CONTENS
บทที่ 1 หนา้ ภาพที่ 2.13. : รูปแบบขนาดของการจดั พนื้ ทใ่ี นหอ้ งสมดุ หน้า ภาพท่ี 2.14. : การวางผงั ห้องสมั มนา รปู ภาพท่ี 1.1 : คนแตล่ ะช่วงอายุ 1-1 ภาพท่ี 2.15. : การวางผงั พน้ื ที่จดั แสดง 2-32 รูปภาพที่ 1.2 : ซอ้ นทับ 1-2 ภาพท่ี 2.16. : โครงสรา้ งหลกั บันได 2-33 ภาพท่ี 2.17 : โครงสร้างหลัก บันได 2-34สาร ับญภาพ บทที่ 2 2-5 ภาพท่ี 2.18 : ทจ่ี อดรถ 2-42 2-6 ภาพที่ 2.19 : ท่ีจอดรถ 2-42 ภาพที่ 2.1 : TIMELINE GENERATION ตา่ งๆ 2-8 ภาพที่ 2.20 : Toyotomi Community Center 2-43 ภาพที่ 2.2 : แผนภมู แิ สดงกิจกรรมของ Gen-M 2-14 ภาพที่ 2.21 : Toyotomi Community Center 2-43 ภาพที่ 2.3 : แสดงกลุม่ GENERATION ต่างๆ 2-20 ภาพที่ 2.22 : Toyotomi Community Center 2-49 ภาพท่ี 2.4 : วัยร่นุ กับโซเชยี ล 2-22 ภาพที่ 2.23 : Toyotomi Community Center 2-50 ภาพที่ 2.5 : แสดงองค์ประกอบเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ 2-28 ภาพท่ี 2.24 : Toyotomi Community Center 2-50 ภาพท่ี 2.6 : กลไกการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ 2-28 ภาพท่ี 2.25 : Toyotomi Community Center 2-50 ภาพท่ี 2.7 : ภายในของศูนย์การคา้ 2-29 ภาพที่ 2.26 : PLAN Toyotomi Community Center 2-50 ภาพท่ี 2.8 : ภายในของศูนยก์ ารค้า 2-30 ภาพท่ี 2.27 : PLAN Toyotomi Community Center 2-51 ภาพท่ี 2.9 : ปา้ ยแสดงทาง 2-31 ภาพท่ี 2.28 : Section Toyotomi Community Center 2-52 ภาพท่ี 2.10. : ห้องสมุด 2-32 2-53 ภาพท่ี 2.11. : การจดั ห้องสมดุ 2-53 ภาพที่ 2.12. : รูปแบบขนาดของการจดั พน้ื ทใี่ นห้องสมุด 2-53 2-53 2-53
ภาพที่ 2.29 : Section Toyotomi Community Center หนา้ ภาพที่ 2.45: Hunt Library Section หน้า สารบญั ภาพภาพท่ี 2.30 : Isometric Toyotomi Community Center ภาพท่ี 2.46: Hunt Library Sectionภาพที่ 2.31 : TCDC 2-54 ภาพท่ี 2.47: Hunt Library Section 2-66ภาพที่ 2.32 : TCDC 2-55 2-66ภาพท่ี 2.33 : TCDC 2-56 2-66ภาพท่ี 2.34 : TCDC Isometric 2-56ภาพท่ี 2.35 : TCDC library 2-56 บทที่ 3 3-1ภาพท่ี 2.36 : Hunt Library 2-57 3-3ภาพท่ี 2.37 : Hunt Library 2-58 ภาพท่ี 3.1 : ประเทศไทย 3-6ภาพที่ 2.38 : Hunt Library 2-60 ภาพท่ี 3.2 : แผนภมู ิรายได้ 3-10ภาพที่ 2.39 : Hunt Library 2-60 ภาพที่ 3.3 : การเลือกทีต่ ง้ั โครงการระดับเขต 3-12ภาพท่ี 2.40 : Hunt Library 2-60 ภาพที่ 3.4 : การวเิ คราะห์ ทาเลที่ต้งั โครงการ 3-14ภาพท่ี 2.41: Hunt Library Plan 2-60 ภาพท่ี 3.5 : ผงั สีกรงุ เทพ 3-15ภาพท่ี 2.42: Hunt Library Plan 2-61 ภาพท่ี 3.6 : แผนท่ีเขตจตจุ ักร 3-16ภาพท่ี 2.43: Hunt Library Plan 2-62 ภาพท่ี 3.6 : การวิเคราะหท์ ่ีตง้ั โครงการ 3-17ภาพที่ 2.44: Hunt Library Plan 2-63 ภาพที่ 3.7 : วเิ คราะห์ทิศแดด 3-18 2-64 ภาพที่ 3.8 : วเิ คราะห์ทิศลม 2-65 ภาพที่ 3.9 : วเิ คราะหม์ ลภาวะ เสียง ภาพท่ี 3.10 : วเิ คราะห์มลภาวะ ฝนุ่
บทที่ 4 หน้า หน้า ภาพที่ 4.1 : TCDC 4-5 ภาพที่ 4.16 : ระบบปรบั อากาศ 4-30 ภาพที่ 4.2 : ผูบ้ ริการ(กงยู) 4-6 ภาพท่ี 4.17 : ระบบปรับอากาศ 4-30 ภาพที่ 4.3 : พนกั งานฝา่ ยบรกิ าร(จมี นิ ) 4-6 ภาพท่ี 4.18 : GENERATOR 4-31 ภาพที่ 4.4 : พนักงานฝ่ายสนบั สนุน (เผอื ก) 4-7สาร ับญภาพ ภาพที่ 4.5 : ผ้ใู ชส้ อบโครงการ 4-8 ภาพท่ี 4.6 : กิจกรรมผูใ้ ชส้ อบโครงการ 4-11 ภาพท่ี 4.7 : องค์ประกอบโครงการ 4-25 ภาพท่ี 4.8 : โครงสรา้ งเหลก็ 4-26 ภาพท่ี 4.9 : โครงสรา้ งเหลก็ 4-26 ภาพที่ 4.10 : ผนงั กระจก 4-27 ภาพที่ 4.11 : ผนังกระจก 4-27 ภาพท่ี 4.12 : ผนงั รบั น้าหนกั 4-28 ภาพท่ี 4.13 : ผนงั รับน้าหนัก 4-28 ภาพท่ี 4.14 : พื้นระบบ Post-Tension 4-29 ภาพที่ 4.15 : พ้ืนระบบ Post-Tension 4-29
บทท่ี 2 หนา้ บทที่ 4 หน้า สารบญั ตารางตารางท่ี 2.1 ตารางสรปุ ขอ้ กฎหมายที่เกยี่ วข้อง 2-40 ตารางที่ 4.1 ช่วงเวลาเขา้ ใช้กิจกรรมภายใน 4-9ตารางท่ี 2.1 ตารางสรุปขอ้ กฎหมายท่เี กีย่ วข้อง (ตอ่ ) 2-41 ตารางท่ี 4.2 พ้นื ทกี่ จิ กรรมโครงการ 4-10ตารางที่ 2.1 ตารางสรปุ ข้อกฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ ง (ตอ่ ) 2-42 ตารางที่ 4.3 รายละเอียดพนกั งานภายในโครงการ 4-12ตารางท่ี 2.1 ตารางสรปุ ขอ้ กฎหมายทเี่ กย่ี วข้อง (ตอ่ ) 2-43 ตารางท่ี 4.3 รายละเอยี ดพนักงานภายในโครงการ (ต่อ) 4-13ตารางท่ี 2.1 ตารางสรุปข้อกฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง (ตอ่ ) 2-44 ตารางที่ 4.3 รายละเอยี ดพนกั งานภายในโครงการ (ต่อ) 4-14ตารางที่ 2.1 ตารางสรปุ ขอ้ กฎหมายที่เกย่ี วข้อง (ตอ่ ) 2-45 ตารางท่ี 4.3 รายละเอยี ดพนกั งานภายในโครงการ (ต่อ) 4-15ตารางที่ 2.1 ตารางสรุปข้อกฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ ง (ตอ่ ) 2-46 ตารางท่ี 4.3 รายละเอยี ดพนกั งานภายในโครงการ (ต่อ) 4-16ตารางท่ี 2.2 : สรปุ CASESTUDY ตารางที่ 4.4 รายละเอียดองคป์ ระกอบโครงการ 4-17ตารางที่ 2.2 : สรุป CASESTUDY (ตอ่ ) 3-8 ตารางท่ี 4.4 รายละเอียดองค์ประกอบโครงการ(ตอ่ ) 4-18 3-11 ตารางที่ 4.4 รายละเอียดองค์ประกอบโครงการ(ต่อ) 4-19บทที่ 2 3-11 ตารางท่ี 4.4 รายละเอยี ดองคป์ ระกอบโครงการ(ต่อ) 4-20 3-11 ตารางที่ 4.4 รายละเอยี ดองค์ประกอบโครงการ(ต่อ) 4-21ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงการเลอื กที่ตง้ั โครงการระดบั เขต 3-19 ตารางที่ 4.4 รายละเอยี ดองค์ประกอบโครงการ(ต่อ) 4-22ตารางที่ 3.2 ตารางแสดงการเลือกที่ต้ังโครงการระดับเขตตารางที่ 3.3 ตารางแสดงการเลือกท่ตี ้ังโครงการระดบั เขตตารางท่ี 3.4 ตารางแสดงการเลอื กทตี่ ้ังโครงการระดบั เขตตารางที่ 3.5 กฎหมายท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ท่ตี ้งั โครงการ
INTRODUCTIO N
1.1 ความเปน็ มาของโครงการ ปจั จบุ ันสงั คมไทย ประกอบไปด้วยคนหลากหลายช่วงวัยหลากหลาย Generation ทาใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งกนั ในหลายๆดา้ นโดยกลมุ่ Generation Millennials หรอื Generation M เปน็ กลมุ่คนชว่ งอายุ 18-29 ปี ซงึ่ กาลงั กลายเปน็ กาลงั หลกั ของการพัฒนาหลายดา้ นในอนาคตท้งั ดา้ นความเจริญและ ดา้ นเศรษฐกิจ เปน็ ตน้ โดยคนกกลมุ่ นเ้ี ป็นประชากรของ Generation ในปจั จุบนันบั เปน็ กาลังหลกั สาหรบั การพฒั นาในอนาคต เชน่ การเปล่ียนโครงสร้างเศรษฐกจิ ในอนาคตจากเดิมของไทย ใหก้ ลายเปน็ “ เศรษฐกจิสร้างสรรค์ ” รูปภาพท่ี 1.1 : คนแต่ละชว่ งอายุ ที่มารปู ภาพ : Trend TCDC 2017 1-1
รปู ภาพท่ี 1.2 : ซอ้ นทบั เนอื่ งจากว่ายัง ไมม่ มี ีพน้ื ที่ Support คนกลมุ่ นที้ ่เี พยี งพอที่มารูปภาพ : Trend TCDC 2017 จึงยังไมส่ ามารถจะดงึ ศักยภาพ หรือความสามารถของตนเองออกมาได้ เต็มท่ี ดงั นั้น โครงการศกึ ษาและออกแบบศนู ย์ชุมชนสรา้ งสรรค์ การเรียนรเู้ พ่อื คนร่นุ ใหม่ เปน็ โครงการ ท่สี นับสนนุ เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ หรือ แนวคดิ การขบั เคลอื่ นเศรษฐกิจบนพน้ื ฐาน ของการใชอ้ งคค์ วามรู้ การศกึ ษา การสรา้ งสรรคง์ าน ซงึ่ แนวทางเศรษฐกิจสรา้ งสรรคเ์ น้นการ พฒั นาคนใหม้ ีความคดิ สรา้ งสรรค์และการพัฒนาเชิงพ้นื ท่ีเพอื่ เออ้ื อานวย 1-2
1.2 วตั ถปุ ระสงคก์ ารศกึ ษาโครงการ 1.3 ขอบเขตการศึกษา1.2.1 เพือ่ ศกึ ษาความเป็นมาและเหตผุ ลทท่ี าให้เกิดโครงการศนู ยส์ รา้ งสรรค์ 1.3.1 ศกึ ษาและรวบรวมข้อมลู แผนยทุ ศาสตรแ์ นวทางการพฒั นาและการ การเรียนรู้เพ่อื คนร่นุ ใหม่ ส่งเสรมิ ทเ่ี ก่ยี วข้องกับโครงการ1.2.2 เพ่อื ศกึ ษากลุ่มเปา้ หมาย เพ่อื นามาออกแบบพื้นทท่ี างสถาปัตยกรรม 1.3.2 ศกึ ษาขอ้ มลู ทฤษฏแี นวคิดการออกแบบ และกฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้อง1.2.3 เพือ่ ศกึ ษาการออกแบบพ้นื ที่เชิงสรา้ งสรรค์ หรอื พ้ืนทกี่ ารเรยี นรู้ 1.3.3 ศกึ ษาและ วิเคราะหก์ ารเลือกทตี่ ง้ั โครงการจาก แนวโนม้ สถติ ิ และ อสิ ระ เพอ่ื พฒั นาตนเอง เสรมิ สรา้ งประสบการณ์ และ เป็นพน้ื ที่ ผเู้ ข้าใชโ้ ครงการ กจิ กรรมของคนในชมุ ชนในพนื้ ทใ่ี กล้เคยี ง 1.3.4 ศกึ ษารายละเอียดของโครงการพ้ืนทใ่ี ชส้ อยของโครงการจานวน ผ้ใู ช้และงานประมาณการลงทุนของ โครงการ 13.5 ศกึ ษาอาคารตวั อย่าง ท่อี ย่ใู นลกั ษณะอาคารประเภทเดียวกนั เพอื่ นาข้อดแี ละขอ้ ด้วยมาพจิ ารณาในการออกแบบ 1-3
1.4 ขน้ั ตอนและวิธกี ารศึกษา01 เหตุผลทีท่ าใหเ้ กิดโครงการ 04 ศกึ ษาแนวความคิดในการออกแบบ02 เชน่ ประเดน็ ปัญหาประวัตคิ วาม ทดลองหาแนวความคิดในการออกแบบ03 เปน็ มาหรือ พน้ื ทโี ครงการ นโยบาย และ จนเกดิ กระบวนการคดิ ทม่ี ีเหตแุ ละผลตอบสนอง แผนพัฒนาเพ่ือเช่อื มโยงเหตผุ ลและทีม่ า ตอ่ ปัญหาและความตอ้ งการจนเกิดเปน็ แบบงาน ของการเกิดโครงการ 05 นาเสนอผลงาน ศึกษาขอ้ มลู นาเสนอผลงานทีผ่ า่ นกระบวนการพฒั นา ศกึ ษาขอ้ มลู เบ้ืองตน้ ตา่ งๆ เช่น แบบขั้นสมบรู ณ์ โดยเสนอเปน็ หนุ่ จาลอง และแบบ กลมุ่ เปา้ หมายของโครงการขอ้ มลู พ้นื ที่ สถาปัตยกรรมรวมถงึ กระบวนการคดิ ทท่ี าใหเ้ กดิ บรบิ ท สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกิจ ผลงานทางสถาปัตยกรรม การวเิ คราะหข์ อ้ มูล วเิ คราะห์ขอ้ มูลเที่คน้ ควา้ มา เช่น กฎหมาย ขอ้ บงั คับที่มีผลตอ่ โครงการ กลุม่ ผู้เขา้ ใช้ท้ังจานวน ความตอ้ งการ 1-4
1.4 ข้นั ตอนและวิธกี ารศึกษา เหตผุ ลทท่ี าให้เกิดโครงการ กลมุ่ คนทเ่ี ป็นหลักในการพัฒนาเศรษฐกจิ ในอนาคต การศกึ ษาขอ้ มลู เบอื้ งตน้ เพื่อเป็นพื้นทส่ี รา้ งโอกาสการเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองกลมุ่ เปา้ หมาย นักศกึ ษา ข้อมลู พ้ืนท่ี บรบิ ท ความเหมาะสมของ มนี โยบายภาครฐั ศกึ ษาความเป็นไปได้ กฎหมายท่ี กรณศี กึ ษาที่ ที่ตัง้ โครงการ รองรบั ของโครงการ เกี่ยวขอ้ ง ใกลเ้ คยี งและคนในพ้ืนที่ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม การวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากการศึกษาข้อมลู เบอ้ื งตน้ ศึกษาแนวความคิดในการออกแบบ องคป์ ระกอบ (เพ่ือนาไปออกแบบงานสถาปตั ยกรรม) ขั้นตอนหลกั สรปุ แนวความคิดในการออกแบบและนาไปพฒั นาเปน็ ผลงาน 1-5
1.5 ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ 1.5.1 เกดิ องคค์ วามรทู้ ่ีใชใ้ นการสรา้ ง หรอื ออกแบบศูนย์สรา้ งสรรคก์ ารเรยี นรู้ 1.5.2 ไดท้ ราบถึงขอ้ มูลทฤษฏีการออกแบบ และ กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั โครงการ 1.5.3 ไดท้ ราบถงึ แนวทางในการกาหนดองคป์ ระกอบของโครงการและกระบวนการ ในการออกแบบโครงการ 1.5.4 เพอื่ ผ้ทู ม่ี าศึกษาเกดิ การพัฒนาตอ่ ยอดจากงานวจิ ยั1-6
PRINCIPLES THEORIES
2.1 ความหมายและคาจากัดความ หมายถงึ ว. จุดกลาง, ใจกลาง, แหลง่ กลาง,แหล่งรวม เชน่ ศนู ยว์ ัฒนธรรม ศนู ยห์ นงั สอื ศนู ย์รวมขา่ ว. 2.1.1 ความหมาย ศนู ย์สรา้ งสรรค์ หมายถงึ ก. สรา้ งใหม้ ีใหเ้ ปน็ ขึ้น (มักใชท้ างนามธรรม) เชน่ สรา้ งสรรคค์ วามสุขความเจริญ ให้แก่สังคม ว. มลี กั ษณะริเรมิ่ ในทางดี เช่น ความคดิ สรา้ งสรรค์ ศลิ ปะสร้างสรรค์.เรยี นรู้ หมายถึง ก. เข้าใจความหมายของสง่ิ ใดสงิ่ หนง่ึ โดยประสบการณ์.คนร่นุ ใหม่ หมายถงึ คนซ่ึงมชี ีวิตอยใู่ นสง่ิ แวดล้อมใหม่ ปญั หาใหมใ่ นโลกทม่ี ีทรัพยากรจากดั มีความขัดแยง้ สูงหรอื ผคู้ วรจะมบี ุคลกิ ภาพใหม่ และแนวคดิ ใหมท่ ส่ี ามารถจะใชช้ วี ติ ทงั้ ในเชงิ แข่งขนั และรว่ มมอื เพือ่ อยู่ ในสงั คมยคุ ใหมไ่ ดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพCREATIVE หมายถงึ [adj.] ซ่งึ มคี วามคดิ ริเร่มิ ซง่ึ มคี วามคิดสร้างสรรค์LEARNING หมายถงึ [n.] การเรยี นร,ู้ การศกึ ษา, การรบั รู้COMMUNITY หมายถงึ [n.] ชุมชน, สังคมNEW หมายถึง [adj.] แบบใหม,่ รนุ่ ใหม,่ สมยั ใหม่, ใหม่GENERATION หมายถงึ [n.] ยุค ชั่วอาย,ุ ชั่วคน, รนุ่ อายุ, รนุ่ 2-1
2.1.2 คาจากัดความ “ศนู ยช์ มุ ชนสรา้ งสรรคก์ ารเรียนรู้”เพอ่ื คนรุ่นใหมห่ มายถงึ 2.1.3 ลักษณะโครงการศูนยก์ ลางท่ี ประชาชนทกุ คนสามารถ เขา้ มาเรียนรู้ ค้นควา้ หาความรู้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และเสรมิ สรา้ งความคดิ สรา้ งสรรค์ โครงการศกึ ษาและออกแบบศนู ยช์ มุ ชนสรา้ งสรรคก์ ารเรียนรู้รวมทง้ั การพบปะสงั สรรค์ เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจ ความร่วมมอื ในการ เพ่ือคนรนุ่ ใหม่ เป็นโครงการทีส่ นับสนนุ เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ หรือแนวพัฒนาตนเองและชมุ ชน และคนรนุ่ ใหม่ คดิ การขบั เคล่อื นเศรษฐกิจบนพ้ืนฐานของการใช้องค์ความรกู้ ารศกึ ษา การสร้างสรรคง์ าน ซ่งึ แนวทางเศรษฐกจิ สรา้ งสรรคเ์ นน้ การพัฒนาคน ให้มีความคดิ สรา้ งสรรค์ และการพฒั นาเชิงพ้นื ที่เพอ่ื เออ้ื อานวยตอ่ การ เกดิ ความคิดสร้างสรรค์ โดยโครงการจะเปน็ พน้ื ทกี่ ารเรยี นรู้ เสรมิ สรา้ ง ความคดิ สรา้ งสรรค์ โดยมพี ้นื ทีก่ ารเรยี นรอู้ ิสระ เชน่ ห้องสมดุ Studio Workshop หรอื พน้ื ทใี่ ห้บรกิ าร ซอ้ื ขาย สินค้า และ เป็นพน้ื ทกี่ ิจกรรม เพอื่ ตอบสนองคนในชมุ ชน 2-2
GENRATION 2.2 ความเปน็ มาของเรื่องทีศ่ กึ ษา
GENRATION2.2.1 Generation คืออะไร ? Generation ก็คอื ยคุ สมยั ของ ศกึ ษาทง้ั ในดา้ น พฤตกิ รรมสังคมการใชช้ ีวติ ความ นิสยั ตลอดจนพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ท่ีแสดงออกมาได้กลุ่มคนตามช่วงอายุหมายถงึ ชว่ งเวลาเฉล่ียระหว่าง คดิ ตา่ งๆหรอื แม้แต่ใน ดา้ นการตลาดเองกใ็ ห้ความ อยา่ งชดั เจน สาเหตทุ ค่ี นแตล่ ะช่วงวัยมีความคิดและการมลี ูกคนแรก ของแมก่ ับการมีลูกคนแรกของลูก สนใจกับเรอื่ งนไี้ มน่ อ้ ยแตเ่ นอ่ื งจากพฤตกิ รรมตา่ งๆ พฤตกิ รรมต่างกัน เปน็ เพราะ สภาพสงั คมในช่วงดงั นัน้ ในแตล่ ะ Generation จะหา่ งกนั ประมาณ 20 สง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอย่างเห็นไดช้ ัดซง่ึ นั้นๆกวา่ ปี ซึ่งในเร่อื ง Generationน้มี ีคนศกึ ษากนั มา ในแตล่ ะกลมุ่ Generation นน้ั มคี วามแตกต่าง กันมากมายโดย เฉพาะสายทางดา้ นสงั คมศาสตรท์ จี่ ะ หลายดา้ น ท้ังในดา้ นความคดิ ค่าความนยิ มลกั ษณะ ที่มา : socialintegrated.com/-generation 2-4
2.2.2 Generation Millennials ? ภาพท่ี 2.1 : TIMELINE แสดงชว่ งของกล่มุ GENERATION ตา่ งๆ ที่มาข้อมลู : TREND TCDC 2017 จากภาพท่ี 2.1 แสดงให้ อสิ ระ ชอบพัฒนาตนเอง ชอบหาประสบการณ์ คนกลุม่ นีก้ าลงั จะกลายเป็นคนส่วนใหญใ่ นท่ที างานเห็นว่า กลมุ่ Millennials หรือเป็นคนท่ีเกดิ ในชว่ ง ใหม่ ๆ ถอื เปน็ ยคุ ท่ี เปน็ ผูค้ รองอานาจตดั สนิ ใจ และ เปน็ กาลงั หลักของการพฒั นาหลายๆ ด้านในปี 1982 ถงึ ปี 2004 มีช่วงอายเุ ฉลี่ย18-29 ปี เลอื กบริโภคเอง ใชช้ ีวิตแบบเครือขา่ ยกวา้ งขวา้ ง อนาคต ซ่ึงคนกลมุ่ นใ้ี หค้ ณุ ค่ากบั การพัฒนาโดยเกดิ หลงั Gen X ทาใหถ้ กู เรียกอกี ชื่อหนึ่งว่า ร้จู ักคนเยอะ ตนเองจัดสมดลุ การงาน- ชีวติ มากกวา่ เงนิ ตราGeneration Y ซึง่ เป็นกลมุ่ ท่ีเปน็ ผู้บรโิ ภคราย และสถานภาพทางสังคม จงึ ไม่ใชเ่ ร่ืองนา่ แปลกใจใหญ่ และ เป็นกาลงั หลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ ในปัจจบุ ัน กล่มุ Millennials ถอื เปน็ หากคนกลมุ่ น้ี จะเลือกทางานแบบฟรแี ลนด์ ที่ในอนาคต คนกลมุ่ นม้ี ีความคิด เปน็ ของตัวเอง หนึ่งในคนกลมุ่ ใหญข่ องเจเนอเรช่นั สถาบนั ตลาด สามารถปรบั เปลย่ี นตารางการทางานไดอ้ ยา่ งเสรี เกดิ ใหมม่ ลู นธิ เิ ฮด,ยูนิเวอรซ์ ัมสารวจขอ้ มูลพบวา่ ทีม่ า : socialintegrated.com/-generation 2-5
( ภาพท่ี 2.2 ) แผนภูมแิ สดงกิจกรรมที่ชอบของกลมุ่ Gen-M ภาพที่ 2.2 : แผนภมู ิแสดงกิจกรรมทช่ี อบของกลุ่ม Gen-Mรูปแบบการเข้าสงั คมก็เปล่ยี นแปลงไป คนกลมุ่ Gen-M ชอบมสี งั คมไม่ ท่ีมาข้อมูล : บทความโดย. ณฐั พล จติ ประไพไชแ่ ค่ Online แต่ Off line กใ็ ห้ความสาคญั พอๆกนั เพราะชอบใช้เวลาพบปะเพอ่ื นฝูง เลกิ งาน ตอ้ ง Hangout ชอบออกไปทานอาหารนอกบ้าน อย่างที่เราทราบกลุม่ Gen-M ใหค้ วามสาคญั กับสังคม ดงั นน้ัการตดั สนิ ใจทจ่ี ะซอ้ื อะไร หรือจะลงทนุ อะไรนนั้ 70% ของคน Gen-Mต้องถามความคิดเห็นจากเพอื่ นกอ่ นเสมอ โดย 78 % เชอื่ ในคาแนะนาจากเพ่ือน ถา้ ยงั ไมแ่ นใ่ จ 81 % ก็จะ หาข้อมูลเพ่มิ เตมิ เพ่ือความมนั่ ใจในการตดั สินใจของตนเอง เนอื่ งด้วยความเป็นคนรนุ่ ใหมค่ นกลมุ่ Gen-M จึงมีไฟในการทางานสูง ถอื ไดว้ า่ เปน็ กลมุ่ Young Professional ชอบทางานในองคก์ รทมี่ ไี ดนามิคสงู จะตอ้ งกระฉบั กระเฉง ตน่ื ตวั อยตู่ ลอดเวลา ทางานแลว้ กต็ อ้ งวัดผลเป็นรปู ธรรมได้ อัพเดตเรอื่ งเทคโนโลยีตลอดเวลา นอกจากนย้ี งั เปน็ พวกชอบองคก์ รท่แี บนราบ เพราะทาให้มโี อกาสกา้ วหน้าสูง ทมี่ าขอ้ มลู : บทความโดย. ณฐั พล จติ ประไพ 2-6
ทีม่ ารูปภาพ : www.scribblelive.com/blog สาหรบั คนกลมุ่ Millennials Millennials ท่ีเกดิ กอ่ น และ มผี ตู้ อบแบบสอบถาม คือเงนิ ( 35%) อิทธิพล ( 31% ) และโอกาสทจี่ ะแลว้ ครอบครับและมิตรสหายหาใชผ่ ้ทู รงอทิ ธพิ ล เพยี ง 10% เทา่ นนั้ ทย่ี งั เชื่อว่า ความคดิ เหน็ ของ แสดงบทบาทเชงิ ยทุ ธศาสตร์ (31%) สาหรับคนในการงานอกี ตอ่ ไป มเี พยี ง 5% เทา่ นนั้ ทยี่ อมรบั พอ่ แม่เป็นเรอ่ื งสาคัญ แสดงให้เหน็ วา่ คนรนุ่ นมี้ ี กลมุ่ Millennials แล้ว แรงกระตนุ้ ใหบ้ รรลถุ ึงความว่าเพอื่ นมอี ทิ ธพิ ล สงู มากในการตดั สนิ ยกเว้น อิสระทางความคดิ มากกว่าที่ คนท่ัวไปเขา้ ใจ เป็นผนู้ าที่ เกิดจากสง่ิ ทอ่ี ยเู่ บ้ืองลกึ ข้างในจิตใจเพียงภูมภิ าคเอเชีย แปซฟิ กิ เทา่ นน้ั ทย่ี งั ให้คณุ ค่า ไมใ่ ช่บทบาทความเปน็ ผู้นาตามแบบแผนเดมิ ๆ ท่ีกับทศั นะจากเพอ่ื น ๆ สาหรบั คนกลมุ่ Millennials ความเปน็ ผ้นู าหรอื เป็นผู้บรหิ ารยังคง ตอ้ งบรหิ ารงาน หรือควบคมุ กากบั พนกั งานอนื่ ๆที่เกิดประมาณปี 1996 ลงมา ทัศนคตติ อ่ มติ ร เป็นแรงจูงใจในการประกอบอาชีพผู้ตอบแบบสอบ แตป่ ระเด็นนอี้ าจยกเวน้ ในประเทศไนจเี รยี และสหายนน้ั มคี วามสาคญั ลดน้อยลงกวา่ คนกลมุ่ ถามถงึ 41% ยอมรบั วา่ เป็นส่งิ สาคัญสาหรบั ตนเองโดยพบวา่ แรงกระตนุ้ เร้าให้พยายามในเรอ่ื งนี้ ท่มี า : socialintegrated.com/-generation 2-8
GRNERATION มีเพียง 24% เท่านนั้ ทม่ี ุง่ มน่ั อยา่ ง รองจากการสมดุลการงาน-ชวี ติ ความวติ กกงั วล ธรุ กิจ วชิ าการ ภาครฐั หรือในองค์กรไมแ่ สวงหาแรงกล้ากบั การม่งุ ส่จู ดุ หมายอยา่ งรวดเร็ว โดย ที่สุดของคนรนุ่ นีจ้ ากท่ัวโลกกค็ อื การตอ้ งจมอยู่ กาไร คาถามตามมาคอื เขาพร้อมทจี่ ะนาหรอื ไม่ตอ้ งการการเลอื่ นตาแหนง่ อยา่ งตอ่ เน่ือง แต่วา่ มี ในงานทไ่ี รโ้ อกาสในการพฒั นาตัวเอง หากพร้อมเขาจะนาอย่างไรการจะตอบคาถามถงึ 45 % ม่งุ เน้นไปทก่ี ารเตบิ โตพร้อมกบั เรยี นรสู้ ่ิง เหลา่ นี้ได้ ตอ้ งขน้ึ กบั บรบิ ทเฉพาะพื้นทแ่ี ละเฉพาะใหมๆ่ ซ่ึงเปน็ คุณคา่ ที่เป็นเปา้ หมายชีวติ อันดบั สอง \" ในเร็วๆ นี้ คนยคุ มิลเลเนยี ม จะยดึ ครอง ภมู ภิ าค \" ตาแหนง่ ผู้นาในทกุ ระดบั ไปทั่วโลก ไม่วา่ จะในแวดวง ทีม่ าขอ้ มูล : socialintegrated.com/-generation 2-9
MILLENNIALSคนกลุ่ม Millennials แตกต่างอยา่ งมากกับคน ที่กลวั จะขาดโอกาสทส่ี มควรไดเ้ นอ่ื งดว้ ยขอ้ จา กลุ่ม Millennials ในประเทศพฒั นากบั ประเทศยคุ Gen X และ Baby Boomer โดยผตู้ อบ กดั ทางเพศของเขาเองยงิ่ ในผทู้ ีอ่ ายนุ ้อยแล้ว ทก่ี าลังพฒั นา และ ยงั ไดบ้ อกว่าการเหมารวมแบบสอบถาม 64% เห็นวา่ มติ รภาพเป็นเกณฑ์ กงั วลเรอ่ื งนนี้ อ้ ยมาก หรือ ประเมนิ คนกลมุ่ นอี้ ยา่ งกวา้ งๆ อาจจะสาคัญทส่ี ุดสาหรับนายจา้ งในอนาคตและ นยิ าม อนั ตราย ตอ่ ตัวองคก์ ร และ ผู้กาหนดในความหลากหลาย ก็คอื ความหลาก หลายเชิง \" การเก็บตัวอยา่ งจากคนจานวนมากในภาวะ นโยบายได้ เพราะมนั ไดล้ บลา้ งความเชือ่ เกา่ ๆวัฒนธรรม ( 85%) ท้ายสดุ แล้ว มเี พียง 8% เศรษฐกิจท่ีแปรผนั ไปมาเชน่ น้ี ทาใหก้ ารศกึ ษา เกี่ยวกบั พวกเขาทงั้ หมด \" แสดงขอ้ เปรยี บเทียบ ทน่ี ่าสนใจ ระหว่าง คน ที่มาข้อมลู : socialintegrated.com/-generation 2-10
จากผลการสารวจสามารถสรุปไลฟส์ ไตลข์ องกลมุ่ Gen-M ไดด้ งั นี้ จากบทสรปุ ดังกล่าวขา้ งตน้ พอจะมองเหน็ ลกั ษณะพฤตกิ รรม ไลฟส์ ไตล์ของกลมุ่ Gen-M ซ่งึ นับว่าเปน็ กลมุ่ ทมี่ ี ความสาคญั ตอ่ นักการตลาดและนกั สร้างแบรนดอ์ ยา่ งมาก ดงั นใ้ี นการทากจิ กรรมทางการตลาด การสอ่ื สาร กับ กลมุ่ Gen-M เราควรจะตอ้ งรู้และเข้าใจคนกลมุ่ นใ้ี หล้ กึ ซงึ้ เสียก่อน โอกาสในการสร้างตลาดกบั คนกลมุ่ นยี้ ังไปไดอ้ ีกไกล ท่มี าข้อมลู : บทความโดย. ณฐั พล จติ ประไพ 2-11
ในอนาคตคนทางานยคุ Millennials กาลังจะกา้ วขน้ึ มาเปน็ ผนู้ าองคก์ รคนทางานรนุ่ กอ่ นๆอย่างยคุ Baby Boomersจะค่อยๆ ลดบทบาทลง และเกษียณกันไป พวกเขากจ็ ะพาความคิดเกา่ ๆ และวธิ ี การแบบเดมิ ๆ จากไปกบั พวกเขาด้วย และคนทางานยคุ Millennials ก็จะเรม่ิ ใชค้ วามคิดและวิธกี ารใหม่ ๆ ในการดาเนนิ การธรุ กิจหรอื องค์ กรตอ่ ไปใน ขณะท่คี นทางานยคุ Millennials เขา้ มาเปน็ กาลังหลักใน การทางานการตัดสินใจจา้ ง และการบรหิ ารจดั การคนทางานใหเ้ หมาะ สมจงึ เปน็ สง่ิ ท่สี าคญั องคก์ รควรวางแผนกลยทุ ธใ์ นการสรรหาคน ทางานยคุ ใหม่ทกี่ าลงั จะมาเปน็ ผูน้ าองคก์ รในอนาคตนใ้ี ห้ดี และเตรยี ม วางแผนพฒั นาทกั ษะการเปน็ ผนู้ าใหก้ ับคนทางานกลมุ่ นดี้ ว้ ยเพือ่ การ เตรียมความพรอ้ ม สาหรบั บทบาทการทางาน ในดา้ นการบรหิ ารจดั การทจี่ ะมาถึง โดยกล่มุ Millennials เปน็ ประชากรของ Generation ซึง่ ในปจั จุบนั เปน็ กาลังหลักสาหรับการพัฒนาในอนาคต เช่น การเปลยี่ น โครงสรา้ งเศรษฐกิจในอนาคตจากเดิมของไทยให้ เป็น “ เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ”2-12
CREATIVE ECONOMY ทีม่ ารปู ภาพ : https://www.success.com/blog/6-ways-to-tap- into-your-creative-self
2.2.5 เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ คอื อะไร ? คาว่า “เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ” ประเทศสหราชอาณาจกั ร ไดใ้ ห้คา สาหรับประเทศไทยนนั้ สานกั งานคณะกรรมถกู นามาใชเ้ ปน็ ครั้งแรกในหนงั สอื ของJohn How- นยิ ามไวว้ า่ เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์เป็น “เศรษฐกจิ ที่ การพฒั นา การเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้skins ซงึ่ ใหค้ านยิ ามของเศรษฐกจิ สร้างสรรคไ์ ว้วา่ ประกอบด้วยอตุ สาหกรรม ท่มี รี ากฐานมาจาก ใหค้ าจากดั ความของ“เศรษฐกจิ สรา้ ง สรรค์ ” ไวว้ า่“การสร้างมลู คา่ ทเ่ี กดิ จากความคิดของมนษุ ย์” ความคดิ สร้างสรรค์ของบคุ คล และ ทกั ษะความ “เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ คอื แนวคดิ การขบั เคลอื่ นหลงั จากน้นั คาวา่ เศรษฐกจิ สร้างสรรคจ์ ึงถูก ชานาญ และ ความสามารถพิเศษซ่งึ สามารถ เศรษฐกิจบนพ้นื ฐานการใช้ องค์ความรกู้ ารศกึ ษานามาใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวางในหลาย ๆ ประเทศ ซงึ่ นามาใช้ประโยชน์ในการสรา้ งความมงั่ ค่ังและสรา้ ง การสร้างสรรค์งาน และการใช้ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญาจนถึงปัจจบุ ันกย็ ังไมไ่ ดม้ ีการกาหนดนยิ ามท่ชี ดั เจน งานใหเ้ กดิ ขึน้ ไดโ้ ดยท่ี สามารถสั่งสม และ ส่งผา่ น เช่ือมโยงกบั พื้นฐานทางวฒั นธรรมการสั่งสมความของคา ๆ นก้ี ารอธิบายถงึ ความหมายของคาว่า จากรนุ่ เก่าส่รู นุ่ ใหม่ ดว้ ยการคุม้ ครองทรัพยส์ นิ รขู้ องสังคมและเทคโนโลยี/นวตั กรรมสมยั ใหม่”“เศรษฐกจิ สร้างสรรค์” จึงมกั จะหยิบยกเอาความ ทางปัญญา”หมายทปี่ ระเทศและองคก์ ารตา่ งๆ ไดน้ ยิ ามไว้ อาทิ ท่ีมา : www. thitikornblog.wordpress.com ผ้แู ตง่ : เรยี บเรยี งจากแนวคดิ ของ ดร.ปรเมธี วิมลศิริ 2-14
CREATIVE2.2.6 ทาไมตอ้ ง..เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ ? ในการประชมุ ประจาปี2551 ของ คณุ ภาพ สงั คมมคี วามปลอดภยั และมน่ั คง อยใู่ น แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 11” ได้พูดถงึ บรบิ ทของสานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และ สภาวะแวดลอ้ มที่เกอ้ื กลู และเออ้ื อาทร ซงึ่ กันและ สังคมไทย ทจี่ ะเปลีย่ น แปลง ไปในอนาคตอนั ใกล้สังคมแหง่ ชาติ(สศช.) เรอ่ื ง “วสิ ยั ทศั นป์ ระเทศ กนั ระบบการผลติ ท่ี เปน็ มิตร กับสิง่ แวดลอ้ ม ท่ีมี จากการเปลย่ี น แปลงที่เกดิ ขน้ึ ของสงั คมโลกไทยสู่ ปี 2570” ไดก้ าหนดวสิ ยั ทัศน์ประเทศไทย ความมน่ั คงดา้ นอาหารและพลังงานอยบู่ นพนื้ ฐาน พรอ้ มทง้ั ไดน้ าเสนอทางออกสาหรบั การพัฒนาในป2ี 570 ไวว้ า่ “คนไทยภาคภมู ิใจ ในความเป็นไทย ทางเศรษฐกิจทพี่ ึง่ ตนเอง และแข่งขนั ในเวที ประเทศ เอาไวอ้ ยา่ งนา่ สนใจ และหน่ึงในนนั้ กค็ ือมมี ติ รไมตรบี นวถิ ชี ีวิตแห่งความพอเพียงยึดมั่นใน โลก สามารถอย่ใู น ประชาคมภูมภิ าคและโลกได้ การเปลย่ี นแปลงของโครงสรา้ งทางเศรษฐกิจวฒั นธรรมประชาธปิ ไตย และ หลกั ธรรมาภบิ าล อยา่ งมศี ักดศ์ิ รี ” ตอ่ มาในการประชุมประจาปี ของไทย จากเดมิ ให้กลาย เปน็ “ เศรษฐกจิการบรกิ ารสาธารณะขัน้ พนื้ ฐานทที่ ่วั ถึงมี 2552 ของ สศช. เร่อื ง“จากวสิ ยั ทศั น์ 2570 สู่ สรา้ งสรรค์” ทม่ี า : www. thitikornblog.wordpress.com ผู้แตง่ : เรยี บเรียงจากแนวคิดของ ดร.ปรเมธี วิมลศิริ 2-15
ECONOMY แนวโนม้ การเปลีย่ นแปลงของ ส่งผลกระทบตอ่ เน่อื งไปยังประเทศอน่ื ได้อยา่ ง ท่ีไทยมคี วามสามารถในการแขง่ ขนั อยู่แลว้ รวมถงึเศรษฐกจิ โลก ในช่วง 20 ปีข้างหน้า จะเกดิ การ รวดเรว็ และรุนแรงมากขนึ้ การมงุ่ เน้นส่งเสริมความสามารถในการแขง่ ขนั ในรวมตวั กนั ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคซึ่งจะสง่ ผลดี กล่มุ สนิ คา้ ทมี่ ศี กั ยภาพ / มคี วามสามารถหลกัต่อเศรษฐกิจในภูมภิ าคเอเชีย ทาใหม้ แี นวโนม้ ที่จะ ผลกระทบทีเ่ กดิ กบั ประเทศไทยจาก ( Core Competency ) นามาสรา้ งให้เกดิ ความขยายตวั อย่างรวดเร็ว สง่ ผลให้เศรษฐกิจโลก การหดตวั ของเศรษฐกจิ โลกทผ่ี า่ นมา ไดส้ ะทอ้ น แตกตา่ ง เพ่อื หลกี หนจี ากการแขง่ ขนั แบบเดมิ ๆเปลีย่ นศนู ยก์ ลางอานาจ มาอยู่ทแ่ี ถบเอเชียมาก โครงสรา้ งภาคเศรษฐกจิ ไทย เน่อื งจากตอ้ งพ่ึง “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)”ขนึ้ นอกจากน้ยี งั จะเกดิ การเปลยี่ นแปลงดา้ นการ พิงเศรษฐกิจภายนอกประเทศในสดั สว่ นท่สี ูงจึง กลายเปน็ ทางเลอื กหน่งึ ทจ่ี ะ เปน็ พลงั ขบั เคลอื่ นเงินโลกซ่ึงจะมคี วามผันผวน และความเสยี่ งมาก นา่ จะเปน็ เวลา ทปี่ ระเทศไทยจะไดห้ นั กลบั มาปรบั ทางเศรษฐกจิ ใหมเ่ นน้ การพฒั นาด้วยการเจริญขึ้น ประกอบกับการเพ่ิม ขนึ้ ของความเชือ่ มโยง โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ของประเทศ ให้สอดคลอ้ ง เติบโตแบบสมดุลและย่ังยนื บนพน้ื ฐานของความทางการเงินระหวา่ งประเทศ จะเปน็ ตวั ทท่ี าใหผ้ ล กับสถานการณ์ทเี่ ปลยี่ นแปลงไปโดยการมุ่งเนน้ ได้เปรียบทแ่ี ทจ้ รงิ ของประเทศได้กระทบทาง ดา้ นการเงินจากแตล่ ะประเทศ และจะ ไปทกี่ ารเพ่ิมคณุ คา่ /สรา้ งมลู คา่ ให้กบั สินค้ากลุ่ม ทีม่ า : www. thitikornblog.wordpress.com 2-16 ผแู้ ตง่ : เรยี บเรียงจากแนวคดิ ของ ดร.ปรเมธี วมิ ลศริ ิ
การปรบั เปลย่ี นการเจริญเตบิ โตของ จะเหน็ โอกาสของธรุ กจิ เล็กๆในชมุ ชน ภาวะเศรษฐกิจนนั้ กย็ งั น้อยกวา่ การเจรญิ เตบิ โตเศรษฐกจิ ของประเทศจาก ยคุ ทข่ี ับเคล่อื นด้วย หรอื ผู้ประกอบอาชพี อสิ ระในยคุ โลกาภวิ ัฒน์ท่ี ที่พ่งึ แตส่ าขาเศรษฐกิจซ่งึ ขึ้นอยกู่ บั ดนิ ฟา้ อากาศปัจจยั การผลิต และ ทรัพยากรธรรมชาติ ไปสู่ พัฒนาสนิ คา้ และ บรกิ ารของตนเองด้วยความ และความเสี่ยงภยั จากธรรมชาติเทา่ นน้ัการขบั เคลอื่ นดว้ ย ความรู้ และ ความคิดสร้าง คดิ สร้างสรรค์ และ เช่อื มโยงกบั ตลาดโลกไดโ้ ดยสรรค์ เป็นสิง่ ที่พึงปรารถนาในหลายประการใน ตรงมมี ากขึ้น แมว้ ่า เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์อาจ “ และน่คี อื เหตผุ ลว่าทาไมประเทศไทยจึงด้านรายได้ประเทศ ที่ปรบั ไปสรู่ ะบบ เศรษฐกจิ ดูเหมอื นไมบ่ รรลเุ ปา้ หมายของเศรษฐกิจในดา้ น ควรมุ่งสู่ การเป็นประเทศ ท่ขี ับเคลื่อนดว้ ยสรา้ งสรรค์ แลว้ มกั จะเป็นประเทศทมี่ รี ายไดส้ ูง การมีเสถยี รภาพ จากราคาสนิ คา้ สรา้ งสรรค์ เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ”เช่น ญีป่ ่นุ อิตาลี ฝร่ังเศส และกลมุ่ ประเทศแถบ ในหลายประเภทมกี ารเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็สแกนดเิ นเวยี ในดา้ นการกระจายความม่งั คง่ั ตามกระแสของแฟชนั่ ในด้านความผันผวนของ ทม่ี าขอ้ มูล : www. thitikornblog.wordpress.com 2-17
2.2.7 แนวทางในการขับเคลอ่ื น (จากภาพท่ี 2.5) แสดงให้เหน็ ถงึ องคป์ ระกอบในการสง่ เสรมิ เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ซง่ึ มี 4 องคป์ ระกอบ ดังน้ี Creative Generation Creative Space ได้แก่ การพฒั นาคนใหม้ คี วามคิดสร้างสรรคแ์ ละ ไดแ้ ก่ การพฒั นาเชิงพ้ืนที่เพื่อ ส่งเสริมคนทมี่ ีความ คดิ สรา้ งสรรคใ์ หป้ ระกอบ เออ้ื อานวยตอ่ การเกดิ ความคดิ สร้าง สรรค์ อาชีพได้ ซง่ึ ในการน้ี จะตอ้ งทาควบคกู่ นั ไป โดยสรา้ งชุมชนของ ธุรกิจสรา้ งสรรค์ หรอื ระหวา่ ง การปรบั ระบบการเรยี นรทู้ ัง้ ในและนอก พฒั นาเมอื งทีม่ ศี กั ยภาพใหก้ ลายเปน็ ศนู ยก์ ลาง โรงเรียน เพอ่ื กระตนุ้ ใหคนรุน่ ใหมส่ ามารถคดิ ด้านความคดิ สร้างสรรค์ อยา่ งสรา้ งสรรคไ์ ดพ้ รอ้ มท้ังสร้างกลไกและการ สนบั สนนุ ทที่ าใหค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์นน้ั สามารถ ตอ่ ยอดไปเป็นธรุ กจิ ได้ภาพที่ 2.5 : แสดงองคป์ ระกอบสาคญั ในการสง่ เสริมเศรษฐกิจ Creative Industry Creative Cooperation สรา้ งสรรค์ ได้แก่ การผลักดนั ให้มกี ารวางแผน ไดแ้ ก่ การสง่ เสรมิ ธรุ กจิ รายสาขาเนน้ที่มารปู ภาพ : www. thitikornblog.wordpress.com เฉพาะสาขา ทีม่ โี อกาสพฒั นาเปน็ เศรษฐกิจ อยา่ งบรู ณาการ และการดาเนนิ การอยา่ งมี สรา้ งสรรค์ไดโ้ ดย จะตอ้ งมกี ารบรู ณาการ เอกภาพ ระหวา่ งหนว่ ยงานภาครฐั ด้วยกนั เอง ระหวา่ งหนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ งรว่ มกนั พัฒนาเปน็ สร้างความรว่ มมือระหวา่ งภาครฐั และ เอกชน โครงการเฉพาะสาหรบั กลมุ่ ธรุ กจิ โดยเฉพาะ เชญิ ชวนให้บคุ ลากร ในวงการ สร้างสรรค์ ให้เขา้ มามสี ่วนรว่ ม และ มบี ทบาท ทีม่ าขอ้ มลู : สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติ (สศช.) 2-17 2-18
2.2.8 กลไกในการขบั เคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภาคเอกชนเปน็ อีกกลไกหนง่ึ ทมี่ บี ทบาท โดยการประกนั การจ้างงานใหก้ บั บคุ ลากรทผี่ ่าน ปฏิบตั กิ ารพฒั นาประเทศ สกู่ ารเปน็ ประเทศเศรษฐกิจสาคญั ในการพฒั นาเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ ใหเ้ จริญ กระบวนการพัฒนา ตามแนวทาง ทกี่ าหนดร่วมกนั สรา้ งสรรค์ และนาเสนอรูปแบบท่เี ครอื ขา่ ยต้องการจะก้าวหนา้ โดยบทบาทแรกที่ภาคเอกชนตอ้ งเขา้ มามีสว่ น ระหวา่ งภาควิชาการกบั ภาคเอกชนประการทส่ี องไดแ้ ก่ สนับสนุนโครงการ ตัวอยา่ ง ของการสนับสนนุร่วม คอื การวางแผนพฒั นา บคุ ลากร ด้านงาน การสรา้ งเครอื ขา่ ย ความรบั ผดิ ชอบ ทางสงั คม โครงการเชน่ การให้เงินทนุ สาหรับการจดั ซอื้ อปุ กรณ์สร้างสรรค์ โดยภาคเอกชน จะต้องเป็นผใู้ หข้ ้อมูล (CSR Networking) ของภาคเอกชน แต่ละเครอื ขา่ ย คอมพวิ เตอรใ์ ห้กบั ชุมชน หรอื คา่ ใช้บรกิ ารเครอื ขา่ ยคุณลกั ษณะ ของบคุ ลากรทตี่ ้องการ และ จานวน จะประกอบดว้ ย กลมุ่ ของธรุ กิจ ทม่ี ีความม่งุ มั่นทจี่ ะ โทรคมนาคมของชมุ ชนหรอื การสนบั สนนุ บคุ ลากรและบคุ ลากรท่ีตอ้ งการในอนาคต เพอื่ ใหภ้ าควชิ าการ แสดงความรับผดิ ชอบทางสงั คม ให้มาประสานพลงั คา่ ใชจ้ า่ ยในการฝึกอบรมด้านตา่ งๆใหก้ ับภาคประชาชนสามารถนาไปใช้ในการออกแบบ หลักสตู รการเรยี นการ เพอ่ื สร้างโครงการเพ่อื สงั คมร่วมกนั โดยให้แตล่ ะสอนได้ ซง่ึ ในการนีภ้ าคเอกชนควรจะเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม เครือขา่ ยเลอื กแผนงาน / โครงการท่ีสนใจจากแผน ท่มี า : สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคม 2-19
ภาพที่ 2.6 : แสดงกลไกในการขับเคลอื่ นเศรษฐกิจ (ภาพท2่ี .6) แสดงกลไก หนว่ ยงานภาครัฐ การให้ภาค ประชาสรา้ งสรรค์ ระดับกรมและหนว่ ยงานในสว่ น ภูมิภาค ในการขับเคลอื่ น เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ สังคม เข้ามามีบทบาท ในการเป็นผนู้ า ระดบั กรม และหนว่ ยงานในสว่ น ภมู ภิ าค นโยบาย บางดา้ นไปดาเนนิ การจะชว่ ยให้ โอกาส ในการท่จี ะไดร้ ับ การสนบั สนนุ บทบาทสาคัญ ของภาควิชาการ ซ่ึง จากภาคประชาชนมมี ากยงิ่ ขน้ึ ประกอบดว้ ย นกั วิชาการจากสถาบนั การศกึ ษา และ นกั วชิ าการอสิ ระในการ กลไกสดุ ทา้ ยไดแ้ ก่ตัวแทน ขับเคลอื่ น ยุทธศาสตร์ การพัฒนา จากภาคประชาชนซ่งึ ถือเปน็ กลไกสาคญั ที่ ประเทศ สกู่ ารเปน็ ประเทศ เศรษฐกจิ จะทาให้แผนงาน / โครงการตา่ งๆประสบ สร้างสรรค์ ได้แก่ การผลติ บุคลากร ความสาเร็จแนวทาง ทจ่ี ะชว่ ยขบั เคลื่อน ดา้ นงานสรา้ งสรรค์ การปรบั เปลยี่ น แผนงาน / โครงการตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมี กระบวนการเรยี น การสอนให้นักเรยี น ประสทิ ธิภาพ เพือ่ ถา่ ยทอดแนวคิด นักศกึ ษาทุกสาขาวิชา ได้รบั การพัฒนา เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ และการประยุกต์ ใช้ ดา้ นความคิดสร้างสรรค์ พรอ้ มทัง้ การ ในชีวิตประจาวนั ใหก้ ับชมุ ชน การใชก้ ลไก สร้างสรรค์ กระบวนการ ในการพัฒนา ตัวแทน จะช่วยให้ชมุ ชนเกิดการเรยี นรแู้ ละ ประชาชนท่ัวไป ในชมุ ชน ให้สามารถตอ่ ยอมรบั การเปล่ียนแปลง อยา่ งเปน็ ยอดการพัฒนาเอกลกั ษณ์ ของทอ้ ง ธรรมชาติ ถิน่ สผู้ ลติ ภัณฑ์ และ บรกิ ารสรา้ งสรรค์ ได้สาหรบั ภาคประชาสงั คม ซงึ่ มีความ ใกลช้ ิด และ คนุ้ เคยกบั ชมุ ชน มากกวา่ ท่มี า : สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคม 2-20
RATIONALE 2.3 หลกั การและทฤษฎที เี่ ก่ียวขอ้ ง
2.3.1 ศูนยก์ ารค้าชมุ ชน ( Community mall ) 1. ศูนย์การค้าชุมชน (Neighborhood Shopping Center) คือ ศนู ยก์ ารคา้ แบบเปดิ ขนาดเลก็ ในละแวกบ้าน ทอ่ี อกแบบเพอื่ ให้ ทฤษฎี ของธรุ กจิ คา้ ปลกี ไดจ้ ัดฟอรแ์ มทของ คอมมนู ติ ม้ี อลล์ ความสะดวกแก่ผบู้ ริโภคในการซ้อื สนิ คา้ อปุ โภคบริโภค (Consumer Goods)(Community Mall) หรือศูนย์การค้าชุมชนในทนี่ ข้ี อยกตัวอยา่ ง For- หรือสง่ิ ของ ทใี่ ช้ประจาวันมพี ืน้ ทป่ี ระมาณ 3-5 ไร่ และ มีขนาดพื้นทใี่ หเ้ ช่าmatsของ สยามฟวิ เจอรซ์ ง่ึ เป็นตน้ แบบของ คอมมูนติ มี้ อลล์ ใน ประมาณ2,700-14,000 ตารางเมตรสิง่ ดึงดดู ผู้บรโิ ภคใหเ้ ขา้ มาท่ีศนู ยส์ ว่ นเมอื งไทย ไว้ 6 รปู แบบดว้ ยกันดังนี้ ใหญจ่ ะเปน็ ผ้เู ช่าหลักประเภทซเู ปอร์ มารเ์ กต็ หรอื รา้ นขายยา นอกเหนอื จากน้ี ยังมจี ะมรี า้ นค้าปลกี ตา่ งๆอย่ภู ายในบริเวณศนู ยก์ ารค้าชุมชนนีป้ ระมาณ 5– (ท่ีมา : www.thaifranchisecenter.com/document/) 20 ร้าน เช่น ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านเช่าวดี โี อ รา้ นซกั รีด รา้ นทาผม ร้านดอกไม้ และ ธนาคาร นศนู ยก์ ารคา้ ชมุ ชนจะสามารถรองรบั ผู้บรโิ ภค ได้1. ศนู ยก์ ารค้าชุมชน (Neighborhood Shopping Center) 2,500 – 40,000 คนตอ่ วัน ภายในรศั มปี ระมาณ 3 – 5 กิโลเมตร2. ศนู ยส์ ะดวกซอ้ื (Convenience Center)3. ร้านค้าปลกี (Stand-Alone Retail Store) 2. ศนู ย์สะดวกซอ้ื (C o n v e n i e n c e C e n t e r )4. ศนู ย์รวมสนิ คา้ เฉพาะอย่าง (Power Center) คอื ศนู ย์การค้าขนาดเลก็ มพี นื้ ทปี่ ระมาณ1 ไรอ่ ยู่ติดถนนใหญห่ รอื5. ศนู ยก์ ารคา้ ไลฟส์ ไตล์ (Lifestyle Center) ซอยหลักมีที่จอดรถในบริเวณประมาณ 3-10 คนั เทา่ นน้ั มีผู้เช่าพน้ื ท2ี่ -36. ศนู ยบ์ นั เทงิ ( Urban Entertainment Center) ราย เชน่ ศนู ย์ บรกิ ารซอ่ ม และ จาหน่ายอะไหลร่ ถยนต์ ( Auto Service Center ) ร้านสะดวกซือ้ (Convenience Store) รา้ นให้เช่าวดี โี อ หรือ โรงเรียนเปน็ ต้น (ทีม่ า : www.thaifranchisecenter.com/document/) 2-22
3.รา้ นคา้ ปลกี (Stand-Alone Retail Store) คอื รา้ นค้าปลีกรา้ นเดียว พน้ื ทปี่ ระมาณ 1/2 ไร่อยตู่ ิดถนนใหญ่หรือซอยหลกั มีผเู้ ช่าพื้นท่ี (Tenant) 1 รายเชน่ ศูนยบ์ รกิ ารซอ่ มและจาหนา่ ยอะไหลร่ ถยนต์ รา้ นสะดวกซอื้หรือรา้ นคา้ ปลกี เป็นตน้4.ศนู ย์รวมสนิ ค้าเฉพาะอย่าง(Power Center) คือ ศนู ย์การคา้ ขนาดใหญ่ทม่ี ีผู้เชา่ รายใหญต่ ั้งแต่2 รายขนึ้ ไป และเปน็ รา้ นคา้ ทม่ี คี วามชานาญ และ มจี ดุ เด่นดา้ นใดดา้ นหน่ึง เช่น รา้ นขายของตกแต่งบ้าน , รา้ นขายอปุ กรณ์กอ่ สรา้ งและตกแต่งบ้าน เปน็ ตน้5. ศูนย์การค้าไลฟส์ ไตล์ (Lifestyle Center) คือ ศูนยก์ ารคา้ ทม่ี ผี เู้ ชา่ หลกั เป็นซูเปอรม์ าร์เกต็ และ มีรา้ นทตี่ อบสนองตอ่ การใช้ชีวิตประจาวัน ไดแ้ ก่ โรงภาพยนตร,์โบว์ลงิ่ , ร้าน อาหาร, ร้านเบเกอรร์ ,ี่ ร้านผลิตภัณฑ์เสรมิ ความงาม, โรงเรยี นสอนดนตรี และมพี น้ื ทเี่ ปิดโล่ง(ทมี่ า : www.thaifranchisecenter.com/document/) 2-23
6. ศนู ยบ์ ันเทิง ( Urban Entertainment Center) ดงั น้ันจงึ สรปุ ไดว้ ่าโครงการศึกษา และออกแบบศนู ยช์ มุ ชนสรา้ งสรรค์ การเรยี นรู้ เพ่อื คนรนุ่ ใหมเ่ ปน็ โครงการ ทส่ี นบั สนนุ เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ซึง่ เป็น หน่ึงในศนู ยก์ ารคา้ แนวใหมด่ ว้ ยการวางคอนเซป็ ต์ ศนู ยไ์ ลฟ์สไตล์ แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรคเ์ นน้ การพัฒนาคนใหม้ คี วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละการแอนดเ์ อน็ เตอร์เทนเมนต์ ( Life Style And Entertainment Center ) ที่นาเสนอ พัฒนาเชงิ พน้ื ท่ี เพอื่ อานวยตอ่ การเกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ โดยโครงการจะเปน็เรอ่ื งของนวตั กรรมใหม่ ทอ่ี ิงวถิ กี ารดาเนนิ ชีวติ (Life Style) ของผบู้ ริโภคโดย พืน้ ทก่ี ารเรียนร้เู สรมิ สรา้ งความ คิดสร้างสรรคโ์ ดยมีพ้ืนท่กี ารเรยี นร้อู สิ ระ เชน่เนน้ การนาศิลปะและความบนั เทิงเขา้ มาผสมผสานกนั (Artertainment) ในรปู แบบ ห้องสมดุ Studio Workshop หรอื พื้นท่ใี ห้บรกิ าร ซอ้ื ขาย สนิ คา้ และเปน็ พน้ื ที่ของการดาเนนิ ธุรกจิ จนเกิดเปน็ ธุรกจิ คา้ ปลกี รปู แบบใหม่ โดยเน้นกลมุ่ เป้าหมาย กิจกรรมเพือ่ ตอบสนองคนในชุมชนซ่ึง จัดอยูใ่ นรูปแบบศนู ยไ์ ลฟส์ ไตล์แอนดเ์ อน็หลักที่ลกู คา้ อายุระหว่าง 15—35 ปี มีรายไดป้ านกลางถงึ สูง และ ยงั เปน็ กลมุ่ เตอร์เทนเมนต์ ( Life Style And Entertainment Center ) ทนี่ าเสนอเรื่องของผบู้ รโิ ภคทส่ี นใจแนวทางการดารงชีวิตแบบคนรนุ่ ใหม่ ไมอ่ ยใู่ นกรอบสนใจเทรนด์ นวตั กรรมใหมท่ ่อี ิงวถิ กี ารดาเนนิ ชีวิต ของผบู้ ริโภคโดยเนน้ การนาศลิ ปะและความใหม่ๆ ชอบเทคโนโลยี และศิลปะ โดยไมอ่ งิ สนิ คฟ้ ฟาแบรนด์เนมเป็นหลกั บนั เทงิ เขา้ มาผสมผสานกนั ที่มา : https://www.success.com/blog/6-ways-to-tap- 2-24
2.3.2 มาตรฐานการให้บรกิ ารและความปลอดภยั ในศนู ยก์ ารคา้1. ด้านสภาพความพรอ้ มของสถานท่ี1.1 ลักษณะทว่ั ไปของศนู ยก์ ารค้า1.1.1 อาคารและสง่ิ ปลกู สรา้ งมลี ักษณะ มนั่ คงแข็งแรง และ คงทนถาวร 1.1.7 การคมนาคมทคี่ วามสะดวกตอ่ การเดินทาง1.1.2 ในเวลากลางคืนบรเิ วณทางเดินและทีจ่ อดรถมแี สงสวา่ งเพียงพอ 1.1.8 มที ี่จอดรถรบั -ส่ง สะดวก สะอาด ปลอดภยั1.1.3 มีเครอื่ งบันทึกภาพวงจรปดิ ท่ีพรอ้ มใชง้ าน ( มากกวา่ 1 จดุ ) 1.1.9 มที จี่ อดรถสาหรับคนพกิ าร1.1.4 มีผังแสดงเสน้ ทางหนไี ฟ ประจาชนั้ ของแตล่ ะอาคาร 1.1.10 มที างสญั จรของรถ และคนเดนิ เทา้ แยกส่วนออก1.1.5 มีระบบรกั ษาความปลอดภยั ไดแ้ ก่ การเขา้ ถึงตารวจทอ้ งที่ หรอื 1.1.11 มปี า้ ยสอ่ื ความหมายของส่ิงอานวยความสะดวก ไดแ้ ก่ การซอ้ ม แผนรกั ษาความปลอดภยั แผนแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั เรอื่ ง ปา้ ยบอกทางไปหอ้ งสขุ า และห้องละหมาด เปน็ ตน้ ความปลอดภยั เชน่ โจรปลน้ เพลงิ ไหม้ และไฟฟา้ ดบั เป็นตน้ 1.1.12 ทางเข้าศูนย์การคา้ มกี ารคานงึ ถงึ ผพู้ ิการและผู้สงู อายุ1.1.6 ความสะอาดของศนู ย์การค้าและบรเิ วณรอบๆอาคาร เช่น มที างลาด สาหรบั รถเข็นผพู้ กิ าร เปน็ ต้น ( ที่มาข้อมูล : http://ltrc.npru.ac.th/?p=340 ) 2-25
1.2 ลักษณะภายในของศูนย์การคา้ ภาพที่ 2.7 : ภายในของศนู ย์การค้า 1.2.1 การแบง่ สัดสว่ นของพนื้ ทก่ี ารขายสนิ คา้ 1.2.2 มีระบบสัญญาณเตอื นเมื่อเกิดเหตกุ ารณฉ์ กุ เฉิน ท่มี า : http://terrabkk.com 1.2.3 มกี ารตรวจสอบบันไดหนีไฟอย่างสมา่ เสมอ 1.2.4 มรี ะบบรักษาความปลอดภัยภาพที่ : ภายในของศนู ยก์ ารคา้ 1.2.5 มกี ารจัดวางสนิ คา้ แยกประเภทอยา่ งชดั เจน 1.2.6 มคี วามสะอาด เป็นระเบยี บ และมรี ะบบถา่ ยเทอากาศทถ่ี กู สุขลกั ษณะ ภาพท่ี 2.8 : ภายในของศนู ย์การค้า 1.2.7 การจัดแสดงสนิ คา้ ใช้รปู แบบที่โดดเดน่ ด้วยการตกแตง่ สวยงามท่ี ทมี่ า : http://terrabkk.com ทนั สมัยและสะท้อนวฒั นธรรม ที่มา : http://terrabkk.com/news/70412/%E0%B8%84% 1.2.8 มหี อ้ งนา้ ทส่ี ะอาดถกู สขุ ลักษณะ 1.2.9 จัดบรเิ วณไวส้ าหรับนั่งรอคอย บริการอาหารวา่ ง และเคร่อื งดมื่ สาหรบั ลกู ค้า 1.2.10 มีการแจ้งอตั ราแลกเปลี่ยนเงนิ ตราตา่ งประเทศทช่ี ดั เจนหรือมกี าร บรกิ ารรบั ชาระเงนิ โดยบตั รเครดิต หรอื เงนิ ตราตา่ งประเทศ 1.2.11 มกี ารวางระบบปอ้ งกนั ไฟไหมใ้ นตัวอาคารรถเข็นผู้พกิ าร เปน็ ตน้ ( ท่มี าขอ้ มลู : http://ltrc.npru.ac.th/?p=340 )2-26
2. การให้บริการด้านความปลอดภยั 3. ด้านความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและชุมชน2.1 มีป้ายแสดงทางเขา้ ออกฉกุ เฉนิ ท้ังเปน็ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษท่พี รอ้ ม 3.1 มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สง่ิ แวดล้อม 3.1.1 สนบั สนนุ การใชร้ ะบบการกาจดั ขยะทีเ่ ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดล้อมใช้งานอยู่เสมอ 3.1.2 มกี ารจัดการดา้ นส่งิ แวดล้อมอย่างเป็นระบบภายในบรเิ วณ ศูนยก์ ารคา้2.2 มีแผนปอ้ งกนั ภัย เตอื นภยั และระงับภยั ตา่ งๆ ทีผ่ ่านการทดลองและฝึก 3.2 การบรกิ ารสงั คมซ้อมอย่เู สมอ2.3 มรี ะบบเชค็ ความปลอดภยั ที่มปี ระสทิ ธิภาพ สามารถสังเกตการณ์ หรือบนั ทกึ ภาพบริเวณทางเขา้ ออก สถานท่ีจอดรถ และจดุ สาคญั ๆ ภายในศนู ยก์ ารคา้ ( ทมี่ าข้อมลู : http://ltrc.npru.ac.th/?p=340 ) 3.2.1 สง่ เสริมธรุ กจิ ชุมชน หรอื สนบั สนุนสนิ ค้า ทม่ี าจากชุมชน 3.2.2 เปน็ ผู้อปุ ถมั ภ์และรว่ มรับผิดชอบดาเนนิ โครงการของชมุ ชน 3.2.3 เปน็ สมาชิกของกลุ่ม หรือจัดตง้ั ชมรมธรุ กจิ ทมี่ กี ารดาเนินภาพที่ 2.9 : ปา้ ยแสดงทาง การสาธารณะประโยชน์ 3.2.4 มีการจดั ทาโครงการ CSR เพ่ือตอบแทนสังคมท่มี าขอ้ มูล : www.xn--22cap5dwcq3d9ac1l0f.com/archives/21673 2-27
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150