แนวฑาง การปัองกันมะเร็ง ถ้าตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก เราก็มีโอกาสรักษาให้หายได้ มากขึ้น แต่ปัญหาคือผู้ปวยหลายรายกว่าจะตรวจพบมะเร็งก็'ป๋วยระยะ สุดท้ายแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปีจึงช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการตรวจ ดูว่ายีนกลาย'พันธุหรือยัง เรามีโอกาสเป็นมะเร็งได้มากน้อยแค่ไหน เรา สามารถตรวจสอบระดับของยีนได้ ซึ่งจะตรวจพบยีนผิดปกติตั้งแต่ยังไม่เกิด มะเร็ง ยกตัวอย่าง แองเจลิน่า โจลี่(Angelina JoUe)นักแสดงซื่อตังซาว อเมริกัน ที่ตรวจพบยีนผิดปกติในร่างกาย ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้มีโอกาสเกิด มะเร็งเตัานมสูงถึง 80% และมะเร็งรังไข่ถึง 60% เพราะฉะนั้นแองเจลิน่า โจลี่ จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดเด้านมและ รังไข่ทิ้งไปก่อนที่จะกลายเป็น มะเร็ง www.kalyanamitra.org
วิธีการนี้ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ว่า ถ้าผู้ป่วยตรวจพบว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งสูง ก็มีสิทธื้เลือกว่าจะเข้ารับการรักษา หรือจะตัดสินใจ ตัดทิ้งไปเลยก็ได้ ปัจจุบันในต่างประเทศมีการสนับสนุนการศึกษาเรื่องการตรวจยีน เพิ่มมากขึ้น จีงมีข้อมูลในการนำมาใข้ประกอบการรักษาเพื่อให้คุณภาพ ขีวิตของผู้คนดีฃีน ถือว่าเป็นแนวทางการปัองกันรักษามะเร็งที่ดีทางหนึ่ง สาเหตุของมะเร็งเกิดจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันตันต้นๆ แตกปรากฏว่าสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นสามารถปัองกันได้ เซ่น ถ้าเราหลืกเลี่ยง การไปอยู่ในที่ชุมขนที่เสี่ยงต่อการติดเขึ้อหวัดมากๆ ก็จะลดโอกาสที่เซลล์ ในร่างกายของเราจะถูกโจมตีด้านภูมิต้านทาน เป็นตัน ไวรัส แบคทีเรีย และเขึ้อราเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็ง ทำ ให้ เซลล์กลายพันธุ ภูมิด้านทานตก เขึ้อซ่อนเร้นอยู่ในตัวทำให้ภูมิต้านทานมอง ไม่เห็น ผ่านไปไม่เกิน 15 ปี ถืงพบว่าเป็นมะเร็ง 51 www.kalyanamitra.org
เราควรพยายามฟ้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยfใา\"3เ-ลือ ทานอาหาร เลือกอากาศหายใจ เลือกที่จะฟ้องกันไม่ให้สารพิษเหล่านี้เข้า สู่ร่างกาย เซ่น หลืกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนสูงพุกชนิด เพราะเมือ เนี้อเยื่อของอาหารถูกความร้อนสูงๆ จะก่อให้เกิดมะเร็งได้ แม้แต่อาหารดีๆ มีคุณประโยชน์ที่เรานำไปทอดด้วยความร้อนสูง ปรากฏว่าอาหารล่วนที่อยู่ไนนํ้าม้นมืสารชนิดหนี่งซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งได้ เหมือนกัน แต่ถ้าเราไข้วิธีนึ่งหรือตุน เมื่อเปรืยบเทียบกับทอดแล้วปรากฏว่า อาหารที่ทอดเพียง 10 นาที มืสารก่อมะเร็งสูงกว่าอาหารที่นำไปตุ๋นตลอด ทั้งคืน เนึ่องจากไข้ความร้อนตํ่าจึงไม่เกิดสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง 52 www.kalyanamitra.org
ใๆ!สติเลือก อากาศ สภาพแวดล้อม และอาหาร อย่างถี่ล้วน www.kalyanamitra.org
ใคร? มืโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็ง คนที่ฃอบทานอาหารทอด ปีง ย่าง ผักที่ปนเฟ้อนยาฆ่าแมลง ปลาที่มีสารปรอทมากกว่าปลาชนิดอื่น ฯลฯ www.kalyanamitra.org
วิธึรโงเกตความผิดปกติ • มะเร็งมีอาการเฉพาะที่ ปรากฎที่ไหนก็จะออกอาการที่จุดนั้น 1J แนวฑางการป'องก้นมะเร็ง •การตรวจสุขภาพประจำปี โดยการตรวจดูว่ายีนกลายพันธุหรือไม่ •เลือกทานอาหาร ที่ไม่ปรุงด้วยความร้อนสูง เป็นด้น www.kalyanamitra.org
[f iy';:' www.kalyanamitra.org
วิ บากกรรม ทำ ให้เป็น มะเร็ง ถ้าถามว่ามะเร็งคืออะไร ? อธิบายง่ายๆ มะเร็งก็คือ เซลลในร่างกายของเราทื่เก็ดการ กลายพันธุ ซึ่งเป็นได้กับเซลล์ของทุกส่วนตั้งแต่ในไขกระดูก เลือด สมอง ตับ ไต หัวใจ ปอด ตลอดจนผิวหนัง มะเร็งเป็นของแปลกปลอม เป็นก้อนเนื้อที่ไม่เข้าพวก เป็น เซลล์ผิดปกติที่ขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ แล้วกัดกินเซลล์เก่าให้เหลือน้อย ลงๆ จนสุดห้ายร่างกายรับไม่ไหวแล้วตายลงนั่นเอง S7 www.kalyanamitra.org
การรัก'พามะเร็ง แบบแพทย์แผนป็จจุบัน โดยทั่วไปการรักษามะเร็งแบบแพทย์แผนปัจจุบันมีหลักการใหญ่ๆ 4วิธีคือ วิธีที่ 1 ผ่าตัด มะเร็ง คือ สิ่งผิดปกติของสารพันธุกรรม แล้วขยายตัวขึ้นจนกระทั่ง กลายเป็นเนื้องอก วิธีการแก้ใขก็คือผ่าตัดเอาเนื้องอกบันออกไป ถ้าเป็นมะเร็งระยะแรกเขลล์มะเร็งยังไม่แพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่น เราก็สามารถตัดมันออกไปได้ เซ่น ถ้าเป็นมะเร็งทรวงอก ก็ผ่าตัดเด้านมทิ้ง เป็นมะเร็งที่มดลูกก็ตัดมดลูกทิ้ง เป็นด้น 58 www.kalyanamitra.org
วิธีที่ 2 ฉายรังสี การฉายรังสีสามารถทำลายเซลล์ตรงจุดที่รังสีเข้าไปตก ส่วนใหญ่ มักจะใข้วิธีนี้ประกอบการผ่าตัด คือ เมื่อผ่าตัดเสร็จสินแล้วแต่ยังมีเศษมะเร็ง หลงเหลืออยู่บ้าง แพทย์ผู้ไห้การรักษาก็จะทำการฉายรังสีเข้าไปฆ่าเซลล์เหส่าาfนชํ้า อีก โดยแพทย์จะวินิจฉัยวิธีการรักษาโดยการฉายรังสีตามแต่กรณีไป เซ่น การเอกซเรย์ การฝังสารรังสี ซึ่งรังสีมีหลายรูปแบบแตกต่างกัน วิธีที่ 3 เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัด หรือ \"คืโม\"(Chemotherapy)โดยการฉีดหรือ กินยาเพื่อฆ่าเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตมากๆ แต่มีผลข้างเคียง คือ เซลล์ปกติ ในร่างกายผู้ปวยที่มีการเติบโตอย่างเส้นผมก็จะโดนจัดการไปด้วย จึงทำให้ ผู้ปวยมีอาการผมร่วง เบื่ออาหาร เป็นตัน วิธีนี้ใข้ในกรณีที่มะเร็งลุกลามไปหลายจุดแล้ว จึงต้องนำเคมีเข้าสู่ ร่างกายผู้ปวย เพื่อไปจัดการกับเซลล์ผิดปกติที่แตกตัวอยู่ทั่วร่างกาย 59 www.kalyanamitra.org
วิธีที่ 4 ฮอร์โมน มะเร็งที่อยู่ในจุดที่ร่างกายมีการสร้างฮอร์โมน แพทย์ก็จะรักษา ด้วยการนำตัวฮอร์โมนเข้าไปช่วยกำกับมะเร็งอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการบำบัดรักษาด้วยวิธีใด ผู้บํวยย่อมได้รับความ เจ็บปวดทรมานทั้งนั้น มะเร็ง คือ เซลลในร่างกายของเรา ที่ เกิดการกลายพันธ 60 www.kalyanamitra.org
J มะเร็ง o โรคทเกิดจากกรรม ถ้าถามให้ \"เทันโลก\" ว่ามะเร็งเกิดจากอะไร? ก็ตอบได้ว่ามะเร็ง เกิดจากกรรมพันธุ 30% อีก 70 % เกิดจากสิ่งแวดล้อม ถ้าถามให้ \"เทันธรรม\" ก็ตอบใด้คล้ายๆ กัน คือ มะเร็งเกิดจาก วิบากกรรม 2 อย่าง ได้แก่ กรรมในอดีตชาติ บวกกับกรรมที่ทำในปัจจุบัน เซ่น คนเราจะประสบความสำเร็จรํ่ารวยได้ในอดีตชาติต้องให้ทาน ไว้มากบุญจึงหนุนนำ แล้วในชาตินี้ก็ฃยันหมั่นเพียร ประหยัดอดออม เก็บ หอมรอบริบและเลือกคบคนดีก็ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ส่วนคนที่เกิดมาสำบากก็เพราะว่า ในอดีตทำบุญทำทานมาน้อย ซํ้าร้ายชาตินื้ยังใม่ชยันทำมาหากิน ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ช้องเกี่ยวกับอบายมุข จึงหมดเนื้อหมดตัว ทั้งวิบากกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติประกอบกัน www.kalyanamitra.org
มะเร็งก็ฟนเดียวกัน เป็นกรรมจากวิบากกรรมในอดีต 30% และ เกิดจากกรรมป็จจุบันอีก 70% ใครที่มีคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็ง คนนั้น ก็มีโอกาสป่วยเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นทันที เหตุเพราะคนที่จะมาเกิดเป็นพ่อแม่พิ่น้องกันได้นั้นสืบเนื่องว่ามี บุญกรรมคล้ายคลึงกัน จึงถูกดึงดูดมาอยู่ด้วยกันเป็นหมู่ญาติในภพปีจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้าญาติของเราเป็นมะเร็ง เราก็มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงขึ้น แต่เรา ก็สามารถแก้ได้ด้วยกรรมป้จจุบัน วบากกรรม ของมะเรง เป็นกรรมจากอดืต และฟ้จจุบันประกอบกน 62 www.kalyanamitra.org
ร้กษาศล รักษามะเร็ง วิบากกรรมที่ทำให้เป็นมะเร็งหลักๆ คือ \"ปาณาติบาต\"ในอดีตชาติ เคยไปฆ่าสัตว์ทรมานสัตว์ เซ่น บางคนเคยไปแทงคอสัตว์ให้ตายอย่าง ทุกข์ทรมาน ผลคือเกิดมาชาตินี้เป็นมะเร็งที่กล่องเสียงบ้าง ที่คอบ้าง บางคนในอดีตชาติตอนเป็นเด็ก ชอบทรมานสัตว์ด้วยการเอาใบสนเสียบก้น แมลงปอ วิบากกรรมส่งผลให้เกิดมาชาตินี้เป็นมะเร็งลำไส้บ้าง มะเร็งทาง ซ่องทวารบ้างต่างๆ นานา ล้วนเป็นผลจากการกระทำชองเราทั้งนั้น บางคนเผลอไปทรมานสัตว์ด้วยความคืกคะนองในวัยเด็ก มาตอน นี้สำ นึกผิดก็ให้ใช้หสักที่ว่า อดีตที่ผิดพลาดลืมให้หมด ไม่ไปนึกทบทวน ตั้งใจให้ดีว่าเราจะไม่ทำผิดอีกเด็ดขาด แล้วสร้างบุญใหม่มากๆ กรรมนั้น ก็พอจะทุเลาเบาบางไปได้บ้าง www.kalyanamitra.org
นอกจากกรรมปาณาติบาตแล้ว การผิดศีลข้ออื่นก็มีวิบากกรรมแรง เหมือนกัน เซ่น คนที่ซอบดื่มเหล้าเมายามืโอกาสเป็นมะเร็งในตับ ส่วนคนที่ ชอบสูบบุหรี่มืโอกาสเป็นมะเร็งปอด คนที่ชอบด่าว่าคนอื่นให้เจ็บใจมะเร็ง แปลกๆ ก็ถามหา ใครที่ผิดศีลข้อกาเมก็ส่งผลให้เป็นมะเร็งเต้านมบ้าง มะเร็งในระบบสืบพันธุบ้าง เป็นตัน วิบากกรรมส่งผลทั้งจากในอดีตทั้งป็จจุบันเสริมกัน เพราะฉะนั้น การจะรักษาตัวให้ดีที่สุดก็คือ การรักษาศีลให้บริบูรณ์ จะฟ้องกันมะเร็งได้สารพัดทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เพราะสิ่งที่เรากระทำ ในชาตินี้จะเป็นวิบากกรรมส่งผลในภพซาติด่อไป ที่สำ คัญให้เราตั้งใจรักษาศีลชาตินี้ให้ดี วิบากกรรมในอดีตชาติที่ ตามมามันก็จะทุเลาเบาบางลงไปด้วย 64 www.kalyanamitra.org
mSmmrnlmlmllmilllmilSmS Bliilliiii liHiiHf \"iS\" ' ' s ■-■■■■-\"\"'- ^ กรรมปาณาติ'บาต ทำ ให้เป็นมะเร็ง www.kalyanamitra.org
ปัองกันมะเร็ง ให้ถูกจุด กรรมปัจจุบัน หรือสิ่งแวดล้อมปัจจุบันที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือ ทุกอย่างที่มาถึงตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่หานเข้าไป นํ้าดื่ม กระทั่งควัน บุหรี่ที่เข้าไปในร่างกาย ตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่มากระทบผิวหนัง เซ่น รังสี สิ่ง เร้าต่างๆ ที่มากระทบตัวเราล้วนมีโอกาสก่อให้เกิดมะเร็งได้ทั้งนัน มะเร็งเป็นแล้วรักษาได้ เรามีวิธีการปัองกันและรักษามะเร็งโดย ก่อนอื่นต้องเซึ่อฟ้งหมอ และดูแลตัวเอง เมื่อเรารู้ที่มาของมะเร็งแล้วเราก็ แก็ใขให้ตรงจุด เมื่อมะเร็งเกิดจากวิบากกรรมในอดีตซาติ ซาตินี้ก็หมั่นตั้งใจรักษา ศีลให้ดีเยี่ยม สร้างบุญให้มากๆ ทั้งทาน ศีล ภาวนา บุญนั้นจะได้ไปเจือจาง วิบากกรรมในอดีตให้อ่อนกำลังลง www.kalyanamitra.org
เมื่อกรรมปัจจุบันเรารู้แล้วว่าทุกอย่างที่มาถึงตัวเราทำให้เกิดมะเร็ง เริ่มจากที่เข้าไปในตัวโดยตรง คือ อาหาร เราต้องตรวจสอบแล้วว่าอาหาร รสจัดทั้งหลายไม่ว่าจะเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด นํ้าตาลเยอะก็น่ากลัว ทั้งหมด ทั้งของทอด ปัง ย่างเกรียมๆ ดูน่าอร่อย เนื้อย่างหมูย่างที่ดำๆ กรอบๆ ล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งนั้น เราควรพยายามหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากไป เพราะในเนื้อสัตว์มีสารพิษอยู่มากมาย ยิ่งในปัจจุบันมีสารเร่งเนื้อแดง สาร ที่ผู้ผลิตฉีดเข้าเนื้อสัตว์สารพัดขนิด ออกจากฟาร์มมาก็มีสารเคมีติดมาด้วย เต็มไปหมด พอเราทานเข้าไปมาก สารเคมีเข้าสู่ร่างกายมาก ร่างกายจีงด้อง ขับออก ตับและไตด้องทำหน้าที่อย่างหนักในการขับสารพิษ เพราะฉะนั้น โอกาสที่เราจะเป็นมะเร็งในตับ และมีปัญหาเรื่องใตก็สูงขึ้นด้วย เราควรพยายามหลีกเลี่ยงสารเคมีต่างๆ เซ่น ยาฆ่าแมลง แล้ว พยายามไข้วิถึซีวิตให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ทานอาหารธรรมชาติ เซ่น เลีอกทาน ข้าวข้อมมีอ ข้าวกล้องแทนข้าวชัดชาว เพราะในข้าวชัดชาวนั้น สารอาหาร จำ นวนมากที่อยู่ใกล้ๆ กับเปลีอกข้าวถูกชัดออกไปหมด 67 www.kalyanamitra.org
ต้องพยายามหลีกเลี่ยงเหล้าเบียร์ นํ้าซา กาแฟ เครื่องดื่มรสจัด ซู่ๆ ซ่าๆ ประเภทนํ้าอัดลม แต่ล้าใครอดใจไม่ไต้ก็ให้ดื่มแค่พอประมาณ พยายามดื่มนํ้าสะอาดอุ่นๆ จะดีกว่า รวมทั้งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็ควรเลือกสูดอากาศบริสุทธิ้ บางคนบอกว่าหลีกเลี่ยงไม่ค่อยไต้ เพราะอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สารพิษใน อากาศมันมีมาก รถราวิ่งกันเต็มไปหมดมีแต่ฝ่นฟังควันเลีย อย่างน้อยก็ควร ตรวจดูระบบระบายอากาศในที่พักซองเราให้ดี อย่ามัวแต่ไปโทษบรรยากาศ ข้างนอกบ้านอย่างเดียว การจัดระบบอากาศในบ้านเราก็สำศัญ ล้าอุดอัเกินไปก็ไม่ดี ควร ตรวจสอบจัดทิศทางลมให้พอเหมาะพอดี ใข้เครื่องกรองอากาศบ้าง ล้าง เครื่องปรับอากาศในบ้านบ้าง ถอดล้างใบพัดพัดลมบ้าง บางคนทนใข้พัดลม เป็นปึไม่เคยล้างจนพัดลมฝ่นจับเซรอะไปหมด อย่าไปโทษใครให้โทษทีตัว เราเอง แกไขในส่วนที่เราทำไต้ก่อน นอกจากดูแลเรื่องอาหาร อากาศ และหลีกเลี่ยงสารพิษสารเคมี ต่างๆ แล้ว ถ้าเราไต้ออกกำลังกาย มีร่างกายแข็งแรง ไม่จมจ่อมอยู่กับที่ก็ มีผลต่อการบีองกันมะเร็งด้วยเซ่นกัน 68 www.kalyanamitra.org
69 www.kalyanamitra.org
/ ยหรือไม่ อยู่ที่ใจ!,ราเอง^ อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ จิตใจ ทางแก้ประกอบกันทั้งกายใจ ถ้าใจของ เราอยู่ในบุญ นั่งสมาธิมากๆ พอใจใสใจจะมีพลัง ร่างกายก็จะทำงานอย่าง สมดุล ถ้าใจสมดุลร่างกายก็จะสมดุลตามใปด้วยแล้วจะจัดการกับเซลล์ มะเร็งได้เอง ร่างกายเรามีระบบภูมิffมกันของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าร่างกายอ่อนแอ ก็เหมีอนทหารอ่อนแอ ข้าสืกบุกตีเข้ามาใด้ง่าย แต่ถ้าเราทำให้ร่างกาย เข้มแข็ง เราก็สามารถจัดการกับข้าศึกใด้อยู่หมัด บางคนพอทำใด้อย่างนี้ จากที่นึกว่าตัวเองด้องตายแล้ว ที่ใหนใด้ปรากฏว่ามะเร็งหายใปเลย ที่หมอ เคยบอกว่าอีก 7 วันตายแน่ แต่พอใด้ปฏิบัติตนถูกหลักทั้งกายใจ มะเร็ง ก็หายไปเลยเพราะร่างกายมันจัดการตัวเองใด้ รวมทั้งเมื่อใจเราเป็นสมาธิ นิ่ง ตั้งนั่น มีพลังใจ เมื่อใจฮึดสู้มันถึง จะสู้ได้ \"ถึงกองทัพจะมีทหารเป็นล้าน แต่ยกธงขาวยอมแพ้มันก็แพ้\" 70 www.kalyanamitra.org
ยกตัวอย่าง กรณีเกิดอุบัติเหตุ สื่อมวลชนรายงานว่าผู้บาดเจ็บ ชาดใจตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว นี้เองคืออาการ \"ถอดใจ\" ใจคิด แต่ว่าตายแน่ๆ ใจยกธงชาวไม่สู้แล้ว เหมือนตัวเราประกาศกับระบบภายใน ร่างกายทั้งหมดแล้วว่าไม่สู้ ยอมตายก็ไตัตายจริง แด'ถ้าใจฮีดสู้Iม'ยอมแพ้ก็ ไม'ตาย เพราะถ้าใจสั่งสู้ ทุกระบบในร่างกายก็สู้ ระบบคุ้มกันก็สู้ ตับ ไต หัวใจ ปอดสู้ เพราะฉะนั้นจะตายหรือไม'อยู่ที่ใจเราเอง ใจคือแม่ทัพดั่งที่โบราณ ว่า \"ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว\" จากนั้นก็ใหัดำเนินชีวิตถูกตัองตามหลัก ไม'เสริมกำลังข้าศึกด้วย การเอาสารเคมืเข้าลู่ร่างกายมากไป พยายามอยูใกล้ชิดธรรมชาติ ออกกำลัง กาย พ้กผ่อนใหัเพียงพอ มืใจฮีดล้ www.kalyanamitra.org
วิบากกรรม ชุบากกฐ จจบน www.kalyanamitra.org
I วิ'บากกรรมที่ทำให'เป็นมะแ ง หลกๆ คือ กรรมปาณาติบาตในอดีต เข่น ฆ่าสัตว์หรือทรมานสัตว์ การรักษาสืลให้บริบูรณ์ จะเป็นเกราะฟ้องกันมะเร็งได้ ทั้งชาตินี้และซาติหน้า www.kalyanamitra.org
1 iษ พิ1 www.kalyanamitra.org
ปรับสมดุลร่างกาย ด้วยการ ลั้างพิษ การดำเนินซีวิตของคนเราในปัจจุบัน ต้องเผชิญกับสารเคมี รวมทั้งต้องทานอาหาร ที่ปนเปีอนสารพิษมากมาย ทำ ให้ผู้คบหันมา สนใจเรื่องของการล้างพิษกันมากขึ้น เพราะมีความเขื่อว่าล้าสามารก ขับสารพิษออกจากร่างกายไต้ เราก็จะมีสุขภาพที่ดืขึ้น www.kalyanamitra.org
สารพิษ\" เรื่องที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก ในปัจจุบันสารพิษเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไ.ด้ยาก สารพิษที่เกิดฃึ้นมีอยู่ 2 ซนิดด้วยกัน สารพิษชนิดแรก มาจากสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้สิ่งแวดล้อมปนเป็อน ด้วยโลหะหนัก สารเคมีต่างๆ เซ่น ยาฆ่าแมลง ตลอดจนกระบวนการผลิต พลาสติก ซึ่งในการดำเนินชีวิตทุกวันนีเราหลีกเลี่ยงใด้ยาก เราต้องใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติก ยกตัวอย่างภาซนะต่างๆ ที่ใซ้ใน ชีวิตประจำวันล้วนเป็นพลาสติกที่ปล่อยสารพิษเช้าสู่ร่างกาย'■ร'ไที่^'^'^' เ''''เ^ ในกล่องโฟมบรรจุอาหารมีสารพิษก่อมะเร็ง สไตรีน (Styrene) ตังนั้น ทุกๆ วันร่างกายเราได้รับสารพิษมากเกินกว่าจะซับออกได้หมด 76 www.kalyanamitra.org
สารพิษขนิดที่สอง คือ เกิดจากการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อ เราทานอาหาร อาหารเข้าสู่ระบบการเผาผลาญในร่างกาย ส่วนหนึ่งกลายเป็น พลังงาน ส่วนหนึ่งกลายเป็นนํ้า ส่วนหนึ่งกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และ อืกส่วนที่เหลือ กลายเป็นสารพิษที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลายภายใน ร่างกาย 77 www.kalyanamitra.org
\\\\ ^Vo)°oJ{ วิรีจ้ดการ ^ , Q 0 ^ 0 ^ 0\\ กับสารพิษทฟัาสู่ร่างกาย ร่างกายคนเราพยายามที่จะขับพิษออกหลายทาง เซ่น ทางเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ เป็น \"กระบวนการล้างพิษ\" โดยธรรมซาติ ในกรณีที่ร่างกายได้รับสารพิษจากภายนอกจำนวนน้อย บวกกับ สารพิษที่เราผลิตขึ้นเองจากกระบวนการย่อยอาหาร ร่างกายเราสามารถ ขับสารพิษออกไปได้เองทั้งหมด แต่ปัญหาคือ ไนปัจจุบันเราได้รับสารพิษจากปัจจัยภายนอกมาก เกินไป ทั้งทางอาหาร อากาศ นํ้า ทำ ให้มีสารพิษตกด้างในร่างกาย www.kalyanamitra.org
^างพิษ / ^ = ปรันสมดุลร่างกายใหม่ การล้างพิษ คือ การปรับสมดุลร่างกายใหม่ ยกตัวอย่าง การล้างพิษแบบอดอาหารด้วยการเลือกดื่มแต่นํ้า สะอาด และทาบผลไม้ซนิดเดียวกันซํ้าๆ ส่งผลให้ร่างกายต้องดีงแหล่ง พลังงานสำรองที่ละลมอยู่มาใช้ ทำ ให้ลารพิษต่างๆ ที่ละลมอยู่ในพลังงาน สำ รอง ในตับ เนื้อเยื่อ ไขมันถูกนำออกมาใช้ด้วย ส่งผลให้ปริมาณลารพิษ ที่ละลมอยู่ในร่างกายถูกขับออกไป นอกจากนื้ ยังมีวิธีการล้างพิษอื่นๆ อีก เข่น การล้างพิษด้วยการ ลวนทวารล้างสำไส้ วิธีการนื้ทำได้โดยการใช้นํ้าละอาดเป็นหลัก ส่วนการใช้ กาแฟลวนล้างสำไล้เรียกว่า Coffee Enema การล้างพิษโดยการลวนล้างสำไล้ด้วยนํ้าละอาดเหมาะกับผ้ที่มี อาการห้องผูกบ่อยครั้ง เนื่องจากในร่างกายของคนที่ห้องผูกเรื้อรังนั้นมี อาหารเก่าหมักอยู่ในสำไส้เป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดเยื่อเมีอกบุลำไล้ที่ ขันเหนียวขึ้น 79 www.kalyanamitra.org
วิธีการนี้เรียกว่า ไอเดอเจนิคอิรรีเกซั่น (Hydrogenic irrigation) คือใส่นํ้าเข้าไปทางสำไส้ทีละน้อยๆ แส้วให้นํ้าค่อยๆ ไหลขึ้นไปถึงสำไส้ช่วง บนโดยอาจใช้การนวดช่วยเล็กน้อย เสร็จแส้วจึงปล่อยนํ้าออกมาพร้อมกัน ทั้งหมด นํ้าก็จะช่วยซะล้างเอาสารพิษที่หมักหมมอยู่ในสำไส้ออกมา 80 www.kalyanamitra.org
วิสืส์งเกต ปริมาณสารพิษในตัวเอง ไฝมีอาการจรเพาะเจาะจงที่บ่งซี๋ให้เห็บว่าในร่างกายเรามืสารพิษ ตกค้างอยู่ ผู้ป่วยที่ร่างกายไค้รับลารพิษในปริมาณมากอาจจะมีอาการรวมๆ คอ เหนื่อยง'าย ใจสัน รอนเพลีย หงดหงิดง่าย เนื่องจากมีอาการท้องอด แน่นเฟ้อ แต่พอไปตรวจหาโรคกลับไม่พบ เนื่นค้น ในฟ้จจุบนพบว่า สารพิษที่เกดจากโรงงานอุตสาหกรรมจำพวก โลหะหนักสะสมอยู่ในร่างกายคนทั่วไปค่อนข้างมาก สารพิษเหล่านี้ก่อให้ เกิดโรคมะเร็ง และโรคเลื่อมทั้งหลาย เช่น เส้นเลือดเลื่อม สมองเลื่อม ห้วใจ ท้างานบกพร่อง เส้นเลือดตีบ แตก.ค้น■เป่น่ค้น่ ใ การตรวจหาสารพิษจำพวกโล่หะหนักในร่างกายนนควรปรกษา แพหย*โดยตรง ซี่งเราสามารถตรวจหาปริมาณสารพิษชนิดนี้ไค้ค้วยการตรวจ เลือด ตรวจ{เสสาวะ และตรวจเส้นผม \\ www.kalyanamitra.org
มีกระบวนการรักษาผู้ปวยโรคสารพิษโลหะหนักโดยการขั'บโลหะ หนักออกจากร่างกายด้วยวิธี คีเล'ซั่น (Ghelation) คือ การให้นำเกลือที่มี สารประกอบ ทำ หนัาที่สำคัญในการจับสารโลหะหนักซึ่งสะสมตกด้างใน เนื้อเยื่อ และพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเรา เพื่อขจัดออกจากร่างกาย ทางระบบขับถ่าย ในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาวิจัยครั้งใหญ่ว่า การทำคืเลขั่น(Chela- tion)มีประโยชน์กับผู้ที่เป็นโรคหัวใจตีบหรือไม่ ซึ่งลือว่าเป็นแนวโนัมใหม่ ของวงการแพทย์เลยทีเดียว ในส่วนของวงการแพทย์แผนไทยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนื้ใม่แพ้ กัน แต่บุ่งไปที่ประเด็นของการล้างพิษออกทางผิวหนังพร้อมกับเหงื่อ เช่น การอยู่ไฟ การประคบ อบสมุนไพร รวมลืงการนวดล้างพิษเพื่อปรับระบบ ไหลเวียนนํ้าเหลืองให้ดีฃึ้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้ถูกระบุไวีในคัมภีร์ระบบธาตุ ของอายุรเวทที่เน้นเรื่องการล้างพิษนั่นเอง 82 www.kalyanamitra.org
หล้ก ในการล้างพิษ การล้างพิษมีหลักง่ายๆ คือ พยายามไม่รับเอาพิษใหม่เข้าสู่ร่างกาย โดยการเลือกรับอาหาร นํ้า และอากาศที่สะอาดบริสุทธิ้ และพยายามเอา พิษเก่าที่สะสมอยู่ในร่างกายออกด้วยการดีท็อกข้ การดีท็อกซ์มีหลากหลายวิธี เราควรศึกษารายละเอียด และข้อห้าม ต่างๆ ก่อนทำ เซ่น วิธีการสวนล้างลำไส์ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็ง ลำ ไล้ เคยตัดต่อลำไล้ เคยมีอาการอักเสบของลำไล้ ผู้ป่วยที่เคยเป็นริดสีดวง ทวาร เพราะมีความเสี่ยงว่าอาจจะมีเลือดออกเพิ่มขึ้น เป็นด้น ตังนั้น เราควรศึกษารายละเอียดรวมถึงข้อห้ามต่างๆ ให้ดีก่อนทำ ดีท็อกซ์ กระทั่งการล้างพิษด้วยวิธีคืเลซั่นก็มีข้อจำกัดเซ่นกัน เพราะของเสียจำพวกโลหะหนักด้องถูกขับออกทางไต ตังนั้นผู้ป่วย ด้องมีร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะระบบการทำงานของไตที่เป็นปกติ 83 www.kalyanamitra.org
\\\\l \\)\\ 'เเ บ' สูตรล้างพิษ' I c'^/ 611/1 CIU1 IMriV/ ^;:-^ - V ^ ^ค่ว่เอ) ® เราสามารถล้างพิษเองง่ายๆได้ที่บ้านด้วยสูตรอาหารล้างพิษโดย ใช้โยเกิร์ตครึ่งถ้วยผสมกับนํ้าผึ้งและนํ้ามะนาว คนให้เข้ากันแล้วรับประทาน ก็จะซ่วยล้างพิษในร่างกายเราออกไปได้ เนื่องจากกรดบางตัวในอาหารมีฤทธึ๋ในการกำจัดสารพิษ เซ่น กรดบางชนิดในนํ้ามะนาว กระเทียม และหัวหอม เป็นด้น การล้างพิษด้องดูให้ครบวงจร เมื่อล้างพิษที่ตกด้างภายในร่างกาย แล้ว เราต้องไมล้มที่จะล้างพิษภายในจิตใจด้วย เพราะเหนือสิงอื่นใดร่างกาย ของเราจะทำงานใด้ดี อารมณ์และจิตใจก็เป็นส่วนสำคัญ มีการคันพบว่า การทำงานของร่างกายคนเรา อาคัยการสวิตซ์ผ่าน เส้นประสาทที่เขื่อมโยงระหว่างกัน โดยถูกควบคุมจากส่วนกลาง คือ \"สมอง\" แล้วเซลล์สมองก็มีการเชื่อมต่อถึงกัน 8<J www.kalyanamitra.org
ซึ่งถ้าเราคิดในเรื่องร้ายๆ อารมณ์ขุ่นมัวก็จะเกิดการเซึ่อมต่อกันใน ทางลบ ข้อมูลในสมองก็จะเปลี่ยนเป็นลบ แต่ถ้าเราคิดในเรื่องดีๆ อารมณ์ ก็จะเบิกบานผ่องใส ทำ ให้เกิดการเซึ่อมต่อกันทางด้านบวก ข้อมูลในสมอง ก็จะเปลี่ยนเป็นบวก กระบวนการเซื่อมโยงของสมองซับซ้อนและทรงพลัง สามารถสร้าง พลังบวกหรือพลังลบก็ได้ ถ้าสมองเกิดการเชื่อมโยงกันเป็นพลังลบก็จะส่ง ผลให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดโรคต่างๆ อาทิ มะเร็ง ความด้น เบาหวานตามมา ถ้าเราล้างพิษจิตใจได้สำเร็จ เปลี่ยนประจุสมองที่จุดเชื่อมต่อของ สมองให้เป็นพลังด้านบวก ก็จะส่งผลให้ระบบร่างกายของเราซับพิษได้ดี พิษก็จะไม่คั่งด้างอยู่ในตัวเรา สรุปว่าเราตัองล้างพิษอารมณ์ก่อน เพื่อเป็นการกลั่นใจทำให้ธาตุ ต่างๆ ในร่างกายของเราสะอาดขึ้น เราก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง นั่นเอง 85 www.kalyanamitra.org
I สารพิษ ได้มาจากสิ่งแวดล้อม และเกิดจากการเผาผลาญของร่างกาย ร่างกายสามารถ 'ขบพิษไดหลายฑาง เซ่น ทางเหงือ ปัสสาวะ อุจจาระ เป็นกระบวนการล้างพิษโดยธรรมชาติ แต่หากมีมากเกินไป สารพิษจะตกด้างในร่างกาย 0□□ □ □□ □ □□ □□0 □ □□ □□□ □□□ □□□ □□□ □□อ www.kalyanamitra.org
ลางพิษ I คือการปรับสมดุลร่างกาย ทำ ให้สารพิษทืสะสมอยในร่างกายถูกขับออก คือ ไม่รับเอาพิษใหม่เข้าส่ร่างกาย โดยการเลือกรับอาหาร นํ้า และอากาศที่สะอาดบริสุทธี้ เอาพิษเก่าที่สะสมอยู่ในร่างกายออกด้วยการดท็อกข้ การล้างพิษด้องทำควบคู่ ทั้งล้างพิษกายและใจ ด้องเรมจากล้วงฟัษฮวรร/ฝก่อน เพื่อกลั่นให้ ธาตุในร่างกายสะอาด สุขภาพก็จะดียิ่งขึ้น www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
กๆรล้างพิษ เมื่อครั้ง พทธกาล ปัจจุบันการล้างพษได้รับความนิยมมาก เพราะคนในยุคบี้ ค่อนข้างกังวลเรื่องสุขภาพ แต่ความจริงแล้ว เรื่องการล้างพิษไม่ได้มื ความนิยมแพร่หลายเฉพาะในยุคปัจจุบันเท่านั้น แม่ในครั้งพุทธกาล กเขนเตยวกน 89 www.kalyanamitra.org
ฟ้องฑางการขบพิษ ออกจากร่างกาย ในสมัยพุทธกาล มีการขับพิษออกจากร่างกาย ด้วยวิธีการขับออก ทางปัสสาวะ อุจจาระ และเหงื่อ การขับพิษออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ก่อนอื่นเราจะต้องดื่มนํ้าสะอาดให้เพียงพอ เพื่อไมให้สารพิษคั่ง ด้างในร่างกาย คนในยุคนี้ส่วนใหญ่ตกอยู่ในภาวะเร่งรีบ เดี๋ยวประชุม เดี๋ยว เดินทาง กลัวรถติดจะอั้นปัสสาวะลำบากจึงดี๋มนํ้าน้อยบ้าง อั้นปัสสาวะบ้าง ผลก็คือสารพิษคั่งด้างในร่างกาย บางรายถึงขั้นเกิดตุ่มคันตามผิวหน้ง เพราะฉะนั้น การปัสสาวะ คือ หลักการขับสารพิษออกจากร่างกาย โดยธรรมซาติอย่างง่ายๆ โดยเราใม่ควรผินธรรมซาติ และควรดี๋มนํ้าสะอาด ให้ได้อย่างน้อยวันละ 2,500 - 3,000 ซีซี. ก็จะดีต่อสุขภาพมาก 90 www.kalyanamitra.org
การฃับพิ'ษออกจากร่างกายทางอุจจาระ การอุจจาระ คือ การขับของเสืยออกจากร่างกาย เป็นการปรับ สมดุลร่างกายอีกทางหนี่ง คนที่ท้องผูกบ่อยๆ สารพิษก็จะคั่งค้างในร่างกาย การขับของเสียทางอุจจาระไม่ไค้ขับสารพิษที่มองเห็นออกมาเพียงเท่านั้น แต่ยังปรับสมดุลอุณหภูมิภายไนร่างกายอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการ ที่ช่วยปรับธาดุไฟไท้การทำงานของร่างกายสมดุล ถ้าสังเกตดูจะพบว่า บาง คนเวลารับประทานของเย็นมากๆ สักพักจะท้องเสีย พอไค้ถ่ายท้องแล้วจะ รัสีกสบายตัวขึ้น นี่ก็คือการปรับธาตุไฟไนตัวนั่นเอง ไนครั้งพุทธกาล มิคราวหนี่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงท้องผูก พระองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่า ไห็ใปฃอยาถ่ายจากหมอซีวกโกมารภัจจ้ พอหมอซีวกโกมารภัจจ์ทราบช่าวท่านก็คืดว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง เป็นผู้ละเอียดอ่อน จะถวายยาถ่ายทั่วไปนั้นหาควรไม่ ท่านจึงนำก้านบัว 3 ก้านมาอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด แล้วมอบไห้พระอานนท์นำไปถวาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อการสูดดม www.kalyanamitra.org
โดยเมื่อสูดดมก้านบัว 1 ก้าน จะช่วยให้ถ่าย 10 ครั้ง จากนั้นเว้น ระยะให้ร่างกายปรับตัวจึงสูดก้านบัวอีก 1 ก้าน ถ่ายอีก 10 ครั้ง สูดดมหมด ทั้ง 3 ก้าน จะถ่าย 30 ครั้ง แล้วจึงหาย ครั้นพระสัมมาล้มพุทธเจ้าสูดดม ก้านบัวก็ฃับถ่ายออกมาจริงๆ ทำ ให้เบาเนื้อเบาตัว ถือว่าเป็นสูตรยาถ่ายที่ แปลกมากๆ www.kalyanamitra.org
การขับพิษออกจากร่างกายทางเหงื่อ ในครั้งพุทธกาลเคยมีเหตุเกิดขึ้น ณ กรุงเวลาลี พระพุทธศาสนาแผ่ ขยายออกไปในวงกว้าง ญาติโยมมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ ทายก ทายิกา หรืออุบาสก อุบาสิกาต่างก็สรรหาอาหารที่ปรุงแต่งอย่าง ประณีตนำมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ แต่เมื่อพระภิกษุฉันแล้วทำให้เกิดสาร พิษคั่งตามร่างกาย น่าสังเกตว่าอาหารธรรมชาติตามชนบทที่ไม่ถูกปรุงแต่ง มีสารพิษ ไม่มากเท่ากับอาหารที่มีการปรุงแต่งประติดประดอย ทั้งช้าวที่สีแล้วสีอีก ทั้งเครื่องปรุงต่างๆ มากมาย ทั้งผงชูรส สีผสมอาหาร ยิ่งมีการปรุงแต่งมาก อาหารก็ยิ่งมีสารพิษมาก สำ หรับใครที่ชอบทานอาหารตามภัตตาคารหรูบ่อยๆ พึงระวังให้ มาก ยิ่งอาหารรสเลิศประเภทสเต็ก เนื้อย่างหากทานบ่อยๆ ยิ่งต้องระวัง หมอซีวกโกมารภัจจ์เป็นหมอที่เก่งกาจมาก พอท่านเห็นสักษณะ ผิวพรรณ อากัปกิริยาชองพระภิกษุสงฆ์โดยภาพรวม ก็ดูออกเลยว่าตอนนื้ ความเป็นอยู่ชองพระภิกษุสงฆ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เริ่มมีสารพิษคั่งตามร่างกาย มากขึ้น ท่านจึงกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชออนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์ ท่าที่จงกรมและเรือนไฟ 93 www.kalyanamitra.org
ที่จงกรมไว้สำหรับให้พระภิกษุสงฆํได้ออกกำลัง เดินไปมาพร้อมกับ ทำ สมาธิไปด้วยเพื่อให้เหงื่อออก ส่วนเรือนไฟคือ ซาวน่าในฟ้จจุบันนั่นเอง ทำ ได้โดยการสร้างอาคารขึ้นมาแลัวตั้งเตาตรงกลาง มีท่อต่อออกไปข้าง นอกเพื่อระบายควัน และมีรางนํ้าวางไว้เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องให้ไม่ แห้งจนเกินไป ให้พอขึ้นๆ เป็นการอบร่างกายเพื่อขับเหงื่อออกมาให้มาก เป็นพิเศษ จงกรมและเรือนไฟเป็นวิธีการขับสารพิษออกทางเหงื่อที่มีมาตั้งแต่ ครั้งพุทธกาล โดยหลักการไม่ได้มีอะไรใหม่ เป็นเพียงวิธีการช่วยขับสารพิษ ออกทางเหงื่อ เราควรพยายามดูแลตัวเองให้มากๆ ไม่ใช่ว่ารับสารพิษเข้าไปใน ร่างกายเต็มที่แล้วถึงค่อยไปหาวิธีการขับออก แต่เราควรดูแลร่างกาย เลือก ทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาหารที่มีการปรุงแต่งไม่มากเกินไป พยายาม หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีลืผิดธรรมซาดิ หรือมีรสผิดธรรมซาดิ เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด เป็นตัน 9<J www.kalyanamitra.org
ปัจจุบันสารพิษปะปนมากับพืชผักตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก ทั้ง ยาข่าแมลง ปุยเคมีต่างๆ พืชผักล้วนมีสารพิษปะปนคั่งค้างมาตั้งแต่ต้น ยิ่ง เรานำมาปรุงแต่งเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้สารพิษเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้น เราควรเน้นทานอาหารธรรมชาติ ยิ่งเป็นอาหารพวก ออร์แกนิกปลอดสารพิษยิ่งดี แล้วออกกำลังกายสมํ่าเสมอ อาจจะซาวน่า น้างเป็นครั้งคราว ไม่ต้องทำทุกวันจนเป็นกิจวัตรถึงขั้น!)นระบบการทำงาน ชองร่างกายตามธรรมชาติ 95 www.kalyanamitra.org
การขับพิษออก^ากร่างกายด้วยวาจาสัตย์ นอกจากการขับพิษออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระ และ เหงื่อแล้ว การขับพิษออกจากร่างกายด้วยการใขัวาจาสัตย์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่น่าสนใจ การขับพิษออกจากร่างกายด้วยวาจาสัตย์ คือ การขับพิษออกจาก ร่างกายด้วยอำนาจสัจจกิริยา สัจจวาจา ยกตัวอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ทรงออกบวซเป็นดาบสอยู่ในป่ากว่า 50 ปี วันหนึ่งดาบสเดินทางเข้ามาเยี่ยมเพื่อนในเมีอง พอดีกับที่ลูกซาย ของเพื่อนถูกงูกัด เพื่อนของดาบสร้องขอความซ่วยเหลือว่า \"ท่านดาบส ช่วยหน่อยเถิด ลูกขายของข้าพเจ้าถูกงูกัด อาการแย่แล้ว\" ดาบสรับคำ แต่ ตนไม่ใช่หมอจะทำอย่างใรได้ จึงตัดสินใจยี่นมีอใปจับศีรษะลูกชายของเพื่อน แล้วตั้งสัจจวาจาว่า 96 www.kalyanamitra.org
\"ข้าพเจ้าออกบวขเป็นดาบส พอใจในการบรรพซาอยู่แค'7วันแรก เท่านั้น ก่อนบวชนั้นมุ่งมั่น แต่พอพบความลำบากในปาผ่านไป 7 วันใจไม่ อยากบวชต่อ แต่เมื่อได้ตั้งใจแล้วก็อดทนเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้กว่า 50 ปี แล้ว ด้วยอำนาจสัจจะนี้ฃอพิษงูคลายไปเถิด ขอความสวัสดีจงมีแด่มานพ น้อยผู้นี้\" พอดาบสอธิษฐานจบปรากฏว่า พิษงูตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไปหยดลง บนแผ่นดินหมด มานพน้อยลืมตาเรียกแม่ได้ ดาบสจึงกล่าวกับเพื่อนต่อไป ว่า \"ข้าพเจ้าช่วยได้แค'นี้ ท่านจงรับช่วงต่อเถิด\" ฝ่ายเพื่อนของดาบสเห็นดังนั้นก็ท่าสัจจวาจาบัาง เอามือวางทาบ ที่หน้าอกลูกชายแล้วกล่าวว่า \"บางทีมืน้กบวชจากป่ามาขอพักอาศัย ข้าพเจ้า ดูกิริยาอาการความสำรวมแล้วไจไม'อยากไห้พัก แด'ก็ไม'เคยปฏิเสธเลย ด้วย อำ นาจสัจจวาจานี้ขอความสวัสดีจงมืแด'บุตรชายชองข้าพเจ้า ขอไห้พิษร้าย คลายไปเถิด\" พอสิ้นเสียงพิษร้ายตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นไปก็หยดลงบนแผ่นดิน ลูกชายลุกขึ้นมานั่งได้แต่ช่วงขายังขยับไม'ได้ เขาจึงไห้ภรรยามาช่วยต่อ ภรรยายื่นมือมาแตะขาท่อนล่างของบุตรชาย พร้อมกับบอกสามื อย่างเหนียมอายว่า \"ข้าพเจ้าจะตั้งสัจจวาจาแล้ว พื่ออกไปข้างนอกก่อน ได้ไหม สัจจวาจานี้พูดต่อหน้าพื่ไม'ได้\" สามืตอบภรรยาของตนไปว่า \"ไม่ เป็นไร เราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว น้องจงตั้งสัจจวาจาเถิด\" www.kalyanamitra.org
ภรรยาได้ฟังดังนั้นจึงตั้งสัจจวาจาว่า \"งูไม่เป็นที่พอใจบุตรซาย ข้าพเจ้าฉันใด สามีข้าพเจ้าก็ไม่เป็นที่พอใจข้าพเจ้าฉันนั้น แต่ข้าพเจ้าก็ อดทนอยู่ด้วยกันมาตลอด ด้วยอำนาจสัจจวาจานี้ฃอพิษร้ายจงคลายไปเถิด ซอความสวัสดีจงมีแก'บุตรขายข้าพเจ้า\" พอนางพูดจบปรากฏว่าพิษที่เหลือ ก็หยดลงบนแผ่นดิน ลูกซายหายจากพิษร้าย นี่คือการล้างพิษด้วยอำนาจ สัจจวาจา เราอาศัยอำนาจความสัตย์ขจัดพิษได้ ถ้าผู้ที่ตั้งความสัตย์นั้นเป็น ผู้ที่มีบุญในตัวเพียงพอ ประพฤติตนเป็นคนดีโดยปกติ มีคืลธรรม มีทั้งบุญ ในอดีตและบุญปัจจุบัน ประการต่อมาเมื่อตั้งความสัตย์ คือ สามารถดัดใจกล่าวความจริง ได้โดยไม่หวาดกลัวต่อผลกระทบ เรื่องนี้ดูผิวเผินเหมีอนง่าย แต่จริงๆ ไม่ ง่ายเลย ยกตัวอย่างดาบสบวซมา 50 กว่าปี จะให้พูดความจริงต่อหน้าเพื่อน นั้นไม่ง่ายเลย อาจกลัวเพื่อนไม่น้บถือศรัทธา แล้วจะนำเรื่องไปพูดต่อๆ กัน แต่ดาบสก็ดัดใจพูดความจริง 98 www.kalyanamitra.org
การปฏิบัติเซ่นนี้ต้องใช้กำลังใจอย่างมากในการตั้งสัจจวาจา เป็นการรวมกำลังบุญที่ตัวเองมีอยู่ พุ่งเป๋าไปเพื่อการล้างพิษให้กับบุคคลที่ ตัวเองต้องการช่วยเหลือ ผลบุญจึงส่งผลแรงเป็นพิเศษ ที่สำ คัญตัวผู้รับการช่วยเหลือก็ต้องมีบุญเพียงพอด้วย เมื่อวิบาก กรรมที่ตามมาส่งผลเริ่มเบาบางลงไปแล้ว พอบุญของผู้อื่นมาช่วยหนุนก็ส่ง ผลให้หลุดพ้นปลอดภัย ในยุคสมัยนี้ วิธีการล้างพิษแบบนี้ไม่ค่อยมีใครใต้ปฏิบัติ แต่เราไม่ ควรมองข้าม ไม่เฉพาะกรณีล้างพิษเท่านั้น แม่ในเรื่องอื่นๆ ก็เช่นเดืยวกัน การตั้งล้จจวาจาจะส่งผลอย่างไม่น่าเชื่อให้เราลองเอาวิธีการล้าง พิษในพระพุทธศาสนาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลไปลองใช้กันดู แล้วขอให้ปลอด โปร่ง ชีวิตมีความสุข แข็งแรงล้วนหน้ากันทุกคน 99 www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178