Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนกลยุทธ์สถานศึกษา ปีการศึกษา 2562-2564

แผนกลยุทธ์สถานศึกษา ปีการศึกษา 2562-2564

Published by Ne-Twos KS, 2020-12-06 04:13:06

Description: ita_65100773_1_20201018-114221

Search

Read the Text Version

ภาคผนวก

แบบประเมินปจั จยั ภายนอกดา้ นโอกาสของโรงเรยี นดว้ ยหลัก C-PEST ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ใสเ่ ครือ่ งหมาย √ ลงในช่องระดบั การประเมินตามความเปน็ จริง ดงั เกณฑ์การ ประเมินท่ีกำหนดใหต้ ่อไปนี้ ๕ หมายถึง เปน็ จริงมากทสี่ ุด ๔ หมายถงึ เปน็ จรงิ มาก ๓ หมายถึง เปน็ จรงิ ปานกลาง ๒ หมายถงึ เปน็ จรงิ นอ้ ย ๑ หมายถึง เป็นจรงิ นอ้ ยทสี่ ุด ประเดน็ การประเมนิ ระดบั การประเมิน ๑ ๕๔๓ ๒ ๑) C – Customer, Competitors ลกู คา้ หรือผ้รู ับบริการ คู่แขง่ (นกั เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนทีอ่ ยโู่ ดยรอบสถานศกึ ษา) ๑. นกั เรียนมีความพรอ้ ม จงึ ใหค้ วามรว่ มมอื ในเรอื่ งการจดั การเรยี นการสอน ๒. ผปู้ กครองมีความพรอ้ ม และส่งเสริมบุตรหลานในเรอื่ ง การจดั การศึกษา ๓. โรงเรียนเปน็ โรงเรยี นคอ่ นข้างมีความพร้อมในการทำงาน จึงเปน็ ทไี่ ว้วางใจของหนว่ ยเหนือมอบหมายงานมาใหป้ ฏิบัติ ๔. ชุมชนเล็งเหน็ ความสำคัญของการจดั การศกึ ษา จึงให้ การสนบั สนนุ กิจกรรมของโรงเรียนเสมอ ๒) P – Politics สถานการณ์ทางการเมือง นโยบายตา่ ง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ๑. การปฏิรูประบบการบรหิ ารงานแบบมุง่ เนน้ ผลงานทำใหก้ าร บริหารงานของโรงเรียนมีอสิ ระและทำงานไดเ้ ตม็ ศกั ยภาพมาก ขึ้น ๒. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ทำใหป้ ระชากรวัยเรยี นมโี อกาสได้รับการศกึ ษาอยา่ งมีคุณภาพ เสมอภาค และทว่ั ถงึ ๓. การศึกษาภาคบงั คบั ๙ ปี ทำใหป้ ระชากรวยั เรยี นมโี อกาสรบั การศึกษาสูงขึ้น มีความรูม้ ากขนึ้ ทำใหง้ า่ ยต่อการพฒั นาประเทศ ๔. ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วยคณะกรรมการ สถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ทำให้ประชาชนมสี ว่ นร่วม ในการจดั การศกึ ษาตามกฎหมายมากข้นึ

ประเด็นการประเมิน ๕ ระดับการประเมิน ๑ ๔๓ ๒ ๕. นโยบาย เรยี นฟรี ๑๕ ปอี ย่างมคี ุณภาพ ทำใหน้ กั เรยี น ทกุ คนมีโอกาสไดร้ ับการศกึ ษาฟรีอยา่ งทวั่ ถึง โดยไดร้ บั บริการใน เร่ืองหนงั สือเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จา่ ย ในกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนตามรายหัว ๓) E – Environment, Economics สภาพแวดล้อมหรือ สภาพเศรษฐกจิ ของชุมชนทอ่ี ย่โู ดยรอบสถานศกึ ษา ๑. ชุมชนเปน็ สังคมกง่ึ เมืองกง่ึ ชนบท อย่ไู ม่หา่ งจากตวั จงั หวดั ระบบการส่ือสาร การคมนาคมสะดวก จึงชว่ ยสนับสนนุ โรงเรยี นเป็นอย่างดี ๒. ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี และการเดินทางทีส่ ะดวกทำให้ โรงเรียนและผปู้ กครองมีการติดตอ่ และปฏิสัมพนั ธ์กัน มากขึ้น ๓. องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ให้ความรว่ มมือชว่ ยเหลอื สนับสนนุ ในกจิ กรรมต่าง ๆ ของทางโรงเรยี น ๔. ในชุมชนรอบโรงเรียนมีแหล่งเรียนรดู้ า้ นเทคโนโลยีที่ทนั สมัย เช่น แหล่งเรียนรู้ทาง internet ซง่ึ เหมาะท่จี ะใช้ในการค้นควา้ หาความรู้ และใช้กับชวี ติ ประจำวันของนกั เรยี น(ถ้าใชถ้ ูกวธิ ีหรือ ใช้ถกู ต้อง) ๔) S-Society สภาพสงั คม วัฒนธรรม ค่านิยม ของ ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบสถานศกึ ษาเป็นอยา่ งไร ๑. โรงเรียนมีการบริหารงานความสมั พนั ธช์ ุมชนเปน็ อยา่ งดี และ ส่งเสริมให้ชุมชน(บา้ น วดั โรงเรียน) เข้ามามสี ่วนร่วมในการ พฒั นาโรงเรยี น(SBM) สง่ ผลใหโ้ รงเรียนมคี ณุ ภาพทด่ี ีข้ึน ๒. ประชาชนใหค้ วามสำคญั ร่วมอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทย ประเพณีท้องถ่นิ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ส่งผลใหน้ กั เรยี นมีคุณธรรม จริยธรรมที่ดี มจี ิตใจแจ่มใส มีสมาธิทีด่ ี มีความรักท้องถ่นิ สง่ ผล ใหม้ ีความพร้อมท่จี ะเรยี นรู้ ๓. ชมุ ชนมีแหล่งเรียนรพู้ น้ื บา้ น แหล่งเรยี นรู้ในท้องถิ่น เชน่ รำมังคละ ไร่นาสวนผสม และมภี ูมิปัญญาท้องถนิ่ ทมี่ คี ณุ คา่ เชน่ กลว้ ยอบเนย กล้วยฉาบสอดไส้ ๔. ผู้นำชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง และเครือข่ายนกั เรียน ให้ความสำคัญกบั การเฝา้ ระวังพฤติกรรม

ประเดน็ การประเมนิ ๕ ระดบั การประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ เสยี่ งท่ไี มเ่ หมาะสมของเยาวชน ๕) T – Technology เทคโนโลยี ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยที างการบรหิ าร การศึกษาใหม่ ๆ ทเ่ี กิดขึ้น ๑. โรงเรยี นมีระบบ IT ทท่ี นั สมยั รองรับและใช้พัฒนางาน การบริหารสถานศกึ ษาได้ ๒. โรงเรียนมีระบบ IT ที่ทันสมยั สำหรับใชใ้ นกจิ กรรมการเรยี น การสอนนกั เรียน ๓. การประสานงานกบั หนว่ ยเหนือและองค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถิ่นสะดวกและรวดเร็ว เพราะมอี ุปกรณ์เทคโนโลยที ที่ ันสมยั สง่ ผลใหก้ ารบริหารจัดการของโรงเรียนมีประสทิ ธิภาพ ลงชอื่ ...................................................... ผู้ประเมิน (......................................................) ตำแหนง่ ..........................................................

แบบประเมนิ ปจั จัยภายนอกดา้ นภยั คุกคามของโรงเรียนด้วยหลกั C-PEST ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ให้ผปู้ ระเมินใส่เคร่อื งหมาย √ ลงในช่องระดับการประเมินตามความเป็นจริง ดังเกณฑ์ การประเมนิ ทีก่ ำหนดให้ต่อไปนี้ ๕ หมายถงึ เป็นจรงิ มากท่ีสดุ ๔ หมายถึง เป็นจริงมาก ๓ หมายถึง เปน็ จริงปานกลาง ๒ หมายถงึ เปน็ จรงิ น้อย ๑ หมายถึง เป็นจริงน้อยทสี่ ุด ประเด็นการประเมิน ระดบั การประเมนิ ๑ ๕๔๓ ๒ ๑) C – Customer,Competitors ลกู คา้ หรือ ผู้รับบริการ คแู่ ขง่ (นักเรยี น ผปู้ กครอง ชมุ ชนทอี่ ยู่ โดยรอบสถานศกึ ษา) ๑. นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ มผี ลการทดสอบ O-NET กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ตำ่ กวา่ เกณฑ์ ระดับประเทศ ๒. นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ มีมผี ลการทดสอบ O-NET กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์และภาษาองั กฤษ ตำ่ กว่า เกณฑร์ ะดบั ประเทศ ๓. ผปู้ กครองบางคนไม่ใหค้ วามรว่ มมอื และเข้าร่วมกจิ กรรม ของโรงเรยี น ๔. เด็กทม่ี คี วามต้องการพเิ ศษเรยี นรวมเป็นปัญหาตอ่ การจัด การศึกษาของห้องเรยี นและโรงเรียน ๒) P – Politics สถานการณท์ างการเมือง นโยบายตา่ งๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ๑. นโยบายหนว่ ยเหนือ จากหน่วยงานภาครฐั หลาย หน่วยงาน นำภาระงานมาสโู่ รงเรียนมากจนทำให้โรงเรียนมี ภาระงานเพ่ิมมากข้ึน จึงสง่ ผลกระทบต่อการจดั การศกึ ษา ๒. นโยบายจำกดั อตั รากำลงั และการย้ายข้าราชการครู ทำ ให้โรงเรยี นขาดแคลนบุคลากรทม่ี คี วามเชยี่ วชาญเฉพาะด้าน ๓. การจดั สรรงบประมาณสนับสนนุ สถานศกึ ษาและผูเ้ รยี น ของหน่วยเหนือยังขาดประสิทธภิ าพและไม่เพียงพอ

ประเดน็ การประเมิน ๕ ระดบั การประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ ๓) E – Environment, Economics สภาพแวดล้อมหรือ สภาพเศรษฐกิจ ของชุมชนที่อยโู่ ดยรอบสถานศกึ ษา ๑. ผปู้ กครองนักเรยี นบางสว่ นมฐี านะทางครอบครวั ยากจน มรี ายไดน้ ้อย จึงทำให้ขาดปัจจัยสนบั สนนุ บตุ รหลาน ในเรอื่ งการเรียน ทางโรงเรียนต้องหาทุนการศึกษาให้ ๒. นักเรยี นมักใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ทาง internet จากรา้ นคา้ ภายในชุมชนไปในทางทีผ่ ดิ คือ ไปเล่นเกมเป็นสว่ นมาก ๓. ผู้ปกครองนกั เรยี นส่วนมาก ไมส่ ามารถควบคุมดแู ล นักเรยี นในเรอ่ื งการเล่นเกม การท่ไี มส่ นใจเรยี น ส่งผลให้ การเรยี นไม่มปี ระสิทธิภาพเท่าท่คี วร ๔. สังคมในชมุ ชนบางส่วนยงั มสี ่วนเก่ียวข้องกับอบายมขุ ๔) S-Society สภาพสังคม วฒั นธรรม ค่านยิ ม ของ ประชาชนที่อาศยั อยู่โดยรอบสถานศึกษาเปน็ อยา่ งไร ๑. ผปู้ กครองนกั เรียนในเขตบรกิ ารท่ีมีความพร้อมดา้ นฐานะ นิยมพาบตุ รหลานท่ีเรียนดี เข้าไปเรยี นในเมือง ทำให้ นกั เรียนทเ่ี รยี นอยู่ในโรงเรยี นมีแต่เดก็ ทีเ่ รียนปานกลางและ ค่อนข้างเรียนอ่อน ๒. ผปู้ กครองไปทำงานตา่ งจังหวัด(เมอื ง) เปน็ ผลใหน้ ักเรยี น ถกู ทอดทิ้งใหอ้ ยู่กับคนชรา ซ่งึ ไมส่ ามารถช่วยสอนการบา้ น นักเรียนได้ ๓. ปัจจุบันคา่ ครองชพี ของประชาชนสูงขึ้น ส่งผลให้ ผู้ปกครองสนับสนนุ ลกู หลานได้ไมเ่ ต็มความสามารถ ๔. นกั เรยี นมสี ภาพครอบครวั แตกแยก ฐานะยากจน และถูก ทอดท้ิงให้อยู่กบั ปู่ ย่า ตา ยาย ทำใหไ้ ม่มคี วามพร้อม ด้านการศึกษา ๕. คนในชมุ ชนบางสว่ นปฏิบตั ิตนไม่เปน็ ตวั อยา่ งที่ดใี นเรอื่ ง ของการดืม่ สรุ า และรา้ นเกม ๖. การเปลยี่ นด้านสงั คมอย่างรวดเร็ว อบายมุข ยาเสพติด

ประเดน็ การประเมิน ๕ ระดบั การประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ และสื่อท่ีไม่สร้างสรรค์ มีผลต่อการจดั การศึกษาของ โรงเรียน ๕) T – Technology เทคโนโลยี ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยที างการบรหิ ารการศกึ ษาใหม่ๆ ที่เกิดขนึ้ ๑. คณะครบู างคนไม่มีความชำนาญในการใช้คอมพวิ เตอรใ์ น การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ๒. โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ น ICT ของโรงเรียนยงั ไม่มคี ณุ ภาพ และประสิทธิผล ลงช่ือ ...................................................... ผู้ประเมิน (......................................................) ตำแหน่ง..........................................................

