Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวิทยาการคำนวณป4

แผนวิทยาการคำนวณป4

Published by naree.ced55, 2021-07-22 01:54:57

Description: แผนวิทยาการคำนวณป4

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั สิ ว่ นตวั ของฉนั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลด้วยซอฟต์แวร์ เวลา 10 ช่ัวโมง เรอ่ื ง ประวัติส่วนตัวของฉัน เวลา 4 ชั่วโมง รายวิชา วิทยาการคานวณ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการ แก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันและมีจริยธรรม ตัวช้ีวัด ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ทหี่ ลากหลายเพื่อ แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายอธิบายความหมายเก่ียวกับซอฟต์แวร์ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถใช้งานเครื่องมอื พ้ืนฐานในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ การพิมพ์ข้อความได้ (P) 3. นกั เรียนเห็นความสาคัญในการใชโ้ ปรแกรมหรือซอฟตแ์ วร์ในชวี ิตประจาวัน (A) 3.สาระสาคญั ซอฟต์แวร์ (Software) คือ ชุดคาส่ังท่ีกาหนดให้คอมพิวเตอร์ทางานตามความต้องการ เช่น การนาเสนอ งาน การพมิ พ์งานเอกสาร รายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ์ด (Microsoft Word) ใช้ในการพิมพ์งานเอกสารท่เี ป็นข้อมูลลักษณะเป็นตัวอักษร และมีรูปภาพประกอบ เช่น รายงาน โปสเตอร์ ฯลฯ และยังสามารถใช้งานระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น การ ค้นหาคา ตรวจสอบไวยากรณ์ การสรา้ งตาราง ฯลฯ 4.สาระการเรยี นรู้ การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ คอมพิวเตอรเ์ พ่ือการจดั ทาเอกสาร ข้อมลู สารสนเทศ 5.รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน - การอภิปราย 6.สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 76

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวัตสิ ว่ นตัวของฉนั 7.ทักษะ 4 Cs  ซื่อสตั ย์ สุจริต  ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)  ใฝเ่ รยี นรู้  ทักษะการทางานร่วมกนั (Collaboration Skill)  มุง่ มน่ั ในการทางาน  ทกั ษะการส่อื สาร (Communication Skill)  มจี ติ สาธารณะ  ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  มีวินัย  อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง  รักความเป็นไทย 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นา (10 นาที) 1. ครูนาตัวอยา่ งโปรไฟลใ์ นรูปแบบ Port folio ใหน้ ักเรียนดู จากน้นั ตงั้ คาถามวา่ นักเรยี นชอบการออกแบบแบบไหน จากตัวอย่างทด่ี ูทงั้ หมด (ครปู ร้ินใหน้ กั เรยี นด)ู 2. ครูถามนักเรียนวา่ หากนักเรียนตอ้ งการทาพอร์ทตาม ตัวอยา่ งตา่ ง ๆ ทีเ่ ห็นสักครู่ นักเรียนคดิ โปรแกรมอะไร สามารทาได้บ้าง 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันบอกตัวอย่างโปรแกรมทคี่ าดว่า จะใช้สร้างพอรท์ ได้ ขน้ั สอน (50 นาท)ี 1. ครบู อกนักเรียนวา่ จะแนะนาโปรแกรมที่ใชใ้ นการสร้าง 2. แบบง่ายไมย่ งุ่ ยากใหก้ ับนักเรียนแตน่ กั เรียนต้องร้จู ัก ลิงก์ตวั อย่าง 3. กอ่ นว่าโปรแกรม และซอฟตแ์ วรค์ ืออะไร 4. ครใู หน้ ักเรียนเปิดหนงั สือวทิ ยาการคานวณ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่4ี หนา้ 83 จากนนั้ ครูอธิบายเร่อื ง ซอฟตแ์ วรใ์ นหน้า 83-85 77

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ประวตั ิสว่ นตวั ของฉนั ชวั่ โมงที่ 2 ข้ันสอนต่อ (50 นาท)ี 1. ครทู บทวนความรู้จากชว่ั โมงที่แล้วให้นกั เรยี นฟงั 2. ครใู หน้ กั เรียนเปิดโปรแกรม Word จากนัน้ ครแู นะนาประโยชน์ของโปรแกรม Word 3. ครูสอนวิธีใช้งานโปรแกรมตามหนงั สือเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.4 หน้า 86-92 4. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันบอกเคร่ืองมือที่ไดเ้ รียนในชัว่ โมง และหนา้ ทข่ี องเคร่ืองมือ ช่ัวโมงที่ 3 ขัน้ สอนตอ่ (50 นาท)ี 1. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนเครือ่ งมือทเ่ี รยี นในโปรแกรม Word จากชว่ั โมงทีแ่ ล้ว 2. ครูนาตัวอย่างประวัติสว่ นตัวทคี่ รูทาจากโปรแกรม Word พร้อมตกแต่งด้วยเครื่องมือหลากหลายชนดิ อยา่ งสวยงามใหน้ ักเรยี นดู 3. ครูให้นักเรียนออกแบบประวตั สิ ่วนตวั ของตนเองดว้ ยโปรแกรม Word จากเคร่ืองมือท่ีครูสอนใช้มาแล้ว อย่างสวยงามทส่ี ุด ช่วั โมงท่ี 4 ข้ันสอนต่อ (50 นาท)ี 1. ครสู อบถามเรือ่ งการทาประวัติส่วนตวั ของนักเรยี น 2. ครใู หน้ กั เรียนท่ยี งทาไมเ่ สร็จทาชน้ิ งานตอ่ จากชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสรปุ (10 นาที) 1. ครตู รวจผลงานประวตั ิส่วนตัวของนักเรียนพร้อมให้คะแนน 2. ครูใหน้ กั เรียนบอกประโยชน์ของการใชโ้ ปรแกรมในชีวติ ประจาวัน 3. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหัดเรื่องการนาเสนอข้อมูลโดยใชซ้ อฟต์แวร์ประยกุ ต์ ในแบบฝกึ หัดเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.4 หน้า 41-44 10.ส่ือแหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.4 78

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั ิส่วนตัวของฉนั 11.การวัดและการประเมนิ ผล จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่อื งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1.นกั เรยี นบอกลักษณะของ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑ์ ซอฟแวร์ได้ เทคโนโลย(ี วิทยาการ เทคโนโลยี คานวณ) ป.4 หนา้ (วิทยาการคานวณ) 41-44 ป.4 หน้า 41-44 2.นักเรยี นสามารถใชง้ าน - ตรวจผลชน้ิ งาน - แบบประเมนิ ผลงาน - คณุ ภาพระดบั ดี ผ่าน เครอ่ื งมอื พืน้ ฐานในการ ประวัติสว่ นตัว เกณฑ์ พมิ พ์ข้อความได้ 3.นกั เรยี นเห็นความสาคญั - นักเรียนยกตวั อย่าง - แบบประเมนิ - คณุ ภาพระดับดี ผา่ น พฤติกรรม เกณฑ์ ในการใช้โปรแกรมซอฟแวร์ การใชโ้ ปรแกรม เวริ ด์ ในชวี ติ ประจาวัน Word ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ 79

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั สิ ว่ นตวั ของฉนั แบบประเมินผลงานประวตั ิส่วนตวั ประเดน็ การประเมนิ ชิน้ งาน 3 คะแนน การให้คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 1.ความสอดคล้องของเน้ือหา 2.คณุ ภาพของผลงานและการนาเสนอข้อมลู ใน โปรแกรม Microsoft Word รวมคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ดี 3-4 1-2 พอใช้ ปรบั ปรงุ 80

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั ิสว่ นตวั ของฉนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเดน็ การประเมนิ คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ชิ้นงาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรุง (1 คะแนน) 1.ความสอดคล้องของ 1.นกั เรยี นแสดงออกถึง 1.นักเรยี นแสดงออกถึงการ 1.นักเรยี นแสดงออกถงึ การ เนอื้ หา การวางแผน การ วางแผน การนาเสนอข้อมลู วางแผน การนาเสนอข้อมูล นาเสนอข้อมลู อย่าง ชัดเจน เขา้ ใจง่ายเป็นส่วน ชดั เจน เขา้ ใจง่ายบางสว่ น ชัดเจน เข้าใจง่าย โดยใช้ ใหญ่ โดยใช้ซอฟต์แวร์ใน โดยใชซ้ อฟต์แวร์ในการสรา้ ง ซอฟตแ์ วร์ในการสรา้ ง การสร้างช้นิ งานสมั พนั ธ์กบั ช้นิ งานสมั พันธ์กับโจทย์ท่ี ชิ้นงานสัมพนั ธ์กบั โจทย์ โจทยท์ ไ่ี ด้รบั ได้รับ ทีไ่ ด้รับ 2.คณุ ภาพของผลงานและ 2.นักเรียนสามารถใช้ 2.นกั เรียนสามารถใช้ 2.นกั เรียนสามารถใช้ การนาเสนอขอ้ มลู ใน โปรแกรม Word โปรแกรม Word ออกแบบ โปรแกรม Word ออกแบบ โปรแกรม Word ออกแบบประวตั สิ ่วนตวั ประวัติสว่ นตัวของตนเอง ประวัติสว่ นตวั ของตนเอง ของตนเอง และใช้งาน และใช้งานเคร่ืองมอื พน้ื ฐาน และใชง้ านเคร่ืองมือพื้นฐาน เคร่อื งมอื พื้นฐานในการ ในการพิมพ์ขอ้ ความได้เปน็ ในการพิมพ์ข้อความไดบ้ าง พมิ พ์ข้อความได้อย่าง ส่วนใหญ่ ในการสรา้ ง เคร่อื งมอื ในการสรา้ ง หลากหลาย ในการสรา้ ง ชิน้ งาน ชน้ิ งาน ชิน้ งาน 81

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวัตสิ ว่ นตวั ของฉนั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน คาชแี้ จง : ครพู จิ ารณาให้คะแนนนักเรยี นรายบคุ คลตามข้อคาถามที่กาหนดให้ในใบรายชอ่ื นักเรียน โดยใชเ้ กณฑใ์ นการประเมนิ ดงั น้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = น้อย พฤติกรรมทส่ี ังเกต ระดบั คะแนน 321 1. แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ 2. ยกตวั อย่างการใช้โปรแกรม Word ใน ชวี ติ ประจาวันได้ 3. มวี ินยั และมงุ่ ม่ันในการทางาน 4. เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรบั ปรงุ 82

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 นกั พรเี ซนตค์ นเก่ง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ เวลา 10 ชว่ั โมง เร่ือง นักพรเี ซนตค์ นเกง่ เวลา 3 ชั่วโมง รายวิชา วิทยาการคานวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทันและมจี ริยธรรม ตวั ชีว้ ัด ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ทีห่ ลากหลายเพื่อ แกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวนั 2.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ได้ (K) 2. นักเรียนสามารถใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ในการสร้างไฟลน์ าเสนอได้ (P) 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของการใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยตใ์ นการนาเสนองาน (A) 3.สาระสาคัญ โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยตเ์ ป็นโปรแกรมหน่ึงในตระกูลไมโครซอฟต์ออฟฟติ เหมาะสาหรับการใช้ นาเสนองาน โดยสร้างออกมาเป็นสไลด์ย่อย ๆ แต่ละสไลด์จะสามารถใส่ข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น ตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคล่ือนไหว เพือ่ สรา้ งความน่าสนใจให้เพ่ิมมากขนึ้ ในการนาเสนองาน 4.สาระการเรียนรู้ การใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์เพื่อการจัดทาเอกสาร ข้อมลู สารสนเทศ การนาเสนองาน 5.รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน - การอภปิ ราย - บทบาทสมมติ 6.สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 82

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 นักพรีเซนตค์ นเก่ง 7.ทักษะ 4 Cs  ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต  ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)  ใฝ่เรยี นรู้  ทกั ษะการทางานร่วมกัน (Collaboration Skill)  มุ่งมั่นในการทางาน  ทกั ษะการสือ่ สาร (Communication Skill)  มจี ิตสาธารณะ  ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  มีวนิ ยั  อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง  รกั ความเปน็ ไทย 9.การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขัน้ นา (10 นาท)ี 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นวา่ ถา้ นักเรียนเปน็ แม่ค้า นักเรยี นจะนาเสนอขายสนิ ค้าอย่างไร แนวคาตอบ ตามความคดิ เห็นของนักเรยี น 2. ครูสุม่ นักรียน 2-3 คน ออกมาสาธิตการนาเสนอขายกระถางต้นไม้ 3. ครูถามนักเรยี นว่า นกั เรยี นคิดว่าการนาเสนอดว้ ยปากเปล่าน่าสนใจหรือไม่ แนวคาตอบ ยงั ไมน่ ่าสนใจเท่าท่ีควร ขนั้ สอน (50 นาท)ี 1. นักเรียนเคยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint หรอื ไม่ และใชท้ าอะไรบา้ ง แนวคาตอบ ไม่เคยใช้/เคยใชใ้ นการนาเสนองาน ใส่รปู ภาพ 2. ครูให้นกั เรยี นเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint ตามขั้นตอนในหนังสอื วทิ ยาการคานวณ ป.4 หนา้ 93 3. เมื่อนักเรยี นเปดิ โปรแกรม Microsoft PowerPoint แลว้ จะปรากฏหน้าตา่ งสว่ นประกอบของโปรแกรม ครูใหน้ กั เรียนศึกษาสว่ นประกอบต่าง ๆ ในโปรแกรมและลองใช้เครอ่ื งมือต่างๆ โดยศกึ ษาข้อมูลเพ่มิ เติม เกีย่ วกบั เคร่ืองมือต่างๆ ในหนังสอื วิทยาการคานวณ ป.4 หน้า 99 83

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 นกั พรเี ซนต์คนเกง่ 4. ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานที่ 4.3 เร่อื ง ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 5. ครูให้นกั เรียนศึกษาขอ้ มูลเกย่ี วกบั การนาเสนองานด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint จากหนงั สือ วิทยาการคานวณ ป.4 หนา้ 100 6. ครถู ามนักเรยี นวา่ คาถาม - ถา้ ต้องการใส่ข้อความในโปรแกรม Microsoft PowerPoint สามารถทาได้อยา่ งไร (ให้นักเรยี นใช้ โปรแกรม เพ่ือหาคาตอบเอง) แนวคาตอบ 1) คลกิ เลือกพื้นทีท่ ่ีต้องการพิมพข์ ้อความ 2) คลกิ เลือกรูปแบบขนาดและลกั ษณะของตัวอักษรท่ตี ้องการ 3) คลกิ ในพนื้ ทีส่ าหรบั พิมพ์ข้อความ แล้วพิมพ์ขอ้ ความตามทต่ี อ้ งการจากนนั้ คลิกพ้ืนที่ ว่างนอกกรอบ 7. ครูให้นกั เรียนปฏิบัตติ ามคาตอบเพ่ือให้ไดผ้ ลลัพธท์ ีถ่ ูกต้อง หากนักเรียนยังไดผ้ ลลัพธท์ ไ่ี ม่ถูกต้องหรือยงั ทา ไม่ได้ ครูให้ศึกษาขั้นตอนการใส่ขอ้ ความในหนังสอื วิทยาการคานวณ ป.4 หนา้ 100 และครใู หค้ าแนะนา เพ่ิมเติม 8. ครูถามนักเรยี น คาถาม - นักเรียนคดิ ว่า พื้นหลังสขี าว ดนู ่าสนใจหรือไม่ ทาอย่างไรจึงจะทาให้พื้นหลังน่าสนใจหรือ สวยงามขนึ้ แนวคาตอบ ไมน่ า่ สนใจ ควรเพม่ิ ภาพพน้ื หลังสไลด์ - การเพ่ิมภาพพน้ื หลังสไลด์ ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ทาได้อยา่ งไร อย่างไร (ให้ นักเรยี นใช้โปรแกรม เพอื่ หาคาตอบ) แนวคาตอบ คลกิ ขวาบนพนื้ ท่ีวา่ ง > Format Background > เลอื กสี และรปู แบบท่ี ต้องการ > คลกิ Close เพ่อื ใชก้ ับสไลด์น/้ี คลิก Apply to all เพอื่ ใช้กับสไลด์ทุกหน้า 9. ครใู หน้ ักเรยี นปฏิบัตติ ามคาตอบเพ่ือให้ได้ผลลพั ธ์ทถ่ี ูกตอ้ ง หากนักเรียนยงั ไม่ได้ผลลพั ธ์ครูให้ศกึ ษาขนั้ ตอน การตกแตง่ พน้ื หลงั สไลด์ในหนงั สือวทิ ยาการคานวณ ป.4 หน้า 100 และครูใหค้ าแนะนาเพ่มิ เติม 84

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 นกั พรีเซนต์คนเก่ง 10. ครูถามนักเรียนวา่ คาถาม - ถา้ เรานาเสนอสนิ คา้ แตไ่ มใ่ ส่รปู สินค้า การนาเสนอน่าน่าสนใจหรือไม่ แนวคาตอบ ไม่นา่ สนใจ เพราะไม่เหน็ ภาพสนิ คา้ - ถ้าตอ้ งการใส่รูปประกอบในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ต้องทาอยา่ งไร แนวคาตอบ คลิก Insert > Picture >เลือกภาพ >คลิก Insert 11. ครใู ห้นกั เรียนปฏิบัตติ ามคาตอบเพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ทีถ่ กู ตอ้ ง หากนักเรียนยังไม่ไดผ้ ลลพั ธ์ครูให้ศึกษาขน้ั ตอน การใส่ข้อความและการสร้างรูปแบบตารางในหนังสือวิทยาการคานวณ ป.4 หน้า 100 และครูให้ คาแนะนาเพ่ิมเติม ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั สอน (60 นาที) 1. ครูให้นกั เรียนทบทวนการใชง้ านเคร่อื งมือในโปรแกรม PowerPoint 2. ครูให้นักเรียนสมมตบิ ทบาทตนเองวา่ กาลังไปสมคั รงานในบริษทั ท่ีอยากทางานด้วย นกั เรียนจะมีวธิ กี าร นาเสนอตนเองอยา่ งไรโดยการออกแบบการนาเสนอด้วยโปรแกรม PowerPoint จากนั้นใหน้ กั เรียน ออกแบบการนาเสนอด้วยโปรแกรม PowerPoint และเตรียมนาเสนอในชว่ั โมงหนา้ ช่วั โมงท่ี 3 ข้นั สอน (30 นาที) 1. ครูใหน้ กั เรยี นทบทวนการทาช้ินงานจากช่ัวโมงท่ีแลว้ และสอบถามนักเรียนท่ีทางานเสร็จแล้ว 2. ครูใหน้ กั เรยี นทย่ี ังทางานไมเ่ สรจ็ ทางานตอ่ และคอยกากับดูแลความเรียบร้อย 3. ครใู หน้ กั เรยี นนาเสนอตนเองด้วยโปรแกรม PowerPoint ขัน้ สรุป (20 นาที) 1. ครูตรวจชิน้ งานนักเรยี นพร้อมใหค้ ะแนน 2. ครูให้นักเรยี นบอกประโยชนก์ ารนาเสนอข้อมูลในชวี ิตประจาวัน 10.สื่อแหลง่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียนเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.4 85

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 นกั พรีเซนต์คนเก่ง 11.การวดั และการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ วิธกี ารประเมิน เครอ่ื งมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมิน - รอ้ ยละ 50 ขึน้ ไป 1. นักเรยี นสามารถอธิบาย - ตรวจสมดุ - สมดุ แบบฝกึ หัด ลกั ษณะของโปรแกรม แบบฝกึ หัด - แบบประเมินชิ้นงาน ผา่ นเกณฑ์ ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ ได้ - ตรวจชนิ้ งานการ - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี 2. นักเรยี นสามารถใช้ ออกแบบการ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ โปรแกรมไมโครซอฟต์ นาเสนอ วิธกี าร เพาเวอร์พอยต์ในการสรา้ ง นาเสนอตนเองใน - ระดับคุณภาพดี ไฟลน์ าเสนอได้ การสมคั รงานด้วย ผา่ นเกณฑ์ โปรแกรม 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ ไมโครซอฟต์ ของการใช้โปรแกรม เพาเวอร์พอยต์ ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ ในการนาเสนองาน - นักเรียนบอก ประโยชน์การใช้ โปรแกรม ไมโครซอฟต์ เพาเวอร์พอยต์ นาเสนอใน ชีวติ ประจาวนั งาน 86

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 นกั พรีเซนต์คนเกง่ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ประเด็นการประเมินชน้ิ งาน การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความถกู ต้องของเน้ือหา 2.คุณภาพของผลงานและการนาเสนอข้อมลู ใน โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ 3.ความคดิ สร้างสรรค์การออกแบบนาเสนอข้อมลู ในโปรแกรม ไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน 8–9 พอใช้ 5 –7 ปรบั ปรงุ 1 –4 87

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 นักพรเี ซนต์คนเกง่ เกณฑ์การให้คะแนน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ประเดน็ การประเมนิ ชิน้ งาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรับปรุง (1 คะแนน) 1.ความถูกต้องของเน้อื หา การเลอื กใช้เครอ่ื งมือ การเลือกใชเ้ ครื่องมือถกู ต้อง การเลอื กใช้เครือ่ งมือ ถกู ต้องเหมาะสม ข้อมลู ครบถ้วนถูกต้อง เหมาะสมเปน็ ส่วนใหญ่ เหมาะสมเพียงบางส่วน ขอ้ มลู ครบถว้ น ข้อมลู ยังไม่เพยี งพอ 2.คณุ ภาพของผลงานและ แสดงออกถึงการวางแผน แสดงออกถึงการวางแผน แสดงออกถึงการวางแผน การนาเสนอข้อมลู ใน การนาเสนอขอ้ มลู พอใช้ โปรแกรมไมโครซอฟต์ การนาเสนอขอ้ มลู อย่างดี การนาเสนอข้อมลู ดี ทาให้ ทาใหเ้ ข้าใจขอ้ มลู เพยี ง เพาเวอร์พอยต์ บางสว่ น มขี ้อผิดพลาด ทาใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย เขา้ ใจข้อมลู ส่วนใหญ่ เลก็ นอ้ ย 3.ความคิดสร้างสรรค์การ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบโปรแกรม สามารถออกแบบ ออกแบบนาเสนอข้อมลู ใน โปรแกรมไมโครซอฟต์ โปรแกรมไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ โปรแกรมไมโครซอฟต์ เพาเวอร์พอยต์ เพาเวอร์พอยต์ได้สวยงาม ได้สวยงาม แปลกใหม่ เพาเวอร์พอยต์ไดส้ วยงาม แปลกใหม่ นา่ สนใจ และ น่าสนใจ และสอื่ ความหมาย แต่การสอื่ ความหมายอาจ สือ่ ความหมายไดต้ รงหวั ข้อ ไดส้ อดคล้องกับหวั ขอ้ เป็น ไม่ตรงหัวข้อ สว่ นใหญ่ 88

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 นักพรเี ซนตค์ นเกง่ แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น คาช้ีแจง : ครูพจิ ารณาใหค้ ะแนนนกั เรียนรายบุคคลตามข้อคาถามที่กาหนดให้ในใบรายชอื่ นกั เรยี น โดยใชเ้ กณฑใ์ นการประเมิน ดังนี้ 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = นอ้ ย พฤติกรรมท่สี ังเกต ระดบั คะแนน 321 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 2. เหน็ ประโยชน์ของการใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ เพาเวอร์พอยต์ในการนาเสนองาน 3. มีวินยั และมงุ่ มน่ั ในการทางาน 4. เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ 5. แลกเปล่ียนเรียนรู้ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรบั ปรงุ 89

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั สิ ่วนตัวของฉนั แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 Microsoft Excel เวลา 10 ช่ัวโมง เรื่อง โปรแกรมจัดการตัวเลข เวลา 3 ช่วั โมง รายวิชา วิทยาการคานวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที 4ี่ 1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวรท์ ห่ี ลากหลาย เพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวิตประจาวนั 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนบอกลกั ษณะของซอฟตแ์ วร์ได้ (K) 2. นักเรียนสามารถใช้งานไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลในการรวบรวมและประเมินข้อมลู ได้ (P) 3. นกั เรยี นเหน็ ความสาคัญในการใชโ้ ปรแกรมหรือซอฟตแ์ วร์ในชีวติ ประจาวัน (A) 3.สาระสาคัญ ไมโครซอฟต์เอ็กเซลเป็นโปรแกรมทางด้านตารางคานวณ หรือท่ีเรียกว่า เสปรดชีต (Spreadsheet) เป็น โปรแกรมในชุด Microsoft Office มีความสามารถในด้านการสร้างตาราง การคานวณ การวิเคราะห์ การออก รายงานในรปู แบบตารางและกราฟ และการคานวรขอ้ มูลตา่ ง ๆ 4.สาระการเรียนรู้ การใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พื่อการจัดทาเอกสาร ข้อมูล สารสนเทศ การนาเสนองาน 5.รปู แบบการสอน/วิธีการสอน - การอภิปราย 6.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 87

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวัติส่วนตวั ของฉนั 7.ทกั ษะ 4 Cs  ซื่อสัตย์ สุจริต  ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)  ใฝเ่ รียนรู้  ทักษะการทางานรว่ มกนั (Collaboration Skill)  มุ่งมั่นในการทางาน  ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill)  มจี ิตสาธารณะ  ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์  รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  มวี นิ ัย  อยูอ่ ย่างพอเพียง  รักความเป็นไทย 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนา (10 นาที) 1.ครใู ห้นกั เรยี นเปดิ โปรแกรม Microsoft Word 2.ครูใหน้ ักเรียนจับคู่กนั สร้างตารางรายรบั รายจา่ ยซ้ืออปุ กรณ์ทาสวนในโปรแกรม Microsoft Word รายจา่ ยวันนี้ รบั เงนิ มา 500 บาท ซ้ือบวั รดน้าตน้ ไม้ 60 บาท จอบขุดดนิ 150 บาท ชอ้ นพรวนดนิ 20บาท สอ้ มพรวนดิน 45 บาท คราด 65 บาท 3.ครูถามนักเรยี นว่า คาถาม - ครูใช้เงินซ้ือของไปทัง้ หมดก่ีบาท และครเู หลือเงินก่ีบาท แนวคาตอบ ครูใช้เงนิ ไปท้งั หมด 340 คงเหลือ 160 - นกั เรยี นใชว้ ธิ กี ารหาจานวนเงินท่ีใช้ไปและจานวนเงนิ ทค่ี งเหลืออยา่ งไร แนวคาตอบ ตามคาตอบของนักเรียน เช่น เขยี นคานวณในกระดาษ ใช้เครื่องคิดเลข - นักเรยี นคดิ ว่า โปรแกรมซอฟต์แวรใ์ ดทีจ่ ะสามารถคานวณได้ พรอ้ มเหตผุ ล แนวคาตอบ โปรแกรมMicrosoft Excel 88

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การนาเสนอข้อมูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 ประวัตสิ ว่ นตวั ของฉนั ข้นั สอน (50 นาท)ี 1. ครใู ห้นักเรยี นนงั่ เปน็ กลุม่ 3-5 คนคละความสามารถ 2. ครแู จกกระดาษทดใหน้ ักเรียนกลมุ่ ละแผน่ จากนนั้ ครเู ริ่มตน้ ทากิจกรรม 3. ครอู ธิบาย กติกาโดยจะเลา่ เร่ืองราวให้นกั เรียนฟงั จากนัน้ ใหน้ ักเรียนบอกว่าจากเรื่องที่ฟังตวั ละครเหลือ เงนิ จากการทากจิ กรรมทง้ั วนั กบ่ี าท ดงั น้ี พายุได้รบั เงนิ จากพ่อมา 124 บาท จากน้ันพายุก็ไปซื้อไอติม 25 บาท และน้าหวาน 12 บาท พายุเดิน ไปเล่นท่ีสนามเด็กเล่นปรากฏว่าเงินหายไปบางส่วนเหลือเพียง 41 บาท แม่จึงให้เงินพายุเพ่ิมอีก 67 บาท แต่ให้พายุไปซ้ือน้าปลาขวดละ 32 บาทมาด้วยจากนั้นพายุก็กลับมาหาแม่ที่บ้านตอนนี้พายุจะมี เงนิ เหลือกี่บาท 4. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ หาคาตอบ 5. ครูถามนักเรียนว่าการหาคาตอบหรอื บันทกึ รายการเกี่ยวกับเงินเมื่อสักครยู่ าก หรือไม่ 6. ครถู ามนักเรียนตอ่ วา่ ถา้ เราอยากทารายการตามตัวอย่างสกั ครใู่ หร้ วดเร็วข้ึนนกั เรยี นคดิ วา่ นา่ จะมี เครื่องมอื ทชี่ ่วยเราได้หรือไม่ 7. ครใู หน้ กั เรียนเปดิ หนงั สือวทิ ยาการคานวณ หน้า 94-97 จากนั้นครูแนะนาโปรแกรม Microsoft excel 8. ครูใหน้ กั เรียนเปิดโปรแกรม Microsoft excel จากนัน้ ครูสอนการใชเ้ คร่ืองมือพน้ื ฐานในโปรแกรมโดยการ สอนทาบนั ทึกรายรับรายจ่ายจากโจทยท์ ่ใี ชท้ ากิจกรรม 9. ครถู ามนักเรียนเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจในการใช้ปรแกรม Microsoft excel วา่ คาถาม - การใสข่ ้อความในโปรแกรม Microsoft Excel สามารถทาไดอ้ ย่างไร แนวคาตอบ คลิกเซลล์ท่ตี ้องการ พมิ พ์ข้อความลงไป แลว้ กดแป้น Enter - การสรา้ งรูปแบบตารางในโปรแกรม Microsoft Excel สามารถทาได้อย่างไร แนวคาตอบ 1) คลิก แลว้ ลากคลุมพนื้ ที่ท่ีต้องการสรา้ งตาราง 2) คลิกขวาทีเ่ มาส์> Format cell… 3) คลิก Border แลว้ กาหนดเสน้ ขอบและเสน้ คนั่ ในเซลล์ 4) คลกิ OK - วธิ ีการหาคา่ เฉลย่ี โดยใช้สูตรในโปรแกรม Microsoft excel ทาอย่างไร แนวคาตอบ คลิก Formulas ทแี่ ถบเครือ่ งมือ คลิกท่ีผลรวมอตั โนมตั ิ แล้วเล่อื นเมาส์พอยนเ์ ตอร์ ไป คลกิ ท่ี Average คา่ เฉล่ยี แล้วกดแปน้ Enter 89

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ประวตั สิ ว่ นตัวของฉนั ชั่วโมงที่ 2 ข้นั สอนตอ่ (50 นาท)ี 1. ครูให้นักเรียนทบทวนเครื่องมือท่เี รยี นจากช่ัวโมงท่ผี า่ นมา 2. ครใู หน้ กั เรียนทาบันทึกรายรับรายจ่ายประจาวนั ของตนเอง(โดยอาจใหท้ าย้อนหลงั 3 วัน ) โดยครคู อย ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย 3. ครูถามนักเรยี นว่าจากทีเ่ รยี นมานกั เรยี นวา่ วธิ กี ารในการจดบันทึกแบบเดิมกบั การใชง้ านโปรแกรม Microsoft excel ในการช่วยหาคาตอบดา้ นคานวณแบบใดรวดเรว็ และสะดวกสบายกว่า 4. ครอู ธิบายประโยชนข์ องการใช้โปรแกรม Microsoft excel เพื่อจัดการกับการคานวณในชีวติ ประจาวันให้ ฟงั ชัว่ โมงที่ 3 ขัน้ สอนต่อ (50 นาที) 1. ครูทบทวนความรจู้ ากชัว่ โมงท่ีแล้ว 2. ครูให้นักเรียนเปดิ บันทกึ รายรับรายจ่ายทที่ าจากชัว่ โมงที่แล้วขน้ึ มา 3. ครถู ามนักเรียนวา่ จากบนั ทึกรายรับรายจา่ ยของตนเองให้นักเรยี นวเิ คราะหร์ ายรบั รายจ่ายของตนเองวา่ มี รายการใดทเี่ ป็นรายจา่ ยท่ีไม่จาเป็นและสามารถตัดออกได้ เพือ่ วางแผนการใชเ้ งินในวันถัดไป 4. ครูให้นักเรยี นวิเคราะหบ์ ันทึกรายรับรายจ่ายของตนเอง 5. ครสู ุม่ นกั เรยี นข้ึนมานาเสนอบันทึกรายรับรายจ่ายของตนเอง พร้อมบอกเหตุผลในการตัดรายจ่ายทไี่ ม่ จาเป็นออก ข้นั สรุป (10 นาที) 1. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันบอกประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft excel 2. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความรู้ที่ได้เรียนมาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การนาเสนอ ข้อมลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ 10.ส่ือแหล่งการเรียนรู้ 1 ) หนงั สอื เรยี นเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.4 90

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั ิส่วนตัวของฉนั 11.การวดั และการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน - รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป 1.นักเรยี นบอกลักษณะ - การตอบคาถามใน - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ของซอฟแวร์ได้ แบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั - ระดับคุณภาพดี 2. นกั เรียนสามารถใชง้ าน - ตรวจชน้ิ งานบญั ชี - แบบประเมินชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลใน รายรับรายจา่ ย ใน- - คณุ ภาพระดับดี ผา่ นเกณฑ์ การรวบรวมและประเมิน Microsoft Excel ขอ้ มลู ได้ 3.นกั เรียนเหน็ ความสาคัญ - นักเรยี นยกตัวอย่าง - แบบประเมิน ในการใชโ้ ปรแกรมหรือ การใชโ้ ปรแกรม พฤติกรรม ซอฟตแ์ วรใ์ น Microsoft Excel ใน ชีวิตประจาวนั ชีวิตประจาวนั ได้ 91

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั ิส่วนตวั ของฉนั แบบประเมนิ ใบงาน ประเด็นการประเมินชนิ้ งาน การใหค้ ะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความสอดคล้องกับเน้ือหา 2.คุณภาพของผลงานและการนาเสนอข้อมลู รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 5-6 ดี 3-4 1-2 พอใช้ ปรับปรุง 92

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั สิ ว่ นตัวของฉนั เกณฑ์การให้คะแนน ประเดน็ การประเมิน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ชิ้นงาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรับปรุง (1 คะแนน) 1.ความสอดคล้องกับ 1.นกั เรียนแสดงออกถงึ 1.นกั เรยี นแสดงออกถึง 1.นักเรียนแสดงออกถึง เน้อื หา การวางแผน การ การวางแผน การ การวางแผน การนาเสนอ นาเสนอข้อมลู ชัดเจน เข้าใจงา่ ยบางส่วน โดย นาเสนอข้อมลู อยา่ ง ขอ้ มลู ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย ใช้ซอฟต์แวร์ในการ จดั การกบั การคานวณใน ชัดเจน เขา้ ใจง่าย โดยใช้ เปน็ ส่วนใหญ่ โดยใช้ ชวี ิตประจาวนั สัมพนั ธ์ กับโจทยท์ ่ไี ด้รับ ซอฟต์แวรใ์ นการจดั การ ซอฟตแ์ วรใ์ นการจดั การ กบั การคานวณใน กบั การคานวณใน ชีวติ ประจาวนั สัมพนั ธก์ ับ ชวี ติ ประจาวันสัมพนั ธก์ ับ โจทย์ท่ไี ด้รับ โจทย์ท่ไี ดร้ ับ 2.คณุ ภาพของผลงานและ 2.นักเรยี นสามารถใช้ 2.นักเรยี นสามารถใช้ 2.นักเรียนสามารถใช้ การนาเสนอขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft Excel ในการช่วยหา Excel ในการช่วยหา Excel ในการชว่ ยหา คาตอบด้านคานวณได้ คาตอบด้านคานวณได้ คาตอบด้านคานวณได้ รวดเร็ว และใชง้ าน รวดเร็ว และใชง้ าน รวดเรว็ และใช้งาน เคร่ืองมือพน้ื ฐานใน เครอ่ื งมือพ้นื ฐานใน เครื่องมือพน้ื ฐานใน โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft Excel ไดอ้ ย่าง Excel ไดส้ ่วนใหญ่ Excel ไดบ้ างเครื่องมือ หลากหลาย 93

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 ประวตั ิส่วนตัวของฉนั แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน คาชแ้ี จง : ครพู จิ ารณาให้คะแนนนกั เรียนรายบคุ คลตามข้อคาถามท่ีกาหนดให้ในใบรายช่อื นกั เรียน โดยใช้เกณฑ์ในการประเมนิ ดังนี้ 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = น้อย พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต ระดบั คะแนน 1 32 1. แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ 2. ยกตวั อย่างการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ใน ชีวิตประจาวนั ได้ 3. มวี ินยั และมุ่งม่นั ในการทางาน 4. เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. มแี ลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีมาก ช่วงคะแนน ดี 14 – 15 พอใช้ 11 – 13 ปรับปรุง 8 – 10 1–7 94

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภยั หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ระยะเวลา 4 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่พี บในชีวิตจริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการ แก้ปัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม ตวั ชว้ี ดั ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธ์ิ ของผู้อ่นื แจ้งผูเ้ ก่ยี วขอ้ งเม่อื พบข้อมูลหรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน เช่น ไม่สร้างข้อความเท็จและส่งให้ผู้อ่ืน ไม่สรา้ งความเดอื ดรอ้ นต่อผู้อื่นโดยการส่งสแปม ข้อความ ลกู โซ่ ส่งต่อโพสต์ท่ีมขี ้อมลู ส่วนตัวของผู้อ่ืน ส่งคาเชิญเลน่ เกม ไมเ่ ข้าถงึ ข้อมูลส่วนตัวหรือการบ้าน ของบุคคลอืน่ โดยไมไ่ ด้รับอนุญาต ไม่ใชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์/ช่ือบญั ชีของผู้อ่นื 2) การส่อื สารอยา่ งมีมารยาทและรู้กาลเทศะ 3) การปกป้องข้อมูลส่วนตัว เช่น การออกจากระบบเอเลิกใช้งาน ไม่บอกรหัสผ่าน ไม่บอกเลข ประจาตวั ประชาชน 2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน (พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา) 3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม (เทคโนโลยี) เพื่อจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผลข้อมูล ซึ่งข้อมูลท่ีถูกประมวลผล เรียบรอ้ ยแล้วจะเรียกว่า สารสนเทศ พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) คือ บุคคลท่ีมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และส่ือดิจิทัล เป็นประจาได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีประสิทธิภาพ พลเมืองดิจิทัลจะต้องมีความ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั รับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อครอบครัวและเพ่ือน และความรับผิดชอบต่อชุมชน เพื่อให้ สังคมมีความสงบเรียบรอ้ ย 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - โปสเตอรร์ ะวงั ภัยขา่ วปลอม 6. การวัดและการประเมินผล รายการวดั วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมินตาม 6.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ สภาพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรยี น กอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 6.2 การประเมนิ ระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจใบงาน 5.1 - ใบงาน 5.1 การใช้ - ร้อยละ 50 เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผา่ นเกณฑ์ อย่างปลอดภยั การใช้เทคโนโลยี ให้ปลอดภยั สารสนเทศให้ ปลอดภยั 2) โปสเตอร์ระวังภยั - ตรวจชนิ้ งาน - แบบประเมนิ ชิ้นงาน - คณุ ภาพระดบั ดี - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ ขา่ วปลอม - แบบทดสอบหลังเรยี น - คณุ ภาพระดบั ดี 3) สงั เกตพฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล - รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ 6.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรียน หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย เวลา 4 ช่ัวโมง (รวมเวลา 4 ชั่วโมง) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้  แผนที่ 1 : แชรไ์ ดไ้ หมนะ วิธกี ารสอนแบบอภปิ ราย (Discussion Method) 8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.4 2) ใบงานท่ี 5.1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 5 การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกลา่ วถึงพลเมืองดิจิทัลไดถ้ ูกตอ้ ง ก. บุคคลท่ีมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสือ่ ดิจิทัลไดอ้ ย่างปลอดภัย ข. บคุ คลทมี่ ีมีความสามารถเข้าถงึ ขอ้ มลู ลบั เชน่ ข้อมลู ราชการ ข้อมูลบัตรเครดิต ค. บคุ คลท่ที ันยุค ทันสมยั สามารถนาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการทางานเพ่ือให้มรี ายได้มากข้ึน ง. บคุ คลท่ีมีความสามารถในการใชง้ านคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเขียนโปรแกรมป้อน คาสั่งใหค้ อมพวิ เตอรท์ างานได้ 2. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่พลเมืองดิจทิ ลั ก. ป้องกันคอมพิวเตอร์จากภัยคกุ คามตา่ ง ๆ เช่น ไวรสั คอมพิวเตอร์ หรือผู้ไมห่ วงั ดี ข. เขียนโปรแกรมขน้ึ มาป้อนให้คอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ให้คอมพวิ เตอรท์ างานตามคาสั่งต่าง ๆ ทก่ี าหนด ค. เคารพสิทธสิ ว่ นบคุ คล ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา และมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ พฤติกรรมของตนเองในโลก ออนไลน์ ง. ควบคมุ การใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้มคี วามเหมาะสม เพ่อื ไม่ใหเ้ กดิ การเสพติด และไม่สง่ ผลเสีย ต่อสขุ ภาพ 3. ข้อมูลใดท่ีไม่ควรเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ก. งานอดิเรก ข. วันเดอื นปเี กิด ค. สัตว์เลี้ยงทชี่ อบ ง. อาหารจานโปรด 4. ข้อใดปฏบิ ัติถูกต้องเม่ือเข้าใชง้ านระบบอินเทอร์เน็ต ก. ไมโ่ หลดเพลง ข. ไม่เลน่ เกมออนไลน์ ค. ออกจากระบบเมื่อเลิกใช้งาน ง. พูดคุยทักทายกบั บคุ คลที่ไม่รจู้ ัก

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างปลอดภัย 5. การเก็บรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอรเ์ ปน็ ความรบั ผิดชอบตอ่ พลเมืองดจิ ิทัลใด ก. ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ข. ความรบั ผิดชอบต่อผู้อนื่ ค. ความรับผดิ ชอบต่อชมุ ชน ง. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครัว 6. บุคคลใดตอ่ ไปน้ปี ฏิบัตติ ัวเป็นพลเมืองดิจิทัลไม่เหมาะสม ก. เรนน่ีปรึกษาพ่อกบั แม่เร่ืองที่มบี ุคคลทีไ่ มร่ จู้ ักทักแชตมาคุยด้วย ข. นอ้ ยหน่าใชภ้ าษาสุภาพเสมอในการสนทนาผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ค. ฟ้าใสสอบถามการบ้านกบั หนูนิม่ ผ่านทางไลน์ (Line) เน่อื งจากฟ้าใสป่วยจึงไมไ่ ด้ไปโรงเรยี น ง. น้าหวานให้ท่อี ยู่กบั นนทท์ ีร่ ู้จกั กนั ผา่ นเฟซบ๊กุ (Facebook) ซ่งึ พูดคุยกันได้ 3 เดือน โดยทีน่ ้าหวาน ยงั ไม่เคยเห็นหน้านนท์ 7. น้าผ้ึงเผยแพร่ข้อมูลที่ได้รับมาทางแชต เกยี่ วกับบ่อนา้ ศักดส์ิ ทิ ธ์ทิ ่พี ่ึงค้นพบสามารถรักษามะเรง็ ได้ โดยให้ ผู้ปว่ ยด่ืมและอาบทุกวนั การกระทาของนา้ ผ้ึงเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ก. เหมาะสม เพราะเปน็ การให้ความรแู้ ก่บุคคลอ่ืน ข. เหมาะสม เพราะได้ช่วยเหลือผูป้ ว่ ยใหห้ ายขาดจากโรคมะเรง็ ค. ไม่เหมาะสม เพราะผู้ป่วยควรด่มื นา้ อย่างเดยี วไมค่ วรนาน้ามาอาบ ง. ไม่เหมาะสม เพราะข้อมูลที่เผยแพรไ่ มไ่ ด้รบั การกลั่นกรองความถูกตอ้ ง 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ข้อมลู ข้อความท่สี ง่ ต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ต ข. การประยุกตใ์ ชค้ อมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เพ่ือจดั เกบ็ คน้ หา สง่ ผา่ น และประมวลผล ข้อมูล ค. ความสามรถในการเขา้ ใช้งานเทคโนโลยี และสอ่ื ดิจิทัลเปน็ ประจาอยา่ งสม่าเสมอ และใช้งานได้ อย่างปลอดภยั ง. การควบคุมการเขา้ ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟนให้มีความเหมาะสม เพ่ือไม่ใหเ้ กดิ การ เสพตดิ การใช้งาน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั 9. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกับสารสนเทศ ก. เครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ข. ระบบคอมพวิ เตอร์ ค. บทความทีถ่ ูกเผยแพร่ ง. ขอ้ มลู ที่ได้รับการประมวลผล 10. ขอ้ ใดต่อไปน้เี ป็นความรับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมอื งดิจทิ ัล ก. รกั ษาข้อมูลสว่ นตัว ข. แนะนาเพ่ือนในการใช้งานซอฟต์แวร์ ค. ปฏิบัติตามกฎ ระเบยี บ และข้อบงั คบั ของโรงเรียน ง. แลกเปล่ยี นความรู้เกย่ี วกบั การใช้งานอินเทอร์เน็ตกับเพ่ือน ๆ ในชั้นเรยี น เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยท่ี 5 การใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกลา่ วถึงพลเมืองดิจิทลั ได้ถูกตอ้ ง ก. บคุ คลทมี่ ีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสือ่ ดจิ ิทัลได้อยา่ งปลอดภัย ข. บุคคลทม่ี ีมีความสามารถเข้าถงึ ขอ้ มลู ลบั เชน่ ข้อมูลราชการ ข้อมลู บตั รเครดิต ค. บคุ คลทท่ี นั ยุค ทันสมยั สามารถนาเทคโนโลยมี าใช้ในการทางานเพ่ือให้มีรายได้มากข้ึน ง. บคุ คลที่มคี วามสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์ไดอ้ ย่างรวดเรว็ และสามารถเขียนโปรแกรมป้อน คาสง่ั ให้คอมพิวเตอร์ทางานได้ 2.ข้อใดต่อไปน้ไี ม่ใช่พลเมืองดิจทิ ัล ก. ป้องกันคอมพวิ เตอร์จากภัยคุกคามต่าง ๆ เชน่ ไวรัสคอมพวิ เตอร์ หรือผูไ้ ม่หวังดี ข. เขยี นโปรแกรมขน้ึ มาปอ้ นใหค้ อมพิวเตอร์ เพ่อื ใหค้ อมพวิ เตอรท์ างานตามคาส่ังต่าง ๆ ทีก่ าหนด ค. เคารพสทิ ธิสว่ นบุคคล ปฏิบัติตามกฎ กติกา และมีความรบั ผดิ ชอบต่อพฤติกรรมของตนเองในโลก ออนไลน์ ง. ควบคมุ การใช้อปุ กรณ์คอมพิวเตอรใ์ ห้มีความเหมาะสม เพือ่ ไมใ่ หเ้ กดิ การเสพติด และไมส่ ่งผลเสีย ต่อสขุ ภาพ 3.ขอ้ มูลใดทีไ่ มค่ วรเผยแพร่ในอนิ เทอร์เน็ต ก. งานอดเิ รก ข. วันเดือนปเี กดิ ค. สตั ว์เลี้ยงที่ชอบ ง. อาหารจานโปรด 4.ข้อใดปฏบิ ัติถูกต้องเมื่อเขา้ ใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต ก. ไม่โหลดเพลง ข. ไมเ่ ลน่ เกมออนไลน์ ค. ออกจากระบบเม่ือเลิกใช้งาน ง. พูดคุยทักทายกบั บคุ คลทีไ่ มร่ จู้ ัก

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภยั 5.การเกบ็ รักษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอรเ์ ป็นความรบั ผิดชอบตอ่ พลเมืองดิจิทัลใด ก. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ข. ความรับผดิ ชอบต่อผู้อนื่ ค. ความรับผิดชอบตอ่ ชมุ ชน ง. ความรบั ผิดชอบตอ่ ครอบครัว 6. บคุ คลใดตอ่ ไปนป้ี ฏบิ ตั ิตัวเป็นพลเมืองดิจทิ ัลไม่เหมาะสม ก. เรนนี่ปรกึ ษาพ่อกับแมเ่ ร่ืองทม่ี ีบคุ คลทไี่ ม่รูจ้ ักทักแชตมาคุยดว้ ย ข. น้อยหน่าใช้ภาษาสภุ าพเสมอในการสนทนาผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ค. ฟ้าใสสอบถามการบา้ นกบั หนูนม่ิ ผ่านทางไลน์ (Line) เนือ่ งจากฟา้ ใสป่วยจงึ ไมไ่ ด้ไปโรงเรยี น ง. น้าหวานใหท้ อ่ี ย่กู ับนนท์ทีร่ ู้จกั กันผา่ นเฟซบกุ๊ (Facebook) ซง่ึ พดู คุยกันได้ 3 เดือน โดยท่นี า้ หวาน ยังไม่เคยเห็นหนา้ นนท์ 7. นา้ ผงึ้ เผยแพรข่ อ้ มลู ทีไ่ ด้รับมาทางแชต เกยี่ วกบั บ่อน้าศักด์ิสิทธท์ิ พี่ ึ่งคน้ พบสามารถรักษามะเรง็ ได้ โดยให้ ผ้ปู ว่ ยด่ืมและอาบทกุ วัน การกระทาของน้าผ้ึงเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ก. เหมาะสม เพราะเปน็ การให้ความรูแ้ ก่บุคคลอนื่ ข. เหมาะสม เพราะไดช้ ว่ ยเหลือผปู้ ว่ ยให้หายขาดจากโรคมะเร็ง ค. ไม่เหมาะสม เพราะผู้ปว่ ยควรดมื่ นา้ อย่างเดยี วไมค่ วรนาน้ามาอาบ ง. ไม่เหมาะสม เพราะข้อมูลท่ีเผยแพรไ่ มไ่ ดร้ ับการกลั่นกรองความถูกต้อง 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ข้อมลู ข้อความทีส่ ง่ ต่อผา่ นทางอินเทอร์เนต็ ข. การประยุกตใ์ ช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เพือ่ จดั เก็บ คน้ หา สง่ ผา่ น และประมวลผล ข้อมูล ค. ความสามรถในการเข้าใชง้ านเทคโนโลยี และสอื่ ดิจทิ ัลเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอ และใชง้ านได้ อยา่ งปลอดภัย ง. การควบคุมการเขา้ ใช้อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ และสมาร์ตโฟนให้มีความเหมาะสม เพ่ือไมใ่ หเ้ กดิ การ เสพติดการใช้งาน

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย 9. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับสารสนเทศ ก. เครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ ข. ระบบคอมพวิ เตอร์ ค. บทความทีถ่ ูกเผยแพร่ ง. ขอ้ มลู ที่ได้รับการประมวลผล 10. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ป็นความรับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมอื งดิจทิ ัล ก. รกั ษาข้อมูลส่วนตัว ข. แนะนาเพ่ือนในการใช้งานซอฟต์แวร์ ค. ปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบยี บ และข้อบงั คบั ของโรงเรียน ง. แลกเปลี่ยนความรู้เกย่ี วกบั การใช้งานอินเทอร์เน็ตกับเพ่ือน ๆ ในชั้นเรยี น เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภัย เวลา 4 ช่ัวโมง เร่ือง แชร์ไดไ้ หมนะ เวลา 4 ชั่วโมง รายวชิ า วิทยาการคานวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท4่ี 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการ แกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ช้วี ัด ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่ีหลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวนั ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพในสทิ ธขิ อง ผ้อู น่ื แจ้งผูเ้ ก่ียวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม 2.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายเกยี่ วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ พลเมืองดจิ ทิ อล และลักษณะพลเมือง ดจิ ิทัลได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหข์ ้อมลู ทส่ี ามารถเปิดเผยได้อย่างปลอดภัย และป้องกนั ตนเองจากภัยคุกคาม ต่าง ๆ ได้ (P) 3. นักเรียนสามารถใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตน์ าเสนองานได้ (P) 4. นักเรยี นเหน็ คุณคา่ ของสทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องตน เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื แจ้งผูเ้ ก่ยี วข้องเม่ือพบข้อมูลหรือ บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม (A) 3.สาระสาคัญ เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม (เทคโนโลยี) เพ่ือจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผลข้อมูล ซ่ึงข้อมูลที่ถูกประมวลผล เรยี บร้อยแล้วจะเรียกว่า สารสนเทศ พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) คือ บุคคลท่ีมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และส่ือดิจิทัลเป็น ประจาได้อยา่ งปลอดภยั มีความรบั ผดิ ชอบ และมีประสิทธภิ าพ พลเมืองดิจิทัลจะต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อครอบครัวและเพ่ือน และความ รับผิดชอบต่อชมุ ชน เพ่อื ให้สังคมมีความสงบเรียบรอ้ ย 94

4.สาระการเรียนรู้  ซอ่ื สตั ย์ สุจริต - ความหมายเก่ยี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ  ใฝ่เรยี นรู้ - พลเมืองดจิ ิทอล และลักษณะพลเมืองดิจิทลั  มงุ่ มนั่ ในการทางาน  มจี ติ สาธารณะ 5.รปู แบบการสอน/วิธีการสอน - การอภปิ ราย - วธิ กี ารสอนแบบกลุ่ม - การนาเสนองาน 6.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7.ทักษะ 4 Cs  ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)  ทกั ษะการทางานร่วมกัน (Collaboration Skill)  ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill)  ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 8.คุณลักษณะอันพึงประสงค์  รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  มีวินยั  อยู่อย่างพอเพยี ง  รกั ความเป็นไทย 95

9.การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั เพือ่ เข้าใจ ระดบั ความรเู้ ดิมของนกั เรยี นกอ่ นเข้าสูก่ จิ กรรม ขั้นนา (10 นาที) 1. ครูถามนักเรียนวา่ ถ้านกั เรยี นกาลังคน้ หาข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ น็ตอยู่ อาจมีหนา้ ตา่ ง pop-up ปรากฏข้ึนมา บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โฆษณาสนิ คา้ แจ้งข่าวสารหรอื ข้อความใหร้ ว่ มกจิ กรรม แลว้ ให้กรอกข้อมูล ส่วนตวั นักเรยี นจะทาอยา่ งไร แนวคาตอบ ปิดหน้าเวบ็ ถ้าไม่ได้ผลปิดเบราวเ์ ซอร์ หรอื ปิดคอมพวิ เตอร์ พร้อมกับแจ้งผู้ปกครองหรอื ครู ทันที 2. นกั เรยี นคดิ ว่า ถา้ นักเรยี นกรอกข้อมูลส่วนตวั ไปจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง แนวคาตอบ อาจส่งผลกระทบให้ถูกโจรกรรมข้อมูลไปใชใ้ นทางที่ไม่ดีและสรา้ งความเสียหายตอ่ ชื่อเสยี ง และทรัพย์สนิ ได้ ขนั้ สอน (50 นาที) 1. ครูให้นกั เรียนแต่ละคนในกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ วา่ เพราะอะไรจงึ ไม่ควรเผยแพร่ข้อมลู สว่ นตัวนี้ ระหวา่ งนกั เรียนทากิจกรรม ครูคอยสังเกตการอธิบายของนกั เรียนแตล่ ะคนในกลุ่ม (ใช้เวลาประมาณ 10 -15 นาท)ี 2. เม่ือนกั เรยี นแต่ละคนพดู คยุ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ กนั ครูให้นกั เรียนสรุปสาระทีส่ มาชิกกล่มุ ได้อภิปราย กนั เป็นข้อสรุปของกล่มุ 3. ครูเขยี นประเด็นหวั ขอ้ การอภิปรายไว้หนา้ กระดานว่า ขอ้ มูลใดบา้ งท่ไี มค่ วรเผยแพร่ทางอนิ เทอรเ์ น็ต 4. ครชู แ้ี จงกตกิ าการอภปิ รายวา่ แต่ละกลุ่มจะมปี ้ายประจากลมุ่ หากกลุม่ ใดต้องการคัดคา้ นหรอื เพม่ิ เตมิ ประเดน็ ให้ยกป้ายกลุ่มขึน้ นกั เรียนจะเสนอความคิดเห็นไดเ้ มื่อครูอนุมัติ และระหว่างท่ีเพอื่ นกาลังพูด หา้ มพูดแทรกข้นึ มา 5. ครสู ุ่มเรียกข้นึ มา 1 กลุ่มเรยี กวา่ กลุ่มผ้เู สนอ แล้วให้สง่ ตวั แทนพูดเก่ียวกบั ประเด็นการอภิปราย 6. เม่ือกลุ่มผูน้ าพูดจบ ครูเปดิ โอกาสใหก้ ล่มุ อื่นที่คัดคา้ นกบั ประเดน็ ที่กลุ่มผเู้ สนอพดู ไปไดแ้ สดงความคดิ เหน็ พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ลที่คัดค้านประกอบ 96

7. ถา้ กลุ่มไหนมคี วามคดิ เหน็ ตรงกบั กลุ่มผนู้ าเสนอ และต้องการอธบิ ายเพ่มิ เตมิ หรอื เสริมประเด็นน้ี ใหย้ ก ปา้ ยกลุ่มเพื่อแสดงความคิดเห็น (ทกุ กลุ่มต้องแสดงความคดิ เหน็ ) 8. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ผลการอภปิ รายว่า ข้อมลู ท่ีไม่ควรเผยแพร่ทางอนิ เทอรเ์ น็ตได้แก่ ข้อมูลสว่ นตัว ได้แก่ ช่ือและนามสกลุ จริง ทีอ่ ยู่ โรงเรียน ท่ีอยอู่ เี มล วนั เดอื นปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ ช่ือและนามสกลุ ผู้ปกครอง และภาพถา่ ยท่ีมรี ายละเอยี ดข้อมูลส่วนตัว เชน่ บตั รประชาชน หนังสอื เดนิ ทาง 9. ใหน้ ักเรียนบันทึกสรปุ ผลการอภปิ รายข้อมูลท่ีไมค่ วรเผยแพร่ทางอนิ เทอรเ์ น็ตลงในสมุดในรูปแบบของ ผังมโนทัศน์ ตกแต่งให้สวยงาม ชัว่ โมงท่ี 2 ข้นั สอนต่อ (60 นาท)ี 1. ครทู บทวนกจิ กรรมชัว่ โมงท่แี ล้ว โดยถามนกั เรยี นวา่ เพราะเหตใุ ดจึงไมค่ วรเผยแพร่ข้อมูลสว่ นตวั ทาง อินเทอร์เน็ต แนวคาตอบ เนื่องจากข้อมลู เหลา่ นี้อาจถกู มจิ ฉาชีพนาไปใช้ในทางทไ่ี ม่เหมาะสมหรือมาหลอกลวงเราได้ 2. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนาขอ้ มูลทรี่ วบรวมไดม้ าวเิ คราะหว์ า่ ขอ้ มูลไหนสามารถเปิดเผยได้ หรอื ขอ้ มลู ไหนไม่ สามารถเปดิ เผยได้ โดยสรา้ งไฟลเ์ พ่ือใชน้ าเสนอขอ้ มลู ด้วยโปรแกรม Word , Excel หรอื PowerPoint 3. ครใู หน้ กั เรยี นเตรยี มตัวนาเสนอข้อมูลโดยเลือกใช้ Word ,Excel หรือ PowerPoint ชวั่ โมงท่ี 3 ขั้นสอนต่อ (50 นาท)ี 1. ครทู บทวนกจิ กรรมท่ีทาในช่ัวโมงที่แล้วให้นกั เรียนฟงั 2. ครูถามนักเรยี นเพ่ือกระตุ้นความสนใจ คาถาม - นักเรยี นเคยเลน่ Facebook, Line หรือโปรแกรมอะไรบา้ งทีส่ ามารถใชใ้ นการสอื่ สารหรือไม่ นกั เรียน ใชโ้ ปรแกรมเหลา่ นี้ทาอะไรบา้ ง แนวคาตอบ เคยเลน่ Facebook, Line ในการติดต่อแชรข์ ้อมลู ข่าวสาร โพสต์ภาพและข้อความตา่ งๆ 97

- ถ้าข้อความนีถ้ ูกส่งมาทางไลน์ นักเรยี นคดิ ว่าข้อความนีน้ ่าเชอ่ื ถอื หรือไม่เพราะเหตใุ ด แนวคาตอบ ข้อความไมน่ า่ เชอ่ื ถือเพราะ ไม่ทราบแหล่งทม่ี าของขอ้ มูลทช่ี ดั เจน และเมือ่ สบื ค้น ข้อมลู ตา่ งๆ ทางอนิ เทอร์เน็ตจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ พบว่าไม่มขี ้อมลู ใดตรงกับข้อมูลในข้อความน้ี 3. ครแู จกถุงมือแชร์ให้นักเรยี นคนละ 1 ช้นิ และแจกถงุ มือไม่แชร์ให้นกั เรยี นคนละ 1 ช้ิน ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติม ว่า ครจู ะใหน้ กั เรียนดูขอ้ ความทแี่ ชรใ์ น Facebook ให้นกั เรียนพจิ ารณาว่าจะแชรห์ รือไม่ ถา้ แชร์ให้ยกถงุ มือดา้ นท่แี ชร์ ถ้าไม่แชร์ใหย้ กถุงมือด้านท่ีไม่แชร์ 4. ครูถามนักเรยี นว่า ถ้านกั เรยี นเห็นข้อความนี้ นกั เรยี นจะแชรต์ ่อหรอื ไม่ 5. ครูสุม่ นักเรยี นบางคนให้อธิบายเหตุผลว่า เพราะอะไรจึงแชร์/ไมแ่ ชรข์ ้อความน้ี แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรียน เช่น แชร์ เพราะ เปน็ ประโยชนต์ ่อผ้อู ่นื หรือ ไมแ่ ชร์ เพราะเป็นข้อมลู เท็จ 98

6. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สรุปวา่ ข้อความน้ไี ม่ควรแชรเ์ พราะเป็นข้อมูลเท็จ และอาจก่อความราคาญแก่ผู้อื่น 7. ครถู ามนักเรยี นว่า ถ้านกั เรียนเหน็ ข้อความน้ี นักเรียนจะแชรต์ ่อหรอื ไม่ 8. ครูส่มุ นกั เรียนบางคนให้อธบิ ายเหตุผลวา่ เพราะอะไรจึงแชร/์ ไม่แชรข์ ้อความน้ี แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรยี น เชน่ แชร์ เพราะ เป็นแบ่งปนั ความโชคดีให้ผูอ้ นื่ และไม่ อยากลบหลสู่ ่ิงศักด์ิสทิ ธิ์ หรอื ไมแ่ ชร์ เพราะเปน็ ข้อมลู เท็จ ไม่มีท่ีมาทไ่ี ปของข้อมลู ข้อมลู ไมน่ ่าเชอื่ ถือ 9. ครูให้นักเรียนร่วมกนั สรุปว่า ข้อความนี้ไม่ควรแชร์เพราะเปน็ ข้อมูลเท็จ และอาจก่อความราคาญแกผ่ ู้อ่นื 10. ครถู ามนักเรียนว่า ถ้านักเรียนเห็นขอ้ ความนี้ นักเรยี นจะแชรต์ อ่ หรอื ไม่ 11. ครูสุ่มนกั เรียนบางคนให้อธิบายเหตผุ ลวา่ เพราะอะไรจึงแชร/์ ไม่แชร์ข้อความนี้ แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรยี น เชน่ แชร์ เพราะ มีประโยชน์กับผอู้ ื่นหรือ ไม่แชร์ เพราะ เป็นขอ้ มูลเท็จ และไมน่ า่ เชือ่ ถือ 12. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ ขอ้ ความนไ้ี ม่ควรแชรเ์ พราะเป็นขอ้ มูลเท็จ และหากมคี นปฏบิ ัตติ ามอาจเปน็ อนั ตรายได้ 99

13. ครูถามนักเรยี นวา่ ถ้านกั เรยี นเห็นข้อความน้ี นกั เรยี นจะแชร์ต่อหรอื ไม่ 14. ครสู ่มุ นักเรยี นบางคนให้อธบิ ายเหตุผลว่า เพราะอะไรจึงแชร/์ ไมแ่ ชร์ข้อความน้ี แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรียน เช่น แชร์ เพราะ มปี ระโยชน์กับผอู้ ื่นหรือ ไม่แชร์ เพราะ เป็นขอ้ มลู ที่ยงั ไม่มีหลักฐานมายืนยันผลชดั เจน ซง่ึ อาจเกิดอันตรายกับผู้ที่ปฏบิ ัติตามได้ 15. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ ข้อความน้ีไม่ควรแชร์เพราะเปน็ ข้อมลู เท็จ และหากมคี นปฏบิ ตั ิตามอาจเป็น อนั ตรายได้ 16. ครอู ธิบายเพิ่มเติมว่า ลักษณะของขา่ วปลอม มักจะกระตุ้นความสนใจ อ้างอิงนักวิจยั ชอบโยงไปขายของ หรือหลอกให้ร่วมกิจกรรม อีกท้ังข่าวเหลา่ น้ียงั กระตนุ้ อารมณ์ผูอ้ า่ นใหเ้ กดิ ความรูส้ ึกกลวั ความโลภ ความ เชอื่ ความเกลียดชงั 17. ครถู ามนักเรยี น คาถาม - ถ้านกั เรยี นได้รับข้อมูลขา่ วสาร แต่ไมแ่ น่ใจวา่ เป็นข่าวปลอมหรอื ไม่ นกั เรยี นคิดวา่ ควรปฏบิ ตั ิ อย่างไร แนวคาตอบ ตรวจสอบที่มาของข้อมูล ประเมนิ ความหนา้ เชื่อถือ สอบถามครหู รอื ผปู้ กครอง ไมแ่ ชรข์ ่าวไปก่อนตรวจสอบ - เม่อื นกั เรียนทราบแล้ววา่ ขา่ วสารที่ไดร้ บั เปน็ ข่าวข่าวปลอม ควรทาอยา่ งไร แนวคาตอบ ไมแ่ ชร์ข่าวนั้น และแจ้งให้ครหู รือผ้ปู กครองทราบ - นกั เรยี นคิดวา่ การสง่ ต่อหรือแชร์ข่าวปลอมเหล่านี้ จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง แนวคาตอบ การส่งต่อข่าวลวง ขา่ วปลอม จะส่งผลใหผ้ ู้อ่ืนได้รับขอ้ มลู ทผ่ี ิดๆ หากผ้รู ับ ขา่ วสารไม่ทราบวา่ เปน็ ขา่ วปลอม อาจก่อให้เกิดความเสยี หาย ความว่นุ วายและการสง่ ขา่ ว 100

ปลอมอาจมีความผดิ ตามกฎหมายได้ การสง่ ขา่ วปลอมบ่อยๆ จะส่งผลใหค้ นส่งขาดความ น่าเช่อื ถอื นอกจากนี้อาจเป็นการสง่ เสรมิ มจิ ฉาชพี แบบไม่รู้ตัวดว้ ย 18. ครูให้นักเรยี นใหน้ ักเรียนหาข่าวปลอม หรอื บทความทเ่ี ป็นเทจ็ จากอินเทอรเ์ น็ต มาคนละ 1 เรอื่ ง เพ่ือทา กิจกรรมในชัว่ โมงหนา้ ชวั่ โมงท่ี 3 ขั้นสอนตอ่ (30 นาท)ี 1. ครทู บทวนกจิ กรรมชว่ั โมงทแี่ ลว้ วา่ นักเรยี นจะทราบได้อยา่ งไรวา่ ข่าวนั้นเปน็ ข่าวลวงหรือขา่ วปลอม แนวคาตอบ ประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของข้อมลู 2. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ละ 4-5 คนเพ่อื ทากิจกรรม 3. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ นาขา่ วทีส่ ืบคน้ มาวิเคราะห์ ว่าข่าวไหนนา่ สนใจ และเลือกขึน้ มา 1 แลว้ วเิ คราะห์ วา่ ขา่ วปลอม หรอื มีขอ้ ความท่ีเปน็ เท็จอยา่ งไร ถา้ แชรข์ า่ วหรอื ข้อความนี้ออกไปจะสง่ ผลกระทบอย่างไร บ้าง บนั ทึกลงในใบงาน 5.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภยั 4. ครูสมุ่ ตวั แทนนักเรียนบางกลุ่มใหน้ าเสนอการวิเคราะห์ขา่ วหรือข้อความที่ไปสืบคน้ มา 5. ครูตงั้ ประเด็นคาถามกบั นักเรียนว่า นักเรยี นคิดวา่ ควรทาอยา่ งไร นักเรียนคิดวา่ ควรทาอย่างไร เพื่อ ป้องกนั ไมใ่ ห้มกี ารแชรข์ ่าวปลอม แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเห็นนกั เรียน เชน่ บอกคนอื่นใหร้ ะวงั ข่าวลวงหรอื ข่าวปลอม หรือเขียน ป้ายรณรงค์ระวงั ภยั ขา่ วลวงหรือข่าวปลอม เปน็ ต้น 6. ครสู นทนากบั นักเรยี นว่า นักเรียนเรียนเร่ืองการนาเสนอข้อมลู ดว้ ยซอฟแวรม์ าแล้ว ครใู ห้นกั เรียน ออกแบบโปสเตอร์ระวังภัยข่าวลวง โดยใชโ้ ปรแกรมนาเสนอข้อมูลเชน่ Microsoft word PowerPoint Photoshop 7. ครตู รวจสอบความถูกต้อง และใหน้ ักเรียนแชรล์ งในสอื่ สงั คม เช่นใน Facebook หรอื บางสว่ นอาจนาไป ติดในบอร์ดประชาสมั พันธ์ของโรงเรยี น ข้ันสรุป (20 นาท)ี 1. ครูถามคาถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนจากคาถามท้าทายการคิดข้ันสูงจากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.4 หน้า 119 ว่า นักเรียนจะเลือกลบ หรือตอบกลับ อีเมลฉบับใด เพราะเหตุใด 101

แนวตอบ จากตัวเลือกควรเลือกตอบอีเมลของพ่ีโบว์เนื่องจากเป็นอีเมลจากคนท่ีเรารู้จัก และข้อความท่ี ส่งมาก็เป็นข้อความท่ีสุภาพ ในส่วนของข้อความจากทีมงาน The Smart email น้ันไม่ควรตอบกลับ เน่ืองจากเป็นบุคคลที่ไม่ร้จู ักและไม่ทราบตัวตน อีกทง้ั ในข้อความระบวุ ่าให้ส่งข้อมูลทั้งช่ือนามสกุล และที่ อยู่ ซ่ึงเป็นข้อมูลที่เป็นส่วนตัว เพ่ือให้ปลอดภัยในการใช้งานเทคโนโลยีเราควรปกป้องข้อมูลส่วนตัวโดย ไม่ให้ข้อมลู สว่ นตวั ต่อบคุ คลทไี่ มร่ ู้จกั 2. ให้นักเรียนตรวจสอบงานวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือของข่าวในใบงาน 5.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ ปลอดภัย และหากมีข้อผิดพลาดให้นักเรียนปรบั ปรงุ แก้ไขให้ถูกต้อง 3. ครตู รวจประเมนิ ผลงาน 4. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือวัดความรู้ท่ีได้เรียนมาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง การใช้ เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั 10.สื่อแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.4 2. แบบฝึกหัดวิชาวทิ ยาการคานวณ 3. ใบงาน 5.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัย 102

11.การวัดและการประเมินผล จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. นักเรยี นสามารถอธบิ าย ตรวจใบงาน 5.1 การ ใบงาน 5.การใช้ 1 ร้อยละ 50 ขึ้นไป ความหมายเกีย่ วกบั ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศให้ ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ให้ปลอดภัย ปลอดภัย พลเมอื งดิจิทอล และ ลักษณะพลเมืองดิจิทัลได้ 2. นกั เรียนสามารถ ตรวจชิ้นงานโปสเตอร์ แบบประเมนิ ช้ินงาน คุณภาพอยูใ่ นระดับ ดี วเิ คราะห์ข้อมูลที่สามารถ ระวงั ภัยข่าวปลอม ผา่ นเกณฑ์ เปดิ เผยไดอ้ ย่างปลอดภยั และป้องกนั ตนเองจากภยั คกุ คามต่าง ๆ ได้ 3. นักเรียนสามารถใช้ โปรแกรมไมโครซอฟต์ นาเสนองานได้ 4. นักเรยี นเหน็ คุณค่าของ การตอบคาถามและการ แบบประเมนิ พฤติกรรม คุณภาพระดับดี ผา่ นเกณฑ์ สิทธิและหนา้ ทขี่ องตน ยกตัวอย่างผลดีทีเ่ กดิ เคารพในสิทธขิ องผู้อ่ืน จากการเคารพสทิ ธิ แจ้งผเู้ กย่ี วข้องเม่ือพบ ตนเองและผอู้ ื่น รวมถึง ข้อมลู หรือบุคคลทีไ่ ม่ ผลกระทบที่เกดิ ขึ้นจาก เหมาะสม การไมเ่ คารพสทิ ธิตนเอง และผู้อืน่ 103

ใบงาน 5.1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัย คาชี้แจง ให้นักเรียนสบื คน้ ข่าวหรอื บทความจากอินเทอร์เน็ต แล้ววิเคราะหเ์ น้ือหาในข่าวว่ามีลกั ษณะอย่างไร น่าเช่ือถือหรือควรเผยแพร่หรือไม่ เพราะเหตุใด ภาพข่าว ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................ .................................... ....................................................................................................................... ............................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................... .......................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 104

แบบประเมินช้นิ งาน โปสเตอรร์ ะวังภยั ขา่ วปลอม ประเด็นการประเมินชน้ิ งาน การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความถูกต้องของเน้ือหา .2การเลอื กใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตน์ าเสนองาน 3.ใช้ภาษาถกู ต้องเหมาะสม รวมคะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 8–9 ดี 5 –7 1 –4 พอใช้ ปรับปรุง 105

ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ชน้ิ งาน คาอธบิ ายระดบั คุณภาพ / ระดับคะแนน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรุง (1 คะแนน) 1.ความถกู ต้องของ 1.วิเคราะหเ์ นือ้ หาถกู ต้อง 1.วเิ คราะห์เนอื้ หาถกู ต้อง 1.วเิ คราะหเ์ นอ้ื หาไม่ เนอ้ื หา ครบถ้วนสมบรู ณ์ สามารถ ตอบคาถามได้ทุกข้อ และ ครบถ้วน ตอบคาถามได้ ครบถ้วนแตภ่ าพรวมของ ตระหนักถึงความปลอดภยั รวมถึงปอ้ งกันสทิ ธิตนเอง เป็นสว่ นใหญ่ และ เนือ้ หาทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ และผู้อ่ืน ตระหนักถึงความปลอดภัย พอใช้ ความปลอดภยั ของ รวมถึงปอ้ งกนั สิทธิตนเอง การของข้อมูลค่อนข้างน้อย และผอู้ น่ื 2.การเลอื กใช้ 2.เลือกใชโ้ ปรแกรม 2.เลือกใช้โปรแกรม 2.เลือกใช้โปรแกรม โปรแกรมไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟตน์ าเสนองานได้ นาเสนองาน เหมาะสม จัดรูปแบบ ไมโครซอฟตน์ าเสนองานได้ ไมโครซอฟต์นาเสนองาน นาเสนองานเข้าใจง่ายและ สวยงาม เหมาะสม จัดรูปแบบ คอ่ ยข้างไม่เหมาะสม นาเสนองานเข้าใจ ความ จัดรูปแบบนาเสนองาน สวยงามพอใช้ ใช้ได้เป็นบางส่วน 3.ใช้ภาษาถูกต้อง 3.ใช้ภาษาถกู ต้องเหมาะสม 3.ใช้ภาษาถูกต้องเหมาะสม 3.ใชภ้ าษาถูกต้องเหมาะสม เหมาะสม ออกเสยี งได้ถกู ต้องดีมาก ออกเสยี งได้ถกู ต้องดี ออกเสียงได้ถกู ต้องพอใช้ ลาดับความไดช้ ดั เจน เข้าใจ ลาดบั ความได้ดี พอใช้ ลาดับความได้พอเข้าใจ ง่าย 106

แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น คาชี้แจง : ครพู ิจารณาให้คะแนนนักเรียนรายบุคคลตามข้อคาถามท่ีกาหนดให้ในใบรายชือ่ นกั เรียน โดยใชเ้ กณฑใ์ นการประเมิน ดงั น้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = นอ้ ย พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต ระดับคะแนน 321 1. แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ 2. เห็นคุณค่าของสิทธแิ ละหน้าที่ของตน เคารพใน สิทธขิ องผอู้ นื่ แจ้งผเู้ ก่ียวข้องเมอื่ พบข้อมลู หรือ บคุ คลที่ไม่เหมาะสม 3. มีวินัย และมุง่ มัน่ ในการทางาน 4. เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. แจง้ ผูเ้ กี่ยวขอ้ งเมื่อพบขอ้ มูลหรือบคุ คลท่ีไม่ เหมาะสม รวมคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรับปรุง 107


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook