรรม มีวินัยและความเป็นพลเมืองดี เขตตรวจราชการท่ี 1 หมายถึง เขตตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ ารท่ี ...../..... รับผิดชอบ 6 จังหวัดได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัด พระนครศรีอยธุ ยา จังหวัดลพบรุ ี จังหวัดสระบรุ ี จงั หวดั สิงห์บรุ ี และจังหวดั อ่างทอง 5. ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ บั จากการวิจัย 5.1 สถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาปฐมวัยทุกสังกัดในพ้ืนท่ีเขตตรวจราชการท่ี 1 มีแนวทาง การดำเนินการ ตามแบบประเมินมาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาตทิ ี่สอดคล้องความตอ้ งการ ตามนโยบายทกี่ ำหนดซ่งึ จะเปน็ ประโยชนใ์ นการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาปฐมวัยอยา่ งสงู สุด 5.2 เด็กปฐมวัยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 1 ได้รับการพัฒนาครบทุกด้านทั้ง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

กรอบแนวคิดการวจิ ยั 10 ตัวแปรตน้ ตัวแปรตาม สงั กดั สถานศึกษาทจี่ ดั การศึกษาปฐมวัย # สภาพปัญหาและความต้องการตามแบบ 1) กระทรวงมหาดไทย: ศนู ย์พฒั นาเดก็ เล็กองค์กร ประเมินมาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัย ปกครองสว่ นท้องถิ่น และโรงเรียนอนบุ าล แหง่ ชาติ 2) กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมัน่ คง • มาตรฐานด้านที่ 1 การบริหารจดั การสถาน ของมนุษย:์ สถานรับเล้ียงเด็กเอกชน พัฒนาเด็กปฐมวัย 3) กระทรวงสาธารณสุข: ศนู ยเ์ ด็กเลก็ ใน • มาตรฐานด้านที่ 2 คร/ู ผ้ดู แู ลเด็กให้การดูแล โรงพยาบาล และจดั ประสบการณ์การเรียนร้แู ละการเลน่ เพือ่ 4) กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และ พัฒนาเดก็ ปฐมวยั นวัตกรรม: โรงเรียนอนุบาลสาธติ ในมหาวทิ ยาลยั • มาตรฐานดา้ นท่ี 3 คณุ ภาพของเด็กปฐมวยั 5) กระทรวงศึกษาธกิ าร: โรงเรียนอนุบาล # ความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ปญั หา อปุ สรรคและ (สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน) แนวทางในการดำเนินงานตามแบบประเมิน และโรงเรียนอนุบาลเอกชน (สำนักงาน มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ คณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน) ของสถานศึกษา ภาพประกอบท่ี 1.1 กรอบแนวคิดการวจิ ัย

11 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาและความต้องการในดำเนินงานของ สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยตามแบบประเมนิ มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาติ ในพ้นื ที่เขตตรวจ ราชการที่ 1 นำเสนอตามหวั ขอ้ ดงั น้ี 1. มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 1.1 ความเปน็ มาของการจดั ทำมาตรฐานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 1.2 สาระสำคญั ของมาตรฐานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 1.3 บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำมาตรฐานมาตรฐานพัฒนาเด็กปฐมวัย แห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 ไปปฏบิ ัติ 1.4 การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาระดับปฐมวัยของสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั 1.5 การจดั การศกึ ษาปฐมวัย 2. การประเมนิ คณุ ภาพโดยใชม้ าตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 3. ปญั หาและความท้าทายของการพฒั นาเดก็ ปฐมวัย 4. บทบาทของสำนักงานศึกษาธิการภาคในการจัดการศึกษาปฐมวัย 5. งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวข้อง 1. มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 1.1 ความเป็นมาของการจดั ทำมาตรฐานพฒั นาเด็กปฐมวยั แห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) ได้เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพัฒนา คุณภาพเด็กปฐมวัย จัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติขึ้นเป็นมาตรฐานกลาง ให้ ทุ กห น่ วยงาน ใช้ร่วมกัน ใน การป ระเมิน เพ่ื อพั ฒ น าคุณ ภ าพ การบ ริการดูแลพั ฒ น า และจัดการศึกษาสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษา โดยมีการประสานงาน คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ท้ังสองคณะ (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และอนุบาล) ร่วมกับคณะทำงาน ปรับปรุงมาตรฐานฯ คณะอนุกรรมการประสานและส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย คณะกรรมการ ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) นับว่าเป็นการปรับกระบวนทัศน์ ให้ใช้เด็ก เป็นท่ีตั้งของการกำหนดมาตรฐาน คำนึงถึงการตอบสนองต่อสิทธิพ้ืนฐานท่ีเด็กทุกคนพึงได้รับ ซ่ึงถือเป็นการวางรากฐานการพัฒนามนุษย์แทนการใช้บริบทหรือหน่วยงานต้นสังกัดเป็นท่ีตั้ ง การมีมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติฉบับเดียวเป็นมาตรฐานกลางให้ทุกหน่วยงาน ร่วมจัดทำร่วมใช้เป็นหลักประเมินการดำเนินงานให้เป็นแนวทางเดียวกันและประสานงาน

12 เพ่ือมุ่งเป้าหมายเดียวกัน คือการพัฒนาคุณภาพ จึงจำเป็น ที่จะต้องจดั ทำคู่มือมาตรฐานสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยแห่งชาติที่ชัดเจนสามารถนำไปใช้ประเมิน เพ่ือพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพในบริบท ต่างๆ โดยผู้ใช้มีภูมิหลังและมาจากต้นสังกัดที่แตกต่างกัน การจัดทำคู่มืออันนำไปสู่การปฏิบัติดำเนิน ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท้ัง 3 ด้าน ตามตัวบ่งชี้ และ แบบประเมนิ ต้องสร้างความเข้าใจ มีข้อมูลที่เหมาะกับการใช้งานและแหล่งอ้างอิงเพ่ือเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติอย่างทั่วถึงนำไปสู่ การพัฒนาคุณภาพของเด็กปฐมวัย สร้างรากฐานที่แข็งแรงของพลเมืองคุณภาพต่อไป การขับเคลื่อน มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติไปสกู่ ารปฏบิ ัติมีดงั น้ี 1. สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ กระบวนการประเมิน ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติด้วยการใช้มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ สำหรับ บุคลากรผู้รับผิดชอบด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยใน 4 กระทรวงหลัก และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน 2. จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการขับเคล่ือนมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เพ่ือบูรณาการการพฒั นาเด็กปฐมวัยใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธิผลอยา่ งเปน็ รปู ธรรม 3. ดำเนินการให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ 4 กระทรวง และภาคี เครือข่ายดำเนนิ งานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติอย่างทว่ั ถึง เชน่ เผยแพร่ ในระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี ในเว็บไซต์ออนไลน์ สร้างความตระหนักในสื่อสาธารณะ เพ่อื ใหค้ รอบครัวและสงั คมมี ส่วนรว่ มรบั รู้ และพัฒนาคณุ ภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั 4. มีการพัฒนาพิจารณารวบรวมข้อมูล สรุปผลการติดตาม และรายงานความก้าวหน้า ผลการขับเคล่ือนมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติสู่การปฏิบัติ ในระดับท้องถ่ิน อำเภอ รายงานต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด เพ่ือเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริม การพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ .) หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รายงานต่อคณะกรรมการพัฒนาเด็ก ปฐมวยั แหง่ ชาติ (ก.พ.ป.) เสนอตอ่ คณะรฐั มนตรี ปีละ 1 ครงั้ เพอื่ พฒั นาคุณภาพต่อไป 1.2 สาระสำคัญของมาตรฐานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 ความสำคญั ของเด็กปฐมวัย ความสำคัญของเด็กปฐมวัย ปฐมวัยเป็นวัยเร่ิมต้นของชีวิตและพัฒนาการในทุกด้าน เป็นช่วงวัยที่พัฒนาการทางด้านต่างๆ เป็นไป อย่างรวดเร็วที่สุดและเป็นฐานรากท่ีสำคัญสำหรับ พัฒนาการในช่วงวัยต่อๆ ไป เด็กในวัยนี้จึงเป็นทรัพยากรบุคคลท่ีมีความสำคัญอย่างย่ิงของประเทศ เด็กปฐมวัยท่ีได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดีมีคุณภาพ และจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต ดังคำกล่าวของ ศ.ดร.เจมส์ เจ เอคแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ปี พ.ศ. 2542 ท่ีว่า “การลงทุนพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นการลงทุน ทค่ี ุ้มคา่ ให้ผลตอบแทนแก่สังคมทด่ี ที ่สี ดุ ในระยะยาว”

13 ดงั นั้น การพัฒนาเด็กปฐมวัยจงึ เป็นรากฐานทีม่ ผี ลตอ่ คุณภาพและประสิทธภิ าพของคนตลอด ชี วิต แ ล ะเป็ น ก ารล งทุ น ท่ี คุ้ ม ค่ าที่ สุ ด ก ล่ าว คื อ เด็ ก เย าว ช น แ ล ะผู้ ให ญ่ ท่ี มี สุ ข ภ าพ ดี มีความสามารถเรียนรู้ ทำงานได้เก่ง และเป็นพลเมืองดีท่ีจะนำสู่ความสำเร็จในสังคมท่ีท้าทาย ในศตวรรษท่ี 21 ต้องได้รับโอกาสการพัฒนาอย่างรอบด้านในช่วงปฐมวัย แต่คุณภาพของเด็กปฐมวัย ยังเป็นจุดอ่อนท่ีเข้าข้ันวกิ ฤตของประเทศไทยทจี่ ำเป็นต้องแก้ไขอย่างเรง่ ด่วน รฐั และทุกภาคส่วน พ่อ แม่ผู้ปกครอง ครอบครัว ชุมชน สังคม บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ครู/ผู้ดูแลเด็ก โรงเรียน องค์กรท้องถิ่นทุกระดับ บุคลากรพัฒนาสังคมท้ังภาครัฐ เอกชน ภาคศาสนาและภาคธุรกิจ จึงต้องมีความร้คู วามเข้าใจในความสำคัญของช่วงปฐมวัย ตระหนักในพันธกิจและลงมือช่วยกันทำให้ เด็กปฐมวัยมโี อกาสพฒั นาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพในภาวะแวดล้อมทีป่ ลอดภัย “เด็กปฐมวัย” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒ นาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2551 ได้ให้ความหมายของเด็กปฐมวัยว่า หมายถึง เด็กซึ่งมีอายุยังไม่ครบหกปีบริบูรณ์ และใหห้ มายความรวมถึง ทารกในครรภ์มารดาดว้ ย อุดมการณ์และหลกั การในการจดั การศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั ของชาติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา เด็กปฐมวยั ไวห้ ลายมาตรา คือ มาตรา 54 วรรคสอง กำหนดว่า “...รัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแล และพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา เพ่ือพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ให้สมกับวัย โดยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วม ในการดำเนนิ การดว้ ย” มาตรา 258 ให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศให้เกิดผล จ. ด้านการศึกษา (1) ให้สามารถเร่ิม ดำเนินการให้เดก็ เล็กไดร้ ับการดูแลและพัฒนากอ่ นเขา้ รับการศึกษา ตามมาตรา 54 วรรคสอง เพ่ือให้ เด็กเล็กได้รับการพัฒ นาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญ ญ าให้สมกับวัย โดยไม่เก็บค่าใช้จา่ ย พ ระราช บั ญ ญั ติการศึกษ าแห่ งช าติ พ .ศ. 2542 และท่ี แก้ไขเพ่ิ ม เติมฉบั บ ที่ 2 (พ.ศ. 2545) และ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2553) มาตรา 18 (1) กำหนดให้การจัดการศึกษาปฐมวัย จัดในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้แก่ ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ ของสถาบันศาสนา ศนู ย์บริการช่วยเหลือระยะ แรกเริ่มของเดก็ พิการและเด็กซ่ึงมีความต้องการพิเศษ หรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีเรียกชื่ออย่างอื่น และมาตรา 13 (1) ให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ในการสนับสนุนจากรัฐ ให้มีความรู้ ความสามารถในการอบรมเล้ียงดู และการใหก้ ารศกึ ษาแกบ่ ุตรหรอื บคุ คลซงึ่ อยู่ในความดูแล แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 ในยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพ คนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายข้อ 3.3 สถานศึกษาทุกระดับการศึกษา สามารถจัดกจิ กรรม/ กระบวนการเรียนร้ตู ามหลักสูตรอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน มีตัวชี้วัดที่สำคัญ

14 เช่น ศูนย์เด็กเล็ก/สถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้คุณภาพ และมาตรฐานเพ่ิมขึ้น สถานศึกษา/สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยจัดกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับหลักสูตร ปฐมวัย และสมรรถนะของเด็กท่ีเชื่อมโยงกับมาตรฐานคุณภาพเด็กปฐมวัยของอาเซียนเพิ่มข้ึน ส ถ าน ศึ ก ษ าใน ระดั บ ก ารศึ ก ษ าข้ั น พื้ น ฐ าน ท่ี จั ด ก ารศึ ก ษ าต าม ห ลั ก สู ต รที่ มุ่ งพั ฒ น าผู้ เรี ย น ให้ มี คุณลกั ษณะและทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21 เพิ่มขนึ้ โดยแนวทางการพัฒนาส่งเสริมให้เด็กเล็ก (0 - 2 ปี) ได้รับการดูแลและพัฒนาท่ีสมวัยรอบ ด้านอย่างมีคุณภาพและต่อเน่ือง มีการปรับระบบการบริหารจัดการการดูแลและพัฒน าเด็กเล็ก (0 - 2 ปี) และการศึกษาปฐมวัย (3 - 5 ปี) ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งพัฒนาหลักสูตร และคู่มือการเตรียมความพร้อมพ่อแม่และการเล้ียงดูและพัฒนาเด็กเล็กให้มีพัฒนาการตามวัย และพัฒนาหลักสูตรการศึกษาระดับปฐมวัย สมรรถนะ เด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาเซียน และระดบั สากล เพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพและพฒั นาการรอบด้านสมวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2561 - 2564 ได้กำหนดนโยบาย ดา้ นเดก็ ปฐมวยั ไว้ดังนี้ 1. เด็กปฐมวัยทกุ คนต้องได้รบั การพัฒนาอย่างรอบด้าน อยา่ งมคี ุณภาพตามศักยภาพ ตามวัย และต่อเนอื่ ง 2. การพัฒ นาเด็กตามข้อ 1 ต้องจัดให้เป็นระบบและมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยบูรณาการชัดเจนระหว่างหน่วยงานราชการและที่ไม่ใช่ราชการระหว่างวิชาชีพที่สัมพันธ์ กับการพัฒนาเด็กปฐมวัยและระหว่างระดับต่างๆ ของการบริหารราชการแผ่นเดินจากระดับชาติ สว่ นกลาง ส่วนภูมภิ าค และส่วนท้องถิน่ 3. รัฐและทุกภาคส่วนต้องร่วมกันระดมทรัพยากรให้เพียงพอแก่การพัฒนาเด็กปฐมวัยตาม นโยบาย ขอ้ 1 นอกจากนี้ ได้ใหค้ วามสำคญั กับการพัฒนาคณุ ภาพเดก็ ปฐมวัย โดยกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการท่ีพัฒนาเด็กปฐมวัย เป้าประสงค์ท่ี 1 สถานพัฒนา เด็กปฐมวัยทุกแห่งได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ และ เป้าประสงค์ท่ี 2 คุณภาพของระบบบริการและระบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้รับการปรับปรุงให้ เป็นไปตามมาตรฐานสถานพฒั นา เด็กปฐมวัยแหง่ ชาติ เห ตุ ผ ล ท่ี ต้ อ งมี ม า ต ร ฐ า น ส ถ า น พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย แ ห่ ง ช า ติ ใน ปั จ จุ บั น ป ร ะ เท ศ ไท ย มีเด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกดิ ถงึ อายุ 6 ปี ที่มีพัฒนาการไมส่ มวัยเป็นจำนวนมากนับเป็นวกิ ฤตร้ายแรงต่อ การพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการสร้างประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ม่ันคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในสภาพสังคมท่ีบิดามารดาและผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความจำเป็น ต้องพาเด็กปฐมวัยไปรับบริการการดูแลและพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ท่ีมีคุณภาพแตกต่าง เหลื่อมล้ำกันมากระหว่างกลุ่มมีโอกาสกับกลุ่มด้อยโอกาส ระหว่างการจัดการศึกษาเร่งเรียน จนเครียดกับแบบละเลยขาดความเอาใจใส่ ดังน้ันการพัฒนาคุณภาพของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

15 ให้เหมาะสมกบั พัฒนาการของเด็ก จึงเป็นความจำเป็น เร่งด่วนทั้งจากมุมมองของการพัฒนาคุณภาพ มนษุ ย์และการปฏิรูปการศกึ ษา ที่ผ่านมาประเทศไทยมีหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง องค์กรท้องถิ่น เอกชนจัดบริการดูแล พัฒนาและจัดการศกึ ษาเดก็ ปฐมวัยหลากหลายรูปแบบ โดยแตล่ ะหน่วยงานมีมาตรฐานและเกณฑ์การ ประเมินแตกต่างกัน ตามภารกิจของหน่วยงาน แมจ้ ะมีการจัดทำมาตรฐานศนู ยเ์ ด็กเล็กแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ในทางปฏิบัติมี มาตรฐานหลากหลายจากหน่วยงานต่างๆ ที่เน้นการประเมินตามภารกิจของ หน่วยงานและข้อจำกัดของการใช้มาตรฐานเดิม ท่ีครอบคลุมเฉพาะเด็กอายุ 2-5 ปี เท่าน้ัน ไม่ครอบคลุมเด็กปฐมวัยต้ังแต่แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษา สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ ยงั ตอ้ งใชห้ ลายมาตรฐานทำใหผ้ ู้ปฏบิ ัติสับสนและ ต้องทำงานซ้ำซอ้ นและยงั ไม่ได้นำผลการประเมนิ ไป พัฒนาเทา่ ท่คี วร ความก้าวหน้าในการพัฒนาเด็กปฐมวัยของภาคส่วนต่างๆ ได้มีหน่วยงานร่วมกันดำเนินงาน อย่างหลากหลาย เช่น การเพ่ิมโอกาสให้ครู ผู้ดูแลเด็กได้รับการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาปฐมวัย โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ ครอบคลุมท่ัวประเทศ การมีมาตรฐานความปลอดภัยการบูร ณาการงานภายในกระทรวง และการบูรณาการงานของ 4 กระทรวงหลัก ตลอดจนรัฐธรรมนูญฉบับ ใหม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและให้การศึกษาที่เหมาะสมแก่ เด็กปฐมวัย ดังน้ันจึงจำเป็นต้องมี การจดั ทำมาตรฐานกลาง ท่ที ุกภาคส่วนจะใช้ร่วมกันได้ คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) จึงเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพัฒนา คุ ณ ภ าพ เด็ ก ป ฐ ม วั ย จั ด ท ำม า ต ร ฐ าน ส ถ า น พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย แ ห่ งช าติ ข้ึ น เป็ น ม า ต ร ฐ า น ก ล า ง ให้ ทุ กห น่ วยงาน ใช้ร่วมกัน ใน การป ระเมิน เพ่ื อพั ฒ น าคุณ ภ าพ การบ ริการดูแลพั ฒ น า และจัดการศึกษาสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาเป็นการปรับกระบวนทัศน์ ให้ใช้เด็กเป็นท่ีต้ังของการกำหนดมาตรฐาน คำนึงถึงการตอบสนองต่อสิทธิพ้ืนฐานที่เด็กทุกคน พึงได้รับ ซ่ึงถือเป็นการวางรากฐานการพัฒนามนุษย์แทนการใช้บริบทหรือหน่วยงานต้นสังกัด เป็นที่ต้ัง การมีมาตรฐานสถาน พัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติฉบับเดียวเป็นมาตรฐานกลาง ให้ทุกหน่วยงานร่วมจัดทำ ร่วมใช้เป็นหลักประเมินการด ำเนินงานให้เป็นแนวทางเดียวกัน และประสานงาน เพ่ือมุ่งเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนาคุณภาพซึ่งสอดคล้องและตอบสนองต่อ การบูรณาการงานพฒั นาเด็กปฐมวยั ของ 4 กระทรวงหลักและอกี หลายหนว่ ยงาน ตามบันทกึ ขอ้ ตกลง ความร่วมมือการบูรณ าการความร่วมมือการพัฒ นาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มเด็ กปฐมวัย และผู้สูงอายุ) เม่ือวันท่ี 30 มีนาคม พ.ศ. 2560 นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของเด็กปฐมวัย สรา้ งรากฐานท่แี ขง็ แรงของพลเมอื งคุณภาพต่อไป

16 วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือพัฒ นาคุณ ภาพ การบริการดูแลพัฒ นาและจัดการศึกษาและการดำเนินงาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุต้ังแต่แรกเกิด ถึง อายุ 6 ปี บริบูรณ์ หรือก่อนเข้าเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ที่สามารถนำไปใช้ประเมินการดำเนินงาน ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในทุกสังกัด เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดบริการและความต่อเน่ืองของการ พัฒนาเดก็ ปฐมวยั กลมุ่ เปา้ หมาย สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หมายถึง สถานท่ีรับดูแล พัฒนาจัดประสบการณ์เรียนรู้ และการศกึ ษาสำหรับเดก็ ปฐมวัยครอบคลุมตงั้ แตท่ ารกแรกเกิดถึง 6 ปหี รือกอ่ นเข้าเรยี นประถมศกึ ษา ปีที่ 1 ที่ใช้ชือ่ หลากหลายรวมทุกสังกัดในประเทศไทย ไดแ้ ก่ 1. กระทรวงมหาดไทย : ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน และโรงเรียนอนบุ าล 2. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย:์ สถานรบั เล้ยี งเดก็ เอกชน 3. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน (สำนักพัฒนาสังคม) สถานรับเลี้ยงเด็ก กลางวนั (สำนกั อนามัย) และโรงเรยี นอนบุ าล (สำนกั การศกึ ษา) 4. กระทรวงสาธารณสุข : ศูนย์เดก็ เล็กในโรงพยาบาล 5. กระทรวงศึกษาธิการ : โรงเรียนอนุบาล (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน) และ โรงเรยี นอนบุ าลเอกชน (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน) 6. หน่วยงานอ่ืนๆ เช่น โรงเรียนอนุบาลสาธิตในมหาวิทยาลัย กระทรวงกลาโหม สำนักงาน ตำรวจ แห่งชาติ มลู นิธิ และองค์กรเอกชน มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เป็นมาตรฐานกลางของประเทศใช้แทนมาตรฐาน ศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ (ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554) เพื่อให้ทุก หน่วยงานและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ทั้งภาครัฐและเอกชนท่ัวประเทศ ใช้เป็นแนวทาง ในการประเมินผลการดำเนินงานและยกระดับคุณภาพ รวมถึงใช้เป็นเครื่องมอื ประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการตรวจประเมินจากต้นสังกัดและภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน) โดยในการจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วม ดำเนินการได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) นอกจากน้ีผลการวิจัย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ และมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น

17 มาตรฐานคณุ ภาพของอาเซยี น มาตรฐานความปลอดภยั คู่มือเฝ้าระวงั คดั กรองและส่งเสริมพัฒนาการ DSPM เปน็ ตน้ นำมาใช้ประกอบในการจัดทำมาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั แห่งชาตดิ ว้ ย ม า ต ร ฐ า น ส ถ า น พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย แ ห่ งช า ติ ถื อ เป็ น ม า ต ร ฐ า น ข้ั น ต้ น ที่ จ ำ เป็ น ส ำ ห รั บ การพัฒนาเด็กของประเทศ และเป็นมาตรฐานเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน และจัดบริการให้เด็กปฐมวัยได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมกัน เพ่ือลด ความเหล่ือมล้ำเป็นการเพิ่มคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ท่ีสำคัญที่สุดในการน ำประเทศไทยสู่ ความเจริญกา้ วหน้า มนั่ คง ย่งั ยืน ทา่ มกลางความทา้ ทายของโลกในศตวรรษที่ 21 นอกจากน้ี มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติเป็นเครื่องมือในการประเมินคุณภาพ ของการดำเนนิ งานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยทุกสังกัด ที่ดแู ลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายตุ ้ังแต่แรกเกิด ถึงอายุ 6 ปีบ ริบู รณ์ ห รือ ก่อน เข้าเรียนช้ันป ระถมศึกษ าปี ท่ี 1 ซ่ึงใช้ได้กับ ทุ กบ ริบ ท โด ย ได้ มี ก า ร เที ย บ เคี ย ง กั บ ม า ต ร ฐ า น ข อ ง ทุ ก ห น่ ว ย ง า น ท่ี มี อ ยู่ แ ล้ ว ร่ ว ม กั บ ม า ต ร ฐ า น คุ ณ ภ า พ ของภูมิภาคอาเซียนฯ ทั้งน้ี หากสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีมีศักยภาพการให้บริการพัฒนาเด็ก อย่างมีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานนี้ สามารถพิจารณาเพ่ิมเติมเกณฑ์ดังกล่าวได้ตามบริบท เช่น สถานรับเล้ียงและพัฒนาเด็กเอกชน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีมีความต้องการพิเศษ โรงเรียนอนุบาล ทั้งรัฐและเอกชน โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ฯลฯ สาระของมาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาติ มาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาตปิ ระกอบดว้ ยมาตรฐาน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ • มาตรฐานด้านท่ี 1 การบรหิ ารจัดการสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั จำนวน 5 ตวั บ่งช/ี้ 26 ข้อ • มาตรฐานด้านที่ 2 คร/ู ผดู้ ูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้และการเล่นเพอื่ พัฒนา เด็กปฐมวยั จำนวน 5 ตวั บง่ ช/ี้ 20 ข้อ • มาตรฐานด้านท่ี 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย - 3 ก แรกเกิด ถงึ 2 ปี (2 ปี 11 เดือน 29 วนั ) จำนวน 2 ตัวบง่ ช/้ี 7 ขอ้ - 3 ข 3 ปี ถึง 6 ปี (ก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1) จำนวน 7 ตัวบ่งชี้/ 22 ข้อ สาระ ของมาตรฐานแตล่ ะด้าน มดี งั น้ี มาตรฐานด้านที่ 1 การบริหารจัดการสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ตวั บง่ ชที้ ่ี 1.1 การบรหิ ารจัดการอยา่ งเปน็ ระบบ ตัวบง่ ช้ยี อ่ ย 1.1.1 บรหิ ารจดั การสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยอย่างเปน็ ระบบ 1.1.2 บริหารหลกั สูตรสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั 1.1.3 บรหิ ารจัดการขอ้ มลู อย่างเปน็ ระบบ ตวั บง่ ชท้ี ี่ 1.2 การบริหารจัดการบุคลากรทุกประเภทตามหน่วยงานทส่ี ังกัด

18 ตวั บ่งชีย้ ่อย 1.2.1 บรหิ ารจัดการบุคลากรอย่างเปน็ ระบบ 1.2.2 ผู้บริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย/หัวหน้าระดับปฐมวัย/ผู้ดำเนินกิจการ มีคณุ วุฒ/ิ คุณสมบตั เิ หมาะสม และบริหารงานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 1.2.3 ครู/ผู้ดูแลเด็กท่ีทำหน้าท่ีหลักในการดูแลและพั ฒ นาเด็กปฐมวัย มีวฒุ ิการศกึ ษา/ คุณสมบตั ิเหมาะสม 1.2.4 บริหารบุคลากรจัดอัตราส่วนของครู/ผู้ดูแลเด็กอย่างเหมาะสมพอเพียงต่อ จำนวนเด็ก ในแต่ละกล่มุ อายุ ตารางท่ี 2 แสดงอัตราสว่ นคร/ู ผดู้ ูแลตอ่ จำนวนเดก็ ในกล่มุ กจิ กรรมตามช่วงอายุ เด็ก (อาย)ุ อัตราส่วนครู/ผู้ดแู ล : เดก็ (คน) จำนวนเดก็ ในกลมุ่ กิจกรรม ตำ่ กว่า 1 ปี 1:3 กล่มุ ละไมเ่ กิน 6 คน ต่ำกวา่ 2 ปี 1:5 กลมุ่ ละไมเ่ กนิ 10 คน ต่ำกว่า 3 ปี 1 : 10 กลมุ่ ละไม่เกนิ 20คน 3 ปี-ก่อนเข้า ป.1 1 : 15 กลมุ่ ละไม่เกนิ 30 คน ตวั บ่งช้ีที่ 1.3 การบริหารจดั การสภาพแวดลอ้ มเพอื่ ความปลอดภัย ตวั บง่ ชย้ี อ่ ย 1.3.1 บริหารจัดการด้านสภาพแวดลอ้ มเพอื่ ความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ 1.3.2 โครงสรา้ งและตวั อาคารม่นั คง ตั้งอยูใ่ นบรเิ วณและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย 1.3.3 จัดการความปลอดภัยของพื้นที่เล่น/สนามเด็กเล่น และสภาพแวดล้อม ภายนอกอาคาร 1.3.4 จัดการสภาพแวดล้อมภายในอาคาร ครุภัณฑ์ อุปกรณ์ เคร่ืองใช้ให้ปลอดภัย เหมาะสม กับการใชง้ านและเพยี งพอ 1.3.5 จัดให้มีของเล่นที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีจำนวนเพียงพอ สะอาด เหมาะสม กบั ระดับ พัฒนาการของเดก็ 1.3.6 ส่งเสริมให้เดก็ ปฐมวัยเดินทางอยา่ งปลอดภัย 1.3.7 จัดให้มีระบบป้องกันภัยจากบุคคลท้ังภายในและภายนอกสถานพัฒนา เด็กปฐมวัย 1.3.8 จดั ให้มีระบบรับเหตุฉุกเฉนิ ปอ้ งกนั อคั คีภัย/ภยั พบิ ตั ติ ามความเสี่ยงของพ้ืนที่ ตัวบ่งชที้ ี่ 1.4 การจัดการเพือ่ สง่ เสรมิ สุขภาพและการเรียนรู้ ตัวบง่ ชีย้ ่อย 1.4.1 มีการจัดการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็ก และดูแล การเจ็บปว่ ยเบื้องต้น

19 1.4.2 มีแผนและดำเนินการตรวจสุขอนามัยประจำวัน ตรวจสุขภาพประจำปี และปอ้ งกนั ควบคุมโรคตดิ ต่อ 1.4.3 อาคารต้องมีพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนตามกิจวัตรประจำวันของเด็ก ท่ีเหมาะสม ตามช่วงวัย และการใช้ประโยชน์ 1 .4 .4 จั ด ให้ มี พื้ น ที่ /มุ ม ป ระส บ ก ารณ์ แ ล ะ แ ห ล่ งเรีย น รู้ใน ห้ อ งเรีย น และนอกหอ้ งเรยี น 1.4.5 จัดบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม ท่ีแปรงฟัน/ล้างมือให้เพียงพอ สะอาด ปลอดภัย และเหมาะสมกบั การใชง้ านของเด็ก 1.4.6 จัดการระบบสุขาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม สถานท่ีปรุง ประกอบอาหาร นำ้ ดมื่ นำ้ ใช้ กำจัดขยะ สง่ิ ปฏกิ ลู และพาหะนำโรค 1.4.7 จัดอุปกรณ์ภาชนะและเคร่ืองใช้ส่วนตัวให้เพียงพอกับการใช้งานขอ ง เดก็ ทกุ คน และดแู ลความสะอาดและปลอดภยั อยา่ งสม่ำเสมอ ตัวบ่งชที้ ่ี 1.5 การสง่ เสรมิ การมีส่วนร่วมของครอบครวั และชุมชน ตวั บ่งชย้ี ่อย 1.5.1 มีการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างพ่อแม่/ ผูป้ กครอง กบั สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยเก่ยี วกับตัวเด็กและการดำเนนิ งานของสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย 1.5.2 การจดั กิจกรรมที่พอ่ แม/่ ผปู้ กครอง/ครอบครัว และชุมชน มสี ่วนร่วม 1.5.3 ดำเนินงานให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนในเร่ือง การพัฒนาเด็ก ปฐมวยั 1.5.4 มีคณะกรรมการสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย มาตรฐานด้านท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนา เด็กปฐมวัย ตัวบง่ ช้ที ี่ 2.1 การดูแลและพฒั นาเด็กอยา่ งรอบดา้ น ตัวบง่ ชีย้ อ่ ย 2.1.1 มีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวยั มีการดำเนินงานและประเมนิ ผล 2.1.2 จั ด พ้ื น ที่ /มุ ม ป ระส บ ก ารณ์ ก ารเรีย น รู้แล ะก ารเล่ น ท่ี เห ม าะส ม อย่างหลากหลาย 2.1.3 จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านอย่างบูรณาการตามธรรมชาติ ของเด็กท่เี รยี นรู้ ด้วยประสาทสัมผสั ลงมอื ทำปฏสิ มั พันธ์ และการเล่น 2.1.4 เลือกใช้สื่อ/อุปกรณ์ เทคโนโลยี เคร่ืองเล่นและจัดสภาพแวดล้อมภายใน- ภายนอก แหลง่ เรียนรู้ ทเี่ พยี งพอ เหมาะสม ปลอดภัย

20 2.1.5 เฝ้าระวังติดตามพัฒนาการเด็กรายบุคคลเป็นระยะ เพ่ือใช้ ผลในการ จัดกิจกรรม พฒั นาเด็กทกุ คนใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ ตวั บ่งชี้ท่ี 2.2 การส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกายและดแู ลสขุ ภาพ ตวั บง่ ช้ีย่อย 2.2.1 ให้เด็กอายุ 6 เดือนข้ึนไป รับประทานอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณท่ีเพียงพอ และสง่ เสรมิ พฤตกิ รรมการกินท่ีเหมาะสม 2.2.2 จัดกิจกรรมให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติอย่างถูกต้องเหมาะสมในการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัยในชีวติ ประจำวัน 2.2.3 ตรวจสุขภาพอนามัยของเด็กประจำวัน ความสะอาดของร่างกาย ฟันและชอ่ งปาก เพอ่ื คัดกรองโรคและการบาดเจ็บ 2.2.4 เฝ้าระวังติดตามการเจริญเติบโตของเด็กเป็นรายบุคคล บันทึกผลภาวะ โภชนาการ อย่างต่อเนอ่ื ง 2.2.5 จัดให้มกี ารตรวจสขุ ภาพรา่ งกาย ฟนั และชอ่ งปาก สายตา หู ตามกำหนด ตัวบง่ ชีท้ ี่ 2.3 การส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นสติปัญญา ภาษาและการสื่อสาร ตัวบง่ ชี้ย่อย 2.3.1 จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้สังเกต สัมผัส ลองท ำคิดตั้งคำถาม สบื เสาะหาความรู้ แกป้ ัญหา จนิ ตนาการ คิดสร้างสรรคโ์ ดยยอมรับความคิดและผลงานที่แตกต่างของ เด็ก 2.3.2 จัดกิจกรรมและป ระสบ การณ์ ท างภ าษ าท่ี มีความห มายต่อเด็ก เพื่อการสอ่ื สาร อยา่ งหลากหลาย ฝกึ ฟงั พดู ถาม ตอบ เลา่ และสนทนาตามลำดับข้ันตอนพฒั นาการ 2.3.3 จัดกิจกรรมปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านให้เด็กมีทักษะการดูภาพ ฟังเร่ืองราว พูด เล่า อ่าน วาด/เขียน เบื้องต้น ตามลำดับพัฒนาการ โดยครู/ ผู้ดูแลเด็กเป็นตัวอย่าง ของการพูด และการอ่านที่ถกู ต้อง 2.3.4 จัดให้เด็กมีประสบการณ์เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สิ่งต่างๆ สถานท่ี และ ธรรมชาตริ อบตวั ด้วยวิธีการทีเ่ หมาะสมกับวยั และพัฒนาการ 2.3.5 จัดกิจกรรมและประสบการณ์ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เบ้ืองต้นตาม วัย โดยเดก็ เรียนรู้ผา่ นประสาทสัมผัส และลงมือปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง ตวั บง่ ชที้ ี่ 2.4 การสง่ เสรมิ พัฒนาการด้านอารมณ์จติ ใจ-สังคม ปลกู ฝังคุณธรรม และความเป็น พลเมืองดี ตวั บ่งช้ยี ่อย 2.4.1 สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละมัน่ คงระหว่างผู้ใหญก่ บั เด็ก จัดกิจกรรมสรา้ งเสริม ความสัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งเด็กกับเด็ก และการแก้ไข ข้อขัดแย้งอยา่ งสรา้ งสรรค์

21 2.4.2 จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กมีความสุข แจ่มใส ร่าเริง ได้แสดงออกด้านอารมณ์ ความรูส้ กึ ทด่ี ีต่อตนเอง โดยผ่านการเคล่ือนไหวรา่ งกาย ศลิ ปะ ดนตรตี ามความสนใจและถนัด 2.4.3 จัดกิจกรรมและประสบการณ์ ปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กใฝด่ ีมีวินัย ซ่ือสัตย์ รู้จัก สิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของพลเมืองดีรักครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและประเทศชาติด้วยวิธี ทเ่ี หมาะสมกบั วยั และพฒั นาการ ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2.5 การส่งเสริมเด็กในระยะเปล่ียนผ่านใหป้ รับตวั สกู่ ารเชื่อมตอ่ ในขน้ั ถัดไป ตวั บง่ ชยี้ อ่ ย 2.5.1 จัดกิจกรรมกับผู้ปกครองให้เตรียมเด็กก่อนจากบ้านเข้าสู่สถานพัฒนาเด็ก ปฐมวยั /โรงเรียน และจดั กิจกรรมชว่ งปฐมนเิ ทศให้เดก็ คอ่ ยปรับตวั ในบรรยากาศที่เป็นมิตร 2.5.2 จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การปรบั ตัวก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับที่สงู ขึน้ แต่ละข้ัน จนถงึ การเปน็ นักเรยี นระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 มาตรฐานดา้ นที่ 3 คุณภาพของเด็กปฐมวัย • สำหรบั เดก็ แรกเกดิ - อายุ 2 ปี (2 ปี 11 เดือน 29 วัน) ตวั บ่งช้ีที่ 3.1 ก เดก็ มกี ารเจรญิ เติบโตสมวัย ตวั บง่ ชย้ี ่อย 3.1.1 ก เด็กมนี ำ้ หนักตวั เหมาะสมกับวยั และสูงดีสมสว่ น ซึ่งมบี ันทกึ เป็นรายบุคคล ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3.2 ก เดก็ มีพัฒนาการสมวยั ตวั บง่ ชยี้ ่อย 3.2.1 ก เดก็ มพี ัฒนาการสมวัยโดยรวม 5 ด้าน 3.2.2 ก รายด้าน : เด็กมีพัฒนาการกล้ามเน้ือมดั ใหญ่ (Gross Motor) 3.2.3 ก รายด้าน : เด็กมีพฒั นาการดา้ นกล้ามเนอ้ื มัดเล็กและสติปญั ญาสมวัย (Fine Motor Adaptive) 3.2.4 ก รายด้าน : เด็กมีพัฒนาการด้านการรับรู้และเข้าใจภาษา (Receptive Language) 3.2.5 ก รายด้าน : เด็กมีพฒั นาการการใช้ภาษาสมวยั (Expressive Language) 3.2.6 ก รายด้าน : เด็กมีพัฒนาการการช่วยเหลือตนเองและการเข้าสังคม (Personal Social) • สำหรบั เดก็ อายุ 3 ปี -อายุ 6 ปี (กอ่ นเข้าประถมศึกษาปที ่ี 1) ตวั บ่งชท้ี ่ี 3.1 ข เดก็ มีการเจริญเตบิ โตสมวัยและมสี ุขนิสัยทเ่ี หมาะสม ตัวบ่งชีย้ ่อย 3.1.1 ข เด็กมนี ้ำหนักตัวเหมาะสมกบั วัยและสงู ดีสมสว่ น ซ่ึงมีบันทึกเปน็ รายบคุ คล 3.1.2 ข เดก็ มสี ขุ นสิ ัยท่ดี ใี นการดแู ลสขุ ภาพตนเองตามวยั 3.1.3 ข เดก็ มสี ุขภาพช่องปากดี ไมม่ ฟี นั ผุ

22 ตวั บ่งช้ีที่ 3.2 ข เดก็ มีพัฒนาการสมวัย ตัวบ่งชยี้ ่อย 3.2.1 ข เดก็ มพี ฒั นาการสมวัยโดยรวม 5 ดา้ น ตวั บง่ ชีท้ ่ี 3.3 ข เด็กมพี ฒั นาการดา้ นการเคลือ่ นไหว ตัวบ่งช้ยี อ่ ย 3.3.1 ข เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ สามารถเคล่ือนไหว และทรงตัวไดต้ ามวยั 3.3.2 ข เดก็ มพี ัฒนาการดา้ นการใชก้ ล้ามเนอ้ื มัดเลก็ และการประสานงานระหว่าง ตากบั มือตามวยั ตัวบ่งช้ที ี่ 3.4 ข เด็กมีพฒั นาการด้านอารมณ์จิตใจ ตวั บง่ ชี้ยอ่ ย 3.4.1 ข เด็กแสดงออก ร่าเริง แจ่มใส รู้สึกม่ันคงปลอดภัย แสดงความรู้สึกท่ีดี ตอ่ ตนเองและผู้อ่นื ได้สมวัย 3.4.2 ข เด็กมีความสนใจและร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างสมวัย ซ่ึงรวมการเล่น การทำงาน ศลิ ปะ ดนตรี กฬี า 3.4.3 ข เด็กสามารถอดทน รอคอย ควบคุมตนเอง ยับย้ังชั่งใจ ทำตามข้อตกลง คำนงึ ถงึ ความรูส้ กึ ของผูอ้ ่ืน มกี าลเทศะ ปรับตัวเขา้ กับสถานการณใ์ หม่ไดส้ มวยั ตัวบ่งชที้ ี่ 3.5 ข เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นสติปญั ญา เรยี นร้แู ละสรา้ งสรรค์ ตวั บ่งชีย้ ่อย 3.5.1 ข เด็กบอกเกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สถานท่ีแวดล้อมธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ รอบตวั เด็กไดส้ มวัย 3.5.2 ข เด็กมีพ้ืนฐานด้านคณิตศาสตร์ สามารถสังเกต จำแนก และเปรียบเทียบ จำนวน มติ ิ สมั พนั ธ์ (พน้ื ท่/ี ระยะ) เวลาไดส้ มวัย 3.5.3 ข เดก็ สามารถคิดอยา่ งมเี หตผุ ล แก้ปัญหาได้สมวัย 3.5.4 ข เดก็ มจี นิ ตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ ทแ่ี สดงออกได้สมวัย 3.5.5 ข เดก็ มคี วามพยายาม มงุ่ ม่นั ตั้งใจ ทำกิจกรรมให้สำเร็จสมวัย ตัวบ่งชี้ที่ 3.6 ข เดก็ มพี ัฒนาการด้านภาษาและการส่อื สาร ตวั บ่งชย้ี อ่ ย 3.6.1 ข เด็กสามารถฟงั พดู จบั ใจความ เล่า สนทนา และส่ือสารไดส้ มวยั 3.6.2 ข เด็กมีทักษะในการดูรูปภาพ สัญลักษณ์ การใช้หนังสือ รู้จักตัวอักษร การ คิดเขียนคำ และการอา่ นเบอ้ื งตน้ ได้สมวัยและตามลำดบั พฒั นาการ 3.6.3 ข เด็กมีทักษะการวาด การขีดเขียนตามลำดับขั้นตอนพัฒนาการสมวัย นำไปสู่ การขีดเขียนคำทค่ี ุน้ เคย และสนใจ

23 3.6.4 ข เด็กมีทักษะในการส่ือสารอย่างเหมาะสมตามวัย โดยใช้ภาษาไทย เปน็ หลกั และมีความคุ้นเคยกบั ภาษาอืน่ ด้วย ตัวบง่ ช้ีที่ 3.7 ข เด็กมพี ฒั นาการดา้ นสงั คม คุณธรรม มวี นิ ัย และความเปน็ พลเมอื งดี ตัวบง่ ชย้ี ่อย 3.7.1 ข เด็กมปี ฏสิ ัมพันธ์กบั ผอู้ ่ืนได้อย่างสมวัย และแสดงออกถึงการยอมรับความ แตกตา่ ง ระหวา่ งบุคคล 3.7.2 ข เด็กมีความเมตตา กรุณา มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอ บต่อตนเอง และส่วนรวม และมี ค่านยิ มทพี่ ึงประสงค์สมวัย 3.7.3 ข เด็กสามารถเล่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นกลุ่ม เป็นได้ท้ังผู้นำ และผูต้ าม แก้ไข ขอ้ ขัดแย้งอยา่ งสร้างสรรค์ 3.7.4 ข เด็กภาคภูมิใจท่ีเป็นสมาชิกที่ดีในครอบครัว ชุมชน สถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัย และตระหนักถงึ ความเปน็ พลเมืองดีของประเทศไทย และภมู ภิ าคอาเซยี น ตารางท่ี 3 มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ สำหรับเด็กแรกเกิด - อายุ 6 ปี (ก่อนเขา้ ประถมศึกษาปีที่ 1) ตัวบง่ ชท้ี ่ี ชือ่ ตัวบ่งชี้ จำนวน ข้อย่อย มาตรฐานด้านท่ี 1 การบรหิ ารจัดการสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย 1.1 การดแู ลและพฒั นาเด็กอยา่ งรอบดา้ น 3 1.2 การสง่ เสรมิ พฒั นาการด้านรา่ งกายและดแู ลสุขภาพ 4 1.3 การส่งเสริมพฒั นาการดา้ นสติปญั ญา ภาษาและการสอ่ื สาร 8 1.4 การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ-สังคม ปลูกฝังคณุ ธรรมและ ความเป็น 7 พลเมอื งดี 1.5 การสง่ เสรมิ เด็กในระยะเปลยี่ นผา่ นใหป้ รบั ตวั สู่การเช่ือมตอ่ ในขน้ั ถัดไป 4 มาตรฐานด้านท่ี 2 ครู/ผดู้ แู ลเดก็ ใหก้ ารดูแล และจดั ประสบการณก์ ารเรียนรแู้ ละการเล่น เพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวยั 2.1 การดแู ลและพัฒนาเดก็ อย่างรอบดา้ น 5 2.2 การส่งเสริมพฒั นาการด้านรา่ งกายและดแู ลสขุ ภาพ 5 2.3 การสง่ เสรมิ พัฒนาการด้านสติปัญญา ภาษาและการสือ่ สาร 5 2.4 การส่งเสริมพฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ-สังคม ปลูกฝงั คุณธรรมและ ความเป็น 3 พลเมอื งดี 2.5 การสง่ เสรมิ เดก็ ในระยะเปล่ยี นผา่ นใหป้ รบั ตวั สูก่ ารเช่ือมต่อในขั้นถัดไป 2 มาตรฐานด้านที่ 3 คุณภาพของเดก็ ปฐมวยั

ตัวบ่งช้ที ี่ ชอ่ื ตวั บง่ ช้ี 24 สำหรับเด็กแรกเกิด - อายุ 2 ปี (2 ปี 11 เดือน 29 วัน) จำนวน 3.1 ก เด็กมีการเจรญิ เติบโตสมวัย ข้อย่อย 3.2 ก เด็กมีพัฒนาการสมวัย สำหรับเด็ก อายุ 3 ปี - อายุ 6 ปี (กอ่ นเขา้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1) 1 3.1 ข เด็กมีการเจรญิ เตบิ โตสมวัยและมสี ุขนิสยั ที่เหมาะสม 6 3.2 ข เดก็ มีพฒั นาการสมวัย 3.3 ข เดก็ มพี ัฒนาการดา้ นการเคลอ่ื นไหว 3 3.4 ข เด็กมพี ัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ 1 3.5 ข เด็กมพี ัฒนาการด้านสตปิ ญั ญา เรียนรู้และสรา้ งสรรค์ 2 3.6 ข เด็กมพี ัฒนาการดา้ นภาษาและการสอ่ื สาร 3 3.7 ข เดก็ มีพฒั นาการด้านสังคม คณุ ธรรม มีวนิ ัยและความเปน็ พลเมืองดี 5 4 4 1.3 บทบาทของหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องกบั มาตรฐานพัฒนาเด็กปฐมวยั ก า ร ด ำ เนิ น ง า น พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง แ ล ะ ห น่ ว ย ง า น ท่ี เกี่ ย ว ข้ อ ง ก ร ะ ท ร ว ง และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องต่างๆ ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาเด็กปฐมวัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการดำเนนิ การทีส่ ำคญั สรปุ ได้ดงั น้ี 1.3.1 กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ดำเนินการให้การอุดหนุนเพ่ือการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตามนโยบายของรัฐ โดยรัฐจัดให้มี โครงการเงินอุดหนนุ เพอ่ื การเลย้ี งดูเด็กแรกเกิด ซึง่ นับเปน็ โครงการท่ีเป็นรปู ธรรมชดั เจนในช่วงระยะที่ ผ่านมา เป็นความพยายามของรัฐในการจัดสวัสดิการพ้ืนฐานเพ่ือเป็นการคุ้มครองทางสังคม ล ด ค ว า ม เห ล่ื อ ม ล้ ำ แ ล ะ เป็ น ห ลั ก ป ร ะ กั น สิ ท ธิ ขั้ น พ้ื น ฐ า น ใ ห้ เด็ ก แ ร ก เกิ ด ไ ด้ รั บ ก า ร เล้ี ย ง ดู อย่างมีคุณภาพ เพ่ือส่งเสริมให้เด็กแรกเกิดและปฐมวัยมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย ซ่ึงเป็นพ้ืนฐานท่ี สำคัญในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงวัยอ่ืนๆ โดยให้การอุดหนุนรายละ 600 บาท ต่อค น ต่อเดือน เป็นเวลา 12 เดือน และขยายเป็นต้ังแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี กลุ่มเป้าหมายคือ เด็กแรกเกดิ ท่ีอยใู่ นครวั เรือนยากจน และครวั เรือนท่เี สย่ี งต่อความยากจนได้รบั เงินอดุ หนุนในการเล้ยี ง ดูเด็กแรกเกิด จำนวน 128,000 คน นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริม การพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด และคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย กรุงเทพมหานครภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) เพ่ือรับผิดชอบงานด้านเด็กปฐมวัย เพ่ือส่งเสริมให้เกิดการขับเคล่ือนการดำเนินการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในระดับจังหวัดให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม และสามารถประสานการทำงานร่วมกับส่วนกลาง

25 แ บ บ บู ร ณ า ก าร ได้ อ ย่ า งมี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ เชื่ อ ม โ ย ง ก าร ท ำ งา น จ าก ร ะ ดั บ น โย บ าย สู่ ภู มิ ภ า ค ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ตลอดจนการกำกับตดิ ตามท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ 1.3.2 กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลส่งเส ริมสุขภาพประชากรทุกช่วงวัย เร่ิมต้ังแต่ทารกอยู่ใน ครรภ์ ช่วงปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยสูงอายุ ต่อเน่ืองตลอดชีวิต และเป็นหน่วยงานที่เข้าถึงพ่อแม่และเด็ก นับตั้งแต่การบริการให้ข้อมูลความรู้ก่อนแต่งงาน การเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ การดูแลแม่ที่ต้ังครรภ์ ตลอดจนครอบครัวที่มีบุตรในช่วงปฐมวัย มี ก า รด ำเนิ น ง า น แ บ บ บู ร ณ า ก า ร เพื่ อ ก าร พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย ภ า ย ใต้ โค รง ก า ร เฉ ลิ ม พ ระ เกี ย ร ติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เน่ืองในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยคัดกรองเด็กอายุ 9 เดือน 18 เดือน 30 เดือน และ 42 เดือน โดยใช้คู่มือ การเฝ้าระวังและส่งเสริม 5 พัฒ นาการเด็กปฐมวัย (Developmental Surveillance and Promotion Manual (DSPM)) แล้ วดูแล ส่ งเส ริม กระตุ้น เด็ กที่ ส งสัยว่ าพั ฒ น าการล่าช้ า หรือมีพัฒนาการล่าช้าหน่วยงานในสังกัดท่ีมีภารกิจเก่ียวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย นอกจากน้ี ยังมีการดำเนินการเกี่ยวกับภาวะโภชนาการของแม่และเด็ก เช่น การเฝ้าระวังโรคขาดสารไอโอดีน การส่งเสริมการเลย้ี งลูกดว้ ยนมแม่เพียงอยา่ งเดยี วในช่วง 6 เดือนแรก เป็นต้น 1.3.3 กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถนิ่ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ินมีการจัดศู นย์พัฒ นาเด็กเล็กโดยองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินจำนวนมาก นับเป็นหน่วยงานสำคัญที่ดูแลการจัดการศึกษาปฐมวัยของประเทศ ท้ังน้ี ในปีการศึกษา 2559 มีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ทกี่ ระทรวงศกึ ษาธิการกำหนด และแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ 1) การจัดการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 2 - 5 ปี ในรูปแบบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอยู่ในความรับผิดชอบทั้ งที่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินจัดต้ังเองและรับถ่ายโอนจากส่วนราชการอื่น จำนวนทั้งส้ิน 19,429 ศูนย์ (สำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, 2560) 2) การจัดการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 4 - 6 ปี ในรูปแบบโรงเรียนอนุบาล ปัจจุบัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีจัดการศึกษาปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาล มีจำนวนนักเรียนท่ีอยู่ ในความรบั ผดิ ชอบ จำนวน 161,231 คน (สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ, 2560) นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมีการจัดทำมาตรฐานการดำเนินงานศูนย์พัฒนา เดก็ เลก็ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อยกระดบั การพัฒนาศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กใหม้ ีมาตรฐานและ มีคุณภาพย่ิงข้ึน โดย กำหนดมาตรฐานออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการ ด้านบุคลากร ดา้ นอาคารสถานท่ี สิ่งแวดลอ้ มและความปลอดภัย ด้านวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร ด้านการมี สว่ นร่วมและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน และ ด้านส่งเสริมเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมถึง การจัดทำมาตรฐานการศึกษา (ข้ันพ้ืนฐาน) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน

26 จ ำ น ว น 1 2 ม า ต ร ฐ า น 4 3 ตั ว บ่ ง ชี้ แ ล ะ ม า ต ร ฐ า น ก า ร ศึ ก ษ า (ขั้ น พั ฒ น า ) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จำนวน 23 มาตรฐาน 94 ตัวบ่งช้ีเพื่อให้ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการประกันคุณภาพภายใน สถานศกึ ษา รวมถึงเปน็ การยกระดบั จัดการศึกษาได้อยา่ งมีคุณภาพและมมี าตรฐานเป็นทยี่ อมรับ 1.3.4 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ มีหน่วยงานที่จัดการศึกษาและดำเนินการเก่ียวกับการพัฒนาเด็ก ปฐมวัย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาเอกชน (สช.) และ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โดย สพฐ. ได้จัดทำหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เพ่ือให้สถานศึกษาและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดนำไป ปรับใชใ้ ห้เหมาะสมกับบริบท และจัดการศึกษาระดบั ปฐมวัยหลักสูตร 3 ปี (อนุบาล 3 - 5 ปี) ปจั จบุ ัน มีนักเรียนจำนวน 897,563 คน สำหรับ สกศ. ได้เร่งผลักดันการ จัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ .ศ . 2 5 6 0 - 2 5 6 4 (ร่ า ง) ม า ต ร ฐ า น ส ถ า น พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย แ ห่ งช า ติ พ .ศ . .... การจัดทำระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลกลางด้านเด็กปฐมวัยของประเทศ รวมถงึ สมรรถนะของเด็ก ปฐมวัย 0 - 5 ปี ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เพ่ือให้ การดำเนินงานด้านเด็กปฐมวัยของประเทศมีแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน และในส่วน สช. จัดการศึกษาระดับปฐมวัยหลักสูตร 3 ปี (อนุบาล 3 - 5 ปี) ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวน 609,419 คน (ขอ้ มูลจากสถิตกิ ารศึกษา ประจำปี 2559 ของสำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) 1.3.5 กระทรวงแรงงาน กระท รวงแรงงาน ซ่ึ งมี ห น่ วยงาน เดี ยวที่ รับ ผิด ช อบ ใน การพั ฒ น าเด็ กป ฐม วัย คือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีเป็นบุตร ของผู้ใช้แรงงาน โดยจัดต้ังศูนย์เด็กเล็กวิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัยในพระราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็น โครงการท่ีจัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เริ่มดำเนินงานต้ังแต่ปี พ.ศ. 2536 เพื่อรับเล้ียงเด็กก่อนวัยเรียนบุตรผู้ใช้แรงงาน ให้เด็กได้รับการ พัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพ่ือเตรียม ความพร้อมสู่ 6 ปีการศึกษาภาคบังคับ ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการท่ีจัดต้ังมุมนมแม่แล้ว จำนวน 1,264 แห่ง มีลูกจ้างมาใช้บริการ ท้ังหมด 9,058 คน และมีการจัดต้ังศูนย์เล้ียงดูบุตรผู้ใช้ แรงงานในสถานประกอบกจิ การและชุมชน จำนวน 79 แห่ง มีเด็กไดร้ บั การเล้ยี งดูจำนวน 2,011 คน นอกจากน้ี ยังมีการดำเนินงานท่ีสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ในส่วนของผู้ต้องขังหญิง ตั้งครรภ์และเด็กติดผู้ต้องขัง โดยกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้แก่เรือนจำ และทณั ฑสถานที่ควบคมุ เดก็ ที่ต้องขงั และผู้ตอ้ งขงั หญงิ ที่ตัง้ ครรภ์ และใหโ้ รงพยาบาลหรือสาธารณสุข เป็นผู้จัดอบรมให้แก่ผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์และเจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ผู้ต้องขังหญิงที่ตั้งครรภ์และเด็กตดิ ผู้ต้องขัง เพ่ือการต้ังครรภ์ท่มี ีคุณภาพและการดูแลหลังคลอด เรื่อง

27 โภชนาการ เรื่องการตรวจสุขภาพ มีการดูแลเดก็ ปีหนึ่งๆ ประมาณ 256 คน การดำเนินการที่ผ่านมา ในชว่ งปงี บประมาณ 2556 - 2558 ไดจ้ ัดอบรมใหค้ วามรไู้ ปท้ังหมดจำนวน 252 แหง่ จากภาพรวมการดำเนนิ งานท่ีผ่านมา การพฒั นาเดก็ ปฐมวัยของแต่ละกระทรวงและหนว่ ยงาน ทเี่ กี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ มีการดำเนินการตามภารกิจหน้าที่รับผิดชอบของตน อ ย่ า ง ไร ก็ ต า ม ก า ร พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย ข อ ง ป ร ะ เท ศ ไม่ เพี ย ง แ ต่ ก า ร ด ำ เนิ น ง า น โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่าน้ัน การดำเนินงานต้อง เปน็ ไปลกั ษณะของการบูรณาการระหว่าง กระทรวงท่ีเกี่ยวข้องท้ังหมด เพื่อผลักดันขับเคล่ือนให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลเปน็ รปู ธรรมมากทีส่ ุด 1.4 การพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาระดับปฐมวัยของสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย (แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2560 – 2564) หน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานภาครัฐเก่ียวกับ เด็กปฐมวัยจึงไม่ชัดเจนและมีหลายหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกรมการปกครอง ส่วนท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทย และด้วยการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีหลายหน่วยงานนั้น ทำให้ระดับการส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กของหน่วยงานแต่ละแห่งไม่เท่าเทียมกัน อีกทั้ง สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยหรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลายแห่งยังคงมีมาตรฐานการดูแลเด็กปฐมวัย ต่ำกว่ามาตรฐานจนอาจส่งผลถึงโอกาสของการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กอันเป็นสิทธิขั้นพ้ืนฐาน ท่ีเดก็ ควรไดร้ บั อยา่ งเท่าเทยี มกนั จากภาครฐั ดังนน้ั คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรผี ู้สงู อายุและผู้พิการ ชุดที่ 24 จึงตระหนกั ถึง ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเด็กปฐมวัยให้มีสิทธิได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเท่าเทียมกั น จึงได้ต้ังคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาเด็กปฐมวัยขึ้น ด้วยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทราบข้อมูลในภาพรวมของการดําเนินงานด้านเด็กปฐมวัยของหน่วยงานต่างๆอันจะนําไปสู่ การแก้ไขปัญหาเด็กปฐมวัยในดา้ นการสง่ เสรมิ พฒั นาการของเด็กใหเ้ ท่าเทียมกนั ทั่วประเทศ จากการพิจารณาศึกษาโดยเชิญหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการดูแลเด็กปฐมวัยตลอดจนการ จดั สัมมนาและศึกษาดูงานในหลายพ้ืนท่ี พบวา่ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบในการดูแลเด็กปฐมวัยเป็นหลัก คือ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมการปกครองส่วนท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทย โดยปัญหาที่พบ ในกระทรวงศึกษาธิการเก่ียวกับการดูแลเด็กปฐมวัยคือการจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยจะอยู่รวมใน โรงเรียนระดับประถมศึกษาไม่แยกเป็นเอกเทศการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการจัดการศึกษาระดับ ปฐมวยั ในโรงเรียนจึงมีน้อยกว่าระดบั ประถมศกึ ษา ส่วนกรมการปกครองส่วนทอ้ งถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่ได้รบั การถ่ายโอนศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก ให้มาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ พบปัจจัยเก่ียวกับปัญหาของการดูแลเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็ก เล็ก คือปัจจัยในเร่ืองวิสัยทัศน์ความรู้ความเข้าใจ และความต่อเน่ืองของการดำรงตำแหน่งของ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นอุปสรรคต่อการจัดการศึกษา ระดับปฐมวัยในศูนย์พัฒนา เด็กเล็ก ทำให้เกิดช่องว่างความแตกต่างของมาตรฐานการดูแลเด็กปฐมวัยในองค์กรปกค รอง

28 ส่วนท้องถ่ินแต่ละแห่ง เน่ืองจากการบริหารจัดการและการจัดสรรงบประมาณข้ึนอยู่กับ ผู้บริหาร องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ เหตปุ ัจจยั ท่ีทำให้ผ้บู รหิ ารองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นไมไ่ ดใ้ ห้ความสำคัญ ต่ อการ ส่ งเส ริม แล ะพั ฒ น าศูน ย์ พั ฒ น าเด็ กเล็ ก เพ ร าะยั งข าด ค วามรู้ค วาม เข้าใจ แล ะ ต ระห นั กถึ ง ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต อีกท้ังการสนับสนุนและพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กยังเป็น ปัจจัยพ้ืนฐานท่ีอยู่ในลำดับรองจากโครงสร้างพื้นฐานอ่ืนทำให้การใส่ใจ หรือการพัฒ นา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีมาตรฐานเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กยังอยู่ในความสนใจของผู้บริ หาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยกว่าการให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน อย่างไรก็ตาม ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินบางแห่งที่ได้รับการส่งเสริมให้มีมาตรฐาน ด้วยปัจจัยในด้านผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์ความรู้ความเข้าใจ ทำให้ การบริหารจดั การศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ เปน็ ไปอยา่ งดเี ย่ยี ม สงู เกนิ มาตรฐาน ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการเพ่ือศึกษาแนวทางในการพัฒนาเด็กปฐมวัย จึงได้สรุปผลการ ดําเนินงานและเสนอให้คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรีผู้สูงอายุและผู้พิการ ชุดท่ี 24 เพื่อนําข้อเสนอแนะดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพ่ือให้เป็นนโยบายในการ พัฒนาเด็กปฐมวยั ต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาการดําเนนิ งานดา้ นเด็กปฐมวัย 1. ด้านมาตรฐานการดําเนินงานด้านเด็กปฐมวัย ซ่ึงพบว่า มีการใช้มาตรฐานการดําเนินงาน ที่มาจากหลายหน่วยงานจนนําไปสู่ความซ้ำซ้อนและสับสนในการดําเนินงานตามมาตรฐาน โดยมี ขอ้ เสนอแนะ คือ - ควรผลักดันให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ และโรงเรียนที่เปิดสอนระดับปฐมวัย และบุคลากร ที่เกย่ี วข้อง รับรู้และเข้าใจ “มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ” ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางท่ีมี ความครอบคลมุ รอบด้าน รวมถึงการนํามาตรฐานไปใชอ้ ย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาประสทิ ธิภาพในการจัด การศกึ ษาปฐมวัย และพัฒนาคณุ ภาพ ของเดก็ ในทกุ ดา้ น - ควรเร่งสร้างกระบวนการสนับสนุนมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติเช่น เครื่องมือการ ดําเนินงานตามมาตรฐาน แบบประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ฯลฯ โดยจัดทำเป็นมาตรฐานพ้ืนฐาน ร่วมฉบบั เดยี ว แตใ่ หแ้ ตล่ ะหนว่ ยงานไปจัดทำรายละเอยี ดเพ่ิมเติมตามบริบทของแต่ละกระทรวง - ควรวางแผนการพัฒนามาตรฐานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งชาติโดยมีความร่วมมือจากทุก หน่วยงาน ที่เก่ียวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคม และความม่ันคงของมนษุ ย์ และกระทรวงสาธารณสุข - ควรมีการศึกษาวิจัยด้านการประกันคุณภาพการศึกษาปฐมวัยจากการวิจัยต่างประเทศเพ่ือ ใชเ้ ปน็ แนวทางดำเนินการพัฒนาและกำหนดนโยบายพฒั นาใหท้ ดั เทียมสากล 2. ด้านการประเมินผลการดําเนินงานด้านเด็กปฐมวัย โดยการประเมินผลการดําเนินงาน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กยังไม่เป็นแบบแผนเดียวกันท่ัวประเทศ และเน้นการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณซึ่งขาด การประเมินด้านคุณภาพ และขาดการนําไปต่อยอดเพ่ือพัฒนาการเด็กปฐมวัยโดยมีข้อเสนอแนะคือ ควรเร่งประเมินคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กท่ัวประเทศ เพ่ือวิเคราะห์สถานการณ์ความพร้อมใน

29 ภาพรวมและพิจารณาปรับปรุงวิธีการประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัยโดยค ำนึงถึงการประเมิน เชิงคุณภาพควบคกู่ บั การประเมินเชิงปรมิ าณ เพื่อจุดม่งุ หมายสกู่ ารพัฒนาเดก็ ปฐมวัยเป็นสำคัญ 3. ด้านผู้นําและบุคลากร จากการพิจารณาศึกษาพบว่าผู้นําและผู้บริหารท้องถิ่นบางส่วน ขาดวิสัยทัศน์ และขาดความตอ่ เนื่องในการดำรงตำแหน่งซึ่งนําไปสู่ปญั หาการจัดการศกึ ษาในทุกด้าน นอกจากน้ีบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนที่เปิดสอนระดับปฐมวัยยังเป็นส่วนสำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย แต่บุคลากรที่สำคัญเหล่าน้ีมักขาดโอกาสในการพัฒนาฝึกอบรม อย่างต่อเน่ือง รวมถึงขาดความต่อเน่ืองในการทำงาน โดยมีข้อเสนอแนะ คือ ควรมียุทธศาสตร์ การพัฒนาผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคลากรผู้ดูแลเด็กในด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย อย่างต่อเน่ือง เช่น การจัดการหลักสูตรฝึกอบรม เป็นต้น รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน ความร่วมมือของพ่อแม่ผู้ปกครองและการมีส่วนร่วมของชุมชนทุกภาคส่วน เพ่ือสนับสนุน การจดั การศึกษาปฐมวยั 4. ด้านอาคารสถานท่ีและอุปกรณ์ ปัจจุบันความพร้อมของอาคารสถานท่ีของศูนย์พัฒนา เด็กเล็กและโรงเรียน ท่ี จัดการเรียนการสอน เด็กปฐมวัยมี ความแตกต่ าง กันมากองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่มีรายได้สูงมักจะมีความพร้อมทางด้านอาคารสถานที่มากกว่าองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นท่ีมีรายได้น้อยกว่า ซึ่งทำให้เกิดความเหล่ือมล้ำในการดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมี ขอ้ เสนอแนะ คือ ควรให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศกึ ษาธิการร่วมกันประเมินและพัฒนาศนู ย์ พัฒ นาเด็กเล็กหรือโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแก่เด็กปฐมวัยให้ผ่านเกณ ฑ์ ขั้นต่ำ ของมาตรฐานศูน ย์เด็กเล็กแห่ งชาติอย่างน้ อยหนึ่ งแห่งต่อหนึ่งตำบลท่ั วประเทศเพื่อเป็นต้นแบบ การจดั การศึกษาปฐมวยั ท่ีเหมาะสม 5. ด้านงบประมาณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนที่เปิดสอนระดับปฐมวัยจำนวนมาก ประสบปัญหาการขาดงบประมาณสนับสนุนการดําเนินงาน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางแห่งได้รับ การสนับสนุนจากภายนอก เช่น ผู้ปกครองหรือบริษัทเอกชนในพ้ืนท่ี โดยมีข้อเสนอแนะ คือ คว รให้ ผู้ นําแล ะผู้บ ริห ารท้ องถ่ินจั ดทำแผน พั ฒ นาการจั ดการศึกษ าปฐ มวัย โดยให้ ความส ำคัญ เปน็ ลำดบั ตน้ 6. รัฐบาลควรดำเนินการจัดทำนโยบายสำคัญด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมีนโยบาย เรง่ ดว่ น ภายใตโ้ ครงการ “1 ตำบล 1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีมาตรฐาน”ควบรวมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ มีหลายแห่งในพ้ืนท่ีตำบล หากพบว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใดมีมาตรฐานการดําเนินงานที่ต่ำกว่าเกณฑ์ และมีการเจรจาและจัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาที่รับผิดชอบการศึกษาในตำบล โดยรัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณ เบื้องตน้ ท่ีใช้ในการดําเนินงานควบรวมศนู ย์พัฒนาเด็กเล็ก เพ่ือช่วยให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบสามารถ ดำเนนิ การไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

