เสน ทางสู หนังสือการตูนประวัติศาสตร
สาํ นกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน เส้นทางสู่หนังสือการต์ ูนประวตั ศิ าสตร์ กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณก ารเกษตรแหงประเทศไทย, ๒๕๕๔. ๑๓๐ หนา ISBN 978-616-202-356-9 ๑. การศกึ ษา -- ประวัตศิ าสตร -- การต ูน I.ชอื่ เรอ่ื ง พมิ พค รั้งแรก เมษายน ๒๕๕๔ จํานวนพิมพ ๔๕,๐๐๐ เลม ผูจดั พมิ พเผยแพร สาํ นกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักพมิ พ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน วงั จันทรเกษม กระทรวงศึกษาธกิ าร ถนนราชดําเนินนอก เขตดุสิต กรงุ เทพ ๑๐๓๐๐ © เอกสารนเ้ี ปน สว นหน่งึ ของโครงการพฒั นาการเรยี นรปู ระวัติศาสตร ของสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน สงวนลิขสิทธ์ิ
เส้นทางสู่หนังสอื การต์ ูนประวตั ศิ าสตร์ หนังสือประมวลประสบการณการอบรมนักเรียนใหมีความรูความเขาใจในกระบวนการการจัดทํา หนังสอื การต นู อนั เปน อกี ขัน้ ในการสอนใหน ักเรยี นไดผลติ ความรูเก่ียวกบั ประวตั ิศาสตร แทนการตง้ั รบั และบริโภคความรูแตเพียงฝายเดียว ถือเปนมิติหน่ึงของการรูหนังสือ (Literacy) ต้ังแตการรวบรวม ขอมูล การวางโครงเร่ือง การกําหนดตัวละคร ฯลฯ แลวลวนแตเปนการเรียนรูของนักเรียนไดทั้งสิ้น เอกสารเลมนี้แบง เปน ๓ ภาค คือ ๑. ความเปนมาของ “เสน ทางหนังสือการตูนประวตั ศิ าสตร” ๒. ความรูพ ื้นฐานเก่ียวกบั การตนู ๓. หนงั สอื การต นู ผลงานของนักเรยี นท่รี ว มกระบวนการอบรมจาก ๖ โรงเรียนคอื - โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษาพฒั นาการ - โรงเรยี นศรีอยุธยา - โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั นนทบรุ ี - โรงเรยี นมธั ยมสิริวณั วรี ๓ ฉะเชงิ เทรา - โรงเรียนวดั เขมาภริ ตาราม จ.นนทบุรี - โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม ทักษะการเรียนรูของนักเรียนจะเร่ิมตนไดจากการฟง พูด อาน และเขียน การเขียนการตูน ของนักเรียนจะเปนการฝกทักษะนักเรียน ดานการสรางสรรค การคิดวิเคราะห การจินตนาการ และทายสุด การรูจักรวบรวมความคิด(การคิดรวบยอด) การเรียนการสอนที่ประสบความสําเร็จ กระบวนการสอนตองมีการบูรณาการ ที่เร่ิมตนจากฝกนักเรียน ใหเขียนภาพ วาดภาพจากขอเท็จจริง ท่สี ือ่ ถงึ ความคิด จนิ ตนาการ และสรุปออกมาเปนความเรยี ง และครูนํากระบวนการเชนน้ี ไปบรู ณาการ รว มกับวิชาอน่ื ๆ เรมิ่ ทลี ะเลก็ ละนอ ยตามลําดบั ขนั้ ตงั้ แตกอนอนบุ าล ประถมศกึ ษา การตูน เปน ความสุข และความงดงาม ของผูสรางสรรคผลงานและผูอาน เปนส่ือทมี่ ีคุณคา ใหเยาวชนรู และสํานึกประวัติความเปนมาของชาติไทย ตระหนักถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษไทย และ ปลกุ จติ สาํ นกึ ในความรกั ชาตแิ ละสถาบนั สืบไป
คํานํา “การศึกษาประวตั ศิ าสตร คอื การศกึ ษาอดีต อดีตของประวัตศิ าสตรเปนอดตี ของ มนุษย โดยมุงตอบคาํ ถามวา มนุษยม ีกาํ เนดิ มาอยางไร ทําอะไรไวบา ง และเพราะอะไรจงึ ทํา เชน นน้ั ” การเรยี นประวตั ศิ าสตรจ งึ เปน บทสนทนาทไี่ มร จู บกบั อดตี ทผ่ี า นมา เปน กระบวนการ ที่นําสว นเสยี้ วตาง ๆ มาปะติดปะตอ ปะชุนสวนที่ขาดว่นิ ใหมคี วามสมบูรณตามขอมลู และ หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรท มี่ อี ยู ณ ขณะนนั้ และเมอื่ มขี อ มลู ใหมบ ทสนทนาและการตคี วาม อันใหมก็เริม่ ตน ขึน้ ใหม นบั เปน กระบวนการเรยี นรูท ตี่ อเน่อื งไปไมร จู บ การเรียนประวัติศาสตรจึงเปนส่ิงสําคัญสําหรับการพัฒนากระบวนการคิดและ การทํางาน ที่ชว ยใหผเู รียนเปนมนษุ ยท ส่ี มบรู ณด วยประการฉะนี้ การนําเสนอขอมูลใหม และผลการวิพากษตีความทางประวัติศาสตร ก็มีชองทาง การนําเสนอท่ีหลากหลาย ศาสตรแขนงอืน่ ๆ อยา งงานศิลปะ งานสนุ ทรยี ภาพตา ง ๆ เชน การวาดภาพ การแสดงละคร การทําภาพยนตรสั้น จึงมีคุณคาที่จะเขามามีสวนชวยให การเรียนประวัตศิ าสตรมีคุณภาพมากยิ่งข้ึน โดยเฉพาะ “การตนู ” ทมี่ เี สนหเยา ยวน ชวนใหการเรียนรนู ัน้ มีชวี ติ ชวี ามากยง่ิ ขึน้ เปน ทนี่ ายินดี ทผี่ รู ับผดิ ชอบงานดานสงั คมศกึ ษา และประวตั ิศาสตร ของสาํ นักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดขยายพรมแดนความรูของประวัติศาสตรไปเช่ือมโยง กับศาสตรดานการตูน แมวาในระยะแรกเร่ิมนี้ อาจจะไมสามารถเช่ือมโยงไดอยางสนิทดี แตก เ็ ปน กา วยา งทม่ี คี วามหมาย และจะเปน ฐานใหก า วตอ ๆ ไปมคี ณุ ภาพเพม่ิ มากขนึ้ ไปเรอ่ื ย ๆ เสนทางสูหนังสือการตูนประวัติศาสตรฉบับน้ี ไดเลายอนไปสูเบื้องหลังกวาจะมา เปนหนังสอื การตูนเรอ่ื ง “บางระจัน” ฉบับเดก็ นั้น เดก็ ๆ ที่มาเขาคา ยและรับการอบรมนน้ั ไดผ า นการเรยี นรู และจาํ เปน ตอ งมคี วามรพู นื้ ฐานอะไรบา ง โดยเฉพาะความรเู กยี่ วกบั การต นู หวังวาเอกสารฉบับนี้จะชวยจุดประกายใหผูเกี่ยวของทุกฝาย ไดเห็นคุณคาของ “การต นู ” ในฐานะเปน เครอ่ื งมอื การเรยี นรอู กี อนั หนง่ึ ใหเ รยี นรปู ระวตั ศิ าสตรไ ดอ ยา งมคี วามสขุ ตอ ไปภายหนา เราคงจะไดเ หน็ หนงั สอื การต นู เรอื่ งอนื่ ๆ ทเ่ี ปน ผลติ ผลจากการศกึ ษา ดวยวิธีการทางประวัติศาสตรอยางเปนระบบ เปนข้ันเปนตอนของผูเรียน ภายใตการดูแล ชว ยเหลือของครูสอนออกมาอยา งมากมาย (ดร.ชนิ ภัทร ภมู ริ ตั น) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน่ั พืน้ ฐาน
สารบญั หนา้ ท่ี เส้นทางสู่หนังสอื การต ูนประวัติศาสตร ๖ ร้จู ักการต นู ๑๒ พื้นฐานการเขยี นการต นู ๑๙ อปุ กรณการเขยี นการต ูน ๓๘ การจดุ ประกายชักนำาใหเ้ ดก็ เขยี นการตูนแนวประวัตศิ าสตร ๔๐ วิทยกรคิดอยา่ งไร ๔๕ ผลงานของเด็กๆ ๔๗
เสน ทางสู หนงั สอื การต์ นู ประวัตศิ าสตร์ ความคิดริเริ่มโครงการ พวกเราตอบรับนโยบายดังกล่าวและตระหนักดีว่า “เส้นทางสู่การ์ตูนประวัติศาสตร์” เริ่มต้นขึ้น หนงั สอื ไมว่ า่ ลกั ษณะใดยอ่ มมคี ณุ คา่ ตอ่ การเรยี นร ู้ โดยเฉพาะ ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๒ เม่ือผู้บริหารหลายท่าน หนงั สอื การ์ตูนเปน็ สื่อท่ไี ม่วา่ เดก็ หรือผู้ใหญ่ชอบด ู ชอบอา่ น อาทิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยเฉพาะการ์ตูนท่ีมีสีสันสวยงามจะเป็นสื่อท่ีจูงใจผู้อ่าน (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา) ท่ีปรึกษาด้าน เพลิดเพลินกับข้อคิด และสาระเนื้อหาที่สอดแทรกไปกับ นโยบายและแผน (ดร.อ่องจิต เมธยะประภาส) และ จนิ ตนาการของตวั ละครในการต์ นู ทส่ี าำ คญั หนงั สอื การต์ นู ทด่ี ี ผู้อำานวยการสำานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา จะกระตนุ้ มโนทศั น ์ และจติ สาำ นกึ ผอู้ า่ นใหเ้ ขา้ ใจความหมาย (ดร.เบญจลักษณ์ น้ำาฟ้า) เห็นฟ้องต้องกันว่านักเรียน ท่ีต้องการส่ือได้อย่างชัดเจน เราเริ่มงานด้วยการพิจารณา ไมว่ า่ ระดบั ประถมศกึ ษา และมธั ยมศกึ ษาตา่ งมฝี มี อื เปน็ เลศิ “การต์ ูน” ทเี่ ดก็ นยิ มชมชอบ กบั หนังสอื ภาพ (ภาพเหมอื น ในด้านการวาดภาพ ซึ่งปรากฏผลงานชัดเจน ในงานศิลป ที่สวยงาม) หรือหนังสือการ์ตูนที่มีเน้ือหาประวัติศาสตร์ หัตถกรรมของนักเรียนในทุกปีท่ีผ่านมา ทั้งยังเห็นว่าผู้ใหญ่ ซง่ึ มีอยูใ่ นตลาดจากหลายสำานักพมิ พ ์ ในบ้านเมืองของเราหลายคนก็มีฝีมือทางวาดการ์ตูน และ ประเด็นแรก ที่พบคือเด็กๆ ส่วนใหญ่คล่ังไคล้ ใช้การ์ตูนเป็นเคร่ืองมือในการผ่อนคลาย ความตึงเครียด การ์ตนู สไตลญ์ ีป่ นุ เกาหลี ไมไ่ ด้ชอบการต์ นู แบบไทยๆ เช่น และความจาำ เจจากภาระงานประจำาวนั เด็กผมจุก ผมแกละ หรือภาพเสมือนจริง ดังน้ันจึงเกิด ประกอบกบั สอื่ การเรยี นรทู้ จี่ ะเขา้ ถงึ ความพงึ พอใจ คาำ ถามกอ่ นเรม่ิ งานวา่ “จะยอมรบั หนา้ ตาของบรรพบรุ ษุ ไทย ของผเู้ รยี น และสามารถสรา้ งจติ สาำ นกึ ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ด ้ สไตลเ์ กาหล ี หรอื ญป่ี นุ ไดห้ รอื ไม”่ ซง่ึ ดร.ออ่ งจติ เมธยะประภาส กน็ บั วา่ ยงั มอี ยนู่ อ้ ยมาก แนวคดิ เรอื่ งการจดั ทาำ หนงั สอื การต์ นู ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอน ประวตั ศิ าสตรจ์ งึ ไดส้ ง่ ผา่ นจากผบู้ รหิ าร มายงั สาำ นกั วชิ าการ ประวัติศาสตร์ ของ สพฐ. มีความเห็นว่า “เป็นเรื่องท่ี และมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ. น่าจะลองดู” เพราะถ้าบังคบั ให้เปน็ การต์ ูนแบบไทยๆ ก็อาจ ๖ เส้นทางสู่หนังสือการต์ ูนประวัตศิ าสตร์
ไมส่ ามารถซอื้ ใจของเดก็ ๆ ได ้ ซง่ึ อาจจะไดแ้ คจ่ ดั ทาำ โครงการ ในการจัดทำาโครงการฯ ทั้งน้ีได้กำาหนดวัตถุประสงคของ เมือ่ สน้ิ ปงี บประมาณกจ็ ะสน้ิ จินตนาการไป โครงการป ๒๕๕๒ ไว้ ๓ ประการ คือ ประเด็นที่สอง คือเด็กๆ ที่ชอบวาดภาพและ ๑. เพ่ือพัฒนานักเรียนและครูผู้สอนศิลปะให้มี วาดได้ดี กับการชอบประวัติศาสตร์ถึงขนาดรู้และซาบซ้ึง ความรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับการจัดทำาหนังสือประวตั ิศาสตร์ บทเรยี นในอดตี ดจู ะเปน็ คนละเรอ่ื งกนั ทงั้ ยงั ไมม่ กี ารรวบรวม ๒. เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องน้ี รวมท้ังครูศิลปะที่เข้าถึงอารมณ์ ในสถานศึกษาให้น่าสนใจย่ิงข้ึน โดยใช้หนังสือการ์ตูน และธรรมชาติของเด็กๆ กับความรู้ทางประวัติศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ กไ็ ม่สามารถสรปุ ได้ชดั เจน ๓. เพ่ือส่งเสริมให้เยาวชนของชาติตระหนักใน การดำาเนินงานตามโครงการจัดทำาหนังสือการ์ตูน ความสำาคัญเละเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ ประวัติความเป็นมา ประวัติศาสตร์ในปีงบประมาณ ๒๕๕๒ ได้เร่ิมข้ึนจาก ของชาตไิ ทย เกดิ ความภมู ใิ จในความเปน็ ชาต ิ และเหน็ ความ ความคาดหวังท่ีจะพัฒนานักเรียนและครูผู้สอนศิลปะ จำาเป็นในการธำารงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย วัฒนธรรมไทย ให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการจัดทำาหนังสือการ์ตูน และภมู ปิ ัญญาไทย ประวตั ิศาสตร์ เหน็ คณุ คา่ ของการเรยี นรปู้ ระวตั คิ วามเปน็ มา เปาหมายของโครงการจัดทำาหนังสือการตูน ของชาติไทย รู้วีรกรรมของบรรพบุรุษท่ีพลีชีพปกป้องชาติ ประวตั ศิ าสตรป ๒๕๕๒ ประกอบดว้ ย เกิดความภูมิใจในความเป็นไทย และสามารถสร้างสรรค์ ๑. จดั ทาำ หนงั สอื การต์ นู ประวตั ศิ าสตร ์ โดยนกั เรยี น เป็นหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ในรูปแบบท่ีตนเองชอบได้ และครสู อนศลิ ปะจาำ นวน ๑ ชดุ (โดยเลม่ แรกเปน็ แบบทดลอง โดยหวังว่าทุกคนที่ผ่านการอบรมจะสามารถสร้างผลงาน ฝกทำาร่วมกันเพ่ือให้เป็นบทเรียนตัวอย่างให้เสร็จในเดือน เปน็ การต์ นู ประวตั ศิ าสตรเ์ ลม่ ตอ่ ๆ ไป อนั เปน็ การเปด โอกาส กรกฎาคม ๒๕๕๒) ใหน้ กั เรยี นและครศู ลิ ปะไดม้ สี ว่ นรว่ มในการพฒั นาจติ สาำ นกึ ๒. นักเรียนและครูผู้สอนศิลปะจำานวน ๔๐ คน ของเยาวชนใหร้ กั และภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทยทบี่ รรพบรุ ษุ ได้รับความรู้ความเข้าใจและได้ฝกทักษะการเขียนการ์ตูน ได้สรา้ งสมไว้เป็นมรดกแก่ลกู หลานในปจั จุบัน จากนกั เขยี นการต์ นู อาชพี สามารถสรา้ งสรรคห์ นงั สอื การต์ นู ประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ตามความสนใจของตนเอง การดาํ เนนิ โครงการ ๓. สถานศึกษามีส่ือการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ได้อย่าง ขั้นตอนแรกของการดำาเนินงาน ตามโครงการฯ มีประสทิ ธิภาพ คอื การสรรหานักเรยี นทม่ี ีใจรักและความสามารถดา้ นการ ข้ันตอนที่สองของการดำาเนินงาน เริ่มต้นดำาเนิน วาดภาพ (โดยเปด แฟม้ ขอ้ มลู ผลงานของงานศลิ ปหตั ถกรรม) การพร้อมๆ กันระหว่าง (๑) สำานักอำานวยการ สพฐ. ได้ งานน ้ี สาำ นกั อำานวยการ สพฐ. รับมอบหมายไปดำาเนนิ งาน ทำาหนังสือแจ้งโครงการจัดทำาหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ ส่วนสำานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาท่ีนักเรียน เส้นทางสู่หนงั สือการ์ตนู ประวตั ิศาสตร์ ๗
และครูศิลปะสังกัดอยู่เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมโครงการ และ คณะทาำ งานรว่ มกนั สรา้ งแผนผงั การดาำ เนนิ กจิ กรรม (๒) สำานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ประชุม การจดั ประชมุ เชิงปฏบิ ัตกิ ารดงั กลา่ วซึ่งแยกออกเป็น ๒ เรือ่ ง ผู้รับผิดชอบและวางแผนกำาหนดกิจกรรมหลักของโครงการ คือ ความรู้ด้านการสร้างสรรค์หนังสือการ์ตูนกับความรู้เก่ียวกับ จัดทำาหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ที่จะดำาเนินการ ประวัติศาสตร์ไทย เราเห็นว่าเร่ืองการ์ตูนนั้นควรมอบหมาย ต่อเนื่องอย่างน้อย ๒ ปีการศึกษา สำาหรับ ป ๒๕๕๒ ให้เป็นหน้าท่ีของวิทยากรซ่ึงเป็น “นักเขียนการ์ตูนอิสระ” คือ การจัดประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการนักเรียนและ และนักวิชาการช่างศิลป์ของ สพฐ. ส่วนความรู้ด้าน ครผู สู้ อนศลิ ปะ เรอื่ ง การจดั ทาำ หนงั สอื การต นู ประวตั ศิ าสตร ประวัติศาสตร์ไทยน้ัน นักวิชาการของสำานักวิชาการศึกษา ในป ี ๒๕๕๓ จะเปน็ การเผยแพรผ่ ลงาน กระตนุ้ ความสาำ คญั และมาตรฐานการศึกษาที่รับผิดชอบสาระประวัติศาสตร์ และการนำาไปใช้ เปน็ ผ้ดู าำ เนินการสรา้ งสำานึกความเปน็ ชาติไทยให้ การอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารนักเรียนและครผู สู้ อนศิลปะ เรอื่ งการจดั ทำาหนังสอื การต ูนประวัติศาสตร ความรู้ ความรูเ้ กีย่ วกับประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ดา้ นการสร้างสรรคห์ นังสอื การ์ตูน วธิ ีการวาดการ์ตูน แหล่งข้อมูล การทาำ การต์ นู ช่อง การนำาเสนอเน้อื หา การเรยี บเรียงเนอื้ หา จติ สำานกึ ความเปน็ ชาตไิ ทย ๘ เสน้ ทางสหู่ นังสือการ์ตนู ประวตั ิศาสตร์
ในขั้นตอนการเตรียมการจัดประชุมปฏิบัติการฯ และพฒั นาผลงานกอ่ นทจี่ ะเปน็ หนงั สอื การต์ นู ประวตั ศิ าสตร์ เราเรียนเชิญคณะวิทยากรที่เลือกสรรจากนักเขียนการ์ตูน ท่ีนักเรยี นผลติ ข้ึนดว้ ยตนเอง มืออาชีพ โดยเฉพาะผู้ที่มีผลงาน “การ์ตูนประวัติศาสตร์” จากนั้นจึงเป็นการบรรณาธิการกิจตรวจสอบ มาร่วมประชุมวางแผนการดำาเนินงานซ่ึงเป็นผลให้ ความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของภาพ และเนื้อหา เราตระหนักว่าการจะให้เด็กและครูศิลปะได้สร้างสรรค์ ของหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ที่ได้มาจากการประชุม หนงั สอื การต์ นู ประวตั ศิ าสตรใ์ นชว่ งระยะเวลาเพยี ง ๑ เดอื น อบรมเชิงปฏิบัติการฯ โดยนักเขียนการ์ตูนอาชีพ และ ไม่ใช่ง่ายด่ังใจนึก เพราะมีขั้นตอนรายละเอียดหลายข้ัน ผู้เช่ยี วชาญเนอื้ หาประวัติศาสตร์ กอ่ นการจัดพิมพ์เผยแพร่ ความเป็นไปได้ คือ ต้องเลือกลักษณะหนังสือการ์ตูนและ ในปี ๒๕๕๓ ต่อไป เนื้อหาท่ีเหมาะสมให้นักเรียนได้เพียงลักษณะเดียวและ กาำ หนดการประชุมอบรมเชิงปฏบิ ัติการ ฯ เรื่องเดียว จะเป็นหนังสือภาพ หรือการ์ตูนช่อง แล้วให้ ครั้งท่ี ๑ : เข้าค่ายเรียนรู้และฝกฝน ๓ วัน นักเขียนการ์ตูนออกแบบโครงสร้างเน้ือหาก่อน เพ่ือจะได้ ณ โรงแรมดลี กั ษณเ์ พลส กรงุ เทพมหานคร (๑๐-๑๒ ก.ค. ๕๒) “แบบฝก ” ไปในทศิ ทางเดยี วกนั และหลงั จากทป่ี ระชมุ พจิ ารณา ครัง้ ท่ี ๒ : สรา้ งสรรคแ ละตรวจสอบผลงาน ๒ วนั รูปลักษณ์และเน้ือหาท่ีหลายคนต่างเสนอความเหมาะสมกัน ณ โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ กรุงเทพมหานคร อยา่ งหลากหลายแลว้ เราจงึ เลอื ก “การต นู ชอ งและวรี กรรม (๑๘-๑๙ ก.