หรือ 1. คลกิ ท่ลี ิงคเ์ พ่อื ดำ� เนนิ การเข้าไปตอบคำ� ถามในแบบฟอร์มทเ่ี ตรยี มไว้ https://forms.gle/yyZyAhky- p7KsS6AaA หรอื Scan QR - Code 2. กรอกขอ้ มลู และคำ� ตอบตามในแบบฟอรม์ ที่เตรยี มไว้ การประเมินผลกจิ กรรม นกั ศกึ ษาสามารถใหค้ ำ� ตอบแนวทางการแกไ้ ข/บรรเทาการขาดแคลนแรธ่ าตทุ ใี่ ชใ้ นการผลติ โทรศพั ท์ เคลื่อนท่ี (มือถือ) เพื่อนำ� ไปสง่ การเรียนร้ใู นหวั ขอ้ ถดั ไปได้ 51
การสรุปกจิ กรรม นกั ศกึ ษาสามารถใหค้ ำ� ตอบแนวทางการแกไ้ ข/บรรเทาการขาดแคลนแรธ่ าตทุ ใี่ ชใ้ นการผลติ โทรศพั ท์ เคล่ือนท่ี (มือถือ) เพ่ือน�ำไปส่งการเรียนรู้ในหัวข้อถัดไปได้ อภิปรายว่าเหตุใดจึงใช้แนวทางการจัดการดัง กล่าวและเรยี นรู้แนวทางการจัดการใหม่ไดจ้ ากผรู้ ว่ มเรียนภายในหอ้ งเช่นเดียวกนั เอกสารอา้ งองิ Circle Economy and the City of Amsterda. (2020). Amsterdam Circular 2020-2025 Strategy: City of Amsterdam. Global Footprint Network. (2019). Country Trends o. Document Number) Kruk, K., Wit, M. d., Ramkumar, S., Winter, J. d., Güvendik, M., & Hof, K. v. t. (2017). CIRCULAR AMSTERDAM. Stouthuysen, P. (2020). Born In 2010: How Much Is Left For Me? Tansontia, J. (2563). สาเหตเุ เละผลกระทบของวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตเิ เละส่งิ เเวดล้อม. from https:// sites.google.com/site/janyatansontia508778/sa-he-tuelea-phlk-ra-thb-khxng-wikvtkarn-dan thraphyakr-thrrm-cha-tielea-sing-ewe-dl-xm WWF - World Wide Fund For Nature. (2563). รอยเท้านิเวศที่เกิดจากการบริโภค. from http://www.wwf.or.th news_and_information/livingplanetreport2016/ecologicalfootprint/ กรมส่งเสริมคณุ ภาพสิง่ แวดล้อม, ศ. (2551). ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural Resource). from http://local.enviro net.in.th/formal_data2.php?id=71 ฐานขอ้ มลู เชงิ ลกึ อตุ สาหกรรมบรรจภุ ณั ฑ.์ (2563). รอยเทา้ นเิ วศน(์ Ecological Footprint). from https://packaging oie.go.th/new/admin_control_new/html-demo/file/2196340587.pdf ประชาชาตธิ ุรกจิ . (2562). เศรษฐกจิ หมุนเวียน. ประชาชาตธิ รุ กิจ, from https://www.prachachat.net/finance/ news-384463 วิสสุตา ศภุ นาม. (2561). ECOLOGICAL SUCCESSION & POLLUTION. from https://wissutasite6368678. wordpress.com/ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารการประเมนิ วฏั จกั รชีวติ ศูนยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวัสดุแห่งชาติ สำ� นักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยแี ห่งชาติ. (2560). ป้าประสงคท์ ่ี 12.2: พ.ศ. 2573 บรรลกุ ารจดั การอยา่ งย่ังยนื และใช้ทรพั ยากร ทางธรรมชาตอิ ย่างมีประสิทธภิ าพ (Publication.: http://www.thailcidatabase.net/index.php/ menu-article/12/12-2 องคก์ ารบรหิ ารจดั การกา๊ ซเรือนกระจก (องคก์ ารมหาชน). (2558). คมู่ อื การจดั ท�ำ คาร์บอนฟุตพริน้ ท์ขององค์กร รายสาขาอตุ สาหกรรม. 52
Module 3 (1): Climate Emergency สถานการณฉ์ ุกเฉินด้านสภาพภมู อิ ากาศและสิง่ แวดล้อม ชือ่ บทหรือโมดูล สถานการณฉ์ ุกเฉินดา้ นสภาพภมู อิ ากาศและส่งิ แวดล้อม (Climate Emergency) ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ เพอ่ื สรา้ งความตน่ื รแู้ ละตระหนกั เกย่ี วกบั ภาวะฉกุ เฉนิ ของสภาพภมู อิ ากาศทก่ี ำ� ลงั สง่ ผลกระทบอยา่ ง รนุ แรงตอ่ การดำ� รงชวี ติ ของมนษุ ยชาติ รวมทง้ั กระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความตอ้ งการมสี ว่ นรว่ มในการบรรเทาปญั หา การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ สาระสำ� คญั • เพื่อให้ผู้ศึกษามีความรู้และความเข้าใจในภาวะฉุกเฉินของสภาพภูมิอากาศรวมไปถึงผลกระทบจาก ปัญหาการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศและส่ิงแวดลอ้ ม • สรา้ งความตนื่ รูแ้ ละตระหนกั เกี่ยวกับภาวะฉกุ เฉินของสภาพภมู อิ ากาศ เนือ้ หาสาระ • สถานการณแ์ ละผลกระทบดา้ นสภาพภูมอิ ากาศและสิง่ แวดล้อมในปัจจบุ ัน - ระดับนานาชาติ (Global scale) - ระดับประเทศ (Regional scale) • คน้ หาสาเหตขุ องผลกระทบดา้ นสภาพภมู อิ ากาศและสงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื หาทางแกไ้ ขปญั หาและสรา้ งความ มนั่ คงและเข้มแขง็ ตอ่ ชุมชน 53
หวั ข้อ จ�ำนวน กิจกรรมหรอื เทคนิคการสอน การวัดผลและประเมิน ส่อื การสอนที่ใช้ นาทีทใ่ี ช้ ผล สถานการณด์ า้ น สภาพภมู ิอากาศ สอน รบั ชมคลิป/วดี ีทัศน์ ถาม-ตอบ -คลิป/วดี ที ศั น์ และสิ่งแวดลอ้ มใน ปจั จบุ ัน 10 การบรรยาย ถาม-ตอบ -สไลด์ประกอบ 20 การบรรยาย คน้ หาสาเหตุของ 30 การจดั ทำ� แผนผังความ -การท�ำงานกลมุ่ ผลกระทบดา้ น คิด (Mind map) เกี่ยวกับ -การนำ� เสนอราย -สไลดป์ ระกอบ สภาพภูมิอากาศ 10 Climate Emergency กลุ่ม การบรรยาย และส่ิงแวดลอ้ ม -ระดมสมองเพอื่ หาสาเหตุ -การท�ำงานกลุ่ม เพือ่ หาทางแกไ้ ข 40 ของผลกระทบด้านสภาพ ปัญหาและสรา้ ง ภมู ิอากาศและสงิ่ แวดล้อม ความม่ันคงและ ทีเ่ กดิ ขึ้นในชุมชน เขม้ แขง็ ตอ่ ชมุ ชน -คัดเลือกสาเหตผุ ลกระทบ -การท�ำงานกล่มุ -สไลดป์ ระกอบ ดา้ นสภาพภมู อิ ากาศสิ่ง -การนำ� เสนอ การบรรยาย แวดลอ้ ม ด้วยการจัดล�ำดับ รายงานกลมุ่ ความส�ำคญั จากการลง คะแนนความคดิ เหน็ ภายใน กลุม่ ตลอดจนหาทางแก้ไข ปญั หา 10 -การทำ� แบบทดสอบเพือ่ -แบบทดสอบ สรปุ ความเข้าใจ งานมอบหมาย (อธิบายรายละเอยี ดงานทมี่ อบหมาย เฉพาะในกรณที ่มี ีงานมอบหมาย ใหน้ ิสติ ไปทำ� การบา้ นนอกช้นั เรยี น) ไมม่ ี 54
เม่ือทุกท่านเขียนแต่ละโมดูลของตนเองมาแล้วแต่ละโมดูล จะมาสรุปเป็นตารางดังกล่าวน้ีเพื่อให้ เหน็ ภาพรวมของรายวิชาทงั้ หมด ช่อื บท/หรอื ชอ่ื จ�ำนวนชมที่ วิธีการจดั การเรียน การวัดผลและ โมดูล การสอน ประเมนิ ผล ใช้สอน CLO สื่อที่ใช้ (1ครั้ง:2ชม.) CLO ท่ี 1 รบั ชมคลปิ /บรรยาย ถาม-ตอบ สไลดป์ ระกอบ การบรรยาย CLO ท่ี 2 ระดมสมองเพอื่ -การทำ� งานกลุ่ม สไลด์ประกอบ ภาวะฉกุ เฉิน หาสาเหตขุ องผลก -การน�ำเสนอ การบรรยาย ของสภาพภูมิ 1 ครง้ั :2 ชม. ระทบดา้ นสภาพ รายงานกลุ่ม ภมู อิ ากาศและสงิ่ อากาศ CLO ที่ 3 แวดล้อมในชมุ ชน การคัดเลอื กสาเหตุ -การทำ� งานกลุม่ สไลด์ประกอบ และหาทางแกไ้ ข -การน�ำเสนอ การบรรยาย ปัญหาดา้ นสภาพ รายงานกลุ่ม ภูมอิ ากาศและสงิ่ แวดล้อม เนื้อหาการบรรยาย (รายละเอียดโดยสังเขปของเนื้อหาการบรรยาย วิธีการเรียบเรียง อ้างอิงจากวิธี การจัดเตรียมเอกสารประกอบการสอน นัน่ คือ เปน็ การเขยี นบรรยายเน้ือหาสาระในการบรรยายแต่ละ สไลด์อยา่ งเปน็ เรือ่ งราว) ท่ีมาของความตกลงระหวา่ งประเทศในการต่อสู่ Climate change ในช่วงเวลากว่าสองทศวรรษท่ีผ่านมานับต้ังแต่การประชุมสุดยอดส่ิงแวดล้อมโลกในปี พ.ศ.2535 จงึ นำ� ไปส่กู ารยกรา่ งอนุสัญญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) ขึ้นและมีมตริ บั รองในวันท่ี 9 พฤษภาคม 2535 ณ สำ� นกั งานใหญอ่ งคก์ ารสหประชาชาติ นครนวิ ยอรค์ สหรฐั อเมรกิ า และมผี ลบงั คบั ใชเ้ มอ่ื 21 มนี าคม 2537 การดำ� เนนิ งานเพอื่ การจดั การแกไ้ ขปญั หาดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และพยายามหาทาง ป้องกัน หรือลดผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนในอนาคต ความพยายามแก้ไขปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิ อากาศในระดบั โลกมมี าเปน็ ลำ� ดบั อยา่ งตอ่ เนอื่ ง จนถงึ ปจั จบุ นั มกี ารจดั ทำ� ความตกลงระหวา่ งประเทศดา้ น 55
การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ รวม 3 ฉบบั ไดแ้ ก่ กรอบอนสุ ญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลง สภาพภมู อิ ากาศ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส 1. กรอบอนุสญั ญาสหประชาชาติว่าดว้ ยการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ในปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) คณะกรรมการระหวา่ งรฐั บาลวา่ ดว้ ยการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ซงึ่ เปน็ องคก์ รสนบั สนนุ ขอ้ มลู เชงิ วทิ ยาศาสตร์ เกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ไดเ้ ผยแพรร่ ายงานการประเมนิ สถานการณด์ า้ นการเปลย่ี นแปลง สภาพภมู อิ ากาศเพอ่ื ยนื ยนั ถงึ สภาพภมู อิ ากาศทเี่ ปลยี่ นแปลงอนั เปน็ ผลมาจากการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกสู่ ช้ันบรรยากาศโลก และคาดการณถ์ ึงภยั คุกคามท่อี าจจะเกดิ ข้นึ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เชน่ การละลายของภเู ขานำ้� แขง็ และธารนำ้� แขง็ การเพม่ิ ขน้ึ ของระดบั นำ�้ ทะเลในมหาสมทุ ร การกอ่ ตวั รนุ แรงของ ภยั ธรรมชาตทิ ่ีเกดิ บ่อยคร้งั ข้นึ เปน็ ตน้ ผลการประเมินดังกลา่ วไดน้ ำ� ไปสกู่ ารเจรจาจดั ทำ� กรอบอนสุ ัญญา สหประชาชาติว่าดว้ ยการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) เพอื่ ใชเ้ ปน็ เวทใี นการสรา้ งความรว่ มมอื จากนานาชาตใิ นการแกไ้ ขปญั หาการ เปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ กรอบอนุสญั ญาฯ ได้ก�ำหนดพนั ธกรณแี กป่ ระเทศภาคโี ดยใช้หลกั การ “ความรับผดิ ชอบร่วมกนั ที่ แตกตา่ ง” หรอื “common but differentiated responsibilities” โดยจำ� แนกประเทศภาคเี ป็น 3 กลมุ่ ได้แก่ กลมุ่ ภาคผนวกที่ 1 คือ ประเทศอตุ สาหกรรมท่ีพัฒนาแล้วทม่ี ีการปลดปล่อยก๊าซเรอื นกระจกมากมา ก่อน จัดเป็นกลุ่มท่มี ตี ้องมพี ันธกรณีท่เี ปน็ รปู ธรรมในการลดก๊าซเรือนกระจก เช่น มเี ป้าหมายการลด กลุม่ ภาคผนวกที่ 2 คอื ประเทศพฒั นาแลว้ ตามภาคผนวกท่ี 1 แตไ่ มร่ วมประเทศทมี่ กี ารเปลีย่ นผา่ นทาง เศรษฐกจิ (จากสงั คมนยิ มเปน็ ทนุ นยิ ม) โดยกลมุ่ นี้ จดั เปน็ กลมุ่ ทตี่ อ้ งใหก้ ารสนบั สนนุ ทางการเงนิ การพฒั นา และถา่ ยทอดเทคโนโลยี และการสรา้ งศกั ยภาพ ให้แกป่ ระเทศกำ� ลงั พฒั นาในการลดก๊าซเรอื นกระจกและ ปรบั ตวั ตอ่ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศกลมุ่ นอกภาคผนวกท่ี 1 คอื ประเทศกำ� ลงั พฒั นา ซงึ่ ประเทศไทยไดร้ ่วมใหส้ ัตยาบนั เปน็ ภาคีในกรอบอนุสัญญาฯ เมื่อวันท่ี 28 ธันวาคม พ.ศ. 2537 2. พิธีสารเกียวโต การประชมุ สมชั ชาภาคีภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ (Conference of the Parties: COP) สมัยที่ 3 ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ณ กรงุ เกียวโต ประเทศญ่ีปุ่น ทป่ี ระชุมไดม้ มี ตเิ ห็นชอบตอ่ พธิ ีสารเกียวโต ซงึ่ เปน็ ขอ้ ตกลงทม่ี ีผลผกู พันทางกฎหมายซ่งึ อยภู่ ายใต้กรอบอนสุ ญั ญาฯ มวี ัตถปุ ระสงคห์ ลัก คือ การกำ� หนด พนั ธกรณใี นการลดก๊าซเรอื นกระจก โดยก�ำหนดเปน็ ตวั เลขเปา้ หมายการลดในภาพรวมและเปา้ หมายราย ประเทศสำ� หรบั กลมุ่ ภาคผนวกท่ี 1 และกำ� หนดระยะพนั ธกรณี (ระยะเวลาเปา้ หมาย) โดยในระยะพนั ธกรณี ที่ 1 (First Commitment Period) คือ ภายในช่วงปี ค.ศ. 2008-2012 (พ.ศ. 2551-2555) ประเทศกล่มุ 56
ภาคผนวกที่ 1 มเี ปา้ หมายในการลดกา๊ ซเรอื นกระจกโดยรวมใหไ้ ด้ รอ้ ยละ 5 จากระดบั การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื น กระจกของปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) นอกจากนี้ พธิ สี ารเกยี วโตยงั ไดก้ ำ� หนดกลไกความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศไว้ 3 รปู แบบ เพอ่ื สนบั สนนุ การบรรลเุ ปา้ หมายดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ (1) กลไกการซอื้ ขายหนว่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก หรอื คารบ์ อนเครดติ ระหวา่ ง ประเทศกล่มุ ภาคผนวกที่ 1 ดว้ ยกันเอง (Emission Trading) (2) การลงทุนด�ำเนินโครงการลดกา๊ ซเรอื น กระจกรว่ มกันระหว่างประเทศกลุม่ ภาคผนวกท่ี 1 ด้วยกนั เอง (Joint Implementation) และ (3) การ ลงทนุ ดำ� เนนิ โครงการลดกา๊ ซเรอื นกระจกรว่ มกนั ระหวา่ งประเทศในและนอกกลมุ่ ภาคผนวกที่ 1 หรอื ทเ่ี รยี ก ว่า กลไกการพัฒนาทีส่ ะอาด (Clean Development Mechanism: CDM) ซึ่งประเทศไทยไดใ้ ห้สัตยาบนั ตอ่ พิธสี ารเกยี วโตเม่อื วนั ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2545 ตอ่ มาการประชมุ รฐั ภาคีพธิ ีสารเกยี วโต สมยั ท่ี 8 เม่ือเดอื นธนั วาคม ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) ณ กรงุ โดฮา รฐั กาตาร์ ประเทศภาคพี ธิ สี ารฯ ไดม้ มี ติ (ขอ้ ตดั สนิ ใจที่ 1/CMP.8) แกไ้ ขพธิ สี าร โดยมสี าระสำ� คญั ดงั น้ี (1) กำ� หนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกโดยรวมของประเทศกลุ่มภาคผนวกท่ี 1 เป็นร้อยละ 18 จากระดบั การปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ภายในระยะพันธกรณีที่ 2 ได้แก่ ช่วงปี ค.ศ.2013-2020 (พ.ศ. 2556-2563) (2) เพ่ิมเติมประเภทก๊าซเรือนกระจกให้ครอบคลุมก๊าซไนโตรเจนไตรฟลูออไรด์ (NFR3R) ในการ กำ� หนดเปา้ หมายและระยะพนั ธกรณที ี่ 2 ของพธิ สี ารเกยี วโต มปี ระเทศภาคใี นกลมุ่ ภาคผนวกท่ี 1 ทข่ี อสงวน สิทธิ์ไม่เขา้ รว่ ม/ไม่เสนอเป้าหมายในระยะพนั ธกรณที ่ี 2 ไดแ้ ก่ ประเทศญปี่ ุน่ สหพันธรัฐรัสเซีย ประเทศ นวิ ซแี ลนด์ ประเทศภาคที ข่ี อสงวนสทิ ธใิ์ นการปรบั เปลยี่ นเปา้ หมายในระยะพนั ธกรณที ่ี 2 ตามความเหมาะ สม ไดแ้ ก่ เครอื รฐั ออสเตรเลยี และประเทศภาคที ข่ี อถอนตวั จากการเปน็ ภาคพี ธิ สี ารเกยี วโต ไดแ้ ก่ ประเทศ แคนาดา สำ� หรบั ประเทศไทย ในฐานะทเ่ี ปน็ ประเทศนอกกลมุ่ ภาคผนวกท่ี 1 จงึ ยงั ไมม่ พี นั ธกรณใี นรปู แบบ ของเปา้ หมายการลดก๊าซเรอื นกระจกท้งั ในระยะพนั ธกรณที ่ี 1 และ 2 (จนถึงปลายปี ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ. 2563) 3. ความตกลงปารีส เนอื่ งจากพธิ สี ารเกยี วโตมขี อ้ จำ� กดั บางประการทท่ี ำ� ใหไ้ มส่ ามารถแกไ้ ขปญั หาการเปลยี่ นแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศได้อยา่ งเตม็ ที่ ข้อจ�ำกัดหลักได้แกก่ ารทส่ี หรัฐอเมริกาซึ่งเปน็ ประเทศในกลมุ่ ภาคผนวกที่ 1 และ ปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกมากมาตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ตดั สนิ ใจไมเ่ ขา้ รว่ มเปน็ ภาคขี องพธิ สี ารฯ จงึ ไดม้ กี าร เจรจาข้อตกลงภายใต้กรอบอนุสญั ญาฯ โดยมุ่งเนน้ ที่จะให้มีขอ้ ตกลงใหมน่ อกเหนอื จากพธิ สี ารเกียวโตท่ีมี ผลผูกพันครอบคลุมประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก โดยได้จัดตั้งกระบวนการเจรจาใน 57
รอบแรก ไดแ้ ก่ Ad Hoc Working Group on Long Term Cooperative Action (AWG-LCA) ซ่งึ ระบุ ให้ก�ำหนดข้อตกลงใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน ปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ.2552) ในการประชุม COP สมัยท่ี 15 ณ กรุง โคเปนฮาเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก อย่างไรก็ตาม ท่ีประชุมไม่สามารถมีมติเก่ียวกับข้อตกลงใหม่ร่วม กันได้ จนกระทัง่ การประชมุ COP สมยั ท่ี 17 ณ เมอื งเดอร์บนั สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เมอ่ื ปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) ท่ปี ระชุมจงึ ไดจ้ ดั ต้งั กระบวนการเจรจาในรอบท่ี 2 ข้นึ ได้แก่ Ad Hoc Working Group on the Durban Platform for Enhanced Action (ADP) ซึง่ ระบใุ ห้กำ� หนดขอ้ ตกลงใหมใ่ หแ้ ล้วเสร็จภายใน ปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ในการประชุม COP สมัยท่ี 21 ณ กรงุ ปารสี สาธารณรัฐฝรัง่ เศส กระบวนการเจรจา ADP ทจ่ี ดั ตง้ั ขึน้ โดยทีป่ ระชุม COP สมยั ที่ 17 นัน้ มวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลักประการ หน่งึ เพ่อื เป็นเวทใี หป้ ระเทศภาคีเจรจาข้อตกลงใหม่ ทีจ่ ะมผี ลบังคับใช้หลังปี ค.ศ. 2020 ซ่งึ จะมาแทนทพี่ ธิ ี สารเกียวโต โดยคาดหวังว่าข้อตกลงใหม่นจี้ ะครอบคลุมประเทศทีป่ ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกรายใหญ่ของโลก และให้มกี ารกำ� หนดเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกภายหลงั ปี ค.ศ. 2020 อย่างเปน็ รปู ธรรม ในการประชมุ COP สมัยที่ 21 ท่ปี ระชุมรฐั ภาคอี นุสัญญาฯ ไดม้ ีขอ้ ตัดสินใจรับรอง “ความตกลงปารสี ” (Paris Agreement) เมือ่ วันท่ี 12 ธนั วาคม พ.ศ.2558 เป็นกรอบความร่วมมือในการดำ� เนินงานดา้ นการ เปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศระยะยาวท่ีทกุ ภาคีมสี ว่ นรว่ มอย่างเปน็ รูปธรรม ความตกลงปารสี มวี ตั ถปุ ระสงคส์ ำ� คญั 3 ประการ คอื (1) เพอื่ ควบคมุ การเพมิ่ ขน้ึ ของอณุ หภมู เิ ฉลย่ี ของโลกใหต้ ่ำ� กวา่ 2 องศาเซลเซยี สเมอื่ เทยี บกบั ก่อนยคุ อุตสาหกรรม และมุง่ พยายามควบคมุ การเพม่ิ ข้นึ ของอุณหภูมิไมใ่ ห้เกิน 1.5 องศาเซลเซยี สเมือ่ เทยี บกับก่อนยคุ อตุ สาหกรรม (2) เพอื่ เพิม่ ขีดความสามารถ ในการปรบั ตวั ตอ่ ผลกระทบทางลบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และการสง่ เสรมิ ความสามารถใน การฟน้ื ตวั จากผลกระทบการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และการพฒั นาประเทศทป่ี ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก ตำ�่ โดยไมก่ ระทบตอ่ การผลติ อาหาร และ (3) ทำ� ใหเ้ กดิ เงนิ ทนุ หมนุ เวยี นทม่ี คี วามสอดคลอ้ งกบั แนวทางทนี่ ำ� ไปสกู่ ารพฒั นาทปี่ ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกตำ�่ และสรา้ งความสามารถในการฟน้ื ตวั จากการเปลย่ี นแปลงสภาพ ภูมิอากาศ ท้ังน้ี ในความตกลงปารีสมีบทบัญญัติรวม 29 มาตรา ครอบคลุมการด�ำเนินงานเก่ียวกับการ ลดก๊าซเรอื นกระจก การปรบั ตัวตอ่ ผลกระทบทางลบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ การสนบั สนุน ทางการเงิน การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพของประเทศก�ำลังพัฒนา กรอบ การรายงานข้อมูลการด�ำเนินงานและการให้การสนับสนุนอย่างโปร่งใส และการทบทวนสถานการณ์และ การดำ� เนินงานระดับโลก (Global Stock take) ความตกลงปารสี มผี ลใชบ้ งั คบั เมอ่ื วนั ที่ 4 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2559 ภายหลงั จากมปี ระเทศใหส้ ตั ยาบนั เป็นภาคีเกนิ 55 ประเทศ และมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกรวมกนั มากกว่ารอ้ ยละ 55 ของปริมาณ การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกทง้ั โลก สำ� หรบั ประเทศไทยไดใ้ หส้ ตั ยาบนั ความตกลงปารสี เมอื่ วนั ที่ 21 กนั ยายน พ.ศ. 2559 58
เนื้อหาบทบัญญัติในความตกลงปารีสมีท้ังในส่วนที่เป็นข้อผูกพันชัดเจน ส่วนที่เป็นกรอบแนวทาง การดำ� เนนิ งาน และสว่ นทเี่ ปน็ หลกั การกวา้ งๆ ทตี่ อ้ งมกี ารเจรจาจดั ทำ� รายละเอยี ดหรอื แนวทางปฏบิ ตั เิ พมิ่ เตมิ ตอ่ ไป สำ� หรบั ในสว่ นเนอื้ หาทเี่ ปน็ ขอ้ ผกู พนั การเขา้ รว่ มเปน็ ภาคคี วามตกลงปารสี จะสง่ ผลผกู พนั ใหภ้ าคี ต้องด�ำเนนิ การเพอ่ื ร่วมแกไ้ ขปัญหาการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ สรปุ ได้ดังน้ี (1) ประเทศภาคีจะต้องจัดท�ำเป้าหมายการด�ำเนินงานเพ่ือแก้ไขปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิ อากาศ โดยเปน็ เปา้ หมายท่ีแตล่ ะประเทศก�ำหนดเองตามความเหมาะสม หรอื ทเี่ รียกวา่ NDCs (Nation- ally Determined Contributions) มกี ารทบทวนและเสนอใหมท่ กุ 5 ปี และมกี ารนำ� เสนอรายงานตดิ ตาม ประเมินผลการด�ำเนนิ งานเพอื่ บรรลเุ ป้าหมายดงั กลา่ วอย่างโปร่งใส (2) ประเทศภาคจี ะตอ้ งจดั ทำ� และดำ� เนนิ การมาตรการภายในประเทศ เพอ่ื สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งาน ให้บรรลุเป้าหมาย NDCs ท่ปี ระเทศตนเองไดก้ ำ� หนดไว้ (3) ประเทศภาคคี วรจะพยายามปรบั เปลยี่ นรปู แบบการพฒั นาไปสกู่ ารพฒั นาแบบปลอ่ ยกา๊ ซเรอื น กระจกตำ�่ สรา้ งความตา้ นทานและความสามารถในการฟน้ื ตวั จากผลกระทบของการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิ อากาศซ่ึงสอดคลอ้ งกับแนวทางการพัฒนาท่ียัง่ ยืน (4) ประเทศภาคีจะตอ้ งจดั ท�ำแผนการปรับตวั ระดับชาติ (National Adaptation Plan : NAP) และด�ำเนนิ การตามแผนท่จี ัดท�ำ (5) ประเทศภาคจี ะตอ้ งจดั ทำ� และนำ� เสนอรายงานแหง่ ชาติ (National Communications) รายงาน รายสองปี (Biennial Reports) และรายงานความกา้ วหนา้ รายสองปี (Biennial Update Reports) (6) ประเทศพัฒนาแล้วจะต้องให้ความช่วยเหลือประเทศก�ำลังพัฒนาในการด�ำเนินงานเพ่ือแก้ไข ปญั หาการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการสนบั สนนุ ทางการเงิน การพฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของประเทศกำ� ลงั พฒั นาในการดำ� เนนิ งานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และมกี ารตดิ ตามประเมนิ ผลการสนับสนนุ ดงั กล่าวอยา่ งโปร่งใส (7) ใหม้ กี ารประเมนิ สถานการณด์ ำ� เนนิ งานระดบั โลก (Global Stocktake) ทกุ 5 ปี เพอื่ ตดิ ตามผล การดำ� เนนิ งานและประเมนิ ความกา้ วหนา้ ในการแกไ้ ขปญั หาการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศในภาพรวม ทกุ มิติ ทงั้ การด�ำเนินงานและการใหก้ ารสนับสนนุ โดยเฉพาะการประเมนิ ระดับความส�ำเรจ็ ในการควบคมุ การเพ่มิ ของอุณหภูมิเฉล่ียของโลก ณ ปลายศตวรรษ ไมใ่ ห้เกิน 2 หรือ 1.5 องศาเซลเซียส ในการดำ� เนนิ งานเพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามวัตถุประสงค์ของความตกลงปารีส มกี ลไกหลายรูปแบบท่ีกำ� หนดไว้ใน ความตกลงปารสี เชน่ การสรา้ งความรว่ มมอื (Cooperative approach) ทง้ั ในรปู แบบของกลไกทางตลาด (market based approach) และมิใชก่ ลไกทางตลาด (non-market approaches) การพฒั นาและการ ถา่ ยทอดเทคโนโลยี (Technology Development and Transfer) การเสริมสร้างศกั ยภาพ (Capacity Building) รวมทง้ั เร่อื งการสร้างจิตสำ� นึกและการศึกษา (Awareness and Education) 59
ในกระบวนการของสหประชาชาติ ยดึ ถอื แนวทางการหารอื ทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ฉนั ทามติ โดยคำ� นงึ ถงึ การ รกั ษาภมู อิ ากาศของโลกไปพรอ้ มกับผลประโยชนท์ ป่ี ระเทศไทยจะไดร้ บั อย่างยงั่ ยนื โดยเห็นวา่ ความตกลง ปารีสเป็นกรอบความร่วมมือส�ำคัญในการด�ำเนินงานด้านการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศของประชาคม โลก โดยต้งั ใจจะรว่ มหารือการจดั ท�ำ work programme ภายใต้ความตกลงปารสี ร่วมกบั ภาคอี ืน่ ๆ ให้ แล้วเสร็จ เพ่ือน�ำเข้าสู่การพิจารณาและรับรองภายในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ ๒๔ โดยให้ ความสำ� คญั กบั ประเดน็ ตา่ ง ๆ อยา่ งสมดลุ ภายใตร้ ปู แบบการดำ� เนนิ งานทเี่ ปน็ ไปตามความตอ้ งการของภาคี มีความชัดเจน โปร่งใส ค�ำนึงถึงความเชื่อมโยงระหว่างประเด็นต่าง ๆ และเป็นไปโดยการมีส่วนร่วม ของทุกภาคี จากสถานการณ์ภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ได้มีนักกิจกรรมประท้วงเพื่อภูมิอากาศเป็นจ�ำนวนมาก หนง่ึ ในนกั กจิ กรรมทมี่ ีช่อื เสยี งอยา่ งมาก คอื เกรียตา ทนื แบร์ย นกั กจิ กรรมชาวสวีเดน ขณะนัน้ ศกึ ษาอยู่ ในชน้ั เกรด 9 (เทยี บเท่ามธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3) เธอตดั สินใจไม่เขา้ เรยี นหลงั เกดิ คลนื่ ความรอ้ นและไฟปา่ หลาย ระลอกในประเทศ ในวนั ท่ี 7 กนั ยายน 2561 กอ่ นการเลอื กตงั้ เลก็ นอ้ ย (การเลอื กตงั้ ในประเทศสวเี ดน วนั ท่ี 9 กนั ยายน 2561) เธอประกาศวา่ เธอจะนดั หยดุ เรยี นทกุ วนั ศกุ รจ์ นประเทศสวเี ดนจะปฏบิ ตั ติ ามความตกลง ปารีส ทืนแบร์ยประท้วงโดยน่ังอยู่นอกรัฐสภาทุกวันระหว่างชั่วโมงเรียนพร้อมป้ายเขียนว่า “Skolstrejk for klimatet” (การนัดหยดุ เรยี นเพ่อื ภมู อิ ากาศ) เพื่อเรยี กรอ้ งใหร้ ฐั บาลสวีเดนลดการปล่อยคารบ์ อนตาม ความตกลงปารีส ซึ่งได้รับความสนใจจากท่ัวโลก เธอเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนทั่วโลกเข้าร่วมการนัด หยุดเรยี นเพ่อื ภมู ิอากาศ (school strike for climate) ซึง่ ตัดสนิ ใจไมเ่ ขา้ เรยี นแล้วเขา้ รว่ มการเดินขบวน เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิบัติเพื่อป้องกันภาวะโลกร้อนและการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศเพ่ิมขึ้นอย่าง ต่อเนอ่ื ง กลมุ่ ขบวนการนดั หยดุ เรยี นเพอ่ื ภมู อิ ากาศไดป้ ระกาศวนั นดั ประทว้ งครง้ั ใหญท่ ว่ั โลก 2 วนั ในเดอื น กันยายน 2562 วนั แรกคือ 20 กนั ยายน เรยี กวา่ Climate Strike ซงึ่ เป็นสามวนั ก่อนการประชมุ เร่งดว่ น เพอ่ื ภูมิอากาศของสหประชาชาติ (UN Climate Action Summit 2019) ที่นครนวิ ยอรก์ และอกี วนั หนึง่ คอื 27 กันยายน 2562 หรือหน่งึ สัปดาห์ถดั มา เรยี กวา่ Earth Strike ในประเทศต่างๆ ท่วั โลก จะมกี าร จัดงานประท้วงสำ� หรบั วันใดวนั หน่ึงหรอื ทัง้ สองวัน โดยมปี ระเทศทเี่ ข้าร่วมกวา่ 130 ประเทศ การจดั งาน ในครั้งน้ีถือว่าประสบความส�ำเร็จมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเชิญชวนให้คนทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มา ร่วมการประท้วงไปกับกลุ่มนักเรียนด้วย นอกจากน้ี งานนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้ง องค์กรอิสระ บรษิ ัทเอกชน สมาคม และกลมุ่ ความเคล่ือนไหวทางสังคมต่าง ๆ อาทิ 350.org, Amnesty International, Extinction Rebellion, Greenpeace International, Oxfam, WWF, Patagonia, Ben & Jerry’s, Lush, Atlassian, และองค์กรอนื่ ๆ อีกมากมาย ในนครนวิ ยอรก์ โรงเรยี นรัฐบาลไดป้ ระกาศ 60
อนญุ าตใหน้ กั เรยี นสามารถเขา้ รว่ มไดห้ ากไดร้ บั การอนญุ าตจากผปู้ กครอง หรอื ในออสเตรเลยี บรษิ ทั เอกชน หลายแหง่ กส็ นบั สนนุ ใหพ้ นกั งานเขา้ รว่ มการประทว้ งในเมอื งของตน และสนบั สนนุ ใหท้ กุ บรษิ ทั ในประเทศ มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน ซ่ึงจากการเคล่ือนไหวเหล่าน้ีส่งผลให้สภาสามัญชนหรือสภาผู้แทนอังกฤษได้ลงมติ เหน็ ชอบให้ ประกาศภาวะฉกุ เฉินดา้ นการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Emergency โดยที่ ไมต่ ้องลงคะแนน และถอื เปน็ ประเทศแรกของโลกท่ปี ระกาศภาวะฉุกเฉินด้าน Climate Change Climate Emergency คอื อะไร คำ� ประกาศวา่ ดว้ ยภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นสภาพภมู อิ ากาศ (climate emergency declaration) เปน็ กล ยทุ ธเชงิ นโยบายทร่ี ฐั บาลหลายประเทศทว่ั โลกและชมุ ชนวทิ ยาศาสตรน์ ำ� มาใชเ้ พอ่ื รบั รรู้ ว่ มกนั วา่ มนษุ ยชาติ กำ� ลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภมู อิ ากาศ โดยนกั วทิ ยาศาสตร์ 11,258 คน จาก 153 ประเทศร่วมกันลงนามใน คำ� ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภมู อิ ากาศ ทต่ี พี มิ พใ์ นวารสาร Bio Science ซึง่ คำ� ประกาศภาวะฉกุ เฉิน ด้านสภาพภูมิอากาศนี้เปรียบดังสัญญาณชีพ (vital signs) ที่เอื้อให้ผู้ก�ำหนดนโยบาย ภาคเอกชน และ สาธารณะชนเข้าใจถึงขนาดของวิกฤต ติดตามความคืบหน้าและจัดเรียงล�ำดับความส�ำคัญในการลดผล กระทบจากหายนะทางนิเวศวทิ ยา เม่ือประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศนู ย์วจิ ัย The Mauna Loa Observatory (MLO) ของ สหรฐั อเมริกาได้รายงานสถานการณ์การเพิ่มข้ึนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซดท์ ีน่ า่ ตกใจเป็นอยา่ งยง่ิ ระดับ ความเข้มข้นทตี่ รวจวัดได้พุ่งสงู ถึง 415.26 ppm นบั เปน็ ค่าสงู ทส่ี ดุ ทีไ่ ดเ้ คยบนั ทึกไว้ในประวตั ศิ าสตร์ของ มวลมนษุ ยชาติ และยงั ไมม่ ที ที า่ วา่ จะลดลง มกี ารคาดการณก์ นั วา่ หากความเขม้ ขน้ ของคารบ์ อนไดออกไซด์ แตะ 550 ppm เมอื่ ใด เมอ่ื นน้ั อณุ หภมู ขิ องโลกอาจสงู ขน้ึ ไดถ้ งึ 2 องศาเซลเซยี ส และจากรายงานของ IPCC ไดบ้ อกใหเ้ รารวู้ า่ เมอื่ อณุ หภมู ขิ องโลกเพม่ิ ขน้ึ ถงึ 2 องศาแลว้ จะเกดิ การเปลย่ี นแปลงทสี่ ายเกนิ แกแ้ ลว้ (An IPCC special report on the impacts of global warming of 1.5 °C) ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภมู อิ ากาศในประเทศไทย ในชว่ ง 30 ปที ่ผี า่ นมา ประเทศต้องเผชญิ ภัยพิบตั ทิ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ (climate diasters) ไม่วา่ จะเปน็ ภยั แล้งยาวนาน อณุ หภมู ผิ กผนั น้ำ� ทว่ มและพายรุ นุ แรง ทสี่ ร้างความเสีย หายชีวิตและทรัพยส์ ินของประชาชนหลายหลายต่อหลายครัง้ (ดรู ายละเอียดในตาราง) เฉพาะอทุ กภยั นนั้ เกิดข้ึน 67 คร้ังในระหว่าง พ.ศ.2532-2561 61
สถติ ิของภัยพบิ ัตทิ ่ีเกย่ี วข้องกับวิกฤตสภาพภมู อิ ากาศในประเทศไทยระหวา่ งปี พ.ศ. 2532-2561 ภัยพบิ ตั ิ จำ� นวนเหตุการณ์ จ�ำนวนผู้เสยี ชวี ติ ผลกระทบทั้งหมด ความเสียหาย ภยั แลง้ ยาวนาน 11 ไมม่ ขี ้อมูล (ล้านคน) (ลา้ นเหรียญสหรฐั ) อณุ หภมู สิ ดุ ขดี 2 77 น�้ำทว่ ม 67 2,905 42 3,726 พายุ 32 843 1 ไม่มีขอ้ มูล 51 45,753 4.2 880 การคาดการณ์อนาคตโดยใช้แบบจ�ำลองสภาพภูมิอากาศพบว่า เจตจํานงลดก๊าซเรือนกระจกของ ประเทศต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เมื่อรวมกันแล้ว ก็ยังคงท�ำให้อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพ่ิมขึ้นเป็น 3 องศา เซลเซยี ส(เมอ่ื เทยี บกบั ระดบั ยุคกอ่ นอุตสาหกรรม) เม่ือพจิ ารณาถงึ เป้าหมายของความตกลงปารีส (จ�ำกัด การเพ่มิ อณุ หภมู ิเฉล่ียผวิ โลกไม่ใหเ้ กนิ 1.5 องศาเซลเซยี สเม่อื เทยี บกับระดบั ก่อนยุคอุตสาหกรรม) คาดว่า ประเทศไทยตอ้ งเผชญิ ความเสยี่ งจากภยั แลง้ ยาวนาน คลน่ื ความรอ้ นรนุ แรง และอทุ กภยั เพม่ิ มากขน้ึ ซงึ่ คาด การณไ์ วว้ า่ หากเรายงั ไมม่ กี ารกำ� หนดภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นสภาพภมู อิ ากาศนนั้ เมอ่ื อณุ หภมู เิ ฉลยี่ ผวิ โลกเพม่ิ ขน้ึ 1.5 องศาเซลเซยี ส จำ� นวนวนั แลง้ ในประเทศไทยจะเพิ่มข้นึ ร้อยละ 2.6 และความรุนแรงจากอทุ กภยั เพม่ิ รอ้ ยละ 3 และหากอณุ หภมู เิ ฉล่ยี ผิวโลกเพ่ิมขน้ึ 3 องศาเซลเซยี ส จำ� นวนวนั แหง้ แล้งและความรนุ แรงจาก อุทุกภัยจะเพม่ิ ข้ึนรอ้ ยละ 10 และ 13 ตามลำ� ดับ 62
ตารางแสดงการคาดการณต์ วั แปรดา้ นสภาพอากาศของประเทศไทยจากการรวมผล (Ensemble) ของแบบจำ� ลองสภาพภูมอิ ากาศ CMIP5 ดชั นี การคาดการณท์ ่ผี ่านมา อณุ หภูมิเฉลย่ี ผิวโลกไม่ อุณหภูมเิ ฉลย่ี ผวิ โลกท่ี (พ.ศ.2529-2558) เกนิ 1.5 องศาเซลเซียส 3 องศาเซลเซียส (เป้าหมายสงู สดุ ของ (ภายใต้เจตจำ� นงลดกา๊ ซ ความตกลงปารีส) เรอื นกระจกของประเทศ ท่วั โลกรวมกัน) อณุ หภูมิพ้นื ผิว ค่าเฉลยี่ รายปี +2.6 (องศาเซลเซียส) 25 +1.1 +10% การตกของหยาดน�ำ้ ฟ้า (ฝน, ลกู เหบ็ ) 1,528 มิลลเิ มตร +2.5% +6 +3 ความแหง้ แล้ง (วัน) เหตกุ ารณส์ ภาพภมู อิ ากาศสดุ ขวั้ +3% คล่นื ความรอ้ น:อณุ หภมู ิ 63 +1.7 สูงสดุ รายปี นำ้� ทว่ ม: ปริมาณฝน 39 +1.1 สูงสุดรายปี (มิลลิเมตร) 150 +1.1% ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยท่ีเห็นได้อย่างชัดเจนได้แก่ ชายฝั่ง ทะเลไทยเสย่ี งตอ่ การกัดเซาะเน่ืองจากการเพม่ิ ของระดับน�้ำทะเล ซง่ึ ในระยะยาวของประเทศไทย (ปลาย ศตวรรษที่ 22) ระดบั น้�ำทะเลจะเพ่ิมขน้ึ ราว 2.39 เมตร เม่ืออุณหภูมิเฉลย่ี ผิวโลกสูงขนึ้ 4.3 องศาเซลเซียส มีความเส่ียงที่จะเกิดพายุหมุนเขตร้อนเพ่ิมข้ึนอย่างมากด้วย เน่ืองจากความรุนแรงของภัยพิบัติจากพายุ หมนุ เขตรอ้ นยิง้ มากข้ึนจากปรมิ าณฝนทีต่ กหนักและการเพิ่มของระดับน้ำ� ทะเล 63
ปญั หาสง่ิ แวดล้อมอ่ืนๆ ในประเทศไทย นอกเหนือจากก๊าซเรือนกระจกและการเกิดอุทกภัยจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว ประเทศไทยยงั ประสบปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี ปน็ ผลพวงจากกจิ กรรมของมนษุ ย์ กอ่ ใหเ้ กดิ สภาวะวกิ ฤตมลพษิ ทางอากาศและหมอกควัน เป็นประเด็นปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงของประเทศ อีกทั้งเป็น ปญั หาเรอื้ รังและทา้ ทายแผนการจดั การของภาครฐั เป็นวิกฤตทีเ่ พิม่ ทวีความรนุ แรงขึ้นในทุกปี ดังแสดงใน รปู ที่ 1 จะเหน็ วา่ ในชว่ งเดือนมกราคม 2563 มีแนวโนม้ ของการกระจายตัวทางพืน้ ท่ีของละอองลอยเฉลี่ย รายเดอื นเพม่ิ ขึน้ จากเดือนมกราคม 2562 อย่างเห็นได้ชัด จนทำ� ใหจ้ ังหวดั เชยี งใหมต่ ดิ อันดบั เมอื งทม่ี ีมี มลพิษหรอื คา่ ฝนุ่ ละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) สูงที่สุดในโลก (ไทยรัฐออนไลน์, 2563) คา่ ความลึกเชงิ แสงของละอองลอยเฉลีย่ รายเดือน (GISTNORTH, 2020) สาเหตุส�ำคัญของการเกิดมลพิษทางอากาศและหมอกควันมาจากการเผาชีวมวล โดยเฉพาะการ เผาเพอื่ การเกษตรทงั้ ภายในประเทศและประเทศเพอื่ นบา้ น ฝนุ่ เขมา่ จากเครอื่ งยนตด์ เี ซล (โครงการศกึ ษา แหลง่ ก�ำเนิดและแนวทางการจดั การฝุ่นละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน ในพื้นท่ีกรุงเทพและปรมิ ณฑล, สงิ หาคม 2561) รวมไปถงึ ปัจจัยทางสภาพภมู ิประเทศและภูมิอากาศ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในภาคเหนอื ของ ประเทศไทย เนอ่ื งจากพน้ื ทหี่ ลายจงั หวดั ในภาคเหนอื มลี กั ษณะคลา้ ยแอง่ กระทะ คอื เปน็ พนื้ ทร่ี าบทมี่ ภี เู ขา ล้อมรอบ ท�ำให้สารมลพิษท่ีเกิดขึ้นในพ้ืนท่ีหรือถูกพัดพามาจากนอกพื้นท่ีไม่สามารถแพร่กระจายได้ เกิด เปน็ การสะสมของสารมลพษิ ประกอบกบั สภาพอากาศในชว่ งปลายฤดหู นาวกอ่ นเขา้ ฤดแู ลง้ ทส่ี ภาพอากาศ นงิ่ และแหง้ เปน็ เวลานาน ทำ� ใหฝ้ นุ่ ละอองทเ่ี กดิ ขน้ึ สามารถแขวนลอยอยใู่ นบรรยากาศไดน้ านโดยไมต่ กลง สู่พ้ืนดิน เมื่อมีการเผาอย่างต่อเนื่องสารมลพิษและปริมาณฝุ่นละอองท่ีเกิดข้ึนใหม่จะรวมตัวกับของเดิมท่ี มอี ยใู่ นชัน้ บรรยากาศทำ� ใหเ้ กิดการสะสมมากขน้ึ อันสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพ และคุณภาพชีวติ ความเปน็ อยู่ ของ 64
ประชาชน การเผาในทโ่ี ล่งโดยเฉพาะการเผาในพืน้ ที่เกษตร ได้แก่ ไร่อ้อย นาขา้ ว นับเปน็ ปัญหาท่ีส�ำคัญ ในภาคกลางและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของประเทศ ในขณะทภ่ี าคใต้ของประเทศประสบปญั หาหมอก ควนั ข้ามแดนจากเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว ประเทศอนิ โดนเี ซยี ซง่ึ มสี าเหตจุ ากการเผาพืน้ ทป่ี ่าพรุ ในชว่ งเดือนกรกฎาคม ถึงตุลาคมของทกุ ปี วกิ ฤตมิ ลพิษทางอากาศและหมอกควนั จงึ กลา่ วไดว้ ่าเป็นวาระ แห่งชาติทกี่ ่อใหเ้ กดิ ความเสียหายทั้งต่อคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน ภาพลักษณ์ ระบบเศรษฐกจิ และการ ทอ่ งเทย่ี วของประเทศ เปน็ ปญั หาทคี่ วรเรง่ แกไ้ ข โดยมคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งไดร้ บั ความรว่ มมอื จาก ทกุ ภาคสว่ นในการบรู ณาการ เพอื่ หาแนวทางแกไ้ ขปญั หา รวมไปถงึ การประกาศภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นสภาพภมู ิ อากาศ กลยุทธเ์ พื่อการรับมอื กบั ภาวะฉกุ เฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ทันทีที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ขั้นต่อไปคือการจัดล�ำดับความส�ำคัญของ กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคส่วนต่างๆ และสร้างความม่ันคงและเข้มแข็ง(Re- silience)ของชมุ ชนและสงั คมโดยรวมตอ่ วกิ ฤตสภาพภูมอิ ากาศ โดยที่นโยบายหรอื ยทุ ธศาสตร์การพัฒนา ตา่ งๆ ตอ้ งมคี วามทนทาน (Robustness) ตอ่ พลวตั รทางสงั คมและแรงกระแทกกระทนั้ จากความสดุ ขว้ั ของ สภาพภมู อิ ากาศในอนาคต ทสี่ ำ� คญั ตอ้ งอยบู่ นรากฐานของความเปน็ ธรรมและเคารพศกั ดศิ์ รขี องความเปน็ มนษุ ย์ นกั วิทยาศาสตรจ์ ึงไดร้ ่วมลงนามในเดอื นพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เปน็ คำ� เตอื นของนักวิทยาศาสตร์ ตอ่ มนษุ ยชาติ (World Scientists’ warning to Humanity) และไดเ้ สนอคำ� แนะนำ� ในการสรา้ งความยง่ั ยนื มากข้ึน โดยสาระสำ� คญั เชน่ • การฟื้นฟูป่าและสร้างชุมชนพืชพ้ืนเมือง ด้วยการปลูกพืชพื้นเมือง เพ่ือฟื้นฟูกระบวนการและพลวัต ของระบบนเิ วศ • การใช้นโยบายในการปกปอ้ งวัชพชื และสัตว์สายพันธ์ุต่าง ๆ จากการรุกล้ำ� และการคา้ ผิดกฎหมาย • ลดของเสยี จากอาหารและสง่ เสรมิ ใหเ้ ปลยี่ นไปใชอ้ าหารจากพชื มากขนึ้ พจิ ารณาราคาสนิ คา้ และระบบ ภาษีจากการแปรรปู การบรโิ ภคในทุกวันน้ีวา่ ส่งผลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ มอยา่ งไรบ้าง • ลดอัตราการเกิดประชากร โดยให้การศึกษาและบริการวางแผนครอบครัวโดยสมัครใจ และควบคุม ประชากรมนษุ ยใ์ ห้มีจ�ำนวนท่เี หมาะสมกับการพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน • เสรมิ สรา้ งความกา้ วหนา้ ในเทคโนโลยสี เี ขยี วและพลงั งานทดแทน ลดการอดุ หนนุ เชอื้ เพลงิ ฟอสซลิ รวม ท้ังการปรับเปล่ยี นแนวทางเศรษฐกิจเพือ่ ลดการกระจายรายไดท้ ่ไี ม่เท่าเทยี ม “ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ” ไม่ใช่การสร้างความแตกต่ืน หากน�ำไปสู่ “ความต่ืนรู้” ถึง “วิกฤตทางนิเวศวิทยา” ท่ีผู้คนทั้งสังคมต้องเผชิญและหาทางออกร่วมกัน “ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิ 65
อากาศ” ไม่เพียงเปน็ ยทุ ธศาสตรท์ พี่ ิจารณาแนวโน้มอนาคตในระยะยาวและนโยบายแบบทางการ แต่รวม ถงึ “การลงมอื ทำ� เดย๋ี วนี้” กอ่ นทีจ่ ะสายเกินไป เพื่อหลีกเลยี่ งหายนะภัยจากการล่มสลายของระบบสภาพ ภมู อิ ากาศ เอกสารอ้างอิง (รายชอ่ื เอกสารอ้างองิ ที่ใช้ในการจดั เตรียมเน้อื หาการบรรยาย) https://www.greenpeace.org/thailand/story/11430/climate-emergency-annoucnment/ https://www.reanrooclimatechange.com/learning-detail02.html http://www.datacenter.deqp.go.th/service-portal/cop23/derivation_cop23/ https://thaipublica.org/2019/05/uk-parliament-emergency-climate-change-environment- zero-emission/ Suzuki , David. (5 January 2018). 15,000 Scientists Issue Urgent Warning: Humanity Is Failing to Safeguard the Planet. AlterNe, retrieved 2019-11-11 เอกสารประกอบการอ่านเพ่ิมเตมิ (รายชอ่ื เอกสารอ้างองิ ทแ่ี นะนำ� ให้อ่านเพิม่ เติม) หนังสือ 6 องศาโลกาวินาศ (Six degrees) ผเู้ ขียน : มาร์ก ไลนัส ภาพยนตร์ An Inconvenient truth 66
Module 3 (2): Carbon Footprint คารบ์ อนฟุตพร้ินท์ ชือ่ บทหรอื โมดูล คารบ์ อนฟุตพร้ินท์ (Carbon Footprint) ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ มีความต่ืนรู้และตระหนักเกี่ยวกับปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวัน มีแรงกระตนุ้ ให้เกดิ การมีสว่ นร่วมในการลดปรมิ าณปล่อยก๊าซเรอื นกระจกจากกิจกรรมในชวี ติ ประจ�ำวนั สาระสำ� คัญ เป็นการถ่ายทอดความรู้และเข้าใจเก่ียวกับกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวันท่ีมีส่วนท�ำให้เกิดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ประเมินเป็นตัวเลขปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก วิเคราะห์แหล่งปล่อยก๊าซเรือน กระจกจากกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวัน หาแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพ่ือลดปริมาณปล่อยก๊าซ- เรอื นกระจกในชีวติ ประจ�ำวนั เนือ้ หาสาระ • ความหมายของค�ำวา่ คาร์บอนฟตุ พรนิ้ ท์ • การวเิ คราะหแ์ หลง่ ปลอ่ ยก๊าซเรือนกระจกจากกจิ กรรมในชีวติ ประจ�ำวนั • การประเมนิ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกในชวี ติ ประจำ� วนั ดว้ ยแอพพลเิ คชน่ั Carbon Footprint Calculator • แนวทางในการปรับเปล่ียนพฤติกรรมเพ่ือลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจ�ำวันและ ปริมาณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกท่ลี ดลงได้ 67
กจิ กรรมการเรียนการสอน หวั ข้อ จ�ำนวน กิจกรรม การวดั ผล ส่อื การสอนท่ีใช้ นาทที ่ใี ช้ หรือเทคนคิ การสอน และประเมินผล สอน ความหมายของคำ� ว่า 10 บรรยาย ทำ� Pre-test และ สไลด์ประกอบการ คารบ์ อนฟตุ พร้นิ ท์ Post-test จาก บรรยาย Quiz โดยใช้ระบบ ออนไลน์ การวิเคราะหแ์ หล่งปลอ่ ย 40 บรรยาย ทำ� Pre-test และ สไลดป์ ระกอบการ ก๊าซเรือนกระจกจาก Post-test จาก บรรยาย กจิ กรรมในชีวิตประจ�ำวนั Quiz โดยใชร้ ะบบ ออนไลน์ การประเมนิ ปรมิ าณการ 30 กิจกรรมการ ใช้แอพพลเิ คช่ัน แอพพลเิ คช่นั ปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกใน ประเมนิ ปรมิ าณ Carbon Foot- Carbon ชีวิตประจ�ำวนั ด้วยแอพพลิ การปล่อยก๊าซ print Calculator Footprint เคช่นั Carbon Footprint เรอื นกระจกในชวี ติ ประเมินปรมิ าณ Calculator Calculator ประจำ� วนั การปลอ่ ยก๊าซ เรอื นกระจกในชวี ติ ประจ�ำวนั แนวทางในการปรบั เปลย่ี น 30 กจิ กรรมการ ใช้แอพพลิเคชั่น แอพพลิเคชนั่ พฤตกิ รรมเพอื่ ลดปรมิ าณ ประเมนิ ปรมิ าณ Carbon Foot- Carbon การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก การปลอ่ ยกา๊ ซ print Calculator Footprint ในชวี ติ ประจำ� วันและ เรอื นกระจกทลี่ ด ปริมาณการปลอ่ ย Calculator ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือน ลงได้จากการปรบั ก๊าซเรอื นกระจก กระจกทล่ี ดลงได้ เปล่ียนพฤติกรรม ที่ลดลงไดจ้ าก ในชวี ิตประจ�ำวัน การปรบั เปลีย่ น พฤติกรรมในชีวติ ประจำ� วนั 68
งานมอบหมาย 1. ดาวนโ์ หลดแอพพลิเคช่นั CARBON FOOTPRINT CALCULATOR กิจกรรมสว่ นบคุ คล 2. ค�ำนวณปริมาณ CARBON FOOTPRINT ระดับบุคล จากกิจกรรมในชวี ติ ประจ�ำวนั ของตวั เอง 3. แคปหน้าจอการแสดงผลคา่ CARBON FOOTPRINT เพ่อื ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ นห้องเรยี น เนือ้ หาการบรรยาย ความเสยี่ งต่อการเปลีย่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ จากการเปดิ เผยรายงาน Global Climate Risk Index 2018 ขององคก์ ร Germanwatch ซงึ่ ไดจ้ ดั อนั ดชั นคี วามเสยี่ งตอ่ การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศระหวา่ งปี ค.ศ. 1997–2016 (Global Climate Risk Index for 1997–2016) โดยในการจดั อนั ดบั (ดัชนรี ะยะยาว) พบวา่ ประเทศไทยขยับขึ้นมาอย่อู นั ดบั ท่ี 9 ของโลก ซงึ่ สงู ขนึ้ หนง่ึ อนั ดบั จากปที แี่ ลว้ ทไี่ ทยอยอู่ นั ดบั ที่ 10 นอกจากน้ี ในรายงาน Global Climate Risk Index 2018 ระบุวา่ ระหวา่ งปี ค.ศ. 1997 ถงึ 2016 มีเหตภุ ัยพบิ ัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอยา่ ง รนุ แรงมากกว่า 11,000 เหตกุ ารณ์ มีผู้เสยี ชวี ติ โดยตรงจากเหตุการณ์เหลา่ นั้นสูงกว่า 524,000 คน และ สรา้ งความเสยี หายทางเศรษฐกจิ สงู ถงึ 3.16 ลา้ นลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ โดยประเทศฮอนดรู สั , เฮติ และพมา่ เปน็ ประเทศทีไ่ ดร้ ับผลกระทบนร้ี นุ แรงมากท่ีสุด โดยการจดั อันดับประเทศความเสยี่ งตอ่ การเปลี่ยนแปลง สภาพภูมอิ ากาศระหวา่ งปี 1997–2016 (ดัชนีระยะยาว) 10 อันดับแรกไดแ้ ก่ อนั ดับ 1 ฮอนดูรัส, อนั ดับ 2 เฮติ อันดับ 3 พม่า อนั ดับ 4 นคิ ารากัว อันดบั 5 ฟลิ ิปปนิ ส์ อันดับ 6 บังกลาเทศ อนั ดับ 7 ปากีสถาน อนั ดับ 8 เวียดนาม อนั ดบั 9 ไทย พบอุทกภัยปีลา่ สดุ สร้างความเสยี หายภาคเกษตรไทยถงึ 14,198.21 ล้านบาท และอันดบั 10 โดมินกิ ัน (ทีม่ าของข้อมูล: https://www.tcijthai.com/news/2017/19/scoop/7523) ความหมายของคำ� วา่ คารบ์ อนฟตุ พร้นิ ท์ ผลกระทบของการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ทำ� ใหเ้ กดิ ความตน่ื ตวั ในการหามาตรการลดปรมิ าณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยปริมาณการปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจกของประเทศไทยในปี 2012 ~ 350.68 MtCO2e และ ประเทศไทยเสนอเปา้ ลดปริมาณการปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจก 20% ในปี ค.ศ. 2030 (*เทยี บ กบั ปีฐาน ในปี ค.ศ. 2008) นอกจากนี้ ในระดบั สากลได้มีการพัฒนาวธิ กี ารประเมินปรมิ าณการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก หรือ การประเมนิ คารบ์ อนฟุตพริน้ ท์ เพ่ือใช้เปน็ ตวั ช้ีวัด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ทับศพั ทม์ าจากคำ� ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ คอื Carbon Footprint โดยมที ่มี าจากคำ� ว่า Greenhouse gas emissions โดยพบวา่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เปน็ ก๊าซเรือนกระจกที่มีปริมาณการ ปลอ่ ยสงู สุด จงึ ทำ� ให้เรียกวา่ Carbon emissions แทน แตเ่ พ่ือให้เกิดความตน่ื ตวั ในเรือ่ งนี้ จึงได้บญั ญัติ 69
ศพั ท์ Carbon Footprint ขน้ึ โดยเปน็ การคำ� นวณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกทใ่ี ชม้ มุ มองโดยตลอดวฏั จกั ร ชีวิตของผลิตภัณฑ์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ข้ันตอนการได้มาซ่ึงวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใชง้ าน และการจดั การของเสียหลังหมดอายกุ ารใช้งาน ตลอดจนการขนสง่ ทเี่ กยี่ วข้องในทุก ๆ ข้นั ตอน มกี า๊ ซเรอื นกระจกทจ่ิ ารณาในการประเมนิ คารบ์ อนฟุตพรน้ิ ท์ ประกอบด้วยกา๊ ซ 7 ชนิดตามทคี่ วบคมุ ภาย ใต้พธิ ีสารเกียวโต ไดแ้ ก่ คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) มีเทน (CH4) ไนตรสั ออกไซด์ (N2O) ไฮโดรฟลอู อโร คารบ์ อน (HFCs) เพอรฟ์ ลูออโรคาร์บอน (PFCs) ซัลเฟอร์เฮกซะฟลอู อไรด์ (SF6) และไนโตรเจนไตรฟลูออ ไรด์ (NF3) และอา้ งองิ ค่าศักยภาพในการท�ำใหเ้ กิดภาวะโลกร้อนค�ำนวณไดจ้ ากการวัดหรือค�ำนวณปรมิ าณ ก๊าซเรือนกระจกแต่ละชนิดที่เกิดขึ้นจริง และค�ำนวณให้อยู่ในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยใชค้ า่ ศกั ยภาพในการท�ำให้เกิดภาวะโลกรอ้ นในระยะเวลา 100 ปขี อง IPCC (GWP100) โดยพิจารณา กา๊ ซเรือนกระจกทเ่ี กดิ ขน้ึ จากกระบวนการตา่ ง ๆ ดังน้ี • การผลิตวตั ถุดบิ • การผลติ พลังงาน • กระบวนการเผาไหม้ • การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี • การสูญเสียน้ำ� ยาท�ำความเย็นและการร่วั ไหลของก๊าซ • การปฏบิ ัตงิ าน • การขนสง่ ทุกประเภทท่เี กีย่ วข้อง • การปศุสตั วแ์ ละกระบวนการผลติ ทางการเกษตรอืน่ ๆ • ของเสียและการจดั การของเสีย คารบ์ อนฟุตพริน้ ท์ของผลติ ภณั ฑ์ (Product carbon footprint) หมายถงึ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซ เรอื นกระจกของผลติ ภัณฑโ์ ดยตลอดวัฏจกั รชีวิต ต้ังแต่การผลติ วตั ถดุ ิบ การแปรรปู วตั ถดุ ิบ กระบวนการ ผลติ (รวมทง้ั กระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์) การจัดจำ� หนา่ ยหรือกระจายสนิ คา้ การใช้งานหรือบรโิ ภค การ จัดการของเสียหลังผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งานหรือหลังจากการบริโภค รวมทั้งการขนส่งที่เก่ียวข้องใน ทกุ ๆ ขน้ั ตอน 70
ภาพที่ 1 ขอบเขตการวิเคราะหค์ ารบ์ อนฟุตพร้ินทข์ องผลติ ภณั ฑ์ (ท่ีมาของข้อมูล: http://kpadltd.co.uk/area-of-expertise/food-life-cycle-assessment-lca/) ตวั อยา่ ง เช่น • คารบ์ อนฟตุ พรน้ิ ทข์ องผลติ ภณั ฑน์ ำ�้ ประปา หมายถงึ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกของผลติ ภณั ฑ์ น้�ำประปาโดยตลอดวฏั จกั รชวี ติ ตง้ั แต่ การสบู น�ำ้ ดบิ จากแม่นำ�้ การผลติ น้ำ� ประปา การส่งนำ�้ ประปา การใช้น้�ำประปาอาบนำ�้ การบ�ำบดั นำ� เสียจากการใชน้ ำ้� ประปาหลังอาบน้�ำ • คารบ์ อนฟตุ พรน้ิ ทข์ องผลติ ภณั ฑแ์ ปรงสฟี นั หมายถงึ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกของผลติ ภณั ฑ์ แปรงสฟี นั โดยตลอดวฏั จกั รชวี ติ ตง้ั แต่ การผลติ วตั ถดุ บิ แตล่ ะชนดิ การผลติ แปรงสฟี นั การใชแ้ ปรงสฟี นั การจดั การขยะแปรงสีฟันหลงั หมดอายกุ ารใช้งาน • คาร์บอนฟุตพร้ินท์ของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ เส้อื ผ้าโดยตลอดวัฏจักรชวี ิต ต้งั แต่ การปลกู ฝา้ ย การน�ำฝา้ ยไปผลิตเสน้ ใย การน�ำเส้นใยมาถกั ทอเปน็ ผืน การยอ้ มสี การน�ำไปตดั เยบ็ เส้ือผ้า การสวมใสเ่ สอ้ื ผา้ การซักรีดเสือ้ ผา้ การจดั การเสื้อผา้ หลงั หมด อายุการใช้งาน • คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศโดยตลอดวัฏจักรชีวิต ต้ังแต่ การผลิตวัตถุดิบแต่ละชนิด การผลิตเครื่อง ปรบั อากาศ การใชง้ านเคร่อื งปรบั อากาศ การซอ่ มบำ� รงุ และดูแลรกั ษาระหว่างการใชง้ าน การจัดการ เคร่อื งปรบั อากาศหลังหมดอายกุ ารใช้งาน • คาร์บอนฟุตพร้ินท์ของผลิตภัณฑ์ข้าวสารหอมมะลิ หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ ผลติ ภณั ฑข์ า้ วสารหอมมะลิ โดยตลอดวฏั จกั รชวี ติ ตงั้ แต่ การปลกู ขา้ ว การสขี า้ ว การหงุ ขา้ ว การจดั การ เศษอาหารหลงั บรโิ ภค • คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของบริการ (Service carbon footprint) หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือน กระจกจากกิจกรรมการใหบ้ ริการโดยตลอดวฏั จกั รชวี ิต ตัวอยา่ งบรกิ าร เช่น 71
• บริการรถโดยสารสาธารณะ หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการให้บริการ ของรถโดยสารสาธารณะ โดยตลอดวฏั จกั รชีวติ ตัง้ แต่ การผลิตวัตถุดิบแต่ละชนิด การผลิตรถโดยสาร สาธารณะ การผลิตน้ำ� มันเชอื้ เพลิง การเผาไหมน้ ำ�้ มันเชื้อเพลิง • บริการท่ีพักของโรงแรม หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการให้บริการของ โรงแรมโดยตลอดวฏั จกั รชวี ิต ตั้งแต่ การเชค็ อินเข้าท่ีพกั การเขา้ พัก การซักผา้ ปูเตยี ง ปลอกหมอน ผ้า ขนหนู การรับประทานอาหาร การเชค็ เอ้าทอ์ อกจากทีพ่ กั • บรกิ ารทำ� อาหารของภตั ตาคาร หมายถงึ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกจากกจิ กรรมการใหบ้ รกิ าร ทำ� อาหารของภัตตาคารโดยตลอดวัฏจักรชีวิต ตั้งแต่ การผลิตวตั ถดุ บิ ทุกชนดิ การปรุงอาหาร การกิน อาหาร การจดั การเศษอาหาร ภาพท่ี 2 ขอบเขตการวเิ คราะหค์ ารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ทข์ องบรกิ าร แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในชวี ิตประจำ� วัน การใชเ้ คร่อื งไฟฟา้ ในระหว่างท่ีมีการนอน มักจะมีการเปิดพัดลม เคร่ืองปรับอากาศ โดยที่ พัดลมต้ังพ้ืนใชัพลังงาน 45-75 วตั ต์ พดั ลมเพดานใชพั ลังงาน 70-104 วตั ต์ เครื่องปรบั อากาศใชัพลงั งาน 680-3,300 วตั ต์ ซง่ึ การ ใช้พลังงานจากการเปิดพัดลมและเคร่ืองปรับอากาศจะท�ำให้มีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก การผลติ พลงั งาน โดยท่ปี ระเทศไทยยังใชเ้ ช้อื เพลงิ หลัก คือ ถา่ นหิน การอาบนำ�้ การอาบน�ำ้ และการลา้ งหนา้ หากอาบน้ำ� ดว้ ยฝักบวั จะใช้นำ้� ไมเ่ กิน 20 ลติ ร/คร้ัง/คน การลา้ งหน้า 72
โดยเปดิ นำ�้ ทงิ้ ไวต้ อ่ เนอื่ งจะใชน้ ำ�้ ถงึ 18 ลติ ร การแปรงฟนั โดยปลอ่ ยใหน้ ำ�้ ไหลในขณะแปรงฟนั จะสนิ้ เปลอื ง นำ้� ถึง 9 ลิตรตอ่ 1 นาที และการใชช้ กั โครกแต่ละคร้งั จะใช้ปรมิ าณน�ำ้ 8-12 ลติ ร การรับประทานอาหาร การผลติ อาหารแตล่ ะชนดิ มกี ารปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกในปรมิ าณทแ่ี ตกตา่ งกนั มาก โดยในภาพรวม การผลติ อาหารประเภทเนอื้ สัตว์ทำ� ใหเ้ กดิ คารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ตม์ ากกว่าการผลิตอาหารประเภทพืช เชน่ การ ผลิตเนื้อววั 1 กโิ ลกรมั ปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจกเทยี บเทา่ คาร์บอนไดออกไซด์ 60 กิโลกรัม การผลติ แกะและ ชีส สร้างกา๊ ซเรอื นกระจกมากกว่า 20 กโิ ลกรมั ตอ่ ปริมาณอาหาร 1 กิโลกรัม การผลติ ไกป่ ลอ่ ยกา๊ ซเรือน กระจก 6 กิโลกรมั และเน้อื หมูสรา้ งกา๊ ซเรือนกระจก 7 กิโลกรมั สว่ นการผลิตถ่ัว 1 กโิ ลกรมั ปลอ่ ยก๊าซดัง กล่าวเพยี ง 1 กโิ ลกรัมเทา่ นน้ั เมอื่ มองลกึ ไปทขี่ นั้ ตอนตา่ งๆ ของการผลติ อาหาร พบวา่ กา๊ ซเรอื นกระจกสว่ นมากจะถกู ปลอ่ ยออก มาจากขน้ั ตอนการใชท้ ดี่ นิ และขน้ั ตอนอน่ื ๆ ของการท�ำเกษตรกรรม เชน่ การใชป้ ุย๋ ทกุ ชนิด การเกิดกา๊ ซ มเี ทนในทอ้ งววั ซง่ึ กา๊ ซเรอื นกระจกทเี่ กดิ จากขนั้ ตอนการใชท้ ด่ี นิ และการทำ� เกษตรกรรมมสี ดั สว่ นมากกวา่ 80% ของคารบ์ อนฟุตพรน้ิ ต์ทงั้ หมดทเี่ กดิ ในการผลิตอาหาร สว่ นขัน้ ตอนการขนสง่ มกี ๊าซเรอื นกระจกเกดิ ขึ้นนอ้ ยกวา่ 10% และจะย่ิงน้อยกว่านั้นมากหากแหลง่ ปลอ่ ยก๊าซมีขนาดใหญ่ เชน่ สดั ส่วนการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกในขน้ั ตอนการขนสง่ ฝงู ววั อยทู่ ี่ 0.5% ของก๊าซจากกระบวนการผลติ อาหาร ขณะเดียวกนั การศึกษาขอ้ มูลคารบ์ อนฟุตพรน้ิ ต์ของอาหารในกลุ่มสหภาพยุโรป (อีย)ู ได้ขอ้ สรุป ว่า การขนส่งอาหารมีส่วนปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกเพียง 6% เท่านน้ั โดยอาหารกลุ่มนม เน้อื สัตว์ และไข่ มี ส่วนในการปลอ่ ยกา๊ ซคิดเปน็ 83% กระบวนการผลิตอาหาร จากฟาร์มมาสู่อาหารบนโต๊ะอาหาร (Farm to table) ส่งผลทั้งทาง ตรงและทางอ้อมต่อส่ิงแวดล้อม การใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงจ�ำนวนมาก รวมท้ังการใช้เช้ือเพลิงส�ำหรับ เครื่องจักรในอุตสาหกรรมการเกษตร และการกระจายอาหารสู่ผู้บริโภคที่ต้องอาศัยการขนส่งท่ีใช้น้�ำมัน มหาศาล การผลิตโปรตนี เน้อื ววั ใชท้ รพั ยากรมากกวา่ การผลิตโปรตนี จากพืช พนื้ ดนิ ขนาด 2.5 ไร่ ถ้าน�ำไป ใชใ้ นการท�ำปศสุ ตั ว์ จะผลติ เนื้อสตั วไ์ ด้เพียง 1,250 กโิ ลกรมั แต่ในจ�ำนวนพน้ื ทเ่ี ทา่ กันน�ำไปปลกู มนั ฝรั่งได้ 2 หมื่นกิโลกรัม หากเปรยี บเทยี บปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกแลว้ พบวา่ ผบู้ รโิ ภคทชี่ อบทานเนอื้ สตั วจ์ ะปลอ่ ย กา๊ ซเรอื นกระจกสงู ทสี่ ดุ ในขณะทีผ่ ูบ้ รโิ ภคที่ชอบทานผกั หรอื มงั สวริ ัติจะปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกต�ำ่ สุด นอกจากน้ี การรับประทานอาหารไม่หมด กลายเปน็ ขยะอาหารทีต่ อ้ งนำ� ไปฝงั กลบ จะปลอ่ ยก๊าซ มเี ทน ซง่ึ พบวา่ ปจั จบุ นั คนไทยสรา้ งขยะโดยเฉลย่ี ประมาณ 1.14 กโิ ลกรมั ตอ่ คนตอ่ วนั เกดิ เปน็ ขยะมลู ฝอย 73
ราว 27 ลา้ นตนั ตอ่ ปี ในจำ� นวนนเี้ ปน็ ขยะอาหารมากถงึ 64% (วกิ ฤตขิ ยะอาหารกำ� ลงั เปน็ ปญั หาใหญท่ ส่ี รา้ ง ผลกระทบไปทัว่ โลก มอี าหาร 1 ใน 3 ของโลกเกดิ การสญู เสียและถกู ท้งิ ขณะทีร่ อ้ ยละ 11 ของประชากร โลกกำ� ลงั เผชิญกบั ความอดอยาก ไมม่ จี ะกิน) การเดนิ ทาง ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดต์ อ่ ผโู้ ดยสารหนงึ่ คนในระยะทางหนงึ่ กโิ ลเมตรทเี่ ดนิ ทาง ไป พบวา่ การเดนิ ทางโดยเครอื่ งบนิ ปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกสงู สดุ สว่ นการขจ่ี กั รยานปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก ตำ่� สดุ การใชร้ ถยนตส์ ว่ นตวั ปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกสงู กวา่ รถโดยสารสาธารณะเกอื บ 2 เทา่ นอกจากนี้ การ ใช้มอเตอรไ์ ซดป์ ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกสงู กวา่ รถโดยสารสาธารณะ 74
ใบกจิ กรรม ชอื่ โมดูล: โมดูล 3 (2) คาร์บอนฟตุ พร้ินท์ รายวชิ า: …………………………….. รหัสวิชา: …………………………….. ชื่อกจิ กรรม: การประเมินปรมิ าณการปล่อย กา๊ ซเรือนกระจกในชีวติ ประจ�ำวันด้วย แอพพลเิ คชั่น Carbon Footprint Calculator ระยะเวลา: 1 ช่ัวโมง สาระสำ� คัญ แอพพลเิ คชนั่ Carbon Footprint Calculator ใชส้ ำ� หรบั คำ� นวณขอ้ มลู คารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ท์ จะทำ� ให้ ผบู้ รโิ ภคทราบถงึ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกจากกจิ กรรมประจำ� วนั และกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความตระหนกั ในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ และเปลย่ี นแปลงวธิ กี ารบรโิ ภค เพอ่ื ชว่ ยลดปญั หาโลกรอ้ นและการเปลย่ี นแปลงสภาพ ภูมิอากาศ ภาพที่ 3 แอพพลเิ คชั่น Carbon Footprint Calculator ใช้สำ� หรับค�ำนวณขอ้ มูลคาร์บอนฟุตพริน้ ท์ 75
วัตถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้ 1. ทราบแหล่งปล่อยก๊าซเรอื นกระจกจากกิจกรรมในชีวติ ประจำ� วัน 2. ทราบปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกในชวี ติ ประจำ� วนั ดว้ ยแอพพลเิ คชนั่ Carbon Footprint Cal- culator 3. ทราบแนวทางในการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมเพอื่ ลดปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกในชวี ติ ประจำ� วนั และปรมิ าณการปลอ่ ยก๊าซเรือนกระจกท่ลี ดลงได้ ขน้ั ตอนการด�ำเนินกิจกรรม 1. ลงทะเบียน (กรอกข้อมูลชอื่ นามสกลุ และเลขบตั รประชาชน เพ่อื บันทึกขอ้ มูล) 2. กรอกข้อมูลจำ� นวนผอู้ ยูอ่ าศัยในบา้ น 3. กรอกข้อมลู กิจกรรมในชีวิตประจ�ำวนั โดยแบ่งเป็น - กิจกรรมในบ้าน ระบุจำ� นวน และ การใชง้ าน - กจิ กรรมในทีท่ �ำงาน ระบจุ ำ� นวน และ การใช้งาน - กิจกรรมการเดินทาง ระบคุ รงั้ ต่อปี ระยะทาง - กจิ กรรมการบรโิ ภค ระบคุ รงั้ ต่อสปั ดาห์ และ จ�ำนวนจานทีร่ บั ประทาน 4. แอพพลเิ คชนั่ จะทำ� การคำ� นวณขอ้ มลู คารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ทโ์ ดยอตั โิ นมตั ิ แสดงผลการคำ� นวณเปน็ ปรมิ าณ การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกจากกจิ กรรมประจำ� วนั ตอ่ ปี หนว่ ยเปน็ ตนั คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ทยี บเทา่ รวม ท้ัง จ�ำนวนตน้ ไม้ท่ีต้องปลกู เพื่อดดู ซบั ปริมาณการปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก 5. แสดงค�ำแนะน�ำแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก กิจกรรมประจ�ำวนั การประเมินผลกิจกรรม นิสิตสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น Carbon Footprint Calculator เพ่ือค�ำนวณค่าคาร์บอน ฟุตพร้ินทข์ องตวั เองได้ (แคปหนา้ จอการแสดงผลคา่ CARBON FOOTPRINT) การสรปุ กิจกรรม นิสิตสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น Carbon Footprint Calculator เพื่อค�ำนวณค่าคาร์บอน ฟตุ พร้นิ ทข์ องตัวเอง เปรียบเทียบกับ ค่าคาร์บอนฟตุ พร้นิ ท์ของคนอืน่ วา่ เป็นอยา่ งไร อภปิ รายว่าเหตใุ ด ค่าคาร์บอนฟุตพร้นิ ท์ของตัวเองมีค่ามากกวา่ หรือน้อยกวา่ ของคนอื่น เพราะอะไร 76
ค�ำถามท่มี กั ถกู ถามบอ่ ย 1. ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ท่ีได้ เป็นค่าที่สูงหรือต�่ำ สามารถเปรียบเทียบค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ได้กับค่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์เฉล่ียของคนไทย (4.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี) หรือ ค่าคาร์บอน ฟุตพร้ินท์เฉลี่ยของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค (ประเทศมาเลเซีย 7.8 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบ เท่าต่อปี ประเทศสิงค์โปร์ 4.3 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ประเทศเวียดนาม 2.0 ตัน คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ทียบเทา่ ตอ่ ปี ประเทศลาว 0.2 ตนั คาร์บอนไดออกไซดเ์ ทียบเทา่ ตอ่ ป)ี หรอื คา่ คารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ทเ์ ฉลยี่ ของประเทศอนื่ ๆ ในตา่ งประเทศ โดยพบวา่ ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก ขึ้นอยกู่ บั ไลฟส์ ไตลแ์ ละวถิ ีการบริโภค ระบบการขนส่งสาธารณะ ของประเทศนั้นๆ รวมทง้ั แหล่งทม่ี า ของพลังงาน เป็นสำ� คัญ ทีม่ าของข้อมลู : https://reneweconomy.com.au/graph-of-the-day-your-carbon-footprint-and-how-to-shrink-it-40626/ 2. ตอ้ งทานอาหารอย่างไรจงึ จะชว่ ยลดค่าคาร์บอนฟตุ พรนิ้ ท์ อาหารประเภทเนื้อสตั วจ์ ะมีค่าคารบ์ อนฟตุ พร้ินท์สูงกว่าพืชผัก โดยเฉพาะ เน้ือแกะ เน้ือวัว เนื่องจากวัวและแกะมีการระบายมีเทนออกมาจาก ระบบยอ่ ยอาหาร อาหารประเภทปลามคี า่ คาร์บอนฟุตพรน้ิ ทส์ งู โดยเฉพาะ ปลาแซลมอน เน่อื งจาก ต้องใช้พลังงานในระบบการใหอ้ อกซเิ จนสูง 77
ที่มาของข้อมูล: http://shrinkthatfootprint.com/food-carbon-footprint-diet ทมี่ าของข้อมลู : https://ddpoultry.ca/green-wholesale-chicken/ 3. การปลูกตน้ ไมใ้ นอาคาร ชว่ ยลดค่าคารบ์ อนฟตุ พร้ินท์หรือไม่ การปลกู ต้นไมภ้ ายในอาคาร จะเป็นการ เพิ่มความชื้นในอากาศ ท�ำให้เครอื่ งปรับอากาศต้องทำ� งานหนกั ขน้ึ ส้ินเปลอื งพลงั งานไฟฟ้ามากขน้ึ ค่า คารบ์ อนฟุตพริ้นทส์ งู ขน้ึ แตส่ ามารถปลกู ตน้ ไมท้ ่ีมีคสามช้ือนต�่ำได้ เชน่ แคคตสั 4. แนวทางอน่ื ๆ ในการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมเพอื่ ลดปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกในชวี ติ ประจำ� วนั 78
วิธใี ชพ้ ดั ลม เพ่ือให้ประหยัดพลังงานและลดปรมิ าณการปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจก ควรปฏิบตั ิดังน้ี • ควรใชพ้ ดั ลมตง้ั พนื้ หรอื ตงั้ โตะ๊ แทนพดั ลมตดิ เพดาน เพราะจะกนิ ไฟนอ้ ยกวา่ พดั ลมตดิ เพดานประมาณ ครง่ึ หนึง่ • อยา่ เปดิ พดั ลมท้งิ ไว้เมอื่ ไม่มีคนอยู่ • เมอ่ื เลกิ ใชแ้ ลว้ ควรปดิ พัดลมและถอดปลกั๊ ออก • ปรับระดบั ความเรว็ ลมพอสมควร • เลือกขนาดใหเ้ หมาะสมกับการใช้งาน • ควรเปดิ หน้าต่างใช้ลมธรรมชาตแิ ทนถา้ ทำ� ได้ วธิ ใี ชเ้ ครื่องปรับอากาศเพ่อื ให้ประหยัดพลงั งานและลดปริมาณการปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจก ควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี • ปรับอุณหภูมิเป็น 27-28 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมช่วยระบายอากาศก็จะท�ำให้อากาศในห้อง เย็นสบายและยงั ชว่ ยลดการใช้พลังงานได้ถงึ 10-20% • หลังใช้งานเครื่องปรับอากาศเสร็จควรปิดทุกครั้ง และควรตั้งเวลาในการปิดการท�ำงานของเครื่องล่วง หน้า • ไม่ควรตั้งวางส่ิงของขวางทางลมเข้า-ออกของคอนเดนซิ่งยูนิตที่ต้ังนอกห้อง เพราะอาจท�ำให้เครื่องไม่ สามารถระบายความร้อนได้ดี แถมยงั ท�ำใหเ้ กดิ การท�ำงานทห่ี นักขึ้นอกี ด้วย • ไมค่ วรน�ำสง่ิ ของไปวางกดี ขวางทางลมเขา้ -ออกของแฟนคอยลย์ ูนติ ทีต่ งั้ อยูภ่ ายในห้อง เพราะจะท�ำให้ อากาศไม่เยน็ ได้ • ควรเปิดใช้งานหลอดไฟและอปุ กรณ์ไฟฟา้ ในหอ้ งเฉพาะท่ีจ�ำเป็นเทา่ นัน้ และควรปดิ ทกุ ครัง้ เมอ่ื ใชง้ าน เสร็จแล้ว เพอ่ื ชว่ ยลดอุณหภูมคิ วามร้อนในหอ้ งใหค้ ลายลง • ปดิ ประตหู น้าต่างทกุ บานใหส้ นิทเมือ่ เปดิ ใชง้ านเคร่อื งปรบั อากาศ ซ่ึงเป็นการป้องกันไม่ให้อากาศรอ้ น ภายนอกเข้ามาในห้อง เคร่ืองปรับอากาศกจ็ ะไม่ต้องท�ำงานหนักจนเกนิ ไป • หลกี เล่ยี งการปลกู ต้นไม้หรอื น�ำผ้ามาตากในห้องที่เปดิ เครื่องปรบั อากาศ เพราะความชนื้ จะมีผลทำ� ให้ เคร่อื งปรับอากาศต้องทำ� งานหนกั มากขึน้ • การดูแลรักษา ควรหม่ันท�ำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเกาะ ควรหม่ัน ท�ำความสะอาดแผงทอ่ ความเย็นดว้ ยแปรงขนนมิ่ ๆ กบั น้�ำผสมสบเู่ หลวอ่อนๆ โดยหม่นั ทำ� ทุก 6 เดอื น จะชว่ ยใหเ้ ครอื่ งทำ� ความเยน็ สามารถทำ� งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพอยเู่ สมอ ควรทำ� ความสะอาดพดั ลม ส่งลมเย็นด้วยแปรงเล็กๆ ก็จะช่วยก�ำจัดฝุ่นละอองท่ีเกาะติดแน่นเป็นแผ่นแข็งๆ ซ่ึงมักเกาะติดตามซี่ 79
ใบพดั โดยทำ� ทกุ 6 เดอื น กจ็ ะทำ� ใหพ้ ดั ลมสง่ ลมเยน็ ทำ� งานไดเ้ ตม็ ทตี่ ลอดเวลา ควรหมนั่ ทำ� ความสะอาด แผงทอ่ ระบายความร้อน ดว้ ยการใชแ้ ปรงขนนุ่มและน�้ำฉีดล้างใหส้ ะอาดทกุ 6 เดือน จะทำ� ให้เครื่องนำ� ความรอ้ นภายในหอ้ งไปทงิ้ ยงั อากาศภายนอกไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ หากพบวา่ เครอื่ งปรบั อากาศไม่ เย็นอันเน่อื งจากสารท�ำความเยน็ ร่ัว ควรรีบตรวจหารอยรั่วแล้วทำ� การแกไ้ ขโดยด่วน เพราะเครอ่ื งจะ ท�ำงานโดยที่ไม่ก่อให้เกิดความเย็นๆ ใดทั้งสนิ้ ซ่ึงเปน็ การสิน้ เปลอื งพลงั งานโดยเปล่าประโยชน์ หมน่ั ตรวจสอบฉนวนหุ้มทอ่ สารท�ำความเย็นไวอ้ ยา่ งสม่�ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ฉกี ขาด • การปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงอาคารสถานท่ี โดยใช้มลู่ ่ีกันสาดป้องกันแสงแดดสอ่ งกระทบตวั อาคาร และ บฉุ นวนกนั ความรอ้ นตามหลงั คาและฝาผนงั เพอื่ ไมใ่ หเ้ ครอื่ งปรบั อากาศทำ� งานหนกั เกนิ ไป ตดิ ตง้ั ฉนวน กันความรอ้ นโดยรอบห้องทมี่ กี ารปรับอากาศ เพอ่ื ลดการสูญเสยี พลงั งานจากการถา่ ยเทความร้อนเขา้ ภายในอาคาร และปลูกตน้ ไม้รอบๆ อาคาร เพราะต้นไมข้ นาดใหญ่ 1 ต้น ใหค้ วามเย็นเทา่ กบั เครื่อง ปรับอากาศ 1 ตัน หรือใหค้ วามเย็นประมาณ 12,000 บที ียู วธิ ีใช้น�้ำ เพอ่ื ให้ประหยดั น�้ำและลดปรมิ าณการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก ควรปฏบิ ัตดิ ังนี้ • การอาบน้�ำและการล้างหน้า หากอาบน้�ำด้วยฝักบัวจะใช้น�้ำไม่เกิน 20 ลิตร/ครั้ง คน โดยขณะถูสบู่ ควรปดิ กอ๊ กนำ�้ ดว้ ย จะประหยัดน้�ำไดม้ ากกว่าการใช้ขนั ตักราด การอาบน�ำ้ ในอา่ งจะสิน้ เปลอื งน้ำ� ถึง 110-200 ลติ ร • การล้างหน้าดว้ ยการใช้ภาชนะรองจะใช้นำ�้ เพียง 9 ลิตร แตถ่ า้ เปิดนำ้� ทิง้ ไวต้ ่อเนื่องจะใชน้ ำ�้ ถงึ 18 ลิตร • การแปรงฟนั หากใชแ้ กว้ รองนำ�้ บว้ นปากและแปรงฟนั ในแตล่ ะครง้ั จะใชน้ ำ้� เพยี ง 1 ลติ ร แตห่ ากปลอ่ ย ให้น�ำ้ ไหลในขณะแปรงฟนั จะสน้ิ เปลืองน้�ำถงึ 9 ลติ รต่อ 1 นาที • การใช้ชกั โครกแตล่ ะครัง้ จะใชป้ รมิ าณนำ�้ 8-12 ลิตร ดงั นั้น ควรใช้ถงุ บรรจุน�ำ้ หรอื อฐิ มาใส่ในโถน้ำ� เพ่ือ ลดการใชน้ ้�ำ หรอื เปลี่ยนมาใชช้ ักโครกแบบประหยัดน้ำ� และควรใชโ้ ถปัสสาวะเม่อื ตอ้ งการปสั สาวะ • การลา้ งภาชนะตา่ ง ๆ ควรลา้ งพรอ้ มกนั โดยใชก้ ระดาศเชด็ คราบสกปรกทต่ี ดิ อยตู่ ามภาชนะตา่ งๆ ออก ก่อน แลว้ จึงน�ำไปล้างในอ่างน้�ำซึ่งจะใช้นำ�้ ประมาณ 50 ลิตร หากเปดิ กอ๊ กน้�ำตลอดเวลา จะสิ้นเปลือง น�้ำถงึ 135 ลิตร ในเวลา 15 นาที 6. การซักผ้า การซกั ผ้าดว้ ยเคร่ืองใช้น้ำ� เฉลีย่ 100 ลิตรตอ่ การซัก 1 คร้งั หากซักในปริมาณทเี่ ท่ากนั ดว้ ยมอื โดยใช้กะละมงั รองน้�ำจะใชน้ ำ�้ 50 ลิตรการซักผ้าทั้งการซักด้วย เครือ่ งและซกั ด้วยมือควรรวบรวมปริมาณผ้าให้ไดม้ ากพอ • การใชป้ ม๊ั นำ�้ ไมค่ วรตอ่ ปม๊ั นำ�้ โดยตรงกบั ทอ่ เมนของการประปาเพราะจะทำ� ใหต้ วั เลขมเิ ตอรน์ ำ�้ หมนุ เรว็ กวา่ ปกติ หากจะใช้ป๊ัมนำ�้ ควรต่อออกจากถงั พกั น�ำ้ 80
• การซกั ผา้ ควรรวบรวมผา้ ใหไ้ ดม้ ากพอตอ่ การซกั แตล่ ะครงั้ เพาะการซกั ผา้ ตอ้ งใชน้ ำ�้ มากและขณะทำ� การ ซกั ไมค่ วรเปดิ ก๊อกน�ำ้ ท้งิ ไวต้ ลอดเวลา หากเปดิ น�ำ้ ทิ้งไว้ระยะเวลา 15 นาที จะเสียน้�ำถึง 200-500 ลิตร และการซักดว้ ยเครื่องซักผ้าก็ควรรวบรวมผา้ ใหพ้ อต่อกำ� ลังของเครอื่ ง • การล้างถ้วยชามภาชนะ ควรท�ำการเช็ดถ้วยชามภาชนะที่เปื้อนเศษอาหาร คราบไขมัน ก่อนท�ำการ ลา้ ง จะชว่ ยลดการใชน้ ำ้� ได้มากกวา่ การใชน้ �้ำฉดี ไล่เศษอาหาร ในขณะทำ� การลา้ งไมค่ วรเปิดก๊อกนำ้� ทิ้ง ไว้ ควรเปดิ ใสอา่ งไวล้ า้ งและเพ่ือความสะอาดสามารถลา้ งคร้งั ท่ี 2 ไดโ้ ดยจะเสยี น�้ำเพยี ง 15-20 ลติ ร เอกสารอ้างองิ รัตนาวรรณ ม่งั ค่งั . 2558. คารบ์ อนฟตุ พรน้ิ ท์ (All About Carbon Footprint). รตั นาวรรณ มง่ั ค่ัง. 2558. พชิ ติ “คารบ์ อนฟตุ พริ้นท”์ ไมย่ ากอย่างทคี่ ิด. องคก์ ารบริหารจดั การก๊าซเรือนกระจก (องคก์ ารมหาชน). 2563. ขอ้ กำ�หนดและแนวทางการคำ�นวณคารบ์ อนฟตุ พริน้ ท์ ของผลติ ภัณฑ์ พิมพ์ครั้งที่ 7 (ธันวาคม 2563) แหลง่ ทีม่ า: http://thaicarbonlabel.tgo.or.th/admin/uploadfiles/download/ ts_cb3d37071f.pdf (มีนาคม 2564). เอกสารประกอบการอา่ นเพิม่ เตมิ โครงการ รวมพลงั หาร 2 ส�ำนกั งานคณะกรรมการนโยบายพลังานแหง่ ชาต.ิ การประหยัดพลงั งานในสถานที่ทำ� งาน. 8 หนา้ . การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค สำ� นักงานใหญ่. 2563. วิธีใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยัด. 81
Module 3 (3): Municipal Solid Waste Problem and Zero Waste Concept ปญั หาขยะมูลฝอยและแนวคิดขยะเหลือศนู ย์ ช่ือบทหรือโมดูล ปัญหาขยะมลู ฝอยและแนวคดิ ขยะเหลอื ศูนย์ (Municipal Solid Waste Problem and Zero Waste Concept) ผลลัพธ์การเรยี นรู้ นิสิตมีความรู้และความตระหนักถึงสถานการณ์ขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติกในทะเล และเรียนรู้ แนวคิดการลดขยะแบบ zero waste และความส�ำคญั ของหลกั การ 3Rs รวมท้งั ทราบถึงพฒั นาการของ แนวคดิ และความพยายามของผบู้ รโิ ภคและหนว่ ยงานตา่ งๆ ทพี่ ยายามลดขยะทต่ี น้ ทางใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ เพอ่ื ให้นิสิตนักศึกษาเกิดความตระหนักและมีแนวทางที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ทั้งในระดับบุคคล และระดับองคก์ ร สาระส�ำคญั บทน้ีมุ่งสร้างความตระหนักและความเข้าใจเก่ียวกับสถานการณ์ปัญหาขยะซ่ึงเป็นปัญหาทั้งระดับ ทอ้ งถนิ่ และระดบั โลก แนวทางการจดั การขยะอยา่ งยงั่ ยนื ดว้ ยแนวคดิ zero waste และแนวคดิ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เนอ้ื หาสาระ 1. วกิ ฤตปญั หาขยะ ขยะอาหาร ขยะพลาสตกิ ขยะทะเลและไมโครพลาสติก – ความจำ� เปน็ ท่ตี ้องปรบั พฤติกรรมและวถิ ีการผลติ และการบริโภค 2. คำ� จ�ำกดั ความของ zero waste 3. พฒั นาการของแนวคดิ zero waste และการด�ำเนนิ งานในต่างประเทศ 4. การขบั เคลอื่ น zero waste ในประเทศไทย: โครงการชุมชนและโรงเรียนปลอดขยะของกรมสง่ เสริม คณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม 82
กจิ กรรมการเรียนการสอน หัวขอ้ จ�ำนวน กิจกรรม การวดั ผล สอ่ื การสอนท่ใี ช้ นาทีทใี่ ช้ หรอื เทคนคิ การสอน และประเมินผล สำ� รวจขยะทเี่ กิดในชีวติ ประจำ� วัน สอน วกิ ฤตปญั หาขยะ 30 ใหเ้ ขยี น (อาจวาด การส่งใบงานท่ี 1 ใบงานที่ 1 ทำ� ใน แนวคดิ Zero Waste, รูป) เก่ยี วกบั การ การแลกเปล่ียนใน ชนั้ เรยี น 3Rs, ประสบการณใ์ นต่าง ประเทศ ใชช้ ีวิต 1 วันของ ช้ันเรยี น Zero Waste ใน ประเทศไทย ตัวเอง (อาจนกึ สรุปบทเรยี น ย้อน 1 วันกอ่ นวนั เรียน) วา่ ไดบ้ ริโภค ส่งิ ใดและสรา้ งขยะ ประเภทใดบา้ ง จดั การขยะท่ีเกิด ข้ึนอย่างไร แล้วให้ นิสิต 2-3 คนออก มาเล่าให้เพ่ือนฟัง 30 บรรยายและเปดิ สไลด์ประกอบการ วดิ ีโอประกอบ บรรยายและ คลปิ วดิ โี อ 20 บรรยาย สไลดป์ ระกอบการ บรรยาย 25 บรรยาย สไลด์ประกอบการ บรรยาย 15 เปิดใหถ้ าม-ตอบ และอภปิ ราย งานมอบหมาย ไม่มีงานมอบหมายนอกชั้นเรยี น แต่มใี บงานทำ� ในหอ้ งเรียน ดูใบงานท่ี 1 (ทา้ ยบท) 83
เมื่อทกุ ทา่ นเขยี นแตล่ ะโมดลู ของตนเองมาแล้วแต่ละโมดลู จะมาสรปุ เปน็ ตารางดังกล่าวนเี้ พ่ือให้ เห็นภาพรวมของรายวชิ าท้งั หมด ช่ือบท/ จำ� นวนชม CLO วธิ ีการจัดการ การวัดผลและ ส่อื ท่ใี ช้ หรือชือ่ โมดลู ท่ใี ชส้ อน เรียนการสอน ประเมนิ ผล CLO ที่ 1 สไลด์ประกอบ ทำ� ใบงาน ระดับการมี การบรรยาย ปญั หาขยะ CLO ที่ 2 บรรยาย สว่ นรว่ มในชั้น และ VDO มูลฝอยและ 1 ครง้ั : 2 ชม. CLO ที่ 3 เปิด VDO เรยี นและการ สไลดป์ ระกอบ แนวคดิ ขยะ บรรยาย ส่งงานที่ การบรรยาย เหลอื ศูนย์ มอบหมาย สไลด์ประกอบ ถามตอบ การบรรยาย แลกเปล่ยี น ความเห็น เน้ือหาการบรรยาย วกิ ฤตปญั หาขยะ สถานการณข์ ยะทวั่ โลก ปัญหาขยะมูลฝอยนับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส�ำคัญของโลกและมีแนวโน้มเพิ่มสูงข้ึนอย่างต่อ เน่อื งจากการเพม่ิ ขน้ึ ของประชากรและการขยายตัวของชมุ ชนเมอื ง ในรายงานของ World Bank (2012) ประเมินวา่ ปริมาณขยะมลู ฝอยชมุ ชนที่เกดิ ขน้ึ ทั่วโลกในชว่ งปีค.ศ. 2012 อยูท่ ่ี 1.3 พันลา้ นตันตอ่ ปีและ จะเพม่ิ ขนึ้ เป็น 2.2 พันล้านตนั ในปีค.ศ. 2025 หากจำ� แนกตามระดบั รายได้ พบว่า อตั ราการสรา้ งขยะ ของกลุ่มประเทศทีม่ ีรายไดป้ านกลาง-ตำ�่ (ซึ่งรวมถงึ ประเทศไทย) อยู่ที่ 0.16 – 5.3 กิโลกรัมตอ่ คนตอ่ วัน ค่าเฉลยี่ อย่ทู ี่ 0.79 กิโลกรมั ตอ่ คนต่อวัน องค์ประกอบของขยะของท้งั โลก ประกอบดว้ ย ขยะอินทรยี ์ ร้อย ละ 46 กระดาษ รอ้ ยละ 17 พลาสตกิ รอ้ ยละ 10 แกว้ ร้อยละ 5 โลหะ รอ้ ยละ 4 และอ่นื ๆ รอ้ ยละ 18 (World Bank, 2012) องคป์ ระกอบของขยะจะแตกตา่ งไปตามพน้ื ทแี่ ละระดบั รายได้ ในกลมุ่ ประเทศทมี่ รี าย ไดต้ ำ่� จะมสี ดั สว่ นขยะอนิ ทรยี ส์ งู กวา่ ประเทศทม่ี รี ายไดป้ านกลางและรายไดส้ งู หากดเู ฉพาะกลมุ่ ประเทศที่ มีรายได้ปานกลาง-ต่�ำ UNEP (2015) คาดการณส์ ัดส่วนขยะอนิ ทรียอ์ ยทู่ ี่รอ้ ยละ 53 กระดาษ รอ้ ยละ 11 พลาสติก ร้อยละ 9 แกว้ รอ้ ยละ 3 โลหะ ร้อยละ 3 สิง่ ทอ ร้อยละ 3 และอนื่ ๆ ร้อยละ 18 84
การเพมิ่ ขน้ึ ของขยะมลู ฝอยและการกำ� จดั อยา่ งไมถ่ กู ตอ้ งไดส้ รา้ งผลกระทบอยา่ งมากตอ่ สขุ ภาพอนามยั ของ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม การทิ้งและเทกองขยะท่ีไม่มีการคัดแยกท�ำให้น�้ำชะขยะปนเปื้อนสู่แหล่งน�้ำผิวดิน และน�ำ้ ใตด้ นิ การเผาขยะทีม่ ีพลาสตกิ พีวซี ียังท�ำใหเ้ กดิ สารพิษและสารก่อมะเร็ง เช่น ไดออกซนิ ฟิวแรน เป็นต้น นอกจากนี้ บ่อขยะและการฝังกลบขยะยังท�ำให้เกิดก๊าซมีเทนซ่ึงเป็นก๊าซเรือนกระจกโดย IPCC ประเมนิ สดั สว่ นการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกจากสถานฝงั กลบทวั่ โลก รอ้ ยละ 3 ในทางกลบั กนั หากประเทศ ต่างๆ มกี ารจดั การขยะอย่างยงั่ ยืน มีการด�ำเนินมาตรการลดปริมาณ คดั แยกและรีไซเคิลอย่างเตม็ ท่ี ก็จะ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกจากภาคของเสียไดไ้ ม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 15-20 (UNEP, 2015) สถานการณข์ ยะในประเทศไทย เช่นเดียวกับแนวโน้มของโลก ประเทศไทยเผชิญปัญหาการเพ่ิมข้ึนของขยะมูลฝอยอย่างต่อเน่ือง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ในปีพ.ศ. 2561 มีขยะมูลฝอยทั้งประเทศอยู่ท่ี 27.93 ล้านตันเพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมาร้อยละ 2 อัตราการเกิดขยะต่อคนเพ่ิมข้ึนจาก 1.13 เป็น 1.15 กิโลกรัมตอคนต่อวันซ่ึง เปน็ อตั ราทส่ี งู กวา่ คา่ เฉลย่ี ของกลมุ่ ประเทศทม่ี รี ะดบั รายไดใ้ กลเ้ คยี งกบั ประเทศไทย (คา่ เฉลยี่ ของประเทศ ในกลุ่ม Lower-Middle Income อยู่ท่ี 0.79 กิโลกรัมตอ่ คนต่อวัน) ในจ�ำนวนขยะท้งั หมดทเ่ี กดิ ขึน้ กรม ควบคมุ มลพษิ คาดการณว์ า่ มสี ดั สว่ นทถี่ กู คดั แยกและนำ� กลบั ไปใชป้ ระโยชน์ รอ้ ยละ 35 กำ� จดั อยา่ งถกู ตอ้ ง ร้อยละ 39 และส่วนทก่ี �ำจัดไมถ่ ูกต้อง ร้อยละ 26 (กรมควบคมุ มลพษิ , 2562) ท้งั น้ี การจัดการขยะส่วน ใหญเ่ ป็นการจัดการที่ปลายทางทเ่ี นน้ การก�ำจัดดว้ ยการฝงั กลบหรอื เทกอง ในปี 2561 มสี ถานทก่ี ำ� จดั ขยะ ที่เปิดดำ� เนินการท่วั ประเทศ จ�ำนวน 2,789 แหง่ ในจ�ำนวนนี้ ด�ำเนนิ การถูกต้องซึ่งรวมถึงการเทกองแบบ ควบคมุ เพียง 595 แหง่ คิดเป็นรอ้ ยละ 21 (กรมควบคมุ มลพิษ, 2562) การจดั การขยะมูลฝอยอย่างไม่ถกู ต้องได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเกิดไฟไหม้ บ่อขยะ การเผากลางแจง้ ท�ำให้เกิดมลพษิ จากสารไดออกซิน PAHs และ black carbon บ่อขยะทำ� ใหเ้ กิด กา๊ ซมเี ทนทเี่ ปน็ กา๊ ซเรอื นกระจก นำ้� ชะขยะจากบอ่ ขยะมกี ารปนเปอ้ื นแหลง่ นำ�้ ผวิ ดนิ และนำ้� ใตด้ นิ ขยะบาง ส่วนมีการร่ัวไหลลงสูแ่ ม่น�้ำและและทะเลกลายเป็นขยะทะเล ปัญหาขยะพลาสติกและมลพษิ พลาสติก พลาสติกถือก�ำเนิดข้ึนมาไม่นานมานี้ เราได้มีการผลิตพลาสติกเชิงอุตสาหกรรมตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 หลงั จากนน้ั ปริมาณการผลติ พลาสติกก็เพิม่ สูงขึ้นอยา่ งรวดเรว็ และต่อเนอ่ื งมาโดยตลอดไม่นอ้ ยกวา่ 8,300 ล้านตัน (เทียบเท่าน้�ำหนกั ของช้าง 1 พันล้านเชอื ก) มกี ารประเมินว่าทุก ๆ 1 นาที ท่ัวโลก มกี ารใช้ ถงุ พลาสตกิ 1-2 ลา้ นใบและมกี ารใชข้ วดพลาสตกิ 1 ลา้ นขวด หากยงั ปลอ่ ยใหม้ กี ารผลติ พลาสตกิ ไปเรอื่ ยๆ 85
คาดวา่ ภายในปีค.ศ. 2050 โลกจะมขี ยะพลาสติกมากถงึ 12,000 ล้านตัน พลาสตกิ ชว่ ยสรา้ งความสะดวกสบายใหก้ บั มนษุ ยจ์ นพวกเราหลงลมื คณุ สมบตั อิ กี อยา่ งของพลาสตกิ คือ มนั ไม่ย่อยสลายทางธรรมชาติ ถงุ พลาสติกและหลอดพลาสตกิ ที่ถกู ใช้งานเพยี ง 10 นาที อาจอยูก่ ับโลก ไปหลายร้อยปี แม้พลาสติกจะมีคุณสมบัติการใช้งานที่เป็นเลิศ แต่เมื่อกลายเป็นขยะ กลับไม่สามารถน�ำ กลับมารีไซเคิลได้เท่าท่ีควร นักวิจัยประเมินว่า มีพลาสติกเพียงร้อยละ 9 เท่าน้ันท่ีถูกน�ำกลับมารีไซเคิล Jambeck et al. (2015) ประเมินปรมิ าณขยะพลาสตกิ จากประเทศต่าง ๆ ทไ่ี หลสู่ทะเล พบว่า ในปีพ.ศ. 2553 มขี ยะพลาสติกประมาณ 5 – 13 ลา้ นตันได้ถูกพัดพาลงสู่ทะเล เทยี บเท่ากับรถบรรทกุ 1 คัน ขน พลาสตกิ ลงทะเลทุก ๆ นาที มกี ารคาดการณว์ ่า มขี ยะพลาสติกกระจายอยใู่ นมหาสมทุ รท่วั โลก ประมาณ 300 ล้านตนั รวมถงึ พลาสติกชิน้ เลก็ ๆ กวา่ 5 ลา้ นลา้ นช้ิน หนักรวมกันกว่า 250,000 ตนั ท่ีลอยอยูบ่ นผวิ นำ�้ ขยะพลาสตกิ ทต่ี กค้างในสภาพแวดลอ้ มได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สัตวท์ ะเล สัตวบ์ กและมนุษย์อย่าง มหาศาล เม่ือขยะพลาสตกิ ไหลลงสู่ทะเลมากข้นึ เรอื่ ย ๆ ทำ� ใหเ้ กิดปญั หาการสะสมของขยะทะเล จนกลาย เปน็ มลพษิ ขยะพลาสตกิ สง่ ผลกระทบตอ่ สตั วท์ ะเลและปะการงั แมพ้ ลาสตกิ จะไมย่ อ่ ยสลาย แตม่ นั สามารถ แตกตวั เป็นชน้ิ เล็ก ๆ ทเี่ รยี กวา่ “ไมโครพลาสตกิ ” ขนาดเล็กกวา่ 5 มิลลิเมตรไปจนถงึ ระดับนาโนเมตร ตกค้างในส่ิงแวดล้อมและเข้าสหู่ ว่ งโซอ่ าหารของมนษุ ย์ นักวทิ ยาศาสตร์ได้รายงานการพบไมโครพลาสตกิ ในทุกสภาพแวดล้อม ปัญหาขยะพลาสตกิ ในทะเลไดก้ ลายเปน็ วาระเรง่ ด่วนของประชาคมโลก โครงการสิ่งแวดลอ้ มแหง่ สหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) ประกาศใหป้ พี .ศ. 2561 เป็นปี แหง่ การตอ่ สกู้ บั ปญั หามลพษิ พลาสตกิ (Beat plastic pollution) และกระตนุ้ ใหร้ ฐั บาลทกุ ประเทศดำ� เนนิ มาตรการลด ละ เลกิ ใช้พลาสตกิ แบบใชค้ ร้งั เดียวทิง้ ประเทศไทยถกู จดั ใหอ้ ยอู่ นั ดบั ที่ 6 ของประเทศทที่ งิ้ ขยะพลาสตกิ ลงทะเลมากทส่ี ดุ ในโลก (150,000 – 410,000 ตันตอ่ ป)ี จากขอ้ มูลของกรมควบคุมมลพิษ ประเทศไทยมีการใช้ถงุ พลาสติกหูหว้ิ ถงึ 45,000 ล้านใบตอ่ ปี คนกรุงเทพฯ ใช้ถุงพลาสติก เฉลีย่ อยู่ท่ี 3 – 8 ใบต่อคนตอ่ วัน บรโิ ภคน�ำ้ ด่ืมบรรจุขวดพลาสติก ประมาณ 4,400 ลา้ นขวดต่อปี ใชโ้ ฟมบรรจุอาหาร 6,758 ล้านใบต่อปีและแก้วพลาสติกแบบใช้ครงั้ เดยี ว ท้ิง 9,750 ลา้ นใบต่อปี ปรมิ าณขยะพลาสตกิ ที่เกดิ ขึ้นประมาณ 2 ล้านตนั ตอ่ ปี มเี พียงรอ้ ยละ 25 เทา่ น้นั ทีถ่ ูกน�ำกลบั มาใช้ประโยชน์ ทเี่ หลือซง่ึ ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแบบใชค้ รัง้ เดยี วถูกก�ำจัดโดยการฝังกลบ เผา และตกคา้ งในสง่ิ แวดลอ้ มและบางสว่ นไหลลงทะเล ทำ� ใหป้ ระเทศไทยตอ้ งเรง่ แกไ้ ขปญั หาพลาสตกิ โดยตอ้ ง จะมีมาตรการลดการใช้และแยกขยะตง้ั แตต่ ้นทาง (สจุ ติ รา วาสนาดำ� รงดี, 2563) มาตรการปดิ เมอื งเพอ่ื ปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ชว่ งเดอื นมนี าคม-มถิ นุ ายน 2563 ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างมากท้ังขยะติดเชื้อในสถานพยาบาลและบ้านเรือน อีกทั้งการสั่งอาหาร 86
และสนิ ค้าออนไลน์และการซื้อกลับบ้านไดก้ ลายเป็นวิถชี วี ติ ใหม่ (new normal) ของคนเมือง ทำ� ให้ขยะ พลาสตกิ เพมิ่ สงู ขน้ึ อยา่ งกา้ วกระโดด จากขอ้ มลู ของกรมควบคมุ มลพษิ ปรมิ าณขยะพลาสตกิ เพมิ่ สงู ขนึ้ เฉลย่ี รอ้ ยละ 15 โดยเฉพาะประเภทกลอ่ งพลาสตกิ ใสอ่ าหาร ชอ้ นสอ้ มพลาสตกิ แกว้ พลาสตกิ และหลอดพลาสตกิ ดังนั้น ทุกภาคส่วนจ�ำเป็นตอ้ งชว่ ยกันวางมาตรการจัดการขยะทง้ั ระบบอย่างเร่งด่วน (คลิปวิดีโอสร้างแรงบันดาลใจเปิดประกอบการบรรยาย: คลิปกองภูเขาขยะของกทม., คลิปวาฬ น�ำร่อง กรมส่งเสริมคณุ ภาพส่งิ แวดล้อม, คลิป drowning in plastic ของ BBC) คำ� จ�ำกัดความและพัฒนาการของแนวคิดและการด�ำเนินงานในตา่ งประเทศ แนวคดิ zero waste แนวคิดการจัดการขยะให้เป็นศูนย์ (Zero-waste) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดขยะ (waste prevention) Zero Waste International Alliance (ZWIA) ได้ให้ค�ำจ�ำกัดความของค�ำว่า “zero-waste” ว่า “เปน็ การอนรุ ักษท์ รัพยากรท้ังหมดดว้ ยวธิ ีการผลิตและการบริโภคอย่างรับผดิ ชอบซึง่ รวมถึงการใช้ซ้�ำ การรีไซเคิลผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์และวัสดุโดยไม่มีการเผาและไม่ปล่อยของเสียสู่ผืน ดิน น�้ำหรืออากาศที่จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์” (ZWIA, 2020) ทั้งนี้ เครือข่าย ZWIA จะให้การรบั รองวา่ องค์กรธุรกิจหรือชุมชนว่าเป็น zero-waste กต็ อ่ เม่ือมกี ารน�ำขยะไปแปลงเปน็ ทรัพยากรเพอื่ ลดปริมาณขยะท่ีต้องสง่ ไปก�ำจดั ด้วยการฝงั กลบหรอื เผามากกว่ารอ้ ยละ 90 หลักการ zero waste ไมไ่ ด้สง่ เสรมิ แคก่ ารใช้ซ�ำ้ และการรีไซเคิล หากแต่ส่งเสริมเรอ่ื งการปอ้ งกนั ไม่ให้เกิดขยะและการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ค�ำนึงถึงผลกระทบตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ จึงสอดคล้องกับ แนวคิดเศรษฐกิจหมนุ เวียน แตห่ ลักการ zero waste สามารถปรบั ใชใ้ นทุกระดับ ทั้งระดบั ปัจเจกบคุ คล องค์กร ชุมชน ค�ำว่า “zero waste” เป็นการกำ� หนดเปา้ ประสงค์ (goal) ทีต่ ้องการบรรลุ มากกว่าการตงั้ เปา้ หมายทีเ่ ข้มงวด (hard target) หลักการ 3Rs และ Waste Management Hierarchy หลักการ 3Rs (Reduce Reuse Recycle) และแนวคิดการล�ำดับความส�ำคญั ของการจดั การขยะ (Waste Management Hierarchy) เป็นพื้นฐานของนโยบายการจัดการขยะของสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ ปลายทศวรรษท่ี 1980s และปรากฎชดั เจนใน Waste Directive Framework 2006 เน้นย�ำ้ วา่ หน่วยงาน ผ้รู ับผดิ ชอบควรส่งเสริมให้เกดิ การป้องกันมใิ หเ้ กิดขยะตัง้ แตต่ ้น (waste prevention) จากนน้ั จงึ สง่ เสริม ใหเ้ กิดขยะใหน้ อ้ ยทสี่ ดุ (waste minimization) หากมีขยะเกดิ ข้นึ แลว้ กค็ วรส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการใช้ซ้ำ� และ การรไี ซเคลิ สว่ นเศษชนิ้ สว่ นทร่ี ไี ซเคลิ ไมไ่ ดจ้ งึ คอ่ ยนำ� มาแปรรปู เปน็ พลงั งานและสว่ นทเี่ หลอื จากการแปรรปู 87
เปน็ พลังงาน จงึ ค่อยนำ� ไปก�ำจดั (เช่น ฝังกลบ) อย่างเหมาะสม หากภาครฐั ส่งเสรมิ ให้ประชาชนและแหลง่ ก�ำเนิดลดการสร้างขยะและคัดแยกขยะตามแนวคิดนี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปริมาณขยะเหลือทิ้งท่ีส่งไป ก�ำจดั ที่สรา้ งผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมได้ พฒั นาการของแนวคิดและการดำ� เนนิ งานในตา่ งประเทศ แนวคดิ zero waste กอ่ ตงั้ ขน้ึ ในชว่ งทศวรรษ 1990 และมกี ารพดู ถงึ อยา่ งมากในชว่ งปคี .ศ. 1998- 2002 จากการเกดิ ขึ้นของชมุ ชน zero-waste ในประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลก รัฐแคลิฟอรเ์ นียได้มกี ารกำ� หนด เปา้ ประสงค์เรื่อง zero-waste ในปคี .ศ. 1989 ซานฟรานซิสโกไดก้ �ำหนดเปา้ หมายนี้ในปคี .ศ. 2002 ตอ่ มาได้ยกระดับมาเปน็ ข้อบญั ญตั ทิ อ้ งถิ่นว่าด้วยการรไี ซเคิลและท�ำป๋ยุ หมกั ค.ศ.2009 สง่ ผลใหซ้ านฟรานซิ สโกลดการส่งขยะไปกำ� จัดได้ถงึ ร้อยละ 80 ในปีค.ศ. 2010 ในระดับปจั เจกบุคคล Bea Johnson ในแคลฟิ อร์เนียได้เร่มิ ใชช้ วี ิตแบบ zero waste และได้เปิด blog ‘Zero Waste Home’ ในปคี .ศ. 2009 และเขยี นหนังสอื Zero Waste Home ในปีค.ศ. 2013 ตดิ อันดบั หนงั สอื ขายดที ่วั โลก เธอไดป้ รบั เปลยี่ นหลกั การ 3Rs มาเปน็ 5Rs คือ Refuse, Reduce, Reuse, Recycle, Rot เพอ่ื บรรลุเปา้ หมายลดขยะใหเ้ ป็นศูนย์ ต่อมาก็เริ่มมีผทู้ �ำ blog เชน่ Lauren Singer และ เรม่ิ มกี ารเปิดรา้ นขายของไรบ้ รรจภุ ณั ฑ์ (bulk store) ครัง้ แรกในเยอรมนี เมอื ง Kamikatsu เปน็ เมอื งเลก็ ๆ ทม่ี ปี ระชากรประมาณ 2,000 คนในจงั หวดั Tokushima ประเทศ ญีป่ ุ่นเป็นเมอื งแรกในญป่ี นุ่ ด�ำเนนิ นโยบาย zero-waste ในปคี .ศ. 2003 Kamikatsu ประกาศเป้าหมาย ที่จะลดขยะใหเ้ ป็นศูนยภ์ ายในปีค.ศ. 2020 โดยไมพ่ ึง่ การใช้เตาเผาและการฝังกลบ Kamikatsu จัดระบบ แยกขยะอย่างละเอียดมาก โดยให้ประชาชนแยกขยะออกเป็น 45 ประเภท (จากช่วงเริ่มต้นที่แยกเพียง 9 ประเภท) และจะต้องล้างขยะก่อนและน�ำไปส่งยังศูนย์เก็บรวบรวมขยะ โดยเทศบาลไม่มีระบบจัดเก็บ ขยะจากบ้าน สว่ นขยะอินทรีย์ ทกุ บ้านจะจดั การทีบ่ ้านของตนเอง โดยเทศบาลได้อุดหนนุ เคร่ืองแปลงเศษ อาหารเปน็ ปุย๋ ให้กบั ครัวเรอื นตง้ั แตป่ ีค.ศ. 1995 ผลจากการดำ� เนนิ งาน ท�ำให้เมืองประหยัดงบประมาณใน การกำ� จดั ขยะด้วยเตาเผาไปได้ 1 ใน 3 และชุมชนมรี ายไดจ้ ากการรไี ซเคลิ ประมาณ 3 ลา้ นเยน อปุ สรรคใน การบรรลเุ ปา้ หมาย zero-waste 100% ของเมอื ง คอื การทผ่ี ผู้ ลติ บางรายไมย่ อมปรบั เปลย่ี นบรรจภุ ณั ฑใ์ ห้ สามารถรไี ซเคลิ ได้ ทำ� ใหช้ มุ ชนตอ้ งขบั เคลอ่ื นแนวคดิ เศรษฐกจิ หมนุ เวยี นเพอ่ื ใหผ้ ผู้ ลติ ปรบั เปลย่ี นการผลติ และการใชผ้ ลติ ภัณฑแ์ บบใชค้ รง้ั เดียวท้ิง (GAIA, 2019) การขับเคลอื่ น zero waste ในประเทศไทย กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มไดน้ ำ� แนวคดิ zero waste มาใชใ้ นการสง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชนและโรงเรยี น 88
ลดการสร้างขยะและแยกขยะทต่ี ้นทาง เพอ่ื ลดภาระในการก�ำจัดขยะขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน แต่ การสง่ เสรมิ ยงั ทำ� ไดค้ อ่ นขา้ งจำ� กดั อนั เนอื่ งมาจากขอ้ จำ� กดั ดา้ นงบประมาณและลกั ษณะโครงการเชงิ สมคั ร ใจ ยงั มชี ุมชนและโรงเรียนเข้าร่วมโครงการไม่มากนกั นอกจากนี้ ในชว่ ง 3 ปีทีผ่ ่านมา ผ้บู รโิ ภคในเมอื งเริม่ มคี วามตระหนกั ตอ่ ปญั หาขยะและพยายามทจี่ ะลดการสรา้ งขยะ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการเตบิ โตของเครอื ขา่ ย สังคมออนไลน์ เชน่ เครือข่าย Greenery Challenge ท่ีมสี มาชิกกวา่ 45,000 คน (ณ วันท่ี 1 พฤษภาคม 2563) การเกิดขึ้นของร้านค้าปลีกที่จ�ำหน่ายสินค้าไร้บรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ช่วยลดขยะ (zero waste shops และ refill shops) ท้งั แบบทมี่ ีหน้าร้าน (กว่า 40 รา้ นทัว่ ประเทศ) และไม่มหี นา้ รา้ นหรอื ร้านคา้ ออนไลน์ (เชน่ เพจ Rereef, Environman) ทจี่ ะใหข้ อ้ มลู ความรเู้ รอ่ื งการจดั การขยะและสง่ิ แวดลอ้ มควบคู่ ไปกับการขายอุปกรณ์ช่วยลดขยะ เพื่อสร้างความตระหนักและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ ตอ้ งการลดการสร้างขยะ นอกจากน้ี ยังเห็นหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ด�ำเนินนโยบายจัดการขยะท่ีต้นทาง ในส่วนภาค รฐั มีการดำ� เนนิ โครงการ “ท�ำความดีดว้ ยหวั ใจ ลดภัยสิง่ แวดล้อม” ใหห้ นว่ ยงานภาครัฐด�ำเนินมาตรการ ลดขยะพลาสติกและจัดระบบแยกขยะ ภาคเอกชนก็มีโครงการ PPP Plastic กลุม่ บริษัทตลาดหลกั ทรัพย์ ดำ� เนนิ โครงการ Care the Whale ในสว่ นมหาวิทยาลัย กม็ ีการดำ� เนนิ โครงการ zero waste เชน่ Chula Zero Waste ของจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการลดขยะพลาสตกิ ของมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์และ มหาวิทยาลยั มหิดล เปน็ ตน้ ในปลายปี 2562 ข่าวการตายของสัตว์ทะเลจากการกลืนกินขยะพลาสติก โดยเฉพาะมาเรียม พะยนู นอ้ ยทำ� ใหผ้ บู้ รโิ ภคตน่ื ตวั ตอ่ ปญั หาขยะพลาสตกิ และสว่ นใหญใ่ หค้ วามรว่ มมอื ตอ่ มาตรการงดแจกถงุ พลาสติกของห้างคา้ ปลกี และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแตว่ ันที่ 1 มกราคม 2563 เปน็ ตน้ มา อยา่ งไรกด็ ี การขบั เคลอื่ นการลดขยะตามแนวคดิ zero waste (รวมทง้ั แนวคดิ เศรษฐกจิ หมนุ เวยี น) จ�ำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตด้วย ในต่างประเทศ รัฐบาลได้มีการออกกฎหมายที่น�ำหลักการ ความรับผิดชอบท่ีเพ่ิมขึ้นของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) เพ่ือให้ผู้ผลิตมีการ ปรับเปล่ียนการออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมมากขึ้นและมีส่วนร่วมในการจัด ระบบรบั คนื ขยะทตี่ นผลติ ขน้ึ เพอ่ื นำ� ไปจดั การอยา่ งถกู ตอ้ ง อกี ทงั้ หลายประเทศไดอ้ อกกฎหมายใหม้ รี ะบบ มดั จำ� คืนเงนิ บรรจุภัณฑ์เพื่อเพ่ิมแรงจูงใจใหผ้ ู้บริโภคน�ำบรรจุภัณฑท์ ใ่ี ช้แลว้ มาส่งคนื เขา้ ระบบ ชว่ ยลดการ ท้งิ ไม่เป็นท่ีและเพิ่มอัตราการใช้ซ้�ำและการรีไซเคิลบรรจุภัณฑไ์ ด้ ดังนัน้ รฐั บาลไทยควรเร่งผลกั ดนั ให้เกดิ กฎหมายทใี่ หผ้ ผู้ ลติ และทกุ ภาคสว่ นเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการจดั การขยะ มใิ ชห่ นา้ ทขี่ ององคก์ รปกครองทอ้ ง ถน่ิ แต่ฝา่ ยเดยี ว 89
เอกสารอ้างอิง GAIA (2019). Small town, big steps: the story of Kamikatsu, Japan. https://zerowasteworld.org/wp-content/uploads/Japan.pdf UNEP (2015). Global Waste Management Outlook. https://www.unenvironment.org/resources/ report/global-waste-management-outlook Wikipedia: zero waste World Bank (2012). What a waste: A global review of solid waste management. http://hdl.handle.net/10986/17388 Zaman, A.U. (2015). A comprehensive review of the development of zero waste management: lessons learned and guidelines. Journal of Cleaner Production. 91, 12-25. http://dx.doi. org/10.1016/j.jclepro.2014.12.013 สจุ ิตรา วาสนาด�ำรงดี (2563). “วิกฤตขยะพลาสตกิ ในทะเล ปลุกคนไทยลดขยะพลาสติก”. ใน สขุ ภาพคนไทย 2563: สองทศวรรษ ปฏริ ปู การศกึ ษาไทย ความล้มเหลวและความส�ำเรจ็ . สถาบันวจิ ัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหิดล. หน้า 47-52. ข้อมูลกรมควบคมุ มลพษิ อ้างถึงใน https://news.thaipbs.or.th/content/290811 เอกสารประกอบการอา่ นเพม่ิ เตมิ สจุ ติ รา วาสนาดำ� รงดี (2563). “วิกฤตขยะพลาสติกในทะเล ปลกุ คนไทยลดขยะพลาสติก”. ใน สขุ ภาพคนไทย 2563: สองทศวรรษ ปฏริ ปู การศึกษาไทย ความล้มเหลวและความสำ� เร็จ. สถาบนั วิจยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลัยมหิดล. หนา้ 47-52. เวบ็ ไซตแ์ นะนำ� Bea Johnson: Zero Waste Home: https://zerowastehome.com/ Kathryn Kellogg: Going Zero Waste: https://www.goingzerowaste.com/ Lauren Singer: Trash is for Tossers: https://trashisfortossers.com/ Zero Waste International Alliance: http://zwia.org/ Chula Zero Waste: http://www.chulazerowaste.chula.ac.th/ 90
ใบงานท่ี 1 ชอื่ กิจกรรม: ส�ำรวจขยะทเ่ี กิดในชวี ติ ประจ�ำวัน ระยะเวลา ในชั้นเรียน (ไมเ่ กิน 30 นาที) สาระสำ� คญั การจดั การขยะอยา่ งย่งั ยืนมิใชก่ ารแกป้ ัญหาทปี่ ลายทาง (บ่อขยะหรือเตาเผา) หากแตต่ อ้ งแกไ้ ขท่ี ต้นทางตัง้ แต่การบริโภค (มากไปกว่าน้ัน คือตงั้ แตก่ ารผลิต) โดยจะตอ้ งปรบั วิถกี ารใชช้ ีวิตและการบริโภค แบบใหมท่ ่ใี ห้ความสำ� คญั กับการลดการสร้างขยะให้ได้ก่อนหรือปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ ขยะ แต่หากหลกี เลี่ยงไม่ ได้ ก็ให้มกี ารแยกขยะเพ่ือให้มกี ารใช้ประโยชน์จากขยะไดม้ ากขึน้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ • เพ่อื ใหน้ สิ ิตตระหนกั ถงึ ปัญหาขยะอันเปน็ ผลมาจากการบรโิ ภคของตวั เองและทกุ คนในสงั คม • เพือ่ ให้นสิ ิตได้มคี วามคิดวเิ คราะหว์ ่าขยะท่ีเกิดขึ้น ถ้าไม่ทิง้ ลงถงั ขยะ จะจัดการไดอ้ ย่างไร • เพื่อให้อาจารยผ์ สู้ อนไดท้ ราบถงึ ระดบั ความรูเ้ กย่ี วกบั การจัดการขยะของนสิ ติ กอ่ นเข้าสบู่ ทเรียน ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน (ทำ� กจิ กรรมในช้นั เรียน) • ผสู้ อนแจกใบงาน อธบิ ายโจทยห์ รือค�ำถามในใบงาน ประกอบดว้ ย ใน 1 วัน (นึกย้อนไปเมอ่ื วาน) นิสิต ได้บริโภคหรือทำ� กจิ กรรมอะไรบ้าง เกิดเป็นขยะอะไรบา้ ง แล้วจัดการกบั ขยะที่เกดิ ขน้ึ อย่างไร (ทงิ้ ลง ถังอย่างเดียวหรอื มกี ารแยกขยะรไี ซเคลิ หรือแยกขยะไปใชป้ ระโยชน?์ ) • ให้เวลานิสติ ทำ� ใบงาน ประมาณ 10-15 นาที โดยการเขยี นและอาจมีการวาดรปู ประกอบ • ผู้สอนสุ่มเลอื กนิสติ 2 – 3 คน คละชายหญงิ และคณะ นำ� เสนอส่งิ ทเ่ี ขยี น • ผสู้ อนชวนใหน้ สิ ติ ตง้ั คำ� ถามเกย่ี วกับขยะ • ขยะทีเ่ ราท้งิ ไป ไปจบที่ตรงไหน? • ขยะที่เราท้งิ ไปส่งผลอยา่ งไรต่อส่งิ แวดล้อมหรอื แม้แต่สขุ ภาพของเราเอง • เปน็ ไปไดห้ รอื ไมท่ ่ีเราจะไม่ทำ� ใหเ้ กดิ ขยะตั้งแต่ตน้ (โยงเขา้ แนวคดิ zero waste/waste prevention) • เราจะนำ� สงิ่ ท่เี ราคดิ วา่ ไม่ต้องการแลว้ มาใชป้ ระโยชน์เพิ่มเติมได้อยา่ งไร (waste utilization) • สรปุ ประเดน็ ว่า เนือ้ หาทจี่ ะสอนในสองคาบต่อไปน้จี ะใหน้ สิ ติ ไดเ้ รียนร้แู ละตอบค�ำถามดงั กล่าว การประเมินผล ผู้สอนวัดและประเมินจากสิ่งที่นิสิตเขียนในใบงานว่าได้มีการเขียนค�ำตอบหรือบรรยายอย่าง ครบถว้ นหรอื ไม่ 91
ใบงานที่ 1 วิชา................................................................ กิจกรรมสํารวจขยะทเี่ กดิ ขนึ้ ในชวี ิตประจําวนั รหสั วิชา......................................................... ชือ่ - สกลุ ........................................................................ รหสั ...................................................... “เมือ่ วาน... นกึ ยอ นไปเมอื่ วานจนถึงเชาน้ี... นสิ ติ ไดบริโภคอะไรไปบา ง เกิดเปนขยะอะไรบา ง นอ งทานอะไร” ของคาว ของหวาน เครื่องดมื่ เกดิ เปนขยะอะไร เกิดเปน ขยะอะไร เกดิ เปนขยะอะไร แลว จัดการกบั ขยะทเี่ กิดขน้ึ อยา งไร แลว จัดการกบั ขยะทเ่ี กดิ ข้นึ อยา งไร แลว จดั การกบั ขยะทเ่ี กิดขึ้นอยางไร นนึกตออ อกกี นจดิ .า.. กนั้น ยงั ทาํ กิจกรรมอ่นื ๆ อีกไหม ทที่ ําไปแลว เกดิ ขยะข้ึน แลวทําอยางไร แคท ้งิ ลงถงั ไหนก็ไมรู หรือ... บลา บลา บลา เลาใหฟง ที 92
Module 3 (4): How to Reduce and Separate Waste แนวทางการลดและคดั แยกขยะ ช่ือบทหรือโมดลู แนวทางการลดและคดั แยกขยะ (How to Reduce and Separate Waste) ผลลพั ธ์การเรียนรู้ นสิ ติ ทราบถงึ แนวทางการลดขยะและแยกขยะตามแนวคิด zero waste ในระดบั บคุ คลและระดบั องคก์ ร เพอ่ื เปน็ แนวทางในการปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั และจดุ ประกายการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมลดขยะให้ กับสังคม สาระสำ� คัญ บทนม้ี งุ่ สรา้ งความตระหนกั และความเขา้ ใจเกยี่ วกบั แนวทางการจดั การขยะอยา่ งยง่ั ยนื ดว้ ยแนวคดิ zero waste และเรยี นร้ปู ระสบการณ์ ตวั อยา่ งมหาวทิ ยาลยั บคุ คล รา้ นค้า องค์กรท่พี ยายามลดขยะใหไ้ ด้ มากทสี่ ดุ เพอ่ื ลดผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื ทจี่ ะนำ� ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั และสรา้ งการเปลยี่ นแปลง ในองค์กรหรือชมุ ชน เนื้อหาสาระ 1. ทบทวนแนวคิด zero waste 2. ตวั อยา่ ง Chula Zero Waste 3. แนวทางการลดขยะ –นวตั กรรมลดขยะ 4. แนวทางการแยกขยะและการใชป้ ระโยชน์ 93
กิจกรรมการเรียนการสอน หัวข้อ จ�ำนวน กจิ กรรม การวดั ผล ส่ือการสอนท่ใี ช้ นาทที ีใ่ ช้ หรอื เทคนคิ การสอน และประเมนิ ผล ทบทวนแนวคดิ zero สไลด์ประกอบการ waste สอน บรรยาย การตอบในช้นั บรรยายและ เรียน คลปิ วิดีโอ 5 สไลด์ประกอบการ บรรยาย ตัวอย่าง Chula Zero 15 บรรยาย สไลดป์ ระกอบการ บรรยาย Waste บรรยาย แนวทางการลดขยะ – 30 นวัตกรรมลดขยะ แนวทางการแยกขยะและ 30 บรรยายและเปดิ สไลดป์ ระกอบการ ใช้ประโยชน์ วิดีโอประกอบ บรรยาย zero waste ตามแบบฉบับ ถาม-ตอบและแลก ของนสิ ติ 25 เปลยี่ นความคิด เห็น สรุปบทเรียน แบบทดสอบ ท�ำแบบทดสอบ 15 ใบงาน (การบ้าน) โดย Kahoot/ google form หลงั เรียน งานมอบหมาย ใบงานท่ี 2 (ดทู า้ ยบท) 94
เมือ่ ทกุ ท่านเขียนแต่ละโมดูลของตนเองมาแลว้ แต่ละโมดลู จะมาสรปุ เปน็ ตารางดงั กลา่ วน้ีเพอื่ ให้ เหน็ ภาพรวมของรายวิชาทงั้ หมด ชื่อบท/ จำ� นวนชมทใ่ี ช้ CLO วิธีการจดั การ การวดั ผลและ ส่อื ท่ีใช้ หรือชอื่ โมดลู สอน เรยี นการสอน ประเมินผล CLO ที่ 1 บรรยาย สไลดป์ ระกอบ บรรยาย เปิด การบรรยาย VDO CLO ที่ 2 สไลดป์ ระกอบ ถามตอบ แลกเปล่ียน การบรรยาย ความเห็น และ VDO CLO ท่ี 3 ระดบั การมี สไลด์ประกอบ 1 ครัง้ : 2 ชม. แนวทาง สว่ นร่วมในช้นั การบรรยาย การลดและ คดั แยกขยะ เรียนและการ สง่ งานทมี่ อบ หมาย ทำ� แบบทดสอบ โดย Kahoot หลงั เรยี น (หรอื google form) เนอ้ื หาการบรรยาย 1. ตัวอยา่ ง Chula Zero Waste Chula Zero Waste เป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปีว่าด้วยการจัดระบบการจัดการขยะมูลฝอยใน จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มรี ะยะเวลาดำ� เนนิ งานตง้ั แตป่ งี บประมาณ 2560 – 2564 มหี นว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ หลกั ไดแ้ ก่ สถาบันวจิ ัยสภาวะแวดล้อมและส�ำนกั บริหารระบบกายภาพ โครงการได้ตงั้ เปา้ หมาย 2 ส่วน 1) ลดปรมิ าณขยะเหลอื ทง้ิ ท่ีเกิดข้นี ในมหาวิทยาลยั ณ สิ้นปีที่ 5 ของแผนฯ ใหไ้ ด้รอ้ ยละ 30 เมอ่ื เทียบกับ ปรมิ าณทเ่ี กิดข้ึนในปงี บประมาณ 2561 2) คา่ นิยมและวัฒนธรรมองคก์ ร zero waste เพอ่ื ท่จี ะบรรลเุ ปา้ หมายดังกลา่ ว โครงการฯ ได้ดำ� เนนิ โครงการย่อยภายใต้ 6 แผนงานที่สอดคล้องกบั แนวคิด zero waste และ waste management hierarchy โดยมงุ่ ไปที่การจดั ระบบบริหารจดั การและสรา้ งสภาพแวดล้อม ให้เอ้ือต่อการปรับพฤติกรรมในการลดขยะและแยกขยะ เช่น การให้ร้านค้างดแจกถุงพลาสติกฟรีเพ่ือให้ 95
ผบู้ รโิ ภคพกถงุ ผา้ หรอื ถงุ ทใี่ ชซ้ ำ้� ไดม้ าซอื้ ของ การเพม่ิ ตกู้ ดนำ้� ตามโรงอาหารและอาคารเรยี นอยา่ งทว่ั ถงึ เพอ่ื ใหน้ สิ ิตและบุคลากรพกกระบอกนำ�้ มาเติมน�้ำเพ่ือลดการซื้อน�้ำดมื่ บรรจุขวดพลาสตกิ การขอให้ร้านกาแฟ ทกุ รา้ นใหส้ ว่ นลดลกู คา้ ทน่ี ำ� แกว้ สว่ นตวั ไปซอ้ื การจดั ระบบลดและคดั แยกขยะในสำ� นกั งาน (Green office) ของคณะและสว่ นงานต่างๆ ฯลฯ นอกจากนี้ โครงการฯ ยงั ไดจ้ ดั ระบบรองรบั การแยกขยะประเภทตา่ ง ๆ นอกเหนอื จากขยะรไี ซเคลิ แลว้ ยงั มกี ารจดั ระบบเกบ็ รวบรวมขยะทรี่ ไี ซเคลิ ไมไ่ ด้ เชน่ ภาชนะพลาสตกิ หลอดพลาสตกิ กระดาษเคลอื บ พลาสตกิ ฯลฯ ไปเปน็ พลงั งานทดแทนการใชถ้ า่ นหนิ ของโรงปนู ซเี มนตต์ ามแนวคดิ Energy Recovery รวม ท้งั ยงั ไดต้ ง้ั จุดรบั คนื ขยะบางประเภทเพิม่ เติม ไดแ้ ก่ กลอ่ ง UHT (ส่งตอ่ ใหบ้ รษิ ทั ไปท�ำโตะ๊ เกา้ อ้นี กั เรียน) ถงุ พลาสตกิ PE (ส่งต่อใหโ้ ครงการวนไปรีไซเคลิ ) ฝาขวดพลาสตกิ HDPE (สง่ ให้บรษิ ทั นำ� ไปท�ำผลติ ภณั ฑ์ upcycling) เปน็ ต้น ในส่วนขยะอันตราย โครงการฯ ได้จดั ท�ำถงั ขยะเฉพาะรองรับขยะอันตรายจ�ำพวกถ่านไฟฉายและ อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สข์ นาดเลก็ และจดั ทำ� ถงั รบั ทง้ิ ขยะตดิ เชอ้ื จำ� พวกหนา้ กากอนามยั ทใ่ี ชแ้ ลว้ อกี ดว้ ย โดย มีการส่งต่อไปยงั กรุงเทพมหานครเพื่อกำ� จดั อย่างปลอดภยั และโรงงานรไี ซเคลิ ขยะอิเลก็ ทรอนิกส์ สว่ นขยะเศษอาหาร นอกจากการรณรงคส์ งั่ แตพ่ อด-ี ทานขา้ วใหห้ มดจานแลว้ เศษอาหารทที่ านเหลอื สง่ ตอ่ ใหเ้ กษตรกรน�ำไปเลี้ยงสัตว์ สว่ นเศษอาหารหลงั ครวั ในโรงอาหารรวมถึงเศษผกั ผลไมท้ ีต่ ลาดสามย่านจะมี การรวบรวมและนำ� ไปเข้าเคร่ืองแปลงเศษอาหารเปน็ สารปรบั ปรงุ ดิน (bio-digester) สว่ นกากกาแฟจาก รา้ นกาแฟจะมกี ารเกบ็ รวบรวม น�ำไปผึ่งแดดก่อนสง่ ต่อให้เกษตรกรน�ำไปผสมในโรงปยุ๋ หมักตอ่ ไป นอกจากการจัดระบบบริหารจัดการขยะในมหาวิทยาลัยแล้ว โครงการฯ ได้มีการท�ำงานร่วม กับโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถมและฝ่ายมัธยมให้มีนโยบายและแผนงาน zero-waste ท่ีชัดเจน สอดคลอ้ งกบั มหาวทิ ยาลยั เพอื่ ทจ่ี ะปลกู ฝงั จติ สำ� นกึ ใหก้ บั เดก็ นกั เรยี นตงั้ แตว่ ยั เยาวต์ อ่ เนอื่ งไปจนถงึ ระดบั มหาวทิ ยาลัย ในปีที่ 4 โครงการฯ ไดเ้ ร่ิมขยายกจิ กรรมสร้างเครอื ขา่ ย zero-waste school ไปยังโรงเรยี น รอบมหาวิทยาลัย รวมทั้งผลักดันเชิงนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายและแผนงานขับเคล่ือน zero-waste school ท่ีชัดเจนและต่อเนอื่ งอกี ดว้ ย ปญั หาอปุ สรรคส�ำคญั ของการขับเคลือ่ นโครงการ Chula Zero Waste คือ คณะและสว่ นงานบาง สว่ นยงั มไิ ดม้ มี าตรการในการลดและคดั แยกขยะอยา่ งจรงิ จงั ทำ� ใหโ้ ครงการฯ ยงั ไมส่ ามารถบรรลเุ ปา้ หมาย ที่ตั้งไว้ได้ แต่อย่างน้อยสามารถผลักดันให้เกิดค่านิยมองค์กรที่คำ� นึงถึงการลดขยะและพัฒนาให้มีระบบ บริหารจดั การขยะทช่ี ว่ ยใหห้ น่วยงานกลางของมหาวิทยาลยั น่นั คือ ส�ำนักบริหารระบบกายภาพสามารถ ขบั เคลอื่ นงานได้ตอ่ ไป 96
2. แนวทางการลดขยะ แนวคิด zero waste ให้ความส�ำคัญกับการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันไม่ให้เกิดขยะต้ังแต่ต้นซ่ึงควร ท�ำใหไ้ ด้ก่อน ถา้ ไม่ได้ ให้ลองน�ำมาใชซ้ ำ�้ กอ่ นท่จี ะไปรีไซเคิล 2.1 แนวทางการลดขยะระดับบคุ คล วิธีลดขยะพลาสตกิ : คดิ ก่อนซอื้ , พกอุปกรณ์สว่ นตวั เวลาไปซื้อของ ไดแ้ ก่ ถุงผ้า/ถงุ ใชซ้ �้ำได้ แก้ว หรอื กระบอกนำ�้ ส่วนตวั กลอ่ งอาหารหรือปน่ิ โต เปน็ ตน้ วธิ ลี ดขยะอาหาร: วางแผนการซือ้ วตั ถุดิบ ซ้ือในปรมิ าณท่พี อเหมาะ เชค็ วันหมดอายุ ทำ� อาหารให้เหมาะ กบั จำ� นวนคน ศกึ ษาการถนอมอาหารในรปู แบบตา่ งๆ ทานขา้ วใหห้ มดจาน หากมอี าหารสว่ นเกนิ ควรแจก จา่ ยให้กับผู้ยากไร ้ สว่ นทเ่ี หลอื น�ำไปเลีย้ งสตั ว์ ทำ� ป๋ยุ หมกั น้�ำหมักชีวภาพ เลยี้ งไสเ้ ดือน เป็นตน้ 2.2 สำ� รวจรา้ นรฟี ลิ หรอื ร้านไร้บรรจุภัณฑ์ (Refill/Bulk store) ใกลบ้ า้ น หนทางหนึ่งในการลดขยะบรรจุภัณฑ์ คือ การน�ำขวดหรือบรรจุภัณฑ์เก่าท่ีบ้านไปเติมผลิตภัณฑ์ ใหม่ เชน่ น้ำ� ยาล้างจาน น�้ำยาซกั ผ้า โลช่ัน หรอื แม้แตอ่ าหารและวตั ถุดิบต่างๆ ท่รี า้ นรฟี ลิ หรือรา้ นไรบ้ รรจุ ภัณฑ์ ตัวอย่างร้านรีฟลิ ดูใน https://www.wongnai.com/beauty-tips/refill-station-in-bkk\\ 2.3 นวัตกรรมลดขยะ เช่น นวัตกรรมลดขยะพลาสติกด้วยวัสดุทดแทน ผผู้ ลติ นบั เปน็ ตน้ ทางของผลติ ภณั ฑซ์ ง่ึ สามารถปรบั ปรงุ การออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ หล้ ดการเกดิ ขยะได้ ตัวอย่างของผลิตภณั ฑท์ ี่ไมส่ ร้างขยะ เชน่ ยาสฟี ันแบบเม็ด ท่สี ามารถน�ำขวดแก้วกลับมาเติมใหม่ได้ หรือ นำ�้ ด่ืมบรรจขุ วดพลาสตกิ ท่ีทำ� จากพลาสติกรไี ซเคิลและไมม่ ีฉลาก (ที่เป็น PVC) เปน็ ต้น ภาพท่ี 1 ตัวอย่างผลติ ภณั ฑ์ท่ลี ดการสร้างขยะพลาสตกิ ทีม่ า: https://adaymagazine.com/cheww-co-toothpaste/ https://www.dezeen.com/2020/07/21/evian-label-free-water-bottle-recycled-plastic/ 97
นอกจากนวัตกรรมลดขยะที่ริเริ่มโดยผู้ผลิต นิสิตนักศึกษาสามารถคิดค้นนวัตกรรมในการจัดการ ขยะได้เช่นกัน อาจารย์ผู้สอนอาจเสนอให้มหาวิทยาลัยร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมนวัตกรรม โดยนสิ ติ นักศกึ ษา เช่น การประกวดนวตั กรรมการจดั การขยะในระดบั มหาวิทยาลยั เปน็ ตน้ 2.4 พลาสตกิ ชีวภาพชว่ ยแก้ปญั หาขยะพลาสตกิ ไดห้ รือไม่ –ระวังพลาสติก Oxo พลาสตกิ ชวี ภาพ (Bio-plastic) หรือพลาสตกิ ย่อยสลายไดท้ างชีวภาพ (Biodegradable plastic) หมายถงึ พลาสตกิ ทยี่ อ่ ยสลายไดโ้ ดยจลุ นิ ทรยี ห์ รอื สง่ิ มชี วี ติ โดยสามารถเกดิ การยอ่ ยไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ (เกดิ นำ�้ คารบ์ อนไดออกไซดห์ รอื มเี ทนและชวี มวล) หากอยภู่ ายใตส้ ภาวะทเ่ี หมาะสม กลา่ วคอื มจี ลุ นิ ทรยี ์ ความชนื้ และความร้อนที่เหมาะสม แต่นิยามนี้ไม่ได้มีเง่ือนไขของเวลามาเก่ียวข้องจึงครอบคลุมพลาสติกจ�ำนวน มากทีอ่ าจใชเ้ วลายอ่ ยสลายหลายสิบปีหรือรอ้ ยปไี ม่ต่างจากพลาสติกทว่ั ไป เพอื่ ไมใ่ หเ้ กิดความสบั สน จงึ มีการก�ำหนดนิยามขึ้นใหม่ที่ก�ำหนดเงื่อนไขระยะเวลาย่อยสลายไว้ด้วย ใช้ค�ำว่า “พลาสติกย่อยสลายได้ ทางชีวภาพโดยการหมักแบบใชอ้ อกซิเจน” (Compostable plastic) ซ่ึงพลาสติกชนิดน้ีจะสลายตัวทาง ชวี ภาพในสภาวะควบคมุ ในการหมกั ปยุ๋ ระดับอุตสาหกรรม เชน่ PLA หรอื หมักปุ๋ยแบบครวั เรอื น เช่น PBS โดยพลาสตกิ กลุ่มน้ีจะตอ้ งไดร้ ับการรับรองตามมาตรฐานสากล ได้แก่ ISO 17088 หรือ EN13432 หรือ ASTM6400 หากมิใช่มาตรฐานเหล่านี้ ผู้บริโภคควรระวังว่าอาจเป็นพลาสติกชนิดออกโซ (Oxo-degradable plastic) ซ่ึงเป็นพลาสติกที่ผู้ผลิตเติมสารเติมแต่งเพ่ือเร่งให้พลาสติกแตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ เร็วขึ้นแต่ตัว พลาสตกิ นน้ั ยงั มคี ณุ สมบตั ทิ ย่ี อ่ ยสลายยากและกลายเปน็ ไมโครพลาสตกิ ตกคา้ งในสง่ิ แวดลอ้ ม ทำ� ใหป้ ระเทศ ตา่ งๆ เริ่มออกกฎหมายแบนการใชพ้ ลาสติก oxo แล้ว เช่น สหภาพยุโรป ประเทศไทยได้ประกาศแบนการ ใชเ้ ชน่ กนั ตงั้ แตป่ พี .ศ. 2562 แตย่ งั ไมม่ กี ฎหมายรองรบั ทำ� ใหย้ งั มกี ารผลติ และจำ� หนา่ ยพลาสตกิ oxo อยโู่ ดย ผผู้ ลติ บางสว่ นจะมไิ ดร้ ะบชุ ดั เจนวา่ เปน็ พลาสตกิ oxo ดว้ ยเหตนุ ้ี ผบู้ รโิ ภคจงึ ควรระมดั ระวงั ในการเลอื กซอ้ื และเลือกใช้พลาสตกิ ดงั กลา่ วโดยควรตรวจสอบเลขมาตรฐานของพลาสตกิ ชวี ภาพดว้ ย (รายละเอียดเพ่ิม เติมดูใน ศภุ กิจ สทุ ธเิ รอื งวงศ์และสุจติ รา วาสนาด�ำรงด,ี 2562) ทั้งนี้ พลาสติกชีวภาพเป็นเพียงทางเลือกหน่ึงของการลดขยะพลาสติกซ่ึงเหมาะสมกับกรณีที่ต้อง พึ่งพาคุณสมบตั ิของพลาสตกิ อยู่ เชน่ กนั น�ำ้ กนั อากาศ และเป็นประเภททไี่ มส่ ามารถนำ� ไปรีไซเคลิ ไดใ้ น ปัจจบุ นั หรือไม่มีทางเลอื กอ่ืนทเ่ี หมาะสม เชน่ พลาสตกิ หอ่ หุ้มอาหาร ถงุ ขยะใสเ่ ศษอาหาร หลอดดูด ซงึ่ ควรมีการจัดระบบรองรับและจัดการพลาสติกชีวภาพด้วย แต่หากเป็นถุงพลาสติกหูหิ้วหรือขวดพลาสติก การใช้พลาสติกชีวภาพอาจไม่เหมาะสมเน่ืองจากจะกระทบกับกระบวนการรีไซเคิลพลาสติกได้และไม่มี ความจ�ำเปน็ ท่ีต้องใช้ หากเราปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมในการพกถุงผา้ หรือถุงใชซ้ ำ�้ ไดห้ รือพกกระบอกน้�ำ 98
สรุปเรื่องพลาสติกชีวภาพ เราควรใช้เท่าท่ีจำ� เป็น ถ้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ ต้องมีระบบแยกทิ้ง เฉพาะและมปี ลายทางทเ่ี ปน็ โรงปยุ๋ หมัก 3. แนวทางการแยกขยะ หลกั การพนื้ ฐาน: อยา่ งนอ้ ย ใหแ้ ยกเศษอาหารออกจากขยะประเภทอน่ื ไมใ่ หข้ ยะปนเปอ้ื น สกปรก เนา่ เหม็น จากนั้นค่อยจดั การขยะท่แี ยกออกมาตามประเภท ส่วนขยะเศษอาหาร ให้ลองดูทางเลอื กในการ จดั การ เชน่ นำ� ไปทำ� ปุ๋ยหมัก เป็นต้น ตอนน้ี เริม่ มีอปุ กรณช์ ว่ ยคนเมอื งท�ำปุย๋ หมักแบบง่ายๆ ไม่เปลืองที่ เชน่ ถงั ดินเผาปน้ั ปุ๋ยของ “ผกั Done” ผสู้ อนเปดิ คลปิ วดิ โี อ: คำ� สาปจากนอ้ งเอ้ (แยกถงั สอง ใหข้ องไปเกดิ ใหม่ โดย Coca-Cola Thailand) https://youtu.be/LD7mSlDGqjM เพอ่ื ใหน้ สิ ติ เข้าใจมากขึน้ บรรจุภัณฑ์: ลา้ งหรอื กล้ัวนำ�้ ผ่งึ ให้แหง้ แยกตามประเภทวสั ดุ (พลาสตกิ กระดาษ อลูมีเนยี ม เหลก็ ) และ ประเภทพลาสตกิ : PET (ขวดน้ำ� ), PP (กลอ่ ง, ถาด, ถงุ ), HDPE (ขวดนม, ฝาขวด,ถุง), LDPE (ถุง แก้ว กลอ่ ง), PS (แก้วนำ�้ ), PVC (ทอ่ , แผ่น, ฉลากขวด) สามารถศกึ ษาแนวทางแยกขยะเพ่มิ เตมิ ได้ที่ Facebook ลงุ ซาเล้งกบั ขยะทห่ี ายไป ผสู้ อนเปดิ คลปิ วดิ โี อ: กระบวนการ “วน” อธบิ ายตวั อยา่ งพลาสตกิ ทรี่ ไี ซเคลิ ได ้ https://youtu.be/HI2D- fibFl5w เพอื่ ใหเ้ ข้าใจกระบวนการรไี ซเคลิ ถุงพลาสตกิ ประเภท PE 4. แนวทางการลดและแยกขยะจากการส่งั อาหารออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้นปี 2563 ท่ีมีมาตรการล็อคดาวน์ให้ ประชาชนอยู่บ้าน ปิดห้างร้าน ห้ามทานท่ีร้านอาหาร ส่งผลให้ประชาชนส่ังอาหารออนไลน์หรือเดลิเวอร่ี มากขึ้นถึง 3 เท่าน สง่ ผลให้ขยะพลาสตกิ เพม่ิ ขึ้นจากช่วงกอ่ นหน้าถึง 15% ถึงแม้สถานการณจ์ ะคลค่ี ลาย เราไดก้ ลับไปใชช้ วี ติ นอกบ้านมากขน้ึ ได้ไปทานอาหารท่รี ้านได้ แต่ก็ปฏเิ สธไม่ได้ว่าการส่ังอาหารเดลิเวอรี่ กลายเป็นสิ่งที่เป็นปกติไปแล้วในชีวิตของคนเมือง ท�ำให้มีขยะจากการส่ังของและสั่งอาหารเดลิเวอรี่เพิ่ม มากขนึ้ เป็นหลายเทา่ ตัว ดังน้ัน การจดั การกับขยะที่เราสรา้ งจึงมีความสำ� คญั มาก เพราะเมอ่ื มกี ารจดั การ ที่ดี มีการแยกขยะใหถ้ กู ตอ้ ง ก็จะทำ� ให้ขยะเหลา่ น้นั มโี อกาสทจ่ี ะถูกน�ำไปรีไซเคลิ วธิ กี ารจดั การตามแนวทาง zero waste ใหเ้ รม่ิ จากการคดิ กอ่ นวา่ เราจำ� เปน็ ตอ้ งสง่ั อาหารออนไลน์ หรอื ไม่ สามารถเดนิ ไปทานทโ่ี รงอาหารหรอื รา้ นอาหารใกลบ้ า้ นหรอื ใกลท้ เ่ี รยี นไดห้ รอื ไม่ จะไดไ้ มต่ อ้ งสรา้ ง ขยะบรรจุภัณฑ์ขึ้น ถ้าเล่ียงไม่ได้ ต้องสั่งออนไลน์ ก็ให้เลือกไม่รับส่ิงท่ีไม่จ�ำเป็น เช่น ช้อนส้อมพลาสติก เครอื่ งปรงุ ตา่ งๆ ส่วนกล่องอาหารพลาสตกิ ประเภท PP รไี ซเคิลได้กน็ �ำมากลั้วน�ำ้ ท�ำความสะอาดแลว้ แยก 99
ใสถ่ งุ ตา่ งหากสง่ ใหพ้ นกั งานเกบ็ ขยะหรอื นำ� ไปขายใหร้ า้ นรบั ซอ้ื ของเกา่ หรอื นำ� ไปสง่ ตามจดุ รบั รไี ซเคลิ ของ ภาครฐั หรอื ภาคเอกชน สว่ นกลอ่ งอาหารพลาสตกิ ทรี่ ไี ซเคลิ ไมไ่ ดห้ รอื ขยะพลาสตกิ ใหก้ ลว้ั นำ้� แยกใสถ่ งุ สง่ ให้ กบั โครงการทรี่ บั ขยะกำ� พรา้ ไปจดั การ เชน่ นำ� ไปเปน็ พลงั งานทโ่ี รงปนู ซเี มนต์ นำ� ไปบดผสมทำ� ถนน เปน็ ตน้ รายละเอียดเพิ่มเตมิ ดูใน Facebook ลงุ ซาเลง้ กับขยะทีห่ ายไป https://www.facebook.com/3WheelsUncle/posts/762254494523325/ หรอื Facebook Environman https://www.facebook.com/1523107561151019/ posts/2934802326648195/ เอกสารอา้ งอิง SCG (2563). ถอดบทเรยี น “การจัดการขยะ” ตามหลกั เศรษฐกจิ หมุนเวียน: CHULA Zero Waste, https://www.scg.com/sustainability/circular-economy/knowledge/knowledge_detail/48 เอกสารประกอบการอ่านเพ่ิมเตมิ ศภุ กิจ สทุ ธเิ รืองวงศแ์ ละสจุ ิตรา วาสนาดำ� รงดี (2562). ขอ้ เทจ็ จรงิ “พลาสติกทยี่ ่อยสลายได้ในสงิ่ แวดลอ้ มธรรมชาติ” (Environmentally Degradable Plastics: EDP). วารสารส่ิงแวดล้อม. ปีท่ี 23 (ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน). http://www.ej.eric.chula.ac.th/content/6114/176 เวบ็ ไซตแ์ นะน�ำ Chula Zero Waste: http://www.chulazerowaste.chula.ac.th/ 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205