30 1.5 การจดั การศกึ ษาปฐมวัย การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นการจัด การศึกษา ให้แก่เด็ก 6 ขวบแรก เป็นการจัดการศึกษา เพื่อการดูแล และสร้างเสริมเด็กให้พัฒนาเต็มศักยภาพ ด้วยการเรียนรู้ที่ถูกต้องชัดแจ้ง ลักษณะ การจัดการเรียนการสอนจึงมุ่งจําเพาะไปท่ีการพัฒนาเด็กโดยการจัดการเรียนการสอนให้ตรงระดับ พัฒนาการตามวัยและส่งเสริมพัฒนาการแบบองค์รวม ให้ตรงกับความต้องการและความสนใจ สรา้ งความพร้อมให้เดก็ เป็น ผใู้ หญท่ ่มี คี ณุ ภาพมพี ุทธปิ ญั ญา (กุลยา ตันติผลาชวี ะ, 2545) การจัดการศึกษาปฐมวัยว่า หมายถึง การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีอายุต้ังแต่แรกเกิด จนถึง 6 ปี ซึ่งการจัดการศึกษาดังกล่าวจะมีลักษณะแตกต่างไปจากระดับอ่ืนๆ ท้ังนี้ เพราะเด็ก ในวัยน้ีเป็นวัยที่สำคัญต่อการวางรากฐานบุคลิกภาพและการพัฒนาทางสมอง การจัดการศึกษา สำหรับเด็กในวัยนี้มีชื่อเรียกต่างกันไปหลายชื่อซึ่งแต่ละโปรแกรมมีวิธีการและลักษณะในการ จัดกจิ กรรมซ่ึงมีจุดมุง่ หมาย ท่จี ะชว่ ยพฒั นาเด็กในรูปแบบต่างๆ กนั (เยาวพา เดชะคปุ ต์, 2542) แนวทางเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์และกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กปฐมวัย ไวด้ ังน้ี 1. การจัดประสบการณส์ ำหรบั เด็กปฐมวยั มงุ่ ให้พัฒนาการเด็กท้งั ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์-จติ ใจ สงั คม และสติปัญญา โดยจัดประสบการณใ์ นรูปกจิ กรรมแทนการสอนวชิ า 2. การพัฒนาเด็กให้ครบทุกด้านโดยไม่เน้นการสอนอ่าน – เขยี นในระดับปฐมวัยนั้นจะไม่ทำ ให้ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนในระดับประถมศึกษาตำ่ กว่าเด็กที่เรียนอ่าน – เขียนในระดับประถมศึกษา แตอ่ ย่างใด 3. ภาษาไทยและคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัยนั้นเป็นเพียงข้ันพ้ืนฐานในขณะที่ระดับ ประถมศกึ ษาจะเนน้ ทกั ษะการคดิ คำนวณเป็นสว่ นใหญ่ 4. การจัดประสบการณ์แก่เด็กปฐมวัยนั้นจะยืดพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ – จิตใจ สังคมและสติปัญญาเป็นหลักในการจัดทำแนวการจัดประสบการณ์ซ่ึงจะแตกออกมาเป็นรายการ ประสบการณแ์ ละเนื้อหาซึง่ จะใชจ้ ัดทำเป็นแผนการจัดประสบการณต์ ่อไป (ราศี ทองสวสั ดิ,์ 2542)

31 2. การประเมนิ คุณภาพโดยใชม้ าตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 “มาตรฐาน” ถือเป็นเกณฑ์ท่ีรับรองกันท่ัวไป หรือสำหรับไว้เทียบกำหนดท้ังในด้านปริมาณ และคุณภาพ ซงึ่ มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ พ.ศ. 2562 เปน็ มาตรฐานท่ีกำหนดข้ึนเพ่ือ ใช้เป็นหลักเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริม กำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผลการพัฒนาเด็ก ปฐมวัยของสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยท้งั ภาครฐั และเอกชน ตามท่กี ำหนดไวใ้ นพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จงึ เป็นมาตรฐานท่ีมงุ่ เน้น การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย การดูแลและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยของครู/ ผู้ดูแลเด็ก และคุณภาพของเดก็ ปฐมวยั ต้ังแต่แรกเกิด – 6 ปี (กอ่ นจะเขา้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1) การกำหนดให้มีมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยจึงทำให้เกิดโอกาสท่ีเท่าเทียมกันในการ พัฒนาคุณภาพและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่งจะมี เกณฑ์เปรียบเทียบกับมาตรฐานซ่ึงเป็นมาตรฐานเดียวกัน และทำให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเข้าใจ ชัดเจนวา่ จะพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวยั ไปในทศิ ทางใด ดังน้ัน หากมีการติดตามตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานเพื่อประเมินความก้าวหน้า หรือมี การประเมินเพื่อรองรับมาตรฐานโดยองค์กรภายนอก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยก็สามารถเตรียมตัว ให้พร้อมในการประเมนิ น้ัน ๆ ไดแ้ ละการกำหนดมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั ยังเป็นการกำหนด ความคาดหวังให้ชัดเจนท้ังครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้บริหาร พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ ทม่ี ีส่วนเก่ียวข้องในการจดั การศกึ ษาสำหรับเดก็ ปฐมวัย และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ท่ีจะได้ทราบ คุณภาพมาตรฐานของแต่ละสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยว่ามีจุดเด่น จุดควรพัฒนาในเรื่องใดบ้าง การมีเคร่ืองชี้วัดเทียบเคียงท่ีกำหนดในมาตรฐานแต่ละด้าน ทำให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต้อง ถือเป็นความรับผิดชอบ และยังเป็นการรับผิดชอบต่อสาธารณชน (Accountability) ท่ีจะต้องทำ ให้เด็กมีคุณภาพตามมาตรฐานคุณภาพครู/ผู้ดูแลเด็กท่ีต้องการให้การดูแล และจัดประสบการณ์การ เรี ย น รู้ แ ล ะ ก า ร เล่ น เพ่ื อ ก า ร พั ฒ น า เด็ ก ป ฐ ม วั ย ให้ ได้ ม า ต ร ฐ า น คุ ณ ภ า พ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร อย่างมีมาตรฐาน ตลอดจนการสร้างอัตลักษณ์ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (กรมกิจการเด็กและ เยาวชน กระทรวงพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์, 2562) ระบบบริหารคณุ ภาพ กบั มาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยแหง่ ชาติ ปี พ.ศ. 2562 การกำหนดมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีการประยุกต์แนวคิดที่สำคัญ คือ แนวคิด การทำงานเชิงระบบ (System Approach) ซึ่งประกอบด้วย 1) ปัจจัย (Input) ได้แก่ คน งบประมาณ วัสดุ 2) กระบวนการ (Process) ไดแ้ ก่ การบรหิ ารจัดการ การดูแล การจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ และ3) ผลผลิต (output) ได้แก่ คุณภาพของเด็กสามารถกำหนดกรอบแนวคิดเพื่อความ ชัดเจนในการกำหนดมาตรฐานแต่ละด้าน และแนวคิดที่สำคัญอีกแนวคิดหนึ่ง คือ ระบบบริหาร คุณภาพ (PDCA) เพื่อประเมินคุณภาพการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย PDCA มาจาก คำภาษาอังกฤษ 4 คำ คอื

32 1. Plan การวางแผน 2. Do การปฏิบตั ิ 3. Check การตรวจสอบ 4. Act การดำเนินการใหเ้ หมาะสม การใช้วงจร PDCA เพ่ือการปรับปรุงงานอย่างต่อเน่ือง ทกุ คร้ังที่วงจรหมุนครบรอบก็จะเป็น แรงส่งให้หมุนในรอบต่อไป วิธีการใหม่ๆ ท่ีทำให้เกิดการปรับปรุงก็จะถูกจัดทำเป็นมาตรฐาน การทำงาน ซ่ึงจะทำให้การทำงานมีการพัฒนาอย่างไม่ส้ิ นสุด ซ่ึงอาจเริ่มด้วยการปรับปรุง เล็ก ๆ นอ้ ย ๆ ก่อนท่จี ะก้าวไปสู่การปรับปรุงท่มี ีความซบั ซอ้ นมากยิ่งขนึ้ โครงสรา้ งวงจร PDCA ทัง้ 4 ข้ันตอน ประกอบด้วย ข้ันตอนการวางแผน (Plan) ข้ันตอนการวางแผน ครอบคลุมถึงการกำหนดกรอบหัวข้อที่ต้องการปรับปรุง เปล่ียนแปลง ซ่ึงรวมถึงการพัฒนาส่ิงใหม่ๆ การแก้ปัญหาที่เกิดข้ึนจากการปฏิบัติงาน ฯลฯ พร้อมกับ พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลใดบ้างเพื่อการปรับปรุงเปล่ียนแปลงน้ัน โดยระบุวิธีการเก็บ ข้อมูลให้ชัดเจน นอกจากนี้ จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ แล้วกำหนดทางเลือกในการปรับปรุง เปล่ียนแปลงดังกล่าว การวางแผนยังช่วยให้สามารถคาดการณ์สิ่งท่ีเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลด ความสูญเสียต่างๆที่อาจเกิดข้ึนได้ ท้ังในด้านแรงงาน วัตถุดิบ ช่ัวโมงการทำงาน เงินเวลา ฯลฯ โดยสรุปแล้ว การวางแผนช่วยให้รับรู้สภาพปัจจุบัน พร้อมกับกำหนดสภาพท่ีต้องการให้เกิดขึ้นใน อนาคตด้วยการผสานประสบการณ์ ความรู้ และทกั ษะอยา่ งลงตวั ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ (Do) ขั้นตอนการปฏิบัติ คือ การลงมือปรับปรุงเปล่ียนแปลงตามทางเลือกที่ได้กำหนดไว้ใน ข้ันตอนการวางแผน ในข้ันน้ีต้องตรวจสอบระหว่างการปฏิบัติด้วยว่าได้ดำเนินไปในทิศทางท่ีต้ังใจ หรือไม่ พร้อมกับการสื่อสารให้ผทู้ ี่เก่ยี วข้องรับทราบด้วย ไม่ควรปล่อยให้ถึงวินาทีสดุ ท้าย เพ่ือดคู วาม คบหน้าที่เกิดข้ึน หากเป็นการปรับปรุงในหน่วยงานผู้บริหารย่อมต้องการทราบความคืบหน้าอย่าง แน่นอน เพื่อจะได้ม่ันใจว่าโครงการปรับปรงุ เกิดความผิดพลาดน้อยทส่ี ดุ ขน้ั ตอนการตรวจสอบ (Check) ขั้นตอนการตรวจสอบ คือ การประเมินผลที่ได้รับจากการปรับปรุงเปล่ียนแปลง แต่ขั้น ตอนนี้มักจะถูกมองข้ามเสมอ การตรวจสอบทำให้ทราบว่าการปฏิบัติในข้ันที่สองสามารถบรรลุ เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ ส่ิงสำคัญก็คือ ต้องรู้ว่าจะตรวจสอบอะไรบ้ าง และบ่อยคร้งั แค่ไหน ขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการตรวจสอบจะเป็นประโยชนส์ ำหรบั ขั้นตอนถดั ไป ข้นั ตอนการดำเนนิ งานให้เหมาะสม (Act) ขั้นตอนการดำเนินงานให้เหมาะสม จะพิจารณาผลท่ีได้จากการตรวจสอบ ซ่ึงมีอยู่ 2 กรณี คือ ผลที่เกดิ ข้ึนเป็นไปตามแผนทว่ี างไว้ หรือไม่เปน็ ไปตามแผนที่วางไว้ หากเปน็ กรณีแรก กใ็ ห้

33 นำแนวทางหรือกระบวนการปฏิบัติน้นั มาจดั ทำให้เป็นมาตรฐาน พรอ้ มท้ังหาวิธีการที่จะปรับปรุงให้ดี ยิ่งขึ้นไปอกี ซ่ึงอาจหมายถงึ สามารถบรรลุเป้าหมายไดเ้ ร็วกว่าเดิม หรือเสียค่าใชจ้ ่ายน้อยกว่าเดิม หรือ ทำให้คุณภาพดียิง่ ขึน้ กไ็ ด้แต่ถ้าพิจารณาว่าควรจะดำเนินการอย่างไร จากแนวคิดระบบบริหารคุณภาพ (PDCA) ท่ีนำมาใช้ในการกำหนดกรอบการประเมินตนเอง เพ่ือการพัฒนาคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ผู้บริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และต้นสังกัด สามารถใช้มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ.2562 สำหรับเด็กแรกเกิด – อายุ 6 ปี (ก่อนเข้าประถมศึกษาปีท่ี 1) โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาในระดับต่างๆตามรายการพิจารณาจากตัว บ่งช้ีในแต่ละมาตรฐานที่ระบุไว้ ไม่ว่าสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยจะได้ผลการประเมินในระดับใดก็ตาม การพัฒนาคุณภาพในด้านต่างๆในทุกระดับยังต้องพัฒนาให้ดีย่ิงขึ้นไป โดยใช้แนวคิด PDCA และพัฒนาเพ่มิ เติมอย่างตอ่ เนื่องจนดีเลศิ อย่างต่อเน่อื งต่อไป เชน่ การสง่ เสรมิ ภาษาท่ี 2 และ 3 ให้กับ เด็กการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมมาใช้จัดประสบการณ์เรียนรู้ ระเบียบวินัย และความเป็นพลเมืองโลก การส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างสมรรถนะสำหรับเด็กที่มีความแตกต่าง อยา่ งสร้างสรรค์ เป็นการพฒั นาคณุ ภาพเดก็ ปฐมวยั 3. ปัญหาและความทา้ ทายของการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั เหตใุ ดประเทศไทยจงึ ตอ้ งให้ความสำคญั กบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั 1. เป็นชว่ งวยั ทีพ่ ัฒนาการดา้ นสมองและการเรยี นร้เู ปน็ ไปอย่างรวดเรว็ ท่สี ดุ ในชีวติ 2. เป็นช่วงเวลาทใ่ี หผ้ ลของการลงทนุ ทีค่ ุม้ ค่าทสี่ ุด เพอื่ พฒั นาทรพั ยากรมนุษยใ์ หเ้ ต็มศกั ยภาพ 3. เป็นสิทธิขั้นพ้ืนฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กท่ีพึงได้รับสิทธิที่จะมีชีวิตรอด ได้รับการพฒั นา คุ้มครอง ตลอดจนมีส่วนรว่ มต่างๆ 4. เป็นรากฐานของการพัฒนาท้ังปวง ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพมนุษย์ท่ีย่ังยืนและป้องกัน ปญั หาสังคมในระยะยาว 5. สร้างรากฐานของชีวิต (Foundation/Building Blocks) เพราะเป็นช่วงวัยท่ีต้องการปลูกฝัง และบม่ เพาะเป็นพเิ ศษ 6. เป็นการสร้างความพร้อมในการเรียนรู้และเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs เป้าหมายที่ 4 ในเรื่อง การไดร้ ับการศกึ ษา 7. คุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง และส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ทุกคน ลดความเหล่อื มล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสงั คม (Equity and Equality)

34 3.1 ปญั หาและความท้าทาย 1. ภาวะทุพโภชนาการยังเป็นสิ่งท้าทายในการพัฒนาเด็กปฐมวัย ถึงแม้ว่าในรอบ สองทศวรรษท่ีผ่านมา ภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัยได้รับการเอาใจใส่จากหลายภาคส่วน แต่ปัจจุบัน ยงั พบปัญหาการทุพโภชนาการสองด้าน ภาวะโภชนาการขาด เช่น การที่เด็กปฐมวัยป่วยอันมีผลจาก การไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน การขาดไอโอดีน น้ำหนักที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ และปัญหาสูงไม่สมส่วน ตามเกณฑ์ (เต้ีย แคระแกรน) และ ภาวะโภชนาการเกิน เช่น การที่เด็กป่วยจากภาวะอ้วน และโรคขา้ งเคียงรวมถงึ การท่ีเดก็ บริโภคนำ้ ตาลมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาท่ยี ังรอการแก้ไข 2. การสร้างความเข้าใจถึงประเด็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การส่งเสริมการ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และการให้ทุกภาคส่วนระดมสรรพกำลังเพื่อ สนับสนุนให้การเล้ียงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก เพื่อสร้างให้เด็กได้รับอาหารท่ี เพียงพอต่อการพัฒนาการเติบโตตามวัยยังเป็นส่ิงที่ทำได้ไม่ท่ัวถึงกับประชาชนทั่วไป ตามการสำรวจ สถานการณ์เดก็ และสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2555 พบว่า เด็กอายุ ต่ำกว่า 6 เดอื น ที่กินนมแม่เพียง อยา่ งเดยี วมีประมาณ ร้อยละ 12 และในปพี .ศ. 2558 - 2559 มอี ัตราอย่ทู ี่ ร้อยละ 23.1 3. พ่อแม่ ผู้ปกครองในปัจจุบัน ขาดเวลา ความรู้ เจตคติ และทักษะการดูแลเล้ียงดูเด็ก เพื่อท่ีจะดูแลเด็ก ตามความต้องการ กระตนุ้ พัฒนาการตามวัย และส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเจริญเติบโต แข็งแรงและสมบูรณ์ อีกทั้งยังขาดความเข้าใจในการเข้าถึงการใช้บริการปฐมวัย และทำงานร่วมกัน กับบุคลากรทางปฐมวัยไม่ว่าเป็นผู้ให้คำแนะนำ ด้านสุขภาพและการศึกษาเพ่ือประสานการทำงาน ร่วมกับชุมชน ท้องถ่ินให้สามารถพัฒนาเด็กแบบองค์รวม และสอดคล้องกับบริบทวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาพ้ืนบ้าน และให้การช่วยเหลือเด็กอย่างทันทว่ งทีหากพบความผดิ ปกติ 4. ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการปฐมวัย และความเหล่ือมล้ำของคุณภาพการจัดบริการ ซ่ึงจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554 - 2558) พบว่า ศูนย์พัฒนาเด็กในภาพรวมทุกตัวบ่งช้ี อยู่ในระดับพอใช้ และมี ศูนย์พัฒนาเด็กท่ีต้องปรับปรุง และต้องปรับปรุงเร่งด่วน ร้อย ละ 10.78 หรือ 2,266 แห่ง จาก 21,036 แห่ง ซึ่งก่อให้เกิดผลของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัยอย่างไม่เท่าเทียม จึงมีความจำเป็นที่ต้องสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกดิ ท่ีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียม นอกจากน้ัน การลงทุนเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยถือเป็นการลงทุนอย่างคุ้มค่า และได้รับการยอมรับ จากนานาประเทศ 9 ว่าผลสัมฤทธ์ขิ องการลงทุนกบั การพัฒนาเดก็ ให้ผลแก่ตัวเด็กเอง พัฒนาสมองให้ เต็มศักยภาพ สร้างพ้ืนฐานที่ดีในการศึกษาในระดับที่สูงข้ึน สร้างงาน สร้างรายได้ในอนาคต และเกิดผลลัพธ์ทางสังคมเชิงบวก เช่น ลดภาระการแบกรับปัญหาทางสังคม สนับสนุนรายได้ และเศรษฐกิจของประเทศ โดยการศึกษาครง้ั ล่าสุดในปี พ.ศ. 2559 พบว่าการ ลงทุนในการให้บริการ คุณภาพแก่เด็กปฐมวัยต้งั แต่แรกเกดิ ถึง 5 ปีให้ผลตอบแทนสงู สดุ ถงึ 13 เปอร์เซ็นต์ 5. ขาดความเข้าใจในการประสานงานอย่างเป็นระบบของกระทรวงหลักด้านปฐ มวัย (กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

35 กระทรวงศึกษาธิการ) ถึงแม้ว่ามีการประสานการดำเนินงานระหวา่ งทุกกระทรวง หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนท่ีเกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย แต่การประสานงานดังกล่าวให้เป็นระบบยังต้องการความเข้าใจเพื่อ ผนึกกำลังการวางแผน ติดตามประเมินผล และการรายงานผลการประสานการทำงานท่ีสร้างกลไก ทางนโยบายสังคมท่ีช่วยเหลือประชาชนท่ียากจน และไม่สามารถเข้ารับบริการด้านสุขภาพ การปกป้องสิทธเิ ดก็ การให้บริการการศึกษา และการพฒั นาเด็กปฐมวัยทมี่ ีคณุ ภาพได้อยา่ งเทา่ เทยี ม 6. การจัดประสบการณ์และการเตรียมความพร้อมเด็กปฐมวัยน้ันต้องทำต้ังแต่แรกเกิด และเชื่อมต่อไปยังระดับประถมศึกษาปีที่ 1 อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 เด็กแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี มีพัฒนาการสมวัยเพียงร้อยละ 78.4 และยังมีเด็กอายุ 2 - 5 ปี ประมาณ ร้อยละ 13.34 (ประมาณ 4.1 แสนคน) ท่ีไม่ได้เข้าเรียนในศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาล เพ่ือเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนระดับประถมศึกษาจึงต้องจัดการศึกษาและประสบการณ์ ใหส้ ามารถกระตุน้ พฒั นาการ เตรียมความพรอ้ มรอบดา้ นใหเ้ ด็กปฐมวัยสามารถกา้ วเขา้ สู่การเรียนรูใ้ น ระบบโรงเรียนที่เป็นการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึนกับเด็กทุกคน ให้เป็นประสบการณ์สำคัญสำหรับเด็ก ที่จะเรียนรู้และปรับตัวเพื่อก้าวผ่านการเปล่ียนแปลงน้ีไปได้ ด้วยความร่วมมือของพ่อแม่ผู้ปกครอง สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 7. ปัญหากลุ่มเด็กไร้รัฐ ไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธ์ุ ชนกลุ่มน้อยเกือบ 70,000 คน ซ่ึงไม่อาจ เข้าถึงสิทธิข้ันพ้ืนฐานด้านการบริการสาธารณสุขได้ โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีแนวตะเข็บชายแดน พบความ เหล่ือมล้ำของการเขา้ ถงึ บรกิ ารสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวติ ดว้ ยปญั หาของสิทธติ ามกฎหมาย และการพิสูจน์สถานะบุคคลเพื่อการเข้าถึงสิทธิประโยชน์อ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงเป็นปัญหามายาวนาน และสง่ ผลกระทบกับการพัฒนาประเทศในระยะยาว หากไม่ได้รับการแกไ้ ขอย่างเป็นระบบ (สำนกั งาน เลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2560) 3.2 โอกาสของการพฒั นาเด็กปฐมวัย น โยบ ายรัฐบ าลด้าน เด็กป ฐม วัย พ .ศ. 2555 - 2559 ได้วางน โยบ ายของรัฐ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ประสานและบูรณ าการการดำเนินงาน ของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กทุกวัย โดยมีพันธกิจหลักจัดทำรายละเอียด และแนวทางปฏิบัติท่ีเป็นรูปธรรมแล้วรายงานต่อคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2559 กระทรวงหลัก 4 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง สาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงนาม กรอบความร่วมมือการพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยมีกรอบบูรณาการปฐมวัยให้มีกลไกขับเคลื่อน ระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับอำเภอที่ชัดเจน รวมถึงตัวช้ีวัดหลักภายใต้เป้าหมายร่วมกัน กลา่ วคอื ต้องการใหเ้ ดก็ ปฐมวยั ทุกคน แขง็ แรง เก่ง ดี มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มที กั ษะ นอกจากนี้ มีการแต่งต้ังคณะกรรมการระดับชาติด้านเด็กปฐมวัย ได้แก่ คณะกรรมการ พัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) ซ่ึงให้ความสำคัญท้ังในเรื่องการจัดทำนโย บายและแผน มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมถึงการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลส่งผ่านและแลกเปล่ียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook