ื ำื ใใ ้ื ื ้ ื ื (, ,ำ ื ) 16 หนังสืออา้ งอิง ชัยวัฒน์ ลมิ้ พรวิจิตรวิไล , สมเกยี รติ พึ่งอาตม์ และ จริ าภรณ์ จนั แดง,สมศักด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้ากระแสตรง. : ศนู ย์ส่งเสรมิ -อาชวี ะ, 2562 . สอื่ - ซดี ีการบรรยาย เรอ่ื งทฤษฏีนอรต์ นั - แบบฝึกหัด
ัื ฑ 1.สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล/รายกลุ่ม 2.สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 1.ให้นักเรยี นมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธติ หน้าช้นั เรียน 2.ประเมนิ ตามแบบพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบคุ คล/รายกลุ่ม 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล/รายกลุม่ 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ , , ,ำ , ำ ฝึ , ,ฏ , ฯฯ ทฤษฎีนอร์ตัน ื ภาษาไทย นำเสนอหน้าชัน้ เรียน วนั ที่......./........./......... สอนครง้ั ท.ี่ ..........สัปดาห์ท่.ี ...........เรอื่ ง...................................................................
ำ็ ้้ ำ ื / ใ ใ ื ใ ื ใำ ำ ็ ำ้ ื ใใ 1. ทำการสอนได้ครบตามวตั ถปุ ระสงค์ 2. นำเข้าสบู่ ทเรียนตรงตามทกี่ ำหนด 3. สามารถดำเนินการสอนตามแผนการสอน 4. ใช้สื่อการสอนครบตามแผนการสอน 5. ใช้คำถามในระหว่างการสอนได้ครบ 6. อนื่ ๆ (โปรดระบุ)......................................... (ใ , ,) ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................... ...................... ........................................................................................................................... .................................................. .............................................................................................................................................................. ็ PLC .............................................................................................................................. ............................................... .......................................................................................................... ................................................................... ................................................................................................................................................................. ...
17 ื วงจรไฟฟา้ กระแสตรง ้ 17 ื บรดิ จ์แบบวตี สโตน 4 ำ วงจรบริดจแ์ บบวีตสโตน เรียกว่า วตี สโตน บรดิ จ์ เซอรก์ ิต เป็นวงจรที่ใชส้ ำหรับหาค่าความ ต้านทานท่ีไม่ทราบคา่ โดยใช้หลกั การเปรียบเทียบค่าความต้านทานทีต่ ้องการทราบค่ากับค่าความตา้ นทาน มาตรฐานท่ที ราบคา่ แล้ว วงจรบริดจจ์ ะมีอยู่ 2 สภาวะ คือ บริดจ์สภาวะสมดุล บรดิ จ์สภาวะไมส่ มดุล 1.ศกึ ษาวงจรบรดิ จส์ ภาวะสมดุล 2.ศกึ ษาวงจรบรดิ จ์สภาวะไม่สมดลุ 3.รู้จักการหาคา่ ความตา้ นทานที่ไม่ทราบคา่ ดว้ ยวงจรบริดจ์ 4.ศึกษาตัวอย่างการคำนวณ 5.เพ่ือปฏิบตั ิการทดลองวงจรบริดจแ์ บบวีตสโตน ฤ 1.อธบิ ายลักษณะวงจรบริดจ์สภาวะสมดลุ ได้ถูกต้อง 2.อธบิ ายลักษณะวงจรบริดจ์สภาวะไม่สมดุลได้ถูกต้อง 3.บอกวธิ กี ารหาค่าความต้านทานท่ไี ม่ทราบค่าดว้ ยวงจรบรดิ จ์ได้ 4.คำนวณได้ถูกต้อง 5.ปฎบิ ตั ิการทดลองวงจรบริดจ์แบบวตี สโตนได้ถูกต้อง
้ื 17 ื วงจรบริดจ์แบบวตี สโตน (Wheatstone Bri วงจรบริดจแ์ บบวตี สโตน เรยี กวา่ “ วีตสโตน บรดิ จ์ เซอรก์ ิต” (Wheatstone bridge circuit) เป็นวงจรทใ่ี ช้สำหรบั การหาค่าความตา้ นทานที่ไม่ทราบค่าโดยใชห้ ลักการเปรยี บเทียบคา่ ความตา้ นทานท่ี ตอ้ งการทราบค่ากับความต้านทานมาตรฐานท่ีทราบคา่ แลว้ วงจรบรดิ จ์จะมีอยู่ 2 สภาวะ คอื บริดจส์ ภาวะ สมดุล และบรดิ จส์ ภาวะไม่สมดุล 1. ( Balance bridge circuit ) หลกั การของวงจรบรดิ จ์สมดลุ ก็มีอยวู่ ่าเม่ือเราทราบคา่ ของความตา้ นทาน ตามวงจรใน รูป จนกระทง่ั เข็มของกลั ป์วานอร์มเิ ตอร์ชที้ ่ีคา่ ศูนย์ ซง่ึ จะพบวา่ ในขณะน้ันไม่ไดม้ ีกระแสไหลผา่ นกัลปว์ า นอร์มิเตอร์ เพราะวา่ ระดบั ของแรงดันทจี่ ดุ Rx กบั ท่ีจุด Rx มีค่าเทา่ กนั หรอื ความตา่ งศักย์ ระหวา่ งจดุ Rx กับจุด Rx มีคา่ เทา่ กับศนู ย์โวลท์ และในขณะน้ีถอื วา่ วงจรบริดจ์อยใู่ นสภาวะ สมดุล
เมอ่ื วงจรบรดิ จ์อยูในสภาวะสมดลุ จะทำให้ไดแ้ รงดนั ตกคร่อมท่ีความต้านทาน R1 กบั Rx มคี า่ เทา่ กัน และแรงดนั ตกครอ่ มทค่ี วามตา้ นทาน R2 กบั R3 มคี ่าเท่ากัน ดังนั้นจะได้ V1 = Vx และ V2 = V3 แต่ V1 = I1 + R1 V2 = I1 + R2 V3 = I2 + R3 VX = I2 + Rx แทนค่า V1 และ Vx จะได้ I1 R3 = I2 Rx แทนคา่ V2 และ V3 จะได้ I1 R2 = I2 R3 เม่ือเอาสมการทหี่ น่ึงมาหารสมการทสี่ องจะได้ R1 Rx R1 R2 Rx = R1 R3 R2 R 2 = R 3 หรอื R x = R 3 หรือ
รูปท่ี 1 จากวงจรรปู ท่ี 1 เมื่อกระแส I1 มีคา่ เท่ากับ I2 จะเป็นผลทำใหแ้ รงดันที่ตกคร่อม R1 เทา่ กับแรงดนั ตก คร่อม R2 และแรงดันตกคร่อมตกคร่อม R3 เทา่ กับรงดันตกครอ่ ม R4 หรอื แรงดันทจี่ ุด A เทา่ กับแรงดนั ท่ีจดุ B ใส สภาวะน้ีกระแสไหลผ่านแอมมเิ ตอร์จะเท่ากับศูนย์เรยี กสภาวะนวี้ ่าบรดิ จ์สมดุล ( Balance bridge ) ซง่ึ สามารถเขยี นเป็นสมการไดด้ ังนี้ VR1 = VR2 หรอื I1R1 = I2 R2 …………………………..( 1 ) VR3 = VR4 หรอื I1R3 = I2 R4 …………………………..( 2 ) นำสมการท่ี (1 ) หารด้วยสมการท่ี (2 ) จะได้ I1R1 = I2R 2 I1R 3 I2R 4 ดังน้นั จะได้ R1 = R2 R3 R4
จากสมการดังกล่าว สามารถนำมาประยุกต์ เพ่ือหาค่าความต้านทานที่ไม่ทราบคา่ ได้ จากวงจรรปู ที่ 1 ถ้ากำหนดใหค้ ่าตัวตา้ นทาน R1 คือตัวตา้ นทานท่ีไมท่ ราบค่า และตัวต้านทาน R2 ,R3 และ R4 คือตวั ต้านทานที่ทราบคา่ แลว้ จะได้ R1 = R2 R3 .........................................( 3 ) R4 2. จากวงจรรปู ท1่ี เม่อื กระแส I1 มคี า่ ไมเ่ ท่ากบั I2 จะเป็นผลทำใหแ้ รงดันท่ีตกครอ่ ม R1 ไม่ เท่ากับแรงดนั ตกคร่อม R2 และแรงดันตกคร่อม R3 ไมเ่ ทา่ กับแรงดนั ตกครอ่ ม R4 หรือ แรงดนั ทจี่ ดุ A ไม่ เท่ากับแรงดันทีจ่ ุด B ในสภาวะนี้จะมีกระแสไหลผา่ นแอมมเิ ตอร์ เรียกสภาวะน้วี า่ บริดจ์ไม่สมดุลย์ ( UnBalance bridge ) 1 จากวงจรรปู ที่ 2 จงคำนวณหาคา่ ตัวตา้ นทานไมท่ ราบค่า R3 รูปท่ี 2 ำ R1 = R3 R2 R4 จะได้
R3 = R1 R4 = 3 kΩ 8 kΩ = 3 kΩ R2 8 kΩ 2 จงคำนวณหาค่าอัตราส่วนความต้านทานของวงจรบรดิ จ์ (Bridge Circuit )แตล่ ะสาขา รูปที่ 3 1 I1R1 = R1 = 5 Ω = 5 Ω I1R 2 R2 1 Ω 2 I2R3 = R3 = 4 Ω = 1.333 Ω I2R4 R4 3 Ω
1 ตรวจความพรอ้ มของผู้เรยี นโดยการเขา้ แถวแลว้ ขานชอ่ื 2 แจกแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่17 3 ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซักถามเกยี่ วกบั วงจรบริดวสี โตน 4 ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรียนเกยี่ วกบั วงจรบริดวสี โตน อธบิ ายประกอบการฉายซดี ี 5 ครอู ธิบายวงจรบรดิ วสี โตนพร้อมตัวอยา่ งการคำนวณ โดยใช้สือ่ แผน่ ใส 6 ซักถามนักเรียนเก่ียวกับการแก้ปัญหาวงจรไฟฟ้าโดยใช้ วงจรบริดวสี โตนมขี น้ั ตอน อย่างไร 7 สาธิตการปฏิบัตกิ ารทดลองแจกใบงานและควบคุมการปฏิบัตกิ ารทดลอง 8 ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ ตอบข้อสงสัย 9 ประเมนิ ผลการเรยี นของนักเรียนในหนว่ ยท่ี 17 จากแบบทดสอบหน่วยที่17 มอบหมายงานใหน้ ักเรยี นไปศึกษาในหนว่ ยที่ 18 ต่อไป
ื (, ,) กอ่ นเรยี น ให้ศกึ ษาและฟังการอธบิ าย มอบหมายงานกลุม่ มารายงานหน้าชน้ั เรยี นเก่ียวกบั วงจรบริดวีสโตน ขณะเรยี น ใหน้ ักเรียนมารายงานหน้าช้ันเรียนเกีย่ วกบั วงจรบรดิ วสี โตน หลงั เรยี น สรุปเน้ือหาจากท่ีนกั เรียนได้มารายงานหนา้ ชนั้ เรียนและประเมนิ ผล
ื ำื ใใ ้ื ื ้ ื ื (, ,ำ ื ) 17 หนังสืออา้ งองิ ชัยวฒั น์ ลม้ิ พรวจิ ิตรวไิ ล , สมเกยี รติ พ่งึ อาตม์ และ จริ าภรณ์ จันแดง,สมศักด์ิ แสงศรี วงจรไฟฟ้า กระแสตรง. : ศูนยส์ ่งเสรมิ -อาชีวะ, 2562 . สอื่ - ซดี กี ารบรรยายเรอื่ ง วงจรบริดวสี โตน - แบบฝกึ หัด
ัื ฑ 1.สังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ 1.ใหน้ ักเรียนมีส่วนร่วมในการอธบิ ายโดยการสาธติ หนา้ ชั้นเรยี น 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล/รายกล่มุ 1.ประเมนิ ตามแบบพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล/รายกลุม่ 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ , , ,ำ , ำ ฝึ , ,ฏ , ฯฯ หาคำศัพท์ วงจรบรดิ วสี โตน ื ภาษาอังกฤษ วนั ที่......./........./......... สอนครง้ั ท่ี...........สัปดาหท์ ี.่ ...........เรอ่ื ง..................................................................
ำ็ ้้ ำ ื / ใ ใ ื ใ ื ใำ ำ ็ ำ้ ื ใใ 1. ทำการสอนได้ครบตามวัตถุประสงค์ 2. นำเขา้ สู่บทเรียนตรงตามท่กี ำหนด 3. สามารถดำเนนิ การสอนตามแผนการสอน 4. ใช้ส่อื การสอนครบตามแผนการสอน 5. ใชค้ ำถามในระหวา่ งการสอนได้ครบ 6. อน่ื ๆ (โปรดระบุ)......................................... (ใ , ,) ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................................. ็ PLC ...................................................................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ ....................................................................................................................................................................
ื วงจรไฟฟา้ กระแสตรง 18 ื การถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าสูงสดุ ้ 18 4 ำ ทฤษฎีการถ่ายโอนกำลงั ไฟฟ้าสงู สดุ แม็กซมิ ั่มพาวเวอร์ ทรายเฟอร์ ธโิ อร่ี เปน็ ทฤษฎีทใี่ ช้ถ่ายโอน กำลงั ไฟฟ้าจากแหล่งจา่ ยไฟฟ้าไปยงั โหลด เช่นจากเคร่ืองขยายเสยี งซงึ่ เปน็ แหล่งจ่ายไฟฟา้ ถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้า ไปยงั ลำโพงที่ทำหน้าท่เี ปน็ โหลด โดยมีหลกั การว่าการถา่ ยโอนกำลังไฟฟา้ สูงสดุ ไปยังโหลดนน้ั จะเกิดขึน้ สงู สดุ เมื่อความต้านทานของโหลดเท่ากบั ความต้านทานภายในของแหลง่ จา่ ยไฟฟ้า การแกป้ ญั หาและวิเคราะห์ วงจรไฟฟ้าในเรือ่ งทฤษฎีการถา่ ยโอนกำลังไฟฟา้ สงู สดุ จะใช้วงจรสมมลู เทเวนนิ 1.ศึกษาทฤษฎีการถ่ายโอนกำลงั ไฟฟา้ สงู สดุ 2.ศกึ ษาตวั อยา่ งการแก้ปัญหาวงจรไฟฟ้า 3.เพือ่ ปฏบิ ตั ิการทดลองวงจรเพอ่ื หากำลังไฟฟา้ ฤ 1.บอกลกั ษณะการถ่ายโอนกำลงั ไฟฟา้ สงู สุดได้ถกู ต้อง 2.แก้ปญั หาวงจรไฟฟา้ ได้ถกู ตอ้ ง 3.ปฏบิ ัตกิ ารทดลองวงจรเพ่ือหากำลังไฟฟา้ ได้ถกู ต้อง
ื้ 18 ื การถา่ ยโอนกำลงั ไฟฟ้าสูงสุด ำ ( Maximum Power Transfer Theorem ) ทฤษฎกี ารถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าสูงสุด เรียกวา่ “แม็กซิม่ัม พาวเวอร์ ทรานเฟอร์ ธีโอรี่” ( Maximum Power Transfer Theorem ) เป็นทฤษฎีท่ีใช้ถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าจากแหลง่ จ่ายไฟฟ้าไปยัง โหลด เชน่ จากเครอ่ื งขยายเสียงซง่ึ เป็นแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ ไปยังลำโพงท่ที ำหนา้ ทเ่ี ปน็ โหลด โดยมหี ลกั การว่า การถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าสูงสุด ( Maximum Power ) ไปยงั โหลดนั้นจะเกิดขน้ึ สูงสุดเม่ือความตา้ นทาน ของโหลด เท่ากับความต้านทานภายในของแหลง่ จา่ ยไฟฟ้า การแกป้ ญั หาและวเิ คราะหว์ งจรไฟฟา้ ในเร่ือง ทฤษฎกี ารถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าสูงสดุ จะใชว้ งจรสมมูลเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit ) ฤ ฎ ำ ( Maximum Power Transfer Theorem ) กลา่ วไว้วา่ ในวงจรไฟฟา้ ใดๆ ที่มแี หล่งจ่ายไฟฟ้าต่ออยู่ จะเกิดการถ่ายโอนกำลงั ไฟฟ้าจาก แหล่งจา่ ยไฟฟา้ ไปยงั โหลดและจะเกดิ กำลังไฟฟา้ สูงสดุ ( Maximum Power ) ทโ่ี หลด เทา่ กับ ความ ตา้ นทานภายในของแหล่งจ่ายไฟฟา้ ดังแสดงในรปู ท่ี 1 ก และ ข (ก) (ข) รปู ท่ี 1 รูปวงจรและกราฟแสดงกำลงั ไฟฟ้าสงู สดุ
ในบางคร้งั การถา่ ยโอนกำลังไฟฟ้าจากแหล่งจา่ ยไปยงั โหลด จะตอ้ งผา่ นตัวตา้ นทานตา่ งๆหลาย ตวั เรายังสามารถหาคา่ กำลังไฟฟา้ สูงสดุ ( Maximum Power ) ท่จี ะเกิดข้นึ ที่โหลดนัน้ ได้ โดยการนำเอา หลกั การทฤษฎีเทเวนนิ ( Thevenin Theorem ) มาใช้ ซึ่งจะเห็นว่าวงจรสมมลู ของเทเวนิน ( Thevenin Equivalent Circuit ) จะมเี พยี ง แหล่งจา่ ยแรงดันไฟฟ้าเทเวนนิ ( Thevenin Equivalent Circuit )และ คา่ ความต้านทานเทเวนิน ท่ตี ่ออยูใ่ นวงจร ดงั น้นั จะเกิดกำลังไฟฟา้ สงู สดุ ( Maximum Power ) ทีโ่ หลดก็ ตอ่ เม่ือค่าความตา้ นทานของโหลด RL เท่ากบั ความต้านทานเทเวนนิ RTH จากรปู ที่ 1 จะได้ IL = VTH R TH + R L = I2L = VTH 2 R L = V 2 TH R L TH + R TH + R L ( )PL R R 2 L เมอ่ื ค่ากำลังไฟฟา้ Pl มีค่าสงู สดุ ทโี่ หลด สามารถหาคา่ ความสมั พันธ์ระหวา่ ง RL กับ RTH โดยใช้ สมการดฟิ เฟอร์เรนเชียล dPL =0= (R TH + R L )2 V2TH R L (2)(R TH + RL ) dPL (R TH + R L )4 ( ) ( )RTH + RL V2 2 = 2V2TH R TH + RL TH R TH + R L = 2R L นน่ั คือ R TH = R L 1 จงคำนวณหาค่ากำลังไฟฟ้าท่โี หลด PL เมอ่ื RTH มคี ่ามากกว่า RL
รปู ที่ 2 ำ IL = VTH = 1.5 V = 0.5 A R TH + R L 2 + 1 PL = I2L R L = 0.52 A 1 = 0.25 W กำลังไฟฟ้าสงู สุดทโ่ี หลดเทา่ กับ 0.25 W 2 จงคำนวณหาค่ากำลังไฟฟ้าที่โหลด PL เม่อื RTH มีคา่ เท่ากับ RL ำ
IL = VTH = 1.5 V = 0.375 A R TH + R L 2 + 2 PL = I2L R L = 0.3752 A 2 = 0.281W กำลงั ไฟฟา้ สงู สดุ ท่ีโหลดเทา่ กับ 0.281 W 3 จงคำนวณหาคา่ กำลงั ไฟฟ้าท่ีโหลด PL เมื่อ RTH มีคา่ น้อยกวา่ RL รปู ที่ 4 ำ IL = VTH = 1.5 V = 0.3 A R TH + R L 2 + 3 PL = I2L R L = 0.32 A 3 = 0.27 W กำลงั ไฟฟ้าสงู สดุ ที่โหลดเท่ากับ 0.27 W
1 ตรวจความพรอ้ มของผ้เู รียนโดยการเข้าแถวแลว้ ขานช่ือ 2 แจกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี18 3 ทบทวนก่อนเรียน อธิบายและซกั ถาม เร่ืองการถ่ายโอนกำลังไฟฟ้าสูงสุด 4 ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นเก่ียวกบั การถ่ายโอนกำลงั ไฟฟ้าสูงสุด อธิบายประกอบการฉายซดี ี 5 ครอู ธิบายทฤษฎีการถ่ายโอนกำลังไฟฟา้ สงู สุดพร้อมตวั อย่างการคำนวณ โดยใช้สื่อแผน่ ใส 6 ซักถามนกั เรยี นเกี่ยวกบั การแก้ปญั หาวงจรไฟฟ้าโดยใช้ การถ่ายโอนกำลงั ไฟฟ้าสูงสดุ มี ขั้นตอนอยา่ งไร 7 สาธติ การปฏิบัตกิ ารทดลองแจกใบงานและควบคุมการปฏิบัตกิ ารทดลอง 8 ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ตอบข้อสงสยั 9 ประเมนิ ผลการเรยี นของนักเรียนในหนว่ ยท่ี 18 จากแบบทดสอบหน่วยที่18
ื (, ,) กอ่ นเรียน ให้ศึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับ การถ่ายโอนกำลังไฟฟ้า สูงสุด ขณะเรยี น ใหน้ ักเรียนมารายงานหน้าช้นั เรยี นเก่ยี วกับ การถา่ ยโอนกำลงั ไฟฟา้ สูงสุด หลงั เรยี น สรุปเนื้อหาจากทีน่ กั เรยี นไดม้ ารายงานหนา้ ชน้ั เรียนและประเมินผล
ื ำื ใใ ้ื ื ้ ื ื (, ,ำ ื ) 18 หนงั สอื อา้ งองิ ชยั วฒั น์ ลมิ้ พรวิจติ รวไิ ล , สมเกยี รติ พง่ึ อาตม์ และ จิราภรณ์ จันแดง,สมศกั ดิ์ แสงศรี.วงจรไฟฟา้ กระแสตรง. : ศนู ยส์ ง่ เสริม-อาชีวะ, 2562 . ส่อื - ซดี กี ารบรรยายเรื่อง การถ่ายโอนกำลังงานไฟฟา้ สงู สุด - ใบงาน - แบบฝกึ หัด
ัื ฑ 1.สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล/รายกลมุ่ 2.สงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ 1.ให้นกั เรียนมีส่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธติ หน้าชัน้ เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล/รายกลุ่ม 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล/รายกลมุ่ 2.ประเมนิ ตามแบบพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ , , ,ำ , ำ ฝึ , ,ฏ , ฯฯ ื การถ่ายโอนกำลงั งานไฟฟ้า ภาษาองั กฤษ หาคำศัพท์ สงู สดุ วนั ที่......./........./......... สอนครั้งที.่ ..........สปั ดาห์ที.่ ...........เรอื่ ง..................................................................
ำ็ ้้ ำ ื / ใ ใ ื ใ ื ใำ ำ ็ ำ้ ื ใใ 1. ทำการสอนได้ครบตามวัตถปุ ระสงค์ 2. นำเข้าสู่บทเรยี นตรงตามทกี่ ำหนด 3. สามารถดำเนนิ การสอนตามแผนการสอน 4. ใช้สื่อการสอนครบตามแผนการสอน 5. ใช้คำถามในระหวา่ งการสอนได้ครบ 6. อนื่ ๆ (โปรดระบุ)......................................... (ใ , ,) ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................... ........................................................................................ ...................... ............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................................. ็ PLC ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................................................................. ...
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224