Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Published by panyaponphrandkaew2545, 2019-12-09 10:38:10

Description: คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Search

Read the Text Version

เรือ่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร มีทัง้ หมด 5 บท คือ • บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร • บทที่ 2 ขอ้ มูล สารสนเทศ และความรู้ • บทที่ 3 คอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคล • บทที่ 4 บทบาทของการสอื่ สารข้อมูลและเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ • บทที่ 5 อินเทอรเ์ นต็

บทท่ี 1 เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 1.1.ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปัจจบุ นั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารมบี ทบาทมาก เชน่ มกี ารใช้ คอมพวิ เตอรใ์ นการทางานใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตเพอื่ สบื คน้ ขอ้ มลู หรือรบั ขนสง่ ขอ้ มลู ระหว่าง กนั ตลอดใช่โทรศพั ทเ์ ครือ่ งที่ (Mobile Phone) หรอื โทรศพั ทม์ อื ถือในการ ตดิ ตอ่ สอื่ สารองคก์ รทงั้ ภาครฐั และเอกชนไดน้ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสอื่ สาร เขา้ มาใชง้ านในทกุ ระดบั ชนั้ ขององค์ คาว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology: IT) เรียกย่อว่า “ไอท”ี ประกอบดว้ ยคาว่า”เทคโนโลยี” และคาวา่ ”สารสนเทศ” นามารว่ มกนั เป็น”เทคโนโลยี สารสนเทศ” และคาวา่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร(Information and Communication Technology: ICT) หรือเรยี กย่อวา่ ”ไอซีที”ประกอบดว้ ยคาทม่ี ี ความหมายดงั นี้

เทคโนโลยี(Technology) หมายถึง การนาความรูด้ า้ นวิทยาศาสตรม์ าประยกุ ต์ ในการพฒั นาเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ อปุ กรณ์ วิธีการและกระบวนการ สารสนเทศ(Information) หมายถงึ ผลลพั ธท์ ี่เกิดจากการนาขอ้ มลู มาผา่ น กระบวนการต่างๆอย่างมรี ะบบ เทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถงึ การนาความรูท้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรม์ า ประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื สรา้ งหรอื จดั การสารสนเทศอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว โดยอาศยั เทคโนโลยีทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ 1.2 องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ เป็นระบบทีช่ ่วยเสริมประสทิ ธิภาพการทางานโดยใช่เทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สาร ระบบสารสนเทศประกอบดว้ ย 1.2.1 ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมายถึง ตวั เครือ่ งคอมพิวเตอรแ์ ละ อปุ กรณต์ อ่ พว่ งตา่ งๆ เชน่ คียบ์ อรด์ (Keyboard) เมาส์ (Mouse) จอภาพ(Monitor) เป็นตน้ รวมทงั้ อปุ กรณส์ อ่ื สารสาหรบั เชอื่ มโยงคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ เป็นเครอื ข่าย เช่น โมเด็ม (Modem) และ สายสญั ญาณ

1.2.2 ซอฟตแ์ วร์ (Soflware) หมายถึง โปรแกรมหรือชดุ คาส่งั (Instruction) ท่ีใชค่ วบคมุ การทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พว่ งตา่ งๆ ชดุ คาส่งั จะถกู แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คอื ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System software) หมายถึงชดุ คาส่งั ท่ที าหนา้ ทีค่ วบคมุ การ ทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พว่ งต่างๆ และทาหนา้ ทเี่ ป็นตวั กลาง ระหวา่ งผใู้ ชก้ บั คอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบแบง่ ออกเป็น 1) ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System: OS) เป็นซอฟตแ์ วรท์ ีท่ าหนา้ ท่ี ควบคมุ การทางานของอปุ กรณแ์ ละซอฟตแ์ วรท์ งั้ หมดภายในคอมพวิ เตอร์ ตวั อยา่ ง ระบบปฏบิ ตั ิการ เช่น วนิ โดวส(์ Windows) ลินุกซ(์ Linux) และ แมคโอเอส(MAC OS) 2)โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utilities Program) เป็นโปรแกรมที่ช่วยเสรมิ การ ทางานของคอมพิวเตอร์ หรือชว่ ยเสริมการทางานอืน่ ๆใหม้ ีความสามารถใชค้ วามได้ สะดวกและรวดเรว็ ยิ่งชนึ้ 3)โปรแกรมขับอุปกรณ์ หรือดีไวซไ์ ดรฟ์ เวอร์ (device driver) เป็นโปรแกรม ทช่ี ว่ ยในการติตตงั้ ระบบเพอ่ื ใหค้ อมพวิ เตอรส์ ามารถติดต่อหรอื ใช่งานอปุ กรณต์ า่ ๆ

4)โปรแกรมแปลภาษา เป็นโปรแกรมทท่ี าหนา้ ที่แปลโปรแกรมทเ่ี ขียนชนึ้ ดว้ ย ภาษาคอมพิวเตอรร์ ะดบั สงู ใหเ้ ป็นรหสั ทีอ่ ยใู่ นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอรส์ ามารถ ทางานได้ ดงั รูปที่ 1.9 ตวั อยา่ งตวั แปลภาษา เช่น ตวั แปลภาษาจารา ตวั แปลภาษาซี ซอฟตป์ ระยกุ ต์ (Application Software) หมายถงึ ชดุ คาส่งั ท่เี ขียนขนึ้ เพ่อื ให้ เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ างานตามวตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะอย่าง ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตอ์ าจเขยี น ขนึ้ โดยใชโ้ ปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์ เช่น เบสกิ (Basic) ปาสคาล (Pascal) โคบอล (Cobol) ซี (C) ซีพลสั พลสั (C++) และจาวา (Java) ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกตแ์ บง่ ตามกล่มุ การใชง้ านไดด้ งั ตารางที่ 1.1

1.2.3 ข้อมูล (Data) ขอ้ มลู จะถกู รวบรวมและป้อนเขา้ สเู่ ครือ่ งคอมพวิ เตอร์ โดยผ่านอปุ กรณข์ องหนว่ ยรบั เขา้ เชน่ คยี บ์ อรด์ เมาส์ และสแกนเนอร์ (Scanner) ขอ้ มลู ตอ้ งมโี ครงสรา้ งในการจดั เก็บทีเ่ ป็นระบบเพือ่ การสบื คน้ ทร่ี วดเร็วและมี ประสทิ ธิภาพ ขอ้ มลู จะถกู จดั เกบ็ อย่ในหน่วยความจา (Memory Unit) กอ่ นทจี่ ะถกู ยา้ ยไปเก็บท่ีหน่วยเก็บขอ้ มลู (Storage Unit) เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ และแผน่ ซีดี (Compact Disc: CD) 1.2.4 บคุ ลากร (People) บคุ ลากรเป็นองคป์ ระกอบทีส่ าคญั ที่สดุ ของ ระบบสารสนเทศ ในทน่ี หี้ มายถงึ บคุ ลากรทเ่ี ป็นผใู้ ชร้ ะบบสารสนเทศ ดงั รูปที่ 1.11

บคุ ลากรที่เป็นผพู้ ฒั นาระบบสารสนเทศ จะตอ้ งมคี วามรูค้ วามสามารถในการพฒั นา ระบบสารสนเทศใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพใหส้ ามารถทางานไดต้ ามความตอ้ งการของผู้ใชใ้ ช้ ง่ายและสะดวก สว่ นผใู้ ชต่ อ้ งมีความรู้ ความเขา้ ใจ และมคี วามสามารถในการใชง้ าน ระบบสารสนเทศและการสื่อสารตา่ งๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งจึงจะเกิดสารสนเทศทีเ่ ป็น ประโยชน์ 1.2.5 ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน (Procedure) ระบบสารสนเทศตอ้ งมี ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านทีเ่ ป็นลาดบั ขนั้ ชดั เจน เพ่อื ใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเขา้ ใจไดง้ า่ ย และ ดาเนนิ งานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ทงั้ ในสถานการณป์ กติและสถานการณฉ์ กุ เฉนิ เชน่ ขนั้ ตอนการบทั ึกขอ้ มลู ขนั้ ตอนการทาสาเนาขอ้ มลู ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั เิ ท่อื ขอ้ มลู ไดร้ บั ความเสียหาย หรือเม่อื เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณต์ า่ งๆเกิดการชารุดเสยี หาย ขนั้ ตอนตา่ งๆ เหล่านคี้ วรไดร้ บั การรวบรวมและจดั ทาใหเ้ ป็นรูป

1.3 ประโยชนแ์ ละตัวอยา่ งของการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและสอ่ื สาร 1.3.1 ดา้ นการศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารถกู นามาใชเ้ พอื่ อานวยความสะดวกในการบริหารดา้ นการศกึ ษา เชน่ ระบบการลงทะเบียน และ ระบบการจดั ตารางสอน นอกจากนีย้ งั ใชเ้ ป็นเครือ่ งมือในการเพ่ิมโอกาสทางดา้ น การศึกษาและเพิม่ ประสิทธิภาพการเรียนการสอน 1.3.2 ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข เทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสอื่ สารถกู นามาใชเ้ ร่ิมตงั้ แตก่ ารทาทะเบยี นคนไข้ การรกั ษาพยาบาลท่วั ไป ตลอดจนการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคตา่ งๆไดอ้ ย่างรวดเรว็ และแมน่ ยา นอกจากนีย้ งั ใช้ ในหอ้ งทดลอง การศกึ ษาและการวิจยั ทางการแพทย์ งานศึกษาโมเลกลุ สารเคมี สามารถคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทางการแพทย์ รกั ษาคนไขด้ ว้ ยระบบการรกั ษาทางไกล ตลอดเวลาผ่านเครือขา่ ยการสื่อสาร เครอ่ื งเอก็ ซเรยค์ อมพวิ เตอรท์ ีเ่ รยี กว่า อีเอม็ ไอ สแกนเนอร์ (EMI Scanner) ถูกนามาถา่ ยภาพสมองเพ่อื ตรวจหาความผดิ ปกตฺใน สมอง

1.3.3 ดา้ นการเกษตรและอุตสาหกรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสื่อสารถกู นามาใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นการเกษตรกรรม เช่น การจดั ทาระบบขอ้ มลู เพือ่ การเกษตรและพยากรณผ์ ลผลติ ดา้ นการเกษตร นอกจากนีย้ งั ชว่ ยพฒั นา ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นอตุ สาหกรรม การประดิษฐห์ นุ่ ยนตเ์ พื่อใชท้ างานบา้ น และ ห่นุ ยนตเ์ พือ่ งานอตุ สาหกรรมทต่ี อ้ งเส่ียงภยั และเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ เช่น โรงงาน สารเคมี โรงผลิตและการจ่ายไฟฟ้า รวมถงึ งานทีต่ อ้ งทาซา้ ๆ 1.3.4 ดา้ นการเงนิ ธนาคาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารถกู นามาใชใ้ นดา้ นการเงนิ และการธนาคาร โดยใชช้ ว่ ยดา้ นการบญั ชี การฝากถอนเงนิ โอนเงิน บรกิ ารสนิ เช่อื และเปล่ยี นเงนิ ตรา บรกิ ารขา่ วสารธนาคาร การใช้ คอมพิวเตอรด์ า้ นการเงินการธนาคารทีร่ ูจ้ กั และนยิ มใชก้ นั ท่วั ไป เช่น บริการฝากถอน เงิน การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

