SAR หลักสูตร 2562

ผลงำนวจิ ัย / ผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ผ้รู ับผดิ ชอบหลักสูตรและอำจำรยป์ ร (1 สิงหำคม 2558 – 31 กรกฎำคม 2563) หนำ้ ท่ีของ อำจำรย์ ชื่อ-นำมสกลุ ผู้ ัรบ ิผดชอบห ัลกสูตร ผลงำ ประจำห ัลกสูตร ** เขียน ศ. คลนิ ิก นพ. สวุ ัฒน์ เบญจพล  Swangtrakul, N., Manuyako พทิ กั ษ์ Sasisakulporn, C., Jotikasth Effect of vitamin D on lun asthmatic children with vi controlled trial. Asian Pac 0553. Advance online pub Janjindamai, C., Manuyako D., Kamchaisatian, W., Ben haploidentical hematopoi cyclophosphamide in a ch report in Asia. Asian Pacific 0551. Advance online pub หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต

ระจำหลกั สตู รทไี่ ด้รับกำรตีพิมพเ์ ผยแพร่ ระหวำ่ งปกี ำรศึกษำ 2558 – 2562 ำนวจิ ยั / ผลงำนวิชำกำร ในรอบ 5 ปยี อ้ นหลงั คำ่ (ปีกำรศกึ ษำ 2558 – 2562) นำ้ หนกั ของ นตามหลักของการเขยี นบรรณานกุ รม แบบAPA ** ผลงำน orn, W., Mahachoklertwattana, P., Kiewngam, P., 1.0 hirapa, W., Kamchaisatian, W., & Benjaponpitak, S. (2019). ng function assessed by forced oscillation technique in itamin D deficiency: A randomized double-blind placebo- cific journal of allergy and immunology, 10.12932/AP-010519- blication. https://doi.org/10.12932/AP-010519-0553 orn, W., Anurathapan, U., Pakakasama, S., Wattanasirichaigoon, 1.0 njaponpitak, S., & Hongeng, S. (2019). Successful ietic stem cell transplantation with post-transplant hild with X-linked chronic granulomatous disease: A first c journal of allergy and immunology, 10.12932/AP-290419- blication. https://doi.org/10.12932/AP-290419-0551 29

หน้ำที่ของ อำจำรย์ ชอ่ื -นำมสกุล ผู้ ัรบ ิผดชอบห ัลกสูตร ผลงำ ดร. กิตตศิ กั ดิ์ สนิ พทิ ักษ์กุล ประจำห ัลกสูตร ** เขยี น Ittiwut, C., Manuyakorn, W J. D., Lyons, J. J., Suphape heterozygous PGM3 muta requiring monthly IVIG infu https://doi.org/10.1007/s1 Traiyan, S., Manuyakorn, W Kiewngam, P., Kamchaisat Phadiatop as a tool for dia Allergy, 194589242093830 https://doi.org/10.1177/19 Kreetapirom, P., Kiewngam Manuyakorn, W. (2020). Fo in asthmatic children. Asia https://doi.org/10.5415/ap  Sinphitukkul K. Nongeno tubular cells: Implications หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต

ำนวิจยั / ผลงำนวิชำกำร ในรอบ 5 ปยี อ้ นหลงั ค่ำ (ปกี ำรศกึ ษำ 2558 – 2562) น้ำหนัก ของ นตามหลกั ของการเขยี นบรรณานกุ รม แบบAPA ** ผลงำน W., Tongkobpetch, S., Benjaponpitak, S., Fisher, M. R., Milner, 1.0 eetiporn, K., & Shotelersuk, V. (2020). Compound ations in a Thai patient with a specific antibody deficiency usions. Journal of clinical immunology, 40(1), 227–231. 10875-019-00693-6 W., Kanchongkittiphon, W., Sasisakulporn, C., Jotikasthira, W., 1.0 tian, W., & Benjaponpitak, S. (2020). Skin prick test versus agnosis of allergic rhinitis in children. Amer J Rhinology & 00. Advance online publication. 945892420938300 m, P., Jotikasthira, W., Kamchaisatian, W., Benjaponpitak, S., & 1.0 orced oscillation technique as a predictor for loss of control a Pacific allergy, 10(1), e3. pallergy.2020.10.e3 omic effect of aldosterone on angiotensin II type 1 receptor 1.0 s for endoplasmic reticulum stress.; Science Asia ,44 / 30

หนำ้ ท่ขี อง อำจำรย์ ชื่อ-นำมสกุล ผู้ ัรบ ิผดชอบห ัลกสูตร ผลงำ ประจำห ัลกสูตร ** เขยี น ดร.ศักรนิ ทร์ ภผู านลิ 2018.332-339.  Takahashi, N., Gruber CC., Y., Andreescu S., Collins JJ shares mechanistic attribu Natl Acad Sci USA, 114(34 10.1073/pnas.1707466114 จารภุ า เลขทพิ ย,์ ธรี ะ วรรธน หกลม้ ในผู้สงู อายุ : ทบทวนวรร สิริวรรณ ศรวี งค์, นพนนั ท์ โคต นิล, ศราวธุ ลาภมณีย์. (2563) สตั วท์ ดลอง มหาวทิ ยาลัยธรรม หมำยเหตุ อาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลกั สูตร อาจารยป์ ระจาหลกั สูตร ต้องมผี ลงานทางว ค่าน้าหนักของผลงาน พจิ ารณาจากค่านา้ หนกั ของระดับคุณภาพผลงานท หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

ำนวจิ ัย / ผลงำนวิชำกำร ในรอบ 5 ปยี ้อนหลัง คำ่ (ปกี ำรศกึ ษำ 2558 – 2562) นำ้ หนัก ของ นตามหลกั ของการเขยี นบรรณานุกรม แบบAPA ** ผลงำน Yang JH., Liu )., Braff D, Yashaswini CN., Bhubhanil S., Furuta 1.0 J., Walker GC. (2017) Lethality of MalE-LacZ hybrid protein utes with oxidative component of antibiotic lethality. Proc 0.8 4): 9164–9169. Published online 2017 Aug 9. doi: 0.8 4. นารตั น์, ศักรนิ ทร์ ภผู ำนลิ , ศราวธุ ลาภมณีย์ (2019). ปัจจยั เสีย่ งตอ่ การ รณกรรมเชงิ ระบบ. J Med Health Sci, 26(1):85-103. ตรสาอุประ, ขวญั ฤทยั ชาวเมืองโขง, พลวฒั น์ ต่ิงเพช็ ร, ศักรินทร์ ภูผำ ). การประเมนิ และพัฒนาคณุ ภาพสง่ิ แวดล้อมทางจุลชีววิทยา ศูนย์ มศาสตร์. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ. 13(2). วชิ าการอยา่ งน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปยี อ้ นหลงั ทางวิชาการของอาจารยใ์ นตัวบ่งช้ี 4.2 31

ตวั บ่งชี้ 1.1 กำรบรหิ ำรจดั กำรหลกั สูตรตำมเกณฑ์มำตรฐำนหลกั สูตรที่กำหนด โดย สป.อว. เกณฑ์กำรประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำน กำรดำเนนิ กำร เอกสำร ตำมเกณฑ์ หลักฐำน ผำ่ น ไม่ผำ่ น 1. จำนวนอำจำรย์ผู้รับผดิ ชอบหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ 5 คน และเปน็ อาจารย์ อาจารย์ผ้รู บั ผิดชอบหลกั สูตร ทุกท่าน เปน็  F62-1.1.1.1-1 สมอ.08 ผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตร เกินกวา่ 1 อาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลกั สตู ร และ เป็น หลักสูตรไม่ได้ และประจาหลักสตู ร อาจารย์ประจาหลักสตู ร ตลอดระยะเวลาที่จัดการศึกษาตาม หลักสูตรน้นั 2. คณุ สมบัติของอำจำรย์ผรู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร หลกั สูตรประเภทวิชำกำร - อาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลกั สตู รมคี ุณวุฒิ  - คณุ วุฒริ ะดับปรญิ ญาโทหรือ ผูเ้ ช่ยี วชาญในสาขาวิชาชีพแพทย์ (เทยี บเทา่ ปริญญาเอก) จานวน 3 ท่านและ เทยี บเทา่ หรอื ดารงตาแหน่งทาง มีตาแหน่งทางวิชาการ 1 ทา่ น คือ วชิ าการไม่ต่ากวา่ ผ้ชู ว่ ย ตาแหน่งศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ในสาขาท่ีตรงหรอื - อาจารย์จานวน 3 ท่าน มีผลงานทาง สัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน วิชาการอยา่ งน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปี - มีผลงานทางวชิ าการอย่างน้อย 1 ย้อนหลัง รายการในรอบ 5 ปี ยอ้ นหลัง - อาจารย์จานวน 2 ท่าน มคี ุณวุฒิสาเรจ็ การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาเอก ในสาขาท่ี หลักสูตรประเภทวิชำชพี /ปฏิบัตกิ ำร สัมพนั ธ์กบั สาขาวิชาท่เี ปิดสอน - คณุ วฒุ ิระดับปริญญาโทหรือ - อาจารย์จานวน 2 ท่านเป็นแพทย์มี คณุ วุฒิผู้เช่ียวชาญอนุสาขาแพทย์ เทยี บเท่า หรือดารงตาแหนง่ ทาง (เทียบเทา่ ปริญญาเอก) ปฏบิ ัติงานประจาท่ี วชิ าการไม่ต่ากว่าผู้ชว่ ย โรงพยาบาลพระน่งั เกล้า จ. นนทบรุ ี เปน็ ศาสตราจารย์ในสาขาทตี่ รงหรอื เวลา มากกว่า 6 ปีและเปน็ อาจารย์แพทย์ที่ สัมพันธ์กบั สาขาวชิ าทีเ่ ปิดสอน สอนในช้ันคลินิก - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปี ย้อนหลงั - อาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลักสูตร หลกั สตู ร...................................... 32 32

กำรดำเนินกำร เอกสำร หลกั ฐำน เกณฑก์ ำรประเมิน ผลกำรดำเนินงำน ตำมเกณฑ์ ผ่ำน ไม่ผ่ำน จานวน 2 ใน 5 คน ต้องมี ประสบการณ์ในด้าน การปฏิบัตกิ าร 3. คณุ สมบตั ขิ องอำจำรย์ประจำหลักสูตร - มีคณุ วฒุ ิระดบั ปรญิ ญาโทหรอื - อาจารยป์ ระจาหลกั สูตรท้ัง 5 ทา่ น มี  เทียบเทา่ หรอื ดารงตาแหนง่ ทาง คณุ วุฒริ ะดับปรญิ ญาเอกหรอื เทยี บเทา่ วิชาการไม่ต่ากว่าผู้ชว่ ย - มีอาจารย์ 1 ทา่ น ดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ในสาขาท่ตี รงหรือ ศาสตราจารย์ สัมพนั ธก์ ับสาขาวิชาที่เปิดสอน - มีผลงานทางวชิ าการ 3 ทา่ น อกี 2 ทา่ น เปน็ แพทย์ประจาโรงพยาบาลหลักที่สอนใน มผี ลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 ช้ันคลินิก มากกว่า 6 ปี รายการในรอบ 5 ปี ยอ้ นหลัง - อาจารย์ประจาหลักสตู ร ทง้ั 5 ท่าน เป็น อาจารยป์ ระจาหลักสูตร และอาจารย์ ผู้รับผิดชอบหลกั สตู ร 4. คณุ สมบตั ขิ องอำจำรยผ์ สู้ อน อำจำรยผ์ ู้สอนที่เป็นอำจำรย์ประจำ อาจารย์ทุกคนมีคณุ วฒุ ริ ะดับปรญิ ญาเอก  คณุ วุฒริ ะดับปริญญาโทหรือ และโทหรอื เทยี บเทา่ ในสาขาวชิ าทางด้าน   เทียบเท่า หรือดารงตาแหน่งทาง วทิ ยาศาสตร์ หรือสาขาวชิ าที่สมั พนั ธก์ ัน วิชาการไม่ต่ากวา่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ กบั รายวิชาท่สี อนในหลกั สูตรแพทยศาสตร ในสาขาวชิ านั้น หรือสาขาวชิ าท่ี บัณฑติ สมั พันธก์ นั หรือสาขาวิชาของรายวชิ า ท่ีสอน (หากเป็นอาจารย์ผู้สอนก่อนเกณฑ์ นีป้ ระกาศใช้ อนุโลมคุณวฒุ ิระดับ ปริญญาตรไี ด้) อำจำรยผ์ ู้สอนที่เปน็ อำจำรย์พเิ ศษ -มีคณุ วุฒริ ะดบั ปริญญาเอก ปรยิ ญาโท - คณุ วฒุ ริ ะดับปรญิ ญาโทหรือ หรือปรญิ ญาตรีหรือเทยี บเท่า คุณวฒุ ปิ ริญญาตรี หรือเทียบเทา่ -มปี ระสบการณท์ างานท่ีเกยี่ วข้องกบั วิชาที่ - มีประสบการณ์ทางานทเี่ กย่ี วข้อง สอนไมน่ ้อยกว่า 6 ปี กับวชิ าทีส่ อน ไม่น้อยกวา่ 6 ปี -มชี ว่ั โมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของ - มชี ัว่ โมงสอนไมเ่ กินร้อยละ 50 ของ รายวชิ า โดยมีอาจารย์ประจาเป็น รายวิชา โดยมีอาจารย์ประจาเป็น ผรู้ ับผดิ ชอบรายวิชานัน้ ผรู้ บั ผิดชอบรายวชิ านั้น 5.การปรบั ปรงุ หลักสตู รตามรอบ อยรู่ ะหวา่ งดาเนนิ การประเมิน ทบทวนและ หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 33

เกณฑ์กำรประเมิน ผลกำรดำเนินงำน กำรดำเนนิ กำร เอกสำร ตำมเกณฑ์ หลักฐำน ผำ่ น ไมผ่ ่ำน ระยะเวลาท่ีกาหนด ต้องไม่เกิน 5 ปี พฒั นาหลักสูตร เพื่อนามาปรบั ปรงุ ตามรอบระยะเวลาของหลักสูตร หรือ หลกั สูตรใหม่ ให้เปดิ ใช้ในปีการศกึ ษา อยา่ งน้อยทกุ ๆ 5 ปี 2565 รวม 5 5 ข้อ ข้อ หมำยเหตุ หลกั สตู รปรญิ ญาตรีผา่ นเกณฑ์ทง้ั 5 ข้อ ถือวา่ หลักสูตรได้มาตรฐาน มผี ลเปน็ “ผ่ำน” หากไมผ่ า่ น เกณฑ์ข้อใดข้อหนึง่ ถือวา่ หลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน มผี ลเป็น “ไม่ผำ่ น” ผลกำรประเมนิ  ผ่าน  ไม่ผ่าน หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 34

หมวดที่ 2 อำจำรย์ ตัวบ่งช้ี 4.1 กำรบรหิ ำรและพฒั นำอำจำรย์ เกณฑ์กำรประเมิน 01 2 3 4 5  ไมม่ ี  มี  มีระบบ  มี  มี  มีระบบ มีกลไก ระบบ ระบบ มี มีกลไก ระบบ มีกลไก ระบบ มีกลไก  มีการนาระบบ  ไมม่ ี กลไก  มีการ  มีการ  มนี า กลไกไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ/ กลไก  ไม่มี นาระบบกลไก นาระบบ ระบบกลไก ดาเนินงาน  ไมม่ ี การนา ไปสกู่ าร กลไกไปส่กู าร ไปสกู่ าร  มกี ารประเมนิ แนวคิดใน ระบบกลไก ปฏบิ ัติ/ กระบวนการ การกากับ ไปสู่การ ดาเนินงาน ปฏิบตั /ิ ปฏิบัต/ิ ติดตามและ ปฏบิ ัต/ิ  มกี าร  มกี ารปรบั ปรงุ / ปรบั ปรงุ ดาเนินงาน ประเมนิ ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน พฒั นา/บูรณาการ กระบวนการจากผล  ไม่มี กระบวนการ  มกี าร  มีการ การประเมนิ ประเมนิ ประเมิน กระบวนการ กระบวนการ ข้อมลู  ไมม่ ี  มกี าร  มีการ  มีผลจากการ หลักฐาน การปรับปรุง/ ปรบั ปรุง/ ปรับปรงุ / ปรบั ปรุงเห็นชัดเจน พัฒนา พฒั นา พัฒนา เปน็ รูปธรรม กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ  มแี นวทาง จากผลการ ประเมิน ปฏบิ ตั ทิ ด่ี โี ดยมี ประเมิน หลกั ฐานเชิงประจักษ์  มีผล ยนื ยนั และกรรมการ จากการ ผู้ตรวจประเมิน ปรบั ปรุงเห็น สามารถให้เหตุผล ชดั เจนเป็น อธบิ ายการเป็นแนว รปู ธรรม ปฏิบตั ิทีด่ ไี ด้ชดั เจน ผลกำรดำเนนิ งำน ผลกำรดำเนินงำน เอกสำรหลกั ฐำน F62-2.4.1.1-2 ประเดน็ กำรพิจำรณำ กำรรบั และแตง่ ตง้ั อำจำรย์ประจำหลกั สตู ร คาส่งั แตง่ ต้งั ศ. 1. คณะฯ กาหนดให้คณะกรรมการบริหารคณะ จัดทา เกยี รตคิ ณุ นพ. การบริหารและพฒั นา นโยบายด้านทรพั ยากรบุคคล กาหนดแผนและอตั รากาลัง อมร ลลี ารศั มี อาจารย์ ของอาจารย์ และคุณสมบัตอิ าจารยท์ ้ังเชงิ ปรมิ าณและ เป็นรองอธิการบดี คณุ ภาพ มีกระบวนการสรรหาและบรรจแุ ตง่ ตั้งเปน็ ไปตาม เกณฑ์ทกี่ าหนด มกี ารกาหนดภาระงานตอบสนองต่อพันธกิจ F62-2.4.1.1-3คาสั่ง ของคณะฯ มีระบบการสง่ เสริมและพัฒนาอาจารย์ ตลอดจน มหาวิทยาลัยสยามท่ี การกากบั ดูแลเพือ่ ใหเ้ ป็นไปตามนโยบายทีก่ าหนด 10/2563 เรือ่ ง 2. มรี ะบบและกลไกการบรหิ ารหลกั สตู ร โดยกาหนดให้ แตง่ ต้ัง อาจารย์ประจาหลักสตู ร ทกุ คน เป็นกรรมการบริหาร หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 35

หลกั สูตรโดยตาแหน่ง รว่ มกับกรรมการบรหิ าร ผู้แทน คณะกรรมการ นกั ศึกษา เพื่อบรหิ ารหลกั สตู รให้มีคณุ ภาพและมีประสทิ ธผิ ล บรหิ ารหลกั สูตร ตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สตู รระดบั ปริญญาตรี พ.ศ.2558 แพทยศาสตรบัณฑติ และ มาตรฐานคุณวุฒริ ะดบั ปรญิ ญาตรี สาขาแพทยศาสตร์ ฯ พ.ศ. 2561 รวมทัง้ เกณฑม์ าตรฐานของ TMC.WFME.BME 2017 และเกณฑม์ าตรฐานอ่ืน ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง F62-2.4.1.1-4 3. มีการสนบั สนนุ ให้อาจารย์ประจาหลกั สูตร ทส่ี นใจพฒั นา ประกาศคณะ ด้านการจดั การเรียนการสอนได้มีโอกาสไปอบรมต่างประเทศ แพทยศาสตร์ และอื่น ๆ เพือ่ พัฒนาตนเองตามความสนใจภายใต้แผน มหาวิทยาลยั สยาม ยทุ ธศสตร์และแผนปฏบิ ัตกิ ารทค่ี ณะกาหนด เรื่อง นโยบายการ 4. มีการประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านตามแนวทางท่ี บริหารทรัพยากร คณะกรรมการบรหิ ารกาหนด บคุ คลและกาหนด กำรส่งเสรมิ และพัฒนำอำจำรย์ ภาระงานของ 1. คณะกรรมการบรหิ าร กาหนดนโยบายให้คณาจารย์ ต้อง อาจารยแ์ ละ ได้รับการพัฒนาในสายวชิ าชพี วชิ าการที่สนใจและ ดา้ น เจา้ หน้าที่ คณะ แพทยศาสตรศึกษา ตามแนวทางของแผนยทุ ธศาสตร์และ แพทยศาสตร์ แผนปฏิบัติการสร้างระบบการบริหารองค์กรบคุ คลที่ดี มี มหาวิทยาลัยสยาม คุณภาพและมีการพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ืองและย่ังยืน และมกี าร พ.ศ. 2563 ส่งเสรมิ เพ่ือผลติ ผลงานวิจยั และผลงานทางวชิ าการท่ีมี F62-2.4.1.1-5 คุณภาพทงั้ ในระดับชาติและนานาชาติ แผนยุทธศาสตร์ 2. ฝา่ ยวชิ าการรบั ผดิ ชอบแผนการส่งเสริมและพัฒนา และ แผนปฏบิ ัติ อาจารยจ์ ะมกี ารกากบั ติดตาม การพัฒนาของอาจารย์ ให้ การ ปี 2563 เปน็ ไปตาม ยุทธศาสตร์ ที่ 4 สร้างและถา่ ยทอดองค์ความรู้ F62-2.4.1.1-6 ดา้ นวิทยาศาสตรก์ ารแพทยใ์ ห้เป็นประโยชนใ์ นระดบั ชาติ รายงานการ และนานาชาติ ประชุม 5. ผลการดาเนินการจะถกู นาเข้าสูค่ ณะกรรมการบริหารเพ่ือ คณะกรรมการ หาโอกาศในการพัฒนาอาจารย์ รวมท้งั ติดตามความก้าวหน้า บรหิ ารการศึกษา ของการนาความรูจ้ ากการไปเขา้ รบั การอบรม มาพฒั นา หรือ ระดบั ปรีคลินิก เผยแพร่ ให้เกิดการประยุกตใ์ ช้ ใหเ้ ข้ากบั บรบิ ทขององคก์ ร ตอ่ ไป จากการพิจารณาวเิ คราะห์ข้อมลู การพัฒนาอาจารย์ พบว่า ในปกี ารศึกษาที่ผา่ นมา อาจารย์ไปเข้ารับการอบรมนอ้ ย ซง่ึ อาจมาจากหลายสาเหตุ เชน่ ไม่สะดวกไปอบรม มีกจิ กรรม อบรมในคณะนอ้ ย ขาดแรงจงู ใจใหอ้ าจารย์ไปอบรมพฒั นา ตนเอง คณะกรรมการบริหารจึงปรบั ใหม้ กี ารพัฒนาอาจารย์ ในเชงิ รบั และเชงิ รกุ คือเชญิ วทิ ยากรภายนอกมาบรรยาย หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 36

เร่อื งงานวิจัย การเขา้ ถงึ แหลง่ ทุน รวมท้งั เรอ่ื งการวดั และ ประเมินผล เพ่ือสรา้ งโอกาสให้อาจารย์ประจาหลักสตู รไดเ้ ข้า รบั การอบรม ในสว่ นท่ีเปน็ ภาระกิจสาคัญต่อการปฏิบัติงาน คะแนนกำรประเมินตวั บ่งช้ี 4.1 4 กรุณาระบเุ หตผุ ลทไ่ี ด้คะแนน 4 หรอื 5 (คาอธบิ ายที่ชัดเจนเปน็ รปู ธรรม) ตวั บง่ ชที้ ี่ 4.2 คณุ ภำพอำจำรย์ 4.2.1 รอ้ ยละของอำจำรย์ผ้รู ับผดิ ชอบหลักสูตรที่มคี ุณวฒุ ิปริญญำเอก ขอ้ มูลพ้ืนฐำน จำนวน เอกสำร หลกั ฐำน จานวนอาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลักสูตรทม่ี ีคุณวฒุ ิปริญญาตรี F62-2.4.2.1-7 จานวนอาจารยผ์ ูร้ บั ผิดชอบหลักสตู รทม่ี คี ุณวุฒปิ รญิ ญาโท รายช่อื และ จานวนอาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลักสูตรที่มคี ุณวฒุ ปิ ริญญาเอก 5 คณุ วุฒิทางการ 5 ศึกษาของ จานวนอาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลักสูตรท้งั หมด 100 อาจารย์ ร้อยละอาจารยผ์ ้รู บั ผดิ ชอบหลกั สตู รท่มี คี ุณวฒุ ิปริญญาเอก เทียบคะแนนเต็ม 5 (รอ้ ยละ 20 คิดเป็นคะแนนเตม็ 5) 5 ผู้รบั ผิดชอบ หลกั สูตร/ ใบ วว. หรือ อว. ให้ “เทียบเทา่ คณุ วฒุ ิ ปริญญาเอก 4.2.2 ร้อยละของอำจำรย์ผ้รู ับผดิ ชอบหลักสูตรทดี่ ำรงตำแหน่งทำงวิชำกำร จำนวน เอกสำร หลกั ฐำน ข้อมูลพน้ื ฐำน 4 F62-2.4.2.1-7 จานวนอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสูตรทด่ี ารงตาแหน่งอาจารย์ (ไม่มีตาแหน่งทาง รายชอื่ อาจารย์ วิชาการ) ผู้รับผดิ ชอบ จานวนอาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลกั สูตรที่ดารงตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ หลักสูตรท่ีดารง จานวนอาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู รทด่ี ารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ จานวนอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั สตู รทดี่ ารงตาแหน่งศาสตราจารย์ 1 ตาแหนง่ ทาง จานวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสตู รทีด่ ารงตาแหน่งทางวชิ าการ 1 วชิ าการ จานวนอาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู รทง้ั หมด ร้อยละของอาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลกั สูตรที่ดารงตาแหน่งทางวชิ าการ 5 เทยี บคะแนนเตม็ 5 (รอ้ ยละ 60 คิดเป็นคะแนนเต็ม 5) 20 1.67 หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 37

4.2.3 ผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ผู้รบั ผิดชอบหลักสูตร ปีกำรศึกษำ 2562 (1 ส.ค. 62 – 31 ก.ค. 63) ท่ี ผลงำนวิชำกำร/งำนสร้ำงสรรค์ที่ไดร้ บั กำรตีพิมพ์หรือเผยแพร่ ค่ำน้ำหนัก เอกสำร (เขียนตามหลักของการเขยี นบรรณานกุ รม แบบAPA) หลักฐำน 1 Swangtrakul, N., Manuyakorn, W., Mahachoklertwattana, P., 1 F62-2.4.2.3-8 Kiewngam, P., Sasisakulporn, C., Jotikasthirapa, W., Kamchaisatian, W., & Benjaponpitak, S. (2019). Effect of vitamin D on lung function assessed by forced oscillation technique in asthmatic children with vitamin D deficiency: A randomized double-blind placebo-controlled trial. Asian Pacific journal of allergy and immunology, 10.12932/AP- 010519-0553. Advance online publication. https://doi.org/10.12932/AP-010519-0553 2 Janjindamai, C., Manuyakorn, W., Anurathapan, U., 1 F62-2.4.2.3-8 Pakakasama, S., Wattanasirichaigoon, D., Kamchaisatian, W., Benjaponpitak, S., & Hongeng, S. (2019). Successful haploidentical hematopoietic stem cell transplantation with post-transplant cyclophosphamide in a child with X-linked chronic granulomatous disease: A first report in Asia. Asian Pacific journal of allergy and immunology, 10.12932/AP- 290419-0551. Advance online publication. https://doi.org/10.12932/AP-290419-0551 3 Ittiwut, C., Manuyakorn, W., Tongkobpetch, S., 1 F62-2.4.2.3-8 Benjaponpitak, S., Fisher, M. R., Milner, J. D., Lyons, J. J., Suphapeetiporn, K., & Shotelersuk, V. (2020). Compound Heterozygous PGM3 Mutations in a Thai Patient with a Specific Antibody Deficiency Requiring Monthly IVIG Infusions. Journal of clinical immunology, 40(1), 227–231. https://doi.org/10.1007/s10875-019-00693-6 4 Traiyan, S., Manuyakorn, W., Kanchongkittiphon, W., 1 F62-2.4.2.3-8 Sasisakulporn, C., Jotikasthira, W., Kiewngam, P., Kamchaisatian, W., & Benjaponpitak, S. (2020). Skin Prick Test Versus Phadiatop as a Tool for Diagnosis of Allergic Rhinitis in Children. American journal of rhinology & allergy, 1945892420938300. Advance online publication. https://doi.org/10.1177/1945892420938300 หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ 38

5 Kreetapirom, P., Kiewngam, P., Jotikasthira, W., 1 F62-2.4.2.3-8 Kamchaisatian, W., Benjaponpitak, S., & Manuyakorn, W. (2020). Forced oscillation technique as a predictor for loss of control in asthmatic children. Asia Pacific allergy, 10(1), e3. https://doi.org/10.5415/apallergy.2020.10.e3 6 จำรภุ ำ เลขทิพย์, ธีระ วรรธนำรัตน์, ศักครนิ ทร์ ภผู ำนิล, ศรำวุธ 0.8 F62-2.4.2.3-8 ลำภมณยี ์ (2019). ปจั จยั เส่ยี งตอ่ การหกลม้ ในผูส้ ูงอายุ : ทบทวน วรรณกรรมเชงิ ระบบ. J Med Health Sci, 26(1):85-103. 7 สิรวิ รรณ ศรวี งค์, นพนันท์ โคตรสาอปุ ระ, ขวญั ฤทัย ชาวเมืองโขง, 0.8 F62-2.4.2.3-8 พลวัฒน์ ตง่ิ เพ็ชร, ศกั รินทร์ ภผู ำนลิ , ศราวธุ ลาภมณยี ์. (2563). การ ประเมนิ และพัฒนาคณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ มทางจุลชวี วิทยา ศูนยส์ ัตวท์ ดลอง มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ. 13(2). จำนวนและผลรวมถ่วงน้ำหนกั ของผลงำนวชิ ำกำร/งำนสร้ำงสรรค์ ประเภทผลงำนวิชำกำร/งำนสร้ำงสรรค์ น้ำหนกั จำนวน ผลรวม ถ่วง ผลงำนทำงวิชำกร 0.20 2 นำ้ หนัก 0.40 บทความวจิ ยั หรือบทความวชิ าการฉบบั สมบรู ณ์ทีต่ พี ิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจาก 1.6 การประชมุ วิชาการระดับชาติ 0.40 0.60 บทความวิจยั หรือบทความวิชาการฉบับสมบรู ณ์ที่ตพี ิมพ์ในรายงานสืบเนอ่ื งจาก 0.80 การประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาติ หรอื วารสารทางวชิ าการระดับชาตทิ ีไ่ ม่อยู่ ในฐานขอ้ มลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรอื ระเบยี บคณะกรรมการการอุดมศกึ ษาว่า ด้วยหลกั เกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรบั การเผยแพรผ่ ลงานทาง วชิ าการ พ.ศ.2556 แต่สถาบันนาเสนอสภาสถาบันอนุมัติ และจดั ทาเป็น ประกาศให้ทราบเป็นการท่ัวไป และแจ้งให้ กพอ./กกอ. ทราบภายใน 30 วนั นบั แต่วันท่อี อกประกาศ ผลงานท่ีไดร้ บั การจดอนุสิทธิบัตร บทความวิจยั หรอื บทความวิชาการท่ตี พี ิมพ์ในวารสารวิชาการท่ีปรากฏใน ฐานข้อมลู TCI กลุ่มท่ี 2 บทความวจิ ัย หรือบทความวิชาการท่ตี ีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติท่ไี ม่ อยู่ในฐานข้อมูลตามประกาศ ก.พ.อ.หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่า ด้วยหลกั เกณฑ์การพจิ ารณาวารสารทางวชิ าการสาหรับการเผยแพรผ่ ลงานทาง วชิ าการ พ.ศ.2556 แตส่ ถาบนั นาเสนอสภาสถาบันอนมุ ตั ิ และจดั ทาเป็นประกาศ ให้ทราบเปน็ การทัว่ ไป และแจ้งให้ กพอ./กกอ.ทราบภายใน 30 วนั นับแตว่ ันที่ออก ประกาศ (ซึง่ ไม่อยู่ใน Beall’s list) หรือตีพิมพ์ในวารสารวชิ าการที่ปรากฏใน ฐานข้อมลู TCI กลุ่มท่ี 1 หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 39

ประเภทผลงำนวิชำกำร/งำนสรำ้ งสรรค์ น้ำหนกั จำนวน ผลรวม ถ่วง บทความวจิ ัย หรอื บทความวชิ าการทต่ี พี ิมพ์ในวารสารวชิ าการระดับนานาชาตทิ ี่ 1.00 5 น้ำหนกั 5 ปรากฏในฐานข้อมูลระดับนานาชาติตามประกาศ ก.พ.อ. หรอื ระเบียบ 6.6 คณะกรรมการการอุดมศกึ ษา ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์การพิจารณาวารสารทาง 5 132 วชิ าการสาหรับการเผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 5 ผลงานท่ไี ดร้ บั การจดสทิ ธบิ ัตร 1.00 ผลงานวิชาการรบั ใชส้ ังคมท่ีไดร้ บั การประเมนิ ผ่านเกณฑ์การขอตาแหน่งทาง 1.00 วชิ าการแล้ว ผลงานวจิ ัยที่หน่วยงานหรอื องค์กรระดบั ชาติวา่ จา้ งใหด้ าเนินการ 1.00 ผลงานค้นพบพันธ์ุพชื พนั ธส์ุ ตั ว์ ท่คี ้นพบใหมแ่ ละได้รับการจดทะเบยี น 1.00 ตาราหรอื หนงั สือทีไ่ ดร้ บั การประเมนิ ผ่านเกณฑ์การขอตาแหนง่ ทางวิชาการแล้ว 1.00 ตาราหรือหนงั สือท่ผี ่านการพิจารณาตามหลกั เกณฑ์การประเมนิ ตาแหนง่ ทาง 1.00 วิชาการแตไ่ ม่ไดน้ ามาขอรบั การประเมินตาแหน่งทางวชิ าการ ผลงำนสรำ้ งสรรค์ งานสร้างสรรค์ทมี่ ีการเผยแพร่สู่สาธารณะในลักษณะใดลกั ษณะหนึ่ง หรอื ผ่าน 0.20 สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ online งานสรา้ งสรรคท์ ไ่ี ดร้ บั การเผยแพร่ในระดบั สถาบนั 0.40 งานสรา้ งสรรคท์ ไี่ ด้รับการเผยแพรใ่ นระดับชาติ 0.60 งานสรา้ งสรรค์ทไ่ี ด้รบั การเผยแพร่ในระดับความร่วมมอื ระหว่างประเทศ 0.80 งานสรา้ งสรรคท์ ไ่ี ด้รับการเผยแพรใ่ นระดบั ภมู ภิ าคอาเซียน/นานาชาติ 1.00 ผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนวิชำกำรของอำจำรย์ผู้รับผิดชอบหลกั สตู ร จำนวนอำจำรยผ์ ู้รับผิดชอบหลกั สูตรทั้งหมด ร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนวิชำกำรของอำจำรยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตร เทยี บคะแนนเตม็ 5 (ร้อยละ 20 คดิ เปน็ คะแนนเตม็ 5) ผลกำรดำเนนิ งำน ผลกำรดำเนนิ งำน (คะแนน) ประเดน็ ในกำรพจิ ำรณำ 5 4.2.1 ร้อยละของอาจารย์ผู้รบั ผิดชอบหลกั สูตรทม่ี ีคุณวุฒิปรญิ ญาเอก 1.6 4.2.2 ร้อยละของอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรที่ดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการ 5 4.2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ผรู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร 3.86 (11.6*5/15) คะแนนกำรประเมินตวั บง่ ชี้ 4.2 หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 40

ตัวบง่ ชีท้ ่ี 4.3 ผลทเ่ี กดิ กับอำจำรย์ เกณฑก์ ำรประเมนิ 01 2 3 4 5  ไม่มี  มี  มกี าร  มีการ  มีการ  มกี ารรายงานผล การ การรายงาน รายงานผล รายงานผล รายงานผล การดาเนนิ งานครบทุก รายงาน ผลการ การ การ การ เรอื่ งตามคาอธบิ ายในตัว ผลการ ดาเนนิ งาน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนินงาน บ่งช้ี ดาเนนิ งาน ในบางเร่ือง ครบทกุ เร่ือง ครบทกุ เร่ือง ครบทุกเรื่อง  มีแนวโน้มผลการ ตาม ตาม ตาม ดาเนินงานท่ดี ีขนึ้ ในทุก คาอธิบายใน คาอธบิ ายใน คาอธิบายใน เร่ือง ตวั บง่ ชี้ ตวั บง่ ช้ี ตวั บ่งช้ี  มผี ลการ  มี ดาเนินงานท่ี โดดเด่น  มี แนวโนม้ ผล เทยี บเคยี งกบั หลกั สตู ร แนวโนม้ ผล การ นน้ั ในสถาบนั กลมุ่ การ ดาเนินงานที่ เดยี วกนั โดยมหี ลกั ฐาน ดาเนินงานท่ี ดีข้นึ ในทุก เชงิ ประจกั ษ์ยนื ยนั และ ดีข้ึนในบาง เรอ่ื ง กรรมการผู้ตรวจประเมิน เรื่อง สามารถให้เหตุผลอธบิ าย วา่ เป็นผลการดาเนินงาน ทีโ่ ดดเด่นอย่างแท้จริง รำยชื่ออำจำรยผ์ ู้รับผิดชอบหลักสตู ร ปกี ำรศกึ ษำ 2559 ปกี ำรศกึ ษำ 2560 ปกี ำรศึกษำ 2561 ปีกำรศกึ ษำ 2562 ศ.เกียรติคุณ. นพ. อมร ศ.เกยี รตคิ ณุ .นพ. อมร ศ.เกยี รตคิ ุณ. นพ. อมร ศ. คลนิ กิ นพ.สวุ ัฒน์ ลีลารศั มี ลลี ารัศมี ลีลารัศมี เบญจพลพิทักษ์ ศ.เกียรติคณุ . นพ. บุญเจอื ศ.เกียรติคณุ . นพ. บุญเจอื ศ.เกียรติคุณ. นพ. บญุ เจือ ดร.กิตตศิ ักดิ์ สนิ พทิ ักษ์กลุ ธรณนิ ทร์ ธรณินทร์ ธรณินทร์ นพ. วรี ะพล ธีระพนั ธ์ นพ. วีระพล ธีระพันธ์ นพ. วีระพล ธีระพันธ์ ดร. ศักรินทร์ ภผู านิล เจริญ เจรญิ เจริญ พญ. ช่อทพิ ย์ วฒั นสทุ ธิ พญ. ช่อทิพย์ วฒั นสุทธิ พญ. ชอ่ ทิพย์ วัฒนสุทธิ พญ. ช่อทพิ ย์ วัฒนสุทธิ พงศ์ พงศ์ พงศ์ พงศ์ พญ. วรภา อศั วฤทธิ พญ. วรภา อศั วฤทธิ พญ. วรภา อัศวฤทธิ พญ. ธิดารตั น์ ทดแทนคุณ ไกร ไกร ไกร รอ้ ยละกำรคงอยู่ 100 100 100 หมำยเหตุ การเปลี่ยนแปลงอาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบ ยกเวน้ กรณีเกษียณอายุ เสียชีวติ เจ็บป่วย หรือเปล่ยี นอาจารยท์ มี่ ี คณุ วฒุ ิ ตาแหนง่ ทางวชิ าการ หรือผลงานวิชาการทสี่ ูงขึ้นเพื่อพฒั นาคณุ ภาพของหลักสตู รนัน้ ใหถ้ ือว่าอัตราการคง อยู่ครบ หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 41

ควำมพึงพอใจของอำจำรยต์ ่อกำรบรหิ ำรหลกั สูตรและกำรมสี ว่ นรว่ มในกำรบริหำรหลักสตู ร ประเดน็ ในกำรประเมนิ คะแนนเฉล่ียควำมพึงพอใจ 2562 2560 2561 4.25 1.จานวนอาจารยแ์ ละคุณสมบตั ิอาจารยป์ ระจา 5.00 หลกั สูตรเปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานท่ี สกอ.กาหนด 4.6 4.75 2.มกี ารปรับปรงุ หลักสตู รตามรอบระยะเวลาที่ 4.8 กาหนด 4.6 4.75 3.มกี ารจัดประชมุ อาจารย์ประจาหลกั สตู รเป็นไปตาม 4.75 เกณฑ์กรอบ TQF และครอบคลมุ การวางแผน 4.4 4.75 ทบทวน และติดตาม 4.4 4.25 4. มีการจดั ทา มคอ.3,4 เป็นไปตามเกณฑ์กาหนด 4.4 4.00 และสอดคลอ้ งกับ มคอ. 2 3.0 5. มีการจดั ทา มคอ.5,6 เปน็ ไปตามเกณฑ์กาหนด 3.25 5.00 และสอดคล้องกบั มคอ. 3, 4 ตามลาดบั 4.75 6. มีการจัดทา มคอ. 7 เป็นไปตามเกณฑท์ ี่กาหนด 4.4 และสอดคลอ้ งกบั มคอ. 2 3.6 4.25 7. มีการสารวจภาวการณ์มงี านทาของบณั ฑิตอย่าง ต่อเน่อื ง 4.0 4.00 8. มีการประเมินคณุ ภาพของบณั ฑิตตามมาตรฐาน 3.50 การเรียนร้ทู ่กี าหนดใน มคอ. 2 จากผ้ใู ช้บณั ฑติ อย่าง 4.0 4.00 ตอ่ เนอ่ื ง 3.8 4.00 9. มรี ะบบและกลไกในการรบั สมคั รนักศึกษาทชี่ ัดเจน 4.0 5.00 10. มีระบบและกลใกลในการดแู ลใหค้ าปรกึ ษาและ 4.0 เตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาก่อนเขา้ รบั 4.4 การศึกษา 11. มีการจัดกิจกรรมพฒั นานักศึกษาทีส่ อดคล้องกับ TQF และคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ของหลักสูตร ใหก้ ับนักศกึ ษาทกุ ชน้ั ปี 12. มรี ะบบและกลไกในการรับและแตง่ ตั้งอาจารย์ ประจาหลักสตู ร 13. มีการบริการและพฒั นาอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร ในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนอื่ ง 14.มีระบบและกลไกลในการวดั และประเมินผลการ เรยี นทช่ี ัดเจน 15.มีระบบและกลในการแผนการเรยี นเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ของหลักสตู ร 16.มกี ารจดั อาจารย์ผ้สู อนในแต่ละรายวิชาตรงตาม หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต 42

ความรู้ ความสามารถและความเชย่ี วชาญ 4.0 4.25 4.50 17. มกี ารสง่ เสริมพัฒนาเทคนิคการจัดการเรียนการ 4.0 3.50 สอนท่ที ันสมยั และหลากหลายให้กับอาจารยผ์ สู้ อนใน 4.00 หลกั สตู รอยา่ งต่อเนือ่ ง 4.0 4.0 18. มีการจัดส่งิ สนบั สนนุ กาเรียนรู้ในหลกั สตู ร 4.08 ครอบคลุม ทุกดา้ นอยา่ งต่อเน่ือง 19. มกี ารประเมนิ ผลการดาเนินงานด้านตา่ ง ท่ี เกยี่ วกบั คุณภาพของหลกั สตู ร อย่างตอ่ เนื่อง 20. มีการนาผลการประเมนิ ต่าง ๆมาใชใ้ นการ วางแผนเพอื่ พัฒนาทุกครัง้ ผลประเมินควำมพงึ พอใจของอำจำรย์ หมำยเหตุ การรายงานผลการดาเนินงานอย่างน้อย 3 ชุดขอ้ มูลเพ่ือแสดงแนวโน้ม *ในปกี ารศึกษา 2560 ใชแ้ บบประเมนิ คนละชดุ กบั ปีการศึกษษ 2561 และ 2562 ผลกำรดำเนนิ งำน ประเด็นกำรพจิ ำรณำ ผลกำรดำเนนิ งำน เอกสำร หลกั ฐำน การคงอยูข่ องอาจารย์ ในปกี ารศึกษา2562 หลักสูตรแพทยศาสตรบ์ ัณฑิต มกี ารรายงานผลการ F62-1.1.1.1-1 ผู้รับผดิ ชอบหลกั สตู ร ดาเนนิ งานตามตวั บ่งช้ีคือ สมอ.08 1.รายงานจานวนอาจารยใ์ นหลกั สูตรปกี ารศึกษา 2562 พบวา่ มีอตั ราของ การคงอยขู่ องอาจารย์คิดเปน็ รอ้ ยละ100 จากจานวนอาจารย์ทั้งหมด 5 คน โดย มีอาจารย์ขอเกษียณจากตาแหน่ง 1 ท่าน อกี 3 ทา่ น เปน็ อาจารยท์ ม่ี ผี ลงานวิชาการทสี่ ูงขน้ึ เพื่อพฒั นาคณุ ภาพของหลักสตู ร จงึ แตง่ ตง้ั อาจารยใ์ หม่ 4 ท่านเข้ามาแทน ทาให้อัตราการคงอยู่ ครบ 5 ทา่ น อยา่ งต่อเน่ืองตัง้ แต่ปีการศกึ ษา 2556 2.คณะแพทยศาสตร์มีอาจารย์ประจาหลักสตู รเพยี งพอในการจัดการเรียน การสอนตามมาตรฐานหลักสูตรโดยมีอาจารยป์ ระจาหลกั สูตรทม่ี ีวฒุ ิ การศึกษาตรงตามสาขา ท้ัง 5 ทา่ น และมีอาจารยท์ ้ังหมดเป็นอาจารย์ ประจาาเตม็ เวลาท่ีมภี าระหน้าที่ในการบรหิ ารหลักสตู รและการจัดการ เรียนการสอน ค วาม พึ งพ อ ใจ ขอ ง ผลการสารวจแบบสอบถามความพึงพอใจอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสตู ร F63-2.4.3.1-9 อาจารย์ต่อการบริหาร ต่อการบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร พบวา่ แบบประเมนิ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ก า ร มี  ค่าเฉล่ยี ความพึงพอใจอาจารย์ตอ่ การบริหารจัดการหลกั สูตรปี ความพงึ พอใจ ส่วนร่วมในการบริหาร การศกึ ษา 2560..ได.้ 4.35... ของอาจารย์ต่อ หลกั สตู ร การบริหาร  คา่ เฉล่ยี ความพงึ พอใจอาจารย์ต่อการบรหิ ารจัดการหลกั สูตรปี หลกั สตู ร การศกึ ษา 2561...ได้ 4.7....  คา่ เฉล่ียความพึงพอใจอาจารย์ตอ่ การบริหารจดั การหลักสูตรปี F63-5.5.4.1- หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต 43

การศกึ ษา 2562...ได้ 4.75............ 35 คาส่งั แต่งตง้ั คณะฯ ได้ปรับปรงุ รายช่ืออาจารย์ผูร้ ับผิดชอบหลกั สูตร เพ่อื ใหก้ ารบริหาร คณะ หลกั สูตรมคี ุณภาพสูงข้ึน มปี ระสิทธภิ าพมากขนึ้ สาหรับในดา้ นความพึง กรรมการ พอใจของอาจารย์ต่อการบริหารหลกั สูตรและการมีสว่ นรว่ มในการบริหาร บรหิ าร หลักสตู ร คณะฯ ไดก้ าหนดระบบและกลไกให้อาจารยส์ ามารถบริหาร ปรคี ลินิก หลักสตู รไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิผล บรรลวุ ัตถุประสงคข์ องหลักสูตร โดย คณะกรรมการ 3 ชดุ ที่ทางานเชื่อมโยงและสนับสนนุ กนั ได้แก่ 1) F63-2.4.3.1- คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู ร ประกอบด้วยกรรมการทเี่ ป็นผู้แทนจากผู้ 31 มสี ว่ นได้เสยี ทีส่ าคัญ คือ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลพระนง่ั เกลา้ และ คาสัง่ แต่งตัง้ นักศึกษาแพทย์ เพ่ือกากบั และติดตามการบริหารหลักสูตรเชิงนโยบาย 2) คณะอนกุ รรมก คณะกรรมการบริหารหลกั สตู รระดับปรีคลินิก ประกอบด้วยอาจารย์ ารศูนย์ ผู้รับผดิ ชอบหลักสตู ร ผู้บริหารคณะและประธานรายวชิ า เพอื่ บริหารและ แพทยศาสร์ช้ัน กากับและปรับปรงุ กระบวนการดา้ นปฏบิ ตั ิการให้การเรยี นการสอนใน คลินกิ รายวชิ าตา่ ง ๆ ในระดบั ปรคี ลินกิ 3) คณะกรรมการศูนย์แพทยศาสตรช์ น้ั คลนิ กิ ประกอบด้วยอาจารย์ผู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู ร ผูบ้ รหิ ารโรงพยาบาล พระน่งั เกล้า และคณาจารย์ผู้สอน เพือ่ เพ่ือบริหารและกากับและปรบั ปรงุ กระบวนการด้านปฏบิ ตั กิ ารให้การเรยี นการสอนในรายวิชาต่าง ๆ ใน ระดบั คลนิ กิ ท้งั น้คี ณะกรรมการบริหารคณะแพทยศาสตร์ จะเป็น ผูร้ ับผดิ ชอบ ประกนั คุณภาพ พัฒนาอาจารย์ พัฒนานักศกึ ษา และ ประเมนิ หลกั สตู รอย่างต่อเน่อื ง เพื่อนาข้อมลู มาวเิ คราะห์ ทบทวน ปรับ ปรบั และพฒั นาหลักสตู รให้ทันสมยั มมี าตรฐานและสอดคลอ้ งกับความ ตอ้ งการแพทยข์ องสังคม คะแนนกำรประเมนิ ตวั บง่ ช้ี 4.3 3 กรุณาระบุเหตุผลที่ได้คะแนน 4 หรอื 5 (คาอธิบายที่ชดั เจนเป็นรปู ธรรม) หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 44

หมวดท่ี 3 นกั ศึกษำและบัณฑิต ข้อมูลนักศึกษำ ปีการศกึ ษาทรี่ ับเข้า จานวนนกั ศึกษาคงอยู่ (จานวนจริง) ในแต่ละปีการศึกษา 2562 2557 2558 2559 2560 2561 7 35 ปีการศกึ ษา 2557 53 45 44 43 41 45 43 ปีการศกึ ษา 2558 54 43 40 37 59 55 ปกี ารศกึ ษา 2559 52 49 45 244 ปีการศึกษา 2560 53 43 ปีการศกึ ษา 2561 64 ปกี ารศกึ ษา 2562 รวม 53 99 139 185 230 จานวนนกั ศึกษาทีร่ ับเข้าตามแผน (ตาม มคอ.2 ของปีทีป่ ระเมนิ ) จานวน 244 คน อตั ราการเปลีย่ นแปลงจานวนนกั ศกึ ษาในแต่ละปีการศกึ ษา สัดส่วนของนกั ศึกษาที่สอบผา่ นตามแผนกาหนดการศึกษาและยังคงศึกษาต่อในหลกั สูตรเปรยี บเทยี บกับ จานวน นกั ศึกษาทงั้ หมดของรุ่นในปีท่ีผ่านมา นักศกึ ษาชนั้ ปที ่ี 1 ทเ่ี รยี นต่อช้ันปีท่ี 2 91.84 % นักศึกษาชัน้ ปีที่ 2 ทเี่ รียนต่อชัน้ ปีท่ี 3 93.33 % นกั ศกึ ษาช้ันปที ่ี 3 ทีเ่ รียนต่อชัน้ ปีที่ 4 90.38 % นักศึกษาชนั้ ปที ่ี 4 ที่เรียนต่อชน้ั ปีที่ 5 97.92 % นกั ศึกษาชัน้ ปที ี่ 5 ทเ่ี รียนต่อชั้นปีท่ี 6 91.18 % นกั ศกึ ษาช้นั ปที ่ี 6 ทีจ่ บการศึกษา 100.00 % ปจั จัย/สำเหตุที่มผี ลกระทบต่อจำนวนนักศึกษำตำมแผนกำรศกึ ษำ ช้นั ปีที่ 1 นักศกึ ษาลาออกเพื่อสอบเข้ามหาวทิ ยาลัยของรัฐ ชั้นปที ่ี 2 การเรยี นซ้าช้นั เนอื่ งจากนักศึกษามปี ัญหาการปรับตวั เก่ยี วกบั การเรยี นจากการขา้ มผ่านการเรยี นระดบั มธั ยมปลาย มาสูก่ ารเรียนระดับปรีคลินิก และความรู้พนื้ ฐานทย่ี งั ไมเ่ พียงพอ ชนั้ ปีท่ี 3 ผลสัมฤทธิ์การศึกษาไม่ผ่านเกณฑท์ ี่จะไปเรยี นชั้นคลนิ ิก ชน้ั ปีท่ี 4 และช้ันปีที่ 5 นกั ศึกษาไม่ผา่ นบางรายวชิ า ของชั้นปีที่ 4 หรือช้นั ปที ่ี 5 ซึง่ เปน็ วิชาแกน และเป็นวชิ าท่ีมี prerequisite ของระดับ ตอ่ ไป จงึ ไมส่ ามารถผ่านขึ้นระดับชนั้ ตอ่ ไปได้ หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 45

