Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-02-06 10:21:45

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

Search

Read the Text Version

วิเคราะห์มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม : เศรษฐศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 มาตรฐาน ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรพั ยากร มาตรฐาน ส 3.2 ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มคา่ รวมทั้งเขา้ ใจหลักการของเศรษฐกิจ พอเพยี ง เพ่อื การดำรงชวี ิตอยา่ งมีดุลยภาพ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกิจและความจำเปน็ ของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 มาตรฐาน ส 3.2 ตัวช้ีวัด ตวั ชว้ี ัด 1. อธิบายความหมายและคว ามสำคั ญข อง 1. วิเคราะห์บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของ เศรษฐศาสตร์ สถาบันการเงนิ แต่ละประเภทและธนาคารกลาง 2. วิเคราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคของ 2. ยกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นการพึ่งพาอาศัยกัน คนในสังคมซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชนและ และการแข่งขันกนั ทางเศรษฐกจิ ในประเทศ ประเทศ 3. อธิบายความเป็นมา หลักการ และความสำคัญ 3. ระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอุปสงค์และ ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งตอ่ สังคมไทย อุปทาน 4. อภิปรายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สิน ทางปญั ญา

มาตรฐาน ส ๕.๑ วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ส ๕.๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม : ภูมิศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพสิ่งซ่งึ มีผลต่อกนั ใช้แผนท่ีและเคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการค้นหา วเิ คราะห์ และ สรุปข้อมลู ตามกระบวนการทางภูมิศาสตรต์ ลอดจนใชภ้ มู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เขา้ ใจปฏิสมั พันธร์ ะหว่างมนษุ ย์กับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทีก่ อ่ ใหเ้ กิด การสรา้ งสรรคว์ ถิ ีการดำเนินชวี ิต มจี ติ สำนึกและมีสว่ นร่วมในการจัดการทรัพยากร และส่งิ แวดล้อม เพ่อื การพฒั นาทยี่ ่ังยนื สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 มาตรฐาน ส 5.2 ตัวชีว้ ัด ตวั ชีว้ ัด ๑. วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพและสังคมของ ๑. สำรวจและระบุทำเลที่ตั้งของกิจกรรมทาง ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนีย โดยใช้ เศรษฐกิจและสังคมในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย เครื่องมือทางภูมศิ าสตรส์ ืบคน้ ขอ้ มลู และโอเชยี เนีย ๒. อธิบายพิกัดภูมิศาสตร์(ละติจูดและลองจิจูด) ๒. วิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคม เสน้ แบ่งเวลาและเปรยี บเทียบวนั เวลาของโลก ที่มีผลต่อทำเลที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและ สงั คมในทวีปเอเชยี ทวปี ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย ๓. วิเคราะห์เชื่อมโยงสาเหตุและแนวทางป้องกันภัย ๓. สืบค้น อภิปรายประเด็นปัญหาจากปฎิสัมพันธ์ ธรรมชาติและการระวังภัยที่เกิดขึ้นในทวีปเอเชีย ระหว่างสภาพแวดล้อม ทางกายภาพกับมนุษย์ท่ี ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนีย เกดิ ข้นึ ในทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลีย และโอเชยี เนีย โดยใชแ้ หลง่ ขอ้ มลู ทห่ี ลากหลาย ๔. วิเคราะห์แนวทางการจัดการภัยพิบัติและการ จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และโอเชยี เนียอยา่ งย่งั ยืน

วิเคราะหห์ น่วยการเรียนรทู้ สี่ อดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ัด กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม : เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ตวั ชวี้ ัด ส 3.1 ส 3.2 หน่วยการเรียนรู้ 123123 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 / / ความรู้ท่ัวไปทางเศรษฐศาสตร์ / / หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 สถาบนั การเงิน / หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การพ่ึงพาและการแข่งขนั / ทางเศรษฐกจิ ในประเทศ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 บรโิ ภคพอเพียง / หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เศรษฐกิจพอเพยี ง / สรปุ / / / / / /

ตารางวเิ คราะห์หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม : ภูมิศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์ ตวั ชี้วัด ส 5.1 ส 5.2 หน่วยการเรียนรู้ 123123 4 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 / / พกิ ัดภูมิศาสตร์และเวลาของโลก / หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ทวปี เอเซีย / // หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 8 ทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย / // หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 / // ภัยพิบัติและการจดั การ //// ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม สรุป

คำอธบิ ายรายวชิ า ส 21103 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง ( 3 คาบ / สปั ดาห์ ) จำนวน 1.5 หน่วยกิต คำอธิบายรายวิชา ศึกษา วเิ คราะห์ ความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ คา่ นิยมและพฤติกรรมการบริโภคของ คนในสังคมซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ ความเป็นมา หลักการและความสำคัญของปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทย บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของสถานบันทางการเงินแตล่ ะประเภทและ ธนาคารกลาง การพึ่งพาอาศัยกัน และการแข่งขันกันทางเศรษฐกิจในประเทศ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการ กำหนดอปุ สงค์และอปุ ทาน และกฎหมายเกยี่ วกับทรัพยส์ ินทางปัญญา วิเคราะห์ลกั ษณะทางกายภาพของทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และโอเซียเนีย โดยใช้เคร่ืองมือทาง ภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูล อธิบายพิกัดภูมิศาสตร์และเวลาของโลก วิเคราะห์สาเหตุการเกิดภัยพิบัติของทวีป เอเชีย ทวปี ออสเตรเลยี และโอเซียเนยี สำรวจและระบทุ ีต่ ัง้ ของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลยี และโอเซียเนีย วิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมที่มีผลต่อทำเลที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเซียเนีย สืบค้น อภิปรายประเด็นปัญหาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดลอ้ ม ทางกายภาพกับมนุษย์ที่เกิดขึ้นในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเซียเนีย วิเคราะห์แนวทางการจัดการ ภัยพบิ ัติและการจดั การทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมในทวปี เอเชีย ทวปี ออสเตรเลยี และโอเซียเนียอย่างย่งั ยืน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา กระบวนการกลุม่ เพื่อให้เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจระบบและสถานบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกจิ และ ความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก สามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและ การบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของ เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทาง กายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรและ ส่งิ แวดล้อมเพ่อื การพัฒนาท่ีย่ังยืน เกิดสมรรถนะสำคญั และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รหัสตวั ชี้วดั ส 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ส 3.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ส 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ส 5.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวม 14 ตัวชี้วัด

โครงสร้างรายวิชา รหัสวชิ า ส 21103 รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 3 คาบ/สัปดาห์ ภาคเรยี นท่ี 1 ท่ี ชื่อหน่วยการ จำนวน 1.5 หน่วยกิต เรียนรู้ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนกั 1 ความรู้ท่ัวไปทาง เศรษฐศาสตร์ เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั เรยี น คะแนน 2 สถาบันการเงิน ส 3.1 ม 1 / 1 1. ความหมาย ความสำคัญและ 65 3 การพง่ึ พาและ ส 3.2 ม 1 / 3 ประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์ การแขง่ ขนั ทาง เศรษฐกิจใน (ควรร)ู้ 2. ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจทาง ประเทศ เศรษฐศาสตร์ 4 บริโภคพอเพยี ง 3. ความหมายของอปุ สงคแ์ ละ อปุ ทาน 4. ปัจจยั ท่ีมีอทิ ธพิ ลในการกำหนด อุปสงคแ์ ละอปุ ทาน ส 3.2 ม 1 / 1 1. ความหมาย ประเภท และ 55 (ต้องรู้) ความสำคญั ของสถาบันทางการเงิน 2. ธนาคารกลาง 3. ความสัมพันธร์ ะหว่างสถาบัน การเงนิ กบั ผูผ้ ลติ และผูบ้ รโิ ภค ส 3.2 ม 1 / 2 1. การพ่งึ พาทางเศรษฐกจิ 55 (ควรร)ู้ 2. การแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ 3. ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ระดบั ชมุ ชนและระดบั ประเทศ ส 3.1 ม 1 / 2 1. ความหมายและความสำคัญของ 5 5 ส 3.2 ม 1 / 4 การบรโิ ภค (ตอ้ งรู้) 2. หลักการบริโภคทีด่ ี 3. ปจั จยั ที่มอี ิทธพิ ลต่อพฤติกรรม การบรโิ ภค

ที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั เรียน คะแนน 4. ค่านยิ มและผลดี-ผลเสยี ของ พฤติกรรมการบริโภคของตนใน สงั คมปัจจบุ นั 5. ความหมายและความสำคัญตอ่ ทรัพยส์ ินทางปัญญา 6. กฎหมายเก่ยี วกับทรัพย์สนิ ทาง ปัญญา 5 เศรษฐกจิ พอเพียง ส 3.1 ม 1 / 3 1. ความเปน็ มา ความหมายและ 5 5 (ต้องรู้) หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง 2. หลักการทรงงานของ ร. 9 ท่ี สะทอ้ นปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. แนวทางการประยุกตใ์ ชป้ รัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งในชีวติ ประจำวัน 4. ความสำคญั คณุ คา่ และ ประโยชนข์ องปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี งต่อสังคมไทย 6 พกิ ดั ภูมิศาสตร์ ส 5.1 ม 1 / 2 1. พกิ ัดภูมิศาสตร์ สอบกลางภาค 20 และเวลาของโลก (ตอ้ งรู้) 2. เวลากับพกิ ดั ภูมิศาสตร์ 8 5 7 ทวีปเอเชยี ส 5.1 ม 1 / 1 1. ลกั ษณะทางกายภาพ 9 5 ส 5.2 ม 1 / 1 2. ลกั ษณะภมู ิอากาศ ส 5.2 ม 1 / 2 3.ทรพั ยากรธรรมชาติและ (ต้องรู้) ส่งิ แวดล้อม 4. ลกั ษณะประชากร สงั คม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม 5. ทำเลที่ต้ังและกิจกรรมทาง เศรษฐกิจท่สี ำคญั

ที่ ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั เรียนรู้ เรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั เรยี น คะแนน 8 ทวปี ออสเตรเลีย ส 5.1 ม 1 / 1 1. ลักษณะทางกายภาพ 95 และโอเชยี เนยี ส 5.2 ม 1 / 1 2. ลักษณะภูมิอากาศ ส 5.2 ม 1 / 2 3. ทรัพยากรธรรมชาติและ (ต้องรู้) สง่ิ แวดล้อม 4. ลักษณะประชากร สงั คม เศรษฐกิจและวฒั นธรรม 5. ทำเลทตี่ ั้งและกจิ กรรมทาง เศรษฐกิจท่สี ำคัญ 9 ภัยพบิ ัตแิ ละการ ส 5.1 ม 1 / 3 1. ภัยพบิ ัตแิ ละการจดั การภยั พบิ ัติ 8 - จดั การทรพั ยากร- ส 5.2 ม 1 / 3 2. ปัญหาทรัพยากร- ธรรมชาตแิ ละ ส 5.2 ม 1 / 4 ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมที่เกิด สิง่ แวดลอ้ ม (ตอ้ งรู้) จากปฎสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์กบั สิ่งแวดลอ้ มในทวปี เอเชียและแนว ทางการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งย่ังยืน 3. ปัญหาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดล้อมท่เี กดิ จากปฎิสัมพันธ์ ระหว่างมนษุ ย์กบั สงิ่ แวดลอ้ มในทวีป ออสเตรเลียและโอเชยี เนียและแนว ทางการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งย่ังยนื สอบปลายภาค 30 จิตพสิ ัย 10 รวมทั้งสน้ิ 60 100

กำหนดการสอน ของนางศริ นิ ทร์ทิพย์ ทองวิเศษ รายวิชา สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 21103 ชน้ั ม.1/1, 2, 3, 5, 7 และ 9 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ที่ ชอ่ื หน่วย เวลา หมายเหตุ 1 ความรู้ทวั่ ไปทางเศรษฐศาสตร์ ออนไลน์ ปกติ 2 สถาบันการเงนิ 33 3 การพ่งึ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ 32 4 การบริโภคพอเพยี ง 32 23 5 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 50 6 พิกดั ภูมิศาสตรแ์ ละเวลาของโลก 44 7 ทวปี เอเซยี 36 8 ทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย 36 ภยั พบิ ัตแิ ละการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 44 9 สิง่ แวดลอ้ ม 30 30 รวม

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ความรูท้ ่ัวไปทางเศรษฐศาสตร์ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหัสวชิ า ส 21103 สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 6 ชวั่ โมง ผู้สอน นางศริ ินทร์ทพิ ย์ ทองวิเศษ 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรพั ยากรที่มอี ยู่อยา่ งจำกัดได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพและคมุ้ ค่ารวมทั้ง เศรษฐกิจพอเพยี ง การดำเนินชีวิตอย่างมีดลุ ยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสมั พันธข์ องระบบเศรษฐกจิ และความจำเปน็ ของการร่วมมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก ตวั ชี้วดั ส.3.1 ม. 1/1 อธบิ ายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ ส.3.2 ม. 1/3 ระบปุ จั จัยท่ีมีอทิ ธิพลต่อการกำหนดอุปสงคแ์ ละอุปทาน 3. สาระสำคัญ ปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติมีปริมาณน้อยลง แต่ความต้องการของมนุษย์มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ ทรัพยากรธรรมชาติเกิดความขาดแคลน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางเศรษฐศาสตร์มาช่วยในการ บริหารจดั การทรัพยากรใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด อุปสงค์และอุปทานเป็นความต้องการซื้อและปริมาณการเสนอขายสินค้าและบริการในขณะหนึ่งซึ่งมี ความสำคัญต่อการทำงานของตลาดสินค้า และเป็นกลไกสำคัญในการตดั สินใจเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรใน การผลติ 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์ 2. ปจั จยั สำคญั ในการตดั สนิ ใจทางเศรษฐศาสตร์ - ทรพั ยากรมีจำกดั - ความตอ้ งการที่มีไม่จำกัด

- ความขาดแคลน - การเลอื ก - ค่าเสียโอกาส 3. อปุ สงคแ์ ละอุปทาน - ความหมายของอปุ สงคแ์ ละอุปทาน - กฎของอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน - ปัจจัยท่ีมอี ทิ ธิพลในการกำหนดอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน 5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (KPA) ดา้ นความรู้ (K) 1. อธิบายความหมายและความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ได้ (K2) 2. อธิบายปัจจยั สำคัญในการตดั สนิ ใจทางเศรษฐศาสตร์ได้ (K2) 3. อธบิ ายความสำคญั และยกตัวอยา่ งปจั จยั ทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ การกำหนดอปุ สงค์และอุปทานได้ (K2) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. นำความรเู้ กย่ี วกบั เศรษฐศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำเนินชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (P3) 2. นำความรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอุปสงค์และอุปทานมาปรับประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชวี ิตได้ (P3) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) 1. เห็นคุณค่าและความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ (A3) 2. เห็นความสำคัญของปจั จยั สำคัญในการตัดสินใจทางเศรษฐศาสตร์ (A3) 3. เหน็ คุณค่าและความสำคัญของปัจจยั ที่มอี ทิ ธิพลตอ่ การกำหนดอปุ สงค์และอปุ ทาน (A3) 6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน

8. การวัดและการประเมินผล สิ่งทต่ี ้องการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ด้านความรู้ (K) ความรเู้ รอื่ ง ตรวจแบบฝกึ ทักษะ แบบฝึกทักษะ เร่ือง ประเมนิ เฉพาะความถกู ต้อง ความรทู้ ่ัวไปทาง เร่ืองความรู้ทว่ั ไปทาง ความรทู้ ั่วไปทาง รอ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป = 5 คะแนน เศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รอ้ ยละ 80 = 4 คะแนน รอ้ ยละ 70 = 3 คะแนน รอ้ ยละ 60 = 2 คะแนน ร้อยละ 50 = 1 คะแนน ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50 = 0 คะแนน ทดสอบ แบบทดสอบ เรื่อง ประเมินเฉพาะความถูกต้อง ความรทู้ ั่วไปทาง เศรษฐศาสตร์ 9 - 10 ขอ้ = 5 คะแนน 7 - 8 ขอ้ = 4 คะแนน 5 - 6 ข้อ = 3 คะแนน 3 - 4 ข้อ = 2 คะแนน 1 - 2 ขอ้ = 1 คะแนน ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) พฤติกรรมในการ ประเมินพฤติกรรมใน แบบประเมนิ ระดบั 3 หมายถึง มพี ฤติกรรมใน ระดบั ดี ทำงานของ การทำงานของ พฤติกรรมในการ ระดบั 2 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน ระดับปานกลาง นกั เรียนเป็น นักเรยี นเป็นรายบคุ คล ทำงานของนักเรยี น ระดับ 1 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน ระดบั ปรับปรงุ รายบุคคล เปน็ รายบุคคล (สมรรถนะ)

สิง่ ทีต่ ้องการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยม (A) แบบบนั ทึกการสังเกต ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน และประเมนิ ผล ระดบั ดี พฤติกรรมขณะ ประเมินพฤติกรรม พฤติกรรมรายบุคคล ระดบั 2 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน รว่ มกจิ กรรมของ รายบุคคล ระดบั ปานกลาง นกั เรียน ระดบั 1 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมใน ระดับปรับปรงุ ประเมินคุณลกั ษณะ แบบประเมิน 3 คะแนน = ดีเย่ียม 2 คะแนน = ดี อันพงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พึง 1 คะแนน = ผา่ น 0 คะแนน = ปรบั ปรงุ ข้อ 4 ใฝเ่ รียนรู้ ประสงค์ ขอ้ 5 อยูอ่ ย่างพอเพียง ข้อ 6 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 9. การกจิ กรรมการเรียนรู้ คาบที่ 1 – 2 เรื่อง ความหมาย ความสำคัญและประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์ ขน้ั ที่ 1 สังเกตรวบรวมขอ้ มูล 1. ครูแนะนำวิธีการปฏิบตั ิในการเรยี นรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พร้อมแจ้ง มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั และสาระการเรยี นรู้ให้นกั เรียนทราบ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามดงั นี้ - ในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรยี นมคี วามเกี่ยวข้องกบั เศรษฐศาสตร์อย่างไรบ้าง - นักเรยี นใช้จ่ายอะไรบ้างในแต่ละวนั - ถา้ นักเรยี นมีเงนิ อยจู่ ำกดั นกั เรียนจะใชจ้ ่ายอย่างไร 4. นักเรียนศึกษาเนื้อหาความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์ จากน้ัน ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถาม ดังน้ี - เศรษฐศาสตรห์ มายถึงอะไร

ขน้ั ที่ 2 จัดระบบขอ้ มูล 5. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์ความสำคัญและประโยชน์ของเศรษฐศาสตร์ 6. ครูกำหนดวงเงินให้นักเรียน และนักเรียนบอกวางแผนการใช้เงินของตนเองในแต่ละวัน ตามหลกั เศรษฐศาสตร์ ถ้าหากปฏบิ ัติตามแผนการใช้เงินท่วี างไว้จะเกิดอะไรข้ึน และถ้าไม่ปฏบิ ัติตามแผนการ ใช้เงินทว่ี างไวจ้ ะเกิดอะไรข้นึ 7. นักเรียนคิดประเมินเพิ่มคุณค่าเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์วา่ เศรษฐศาสตร์มีความเกี่ยวข้องกบั กิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกประเภท การศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการ ทรัพยากรทมี่ อี ยใู่ ห้เกดิ ประโยชน์มากที่สดุ ขั้นที่ 3 ปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้ 8. นักเรียนอธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ท่ีมีในสงั คมระดบั ครอบครวั ระดับท้องถิน่ ระดบั ประเทศ และระดับโลก โดยใชแ้ ผนภาพความคิด แล้วสรุปเป็นความคดิ รวบยอด 9. นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการ คือ การนำหลักเศรษฐศาสตร์มาใช่ในการบริหารจัดการ ทรัพยากรท่ีมอี ยจู่ ะชว่ ยให้มีการนำทรัพยากรมาใชไ้ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพและเกิดประโยชนม์ ากทส่ี ุด ขน้ั ท่ี 4 ส่ือสารและนำเสนอ 10. นกั เรียนนำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น ข้นั ที่ 5 ประเมินเพ่มิ คุณค่า 11. นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและแนะนำแก่ ผู้อ่นื ได้ คาบท่ี 3 – 4 เรอ่ื ง ปจั จยั สำคญั ในการตัดสนิ ใจทางเศรษฐศาสตร์ ขั้นที่ 1 สังเกตรวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามดงั น้ี - ในชมุ ชนของนักเรยี นมีรา้ นคา้ หรือโรงงานอะไรบา้ ง - รา้ นคา้ หรอื โรงงานดงั กล่าวต้องใช้ทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตร์อะไรบ้าง 2. นกั เรียนศกึ ษาเน้ือหาเรื่อง ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย ทรัพยากรมจี ำกดั ความตอ้ งการมีไมจ่ ำกัด ความขาดแคลน การเลอื ก และคา่ เสียโอกาส จากนน้ั ร่วมกันแสดง ความคดิ เห็น โดยตอบคำถาม ดงั นี้ - ถา้ หากทรพั ยากรมจี ำกดั จะเกดิ อะไรขน้ึ หรือส่งผลอยา่ งไร ขั้นที่ 2 จดั ระบบข้อมูล 3. นักเรียนรว่ มกันวเิ คราะห์เหตุและผลของคำกล่าวทีว่ ่า “ทรัพยากรมีจำกัด ความต้องการมี ไมจ่ ำกัด”

4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรว่ามีสาเหตุเกดิ จากอะไร และส่งผลกระทบอย่างไร แล้วสรปุ เปน็ ความคิดรวบยอด 5. นกั เรียนคิดประเมินเพิ่มคุณค่าเก่ยี วกับความขาดแคลน การเลอื กและคา่ เสียโอกาสว่าการ ตัดสินใจเลือกใช้ทรัพยากรอย่างใดอย่างหนึ่งทำให้เกิดค่าเสียโอกาส ดังนั้นเราจึงควรเลือกตัดสินใจที่จะนำ ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่จำกัดมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์มากทส่ี ดุ ขน้ั ท่ี 3 ปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้ 6. นักเรียนยกตัวอย่างกิจกรรมที่นักเรียนปฏิบัติในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้การตัดสินใจมา 1 ตวั อย่าง พร้อมทัง้ บอกค่าเสยี โอกาส แล้วสรปุ เป็นความคิดรวบยอด 7. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ หลกั การ คือ ทรพั ยากรทมี่ ีจำกดั สง่ ผลใหต้ อ้ งมกี ารตดั สนิ ใจเลอื ก ซึ่ง การตัดสนิ ใจเลือกสง่ ผลใหเ้ กิดค่าเสียโอกาส ดงั นนั้ ทางเลือกทเ่ี ราตัดสินใจจึงตอ้ งก่อให้เกิดประโยชนแ์ ละคุ้มค่า ท่ีสดุ ข้นั ที่ 4 สื่อสารและนำเสนอ 8. นกั เรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น ขั้นท่ี 5 ประเมินเพม่ิ คณุ คา่ 9. นักเรียนร่วมกันเสนอแนวทางการใช้ทรัพยากรเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และนำไป ปฏบิ ัติในชวี ิตประจำวนั คาบท่ี 5 – 6 เรือ่ ง อุปสงคแ์ ละอปุ ทาน ขัน้ ท่ี 1 สังเกตรวบรวมข้อมูล 1. นกั เรียนเล่าประสบการณ์การเลอื กซื้อสอนค้า หรือการเข้ารบั บริการในสถานที่ต่าง ๆ ของ ตนเองใหเ้ พอื่ น ๆ ฟัง 2. นกั เรียนร่วมรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามดังน้ี - ราคาสินคา้ มีผลต่อต่อการเลือกซอื้ สนิ คา้ หรอื ไม่ อยา่ งไร - เพราะเหตุใดสินคา้ ทีม่ ีปรมิ าณน้อยในตลาดจึงมรี าคาแพง 3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง อุปสงค์และอุปทาน จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดย ตอบคำถาม ดังนี้ - อุปสงคม์ คี วามหมายวา่ อยา่ งไร - กฎของอุปสงค์มีความสำคัญอย่างไร - อปุ ทานมคี วามหมายวา่ อย่างไร - กฎของอุปทานมคี วามสำคัญอยา่ งไร

ขนั้ ท่ี 2 จดั ระบบขอ้ มลู 4. นักเรียนดูภาพและสงั เกตป้ายลดราคาสินค้าหรือมหกรรมแสดงสินค้าราคาถกู แลว้ ร่วมกนั วเิ คราะห์ โดยตอบคำถาม ดงั นี้ - การลดราคาสินค้าหรือมหกรรมแสดงสินค้าราคาถูก ส่งผลต่อการบริโภคของผู้บริโภค อย่างไร - ในทางตรงข้ามถ้ามีประกาศขึ้นราคาสินค้า เช่น น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ข้าวสาร จะส่งผลต่อการบรโิ ภคอย่างไร 5. นักเรียนหาข่าวเกี่ยวกับการลดและเพิ่มราคาสินค้า จากนั้นร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับกฎ ของอุปสงค์และกฎของอปุ ทาน แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบยอด 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลในการกำหนดอุปสงค์ แล้วสรุปเป็น ความคดิ รวบยอด 7. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลในการกำหนดอุปทาน แล้วสรุปเป็น ความคิดรวบยอด 8. นกั เรียนร่วมกันวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งอปุ สงค์และ อปุ ทาน แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด 9. นักเรียนคดิ ประเมินเพ่ิมคณุ คา่ โดยตอบคำถาม ดงั นี้ - การบริโภคสินค้าและบรกิ ารของนกั เรยี นให้ได้ประโยชน์สูงสุด นกั เรียนจะคำนึงถงึ ปัจจยั อะไร เพราะเหตุใด ขน้ั ที่ 3 ปฏบิ ตั ิและสรุปความรู้ 10. นักเรียนหาตัวอย่างโฆษณาสินค้าที่ระบุราคาที่ชัดเจนจากแผ่นพับ ใบปลิวหรือ หนงั สอื พมิ พ์ นำภาพสนิ ค้านัน้ ติดลงในกรอบในแบบบนั ทึกและตอบคำถาม ดงั นี้ - ท่ีมาของภาพ - ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธิพลต่ออปุ สงค์สินคา้ ในภาพไดแ้ ก่.... - ปจั จยั ที่มีอทิ ธิพลต่ออุปทานสนิ ค้าในภาพได้แก.่ ... - นักเรียนคิดว่าปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอุปสงค์ของผู้บริโภคที่สำคัญที่สุดคือ อะไร เพราะเหตุใด - นกั เรียนคดิ วา่ ปัจจัยใดที่มีอทิ ธิพลต่อการกำหนดอุปทานของผู้ผลติ ทีส่ ำคัญที่สุดคืออะไร เพราะเหตุใด 11. นักเรียนร่วมกันสรปุ หลักการ อุปสงค์ คอื ความตอ้ งการซือ้ ปจั จยั ทีม่ ีอิทธพิ ลใน การกำหนดอุปสงค์ คอื ราคาสนิ คา้ รายไดข้ องผู้บริโภค รสนยิ ม ฤดกู าลหรือเทศกาล จำนวนประชากร อปุ ทาน คือความต้องการขาย ปัจจัยทีม่ ีอิทธพิ ลในการกำหนดอุปทาน คือ ราคาสินค้า ราคาปัจจัยการผลติ เทคโนโลยี จำนวนผูข้ าย

ขนั้ ที่ 4 สื่อสารและนำเสนอ 12. นักเรียนนำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น ข้นั ท่ี 5 ประเมินเพ่มิ คุณค่า 13. นักเรียนร่วมกันแสดงความเกี่ยวกับประโยชน์ของการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลในการ กำหนดอุปสงค์และอุปทาน ที่นักเรียนจะนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อใช้ในการเลือกบริโภคสินค้าและ บรกิ าร 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ของบริษทั พัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.) จำกดั 2. PowerPoint เรือ่ ง ความรู้ทัว่ ไปทางเศรษฐศาสตร์ 3. แบบบันทกึ ตวั อย่างโฆษณา 4. แบบฝึกทักษะ เร่ือง ความร้ทู ว่ั ไปทางเศรษฐศาสตร์ 5. แบบทดสอบ เรอื่ ง ความรู้ทัว่ ไปทางเศรษฐศาสตร์ 6. ภาพตา่ ง ๆ (ภาพเกย่ี วกับตลาดขายของ/ป้ายลดราคา/มหกรรมสินค้าราคาถูก)

11. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ (แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1) 11.1 ผลของการจัดการเรยี นรู้ รอ้ ยละผ่าน รอ้ ยละไมผ่ ่าน ด้านความรู้ 48.72 51.28 ชน้ั ผ่าน ไมผ่ า่ น 100.00 0.00 1/1 19 20 48.72 51.28 1/2 39 0 47.37 52.63 1/3 19 20 100.00 0.00 1/5 18 20 50.00 47.37 1/7 36 0 65.50 34.06 1/9 19 18 รวม 150 78 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ นกั เรียนหอ้ ง 2 , 7 และ 9 ให้ความร่วมมอื ในการแสดงความคดิ เห็นได้ดใี นระดบั หนึ่ง ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ความมุ่งมน่ั ในการทำงานของนักเรยี นทำงานของนกั เรียนมีปานกลาง 11.2 ปัญหา/อปุ สรรค สืบเนือ่ งจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควดิ 19 ทำให้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบ on line (ผ่าน google meet) และ on demand (ผ่าน facebook) ทำให้มีปัญหาในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ เช่น นักเรียนไม่เข้าเรียนทั้ง on lineและ on demand ส่งผลให้นักเรียนไม่เข้าใจวิธีการเรียน ไมส่ ง่ งานและไม่เขา้ สอบตามท่นี ัดหมาย 11.3 ข้อเสนอแนะ นักเรียนที่ขาดเรียนและไม่ส่งงานได้แจ้งครูประจำชั้นและเข้าที่ประชุม PLC ระดับชั้น ม. 1 และตดิ ตามนักเรยี นในคาบสอน ลงชื่อ…………………………………………… (นางศิรินทรท์ พิ ย์ ทองวิเศษ) ผสู้ อน

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ฯ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รัยเจริญยงิ่ ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคดิ เหน็ ของรองผ้อู ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………….. (นางสาวเพริศพิศ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………….. (นายนพปฎล มุณรี ตั น์) ผอู้ ำนวยการ โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา







ช่ือ - สกลุ .............................................................ม. 1/.......... เลขท่ี .......... แบบบันทกึ ตวั อยา่ งโฆษณาสนิ คา้ ติดภาพโฆษณา ท่มี าของภาพ ............................................................................................................................. ........................ ปจั จยั ที่มอี ิทธิพลต่ออุปสงค์ ได้แก่ .......................... ปจั จัยท่ีมอี ิทธพิ ลต่ออุปทาน ได้แก่ ......................... .................................................................................. .................................................................................. ................................................................................... .................................................................................. ................................................................................... .................................................................................. ................................................................................... .................................................................................. นักเรียนคดิ ว่าปจั จัยใดท่มี ีอทิ ธิพลตอ่ การกำหนดอุปสงคข์ องผ้บู รโิ ภคทส่ี ำคัญทสี่ ุดคอื อะไร เพราะเหตุใด ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...... นักเรยี นคิดว่าปัจจยั ใดท่ีมีอทิ ธิพลต่อการกำหนดอปุ ทานของผู้ผลิตทสี่ ำคญั ทส่ี ดุ คืออะไร เพราะเหตุใด ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

ช่อื - สกุล .....................................................................ชน้ั ม.1/……….. เลขท่ี .......... แบบฝกึ ทักษะ เร่อื ง ความรูท้ วั่ ไปทางเศรษฐศาสตร์ กจิ กรรมท่ี 1 ความหมาย ความสำคญั และประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์ 1. ให้นกั เรียนอ่านบทความและตอบคำถาม บ้านดอนไชย จังหวดั นา่ น จัดตง้ั กล่มุ แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร เปลยี่ นวัตถดุ บิ ในชมุ ชนเปน็ ผลติ ภัณฑ์สรา้ งรายไดใ้ ห้คนในชมุ ชน เนอ่ื งจากในชมุ ชนมวี ัตถดุ ิบทหี่ ลากหลาย จงึ ริเริ่มนำวัตถุดิบ จากธรรมชาติเหลา่ นน้ั มาแปรรูปเป็นขนมต่าง ๆ เช่น กลว้ ยฉาบ วนุ้ ใบเตย โดยเน้นทร่ี สชาติอรอ่ ย และราคาถูก การจัดตงั้ กลุ่มแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตรนี้จะช่วยพฒั นาชุมชน สรา้ งรายไดแ้ ละ ลดการว่างงาน ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องออกไปทำงานต่างจังหวดั และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขนึ้ ส่งผลดีทัง้ ดา้ นรายได้และเสริมสร้างความสมั พันธ์ในครอบครวั 1.1 บทความดงั กลา่ วมคี วามเก่ียวขอ้ งกับเศรษฐศาสตร์อย่างไร ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................. ................................................................................ 1.2 บทความดงั กลา่ วแสดงถึงผลประโยชน์ต่อสังคมในแต่ละระดับอยา่ งไร ระดบั ครอบครวั ระดับชมุ ชน ระดับประเทศ .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. ..................................................

2. ให้นักเรยี นอธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตรล์ งในแผนภาพ ความหมายของเศรษฐศาสตร์ ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... ความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ สงั คมระดับครอบครัว สังคมระดับทอ้ งถิน่ สงั คมระดับประเทศ สังคมระดับโลก ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ..................................... ..................................... ใหน้ กั เรียนสรปุ ความรู้เกี่ยวกับ..เ..ศรษฐศาสตร์ .... ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .......................................................................................................................................................... .......

ชือ่ - สกุล .....................................................................ชั้น ม.1/……….. เลขท่ี .......... แบบฝึกทักษะ เรือ่ ง ความรทู้ ่วั ไปทางเศรษฐศาสตร์ กจิ กรรมที่ 2 ปัจจัยสำคญั ในการตดั สินใจทางเศรษฐศาสตร์ 1. ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์ขา่ วและตอบคำถาม การแย่งใช้แกส๊ แอลพจี รี ะหว่างภาคประชาชนกบั ภาคอุตสาหกรรมปโิ ตรเคมี ภาคประชาชนนำโดยแกนนำเอ็นจีโอ ออกมาเรียกร้องใหร้ ัฐบาลจดั สรรแก๊สแอลพจี ีทีไ่ ดจ้ าก โรงแยกแกส๊ ใหป้ ระชาชนได้ใช้กอ่ น ถา้ มสี ว่ นท่ีเหลือค่อยให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีใช้ ถา้ ไมม่ ีเหลือ อตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมตี ้องนำเข้าจากต่างประเทศเอง เพื่อไมใ่ หแ้ ก๊สแอลพจี ีมีราคาเพิม่ สูงขน้ึ จากความต้องการของภาคประชนและภาคอุตสาหกรรม ส่วนภาคผู้ประกอบการกล่าวว่า แกส๊ ใน อ่าวไทยมีคณุ สมบตั ิพเิ ศษ สามารถนำมาแยกเปน็ วตั ถุดบิ เพื่อเพ่ิมมูลคา่ ได้ ถา้ นำไปเผาเป็นแอลพจี ี ท้งั หมดจึงเปน็ การทำลายทรัพยากรท่ีมอี ยู่อย่างจำกดั ไปอยา่ งนา่ เสียดาย นอกจากน้ีการนำเข้าแก๊ส จากต่างประเทศยังเปน็ การทำลายอตุ สาหกรรมปิโตรเคมขี องไทยทีม่ ีมูลค่าหลายแสนลา้ นบาท 1.1 ข่าวนีเ้ ก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองอะไร .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.2 ข่าวน้มี คี วามสัมพันธท์ างเศรษฐศาสตร์อย่างไร ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................. ................................................................. 1.3 ข่าวน้ีมผี ลกระทบที่เกดิ กับภาคประชาชนอย่างไร ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................. ................................................................. 1.4 ขา่ วนี้มีผลกระทบทเ่ี กดิ กับภาคผูป้ ระกอบการอยา่ งไร ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ................................................. 1.5 นักเรียนคดิ วา่ ปญั หาดงั กลา่ วแก้ไขได้อย่างไร ................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. .................................................

2. ให้นักเรียนวเิ คราะหส์ ถานการณ์และตอบคำถาม 2.1 ปรณิ เกบ็ เงินคา่ ขนมวันละ 40 บาท เพราะต้งั ใจวา่ จะนำไปซื้อเสื้อผา้ ยห่ี ้อหน่ึงที่มีความสวยงาม และทนั สมยั สถานการณ์ดังกลา่ วเป็นความตอ้ งการของมนษุ ย์ในรปู แบบใด ............................................................................................................................. ................................................. 2.2 ปุณดาชอบอ่านนิตยสาร เมือ่ นิตยสารทีช่ อบวางแผงขายก็มักจะซ้ือทุกครง้ั สถานการณด์ ังกล่าวเปน็ ความต้องการของมนุษย์ในรูปแบบใด ............................................................................................................................. ................................................. 2.3 ปนั ปนั อยากรับประทานไกท่ อด แตเ่ มือ่ เห็นร้านพิซซาจดั โพรโมชนั เขาจึงเลอื กรับประทานพซิ ซา และไมอ่ ยากรับประทานพิซซาไปอีกระยะหน่งึ สถานการณด์ ังกลา่ วเป็นความตอ้ งการของมนษุ ย์ในรปู แบบใด ............................................................................................................................. ................................................. 2.4 ปรางวลัยต้องการปากกาดา้ มใหม่ไว้ใชใ้ นภาคเรียนหน้า จงึ ตดั สนิ ใจซื้อทั้งปากกานำ้ เงิน ปากกาแดงและนำ้ ยาลบคำผิด สถานการณด์ ังกลา่ วเปน็ ความต้องการของมนุษย์ในรูปแบบใด ............................................................................................................................. ................................................. 3. ให้นกั เรียนยกตัวอยา่ งทรัพยากรที่มีจำกดั มา 1 อย่าง แล้ววิเคราะห์วา่ การใช้ทรัพยากรของมนุษย์กับ ความตอ้ งการที่มไี มจ่ ำกัดและผลทีเ่ กดิ ข้นึ ทรพั ยากรที่มีจำกัด ......................................................................... ความต้องการทม่ี ีไม่จำกดั ผลท่ีเกดิ ข้ึน ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ...............................................................

ให้นักเรยี นสรปุ ความเข้าใจเก่ียวกับทรพั ยากรทมี่ จี ำกัดกับความต้องการท่ีมไี มจ่ ำกดั ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ 4. ให้นกั เรียนอ่านสถานการณ์ทกี่ ำหนดให้และตอบคำถาม 4.1 ปัจจุบันป่าไม้ขาดแคลนและลดจำนวนลง เพราะมนุษย์นิยมนำไม้มาใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวนั มากขึน้ 1) สถานการณ์ดังกลา่ วมีผลกระทบอยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ .............................................................................. 2) นกั เรยี นจะมีสว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์และฟ้นื ฟูอย่างไร ......................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................................. 4.2 ผูบ้ รโิ ภคมีความต้องการไม่จำกัด แต่ทรัพยากร มจี ำกดั จึงไม่สามารถเลอื กซื้อสนิ ค้าทัง้ หมดได้ 1) นกั เรยี นใชห้ ลกั เกณฑ์ใดในการเลือกซอื้ สนิ ค้า ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ .............................................................................. 2) การตัดสนิ ใจเลือกก่อใหเ้ กิดผลอย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. .................................................

4.3 ขุดบ่อเลี้ยงปลาในบริเวณหลังบ้านเพื่อ เป็นรายได้เสริมของครอบครัว 1) การขุดบ่อเลย้ี งปลาทำใหเ้ กดิ คา่ เสียโอกาสอย่างไร .......................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2) นกั เรยี นมแี นวทางอยา่ งไรเพื่อให้เกดิ ค่าเสียโอกาสน้อยที่สุด ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................................. 5. ให้นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรในปัจจุบันว่ามีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมบอก ผลทเี่ กิดขนึ้ และแนวทางการแก้ไขปัญหาลงในแผนภาพ สาเหตุ การขาดแคลน ผลทเ่ี กดิ ข้ึน ................................................ ทรพั ยากร ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ แนวทางการแก้ไขปญั หา ................................................ ................................................ ................................................ ................................................

6. ให้นักเรยี นยกตัวอย่างกิจกรรมทน่ี ักเรยี นทำในชว่ งวันหยดุ และวเิ คราะห์คา่ เสยี โอกาสทีน่ ักเรียนต้องเสยี ไป กจิ กรรมในวนั หยดุ ของฉัน วนั ทเี่ ลือกบนั ทึก : วัน............................ท่ี ..................เดอื น.................................พ.ศ. .................. ชว่ งเวลา กจิ กรรมท่ีทำ คา่ เสยี โอกาส ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรู้เกย่ี วกับความขาดแคลน การเลือกและค่าเสียโอกาส ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .......................................................................................................................................................... .......

ชื่อ - สกุล .....................................................................ช้ัน ม.1/……….. เลขท่ี .......... แบบฝึกทักษะ เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปทางเศรษฐศาสตร์ กจิ กรรมที่ 3 อุปสงคแ์ ละอปุ ทาน 1. ให้นกั เรียนวเิ คราะห์ข่าวแล้วตอบคำถาม พ่อค้าไข่ไกภ่ าคกลางปรบั ข้ึนราคาไข่หลงั ไข่ไกข่ าดตลาด และมีปญั หาต้นทุนเพ่ิม จงึ ทำใหไ้ ม่สามารถ ที่จะคงราคาเดิมได้ต่อไป นอกจากนี้ไข่เบอร์ใหญ่ยังขาดลาด เนื่องจากขนาดของไข่ไก่จะเล็กลง ในช่วงฤดูร้อน โดยประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่รายย่อยภาคกลางได้เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลราคาต้นทนุ ของเกษตรกร ทั้งอาหารสตั ว์และพ่อพันธ์ุ – แม่พันธุ์ท่ีมกี ารปรับราคาเพม่ิ สูงขึน้ 1.1 ขา่ วนีเ้ กย่ี วขอ้ งกบั เร่ืองอะไร ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ................................................. 1.2 ปัญหาดงั กลา่ วมีสาเหตเุ กดิ จากอะไร .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.3 ปญั หาดงั กลา่ วส่งผลกระทบต่อผู้บรโิ ภคอย่างไร ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ................................................. 1.4 ปญั หาดงั กลา่ วสง่ ผลกระทบตอ่ ผผู้ ลติ อย่างไร ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................................................. 1.5 นกั เรยี นคิดว่ารัฐบาลควรมีส่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาอยา่ งไร ......................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. .................................................

2. ใหน้ กั เรียนอ่านสถานการณ์ท่กี ำหนดและวเิ คราะห์ว่าปัจจัยใดท่มี ีอิทธิพลต่อการกำหนดอุปสงค์ - อุปทาน เกศแก้วซอ้ื สบู่เหลวมา 2 ขวด เนอ่ื งจากมีโพรโมชัน ซื้อชนิ้ ท่ี 2 จา่ ย 1 บาท 2.1 ปจั จยั ทม่ี ีอิทธิพล คือ .................................................................................................................... ก่ิงกาญจน์เปดิ ร้านกาแฟ จงึ ซ้ือเครื่องทำกาแฟท่สี ามารถชงกาแฟได้พรอ้ มกันหลายแก้วเพ่อื รองรับ ปริมาณของลูกคา้ ทเี่ ข้ามาใช้บริการ 2.2 ปัจจัยที่มีอทิ ธพิ ล คือ .................................................................................................................... กันต์ไดร้ บั เงินโบนสั จากการทำงาน จึงนำเงนิ ส่วนหนงึ่ ไปซ้ือแพก็ เกจท่องเทย่ี วประเทศญี่ปนุ่ 2.3 ปัจจัยท่ีมีอิทธิพล คือ .................................................................................................................... กรวีรซ์ ้อื เครื่องปรับอากาศมาติดต้งั ภายในบา้ นเพมิ่ เนอ่ื งจากในฤดรู ้อนอากาศร้อนจดั 2.4 ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธพิ ล คือ .................................................................................................................... กวนิ เลอื กซ้ือโทรศัพทเ์ คลอ่ื นท่รี นุ่ ใหมล่ า่ สุดท่ีกำลังเปน็ ท่ีนิยมและมีความทันสมยั 2.5 ปจั จัยที่มีอทิ ธพิ ล คือ .................................................................................................................... 3. ให้นกั เรยี นนำสนิ คา้ และบริการในภาพข้างล่าง ใชเ้ ป็นพ้ืนฐานในการวเิ คราะห์ตามประเด็นที่กำหนด โดย ต้องนำสนิ ค้าและบริการทุกประเภททกี่ ำหนดให้ไปวิเคราะหท์ ัง้ หมดและห้ามซำ้ กันในแต่ละข้อ

ประเดน็ ในการวิเคราะห์ สนิ คา้ และบรกิ ารทใ่ี ช้ใน การวิเคราะห์ การวเิ คราะห์ 3.1 กฎอปุ สงค์ .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... 3.2 กฎอปุ ทาน .......................................... .......................................................................... 3.3 อปุ สงคก์ ับสินคา้ ที่ใช้ .......................................... .......................................................................... ทดแทนกนั ได้ .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... 3.4 อุปสงคก์ ับสนิ คา้ ท่ีใช้ ประกอบกัน .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... 3.5 อุปทานกบั ราคาต้นทุน .......................................... .......................................................................... การผลิต .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... .......................................... .......................................................................... ให้นกั เรยี นสรุปความรูเ้ กย่ี วกบั อปุ สงค์และอุปทาน ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .......................................................................................................................................................... .......

ชื่อ - สกุล ...........................................................ช้นั ม.1 / .......... เลขท่ี .......... แบบทดสอบ เรื่อง ความรู้ทั่วไปทางเศรษฐศาสตร์ คำชี้แจง เลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. ข้อใดเป็นความหมายของวิชาเศรษฐศาสตร์ถูกต้องท่ีสุด ก. วิชาทีเ่ ก่ียวกบั การซ้ือขายสนิ คา้ และบริการ ข. วชิ าทีน่ ักเศรษฐศาสตร์ใชใ้ นการประกอบอาชีพ ค. วิชาทีเ่ ก่ยี วกับการสนองตอบต่อความต้องการของผบู้ รโิ ภค ง. วชิ าท่ีเกย่ี วกับการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชนอ์ ย่างคมุ้ ค่า 2. ข้อใดคือประโยชนข์ องเศรษฐศาสตร์ทม่ี ตี ่อผู้ผลิต ก. สามารถวางแผนบริหารจัดการเงินของตนเองได้ ข. สามารถวิเคราะห์แนวโนม้ การบรโิ ภคในแตล่ ะวัน ค. สามารถเลอื กวธิ ีการผลติ ที่จะชว่ ยประหยัดตน้ ทุน ง. สามารถเลอื กซ้ือสินคา้ ทตี่ อบสนองความต้องการสูงสดุ 3. “นายอินทฉตั รต้องการเปิดโรงงานทำขนมปัง เขาจึงได้ซ้ือทีด่ นิ ยา่ นบางนาจำนวน 10 ไร่ ซ้ือเคร่ืองจักรและ อปุ กรณส์ ำหรบั ทำขนมปัง 6 ชดุ และเปิดรับสมัครพนักงานจำนวน 200 คนเพื่อเข้าทำงาน” คำทขี่ ีดเสน้ ใต้ ขอ้ ใดหมายถึง “แรงงาน” ในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ ก. พนกั งาน ข. นายอินทฉตั ร ค. ท่ดี ินยา่ นบางนา ง. เครือ่ งจกั รและอปุ กรณ์ 4. การขาดแคลนทรัพยากรจะส่งผลอยา่ งไร ก. ทำใหค้ วามต้องการของมนษุ ยส์ ิน้ สดุ ข. ทำใหม้ ผี ูส้ นใจศกึ ษาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มากข้ึน ค. ทำใหเ้ กดิ การเลือกใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชนส์ ูงสุด ง. ทำให้ผูผ้ ลติ มกี ำไรมากข้ึนจากการกำหนดราคาที่สงู ข้นึ 5. “เมอื่ ตดั สนิ ใจใชท้ ่ีดนิ ทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนงึ่ เราจะเสยี โอกาสในการใช้ทีด่ นิ ทำอย่างอน่ื ” ในทางเศรษฐศาสตร์เรยี กความสญู เสียนวี้ ่าอย่างไร ก. ค่าสญู เสีย ข. ค่าเสยี เวลา ค. คา่ เสยี โอกาส ง. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

6. ตามกฎของอปุ สงค์ ถา้ ราคาของทุเรยี นช้ันดีในปนี ้ีราคาลดลงจากเดมิ กโิ ลกรัมละ 120 บาท เหลือเพยี งกิโลกรมั ละ 60 บาท จะเกิดผลอยา่ งไร ก. อุปทานลดลง ข. อปุ ทานสูงขึน้ ค. อุปสงคล์ ดลง ง. อุปสงคส์ ูงขน้ึ 7. ตามกฎของอุปทาน ปริมาณการเสนอขายกบั ราคาสินคา้ มีความสัมพันธ์กนั ในลักษณะใด ก. ทิศทางเดยี วกนั ข. แปรผกผนั ค. ทศิ ทางตรงกนั ขา้ ม ง. ใกล้เคยี งกัน 8. ณ ตลาดสดเมอื งใหม่ เมื่อผกั คะนา้ กโิ ลกรัมละ 50 บาท แต่ราคาผักบุ้งกิโลกรัมละ 15 บาท สมมติว่าสินคา้ ท้ังสองชนดิ ใช้ทดแทนกนั ได้ จะเกดิ ผลอย่างไรต่อผบู้ รโิ ภค ก. อปุ สงค์ในผกั บุ้งจะสูง ข. อปุ สงคใ์ นผักคะน้าจะสูง ค. ลดปรมิ าณการบริโภคผกั บุง้ ง. อุปสงค์ในสนิ คา้ ท้ังสองชนิดใกลเ้ คยี งกนั 9. ขอ้ ใดเป็นเหตผุ ลทที่ ำให้อุปทานในรถยนตล์ ดลง ก. ราคานำ้ มันปโิ ตรเลยี มลดลง ข. มีการจดั งาน Motor Expo เพียงปีละ 1 ครั้ง ค. การขึ้นราคาของเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศ ง. มบี รษิ ัทผลิตรถยนตต์ ่างชาตเิ ข้ามาแข่งขันในตลาดภายในประเทศ 10. ขอ้ ใดเปน็ การแสดงให้เห็นวา่ นกั เรียนไดน้ ำวิชาเศรษฐศาสตรไ์ ปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ก. ใช้เงินทมี่ ีอยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ข. บรโิ ภคสนิ คา้ ทรี่ าคาประหยัดไมแ่ พง ค. ใชใ้ นการตดั สนิ ใจผลิตสินค้าและบริการ ง. ทำงานหารายได้พเิ ศษเพ่ือช่วยเหลือครอบครวั ...........................................................

แบบบันทกึ การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมรายบคุ คล ครั้งที่ ......... เรอื่ ง ....................................................................... รหสั วิชา .....................................ภาคเรียนที่ ........ ปกี ารศึกษา ................ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/ .......... พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมีส่วนร่วม การตอบคำถาม การยอมรบั ฟงั ทำงานตามที่ ที่ ชื่อ - สกลุ ในการทำกิจกรรม ในการแสดง ความคิดเหน็ ได้รบั มอบหมาย รวม ของผู้อน่ื ความคิดเห็น 321321321321321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมสี ว่ นรว่ ม การตอบคำถาม การยอมรับฟงั ทำงานตามท่ี ท่ี ชือ่ - สกลุ ในการทำกจิ กรรม ในการแสดง ความคิดเห็น ไดร้ ับมอบหมาย รวม ของผอู้ นื่ ความคิดเห็น 321321321321321 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 เกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั 3 หมายถึง มพี ฤติกรรมในระดบั ดี คะแนน 13 - 15 หมายถงึ ดี ระดับ 2 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถึง ปานกลาง ระดบั 1 หมายถึง มพี ฤติกรรมในระดบั ปรบั ปรุง คะแนน 5 - 8 หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ร้อยละ 60 (9 คะแนน) ลงช่อื ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผู้ประเมิน

แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รยี น 5 ด้าน ชือ่ ..............................................................นามสกลุ .....................................................ชนั้ ........ เลขที่.......... คำชแ้ี จง ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกับระดับคะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ 3 2 1 0 ผล 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ กี ารส่ือสารท่ีเหมาะสม 1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล 1.5 เขียนบนั ทกึ เหตุการณ์ประจำวนั แลว้ เล่าให้เพ่ือนฟังได้ สรุปผลการประเมนิ 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ 2.5 ตดั สินใจแก้ปญั หาเกย่ี วกับตนเองได้ สรุปผลการประเมนิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้ 3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา 3.3 เข้าใจความสมั พันธ์และการเปลยี่ นแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกัน และแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั สรุปผลการประเมิน

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ 3210 ผล 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 4.1 เรยี นรูด้ ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกับผู้อืน่ ได้ 4.3 นำความรทู้ ไี่ ด้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน 4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเล่ยี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง สรปุ ผลการประเมิน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ สมรรถนะ  ดี  ผ่าน  ไมผ่ า่ น  ดเี ย่ยี ม ลงชอื่ ...................................................... (...................................................) ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคุณภาพ ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การสรุปผล ดีเย่ยี ม - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ดเี ยี่ยม - 13 - 15 คะแนน ดี - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ดี - 9 - 12 คะแนน ผา่ น - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติบางครงั้ ให้ 0 คะแนน ผา่ น - 1 - 8 คะแนน ไม่ผา่ น - ไมเ่ คยปฏิบตั พิ ฤตกิ รรม ไม่ผ่าน - 0 คะแนน

เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเป็นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่านกำหนดเกณฑ์การ ตัดสินเปน็ ดีเย่ียม ดี และผา่ น และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดเี ยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพ่ือ ประโยชนส์ ุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดับดเี ย่ียม จำนวน 3-5 สมรรถนะ และ ไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี ดี หมายถึง ผเู้ รยี นมสี มรรถนะในการปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสังคม โดย พิจารณาจากได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยีย่ ม จำนวน 1- 2 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการประเมิน ต่ำกว่าระดับดี หรือได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ ประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรบั ร้แู ละปฏิบัตติ ามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณา จากได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการประเมิน ตำ่ กวา่ ระดับผ่าน ไม่ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรับรแู้ ละปฏิบตั ิได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับไมผ่ า่ น ตงั้ แต่ 1 สมรรถนะ

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ครงั้ ท่ี ......... เรอ่ื ง ....................................................................... รหัสวิชา .....................................ภาคเรยี นที่ ........ ปีการศึกษา ................ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/ .......... ............................................................ คำชีแ้ จง ให้ผปู้ ระเมินใส่ระดับคุณภาพคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมนิ รายข้อ ที่ ชอ่ื - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. ีม ิจตสาธารณะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ผลการประเมนิ รายข้อ ท่ี ชื่อ - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 21 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 22 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 23 5. อยู่อย่างพอเพียง 24 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 25 7. รักความเป็นไทย 26 8. ีม ิจตสาธารณะ 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ลงชอื่ ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผู้ประเมนิ

คุณภาพ (Rubrice) เพ่ือประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 21103 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพล งช าติ ร้องเพลงชาติได้ และ 3 21 0 กษัตริย์ บอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ไมส่ ามารถ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน ให้ความร่วมมือ เขา้ รว่ มกิจกรรม ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏิบัติได้ 4. ใฝเ่ รียนรู้ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรยี น อยา่ งสม่ำเสมอ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดองและเป็น เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม ไมเ่ คย 5. อยอู่ ยา่ ง ประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชุมชน ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ตั ิ พอเพยี ง 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตาม เรียนตรงเวลา มี บอ่ ยคร้ัง บางครง้ั หลักศาสนาและเปน็ ตวั อย่างทดี่ ขี องศาสนิกชน ส่วนร่วมและ ไม่เคย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับ แสวงหาความรู้ใน ตั้งใจเรียน เข้า ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ัติ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชม การเรียนรู้ต่าง ๆ เรียนตรงเวลา มี เรียนตรงเวลา มี ในพระราชกรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และ ทั้งภายในและ ส่วนร่วมและ ส่วนร่วมและ พระราชวงศ์ ภายนอกโรงเรียน แสวงหาความรู้ใน แสวงหาความรู้ใน 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอายและเกรงกลัวที่จะกระทำ เลือกใช้สื่ออย่าง การเรียนรู้ต่าง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ ความผิด ทำตาม เหมาะสม สรุป ทั้งภายในและ ทั้งภายในและ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง และเป็นแบบอย่างที่ดี องค์ความรู้และ ภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรียน แก่เพอ่ื น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต เลือกใช้สื่ออย่าง เลือกใช้สื่ออย่าง 3.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั และ ช ีวิตป ระจ ำ วั น เหมาะสม สรุป เหมาะสม สรุป รบั ผดิ ชอบในการทำงาน อย่างสม่ำเสมอ องค์ความรู้และ องค์ความรู้และ 4.1 ตัง้ ใจเรยี น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต 4.2 เอาใจใส่การเรียน และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ ปฏบิ ตั ชิ ัดเจน ช ีวิตป ระจ ำ วั น ช ีวิตป ระจ ำ วั น 4.3 เข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ และสมำ่ เสมอ บ่อยครง้ั บางครง้ั 4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสือ เอกสารสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ปฏบิ ัติชัดเจน ปฏิบตั ชิ ัดเจน และเลือกใชส้ ่ือท่เี หมาะสม และบอ่ ยครง้ั บางคร้งั 4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็น องค์ความรู้ 4.6 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ ในชวี ิตประจำวัน 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเองอย่างประหยัด คุ้มค่าและเก็บรักษา ดูแลอย่างดี รวมทัง้ การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่าและเก็บรักษา ดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจอยา่ งรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบและทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ให้อภัยเมื่อผู้อื่น ทำผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและใช้ชีวิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม ยอมรับ และปรบั ตัวอยู่ร่วมกับผ้อู ่นื อยา่ งมคี วามสุข

คุณลักษณะ รายการประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1 0 อนั พึงประสงค์ ปฏบิ ัตชิ ดั เจน 2 ปฏบิ ัตชิ ดั เจน ไม่เคย 6.1 มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และสม่ำเสมอ ปฏบิ ัตชิ ัดเจน ปฏิบตั ิ 6. มุ่งมั่นในการ และมีความรับผดิ ชอบในงานที่ทำ และบ่อยคร้งั บางคร้งั ทำงาน 6.2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลงั ใจในการทำงาน ให้งานสำเรจ็ ลุล่วงตามเปา้ หมาย 6.3 พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้ สำเร็จและชน่ื ชมผลงานด้วยความภาคภูมใิ จ 8.2 ไม่หวังผลตอบแทนจากการอาสาหรือช่วยเหลือ ผอู้ ื่นทำงาน 8.3 เตม็ ใจดแู ล รักษาสาธารณะสมบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 8.4 กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง สถาบนั การเงิน รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วิชา ส21103 สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 5 ชั่วโมง ผู้สอน นางศิรินทร์ทพิ ย์ ทองวิเศษ 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสัมพนั ธ์ของระบบเศรษฐกิจ และความจำเปน็ ของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก ตัวช้วี ัด ส. 3.2 ม. 1/1 วเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าท่แี ละความแตกต่างของสถาบนั การเงิน แต่ละประเภทและธนาคารกลาง 3. สาระสำคญั สถาบันการเงินแต่ละประเภทและธนาคารกลางมีความแตกต่างกัน การดูแลจัดการให้มีปริมาณเงิน ในระบบที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีเงินใช้จ่าย ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอ บการ รัฐมีเงิน ลงทนุ พฒั นาประเทศ เศรษฐกจิ ของประเทศสามารถขบั เคล่ือนไปได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมาย ประเภทและความสำคัญของสถาบันทางการเงิน 2. ธนาคารกลาง 3. ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสถาบันการเงนิ กับผผู้ ลติ และผู้บริโภค 5. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (KPA) ด้านความรู้ (K) 1. อธบิ ายความหมายและความสำคัญของสถาบันทางการเงินได้ (K2) 2. ระบุบทบาทหน้าทีข่ องธนาคารกลางได้ (K4) 3. เปรียบเทียบบทบาทหนา้ ทรี่ ะหวา่ งสถานบนั การเงินได้ (K4) 4. อธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งสถาบนั ทางการเงนิ กบั ผผู้ ลิตและผบู้ รโิ ภคได้ (K2) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. นำความรเู้ ก่ยี วกับสถาบนั ทางการเงนิ ไปใชใ้ นการดำเนินชีวิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (P3)

ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม (A) 1. เหน็ ความสำคญั ของบทบาทหนา้ ทแ่ี ละความแตกต่างของสถาบันการเงนิ แตล่ ะประเภท (A3) 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 8. การวดั และการประเมนิ ผล ส่ิงทีต่ ้องการวัด วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ด้านความรู้ (K) ความรูเ้ ร่ือง ตรวจแบบฝกึ ทักษะ แบบฝกึ ทกั ษะ เร่ือง ประเมินเฉพาะความถกู ต้อง สถาบนั การเงิน เรอ่ื งสถาบนั การเงิน สถาบันการเงนิ รอ้ ยละ 90 ขนึ้ ไป = 5 คะแนน รอ้ ยละ 80 = 4 คะแนน รอ้ ยละ 70 = 3 คะแนน ร้อยละ 60 = 2 คะแนน ร้อยละ 50 = 1 คะแนน ต่ำกวา่ ร้อยละ 50 = 0 คะแนน ทดสอบเรื่องสถาบัน แบบทดสอบ เรื่อง ประเมนิ เฉพาะความถกู ต้อง การเงิน สถาบนั การเงิน 17 - 20 ข้อ = 5 คะแนน 13 - 16 ขอ้ = 4 คะแนน 9 - 12 ขอ้ = 3 คะแนน 5 - 8 ข้อ = 2 คะแนน 1 - 4 ขอ้ = 1 คะแนน

ส่งิ ทีต่ ้องการวัด วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) แบบประเมนิ ระดับ 3 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมใน พฤติกรรมในการ ระดับดี พฤติกรรมในการ ประเมนิ พฤติกรรมใน ทำงานของนักเรียน ระดบั 2 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมใน ทำงานของ การทำงานของ เป็นรายบุคคล ระดับปานกลาง นักเรียนเปน็ นักเรยี นเปน็ รายบคุ คล ระดบั 1 หมายถึง มพี ฤติกรรมใน รายบคุ คล ประเมินพฤติกรรม ระดับปรับปรงุ (สมรรถนะ) การทำงานเป็นกลมุ่ 9 – 10 คะแนน = 4 (ดีมาก) พฤติกรรมขณะ ประเมินพฤติกรรม 7 – 8 คะแนน = 3 (ดี) ทำงานกลมุ่ ของ การทำงานเปน็ กลมุ่ 5 – 6 คะแนน = 2 (พอใช้) 0 – 4 คะแนน = 1 (ปรบั ปรุง) นกั เรียน ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม (A) พฤติกรรมขณะ ประเมินพฤติกรรม แบบบนั ทึกการสงั เกต ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน รว่ มกิจกรรมของ รายบุคคล และประเมนิ ผล ระดบั ดี นักเรียน พฤติกรรมรายบคุ คล ระดับ 2 หมายถึง มีพฤติกรรมใน ระดับปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมใน ระดับปรับปรงุ ประเมนิ คุณลกั ษณะ แบบประเมนิ 3 คะแนน = ดเี ยี่ยม 2 คะแนน = ดี อนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพึง 1 คะแนน = ผ่าน 0 คะแนน = ปรับปรุง ขอ้ 4 ใฝเ่ รยี นรู้ ประสงค์ ข้อ 6 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

9. การกจิ กรรมการเรียนรู้ คาบ 1 ขน้ั ที่ 1 รวบรวมข้อมลู 1. ครูแจง้ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรูใ้ หน้ กั เรียนทราบ 2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 3. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับสถาบนั การเงิน โดยตอบคำถามดงั นี้ - ในชมุ ชนของนกั เรยี นมีสถาบนั การเงนิ อะไรบ้าง - นักเรยี นเคยใช้บรกิ ารของสถาบนั การเงนิ ใดบา้ ง - สถาบันการเงนิ ทน่ี ักเรยี นรจู้ กั ให้บรกิ ารด้านใดบ้าง คาบ 2 4. นักเรียนศึกษาความหมาย ประเภท และความสำคัญของสถาบันทางการเงิน จากนั้น รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถาม ดังน้ี - สถาบันการเงินคืออะไร - สถาบนั การเงนิ มีก่ีประเภท อะไรบา้ ง - สถาบนั การเงนิ ประเภทธนาคาร มคี วามสำคัญกบั นกั เรยี นอย่างไร ขน้ั ท่ี 2 จัดระบบขอ้ มูล 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ความสำคัญของสถาบันทางการเงินประเภทธนาคาร แล้วสรุป เป็นความคดิ รวบยอด โดยตอบคำถามดงั นี้ - ธนาคารวา่ มคี วามสำคญั อยา่ งไร - ถา้ ไมธ่ นาคารจะส่งผลอย่างไรบา้ ง 6. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ความสำคัญของสถาบันทางการเงินประเภทธนาคาร แล้วสรุป เป็นความคดิ รวบยอด โดยตอบคำถามดังน้ี - ธนาคารว่ามคี วามสำคัญอยา่ งไร คาบ 3 7. นักเรียนแบ่งกล่มุ ๆ ละ 2 – 3 คน เพอ่ื ศึกษาเกยี่ วกับสถาบันทางการเงินประเภทธนาคาร ตามความสนใจกลุ่มละ 1 สถาบัน โดยร่วมกันวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ และความสำคัญของธนาคารที่กลุ่ม ตนเองสืบคน้ มา และรว่ มกันสรุปเป็นความคดิ รวบยอด 8. นักเรียนศึกษาและวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของธนาคารกลางและความสำคัญของธนาคาร กลางที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ แลว้ สรปุ ความคดิ รวบยอด คาบ 4 9. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างสถาบันทางการเงิน ประเภทธนาคารกบั สถาบันทางการเงินไมใ่ ช่ธนาคาร โดยใชแ้ ผนผงั ความคิด และสรปุ เป็นความคดิ รวบยอด

10. นักเรียนศึกษาและร่วมกันวิเคราะห์ระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ผลิตและผู้บริโภคว่ามี ความสัมพันธก์ นั อย่างไร คาบ 5 ขนั้ ท่ี 3 ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้ 11. นักเรียนยกตัวอย่างสถาบันการเงินมา 2 สถาบัน วิเคราะห์เปรียบเทียบความเหมือน ความแตกต่างของบทบาทหน้าที่ลง แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด นักเรียนร่วมกันตรวจสอบว่าสถาบัน การเงนิ แตล่ ะประเภทมีความสำคัญต่อนกั เรียนหรือไม่อยา่ งไร 12. นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการของสถาบันการเงินว่าเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับ การเงิน ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยสถาบันการเงินแต่ละสถาบันจะมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายเพื่อดูแลด้านการเงินเหมือนกัน เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการพัฒนามีเงินหมุนเวียนใน ระบบเศรษฐกิจ ข้ันท่ี 4 ส่ือสารและนำเสนอ 13. นกั เรยี นนำเสนอผลงานการเปรียบเทียบบทบาทหน้าทข่ี องสถาบนั การเงินหน้าชั้นเรียน ขนั้ ที่ 5 ประเมนิ เพ่ิมคุณค่า 14. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นวา่ นักเรยี นจะนำความรูเ้ กย่ี วกับสถาบันทางการเงินไป ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร 10. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ของบริษทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ(พว.) จำกัด 2. PowerPoint เรือ่ ง สถาบนั การเงนิ 3. แบบฝกึ ทักษะ เร่อื ง สถาบันการเงิน 4. แบบทดสอบ เร่อื ง สถาบันการเงนิ

11. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ (แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2) 11.1 ผลของการจัดการเรียนรู้ ร้อยละผ่าน ร้อยละไม่ผา่ น ด้านความรู้ 53.85 46.15 97.44 2.56 ชัน้ ผ่าน ไม่ผา่ น 69.23 30.77 1/1 21 18 60.53 39.47 1/2 38 1 97.22 2.78 1/3 27 12 44.74 55.26 1/5 23 15 70.31 29.69 1/7 35 1 1/9 17 21 รวม 161 68 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ นกั เรียนความร่วมมือในการแสดงความคิดเห็นได้ดีในระดับหนงึ่ การทำงานกลุ่มทำได้เฉพาะ นักเรียนทเี่ ข้าเรียนผา่ น google meet น้ันเราไม่สามารถประเมนิ กระบวนการทำงานได้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ความมงุ่ มน่ั ในการทำงานของนักเรียนทำงานของนกั เรียนมีปานกลาง 11.2 ปญั หา/อุปสรรค นกั เรียนขาดเรยี นส่งผลใหน้ กั เรียนขาดสอบ 42 คน คิดเป็นร้อยละ 18.34 11.3 ขอ้ เสนอแนะ นำลิงคข์ อ้ สอบไปโพสต์ใน facebook (on demand) ใหเ้ วลาทำข้อสอบ 1 สัปดาห์ ลงชือ่ …………………………………………… (นางศิรนิ ทร์ทพิ ย์ ทองวเิ ศษ) ผสู้ อน