ค. ๕๒) ชาวบานบางระจนั ” ดว้ ยเหตผุ ลทวี่ า่ น่าจะเปน็ ไปไดก้ ับสไตล์ ครงั้ ท่ี ๓ : ปรับปรุงและพัฒนาผลงาน ๒ วัน การ์ตูนของเด็ก ๆ ณ โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ กรุงเทพมหานคร จากนั้นท่ีประชุมจึงได้วางแผนการจัดทำาหลักสูตร (๒๕-๒๖ ก.ค. ๕๒) การประชุมอบรม โดยกำาหนดการประชุม ๓ คร้ัง ท้ังนี้ ในขั้นตอนการดำาเนินการจัดประชุมปฏิบัติการฯ เพ่ือมิให้นักเรียนต้องละทิ้งห้องเรียน จึงกำาหนดให้เด็ก เด็กๆ ซ่ึงมีต้ังแต่ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ ไปจนถึง เข้ารับการอบรมเป็น ๓ ระยะ คอื ระยะท่ีหนงึ่ ๓ วันแรก ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ประกอบดว้ ยครูศิลปะ และนกั เรยี น เร่ิมวันศุกร์-วันอาทิตย์เป็นการให้ความรู้พ้ืนฐานท่ีจำาเป็น โรงเรียนละ ๑-๘ คน ทั้งหมด ๘ โรงเรียน ประกอบด้วย เกี่ยวกับการจัดทำาหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์แล้วให้ โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี ๓ นักเรียนกลับสู่ห้องเรียนในวันจันทร์-ศุกร์ โดยใช้เวลาว่าง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา โรงเรยี นวดั เขมาภริ ตาราม จงั หวดั นนทบรุ ี ทบทวนการร่างภาพ และเน้ือหาท่ีนำาเสนอ แล้วกลับ โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม กรุงเทพฯ โรงเรียน เข้ามาเพิ่มพูนความรู้เก่ียวกับการสร้างหนังสือการ์ตูน เตรียมอุดมพัฒนาการ กรุงเทพฯ โรงเรียนศรีอยุธยา ประวัติศาสตร์ต่อในระยะท่ีสอง ๒ วัน ซึ่งจัดในวันเสาร์- ในพระอุปถัมภ์ กรุงเทพฯ โรงเรียนสตรีวิทยา กรุงเทพฯ อาทิตย์ จากน้ันก็กลับเข้าสู่ห้องเรียนปกติในวันจันทร์-ศุกร์ และโรงเรยี นบา้ นไทยสามคั ค ี จงั หวดั สระแกว้ และเนอื่ งจาก โดยใชเ้ วลาวา่ งสรา้ งสรรคผ์ ลงานตอ่ พอถงึ วนั เสาร-์ อาทติ ย์ แต่ละโรงเรียนส่งเยาวชนนักวาดภาพจำานวนที่แตกต่างกัน จึงกลับมาเข้าที่ประชุมในระยะที่สามอีก ๒ วัน เข้าสู่ จึงปรับรูปแบบให้รวมกลุ่มเป็นไปตามสมัครใจ ได้ ๖ กลุ่ม กระบวนการวิพากษ์วิจารณ์ เพ่ือปรับปรุง แก้ไข แต่งเติม กลุม่ ละ ๔-๘ คน เส้นทางสู่หนงั สือการต์ ูนประวัติศาสตร์ ๙
รูปแบบของการประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ท่ีน่าเชื่อถือได้ ตอนค่ำาๆ วิทยากรบอกเล่าถึงการรวบรวม ครั้งนี้ จะมีทั้งการบรรยาย การอภิปราย ประกอบส่ือ ขอ้ มลู เรอ่ื ง วรี กรรมชาวบา้ นบางระจนั และความสาำ คญั ของ Power Point เพอ่ื สรา้ งความรพู้ นื้ ฐานทงั้ ดา้ นการสรา้ งสรรค์ วีรกรรมดังกล่าว เพื่อให้เด็กๆ เกิดสำานึกร่วมกับเหตุการณ์ หนงั สอื การต์ นู และความรเู้ รอื่ งประวตั ศิ าสตรไ์ ทย โดยเฉพาะ ในประวัติศาสตร์ จะได้มีจินตนาการเป็นภาพและเร่ือง การรวบรวม เรยี บเรยี งขอ้ มลู เรอ่ื ง วรี กรรมชาวบา้ นบางระจนั ได้ชัดเจน สำาหรับเน้ือหาส่วนนี้ เด็กๆ แสดงความเห็นว่า และทส่ี าำ คญั คอื การฝก ปฏบิ ตั ิ ทง้ั เปน็ รายบคุ คลและรายกลมุ่ “ทโ่ี รงเรยี นผมไม่เหน็ สอนแบบน”้ี ซ่ึงท่ีประชุมได้จัดเตรียมอุปกรณ์การฝกที่มีคุณภาพ ท้ัง ในวนั ท่สี องของการประชมุ เร่มิ ดว้ ย คณะวทิ ยากร กระดาษ ดนิ สอ และสีใหก้ ับผ้เู ขา้ อบรม รวมท้งั จดั บคุ ลากร ทกั ทายเดก็ ๆ ถงึ ความเปน็ อยทู่ ่ี พลดั บา้ น พลดั ถน่ิ เดก็ ทกุ คน ซงึ่ เปน็ “นกั วชิ าการชา่ งศลิ ป์ของ สพฐ.” เป็นพเี่ ลย้ี ง และ สนิทสนมกันดีมาก มีเสียงหยอกล้อระหว่างครูศิลปะ ฝา ยสนับสนุน ใหผ้ ู้เขา้ รบั การอบรมด้วย ท่ีรับผิดชอบดูแล เสมือน “ผู้ควบคุมความประพฤติ” ในวนั แรกของการประชมุ ภายหลงั จากการรายงานตวั สร้างความเป็นกันเองทั้งครู-นักเรียน และวิทยากร และพิธีเปดการประชุมแล้ว เด็กๆ และครูศิลปะได้ถูก คุณครูบางคนบอกว่า ตอนกลางคืนเด็กๆ รวมกลุ่มกัน ละลายพฤติกรรมด้วยการแนะนำาตัว บอกความรู้สึกที่ได้ รา่ งภาพกนั ไมย่ อมหลบั นอน และทกุ คนสนกุ สนานกบั กจิ กรรม มาร่วมโครงการ และความคาดหมายที่ตนจะได้รับจาก ที่ตนมีใจรักอยู่แล้ว การเรียนรู้เรื่องการวาดภาพหนังสือ การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และเม่ือนักวิชาการศึกษา การ์ตูนประวัติศาสตร์ในวันท่ีสอง และตลอดวันท่ีสามของ ที่รับผิดชอบสาระประวัติศาสตร์ผู้เป็นวิทยากร และ การประชุมจึงเปน็ ไปอยา่ งความสขุ และรอยย้ิมของทกุ คน ผปู้ ระสานงานโครงการรายงานตวั และบอกเลา่ ประสบการณ ์ ก่อนจะปดการอบรมระยะที่หนึ่ง เราซักซ้อม ที่ผ่านมาแล้ว ทุกคนก็ดูจะผ่อนคลาย และเป็นกันเอง ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำา “ภาพร่าง” หนังสือการ์ตูน อย่างชัดเจน ตามโครงสรา้ งของตน้ ฉบบั ทว่ี ทิ ยากรเตรยี มมาใหเ้ ปน็ แบบอยา่ ง หลงั จากทสี่ มาชกิ ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร และพบกันอีกคร้ังในวันเสาร์-อาทิตย์หน้า ณ จุดประชุม ไดร้ จู้ กั กนั ในระดบั หนงึ่ แลว้ จงึ ไดเ้ รมิ่ ใหพ้ นื้ ฐานความรเู้ กย่ี วกบั ทโ่ี รงเรียนเตรยี มอดุ มพฒั นาการ กรุงเทพมหานคร การ์ตูนช่อง และการจัดทำาหนังสือการ์ตูนในภาพรวมก่อน ในการประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ระยะที่ ๒ แล้วจึงเริ่มรู้จักลักษณะท่าทางของการ์ตูน วิธีการร่างภาพ และระยะที่ ๓ ผลงานของสัปดาห์แรก ได้ถูกนำามา ตัวการ์ตูนในลักษณะต่างๆ เด็กจะฟังการบรรยายจาก วิเคราะหจ์ ากท่ปี ระชมุ โดยคณะวทิ ยากรใหเ้ ดก็ ๆ ดูผลงาน วทิ ยากร ซ่ึงเปน็ นักเขียนการ์ตูนอสิ ระเลา่ ผา่ นประสบการณ์ และเปรียบเทียบกับภาพท่ีควรจะถูกต้อง วิเคราะห์ท่ีมา ของตนเอง พร้อมฝกปฏิบัติไปพร้อมๆ กัน ที่น่าประทับใจ ของความผิดพลาดของภาพต่างๆ มือควรเป็นอย่างไร คือ คณุ ครูท้ังหลายทแ่ี ม้จบปริญญาตรี ปริญญาโท ทางด้าน ในอิริยาบถนั้น หัวและหน้าทำาอย่างไรจึงจะตรงกับ ศลิ ปะ ก็ลงมอื เรยี น และฝกหดั ไปพร้อมๆ กบั เด็กๆ ดว้ ย การเคลื่อนไหว ส่วนประกอบของภาพที่ช่วยให้เห็น ภาคบา่ ยจงึ ไดเ้ รียนรู้เรอื่ ง ประวตั ศิ าสตร์ไทย และ บริบทของเร่ืองราวท่ีต้องการเสนอให้ชัดเจนต้องทำาอย่างไร วธิ กี ารสบื หาความรเู้ หตกุ ารณส์ าำ คญั ในอดตี จากแหลง่ ขอ้ มลู จากนน้ั เปน็ เรือ่ งของการลงสีภาพท่ี แก้ไขเรยี บรอ้ ยแล้ว ๑๐ เส้นทางสู่หนงั สือการ์ตนู ประวตั ศิ าสตร์
กิจกรรมวันประชุมท้ัง ๓ คร้ัง ภาพของวิทยากร ๔. ประวัติศาสตร์ชาติไทย : บางระจัน ของ ทัง้ ๓ คน เดี๋ยวนงั่ อยูใ่ นกลุม่ นี้แลว้ ไปตอ่ ทก่ี ลุ่มโน้น ทกุ คน คณะนักเรยี น และครโู รงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษาพัฒนาการ เป็นมืออาชีพในการวาดการ์ตูน สร้างสรรค์การ์ตูนในรูป ๕. ศกึ บางระจนั ของคณะนกั เรยี น และครโู รงเรยี น แบบตา่ งๆ มากกวา่ ๑๐ ปี ได้เปลยี่ นมาเปน็ “ครู” ของเดก็ ๆ มัธยมสิริวัณวรี ๓ ฉะเชิงเทรา โรงเรียนวัดเขมาภริตาราม แต่ละคนจะมีความชำานาญแบบต่างๆ วิทยากรบางคน จงั หวดั นนทบรุ ี และโรงเรยี นบางปะกอกวทิ ยาคม กรงุ เทพฯ นาำ ผู้ช่วยส่วนตวั (ภรรยา) มาดว้ ย โดยไม่ไดร้ บั ค่าตอบแทน และเพอื่ ใหเ้ ปน็ บทเรยี นสาำ หรบั การเรยี นรตู้ อ่ ไป คณะวทิ ยากร แต่มีส่วนในการช่วยเหลือเด็กๆ สร้างผลงานในรูปแบบ จึงเห็นว่าจะไม่ปรุงแต่ง หรือบรรณาธิการกิจ ผลงาน ตา่ งๆ และเพ่มิ เติมดว้ ยการใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอรช์ ่วย ทงั้ ๕ เล่ม ปรากฏแนบทา้ ยหนังสอื เลม่ น้ี สร้างสรรค์ผลงานดว้ ย ความคดิ ในการรเิ รมิ่ โครงการ รปู แบบการดาำ เนนิ งาน และแน่นอนไม่มีใครสามารถจัดทำาหนังสือการ์ตูน ตลอดจนขนั้ ตอนการเขา้ คา่ ยในรปู