แบบประเมนิ ปจั จัยภายในดา้ นจดุ แขง็ ของโรงเรยี นด้วยหลกั ๗Ss (McKinsey) ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ให้ผปู้ ระเมินใสเ่ ครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งระดบั การประเมินตามความเป็นจริง ดงั เกณฑ์ การประเมินที่กำหนดให้ต่อไปน้ี ๕ หมายถึง เปน็ จรงิ มากทสี่ ุด ๔ หมายถึง เป็นจริงมาก ๓ หมายถึง เปน็ จรงิ ปานกลาง ๒ หมายถงึ เป็นจริงนอ้ ย ๑ หมายถงึ เป็นจริงนอ้ ยทส่ี ดุ ประเด็นการประเมิน ระดับการประเมนิ ๑ ๕๔๓ ๒ ๑) S – Strategy ยุทธศาสตร์ ทศิ ทางและขอบเขตที่ องคก์ ารจะดำเนินไปในระยะยาว ๑. โรงเรยี นมีแผนกลยุทธท์ ่ีกำหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และ เป้าหมาย สำหรบั ใชเ้ ป็นตัวกำหนดทิศทางในการดำเนนิ งานของ ทางโรงเรียน ๒. โรงเรยี นมแี ผนปฏบิ ัตกิ ารในการบรหิ ารงานประจำปี และมี การสรปุ รายงานผลการดำเนินงานทกุ โครงการ พร้อมกบั นำ ข้อบกพร่องมาใช้ในการพฒั นาปรบั ปรุงแก้ไขในปีการศึกษา ถัดไป ๓. โรงเรยี นมงุ่ จดั ทำหลกั สตู รสถานศกึ ษาทสี่ อดคลอ้ งกบั หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และตรงกบั ความต้องการของทอ้ งถนิ่ เพอื่ ใช้ในการพัฒนา การจัดการศกึ ษาให้บรรลุมาตรฐานการศึกษาระดับชาติ ๔. โรงเรยี นมุ่งพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษา เพ่ือให้ผเู้ รยี นมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาระดบั ชาติ ๕. โรงเรยี นมุ่งพัฒนาผเู้ รยี นให้มคี ณุ ธรรม จริยธรรม เป็นคนเกง่ เปน็ คนดีของสังคม และมีความสุข ๖. โรงเรียนมงุ่ พัฒนาผู้เรียนให้มสี ขุ ภาพอนามยั ที่ดี ๗. โรงเรียนมีระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น ท่จี ะสง่ ผลให้ นักเรยี นได้รบั การดแู ลค่อนขา้ งใกล้ชิด และทัว่ ถงึ ๘. โรงเรียนมแี หลง่ เรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย ท่ีจะสง่ ผลใหน้ ักเรียนมี ความกระตอื รอื รน้ ในการเรียนรู้ ๙. โรงเรียนม่งุ พฒั นาผ้เู รียนให้มคี วามรอบรู้ด้านการใช้ เทคโนโลยสี ำหรบั ใช้ในการคน้ ควา้ หาความรู้ และใชใ้ นการ สอื่ สาร

ประเด็นการประเมิน ๕ ระดับการประเมิน ๑ ๔๓ ๒ ๑๐. โรงเรียนมงุ่ พฒั นาผู้เรยี นใหด้ ำรงตนตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยการออมทรัพยอ์ ย่างนอ้ ยวนั ละ ๑ บาท และ นำฝากกับธนาคารออมสนิ เดือนละ ๑ คร้ัง ๑๑. โรงเรยี นมงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นในเร่ืองการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย เชน่ เลือกต้ังสภานกั เรียน กิจกรรมหนา้ เสาธง ๑๒. โรงเรียนมุ่งประสานความรว่ มมอื กับผปู้ กครอง ชุมชนและ องคก์ รตา่ งๆในการพัฒนาสง่ เสรมิ ให้โรงเรยี นเปน็ สถานศึกษา สีขาว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมขุ ๑๓. โรงเรยี นมุ่งประสานความร่วมมือกับผูป้ กครอง และชมุ ชน ในการพฒั นาการจัดการศึกษา แบบมสี ่วนร่วม เพ่อี ลดช่องวา่ ง ระหว่างบา้ นและโรงเรียน ๑๔. โรงเรียนมงุ่ พฒั นาบุคลากร โดยการใหเ้ ขา้ รับการอบรม สมั มนา ให้มีความรคู้ วามสามารถ มีวทิ ยฐานะสูงขน้ึ เพอื่ ใหก้ าร จัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขนึ้ ๒) S – Structure โครงสร้างองค์การ ๑. โรงเรยี นมีโครงสร้างและสายการบงั คบั บัญชาท่ีชดั เจน ๒. โรงเรียนมีระเบียบการทำงานและมีการมอบหมายงานตาม ภาระหน้าทช่ี ดั เจน ๓. มกี ารกระจายงานตามความสามารถของบุคลากร และ บคุ ลากรมีส่วนรว่ มในการบริหารจัดการ ทำใหโ้ รงเรียน มีความเขม้ แขง็ และส่งผลใหก้ ารทำงานมีคณุ ภาพและ มปี ระสทิ ธภิ าพ ๔. โรงเรยี นจดั กระบวนการเรยี นรู้โดยนำภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น มา จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน สามารถช่วยแกป้ ญั หา การขาด แคลนบคุ ลากร สง่ ผลใหน้ กั เรียน ผูป้ กครอง ชมุ ชนและกรรมการ สถานศกึ ษาพึงพอใจ ๕. มีการประชาสมั พนั ธข์ า่ วสารระหวา่ งโรงเรียนกับชุมชน ต่อเนื่อง โดยการจดั ให้มกี ารประชุมผปู้ กครองอย่างนอ้ ย ภาคเรียนละ ๑ ครง้ั ๖. มีการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศและ ICT อย่างจริงจงั สง่ ผลให้มขี ้อมลู ทช่ี ดั เจนและเปน็ ปัจจบุ นั

ประเด็นการประเมนิ ๕ ระดับการประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ ๓) S – Systems ระบบงาน ๑. โรงเรยี นมีกฎระเบียบและหลักเกณฑใ์ นการปฏิบตั งิ านท่ี ชัดเจน ๒. โรงเรยี นมีการใช้ระบบ IT เข้ามาใช้ในการปฏบิ ัตงิ านและ ติดตอ่ สอ่ื สาร ๓. การบริหารงานงบประมาณมคี วามโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ ส่งผลใหเ้ กดิ ประสทิ ธิภาพในการใช้เงินงบประมาณ ๔. โรงเรยี นจัดระบบการบริหารงบประมาณอย่างดแี ละ มีประสทิ ธภิ าพ ส่งผลใหก้ ารใชจ้ า่ ยงบประมาณเป็นไปตาม เปา้ หมายทวี่ างไว้ และใชง้ บประมาณอย่างคมุ้ คา่ ๕. โรงเรยี นมีห้องพิเศษ คือ ห้องปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ ห้องเรียนสขี าว ห้องโสตทศั นศกึ ษา ห้องคอมพิวเตอร์ และหอ้ ง ประชทุ วิถีพทุ ธ ส่งผลให้มีความพรอ้ มท่เี อ้อื ต่อการเรยี นรู้ ๔) S – Skill ทกั ษะ (สมรรถนะ) ๑. ครทู กุ คนให้ความสำคัญกบั ระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น จะ ออกเย่ียมบ้านครบ ๑๐๐% ส่งผลใหค้ รูและผูป้ กครองทราบถงึ ปญั หาของนกั เรยี น และช่วยเหลือกนั รว่ มมอื กันในการ แก้ปญั หานกั เรยี น ๒. คณะครูมคี วามรคู้ วามสามารถส่งผลให้การพัฒนาการศึกษามี ความกา้ วหน้า ๕) S – Shared Values ค่านยิ ม ๑. บคุ ลากรครูประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเป็นแบบอยา่ งทีด่ ี ในการไม่ยุง่ เก่ียวกบั อบายมขุ และสงิ่ เสพตดิ ๒. ครแู ละนกั เรยี นใหค้ วามสำคญั กบั กจิ กรรมสร้างเสริมคณุ ธรรม จริยธรรม โดยเข้าร่วมกิจกรรมวันสำคัญ กจิ กรรมวฒั นธรรมและ ขนบธรรมเนยี มประเพณีทอ้ งถนิ่ ๖) S – Staff ปรมิ าณบคุ ลากร ๑. โรงเรยี นมีครูครบชั้นสง่ ผลดตี อ่ การจดั การศกึ ษา ๒. ครูสอนตรงเอกสง่ ผลให้มีการพัฒนาการเรยี นการสอนทีม่ ี ประสทิ ธิภาพ

ประเด็นการประเมิน ๕ ระดับการประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ ๗) S – Style รปู แบบการบรหิ ารจัดการองคก์ ารของ ผู้บริหาร ๑. การบรหิ ารงานตามโครงสรา้ งและนโยบายของโรงเรยี น เปน็ ไปตามหลกั การกระจายอำนาจบรหิ ารและหลักการ มสี ่วนร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผดิ ชอบ เนน้ การทำงานเปน็ ทมี ส่งผลใหก้ ารดำเนินงานเปน็ ไปดว้ ยดแี ละมี เอกภาพ ๒. การบรหิ ารงานองค์กรแบง่ งานบรหิ ารออกเปน็ ๔ฝ่าย (๖ งาน) ตามหลักการบรหิ ารโรงเรียน มีหวั หน้าฝา่ ยควบคมุ งาน มีความชัดเจนสง่ ผลใหก้ ารบรหิ ารงานโรงเรียนมอี งคก์ รท่เี ขม้ แข็ง มปี ระสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารงาน ๓. การมอบหมายงานหลักและงานเสรมิ ของบุคลากร แบ่งงานตามความรู้ ความสามารถ จนสง่ ผลให้การทำงานมี ประสิทธิภาพบุคลากรมีขวัญกำลงั ใจในการทำงาน ๔. องคก์ รมีกฎระเบยี บและขอ้ ตกลงเป็นแนวปฏิบตั ทิ ี่ชดั เจน สง่ ผลให้การดำเนนิ งานตามแนวนโยบายเปน็ ไปอยา่ งมี ประสิทธิภาพ ๕. โรงเรียนมีคณะกรรมการสถานศึกษาทมี่ ีความรู้ และใหค้ วาม รว่ มมือในการจดั การศึกษาเปน็ อยา่ งดี ๖. การบรหิ ารงานโรงเรียนเปิดโอกาสให้ชมุ ชน(เครือข่าย องค์กรปกครองทอ้ งถนิ่ ผปู้ กครอง หน่วยงานตา่ งๆ)เข้ามามี ส่วนร่วมในการจัดการศึกษา สง่ ผลให้ชุมชนเห็นความสำคญั ของการศึกษา \\ ลงช่ือ ...................................................... ผู้ประเมนิ (......................................................) ตำแหน่ง..........................................................

แบบประเมนิ ปจั จัยภายในดา้ นจดุ ออ่ นของโรงเรียนดว้ ยหลัก ๗Ss (McKinsey) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ใหผ้ ปู้ ระเมินใสเ่ คร่ืองหมาย √ ลงในช่องระดบั การประเมินตามความเปน็ จรงิ ดังเกณฑ์ การประเมนิ ท่ีกำหนดให้ต่อไปนี้ ๕ หมายถึง เปน็ จริงมากทีส่ ดุ ๔ หมายถงึ เป็นจริงมาก ๓ หมายถงึ เป็นจริงปานกลาง ๒ หมายถึง เปน็ จริงนอ้ ย ๑ หมายถึง เป็นจรงิ น้อยที่สุด ประเดน็ การประเมิน ระดบั การประเมิน ๕๔๓ ๒ ๑ ๑) S – Strategy ยุทธศาสตร์ ทศิ ทางและขอบเขตท่ี องค์การจะดำเนินไปในระยะยาว ๑. โรงเรียนมแี ผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา(กลยุทธ์)แต่ไม่ได้ ปฏิบัติตาม ๒. โรงเรยี นมีแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา(กลยุทธ)์ ที่ กำหนดวสิ ัยทศั น์ พันธกิจ และเป้าหมาย ไม่ชัดเจน ๓. โรงเรียนมีแผนปฏบิ ัตงิ านประจำปีแต่ไม่ไดด้ ำเนนิ งาน ตามแผน ๔. โรงเรียนไมม่ กี ารสรปุ รายงานผลการดำเนินงานตาม โครงการเมื่อส้นิ ปีการศึกษา ๒) S – Structure โครงสร้างองคก์ าร ๑. โครงสร้างองคก์ รไม่เข้มแข็ง ๒. คณะครูไม่เขา้ รับการอบรมและศึกษาคน้ คว้าเพ่ือพฒั นา ตนเองและองค์กร ๓. ครูไม่ยอมรบั ซ่ึงกนั และกัน ส่งผลตอ่ ประสทิ ธิภาพ ในการทำงานในภาพรวมของโรงเรียน ๔.คณะครูไม่ให้ความร่วมมือในทกุ ๆกิจกรรมของโรงเรียน ๕. โรงเรียนไมจ่ ดั การศกึ ษาตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษา แหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖. ครไู ม่เขา้ ใจเรื่องการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาตาม มาตรฐานการศึกษา ๒๕๖๑ ๗. โรงเรยี นไมม่ ีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาท่ดี ี ๘. ครไู มศ่ กึ ษามาตรฐานการศึกษาและประเด็นการประเมนิ

ประเดน็ การประเมนิ ๕ ระดับการประเมิน ๑ ๔๓ ๒ ๙. คณะครูไมม่ ีส่วนร่วมในการกำหนดคา่ เป้าหมายตาม ประเด็นการประเมนิ คุณภาพภายในสถานศกึ ษา ๓) S – Systems ระบบงาน ๑. ครมู ีภาระงานมากทำใหจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ ไมเ่ ต็มที่ ๒. ครูมักใช้เวลาในการทำการเรียนการสอนไปในการทำ กจิ กรรมต่าง ๆ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย และทำการฝกึ ซ้อม การประกวดกจิ กรรมนักเรียน สง่ ผลใหน้ กั เรียนเรียนไมท่ นั เพื่อน ทำให้ผลสัมฤทธ์ิของนักเรยี นไมบ่ รรลเุ ป้าหมาย ๓. ครไู ม่ใชส้ ่อื ประกอบการเรียนการสอนและไม่มอบหมาย งานใหน้ ักเรยี นทำ สง่ ผลใหผ้ ลสัมฤทธิ์ของนกั เรียนไม่บรรลุ เปา้ หมาย ๔. ครไู ม่มคี วามต่ืนตัวดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ๕. ครไู ม่จัดกจิ กรรมการเรียนรแู้ บบยึดผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ๖. ครผู ู้รบั ผดิ ชอบโครงการต่างๆ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทีก่ ำหนดไว้ ในโครงการไมค่ รบทกุ กจิ กรรม ๗. หอ้ งปฏบิ ตั ิการบางหอ้ งใช้งานมานานปี เชน่ หอ้ งปฏิบัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ ทำให้มีวสั ดอุ ปุ กรณ์ บางสว่ นเกา่ และชำรดุ ใช้งานไมไ่ ด้ ๘. ระบบขอ้ มลู สารสนเทศยังขาดความสมบูรณ์ไม่ครอบคลุม ไมส่ ามารถเช่ือมโยงกับหนว่ ยงานภายในและภายนอกได้ ๔) S – Skill ทกั ษะ (สมรรถนะ) ๑. โรงเรยี นขาดแคลนครูทจ่ี บวิชาเอกคณิตศาสตร์ในระดับ ประถมศึกษา ๒. ครไู ม่พฒั นางานในรายวชิ าท่ตี นเองรบั ผดิ ชอบ สง่ ผลให้ ผลสมั ฤทธ์ิของนักเรียนไม่บรรลเุ ป้าหมาย ๓. คณุ ภาพการศึกษาของผเู้ รียนบางรายวชิ าตำ่ กว่า มาตรฐาน ซึง่ มีผลมาจากมีผู้เรียนจำนวนมากขาดทกั ษะใน

ประเด็นการประเมิน ๕ ระดับการประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ การอา่ น ทักษะในการคดิ เชงิ วิเคราะห์และสังเคราะห์ และ ขาดทกั ษะในการเขียน ๔. นกั เรยี นมพี ื้นฐานความรวู้ ิชาคณติ ศาสตร์ และ ภาษาองั กฤษตำ่ กวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ๕. นักเรยี นใช้บริการห้องสมุดโรงเรียนน้อย ๖. ผู้เรยี นขาดทักษะ ความรู้ ความสามารถด้านการคดิ วเิ คราะห์ การใหเ้ หตผุ ล และการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ เช่น ทกั ษะการส่ือสารภาษาอังกฤษและทักษะดา้ นดิจิทอล ๗. ผูบ้ ริหาร ครู และบุคลากรทางการศกึ ษาทกุ ประเภทขาด การพฒั นาอย่างต่อเน่ือง ทำใหข้ าดทกั ษะการจัดการเรียนรู้ ขาดทักษะที่จำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ เช่น ทกั ษะการสือ่ สาร ภาษาองั กฤษและทักษะดา้ นดิจทิ อล ๕) S – Shared Values ค่านยิ ม ๑. ครรู ีบกลับบ้านหลงั เลกิ เรียน ๒. ความเจริญและคา่ นิยมในเทคโนโลยี ทำใหน้ ักเรยี น ไม่สนใจการเรยี นเทา่ ที่ควร ๓. ผ้เู รียนส่วนใหญ่ยังมปี ัญหาด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม และ ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมวี ินยั ความซื่อสัตยส์ ุจริต และการมีจติ สาธารณะ ๖) S – Staff ปริมาณบุคลากร ๑. โรงเรียนมีครคู รบชัน้ แต่บางวิชาเอกไม่ครบช้ัน ๒. ครบู างท่านสอนทั้งระดับช้ันประถมและมธั ยม ๗) S – Style รูปแบบการบริหารจดั การองค์การของ ผบู้ รหิ าร ๑. โรงเรียนมกี ารบริหารงานทไ่ี ม่มีประสิทธิภาพ ไมส่ ามารถ จดั สรรทรพั ยากรที่มอี ยู่เปน็ จำนวนมากทัง้ บุคลากร งบประมาณ โครงสร้างพ้นื ฐาน และสง่ิ อำนวยความสะดวก ต่าง ๆ ที่มใี หเ้ กิดประโยชน์ในการจัดการศกึ ษาได้ ๒. โรงเรยี นบริหารงานแบบไม่มสี ่วนร่วม

ประเดน็ การประเมนิ ๕ ระดบั การประเมนิ ๑ ๔๓ ๒ ๓. โรงเรียนมีระบบการกำกบั ติดตามและประเมนิ ผลท่ียัง ขาดประสทิ ธิภาพและไม่มีการนำผลการประเมินมาใช้ในการ พัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง ลงช่ือ ...................................................... ผูป้ ระเมนิ (......................................................) ตำแหน่ง..........................................................

แผนภมู โิ ครงสรา้ งการบริหารงานของโรงเรยี นชุมชนท คณะกรรมการศิษย์เกา่ และ คปต. นายศรัณ ผ้อู ำนวยการโรงเรียนชมุ ช ภารกจิ 1. กลมุ่ งานวชิ าการ 2. กล่มุ งานบรหิ ารท่วั ไป 1.ฝา่ ยงานวชิ าการ 2.ฝา่ ยงานบรหิ ารท่ัวไป 1. นางรัญทม แสงงาม (หัวหน้า) 2. นางหทยั แงวกุดเรอื (รองหวั หนา้ ) งานอาคารสถานท่ี 3. นายกัญญาภทั ร นาคมี 4. นางอรวรรณ อนรุ กั ษว์ ัฒนะ 1. นายบรรจง ฝ้นั คำมี (หัวหนา้ ) 5. นางปิยะวรรณ มีคำ 2. นางคนึงนิจ สุทธอิ าจ (รองหวั หนา้ ) 3. นางดาริกา สขุ สบาย 4.นางสาวสุกญั ญา นว่ มบ 5. นายประทปี ชา้ งพนิ จิ 6. นางสาวรสสคุ นธ์ ชม งานกจิ การนกั เรยี น 1. นายบรรจง ฝัน้ คำมี (หัวหน้า 2. นางอรวรรณ ใจกล้า (รองหวั หน้า) 3. นายกัญญาภทั ร นาคมี 4. นางสาวสกุ ญั ญา นว่ มบ 5. นางสาวรสติ า บัวประทมุ 6. นางดารกิ า สุขสบาย 7. นางสาวรสสุคนธ์ ชมศรี 8. นางคนงึ นจิ สทุ ธิอาจ 9. นางสาววชั รี จอมคำ งานความสมั พันธก์ บั ชมุ ชน 1. นางเตอื นใจ ประดษิ ฐ์ (หัวหนา้ ) 2. นางดารกิ า สุขสบาย (รองหวั หน้า) 3. น.ส.สุกญั ญา นว่ มบาง 4. น.ส.นนั ท์นภัส บุญประ 5. นายปยิ ะ บวั แกว้ 6. นายประทปี ชา้ งพนิ จิ

ท่ี 11 วดั สวุ รรณประดษิ ฐ์ ประจำปกี ารศึกษา 2562 ณย์ ชูเวช คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ชนที่ 11 วัดสวุ รรณประดิษฐ์ 4 กลุม่ งาน 3. กล่มุ บริหารงานบุคคล 4. กลุ่มงานแผนและงบประมาณ 1. นายศรัณย์ ชเู วช (หัวหน้า) 6. ฝ่ายงานแผน และธุรการ การเงินพสั ดุ 2. นางเตอื นใจ ประดิษฐ์ (รองหวั หนา้ ) 1. นางพรี กานต์ ฝน้ั คำมี (หวั หนา้ ) 3. นายบรรจง ฝนั้ คำมี 2. นางปยิ ะวรรณ มคี ำ (รองหวั หนา้ ) 4. นางปิยะวรรณ มคี ำ 3. นางสาวนนั ทน์ ภัส บุญประจวบ 103 บาง 5. นางหทัย แงวกุดเรือ 4. นางสาวรสสุคนธ์ ชมศรี มศรี 5. นางอรวรรณ อนรุ กั ษว์ ัฒนะ 6. นางสาวกีรตกิ า บัวแย้ม บาง ะจวบ

ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสาม การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน นำ้ หนกั คะแนนท่ีได้ ระดบั คุณภาพ (คะแนน) (ประถมศกึ ษา และมธั ยมศึกษา) ๑๐.๐๐ ๙.๘๘ ดมี าก ๑๐.๐๐ ๙.๖๘ ดมี าก กลมุ่ ตวั บง่ ช้ีพนื้ ฐาน ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ๙.๑๒ ดมี าก ตังบง่ ชท้ี ี่ ๑ ผู้เรยี นมสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ี ๒๐.๐๐ ๘.๘๙ ดี ๑๐.๐๐ ๙.๓๑ พอใช้ ตงั บ่งชี้ท่ี ๒ ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม ท่ีพงึ ๕.๐๐ ๘.๐๐ ดี ๕.๐๐ ประสงค์ ๔.๕๐ ดีมาก ๕.๐๐ ตังบ่งชี้ท่ี ๓ ผูเ้ รยี นมคี วามใฝ่รู้ และเรียนรอู้ ยา่ งต่อเนื่อง ๓.๗๕ ดี ๕.๐๐ ตงั บ่งชท้ี ี่ ๔ ผู้เรยี นคิดเปน็ ทำเปน็ ๕.๐๐ ตังบง่ ชี้ท่ี ๕ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของผเู้ รยี น ๕.๐๐ ตังบ่งช้ที ี่ ๖ ประสทิ ธิผลของการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้น ๑๐๐.๐๐ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ตังบ่งชี้ท่ี ๗ ประสทิ ธิผลของการบรหิ ารจดั การและการพัฒนา สถานศึกษา ตงั บง่ ชท้ี ี่ ๘ พฒั นาการของการประกนั คณุ ภาพภายในโดย สถานศึกษาและตน้ สงั กัด กลมุ่ ตวั บง่ ชอ้ี ัตลักษณ์ ตงั บ่งชี้ท่ี ๙ ผลการพฒั นาใหบ้ รรลุตามปรชั ญา ปณิธาน ๕.๐๐ ดีมาก วสิ ยั ทศั น์ พธั กิจ และวัตถปุ ระสงค์ของ การจัดตง้ั สถานศกึ ษา ตังบง่ ชที้ ่ี ๑๐ ผลการพฒั นาตามจดุ เน้นและจดุ เดน่ ที่ส่งผล ๕.๐๐ ดีมาก สะท้อนเป็นเอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา กลุม่ ตวั บ่งชม้ี าตรการส่งเสรมิ ตังบง่ ชท้ี ี่ ๑๑ ผลการดำเนนิ งานโครงการพิเศษเพอ่ื สง่ เสริม ๕.๐๐ ดีมาก ๔.๐๐ ดี บทบาทของสถานศึกษา ตงั บ่งชท้ี ่ี ๑๒ ผลการส่งเสริมพฒั นาสถานศกึ ษาเพ่ือ ยกระดับ มาตรฐาน รกั ษามาตรฐาน และพฒั นาสคู่ วามเปน็ เลศิ ที่ สอดคล้องกบั แนวทางการปฏิรปู การศกึ ษา คะแนนรวม ๘๒.๑๓ ดี

การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน น้ำหนกั คะแนนท่ไี ด้ ระดบั (ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา) (คะแนน) คุณภาพ การรับรองมาตรฐานสถานศึกษา ระดับประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา * ผลคะแนนรวมทกุ ตวั บ่งช้ี ตงั้ แต่ ๘๐ คะแนน ขึ้นไป  ใช่ * มตี วั บง่ ชีท้ ไ่ี ด้ระดับดีขึ้นไปอย่างนอ้ ย ๑๐ ตัวบง่ ช้ี จาก ๑๒ ตัวบง่ ชี้  ใช่ * ไมม่ ตี วั บง่ ช้ใี ดที่มีระดบั คุณภาพตอ้ งปรบั ปรุงหรอื ต้องปรบั ปรุงเรง่ ด่วน  ไม่ใช่ สรุปผลการจัดการศกึ ษาระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานของสถานศึกษาในภาพรวม  สมควรรบั รองมาตรฐานการศึกษา ........ ไม่สมควรรบั รองมาตรฐานการศึกษา ข้อเสนอแนะจากผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในและภายนอก จดุ เดน่ จุดทคี่ วรพฒั นา และข้อแสนอแนะจากการติดตามตรวจสอบคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา โดยสถานศกึ ษา หรือหน่วยงานตน้ สังกัด - ครูมีความรู้ ความสามารถ มคี วามต้ังใจในการทำงาน - ชมุ ชน และวัดให้การสนับสนนุ การจัดการศึกษาเป็นอย่างดี - เปน็ โรงเรียนทป่ี ระสบผลสำเร็จในดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม จดุ เด่น จดุ ทคี่ วรพฒั นา และขอ้ แสนอแนะจากการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม ๑. ดา้ นผลการจดั การศกึ ษา ผเู้ รยี นควรไดร้ บั การฝึกทักษะความสามารถด้านการคดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิด สรา้ งสรรค์ คดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและคิดเป็นระบบ ท่ีนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ โดยครมู กี ารปรบั กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ปรบั วิธกี ารออกแบบฝึกทักษะหรือแบบทดสอบให้มีความหลากหลาย สอดคลอ้ งกับแนวการสอบ O-NET เพือ่ การยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของผ้เู รยี นทุกกลมุ่ สาระ การเรยี นรถู้ งึ เกณฑม์ าตรฐานของสมศ. ๒. ด้านบริหารจัดการศึกษา สถานศึกษาควรดำเนนิ การพัฒนาบุคลากร ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจ ในการจดั กระบวน การเรียนการสอน โดยการอบรม สมั มนา ศกึ ษาดงู าน ให้ครทู ุกคนมีส่วนรว่ มในการกำหนดมาตรการ และการวางแผนดำเนินงานทุกข้นั ตอนของการปฏิบตั ิ โดยการพฒั นาส่งเสริมให้เขา้ รบั การอบรม สมั มนา ศึกษาดูงานหรือศึกษาดว้ ยตนเอง พฒั นาผลสัมฤทธิ์ทุกสาระ ให้นักเรียนได้ฝกึ คิดวเิ คราะห์ แกป้ ัญหา พัฒนาตนเอง นำไปใช้ได้ คิดเพมิ่ เติมได้ เพ่ือไม่ให้กระทบต่อคุณภาพของสถานศกึ ษาตามแนวปฏิรูป การศึกษา ในทศวรรษที่ ๒ ๓. ด้านการจัดการเรยี นการสอนทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ๓.๑ ครคู วรได้รับการสนับสนุนสง่ เสรมิ ให้มีการวิเคราะหผ์ ลการประเมนิ กระบวนการจัด

การเรยี นการสอนและนำผลประเมินมาใชใ้ นการซ่อมเสรมิ และพัฒนาผู้เรยี น รวมท้ังการปรับเปล่ียน เทคนิควธิ กี ารสอน ปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๒ สง่ เสริมให้ครูทำการวิจยั ในชัน้ เรยี น เพ่อื พฒั นาสือ่ และแกป้ ญั หาการจดั การเรยี น การสอนดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย เพี่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ๔. ด้านการประกนั คุณภาพภายใน ๔.๑ สถานศึกษาควรกำหนดผรู้ บั ผดิ ชอบในการจัดทำระบบข้อมลู สารสนเทศเกี่ยวกับรายงาน การประเมินตนเองตามระบบประกันคุณภาพภายในใหม้ ีความสอดคล้องเชือ่ มโยงสู่แผนการปฏบิ ตั ทิ ีช่ ัดเจน และเปน็ ปัจจบุ นั ๔.๒ บุคลากรภายในสถานศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาควรมีส่วนร่วมกำหนดวิธีการ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี ร่วมตดิ ตาม ตรวจสอบผลการ ปฏิบตั เิ พ่อื ความเข้าใจแนวทางการประกนั คุณภาพภายในท่ีชัดเจนรว่ มกัน วิเคราะหส์ ถานศกึ ษาจากผลการประเมินระดับประถมศึกษาและระดับมธั ยมศกึ ษา (SWOT) ปจั จยั ภายในสถานศกึ ษา จุดเดน่ จดุ ท่ีควรพฒั นา ดา้ นผลการจดั การศึกษา ดา้ นผลการจัดการศกึ ษา ผูเ้ รยี นมีสุขภาพกายและสุขภาพจติ ท่ีมีคุณธรรม ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผเู้ รยี นในแตล่ ะกลุ่มสาระ จรยิ ธรรมและค่านยิ มท่พี ึงประสงค์ การเรยี นรทู้ ง้ั ๘ กลมุ่ สาระ ต่ำกวา่ ระดบั ดี ในกลุ่มสาระ มีการคน้ ควา้ หาความรจู้ ากการอา่ นและใชเ้ ทคโนโลยี การเรยี นรู้วิชาสงั คมศึกษาฯ สขุ ศกึ ษาและ สารสนเทศเรียนรผู้ า่ นประสบการณ์ตรงร่วมกับผู้อ่นื ทั้ง พลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ อยู่ในระดับตอ้ งปรบั ปรุง ในและนอกสถานศึกษา และภาษาตา่ งประเทศอยู่ในระดบั ตอ้ งปรับปรุงเรง่ ด่วน มีความสามารถในการปรบั ตวั เขา้ กับสังคม แกป้ ญั หา เฉล่ยี ท้งั ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรูม้ รี ะดบั คณุ ภาพตอ้ ง และความขดั แยง้ ต่าง ๆอย่างเหมาะสม สถานศึกษามผี ล ปรับปรุง การพัฒนาบรรลตุ ามปรชั ญา ปณธิ าน พนั ธกจิ และ วัตถุประสงค์ของการจัดตง้ั สถานศกึ ษา ผลการพัฒนา ตามจุดเน้นและจดุ เด่นในโครงการดเี ด่นดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ทีส่ ่งผลสะท้อนเป็นเอกลกั ษณข์ อง สถานศกึ ษา มีผลการดำเนนิ งานโครงการโรงเรยี นวถิ พี ุทธ(กจิ กรรม นกั เรียนจติ อาสาช่วยเหลือผู้ชราและยากไร้) เปน็ โครงการพเิ ศษเพอื่ ส่งเสริมบทบาท

ปจั จัยภายในสถานศึกษา จุดเดน่ จุดทีค่ วรพัฒนา ของสถานศึกษา เพื่อยกระดบั มาตรฐาน สอดคลอ้ งกับแนวทางการปฏิรปู การศกึ ษา ดา้ นการบริหารจัดการศกึ ษา ดา้ นการบรหิ ารจัดการศกึ ษา ผบู้ ริหารมกี ารบรหิ ารจดั การและพัฒนา การบรหิ ารงานด้านวิชาการ ด้านการตดิ ตาม สถานศกึ ษาตามบทบาทหน้าที่ของผู้บรหิ าร การจดั การเรยี นการสอน การสง่ เสริมการผลติ ส่ือ สถานศกึ ษารว่ มกบั คณะกรรมการสถานศึกษา การสอนและการบำรุงรกั ษาให้ไดป้ ระโยชนท์ ่คี ุ้มค่า ขน้ั พน้ื ฐานให้มีประสทิ ธภิ าพย่ังยนื และต่อเนื่อง รวมทง้ั กระบวนการจัดการเรียนการสอน ส่งเสรมิ และพัฒนาสถานศึกษาเพือ่ ยกระดับ การปรับปรุงแผนการสอนยังไม่ชดั เจนต่อเนื่อง มาตรฐานทส่ี อดคลอ้ งกับแนวทางการปฏริ ปู การศึกษา ดา้ นการจัดการเรียนการสอนทเ่ี น้นผเู้ รียน ด้านการจัดการเรียนการสอนทเ่ี น้นผูเ้ รียน เปน็ สำคญั เป็นสำคัญ ๑. ครู ๓ ใน ๑๑ คน ยงั ไม่สามารถดำเนินการ วเิ คราะห์ สถานศึกษาสนบั สนุนการดำเนนิ การจดั ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน นำมาปรับเปลี่ยนการ การเรยี นการสอนของครูอยา่ งมปี ระสิทธผิ ล โดยกำหนด จดั กระบวนการเรยี นรู้ เพ่อื พฒั นาผ้เู รยี น เป้าหมายทต่ี ้องการให้เกิดกบั ผเู้ รียน วิเคราะห์ขอ้ มลู ๒. การดำเนนิ การศึกษาค้นควา้ วจิ ัยเพื่อการพัฒนาสือ่ และ เป็นรายบุคคล ออกแบบ การเรยี นรูแ้ ละ กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทเี่ น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ จัดการเรียนรทู้ เ่ี หมาะสม ยงั ไมเ่ กิดผลชดั เจน จัดบรรยากาศท่ีเอ้ือตอ่ การเรยี นรู้ จัดเตรยี มและใชส้ ือ่ ใหเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม นำภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ เทคโนโลยี มาประยกุ ตใ์ นการจัดการเรยี นการสอน ประเมนิ ความกา้ วหน้าของผเู้ รยี นด้วยวิธีท่หี ลากหลาย ดา้ นการประกันคณุ ภาพภายใน ด้านการประกนั คณุ ภาพภายใน การจัดระบบขอ้ มลู สารสนเทศ และ ประสทิ ธิผลของระบบประกันคณุ ภาพภายใน การเชอื่ มโยงเครือข่ายข้อมลู กบั หนว่ ยงาน ตน้ สงั กดั ยังไม่ สถานศึกษาและหน่วยงานต้นสงั กัดท่ีมีหนา้ ท่ีกำกบั ดแู ล ชัดเจนครอบคลมุ ต่อผลการพฒั นาคุณภาพการศึกษาใน ผลการประเมินมพี ัฒนาการ ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา

ปจั จัยภายนอกสถานศกึ ษา โอกาส อุปสรรค ๑. สถานทตี่ งั้ ของสถานศึกษาไมไ่ กลจากตวั เมือง ๑. สภาพทางเศรษฐกจิ ผู้ปกครองมีรายไดน้ อ้ ย มากนัก การคมนาคมสะดวก การส่ือสารติดต่อ ท้ิงถิ่นไปประกอบอาชีพทีอ่ นื่ ทงิ้ ให้ผ้เู รยี นอยู่กบั ปู่ รวดเรว็ ทันตอ่ เหตุการณ์ ย่า ตา ยาย ขาดความอบอุ่น ทำใหม้ ปี ญั หาด้าน ๒. สถานศึกษาเป็นโรงเรียนประจำตำบลทีม่ ี การเรียน ประชากร ๖ หมู่บ้านรว่ มกนั ใหก้ ารสนับสนุนร่วม ๒. การคมนาคมสะดวก ทำให้ผ้ปู กครองทีม่ ฐี านะดี พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา ส่งบุตรหลานไปเรียนในเมือง ส่งผลให้ผู้เรยี นลดลง ๓. ประชากรในชมุ ชน ผนู้ ำชมุ ชน ผนู้ ำองค์กร ทุกปี ท้องถ่นิ ผูน้ ำทางศาสนาและผู้ปกครองเหน็ ๓. สภาพของชมุ ชนรอบสถานศึกษาเป็นลักษณะ ความสำคัญของของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ชุมชนชานเมืองมีประชากรหลากหลายอาชพี ของสถานศกึ ษาต่างให้การสนับสนุนท้ังดา้ นการ ปะปนและสุ่มเสย่ี งกบั การเกยี่ วข้องส่ิงเสพติด ระดมทรัพยากร กำลังงานและความร่วมมือในทกุ จงึ ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมือในการเฝา้ ระวงั จากผ้นู ำ กจิ กรรมของสถานศึกษา ชมุ ชนและทกุ คนในท้องถ่นิ ๔. มแี หล่งเรยี นร้ใู นชุมชนและภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ทีช่ ่วยสนับสนนุ การแสวงหาความรูแ้ กผ่ เู้ รยี น อยา่ งหลากหลาย โดยเฉพาะวัด (พระครพู ิพฒั น์ สวุ รรณประดษิ ฐ์) เป็นศนู ย์กลางในการอบรม สั่ง สอนปลกู ฝงั่ ด้านคุณธรรมจริยธรรมแก่ผเู้ รียนเป็น ประจำทกุ สปั ดาห์ สรปุ สภาพปญั หา จดุ เด่น จดุ ท่ีควรพัฒนาในการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา สภาพปญั หา ๑. ดา้ นบุคลากร ขาดครูรายวิชาคณติ ศาสตร์ และภาษาไทย ๒. ด้านตวั ผ้เู รียน นกั เรยี นบางคนไม่สนใจเรยี นชอบเล่นเกม ๓. ด้านผปู้ กครอง มอี าชพี หาเช้ากนิ ค่ำ จึงไมม่ เี วลาให้กับลูก

จดุ เดน่ ๑. โรงเรียนมีความสัมพันธ์กับชุมชนดเี ยย่ี ม (บ ว ร) ๒. มีความเปน็ เอกภาพในการทำงาน ๓. ชมุ ชนให้การสนับสนนุ การดำเนนิ การกจิ กรรมต่าง ๆ ของโรงเรยี นดเี ยี่ยม จดุ ทคี่ วรพัฒนา ๑. ครูสว่ นใหญ่มีอายุมากและใชว้ ิธกี ารสอนแบบยึดครูเปน็ ศูนย์กลาง คือ ใชก้ ารสอนแบบบรรยาย ๒. พัฒนาครูในเรือ่ งการใช้เทคโนโลยใี นการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน และใช้การจัดกิจกรรม การเรียนการสอนแบบยึดผเู้ รียนเปน็ สำคัญโดยใชว้ ธิ กี ารสอนและวิธกี ารวดั ผลประเมินผลทีห่ ลากหลาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook