แผนการสอน ครูนาบีซะห์ ไสสากา วิชาประวัติศาสตร์ ส32104

คำอธิบายรายวชิ า ส32104 ประวัตศิ าสตร์ รายวิชาพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น 20 ชัว่ โมง ( 1 คาบ / สัปดาห์ ) จำนวน 0.5 หน่วยกิต คำอธบิ ายรายวชิ า มีความรู้ ความเข้าใจสามารถนำวิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาใชใ้ นการศึกษาสรา้ งองค์ความรู้ใหมท่ าง ประวตั ิศาสตรส์ ากลเกยี่ วกบั เหตุการณส์ ำคัญตา่ ง ๆ ทสี่ ง่ ผลต่อการเปล่ยี นแปลงของโลกในปจั จุบัน เชน่ ระบอบฟิวดัล การฟน้ื ฟู ศิลปะวิทยาการ สงครามครเู สด การสำรวจทางทะเล การปฏิรปู ศาสนาการปฏวิ ตั ิทาง วทิ ยาศาสตร์การปฏิวัติอตุ สาหกรรมการขยายอาณานคิ มตามลทั ธิจกั รวรรดินิยมของประเทศในยโุ รปไปยัง ทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชยี ลัทธชิ าตินิยม วเิ คราะหผ์ ลกระทบความขัดแย้ง และความร่วมมือของมนุษยชาติในโลก ตลอดจนสถานการณ์สำคญั ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบค้นข้อมูล ปฏิบัติจริง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างวิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ (Critical Thinking and Problem Solving) การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางสังคม และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อตระหนักถึง ความสำคัญ เห็นคุณค่า และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาประวัติศาสตร์ มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้งบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมดำรงชีวิตอยู่ในสังคม อย่างมคี วามสุข ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในดา้ นความสัมพันธแ์ ละ การเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กิดขน้ึ ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะห์เหตุการณส์ ำคัญต่างๆที่ส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม เศรษฐกจิ และ การเมืองเขา้ สูโ่ ลกสมัยปัจจุบัน ส 4.2 ม.4-6/3 วิเคราะหผ์ ลกระทบของการขยายอทิ ธพิ ลของประเทศในยุโรปไปยงั ทวปี อเมรกิ า แอฟริกาและเอเชีย ส 4.2 ม.4-6/4 วิเคราะหส์ ถานการณข์ องโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 รวมทั้งหมด 3 ตัวชวี้ ัด

โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา ส32104 รายวิชา ประวัติศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 0.5 หน่วยกิต 1 คาบ/ สปั ดาห์ ลำดบั ท่ี ชือ่ หน่วยการ ตัวชว้ี ดั หรือ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 1 เรียน ผลการเรยี นรู้ (คาบ) คะแนน ส4.2 -การขยายอิทธพิ ลของชาติ พฒั นาการของยโุ รป ม.4-6/2 ตะวนั ตก 6 15 สมยั ใหม่ -การฟ้นื ฟูศลิ ปวทิ ยา -การปฏิรปู ศาสนา 4 15 2 ผลกระทบของการ ส4.2 -กำเนิดรัฐชาติ 20 ขยายอิทธิพลของ ม.4-6/3 -การปฏิวัติทางวทิ ยาศาสตร์ ประเทศในยุโรป และอตุ สาหกรรม 6 15 สอบกลางภาค -ยคุ ภูมิธรรมและแนวคดิ 45 ประชาธปิ ไตย 3 ความขัดแย้งและการ ส4.2 -ศลิ ปวัฒนธรรมสมัยใหม่ 30 ประสานประโยชน์ ม.4-6/2 -ทวปี อเมรกิ า 100 ระหวา่ งประเทศ -ทวปี แอฟริกา -ทวปี เอเชีย 4 เหตกุ ารณส์ ำคัญของ ส 4.2 โลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ ม.4-6/4 -ความขัดแยง้ 21 -การประสานประโยชน์ สอบปลายภาค -เหตกุ ารณ์ 11 กันยายน 2001 รวม -การกอ่ การร้าย -ความขัดแยง้ ทางศาสนา

กำหนดการสอน ภาคเรยี นที่ ......2....... ปีการศึกษา ......2564....... วชิ า ........ประวัติศาสตร์ ส32104......... ช้นั มัธยมศึกษาปที .ี ...5/1-5/10,5/12......... จำนวนหนว่ ยกติ .......0.5.... จำนวน ........20............. ช่ัวโมง อัตราส่วนคะแนน 70 : 30 ที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ เวลา (ช่ัวโมง) นำ้ หนกั คะแนน ปกติ ออนไลน์ คะแนนเก็บ ปลายภาค 1 พฒั นาการยโุ รปสมยั ใหม่ 23 25 - 2 ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของ 32 25 - ประเทศในยโุ รป 3 ความขดั แยง้ และการประสานประโยชน์ 2 3 10 15 ระหวา่ งประเทศ 4 เหตกุ ารณ์สาคญั ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษ 3 2 10 15 ท่ี 21 รวมตลอดภาคเรียน 10 10 70 30 ลงชอ่ื ....................................................... ลงชื่อ......................................................... (.........................................................) (.........................................................) ครูผู้สอน หัวหนา้ กล่มุ สาระสงั คมศกึ ษาฯ ลงชือ่ ....................................................... (นางสาวเพรศิ พศิ คหู ามขุ ) รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ หมายเหตุ : เวลาท่ใี ช้ในการสอนใหก้ ำหนดเป็นออนไลน์ 50% และสอนปกตใิ นช้นั เรยี น 50% ของเวลาเรียนทง้ั หมด

มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ชว่ งช้ัน และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระที่ 4 ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 4.1เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใชว้ ธิ กี ารทาง ประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ ตวั ชว้ี ัดช่วงชั้น สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1. ตระหนักถึงความสำคญั ของเวลาและยคุ สมัย 1. เวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตรท์ ปี่ รากฏ ทางประวตั ิศาสตรท์ แ่ี สดงถงึ การเปลีย่ นแปลง ในหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ไทยและ ของมนุษยชาติ ประวตั ศิ าสตร์สากล 2. ตวั อย่างเวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ 2. สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์โดยใช้ ของ สงั คมมนษุ ย์ท่ีมปี รากฏในหลักฐานทาง วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตรอ์ ยา่ งเป็นระบอบ ประวตั ศิ าสตร์ (เชื่อมโยงกบั มฐ. ส 4.3) 3. ความสำคัญของเวลาและยคุ สมัยทาง ประวตั ศิ าสตร์ 1. ข้ันตอนของวิธีการทางประวตั ศิ าสตร์โดย นำเสนอตวั อยา่ งทีละขน้ั ตอนอย่างชัดเจน 2. คุณค่าและประโยชน์ของวธิ กี ารทาง ประวตั ศิ าสตร์ที่มีตอ่ การศึกษาทาง ประวตั ิศาสตร์ 3. ผลของการศึกษาหรือโครงงานทาง ประวตั ิศาสตร์

มาตรฐาน ส 4.2เขา้ ใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จบุ ันในด้านความสัมพันธแ์ ละการ เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างตอ่ เน่ือง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบท่เี กดิ ขึ้น ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชั้น สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 1. วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และ 1. อารยธรรมของโลกยุคโบราณ ไดแ้ ก่ อารย- การตดิ ต่อระหว่างโลกตะวันออกกบั โลก ธรรมลมุ่ น้ำไทกรสี –ยเู ฟรทสี ไนล์ หวางเหอ สินธุ ตะวนั ตกที่มผี ลตอ่ พัฒนาการและการ และอารยธรรมกรกี โรมัน เปลี่ยนแปลงของโลก 2. การตดิ ต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลก ตะวนั ตกและอิทธพิ ลทางวัฒนธรรมทีม่ ตี ่อกัน และกัน 3. เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทีส่ ่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของโลกในปจั จบุ ัน เชน่ ระบอบ ศักดินาสวามิภกั ด์ิ สงครามครูเสด การฟ้ืนฟู ศิลปวทิ ยาการ การปฏวิ ัติทางวทิ ยาศาสตร์ การสำรวจทางทะเล การปฏริ ูปศาสนา การ ปฏิวตั ิอุตสาหกรรม แนวคิดเสรีนยิ ม แนวคิด จกั รวรรดินยิ ม แนวคิดชาตินิยม 4. การขยาย การล่าอาณานิคม และผลกระทบ 5. ความรว่ มมือและความขัดแยง้ ของมนษุ ยชาติ ในโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 20 6. สถานการณ์สำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เชน่ – เหตุการณ์การระเบิดตกึ WorldTradeCenter (เวลิ ดเ์ ทรด เซ็นเตอร์) 11 กันยายน ค.ศ. 2001 – การก่อการรา้ ยและการตอ่ ต้านการก่อการร้าย – การขาดแคลนทรัพยากร – ความขดั แย้งทางศาสนา

แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรยี นรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์สากล รหัสวิชา ส32104 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางนาบซี ะห์ ไสสากา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา สพม.ยล 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งต่อเน่อื ง ตระหนกั ถึงความสำคัญ และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกดิ ข้ึน 2. ตัวช้วี ดั ส 4.1 ม. 4-6/1 ตระหนักถึงความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงการ เปลีย่ นแปลงของมนษุ ยชาติ ส 4.1 ม. 4-6/2 สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์อย่างเป็ น ระบบ ส 4.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์อิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลก ตะวันตกทม่ี ผี ลตอ่ พฒั นาการและการเปลยี่ นแปลงของโลก ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญต่างๆที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและ การเมืองเข้าสู่โลกสมัยปจั จบุ ัน ส 4.2 ม.4-6/3 วิเคราะห์ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปไปยังทวีปอเมริกา แอฟรกิ า และเอเชีย ส 4.2 ม.4-6/4 วิเคราะห์สถานการณ์ของโลกในครสิ ตส์ ตวรรษท่ี 21 3. จดุ เนน้ (สพฐ.,สพม.,โรงเรยี น/อตั ลักษณ์) 1. ทกั ษะชีวิต 2. การสอ่ื สารอย่างสร้างสรรคต์ ามช่วงวัย

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ประวัตศิ าสตร์สากล ม.ปลาย จะศึกษา วเิ คราะห์ความสำคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ท่ี แสดงถงึ การเปลยี่ นแปลงของมนุษย์ชาติ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการ ทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาประวัติศาสตร์สากล อารยธรรมลุ่มน้ำไทกริส-ยูเฟรทีส ไนล์ ฮวงโห สินธุ และอารยธรรมกรีก โรมัน การติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการ เปลี่ยนแปลงของโลก เหตุการณ์สำคัญต่างๆที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน การขยาย การล่า อาณานิคมของประเทศในยโุ รปไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย และผลกระทบ ความร่วมมือและความ ขัดแย้งของมนุษยชาตใิ นโลก สถานการณส์ ำคญั ของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 5. จุดประสงค์การเรียนรู้(K,P,A) 1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการจดั การเรียนรู้ รายวิชาประวัตศิ าสตร์ ม. 4-6 (K2) 2. สบื คน้ ขอ้ มลู และวเิ คราะหค์ วามสำคัญรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ( P2) 3. สนใจใฝเ่ รยี นรู้และตระหนกั ถงึ ความสำคัญรายวชิ าประวตั ิศาสตร์( A1) 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตยส์ จุ ริต 2. มีวนิ ยั 7. บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซียน  ทอ้ งถิ่น 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนประวัติศาสตร์สากล ม.4-6 2. แบบทดสอบก่อนเรียน

9. การวดั และประเมนิ ผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วิธกี ารวัด เครือ่ งมือ การประเมิน เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) -ป ร ะ เ ม ิ น จ า ก ก า ร ท ำ -แบบทดสอบก่อน - ก า ร ท ำ 8–10 คะแนน= ดีมาก แบบทดสอบก่อนเรยี น เรียน แบบทดสอบ 5–7 คะแนน= ดี -ประเมินความเข้าใจของ -คำถามของครูเพื่อ 0–4 คะแนน= แกไ้ ข น ั ก เ ร ี ย น เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ก า ร ประเมินความเข้าใจ -การตอบคำถ า ม -สามารถตอบคำถามได้ ปฐมนิเทศและข้อตกลงใน ของนักเรียน ของนกั เรยี น ถ ู ก ต ้ อ ง ( ด ุ ล ย พ ิ นิ จ การเรียนรายวิชา ครผู ู้สอน) ประวตั ิศาสตร์ ม. 4-6 2 . ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / - ส ั ง เ ก ต พ ฤ ต ิ ก ร ร ม ข อ ง - แ บ บ ส ั ง เ ก ต -สังเกตพฤติกรรม 16–20 คะแนน= ดมี าก กระบวนการ (P) นกั เรียน พฤติกรรมการทำงาน การทำงานกลุ่มของ 11–15 คะแนน= ดี กลุ่มของนักเรียน นกั เรียน 6–10 คะแนน= พอใช้ 0 –5 ค ะ แ น น = ค ว ร ปรบั ปรงุ 3 . ด ้ า น ค ุ ณ ธ ร ร ม - ประเมินพฤติกรรมในการ - แ บ บ ส ั ง เ ก ต - สังเกตพฤติกรรม 18–20 คะแนน= ดมี าก จริยธรรมและค่านิยม ทำงานเป็นกลมุ่ ในด้านความมี พฤติกรรมการทำงาน การทำงานเป็นกลุ่ม 14–17 คะแนน= ดี (A) วินัย ความใฝเ่ รยี นร้ฯู เป็นกล่มุ 10–13 คะแนน= พอใช้ 0–9 คะแนน=ควร ปรับปรุง 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( เทคนิคการสอนใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั ตอน) ขัน้ ท่ี 1 การสร้างความสนใจ 1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน ( 10 ข้อ ) 2. นักเรียนฟังครูแจ้งกำหนดการสอน มาตรฐานตัวชี้วัดช่วงชั้นและ อัตราส่วนของคะแนน เก็บในรายวิชาประวัติศาสตร์ ส32104 3. นักเรียนรว่ มกันทบทวนขอ้ ตกลงในการเรียนวชิ าประวัตศิ าสตรพ์ ร้อมกัน ขนั้ ท่ี 2 การสำรวจและค้นหา (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) ได้แก่ ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ขั้นสํารวจและค้นหา (Exploration) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) และขั้นประเมิน (Evaluation)เปน็ กระบานการหนง่ึ ท่ีตอบสนองการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21เป็นการเรยี นรผู้ ่านการปฏิบตั หิ รือการลงมอื

4. นกั เรียนแสดงความคิดเห็นเพือ่ สะท้อนถึงปัญหาและความสำเรจ็ เกย่ี วกับการจดั การเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ในภาคเรียนที่ผ่านมา เช่น การเรียนการสอน ภาระงาน การเก็บคะแนน ข้อสอบ เป็นต้น เพอ่ื ใหค้ รูสามารถนำความคดิ เห็นของนกั เรียนไปปรบั ให้การเรยี นการสอนวิชาประวตั ศิ าสตร์ดียงิ่ ข้นึ ขน้ั ที่ 3 การอธบิ าย 5. ครูระบุสิ่งที่ต้องเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ ม. 4-6 โดยใช้ข้อมูลจากหน้าสารบัญใน หนังสือเรียนประวัตศิ าสตรส์ ากล ม. 4-6 ของ วพ. จากน้นั อธิบายเพือ่ ทำความเขา้ ใจกับนกั เรียนในเร่ืองต่อไปน้ี 1) คำอธบิ ายรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ม. 4-6 2) โครงสร้างรายวชิ าประวัติศาสตร์ ม. 4-6 3) โครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ ม. 4-6 4) สัดส่วนการเกบ็ คะแนนและภาระงาน รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ม. 4-6 ขนั้ ท่ี 4 การขยายความรู้ 6. นักเรียนและครูร่วมกันทำข้อตกลงในการเรียนและการใช้ห้องเรียน รายวิชา ประวัติศาสตร์ ม. 4-6 ในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1) ควรเข้าห้องเรยี นตรงเวลาและรักษามารยาทในการเรียน 2) หา้ มกนิ อาหารในเวลาเรียน 3) ต้องมีความรับผิดชอบในการเรียน การสร้างชิ้นงาน และการส่งงานตามเวลาที่ กำหนดนกั เรยี นที่ส่งงานช้าคะแนนจะลดลง 7. นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแหล่งการเรียนรู้และแหล่งสืบค้น ความรู้อื่น ๆ ที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ม. 4-6 จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกัน สรปุ และบันทึกผล ขน้ั ท่ี 5 การประเมนิ ผล 8. นักเรียนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีเรื่องอะไรบ้างที่ยังไม่ เขา้ ใจหรือมขี อ้ สงสัย ถ้ามคี รชู ว่ ยอธบิ ายเพิ่มเติมใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ 9. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข อย่างไรบ้าง 10. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนหัวข้อนี้และ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 11. ครูทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยการให้ตอบคำถาม เช่น – รายวิชาน้มี ีเกณฑต์ ดั สนิ ผลการเรียนรู้อย่างไร – ข้อตกลงในการเรยี นมอี ะไรบ้าง ลงชอื่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา)

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทักษะการ การ การคดิ ความ การตรง สบื คน้ อธบิ าย วิเคราะห์ สนใจใฝ่ ตอ่ เวลา รวม ลำดั ชอื่ -สกุล ขอ้ มูล เน้ือหา หาคำตอบ เรยี นรู้ 20 บท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ คะแน 43214321432143214321น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 0-5 ปรับปรุง

แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พัฒนาการของยโุ รปสมัยใหม่ คำช้ีแจง เลือกคำตอบทีถ่ ูกที่สุดเพียงคำตอบเดยี ว 1. ขอ้ ใดไม่ใช่สินคา้ จากตะวันออกที่ไดร้ บั ความนิยมในตะวันตก ก กาแฟ ข น้ำตาล ค ผ้าไหม ง เครอ่ื งเทศ 2. ใครคือบิดาแหง่ มนุษยนิยม ก ราฟาเอล ข ฟรนั เซสโก เปทราก ค เลโอนาร์โด ดา วนิ ซี ง มีเกลนั เจโล บโู อนารโ์ รตี 3. ผลของการปฏริ ูปศาสนาคืออะไร ก นิกายลูเทอร์ไดร้ บั ความนยิ มในโรม ข คมั ภรี ไ์ บเบิลถูกแปลเปน็ ภาษาเยอรมัน ค คริสตจกั รตะวนั ตกแบ่งออกเปน็ 2 นิกาย ง นักบวชนกิ ายโรมนั คาทอลกิ สามารถมีครอบครวั ได้ 4. ขอ้ ใดเกย่ี วข้องกับการปฏิวัติทางวทิ ยาศาสตร์ ก ความตอ้ งการเอาชนะธรรมชาติ ข ความพยายามยกระดับคุณภาพชวี ิต ค ความเชอ่ื ม่ันในความสามารถของชาวตะวนั ตก ง ถกู ทุกข้อ 5. การปฏวิ ัตอิ ุตสาหกรรมเกดิ ขึ้นคร้ังแรกทีป่ ระเทศอะไร ก อติ าลี ข อังกฤษ ค ฝร่ังเศส ง สหรัฐอเมริกา 6. ส่ิงประดิษฐ์ท่ีแสดงการพัฒนาทางคมนาคมในยคุ ปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรมคืออะไร ก เรอื กลไฟและรถราง ข รถยนตแ์ ละเรือสำเภา ค เรอื กลไฟและรถไฟไอนำ้

ง รถไฟไอนำ้ และเครอื่ งบนิ 7. นกั ปราชญ์การเมืองคนใดมีผลงานเขยี นต่อต้านการปกครองแบบเผดจ็ การ ก วอลแตร์ ข จอหน์ ลอ็ ก ค ทอมสั ฮอบส์ ง ชอง–ชาก รโู ซ 8. การปฏิวัตฝิ รง่ั เศสมีผลกระทบตอ่ ชาวยุโรปอยา่ งไร ก ประชาชนตอ่ ตา้ นวรรณกรรมการเมือง ข ประชาชนฟืน้ ฟูระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าชย์ ค ประชาชนเรยี กรอ้ งเสรีภาพเพื่อปกครองตนเอง ง ประชาชนใชป้ รัชญากรกี เป็นแนวทางร่างกฎหมาย 9. สมยั แหง่ ภูมปิ ัญญาเก่ยี วขอ้ งกับศลิ ปวัฒนธรรมลทั ธอิ ะไร ก ลัทธสิ จั นยิ ม ข ลทั ธิจินตนิยม ค ลัทธิประทบั ใจ ง ลทั ธคิ ลาสสิกใหม่ 10. ขอ้ ใดไม่ใช่เนือ้ หาวรรณกรรมทีน่ กั เขียนสจั นิยมสนใจ ก ความยากจน ข ความเหน็ แกต่ ัว ค ความรสู้ กึ อ่อนไหว ง การแข่งขนั เอารดั เอาเปรียบ

บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 แผนจดั การเรียนรู้ที่ 1 ผา่ น ไมผ่ ่าน ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % เรือ่ ง ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรียน รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ 28 93.33 2 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 1.ด้านความรู้ 28 93.33 2 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ เกี่ยวกับการจดั การเรยี นรู้ 28 93.33 2 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 รายวชิ าประวัติศาสตร์ได้ 2.ดา้ นทกั ษะ นักเรียนสารมารถสบื ค้น ขอ้ มลู และวเิ คราะห์ ความสำคญั รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะ นกั เรยี นมีความสนใจใฝ่ เรียนรูแ้ ละตระหนักถงึ ความสำคญั รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข -นกั เรยี น ม.5/1 -ม.5/4 มคี วามตง้ั ใจในการเรยี นและมกี ารโตต้ อบเวลาครสู อน ข้อเสนอแนะและการแก้ปญั หา -ครสู ุ่มนกั เรยี นใหต้ อบคำถามเพอื่ กระตุ้นนกั เรยี นใหส้ นใจ ลงชอื่ ………………………………………………….ผู้สอน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 แผนจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1 ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ผ่าน คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % เรื่อง ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรยี น รายวชิ าประวัติศาสตร์ 37 97.36 1 2.63 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 1.ด้านความรู้ 37 97.36 1 2.63 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ เกี่ยวกับการจัดการเรยี นรู้ 37 97.36 1 2.63 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 รายวิชาประวตั ิศาสตร์ได้ 2.ดา้ นทักษะ นกั เรียนสารมารถสืบค้น ข้อมลู และวิเคราะห์ ความสำคญั รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะ นกั เรยี นมีความสนใจใฝ่ เรียนรู้และตระหนักถึง ความสำคัญรายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม.5/5 นักเรียนมีความตั้งใจและมคี วามรบั ผดิ ชอบ - ม5/6-5/8 เวลาครสู อนนกั เรยี นเงยี บไม่ยอมตอบคำถาม ข้อเสนอแนะและการแกป้ ญั หา -กระตุ้นนกั เรียนใหม้ ีความสนใจโดยการตั้งคำถามแล้วสุ่มชื่อให้นักเรยี นตอบ ลงช่อื ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ม.5/9 ม.5/10 ม.5/12 แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ผ่าน ไมผ่ ่าน ผ่าน ไมผ่ ่าน ผ่าน ไมผ่ ่าน คน % คน % คน % คน % คน % คน % เร่อื ง ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน รายวิชาประวัตศิ าสตร์ 36 94.73 2 5.26 35 90.47 4 9.52 20 95.23 1 4.76 1.ด้านความรู้ 36 94.73 2 5.26 35 90.47 4 9.52 20 95.23 1 4.76 นกั เรยี นรู้และเข้าใจเก่ียวกบั การจัดการเรียนรู้ รายวชิ าประวัติศาสตร์ได้ 36 94.73 2 5.26 35 90.47 4 9.52 20 95.23 1 4.76 2.ด้านทกั ษะ นักเรียนสารมารถสืบคน้ ข้อมูลและวิเคราะห์ ความสำคัญรายวิชาประวตั ศิ าสตร์ 3.ดา้ นคณุ ลกั ษณะ นกั เรยี นมีความสนใจใฝเ่ รียนรูแ้ ละตระหนัก ถงึ ความสำคัญรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม.5/9และม.5/12 นักเรยี นกลมุ่ นม้ี ีการตอบโตเ้ วลาครตู งั้ คำถามมนี กั เรียนตอบ -ม5/10 นักเรียนหอ้ งนีไ้ ปชา้ กวา่ เพอื่ น มีคนเดียวทีต่ อบคำถามบอ่ ยคอื นายฟารสิ ที่ตอบถูกต้อง ขอ้ เสนอแนะและการแกป้ ญั หา -ครสู ุ่มนกั เรยี นใหต้ อบคำถามเพื่อสงั เกตการสนใจเรียน ลงชอ่ื ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รยั เจรญิ ยงิ่ ) หวั หนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคิดเห็นฝ่ายวชิ าการ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ................................................. (นางสาวเพริศพศิ คหู ามุข) รองผู้อาํ นวยการโรงเรยี นฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ความคิดเห็นผู้อํานวยการโรงเรยี น .................................................................................................................................................. ............................ ลงช่อื ................................................. (นายนพปฎล มุณรี ัตน) ผู้อาํ นวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบาํ รุง จังหวัดยะลา

แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง การขยายอิทธิพลของชาตติ ะวนั ตกและการฟื้นฟศู ิลปวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ิศาสตร์สากล รหสั วชิ า ส32104 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 พฒั นาการของยโุ รปสมยั ใหม่ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 1 ช่วั โมง ครูผูส้ อน นางนาบีซะห์ ไสสากา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา สพม.ยล 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปลยี่ นแปลงของเหตุการณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ 2. ตัวชีว้ ดั ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทสี่ ง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจและ การเมืองเขา้ สู่โลกสมัยปจั จุบนั 3. จุดเนน้ (สพฐ.,สพม.,โรงเรียน/อตั ลกั ษณ์) 1. การส่อื สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก ที่สำคัญได้แก่ การสำรวจเส้นทางเดินเรือ สาเหตุของการสำรวจ เส้นทางเดนิ เรือ การค้นพบเส้นทางเดินเรือส่ดู ินแดนทางตะวันตกและการค้นพบโลกใหม่ของชาติตะวันตก ผล ของการคน้ พบดนิ แดนของชาติตะวันตก การฟ้นื ฟูศิลปวิทยา เป็นการเกดิ ใหม่ของการศึกษา การฟืน้ ฟูอุดมคติ ศิลปะ และวรรณกรรมของกรีก และโรมนั ท่สี ำคญั ประกอบดว้ ย สาเหตขุ องการฟื้นฟูศิลปวิทยา แนวคิดใหมส่ มยั ฟ้นื ฟศู ิลปวทิ ยา 5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (K,P,A) 1. อธบิ ายความสำคญั ของการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวนั ตกและการฟนื้ ฟศู ลิ ปวทิ ยาได้ (K2) 2.รว่ มกันวิเคราะหผ์ ลกระทบจากการขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกและการฟนื้ ฟศู ลิ ปวิทยาได้ (P3) 3.มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกบั ขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวันตกและการฟืน้ ฟศู ลิ ปวทิ ยา(A2) 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ความมงุ่ ม่ันในการทำงาน

7. บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  อาเซยี น  ทอ้ งถิ่น 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 5.1 2. แผนท่ีเส้นทางการเดนิ เรือ 3. หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ม.4-6 4. วดิ ีโอ เรือ่ ง ยุคแห่งการสำรวจเสน้ ทางเดินเรือ 9. การวัดและประเมินผล ส่งิ ท่ีต้องการวัด วธิ กี ารวัด เครื่องมือ การประเมิน เกณฑ์ 1. ดา้ นความรู้ (K) -ประเมินการตอบคำถาม -คำถามของครูเกี่ยวกับ - น ั ก เ ร ี ย น อ ธ ิ บ า ย -นักเรียนสามารถอธิบาย ข อ ง น ั ก เ ร ี ย น เ ก ี ่ ย ว กั บ ความสำคัญของการ เกี่ยวกับความสำคัญ เกี่ยวกับความสำคัญของการ ความสำคัญของการขยาย ขยายอิทธิพลของชาติ ของการขยายอิทธิพล ข ย า ย อ ิ ท ธ ิ พ ล ข อ ง ช า ติ อิทธิพลของชาติตะวันตก ตะวันตกและการฟื้นฟู ของชาติตะวันตกและ ตะว ันตกและการฟื้นฟู และการฟน้ื ฟศู ิลปวิทยา ศลิ ปวิทยา การฟื้นฟูศิลปวิทยา ศิลปวิทยาได้ถูกต้อง (ดุลย เป็นรายบุคคลและ พนิ ิจของครูผูส้ อน) เปน็ กลุ่ม -ประเมินจากใบงานของ -ใบงานที่ 5.1 -นักเรียนวาดแผนที่ -นกั เรียนสามารถทำกิจกรรม นักเรยี น เส้นทางการเดินเรอื ในใบงานได้ถูกต้องอย่างน้อย -นักเรียนทำกิจกรรม 80% ของแต่ละใบงาน ในใบงาน 2 .ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / -สังเกตพฤติกรรมของ -แบบสังเกตพฤติกรรม -สังเกตพฤติกรรมการ 16–20 คะแนน= ดีมาก กระบวนการ (P) นกั เรียน การทำงานกลุ่มของ ท ำ ง า น ก ล ุ ่ ม ข อ ง 11–15 คะแนน= ดี นักเรยี น นักเรยี น 6–10 คะแนน= พอใช้ 0–5 คะแนน=ควรปรับปรุง 3.ด้านคุณธรรม - ประเมินพฤติกรรมในการ - แบบสังเกตพฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรมการ 18–20 คะแนน= ดีมาก จ ร ิ ย ธ ร ร ม แ ล ะ ทำงานเป็นกลุ่มในด้าน การทำงานเป็นกลุม่ ทำงานเป็นกลุ่ม 14–17 คะแนน= ดี คา่ นยิ ม (A) ความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ 10–13 คะแนน= พอใช้ ฯ 0–9 คะแนน=ควรปรับปรุง

10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( เทคนิคการสอนใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขนั้ ตอน) ข้ันที่ 1 การสร้างความสนใจ 1. นักเรียนฟงั ครูแจง้ ตวั ชวี้ ดั ชว่ งช้นั และจุดประสงค์การเรยี นรู้ 2. นักเรียนและครสู นทนากันเกี่ยวกับพฒั นาการของยโุ รปสมัยต่าง ๆ โดยใหค้ รูพูดเพ่ือดึงดูด ความสนใจของนักเรยี นเพือ่ เชือ่ มโยงเขา้ สเู่ น้ือหา ขน้ั ที่ 2 การสำรวจและคน้ หา 3. นักเรียนตอบคำถามของครูเกี่ยวกับบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการเดินเรือของยุโรป สมยั ใหม่ โดยใหน้ กั เรียนดูภาพบุคคลสำคญั แล้วตอบว่าเป็นใคร ชอื่ อะไร และมีผลงานอะไรบ้าง ขนั้ ท่ี 3 การอธิบาย 4. นกั เรยี นฟงั ครอู ธิบายเก่ียวการสำรวจเส้นทางเดนิ เรือ สาเหตขุ องการสำรวจเสน้ ทาง เดนิ เรอื และการคน้ พบเส้นทางเดินเรอื สู่ดินแดนทางตะวนั ออกและการคน้ พบโลกใหม่ของชาตติ ะวันตก โดยใช้ แผนทีป่ ระกอบการอธบิ าย 5. นกั เรยี นดูวิดโี อเก่ียวกับยคุ แหง่ การสำรวจเส้นทางเดนิ เรอื 10 นาที 6. นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ผลกระทบของการคน้ พบดินแดนของชาตติ ะวนั ตก จากนั้นครูสุ่ม ถามนักเรียนเป็นรายบุคคล และให้เพื่อนช่วยกันตอบ โดยครูเป็นผู้เขียนสรุปจากคำตอบของนักเรียนลงบน กระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ ขน้ั ท่ี 4 การขยายความรู้ 7. นักเรยี นฟงั ครูอธิบายเกี่ยวการฟ้นื ฟศู ลิ ปวิทยา แลว้ สนทนากับนักเรยี นเก่ยี วกับผลงานของ บุคคลสำคัญทีเ่ กดิ ขึ้นในสมัยของการฟื้นฟูศลิ ปวทิ ยา 8. นกั เรียนทำใบงานที่ 5.1 และวาดแผนท่เี ส้นทางการเดินเรอื ส่งคาบหน้า 9. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรูท้ ่ีได้รับจากการเรยี น แล้วจดบันทึกลงในสมดุ ขนั้ ท่ี 5 การประเมนิ ผล 10. ครสู ุม่ นักเรยี นเปน็ รายบคุ คล เพื่อประเมินความร้คู วามเขา้ ใจของนกั เรยี นทั้งช้ันเรียน 11 ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังน้ี สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกัน และสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในช้ันเรียน ลงชอื่ ………………………………………………….ผู้สอน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทักษะการ การ การคดิ ความ การตรง สบื คน้ อธบิ าย วิเคราะห์ สนใจใฝ่ ตอ่ เวลา รวม ลำดั ชอื่ -สกุล ขอ้ มูล เน้ือหา หาคำตอบ เรยี นรู้ 20 บท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ คะแน 43214321432143214321น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 0-5 ปรับปรุง

ใบงานท่ี 5.1 เรือ่ ง การขยายอิทธิพลของชาตติ ะวนั ตก คำชีแ้ จง คน้ ควา้ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั การค้นพบดนิ แดนใหม่ของชาติตะวนั ตกและทำกิจกรรมท่ีกำหนดให้ 1. จับคู่คำโดยนำตัวอักษรหน้าคำทางขวาไปเติมหน้าเลขข้อนำหน้าคำทางซ้ายมือ แล้วนำคำแต่ละคู่ไปแต่ง ประโยคบอกเล่าเรือ่ งราวทางประวัตศิ าสตรค์ ่ลู ะ 1 ประโยค ตอนที่ 1 จบั คู่ ___ฉ___1. บารโ์ ทโลมวิ ไดแอส ก ทวีปออสเตรเลยี _______ 2. วสั โก ดา กามา ข ทวปี อเมรกิ า _______ 3. ครสิ โตเฟอร์ โคลัมบัส ค กาลิกัต _______ 4. สเปน ง มะละกา _______ 5. สันตะปาปาอะเลก็ ซานเดอร์ท่ี 6 จ สนธสิ ญั ญาทอรเ์ ดซียัส _______ 6. โปรตุเกส ฉ แหลมกู๊ดโฮป _______ 7. อาฟองโซ เดอ อลั บูเกรเ์ ก ช ทวีปอเมรกิ าใต้ _______ 8. เฟอรด์ นิ นั ด์ มาเจลลัน ซ หมเู่ กาะฟิลปิ ปิน _______ 9. วลิ เลียม เจนซ์ ฌ กองทพั เรอื อารม์ าดา _______ 10. สมเด็จพระราชินนี าถเอลิซาเบทท่ี 1 ญ จกั รวรรดทิ างทะเลในเอเชีย ตอนที่ 2 แต่งประโยคเป็นประโยคบอกเลา่ เร่ืองราวทางประวัตศิ าสตรค์ ่ลู ะ 1 ประโยค ตวั อย่าง 1 บาร์โทโลมวิ ไดแอสสามารถเดนิ เรือเลียบชายฝัง่ ทวีปแอฟรกิ จ่ นผา่ นแหลมกดู๊ โฮปไดส้ ำเรจ็ ใน ค.ศ.1488 2……………………………………………………………………………………………………………… 3……………………………………………………………………………………………………………… 4……………………………………………………………………………………………………………… 5……………………………………………………………………………………………………………… 6……………………………………………………………………………………………………………… 7……………………………………………………………………………………………………………… 8……………………………………………………………………………………………………………… 9……………………………………………………………………………………………………………… 10……………………………………………………………………………………………………………

แผนที่เสน้ ทางการเดินเรอื

บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 2 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ผา่ น ไมผ่ ่าน ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผา่ น คน % คน % คน % คน % คน % คน % เร่ือง การขยายอทิ ธิพลของชาติตะวนั ตก คน % คน % และการฟ้ืนฟศู ิลปวทิ ยา 24 88.88 3 11.11 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 1.ด้านความรู้ 25 83.33 5 16.66 24 88.88 3 11.11 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสำคัญของ 24 88.88 3 11.11 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 การขยายอทิ ธิพลของชาตติ ะวนั ตกและ การฟ้นื ฟูศลิ ปวทิ ยาได้ 2.ดา้ นทักษะ 25 83.33 5 16.66 นกั เรยี นสามารถรว่ มกันวิเคราะห์ ผลกระทบจากการขยายอิทธิพลของชาติ ตะวันตกและการฟน้ื ฟูศลิ ปวิทยาได้ 3.ด้านคณุ ลกั ษณะ 25 83.33 5 16.66 นักเรยี นมีความสนใจศกึ ษา เกยี่ วกับขยายอิทธิพลของชาติ ตะวันตกและการฟนื้ ฟูศลิ ปวิทยา ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม.5/1-ม.5/4 นักเรียนกลมุ่ นี้มคี วามพร้อม และมกี ารโตต้ อบเวลาครูถามคำถาม ขอ้ เสนอแนะและการแกป้ ญั หา -ครกุ ระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจเรยี นโดยการป้อนคำถามระหว่างเรียน ลงชือ่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ แผนจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน คน % คน % คน % คน % คน % คน % เร่ือง การขยายอทิ ธพิ ลของชาติ คน % คน % ตะวนั ตกและการฟน้ื ฟูศลิ ปวิทยา 33 84.61 6 15.38 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 35 92.10 3 7.89 1.ดา้ นความรู้ 33 84.61 6 15.38 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 35 92.10 3 7.89 นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสำคัญ 33 84.61 6 15.38 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 ของการขยายอทิ ธิพลของชาติตะวนั ตก และการฟ้นื ฟูศลิ ปวิทยาได้ 2.ดา้ นทกั ษะ นกั เรยี นสามารถรว่ มกันวิเคราะห์ ผลกระทบจากการขยายอิทธิพลของ ชาติตะวันตกและการฟนื้ ฟูศิลปวิทยาได้ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะ 35 92.10 3 7.89 นักเรยี นมคี วามสนใจศกึ ษา เกยี่ วกบั ขยายอทิ ธพิ ลของชาติ ตะวนั ตกและการฟ้นื ฟูศลิ ปวิทยา ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ม.5/5 นักเรยี นตัง้ ใจเรียน ม.5/6-ม5/7 นักเรยี นกลมุ่ น้ี ไม่คอยตอบโตเ้ วลาครถู ามจะเงียบ ไม่พดู คยุ แลฃะตา่ งคนตา่ งเงียบ ขอ้ เสนอแนะและการแก้ปญั หา -แกป้ ญั หาโดยการสุม่ เรียกช่อื แลว้ ตอบคำถาม ลงช่อื ………………………………………………….ผ้สู อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ม.5/9 ม.5/10 ม.5/12 แผนจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 ผา่ น ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผา่ น เรอ่ื ง การขยายอทิ ธพิ ลของชาติตะวนั ตกและการฟ้ืนฟูศิลปวทิ ยา คน % คน % คน % คน % คน % คน % 1.ด้านความรู้ 34 89.47 10 50.52 35 83.33 7 16.66 18 85.71 3 14.28 นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสำคญั ของการขยายอิทธพิ ลของชาติ 34 89.47 10 50.52 35 83.33 7 16.66 18 85.71 3 14.28 ตะวนั ตกและการฟืน้ ฟูศลิ ปวทิ ยาได้ 34 89.47 10 50.52 35 83.33 7 16.66 18 85.71 3 14.28 2.ดา้ นทักษะ นกั เรยี นสามารถร่วมกันวเิ คราะห์ผลกระทบจากการขยายอทิ ธิพลของ ชาติตะวนั ตกและการฟืน้ ฟูศลิ ปวทิ ยาได้ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะ นักเรยี นมคี วามสนใจศึกษาเกี่ยวกบั ขยายอทิ ธิพลของ ชาติตะวนั ตกและการฟื้นฟูศิลปวทิ ยา ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม5/9 และ ม5/12 นกั เรยี น 2 หอ้ งน้ีมคี วามตัง้ ใจในการเรยี น -ม.5/10 นกั เรียนห้องนต้ี อ้ งเรยี นภายในเวลาตามตาราง เวลาครสู อนเกนิ เวลานกั เรียนขาดสมาธิ ข้อเสนอแนะและการแกป้ ญั หา -ครพู ูดคุยและสักถามนกั เรยี นเกยี่ วกบั อปุ สรรคของนักเรียน เพื่อใหน้ ักเรียนเกดิ การผอ่ นคลาย ลงชอื่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

ความคิดเห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รยั เจรญิ ยิ่ง) หวั หนา้ กลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคิดเห็นฝ่ายวชิ าการ .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นางสาวเพรศิ พิศ คหู ามุข) รองผู้อํานวยการโรงเรียนฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ความคิดเห็นผู้อํานวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ................................................. (นายนพปฎล มุณีรัตน) ผู้อํานวยการโรงเรียนคณะราษฎรบํารุง จังหวดั ยะลา

แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่ือง การปฏิรปู ศาสนาและการกำเนิดรฐั ชาติ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาประวัตศิ าสตร์สากล รหัสวิชา ส32104 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พฒั นาการของยุโรปสมยั ใหม่ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 1 ช่วั โมง ครผู ้สู อน นางนาบีซะห์ ไสสากา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา สพม.ยล 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่อื ง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบทเี่ กิดขนึ้ 2. ตัวชี้วดั ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะหเ์ หตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจและ การเมอื งเข้าสูโ่ ลกสมยั ปจั จบุ นั 3. จุดเน้น (สพฐ.,สพม.,โรงเรยี น/อัตลักษณ์) 1. แสวงหาความรูเ้ พอื่ การแกป้ ัญหา 2. การสอ่ื สารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวยั 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การปฏิรูปศาสนาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-16 คริสต์ศาสนาได้แยกออกเป็นนิกายต่าง ๆ โดยแต่ละ นิกายมีลกั ษณะเปน็ ศาสนาประจำชาติมากข้นึ ปจั จัยท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ สาเหตุของการปฏริ ูปศาสนา การเริ่มปฏิรูป ศาสนา การปฏิรูปศาสนจกั ร ผลของการปฏริ ปู ศาสนา กำเนดิ รัฐชาติ ทีส่ ำคัญได้แก่ ปัจจยั ที่ทำใหเ้ กดิ รฐั ชาติ กำเนดิ ระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์ 5.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (K,P,A) 1. อธบิ ายความสำคญั เกี่ยวกบั การปฏิรูปศาสนาและกำเนิดรัฐชาติได้ (K2) 2. สบื ค้นและอภปิ รายเกีย่ วกับการปฏริ ูปศาสนาและกำเนิดรัฐชาติได้ (P3) 3. มคี วามสนใจใฝ่รู้เกี่ยวกับการปฏริ ปู ศาสนาและกำเนิดรฐั ชาติ (A2) 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ท้องถิ่น 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ความม่งุ มนั่ ในการทำงาน 7. บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  อาเซียน

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ลกู เต๋าสรา้ งประโยค(กดส่มุ วงล้อแทน) เร่ือง การปฏิรูปศาสนา และกำเนิดรัฐชาติ 2. ใบงานที่ 5.4 3. หนังสอื เรียนประวตั ิศาสตร์ ม.4-6 9. การวัดและประเมินผล สิง่ ทตี่ ้องการวัด วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือ การประเมิน เกณฑ์ 1. ดา้ นความรู้ (K) -ประเมินการแต่งประโยค -ลูกเต๋าสร้างประโยค -นักเรียนร่วมกันแต่ง - น ั ก เ ร ี ย น ส า ม า ร ถ แ ต่ ง ของนักเรียน เรื่อง การ เรื่อง การปฏิรูปศาสนา ประโยคจากหัวข้อบน ประโยคจากหัวข้อที่ได้รับได้ ปฏริ ูปศาสนา และกำเนิดรัฐ และกำเนิดรัฐชาติ ลกู เต๋าเป็นกลุ่ม อย่างถูกต้อง (ดุลยพินิจของ ชาติ ครูผ้สู อน) 2 .ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / -สังเกตพฤติกรรมของ -แบบสังเกตพฤติกรรม -สังเกตพฤติกรรมการ 16–20 คะแนน= ดมี าก กระบวนการ (P) นักเรียน การทำงานกลุ่มของ ท ำ ง า น ก ล ุ ่ ม ข อ ง 11–15 คะแนน= ดี นกั เรียน นักเรียน 6–10 คะแนน= พอใช้ 0–5 คะแนน=ควรปรบั ปรุง 3.ด้านคุณธรรม - ประเมินพฤติกรรมในการ - แบบสังเกตพฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรมการ 18–20 คะแนน= ดีมาก จ ร ิ ย ธ ร ร ม แ ล ะ ทำงานเป็นกลุ่มในด้าน การทำงานเปน็ กล่มุ ทำงานเป็นกลมุ่ 14–17 คะแนน= ดี ค่านยิ ม (A) ความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ 10–13 คะแนน= พอใช้ ฯ 0–9 คะแนน=ควรปรับปรงุ 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน ) ข้ันท่ี 1 การสรา้ งความสนใจ 1. นักเรยี นฟงั ครูแจ้งตวั ช้วี ดั ชว่ งชน้ั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2. นักเรียนดูภาพพระเยซูครสิ ต์แล้วตอบคำถามของครวู ่า “พระเยซูคริสต์มีความสัมพันธ์กับ ศาสนาอย่างไร” จากน้นั ครอู ธิบายสรุปเพื่อเชอ่ื มโยงเข้าสเู่ น้ือหาท่ีจะเรียน ขน้ั ท่ี 2 การสำรวจและการค้นหา 3. นกั เรยี นฟงั ครอู ธบิ ายเรื่องการปฏิรปู ศาสนา และกำเนิดรฐั ชาติ 4. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 6 กลมุ่ ๆ ละ 6-7 คน โดยใหค้ ละความสามารถกนั

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาจับลูกเต๋าในกล่องแล้วทำการโยนลูกเต๋า(เนื่องจากเรียน ออนไลนค์ รใู ช้วธิ กี ารกดส่มุ วงล้อแทน) คือกดไดก้ ลุม่ ไหนก็ให้กลุม่ น้นั แตง่ ประโยคตามหัวข้อน้ัน โดยให้เวลาใน การระดมความคิดกลมุ่ ละ 5 นาที ขั้นท่ี 3 การอธิบาย 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน แล้วนำเสนอประโยคที่กลุ่มตนเองได้แต่งขึ้นมาให้เพื่อน ๆ ฟงั ขั้นที่ 4 การขยายความรู้ 7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับประโยคที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ แล้วครูอธิบาย เน้อื หาเพ่ิมเตมิ 8. นักเรียนทำใบงานที่ 5.4 ส่งคาบหน้า 9. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปความรทู้ ี่ไดร้ ับจากการเรยี น แล้วจดบันทกึ ลงในสมุด ขนั้ ท่ี 5 การประเมนิ ผล 10. ครสู ่มุ นกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล เพื่อประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจของนกั เรยี นทงั้ ชนั้ เรีย 11. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกัน และสังเกตการตอบ คำถามของนักเรียนในชัน้ เรยี น ลงชอ่ื ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทักษะการ การ การคดิ ความ การตรง สบื คน้ อธบิ าย วิเคราะห์ สนใจใฝ่ ตอ่ เวลา รวม ลำดั ชอื่ -สกุล ขอ้ มูล เน้ือหา หาคำตอบ เรยี นรู้ 20 บท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ คะแน 43214321432143214321น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 0-5 ปรับปรุง

ใบงานท่ี 5.4 เรอื่ ง การปฏริ ปู ศาสนา คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นเขยี นสาเหตแุ ละผลของการปฏริ ูปศาสนา สาเหตุ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ___________________________ การปฏริ ูปศาสนา ผล ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ บนั ทึกผลการจั

บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 3 ผา่ น ไมผ่ า่ น ผ่าน ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผ่าน ผา่ น ไมผ่ ่าน เรอ่ื ง การปฏริ ูปศาสนาและการกำเนิดรฐั คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % ชาติ 1.ดา้ นความรู้ 27 90.00 3 10.00 25 92.59 2 7.40 33 94.28 2 5.71 35 92.10 3 7.89 27 90.00 3 10.00 25 92.59 2 7.40 33 94.28 2 5.71 35 92.10 3 7.89 นกั เรยี นสามารถอธิบายความสำคญั 27 90.00 3 10.00 25 92.59 2 7.40 33 94.28 2 5.71 35 92.10 3 7.89 เก่ียวกบั การปฏิรูปศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาตไิ ด้ 2.ดา้ นทักษะ นกั เรียนสามารถสืบค้นและอภิปราย เก่ียวกบั การปฏิรปู ศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาติได้ 3.ดา้ นคุณลกั ษณะ นักเรียนมคี วามสนใจใฝ่รู้ เก่ยี วกบั การปฏิรูปศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาติ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข -นักเรียน ม.5/1 -ม.5/4 มีความตงั ใจในการเรยี น ขอ้ เสนอแนะและการแก้ปญั หา -ครูสมุ่ นกั เรยี นใหต้ อบคำถามเพ่ือกระต้นุ นกั เรยี นใหส้ นใจ ลงชอื่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 3 ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน คน % คน % คน % คน % เร่อื ง การปฏิรปู ศาสนาและการกำเนิด คน % คน % คน % คน % รัฐชาติ 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 1.ด้านความรู้ 35 92.10 3 7.89 33 84.61 6 15.38 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 นกั เรยี นสามารถอธิบายความสำคญั 33 86.84 5 13.15 33 86.84 5 13.15 เกีย่ วกบั การปฏริ ูปศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาตไิ ด้ 2.ด้านทกั ษะ 35 92.10 3 7.89 33 84.61 6 15.38 นกั เรียนสามารถสืบคน้ และอภปิ ราย เกยี่ วกบั การปฏริ ูปศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาติได้ 3.ด้านคุณลกั ษณะ 35 92.10 3 7.89 33 84.61 6 15.38 นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้ เก่ยี วกับการปฏริ ูปศาสนาและกำเนดิ รัฐ ชาติ ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข -ม.5/5 นักเรียนมคี วามต้ังใจและมคี วามรับผิดชอบ - ม5/6-5/8 เวลาครสู อนนักเรียนเงียบไมย่ อมตอบคำถาม ข้อเสนอแนะและการแกป้ ญั หา -กระตุ้นนกั เรยี นใหม้ ีความสนใจโดยการต้ังคำถามแล้วสุ่มช่อื ให้นกั เรยี นตอบ ลงชอ่ื ………………………………………………….ผ้สู อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ม.5/9 ม.5/10 ม.5/12 แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 3 ผ่าน ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน เรอ่ื ง การปฏิรปู ศาสนาและการกำเนิดรฐั ชาติ คน % คน % คน % คน % คน % คน % 1.ด้านความรู้ 34 89.47 4 10.52 36 85.71 6 14.28 18 85.71 3 14.28 นักเรียนสามารถอธบิ ายความสำคัญเกย่ี วกบั การปฏิรูปศาสนาและ 34 89.47 4 10.52 36 85.71 6 14.28 18 85.71 3 14.28 กำเนิดรัฐชาตไิ ด้ 34 89.47 4 10.52 36 85.71 6 14.28 18 85.71 3 14.28 2.ดา้ นทกั ษะ นกั เรยี นสามารถสบื คน้ และอภิปรายเก่ียวกบั การปฏิรูปศาสนาและ กำเนิดรัฐชาติได้ 3.ดา้ นคณุ ลกั ษณะ นักเรียนมคี วามสนใจใฝร่ ู้เกยี่ วกบั การปฏิรูปศาสนาและ กำเนิดรัฐชาติ ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม.5/9และม.5/12 นกั เรียนกลุ่มนมี้ ีการตอบโตเ้ วลาครตู งั้ คำถามมีนกั เรยี นตอบ -ม5/10 นกั เรียนห้องนไ้ี ปช้ากว่าเพือ่ น มีคนเดียวท่ีตอบคำถามบ่อยคอื นายฟาริสและยทุ ธพงค์ท่ตี อบถกู ต้อง ขอ้ เสนอแนะและการแก้ปญั หา -ครูสมุ่ นักเรียนใหต้ อบคำถามเพอ่ื สงั เกตการสนใจเรยี น ลงชื่อ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

ความคิดเห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รยั เจรญิ ยิ่ง) หวั หนา้ กลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคิดเห็นฝ่ายวชิ าการ .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นางสาวเพรศิ พิศ คหู ามขุ ) รองผู้อํานวยการโรงเรยี นฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ความคิดเห็นผู้อํานวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ................................................. (นายนพปฎล มุณรี ัตน) ผู้อาํ นวยการโรงเรียนคณะราษฎรบาํ รุง จงั หวดั ยะลา

A แผนจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การปฏิวัติวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาประวัตศิ าสตร์สากล รหสั วิชา ส32104 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 พฒั นาการของยุโรปสมัยใหม่ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 1 ช่วั โมง ครผู สู้ อน นางนาบีซะห์ ไสสากา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา สพม.ยล 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ 2. ตวั ช้ีวัด ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะหเ์ หตุการณส์ ำคัญต่าง ๆ ที่ส่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจและ การเมอื งเขา้ สู่โลกสมยั ปัจจุบัน 3. จดุ เนน้ (สพฐ.,สพม.,โรงเรยี น/อัตลกั ษณ)์ 1. แสวงหาความรู้เพอ่ื การแก้ปัญหา 2. การสือ่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การปฏวิ ัตทิ างวิทยาศาสตร์ แบ่งได้เป็น สภาพภูมิหลังของการปฏิวตั ทิ างวิทยาศาสตร์ นกั วิทยาศาสตร์ ท่ีสำคญั 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ (K,P,A) 1. อธิบายเกยี่ วกบั การปฏิวัติทางวทิ ยาศาสตร์ได้ (K2) 2. ร่วมกนั สบื คน้ และอภิปรายเกี่ยวกบั การปฏวิ ตั ิวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ (P3) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคญั ของการการปฏิวตั ิวิทยาศาสตร์(A2) 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ความมุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  ทอ้ งถ่ิน

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. กล่องฉลาก(สุ่มวงล้อ) หัวขอ้ เร่อื ง การปฏิวัติทางวิทยาศาสตรแ์ ละการปฏวิ ัติอุตสาหกรรม 2. รปู ภาพเกี่ยวกบั นกั วทิ ยาศาสตร์ 3. หนังสอื เรยี นประวัติศาสตร์ ม.4-6 9. การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี ้องการวัด วิธกี ารวัด เครื่องมือ การประเมนิ เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) -ประเมินการแต่งประโยค -กล่องฉลาก(สุ่มวงล้อ) -นักเรียนร่วมกันแต่ง - น ั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ แ ต่ ง หรือบอกความหมายของ หัวข้อ เรื่อง การปฏิวัติ ป ร ะ โ ย ค ห ร ื อ บ อ ก ป ร ะ โ ย ค ห ร ื อ อ ธ ิ บ า ย หัวข้อที่ได้รับของนักเรียน ทางวทิ ยาศาสตร์ ความหมายจากหัวข้อ ความหมายจากหวั ข้อท่ีได้รับ เรื่อง การปฏิวัติทาง ทีไ่ ดร้ ับจาการจับฉลาก ได้อย่างถูกต้อง (ดุลยพินิจ วทิ ยาศาสตร์ ของครูผสู้ อน) 2 .ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / -สังเกตพฤติกรรมของ -แบบสังเกตพฤติกรรม -สังเกตพฤติกรรมการ 16–20 คะแนน= ดีมาก กระบวนการ (P) นักเรยี น การทำงานกลุ่มของ ท ำ ง า น ก ล ุ ่ ม ข อ ง 11–15 คะแนน= ดี นกั เรยี น นกั เรียน 6–10 คะแนน= พอใช้ 0–5 คะแนน=ควรปรบั ปรุง 3.ด้านคุณธรรม - ประเมินพฤติกรรมในการ - แบบสังเกตพฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรมการ 18–20 คะแนน= ดมี าก จ ร ิ ย ธ ร ร ม แ ล ะ ทำงานเป็นกลุ่มในด้าน การทำงานเปน็ กลุ่ม ทำงานเปน็ กลุ่ม 14–17 คะแนน= ดี คา่ นยิ ม (A) ความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ 10–13 คะแนน= พอใช้ ฯ 0–9 คะแนน=ควรปรับปรงุ 10. กจิ กรรมการเรียนรู้ (ใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้นั ตอน ) ขนั้ ท่ี 1 การสรา้ งความสนใจ 1. นกั เรียนฟงั ครแู จง้ ตัวชว้ี ดั ช่วงชัน้ และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. นักเรยี นรว่ มกันทบทวนความร้ทู เ่ี รยี นในสัปดาหท์ ่ีแลว้ เพ่ือเชอื่ มโยงเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ท่ี เกิดขน้ึ ในยุโรปสมยั ใหม่ จากนน้ั ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เพื่อเชื่อมโยงความรเู้ ก่ากับความรู้ใหมท่ ่กี ำลงั จะเรียน ขั้นที่ 2 การสำรวจและการคน้ หา 3. นักเรียนอา่ นหนงั สือประวตั ศิ าสตร์สากล ม. 4-6 เร่ือง การปฏวิ ตั วิ ิทยาศาสตร์ 10 นาที 4. นักเรียนแบง่ กลุ่มออกเปน็ 6 กล่มุ ๆ ละ 6-7 คน โดยให้คละความสามารถกนั

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาจับฉลากในกล่อง (ครูกดสุ่มวงล้อแทน) เรื่อง การปฏิวัติ วทิ ยาศาสตร์ โดยครกู ดสุ่มวงล้อ เปน็ หัวขอ้ ใดก็ใหแ้ ต่งประโยคหรือบอกความหมายในหัวข้อนน้ั ลงในสมุด โดย ใหเ้ วลาในการระดมความคิดกลุม่ ละ 5 นาที ขนั้ ที่ 3 การอธิบาย 6. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนแลว้ นำเสนอประโยคทีก่ ล่มุ ตนเองได้แต่งขน้ึ มาให้เพอ่ื น ๆ ฟงั 7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับประโยคที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ แล้วครูอธิบาย เนื้อหาเพ่ิมเตมิ ขั้นที่ 4 การขยายความรู้ 8. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปความรทู้ ่ไี ด้รบั จากการเรียน แลว้ จดบันทึกลงในสมุด 9.นกั เรียนกลบั ไปทำสรุปนกั วิทยาศาสตร์ ขน้ั ที่ 5 การประเมินผล 10. ครูสมุ่ นักเรยี นเปน็ รายบุคคล เพ่ือประเมินความรู้ความเข้าใจของนกั เรยี นท้ังชัน้ เรียน 11.ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกัน และ สังเกตการตอบคำถามของนกั เรียนในช้ันเรียน ลงชอื่ ………………………………………………….ผ้สู อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล/กลมุ่ ทักษะการ การ การคิด ความ การตรง สบื ค้น อธบิ าย วเิ คราะห์ สนใจใฝ่ ต่อเวลา รวม ลำดับ ชื่อ-สกุล ข้อมูล เนอ้ื หา หาคำตอบ เรียนรู้ 20 ท่ี ของผ้รู ับการประเมนิ คะแนน 43214321432143214321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 0-5 ปรบั ปรุง

นกั วิทยาศาสตรท์ สี่ ำคัญสมัยการปฏิวตั ิวิทยาศาสตร์ ภาพท่ี 1 นโิ คลสั โคเปอรนื คิ สั ภาพที่ 2 กาลิเลโอ กาลิเลอี ภาพท่ี 3 เซอร์ไอแซก นิวตนั

สรปุ นกั วทิ ยาศาสตร์ บุคคลต่อไปน้ีมีความสำคญั ต่อการปฏวิ ตั ทิ างวิทยาศาสตร์อย่างไรบ้างใหน้ ักเรยี นเขยี นให้ไดใจความทสี่ มบูรณ์ ตามหัวข้อท่รี ะบใุ นตาราง โดยดเู นอ้ื หาในหนงั สอื เรียนหน้า 147 เปน็ ตน้ ไป (เขยี นในสมุดแลว้ ถ่ายรูปส่งในคลาสรมู ) นักวิทยาศาสตร์ ใหห้ าข้อมลู จากหนงั สือเรยี นเท่านนั้ ( หนา้ 147-148 ) ลำดับที่ ชื่อ เช้ือชาติ มีความสำคัญ/คิดคน้ ทฤษฎี/ผลติ เครื่องมือ 1 นิโคเลาส์ โคเพอรน์ ิคสั 2 กาลเิ ลโอ กาลเิ ลอิ 3 เซอร์ฟรานซิส เบคอน 4 เรอเน เดการด์ 5 เซอรไ์ อแซก นิวตนั

บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 4 ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ผ่าน ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน เร่ือง การปฏวิ ัตวิ ิทยาศาสตร์ คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % 1.ด้านความรู้ 28 93.33 2 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 นักเรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั การปฏิวัติ 6.66 26 96.29 1 3.70 33 94.28 2 5.71 36 94.73 2 5.26 ทางวิทยาศาสตร์ได้ (K2) 2.ดา้ นทกั ษะ 28 93.33 2 นักเรยี นสามารถรว่ มกนั สบื ค้นและ อภิปรายเกย่ี วกบั การปฏิวัติวิทยาศาสตรไ์ ด้ 3.ดา้ นคุณลักษณะ 28 93.33 2 นกั เรยี นเหน็ คุณคา่ และความสำคญั ของการการปฏวิ ัติวทิ ยาศาสตร์ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข -ม.5/1-ม.5/4 นกั เรียนกล่มุ นม้ี คี วามพร้อม และมกี ารโตต้ อบเวลาครถู ามคำถาม ขอ้ เสนอแนะและการแกป้ ญั หา -ครกุ ระตนุ้ ให้นกั เรยี นสนใจเรียนโดยการปอ้ นคำถามระหว่างเรยี น ลงชือ่ ………………………………………………….ผูส้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

บันทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7 ม.5/8 แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 ผา่ น ไมผ่ า่ น ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ผา่ น ไม่ผา่ น เรอ่ื ง การปฏิวัตวิ ทิ ยาศาสตร์ คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % คน % 1.ดา้ นความรู้ 36 94.73 2 5.26 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 5.26 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับการ 5.26 37 94.87 2 5.12 35 92.10 3 7.89 34 89.47 4 10.52 ปฏวิ ัตทิ างวิทยาศาสตรไ์ ด้ (K2) 2.ดา้ นทักษะ 36 94.73 2 นักเรียนสามารถร่วมกนั สืบคน้ และ อภปิ รายเกี่ยวกับการปฏิวัติวทิ ยาศาสตร์ ได้ 3.ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 36 94.73 2 นักเรยี นเห็นคณุ คา่ และ ความสำคัญของการการปฏวิ ัติ วทิ ยาศาสตร์ ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ม.5/5 นักเรียนตง้ั ใจเรียน และนกั เรียนมกี ารซักถามครเู วลาสงสยั ม.5/6-ม5/7 นักเรียนกลมุ่ น้ี ไม่คอยตอบโตเ้ วลาครถู ามจะเงยี บและไม่มกี ารตอบรบั เวลาครสู อน ขอ้ เสนอแนะและการแก้ปญั หา -แกป้ ัญหาโดยการสมุ่ เรยี กช่อื แลว้ ตอบคำถาม ลงช่อื ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ ม.5/9 ม.5/10 ม.5/12 แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 ผา่ น ไม่ผา่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ผ่าน ไม่ผา่ น เรอ่ื ง การปฏวิ ตั วิ ทิ ยาศาสตร์ คน % คน % คน % คน % คน % คน % 1.ด้านความรู้ 36 94.73 2 5.26 35 83.33 7 16.66 10 95.23 1 4.76 นักเรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกบั การปฏวิ ตั ทิ างวิทยาศาสตร์ได้ (K2) 2.ดา้ นทักษะ 36 94.73 2 5.26 35 83.33 7 16.66 10 95.23 1 4.76 นกั เรียนสามารถรว่ มกนั สืบคน้ และอภปิ รายเก่ียวกับการปฏิวตั ิ 36 94.73 2 5.26 35 83.33 7 16.66 10 95.23 1 4.76 วทิ ยาศาสตรไ์ ด้ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะ นักเรียนเหน็ คุณคา่ และความสำคัญของการการปฏวิ ัติ วทิ ยาศาสตร์ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข -ม5/9 และ ม5/12 นักเรยี น 2 ห้องน้ีมีความตัง้ ใจในการเรยี น -ม.5/10 นักเรยี นหอ้ งน้ตี ้องเรยี นภายในเวลาตามตาราง เวลาครสู อนเกนิ เวลานกั เรยี นขาดสมาธิ ข้อเสนอแนะและการแก้ปญั หา -ครพู ูดคยุ และสกั ถามนกั เรยี นเก่ียวกบั อุปสรรคของนักเรียน เพื่อใหน้ กั เรียนเกดิ การผอ่ นคลาย ลงชอื่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบีซะห์ ไสสากา )

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………….. (นางนงเยาว์ วิกรัยเจรญิ ยิ่ง) หวั หนา้ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคิดเห็นฝ่ายวชิ าการ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ................................................. (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามุข) รองผู้อํานวยการโรงเรียนฝ่ายบริหารวชิ าการ ความคิดเห็นผู้อํานวยการโรงเรยี น .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................. (นายนพปฎล มณุ ีรตั น) ผู้อํานวยการโรงเรียนคณะราษฎรบาํ รงุ จังหวัดยะลา

แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เรือ่ ง การปฏวิ ัตอิ ุตสาหกรรม กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าประวัติศาสตรส์ ากล รหัสวิชา ส32104 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พฒั นาการของยโุ รปสมยั ใหม่ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง ครผู สู้ อน นางนาบซี ะห์ ไสสากา โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา สพม.ยล 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเน่อื ง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญและสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบท่เี กิดขน้ึ 2. ตัวช้ีวัด ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะหเ์ หตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่สง่ ผลต่อการเปลยี่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและ การเมืองเข้าส่โู ลกสมัยปจั จบุ นั 3. จดุ เนน้ (สพฐ.,สพม.,โรงเรียน/อัตลกั ษณ)์ 1. แสวงหาความรเู้ พื่อการแกป้ ัญหา 2. การสือ่ สารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวยั 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การปฏิวัติอุตสาหกรรม แบ่งได้เป็น สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษเป็นประเทศแรก อตุ สาหกรรมทอผา้ กบั ความเจริญก้าวหน้าของการปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรม การขยายตวั ของการปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม ผลกระทบของการปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม 5. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (K,P,A) 1. อธบิ ายเก่ียวกบั การปฏวิ ัติอุตสาหกรรมได้ (K2) 2. ร่วมกนั สืบค้นและอภิปรายเก่ยี วกบั การปฏิวัตอิ ุตสาหกรรมได้ (P2) 3. เห็นคณุ ค่าและความสำคญั ของการการปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม(A2) 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ความมุง่ มน่ั ในการทำงาน 7. บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  ทอ้ งถ่นิ

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1. กลอ่ งฉลาก(กดสุม่ วงลอ้ )หัวขอ้ เรือ่ ง การปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรม 2. รปู ภาพเกีย่ วกับนกั ปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม 3. หนงั สือเรียนประวัตศิ าสตร์ ม.4-6 9. การวดั และประเมินผล สิง่ ทตี่ ้องการวัด วธิ กี ารวัด เครื่องมอื การประเมนิ เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) -ประเมินการแต่งประโยค -กล่องฉลาก(กดสุ่มวง -นักเรียนร่วมกันแต่ง - น ั ก เ ร ี ย น ส า ม า ร ถ แ ต่ ง หรือบอกความหมายของ ล้อ)หัวข้อ เรื่อง การ ประโยคหรือบอก ป ร ะ โ ย ค ห ร ื อ อ ธ ิ บ า ย หัวข้อที่ได้รับของนักเรียน ปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม ความหมายจากหัวข้อ ความหมายจากหวั ข้อที่ได้รับ เ ร ื ่ อ ง ก า ร ป ฏ ิ ว ั ติ ทไ่ี ดร้ บั จาการจับฉลาก ได้อย่างถูกต้อง (ดุลยพินิจ อตุ สาหกรรม ของครผู ้สู อน) 2 .ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / -สังเกตพฤติกรรมของ -แบบสังเกตพฤติกรรม -สังเกตพฤติกรรมการ 16–20 คะแนน= ดมี าก กระบวนการ (P) นกั เรียน การทำงานกลุ่มของ ท ำ ง า น ก ล ุ ่ ม ข อ ง 11–15 คะแนน= ดี นักเรยี น นักเรียน 6–10 คะแนน= พอใช้ 0–5 คะแนน=ควรปรบั ปรงุ 3.ด้านคุณธรรม - ประเมินพฤติกรรมในการ - แบบสังเกตพฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรมการ 18–20 คะแนน= ดมี าก จ ร ิ ย ธ ร ร ม แ ล ะ ทำงานเป็นกลุ่มในด้าน การทำงานเป็นกลมุ่ ทำงานเปน็ กลุม่ 14–17 คะแนน= ดี ค่านยิ ม (A) ความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ 10–13 คะแนน= พอใช้ ฯ 0–9 คะแนน=ควรปรับปรงุ 10. กิจกรรมการเรยี นรู้ (ใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ตอน ) ขัน้ ที่ 1 การสรา้ งความสนใจ 1. นกั เรยี นฟงั ครูแจ้งตวั ชี้วัดชว่ งช้ันและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. นักเรยี นรว่ มกันทบทวนความรทู้ ่ีเรยี นในสปั ดาหท์ แ่ี ล้วเพอ่ื เชื่อมโยงเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ที่ เกดิ ข้ึนในยุโรปสมัยใหม่ จากนนั้ ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เพือ่ เชื่อมโยงความรู้เกา่ กับความรูใ้ หมท่ ี่กำลงั จะเรยี น ข้นั ท่ี 2 การสำรวจและการค้นหา 3. นกั เรยี นอ่านหนงั สือประวตั ิศาสตรส์ ากล ม. 4-6 เรอ่ื ง การปฏิวัติอตุ สาหกรรม 10 นาที 4. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ 6 กลมุ่ ๆ ละ 6-7 คน โดยให้คละความสามารถกัน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับฉลาก(ครูกดสุ่มวงล้อ) เรื่อง การปฏิวัติอุตสาหกรรม ได้ฉลากเป็น หัวข้อใดก็ให้แต่งประโยคหรือบอกความหมายในหัวข้อนั้นลงในสมุด โดยให้เวลาในการระดมความคิดกลุ่มละ 5 นาที

6. นักเรียนแต่ละกลุ่มให้ตัวนำเสนอใน meet ประโยคที่กลุ่มตนเองได้แต่งขึ้นมาให้เพื่อน ๆ ฟัง ขนั้ ที่ 3 การอธบิ าย 7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับประโยคที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ แล้วครูอธิบาย เน้อื หาเพ่ิมเตมิ ขนั้ ที่ 4 การขยายความรู้ 8. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ท่ีไดร้ ับจากการเรียน แล้วจดบันทึกลงในสมดุ 9.นักเรียนกลับไปสรปุ นักปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม ขน้ั ท่ี 5 การประเมินผล 10. ครสู มุ่ นักเรียนเปน็ รายบุคคล เพือ่ ประเมินความรคู้ วามเขา้ ใจของนักเรียนทง้ั ชน้ั เรยี น 11.ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรียนดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานรว่ มกัน และสงั เกตการตอบคำถามของนักเรียนในชน้ั เรียน ลงชอื่ ………………………………………………….ผสู้ อน ( นางนาบซี ะห์ ไสสากา )

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล/กลมุ่ ทักษะการ การ การคิด ความ การตรง สบื ค้น อธบิ าย วเิ คราะห์ สนใจใฝ่ ต่อเวลา รวม ลำดับ ชื่อ-สกุล ข้อมูล เนอ้ื หา หาคำตอบ เรียนรู้ 20 ท่ี ของผ้รู ับการประเมนิ คะแนน 43214321432143214321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 0-5 ปรบั ปรุง

สรุปนกั ปฏวิ ตั ิอสุ หกรรม บคุ คลต่อไปนมี้ ีความสำคญั ต่อการปฏิวตั ิปฏวิ ตั อิ สุ หกรรมอย่างไรบ้างให้นักเรยี นเขยี นใหไ้ ดใจความท่สี มบูรณ์ ตามหัวขอ้ ที่ระบุในตาราง นกั ปฏวิ ัตอิ สุ หกรรมให้หาขอ้ มูลจากหนงั สอื เรียนเทา่ น้ัน ( หน้า 151-153 ) ลำดับท่ี ชอื่ เช้ือชาติ มคี วามสำคญั /คดิ คน้ ทฤษฎี/ผลิตเคร่อื งมือ 1 เจมส์ วตั ต์ 2 จอห์น เคย์ 3 เจมส์ ฮารร์ ีฟส์ 4 ริชาร์ด อารก์ ไรต์ 5 เฮนรี่ คอรต์ 6 แอดมั สมิท