ชั้นปที ี่ 6 - ไมม่ ี - ขอ้ มูลผ้สู ำเร็จกำรศึกษำ 2561 2562 2563 2564 2565 ปกี ำรศึกษำที่ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ รับเขำ้ ผ้สู ำเร็จ ผู้สำเร็จ ผู้สำเรจ็ ผสู้ ำเร็จ ผู้สำเร็จ กำรศกึ ษำ กำรศกึ ษำ กำรศกึ ษำ กำรศกึ ษำ กำรศกึ ษำ 2556 40 80.00 3 6.00 2557 2 3.77 34 64.15 2558 2 3.70 ปัจจัยท่ีมผี ลกระทบต่อกำรสำเรจ็ กำรศึกษำ นกั ศกึ ษาแพทย์ต้องเรยี นรายวชิ าแกนทางคลินิกซา้ เพราะยงั มีสมรรถนะทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ ตวั บ่งชี้ 3.1 กำรรับและเตรยี มควำมพร้อมกอ่ นเขำ้ ศึกษำ เกณฑก์ ำรประเมนิ 01 2 3 4 5  ไม่มี  มี  มีระบบ  มี  มี  มรี ะบบ มีกลไก ระบบ ระบบ มี มกี ลไก ระบบ มกี ลไก ระบบ มกี ลไก  มกี ารนาระบบ  ไมม่ ี กลไก  มกี าร  มีการ  มีนา กลไกไปสู่การปฏิบตั ิ/ กลไก  ไมม่ ี นาระบบกลไก นาระบบ ระบบกลไก ดาเนินงาน  ไม่มี การนา ไปสู่การ กลไกไปสู่การ ไปสู่การ  มกี ารประเมิน แนวคิดใน ระบบกลไก ปฏิบัต/ิ กระบวนการ การกากบั ไปสกู่ าร ดาเนนิ งาน ปฏบิ ัต/ิ ปฏบิ ัติ/ ติดตามและ ปฏิบัติ/  มีการ  มกี ารปรับปรุง/ ปรับปรงุ ดาเนินงาน ประเมิน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน พัฒนา/บรู ณาการ กระบวนการจากผล  ไม่มี กระบวนการ  มีการ  มีการ การประเมิน ประเมนิ ประเมิน กระบวนการ กระบวนการ ข้อมูล  ไม่มี  มกี าร  มีการ  มผี ลจากการ หลกั ฐาน การปรบั ปรงุ / ปรบั ปรุง/ ปรับปรุง/ ปรับปรงุ เหน็ ชดั เจน พัฒนา พฒั นา พฒั นา เปน็ รปู ธรรม กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ  มแี นวทาง จากผลการ ประเมนิ ปฏบิ ัตทิ ด่ี ีโดยมี ประเมิน หลกั ฐานเชิงประจักษ์  มผี ล ยนื ยนั และกรรมการ จากการ หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ 46

ปรับปรงุ เห็น ผูต้ รวจประเมิน ชดั เจนเป็น สามารถให้เหตุผล รูปธรรม อธบิ ายการเป็นแนว ปฏิบตั ทิ ี่ดไี ดช้ ดั เจน ผลกำรดำเนนิ งำน ผลกำรดำเนินงำน เอกสำร หลกั ฐำน ประเดน็ กำรพิจำรณำ 1. การรับนักศึกษา คณะฯ กาหนดคุณสมบัติ เกณฑ์รับ F63-3.3.1.1-10 การรบั และเตรียมความ พรอ้ มก่อนเข้าศกึ ษา นักศึกษาท่ีมุ่งคัดเลือกผู้สมัครท่ีมีศักยภาพและพร้อมในการ โครงการเตรียม เรียนจนสาเร็จการศึกษา มีเจตคติที่ดีต่อการเป็นแพทย์ มีความ ความพร้อมเพอื่ ตั้งใจประกอบวิชาชีพเวชกรรมเม่ือสาเร็จการศึกษา โดยให้ เป็นแพทย์ท่ดี ีและ โอกาสทงั้ ผู้ทสี่ าเรจ็ การศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรี (ทกุ สาขา) ผู้ท่ี เกง่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยและ จบการศึกษาจากโรงเรยี นปกตแิ ละโรงเรียนนานาชาติท้งั ในและ ชมุ ชน 2562 ต่างประเทศ ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยสยามว่าด้วยการศึกษา เพ่ือปริญญาแพทยศาสตรบัณฑติ F63-3.3.1.1-11 พ.ศ. 2563 คณะฯ ได้กาหนดวิธีการรับนักศึกษา 2 ระบบคือ สรปุ โครงการ ระบบรับตรงโดยคณะฯ และรับผ่านระบบคัดเลือกกสพท. เตรยี มความพร้อม ผู้ ส มั ค รต้ อ งผ่ าน เก ณ ฑ์ คั ด เลื อ ก ด้ ว ย ค ะแ น น ส อ บ วัด เพื่อเปน็ แพทยท์ ีด่ ี ความสามารถทางวิชาการและประเมินสมรรถนะด้วยการสอบ และเก่งให้ผู้ปว่ ย สัมภาษณ์ และชุมชน 2562 2.)การเตรียมความพรอ้ มก่อนเขา้ ศึกษา คณะฯ จัดให้มกี ารเตรียมความพรอ้ มทางการศึกษา ด้วยการจัด F63-3.3.1.1-32 โครงการการเตรียมความพร้อมเพ่ือเป็นแพทย์ท่ีดีและเก่ง ประกาศรับ สาหรับผู้ป่วยและชุมชน สาหรับนักศึกษาแพทย์ปีท่ี 1 ก่อน สมคั รผู้สนใจเขา้ เปิดภาคการศึกษา โดยกาหนดเปา้ หมายดงั น้ี ศึกษาใน 1. หลกั สตู รแพทยศาสตรบัณฑิตท้ังใน ระดบั เตรยี มแพทย์ หลักสตู ร ระดับปรีคลนิ ิกและระดับคลินิก แพทยศาสตร 2. กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์ และ บัณฑติ ปี จรรยาบรรณนสิ ิตนกั ศึกษาแพทยไ์ ทยของแพทยสภา การศกึ ษา 2562 3. ได้รูจ้ กั วิธกี ารปรบั ตวั และการเรียนในระดับชั้นปรีคลินิก และ และ 2563 ระดบั คลนิ ิก จากนกั ศกึ ษารุ่นพ่ี และคณาจารย์ รวมทัง้ สรา้ ง เสรมิ ความสมั พันธ์กับนกั ศกึ ษารุน่ พ่ี F63-3.3.1.1-33 4. มีจติ อาสาและจิตสาธารณะ ตระหนกั ในความสาคัญของ เกยี รติและจริยธรรมของวิชาชพี แพทย์ รวมท้ังตระหนักถึง สรปุ ผลการรบั ความรู้สกึ และศกั ดิ์ศรีของความเปน็ มนษุ ย์ของผูป้ ่วย นักศึกษาใหม่ มี กจิ กรรมประกอบดว้ ย การศึกษา 2563 1. กิจกรรมกลมุ่ และกิจกรรมสันทนการ ด้านคะแนนวิชา 2. การบรรยาย สามญั ภาษ องั กฤษ หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 47

3. ปฏิบตั ิการจติ อาสา กจิ กรรม 1 และ 2 จัดข้นึ ท่ีสถานฝึกอบรม บ้านผู้หว่าน จ. F63-3.3.1.1-34 นครปฐม ในวันท่ี 17-18 สิงหาคม 2562 สาหรบั กจิ กรรมที่ 3 ข้นึ ในชว่ ง 5-16 สิงหาคม 2562 ท่ี โรงพยาบาลสงฆ์ สถาบนั โครงการเตรียม ประสาท โรงพยาบาลราชวิถี และ สถาบนั มะเร็งแหง่ ชาติ ความพร้อม กระบวนการ นกั ศกึ ษาแพทย์ 1.วางแผนโครงการโดยใชพ้ ้ืนฐานการประเมินจากปีการศึกษา ชั้นปีท่ี 1 ก่อนหนา้ 2. ดาเนนิ กิจกรรมตามแผนและวัตถปุ ระสงค์ 3. ประเมินผล การประเมินกระบวนการ บรู ณาการผลการประเมนิ โครงการ ได้แก่ 1. ประเมินผลลัพธ์ ตามวตั ถุประสงค์ 2. ประเมินจานวนผ้เู ข้ารว่ มโครงการ และ 3. แบบสอบถามความพงึ พอใจประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากกจิ กรรม เพอ่ื ประเมนิ ผลของกระบวนการโดยนาเขา้ ประชุมวางแผนการ ดาเนินการในปีต่อไป กำรพัฒนำปรับปรุงจำกกระบวนกำรจำกผลกำรประเมิน 1. ระบบการรับนักศึกษา ในปีการศึกษา 2562 คณะฯ ได้ วิเคราะห์ผลการดาเนินการจากกระบวนการรับนักศึกษาใหม่ พบว่าคุณสมบัติและเกณฑ์ ควรเปิดกว้างรับผู้เรียนได้จากทุก สาขา ไม่ควรจากัดเฉพาะสาขาด้านวิทยาศาสตร์หรือ วิทยาศาสตร์สุขภาพ และควรเปิดกว้างสาหรับผู้เรียนท่ีสาเร็จ การศึกษาจากโรงเรียนปกติและโรงเรียนนานาชาติ ควรเปิด กว้างสาหรับการใช้คะแนนสอบวิชาการจากหลายแหล่ง ในปี การศึกษา 2563 คณะฯ ได้ปรับปรุงทั้งกระบวนการรับสมัคร คุณสมบัติ เกณฑ์ จานวนรับ และวิธีการคัดเลือกใหม่ ประกอบ กับการเกิดปัญหาโรคระบาดจากโคนาไวรัส จึงต้องปรับ กระบวนการสอบสมั ภาษณใ์ หม่ด้วย 2. ระบบเตรียมความพร้อมนักศกึ ษา คณะฯ ได้วิเคราะห์ผลการดาเนินงาน พบว่า นักศึกษาและ ผู้ปกครองมีความต้องการและมีทัศนคติตามยุคท่ีเปลี่ยนแปลง ประกอบกับการพบว่า ยังมีอัตราการเรียนซ้าในรายวิชา ระดับปรีคลินิก จนทาให้นักศึกษาสาเร็จการศึกษาไม่ได้ตาม แผน มีนักศึกษาบางคนลาออกไปสอบเข้าเรียนแพทย์ท่ีสถาบัน อื่น แสดงความยังไม่มีความผูกพันและมีสมรรถนะการเรียนรู้ท่ี เหมาะสม ในปีการศึกษา 2563 จึงได้ปรับปรุงกระบวนการ เตรียมความพร้อมท้ังด้านวิชากาและด้านสมรรถนะการเรียน เพ่ือเสริมศักยภาพให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ดีข้ึน มี เป้าหมายท่ีชัดเจน และมมีความรักและผู้พันกับมหาวิทยาลัย หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 48

มากขน้ึ 3 ผลจำกกำรปรบั ปรงุ ได้ผลการประเมนิ โดยเป็นทนี่ ่าพอใจ สรุปดงั นี้ 1. กาหนดคุณสมบัติ เกณฑ์ และวิธีการรับสมัคร วิธีการ คัดเลือก รวมทงั้ การขอแกไ้ ขขอ้ บงั คับมหาวทิ ยาลัยสยามว่าดว้ ย การศึกษาเพื่อปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต ให้ทันสมัย 2. กาหนดกระบวนการและกิจกรรมเตรียมความพร้อมนักศึกษา เช่น การอบรมปรับพ้ืนฐานวิชาการ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ นักศึกษา กิจกรรมผู้บริหารพบผู้ปกครองเพื่อแสดงถึงความ พร้อมและต้ังใจท่ีจะจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษาใหม่ ประสบความสาเร็จในการเรียนตามท่ีมุ่งหวัง กิจกรรมเตรียม นกั ศกึ ษาโดยคณาจารยและนักศกึ ษาแพทยร์ ุน่ พ่ี คะแนนกำรประเมินตัวบ่งช้ี 3.1 กรุณาระบเุ หตุผลท่ีได้คะแนน 4 หรอื 5 (คาอธบิ ายที่ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม) ตวั บง่ ชี้ 3.2 กำรส่งเสริมและพัฒนำนกั ศึกษำ เกณฑก์ ำรประเมิน 01 2 3 4 5  ไม่มี  มี  มรี ะบบ  มี  มี  มีระบบ มีกลไก ระบบ ระบบ มี มีกลไก ระบบ มกี ลไก ระบบ มกี ลไก  มกี ารนาระบบ  ไม่มี กลไก  มีการ  มีการ  มนี า กลไกไปสกู่ ารปฏิบัต/ิ กลไก  ไมม่ ี นาระบบกลไก นาระบบ ระบบกลไก ดาเนนิ งาน  ไมม่ ี การนา ไปสู่การ กลไกไปสู่การ ไปสกู่ าร  มีการประเมิน แนวคดิ ใน ระบบกลไก ปฏบิ ตั ิ/ กระบวนการ การกากบั ไปสูก่ าร ดาเนนิ งาน ปฏบิ ตั ิ/ ปฏบิ ตั /ิ ตดิ ตามและ ปฏบิ ตั /ิ  มกี าร  มกี ารปรบั ปรุง/ ปรบั ปรุง ดาเนนิ งาน ประเมิน ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน พฒั นา/บูรณาการ กระบวนการจากผล  ไม่มี กระบวนการ  มีการ  มกี าร การประเมนิ ประเมิน ประเมนิ กระบวนการ กระบวนการ ข้อมูล  ไม่มี  มกี าร  มีการ  มีผลจากการ หลักฐาน การปรบั ปรงุ / ปรับปรุง/ ปรบั ปรงุ / ปรบั ปรุงเหน็ ชดั เจน พัฒนา พัฒนา พัฒนา เปน็ รปู ธรรม กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ  มีแนวทาง จากผลการ ประเมนิ ปฏบิ ตั ิทดี่ ีโดยมี ประเมิน หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์  มีผล ยนื ยัน และกรรมการ จากการ หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 49

ปรับปรุงเห็น ผู้ตรวจประเมิน ชัดเจนเปน็ สามารถใหเ้ หตุผล รูปธรรม อธิบายการเป็นแนว ปฏบิ ัติท่ีดไี ดช้ ดั เจน ผลกำรดำเนินงำน ประเด็นกำรพจิ ำรณำ ผลกำรดำเนินงำน เอกสำรหลักฐำน 1) การควบคมุ การดแู ล 1. คณะฯ โดยคณะกรรมการกิจการนักศึกษา ร่วมกับ F63-3.3.2.1-12 คาส่ัง การให้คาปรึกษา คณะกรรมการบริหารระดับปรีคลินิก คณะอนุกรรมการ แต่งตงั้ อาจารยท์ ่ีปรึกษา วชิ าการ และแนะแนว ศูนย์แพทยศาสตรช้ันคลินิก โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และ ปี 2562 แกน่ ักศกึ ษาในระดับ คณะกรรมการบริหารคณะ กาหนดนโยบายให้นักศึกษา ปริญญาตรี แพทย์ทุกคนต้องมีอาจารย์ท่ีปรึกษา เพ่ือให้การสนับสนุน F63-3.3.2.1-13 ผล 2) การพฒั นาศกั ยภาพ และให้คาปรึกษาด้านวิชาการ ด้านกิจการนักศึกษา ชมรม ประเมินอาจารย์ที่ นกั ศึกษาระดบั ปริญญา ต่าง ๆ ด้านสวัสดิการ สโมสรนักศึกษาแพทย์ และด้าน ปรึกษาปี 2562 ตรี ให้มีทกั ษะการ ส่วนตวั อนื่ ๆ ที่อาจพบ เช่น ปัญหาการเรยี น ปัญหาสุขภาพ เรยี นร้ตู ลอดชวี ติ กายและสุขภาพจิต การเงนิ การใชช้ วี ิตในมหาวทิ ยาลยั F63-3.3.2.1-14 ทกั ษะการเรยี นรู้ใน การควบคุมการดูแลการให้คาปรึกษาวชิ าการ และแนะแนว รายงานประชมุ บรหิ าร ศตวรรษที่ 21 ใหเ้ ปน็ ผู้ แกน่ ักศึกษาในระดบั ปริญญาตรี เดอื น เดือน ม.ิ ย. 63 รว่ มสรา้ งสรรค์ ระบบอาจารยท์ ปี่ รกึ ษา ระบุการส่งต่อข้อมลู ไป นวตั กรรม และให้มี มีวัตถุประสงค์เพ่ือติดตามและช่วยเหลือนักศึกษาในเรื่อง โรงพยาบาลพระน่งั ความเปน็ พลเมืองท่ี การเรียน ทักษะการใช้ชีวิต ความประพฤติ และสุขภาพ เกล้า เขม้ แข็ง กระบวนการ กาหนดให้อาจารย์ท่ีปรึกษา 1 คน ดูแลนักศึกษาไม่เกิน 8 คน ในช้ันปรีคลินิก และ ไม่เกิน 2 คนในช้ันคลินิก ซ่ึงต้อง จัดให้มีการพบกันอย่างน้อย 1 คร้ังต่อภาคการศึกษา และ อาจารย์ท่ีปรึกษามีหน้าที่บันทึกรายละเอียดการเข้ารับการ ปรึกษาของนักศึกษา หากพบปัญหา อาจารย์ที่ปรึกษามี หน้าท่ีแจ้งต่อฝ่ายกิจการนักศึกษาเพ่ือนาส่งข้อมูลให้ฝ่าย บริหารพิจารณาดาเนินการต่อไป ทั้งน้ีข้อมูลฝ่ายปรีคลินิก และคลินิกจะถูกนาส่งเพื่อเช่ือมต่อข้อมูลระหวา่ งกันและกัน โดยขอ้ มูลความประพฤติจะถกู สง่ โดยมีชนั้ ความลับ กำรพฒั นำปรับปรุงพฒั นำระบบอำจำรย์ท่ีปรกึ ษำ คณะฯ ได้ทบทวนบทบาทหน้าท่ขี องอาจารย์ท่ีปรกึ ษา ศึกษาระบบอาจารยท์ ่ีปรึกษาที่จะตอบบรบิ ทของ คณะแพทยแ์ ละโรงพยายาบพระน่ังเกล้า มีการสารวจข้อดี ข้อเสีย และรว่ มประชุมระหว่างคณาจาย์กับผู้บริหาร พบว่า F63-3.3.2.1-15 ระบบอาจารย์ทีป่ รกึ ษาท่ปี ฏิบัติอยมู่ ีความเหมาะสมและ แผนปฏิบตั ิการฝ่าย สามารถดแู ลนกั ศกึ ษาแพทย์ไดอ้ ย่างครบถว้ น มสี ่วนท่คี วร กจิ การนักศกึ ษา พฒั นาเพิ่มคือ การจัดการให้มีการสนบั สนนุ และตดิ ตามการ หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต 50

พบกบั อาจารย์ทป่ี รึกษาของนักศึกษา การเกบ็ บันทึกข้อมลู 2 สว่ นบคุ คลอย่างเป็นระบบและรักษาความลบั ของนักศึกษา การส่งต่อประวตั ินกั ศกึ ษาท่ขี ้ึนเรยี นชน้ั คลินกิ ทโ่ี รงพยาบาล พระนงั่ เกลา้ เพ่ือให้อาจารย์ท่ีปรึกษาในโรงพยาบาลพระน่งั เกล้าได้ตดิ ตามและช่วยเหลอื ตอ่ จนสาเร็จการศึกษา 2. การพฒั นาศักยภาพนักศึกษาระดบั ปริญญาตรี ใหม้ ี ทกั ษะการเรียนรูต้ ลอดชวี ติ ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ใหเ้ ป็นผู้รว่ มสรา้ งสรรค์นวัตกรรม และใหม้ คี วามเป็น พลเมอื งทเ่ี ข้มแข็ง คณะฯ ได้กาหนดคุณลกั ษณะบณั ฑิตท่ีพึงประสงค์ ท่ี ครอบคลุมการเป็นผ้ทู ี่ใฝเ่ รียนรตู้ ลอดชวี ิต มคี วามเปน็ ผนู้ า มที กั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21 มงุ่ ทาประโยชน์แก่ สงั คมและมีความเปน็ สากล คณะฯ ไดท้ บทวนแผน ยทุ ธศาสตร์ กาหนดแผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการศกึ ษาและดา้ น กจิ การนักศึกษา เพื่อสรา้ งบัณฑติ ที่พงึ ประสงค์ จากการจัด กจิ กรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมพฒั นานักศึกษา เช่น การสนบั สนุนงานสโมสรนักศึกษา งานสหพนั ธ์นักศึกษา แพทย์ งานจรยิ ธรรมสญั จรของแพทยสภา งานชมรมต่าง ๆ งานบรกิ ารวชิ าการแก่สงั คมในวนั มหิดล ในกจิ กรรมการ เรยี นการสอน งานรบั น้องใหม่ กำรปรับปรุงพัฒนำกระบวนกำรพัฒนำนักศึกษำ ฝา่ ยกิจการนกั ศึกษา ได้ประเมนิ ความคิดเหน็ จากนักศกึ ษา เก่ยี วกับกิจกรรมพฒั นานักศึกษา ประเมินจากบัณฑิตใหม่ และประเมินจากผู้ใชบ้ ัณฑิต เพื่อนาขอ้ มลู ขอแนะนามา ปรับปรุงกระบวนการพัฒนานักศึกษา เชน่ ในปกี ารศกึ ษา 2563 มีการให้ทนุ สนับสนุนการจัดต้งั ชมรม มีการสารวจ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ จากปัญหาโรคไวรัสโคโรนาระบาด เพอ่ื ประเมนิ และให้การสนับสนุนเพ่ือลดความเดือดรอ้ น และลดผลกระทบตอ่ การเรยี นรู้ของนักศึกษา เพ่ิมโครงการ นกั ศกึ ษาแพทย์ปลอดบหุ รี่ เป็นตน้ คะแนนกำรประเมนิ ตัวบง่ ชี้ 3.2 กรุณาระบเุ หตุผลทไี่ ด้คะแนน 4 หรือ 5 (คาอธิบายท่ีชัดเจนเป็นรปู ธรรม) หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 51

ตวั บง่ ช้ีท่ี 3.3 ผลท่เี กดิ กบั นักศึกษำ เกณฑก์ ำรประเมนิ 01 2 3 4 5 ไม่มีการ มีการ มกี ารรายงาน รายงาน รายงานผล ผลการ  มีการ  มกี าร  มีการรายงานผลการ ผลการ การ ดาเนนิ งาน รายงานผลการ รายงานผล ดาเนินงานครบทุกเรื่องตาม ดาเนนิ งา ดาเนินงาน ครบทกุ เรื่อง ดาเนินงานครบ การ คาอธบิ ายในตวั บ่งชี้ น ในบางเรอ่ื ง ตามคาอธบิ าย ทุกเรือ่ งตาม ดาเนนิ งาน  มแี นวโน้มผลการ ในตัวบง่ ชี้ คาอธิบายในตวั ครบทกุ เรื่อง ดาเนินงานท่ดี ีข้ึนในทุกเร่อื ง บง่ ชี้ ตามคาอธิบาย  มี ในตัวบ่งชี้  มผี ลการดาเนินงานที่ โดดเด่น เทียบเคยี งกับ แนวโนม้ ผลการ  มี หลักสูตรน้ันในสถาบนั กลุ่ม ดาเนินงานทดี่ ี แนวโน้มผลการ เดยี วกนั โดยมหี ลักฐานเชิง ขน้ึ ในบางเรื่อง ดาเนินงานทีด่ ี ประจกั ษ์ยืนยัน และ ขนึ้ ในทุกเรือ่ ง กรรมการผ้ตู รวจประเมิน สามารถให้เหตุผลอธิบายว่า เป็นผลการดาเนนิ งานทโ่ี ดด เด่นอย่างแท้จรงิ ข้อมูลจำนวนนักศึกษำ (นบั ถงึ สิ้นปีกำรศึกษำ) ปีกำร จำนวนที่ จำนวนท่สี ำเรจ็ กำรศกึ ษำตำม อัตรำ จำนวนทีค่ ง จำนวนท่ี อัตรำกำรคงอยู่ หลกั สูตร  กำรสำเร็จ อย่สู ิน้ ปี ออกระหวำ่ ง − ศึกษำ รบั เข้ำ กำรศกึ ษำ กำรศึกษำ  ตำมเกณฑ์ 2562 เรยี นจนสนิ้ × ������������������  2560 2561 2562  ปีกำรศึกษำ  2562  × ������������������ 2556 50 40 2 6 88.00 2557 53 2 34 80.00 7 8 84.91 2558 54 67.92 35 17 68.52 2559 52 2 3.70 45 11 78.85 2560 53 0.00 43 11 79.25 2561 64 0.00 59 8 87.50 2562 55 0.00 55 5 90.91 0.00 หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต 52

ควำมพึงพอใจของนักศึกษำ ประเด็นกำรประเมิน ผลประเมนิ ควำมพงึ พอใจ 2560 2561 2562 1. การเตรียมความพร้อมก่อนเขา้ ศึกษา 4.15 4.20 4.28 2. การให้คาปรกึ ษาวชิ าการและแนะแนว 4.00 4.00 3.82 3. การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีทักษะการเรยี นรู้ตลอดชีวิต ทักษะการ ไม่ได้ ไมไ่ ด้ 4.69 เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21ใหเ้ ป็นผู้รว่ มสรา้ งสรรค์นวตั กรรม และให้มีความเปน็ ประเมนิ ประเมนิ พลเมอื งทเ่ี ข้มแข็ง 4. การจดั สิง่ สนบั สนุนการเรยี นรทู้ ีเ่ หมาะสมตอ่ การจดั การเรยี นการสอน 2.53 3.83 ผลประเมนิ ควำมพึงพอใจของนกั ศึกษำ หมำยเหตุ การรายงานผลการดาเนนิ งานอยา่ งนอ้ ย 3 ชุดขอ้ มลู เพ่ือแสดงแนวโนม้ ผลกำรดำเนนิ งำน ประเด็นกำรพิจำรณำ ผลกำรดำเนนิ งำน เอกสำรหลักฐำน อตั ราการคงอยู่ การคงอย่มู ีอัตราท่ีมีแนวโน้มสูงข้นึ ในช่วง 3 ปี F63-3.3.3.1-16 ย้อนหลงั เพม่ื ขึ้นจากร้อยละ 79.25 ในปี 2560 เป็น เอกสารการคงอยจู่ าก รอ้ ยละ 90.91 ในปี 2562 แสดงถงึ ความผูกพนั และ สานกั ทะเบียน ความเชอื่ มัน่ ในการศึกษาต่อจนสาเรจ็ การศึกษาใน หลกั สูตร อตั ราการสาเรจ็ การศึกษา การสาเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2562 นักศึกษา F63-3.3.3.1-17 แพทย์ช้ันปีที่ 6 จานวน 39 คน สาเรจ็ การศกึ ษา 39 หนังสือ เรื่องนักศึกษา คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 แพทย์ทจี่ บการศกึ ษา ปีการศึกษา 2562 ความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมี ความพงึ พอใจของนกั ศึกษาปีสดุ ท้าย/บณั ฑิตใหมท่ ี่มี F63-3.3.3.1-18 ต่อการดาเนนิ งานตา่ ง ๆ ต่อคุณภาพหลักสตู ร เฉลีย่ อยู่ในระดบั พึงพอใจปาน สรุปแบบแบบสอบถาม กลาง 3.27 ความพึงพอใจของ นักศกึ ษาปีสดุ ทา้ ย/ บัณฑิตใหม่ท่มี ีต่อ คุณภาพหลกั สูตร (รุ่นท่ี 2) คะแนนกำรประเมนิ ตัวบ่งช้ี 3.3 2 กรณุ าระบเุ หตผุ ลที่ได้คะแนน 4 หรอื 5 (คาอธบิ ายที่ชดั เจนเป็นรูปธรรม) หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 53

ตวั บ่งชท้ี ่ี 2.1 คุณภำพบัณฑิตตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดบั อุดมศกึ ษำแหง่ ชำติ และมำตรฐำนกำร อุดมศึกษำ พ.ศ.2561 ข้อมูลพืน้ ฐำน ผลกำรดำเนนิ งำน จานวนบณั ฑิตที่สาเร็จการศกึ ษาทั้งหมด (ผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2561) 42 จานวนบัณฑิตท่ีไดร้ ับการประเมนิ จากผูใ้ ชบ้ ัณฑิต 13 รอ้ ยละของบัณฑติ ทไี่ ดร้ ับการประเมนิ จากผใู้ ชบ้ ัณฑิต 31 ผลรวมของคา่ คะแนนทไี่ ดจ้ ากการประเมนิ บัณฑติ 23.31 ผลการประเมินท่ไี ดจ้ ากการประเมนิ คณุ ภาพบัณฑิตโดยเฉลี่ย 3.33 คะแนนกำรประเมินตวั บง่ ชี้ 2.1 1.79(23.31/13) หมำยเหตุ จานวนบณั ฑิต คือ จานวนผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาปีการศกึ ษา 2561 (1 ส.ค. 61 – 31 ก.ค. 62) จานวนบัณฑติ ทร่ี ับการประเมินจากผู้ใช้บณั ฑิตจะต้องไม่นอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 20 ของจานวนบัณฑิตที่ สาเรจ็ การศึกษา เอกสำรหลักฐำน F63-3.2.1.1-19 ผลประเมินจากผูใ้ ชบ้ ณั ฑิต ตัวบง่ ชีท้ ี่ 2.2 ผลงำนสร้ำงสรรค์/นวัตกรรมของนักศึกษำระดับปริญญำตรีท่ีมีประโยชน์หรือสร้ำงมูลค่ำเพิ่ม ให้หน่วยงำน ข้อมูลพื้นฐำน ผลกำรดำเนินงำน จานวนนักศึกษาระดับปริญญาตรีท่ีสร้างหรือร่วมสร้างผลงานสร้างสรรค์/นวัตกรรมท่ีมี 1 บทความวจิ ยั ประโยชนห์ รือสรา้ งมูลค่าเพ่ิมใหห้ น่วยงาน 12 รายงานวิจยั จานวนนกั ศกึ ษาชน้ั ปสี ดุ ท้ายของหลักสตู ร 2 โปสเตอร์ ร้อยละของจานวนนักศึกษาระดับปริญญาตรีท่ีสร้างหรือร่วมสร้างผลงานสร้างสรรค์/ ผลงานวิจยั นวัตกรรมท่ีมีประโยชน์หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้หน่วยงานต่อจานวนนักศึกษาช้ันปีสุดท้าย 3 บทคดั ย่อ ของหลกั สตู ร ผลงานวจิ ยั เทียบคะแนนเต็ม 5 (ร้อยละ 60 คดิ เป็นคะแนนเต็ม 5) 39 คะแนนกำรประเมนิ ตัวบ่งชี้ 2.2 46.20 5 5(39x100/39) เอกสำรหลักฐำน (ระบชุ น้ิ งานของนักศึกษา) F63-3.2.2.1-20 หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต 54

1. บทควำมวจิ ัย (จานวน 1 ผลงาน) ฉัตรชัย อังสุโรจน์, สมพร ศรีเฟ่ืองฟุ้ง, วีระเทพ งำมนุสนธ์ิกิจ,โครงการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม. วารสาร สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ปีที่ 73 ฉบับที่ 6 เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม พ.ศ. 2562. 2. รำยงำนวิจยั ฉบับสมบรูณ์ (จานวน 12 ผลงาน) รายวชิ า 249-601 เวชศาสตร์ครอบครวั และเวชศาสตร์ชมุ ชน ปีการศึกษา 2562 (อ้างองิ หนังสอื จัดสง่ รายงานวจิ ัยฉบบั สมบรณู ์ เลขท่ี นบ 0032/12020) 3. โปสเตอรผ์ ลงำนวิจัย (จานวน 2 ผลงาน) - Apinat Yodprasit, Sirapong Weawseetong, Suthijit Jintatanon. The effectiveness of health promotion interventions in COPD patient’s quality of life using CRQ measurement: a systematic review. International Federation of Medical Students' Associations Asia-Pacific Conference 2019, 20- 23June, 2019 Hong Kong. - Suthijit Jintatanon, Chayanin Wanittansirichok, Apinat Yodprasit, Sirapong Weawseetong, Pongsakorn Atiksawedparit. The prevalence and outcomes of perimortem caesarean section among cardiac arrest in pregnancy: A systematic review and meta-analysis. Asian Medical Students’ Conference 2019, June 30-July 7, Singapore. 4. บทคดั ย่อผลงำนวิจัย (จานวน 3 ผลงาน) - Kiattikul Singcha, Pornpitcha Sumithpibul, Sarawut Lapmanee. “Relationship of sleep efficiency and academic performance in physical inactivity medical students, Faculty of Medicine, Siam University”. International Medical Student Research Conference, 2019. - Pornpitcha Sumithpibul, Kiattikul Singcha, Sarawut Lapmanee. “The effects of time spent in bed and sleep quality on memory and academic performance in freshman medical students Faculty of Medicine, Siam University” International Medical Student Research Conference, 2019. - Chirayu Savedkairop, Kotchaphon Waithayakul. Patcharapol Jiamanukulkij “Doctors’ Perspectives and Medical Culture on Microorganism and Antimicrobial Resistance Microorganism at Public Tertiary Hospital in Thailand” International Medical Student Research Conference, 2019 หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ 55

ตัวบ่งชที้ ่ี 2.3 รอ้ ยละของบณั ฑิตปรญิ ญำตรที ไ่ี ด้งำนทำหรือประกอบอำชพี อิสระภำยใน 1 ปี ภาวะการมีงานทาของบณั ฑิตภายในเวลา 1 ปี วนั ที่สารวจ พ.ค. 63 ขอ้ มูลพื้นฐำน ผลกำรดำเนินงำน จานวนบณั ฑติ ทส่ี าเร็จการศึกษาท้ังหมด (ผูส้ าเร็จการศึกษา ปกี ารศึกษา 2561) 42 จานวนบัณฑติ ระดับปริญญาตรีทต่ี อบแบบสารวจเรื่องการมีงานทาภายใน 1 ปี หลงั สาเรจ็ 42 การศึกษา รอ้ ยละของบัณฑิตท่ีตอบแบบสารวจภาวะการมงี านทา (ตอ้ งไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 70 ของ 100 บัณฑิตทั้งหมด) จานวนบัณฑิตระดบั ปรญิ ญาตรีท่ไี ด้งานทาภายใน 1 ปีหลังสาเร็จการศึกษา (ไมน่ ับรวมผู้ท่ี 40 ประกอบอาชีพอิสระ) จานวนบณั ฑิตระดบั ปริญญาตรีทป่ี ระกอบอาชพี อิสระ 1 จานวนผสู้ าเรจ็ การศึกษาระดับปรญิ ญาตรีทม่ี ีงานทาก่อนเข้าศึกษา 2 จานวนบัณฑติ ระดับปรญิ ญาตรีทีศ่ ึกษาต่อระดบั บัณฑิตศกึ ษา 0 จานวนบณั ฑิตระดบั ปรญิ ญาตรีที่อปุ สมบท 0 จานวนบัณฑติ ระดับปริญญาตรที เ่ี กณฑ์ทหาร 0 จานวนบณั ฑติ ระดับปรญิ ญาตรีท่มี กี ิจการของตนเองทม่ี รี ายไดป้ ระจาอยู่แล้ว 0 จานวนบณั ฑติ ปริญญาตรีทไ่ี ด้งานทาหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี 41 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีท่ไี ดง้ านทาหรอื ประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี 97.6 4.88 เทียบคะแนนเต็ม 5 (รอ้ ยละ 60 คดิ เป็นคะแนนเตม็ 5) 4.88 คะแนนกำรประเมินตัวบ่งชี้ 2.3 หมำยเหตุ จานวนบัณฑิต คือ จานวนผู้สาเร็จการศกึ ษาปีการศกึ ษา 2561 (1 ส.ค. 61 – 31 ก.ค. 62) จานวนบัณฑติ ที่ตอบแบบสารวจจะตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 70 ของจานวนบณั ฑติ ท่สี าเร็จการศกึ ษา เอกสำรหลักฐำน F63-3.2.3.1-21 ข้อมูลการมงี านทาของบณั ฑติ หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑิต 56

กำรวิเครำะห์ผลทไี่ ด้ วิเคราะหผ์ ลการเปลีย่ นแปลงหรอื แนวโน้มของการไดง้ านทา โดยใช้ข้อมลู ภาวะตลาดแรงงาน ภาวะ เศรษฐกจิ และการเปรยี บเทยี บกบั ข้อมลู ทีผ่ ่านมาและสถาบันอน่ื ท่เี ปิดสอนสาขา/สาขาวิชาเดียวกนั เพื่อเป็นข้อมลู ในการพัฒนา/ปรับปรุงหลักสูตร 1. บัณฑิตแพทย์เกือบทั้งหมดยังนิยมท่ีจะสมัครเข้ารับการเพ่ิมพูนทักษะเพ่ือสร้างโอกาสความก้าวหน้าในวิชาชีพใน อนาคต เน่ืองจากการผ่านการเพ่ิมพูนทักษะจะได้หนังสือรับรอง (certificate) จากแพทยสภา ซึ่งจาเป็นต้องมี สาหรบั การสมคั รเข้าศึกษาตอ่ เป็นแพทย์เฉพาะทางทกุ สาขาทีเ่ ปิดสอนท้ังในและต่างประเทศ 2.บัณฑิตแพทย์เกือบท้ังหมดสมัครเข้ารับราชการในโรงพยาบาลของรัฐ ซ่ึงแสดงถึงความมุ่งทาประโยชน์ให้สังคม มากกว่าการมุ่งสร้างฐานะตนเองด้วยการไปทางานในสถานพยาบาลเอกชน หรือเปิดคลินิกทาธุรกิจส่วนตัว ซึ่ง สะท้อนถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา การขาดแคลนแพทย์ในประเทศไทย และช่วยลดภาระงบประมาณผลิตแพทย์ของรัฐบาล 3.แนวทางการพัฒนาในอนาคต ควรปรับปรุงหลกั สตู รใหบ้ ัณฑิตแพทย์มเี อกลกั ษณ์ที่แตกตา่ งจากบณั ฑิตแพทย์ สถาบันอ่ืน ๆ เพ่ือสรา้ งโอกาสความก้าวหน้าใหบัณฑติ แพทย์ทกุ คน เชน่ การมีทักษะที่ทางานทีห่ ลากหลายมากขึน้ ๆ การมีทักษะความสามารถท่ีเข้าศกึ ษาต่อได้มากขน้ึ ทง้ั ในและตา่ งประเทศ เนื่องจากในอนาคต ตาแหน่งรับราชการ จะมแี นวโน้มนอ้ ยลงอยา่ งต่อเนอ่ื ง รวมทง้ั มบี ัณฑิตแพทยท์ ี่เพม่ิ ข้ึนจากการเพ่ิมจานวนนกั ศกึ ษา เพม่ิ โรงเรยี นแพทย์ ใหม่ จึงต้องเพมิ่ ศักยภาพในการแขง่ ขันให้กับบัณฑติ แพทย์ ม. สยาม หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ 57

หมวดที่ 4 ข้อมูลสรปุ รำ สรปุ ผลรำยวิชำทีเ่ ปิดสอนในภำค/ปกี ำรศกึ ษำ (นามาจาก มคอ.5 ของแตล่ ะวชิ า) ชั้นปีท่ี 1 รหสั ชอื่ วิชำ ภำค/ A B+ B C+ 111-110 ปีกำรศึกษำ 113-108 114-101 จิตวทิ ยาทวั่ ไป 1/2562 5 14 8 10 9 114-102 121-101 การใช้ภาษาไทยเพ่ือ 1/2562 7 19 10 9 4 240-113 การสือ่ สาร 240-114 ภาษาอังกฤษ 1 1/2562 4 17 18 8 4 240-119 ภาษาอังกฤษ 2 1/2562 3 16 18 9 4 เทคโนโลยี 1/2562 31 11 8 0 0 สารสนเทศ ชวี วทิ ยาสาหรับ 1/2562 2 3 8 11 7 วทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ ปฏบิ ตั กิ ารชวี วิทยา 1/2562 18 18 6 4 3 สาหรับวทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ ฟิสิกส์สาหรับ 1/2562 29 4 4 1 3 วิทยาศาสตร์ การแพทย์ หลกั สูตร......................................

ำยวิชำของหลกั สตู ร กำรกระจำยของเกรด จำนวนนักศึกษำ C D+ D F W I S U ลงทะ สอบ เบยี น ผำ่ น 3 1 0 4 0 0 0 54 50 0 1 4 0 0 0 0 54 50 0000000 51 51 0000000 50 50 0040000 54 50 7 7 9 0 0 0 0 54 45 1 0 4 0 0 0 0 54 50 2 3 8 0 0 0 0 54 46 58 58

129-102 ศลิ ปะและสังคตี 1/2562 34 7 7 2 0 100-101 1 นิยม 100-103 3 หลกั เศรษฐศาสตร์ 2/2562 25 14 3 0 100-106 และปรัชญาของ 0 114-201 3 114-202 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 121-102 0 หลักตรรกศาสตร์ 2/2562 11 13 15 2 240-101 และทกั ษะการคิด 5 240-115 6 เพื่อการเรยี นรู้ตลอด 240-116 3 ชีวิต อาเซียนในโลกยุค 2/2562 13 17 19 0 ใหม่ ภาษาองั กฤษ 3 2/2562 7 5 15 7 ภาษาอังกฤษ 4 2/2562 3 10 16 9 คอมพวิ เตอร์สาหรับ 2/2562 48 0 0 0 การศึกษาและการ ทางาน ชวี สถิติ 2/2562 0 15 16 5 เคมพี นื้ ฐานและเคมี 2/2562 8 10 7 5 อินทรยี ส์ าหรบั 2/2562 6 10 10 9 วทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ ปฏิบัตกิ ารเคมี พื้นฐานและเคมี อนิ ทรีย์สาหรับ หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

0004000 54 50 0003000 46 43 0 0 1 0 0 0 0 45 44 0003000 52 49 0000000 41 41 0000000 42 42 0002000 50 48 3130000 48 45 4240000 46 42 2 0 4 0 0 0 0 44 40 59

240-119 วทิ ยาศาสตร์ ภาคฤดู 0 0 0 0 2 การแพทย์ รอ้ น/2562 ฟสิ กิ ส์สาหรบั วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ชน้ั ปีท่ี 2 ชอื่ วิชำ ภำค/ A B+ B C+ รหสั ปีกำรศกึ ษำ 114-303 การใช้ 1/2562 5 10 18 10 4 129-101 ภาษาองั กฤษเพื่อ 240-201 วชิ าชีพ 240-202 พลศึกษาและ 1/2562 45 2 0 0 0 240-203 นันทนาการ 240-204 เวชจรยิ ศาสตรแ์ ละ 1/2562 16 18 12 1 0 การประกอบ วิชาชพี เวชกรรม ชีวเคมีและ 1/2562 0 0 4 8 34 ชีววิทยาระดับ โมเลกลุ ปฏิบตั ิการชีวเคมี 1/2562 3 5 14 11 14 พ้ืนฐานทาง 1/2562 4 7 14 9 11 วิทยาศาสตร์ หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต

0000000 2 2 กำรกระจำยของเกรด จำนวนนกั ศกึ ษำ C D+ D F W I S U ลงทะ สอบ เบียน ผ่ำน 00 47 47 00000 0 0 0 0 0 0 0 47 47 0 0 1 0 0 0 0 48 47 4 0 3 5 0 0 0 0 54 46 40 0 1 0 0 0 0 48 47 12 2 1 0 0 0 0 50 45 60

240-205 การแพทย์ 1 1/2562 1 0110 พนื้ ฐานทาง 1/2562 4 240-206 วทิ ยาศาสตร์ 8 9 12 11 การแพทย์ 2 1/2562 3 240-214 2/2562 6 6 10 12 15 พ้นื ฐานทาง 240-207 วิทยาศาสตร์ 2/2562 2 8 11 10 12 การแพทย์ 3 240-208 2/2562 2 9 10 8 27 240-209 พ้นื ฐานทาง 2/2562 6 7 4 8 18 240-210 วทิ ยาศาสตร์ 2/2562 3 6 8 5 19 240-211 การแพทย์ 2-1 2/2562 4 4 5 11 21 240-212 2/2562 4 8 11 14 9 240-213 ระบบผวิ หนงั และ 36 8 0 0 249-201 เน้อื เยอื่ เก่ียวพนั ที่ 2/2562 9 6 12 7 15 เกีย่ วขอ้ ง ระบบกระดกู และ กล้ามเนือ้ ระบบประสาท 1 ระบบประสาท 2 ระบบหายใจ 1 ระบบหายใจ 2 เวชปฏิบัติใน อาเซยี น เวชศาสตร์ป้องกนั และสงั คม หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

0000000 3 3 1 1 0 6 0 0 0 0 51 44 5 0 2 2 0 0 0 0 50 46 2 2 1 1 0 0 0 0 51 47 70 0 1 0 0 0 0 57 56 8 10 0 3 0 0 0 0 52 39 95 2 2 0 0 0 0 53 44 10 4 3 0 0 0 0 51 44 49 46 1020000 49 48 0010000 50 49 50 0 1 0 0 0 0 61

ชนั้ ปที ่ี 3 ชื่อวิชำ ภำค/ A B+ B C+ C รหสั ปีกำรศึกษำ 114-304 เทคนิคการใช้ 1/2562 8 15 9 9 3 ภาษาองั กฤษเพ่ือ 240-301 การนาเสนอทาง 1/2562 7 13 14 7 3 วชิ าชพี 240-302 สร้างเสรมิ สุขภาพ 1/2562 4 10 7 11 13 240-303 และการบริบาล 1/2562 6 5 11 11 11 240-304 สขุ ภาพโดยยดึ คน 1/2562 2 6 13 10 9 เปน็ ศนู ยก์ ลาง 240-305 ระบบหวั ใจหลอด 1/2562 26 17 8 7 240-306 เลอื ด 1 1/2562 15 13 8 13 100-104 ระบบหวั ใจหลอด 1/2562 0 เลือด 2 37 4 40 ระบบทางเดนิ อาหารและ โภชนาการ ระบบตอ่ มไร้ท่อ ทกั ษะพ้ืนฐานทาง คลนิ ิก มนษุ ยสมั พันธ์ และการพฒั นา บุคลิกภาพ หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ

กำรกระจำยของเกรด จำนวนนักศึกษำ D+ D F W I S U AU ลงทะ สอบ เบยี น ผ่ำน 0 0 0 0 0 0 0 0 44 44 0 0 0 0 0 0 0 1 45 45 0 1 0 0 0 0 0 1 47 46 0 1 0 0 0 0 0 1 46 45 4 0 0 0 0 0 0 1 45 41 5000000 1 46 41 0220000 1 45 41 0000000 1 46 46 62

240-307 บทนาเวชศาสตร์ 2/2562 8 14 15 4 2 240-308 คลินิก 2/2562 9 10 12 4 4 240-309 ไตและระบบ 2/2562 2 6 11 11 11 240-310 ปสั สาวะ 2/2562 3 6 5 12 14 240-312 ระบบสืบพนั ธแ์ุ ละ 2/2562 0 0101 240-313 ระยะปริกาเนดิ 1 2/2562 3 13 11 5 11 249-301 ระบบสืบพนั ธแ์ุ ละ 2/2562 6 11 13 8 6 ระยะปริกาเนิด 2 ระบบโลหิตวิทยา 2 ระบบโลหิตวทิ ยา เวชศาสตร์ ครอบครัวและเวช ศาสตร์ชมุ ชน 1 ชน้ั ปีท่ี 4 ชือ่ วิชำ ภำค/ A B+ B C+ ปีกำรศึกษำ รหสั อายรุ ศาสตร์ 1 ทกั ษะ 2562 0 2 6 13 22 241-401 อายรุ ศาสตร์ 2562 1 6 13 18 5 241-402 ศัลยศาสตร์ 1 242-401 2562 1 0 7 15 22 หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต

0 0 1 0 0 0 0 1 45 44 40 3 0 2 0 0 0 0 1 45 42 41 1 3 1 0 0 0 0 1 47 2 44 2 1 1 0 0 0 0 1 45 45 0000000 0 2 0010000 1 45 0000000 1 45 กำรกระจำยของเกรด จำนวนนกั ศึกษำ C D+ D F W I S U ลงทะ สอบ เบียน ผำ่ น 20 0 3 0 0 0 0 46 43 2030000 48 43 2 0 0 3 0 0 0 0 48 45 63

242-402 ทกั ษะศลั ยศาสตร์ 2562 0 2 5 22 15 243-401 สูตศิ าสตร์และนรี 2562 0 0 2 15 26 เวชวิทยา 1 244-401 กมุ ารเวชศาสตร์ 1 2562 0 1 1 13 28 249-401 เวชศาสตร์ 2562 16 5 14 9 3 ครอบครวั และเวช ศาสตรช์ ุมชน 2 242-403 วิสญั ญีวิทยา 2562 1 6 6 13 19 241-403 จติ เวชศาสตร์ 1 2562 9 8 17 6 6 247-401 นิตเิ วชศาสตร์ 1 2562 0 1 5 12 29 248-401 รงั สีวทิ ยา 2562 1 2 6 18 21 240-403 การจัดการกบั 2562 0 0 0 0 0 ความเครยี ดและ การพัฒนาตนเอง ชน้ั ปีที่ 5 ช่ือวิชำ ภำค/ A B+ B C+ ปกี ำรศึกษำ รหัส อายรุ ศาสตร์ 2 5 10 73 ศลั ยศาสตร์ 2 2562 7 77 3 10 241-501 สูตศิ าสตร์และนรี 2562 5 15 12 14 242-501 2562 0 243-501 หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

50 0 4 0 0 0 0 48 44 60 2 2 0 0 0 0 47 43 82 0 3 0 0 0 0 48 43 0000000 47 47 90 1 1 0 0 0 0 47 45 1000000 47 46 47 47 90 0 0 0 0 0 0 50 48 10 1 1 0 0 0 0 46 46 0 0 0 0 0 46 0 กำรกระจำยของเกรด จำนวนนกั ศกึ ษำ C D+ D F W I S U ลงทะ สอบ เบยี น ผำ่ น 0002000 34 32 00 1 0 0 0 0 0 33 32 4 0 0 0 1 0 0 0 33 32 64

เวชวทิ ยา 2 244-501 กมุ ารเวชศาสตร์ 2 2562 0 1 3 6 22 245-501 ศัลยศาสตร์ออร์ 2562 10 7 6 7 1 โธปิดคิ ส์ 1 249-501 เวชศาสตร์ 2562 3 15 8 5 0 ครอบครัวและเวช ศาสตร์ชุมชน 3 247-501 นิตเิ วชศาสตร์ 2 2562 18 9 4 1 1 247-502 ประสบการณ์ 2562 8 10 15 0 0 คลนิ ิก นติ เิ วช ศาสตร์ 1 245-502 เวชศาสตร์ฟื้นฟู 2562 18 8 1 2 4 241-502 จติ เวชศาสตร์ 2 2562 5 3 11 4 9 246-501 จกั ษวุ ิทยา 2562 10 12 3 3 5 246-502 โสต ศอ นาสกิ 2562 21 5 4 2 1 วทิ ยา 240-405 ประสบการณ์การ 2562 0 0 0 0 0 วิจัยทางการแพทย์ หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

21 1 0 0 0 0 0 34 32 0020000 33 31 0002000 33 31 0000000 33 33 0000000 33 33 0000000 33 33 0001000 33 32 0000000 33 33 0000000 33 33 0 0 0 1 0 32 0 33 32 65

ชัน้ ปที ี่ 6 ช่ือวิชำ ภำค/ A B+ B C+ ปกี ำรศกึ ษำ รหสั 241-601 เวชปฏบิ ตั ิ 2562 5 11 15 7 1 241-602 อายุรศาสตร์ 1 242-601 242-602 เวชปฏบิ ัติ 2562 4 12 17 6 0 243-601 อายุรศาสตร์ 2 243-602 244-601 เวชปฏบิ ัติ 2562 3 9 15 10 2 244-602 ศลั ยศาสตร์ 1 245-601 เวชปฏิบตั ิ 2562 1 18 20 0 0 247-601 ศัลยศาสตร์ 2 เวชปฏบิ ตั ิสตู ิ 2562 10 11 15 3 0 ศาสตร์ เวชปฏบิ ตั นิ รเี วช 2562 5 17 10 6 1 วิทยา เวชปฏิบตั ิกมุ ารเวช 2562 0 7 18 11 3 ศาสตร์ 1 เวชปฏบิ ัตกิ ุมารเวช 2562 4 22 9 4 0 ศาสตร์ 2 ศลั ยศาสตร์ออร์ 2562 10 14 7 3 5 โธปิดคิ ส์ 2 ประสบการณ์ 2562 31 8 0 0 0 คลนิ กิ นติ เิ วช ศาสตร์ 2 หลกั สูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ

กำรกระจำยของเกรด จำนวนนักศึกษำ C D+ D F W I S U ลงทะ สอบ เบยี น ผ่ำน 0000000 39 39 0000000 39 39 0 0 0 0 0 0 0 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 0000000 39 39 66