เพราะไม่รู้สินะ ตอน รู้ทันชีวิต

www.kalyanamitra.org

ฟ้สสาวะ ftm.:-,: เป็นการขับพิษออกจากร่างกาย โดยธรรมซาติอย่างง่ายๆ อุจจาระ เป็นกระบวนการปรับธาตไฟ ให้การทำงานของร่างกายสมดุล เหงื่อ หมอซีวกโกมารภัจจ์กราบทูลพระสัมมาส้มพุทธเจ้า ให้พระภิกษุสงฆ์ทำที่จงกลมและเรือนไฟ เพื่อขับสารพิษออกทางเหงื่อ - ส์จจวาจา สามารถขับพิษออกจากร่างกายได้ www.kalyanamitra.org

สติ สติ www.kalyanamitra.org

)1 ๙ ใช้สติดำเนินดูวิต พิ^ตโรคอวน m สมัยก่อนคนเราประสบความลำบากในการทำมาหากิน ดิ้นรนแสวงหาอาหารมาหล่อเลี้ยงซืวิต ยิ่งในสมัยที่มนุษย์ยังอยู่ใน ยุคเร่ร่อนต้องใข้เวลาทั้งวันหมดใปกับการร่อนเร่หาผลไม้กลางปาบ้าง ล่าสัตว์บ้าง ใช้ชีวิตเหมือนกับสัตว์ เหมือนไก่ที่คุ้ยเขี่ยหากินทั้งวัน ในยุคฟ้จจุบันกลับตาลปีตร กลายเป็นว่าคนเรามือาหาร ทานมากเกินไป จนหลายคนเป็นโรคอ้วน ต้องหาทางลดนํ้าหนัก แล้วก็พบว่ากว่าจะลดนํ้าหนักตัวได้สักกิโลกรัม เป็นเรื่องลำบากแสน เข็ญเหลือเกิน 103 www.kalyanamitra.org

อ้วนหรือผอม ขนอยู่ที่ใจ^^ จริงๆ แล้วการลดความอ้วนไม่ได้เป็นเรื่องราวซับซ้อนอะไรเลย อ้วนได้ก็ผอมได้ ขึ้นอยู่ที่ใจของเราอย่างเดียวว่าเราอยากผอมจริงหรือไม่ ถ้าถามว่าอยากผอมด้องทำอย่างไร มีหลักการง่ายๆ 2 ข้อ คือ (1) \"มีสติในการกิน\" เราจะอ้วนได้ก็ด้องทานอาหารเข้าไปมากจนร่างกายใซ้พลังงานที่ ได้รับไม่หมด จึงถูกสะสมอยู่ในร่างกายกลายเป็นไขมัน (2) เราต้องเผาผลาญพลังงานในร่างกายด้วยการออกกำลังกาย ล้าเราทานอาหารมากแต่ใข้พลังงานน้อยก็อ้วน ล้าเราอยากผอม ก็ต้องทานอาหารให้น้อยลง แล้วออกกำลังกายให้มากขึ้น เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ ไม่ได้มีความซับซ้อนยุ่งยากเลย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตั้งใจจริงหรือไม่เท่านั้นเอง 104 www.kalyanamitra.org

ปาก ประเด็นแรก คือ ทานอาหารให้เพียงพอและพอคื คนที่มีนํ้าหนักตัวมากๆ ส่วนใหญ่จะมีคำที่พูดคล้ายคลึงกันว่า \"วันๆ ไม่ค่อยได้ทานอะไรเลย คงเป็นเพราะร่างกายเราไม่เหมีอนคนอื่น ทานนิด เดียวมันก็อ้วนเอาอ้วนเอา...\" ทางแก้ที่ดี คือ ให้จดทุกอย่างที่เราทานในแต่ละวัน อย่าใช้ความ รู้ลึกเพียงอย่างเดียว พอจดทุกอย่างที่ทานเข้าไปจริงๆ จะพบว่า ที่เคยบอกว่า ไม่ได้ทานอะไรนั้นมีทั้งนํ้าหวาน นํ้าอัดลม ขนมขบเคี้ยว กินจุบกินจิบทั้งวัน ซึ่งอาหารเหล่านี้มีพลังงานมากพอสมควร และเป็นพลังงานส่วนเกินที่พร้อม เปลี่ยนเป็นไขมันทั้งนั้น 105 www.kalyanamitra.org

เพราะฉะาfน ถ้าคิดจะลดนํ้าหนักต้องตั้งใจควบคุมอาหารอย่าง จริงจังทานอาหารให้ตรงต่อเวลาทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น ควบคุม ปริมาณอาหารให้พอดี ไม่ตามใจปากเอาความอยากเป็นที่ตั้ง มีหลักในการทานอาหารว่า เมื่อรู้ตัวว่าทานไปอีก 4-5 คำ จะอิ่ม แล้วให้หยุด จากนั้นให้ดื่มนํ้าตาม เพื่อให้อาหารที่อย่ในหลอดอาหารลงไป บวกกับนํ้า เราก็จะรู้สึกอิ่มพอดี ใครใช้สูตรนี้แสดงว่าการลดนํ้าหนักสำเร็จไปแล้ว 70-80% ทีเดียว ไมโซ่ทานจนเกินอิ่ม แน่นท้องแล้วค่อยหยุด 106 www.kalyanamitra.org

p ออกกัาลังกาย ประเด^็นท^ีสอง คีอ เผาผลาญพลังงาน คนเราพอตื่นเช้าขึ้นมาก็ลุกเดิน นั่ง อาบนํ้า ล้างหน้า แปรงฟ้น เดิน ไปทำงาน แม้ว่าเราจะทำงานในออฟฟิศ ไม่ได้มีวิถีชีวิตอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ไม่ได้ทำงานหนักและได้ออกกำลังอย่างเกษตรกร แต่การเดินไปเดินมา ก็ด้องใช้พลังงานไปในตัว เกิดการเผาผลาญพลังงานในระตับหนึ่งอยู่แล้ว ล้าเราต้องการลดนํ้าหนักก็ฃอให้ตั้งใจออกกำลังกายเป็นพิเศษ ด้วย การบริหารร่างกายแบบเอาจริงเอาจังทุกวัน ให้ทำวันละประมาณ 30นาที - 1 ซั่วโมง จะทำให้ไขมันทีสะสมอยู่ในร่างกายถูกเผาผลาญไปได้ 107 www.kalyanamitra.org

การออกกำลังกายในช่วงเวลา 25 นาทีแรก ร่างกายจะเผาผลาญ พลังงานด้วยการใช้ไกลโคเจนที่อยู่ในตับและกล้ามเนื้อ ยังไม่ได้เผาผลาญถึง ไขมัน เราจึงต้องออกกำลังกายให้เกิน 25 นาที ไปจนถึง 1 ซั่วโมง ซี่งจะทำให้ ไขมันถูกดึงออกมาใช้ ร่างกายเราก็จะมีไขมันส่วนเกินลดลงเรื่อยๆ เมื่อตั้งใจออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอจนขินเป็นนิสัยแล้ว เป็น ธรรมดาที่ร่างกายของเราจะแข็งแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ คนส่วนใหญ่ตั้งใจลด นํ้าหนักได้ไม่นานก็แพใจตัวเอง เพราะอยากกินโน่นอยากกินนี่ แต่สำหรับคน ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีแรงบันดาลใจที่ทำให้พบจุดเปลี่ยนพลิกขีวิตได้ ยกตัวอย่าง ชายหนุ่มอายุ 20 ปี ที่เคยมีนื้าหนักตัวถึง 140 กิโลกรัม วันหนี่งเขาได้แรงบันดาลใจจากพฤติกรรมการกินของตัวเองที่ส่งผลให้เขา หายใจไม่ออก จนเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย จึงคิดได้ว่า ถ้าเป็นอย่างนื้ต่อไปต้องไม่รอดแน่ เขายังไม่อยากอายุสั้น จึงตัดสินใจลดนํ้าหนักอย่างจริงจังโดยการควบคุมอาหารจากที่เคยทานครั้งละ 5 จาน ก็เหลือเพียงจานเดียว ระยะแรกพอทานนัอยกว่าปกติก็รู้สึกทรมาน เพราะความหิว รู้สึกว่าใจหวิวๆ มือไม้สั่น เกิดอาการทางกาย เพราะร่างกาย ดุนชินกับการทานอาหารมากๆ แต่เขาก็มุ่งมั่นตั้งใจ แข็งใจไม่ทาน คิดไว้ว่า อย่างไรก็คงไม่ถึงกับตาย แล้วเขาก็เริ่มออกกำลังกายอย่างสมั่าเสมอต่อเนี่อง 108 www.kalyanamitra.org

ทำ อย่างนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 8 เดือน นํ้าหนักจากเดิม 140 กิโลกรัม ลดลงมาเหลือ 67 กิโลกรัม ลดลงไปถึง 73 กิโลกรัม เฉลี่ยในเดือนๆ หนึ่งเขา ลดนี้าหนักได้ถึงเกือบ 10 กิโลกรัม ความมุ่งมั่นตั้งใจในซ่วงเวลาแค่ 8 เดือน เท่านั้น ทำ ให้เขากลายเป็นคนสมาร์ทไปเลย www.kalyanamitra.org

ว^กรรม ทำ ให้อ้วน เหตุผลในปัจจุบันที่ทำให้เราอ้วน เพราะเราทานอาหารมากและ ออกกำลังกายน้อย แต่ยังมีประเด็นที่หลายคนมองข้ามไป คือ \"วจีกรรม\" ที เกิดจากวิบากกรรมในอดีต ฅนที่ชอบพูดล้อเลียนผู้อื่นด้วยคำหยาบคาย อาจจะพูดไปด้วยความ สนุกปากไม่ทันยั้งคิดว่า \"ไอ้อ้วน\" บัาง ล้อเลียนว่า \"เอวหายไปไหน\" บ้าง พูดไปเพราะอยากจะแหย่เล่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วพอเราไปล้อเลียนเขา เขาเกิดความเขินอาย ล่งผลไห้วิบากกรรมจากวจีกรรมติดตัวเราไปด้วย ไน อนาคตเราก็จะเป็นอย่างที่ล้อเลียนเขาไว้ ภาพผังที่เราเคยไปล้อเลียนเขาไว้ มันจะเป็นผังติดอยู่ไนไจของเรา อนาคตเราก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอย่าเผลอล่วงเกินไครด้วยคำพูด จนทำไห้เขาเขินอาย สิ่งไม่ดีที่เราพูดมีสิทธิเกิดขึ้นกับตัวเราไนอนาคตได้ 110 www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น ถ้าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงผอมเพรียวเราก็ควรยึด หลัก 3 ข้อ คือ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และไม่ก่อวจีกรรม เราทุกคนล้วนปรารถนาให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรง แล้วก็อย่าลืมไข้ร่างกายนั้นทำความดี ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมด้วย www.kalyanamitra.org

«4 อยากผอ»4รริสี!! Of'มีสติในการกิน '^°'' จะอิ่มให้พยุด จากนั้นให้ดี\"มนํ้าตามกิจะอิ่มพอดี จะทำให้ลดนํ้าหนักใต้ 70-80% www.kalyanamitra.org

ออกกำลังกายให้เกิน 25 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง ไขมันจะถูกดึงออกมาไซ้ ร่างกายก็จะมีไขมันส่วนเกินลดลงเรือยๆ นอกจากการทานอาหารทีมากเกินจำเป็นแล้ว วจีกรรมทำไห้เกิดโรคอ้วนได้ www.kalyanamitra.org

IV- www.kalyanamitra.org

๏ ดื่ มสุราเป็นอาจิณ ผิดกฎแห่งกรรม \"สุรา\" บํ้าเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนจากคนดีให้กลายเป็นคน เลว เปลี่ยนจากคนรวยให้กลายเป็นคนจน ทั้งยังทำให้สุขภาพเสื่อม และเลี่ยงต่อการประสบอุบ้ตเหตุ แต่ถึงแม้จะรู้กันอย่างนี้คนไม่น้อยก็ยังดื่มสุรากัน 115 www.kalyanamitra.org

เรื่องราวความเป็นมาของ เรื่องราวความเป็นมาของ \"สุรา\" มีการระบุไว้ในคัมภีร์ว่า ในสมัยที่พระเจ้าพรหมหัตครองเมือง พาราณสี มีพรานปานายหนึ่งฃื่อสุระ เขาดั้นด้นเข้าไปจับสัตว์ในปาลึก แล้วไปพบโพรงไม้ใหญ่แห่งหนึ่งที่มีสัก'ษณะเป็นแอ่งคล้ายโอ่ง เผอิญมีผลไม้ที่สุกงอมในบริเวณใกล้ๆ ได้ตกลงมาในโพรงไม้นั้น พอดีเมื่อมีฝนตกนํ้าก็ตกลงมาขังอยู่ในแอ่งนํ้านี้ด้วย และมีละอองยีสต์ปลิว มาตกลงไป พอแสงอาทิตย์ส่องมาก็เกิดการหมักตัวของนั้าผลไม้ และพันธุ \"ผืขต่างๆ จนกลายเป็นนํ้าสีแดงๆ คงมีลักษณะคล้ายไวน่ใน'ป็จจุบัน พรานสุระสังเกตเ'ฬ็นพวกนกมาจิบกินแล้วทำห่าทางประหลาด เต้น ไปเต้นมาก็แปลกใจ จึงตัดสินใจลองขิมนํ้านั้นลูรู้ลึกว่าอร่อย เมื่อจิบขิมมาก เข้าก็เกิดอาการมีนเมาแล้วหลับผล็อยไป พอตื่นมารู้สึกอารมณ์ดี ครึ้มอก ครึ้มใจก็จิบขิมอีกเรื่อยๆ จนกระ'ดั้งติด 116 www.kalyanamitra.org

ต่อมาพรานสุระออกเดินหาของปาในที่ไม่ไกลออกไปนัก ก็พบ ดาบสซื่อวรุณะบำเพ็ญพรตอยู่ จึงซวนให้มาลองชิมนํ้านี้ด้วยกัน ดาบสวรุณะ ติดใจในรสของนํ้า สุดท้ายทั้งสองคนร่วมมือกันสังเกต แสะจดจำส่วน ประกอบของนํ้านั้นแล้วทดลองปรุงขึ้นเอง ปรากฏว่าได้ผล จึงนำนํ้าที่ปรุงขึ้นใหม่เข้าเมืองไปถวายพระราซา พอพระราซาได้ ชิมก็ซื่นขอบ รับสั่งให้ผลิตขึ้นมาเป็นการใหญ่ เมื่อซาวเมืองเห็นว่าพระราซา ทรงซื่นซอบนํ้านี้มาก จึงดื่มกินตามพระราซากันอย่างเอิกเกริก ปรากฏว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ท้าให้บ้านเมืองล่มสลาย เพราะซาวเมือง ไม่ประกอบอาชิพเอาแต่ดื่มเหล้าเมายา แล้วเรียกนั้านี้ว่า \"สุรา\" เนื่องจาก ผู้นำ เข้ามาคือนายสุระนั้นเอง 117 www.kalyanamitra.org

\"สุระ\" แปลว่า กล้า แต่ถ้าจะเปรียบเทียบว่าดื่มนํ้านี้แล้วกล้า ก็ คงจะหมายถึงพอมีนเมาก็กล้าแสดงกิริยาที่ปกติไม่กล้าทำ เซ่น กล้าลงไป คลานกับพื้น กล้าแก้ผ้าแก้ผ่อน กล้าเอะอะโวยวาย แล้วมีความรู้สึกว่าทั้ง โลกตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่กลัวใครทั้งนั้นเพราะขาดลติไปแล้ว เมื่อเมีองหนึ่งเกิดจลาจลล่มลลาย นายพรานสุระกับดาบลวรุณะก็ นำ สุราไปขายเมืองอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทั้งลองเดินทางมาถึงเมือง ลาวัตถึ พบกับพระราขาคือพระเจ้าสัพพมิตต์จึงนำสุราไปถวาย เมื่อพระ ราซาได้ขิมก็รับสั่งให้ผลิตสุรา 500โอ่ง พอหมักได้ที่มันก็พองตัว นํ้าสุราใน โอ่งจึงล้นออกมา เผอิญมีแมวแถวนั้นไปกินนํ้าที่ล้นออกมาจึงเมาแล้วนอน ลลบไป ทหารที่เฝ็าดูอยู่จึงเข้ากราบทูลพระราซาให้ทรงทราบ พระราซาผ้มีความระแวงอยู่แล้วนีกลงสัยว่า คนทั้งลองมาปรุงยาพิษ เพื่อลบปลงพระขนมีพระองค์ จึงรับสั่งให้ประหารซีวิตทันที นายพรานสุระ กับดาบลวรุณะจึงถึงแก'ความตาย ไม่นานนักแมวที่หสับไปก็พินขึ้นมาวิ่งได้ เหมือนเดิม พระราซาจึงทดลองดื่มนั้านั้นแล้วเตรียมแจกจ่ายเป็นการใหญ่ แต่พระอินทรีทรงแปลงกายลงมาห้ามไว้ได้ท้น พระเจ้าสัพพมิตต์คิดได้กรุง ลาวัตถึจึงรอดพ้นจากความพินาศอย่างหวุดหวิด 118 www.kalyanamitra.org

ถึงแม้นายพรานสุระกับดาบสวรุณะจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีคน มากมายที่ติดในรสสุรา ศึกษากระบวนการผลิต แล้วผลิตต่อเนื่องมาถึง ปัจจุบัน และยังพัฒนาไปหลากหลายรูปแบบ มีทั้งเบียร์ เหล้าขาว เหล้าสื สารพัด \"สุระ\" แปลว่า กล้า หมายถึง พอมึนเมาก็กล้า แสดงกิริยาที่ปกติไม่กล้าทำ 119 www.kalyanamitra.org

A สืล 5 ^ กับสามัญสำนึกของมบุษย์© สืล 5 มืมาตั้งแต่สมัยก'อนพุทธกาล มือยู่คู'โลกพร้อมๆ กับ สามัญสำนีกฃองมนุษย์ที่ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ สืลข้อ 1 สืลข้อ 1 คือ มนุษย์ไม่ควรไปเบียดเบียนฃีวิตผู้อื่น ต้องเคารพใน สิทธิขีวิตของคนอื่นเขา ไม่ว่าจะเป็นคนขาติไหนภาษาใด ถ้ามีสำนึกของ ความเป็นมนุษย์อยู่ก็จะไม่อยากฆ่าผู้อื่น ไม่อยากพรากขีวิตใคร สมมติให้เราสวมบทบาทเป็นเพขรฆาตเหนี่ยวไกประหารนักโทษ ด้วยปีนเอีม 16 โดยไม่มีความผิด เราจะกล้ามั้ย? คนร้อยละ 99.99 ไม่กล้า ต่อให้เราไม่ไต้รับโทษที่ฆ่าเขาเลยก็ยังไม'กล้า คนส่วนใหญ่ไม่ทำ เพราะขัด ต่อสามัญสำนึกของมนุษย์ www.kalyanamitra.org

สืลข้อ 2 สืลข้อ 2 คือ มนุษย์ควรเคารพในกรรมสิทธึ๋ทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ลักขโมยของเขา ยกตัวอย่างเรากำลังหานข้าวอยู่ในโรงอาหาร เหลือบไปเห็นจานข้าว ของเพื่อนอยู่ข้างๆ มีกับข้าวพูนจานน่าอร่อย ทั่วไปคงไม่มีใครคิดจะเอา ข้อนไปตักกับข้าวจากจานเพื่อนมาทาน การกระทำอย่างนี้คนไม่ทำแต่สัตว์ทำ ใครเลี้ยงสุนัขเลี้ยงไก่จะเคยเห็นว่า ถ้ามีสุนัขสองตัวเราเอาข้าวให้ มันสองจานมันก็แย่งกันกินอยู่ดี กินของตัวเองยังไม่หมดก็มาแย่งกินของตัว อื่นแล้ว เพราะสัตว'ไม่มีสามัญสำนึกเรื่องกรรมสิทธี้ทรัพย์สินของผู้อื่น มัน ถือว่ามีกำลังก็จะชิงเอาเป็นของตน ถ้าเห็นสัตว์ตัวใดรู้จักเคารพสิทธิของตัวอื่น ไม่แย่งกันกินแสดงว่า ใกล้จะหมดกรรมมาเกิดเป็นคนแล้ว 121 www.kalyanamitra.org

สืลฃ้อ 3 สืลข้อ 3 คือ สามัญสำนึกของมนุษย์ที่ว่าไม่ละเมิดสิทธิในตัว บุคคล ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ทำลายนํ้าใจใครด้วยการแย่ง^งลูกเขา เมียเขา คนเราแตกต่างจากสัตว์ เพราะสัตว์ไม่มีสามัญสำนึกในเรื่องนี้เมื่อไรที่มีความต้องการทางเพศ ถึงฤดูผสมพันธุก็กัดกันแย่งชิงกัน กวางขวิดกันตายเพื่อแย่งตัวเมีย สุนัขก็กัดกันเพื่อแย่งตัวเมีย บางที สุนัขตัวผู้หนีออกไปจากบ้านหิวโซเป็นเดือนๆ ข้าวปลาไม่กินเพราะจะไปตามหา สุนัขตัวเมีย โซซัดโซเซไปตามอำนาจกิเลส แต่มนุษย์ต้องไม่เป็นอย่างสัตว์ ต้องรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร มีความ ยับยั้งชั่งใจ www.kalyanamitra.org

สืลฃ้อ 4 สืลฃ้อ 4 คือ สามัญสำนึกของมนุษย์ที่ว่าไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วย คำ พด ยกตัวอย่างสุนัขอยู่ในบ้านมีรั้วรอบขอบชิด พอสุนัขตัวอื่นผ่านมา มันเห่าเลย มันคำรามใส่กันเพื่อแสดงอำนาจ แต่คนเราอยู่ในบ้านของตัวเองพอมีคนเดินผ่านหนัาบ้านเราไม่ด่า เขา เขาเดินไปของเขา ส่วนเราก็อยู่ของเรา สามัญสำนึกสั่งว่าไม่ให่ใป เบียดเบียนผ้อื่นด้วยคำพด คืลข้อ 5 คืลข้อ 5 คือ มนุษย์ควรมีสติ ไม่ดื่มสุรายาเสพติดทั้งหลายที่จะ เป็นเครื่องบั่นทอนสติของเรา ตัวอย่างทั้งหมดทุกข้อที่กส่าวมาข้างตันถูกคุมอยู่ได้ด้วยสติ แล้วสตินี่ก็แปลกถึงคราวจะทนก็ทนได้อย่างไม่น่าเขื่อ อดข้าวเป็น วันๆ สติก็ยังดิ ทำ งานเหนื่อยอดหลับอดนอนสติก็ยังดี แต่ว่าถึงคราวสติจะ ขาดผึงก็ขาดได้ง่ายๆ เพียงเพราะนํ้าเมาเข้าปากไม่กี่แก้ว สติก็หสุดลอยไป แล้ว 123 www.kalyanamitra.org

จากคนที่เคยสุภาพเรียบร้อยกลับแสดงกิริยาที่น่าละอาย แก้ผ้าแก้ ผ่อน คลานไปกับพื้น อาเจียนเสร็จแล้วกินเข้าไปใหม่ก็ยังได้ อะไรที่คนทั่วไป ไม่กล้าทำแต่คนเมาทำได้หมด ปกติเคยสุภาพเรียบร้อย พอเมาได้ที่กลับ อาละวาดหาเรื่องซกต่อย เพื่อนฝูงซวนกันตั้งวง พอดื่มเหล้าเข้าไปคนละ แก้วสองแก้ว เผลอแผล็บเดียวเอาซวดเหล้าไล่ตีหัวก้น เสียบก้นแหงกันแล้ว ถ้าสติขาดแล้วสีลฃ้อไหนๆ ก็ขาดได้หมดทั้งบั้น ศีล 5 มีมาก่อนพระพุทธศาสนา เกิดมาพร้อมกับสามัญสำนึกซอง มนุษย์ ว่าสิ่งไดที่เราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ พระสัมมาล้มพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ให้รัดกุมว่าองค์แห่งศีลแต่ละข้อมีอะไรบัาง ทำ อย่างไรจึงผิดศีล และมีกรณี ใดที่ทำแล้วไม่ผิดศีล เซ่น เราไม่ร้ว่าเดินไปเหยียบมดตาย ในกรณีนี้ศีลยัง ไม่ซาดเพราะเราไม่มีเจตนา เป็นด้น เราจึงควรรักษาศีล 5 ให้บริบูรณ์ โดยเฉพาะไม่ดื่มสุราซึ่งจะเป็นเหตุให้เราผิดสีลได้ทั้ง 5 ข้อ www.kalyanamitra.org

