Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิทยาการคำนวณ 64

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ 64

Published by K Note Book, 2021-06-15 17:59:00

Description: แผนการสอนวิทยาการคำนวณ 64

Search

Read the Text Version

โครงการจัดการเรียนรู้รายวชิ า วทิ ย จานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ภาคเร ผลการเรยี นรู้/ หนว่ ยการเรียนรู้ ทกั ษะ ประเมนิ ด้วย ตวั ชี้วดั วธิ กี าร 1. การออกแบบ วิเคราะห์ ว.4.2 ม.1/1,ม.1/2 และการเขียน อธิบาย - ตรวจการทา อลั กอริทมึ กจิ กรรมท้ายบท -สงั เกตพฤติกรรม -สงั เกต กระบวนการศกึ ษา ว.4.2 ม.1/2 2. การออกแบบ สบื คน้ ข้อมลู - ตรวจชน้ิ งานกล่มุ และการเขียน อธิบาย -สงั เกตพฤตกิ รรม โปรแกรมเบ้อื งต้น วเิ คราะห์ -สงั เกต กระบวนการศกึ ษา ออกแบบ

ยาการคานวณ รหสั วิชา ว21181 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 รยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ผู้สอนนายบณั ฑติ รามศรี เครื่องมือประเมนิ ภาระช้นิ งาน สอ่ื คะแนน เวลา 25 (ชว่ั โมง) -ใบกจิ กรรมทา้ ยบท - ใบกจิ กรรมท้ายบท -สือ่ นาเสนอ -แบบสังเกต - Youtube 5 พฤติกรรมการ -กิจกรรมกลุ่มการ -หนงั สอื เรียน ปฏิบัติงานรายบคุ คล ออกแบบและการเขยี น 25 5 -แบบประเมิน โปรแกรมเบื้องต้น -สอ่ื นาเสนอ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ - Youtube ประสงค์ -หนงั สอื เรยี น - แบบประเมิน ช้นิ งานกลมุ่ -แบบสังเกต พฤติกรรมการ ปฏิบัตงิ านรายบุคคล -แบบประเมิน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ผลการเรียนร้/ู หน่วยการเรียนรู้ ทกั ษะ ประเมนิ ดว้ ย ตัวช้วี ดั วธิ กี าร ว.4.2 ม.1/3 3. การจดั การ สบื คน้ ข้อมลู - ตรวจช้นิ งาน ข้อมลู สารสนเทศ อธิบาย -สงั เกตพฤตกิ รรม วเิ คราะห์ -สังเกต ออกแบบ กระบวนการศกึ ษา ว.4.2 ม.1/4 4. การใช้ สบื ค้นขอ้ มลู - ตรวจช้ินงาน เทคโนโลยี อธบิ าย -สังเกตพฤติกรรม สารสนเทศอยา่ ง วเิ คราะห์ -สังเกต ปลอดภัย กระบวนการศึกษา คาแนะนา 1. นาขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะห์หลกั สตู ร โครงสร้างหลกั สูตร มากรอกลงตา

เครอื่ งมอื ประเมิน ภาระช้นิ งาน สื่อ คะแนน เวลา (ชัว่ โมง) - แบบประเมนิ - กจิ กรรมกลมุ่ การจดั การ -สอื่ นาเสนอ 25 5 ชิน้ งานกลุ่ม ขอ้ มูลสารสนเทศ - Youtube 25 5 -แบบสงั เกต -หนังสือเรยี น พฤติกรรมการ - เกียรติบตั ร be internet ปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล awesome 3 ฉบับ -เว็บไซต์ be -แบบประเมนิ internet คุณลกั ษณะอันพึง awesome ประสงค์ -สือ่ นาเสนอ - Youtube - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน -แบบสงั เกต พฤติกรรมการ ปฏบิ ัติงานรายบคุ คล -แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ามแบบฟอร์มนี้

ประมวลรายวชิ า (Course Syllabus) ชื่อวิชาวิทยาการคานวณ รหสั วชิ า ว21181 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรฯ์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียน 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด ครผู ้สู อน เวลา สดั สว่ นคะแนน % รวม (%) 1. การออกแบบและการ ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2 ครบู ณั ฑิต 4 15 15 เขยี นอลั กอริทึม 2. การออกแบบและการ ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2 ครูบณั ฑิต 5 15 15 เขยี นโปรแกรมเบื้องตน้ การทดสอบกลางภาค ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2 ครูบัณฑิต 1 20 20 3. การจัดการข้อมูลสารสนเทศ ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4 ครบู ัณฑติ 4 15 15 4. การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4 ครูบัณฑติ 5 15 15 สารสนเทศอย่างปลอดภัย การสอบปลายภาค ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4 ครบู ณั ฑิต 1 20 20 ทุกผลการเรยี นรู้ 20 100 100

คาอธิบายรายวชิ า ชื่อวิชาวทิ ยาการคานวณ รหัสวิชา ว21181 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียน 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะที่จาเป็นต่อการแก้ปัญหา ข้ันตอนการแก้ปัญหา การเขียน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ที่มกี ารใช้งานตัวแปร เง่ือนไข และการวนซ้า เพือ่ แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือ วิทยาศาสตร์ โดยการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การประมวลผลขอ้ มูล การสรา้ งทางเลอื กและประเมนิ ผลเพื่อตัดสินใจซอฟต์แวร์ และบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการจัดการข้อมูล แนวทางกาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัย การจัดการอัต ลกั ษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกาหนดการใช้สอื่ และแหล่งข้อมลู ในเขตเศรษฐกจิ พิเศษ นาแนวคิดเชิงนามธรรมและขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขียนโปแกรม หรอื การแก้ปญั หาในชีวิต จริง รวบรวมข้อมูลและสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภยั เกิดประโยชนต์ ่อการเรยี นรู้ และไม่สร้างความเสยี หายให้แก่ผู้อนื่ ตวั ช้วี ดั / ผลการเรยี นรู ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ใี ชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพื่อแก้ปัญหาหรืออธบิ ายการทางานท่ี พบในชวี ิตจริง ม.1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ ม.1/3 รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมนิ ผลนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลาย ม.1/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ใชส้ ่อื และแหล่งขอ้ มลู ตามข้อกาหนดและ ขอ้ ตกลง รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

ข้อตกลงในการวัดประเมินผล รายวชิ า 1. รายละเอียดในการวดั ประเมินผล อัตราส่วน = คะแนนระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค 2. กาหนดภาระงาน / ชนิ้ งาน / การทดสอบ -------------------------------------------------------------------------------- ในการเรียนรายวิชาวิทยาการคานวณ ได้กาหนดใหน้ ักเรยี นทากิจกรรม / ปฏิบตั ิงาน (ชิน้ งาน) ดังนี้ ท่ี ภาระงาน ผลการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั ประเภทงาน กาหนดสง่ 1 ออกแบบและการเขยี นอัลกอรทิ ึม ข้อที่ ว/ด/ป กลมุ่ เดี่ยว ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2  สง่ ในชั่วโมงเรยี น 2 ออกแบบและการเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้น ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2  ส่งในชัว่ โมงเรยี น 3 จดั การข้อมลู สารสนเทศ 4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4  สง่ ในชว่ั โมงเรียน ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4  สง่ ในช่วั โมงเรียน 5 หมายเหตุ มีการบูรณาการภาระงานทีม่ อบหมายให้นกั เรยี นปฏิบัติ ดงั นี้ ( ) บูรณาการในกลุ่มสาระฯเดียวกัน รว่ มกับ รายวชิ า......................................................ชนั้ .......................................... ( ) บูรณาการข้ามกลมุ่ สาระฯ รว่ มกับ กล่มุ สาระฯ............................... รายวชิ า........................... ชั้น .............. ( ) บูรณาการในระดับชนั้ เดียวกัน รว่ มกับ กลุ่มสาระฯ................................รายวชิ า.................................................

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 รายวิชา วิทยาการคานวณ รหสั ว21181 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นคลองใหญ่วิทยาคม ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาค ผสู้ อน เรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เรื่อง แนวคดิ เชงิ นามธรรม เวลา 2 ช่ัวโมง นายบณั ฑิต รามศรี 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้การทางาน และ การแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม ตวั ชวี้ ดั ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทมึ ท่ีใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพอื่ แก้ปัญหาหรืออธิบายการทางานที่พบใน ชีวติ จรงิ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการนาแนวคิดเชิงนามธรรมมาใช้วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาและถ่ายทอด แนวคิดได้ 2. นักเรยี นสามารถอธบิ ายการคัดเลือกคุณลกั ษณะทจี่ าเป็นตอ่ การแก้ปัญหาได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ(P) 1. นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งการนาแนวคิดเชิงนามธรรมมาใชว้ เิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาและถ่ายทอด แนวคดิ ได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างการคัดเลือกคณุ ลกั ษณะที่จาเป็นต่อการแก้ปัญหาได้ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค(์ A) 1. นกั เรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ 2. นกั เรียนมีความมุ่งมนั่ ในการทางาน 3. สาระสาคัญ

แนวคดิ เชงิ นามธรรม (Abstract tract หรอื Abstraction) เปน็ องคป์ ระกอบหนงึ่ ของแนวคิดเชิงคานวณ (Computational thinking) ซึง่ ใช้กระบวนการคดั แยกคุณลกั ษณะท่ีสาคัญออกจากรายละเอียดปรึกย่อยของปญั หา เพือ่ ให้ไดร้ ายละเอียดของข้อมูลทีจ่ าเปน็ และเพยี งพอในการแก้ปัญหา 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์  ความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ความซือ่ สัตย์สุจริต  มวี นิ ยั  ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมั่นในการทางาน  รักความเป็นไทย  มีจติ สาธารณะ 6. ทักษะ/กระบวนการ (ประจาวิชา) - ทกั ษะการรู้จกั ตนเอง - ทักษะการแสวงหาข้อมูล ขา่ วสาร ความรู้ - ทกั ษะการคดิ การตดั สินใจและการแกป้ ัญหา 7. แนวความคิดเพ่ือการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21  ทักษะดา้ นการเรยี นรู้และนวัตกรรม  สาระวิชาหลัก (Core Subjects)  ทกั ษะด้านชีวติ และอาชพี  ทักษะด้านสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี 8. การบูรณาการเรยี นรู้  พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของ ร.10  ดา้ นท่ี 1 มที ศั นคติที่ถูกต้องต่อบา้ นเมอื ง  ดา้ นที่ 2 มีพ้นื ฐานชีวิตท่มี ั่นคง มีคุณธรรม  ด้านท่ี 3 มงี านทา มีอาชีพ  ด้านท่ี 4 เป็นพลเมอื งดี  หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง  หลกั สตู รเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ( หลกั สตู รท้องถิ่น)  หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา  สะเตม็ ศกึ ษา 9. จดั กระบวนการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรียน

ชัว่ โมงท่ี 1 ขั้นนา 1. นกั เรยี นทุกคนเขา้ ห้องเรียนออนไลนท์ ีค่ รจู ดั เตรยี มให้ 2. ครแู นะนาการเขา้ ห้องเรียนออนไลน์ Google Classroom 3. ครพู ดู คยุ สรา้ งข้อตกลงเรอ่ื งการเรยี นกับนกั เรยี น 4. ครูแนะนาแนวทางการเรยี นให้เกิดประสิทธภิ าพสงู สุด 5. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนโดยใช้ โปรแกรม Quizizz ข้นั สอน 6. ผู้สอนให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน บทท่ี 1 แนวคิดเชิงนามธรรมและให้นักเรียนศึกษาความหมายของ แนวคดิ เชงิ นามธรรม หรอื แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ครไู อที (kru-it.com) 7. ผู้สอนอธิบายตัวอย่างท่ี 1.1 คาทักทาย Hello ในภาษาอังกฤษรูปแบบต่าง ๆ แล้วให้นักเรียนบอก รายละเอยี ดที่แตกตา่ งกนั เชน่ สี รปู แบบตัวอกั ษร ตัวอกั ษรพมิ พใ์ หญ่หรอื พมิ พเ์ ล็ก และรายละเอียดอน่ื ๆ 8. ผู้สอนอธิบายตัวอย่างที่ 1.2 คัดกรอกรายละเอียดของคาว่า Hello และอธิบายตารางที่ 1.1 คาอธิบาย คุณลกั ษณะของคาวา่ Hello ตามรายละเอียดทต่ี อ้ งการ 9. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังวา่ “ในการแก้ปัญหาหน่ึงอาจมีวกี ารแก้ปัญหาได้หลายวธิ ี ข้ึนอยู่กับการมองปัญหา การเห็นรายละเอียด เปา้ หมายของปัญหา และประสบการณ์ของผแู้ กป้ ัญหา 10.ครูเปิดรูปเขียนคาว่า Hello ของครูให้นักเรียนดู พร้อมกับอธิบายว่า “คาว่า Hello แต่ละตัวมีรูปแบบท่ี แตกตา่ งกันข้ึนอยู่กับประสบการณ์ของแตล่ ะคน จากตวั อย่าง จะเห็นรายละเอยี ดท่ีแตกตา่ งกนั เช่น สี รูปแบบตวั อักษร เป็นต้น ซึ่งรูปแบบท่ีแต่ละคนมีอยู่ ถ้าจะถ่ายทอดให้ผู้อ่ืนรับรู้และเข้าใจทุกอย่าง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และอาจจะไม่ มคี วามจาเป็นที่ผ้อู ่นื จะต้องรบั รทู้ ั้งหมด” Hello 11. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า “ในที่ น้ีหากผู้รับข้อมูลต้องการทราบแค่ว่าคานี้ประกอบไปด้วยอักขระใดบ้าง โดยไม่สนใจองค์ประกอบอ่ืน ๆ ภาพๆ น้ีจะมีองค์ประกอบเชิงนามธรรมคือ เป็นคาท่ีประกอบด้วยอักขระ H,E,L,L และ O เท่านัน้ ” Hello 12.นกั เรยี นทากิจกรรมโดยมคี าถามวา่ จากภาพในบทเรยี น ให้นักเรียนคัดกรองรายละเอยี ดของ คาวา่ HELLO โดยตอบคาถามต่อไปน้ี 9.1 ข้อมลู ประกอบดว้ ยคากค่ี า 9.2 ข้อมูลประกอบด้วยอักขระกี่อักขระ 9.3 ขอ้ มลู ประกอบด้วยอักขระใดบา้ ง

9.4 ขอ้ มลู ประกอบดว้ ยอักขระใดบ้าง แต่ละอักขระประกอบด้วยสอี ะไร 9.5 ขอ้ มลู ประกอบด้วยอักขระใดบา้ ง แตล่ ะอกั ขระเปน็ ตวั อกั ษรพมิ พ์ใหญห่ รือพิมพ์เล็กและมสี ีอะไร 13. ผู้สอนให้นักเรียนออกแบบชื่อเล่นเป็นภาษาอังกฤษ โดยให้นักเรียนบอกรายละเอียดตามตัวอย่างที่ 1.2 และทากิจกรรมท่ี 1.1 ดงั น้ี  ให้นกั เรียนวาดรปู บา้ นในจินตนาการของตนเอง  จับคแู่ ลว้ ผลดั กนั อธบิ ายรายละเอียดบ้านของตนเองให้เพื่อนวาดตาม โดยไม่ให้เพ่อื นเห็นรปู บ้าน ต้นฉบบั  ให้เปรียบเทียบรูปบา้ นของตนเองกับรูปบ้านทีเ่ พอื่ นวาดว่ามสี งิ่ ใดบา้ งทเี่ หมือนและแตกตา่ งกัน จัดกลมุ่ รปู บ้านของนักเรียนทั้งห้อง นักเรียนจะใชเ้ กณฑ์อะไรในการจัดกลุ่ม และจดั ไดก้ ี่กลุม่ ขัน้ สรุป 14. ครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า “กิจกรรมท่ีนักเรียนได้ทาไปน้ัน เป็นปัญหาที่กาลังพิจารณาอยู่ อาจประกอบไป ด้วยรายละเอียดจานวนมาก ทั้งท่ีจาเป็นและไม่จาเป็นต่อการแก้ปัญหา ดังน้ันในการแก้ปัญหานักเรียนควรเลือกเฉพาะ รายละเอียดที่จาเป็นเท่านั้น การเลือกแบบนี้เราเรียนกว่า การคัดเลือกคุณลักษณะท่ีจาเป็นต่อการแก้ปัญหา ” และให้ นกั เรยี นเตรียมศกึ ษาบทเรียนเรอ่ื ง การถ่ายทอดรายละเอียดของปญั หาและการแก้ไขปญั หา มาก่อนล่วงหนา้ ชัว่ โมงท่ี 2 ขน้ั นา 1. นกั เรียนทุกคนเข้าห้องเรียนออนไลน์ท่ีครจู ัดเตรียมให้ 2. ครูทบทวนความรู้จากสัปดาห์ท่ีแล้วเรื่อง “แนวคิดเชิงนามธรรมว่า เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแนวคิดเชิง คานวณ (Computational thinking) ซึ่งใช้กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สาคัญออกจากรายละเอียดปลีกย่อยของ ปัญหา เพื่อใหไ้ ดร้ ายละเอียดของข้อมลู ท่จี าเปน็ และเพยี งพอในการแกป้ ัญหา” และทบทวน “การคดั เลือกคณุ ลักษณะที่ จาเปน็ ตอ่ การแก้ปัญหา คือการพจิ ารณาปัญหาท่ีอาจประกอบไปด้วยรายละเอียดจานวนมาก ทงั้ ท่ีจาเป็นและไม่จาเป็น ตอ่ การแกป้ ญั หา ดังนั้นในการแกป้ ัญหานักเรยี นควรเลือกเฉพาะรายละเอียดที่จาเป็นเทา่ นน้ั ” ข้ันสอน 3. นักเรยี นเปดิ ใบความรเู้ รอ่ื ง แนวคดิ เชิงนามธรรม ครใู ห้เวลานกั เรยี นศกึ ษาหวั ข้อ “การถา่ ยทอดรายละเอียด ของปัญหา และการแก้ปัญหา” 4. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 5 คน 5. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนเตรยี มทากิจกรรม 6. ผู้สอนให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน บทท่ี 1 แนวคิดเชิงนามธรรมและให้นักเรียนศึกษาการคัดเลือก คุณลักษณะท่ีจาเปน็ ต่อการแก้ปัญหาได้ 7. ผู้สอนอธิบายตัวอย่างท่ี 1.3 แชรก์ ับฉัน 8. นักเรียนทากิจกรรมโดยมีคาถามว่า “ครูต้องการเก็บคา่ เข้าใช้คอมพวิ เตอร์ โดยเก็บคนละ 10 บาท และเก็บ คา่ ธรรมเนียมเพ่ิมอีกโดยคิดจากระดับข้นั ท่ีนกั เรยี นกาลังเรยี นอยู่ ช้ันปีละ 5 บาท (ตัวอย่างเดก็ หญงิ ฝ้ายเรียนอยชู่ น้ั ม.2

จะต้องเสียค่าเข้าใช้คอมพิวเตอร์ 10+5X2 = 20 บาท) ให้นักเรียนอธิบายสถานการณ์ใหม่ที่ประกอบด้วยรายละเอียด นอ้ ยทส่ี ุด โดยทยี่ งั มีข้อมูลเพยี งพอทจ่ี ะนาไปคานวณว่าครูสามารถเกบ็ ค่าเข้าไดเ้ ปน็ จานวนก่ีบาท” ตามรางแสดงข้อมูลนักเรยี นทเ่ี ข้าใจคอมพิวเตอร์ ชอ่ื -สกุล อายุ ระดบั ชน้ั เพศ น้าหนัก ส่วนสงู เดก็ ชายแมว 14 2 ชาย 100 150 นายนาวี 16 4 ชาย 64 172 นางสาวแดง 16 4 หญิง 48 160 เด็กชายหมู 15 3 ชาย 45 165 เดก็ หญงิ ขาว 15 3 หญิง 102 170 เด็กหญงิ ป่นิ 13 1 หญงิ 38 158 9. ครูเฉลยกิจกรรมให้นักเรียนว่า “สิ่งท่ีโจทย์ต้องการคือค่าเข้าใช้ห้องคอมพิวเตอร์ท่ีครูไอซ์จะเก็บได้จาก จานวนนักเรียนที่เข้าใช้ห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งคานวณได้จากจานวนนักเรียนและระดับช้ันท่ีนักเรียนกาลังเรียนอยู่ ส่วน รายละเอยี ดอน่ื ๆ เช่น อายุ เพศ นา้ หนัก และสว่ นสูง สามารถละทง้ิ ได้ เน่อื งจากไมม่ สี ว่ นเก่ียวข้องกับการคานวณ โดยสามารถพิจารณาใหเ้ หลือเพียงรายละเอยี ดท่ีจาเป็นได้ดังนี้ - นักเรยี นชัน้ ม.1 จานวน 1 คน - นกั เรียนช้นั ม.2 จานวน 1 คน - นกั เรียนชน้ั ม.3 จานวน 2 คน - นักเรยี นชนั้ ม.4 จานวน 2 คน คา่ เขา้ ใชห้ อ้ งคอมพวิ เตอร์ = (จานวนนกั เรยี นท่เี ขา้ ใชค้ อมพวิ เตอร์ x 10) + (ระดบั ชนั้ x 5) = (1+1+2+2)x10 + ((1x1)+(2x1)+(3x2)+(4x2))x5 = 60 + (1+2+6+8)x5 = 60 + 85 = 145 บาท ขัน้ สรุป 10.ครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า การนาแนวคิดเชิงนามธรรมไปใช้ในการแก้ปัญหา สิ่งที่สาคัญท่ีสุดคือการคัดแยก คุณลักษณะท่สี าคัญออกจากรายละเอียดท่ีไม่จาเปน็ เพอ่ื ใหไ้ ด้ขอ้ มูลท่ีจาเปน็ เพียงพอต่อการแก้ปญั หาให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การออกแบบข้ันตอนวิธีในการหาคาตอนทาได้ง่ายขึ้น” และให้นักเรียนเตรียมศึกษาบทเรียนเรื่องขั้นตอนการ แก้ปญั หามากอ่ นลว่ งหนา้

10 . ระบุวิธสี อนทใ่ี ช้ในการจัดการเรียนรู้ ( ) ใชบ้ รรยาย (✓)ใชก้ ารสาธิต ( ) ใชก้ ารทดลอง ( ) ใชก้ ารนริ ภัย ( ) ใช้การอุปนัย ( ) ใชก้ ารไปทัศนศึกษา ( ) ใช้การอภปิ รายรายกลุม่ ยอ่ ย ( ) ใช้การแสดงละคร ( ) ใชเ้ กม ( ) ใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (✓) ใช้กรณตี วั อย่าง ( ) ใช้สถานการณ์จาลอง ( ) ใชศ้ ูนยก์ ารเรียน ( ) ใช้บทเรยี นโปรแกรม ( ) ระบุเพมิ่ เติม..................................................... 11. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.1 2. สื่อ power point เรอื่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม 3. เวบ็ ไซต์ : https://kru-it.com/computing-science-m1/abstract-concept/ 4. แบบทดสอบออนไลน์ โดยใช้ โปรแกรม Quizizz 12. การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี ารวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารผา่ นแต่ละ แบบประเมินกจิ กรรม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตรวจงานกิจกรรมที่ 1.1 และแบบฝกึ หัดทา้ ยบท นกั เรียนร้อยละ 85 1.นักเรียนสามารถอธิบาย วิธกี ารนาแนวคดิ เชิง นามธรรมมาใช้วิเคราะห์ โจทยป์ ญั หาและถา่ ยทอด แนวคิดได้ 2.นักเรยี นสามารถ ตรวจงานกจิ กรรมท่ี 1.1 แบบประเมินกิจกรรม นักเรยี นรอ้ ยละ 80 ยกตัวอยา่ งการนาแนวคดิ และแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท แบบประเมินพฤตกิ รรม นักเรยี นรอ้ ยละ 90 เชงิ นามธรรมมาใชว้ ิเคราะห์ โจทย์ปัญหาและถา่ ยทอด สังเกตพฤตกิ รรมในการ แนวคดิ ได้ ทาแบบฝกึ หัด 3. นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รียนรู้

เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบุคคล (Rubric) ประเด็นการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรับปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน การเรียน สนใจในการเรยี นไม่คุย สนใจในการเรียนคยุ สนใจในการเรยี นคยุ ไม่สนใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรอื เล่นกันในขณะ กนั เลก็ น้อยในขณะ กนั และเล่นกัน คุยและเล่นกนั และการซักถาม เรยี น เรียน ในขณะเรียนเปน็ ในขณะเรยี น 3. การตอบ คาถาม บางคร้งั 4. มีส่วนร่วมใน มกี ารถามในหัวข้อที่ตน มีการถามในหวั ข้อที่ มกี ารถามในหวั ข้อที่ ไมถ่ ามในหวั ข้อที่ กจิ กรรม ไมเ่ ขา้ ใจทุกเรือ่ งและ ตนไมเ่ ข้าใจเป็น ตนไม่เข้าใจเปน็ ตนไมเ่ ข้าใจและไม่ กล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางครง้ั และไม่ค่อย กลา้ แสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก ร่วมตอบคาถามในเรอ่ื ง ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน ไมต่ อบคาถาม ทีค่ รูถามและตอบ เรือ่ งที่ครถู ามและ เรื่องท่ีครถู ามเปน็ คาถามถกู ทุกข้อ ตอบคาถามสว่ นมาก บางครั้งและตอบ ถกู คาถามถูกเปน็ บางคร้ัง รว่ มมือและช่วยเหลอื ร่วมมอื และช่วยเหลอื ร่วมมอื และชว่ ยเหลอื ไมม่ ีความร่วมมือ เพือ่ นในการทา เพื่อนเปน็ ส่วนใหญ่ใน เพอื่ นในการทา ในขณะทากิจกรรม กจิ กรรม การทากิจกรรม กิจกรรมเปน็ บางคร้ัง เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นักเรยี นทีไ่ ดร้ ะดับคณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง

เกณฑ์การให้คะแนนคุณลกั ษณะอันพึงประสงคร์ ายบุคคล ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3 21 ความมีวินัย มีการปฏบิ ัติดังน้ี ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบ 3 ข้อ ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏิบัตไิ ด้ 1 ขอ้ จาก 3 ข้อ จาก 3 ข้อ 1. เขา้ เรยี นตรงตามเวลา 2. ทางานตามท่ีได้รับมอบหมายทกุ งาน 3. สง่ งานตรงตามกาหนดเวลา ความสนใจใฝ่เรยี นรูม้ ีการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี ปฏิบัติไดค้ รบ 3 ข้อ ปฏิบตั ไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏิบตั ิได้ 1 ข้อ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ 1. กระตือรือรน้ ในการทางาน เข้า ร่วมกจิ กรรมทุกกจิ กรรมที่กาหนดให้ 2. ซักถามเม่อื เกิดข้อสงสยั 3. ศึกษาหาความรู้เพ่ิมเตมิ นอกเหนือจากในห้องเรยี น มุ่งมั่นในการทางานมกี ารปฏิบัตดิ งั น้ี ปฏิบตั ไิ ด้ครบ 3 ข้อ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ข้อ ปฏิบตั ิได้ 1 ข้อ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ 1. ต้งั ใจทางาน รับผดิ ชอบในการ ทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 2. อดทน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและ สามารถแก้ไขปัญหาในการทางานได้ 3. ผลงานถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ เรยี บรอ้ ย เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน 8-9 ดีมาก นักเรยี นที่ไดร้ ะดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น 6-7 ดี 4-5 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุม่ เร่ือง…………………………………………………….…….ช่ือกลุ่ม………………………ชั้น…………… คาช้ีแจง ผู้ประเมินสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม และทาเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนน 3,2,1 เพียงชอ่ ง เดยี ว โดยพิจารณาตามเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. การวางแผนปฏบิ ัตงิ าน 2. การปฏบิ ัติงาน 3. ความร่วมมือ 4. คุณภาพของผลงาน รวมคะแนน ระดบั ผลงาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น รอ้ ยละ 70 ( 7 คะแนน ) ระดับคณุ ภาพ ดี ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมิน ( นายบณั ฑติ รามศรี) ................./................./..........................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ประเดน็ การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 32 1 การวางแผนปฏิบตั งิ าน ปฏิบัติดังนี้ ปฏบิ ตั ิไดค้ รบ ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ข้อ ปฏิบัตไิ ด้ 1 ข้อ 1. มีการวางแผนกาหนดขั้นตอนวิธกี ารทางานอยา่ งชดั เจน 3 ข้อ จาก 3 ข้อ จาก 3 ข้อ 2. กาหนดรูปแบบในการปฏบิ ตั ิงานได้เหมาะสมตามลาดบั ข้นั ตอนกระบวนการ 3. กาหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับงาน การปฏบิ ัติงาน ปฏบิ ัตไิ ด้ครบ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏิบตั ไิ ด้ 1 ข้อ 1. มีความพร้อมและกระตือรือร้นในการปฏบิ ตั ิงาน 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ 2. รว่ มกนั ในกลมุ่ จดั เตรยี มอุปกรณ์ในการปฏบิ ัตงิ านให้ ครบถว้ น ร่วมมอื ปฏิบัติงานตามขนั้ ตอนทก่ี าหนดไว้ ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ข้อ ปฏบิ ตั ิได้ 1 ข้อ 3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆไดส้ าเร็จ เรียบรอ้ ย ตรงตามเวลา 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ จาก 3 ขอ้ ความรว่ มมอื ปฏิบัตไิ ดค้ รบ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 ขอ้ 1. มอบหมายงานใหส้ มาชิกในกลุ่มอย่างทั่วถงึ ยุติธรรม 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ 2. เปดิ โอกาสให้สมาชิกในกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นอยา่ ง ทวั่ ถึง 3. มีทกั ษะในการร่วมกิจกรรมกลมุ่ มวี ินัย ตัง้ ใจพยายาม ทางานจนสาเร็จ คุณภาพของผลงาน 1. ผลงานมีคุณภาพตรงตามวัตถปุ ระสงคข์ องงาน 2. ใชค้ วามคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ในการสร้างผลงานให้มี คุณภาพ 3. ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ครบถ้วน สมบรู ณ์ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 10-12 ดีมาก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรงุ

การบูรณาการ แนวทางการนาหลกั ของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผสู้ อนนาหลกั ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักพอเพียง พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกนั ในตวั ที่ดี ประเดน็ วเิ คราะห์หลักสูตร ผู้เรยี นมีความรโู้ ดยการ แจง้ จุดประสงค์การ เน้ือหา มาตรฐานการเรียนรู้ เรยี นรู้จากแหลง่ เรียนรู้ เรียนรู้ใหผ้ ูเ้ รยี นทราบ และตัวชวี้ ดั โดยจดั ท่หี ลากหลาย เพ่ือให้ ลว่ งหน้าอย่างชัดเจน เวลา เน้ือหาให้เหมาะสมกบั บรรลุวตั ถปุ ระสงคต์ าม และวางแผนออกแบบ บรบิ ทของโรงเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ เนื้อหาให้ผเู้ รยี น วธิ กี ารจัดกจิ กรรม ชมุ ชน ศักยภาพและวยั ตัวชีว้ ดั ทกี่ าหนดไวใ้ น สามารถเรียนรู้ได้เตม็ ของผเู้ รยี น หลักสตู ร ตามศักยภาพ มคี วาม ทนั สมัย และน าไป ศกึ ษาโครงสรา้ งเวลาใน ประยกุ ต์ใชใ้ น หลกั สูตร โดย ชวี ิตประจาวันได้ กาหนดเวลาให้ เหมาะสมกบั เนือ้ หา ผู้เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรม วางแผนในการทางาน กิจกรรม ศักยภาพและ เต็มเวลา เตม็ ใหเ้ หมาะสมกับเวลา วยั ของผเู้ รยี น ความสามารถ มี สถานท่ี และกิจกรรมที่ ความสขุ ในการทางาน กาหนดไว้ จดั กจิ กรรมโดยส่งเสรมิ ส่งผลใหเ้ กิดการเรียนรู้ ให้ผ้เู รียนเกิดความ ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและ เขา้ ใจ และสามารถลง บรรลุตามวตั ถุประสงค์ มอื ปฏิบัตงิ านได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ มีการ ผู้เรยี นเกิด ผเู้ รยี นนาความรู้และ แบง่ กลมุ่ ในการทางาน ประสบการณ์ท่ีดีในการ ประสบการณ์ และ โดยมอบหมายงาน ทางานกลุ่มร่วมกัน ปัญหาที่เกดิ ข้ึนจากการ รูจ้ ักการวางแผน การ ท างานไปประยกุ ต์ใช้ มอบหมายหนา้ ท่ี ความ ในชีวติ ประจาวนั โดย รับผิดชอบ และรจู้ ัก ครผู สู้ อนเปน็ ผู้ เสนอแนะ ให้คาปรกึ ษา และตรวจสอบการ

ความรับผดิ ชอบตาม แกไ้ ขปัญหาทีเ่ กดิ ขน้ึ ทางานในแตล่ ะขน้ั ตอน หนา้ ที่ จากการทางาน ของนักเรยี นอย่าง ใกล้ชดิ หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ มุ้ กันในตัวท่ีดี ประเดน็ ใชแ้ หลง่ เรียนรทู้ ีอ่ ยใู่ กล้ ใชแ้ หล่งการเรยี นรไู้ ด้ มีการตรวจสอบและ แหลง่ เรยี นรู้ ตวั ท่เี หมาะสมกบั อยา่ งคุ้มค่าสอดคล้อง จดั เตรียมแหลง่ เรียนรู้ เน้อื หา กิจกรรมในการ กับจดุ ประสงค์ ใหพ้ รอ้ มใชก้ ่อนเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ จดั การเรยี นการสอน การเรยี นรู้ ตลอดจนจัดเตรยี ม แหลง่ เรียนร้สู ารองไว้ การประเมินผล การเลอื กใช้ส่อื วัสดุ สอ่ื สามารถสง่ เสริม ในกรณที ่ีอาจเกดิ อุปกรณ์ในการจัด ความรู้และทักษะให้ ปัญหาความไม่พร้อม กจิ กรรมเหมาะสมกบั เกิดขน้ึ กบั ตัวผเู้ รียนได้ เน้อื หาการเรียนรู้ อย่างชดั เจน ทาให้ ส่อื มีเนอื้ หาท่ีถูกตอ้ ง เขา้ ใจได้งา่ ยและ มคี วามทันสมัยและ รวดเร็วข้ึน เพียงพอต่อจานวน ผู้เรยี น ออกแบบการวดั ผลและ ครูนาผลทไ่ี ดจ้ ากการ ประเมนิ ผลได้ วัดผลและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื ที่นามาใชใ้ น สอดคลอ้ งตามผลการ มาใชใ้ นการพฒั นา การวดั ผลและ เรียนรู้ เนอ้ื หา เวลา คณุ ภาพของผูเ้ รยี น ประเมนิ ผลผูเ้ รยี นมี และพฤติกรรมของ คณุ ภาพ ตรงตาม ผเู้ รียน เน้ือหา ความยากง่าย อยู่ในระดับพอเหมาะ และเกณฑ์ท่ีนามาใชใ้ น

หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคุ้มกันในตัวทดี่ ี ประเด็น - ทักษะในการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ความรู้ทีค่ รู - การวัดและประเมนิ ผล จาเป็นต้องมี - เทคโนโลยีในดา้ นวิทยการคานวณ - หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง คุณธรรมของครู จรรยาบรรณท่ดี ขี องวชิ าชพี ครู ความใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน ขยันอดทน เสยี สละ ความรกั และเมตตาตอ่ ศษิ ย์ ความรับผิดชอบ ตรงตอ่ เวลา ความเปน็ กัลยาณมิตรและการ มีวนิ ัยในตนเอง ตลอดจนการประพฤติและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดแี ก่ศิษย์ การประเมนิ ให้คะแนน มีความชัดเจนและเปน็ ปรนัย 2. ผลทเ่ี กดิ ขึ้นกับผเู้ รียนสอดคลอ้ งกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 2.1 ผูเ้ รยี นได้เรยี นร้หู ลกั คิด และฝึกปฏบิ ตั ิตามหลกั 3 หว่ ง 2 เงอื่ นไข ดงั น้ี ความพอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคมุ้ กนั ที่ดใี นตัว - ผ้เู รยี นมีการทางานโดยใช้ - ผ้เู รยี นนาความรูม้ าใชใ้ นการ - ผู้เรยี นรูจ้ ักการวางแผนในการ กระบวนการกลุ่ม มีการวาง ลงมือปฏิบัติเพื่อสร้างผลงาน ทางาน และสามารถแกไ้ ข แผนการทางานทีด่ ีอย่างเป็น ตลอดจนนาไปประยกุ ตใ์ ช้ใน ปญั หาทีเ่ กิดข้ึนได้อยา่ งเป็น ระบบ ชีวิตประจาวัน ระบบ - ผูเ้ รยี นใชว้ ัสดุอปุ กรณอ์ ยา่ ง - ผเู้ รียนสามารถยกตัวอยา่ งการ - ผ้เู รียนมีคุณธรรมและ ค้มุ คา่ โดยร่วมกนั ดูแลรักษา นาแนวคิดเชิงนามธรรมมาใช้ จริยธรรม ในการนาเสนอ อันไม่ อุปกรณ์ในการใชง้ านรว่ มกนั วเิ คราะห์โจทย์ปัญหาและ ขดั ตอ่ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ถ่ายทอดแนวคดิ ได้

- ผูเ้ รยี นได้ลงมอื ปฏบิ ัตใิ นการ -สามารถยกตวั อย่างการคดั เลือก วฒั นธรรมที่ดีงาม และไมข่ ัดต่อ นาเสนอหน้าชัน้ เรยี น คุณลกั ษณะท่จี าเปน็ ต่อการ หลกั ของกฎหมาย แกป้ ญั หาไดน้ าเสนอได้ ความรู้ท่ีต้องมีก่อนการเรียน อยา่ งเหมาะสม และมคี วามคิด สรา้ งสรรค์ - ความรแู้ ละทักษะเบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั การใชง้ านคอมพวิ เตอร์และการ สืบคน้ ข้อมลู อนิ เทอรเ์ นต็ คุณธรรมของผู้เรียน - มคี วามซ่อื สัตย์ สุจรติ และตรงต่อเวลา - มวี นิ ยั ในตนเอง ใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้ - มคี วามรบั ผดิ ชอบ มคี วามมุ่งมน่ั ในการทางาน - มคี วามสามคั คี - มีความเอื้ออาทร ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั - กลา้ พูดแสดงความคดิ เห็นและยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน

2.2 ผเู้ รียนได้เรยี นร้กู ารใช้ชวี ิตทสี่ มดลุ และพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลงใน 4 มิตติ ามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังนี้ ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงในด้านตา่ ง ๆ องค์ประกอบ ความรู้ วตั ถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม ทักษะ - สามารถยก - มีความรอบรู้ใน - เหน็ คุณคา่ ของ - ยอมรบั ความ คา่ นิยม ตวั อยา่ งการ การทางานรว่ มกบั ส่ิงแวดลอ้ ม โดยใช้ หลากหลายทาง คดั เลือก ผู้อืน่ เคร่อื งมอื ทางด้าน วัฒนธรรมและ คุณลกั ษณะท่ี - ยึดมั่นในหลักการ เทคโนโลยดี ้วยการ ความคิดเห็นของ จาเป็นต่อการ อยู่รว่ มกนั ตามวถิ ี ประหยดั พลงั งาน เพอื่ นรว่ มงาน แกป้ ญั หาได้ ประชาธิปไตย อย่างคุ้มคา่ เอ้อื เฟื้อแบ่งปัน รจู้ ักสทิ ธแิ ละ หนา้ ที่ - สามารถยก - การทางานเป็น - นาสิ่งวัสดุ - การรว่ มมอื กนั ใน ตวั อย่างการนา ทีม อุปกรณ์ที่เหลือใช้ สงั คม แนวคดิ เชงิ - เอ้อื เฟอ้ื เผ่ือแผ่ แลว้ มาประยุกต์ใช้ - การละ ใบ ฃ นามธรรมมาใช้ และดแู ลรักษา ใหเ้ กิดประโยชน์ ผลประโยชนส์ ่วน วิเคราะห์โจทย์ อปุ กรณ์ในการใช้ และเพ่ิมคณุ ค่าของ ตนเพอื่ รักษา ปัญหาและ งานรว่ มกนั อย่าง ผลงาน ผลประโยชนข์ อง ถา่ ยทอดแนวคดิ ได้ ถูกวธิ ี สว่ นรวม - การแบ่งปัน เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ - เห็นคุณคา่ ของ - เหน็ คณุ ค่าเกิด - มีจติ สานึกท่ดี ีต่อ - การสานึกรกั และ ประโยชนก์ ารนา ความรักความ การอนรุ ักษแ์ ละ หวงแหนของ แนวคดิ เชิง ภาคภมู ใิ จในชุมชน คงไวข้ อง ชมุ ชนบา้ นเกิด นามธรรมมา ใช้ใน ของตนเอง และ สภาพแวดล้อม ท้องถ่นิ การทางานร่วมกัน และส่ิงที่ดงี ามใน อย่างสรา้ งสรรค์ ชุมชน

กจิ กรรมท้ายบท ครไู อซต์ อ้ งการเกบ็ คา่ เข้าใชค้ อมพวิ เตอร์ โดยเกบ็ คนละ 10 บาท และเกบ็ คา่ ธรรมเนียมเพ่ิมอกี โดยคดิ จากระดบั ขั้นที่ นักเรยี นกาลงั เรียนอยู่ ชนั้ ปีละ 5 บาท (ตัวอยา่ งเด็กหญงิ ฝ้ายเรยี นอยู่ช้ัน ม.2 จะต้องเสียค่าเข้าใชค้ อมพิวเตอร์ 10+5X2 = 20 บาท) ใหน้ กั เรียนอธิบายสถานการณ์ใหม่ทปี่ ระกอบด้วยรายละเอยี ดน้อยท่ีสดุ โดยทย่ี ังมขี ้อมูลเพียงพอท่จี ะนาไป คานวณว่าครสู ามารถเกบ็ ค่าเขา้ ได้เป็นจานวนกบ่ี าท” ตามรางแสดงข้อมูลนักเรยี นท่เี ข้าใจคอมพิวเตอร์ ชือ่ -สกุล อายุ ระดบั ชนั้ เพศ นา้ หนกั สว่ นสงู เดก็ ชายแมว 14 2 ชาย 100 150 นายนาวี 16 4 ชาย 64 172 นางสาวแดง 16 4 หญิง 48 160 เดก็ ชายหมู 15 3 ชาย 45 165 เด็กหญงิ ขาว 15 3 หญิง 102 170 เดก็ หญิงปิน่ 13 1 หญิง 38 158 ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................. ............................................... .................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................. ............................... .................................................................................................... ........................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................. ............... ....................... ........................................................................................................................................................... ชือ่ -นามสกุล............................................................................... เลขท.ี่ .............. ห้อง.............

ข้อสอบก่อนเรยี น หลังเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การออกแบบและการเขียนอัลกอริทึม รายวิชาเทคโนโลย(ี วิทยาการคานวณ) รหัส ว21181 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1/1 – 1/7 คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 20 นาที คาชี้แจง ขอ้ สอบแบบปรนัยชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 20 ข้อ ให้เลือกคาตอบที่ถูกต้องและกาลงใน กระดาษคาตอบ 1. การแก้ปัญหา ประกอบด้วยขน้ั ตอนกขี่ ้ันตอน ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 2. ขอ้ ใดเป็นขนั้ ตอนท่ี 3 ของขั้นตอนการแก้ไขปญั หา ก. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา ข. การดาเนินการแก้ปญั หา ค. การวางแผนการแก้ปญั หา ง. การตรวจสอบและประเมินผล 3. ข้อใดเรยี งลาดับขน้ั ตอนการแก้ปญั หาได้ถูกต้อง ก. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา การตรวจสอบและประเมนิ ผล การวางแผนการแก้ปญั หา การดาเนินการแกป้ ญั หา ข. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา การวางแผนการแกป้ ัญหา การดาเนินการแกป้ ัญหา การตรวจสอบและประเมินผล ค. การวางแผนการแกป้ ญั หา การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอียดของปัญหา การดาเนินการแกป้ ัญหา การตรวจสอบและประเมินผล ง. การวางแผนการแกป้ ัญหา การดาเนินการแก้ปัญหา การตรวจสอบและประเมนิ ผล การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา 4. รหัสลาลองหมายถึงข้อใด ก. สญั ลกั ษณท์ ี่ใช้ในการวางแผนหรอื ออกแบบการแก้ปัญหา ข. รหสั โค้ดเขยี นโปรแกรม ค. คาบรรยายอธิบายขนั้ ตอนย่างชดั เจนในการแก้ปัญหาหรือการทางานของโปรแกรม ง. รปู แบบการเขียนโปรแกรม

5. จากรูป คือสัญลักษณ์ชนิดใด ข. เร่มิ ต้น/สิน้ สุดการทางาน ง. ประมวลผลข้อมูล ก. ทางเลือกเงอ่ื นไข ค. รับขอ้ มลู ทางแป้นพิมพ์ 6. จากรูป คือสัญลักษณ์ชนิดใด ก. ทางเลอื กเงื่อนไข ข. เริ่มตน้ /สน้ิ สุดการทางาน ค. รับขอ้ มูลทางแปน้ พิมพ์ ง. ประมวลผลขอ้ มลู 7. ข้อใดคือสัญลักษณก์ ารนาขอ้ มลู เข้า-ออก แบบท่ัวไป ก. ข. ค. ง. 8. รหสั ลาลอง “รับค่าความยาวฐาน” เม่อื นาไปใชใ้ นรปู แบบผังงานตอ้ งอยู่ในสัญลักษณใ์ นข้อใด ก. ข. ค. ง.

9. รหัสลาลองในข้อใดต้องอยู่ในสัญลกั ษณ์นี้ ก. รบั คา่ ความยาวฐาน ข. รับคา่ ความสงู ค. คานวณพน้ื ที่สามเหลย่ี ม จากสตู ร พื้นทส่ี ามเหลี่ยม ง. แสดงผลลพั ธพ์ ื้นท่สี ามเหลี่ยม 10. รหสั ลาลองดงั ต่อไปนม้ี ีการทางานแบบใด เร่ิมตน้ 1. ซือ้ ขา้ วและกินขา้ ว 2. ถา้ เงนิ เหลือ ทา 2.1 ซื้อขนม จบ ก. แบบวนซ้า ข. แบบมเี งือ่ นไข 11. รหัสลาลองดังตอ่ ไปน้ีมีการทางานแบบใด เริม่ ตน้ 1. วงิ่ 2. ถ้า ระยะทางในการว่ิงครบ 5 กโิ ลเมตร ทา 2.1 หยุดว่ิง ไมเ่ ชน่ นัน้ 2.2 กลับไปทาข้อ 1 จบ ก. แบบวนซา้ ข. แบบมเี งื่อนไข

12. ในการคานวณพื้นท่ีสามเหล่ยี ม ข้อใดคือข้อมูลเขา้ ก. ความสงู ข. ความยาวฐาน ค. พ้นื ท่สี ามเหลีย่ ม ง. ความยาวฐานและความสงู 13. ในการคานวณพน้ื ทส่ี ามเหล่ียม ข้อใดคือขอ้ มลู ออก ก. ความสงู ข. ความยาวฐาน ค. พืน้ ทส่ี ามเหล่ยี ม ง. ความยาวฐานและความสูง 14. หากต้องการหานา้ หนกั เฉลี่ยของเพอ่ื นจานวน 5 คน ข้อใดคือข้อมูลเข้า ก. จานวน 5 คน ข. นา้ หนักเฉล่ยี ของเพอ่ื น 5 คน ค. นา้ หนกั ของเพื่อน 5 คน ง. นา้ หนกั และน้าหนักเฉลี่ยของเพอื่ น 15. ภาษาเครอื่ งประกอบด้วยตวั เลขในข้อใด ก. 1 และ 2 ข. 0 และ 1 ค. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 16. ภาษาโปรแกรมมกี ารพัฒนาใหม้ ีความคล้ายคลงึ กับภาษาในข้อใด ก. ภาษาไทย ข. ภาษาเกาหลี ข. ภาษาจีน ง. ภาษาองั กฤษ 17. ตวั แปลภาษาโปแกรมมี 2 ประเภทคือข้อใด ก. คอมไพเลอร์ และ อินเทอเนต็ ข. คอมไพเลอร์ และ อินเทอร์พรเี ตอร์

ค. คอมพวิ เตอร์ และ อินเทอรพ์ รเี ตอร์ ง. คอมพวิ เตอร์ และ อินเทอเนต็ 18. 01010 เม่ือแปลเป็นเลขฐานสบิ มคี า่ เทา่ กบั ข้อใด ก. 11 ข. 10 ค. 9 ง. 8 19. 10011 เมื่อแปลเป็นเลขฐานสิบมีค่าเท่ากบั ข้อใด ก. 17 ข. 18 ค. 19 ง. 20 ใชต้ ารางน้ตี อบคาถามข้อท่ี 20 A=1 B=2 C=3 D=4 E=5 F=6 G=7 H=8 I =9 J = 10 K = 11 L = 12 M = 13 N = 14 O = 15 P = 16 Q = 17 R = 18 S = 19 T = 20 U = 21 V = 22 W = 23 X = 24 Y = 25 Z = 26 ให้นักเรียนแปลเลขฐานสองตอ่ ไปน้ี วา่ มีความหมายตรงกับคาศพั ท์ภาษาองั กฤษในข้อใด 20. 01100 , 01111 , 10110 , 00101 ก. KOVE ข. LOVE ค. OLVE ง. MOVE

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 รายวิชา วิทยาการคานวณ รหสั ว21181 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนคลองใหญ่วทิ ยาคม ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 เรอ่ื ง การแก้ปัญหา เวลา 2 ช่ัวโมง ผ้สู อน นายบัณฑติ รามศรี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ท่า ทัน และมีจริยธรรม ตวั ช้ีวดั ม.1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. อธบิ ายข้นั ตอนการแกป้ ัญหา 2. วิเคราะห์และทา ความเข้าใจกบั ปญั หา 3. วางแผนการแกป้ ัญหาโดยใชร้ หสั ลาลองและผังงาน ดา้ นทักษะกระบวนการ(P) 1. นักเรียนสามารถแก้ปญั หาตามโจทยท์ ี่กาหนดให้ได้ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์(A) นักเรยี นมีคุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นการเรียนด้าน มวี นิ ัย สนใจใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ใน การทางาน 3. สาระสาคญั การแก้ปัญหาจากการทางานหรือชีวิตประจาวันของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใชเ้ วลาที่แตกต่างกัน ความรู้ และประสบการณ์จะสง่ ผลตอ่ ความสามารถในการแก้ปญั หา อย่างไรกต็ ามทุกคนตา่ งต้องการหาวธิ ใี นการแก้ปัญหาที่มี ประสทิ ธภิ าพทจี่ ะให้คาตอบท่ีถกู ต้องในเวลารวดเรว็ ขั้นตอนในการแก้ปัญหา ท่สี าคัญ 4 ขั้นตอน คือ 1. การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา

2. การวางแผนการแก้ปัญหา 3. การดาเนนิ การแกป้ ัญหา 4. การตรวจสอบและประเมินผล ในการวางแผนการแก้ปญั หาให้เข้าใจง่ายนัน้ ต้องถ่ายทอดความคิดไปสู่การปฏบิ ัตเิ ป็นขัน้ ตอน โดย อาจใช้รหัส ลาลองหรอื ผงั งาน 4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ความซ่ือสัตย์สจุ ริต  มวี นิ ัย  ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง  มงุ่ ม่นั ในการทางาน  รกั ความเปน็ ไทย  มจี ติ สาธารณะ 6. ทักษะ/กระบวนการ (ประจาวชิ า) - ทกั ษะการรู้จักตนเอง - ทักษะการแสวงหาข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ - ทักษะการคิด การตัดสินใจและการแก้ปัญหา 7. แนวความคดิ เพอ่ื การเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21  ทกั ษะดา้ นการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม  สาระวชิ าหลกั (Core Subjects)  ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ  ทกั ษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรยี นรู้  พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของ ร.10  ดา้ นท่ี 1 มที ศั นคติทีถ่ ูกตอ้ งตอ่ บ้านเมอื ง  ดา้ นที่ 2 มพี ้ืนฐานชีวติ ที่ม่ันคง มคี ุณธรรม  ดา้ นที่ 3 มีงานทา มีอาชีพ  ด้านที่ 4 เป็นพลเมอื งดี  หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง  หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ( หลกั สตู รท้องถนิ่ )  หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา

 สะเต็มศกึ ษา 9. จัดกระบวนการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน (5 นาที) นักเรยี นเข้าเรยี นออนไลน์ทค่ี รูจัดเตรยี มให้ ครใู ช้คาถามเพ่ือนาเขา้ ส่บู ทเรียนเรอื่ ง การแกป้ ัญหา ดังต่อไปนี้ คาถาม การถา่ ยทอดความคดิ ในการแกป้ ญั หาหรือการทางาน อาจเขียนเป็นข้อความทใ่ี ห้เห็นการแก้ปญั หา หรอื การทางานท่ีเป็นลาดับข้ันตอน คาตอบ ได้ คาถาม การแสดงลาดับขนั้ ตอนในการทางานหรือแก้ปัญหา อาจใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ ข้อความ หรอื การบอก เลา่ คาตอบ ได้ คาถาม หากพจิ ารณาลาดับขั้นตอนการทางาน สามารถบอกถงึ ผลลัพท์จะเกิดขึน้ ได้ คาตอบ ได้ ขน้ั ตอนการดาเนินการ 1. ผ้สู อนยกตวั อยา่ งปญั หาใกล้ตัวท่พี บในชวี ติ ประจาวนั หรอื เล่าถึงปญั หาต่าง ๆ ในสงั คมขณะนนั้ แล้วให้ ผู้เรยี นชว่ ยกันบอกเล่ารายละเอยี ดของปญั หาสาเหตุ และวธิ ีการแก้ปัญหานัน้ แล้วให้ผเู้ รียนช่วยกนั วเิ คราะห์และเลือก วธิ ีการแก้ปัญหาท่ีควรจะเปน็ เช่น ปัญหาขยะในโรงเรยี น ปัญหาความล่าชา้ ในการซอ้ื ของจากร้านสหกรณ์โรงเรียนใน ชว่ งเวลาพกั กลางวนั 2. ผสู้ อนแนะนาขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา 4 ขนั้ ตอน เพ่ือให้ผ้เู รียนนาไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทเี่ กดิ ข้ึนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

1. การวิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอียดของปญั หา เปน็ การทาความเขา้ ใจเก่ียวกับรายละเอยี ด เง่ือนไข ข้อกาหนด รวมถึงข้อจากดั ตา่ ง ๆ ของปญั หา ขอ้ มูลท่ีจาเป็นในการแก้ปัญหา ตรวจสอบว่า มขี ้อมูล เพยี งพอหรือไม่ จะหาข้อมลู เพม่ิ เตมิ ให้ครบถ้วนต่อการใช้แก้ปัญหาได้อย่างไร ข้อมูลผลลพั ธ์ที่ได้คืออะไร และ จะตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ท่ีไดอ้ ยา่ งไร 2. การวางแผนการแกป้ ัญหา เป็นการคิดค้นกระถารต่าง ๆ ที่เป็นข้ันตอน ต้งั แตเ่ ร่ิมต้นจนกระทั่ง ไดผ้ ลลพั ธ์ท่ตี ้องการ ซงึ่ ต้องอาศัยประสบการอสเวามรู้ของผู้แกป้ ัญหา โดยอาจนาวธิ ีทเ่ี คย แก้ปัญหา หรอื ค้นหาวิธีการอื่นแล้วนามาประยุกตเ์ ป็นกบั ปญั หาท่ีกาลังแก้ไข เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการ วางแผนแกป้ ญั หา สาหรับ การพัฒนาโปรแกรม อาจเลือกใช้รหัสลาลอง หรอื ผงั งาน โดยวิธีการ แกป้ ัญหาท่ีได้เรยี กวา่ ขนั้ ตอนวธิ หี รือ อลั กอริทมึ (algorithm) ซงึ่ เปน็ ลาดบั ข้นั ตอนในการแก้ปัญหาหรือการทางานท่ชี ัดเจนตัง้ แตเ่ รม่ิ ตน้ แก้ปญั หา จนกระท่ังไดผ้ ลลพั ธ์ท่ตี ้องการ 3. การดาเนินการแก้ปัญหา เป็นการนากระบวนการท่ีได้วางแผนไวม้ าปฏบิ ัติ หรือพฒั นาโปรแกรม เพือ่ แกป้ ญั หา โดยอาจใช้ภาษาโปรแกรมช่วยในการดาเนินการ 4. การตรวจสอบและประเมินผล ข้ันตอนนี้จะทาควบคู่ไปกับข้ันตอนการดาเนินการแก้ปญั หา โดย การตรวจสอบผลลพั ธท์ ่ีได้ หากผลลัพธท์ ี่ได้ไมถ่ ูกต้อง หรอื ยังมีสว่ นทีต่ อ้ งแก้ไขปรบั ปรุงอยู่ ตอ้ งยอ้ นกลบั ไป ทาซ้าต้ังแต่ขั้นตอนแรกจนกว่าจะได้ผลลพั ธท์ ่ีถกู ต้อง

3. ผสู้ อนยกตวั อยา่ งโจทย์การหาพืน้ ทีส่ ามเหล่ยี ม แลว้ ใหผ้ ูเ้ รียนอภิปรายถงึ วิธีการหาคาตอบ โดยเช่ือมโยงกับ ขั้นตอนการแก้ปญั หา 4. ผเู้ รียนศึกษาหาความรเู้ ร่ืองขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาในหวั ข้อ 2.1 และศึกษาตัวอยา่ งที่ 2.1 และ 2.2 จาก หนังสอื เรียน 5. ผู้สอนแบง่ กล่มุ ผูเ้ รียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน 6. ผู้เรียนแต่ละกล่มุ ตอบคาถามในใบกจิ กรรมที่ 3.1 โดยเลือกทา เพยี ง 2 ข้อ (หากมีเวลาเพียงพอ อาจทา ท้ัง 5 ขอ้ ) หลังจากนัน้ ผสู้ อนสมุ่ ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ นา เสนอคาตอบ โดยอาจใชว้ ธิ ีการบอกใหเ้ พอ่ื นกลมุ่ อนื่ ปฏบิ ตั ิตามแผนท่ี ไดว้ างไวว้ า่ ไดผ้ ลลพั ธ์ที่ตามท่ีวิเคราะหห์ รือไม่ ถา้ ไม่ได้ใหก้ ลับไปทบทวนการแก้ปัญหาใหมอ่ กี ครั้ง เม่ือนาเสนอครบทุก กลุ่มแล้วผ้สู อนและผู้เรียนร่วมกันอภปิ รายสรุปขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา และการแก้ปัญหา ขัน้ สรุปบทเรียน ขนั้ สรปุ บทเรยี น (10 นาที) 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ภยั คุกคามจากการใชข้ ้อมลู สารสนเทศ ดังต่อไปน้ี ข้นั ตอนการแก้ปัญหา มี 4 ข้ันตอน 1. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 2. การวางแผนการแกป้ ญั หา 3. การดาเนินการแก้ปัญหา 4. การตรวจสอบและประเมินผล ชั่วโมงที่ 2 นกั เรยี นเข้าเรียนออนไลน์ทค่ี รูจัดเตรยี มให้ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน (5 นาที) เมื่อเราทาความเขา้ ใจกับปญั หาและความต้องการแลว้ สิง่ ต่อไปคือการคิดอยา่ งมีเหตผุ ลเพ่ือหา ในการแก้ปัญหา โดยกระบวนการในการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหานั้น จะต้องถ่ายทอดความคิด เข้าใจไปสู่การ นาไปปฏิบัติได้ การถ่ายทอดความคิดจะต้องมีจุดเร่ิมต้น จุดสิ้นสุด และลาดับก่อนหลังที่ อาจอยู่ในรูปของข้อความท่ี เรียงกันเป็นลาดับซ่ึงเรียกว่ารหัสลาลอง (pseudocode) หรืออยู่ในรูป (flowchart) ที่ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ ข้อความ และเส้นเชื่อมโยง ทาให้เห็นคาส่ังท่ีต้องปฏิบัติ รัก การทางาน และลาดับในการปฏิบัติงาน การถ่ายทอด ความคิดเป็นเคร่ืองมือที่จะช่วยให้สามารถวางแผนการ ปัญหาและพัฒนาโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และ ตรวจสอบได้โดยเฉพาะปัญหา หรอื โปรแกรมท่ีซับซ้อน ขัน้ จัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นตอนการดาเนนิ การ 7. ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาเนื้อหาหวั ขอ้ 2.2 การเขียนรหสั ลาลองและผงั งานหัวข้อ 2.3 การกาหนดตวั แปรจากหนงั สือเรยี น



8. ผสู้ อนใหผ้ ้เู รียนแต่ละกลุ่มทาภารกิจด่านที่ 1-4 ตามลาดับ ในใบกจิ กรรมที่ 3.2 ถ่ายทอด ความคดิ ด่านที่ 1 เรยี งรหัสลาลอง ด่านที่ 2 เรยี งผงั งาน ด่านท่ี 3 เขยี นรหัสลาลอง ดา่ นที่ 4 เขียนผังงาน 9. ผู้สอนส่มุ ผ้เู รียนมานาเสนอคาตอบจากการทาภารกจิ ด่านที่ 1-4 10. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทากจิ กรรมท้ายบทจากหนังสือเรียน แล้วสมุ่ ผู้เรียนเฉลยแนวคาตอบ 11. ผูส้ อนและผู้เรยี นสรปุ แนวคิดเกย่ี วการแก้ปญั หานาไปสู่การแก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวัน

12. ผเู้ รียนแต่ละคนทาแบบทดสอบกิจกรรมที่ 3 ขั้นสรปุ บทเรยี น ขั้นสรุปบทเรียน (10 นาที) 1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ การแก้ปญั หา ดังต่อไปน้ี ปญั หาทีน่ กั เรยี นพบในชวี ิตประจาวนั บางปญั หาสามารถหาคาตอบได้ในทนั ที ขณะที่บาง อาจต้องใช้ เวลานานในการค้นหาคาตอบ การแกป้ ญั หาของแต่ละบคุ คลมขี นั้ ตอนและใช้เวลาทแี่ ตกต่าง ความรู้และประสบการณ์ จะส่งผลต่อความสามารถในการแกป้ ญั หา อย่างไรก็ตามทุกคนต่างต้องการ วธิ ีการในการแก้ปัญหาที่ทาให้ไดค้ าตอบที่ ถกู ต้องในเวลารวดเร็ว การปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนการแก้ปัญหา จะทาให้ได้วธิ กี ารแก้ปญั หาทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ เร่ิมจากทา ความเขา้ ใจกับปัญหา โดยวเิ คราะห์และกาหนด รายละเอยี ดของปัญหา พิจารณาวา่ สงิ่ ที่ตอ้ งการคืออะไร ข้อมลู เขา้ จะ เป็นสิ่งใดบา้ ง เคยแก้ปัญหาลักษณะ เดียวกนั มาก่อนหรือไม่ ข้อมูลและเง่ือนไขที่กาหนดใหเ้ พียงพอท่จี ะหาคาตอบ หรือไม่ ถา้ ไม่เพียงพอ ก็จาเป็นตอ้ งหาข้อมูลเพิม่ เติม หลังจากทาความเขา้ ใจกบั ปญั หาแลว้ ให้วางแผนหรือออกแบบ อัลกอริทมึ ในการหาคาตอบ เครือ่ งมือในการออกแบบอาจใชร้ หสั ลาลองหรอื ผังงาน สงั จากนั้นดาเนนิ การ เขียน โปรแกรมหรือปฏบิ ตั ติ ามท่ีได้ออกแบบไว้ สดุ ท้ายตรวจสอบผลลพั ธว์ า่ ถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ยงั ไม่ถูกต้อง กด็ าเนินการ ปรับปรงุ ให้ถกู ต้อง 10 . ระบุวิธสี อนท่ใี ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ (✓) ใช้บรรยาย ( ) ใชก้ ารสาธติ ( ) ใช้การทดลอง ( ) ใชก้ ารนริ ภัย ( ) ใช้การอุปนยั ( ) ใชก้ ารไปทศั นศึกษา ( ) ใช้การอภิปรายรายกลุม่ ยอ่ ย ( ) ใช้การแสดงละคร ( ) ใช้เกม ( ) ใช้การแสดงบทบาทสมมติ (✓) ใช้กรณีตวั อย่าง ( ) ใชส้ ถานการณจ์ าลอง ( ) ใชศ้ ูนยก์ ารเรยี น ( ) ใช้บทเรยี นโปรแกรม ( ) ระบุเพ่ิมเติม..................................................... 11.สื่อการเรยี นรู้ 5. หนังสอื เรียนวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.1 6. สื่อ power point เรือ่ ง แนวคดิ เชิงนามธรรม 7. เว็บไซต์ : https://kru-it.com/computing-science-m1/casual-codes-and-flowcharts/ 8. แบบทดสอบออนไลน์ โดยใช้ โปรแกรม Quizizz

12.การวัดผลประเมินผล วิธีการวดั เครอ่ื งมือประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ 1. แบบทดสอบ 0-4 ปรบั ปรงุ วิธกี ารประเมนิ 1. กิจกรรมที่ 3.2 2. ใบกิจกรรม 5-6 พอใช้ ถ่ายทอด ความคิด 7-8 ดี ดา้ นความรู้(K) 9-10 ดมี าก 2. แบบทดสอบ (ได้ 7 คะแนน ขึ้นไป) 1. อธิบายข้นั ตอนการแก้ปัญหา 2. วเิ คราะห์และทา ความเข้าใจกบั ปัญหา 3. วางแผนการแก้ปัญหาโดยใชร้ หสั ลาลองและผงั งาน ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(p) 1. ประเมินใบกจิ กรรมท่ี แบบประเมนิ การ 0-3 ปรับปรุง 1. นักเรยี นสามารถแกป้ ญั หาจากโจทย์ 3.2 ถ่ายทอด ความคิด ทดลองและสรุปผลการ 4-5 พอใช้ ทดลอง ทกี่ าหนดให้ได้ 2. แบบประเมนิ 6-7 ดี แบบทดสอบ 8-9 ดีมาก (ได้ 7 คะแนน ขน้ึ ไป) ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค(์ A) 1. สังเกตคุณลักษณะอนั แบบบันทึกการสังเกต 0-3 ปรับปรุง คุณลกั ษณะอันพึง 4-5 พอใช้ นกั เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ใน พึงประสงค์รายบุคคล ประสงคร์ ายบุคคล 6–7 ดี 8–9 ดมี าก การเรยี นด้าน มวี นิ ัย สนใจใฝ่เรยี นรู้ 1.1 มวี นิ ัย (ได้ 7 คะแนน ขนึ้ ไป) ม่งุ มน่ั ในการทางาน 1.2 ใฝเ่ รียนรู้ 1.3 มุ่งมน่ั ในการทางาน

การประเมนิ ผล การประเมินกจิ กรรมที่ 3.2 ถา่ ยทอดความคดิ รายการประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1 2 1. ความครบถ้วน เนอื้ หาครบถ้วนสมบูรณท์ ุก เนอ้ื หาเกือบครบ ขาด เน้ือหาไม่ครบ ขาด 3 รหัส ของเน้ือหา รหสั ลาลองและผังงาน 1-2 รหัสลาลองและผงั ลาลองและผังงาน ขึน้ ไป งาน 2. ความถูกต้องของ เน้ือหาของแตล่ ะรหัสลาลอง เนอื้ หาของแตล่ ะรหสั เนือ้ หาของแตล่ ะรหัสลาลอง เน้ือหา และผังงาน มีความถูกตอ้ ง ลาลองและผงั งานไม่ และผังงาน ไมถ่ ูกตอ้ ง 3 ทงั้ หมด ถูกต้อง 1-2 หวั ขอ้ / หวั ข้อ/เรอ่ื งขน้ึ ไป เร่ือง เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพแบบทดสอบ ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ช่วงคะแนน ดี 16 - 20 พอใช้ 11 - 15 ปรับปรุง 6 - 10 0-5 เกณฑ์การใหค้ ะแนนคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์รายบุคคล ประเดน็ การประเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ความมวี ินัย มีการปฏบิ ัติดังน้ี 3 21 1. เข้าเรยี นตรงตามเวลา ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบ 3 ข้อ 2. ทางานตามที่ได้รับมอบหมายทุกงาน ปฏิบตั ไิ ด้ 2 ข้อ ปฏิบตั ไิ ด้ 1 ข้อ 3. ส่งงานตรงตามกาหนดเวลา ปฏิบตั ไิ ดค้ รบ 3 ข้อ จาก 3 ข้อ จาก 3 ข้อ ความสนใจใฝ่เรยี นร้มู กี ารปฏิบตั ิดังนี้ 1. กระตอื รือรน้ ในการทางาน เขา้ รว่ ม ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ข้อ ปฏิบัตไิ ด้ 1 ขอ้ กิจกรรมทุกกิจกรรมที่กาหนดให้ จาก 3 ข้อ จาก 3 ขอ้ 2. ซกั ถามเมอื่ เกดิ ข้อสงสยั 3. ศกึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติมนอกเหนือจาก ในหอ้ งเรยี น

มุง่ มน่ั ในการทางานมกี ารปฏิบตั ดิ ังน้ี ปฏบิ ัตไิ ด้ครบ 3 ข้อ ปฏบิ ัติได้ 2 ข้อ ปฏิบตั ไิ ด้ 1 ข้อ 1. ตัง้ ใจทางาน รับผดิ ชอบในการทางานที่ จาก 3 ข้อ จาก 3 ขอ้ ไดร้ ับมอบหมาย 2. อดทน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและสามารถ แกไ้ ขปญั หาในการทางานได้ 3. ผลงานถูกต้อง สมบูรณ์ เรียบรอ้ ย

แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม เรอ่ื ง………………………….ชอื่ กลุ่ม………………ชน้ั …………… คาช้แี จง ผู้ประเมินสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม และทาเคร่อื งหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนน 3,2,1 เพียงชอ่ ง เดียว โดยพจิ ารณาตามเกณฑร์ ะดบั คุณภาพ รายการประเมนิ ระดับคะแนน หมายเหตุ 321 1. การวางแผนปฏิบตั ิงาน 2. การปฏิบตั งิ าน 3. ความร่วมมือ 4. คณุ ภาพของผลงาน รวมคะแนน ระดับผลงาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 70 ( 7 คะแนน ) ระดบั คุณภาพ ดี ลงชอ่ื .................................................ผู้ประเมิน () ................./................./..........................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน 32 1 การวางแผนปฏิบตั งิ าน ปฏิบัติดังนี้ ปฏบิ ตั ิไดค้ รบ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏิบัตไิ ด้ 1 ขอ้ 1. มีการวางแผนกาหนดขั้นตอนวิธกี ารทางานอยา่ งชดั เจน 3 ข้อ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ 2. กาหนดรูปแบบในการปฏบิ ตั ิงานได้เหมาะสมตามลาดบั ข้นั ตอนกระบวนการ 3. กาหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับงาน การปฏบิ ัติงาน ปฏบิ ัตไิ ด้ครบ ปฏิบัติได้ 2 ขอ้ ปฏิบัติได้ 1 ขอ้ 1. มีความพร้อมและกระตือรือร้นในการปฏบิ ตั ิงาน 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ จาก 3 ข้อ 2. รว่ มกนั ในกลมุ่ จดั เตรยี มอุปกรณ์ในการปฏบิ ัตงิ านให้ ครบถว้ น รว่ มมอื ปฏิบัติงานตามขนั้ ตอนทก่ี าหนดไว้ ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบ ปฏิบตั ิได้ 2 ขอ้ ปฏิบตั ิได้ 1 ข้อ 3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆไดส้ าเร็จ เรียบรอ้ ย ตรงตามเวลา 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ ความรว่ มมอื ปฏิบัตไิ ดค้ รบ ปฏิบัตไิ ด้ 2 ข้อ ปฏบิ ัติได้ 1 ข้อ 1. มอบหมายงานใหส้ มาชิกในกลุ่มอย่างทั่วถงึ ยุติธรรม 3 ขอ้ จาก 3 ขอ้ จาก 3 ข้อ 2. เปดิ โอกาสใหส้ มาชิกในกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นอยา่ ง ทัว่ ถึง 3. มีทกั ษะในการรว่ มกิจกรรมกลมุ่ มวี ินัย ตัง้ ใจพยายาม ทางานจนสาเร็จ คุณภาพของผลงาน 1. ผลงานมีคณุ ภาพตรงตามวัตถปุ ระสงคข์ องงาน 2. ใชค้ วามคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ในการสร้างผลงานให้มี คุณภาพ 3. ผลงานมคี วามถกู ตอ้ ง ครบถ้วน สมบรู ณ์ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 10-12 ดีมาก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรงุ

ข้อสอบก่อนเรยี น หลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การออกแบบและการเขียนอัลกอริทึม รายวชิ าเทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ) รหัส ว21181 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1/1 – 1/7 คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 20 นาที คาช้แี จง ข้อสอบแบบปรนยั ชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 20 ข้อ ให้เลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ งและกาลงใน กระดาษคาตอบ 1. การแกป้ ัญหา ประกอบด้วยขั้นตอนกี่ข้นั ตอน ข. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 2. ข้อใดเป็นขนั้ ตอนที่ 3 ของขน้ั ตอนการแก้ไขปญั หา ข. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา ข. การดาเนินการแก้ปัญหา ค. การวางแผนการแกป้ ัญหา ง. การตรวจสอบและประเมินผล 3. ขอ้ ใดเรยี งลาดบั ข้ันตอนการแก้ปัญหาไดถ้ กู ต้อง จ. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา การตรวจสอบและประเมนิ ผล การวางแผนการแกป้ ญั หา การดาเนนิ การแกป้ ัญหา ฉ. การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา การวางแผนการแกป้ ัญหา การดาเนนิ การแกป้ ัญหา การตรวจสอบและประเมนิ ผล ช. การวางแผนการแกป้ ญั หา การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปญั หา การดาเนินการแกป้ ัญหา การตรวจสอบและประเมินผล ซ. การวางแผนการแก้ปัญหา การดาเนินการแก้ปญั หา การตรวจสอบและประเมินผล การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา 4. รหัสลาลองหมายถงึ ข้อใด จ. สัญลกั ษณท์ ่ีใชใ้ นการวางแผนหรอื ออกแบบการแก้ปัญหา ฉ. รหัสโค้ดเขียนโปรแกรม ช. คาบรรยายอธบิ ายข้ันตอนย่างชัดเจนในการแกป้ ัญหาหรอื การทางานของโปรแกรม ซ. รปู แบบการเขียนโปรแกรม 5. จากรูป คอื สัญลักษณ์ชนดิ ใด

ข. ทางเลอื กเงอื่ นไข ข. เรมิ่ ต้น/ส้นิ สดุ การทางาน ค. รบั ขอ้ มูลทางแปน้ พิมพ์ ง. ประมวลผลข้อมลู 6. จากรปู คือสัญลกั ษณ์ชนิดใด ข. ทางเลือกเงื่อนไข ข. เรม่ิ ตน้ /สน้ิ สุดการทางาน ค. รับขอ้ มูลทางแป้นพิมพ์ ง. ประมวลผลข้อมลู 7. ข้อใดคือสัญลักษณก์ ารนาข้อมูลเขา้ -ออก แบบทั่วไป ก. ข. ค. ง. 8. รหัสลาลอง “รับค่าความยาวฐาน” เม่อื นาไปใช้ในรูปแบบผงั งานต้องอยใู่ นสัญลกั ษณ์ในขอ้ ใด ก. ข. ค. ง.

9. รหสั ลาลองในข้อใดต้องอยู่ในสญั ลกั ษณน์ ี้ ก. รบั ค่าความยาวฐาน ข. รบั คา่ ความสูง ค. คานวณพ้ืนทสี่ ามเหลย่ี ม จากสตู ร พ้นื ทีส่ ามเหลีย่ ม ง. แสดงผลลัพธพ์ ื้นทส่ี ามเหล่ียม 10. รหสั ลาลองดงั ต่อไปน้ีมีการทางานแบบใด เริม่ ต้น 1. ซอื้ ขา้ วและกนิ ข้าว 2. ถา้ เงนิ เหลือ ทา 2.1 ซอื้ ขนม จบ ก. แบบวนซา้ ข. แบบมีเง่อื นไข 11. รหัสลาลองดงั ตอ่ ไปน้ีมกี ารทางานแบบใด เริ่มต้น 1. วง่ิ 2. ถ้า ระยะทางในการวิ่งครบ 5 กโิ ลเมตร ทา 2.1 หยุดวง่ิ ไมเ่ ชน่ นั้น 2.2 กลับไปทาข้อ 1 จบ ก. แบบวนซา้

ข. แบบมเี ง่อื นไข 12. ในการคานวณพ้นื ทีส่ ามเหลี่ยม ข้อใดคอื ขอ้ มูลเขา้ ก. ความสงู ข. ความยาวฐาน ค. พ้นื ท่ีสามเหลย่ี ม ง. ความยาวฐานและความสงู 13. ในการคานวณพ้ืนท่สี ามเหล่ียม ขอ้ ใดคือข้อมูลออก ก. ความสูง ข. ความยาวฐาน ค. พน้ื ทส่ี ามเหลีย่ ม ง. ความยาวฐานและความสงู 14. หากต้องการหานา้ หนกั เฉลี่ยของเพ่ือนจานวน 5 คน ขอ้ ใดคอื ข้อมูลเขา้ ก. จานวน 5 คน ข. นา้ หนกั เฉลีย่ ของเพื่อน 5 คน ค. นา้ หนกั ของเพ่ือน 5 คน ง. นา้ หนัก และนา้ หนักเฉลี่ยของเพือ่ น 15. ภาษาเคร่อื งประกอบด้วยตัวเลขในข้อใด ก. 1 และ 2 ข. 0 และ 1 ค. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 16. ภาษาโปรแกรมมีการพัฒนาให้มีความคล้ายคลงึ กับภาษาในข้อใด ก. ภาษาไทย ข. ภาษาเกาหลี ข. ภาษาจนี ง. ภาษาอังกฤษ 17. ตวั แปลภาษาโปแกรมมี 2 ประเภทคือข้อใด

ก. คอมไพเลอร์ และ อนิ เทอเนต็ ข. คอมไพเลอร์ และ อินเทอร์พรีเตอร์ ค. คอมพวิ เตอร์ และ อนิ เทอรพ์ รเี ตอร์ ง. คอมพิวเตอร์ และ อนิ เทอเนต็ 18. 01010 เม่ือแปลเปน็ เลขฐานสบิ มคี า่ เท่ากบั ข้อใด ก. 11 ข. 10 ค. 9 ง. 8 19. 10011 เมื่อแปลเปน็ เลขฐานสิบมีค่าเท่ากบั ข้อใด ก. 17 ข. 18 ค. 19 ง. 20 ใช้ตารางนตี้ อบคาถามข้อที่ 20 A=1 B=2 C=3 D=4 E=5 F=6 G=7 H=8 I =9 J = 10 K = 11 L = 12 M = 13 N = 14 O = 15 P = 16 Q = 17 R = 18 S = 19 T = 20 U = 21 V = 22 W = 23 X = 24 Y = 25 Z = 26 ให้นกั เรียนแปลเลขฐานสองตอ่ ไปน้ี วา่ มีความหมายตรงกับคาศัพท์ภาษาอังกฤษในข้อใด 20. 01100 , 01111 , 10110 , 00101 ก. KOVE ข. LOVE ค. OLVE ง. MOVE

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลมุ่ เรือ่ งรหัสลาลองและผงั งาน กลมุ่ ต้มมามา่ ชนั้ ม............. คาช้ีแจง ผ้ปู ระเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม และทาเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดบั คะแนน 3,2,1 เพยี งชอ่ ง เดียว โดยพจิ ารณาตามเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ รายการประเมนิ ระดับคะแนน หมายเหตุ 321 1. การวางแผนปฏบิ ัติงาน 2. การปฏบิ ตั งิ าน 3. ความร่วมมือ 4. คณุ ภาพของผลงาน รวมคะแนน ระดับผลงาน ดีมาก ✓ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน ร้อยละ 70 ( 7 คะแนน ) ระดับคุณภาพ ดี ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (นายบณั ฑติ รามศรี) ................./................./..........................

แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลมุ่ เรือ่ งรหสั ลาลองและผังงาน กลมุ่ ทอดไข่ ช้นั ม.................. คาช้ีแจง ผูป้ ระเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม และทาเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องระดบั คะแนน 3,2,1 เพยี งชอ่ ง เดยี ว โดยพจิ ารณาตามเกณฑ์ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ ระดับคะแนน หมายเหตุ 321 1. การวางแผนปฏิบัติงาน 2. การปฏิบัตงิ าน 3. ความรว่ มมอื 4. คณุ ภาพของผลงาน รวมคะแนน ระดับผลงาน ดมี าก ✓ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น รอ้ ยละ 70 ( 7 คะแนน ) ระดบั คณุ ภาพ ดี ลงชื่อ.................................................ผูป้ ระเมนิ (นายบัณฑติ รามศรี) ................./................./..........................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook