วิชา การจัดการองค์การบริการสารสนเทศ

185 Bieraugel, Mark. (2015). Management Library Innovation Using the Lean Startup Method. Library Management. 36(4/5): 351-361. [Online]: Available HTTP: https://doi.org/10.1108/LM-10-2014-0131. Binh, P Le. (2015). Academic Library Leadership in the Digital Age. Library Management. 36(4/5): 300-314. [Online]: Available HTTP: https://doi.org/ 10.1108 /LM-07-2014-0083. Doung-in, S. (2012). Social Interface to Digital Libraries. Glasgow, United Kingdom: University of Strathclyde. Leong, Julia. (2012). Fostering Innovation through Cultural Change. Paper presented at the 2012 International Association of Technological University Libraries (IATUL) Conference. [Online], Available HTTP: http://docs.lib. purdue.edu /iatul/2012/papers/45. Mathew, K., Baby, M. D. & Pillai, S. Sreerekha. (2011). Professional Development of Academic Library Professionals in Karala. In Asia-Pacific Conferremce on Library& Information Education & Practice 2011 (A-LIEP 2011), p.140-148. Selangor: Faculty of Information Management, University Technology Mara. Toyama, Ryoko. (2015). The theory of the knowledge-creating firm: subjectivity, objectivity and synthesis. Japan: Graduate School of Knowledge Science, Japan Advanced Institute of Science and Technology. [Online] Available HTTP: https://academic.oup.com/icc/article-abstract/14/3/419/679146/ The-theory-of-the-knowledge-creating-firm.

แผนบรหิ ารการสอนประจาบทท่ี 9 มาตรฐาน การประกนั คณุ ภาพ และกฎหมายเกีย่ วกับ องค์การบริการสารสนเทศ เวลาเรียน 8 คาบ เนอื้ หา 1. ความหมายของมาตรฐาน 2. ประเภทของมาตรฐานองค์การบรกิ ารสารสนเทศ 3. มาตรฐานระดับชาติ มาตรฐานระดับนานาชาติ และมาตรฐานเพอ่ื การเทียบเคียง 4. ความหมายของการประกันคุณภาพ 5. วตั ถุประสงคใ์ นการประกันคุณภาพ 6. องคป์ ระกอบของการประกนั คุณภาพ 7. หลกั การและรูปแบบการประกันคณุ ภาพ 8. การประเมินระบบประกนั คณุ ภาพ 9. กฎหมายเกย่ี วกบั การจดั การองค์การบริการสารสนเทศ 10. กฎหมายในการบริหารงานบุคคล กฎหมายการจัดหาพัสดุ กฎหมายในการจัดระบบ เอกสารและเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสาร 11. บทบัญญตั แิ หง่ กฎหมายที่บุคลากรองคก์ ารบริการสารสนเทศควรทราบ 12. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการละเมิด ประมวลกฎหมายอาญา และ พระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิ 13. ขอ้ ยกเว้นในการท้าซ้าโดยบุคลากรองค์การบริการสารสนเทศ วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม เม่อื นกั ศกึ ษาเรยี นจบบทนีแลว้ สามารถ 1. เม่อื ฟงั การบรรยายแล้ว สามารถอธิบายความหมาย และระบุประเภทของมาตรฐาน องค์การบรกิ ารสารสนเทศได้อย่างถูกต้อง

188 2. พิจารณา เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกมาตรฐานระดับชาติ มาตรฐานระดับ นานาชาติ และมาตรฐานเพื่อการเทียบเคียงเพ่ือน้ามาใช้ในองค์การบริการสารสนเทศได้อย่าง เหมาะสม 3. อธิบายความหมาย วัตถุประสงค์ และองค์ประกอบของการประกันคุณภาพได้ 4. เม่ืออ่านกรณีศึกษาแล้ว สามารถตรวจสอบรายงานผลตามหลักการ รปู แบบ และการ ประเมนิ ระบบประกนั คุณภาพได้ 5. ตระหนักถึงความส้าคัญของกฎหมายเก่ยี วกบั การจัดการองค์การบรกิ ารสารสนเทศได้ และอธิบายความสา้ คัญอย่างน้อย 5 ขอ้ 6. เมื่อก้าหนดโจทย์ให้ สามารถน้ากฎหมายในการบริหารงานบุคคล กฎหมายการจัดหา พัสดุ กฎหมายในการจัดระบบเอกสารและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารมาประยุกต์ใช้ในการด้าเนินการได้ อย่างเหมาะสม 7. ให้เหตผุ ลและวเิ คราะห์บทบัญญตั แิ ห่งกฎหมายทีบ่ คุ ลากรองค์การบรกิ ารสารสนเทศ ควรทราบได้อย่างถกู ต้อง 8. เมอ่ื ก้าหนดกรณีตวั อย่าง สามารถเขยี นและระบุขอ้ ยกเว้นในการท้าซา้ โดยบุคลากร องค์การบริการสารสนเทศได้อยา่ งถูกต้อง 9. ระบุประโยชน์ของมาตรฐาน การประกันคุณภาพ และกฎหมายท่ีเก่ียวกับองค์การ บรกิ ารสารสนเทศได้อย่างนอ้ ย 10 ขอ้ วธิ สี อนและกิจกรรม 1. บรรยายและอภปิ รายประกอบเอกสารค้าสอน หนังสือ และ Power point เนือหาบท ท่ี 9 2. บรรยายความหมาย ประเภทของมาตรฐานองคก์ ารบริการสารสนเทศแล้วซักถาม ความรูค้ วามเข้าใจรายบคุ คล 3. แบง่ กลมุ่ เป็น 4 กลมุ่ เพื่อ จดั กิจกรรมกลุ่ม อภปิ รายกลุ่มย่อยตามหัวข้อท่ีมอบหมาย 5. บรรยายและยกกรณีศึกษามาตรฐานและหลักการประกันคุณภาพ แล้วให้ผู้ศึกษา ร่วมกันพิจารณา เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกมาตรฐานระดับชาติ มาตรฐานระดับนานาชาติ และ มาตรฐานเพื่อการเทียบเคยี งเพ่อื นา้ มาใช้ในองคก์ ารบริการสารสนเทศที่ก้าหนดให้ น้าเสนอรายกลมุ่ 6. ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอธิบายความหมาย วัตถุประสงค์ และองค์ประกอบของการ ประกันคุณภาพ ให้ใบงานกรณีศึกษา การประเมินห้องสมุด แล้วให้ช่วยกันตรวจสอบรายงานผลตาม หลักการ รูปแบบ และประเมนิ ผลตามระบบประกนั คณุ ภาพ น้าเสนอแลว้ ร่วมกันอภปิ รายสรุป ค่มู อื อินเทอรเ์ นต็ เพ่ือน้าเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ 7. ใหผ้ ศู้ กึ ษาท้าใบงาน “กรณีศกึ ษาการละเมดิ ลิขสิทธิ์” แสดงความคิดเหน็ และวิเคราะห์ โดยใชก้ ฎหมายลิขสิทธป์ิ ระกอบ 8. ทดสอบประเมนิ ผลรายบทโดยใชแ้ บบทดสอบ

189 สื่อการเรยี นการสอน 1. เอกสารค้าสอนวชิ า การจดั การองค์การบรกิ ารสารสนเทศ บทท่ี 9 2. แผ่นดสิ เกต็ Power point บทท่ี 9 3. ใบงาน “กรณีศึกษาการละเมิดลขิ สิทธิ์” “การประเมนิ ห้องสมุด” 4. แบบประเมนิ ห้องสมดุ 5. แบบทดสอบ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินผลงานที่มอบหมาย 2. ประเมนิ ผลจากการถามตอบ การอภปิ ราย 3. สงั เกตพฤติกรรมการร่วมงานกลุ่ม และการนา้ เสนอผลงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลการเรียน

190

191 บทที่ 9 มาตรฐาน การประกนั คณุ ภาพ และกฎหมายเกีย่ วกบั องค์การบริการสารสนเทศ ความสา้ เร็จขององค์การบริการสารสนเทศเกิดจากปัจจัยและกระบวนการในการจัดการสิ่ง ท่ีมีและรับรู้ได้อย่างมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ คนที่ตัดสินใจว่าองค์การบริการ สารสนเทศบริการดีประสบผลส้าเร็จไม่ได้อยู่ที่ผู้บริหาร แต่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือผู้ใช้บริการ ต่างหาก ความส้าเร็จขององค์การเกิดจากการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม น้าเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ ความพร้อมในดา้ นบุคลากร ทรัพยากร งบประมาณ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนแนวคิด วิสัยทัศน์ในการ บริหารจัดการในด้านต่างๆ ทังการจัดองค์การ งานอาคารสถานท่ีพัสดุ งานธุรการสารบรรณ งาน การเงินงบประมาณ การบริหารทรพั ยากรบุคคล การควบคุมวินิจฉัยส่ังการ การสื่อสารองค์การ การ รายงานและประชาสัมพันธ์ นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใดๆ ก็ไม่สามารถท้าให้องค์การบริการ สารสนเทศประสบผลส้าเร็จได้ หากปราศจากความร่วมมือและประสานงานสัมพันธ์กันท้างานเชิงรุก ด้วยความริเริ่มสร้างสรรค์จากผู้บริหารและบุคลากรทุกภาคส่วนในองค์การ ความมุ่งมั่น ทุ่มเทการ ด้าเนินงานโดยเต็มก้าลังความสามารถ โดยน้ารูปแบบการบริหารจัดการแนวใหม่ มีความรับผิดชอบ ต่อสังคม พร้อมก้าวสู่เวทีในการแข่งขันทังในระดับชาติและนานาชาติ มาตรฐานและการประกัน คุณภาพ คือสิ่งท่ีจะยืนยันให้ผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้เก่ียวข้อง ตลอดจนสาธารณชนได้รับรู้ และน้ามาซึง่ ชอ่ื เสยี งสรา้ งความภาคภมู ใิ จให้แกอ่ งค์การ มาตรฐานองค์การบรกิ ารสารสนเทศ 1. ความหมายของมาตรฐาน มาตรฐาน (Standard) คอื ส่ิงที่ถือเอาเปน็ เกณฑท์ ่รี บั รองกันทวั่ ไป เช่น สิ่งท่ถี อื เอา เป็นเกณฑ์สา้ หรบั เทยี บก้าหนดทังในดา้ นปริมาณและคุณภาพ (ราชบัณฑิตยสภา, 2554: 855) มาตรฐานเปน็ ตวั กา้ หนดถึงคุณภาพของการปฏบิ ัติงาน หรือปรมิ าณของสิง่ ที่องค์การจดั หามาตามที่ได้ ระบเุ อาไวเ้ ป็นลายลักษณอ์ ักษร และเกณฑห์ รอื ข้อก้าหนดเหลา่ นนั เป็นสง่ิ ท่ีได้รบั การรับรองยอมรบั โดยท่ัวไป 2. ประเภทมาตรฐานองค์การบรกิ ารสารสนเทศ มาตรฐานองค์การบริการสารสนเทศจ้าแนกได้หลายลกั ษณะ ทสี่ า้ คญั มีดงั นี 2.1 มาตรฐานระดับชาติ ได้แก่มาตรฐานท่ีประเทศใดประเทศหน่ึงก้าหนดขึนมาเพื่อ เป็นเกณฑ์ให้องค์การบริการสารสนเทศต่างๆ สามารถน้าไปใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการ

192 องค์การให้มีประสิทธิภาพ เช่น มาตรฐานห้องสมุดของไทย ซึ่งก้าหนดขึนโดยสมาคมห้องสมุดแห่ง ประเทศไทย สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีบทบาทในการส่งเสริมสถาบันห้องสมุด องค์การบริการสารสนเทศท่ัวประเทศ เพื่อให้เจริญวัฒนาถาวรย่ิงขึน โดยท่ีสมาชิกของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ซ่ึงเป็น ผู้ปฏิบัติงานในห้องสมุดประเภทต่างๆ ได้ตระหนักถึงความส้าคัญและความจ้าเป็นท่ีต้องมีมาตรฐาน ห้องสมุดไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและเพื่อยกระดับของการด้าเนินงานให้มีมาตรฐานที่สูงขึน ทังในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ที่ประชุมของสมาคมจึงมีการตังคณะอนุกรรมการร่างและจัดท้า มาตรฐานห้องสมุดฉบับแรกขึนเมื่อ พ.ศ. 2531 (สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ, 2537: 1) โดยมี การปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นเกณฑ์ขันต่้า ส้าหรับให้ห้องสมุดทุกประเภทมาอย่างต่อเนื่องจนถึง ปัจจุบนั เพ่ือใหอ้ งคก์ ารบรกิ ารสารสนเทศทุกรูปแบบน้าไปเปน็ แนวทางในการพัฒนาตนเองดา้ นต่างๆ ประกอบด้วยด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายยุทธศาสตร์ การบริหาร งบประมาณ บุคลากร ทรัพยากรสารสนเทศ สถานที่และครภุ ัณฑ์ การบริการ เครือข่ายและความร่วมมือ และการประเมิน คุณภาพห้องสมุด เป็นต้น มาตรฐานห้องสมุดแบ่งตามประเภทขององค์การบริการสารสนเทศ ดังนี (สมาคมหอ้ งสมดุ แห่งประเทศไทย, 2559: 1) 2.1.1 มาตรฐานศนู ย์เอกสารสนเทศนานาชาติ 2.1.2 มาตรฐานห้องสมดุ สถาบนั อุดมศึกษา 2.1.3 มาตรฐานหอ้ งสมดุ โรงเรยี น 2.1.4 มาตรฐานหอ้ งสมุดประชาชน 2.1.5 มาตรฐานหอ้ งสมดุ เฉพาะ 2.1.6 มาตรฐานหอสมดุ แห่งชาติ 2.1.7 มาตรฐานหอ้ งสมุดเพื่ออาชีวศึกษาและเทคโนโลยี 2.1.8 มาตรฐานหอ้ งสมดุ ตัวอยา่ งมาตรฐานห้องสมดุ ฉบับ พ.ศ. 2549 ทสี่ ามารถน้ามาเป็นเกณฑ์ขนั ต่้ากับ องค์การบริการสารสนเทศไดท้ กุ ประเภท ดงั นี “มาตรฐานห้องสมุด พ.ศ. 2549 จัดท้าขึนเพ่ือให้สอดคล้องกับหลักการจัด การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความรู้และการเรียนรู้ ตามพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545 เพื่อการตอบสนองการเรียนรู้ด้วย ตนเอง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความต้องการของบุคคลและสังคม เพ่ือส่งเสริมคุณภาพและ พัฒนาห้องสมุดให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีเกณฑ์และแนวทางการบริหารจัดการ ห้องสมุดสู่มาตรฐานสากล สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี จงึ ไดก้ ้าหนดมาตรฐานห้องสมดุ ไว้ ดังนี

193 หมวด 1 วิสัยทัศน์ พนั ธกจิ เป้าหมายและยทุ ธศาสตร์ วสิ ยั ทศั น์ หอ้ งสมดุ เปน็ พลงั ขับเคล่อื นสงั คม ไปสสู่ งั คมแหง่ ความร้แู ละการเรยี นรู้ พันธกิจ 1. พัฒนาหอ้ งสมุดใหเ้ ป็นแหล่งความรแู้ ละการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ 2. พัฒนาบุคลากรห้องสมุดให้มีศักยภาพ และสมรรถภาพทางวิชาการและ วิชาชีพ 3. พัฒนาทรัพยากรสารสนเทศให้สอดคล้องกับความก้าวหน้า และความ ตอ้ งการของสังคม 4. พัฒนาบริการสารสนเทศให้มีคุณภาพ และส่งเสริมทักษะการเข้าถึงแหล่ง สารสนเทศของผู้รบั บริการ 5. พัฒนาการบริหารจดั การใหม้ ีประสิทธภิ าพและประสิทธิผล เปา้ หมาย 1. เพอื่ ให้มบี ริการห้องสมดุ อย่างท่ัวถึงและผู้รับบริการพึงพอใจ 2. เพื่อให้มีบุคลากรท่ีมีศักยภาพและสมรรถภาพทางวิชาการและวิชาชีพที่ เหมาะสมตามอัตราส่วนท่สี อดคลอ้ งกบั ลักษณะและปรมิ าณงาน 3. เพื่อให้มีทรัพยากรสารสนเทศหลากหลายรูปแบบ สอดคล้องกับหลักการจัด การศกึ ษา เพ่ือสรา้ งสังคมแหง่ ความรู้และการเรียนรู้ 4. เพ่ือให้มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ และการน้าความรู้ไปใช้ ประโยชนใ์ นการพฒั นาตนและสงั คม 5. เพ่ือให้มีการจัดการทรพั ยากรด้านอาคาร สถานท่ี และสิ่งอ้านวยความสะดวก ต่างๆ แก่ผูร้ ับบริการ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ล ยทุ ธศาสตร์ 1. จัดกจิ กรรม บริการและสง่ เสริมการอา่ นอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรฐั 2. เสนอให้มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ในการสร้าง สนับสนุนและพัฒนา ห้องสมดุ 3. ก้าหนดมาตรฐานห้องสมุดทังมาตรฐานกลาง มาตรฐานห้องสมุดแต่ละ ประเภท มาตรฐานงานเทคนคิ และทางเทคโนโลยที ี่เกีย่ วข้อง 4. พัฒนาศกั ยภาพและสมรรถภาพของบคุ ลากรห้องสมุดอย่าง่ต่อเน่ือง 5. พัฒนาเครอื ขา่ ยและความรว่ มมือระหวา่ งห้องสมดุ 6. ส่งเสริมใหม้ กี ารประกนั คณุ ภาพห้องสมดุ 7. สร้างและส่งเสริมกลไกการตลาด การสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ หอ้ งสมุด หมวด 2 การบรหิ าร หอ้ งสมุดมีหน้าท่ีหลักในการบริหารจัดการทรพั ยากร และบริการสารสนเทศตาม นโยบายเป้าหมายและโครงสร้างขององค์กร โดยมีคณะกรรมการก้าหนดนโยบายในการพัฒนาและ ประเมนิ ผลการด้าเนินงาน มีผ้บู รหิ ารห้องสมุดและบุคลากรหอ้ งสมุด ทา้ หน้าทตี่ ามภาระงานห้องสมุด

194 คณะกรรมการบริหารห้องสมุดประกอบด้วย ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และผู้รับบริการห้องสมุดหรือ ชุมชน เพื่อการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการที่ดีโดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ ใหบ้ รกิ ารและผูร้ บั บรกิ าร หมวด 3 งบประมาณ ห้องสมุดควรได้รับงบประมาณจากองค์กรเจ้าสังกัดอย่างพอเพียง และจัดหา รายได้อ่ืนให้สามารถด้าเนินงานตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ งบประมาณของห้องสมุดควร แยกเป็นอิสระจากงบประมาณส่วนรวม รายได้ท่ีได้จากกิจกรรมและบริการของหอ้ งสมุด ควรสงวนไว้ เปน็ ค่าใช้จา่ ย เพ่อื การพัฒนาหอ้ งสมดุ นอกเหนือจากงบประมาณท่ไี ดร้ บั จากเจา้ สงั กัด หมวด 4 บคุ ลากร ห้องสมุดควรมีบุคลากรท่ีมีคุณวุฒิ คุณสมบัติและอัตราก้าลังตามความจ้าเป็น สอดคล้องกับนโยบายเป้าหมายขององค์กร การพิจารณาจ้านวนและคุณสมบัติของบุคลากร ต้อง ค้านึงถึงจ้านวนผู้รับบริการ ทรัพยากร เทคโนโลยี และบริการสารสนเทศของห้องสมุด การก้าหนด คุณวุฒิ คุณสมบัติ หน้าที่ความรับผิดชอบและจ้านวนบุคลากร ให้เป็นไปตามประกาศมาตรฐานของ ห้องสมดุ แต่ละประเภท ควรพิจารณาใหม้ ีต้าแหน่งบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เพื่อพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศของห้องสมุด และก้าหนดให้มีการพัฒนาบุคลากรอย่าง ต่อเน่อื ง ทนั ต่อความก้าวหนา้ ทางวชิ าการและเทคโนโลยี หมวด 5 ทรพั ยากรสารสนเทศ หอ้ งสมุดควรก้าหนดนโยบายและหลักเกณฑ์การจดั หา เพื่อเพิ่มจา้ นวนทรัพยากร สารสนเทศอย่างมีระบบและต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายขององค์กรภายใต้บริบท ของชุมชนและสังคม หอ้ งสมุดตอ้ งจัดหาและรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศหลากหลายรูปแบบ ทงั สื่อ สิ่งพิมพ์ ส่ือโสตทัศน์ และสื่อโสตอิเล็กทรอนิกส์ ให้ครอบคลุมและทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ และเทคโนโลยี และมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถสืบค้นและเข้าถึง สารสนเทศไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเรว็ หมวด 6 อาคาร สถานท่แี ละครภุ ณั ฑ์ อาคาร สถานที่ห้องสมุดควรตังอยู่บริเวณศูนย์กลางชุมชน มีการออกแบบอย่าง เหมาะสมตามมาตราฐานทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม บุคลากรห้องสมุดมีส่วนร่วมในการ ออกแบบ โดยค้านึงถึงความต้องการของผู้ให้บริการและผู้รับบริการทุกกลุ่มเป้าหมายและการขยาย พืนที่ในอนาคต ควรมีพืนท่ีปฎิบัติการและพืนที่บริการด้านเทคโนโลยี ห้องเก็บวัสดุอุปกรณ์ ห้องน้า และอื่นๆ ตามความเหมาะสม ครุภัณฑ์ห้องสมุดควรได้มาตรฐานและเพียงพอส้าหรับการปฎิบัติงาน และการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชืน การระบายอากาศ แสงสว่าง เสียง ระบบป้องกนั สาธารณภัยอย่างเหมาะสมและไดม้ าตรฐาน เพอ่ื ป้องกนั และบ้ารงุ รกั ษาทรัพยากร สารสนเทศมใิ หเ้ กิดช้ารุดเสียหายก่อนเวลาอันสมควร หมวด 7 การบริการ ห้องสมุดควรมีบริการพืนฐาน และบรกิ ารอ่ืนๆ ตามความเหมาะสม ในรูปแบบท่ี หลากหลาย มีระเบียบการให้บริการ เพ่ือให้ผู้รับบริการทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับการบริการอย่างเสมอ ภาค สามารถเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการ โดยใช้เทคโนโลยีท่ี

195 ทนั สมยั มกี ารนา้ กลยุทธ์การตลาดและการประชาสัมพันธ์มาใช้ในการจดั บริการและกจิ กรรมหอ้ งสมุด เชิงรกุ หมวด 8 เครือขา่ ยและความร่วมมือระหว่างห้องสมุด ห้องสมุดควรสร้างพันธมิตรและเครือข่ายความร่วมมือระหว่างห้องสมุดและการ เรยี นรูอ้ ืน่ เพ่อื สนับสนุนแหลง่ ความรู้ การเรยี นรู้ และการใชท้ รพั ยากรสารสนเทศร่วมกัน หมวด 9 การประเมนิ คุณภาพห้องสมุด ห้องสมุดควรมีระบบประกันคุณภาพและตัวชีวัด เพื่อใช้ในการประเมินคุณภาพ และพฒั นาศกั ยภาพในการบรหิ ารจัดการหอ้ งสมดุ มาตรฐานห้องสมุดของสมาคมห้องสมุดถือเป็นมาตรฐานขันต่้า (Minimum Standard) ทร่ี ะบุเกณฑ์ขนั ต่้าเพือ่ ให้องค์การบรกิ ารสารสนเทศสว่ นใหญ่ดา้ เนินการได้ หากหน่วยงาน ใดมีความพร้อมก็สามารถพัฒนาให้สูงกว่ามาตรฐานทีก่ ้าหนดไวไ้ ด้ ตัวอยา่ งห้องสมดุ ท่ีมีมาตรฐานจน ได้รับรางวัลห้องสมุดดีเด่นประจ้าปี 2559 ประเภทห้องสมุดเฉพาะ ภาคเอกชน ได้แก่ ห้องสมุดมา รวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเปิดให้ใช้บริการผ่านเครือข่ายออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดงั ภาพท่ี 9.2 ภาพท่ี 9.2 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์หอ้ งสมดุ มารวย ตลาดหลักทรพั ย์แหง่ ประเทศไทย 2.2 มาตรฐานระดบั นานาชาติ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization : ISO) เป็นหน่วยงานระดับนานาชาติท่ีก้าหนดมาตรฐานในด้านต่างๆ เพื่อให้ ใช้ทั่วโลก ISO มาจากค้าว่า isos ซ่ึงเป็นค้าในภาษากรีก หมายความว่าเท่ากัน องค์การนีจัดตังเม่ือ พ.ศ. 2490 มสี มาชิกเป็นหนว่ ยงานมาตรฐานระดับประเทศกวา่ 140 หน่วยงาน ตวั แทนประเทศละ 1

196 หน่วยงานเท่านัน ตัวแทนประเทศไทย คือ ส้านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐานมีหน้าท่ี พัฒนามาตรฐานเพ่ือให้การแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบริการระหว่างประเทศด้าเนินไปอย่างราบรืน่ และเพอ่ื พฒั นาความร่วมมือในกิจกรรมดา้ นปัญญา ด้านวทิ ยาศาสตร์ ด้านเทคโนโลยี และด้านเศรษฐกจิ 2.2.1 มาตรฐานระบบการบรหิ ารงานคณุ ภาพ ISO 9000 มาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9000 เป็นมาตรฐานการ ปฏิบัติงานในองค์การที่ทั่วโลกยอมรับและน้ามาใช้ในการรับรองว่า ระบบการบริหารงานขององค์การ มคี ุณภาพ สามารถปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสนองตอบต่อความต้องการของผู้ใช้บรกิ ารได้ อย่างต่อเน่ืองและสม้่าเสมอ ซ่ึงสอดคล้องกับหน้าท่ีหลักขององค์การบริการสารสนเทศทั่วไป ได้แก่ การบรกิ ารเพ่ือตอบสนองความพึงพอใจของผู้ใชบ้ ริการ การบริหารจัดการองค์การให้ได้ประสบผลส้าเร็จและให้ได้มาตรฐานนัน จา้ เป็น ต้องมกี ลยุทธ์ในการดา้ เนินงานอย่างเหมาะสม สิ่งส้าคัญคือ ผู้บริหารต้องเข้าใจถึงความจา้ เป็น ทีจ่ ะต้องมีมาตรฐานในการปฏิบตั ิงานดว้ ย แนวคดิ ในการน้ามาตรฐานที่เปน็ สากลมาเปน็ เกณฑ์กา้ หนด คุณภาพการปฏิบัติงานในองค์การบริการสารสนเทศ อาจเหมาะส้าหรับองค์การขนาดใหญ่ที่มีความ พร้อม จงึ ยกมาเปน็ ตวั อยา่ งดังนี (ครรชิต มาลัยวงศ์, 2545: 201) มาตรฐาน ISO ในประเทศไทย ส้านักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ประกาศใช้เมื่อ พ.ศ. 2543 เนือหาเหมือน ISO ประกาศใช้ทุกประการ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ใน ประเทศไทยได้รับรองว่ามีระบบการบริหารงานขององค์การท่ีมีคุณภาพ สามารถปฏิบัติงานอย่างมี ประสิทธิภาพ และสนองตอบต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างต่อเน่ืองและสม่้าเสมอ ระบบ มาตรฐานชุดหนึ่งๆ จะมีตัวเลขตามหลังค้าว่า ISO เช่น ISO 9000 ประกอบด้วย มาตรฐานหลัก 3 ฉบับ ไดแ้ ก่ 1. ISO 9000 ระบบมาตรฐานคุณภาพ - หลกั การพืนฐานและค้าศัพท์ 2. ISO 9001 ระบบมาตรฐานคุณภาพ - ข้อกา้ หนด 3. ISO 9004 ระบบมาตรฐานคุณภาพ - แนวทางการปรบั ปรุง สมรรถนะขององค์การ ในที่นีจะขอยกตัวอยา่ ง ISO 9000 ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานท่ีประกาศใช้ใน ปี 2015 มรี ายละเอียด เรียกว่า ISO 9000-2015 ซึ่งรายละเอียดดังนี (International Organization for Standardization, 2015) 1. องค์กรที่แสวงหาความส้าเร็จอย่างยั่งยืนด้วยการใช้ระบบการจัดการ คุณภาพ 2. ลูกค้าต้องการความมั่นใจในความสามารถขององค์กร เพื่อการจัดหา ผลติ ภณั ฑ์และบริการที่สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของตนอย่างสม้า่ เสมอ 3. องค์กรท่ีแสวงหาความเช่ือมนั่ ในห่วงโซ่อปุ ทานของตนว่า จะสามารถ บรรลขุ ้อกา้ หนดดา้ นผลิตภัณฑ์และบริการของตนได้ 4. องค์กรและผมู้ ีสว่ นได้เสียท่ีตอ้ งการปรับปรุงการส่ือสาร ต้องท้าความ เข้าใจกบั ภาษาท่ีใชใ้ นการจดั การคณุ ภาพ

197 5. องค์กรท่ีด้าเนินการประเมิน ต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อก้าหนด ใน ISO 9001ภายใตก้ ารให้ค้าแนะน้าในการจัดการคุณภาพจากนักประเมินและนักพัฒนามาตรฐานที่ เก่ยี วข้อง ISO 9000 จะช่วยให้องค์การสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ใน องคก์ ารได้ทังในด้านกฎระเบียบและการบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ มีการปรับปรุงองค์การอย่างต่อเนื่อง การ จัดการคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9000-2015 อยู่บนพืนฐานหลักการจัดการ 7 ประการ ที่สามารถ น้าใช้ในการปรับปรุงองค์การบริการสารสนเทศทุกประเภทได้ ดังนี (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2015) 1. เนน้ ทลี่ กู ค้า (Customer Focus) 2. ความเปน็ ผนู้ า้ (Leadership) 3. ความผกู พนั ของพนักงาน (Engagement of People) 4. วธิ ีการด้าเนนิ การ (Process Approach) 5. การปรับปรงุ (Improvement) 6. การจดั การความสัมพนั ธ์ (Relationship Management) 7. การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการตัดสินใจ (Evidence-Based Decision Making) ปัจจบุ ัน ISO ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของผลติ ภัณฑ์หรือบริการ ท่ีองค์การ ได้รับการรับรองว่ามีมาตรฐานระดับสากล เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรมีวิสัยทัศน์ เข้าใจ กระบวนการ ความต้องการความคาดหวงั ตอบสนองความต้องการด้านคุณภาพของผู้ใช้บริการและผู้ มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี เป็นองค์การท่ีมรี ะบบการจัดการคุณภาพ ทังในดา้ นเอกสาร องค์ประกอบต่างๆ ของ ระบบคุณภาพ การด้าเนินงานเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการด้าเนินงาน (Learn About Standards, 2015) การใช้มาตรฐานเป็นไปโดยสมัครใจขึนอยู่กับองค์การจะเล็งเห็นความส้าคัญ และสามารถใช้ เปน็ เครือ่ งมอื ในการพฒั นาองคก์ ารบรกิ ารสารสนเทศได้ทุกประเภท มาตรฐานนานาชาติ จัดเป็นประเภทมาตรฐานตามเป้าหมาย (Target Standard) ซ่ึงได้แก่ มาตรฐานระดับสูงท่ีองค์การบริการสารสนเทศกา้ หนดเป็นจุดหมายปลายทาง ที่ จะปรับปรุงและพัฒนาองคก์ ารใหเ้ ป็นไปตามกลยุทธท์ ีไ่ ดก้ ้าหนดไว้ 2.3 มาตรฐานเพื่อการเทียบเคียง หรือการเทียบสมรรถนะ (Benchmarking) เป็น มาตรฐานที่มุ่งให้องค์การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องในลักษณะการมุ่งสู่ความเป็นเลิศและแนว ปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) เพ่ือให้สามารถเทียบเคียงสมรรถนะระหว่างหน่วยงานท่ีมีภารกิจ หรือพันธกิจในลักษณะเดียวกัน การเทียบเคียงสมรรถนะโดยใช้มาตรฐาน ท้าหลายได้หลายวิธี (สมพร พทุ ธาพิทักษผ์ ล, 2551: 98-100) ดงั นี 2.3.1 การเปรียบเทียบกับตนเอง โดยการใช้สถิติเปรียบเทียบการด้าเนินงาน ขององค์การในอดีตอยา่ งต่อเน่ือง มุ่งเน้นการเทียบเคยี งเพ่อื ใหม้ ีการพัฒนาใหด้ ยี ิ่งขนึ กว่าปีที่ผ่านมาใน อดีต 2.3.2 การเปรียบเทยี บกับหน่วยงานใดหนว่ ยงานหนึ่ง โดยคัดเลือกหน่วยงานที่ เป็นที่ยอมรับว่ามีความเป็นเลิศ เช่น การได้รับรางวัลคุณภาพ ห้องสมุดดีเด่น เป็นต้น มีจุดมุ่งหมาย

198 เพ่ือปรับปรงุ มาตรฐานให้อยู่ในระดับเดียวกนั กับหนว่ ยงานนันๆ โดยกา้ หนดประเด็นในการเทียงเคียง สมรรถนะดา้ นกลยทุ ธ์ ดา้ นกระบวนการ ดา้ นการด้าเนินงาน ดา้ นผลประกอบการ เปน็ ต้น 2.3.3 การเทียบเคียงสมรรถนะภายในกลุ่มองค์การที่มีภารกิจเดียวกัน เป็นการ น้าค่าดัชนีกลางหรือขององค์การ ไปเปรียบเทียบกับค่าดัชนีกลางขององค์การในกลุ่มเดียวกัน หรือ เรียกว่า คา่ มาตรฐานกลาง ซ่ึงจะแสดงใหเ้ ห็นว่า องค์การตนสูงหรอื ต่้ากว่าคา่ มาตรฐานกลางในด้านใด มากหรอื น้อยเพยี งใด หากต่า้ กว่าในด้านใดจะไดป้ รบั ปรงุ และพฒั นาองคก์ ารใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ มาตรฐานมีความส้าคัญและความจ้าเป็นต่อองค์การบริการสารสนเทศอย่างมาก เพราะจะเปน็ แนวทางในการด้าเนินงานเพ่ือยกระดับขององค์การใหส้ ูงขึนทังด้านปริมาณและคุณภาพ ผู้บริหารองค์การบริการสารสนเทศจึงต้องมีความมุ่งม่ันท่ีจะต้องพัฒนาองค์การให้ก้าวสู่มาตรฐานซ่ึง อาจเป็นมาตรฐานตามเป้าหมาย มาตรฐานเพื่อเทียบเคียงสมรรถนะ หรือมาตรฐานในระดับสากล ล้วนเป็นผลดีต่อองค์การทังช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการท้างาน และส่งผลต่อคุณภาพในการ ให้บริการได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างห้องสมุดมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ซ่ึงได้รับรางวัล ห้องสมุดที่มีการออกแบบตกแต่งภายในยอดเยี่ยมประจ้าปี 2014 ซ่ึงช่วยยกมาตรฐานห้องสมุดให้มี ผใู้ ชห้ ้องสมุดมากย่ิงขนึ ภาพที่ 9.2 2014 Library Interior Design Award Winners ทมี่ า : (International Interior Design Association, 2014: 1) การประกันคุณภาพองคก์ ารบริการสารสนเทศ แนวคิดใหม่ในการด้าเนินงานที่ให้ความส้าคัญต่อผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็น ส้าคัญ องค์การต่างๆ จึงต้องมีกระบวนการในการควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการให้เป็นไปตาม เกณฑ์มาตรฐานที่ก้าหนดไว้ เพื่อสร้างความม่ันใจแก่ผู้ใช้บริการ ผู้ท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนสาธารณชน องค์การบริการสารสนเทศจึงต้องมีหลักประกันให้มั่นใจว่า ได้ด้าเนินงานจนบรรลุวัตถุประสงค์หรือ

199 เป้าหมายตามท่ีก้าหนดไว้ ภายใต้การควบคุมท่ีรัดกุมในทุกขันตอน โดยมีการตรวจสอบคุณภาพทัง จากภายในองค์การและภายนอกองค์การ ผลจากการตรวจประเมินดังกล่าวจะเป็นข้อมูลท่ีเช่ือถือได้ ใน ก า ร ตั ด สิ น ว่ า อ งค์ ก า ร มี ผ ล งา น ห รื อ ก า ร บ ริ ก าร เป็ น ไป ต า ม เก ณ ฑ์ ท่ี ได้ ก้ า ห น ด ไว้ เพื่ อ แ จ้ งต่ อ สาธารณชนต่อไป 1. ความหมายของการประกนั คณุ ภาพ คุณภาพ (Quality) หมายถึง ความพึงพอใจของลูกค้าหรือผู้รับบริการที่เกี่ยวกับ คุณภาพของสินค้าและบริการ (เสน่ห์ จุ้ยโต และ นงลักษณ์ ชายหาด, 2545: 336) สินค้าและ บริการที่ผู้ใช้พึงพอใจย่อมเป็นสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มีการออกแบบที่ดี เหมาะกับการใช้งาน ได้รับการบริการที่ดี สะดวก รวดเร็ว คุณภาพของสินค้าและบริการจึงขึนอยู่กับการด้าเนินงานของ องค์การท่ีจะต้องมีการควบคุมคุณภาพ ให้ได้ตามข้อก้าหนดและมาตรฐานอย่างสม่้าเสมอ เพ่ือสร้าง ความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ การควบคุมคุณภาพ (Quality control) จึงเป็นวิธีการในการ ตรวจสอบผลการให้บริการและท้าการปรับปรุงแก้ไขที่กระบวนการบริการ เพื่อให้ได้ผลการให้บริการ มคี ุณภาพตามท่ีได้กา้ หนดไว้ การประกันคุณภาพ (Quality Assurance) หมายถึง กิจกรรมหรือการปฏิบัติใดๆ ที่ ได้ด้าเนินการตามระบบหรือเกณฑ์ท่ีก้าหนดไว้ เป็นกระบวนการหรือรูปแบบหนึ่งในการบริหารท่ี มุ่งเน้นไปที่การก้าหนดเป้าหมายงาน การสร้างมาตรฐานการบริการ และจัดหาทรัพยากรที่เหมาะสม การด้าเนินงาน และการวดั และประเมนิ ผลการให้บริการ เพ่ือนา้ ผลไปใช้ในการปรับปรุงมาตรฐานงาน บรกิ ารต่อไป (เสน่ห์ จุ้ยโต และ นงลกั ษณ์ ชายหาด, 2545: 336) 2. วัตถปุ ระสงค์ในการประกนั คณุ ภาพ ในการประกันคุณภาพขององค์การแต่ละแห่งอาจมีจุดมุ่งหมายท่ี แตกต่างกัน วตั ถุประสงค์โดยทว่ั ไป มดี ังนี (ส้านกั งานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา, 2558: 11-12) 2.1 เพื่อสร้างความม่ันใจแก่ผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทา้ ใหม้ ัน่ ใจไดว้ า่ ไดร้ ับสนิ คา้ หรือบริการที่ดี มคี ณุ ภาพ 2.2 เพื่อให้องค์การมกี ารพัฒนาและยกระดับขดี ความสามารถในการแข่งขัน 2.3 เพอ่ื ตรวจสอบและประเมนิ ผลการดา้ เนินงานในทุกกระบวนการ 2.4 เพื่อให้องค์การทราบสถานภาพของตนเอง อันจะน้าไปสู่การก้าหนดแนวทางใน การพัฒนาคุณภาพไปสู่เปา้ หมาย และเป้าประสงคท์ ่ีตังไว้ตามจดุ เน้นของตนเอง 2.5 เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีสะท้อนจุดแข็ง จุดท่ีควรปรับปรุง ตลอดจนข้อเสนอแนะในการ พฒั นาการด้าเนนิ งาน เพอ่ื น้าไปรับปรงุ ผลการดา้ เนนิ การในแตล่ ะระดับอยา่ งต่อเนื่อง 2.6 ใช้เป็นข้อมูลพืนฐานที่จ้าเป็นส้าหรับการส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานที่ เก่ยี วขอ้ ง และเปน็ เครือ่ งมือในการประชาสมั พันธอ์ งคก์ ร การประกันคุณภาพเป็นการสร้งความเชื่อม่ัน เชื่อถือ ไว้วางใจ และสร้างเครดิตท่ีดี ให้แก่องค์การในระยะยาว เป็นเหมือน การประทับตรารับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่ได้รับการ ยอมรับ การประกันคุณภาพเป็นประโยชน์ทังต่อผู้ใช้บริการ บุคลากร ผู้บริหาร และผู้เก่ียวข้อง

200 รวมทังสังคมประเทศชาตดิ ้วย เพราะการประกันคุณภาพจะช่วยให้การบริการจัดการขององคก์ ารดีขึน สังคมและประเทศชาติก็ได้ดีขึนด้วย นอกจากนีการประกันคุณภาพจะเป็นเคร่ืองมือส้าคัญในการ จัดการคุณภาพองค์การ ให้ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองให้ดีขึนเรื่อยๆ เพราะจากระบบการประกัน คุณภาพจะท้าให้สามารถวเิ คราะห์ตนเองว่า มีความเข้มแข็งในเรื่องใด มีจุดด้อยหรือจุดที่ควรปรับปรุง พัฒนาในเร่ืองใด เพ่ือน้ามาใช้ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานหรือเกณฑ์ท่ีก้าหนดไว้ การ รักษามาตรฐานและพัฒนาก้าวสู่มาตรฐานสากล คือจุดหมายปลายทางที่ส้าคัญของการประกัน คณุ ภาพ 3. องค์ประกอบการประกันคณุ ภาพในองคก์ ารบริการสารสนเทศ องค์ประกอบส้าคัญในการประกันคุณภาพขององค์การท่ีจะต้องประเมินท่ีส้าคัญมีด้าน ต่างๆ ดังนี (เสนห่ ์ จยุ้ โต และ นงลักษณ์ ชายหาด, 2545: 341-342) 3.1 ด้านกายภาพ ได้แก่ การจัดอาคารสถานที่ ครภุ ัณฑ์ วัสดอุ ุปกรณ์ สิ่งอ้านวยความ สะดวกต่างๆ ท่ีเพียงพอ สอดคล้องเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน มีคุณภาพ ปลอดภัย สถานท่ีสะอาด ถูกสขุ ลกั ษณะ รักษาสง่ิ แวดล้อม มคี วามพรอ้ มทงั ด้านปริมาณและคณุ ภาพ เปน็ ตน้ 3.2 ด้านกระบวนการ ได้แก่ ขันตอนการบริการ ระยะเวลาเปิดท้าการ ความรวดเร็ว ในการบริการ การจัดล้าดับ ระบบ กลไก ความสะดวกสบาย ควาปลอดภัย ขันตอนและวิธีปฏิบัติต่อ ผใู้ ช้บริการ มมี าตรฐานในการให้บรกิ าร เป็นตน้ 3.3 ด้านบุคลากร ได้แก่ ความรู้ความสามารถของบุคลากรที่ให้บริการ ความ รับผิดชอบ ความกระตือรือร้น เป็นกันเอง มีน้าใจ บุคลิกภาพ กริยามารยาท ทักษะในการท้างาน ความสนใจใฝ่รู้ การพัฒนาตนเอง จิตส้านึกในการบริการ การแสดงถึงการท้างานอย่างตังใจ เต็มใจ เต็มที่ และเต็มเวลา 3.4 ดา้ นการใช้เทคโนโลยีการให้บริการ ได้แก่ ระบบอินเทอร์เนต็ ระบบสืบคน้ ระบบ ห้องสมุดอัตโนมัติ การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่างๆ ในการให้บริการ ท้าให้เกิดความรวดเร็ว สะดวก ลดขันตอนระยะเวลา และเข้าถงึ ไดใ้ นในระยะไกล ระยะไกล หรือทุกที่ทุกเวลา เปน็ ตน้ 4. หลักการและรปู แบบการประกันคุณภาพ การประกันคุณภาพในองค์การบริการต้องท้าตามล้าดับขันตอน เริ่มตังแต่การก้าหนด ความต้องการของผู้ใช้บริการและกระบวนการปรับปรุงงาน ซ่ึงอาจท้าด้วยการส้ารวจความคิดเห็น การสัมภาษณ์ การระดมสมอง การวิเคราะห์จากผลการปฏิบัติงานในปีท่ีผ่านมา จากนันท้าการ วเิ คราะหก์ ระบวนงาน โดยเขียนขันตอนในกระบวนท้างาน ปัจจัยสนับสนุน ขันตอนต่างๆ โดยแสดง ให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับการให้บริการผู้ใช้บริการ เมอื่ รวบรวมข้อมูลผลการปฏบิ ัติงานท่ีเกิดขึน ท้า การแยกแยะให้ทราบว่า ช่องว่างท่ีเกิดขึนระหว่างผลการปฏิบัติงานจริงกับข้อก้าหนดความต้องการ ของผู้ใช้บริการ มีปัญหาหรืออุปสรรคใด ท้าการประเมินผลเพ่ือน้ามาปรับปรุงและพัฒนา โดยระบุ เป้าหมายท่ีต้องการจะท้าให้บรรลุผลส้าเร็จ พร้อมตัวชีวัด ก้าหนดระยะเวลา โดยออกแบบพัฒนา วิธีการปรับปรุงแล้วน้าไปทดลองใช้ และขยายผลไปทังองค์การ เมื่อด้าเนินการไปตามระยะเวลาท่ี

201 ก้าหนด รวบรวมข้อมูลน้าผลการด้าเนินงานมาเปรียบเทียบความแตกต่างก่อนและหลังการปรับปรุง งาน เพอ่ื ปรบั แตง่ วิธกี าร และพฒั นากระบวนการท้างานใหม่ให้ดีย่งิ ๆ ขึน หลักการประกนั คุณภาพในองคก์ ารดังที่กลา่ วมาอาจดูมคี วามซับซ้อน สว่ นใหญจ่ งึ นยิ ม นา้ หลักการบริหารคณุ ภาพตามวงจรของ เดมมิ่ง (The Deming Cycle) หรือวงจร PDCA ดงั นี PD Plan Do AC Act Check ภาพท่ี 9.3 วงจร PDCA ของเดมม่ิง ทมี่ า : (ปรบั ปรุงจาก Bernal, 2014: 1) 4.1 วางแผน (Plan) กระบวนการวางแผนโดยน้าผลการประเมินการด้าเนินงานในปี ก่อนมาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผน ก้าหนดหัวข้อควบคุม ค่าเป้าหมายที่ต้องการบรรลุและก้าหนด วิธีการดา้ เนินงานเพอื่ ใหบ้ รรลุเป้าหมาย 4.2 ปฏิบัติตามแผน (Do) ด้าเนินงานและเก็บรวบรวมข้อมูลบันทกึ ผลการด้าเนินงาน ตามแผนที่ได้วางไว้ 4.3 ตรวจสอบ (Check) ด้าเนินงานการประเมินผลการด้าเนินงาน โดยตรวจสอบว่า การปฏิบัตงิ านเป็นไปตามวิธีการทา้ งานตามมาตรฐานหรือไม่ ตรวจสอบคา่ คุณภาพ ต้นทุน คา่ ท่ีวัดได้ ตา่ งๆ ว่าอยูใ่ นเกณฑม์ าตรฐานหรือไม่ อย่างไร 4.4 ด้าเนินการปรับปรุงแก้ไข (Action) วางแผนเพื่อปรับปรุงงาน และด้าเนินการ ปรับปรุงแผนการประเมิน และค้นหามาตรการในการแก้ไข โดยน้าผลการประเมินและข้อเสนอของ คณะกรรมการประเมินคุณภาพ ตลอดจนผู้บริหาร มาใช้ประกอบในการวางแผนการปรับปรุง ระบบงานหรอื กระบวนการทา้ งาน และจดั ทา้ โครงการหรือกจิ กรรมเพื่อพฒั นาใหด้ ยี งิ่ ขึน 5. การตรวจประเมินระบบประกนั คณุ ภาพ การตรวจประเมินระบบการประกันคุณภาพ เป็นการตรวจสอบการดา้ เนินการประกัน คุณภาพว่า เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่ก้าหนดไว้หรือไม่อย่างไร โดยการแสวงหาข้อมูลท่ี น่าเช่ือถือได้ เพ่ือตัดสินเก่ียวกับคุณภาพของบริการขององค์การตามเกณฑ์ท่ีก้าหนดและแจ้งต่อ สาธารณชน เพื่อตัดสินว่า ส่ิงท่ีเขียนไว้ในรายงานการศึกษามีหรือไม่มี ได้ปฏิบัติจริงหรือไม่ มากน้อย

202 เพียงใด รูปแบบการประเมินจึงมีทังการประเมินภายใน ซึ่งเป็นการประเมินเบืองต้นด้วยตนเอง หรือ การประเมินโดยหน่วยงานต้นสังกัด และการประเมินภายนอก ซ่ึงเป็นการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ จากหน่วยงานภายนอกองค์การ ส่ิงส้าคัญที่ต้องมีการจัดเตรียมเพื่อการประเมินผลคือ รายงานการ ประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) (ส้านักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, 2557: 25-31) เพ่ือใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการตรวจประเมิน ซ่ึงมีรายละเอียดท่ีส้าคัญคือ การรายงานผลการด้าเนินงานทังกระบวนการตามตวั บ่งชขี องหน่วยงาน เช่น กระบวนการพัฒนาแผน ระบบการพัฒนาบุคลากร ภาวะผู้น้า การพัฒนาหน่วยงานสู่องค์การการเรียนรู้ ระบบบริหารความ เสี่ยง ระบบและกลไกการเงินและงบประมาณ ผลประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ผลการ ประเมินบุคลากรในหนว่ ยงาน ทรัพยากรสารสนเทศเพ่ือการศึกษาและการเรียนรู้ ระบบและกลไกการ สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ เป็นต้น (มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 2559: 3) ระบบการประกันคุณภาพ ท่ีองค์การบริการจะน้ามาใช้ จะเป็นระบบมาตรฐานท่ีช่วย ให้การบริการเป็นไปตามมาตรฐาน มีระดับคุณภาพท่ีสม้่าเสมอ การสร้างระบบเอกสารมีมาตรฐาน การปฏิบัติงานประจ้าวันจะเป็นไปอย่างราบร่ืน สามารถติดตามตรวจสอบได้ตลอดเวลา และเม่ือ องค์การใดมีการตรวจประเมินประกนั คุณภาพอย่างต่อเนือ่ ง จะทา้ ให้เกิดการพฒั นางาน เป็นวัฎจักรที่ เรมิ่ ด้วยการวางแผน การลงมอื ท้า การตรวจสอบ และปรับปรงุ ให้ดีขึนหมุนเป็นวงจรอยู่อย่างตอ่ เนื่อง ไม่มีท่ีสุด ผลการด้าเนินงานขององค์การย่อมได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีสมรรถนะสูงจนเป็น ที่ยอมรบั ของผใู้ ช้บริการและผเู้ กีย่ วข้อง ตลอดจนสาธารณชนทัว่ ไป กฎหมายเกีย่ วกบั การจัดการองค์การบริการสารสนเทศ กฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ เป็นสิ่งส้าคัญท่ีท้าให้องค์บริการสารสนเทศทุกแห่ง ปฏิบตั ิงานอยู่ในกรอบของความถกู ตอ้ ง ผ้บู รหิ ารและผู้ปฏิบัติงานในองค์การบรกิ ารสารสนเทศจะต้อง ค้านึงถึงผลทางกฎหมายที่มีต่อการปฏิบัติงาน นอกจากจะใช้ยึดเป็นแนวปฏิบัติแล้ว ยังสามารถ น้ามาใช้ควบคุมให้บุคลากรอยู่ในระเบียบวินัย และปฏิบัติงานต่างๆ ด้วยความโปร่งใสในทุกขันตอน อกี ดว้ ย กฎหมายที่เก่ียวข้องกับการจดั การด้านต่างๆ ขององค์การบริการสารสนเทศท่สี ้าคญั มีดังนี (ไชยยศ เหมะรชั ตะ, 2545: 233-275) 1. กฎหมายในการบริหารงานบุคคล ในการบริหารงานองค์การบริการสารสนเทศ บุคลากรหรือผู้ปฏิบัติงานในองค์การทุก คนที่มีฐานะเป็นข้าราชการหรือเป็นพนักงานท่ัวไปของราชการหรือเอกชน ให้น้ากฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง มาใช้หรือประยุกต์เพื่อป้องกันการกระท้าผิดจากการปฏิบัติงาน และประพฤติมิชอบ ได้แก่ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 เพื่อพิจารณาการบรรจุ แต่งตัง และ ด้าเนินการทางวินัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นข้าราชการในกรณีท่ีองค์การบริการสารสนเทศอยู่ในสังกัด หน่วยงานของรัฐ และในกรณีท่ีผู้ปฏิบัติงานเป็นพนักงานหรือลูกจ้างทั่วไป ต้องพิจารณาถึงสิทธิและ หน้าท่ีตามกฎหมายที่เก่ียวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์และประมวลกฎหมายแพ่งและ

203 พาณิชย์ รวมทังพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 เนื่องจากบุคลากรในองค์การบริการ สารสนเทศแตล่ ะแห่งมสี ถานะแตกต่างกนั ซ่ึงเป็นปัจจยั ต่อการน้ากฎหมายท่ีเหมาะสมมาปรบั ใช้ในการ บริหารงานบุคคล เช่น การพิจารณาเงินเดือน ค่าตอบแทน บ้าเหน็จความชอบ และการลงโทษเมื่อ กระท้าผิดต่อหน้าท่ี เป็นต้น โดยพิจาณาดา้ เนนิ การตามความเหมาะสม 2. กฎหมายในการจดั หาพสั ดุ การจัดหาครุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการด้าเนินการใดๆ เก่ียวกับอาคาร สถานท่ี องค์การบริการสารสนเทศที่สังกัดหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชน ต้องค้านึงถึง ลักษณะของสัญญาซือขายท่ีใช้ในการจัดหาอย่างเคร่งครัด โดยน้ากฎหมายที่เกี่ยวข้องมาใช้หรือ ประยุกต์ใช้ ได้แก่ ระเบียบส้านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ซ่ึงก้าหนดขันตอนของ การจัดหาพัสดุขององค์การบริการสารสนเทศท่ีเป็นหน่วยงานของรัฐ และประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณชิ ย์ท่ีเกี่ยวกบั การท้าสัญญา ในการจัดหาพสั ดมุ าใชใ้ นองค์การ เชน่ สญั ญาซือขาย สัญญาเชา่ เป็น ต้น ด้วยเหตุท่ีมีความจ้าเป็นในการควบคุมการใช้จ่ายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตาม วัตถุประสงค์ การด้าเนินงานเกี่ยวกับพัสดุจึงเป็นเรื่องที่ท้าการปฏิบัติงานเช่ืองช้าและยุ่งยากไปบ้าง แต่หากผู้บริหารละเลยไม่ควบคุมตรวจสอบดูแล ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหาย และอาจตกเป็นผู้มี ความผิดต้องได้รับโทษ 3. กฎหมายในการจดั ระบบเอกสารและเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสาร การจัดการเอกสารส้านักงานต่างๆ ในองค์การบริการสารสนเทศ ทังในการจัดเก็บและ เผยแพร่ ควรน้ากฎหมายท่ีเก่ียวข้องมาใช้หรือประยุกต์ใช้ ได้แก่ ระเบียบส้านักนายรัฐมนตรีว่าด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ซึ่งก้าหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยงานที่เก่ียวกับการบริหารงานเอกสาร ตังแต่ การจัดทา้ การรับ การเก็บรักษา การยืม และการท้าลายเอกสาร การท่ีผปู้ ฏิบัตงิ านเกยี่ วกับเอกสารใน องค์การไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎหมายที่เก่ียวกับการจัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร อาจให้ เกิดความเสยี หายแก่องคก์ าร บุคคลนนั อาจถูกฟ้องรอ้ งหรือมีความผิดตามกฎหมาย 4. บทบัญญตั แิ หง่ กฎหมายทบ่ี ุคลากรขององคก์ ารบริการสารสนเทศควรทราบ การปฏิบัติงานของบุคลากรในต้าแหน่งหน้าท่ีใด ผู้ปฏิบัติย่อมต้องเป็นผู้รับผิดชอบใน การด้าเนินงานทีอ่ าจผิดพลาด ไม่วา่ ด้วยเจตนาหรอื ประเมินเลินเลอ่ ก็ตาม ผลจากการท้างานย่อมเกิด ความเสียหายต่อองคก์ ารท่ีตนสงั กัดหรือแก่บุคคลใดๆ ท่ีเก่ียวข้อง กฎหมายทเ่ี กยี่ วข้องกับความรับผิด จากการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากรท่สี า้ คัญ มีดงั นี (ไชยยศ เหมะรัชตะ, 2545: 247-248) 4.1 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยละเมิด ในกรณีท่ีความรับผิดชอบของ บุคลการที่ปฎิบัติงานเกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าท่ี แต่ด้วยความประมาทเลินเล่อหรือไม่รู้กฎหมาย กอ่ ใหเ้ กิดความเสียหายแก่องค์การหรือบุคคลอนื่ ยอ่ มถือเป็นการกระท้าละเมิดซึง่ ตอ้ งชดใช้ค่าสนิ ไหม ทดแทนแกผ่ ู้ได้รบั ความเสยี หาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 4.2 ประมวลกฎหมายอาญา กรณีการปฏิบัติงานของบุคลากรอาจก่อให้เกิดความรับ ผิดทางอาญา ไม่ว่าโดยเจตนาหรือประเมินเลินเล่อ หากการกระท้าใดๆ ก่อให้เกิดความผิดตาม

204 กฎหมาย บุคคลผกู้ ระท้าต้องมีความผิดและรับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ได้ยไม่อาจแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพ่ือให้พ้นจากความรับผิดทางอาญาไม่ได้ ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 64 4.3 พระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2537 การปฏิบัติงานในองค์การบริการสารสนเทศ ย่อมเก่ียวข้องกับข้อมูลและเอกสารในลักษณะต่างๆ ซ่ึงเป็นงานสร้างสรรค์ทางปัญญา ได้แก่ งาน วรรณกรรม งานโสตทัศนวัสดุ และงานสิ่งบันทึกเสียง การน้าเทคโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเผยแพร่ ขอ้ มูลขา่ วสารต่างๆ แก่สาธารณชนในวงกวา้ งขององค์การบริการสารสนเทศ จึงเก่ียวข้องกบั ความเป็น เจา้ ของลขิ สิทธ์อิ ยา่ งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผปู้ ฏิบัตงิ านจึงต้องมคี วามรคู้ วามเข้าใจขอบเขตการท้างานซ่ึง กฎหมายอนุญาตให้กระท้าได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และหากท้าการใดๆ อันถอื เป็นการ ละเมิดลิขสิทธ์ิตามมาตรา 27 มาตรา 29 และมาตรา 30 แล้ว ต้องได้รับผิดฐานละเมิดลิขสิทธ์ิและ ได้รับโทษตามมาตรา 69 รายละเอยี ดพระราชบญั ญตั ลิ ขิ สิทธ์ิ สรปุ พอสงั เขปมีดงั นี 4.3.1 ความหมายของลขิ สทิ ธิ์ ลิขสิทธ์ิ (Copyright) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 4 ให้ความหมายไว้ว่า สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระท้าการใดๆ ตามพระราชบัญญัตินีเก่ียวกับงานที่ผู้ สรา้ งสรรคไ์ ด้ทา้ ขึน (สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กลุ ม, 2545: 1; สุทธิพล ทวชี ัยการ, 2545ก: 1) 4.3.2 งานอันมีลิขสิทธิ์ ได้แก่ งานท่ีผู้สร้างสรรค์ท้าขึนตามมาตรา 6 ได้แก่ วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวสั ดุ ภาพยนตร์ สงิ่ บันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ เปน็ ต้น 4.3.2 สทิ ธิของเจา้ ของลขิ สิทธ์ิ กฎหมายลิขสิทธ์ิคุ้มครองสิทธ์ิให้กับเจ้าของลิขสิทธ์ิและผู้สร้างสรรค์ มี สิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการท้าซ้า ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชน ให้เช่าต้นฉบับหรือส้าเนางาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และส่ิงบันทึกเสียง ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์ แกผ่ ู้อน่ื ได้ และอนุญาตให้ผู้อนื่ ใช้สิทธิได้ 4.3.3 อายุแห่งการคุม้ ครองลิขสิทธิ์ การคุ้มครองลิขสทิ ธิ์ไม่ตอ้ งจดทะเบียน ลิขสิทธิ์เกิดขึนนับแต่ผู้สร้างสรรค์ งาน ลิขสิทธิ์มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และจะมีอยูต่ ่อไปอีก เป็นเวลา 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ ถึงแก่ความตาย ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมกันมากกว่า 1 คน ลิขสิทธ์ิจะมีตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ ร่วมและมีอยู่ต่อไปอีก 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย ถ้าผู้สร้างสรรค์ตาย ก่อนที่ได้มีการโฆษณางานนัน ลิขสิทธิ์จะอยู่เพียง 50 ปี นับแต่มีการโฆษณา การนับวันครบอายุของ การคมุ้ ครองลิขสิทธ์ิ ให้นบั ถึงวนั ท่ี 31 ธันวาคมของปที ี่อายลุ ขิ สิทธส์ิ ินสดุ ลง 4.3.4 การละเมิดลิขสิทธิ์ การกระท้าที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในกรณีงานอันมีลิขสิทธ์ิทั่วไปได้แก่ การท้าซ้าหรือดัดแปลง การเผยแพร่ต่อสาธารณชน ส่วนการละเมิดลิขสิทธ์ิระดับรอง เป็นการท่ีผู้ใด รู้อยู่แลว้ วา่ งานใดไดท้าขนึ โดยละเมิดลขิ สทิ ธข์ิ องผูอ้ ื่นและตนยงั มากระท้าการ ขาย มีไวเ้ พื่อขาย เสนอ ขาย ให้เช่า หรือเสนอให้เช่า ให้เช่าซือ หรือเสนอให้เช่าซือ เผยแพร่ต่อสาธารณชน แจกจ่ายใน ลกั ษณะที่อาจก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่เจ้าของลขิ สทิ ธิ์ และน้าหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจกั ร

205 4.3.5 การใช้งานลขิ สิทธิ์ทเี่ ปน็ ธรรมในการเรียนการสอน เพ่ือประโยชน์ในการเรียนการสอน กฎหมายจึงก้าหนดข้อยกเว้นการ ละเมดิ ลิขสิทธเ์ิ พ่ือประโยชน์ในการเรียนการสอนและความกา้ วหน้าทางการศกึ ษาได้ตามสมควร อาจ มีการท้าซ้างานวรรณกรรม เช่น ท้าส้าเนา น้าออกแสดง ดัดแปลงบางส่วนของงานท่ีมีลิขสิทธิ์ เช่น บทความ ขอ้ ความจากหนงั สือหรืองานศิลปกรรม ตัดทอนหรอื ท้าบทสรุปโดยผสู้ อนหรือสถาบันศกึ ษา ยกเว้นการละเมิดลิขสิทธ์ิเฉพาะผู้สอนและผู้เรียนตามมาตรา 32 และมาตรา 33 รวมกับท่ีกฎหมาย อนุญาตให้บรรณารักษ์ห้องสมุดกระท้าการแก่งานอนั มีลิขสิทธ์โิ ดยไม่ถอื ว่าเป็นการละเมิดลขิ สิทธิต์ าม มาตรา 34 (กรมทรัพยส์ ินทางปัญญา, 2550: 6-9; กรมทรัพย์สินทางปัญญา, (ม.ป.ป.): 9-15) 4.3.5.1 เกณฑ์การใช้ลิขสิทธิ์ท่ีเป็นธรรมในการเรียนการสอน ค้านึงถึง วตั ถุประสงค์ในการใชง้ านลิขสิทธิ์ทังหมด 4 ประการ คือ 1) ค้านึงถงึ วตั ถปุ ระสงค์และความเหมาะสม ในการใช้งาน 2) ค้านึงถึงลักษณะของงาน 3) ค้านึงถึงปริมาณการใช้งานและสัดส่วนของงาน 4) ค้านึงถงึ ผลกระทบตอ่ การตลาดหรือมลู ค่าของงาน 4.3.5.2 การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอนจากงาน ลิขสิทธ์ิ ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีการอ้างท่ีมาในเชิงอรรถและ/หรือบรรณานุกรม แสดง ถึงการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิหรือกล่าวถึงที่มาของงานลิขสิทธ์ิ ทังนีจะต้องอยู่ภายใต้ กฎเกณฑ์ของการใช้สิทธิท่ีเป็นธรรม 2 ประการคือ ต้องไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ตามปกติของ เจ้าของลิขสิทธ์ิ และต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกิน สมควร 4.3.5.3 สอ่ื โสตทัศนวัสดตุ ่างๆ หากน้าออกฉายเพ่ือการเรียนการสอนท้า ไดโ้ ดยไม่จา้ กัดความยาวและจ้านวนครังโดยส้าเนาที่น้าออกฉายต้องเป็นสา้ เนาท่มี ีลขิ สิทธ์ิถูกต้อง เป็น การน้าออกฉายเพอื่ ประโยชนใ์ นการเรียนการสอนและไม่แสวงหากา้ ไร การท้าส้าเนา ผู้สอนท้าส้าเนา ทังเร่ืองที่จ้าเป็นต้องใช้เพ่ือประโยชน์ในการสอน หากไม่สามารถจัดซือจัดหาส้าเนาโสตทัศนวัสดุที่มี ลิขสิทธ์ิได้ ผู้เรียนท้าส้าเนาโสตทัศนวัสดุเพื่อใช้ในการศึกษาได้ไม่เกินร้อยละ 10 หรือ 3 นาที ของ แตล่ ะผลงาน 4.3.5.4 งานแพร่เสียงแพร่ภาพ จากวิทยุ โทรทัศน์ ผู้สอนใช้เทป บนั ทกึ ภาพงานดงั กล่าวไดใ้ นระยะเวลาหนงึ่ ปกี ารศกึ ษาหรือสามภาคเรียน 4.3.5.5 ดนตรีกรรม ผสู้ อนท้าสา้ เนาในกรณีเรง่ ด่วนเนื่องจากไม่สามารถ ซือส้าเนางานท่ีมีลิขสทิ ธิ์มาใชไ้ ด้ทัน และต้องจัดซือส้าเนางานทม่ี ีลขิ สิทธ์มิ าใชท้ ันทีที่ท้าได้ สามารถท้า ส้าเนาหนึ่งชุดหรือหลายชุด จากท่อนใดท่อนหน่ึงของงานเพ่ือการศึกษาไม่ใช่เพื่อน้าออกแสดง ทังนี ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของแต่ละงาน และไม่เกิน 1 สา้ เนา ต่อผู้เรียน 1 คน และบันทึกเสียงงานเพลง ได้ 1 ชุดเพื่อเป็นแบบฝึกหัดส้าหรับการร้องหรือการฟัง สามารถดัดแปลงส้าเนางานเพื่อประโยชน์ใน การเรยี นการสอนได้ แต่จะดัดแปลงคณุ ลักษณะส้าคญั ของงานรวมถึงเนือร้องไมไ่ ด้ 4.3.5.6 รูปภาพและภาพถ่าย ใช้ได้อย่างน้อย 1 ภาพแต่ไม่เกิน 5 ภาพ ต่อผู้สร้างสรรค์ 1 ราย หรือร้อยละ 10 ของจ้านวนภาพของผู้สร้างสรรค์ 1 ราย ดาวน์โหลดภาพจาก อินเทอร์เน็ต เพื่อใช้ในการศึกษาได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของแต่ละงานและไม่เกิน 1 ส้าเนาต่อผู้เรียน 1 คน ท้าส้าเนางานได้กรณีท่ีจะน้ามาใช้ในการแสดง แต่ต้องจัดซือมาใช้ทันทีที่ท้าได้ ท้าส้าเนาสิ่ง

206 บันทึกเสียงงานเพลงได้ 1 ชุด แต่จะอัพโหลดงานนันกลับขึนบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้ หากไม่ได้รับ อนุญาตจากเจ้าของลขิ สทิ ธ์ิ 4.3.5.7 วรรณกรรมและสงิ่ พิมพ์ ผู้สอนท้าส้าเนาได้ 1 ชุด ส้าหรบั 1 บท จากหนังสือ 1 เล่ม (chapter), บทความ (article) 1 บท จากนิตยสาร/วารสาร หรือหนังสือพิมพ์, เร่ืองสัน (short story) หรือเรียงความขนาดสัน (short essay) 1 เร่ือง, บทกวีขนาดสัน (short poem) 1 บท ไม่ว่าจะน้ามาจากงานรวบรวมหรอื ไม่กต็ าม 4.3.5.8 แผนภูมิ (chart) กราฟ (graph) แผนผัง (diagram) ภาพวาด (painting) ภาพลายเส้น (drawing) การต์ ูน (cartoon) รูปภาพ (picture) หรือภาพประกอบหนังสือ (illustration) จากหนังสอื นติ ยสาร/วารสาร หรอื หนงั สอื พมิ พ์ จ้านวน 1 ภาพ ผู้สอนสามารถท้าส้าเนาจ้านวนมากเพื่อใชใ้ นห้องเรียนไม่เกิน 1 ชุดตอ่ นักเรียน 1 คน โดยส้าเนาท่ีท้าขึนจะต้องไม่ยาวจนเกินไป และต้องระบุรับรู้ความเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิไว้ในส้าเนา ทุกฉบับดว้ ยดงั นี ก. ร้อยกรอง คือ ค้าประพนั ธ์ ถ้อยคา้ ท่ีเรียบเรียงในรูปแบบฉันทลกั ษณ์ บทกวี (poem) ทไ่ี ม่เกิน 250 ค้า และเมื่อพิมพ์แลว้ ไม่เกิน 2 หนา้ [หน้าละ 2,000 ตวั อกั ษร (ตัวอักษรขนาด 16 )หรือขนาดยาว ตดั ตอนมาไดไ้ มเ่ กิน 250 คา้ ข. รอ้ ยแก้ว คือ ความเรียงที่ไม่มีลักษณะเปน็ ร้อยกรอง ไดแ้ ก่ บทความ (article) 1 บท เรื่อง (story) 1 เรื่อง หรือเรียงความ (essay) 1 เรื่อง หรือไม่เกิน 2,500 ค้า หรือตอนใดตอน หน่ึง (excerpt) ของร้อยแก้วซึ่งไม่เกิน 1,000 ค้าหรือร้อยละ 10 ของงานนัน แต่ได้อย่างน้อย 500 ค้า อาจยืดหยุ่นมีความยาวเกินมาเพ่ือจบบทหรือร้อยแก้วจบย่อหน้า แผนภูมิ (chart) กราฟ (graph) แผนผัง (diagram) ภาพวาด (painting) ภาพลายเส้น (drawing) การ์ตูน (cartoon) รูปภาพ (picture) หรือภาพประกอบหนังสือ (illustration) จากหนังสือนิตยสาร/วารสาร หรือหนังสือพิมพ์ จ้านวน 1 ภาพ ค. งานท่ีผสมผสานกันทังร้อยกรองร้อยแก้ว หรือภาพประกอบ ใช้ได้ไม่เกิน 2,500 ค้า และท้าส้าเนาตอนใดตอนหนึ่ง (excerpt) ของงานได้ไม่เกิน 2 หน้าพิมพ์ของงานนัน หรือไม่เกินรอ้ ยละ 10 ของคา้ ท่ีปรากฏในงานนัน งานของผู้สร้างสรรค์คนเดยี วกัน ท้าส้าเนา ไดไ้ ม่เกิน 1 เรื่อง หรือตัดตอนจากผลงานของคนเดียวกันได้ไม่เกิน 2 ตอน หรือท้าส้าเนาได้ไม่เกิน 3 เร่ือง จาก งานรวบรวมเล่มเดยี วกนั หรอื จากนติ ยสาร/วารสารรวมเล่ม ในเวลา 1 ภาคการศกึ ษา การน้างานลิขสิทธิ์มาใช้ในการเรียนการสอนจะต้องแสดงความรับรู้ความเป็น เจ้าของลิขสิทธ์ิ โดยตอ้ งแจ้งใหท้ ราบช่อื ผู้สร้างสรรค์ ช่ือผลงาน และ/หรือแหลง่ ท่ีมาด้วย 5. ข้อยกเวน้ ในการทาซ้าโดยบุคลากรองค์การบริการสารสนเทศ ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัตลิ ิขสทิ ธิ์ พ.ศ. 2537 บรรณารักษ์มีสทิ ธใิ นการทา้ ซ้า ได้ โดยได้รบั การยกเว้น ดังนี 5.1 ไมข่ ดั ต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอนั มลี ขิ สิทธติ์ ามปกติของเจ้าของลิขสทิ ธิ์ 5.2 ไม่กระทบกระเทือนถึงสทิ ธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลขิ สิทธต์ิ ามสมควร 5.3 วิจัยหรอื ศกึ ษางานนนั มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาก้าไร

207 5.4 การทา้ ซ้าเพ่ือใชใ้ นหอ้ งสมดุ หรือใหแ้ ก่ห้องสมดุ อ่ืน 5.5 การท้าซ้างานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่น เพ่ือประโยชน์ในการวิจัยหรือ ศกึ ษา การส่งเสริมและพัฒนาความตระหนักในเร่ืองกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบปฏิบัติต่างๆ ใน องค์การ เป็นหน้าท่ีที่ผู้บริหารต้องมีมาตรการในการด้าเนินการและถือเป็นวาระส้าคัญในระดับ นโยบาย มีมาตรการลงโทษเม่ือมีผู้ท้าความผดิ การไม่ประพฤตติ นทเี่ ข้าข่ายการละเมิด เป็นแบบอยา่ ง ที่ดี และพยายามให้ความรู้แนวปฏิบัติท่ีถูกต้องให้กับบุคลากร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ผู้ใช้บริการ ให้ ทราบและเคร่งครัดในเร่ืองจรรยาบรรณ จะท้าให้องค์การด้าเนินงานอย่างถูกต้องทังประเด็นทาง กฎหมายและจริยธรรม บุคลากรที่มวี ินยั ซื่อสัตย์ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ย่อมส่งเสริมใหอ้ งคก์ ารประสบ ผลสา้ เร็จ สรปุ มาตรฐาน การประกันคุณภาพ และกฎหมายท่ีน้ามาประยุกต์ใช้กับองค์การบริการ สารสนเทศ เป็นเพียงตัวอย่างวิธีหรือรูปแบบหน่ึงที่องค์การบริการสารสนเทศจะน้ามาใช้เพื่อควบคุม กระบวนการด้าเนินงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกทิศทางและมุ่งสู่จุดหมายปลายทาง หรือเป้าประสงค์ที่ก้าหนดไว้ ผู้บริหารจ้าเป็นต้องติดตามและค้นหาวิธีท่ีจะน้าพาให้องค์การก้าวไปสู่ ความมีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับด้วยการรองรับและยืนยันจากผลการประกันคุณภาพ สามารถ ปฏิบัติงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส ความส้าเร็จย่อมได้มาจากการท่ีผู้บริหารจะสามารถ น้าหลกั การบริหารจัดการใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม การบรหิ ารจัดการเพื่อความเป็นเลิศ การบริหารความเส่ยี ง หลักการบริหารจัดการบ้านเมืองทดี่ ี การจัดการความรู้ การใช้หลักธรรมาภิบาล การจัดการภาครัฐแนวใหม่ การบริหารจัดการแบรนด์ ฯลฯ เหล่านีคือตัวอย่างเคร่ืองมือท่ีองค์การ บริการสารสนเทศสามารถน้ามาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาองค์การ ให้สามารถรับมือกับการ เปลี่ยนแปลงของโลก ท่ามการแข่งขันและการประเมินคุณภาพอย่างเข้มข้น เมื่อองค์การมีความ ตระหนัก ต่นื ตัวและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา การดา้ เนินงานต่างๆ ภายในองค์การ กย็ ่อมมีคุณภาพ และส่งผลให้องค์การประสบผลส้าเร็จในฐานะองค์การแห่งการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วย ประสทิ ธผิ ลและประสทิ ธิภาพ

208 คาถามทา้ ยบท 1. หน่วยงานทกี่ ้าหนดมาตรฐานหอ้ งสมุดประเภทต่างๆ ของไทยคอื หนว่ ยงานใด 2. มาตรฐานหอ้ งสมุดมคี วามส้าคญั และประโยชน์อยา่ งไร 3. จงอธบิ ายพร้อมยกตัวอยา่ งมาตรฐานหอ้ งสมดุ ดา้ นบุคลากรมาพอสงั เขป 4. ISO คอื อะไร มคี วามสา้ คญั อยา่ งไรต่อองคก์ ารบริการสารสนเทศ 5. จงอธบิ ายความหมายค้าวา่ ประกนั คุณภาพ และมคี วามสา้ คญั อย่างไร 6. จงบอกวัตถุประสงคข์ องการประกนั คุณภาพขององคก์ ารมาอย่างน้อย 5 ขอ้ 7. หลกั การในการประกนั คณุ ภาพนยิ มใช้ วงจรของเดมมงิ่ มาเป็นเครื่องมอื ตรวจสอบกระบวนการ วงจรเดมมง่ิ มีขนั ตอนอยา่ งไร จงอธบิ าย 8. จงยกตัวอยา่ งกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับการจดั การองค์การบริการสารสนเทศพรอ้ มอธบิ าย ความสมั พันธ์ 9. ลขิ สิทธ์ิ คอื อะไร ใครคือเจ้าของลิขสทิ ธิ์ 10. งานอันมลี ขิ สิทธ์ิ มีอะไรบ้าง จงยกตัวอยา่ ง 11. อายุแหง่ การคมุ้ ครองลขิ สทิ ธ์ขิ องผู้สรา้ งสรรคง์ านวรรณกรรมกา้ หนดไวอ้ ย่างไร จงอธิบาย พอสังเขป 12. เกณฑ์การใช้ลขิ สิทธท์ิ เี่ ป็นธรรมในการเรียนการสอน ค้าถงึ เงื่อนไข 4 ประการ ได้แก่อะไรบา้ ง 13. บรรณารกั ษ์ นักสารสนเทศ ไดร้ ับการยกเวน้ ในการท้าซ้าอย่างไรบา้ ง จงอธบิ ายและยกตัวอย่าง มา 1 กรณี 14. หากทา่ นเปน็ ผู้บรหิ ารองค์การบรกิ ารสารสนเทศ ทา่ นมวี ธิ ีการอย่างไรทจ่ี ะสรา้ งความรู้ ความเข้าใจเรื่องเกย่ี วกับลิขสิทธิ์ใหก้ บั ผู้ใช้บริการ 15. บรรณารักษห์ ้องสมดุ ถา่ ยเอกสารหนังสือทงั เล่มเพอ่ื เตรยี มไวใ้ หน้ ักศกึ ษาซือใชป้ ระกอบการเรยี น การสอนในรายวชิ าท่ีเปิดสอนในมหาวิทยาลัย บรรณารักษ์ผนู้ ันทา้ ผดิ พระราชบญั ญัติลขิ สิทธ์ิ หรอื ไม่ อย่างไร จงอธิบาย

209 เอกสารอา้ งองิ กรมทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา. กระทรวงพาณชิ ย.์ (2555). คมู่ ือลขิ สิทธ์ิงานวรรณกรรม. นนทบุรี: ผู้แตง่ . ------------. (ม.ป.ป). คูม่ ือการใช้งานลขิ สทิ ธิ์ทเ่ี ปน็ ธรรม. นนทบุรี: ผแู้ ต่ง. ครรชติ มาลยั วงศ.์ (2545). การจัดการมาตรฐานและคุณภาพ. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการ จัดการช้นั สงู สาหรับสถาบนั บริการสารสนเทศ หน่วยท่ี 4-9 (หน้า 191-237). นนทบรุ ี: สาขาศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. ไชยยศ เหมะรัชตะ. (2545). กฎหมายและระเบียบเกีย่ วกับการจัดการสถาบนั บรกิ ารสารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชดุ วิชาการจัดการช้ันสูงสาหรับสถาบันบรกิ ารสารสนเทศ หนว่ ยท่ี 8- 15 (หนา้ 233-275). นนทบรุ ี: สาขาศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี. (2559). รายงานการประเมนิ ตนเอง สานกั วิทยบรกิ ารและ เทคโนโลยีสารสนเทศ ประจาปี 2558. อดุ รธานี: ส้านกั วิทยบริการและเทคโนโลยี สารสนเทศ ผู้แตง่ . ราชบณั ฑติ ยสภา. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบณั ฑิต 2554. [ออนไลน์], แหลง่ ท่มี า HTTP: http://www.royin.go.th/dictionary/. สมพร พทุ ธาพิทกั ษผ์ ล. (2551). คุณภาพ มาตรฐาน และการเทียบเคยี งสมรรถนะของการบิรการ สารสนเทศในหอ้ งสมุด ใน การพฒั นาศักยภาพหอ้ งสมุดยุคใหม่ (หน้า 93-101). กรงุ เทพฯ: สา้ นักหอสมดุ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร.์ สมาคมห้องสมุดแหง่ ประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช กุมารี. (2537). มาตรฐานห้องสมดุ . พิมพ์ครังที่ 2. กรงุ เทพฯ: ผ้แู ต่ง. ------------. (2559). มาตรฐานห้องสมุด. [ออนไลน์], แหล่งที่มา HTTP: http://tla.or.th/ index.php/about-association/standard. ส้านกั งานคณะกรรมการอุดมศึกษา. (2558). คูม่ ือการประกันคณุ ภาพภายในระดบั อุดมศึกษา พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการประกนั คุณภาพภายในระดับอุดมศึกษา ผ้แู ต่ง. สชุ าติ ธรรมาพทิ กั ษ์กุล. (2545). ลิขสิทธ์ิกบั งานห้องสมุด. ใน เอกสารการสมั มนาวิชาการกรม ทรัพย์สินทางปัญญา (หน้า 1-17). วันที่ 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ. สทุ ธิพล ทวชี ยั การ. (2545ก). กฎหมายเกี่ยวกบั ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา : พระราชบัญญัติลขิ สทิ ธิ์ เกยี่ วกับงานเขียน. ใน เอกสารการสมั มนาวิชาการกรมทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา (หน้า 1-5). วันท่ี 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรมอโนมา กรงุ เทพฯ. ------------. (2545ข). มุมมองของการใชล้ ขิ สิทธทิ์ เ่ี ป็นธรรมและการบรหิ ารการจัดเกบ็ ค่าลขิ สิทธ์ิจาก การถ่ายเอกสารงานวรรณกรรมในประเทศไทย. ใน เอกสารการสมั มนาวิชาการกรม ทรัพย์สินทางปญั ญา (หนา้ 1-11). วันที่ 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรม อโนมา กรุงเทพฯ.

210 เสนห่ ์ จุ้ยโต และ นงลักษณ์ ชายหาด. (2545). การประกนั คุณภาพสถาบนั บริการสารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจัดการช้ันสงู สาหรบั สถาบนั บริการสารสนเทศ หนว่ ยที่ 8-15 (หนา้ 333-368). นนทบรุ ี: สาขาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. Bernal, Jorge Jimeno. (2014). PDCA Cycle (Plan, Do, Check, Act) : The Deming Cycle and the Continuous Improvement. [Online], Available HTTP: https://pdcahome .com/english/267/pdca-cycle-continuous-improvement/. International Interior Design Association. (2014). 2014 Library Interior Design Award Winners. [Online], Available HTTP: http://www.iida.org/content.cfm/2014- library-interior-design-award-winners. International Organization for Standrardization. (2015). ISO 9000 : 2015 Quality Management Systems—Fundamentals and Vocabulary. [Online], Available HTTP: https://www.iso.org/standard/45481.html. Learn About Standards. (2015). [Online], Available HTTP: http://asq.org/learn- about-quality/learn-about-standards/.

บรรณานกุ รม

212

213 บรรณานกุ รม กรมทรัพยส์ ินทางปัญญา. กระทรวงพาณชิ ย์. (2555). คมู่ อื ลิขสิทธ์งิ านวรรณกรรม. นนทบรุ ี: ผู้แตง่ . ------------. (ม.ป.ป). คู่มือการใชง้ านลขิ สทิ ธิท์ ่เี ปน็ ธรรม. นนทบรุ ี: ผู้แต่ง. กรมศลิ ปากร. (2548). 100 ปีหอสมุดแห่งชาติ. กรงุ เทพฯ: ผ้แู ต่ง. กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถนิ่ . (2559). หอ้ งสมดุ แนวใหม่และห้องสมุดในอนาคต. [ออนไลน์], แหลง่ ทีม่ า HTTP: http://www.dla.go.th/work/e_book/eb1/stand17/pdf. กรรณกิ าร์ สุวรรณศร.ี (2559). การบรหิ ารทรัพยากรมนุษย์. [ออนไลน์], แหล่งทมี่ า HTTP: http://pws.npru.ac.th/kannika/data/file/การบริหารทรัพยากรมนุษย.์ กองเทพ เคลือบพณชิ กลุ , ปริญญา อรจิราพงศ์ และสุรชัย อดุ รศาสตร.์ (2548). ค่มู อื สอบบรรจุ งานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และฉบบั แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ. 2548. กรุงเทพฯ: ภูมบิ ัณฑิต. กัลยา ตันจะโร และ พมิ พ์ราไพ เปรมสมิทซ์. (2555). การใชส้ อื่ สังคมเพอ่ื การประชาสมั พันธ์ หอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั . บรรณารกั ษศาสตร์. 32(2): 39-55. การติดตอ่ สอื่ สารภายในองค์การ. (2559). [ออนไลน์], แหลง่ ท่มี า HTTP: http://www.kruinter. com/file / 85120150901142145[kruinter.com].pdf. การผลติ แบบลีน. (2559). [ออนไลน์], แหลง่ ท่ีมา HTTP: http://Portal.nurse.cmu.ac.th. กิตตชิ ยั ไตรรัตนศิริชยั . (2559). ยุทธศาสตร์การสื่อสารองคก์ ร. [ออนไลน์], แหลง่ ที่มา HTTP: http://gad.kku.ac.th/main/knowledge/Newpr_plan_2554-2558.ppt. กณุ ฑลี ร่นื รมย.์ (2558). Corporate Success Valuation. พิมพค์ รง้ั ที่ 2. กรุงเทพฯ: ไซเบอร์ กลุ ชลี พวงเพช็ ร์. (2558). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. ลพบุรี: มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตร.ี ครรชติ มาลัยวงศ.์ (2545). การจัดการเทคโนโลยสี ารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจดั การ ขั้นสงู สาหรบั สถาบันบริการสารสนเทศ หน่วยท่ี 8-15 (หนา้ 193-207). นนทบุรี: สาขาวิชาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. ------------. (2545). การจัดการมาตรฐานและคุณภาพ. ใน ประมวลสาระชดุ วิชาการจัดการช้ันสงู สาหรบั สถาบนั บรกิ ารสารสนเทศ หน่วยที่ 4-9 (หน้า 191-237). นนทบุรี: สาขาศิลป ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. ------------. (2551). การบริหารงานไอซที ใี นห้องสมุด. ใน การพฒั นาศักยภาพห้องสมุดยคุ ใหม่ (หนา้ 61-70). กรงุ เทพฯ: สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. คตั สึมิ, นิชิมรู ะ. (2551), ส่ือสารจากมีตรรกะชนะ (ใจ) ทกุ สถานการณ์ จาก Logical Communication, แปลโดย ประวตั ิ เพียรเจริญ. กรงุ เทพฯ: สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น). คานาย อภปิ รัชญากุล. (2553). หลกั การจดั ซอื้ . กรุงเทพฯ: ดวงกมล. ------------. (2557). การบริหารทรพั ยากรมนุษย.์ กรงุ เทพฯ: โฟกัสมีเดีย แอนด์ พับลชิ ช่งิ .

214 จรูญศักดิ์ ฉวศี ักด์.ิ (2554). การบรหิ ารหอ้ งสมดุ แบบมืออาชพี . กรงุ เทพฯ: สานกั หอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. จนั ทร์จริ า เหลาราช และ สมาน ลอยฟ้า. (2558). การแลกเปลย่ี นเรยี นรขู้ องบุคลากรหอ้ งสมุด สถาบันอุดมศกึ ษาของรฐั . อินฟอรเ์ มชน่ั . 22(1): 1-10. จาริณี เอี่ยมสะอาด. (2558). การวางแผนกาลังคนภาครฐั . [ออนไลน์], แหล่งทีม่ า HTTP: http://www.stabundamrong.go.th/web/book/48/b22_48.pdf. 44-67. จินดารัตน์ เบอรพนั ธุ์. (2554). ขอ้ สังเกตเก่ยี วกบั วิชาชพี บรรณาธิการและวิชาชพี บรรณารักษ.์ บรรณารกั ษศาสตร์. 31(2): 1-8. จิระพงศ์ เรืองกนุ . (2559). HR สเี ขียว : การบูรณาการระบบการจดั การสิ่งแวดล้อมกับการจัดการ ทรัพยากรมนษุ ยเ์ พ่ือสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน. ใน พยัต วุฒริ งค์ (บรรณาธิการ), การบริหารทรัพยากรมนษุ ย์ในทศวรรษหน้า (หนา้ 195-205). กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (2559). เอกสารในระบบคุณภาพ. [ออนไลน์], แหลง่ ทม่ี า HTTP: http://www.car.chula.ac.th/qa-office/qao/index.htm. เจษฎา นกนอ้ ย. (2554). แนวคดิ การบรหิ ารทรัพยากรมนุษย์ร่วมสมัย. กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์ แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ชนนิกานต์ เสริตานนท์. (2559). ซเี อสอาร์กับนวตั กรรมการส่ือสาร. การประชาสมั พนั ธแ์ ละการ โฆษณา. 9(1): 59-73. ชวน หลีกภัย. (2554). คากล่าวเปดิ การประชมุ วิชาการประจาปี 2554 ใน การบริหารห้องสมดุ แบบมอื อาชพี . วนั ท่ี 1 กนั ยายน 2554 ณ ห้องราชา โรงแรมปรินซพ์ าเลซ กรุงเทพฯ. ชุติมา สัจจานนั ท.์ (2545). การพฒั นาบุคลากร. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจดั การขั้นสูงสาหรับ สถาบนั บริการสารสนเทศ หนว่ ยที่ 1-7 (หน้า 165-199). นนทบุรี: สาขาวิชาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. เชิดชัย มีคา. (2550). คู่มือปฏิบัติงานพัสดุ. [ม.ป.ท.,ม.ป.พ.). ------------. (2550). คู่มือปฏิบัติงานพัสดุ เล่ม 2 ว่าด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์. [ม.ป.ท.,ม.ป.พ.). ไชยยศ เหมะรัชตะ. (2545). กฎหมายและระเบียบเกยี่ วกับการจดั การสถาบันบรกิ ารสารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจดั การช้ันสูงสาหรับสถาบันบริการสารสนเทศ หนว่ ยที่ 8- 15 (หน้า 233-275). นนทบุรี: สาขาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัย ธรรมาธริ าช. ฐาปนา ฉ่ินไพศาล. (2559). องคก์ รและการจดั การ. กรงุ เทพฯ: ศูนย์หนังสอื จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . ณฐั วุฒิ พงศส์ ิร.ิ (2559). การบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์ในยุคดจิ ทิ ัล. บรหิ ารคน. 36(1): 51-57. ตลุ า มหาพสุธานนท์. (2554). หลักการจดั การ. กรงุ เทพฯ: พี เอ็น เค แอนด์ สกายพร้นิ ติ้งส์.

215 ทรงธรรม ธรี ะกูล. (2558). การส่อื สาร : กลยุทธส์ ู่ความสาเรจ็ ขององค์กร. [ออนไลน์], แหลง่ ท่มี า HTTP: http://www2.tsu.ac.th/grad/…./06042009การสือ่ สาร%20กลยทุ ธ์ สคู่ วามสาเร็จ.doc. ทรงพล หนูบ้านเกาะ และ พิมพร์ าไพ เปรมสมิทซ์. (2555). การพฒั นาทรัพยากรมนุษยข์ อง หอ้ งสมุดมหาวทิ ยาลยั . บรรณารักษศาสตร์. 32(1): 41-53. ทรงพนั ธ์ุ เจิมประยงค์. (2557). การให้บริการห้องสมุดสมยั ใหม่ : แนวโน้มในปจั จบุ ันและความท้า ทายในอนาคต. ใน การพฒั นาหอ้ งสมุด แนวโนม้ ในปจั จบุ ันและความท้าทายในอนาคต (หน้า 72-94). กรุงเทพฯ: สานกั หอสมุด มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. ทฤษฎีการบริหารงาน. (2559). [ออนไลน์], แหล่งทีม่ า HTTP: http://www.logisticxcorner.com. ทพิ วรรณ บุณยเ์ พ่มิ . (2545). การจดั อาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ มสถาบนั บรกิ ารสารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชดุ วชิ าการจัดการข้ันสูงสาหรับสถาบนั บริการสารสนเทศ (หนา้ 267- 326). นนทบุรี: สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช. ธร สุนทรายุทธ. (2554). ปรัชญาการบรหิ ารจัดการ. กรุงเทพฯ: เนตกิ ุลการพิมพ์. นนทวทิ ย์ ภูมสิ ะอาด และ เปรมนิ ทร์ อนุ่ มณี. (2559). คูม่ อื การใช้งานโปรแกรมธุรการ (เอกสาร เข้า-ออก). อดุ รธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี. (เอกสารอัดสาเนา). นรวฒั น์ ชุตวิ งศ์ และ ณัฐสิทธิ์ เกิดศร.ี (2554). การวเิ คราะหป์ จั จยั ท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อการเปน็ องค์กร แห่งนวตั กรรมในประเทศไทย. บรหิ ารธรุ กิจ. 34(130): 47-58. นวัตกรรม. (2559). [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: https://www.mwa.co.th/academy/ images/ stories/inno2015/green1.pdf. นาวา วงษ์พรม. (2559). หอ้ งสมุดมชี วี ติ ใน เอกสารประกอบการอบรมพัฒนาศกั ยภาพผู้ใหบ้ รกิ าร แหล่งการเรียนร้สู าธารณะ เทศบาลนครอดุ รธานี. อดุ รธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี. นติ ยา เงินประเสรฐิ ศรี. (2558). ทฤษฎีองคก์ ารและการออกแบบในคริสต์ศตวรรษที่ 21. กรงุ เทพฯ: สานักพิมพม์ หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. นติ ยา ชมุ่ อภัย และ อัคริมา สุ่มมาตย.์ (2558). กลยุทธ์การสร้างแบรนดข์ องสานักหอสมดุ และ ทรพั ยากรเรียนรู้ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . อินฟอรเ์ มช่นั . 22(1): 79-87) บรรจง พลไชย. (2554). การส่อื สารเพ่ือบรกิ ารสารสนเทศ. บรรณศาสตร์ มศว. 4(1): 63-70. บาเพญ็ โรจนป์ รชี า. (2545). การกาหนดนโยบาย การวางแผน และการจดั สถาบนั บริการ สารสนเทศ ใน ประมวลสาระชุดวชิ าการจดั การขั้นสงู สาหรบั สถาบันบรกิ ารสารสนเทศ หนว่ ยท่ี 1-7 (หน้า 39-73). นนทบุรี: สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทัย ธรรมาธิราช. บรู ณะศักดิ์ มาดหมาย. (2010). ระบบการจัดการสานกั งานอัตโนมัติ. Technology Promotion. 37(212): 073-078. ปกรณ์ ปรยี ากร. (2542). การบรหิ ารโครงการ : แนวคดิ และแนวทางในการสรา้ งความสาเรจ็ . พมิ พค์ ร้ังที่ 12. กรงุ เทพฯ: เสมาธรรม.

216 ปทั มาภรณ์ ธรรมทตั . (2556). การบูรณาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในระบบปฏบิ ัติ งานและการบรกิ ารห้องสมดุ . วารสารวิชาการหอสมดุ แห่งชาติ. 1(1): 34-44) ปารชิ าติ เยพทิ ักษ์ และ ธีระวัฒน์ จันทกึ . (2559). การบริหารจัดการข้อมูลขององค์การในภาครัฐ, Veridian E-Journal, Silpakorn University. 9(1): 16-26. ปิตมิ า จันทมณโี ชติ. (2551). จะเตรยี มตวั อยา่ งไรเม่ือต้องเป็นบรรณารักษย์ ุคเสมือนจริง. รสู มิแล. 29(3): 9-12. ปิยนชุ สุจติ . (2551). การบรหิ ารจัดการสถาบนั บริการสารสนเทศ. กรุงเทพฯ: คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา. พยตั วุฒิรงค.์ (2559). การบริหารทรัพยากรมนษุ ย์ในทศวรรษหน้า. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ------------. (2559). การพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ประเดน็ ท้าทายการพัฒนา องค์กรในทศวรรษหน้า. ใน การบริหารทรพั ยากรมนุษยใ์ นทศวรรษหน้า (หน้า 3-27). กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . พิพัฒน์ ยอดพฤตกิ าร. (2557). CSV กลยุทธ์สคู่ วามยงั่ ยืน. MBA. 183(2): 74-75. ไพโรจน์ ปิยะวงศว์ ฒั นา. (2557). การจดั การเชงิ กลยุทธ์เทคโนโลยีและนวัตกรรม. พิมพค์ ร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ: สานักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . มยุรี อนมุ านราชธน. (2551). การบรหิ ารโครงการ. พิมพ์คร้งั ที่ 6. [ม.ป.ท.] มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. (2551). คู่มือปฏิบัติงานการบริหารงานพัสดุ ว่าด้วยการสอบ ราคาซ้ือ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไข เพิ่มเติมถึงฉบับที่ 6 พ.ศ. 2545. อุดรธานี: ผู้แต่ง. ------------. (2558). ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เร่อื งมาตรฐาน 5ส มหาวิทยาลยั ราช ภฏั อดุ รธานี. อุดรธาน:ี ผแู้ ต่ง. ------------. (2559). คู่มือการจัดสรรงบประมาณและการใช้จ่ายงบประมาณตามแผน ยุทธศาสตร์การพัฒนา และแผนปฏิบัติราชการ ปีงบประมาณ 2559. อุดรธานี: คณะกรรมการฝ่ายแผนงานและงบประมาณ. ------------. (2559). รายงานการประเมนิ ตนเอง สานกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจาปี 2558. อดุ รธานี: สานักวทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ. ยพุ ิน เตชะมณี. (2553, พฤษภาคม-สงิ หาคม). หอ้ งสมุดมชี วี ติ : ใคร อะไรมีชีวติ . สารสนเทศ ศาสตร์. 28(2): 61-72. ราชกจิ จานุเบกษา. (2546). พระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารบริหารกจิ การ บ้านเมอื งท่ดี ี พ.ศ. 2546. เลม่ ที่ 120 ตอนที่ 100ก, 9 ตุลาคม 2546. หน้า 1-16. ------------. (2550). ประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารเร่อื ง หลักเกณฑก์ าร เกบ็ รักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ใหบ้ รกิ าร พ.ศ. 2550. เลม่ 124 ตอน พิเศษ 102ง, 23 สงิ หาคม 2550. หนา้ 1-12.

217 ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมบี คุ๊ ส์พับลิเคชัน่ ส.์ ------------. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต 2554. [ออนไลน์], แหล่งทีม่ า HTTP: http://www.royin.go.th/dictionary/. รงุ่ ทพิ ย์ เจริญศักดิ์. (2558). การพฒั นาห้องสมดุ ประชาชนตามรูปแบบแนวคิดหอ้ งสมุดมีชวี ิต. อนิ ฟอรเ์ มชนั่ , 22(1): 1-20. รงุ่ รตั น์ ชยั สาเร็จ. (2558). การส่อื สารองค์กร : แนวคดิ การสรา้ งช่ือเสียงอย่างยั่งยนื . กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . ลกั ษณะสาคัญขององคก์ ารแหง่ การเรียนรู้. (2559). [ออนไลน์], แหลง่ ที่มา HTTP: http://hm.npru.ac.th/pdf/news/Learning%20Organization(LO).pdf. โลหะประทปี อุตสาหกรรม จากัด, บริษัท. (2559). กล่มุ สินค้าและบรกิ ารลกู ค้าหอ้ งสมุด. [ออนไลน์], แหลง่ ทมี่ า HTTP: http://www.lpi.co.th/product_group.php?cid=1. วรรณยา เฉลยปราชญ์ และ อรนุช เศวตรตั นเสถียร. (2556). ความต้องการกจิ กรรมพัฒนา บุคลากรด้านเทคโนโลยแี ละการส่อื สารของบรรณารกั ษ์หอ้ งสมุดมหาวิทยาลัย. บรรณารักษศาสตร์. 33(1): 37-65. วรากรณ์ สามโกเศศ. (2551). หอ้ งสมดุ สดุ ยอด : จากมุมมองนักบรหิ าร ใน การพัฒนาศกั ยภาพ หอ้ งสมุดยุคใหม่ (หนา้ 35-38). กรงุ เทพฯ: สานักหอสมุด มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์. วันชยั มชี าติ. (2557). การบริหารองคก์ าร. กรุงเทพฯ: สานักพิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วันทนีย์ แสนภักด,ี พรทพิ ย์ วรี ะสวัสด์ิ และ ธิดา พาหอม. (2553). การจดั การพัสดุและ สานกั งาน. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอรเ์ น็ท. วิจารณ์ พานชิ . (2548). ยุทธศาสตร์การจดั การความรู้. ใน ยุทธศาสตร์การจดั การความรู้ใน หอ้ งสมดุ , การประชมุ สามัญประจาปี 2548 และประชุมวชิ าการ สมาคมห้องสมุดแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี วันท่ี 21-24 พฤศจกิ ายน 2548 ณ โรงแรมทาวนอ์ ินทาวน์ กรงุ เทพฯ. หน้า 16-28. วเิ ชศ คาบญุ รัตน.์ (2554). 4 ปี ตอ่ ไป โอกาสของนักวิชาชพี . People. 32(2): 015-022. วเิ ชยี ร วทิ ยอุดม. (2554). การจัดการสมยั ใหม่. กรุงเทพฯ: ธนธัชการพิมพ์. วิบูลย์ จงุ . (2551). การบริหารตราสนิ ค้า. ใน การพฒั นาศักยภาพห้องสมดุ ยุคใหม่ (หนา้ 71-78). กรุงเทพฯ: สานกั หอสมดุ กลาง มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. วมิ ลพรรณ อาภาเวท. (2553). หลักการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์. กรงุ เทพฯ: โอเดียนสโตร.์ วิไลรตั น์ สภุ ามา. (2558). การวางแผนและการบรหิ ารโครงการ. เลย: คณะวทิ ยาการจัดการ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเลย. วิศปตั ย์ ชัยชว่ ย. (2559). แนวทางการจัดการเอกสารหนว่ ยงานของรัฐท่ีสอดคล้องกบั พระราชบญั ญตั จิ ดหมายเหตุแห่งชาติ พ.ศ. 2556. สารสนเทศศาสตร์. 34(2): 114-129.

218 ศศปิ ระภา ชัยประสิทธ.์ิ (2010). องค์กรแหง่ นวัตกรรม ทางเลือกของผูป้ ระกอบการใหม่. Executive Journal. 7/10/2010. [ออนไลน์]: แหลง่ ท่มี า HTTP: http://www. bu.ac.th/ knowledgecenter/executive _journal /30_2/pdf/aw8.pdf. 60-63. ศักดา วีรกุล. (2559). ประมวลคาวินิจฉัยตอบข้อหารือหรือปัญหาในการปฏิบัติงานด้านพัสดุ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบสานักนายรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2521 และแก้ไขเพ่ิมเติม. (ม.ป.ท.) ศิรภัสสรศ์ วงศ์ทองดี. (2557). การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์. พมิ พ์คร้ังที่ 2. กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . เศรษฐพงค์ มะลสิ วุ รรณ. (2559). Thailand 4.0 เพ่ือดันไทยส่ผู ้นู าดา้ นดิจิทลั ใน ASEAN. [ออนไลน์], แหลง่ ท่มี า HTTP: https://www.it24hrs.com/2016/thailand-4-0-digital- service-asean/. สถาบนั ธุรกิจเพื่อสงั คม. (2556). ความรับผดิ ชอบต่อสังคมเพ่อื ความยง่ั ยนื ขององค์กร. พิมพค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพฯ: สถาบนั ธุรกิจเพ่ือสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. สมคิด บางโม. (2558). องคก์ ารและการจดั การ. กรุงเทพฯ: วทิ ยพฒั น์. สมบตั ิ วงอศั วนฤมล. (2551). การออกแบบตกแตง่ ภายในหอ้ งสมุดสมัยใหม่. ใน การพัฒนา ห้องสมุดยคุ ใหม่ (หนา้ 47-60). กรงุ เทพฯ: สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ สมพร พทุ ธาพิทักษ์ผล. (2551). คณุ ภาพ มาตรฐาน และการเทียบเคียงสมรรถนะของการบริการ สารสนเทศในห้องสมุด ใน การพัฒนาศกั ยภาพหอ้ งสมุดยุคใหม่ (หน้า 93-101). กรุงเทพฯ: สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภส์ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราช กมุ ารี. (2537). มาตรฐานห้องสมุด. พิมพ์ครงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ: ผแู้ ตง่ . ------------. (2549). มาตรฐานหอ้ งสมุด พ.ศ. 2549. กรุงเทพฯ: ผู้แตง่ . ------------. (2559). ประกาศสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถัมภ์สมเด็จพระเทพ รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เรอ่ื งมาตรฐานห้องสมุด พ.ศ. 2549. [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: http://tla.or.th /index.php/about-association /standard. ------------. (2559). ประกาศสมาคมห้องสมดุ แห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภส์ มเด็จพระเทพ รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรื่องหอ้ งสมดุ สเี ขียว พ.ศ. 2548. [ออนไลน์], แหล่งท่มี า HTTP: http://conference.tgo.or.th/download/tgo_or_th/news/ 2015/apr/20150408-greenlib-criteria-final-format.pdf. ------------. (2559). มาตรฐานห้องสมดุ . [ออนไลน์], แหล่งท่มี า HTTP:http://tla.or.th/index .php/about-association/standard. ------------. (2559). สินค้าและบริการ. [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: http://tla.or.th/index. php/product-and-service. สยามไลบรารี.่ (2559). สินค้าและบริการ. [ออนไลน์], แหลง่ ท่ีมา HTTP: http://www.siam library.com/product.php?typeproduct=%&search=%.

219 สาคร สขุ ศรีวงศ.์ (2554). การจดั การ : จากมมุ มองนกั บริหาร. พมิ พ์คร้งั ที่ 7. กรงุ เทพฯ: จี พี ไซเบอร์พร้นิ . สานักงานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา. (2558). คมู่ อื การประกนั คุณภาพภายในระดบั อุดม ศึกษา พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการประกันคุณภาพภายในระดับอุดมศึกษา. สานกั นายกรฐั มนตร.ี (2548). ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ใน ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 122 ตอนพิเศษ 99ง, หน้า 1-31. ------------. (2548). ระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ใน ราชกิจจา นเุ บกษา เลม่ 122 ตอนพเิ ศษ 99ง, หน้า 32-37. ------------. (2559). ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2552, ใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนพิเศษ 52ง หน้า 1-3. สานกั ปลดั กระทรวงการคลงั . (2559). แผนกลยทุ ธ์การบริหารทรพั ยากรบคุ คล 2559. [ออนไลน์], แหล่งที่มา HTTP: http://www.palad.mof.go.th/wp-content/ uploads/docx. สานักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ. (2559). แนวทางการปฏิบัติตามระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549. [ออนไลน์], แหล่งทีม่ า HTTP: http://web.cpd.go.th/finance/index.php/. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. (2559). โครงการฟอนต์มาตรฐานราชการไทย. [ออนไลน์], แหล่งที่มา HTTP: http://www.sipa.or.th. สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. (2559). โครงสร้างบริหารงาน สานกั วทิ ยบริการ. [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: https://library.kku.ac.th/library2013/index.php?option =com_content&view=article&id=7&Itemid=40. สานกั หอสมุดแห่งชาติ. (2548). ๑๐๐ ปี หอสมุดแหง่ ชาติ. กรงุ เทพฯ: ผ้แู ต่ง. สกุ ัญญา มกฎุ อรฤด.ี (2545). วัฒนธรรมองคก์ รกับการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ของห้องสมุด มหาวิทยาลัย. โดมทศั น์. 32(2): 44-54. ------------. (2551). Talent Management กบั งานบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์ในงานหอ้ งสมดุ . โดมทศั น์. 29(1): 66-75. ------------. (2553). การบรหิ ารงานเชิงยุทธศาสตร์ : การบริหารจดั การหอ้ งสมุดมหาวิทยาลยั . โดมทัศน์. 31(1): 45-56. ------------. (2554, มกราคม-มิถนุ ายน). หอ้ งสมุดมหาวิทยาลยั กบั นวัตกรรมและความคิด สรา้ งสรรค.์ โดมทศั น์. 32(1): 32-40. สุจิน บตุ รดสี วุ รรณ และ อี รามา เรดด้.ี (2551, มกราคม-มิถุนายน). สถานภาพห้องสมุดดจิ ทิ ลั ใน ประเทศไทย : กรณีห้องสดุ สถาบันอุดมศึกษา. วารสารวิจัยสมาคมห้องสมดุ แห่งประเทศ ไทยฯ. 1(1): 17-34). สุชาดา รงั สนิ ันท.์ (2558). การบรหิ ารและพฒั นากาลงั คนภาครัฐ. [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: http://www.stabundamrong.go.th/web/book/48/b22_48.pdf. 2-43.

220 สุชาติ ธรรมาพทิ กั ษ์กลุ . (2545). ลิขสทิ ธิ์กับงานห้องสมดุ . ใน เอกสารการสัมมนาวิชาการกรม ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา (หน้า 1-17). วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ. สุดารัตน์ พมิ ลรตั นกานต.์ (ม.ป.ป.). เอกสารประกอบการสอน วิชาองค์การและการจัดการ สมยั ใหม.่ กรงุ เทพฯ: วทิ ยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ สวนสนุ ันทา. สทุ ธพิ ล ทวชี ัยการ, (2545). กฎหมายเกี่ยวกบั ทรัพยส์ นิ ทางปัญญา : พระราชบัญญตั ิลิขสทิ ธิ์ เกย่ี วกบั งานเขยี น. ใน เอกสารการสมั มนาวิชาการกรมทรัพยส์ ินทางปัญญา (หน้า 1-5). วันท่ี 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรมอโนมา กรงุ เทพฯ. ------------. (2545). มมุ มองของการใช้ลิขสิทธท์ิ ่เี ป็นธรรมและการบริหารการจัดเกบ็ ค่าลิขสิทธจ์ิ าก การถ่ายเอกสารงานวรรณกรรมในประเทศไทย. ใน เอกสารการสมั มนาวิชาการกรม ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา (หนา้ 1-11). วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2545 ณ โรงแรม อโนมา กรงุ เทพฯ. สทุ ธมิ า ชานาญเวช. (2553). การวิเคราะหเ์ ชงิ ปริมาณทางธุรกิจ. กรงุ เทพฯ: วิทยพฒั น.์ สธุ ญั ญา ดว้ งอินทร์. (2556, กันยายน-ธนั วาคม). การประยุกตใ์ ช้เครือ่ งมือทางสังคมกับห้องสมุด ดิจิทลั . สารสนเทศศาสตร.์ 31(3): 78-95. สมุ น อยูส่ ิน. (2545). การสื่อสารและการประชาสมั พันธ์สถาบันบริการสารสนเทศ. ใน ประมวล สาระชุดวิชาการจดั การขน้ั สูงสาหรับสถาบนั บริการสารสนเทศ หนว่ ยท่ี 1-8 (หนา้ 1- 48). นนทบรุ ี: คณะวชิ าศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. สเุ มธ ตันตเิ วชกลุ . (2548). หลกั ธรรม หลกั ทา ตามรอยพระยุคลบาท. พมิ พ์คร้ังที่ 15. กรงุ เทพฯ: สานักพิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . สุรพจน์ สุวรรณพานิช. (2554). กลยุทธ์การจัดซ้ือและเทคนิคการเจรจาต่อรอง ใน การบริหาร ห้องสมุดแบบมืออาชีพ (หน้า 166-177). กรุงเทพฯ: สานักหอสมุด มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์. เสนห่ ์ จยุ้ โต. (2545). หลกั และทฤษฎกี ารจัดการ. ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจดั การขนั้ สงู สาหรับสถาบันบริการสารสนเทศ หน่วยที่ 1-7 (หน้า 2-38). นนทบรุ ี: สาขาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช. เสน่ห์ จุ้ยโต และ นงลกั ษณ์ ชายหาด. (2545). การประกันคุณภาพสถาบนั บริการสารสนเทศ. ใน ประมวลสาระชดุ วชิ าการจดั การช้นั สงู สาหรับสถาบนั บริการสารสนเทศ หน่วยที่ 8-15 (หน้า 333-368). นนทบุรี: สาขาศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. หอสมุดกลางมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . (2559). ระบบงานจัดทารายงานและสถติ ิ (Report Management Module. [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา HTTP: https://library.kku.ac.th. แหล่งบรกิ ารสารสนเทศ. (2559). [ออนไลน์], แหลง่ ทมี่ า HTTP: https://tanoo.wordpress. com/. องคก์ ารแหง่ การเรยี นรู้. (2559). [ออนไลน์], แหล่งท่มี า HTTP: http://www.hindard.go.th/ fileupload/2426Lo.docx.

221 อธิวัฒน์ โยอาศรี. (2559). คู่มือปฏิบัติงานด้านพัสดุ. กรุงเทพฯ: กองพัสดุ กรมชลประทาน. ------------. (2559). คู่มือปฏิบัติงานด้านพัสดุสาหรับพัสดุมือใหม่. กรุงเทพฯ: กองพัสดุ กรม ชลประทาน. อภิชจั พุกสวัสด.์ิ (2556). การประชาสัมพันธเ์ พอื่ การสรา้ งภาพลกั ษณ์. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. อภชิ จั พกุ สวัสด์ิ และ กลุ ทพิ ย์ ศาสตระรุจ.ิ (2556). การประชาสัมพันธภ์ ายใตก้ ระแสส่อื สงั คม ออนไลน์. การประชาสมั พนั ธ์และโฆษณา. 6(2): 24-38. อรรจน์ บัณฑติ ย์ และ ดิชติ ชยั เมตตาริกานนท.์ (2551). ผจู้ ัดการความรู้ : ทางเลือกใหมส่ าหรบั บรรณารกั ษ์ นักสารสนเทศในยคุ สงั คมแห่งการจัดการความร้.ู บรรณารกั ษศาสตรแ์ ละ สารนเิ ทศศาสตร์ มข. 26(1-3): 1-9. Argenti, P. A. (2009). Corporate Communication. 5th ed. New York, NY: McGraw- Hill. Aula, P. & Mantere, S. (2008). Strategic Reputation Management : Towards a Commpany of Good. New York: Routledge. Bernal, Jorge Jimeno. (2014). PDCA Cycle (Plan, Do, Check, Act) : The Deming Cycle and the Continuous Improvement. [Online], Available HTTP: https://pdcahome.com/english/267/pdca-cycle-continuous-improvement/. Bieraugel, Mark. (2015). Management Library Innovation Using the Lean Startup Method. Library Management. 36(4/5): 351-361. [Online]: Available HTTP: https://doi.org/10.1108/LM-10-2014-0131. Binh, P Le. (2015). Academic Library Leadership in the Digital Age. Library Management. 36(4/5): 300-314. [Online]: Available HTTP: https://doi.org/ 10.1108/LM-07-2014-0083. Chang, Allister. (2016). How We Can Find Focus with Flexibility in Our Libraries. Knightfoundation. 2016, 15 March. [Online], Available HTTP: https://knight foundation.org/articles/how-we-can-find-focus-flexibility-our-libraries. Choy, Fatt Cheong & Goh, Su Nee. (2016). A Framework for Planning Academic Library Spaces. Library Management. 37(12): 13-28, [Online], Available HTTP: https://doi.org/10.1108/LM-01-2016-0001. Diggs-Brown, B. (2012). Strategic Public Relations : An Audience-Focused Approach. International edition. Boston, MA: Wadsworth Cengage Learning. Doung-in, S. (2012). Social Interface to Digital Libraries. Glasgow, United Kingdom: University of Strathclyde. Drucker, Peter F. (1973). Management. New York: Harper & Row.

222 Fiedler, Fred E. (1967). A Theory of Leadership Effectiveness. New York: McGraw-Hill. Fombrun, C. J. (1996). Reputation : Realizing Value from the Corporate Image. Boston. MA: Havard Business School Press. Ghillyers, A. W. (2012). Management Now. New York: McGraw-Hill. Gisolfi, Peter. (2014) UpClose : Designing 21st-Century Libraries | Library by Design, Spring 2014. Library Journal. 2014, June 16. [Online], Avialable HTTP: http://lj.libraryjournal. com/2014/06/buildings/lbd/upclose-designing-21st- century-libraries-library-by-design-spring-2014/. Harris, Stacey. (2011). The High-Impact HR Organization: Top 10 Best Practice on the Road to Excellence. Bersin & Association Industry Study. [Online], Available HTTP: http://www.CDM. Hong, K. S., Chi, Y. P.,Chao, L. R., & Tang, J. H. (2003). An integrated System Theory of Information Security Management. Information Management & Computer Security. 11(5): 1053-1068. Innovation. (2016). 10 Ways Digital Disruption Can Yield the Library of the Future. [Online], Available HTTP: https://digitalsparkmarketing.com/library- management/. International Interior Design Association. (2014). 2014 Library Interior Design Award Winners. [Online], Available HTTP: http://www.iida.org/content.cfm/2014- library-interior-design-award-winners. International Organization for Standrardization. (2015). ISO 9000 : 2015 Quality Management Systems—Fundamentals and Vocabulary. [Online], Available HTTP: https://www.iso.org/standard/45481.html. Israel, Odede. (2012). Public Relations Activities in and Academic Library : The Roles of the Reference Librarian. [Online], Available HTTP: http://DOI: 10.5923/j.library.20120102.04. Ivancevich, J. M. (2010). Human Resource Management. 11th ed. Singapore: McGraw-Hill. Katz, H. (2014). The Media Handbook : Complete Guide to Advertising Media Selection, Planning, Research, and Buying. 5th ed. New York, NY: Routledge. Kotler, P. & Lee, N. (2005). Corporate Social Responsibility : Doing the most good for your company and your cause. Hoboken, NJ: John Wiley & Sons. Larson, E. W. & Gray, C. F. (2011). Project Management. 5th ed. Singapore: McGraw Hill.

223 Learn About Standards. (2015). [Online], Available HTTP: http://asq.org/learn-about- quality/learn-about-standards/. Leong, Julia. (2012). Fostering Innovation through Cultural Change. Paper presented at the 2012 International Association of Technological University Libraries (IATUL) Conference. [Online], Available HTTP: http://docs.lib.purdue.edu /iatul/2012/ papers/45. Mathew, K., Baby, M. D. & Pillai, S. Sreerekha. (2011). Professional Development of Academic Library Professionals in Karala. In Asia-Pacific Conferremce on Library& Information Education & Practice 2011 (A-LIEP 2011), p.140-148. Selangor: Faculty of Information Management, University Technology Mara. Montana, P. & Charnov, B. (2000). Management. Barron’s. New York: Education Series. Nardini, Robert F. (2003). Approval Plans. In Encyclopedia of Library and Information Science (volume 1, p.133-138). Miriam A. Drake. (edited). 2nd ed. USA: Mared Dekker. Newsom, D., Turk, J. D. & Kruckeberg, D. (2012). This is PR : The Realities of Public Relations. 11th ed. CA, USA: Wassworth. Ouchi, William G. (1981). Theory Z : How American Business can Meet the Japanese Challenge. Reading. MA: Addison-Wesley. Penland, Patrick R. (2003). Learning Resource Center. In Encyclopedia of Library and Information Science (volume 2, p.1513-1539). Miriam A. Drake. (edited). 2nd ed. USA: Mared Dekker. Petra, Duren. (2016). Change communication can be so simple The empathic change communication style. Library Management. 37(8/9), 398-409. [Online], Available HTTP: https://doi.org/10.1108/LM-01-2016-0006. Robbins, Stephen P. (1990). Organization Theory : structure designs and applications. 3rd ed. Englewood Cliffs New Jersey: Prentice-Hall. Robbins, Stephen P. & Coulter, M. (2005). Management. 8th ed. New Jersey: Prentice Hall. Rue, L. & Byars, L. (2002). Management : Skills and Application. 10th ed. Irvin: McGraw-Hill. Rue, L. W. & Byars, L. L. (2007). Management. 12th ed. New York: McGraw Seal, Robert A. (2015). Library Spaces in the 21st Century : Meeting the Challenges of User Needs for Information, Technology, and Expertise. Library Management. 36(8/9): 558-569, [Online], Available HTTP: https://doi.org/ 10.1108/LM-11-2014-0136.

224 Stinchcombe, A. (1968). Constructing Social Theories. New York: Harcourt Brace and World. Supaporn Chaithammapakorn. (2015). 2010 Top Ten in Academic Libraries : A Reviews of the Current Literature. Applied ICT for Executive Librarians. Bangkok: Science and Technology Knowledge Services (STKS). The World Business Council for Sustainable Development (WBCSD). (2016). Corporate Social Responsibility (CSR). [Online], Available HTTP: http:// www.wbcsd. Org/work-program/business-role/previous-work/corporate- social-responsibility.aspx. Toyama, Ryoko. (2015). The theory of the knowledge-creating firm: subjectivity, objectivity and synthesis. Japan: Graduate School of Knowledge Science, Japan Advanced Institute of Science and Technology. [Online] Available HTTP: https://academic.oup.com/icc/article-abstract/14/3/419/679146/ The-theory-of-the-knowledge-creating-firm. Trauth, Eileen M. (2003). Information Resource Management. In Encyclopedia of Library and Information Science (volume 2, p.1325-1337). Miriam A. Drake. (edited). 2nd ed. USA: Mared Dekker. Von Solms, B. & Von Solms, R. (2004). The 10 deadly sins of Information Security Management. Computer & Security. 23(5): 371-376. Zhixian Yi. (2016). Knowledge Management for Library Building Design. Library Management. 37(1/2): 2-12, [Online], Available HTTP: https://doi.org/10. 1108/LM-2015-0034.

ภาคผนวก

226

227 ตวั อย่างแบบพมิ พ์ หนงั สอื ราชการภายใน ชั้นความลบั (ถ้ามี) ตัวหนำ 29 pt ชัน้ ความเร็ว (ถ้ามี) บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ ……………………………………………………………………………………………………………..… ที่ ………………………………………………………..……วนั ที่………………….…………………………………… เร่ือง …………………………………………………………………………..…………………… 112 บรรทัด (คำข้นึ ต้น) .......................................... (ขอ้ ควำม)……เ…หต…ทุ …ี่มีห…น…ังส…อื …ไป……………………1…12……บ…ร…รท…ัด………………………….………………… ...……………………………….………………………………………………………………………………………………………… ……………..…...………………….……………………………………………………………………………………………………… ………………………..…………………………………………… ………………..............…...…....…...…...…...…...….จ..ุด…..ป..…ร..ะ.….ส..ง….ค..….์ท..่ีม…..หี ..…น...ัง..…ส..ือ.….ไ..ป…...…....…...…...…...….1..21…...…....…บ..ร.….ร..…ท...ดั …....…...…...…...…...…...…....…...…...…...…...…....…...…...…...…...….... ......................................................................................................................................................................... ………… 3 บรรทัด (ลงช่ือ).............................. (พิมพ์ช่อื เต็ม)..................... (ตำแหนง่ )...................... ช้ันความลับ (ถ้าม)ี

228 ตัวอยา่ งแบบพมิ พ์ หนังสอื ราชการภายนอก ขนำดครฑุ ช้นั ความลับ (ถา้ ม)ี สงู 3 ซ.ม. ชนั้ ความเรว็ (ถา้ มี) ท่ี ................. (สว่ นรำชกำรเจ้ำของหนังสือ) (วัน เดอื น ป)ี 112 บรรทัด เรื่อง ………………………………......................1..12.……บ…ร…รท…ดั ……. (คำขึ้นตน้ ) …ต…ำ…แห…น…ง่ ห…ร…อื ช…อ่ื …บุค…ค…ล………………1…12… บรรทัด อ้างถึง (ถำ้ มี) …………………………………………121…….บรรทัด สง่ิ ที่ส่งมาด้วย (ถ้ำมี) ……………………………1…12……บ…รรทดั 112 บรรทัด (ขอ้ ควำม)…..เ…หต…ทุ …่ีม.ีห…น…ังส…อื ไ…ป…………………………………….................................……………. 3 ซม. ………121………บร…ร…ทัด………………………………………………………………………………………………………………………… .….……..……………………………………………………………………………………………………………………..………… ………………จ…ดุ ป…ร…ะส…งค…์ท…่ีม…หี น…ังส…ือ…ไป………………………………………………………………………….. ………1…21 ……บ…รร…ท…ัด …………………………………………………………………………………………..…………………………. …………………………..………………………………………………………………………………………………………..……… จงึ ………ส…รุป…จดุ…ป…ระ…ส…งค…์ทม่ี…ีห…น…ังส…ือไ…ป…………………………………………… 121 บรรทดั (คำลงท้ำย)................................ 3 บรรทัด (ลงช่อื )........................................ (พมิ พช์ ่ือเต็มในวงเลบ็ (ตำแหน่ง).................................. 7 บรรทัด (กรณีใชต้ รายางประทับชอ่ื ผู้ลง 121 บรรทัด (ส่วนรำชนกามำ)รเจ้ำของเรอ่ื ง)..................... โทร. x xxxx xxxx โทรสำร x xxxx xxxx ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส.์ ............ (ถำ้ ม)ี ช้ันความลับ (ถา้ ม)ี

229 ตัวอยา่ งแบบพิมพ์ หนังสอื ประทับตรา ช้นั ความลับ (ถ้ามี) ชน้ั ความเรว็ (ถา้ มี) ท่ี .................... ถงึ ……..........................1…12……บ…ร…รทดั 112 บรรทดั (ข้อควำม)…..…เห…ต…ุแล.…ะจ…ุด…ปร…ะส…ง…ค์ ……………………………........................................……………… 3 ซม. ………………………………………ท…ี่มหี…น…งั ส…ือ…ไป…………………………………………………………..…………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… . ประทบั ตรา 3 บรรทัด หนว่ ยงานต้นเรื่อง (ส่วนรำชกำรเจำ้ ของหนังสอื ) (วัน เดือน ปี) 3 บรรทัด (สว่ นรำชกำรเจ้ำของเรือ่ ง)....... เสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำงวงนอก 4.5 ซ.ม. โทร. x xxxx xxxx เสน้ ผำ่ ศูนยก์ ลำงวงนอก 3.5 ซ.ม. โทรสำร x xxxx xxxx ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์............. ชัน้ ความลับ (ถา้ มี)

230 ตวั อย่างแบบพมิ พ์ คาส่ัง คาส่ัง………………………………………… ท่ี ............../................. เรื่อง ........................................................... (ข้อควำม)…..……….……………………………………………........................................……………… ………………………………………………………………………………………………………………..…………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………… ทง้ั นี้ ตงั้ แต.่ ................................................................. ส่งั ณ วันท่.ี .............................พ.ศ. ........ (................................................) ................................................. พิมพ์ช่อื เต็ม ตำแหน่ง

231 ตวั อย่างแบบพิมพ์ ประกาศ ประกาศ ………………………………………… เรอื่ ง ........................................................... 3 ซม. (ขอ้ ควำม)…..……….……………………………………………........................................……………… ………………1…12……บ…ร…รท…ัด………………………………………………………………………………..……………………………2 ซม. …………….…………………………………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………… ประกำศ ณ วันท.่ี ...............................พ.ศ. ............... 3 บรรทัด (................................................) ................................................. พมิ พ์ชอ่ื เตม็ ตำแหนง่

232 ตวั อย่างแบบพมิ พ์ แถลงการณ์ แถลงการณ์………………….………………… เร่ือง ........................................................... ฉบบั ท.่ี ...................(ถ้ำม)ี (ข้อควำม)…..……….……………………………………………........................................……………… ………………………………………………………………………………………………………………..…………………………… …………….…………………………………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………….…………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………… (ส่วนรำชกำรท่อี อกแถลงกำรณ์) (วัน เดือน ปี)