www.kalyanamitra.org
พระเผด็จ ทตตฺ ชีโว เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนงั สือ : 978-616-8188-16-3 ทปี่ รึกษา คณะบรรณาธกิ าร ผู้จัดท�ำ คณะวิพากษ ์ คณะจัดท�ำต้นฉบับและหนังสือ ออกแบบปกและรูปเล่ม นันทิยา แสนจันทร ์ สถาบันพุทธศลิ ปแ์ หง่ โลก สดุ ปรารถนา จารชุ าต พรทพิ ย์ มีดี ภาพประกอบ สถาบนั พทุ ธศลิ ปแ์ หง่ โลก พมิ พค์ รัง้ แรก วนั ท่ี ๒๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จ�ำนวนพิมพ์ ๑๕,๐๐๐ เลม่ ลขิ สิทธิ์ วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ๑๒๑๒๐ จดั พิมพโ์ ดย กองวชิ าการ อาศรมบณั ฑติ วัดพระธรรมกาย พิมพ์ท่ี บริษทั รงุ่ ศิลปก์ ารพมิ พ์ (๑๙๗๗) จำ� กัด Nขอ้aมtiูลoทnาaงlบLรibรณraาryนุกoรfมTขhอaงiสla�ำ nนdักหCอaสtมaุดloแgหinง่ ชgาinติ Publication Data พระเผด็จ ทตตฺ ชโี ว. สจั จะต่อความดี อานุภาพพลิกโลก.--ปทมุ ธานี : กองวชิ าการ อาศรมบัณฑิต วัดพระธรรมกาย, 2563. 162 หน้า. 1. ธรรมเทศนา. I. ชื่อเร่อื ง. 294.308 ISBN 978-616-8188-16-3 www.kalyanamitra.org
คำ� นำ� ท่านผอู้ า่ นที่เคารพรักธรรม รักความจรงิ รักความดี ปัจจุบนั ความรวู้ ชิ าการและเทคโนโลยไี ดเ้ จรญิ ลำ้� หนา้ เกนิ คาด มากเกนิ พอที่ จะท�ำให้ผู้คนทัง้ โลกอยู่เย็นเปน็ สขุ แตท่ �ำไมทงั้ โลกกลบั ต้องอยู่รอ้ น เป็นทกุ ข์จากท้ังปญั หาเศรษฐกจิ การเมอื ง การทหาร การปกครอง แม้การรักษาสุขภาพส่วนตน ไม่ว่าเขาเหล่าน้ันจะอาศัยในประเทศ ดอ้ ยพฒั นาหรอื มหาอำ� นาจกต็ าม เมอ่ื กวา่ ๒,๖๐๐ ปี มบี รรพชนผ้รู เู้ ปน็ บรมครูแห่งโลกหลา้ ได้กรุณาเตือนไว้ว่า โลกเราน้ี แม้ในเมืองน้อยใหญ่ท่ีดูแสนสะอาด ตา่ งก็เคยมีผ้คู นลม้ ตายศพเกล่ือนกลาดท่ัวหมู่บา้ นร้านตลาด ไม่ต่าง จากใบไม้ร่วงมาแล้ว ๓ ลักษณะ คอื ลกั ษณะที่ ๑ ลม้ ตายเพราะสงครามระหวา่ งหมู่มนุษย์ ลักษณะที่ ๒ ลม้ ตายเพราะทุพภิกขภยั ไร้อาหาร ลักษณะที่ ๓ ลม้ ตายเพราะอมนุษย์แพร่โรคระบาด www.kalyanamitra.org
บรรพชนผรู้ ้กู รณุ าแจงเหตอุ าเพศไวด้ ว้ ยวา่ เปน็ เพราะชาวโลก ขณะนั้นหลงพอใจในอธรรม ละท้ิงธรรม ท้ิงความจริง ทิ้งความดี มแี ตค่ ดิ จะรำ่� รวย แมด้ ้วยวธิ ีวปิ รติ ผิดศลี ผดิ ธรรม มีทง้ั ประเภทโลภ จัด โกงจัด คอรร์ ปั ชนั จดั เหน็ แกต่ ัวจัด ไมค่ ำ� นงึ วา่ ทรัพยส์ มบตั ินนั้ เปน็ ของใคร หากตนพอใจอยากได้ กใ็ ชอ้ ำ� นาจบาตรใหญไ่ ปฉดุ กระชาก ลากเอามาเป็นของตนจนได้ ไม่มีความละอาย เทิดทูนบูชาความ ร่�ำรวย ฉกฉวยเทคโนโลยีมาสร้างความยิ่งใหญ่เอาไว้เป็นอ�ำนาจต่อ รอง ไมป่ รารถนาจะยกยอ่ งบชู าคนดี คนมศี ลี มธี รรม เพราะพฤตกิ รรม ต่�ำช้าเยย่ี งน้ี จึงเกดิ มอี าเพศทัว่ แผน่ ดนิ บรรพชนผรู้ ยู้ งั ไดป้ ระทานวธิ แี กไ้ ขอาเพศไวอ้ กี วา่ จงหนั หนา้ มาพิจารณาตน หม่ันเตือนตนด้วยตน ตั้งหน้าฝึกฝนอบรมตน ให้ตนคือสัจจะและสัจจะคือตน เมื่อต่างคนต่างยึดม่ันในสัจจะ ถือสัจจะต่อความดีเป็นสรณะ ท้ังโลกย่อมพลิกฟื้นคืนกลับทันใด จากโลกมดื เป็นโลกแจ้ง มีแสงธรรมผ่องอำ� ไพสอ่ งสว่างไปทั่วผืน แผ่นดนิ สัจจะต่อความดีมีทั้งส่วนท่ีมนุษย์ต้องรีบรู้ ๑ และส่วนที่ มนุษย์ตอ้ งรบี ประพฤติ ๑ เมอ่ื ทง้ั เดก็ และผใู้ หญ่ ทั้งหญิงและชาย ต่างต้ังใจศกึ ษาฝกึ หดั อบรมสัจจะทัง้ ๒ ไปพร้อม ๆ กนั ยอ่ มปฏบิ ตั ิ ไดง้ า่ ย ไมต่ อ้ งลงทนุ ลงแรงใด ๆ เพยี งแคป่ ระกอบธรุ กจิ การงานอาชพี ไปตามปกติ ควบค่กู บั การหมน่ั ดงึ ใจกลบั มาเกบ็ รกั ษาไวใ้ นกลางกาย เปน็ นจิ กเ็ พยี งพอ www.kalyanamitra.org
ส�ำหรับสัจจะที่มนุษย์ต้องรีบรู้ และสัจจะที่มนุษย์ต้องรีบ ประพฤติ พร้อมทั้งบทฝึกแสนง่ายและกะทัดรัด ได้จัดเตรียมไว้ เรียบรอ้ ยในหนังสือสจั จะตอ่ ความดี อานุภาพพลิกโลก ซ่ึงอยู่ในมอื ของท่านแลว้ นี้ สัจจะต่อความดี อานุภาพพลิกโลก จัดพิมพ์เป็นธรรม บรรณาการแก่ท่านทเ่ี คารพรักบชู าธรรม ความจรงิ และความดี เปน็ ทร่ี ะลกึ ทไ่ี ดม้ ารว่ มแสดงมทุ ติ าสกั การะ ในวาระอายวุ ฒั นมงคลของ หลวงพอ่ ทัตตชโี วครบ ๘๐ ปี วันท่ี ๒๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ โดย คณะศษิ ยานศุ ษิ ยพ์ รอ้ มใจกนั แสดงความกตญั ญกู ตเวที รว่ มกนั ประมวล บทเทศน์สอนและประสบการณ์การฝึกลูกศิษย์ทุกสถานภาพตลอด ๔๙ พรรษากาลของทา่ น ซง่ึ นบั เปน็ องคค์ วามรอู้ นั ทรงคณุ คา่ ยงิ่ อา่ น ก็ง่าย ฝึกก็สบาย ๆ ย่ิงประพฤติต่อเน่ือง ยิ่งไม่เบื่อหน่าย มีแต่ได้ กับได้ จึงขอเรยี นเชญิ ท่าน โปรดรบี อา่ น รีบหดั รบี ขดั รบี เกลา ผล แหง่ การปฏบิ ตั ิย่อมเห็นแจ่มชดั เปน็ สจั จะแก่ทา่ นเอง คณะศิษยานศุ ิษย์ ๒๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ www.kalyanamitra.org
สารบัญ หน้า โลกยอ่ มสงบสุข หากมีสจั จะต่อความด ี ๑๑ • ความหมายของสัจจะ ๑๒ • อานุภาพสจั จะตอ่ ความดี ๑๖ • สจั จะต่อความดี ๒ เพอ่ื การพลกิ โลก ๑๘ สัจจะทม่ี นุษยต์ ้องรีบร้ปู ระการท่ี ๑ ๒๓ • คณุ ค่าชีวิตมนษุ ย์ ๒๔ • องค์ประกอบชวี ติ มนุษย ์ ๒๕ • คุณลกั ษณะพเิ ศษกายและใจมนษุ ย ์ ๒๗ สจั จะท่มี นุษย์ต้องรบี รูป้ ระการที่ ๒ ๔๑ • โรค ๖ ประจำ� กาย ๔๒ • โรค ๓ ประจำ� ใจ ๔๖ • ความสมั พนั ธร์ ะหว่างโรค ๖ ประจำ� กาย ๔๙ กับโรค ๓ ประจำ� ใจ ๕๗ สจั จะที่มนุษย์ตอ้ งรบี รปู้ ระการท่ี ๓ ๕๘ • สงิ่ แวดลอ้ ม ๕ www.kalyanamitra.org
สจั จะทมี่ นุษยต์ ้องรบี รู้ประการที่ ๔ ๖๕ • มนษุ ย์ต้องมกี ัลยาณมติ รช่วยชที้ างถกู ให้ ๖๖ • กลั ยาณมติ รคอื ใคร ๖๘ • กลั ยาณมิตรอยู่ที่ไหน ๗๐ • สรปุ ๗๓ สจั จะที่มนษุ ยต์ อ้ งรบี ประพฤติ ๓ ๗๗ • ความหมายและการแสดงออก ๗๘ ๑. นิสัยรักการพูดจรงิ ๗๙ ๒. นสิ ยั รักการทำ� จรงิ ๘๓ ๓. นิสยั รกั การแสวงหาความจรงิ และความด ี ๘๘ • การฝึกสัจจะตอ่ ความดขี นั้ ต้น ๙๑ แนวทางการฝึกสัจจะต่อความดดี ้วยการควบคมุ ๑๐๑ โรค ๖ ประจำ� กาย และการรกั ษาสิง่ แวดล้อม ๕ โดยมีพ่อแมเ่ ปน็ กัลยาณมิตร ๑๔๑ บทสรปุ สง่ ทา้ ย ๑๔๖ วตั รและพระสูตรทใ่ี ชค้ ้นควา้ ๑๕๐ บรรณานุกรม ๑๕๓ วิธฝี ึกสมาธเิ บือ้ งต้น www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
10 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
โลกย่อมสงบสขุ หากมีสจั จะต่อความดี • ความหมายของสัจจะ • อานุภาพสัจจะต่อความดี • สัจจะต่อความดี ๒ เพื่อการพลกิ โลก www.kalyanamitra.org
ความหมายของสัจจะ สัจจะ เป็นค�ำในภาษาบาลี แปลว่า ความจริง เมื่อใช้ใน ภาษาไทย มคี วามหมายท่ีใชบ้ ่อย ๆ คือ ๑. สจั จะ หมายถงึ ความจริงที่มีอยตู่ ามธรรมชาติ ไม่มีใคร ไปเสกสรรปั้นแต่งข้ึนมา เช่น ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างในเวลา กลางวัน ดวงจันทร์ส่องแสงสว่างในเวลากลางคืน น�้ำย่อมไหล จากท่สี งู ไปสู่ท่ีต่�ำ ทกุ คนเกิดแลว้ กต็ ้องแก่ เจ็บ และตาย ฯลฯ ๒. สัจจะ หมายถึง ความจริงท่ีเกิดจากการกระท�ำต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ การกระทำ� ของคนหรอื สตั ว์ แบง่ การกระทำ� ดงั กลา่ วเปน็ ๒ ประเภท คอื ๒.๑ สัจจะ หมายถึง ความจริงท่ีเกิดจากการกระท�ำที่ ขาดสติ ซึง่ อาจเกดิ จากความไม่รจู้ รงิ หรือร้แู ต่ประมาท ไมค่ ำ� นงึ ถึง ผลเสียที่จะเกิดตามมาวา่ จะนำ� ความเดือดร้อนเสยี หายและมีน�้ำตา นองหน้าในภายหลังทั้งแก่ตนเองและผู้อ่ืน จึงเอาแต่สะดวกสบาย หรอื ประโยชนเ์ ฉพาะหน้าเปน็ ทต่ี ัง้ เชน่ - นายขาวเป็นพ่อของ ด.ช.แดง แต่นายขาวไม่ต้ังใจ ฝึกอบรมลูกต้ังแต่เล็ก เมื่อ ด.ช.แดง โตขึ้นเป็นคนเกะกะเกเร นายขาวก็ไม่มีใครเลี้ยงดูตอนแก่เฒ่า - นางเขยี วชอบพดู เทจ็ พดู กา้ วรา้ ว ตดิ สรุ า จงึ ไมม่ ใี คร อยากคบหาสมาคมดว้ ย 12 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
- เสือ ถ้าหิวมันก็กินได้แม้แต่ลูกของมันเอง เสือ แตล่ ะตัวจงึ ไมไ่ วใ้ จกนั ตวั อยา่ งทยี่ กมาน้ี ลว้ นเปน็ สจั จะคอื ความจรงิ เพราะไดเ้ กดิ ข้ึนแล้วจริง แต่เกิดทุกข์เดือดร้อนท้ังแก่ตนเองและผู้อ่ืน เพราะ ตนเองไมร่ ้คู วามจริง หรอื รูค้ วามจรงิ แตท่ �ำด้วยความประมาทไม่ สำ� รวมระมัดระวงั เช่น นายขาวไม่รู้วิธีสอนลูก หรือรู้วิธีสอนลูก แต่ไม่รู้ว่าจะต้องรีบสอนตั้งแต่ยังเล็ก รอไว้สอนตอนโตจึงสายไป นายขาวยงั เปน็ คนดี เพราะไม่ไดท้ ิง้ ลกู ยงั ไม่ได้ท�ำความชวั่ แต่สจั จะ ต่อความดีในการท�ำหน้าทพ่ี อ่ แมท่ ตี่ ้องรีบทำ� อันดับแรก คือ ห้ามลกู ไม่ให้ท�ำความชั่ว และสอนลูกให้ตั้งอยู่ในความดีนั้น นายขาวยังท�ำ ไมถ่ งึ มาตรฐานทจี่ ะเปน็ กลั ยาณมติ ร คอื มติ รแทใ้ หแ้ กล่ กู ได้ ด.ช.แดง จงึ เสยี นสิ ยั เป็นคนเกเร นางเขียวเป็นเช่นนั้นเพราะไม่รู้โทษของสุราจึงดื่ม เมื่อเมา จึงพูดเท็จ พูดก้าวร้าว หรือเพราะไม่รู้ว่าพูดเท็จ พูดก้าวร้าวไม่ดี เมื่อพูดบ่อย ๆ จึงไม่มีใครอยากคบ นางเขียวจึงหาทางออกด้วย วิธีผิด ๆ คือ ดื่มสุราจนติด นางเขียวเป็นผู้ยังไม่มีสัจจะต่อความดี การกระท�ำของนางเขียวจัดเป็นกรรมช่ัว เธอเป็นมิตรเทียมท�ำลาย ทำ� ร้ายตวั เอง การกระท�ำของเสือที่กินลูกของมันเมื่อหิว เป็นสัจจะคือ ความจรงิ เพราะเปน็ ธรรมชาตขิ องสตั วว์ ่า ขาดสติตลอดชวี ิต สัตว์ www.kalyanamitra.org โลกยอ่ มสงบสุข 13 หากมีสัจจะต่อความดี
จึงรังแกกนั เอง ซงึ่ ต่างกับมนษุ ยโ์ ดยสิ้นเชงิ ใครที่ร้คู วามจรงิ เรื่องเสอื ก็จะต้องกล่าวความจรงิ เชน่ นตี้ รงกัน ๒.๒ สัจจะ หมายถึง ความจริงท่ีเกิดจากการกระท�ำ อยา่ งมสี ติ เกดิ จากความรจู้ รงิ และตงั้ ใจทำ� จรงิ ในสง่ิ นน้ั รจู้ กั ระแวง ภัยท่ีน่าระแวง และระวังภัยที่อาจท�ำให้เดือดร้อนตามมา ภายหลังอีกด้วย จึงกระท�ำทุกอย่างตรงไปตรงมาประกอบด้วย เหตุผล เชน่ - นางจ�ำปาเป็นแม่ของ ด.ญ.จ�ำปี ทันทีที่เธอรู้ตัวว่า ตง้ั ครรภ์ ก็ตั้งใจหาความรู้จริงเร่อื งรกั ษาครรภ์ รกั ษาสขุ ภาพตนเอง และเลยี้ งดลู กู ใหถ้ กู วธิ ี ยง่ิ กวา่ นนั้ นางจำ� ปายงั ตง้ั ใจจดั บา้ น และอบรม ทกุ คนในบ้านใหร้ ักการท�ำความสะอาด จดั ระเบยี บสง่ิ ของเคร่อื งใช้ ของตนเองอย่างเคร่งครัด ให้สุภาพ ตรงเวลา และรักการนั่งสมาธิ ให้ใจสงบอารมณด์ ี ด.ญ.จำ� ปี จงึ เจริญเตบิ โตทา่ มกลางสงิ่ แวดลอ้ มท่ี ดี เปน็ เดก็ ฉลาด นา่ รกั ขยนั ทำ� งานบา้ นแตเ่ ลก็ โตขน้ึ จงึ ประสบความ ส�ำเรจ็ ในชีวติ - ความรจู้ ริงในการบ�ำรุงรักษาครรภ์ของนางจ�ำปา ๑ - ความรู้จริงในเร่ืองสิ่งแวดล้อมท่ีเป็นบุคคล และ สถานทีว่ ่า มผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของทารกของนางจำ� ปา ๑ - ความรู้จริงในเร่ืองการฝึกฝนอบรมให้กับบุคคล ทุกเพศทุกวยั วา่ ต้องเริ่มตน้ จากการฝึกให้รักการท�ำความสะอาด จดั ระเบยี บสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ สถานท่ีดว้ ยมือของผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรม 14 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
เอง คือื หัวั ใจของการฝึกึ อบรม เพราะจะทำำ�ให้ใ้ จผ่อ่ งใสเป็น็ นิิจได้้ ง่่าย และรักั การฝึึกฝนอบรมให้้ดีียิ่�ง ๆ ขึ้�นไปอีีกของนางจำำ�ปา ๑ - ความตั้งใจจริงที่จะฝกึ ฝนอบรมบุตรสาวตนเอง คอื ด.ญ.จ�ำปี ใหเ้ ปน็ คนดีของโลกของนางจำ� ปา ๑ ความรจู้ รงิ ในเรอ่ื งการบำ� รงุ รกั ษาครรภ์ สง่ิ แวดลอ้ ม และ การฝึกฝนอบรมทั้ง ๔ ประการนี้ จัดเป็นปัญญาของนางจ�ำปา ส่วนความต้ังใจจริงในการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี จัดเป็นสัจจะต่อ ความดขี องนางจำ� ปา จึงเกดิ เป็นผลดี คือ ไดค้ นดีขนึ้ มาอกี คนในโลกช่ือ น.ส.จ�ำป ี ได้แมท่ ่ดี ขี องโลกอีกคนคอื นางจำ� ปา ไดค้ รอบครวั ตวั อยา่ งอกี ครอบครวั หนง่ึ คอื ครอบครวั ของนางจ�ำปา ซงึ่ ทงั้ หมดนเี้ ปน็ ความจรงิ ทเี่ กดิ ขนึ้ จากการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ อย่างมีสติ ไม่เห็นแก่ความสะดวกสบายใด ๆ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ เฉพาะหน้าใด ๆ เช่น ความก้าวหน้าในอาชีพของตน แต่เล็งเห็น ประโยชน์สุขที่ย่ังยืนเบ้ืองหน้า เราเรียกความจริงท่ีเกิดข้ึนด้วย ความจริงใจ ประกอบด้วยปัญญาเช่นนี้ว่า ความมีสัจจะต่อ ความดี เพราะเกิดจากกรรมดีตลอดทาง ทีใ่ ดมสี จั จะต่อความดี ทนี่ ้นั ต้องมปี ญั ญา ทใ่ี ดมปี ญั ญา ท่นี นั้ ต้องมสี จั จะต่อความดี สจั จะกับปัญญาจึงพรากจากกันไมไ่ ด้ www.kalyanamitra.org โลกยอ่ มสงบสุข 15 หากมสี ัจจะตอ่ ความดี
อานภุ าพสจั จะตอ่ ความดี สัจจะ มีอานุภาพมหาศาล เกินกว่าใครจะประมาณคาดคิด สามารถพลิกโลกที่ก�ำลังร้อนระอุให้กลับเย็นสนิท ประสบแต่ ความสงบสุขทันทกี ็ยอ่ มได้ เพราะเปน็ สัจจะประจำ� โลกว่า • ถ้าใครใจสว่างพอเรื่องใด ย่อมเห็นความจริงเร่ืองนั้นชัดไป ถงึ นั่น ความลับเร่ืองนัน้ ก็ยอ่ มหมดไปถงึ นน่ั • ความลบั เรอื่ งใดหมดไปถงึ ไหน ความไมร่ จู้ รงิ ความเขา้ ใจผดิ ความหลงผิดเร่อื งนน้ั ยอ่ มหมดไปถึงนั่น • ความเข้าใจผิดหลงผิดเรื่องใดหมดไปถึงไหน ความคิดผิด การพูดผิด การท�ำผดิ เกย่ี วกบั เรอื่ งนัน้ ย่อมหมดไปถงึ นั่น • ความคดิ ผิด การพูดผิด การทำ� ผิด เกีย่ วกับเรือ่ งนนั้ หมดไป ถึงไหน กรรมชัว่ เก่ียวกับเรอ่ื งนัน้ ยอ่ มหมดไปถงึ นน่ั • กรรมช่วั เร่อื งใดหมดไปถงึ ไหน ความทุกข์เดือดเนื้อรอ้ นใจท่ี จะเกิดตามมาจากการกระท�ำชั่วนนั้ ย่อมหมดไปถงึ นัน่ • ความทุกข์เดือดเน้ือร้อนใจท่ีจะเกิดจากการกระท�ำช่ัวใด หมดไปถึงไหน ยอ่ มเกิดปัญญาและการทำ� กรรมดขี ึน้ มาแทนที่ ไมม่ ี ความทกุ ข์เดือดเนอื้ รอ้ นใจในเร่อื งนนั้ ไปถึงนัน่ • ปัญญาและการท�ำแต่กรรมดี ไม่มีความทุกข์เดือดเน้ือร้อน ใจไปถงึ ไหน ยอ่ มเกิดความสุขไปถงึ น่ัน 16 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
• ผู้ยึดม่ันในการท�ำแต่กรรมดี ทั้งทางกาย วาจา และใจ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสขุ ไปถงึ ไหน ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ ผมู้ สี จั จะตอ่ ความดไี ปถงึ นัน่ ทา่ นแล้วท่านเลา่ • เม่ือท่านผู้มีสัจจะต่อความดีท้ังหลายกุลีกุจอร่วมใจกัน สร้างผู้มีสัจจะต่อความดี ย่อมช่วยกันพลิกโลกทั้งโลก ให้กลับมา ร่มเย็นเป็นสุข เพราะเขาไดแ้ จ้งประจักษ์แก่ใจตนเองแล้ววา่ โลก ภายใน คอื กายและใจของเขาหายร้อนรุ่มกลุ้มใจ เกิดความสุข พวยพงุ่ ขนึ้ มาไดเ้ อง ทนั ทที เ่ี ขาปฏบิ ตั สิ จั จะตอ่ ความดกี บั สงิ่ แวดลอ้ ม ทกุ ประเภทอย่างรอบคอบสมบรู ณ์ www.kalyanamitra.org โลกยอ่ มสงบสุข 17 หากมสี ัจจะต่อความดี
สัจจะต่อความดี ๒ เพอื่ การพลิกโลก เน่ืองจากคุณธรรม คือ สัจจะต่อความดี ประกอบด้วย คณุ ธรรม ๒ ประการ คอื ๑. ปัญญา ได้แก่ มคี วามร้คู วามจริงในเรอ่ื งที่ตอ้ งท�ำ ๒. สัจจะ ได้แก่ มีความต้ังใจจริงที่จะท�ำงานนั้นให้เสร็จ ท�ำอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอะไรแอบแฝง และท�ำให้ถึงคุณภาพ แท้ ๆ ของเรอ่ื งทจ่ี ะท�ำนนั้ ดงั นนั้ การรว่ มมอื กนั พลกิ โลกทงั้ โลกใหพ้ น้ จากความเดอื ดเนอื้ ร้อนใจ ด้วยสัจจะแหง่ ความดี จึงเป็นเรอื่ งทีช่ าวโลกทกุ คนตา่ งต้อง รับรู้ท้ังหลักการและวิธีการให้ชัดเจนตั้งแต่เร่ิมต้น โดยการเตรียม ความพรอ้ มทีป่ ระกอบดว้ ยเหตุ ๒ ประการ คอื ๑. ต้องเรยี นร้สู จั จะทม่ี นษุ ย์ต้องรีบรู้ ๒. ตอ้ งฝกึ ฝนอบรมสจั จะทม่ี นุษย์ตอ้ งรบี ประพฤติ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ความไม่รู้อะไรเลย ทุกอย่างต่างคนต่างต้องมาเรียนรู้ภายหลัง ทง้ั สน้ิ มที งั้ เรยี นรจู้ ากบคุ คลตา่ ง ๆ รอบขา้ งบา้ ง จากความชา่ งสงั เกต ของตนเองบ้าง ทั้งสังเกตจากส่ิงน้ัน ๆ โดยตรง หรือจากสอ่ื ตา่ ง ๆ ในสังคมกต็ าม ซึง่ อันตรายท่นี า่ กลวั ในขณะเรยี นรูค้ อื 18 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
๑. ได้ความรูผ้ ิด ๆ ไม่ตรงตามจรงิ ๒. ได้ความรู้ตรงตามจรงิ แต่ไมค่ รบ มขี าดบา้ ง เกนิ บา้ ง แลว้ หลงผดิ วา่ ความจริงทง้ั หมดมเี พยี งเท่านนั้ อนั ตรายท่เี กดิ ตามมาและแก้ไขยากมาก คือ ผูน้ ั้นย่อมไม่รวู้ า่ ตวั เองยงั ไมร่ ู้ แตห่ ลงทกึ ทกั วา่ ตนเองรมู้ ากมายพอแลว้ พวกหนง่ึ อกี พวกหน่งึ น�ำความรผู้ ิด ๆ ความร้ขู าด ๆ เกนิ ๆ ไปใช้จนเกิด นสิ ยั ไมด่ ี บม่ เพาะความช่ัวมากจนเกนิ แก้ เพราะฉะนน้ั มนษุ ยท์ กุ คนจงึ ตอ้ งรบี เรยี นรสู้ จั จะทม่ี นษุ ยต์ อ้ ง รบี รู้ และตอ้ งรบี ฝกึ ฝนอบรมสจั จะทม่ี นษุ ยต์ อ้ งรบี ประพฤติ มดี งั น้ี ๑. สจั จะที่มนุษย์ต้องรบี รู้ ได้แก่ ๑.๑ คณุ ค่าชวี ติ มนษุ ย์ ๑.๒ โรค ๖ ประจำ� กาย และโรค ๓ ประจ�ำใจ ๑.๓ อทิ ธิพลจากสงิ่ แวดล้อม ๕ ๑.๔ มีกัลยาณมิตรผชู้ ้ีทางถกู ๒. สจั จะที่มนุษย์ต้องรบี ประพฤติ ๒.๑ พดู แตค่ วามจรงิ เป็นนิสยั ๒.๒ ท�ำจรงิ เปน็ นิสยั ๒.๓ รักการแสวงหาความจริง และความดีย่ิง ๆ ข้ึนไป เปน็ นิสยั 19 www.kalyanamitra.org โลกย่อมสงบสุข หากมสี ัจจะตอ่ ความดี
สาเหตทุ ี่ต้องรบี รสู้ จั จะทม่ี นษุ ย์ต้องรีบรู้ รีบฝกึ อบรมสจั จะ ท่ตี ้องรบี ประพฤติ ได้แก่ ๑. เพ่ือป้องกันไม่ให้หลงผิดคิดว่า ตนเองวิเศษกว่าผู้อื่นและ สัตว์โลกทั้งหลาย ทั้งท่ีตนเองยังประกอบคุณงามความดีได้เพียง เลก็ นอ้ ย ๒. เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หห้ ลงผดิ คดิ นอ้ ยเนอื้ ตำ�่ ใจวา่ ตนเองตำ่� ตอ้ ย กวา่ ผ้อู น่ื จนไมส่ ามารถประกอบคุณงามความดีเชน่ ใคร ๆ ได้ แล้ว ประพฤติตนเป็นคนท้อถอยส้ินหวัง ทั้งท่ีกายก็ไม่พิการ ใจก็ยังทรง พลงั สามารถส่งใจไปถึงดวงอาทิตยไ์ ดแ้ ม้วันละเปน็ ลา้ น ๆ ครั้ง ๓. เพ่ือป้องกัน บ�ำรุงรักษากายและใจตนเองให้เข้มแข็ง ทรงพลัง พร้อมทำ� ความดอี ย่เู สมอใหส้ มกบั ที่เกดิ เปน็ มนษุ ย์ ชาวโลกทกุ คนตอ้ งรบั รทู้ งั้ หลกั การ และวธิ ีการใหช้ ดั เจนตงั้ แตเ่ ริม่ ต้น จะได้ไม่หลงทึกทกั วา่ ตนรู้มากพอแล้ว หรือน�ำความรู้ไปใชผ้ ิดๆ จนเกดิ นสิ ยั ไม่ดี บม่ เพาะความชวั่ จนเกินแก้ 20 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
www.kalyanamitra.org โลกยอ่ มสงบสุข 21 หากมีสัจจะต่อความดี
www.kalyanamitra.org
สจั จะทม่ี นุษย์ตอ้ งรีบรู้ ประการท่ี ๑ • คณุ ค่าชวี ิตมนุษย์ • องค์ประกอบชีวติ มนษุ ย์ • คณุ ลกั ษณะพเิ ศษกายและใจมนษุ ย์ www.kalyanamitra.org
คุณค่าชวี ติ มนษุ ย์ มนุษย์เป็นสัตว์โลกประเภทเดียวเท่าน้ันท่ีมีศักยภาพเข้าถึง ความจรงิ ทงั้ ปวง ดว้ ยการฝกึ ตนใหม้ สี จั จะตอ่ ความดกี อ่ น จากนน้ั ย่อมสามารถก�ำจัดต้นเหตุความทุกข์ เข้าถึงความสุขแท้จริงได้ แต่การได้อัตภาพร่างกายเป็นมนุษย์น้ันยากแสนยาก ดังบรรพชน ผู้รู้อุปมาความยากไว้ว่า ในมหาสมทุ รมหี ว่ งตาเดยี วอนั หนงึ่ ลอยไปลอยมา ถา้ ทกุ รอ้ ยปี มเี ตา่ ตาบอดตวั หนงึ่ โผลข่ นึ้ มาบนผวิ นำ�้ โอกาสทห่ี วั เตา่ ตวั นน้ั บงั เอญิ สอดเขา้ ไปในหว่ งนนั้ พอดียากแคไ่ หน ต้องใช้เวลามริ กู้ ่ีล้าน ๆ ปี แต่ ถึงยากและใช้เวลานานขนาดน้ัน ก็ยังง่ายกว่าและเร็วกว่าการท่ีเต่า ตัวน้นั จะไดก้ ลับมาเกดิ เปน็ มนุษย์อกี อย่างไรก็ตาม บัดน้ีเราได้รับโอกาสอันแสนยากเกิดมาเป็น มนุษย์แล้ว จึงต้องรีบศึกษาว่าชีวิตมนุษย์มีองค์ประกอบ และ คุณลักษณะพิเศษของแต่ละองค์ประกอบอย่างไร จึงท�ำให้มนุษย์ มีศักยภาพเข้าถึงความจริงท้ังปวง และมีศักยภาพสร้างสรรค์ อเนกอนนั ตถ์ ึงปานนัน้ 24 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
องค์ประกอบชีวติ มนษุ ย์ มนุษย์ทุกชีวิตไม่ว่าจะชาติใดภาษาใด ต่างมีองค์ประกอบ เหมือนกัน คือ มีกายหรือร่างกายท่ีเป็นมนุษย์ และมีใจท่ี ต้องอาศัยอยู่ในกายมนุษย์นั้น โดยใจท�ำหน้าที่เป็นนาย กาย ท�ำหน้าที่เป็นบ่าว ทั้งกายและใจต้องอยู่ด้วยกัน ท�ำงานร่วมกัน และพ่งึ พากัน หากแยกตดั ขาดกนั เมอื่ ใด ความมีชีวิตกด็ บั ไปเม่อื น้ัน ถา้ มีแตก่ ายไมม่ ีใจเรียกวา่ ศพ ถ้ามแี ตใ่ จไม่มีกายเรยี กวา่ ผี กาย มีชือ่ เรียกอีกอยา่ งวา่ รปู เพราะเป็นรปู ธรรมทส่ี ามารถ มองเห็น สัมผัส และจับต้องได้ ตรงข้ามกับใจ ใจเป็นนามธรรม คือ เป็นส่ิงที่คนท่ัวไปไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อ จับต้องไม่ได้ แต่ทุกคนก็รู้ว่า ใจมีอยจู่ รงิ เพราะคนทม่ี ชี วี ติ เทา่ นนั้ จงึ สามารถเหน็ จำ� คดิ และรเู้ รอื่ งราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เคลื่อนไหวได้ ซึ่งแตกต่างจากคนตาย ท่ีใจ ได้ตัดขาดออกจากกายแล้ว แม้อวัยวะร่างกายยังอยู่ครบตามปกติ ทุกอย่าง แต่กายก็ไม่สามารถรับรู้โต้ตอบอะไรกับใครได้อีกแล้ว เคล่ือนไหวไม่ได้ ทำ� การงานต่าง ๆ ไม่ได้ ไดแ้ ตน่ อนตายข้นึ อืด รอให้ เขาเอาไปเผาท้งิ เท่านนั้ องค์ประกอบชวี ิตมนษุ ย์ แสดงดงั ภาพที่ ๑ www.kalyanamitra.org สัจจะทีม่ นุษยต์ อ้ งรบี รู้ ๑ 25 คุณคา่ ชีวิตมนุษย์
ภาพท่ี ๑ องค์ประกอบชีวิตมนษุ ย์ 26 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
คณุ ลกั ษณะพิเศษกายและใจมนษุ ย์ ในบรรดาสรรพสัตว์บนโลกน้ี มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่มีจ�ำนวน น้อยกว่าสัตว์โลกหลายชนิดอย่างลิบลับ แต่มนุษย์กลับสามารถน�ำ ส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ มาใช้ท�ำประโยชน์แก่การด�ำรงชีวิตได้มากกว่า สตั วโ์ ลกชนดิ อ่ืน ๆ อยา่ งมหาศาล เชน่ น�ำเหล็กมาสรา้ งยานพาหนะ เพอ่ื อำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทางใหร้ วดเรว็ ขน้ึ หรอื สรา้ งอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ หำ้� หน่ั ทำ� ลายลา้ งเพอื่ นมนษุ ยด์ ว้ ยกนั อยา่ งไรค้ วามปราณี นน่ั ย่อมแสดงว่า มนุษย์เปน็ สตั วโ์ ลกท่ีมีคณุ สมบัตพิ ิเศษบางอย่าง เหนอื สรรพสตั วท์ ง้ั ปวง จงึ มศี กั ยภาพอเนกอนนั ตท์ งั้ ดา้ นสรา้ งสรรค์ และท�ำลายรวมอยู่ในตัวผู้เดียว ธรรมชาติความจริงที่ก่อให้เกิด คุณสมบัติพเิ ศษข้ึนในตวั มนษุ ย์ทสี่ ำ� คัญมี ๒ ประการ คอื ๑. ลักษณะพิเศษกายมนษุ ย์ มนษุ ยม์ โี ครงสรา้ งรา่ งกายทไี่ ดร้ บั การพฒั นาอยา่ งสงู สดุ แลว้ ตามธรรมชาติ ไมม่ สี ัตวโ์ ลกชนิดใดเทียบเทียมได้ เพราะกายมนษุ ย์ มีคุณลกั ษณะพเิ ศษ ๒ ประการ คอื ๑.๑ กายมนุษย์ต้ังฉากกับพื้นโลก มนุษย์เป็นสัตว์โลก ชนิดเดียวที่ธรรมชาติปรุงแต่งให้กระดูกสันหลังต้ังฉากกับพ้ืนดิน ล�ำตัวและขาทั้ง ๒ ข้าง ต่อกันในแนวด่ิง ไม่ว่าจะยืน เดิน น่ัง กายมนษุ ยจ์ งึ ไมฝ่ นื ตา้ นกบั แรงโนม้ ถว่ งของโลก เปน็ เหตใุ หแ้ มม้ นษุ ย์ มีเพียงสองเท้าก็สามารถเคล่ือนไหวร่างกายได้คล่องแคล่ว รวดเร็ว www.kalyanamitra.org สัจจะทมี่ นุษย์ตอ้ งรบี รู้ ๑ 27 คณุ คา่ ชีวติ มนุษย์
ว่องไว โดยไม่ต้องสูญเสียพลังงานมาก ไม่ว่าจะเดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้ายขวา หมุนตัวกลับหน้ากลับหลัง ลักษณะพิเศษกายมนุษย์ แสดงดังภาพท่ี ๒ ภาพที่ ๒ ลกั ษณะพเิ ศษกายมนุษย์ เพราะลำ� ตวั กบั ขาทงั้ สองขา้ งตอ่ ขนานกนั มนษุ ยจ์ งึ นอนราบ ได้ ทง้ั หงาย ควำ�่ และตะแคง ท�ำใหน้ อนหลับพักผ่อนได้เต็มท่ี ขณะ ท่ีสตั ว์บางชนิด เช่น ม้าต้องยนื หลับ เป็นตน้ สตั วส์ ่เี ท้าและสตั ว์เท้า มากชนดิ ต่าง ๆ แม้ยืนเฉย ๆ ก็ต้องใช้ขาคู่หน้าช่วยคำ้� พยงุ รา่ งกาย เปด็ ไกแ่ ม้มีสองขาคล้ายมนษุ ย์ เวลาวงิ่ กย็ งั ตอ้ งกางกระพอื ปกี ชว่ ย พยงุ ตวั ทั้งนี้เพราะกระดูกสันหลังของสัตว์เดรัจฉานทุกชนิดในโลก ล้วนขนานหรือเอียง ไม่ต้ังฉากกับพื้นดินนั่นเอง แม้ยังไม่ได้ท�ำการ งานอะไร เพยี งกา้ วเดนิ แตล่ ะกา้ วสตั วก์ ต็ อ้ งใชพ้ ลงั งานมากแลว้ เปรยี บ เทยี บต�ำแหน่งศรี ษะและลำ� ตัวของมนุษย์กบั สัตว์ แสดงดังภาพท่ี ๓ 28 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
ตัวเงนิ ตัวทอง เสือ วัว มนุษย์ ภาพท่ี ๓ เปรียบเทยี บตำ� แหนง่ ศีรษะ และลำ� ตวั ของมนษุ ยก์ บั สตั ว์ www.kalyanamitra.org สัจจะทมี่ นุษย์ตอ้ งรบี รู้ ๑ 29 คุณค่าชวี ิตมนุษย์
๑.๒ ศรี ษะมนษุ ยเ์ ปน็ อวยั วะทอ่ี ยเู่ หนอื ทกุ สว่ นของรา่ งกาย ต่อกับร่างกายในแนวด่ิง กะโหลกศีรษะของมนุษย์จึงถูกกระทบ กระแทกได้ยาก ขณะท่ีสัตว์เดรัจฉานทุกชนิดมีกระดูกสันหลัง ขนานกบั พนื้ ดนิ บงั คบั ใหห้ วั สตั วต์ อ้ งอยใู่ นแนวระนาบระดบั เดยี วกบั ล�ำตัว เมื่อสัตว์เดิน หัวจึงน�ำไปก่อนล�ำตัว ดังน้ันโอกาสที่หัวจะถูก กระแทกกระเทือนจึงมีมาก ย่ิงเม่ือเวลาสัตว์ต่อสู้กันต่างต้องใช้ สว่ นหวั ชนกัน ขวิดกัน กัดกัน จิกตกี ัน กะโหลกหวั สตั ว์ก็ย่งิ มโี อกาส บอบช้�ำ กระทบกระแทกแตกท�ำลายได้งา่ ยขึน้ ไปอกี เมื่อเทียบสัดส่วนโดยรูปร่างและน�้ำหนักระหว่างหัวกับ ล�ำตัว กะโหลกสตั วย์ อ่ มทั้งหนาและหนกั เพราะตอ้ งเป็นฐานรองรับ เขย้ี ว เขา นอ งา ซงึ่ เปน็ อาวธุ ประจำ� ตวั จงึ เหลอื พน้ื ทบี่ รรจเุ นอ้ื สมอง ไว้ไดน้ อ้ ย ขณะทกี่ ะโหลกมนษุ ยใ์ หญ่ บาง และเบากวา่ กะโหลกของ สตั วช์ นดิ อนื่ ๆ มาก จงึ บรรจเุ นอ้ื สมองซงึ่ เปน็ อปุ กรณส์ ำ� คญั ในการ รบั สง่ ขอ้ มลู ไป-กลบั ระหวา่ งภายนอกกบั ใจไดม้ ากกวา่ ทำ� ใหม้ นษุ ย์ มอี ปุ กรณส์ อื่ สารครบบรบิ รู ณใ์ นการเหน็ จำ� คดิ และรู้ อยา่ งทไ่ี มม่ ี สตั วโ์ ลกชนดิ ใดเทยี บได้ เปรยี บเทยี บขนาดสมองของสตั วแ์ ละมนษุ ย์ โตเตม็ วยั กบั ขนาดกะโหลก แสดงดังภาพที่ ๔ 30 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
ตวั เงนิ ตัวทอง เสอื ววั มนุษย์ ภาพท่ี ๔ เปรียบเทียบขนาดสมองของสัตว์ และมนุษย์โตเต็มวยั กับขนาดกะโหลก www.kalyanamitra.org สัจจะทมี่ นุษยต์ ้องรบี รู้ ๑ 31 คณุ ค่าชวี ติ มนุษย์
๒. ลกั ษณะพเิ ศษของใจมนษุ ย์ บรรพชนผู้รู้ท่านได้ศึกษาค้นคว้าคุณสมบัติและพลัง อันน่าอัศจรรย์ของใจไว้อย่างลุ่มลึก สรุปเป็นความจริงท่ีต้องรีบรู้ ได้วา่ ๒.๑ ใจมีลักษณะเปน็ ดวงกลม จงึ เรียกว่า ดวงใจ เน้ือใจ ใสมาก ใสกว่าเพชรหรือรัตนชาติใด ๆ ในจักรวาล ใสจนกระท่ัง ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อของมนุษย์ แต่เห็นได้ด้วยตาทิพย์ ท�ำให้ใจใสสว่างด้วยตัวเอง เป็นความสว่างน่าอัศจรรย์ คือ สว่าง เหมือนแสงอาทิตย์ แต่นุ่มนวล เย็นตา เหมือนแสงจันทร์ในคืน วนั เพ็ญ ความใสสว่างของใจนี้จะลดลง เม่ือปล่อยใจให้เที่ยว ออกไปนอกตัว ใจย่ิงเท่ียวเตลิดไปไกลตัวเท่าไร ย่ิงไปติดในรูป เสยี ง กลนิ่ รส สมั ผสั และอารมณอ์ นั นา่ ใครภ่ ายนอกมากเทา่ ไร ความ ใสสว่างของใจก็ยิ่งลดลงมากเท่านั้น ถ้าใจยิ่งคิด พูด และ ท�ำสิ่งไม่ดี ผิดจากความจริงมากเท่าไร ใจก็ยิ่งขุ่นมากเท่าน้ัน พร้อมกันน้ันความใสสวา่ งก็ยง่ิ ลดลงมากเทา่ นน้ั เชน่ เดยี วกนั ทำ� นองกลบั กนั หากใจอยใู่ กลต้ วั มากเทา่ ไร ยงิ่ อยใู่ นตวั หรืออยู่กลางตัวได้นานเท่าไร ความใสสว่างของใจก็ยิ่งมาก สุดประมาณเท่าน้ัน ท�ำให้ใจรับรู้ข้อมูลภายนอกที่ผ่านประสาท สมั ผสั ท้งั ๕ ไดร้ วดเรว็ ถูกตอ้ งชดั เจน ตรงตามความเปน็ จริงได้ มากขนึ้ 32 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
๒.๒ ใจเป็นธาตุรู้ ขณะที่กายประกอบด้วยธาตุหยาบ ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน�้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ธาตุท้ัง ๔ นี้ ไม่ใช่ธาตุรู้ กายจึงรู้ไม่ได้ แต่ใจเป็นธาตุละเอียด ตามนุษย์และอุปกรณ์ใด ๆ ไม่สามารถช่วยให้เห็นใจได้ ใจเป็นธาตุรู้มีการท�ำงาน ๔ ข้ันตอน ท่ที �ำใหร้ ู้เหน็ ความจริงได้ ดังนี้ ๑) ข้ันเหน็ ประสาทสัมผสั ท้งั ๕ รับขอ้ มลู ภายนอก สง่ ใหส้ มอง แลว้ สมองสง่ ขอ้ มูลนน้ั ให้ใจ กล่าวคือ เมือ่ ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกล่ิน ลิ้นกระทบรส กายกระทบสัมผัส จากคน สัตว์ สง่ิ ของ และธรรมชาติแลว้ ประสาทตา หู จมูก ลิน้ และ กายกส็ ่งรปู เสียง กลน่ิ รส และสัมผัสน้นั ๆ ไปให้สมอง โดยสง่ เป็น คลน่ื เหน็ ไปใหส้ มอง แลว้ สมองกส็ ง่ คลนื่ เหน็ เหลา่ นน้ั ไปใหใ้ จ ใจจงึ เห็นสิ่งเหลา่ นั้นเป็นภาพตามไปดว้ ย พร้อมกับอารมณ์ทีใ่ จรู้สกึ ๒) ขน้ั จ�ำ เมื่อคลนื่ เห็นของรปู เสียง กลน่ิ รส และ สมั ผสั สง่ มาถงึ ใจแลว้ ใจกบ็ นั ทกึ ภาพคลนื่ เหน็ เหลา่ นน้ั ใหเ้ ปน็ รปู และ อารมณท์ ใี่ จรสู้ กึ เปน็ ข้อมลู ความจำ� เกบ็ ไว้ในใจ ๓) ขั้นคดิ ใจนำ� ภาพรูป เสียง กลน่ิ รส สัมผัส และ อารมณ์ทใี่ จร้สู ึก เกี่ยวกบั คน สตั ว์ สิง่ ของ ธรรมชาติ ท่ีเห็นจากคลื่น เห็น มาคิดวา่ คืออะไร มคี ุณหรอื โทษ มหี รอื ไมม่ ีประโยชนอ์ ยา่ งไร ๔) ขน้ั รู้ เมอื่ ใจคิดแล้ว กเ็ กิดการรู้ว่า ตนต้องท�ำอะไร กับใคร ทไ่ี หน อย่างไรต่อไป และรูด้ ้วยว่าท�ำไมตอ้ งทำ� ท�ำอย่างไรจะ ไมท่ �ำให้เดอื ดรอ้ นต่อตนเอง ผอู้ ื่น และส่ิงแวดลอ้ ม www.kalyanamitra.org สัจจะทมี่ นุษย์ต้องรบี รู้ ๑ 33 คุณคา่ ชีวิตมนุษย์
ภาพที่ ๕ การทำ� งานของใจ 34 สัจจะ ต่อความดี ภาพที่ ๖ การรับอารมณ์ อานุภาพพลกิ โลก www.kalyanamitra.org
ขั้นตอนการท�ำงาน ๔ ขั้นของใจ ซ่ึงแสดงดังภาพท่ี ๕ และ ๖ จะเปน็ ไปอย่างถกู ตอ้ งตรงความจริงของเรอ่ื งน้ันมากเทา่ ไร นอกจากขนึ้ กบั ความชดั ของรปู เสยี ง กลนิ่ รส และสมั ผสั ทสี่ ง่ มาแลว้ ยังต้องข้ึนกับวา่ ผู้นั้นได้ฝึกฝนเจริญสมาธิมาช�่ำชองจนใจหยุดน่ิง อยู่กลางตัวได้มากเท่าไร ยิ่งใจหยุดน่ิงอยู่กลางตัวได้นานเท่าไร ใจก็ย่ิงเห็น จ�ำ คิด และรู้เรื่องราวน้ัน ๆ ได้ถูกต้องตรงตาม ความเป็นจรงิ มากเทา่ น้ัน ปัญญาก็ยงิ่ เพิ่มพนู เป็นเงาตามตวั ๒.๓ ใจรับรู้ข้อมูลเร่ืองราวต่าง ๆ จากภายนอกได้ทีละ เรื่องอย่างรวดเรว็ มาก จากการที่ขอ้ มูลเร่อื งราวตา่ ง ๆ แม้ผา่ นตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น ลิ้นล้ิมรส และกายสัมผัสจับต้องพร้อม ๆ กัน หลายเรอื่ ง แตไ่ มว่ า่ จะระดมมาพรอ้ มกนั กเ่ี รอ่ื งกต็ าม ใจยอ่ มสามารถ แยกรับรู้ทีละเรอ่ื ง ๆ ได้อยา่ งรวดเรว็ ขอ้ มลู ท่ีรับมาแต่ละเรื่องจึงไม่ สบั สนปนเปกนั ๒.๔ ใจต้องมีกายเป็นบ้านให้อยู่อาศัย ใจจะอยู่ลอย ๆ ตามล�ำพังไมไ่ ด้ ใจของใครกต็ อ้ งมกี ายของผู้นน้ั เปน็ บา้ นให้อยู่อาศัย โดยใจมีฐานที่ต้ังถาวรอยู่ตรงศูนย์กลางกายเหนือจากสะดือ ของผนู้ ้ันขึน้ มา ๒ นิ้วมือ ดังภาพที่ ๗ www.kalyanamitra.org สัจจะทีม่ นุษย์ตอ้ งรีบรู้ ๑ 35 คณุ คา่ ชวี ิตมนุษย์
ภาพท่ี ๗ ฐานที่ตั้งของใจ 36 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
๒.๕ ใจไร้น้�ำหนัก ใจจึงหนีเท่ียวไปได้ไกลแสนไกล โดยไม่ต้องใช้ยานพาหนะใด ๆ ใจออกเท่ียวไปกลับวันละนับครั้ง ไมถ่ ว้ น โดยทแ่ี ตล่ ะคร้ังกายไม่รสู้ ึกเลย เพราะใจเบาไรน้ ้�ำหนัก ๒.๖ ใจมีความเร็วยิ่งกว่าแสง เพียงช่ัวกะพริบตา คร้ังเดียว ใจก็เที่ยวไปถึงดวงอาทิตย์และกลับมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าใจสามารถไปเที่ยวดวงอาทิตย์วันละกี่ล้านครั้งก็ได้ โดยไม่รู้จัก เหนอ่ื ย แสดงว่าใจทรงพลงั มหาศาล เหนือกวา่ พลงั งานใด ๆ ที่มีอยู่ ในโลกน้ที กุ ชนดิ กวา่ จะรคู้ วามจรงิ เรอ่ื งใจดงั ทก่ี ลา่ วมา บรรพชนผรู้ ตู้ อ้ งยอม สละชีวติ ครั้งแล้วครัง้ เล่ากว่าจะค้นคว้าให้ไดม้ า www.kalyanamitra.org สัจจะทมี่ นุษย์ตอ้ งรบี รู้ ๑ 37 คณุ ค่าชวี ติ มนุษย์
ยง่ิ ใจหยุดนิ่งอยูก่ ลางตวั ไดน้ านเท่าไร กย็ ่ิงเหน็ จ�ำ คดิ และรู้ไดถ้ ูกต้อง ตรงตามความเปน็ จริงมากเท่าน้นั ปญั ญากย็ ิง่ เพิ่มพูนเปน็ เงาตามตวั www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org โลกยอ่ มสงบสุข 39 หากมีสัจจะต่อความดี
40 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
สจั จะทม่ี นุษย์ตอ้ งรบี รู้ ประการท่ี ๒ • โรค ๖ ประจ�ำกาย • โรค ๓ ประจ�ำใจ • ความสัมพันธ์ระหวา่ งโรค ๖ ประจ�ำกายกับโรค ๓ ประจำ� ใจ www.kalyanamitra.org
โรค ๖ ประจำ� กาย มนุษย์ทุกคนบนโลก ต่างมีโรคประจำ� กายที่ตามบ่ันทอนกาย ใหเ้ สอ่ื มอยทู่ กุ ลมหายใจตง้ั แตเ่ กดิ จนกระทง่ั แก่ เจบ็ และตายในทส่ี ดุ โรคเหลา่ นัน้ ก็คอื ๑) โรคหนาว ๒) โรครอ้ น ๓) โรคหวิ ๔) โรค กระหาย ๕) โรคปวดอจุ จาระ และ ๖) โรคปวดปัสสาวะ แต่โดยท่ัวไปมักมองว่า โรค ๖ ประจ�ำกายเป็นเพียงอาการ กระสับกระส่ายทางกายธรรมดาประจ�ำวันของมนุษย์ เช่นเดียวกับ การหายใจเข้าออก จึงมักปล่อยปละละเลยไม่เฉลียวใจว่า โรค ๖ ประจ�ำกายน้ี มีพิษสงร้ายกาจท�ำลายโลกทั้งโลกได้ ไม่ว่าโดยตรง หรือโดยออ้ ม โดยมสี าเหตุคือ ๑. ท�ำให้ทุกคนเกิดมากายก็เปื้อนสกปรกออกมาจากครรภ์ มารดา ซง่ึ มารดาก็เป็นโรค ๖ ประจำ� กายอยกู่ ่อนแลว้ ๒. ทันทีท่ีเกิดมาต่างคนต่างก็ผลิตขยะออกมาจากกาย ต้งั แตห่ ายใจออกเป็นอากาศเสีย พร้อมกบั ผลติ นำ้� ตา นำ้� มกู นำ้� ลาย ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ ก่อความสกปรกเปื้อนเปรอะท้ังต่อตนเอง ผ้อู ่ืน และสงิ่ แวดล้อมไปตลอดชีวติ ๓. หากผู้ใดมักง่ายดูเบาในการก�ำจัดความสกปรกท่ีตนเอง ผลติ ขนึ้ มายอ่ มส่งผลให้ ๓.๑) สุขภาพย่อมทรุดโทรมง่าย เป็นโรคอ่ืนนานาชนิด ตามมาไดง้ า่ ย 42 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
๓.๒) เกิดนิสัยเสียต่าง ๆ ตามมาจากความมักง่ายในการ ก�ำจัดความสกปรกชนิดน้ัน ๆ ๓.๓) ตอ้ งทำ� กรรมชวั่ เนอื่ งจากความมกั งา่ ยทกุ ชนดิ แมใ้ น เร่ืองเล็กน้อยล้วนเป็นการท�ำกรรมช่ัวท้ังสิ้น ไม่เว้นแม้การอาบน้�ำ ทำ� ความสะอาดรา่ งกาย สง่ิ ของเครอื่ งใช้ บา้ นเรือน ซง่ึ เปน็ เรือ่ งส่วนตวั ดงั นน้ั กรรมชว่ั ของชาวโลกทกุ คน จงึ เรม่ิ ตน้ ทค่ี วามมกั งา่ ยในการ ท�ำความสะอาดหรือการก�ำจัดความสกปรก ซ่ึงเกิดจากโรค ๖ ประจ�ำกายของแตล่ ะคนทัง้ สิ้น ๓.๔) ทันทีที่เกิดค่าใช้จ่ายในครอบครัว การใช้และ ทำ� ลายทรพั ยากรจากสง่ิ แวดลอ้ มก็เกดิ ตามมา ยง่ิ ใครมกั ง่าย ใชจ้ า่ ย สิ้นเปลือง ยิ่งท�ำลายส่ิงแวดล้อมมากยิ่งข้ึน อันเป็นท่ีมาของปัญหา เศรษฐกิจ จิตใจ สังคม การเมอื ง ฯลฯ ไม่รู้จบ ด้วยเหตุดังกล่าวความร้ายกาจของโรค ๖ ประจ�ำกาย จึงนา่ สะพรึงกลัวย่งิ นัก แต่ทัง้ โลกหาใครมองออกไดย้ าก ตรงกันข้าม ผู้ใดได้รับการอบรมส่ังสอน ช้ีทางถูกจาก กัลยาณมิตรให้มีความส�ำรวมในการท�ำความสะอาด ความส�ำรวม ในการจัดระเบียบไว้ดีแล้ว ย่อมสามารถควบคุมโรค ๖ ประจ�ำ กายได้ดี สุขภาพกายย่อมแข็งแรง โรค ๓ ประจ�ำใจก็บรรเทา ความสำ� รวมในการทำ� ความสะอาดและจดั ระเบยี บ จงึ เปน็ รากฐาน ของความดีท้ังปวง จัดเป็นการท�ำกรรมดีที่ต้องฝึกอย่างย่ิงยวด กวดขันจนตลอดชีวิตทั้งหญงิ ชายต้ังแต่ยังเยาว์ สัจจะทมี่ นุษย์ต้องรบี รู้ ๒ 43 www.kalyanamitra.org
เพราะโรค ๖ ประจำ� กายน้ี เปน็ โรคทไี่ มม่ ยี ารักษาให้หายขาด หมอทงั้ โลกกร็ กั ษาไมไ่ ด้ ทำ� ใหต้ อ้ งคอยควบคมุ ดแู ลโรค ๖ ประจำ� กาย ดว้ ยตัวเองไปตลอดชวี ติ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิตนอย่างน้อย ดงั นี้ ๑. มีความช่างสังเกต ไม่มักง่าย ไม่ขาดสติในทุกเร่ืองราว ท่ตี อ้ งเก่ียวข้อง ๒. รู้ประมาณการบรโิ ภคอาหาร ไมใ่ ช่อยูเ่ พื่อกิน แต่กินเพอ่ื อยู่ อยเู่ พ่ือปราบกิเลส แก้ไขนิสัยไมด่ ีของตัวเอง และตั้งใจสรา้ งบญุ ๓. ท�ำความสะอาด ร่างกาย เคร่ืองนุ่งห่ม สิ่งของเคร่ืองใช้ และทีอ่ ย่อู าศัยใหส้ ะอาดเปน็ นจิ ๔. จัดระเบียบ พ้ืนท่ีบริเวณที่ตนอยู่อาศัยให้อากาศถ่ายเท สิ่งของเครื่องใช้ต้องแยกให้ชัดว่า ส่ิงไหนจ�ำเป็น ส่ิงไหนส่วนเกิน จดั วางถกู ทถี่ กู วธิ ี เพอื่ หยบิ กง็ า่ ย หายกร็ ู้ ดกู ง็ ามตา รวมทงั้ จดั ระเบยี บ อิริยาบถ ๔ ของตน คือ ยืน เดนิ นัง่ และนอนให้ถกู ต้อง ๕. สุภาพ กิริยาท่าทางสุภาพ ตามแบบแผนและวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม มีการเคลื่อนไหวอิริยาบถท่ีนุ่มนวล จะเปิด-ปิด ประตหู นา้ ตา่ ง หยบิ จบั ล้างถว้ ยชาม หรือขา้ วของเครื่องใช้ท้ังหลาย ก็ไมเ่ สียงดงั โครมคราม โพล้งเพลง้ ท�ำให้เกดิ อบุ ตั ิเหตุได้ยาก 44 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
๖. ตรงตามเวลา กนิ นอน ตน่ื และขับถ่ายถกู เวลา ตรงเวลา ๗. ใจเป็นสมาธิ หมั่นเก็บรักษาใจให้หยุดนิ่งม่ันคงไว้ในตัว ด้วยการนกึ ถงึ องคพ์ ระ ดวงแก้ว หรอื ก�ำหนดลมหายใจเป็นนิจ ความส�ำรวมในการทำ� ความสะอาด และจดั ระเบยี บ จึงเป็นรากฐาน ของความดีทง้ั ปวง จัดเปน็ การทำ� กรรมดที ่ตี อ้ งฝกึ อย่างย่งิ ยวดกวดขันตลอดชีวติ ทัง้ หญงิ ชายตง้ั แต่ยงั เยาว์ สัจจะทมี่ นุษย์ตอ้ งรีบรู้ ๒ 45 www.kalyanamitra.org
โรค ๓ ประจ�ำใจ การที่ใจมีโรค ๓ ประจำ� ใจ เพราะใจถกู ธาตุชนดิ หน่งึ ทส่ี กปรก มาก ละเอียดมาก และมพี ษิ รา้ ยแรงมาก ฝงั ตวั เข้าไปอย่ใู นใจต้ังแต่ เกิด ธาตรุ า้ ยน้ี บบี ค้นั บ่อนทำ� ลายใจไมเ่ คยหยดุ จนกระท่ังสัตวโ์ ลก น้ันตายไป ด้วยการท�ำให้ใจขุ่นมัวและมืดบอด อันเป็นเหตุให้ การเห็น จำ� คิด และร้ใู นสิง่ ต่าง ๆ ไม่ถกู ตอ้ งตรงตามความจรงิ ใจ จึงเห็นผดิ ๆ จำ� ผิด ๆ คดิ ผดิ ๆ รู้ผิด ๆ แล้วท�ำกรรมชัว่ ในรปู แบบ ต่าง ๆ โดยแบ่งกรรมชั่วออกได้เป็น ๓ รูปแบบ จึงต้ังช่ือโรคตาม ลักษณะการทำ� กรรมชัว่ ประเภทนน้ั ๆ ว่า ๑. โรคโลภะ โดยท�ำให้ใจขุ่นมัว เกิดความอยากได้ไม่รู้จบ มีความกำ� หนัดยงิ่ ๆ ขึน้ ไป เชน่ อยากไดข้ องผู้อนื่ ในทางมิชอบรำ�่ ไป ๒. โรคโทสะ โดยท�ำให้ใจขุ่นมัว เกิดความขัดเคืองใจ โกรธ คดิ ท�ำลาย หงดุ หงิด และเดือดร้อนใจไม่รู้สรา่ ง ๓. โรคโมหะ โดยท�ำใหใ้ จขนุ่ มวั เกดิ ความหลง ความมดื บอด ขลาดเขลา ไม่ค�ำนึงถึงเหตุผล รวมท้ังเป็นเหตุให้เกิดโลภะและ โทสะอีกดว้ ย เพราะถกู โรคประจ�ำใจทั้ง ๓ ประเภทน้บี ีบคนั้ ใจจึงชอบหนี เตลิดออกจากกลางกายอันเป็นบ้านของใจ และเป็นศูนย์กลางท่ี ช่วยให้ใจรู้เห็นความจริงของโลกและชีวิตได้ถูกต้อง ใจเตลิดหนี เทยี่ วไปเมื่อใด ก็ไปเสพคุน้ ติดในรปู เสียง กลน่ิ รส สมั ผสั และ 46 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลิกโลก
อารมณน์ ่าใคร่ นา่ พอใจ จากคน สตั ว์ และส่ิงของตา่ ง ๆ ภายนอก เม่ือนน้ั หากถูกใจ ชอบใจสิ่งใดหรือผู้ใด โรคโลภะก็ก�ำเริบ อยากได้ สิ่งนั้นหรือผู้นั้น แม้มิใช่ของ ๆ ตน แต่ก็จ้องจะเอามาให้ได้แม้ ในทางทไ่ี มช่ อบ หากไม่ถูกใจสิ่งใดหรือผู้ใด โรคโทสะก็ก�ำเริบ จ้องจะท�ำลาย ส่ิงน้นั หรอื ผูน้ น้ั ให้เสยี หายเดือดร้อน หากหลงใหลสิ่งใดหรือผู้ใด โรคโมหะก็ก�ำเริบ ไม่ค�ำนึงถึง เหตุผล ประพฤติปฏิบัติต่อสิ่งน้ันหรือผู้นั้นอย่างโง่เขลา ท�ำให้ ต้องเดือดร้อนในภายหลงั เพราะโรค ๓ ประจำ� ใจกำ� เรบิ ไมย่ อมหยดุ ความทกุ ขต์ า่ ง ๆ จงึ ถาโถมเข้าท�ำลายบีบคั้นสัตว์โลกไม่ว่างเว้น เม่ือทุกข์มากเท่าไร ใจก็ขุ่นมากเท่าน้ัน เพียงแค่จะเห็นใจตัวเองก็แสนยาก ต้องเพียร ต้ังสติ เจริญสมาธิชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันเท่านั้น จึงจะเห็นใจ ตนเองได้ แต่การท่ีจะรู้เห็นโรค ๓ ซึ่งฝังลึกภายในใจย่ิงแสนยาก ข้ึนไปอกี เพราะโรคทัง้ ๓ น้ี เป็นธาตสุ กปรกท่ีละเอยี ดมาก ๆ ละเอียด จนแทรกเข้าไปในเนื้อใจซ่ึงแสนละเอียดอยู่แล้วได้ จึงไม่ต้องพูด ถึงวา่ การรู้เห็นวธิ ีการควบคุมโรค ๓ ประจ�ำใจ จะยากแสนเขญ็ ยง่ิ ขน้ึ เพียงไหน แต่บรรพชนผู้รู้ ก็ไดค้ น้ คว้าหาความรเู้ หลา่ นีเ้ ตรยี ม ไวใ้ ห้เราเรยี บร้อยแลว้ สัจจะทีม่ นุษยต์ ้องรีบรู้ ๒ 47 www.kalyanamitra.org
การควบคมุ รักษาโรค ๓ ประจ�ำใจ กระทำ� ได้ดังนี้ ๑. เราตอ้ งฝกึ ตนใหม้ สี ามญั สำ� นกึ ความเปน็ มนษุ ยอ์ ยา่ งมนั่ คง คือ สามารถเตือนตนเองได้เสมอว่า ส่ิงใดท่ีเราไม่อยากให้ใครท�ำ กับเรา เพราะมันท�ำให้เราเดือดร้อน เราเองก็ต้องไม่ไปทำ� ส่ิงน้ัน กบั ผู้อ่นื หรืออย่าพดู อย่าทำ� กับผอู้ ื่น ในสง่ิ ทีเ่ ราไม่ชอบน้นั ๆ ๒. เราต้องหม่ันเข้าหากัลยาณมิตรเพื่อให้ท่านชี้ทางสว่าง แกโ้ รค ๓ ใหเ้ รา ๓. เราต้องมีความกตัญญูกตเวทิตาและความเคารพต่อ กลั ยาณมติ รผู้มอี ปุ การคณุ แกเ่ ราเสมอ เปน็ การตอบแทนพระคณุ ทา่ น และเป็นก�ำลังใจให้ท่านได้ท�ำหน้าท่ีกัลยาณมิตรต่อชาวโลกให้ ย่ิง ๆ ข้ึนไป ๔. เราต้องต้ังใจฟังค�ำสอนของกัลยาณมิตร และตรองแล้ว ตรองอีกให้เข้าใจค�ำสอนของท่าน แล้วน�ำค�ำสอนนั้นมาปฏิบัติ อย่างเครง่ ครดั ใหไ้ ดผ้ ลดีเช่นเดียวกับท่านด้วย ๕. เราตอ้ งหมนั่ เจรญิ สมาธริ กั ษาใจไวก้ ลางกายเปน็ นจิ ใหเ้ ปน็ นสิ ัยประจำ� ตน เพ่อื รู้เห็นความจริงให้ย่ิง ๆ ข้นึ ไป 48 สัจจะ ตอ่ ความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งโรค ๖ ประจ�ำกาย กับโรค ๓ ประจำ� ใจ ๑. โรคหนาว-รอ้ นประจ�ำกาย ไม่ว่าโรคหนาว-ร้อนประจ�ำกายจะมีสาเหตุมาจากอากาศ ภายนอก หรือจากการเปลี่ยนแปลงอณุ หภมู ใิ นร่างกายตนเอง ล้วน บงั คบั ให้ทุกคนตอ้ งการ ๓ สงิ่ ต่อไปน้ี ๑) ต้องการอากาศบริสุทธ์ิ ที่ไม่เย็นไม่ร้อนจนเกินไปส�ำหรับ หายใจ ๒) ต้องการเส้ือผ้า เครื่องนุ่งห่ม และท่ีอยู่อาศัย เพ่ือให้ ความอบอนุ่ ต่อร่างกาย แต่ทงั้ ๒ ประการน้ี มที ้งั ทถี่ ูกใจและไม่ถกู ใจ ส่ิงใดท่ีถูกใจและ ตนเองก็ไม่รู้ประมาณ ก็อยากจะได้มาก ๆ ไว้ก่อน แม้จะต้อง แย่งชิงกันก็ยอม โรคโลภะก็จะก�ำเริบขึ้นมา ความไม่พอใจคู่ต่อสู้ ท่ีแยง่ ชิงก็เกดิ ขึน้ ถึงกบั ทำ� รา้ ยกนั โรคโทสะก็จะก�ำเริบขน้ึ มา หรอื ถา้ ไมถ่ กู ใจเสอื้ ผา้ และบา้ นเรอื นนน้ั กอ็ าจรงั เกยี จ หงดุ หงดิ คดิ ทำ� ลาย รือ้ ทิ้ง โรคโมหะก็ก�ำเริบขึน้ มา สัจจะทีม่ นุษยต์ อ้ งรีบรู้ ๒ 49 www.kalyanamitra.org
๓) ตอ้ งการกลั ยาณมติ รช้แี นะใหเ้ หน็ ตรงความจรงิ วา่ วัตถุประสงค์หลักของเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม มีไว้เพ่ือ ปอ้ งกันความหนาว-ร้อน อนั เป็นเหตุใหป้ ว่ ยไขไ้ ด้ วัตถุประสงคร์ อง มีไวบ้ ำ� บดั สมั ผัสอันตรายจากเหลอื บ ยุง ร้ิน ไร แมลงไต่ตอม ลมแดด สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย รวมทั้ง เพอื่ ปกปิดอวัยวะกันอาย หากมงุ่ นงุ่ หม่ อวดสวย อวดงาม อวดเดน่ อวดดงั อวดรำ่� รวย เมอื่ ไร แสดงว่าโรคโมหะกำ� ลังก�ำเริบครอบงำ� ท�ำใหใ้ จข่นุ ขน้ึ ๆ ยาก ทจี่ ะเห็นความจริงในส่ิงทค่ี วรรู้ควรเหน็ ย่งิ ๆ ขึ้นไป ในท�ำนองเดียวกัน วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของบ้านทอ่ี ยอู่ าศัย กเ็ พ่ือใชบ้ �ำบดั ความหนาว ความร้อน อันเป็นเหตุให้ป่วยไข้ วตั ถปุ ระสงคร์ อง เพอ่ื บำ� บดั สมั ผสั อนั ตรายจากเหลอื บ ยงุ ร้ิน ไร ลมแดด และสัตว์เล้ือยคลานท้ังหลายรบกวน เพ่ือบรรเทา อนั ตรายจากดิน ฟ้า อากาศ และเพอ่ื เปน็ ทป่ี ระกอบธรุ กิจการงาน หากใช้ผิดวัตถปุ ระสงค์ โรคโมหะก็กำ� เรบิ หากไม่รจู้ ักพอ ยนิ ดที จี่ ะไดม้ าในทางไมช่ อบ โรคโลภะกก็ �ำเริบ หากไม่พอใจถึงกบั ทุบท�ำลาย กระทบกระทั่งผอู้ ืน่ และส่งิ แวดล้อมเสยี หาย โรคโทสะ กก็ ำ� เรบิ 50 สัจจะ ต่อความดี www.kalyanamitra.org อานุภาพพลกิ โลก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184