1.3.5 ดา้ นความม่ันคง มีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารกนั อย่างแพรห่ ลาย เช่น ใชใ้ นการควบคมุ ประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหสั ลบั ในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวเทยี มและการคานวณวถิ ีโคจรของจรวด ไปสอู่ วกาศ สานกั งานตารวจแหง่ ชาตขิ องประเทศไทยมีศนู ยป์ ระมวลข่าวสาร มีระบบ จดั ทาทะเบียนปืน ทะเบยี นประวตั ิอาชญากร ทาใหเ้ กิดความสะดวกและรวดเรว็ ใน การสบื คน้ ขอ้ มลู เพอื่ การสบื สวนคดีต่างๆ 1.3.6 ดา้ นการคมนาคม มกี ารใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารใน สว่ นทีเ่ ก่ยี วกบั การเดนิ ทาง เช่น การเดนิ ทางโดยรถไฟ มีการเช่อื มโยงขอ้ มลู การจองที่ น่งั ไปยงั ทกุ สถานี ทาใหส้ ะดวกตอ่ ผโู้ ดยสาร การเช็คอินของสายการบิน ไดจ้ ดั ทา เครื่องมือทส่ี ะดวกตอ่ ลกู คา้ ในรูปแบบของการเชค็ อินดว้ ยตนเอง 1.3.7 ด้านวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม มกี ารใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สารในการออกแบบ หรอื จาลองสภาววการณต์ ่างๆ เชน่ การรบั แรงส่นั สะเทอื นของอาคารเมื่อเกดิ แผ่นดิวไหว โดยการคานวณและแสดงภาพ สถานการณใ์ กลเ้ คียงความจริง

1.3.8 ด้านการพาณิชย์ องคก์ รในภาคธรุ กิจใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สารในการบริหารจดั การ เพอื่ ชว่ ยเพ่มิ ความยดื หยนุ่ ใหก้ บั องคก์ รในการทางาน ทาใหก้ ารประสานงานหรอื การทากจิ กรรมตา่ งๆ ของแต่ละ หน่วยงานในองคก์ รหรือระหว่างองคก์ รเป็นไปไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพมากขนึ้ นอกจากนีย้ งั สามารถใชป้ รบั ปรุงการใหบ้ ริการกบั ลกู คา้ ท่วั ไป สิง่ เหลา่ นนี้ บั เป็นการ สรา้ งโอกาสความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั ใหก้ ับองคก์ ร 1.4 แนวโน้มการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ สื่อสาร

1.4.1 ด้านอปุ กรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร เมอื่ พิจารณาเครือขา่ ยการสื่อสารท่วั ไปจากอดีตจนถงึ ปัจจบุ นั เหน็ ไดช้ ดั วา่ มนษุ ยใ์ ช้ อปุ กรณก์ ารสอื่ สารแบบพกพามากขนึ้ เร่อื ยๆ เริ่มจากวทิ ยเุ รยี กตวั (pager) ซง่ึ เป็น เครื่องรบั ขอ้ ความ มาเป็นถงึ โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ อปุ กรณส์ ่สื ารชนิดนไี้ ดถ้ กู พฒั นาจน สามารถใชง้ านดา้ นอ่ืนๆได้ นอกจากการพดู คยุ ธรรมดา โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่รุน่ ใหม่ สามารถใชถ้ า่ ยรูป ฟังเพลง ฟังวิทยุ ดโู ทรทศั น์ บนั ทึกขอ้ มงู สน้ั ๆ บางรุน่ มลี กั ษณะเป็น เครื่องช่วยงานสว่ นบคุ คล (Personal Digital Assistant : PDA) ซง่ึ สามารถเช่ือมต่อ กบั อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ อกี ทงั้ ยงั มหี นา้ จอแบบสมั ผสั ทาใหส้ ะดวกตอ่ การใชง้ านมากขนึ้ บางรุน่ มอี ปุ กรณส์ ไตลสั (stylus) 1.4.2 ด้านระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ระบบเคร่อื งข่ายคอมพิวเตอร์ ในอดีตมงั เป็นระบบท่ีใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณเ์ ช่ือมตอ่ ตรงโดยจดุ เดยี ว (stand alone) ต่อมามกี ารเช่ือมตอ่ คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ดว้ ยกนั ภายในองคก์ ร เพอ่ื ทาใหส้ ามารถ ใชข้ อ้ มลู รว่ มกนั หรอื ใชเ้ คร่ืองพิมพร์ ว่ มกนั จนเกิดเป็นระบบรบั และใหบ้ รกิ าร หรอื ที่ เรยี กวา่ ระบบรบั -ใหบ้ ริการ (client-server system) โดยมีเครอื่ งใหบ้ รกิ าร (server) และเคร่ืองรบั บริการ (client) การใหบ้ ริการบนเว็บก็นาหลกั การของระบบรบั - ใหบ้ ริการมาใชช้ ่วยใหก้ ารทางานง่ายขนึ้ สะดวก รวดเรว็ เพราะสามารถทางานจากท่ี

ใดกไ็ ดโ้ ดยผา่ นระบบอนิ เตอรเ์ น็ต โดยมเี ว็บเซอรเ์ วอร์ (web server) เป็นเครอ่ื ง ใหบ้ รกิ าร 1.4.3 ด้านเทคโนโลยี ระบบทางานอัตโนมตั ทิ ส่ี ามารถตดั สนิ ใจไดเ้ องจะเขา้ มาแทนที่มากขนึ้ เชน่ ระบบแนวนาเสน้ ทางจราจร ระบบจอดรถ ระบบตรวจหา ตาแหน่งของวตั ถุ ระบบควบคมุ ความปลอดภยั ภายในอาคาร ระบบท่ีทางานอตั โนมตั ิ เช่นนี้ อาจกลายเป็นระบบหลกั ในการดาเนินการของหนว่ ยงานต่างๆ โดยเขา้ มา แทนทกี่ ารทางานของมนษุ ย์ มกี ารเชื่อมต่ออยา่ งกวา้ งขวางไปยงั หน่วยงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง มากกวา่ ท่เี ป็นอย่ใู นปัจจบุ นั 1.5 ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร

ความกา้ วหนา้ ของอปุ กรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารเป็นไปอยา่ ง รวดเรว็ เพ่อื นสนองความตอ้ งการดา้ นต่างๆ ของผใู้ ชป้ ัจจบุ นั ซึง่ มจี านวนผใู้ ชง้ าน เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารท่วั โลกประมาณพนั ลา้ นคน และเพ่ิมขนึ้ เร่อื ยๆ ทกุ ปี ผใู้ ชส้ ามารถใชง้ านอปุ กรณด์ งั กลา่ วไดท้ ุกที่ ทกุ เวลา จงึ ทาใหเ้ กิดความ เปลย่ี นแปลงดา้ นต่างๆทงั้ ทีเ่้ กิดประโยชนแ์ ละโทษ เช่น 1. ด้านสังคม สภาพเสมอื นจริง การใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ เช่ือมโยงการทางานต่างๆ จน เกิดเป็นสงั คมท่ีติดต่อผ่านทางอินเตอรเ์ น็ต หรอื ทร่ี ูจ้ กั กนี ว่า ไซเบอรฺส์ เปช (cyber space) ซง่ึ มีกจิ กรรมตา่ งๆ เช่นการพดู การชอื้ สนิ คา้ และบริการ การทางานผา่ น เครอื่ ข่ายคอมพิวเตอรท์ าใหเ้ กิดสภาพทเ่ี สมือนจรงิ (virtual) เชน่ เกมสเ์ สมือนจรงิ หอ้ งเรยี นเสมอื นจริง ซงึ่ ทาใหล้ ดเวลาในการเดนิ ทางและสามารถใชง้ านไดท้ กุ ท่ที กุ เวลา 2. ดา้ นเศรษฐกิจ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารสง่ ผลใหเ้ กดิ สงั คมโลกาภิ วตั น(์ globalization) เพราะสามารถชมขา่ ว ชมรายการโทรทศั นทีส่ ง่ กระจายผ่าน ดาวเทียมของประเทศต่างๆ ไดท้ ่วั โลก สามารถรบั รูข้ ่าวสารไดท้ นั ที ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ใน การตดิ ตอ่ สอื่ สารระหว่างกนั ระบบเศรษกิจซึ่งแต่เดมิ มีขอบเขตจากดั ภายในประเทศ ก็กระจายเป็นเศรษญกิจโลก เกิดกระแสการหมนุ เวียนแลกเปลี่ยนสนิ คา้ และบรกิ าร

อย่างรวดเรว็ และกวา้ งขวาง ระบบเศรษฐกิจของทกุ ประเทศในโลกจึงเชอ่ื มโยงและ ผกู พนั กนั มากขนึ้ 3. ด้านส่งิ แวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร มีประโยชนใ์ นดา้ น ธรรมชาตแิ ละและส่งิ แวดลอ้ ม เชน่ ระบบป้องกนั การกดั เซาะชายฝ่ัง โดยใชภ้ าพถา่ ย ดาวเทียม หรอื ภาพถา่ ยทางอากาศ รว่ มกบั การจดั เกบ็ รกั ษาขอ้ มลู ระดบั นา้ ทะเล ความสงู ของคล่นื จากระบบเรดาร์ เป็นการศึกษาเพ่ือหาสาเหตุ และนาขอ้ มลู มา วางแผนและสรา้ งระบบเพอื่ ป้องกนั การกดั เซาะชายฝ่ังแต่ละแห่งไดอ้ ย่างเหมาะสม 1.6 ตัวอย่างอาชีพทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร ตลาดแรงงานตอ้ งการผทู้ ี่มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจงานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ส่อื สารอย่างแทจ้ รงิ ซึง่ งานดา้ นนจี้ ะรวมถึง งานดา้ นการออกแบบโปรแกรมต่างๆ โปรแกรมใชง้ านบนเว็บ งานดา้ นการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ งานดา้ น ฐานขอ้ มลู งานดา้ นระบบเครอื ข่ายทงั้ ในและนอกองคก์ ร รวมถึงการรกั ษาความม่นั คง ปลอดภยั ในระบบคอมพิวเตอรบ์ นเครอื ข่าย ดงั นนั้ องคก์ รจึงมคี วามตอ้ งการบคุ ลากร

ท่ีมีความรู้ ความสามารถในการบริหารจดั การ และพฒั นาซอฟตแ์ วร์ เพือ่ ใชง้ านดา้ น ต่างๆขององคก์ ร ตวั อยา่ งอาชีพดา้ นเทคโลโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร เชน่ 1. นักเขยี นโปรมแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ (programmer) ทาหนา้ ที่ในการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือใชใ้ นงานดา้ นต่างๆ เชน่ โปรมแกรม เก่ยี วกบั การซอื้ ขายสินคา้ โปรแกรมท่ีใชก้ บั งานดา้ นบญั ชี หรือโปรแกรมทใ่ี ชก้ บั ระบบงานขนาดใหญ่ขององคก์ ร 2. นักวเิ คราะหร์ ะบบ (system analyst) ทาหนา้ ทใ่ี นการศกึ ษาวเิ คราะหแ์ ละพฒั นาระบบสารสนเทศ นกั วเิ คราะหร์ ะบบจะทา การวเิ คราะหร์ ะบบงานและออกแบบระบบสารสนเทศใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของ ผใู้ ชง้ าน ซ่ึงอาจรวมถงึ งานดา้ นการออกแบบฐานขอ้ มูลดว้ ย

3. ผู้ดูแลและบริหารฐานข้อมลู (database administrator) ทาหนา้ ท่บี ริหารและจดั การฐานขอ้ มลู (database) รวมถงึ การออกแบบ บารุงรกั ษา ขอ้ มลู และการดแู ลระบบความปลอดภยั ของฐานขอ้ มลู เช่น การกาหนดบญั ชผี ใู้ ช้ การกาหนดสทิ ธิ์ผใู้ ช้ 4. ผ้ดู ูแลและบรหิ ารระบบ(system administrator) ทาหนา้ ท่บี รหิ ารและจดั การระบบคอมพวิ เตอรใ์ นองคก์ ร โดยดแู ลการตดิ ตงั้ และ บารุงรกั ษาระบบปฎิบตั กิ าร การตดิ ตงั้ ฮารด์ แวร์ สรา้ ง ออกแบบและบารุงรกั ษาบญั ชี ผใู้ ช้ สาหรบั องคก์ รขนาดเลก็ เจา้ หนา้ ทีค่ วามคมุ ระบบอาจตอ้ งดแู ลและบริหารระบบ เครอื ขา่ ยดว้ ย

5. ผดู้ ูแลและบรหิ ารระบบเครือขา่ ย (network administrator) ทาหนา้ ที่บรหิ ารและจดั การออกแบบระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ และดแู ลรกั ษา ความปลอดภยั ของระบบเครอื ขา่ ยขององคก์ ร เช่น ตรวจสอบการใชง้ านเครือข่ายของ พนกั งานและติดตงั้ โปรแกรมป้องกนั ผบู้ กุ รุกเครอื ข่าย

6. ผูพ้ ฒั นาและบริหารระบบเว็บไซต์ (webmaster) ทาหนา้ ท่ีออกแบบพฒั นา ปรบั ปรุงและบารุงรกั ษาเว็บไซตใ์ หม้ ีความทนั สมยั โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ตอ้ งมกี ารปรบั ปรุงขอ้ มลู ใหเ้ ป็นปัจจบุ นั อยเู่ สมอ 7. เจ้าหน้าที่เทคนคิ (technician) ทาหนา้ ทซ่ี อ่ มบารุงรกั ษาเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ติดตงั้ โปรแกรม หรือติดตงั้ ฮารด์ แวร์ ตา่ งๆและแกไ้ ขปัญหาท่อี าจเกดิ จากการใชอ้ ปุ กรณค์ อมพิวเตอรใ์ นองคก์ ร 8. นักเขียนเกม (game maker)

ทาหนา้ ทเ่ี ขยี นหรอื พฒั นาโปรแกรมเกมคอมพิวเตอรใ์ นปัจจบุ นั นกี้ ารเขียนโปรมแกรม คอมพิวเตอรเ์ ป็นอาชีพไดร้ บั ความนยิ มอย่างสงู ในประเทศไทย บทท่ี 2 ขอ้ มลู สารสนเทศ และความรู้ 2.1 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจบุ นั ทาใหใ้ นแตล่ ะวนั มีการผลติ ขอ้ มลู ขนึ้ มาจานวนมาก ขอ้ มลู บางสว่ นจะถกู นามาประมวลผลเพ่ือนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นดา้ น ต่างๆ ตวั อย่างเชน่ ขอ้ มลู จากเวบ็ ไซตท์ ีม่ จี านวนเพม่ิ ขนึ้ อย่างรวดเรว็ ในแต่ละวนั ซึ่ง สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู เหลา่ นไี้ ดเ้ พยี งคน้ หาขอ้ ความ รูปภาพ หรือวดี ทิ ศั น์ ที่ ตรงกบั ความสนใจเทา่ นน้ั แตไ่ มส่ ามารถนาขอ้ มลู เหลา่ นมี้ าประมวลผลและแสดง ความรูท้ ่ีแฝงอย่ไู ดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิผล ข้อมลู (data) คือ ส่ืงที่ใชอ้ ธิบายคณุ ลกั ษณะของวตั ถุ เหตกุ ารณ์ กิจกรรม โดย บนั ทึกจาการสงั เกต การทดลอง หรือการสารวจดว้ ยการแทนรูปแบบใดรูปแบบหน่งึ เช่น บนั ทกึ ไวเ้ ป็นตวั เลข ขอ้ ความ รูปภาพ และสญั ลกั ษณ์

ตวั อยา่ งของขอ้ มลู ตา่ งๆ ทน่ี กั เรียนสามารถพบเห็นไดเ้ ป็นประจา เชน่ เกรดทร่ี กั เรยี นไดร้ บั ในแต่ละวิชา ราคาของสนิ คา้ ชนดิ ตา่ งๆ ในหา้ งสรรพสนิ คา้ รูปภาพและขอ้ ความต่างๆ ท่ีปรากฏในเวบ็ ไซต์ ดงั รูปท่ี 2.1 สารสนเทศ (information) คือ ผลลพั ธท์ ่ไี ดจ้ ากการนาขอ้ มลู มาประมวลผล เพ่อื ให้ ไดส้ งิ่ ที่เป็นประโยชนใ์ นการนาไปใชง้ านมากขนึ้ เช่น ส่วนสงู นกั เรยี นหญิงนกั เรียนชาย แตล่ ะคนในชนั้ เรียนเป็นขอ้ มลู จะสามารถสรา้ งสารสนเทศจากขอ้ มลู เหลา่ นไี้ ดห้ ลาย แบบ เพือ่ นาไปใชใ้ นจดุ ประสงคท์ ี่แตกตา่ งกนั ตวั อยา่ งเชน่ การนาขอ้ มลู เหล่านเี้ รียง ตามลาดบั จากมากไปนอ้ ย หรือการหาคา่ เฉลย่ี ของส่วนสงู ของนกั เรียน เพือ่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ ห็นความแตกต่างของขอ้ มลู และสารสนเทศอย่างชดั เจนมาก ขนึ้ จึงไดแ้ สดงตวั อยา่ งของการเปลย่ี นขอ้ มลู มาเป็นสารสนเทศอย่างงา่ ย ไวใ้ น ตวั อย่างที่ 2.1 ตัวอย่างที่ 2.1 ถา้ เราตอ้ งการทราบการเปลีย่ นแปลงหรอื การเจริญเตบิ โต ของตน้ ถ่วั เพอื่ เฟรียบ เทยี บส่วนสงู กนั วา่ มีการเปล่ียนแปลงอยา่ งไรดงั รูปที่ 2.2

จากตวั อยา่ งขา้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ การสรา้ งสารสนเทศ ซึง่ ในทน่ี คี้ อื ส่วนสงู เฉลยี่ ของ นกั เรียนในชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 จะสามารถถูกนาไปใชเ้ พอ่ื วิเคราะหแ์ ละตอบคาถาม ว่า สว่ นสงู ของนกั เรยี นมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ ไงรตลอด 20 ปีทผี่ ่านมาซง่ึ สารสนเทศ เหลา่ นจี้ ะถกู นาไปใชเ้ พื่อสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจอืน่ ๆ เชน่ การตดั สนิ ใจดา้ นโภชนาการ หรอื การจดั หลกั สตู รวชิ าพลานามยั เพื่อใหเ้ หมาะสมกบั นกั เรียนในปัจจบุ นั ดงั รูปที่ 2.3 ขอ้ มลู เหล่านจี้ ะตอ้ งถกู สง่ เขา้ กระบวนการต่างๆ ตามความเหมาะสม เพ่อื เปลี่ยนให้ ขอ้ มลู กลายเป็นสิ่งทีส่ ามารถนามาใชเ้ พอ่ื สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจตา่ งๆ ได้ ตวั อย่างดงั รูปท่ี 2.3

ความรู้ (knowledge) เป็นคาท่ีมคี วามหมายกวา้ ง และใชก้ นั โดยท่วั ไป ใน ดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอรห์ รอื วิศวกรรมคอมพวิ เตอรก์ ล่าวถงึ ความรูไ้ วใ้ นหลาย แง่มมุ แตค่ วามหมายในแงม่ มุ หนงึ่ ท่สี อดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู และสารสนเทศ ความรู้ คือ ส่งิ ท่ีประกอบดว้ ยขอ้ มลู และสารสนเทศทถ่ี กู จดั รูปแบบและประมวลผลเพอ่ื นาไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นปัญหาท่ีตอ้ งการนาขอ้ มลู และสารสนเทศเหลา่ นไี้ ปแกไ้ ข นอกจากนีย้ ังมนี ยิ ามของความรูอ้ กี ดา้ นหนง่ึ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั เร่อื งของ ขอ้ มลู และสารสนเทศคือ ความรูท้ ี่แฝงอย่ใู นขอ้ มลู เป็นส่งื ท่ีสามารถสกดั จากสารสนเทศท่มี ี รูปแบบน่าสนใจ เป็นจริงสาหรบั ขอ้ มลู ใหม่หรือขอ้ มลู ที่ไมเ่ คยเหน็ มาก่อน เป็นรูปแบบ ใหมท่ ม่ี นษุ ยไ์ ม่เคยเหน็ กนั มากอ่ น ซง่ึ ผลลพั ธส์ ดุ ทา้ ยจาการวิเคราะหส์ ารสนเทศจะได้ เป็นความรูท้ ่เี ปน้ ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชไ้ ด้ เราเรยี กกระบวนการทส่ี ามารถสกดั ความรูจ้ ากขอ้ มลู ท่ีถกู เก็บรวบรวมไว้ เป็น อย่างดใี นฐานขอ้ มลู วา่ การคน้ พบความรูใ้ นฐานข้อมูล (knowledge discovery in databases) ดงั รูปท่ี 2.4 ซงึ่ ตวั อย่างของการคน้ พบความรูน้ ี้ แสดงไวใ้ น ตวั อย่างที่ 2.2

ตัวอยา่ งที่ 2.2 สมมติว่าเราไมเ่ คยมีความรูม้ าก่อนเลยวา่ เพราะเหตใุ ดนกั เรียน บางคน จงึ สงู กว่านกั เรียนคนอ่นื เราสามารถนาส่วนสงู ของนกั เรียนแตล่ ะคนมาจบั คู่ กบั คณุ สมบตั ิอน่ื ๆ เช่น ลกั ษณะนิสบั การรบั ประทานอาหาร (รบั ประทานอาหารทมี่ ี ประโยชนเ์ ป็นประจาหรือไม)่ และความถ่ใี นการออกกาลงั กาย ( ทกุ วนั สปั ดาหล์ ะ 3 ครงั้ สปั ดาหล์ ะครงั้ เดอื นละ ครงั้ หรือนอ้ ยมาก) เม่อื เราใชก้ ระบวนการคน้ พบความรูใ้ นบานขอ้ มลู ชดุ นี้ ความรูท้ ี่เราอาจจะ พบไดจ้ ากขอ้ มลู ไดแ้ ก่ รูปแบบความสมั พนั ธบ์ างอย่าง เชน่ 1. นกั เรยี นทอี่ อกกาลงั กายทกุ วนั และรบั ประทานอาหารท่ีเป็นประโยชนเ์ ป็นประจา จะมสี ว่ นสงู สงู กว่านกั เรียนท่ีออกกาลงั กายวนั เวน้ วนั แตไ่ มไ่ ดร้ บั ประทานอาหารที่เป็น ประโยชนเ์ ป็นประจา 2. นกั เรียนทีอ่ อกกาลงั กายนอ้ ยมาก และไม่รบั ประทานอาหารที่เป็นประโยชนเ์ ป็น ประจา จะมีสว่ นสงู นอ้ ยท่สี ดุ ในหอ้ ง 2.2 การจดั การความรู้ (knowledge management)

ในการบริหารองคก์ ร สิ่งหน่งึ ที่เกิดขนึ้ แตไ่ ม่สามารถประเมนิ คณุ ค่าเป็นตวั เงินได้ คอื ความรูท้ ่ีไดจ้ ากการปฎิบตั ิงาน เนอ่ื งจากในการทางาน การแกป้ ัญหา การแสวงหา ความรู้ การนาความรูม้ าปรบั ใช้ โดยพนกั งานในระดบั ต่างๆ เกดิ ขนึ้ อยตู่ ลิดเวลาใน การทางาน พนกั งานทป่ี ฎิบตั ิงานหนงึ่ คนจะตอ้ งใชค้ วามรูแ้ ละทกั ษะเฉพาะอยา่ ง เพ่ือ ทางานใหล้ ลุ ว่ งไปได้ ซ่ึงการจาทาใหพ้ นกั งานหนงึ่ คนสามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ ง ราบรนื่ นน้ั จะตอ้ งใชก้ ารอบรมเพื่อสรา้ งความรูร้ วมถึงทกั ษะใหก้ บั พนกั งานเหล่านี้ ซ่งึ ความรูท้ ่ถี ่ายทอดใหแ้ ก่พนกั งานนี้ จดั วา่ เป้นทนุ ทางปัญญา (intellectual capital) ซ่ึง เป็นสง่ื ทีค่ ณุ ค่าอย่างสงู กบั องคก์ ร เพราะความรูบ้ างอยา่ งตอ้ งใชง้ บประมาณและ เวลาในการสรา้ งขนึ้ ทาอย่างไรจึงจะมามารถจดั การความรูใ้ นองคก์ รเหล่านใี้ หเ้ กดิ ประสิทธิภาพสงู สดุ ตวั อยา่ งการจดั การความรูใ้ นองคก์ ร ดงั รูปที่ 2.5 ระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การความรู้ สามารถช่วยองคก์ รในการจดั การความรู้ เหล่านไี้ ดโ้ ดยระบบนจี้ ะทางานแตกต่างกนั ไปตามจดุ มงุ่ หมายขององคก์ ร ซ่งึ ผใู้ ชใ้ น องคก์ รท่อี าจประกอบดว้ ยพนกั งานท่วั ไป ผบู้ รหิ าร หรอื บคุ คลภายนอก จะเป็นผสู้ รา้ ง สารสนเทศเพ่ือเกบ็ ไวใ้ นระบบนี้ โดยระบบจะตอ้ งสามารถจดั หมวดหมู่ คน้ หา รวมถึง กระจายสารสนเทศเหลา่ นใี้ หก้ บั ผใู้ ชค้ นอื่นเพอ่ื ใหผ้ ใู้ ชแ้ ตล่ ะคน สามารถนา

สารสนเทศไปใชไ้ ดต้ ามสิทธิข์ องตนเอง ตวั อยา่ งระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ ความรู้ ดงั รูปท่ี 2.6 นอกจากนีย้ งั มศี าสตรท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การจดั การความรูท้ ่ีนา่ สนใจอกี ดา้ น หน่ึง คอื ความฉลาดรว่ ม (collective intelligence) ซึง่ เป็นการสรา้ งความฉลาดหรือสรา้ ง ความรูร้ ว่ มกนั ระหวา่ งผใู้ ช้ ตวั อย่างของการสรา้ งความรูใ้ นลกั ษณะนเี้ ช่น วกิ ิพเี ดีย (Wikipedia) ซึง่ ผใู้ ชแ้ ตล่ ะคนสามารถเพิม่ เตมิ แกไ้ ข ขอ้ มลู รว่ มกนั ได้ โดยผใู้ ชค้ นอนื่ ๆ ทไ่ี ม่ไดม้ สี ่วนรว่ มในการเพม่ิ เติมหรอื แกไ้ ขขอ้ มลู กส็ ามารถเขา้ ถงึ และใชข้ อ้ มูลหรือ ความรูเ้ หล่านนั้ ได้ เป็นตน้ ตวั อยา่ งการสรา้ งความรูร้ ว่ มกนั ของวกิ ิพเี ดีย ดงั รูปท่ี 2.7 2.3 ลกั ษณะของขอ้ มลู ทด่ี ี

มีคากลา่ วเก่ยี วกบั การประมวลผลขอ้ มลู ไวอ้ ย่างนา่ ฟังว่า ถา้ ขอ้ มลู เขา้ เป็นขยะ สื่งทีอ อกมาก็จะเป็นขยะดว้ ย (Garbage In , Garbage Out) ซ่งึ หมายความวา่ ถา้ ขอ้ มลู ที่ นาไปประมวลผลเป็นขอ้ มลู ท่ดี อ้ ยคณุ ภาพ ผลลพั ธท์ อ่ี อกมากย็ อ่ มดอ้ ยคณุ ภาพไป ดว้ ย ดงั นนั้ เราควรจะตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการเกบ็ ขอ้ มลู รวมถึงการ ประมวลผลขอ้ มลู เบือ้ งตน้ ดว้ ย 1. ความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู เป็นลกั ษณะสาคญั ย่ิงของขอ้ มลู ถา้ ขอ้ มลู ไม่ ถกู ตอ้ งแลว้ เราจะไม่สามารถไดผ้ ลลพั ธท์ ถ่ี กู ตอ้ งไดเ้ ลย ซ่ึงประเดน็ นเี้ ป็นเรอื่ งสาคญั ท่ี เกิดขนึ้ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ กบั ขอ้ มลู ทม่ี ี ขนาดใหญ่ และไมม่ ีการตรวจสอบ เช่น ขอ้ มลู ในโลกอินเทอรเ์ นต็ ซ่ึงจาเป็นตอ้ งไดร้ บั การตรวจสอบก่อนนามาใชเ้ สมอ นอกจากนีข้ อ้ มลู บางประเภท เช่น ขอ้ มลู เสียงที่เก็บจากไมโครโฟน ดงั รูปท่ี 2.8 อาจมปี ัญหาเก่ยี วกบั สญั ญาณเสียงรบกวนเกิดขนึ้ ดงั นนั้ ขอ้ มลู ประเภทนี้ จึงตอ้ งไดร้ บั การปรบั ปรุงคณุ ภาพหรอื เรียกวา่ กระบวนการลดสญั ญาณรบกวน จึงจะสามารถ นามาใชง้ านได้

สาหรบั ขอ้ มลู ที่ไดบ้ การบนั ทึกดว้ ยมนษุ ยโ์ ดยมากมกั ตอ้ งผ่านการตรวจสอบก่อน เสมอ ซงึ่ อาจตรวจสอบโดยมนษุ ย์ หรือตรวจสอบโดยระบบ ตวั อยา่ งเช่น ขอ้ มลู ที่มี ความสาคญั อาจตอ้ งป้อนสองครง้ั เพื่อป้องกนั ความผดิ พลาดซึ่งนกั เรียนสามารถเห็น ตวั อยา่ งของขอ้ มลู เหลา่ นี้ ไดจ้ ากการป้อนรหสั ผา่ นเวลาลงทะเบียนตามเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ที่นีกเรยี นตอ้ งป้อนรหสั หรืออีเมลสองครง้ั เพือ่ ปอ้ งกนั ขอ้ ผิดพลาด ดงั รูปที่ 2.9 นอกจากนีข้ อ้ มลู ที่เป็นรหสั ตวั เลขสาคญั มกั จะมตี วั เลขซง่ึ เป็นหลกั ตรวจสอบแฝงไว้ เสมอ เชน่ ขอ้ มลู หมายเลขบตั รเครดติ 16 หลกั เมื่อนามาผา่ นกระบวนการ ประมวลผล จะสามารถตรวจสอบไดว้ า่ หมายเลขบตั รเครดิตนน้ั ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เป็น ตน้ 2. ความสมบูรณค์ รบถ้วนในการนาไปใช้งาน ขอ้ มลู บางประเภทหากไม่ ครบถว้ น จดั เป็นขอ้ มลู ท่ีดอ้ ยคณุ ภาพไดเ้ ชน่ กนั เช่น ขอ้ มลู ประวตั คิ นไข้ หากไมม่ หี มู เลือดของคนไข้ จะไมส่ ามารถใชไ้ ดใ้ นกรณีทีผ่ รู้ อ้ งขอขอ้ มลู ตอ้ งการขอ้ มลู หม่เู ลือดของ คนไข้ หรือขอ้ มลู ท่ีอย่ขู องลกู คา้ ท่ีกรอกผา่ นแบบฟอรม์ ถา้ มชี ื่อและนามสกลุ โดยไม่มี ขอ้ มลู บา้ นเลขที่ ถนน แขวง/ตาบล เขต/หรอื จงั หวดั ขอ้ มลู เหลา่ นนั้ ก็ไม่สามารถ นามาใชไ้ ดเ้ ชน่ กนั ตวั อยา่ งขอ้ มลู ทีไ่ มค่ รบถว้ น ดงั รูปท่ี 2.10

ขอ้ มลู การติดตามตาแหนง่ ของรถยนตด์ ว้ ยระบบจพี ีเอส ดงั แสดงในรูปที่ 2.11 สาหรบั บรษิ ัททต่ี อ้ งทางานตดิ ตามรถยนต์ ขอ้ มลู ตาแหนง่ รถยนต์ จะตอ้ งไดร้ บั การ ปรบั ใหเ้ ป็นจรงิ ตลดิ เวลา หากขอ้ มลู นนั้ ปรบั ทกุ ๆหนึ่งช่วั โมง จะไมม่ ีประโยชนใ์ นการ ติดตามตาแหนง่ ของรถยนต์ ดงั นน้ั ในเร่ืองความถกู ตอ้ งตามเวลาของขอ้ มลู จงึ เป็น เร่ืองสาคญั ประการหนึ่งทต่ี อ้ งนามาพิจารณาเมื่อตอ้ งมกี ารจดั เก็บขอ้ มลู หรือ ประมวลผลขอ้ มลู 3. ความถกู ต้องตามเวลา ในบางกรณีขอ้ มลู ผกู อยกู่ บั เงือ่ นไขของเวลา ซ่ึงถา้ ผิด จากเงอื่ นไขของเวลาไปแลว้ ขอ้ มลู นนั้ อาจลดคณุ ภาพลงไป หรอื แมก้ ระท่งั ไมส่ ามารถ ใชไ้ ด้ เชน่ ขอ้ มลู การใหย้ าของคนไขใ้ นโรงพยาบาล ดงั รูปท่ี 2.12 ในทางการแพทย์ แลว้ ขอ้ มลู นจี้ ะตอ้ งถกู ใส่เขา้ ไปในฐานขอ้ มลู ทคี่ นไขไ้ ดร้ บั ยาเพ่อื ใหแ้ พทยค์ น อนื่ ๆ ได้ ทราบวา่ คนไขไ้ ดร้ บั ยาชนดิ นเี้ ขา้ ไปแลว้ แตข่ แ้ มลู เรื่องการใหย้ าของคนไขน้ ี้ อาจไม่

จาเป็นตอ้ งไดร้ บั การปรบั ทนั ที สาหรบั แผนกการเงิน เพราะแผนกการเงินจะคดิ เงินก็ ต่อเมื่อญาติคนไขม้ าตรวจสอบ หรอื คนไขก้ าลงั ออกจากโรงพยาบาล 4. ความสอดคล้องกนั ของข้อมูล ในกรณทีข่ อ้ มลู มาจากหลายแหล่ง จะเกดิ ปัญหาขคน้ ในเร่ืองของความสอดคลอ้ งกนั ของขอ้ มลู เชน่ ในบริษทั แหง่ หน่ึงซึง่ เก็บ ขอ้ มลู ทอ่ี ยลู่ กู คา้ หากตอ้ งการนาขอ้ มลู ไปควบรวมกบั บรษิ ัทอกี แห่งหนึง่ ซึง่ มขี อ้ มลู ของลกู คา้ อยู่ เชน่ กนั แตข่ อ้ มลู ในการจดั ส่งเอกสารของบริษัทแหง่ แรก เป็นที่อย่ทุ ่พี กั อาศยั ของลกู คา้ ในขณะท่ีขอ้ มลู ในบรษิ ัทที่สองเป็นทอ่ี ยขู่ องสถานที่ทางานลกู คา้ ขอ้ มลู จากทงั้ สองบรษิ ัทนเี้ ป็นขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งสอดคลอ้ งตามเวลาทงั้ คู่ แต่ถา้ ตอ้ งการ เก็ยขอ้ มลู ทอ่ี ยลู่ กู คา้ เพยี งทอ่ี ย่เู ดยี ว กจ็ ะเกดิ ปัญหาขนึ้ ได้ ตวั อย่างของการไม่ สอดคลอ้ งกนั ของขอ้ มลู ดงั รูปที่ 2.13

2.4 การจดั เก็บขอ้ มลู เมื่อเหน็ ความสาคญั ของขอ้ มลู แลว้ ทาอย่างไรจงึ จะเก็บรกั ษาขอ้ มลู เหลา่ นน้ั ใหค้ งอยู่ รวมถึงทาใหส้ ามารถประมวลผลขอ้ มลู นน้ั ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ โดยมากและจะ รวมอยใู่ น ระบบฐานขอ้ มลู ซง่ึ นามาใชใ้ นการจดั เก็บการเขา้ ถงึ และการประมวลผล ขอ้ ดใี นการนาฐานขอ้ มลู เหลา่ นไี้ ปใชใ้ นองคก์ รหรอื หนว่ ยงาน เช่น - การจดั เก็บอย่างมีประสทิ ธภิ าพ สามารถลดภาระการเกบ็ เอกสารทเ่ี ป้นก ระดาษได้ รวมถึงการทาซา้ เพื่อสารองขอ้ มลู สามารถทาไดส้ ะดวกและรวดเร็ว - การตอบสนองต่อความต้องการได้อยา่ งรวดเรว็ เชน่ ขอ้ มลู ประวตั ิการ บารุงรกั ษารถยนตแ์ ละขอ้ มลู ประวตั ิคนไข้ ผใู้ ชท้ ่ตี อ้ งการนาขอ้ มลู เหลา่ นไี้ ปใชง้ าน สามารถเขา้ ถงึ ระบบฐานขอ้ มลู และนาขอ้ มลู ท่ตี อ้ งการไปใชไ้ ด้ - การจากัดสิทธิ์ในการเข้าถงึ ข้อมูลใหแ้ ก่ผูใ้ ช้ในแตล่ ะระดับขององคก์ ร เช่น ผบู้ ริหารสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของทกุ หนว่ ยงานได้ แตผ่ ใู้ ชท้ ่วั ไปในแผนกการเงนิ ไมส่ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มลู ประวติ ขิ องฝ่ายบคุ คลได้ เป็นตน้ 2.4.1 ลาดับช้ันของข้อมลู ในฐานข้อมูล ก่อนจะกลา่ วถึงลาดบั ชนั้ ของขอ้ มลู ใน ฐานขอ้ มลู สง่ื แรกทีต่ อ้ งกล่าวถึงกอ่ น คือ ลาดบั ชน้ั ลา่ งสดุ ของการแทนขอ้ มลู น่นั คอื การแทนขอ้ มลู ดว้ ยตวั เลขฐานสอง ซ่งึ ประกอบดว้ ยตวั เลขสองตวั คือ ' 0 ' และ '1'

ในทางคอมพิวเตอร์ จะเรยี กตวั เลขฐานสองหนงึ่ หลกั นีว้ ่า 1 บิต (bit) ซงึ่ ถือว่าเป็น หน่วยเลก็ ท่สี ดุ ของขอ้ มลู และหากนาบติ มาตอ่ กนั จานวน 8 บิต จะเรยี กวา่ 1 ไบต์ (byte) ตวั อยา่ งทารแทนขอ้ มลู ทางคอมพิวเตอร์ ดงั รูปท่ี 2.15 1. เขตข้อมูล (field) เม่อื นาขอ้ มลู ระดบั บิตมาเรียงตอ่ กนั เพอ่ื แทนขอ้ มลู ใดๆ ท่ี ตอ้ งการเก็บในฐานขอ้ มลู เราจะจดั ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นบิตนมี้ ารวมกนั เพ่อื แทนความหมาย บางอยา่ ง หนว่ ยย่อยที่สดุ ท่มี คี วามหมายในฐานขอ้ มลู นเี้ รยี กวา่ เขตขอ้ มลู โดยเขตขอ้ มลู อาจแทนขอ้ มลู ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปนี้ - จานวนเต็ม (interger) คอมพวิ เตอรส์ ่วนใหญจ่ ะเกบ็ ตวั เลขขนาด 32 บติ ซึ่งขนาดของตวั เลขนีอ้ าจเปลย่ี นแปลงไปตามเทคโนโลยขี องเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ตวั เลขฐานสองขนาด 32 บติ สามารถแทนตวั เลขจานวนเต็มไดต้ งั้ แต่ -2,147,483, 648 ถึง 2,147,483,647 แตถ่ า้ เป็นเขตขอ้ มลู ทีร่ ะบไุ วว้ ่า เป็นตวั เลขจานวนเต็มไม่ระบุ เคร่ืองหมาย (unsigned integer) เทา่ นนั้ จะสามารถแทนตวั เลขจานวนเตม็ ไดต้ งั้ แต่ 0 ถึง 4,294,967,295 - จานวนทศนิยม (decimal number) ใรคอมพิวเตอร์ จะเกบ็ ตวั เลขทศนยิ ม โดยใชร้ ะบบโฟลททงิ พอยต์ (floating piont) ซ่ึงการเก็บในลกั ษณะนี้ ไมม่ ีการกาหนด

ตาแหน่งตายตวั สาหรบั ตาแนง่ ของจดุ โดยท่วั ไปการเก็บขอ้ มลู ตวั เลขจะมีสองขนาด คอื 32 บติ และ 64 บติ - ข้อความ (text) ในการแทนขอ้ ความนน้ั จะตอ้ งเปล่ยี นขอ้ ความใหเ้ ป็นรหสั ซ่ึงใชแ้ ทนตวั อกั ขระแตล่ ะตวั เสยี ก่อน ตามมาตรฐานโดยท่วั ไปจะใชเ้ ป็นรหสั แอสกี (ASCII code) ซึง่ ต่อมามกี ารใชร้ หสั แบบยนู โิ คด (Unicode) ท่ีสามารถแทนภาษได้ หลายภาษามากกว่ารหสั แอสกี ความยาวของเขตขอ้ มลู ประเภทนี้ ขนึ้ อยกู่ บั จานวนตวั อกั ขระในขอ้ ความ - วันเวลา (date/time) ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นวนั เวลา เช่น วนั ท่ีเริม่ ใชง้ าน วนั ลงทะเบยี น และเวลาท่ซี อื้ สนิ คา้ มคี วามแตกต่างจากขอ้ มลู ประเภทอ่นื ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งมีชนดิ ของ ขอ้ มลู เป็นวนั เวลา เพ่ือรองรบั เขตขอ้ มลู ที่ตอ้ งการเกบ็ ขอ้ มลู เป็นวนั เวลา - ไฟล์ (file) เขตขอ้ มลู บางประเภทใชเ้ กบ็ ไฟลร์ ูปภาพหรอื ไฟลอ์ ่นื ๆซึง่ เขตขอ้ มลู ประเภทนจี้ ะ เป็นเขตขอ้ มลู ขนาดใหญ่ โดยปกตแิ ลว้ จะมคี วามยาวมากกว่าเขตขอ้ มลู ประเภทอืน่ ๆ โดยเขตขอ้ มลู นจี้ ะเก็บขอ้ มลู ในลกั ษณะเป็นบติ เรียงตอ่ กนั 2. ระเบียน (record) คือ กล่มุ ของเขตขอ้ มลู ทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั โดยเขต ขอ้ มลู แต่ละสว่ นอาจจะเป็นขอ้ มลู ตา่ งชนดิ กนั ระเบียนแตล่ ะระเบียนจะประกอบดว้ ย โครงสรา้ งเขตขอ้ มลู ท่ีเหมือนกนั ตวั อย่างระเบยี น ดงั รูปท่ี 2.16

3. ตาราง (table) คือ กล่มุ ของระเบียน ซึง่ เขตขอ้ มลู ในแตล่ ะระเบยี นจะเกบ็ ขอ้ มลู ที่มคี วามสมั พนั ธก์ นั ในตารางจะเก็บขอ้ มลู หลายๆระเบียน แต่ละระเบียนจะมี โครงสรา้ งเหมือนกนั ในตาราง นอกจากจะเกบ็ ขอ้ มลู หลายระเบยี นแลว้ ยงั สามารถ อา้ งถงี ระเบียนแต่ละระเบยี นไดอ้ ีกดว้ ย ตวั อย่างตารางขอ้ มลู นกั เรียน ดงั รูปท่ี 2.17 4. ฐานขอ้ มูล(database) เป็นที่รวมของตารางหลายๆ ตารางเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ตารางแต่ละตารางจะมคี วามสมั พนั ธก์ นั โดยใชเ้ ขตขอ้ มลู ทเ่ี ก็บขอ้ มลู ซงึ่ เหมอื น กนั เป็นตวั เชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั บางตารางอาจเป็นตารางทเี่ ก็บขอ้ มลู ไวเ้ ฉพาะของตนเอง โดยไม่เก่ยี วขอ้ งกบั ตารางอื่น ในขณะทีบ่ างตาราง อาจตอ้ งเชื่อมโยงกบั เขตขอ้ มลู ของตารางอน่ื 2.5 จริยธรรมในโลกของขอ้ มูล คาว่าจริยธรรมเป็นคาท่มี คี วามหมายกวา้ งแมก้ ระทงั้ ในดา้ นคอมพิวเตอร์ ก็มกี าร กลา่ วถึงในเร่อื งจรยิ ธรรมเชน่ กนั ในท่นี จี้ ะกลา่ วถึงจริยธรรม ในความหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง กบั ขอ้ มลู และสารสนเทศประเดน็ ตา่ งๆดงั นี้ 2.5.1 ความเป็ นสว่ นตัว เมื่อขอ้ มลู ปรากกอยใู่ นโลกออนไลนม์ ากขนึ้ ทาใหก้ าร รวบรวมขอ้ มลู การเขา้ ถึง การคน้ หา และการแบง่ ปันขอ้ มลู ส่วนบคุ คลเป็นเรอ่ื งที่

สามารถทาไดง้ า่ ยและเร็วขนึ้ ทาใหข้ อ้ มลู บางประเภทที่มคี วามเป็นสว่ นตวั สงู เช่น เลขประจาตวั ประชาชนวนั เดอื นปีเกิด หมายเลขโทรศพั ทม์ อื ถือ ขอ้ มลู ประวตั ิการ รกั ษา อาจร่วั ไหลไปสสู่ าธรณะได้ บางครงั้ ขอ้ มลู สว่ นตวั เหล่านอี้ าจถกู นาไปใชโ้ ดยผิด วตั ถปุ ระสงคข์ องเจา้ ของ ขอ้ มลู เช่น ขอ้ มลู หมายเลขโทรศพั ทม์ ือถือซึ่งถกู เก็บไวโ้ ดย สถานพยาบาล อาจร่วั ไหลไปส่บู ริษัททีม่ ีการประชาสมั พนั ธก์ ารขายผา่ นโทรศพั ทมื ือ ถอื อาจทาใหเ้ จา้ ของหมายเลขโทรศพั ทน์ นั้ ถกู รบกวนโดยไมไ่ ดต้ งั้ ใจ ดงั รูปท่ี 2.18 กอ่ นจะเเผยแพรข่ อ้ มลู ทกุ ครงั้ ตอ้ งคานึงถึงขอ้ มลู ทม่ี ีความเป็นสว่ นตวั ผลเสยี จากการเผยแพร่ขอ้ มลู เหลา่ นี้ อาจยอ้ นกลบั มาสรา้ งความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ตนเองหรอื ผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ งไดใ้ นอนาคต เช่น นกั เรยี นโพสตร์ ูปของตนเองและเพือ่ นไว้ในเวบ็ ไซต์ เครือข่ายทางสงั คม แตเ่ พื่อนของนกั เรียน อาจไดร้ บั ผลกระทบจากรูปนนั้ กไ็ ด้ ในบางกรณีการไมเ่ ปิดเผยขอ้ มลู อาจเป็นประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชไ้ ด้ เช่น ในการปรกึ ษา เก่ยี วกบั การแพทย์ เรื่องความผดิ ปกตทิ างเพศ หรอื การเป็นโรคตดิ ต่อรา้ ยแรง หาก ตอ้ งเปิดเผยขอ้ มลู จรงิ เหลา่ นี้ การใชน้ ามแฝงแทนจะเป็นวิธีการทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ ใน การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู แตก่ รณีเหล่านจี้ ะไม่สามารถทาไดใ้ นเว็บไซตท์ ก่ี าหนดใหก้ รอก ขอ้ มลู จรงิ เพื่อสมคั รใชบ้ รกิ าร

2.5.2 สิทธิ์ในการเขา้ ถงึ ข้อมูล เพ่ือเป็นการรกั ษาความปลอดภยั ใหก้ บั ขอ้ มลู ในการเก็บขอ้ มลู ในฐานขอ้ มลู จะมีการกาหนดสิทธิ์ในการเขา้ ถึงขอ้ มลู ของผใู้ ช้ แต่ละกล่มุ โดยระบบจะอนญุ าตใหผ้ ใู้ ชค้ นหนง่ึ เขา้ ถึงขอ้ มลู ตอ้ งมีการตรวจสอบว่า จะ ใหเ้ ขา้ ถึงขอ้ มลู ใดไดบ้ า้ ง หรอื ไม่มสี ทิ ธิใ์ นการเขา้ ถึงขอ้ มลู ใดบา้ ง ตวั อยา่ งเชน่ พนกั งานแผนกการเงินซึ่งสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เงนิ เดือน ไมค่ วรไดส้ ทิ ธิ์ในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ประวตั สิ ว่ นตวั ของพนกั งานท่วั ไปได้ เป็นตน้ ตวั อยา่ งการกาหนดสทิ ธิใ์ นการ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของผใู้ ชแ้ ต่ละกล่มุ ดงั รูปท่ี 2.19 หากการเขา้ ใชร้ ะบบเพื่อเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เป็นสว่ นหนง่ึ ของเร่ืองสิทธิ์ในการเขา้ ถึง ขอ้ มลู ดงั นนั้ สิทธิใ์ นการเขา้ ระบบกจ็ ะจดั อยใู่ นเกณฑข์ อ้ นดี้ ว้ ย โดยปกติแลว้ การ เขา้ ถงึ ระบบใดๆนนั้ ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งไดร้ บั การอนญุ าตจากผดู้ แู ลระบบ (system administrator) ซ่งึ มหี นา้ ที่คอยดแู ล บารุงรกั ษาระบบ ใหส้ ามารถทางานไดเ้ ป็นปกติ การเขาถึงขอ้ มลู โดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต มีความผิดตามพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการ กระทาความผดิ เก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซง่ึ มีผลบงั คบั ใชต้ งั้ แตเ่ ดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2550เป็นตน้ มา มคี วามผดิ ท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั เรือ่ งของสทิ ธิใ์ นการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู หลายขอ้ ยกตวั อย่างเช่น มาตรา 5 ผใู้ ดเขา้ ถงึ โดยมชิ อบซึ่งระบบคอมพิวเตอรท์ มี่ มี าตราการปอ้ งกนั การ เขา้ ถึงโดย เฉพาะและมาตตรการนนั้ มไิ ดม้ ีไวส้ าหรบั ตนตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ หกเดอื น หรือปรบั ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรบั มาตรา 7 ผใู้ ดเขา้ ถงึ โดยมิชอบซึ่งขอ้ มลู คอมพิวเตอรท์ มี่ ีมาตราการป้องกนั การเขา้ ถึง โดยเฉพาะและมาตรการนน้ั มิไดม้ ไี วส้ าหรบั ตน ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ สองปีหรือปรบั ไม่เกนิ ส่ีหมืน่ บาทหรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั

นอกจากนีย้ งั มีการระบคุ วามผดิ ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั การดกั รบั ขอ้ มลู ซง่ึ เดิน ทางอย่ใู น ระบบเครือข่ายโดยการดกั รบั นีไ้ ม่ไดร้ บั อนญุ าต กม็ คี วามผดิ เช่นกนั มาตรา 8 ผใู้ ดกระทาดว้ ยประการใดโดยมิชอบดว้ ยวิธีการทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพื่อดกั รบั ไว้ ซึง่ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรข์ องผอู้ ื่นท่อี ย่รู ะหวา่ งการส่งในระบบคอมพวิ เตอร์ และขอ้ มลู คอมพิวเตอรน์ น้ั มิไดม้ ไี วเ้ พื่อประโยชนส์ าธารณะหรอื เพื่อใหบ้ คุ คล ทวั้ ไปใช้ ประโยชนไ์ ดต้ อ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ สามปี หรือปรบั ไม่เกนิ หกหมื่นบาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรบั จะเห็นไดว้ า่ จากตวั อย่างของพระราชบญั ญตวิ า่ ดว้ ยการกระทาผดิ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 นน้ั การเขา้ ถงึ ระบบคอมพิวเตอรข์ องผอู้ น่ื โดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต มคี วามผิดทงั้ จาคกุ และปรบั ดงั นน้ั ทกุ คนตอ้ งพงึ ระวงั การใชค้ อมพิวเตอร์ และการเขา้ ใชง้ านเครอื ข่าย แมว้ า่ การกระทาบางอย่างอาจไม่ใชค่ วามผิดขนั้ รา้ ยแรง ถึงกบั มีโทษจาคกุ หรอื ปรบั เงิน แต่การกระทาการใดๆ บนเครอ่ื งคอมพวิ เตอรข์ องเรา นนั้ อาจก่อความราคาญหรอื รบกวนการใชค้ อมพวิ เตอรข์ องผอู้ ่นื ไดเ้ ชน่ กนั 2.5.3 ทรัพยส์ ินทางปัญญา ในกระบวนการผลติ โปรแกรม ระบบปฎิบตั ิการ รูปภาพ เพลง หรือหนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ จาเป็นตอ้ งใชต้ น้ ทนุ สงู และใชเ้ วลาในการ ผลิตยาวนาน แต่เมอื่ สง่ิ เหล่านปี้ รากฎอย่ใู นรูปแบบของขอ้ มลู ดจิ ทิ ลั ผใู้ ชค้ นอนื่ ๆ สามารถทาซา้ และนาไปใชโ้ ดยไม่ไดจ้ า่ ยเงินใหก้ บั ผผู้ ลิต ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายทางธุรกิจกบั เจา้ ของขอ้ มลู ผูใ้ ชจ้ ึงตอ้ งพิจารณาขอบเขตของ สทิ ธิ์ที่ตนเองไดร้ บั ในขอ้ มลู ดงั กล่าว และเป็นการสมควรหรอื ไม่ทจ่ี ะดาวนโ์ หลดและ แจกจ่ายขอ้ มลู ดิจิทลั เหลา่ นี้ นอกจากนีก้ ารนาขอ้ ความหรอื รูปภาพจากสอ่ื อินเทอรเ์ นต็ มาใช้ จะตอ้ งมีการอา้ งอิงแหล่งขอ้ มลู ใหถ้ กู ตอ้ ง ยกตวั อย่างเช่น การ คดั ลอกขอ้ ความหรือรูปภาพจากเวบ็ ประกอบในการทารายงาน โดยไม่อา้ งอิง

แหล่งท่ีมา ดงั รูปท่ี 2.20 ถอื วา่ เป็นการกระทาท่ีรุนแรงตามหลกั จริยธรรมสากลของ การนาขอ้ มลู ไปใช้ บทท่ี 3 คอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคล 3.1 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ (computer) เป็นอปุ กรณท์ ่ีประกอบดว้ ยวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ตา่ งๆ มากมาย ซึ่งสามารถจดจา ประมวลผล ขอ้ มลู เปรยี บเทยี บ ตดั สนิ ใจทางตรรกศาสตรค์ านวณทางคณิตศาสตร์ สามารถใช้ ช่วยในการออกแบบและสรา้ งงานกราฟิ กได้ อีกทงั้ ยงั ตอบสนองความตอ้ งการดา้ น อ่นื ๆ ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย คอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ยองคป์ ระกอบพนื้ ฐาน 5 หนว่ ย ไดแ้ ก่ หนว่ ยรบั เขา้ (input unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยความจา (memory unit) หน่วยสง่ ออก (output unit) และหน่วยเกบ็ ขอ้ มลู (storage unit) แตล่ ะหนว่ ยทาหนา้ ทปี่ ระสานกนั

รูปที่3.1 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 3.2 หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์ การทางานของคอมพิวเตอรจ์ ะเร่ิมจากผใู้ ชป้ อ้ นขอ้ มลู ผ่านทางอปุ กรณข์ อง หนว่ ยรบั เขา้ (input device) เช่น คยี บ์ อรด์ เมาส์ ขอ้ มลู จะถกู เปลยี่ นใหเ้ ป็นสญั ญาณ ดิจิทลั ซึ่งประกอบดว้ ย 0 และ 1 แลว้ ส่งต่อไปยงั หน่วยประมวลผลกลาง เพอ่ื ประมวลผลตามคาส่งั ในระหว่างการประมวลผล หากมีคาส่งั ใหน้ าผลลพั ธจ์ ากการ ประมวลผลไปจดั เกบ็ ในหนว่ ยความจา ขอ้ มลู ดงั กล่าวจะถกู สง่ ไปยงั แรม (Random Access Memory : Ram) ซงึ่ ทาหนา้ ที่เกบ็ ขอ้ มลู จากการประมวลผลเป็นการช่วั คราว ขณะเดียวกนั อาจมคี าส่งั ใหน้ าผลลพั ธจ์ ากการประมวลผลดงั กล่าวไปแสดงผลผ่าน ทางอปุ กรณข์ องหน่วยสง่ ออก เชน่ จอภาพ หรือเครอื่ งพิมพ์ นอกจากนีเ้ ราสามารถ บนั ทึกขอ้ มลู ที่อย่ใู นแรมลงในอปุ กรณข์ องหน่วยเก็บขอ้ มลู เชน่ แผน่ บนั ทึก แผน่ ซดี ี เพอื่ นาขอ้ มลู ดงั กลา่ วกลบั มาใชอ้ ีกในอนาคต โดยการอ่านขอ้ มลู ทบ่ี นั ทกึ ในสอ่ื ดงั กลา่ วผ่านทางเครอ่ื งขบั หรอื ไดรฟ์ (drive) การส่งผา่ นขอ้ มลู ไปยงั หน่วยต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอรผ์ ่านทางระบบบสั (bus)

รูปท่ี3.2 การทางานของคอมพวิ เตอร์ 3.2.1 ซีพียู และการประมวลผลขอ้ มูล ซีพยี ู (Central Processing Unit : CPU) มีลกั ษณะเป็นชิป (chip) ทีต่ ิดตงั้ อย่บู น เมนบอรด์ ภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซง่ึ ชปิ ดงั กล่าวเป็นสารก่ึงตวั นาขนาดเล็ก ภายใน บรรจวุ งจรอิเล็กรอนิกสต์ ่างๆ ไวม้ ากมาย โดยวงจรจะประกอบดว้ ยทรานซิสเตอร์ ขนาดเลก็ เป็นจานวนมาก บางครงั้ จึงเรยี กชิปตา่ งๆ ว่า ไอซี

รูปที่3.3 ตวั อย่างของซีพยี ู ในอดตี ซพี ยี จู ะมขี นาดใหญ่ แตใ่ นปัจจบุ นั เม่อื นาสารกง่ึ ตวั นามาใชก้ ท็ าใหซ้ พี ยี ถู กู พฒั นาใหม้ ขี นาดเลก็ ลง โดยรวมวงจรต่างๆ ไวใ้ นชิปเพียงตวั เดยี วเรียกว่า ไมโคร โพรเซสเซอร์ (microprocessor) ซงึ่ กล่าวไดว้ ่าคอมพวิ เตอรใ์ นปัจจบุ นั มไี มโคร โพรเซสเซอรเ์ ป็นซีพียู ภายในไมโครโพรเซสเซอรป์ ระกอบดว้ ยสว่ นประกอบท่สี าคญั สองส่วนคือ หน่วยควบคมุ และหนว่ ยคานวณตรรกะ หรือทีเ่ รยี กสน้ั ๆว่า เอแอลยู วงรอบการทางานของคาส่งั (machine cycle) การทางานของคอมพิวเตอรจ์ ะตอ้ งทาตามโปรแกรมทก่ี าหนดไวใ้ นหน่วยความจา โดยโปรแกรมเกดิ จากการนาคาส่งั มาตอ่ เรยี งกนั เมอื่ คอมพวิ เตอรท์ างาน หน่วย ควบคมุ ทาการอ่านคาส่งั ต่างๆ เขา้ มาประมวลผลในซีพียู โดยวงรอบของการทาคาส่งั ของซพี ียปู ระกอบดว้ ยขนั้ ตอนการทางานพนื้ ฐาน 4 ขนั้ ตอน ดงั นี้

1. ขัน้ ตอนการรบั เข้าข้อมูล (fetch) เริม่ แรกหนว่ ยควบคมุ รบั รหสั คาส่งั และ ขอ้ มลู ทจี่ ะประมวลผลจากหนว่ ยความจา 2. ข้นั ตอนการถอดรหสั (decode) เม่ือรหสั คาส่งั เขา้ มาอยใู่ นซพี ยี แู ลว้ หน่วยควบคมุ จะถอดรหสั คาส่งั แลว้ ส่งคาส่งั และขอ้ มลู ไปยงั หนว่ ยคานวณและตรรกะ 3. ขน้ั ตอนการทางาน (execute) หน่วยคานวณและตรรกะทาการคานวณ โดยใชข้ อ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั มาถอดรหสั คาส่งั และทราบแลว้ วา่ ตอ้ งทาอะไร ซีพยี กู จ็ ะทาตาม คาส่งั นน้ั 4. ขน้ั ตอนการเกบ็ (store) หลงั จากทาคาส่งั กจ็ ะเกบ็ ผลลพั ธท์ ไี่ ดไ้ วใ้ น หน่วยความจา ซีพยี ูยุคเกา่ การทาคาส่งั แตล่ ะคาส่งั จะตอ้ งทาวงรอบคาส่งั ใหจ้ บกอ่ น จากนน้ั จึงทา วงรอบคาส่งั ของคาส่งั ต่อไป สาหรบั ซพี ยี ใู นยคุ ปัจจบุ นั ไดม้ กี ารพฒั นาใหท้ างานไดเ้ รว็ ขนึ้ โดยมีการแบง่ วงรอบคาส่งั นเี้ ป็นวงรอบยอ่ ยๆ อกี มีการนาเทคนิคการทางานแบบ สายทอ่ (pipeline) มาใช้ โดยขณะทีท่ าวงรอบคาส่งั แรกอยู่ กม็ ีการอ่านรหสั คาส่งั ของ คาส่งั ถดั ไปเขา้ มาดว้ ย ซ่ึงจะทาใหก้ ารทางานโดยรวมของซพี ียเู รว็ ขนึ้ มาก หน่วยควบคุม (control unit) เป็นหน่วยท่ีทาหนา้ ที่ประสานงาน และควบคมุ การ ทางานของคอมพิวเตอร์ ควบคมุ ใหอ้ ปุ กรณร์ บั ขอ้ มลู สง่ ขอ้ มลู ไปที่หน่วยความจา ติดต่อกบั อปุ กรณแ์ สดงผลเพื่อส่งั ใหน้ าขอ้ มลู จากหน่วยความจาไปยงั อปุ กรณ์ แสดงผล โดยหนว่ ยควบคมุ ของคอมพิวเตอรจ์ ะแปลความหมายของคาส่งั ใน โปรแกรมของผใุ้ ช้ และควบคมุ ใหอ้ ปุ กรณต์ า่ งๆ ทางานตามคาส่งั นนั้ ๆ หน่วยคานวณและตรรกะ หรอื เอแอลยู (Arithmetic-Logic Unit : ALU) เป็น หน่วยท่ีทาหนา้ ทใี่ นการคานวณต่างๆ ทางคณติ ศาสตร์ ไดแ้ ก่ การบวก ลบ คณู หาร

และเปรยี บเทียบทางตรรกะ เพอ่ื ทาการตดั สินใจ เช่น การเปรียบเทยี บขอ้ มลู การ เปรียบเทียบว่าจรงิ หรือเท็จ การทางานของเอแอลยู จะรบั ขอ้ มลู จากหน่วยความจามาไวใ้ นทีเ่ ก็บช่วั คราว ของเอแอลยทู ี่เรียกว่า เรจสิ เตอร์ (register) เพ่ือทาการคานวณแลว้ ส่งผลลพั ธก์ ลบั ไป ยงั หน่วยความจา รูปที่3.4 หนว่ ยความจาแบบแฟลซท่ีอย่บู นเมนบอรด์ 3.2.2 หน่วยความจา และการจัดเกบ็ ข้อมูล หน่วยความจา (memory unit) เป็นสว่ นประกอบท่สี าคญั บนเมนบอรด์ ทีท่ างาน รว่ มกบั ซพี ียโู ดยตรง หน่วยความจาแบ่งออกเป็น 2 ชนดิ คือ

1) หน่วยความจาแบบไมส่ ามารถลบเลือนได้ (non volatile memory) เป็น หนว่ ยความจาที่สามารถเก็บขอ้ มลุ ได้ แมว้ ่าไมม่ กี ระแสไฟฟ้าหล่อเลยี้ ง ตวั อยา่ งของ หนว่ ยความจาชนดิ นี้ เชีน่ รอม และหนว่ ยความจาแบบแฟรซ - รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจาแบบอา่ นไดอ้ ยา่ ง เดยี วไมส่ ามารถลบและเขยี นขอ้ มลู ใหมไ่ ด้ - หน่วยความจาแบบแฟรซ (flash memory) เป็นหน่วยความจาที่สามารถลบ และเขยี นขอ้ มลู ใหม่ได้ ในเคร่อื งคอมพวิ เตอรม์ กี ารใชร้ อมในการเกบ็ ไบออส (Basic Input Output System : BIOS) ไบออสทาหนา้ ทเ่ี ก็บขอ้ มลู โปรแกรมและคาส่งั พนื้ ฐานทีส่ าคญั ใน การเริม่ ตน้ กระบวนการบตู (boot) ของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ แตใ่ นปัจจบุ นั ไดเ้ ปล่ยี นมา ใชห้ น่วยความจาแบบแฟรซในการเกบ็ ไบออสแทน 2) หน่วยความจาแบบลบเลอื นได้ (volatile memory) เป็นหน่วยความจา ท่ตี อ้ งใชก้ ระแสไฟฟ้าหลอ่ เลยี้ งเพื่อเกบ็ ขอ้ มลู หากเกิดไฟฟ้าดบั ขอ้ มลู และโปรแกรม คาส่งั จะสญู หายไป หนว่ ยความจาชนดิ นี้ เชน่ แรม แรม (Random Access Memory : RAM) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. สแตติกแรม หรือเอสแรม (Static RAM : SRAM) มกั พบในตวั ซีพยี ทู าหนา้ ท่ี เป็นหนว่ ยความจาภายในซีพียทู ีเ่ รยี กวา่ หนว่ ยความจาแคช ซึ่งจะมีความเรว็ สงู กว่าได นามกิ แรม 2. ไดนามิกแรม หรอื ดีแรม (Dynamic RAM : DRAM) เป็นหน่วยความจาทใี่ ช้ ในการจดจาขอ้ มลู และโปรแกรมต่างๆ ท่อี ยรู่ ะหวา่ งการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์

เป็นหน่วยความจาทีม่ อี ยใู่ นเครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ่วนบคุ คล หรือพีซมี ากท่ีสดุ เน่ืองจาก ราคาไมแ่ พงและมีความจสุ งู รูปที่3.5 ก เอสแรม รูปที่3.5 ข ดีแรม ในการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ เช่น ถา้ ตอ้ งการใหค้ อมพิวเตอรแ์ สดงผล การบวกตวั เลขสองจานวน ซีพยี จู ะตอ้ งตดิ ตอ่ กบั แรมท่ใี ชเ้ ก็บชดุ คาส่งั และขอ้ มลู ต่างๆ ไว้

รูปท่ี3.6 แสดงผลชดุ คาส่งั ทผ่ี ่านการประมวลผลจากซีพยี ู 3.2.3 ระบบบสั กับการทางานรว่ มกันของคอมพวิ เตอร์ และ อุปกรณต์ ่างๆ ในเคร่ืองคอมพิวเตอรน์ นั้ มีเมนบอรด์ ทส่ี ามารถตดิ ตงั้ อปุ กรณต์ า่ งๆ เช่น ซพี ยี ู หน่วยความจาและฮารด์ ดสิ ก์ โดยการส่งขอ้ มลู และคาส่งั ระหว่างอปุ กรณ์ จะอย่ใู นรูป ของสญั ญาณไฟฟา้ ท่ีถกู สง่ ผา่ นระบบส่งถ่ายขอ้ มลู ท่เี รยี กว่าบสั (bus)

รูปท่ี3.7 ระบบบสั ขนาดของบสั (bus width) กาหนดโดยจานวนบติ ท่ีคอมพิวเตอรส์ ามารถถา่ ย โอนขอ้ มลู ไดใ้ นหนง่ึ ครงั้ ตวั อย่างเช่น บสั 32 บติ สามารถรบั ส่งขอ้ มลู ไดค้ รง้ั ละ 32 บิต บสั ขนาด 64 บติ สามารถรบั ส่งขอ้ มลู ไดค้ รงั้ ละ 64 บติ เป็นตน้ บสั ทม่ี ีจานวนบติ มากจะทาใหก้ ารรบั ส่งขอ้ มลู ของระบบคอมพิวเตอรท์ าไดเ้ รว็ ขนึ้ การบอกความเร็วบสั มกั วดั เป็นจานวนครงั้ ท่รี บั ส่งขอ้ มลู ไดใ้ นหน่ึงหนว่ ยเวลา ซงึ่ มหี น่วยเป็นเฮิรตซ์ (Hz) เชน่ บสั ที่มีความเรว็ 1 MHz หมายความว่าบสั นสี้ ามารถ รบั สง่ ขอ้ มลู ไดห้ นงึ่ ลา้ นครง้ั ต่อวินาที เครื่องคอมพิวเตอรท์ ่ีพบในปัจจบุ นั จะมีค่า ความเรว็ บสั เป็น 667,800,1066 หรอื 1333 MHz ถา้ ความเรว็ บสั มคี า่ มาก หมายความวา่ สามารถรบั สง่ ขอ้ มลู ไดเ้ ร็ว กจ็ ะทาใหเ้ วลาการทางานของโปรแกรมเรว็ ขนึ้ ไปดว้ ย 3.3 การเลือกซอื้ เคร่อื งคอมพวิ เตอรใ์ หเ้ หมาะสมกับงาน

เครอื่ งคอมพิวเตอรใ์ นปัจจบุ นั ไดพ้ ฒั นาเทคโนโลยีใหส้ ามารถประมวลผลได้ เร็วขนึ้ แตร่ าคาถกู ลงกว่าแต่ก่อนมาก การเลือกซอื้ เครอื่ งคอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านทาได้ งา่ ย มีใหเ้ ลอื กหลายรุน่ ตามรา้ นคา้ ท่วั ไป แตผ่ ใู้ ชง้ านควรพจิ ารณาวา่ จะนา คอมพิวเตอรม์ าใชเ้ พ่ือทางานดา้ นใด เน่อื งจากเครอ่ื งคอมพิวเตอรม์ ีทงั้ แบบทใ่ี ชไ้ ดก้ บั งานทกุ ประเภท หรือใชง้ านเฉพาะดา้ น แมว้ ่าราคาเครื่องและอปุ กรณต์ ่างๆ จะถกู ลง แตผ่ ใุ้ ชค้ วรเลือกเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ่เี หมาะสมกบั การใชง้ านเพอื่ ใหค้ มุ้ คา่ กบั จานวน เงิน ตวั อย่างของการเลอื กซอ้ เคร่อื งคอมพิวเตอรต์ ามลกั ษณะของงานแตล่ ะประเภท เช่น - งานเอกสาร หรืองานในสานกั งาน เป็นการใชค้ อมพวิ เตอรส์ าหรบั จดั การดา้ น เอกสาร รายงาน ตกแตง่ ภาพ ทาการด์ อเิ ล็กทรอนิกส์ ดภู าพยนตรห์ รือส่อื ทาง การศกึ ษา ติดต่อสือ่ สาร คน้ หาขอ้ มลู ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ เช่น ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคา และซอฟตแ์ วรต์ ารางทางาน เคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ี่ใชใ้ นงาน ประเภทนไี้ ม่จาเป็นตอ้ งใชซ้ ีพยี ทู มี่ ีความเรว็ สงู คอื ประมาณ 1GHz ขนึ้ ไป แตค่ วรมี แรมอย่างนอ้ ย 1GB และอาจเลอื กใชจ้ อภาพแบบแอลซีดขี นาดใหญ่ 17-19 นวิ้ เพอื่ ถนอมสายตา เนื่องจากลกั ษณะงานตอ้ งจอ้ งมองจอภาพตลอดเวลา - งานกราฟิ ก เป็นการใชค้ อมพวิ เตอรส์ าหรบั การตกแตง่ และออกแบบภาพ และมกี ารเรียนใชง้ านกราฟิกหลายๆ โปรแกรมในเวลาเดียวกนั ใชซ้ อฟตแ์ วรก์ ราฟิก ในการสรา้ งชนิ้ งาน เชน่ งานสิ่งพมิ พ์ งานนาเสนอแบบมลั ติมเี ดยี สรา้ งเวบ็ ไซต์ ตดิ ต่อส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต โดยมีการรบั -ส่งขอ้ มลู จานวนมาก ทม่ี ีทงั้ ภาพ เสยี ง ภาพเคลอื่ นไหว เคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชใ้ นงานประเภทนจี้ าเป็นตอ้ งมีซพี ียทู มี่ ี ความเร็วอยใู่ นระดบั ปานกลางถึงค่อนขา้ งสงู ประมาณ 2 GHz ขนึ้ ไป ใชแ้ รมอยา่ ง นอ้ ย 2 GB ขนึ้ ไป และมีฮารด์ ดสิ กท์ ่ีมคี วามจสุ งู เพือ่ ใชใ้ นการเก็บขอ้ มลู จานวนมาก

- งานออกแบบทีต่ อ้ งแสดงผลเป็ น 3 มติ ิ เป็นการใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการ ออกแบบภาพ 3 มิติ สรา้ งภาพยนตร์ สรา้ งการต์ นู แอนเิ มช่นั (animation) ตดั ตอ่ วดี ิ ทศั น์ ตดั ตอ่ เพลง เล่นเกมที่มีภาพกราฟฟิกสงู และงานประเภทนตี้ อ้ งการเคร่อื ง คอมพวิ เตอรท์ มี่ คี วามสามารถในการคานวณ และแสดงภาพความละเอียดสงู สดุ ได้ ดงั นนั้ ควรเลอื กซพี ยี ทู มี่ คี วามเร็วสงู ไมน่ อ้ ยกว่า 2 GHz มแี รมอย่างนอ้ ย 4 GB การด์ จอแสดงผลทีส่ ามารถแสดงภาพท่ีมคี วามละเอยี ดสงู ไดด้ ี ควรใชจ้ อภาพขนาดไมต่ ่า กว่า 24 นวิ้ และควรมีเครอื่ งสารองไฟเนื่องจากการทางานประเภทนี้ คอมพวิ เตอร์ จะตอ้ งใชเ้ วลาในการประมวลผลนาน ถา้ หากไฟดบั หรือไฟกระตกุ จะไมส่ ะดวกในการ เร่มิ งานใหม่ 3.4 การเลือกซือ้ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ และอุปกรณ์ สาหรบั ผเู้ ริ่มใชค้ อมพวิ เตอร์ ไมค่ วรซอื้ อปุ กรณม์ าประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เอง ควรเลอื กเคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ี่จดั ขายเป็นชดุ ใหแ้ ลว้ และเลือกซือ้ จากบริษัทที่ เช่ือถือได้ เนื่องจากผผู้ ลติ ไดเ้ ลือกอปุ กรณต์ า่ งๆ ท่ีเหมาะสมมาประกอบเป็นเคร่อื ง คอมพิวเตอรอ์ ย่แู ลว้

รูปที่3.8 ตวั อย่างชดุ เซต็ คอมพวิ เตอร์ สาหรบั ผใู้ ชท้ ต่ี อ้ งการเลือกซือ้ ชนิ้ สว่ นตา่ งๆ มาประกอบเป็นเคร่อื งคอมพิวเตอร์ ตามท่ตี อ้ งการหรอื เพอื่ ปรบั ปรุงอปุ กรณบ์ างอย่าง เชน่ ซพี ยี ู เมนบอรด์ และแรม อปุ กรณเ์ หล่านมี้ ีการปรบั เปลี่ยนเทคโนโลยอี ย่างรวดเร็ว หลกั ในการพิจารณาเลือกซอื้ อปุ กรณแ์ ต่ละชนิดมีดงั นี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook