Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนรายสัปดาห์ ม.ต้น 2-65

แผนการสอนรายสัปดาห์ ม.ต้น 2-65

Published by ae2530pattama, 2023-06-13 12:47:12

Description: แผนการสอนรายสัปดาห์ ม.ต้น 2-65

Search

Read the Text Version

กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมินผล หมำยงำน บหมายใหผ้ ้เู รยี นทาใบงาน ทัศนศิลป์ 72

แผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ รำยวิชำคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ในกำรใชส้ ่อื สงั คมออนไลน์ สค0200035 (สปั ดำหท์ ี่ 10–12) 73

คำอธบิ ำยรำยวิชำ / ตำรำงวเิ ครำะห์หลกั สูตรรำยวชิ ำ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำคณุ ธรรมจริยธรรมในกำรใช้สือ่ สังคมออนไลน์ รหสั สค0200035 สำระ กำรพฒั นำสังคม ระดับมธั ยมศึกษำตอนต้น จำนวน 2 หน่วยกิต มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่าง สนั ติสขุ ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกบั เรอื่ ง ดังน้ี คือ 1. การสอ่ื สารในยคุ ดจิ ทิ ลั ความหมาย องค์ประกอบ และวัตถุประสงคข์ องการสอ่ื สาร ความหมายและรปู แบบของการ สอื่ สารในยคุ ดจิ ทิ ลั เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ (Social Network) มารยาทในการสื่อสารในยุคดจิ ิทลั แนวโนม้ ส่อื ดจิ ทิ ัลในอนาคต กรณีศกึ ษา : การใช้ประโยชนก์ ารสอื่ สารในยคุ ดจิ ิทลั 2. คุณธรรมจรยิ ธรรมในการใชส้ อื่ สงั คมออนไลน์ ความหมายและความสาคญั ของคุณธรรมและจริยธรรม จรรยาบรรณในการใชส้ อ่ื สงั คม ออนไลน์และความสาคัญ การรเู้ ท่าทันสอ่ื ความรับผิดชอบในการใช้สอ่ื สังคมออนไลน์ กฎหมายเกยี่ วกบั การ ใชส้ ื่อสงั คมออนไลน์ ขอ้ แตกต่างระหวา่ ง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และกฎหมายเก่ยี วกบั การใชส้ อื่ สงั คมออนไลน์ กรณีศกึ ษา : การละเมดิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใชส้ อ่ื สงั คมออนไลน์ กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ บรรยายสรปุ กาหนดประเดน็ ศึกษาค้นควา้ รว่ มกัน ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง พบกลุ่ม อภปิ รายผล ศึกษาค้นควา้ สรุปผลการเรียนรู้ที่ไดร้ ่วมกัน ฝกึ ปฏบิ ัติวิเคราะห์กรณศี ึกษาจดั ทารายงานผลการวิเคราะห์ กรณีศึกษาส่งครผู สู้ อน นาเสนอผลการวเิ คราะหก์ รณศี กึ ษาและบนั ทกึ ผลการเรยี นรทู้ ่ไี ด้ลงเอกสารการเรยี นรู้ ด้วยตนเอง (กรต.) กำรวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรยี นรู้ 2. วัดความร้จู ากการทากจิ กรรม ใบงาน ในกิจกรรมทา้ ยบท 3. การวดั ผลสมั ฤทธ์ิปลายภาค 4. ช้ินงาน 74

รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำคณุ ธรรมจรยิ ธรรมในกำรใชส้ ือ่ สังคมออนไลน์ สค0200035 จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเห็นคณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรมประเพณี เพือ่ การอยูร่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสขุ ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ช้ีวดั เนอ้ื หำ จำนวน (ชว่ั โมง) 1 การสอ่ื สารในยคุ 1.บอกความหมาย องคป์ ระกอบและ 1.ความหมายองคป์ ระกอบและ 35 ดจิ ิทลั วัตถปุ ระสงคข์ องการส่อื สารได้ วตั ถปุ ระสงคข์ องการสื่อสาร 2.บอกความหมายและรูปแบบของการ 2.ความหมายและรปู แบบของการ สอื่ สารในยคุ ดิจทิ ลั ส่อื สารในยุคดิจทิ ลั 3.บอกความหมายและความสาคัญของ 3.เครือข่ายสงั คมออนไลน์ (Socail เครอื ข่ายต่อสังคมออนไลนไ์ ด้ Network ) 4.ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของ 3.1 ความหมายและความสาคัญ เครือข่ายสงั คมออนไลน์ ของเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ 5.ระบปุ ระเภทของเครือข่ายสงั คม 3.2 ประเภทของเครือข่ายสงั คม ออนไลนท์ น่ี ยิ มใช้ในปจั จบุ นั เช่น ออนไลน์ทนี่ ยิ มใชใ้ นปจั จบุ ัน Facebook Instargram Twitter 3.3 ประโยชน์และขอ้ จากัดของ เป็นต้น เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ 6.บอกประโยชนแ์ ละข้อจากดั ของ เครือข่ายสงั คมออนไลนไ์ ด้ 7. ตระหนักถึงประโยชนแ์ ละข้อจากัด ของเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์และ สามารถปรบั ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม 8. มมี ารยาทและการส่อื สารในยคุ 4.มารยาทการสือ่ สารในยคุ ดิจิทลั ดิจทิ ลั และประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ 5.แนวโนม้ สอื่ ดจิ ทิ ลั ในอนาคต 9. วิเคราะห์และอธิบายแนวโนม้ สอ่ื ดิจิทัลในอนาคตได้ 10.วเิ คราะหก์ รณีศึกษา : การใช้ 6.กรณศี ึกษา : การใช้ประโยชน์ ประโยชนก์ ารสอื่ สารในยุคดิจทิ ลั ได้ การสอื่ สารในยุคดิจิทลั 2 คณุ ธรรมและ 1.บอกความหมายและอธบิ าย 1.ความหมายและความสาคัญของ 45 จริยธรรมในการสอ่ื ความสาคัญของคณุ ธรรมจรยิ ธรรมได้ คุณธรรมและจรยิ ธรรม สังคมออนไลน์ 2.ตระหนกั ถึงความสาคญั ของคุณธรรม 1.2 ความหมายของคณุ ธรรมา และจริยธรรม และจริยธรรม 75

ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้ีวดั เนอื้ หำ จำนวน (ชัว่ โมง) 3.บอกจรรยาบรรณในการใชส้ ือ่ สังคม 1.2 ความสาคญั ของคณุ ธรรม ออนไลน์ และอธบิ ายความสาคญั ได้ และจรยิ ธรรม 4.ตระหนกั ถึงความสาคญั ของ 2.จรรยาบรรณในการใชส้ ่อื สงั คม จรรยาบรรณในการใช้ส่ือสงั คม ออนไลนแ์ ละความสาคญั ออนไลน์ 5.อธิบายแนวคดิ ความสาคญั 3.การรเู้ ท่าทนั สื่อ องค์ประกอบของการรเู้ ท่าทนั ส่ือและ 3.1 แนวคดิ การรูเ้ ท่าทนั ส่อื เลอื กใชส้ ่ือไดอ้ ย่างเหมาะสม 3.2 ความสาคัญของการรเู้ ท่าทัน 6.ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของ สอื่ การรเู้ ทา่ ทนั สื่อ 3.3 องคป์ ระกอบของการร้เู ท่า 7.ยกตวั อย่างการแสดงออกถงึ ความ ทันส่อื รับผิดชอบในการใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ 3.4 แนวทางการปฏิบตั ใิ หร้ ู้เทา่ 8.ตระหนกั ถึงความรบั ผดิ ชอบในการ ทันสอ่ื ใชส้ อื่ สงั คมออนไลน์ 3.5 ขอ้ ความระวังในการใช้สอ่ื 4.ความรบั ผดิ ชอบในการใช้สอื่ สงั คมออนไลน์ 4.1 ต่อตนเอง 4.2 ตอ่ บุคคลอืน่ 4.3 ตอ่ สังคม 9.บอกสาระความสาคัญของกฎหมาย 5.กฎหมายเกยี่ วกับการใช้ส่อื สงั คม เก่ยี วกับการสื่อสงั คมออนไลน์ได้ ออนไลน์ 10.วิเคราะหข์ ้อแตกต่างแตกระหวา่ ง 6.ข้อแตกตา่ งระหว่างคณุ ธรรม คุณธรรม จริยธรรมและกฎหมาย จริยธรรมและกฎหมายเกีย่ วกบั การ เกย่ี วกับการใชส้ อ่ื สงั คมออนไลน์ใน ใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์ สถานการณ์ทก่ี าหนดได้ 11.วเิ คราะหก์ รณีศึกษา : การละเมิด 7.กรณศี กึ ษา : การละเมดิ คุณธรรม คณุ ธรรมจริยธรรมในการใชส้ อ่ื สงั คม และจริยธรรมในการใชส้ อื่ สงั คม ออนไลน์ทศี่ กึ ษาได้ ออนไลน์ 12.ตระหนักผลกระทบของการละเมิด คุณธรรมและจริยธรรมในการสอ่ื สงั คม ออนไลน์ 76

ตำรำงวิเครำะห์เนอ้ื หำ หลักสตู รกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น ภำคเรียนที่ 2 ปกี ำรศึกษำ 2565 สำระกำรพฒั นำสงั คม รำยวิชำ คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในกำรใช้สื่อสงั คมออนไลน์ รหัส สค0200035 จำนวน 2 หนว่ ยกิต กศน.อำเภอท่ำมะกำ สำนักงำน กศน.จังหวัดกำญจนบุรี มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเหน็ คุณคา่ และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพื่อการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ ที่ ตัวชี้วัด เนอื้ หำ เน้ือหำง่ำย เนื้อหำ เนอ้ื หำยำก โครงงำน ดว้ ยตนเอง ปำนกลำง นำมำสอน (คง.) (พบกลมุ่ ) เสรมิ (สส.) (กรต.) 1 1.บอกความหมาย 1.ความหมายองคป์ ระกอบและ / องค์ประกอบและ วตั ถุประสงคข์ องการสื่อสาร / วัตถปุ ระสงคข์ อง 2.ความหมายและรูปแบบของการ การสอื่ สารได้ สื่อสารในยุคดิจทิ ลั 2.บอกความหมาย 3.เครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ (Socail และรปู แบบของ Network ) / การสอ่ื สารในยุค 3.1 ความหมายและความสาคญั ดจิ ิทลั ของเครือข่ายสังคมออนไลน์ 3.บอกความหมาย 3.2 ประเภทของเครอื ขา่ ยสังคม และความสาคญั ออนไลนท์ ่นี ิยมใช้ในปจั จบุ นั ของเครอื ขา่ ยตอ่ 3.3 ประโยชน์และขอ้ จากดั ของ สังคมออนไลนไ์ ด้ เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ 4.ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของ เครือขา่ ยสงั คม ออนไลน์ 5.ระบปุ ระเภท ของเครือข่าย สังคมออนไลนท์ ี่ นิยมใชใ้ นปจั จบุ ัน เช่น Facebook Instargram Twitter เปน็ ตน้ 77

ที่ ตวั ชีว้ ดั เน้ือหำ เนือ้ หำง่ำย เนอ้ื หำ เนือ้ หำยำก โครงงำน ด้วยตนเอง ปำนกลำง นำมำสอน (คง.) (พบกลมุ่ ) เสริม (สส.) (กรต.) 6.บอกประโยชน์ และข้อจากัดของ เครือข่ายสงั คม ออนไลน์ได้ 7. ตระหนกั ถงึ ประโยชนแ์ ละ ขอ้ จากัดของ เครือข่ายสงั คม ออนไลนแ์ ละ สามารถปรบั ใช้ได้ อย่างเหมาะสม 8. มมี ารยาทและ 4.มารยาทการสื่อสารในยุคดิจิทลั / การสอ่ื สารในยุค ดิจทิ ลั และ ประยุกตใ์ ช้ได้ / 9. วเิ คราะห์และ 5.แนวโนม้ สอ่ื ดจิ ทิ ลั ในอนาคต อธบิ ายแนวโน้มสือ่ ดจิ ทิ ัลในอนาคตได้ / 10.วิเคราะห์ 6.กรณศี ึกษา : การใช้ประโยชนก์ าร กรณศี ึกษา : การ ส่ือสารในยุคดจิ ทิ ลั ใชป้ ระโยชน์การ สื่อสารในยคุ ดจิ ิทลั ได้ 1.บอกความหมาย 1.ความหมายและความสาคัญของ / และอธิบายความ คุณธรรมและจรยิ ธรรม สาคัญของ 1.2 ความหมายของคณุ ธรรมา คุณธรรมจรยิ ธรรม และจริยธรรม ได้ 1.2 ความสาคญั ของคณุ ธรรม 2.ตระหนกั ถงึ และจริยธรรม ความสาคัญของ 78

ที่ ตวั ชีว้ ดั เน้อื หำ เนือ้ หำง่ำย เนือ้ หำ เนอื้ หำยำก โครงงำน ด้วยตนเอง ปำนกลำง นำมำสอน (คง.) (พบกลุม่ ) เสริม (สส.) (กรต.) คุณธรรมและ จรยิ ธรรม 2.จรรยาบรรณในการใช้สอ่ื สงั คม / 3.บอกจรรยา บรรณในการใช้สือ่ ออนไลน์และความสาคญั สงั คมออนไลน์ และอธบิ าย ความสาคญั ได้ 4.ตระหนกั ถึง ความสาคัญของ จรรยาบรรณใน การใช้ส่ือสงั คม ออนไลน์ 5.อธิบายแนวคิด 3.การรเู้ ท่าทันส่อื / ความสาคัญ 3.1 แนวคดิ การร้เู ท่าทนั ส่ือ องคป์ ระกอบของ 3.2 ความสาคญั ของการรเู้ ทา่ ทนั การรเู้ ท่าทันสอ่ื ส่ือ และเลือกใชส้ อ่ื ได้ 3.3 องค์ประกอบของการร้เู ทา่ อยา่ งเหมาะสม ทนั สื่อ 6.ตระหนกั และ 3.4 แนวทางการปฏบิ ตั ิใหร้ ู้เทา่ เห็นความสาคญั ทันสื่อ ของการรเู้ ทา่ ทนั 3.5 ข้อความระวังในการใช้สอ่ื ส่ือ 4.ความรับผิดชอบในการใช้สอื่ / 7.ยกตัวอย่างการ สังคมออนไลน์ แสดงออกถงึ ความ 4.1 ตอ่ ตนเอง รับผดิ ชอบในการ 4.2 ต่อบุคคลอ่ืน ใชส้ ่อื สงั คม 4.3 ต่อสงั คม ออนไลน์ 8.ตระหนกั ถงึ ความรับผดิ ชอบ 79

ที่ ตวั ชี้วดั เนือ้ หำ เน้ือหำง่ำย เนอ้ื หำ เนอื้ หำยำก โครงงำน ดว้ ยตนเอง ปำนกลำง นำมำสอน (คง.) (พบกลุม่ ) เสริม (สส.) (กรต.) ในการใชส้ อ่ื สงั คม ออนไลน์ 5.กฎหมายเกยี่ วกบั การใช้สอ่ื สังคม / 9.บอกสาระ ออนไลน์ ความสาคญั ของ 6.ข้อแตกตา่ งระหวา่ งคุณธรรม / กฎหมายเกี่ยวกับ จรยิ ธรรมและกฎหมายเกยี่ วกบั การ การสอื่ สงั คม ใช้สื่อสงั คมออนไลน์ ออนไลน์ได้ 7.กรณศี กึ ษา : การละเมดิ คณุ ธรรม 10.วิเคราะห์ข้อ และจรยิ ธรรมในการใชส้ อ่ื สงั คม แตกตา่ งแตก ออนไลน์ / ระหว่างคุณธรรม จรยิ ธรรมและ กฎหมายเก่ียวกบั การใช้สื่อสังคม ออนไลน์ใน สถานการณ์ที่ กาหนดได้ 11.วเิ คราะห์ กรณีศกึ ษา : การ ละเมิดคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้ ส่อื สงั คมออนไลน์ ท่ีศึกษาได้ 12.ตระหนัก ผลกระทบของการ ละเมดิ คุณธรรม และจริยธรรมใน การสอื่ สงั คม ออนไลน์ 80

แผนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ รำยวชิ ำคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ในกำรใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ สค0200035 (สปั ดำหท์ ี่ 10) 81

แผนกำรจดั กำรเรียนรรู้ ำยวิชำ สำระกำรพฒั นำสังคม รำยวิชำคณุ ธร ระดบั มัธยมศึกษำตอนต หัวเร่ือง กำรสื่อส สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หวั เรื่อง/ตัวช้วี ดั เนอื้ หำสำระกำรเรียนรู้ กำรจ ท่ี 10 3.บอกความหมาย 3. เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ ขั้นท่ี 1 กาหน และความสาคัญ (Socail Network) กำรจดั กิจกรร ของเครือข่ายต่อ 3.1 ความหมายและ ON SITE สงั คมออนไลน์ได้ ความสาคัญของเครอื ขา่ ย 1. ครกู ล่าวทกั 4.ตระหนกั ถึง สงั คมออนไลน์ - ครูและผ้เู รีย ความสาคัญของ 3.2 ประเภทสังคม เกยี่ วกบั เร่อื งก เครือข่ายสงั คม ออนไลนท์ ่ีนิยมใชใ้ น - ครูและผู้เรีย ออนไลน์ ปัจจบุ ัน เครือข่ายสงั คม 5.ระบปุ ระเภท 3.3 ประโยชนแ์ ละ ความสาคัญขอ ของเครอื ข่าย ขอ้ จากัดของเครอื ข่าย ประเภทของส สงั คมออนไลนท์ ่ี สงั คมออนไลน์ ปจั จุบนั ประ นิยมใชใ้ นปัจจบุ นั เครือข่ายสงั คม เช่น Facebook กำรจดั กิจกรร Instargram ON AIR Twitter เปน็ ตน้ 1.ครูมอบหมา ETV ออนไลน

รรมและจรยิ ธรรมในกำรใชส้ ่อื สงั คมออนไลน์ รหสั วิชำ สค0200035 ตน้ จำนวน 2 หนว่ ยกติ สำรในยคุ ดจิ ิทลั จัดกระบวนกำรเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมินผล นดสภาพปัญหา -หนังสอื เรียน -การสงั เกต ขน้ั ที่ 1 สำมำรถ รมกำรเรียนกำรสอนแบบ -ใบความรู้ -การชกั ถาม ปรับเปล่ียนได้ -ใบงาน -การมีสว่ น ตำมควำม กทายและนาเข้าสูบ่ ทเรียน -อินเทอรเ์ นต็ ร่วม เหมำะสมของ ยนพดู คยุ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ -ห้องสมดุ กศน. -การตรวจ บริบท กศน. การสอื่ สารในยคุ ดจิ ทิ ลั ตาบล ผลงาน ตำบล ยนชว่ ยกันยกตวั อยา่ งเร่ืองของ -แหลง่ เรยี นรู้ -บนั ทกึ การ มออนไลน์ (Socail Network) ชุมชน เรยี นรู้ องเครือข่ายสงั คมออนไลน์ -คลปิ วีดีโอ สงั คมออนไลน์ท่ีนยิ มใช้ใน ออนไลน์ ะโยชน์และข้อจากดั ของ (Youtube) มออนไลน์ รมกำรเรียนกำรสอนแบบ ายใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเรียนรผู้ า่ น น์ www.etvthai.tv 82

สปั ดำห์ วัน/เดือน/ปี หวั เรอื่ ง/ตัวชวี้ ดั เนือ้ หำสำระกำรเรียนรู้ กำรจ ที่ 6.บอกประโยชน์ กำรจัดกิจกรร ON Line และข้อจากดั ของ 1.ครูพบกลมุ่ ผ ตา่ งๆ เช่น VD เครือข่ายสงั คม ZOOM เปน็ ต กำรจัดกจิ กรร ออนไลน์ได้ ON Hand 1. ครมู อบหม 7. ตระหนักถงึ พบกลมุ่ โดยจัด มารบั ที่ กศน. ประโยชน์และ พบกลุ่ม กำรจัดกิจกรร ขอ้ จากัดของ ON Deman 1.ครมู อบหมา เครือข่ายสงั คม ชอ่ งทางหอ้ งเร classroom W ออนไลน์และ มอบหมายงาน กลมุ่ หรอื เรยี น สามารถปรบั ใช้ได้ และใบความร อยา่ งเหมาะสม

จัดกระบวนกำรเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ ประเมินผล ผูเ้ รียนผ่านชอ่ งทางออนไลน์ DO CALL, GOOGLE MEET, ตน้ เพอื่ ติดตามพูดคุยกบั ผเู้ รียน รมกำรเรียนกำรสอนแบบ มายงานสาหรบั นกั ศึกษาที่ไมม่ า ดทาใบงาน ใบความรใู้ หผ้ ู้เรียน .ตาบล และนามาสง่ ในวันทม่ี า รมกำรเรียนกำรสอนแบบ nd ายใบงาน และใบความรูผ้ ่าน รียนออนไลน์ Google Website กศน.ตาบล เพอ่ื นให้ผเู้ รียนท่ไี ม่สะดวกมาพบ นออนไลน์ไดด้ าวน์โหลดใบงาน รเู้ พ่ือศกึ ษาและสง่ งาน 83

สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หวั เรื่อง/ตวั ชี้วดั เนื้อหำสำระกำรเรยี นรู้ กำรจ ท่ี ขัน้ ที่ 2 แสวง 1.ผูเ้ รยี นศึกษา ความรูแ้ ละสือ่ 2. ครูและผเู้ ร เรียนรู้ โดยแส สือ่ สารในยคุ ด 3. ครแู ละผเู้ ร สรปุ องคค์ วาม ขนั้ ที่ 3 กำรป ผเู้ รยี นนาควา ประจาวัน ขนั้ ท่ี 4 กำรป 1. สังเกต 2. บันทกึ การเ 3. ใบงาน 4. แบบทดสอ มอบหมายงาน 1. บันทึกการเ 2. แผนภาพค การสอื่ สารใน

จดั กระบวนกำรเรยี นรู้ สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมนิ ผล 84 งหำควำมรู้ าจากใบความรู้ คลปิ วดิ ีโอเสรมิ อตา่ ง ๆ รียนนาความรู้ทีไ่ ด้มาแลกเปลย่ี น สดงบทบาทสมมุติในเรอื่ งการ ดจิ ทิ ลั รยี นร่วมกนั อภปิ รายและนามา มรทู้ ไ่ี ด้รบั ปฏบิ ัตินำไปใช้ ามรู้ทีไ่ ดร้ บั มาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ เรียนรู้ (กรต) อบออนไลน์ น เรียนรู้ (กรต.) ความคิดสรปุ องคค์ วามรู้ เรอ่ื ง นยุคดิจทิ ลั

แผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ รำยวชิ ำคุณธรรมและจรยิ ธรรม ในกำรใชส้ อ่ื สงั คมออนไลน์ สค0200035 สปั ดำหท์ ี่ 11 85

แผนกำรจัดกำรเรียนรรู้ ำยวชิ ำ สำระกำรพฒั นำสงั คม รำยวชิ ำคณุ ธร ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต หัวเรื่อง คณุ ธรรมและจริยธรร สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หัวเรื่อง/ตวั ชว้ี ัด เนื้อหำสำระกำรเรยี นรู้ กำรจ 11 3.บอกจรรยา 2.จรรยาบรรณในการใช้ ข้นั ที่ 1 กาหน บรรณ ในการใช้ สือ่ สงั คมออนไลนแ์ ละ กำรจดั กจิ กรร สื่อสงั คมออนไลน์ ความสาคัญ ON SITE และอธิบายความ 3.การรเู้ ท่าทันส่ือ 1. ครูกล่าวทัก สาคัญได้ 3.1 แนวคดิ การร้เู ทา่ ทัน - ครแู ละผู้เรียน 4.ตระหนกั ถงึ ส่อื เกีย่ วกบั เรือ่ งค ความสาคญั ของ 3.2 ความสาคัญของการ สังคมออนไลน จรรยาบรรณใน ร้เู ท่าทันส่ือ - ครูและผู้เรยี น การใชส้ อ่ื สังคม 3.3 องค์ประกอบของ จรรยาบรรณใ ออนไลน์ การรเู้ ท่าทันสื่อ ความสาคญั ก 5.อธบิ ายแนวคดิ 3.4 แนวทางการปฏบิ ตั ิ รบั ผดิ ชอบในก ความสาคญั ใหร้ ู้เทา่ ทนั สอื่ กำรจัดกจิ กรร องค์ประกอบของ 3.5 ขอ้ ควรระวงั ในการ ON AIR การรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ใช้สอ่ื 1.ครูมอบหมา และเลอื กใชส้ อื่ ได้ 4. ความรับผดิ ชอบในการ ETV ออนไลน อย่างเหมาะสม ใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์

รรมและจรยิ ธรรมในกำรใช้สื่อสังคมออนไลน์ รหสั วชิ ำ สค0200035 ต้น จำนวน 2 หน่วยกติ รมในกำรใชส้ ื่อสังคมออนไลน์ จัดกระบวนกำรเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ กำรวดั และ หมำยเหตุ ประเมนิ ผล นดสภาพปัญหา -หนังสอื เรยี น -การสงั เกต ข้ันท่ี 1 สำมำรถ รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ -ใบความรู้ -การชกั ถาม ปรับเปล่ยี นได้ -ใบงาน -การมสี ว่ น ตำมควำม กทายและนาเขา้ สบู่ ทเรียน -อินเทอรเ์ นต็ ร่วม เหมำะสมของ นพูดคยุ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ -หอ้ งสมดุ กศน. -การตรวจ บรบิ ท กศน. คุณธรรมจริยธรรมในการใชส้ อ่ื ตาบล ผลงาน ตำบล น์ -แหลง่ เรียนรู้ -บันทกึ การ นช่วยกันยกตวั อยา่ งเรอ่ื งของ ชมุ ชน เรยี นรู้ ในการใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์และ -คลิปวีดีโอ การรเู้ ท่าทนั สอ่ื ความ ออนไลน์ การใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ (Youtube) รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ ายให้ผเู้ รียนศึกษาเรยี นรูผ้ า่ น น์ www.etvthai.tv 86

สปั ดำห์ วัน/เดือน/ปี หวั เร่ือง/ตวั ชี้วดั เนอ้ื หำสำระกำรเรียนรู้ กำรจ 6.ตระหนกั และ 4.1 ตอ่ ตนเอง กำรจัดกจิ กรร เห็นความสาคญั 4.2 ตอ่ บุคคลอ่ืน ON Line ของการร้เู ท่าทัน 4.3 ตอ่ สังคม 1.ครพู บกลุ่มผ สื่อ ต่างๆ เช่น VD 7.ยกตวั อย่างการ ZOOM เปน็ ต แสดงออกถงึ ความ กำรจดั กจิ กรร รบั ผดิ ชอบในการ ON Hand ใช้ส่อื สงั คม 1. ครมู อบหมา ออนไลน์ พบกลมุ่ โดยจดั 8.ตระหนกั ถึง มารับท่ี กศน.ต ความรับผิดชอบ พบกลุ่ม ในการใชส้ อื่ สังคม กำรจดั กิจกรร ออนไลน์ ON Demand 1.ครูมอบหมา ช่องทางหอ้ งเร classroom W มอบหมายงาน กลมุ่ หรอื เรียน และใบความรเ

จดั กระบวนกำรเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ รมกำรเรียนกำรสอนแบบ ประเมนิ ผล ผเู้ รียนผา่ นช่องทางออนไลน์ DO CALL, GOOGLE MEET, ต้น เพ่อื ตดิ ตามพดู คยุ กับผ้เู รยี น รมกำรเรียนกำรสอนแบบ ายงานสาหรบั นกั ศึกษาท่ีไม่มา ดทาใบงาน ใบความรใู้ หผ้ เู้ รียน ตาบล และนามาส่งในวนั ทมี่ า รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ d ายใบงาน และใบความรู้ผา่ น รียนออนไลน์ Google Website กศน.ตาบล เพือ่ นให้ผเู้ รียนที่ไมส่ ะดวกมาพบ นออนไลน์ได้ดาวนโ์ หลดใบงาน เู้ พ่อื ศกึ ษาและสง่ งาน 87

สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หวั เร่อื ง/ตวั ช้วี ัด เน้อื หำสำระกำรเรยี นรู้ กำรจ ขั้นที่ 2 แสวง 1.ผู้เรียนศึกษา ความรแู้ ละส่อื 2. ครูและผเู้ รีย เรยี นรู้ โดยแส คุณธรรมและจ ออนไลน์ 3. ครแู ละผเู้ รีย สรปุ องค์ความ ข้นั ที่ 3 กำรป ผูเ้ รยี นนาความ ประจาวนั ขน้ั ท่ี 4 กำรป 1. สงั เกต 2. บันทกึ การเ 3. ใบงาน 4. แบบทดสอ

จดั กระบวนกำรเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมนิ ผล งหำควำมรู้ าจากใบความรู้ คลปิ วดิ ีโอเสริม อตา่ ง ๆ ยนนาความร้ทู ไี่ ด้มาแลกเปลี่ยน สดงบทบาทสมมตใิ นเร่อื ง จรยิ ธรรมในการใช้สอ่ื สงั คม ยนร่วมกันอภิปรายและนามา มรทู้ ่ีได้รับ ปฏิบัตินำไปใช้ มรทู้ ี่ได้รบั มาปรบั ใช้ในชีวิต ประเมินผลกำรเรยี นรู้ เรียนรู้ (กรต) อบออนไลน์ 88

สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หัวเร่อื ง/ตวั ช้วี ัด เน้อื หำสำระกำรเรยี นรู้ กำรจ มอบหมายงาน 1. บนั ทึกการเ 2. แผนภาพคว คณุ ธรรมและจ ออนไลน์

จดั กระบวนกำรเรียนรู้ สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมนิ ผล น เรยี นรู้ (กรต.) วามคดิ สรปุ องค์ความรู้ เรอื่ ง จริยธรรมในการใช้สอื่ สงั คม 89

แผนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ รำยวชิ ำคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ในกำรใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ สค0200035 (สปั ดำหท์ ี่ 12) 90

แผนกำรจัดกำรเรียนร้รู ำยวชิ ำ สำระกำรพฒั นำสังคม รำยวชิ ำคุณธร ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต หวั เรือ่ ง คณุ ธรรมและจริยธรร สปั ดำห์ วนั /เดือน/ปี หวั เร่ือง/ตัวชว้ี ัด เน้อื หำสำระกำรเรียนรู้ กำร 12 9.บอกสาระ 5. กฎหมายเก่ียวกบั การใช้ ขัน้ ที่ 1 กำห ความสาคัญของ สือ่ สงั คมออนไลน์ กำรจดั กิจกร กฎหมายเกีย่ วกับ 6.ขอ้ แตกตา่ งระหวา่ ง ON SITE การสอ่ื สงั คม คุณธรรม จริยธรรมและ 1. ครกู ลา่ วท ออนไลน์ได้ กฎหมายเกยี่ วกับการใชส้ อ่ื - ครูและผ้เู ร 10.วเิ คราะหข์ ้อ สังคมออนไลน์ เกี่ยวกบั เรื่อง แตกต่างแตก สือ่ สงั คมออน ระหวา่ งคุณธรรม - ครแู ละผู้เร จริยธรรมและ กฎหมายเกีย่ กฎหมายเกี่ยวกับ ข้อแตกตา่ งร การใช้ส่ือสงั คม กฎหมายเกยี่ ออนไลน์ใน กำรจัดกจิ กร สถานการณ์ที่ ON AIR กาหนดได้ 1.ครมู อบหม ETV ออนไล

รรมและจรยิ ธรรมในกำรใช้สื่อสังคมออนไลน์ รหสั วิชำ สค0200035 ตน้ จำนวน 2 หน่วยกติ รมในกำรใช้ส่อื สังคมออนไลน์ รจัดกระบวนกำรเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ กำรวดั และ หมำยเหตุ ประเมินผล หนดสภำพปัญหำ -หนงั สือเรียน -การสงั เกต ขั้นท่ี 1 รรมกำรเรยี นกำรสอนแบบ -ใบความรู้ -การชกั ถาม สำมำรถ -ใบงาน -การมสี ว่ น ปรับเปลีย่ น ทกั ทายและนาเขา้ ส่บู ทเรียน -อนิ เทอรเ์ นต็ ร่วม ไดต้ ำมควำม รยี นพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ -ห้องสมุด กศน. -การตรวจ เหมำะสม งคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการใช้ ตาบล ผลงาน ของบรบิ ท นไลน์ -แหล่งเรยี นรู้ -บนั ทกึ การ กศน.ตำบล รียนชว่ ยกนั ยกตัวอย่างเรือ่ งของ ชมุ ชน เรียนรู้ ยวกับการใชส้ ือ่ สังคมออนไลน์ -คลิปวีดีโอ ระหว่างคุณธรรม จริยธรรมและ ออนไลน์ ยวกบั การใช้สอ่ื สังคมออนไลน์ (Youtube) รรมกำรเรียนกำรสอนแบบ มายใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเรียนรู้ผา่ น ลน์ www.etvthai.tv 91

สปั ดำห์ วนั /เดอื น/ปี หวั เร่อื ง/ตัวช้วี ดั เน้อื หำสำระกำรเรยี นรู้ กำร กำรจัดกจิ กร ON Line 1.ครูพบกลุ่ม ตา่ งๆ เช่น V ZOOM เป็น กำรจัดกิจกร ON Hand 1. ครมู อบห พบกลุ่มโดยจ มารับท่ี กศน พบกลุ่ม กำรจัดกิจกร ON Dema 1.ครูมอบหม ช่องทางหอ้ ง classroom มอบหมายงา กลุม่ หรือเรยี และใบความ

รจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ รรมกำรเรียนกำรสอนแบบ ประเมินผล มผูเ้ รยี นผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ VDO CALL, GOOGLE MEET, นต้น เพือ่ ตดิ ตามพูดคุยกบั ผเู้ รยี น รรมกำรเรยี นกำรสอนแบบ หมายงานสาหรบั นกั ศกึ ษาทีไ่ มม่ า จัดทาใบงาน ใบความรู้ใหผ้ ู้เรียน น.ตาบล และนามาสง่ ในวนั ท่มี า รรมกำรเรยี นกำรสอนแบบ nd มายใบงาน และใบความรู้ผ่าน งเรียนออนไลน์ Google Website กศน.ตาบล เพือ่ านให้ผเู้ รยี นท่ีไม่สะดวกมาพบ ยนออนไลนไ์ ด้ดาวนโ์ หลดใบงาน มรเู้ พ่ือศกึ ษาและสง่ งาน 92

สปั ดำห์ วนั /เดอื น/ปี หวั เรื่อง/ตวั ชี้วดั เน้อื หำสำระกำรเรยี นรู้ กำร ขน้ั ที่ 2 แสว 1.ผู้เรยี นศกึ ษ ความร้แู ละส 2. ครูและผเู้ เรียนรู้ โดยแ คณุ ธรรมจริย ออนไลน์ 3. ครแู ละผเู้ สรปุ องค์ควา ขัน้ ที่ 3 กำร ผูเ้ รียนนาคว ประจาวนั ข้นั ที่ 4 กำร 1. สังเกต 2. บนั ทึกกา 3. ใบงาน 4. แบบทดส

รจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมินผล วงหำควำมรู้ ษาจากใบความรู้ คลิปวิดโี อเสริม สือ่ ตา่ ง ๆ เรยี นนาความรู้ทไ่ี ดม้ าแลกเปลี่ยน แสดงบทบาทสมมุติในเรื่อง ยธรรมในการใชส้ ่ือสงั คม เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและนามา ามรทู้ ี่ไดร้ ับ รปฏบิ ัตินำไปใช้ วามรู้ท่ีไดร้ บั มาปรบั ใชใ้ นชีวติ รประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ารเรียนรู้ (กรต) สอบออนไลน์ 93

สปั ดำห์ วนั /เดอื น/ปี หวั เรื่อง/ตวั ชี้วดั เนื้อหำสำระกำรเรยี นรู้ กำร มอบหมายงา 1. บนั ทกึ กา 2. แผนภาพ คุณธรรมแล ออนไลน์

รจดั กระบวนกำรเรียนรู้ สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมนิ ผล าน ารเรียนรู้ (กรต.) พความคดิ สรุปองคค์ วามรู้ เรอ่ื ง ะจรยิ ธรรมในการใช้สอื่ สงั คม 94

สอบวดั ผลสมั ฤทธกิ์ ลำงภำค ภำคเรยี นที่ 2/2565 (สัปดำห์ท่ี 13)

สอบวัดผลสัมฤทธ์ิกล ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ ภำค สัปดำห์ วัน/เดือน/ปี หวั เรือ่ ง/ตัวชว้ี ัด เน้อื หำสำระกำรเ 13 28-29 มกราคม สอบวดั ผลสมั ฤทธก์ิ ลาง ศูนยก์ ารศึกษานอกระ 2566 ภาคเรยี น กศน.อาเภอ การศึกษาตามอัธยาศยั ท่ามะกา ภาคเรยี นที่ ท่ามะกา ดาเนินการจดั 2/2565 วัดผลสมั ฤทธิ์กลางภาค 2 ปีการศกึ ษา 2565

ลำงภำคเรยี น คเรียนท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2565 เรียนรู้ กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ กำรวัดและ ประเมนิ ผล ะบบและ สนามสอบศูนย์การศกึ ษา ข้อสอบวัด คะแนนการ ยอาเภอ นอกระบบและการศกึ ษา ผลสมั ฤทธ์ิ สอบ ดสอบ ตามอธั ยาศัยอาเภอ คเรยี นท่ี ท่ามะกา ที่ดาเนินการจัด สอบวดั ผลสัมฤทธิ์กลาง ภาค เรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 มี 17 สนามสอบ ได้แก่ กศน. ตาบลทง้ั 17 แหง่ 96

แผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ รำยวชิ ำรทู้ ันขำ่ วและข่ำวปลอม (Fake News) สค0200036 (สปั ดำห์ท่ี 14-16) 97

คำอธบิ ำยรำยวิชำ / ตำรำงวเิ ครำะห์หลกั สตู รรำยวชิ ำ รำยวิชำ ร้ทู ันขำ่ วและขำ่ วปลอม (Fake News) รหสั สค0200036 สำระ กำรพฒั นำสงั คม ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ จำนวน 2 หน่วยกติ มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสาคญั ของหลกั การพฒั นา และสามารถนาความรู้ ทักษะไปพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน/สังคม ศึกษำและฝกึ ทักษะเก่ยี วกบั เรอื่ งดงั ต่อไปน้ี 1. ข่าวและข่าวปลอม (Fake News) 1.1. ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกบั ข่าว และข่าวปลอม (Fake News) รวมถงึ การทาใหเ้ กิดขา่ วปลอม (Fake News) ความแตกต่างระหวา่ งข่าวจริงและข่าวปลอมหรอื ขา่ วเท็จ (Fake News) ผลกระทบจากข่าวปลอม (Fake News) และการตรวจสอบข้อมลู ก่อนแชร์ 2. การร้เู ทา่ ทันข่าว 2.1. การรเู้ ท่าทนั ข่าวปลอม (Fake News) 2.2. การรบั มอื กบั ขา่ วปลอม (Fake News) 3. บทลงโทษการนาเขา้ ขอ้ มลู อันเป็นเทจ็ ในโลกสงั คมออนไลน์ 3.1 บทลงโทษการนาเข้าขอ้ มลู อันเปน็ เทจ็ ในสื่อสงั คมออนไลน์ 3.2. กรณศี กึ ษา : การรเู้ ทา่ ทนั ข่าวปลอม (Fake News) กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ บรรยายสรุปกาหนดประเดน็ ศกึ ษาค้นคว้ารว่ มกนั ศึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง พบกลมุ่ อภปิ รายผลการศกึ ษา คน้ คว้า สรปุ ผลการเรยี นรทู้ ่ีไดร้ ่วมกัน ฝกึ ปฏบิ ัติวิเคราะห์กรณีศกึ ษา จดั ทารายงานผลการวิเคราะห์ กรณศี กึ ษาส่ง ครผู สู้ อนนาเสนอผลการวเิ คราะหก์ รณีศกึ ษา และบนั ทึกผลการเรียนรทู้ ่ีไดร้ ับ ลงในเอกสารศกึ ษาการเรียนรู้ (กรต.) กำรวดั และประเมนิ ผล ประเมนิ ความกา้ วหน้าขณะจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรดู้ ว้ ยวิธีการสังเกต ซกั ถามตอบคาถาม การตรวจ รายงานผลการวิเคราะหก์ รณีศึกษา และตรวจเอกสารการเรยี นรู้ (กรต.) และประเมนิ ผล รวมหลงั จัดประสบการณ์ การเรยี นรเู้ สร็จสน้ิ ด้วยวิธีการใหต้ อบแบบทดสอบวดั ความรู้ 98

รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวิชำร้ทู นั ขำ่ วและข่ำวปลอม (Fake News) สค0200036 จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนต้น มำตรฐำนกำรเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นความสาคญั ของหลกั การพฒั นา และสามารถนาความรู้ ทกั ษะไปพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน/สงั คม ท่ี หวั เร่ือง ตัวชี้วดั เน้อื หำ จำนวน (ช่วั โมง) 1 ข่าวและขา่ วปลอม 1. บอกความหมาย ความสาคัญ 1. ความรูเ้ บอ้ื งต้นเกีย่ วกบั ขา่ ว 30 (Fake News) คุณลักษณะ องคป์ ระกอบและ 1.1 ความหมาย ความสาคัญ ประเภทของข่าวได้ ของข่าว 2. ตระหนักถงึ ความสาคญั ของข่าว 1.2 คุณลักษณะของขา่ ว 1.3 องคป์ ระกอบของข่าว 1.4 ประเภทของขา่ ว 3. บอกความหมาย ลกั ษณะและ 2. ขา่ วปลอม (Fake News) ประเภทข่าวปลอม (Fake News) ได้ 2.1 ความหมายของขา่ วปลอม (Fake News) 2.2 ลกั ษณะของข่าวปลอม (Fake News) 2.3 ประเภทของข่าวปลอม (Fake News) 4. อธบิ ายกระบวนการเกิดขา่ วปลอม 3. กระบวนการเกดิ ขา่ วปลอม (Fake News) ในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ (Fake News) 5. สามารถเปรยี บเทยี บความแตกตา่ ง 4. ความแตกต่างระหวา่ งข่าว ระหวา่ งขา่ วจริงกบั ข่าวปลอม จรงิ และขา่ วปลอม (Fake (Fake News) ได้ News) 4.1 ลักษณะข่าวจริง และ ขา่ วปลอม (Fake News) 99

ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนื้อหำ จำนวน (ช่ัวโมง) 4.2 วิธีสงั เกตขา่ วจริง และขา่ ว ปลอม (Fake News) ในสอ่ื สงั คมออนไลน์ 6. บอกผลกระทบของขา่ วปลอม 5. ผลกระทบของข่าวปลอม (Fake News) (Fake News) 7. ตระหนักถงึ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้ 6. การตรวจสอบกอ่ นการแชร์ จากขา่ วปลอม (Fake News) ท่ี เกิดข้ึนในสถานการณป์ จั จุบนั 8. สามารถวเิ คราะหข์ า่ วท่เี กิดขนึ้ ได้ วา่ เป็นขา่ วจริงหรือขา่ วปลอม (Fake News) 2 การรเู้ ท่าทนั ข่าว 1. บอกความหมายการรเู้ ท่าทนั ขา่ ว 1. การรเู้ ทา่ ทนั ขา่ วปลอม 20 ได้ (Fake News) 2. วเิ คราะหว์ ัตถปุ ระสงคก์ ารสร้าง 1.1 ความหมายของการ ขา่ วปลอม (Fake News) ได้ รเู้ ท่าทันขา่ ว 3. วิเคราะหส์ าเหตขุ องการเชื่อข่าว 1.2 วัตถุประสงคข์ องการสร้าง ปลอม (Fake News) รูปแบบตา่ ง ๆ ขา่ วปลอม (Fake News) ทเ่ี กิดข้ึน ในปัจจบุ นั และคดิ สรา้ งสรรค์ 1.3 สาเหตขุ องการเชือ่ ข่าว แนวทางการปอ้ งกันตนเองใหร้ เู้ ท่าทัน ปลอม (Fake News) ขา่ วปลอม (Fake News) ได้ 1.4 สร้างทักษะรู้เทา่ ทนั ขา่ ว 2. การรบั มอื กบั ข่าวปลอม (Fake News) 4. อธิบายลกั ษณะและรูปแบบของ 2.1 ลักษณะและรปู แบบเน้ือหา เนือ้ หาข่าวปลอม (Fake News) ได้ ของข่าวปลอม (Fake News) 5. สามารถจดั การรบั มอื กบั ข่าวปลอม 2.2 การจดั การข่าวปลอม (Fake News) ได้ (Fake News) 100

ที่ หัวเรือ่ ง ตัวชี้วดั เน้อื หำ จำนวน (ชั่วโมง) 3 บทลงโทษการนา 1. อธบิ ายบทลงโทษทเี่ กิดขน้ึ จาก 1. บทลงโทษการนาเข้าขอ้ มลู อนั 30 เข้าขอ้ มลู อันเป็น การนา เข้าข้อมูลอันเปน็ เทจ็ ในสื่อ เปน็ เทจ็ ในโลกสังคมออนไลน์ เทจ็ ในสอ่ื สงั คม โลกออนไลน์ แต่ละกรณไี ด้ 1.1 การนาเข้าขอ้ มลู บิดเบอื น โลกออนไลน์ หลอกลวง 1.2 การนาเขา้ ขอ้ มลู อนั เปน็ ความผดิ เก่ยี วกบั ความมัน่ คง หรอื การกอ่ การรา้ ย 1.3 การนาเข้าภาพตัดต่อ 1.4 การใหค้ วามรว่ มมือยนิ ยอม รู้เหน็ เป็นใจในการนาเข้าขอ้ มลู อนั เปน็ เทจ็ 1.5 การทาลายข้อมลู เทจ็ 2. วิเคราะหก์ รณีศึกษา : การร้เู ท่าทัน 2. กรณศี กึ ษา : การรเู้ ท่าทัน ข่าวปลอม (Fake News) ได้ ข่าวปลอม (Fake News) 3. เขา้ ใจการรับมอื กับข่าวปลอม (Fake News) ทเี่ กดิ ข้ึนและตระหนกั ถงึ ปญั หาทเ่ี กิดขนึ้ ในสงั คมจาก ข่าวปลอมทเ่ี กดิ ขึ้นในปจั จบุ นั 101

ตำรำงวเิ ครำะห์เนือ้ หำ หลกั สตู รกำรศกึ ษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้นั พื้นฐำน พทุ ธศักรำช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ภำคเรยี นท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2565 สำระกำรพฒั นำสังคม รำยวชิ ำ รทู้ ันข่ำวและขำ่ วปลอม (Fake News) รหัส สค0200036 จำนวน 2 หน่วยกิต กศน.อำเภอท่ำมะกำ สำนักงำน กศน.จงั หวดั กำญจนบุรี มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสาคัญของหลกั การพฒั นา และสามารถนาความรู้ ทักษะไปพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สังคม เน้ือหำง่ำย เนื้อหำ เนื้อหำ ที่ ตัวชว้ี ัด เนือ้ หำ เรียนรู้ ปำนกลำง ยำก โครงงำน ดว้ ยตนเอง พบกล่มุ สอนเสริม (คง.) (กรต.) (พก.) (สส.) 1 1. บอกความหมาย 1. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั ขา่ ว / (พบกลมุ่ ) ความสาคัญ คณุ ลกั ษณะ 1.1 ความหมาย ความสาคัญ องคป์ ระกอบ และประเภท ของขา่ ว ของขา่ วได้ 1.2 คุณลกั ษณะของขา่ ว 2. ตระหนักถงึ ความสาคญั 1.3 องคป์ ระกอบของข่าว ของขา่ ว 1.4 ประเภทของข่าว 3. บอกความหมายลกั ษณะ 2. ขา่ วปลอม (Fake News) / และประเภทข่าวปลอม 2.1 ความหมายของขา่ วปลอม (Fake News) ได้ (Fake News) 2.2 ลกั ษณะของข่าวปลอม (Fake News) 2.3 ประเภทของขา่ วปลอม (Fake News) 4. อธิบายกระบวนการเกิด 3. กระบวนการเกิดข่าวปลอม / / ข่าวปลอม (Fake News) (Fake News) ในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ 102

ที่ ตวั ชวี้ ดั เนื้อหำ เนอื้ หำง่ำย เนื้อหำ เนือ้ หำ โครงงำน เรยี นรู้ ปำนกลำง ยำก (คง.) พบกลุ่ม สอนเสรมิ ดว้ ยตนเอง (กรต.) (พก.) (สส.) (พบกลมุ่ ) 5. สามารถเปรียบเทยี บ 4. ความแตกต่าง ระหว่าง ความแตกตา่ งระหวา่ ง ขา่ วจรงิ และขา่ วปลอม ขา่ วจริงกบั ขา่ วปลอม (Fake News) (Fake News) ได้ 4.1 ลักษณะข่าวจรงิ และ ข่าวปลอม (Fake News) 4.2 วิธีสงั เกตขา่ วจริง และ ข่าวปลอม (Fake News) ในส่อื สงั คมออนไลน์ / / 6. บอกผลกระทบของขา่ ว 5. ผลกระทบของขา่ วปลอม ปลอม (Fake News) (Fake News) 7. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบที่ 6. การตรวจสอบข้อมูลก่อน เกิดข้นึ จากข่าวปลอม การแชร์ (Fake News) ในปจั จบุ ัน 8. สามารถวเิ คราะห์ขา่ วท่ี เกิดขึน้ ไดว้ ่าเปน็ ขา่ วจรงิ หรอื ข่าวปลอม (Fake News) 103

เนื้อหำง่ำย เน้ือหำ เนอ้ื หำ ที่ ตวั ช้ีวดั เน้ือหำ ศกึ ษำเรยี นรู้ ปำนกลำง ยำก หมำยเหตุ ด้วยตนเอง พบกลมุ่ สอนเสริม (กรต.) (พก.) (ส.ส.) 2 1. บอกความหมายการ 1.การรเู้ ท่าทนั ขา่ วปลอม / (พบกล่มุ ) รเู้ ทา่ ทันข่าวปลอมได้ (Fake News) 2. วิเคราะห์วตั ถปุ ระสงค์ 1.1 ความหมายของการ การสร้างขา่ วปลอมได้ รเู้ ทา่ ทนั ขา่ ว 3. วิเคราะห์สาเหตขุ องการ 1.2 วัตถุประสงค์ของการ เชื่อข่าวปลอมรปู แบบตา่ งๆ สรา้ งข่าวปลอม (Fake News) (FakeNews) ในปจั จบุ ัน 1.3 สาเหตขุ องการเชือ่ และคิดสรา้ งสรรค์แนวทาง ขา่ วปลอม (Fake News) การป้องกันตนเองใหร้ บั รู้ 1.4 สร้างทักษะร้เู ท่าทันข่าว เท่าทนั ขา่ วปลอมได้ 4. อธบิ ายลกั ษณะ และ 2.การรบั มือกบั ข่าวปลอม / รูปแบบเนอ้ื หาข่าวปลอม (Fake News) (Fake News) ได้ 2.1 ลกั ษณะ รูปแบบเนือ้ หา 5. สามารถจัดการรบั มอื กับ ขา่ วปลอม (Fake News) ขา่ วปลอม(Fake News) ได้ 2.2 การจดั การข่าวปลอม (Fake News) 104

เนือ้ หำงำ่ ย เน้ือหำ เนอ้ื หำ ที่ ตวั ชีว้ ัด เน้อื หำ ศึกษำเรียนรู้ ปำนกลำง ยำก หมำยเหตุ ด้วยตนเอง พบกลมุ่ สอนเสริม (กรต.) (พก.) (ส.ส.) 3 1. อธบิ ายบทลงโทษที่ 1.บทลงโทษการนาเข้าขอ้ มลู (พบก/ ล่มุ ) เกิดขึน้ จากการนา เข้า อนั เปน็ เทจ็ ลงในส่อื สังคมทาง ขอ้ มูลอันเปน็ เท็จ ในสื่อ โลกออนไลน์ โลกออนไลน์ แตล่ ะกรณีได้ 1.1 การนาเข้าข้อมูลบดิ เบอื น หลอกลวง 1.2 การนาเข้าข้อมูลอันเปน็ ความผิดเก่ยี วกับความม่นั คง หรือการกอ่ การรา้ ยต่างๆ 1.3 การนาเขา้ ภาพตดั ตอ่ 1.4 การใหค้ วามร่วมมอื ยินยอม รเู้ หน็ เป็นใจ ในการ นาเข้าขอ้ มลู อันเป็นเทจ็ 1.5 การทาลายข้อมลู เน้อื หา อันเป็นเทจ็ 2. วิเคราะหก์ รณศี ึกษา : 2. กรณศี กึ ษา : การรู้เท่าทนั / การรเู้ ทา่ ทันขา่ วปลอม ข่าวปลอม (Fake News) (Fake News) ได้ 3. เขา้ ใจและรบั มอื กบั ข่าว ปลอม (Fake News) ที่จะ เกดิ ข้นึ และตระหนกั ถงึ ปญั หาท่ีเกิดขึน้ จากข่าว ปลอมในสอื่ สังคมปัจจบุ ัน (Fake News) 105

แผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ รำยวิชำรู้ทันขำ่ วและข่ำวปลอม (Fake News) สค0200036 (สัปดำห์ที่ 14) 106

แผนกำรจัดกำรเรยี นรรู้ ำยวชิ ำ สำระกำรพฒั นำสงั คม รำยวิชำ ร ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต หวั เรอื่ ง ข่ำวและขำ่ วป สปั ดำห์ วัน/เดือน/ปี หวั เร่ือง/ตวั ชว้ี ัด เน้ือหำสำระกำรเรียนรู้ กำรจ 14 5 ก.พ. 2566 หัวเรื่อง ข้ันท่ี 1 กาหน ขำ่ วและขำ่ วปลอม กำรจัดกิจกรร (Fake News) ON SITE 4. อธบิ ายกระบวน 3. กระบวนการเกิดข่าว 1. ครูกลา่ วทัก การท่ที าให้เกดิ ข่าว ปลอม (Fake News) - ครแู ละผเู้ รีย ปลอม (FakeNews) 4. ความแตกต่างระหวา่ ง เกย่ี วกับเร่ืองข ในรปู แบบต่างๆ ได้ ข่าวจริง และขา่ วปลอม - ครแู ละผเู้ รยี 5. สามารถ 4.1 ลกั ษณะข่าวจรงิ และ เรอื่ งขา่ วปลอม เปรยี บเทยี บความ ขา่ วปลอม (Fake News) สังคมออนไลน แตกต่างระหวา่ งข่าว 4.2 วิธสี ังเกตขา่ วจริงและ สาเหตุและกร จรงิ กับข่าวปลอม ขา่ วปลอม (Fake News) ข้อสังเกตลกั ษ (Fake News) ได้ ในส่อื สงั คมออนไลน์ กำรจัดกิจกรร ON AIR 1.ครูมอบหมา ETV ออนไลน

ร้ทู ันขำ่ วและข่ำวปลอม (Fake News) รหัสวชิ ำ สค0200036 ตน้ จำนวน 2 หนว่ ยกติ ปลอม (Fake News) จัดกระบวนกำรเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ กำรวัดและ หมำยเหตุ ประเมินผล นดสภาพปัญหา -หนงั สอื เรียน -การสังเกต ข้ันท่ี 1 สำมำรถ รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ -ใบความรู้ -การชกั ถาม ปรบั เปลยี่ นได้ -ใบงาน -การมสี ว่ น ตำมควำม กทายและนาเข้าสบู่ ทเรยี น -อินเทอรเ์ นต็ ร่วม เหมำะสมของ ยนพูดคยุ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ -หอ้ งสมดุ กศน. -การตรวจ บรบิ ท กศน. ข่าวปลอมทเ่ี กิดขนึ้ ในปจั จบุ นั ตาบล ผลงาน ตำบล ยนช่วยกันยกตวั อย่างขา่ ว -แหลง่ เรียนรู้ -บนั ทกึ การ มทเ่ี ปน็ ประเดน็ ปัญหาในสอื่ ชมุ ชน เรียนรู้ น์ (Socail Network) -คลิปวดี ีโอ ระบวนการทที่ าใหเ้ กดิ ขา่ วปลอม ออนไลน์ ษณะขา่ วจริง และขา่ วปลอม (Youtube) รมกำรเรยี นกำรสอนแบบ ายให้ผเู้ รียนศึกษาเรียนรผู้ ่าน น์ www.etvthai.tv 107

สปั ดำห์ วนั /เดอื น/ปี หัวเร่อื ง/ตัวช้วี ดั เนื้อหำสำระกำรเรยี นรู้ กำรจ กำรจดั กจิ กรร ON Line 1.ครพู บกลุ่มผ ต่างๆ เชน่ VD ZOOM เป็นต กำรจัดกจิ กรร ON Hand 1. ครูมอบหม พบกลมุ่ โดยจัด มารับท่ี กศน. พบกลมุ่ กำรจดั กจิ กรร ON Deman 1.ครมู อบหมา ช่องทางหอ้ งเร classroom W เพอื่ มอบหมาย พบกลมุ่ หรือเ ใบงานและใบ ตามวนั เวลาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook