แผนการจัดการเรียนรู้

ชุดแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาการคำนวณ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ นาย ฐานทพั ศธิ รกุล

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่3 คำอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ว 23181 รายวิชาวทิ ยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท1ี่ เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน ศกึ ษาเกย่ี วกับการจัดการขอ้ มูลสาระสนเทศการใช้ซอฟตแ์ วร์ในการจดั ฐานข้อมูลและสารสนเทศ ศกึ ษาเกยี่ วกบั การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู การรเู้ ท่าทนั สือ่ ศึกษาเก่ียวกบั การใช้เทคโนโลยีสาระ สนเทศและกฎหมายคอมพิวเตอรศ์ ึกษาเกยี่ วกบั แอพพลิเคชน่ั เทคโนโลยี lot และการพฒั นาแอพพลเิ คช่นั โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นใหผ้ ูเ้ รียนไดล้ งมือปฏิบัตฝิ ึกทกั ษะการคิดเปอรเ์ ซ็นต์สถานการณ์ แก้ไขปญั หาป้องกนั การเรียนรู้ตรวจสอบการเรียนรู้และสร้างองค์ความรใู้ หมด่ ว้ ยตนเองผา่ นกระบวนการคดิ และปฏบิ ัติ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจมีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวนการคดิ วเิ คราะหก์ ารแกไ้ ขปัญหาเป็น ขัน้ ตอนและเปน็ ระบบมที กั ษะในการใช้เทคโนโลยีสาระสนเทศรกั ษาขอ้ มูลส่วนตัวและการส่ือสารเบ้ืองต้นใน การแกไ้ ขปญั หาทีพ่ บในชวี ิตจริงไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพตลอดจนนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละ นำเทคโนโลยใี หม่ท่ีเกิดขนึ้ ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมและการดำรงชวี ติ จะสามารถพฒั นากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทกั ษะในการส่ือสารความสามารถในการตัดสนิ ใจ และเป็นผ้มู จี ิตวิทยาศาสตรม์ ีคณุ ธรรมจริยธรรมค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์ ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ว.4.2 ม.3/1 พัฒนาแอปพลิเคชันทีม่ ีการบรู ณาการกับวชิ าอน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ ว.4.2 ม.3/2 รวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศตาม วตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลาย ว.4.2 ม.3/3 ประเมินความนา่ เชื่อถือของข้อมลู วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการใหข้ ่าวสารที่ผิด เพ่อื การใชง้ านอย่างรู้เทา่ ทนั ว.4.2 ม.3/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คมปฏิบัติตาม กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ใช้ลิขสทิ ธขิ์ องผอู้ ืน่ โดยชอบธรรม รวมทง้ั หมด 4 ตวั ชว้ี ดั

โครงสร้างวิชาวิทยาการคำนวน ม.3 มาตรฐาน ลำดบั ท่ี ช่ือหน่วยการ การเรียนรู้/ สาระสำคญั ชิ้นงาน เวลา นำ้ หนัก เรียนรู้ ตวั ชีว้ ัด (ชั่วโมง) (คะแนน) 1 การจัดการ ว 4.2 ม3/2 การรวบรวมขอ้ มลู เป็นข้ันตอนทีส่ ำคญั ทส่ี ุดของ ใบงานท่ี1 6 20 ข้อมลู และ การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ ดังนน้ั ควรมีความ เรอ่ื งอาชีพ สารสนเทศ เข้าใจเกีย่ วกบั ลักษณะและประเภทของข้อมลู ในอนาคต ตลอดจนวธิ ีการรวบรวมข้อมลู เพ่ือจะไดน้ ำไป ใบงานท่ี1 ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสมกับงานของ เร่อื ตน หากพจิ ารณาถึงประเภทของขอ้ มลู สามารถแบ่งได้ ประเภท เปน็ 2 กลมุ่ ตามแหลง่ ทมี่ าของข้อมลู ได้แก่ ข้อมูลปฐม ของการ ภูมิและขอ้ มูลทุตยิ ภมู ิ ประมวลผ การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศมกี ารนำ ลข้อมูล ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาชว่ ยในการจดั การขอ้ มูล โดยมีทัง้ ซอฟต์แวร์ท่ใี ช้ในการรวบรวมขอ้ มลู ซอฟต์แวร์ที่ใช้ใน การประมวลผลข้อมูล และซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในการ นำเสนอข้อมูล เพ่ือการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2 ความ ว 4.2 ม3/3 การสืบค้นแหล่งข้อมลู เป็นกระบวนการคน้ หา ใบงานที่2 6 20 นา่ เชื่อถอื ของ ขอ้ มูลทีต่ อ้ งการ โดยใชเ้ ครอื่ งมอื ตา่ ง ๆ แบ่งออกเปน็ 2 เรอื่ งคำ ข้อมลู ประเภท ดงั น้ี1. การสบื ค้นข้อมลู ดว้ ยมอื คือ การ ไหนเร็ว สบื ค้นขอ้ มูลดว้ ยเอกสาร หนงั สือ ตำรา เป็นตน้ 2การ กวา่ กัน สบื ค้นขอ้ มลู ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ คือ การสืบค้น ใบงานที1่ ข้อมูลผ่านเทคโนโลยีหรืออปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ การสืบค้น การรูเ้ ท่าทนั ส่ือเปน็ ลกั ษณะสมรรถนะท่คี รอบคลมุ ขอ้ มูลด้วย ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ในส่วนทเ่ี ก่ียวข้องกบั อินเทอรเ์ น็ ความสามารถในการเข้าถงึ สารสนเทศผา่ นส่ือ และ ต เทคโนโลยีดิจิทัล การเลอื ก รบั วเิ คราะหป์ ระเมนิ ใบงานที่1 และน าข้อมูลที่ไดร้ บั ไปใชใ้ นทางสรา้ งสรรคโ์ ดย เรอื่ งการ ประเมนิ ความ น่าเช่อื ถือ ของข้อมูล

โครงสรา้ งวชิ าวทิ ยาการคำนวน ม.3 มาตรฐาน ลำดบั ที่ ช่ือหน่วยการ การเรียนรู้/ สาระสำคัญ ช้นิ งาน เวลา น้ำหนัก 3 เรียนรู้ (ชว่ั โมง) (คะแนน) ตัวชีว้ ัด เทคโนโลยี 4 10 สารสนเทศ ว 4.2 ม3/4 การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศโดยคำนึงถึง ใบงานที่1 ความปลอดภัยในการใชง้ าน เช่น การทำธรุ กรรม ลักษณะ ออนไลน์ การซอ้ื สนิ คา้ ออนไลน์ และการใชง้ าน การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมีจิตสำนึก และจรยิ ธรรมท่ี เทคโนโลยี ดี คำนงึ ผลกระทบที่อาจสง่ ผลตอ่ ผอู้ น่ื สาระ กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกับการใช้งานเทคโนโลยี สนเทศ สาระสนเทศหลายฉบับเช่นพระราชบัญญตั วิ ่าด้วยการ อย่าง กระทำความผดิ เกย่ี วกับคอมพิวเตอรพ์ ระราชบัญญัติ ปลอดภยั ว่าด้วยทุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์พระราชบัญญัติ ใบงานท่2ี รักษาความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอรโ์ ดยพระราชบัญญัติ ซื้อของ วา่ ดว้ ยการกระทำความผดิ เกีย่ วกบั คอมพวิ เตอรพ์ .ศ. ออนไลน์ 2550 และพระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยการกระทำความผดิ อย่าง เก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ฉบบั ที่สองพ.ศ. 2560 ปลอกภยั ลิขสิทธเ์ิ ปน็ ผลงานท่ีเกิดจากการใชป้ ัญญาความรู้ ใบงานท่1ี ความสามารถและความอุตสาหะพยายามในการสรา้ ง เรอื่ งใครมี ผลงานซึง่ ถอื วา่ เปน็ ทรัพย์สนิ ทางปัญญาประเภทหนง่ึ ท่ี ความผืด กฎหมายให้ความค้มุ ครอง

โครงสรา้ งวชิ าวทิ ยาการคำนวน ม.3 มาตรฐาน ลำดับที่ ช่ือหนว่ ยการ การเรยี นร/ู้ สาระสำคัญ ชน้ิ งาน เวลา น้ำหนัก เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) (คะแนน) 4 แอพลเิ คชนั ว 4.2 ม3/1 การทำใหอ้ ุปกรณ์หลายตัวสามารถ ใบงานท่1ี 4 10 สื่อสาร แลกเปล่ียนขอ้ มลู และทำงานรว่ มกนั ได้นน้ั เรอ่ื ง เรยี กว่าเทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ ขน้ั ตอน Smart Device ซงึ่ อปุ กรณท์ มี่ หี น่วยประมวลผล หรือ การพัฒนา เซนเซอร์ภายในตัว เพ่ือสง่ ข้อมลู ผา่ น Cloud แอพลิเค Computing หรือ Wireless Network เป็นตัวกลาง ชัน ในการ รบั สง่ ขอ้ มลู ภายในเครือขา่ ยเพอื่ ประมวลผล และอาศยั Dashboard สำหรับแสดงผลและใช้ ควบคมุ การทำงานจากผใู้ ช้ แอปพลิเคชนั เป็นโปรแกรมที่ถกู พฒั นาขึ้นมา เพื่ออำนวยในดา้ นต่าง ๆ มกี ารออกแบบมาเพ่ือใช้งาน ในหลายรปู แบบ โดยแอปพลเิ คชันแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ แอปพลเิ คชันระบบ แอปพลิเคชนั ที่ ตอบสนองตอ้ งการของกลุม่ ผใู้ ช้ อัตราสว่ นคะแนน คะแนนเก็บระหว่างเรียน 50 คะแนน กอ่ นกลางภาค 30 คะแนน หลังกลา่ งภาค 20 คะแนน คะแนนสอบกล่างภาค 20 คะแนน คะแนนสอบปลายภาค 20 คะแนน รวมคะแนน 100 คะแนน ลงช่อื .............................................ครูผสู้ อน (นาย ฐานทพั ศิธรกลุ )

แผนการจดั การเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การจัดการขอ้ มูลสาระสนเทศ เวลา6ชว่ั โมง เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มลู เวลา2ช่วั โมง รายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ___________________________________________________________________________ 1. มาตรฐาน/ตวั ข้ีวัด มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การท างาน และการแก้ปัญหา ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม ตวั ชว้ี ัด ม.3/2 รวบรวมขอ้ มูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรอื บริการบนอนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลาย 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะและประเภทของขอ้ มลู ได(้ K) 2. เลือกวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู ได้เหมาะสมกับประเภทข้อมลู ได้ (K,P) 3. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของวธิ ีการรวบรวมขอ้ มูล (A) 3. สาระการเรียนรู้ 1. การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ 2. การรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การรวบรวมขอ้ มูล เปน็ ข้ันตอนท่ีสำคัญทสี่ ุดของการจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศ ดงั นน้ั ควรมคี วาม เขา้ ใจเกยี่ วกับลกั ษณะและประเภทของข้อมูล ตลอดจนวิธีการรวบรวมข้อมลู เพอ่ื จะไดน้ ำไปประยกุ ต์ใช้ได้ อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งานของตน หากพิจารณาถงึ ประเภทของขอ้ มูลสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 กลมุ่ ตาม แหล่งทม่ี าของขอ้ มูลได้แก่ ขอ้ มลู ปฐมภมู แิ ละขอ้ มลู ทุติยภูมิ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1.ความสามารถในการส่ือสาร 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1.มวี ินยั รับผดิ ชอบ 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มุง่ ม่นั ในการทำงาน 4.มจี ิตสาธารณะ 7.กิจกรรมการเรียนรู้ ชว้ั โมงท1ี่ ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น 10 นาที 1. ครูสอบถามนักเรยี นว่า ในภาคเรยี นทผ่ี ่านมา นักเรียนชอบวิชาไหนมากท่สี ุด เพราะอะไร 2. จากนัน้ ครูถามตอ่ วา่ คำถามทีค่ รถู ามขา้ งตน้ เป็นลกั ษณะของข้อมูลประเภทไหน ขัน้ สอน40 นาที 3.ครูทบทวนความรู้นกั เรียน โดยการถามคำถาม ถ้าเราพิจารณาข้อมลู ตามแหล่งท่ีมาของขอ้ มูล สามารถแบง่ ขอ้ มูลไดก้ ่ีประเภท อะไรบา้ ง 4.ครูอธบิ ายกบั นักเรียนวา่ ขอ้ มลู แตล่ ะประเภทมีลักษณะต่างกนั การรวบรวมข้อมูลจงึ ต่างกนั 5.ครใู ห้นกั เรยี นเปิดในหนงั สอื เรยี นวิชา เทคโนโลย(ี วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 และอธิบายการรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ สามารถทำได้ดังนี้ การสัมภาษณ์สว่ นบุคคล การสัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์การใช้แบบสอบถามและการสังเกต 6.ครถู ามนักเรียนวา่ ในตอนต้นชวั่ โมงครูถามเรอ่ื งวิชาทีน่ ักเรยี นชอบมากที่สดุ เพราะอะไร เปน็ การ เกบ็ รวบรวมข้อมลู แบบใด 7. ครอู ธบิ ายการรวบรวมขอ้ มลู ทุตยิ ภมู ิ ในหนงั สือเรียนวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3ในการรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งทุติยภูมสิ ามารถแบ่งออกได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ ขอ้ มูลจาก

แหล่งข้อมลู ภายในและข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลภายนอกและให้ชม VDOการรวบรวมขอ้ มูลและให้ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1เร่ือง การรวบรวมลขอ้ มูล ช่ัวโมงท่2ี ขัน้ สอน 40 นาที 8. ครูสนทนากบั นกั เรยี นวา่ ในคาบทแี่ ลว้ นักเรียนรูว้ า่ ตัวเองชอบวิชาอะไร คาบนี้เรามาจะมาดูวา่ สาขาท่นี ักเรยี นอยากเรยี นต่อและอาชีพทอี่ ยากทำอนาคต จะสัมพันธ์กนั หรอื ไม่ 9. ครสู นทนากับนกั เรียนในการจัดการข้อมูลอย่างใดอย่างหนงึ่ เราตอ้ งเลือกวธิ ใี หเ้ หมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ท่เี ราจะใช้งานต้งั แต่เลือกวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู วธิ ีการประมวลผล และการนำเสนอข้อมลู จากน้ัน ครูให้นกั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 4 – 5 คน 10. ครูแจกใบงานท่ี 1 เรอื่ ง อาชีพในอนาคต ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลของนักเรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 3จำนวน 20 คน ขึ้นไป ตามหัวข้อที่ก าหนดให้ (กลุ่มประชากรที่แตล่ ะกลุ่มรวบรวมข้อมลู ไม่ ควรซ้ำกนั ) 11. จากนัน้ ครใู หน้ กั เรยี นวางแผนวิธีการรวบรวมขอ้ มลู ที่เหมาะสม โดยนกั เรยี นสามารถเลอื กเพ่ือน ต่างหอ้ งได้ ใชค้ าบพกั เที่ยงในการรวบรวมขอ้ มูลกลุ่มเป้าหมายท่ีนกั เรียนต้องการได้ เชน่ นกั เรยี นต่างหอ้ ง เพื่อ ไม่ให้กระทบการเรยี นของนักเรยี นหอ้ งอน่ื ข้ันสรปุ 10 นาที 12. ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายถึงความสำคัญของวิธีการรวบรวมข้อมลู 13. ครูสนทนากบั นกั เรียนว่า ถ้านักเรียนรวบรวมขอ้ มูลเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะตอ้ งนำข้อมูลที่ รวบรวมไดไ้ ปประมวลผล ซ่ึงในคาบถัดไป เราจะมาเรียนรเู้ รอื่ ง การประมวลผลข้อมลู เพอื่ ใหข้ ้อมลู น้ันอยู่ใน รปู แบบท่ีมีประโยชน์และตรงตามวตั ถุประสงคก์ ารใชง้ าน 8.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1สื่อ 1.VDO เรือ่ ง การรวบรวมลขอ้ มูล 2.ใบงานท่ี 1 เรอ่ื งอาชีพในอนาคต 8.2แหล่งการเรยี นรู้ 1.ห้องเรียน 2.ห้องสมุด

3.แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน รายการวัด -ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หัดรายวชิ าพื้นฐาน -บอกลกั ษณะและ 1.บอกลักษณะและประเภทของขอ้ มูล ได้(K) แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี ประเภทของข้อมูลได้ 2.เลือกวธิ กี ารรวบรวมข้อมลู ได้ วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 ถกู ต้อง 60% ข้นึ ไป เหมาะสมกบั ประเภทขอ้ มูลได้ (P) (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1เร่ือง 3.ตระหนักถงึ ความสำคัญของวธิ ีการ รวบรวมข้อมูล (A) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1เร่อื ง การรวบรวมลข้อมลู 4.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การรวบรวมลขอ้ มูล -ตรวจใบงานท่ี1เร่อื ง -แบบประเมนิ ใบงานที1่ -เลอื กวธิ กี ารวบรวม อาชีพในอนาคต(ขอ้ 1) เร่ือง อาชีพในอนาคต ขอ้ มูลไดเ้ หมาะสมกบั ประเภทขอ้ มูลไดใ้ น ระดบั คุณภาพพอใช้ ขนึ้ ไปถือว่าผ่าน -ตรวจใบงานที่ 1เร่ือง -แบบประเมินใบงานท่ี -อธิบายวธิ ีการวบรวม อาชพี ในอนาคต(ข้อ 3 ) 1 เรื่อง อาชพี ในอนาคต ข้อมูลวา่ มปี ระโยชน์ กบั การรวบรวมข้อมลู ทต่ี อ้ งการได้ชดั เจน ในระดบั คณุ ภาพ พอใชข้ น้ึ ไปถือวา่ ผา่ น - สังเกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิคุณลกั ษณะอนั - ผ่านเกณฑ์ในระดับ ทำงานกลุ่ม พงึ ประสงค์ ดี

10. บนั ทึกหลังการสอน 10.1 การวัดและประเมิลผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… 10.2 ปญั หาและอปุ สรรค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …………………………………… 9.2 วิธแี ก้ไข/แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… ลงชอ่ื ................................................................. (.....................................................) ตำแหนง่ ครู

การประเมินใบงานท่ี 1 เรื่องอาชีพในอนาคต ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน 321 1การเลอื กวธิ ีการ สามารถเลือกวธิ ีการ สามารถเลอื กวิธีการ สามารถเลือกวิธีการ รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู ให้ รวบรวมขอ้ มูลให้ รวบรวมขอ้ มลู ให้ เหมาะสมกบั เหมาะสมกบั เหมาะสมกบั วตั ถุประสงคก์ ารใชง้ าน วตั ถปุ ระสงคก์ ารใชง้ าน วตั ถุประสงคก์ ารใชง้ าน ละเหมาะกบั กลุ่ม ละเหมาะกบั กลุม่ ส่วน ละเหมาะกบั กลมุ่ ตวั อยา่ ง ใหญ่ ตวั อยา่ งเพยี งบางส่วน 2.เหตุผลการเลอื ก สามารถบอกเหตผุ ลการ สามารถบอกเหตผุ ลการ สามารถบอกเหตุผลการ วิธีการรวบรวมขอ้ มลู เลอื กวิธีการรวบรวม เลือกวิธีการรวบรวม เลือกวิธีการรวบรวม ขอ้ มูลไดส้ มเหตุสมผล ขอ้ มลู ไดส้ มเหตสุ มผล ขอ้ มลู ไดส้ มเหตสุ มผล เป็ นส่วนใหญ่ เพียงบางส่วน 3.ความสาคญั ของ อธิบายวิธีการรวบรวม อธิบายวิธีการรวบรวม อธิบายวธิ ีการรวบรวม วิธีการรวบรวมขอ้ มูล ขอ้ มลู วา่ มีประโยชนก์ บั ขอ้ มลู ว่ามีประโยชน์กบั ขอ้ มูลวา่ มีประโยชนก์ บั การรวบรวมขอ้ มลู ท่ี การรวบรวมขอ้ มลู ที่ การรวบรวมขอ้ มูลท่ี ตอ้ งการไดช้ ดั เจน ตอ้ งการไดช้ ดั เจนเป็น ตอ้ งการไดช้ ดั เจนเป็น ส่วนใหญ่ บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 8-9 ดี 5-7 พอใช้ นอ้ ยกวา่ 2 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบฝึกหัด เรื่อง …………………………………………………………. คาช้ีแจง ใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่องที่เป็นจริงมากท่สี ุด รายการประเมิน ที่ ช่ือ - สกลุ ความซ่ือสตั ย์ มรี ะเบียบวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ มุง่ มนั่ ในการ รวม สุจริต ทางาน 321321321321 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. ผปู้ ระเมนิ ……………………………………… …….………/……….…../…………..

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มรี ะเบยี บวนิ ยั หมายถึง มกี ารปฏบิ ตั งิ าน มีสมุดงาน ช้ินงาน และปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลง คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาทีป่ รากฎให้เห็น 3 สมดุ งาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อย และปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ี ดีมาก กาหนดให้ร่วมกนั ทุกคร้ัง 2 สมุดงาน ช้ินงาน ส่วนใหญส่ ะอาดเรียบร้อย และปฏิบตั ิตนอยใู่ น ดี ขอ้ ตกลงท่กี าหนดให้ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่ 1 สมุดงาน ช้ินงาน ไม่คอ่ ยเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงที่ พอใช้ กาหนดใหร้ ่วมกนั เป็นบางคร้ัง ตอ้ งอาศยั การแนะนา 2. ความรับผิดชอบ หมายถงึ มีการส่งงานตรงกาหนดเวลา และปฏบิ ตั ิจนเป็นนิสยั คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาทป่ี รากฎใหเ้ ห็น 3 ส่งงานก่อน หรือตรงกาหนดเวลานดั หมายรับผดิ ชอบ และปฏิบตั ิเอง จนเป็นนิสยั แนะนาชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ติ าม ดีมาก ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด แต่ไดม้ ีการตดิ ต่อช้ีแจงโดยมีเหตุผลรบั ฟังได้ 2 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ดี ส่งงานชา้ กว่ากาหนด แต่ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงโดยตอ้ งอาศยั การ 1 ช้ีแนะ คาแนะนา และการตกั เตือน พอใช้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน หมายถงึ มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย มีความอดทน และไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ปี รากฎใหเ้ ห็น 3 นกั เรียนมคี วามกระตอื รือร้น แสดงออกถึงความต้งั ใจ และรบั ผิดชอบ ดว้ ยความเพยี รพยายามอดทน เพ่ือใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายตลอดเวลา ดีมาก นกั เรียนมีความกระตือรือร้น แสดงออกถงึ ความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ 2 ดว้ ยความเพียรพยายามอดทน เพ่อื ให้งานสาเร็จตามเป้าหมายบางเวลา ดี 1 นกั เรียนไม่มคี วามรับผดิ ชอบ หรือทางานไมส่ าเร็จตามเป้าหมาย พอใช้

การแปลผล ใชเ้ กณฑ์ ดงั น้ี หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถงึ ดี คะแนน 4 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 3



แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 การจัดการขอ้ มูลสาระสนเทศ เวลา6ชว่ั โมง เร่อื ง การประมวลผลขอ้ มูล เวลา2ชวั่ โมง รายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ___________________________________________________________________________ 1. มาตรฐาน/ตวั ข้ีวดั มาตรฐาน ว4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวิตจรงิ อยา่ งเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ ร้เู ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวชี้วัด ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศตามวตั ถุประสงค์ โดย ใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทีห่ ลากหลาย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกประเภทของการประมวลผลขอ้ มูลได้ (K) 2. เลอื กวิธกี ารประมวลข้อมลู ที่เหมาะสมกับประเภทของขอ้ มลู ได้ (P) 3. ยกตวั อย่างประโยชน์ของการประมวลผลขอ้ มูลทเ่ี หมาะสมกับประเภทของข้อมลู (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 1. การประมวลผลข้อมูลด้วยมอื 2. การประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยเครื่องจกั ร 3.การประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การประมวลผลข้อมลู หมายถงึ วิธีการจัดการกับขอ้ มูลดว้ ยการ คำนวณหรอื การเปรียบเทียบ เพ่ือให้ ข้อมูลอยู่ในรูปแบบท่ีเปน็ ประโยชน์ตรงตามความต้องการ โดยการประมวลผลข้อมูลสามารถแบง่ ตาม อปุ กรณ์ ที่ใช้ได้ 3 ประเภท คอื การประมวลผลข้อมูลด้วยมอื การประมวลผลขอ้ มูลด้วยเครือ่ งจกั รกลและการ ประมวลผลข้อมูลดว้ ยคอมพวิ เตอร์

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1.ความสามารถในการสอ่ื สาร 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.มวี ินยั รับผิดชอบ 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว้ั โมงที่1 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น 10 นาที 1.ครสู อบถามว่าจากการสำรวจข้อมูลของกลมุ่ ตัวอยา่ งแตล่ ะกลมุ่ ใช้วิธีการรวบรวมขอ้ มลู แบบใดบ้าง 2.ครูสนทนากบั นักเรียนว่าเราสามารถนำขอ้ มูลนั้นมาใชเ้ ลยได้หรือไม่ ข้ันสอน 40 นาที 3.ครอู ธิบายการประมวลผลข้อมูลในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 การประมวลผลขอ้ มลู เปน็ วธิ กี ารจดั การกบั ข้อมลู อาจเป็นการคำนวณหรือการเปรียบลักษณะต่างๆเพอื่ ให้ ข้อมลู นัน้ อยูใ่ นรปู แบบทมี่ ีประโยชน์ตรงกบั จดุ ประสงคข์ องผู้ใช้งานซึ่งการประมวลผลขอ้ มลู แบง่ ออกตาม อปุ กรณ์ทใี่ ชไ้ ด้ 3 ประเภท คอื การประมวลผลข้อมลู ดว้ ยมือ ประมวลผลข้อมลู ดว้ ยเครอ่ื งจกั รกล และการ ประมวลผลข้อมลู ด้วยคอมพวิ เตอร์ และใหน้ กั เรียนดู VDO เรือ่ ง การประมวลผลข้อมลู 4. จากน้นั ครอู ธิบาย การประมวลผลข้อมูลดว้ ยมือ ในหนังสือเรียนวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

5.ครสู นทนาว่าจากขอ้ มูลที่ใหไ้ ปรวบรวมขอ้ มลู ในกิจกรรมอาชพี ในฝัน ให้นักเรียนนำขอ้ มลู อาชพี ที่ อยากทำในอนาคตมาจัดอนั ดับ โดยการนำข้อมูลของกลุ่มตนเองมาจดั อันดับอาชีพทมี่ ีคนอยากทำมากท่สี ุด 5 อนั ดับ 6.ครใู ห้แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนออาชีพ 5 อันดับแรกจากการรวบรวมขอ้ มลู ของกลมุ่ ตนเอง 7.ครถู ามนกั เรียนวา่ วธิ กี ารจดั การกบั ข้อมูลทร่ี วบรวมได้จากเพอ่ื น 20 คนในคาบทแ่ี ล้วเป็นการ ประมวลผลประเภทใดเพราะอะไร 8.ครสู นทนากับนักเรยี นวา่ คาบท่ีผ่านมานักเรยี นไดป้ ระมวลผลขอ้ มูลด้วยมอื เราทราบอยแู่ ล้วว่าการ ประมวลผลข้อมูลสามารถทำไดห้ ลายวิธี จากนัน้ ครูอธบิ าย การประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยเครอื่ งจักรกล ในหนังสือ เรียนวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 9.ครยู กตวั อย่างการประมวลผลข้อมูลด้วยเครอื่ งจักรกล เชน่ เครื่องคดิ เลขในมินิมารท์ ทเ่ี ป็นเครอื่ งทำ บญั ชี อาชีพนกั บญั ชีทต่ี ้องมีการคำนวณเกี่ยวกับเงินซ่งึ ตอ้ งการความแมน่ ยำสูงจะมีเครือ่ งท าบญั ชเี ข้ามาช่วย ทำใหก้ ารคำนวณแมน่ ยำมากขน้ึ โดยการทำงานของเครื่องก็จะมีฟงั ก์ชั่นตา่ ง ๆ ท่ีสะดวกต่อการคำนวณตัวเลข 10.ครตู ง้ั คำถามว่าหากข้อมูลทเ่ี ราต้องการประมวลผลมีจำนวนทมี่ ากขนึ้ จนไมส่ ามารถประมวลได้เอง เราจะมวี ธิ ีการแก้ปัญหาอยา่ งไร 11.ครยู กตัวอย่างว่าในแตล่ ะเทอมเราจะต้องตัดเกรด และในขั้นตอนการตดั เกรดมีคะแนนท่ีต้องค านวณหลายอยา่ ง ซ่ึงครสู ว่ นใหญจ่ งึ จำเป็นตอ้ งใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการประมวลผลข้อมูล จะแมน่ ยำกว่าและ ประมวลผลเรว็ กว่า 12.ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื แบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) เพอ่ื ตรวจสอบ ความเขา้ ใจ ชัว่ โมงท่2ี ขั้นสอน 40 นาที 13. ครอู ธิบายวธิ กี ารประมวลผลดว้ ยคอมพวิ เตอร์ ในหนงั สือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ซึ่งวิธกี ารประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ แบง่ เป็น 2 วธิ ี ดงั นี้ การประมวลผลแบบแบตช์ และการประมวลผลแบบอินเทอรแ์ อ็กทฟิ 14. จากน้นั ครูอธบิ ายเนอ้ื หาในหนงั สอื เรยี นวชิ า เทคโนโลย(ี วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที3่ กรรมวธิ ีในการประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยคอมพวิ เตอร์มีวิธีในการประมวลผลหลาย

วธิ ี ไดแ้ ก่ 1) การคำนวณ 2) การจดั เรยี งข้อมลู 3) การจดั กลุม่ ขอ้ มูล 4) การสืบคน้ ข้อมูล 5) การรวบรวมข้อมลู 6)การสรปุ ผล 7) การทำรายงาน 8) การบนั ทกึ 9) การปรบั ปรุงข้อมูล 10) การสำเนาขอ้ มูล 11) การสำรอง ข้อมูล12) การกู้ข้อมูล 13) การส่ือสารข้อมูล 14) การบบี อดั ขอ้ มลู 13. ครตู งั้ คำถามว่า จากตัวอยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 15 – 17 ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างประโยชน์ของ การประมวลผลขอ้ มูลด้วยคอมพวิ เตอร์ ถา้ สมมติเราต้องการเก็บขอ้ มูลเพือ่ ทำโปรโมชนั ลูกค้ารา้ นสะดวกซอื้ เราควรรวบรวมขอ้ มลู อะไรบา้ ง ควรจดั กลุ่มข้อมูลแบบไหน ประมูลผลข้อมูลออกมาในรูปแบบใด เพอ่ื ใหง้ ่าย ต่อการเรยี กใชง้ าน ใหน้ กั เรียนตอบคำถามลงสมุด 14.ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายการประมวลผลข้อมลู แตล่ ะประเภท และวิธกี ารเลอื กเคร่ืองมือใน การประมวลผลให้เหมาะสมกับขอ้ มูล 15.ครสู มุ่ นกั เรียนเพือ่ ยกตวั อย่าง กรรมวธิ ีในการประมวลผลข้อมลู ด้วยคอมพวิ เตอร์ในแต่ละวิธี เพอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้ 16.ครูถามคำถามนกั เรยี นวา่ ในการเลือกศกึ ษาต่อในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย และ ระดับอุดมศึกษาเราควรตอ้ งคำนงึ ขอ้ มลู ดา้ นใดบ้าง 17.ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วางแผน รวบรวมขอ้ มูล ประมวลผลข้อมลู ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ ข้ันสรุป 10 นาที 18.ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายการประมวลผลขอ้ มลู แตล่ ะประเภท และวิธีการเลือกเครื่องมือใน การประมวลผลใหเ้ หมาะสมกับขอ้ มูล 8.สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1สอ่ื 1.VDO เร่อื ง การประมวลผลข้อมูล 2.ใบงานท1ี่ เรือ่ งประเภทของการประมวลผลข้อมูล 8.2แหลง่ การเรยี นรู้ 1.ห้องเรียน 2.ห้องสมดุ 3.แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 4.หนังสอื เรยี นวชิ าเทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ)

7. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ 1.บอกประเภทของการประมวลผล -ตรวจใบงานเรอื่ งประเภท -ใบงานเรอ่ื งประเภทของ - ประเมินตามสภาพ ขอ้ มูลได้ (K) ของการประมวลผล การประมวลผล จรงิ 2.เลอื กวิธกี ารประมวลขอ้ มูลทีเ่ หมาะสม -ตรวจใบงานเรอ่ื งเรอ่ื ง -ใบงานเรื่องประเภทของ - ทำการตอบคำถาม กบั ประเภทของขอ้ มูลได้(P) ประเภทของการ การประมวลผล ไดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ 60 ประมวลผล ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์ 3.ยกตวั อย่างประโยชน์ -การตอบคำถามใน -แบบประเมนิ เหน็ ความสำคัญของ ของการประมวลผลข้อมูลที่เหมาะสม แผนการสอน วธิ กี ารรวบรวมข้อมูล กบั ประเภทของข้อมลู (A) ในระดบั คณุ ภาพ พอใช้ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่าน 4.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมคิ ุณลกั ษณะอนั - ผ่านเกณฑ์ในระดับ ทำงานกล่มุ พึงประสงค์ ดี

10. บนั ทึกหลังการสอน 10.1 การวัดและประเมิลผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… 10.2 ปญั หาและอปุ สรรค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …………………………………… 9.2 วิธแี ก้ไข/แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… ลงชอ่ื ................................................................. (.....................................................) ตำแหนง่ ครู

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบฝึกหัด เรื่อง …………………………………………………………. คาช้ีแจง ใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่องที่เป็นจริงมากท่สี ุด รายการประเมิน ที่ ช่ือ - สกลุ ความซ่ือสตั ย์ มรี ะเบียบวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ มุง่ มนั่ ในการ รวม สุจริต ทางาน 321321321321 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. ผปู้ ระเมนิ ……………………………………… …….………/……….…../…………..

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มรี ะเบยี บวนิ ยั หมายถึง มกี ารปฏบิ ตั งิ าน มีสมุดงาน ช้ินงาน และปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลง คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาทีป่ รากฎให้เห็น 3 สมดุ งาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อย และปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ี ดีมาก กาหนดให้ร่วมกนั ทุกคร้ัง 2 สมุดงาน ช้ินงาน ส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ น ดี ขอ้ ตกลงท่กี าหนดให้ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่ 1 สมุดงาน ช้ินงาน ไม่คอ่ ยเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงที่ พอใช้ กาหนดใหร้ ่วมกนั เป็นบางคร้ัง ตอ้ งอาศยั การแนะนา 2. ความรับผิดชอบ หมายถงึ มีการส่งงานตรงกาหนดเวลา และปฏบิ ตั ิจนเป็นนิสัย คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 ส่งงานก่อน หรือตรงกาหนดเวลานดั หมายรับผดิ ชอบ และปฏิบตั ิเอง จนเป็นนิสยั แนะนาชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ติ าม ดีมาก ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด แต่ไดม้ ีการตดิ ต่อช้ีแจงโดยมเี หตุผลรับฟังได้ 2 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ดี ส่งงานชา้ กว่ากาหนด แต่ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงโดยตอ้ งอาศยั การ 1 ช้ีแนะ คาแนะนา และการตกั เตอื น พอใช้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน หมายถงึ มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย มีความอดทน และไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 นกั เรียนมคี วามกระตอื รือร้น แสดงออกถึงความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ ดว้ ยความเพยี รพยายามอดทน เพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายตลอดเวลา ดีมาก นกั เรียนมีความกระตือรือร้น แสดงออกถงึ ความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ 2 ดว้ ยความเพียรพยายามอดทน เพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายบางเวลา ดี 1 นกั เรียนไม่มคี วามรับผิดชอบ หรือทางานไมส่ าเร็จตามเป้าหมาย พอใช้

การแปลผล ใชเ้ กณฑ์ ดงั น้ี หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถงึ ดี คะแนน 4 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี3 เวลา6ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การจัดการขอ้ มลู สาระสนเทศ เวลา2ช่ัวโมง เรอ่ื ง การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 รายวิชาวทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ___________________________________________________________________________ 1. มาตรฐาน/ตัวข้ีวัด .มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงค านวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หา

ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทันและมีจริยธรรม ตัวชีว้ ัด ม.3/2 รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรอื บริการบนอินเทอร์เน็ตท่หี ลากหลาย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.ใช้ซอฟต์แวรท์ ี่เหมาะสมในการจดั การขอ้ มลู และสารสนเทศ และตรงวตั ถปุ ระสงค์การใช้งานได(้ K,P) 2.ตระหนักถงึ ข้อมูลท่นี ำเสนอวา่ ไมค่ วรส่งผลกระทบต่อผูอ้ ่ืน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 1.ซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ช้ในการรวบรวมขอ้ มลู 2.ซอฟต์แวร์ท่ใี ช้ในการประมวลผลขอ้ มูล 3.ซอฟต์แวร์ทใี่ ช้ในการสรา้ งและนำเสนอขอ้ มลู 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การจดั การข้อมลู และสารสนเทศมกี ารนำซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาชว่ ยในการจดั การขอ้ มูล โดยมีทั้ง ซอฟต์แวร์ที่ใชใ้ นการรวบรวมข้อมลู ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการประมวลผลขอ้ มูล และซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการ นำเสนอขอ้ มลู เพือ่ การจัดการข้อมูลและสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1.ความสามารถในการส่อื สาร 2.ความสามารถในการคดิ 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มีวินัย รบั ผิดชอบ 2.ใฝ่เรยี นรู้ 3.ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

7.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั้ โมงที1่ ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น 10 นาที 1. ครสู อบถามนกั เรยี นวา่ จากคาบท่ผี า่ นมาในการรวบรวมข้อมลู นกั เรียนใชเ้ ครอ่ื งมือใดในการ รวบรวมข้อมลู บา้ ง 2.ครูถามนกั เรยี นวา่ กลมุ่ ท่ีใช้แบบสอบถาม หรือใชว้ ิธกี ารสัมภาษณ์ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู น้นั ตอ้ งใช้ ระยะเวลาหน่งึ เพอ่ื เกบ็ ขอ้ มลู ต่อกลุ่มตัวอยา่ งหนึ่งคน หากมีวธิ ีท่ีจะลดเวลาในข้ันตอนนี้ลงเพอื่ เอาเวลาไปใช้ใน การทำงานข้นั ตอนอ่นื ทอ่ี าจมปี ระโยชนก์ วา่ จะสง่ ผลดีตอ่ การทำงานหรอื ไม่ อย่างไร ข้นั สอน 40 นาที 3.ครูอธิบายว่าซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในการรวบรวมขอ้ มลู มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย และมคี วามสำคญั ใน ขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมลู ทีม่ ปี ริมาณข้อมลู จำนวนมาก หรือตอ้ งการความรวดเร็ว 4.ครูอธบิ ายเนอ้ื หาในหนังสอื เรยี นวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3เรอื่ ง ซอฟต์แวร์ที่ใชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูล เพื่อใช้จัดเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตามทต่ี อ้ งการ โดยมีซอฟตแ์ วรท์ ี่นา่ สนใจ ได้แก่ ซอฟต์แวรท์ ตี่ ิดต้ังอยบู่ นคอมพวิ เตอร์ เช่น Microsoft word และซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ชง้ านผา่ นอินเทอรเ์ น็ต เชน่ Google Docs, Google Forms 5.ครูยกตวั อยา่ งซอฟต์แวรท์ ่ีใช้งานผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ คอื Google Forms เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ถี ูกใช้งาน อย่างแพร่หลาย ใช้งานงา่ ยและมปี ระโยชนใ์ นการทำงาน โดยครูให้นกั เรยี นทดลองเปน็ ผู้ตอบแบบสอบถามใน กิจกรรมตอ่ ไป เพ่ือเป็นตวั อย่างการจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ 1) ครใู ห้นกั เรียนตอบแบบสอบถามใน Google Forms จากกิจกรรม อาชีพในอนาคต ท่ีครูเตรียมไวใ้ ห้ 2) ครเู ปิดแบบสอบถามจากกจิ กรรม อาชีพในอนาคต จากนัน้ ไปทแี่ ทบ็ การตอบกลบั และเปิดแท็บ ข้อมูลสรปุ เพอื่ ให้นักเรยี นเห็นประโยชน์ ความสะดวกในการประมวลผลขอ้ มูลดว้ ย Google Forms 3) ครอู ธิบายข้นั ตอนการนำแผนภูมจิ าก Google Forms ไปใชเ้ พอื่ การนำเสนอข้อมลู ซง่ึ สามารถทำได้โดยการ คลกิ ทปี่ ุ่มคัดลอกแผนภูมทิ ีอ่ ยู่ทางขวาของหวั ข้อจากน้ันนำไปวางในโปรแกรมนำเสนอทตี่ ้องการ เชน่ PowerPoint,Google Slide, Keynote 4. ครสู อบถามนักเรยี นว่าจากตวั อยา่ งท่คี รใู ชง้ าน Google Forms นกั เรยี นคิดว่ามขี ้อดอี ยา่ งไรบา้ ง

5. ครอู ธิบายความสำคัญการเลือกใช้ซอฟตแ์ วร์ทเี่ หมาะกบั งาน และวัตถปุ ระสงค์ เช่น ตัวอยา่ งการ รวบรวบขอ้ มลู ครเู ลอื กใช้ Google Forms เน่อื งจากสามารถประมวลผลข้อมูลใหไ้ ด้ทันที และสามารถนำ แผนภูมไิ ปใชใ้ นการนำเสนองานต่อไดจ้ ึงลดเวลาการทำงานได้มาก 6.ครใู ห้นักเรียนยกตัวอยา่ งโปรแกรมทีส่ ามารถใช้โปรแกรมในการประมวลผลขอ้ มูล หรือการสร้าง และนำเสนอข้อมลู ได้ 7. ครอู ธบิ ายเน้อื หาในหนังสอื เรียนวิชา เทคโนโลย(ี วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เร่ือง ซอฟต์แวร์ทีใ่ ชใ้ นการประมวลผลข้อมูล และซอฟต์แวร์ทีใ่ ช้สำหรบั สร้างและนำเสนอข้อมูลและให้ นักเรยี นดู ชว่ั โมงท2ี่ ขน้ั สอน 40 นาที 8.ครสู อบถามนักเรยี นวา่ จากคาบทแี่ ลว้ ครยู กตัวอยา่ งการใช้ซอฟตแ์ วรใ์ นการจัดการขอ้ มลู และ สารสนเทศ พรอ้ มทัง้ อธิบายเน้ือหาในหนงั สอื เรยี นเพิ่มเตมิ นักเรยี นคิดวา่ ตนเองมีความถนัดในการใช้ ซอฟต์แวรใ์ ดเพื่อใช้ในการสรา้ งและนำเสนอข้อมูลบา้ ง 9. จากกิจกรรมที่ครใู หน้ ักเรียนหาขอ้ มูลวา่ ถ้าต้องการทำงาน 5 อาชพี ในฝนั นนี้ ักเรยี นควรเรียนคณะ อะไร ค่าเฉลีย่ เทอมละเท่าไร รวบรวมข้อมลู อย่างนอ้ ย 6 มหาวทิ ยาลยั ขน้ึ ในคาบเรยี นนใ้ี หน้ ักเรียนนำข้อมูลท่ี รวบรวมขอ้ มูลและประมวลผลขอ้ มูลไว้ มาเตรียมนำเสนอทลี ะกลมุ่ โดยให้แต่ละกลมุ่ เลือกใช้ซอฟต์แวรต์ าม ความถนัดและเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ท่ีจะใช้งาน 10. ครูให้แต่ละกลุ่ม นำเสนองานหนา้ ชั้นเรยี น 11. ครูสอบถามนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มวา่ จากการประมวลผลมีมหาวทิ ยาลยั ใดทน่ี า่ เรียนตอ่ บา้ ง เพราะ อะไร ข้ันสรปุ 10 นาที 1.ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั สรุปประโยชนจ์ ากการนำข้อมูลมาประมวลผล เหมาะสมกบั ข้อมลู 8.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1ส่ือ 1.VDO เรอ่ื ง การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ

2.ใบงาน เรอ่ื ง การใช้ Google Forms 8.2แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ม.3 2.ห้องเรียน 3.หอ้ งสมุด 4. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน 1. เลือกใช้ซอฟต์แวรท์ เ่ี หมาะสมในการ ประเมินการนำเสนอ แบบประเมนิ การ เลอื กใช้ซอฟตแ์ วรท์ ี่ จดั การข้อมลู และสารสนเทศ อาชพี นำเสนออาชพี เหมาะสมในการ ตามวัตถปุ ระสงค์ได้(K,P) จัดการขอ้ มูลและ สารสนเทศตาม วัตถุประสงคไ์ ด้ใน ระดบั คุณภาพพอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น 2. ตระหนกั ถงึ ข้อมูลท่นี ำเสนอว่าไม่ควร ประเมินการนำเสนอ แบบประเมินการ ตระหนักถึงข้อมลู ท่ี ส่งผลกระทบตอ่ ผู้อ่นื (A) อาชพี นำเสนออาชพี นำเสนอว่าไมค่ วร ส่งผลกระทบตอ่ ผู้อนื่ ในระดบั คุณภาพ พอใช้ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่าน 4.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมิคณุ ลักษณะอัน - ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ทำงานกลุ่ม พงึ ประสงค์ ดี

10. บนั ทึกหลังการสอน 10.1 การวัดและประเมิลผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… 10.2 ปญั หาและอปุ สรรค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …………………………………… 9.2 วิธแี ก้ไข/แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… ลงชอ่ื ................................................................. (.....................................................) ตำแหนง่ ครู

11.2 การประเมนิ การนำเสนออาชีพ ประเดน็ ในการประเมิน 3 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 2 1. การเลือกใช้ สามารเลอื กใช้ซอฟตแ์ วร์ สามารเลอื กใช้ซอฟต์แวร์ สามารเลอื กใช้ซอฟตแ์ วร์ ซอฟต์แวร์ในการจดั การ ทเี่ หมาะสมกบั การใช้ ทเ่ี หมาะสมกบั การใช้ ท่ีเหมาะสมกบั การใช้ ข้อมูลและสารสนเทศ รวบรวมขอ้ มลู หรือ รวบรวมข้อมลู หรอื รวบรวมขอ้ มลู หรอื ประมวลผลขอ้ มูลตาม ประมวลผลขอ้ มูลตาม ประมวลผลขอ้ มลู ตาม วัตถปุ ระสงค์ทตี่ ้องการ วัตถุประสงคท์ ่ตี อ้ งการ วตั ถปุ ระสงค์พอใช้ได้ ได้ พอใช้ได้เปน็ สว่ นใหญ่ เพียงบางสว่ น 2. การเลือกใช้ สามารเลอื กใช้ซอฟตแ์ วร์ สามารเลือกใช้ซอฟต์แวร์ สามารเลือกใช้ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ในการ นำเสนอขอ้ มูลและ ในการนำเสนอขอ้ มูล ในการนำเสนอข้อมลู ในการนำเสนอข้อมลู สารสนเทศ 3. การนำเสนอ และสารสนเทศได้ตาม และสารสนเทศตาม และสารสนเทศพอใช้ได้ 4. ตระหนักถงึ วตั ถุประสงค์ทีต่ อ้ งการ วตั ถุประสงค์พอใช้ได้ เพียงบางส่วน ผลกระทบตอ่ ผู้อื่น เปน็ สว่ นใหญ่ มคี วามชัดเจนในการ มีความชัดเจนในการ มคี วามชดั เจนในการ ส่อื สาร ใชถ้ อ้ ยคำ สอ่ื สาร ใชถ้ ้อยคำ สือ่ สาร ใชถ้ อ้ ยคำ เหมาะสมเขา้ ใจงา่ ย เหมาะสมเข้าใจง่าย เหมาะสมเข้าใจงา่ ย สามารถตอบคำถามได้ สามารถตอบคำถามได้ สามารถตอบคำถามได้ ทุกข้อ และรับฟงั ความ เป็นสว่ นใหญ่ และรบั ฟัง เพยี งบางส่วน และรับฟงั คิดเหน็ ของผ้อู นื่ ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น ความคดิ เห็นของผอู้ น่ื ขอ้ มลู ทีน่ ำเสนอไม่ส่งผล ขอ้ มลู ทีน่ ำเสนอไม่ส่งผล ข้อมลู ที่นำเสนอไม่สง่ ผล กระทบหรือให้ร้ายผู้อื่น กระทบหรือใหร้ ้ายผู้อื่น กระทบหรอื ให้รา้ ยผอู้ น่ื ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม ทงั้ ทางตรงและทางอ้อม ทงั้ ทางตรงและทางอ้อม เป็นสว่ นใหญ่ เพียงบางสว่ น เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 10 – 12 ดี 9–6 น้อยกว่า 6 พอใช้ ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบฝึกหัด เรื่อง …………………………………………………………. คาช้ีแจง ใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่องที่เป็นจริงมากท่สี ุด รายการประเมิน ที่ ช่ือ - สกลุ ความซ่ือสตั ย์ มรี ะเบียบวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ มุง่ มนั่ ในการ รวม สุจริต ทางาน 321321321321 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. ผปู้ ระเมนิ ……………………………………… …….………/……….…../…………..

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มรี ะเบยี บวนิ ยั หมายถึง มกี ารปฏบิ ตั งิ าน มีสมุดงาน ช้ินงาน และปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลง คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาทีป่ รากฎให้เห็น 3 สมดุ งาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อย และปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ี ดีมาก กาหนดให้ร่วมกนั ทุกคร้ัง 2 สมุดงาน ช้ินงาน ส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ น ดี ขอ้ ตกลงท่กี าหนดให้ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่ 1 สมุดงาน ช้ินงาน ไม่คอ่ ยเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงที่ พอใช้ กาหนดใหร้ ่วมกนั เป็นบางคร้ัง ตอ้ งอาศยั การแนะนา 2. ความรับผิดชอบ หมายถงึ มีการส่งงานตรงกาหนดเวลา และปฏบิ ตั ิจนเป็นนิสัย คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 ส่งงานก่อน หรือตรงกาหนดเวลานดั หมายรับผดิ ชอบ และปฏิบตั ิเอง จนเป็นนิสยั แนะนาชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ติ าม ดีมาก ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด แต่ไดม้ ีการตดิ ต่อช้ีแจงโดยมเี หตุผลรับฟังได้ 2 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ดี ส่งงานชา้ กว่ากาหนด แต่ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงโดยตอ้ งอาศยั การ 1 ช้ีแนะ คาแนะนา และการตกั เตอื น พอใช้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน หมายถงึ มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย มีความอดทน และไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 นกั เรียนมคี วามกระตอื รือร้น แสดงออกถึงความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ ดว้ ยความเพยี รพยายามอดทน เพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายตลอดเวลา ดีมาก นกั เรียนมีความกระตือรือร้น แสดงออกถงึ ความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ 2 ดว้ ยความเพียรพยายามอดทน เพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายบางเวลา ดี 1 นกั เรียนไม่มคี วามรับผิดชอบ หรือทางานไมส่ าเร็จตามเป้าหมาย พอใช้

การแปลผล ใชเ้ กณฑ์ ดงั น้ี หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถงึ ดี คะแนน 4 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท4่ี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มลู เวลา6ช่ัวโมง เรอ่ื ง การสืบค้นเพือ่ หาแหล่งขอ้ มูล เวลา2ชว่ั โมง รายวชิ าวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ___________________________________________________________________________ 1. มาตรฐาน/ตัวขี้วดั มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงค านวณในการแกป้ ัญหาท่พี บในชวี ิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ชีว้ ัด ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล วิเคราะห์สอื่ และผลกระทบจากการให้ขา่ วสารที่ผิด เพ่อื การ ใชง้ านอย่างรู้เท่าทนั 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกขั้นตอนการสืบคน้ เพอ่ื หาแหล่งขอ้ มูลด้วยอินเทอร์เน็ตได้ (K) 2.คน้ หาขอ้ มูลได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ (P) 3.ค้นหาขอ้ มูลท่ีมีความน่าเช่อื ถอื และมคี ุณคา่ ส าหรบั การน าไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ (P,A) 3. สาระการเรยี นรู้ 1.การสบื คน้ ข้อมลู ด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ 2.ขัน้ ตอนการสบื คน้ เพอื่ หาแหลง่ ขอ้ มูลดว้ ยอนิ เทอร์เน็ต 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การสืบคน้ แหล่งข้อมูลเป็นกระบวนการค้นหาข้อมลู ทีต่ อ้ งการ โดยใช้เครอื่ งมอื ต่าง ๆ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี1. การสืบคน้ ขอ้ มูลดว้ ยมอื คอื การสบื ค้นข้อมลู ด้วยเอกสาร หนังสือ ตำรา เป็นตน้ 2. การสบื ค้นขอ้ มูลด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ คือ การสืบคน้ ข้อมลู ผ่านเทคโนโลยหี รอื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ เช่น การสบื คน้ ข้อมลู จากระบบฐานขอ้ มูล ข้อมูลออนไลน์ เปน็ ตน้ 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1.ความสามารถในการสอื่ สาร 2.ความสามารถในการคดิ 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มวี ินัย รับผดิ ชอบ 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3.มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั้ โมงท่1ี ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น 10 นาที 1.ครูสอบถามนกั เรยี นว่าหากต้องการทราบขอ้ มูลเรอื่ งทสี่ นใจ นักเรยี นมวี ิธกี ารค้นหาขอ้ มลู ได้อยา่ งไร และใช้เครือ่ งมือใด ขั้นสอน 40 นาที 2.ครอู ธิบายเนือ้ หาในหนังสอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ในอดีตการค้นหาข้อมูลสว่ น ใหญจ่ ะใชว้ ิธีการสบื ค้นข้อมูลดว้ ยมอื เนอ่ื งจากขอ้ มลู ส่วนใหญอ่ ยใู่ นหนังสือ เอกสารตำราแต่ในยคุ ปัจจบุ นั คอมพวิ เตอร์และอนิ เทอรเ์ น็ตถกู ใช้งานอย่างแพรห่ ลาย ดังนั้นวธิ ีการสืบค้นขอ้ มลู ดว้ ยระบบคอมพิวเตอรจ์ งึ เปน็ ท่ีนยิ ม 3.ครอู ธบิ ายเนอ้ื หาในหนงั สอื เรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ข้อมลู ทม่ี ีอยู่ในอินเทอรเ์ น็ตนั้นมี ขนาดใหญ่ การสบื คน้ จงึ ควรมีวธิ กี ารหรือเคร่ืองมอื เขา้ มาชว่ ย เชน่ กำหนดวตั ถปุ ระสงค์ของการสืบค้น ประเภทของข้อมูลทส่ี ามารถสบื คน้ ได้ อปุ กรณแ์ ละความรทู้ ี่ใช้ในการสืบค้น บริการอนิ เทอร์เนต็ เครื่องมือหรือ โปรแกรมสำหรับสืบคน้ 4.ครสู นทนากับนักเรยี นว่าอินเทอร์เนต็ ที่มีท้ังประโยชน์และโทษ ครถู ามคำถามว่า นกั เรยี นคดิ ว่า อินเทอรเ์ นต็ ให้ประโยชน์อย่างไรกับตัวนกั เรยี นบ้าง 5.จากน้นั ครูถามคำถามนกั เรียนวา่ แลว้ คดิ ว่าอินเทอรเ์ น็ตมีโทษกบั ตัวนกั เรยี นหรือไม่ อย่างไร6.ครู อธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในเน้อื หาประโยชน์และโทษของอินเทอรเ์ น็ตจากหนังสอื เรียนวิชาเทคโนโลยี(วิทยาการ คำนวณ)

7.ครูให้นักเรียนดูแนวทางการใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างมีคณุ ธรรมและจริยธรรมในหนงั สอื และสรปุ แนวคดิ เรือ่ คุณธรรมและจรยิ ธรรมในการใช้อนิ เทอร์เนต็ รว่ มกนั 8.ครยู กตวั อย่างภาพเก่ียวกับการโพสในโซเชยี ลเกี่ยวกับคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการใชอินเทอร์เน็ต ใหน้ ักเรียนดู และให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นว่าขอ้ ความที่โพสเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 9.ครใู ห้นกั เรยี นทำใบงาน เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ ชั่วโมงท2่ี ขนั้ สอน 40 นาที 10.ครสู อบถามนักเรียนวา่ หากต้องการสืบคน้ ข้อมลู ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถใช้เครื่องมอื ใดไดบ้ ้าง 11.ครอู ธิบายเครอื่ งมือสำหรับสืบคน้ ขอ้ มูลผา่ นอินเทอรเ์ น็ตจากหนังสอื เรยี นวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) 12.ครใู หน้ กั เรียนจับคู่เพ่ือทำกิจกรรมคำไหนเรว็ กว่ากนั กิจกรรมนีต้ อ้ งการใหน้ ักเรียนกำหนดคำสำคัญ ของการสบื ค้นขอ้ และสามารถประเมนิ ความน่าเช่ือถอื ขอ้ งแหล่งข้อมูลได้ 13.ครกู ำหนดใหน้ ักเรียนแตล่ ะคคู่ น้ หาคำตอบจากอนิ เทอร์เน็ตโดยมอื ถอื แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป 14. ครูถามนักเรียนวา่ จากการทำกจิ กรรมเพื่อคน้ หาข้อมูลให้ได้เรว็ ที่สุด นกั เรยี นได้แนวคดิ อยา่ งไร บ้าง 15. ครูถามนกั เรยี นต่อว่าหากตอ้ งการคน้ หาขอ้ มลู ทีส่ นใจ นักเรียนมีการวางแผน ข้นั ตอน หรอื เทคนิค อย่างไรบา้ ง 16. ครูอธิบายความสำคญั ขน้ั ตอนการสบื ค้นขอ้ มูลเพบนอินเทอรเ์ น็ต และเทคนคิ การสืบค้นด้วย Google.com จากหนงั สอื เรียนวชิ า เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ) และใหน้ กั เรียนดูVDOข้นั ตอนการสบื คน้ ขอ้ มลู เพบนอินเทอรเ์ นต็ 17. จากน้ันครูให้นกั เรยี นทำ ทำใบงานท่1ี คำไหนเร็วกวา่ กัน และใบงานที่2เร่อื งการสบื คน้ ขอ้ มูลด้วย อินเทอรเ์ นต็ เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจ ขั้นสรปุ 10 นาที 1. ครูสอบถามนักเรียนวา่ จากน้ีไปหากต้องการสบื คน้ ข้อมูลผ่านอินเทอรเ์ น็ตตอ้ งมขี ้ันตอนอย่างไร 2. ครใู หน้ ักเรียนสรปุ เทคนคิ การค้นหาข้อมูลทนี่ ักเรียนไดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน

8.ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1สอ่ื 1.VDO เร่อื ง ขัน้ ตอนการสืบคน้ ข้อมูล 2.ใบงาน เรื่อง คำไหนเรว็ กวา่ กัน 8.2แหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ม.3 2.ห้องเรียน 3.ห้องสมุด 4.แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วิธีวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1. บอกขั้นตอนการ ตรวจใบงาน1เรือ่ งการ ใบงานที่1เรอื่ งการสบื ค้น ตอบคำถาม สืบคน้ เพื่อหาแหลง่ ข้อมูลดว้ ย สบื ค้นข้อมูลด้วย ขอ้ มูลด้วยอินเทอรเ์ น็ต แบบฝึกหดั ได้ถกู ต้อง อนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) อนิ เทอร์เน็ต 60% ขนึ้ ไป 2. ค้นหาข้อมลู ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ ตรวจใบงานท่ี 2 ใบงานท่ี 2 ทำการตอบคำถามได้ (P) เรือ่ ง คำไหนเร็วกว่ากนั เรื่อง คำไหนเรว็ กวา่ กนั ถูกต้องร้อยละ 60 ขึ้น ไปผา่ นเกณฑ์ 3. ค้นหาขอ้ มลู ทีม่ คี วามนา่ เชอ่ื ถอื และมี ตรวจใบงานเร่อื ง2 คำไหน ใบงานที่2เรื่อง คำไหนเร็ว เห็นความสำคัญของ คณุ ค่าส าหรบั การนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เรว็ กว่ากนั กว่ากัน วธิ ีการรวบรวมข้อมลู (P,A) ในระดับคุณภาพ พอใช้ข้ึน ไปถอื วา่ ผ่าน 4.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมคิ ุณลักษณะอัน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ทำงานกลมุ่ พงึ ประสงค์

10. บนั ทึกหลงั การสอน 10.1 การวดั และประเมลิ ผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… 10.2 ปัญหาและอุปสรรค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …………………………………… 9.2 วธิ แี กไ้ ข/แนวทางแก้ไขปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………… ลงชอื่ ................................................................. (.....................................................) ตำแหน่งครู

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบฝึกหัด เรื่อง …………………………………………………………. คาช้ีแจง ใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่องที่เป็นจริงมากท่สี ุด รายการประเมิน ที่ ช่ือ - สกลุ ความซ่ือสตั ย์ มรี ะเบียบวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ มุง่ มนั่ ในการ รวม สุจริต ทางาน 321321321321 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. ผปู้ ระเมนิ ……………………………………… …….………/……….…../…………..

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มรี ะเบยี บวนิ ยั หมายถึง มกี ารปฏบิ ตั งิ าน มีสมุดงาน ช้ินงาน และปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลง คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาทีป่ รากฎให้เห็น 3 สมดุ งาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อย และปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ี ดีมาก กาหนดให้ร่วมกนั ทุกคร้ัง 2 สมุดงาน ช้ินงาน ส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ น ดี ขอ้ ตกลงท่กี าหนดให้ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่ 1 สมุดงาน ช้ินงาน ไม่คอ่ ยเรียบร้อย และปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงที่ พอใช้ กาหนดใหร้ ่วมกนั เป็นบางคร้ัง ตอ้ งอาศยั การแนะนา 2. ความรับผิดชอบ หมายถงึ มีการส่งงานตรงกาหนดเวลา และปฏบิ ตั ิจนเป็นนิสัย คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 ส่งงานก่อน หรือตรงกาหนดเวลานดั หมายรับผดิ ชอบ และปฏิบตั ิเอง จนเป็นนิสยั แนะนาชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ติ าม ดีมาก ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด แต่ไดม้ ีการตดิ ต่อช้ีแจงโดยมเี หตุผลรับฟังได้ 2 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ดี ส่งงานชา้ กว่ากาหนด แต่ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงโดยตอ้ งอาศยั การ 1 ช้ีแนะ คาแนะนา และการตกั เตอื น พอใช้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน หมายถงึ มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย มีความอดทน และไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ คะแนน ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฎใหเ้ ห็น 3 นกั เรียนมคี วามกระตอื รือร้น แสดงออกถึงความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ ดว้ ยความเพยี รพยายามอดทน เพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายตลอดเวลา ดีมาก นกั เรียนมีความกระตือรือร้น แสดงออกถงึ ความต้งั ใจ และรบั ผดิ ชอบ 2 ดว้ ยความเพียรพยายามอดทน เพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมายบางเวลา ดี 1 นกั เรียนไม่มคี วามรับผิดชอบ หรือทางานไมส่ าเร็จตามเป้าหมาย พอใช้

การแปลผล ใชเ้ กณฑ์ ดงั น้ี หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถงึ ดี คะแนน 4 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 3





แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู เวลา6ชั่วโมง เรื่อง การประเมินความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มูล เวลา2ชั่วโมง รายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ___________________________________________________________________________ 1. มาตรฐาน/ตัวข้ีวดั มาตรฐาน ว4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชวี ิตจริงอย่างเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด ม3/3 ประเมินความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู วเิ คราะห์สือ่ และผลกระทบจากการให้ข่าวสาร ทผี่ ดิ เพ่อื การใช้งานอยา่ งรู้เท่าทนั 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกหลักการการประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมูลได้ (K) 2.ประเมินความนา่ เช่อื ถอื ของขอ้ มูลได้ (P) 3.คำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึน้ จากการใชเ้ หตุผลวบิ ัตไิ ด้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ 1.หลักการประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู 2.การตรวจสอบความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มูล 3.การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของขอ้ มูลโดยใช้PROMPT 4.เหตุผลวบิ ตั ิ 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล เปน็ ข้ันตอนในการประเมนิ เพื่อคดั เลอื กข้อมลู ท่ไี ดจ้ ากการ สืบคน้ ขอ้ มูลที่มีคุณค่า มคี วามนา่ เชือ่ ถือ เป็นการพจิ ารณาเพ่ือคัดเลอื กจากแหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ ซ่ึงจากการ ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือจะทำให้เราได้ขอ้ มลู ทม่ี ีคุณค่า และนำขอ้ มูลไปประยุกตใ์ ชอ้ ย่างเหมาะสม 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1.ความสามารถในการสื่อสาร 2.ความสามารถในการคิด

3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวนิ ยั รับผิดชอบ 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ ชว้ั โมงท่ี1 ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 10 นาที 1.ครถู ามนักเรียนว่าขอ้ มูลขา่ วสารในอนิ เทอรเ์ นต็ มีอยมู่ ากมายหากเราตอ้ งการนำเอาขอ้ มูลไปใช้ ประโยชนน์ กั เรยี นมวี ิธกี ารในการคัดเลือกขอ้ มลู ท่ีนา่ เชอื่ ถืออยา่ งไร ขนั้ สอน 40 นาที 2. ครเู ปดิ ตัวอย่างข่าวใหน้ กั เรยี นดูจากน้นั ให้นักเรียนรว่ มกันวเิ คราะหว์ ่าเปน็ ขอ้ มลู จริงหรอื ไม่ 3.ครถู ามนักเรียนว่านักเรียนใช้เกณฑ์ใดในการประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู บ้าง 4.ครูอธิบายเนื้อหาในหนงั สอื เรียนวชิ า เทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3เรื่อง การ ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมลู 5.ครนู ำตัวอยา่ งชดุ ข้อมูลหรอื ข่าวใหน้ กั เรยี นดเู พ่มิ เติม จากนั้นใหท้ ุกคนชว่ ยกนั ประเมนิ ความ น่าเชอื่ ถือ 6.ครใู หน้ ักเรียนดูVDO.เรื่องการประเมินความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูลและทำใบงาน ท1่ี และใบงานท่ี2 เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ

ชว่ั โมงท่2ี ขั้นสอน 40 นาที 7.ครูสนทนากบั นกั เรียนว่า คาบท่ีแลว้ เราประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มูลด้วยหลักการการประเมิน ความน่าเช่ือถือและการตรวจสอบแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู นอกจาก 2 วิธนี ้ีแล้ว ยงั สามารถประเมินความ นา่ เชอื่ ถือของข้อมลู โดยใช้PROMPT 8.ครอู ธบิ ายวธิ ีการประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมลู โดยใช้ PROMPT ในหนงั สือเรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 9.ครถู ามคำถามทบทวนนักเรยี นวา่ จากคาบที่แลว้ นกั เรียนได้วธิ ีการประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของข้อมลู อย่างไรบ้าง 10.ครนู ำภาพตวั อย่างการโพสขอ้ ความบนเฟซบุ๊กให้นกั เรียนดู และรว่ มกันวิเคราะห์ขอ้ มูลวา่ จาก ตวั อย่างดงั กล่าวนักเรยี นมีความคิดเห็นอย่างไร 11.จากนน้ั ครูอธบิ ายเนือ้ หาเร่อื งการใชเ้ หตุผลวิบัติ และยกตวั อย่างการใช้เหตุผลวบิ ัติพรอ้ มผลกระทบ ท่ีเกิดขนึ้ จากตวั อยา่ งในหนงั สือเรยี นวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี3 12.ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ 4-5 คน และใหแ้ ต่ละกลมุ่ หาตวั อยา่ งการใช้เหตุผลวบิ ตั ิบนอินเทอร์เนต็ เพ่อื วเิ คราะหผ์ ลกระทบ หรอื ปัญหาทอ่ี าจเกิดตามมาจากนน้ั ให้แตล่ ะกลมุ่ เตรียมนำขอ้ มูลมาแบ่งปันหนา้ ช้นั เรยี น 13.ครูใหน้ กั เรียนเรยี นทำใบงานท3่ี เรือ่ งเหตผุ ลวิบัติเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ 14.ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมาแบง่ ปันข้อมูลหน้าช้ันตามหวั ข้อทไี่ ดร้ ับมอบหมาย จากน้นั ให้ นกั เรยี นกลุม่ อ่ืน ๆรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับสถานการณข์ องกลุ่มทนี่ เสนอผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ จากการ ใชเ้ หตุผลวบิ ัติ ขน้ั สรปุ 10 นาที 15.ครูสอบถามนกั เรยี นว่าจากคาบที่ผ่านมานกั เรยี นได้มมุ มองในการใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างไรบา้ ง 8.สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1สือ่ 1.VDO เรื่อง ความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มลู

2.ใบงาน เรื่องการประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มูล 8.2แหลง่ การเรยี นรู้ 1.หอ้ งเรียน 2.ห้องสมุด 3.แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 4.หนงั สอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) 9. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธวี ัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.บอกหลักการการประเมินความ -ตรวจใบงานท่1ี ประเมนิ -ใบงาน - ประเมินตามสภาพ น่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มูลได้ (K) ความน่าเชื่อถือของข้อมูล จรงิ 2.ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มูลได้ -ตรวจใบงาน1ประเมนิ -ใบงาน - ทำการตอบคำถาม ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูล ไดถ้ กู ตอ้ งร้อยละ 60 ข้ึนไปผ่านเกณฑ์ 3.คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการ -ตรวจใบงาน1ประเมนิ -ใบงาน -คำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ี ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของขอ้ มลู ได้ (A) ความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมูล เกดิ ขนึ้ จากการ ประเมนิ ความ นา่ เชื่อถอื ของข้อมลู ได้ 4.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิคุณลกั ษณะอัน - ผ่านเกณฑ์ในระดับ ทำงานกลุ่ม พงึ ประสงค์ ดี