ไม่ดื่มสุรา ไม่ผิดศืล 5 ถึงจะได*ชื่อว่า...เป็น คนโดยสม'บูรณ์ www.kalyanamitra.org

นายสุระนำสุราไปขายเมืองไหนๆ ก็ล่มสลาย เพราะซาวเมืองไม่เป็นอันประกอบอาซีพ มัวแต่เพลิดเพลินกับการดื่มเหล้าเมายา www.kalyanamitra.org

สุรา ทำ ให้สติขาด เมอขาดสติแล้ว สืลข้อไหนๆ ก็ขาดได้หมดทั้งสิน www.kalyanamitra.org

Iเ ff ff IJ I^ เa -V, www.kalyanamitra.org

/' / เลิโาเจ^ลา เลฉเจ็*บ^ // เลิกจน / บางคนดื่มสุราเป็นอาจิณโดยมีเหตุผลอธิบายให้กับตนเอง ว่าเรามีฐานะการเงินมั่นคงดี เงินที่ไปซื้อเหล้าก็เงินของเรา ปากก็ ของเราท้องก็ของเรา ดื่มไปแล้วไม่ได้ทำให้ใครเดีอดร้อนอย่างนี้จะ ผิดได้อย่างไร แต่ความจริงคือ... เราทำผิดกฎแห่งกรรม เมื่อกฎแห่งกรรมบัญญัติไว้ว่าผิด เราจะไปโวยวายว่าไม่ผิด นั้นไม่ได้ เหมือนเราไปโวยกฎหมายยุติธรรม กฎหมายมีอยู่เราไปทำ ผิดกฎหมายก็มีความผิดติดตัว แต่กฎแห่งกรรมหนักยิ่งกว่ากฎหมาย เพราะแก็ใม'ได้ กฎแห่งกรรมควบคุมสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย และคงอย่อย่างนั้น www.kalyanamitra.org

เมื่อสติหย่อน สำ นึกจึงขาด © เมื่อดูในรายละเอียดแล้วจะพบว่า ล้าเราดื่มเหล้าเข้าไป 1 แก้ว แม้ยังไม่รู้สึกว่าเมาแล้วไปขับรถ ตำ รวจตรวจจับเป่าแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องวัด ถึงเราจะยังพูดคุยรู้เรื่อง ไม่ได้เมาจนขาดสติตำรวจก็จับอยู่ดี เราไม่สามารถ โต้แย้งว่าเราไม่เมาได้ เพราะทางการแพทย์มีผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า ขณะที่ เราดื่มสุราเข้าไปแล้วรู้สึกเหมีอนยังมีสติอยู่ พูดคุยรู้เรืองนัน แต่ความจริง สติได้หย่อนไปแล้ว ยกตัวอย่าง คนทั่วไปล้าขับรถแล้วมีตัวอะไรวิ่งตัดหน้า พอตามอง เห็นสมองก็สั่งการจนกระทั่งเหยียบเบรก จะไข้ระยะเวลาไม่เกิน 0.7 วินาที แต่พอดื่มเหล้าเข้าไปแล้วการตัดสินใจจะข้าลง เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแส เลือดการตัดสินใจจะข้าลงทันที ส่งผลให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง 130 www.kalyanamitra.org

ขณะที่เรารู้สึกว่าสมองสั่งการเป็นปกติดี ความจริงสติและความ ยับยั้งชั่งใจของเราลดลงไปแล้ว การควบคุมกาย วาจา ใจของเราหย่อนไป แล้ว และมีความเสี่ยงให้เกิดความเสึยหายมากขึ้นกว่าเติมมาก เปรียบเทียบว่าเรานั่งเล่นอยู่ริมบ่อซึ่งเป็นบ่อแห่งสติ เราโยนก้อน หินลงบ่อไปทีละก้อนๆ เพราะชอบฟังเสึยงหินกระทบนํ้า รู้สึกว่าเสียง ไพเราะดีบ่อก็ของเรา อยู่ในบ้านเรา หินก็ของเรา มีอก็ของเราจะขว้างหิน ลงบ่อก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แต่ถึงนํ้าในบ่อจะมีมากมาย ล้าเราโยนหินลง ไปเรื่อยๆ ในอนาคตบ่อก็จะตื้นเขินขึ้นมาในที่สุด บ่อแห่งสติของเราก็เหมือนก้น บอกว่าเงินก็ของเรา ปากก็ของเรา ห้องก็ของเราไม่เห็นเป็นไรเลย ดื่มเหล้ามีนๆ เมาๆ แล้วมันเพลินดี แต่ความ จริงแล้วสติเราเหลือน้อยลงๆ ทุกที วันใดวันหนึ่งเราอาจจะต้องมานั่งเสียใจ ภายหลัง เมื่อเราเผลอไปทำสี่งผิดพลาดเพราะสติที่หย่อนลงไปนี้เอง 131 www.kalyanamitra.org

ดมสรา ในหน้าฑื่^ อาตมภาพเคยเจอเหตุการณ์หนึ่งตอนอยู่ที่ญี่ปุน ระหว่างนั่งรถไฟ กลับจากเมืองโคฟุมาโตเกียว ได้ที่นั่งติดกับขายขาวญี่ปุนคนหนึ่ง พอนั่งไป ลักพักเขาก็ขวนคุย เขาถามว่า ลองเดาสิว่าเขาอายุเท่าไร อาตมภาพมองดู แลัวตอบไปว่าประมาณ 40 ปี เขายิ้มแล้วบอกว่าเขาอายุ 55 ปีแล้ว ที่เขาถามอย่างนี้คงเพราะภูมิใจในตัวเองที่มืรูปร่างหน้าตาอ่อนกว่า วัย อาตมภาพแปลกใจจึงถามกลับไปว่าเขาทำได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบ กลับมาว่าเขาไม่ดื่มเหล้า เข้านอนหัวคํ่าทุกวัน พอไม่ดื่มเหล้าก็ไม่เสียเวลา ไปกับอีกหลายๆ เรื่อง แล้วก็ออกกำลังกายสมรเสมอ ทานอาหารถูก สุขลักษณะ ผลก็เลยออกมาเป็นอย่างนี้ อาตมภาพอยู่ญี่ป่นมาสิบปี รู้ว่าคนญี่ปุนส่วนใหญ่ขอบดื่มเหล้ามาก เลิกงานปีบจะต้องนัดกันไปดื่มเหล้าต่อทั้งหัวหน้าทั้งลูกน้อง www.kalyanamitra.org

คนญี่ป่นต้องมีมารยาทหางสังคมมากมายในที่ทำงาน พูดกันตรงๆ ลำ บากเหมีอนต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน แต่พอเข้าร้านเหล้าก็ถอด หน้ากากออกไต้ ลูกน้องกอดคอเจ้านายได้ สังสรรค์ร้านแรกเสร็จแล้วยังไม่ พอไปต่อร้านสองร้านสามอีก ออกจากร้านนี้ไปต่อร้านนั้น บางทีสี่ห้าทุ่ม แล้วถึงจะมีนๆ งงๆ หิ้วกระเป่าทำงานเดินโซซัดโซเซขึ้นรถไฟกลับน้าน ไปนั่งสัปหงกอยู่บนรถไฟกลิ่นเหล้าฟังเลย พอเห็นมาอย่างนี้ก็เลยถามเขาต่อไปว่า คนญี่ป่นต้องเข้าสังคมกับ ลูกค้า เข้าสังคมกับเพื่อนที่ทำงานด้วยการดื่มเหล้า แล้วเขาไม่ดื่มอย่างนี้จะ เสียงานไหม เขาตอบว่าไม่เลยครับ ลำ บากตอนแรกๆ นิดเดียวเท่านั้น เพราะ มีคนอื่นที่ยังไม่รู้ แต่พอเขารู้ว่าเราไม่ดื่ม แรกๆ เขาอาจจะแปลกใจ แต่พอ ครั้งต่อๆ ไปเขารู้ว่าเราไม่ดื่มก็เลิกซวนกันไปเอง กับลูกค้าก็เซ่นกันพอเขารู้ว่าเราไม่ดื่มเหล้า แต่ว่าเราบริการเขา อย่างทุ่มเทเต็มที่ สุดท้ายก็พิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่สุดไม่ใซ่การ ดื่มเหล้าร่วมกัน แต่คือการบริการที่ดีที่สุดต่างหาก เราส่งของที่มีคุณภาพ ตรงเวลา ให้การบริการอย่างดี นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด 133 www.kalyanamitra.org

กลับกลายเป็นว่าชายคนนี้เป็นคนที่มีผลงานในบริษัทดีเยี่ยม ได้ รับการคัดเลือกให้เป็นผู้บริหารเพราะมีผลงานดี เจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าเพื่อน ร่วมงานคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวก้น สุขภาพก็ดี การงานก็ดี ทุกคนให้การยอมรับ คำ ว่า \"ยาก\" มันยากตอนด้นเพราะเราคิดไปเอง แต่ถ้าเรากล้ายืนหยัดอยู่กับ ความดีก็จะประสบความสำเร็จไดในที่สุด 131 www.kalyanamitra.org

ต้องรู้จักเลือก siii เจักปฏิเสธ อบายบุขออกจากfวิต i||;j| www.kalyanamitra.org

ครอบครัว นกดื่ม ® กรณีที่เรามีสมาขิกในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือคู่ครองของ เราเป็นคนติดสุรา เราจะติ'องใช้ชีวิตอยู่กับเขา เราติ'องหนักแน่นไมโปดื่ม ด้วย แล้วค่อยๆ หาวิธีการซวนให้เขาเลิกดื่ม ล้ารักกันจริงก็ต้องซวนให้เขาเลิกดื่มเหล้าเมายาให้ใด้ เพราะล้า ปล่อยให้เซาดื่มเหล้าแล้วจะเป็นวิบากกรรมให้ผลน่ากลัวมาก ถ้าไม่หาทาง ห้ามปล่อยให้เขาดื่มตามใจแสดงว่าไม่รักกันจริง เลิกได้ก็จะดีทั้งในซาตินี้และซาติหน้า คือ มีสุฃภาพดี สติดี การงาน ก็ดีตามไปด้วย บุญส่งผล วิบากกรรมไม่มี จัดการทุกอย่างได้ราบรื่น พอละ โลกไปแล้วก็ไม่ต้องตกไปในมหานรกขุม 5 ซื่อว่า \"มหาโรรุวนรก\" ซึ่ง น่ากลัวมาก เป็นนรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ครวญคราง 136 www.kalyanamitra.org

จุดi?มต้นของ ©คนอยากเลิกเหลา สำ หรับนักดื่มที่คิดอยากจะเลิกดื่มเหล้า ขอให้ตระหนักในโทษ ภัยของสุราอย่างซัดเจนว่า ทั้งเสียทรัพย์ ทั้งเสียเพื่อน จะเหลือก็แต่เพื่อนขี้ เมาที่จะพาเราใปในทางเสื่อม แต่ล้าเราเลิกดื่มเหล้าเมายาได้ เราก็จะมีแต่ เพื่อนดีๆ ที่จริงใจต่อกัน \"เพื่อนคนไหนซวนเราไปดื่ม แสดงว่าเพื่อนคนนั้น ซวนเราไปเสื่อม\" สุราเป็นหนึ่งในอบายมุข \"อบายมุข\"แปลว่า \"ทางแห่งความเสื่อม\" เพื่อนที่พาเราไปสู่ทางแห่งความเสื่อมย่อมเป็นเพื่อนที่ไม่ดี คนที่ซวนเราไป ดื่มเหล้าหรือให้เหล้ากับเรา แสดงว่าเขาคิดไม่ดีกับเรา อยากให้เราพบความ เสื่อม ล้าเราซวนใครไปดื่มเหล้า แสดงว่าเราก็ไม่หวังดีกับเขาเซ่นกัน ขาด สติจนไม่รู้ว่ากำลังจะพาเขาไปในทางเสื่อมไปตกเหวด้วยกัน จะนำไปสู่การ เสียเกียรติยศซื่อเสียง ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียหาย หมดความน่าเซื่อถือ สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง www.kalyanamitra.org

ให้เราตระหนักถึงโทษที่ชัดๆ จนเกิดอารมณ์อยากจะเลิกดื่มเหล้า จริงๆ แล้วสร้างแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้น อาจจะเริ่มต้นด้วยการงดเหล้าเข้า พรรษาสัก 3 เดือนก่อน จุดประกายที่เคยคิดว่าจะเลิกเหล้ามาเป็นปีแล้วยังไมใต้เลิกล้กที ให้เริ่มที่พรรษานี้ กราบพระหน้าโต๊ะหมู่บูซาที่บัานก็ได้ หน้าหิ้งพระก็ได้ หรือจะให้รู้สึกหนักแน่นขึ้นไปอีกก็ไปกราบพระภิกษุที่ตัวเราเคารพ'บซา หรือ ตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ กราบหลวงพ่อว่าเราตั้งใจจะ เลิกเหล้าเข้าพรรษานี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดื เพิ่อเพิ่มความตั้งใจให้ หนักแน่นขึ้น โดยในพรรษานี้นอกจากเลิกเหล้าแล้ว ให้ตั้งใจสวดมนต์'นั่งสมาธิ ทุกๆ คืนด้วย ตั้งใจทำบุญใส่บาตรทุกๆ เข้า ล้าไม่สะดวกให้หากระ'ปุก ออมสินมาตั้งไว้ อธิษฐานจิตแล้วหยอดกระ'ปุกทุกวัน วันละกี่บาทก็ได้แล้ว แต่กำลังทรัพย์ พอถึงวันพระหรือวันอา'ติตย์ก็นำป้จจัยนั้นไปทำบุญที่วัด บุญ ที่เราทำความดีจะหนุนนำให้ความตั้งใจในการเลิกเหล้าของเราหนักแน่นขึ้น ไปอีก www.kalyanamitra.org

พอคิดจะเลิกดื่มเหล้าก็มักจะมีสิ่งท้าทายเข้ามา ทั้งเพื่อนรักทั้ง ผู้ใหญ่ที่เราเกรงใจมาขวนดื่ม ถ้าเราใจอ่อนไปดื่ม ความตั้งใจดีก็จะเสีย ที่เคย ตั้งใจไว้ดีแล้วก็เลิกรา ดังนั้นเราต้องใจแข็ง บอกเขาตรงๆ แต่นิ่มนวลและ ยิ้มแย้มว่าเราสัญญากับพระว่าจะเลิกเหล้า แล้วหมั่นตอกยํ้าในการทำความ ดีทุกรูปแบบ ทั้งทาน ศีล ภาวนาให้ครบถ้วนจะช่วยเสริมความตั้งใจของเราได้ พยายามคิดหากุศโลบายในการหลีกเลี่ยง ยกตัวอย่างล้าเรารู้ว่า ผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ ท่านเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามาก แต่ท่าน ขอบดื่มเหล้า เมื่อเราต้องไปพบท่านก็มีโอกาสสูงที่ท่านจะยื่นแก้วเหล้าให้เรา เพราะฉะนั้นต้องมีการวางแผนก่อนล่วงหนัา โดยเราอาจจะขวนเพื่อนร่วมงานหรือคู่ชีวิตไปกราบผู้ใหญ่ที่เรา เคารพนับถือ กราบเรียนท่านว่า หัวหน้าครับ... คุณพ่อครับ... พรรษานี้ผม ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธี้เต็มที่ เพื่อตั้งใจจะท่างานที่ท่านมอบหมายให้ดี ที่สุด หรือดูแลลูกสาวของท่านให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของ ท่าน เหมือนกับเราไปกราบเรียนให้ท่านทราบก่อน พอรู้ก่อนแล้วว่า เรารักษาศีล ต่อไปผู้ใหญ่ท่านนี้เขาจะไดไม่ยื่นแก้วเหล้าให้เราอีก www.kalyanamitra.org

ถ้าเราไม่บอกผู้Iหญ่ที่เราเคารพนับถือให้ทราบก่อน พอได้จังหวะ เขายื่นแก้วเหล้าให้แล้วเราปฏิเสธ ก็อาจจะทำให้เขารู้สึกเสียหนัา รู้สึกว่า เป็นการไม่ให้เกียรติเขา แต่ถ้าเราหาโอกาสที่เหมาะสมไปบอกกล่าวให้ ผู้Iหญ่รู้ก่อนอย่างนี้เรื่องมันก็จบ ถ้าใช้สติฟ้ญญาวางแผนทุกอย่าง เราก็จะสามารถเลิกเหล้าได้ สำ เร็จ ขอให้ตระหนักว่าเหล้านั้นใม่ดี เมื่อเราตั้งใจหนักแน่นมั่นคงก็จะพบ ว่า สุดท้ายเราสามารถทำได้สำเร็จตามที่ตั้งใจ สุรายาเมาเป็นโทษต่อชีวิตของมนุษย์มาก ถ้าใครหลวมตัวเช้าใป ดื่มแล้วจะทำให้ขาดสติ มีโอกาสทำผิดศีลใด้ทั้ง 5 ข้อ ขอให้ตั้งใจเลิกอย่าง จริงจัง และให้กำลังใจกันโดยเฉพาะคนในครอบครัว ครอบครัวจะใด้ร่มเย็น เป็นสุข ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นต่อไป 140 www.kalyanamitra.org

พ>'•\"งะ\" . ะ-v:•ะ'i สุรา เป็นหนึ่งในอ'บายมุข \"อบายบุฃ\" แปลว่า \"ทางแห่งความเสื่อม\" ะะะ:;น;!ะ:jฟ! ง/'#',..>\"•/;.>' 'พํ>•^#-.^ www.kalyanamitra.org

คนที'ซวนเราไปดื่มเหล้า แสดงว่า เขาอยากให้เราพบกับความแ(อม I การตอบแทนลูกค้า ไม่ใช่จัดเลี้ยงสังสรรค์เฮฮา ชักชวนมาดื่มเหล้า แต่สิงทีลูกค้าต้องการก็คือ การบริการทีดึทีสุดต่างหาก www.kalyanamitra.org

คนไม่ดื่มเหลามีโอกาสทืดืกว่า สุขภาพดี การงานดี ทุกคนให้การยอมรับ ไม่ต้องตกไปในมหานรกขุม 5 ชื่อว่า มหาโรรุวนรก www.kalyanamitra.org

r www.kalyanamitra.org ^►พ่•แ

อันคราย นอนสัก สมัยเด็กๆ เราคงเคยศึกษามาว่า การนอนวันละ 8 ซั่วโมง เป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อยุคสมัยและชีวิตการทำงานของคนในยุคปัจจุบัน เปลี่ยนไป การนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง กลับกลายเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ต้องรีบตื่นและเดินทางไปถึง ที่ทำ งานให้ทันเวลา แล้วกลับบ้านคํ่า ตามด้วยกิจกรรมต่างๆ จนถึง ดึก ทำ ให้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็น โรคอดนอน ส่งผลเสียต่อ ประสิทธิภาพในการทำงาน 145 www.kalyanamitra.org

บริหารเวลา แร)ร:ฟักผ่อนเพียงพอ ช่วยเพิ่มคณภาพงาน0 การบริหารเวลาให้นอนหลับเพียงพอ จะทำให้ตอนตื่นนอนรู้สึก สดชื่นกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิในการทำงานมากกว่าคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ยกตัวอย่าง ประเทศเยอรมนี ประซาซนทำงานเช้าวันจันทร์ถึงเที่ยง วันศุกร์ พวกเซาทำงานเพียง 4 วันครึ่งเท่าใรู้น แต่มีผลงานที่เปึยมด้วย คุณภาพ และปริมาณมากกว่าคนอื่นๆ ที่ทำ งาน 5-6 วันต่อสัปดาห์ เพราะ เวลาซาวเยอรมันทำงาน เขาจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาพักเซาก็ตั้งใจ พักผ่อนเต็มที่เซ่นกัน จริงจังกับทุกเรึ่องที่ทำในซ'วงเวลานั้น จึงทำให้ซาว เยอรมันมีคุณภาพซีวิตที่ดี และมีผลการทำงานดีกว่าคนที่ทำงานไป คุยเล่น ไป ซึ่งจะทำให้งานล่าช้า ยืดเยื้อ และไม่ได้คุณภาพ อีกหนึ่งตัวอย่างในสมัยพุทธกาลคือ กิจวัตรของพระสัมมาส้มพุทธ เจัา ท่านมีกิจวัตรที่ซัดเจน โดยในเวลายํ่ารุ่งพระองค์จะสอดซ่ายพระญาณ ตรวจดูสัตว'โลกว่า วันนี้จะทรงไปโปรดใคร แล้วเสด็จไปโปรด เทศน์ และ บิณฑบาต ia6 www.kalyanamitra.org

หลังจากไปโปรดสัตว์โลกแล้วจึงกลับมาทำพุทธกิจ พักสักครู่หนึ่งถึงไป เทศน์สอนพระภิกษุและประซาซนทั่วไปในตอนเย็น เทศน์สอนเทวดาเวลา เที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ลงตัวอย่างนี้ทุกวัน ล้าเราแบ่งเวลาไตัซันเจนอย่างพระพุทธองค์ คุณภาพงานและ สุขภาพร่างกายซองเราก็จะดี หากสามารด น.บ่งเวลาได''&ดเ.จน คุณภาพงานและ: คุณภาพซวิตจะดืขี้น 147 www.kalyanamitra.org

ผลเสียจากการ นอนดึก V ร่างกายคนเรามีนาฬิกาอยู่ในตนเอง อวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะมี จังหวะเวลาในการทำงานเป็นช่วงๆ เช่น ช่วงไหนเป็นช่วงที่ปอด ตับ หัวใจ และไตมีการพักตัว แต่เราผิดเวลาก็จะไม่เป็นผลดีต่อนาฬิกาในร่างกาย ซึ่ง นาฬิกานี้จะมีการปรับตัวได้ แต่ไม่ใช่ตามใจสั่ง ใครเคยเดินทางไปต่างประเทศข้ามเขตเวลาจะเข้าใจสิ่งนี้ดี สมมติว่า เราเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ที่มีเวลาต่างจากประเทศไทย 12 ชั่วโมง ประเทศไทยเป็นเวลากลางคืน แต่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากลางวัน ร่างกาย ของเราจะเกิดอาการง่วงนอน เพราะยังติดเวลาที่ประเทศไทยอยู่ ร่างกาย ยังปรับตัวไม่ทันกับเวลาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และต้องใข้เวลาประมาณ 3-4 วัน บางคนใช้เวลานานถึง 1 สัปดาหัในการปรับตัว 148 www.kalyanamitra.org

ดังนั้น หากเรามีกิจวัตรที่สลับไปสลับมา วันนี้เข้านอน 4 ทุ่ม พรุ่งนี้เข้านอนตีหนึ่ง วันมะรืนเข้านอนเที่ยงคืน ร่างกายจะเกิดความสับสน ทำ งานโม่สมดุล เกิดผลเสียต่อสุขภาพ และเกิดผลเสียต่อการทำงานด้วย แต่ถ้าเราทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตรที่ลงตัว ตรงตามเวลา เข้ากับ ระบบต่างๆ ของร่างกาย ก็จะเป็นผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานและ สุขภาพของเรา www.kalyanamitra.org