แบบของการประชมุ อบรม ได้เสรจ็ ภายใน ๗ วัน ไมว่ า่ จะเปน็ มอื อาชพี ระดบั ใดก็ตาม เชิงปฏิบัติการฯ ดูตลอดจนถึงผลงานที่ได้แสดง “เส้นทาง วิทยากรท้ัง ๓ คน รวมท้ังนักวิชาการช่างศิลป์ของ สู่หนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์” ของ สพฐ. ในบทความนี้ สำานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษาอีก ๓ คน ทีร่ ่วมเปน็ นา่ จะเปน็ แนวทางการดาำ เนนิ งานของหนว่ ยงานทางการศกึ ษา “ครู” ในการประชุมอบรมครั้งน้ีต่างเห็นว่า เด็กๆ เรียนรู้ ท่ีมีความคิดและอุดมการณ์ร่วมกันที่จะมีส่วนร่วมพัฒนา ได้เร็วมาก และพึงพอใจกับผลงานที่สร้างสรรค์ได้ในช่วง การเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรไ์ ทย และสรา้ งจติ สาำ นกึ ความเปน็ ไทย ระยะเวลาที่จัดประชุม ที่ประชุมตกลงที่จะทำางานต่อให้จบ ใหเ้ ยาวชนของชาติ ตอ่ ไป จึงขยายเวลาออกไปอีก ๑๕ วัน เพื่อให้งานเสร็จเรียบร้อย และจัดสง่ ใหส้ ำานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษาต่อไป ผลงานทง้ั หมดของเดก็ ๆ (โดยมีครูศลิ ปะรว่ มด้วย) จัดส่งให้ท่ีมาทำางานมีท้ังหมด ๕ เล่ม (จาก ๖ กลุ่ม/กลุ่ม ประถมศกึ ษาของโรงเรยี นบ้านไทยสามคั ค ี จงั หวัดสระแก้ว ไมไ่ ดส้ ง่ ) แตล่ ะกลมุ่ แสดงเอกลกั ษณ ์ และจติ นาการทง่ี ดงาม ประกอบด้วย ๑. นักสู้บางระจัน ของคณะนักเรียนและครู โรงเรยี นสวนกหุ ลาบนนทบุรี ๒. วีรกรรมชาวบ้านบางระจัน ของคณะนักเรียน และครูโรงเรยี นสตรีวทิ ยา ๓. บางระจัน วีรชนคนกล้า ของคณะนักเรียน และครโู รงเรียนศรอี ยุธยาในพระอปุ ถัมภฯ์ เส้นทางส่หู นังสอื การต์ นู ประวัตศิ าสตร์ ๑๑
รูจกั การ์ตนู การ์ตูน CARTOON หมายถึง ภาพจำาลอง ในปี ค.ศ. ๑๙๔๒ สถาบันแห่งศิลปลายเส้นแห่ง เป็นสิ่งจำาลองของบุคคลทำาให้คนเข้าใจความคิด เข้าใจ อเมริกา (AMERICAN INSTITUTE OF GRAPHIC ART) เรื่องราวต่างๆ ได้ เขียนเพื่อเน้นลักษณะใดลักษณะหน่ึง ได้บันทึกประวัติความเป็นมา และความหมายของภาพ ซึง่ บอกหรอื เลา่ เรื่องราวได้รวดเรว็ ท่ใี ช้ชื่อว่า COMIC หรอื การต์ ูนเลา่ เร่อื งไว้วา่ ภาพการต์ นู การต์ นู มาจากภาษาลาตนิ CHARTA ซึง่ หมายถึง ตัวอย่างที่นำามาให้ประชาชนชมในระยะเริ่มแรกนี้เป็น ผ้าใบ เพราะสมัยนั้นการ์ตูน หมายถึง การวาดภาพหรือ ภาพลอกเลียนแบบภาพลายเส้นที่มีชื่อว่า “A ROCK ลวดลายบนพ้ืนผ้าใบขนาดใหญ่ บนผ้าม่าน กระจกและ SHELTER PAINTING” ของสเปน ภาพดงั กล่าวบรรยาย การตกแตง่ ภาพหรอื ลวดลายดว้ ยกระเบื้องเคลอื บชิ้นเลก็ ๆ ในภาษาไทยนน้ั การต์ นู ใชแ้ ทนคำาและความหมาย ภาษาองั กฤษ ๒ คาำ คือ CARTOON หมายถึง ภาพวาดบนกระดาษแข็ง อาจเป็นรูปวาดที่เป็นภาพล้อเลียนทางการเมืองหรือภาพ ตลกขบขัน วาดอยู่ในกรอบและแสดงเหตุการณ์ที่เข้าใจได้ อยา่ งชดั เจน และมคี าำ บรรยายสน้ั COMICS หมายถงึ รปู ภาพท่ีใชเ้ ล่าเรอื่ งราวต่างๆ โดยรกั ษาบคุ ลกิ ภาพของตวั การต์ นู ไวใ้ นภาพลาำ ดบั ตา่ งๆ กนั และการรวบรวมบทสนทนาหรือคาำ บรรยายไว้ในภาพ ๑๒ เสน้ ทางสู่หนังสอื การ์ตูนประวตั ศิ าสตร์
ก า ร์ ตู น ผู้ โ ด่ ง ดั ง ใ น อ เ ม ริ ก า ไ ด้ นำ า ก า ร์ ตู น ม า แ ท ร ก ใ น หนังสือพิมพ์รายวันเป็นคนแรก นับเป็นแบบฉบับของ หนังสือพมิ พ์ในปจั จุบัน ทมี่ ีการ์ตูนแทรกอยู่ด้วย อารยธรรมดึกดำาบรรพ์ ซึ่งแสดงให้เห็นความกล้าหาญ ความเปน มาของการต นู ไทย เด็ดเด่ียว ความเคารพยกย่องส่ิงศักดิ์สิทธิ์ และในหลุมฝัง การต์ นู ไทยเรมิ่ จากการเขา้ มาของวทิ ยาการเขยี นภาพ ศพของอียิปต์ มีผู้ค้นพบภาพเหตุการณ์ประจำาวันและภาพ ลายเสน้ ต่างๆ ท่ใี ช้ในปจั จุบันเรียกว่าการต์ นู แบบตะวันตก ซึง่ ขรวั อินโข่ง จิตรกรในสมยั รัชกาลที ่ ๓ ถึง จากหลกั ฐานประวตั ศิ าสตรแ์ สดงว่า ในศตวรรษน้ี รัชกาลท่ี ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้นำามาใช้เป็นคนแรก มีนักเขียนการ์ตูน บันทึกความรู้สึกนึกคิดและท่าทางบุคคล ในการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังลักษณะเหมือนจริง ต่างๆ สะท้อนภาพชีวิตของมนุษย์สมัยนั้นนับตั้งแต่พิธีการ หลายคนจึงถือกันว่าท่านเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยคนแรก ศาสนา ความเชอ่ื ต่างๆ และเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ ตอ่ มาในรชั สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในศตวรรษที่ ๑๘ และ ๑๙ เร่ิมมีนกั เขยี นการต์ ูน ภาพลอ้ หรอื การ์ตนู ในเมอื งไทยเป็นทน่ี ยิ มแพรห่ ลายมากขนึ้ การเมอื ง (CARICATURISTS) ทมี่ คี วามชาำ นาญในการเขยี น โดยเฉพาะแนวการ์ตูนล้อการเมือง ยุคนี้ได้มีนักเขียน ภาพการ์ตูนลงในหนังสือพิมพ์ BUD PISSTUR เจ้าของ การ์ตูนล้อการเมอื งคนแรกเกดิ ขน้ึ คือ ขุนปฏิภาคพิมพล์ ขิ ติ (เปลง่ ไตรปน ) แมร้ ชั กาลท ่ี ๖ เองกท็ รงโปรดการต์ นู ลกั ษณะ ดังกล่าว ดังปรากฏหลักฐานว่า มีภาพวาดฝีพระหัตถ์ ล้อเหล่าเสนาบดีและข้าราชบริพารในพระองค์อยู่เสมอๆ ตีพมิ พล์ งหนังสอื พิมพ์ดุสติ สมัย ถึงสมัยรัชกาลท่ี ๗ วงการการ์ตูนซบเซาลง เน่ืองจากพิษเศรษฐกิจ จนถึง พ.ศ. ๒๔๗๙ ประเทศไทย มีการเปล่ียนแปลงการปกครอง ทำาให้นักเขียนการ์ตูน มีเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็นมากขึ้น จึงมีนักเขียน การ์ตูนดังๆ เกิดขึ้นในยุคน้ีหลายคน อาทิ สวัสดิ์ จุฑะรพ ผู้นำาเร่ืองสังข์ทองมาวาดเป็นการ์ตูนเรื่องยาวเร่ืองแรก ของประเทศไทย ลงในหนงั สอื พมิ พส์ ยามราษฎร ์ และเจา้ ของ ตัวการ์ตูน “ขุนหม่ืน” ซึ่งดัดแปลงมาจากปอบอายและ มิกกี้เมาส์ โดยเป็นตัวตลกแทรกอยู่ในการ์ตูนจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องต่างๆ ต่อมานักเขียนการ์ตูนคนอ่ืนๆ จึงสร้างการ์ตูน ตวั หลักของตวั เองขึน้ มาบ้าง นอกจากนี้ยงั มนี กั เขียน เส้นทางส่หู นงั สอื การ์ตูนประวัตศิ าสตร์ ๑๓
การ์ตนู แนวเดียวกับ สวัสด ์ิ จฑุ ะรพ เชน่ วติ ต ์ สุทธิเสถยี ร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ การ์ตูนไทยซบเซาลง จาำ นงค ์ รอดอร ิ สว่ นนกั เขยี นในยคุ เดยี วกนั แตว่ าดคนละแนว จากภัยสงครามเช่นเดียวกับวงการวรรณกรรม เมื่อส้ิน ก็มีเชน่ กัน เปน็ ตน้ ว่า ฉนั ท์ สวุ รรณบุณย์ ผู้บุกเบิกการ์ตนู สงครามแล้ว วงการการ์ตูนไทยจึงฟนตัวอีกครั้ง ในยุคนี้ สำาหรับเด็กเป็นคนแรกของประเทศไทย และเป็นผู้เขียน ปรากฏนักเขียนการ์ตูนท่ีมีช่ือเสียงหลายคน เช่น ประยูร ภาพประกอบแบบเรียนของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร จรรยาวงษ ์ นกั เขยี นการต์ นู เจา้ ของฉายา “ราชาการต์ นู ไทย” ซ่ึงวาดทั้งการ์ตูนตลกและการ์ตูนการเมือง ในยุคเดียวกันนี้ ก็มีนักวาดภาพประกอบผู้โด่งดังซึ่งเป็นที่รู้จักกันท่ัวไปคือ เหม เวชกร ซ่ึงน้อยคนนักจะรู้ว่าท่านก็วาดการ์ตูนด้วย เหมือนกัน พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้มีการ์ตูนสำาหรับเด็กเกิดข้ึน เปน็ เล่มแรก คือ หนังสือการ์ตนู “ต๊กุ ตา” อนั เป็นผลงานของ พมิ ล กาฬสหี ์ มตี วั ละครหลกั สค่ี น คอื หนไู ก ่ หนนู ดิ หนหู นอ่ ย และหนูแจว และประสบความสำาเร็จอย่างสูง (เลิกออก ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๐ เน่ืองจากพิมล กาฬสีห์ เสียชีวิต) หลังจากนั้นจึงมีการ์ตูนสำาหรับเด็กออกมาอีกหลายเล่ม เช่น การ์ตูน “หนูจา” ของ จุมจิ๋ม (จำานูญ เล็กสมทิศ) ซง่ึ เรม่ิ วางแผงเล่มแรกเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ และ ท่ีได้รับความนิยมตามมาอีกเล่มก็คือการ์ตูน “เบบ้ี” ของ วฒั นา เพช็ รสวุ รรณ ซงึ่ เรมิ่ วางแผงฉบบั แรกเมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๔ ตัวการ์ตูนหลักของเบบี้น้ันมีมากถึงสิบกว่าคน บางตัว กม็ กี ารนำาไปแสดงหนังโฆษณากม็ ี คือคณุ โฉลงและคณุ เตว นอกจากนี้ยังมีหนังสือการ์ตูนสำาหรับเด็กที่แฝง สาระมากอีกเลม่ หนง่ึ กค็ อื ชยั พฤกษ์การ์ตนู ซง่ึ มี ทาร์ซาน กับเจ้าจุ่นเป็นตัวชูโรง ผู้วาดก็คือ รงค์ เตรียม ชาชุมพร ที่เขียนเรื่อง “เพื่อน” โอม รัชเวทย์ สมชาย ปานประชา พล พทิ ยกลุ เฉลมิ อคั คะพ ู ปัจจบุ นั หนังสือเล่มน้ีไดป้ ด ตวั ไปแล้ว นักเขยี นคนอนื่ ทีม่ ชี ื่อเสียงรว่ มสมยั ได้แก่ พ.บางพล ี (เจ้าของผลงานเรื่อง อัศวินสายฟ้า และศรีธนญชัย), ราช เลอสรวง, จุก เบี้ยวสกุล ฯลฯ ซึ่งในยุคน้ีส่วนมาก จะนิยมวาดการ์ตูนเร่ือง บางเร่ืองมีความยาวต่อเน่อื งกัน หลายฉบบั นบั วา่ เปน็ ยคุ ทองของการต์ นู เรอ่ื งทเี ดยี ว ๑๔ เส้นทางสูห่ นงั สือการ์ตนู ประวตั ิศาสตร์
ยุคต่อเนื่องจาก ชัยพฤกษ์การ์ตูน กลุ่มนักการ์ตูน รวมกลมุ่ กนั ใหมช่ อื่ วา่ กลมุ่ เบญจรงค ์ เปด เปน็ สาำ นกั งานเลก็ แถวสีแยกเสือปา ถนนเจริญกรุง โดยมี เตรียม ชาชุมพร, โอม รัชเวทย์, สมชาย ปานประชา, พล พิทยกุล, เฉลิม อัคคะพู ทำาหนังสือการ์ตูนรายสองเดือนออกมา ชอื่ วารสารสขุ ภาพและสงิ่ แวดลอ้ มขององคก์ ารแคร ์ (CARE) ทาำ ต่อเนอ่ื งเป็นเวลา ๓ ปี นกั การต์ นู ไทยยงั แอบทาำ หนา้ ทเี่ งยี บๆ ตามซอกหลบื เป็นการเขยี นการ์ตนู ราคาถูกที่พอให้ผู้อ่านหาซ้อื ได ้ การต์ นู เล่มละบาท ได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากในยุคหนึ่ง จนสามารถทำาให้คำาว่า “การ์ตูนเล่มละบาท” กลายเป็น ตาำ นาน เปน็ ชอื่ เฉพาะ และเปน็ สญั ลกั ษณ ์ ทเี่ รยี กกนั มาจนถงึ ทุกวันน้ี การ์ตูนเล่มละบาทนี้เป็นท่ีฝกฝนฝีมือของนักเขียน การ์ตูนหน้าใหม่ นักเรียนศิลปะที่ต้องการหารายได้ใน ระหว่างเรียนหนังสือ ปัจจุบันหลายท่านกลายเป็นนักเขียน การ์ตูนคุณภาพระดับแนวหน้าของเมืองไทย แนวเรื่อง ของการ์ตูนเล่มละบาท มีท้ังเร่ืองชีวิต, เร่ืองผี, เร่ืองตลก, นิทาน โดยเฉพาะเร่ือง “ผี” เป็นเรื่องท่ีได้รับความนิยม อย่างมากของผู้อ่าน เป็นความต่ืนเต้นแบบง่ายๆ ท่ีใกล้ชิด ชาวบา้ นมากทสี่ ดุ ปัจจุบันหนังสือการ์ตูนไทยท่ีถือได้ว่าครองใจคน ทุกเพศทุกวัยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศในเวลาน้ีก็คือ ขายหัวเราะ-มหาสนุก ซึ่งแนวทางการ์ตูนจะเป็นการ์ตูน ประเภทการ์ตูนแก๊ก และการ์ตูนเร่ืองสั้นจบในตอนเป็น สว่ นใหญ ่ ขณะเดยี วกนั กเ็ รม่ิ มกี ารพฒั นาการต์ นู ไทยรปู แบบ คอมมิคข้ึน จากกลุ่มคนท่ีมีประสบการณ์การอ่านการ์ตูน แนวมังงะของญี่ปุน ตลาดของการ์ตูนกลุ่มน้ีส่วนใหญ่ เน้นที่กลุ่มวัยรุ่น ในขณะท่ีการ์ตูนนิยายภาพแบบดั้งเดิม ยังคงมีการผลิตอยู่เร่ือยๆ และปรับตัวมาขายในราคา เลม่ ละห้าบาท เสน้ ทางสหู่ นงั สือการ์ตนู ประวัตศิ าสตร์ ๑๕
การต์ นู ในเมอื งไทยพฒั นาตอ่ เนอ่ื ง หลงั จากการต์ นู ประเภทของการตนู แนวญป่ี นุ เขา้ มากระตนุ้ ตลาดการต์ นู ไทยในชว่ งหลายปที ผี่ า่ น การต์ ูนแบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท คือ นักวาดการ์ตูนที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ได้ซึมซับการ์ตูนแนวมังงะ ๑. การต์ นู ธรรมดา (CARTOON) ไดแ้ ก ่ ภาพวาด จงึ เกิดการ์ตูนแนวนี้ขนึ้ มาอย่างแพร่หลายในตลาดปจั จบุ ัน สัญลักษณ์หรือภาพล้อเลียนเสียดสีบุคคล สถานที่ ส่ิงของ ปัจจุบันมีการสอนวาดรูปการ์ตูนชนิดน้ีมากขึ้น หรอื เร่ืองราวทีน่ า่ สนใจท่ัวไป โดยสอื่ อนิ เทอรเ์ นต็ เขา้ มามบี ทบาทสาำ คญั ในการพฒั นาฝมี อื ๒. การ์ตูนเรื่อง (COMICS STRIPS) หมายถึง โดยอาศัยแลกภาพกนั ติชมวจิ ารณ์ผา่ นเวบ็ บอร์ด หรือสรา้ ง การ์ตูนธรรมดาหลายๆ ภาพ ที่จัดลำาดับภาพเรื่องราว เว็บไซต์แสดงผลงานกันในอินเทอร์เน็ต ให้สัมพันธ์ต่อเนอ่ื งกนั อยา่ งสมบูรณ์ การ์ตูนเร่ืองแบ่งตามวิธีการนำาเสนอออกเป็น ๓ แบบ คอื - การ์ตูนเป็นตอน (COMIC STRIPS) คือ การ์ตูนเร่ืองท่ีเสนอออกมาเป็นตอนๆ ตอนละ ๒-๕ กรอบ ลงในหนงั สือพมิ พ์รายวนั ติดตอ่ กันไป - การต์ นู เลม่ (COMIC BOOK) คอื การต์ นู เรอื่ ง ท่ีมีความยาวพิมพ์เป็นเล่ม มีเรื่องราวคล้ายละคร นิยาย หรือนทิ าน ฯลฯ - ภาพยนตรก์ ารต์ นู (ANIMATION CARTOON) คอื ภาพยนตรท์ ถี่ า่ ยทาำ จากการต์ นู เปน็ จาำ นวนมาก เวลาฉาย ผดู้ จู ะรสู้ กึ วา่ การต์ นู มชี วี ติ เคลอ่ื นไหวได ้ การสรา้ งภาพยนตร์ การต์ นู เปน็ เทคนคิ ยงุ่ ยากอยา่ งหนงึ่ ใน ๑ วนิ าท ี ตอ้ งใชภ้ าพ ประมาณ ๒๔ เฟรม ขึ้นไป สำาหรับการเคลอื่ นไหวบนจอ สรุปประเภทของการต์ ูนไทยมดี ังน้ี ๑. การ์ตูนการเมือง (POLITICAL CARTOON, CARICATURE) ๒. การ์ตูนประกอบเร่ือง (ILLUSTRATED CARTOON) ๓. การ์ตูนสน้ั เปน็ ตอนๆ (STRIP) ๔. การ์ตูนขำาขันภาพเดียวจบจะมีคำาพูดประกอบ หรอื การ์ตนู เงยี บ (GAG) ๑๖ เสน้ ทางสู่หนังสอื การต์ ูนประวตั ิศาสตร์
๕. การต์ ูนขำาขันหลายช่องจบในฉบับเดียว ๖. การต์ นู เรอื่ งราว (COMICS SERIAL CARTOON) ๗. การต์ นู โฆษณา (COMMERCIAL CARTOON) ๘. ภาพยนตรก์ ารต์ นู (ANIMATION CARTOON) ๙. การต์ นู ลอ้ เลยี นบคุ คล (CRITICAL) การต ูนช่อง (COMICS) มงั งะ เปน็ คำาภาษาญปี่ ุน สำาหรับเรียกการ์ตนู ชอ่ ง คำาวา่ “มงั งะ” แปลตรงตวั ว่า “ภาพตามอารมณ”์ ถกู ใชอ้ ย่างกว้างขวางเป็นครัง้ แรก หลังจากจติ รกรอุคโิ ยเอะ ชอ่ื โฮคไุ ซ ตพี มิ พ์หนงั สือชื่อ โฮคุไซมังงะ ในครสิ ตศ์ ตวรรษ ท่ ี ๑๙ อย่างไรกด็ ี นกั ประวัติศาสตร์บางกลุม่ เห็นวา่ มังงะ อาจมีประวัติยาวนานกว่าน้ัน โดยมีหลักฐานคือภาพกิกะ (แปลตรงตวั วา่ “ภาพตลก”) ซง่ึ เปน็ ทนี่ ยิ มในศตวรรษท ่ี ๑๒ มีลักษณะหลายประการคล้ายคลึงกับมังงะในปัจจุบัน อาทิ การเน้นเน้ือเรื่องและการใช้เส้นที่เรียบง่ายแต่สละสลาย เป็นต้น เสน้ ทางสู่หนงั สอื การต์ นู ประวัตศิ าสตร์ ๑๗
พื้นฐานการเขียนการ์ตนู สัดสวนรางกาย ๘ สว น ก่อนท่ีเราจะเริ่มเขียนการ์ตูน เราควรรู้จักกับสัดส่วนของคนเสียก่อน เพ่ือให้เราได้มีพื้นฐานใน การคลี่คลายไปสูก่ ารเขยี นการ์ตูนทด่ี ี ผใู้ หญ่ ๘-๑๕ ป ๔-๑๒ ป ๑-๓ ป การตูน โดยปรกติสดั ส่วนของคนยโุ รปจะอยทู่ ่ ี เจด็ ส่วนครง่ึ ถงึ แปดส่วน สำาหรบั คนเอเซยี จะมีสัดสว่ นไมเ่ กิน เจด็ ส่วนครึ่ง ๑๘ เส้นทางสหู่ นงั สือการต์ ูนประวัติศาสตร์
พ้นื ฐานการเขียนภาพตัวละคร สดั ส่วนรา่ งกาย ๗ สว่ น / ๗ สว่ นคร่งึ / ๘ สว่ น ๑ ชว่ งศรษี ะ ๒ ชว่ งอก ๓ ชว่ งเอว ๔ เสน้ แบง่ กลางลาำ ตวั ทอ่ นบนและทอ่ นลา่ ง ๕ ต้นขา ๖ ตำาแหนง่ ของหัวเขา่ ๗ หน้าแข้ง ๘ ฝาเท้า แขน - ตน้ แขนช่วงคร่งึ ของส่วนท ่ี ๒ ขอ้ ศอก - อยทู่ ี่เอว ข้อมือ - เลยเป้าลงมานดิ ทา่ นง่ั เก้าอ ี้ ประมาณ ๖ ส่วน (ทอ่ นบน ๔ ทอ่ นล่าง ๒) เสน้ ทางสู่หนังสือการ์ตูนประวตั ศิ าสตร์ ๑๙
การเขยี นการ์ตูนอยา งงา ย เมอ่ื เราได้ร้จู กั กบั สดั สว่ นของคนจริงแล้ว เราก็สามารถเขยี นการ์ตนู อยา่ งงา่ ยๆ โดยเรม่ิ จากสว่ นประกอบบนใบหนา้ ทแี่ สดงถงึ อารมณ์ตา่ งๆ ได้ คิ้ว ตา ใจเย็น หลบั ปรกติ ปรกติ เกรง็ ดใี จ ชอบใจ เศร้า ตืน่ เตน้ ตกใจ กดดนั ผอ่ นคลาย หวาดกลวั แปลกใจ อารมณดี โกรธ กังวล เกรง็ ใช้ความคิด เศร้าผดิ หวัง ลังเล เสยี ใจ อาย ไม่แน่นอน ถอ่ มตวั มนึ งง เบ่ือหนา่ ย ออ่ นเพลีย ง่วงนอน ถา้ คว้ิ ยิง่ อยูใ่ กล้ตา อารมณย ่งิ แรง ผมต้ัง ตกใจสุดขีด โกรธ คิ้วซา้ำ ๆ ทะเลน้ ทะลงึ่ ออ่ นเพลยี อดิ โรย ๒๐ เส้นทางสูห่ นงั สือการต์ นู ประวตั ศิ าสตร์
ปาก สว่ นชว่ ยในการแสดงอารมณของตัวการต ูน เงียบไม่เปลง่ เสยี ง เปลง่ เสยี ง อารมณดี หัวเราะ ธรรมดา โศกเศร้า รอ้ งไห้ ผิวปาก จุป๊ าก เปา ไม่พอใจ เสียใจ เศร้า ยงิ ฟน อดกลัน้ พอใจ เก็บความรู้สกึ ดีใจ รา่ เรงิ แปลกใจ อุทาน เบาๆ พดู ธรรมดา สว่ นประกอบย่อยหรือตัวชว่ ยเสรมิ อารมณต่างๆ เช่น เกดิ ความรสู้ ึกพลาดพล้งั อร่อยจัง เส้นทางสหู่ นังสือการ์ตนู ประวตั ศิ าสตร์ ๒๑
การเขียนการ์ตูนอยา งงาย - โกรธ ฉุนเฉยี ว - ความคดิ ดี ๆ - อาย แกม้ แดง - อดกล้นั โกรธมาก เกดิ ข้นึ ฉบั พลัน - ตนื่ เตน้ ตกใจ - ขดลวด มนึ งง - เหนอื่ ย - ขีดบอกตาำ แหน่ง - น้าำ ตาไหล ร้องไห้ ช้ีบอกที่เจ็บปวด - พูดมาก - มีความรกั - ตน่ื เตน้ - อยากหมา่ำ - แปลกใจ ตกใจ ๒๒ เสน้ ทางสหู่ นังสอื การ์ตนู ประวัติศาสตร์
ย้มิ หนอ่ ย อกี นดิ มากข้นึ แย้ม หวั เราะ ก๊ากกา๊ ก! กา้ วร้าว เย็นชา อศั จรรยใจ ขาำ โกรธ เขิน ร้องไห้ พา่ ยแพ้ ท้าทาย ไม่พอใจ มนึ กลวั สยองขวัญ อารมณดี เง่ยี หฟู ง ชอ็ ก ร้องเพลง วิงวอน มุง่ หวงั ตะโกน เสน้ ทางส่หู นงั สือการต์ นู ประวตั ศิ าสตร์ ๒๓
การเขยี นมือและเทา มอื เทา้ ๒๔ เสน้ ทางสหู่ นงั สือการ์ตูนประวตั ิศาสตร์
การเขยี นโครงสราง โครงสรา้ งพนื้ ฐาน นำาโครงสรา้ งมาเพมิ่ เนื้อ เส้นทางสหู่ นงั สอื การ์ตูนประวตั ศิ าสตร์ ๒๕
การเขยี นอิริยาบถตางๆ ๒๖ เสน้ ทางสูห่ นังสอื การ์ตนู ประวัตศิ าสตร์
การเขยี นภาพมมุ มองในลกั ษณะตางๆ NORMAL VIEW มมุ มองปกติ PERSPECTIVE การวาดภาพตามสดั ส่วน ท่ีมองเหน็ ANT EYE VIEW มมุ มองจากล่างขน้ึ บน BIRD EYE VIEW มุมมองจากบนลงล่าง เสน้ ระดบั ตา เส้นทางส่หู นงั สอื การต์ ูนประวัติศาสตร์ ๒๗
การเขียนภาพมุมมองในลกั ษณะตางๆ V.P. (VANISHING POINT) จุดลบั ตา เส้นนาำ สายตา ท่ีทาำ ใหภ้ าพมมี ติ ิใกล้ไกล ชว่ ยให้ภาพมีมุมมองที่น่าสนใจมากขน้ึ ดงั น้ี ๑) V.P. ๑ จดุ ๒) V.P. ๒ จดุ ANT EYE VIEW มมุ มองจากลา่ งขึน้ บน BIRD EYEVIEW มมุ มองจากบนลงล่าง ๒๘ เส้นทางสหู่ นงั สือการ์ตูนประวตั ศิ าสตร์
เสน้ ทางส่หู นงั สอื การต์ นู ประวัตศิ าสตร์ ๒๙
การแบง่ ชอ่ งหน้ากระดาษ ๒ ชอ่ ง ขนาดเทา่ กัน ๑ ชอ่ งหนา้ คู่ ทง้ั บนและลา่ ง ใช้เปด เรอื่ ง เริ่มมีบทสนทนา หรอื ใหเ้ ห็น ระหวา่ งตัวละคร บรรยากาศ แตย่ งั แสดงใหเ้ หน็ บรรยากาศและ อย่างกวา้ งขวาง สิง่ แวดลอ้ ม เพื่อให้เกดิ ความ น่าสนใจ ๑ ช่อง ใช้เนน้ ความสำาคญั ของ เหตุการณน์ ั้นๆ ๓๐ เสน้ ทางสู่หนังสือการ์ตนู ประวตั ศิ าสตร์
๒ ช่อง ๒ ช่อง ขนาดไมเ่ ทา่ กัน ขนาดไมเ่ ทา่ กนั เส้นทางสู่หนงั สอื การต์ ูนประวัติศาสตร์ ๓๑ ๓ ชอ่ ง มีการสนทนา มากกวา่ ๒ ชอ่ ง ภาพบรรยากาศ ลดน้อยลง
๔ ชอ่ ง ขนึ้ ไป ใชก้ ับบทสนทนา ทม่ี ีเนื้อหา โต้ตอบกนั มากๆ หรือตอ้ งการ เนน้ อารมณแ์ ละ สีหนา้ ของตวั ละคร ให้ชัดเจน การแบ่งช่องการต นู ไม่ควรแบง่ ให้เท่ากนั ทกุ หน้า เพราะจะทำาให้เกิดความซา้ำ ไม่นา่ สนใจ นอกจากนใ้ี นแต่ละช่องควรคำานึงถึงองคป ระกอบ ของภาพ เชน่ ตัวละคร ฉากหลัง บทสนทนา และคาำ บรรยาย ๓๒ เส้นทางสหู่ นงั สอื การต์ ูนประวัติศาสตร์
การกำาหนดตวั ละคร (CHARACTER DESIGN) - ตวั เอก (HERO) ของเร่อื ง เปน็ ตวั ละครทีพ่ าเรา - ท่ีปรกึ ษา ผู้ชว่ ย (MENTOR) ไปตามเนื้อเร่อื ง - ตัวทดสอบพระเอก (THRESHOLD GUARDIAN) - ผชู้ ่วยตัวเอก (HERALD) ผู้ปา วประกาศ เปน็ ตวั ชว่ ยใหต้ วั เอกมกี ารพฒั นาขนึ้ คลา้ ยกบั ตวั อปุ สรรค เส้นทางสู่หนังสือการต์ นู ประวตั ศิ าสตร์ ๓๓
การกาำ หนดตัวละคร (CHARACTER DESIGN) - ตวั ละครทอี่ าจเปน็ ตวั ดหี รอื ตวั รา้ ยกไ็ ด ้ (SHAPE SHIFTER) - ตวั ร้าย (SHADOW) หยดุ ยง้ั ไมใ่ หพ้ ระเอก เป็นได้หลายบทบาท เป็นตวั สร้างความสบั สน ไปถึงจดุ หมาย ทดสอบพระเอก - ตวั สรา้ งเร่อื ง (TRICKSTER) สร้างปญั หาใหพ้ ระเอก ในเนอ้ื เร่ืองเราไม่จาำ เปน็ ตอ้ งมีตัวละครครบทงั้ หมด หรอื อาจใช้ตัวละครตัวเดียว รบั หลายบทบาท ๓๔ เสน้ ทางสหู่ นงั สือการ์ตูนประวตั ศิ าสตร์
สง่ิ ที่จะกำาหนดบอกบุคลิกของตวั ละครหลกั ๆ มดี ังนี้ ๑. เพศ ชาย หญิง เพศท ่ี ๓ ๒. อายุ เดก็ วัยรุ่น วัยกลางคน ชรา ๓. ทรงผม ๔. เสอื้ ผ้า รวมถงึ เครอื่ งประดบั หวั อาวธุ ๕. คาำ พูด เสน้ ทางสูห่ นงั สอื การ์ตนู ประวัตศิ าสตร์ ๓๕
การใช้เสน้ ชว่ ยความเคลือ่ นไหว SPEED หรอื เนน้ ตวั ละคร เสน้ สปด แบบรวมศูนย เสน้ สปดแบบขนาน เป็นเส้นท่ีแสดงถึงพลัง การเคล่ือนไหวจากศูนย์กลางใน เปน็ เสน้ ทแ่ี สดงถงึ ความเรว็ ตามทศิ ทางการเคลอ่ื นไหว ลักษณะกระจายออกหรือใช้เป็นพื้นหลังเน้นความสำาคัญของ เช่น จากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย ตวั ละคร เสน้ ประ เส้นแสดงความเคลอื่ นไหว เปน็ เสน้ ทีแ่ สดงถงึ ความเคลอ่ื นไหวต่อเนื่อง ช่วยให้เห็นทิศทางของการเคลื่อนไหว ทำาให้ภาพ ๓๖ เส้นทางสู่หนงั สือการ์ตูนประวตั ิศาสตร์ ไม่อย่นู ่งิ หรอื แสดงถึงความฉบั ไว รวดเรว็
การรา่ งภาพและลงรายละเอยี ดของตวั ละคร การร่างภาพท่ีดีจะช่วยให้ตัวละครและส่วนต่างๆ ของภาพเกิดความสวยงามชัดเจน ง่ายต่อการทำางานในลำาดับ ต่อไป เนื่องจากโครงร่างที่ถูกต้องและชัดเจนจะตัดเส้นน้ำาหนักได้ง่าย ส่วนบรรยากาศพ้ืนหลังควรคำานึงถึงรายละเอียด ด้วยเชน่ กัน เพื่อใหภ้ าพเกดิ ความสมบรู ณ์ยิ่งข้นึ ข้นั ตอนในการทาำ หนงั สือการต นู ๑. กำาหนดจำานวนหน้าที่จะเขยี น เชน่ เรือ่ งส้นั ๑๖-๓๒ หน้า ๒. วางโครงเรอื่ ง ๓. กาำ หนดหน้าลงในเนอื้ เรอ่ื ง ๔. ออกแบบตัวละคร CHARACTER DESIGN คอื กาำ หนดหน้าตาและบคุ ลิกของตวั ละคร ๕. ทำา STORY BOARD กาำ หนดภาพที่ตอ้ งการคร่าวๆ ๖. ร่าง ๗. ลงเส้น / ส ี น้าำ หนัก ๘. ลงตัวหนงั สือ ๙. เส้น BALLOON เส้นทางสหู่ นังสือการต์ นู ประวตั ศิ าสตร์ ๓๗
อุปกรณก์ ารเขยี นการ์ตนู ปากกาเขียนแผนที่ ก่อนที่เราจะเขียนการ์ตูนช่องท่ีเราชอบ มารู้จักกับ ปากกาเคมี อุปกรณ์ต่างๆ ของช่างเขียนการ์ตูนอาชีพเขาใช้กันนะครับ ในท่ีน้ีจะแนะนำ�สำ�หรับการใช้ฝีมือเขียนบนกระดาษ ดินสอ วาดเขียนจรงิ (ขอเว้นไว้ส�ำ หรับ COMPUTER ท่ใี ชโ้ ปรแกรม PHOTOSHOP หรอื อน่ื ๆ) ฉาก ๔๕ ํ, ๖๐ ํ ยางลบ กระดาษ เราควรใชก้ ระดาษทม่ี คี วามหนา ๑๐๐ แกรม ไม้บรรทัด ขึ้นไป เช่น กระดาษสีน้ําเรนาซองซ์ (RENAISSANCE) ๒๐๐ แกรม ซ่ึงมีทั้งชนิดเรียบและชนิดหยาบ ถ้าชอบลงสี สีสแตมป์ แบบนุ่มนวลก็ใช้แบบเรียบ หรือถ้าอยากได้สีแบบแห้งมีการ ใชป้ ระโยชนจ์ ากกระดาษกใ็ ชแ้ บบหยาบ แลว้ แตค่ วามชอบของ กระดาษสีนํ้า ผเู้ ขยี น ปจั จบุ นั กระดาษเรนาซองซม์ คี วามหนาถงึ ๓๐๐ แกรม การที่เราต้องใช้กระดาษท่ีมีความหนา ๑๐๐ แกรม ข้ึนไป ก็เพราะเม่อื เราตดั เส้นและลงสีนํ้า ก็จะได้ภาพต้นฉบับ ที่เรียบร้อย เส้นคมชัด สีสดสวย กระดาษไม่พองช้ํา เวลาลงสีซา้ํ ๆ เพมิ่ นํ้าหนักภาพ ดินสอดำ� HB เหมาะที่จะใช้ร่างภาพสามารถ ลบภาพร่างที่ไม่ต้องการออกได้ง่ายไม่ทิ้งร่องรอยของการ กดน้ําหนกั ดนิ สอ ยางลบ เน้ือยางต้องน่ิม ไม่กินเน้ือกระดาษเวลา ลบรอยดินสอ ปากกาเคมี แบบหวั เขม็ ใชต้ ดั เสน้ ภาพและเสน้ กรอบ รวมทั้งเขียนคำ�บรรยายภาพ ต้องใช้แบบที่กันน้ําเพื่อสะดวก กบั การลงสีนํ้าภายหลงั ใชต้ งั้ แต่ เบอร์ ๑, ๒, ๓, ๕ แลว้ แต่ ความตอ้ งการใช้ ไมบ้ รรทัดและฉากสามเหล่ยี ม ขนาด ๔๕. ๔๕. ๙๐ และขนาด ๓๐. ๖๐. ๙๐ สำ�หรบั ตกี รอบให้ได้ฉากสวยงาม ๓๘ เสน้ ทางสู่หนังสือการต์ ูนประวตั ศิ าสตร์
ปากกาเขยี นแผนท่ี เปน็ ปากกาโลหะชนดิ เปลย่ี นปากได้ สีนํ้าแบบขวด มีด้ามจบั เปน็ ไม้ ให้น้าํ หนักเบาตามแรงกดของมือผ้เู ขียนภาพ สนี ํา้ แบบหลอด ได้ดี พู่กันกลม ใช้ลงสีตามเน้ือท่ีของภาพ นิยมใช้ต้ังแต่ ภู่กันขนาดต่างๆ เบอร์ ๒-๑๐ อาจมภี ่กู นั แบนไว้ชว่ ยลงสีในพนื้ ที่ทต่ี ้องการ เช่น โต๊ะแบบมีตู้ไฟ รั้วไม้ระแนงหรอื เสา เป็นตน้ สีนํา้ นยิ มใช้ สีหมกึ แบบละลายนา้ํ ได้ เช่น เสน้ ทางส่หู นังสอื การต์ ูนประวตั ิศาสตร์ ๓๙ ๑. สีนํา้ แบบขวด สี ECOLINE ผลิตใน HOLLAND ให้สที ี่สดสวย มสี ีให้เลอื กใชห้ ลากสี ๒. สีน้ําแบบหลอด WINSOR & NEWTON ของ ENGLAND ๓. สแี สตมป์ จากประเทศจนี เปน็ สที ฉ่ี าบบนกระดาษ เวลาใชต้ ดั กระดาษสเี ปน็ ชนิ้ แชน่ าํ้ ไว้ เนอื้ สกี จ็ ะละลายออกจาก แผน่ กระดาษ (เดมิ สแี สตมปใ์ ชส้ �ำ หรบั การแตง่ ภาพถา่ ยขาวด�ำ ให้มสี ีสนั เพมิ่ เติม) ๔. สีหมึก นิยมใช้สีดำ�แบบกันนํ้าของ PELIKAN ผลติ ใน GERMANY ใชส้ ำ�หรับตดั เส้นและลงน้าํ หนักเขม้ จดั โตะ๊ เขยี นแบบ การเขยี นการต์ นู ในวงการมอื อาชพี แลว้ จะใชว้ ธิ รี า่ งภาพบนกระดาษปอนดธ์ รรมดาบาง ๗๐-๘๐ แกรม ขนาด A4 หรือ A3 ซึ่งเส้นสายในการร่างภาพจะอิสระ ไมต่ ้องกลวั เสียหายและไมเ่ สยี เวลาลบหลาย ๆ คร้งั เมอ่ื วาง องค์ประกอบภาพและตัวหนังสือได้แล้ว จึงนำ�มาลอกเส้น การต์ นู ทร่ี า่ งไวอ้ กี ครง้ั บนกระดาษสนี า้ํ จรงิ ดว้ ยการใชโ้ ตะ๊ เขยี นแบบ ซง่ึ มตี ไู้ ฟและเปน็ แผน่ กระจกฝา้ กจ็ ะท�ำ ใหก้ ารท�ำ งาน สะดวก สะอาด และไม่ผิดพลาด ทั้งยังเก็บภาพร่างไว้ใช้ได้ในกรณี ที่ต้องการเขียนแกไ้ ขใหม่ในภายหลัง
การจดุ ประกายชักนํา ใหเ ด็กเขียนการ์ตนู แนวประวตั ิศาสตร์ รจู้ ักชาวบา้ นบางระจัน : วีรกรรมการรวมตวั กัน กองทัพพม่าเข้ารุกรานดินแดนไทยอย่างต่อเน่ือง ทั้ง ต่อสู้กับกองทัพพม่าที่มารุกรานก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา ยกทัพใหญ่ที่กษัตริย์พม่ายกทัพมาเอง และกองทัพย่อยๆ ป ๒๓๑๐ ทแ่ี ยกกนั มาเปน็ ระลอกๆ เขา้ โจมตชี มุ ชนไทยแลว้ กวาดตอ้ น เพื่อลดความเป็นครูประวัติศาสตร์ ที่ดูจะคร่ำาครึ ผู้คน ทรพั ยส์ นิ เสบยี งอาหาร แล้วกลับไป และไม่น่าสนใจสำาหรับศิลปนท้ังหลาย เราจึงเล่าเหตุการณ์ สภาวะการณด์ งั กลา่ วกอ่ ความเดอื ดรอ้ นกบั ชาวไทย วีรกรรมชาวบ้านบางระจันฉบับย่อๆ ในลักษณะปลุกเร้า อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีที่เป็นเส้นทางเดินทัพพม่า ความรสู้ กึ เพอ่ื สรา้ งอารมณร์ ว่ ม และจนิ ตนาการของศลิ ปน นอ้ ย ดังน้ันชาวไทยจึงต้องรวมตัวกันปกป้องครอบครัว และ ให้ย้อนอดีตเข้าไปสู่ช่วงสมัยก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยา ทรพั ยส์ ินกันเอง ชาวบา้ นบางระจนั กเ็ ช่นกัน เรมิ่ จากผู้กลา้ ประมาณ ๑๐ ปี ทบี่ า้ นเมอื งเกิดความระสำา่ ระสาย วุน่ วาย ไม่กี่คนรวมตัวกันใช้อุบายหลอกล่อทหารพม่าท่ีต้องการ ทง้ั ภายในราชธาน ี และภายนอกในพนื้ ทรี่ อบๆ กรงุ ศรอี ยธุ ยา ทรพั ยส์ นิ และหญงิ ไทย โดยสามารถกาำ จดั ทหารพมา่ หลายคน และชายแดนไทยกบั พม่า ได้สำาเร็จ วีรกรรมของกลุ่มคนไทยท่ีมีจำานวนไม่กี่คนท่ี ทางภายในเกิดจากการแย่งชิงราชสมบัติอย่าง อำาเภอวิเศษชัยชาญ เล่ืองลือไปทั่ว ทำาให้ชาวบ้านหลาย ตอ่ เนอื่ งหลายครง้ั สญู เสยี ขนุ นาง และไพรพ่ ลเปน็ จาำ นวนมาก คนอีกหลายพื้นที่เข้ามาร่วมด้วย ประกอบด้วยชาวเมือง ทำาให้ศูนย์กลางการปกครองอ่อนแอลง ส่วนภายนอกน้ัน วิเศษ ชัยชาญ เมืองสิงห์บุรี เมืองสรรคบุรี และพ้ืนท่ี ๔๐ เสน้ ทางสู่หนังสือการ์ตนู ประวัติศาสตร์
ใกลเ้ คียง บ้างกอ็ พยพมาทง้ั ครอบครัว บา้ งกม็ าเฉพาะชายฉกรรจ์ รวมทง้ั หญงิ ไทยใจเดด็ หลายคนไดร้ ว่ มกนั ตง้ั คา่ ยบางระจนั ในทาำ เล พนื้ ท่ที เี่ หมาะสม และอดุ มสมบรู ณ ์ เพ่อื ต่อสกู้ ับพม่าและไดน้ ิมนต์ พระสงฆท์ ชี่ าวบา้ นเคารพนบั ถอื วา่ เปน็ ผมู้ คี วามร ู้ คอื พระอาจารย์ ธรรมโชต ิ วัดโพธิ์เก้าตน้ มาเป็นขวัญกาำ ลังใจทีค่ า่ ยบางระจนั ดว้ ย ชาวบ้านบางระจันสามารถต้านทานการโจมตีของการทัพพม่าได้ ถึง ๗ ครั้ง ยาวนานถึง ๕ เดือน แต่ก็พ่ายแพ้แก่กองทัพพม่า ในศึกคร้ังท่ี ๘ เม่ือแม่ทัพพม่าเปลี่ยนกลยุทธเป็นต้ังมั่นอยู่ในค่าย คอ่ ยๆ เคลอ่ื นยา้ ยคา่ ย รกุ เขา้ ไปใกล ้ แลว้ ใชป้ น ใหญร่ ะดมยงิ เขา้ ไป ในคา่ ยบางระจนั แมว้ า่ บรรดาผนู้ าำ ไทยหลายคนพยายามทจ่ี ะโจมตี ค่ายพม่า แต่ก็ไมส่ าำ เร็จ จนกระทงั่ คา่ ยบางระจันแตกพ่าย บางคน พลีชพี อย่างกลา้ หาญ บางคนสามารถหลบหนไี ดส้ าำ เรจ็ ชาวบา้ น บางระจันที่หลงเหลือต่างเล่าขานถึงวีรกรรมที่รวมตัวกันปกป้อง แผน่ ดินไทยสืบมาจนถงึ ทุกวันนี้ รู้จักวิธีการหาข้อมูล และการจัดทำาเหตุการณสำาคัญ เรียงตามลาำ ดบั เวลา ขน้ั ตอนทสี่ าำ คญั ทสี่ ดุ ของเนอื้ หา นา่ จะเปน็ วธิ กี ารรวบรวม ข้อมูลแล้ว นำามาเรียงลำาดับเหตุการณ์ตามเวลาก่อนหลัง ซ่ึงจะ เกดิ การวิเคราะห์ตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ มูลไปพรอ้ มๆ กบั การตอบคำาถามท่ีเก่ียวข้องกับเรื่องที่จะนำาเสนอว่าเหตุการณ์ สำาคัญของวีรกรรมชาวบ้านบางระจันนั้น มีใคร ทำาอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไหรบ่ า้ ง มกี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร ทาำ ไมจงึ เกดิ เหตกุ ารณน์ ขี้ น้ึ และคำาตอบสุดท้ายคือ เป็นผลอย่างไร เม่ือสามารถตอบคำาถาม เหล่าน้ีได้ ถือว่าเราได้เร่ืองราวครบถ้วนบริบูรณ์ จึงนำาไปจัดทำา โครงสร้างเน้อื หาของหนังสอื การ์ตูนประวัตศิ าสตร์ได้ เสน้ ทางสู่หนงั สอื การต์ นู ประวตั ศิ าสตร์ ๔๑
การรวบรวมขอ้ มลู ประวตั ศิ าสตร เพอื่ สรา้ งสรรคก ารต นู ประวัตศิ าสตร ในฐานะท่ีรบั ผดิ ชอบด้านเนอื้ หาประวัตศิ าสตร์ ทจี่ ะนาำ ไป สรา้ งสรรคเ์ ปน็ “การต์ นู ประวตั ศิ าสตร”์ จงึ เรมิ่ ศกึ ษาหนงั สอื การต์ นู ทีม่ ีเนอ้ื หาประวัติศาสตร์ในทอ้ งตลาด พบวา่ ส่วนใหญ่มีลักษณะ เป็นหนงั สือภาพ มีลักษณะเปน็ การต์ ูนชอ่ งไมม่ ากนัก หนังสือภาพ ลักษณะเด่นคือ ภาพคล้ายจริง และ เป็นหนังสือสวยงาม มีท้ังภาพคร่ึงหน้าเต็มหน้า คำาอธิบาย ไมม่ ากนกั และนาำ เสนอเนอ้ื หาเรยี งตามลาำ ดบั เวลา ทาำ ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย ส่วนหนังสือการ์ตูนช่องนำาเสนอภาพหลายลักษณะ ภาพไม่เน้น ความสวยงาม แต่เน้นอารมณ์ และความรู้สึก เร้าใจผู้อ่าน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ภาพส่วนใหญเ่ ด็กๆเรียกว่า ภาพทนั สมัย แต่ผู้ใหญเ่ รียกว่า ภาพสไตลญ์ ีป่ ุน เกาหลี เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ผลงาน ซงึ่ เปน็ กลมุ่ เดยี วกบั ผวู้ าดภาพ เรยี กวา่ เบด็ เสรจ็ ในหนง่ึ เดยี ว ดงั นนั้ หลายเลม่ จะพบความไมถ่ กู ตอ้ งใน “กาละ-เทศะ” หรอื บริบทของ สถานท ่ี และส่งิ แวดลอ้ มรว่ มสมยั และแนวคิดทางประวตั ศิ าสตร ์ ซ่ึงคาดคะเนได้ว่าเป็นผลมาจากศิลปนผู้เขียนเรื่องไม่ได้ศึกษา ด้านประวัติศาสตร์มาโดยตรง และใช้ข้อมูลจากเอกสารช้ันรอง จากอินเทอร์เน็ต หรือหนังสือประวัติศาสตร์ ท่ีนำาเสนอเนื้อหา ทัง้ ชว่ งสมัย หรอื ตง้ั แตเ่ ริ่มการสถาปนากรงุ สุโขทยั กรุงศรอี ยุธยา กรุงธนบุรี สืบมาจนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นข้อมูลจึงเป็น บทสรุป และไม่สมบูรณ์หากจะนำามาเขียน เนื้อหาการ์ตูน ประวัติศาสตร์ท่ีควรเสนอประเด็นสำาคัญ ๑ เร่ืองในหน่ึงเล่ม และต้องใช้จินตนาการในตัวละครต่างๆ ถ้าจะให้ถูกต้อง ชัดเจน ครบถว้ น กน็ า่ จะเปน็ เรอื่ งทจี่ ะตอ้ งใชเ้ วลาศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ มากขน้ึ เราวางแนวคิดท่ีจะให้ความรู้ตามลำาดับขั้นตอนกับ ผู้มีความสามารถด้านการวาดภาพที่จะก้าวสู่ความเป็น “ศิลปน” ได้ในอนาคต ให้รู้จักประวัติศาสตร ว่าเป็นเรื่องราวสำาคัญของ ๔๒ เสน้ ทางส่หู นงั สือการ์ตนู ประวตั ศิ าสตร์
สังคมมนุษยใ์ นอดีตหรือในช่วงเวลาทผ่ี า่ นมาแล้ว เรือ่ งราวสำาคญั เหลา่ น ี้ นบั เปน็ บทเรยี นอนั มคี า่ เพราะอดตี สรา้ งสงั คมปจั จบุ นั และ การกระทาำ ของมวลมนษุ ย์ในปัจจุบนั จะส่งผลถงึ อนาคตต่อไป จากน้ันคาดหวังท่ีจะให้ศิลปนเหล่านี้รู้วิธีการสืบค้น เรอ่ื งราวในอดตี จากรอ่ งรอยตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เรยี กวา่ “หลกั ฐาน ทางประวัติศาสตร์” ท่ีมีท้ังหลักฐานช้ันต้น และหลักฐานชั้นรอง และวิธีการประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูลท่ีมีทั้งข้อเท็จ และข้อจริง ท่จี ะต้องขุดค้ยุ ใหไ้ ด้ความจริงว่ามใี ครทาำ อะไร ทไี่ หน เม่อื ไหร่ อยา่ งไร ทำาไมจงึ เกดิ เหตกุ ารณน์ ั้นข้นึ และเหตุการณน์ น้ั มีผลตอ่ สังคมอย่างไรบ้าง ซงึ่ ขอ้ มลู เหลา่ น ้ี ผจู้ ะสรา้ งสรรคก์ ารต์ นู ทางประวตั ศิ าสตร ์ จะตอ้ งนาำ มาลาำ ดบั เหตกุ ารณเ์ ปน็ Time Line ใหช้ ดั เจน กอ่ นสรา้ ง เค้าโครงเรื่องผ่านตัวละครตามจินตนาการของตน ซึ่งถือว่า เปน็ หวั ใจของการจะเรียบเรียงประวตั ศิ าสตร์ เราอธิบายความรู้เหล่านี้ผ่านการเล่าเรื่องจาก ประสบการณ์ที่ได้สืบค้นเร่ืองวีรกรรมชาวบ้านบางระจัน เพ่ือ มิให้ศิลปนเยาวชนกลุ่มนี้จะรู้สึกเบ่ือหน่ายจนเกิดความขยาด ที่จะสรา้ งสรรค์ผลงานการ์ตนู ประวตั ิศาสตร์ เสียก่อน เรานาำ เสนอวธิ กี ารรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยการแสดง Time Line เหตุการณ์สำาคัญของประวัติศาสตร์ไทย และพม่าท่ีอยู่เป็นช่วง เวลาเดียวกัน และเก่ียวข้องกับสงครามหลายคร้ังติดต่อกันจนถึง สงครามครง้ั เสียกรงุ ศรอี ยธุ ยาครงั้ ที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ เราบอกเหล่าศิลปนน้อยให้เข้าใจว่า เหตุการณ์สำาคัญ ที่เรียงตามลำาดับเวลาเป็นเส้นต่อเน่ืองที่เรียกว่า Time line น้ี นำามาจากขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย ที่สำาคัญ คือ ข้อมูลท่ีมาจากภาครัฐ ประกอบด้วย หนังสือพระราช พงศาวดาร กรุงศรีอยุธยาหลายฉบับท่ีปัจจุบันพิมพ์รวมเป็นเล่ม (พร้อมแสดงใหน้ ักเรียนไดร้ จู้ ัก เปดใหด้ ู อ่านให้ฟัง) เช่น พระราช พงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ฉบับพระนพรัตน์ วัดพระเชตุพน พระราชพงศาวดารกรุงเก่า เส้นทางสู่หนงั สือการต์ ูนประวัตศิ าสตร์ ๔๓
ฉบับบริติชมิวเซียม หนังสือภาครัฐอื่นๆ เช่น จดหมายเหตุโหร คำาให้การชาวกรุงเก่า คำาให้การขุนหลวงหาวัด เป็นต้น ข้อมูล ทไ่ี ดจ้ ากหนงั สอื ทม่ี ผี เู้ รยี บเรยี งขน้ึ เชน่ ไทยรบพมา่ ซง่ึ เปน็ พระราช นพิ นธส์ มเดจ็ ฯ กรมพระยาดาำ รงราชานภุ าพ ผซู้ ึ่งไดร้ ับการยกยอ่ ง ว่าเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ และโบราณคดีไทย และข้อมูล ทไี่ ดม้ าจากทอ้ งถนิ่ เชน่ หนงั สอื ทค่ี ณุ ครใู นจงั หวดั สงิ หบ์ รุ จี ดั ทาำ ขนึ้ เป็นเอกสารประกอบการสอนรวมท้งั คำาบอกเลา่ ของผ้เู ฒา่ ผ้แู ก ่ พระภิกษุสงฆใ์ นจงั หวดั สิงหบ์ รุ ี เปน็ ตน้ เราอา่ นสาำ นวนในหนงั สอื บางเลม่ ทแี่ สดงถงึ ความคดิ เหน็ ของผู้เขียน และให้ศิลปนน้อยเหล่านี้สะท้อนแนวคิดของ ตนเองบ้าง (แต่ไม่ค่อยได้ผลนัก เด็กๆ ไม่ชอบแสดงความเห็น ผา่ นคาำ ถาม) จะนา่ ประทบั ใจกต็ รงทนี่ กั เรยี นทกุ คนขอ copy ขอ้ มลู ไปใช้ประกอบผลงานของตนเอง จบท้ายเรื่องข้อมูลด้วยภาพของอนุสาวรีย์ชาวบ้าน บางระจัน ในมุมต่างๆ พร้อมแนะนำาบุคคลสำาคัญในระดับ หัวหน้าของค่ายบางระจัน ซ่ึงเช่ือกันว่าคล้ายคลึงกับบรรพบุรุษ ในอดีตที่ร่วมกันสร้างวีรกรรมนี้ขึ้น เราพูดคุยกันถึงบุคลิก อาวุธ ทใ่ี ช้ และวีรกรรมของแต่ละบคุ คล เราถามเด็กๆ ถงึ ความรู้สึกตอ่ “บรรพบรุ ษุ ไทย” ซง่ึ เปน็ ตวั ละครสาำ คญั ในเนอ้ื หา และเหมอื นเดมิ เด็กๆ ไม่ชอบตอบคำาถาม ศิลปนน้อยๆ เหล่าน้ีแทบจะเป็น ผปู้ ด การบรรยายดา้ นเนอ้ื หา เพราะสนใจทจี่ ะสเกต็ ภาพเหลา่ นกั รบ ผยู้ ่ิงใหญ่แทน เราในบทบาทของวิทยากรจึงต้องยุติลง (เพราะผู้ฟัง ไม่สนใจจะฟังแล้ว) แต่ก็หวังว่า ถ้าหากดึงเหล่าศิลปนเหล่าน้ี ใหส้ นใจประวตั ศิ าสตรอ์ ยา่ งจรงิ จงั เรากจ็ ะสามารถขยายแนวรว่ ม คนรักประวัติศาสตร์ได้เพิ่มขึ้น สีสันของเยาวชนกลุ่มน้ี จะเป็น พลังทำาให้เยาวชน ภูมิใจในความเป็นไทย รักษ์วัฒนธรรมไทย- ภูมิปัญญาไทย เห็นความสำาคัญของความเป็นมาของชาติ เป้าหมายของโครงการพัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย นา่ จะถึงดวงดาวไดเ้ ร็ววนั ขนึ้ ๔๔ เส้นทางสู่หนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์
เฉลมิ อัคคะพู สมบัติ ค้ิวฮก สละ นาคบำารงุ วทิ ยากรคดิ อยา งไร ประวัติศาสตร เป็นเร่ืองยากท่ีจะทำาความเข้าใจอยู่แล้ว - คล่ีคลายสดั สว่ นของคนมาเป็นการต์ ูน ฉะนน้ั การทน่ี าำ เนอ้ื หาทางประวตั ศิ าสตรม์ าทาำ เปน็ การต์ นู ยง่ิ ยาก - รจู้ กั การใชเ้ สน้ ส ี นา้ำ หนกั และการจดั องคป์ ระกอบของภาพ มากข้ึน ผู้เขียนจะต้องค้นคว้าหาความรู้หลายด้าน ท้ังในเร่ือง - รู้จกั สร้างเรื่องราว และลาำ ดบั ภาพกอ่ นลงมือทาำ บุคลกิ รูปรา่ งหน้าตา เคร่ืองแต่งกาย ข้าวของเคร่อื งใช้ อาวธุ - เขียนภาพตัวอย่างการ์ตนู ใหน้ กั เรยี นดูพรอ้ มคาำ อธบิ าย อาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนสภาพภูมิประเทศ - ให้นักเรยี นปฏิบตั จิ รงิ โดยวิทยากรคอยให้คาำ แนะนำา และดนิ ฟ้าอากาศ ระยะเวลาในการอบรม โครงการน้ีทำาให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับความรู้ความเข้าใจ ในการทำาหนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ได้ดีพอสมควรกับ เหมาะสมดีแล้ว ในเรื่องของระยะเวลา ระยะเวลาการอบรมช่วงส้ันๆ ซ่ึงเด็กที่เข้าอบรมส่วนใหญ่ ผลงานของนกั เรยี นท่ีเขาอบรม มีความชอบในการต์ ูนอยู่แลว้ จงึ ทำาใหไ้ ด้ผลงานเปน็ ทน่ี ่าพอใจ ความรูสกึ ทีไ่ ดรบั เชิญเปนวทิ ยากร เป็นทีน่ า่ พอใจ เหมาะสมกับเวลาทก่ี ำาหนด โครงการสเู สน ทางการต นู ประวตั ศิ สาตรน ค้ี วรทาํ ตอ เนอ่ื งหรอื ไม ยินดีและภูมิใจท่ีได้รับเกียรติให้มาเป็นวิทยากร เพื่อ ถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ ในสาขาอาชีพของตัวเอง ควรทาำ อยา่ งตอ่ เนอื่ งและขยายไปตามภมู ภิ าคตา่ งๆ เพอื่ ให้ ในการเขียนการ์ตูนให้กับนักเรียนที่เข้าอบรม ได้รับความรู้ นักเรยี น มสี ่วนรว่ มกนั ผลติ สอ่ื การต์ นู ประวตั ิศาสตรด์ ้วยตัวเอง ความเขา้ ใจ ในขนั้ ตอนการเขยี นการต์ นู และเทคนคิ ตา่ งๆ มากขน้ึ อย่างภาคภมู ใิ จ คณุ สมบตั ิของเดก็ ทเ่ี ขาอบรม อะไรเปน อุปสรรคในการอบรม ต้องมีความชอบและความสามารถในการเขียนการ์ตูน ข้นั พน้ื ฐาน รวมถงึ มีความสนใจในเรอื่ งราวทางประวตั ิศาสตร์ เด็กๆ ใจร้อนรีบลงมือปฏิบัติงานก่อนวิทยากรให้ความรู้ ข้นั ตอนการถา ยทอดความรูในการทาํ หนงั สอื การตนู และการอบรมอยู่ในชว่ งเวลาท่ีนกั เรยี นใกลส้ อบเกนิ ไป ขอเสนอแนะ เรามกี ลมุ่ เดก็ ทเ่ี ขา้ อบรมหลากหลาย ทง้ั เดก็ เลก็ และเดก็ โต ซ่ึงจะมีความนิยมชมชอบในรูปแบบของการ์ตูนแตกต่างกันไป ควรจัดหางบประมาณเพื่อจัดพิมพ์ผลงานของนักเรียน ทำาใหเ้ ราต้องปรบั พ้ืนฐานของเด็กให้ไปในทิศทางเดยี วกนั คอื ท่ีมีคุณภาพพอที่จะพิมพ์เผยแพร่ เพ่ือเป็นการสร้างจิตสำานึก - ใหร้ ูจ้ ักทม่ี าของการต์ ูนโดยสังเขป และปลูกฝังความเป็นชาติใหก้ ับเยาวชนต่อไป - ให้เข้าใจโครงสร้างสัดส่วนกายวิภาคของคนและสัตว์ เส้นทางสหู่ นงั สอื การ์ตนู ประวัติศาสตร์ ๔๕
ºÒก§ารÃ์ตÐูน¨Ñ¹ ของเดก็ ๆ
โรงเรียนเตรยี มอดุ มศกึ ษาพัฒนาการ ผู้จัดทำา ๑. นางสาวนาถนภา กิตติจารุนันท์ ๒. นางสาวธาริน ี ภริ มยน์ าม ๓. นางสาวชนกชนม์ ไทยสวสั ด์ิ ๔. นางสาวสุประวีณ ์ ประทปี อนุรักษ์ ๕. นางสาวสุชานาถ บุญยะชัย ๖. นายจกั รพทั ร์ อัศวพงษโ์ ชติ ๗. นายราวิน ร่งุ สวา่ ง ๘. นายธนกฤต วิรยิ ะรตั นากลุ ครูทป่ี รกึ ษา นางสภุ าภรณ ์ อนุ่ เมตตาจติ ๔๘ เสน้ ทางสหู่ นังสือการต์ ูนประวตั ิศาสตร์
ºÒ§ÃШѹ เส้นทางสู่หนงั สือการต์ ูนประวัตศิ าสตร์ ๔๙
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130