แผนการจดั การเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ชอื่ วชิ า การประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี รหัสวชิ า 20201-2106 ทฤษฎี 1 ปฏิบตั ิ 4 หน่วยกิต 3 หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชนั้ สงู ประเภทวชิ า พาณิชยกรรม สาขาวชิ าพณชิ ยการ สาขางานการบญั ชี จัดทาโดย นางชตุ ิมา ไหมสุวรรณ ตาแหน่ง พนักงานราชการ(คร)ู วิทยาลยั การอาชีพเวยี งสระ สานกั งานอาชวี ศึกษาจงั หวดั สุราษฏรธ์ านี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2 คานา แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเลม่ นี้ จัดทาข้ึน โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื ใช้เปน็ แนวทางในการจัดการเรียนการสอนวชิ าโปรแกรมตารางงาน รหสั วิชา 20201-2106 ตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ าพาณิชยกรรม สาขาวิชาพณชิ ยการ สาขา งานการบญั ชี เน้ือหารายวิชาแบ่งออกเป็น 9 หนว่ ยการเรียน ได้จัดทาแผนการจกั การเรยี นมงุ่ เน้นฐานสรรถนะ (Competency based) และการบรู ณาการ (Integrated) โดยแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นได้ให้ความสาคัญด้านความรู้ ทงั้ ทฤษฎี วธิ ีการปฏิบัติ และทกั ษะการใช้โปรแกรม ตารางงานผ้เู รียบเรยี งไดป้ รบั ปรุงการเรียนรู้ วธิ กี ารใช้งานให้ งา่ ยข้ึนโดยมภี าพประกอบการทางานในแต่ละขั้นตอน เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น นักศึกษาและผู้สนใจสามารถเขา้ สู่บทเรยี น และปฏบิ ัตติ ามบทเรยี นไดโ้ ดยง่าย ในแต่ละหนว่ ยการเรยี นได้สรา้ งแบบประเมินความรทู้ ง้ั แบบประเมินอัตนัย และ แบบประเมนิ ปรนยั และแบบฝึกทกั ษะ เพ่ือฝกึ ฝนใหเ้ กิดทกั ษะทัง้ ด้านการใช้โปรแกรมตารางงานและดา้ นการบัญชี ดังนี้ การเริ่มตน้ ใชง้ านโปรแกรมตารางงาน การปอ้ นขอ้ มูลและการปรับแก้ข้อมลู การจัดรูปแบบขอ้ มูล การใชส้ ูตรและการใช้ฟังกช์ น่ั ในการคานวณเพอ่ื สร้างสมดุ บนั ทึกรายการขั้นต้น การบนั ทกึ รายการในสมดุ รายวันข้นั ตน้ การผ่านรายการไปบัญชแี ยกประเภท การจัดการฐานขอ้ มลู บญั ชใี นตารางงาน การจัดทารายงานทางการเงินการออกรายงานนาเสนอข้อมูลในรปู แบบข้อความและแผนภูมิ การวิเคราะห์ข้อมลู ในรูปแบบขอ้ ความและแผนภูมิ ผู้เรียบเรียงหวงั เป็นอย่างยิ่งว่าหนงั สอื เรยี นเลม่ นจ้ี ะเป็นประโยชนแ์ กค่ รู อาจารย์ นักเรยี นนักศกึ ษา และ ผู้สนใจทกุ ทา่ น ขอขอบคุณเจ้าของตาราทุกท่านท่ีผเู้ รียบเรียงไดน้ ามาประกอบในการเรียบเรียงจนสาเรจ็ ไว้ ณ โอกาสนี้ ลงชอื่ (นางชตุ มิ า ไหมสุวรรณ)
สารบญั 3 หนา้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9
4 แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ ช่ือวิชา การประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบัญชีรหสั วิชา 20201-2106 ทษฎี 1 ปฏบิ ตั ิ 4 หนว่ ยกติ 3 หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ช้นั สูง ประเภทวิชา พาณิชยกรรม สาขาวิชาพณชิ ยการ สาขางานการบัญชี จดั ทาโดย นางชุติมา ไหมสุวรรณ วิทยาลยั การอาชพี เวยี งสระ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
5 แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ ชอ่ื วชิ า การประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชีรหสั วชิ า 20201-2106 ทษฎี 1 ปฏบิ ัติ 4 หน่วยกติ 3 หลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ หลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู สาขาวิชาพณิชยการ สาขางานการบญั ชี จดุ ประสงค์รายวชิ า 1.เข้าใจหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบญั ชี 2.มีทักษะในการใช้โปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี 3.มีกจิ นสิ ัยมีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย์ มีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติทีด่ ตี ่อวชิ าชีพบญั ชี สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรู้เก่ยี วกับหลกั การใช้โปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบญั ชี 2.บนั ทกึ บัญชโี ดยใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ และนาเสนอข้อมลู โดยใช้โปรแกรมตารางงาน คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ัติเกย่ี วกบั การเร่มิ ตน้ ใช้โปรแกรมตารางงาน สว่ นประกอบของโปรแกรมตารางงาน การ ป้อนและจดั รปู แบบขอ้ มูล การสรา้ งสูตรและการใช้ฟงั ก์ชันในการคานวณเพ่ือสร้างสมุดบนั ทกึ รายการข้ันตน้ การ ผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท การปรบั แกข้ ้อมลู การจดั การฐานขอ้ มลู ในตารางงาน การจัดทารายงานทางการ เงิน การออกรายงานและนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบขอ้ ความและแผนภมู ิ
หน่วยการเรยี นรู้ 6 หน่วย หน่วยการเรยี นรู้ เวลาเรียน (ชม.) ท่ี ทฤษฎี ปฏบิ ัติ รวม 1 การเร่ิมตน้ ใชง้ านโปรแกรมตารางงาน 1 45 2 8 10 2 การป้อนขอ้ มูลและการปรบั แกข้ ้อมูล 2 8 10 3 12 15 3 การจดั รูปแบบข้อมูล 2 8 10 4 การใชส้ ตู รและการใชฟ้ งั กช์ ัน่ ในการคานวณเพอ่ื สร้างสมุดบันทึกรายการ 2 8 10 2 8 10 ข้ันตน้ 2 8 10 5 การบันทึกรายการในสมดุ รายวนั ขนั้ ตน้ 2 8 10 18 72 90 6 การผา่ นรายการไปบัญชแี ยกประเภท 7 การจัดการฐานข้อมลู บญั ชีในตารางงาน 8 การจัดทารายงานทางการเงินการออกรายงานนาเสนอข้อมูลในรปู แบบ ขอ้ ความและแผนภมู ิ 9 การวิเคราะหข์ อ้ มูลในรปู แบบขอ้ ความและแผนภูมิ รวม
ช่ือหนว่ ย หน่วยการเรียนรแู้ หน่วยท่ี 1 ควา การเริ่มตน้ ใชง้ านโปรแกรมตารางงาน 1.สว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 1.อธิบายสว่ นประก 2.การเปดิ -ปิดโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 Microsoft Office หน่วยท่ี 2 การป้อนขอ้ มลู และการปรับแก้ขอ้ มูล 2.อธบิ ายวิธีเปดิ -ป 1.ประเภทและชนิดของขอ้ มูล Microsoft Office 2.การปอ้ นขอ้ มูลลงในเซลล์ 1.อธิบายประเภทแ 3.การแกไ้ ขขอ้ มูลภายในเซลล์ (Edit) ได2้ .ปอ้ นขอ้ มลู ลงใ 4.การเลือกเซลล์ (Cell Selection) 3.แก้ไขข้อมลู ภายใ 5.การคดั ลอกข้อมูลและการเคลอ่ื นยา้ ยขอ้ มูลในเซลล์ (Copy 4.เลอื กเซลล์ (Cell and Cut) 5.คดั ลอกขอ้ มูลแล 6.การลบขอ้ มลู ในเซลล์ (Delete) ข้อมูลในเซลล์ (Co 7.การแทรก/ลบแถวและคอลมั น์ (Insert and Delete) 8.การปรับขนาดของแถวและคอลัมน์ Cut) ได้ 9.การจดั การกบั แผน่ งาน 6.ลบขอ้ มูลในเซลล 7.แทรก/ลบแถวแล หน่วยที่ 3 การจัดรูปแบบขอ้ มูล and Delete) ได้ 1.วิธกี ารจดั รูปแบบขอ้ มลู 8.ปรับขนาดของแถ 2.การกาหนดรูปแบบตวั อกั ษร (Font) 9.จัดการกบั แผ่นงา 3.การกาหนดรปู แบบตัวเลข (Number) 1.อธบิ ายการจดั รปู 4.การกาหนดรปู แบบวนั ท่แี ละเวลา (Date/Time) 2.อธิบายการกาหน 5.การจัดวางขอ้ ความ (Alignment) ตัวอกั ษร (Font) ได 3.อธิบายการกาหน (Number) ได4้ .กา และเวลา (Date/T
และสมรรถนะประจาหนว่ ย สมรรถนะ ามรู้ ทักษะ คุณลกั ษณะทพี่ ง่ึ ประสงค์ กอบของ 1.จาสว่ นประกอบของ Microsoft ความมวี ินัย ความรบั ผิดชอบ e Excel 2010 ได้ Office Excel 2010 ได้ ปดิ โปรแกรม 2.เปิด-ปิดโปรแกรม Microsoft e Excel 2010 ได้ Office Excel 2010 ได้ และชนิดของขอ้ มลู 1.แยกประเภทและชนิดของขอ้ มลู ได้2. ความมวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ ในเซลล์ได้ ป้อนข้อมูลลงในเซลล์ได้ ในเซลล์ (Edit) ได้ 3.แกไ้ ขขอ้ มูลภายในเซลล์ (Edit) ได้ l Selection) ได้ 4.เลอื กเซลล์ (Cell Selection) ได้ ละเคลอื่ นย้าย 5.คดั ลอกขอ้ มูลและเคลอื่ นย้ายข้อมูล opy and ในเซลล์ (Copy and Cut) ได้ 6.ลบข้อมูลในเซลล์ (Delete) ได้ ล์ (Delete) ได้ 7.แทรก/ลบแถวและคอลัมน์ (Insert ละคอลมั น์ (Insert and Delete) ได้ 8.ปรบั ขนาดของแถวและคอลมั นไ์ ด้ ถวและคอลัมนไ์ ด้ 9.จดั การกับแผน่ งานได้ านได้ ปแบบขอ้ มูลได้ 1.จดั รูปแบบขอ้ มูลได้ ความมีวินยั นดรูปแบบ 2.กาหนดรูปแบบตวั อกั ษร (Font) ได้ ความรับผดิ ชอบ ด้ 3.กาหนดรูปแบบตัวเลข (Number) นดรูปแบบตัวเลข ได4้ .กาหนดรปู แบบวนั ทแ่ี ละเวลา าหนดรูปแบบวันท่ี (Date/Time) ได้ Time) ได้ 5.จดั วางข้อความ (Alignment) ได้
6.การกาหนดเสน้ ขอบ (Border) 5.อธบิ ายการจัดวา 7.การกาหนดสีและลวดลาย (Patterns) (Alignment) ได้ 8.การจดั รูปแบบด้วย AutoFormat 6.อธบิ ายการกาหน 9.การคัดลอกรูปแบบด้วยคาสงั่ Format Painter (Border) ได้ 7.อธิบายการกาหน หน่วยท่ี 4 การใช้สตู รและการใช้ฟังกช์ น่ั ในการคานวณเพอื่ สร้าง (Patterns) ได้ สมุดบันทึกรายการขัน้ ตน้ 8.อธิบายการจดั รปู 1.ประเภทของสูตร AutoFormat ได้ 2.วิธกี ารป้อนคา่ สูตร 9.อธบิ ายการคดั ลอ 3.การคานวณโดยใช้สตู ร คาสั่ง Format Pai หน่วยที่ 5 การบนั ทกึ รายการในสมดุ รายวันขั้นตน้ 1.บอกประเภทของ 1.การสรา้ งเอกสารประกอบการบันทกึ บัญชี 2.อธิบายการป้อนค 2.การสร้างผงั บัญชี 3.อธบิ ายการคานว 3.การใชโ้ ปรแกรม MS Excel 2010 กบั การบันทึกบญั ชีในสมุด รายวนั ทว่ั ไป 1.อธบิ ายการสรา้ งเ ประกอบการบนั ทึก 2.อธบิ ายการสร้างผ 3.อธิบายการใชโ้ ปร 2010 กับการบนั ท รายวนั ทว่ั ไปได้ 4.อธิบายการประย ในการบันทกึ รายก ทัว่ ไปได้ 5.อธบิ ายการใช้โปร
8 างขอ้ ความ 6.กาหนดเส้นขอบ (Border) ได้ นดเส้นขอบ นดสีและลวดลาย 7.กาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) ปแบบด้วย ได้ 8.จัดรูปแบบด้วย AutoFormat ได้ 9.คดั ลอกรปู แบบด้วยคาสง่ั Format Painter ได้ อกรปู แบบดว้ ย 1.บอกประเภทของสูตรได้ ความมีวนิ ัย inter ได้ 2.ป้อนคา่ สตู รได้ ความรบั ผดิ ชอบ 3.คานวณโดยใช้สูตรได้ งสูตรได้ คา่ สตู รได้ วณโดยใช้สูตรได้ เอกสาร 1.สร้างเอกสารประกอบการบันทกึ ความมีวนิ ัย กบัญชไี ด้ บัญชไี ด้ ความรับผิดชอบ ผังบญั ชีได้ 2.สรา้ งผังบญั ชีได้ รแกรม MS Excel 3.ใช้โปรแกรม MS Excel 2010 กับการ ทกึ บัญชีในสมุด บนั ทึกบญั ชใี นสมดุ รายวนั ทว่ั ไปได้ 4.ประยุกตใ์ ช้คาสง่ั รว่ มกันในการบนั ทกึ ยกุ ต์ใช้คาสัง่ รว่ มกัน รายการในสมดุ รายวันทั่วไปได้5.ใช้ การในสมดุ รายวนั โปรแกรม MS Excel 2010 กับการ บนั ทึกบญั ชใี นสมดุ รายวนั เฉพาะได้ รแกรม MS Excel
หน่วยที่ 6 การผา่ นรายการไปบญั ชีแยกประเภท 2010 กับการบนั ท 1.ความหมายของบญั ชีแยกประเภท รายวันเฉพาะได้ 2.การใช้โปรแกรม MS Excel ในการผา่ นรายการจากสมดุ รายวันท่วั ไปไปบญั ชแี ยกประเภท 1.บอกความหมายข ประเภทได้ หน่วยที่ 7 การจดั การฐานข้อมลู บญั ชใี นตารางงาน 2.อธบิ ายการใช้โปร 1.ความหมายและส่วนประกอบของฐานข้อมลู ในการผา่ นรายการ 2.การสรา้ งและจัดการฐานข้อมูลด้วย ท่วั ไปไปบญั ชแี ยกป 3.อธิบายการใชโ้ ปร MS Excel 2010 ในการผ่านรายการ 3.การสรา้ งฐานขอ้ มูลทมี่ ีความเชอ่ื มโยงกัน เฉพาะไปบัญชแี ยก 4.การสร้างฐานข้อมูลเพื่อใชใ้ นงานบัญชี 1.บอกความหมายแ หน่วยท่ี 8 การจดั ทารายงานทางการเงินการออกรายงาน ของฐานข้อมลู ได้ นาเสนอข้อมูลในรูปแบบขอ้ ความและแผนภูมิ 2.อธิบายการ.สรา้ ง 1.การจัดทางบการเงิน ฐานขอ้ มูลด้วย 2.การสร้างกระดาษทาการ MS Excel 2010 ไ 3.การสร้างงบกาไรขาดทุน 3.อธบิ ายการสร้างฐ 4.การสร้างงบแสดงฐานะการเงนิ ความเช่ือมโยงกนั ไ 4.อธบิ ายการ.สร้าง ในงานบัญชไี ด้ 1.อธบิ ายการจัดทา 2.อธิบายการสรา้ งก 3.อธิบายการสร้างง 4.อธิบายการสร้างง การเงินได้ 5.อธิบายการออกร
9 ทึกบัญชใี นสมุด ของบัญชีแยก 1.บอกความหมายของบัญชแี ยก ประเภทได้ รแกรม MS Excel 2.ใช้โปรแกรม MS Excel ในการผ่าน รจากสมดุ รายวัน รายการจากสมุดรายวนั ท่วั ไปไปบัญชี ประเภทได้ แยกประเภทได้ รแกรม MS Excel 3.ใช้โปรแกรม MS Excel ในการผ่าน รจากสมดุ รายวัน รายการจากสมุดรายวันเฉพาะไปบัญชี กประเภทได้ แยกประเภทได้ และส่วนประกอบ 1.บอกความหมายและสว่ นประกอบ ของฐานขอ้ มลู ได้ งและจัดการ 2.สร้างและจดั การฐานข้อมูลดว้ ย MS Excel 2010 ได้ ได้ 3.สร้างฐานขอ้ มลู ท่มี ีความเช่ือมโยงกนั ฐานข้อมลู ที่มี ได้ ได้ 4.สรา้ งฐานข้อมลู เพ่ือใช้ในงานบัญชไี ด้ งฐานข้อมลู เพือ่ ใช้ างบการเงนิ ได้ 1.จัดทางบการเงินได้ กระดาษทาการได้ งบกาไรขาดทนุ ได้ 2.สรา้ งกระดาษทาการได้ งบแสดงฐานะ 3.สร้างงบกาไรขาดทุนได้ 4.สร้างงบแสดงฐานะการเงินได้ รายงานได้ 5.ออกรายงานได้
5.การออกรายงาน หนว่ ยท่ี 9 การวเิ คราะห์ข้อมูลในรูปแบบข้อความและแผนภูมิ 1.อธิบายการใช้เคร 1.เครอื่ งมอื ในการจัดการตารางสรุปผลข้อมูล จดั การตารางสรปุ ผ 2.สว่ นประกอบหน้าตา่ งของตารางสรุปผลข้อมูล3.การสรา้ งตาราง 2.อธิบายการบอกส สรปุ ผลขอ้ มลู หนา้ ตา่ งของตาราง 4.การสร้างงบทดลองดว้ ยตารางสรุปผลขอ้ มูล 3.อธิบายการสรา้ งต 5.การสรา้ งงบการเงินด้วยตารางสรุปผลขอ้ มลู 6.การสร้างงบกาไร ขอ้ มลู ได้ ขาดทุนด้วยตารางสรุปผลข้อมูล 7.การสร้างงบแสดงฐานะการเงินด้วยตารางสรปุ ผลข้อมลู 4.อธิบายการสร้างง 8.การสรา้ งแผนภูมิด้วยตารางสรุปผลข้อมูล ตารางสรปุ ผลขอ้ มูล 5อธิบายการสรา้ งง ตารางสรปุ ผลขอ้ มูล 6.อธิบายการสร้างง ดว้ ยตารางสรปุ ผลข 7.อธบิ ายการสรา้ งง การเงินด้วยตารางส 8.อธบิ ายการสรา้ งแ สรปุ ผลข้อมูลได้
10 รอ่ื งมือในการ 1.ใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการจดั การตาราง ผลข้อมูลได้ สรุปผลข้อมูลได้ สว่ นประกอบ 2.บอกสว่ นประกอบหน้าต่างของ งสรปุ ผลข้อมูลได้ ตารางสรุปผลขอ้ มูลได้ ตารางสรปุ ผล 3.สรา้ งตารางสรุปผลข้อมลู ได้ 4.สรา้ งงบทดลองดว้ ยตารางสรุปผล งบทดลองด้วย ขอ้ มูลได้ ลได้ 5.สร้างงบการเงินดว้ ยตารางสรุปผล งบการเงินดว้ ย ขอ้ มูลได้ ลได้ 6.สรา้ งงบกาไรขาดทุนด้วยตาราง งบกาไรขาดทนุ สรปุ ผลขอ้ มูลได ขอ้ มลู ได 7.สรา้ งงบแสดงฐานะการเงินด้วย งบแสดงฐานะ ตารางสรุปผลข้อมลู ได้ สรุปผลขอ้ มูลได้ 8.สร้างแผนภมู ดิ ้วยตารางสรปุ ผล แผนภูมิดว้ ยตาราง ข้อมูลได้
แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 1 สอนคร้ังท.่ี ..................... ชอ่ื หน่วย ปฐมนเิ ทศ/ การเร่ิมต้นใชง้ านโปรแกรมตาราง ชวั่ โมงรวม..................... งาน จานวนชัว่ โมง................ 1. สาระสาคัญ การศึกษาวิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชีเป็นวิชาสาคัญท่ีช่วยให้รู้จักพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถรวมทั้งสติปัญญาเพื่อแก้ปัญหา ผู้เรียนวิชานี้นอกจากจะได้ความรู้ท่ีถูกต้องแล้ว ยัง สามารถนาไปประยุกตใ์ ชเ้ พือ่ เป็นเครือ่ งมือที่สาคญั ในการแก้ปญั หาในชวี ิตประจาวันอกี ดว้ ย 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบัญชี 2.บันทกึ บญั ชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี 3.จดั ทางบการเงินและนาเสนอข้อมลู โดยใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1.บอกจุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธบิ ายรายวิชาตามหลกั สตู รได้ 2.บอกแนวทางวัดผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้ 3.ปฏิบัติกิจกรรมการเรยี นรว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 1.อธบิ ายสว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 ได้ 2.เปดิ -ปิดโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 ได้ 3.3 คุณลักษณะทพี่ ่ึงประสงค์ 3.3.1 เอาใจใส่ดูแลชว่ ยเหลอื ภารกจิ การงานปฏิบตั ิตนตามคาสง่ั สอนท่ีถกู ตอ้ งและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ท้ังทางตรงและทางออ้ ม(นโยบายสถานศึกษาสง่ เสริมการอ่าน) 3.3.3.มงุ่ มนั่ ตั้งใจเพียรพยายามในการศกึ ษาและปฏิบตั ิ ๓.๓.๔.มีสติ รู้ตวั รคู้ ิด รูป้ ฏิบัติ ตามพระราชดารสั ของพระบามสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ๓.๓.๕.เกบ็ ออมถนอมใช้ทรพั ย์สิน ส่ิงของท่ีเกิดประโยชน์ค้มุ ค่า(นโยบายสถานศกึ ษาส่งเสรมิ การออม) ๓.๓.๖.ปฏบิ ตั ิตามท่ีได้รับมอบหมายสาเรจ็ ตามกาหนด โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผ้อู น่ื
12 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ ปฐมนิเทศ 1.จดุ ประสงคร์ ายวิชารายวชิ า สมรรถนะรายวชิ าและคาอธิบายรายวชิ าตามหลักสตู ร 2.แนวทางวัดผลและการประเมินผลการเรียนรู้ การเริ่มตน้ ใช้งานโปรแกรมตารางงาน 1.ส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 2.การเปดิ -ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 การศึกษาวชิ าการใช้คอมพิวเตอรใ์ นงานบัญชี เป็นวิชาที่ฝกึ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับหลกั การ วิธกี าร และข้ันตอนการจัดทาบญั ชีในธุรกจิ ทั่วไป มีทกั ษะปฏบิ ัตงิ านตามหลกั การบญั ชีท่รี ับรองท่ัวไป รวมทง้ั มีกิจ นสิ ยั ความมรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมีเจตคติทด่ี ีต่อวชิ าชพี บญั ชี สามารถนาไป ประยุกตใ์ ชเ้ พอื่ เปน็ เคร่อื งมือท่สี าคญั ในการแกป้ ญั หาในชีวิตประจาวนั ได้ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เป็นโปรแกรมสาหรบั งานทเี่ กย่ี วกบั การคานวณตวั เลขโดย ลกั ษณะ การคานวณนั้นเปน็ ไปในรูปแบบตารางการคานวณที่เปน็ ช่องๆ ซึ่งเรียกวา่ “เซลล์” (Cell) มคี วามสามารถ ในการประมวลขอ้ มูลไดห้ ลากหลายรปู แบบ ตวั เลข ตัวอกั ษร สูตรการคานวณ วันทแ่ี ละเวลา วธิ กี ารปอ้ นและ แก้ไขข้อมลู มคี วามยืดหยุ่น จากคุณสมบัติเซลลท์ ีเ่ ปน็ อสิ ระจากกนั จงึ ทาให้จัดการกบั เซลลต์ า่ งๆได้ง่าย มีแผ่นงาน (Worksheet) ทเ่ี ปรยี บเสมือนหน้ากระดาษคานวณ สาหรบั แบ่งงานออกจากกนั และสามารถเช่ือมโยงการทางาน กนั ได้ รวมทัง้ การสรา้ งตารางในรปู แบบต่างๆ การสร้างแผนภมู ิ แผนผงั การวิเคราะห์ข้อมูลตลอดจนพฒั นาและ นาไปประยกุ ต์ใช้ใหเ้ ป็นระบบงาน ที่มีขีดความสามารถสงู มกี ารวเิ คราะห์ขอ้ มลู และพัฒนาระบบฐานข้อมูลไดอ้ ยา่ ง มปี ระสิทธภิ าพ 5.1 การนาเข้าส่บู ทเรียน ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1.ครูบอกจดุ ประสงค์ในการศึกษา เพ่ือให้ผเู้ รยี นทุกคนเขา้ ใจหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบัญชี มีทักษะในการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบัญชี มกี จิ นิสัยมีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่อื สตั ย์ มีวินัย ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ วิชาชีพบญั ชี 2.ครแู จ้งเกณฑ์การประเมินผลการเรียนวชิ าน้ี 3.ผูเ้ รยี นสรา้ งความคนุ้ เคยในการใช้เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ในหอ้ งปฏิบตั ิการ และสร้างบรรยากาศใน การเรียนให้สนกุ สนาน เพอ่ื ให้คนุ้ เคยและรู้จักกัน 4.ครูสนทนากับผู้เรียนเก่ียวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีเป็นส่วนประกอบของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ูจ้ กั ดียงิ่ ขึ้น และใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสมในการเรียนการสอน 5.ครูสนทนากับผ้เู รยี นวา่ ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทาบญั ชีวา่ มปี ระโยชนเ์ ช่นเดียวกนั กับ การนามาประยกุ ต์ใช้งานดา้ นอ่นื ๆ และช่วยลดข้อผดิ พลาดในการทางาน การทาบัญชดี ้วยมอื มักจะมีขอ้ ผิดพลาดได้ งา่ ย และขอ้ ผดิ พลาดมหี ลายลักษณะไมแ่ น่นอน เชน่ การบนั ทกึ บญั ชี 2 ดา้ นไม่เท่ากัน การผ่านรายการไปบัญชีแยก ประเภทไม่ตรงกับสมุดรายการข้ันต้น เป็นต้น การตรวจสอบข้อผิดพลาดก็ทาได้ยากและใช้เวลานาน การใช้ คอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูปทางบัญชีที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดข้อผิดพลาดเพราะกระบวนการทางาน ของโปรแกรมจะมโี ครงสรา้ งและรปู แบบท่ที าให้ตรวจพบข้อผดิ พลาดได้ง่ายขนึ้ 6.ผ้เู รียนยกตวั อย่างธรุ กิจ หรือบริษทั ท่ีนยิ มนาโปรแกรมตารางงานมาประยกุ ตใ์ นการบนั ทึกบญั ชีใน กจิ การ 7.ผ้เู รยี นทาแบบประเมินผลกอ่ นเรยี น 10 นาที
13 ข้ันสอน 8.ครแู ละผู้เรียนช่วยกันสรปุ จุดประสงค์ในการเรียนว่าเมอื่ จบวชิ านี้ ผู้เรียนสามารถทาอะไรไดบ้ ้างจาก การเรยี นวชิ าชีพนี้ และแนะนาใหผ้ ้เู รียนไดบ้ นั ทกึ เอาไวต้ รวจสอบตนเองในอนาคต 9.ผู้เรียนรบั ฟังคาชีแ้ จงจุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา คาอธบิ ายรายวชิ า และการวดั ประเมินผล ซักถามข้อปญั หา รวมท้ังแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับการเรียนวชิ าน้ี 10.ครูและผเู้ รียนบอกส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 โดยครใู ช้คอมพวิ เตอรใ์ ช้ส่อื Power Point เป็นส่ือประกอบในการเรียนการสอน โดยการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เบ้ืองตน้ ต้องมสี ว่ นประกอบหนา้ จอ ดงั นี้ 11.ครูและผู้เรียนใช้เทคนคิ การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เพื่ออธบิ ายเรอื่ ง สว่ นประกอบของแผ่นงาน (Worksheet) โดยเปิดหนา้ จอคอมพิวเตอร์ ดังน้ี 12.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เพ่ือฝึกปฏิบัติเร่ืองการเปิด-
14 ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เปดิ เรียกเปดิ จากระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 มวี ธิ ีการเปิดไดห้ ลายวิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 คลิกปุ่ม Start เลือก All Programs เลือก Microsoft Office เลือก Microsoft Office Excel 2010 จากนน้ั คลิกมาสห์ รือกดปมุ่ Enter วิธีที่ 2 คลิกเลือกที่ Shortcut Icon บนหน้าจอ Desktop โดยดับเบลิ คลกิ ที่รูป การเรียกเปิดจากระบบปฏิบัติการ Windows 8 13.ครูและผู้เรยี นใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจัดการเรียนรู้แบบสาธิต และให้ผู้เรียนฝึก ทักษะปฏบิ ต้ ติ ามดงั ต่อไปน้ การบันทึกข้อมลู ในโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 การปิดใช้โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 การใช้งานรบิ บอน (Ribbon) การสร้างสมุดงานใหม่ (New) การบันทึกสมุดงาน (Save) การปดิ สมุดงาน (Close) การเปดิ สมดุ งาน (Open) การออกจากโปรแกรม (Exit) 14.ผู้เรียนบอกส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Exce l2010 ตามหมายเลขที่กาหนดไว้เรียกว่า อะไร พรอ้ มอธบิ ายความหมาย 15.ผเู้ รียนบอกคาสั่งคีย์ลัดของโปรแกรม Microsoft Excel 2010 16.ผเู้ รยี ฝกึ ทักษะทากจิ กรรมทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ใบงาน และแบบประเมนิ ผล ขั้นสรปุ และการประยกุ ต์ 17.ผู้เรียนบอกสว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 และฝึกทักษระการเปดิ -ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 18.ผู้เรยี นวางแผนการนาบญั ชีไปประยกุ ตใ์ ช้กับงานในธุรกจิ และชีวติ ประจาวนั ท่ีจาเปน็ โดยทั่วไป 19.ผู้เรยี นวเิ คราะหข์ ัน้ ตอนการบนั ทึกบญั ชดี ว้ ยคอมพิวเตอร์ และเปิดโอกาสให้ซักถาม 20.ผ้เู รยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ ข้นั สรุปและการประยุกต์
15 5.ผู้เรียนวางแผนการนาวิชาการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชีไปประยุกตใ์ ช้กบั งานใน ชวี ติ ประจาวันทจ่ี าเปน็ โดยท่ัวไป ซึ่งทุกคนจะต้องวางแผนการทางานต่าง ๆ ในอนาคต 5.2 การเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี น วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี ของสานักพิมพ์เอมพนั ธ์ 2.กิจกรรรมการเรยี นการสอน 3.สือ่ Power Point 4.เครื่องคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรปุ 1.บันทึกการสอน 2.การเช็คชอ่ื เข้าเรียนในวิชา 3.การบนั ทกึ ขอ้ มลู บญั ชใี นโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ 4. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ 5. ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ 6. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. สือ่ การเรียนรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ 1.หนงั สอื เรียน วชิ าการประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี 6.2 ส่อื โสตทสั น์ (ถ้ามี) 1.ส่ือ Power Point 2.เครือ่ งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.3 หุ่นจาลองหรอื ของจริง (ถ้าม)ี 1.เครือ่ งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อนื่ ๆ (ถา้ ม)ี กจิ กรรรมการเรยี นการสอน 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอ่นื
16 -วชิ าการใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลคา วิชาการบัญชี วิชาพมิ พ์ดดี ไทย-องั กฤษ 9. การวัดผลและประเมนิ ผล 9.1 กอ่ นเรยี น -สอบถามความรู้เดิม 9.2 ขณะเรียน -ซักถามข้อสงสยั -สังเกตการเรยี น 9.3 หลงั เรยี น -ทาแบบฝึกหัด -ทาแบบทดสอบ
17 แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ ๒ สอนครง้ั ที่...................... ช่อื หนว่ ย ปฐมนเิ ทศ/ การเริม่ ตน้ ใช้งานโปรแกรมตารางงาน ชั่วโมงรวม..................... จานวนชั่วโมง................ 1. สาระสาคญั รปู แบบข้อมูลในโปรแกรม Microsoft office Excel 2010 แยกเป็นหลายชนดิ ที่สามารถป้อนลงในเซลล์ ซึ่ง มคี วามยืดหยนุ่ ในการจัดการข้อมูล เนือ่ งจากแต่ละเซลล์จะมคี วามเปน็ อสิ ระจากกัน การท่ีจะปอ้ นลงในเซลล์ มี หลายประเภท ผ้ใู ช้สามารถกาหนดให้สอดคล้องกบั ลักษณะของข้อมลู และงานทจ่ี ะจัดทาข้อมูลที่ป้อนลงในเซลล์ สามารถท่ีจะแกไ้ ข คัดลอกหรือย้ายไปยงั เซลลอ์ ่นื ๆ ได้ และในการทางาน โดยเฉพาะการนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นงาน ดา้ นตา่ งๆ เช่น งานด้านบญั ชี ผู้ใช้สามารถป้อนขอ้ มลู ลงในแผ่นงานได้หลายแผ่นงานในสมุดงานหนึง่ ๆ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบัญชี 2.บนั ทกึ บัญชโี ดยใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี 3.จัดทางบการเงนิ และนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1.อธบิ ายประเภทและชนดิ ของขอ้ มูลได้ 3.2 ด้านทกั ษะ 2.ป้อนขอ้ มลู ลงในเซลลไ์ ด้ 3.แกไ้ ขข้อมลู ภายในเซลล์ (Edit) ได้ 4.เลอื กเซลล์ (Cell Selection) ได้ 5.คดั ลอกข้อมูลและเคลือ่ นยา้ ยขอ้ มูลในเซลล์ (Copy and Cut) ได้ 6.ลบข้อมลู ในเซลล์ (Delete) ได้ 7.แทรก/ลบแถวและคอลมั น์ (Insert and Delete) ได้ 8.ปรบั ขนาดของแถวและคอลมั น์ได้ 9.จัดการกับแผน่ งานได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพึง่ ประสงค์ 3.3.1 เอาใจใสด่ ูแลช่วยเหลอื ภารกิจการงานปฏิบตั ติ นตามคาส่ังสอนท่ถี กู ต้องและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม(นโยบายสถานศกึ ษาส่งเสรมิ การอ่าน) 3.3.3.มุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายามในการศกึ ษาและปฏบิ ตั ิ ๓.๓.๔.มีสติ รู้ตัว รคู้ ดิ รู้ปฏิบตั ิ ตามพระราชดารัสของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ๓.๓.๕.เก็บออมถนอมใช้ทรพั ย์สนิ ส่งิ ของทเ่ี กิดประโยชนค์ ุ้มคา่ (นโยบายสถานศึกษาสง่ เสรมิ การออม) ๓.๓.๖.ปฏบิ ัติตามท่ีได้รบั มอบหมายสาเร็จตามกาหนด โดยคานงึ ถึงความปลอดภัยของตนเองและผอู้ ่นื
18 4. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ Cut) 1.ประเภทและชนิดของข้อมูล 2.การป้อนขอ้ มลู ลงในเซลล์ 3.การแกไ้ ขข้อมลู ภายในเซลล์ (Edit) 4.การเลอื กเซลล์ (Cell Selection) 5.การคัดลอกขอ้ มูลและการเคล่อื นยา้ ยขอ้ มลู ในเซลล์ (Copy and 6.การลบข้อมูลในเซลล์ (Delete) 7.การแทรก/ลบแถวและคอลมั น์ (Insert and Delete) 8.การปรบั ขนาดของแถวและคอลัมน์ 9.การจัดการกบั แผ่นงาน 5.1 การนาเข้าสูบ่ ทเรยี น ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครแู ละผู้เรียนสนทนาเรอ่ื งการเร่ิมตน้ ใช้งานโปรแกรมตารางงาน ซึ่งจะมีลักษณะการติดตั้งโปรแกรมและ วธิ กี ารเริ่มต้นใช้โปรแกรม 2.ครูอภปิ รายถึงข้อมลู ท่ีใช้ในแผ่นงาน (Worksheet) มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ค่าคงท่ี (Constant) และสตู รใน การคาานวณ (Formula) 3.ครูและผู้เรยี นยกตัวอย่างการนาโปรแกรมตารางงานท่ีนามาใช้ ซึ่งในปัจจบุ ันได้พัฒนามาหลายเวอร์ชนั่ ซ่ึง สามารถใชไ้ ด้กบั ระบบปฏิบัติการ windows 7, Windows 8 และ Windows 8.1 ขัน้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ีสอนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทัศนว์ ัสดุมาชว่ ยพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอน โสตทัศนว์ ัสดุดังกลา่ ว ได้แก่ Power Point เพอื่ อธบิ ายประเภทและชนดิ ของขอ้ มูล ซึง่ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท 4.1.คา่ คงท่ี (Constant) เป็นขอ้ มูลทไ่ี มเ่ ปลีย่ นแปลง ประกอบดว้ ยขอ้ มลู ท่เี ป็นตวั เลข ตัวอักษร เวลา วนั ทีข่ ้อมลู ทางตรรกศาสตร์ หรอื ขอ้ ความทแี่ สดงความผดิ พลาดต่างๆ ทเี่ กิดข้ึน 4.2.สูตรในการคาานวณ (Formula) 5.ครแู ละผู้เรียนใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรียนรู้แบบสาธิต และบอกชนิดของ ขอ้ มลู เพอ่ื ให้ผู้เรียนได้มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นรว่ มกัน โดยขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 5 ชนิด คือ 5.1. ขอ้ มูลตวั อกั ษร (Text) 5.2. ข้อมลู ตวั เลข (Number) 5.3. ขอ้ มลู ทีเ่ ป็นสูตร (Formula) 5.4. ขอ้ มลู ชนิดวันท่ี (Date)
19 5.5. ขอ้ มูลชนิดเวลา (Time) 6.ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจดั การเรียนรแู้ บบสาธิต และฝึกทกั ษะการ ปอ้ นข้อมลู ลงในเซลล์ เช่น เลอ่ื น Cell Pointer ไปยงั ตาาแหนง่ เซลลท์ ตี่ ้องการพมิ พข์ อ้ มลู โดยข้อมลู จะ ปรากฏในแถบสูตร คาานวณ (Formula Bar) ดงั น้ี 7.ครแู ละผ้เู รยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรียนร้แู บบสาธิต และฝกึ ทกั ษะ ดงั นี้ การปอ้ นข้อมูลในช่วง การป้อนขอ้ มูลท่ีมีคา่ ซ้ากันในช่วงเดยี วกัน การปอ้ นขอ้ มลู หลายบรรทดั ในเซลล์เดียวกนั การป้อนขอ้ มลู แบบเติมเองอตั โนมตั ิ รปู แบบการทางานของ AutoFill 8.ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรียนร้แู บบสาธิต และฝกึ ทักษะการ แกไ้ ขขอ้ มลู ภายในเซลล์ (Edit) เมือ่ มกี ารปอ้ นข้อมูลแลว้ พบว่าเกิดข้อผิดพลาดขึน้ สามารถปรับเปล่ียนหรือ แก้ไขข้อมลู นน้ั ได้ โดยทาาได้หลายรปู แบบด้วยกนั เช่น คลกิ เลือกเซลล์ท่ีจะแก้ไขและพมิ พข์ อ้ มลู ใหม่ทับขอ้ มูลเดมิ คลิกเลือกเซลล์ทีจ่ ะแก้ไขแล้วกดปมุ่ ฟงั กช์ ันคีย์ F2 จะปรากฏเคอร์เซอร์อย่ทู ้ายข้อมลู ในเซลล์ ใช้ลูกศร เลือ่ นหรอื ใช้เมาส์ {ท่ีเป็นรูป I-beam (ไอบีม)} คลกิ ตรงตาาแหนง่ ท่ีจะแกไ้ ข 9.ครแู ละผ้เู รียนใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรู้แบบสาธิต และฝึก ทกั ษะการเลือกเซลล์ (Cell Selection) และใช้เทคนิคการจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) และใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัติตาม เชน่ เม่อื ตอ้ งการเลอื กเพียง บางส่วน ใหล้ ากเมาส์ใหค้ ลุมขอ้ มลู หรอื เซลล์ทต่ี อ้ งการ 10. ครูและผู้เรยี นใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นร้แู บบสาธติ และฝกึ
20 ทกั ษะการคดั ลอกขอ้ มูลและการเคลอ่ื นยา้ ยข้อมูลในเซลล์ (Copy and Cut) และใช้เทคนิคการจัดการ เรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) และใช้ Projector เปน็ สื่อการสอนในการฉายให้ผู้เรียน ปฏิบตั ติ าม เชน่ การคัดลอกข้อมูลชว่ ยให้การทางานได้รวดเรว็ มากขนึ้ ซงึ่ ไมจ่ าเป็นตอ้ งปอ้ นข้อมูลที่ เหมือนกันซา้ ๆ กัน การคดั ลอกข้อมลู ทาไดโ้ ดย วิธีท่ี ① วิธที ่ี ② 11.ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรียนรแู้ บบสาธิต และฝึกทักษะการ เคลอ่ื นแทรกข้อมูล (Cut) และใช้ Projector เป็นส่อื การสอนในการฉายให้ผู้เรยี นปฏิบตั ติ าม เช่น การเคลอ่ื นแทรก โดยการใช้คาส่งั
21 12.ครแู ละผเู้ รียนใชเ้ ทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ และฝกึ ทักษะการ ลบขอ้ มลู ในเซลล์ (Delete) และใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติตาม เช่น 13.ครูและผู้เรียนใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจัดการเรยี นรู้แบบสาธิต และฝกึ ทักษะการ
22 แทรก/ลบแถวและคอลัมน์ (Insert and Delete) และใช้ Projector เปน็ สือ่ การสอนในการฉายให้ผเู้ รียนปฏบิ ัติ ตาม เช่น การแทรกแถว (Insert Row) สามารปฏิบัตไิ ดด้ งั นี้ 14.ครูและผ้เู รียนใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรู้แบบสาธิต และฝึกทักษะการ ปรบั ขนาดของแถวและคอลัมน์และใช้ Projector เป็นสือ่ การสอนในการฉายใหผ้ เู้ รียนปฏบิ ัติตาม เช่น การปรับ ความสงู ของแถว 15.ครแู ละผู้เรียนใชเ้ ทคนิคแบบ Demonstration Method การจัดการเรียนรูแ้ บบสาธติ และฝกึ ทักษะการ
23 จดั การกบั แผน่ งานและใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ัติตาม เช่น การเลือก Worksheet (แผน่ งาน) 16.ผู้เรยี นปฏิบัตติ ามคาาสั่งตอ่ ไปน้ีและบนั ทึกผลที่ไดล้ งในช่องท่ีกาาหนดให้ 17.ผเู้ รยี นฝกึ ทกั ษะดงั นี้ 1.เลือกชว่ งข้อมูลโดยใช้ป่มุ Ctrl กับการคลกิ เมาสใ์ ห้ได้พนื้ ทีด่ ังทีก่ าาหนดให้ 2.กาหนดความกวา้ งของคอลัมน์ และความสงู ของแถวให้เหมาะสม เติมสใี ห้กบั เซลลท์ ีเ่ ลือก 3. Sheet ท่ี 2 ใหผ้ ้เู รียนสร้างเป็นชือ่ ของนักเรยี น 4.บนั ทกึ ชือ่ ไฟลห์ อ้ ง_เลขท่ี_EX2-5 18.ใหผ้ เู้ รียนพมิ พ์ตารางข้อมูลของตนเอง กาหนดให้มหี วั ขอ้ ดังน้ี 1.ลาดับ
24 2.ชื่อ นามสกุล 3.ชอื่ เล่น 4.วนั เดือน ปี เกิด พมิ พ์ขอ้ มูลของเพ่อื นในห้อง ตงั้ ชื่อ Sheet เป็น Friend เปลี่ยนสีแท็บตาม สี วันเกิดของผู้เรียน จัดรูปแบบเซลล์ด้วยตัวอักษร (Font) รูปแบบ วันท่ี (Date) จัดตาแหน่งของข้อมูล (Alignment) ใสเ่ ส้นใหก้ ับตารางและกาาหนดสีของเส้นเพื่อเน้นข้อมูลและความสวยงาม (Border) เติมสี ใหก้ บั เซลล์ (Fill) บนั ทกึ ไฟล์ชอ่ื Friend 19.ผเู้ รยี นสร้างปฏทิ ินปถี ัดจากปัจจุบนั 25xx บนั ทกึ ไฟลช์ ือ่ Calendar ขนั้ สรุปและการประยุกต์ 20.สรุปโดยให้ผเู้ รยี นฝึกทักษะปฏบิ ัตติ ามสาระการเรียนรู้ท่กี าหนดไว้ในแผนการสอนนี้เกีย่ วกับ การปอ้ นขอ้ มูลและการปรบั แก้ขอ้ มูล และซักถามหากไม่สามารถปฏบิ ัติไดต้ ามที่ครูผู้สอนได้สาธิตหรอื แนะนาไว้ 21.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และฝึกปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยเน้นการนาไปปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ เพ่อื ประยุกต์ใช้ในธรุ กจิ 5.2 การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วิชาการประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี ของสานกั พมิ พเ์ อมพันธ์ 2.กจิ กรรรมการเรียนการสอน 3.สื่อ Power Point 4.เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรปุ 1.บนั ทึกการสอน 2.การเช็คช่ือเขา้ เรยี นในวิชา 3.การบนั ทกึ ข้อมลู บัญชีในโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวดั ผลและประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 3. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ 5. ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ 6. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สอ่ื สิง่ พมิ พ์ 1.หนงั สอื เรยี น วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี 6.2 สื่อโสตทัสน์ (ถา้ มี) 1.สอื่ Power Point 2.เคร่ืองคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010
25 6.3 หุ่นจาลองหรอื ของจริง (ถา้ ม)ี 1.เครอื่ งคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อื่นๆ (ถ้าม)ี กิจกรรรมการเรยี นการสอน 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั วิชาอนื่ -วิชาการใชค้ อมพวิ เตอรป์ ระมวลผลคา วิชาการบญั ชี วิชาพิมพด์ ีดไทย-องั กฤษ 9. การวดั ผลและประเมินผล 9.1 กอ่ นเรียน -สอบถามความรูเ้ ดมิ 9.2 ขณะเรียน -ซกั ถามขอ้ สงสยั -สังเกตการเรียน 9.3 หลังเรยี น -ทาแบบฝกึ หดั -ทาแบบทดสอบ
26 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี ๓ สอนครง้ั ท่ี...................... ชื่อหนว่ ย การจดั รูปแบบขอ้ มูล ช่ัวโมงรวม..................... จานวนชั่วโมง................ 1. สาระสาคัญ การทางานบนแผนง่ าน (Worksheet) สามารถกาหนดรปแู บบของขอ้ มลู เพอื่ ให้การทางานเปน็ ไปตาม วตั ถุประสงคข์ องงาน สามารถตกแตง่ ขอ้ มูลและแผ่นงานใหส้ วยงาม การนาเสนอขอ้ มลู จะมคี วามชัดเจน นา่ สนใจ และเป็นประโยชน์สาหรับผู้ใช้ขอ้ มูล โดยการจัดรูปแบบขอ้ มูล เชน่ การกาหนดเสน้ ขอ การกาหนดสี 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1.แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี 2.บันทึกบัญชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี 3.จัดทางบการเงนิ และนาเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรมตารางงาน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1.จดั รูปแบบขอ้ มูลได้ 2.กาหนดรปู แบบตวั อกั ษร (Font) ได้ 3.กาหนดรปู แบบตวั เลข (Number) ได4้ .กาหนดรูปแบบวนั ทีแ่ ละเวลา (Date/Time) ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ 5.จัดวางขอ้ ความ (Alignment) ได้ 6.กาหนดเสน้ ขอบ (Border) ได้ 7.กาหนดสีและลวดลาย (Patterns) ได้ 8.จดั รูปแบบดว้ ย AutoFormat ได้ 9.คดั ลอกรปู แบบด้วยคาสงั่ Format Painter ได้ 3.3 คณุ ลักษณะที่พึง่ ประสงค์ 3.3.1 เอาใจใสด่ แู ลชว่ ยเหลอื ภารกิจการงานปฏบิ ัตติ นตามคาส่งั สอนทถ่ี กู ต้องและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม(นโยบายสถานศึกษาส่งเสรมิ การอา่ น) 3.3.3.มุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายามในการศึกษาและปฏิบัติ ๓.๓.๔.มีสติ รู้ตวั รู้คดิ รู้ปฏิบตั ิ ตามพระราชดารัสของพระบามสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว ๓.๓.๕.เก็บออมถนอมใช้ทรพั ย์สนิ ส่งิ ของที่เกดิ ประโยชน์คมุ้ ค่า(นโยบายสถานศกึ ษาสง่ เสริมการออม) ๓.๓.๖.ปฏบิ ัตติ ามที่ไดร้ บั มอบหมายสาเรจ็ ตามกาหนด โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผ้อู ่ืน 4. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้ 1.วธิ ีการจัดรูปแบบข้อมลู 2.การกาหนดรปู แบบตวั อักษร (Font) 3.การกาหนดรูปแบบตัวเลข (Number) 4.การกาหนดรูปแบบวันท่ีและเวลา (Date/Time)
27 5.การจัดวางขอ้ ความ (Alignment) 6.การกาหนดเสน้ ขอบ (Border) 7.การกาหนดสีและลวดลาย (Patterns) 8.การจัดรูปแบบด้วย AutoFormat 9.การคดั ลอกรปู แบบดว้ ยคาส่งั Format Painter 5.1 การนาเข้าส่บู ทเรยี น ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน 1.ครสู นทนากบั ผ้เู รียนวา่ กอ่ นที่จะเข้าสโู่ ปรแกรมตารางงานและทาการปอ้ นขอ้ มลู บญั ชตี ่างๆ สิง่ ทีต่ ้องทา อนั ดบั แรกคือการสรา้ งข้อมูลบญั ชเี พอื่ สาหรบั เก็บขอ้ มูลนน้ั ๆ 2.ครผู ้สู อนแนะนาการใชโ้ ปรแกรมตารางานเพื่องานบญั ชี จะมีวธิ กี ารกาหนดค่าเรม่ิ ตน้ ของระบบโดยแบ่ง หมวดเปน็ เมนทู เ่ี ก่ยี วขอ้ งหรือสัมพันธก์ บั ข้อมูลที่ต้องป้อน 3.ผ้เู รยี นสอบถามการใชโ้ ปรแกรมตารางานเพ่อื ประยุกตใ์ ชใ้ นงานบัญชี ขั้นสอน 4.ครใู ช้เทคนคิ วธิ ีสอนแบบใช้โสตทัศนวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวิธี สอนทน่ี าอปุ กรณโ์ สตทัศนว์ สั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทัศนว์ สั ดุ ไดแ้ ก่สอื่ Projector เพอ่ื แสดงให้ผู้เรียนได้เรยี นร้วู ิธกี ารจดั รูปแบบขอ้ มูล ซึ่งทาได้ 3 วธิ ี คอื การจัดรปู แบบขอ้ มูลโดยการเรียกใช้แท็บ Home (หนา้ แรก) การจดั รปู แบบข้อมลู โดยการคลิกขวา และการจดั รปู แบบข้อมูลโดยการใช้ปมุ่ คาส่งั Format (รปู แบบ) ในกลุม่ ของ Cells (เซลล์) เชน่ การจัดรปู แบบขอ้ มูลโดยการเรียกใช้แท็บ Home (หน้าแรก) 5.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เป็นการจดั การเรียนรู้แบบสาธิต และใหผ้ ้เู รียนฝึกปฏิบัตติ าม โดยใช้สอื่ Projector ประกอบการเรยี นการสอนเร่อื งการกาหนดรูปแบบตวั อกั ษร (Font) การกาหนดรปู แบบตัวอกั ษรดว้ ยการใชแ้ ทบ็ Home (หน้าแรก) 6.ครูและผเู้ รยี นใช้เทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซึ่งเป็นการจดั การเรียนรูแ้ บบสาธิต และใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏิบตั ติ าม โดยใชส้ ่อื Projector ประกอบการเรยี นเรื่องการกาหนดรปู แบบตัวเลข (Number)
28 เช่น 7.ครแู ละผ้เู รยี นใช้เทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซ่ึงเปน็ การจดั การเรียนรแู้ บบสาธติ และ ใหผ้ ูเ้ รยี นฝกึ ปฏบิ ัตติ าม โดยใช้ส่อื Projector ประกอบการเรียนเรื่องการกาหนดรปู แบบวันทีแ่ ละเวลา (Date/Time) เช่น 8.ครแู ละผู้เรียนใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เป็นการจัดการเรยี นรู้แบบสาธติ และ ให้ผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตติ าม โดยใชส้ ่ือ Projector ประกอบการเรียนเร่อื งการจัดวางข้อความ (Alignment) 9.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เป็นการจดั การเรยี นร้แู บบสาธติ และ ใหผ้ ู้เรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ าม โดยใชส้ อ่ื Projector ประกอบการเรยี นเรื่องการกาหนดเส้นขอบ (Border)
29 10.ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซ่งึ เปน็ การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธิต และให้ผูเ้ รียนฝึกปฏิบัติตาม โดยใช้สือ่ Projector ประกอบการเรยี นเรือ่ งการกาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) เช่น
30 11.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เป็นการจัดการเรียนร้แู บบสาธติ และให้ผเู้ รียนฝึกปฏิบตั ติ าม โดยใช้สอ่ื Projector ประกอบการเรียนเรื่องการจดั รปู แบบด้วย AutoFormat เช่น 12.ครูและผู้เรยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซ่งึ เปน็ การจัดการเรยี นรู้แบบสาธติ และให้ผเู้ รยี นฝกึ ปฏิบัติตาม โดยใช้ส่ือ Projector ประกอบการเรียนเร่ืองการคดั ลอกรปู แบบด้วยคาสงั่ Format Painter เชน่
31 13.ผเู้ รียนฝกึ ทักษะในแบบฝึกปฏิบตั ิ และใบงาน 14.ผเู้ รียนฝึกกิจกรรมทไี่ ด้รบั มอบหมาย 15.ผู้เรียนทาแบบประเมนิ ผลหลังเรยี น ขั้นสรุปและการประยกุ ต์ 16.ผู้เรียนสรปุ โดยการฝึกทักษะการจัดรปู แบบข้อมูลในรปู แบบต่างๆ ตามทก่ี าหนดให้ 17.ทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏิบัติเพ่อื ฝึกทักษะใหเ้ กดิ ความชานาญ และนาไปใช้ในการ ทางานได้ 5.2 การเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี น วชิ าการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี ของสานกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ 2.กิจกรรรมการเรียนการสอน 3.สอ่ื Power Point 4.เครือ่ งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรุป 1.บนั ทึกการสอน 2.การเช็คช่ือเข้าเรยี นในวิชา 3.การบนั ทกึ ข้อมลู บัญชีในโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวัดผลและประเมนิ ผล วิธวี ัดผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
32 2. สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 3. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 4. สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 6. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6. ส่ือการเรียนร้/ู แหล่งการเรียนรู้ 6.1 ส่อื สง่ิ พมิ พ์ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี 6.2 ส่ือโสตทัสน์ (ถา้ ม)ี 1.สือ่ Power Point 2.เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจรงิ (ถา้ มี) 1.เครื่องคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อน่ื ๆ (ถ้าม)ี กจิ กรรรมการเรียนการสอน 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วิชาอน่ื -วชิ าการใชค้ อมพิวเตอร์ประมวลผลคา วิชาการบญั ชี วิชาพิมพ์ดดี ไทย-องั กฤษ 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรยี น -สอบถามความรู้เดมิ 9.2 ขณะเรียน -ซกั ถามขอ้ สงสยั -สงั เกตการเรียน 9.3 หลังเรยี น -ทาแบบฝกึ หัด -ทาแบบทดสอบ
33 แผนการจัดการเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี ๔ สอนคร้งั ท.่ี ..................... ชื่อหน่วย การใชส้ ูตรและการใชฟ้ งั ก์ช่นั ในการคานวณเพือ่ ชวั่ โมงรวม..................... สรา้ งสมดุ บันทกึ รายการขนั้ ตน้ จานวนชว่ั โมง................ 1. สาระสาคญั การประยกุ ต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถใช้ได้กับงานหลายประเภท การศึกษาการใช้ สตู รและฟงั กช์ ันให้มคี วามเข้าใจตง้ั แตข่ ้ันพ้นื ฐานจงึ มคี วามจาเปน็ การสรา้ งงานด้วยเครอื่ งมือ คาสั่ง สตู รและฟงั กช์ นั จะชว่ ยใหเ้ กิดทกั ษะจนสามารถพัฒนาไปประยุกตใ์ ช้กับงานต่างๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและมปี ระโยชน์ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1.แสดงความรูเ้ ก่ียวกับหลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี 2.บนั ทึกบัญชีโดยใช้โปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี 3.จัดทางบการเงนิ และนาเสนอขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1.บอกประเภทของสตู รได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 2.ป้อนค่าสตู รได้ 3.คานวณโดยใช้สูตรได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี ึ่งประสงค์ 3.3.1 เอาใจใส่ดูแลชว่ ยเหลอื ภารกิจการงานปฏิบตั ติ นตามคาสัง่ สอนทีถ่ กู ตอ้ งและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ท้ังทางตรงและทางออ้ ม(นโยบายสถานศกึ ษาส่งเสริมการอา่ น) 3.3.3.มุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายามในการศึกษาและปฏิบัติ ๓.๓.๔.มสี ติ รู้ตวั รคู้ ิด รปู้ ฏิบตั ิ ตามพระราชดารสั ของพระบามสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ๓.๓.๕.เก็บออมถนอมใช้ทรัพยส์ ิน ส่ิงของทเ่ี กดิ ประโยชนค์ มุ้ ค่า(นโยบายสถานศกึ ษาส่งเสรมิ การออม) ๓.๓.๖.ปฏบิ ัติตามท่ีได้รบั มอบหมายสาเรจ็ ตามกาหนด โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผู้อื่น
34 4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1.ประเภทของสตู ร 2.วธิ ีการป้อนค่าสูตร 3.การคานวณโดยใช้สูตร 5.1 การนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครูและผูเ้ รยี นสนทนาเรอ่ื งโปรแกรมตารางงานเก่ยี วกบั การใช้สูตรและฟังกช์ ันของโปรแกรม จะตอ้ งมี ความเข้าใจพน้ื ฐานของการใช้งานสูตรและฟงั ก์ชนั โดยโปรแกรมจดั หมวดหมู่เพือ่ ให้มคี วามเขา้ ใจและใช้งานได้ง่าย 2.ผู้เรียนทาแบบประเมินผลกอ่ นเรียน 3.เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนซกั ถามการบนั ทึกข้อมูล ขัน้ สอน 3.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ ีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ด้วยการเล่าอธบิ ายแสดงสาธติ ใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นผู้ฟัง และเปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนซักถามปญั หาได้ในตอนท้ายของการบรรยายเร่ืองประเภทของสูตร ซ่ึงโปรแกรม Excel แบง่ ชนดิ ของสูตรออกเป็น 4 ประเภท คอื 3.1 สตู รในการคานวณทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Formula) 3.2. สตู รในการเปรยี บเทยี บ (Comparision Formula) 3.3 เครอ่ื งหมายในการเชือ่ มข้อความสองขอ้ ความหรอื มากกวา่ น้ัน (Text Formula) 3.4 สูตรในการอ้างอิง (Text Formula) 4.ครแู ละผูเ้ รียนใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และให้ผ้เู รียนฝึกปฏิบัติตาม โดยใช้ส่ือฉายบน Projector เกย่ี วกับวิธีการปอ้ นคา่ สูตร โดยการคาานวณคา่ ตวั เลขโดยวิธีการสร้างสูตรทาไดโ้ ดย การเลือกเซลล์ทีต่ อ้ งการให้ผลลพั ธป์ รากฏ ในเซลลน์ ัน้ แล้วป้อนเครอ่ื งหมายเทา่ กบั (=) แลว้ตามดว้ ยตัวเลขที่ใช้ใน การคานวณ หรอื ตาแหนง่ ของเซลล์ทเี่ ก็บค่าของข้อมูลท่เี ปน็ ตวั เลขท่ีใช้ในการคาานวณ และเครือ่ งหมายทาง คณติ ศาสตร์ เชน่ 5.ครูและผูเ้ รยี นใช้เทคนิคการสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) และให้ผเู้ รยี นฝึกปฏิบัติ ตาม โดยใชส้ ือ่ ฉายบน Projector เพอื่ ฝึกทกั ษะใหผ้ ้เู รียนมีความชานาญในเร่ืองการคานวณโดยใช้สูตร การคาานวณใน Microsoft Excel 2010 มขี ้ันตอนดังน้ี 5.1 พมิ พเ์ คร่อื งหมาย = 5.2 อา้ งองิ เซลล์ 5.3 พมิ พเ์ ครอ่ื งหมายในการคาานวณ
35 6.ผู้เรยี นปอ้ นข้อมูลตามกิจกรรมที่ได้รบั มอบหมาย 7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะปฏบิ ัตติ ามกรณศี กึ ษา 8.ผู้เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และกจิ กรรมการเรยี น ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์ 9.ผ้เู รยี นบอกประเภทของสูตรในโปรแกรมตารางงาน 10.ผู้เรยี นสรปุ โดยฝึกทักษะใช้วิธีการป้อนคา่ สูตร และการคานวณโดยใช้สูตร เพอื่ การบนั ทึกบญั ชโี ดย การปอ้ นขอ้ มลู ลงในโปรแกรม และบันทึกไปตามข้นั ตอนของโปรแกรมและทาต่อเน่ืองต่อไปเรื่อย ๆ 11.ทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมินตนเอง รวมทั้งกิจกรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ทักษะการเรยี นรูแ้ ละนาไปใช้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 5.2 การเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี น วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี ของสานักพิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.กิจกรรรมการเรยี นการสอน 3.ส่อื Power Point 4.เคร่อื งคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรปุ 1.บนั ทึกการสอน 2.การเชค็ ช่อื เขา้ เรยี นในวิชา 3.การบันทึกขอ้ มูลบญั ชใี นโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวัดผลและประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 3. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 4. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 5. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบัติ 6. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. สอ่ื การเรยี นร้/ู แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพิมพ์ 1.หนังสือเรียน วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี
36 6.2 สอ่ื โสตทัสน์ (ถ้าม)ี 1.สอื่ Power Point 2.เคร่ืองคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจรงิ (ถา้ ม)ี 1.เครอื่ งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อ่ืนๆ (ถา้ ม)ี กจิ กรรรมการเรยี นการสอน 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วชิ าอนื่ -วชิ าการใชค้ อมพิวเตอรป์ ระมวลผลคา วิชาการบัญชี วิชาพมิ พ์ดีดไทย-องั กฤษ 9. การวดั ผลและประเมินผล 9.1 กอ่ นเรียน -สอบถามความรูเ้ ดิม 9.2 ขณะเรียน -ซักถามขอ้ สงสยั -สังเกตการเรียน 9.3 หลงั เรยี น -ทาแบบฝกึ หดั -ทาแบบทดสอบ
37 แผนการจดั การเรยี นร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี ๔ สอนครงั้ ท่.ี ..................... ชือ่ หน่วย การใชส้ ูตรและการใช้ฟังก์ช่นั ในการคานวณเพอ่ื ชั่วโมงรวม..................... สร้างสมดุ บนั ทึกรายการขัน้ ต้น จานวนช่วั โมง................ 1. สาระสาคัญ การประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถใช้ได้กบั งานหลายประเภท การศึกษาการใช้ สตู รและฟังก์ชันใหม้ คี วามเข้าใจตั้งแต่ขัน้ พืน้ ฐานจึงมีความจาเปน็ การสรา้ งงานด้วยเคร่ืองมือ คาส่ัง สูตรและฟังก์ชนั จะช่วยให้เกดิ ทกั ษะจนสามารถพัฒนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและมีประโยชน์ 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1.แสดงความรูเ้ กีย่ วกับหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบัญชี 2.บนั ทกึ บัญชีโดยใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี 3.จัดทางบการเงินและนาเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรมตารางงาน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1.บอกจดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธิบายรายวิชาตามหลักสตู รได้ 2.บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ได้ 3.ปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรียนรว่ มกับผูอ้ ื่นได้ 3.2 ด้านทกั ษะ 1.อธิบายสว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 ได้ 2.เปดิ -ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 ได้ 3.3 คุณลักษณะทพี่ ึง่ ประสงค์ 3.3.1 เอาใจใสด่ แู ลช่วยเหลอื ภารกิจการงานปฏิบตั ิตนตามคาส่ังสอนทีถ่ ูกต้องและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม(นโยบายสถานศกึ ษาสง่ เสรมิ การอา่ น) 3.3.3.มุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายามในการศึกษาและปฏิบัติ ๓.๓.๔.มีสติ รู้ตัว ร้คู ิด รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดารสั ของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ๓.๓.๕.เกบ็ ออมถนอมใช้ทรพั ยส์ นิ ส่งิ ของทเี่ กดิ ประโยชน์คุ้มคา่ (นโยบายสถานศึกษาส่งเสรมิ การออม) ๓.๓.๖.ปฏบิ ตั ติ ามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายสาเร็จตามกาหนด โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภัยของตนเองและผ้อู ืน่
38 4. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้ 4.ประเภทของฟงั กช์ นั และฟงั ก์ชันท่ีใชง้ าน 5.การอา้ งอิงเซลล์ 5.1 การนาเข้าสูบ่ ทเรยี น ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1.ครแู ละผู้เรยี นสนทนากันเรอื่ งการใช้ฟงั กช์ นั ในการคานวณทใ่ี ชง้ านซึง่ แบง่ ประเภทได้หลายประเภท ขน้ึ อย่กู ับผ้ใู ช้งาน เชน่ ฟงั กช์ นั ทางคณิตศาสตร์ ฟังกช์ ันท่เี กีย่ วกับวนั ที่ ฟังก์ชันทีเ่ กีย่ วกบั เวลา เป็นต้น 2.ผเู้ รียนยกตัวอยา่ งของงานแต่ละฟงั ก์ชนั ขั้นสอน 3.ครแู ละผ้เู รียนใช้เทคนคิ การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใชเ้ ทคนิคการสอนแบบใช้ คาถาม (Questioning Method) และใช้สอ่ื คอมพวิ เตอร์ฉายผ่าน Projector ประกอบเกีย่ วกบั ประเภทของฟงั ก์ชัน และฟงั ก์ชันทใ่ี ช้งาน 4.ครูและผเู้ รยี นใช้เทคนิคการสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) และใชส้ ื่อคอมพิวเตอร์ฉาย ผา่ น Projector ประกอบเกยี่ วกบั ประเภทของฟงั กช์ ัน เช่น SUM (การหาผลรวมของข้อมลู ) SUMIF (การหาผลรวมแบบมีเง่ือนไข) 5.ครูและผู้เรียนใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใช้สื่อคอมพิวเตอรฉ์ ายผา่ น Projector ประกอบในการอ้างอิงเซลล์ โดยในการคาานวณในโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 จะต้องมี การคดั ลอกสูตรหรอื ฟังก์ชัน โดยการอ้างองิ เซลลซ์ ึง่ จะมีวิธีการอา้ งองิ เซลล์ 2 แบบ คอื การอา้ งองิ แบบสัมพัทธ์ (Relative reference) และการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ (Absolute reference) การอา้ งอิงแบบสัมพัทธ์ (Relative reference)
39 6.ผู้เรยี นทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 7.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมท่ีไดร้ ับมอบหมาย 8.ผู้เรยี นทาแบบประเมินผลการเรียน ขน้ั สรปุ และการประยุกต์ 9.ผู้เรยี นสรุปโดยใหฝ้ กึ ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง โดยแสดงฟงั กช์ ันและฟังก์ชนั ที่ใชง้ านแตล่ ะประเภท และการ อ้างอิงเซลล์ 10.ผู้เรยี นทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ และกิจกรรมท่ีกาหนดไว้ พรอ้ มทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.2 การเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วิชาการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรรมการเรยี นการสอน 3.สื่อ Power Point 4.เคร่อื งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรุป 1.บนั ทึกการสอน 2.การเชค็ ชื่อเข้าเรยี นในวิชา 3.การบันทกึ ขอ้ มลู บญั ชใี นโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวัดผลและประเมินผล วิธีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 5. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบัติ 6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. สอื่ การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ สง่ิ พิมพ์
40 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี 6.2 ส่อื โสตทสั น์ (ถ้าม)ี 1.สือ่ Power Point 2.เครอ่ื งคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.3 หนุ่ จาลองหรือของจรงิ (ถ้าม)ี 1.เครือ่ งคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อ่ืนๆ (ถา้ มี) กิจกรรรมการเรยี นการสอน 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวิชาอ่ืน -วิชาการใช้คอมพวิ เตอรป์ ระมวลผลคา วิชาการบัญชี วิชาพิมพด์ ดี ไทย-องั กฤษ 9. การวัดผลและประเมินผล 9.1 ก่อนเรยี น -สอบถามความรูเ้ ดมิ 9.2 ขณะเรียน -ซักถามขอ้ สงสัย -สังเกตการเรียน 9.3 หลงั เรยี น -ทาแบบฝกึ หดั -ทาแบบทดสอบ
41 แผนการจัดการเรียนรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี ๔ สอนครง้ั ท่.ี ..................... ช่อื หนว่ ย การใชส้ ตู รและการใชฟ้ ังกช์ ่นั ในการคานวณเพ่อื ช่ัวโมงรวม..................... สร้างสมดุ บันทึกรายการข้นั ตน้ จานวนชัว่ โมง................ 1. สาระสาคญั การประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถใชไ้ ด้กับงานหลายประเภท การศกึ ษาการใช้ สูตรและฟังก์ชันให้มีความเข้าใจตั้งแต่ขัน้ พื้นฐานจงึ มคี วามจาเป็นการสร้างงานดว้ ยเคร่ืองมอื คาสัง่ สูตรและฟังก์ชนั จะชว่ ยใหเ้ กดิ ทกั ษะจนสามารถพัฒนาไปประยุกต์ใช้กบั งานต่างๆ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพและมีประโยชน์ 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1.แสดงความรู้เกีย่ วกับหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี 2.บนั ทึกบญั ชีโดยใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบญั ชี 3.จัดทางบการเงินและนาเสนอข้อมลู โดยใช้โปรแกรมตารางงาน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 6.การคานวณโดยใช้ฟงั กช์ ัน 7.การแจ้งข้อผดิ พลาดในการใช้งานของโปรแกรม 3.2 ด้านทกั ษะ 1.อธิบายส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 ได้ 2.เปิด-ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 ได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ่ ประสงค์ 3.3.1 เอาใจใสด่ ูแลชว่ ยเหลือ ภารกจิ การงานปฏบิ ตั ิตนตามคาส่งั สอนทถ่ี กู ตอ้ งและเหมาะสม 3.3.2.แสวงหาความรู้ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม(นโยบายสถานศึกษาส่งเสรมิ การอา่ น) 3.3.3.มุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายามในการศึกษาและปฏิบัติ ๓.๓.๔.มีสติ รู้ตัว ร้คู ดิ รปู้ ฏิบัติ ตามพระราชดารสั ของพระบามสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ๓.๓.๕.เก็บออมถนอมใช้ทรัพย์สิน สง่ิ ของท่เี กดิ ประโยชนค์ ุม้ ค่า(นโยบายสถานศกึ ษาส่งเสริมการออม) ๓.๓.๖.ปฏิบตั ติ ามที่ไดร้ ับมอบหมายสาเร็จตามกาหนด โดยคานึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผ้อู ่นื
42 4. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ 6.การคานวณโดยใชฟ้ งั กช์ ัน 7.การแจง้ ขอ้ ผดิ พลาดในการใชง้ านของโปรแกรม 5.1 การนาเข้าสู่บทเรยี น ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.ครแู ละผู้เรยี นสนทนาเพ่ือทบทวนความรู้เดมิ เกี่ยวกบั การใชส้ ูตรและวิธีการคานวณตา่ งๆ ในโปรแกรมตาราง งาน 2.ครูกลา่ ววา่ การนาสูตรตา่ งๆ ในโปรแกรมมาใชเ้ ปน็ การพมิ พ์สตู รในการคาานวณลงไปเองในเซลล์ โดยมวี ิธีการปฏิบัติแต่ละสตู รแตกต่างกันไป ข้ึนอยูแ่ ตล่ ะงานนน้ั ๆ 3.ครูและผ้เู รยี นยกตัวอย่างการใชส้ ตู รอา้ งองิ ในลกั ษณะตา่ งๆ ข้ันสอน 4.ครแู ละผ้เู รียนใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) และใช้เทคนิคการสอนแบบใช้ คาถาม (Questioning Method) และใช้สื่อคอมพิวเตอรฉ์ ายผ่าน Projector ประกอบเก่ียวกับการคานวณโดยใช้ ฟังกช์ ัน เช่น การกาหนดฟังก์ชนั ดว้ ยตนเอง 5.ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิการใชฟ้ ังกช์ นั MIN MAX AVERAGE ดังนี้
43 6.ผเู้ รียนฝกึ ปฏิบัตกิ ารใช้ฟงั ก์ชัน IF กรณมี เี งอื่ นไขช้ันเดยี ว
44 7.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใช้สื่อคอมพวิ เตอรฉ์ าย ผ่าน Projector ประกอบเกย่ี วกับการแจง้ ข้อผดิ พลาดในการใชง้ านของโปรแกรม เชน่ ขอ้ ผดิ พลาดทอี่ าจเกิดขนึ้ ใน การกาหนดฟังกช์ นั และสูตร โดยความผิดพลาดของสตู รคานวณ (Error Message) เมือ่ มีการทาางานเก่ยี วกับสูตร หรือฟงั กช์ นั ถ้าปอ้ นคา่ ไม่ถูกต้องโปรแกรมจะแสดงขอ้ ความแสดงความผดิ พลาด เพอ่ื ใหแ้ ก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง
45 8.ผ้เู รยี นฝึกทักษะตามกิจกรรมท่ีได้รบั มอบหมาย 9.ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะในแบบฝึกปฏิบตั ิ และใบงาน 10.ผเู้ รียนทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์ 11.ครแู ละผ้เู รียนสรุปโดยให้ผเู้ รยี นฝกึ ทักษะการคานวณโดยใช้ฟังกช์ นั ในโปรแกรมตารางงาน 12.สรุปโดยการถามตอบเรื่องการแจง้ ข้อผิดพลาดในการใชง้ านของโปรแกรม นอกจากนัน้ ยงั ส่มุ ให้ ผเู้ รียนอภปิ ราย และเปิดโอกาสใหซ้ ักถาม 13.ผ้เู รียนฝึกทาในแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.2 การเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียน วิชาการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี ของสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ 2.กจิ กรรรมการเรียนการสอน 3.สอ่ื Power Point 4.เคร่อื งคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 5.3 การสรุป 1.บนั ทึกการสอน 2.การเช็คช่อื เขา้ เรียนในวชิ า
46 3.การบนั ทึกขอ้ มลู บญั ชใี นโปรแกรมตารางงาน 5.4 การวัดผลและประเมินผล วิธวี ัดผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 3. ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 4. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 5. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 6. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6. สอื่ การเรียนรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ ส่งิ พมิ พ์ 1.หนังสอื เรยี น วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบัญชี 6.2 สือ่ โสตทัสน์ (ถา้ มี) 1.สือ่ Power Point 2.เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.3 หุ่นจาลองหรือของจริง (ถ้าม)ี 1.เครอื่ งคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 6.4 อน่ื ๆ (ถา้ มี) กจิ กรรรมการเรียนการสอน 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) -ใบความรู้ -ใบงาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอื่น -วิชาการใชค้ อมพิวเตอร์ประมวลผลคา วิชาการบัญชี วิชาพมิ พ์ดดี ไทย-อังกฤษ 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรียน -สอบถามความรู้เดมิ 9.2 ขณะเรียน -ซักถามขอ้ สงสยั -สงั เกตการเรียน 9.3 หลังเรยี น -ทาแบบฝกึ หดั -ทาแบบทดสอบ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175