Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พหุปัญญา.pdf

พหุปัญญา.pdf

Published by Guset User, 2021-12-19 11:28:27

Description: พหุปัญญา.pdf

Search

Read the Text Version

96 จดั ทาำ ดย อาจารย์ ดร สิ น์เ ก ย่านเดิม เอก �รอ้�งอิง พยุ เก้อื กุล. 2545 . ก�ร ึก �ก�รร้คดิ และอ�รมณ์ องเดกทีม่ ีค �มบกพรอ่ งท�ง ตปิ �ระดับเรียน ด้ ชันอนุบ�ล จ�กก�ร ก ดยก�ร ชก้ จิ กรรมทัก ะ ดนตรี. ปรญิ ญานิพนธ์ ก .ม. การ ึก าพิเ บณั ติ ทิ ยาลัยม า ิทยาลัย รีนครนิ ทร โิ รฒ. ิไล รรณ ซงึ้ ปรดี า. ก�รเ ้� ึงและ ดร้ ับก�รบรกิ �รท�งก�ร กึ �ระดบั อดุ ม กึ � �ำ รับคนพกิ �ร. ทมี่ า . .. 2554 54 . . บื คน้ นั ท่ี 1 กนั ยายน 2556. นย์ก�ยภ�พบำ�บดั คณะก�ยภ�พบำ�บัด ม � ทิ ย�ลยั ม ิดล. ทีม่ า .. .. . 29 1 2012 03 28 08 19 37 52 2009 03 13 03 22 32 108. บื ค้น นั ที่ 1 กันยายน 2556. นย์ ิรนิ ธรเพอ่ ก�ร น มรร ภ�พท�งก�รแพทย์แ ่งช�ติ. ทีม่ า . .. . 23. ืบคน้ นั ท่ี 1 กนั ยายน 2556. ำานกั งานเลขาธิการ าการ กึ า. 2552 . อ้ เ นอก�รป ริ ปก�ร กึ � นท รร ที่ อง พ. . . กรงุ เทพฯ กระทร ง ึก าธกิ าร.

บ ตั อย่�งก�ร อนเดก ม�ธิ นั ค �ม ม�ย อง ม�ธิ นั มาธิ นั้ เป็นคาำ ร ม มายถงึ เด็กกลุม่ ใดกลุ่ม น่งึ ใน 2 ประเ ทตอ่ ไปน้ี ม�ธิ ันอย�่ งเดยี ตรงกบั า าอังกฤ ่า รอื ม�ธิ ันและ มอ่ ยน่ ิ่ง รอื อยูน่ งิ่ เ ยไม่ได้ ตรงกับ า าอังกฤ า่ รอื ลกั ณะ องเดก ม�ธิ นั ลัก ณะต่างๆ ของเดก็ มาธิ น้ั อาจมลี กั ณะต่างๆ ดงั ขอ้ มลู ด้านล่างทุกข้อ รือมบี างข้อกไ็ ด้ลกั ณะเ ล่านนั้ ไดแ้ ก่ เ ยี มาธงิ ่าย ไม่ค่อยฟัง รอื ปฏิบตั ิตามคาำ ั่ง ไม่ตง้ั ใจ รือต้งั ใจไดไ้ มน่ าน ไม่มี มาธิในการทำางาน รือในการเรยี น ทำาได้ รือเรียนได้ แตใ่ นระยะเ ลา เพียง ัน้ ๆ มีค าม ามารถในการทำางานไมค่ งท่ี นั นี้เด็กอาจทำางานทค่ี รูมอบ มายใ ไ้ ด้ แต่ ันตอ่ ไปเด็กไม่ ามารถทาำ งานเดมิ ได้ มที า่ ทาง ลุก ลิก เป็นคนไม่มรี ะบบระเบียบ โตะเรยี นอาจ กปรก รกรุงรัง บนโตะเรียนอาจมี รอยขดี ข่ น เลอะเทอะ ไม่ ะอาด ข้า ของอาจ ายบ่อยๆ เช่น ดนิ อ ปากกา รือไม่ก็ ลืมไ ท้ ่ีอ่ืน เปน็ ต้น ขาดทกั ะในการเรยี น นัง อื เรียน นงั อื ไม่เปน็ ทำางานคนเดีย ไม่ได้ ต้องคอยพง่ึ พาอา ัยผู้อื่นอยู่เ มอ

98 จัดทาำ ดย อาจารย์ ดร สิ นเ์ ก ย่านเดิม ภาพเดกสมา ิสน้ั ลกั ณะเดก ม�ธิ ันและ ม่อยน่ ิ่ง รอเดก เด็ก อาจมีพฤตกิ รรมตามลกั ณะของเด็ก มาธิ นั้ เพยี งอยา่ งเดีย เด็ก และอาจมีพฤติกรรมเพ่มิ เตมิ ดังนี้ 1 ลัก ณะการไม่อยู่น่งิ รอื อยู่น่งิ เ ยไมไ่ ด้ เคลอ่ื นไ อยูเ่ มอ อาจลกุ จากทน่ี ั่งเลน่ รอบ ้อง รือ เดินไปเดนิ มา ขออนญุ าตครูเพื่อออกนอก อ้ งเรยี นบอ่ ยมาก รอื ไม่ขออนุญาตเลยกไ็ ด้ เคลอ่ื นไ ่ นต่างๆ ของร่างกายแมเ้ ลาน่ิงอยู่กบั ท่ี เชน่ ะบดั มอื ไปมา โยกตั ผงก ีร ะ กระทืบเท้า รอื แม้แต่ ล่นจากเก้าอี้ เล่น ง่ิ ของ มือ ่างไมไ่ ด้ ตอ้ งจับของ เชน่ ปากกา ดนิ อ กระดา รอื ง่ิ อ่ืนๆ เอามาเล่น ก ดั แก ่งไปมา รอื เอาเขา้ ปากแล้ เค้ีย เลน่ งิ่ ไปมารอบ อ้ ง เรยี กและ ยดุ ยาก 2 ลัก ณะ ุน ันพลนั แล่น ค บคมุ ตนเองไม่ได้ พูดโพลง่ ออกมาด้ ยเ ียงดัง เปน็ คาำ พดู ทไ่ี มเ่ มาะ ม ขาด ค ามยัง้ คิดกอ่ นพดู รอไม่ได้ รอไม่เป็น ไมร่ ้จู ักการรอคอย ขัดจงั ะผู้อ่ืน เชน่ ขดั จัง ะในขณะทีผ่ ู้อ่ืนกาำ ลังพูด

ตัวอยา่ งการสอนเดกสมา ิส้ัน 99 ขดั จัง วะในขณะทผ่ี อู้ นื่ ประกอบกจิ กรรมเขา้ ลัก ณะไม่รู้จักเกรงใจคน พดู มาก พูดไม่ ยุด กอ่ ปัญ าและความราำ คาญ อาจมปี ัญ ากบั ครูผู้ อน รอื เพอื่ นนักเรยี นดว้ ยกนั เนอื่ งจากเด็กไม่รูจ้ ักย้งั คิด กระทำาใน งิ่ ที่เ ย่ี งอนั ตราย และ ่งิ ทีน่ า่ กลวั อย่างไม่มี เ ตุผล เชน่ ทบุ กระจก ้องในชั้นที่ 3 ของตกึ เพือ่ กระโดดลงมายังพ้ืนดิน รอื ปัน จกั รยานกลางถนนโดยไม่ นใจการจราจร เดก็ จึงได้รบั บาดเจบ็ บ่อยๆ 3 เปลีย่ นกิจกรรมยาก ทาำ ิ่งใดกจ็ ะทำาเรอ่ื ยไป เม่ือเปล่ยี นกิจกรรม เปน็ อย่างอืน่ เด็กอาจไมพ่ อใจ กรดี ร้อง 4 แ ดงอาการก้าวรา้ ว รุนแรง ับพลัน และเกนิ กว่าเ ตุ 5 แ ดงพฤตกิ รรมท่ีบง่ บอกวา่ ขาดวุฒิ าวะทาง งั คม 7 ไมช่ ืน่ ชมในตัวเอง 8 แ ดงอาการผดิ วัง เ ียใจบอ่ ยๆ อย่างไรก็ตามเด็กบางคนอาจแ ดงพฤติกรรมบ้างเปน็ บางอย่าง อาจไม่ครบ ทกุ ขอ้ ตามที่กล่าวข้างตน้ บางขอ้ อาจรนุ แรง บางขอ้ ไมร่ ุนแรง เด็กปกตกิ ็อาจแ ดง พฤตกิ รรมดงั กลา่ วบ้าง แต่อาจไม่รุนแรง ดังนัน้ การพจิ ารณาเดก็ ว่า เป็นเดก็ มาธิ นั้ รอื ไม่ อาจต้องพิจารณาถึง จำานวนพฤตกิ รรมดงั กลา่ ววา่ มมี ากน้อยเพยี งใด แตล่ ะ พฤตกิ รรมมีความรนุ แรงมากน้อยแค่ไ น ความถี่ของพฤติกรรมว่าเกดิ ขึ้นบ่อยแค่ไ น เพียงใด และมีความคงเ น้ คงวาในการเกิดพฤตกิ รรม รือไม่ด้วย จ�ำ น นเดกสม�ธสิ นั มีประมาณ 3 5 ของประชากรในวยั เรียน ซง่ึ มีขอ้ มูลดงั น้ี เปน็ เดก็ ชายมากกว่าเดก็ ญงิ เด็กชายมักจัดอย่ใู นประเ ท เด็ก ญิงมกั จัดอยู่ในประเ ท เดก็ มาธิ ้นั มีจำานวนเพม่ิ ข้ึนทกุ วัน

100 จัดทำา ดย อาจารย์ ดร สิ นเ์ ก ย่านเดิม �เ ตุ อง ม�ธิ ัน ในต่างประเท มีการ ึก าอยา่ งมาก เกยี่ กบั าเ ตุที่ทาำ ใ ้เด็กมีค าม บกพร่องเก่ยี กบั มาธิ แพทย์ทม่ี ีค ามเชี่ย ชาญทาง มอง คงบอกเราได้ า่ าเ ตุเกิด จากอะไร แต่ในปจั จุบนั เรา ามารถคาดการณ์อย่างเป็นระบบได้ ่า มาธิทีบ่ กพร่องไป อาจมี าเ ตมุ าจากองคป์ ระกอบตอ่ ไปน้ี กรรมพนั ธุ์ ังเกตไดจ้ ากเมื่อพบ ่า มีเดก็ มาธิ ้ันอย่ใู นครอบครั อาจมีพี่ รือน้อง รือญาตขิ องเด็กมอี าการ มาธิ น้ั ด้ ย �รเคมี น มอง แพทยท์ าง มองและทางประ าท ทิ ยาระบุ า่ เดก็ บางคน ท่ี มาธิ น้ั เพราะ มองค บคมุ การเคล่อื นไ ของรา่ งกายได้ไม่เตม็ ท่ี เนือ่ งจาก ารเคมี ใน มองขาด มดลุ ย์ บ�ดเจบ เดก็ อาจไดร้ บั บาดเจ็บระ ่างอย่ใู นครร ์ รอื ระ ่างคลอด �รพิ เด็กอาจได้รับ ารพิ เชน่ ารตะก่ั เป็นต้น อ� �ร ารอา ารบางอยา่ งอาจเป็นอันตรายต่อเดก็ เช่น ผงชูร เป็นต้น ย� ร มทงั้ ยาเ พติดบางชนิดมีอันตรายต่อเดก็ ในครร ์ เชน่ แม่ติดยา แมแ่ พ้ ยา รือแมก่ ินยาทเ่ี ปน็ อันตรายตอ่ เดก็ ขณะอยใู่ นครร ์ ลักก�ร อนและช่ ยเ ลอเดก ม�ธิ นั ลักในการจัดการเรียนการ อนและการช่ ยเ ลือเด็ก มาธิ ั้นใ ้ได้ผล ำาเร็จ ที่จะกล่า ถึงน้ี จะช่ ยใ ค้ รแู ละผ้ปู กครองมีค ามเข้าใจในเด็กกล่มุ นีไ้ ดม้ ากขึ้น มี ลัก การที่ ำาคัญดงั นี้ ค �มเ �้ จ ทาำ ค ามเขา้ ใจ า่ ทาำ ไมเดก็ จงึ มี มาธิ น้ั เขา้ ใจพฤตกิ รรม ของเดก็ ผู้ อนค รเข้าใจ ่า เด็กไมต่ ้องการมี มาธิ ้ัน มันเกิดขึ้นเองกบั ตั เดก็ เกิดจาก องคป์ ระกอบทางชี ิทยาและ รีร ิทยา ซ่งึ อยู่เ นอื การค บคมุ ของทกุ คน ตั เดก็ เองก็ ไม่อยากเป็นเชน่ น้ี เมือ่ ทราบแล้ ทุกคนค รเ ็นใจเขา และ าทางช่ ยเ ลือ ม่ค ร ้ก�รบ้�นม�กเกิน ป เด็ก มาธิ น้ั อาจทำางานไมเ่ รจ็ ตาม ทค่ี รูมอบ มาย เพอื่ ลีกเลี่ยงค ามล้มเ ล ในการเรียน ครไู มค่ รใ ้งานเดก็ มี มาธิ ้นั

ตวั อยา่ งการสอนเดกสมา ิสั้น 101 มากเกินไป ปรมิ าณการบา้ นท่ใี ค้ วรจะลดนอ้ ยลงกวา่ เดก็ ปกติ พย�ย�ม ลีกเลยี่ ง น ง่ิ ทท่ี �ำ เ้ ดก ดร้ ับค �มอับอ�ย ทุกคนต้องการ ความเชื่อมัน่ ในตนเอง ต้องการเป็นท่ยี อมรบั วา่ เปน็ คนเกง่ คนดี คนมีคณุ ค่า ากเด็กได้ รับความอับอาย ความเช่อื มัน่ ในตนเองจะลดลงแลว้ ง่ ผลตอ่ การเรียน และการปรบั ปรุง บคุ ลิก าพของเดก็ ปรบั ภ�พแ ดลอ้ ม น ้องเรยี น ้เ ม�ะ มกบั ป �และค �มต้องก�ร องเดก ควรมกี ารปรบั ปรงุ เปลีย่ นแปลงการจดั ้องเรยี นบา้ ง เพ่ือไม่ใ ้เด็กเกดิ ความชนิ ชา และเบื่อ นา่ ยกับ าพเดมิ ๆ จดั ใ ้เดก็ นง่ั ในบริเวณทค่ี รู ามารถเ น็ เดก็ ได้ชดั เจน อยใู่ น ายตาของครู และควรจดั พ้นื ทใ่ี ก้ ว้างกว่าเดก็ ปกติ คำ�นึง ึงบุคลิก นก�รเรียนร้ องเดก เด็กแต่ละคนมีบุคลิกการเรียนรู้ ไมเ่ มอื นกนั บางคนเรียนได้ดจี ากการฟัง บางคนจากการอา่ น บาง คนจากการเขยี น บางคนจากการลงมือปฏบิ ัติ บางคนต้องนงั่ บายๆ กับพ้นื ้องในท่า นง่ั ตา่ งๆ บางคนโยก ัว ขยบั เทา้ ไปตามดนตรีกเ็ รยี น นัง อื ได้ เดก็ เรยี นไดใ้ นบคุ ลกิ ท่ีไม่ เ มือนกนั ครูควรปรบั วธิ ีการ อนใ ้ อดคล้องกบั บคุ ลิกของเดก็ ้เ ล�เดกเพ่ิม นึ นก�รท�ำ ง�น รอื ทำาแบบ ก ดั ครู ว่ นมากใ ง้ านเด็ก เทา่ กัน ในเวลาทเ่ี ท่ากนั เช่น ใ ท้ ุกคนทำาแบบ ก ัด 10 ข้อ ใ ้เ ร็จ ายในเวลา 30 นาที ซึ่งเป็นวิธีท่ไี ม่ อดคล้องกบั ปัญ าและความตอ้ งการของเดก็ ครูควรใ ้งานเ ียใ ม่ โดยจดั เวลาเป็นเกณ ์ แตจ่ าำ นวนแบบ ก ัดอาจไมเ่ ทา่ กนั เวลาเ ลอื 30 นาที ใ ้ทุกคน ทำาแบบ ก ัด ว่ นจะไดก้ ข่ี ้อแลว้ แตค่ วาม ามารถของเด็กแตล่ ะคน ซึง่ มีไม่เท่ากนั ดร้ บั ค �ม นับ นุนจ�ก �ยบริ �ร นก�รช่ ยเ ลอเดก ม�ธิ ัน การ กระทำาบางอย่างของครูจะเก่ียวขอ้ งกบั ายบริ าร เชน่ การใ เ้ ด็กออกจาก ้องเรียน เพือ่ ไป งบ ติอารมณต์ ามลาำ พงั การจดั ้องเรียนทไ่ี มม่ ี นา้ ตา่ ง เพ่อื ใ เ้ ด็กเขา้ ไปเรยี น ในบางเวลา การ ง่ เดก็ กลบั บา้ นในบางวนั การจดั ช้ันเรยี นโดยไมใ่ ้เด็ก มาธิ ้ัน ลาย คนอยู่ ้องเดยี วกัน การจัดครคู วบคุมเด็ก โดยใ ้มีครู 2 คนตอ่ เด็ก 2 3 คน เปน็ ตน้ ดงั นั้นจึงต้องจดั ระบบการเรียนการ อนกอ่ น จงึ จะลงมือ อนเดก็ ได้ดี

102 จัดทำา ดย อาจารย์ ดร สิ น์เ ก ย่านเดิม ปรับปรุง ิธี อบ เด็กบางคนอาจ อบตก ากใช้วิธี อบโดยการใ ้เด็กทำา ข้อ อบเดียวกันกับเดก็ ปกติ ครอู าจ อบโดยการอ่านขอ้ อบใ ฟ้ ัง รือ อบปากเปล่า เป็นตน้ มเ่ น้นก�รอ�่ น ากเด็กอา่ น นัง อื ไม่ได้ ครอู าจ อนโดยการเล่าเรอ่ื งใ ้เด็ก ฟัง ใ ้ฟังจากแผ่น รอื แผ่น เปน็ ตน้ อน ม้ รี ะเบยี บ นิ ัย เด็กบางคนเรยี นร้จู ากการดูแบบอยา่ งจากเพอ่ื น จาก ครู จากพ่อแม่ แต่มีเด็กอีก ลายคนไม่ ามารถเรียนรไู้ ด้ด้วยวธิ ีนี้ ครูจงึ จำาเปน็ ตอ้ ง อน โดยอยากใ เ้ ด็กไดอ้ ะไรกต็ ้อง อนใน ิ่งนัน้ เป็นการ อนตรง เชน่ อนใ ป้ ดั กวาดโตะใ ้เปน็ ระเบียบ อนใ ้จดการบา้ นทกุ ครง้ั อนใ ต้ รวจ อบงานที่ ครูมอบ มายวา่ เ ร็จ รอื ยงั อนวธิ ีในการเรยี น เขียน และอา่ น เป็นตน้ ร่ มมอกับ ป้ กครอง เพื่อใ ท้ ราบความเปน็ ไปของเดก็ ขณะอยู่ทบ่ี ้าน เพอื่ ทราบความต้องการและปญั าของเด็กโดยละเอียด และเพอื่ ื่อ ารกับผูป้ กครองใ ้ เข้าใจตรงกันเก่ยี วกบั ความกา้ ว นา้ ของเด็กในด้านการเรยี นและพฤตกิ รรม กำ� นดก เกณ ร์ ะเบียบทง่ี ่�ย และชัดเจน ่งิ ใดเด็ก ามารถทาำ ได้ ่งิ ใด ทำาไม่ได้ ากเดก็ า นผลทีต่ ามมาจะเปน็ อย่างไร ใ ้นกั เรยี นมี ่วนร่วมในการกำา น ดกฏ และระเบยี บด้วย าำ รบั การเรียนการ อนกเ็ ช่นเดียวกัน ิ่งใดยาก และ ลับซับ ซ้อน ครตู ้องแจกแจง ่งิ นน้ั ออกมาเป็นขน้ั ตอนทเ่ี ข้าใจงา่ ยๆ เพ่อื ใ ้เด็กเรยี นได้ ้ ิธีก�ร ล�ยอย่�ง นก�รป ิบัติต่อเดก ครูผู้ อนควรมีทัก ะในการ ปฏิบตั ติ ่อเด็กโดยใช้ ลักคำานงึ ถงึ บุคลกิ เด็กในการเรยี นรู้ การเรยี น ร้โู ดยใช้ประ าท ัมผั ลายด้าน ทฤ ฎพี ปุ ัญญา การร่วมเรียนร่วมรู้ เป็นตน้ ก�รท�ำ ง�นเปนทีม การทม่ี คี รู ลายคน รว่ มมือกนั อน ้องเรียนท่มี เี ด็ก มาธิ ้นั จะช่วยใ เ้ ด็กได้เรยี นรู้ จากครู ลายๆ คนโดยดูครูแตล่ ะคนเป็นแบบอยา่ ง ใน ขณะเดียวกันครกู ็จะเข้าใจเด็กดีขึ้น ข้อมลู ที่ไดร้ ับจากครู ลายคนอาจแมน่ ยำากว่าข้อมลู ทไี่ ด้รบั จากครปู ระจำาชนั้ คนเดียวกนั

ตัวอย่างการสอนเดกสมา ิสน้ั 103 สรุป ผู้ปกครองและผู้ท่ีมี ่วนเกี่ยวข้องต้องมีความ วังและความเชื่อม่ันในตัวเด็ก เดก็ มาธิ ้นั ลายคนมี ตปิ ัญญาในระดับ งู มีความคดิ ร้าง รรคด์ เี ยย่ี ม มคี วามคดิ อ่านเป็นของตนเอง มาธิ น้ั เท่านัน้ ทีเ่ ปน็ อุป รรคในการเรยี น ครูและผปู้ กครองจึงควร ตง้ั ความ วังวา่ เด็กจะต้องเรยี นได้ และใช้ความพยายาม และความอดทนในการชว่ ย เ ลอื เด็ก ไม่ควรเลกิ ลม้ ความตงั้ ใจงา่ ยๆ

104 จดั ทาำ ดย อาจารย์ ดร สิ นเ์ ก ย่านเดิม เอก �รอ�้ งอิง กรม ชิ าการ. 2535 . แน ก�รจดั กจิ กรรมและ อ่ ก�รเรยี นก�ร อน. กรงุ เทพฯ ครุ ุ า. ัตรชดุ า เธียรปรชี า. 2537 . พั น�ก�รท�ง ติป � องเดกป ม ัยที่ ดร้ บั กิจกรรม นบรรย�ก�ศที่มี เ ียงดนตรปี ระกอบ. ปรญิ ญานิพนธ์ ก .ม. การ กึ าป ม ยั บัณ ติ ิทยาลัย ม า ทิ ยาลยั รนี ครนิ ทร โิ รฒ. พณดิ า โยมะบตุ ร. 2552 . ล องดนตรบี ำ�บัดต่อก�รเ นคุณค�่ นตนเองและภ� ะ มึ เศร้� อง ยั รนุ่ งิ น �น งเคร�ะ เ์ ดก งิ บ้�นร�ช ิ .ี ปรญิ ญานิพนธ์ ท.ม. จิต ทิ ยาคลนี ิก บัณ ติ ทิ ยาลยั ม า ิทยาลยั ม ดิ ล. รณี คุรรุ ัตนะ. 2526 . ละคร ร้�ง รรค์ �ำ รับเดก. กรุงเทพฯ คณะ กึ า า ตร์ ม า ิทยาลยั รีนครินทร ิโรฒ. ภ�พเดก ม�ธิ นั . ที่มา . . . 15792. บื ค้น นั ท่ี 15 กรกฏาคม 2556. ผดงุ อารยะ ิญ ู. 2544 . ิธีก�ร อนเดก ม�ธิ ัน. กรุงเทพฯ ม า ิทยาลัย รีนครินทร โิ รฒ. อลิ า ชั ร นิ ธุ. 2546 . จติ เ ชเดก. กรงุ เทพฯ จุ าลงกรณม์ า ทิ ยาลัย.

ตัวอยา่ งการสอนเดกสมา ิสัน้ 105 อารี พันธ์มณ.ี 2542 . ค �มคดิ สร�้ งสรรค์. กรุงเทพฯ ตน้ ออ้ แกรมม่ี. . . 1974 . Management of Emotional Problems of Children . .. .




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook