คำ� น�ำ การสรา้ งความเขม้ แขง็ เครอื ขา่ ยผบู้ รโิ ภคในกจิ การกระจายเสยี ง และโทรทศั น์ หรอื ผบู้ รโิ ภคสอื่ วทิ ยุ – โทรทศั น์ เปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การรวมกลุ่ม และสร้างความตระหนักรู้ในสิทธิของกลุ่มผู้บริโภคใน กจิ การกระจายเสยี งและกจิ การโทรทศั น์ เพอื่ การสง่ เสรมิ และคมุ้ ครอง สิทธิของตนเองจากการเป็นผู้รับ ผู้ใช้ประโยชน์ และผู้มีส่วนร่วมใน ส่ือวิทยุ – โทรทัศน์ ในมติ ิทีห่ ลากหลาย ทง้ั ในด้านการรบั บรกิ าร และ การรับชมรายการ การโฆษณาที่ออกอากาศทางส่ือวิทยุ–โทรทัศน์ ซ่ึงมีอิทธิพลต่อแนวคิด ทัศนคติและพฤติกรรมของคน รวมทั้งยัง สามารถขับเคลือ่ นสังคมไดอ้ กี ด้วย ในยทุ ธศาสตรด์ า้ นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในกจิ การกระจายเสยี ง และกิจการโทรทัศน์ และการส่งเสริมสิทธิทางการส่ือสาร ตามแผน แมบ่ ทกจิ การกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบบั ที่ 1 มีหลกั การ การคมุ้ ครองสทิ ธผิ บู้ รโิ ภคใหค้ ำ� นงึ ถงึ หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน มใิ หถ้ กู ละเมดิ จากผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในลักษณะ ทเ่ี ปน็ เทจ็ บดิ เบอื น อคติ ไมเ่ ปน็ ธรรม ครอบงำ� หรอื เปน็ การเอาเปรยี บ เพ่ือประโยชน์ทางการค้าโดยมุ่งเน้นการสร้างหลักเกณฑ์ใน การคุ้มครองสิทธิ มีกลไกในการรับเร่ืองร้องเรียนท่ีสะดวก
มปี ระสทิ ธภิ าพ มกี ารแกไ้ ขปญั หาอยา่ งรวดเรว็ และไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ริ วม ทง้ั สง่ เสรมิ ศกั ยภาพใหป้ ระชาชนมคี วามตนื่ ตวั เขม้ แขง็ รจู้ กั ปกปอ้ งตนเอง สามารถเขา้ ถงึ เขา้ ใจ และใชส้ อื่ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เกดิ ประโยชนแ์ ก่ ตนเองผ่านกระบวนการรู้เท่าทันสื่อและการรณรงค์ทางสังคม เพ่ือคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้บริโภคมิให้ถูกละเมิด เอาเปรียบจาก ผปู้ ระกอบกจิ การกระจายเสยี งและกจิ การโทรทศั น์ ดงั นนั้ การสง่ เสรมิ ให้ผู้บรโิ ภคสื่อวทิ ยุ–โทรทัศน์มีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกับโครงสร้าง ของสอ่ื กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง และสิทธิ หน้าที่ ความรับผดิ ชอบของสือ่ และการเปน็ ผบู้ รโิ ภคสอ่ื เอง เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทจ่ี ะทำ� ใหก้ ารรวมตวั กนั เป็นเครือข่าย และมีส่วนร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ คือ ภาครัฐ โดยมี คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นหน่วยงานก�ำกับดูแล ท่ีมีการ ทำ� งานรว่ มกบั หนว่ ยงานอนื่ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ การกำ� กบั ดแู ล การโฆษณา ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพรว่ มกบั สำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) การโฆษณาปุ๋ย ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร เป็นต้น และภาค ผู้ประกอบกิจการส่ือ ซึ่งมีความหลากหลายท้ังในแง่ปริมาณและ รูปแบบการส่งสัญญาณ การจัดท�ำรายการ ดังน้ันการท�ำความเข้าใจ และมีขอ้ มลู จงึ มคี วามสำ� คัญ จำ� เปน็ อย่างยงิ่ คู่มือเล่มนี้จึงมีจุดมุ่งหมายให้เครือข่ายผู้บริโภคสื่อ วทิ ยุ – โทรทศั น์ มขี อ้ มลู พนื้ ฐานในแงม่ มุ ตา่ งๆ ท่ี กสทช. และสำ� นกั งาน กสทช. หวังว่าจะเป็นการส่งเสริมกระบวนการคิด วิเคราะห์ และ สร้างความตระหนักในสิทธิของความเป็นพลเมืองผู้บริโภคส่ือ
วิทยุ – โทรทัศน์ โดยได้ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังทางวิชาการ ทางสังคม ร่วมกันรวบรวมข้อมูล ความรู้ ทั้งทางด้านกฎหมาย ที่เก่ียวข้อง เทคนิคการเข้าถึงสื่อวิทยุ-โทรทัศน์เบื้องต้น สิทธิการ เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การคุ้มครองผู้ใช้บริการ การคุ้มครองด้าน รายการ/โฆษณา การตดิ ตาม/เฝา้ ระวงั และการแจง้ เบาะแส/รอ้ งเรยี น ตลอดจนการเผยแพร่ส่ือสาร การรณรงค์ทางสังคม และการสร้าง การเปลี่ยนแปลง กสทช. และส�ำนักงาน กสทช. หวังว่า คู่มือฉบับนี้ จะเป็น ประโยชนแ์ ก่ผบู้ ริโภคสือ่ วทิ ยุ – โทรทศั น์ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความตระหนัก และจะไม่หยุดนิ่ง อยู่เฉย แต่จะเป็นผู้รับส่ือ ผู้ใช้สื่อ ดว้ ยความตระหนกั รู้ และมสี ว่ นรว่ มกบั กสทช. และสอื่ วทิ ยุ – โทรทศั น์ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพอื่ การพฒั นาตนเอง สามารถใชส้ อ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน รวมท้ังขยายผลให้เกิดการ เปลย่ี นแปลงในสงั คมทมี่ สี อ่ื เปน็ องคป์ ระกอบ และสง่ เสรมิ การขบั เคลอ่ื น ให้ระบบส่ือมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคส่ือ สร้างความเข้มแข็ง ยง่ั ยืนให้สังคมตอ่ ไป ส�ำนกั รบั เร่ืองรอ้ งเรียนและคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค ในกิจการกระจายเสยี งและโทรทศั น์ สำ� นักงาน กสทช.
สารบัญ
1 กฎหมายเกี่ยวกบั การคมุ้ ครอง ผ้บู ริโภคส่ือวทิ ยุ-โทรทัศน์ 47 71 การเข้าถึงส่ือวทิ ย-ุ โทรทัศน์ 90 123 สทิ ธิการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ของผู้บริโภคสอื่ วทิ ยุ-โทรทัศน์ 144 การคุ้มครองผใู้ ช้บริการ 157 176 การคุ้มครองด้านรายการและ 194 การโฆษณา การติดตามเฝ้าระวัง การแจ้ง เบาะแส รอ้ งเรียน การสรา้ งพลงั การสอ่ื สารสกู่ าร เป็นสังคมผบู้ ริโภค (สอ่ื ) ทีต่ ่นื รู้ การสร้างเครอื ขา่ ย เอกสารอ้างอิง
กฎหมายเกย่ี วกบั การคมุ้ ครองผบู้ ริโภค สื่อวิทยุ-โทรทัศน์ กฎหมายกบั นั บ ตั้ ง แ ต ่ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย มี ก า ร การปฏริ ปู สอื่ เปลีย่ นแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 เปน็ ตน้ มา สอื่ เปน็ ปจั จยั หนง่ึ ในการขบั เคลอ่ื น ระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปกครอง แต่ในเม่ือรัฐเป็นผู้มีอ�ำนาจ เบด็ เสรจ็ เดด็ ขาดในการบรหิ ารจดั การและ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐมี อำ� นาจในการถอื ครองคลนื่ ความถแ่ี ตเ่ พยี ง ฝ่ายเดียวและไม่มีการก�ำหนดระยะเวลา ท่ีแน่นอนในการใช้ประโยชน์และคืน คลื่นความถ่ี ซ่ึงก่อให้เกิดการผูกขาดการ ประกอบกิจการ การปิดก้ันเสรีภาพใน การน�ำเสนอส่ือและความคิดเห็นและการ จ�ำกัดสิทธิในการรับชมเน้ือหาที่มีความ หลากหลาย การปฏริ ปู สอื่ จงึ เกดิ ขนึ้ เพอื่ ให้
เกิดการกระจายความเป็นเจ้าของสื่อ ไปสู่ผู้ประกอบการ รายใหม่และประชาชนมากขึ้น ท�ำให้ต้องมีการก�ำกับดูแล สื่อให้มีความเป็นมอื อาชีพยง่ิ ขึ้น จุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสื่อ จึงเกิดขึ้นอย่างเป็น รปู ธรรม ตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 ได้ก�ำหนดให้คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรส่ือสารของชาติ เพอ่ื ประโยชนข์ องเราทกุ คนทงั้ ทางดา้ นการศกึ ษา วฒั นธรรม ความม่ันคงของรัฐ และให้มีองค์กรของรัฐท่ีเป็นอิสระ ท�ำหน้าท่ีจัดสรรคล่ืนความถี่ และก�ำกับดูแลการประกอบ กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกจิ การ โทรคมนาคม ฯลฯ หลังจากน้ันในปี พ.ศ. 2554 จึงเกิด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ (กสทช.) ขนึ้ 2
รฐั ธรรมนูญแหง่ รฐั ธรรมนูญแหง่ รฐั ธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจกั รไทย ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2560 มาตรา 40 มาตรา 47 มาตรา 60 คลื่นความถ่ีท่ีใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่น วิทยุโทรทัศน์ และวิทยุโทรคมนาคมเป็น ความถ่ีและดาวเ ทียม ทรัพยากรสื่อสารของชาติ เพ่ือประโยชน์ เ ป ็ น ส ม บั ติ ข อ ง ช า ติ สาธารณะ เกิดประโยชน์แก่ประเทศ ชาติและประชาชน ประโยชน์คลื่นความถ่ีส่ง วิ ท ยุ โ ท ร ทั ศ น ์ แ ล ะ โทรคมนาคมประโยชน์ สู ง สุ ด ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ความมั่นคงของรัฐ และ สาธารณะ ประชาชนมี ส่วนได้ใชป้ ระโยชน์ ให้มีองคก์ รของรัฐทเี่ ปน็ อสิ ระ จัดสรรคลื่นความถี่ และก�ำกับดูแลการ ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ท่ี ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ เพือ่ รับผดิ ชอบ และก�ำกบั โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม การด�ำเนนิ คล่ืนความถ่ี ค�ำนึงถึงประโยชนสูงสุดของประชาชนใน ระดับชาติ และท้องถิ่น ด้านการศึกษา วัฒนธรรมความม่ันคงของรัฐ ประโยชน์ สาธารณะอ่ืน การแข่งขันโดยเสรีอย่าง เปน็ ธรรม 3
รฐั ธรรมนญู แห่ง รัฐธรรมนูญแห่ง รฐั ธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย ราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2560 มาตรา 40 มาตรา 47 มาตรา 60 จัดให้ภาคประชาชนมี ส่วนร่วมในการด�ำเนนิ การสอื่ มวลชน มาตรการเพ่อื ป้องกนั มใิ ห้ มีการรวบรวม การครอง มีการแสวงหาประโยชน์จาก สิ ท ธิ ข ้ า ม ส่ื อ ห รื อ ผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรมหรือ การครอบง�ำระหว่าง สร้างภาระแก่ผู้บริโภคเกินความ สื่อมวลชนด้วยกันเอง จ�ำเปน็ หรือโดยบคุ คลอืน่ ปอ้ งกนั มใิ หค้ ลน่ื ความถร่ี บกวนกนั การขัดขวางเสรีภาพในการรบั รขู้ ้อมลู ขา่ วสารหรอื ปดิ กน้ั การไดร้ บั ข้อมลู ขา่ วสารทห่ี ลากหลายของ ป้องกนั / ประชาชน หรือข่าวสารท่ีถูกต้องตาม ความเปน็ จริงของประชาชน ป้องกันมิให้บุคคลหรือกลุ่ม บุคคลใดใช้ประโยชน์จากคลื่น ความถ่ีโดยไม่ค�ำนึงถึงสิทธิของ ประชาชนทว่ั ไป การก�ำหนดสัดส่วนขั้นต่�ำท่ีผู้ใช้ ประโยชนจ์ ากคลน่ื ความถจ่ี ะตอ้ ง ด� ำ เ นิ น ก า ร เ พื่ อ ป ร ะ โ ย ช น ์ สาธารณะ 4
กสทช. คือใคร พระราชบญั ญตั อิ งคก์ รจดั สรรคลน่ื ความถแ่ี ละกำ� กบั การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2553 บังคับใหพ้ ฒั นาแผนแมบ่ ท เ พื่ อ ใช ้ เ ป ็ น แ น ว ท า ง ใ น ก า ร บ ริ ห า ร ค ลื่ น ค ว า ม ถี่ การอนุญาตให้ใช้คล่ืนความถ่ีและการอนุญาตให้ประกอบ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคม ตลอดจนการกํากับดูแลการประกอบกิจการ ดังกลา่ ว กสทช.เป็นองค์กรอิสระที่กฎหมายก�ำหนดให้ท�ำ หน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถ่ี และก�ำกับการประกอบ กิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ แกป่ ระชาชน รวมทงั้ การ พัฒนาคุณภาพและระบบการก�ำกับดูแลกันเองของ ผู้ประกอบกิจการ การมี กสทช.เพื่อให้เกิดการปฏิรูปสื่อ ท่ีกระจายความเป็นเจ้าของคลื่นความถ่ี จากท่ีหน่วยงาน ภาครัฐเท่าน้ันท่ีถือครองให้ไปสู่มือของผู้ประกอบการและ 5
ประชาชนที่หลากหลาย โดยหน่วยงานของรัฐที่เป็น เจา้ ของเดมิ กย็ งั คงไดถ้ อื ครองคลน่ื บางสว่ นตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม รวมถึงการก�ำกับดูแล โดยก�ำหนด กฎ ระเบียบ และนโยบายต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดการพัฒนา ของอุตสาหกรรมของกิจการวิทยุ และกิจการโทรทัศน์ ในขณะเดยี วกันก็คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคดว้ ย กรอบการทำ� งานของ กสทช. ดา้ นวทิ ย-ุ โทรทศั นม์ อี ะไรบา้ ง พระราชบัญญตั กิ ารประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. 2551 ก�ำหนดให้ กสทช. ประกาศแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและ กจิ การโทรทัศน์ 6
1 จดั สรรทรพั ยากรในการสอ่ื สารอยา่ งโปรง่ ใส เปน็ ธรรมและครอบคลมุ ในทกุ มติ ิ 2 ก�ำกับดูแลมีประสิทธิภาพบนพ้ืนฐานการ แขง่ ขนั เสรเี ปน็ ธรรมเพอ่ื ประโยชนส์ าธารณะ และคำ� นงึ ถงึ หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน 3 การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคโดยค�ำนึงถึง ห ลั ก สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น มิ ใ ห ้ ถู ก ล ะ เ มิ ด จ า ก ผปู้ ระกอบกจิ การกระจายเสยี ง และกจิ การ โทรทัศน์ในลักษณะที่เป็นเท็จ บิดเบือน อคติ ไม่เปน็ ธรรม ครอบง�ำ หรือเปน็ การ เอาเปรยี บเพอ่ื ประโยชน์ทางการคา้ 4 ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการส่ือสารและ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนท่ี หลากหลาย มคี ณุ ภาพ อยา่ งเท่าเทียมและ เสมอภาค 7
กฎหมายไม่อนุญาตให้ออก อากาศเน้ือหารายการในส่ือ วิทยุ-โทรทศั นแ์ บบใดบ้าง พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 หา้ มมิให้ออก อากาศรายการที่มีเน้ือหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้าง การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความม่ันคงของรัฐ ความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน หรอื มี การกระท�ำซ่ึงเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบ ต่อการให้เกิดความเส่ือมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพ ของประชาชนอยา่ งรา้ ยแรง สามารถแบง่ ไดต้ ามหมวด ดงั นี้ 8
1 เนอื้ หาทสี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความสบั สน ยว่ั ยุ ปลกุ ปน่ั ใหเ้ กดิ ความขดั แยง้ หรอื สรา้ งให้ 2 เนื้อหาท่ีมีผลกระทบต่อความสงบ เรยี บร้อย ความม่นั คงและสถาบนั 3 เนอื้ หาทม่ี ีผลกระทบต่อศลี ธรรมอนั ดี 4 เน้ือหาท่ีเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือ มีผลต่อการให้เกิดความเสื่อมทราม ทางจิตใจ 9
ขอ้ กำ� หนดในการจดั ทำ� ผงั รายการ ของสือ่ วิทย-ุ โทรทัศนท์ ่ผี บู้ ริโภค ควรรู้มีอะไรบ้าง ผทู้ จี่ ะประกอบกจิ การวทิ ย-ุ โทรทศั นจ์ ะตอ้ งจดั ทำ� ผงั รายการเพื่อใช้ในการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ โดยมีองค์ประกอบ ตามประกาศ กสทช. เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ การจดั ทาํ ผงั รายการสาํ หรบั การใหบ้ รกิ ารกระจายเสยี งหรอื โทรทัศน์ พ.ศ.2556 ดงั นี้ สดั ส่วนรายการในแตล่ ะประเภทกิจการ วทิ ยุ -โทรทศั น์ ประกาศฯ ข้อ 6 ผู้รับใบอนุญาตท่ีใช้คลื่นความถี่ ต้องจัดผังรายการให้มีสัดส่วนรายการเพ่ือให้บริการแต่ละ ประเภท ดงั นี้ 10
ผ้รู ับอนญุ าต 1 2 3 กจิ สกาาธราบรรณกิ ะาร กจิ กชามุรชบนรกิ าร กจิ การทางธรุ กจิ ใหม้ รี ายการทเี่ ปน็ ขา่ วสาร ให้มีรายการทเ่ี ป็นข่าวสาร ใหม้ ีรายการท่เี ป็นขา่ วสาร หรอื สาระทเ่ี ปน็ ประโยชน์ หรือสาระทเ่ี ป็นประโยชน์ หรือสาระท่ีเปน็ ประโยชน์ ตอ่ สาธารณะ ในสดั สว่ น ต่อชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ ตอ่ สาธารณะในสดั สว่ น ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละเจด็ สบิ ท่รี บั บริการในสัดสว่ น ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละยส่ี ิบห้า ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละเจ็ดสิบ โดยกิจการทางธรุ กิจ โดยตอ้ งมรี ายการทเี่กย่ี วกบั ระดบั ภมู ภิ าคและระดบั ทอ้ งถิ่นตอ้ งทมี่ ีรายการ ชุมชนรอื ทอ้ งถนิ่ ที่ ท่ผี รู้ บั อนญุ าตผลติ เอง รับบริการและต้องมี รายการทผี่ ลติ โดยคน ในสดั สว่ นไมต่ ่�ำกวา่ ในชุมชนหรือท้องถิ่นท่ี รอ้ ยละห้าสิบ ของเวลา รบั บริการในสัดส่วน ไม่ต่�ำกว่าร้อยละหา้ สิบ ออกอากาศท้ังมด ของเวลาออกอากาศ ทง้ั หมด 11
ลักษณะรายการท่ีเป็นข่าวสารหรือสาระที่ เปน็ ประโยชน์ตอ่ สาธารณะ ประกาศฯ ขอ้ 6 กำ� หนดลกั ษณะรายการทเ่ี ปน็ ขา่ วสาร หรอื สาระทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ สาธารณะ ไดแ้ ก่ รายการขา่ วสาร รายการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย รายการส่งเสริมการศึกษา จริยธรรม ศิลปะ วัฒนธรรม การให้ความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเศรษฐกิจ สงั คม คณุ ภาพชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม กำ� หนดเวลาออกอากาศรายการสําหรบั เดก็ และเยาวชน ประกาศฯ ขอ้ 7 กำ� หนดใหผ้ รู้ บั ใบอนญุ าตฯ ตอ้ งจดั ใหม้ กี ารออกอากาศรายการทมี่ เี นอ้ื หาสรา้ งสรรคส์ งั คมหรอื รายการสาํ หรบั เดก็ และเยาวชน ทกุ วนั 16.00 - 18.00 น. เวลา ส-อา 07.00 - 09.00 น. เวลา อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 60 นาที และตอ้ งเปน็ ระดบั ป หรอื ด หรอื ท 12
ในระหว่างช่วงเวลา 18.00 - 22.00 น. เป็นช่วงเวลาท่ีมี จํานวนผู้รับชมสูง ซึ่งเด็กและเยาวชน อาจรับชมอยู่ด้วย ให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาท่ีมีความเหมาะสมและ จะไม่เป็นภัยต่อการพัฒนา ท้ังในด้านสติปัญญา อารมณ์ และสังคมของเด็กและเยาวชน กำ� หนดเวลาในการออกอากาศเพลงชาตไิ ทย และข่าวพระราชส�ำนกั ประกาศฯ ขอ้ 9 ต้องจดั ใหม้ กี ารออกอากาศ เพลงชาตไิ ทย ออกอากาศทกุ วนั 08.00 18.00วนั ละ2ครงั้ ขา่ วในพระราชสำ� นกั 19.00 20.30ออกอากาศทกุ วนั ***ประกาศ กสทช. เรอ่ื ง หลกั เกณฑก์ ารจดั ทำ� ฝงั รายการสำ� หรบั การใหบ้ รกิ ารกระจายเสยี ง หรอื โทรทศั น์ พ.ศ. 2556 (ฉบบั ท่ี 3) ในกรณีท่ีมีเหตุจ�ำเป็น 18.00 22.00 ท�ำให้ไม่สามารถออก อากาศในเวลาปกติให้ ออกอากาศในระวา่ ง 13
การจดั ใหม้ บี รกิ ารทท่ี ำ� ใหค้ นพกิ าร ผสู้ งู อายุ ผดู้ ้อยโอกาสสามารถเขา้ ถึงรายการได้ ประกาศฯ ขอ้ 10 เพอื่ สง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธขิ อง คนพิการและคนด้อยโอกาสสามารถเขา้ ถงึ ส� ำ ห รั บ ร า ย ก า ร ท่ี น� ำ ส� ำ ห รั บ ร า ย ก า ร ท่ี น� ำ โดยอาจจัดให้มีบริการ เ ส น อ ข ้ อ มู ล ข ่ า ว ส า ร เ ส น อ ข ้ อ มู ล ข ่ า ว ส า ร กระจายเสยี งทอ่ี อกอากาศ สาธารณะ ในเวลาออก สาธารณะ ในเวลาออก ร า ย ก า ร อ ่ า น ห นั ง สื อ อากาศ และคนด้อย อากาศอย่างน้อยวันละ เต็มเวลา โอกาสเข้าถึงหรือรับรู้ 60 นาที การใหบ้ ริการได้ หรือบริการโทรทัศน์ท่ีจัด ใหม้ ลี ่ามภาษามอื บริการค�ำบรรยายเป็น อักษรว่ิง หรือบริการค�ำบรรยาย เป็นเสียง หรอื บรกิ ารในรปู แบบอน่ื ใด ท่ี ท� ำ ใ ห ้ ค น พิ ก า ร แ ล ะ ค น ด้อยโอกาสเข้าถึงหรือรับ รู้การใหบ้ รกิ ารได้ 14
หมายเหตุ มีข้อก�ำหนดอยู่ใน พระราชบัญญัติการ ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ มาตรา 36 ประกอบประกาศ กสทช. เรื่อง การส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิของคนพิการในการเข้าถึง หรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของ กิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2559 ด้วย ซ่ึงมี ข้อก�ำหนดถึงสัดส่วนการจัดให้มีบริการ สำ� หรับคนพิการฯ เพมิ่ เตมิ ไวเ้ ปน็ การเฉพาะ การกําหนดช่วงเวลาออกอากาศตามความ เหมาะสมของรายการแต่ละประเภท เพื่อคุ้มครอง เด็กและเยาวชน ประกาศฯ ข้อ 11 เพ่ือคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ผู้รับ ใบอนญุ าตจดั ท�ำผังรายการ 15
เหรรรมาะดยาาบักยะสคกามรวาขทารอมมี่ งี ห้ามมิใหอ้ อกอากาศ (ก) น13 ระหวา่ งเวลา 05.00 - 20.30 น. ของทุกวนั (ข) น18 ระหวา่ งเวลา 05.00 - 22.00 น. ของทุกวนั (ค) ฉ ระหวา่ งเวลา 05.00 - 24.00 น. ของทุกวัน ในระดบั ฉ รวมถงึ รายการดงั ต่อไปน้ดี ้วย (1) มีการกระท�ำซ่ึงอาจเข้าลักษณะลามกอนาจารหรอื ย่ัวยุทางเพศ หรือแสดงถึงความรุนแรงทางเพศหรือ การล่วงละเมิดทางเพศหรือกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม ลอกเลียนแบบในทางเพศหรือมีเนื้อหาทางเพศหรือ การแตง่ กายทล่ี อ่ แหลมหรอื ไมเ่ หมาะสม ไมว่ า่ จะเปน็ การ ใชภ้ าพ เสยี ง เนื้อหาและพฤติกรรมตา่ ง ๆ (2) การใช้ภาษาหรือมีพฤิกรรมท่ีแสดงออกถึงความ รุนแรงหรือน�ำไปสู่ความรุนแรงทารุณโหดร้ายท่ีก่อให้ เกิดผลต่อความร้สู ึกทางจิตใจอย่างรนุ แรง 16
เหรรรมาะดยาาบักยะสคกามรวาขทารอมม่ี งี หา้ มมิให้ออกอากาศ ในระดับ ฉ รวมถึงรายการดังตอ่ ไปนดี้ ว้ ย (3) การนำ� เสนอทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การอคติ การเลอื กปฏบิ ตั ิ การกระทำ� อนั ขัดต่อหลักมนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือละเมิดศักดิ์ศรี ความเปน็ มนษุ ย์ (4) การใช้ภาษาหรือมีพฤติกรรมท่ีขัดต่อศีลธรรมวฒั นธรรมและ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณอี นั ดงี ามของชาติ (5) มีการกล่าวอ้างหรือจูงใจให้เช่ือว่าบุคคลใดบุคคลหนงึ่ หรอื กลมุ่ ใดกลมุ่ หนงึ่ มอี ำ� นาจพเิศษหรอื ความสามารถพเิ ศษเหนือธรรมชาติ (6) ชี้น�ำหรือให้ข้อมูลหรือแสดงออกเพ่ือจูงใจหรือสนับสนุนให้เกิด การเล่นการพนนั หมายเหตุ การจัดระดับความเหมาะสมของรายการ โทรทัศน์ เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลกั เกณฑก์ ารจดั ทาํ ผงั รายการสาํ หรบั การให้ บรกิ ารกระจายเสยี งหรอื โทรทศั น์ พ.ศ. 2556 17
การจัดระดับความเหมาะสมของ รายการโทรทศั น์ ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทําผัง รายการสําหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 กาํ หนดใหผ้ รู้ บั ใบอนญุ าตใหบ้ รกิ ารกระจายเสยี ง หรอื โทรทศั น์ จดั ทาํ ผงั รายการใหส้ อดคลอ้ งกบั ระดบั ความ เหมาะสมของรายการ และกาํ หนดชว่ งเวลาการออกอากาศ ตามความเหมาะสมของรายการแต่ละประเภท ทั้งนี้เพ่ือ ให้การจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์ของ ผรู้ บั ใบอนญุ าตเปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยและสอดคลอ้ งกบั ประกาศฉบับดังกล่าวข้างต้น สํานักงาน กสทช. จึงได้ ประกาศแนวทางการจัดระดับความเหมาะสมของรายการ โทรทศั น์ และไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการกจิ การ กระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในการประชุม คร้งั ท่ี 32/2556 เมอื่ วันที่ 2 กันยายน 2556 ใหน้ ำ� แนวทาง การจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์นี้ ออกเผยแพร่เพื่อใหผ้ ูท้ ่ีเกี่ยวข้องสำ� หรบั ใชเ้ ป็นคมู่ อื 18
กฎหมายก�ำหนดอะไรบ้างที่เป็นการ เอาเปรยี บผบู้ ริโภคสอื่ วทิ ยุ - โทรทศั น์ พระราชบญั ญตั อิ งคก์ รจดั สรรคลนื่ ความถแ่ี ละกำ� กบั การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ตามมาตรา 31 วรรคสอง ในกรณีท่ีผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ด�ำเนินการใด ๆ ในประการที่ นา่ จะเปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภค โดยอาศยั การใชเ้ ครอื ขา่ ย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้าก�ำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนร�ำคาญ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. ก�ำหนด ให้ กสทช. มีอ�ำนาจ ส่งั ระงบั การด�ำเนนิ การดงั กล่าวได้ นอกจากน้ี เพอื่ ใหก้ ารคมุ้ ครองสทิ ธิ และเสรภี าพของ ผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบจากสื่อวิทยุ-โทรทัศน์เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ได้มีการก�ำหนด หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกระท�ำที่เป็นการเอาเปรียบ 19
ผู้บริโภคสื่อวิทยุ-โทรทัศน์เพ่ิมเติม ท้ังน้ีเป็นไปตาม ประกาศ กสทช. เรื่อง การกระท�ำที่เป็นการเอาเปรียบ ผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 โดยมสี าระสำ� คญั ทผี่ บู้ รโิ ภคสอ่ื วทิ ย-ุ โทรทศั น์ ควรรู้ ดังนี้ 20
การกระทำ� ทมี่ ลี กั ษณะเปน็ การเอาเปรยี บผบู้ ริโภค ประกาศฯ ข้อ 5 ก�ำหนดลักษณะการกระท�ำที่ เป็นการเอาเปรยี บผ้บู รโิ ภค ดังนี้ ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ขอ้ กำ� หนดเพม่ิ เตมิ หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ (1) ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพนน้ั ๆ มคี ำ� สง่ั วา่ ไมช่ อบ ด้วยกฎหมาย (2) ท่ีมีเนื้อหาสาระในลักษณะเป็นการจูงใจ ให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือสินค้า โดยหลอกลวงหรอื การกระทำ� ใหเ้ กดิ ความ เข้าใจผิดในสาระส�ำคัญเก่ียวกับบริการ หรอื สนิ คา้ นนั้ หรอื โดยการใชห้ รอื อา้ งองิ รายงานทางวชิ าการ สถติ ิ หรอื ข้อมูลอนั ไม่เป็นความจริงหรอื เกนิ ความจรงิ (3) การก�ำหนดเงื่อนไขในการให้บริการที่มี ลักษณะเป็นข้อสัญญาท่ีไม่เป็นธรรม ตามกฎหมายหรือขัดต่อข้อก�ำหนด ด้านสัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการ คมุ้ ครองผู้บรโิ ภค 21
ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ขอ้ กำ� หนดเพม่ิ เติม หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ (4) การกระทำ� โดยอาศยั อำ� นาจทางการตลาด เพื่อบังคับให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ ของตน หรือของผู้ประกอบกิจการ กระจายเสยี งหรอื กจิ การโทรทศั นร์ ายหนงึ่ รายใดหรือหลายรายอยา่ งไมเ่ ป็นธรรม (5) การกระท�ำใด ๆ ท่ีมีลักษณะกีดกันมิให้ ผบู้ รโิ ภคสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารทม่ี คี ณุ ภาพ ไดต้ ามปกตอิ นั เปน็ เหตใุ หผ้ บู้ รโิ ภคตอ้ งรบั ภาระเพม่ิ ขน้ึ ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารกระจายเสยี ง หรอื บรกิ ารโทรทศั น์ดงั กลา่ ว (6) การด�ำเนินการของผู้ประกอบกิจการ กระจายเสยี งหรอื กจิ การโทรทศั นม์ ากกวา่ หน่ึงรายข้ึนไปซ่ึงร่วมกันก�ำหนดเง่ือนไข การเข้าถึงบริการอันมีลักษณะบังคับให้ ผบู้ รโิ ภคตอ้ งเลอื กใชบ้ รกิ ารของผปู้ ระกอบ กิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ นน้ั รายใดรายหนงึ่ หรอื สรา้ งภาระเกนิ ควร ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารนน้ั (7) กระทำ� การฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามเงอื่ นไข ในการให้บริการ หรือระงับหรือหยุดการ ให้บริการ โดยไม่แจ้งให้ผู้บริโภคทราบ เป็นการล่วงหน้า โดยปราศจากเหตุผล อนั สมควร 22
ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ข้อก�ำหนดเพิ่มเติม หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ (8) การออกอากาศรายการโดยมีการ โฆษณาบริการหรือสินค้าเกินกว่าระยะ เวลาท่ีกฎหมายก�ำหนด หรือบ่อยคร้ัง ท่ี เ ป ็ น ผ ล ใ ห ้ ผู ้ บ ริ โ ภ ค รั บ ช ม ร า ย ก า ร อยา่ งไมต่ ่อเนื่อง (9) การออกอากาศรายการในลักษณะท่ีจัด ระดับความดังไม่เกินกว่า ให้มีข้อความหรือข้อมูล ซึ่งมีขนาดพ้ืนที่ มาตรฐานตามข้อเสนอแนะ รวมกันเกิน 1 ใน 8 ของขนาดพ้ืนท่ี ของสหภาพการกระจายเสยี ง หน้าจอโทรทัศน์ อันเป็นการรบกวน แ ล ะ แ พ ร ่ ภ า พ แ ห ่ ง ยุ โ ร ป การรับชมรายการของผู้บริโภคโดยไม่มี (European Broadcasting เหตผุ ลอันสมควร Union) ***ประกาศสำ� นกั งาน กสทฃ. เรื่อง แนวทางการ (10) การออกอากาศรายการหรอื การโฆษณา พจิ ารณาเกยี่ วกบั การกระทำ� โดยใช้วิธีการเพ่ิมเสียงดัง เพื่อดึงดูด ทเ่ี ปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภค ความสนใจของผู้บริโภค ซ่ึงมีผลกระทบ ตามข้อ 5(10) ของประกาศ ต่อผู้บริโภคในลักษณะเป็นการบังคับให้ กสทช. เรื่องการกระท�ำที่ รับข้อมูลข่าวสารรายการ หรือการ เปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคใน โฆษณาน้ัน หรือเป็นมลพิษทางเสียง กิ จ ก า ร ก ร ะ จ า ย เ สี ย ง แ ล ะ โดยไมม่ ีเหตผุ ลอันสมควร กจิ การโทรทศั น์ พ.ศ. 2555 23
ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ขอ้ กำ� หนดเพิ่มเตมิ หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ (11) การออกอากาศรายการในลักษณะ เชิญชวนให้ผู้บริโภคส่งข้อความหรือ เนน้ ยำ�้ ในเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนงึ่ โดยไมม่ เี หตผุ ล อนั สมควร (12) ก ร ณี อื่ น ใ ด ต า ม ท่ี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร เหน็ สมควร การเอาเปรียบผู้บริโภคโดยการโฆษณา 1. การโฆษณาทผี่ ู้ใหบ้ รกิ าร การให้บริการโทรทัศน์อันมีลักษณะ ให้สิทธกิ ารใชบ้ ริการตา่ ง ๆ เป็นการคา้ ก�ำไรเกนิ ควร เ ป ็ น พิ เ ศ ษ แ ก ่ ผู ้ ส มั ค ร ใ ช ้ ***ประกาศสำ� นักงาน กสทช. เรอื่ ง การ บริการเพ่ือเป็นการส่งเสริม กระทำ� ทเ่ี ปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคฯ ตาม การขายในห้วงเวลาใด โดย ข้อ 5 (12) ของประกาศ กสทช. เร่ือง ผู้ให้บริการคงสิทธิการใช้ การกระทำ� ทเ่ี ปน็ การเอาเปรยี บผโู้ บรโิ ภคใน บ ริ ก า ร เ ป ็ น พิ เ ศ ษ ต า ม ท่ี กิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ โฆษณาน้ันไว้น้อยกว่า 30 พ.ศ. 2555 (ฉบบั ท่ี 2) วนั นบั ต้งั แตว่ นั ทีโ่ ฆษณา 2. การโฆษณาดว้ ยขอ้ มลู ที่ เป็นเทจ็ หรอื ปกปดิ ขอ้ มูลที่ ส�ำคัญหรือให้ข้อมูลที่ไม่ ชั ด เ จ น ไ ม ่ อ า จ เ ข ้ า ใ จ ไ ด ้ ก�ำกวม หรือละเว้นการน�ำ เสนอข้อมูลที่จำ� เป็นต่อการ ตัดสินใจเลือกใช้บริการ หรือปกปิดข้อความจริง ท่ีควรบอกให้แจ้ง ท่ีท�ำให้ 24
ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ข้อกำ� หนดเพิ่มเติม หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ ผู้ใช้บริการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง คุณสมบัติ หรือคุณลักษณะของ บริการ ซ่ึีงมีผลต่อการตัดสินใจ ของผู้ใชบ้ รกิ าร การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคโดยการโฆษณาท่ี การออกอากาศรายการหรือ อาศยั ความเชอื่ อยา่ งงมงายหรอื ความ โฆษณาที่มีเน้ือหาสาระในลักษณะ ศรัทธาของบุคคลอันมีลักษณะเป็นการ เป็นการเชิญชวนหรือจูงใจให้ ก่อใหเ้ กดิ ความเดอื ดร้อนรำ� คาญ ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือสินค้า ***ประกาศสำ� นกั งาน กสทช. เรอ่ื ง การ ที่ผิดกฎหมาย หรือที่เป็นการ กระท�ำท่ีเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคฯ หลอกลวง โดยอาศัยความเช่ือ ตามข้อ 5 (12) ของประกาศ กสทช. เรอ่ื ง อยา่ งงมงายหรอื ความศรทั ธาของ การกระทำ� ทเี่ ปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคใน บุคคลซ่ึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วย กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ห ลั ก เ ห ตุ ผ ล ห รื อ ก ร ะ บ ว น ก า ร พ.ศ. 2555 (ฉบับที่ 3) พสิ จู นท์ ี่เป็นทยี่ อมรบั การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคโดยการกำ� หนด การให้บริการโดยการใช้วิธีการ ช ่ อ ง ร า ย ก า ร ใ ด ร า ย ก า ร ห น่ึ ง เ ป ็ น ทางเทคนิค หรือการกระท�ำใน การเฉพาะทกุ ครง้ั ทม่ี กี ารเปดิ เครอ่ื งรบั ลกั ษณะพิเศษ เพ่อื ให้ผู้บรโิ ภคต้อง สัญญาณโทรทัศน์ซึ่งก่อให้เกิดความ รั บ สั ญ ญ า ณ ช ่ อ ง ร า ย ก า ร ใ ด เดือดร้อน รำ� คาญ รายการหน่ึงเป็นการเฉพาะทุกคร้ัง ที่มีการเปิดเครื่องรับสัญญาณ ***ประกาศส�ำนักงาน กสทช. เรื่อง โทรทศั นห์ รอื อปุ กรณร์ บั สญั ญาณ ดงั กลา่ วอนั มลี กั ษณะเปน็ การบงั คบั การกระท�ำท่ีเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคฯ ตามขอ้ 5 (12) ของประกาศ กสทช. เร่อื ง 25
ลกั ษณะการออกอากาศรายการ ขอ้ ก�ำหนดเพมิ่ เติม หรอื โฆษณา ถอื เปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควรหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความ เดอื ดรอ้ นรำ� คาญ การกระทำ� ทเี่ ปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคใน ให้ผู้บริโภคต้องรับบริการ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ต า ม ที่ ผู ้ รั บ ใ บ อ นุ ญ า ต พ.ศ. 2555 (ฉบบั ท่ี 4) กำ� หนดโดยไมอ่ าจหลกี เลยี่ ง ไดแ้ ละไมม่ เี หตผุ ลอนั สมควร ซ่ึงก่อให้เกิดความเดือด รอ้ นรำ� คาญ และจำ� กัดสทิ ธิ ผู้บริโภคในการเลือกรับ สั ญ ญ า ณ ช ่ อ ง ร า ย ก า ร โทรทัศน์อย่างเสรภี าพ การเอาเปรียบผู้บริโภคโดยการปรากฏ การให้ปรากฏภาพประกอบ ภาพประกอบบนแถบแสดงข้อมูลขณะ บน แถบแสดงข้อมูลขณะ เปลี่ยนช่องรายการอัน เป็นการ เปล่ียนช่องรายการโทรทัศน์ ขัดขวางการรับชมรายการ ซ่ึงก่อให้ ในลักษณะเป็นการบังคับให้ เกิดความเดอื ดร้อน รำ� คาญ ผู้ชมต้องรับข้อมูลท่ีน�ำเสนอ ***ประกาศส�ำนักงาน กสทช. เร่ืองการ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ และ กระท�ำท่ีเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคฯ ภ า พ ป ร ะ ก อ บ ดั ง ก ล ่ า ว ไ ด ้ ตามข้อ 5 (12) ของประกาศ กสทช. เรอ่ื ง บดบังพ้ืนที่หน้าจอโทรทัศน์ การกระทำ� ทเ่ี ปน็ การเอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคใน บางสว่ น อนั เป็นการขัดขวาง กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ การรับชมรายการอยา่ งปกติ พ.ศ. 2555 ท่ัวไปท่ีผู้บริโภคพึงคาดหมาย ได้จากการให้บริการของ ผู้ประกอบกิจการ โดยท่ัวไป พึงกระท�ำในการให้บริการ โดยไมม่ ีเหตุผลอนั สมควร 26
การออกอากาศรายการหรอื การโฆษณาทเ่ี ปน็ การ หลอกลวงหรือกระทาํ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ ในสาระสาํ คญั เกยี่ วกบั บรกิ ารหรอื สนิ คา้ ประกาศฯ ขอ้ 6 กำ� หนดให้การออกอากาศรายการ หรือการโฆษณาที่เป็นการหลอกลวง หรือกระทําให้เกิด ความเข้าใจผิดในสาระสําคัญเก่ียวกับบริการหรือสินค้าท่ีมี เน้ือหาสาระในลักษณะเป็นการจูงใจ ให้ผู้บริโภคเลือกใช้ บริการหรือสินค้า โดยหลอกลวงหรือกระทําให้เกิดความ เข้าใจผิดในสาระสําคัญเกี่ยวกับบริการหรือสินค้าน้ัน หรือ โดยการใชห้ รอื อ้างอิงรายงานทางวชิ าการ สถติ ิ หรอื ขอ้ มลู อนั ไมเ่ ปน็ ความจรงิ หรอื เกนิ ความจรงิ ตามประกาศ กสทช. ประกาศส�ำนักงาน กสทช. เรื่อง การกระท�ำท่ีเป็นการ เอาเปรียบผู้บริโภคฯ ตาม ข้อ 5 (2) จะต้องมีลักษณะ อย่างใดอย่างหนง่ึ ดังนี้ (1) ทําให้ผู้บริโภคโดยทั่วไปเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง หรอื คณุ สมบตั ิ หรอื คณุ ลกั ษณะของสนิ คา้ หรอื บรกิ าร และ จากการเขา้ ใจผดิ ดงั กลา่ วมผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจของผบู้ รโิ ภค (2) มีการใชข้ อ้ มูลท่ีเปน็ เท็จ หรือข้อมลู ท่ีถูกต้องแต่ มกี ารปกปดิ ขอ้ มลู ทส่ี าํ คญั หรอื ใหข้ อ้ มลู ทไ่ี มช่ ดั เจน ไมอ่ าจ 27
เขา้ ใจได้ กาํ กวม ไมเ่ หมาะสม จนเปน็ เหตใุ หผ้ ูบ้ รโิ ภคเข้าใจ ผิดในบริการหรือสินค้าน้ัน (3) การละเว้นการนําเสนอข้อมูลท่ีจําเป็นต่อการ ตดั สนิ ใจเลอื กใชบ้ รกิ ารหรอื สนิ คา้ ซง่ึ หากผบู้ รโิ ภคทราบขอ้ มลู ดงั กลา่ วแลว้ ยอ่ มตดั สนิ ใจไมเ่ ลอื กใชบ้ รกิ ารหรอื สนิ คา้ นน้ั ขอ้ กำ� หนดของมาตรฐานสญั ญาการ ใหบ้ รกิ ารโทรทศั นแ์ บบบอกรบั สมาชกิ ทผ่ี บู้ ริโภคควรร้มู ีอะไรบ้าง เพอ่ื คมุ้ ครองผใู้ ชบ้ รกิ ารโทรทศั นแ์ บบบอกรบั สมาชกิ ใหไ้ ด้รับบริการที่มคี ุณภาพ ประสทิ ธภิ าพ รวดเร็ว ถกู ต้อง และเป็นธรรม มิให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบกิจการฯ ประกาศ กสทช. เร่อื ง มาตรฐานของสัญญาการใหบ้ รกิ าร โทรทศั นแ์ บบบอกรบั สมาชกิ พ.ศ. 2556 จงึ ไดม้ กี ารกำ� หนด หลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรฐานของสัญญาการให้บริการ โทรทศั นแ์ บบบอกรบั สมาชกิ ไวด้ งั น้ี (อา่ นรายละเอยี ดเพม่ิ เติมไดท้ ี่ QR Code) 28
หมวด 1 สัญญาการให้บริการโทรทัศนแ์ บบบอก หมวด 2 รบั สมาชิก ข้อ 8, 12, 13 สิทธิและหน้าทีข่ องผู้ให้บริการและผู้ใช้ บริการ ข้อ 14, 15, 16, 17 หมวด 3 สทิ ธแิ ละหน้าท่ีในการเรยี กเก็บคา่ หมวด 4 บรกิ ารและช�ำระค่าบรกิ าร หมวด 5 ข้อ 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26 การระงับการให้บริการและการใช้ บริการโทรทศั นแ์ บบบอกรับสมาชิก ขอ้ 27, 29, 30 การเลิกสญั ญาการใหบ้ รกิ ารโทรทัศน์ แบบบอกรับสมาชกิ ขอ้ 31, 32, 33 ในกรณีที่มีเหตุดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการ อาจใชส้ ทิ ธิเลกิ สญั ญาไดท้ นั ที (1) ผ้ใู ชบ้ รกิ ารไมส่ ามารถรบั บรกิ ารจากผ้ใู ห้ บรกิ ารไดด้ ว้ ยเหตทุ เี่ กดิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและ อยนู่ อกเหนอื การควบคมุ ของผ้ใู ชบ้ รกิ าร (2) ผ้ใู หบ้ รกิ ารไดล้ ะเมดิ ขอ้ ตกลงอนั เปน็ สาระ สำ� คญั ของสญั ญา (3) ผู้ใหบ้ รกิ ารตกเปน็ บคุ คลลม้ ละลาย 29
หมวด 6 (4) ผู้ให้บริการเปล่ียนแปลงข้อตกลงใน สญั ญาหรอื เงอื่ นไขในการใหบ้ รกิ าร ซง่ึ มผี ล เป็นการลดสิทธิหรือประโยชน์อันพึงได้รับ ของผู้ใช้บริการลง เว้นแต่เกิดจากเหตุตาม ทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ ขอ้ 34, 35 การรอ้ งเรียนและการแก้ไขปญั หาข้อ ร้องเรยี น ขอ้ 36, 37 กฎหมายส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ การเข้าถงึ รายการโทรทัศนข์ อง คนพกิ ารอย่างไรบ้าง พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 36 วรรคแรก ก�ำหนดว่า เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ ของคนพิการและคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและ กจิ การโทรทศั นไ์ ด้อย่างเสมอภาคกับบุคคลท่ัวไป ให้คณะ กรรมการกำ� หนดมาตรการพน้ื ฐานบางประการ เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั 30
ใบอนุญาตจัดให้มีบริการท่ีเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของ บคุ คลดงั กลา่ ว ทงั้ นี้ จงึ ไดม้ ปี ระกาศ กสทช. เรอ่ื ง การสง่ เสรมิ และคุ้มครองสิทธิของคนพิการให้เข้าถึงหรือรับรู้ และใช้ ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์ โดยมีสาระ ส�ำคัญท่ผี ู้บรโิ ภคสอ่ื วทิ ยุ-โทรทศั นค์ วรรู้ ดังนี้ โทรทัศน์ดิจิทัลต้องจัดให้มีบริการเพ่ือการ เขา้ ถึงของคนพิการ ประกาศฯ ขอ้ 4 ประกอบ ขอ้ 5 กำ� หนดใหโ้ ทรทศั น์ ดิจิทัลจะต้องจัดให้มีบริการล่ามภาษามือ ค�ำบรรยาย แทนเสียง เสียงบรรยายภาพ ในรายการที่ออกอากาศ ประเภทข่าวสาร หรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ตามสัดส่วนท่ี กสทช. กำ� หนด กรณีทีม่ ภี ยั พิบตั หิ รอื มีเหตฉุ ุกเฉิน ประกาศฯ ขอ้ 12 กำ� หนดใหใ้ นกรณที ม่ี ภี ยั พบิ ตั หิ รอื มีเหตุฉุกเฉิน ต้องจัดให้มีบริการโทรทัศน์ที่มีบริการล่าม ภาษามอื คาํ บรรยายแทนเสยี ง เสยี งบรรยายภาพตามความ เหมาะสมเพมิ่ เติมในรายการท่เี ปน็ การออกอากาศแจ้งข่าว หรอื เตอื นภยั ใหป้ ระชาชนทราบดว้ ย เพอื่ ประโยชนข์ องคน 31
พิการในการเข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการ ของกจิ การโทรทศั น์ได้ทนั ทว่ งที การมีส่วนร่วมของผบู้ ริโภค (คนพกิ าร) ประกาศฯ ขอ้ 19 , 20 และ 24 กำ� หนดกระบวนการ มสี ่วนร่วมขององค์กรแต่ละประเภทความพกิ ารไวด้ ังนี้ ข้อ 19 องค์กรแต่ละประเภทความพิการอาจเสนอ ความเห็นต่อคณะกรรมการ เพื่อขอให้มีแผนการส่งเสริม และสนับสนุนให้มีบริการโทรทัศน์ที่มีบริการล่ามภาษามือ คาํ บรรยายแทนเสียง และเสียงบรรยายภาพ ในรายการที่ ออกอากาศให้มีสัดส่วนเกินกว่าท่ีกําหนดในมาตรการ พ้นื ฐานก็ได้ ข้อ 20 ให้ผู้รับใบอนุญาตรับฟังความคิดเห็นจาก องคก์ รแตล่ ะประเภทความพกิ าร องคก์ ร วชิ าชพี ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ในการจดั ใหม้ บี รกิ ารทเี่ หมาะสมตามมาตรการพนื้ ฐาน และ มาตรการส่งเสริมเพ่ือให้ สอดคล้องกับความต้องการของ คนพกิ าร เพอ่ื ประโยชน์ ในการคมุ้ ครองสทิ ธขิ องผพู้ กิ ารให้ เข้าถึงหรือรับรู้ และใช้ประโยชน์จากรายการ ในกิจการ โทรทศั น์ องคก์ รแตล่ ะประเภทความพกิ าร องคก์ รวชิ าชพี 32
ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอาจเสนอความคดิ เหน็ หรือความต้องการในการ เลอื กรบั บรกิ ารโทรทศั นท์ ม่ี บี รกิ ารแบบใดกไ็ ดต้ ามประกาศ ฉบับนี้ ต่อสํานักงาน กสทช. เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้รับ ใบอนญุ าต จดั ใหม้ บี รกิ ารในรายการทตี่ รงตามความตอ้ งการ ของคนพกิ าร ซง่ึ รวมถงึ ประเภทบรกิ าร ชว่ งเวลาในการจดั ให้ มบี รกิ าร ประเภทรายการทตี่ อ้ งการใหม้ บี รกิ าร และคณุ ภาพ ของบรกิ ารดว้ ย ข้อ 24 ให้สํานักงาน กสทช. จัดให้มีการประเมิน คณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารตามทผี่ รู้ บั ใบอนญุ าตรายงาน โดยให้ องคก์ รแตล่ ะประเภทความพกิ ารทเี่ กยี่ วขอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการ ประเมนิ คณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารตามทค่ี ณะกรรมการกาํ หนด ผู้บริ โภคส่ือวิทยุ-โทรทัศน์ จะรอ้ งเรยี นต้องทำ� อยา่ งไรบา้ ง ประกาศ กสทช. เรอื่ ง การกาํ หนดขน้ั ตอนและระยะ เวลาแล้วเสร็จในการพิจารณาคําขอ หรือคําร้องเรียน ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยมีสาระ ส�ำคัญทผี่ ูบ้ ริโภคสื่อวทิ ย-ุ โทรทศั น์ควรรู้ ดังน้ี 33
ข้อร้องเรียนท่ีผู้บริโภคสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ สามารถรอ้ งเรียนได้ ประกาศฯ ขอ้ 7 กำ� หนดลกั ษณะคำ� รอ้ งเรยี น ไดแ้ ก่ (1) การตรวจสอบคุณสมบัติและการประกอบกิจการของผู้รับ ใบอนญุ าตประกอบกจิ การกระจายเสยี งหรอื กจิ การโทรทศั น์ (2) การใช้คล่ืนความถี่เพ่ือกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั น์ (3) การรบกวนการรบั สง่ หรอื แพรส่ ญั ญาณเสยี งหรอื ภาพของ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทัศน์ (4) การใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายในการประกอบกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทัศน์ (5) การกระท�ำการอันเป็นการผูกขาดการประกอบกิจการ ส่ือมวลชน หลายประเภทในกิจการเดียวกัน หรือ ครองสทิ ธขิ า้ มส่อื (6) การโฆษณาหารายได้ของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ กระจายเสยี งหรอื กจิ การโทรทศั น์ 34
(7) เน้ือหารายการและผังรายการในกิจการกระจายเสียงและ กจิ การโทรทัศน์ (8) การใชเ้ ครอื ขา่ ยหรอื การโฆษณาอนั มลี กั ษณะเปน็ การคา้ กำ� ไร เกนิ ควร หรอื กอ่ ให้เกิดความเดอื ดร้อนร�ำคาญในประการที่ น่าจะเป็นการเอาเปรียบผบู้ รโิ ภค (9) การออกอากาศทเ่ี ปน็ เทจ็ หรอื ละเมดิ สทิ ธิ เสรภี าพ เกยี รตยิ ศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัว หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของ บุคคลทไี่ ดร้ ับความเสียหาย การย่นื คําขอร้องเรยี น ประกาศฯ ขอ้ 10 กำ� หนดให้การย่นื ค�ำรอ้ งเรยี นมี สาระส�ำคญั อย่างน้อย ดังน้ี (1) ชื่อ ทอ่ี ยู่ และหมายเลขโทรศัพทข์ องผู้ยืน่ ค�ำร้องเรยี นพร้อม สำ� เนาบตั รประจำ� ตวั ประชาชนของผยู้ นื่ คำ� ร้องเรยี น (2) ช่ือและที่อยู่ของผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั น์ (ถา้ มี) อันเปน็ เหตุแหง่ การรอ้ งเรยี น (3) ขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื การกระทำ� ทเี่ ปน็ เหตแุ หง่ การรอ้ งเรยี นพรอ้ ม ทั้งพยานเอกสาร หรือหลักฐานอื่นใดท่ีเก่ียวข้องกับข้อเท็จ จริงหรือการกระท�ำดงั กล่าว 35
(4) ค�ำขอหรอื ความประสงคข์ องผู้ย่ืนค�ำร้องเรียน (5) ลายมือชื่อของผู้ยื่นค�ำร้องเรียน ในกรณีที่รับมอบอ�ำนาจ ให้ด�ำเนินการยื่นค�ำร้องเรียนแทนผู้อื่น ให้แนบหนังสือ มอบอ�ำนาจให้ยื่นค�ำร้องเรียนพร้อมส�ำเนาบัตรประจ�ำตัว ประชาชนของผู้มอบอ�ำนาจและผู้รับมอบอ�ำนาจมาด้วย เ พื่ อ ป ร ะ โ ย ช น ์ ใ น ก า ร แ ส ว ง ห า แ ล ะ ร ว บ ร ว ม ข ้ อ เ ท็ จ จ ริ ง ท่เี กี่ยวขอ้ ง ขั้นตอนและระยะเวลาด�ำเนินการของ สำ� นกั งาน กสทช. เมื่อได้รับคํารอ้ งเรยี น ประกาศฯ ขอ้ 13 - ขอ้ 21 กำ� หนดขั้นตอนและ ระยะเวลาด�ำเนินการของส�ำนักงาน กสทช.เม่ือได้รับ คาํ รอ้ งเรียน (อา่ นรายละเอยี ดเพ่มิ เติมได้ที่ QR Code) 36
กฎหมายอื่น ๆ ห้ามออกอากาศ รายการ หรือการโฆษณามอี ะไรบา้ ง นอกจากกฎหมายท่ีก�ำหนดเฉพาะเกี่ยวกับการ ออกอากาศรายการของสอ่ื วทิ ยุ - โทรทศั น์ ภายใตก้ ารกำ� กบั ดูแลของ กสทช. แล้ว ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายอ่ืน ๆ ที่เก่ยี วข้องด้วย เชน่ การโฆษณาอาหาร ยา และผลติ ภณั ฑ์ สขุ ภาพ การหา้ มไมใ่ หช้ กั จงู หรอื ใหม้ กี ารพนนั การหา้ มแสดง เรอื่ งการสบู บหุ รี่ การกำ� หนดชว่ งเวลาการโฆษณาเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ การเรย่ี ไรในทางศาสนา ฯลฯ กฎหมายค้มุ ครองผู้บริโภค สำ� นักงานคณะกรรมการค้มุ ครองผ้บู รโิ ภค (สคบ.) พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มขี อ้ ก�ำหนด การโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความท่ีเป็นการไม่เป็น ธรรมตอ่ ผบู้ รโิ ภค หรอื ใชข้ อ้ ความทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ สังคมเป็นส่วนรวม ทั้งน้ีไม่ว่าข้อความดังกล่าวนั้นจะเป็น ข้อความท่ีเก่ียวกับแหล่งก�ำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือ ลักษณะของสินค้าหรือบริการ ตลอดจนส่งมอบการจัดหา หรอื การใชส้ ินค้าหรือบรกิ าร 37
1) ขอ้ ความท่เี ป็นเท็จหรือเกินความจรงิ 2) ข้อความก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำ� คัญ เกี่ยวกับสินค้าและบริการ ก) โดยวิธีการใช้หรืออ้างอิง รายงานทางวิชาการ สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็น ความจรงิ หรือเกินความจริง หรอื ข) โดยวิธใี ด ๆ กต็ าม 3) ขอ้ ความทเี่ ปน็ การสนบั สนนุ โดยตรงหรอื โดยออ้ ม ใหม้ กี ารกระทำ� ผดิ กฎหมายหรอื ศลี ธรรม หรอื นำ� ไปสคู่ วาม เสอ่ื มเสยี ในวฒั นธรรมของชาติ 4) ข้อความที่จะท�ำให้เกิดความแตกแยกหรือ เส่อื มเสียความสามัคคีในหมปู่ ระชาชน 5) ข้อความอย่างอืน่ ตามท่กี ำ� หนดในกฎกระทรวง กฎหมายด้านอาหาร ยา และผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ สำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40 หา้ มมใิ ห้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรอื สรรพคุณ ของอาหารอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความ หลงเชอื่ โดยไมส่ มควร แตห่ ากจะทาํ การโฆษณาตามมาตรา 41 กไ็ ดม้ กี ารกาํ หนดใหผ้ ปู้ ระสงคจ์ ะโฆษณา คณุ ประโยชน์ 38
คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร ทางวิทยุกระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ ทางฉายภาพ ภาพยนตรห์ รอื ทางหนงั สอื พมิ พ์ หรอื สง่ิ พมิ พอ์ นื่ หรอื ดว้ ยวธิ อี นื่ ใด เพอ่ื ประโยชนท์ างการคา้ ต้องนําเสียง ภาพ ภาพยนตร์หรือข้อความที่จะโฆษณา ดังกล่าวนั้น ให้ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้ รับอนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้ ดังน้ัน เพื่อให้การ ขออนุญาตโฆษณาและการโฆษณาอาหาร เป็นไปตาม เจตนารมยข์ องกฎหมาย อย.จงึ ไดก้ าํ หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร เง่ือนไข และแนวทางการโฆษณาอาหารไว้ ตามประกาศ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์ การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และท่ีแก้ไข เพิม่ เตมิ มาตรา 88 ก�ำหนดให้การโฆษณาขายยาทางวิทยุ โทรทศั นจ์ ะตอ้ งไดร้ บั อนมุ ตั ขิ อ้ ความ เสยี ง หรอื ภาพทใ่ี ชใ้ น การโฆษณาจากผู้อนญุ าต (อย.) และจะตอ้ ง (1) ไม่โอ้อวดสรรพคุณยา หรือวัตถุอันเป็นส่วน ประกอบของยาว่าสามารถบ�ำบัด บรรเทา รักษา หรือ ปอ้ งกนั โรค หรอื ความเจบ็ ปว่ ยของมนษุ ย์ หรอื สตั ว์ ไดอ้ ยา่ ง 39
ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ หรอื หายขาด หรอื ใชถ้ อ้ ยคำ� อน่ื ใดทมี่ คี วามหมาย ในท�ำนองเดยี วกนั (2) ไมแ่ สดงสรรพคณุ ยาอนั เปน็ เทจ็ หรอื เกนิ ความจรงิ (3) ไม่ท�ำให้เข้าใจว่ามีวัตถุใดเป็นยา หรือเป็น สว่ นประกอบของยา ซง่ึ ความจรงิ ไมม่ วี ตั ถหุ รอื สว่ นประกอบ ยา หรอื มีแต่ไมเ่ ทา่ ท่ีท�ำให้เขา้ ใจ (4) ไม่ท�ำให้เข้าใจว่าเป็นยาท�ำให้แท้งลูก หรือ ยาขบั ระดอู ย่างแรง (5) ไม่ท�ำให้เข้าใจว่าเป็นยาบ�ำรุงกาม หรือ ยาคมุ กำ� เนดิ (6) ไม่แสดงสรรพคุณยาอันตราย หรือยาควบคุม พิเศษ (7) ไม่มีการรับรองหรือยกย่องสรรพคุณยา โดยบคุ คลอ่ืน (8) ไมแ่ สดงสรรพคุณยาวา่ สามารถบ�ำบดั บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรืออาการของโรค ได้แก่ โรคเบาหวาน มะเรง็ อัมพาต วณั โรค โรคเรอ้ื น หรอื อาการ ของโรคของ สมอง หวั ใจ ปอด ตบั ม้าม ไต มาตรา 89 ก�ำหนดห้ามมิให้โฆษณาขายยาโดย 40
ไมส่ ุภาพ หรอื โดยการรอ้ งรำ� ท�ำเพลง หรอื แสดงความทกุ ข์ ทรมานของผปู้ ว่ ย มาตรา 90 ก�ำหนดห้ามมิให้โฆษณาขายยาโดย วิธีแถมพก หรอื ออกสลากรางวลั นอกจากน้ี แนวทางการโฆษณาขายยาตอ่ ประชาชน ท่ัวไปก�ำหนดตามระเบียบส�ำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑก์ ารโฆษณาขายยา พ.ศ. 2545 พระราชบญั ญตั เิ คร่อื งส�ำอาง พ.ศ. 2558 มาตรา 41 ก�ำหนดให้การโฆษณาเครือ่ งส�ำอางตอ้ ง ไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความ ท่ีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นสว่ นรวม ดังน้ี (1) เปน็ เท็จหรอื เกินความจรงิ (2) จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสําคัญ เก่ียวกับเครื่องสําอาง ไม่ว่าจะกระทํา โดยใช้หรืออ้างอิง รายงานทางวิชาการ สถิติหรือส่ิงใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็น ความจริงหรอื เกินความจรงิ หรือไมก่ ต็ าม (3) แสดงสรรพคุณที่เป็นการรักษาโรคหรือท่ีมิใช่ จุดมงุ่ หมายเป็นเครื่องสําอาง 41
(4) ทําให้เขา้ ใจวา่ มสี รรพคณุ บาํ รุงกาม (5) เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มี การกระทําผิดกฎหมายหรือศีลธรรมหรือนําไปสู่ความ เส่ือมเสยี ใน วัฒนธรรมของชาติ (6) ทําให้เกิดความแตกแยกหรือเส่ือมเสีย ความสามัคคใี นหมู่ประชาชน พระราชบัญญัติวัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิต และประสาท พ.ศ. 2518 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเพ่ือการค้าซ่ึงวัตถุ ออกฤทธิ์ เวน้ แต่ (1) การโฆษณาซ่ึงกระท�ำโดยตรงต่อผู้ประกอบ วิชาชพี เวชกรรม ผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะแผนปจั จบุ ันช้นั หน่งึ ในสาขาทนั ตกรรม เภสัชกร หรอื ผูป้ ระกอบการบ�ำบัดโรค สตั ว์ชน้ั หนึ่ง (2) เป็นฉลากหรือเอกสารก�ำกับวัตถุออกฤทธ์ิท่ี ภาชนะหรอื หบี หอ่ บรรจุวัตถุออกฤทธิ์ 42
พระราชบญั ญตั โิ ฆษณาเครอ่ื งมอื แพทย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 56 ห้ามการโฆษณาเคร่ืองมือแพทย์ใน บางกรณี ทงั้ นี้ มาตรา 57 ก�ำหนดให้การโฆษณาเคร่ืองมือแพทย์ ตอ้ งได้รบั ใบอนญุ าตจากผู้อนุญาตกอ่ น มาตรา 59 การโฆษณาเครอื่ งมอื แพทย์ ต้อง (1) ไม่แสดงคุณประโยชน์ คุณภาพ ปริมาณ มาตรฐาน สว่ นประกอบหรอื แหลง่ กาํ เนดิ ของเครอ่ื งมอื แพทย์ อนั เปน็ เท็จหรอื เกินความจรงิ (2) ไมแ่ สดงการรบั รองหรอื ยกยอ่ งคณุ ประโยชนข์ อง เครอื่ งมอื แพทย์ โดยบุคคลหน่งึ บคุ คลใด (3) ไม่จัดใหม้ ีรางวลั ด้วยการเสยี่ งโชคโดยวธิ ใี ด ๆ (4) ไมแ่ สดงคุณประโยชนว์ า่ สามารถปอ้ งกัน บําบัด บรรเทา รักษาโรคหรอื อาการของโรค ทห่ี ้ามโฆษณาตามท่ี รัฐมนตรีประกาศกาํ หนด (5) ไม่แสดงข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในสาระสําคญั เก่ียวกับเคร่ืองมือแพทย์ 43
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210